97 กา๊ ซอกซิเจน ร้อยละ ๒๐.๙๔ ก๊าซอารก์ อน รอ้ ยละ ๐.๙๓ กา๊ ชคารบ์ อนไดออกไซด์ รอ้ ยละ ๐.๐๓๑๘ ก๊าซเฉ่ือยอ่ืน ๆ รอ้ ยละ ๐.๐๐๘๒ ดงั นั้น ถา้ ปรมิ าณก๊าซอกซเิ จนมีนอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๒๐.๙๔ แสดงวา่ จะต้องทาการระบายอากาศ ในบริเวณนนั้ เพื่อเพิ่มปริมาณกา๊ ซออกซิเจนให้เพยี งพอ ๒) ลดก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ให้นอ้ ยลง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซดใ์ นอากาศถ้ามีสูงถงึ ร้อยละ ๓ จะทาใหร้ สู้ กึ อึดอัด ถา้ มีร้อยละ ๔ จะหายใจหอบ แตถ่ ้าสูงถงึ ร้อยละ ๔๐ - ๕๐ จะ ทาใหต้ ายได้ ๓) ระบายก๊าซไม่พงึ ประสงค์ออกไป กา๊ ซไม่พงึ ประสงค์ ได้แก่ กา๊ ซเสียต่าง ๆ เช่น กา๊ ซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ก๊าซคารบ์ อนมอนอกไซด์ เป็นต้น ๔) ระบายกลิ่น ควนั ฝุน่ ละอองและเชื้อโรคออกไป ๕) ระบายความร้อนออก และปรบั อณุ หภูมิพร้อมทัง้ ความช้ืนให้อยูใ่ นสภาวะท่ีพอเหมาะ กับความต้องการของรา่ งกาย การระบายอากาศในโรงเรยี นโดยเฉพาะในหอ้ งเรียนมคี วามสาคญั มาก เพราะนักเรียนมารวมกนั อยใู่ นห้องเรยี นเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ถา้ การระบายอากาศไมเ่ พียงพอ จะทาใหเ้ กดิ ความร้อนและ เกดิ ความช้ืนข้ึนในหอ้ งเรียน มีกล่ินตวั ของนักเรียน จนทาใหร้ ู้สกึ ง่วงซมึ อ่อนเพลีย ปวดศรี ษะ ประสทิ ธภิ าพในการเรียนของนกั เรยี นและการสอนของครูลดลง นอกจากนี้การระบายอากาศที่ไมเ่ พยี งพอ อาจเป็นสาเหตุทาให้เกิดโรคติดต่อของระบบทางเดินหายใจแพรก่ ระจายได้ง่ายขึน้ โดยทัว่ ไปการ หมุนเวียนและการระบายถ่ายเทอากาศในโรงเรียนควรเป็น ดงั น้ี -หอ้ งเรยี นควรมกี ารระบายอากาศอย่างน้อย ๒ ลกู บาศก์เมตร/นาท/ี คน -อาคารพลศกึ ษาควรมีการระบายอากาศอยา่ งน้อย ๑.๕ ลกู บาศก์เมตร/นาท/ี คน -ห้องประชมุ ควรมีการระบายอากาศอย่างนอ้ ย ๑.๕ ลกู บาศกเ์ มตร/นาท/ี คน ๓.๒ วธิ ีการระบายอากาศในโรงเรยี น ทาได้ ๒ วิธีใหญ่ ๆ คอื วธิ กี ารระบายอากาศโดย ธรรมชาติ วิธีการระบายอากาศโดยเครื่องกล ควรเลอื กนามาใชใ้ ห้สมกับลักษณะของอาคารเรยี นและ การเรียนการสอนในอาคารน้ัน ทง้ั สองวธิ มี รี ายละเอียดดังน้ี ๑) วธิ กี ารระบายอากาศโดยธรรมชาติ เปน็ วธิ กี ารระบายอากาศโดยอาศัยธรรมชาติ กล่าวคอื อาศยั กระแสลมหรืออากาศทีเ่ คล่ือนไหวตามธรรมชาตเิ ข้าช่วย การเคลื่อนไหวของอากาศโดย ธรรมชาติจะทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงของอากาศ โดยการพดั พาอากาศท่ีใช้แล้วในหอ้ งออกไปและนา อากาศท่ีบรสิ ทุ ธ์กิ ว่าจากภายนอกห้องเข้ามาแทนที่ วิธกี ารระบายอากาศโดยธรรมชาติในโรงเรยี นอาจทา ได้ดงั น้ี - การออกแบบอาคารโรงเรียนใหม้ ีประตหู นา้ ต่างหันออกสู่ทศิ ทางลม เพ่ือให้กระแสลม ตามธรรมชาตชิ ่วยระบายอากาศภายในหอ้ งไดด้ ีขึ้น - การออกแบบประตูหน้าต่างเพื่อให้มีการระบายอากาศตามธรรมชาตอิ ยา่ งเพียงพอ จะตอ้ งออกแบบประตูหน้าต่างให้มเี นอื้ ที่ยา่ งน้อย ๑ ใน ๔ ของพน้ื ท่หี ้องหรือมากกว่าเพ่ือใหม้ กี าร ถ่ายเทอากาศ และแสงสวา่ งอย่างพอเพยี งดังกลา่ วมาแลว้
98 - ต้นไม้ใหญค่ วรปลกู ให้หา่ งจากอาคารเรียนไมน่ ้อยกวา่ ๘ เมตร เพ่อื มใิ ห้กีดขวาง ทิศทางลมและบังแสงสว่าง - การปลูกสรา้ งอาคารของโรงเรยี น ควรเวน้ ระยะใหห้ ่างกันเพอ่ื มใิ ห้มชี ่องวา่ งทีจ่ ะทาให้ การระบายถา่ ยเทอากาศและแสงสวา่ งอยา่ งเพยี งพอ ขนาดชอ่ งว่างระหว่างตวั อาคารไม่ควรน้อยกว่าความ สงู ของอาคารทีใ่ กล้เคียงกัน ทั้งนเี้ พื่อมิให้บังลมและแสงสวา่ งซึ่งกันและกัน ๒) วธิ ีการระบายอากาศโดยเครอ่ื งกล เป็นวธิ ีการระบายอากาศโดยอาศัยเคร่ืองกลไก ทางด้านชา่ งเข่าช่วย เพอ่ื ให้เกดิ การระบายอากาศในห้องตา่ ง ๆ ของโรงเรียน วิธกี ารระบายอากาศ โดยเคร่อื งกลในโรงเรยี นอาจทาได้ดงั นี้ - การใชพ้ ดั ลม การใช้พัดลมเพ่ือทาให้อากาศภายในหอ้ งเรียนเกิดการเคล่อื นไหวด้วยแรง ใบพดั ของพัดลม เมื่ออากาศในห้องเรียนเกดิ การเคลื่อนไหว ทาใหอ้ ากาศที่บริสุทธ์ิกวา่ จากภายนอกห้อง มีโอกาสเข้ามาผสมกับอากาศภายในบางสว่ น ช่วยทาใหอ้ ากาศภายในห้องมีคุณภาพดขี ้ึนและแรงลมทพี่ ดั จะทาให้เกดิ ความร้สู ึกเยน็ สบายขน้ึ บา้ ง พดั ลมทใี่ ชใ้ นโรงเรยี นส่วนใหญจ่ ะเปน็ พัดลมตดิ เพดานและพัดลม ตงั้ พนื้ เพราะสามารถทาให้เกดิ แรงลมพัดไปได้ไกลกว่าและทวั่ ถงึ กวา่ พัดลมตงั้ โต๊ะ - การใชพ้ ัดลมดดู อากาศ พัดลมดูดอากาศอาศยั แรงจากใบพัดหมุนเพอื่ ดูดอากาศจาก ภายในห้องออกไป ทาให้อากาศบรสิ ทุ ธ์ิจากภายนอกเคลื่อนเข้ามาแทนที่ เป็นการระบายถา่ ยเทอากาศ ภายในหอ้ งได้ พัดลมดูดอากาศส่วนใหญ่ตดิ อยู่ตามฝาผนงั การใชพ้ ัดลมดดู อากาศในโรงเรียนส่วนใหญ่ มักใช้ในห้องใหญ่ ๆ เชน่ ห้องประชุม ห้องภายในอาคารพลศึกษา เปน็ ตน้ - การใชเ้ คร่ืองปรับอากาศ เคร่อื งปรับอากาศเป็นวิธถี า่ ยเทอากาศที่มปี ระสิทธิภาพสงู ทสี่ ดุ เพราะสามารถรกั ษาสภาวะอากาศภายในหอ้ งให้อยู่ในสภาวะท่ีเหมาะสมก่อใหเ้ กิดความสบายได้ ตลอดเวลา ไมว่ า่ อากาศภายนอกจะเปล่ียนแปลงไปอย่างไร ความมงุ่ หมายของเคร่อื งปรับอากาศก็คอื ต้องการเตรยี มเก่ียวกับอากาศทีจ่ ะนาเข้ามาภายในหอ้ ง ปรับอุณหภูมิความชนื้ และอัตราการเคลอ่ื นไหว ของอากาศให้เหมาะสมกบั ความตอ้ งการของร่างกาย โรงเรียนท่ีจะมีการติดตั้งเครอ่ื งปรับอากาศไดจ้ ะต้อง มงี บประมาณค่าครุภัณฑ์ และงบประมาณคา่ สาธารณปู โภคประจาปีอย่างเพียงพอ ๔. น้าด่ืมนา้ ใช้ โรงเรยี นมคี วามจาเป็นต้องมีน้าสะอาดไวเ้ พ่ือใหน้ ักเรียนดืม่ และใช้ และเพื่อการรักษาความ สะอาดในบรเิ วณโรงเรียน โดยเฉพาะในห้องนา้ ห้องสว้ ม ความตอ้ งการน้าเพื่อการอุปโภคบริโภคของ นักเรยี นประมาณ ๓ - ๕ ลิตร/คน/วัน ปรมิ าณการใชน้ ้าของนกั เรียนแปลเปลยี่ นไปตามอายุ ขึน้ อยู่ กบั กิจกรรมและส่งิ อานวยความสะดวกท่ีมีอยู่ในโรงเรยี นได้มาจาก ๕. นา้ ประปา โรงเรยี นบางแห่งอาจมีระบบการผลิตน้าประปาของโรงเรยี นเอง หรตื งั้ อยู่ในเขตของการบรกิ าร น้าประปาชมุ ชน จะสามารถใชป้ ระโยชน์จากนา้ ประปานั้นเพอ่ื การอุปโภคบรโิ ภคในโรงเรยี นได้ ระบบ การผลิตน้าประปาสาหรบั แหล่งนา้ ท่ัวไปมี ๗ ขั้นตอน ตามภาพท่ีดังตอ่ ไปน้ี ๖. แหล่งน้าทัว่ ไป แหลา่ งนา้ ทน่ี ามาใช้เพ่ือการผลติ น้าประปาในโรงเรยี นอาจไดม้ าจากแหลง่ น้าผวิ ดนิ นา้ บาดาล นา้ พุ น้าตก หรอื นา้ ฝน
99 สรปุ ทา้ ยบท ในการจดั ส่ิงแวดล้อมในโรงเรียนนน้ั ถือว่ามคี วามสาคญั และจาเปน็ ยิง่ สง่ิ แวดล้อมที่สาคัญคือ ๑. นา้ ดมื่ น้าใช้ จัดให้มนี า้ ดม่ื นา้ ใช้ท่สี ะอาด มคี ุณภาพมาตรฐานนา้ ดม่ื มปี ริมาณพอเพียงไวใ้ ช้ ในโรงเรยี น การมนี า้ ด่ืมน้าใชท้ ่ีสะอาดเป็นการป้องกนั โรคติดตอ่ ทางน้าได้ ๒. อาหาร ควบคมุ ดูแลการจัดอาหารกลางวนั ในโรงเรยี น โดยอาหารทนี่ ามาจาหนา่ ยควรมี ลกั ษณะสด สะอาด ถูกหลกั อนามัย มีคุณภาพทางอาหารและมีราคาพอสมควรทเี่ ด็กนักเรยี นจะซ้ือ รับประทานได้ ผปู้ รุงและผูป้ ฏิบัตงิ านท่ีเก่ียวข้องกับอาหารต้องมีสุขภาพอนามยั ดี ไมเ่ ป็นโรคตดิ ต่อ มี สุขนิสัยทดี่ ีในการปฏบิ ตั ิงาน รกั ษาร่างกายให้สะอาดอยเู่ สมอ เล็บมอื ให้ตดั ส้ัน ใช้ผ้าเชด็ หน้าปดิ ปาก เวลาไอหรือจาม สวมตาข่ายคลุมผมและมผี ้ากันเป้ือน ๓. การกาจัดอุจจาระปสั สาวะ โรงเรียนควรจัดให้มีสว้ มและทป่ี สั สาวะท่ีสะอาดถูกหลกั สุขาภิบาลและมจี านวนพอเพียงดว้ ย หอ้ งสว้ มต้องหมน่ั ดูแลความสะอาดอยเู่ สมอ ๔. การกาจัดขยะมลู ฝอย โรงเรยี นควรมีถังรองรับขยะมูลฝอยทถ่ี กู สุขลักษณะไวใ้ ชล้ กั ษณะถัง ขยะควรควรทาดว้ ยวัสดทุ ีค่ งทนแขง็ แรง ไมร่ ั่ว ไม่ซมึ มีฝาปดิ มดิ ชิด ขยะมูลฝอยที่รวบรวมจะได้นาไป กาจดั ใหถ้ ูกหลกั สุขาภบิ าลทุกวนั ๕. การกาจัดน้าทิ้ง โรงเรียนควรมรี ะบบระบายน้าท้งิ และระบบบาบดั นา้ ทิ้ง ท่ีถูกหลัก สขุ าภบิ าล ๖. การควบคุมแมลงวนั และพาหะนาโรค โรงเรียนควรมีวธิ กี ารควบคมุ และปอ้ งกนั แมลงและ สัตวน์ าโรคด้วย เชน่ จดั บรเิ วณโรงเรียนให้เปน็ ระเบียบเรยี บร้อย รักษาความสะอาดอาคาร สิ่งก่อสรา้ ง และบริเวณโดยรอบ เพอ่ื ไมใ่ ห้เป็นแหล่มท่ีพักอาศัยขงสตั ว์พาหะนาโรค เช่น แมลงวัน แมลงสาบ หนู และอย่าให้มนี ้าขงั ในบรเิ วณโรงเรียนจนเปน็ แหล่งเพาะพนั ธ์ยุงได้ นอกจากน้ี ความปลอดภัยจาดอุบัตเิ หตุต่างๆ เช่นอุปกรณ์การกีฬา สนามเด็กเลน่ เป็นต้น ซ่งึ โรงเรยี นหากจดั สภาพแวดล้อมทดี่ ี ย่อมส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีค่านยิ ม มีพฤติกรรมท่ีดี สามารถนาเอาสิง่ ที่พบ เหน็ และเคยกระทาในโรงเรียนไปใช้ในบ้านหรือในชมุ ชนได้ จงึ จดั ไดว้ ่าโรงเรียนเปน็ แหล่งปลกู ฝังคา่ นยิ ม เกี่ยวกับสงิ่ แวดลอ้ ม และสง่ ผลทีด่ ตี ่อชมุ ชน คาถามทา้ ยบท ๑.จงอธบิ ายหลักการจัดการสิง่ แวดลอ้ มในโรงเรยี น ๒.อาคารเรยี นและสิ่งก่อสรา้ งในโรงเรียนทดี่ ีควรมลี ักษณะเป็นอยา่ งไร ๓.การจัดอาคารประกอบอ่ืนๆ ท่ีสาคัญได้แก่อะไรบา้ ง ๔.หลกั การจดั การสุขาภิบาลในโรงเรียนทดี่ ตี ้องประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ๕.โรงเรียนในฐานะหน่วยการศึกษาจะมีสว่ นรว่ มในการจัดการส่งิ แวดลอ้ มให้สังคมอยา่ งไร
