Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 9 เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

หน่วยที่ 9 เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

Published by neeno_ict, 2021-11-02 09:03:32

Description: หน่วยที่ 9 เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

เขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หน้า 1 แนวทางการศกึ ษาชุดการเรียนรู้ การศึกษาเนื้อหาสาระของหนว่ ยน้ีให้นักเรยี นปฏิบัตดิ ังนี้ 1. ศึกษาขอบข่ายเนื้อหา สาระสำคัญ และจุดประสงค์การเรียนรู้ 2. ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. ศึกษาเน้ือหาสาระโดยละเอยี ดในแตล่ ะเรื่องและทำกจิ กรรม 4. ทำแบบทดสอบหลงั เรียน เพ่ือตรวจสอบผลการเรียนรู้ ถา้ ได้คะแนนต่ำกวา่ ร้อยละ 80 ใหก้ ลับไปศกึ ษาใหม่ จนกวา่ จะได้คะแนนไมต่ ่ำกวา่ ร้อยละ 80 5. ไม่ควรเปิดดูเฉลยก่อนทำแบบทดสอบ

เขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หนา้ 2 ขอบขา่ ยของเนอ้ื หา สาระสำคัญและจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ➢ ขอบขา่ ยของเนอื้ หา เร่อื งท่ี 1 ส่วนประกอบการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เรอื่ งท่ี 2 การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ➢ สาระสำคญั 1. ส่วนประกอบของรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนหน้า ส่วน เน้อื หา และส่วนเอกสารอ้างองิ 2. การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ สว่ นท่ีสำคัญประกอบดว้ ย ส่วนของเนอ้ื หา ซ่ึง ประกอบดว้ ย บทนํา เอกสารที่เกยี่ วข้อง อปุ กรณ์และวิธีการศึกษาทดลอง/สาํ รวจ ผลการทดลอง สํารวจ อภิปรายผล ในการเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ผู้เรยี นควรนําเสนอสาระสำคัญซ่ึง เปน็ จุดเน้นของแต่ละสว่ นให้ถกู ตอ้ งชดั เจน ➢ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่ือศึกษากิจกรรมการเรียนรโู้ ครงงานวิทยาศาสตรแ์ ล้วผ้เู รียนสามารถ 1. อธบิ ายสว่ นประกอบของการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ 2. เขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้

เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หน้า 3 เรอื่ งที่ 1 ส่วนประกอบการเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ -------------------------------------------------------------------------------------------------------- โครงงานวิทยาศาสตร์ มีส่วนประกอบสำคญั 3 ส่วน คือ 1.ส่วนหน้า 2.ส่วนเน้อื หา 3.สว่ นเอกสารอ้างอิง 1. สว่ นหน้า ประกอบดว้ ย 1.1 ปกหน้า 1.2 ปกใน 1.3 บทคดั ยอ่ 1.4 กติ ติกรรมประกาศ 1.5 คาํ นาํ 1.6 สารบัญ 2. ส่วนเนื้อหาประกอบด้วย 5 ดังนี้ บทท่ี 1 บทนาํ แนวคดิ ทม่ี าและความสำคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ - ที่มาและความสำคญั - แนวคดิ ในการทำโครงงาน จุดมุ่งหมายของการศึกษา สมมติฐานของการศกึ ษา(ถ้ามี) ขอบเขตของการศกึ ษา นิยามเชิงปฏิบัตกิ าร ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รับ บทท่ี 2 เอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง แนวคดิ หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ และทฤษฎีที่เกย่ี วข้อง

เขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หนา้ 4 บทท่ี 3 อปุ กรณ์ และวิธดี ำเนินการ วสั ดุ-อปุ กรณ์ วธิ ดี ำเนนิ การประกอบดว้ ย ข้นั เตรยี ม ขน้ั ดำเนินการ (สาํ รวจ /ทดลองขั้นดำเนินการแกป้ ัญหาจริง) ข้ันสรปุ เขยี นรายงาน ขนั้ แสดงผลงาน บทที่ 4 ผลการศึกษาคน้ ควา้ ผลการสํารวจ/ทดลอง ผลของขั้นดำเนินการแก้ปัญหาจริง บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผล สรปุ ผลการสํารวจ/ทดลอง อภปิ รายผลการสํารวจ/ทดลอง ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ปญั หา/ขอ้ เสนอแนะ 3) ส่วนอา้ งอิง ประกอบดว้ ย บรรณานุกรม ภาคผนวก

เขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หน้า 5 เรอื่ งท่ี 2 การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ -------------------------------------------------------------------------------------------------------- การเขียนรายงาน โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ส่วนที่สำคญั ประกอบด้วย ส่วนของเน้ือหา ซงึ่ ประกอบด้วย บทนํา เอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง อปุ กรณแ์ ละวิธกี ารศึกษาทดลอง/สํารวจ ผลการ ทดลอง/ สํารวจ อภิปรายผล ในการเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ผู้เรียนควรนําเสนอ สาระสำคัญซึ่งเป็น จุดเน้นของแต่ละส่วนให้ถูกต้องชัดเจน เมื่อเขียนฉบับร่างโครงงานแล้ว นักเรียนนําไปใหค้ รทู ี่ปรกึ ษา ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แล้วพิมพ์รายงานงานตามรปู แบบ การพิมพ์รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ต้องมีความถูกต้อง ทั้งด้านเนื้อหา การพิมพ์ จึงต้องทำตามรูปแบบเพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน จึงกำหนดหลักเกณฑ์การพิมพ์รายงาน โครงงานไว้ ดังนี้ 1. วธิ กี ารพิมพ์ 1.1 กระดาษทีใ่ ช้พิมพ์และอัดสำเนาหรือถ่ายเอกสารสีขาวเหมือนกนั ทุกแผ่น ขนาด A4 1.2 พมิ พห์ นา้ เดยี วตลอดเล่ม ก่อนพิมพใ์ ห้เว้นรมิ ขอบกระดาษทงั้ 4 ด้าน ดงั น้ี ด้านบน และขอบซ้าย 3.8 เซนติเมตร (1.5 นิ้ว) ด้านล่างและด้านขวาห่างจากขอบกระดาษ 2.5 เซนตเิ มตร (1 นิว้ ) 1.3 บทที่ ใหใ้ ช้ตวั อกั ษรขนาด 18 พอยท์ (Points) ตัวหนา 1.4 ตัวอกั ษรทั่วไปให้พิมพ์ดว้ ยเครื่องคอมพวิ เตอร์ ขนาด 16 พอยท์ (Points) และต้อง เป็นตวั อักษรแบบ เดยี วกนั ตลอดท้งั เลม่ 2. การจดั ลำดบั หนา้ 2.1 ส่วนนํา บอกหน้าด้วยตัวอักษร ก ข ค ตามลำดับ โดยเริ่มนับตั้งแต่หน้าบทคัดย่อ เปน็ ต้นไป โดยพมิ พต์ ัวอักษรหรือตัวเลข กลางหนา้ กระดาษ หา่ งจากขอบบน 2.5 เซนติเมตร (1 นิว้ ) 2.2 ส่วนเนื้อความทั้งหมด ให้บอกเลขหน้าตามลำดับ โดยพิมพ์เลขกลางหน้า หรือริม ขวา อย่างใดอย่างหนึ่งให้ห่างจากริมกระดาษ 2.5 เซนติเมตร (1 นิ้ว) ยกเว้นเมื่อขึ้นต้นบท ใหมไ่ มต่ อ้ งพิมพ์ เลขหน้า 3. จำนวนบรรทดั ในแตล่ ะหนา้ พิมพ์ไม่เกนิ 30 บรรทัด

เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หน้า 6 4. การยอ่ หนา้ ให้เว้นระยะ 8 ช่วงตัวอักษรจากขอบซ้าย โดยเริ่มพิมพ์ช่วงที่ตัวอักษรที่ 9 หากมีย่อ หนา้ ท่ี ย่อลงไปอีกใหเ้ ว้นระยะออกไปอีก 3 ช่วงตวั อกั ษร ไปเร่อื ย ๆ 5. บรรณานกุ รม ใหท้ ำตามรายละเอียดในหลักเกณฑ์การเขียนในชุดการเรยี นหนว่ ยท่ี 5 6. การอา้ งองิ ใหท้ ำตามรายละเอยี ดในหลักเกณฑ์การเขียนในหนว่ ยท่ี 5 7. ศพั ทเ์ ทคนิคท่ีแปลมาจากภาษาอังกฤษ ต้องใช้ตามศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถานในสาขาวิชานั้นๆ ถ้าหากศัพท์คําใดไม่ เป็นที่ มักคุ้นของคนทั่วไป ควรวงเล็บภาษาอังกฤษกำกับไว้ด้วยแต่กระทำเพียงครั้งเดียว เท่านั้นถ้าหากนําไปเขียนต่อไปไม่ต้องวงเล็บภาษาองั กฤษคํานั้นอีก ถึงแม้จะอยู่คนละบทกัน ก็ตาม หากมีข้อความหรือคําจากภาษาอื่นที่มิได้เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการเขียนรายงาน โครงงาน ท่ใี ช้เป็นคำศพั ท์เฉพาะทาง วทิ ยาศาสตรห์ รอื เป็นคําท่ีมิได้อยูใ่ นวงเล็บเพื่อกำกับคํา อยู่ข้างหน้า ให้ทำเป็นตัวอักษรตัวหนาโดยตลอด หรือ ใช้ตัวเอนตามหลักการเขียนในแต่ละ สาขาวชิ า ยกเวน้ คําหรอื ข้อความนนั้ ใชก้ นั จนเปน็ ทร่ี ูจ้ กั ดีแล้ว หรือตอ้ งใชบ้ ่อยๆ ในภาษาไทย ใหใ้ ช้ ภาษาไทย 8. การพิมพส์ ่วนประกอบแตล่ ะส่วน ในการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์มีสว่ นประกอบต่างๆ ดงั น้ี 8.1 ปกหน้า 8.2 ปกใน 8.3 บทคดั ย่อ 8.4 หน้ากติ ติกรรมประกาศ 8.5 สารบญั เนอ้ื เรือ่ ง 8.6 สารบัญตาราง สารบญั ภาพ 8.7 ส่วนเนอื้ เรอ่ื ง (บทที่ 1-บทที่ 5 ไม่เกิน 20 หน้า) 8.8 บรรณานุกรม 8.9 ภาคผนวก (ไมเ่ กิน 10หนา้ )

เขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หน้า 7 หลักเกณฑ์การพิมพแ์ ตล่ ะสว่ นประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์ มดี ังน้ี 1 หน้าปก มีส่วนประกอบดังน้ี 1.1 ปกหน้า ใช้เป็นกระดาษปกสีเดียวกัน พิมพ์หัวข้อโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภท/ สาขา ชอ่ื ผ้ทู ําโครงงาน เลขที่ ช่ือวิชา ระดับชัน้ โรงเรยี น ปีการศกึ ษา 1.2 ตวั อกั ษร มีขนาด 18-22 พอยท์ ใชต้ วั อกั ษรแบบ Angsana 1.3 พิมพ์หัวข้อเรื่องกลางหน้ากระดาษ ห่างจากขอบด้านบน 5 เซนติเมตร (2 นิ้ว) ห่าง จากขอบด้านซ้าย 3.8 เซนติเมตร (1.5 นิ้ว) ตัวสุดท้ายหา่ งจากขอบด้านขวา 2.5 เซนติเมตร (1 น้ิว) ถา้ ชอื่ เร่อื งยาวเกิน 1 บรรทัด ใหพ้ มิ พ์เป็นรปู สามเหลีย่ มกลบั หัว 1.4 ชอ่ื ผทู้ ําโครงงาน พมิ พช์ ่ือและสกลุ ไวก้ ลางหนา้ กระดาษ 1.5 ชื่อวิชา ชื่อโรงเรียน และปีการศึกษา พิมพ์คนละบรรทัด โดยใช้บรรทัดสุดท้ายอยู่ ห่างจากริมขอบกระดาษด้านล่าง 2.5 เซนตเิ มตร (1 นิ้ว) 1.6 ปกหลัง ไมต่ ้องพมิ พข์ อ้ ความใด ๆ ตวั อย่างการพิมพป์ กหน้า โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภท สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพ เร่ือง กล่มุ ดาวจักรราศี จดั ทำโดย นางสาวมัณฑนากร เขื่อนขนั เลขที่ 39 ระดับชน้ั ม.3/1 รายงานฉบับนี้เปน็ สว่ นหนึง่ ของการเรียน วชิ า ว30203 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นนวมนิ ทราชูทศิ พายัพ ปกี ารศึกษา 2549

เขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หนา้ 8 2. ปกใน พมิ พเ์ หมือนกับปกหน้าขอ้ 1.1-1.4 ข้อ 1.5 ไม่ต้องพิมพ์ แต่ เพ่มิ อาจารยท์ ่ีปรกึ ษา โครงงานดังตัวอยา่ ง ตวั อย่างการพมิ พป์ กหน้า โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภท สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพ เร่ือง กลุม่ ดาวจักรราศี จดั ทำโดย นางสาวมณั ฑนากร เขอ่ื นขัน เลขท่ี 39 ระดบั ชนั้ ม.1/1 อาจารยท์ ีป่ รึกษา นางสพุ ชิ สิณี โรจนจ์ ันทรด์ า

เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หนา้ 9 3. บทคัดย่อ ประกอบดว้ ย 2 สว่ น ส่วนท่ี 1 รายละเอียดเก่ียวกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ชอื่ โครงงาน............................................................................................................... ชือ่ นกั เรียน................................................................................................................ ช่ืออาจารย์ท่ปี รึกษา.................................................................................................. โรงเรยี น ................................................................................................................... ทีอ่ ย.ู่ ......................................................................................................................... โทรศัพท์..........................โทรสาร................................E-mail………………….………… ระยะเวลาทำโครงงาน ตั้งแต่.................................................................................... สว่ นที่ 2 รายละเอยี ดเกย่ี วกับโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ใชต้ วั อักษรแบบ Angsana ขนาด 16 พอยท์ มีรายละเอยี ดเกี่ยวกับ - ปัญหา วตั ถุประสงค์ และวิธีดำเนินการโดยสงั เขป - ผลการศึกษาค้นควา้ ได้แก่ การนําเสนอคาํ ตอบใหแ้ ก่หัวข้อปัญหาท่ีทำการศกึ ษา คน้ ควา้ และการค้นพบตลอดจนข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ทเี่ ป็นประเด็นหลกั - ความยาวบทคัดย่อ ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษพิมพ์ A4 บทคัดย่อ .............................................................................................................................. ................... ..................................................................................................................... ............................ วธิ กี ารเขียนบทคดั ย่อ เนื้อเรื่องของบทคัดย่อ ต้องบรรยายโดยมีข้อความเกี่ยวข้องกับความส ำคัญ วัตถุประสงค์ ขอบเขตของเรื่องที่ทำวิธีการผลการทดลอง หรือศึกษาโดยสรุป ความยาว ทั้งหมดนี้ ไม่เกินหนึ่งหนา้ กระดาษ A4 ในกรณีที่เขียนแล้ว เนื้อเร่ืองไม่เต็มหน้ากระดาษควร พยายามใสข่ ้อความให้พอดีกบั หน่ึงหน้ากระดาษและในกรณีเขียนเกินหน่ึงหน้ากระดาษควร ตดั ขอ้ ความทีไ่ มจ่ าํ เปน็ ออก ท้ังนี้เพื่อความสวยงามของบทคัดยอ่ ของตนเอง การพมิ พ์ใหใ้ ช้คอมพวิ เตอรโ์ ปรแกรม Microsoft มาตรฐานของราชการ ได้ตัวอักษร ที่คมชัด ขอ้ ความท่ีพิมพ์ใหห้ ่างจากริมสุดของกระดาษทางด้านซา้ ยและด้านขวาด้านละ หน่ึง นิ้วครึ่ง ความยาวไม่เกินกระดาษ A4 หนึ่งหน้าเท่านั้น ถ้าพิมพ์เกินจะถูกตัดส่วนนั้นออกไป การพิมพค์ ำนึงถึงความสวยงาม ตรวจแก้ไขสงิ่ บกพรอ่ งใหเ้ รยี บร้อยก่อนส่ง

เขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หนา้ 10 โครงงานวิทยาศาสตร์ ตวั อยา่ งการเขยี นบทคดั ย่อ ชอ่ื เรอื่ ง ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ประเภท ชวี ภาพ ผู้จดั ทํา การสํารวจความสมั พันธ์ระหวา่ งกลุ่มของไลเคนกับชนิดของ พรรณไมบ้ รเิ วณถำ้ เชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวดั เชยี งใหม่ ช่อื อาจารย์ทปี่ รึกษา 1. นายชยั วฒั น์ คาํ มา โรงเรียน 2. นายภานุพงศ์ วงค์ไชย 3. นายพีระพงศ์ ดวงใจ นางสุพิชสณิ ี โรจน์จันทร์ดา นวมินทราชูทิศ พายัพ เลขท่ี 186 ต.ดอนแกว้ อ.แมร่ ิม จ.เชยี งใหม่ โทร. 053 - 112180 โทรสาร. 053 - 112277 บทคัดย่อ แนวคิดการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มไลเคนกบั ชนิดของพรรณไม้ท่มี ี ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเหตุผลทำให้ต้องศึกษาความแตกต่างของกลุ่มไลเคนกับ พรรณไม้แต่ละชนิด ซึ่งได้กำหนดขอบเขตพื้นที่สํารวจบริเวณถ้ำเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นทีท่ ี่มีความสมบูรณด์ ้านทรัพยากรธรรมชาติ ประกอบกับมีพรรณ ไม้นานาชนิด จึงน่าจะบงั เกดิ ผลในการศึกษา ถึงความสมั พนั ธ์ดงั กลา่ ว ผู้ศึกษาได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของไลเคน รวมถึงสภาพทั่วไปของต้นไม้ ชนิดต่างๆ แล้วเริ่มทำการสํารวจบรเิ วณถ้ำเชียงดาว โดยได้เก็บรายละเอียดท่ีได้พบเห็นแล้ว นํามาวิเคราะห์ถึงความ เกี่ยวเนื่องระหว่างปัจจัยศึกษาทั้ง 2 ชนิด นอกจากนี้ยังมีการวัด อณุ หภมู ิ ปรมิ าณแสงทีส่ ามารถสง่ ผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของไลเคนด้วย จากการสํารวจพบว่า ไลเคนในแต่ละกลุ่ม มีความสัมพันธ์กับพรรณไม้ตาม สมมติฐานทต่ี ้ังไว้ คือ ไลเคนกล่มุ ครัสโตสพบมากบนตน้ กระถินยักษ์ ไลเคนกลมุ่ โฟลิโอส พบ มากบนต้นแดง ต้นเต็ง อีกทั้งเรายังพบว่า ต้นสัก ไลเคนไม่สามารถเจริญเติบโตได้แม้จะมี สภาพเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของไลเคน

เขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หน้า 11 4. กติ ติกรรมประกาศ ตัวอยา่ ง หนา้ กิตติกรรมประกาศ กติ ติกรรมประกาศ (ขนาด 18 พอยทต์ วั หนา) เว้น 2 ชว่ งบรรทัดพิมพ์ โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง โคมไฟประดิษฐ์ ทีมผู้จัดทําขอขอบคุณอาจารย์ สุพิชสิณี โรจน์จันทร์ดาอาจารย์ที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนําช่วยเหลือจนโครงงานสำเร็จด้วยดี ตลอดจน ได้สละเวลาชว่ ยเหลอื ตรวจสอบแกไ้ ขรายงานจนเสรจ็ สมบูรณ์ สดุ ท้ายนขี้ อขอบคุณคุณพ่อ คณุ แม่ คณุ ลุงท่ีคอยให้การสนับสนุนและเปน็ กําลังใจใน การทำโครงงานวิทยาศาสตร์จนประสบความสำเร็จ และขอบคุณเพื่อนๆที่ได้ช่วยเหลือใน ด้านต่างๆและ เปน็ กําลงั ใจแกท่ ีมผจู้ ัดทํามาโดยตลอด เว้น 2 ช่วงบรรทดั พมิ พ์ คณะผู้จดั ทํา 5. หน้าสารบญั เนื้อเรอ่ื ง 5.1 พมิ พ์คาํ วา่ “สารบญั ” ด้วยตัวหนา ขนาด 18 พอยท์ อยกู่ ่งึ กลางหน้าหา่ งจากริมกระดาษ ด้านบน 3.8 เซนติเมตร (1.5 น้ิว) 5.2 ตำแหนง่ ของตวั เลขหนา้ พิมพ์ให้หา่ ง 2 บรรทดั พมิ พ์จาก “สารบัญ” 5.3 พมิ พห์ วั ข้อใหญแ่ ต่ละเร่ืองและบทท่ี ด้วยตวั หนา หา่ งขอบซา้ ย 3.8 เซนติเมตร (1.5 นวิ้ ) 5.4 พิมพ์เลขทบี่ ท เฉพาะตัวเลข 1, 2, 3 ตามลำดบั 5.5 หากสารบัญมคี วามยาวเกิน 1 หนา้ ให้พมิ พห์ น้าตอ่ ไป ต้องมีคําว่า “สารบญั (ต่อ)” และ “หนา้ ” ในตำแหน่งเดียวกนั กับหนา้ แรก 5.6 คําว่า “บรรณานุกรม” ใหพ้ ิมพ์ห่างจากขอบซ้าย 3.8 เซนติเมตร (1.5 นิ้ว) 5.7 ถ้ามี “ภาคผนวก” ให้พิมพเ์ ช่นเดยี วกับ “บรรณานุกรม”

เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หน้า 12 ตวั อยา่ ง หน้าสารบญั เนอ้ื เร่ือง สารบัญ (ขนาด 18 พอยท์ตัวหนา) เวน้ 2 ช่วงบรรทดั พิมพ์ บทคดั ย่อ............................................................................................................................. ก กติ ติกรรมประกาศ............................................................................................................... ข สารบัญ................................................................................................................................ ค สารบัญตาราง....................................................................................................................... ง สารบัญภาพ......................................................................................................................... จ บทท่ี 1 บทนาํ ............................................................................................................... 1 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง............................................................................................ 2 3 อุปกรณ์และวิธีการทดลอง……………………………………………………………………... 4 4 ผลการทดลอง………………………………………………………………………………………. 8 5 อภปิ รายผล……………………………………………………………………………………….…. 9 สรุป………………………………………………………………………………………………..……. 10 อภิปรายผล………………………………………………………………………………..…………. 11 ข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………….……. 12 บรรณานกุ รม………………………………………………………………………………………………….……. 23 ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………………. 24 ภาคผนวก ก แผนปฏบิ ตั กิ ารทำงาน…………………………………………….…………. 25 ภาคผนวก ข ภาพประกอบการทำโครงงาน………………………………….…………. 26

เขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หน้า 13 6. สารบญั ตาราง สารบัญภาพ หลักเกณฑ์ตา่ ง ๆ ในการพิมพ์สารบญั ตาราง สารบญั ภาพให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ สารบญั โดยใช้ คาํ ว่า“สารบัญตาราง” แทน “สารบัญ” และคาํ ว่า “ตารางท”่ี “ภาพที่” แทน “บทท่ี” ตามแตก่ รณี ตัวอย่าง สารบญั ตาราง - สารบัญภาพ สารบัญตาราง ขนาด 18 พอยท์ตัวหนา เวน้ 2 ชว่ งบรรทดั พิมพ์ ตารางที่ หนา้ 1. ตารางแสดงการเจริญเตบิ โตของไก่………………………………………………………………….. 14 2. …………………………………………………………………………………………..……………….……... 17 สารบัญภาพ ขนาด 18 พอยท์ตัวหนา เวน้ 2 ชว่ งบรรทดั พมิ พ์ ภาพที่ 1. แสดงการต่อวงจรไฟฟา้ …………………………………………………………………………………….. 20 2. …………………………………………………………………………………………..…………………..….……...

เขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หน้า 14 7. ส่วนเนอื้ เรอ่ื ง เนื้อเรือ่ งมหี ลกั ในการพิมพ์ ดังนี้ 7.1 เนื้อเรื่องของโครงงานควรแบ่งเป็น 5 บท คือ บทนํา เอกสารที่เกี่ยวข้อง วิธีดำเนินการ ทดลอง ผลการทดลอง อภิปรายผล ตามลำดับส่วน โดยบทที่ 1 เป็นบทนําและบท สุดทา้ ยเป็นบทสรุป 7.2 หน้าแรกของแต่ละบทเริ่มต้นด้วยคําว่า “บทที่” และตามด้วยเลขกำกับบท ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา โดยวางไวก้ ง่ึ กลางหน้า ห่างจากรมิ กระดาษบน 3.8 เซนติเมตร (1.5 นวิ้ ) 7.3 ชอ่ื บท พมิ พ์ไว้ก่ึงกลางหนา้ โดยเวน้ ระยะหา่ งจากข้อความ “บทท”่ี 2 ชว่ งบรรทดั พิมพ์ 7.4 ข้อความใตช้ ่ือบทจะต้องเว้นระยะ 2 ชว่ งบรรทัดพิมพ์จากช่อื บท 7.5 หวั ข้อรองจากใต้ช่ือบท พิมพ์ห่างจากขอบซ้าย 3.8 เซนตเิ มตร (1.5น้ิว) 7.6 การเวน้ ระยะย่อหน้าในหัวขอ้ ระดับต่างๆ ให้ใชด้ ังน้ี (1) ยอ่ หน้าลำดับแรกให้เว้นระยะ 8 ช่วงตวั อกั ษรจากขอบซา้ ยหรอื 3.8 เซนติเมตร (1.5นิว้ ) (2) ยอ่ หน้าที่ 2 ให้เว้นระยะ 11 ช่วงตัวอักษรจากขอบซ้าย (3) ยอ่ หนา้ ที่ 3 ให้เว้นระยะ 14 ชว่ งตวั อักษรจากขอบซา้ ย (4) ย่อหนา้ ท่ี “4” “5” 6 ให้เวน้ ระยะ 17 “20” “22” “….” ชว่ งตัวอกั ษรไป เรื่อย ๆ ตามลำดบั

เขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ | หนา้ 15 ตัวอย่าง การพิมพ์หน้าแรกของแต่ละ เร่ิมบทที่ ห่างจากขอบกระดาษ 1.5 น้วิ บทท่ี 1 เว้น 1 ช่วงบรรทัดพิมพ์ บทนาํ เวน้ 2 ชว่ งบรรทัดพิมพ์ ย่อ 8 ตวั อักษร เรมิ่ พิมพ์ตวั ที่ 9 …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. การพมิ พ์ “ตารางท่ี” ใหพ้ ิมพช์ ิดขอบซา้ ยของหนา้ เมื่อขึ้นหน้าใหมใ่ ห้ใสห่ วั ตารางเช่นเดียวกบั ใน หนา้ แรกของตารางนนั้ ดงั ตัวอยา่ ง ตารางท่ี 1 แสดงผลการสังเกตตำแหนง่ ปรากฏของกลุ่มดาวสิงโต วนั ที่ เดอื น เวลา ผลการสงั เกตตำแหนง่ กลุ่มดาวสิงโต 10 มถิ นุ ายน 19.00 ปรากฏทางทิศเหนอื 11 มถิ นุ ายน 19.00 ปรากฏทางทิศเหนอื

เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ | หน้า 16 บรรณานกุ รม ถวลั ย์ มาศจรสั และมณี เรืองขำ. แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน (Project) เพอ่ื พัฒนาการเรยี นรผู้ เู้ รียน. กรงุ เทพมหานคร : สำนกั พิมพ์ธารอกั ษร จำกัด, 2549. บูรชัย ศริ มิ หาสาคร. การทำโครงงานวิทยาศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร: บคุ๊ พอยท,์ 2548. ประดษิ ฐ์ เหลา่ เนตร์. เทคนคิ การสอนและการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา และ มัธยมศึกษา. กรงุ เทพมหานคร : บริษัทเซน็ เตอร์ ดสี คัฟเวอรี จำกัด, 2542. ภพ เลาหไพบลู ย์. แนวการสอนวทิ ยาศาสตร.์ พมิ พ์คร้งั ท่ี 3. กรงุ เทพมหานคร : ไทยวฒั นาพานชิ จำกัด, 2542. วมิ ลศรี สวุ รรณรัตน์. กระบวนการเรยี นรูโ้ ครงงานวิทยาศาสตร์. สารปฏิรปู . ปที ่ี 2 ฉบับท่ี 15 (มิถุนายน), 2542. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. ค่มู ือวัดผลประเมนิ ผลวิทยาศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2555. สำนักงานคณะกรรมการการมัธยมศึกษาแหง่ ชาติ. การจัดการเรียนรสู้ ่คู วามเป็นเลิศ ดา้ นวทิ ยาศาสตร.์ กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์การศาสนา, 2542.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook