๔๘ หลกั พอเพยี ง พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมิคมุ้ กนั ประเดน็ - หอ้ งสภาผู้เรียน/ห้อง แหล่งเรียนรู้/ฐานการ ประชมุ /ฯลฯ เหมาะสม - ต้องการใหผ้ ูเ้ รยี นใช้ - เตรยี มหอ้ งสภาผู้เรยี น/ กับกจิ กรรมท่กี าหนด หอ้ งสภาผเู้ รียน/หอ้ ง หอ้ งประชมุ /ฯลฯ ให้ เรยี นรู้ ประชุม/ฯลฯ ท่มี ีความ พรอ้ มก่อนการปฏบิ ัติ - จัดทาแบบประเมินผล พร้อมในการปฏบิ ัติ กจิ กรรม การประเมนิ ผล และประเมินพฤติกรรม กิจกรรมให้บรรลุ ได้เหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ท่กี าหนด วัตถุประสงค์ การจดั กิจกรรม - ต้องการประเมนิ ผล - วางแผนการวัด การจัดกจิ กรรมตาม ประเมินผลตามขน้ั ตอน วตั ถปุ ระสงค์ท่ีกาหนด ของกจิ กรรม - แบบประเมินผลมีการ ตรวจสอบตรงตาม วัตถุประสงค์
๔๙ 2. ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากการจัดกิจกรรมสร้างเสริม ภาวะผู้นา 2.1 ได้เรียนรู้หลักคิดและฝกึ ปฏิบัตติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้ คุณธรรม 1.ภาวะผ้นู าผู้ตามที่ดี 1.จติ สาธารณะ 2.บทบาทหนา้ ทภ่ี าวะผ้นู าผ้ตู ามท่ีดี 2.มคี วามสามัคคี 3.เคารพสทิ ธิหน้าที่ของตนเองและผอู้ ื่น 3.มีความรับผดิ ชอบ พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู ิคุม้ กัน - ผู้เรียนกาหนดบทบาทหน้าที่ของ ผู้เรียนนาข้อมูลจากการปฏิบัติ - มีการวางแผนการทางานอย่าง สมาชิก ในการปฏิบัติกิจกรรมได้ กจิ กรรมมาวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เปน็ ระบบ เปน็ ขน้ั ตอน เหมาะสมตามความสามารถของ เพ่ืออธิบายสรุปผลการปฏิบัติ - เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์การปฏิบัติ แตล่ ะคน กิจกรรม กิจกรรมไดค้ รบถ้วนและตรงตาม - ผู้เรียนใช้วัสดุ-อุปกรณ์ในการ กิจกรรมสรา้ งเสริมภาวะผู้นา ปฏิบัติกิจกรรมไดเ้ หมาะสม - ศึกษาวิธีการปฏิบัติกิจกรรม ก่อนลงมือปฏบิ ตั ิกิจกรรม ด้าน สมดุลและพร้อมการเปลยี่ นแปลงด้านต่างๆ องค์ประกอบ วตั ถุ สังคม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม - ความรู้ในการใช้ - มคี วามรูใ้ นการ - มคี วามรู้ในการ - มีความร้เู กย่ี วกับ วัสดุอปุ กรณ์ในการ จัดแบง่ หนา้ ท่ีภายใน ดแู ลรักษาความ วถิ ีชีวติ ความเปน็ อยู่ ปฏิบตั กิ จิ กรรม กลมุ่ ได้อย่าง สะอาด จดั การ ของคนในท้องถน่ิ / สรา้ งเสรมิ ภาวะ เหมาะสม ขยะอยา่ งถูกต้อง พุทธ คริสต์ อิสลาม ความรู้ ผนู้ าอย่างถูกตอ้ ง - มีความรู้ในการ ของห้องสภา พราม-ฮนิ ดู และ ประหยัด ปฏิบตั ติ นทจี่ ะทางาน ผเู้ รียน/ห้อง ร่วมกบั ผูอ้ ่ืน ประชมุ ฯลฯ หลักการปฏิบตั ิ กิจกรรม - มที กั ษะในการใช้ - ทางานร่วมกนั - รกั ษาความ - ปฏิบัติตนตามวิถี วสั ดุ อปุ กรณ์อย่าง ภายในกลมุ่ ตามท่ี สะอาดห้องสภา ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ทักษะ ปลอดภัยและ ไดร้ บั มอบหมาย ผูเ้ รยี น/หอ้ ง ของในท้องถ่นิ /พุทธ ประหยัด สาเรจ็ และมคี วามสุข ประชุมฯลฯ หลัง ครสิ ต์ อิสลาม ปฏิบตั กิ ิจกรรม พราม-ฮนิ ดู - เหน็ ความสาคญั - มคี วามรับผิดชอบ - มจี ติ สานกึ ใน - ตระหนักถึงคุณคา่ ของการใชว้ ัสดุ ตอ่ การทางานกลุม่ การรักษาสภาพ ในการอยู่ร่วมกัน ค่านิยม อปุ กรณ์ - ยอมรบั ความ แวดล้อมของ ตามวิถีชีวติ ความ - ประหยดั และ คดิ เห็นซ่งึ กันและ สถานทไ่ี ด้ปฏิบตั ิ เปน็ อยขู่ องคนใน คุม้ คา่ กนั มคี วามเสียสละ หนา้ ท่ี ให้สะอาด ทอ้ งถ่ิน/พุทธ คริสต์ อดทน เปน็ ระเบียบ อสิ ลาม พราม-ฮนิ ดู