100 บทที่ ๗ กรณีศึกษาจากเหตุการณภ์ ัยธรรมชาติ ขอบข่ายการศกึ ษา ๑. กรณศี กึ ษาคล่นื สึนามิ ๒. กรณศี กึ ษาแผ่นดนิ ไหว ดนิ ถลม่ ๓. กรณศี ึกษาพายุใต้ฝุน่ ๔. กรณศี ึกษาภาวะโลกร้อน ภเู ขาไฟระเบดิ ๑. กรณคี ลนื่ สนึ ามิ คล่ืนสึนามิ (津波 ), tsunami, คล่ืนท่ที ่าเรือ หรอื คลื่นชายฝ่ัง คือ คลื่นหรอื กลุ่มคลื่นท่ีมี จุดกาเนิดอยู่ในเขตทะเลลึก ซึ่งมักปรากฏหลังแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ แผ่นดินไหวใต้ทะเล ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม แผ่นดินทรุด หรืออุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงในทะเล คลื่นสึนามิสามารถเข้าทาลายพ้ืนที่ชายฝ่ังทา ให้เกิดการสูญเสยี ทง้ั ชีวิตและทรัพยส์ นิ ได้ สาเหตขุ องการเกดิ คลื่นสึนามิเกิดขึ้นจากการกระทบกระเทือนท่ีทาให้น้าปริมาณ มากเกิดการเคลื่อนตัว เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม หรืออุกกาบาตพุ่งชนเม่ือแผ่นดินใต้ทะเลเกิดการเปลี่ยนรูปร่างอย่าง กระทันหัน จะทาให้น้าทะเลเกิดเคลื่อนตัวเพื่อปรับระดับให้เข้าสู่จุดสมดุลและจะก่อให้เกิดคล่ืนสึนามิ การ เปลี่ยนรูปร่างของพื้นทะเลมักเกิดขึ้นเม่ือเกิดแผ่นดินไหวเนื่องจากการขยับตัวของเปลือกโลก ซ่ึงจะเกิด บริเวณท่ีขอบของเปลือกโลกหลายแผ่นเชื่อมต่อกันที่เรียกว่า รอยเลื่อน (fault) เช่น บริเวณขอบของ มหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากแผ่นดินไหวแล้ว ดินถล่มใต้น้าท่ีมักเกิดร่วมกับแผ่นดินไหวสามารถทาให้เกิด คล่ืนสึนามไิ ดเ้ ช่นกนั นอกจากการกระทบกระเทือนที่เกิดใต้น้าแล้ว การที่พ้ืนดินขนาดใหญ่ถล่มลงทะเล หรือการตก กระทบพ้ืนน้าของเทหวัตถุ ก็สามารถทาให้เกิดคลื่นได้ คล่ืนสึนามิที่เกิดในรูปแบบน้ีจะลดขนาดลงอย่าง รวดเร็วและไมม่ ีผลกระทบตอ่ ชายฝั่งที่อยู่ห่างไกลมากนกั อยา่ งไรกต็ าม ถา้ แผ่นดินมีขนาดใหญ่มากพอ อาจ ทาให้เกดิ เมกะสนึ ามิ ซ่ึงอาจมคี วามสงู รว่ มรอ้ ยเมตร
101 ทม่ี าของชื่อ สึนามิ (การออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นคือ /tsunami/ สึนะมิ ซึ่งต่างกันเล็กน้อยกับการออกเสียงใน ภาษาองั กฤษวา่ ซูนามิ หรือ (ทซู)นามิ (ท ควบ ซ ในเสียงญ่ีปนุ่ ) เปน็ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ในลักษณะของ ระลอกคลื่น ที่เกิดขึ้นจากการที่น้าในทะเลสาบหรือในท้องมหาสมุทรจานวนมหาศาล เกิดการเคลื่อนย้าย ถ่ายเทจากบริเวณหน่ึงสู่อีกบริเวณหนึ่งอย่างรวดเร็ว อันเน่ืองมาจากการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินเคล่ือนตัว ภูเขาไฟระเบิด หรือจากวัตถุนอกโลก เช่น ดาวหาง หรืออุกกาบาต ตกสู่พื้นทะเลหรือมหาสมุทรบนผิวโลก คลื่นสึนามิท่ีเกิดข้ึนน้ีจะถาโถมเข้าสู่พ้ืนที่ชายฝงั่ ทะเลด้วยความรวดเร็วและรนุ แรง สร้างความเสียหายอย่าง ใหญ่หลวงให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินท่ีอยู่อาศัยท่ีพังพินาศไป พร้อม ๆ กับมนุษย์จานวนมากมายท่ีอาจได้รับ บาดเจบ็ และลม้ ตายไปดว้ ยฤทธข์ิ องมหาพิบตั ิภยั ท่เี กดิ ขนึ้ อยา่ งฉบั พลนั คาว่า \"สึนามิ\" มาจากภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า \"ท่าเรือ\" (津 สึ) และ \"คลื่น\" (波/浪 นะมิ) ศัพท์คานี้บัญญัติขึน้ โดยชาวประมงญ่ีปนุ่ ผู้ซงึ่ แลน่ เรือกลับเข้าฝัง่ มายังท่าเรือ และพบวา่ ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งทเ่ี คย รายล้อมอยู่รอบท่าเรือนั้นถูกทาลายพังพินาศไปจนหมดสิ้น โดยในระหว่างที่เขาลอยเรืออย่กู ลางทะเลกว้าง นั้นไม่ได้รู้สึกหรือสังเกตพบความผิดปกติของคล่ืนดังกล่าวเลย ทั้งนี้เนื่องจากคล่ืนสึนามิไม่ใช่ปรากฏการณ์ ระดับผวิ น้าในเขตน้าลึก เพราะคลนื่ ที่เกิดขึ้นจะมขี นาดของคล่นื (แอมพลิจูด) ขนาดเล็กมากเมอื่ อยูใ่ นพ้ืนน้า นอกชายฝั่ง ในขณะเดียวกันก็มีความยาวคล่ืน ท่ียาวมาก (ปกติจะมีความยาวหลายร้อยกิโลเมตร) ทาให้ คล่นื สนึ ามทิ ่ีเกิดขึน้ ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ขณะทลี่ อยเรืออยู่บนผวิ น้ากลางทะเลลึก เนื่องจากคลื่นท่ีเกิดข้ึน จะเห็นเป็นเพียงแคเ่ นินตา่ ๆ ตะคุม่ ๆ อยใู่ ต้นา้ เท่านนั้ ความเปน็ มา คล่ืนสึนามินี้ ในทางประวัติศาสตร์มีการอ้างอิงถึงว่าเป็น คลื่นใต้น้า (tidal waves) เนื่องจากเมื่อ คลื่นดังกล่าวเคล่ือนตัวเข้าใกล้ชายฝั่ง จะยิ่งมีลักษณะเหมือนการไหลท่วมของกระแสน้าขน้ึ ท่ีถาโถมเขา้ สู่ฝ่ัง อย่างรุนแรง มากกว่าที่จะมีลักษณะเหมือนกับเกลียวคลื่นท่ีเกิดจากการพัดกระหน่าของสายลมจากกลาง มหาสมุทรเข้าสู่ฝ่ัง เนื่องจากโดยแท้จริงแล้วคล่ืนสึนามิไม่ได้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใด ๆ เลยกับน้าข้ึนน้า ลง จึงมีการมองว่า คาว่า \"tidal waves\" น้ัน อาจนาไปสู่ความเข้าใจผิดถึงสาเหตุของการเกิดคล่ืนดังกล่าว ได้ นักสมุทรศาสตร์จึงไม่แนะนาให้เรียกคลื่นสึนามิว่า \"tidal waves\" แต่แนะนาให้เรียกเป็นช่ือทาง วิทยาศาสตร์ว่า \"Seismic Sea Wave\" ซึ่งมีความหมายตรงๆ ในภาษาไทยว่า คล่ืนทะเลที่เกิดจาก แรงส่นั สะเทือน ท้ังน้ี ในเวบ็ ไซต์และหนังสือบางเลม่ กลา่ วถงึ ชอื่ เรียกของคลื่นชนิดนี้ในภาษาอังกฤษผดิ คือ \"Harbor Wave\" ซึ่งเป็นช่ือที่แปลอย่างตรงตัวจากภาษาญ่ีปุ่น แต่ไม่ได้ให้ความหมายใดๆ ในภาษาอังกฤษ ท้ังน้ี ในพจนานุกรม Oxford Learner's Dictionary ได้ให้ความหมายของคาว่า Tidal Wave ไว้ว่าเป็น คลืน่ ทะเลทสี่ ว่ นใหญ่เกดิ จากแผ่นดนิ ไหวใตส้ มุทร เมกะสึนามิ และ คลน่ื เซชมีหลกั ฐานวา่ เมกะสึนามิทม่ี ีความ สงู มากกว่า ๑๐๐ เมตรนน้ั เกดิ ขนึ้ ได้ เหตกุ ารณ์น้ีจะเกดิ ขึ้นจาก เนื้อทีข่ นาดใหญบ่ างส่วนของเกาะพังทลายลงสู่ทะเล หรือ อกุ กาบาตตกลงส่ทู ะเล เมกะสึนามิจะสามารถทาอนั ตราย อยา่ งใหญห่ ลวงต่อพ้ืนทีช่ ายฝงั่ ทอี่ ยู่ห่างไกลออกไปได้ ปรากฏการณท์ ี่เก่ยี วขอ้ งกับสนึ ามคิ ือ คลื่นเซช (seiche) แผ่นดินไหวท่ีรุนแรงมักทาให้เกิดทง้ั คล่ืนสนึ ามิและคล่ืนเซช มหี ลกั ฐานว่าคล่นื เซชอาจเกดิ จากคลื่นสึนามไิ ดเ้ ชน่ กัน
102 คล่ืนสึนามิที่สูงที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้มีความสูงกว่า ๕๐๐ เมตร โดยเกิดจากแผ่นดินถล่มที่รัฐอ ลาสกาในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ (ค.ศ. ๑๙๕๘) อยา่ งไรกต็ าม เมื่อคล่ืนไปถึงทะเลเปดิ มันไดส้ ลายตวั ไปอย่างรวดเร็ว ความสูงของคล่ืนสึนามนิ ัน้ ถกู กาหนดโดยลักษณะของพื้นที่มากกวา่ พลงั งานที่เกิดจากแผ่นดินถล่ม ลกั ษณะของคลน่ื คลื่นสึนามิแตกต่างจากคล่ืนน้าธรรมดามาก ตัวคลื่นน้ันสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางไกล โดยไม่สูญเสียพลังงาน และสามารถเข้าทาลายชายฝั่งที่อยู่ห่างไกลจากจุดกาเนิดหลายพันกิโลเมตรได้ โดยท่ัวไปแล้วคลื่นสนึ ามิซ่ึงเป็นคล่ืนในน้า จะเดินทางได้ช้ากว่าการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เป็นคล่ืนท่ี เดินทางในพื้นดิน ดังน้ัน คล่ืนอาจเข้ากระทบฝั่งภายหลังจากที่ผู้คนบริเวณน้ันรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวเป็น เวลาหลายชั่วโมงคลื่นโดยทั่วไปจะมีคุณสมบัติสาคัญที่วัดได้อยู่สองประการคือ คาบ ซ่ึงจะเป็นเวลาระหว่าง ลกู คลืน่ สองลูก และ ความยาวคล่ืน ซ่งึ เป็นระยะห่างระหว่างลกู คลื่นสองลูก ในทะเลเปิด คลื่นสนึ ามิมีคาบที่ นานมาก โดยเริ่มจากไม่กี่นาทีไปจนเป็นชัว่ โมง ในขณะเดียวกนั ก็มีความยาวคลื่นที่ยาวมาก โดยอาจยาวถึง หลายร้อยกิโลเมตร ในขณะที่คล่ืนทั่วไปที่เกิดจาก ลมที่ชายฝ่ังนั้นมีคาบประมาณ ๑๐ วินาที และมีความ ยาวคล่ืนประมาณ ๑๕๐ เมตรเท่านั้น ความสูงของคล่ืนในทะเลเปิดมักน้อยกว่าหนึ่งเมตร ซ่ึงทาให้ไม่เป็นท่ี สังเกตของผู้คนบนเรือ คล่ืนสึนามิจะเคล่ือนท่ีด้วยความเร็วต้ังแต่ ๕๐๐ ถึง ๑,๐๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรกต็ าม เมื่อเขา้ สู่ชายฝั่งที่มีความลึกลดลง คลื่นจะมีความเรว็ ลดลงและเร่ิมก่อตัวเป็นคลน่ื สูง โดยอาจ มีความสงู มากกวา่ ๓๐ เมตร คลื่นสึนามิจะเคล่ือนตัวออกจากแหล่งกาเนิด ดังนั้น ชายฝ่ังท่ีถูกกาบังโดยแผ่นดินส่วนอ่ืนๆ มัก ปลอดภัยจากคล่ืน อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่คล่ืนจะสามารถเล้ียวเบนไปกระทบได้ นอกจากน้ี คล่ืนไม่ จาเป็นต้องมีความแรงเท่ากันในทุกทิศทุกทาง โดยความแรงจะข้ึนกับแหล่งกาเนิดและลักษณะของภูมิ ประเทศแถบนนั้ คล่ืนจะมีพฤตกิ รรมเปน็ \"คล่ืนน้าตื้น\" เมื่ออัตราส่วนระหว่างความลึกของน้าและขนาดของคล่ืนน้ัน มีค่าตา่ ดังน้นั เน่ืองจากมีขนาดของคลื่นที่สูงมาก คล่ืนสึนามิจึงมีคุณสมบัติเป็นคลน่ื น้าตน้ื แม้อยู่ในทะเลลึก ก็ตาม คล่ืนน้าตื้นน้ันมีความเร็วเท่ากับรากที่สองของผลคูณระหว่างความเร่งจากสนามแรงโน้มถ่วง (๙.๘ เมตร/วินาที๒) และความลึกของน้า ตัวอย่างเช่น ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีความลึกประมาณ ๔,๐๐๐ เมตร คล่ืนจะเคล่ือนท่ีด้วยความเร็วประมาณ ๒๐๐ เมตรต่อวินาที หรือ ๗๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนท่ี ชายฝั่งทม่ี คี วามลกึ ๔๐ เมตร คลื่นจะมีความเรว็ ชา้ ลงเหลือ ๒๐ เมตรตอ่ วนิ าที หรือ ๗๒ กิโลเมตรต่อชว่ั โมง