๕๐ “...ทกุ วันนป้ี ระเทศไทยยังมที รัพยากรพรอ้ มมลู ท้ังทรัพยากรธรรมชาตแิ ละทรัพยากร บุคคล ซึ่งเราสามารถนามาใช้เสรมิ สรา้ งความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอนั ถาวรของบ้านเมอื งไดเ้ ปน็ อย่างดี ขอ้ สาคัญเราจะต้องรจู้ ักใชท้ รัพยากรท้ังนนั้ อยา่ งฉลาด คือไม่นามาทุ่มเทใช้ใหส้ ิน้ เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์ หรือ ไดป้ ระโยชนไ์ ม่คมุ้ ค่าหากแตร่ ะมดั ระวงั ใช้ดว้ ยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพจิ ารณาตาม หลักวชิ า เหตผุ ล และความถูกตอ้ งเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชนแ์ ท้จรงิ ทีจ่ ะเกิดแก่ประเทศชาติ ทง้ั ในปจั จุบนั และอนาคตอันยนื ยาว...” พระราชดารัส ในการเสดจ็ ออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธเี ฉลมิ พระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๒๙ วนั ศกุ ร์ที่ ๕ ธนั วาคม ๒๕๒๙
๕๑ กจิ กรรมอนรุ ักษพ์ ลังงานและส่ิงแวดลอ้ ม หลกั การ กิจกรรมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นกิจกรรมปลูกจิตสานึกให้ผู้เรียน มีความตระหนักใน การใช้พลงั งานไฟฟ้าและพลงั งานน้าอย่างประหยัด อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดล้อมใหน้ า่ อยูแ่ ละเหมาะสมกับการเป็นแหล่ง เรียนรู้ มีจิตสานึกในการรักษาสาธารณสมบัติตลอดจนสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนและชุมชน มีความ รบั ผดิ ชอบ ขยัน อดทนและทางานรว่ มกับผ้อู ืน่ ไดอ้ ย่างมีความสุข โดยนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ใชเ้ ป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิกิจกรรม วัตถุประสงค์ เข้าใจ ปฏบิ ัติตน มีส่วนร่วม และตระหนักในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม สามารถนาความรู้ ไปใชใ้ นการจดั การด้านพลงั งานและสง่ิ แวดล้อม มีจิตสานึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพ่ือการพัฒนา อย่างยง่ั ยนื โดยนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้เป็นแนวทางการปฏิบตั ิกิจกรรม ตวั บ่งช้ี ระดับประถมศกึ ษา 1. วิเคราะห์และอธิบาย เกี่ยวกับ หลักของการใช้พลังงานท่ีถูกต้อง และแนวทางในการอนุรักษ์ พลงั งานและดูแลรักษาส่ิงแวดลอ้ ม 2. สารวจสภาพปญั หาสง่ิ แวดล้อมและวิธีการในการแกไ้ ขปัญหาการใชพ้ ลังงานภายในโรงเรียน 3. มสี ว่ นรว่ มในการใช้พลังงาน อนุรักษ์พลงั งานและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น ๑. วิเคราะห์และอธิบายวิธีการปฏิบัติกิจกรรม เกี่ยวกับ การใช้พลังงานที่ถูกต้อง และแนวทางใน การอนุรกั ษ์พลังงานและดแู ลรักษาส่งิ แวดล้อมภายในโรงเรยี นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. สารวจและวิเคราะห์สภาพปัญหาสิ่งแวดล้อม วางแผนในการแก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมและการใช้ พลงั งานภายในโรงเรียน โดยนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 3. มีส่วนร่วมและเปน็ แบบอยา่ งที่ดใี นการอนรุ ักษพ์ ลงั งานและส่งิ แวดล้อมใหเ้ ป็นแหลง่ เรียนรู้ ภายในโรงเรยี น ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ๑. วิเคราะห์และอธิบาย กาหนดข้ันตอนในปฏิบัติกิจกรรม เกี่ยวกับ หลักของการใช้พลังงานท่ี ถูกต้อง และแนวทางในการอนุรักษ์พลังงานและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ภายในโรงเรียนและชุมชน ตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. สารวจและวิเคราะห์สภาพปัญหาสิ่งแวดล้อม วางแผนในการแก้ปัญหาส่ิงแวดล้อมและการใช้ พลังงานภายในอย่างประหยัดคมุ้ ค่าและย่งั ยนื 3. เป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นแกนนาในการอนุรักษ์ พัฒนาพลังงานและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้ เป็นแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนและชุมชน โดยนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการปฏิบัติ กิจกรรมและสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ขอบขา่ ยกจิ กรรม
๕๒ กิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อมเป็นกระบวนการจัดกิจกรรมอาสาพัฒนา ดูแลรักษาสา ธารณสมบัติ อนุรักษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อม โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ตามตวั อยา่ งกจิ กรรมดงั ตอ่ ไปนี้ ระดบั ประถมศกึ ษา ๑. การดแู ลรักษาความสะอาดตามพ้ืนทรี่ บั ผดิ ชอบ ๒. การมสี ่วนชว่ ยในการดูแล เพอ่ื ลดการใชพ้ ลังงานนา้ /พลังงานไฟฟา้ (ปิดน้า ปิดไฟ) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ๑. การวางแผนควบคุมดูแลและเป็นแบบอย่างท่ีดีในการลดการใช้พลังงาน การจัดการขยะและ ระบบบาบดั นา้ เสยี ๒. การวางแผนและเป็นแบบอย่างท่ีดีในการดูแลรักษาความสะอาดสภาพแวดล้อมและการใช้ พลงั งานให้ถกู วธิ ตี ามพ้ืนทีร่ ับผิดชอบ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑. การวางแผนควบคุมดูแลและเป็นแกนนา เร่ือง การลดการใช้พลังงาน การจัดการขยะและระบบบาบัด น้าเสีย โดยนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการปฏิบตั ิกจิ กรรม ๒. การวางแผน ควบคุมดูแลและเป็นแกนนา เรื่อง การดูแลรักษาความสะอาดตามพื้นที่รับผิดชอบ โดย ใชก้ ระบวนการกลุ่มผ่านกิจกรรมการพัฒนาอาคารสถานที่ ภายในโรงเรียนและหอนอน ในเวลา 06.00 – 06.30 น และในเวลา 16.30 – 17.00 น ของทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ วันละ 1 ช่ัวโมง และจัดกิจกรรมพัฒนาโรงเรียน หรือสถานที่ใกล้เคียงในชุมชน ในวันเสาร์และพัฒนาหอนอนในวันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 10.30 น วันละ ๒ ชว่ั โมง รวมทง้ั สนิ้ สัปดาห์ละ 3 ชว่ั โมง ขนั้ ตอนการจดั กิจกรรม
๕๓ อนุรกั ษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ๑. วางแผนการจัดกจิ กรรม และออกแบบแนวทางในการประเมนิ ผลและเกบ็ รวบรวมข้อมูล ๒. ดาเนินการจัดกิจกรรมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตามแนวการจัดกิจกรรม และตรวจสอบ วเิ คราะหก์ ารปฏบิ ตั ิกิจกรรม ตามแนวทางและแผนของกิจกรรมทก่ี าหนดไว้ ดงั นี้ ระดบั ประถมศึกษา ๑. จัดกลมุ่ ผู้เรียนตามความเหมาะสมและบรบิ ทของแต่ละโรงเรียน ๒. ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมพัฒนาอาคารสถานทีภ่ ายในโรงเรยี นและหอนอน ในเวลา 06.00 – 06.30 น , เวลา 16.30 – 17.00 น ของทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ วันละ 1 ช่ัวโมง และจัดกิจกรรม พัฒนาโรงเรียนในวันเสาร์และพัฒนาหอนอนในวันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 10.30 น วันละ ๒ ช่ัวโมง ตาม แผนการดาเนินงานทีค่ รแู ละผู้เรียนรว่ มกนั กาหนด (เนน้ ธรรมชาตชิ ว่ ยธรรมชาติ) ๓. มีส่วนชว่ ยในการดแู ล เพ่ือลดการใชพ้ ลงั งานน้า/พลังงานไฟฟ้า (น้า/ไฟฟา้ ) ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น ๑. จดั กลุม่ ผเู้ รียนตามความเหมาะสมและบริบทของแตล่ ะโรงเรียน ๒. ผเู้ รียนแตล่ ะกลุม่ ปฏิบัตกิ จิ กรรมพัฒนาอาคารสถานท่ี ภายในโรงเรียนและหอนอน ในเวลา 06.00 – 06.30 น หลังกิจกรรมส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย และก่อนกิจกรรมหลักโภชนาการ ในเวลา 16.30 – 17.00 น ของทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ วันละ 1 ชั่วโมง และจัดกิจกรรมพัฒนาโรงเรียนหรือสถานท่ีใกล้เคียงใน ชุมชนในวันเสาร์และพัฒนาหอนอนในวันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 10.30 น วันละ ๒ ช่ัวโมง ตามแผนการ ดาเนินงานที่ครแู ละผ้เู รียนร่วมกนั กาหนด (เนน้ ธรรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ) ๓. ผู้เรียนช่วยกันวางแผน ควบคุม ดูแล วิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขลดการใช้พลังงาน การ จัดการขยะ ระบบบาบัดน้าเสีย โดยผ่านกิจกรรมที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมค้นพบความรู้หรือสร้างความรู้ด้วยตนเอง (ทักษะชวี ติ ) ๔. การเข้ารว่ มกจิ กรรมเก่ียวกบั การอนุรกั ษพ์ ลังงานและส่งิ แวดลอ้ ม(เริ่มต้นจากจดุ เลก็ ๆ) ๕. หัวหน้ากลุ่มรายงานผลการดาเนินงานต่อครูหอนอน ครูเวรประจาวันหรือครูคนอื่นๆที่ รับผิดชอบ ๖. ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมของผเู้ รยี น ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ๑. จดั กลมุ่ ผ้เู รียนตามความเหมาะสมและบรบิ ทของแตล่ ะโรงเรยี น ๒. ผู้เรียนแต่ละกล่มุ ปฏิบัตกิ ิจกรรมและเป็นแกนนาในการพัฒนาอาคารสถานท่ี จดั บรรยากาศ ส่งิ แวดลอ้ ม แหลง่ เรยี นรู้ สารวจ วางแผน บันทกึ สถิติ วเิ คราะห์ หาแนวทางแก้ไข ปฏิบตั กิ ิจกรรมพัฒนาอาคาร สถานท่ี ภายในโรงเรียนและหอนอน ในเวลา 06.00 – 06.30 น และในเวลา 16.30 – 17.00 น ของทุกวัน จันทร์ - วันศุกร์ วันละ 1 ช่ัวโมง และจัดกิจกรรมพัฒนาโรงเรียนหรือสถานที่ใกล้เคียงในชุมชนในวันเสาร์และ พฒั นาหอนอนในวันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 10.30 น วันละ ๒ ช่ัวโมง ตามแผนการดาเนินงานที่ครูและผู้เรียน รว่ มกนั (เน้นธรรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ) ๓. ผ้เู รียนช่วยกันวางแผน ควบคุม ดูแล และเป็นแกนนาในการลดการใช้พลังงาน การจัดการขยะ ระบบบาบัดนา้ เสยี โดยผา่ นกจิ กรรมทผี่ ้เู รยี นมสี ่วนร่วมค้นพบความรูห้ รอื สรา้ งความรูด้ ้วยตนเอง (ทกั ษะชีวิต) ๔. หัวหน้ากลุ่มรายงานผลการดาเนินงานต่อครูหอนอน ครูเวรประจาวันหรือครูคนอื่นๆที่ รับผดิ ชอบ
๕๔ 3. ตรวจสอบ ตดิ ตามและประเมินผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมของผู้เรียน 4. ทบทวน วเิ คราะหแ์ ละแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งของการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในครัง้ ตอ่ ไป * โดยในการปฏบิ ัติกจิ กรรม เพือ่ ให้การดาเนนิ งานสะดวกและรวดเร็ว อาจใหห้ วั หนา้ ชนั้ เรยี น หรอื ผู้เรยี น ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเปน็ หัวหน้ากล่มุ เพ่ือฝึกความเป็นผนู้ าให้กับผเู้ รียนและสร้างนิสยั การเป็นอยู่ อยา่ งพอเพียง การประเมินผลกจิ กรรม ๑. เวลาเข้ารว่ มกิจกรรมของผูเ้ รยี น ๒. ผลการดาเนินกิจกรรม เก่ยี วกบั การอนุรกั ษ์พลังงานและสิง่ แวดลอ้ ม ๒.๑ การประเมนิ ผลการดาเนนิ กิจกรรม เกีย่ วกับ การอนรุ ักษ์พลังงานและสง่ิ แวดล้อม วิธีการประเมนิ ๑. คณะกรรมการหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ประเมินผู้เรียนเป็นรายบุคคล/รายกลุ่ม โดยใช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ตามตัวบ่งช้ขี องแต่ละระดบั ชั้น ๒. สามารถให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมิน โดยอาจแบ่งวิธีการประเมิน ดังนี้ คือ ครูท่ี รับผดิ ขอบประเมนิ ผูเ้ รียน เพ่อื นประเมินเพือ่ น ผู้เรียนประเมินตนเองโดยการเขียน/พูด เกี่ยวกับ การปฏิบตั กิ ิจกรรมอนรุ กั ษ์พลงั งานและสงิ่ แวดลอ้ ม (3 R) ๓. ประเมนิ เพอ่ื การพฒั นา โดยประเมินอยา่ งสม่าเสมอทุกวันและต่อเนื่อง (สรุปผลอาทิตย์ ละ ๑ ครง้ั ) และนาผลการประเมนิ เพือ่ แก้ไขและพัฒนาพฤติกรรมผเู้ รียน เกณฑ์การประเมิน ประเมนิ ตามระดับคุณภาพ โดยกาหนดระดับคณุ ภาพ ดงั น้ี ๑ หมายถงึ มพี ฤติกรรม/ผลการดาเนนิ กจิ กรรม ไมเ่ รยี บร้อยตอ้ งได้รบั การ ปรับปรงุ แก้ไขและมเี วลารว่ มกิจกรรมน้อยกวา่ ร้อยละ 80 ๒ หมายถึง มพี