103 ระบบเตอื นภยั ขณะท่จี ดุ ต่าสุดของคล่ืนเคล่อื นเข้าสู่ฝ่ัง ระดับน้าทะเลจะลดลงและทาให้ขอบทะเลรน่ ถอยออกจาก ชายฝั่ง ถา้ ชายฝั่งน้ันมีความลาดชันน้อย ระยะการร่นถอยน้ีอาจมากถึง ๘๐๐ เมตร ผู้ท่ีไม่ทราบถึงอันตราย ที่จะเกิดข้ึนอาจยังคงรออยู่ที่ชายฝั่งด้วยความสนใจ นอกจากนี้บริเวณที่ต่า อาจเกิดน้าท่วมได้ก่อนที่ยอด คล่ืนจะเข้าปะทะฝั่ง น้าท่ีท่วมน้ีอาจลดลงได้ก่อนที่ยอดคลื่นถัดไปจะเคล่ือนที่ตามเข้ามา ดังนั้นการทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับคล่ืนสึนามิจึงเปน็ สิง่ ทส่ี าคัญทจ่ี ะทาใหต้ ระหนกั ถงึ อันตราย ตัวอย่างเช่น ในกรณที ่ีระดับน้าใน คร้งั แรกลดลงไปนน้ั อาจมคี ลนื่ ลูกใหญ่ตามมาอีกได้ ประเทศและบริเวณท่ีมีความเส่ียงต่อการเกิดสนึ ามิได้มีการติดตงั้ ระบบเตือนภัยเพื่อพยากรณ์ และ ตรวจจับการเกิดข้ึนของคลื่นยักษ์นี้แม้การป้องกันไม่ให้คล่ืนสึนามิเกิดข้ึนจะยังทาไม่ได้ ในบางประเทศได้มี การสร้างเคร่ืองป้องกันและลดความเสียหายในกรณีที่คลื่นสึนามิจะเข้ากระทบฝั่ง ยกตัวอย่างเช่น ประเทศ ญี่ปุ่นไดม้ ีการสร้างกาแพงป้องกันสึนามิท่ีมีความสูงกว่า ๔.๕ เมตร ด้านหน้าของชายฝ่ังบริเวณทม่ี ีประชากร หนาแน่น บางท่ีได้มีการสร้างกาแพงกันน้าท่วมและทางระบายน้าเพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางของคล่ืน และลด แรงกระแทกของคล่ืน ถึงแม้ว่า ในกรณีของคล่ืนสึนามิที่เข้ากระทบเกาะฮอกไกโดท่ีมักมีความสูงมากกว่า เครื่องกีดขวางท่ีได้สร้างข้ึน กาแพงเหล่านี้อาจช่วยลดความเร็วหรือความสูงของคล่ืนแต่ไม่สามารถท่ีจะ ป้องกันการสญู เสียชวี ติ และทรัพยส์ นิ ได้ สาหรบั ประเทศไทย เมอื่ วันที่ ๒๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ (ค.ศ. ๒๐๐๔) หลงั จากท่ีคลน่ื สึนามทิ ี่เกิด จากแผ่นดนิ ไหวใต้น้าเข้ากระทบชายฝั่งทางใต้ กรมอุตนุ ิยมวิทยาไดอ้ อกมาตรการป้องกันภัยจากคล่ืนสึนามิ เพือ่ เตอื นประชาชนใหป้ ้องกันตัวโดยไมต่ อ้ งรอประกาศจากทางราชการ ปรากฏการณค์ ลน่ื สึนามิในอดตี
104 แม้วา่ สนึ ามจิ ะเกิดข้ึนบ่อยทสี่ ุดในมหาสมทุ รแปซิฟิก แตก่ ็เป็นท่ีรจู้ กั กนั ดีวา่ ปรากฏการณส์ ึนามิได้ เกิดขึ้นในพนื้ ทส่ี ่วนอืน่ ๆของโลกดว้ ยเช่นกัน และมขี อ้ มูลเกา่ แก่มากมายหลายชิ้นทพ่ี ูดถึง \"สึนามิ\" ที่มอี านาจ ทาลายล้างสูงนี้ ซึ่งเรียงตามลาดบั การเกดิ ขึน้ กอ่ นหลงั ได้ดังต่อไปนี้ สึนามิท่ีเกิดข้ึนในช่วง ๖,๑๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นคลื่นสึนามิใต้น้าท่ีเกิดข้ึนในมหาสมุทร แอตแลนติกเหนือ อันเป็นผลจากการเล่ือนตัวของชั้นหินท่ีเรียกว่า \"en:Storegga Slide\" ซึ่งทาให้เกิดการ เคลอ่ื นตวั ของแผ่นดินใตน้ า้ ครัง้ ใหญ่ติดต่อกันเปน็ ระลอก ๆ ยาวนานเปน็ เวลาหลายหม่ืนปี เกาะซานโตรนิ ี่ ในปี ๑๖๕๐ ก่อน ค.ศ. คลืน่ สึนามิจากภูเขาไฟระเบิดในเกาะซานโตรนิ ี่ (Santorini) ในช่วงระหว่าง ปี ๑๖๕๐ ก่อน ค.ศ. ถึง ๑๖๐๐ ก่อน ค.ศ. (เวลาที่แน่นอนยังถกเถียงกันอยู่) ภูเขาไฟในเกาะซานโตรินี่ของ กรีซระเบิกข้ึน ทาให้เกิดคล่ืนใต้น้า \"สึนามิ\" ท่ีมีความสูงตั้งแต่ ๑๐๐ เมตรถึง ๑๕๐ เมตร ซึ่งถาโถมเข้าถล่ม ชายฝั่งทางด้านเหนือของเกาะครีต (Crete) ซึ่งอยู่ห่างออกไป ๗๐ กิโลเมตร (๔๕ ไมล์) พร้อมกวาดทาลาย ต้นไม้ทุกต้นท่ีขึ้นอยู่ในแนวป่ามิโนอัน ซ่ึงเป็นพื้นท่ีป่าเขียวชอุ่มรอบชายฝ่ังทางเหนือของครีตจนหายวับไป หมดในชว่ั พรบิ ตา คาดกันวา่ คลน่ื ใตน้ า้ \"ซานโตรนิ ่ี\" คือแหล่งขอ้ มลู ทท่ี าให้เพลโต (Plato) เกดิ แรงบันดาลใจ ในการเขียนวรรณกรรมเป็นนวนิยายดังเรื่องแอตแลนติส (Atlantis) และนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า คล่ืนสึนามิ \"ซานโตรินี่\" ทีเ่ กิดขึ้นครั้งน้คี ือแหล่งท่มี าสาคัญท่นี าไปสู่การบนั ทึกถงึ เร่ืองราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ นา้ ทว่ มโลก (Great Flood) ทป่ี รากฏอยู่ในคัมภีรท์ ้ังของชาวยิว ครสิ เตียน และชาวอิสลาม เมอื งลิสบอน ประเทศโปรตุเกส คล่ืนใต้น้าที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวในเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส (Lisbon, Portugal) ในปี พ.ศ. ๒๒๙๘ (ค.ศ. ๑๗๕๕) ชาวโปรตเุ กสจานวนหลายหมน่ื คนรอดชีวติ จากเหตกุ ารณ์แผ่นดนิ ไหวครงั้ ใหญ่ที่ ลิสบอนในปี พ.ศ. ๒๒๙๘ (ค.ศ. ๑๗๕๕) แต่กลับต้องเสียชีวิตไปทันที ด้วยคลื่นสึนามิท่ีโถมเข้าทาลายหลัง เกิดแผน่ ดินไหวได้เพียงไม่ก่ีนาที เนอื่ งจากคนจานวนมากหนีภยั แผ่นดินไหวออกไปยังแนวชายฝัง่ ทะเล ด้วย เชอื่ วา่ เป็นสถานทท่ี ่ีมคี วามปลอดภัย พ้นอนั ตรายจากไฟไหม้ และการรว่ งหล่นของเศษส่ิงของต่าง ๆ ได้ เมื่อ เกิดแอฟเตอร์ช็อก ก่อนหน้าท่ีกาแพงน้าท่ีสูงใหญ่ จะถาโถมเข้าถล่มท่าเรือบนชายฝั่งนั้น น้าทะเลได้เหือด แห้งลดระดับลงไปมากจนซากเรือสินค้าเก่า ๆ ที่ปรักหักพังและหลงลืมกันไปแล้ว โผล่ข้ึนมาให้เห็นอย่าง ชัดเจน เกาะกรากะตัว ภูเขาไฟบนเกาะกรากะตัว ในประเทศอินโดนีเซีย เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงเม่ือปี พ.ศ. ๒๔๒๖ (ค.ศ. ๑๘๘๓) หินเหลวละลายใตป้ ลอ่ งภูเขาไฟถกู พ่นออกมาจานวนมาก เกดิ โพรงขนาดใหญข่ นึ้ ใตด้ ิน ทาให้ พ้ืนแผ่นดินที่อยู่เบื้องบนและพื้นทะเลยุบตัวลง ส่งผลให้เกิดระลอกคล่ืนสึนามิขนาดใหญ่ข้ึน บางลูกมีความ สูงกว่า ๔๐ เมตรจากระดับน้าทะเล ระลอกคล่ืนสึนามิท่ีเกิดข้ึนจากการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวใน อนิ โดนีเซียครง้ั น้ีเคล่ือนตัวถาโถมเข้าสู่บริเวณชายฝัง่ มหาสมุทรอินเดีย, มหาสมุทรแปซิฟิก, ชายฝ่ังตะวันตก ของอเมริกา, อเมริกาใต้, และบริเวณที่ห่างไกลออกไปอีกในช่องแคบอังกฤษ ส่วนพ้ืนท่ีชายฝ่ังใกล้เคียงใน เกาะชวาและสุมาตรา กระแสน้าทะเลไหลบ่าท่วมทะลักเข้าไปถึงพ้ืนแผ่นดินภายในซึ่งอยู่ห่างจากชายฝ่ัง ทะเลเข้าไปเปน็ ระยะทางหลายไมล์ สร้างความสูญเสยี อยา่ งใหญ่หลวงแกส่ งิ่ มีชวี ติ ที่อาศยั อยู่ในพนื้ ที่ภัยพิบัติ ครั้งน้ี และทาให้ไม่มีการเข้าไปต้ังถ่ินฐานอาศยั อยู่ในพื้นท่ีดงั กล่าวอีกเลย ปัจจุบันพนื้ ท่ีบริเวณน้ีได้กลายเป็น เขตปา่ ทึบมชี อื่ วา่ เขตอนรุ ักษธ์ รรมชาตอิ จู งั กลู อน (Ujung Kulon nature reserve) สนึ ามแิ ปซฟิ ิก
105 พ.ศ. ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖) - สึนามิแปซิฟิก (Pacific Tsunami) แผ่นดินไหวในเกาะ Aleutian ใน ปี พ.ศ. ๒๔๘๙(ค.ศ. ๑๙๔๖) ก่อให้เกิดคล่ืนสึนามิท่ีถาโถมเข้าสู่ฮาวายและอะลาสก้า ทาให้มีผู้เสียชีวิต จานวน ๑๖๕ คน มหันตภัยสึนามิท่ีเกิดขึ้นในครั้งน้ันส่งผลให้เกิดการก่อสร้างระบบเตือนภัยสึนามิสาหรับ บรรดาประเทศท่ีตงั้ อยตู่ ามบริเวณชายฝ่ังมหาสมทุ รแปซฟิ ิกขน้ึ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ (ค.ศ. ๑๙๔๙) สึนามชิ ิลี พ.ศ. ๒๕๐๓ (ค.ศ. ๑๙๖๐) - สึนามิชิลี (Chilean tsunami) แผ่นดินไหวคร้ังใหญ่ชิลี (The Great Chilean Earthquake) มีระดับความรุนแรง ๙.๕ ริกเตอร์ซึ่งเป็นระดับท่รี นุ แรงทสี่ ุดเท่าทเ่ี คยมีการบนั ทกึ ไว้ เกิดขึ้นบริเวณนอกชายฝ่ังตอนกลางทางใต้ของประเทศชิลี ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิท่ีสร้างความวิบัติหายนะ อย่างรุนแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษท่ี ๒๐ คล่ืนสึนามิเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกท้ังหมด ขนาด คล่ืนมีความสูงถึง ๒๕ เมตร เม่ือคล่ืนสึนามิเคลื่อนตัวเข้าถล่มโอกินาวา ประเทศญ่ีปุ่น หลังจากเกิด แผ่นดินไหวนานเกือบ ๒๒ ชั่วโมงนั้น ขนาดความสูงของคล่ืนท่ีมีการบันทึกไว้ระบุว่าสูงถึง ๑๐ ฟุตเหนือ ระดับกระแสน้า ประมาณการณ์ว่าจานวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคล่ืนสึนามิที่เกิดข้ึน ตามมามจี านวนระหว่าง ๔๙๐ - ๒,๒๙๐ ราย สนึ ามกิ ูด๊ ฟรายเ์ ดย์ พ.