ฤตกิ รรม/ผลการดาเนนิ กิจกรรมเหมาะสม เรียบรอ้ ย และมี เวลารว่ มกจิ กรรม มากกว่าร้อยละ 80 ๓ หมายถึง มีพฤติกรรม/ผลการดาเนินกจิ กรรม เหมาะสม เรียบร้อย สามารถ เป็นแบบอย่างแกบ่ ุคคลอืน่ ได้และมีเวลารว่ มกิจกรรมทุกครั้ง เกณฑ์การตดั สินผลการประเมนิ กิจกรรมอนรุ กั ษพ์ ลังงานและสิ่งแวดล้อม ผา่ น หมายถงึ ผเู้ รียนมเี วลาเข้ารว่ มกิจกรรมไม่ต่ากวา่ ร้อยละ ๘๐ และมผี ล การประเมนิ ผลการดาเนินกจิ กรรม เกีย่ วกับ การอนุรักษพ์ ลังงานและสิ่งแวดล้อมเฉลย่ี ระดบั ๒ ข้นึ ไป ไม่ผา่ น หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรม น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ หรือมีผล การประเมินผลการดาเนนิ กจิ กรรม เก่ียวกับ การอนุรกั ษพ์ ลังงานและสง่ิ แวดลอ้ มเฉลย่ี นอ้ ยกว่าระดับ ๒
๕๕ แนวทางการนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการจัดกจิ กรรมอนุรกั ษ์พลังงานและสงิ่ แวดล้อม 1. ครูผู้จดั กจิ กรรมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ดงั นี้ ความรู้ท่คี รูต้องมีมากอ่ นการจดั กิจกรรม คณุ ธรรมของครู ๑. หลักการใชพ้ ลังงานให้เกิดประโยชน์สงู สุด 1. มีความรักเมตตาศิษย์ ๒. วิธีการอนุรกั ษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อม ๒. มคี วามรับผิดชอบ ๓. ทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ๓. มีความยตุ ิธรรมใหเ้ กยี รติผู้อืน่ ๔. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๕. ศาสตร์พระราชา(หลักการทรงงาน) ๖. ยุทธศาสตรช์ าตแิ ละแผนการศกึ ษา 20 ปี หลักพอเพียง พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ ุ้มกนั ประเดน็ เนอื้ หา - เนือ้ หาวิธกี ารจัดกิจกรรม - ต้องการใหผ้ ู้เรยี นรู้วิธกี าร - สรปุ เพือ่ หาการจัดกิจกรรมให้ เวลา อนรุ ักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์พลังงานและ เข้าใจงา่ ย มีภาพประกอบ การจดั กจิ กรรม สอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ ส่ิงแวดล้อมและนาไปปรับใชใ้ น เน้ือหาการจัดกจิ กรรม เหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนดและ ชวี ติ ประจาวัน - เรอื่ งเพื่อหาการจัดกิจกรรม สอ่ื /อปุ กรณ์ วยั ของผู้เรียน จากง่ายไปหายาก - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ได้ - กาหนดเวลาในการจดั กิจกรรม - กาหนดเวลาในแตล่ ะกิจกรรม ครบถว้ นตามท่ีออกแบบไว้ ใหย้ ดื หยุ่นเพ่ือรองรบั การ ใหเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรมและวัย เปลีย่ นแปลงท่อี าจเกิดขึ้น ของผู้เรยี น ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม - แบง่ กลุ่มคละตามสามารถของ - แบง่ กลุ่มผเู้ รียนในแต่ละ - ตอ้ งการใหผ้ เู้ รยี นปฏเิ สธ ผ้เู รยี น - สารวจพฤตกิ รรมและใหก้ าร กจิ กรรมไดพ้ อดีกบั จานวนผู้เรียน กิจกรรมอยา่ งท่วั ท้ังตาม ชว่ ยเหลือเมื่อผู้เรยี นมปี ัญหา - กาหนดการจดั กจิ กรรม ความสามารถ - เตรยี มส่อื วัสดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื ให้พรอ้ มก่อนการจดั เหมาะสมกบั เวลา - เพื่อจัดการใหผ้ ้เู รียนเน้นการ กิจกรรม - มีความชานาญในการใช้สือ่ - มอบหมายภาระงานเหมาะสม เรียนรตู้ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ี่ อุปกรณ์ เคร่อื งมือ - มลี าดับขัน้ ตอน กับความสามารถของผู้เรยี นและ กาหนด สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ - ผเู้ รยี นนาความร้ไู ป ประยุกตใ์ ช้กับภาษางานได้ - จานวนวสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื - จดั การใหผ้ เู้ รยี นไดป้ ฏบิ ัติ เหมาะสมกบั สือ่ กิจกรรมและมี กิจกรรมไดจ้ ริงตามวัตถุ ปรมิ าณเพียงพอกับจานวนผ้เู รียน ประสงคข์ องการจดั กจิ กรรมที่ กาหนดไว้ควรใช้สื่ออุปกรณ์ เคร่ืองมือและจดั เก็บอย่างเป็น ระบบ
๕๖ หลกั พอเพยี ง พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู ิค้มุ กัน ประเดน็ แหล่งเรยี นรู้/ - ห้องเรียนท่จี ะปฏบิ ตั ิการตา่ งๆ - ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นมสี ่วนร่วมใน - มกี ารตรวจสอบนิเทศกากับ ฐานการเรียนรู้ หอประชมุ หอนอนต่างๆ การใชพ้ ลังงาน อนุรักษ์พลังงาน ตดิ ตามแหลง่ เรยี นรู้ฐานการ เหมาะสมกบั กิจกรรมที่กาหนด และดแู ลรกั ษาสิ่งแวดลอ้ มตาม เรยี นรู้อย่างสมา่ เสมอ สถนทต่ี ่างๆในโรงเรยี น การประเมนิ ผล -จดั ทาแบบประเมินผลงานและ - ต้องการประเมนิ ผลการจัด -วางแผนการวดั ประเมนิ ผลตาม ประเมนิ พฤติกรรมได้เหมาะสม กบั วัตถปุ ระสงค์ กิจกรรมตามวตั ถุประสงคท์ ี่ ข้นั ตอนของกจิ กรรม กาหนด -ตรวจสอบแบบประเมินผล ตรวจตามวตั ถปุ ระสงค์ได้
๕๗ ......ความเจรญิ ของคนท้ังหลาย ยอ่ มเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเล้ยี งชีพชอบ เปน็ หลักสาคัญ ผู้ทีจ่ ะสามารถประพฤติชอบและหาเล้ียงชีพชอบได้ด้วยนน้ั ยอ่ มจะมีทั้งวชิ าความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสงิ่ แรกเป็นปัจจัยสาหรบั ใชก้ ระทาการทางาน ส่ิงหลังเป็นปัจจยั สาหรับส่งเสรมิ ความประพฤติ และการปฏบิ ัติงานให้ชอบ คือใหถ้ ูกต้องและเปน็ ธรรม.... พระราชดารัสของ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ เดช บรมนาถบพติ ร (พระราชทานแก่ ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม 4 จงั หวดั ภาคใต้ จ. ปตั ตานี 24 ส.ค. 19)
๕๘ กจิ กรรมสง่ เสริมอาชีพทอ้ งถิ่น หลกั การ กิจกรรมส่งเสริมอาชีพท้องถิ่น ในโรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ เป็นกิจกรรมส่งเสริมการประกอบ อาชีพในท้องถิ่นท่ีตรงกับความถนัดและความสนใจของผู้เรียน โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ทักษะเก่ียวกับ อาชพี ทต่ี นสนใจในทอ้ งถิน่ รู้จักวางแผนการประกอบอาชีพอย่างเป็นระบบ เลือกใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม คุ้มค่า เพ่ือการมีรายได้ระหว่างเรียน และเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพสุจริตในอนาคต มีเจตคติที่ดีต่อ งานอาชีพสจุ รติ ในทอ้ งถน่ิ ขยนั ซือ่ สัตย์ อดทน มุ่งม่ันในการทางาน และอยู่อยา่ งพอเพียง วตั ถุประสงค์ ๑. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ เก่ยี วกับอาชีพท่ีตนสนใจในท้องถ่ิน ๒. เพอื่ ทกั ษะ ประสบการณ์ ในการปฏิบตั งิ านอาชพี ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓. เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนมีรายได้ระหว่างเรยี น และเจตคตทิ ีด่ ีต่ออาชีพในท้องถน่ิ ตวั บง่ ช้ี ระดับประถมศกึ ษา 1. สารวจ รวบรวม อาชีพในท้องถ่นิ ท่ีตนสนใจ 2. นาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณไ์ ปวางแผนปฏิบตั ิงานอาชพี ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3. ปฏิบัตงิ านอาชพี ตามขน้ั ตอน กระบวนการทางาน และมเี จตคติทดี่ ตี ่ออาชพี ในทอ้ งถิน่ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ 1. สารวจ วิเคราะห์งานอาชพี ที่สอดคล้องกับความรู้ ความถนดั และความสนใจ 2. วางแผนการปฏบิ ัติงานอาชีพท่ีตนสนใจ 3. เลือกใช้เทคโนโลยที ี่เหมาะสม ในการปฏบิ ัตงิ านอาชีพโดยยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและมี เจตคตทิ ่ดี ตี ่ออาชพี ในทอ้ งถ่ิน 4. มรี ายได้ระหวา่ งเรยี นตามเกณฑ์ที่กาหนด ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ งานอาชพี ในท้องถิ่นของตนเองทีส่ อดคล้องกับความรู้ ความถนดั และความสนใจ 2. วางแผนการปฏิบัตงิ านอาชีพทตี่ นสนใจ 3. ปฏบิ ตั ิงานอาชพี โดยยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. เลือกใชเ้ ทคโนโลยีท่เี หมาะสม ในการนาเสนองานอาชีพ 5. มเี จตคตทิ ีด่ ีต่ออาชพี ในท้องถิ่น 6. มีรายได้ระหวา่ งเรียนตามเกณฑ์ท่กี าหนด