ศ. ๒๕๐๗ (ค.ศ. ๑๙๖๔) - สึนามิกู๊ดฟราย์เดย์ (Good Friday Tsunami) แผ่นดินไหวกู๊ดฟราย เดย์ขนาด ๙.๒ ริกเตอร์ท่ีเกิดข้ึนในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ (ค.ศ. ๑๙๖๔) ก่อให้เกิดคลื่นสินามิถาโถมเข้าถล่ม ชายฝั่งอะลาสก้า, บริติช โคลัมเบีย, แคลิฟอรเ์ นยี และชายฝ่ังเมอื งแปซิฟิกนอร์ธเวสตใ์ นสหรฐั อเมริกา ทาให้ ประชาชนเสยี ชีวิต ๑๒๒ คน คล่นื สึนามิมีความสงู ถงึ ๖ เมตร ในเมอื ง Crescent City ซึ่งอยหู่ ่างไกลออกไป ในแคลิฟอรเ์ นียมผี ้เู สียชีวติ ๑๑ คน สนึ ามจิ ากแผน่ ดนิ ไหวในมหาสมุทรอนิ เดีย พ.ศ. ๒๕๔๗ (ค.ศ. ๒๐๐๔) - สึนามิจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย คล่ืนสึนามิคร้ังแรกใน ประเทศไทยเกิดจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เม่ือวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ (ค.ศ. ๒๐๐๔) ระลอกคล่ืนยักษ์ดังกล่าวทาให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดจานวนกว่า ๑๖๕,๐๐๐ ราย (มากกว่า ๑๐๕,๐๐๐ ราย เสียชีวิตในอินโดนีเซีย) คลื่นสึนามิได้ถาโถมเข้าถล่มและคร่าชีวิตผู้คนจานวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หรือ บริเวณท่ีใกล้กับจุดเกิดแผ่นดินไหว เช่น อินโดนีเซีย, ไทย, และพ้ืนท่ีบริเวณชายฝ่ังทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของมาเลเซีย ไปจนถึงพ้ืนท่ีท่ีอยู่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรในบังกลาเทศ, อินเดีย, ศรีลังกา, หมู่ เกาะมลั ดีลฟ์, และแมก้ ระทั่งโซมาเลยี , เคนยา, และแทนซาเนยี ซง่ึ ตง้ั อยใู่ นแถบแอฟรกิ าตะวนั ออก ประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดียเหล่าน้ี ยังไม่มีระบบเตือนภัยคล่ืนสึนามิท่ีสมบูรณ์พอดังเช่นประเทศใน ภูมิภาคมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนหน่ึงเน่ืองจากไม่มีภัยพิบัติที่เกิดจากคลื่นยักษ์ในภูมิภาคมานานแล้ว นับตั้งแต่เกิดคลื่นสึนามิจากการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวในปี พ.ศ. ๒๔๒๖ (ค.ศ. ๑๘๘๓) ซึ่งทาให้มี ผู้เสียชีวิต ๓๖,๐๐๐ คน ภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียล่าสุดน้ีส่งผลให้ ยูเนสโก และองค์การระหว่าง ประเทศหลายแหง่ ออกมาเคล่ือนไหว เรียกร้องใหม้ กี ารจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิโลกขน้ึ สึนามใิ นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันเวลา - สถานท่เี กิด ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ - เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซยี สึนามิในเอเชยี ใต้ วันเวลา - สถานที่เกิด พ.ศ. ๒๐๖๗ (ค.ศ. ๑๕๒๔) - ใกล้เมือง Dabhol รัฐมหารัชตะ ประเทศ อินเดีย
106 ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๓๐๕ (ค.ศ. ๑๗๖๒) - ชายฝงั่ อาระคัน ประเทศพม่า ๑๖ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๓๖๒ (ค.ศ. ๑๘๑๙ - Rann of Kachchh รฐั กจุ าราช ประเทศอนิ เดีย ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๙๐ (ค.ศ. ๑๘๔๗) - หมเู่ กาะนิโคบารใ์ หญ่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๒๔ (ค.ศ. ๑๘๘๑) - หมู่เกาะคาร์นิโคบาร์ ๒๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ (ค.ศ. ๑๘๘๓) - ภูเขาไฟกรากะตัวระเบิด ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๘ (ค.ศ. ๑๙๔๕) - ชายฝ่ัง Mekran บาลูจสิ ถาน สนึ ามใิ นอเมริกาและแคริบเบียน ๑๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๖๑ (ค.ศ. ๑๙๑๘) - เปอรโ์ ตริโก ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๒ (ค.ศ. ๑๙๒๙) - นวิ ฟาวนด์แลนด์ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖) - สาธารณรัฐโดมินกิ นั ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ (ค.ศ. ๑๙๔๖) - สาธารณรัฐโดมนิ กิ นั ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๘๓ (ค.ศ. ๑๘๔๐) - เกรท สเวลล์ใน ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๕ (ค.ศ. ๑๘๗๒) - มลรฐั เมน ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๙ (ค.ศ. ๑๙๒๖) - มลรฐั เมน แม่น้าเดลาแวร์ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ (ค.ศ. ๑๙๖๔) - ฝงั่ ตะวันออกเฉยี งเหนอื ของสหรฐั อเมรกิ า สึนามิอืน่ ๆ ทีเ่ คยเกดิ ข้นึ ในอดตี สนึ ามทิ เี่ กิดขน้ึ ในอดีตที่ผ่านมาของโลกยังมีอกี มากมาย ทีส่ าคัญๆ ประกอบด้วย ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๑๕๐ (ค.ศ. ๑๖๐๗): ประชาชนจานวนหลายพันคนท่ีอาศัยอยู่ตามชายฝั่งช่องแคบ อังกฤษ (Bristol Channel)จมน้าเสียชีวิตขณะที่บ้านเรือนที่อยู่อาศัยและหมู่บ้านหลายแห่งถูกน้าพัด กวาดหายลงไปในทะเลจากกระแสน้าที่เอ่อท่วมอย่าวรวดเร็วซ่ึงอาจเป็นคล่ืนสึนามิ สาเหตุที่ทาให้เกิดน้า ท่วมในคร้ังน้ันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุ ๒ ประการที่เกิดขึ้นใน ช่วงเวลาเดียวกันโดยมิได้คาดหมายมาก่อน คือ สภาพดินฟ้าอากาศท่ีวิปริตอย่างรุนแรงและช่วงกระแสน้า ทะเลทหี่ นุนขนึ้ สงู สุด มหันตภัยสึนามิครั้งเลวร้ายที่สุดอีกคร้ังหน่ึง ถาโถมเข้าถล่มหมู่บ้านหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตาม ชายฝ่ังเกาะซานรกิ ู (Sanriku) ประเทศญี่ปุน่ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ (ค.ศ. ๑๘๙๖) คลื่นท่ีมีความสงู กว่าตึก ๗ ชั้น (ประมาณ ๗๐ เมตร) พร้อมกับกวาดกลืนชีวิตผู้คนจานวน ๒๖,๐๐๐ คนลงสู่ท้องทะเล พ.ศ. ๒๔๗๒ (ค.ศ. ๑๙๒๙): เกิดแผ่นดินเลื่อนตัวใต้ทะเลท่ีหมู่เกาะ Aleutian คล่ืนสึนามิที่เกิดข้ึนถาโถมเข้าสู่เกาะฮาวายกลืน ชวี ติ ผคู้ นไป ๑๕๙ ราย (ขณะทอี่ กี ๕ ราย เสียชวี ติ ในอะลาสก้า) พ.ศ. ๒๕๐๑ (ค.ศ. ๑๙๕๘): สึนามิท่ีเกิดขึ้นในอ่าว Lituya Bay รัฐอะลาสก้า เป็นสึนามิเฉพาะ ท้องถิ่น เนื่องจากพื้นทไ่ี ด้รับผลกระทบจากัดวงอยู่เฉพาะในอ่าว แต่ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นคล่ืนสึนามิที่สูง ท่ีสุดเป็นประวัตกิ ารณ์ โดยมีความสูงมากกว่า ๕๐๐ เมตร ( ๑,๕๐๐ ฟุต) เหนือระดับนา้ ทะเล คล่ืนท่เี กดิ ไม่ สามารถเคลื่อนตัวออกไปไกลจากแนวฟยอร์ด (fjord) ที่ล้อมรอบอยู่ได้ แต่ก็ทาให้มีผู้ชีวิต ๒ รายจากเรือที่ เข้าไปทาการประมงอยูใ่ นบริเวณนนั้ พ.ศ. ๒๕๑๙ (ค.ศ. ๑๙๗๖): ๑๖ สิงหาคม (เที่ยงคืน) เกิดคล่ืนสึนามิเข้าถล่มภูมิภาครอบอ่าวโมโร (เมืองโคตาบาโต) ประเทศฟิลิปปินส์ สง่ ผลให้มีผเู้ สยี ชวี ติ มากกวา่ ๕,๐๐๐ ราย พ.ศ. ๒๕๒๖ (ค.ศ. ๑๙๘๓): ประชาชนจานวน ๑๐๔ รายในภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นเสียชีวิตจาก คล่ืนสึนามทิ โ่ี ถมเขา้ ถล่มหลงั จากเกิดเหตกุ ารณ์แผ่นดนิ ไหวในพ้นื ทีใ่ กลเ้ คยี ง
107 ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ (ค.ศ. ๑๙๙๘): สึนามิปาปัวนิวกินีคร่าชีวิตผู้ชนจานวนประมาณ ๒,๒๐๐ ราย หลงั จากทเี่ กดิ แผ่นดินไหวความรนุ แรงระดบั ๗.๑ รกิ เตอร์ในบริเวณ ๑๕ กิโลเมตร นอกชายฝั่ง ปาปัวนิวกินี และจากห่างจากเวลาน้ันเพียงแค่ ๑๐ นาที คล่ืนยักษ์สูง ๑๒ เมตรก็เคลื่อนเข้าถล่มชายฝั่ง ในขณะท่ีระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวยังไมสามารถท่ีจะก่อให้เกิดคล่ืนยักษ์ขนาดใหญ่ดังกล่าวได้ โดยตรงแต่การท่ีเกิดคล่ืนยักษ์ได้นั้น เชื่อกันว่า เน่ืองจากแผ่นดินไหวส่งผลให้แผ่นดินใต้ทะเลเกิดการเล่ือน ตัว และเหตุการณ์หลังนี้ทาให้เกิดสึนามิข้ึน สองหมู่บ้านของปาปัวนิวกินีคือ อารอป และวาราปู ถูกทาลาย เรียบเป็นหนา้ กลอง อ้างองิ Amateur Seismic Center, India NOAA National Weather Service Forecast Office ๒. กรณีแผ่นดนิ ไหว แผ่นดนิ ไหวและแผ่นดินถล่ม เป็นภยั ธรรมชาติไม่ใช่เร่ืองไกลตัว ของคนไทยอีกต่อไปแล้วนับต้ังแต่ เกดิ เหตกุ ารณ์คลนื่ ยกั ษ์สึนามิถล่ม ๖ จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ของไทยพังราบคาบ เม่ือวันท่ี ๒๖ ธ.ค.๒๕๔๗ เปน็ ต้นมา เหตุการณด์ นิ ถลม่ แผน่ ดินแยก หลุมยุบ กเ็ กดิ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนือ่ ง ในทกุ ภาคของประเทศ ถือเป็นมหันตภัยใกล้ตัว ที่ สร้างความหวาดผวาให้กับคน ไทยไม่ต้องพูดถึงเหตุการณ์ แผ่นดินไหว รอบบ้าน ทั้ง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ที่ เกิดขึ้นถี่ยิบ และคร่าชีวิตผู้คน มากมาย แผนดินไหวหรือดิน ถลม่ ในรอบปีทผี่ า่ นมา พบว่า ในปี พ.ศ.๒๕๔๙ เกดิ เหตุการณ์ดนิ ถล่มอย่างรนุ แรง ๒ ครัง้ ในพน้ื ท่ีภาคเหนือ ครั้งแรกเกิดในเดือนพฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตรวม ๘๓ คน และสูญหายอีก ๓๓ คน ครัง้ ที่สองเกิดข้ึนในเดือน ตลุ าคม มีผู้เสียชวี ิต ๘ คน นอกจากนี้ เม่ือวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๙ ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด ๕.๑ ริก เตอร์ ทอี่ าเภอแมร่ ิม จงั หวดั เชยี งใหม่ และเม่ือวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ เกิดแผ่นดินไหวขนาด ๖.๑ ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ในประเทศลาว เหตุการณ์แผ่นดินไหวคร้ังน้ีรับรู้ได้ถึงความสั่นสะเทือนในภาคเหนือ ตอนบนของประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร สง่ ผลกระทบก่อให้เกิดความเสยี หายตอ่ อาคารบ้านเรอื นและ โบราณสถานทสี่ าคัญในอาเภอเมืองเชียงราย เชียงแสน เชยี งของ แม่จนั แมส่ าย เถิง และดอยหลวง จังหวัด เชียงราย เช่น โรงเรียนเม็งรายวิทยาคม พระธาตุจอมกิตติ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นตน้
108 ประเทศไทยกบั ประเทศเพื่อนบา้ น แถบเอเชีย ตะวนั ออกเฉียงใตน้ ้นั มีผนื แผน่ ดินและผนื น้า ติดกนั ดงั น้นั เวลาเกิดเหตุการณ์จะส่งผลกระทบ ตอ่ เนื่องหนกั บา้ ง เบาบา้ ง ข้ึนอยกู่ บั ความรุนแรง ของเหตุการณ์น้นั ๆเหตุการณ์สึนามิ ๒๖ ธ.ค. ๒๕๔๗ คงเป็นบทพิสูจน์แลว้ วา่ ภยั ธรรมชาติน้นั เกิดข้ึนไดท้ ุกที่ไมม่ ีขอ้ ยกเวน้ สาหรับประเทศใด ประเทศไทยน้นั ล่าสุด กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ออกมาเตือนภยั วา่ มีพ้ืนท่ีเสี่ยงภยั ที่จะเกิดแผน่ ดิน ถล่มใน ๕๑ จงั หวดั แบ่งเป็นภาคเหนือ ๑๕ จังหวัด ภาคใต้ ๑๔ จังหวัด ภาคอีสาน ๙ จังหวัด ภาคกลาง ๗ จังหวัด ภาคตะวันออก ๖ จังหวัดหากเจาะลึกลงไปจะพบว่าพื้นท่ีเส่ียงภัยนั้นมีถึง ๒๕๐ อาเภอ ๖๙๒ ตาบล และ ๒,๓๕๕ หมู่บ้านทั่วประเทศ โดย ๓๒๑ หมู่บ้านอยู่ในพื้นท่ีความเส่ียงสูงท่ี จากสถิติของกรมทรัพยากรธรณี พบวา่ สถานการณ์แผน่ ดินถล่มความรุนแรงมาก โดย วนั ท่ี ๒๒ พ.ย.๒๕๓๑ ทบี่ ้านกะทูนเหนือ อ.พิปูน จ.นครศรธี รรมราช มีผูบ้ าดเจ็บและตายประมาณ ๒๓๐ คน บา้ นเรือนเสียหายประมาณ ๑,๕๐๐ หลัง มูลค่าความเสียหายมากกวา่ ๑ พันล้าน ๓๐ ก.ค.๒๕๔๒ ท่ีก่งิ อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี บ้านเรือนและพนื้ การเกษตรเสียหายมากมาย ๔ พ.ค.๒๕๔๔ ที่ อ.วงั ชิ้น จ.แพร่ เสยี ชวี ิต ๔๓ คน บ้านเรอื นเสยี หาย ๑๘ หลงั รวมมูลคา่ ๑๐๐ ลา้ นบาท ๑๑ ส.ค.๒๕๔๔ ต.น้าก้อ อ.หลม่ สัก จ.เพชรบูรณ์ เสียชวี ิต ๑๓๖ คน บาดเจบ็ ๑๐๙ คน บ้านเรอื น พงั ทลาย ๑๘๘ หลัง มลู ค่าความเสียหาย ๖๔๕ ล้านบาท ๑๑ ก.ย.๒๕๔๓ บา้ นธารทิพย์ ต.บงุ่ น้าเตา้ อ.หลม่ สัก และบ้านโพธิ์เงนิ ต.ท่าพล อ.เมอื ง จ.
109 เพชรบรู ณ์ เสียชวี ิต ๑๐ คน บา้ นเรอื นเสียหาย ๓๖๓ หลัง ๑๕ ก.ย.๒๕๔๕ บา้ นนา้ แรก อ.แม่แจ่ม จ.เชยี งใหม่ มีการอพยพชาวบา้ นออกจากพนื้ ท่ี ๑๘๐ ครอบครวั และเส้นทางแมแ่ จ่ม-ฮอดไดร้ บั ความเสยี หายจากดินถล่ม ๒๐ พ.ค.๒๕๔๗ อ.สบเมย จ.แมฮ่ ่องสอน, อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่, อ.แม่ระมาด จ.ตาก ประสบภัย รวมกันเกือบหม่ืนคน เสียชีวิตนับสิบคนและไม่ใช่เพียงเท่าน้ี แต่ยังมีเหตุการณ์ที่ไม่ได้บันทึกอีกจานวนมาก “ในรอบ ๓ ปี ท่ีผ่านมา สิ่งท่ีทาได้ขณะนี้ คือ การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง ในพื้นท่ี เสี่ยงภัย โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวัง เตือน ภัย และเตรียมพร้อม ท่ีจะเผชิญกับเหตุการณ์ดินถล่ม ที่ อาจจะเกิดขึ้นในช่วง ที่มีฝนตกหนัก โดย สังเกตสัญญาณ อันตราย คือ มีรอยเล่ือนหรือแยกของ แผ่นดิน ระดับน้าใน ลาห้วย สูงข้ึนอย่างรวดเร็ว สีของน้าเป็นสีเหมือนสีของดิน ภูเขา มีเสียงดังอู้ อ้ืออึงมากผิดปกติ เป็นต้น หากพบเห็น ลักษณะดังกล่าวต้องรีบแจ้ง เจ้าหน้าท่ีเพื่อหาทาง ป้องกัน แกไ้ ขไดท้ ันทว่ งที และสกดั กัน้ โศกนาฏกรรมท่ีอาจจะเกิดขนึ้ ๓. กรณีพายุใต้ฝนุ่ ในระยะน้ีพ้ืนที่ต่าง ๆท่ัวโลกกาลังประสบกับภัยธรรมชาติท้ังพายุเฮอริเคน ในสหรัฐอเมริกาพายุ ไตฝ้ ุ่นในเอเชียรวมถึงพ้ืนท่ภี าคเหนอื ของประเทศไทยที่เจออิทธิพลจากพายุดีเปรสช่ัน ไซโคลนและไต้ฝุ่น ซ่ึง ล่าสุดพายุที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยในช่วงระหว่างวันท่ี ๒๖-๒๙ก.ย.คือพายุดอมเรย โดยเป็นพายุลูกท่ี ๕ ท่ีพัดเข้าประเทศไทย และเป็นลูกที่ ๑๘ท่ีพัดเข้าจีนในปีนี้มีความรนุ แรงท่ีสุดในรอบ ๓๐ ปี ซึ่งการเข้าถล่ม ของพายุแต่ละครงั้ สรา้ งความเสียหายท้งั ชีวติ และทรัพยส์ ินอยา่ งมาก
110 อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่าพายุที่เกิดขึ้นนั้นมีหลากหลายขนาดต้ังแต่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง๑๐เมตร ไปจนถึง๑,๐๐๐กิโลเมตรความเร็วลมของพายุบางชนิดอาจจะถึง๘๐๐กิโลเมตร ต่อชั่วโมงซึ่งจะเพ่ิมความ เสียหายที่เกิดข้ึนเป็นอย่างมาก พายุที่เกิดข้ึนในที่ต่างๆก็มีช่ือเรียกต่างกัน ตามแต่แหล่งกาเนิด อาทิเช่น พายุใต้ ฝุ่น พายุ ไซโคลนพายุเฮอรเิ คน เป็นพายชุ นิดเดียวกันแตม่ ชี อื่ เรียกท่ีแตกต่างกันตามแต่แหล่งกาเนิด สาหรบั ประเทศไทย พายุดอมเรยเป็นพายลุ ูกท่ี ๕ ท่ีพัดเข้ามา ซ่ึงเป็นเหตุการณ์ท่ีค่อนข้างผิดปกตเิ น่ืองจาก สถิติในแต่ละปี ประเทศไทยจะมีพายุ เข้ามาปีละประมาณ ๒- ๓ลูกเท่าน้ันและบางปีก็ไม่มีผลกระทบเลย แต่ปีน้ีกลับมีพายุเข้ามาถึง ๕ ลูกแล้วอย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกา ซ่ึงกาลังประสบภัยจากพายุเฮอริเคน
111 แคทรีน่า และริต้าก็เป็นพายุลูกที่ ๑๗ ของปีน้ีจากปกติ จะมีประมาณ ๑๑ ลูกสร้างความเสียหายทาง เศรษฐกิจกวา่ ๒แสนลา้ นเหรียญต้องใชเ้ วลาฟน้ื ฟูอกี นานหลายปีกว่าจะกลับเข้าส่สู ภาพเดิม สาหรับพายุท่ีพัดผ่านประเทศไทยได้แก่พายุไต้ฝุ่นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสช่ันแต่ละภาคของประเทศ ไดร้ บั อิทธพิ ลจากลมมรสุม ในชว่ งระยะเวลาทแ่ี ตกตา่ งกนั ภาคใต้ได้รับอิทธพิ ลจากพายุในชว่ งเดือนตุลาคม–ธันวาคมภาคกลางและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ได้รับอิทธิพลพายุในช่วงเดือนพฤษภาคมมิถุนายน และกันยายนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับอิทธิพลพายุในช่วงเดือนสิงหาคมโดยปกติ ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจาก 'พายุหมุนเขตร้อน' ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม มากบ้างน้อยบ้างสุดแท้แต่ธรรมชาติกาหนด แต่ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงถึงระดับ 'ไต้ฝุ่น' เพราะมีเทือกเขาแถบเวียดนามและลาวเป็นกาแพงธรรมชาติสกัด ไว้ สง่ ผลใหก้ าลังลมออ่ นลงก่อนจะเคลอื่ นเข้าส่ไู ทย แต่ชาวไทยท่ีตั้งรกรากใกล้ฝั่งทะเลในภาคใต้คงไม่อาจลืมพายุโซนร้อน 'แฮเรียต' ซ่ึงพัดถล่มเข้า ไทยบริเวณแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เม่ือเดอื นตุลาคมปี พ.ศ.๒๕๐๕ มีผู้เสยี ชีวิตและ สญู หายจานวนมาก พายอุ ีกลูกที่พัดถล่มเม่ือเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.๒๕๓๒ น่ันคือ พายุ 'เกย์' โดยพัดเข้า สู่บริเวณ จ.ชุมพร ส่งผลให้บ้านเรือน ไร่ นา ได้รับความเสียหาย มีผู้คนล้มตายและสูญหายจานวนมาก เช่นกัน ก่อนที่จะมาตื่นตระหนกกับพายุ 'หมุ่ยฟ้า' และ พายุไต้ฝุ่น 'ลินดา' ท่ีถาโถมถล่มไทยในช่วงเดือน พฤศจิกายน ปี พ.ศ.๒๕๔๐ สร้างความเสียหายมากมาย เกิดน้าท่วมใหญ่และมีคล่ืนใหญ่ซัดฝั่งในพ้ืนท่ี ภาคใต้และภาคตะวันออกอย่างหนักและล่าสุดระหว่าง ๑๗ – ๒๐ กันยายน ๒๕๔๘ พายุ วีเซนเต้ ก็ทาให้ พื้นท่ีภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีฝนตกชุกหนาแน่น ส่งผลให้เกิดน้าท่วม ฉับพลัน น้าป่าไหลหลาก และน้าล้นตลิ่ง ก่อนที่จะมาต่ืนตระหนกอีกคร้ังกับพายุ ดอมเรย ท่ีมีอิทธิพลต่อ ประเทศไทยระหวา่ งวันท่ี ๒๖-๒๙ ก.ย.นี้ พายหุ มนุ เขตร้อน เป็นพายุหมุนท่ีเกิดในทะเลหรือมหาสมุทรใน โซนรอ้ น โดยมชี อื่ เรยี กตามแหลง่ ท่ีเกดิ เชน่ พายดุ เี ปรสชั่น พายโุ ซนร้อนพายไุ ต้ฝนุ่ เปน็ พายทุ ่เี กดิ ในมหาสมทุ รแปซิฟิก หรือทะเลจีนใต้ พายุเฮอริเคนเปน็ พายุท่ีเกิดในมหาสมุทร แอตแลนติก และพายไุ ซโคลนเป็นพายทุ เ่ี กดิ ขน้ึ ใน มหาสมุทรอินเดยี พายุหมนุ เหลา่ นี้มีความแรงมาก โดยมี ความเรว็ ลมสงู สดุ ใกลศ้ นู ย์กลางพายุ ๕๐ กม./ชม. ข้ึนไป และสามารถมีความเร็วลมรอบจุดศนู ย์กลางพายุไดม้ ากกวา่ ๒๕๐ กม./ชม. สาหรบั พายุไต้ฝนุ่ พายุเฮอรเิ คน และพายุ ไซโคลน
112 พายทุ อร์นาโด เปน็ พายุหมนุ ท่ีมีความรุนแรงทีส่ ดุ และอนั ตรายมากท่ีสดุ ในบรรดาพายหุ มนุ ทงั้ หลาย โดยลมพดั รอบ ศูนยก์ ลางอาจมีความเร็วถงึ ๘๐๐ กม./ชม. และมีลักษณะเด่นชัดคือ เป็นพายุท่ีกอ่ ตวั จากก้อนเมฆ และยอ้ ย ลงมาบนผนื ดินในลักษณะเป็นกรวยเกลยี ว ท่ีมเี สน้ ผ่านศนู ย์กลางประมาณ ๕๐ – ๕๐๐ เมตร แม้ว่าพายุ ชนิดนีจ้ ะมีอายุไมน่ านคอื เฉล่ยี ประมาณ ๑ – ๒ ช่ัวโมง แต่มอี านาจการทาลายสูง สามารถกวาดยก บา้ นเรือน รถยนต์พายนุ ้สี ว่ นใหญ่จะเกดิ ในประเทศสหรฐั อเมริกา พายฟุ ้าคะนอง เป็นพายุทีเ่ กิดจากเมฆฝนฟา้ คะนอง สามารถเกิดได้ในทุกบรเิ วณท่ีมอี ากาศร้อน และมี ความชื้นมากพอสมควร จงึ เป็นลักษณะสาคญั ของ อากาศเขตร้อน โดยมากมักจะมที ัง้ ลมแรง ฟา้ แลบ ฟา้ ร้อง และฝนหนกั เกดิ ข้ึนพร้อมกัน ความแรงของ ลมสามารถทาลายบ้านเรือน สง่ิ ปลกู สร้างและตน้ ไม้ เสยี หายได้ระดบั ความรุนแรงของพายุกจ็ ะมีช่ือเรียก ที่ต่างกัน อาทเิ ช่น ในเขตฝ่ังตะวกั ตกของมหาสมุทร แปซิฟิกทะเลจีนใต้และอา่ วไทยพายุที่มีความเรว็ ลม ต่าสุดจะเรียกวา่ พายดุ เี ปรสชั่น ซ่ึงมีความเร็วลมน้อยกว่า๖๓กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อความเร็วลมเพิ่มข้ึนเป็น ๖๓ – ๑๑๘ กโิ ลเมตรต่อช่ัวโมงกจ็ ะเปล่ียนเป็นพายุโซนรอ้ น และเม่ือความเร็วเพ่ิมขึ้นมากกว่า ๑๑๙ กโิ ลเมตรตอ่ ช่ัวโมง พายุน้ีกจ็ ะกลายเปน็ พายุใตฝ้ ุ่น ซึง่ กม็ ีความรนุ แรงทแ่ี ตกตา่ งกันไปในแต่ละชนดิ โดยพายุใต้ฝุ่นชนิดที่ ๑ จะมี ความเร็วลมอยู่ท่ี ๑๑๙-๑๕๓ ชนิดที่ ๒ จะมีความเร็วลมอยู่ท่ี ๑๕๔-๑๗๗ ชนิดที่ ๓ จะมีความเร็วลมอยู่ที่ ๑๗๘-๒๑๐ ชนิดที่ ๔ จะมีความเร็วลมอยู่ที่ ๒๑๑-๒๕๐ และถ้ามีความเร็วลมมากว่า ๒๕๐ กิโลเมตรต่อ ชว่ั โมง ก็จะเรียกวา่ ซูเปอร์ใต้ฝนุ่ (Super Typhoon) การตง้ั ชอื่ พายุ ผ้อู านวยการศูนย์อตุ ุนิยมวทิ ยาภาคเหนือกลา่ วถึงการตั้งชอ่ื ของพายุวา่ การตั้งช่อื พายุหมุนเขตร้อน ในฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยนั้น เป็นหน้าที่ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization) ซึ่งเม่ือมีพายุหมุนท่ีมีความเร็วสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางของพายุ มากกว่า ๓๔ นอต หรอื ประมาณ ๖๒ กโิ ลเมตร ต่อชวั่ โมง พายุน้นั จะถกู ต้ังชือ่ ซ่ึงรายชื่อของพายใุ นบรเิ วณ มหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ เร่ือยมาจนถึงทะเลจีนใต้ จะแบ่งไวเ้ ป็นห้ากลุ่ม (คอลัมน์) เริ่มใช้ตั้งแต่วันท่ี ๑ มกราคม๒๕๔๓ ดังนั้น เม่ือมีพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางมากกว่า ๖๒ กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เกดิ ข้นึ เป็นตัวแรกของปี พายุนั้นก็จะถูกต้ังช่อื ตามรายช่ือที่๑ในคอลัมน์ท่ี๑ซึ่งมีชอ่ื ว่าDamrey (ดอมเรย์) ซึ่ง ในแต่ละคอลัมน์จะมีรายชื่อพายุท่ีตั้งไว้คอลัมน์ละ ๒๘ชื่อ ดังนั้น เมื่อมีพายุเกิดขึ้นใหม่ท่ีความเร็วลมตาม กาหนดที่จะสามารถตั้งชื่อได้ พายุที่เกิดขึ้นใหม่น้ันก็จะใช้ชื่อตัวถัดมา ไล่เรื่อยลงมาจนหมดคอลัมน์ท่ี ๑ ใน ชื่อท่ี ๒๘ แล้วจึงข้ึนต้นใหม่ที่ช่ือที่ ๑ ในคอลัมน์ที่ ๒ เช่นนี้ไปเร่ือยๆ จนถึงคอลัมน์ท่ี ๕ และเม่ือหมด
113 คอลัมน์ท่ี ๕ ซึ่งช่ือสุดท้ายของคอลัมน์ที่ ๕ คือ Saola (โซล่า) ก็จะวกกลับมาใช้ช่ือที่ ๑ ของคอลัมน์ที่ ๑ ใหม่ คือ Damrey (ดอมเรย์ ) เมื่อมีพายตุ ัวต่อไปเกิดข้ึนอีก และมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางตามที่ กาหนด พายนุ ้ันจะใชช้ ่ือที่อยู่ถัดลงมาในคอลัมน์ที่ ๑ เช่น พายตุ ัวที่สองจะมีชื่อว่า 'Longwang (หลงหวาง)' เม่ือใช้จนหมดคอลัมน์ให้ใช้ชื่อแรกของคอลัมนท์ ่ีอยู่ถัดไป เช่น พายุที่เกิดหลงั พายุ 'Trami (ทรามี)' จะใช้ช่ือ 'Kongrey (กองเรย์) มูลเหตุที่มาของการต้ังช่ือพายุมาจากการที่นักเดินเรือออกทะเลคิดถึงลูกคิดถึงเมียและลูกจึงต้ังชื่อ พายุท่ีตนเองประสบในท้องทะเล ตามชื่อเมียและลูกเดิมชื่อพายุจึงมีแต่ช่ือผู้หญิงต่อมากลุ่มสิทธิบุรุษจึงมี การเรียกร้องให้ต้ังช่ือพายุเป็นช่ือผู้ชายบ้างภายหลังองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกจึงให้ต้ังชื่อพายุเป็นภาษา ท้องถิ่นท่ีให้กาเนิดพายุน้ันๆด้วย อาทิเช่นDamrey (ดอมเรย์)เป็นภาษาท้องถ่ินของประเทศกัมพูชาแปลว่า ช้างส่วนเกณฑ์การต้ังชื่อพายุในประเทศไทยนั้นไม่มีหลักแน่นอนขึ้นอยู่กับคณะกรรมการท่ีจะเลือกใช้ท่ีเห็น วา่ เหมาะสมและเมื่อท่ีประชุมเห็นพร้อมจึงสง่ ช่ือต่อไปยังท่ีประชุมโลกอย่างไรก็ตามหลักการต้ังชื่อพายุแบบ ไทยก็อิงอยู่กับวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมไทยเป็นพน้ื ฐาน ประเทศไทยอดุ มไปด้วยศลิ ปวัฒนธรรม มี ประเพณตี านาน นิทานวรรณคดีมากมาย ส่ิงเหลา่ นี้เป็นวัตถุดบิ ที่นามาตงั้ ช่ือ ดังรายชื่อพายทุ ่ีเกิดในไทยเช่น วิภา,นิดาเป็นช่ือสตรีในประเทศไทยรามสูรเป็นชื่อยักษ์ในเทพนิยายไทยเมขลาเป็นชื่อเทพธิดาในเทพนิยาย ไทยหนุมานเป็นชื่อหัวหน้าลิงในวรรณคดีไทยชบา,กุหลาบมาจากช่ือดอกไม้ทุเรียน,ขนุนมาจากช่ือผลไม้ และพระพริ ุณ เป็นชื่อเทพเจา้ แหง่ ฝนตามคติความเช่อื ด้งั เดมิ เป็นต้น ภัยธรรมชาติเป็นส่ิงท่ีหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่สามารถบรรเทาความรุนแรงได้ด้วยการเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ทง้ั ประชาชนท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ และหน่วยงานที่เก่ยี วข้องโดยเฉพาะการจัดทาแผนระยะยาว ในการแก้ไขผลกระทบอย่างจริงจังและท่สี าคญั คือการไม่ทาลายธรรมชาติไปมากกว่าน้ี. พายใุ นประเทศต่าง ๆ กัมพชู า ดอมเรย์ กองเรย์ นากรี กรอวาญ สารกิ า โบพา กรอซา ไมสัก จันทู เนสาด จีน หลงหวาง ยทู ู ฟงเฉนิ ตเู้ จีย้ น ไหหมา่ หวูค่ ง ไหเ่ ย่ียน ไหเ่ ฉิน เต้ยี มู่ ไหถ่ ัง เกาหลเี หนือ ไคโรจิ โทราจิ เคาเมจิ เมมิ มิอะริ โซนามุ โพดอล พงโซนา มิดอนเล นอเก ฮ่องกง ไคตัก๊ มานยี่ ฟองวอง ฉอยหวน่ั มางอ่ น ซานซาน แหลง่ แหลง ยนั ยนั เทงเท๋ง บันหยัน ญปี่ นุ่ เทมบนิ อซุ างิ คมุ มุริ ขอบปุ โทะคาเงะ ยางิ คะจิคิ คุจิระ คอมปาซึ วาชิ มาเก๊า จันจู วิทบิ หวงั ฟง พารม์ า มยุ้ ฝา่ เบบินกา้ ฮวั เหมย่ หลนิ ฝา่ หมา่ เหลา ซนั หวู่ มาเลเซีย เจอลาวัต เซอพตั รูซา มเี ลอ เมอรบ์ ุค รัมเบีย ทาปา นังกา้ เมอรันติ มาวา ไมโครนีเซีย เอวินตา ฟโิ ท ซินลากู เนพาทคั นันมาดอล ซลู คิ มแิ ทค ซูเดโล รานานิม กโู ชว ฟิลิปปนิ ส์ บิลิส ดานสั ฮากุปิด ลูปดิ ทาลัส ซมิ ารอน ฮาจบิ สิ อมิ บโุ ด มาลากัส ทาลิม เกาหลีใต้ เกมี นารี ชังมี ซดู าล โนรู เชบี โนกูรี โกนี เมกี นาบี สหรฐั ฯ มาเรีย ฟรานซสิ โก ฮโี กส โอเมส โรเค อูโท ชาทาน อีโท โคโด วีเซนเต้ เวยี ดนาม เซลไม เลคคมี า บาวี คอนซอน ซอนคา ทรามี ฮาลอง แวมโค ซองดา เซลลา ๔. กรณีภาวะโลกรอ้ น ภาวะโลกร้อน เป็นคาที่เริ่มได้ยินกันหนาหูมากข้ึนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงไหน สภาพอากาศไม่เป็นไปตามฤดูกาล เกดิ สภาพแปรปรวนอุณหภูมิเพิ่มสงู ข้ึน
114 สภาวะโลกร้อน (Global Warming) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงลักษณะสภาพภูมิอากาศท้ังหมด เช่นอุณหภูมิ ฝน ลม เป็นต้น ซ่ึงส่งผลให้อุณหภูมิของโลกเฉลี่ยสูงขึ้น สร้างความเสียหายแก่โลกมากมาย ได้แก่ การเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น ปรากฏการณ์เอลนินโญ่ การเกิดพายุไซโคลนบ่อยข้ึน แผ่นดินถล่ม และน้าท่วม การประมงไดร้ ับความเสยี หาย เชอื้ โรคติดตอ่ ชนิดต่างๆ เจรญิ เตบิ โตและแพรก่ ระจายได้รวดเร็ว เป็นต้น สาเหตุหลักท่ีทาให้โลกร้อนขึ้น เกิดจากสภาวะท่ีเรียกว่า “เรือนกระจก” (Greenhouse Effect) ซ่ึงนับวันจะขยายวงกว้างข้ึนเรื่อยๆ จากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ทาให้ปริมาณก๊าซเรือน กระจก ได้แก่ ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ มเี ธน ไนตรัสออกไซด์ ฯลฯ ถูกปล่อยสู่บรรยากาศห่อหุ้มผิวโลกมาก ข้ึน ก้ันการสะท้อนกลับของรังสีอินฟราเรด ส่งผลให้อุณหภูมิพื้นผิวโลกสูงขึ้น ๑.๕ – ๖องศาเซลเซียส การ ปลดปล่อยสารเคมีบางชนิด ทาให้ชั้นโอโซนในบรรยากาศเกิดช่องโหวแ่ ละเบาบางลง รังสีจากดวงอาทิตย์ที่ ทาใหเ้ กิดมะเร็งสามารถสอ่ งผ่านเขา้ มายงั โลกมากขึน้ ทาให้เป็นอนั ตรายอยา่ งย่งิ ตอ่ สง่ิ มีชีวติ บนโลก มีการคาดการณ์ว่า ในศตวรรษท่ี ๒๑ อุณหภูมิของโลกจะร้อนขึ้นเฉล่ีย ๑.๔-๕.๘ องศาเซลเซียส เน่ืองจากภาวะเรือกระจกและรายงานของ UNEP ได้ระบุว่าในอีก ๕๐ ปี สภาวะโลกร้อนจะสร้างความ เสยี หายให้แกโ่ ลกคิดเปน็ เงินปีละประมาณ ๑๒.๙ ลา้ นล้านบาท การเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศไม่ได้เปล่ียนแปลงไปทีละ เ ล็ ก ที ล ะ น้ อ ย แ ต่ เ ป็ น ก า ร เปล่ียนแปลงอย่างรุนแรงซ่ึงเกิดขึ้น บ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้น เรื่อยๆ ตัวอย่างท่ีเห็นได้ชัดได้แก่ ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง วาตภัย อุทกภัย พายุฝนฟ้าคะนอง พายุทอร์ นาโด แผน่ ดนิ ถล่ม และการเกิดพายรุ นุ แรงฉบั พลนั จากภาวะอนั ตรายเหลา่ นพี้ บว่า ผู้ท่ีอาศัยอยู่ในเขตพื้นท่ีที่เส่ียงกับการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นท่ี ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่และช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากน้ี ยังมีการคาดการณ์ว่า การที่อุณหภูมิ ของโลกสูงขึ้น เป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตเพ่ือการบริโภคโดยรวมลดลง ซ่ึงทาให้จานวนผู้อดอยากหิวโหย เพ่มิ ข้ึนอกี ๖๐-๓๕๐ ลา้ นคน ในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ มีโครงการพลังงานต่างๆ ที่จัดต้ังขึ้น และการดาเนินงานของ โครงการเหลา่ น้ี ได้ส่งผลกระทบตอ่ ระบบนิเวศนว์ ิทยาอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น การเปล่ียนแปลงของฝน ทีไ่ ม่ตกตามฤดูกาล และปรมิ าณน้าฝนทตี่ กในแต่ละช่วงได้เปล่ียนแปลงไป การบกุ รุกและทาลายป่าไม้ที่อดุ ม สมบูรณ์ การสูงข้ึนของระดับน้าทะเลและอุณหภูมิของน้าทะเล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบ นิเวศน์วิทยาตามแนวชายฝั่ง และจากการที่อุณหภูมิของน้าทะเลสูงข้ึนนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนสี ของนา้ ทะเล ดงั น้ัน แนวปะการงั ต่างๆ จึงได้รบั ผลกระทบและถกู ทาลายเชน่ กนั ประเทศไทยเป็นตัวอย่างของประเทศที่มีชายฝั่งทะเล ที่มีความยาวประมาณ ๒,๔๙๐ กิโลเมตร และเป็นแหล่งท่ีมีความสาคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างย่ิง การประมง การ
115 เพาะเลี้ยงสัตว์น้า และความไม่แน่นอนของฤดกู ารที่ส่งผลกระทบต่อการทาเกษตรกรรม มีการคาดการณ์ว่า หากระดับน้าทะเลสูงข้ึนอีกอย่างน้อย ๑ เมตรภายในทศวรรษหน้า หาดทรายและพ้ืนท่ีชายฝั่งในประเทศ ไทยจะลดน้อยลง สถานที่ตากอากาศชายทะเล รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวในสถานท่ีท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา และ ระยองจะได้รับผลกระทบโดยตรง แม้แต่กรุงเทพมหานคร ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจาก ผลกระทบของระดบั น้าทะเลที่สูงข้ึนน้ีเชน่ กนั ปัจจุบันน้ี สัญญาณเบื้องต้นของสภาพภูมิอากาศท่ีเปลี่ยนแปลงไป ได้ปรากฏข้ึนอย่างชัดเจน สาหรับประเทศไทยเช่น เหตุสนึ ามใิ น ๖ จังหวัดอันดามัน การเกิดเหตุแผ่นดินไหว การเกิดน้าท่วมใหญ่ ในรอบหลาย ๑๐ ปี ในพ้ืนที่ภาคเหนือ ส่วนในต่างประเทศก็ประสบปัญหาภัยธรรมชาติเช่นกันเช่นพายุ เฮอรเิ คนในสหรัฐอเมรกิ า และพายไุ ต้ฝุ่นในญปี่ ่นุ มกี ารประเมินสถานการณว์ า่ อุณหภมู ขิ องโลกท่สี ูงข้นึ นัน้ จะทาให้น้าแข็งขนาดใหญบ่ ริเวณข้วั โลก ละลายและทาใหน้ ้าทะเลทว่ั โลกสูงขน้ึ ทาให้ชายฝ่ังทะเลของไทยเลอื่ นไปอยู่ถึงจ.ลาปาง ซ่งึ สอดคล้องกับ ขอ้ มูลจากนกั วทิ ยาศาสตร์ประจาองค์การนาซา่ ช่ือ \"เจมส์ แฮนเซน\" ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นภมู อิ ากาศ ทรี่ ายงานผล การตรวจสอบภาวะการเปลย่ี นแปลงของอุณหภมู โิ ลกแลว้ คาดการณว์ ่าภายในศตวรรษนี้จะเพ่ิมข้นึ ๑ฟาเรน ไฮต์ ปรากฏการณด์ ังกลา่ วนอกจากจะกระทบตอ่ ระบบนเิ วศตา่ งๆ ทวั่ โลก ต้ังแตก่ ารละลายของนา้ แขง็ ในขวั้ โลกเหนือ-ใต้ อณุ หภมู ิของน้าทะเลที่สงู ขนึ้ การกลายเปน็ ไอทีเ่ พิ่มมากขึ้น รวมทัง้ การแพร่ระบาดของ โรคในเขตร้อนหลายชนดิ เช่น มาลาเรยี ไขเ้ ลือดออกแลว้ ยงั แสดงออกมาผ่านหายนะภัยทางธรรมชาติทีท่ วี จานวนมากขึน้ ในรอบทศวรรษทผี่ า่ นมา ท้งั การเกิดไฟป่าท่ีเพมิ่ จานวนครั้งมากขึ้น การชะลอไม่ให้ความร้อนในโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและ พฤติกรรมการใช้พลังงาน ซ่ึงต้องทาร่วมกันทั้งโลก แต่ปัญหาก็คือ ขณะท่ีคนในประเทศแถบยุโรป ต่ืนตัว ตระหนักในเร่ืองของสภาวะเรือนกระจก ด้วยการปลูกป่าในเมือง (Urban forest) หรือการทา คารบ์ อนเครดิต (Carbon credit) กันมาก ทว่าประเทศสหรัฐอเมริกาท่ีมีการใช้พลังงานมากสุดในโลกกลับ ยงั ไมม่ ีการตระหนกั ในเรอื่ งน้ี เช่นเดียวกบั ในประเทศไทยเองท่คี นสว่ นใหญก่ ็ยงั ไม่ให้ความสนใจ นอกจากน้ัน ภาครัฐยงั ต้องปรับอัตราการเจริญเติบโตในภาคธรุ กิจใหม่ด้วย โดยลดการขยายตัว ในธุรกิจหรอื อตุ สาหกรรมท่ตี อ้ งใชพ้ ลงั งานมาก สว่ นภาคอุตสาหกรรมก็ต้องรับผิดชอบสังคมมากข้นึ ด้วยการ หันมาปล่อยมลพิษน้อยลงให้มีค่าเป็นศูนย์ พร้อมๆ กับปลูกต้นไม้ควบคู่กันไปด้วยเพ่ือใช้ในการดูดซับก๊าซ คารบ์ อนไดออกไซด์ สถานการณ์ปจั จุบัน อุณหภูมิของโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ในปี พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นปีท่ีโลกมีอุณหภูมิสูงท่ีสุด และในปี พ.ศ.๒๕๔๔ ถือเป็นปีท่ีอุณหภูมิของโลกสูงข้ึนเป็นอันดับท่ีสอง อันเป็นผลมาจากปรากฎการณ์ลานินญา หรือปรากฏการณ์ท่ีอุณหภูมิของพ้ืนผิวมหาสมุทรแปซิฟิคอุ่นข้ึนอย่างผิดปกติ ที่ผ่านมาพบว่าอุณหภูมิของ โลกจะมอี ัตราเฉล่ียท่ีสูงกว่าระดับปกติอย่างต่อเน่ืองมาต้ังแตท่ ศวรรษท่ี ๑๙๘๐ การเพ่มิ ขึ้นของอุณหภูมิโลก นั้นเป็นไปอย่างช้า ๆ แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทาให้ สถานการณแ์ ละปญั หาท่แี ตกต่างกันในแต่ละประเทศ แตล่ ะส่วนของโลกดังน้ี แถบขั้วโลกเหนือ ได้รับผลกระทบมากท่ีสุดก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงมาก โดยเฉาะอย่างยิ่งภูเขา น้าแข็ง ก้อนน้าแข็งจะละลายอย่างรวดเร็ว ทาให้ระดับน้าทะเลทางข้ัวโลกเพ่ิมขึ้นและไหลลงสู่ท่ัวโลกทาให้ เกดิ น้าท่วมไดท้ ุกทวปี ทาให้สตั วท์ ะเลเสียชวี ิตเพราะระบบนเิ วศเปลี่ยน
116 ทวีปยุโรป ยโุ รปใต้ ภูมิประเทศจะกลายเป็นพนื้ ท่ีลาดเอียง เกิดความแห้งแลง้ ในหลายพื้นที่ ปัญหา อทุ กภัยจะเพิ่มข้ึนเน่อื งจากธารนา้ แขง็ บนบริเวณยอดเขาสงู ที่ปกคลมุ ด้วยหิมะจะละลายจนหมด ทวีปเอเชีย จะเกิดฤดูกาลท่ีแห้งแล้ง มีน้าท่วม ผลิตผลทางอาหารลดลง ระดับน้าทะเลสูงขึ้น สภาวะอากาศแปรปรวน อาจทาใหเ้ กิดพายตุ ่างๆ มากมายเข้าไปทาลายบ้านเรือนทอี่ ยู่อาศยั ของประชาชน ทวีปอเมริกาเหนือ อุตสาหกรรมการผลิตอาหารจะได้รับผลประโยชน์เน่ืองจากอากาศที่อุ่นขึ้น ทุ่ง หญ้าใหญ่ของแคนาดาและทุ่งราบใหญส่ หรัฐอเมรกิ าจะตายเพราะความแปรปรวนของอากาศสง่ ผลต่อสัตว์ รัฐท่ีเป็นเกาะเล็ก ๆ จะได้รับผลกระทบจากระดับน้าทะเลที่สูงข้ึน กัดกร่อนชายฝ่ัง จะสร้างความ เสียหายแก่ระบบนิเวศน์ แนวปะการังจะถูกทาลาย ปลาทะเลประสบปัญหา เนื่องจากระบบนิเวศท่ี แปรเปล่ียนไป ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลท่ีสาคัญจะสูญเสียรายได้ไป ทัศนียภาพท่ีสวยงามของทะเลจะ เปลีย่ นไป ประเทศไทย ในอีก ๕๐ – ๑๐๐ ปีข้างหน้า คาดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเพ่ิมข้ึน ๒.๕ – ๖ องศา เซลเซียส น้าทะเลจะสูงขึ้นจนทาให้กรุงเทพฯจมน้า ปริมาณน้าฝนจะเปล่ียนแปลงท้ังแห้งแล้งหนักและน้า ทว่ มใหญ่ การเฝ้าระวงั การเกิดอบุ ัตภิ ยั ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการลดการปลดปล่อยสารเรือนกระจกและสารที่ทาลายชั้นโอโซน ดังนี้ ๑. เลือกใชอ้ ุปกรณ์หรือเคร่อื งใช้ ทีไ่ มไ้ ดผ้ ลติ จากสารซเี อฟซี(CFCs) หรือมีสารซเี อฟซี เชน่ ตู้เยน็ ตู้แชเ่ ย็น เครื่องปรบั อากาศ ๒. ใช้เคร่ืองปรับอากาศ เท่าทจ่ี าเปน็ แล้วหนั มาใช้พดั ลมเปดิ หนา้ ตา่ ง ๓. ซือ้ สเปรย์ที่ข้างกระป๋องติดฉลาก Non-CFCs และใช้แปรงทาสีแทนทจี่ ะใชก้ ระปอ๋ ง ฉีดสเปรย์ ๔. ขบั ขี่ยานพาหนะที่ประหยัดน้ามันเชอื้ เพลงิ ๕. การสัญจรโดยการเดนิ หรอื เดนิ ทางโดยรถจกั รยานหรอื โดยสารรถประจาทาง ๖. ใชพ้ ลงั งานทดแทนจากธรรมชาติ เช่นพลงั งานแสงอาทติ ย์และลม ๗. ลดปรมิ าณขยะและนาขยะมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ และลดการเผาตน้ ไม้ในป่าและตามทุง่ ปัญหาภัยแล้งมีการพูดกันมานานแล้ว นับวันจะทวีความรุนแรงมากย่ิงข้ึนโดยเฉพาะในปีน้ี กลายเป็นประเด็นร้อนให้คณะรัฐมนตรี หยิบยกขึ้นมาหารือเป็นเรื่องด่วน เพราะเกิดภาวะขาดแคลนน้าใน เกือบทุกภาคของประเทศ ซ่ึงไม่เพียงแต่กระทบต่อภาคการเกษตรเท่านั้น แต่หลายจังหวัดประชาชนต้อง เผชิญกับสภาพขาดแคลนน้าเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค สภาพอากาศที่ผิดปกติน้ีไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะใน ประเทศไทยเทา่ นั้น แต่ทั่วโลกก็ประสบกับปัญหาในลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะอากาศแปรปรวน มี พายเุ ฮอริเคนบอ่ ยครั้ง เกิดสภาวะความแหง้ แล้ง ไฟป่า และอทุ กภัยมากข้นึ ความร้อนและแห้งแล้งที่เกิดข้ึน ส่วนหนึ่งเกิดจากน้ามือของมนุษย์ที่ทาลายป่าไม้ซ่ึงเป็นต้นน้าลา ธาร และส่วนหนงึ่ เปน็ ผลพวงของการพฒั นาทางดา้ นอตุ สาหกรรม และการขยายตัวในภาคขนสง่ เพ่อื รองรับ การเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเพิ่มข้ึนของประชากรโลก ส่งผลให้ทั่วโลกมีการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO๒) และก๊าซท่ีก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกอื่นๆ ได้แก่ ก๊าซมีเทน (CH๔) ไนตรัส ออกไซด์ (NOX) และคลอโรฟลูออโรคาร์บอนส์ (CFCs) เมื่อก๊าซเหล่านี้ถูกปล่อยออกมาสะสมอยู่ในชั้น
117 บรรยากาศของโลก ก็จะเป็นตัวสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ควรจะระบายออกนอกชั้นบรรยากาศ โลกให้กลับย้อนมาบนโลกอีกคร้ัง จึงทาให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เรียกปรากฎการณ์น้ีว่า \"ภาวะเรือน กระจก\" (Green House Effect) ซึ่งในจานวนนี้ก๊าซ CO๒ ซ่ึงเกิดจากการบริโภคเชื้อเพลิงท่ีเป็นน้ามันเละ ถ่านหินเป็นตวั กอ่ ใหเ้ กดิ ภาวะเรือนกระจกทสี่ าคัญท่ีสดุ เพื่อแก้ไขสภาวะโลกร้อนจึงได้เกิดสนธิสญั ญาเกียวโต (Kyoto Protocol) ขน้ึ โดยมกี ารประชมุ ครั้ง แรกเม่ือปี ๒๕๔๐ ที่เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เพ่ือเรียกร้องให้มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง โดยมีประเทศอุตสาหกรรมรายใหญ่ของโลก คือ ญ่ีปุ่น และอีกหลายประเทศในยุโรปให้การสนับสนุน สนธิสัญญานี้อย่างต่อเน่ือง ทาให้สนธิสัญญาเกียวโตประสบความสาเร็จและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๔๘ โดยมีประเทศต่างๆ ทัว่ โลกให้การสนบั สนุนรวมทั้งประเทศไทยด้วย พิธีสารเกียวโต ได้กาหนดกลไกยืดหยุ่นขึ้นมา ๓ กลไก เพ่ือช่วยให้ประเทศพัฒนาแล้วบรรลุ เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ คือ การดาเนินการร่วมกัน (Joint Implementation) การค้าขายแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก ( Emissions Trading ) และกลไกการพัฒนาที่สะอาด ( Clean Development Mechanism : CDM ) สองกลไกแรกเกิดข้ึนได้ระหว่างประเทศพัฒนาแล้วด้วยกันเท่านั้น ส่วนCDM จะต้องดาเนินการร่วมกันระหว่างประเทศท่ีพัฒนาแล้วกับประเทศกาลังพัฒนา โดยประเทศ พัฒนาแลว้ จะมาลงทนุ ดาเนนิ โครงการเพอ่ื ให้เกดิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศท่ีกาลังพฒั นา แล้วนาปริมาณก๊าซที่ลดลงได้จากการดาเนินกิจกรรม หรือโครงการ CDM มาคานวณเสมือนว่าได้ ดาเนินการลดในประเทศของตนเอง กิจกรรมหรือโครงการดังกล่าว เช่น การเปลย่ี นเช้อื เพลิง การประหยัด หรือเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน เป็นต้น ทาให้ประเทศพัฒนาแล้วบรรลุเป้าหมายของการปล่อยก๊าซเรือน กระจกไดต้ ามพนั ธกรณคี วบค่ไู ปกับการชว่ ยให้ประเทศกาลังพัฒนาบรรลกุ ารพัฒนาทย่ี ั่งยืนได้ ผลจากสนธิสัญญาดังกล่าวทาให้เกิดนโยบายในประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมสนธิสัญญาฯ เช่น การ กาหนดโควตา้ ในการปลอ่ ย CO๒ ของโรงงานอตุ สาหกรรม โดยบริษัทท่ีปลอ่ ย CO๒ น้อยสามารถนาโควต้า ทเ่ี หลือไปขายตอ่ ได้ ทาใหเ้ กิดตลาดซอ้ื ขายขึ้น ท่ีเรียกว่าระบบคารบ์ อนเทรดดิง้ หรือนโยบายการสง่ เสริมให้ ใช้พลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณก๊าซเรือน กระจกลง ในปัจจุบันรัฐบาลประเทศต่างๆได้ส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนอย่างแพร่หลาย โดยใช้ มาตรการจูงใจทางภาษี รวมไปถึงการให้เงินสนับสนุน ซ่ึงพลังงานทดแทนท่ีได้รับการศึกษาวิจัยถึงความ เป็นไปได้ในการนามาใช้มีด้วยกันหลายชนิด และท่ีมีความสาคัญอย่างมาก คือเชื้อเพลิงที่ได้จากพืช เช่น เอ ทานอล และ ไบโอดีเซล รวมท้ังพลังงานทดแทนอื่นๆ อีก เช่น พลังงานน้า ลม แสงอาทิตย์ การเร่งส่งเสริม ให้มีการใช้พลังทดแทนเป็นส่ิงท่ีจาเป็นอย่างเร่งด่วนสาหรับประเทศไทยเช่นกัน ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกจิ (ฉบบั ท่ี ๑๙๙๓ ๒๐ ม.ี ค. - ๒๓ ม.ี ค. ๒๕๔๘ ) สรปุ ท้ายบท กรณีเหตุการณ์ที่เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น ท้ังท่ีมีลักษณะที่รุนแรงและไม่รุนแรง เมื่อเกิดข้ึนแล้วย่อมส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ท่ีสาคัญคือสิ่งมีชิตต้องได้รับ ผลกระทบ และสร้างความบอบช้า ต้องได้รับการเยียวยา กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งมนุษย์เรียกว่าภัย ธรรมชาติ
118 กรณีภัยธรรมชาติท่ีมีความรุนแรง จนก่อให้เกิดความวิบัติ ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถที่จะต่อด้านได้ เป็นกรณีที่ควรแก่การนามาศึกษาเพ่ือเป็นความรู้และหาทางป้องกันภัยให้มีระดับความรุนแรงที่ลดลง ให้ สูญเสียน้อยท่ีสุด เช่น กรณีคลื่นสึนามิ การณีแผ่นดินไหว พายุใต้ฝุ่น ภาวะโลกร้อน และการละลายของ ภเู ขาน้าแขง็ ภัยพิบัติจากธรรมชาติเหล่านี้ เกิดจากการขาดความสมดุลของธรรมชาติ ที่เกิดจากการ เปลย่ี นแปลงของธรรมชาติ ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบมาจากการกระทาของส่งิ มรชวี ติ คาถามทา้ ยบท ๑. กรณคี ล่นื สนึ ามิ เกดิ ข้นึ ได้อย่างไร มวี ิธีการป้องกนั อยา่ งไร ๒. กรณแี ผน่ ดนิ ไหวทีถ่ อื วา่ รนุ แรงในระดบั ใด จะมี วธิ ีการปอ้ งกนั อย่างไร ๓. การเกดิ พายุใต้ฝนุ่ สว่ นใหญ่เกิดขึ้นในภูมิภาคใด เพราะเหตใุ ด ๔. ภาวะโลกรอ้ นเป็นผลกระทบมาจากอะไร จะป้องกันอย่างไร
บรรณานกุ รม กล่มุ เสขยิ ธรรม. กองเลขาฯ. ๒๕๓๕. พระกับปา่ ไม้ความจริงทีห่ ายไป. สรุปการเสวนาพระสงฆ์กบั ความสอดคล้องระหว่างพระธรรมวนิ ัย และ กฎหมาย. กรุงเทพฯ. เมด็ ทราย. ทววี ัฒน์ บุณฑริกวิวัฒน์. ๒๕๓๘ “ ทุทธทาส ภกิ ขุ: ธรรมกิ สงั คมนยิ ม กบั ธรรมชาติ”. กรุงเทพ ธรุ กจิ . (๒๒ ตุลาคม) : ๗ พระธรรมปิฏก (ป.อ. ปยตุ โต). ๒๕๔๐. “ รายการโลกสวยด้วยมือเรา: ธรรมะ ”. [รายการโทรทศั น์ ออกอากาศทางสถานีโทรทศั นช์ ่อง ๕] ๒๓ กรกฏาคม. มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช. ๒๕๔๐. “การบวชป่าชุมชน”. [รายการโทรทัศน์ ออกอากาศทาง สถานโี ทรทัศน์ อสมท ชอ่ ง ๙]. ๖ เมษายน. มลู นธิ คิ ุ้มครองสตั วป์ ่าและพืชพันธแ์ุ ห่งประเทศไทยฯ. ๒๕๓๖. พระสงฆ์กบั การอนุรักษ์ธรรมชาติ. กรุงเทพฯ: บริษัทอมรนิ ทร์. ยกุ ติ สารกิ ภตู .ิ ๒๕๔๐. สมั ภาษณพ์ ิเศษ. พิเศษ. ไทยรัฐ. หนงั สอื พิมพ์ วนั ท่ี ๒๔ เมษายน หนา้ ๗. วิยทุ ธ์ จารสั พนั ธ์ และคนอื่นๆ. (ม.ป.ป.).โครงการวิจยั เร่ืองการอนุรักษ์ และการจดั การทรพั ยากรป่า ไม้โดยองค์กรณช์ ุมชน: กรณีศกึ ษา ๑ ศาลป่ตู าของบา้ นหว่าน ตาบลหว่านคา อาเภอราษี ไศล. จังหวัดศรีสะเกษ. ขอนแกน่ : โครงการวิจยั วนศาสตรช์ ุมชน คณะมนุษยศาสตร์ และ สงั คมศาสตร์. มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . สุวิทย์ ธีรศาศวัต และคนอืน่ ๆ. ๒๕๓๕. รายงานการวจิ ัยป่าชนุ ชนอีสาน. (ม.ป.ท.: ม.ป.พ.). จริยศาสตร์ สบื คน้ จาก https://www.baanjomyut.com/library/(๑๖ กนั ยายน ๖๓) จริยธรรม (สบื ค้นจาก) https://www.baanjomyut.com/library/ethics/.10html สงิ่ แวดลอ้ ม. สบื คน้ จาก https://sites.google.com/site/geepajahey55/(๑๖ กนั ยายน ๖๓) วินัย วีระวฒั นานนท์, คณะกรรมการบริหารวิชาบรู ณาการหมวดวชิ าศึกษาท่ัวไป, 7452,54 : พระสง่ เสริม แสงทอง, โครงการยกย่องนักสงิ่ แวดล้อมท้องถิ่นดีเด่น 7450: 42-48) คณะกรรมการบรหิ ารวชิ าบรู ณาการหมวดวิชาศึกษาท่ัวไป, 7452: 047) เดอื น คาดี, คณะกรรมการบริหารวชิ าบรู ณาการ. 7450: 062-081 หนงั สือความร้เู รื่องสง่ิ แวดล้อม กรมส่งเสรมิ คุณภาพสง่ิ แวดล้อม เวบไชต์ http://plosanga.blogspot.com/2011/05/blog-post https://sites.google.com/site/environmentbp02 https://www.tistr.or.th/tistrblog/?p=986 http://www.nkatc.ac.th/web/pictures https://sites.google.com/site/environmentbp02/khwam https://sites.google.com/site/environmentbp https://sites.google.com/site/mukenvironmentalscience/ https://sites.google.com/site/mukenvironmentalscience/
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123