๕๙ ขอบขา่ ยกจิ กรรม เปน็ กจิ กรรมสง่ เสริมการปฏิบัติงานอาชีพตามความถนัดและความสนใจของผเู้ รียนเพ่อื การมรี ายได้ ระหว่างเรียนโดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาวางแผนการทางานอย่างเปน็ ระบบ ได้แก่ 1. สารวจ รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับอาชีพในท้องถิ่น 2. เลอื กอาชีพ ตามความถนัดและความสนใจ 3. วางแผนการดาเนินงาน 4. ฝกึ ปฏิบตั ิอาชีพ ตามความถนัดและความสนใจ 5. คดิ คานวณตน้ ทุนและกาหนดราคาจาหน่าย 6. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ 7. การบริการ/การจาหน่ายผลผลิต 8. ทาบัญชรี ายรบั รายจ่าย และการคานวณผลกาไร/ขาดทนุ ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม ระดบั ประถมศกึ ษา 1. ผ้เู รียนแตล่ ะกลมุ่ สารวจอาชีพในท้องถน่ิ วางแผนการปฏบิ ัติงานอาชีพโดยใช้หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ แนวทาง 2. ฝกึ ทักษะและปฏบิ ัตงิ านอาชีพตามขั้นตอนและกระบวนการท่วี างแผน 3. ประเมินผลและเก็บรวบรวมข้อมลู ก่อนการจดั กิจกรรม ระหว่างการจัดกิจกรรม และหลังการจดั กิจกรรม เพื่อนาผลมาใชใ้ นการแก้ไขและพฒั นาการดาเนินงานอย่างต่อเนือ่ ง ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น 1. ผู้เรยี นแบง่ กลมุ่ สารวจ วเิ คราะห์งานอาชีพในทอ้ งถิ่นทีส่ อดคล้องกับความรู้ ความถนดั และความสนใจ 2. วางแผนปฏิบัติงานอาชพี ตามข้ันตอน 3. ปฏบิ ตั งิ านอาชีพโดยยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอ่ื การมรี ายได้ระหว่างเรยี น 4. คิดคานวณต้นทนุ และกาหนดราคาจาหน่าย 5. บรกิ าร/จาหน่ายผลผลิต 6. ทาบัญชรี ายรับ รายจ่าย และการคานวณผลกาไร/ขาดทุน 7. ประเมินผลและเก็บรวบรวมข้อมลู ก่อนการจดั กจิ กรรม ระหวา่ งการจัดกิจกรรม และหลังการจัด กจิ กรรม เพอ่ื นาผลมาใชใ้ นการแกไ้ ขและพัฒนาการดาเนินงานอย่างต่อเนือ่ ง ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. ผเู้ รียนแบง่ กลมุ่ วิเคราะห์ สังเคราะห์ งานอาชพี ในทอ้ งถิ่นที่สอดคลอ้ งกบั ความรู้ ความถนัดและความ สนใจ 2. วางแผนปฏบิ ัตงิ านอาชีพตามขนั้ ตอน อย่างเหมาะสมและยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. ปฏบิ ัติงานอาชีพ โดยการจัดตั้งบรษิ ัทจาลอง 4. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ 5. คิดคานวณตน้ ทนุ และกาหนดราคาจาหน่าย 6. บริการ/จาหน่ายผลผลิต
๖๐ 7. การทาบญั ชีรายรบั รายจ่าย และการคานวณผลกาไร/ขาดทุน 8. ประเมินผลและเกบ็ รวบรวมข้อมลู ก่อนการจัดกจิ กรรม ระหวา่ งการจัดกิจกรรม และหลงั การจัด กิจกรรม เพ่อื นาผลมาใช้ในการแกไ้ ขและพฒั นาการดาเนนิ งานอยา่ งต่อเนอ่ื ง การประเมินผลกจิ กรรม 1. เวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. ความรู้ และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เกยี่ วกับการประกอบอาชีพท้องถน่ิ ทีต่ นสนใจ 3. ทกั ษะการปฏบิ ตั ิงานอาชีพ และผลงานหรอื ชนิ้ งานเกี่ยวกับกิจกรรมอาชพี ท้องถ่ิน 4. การมีรายได้ระหวา่ งเรียนตามเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษากาหนด วธิ ีการประเมนิ 1. คณะกรรมการหรอื ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมายประเมนิ ผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล/รายกลุ่ม โดยใชเ้ กณฑ์การ ประเมินตามตวั บง่ ชขี้ องแต่ละระดบั ชนั้ 2. สามารถใหผ้ ูเ้ รียนมีส่วนร่วมในการประเมนิ โดย ใชว้ ธิ ีการประเมินแบบมสี ่วนรว่ ม คอื ครูประเมนิ ผเู้ รยี น เพอื่ นประเมนิ เพอื่ น ผู้เรยี นประเมินตนเอง 3. ประเมินอย่างสมา่ เสมอและต่อเนอื่ งเพ่ือดพู ฒั นาการและนาผลการประเมนิ เพื่อแก้ไขและพฒั นา ผเู้ รยี น 4. สถานศกึ ษาอาจจัดกจิ กรรมแลกเปล่ียนเรียนรแู้ ละเผยแพร่ผลงานทป่ี ระสบความสาเร็จ เพ่อื ให้ผเู้ รียน ไดน้ าเสนอผลงานเมอ่ื สิน้ ภาคเรยี น เกณฑ์การประเมิน ประเมนิ ตามระดบั คุณภาพ โดยกาหนดระดับคณุ ภาพ ดังนี้ ๑ หมายถึง เข้ารว่ มกิจกรรม สง่ เสริมอาชีพท้องถน่ิ ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลา ท้ังหมด ผลงาน ไม่ค่อยเหมาะสม ตอ้ งไดร้ บั การปรับปรงุ แกไ้ ขเป็นอยา่ งมาก ๒ หมายถึง เข้ารว่ มกิจกรรม ส่งเสรมิ อาชีพท้องถน่ิ ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลา ทง้ั หมด มที ักษะ/ผลงาน เหมาะสม เรียบรอ้ ย แตย่ ังตอ้ งได้รับการปรับปรงุ แก้ไขในบางประเด็น ๓ หมายถึง เข้าร่วมกจิ กรรม สง่ เสรมิ อาชีพท้องถ่ิน ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลา ทัง้ หมดมที ักษะ/ผลงาน เหมาะสม เรยี บร้อย สามารถเป็นแบบอยา่ งแก่บคุ คลอืน่ ได้ เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมินกจิ กรรมส่งเสรมิ อาชพี ท้องถิ่น ผา่ น หมายถึงผู้เรยี นมเี วลาเข้ารว่ มกจิ กรรมไมต่ ่ากว่าร้อยละ ๘๐ และมีผลการประเมินทกั ษะการ ทางานอาชีพ รวมทั้งผลงานหรอื ชิ้นงาน เก่ยี วกบั กิจกรรมอาชพี ท้องถิ่นเฉล่ีย ระดบั ๒ขน้ึ ไป ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผเู้ รยี นมเี วลาเข้ารว่ มกจิ กรรมต่ากวา่ ร้อยละ ๘๐ หรอื มผี ลการประเมนิ ทักษะการ ทางานอาชพี รวมทัง้ ผลงานหรือช้ินงาน เก่ียวกับกจิ กรรมอาชพี ทอ้ งถ่นิ เฉล่ีย ต่ากวา่ ระดับ ๒
๖๑ 1. แนวทางการนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจดั กิจกรรมสง่ เสริมอาชีพท้องถนิ่ 1.1 ครูผู้จัดกจิ กรรมนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ดงั น้ี ความรทู้ ่คี รูตอ้ งมีมากอ่ นการจดั กิจกรรม คุณธรรมของครู 1. ความรเู้ กย่ี วกับอาชีพในท้องถ่ิน 1. มีความรักเมตตาต่อศิษย์ 2. แหล่งสบื ค้นข้อมลู เกี่ยวกบั อาชีพในทอ้ งถนิ่ 2. มีความรับผดิ ชอบ 3. ข้อมูลแหลง่ วตั ถดุ บิ 3. มคี วามยตุ ธิ รรม 4. ตลาดจาหนา่ ยผลผลติ ผลติ ภณั ฑ์ 4. การตรงต่อเวลา 5. การจัดทาบัญชรี ายรับ -รายจ่าย 6. หลักปรชั ญาของเศรษกจิ พอเพยี ง 7. จดั รว่ มจดั การกิจกรรม หลักพอเพยี ง พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู ิคุ้มกันในตวั ทด่ี ี ประเด็น - เนอื้ หาอาชีพในท้องถิ่น - ตอ้ งการใหผ้ ้เู รยี นได้ - เลือกศึกษาดูงานอาชีพ สอดคล้องกับ ฝึกงานด้านอาชีพใน ที่มอี ยู่ในทอ้ งถ่ินของตน เน้ือหา วัตถุประสงค์เหมาะสม ท้องถ่นิ และนาไปปรับใช้ กับเวลาท่กี าหนดและวัย ในชวี ติ ประจาวัน ของผูเ้ รยี น - กาหนดเวลาในแต่ละ - จัดกิจกรรมงานอาชพี - กาหนดเวลาให้ยืดหยนุ่ เวลา อาชีพเหมาะสมกบั วยั ได้ครบถ้วนตามท่ี ในแตล่ ะอาชพี เพ่อื รองรับ ของผเู้ รยี น ออกแบบไว้ การเปลยี่ นแปลงเพือ่ จะ จัดขัน้ ระหว่างจัด กิจกรรม - แบ่งกล่มุ ผ้เู รยี นให้ - ตอ้ งการให้ผูเ้ รียน - แบ่งกลมุ่ ผู้เรียนตาม เหมาะสมกับ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมส่งเสริม ความสนใจความถนดั ใน การจดั กิจกรรม ความสามารถของผ้เู รียน อาชพี อย่างทว่ั ถงึ ตาม แต่ละอาชพี ดา้ นงานอาชีพ ความสามารถ - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กาหนดกจิ กรรมการ - เพอ่ื ต้องการใหผ้ ู้เรยี น การชว่ ยเหลอื เมือ่ ผเู้ รยี น เรยี นรเู้ หมาะสมกับเวลา เกดิ การเรยี นรู้กจิ กรรม มปี ญํ หา ที่กาหนด อาชพี ตามวตั ถปุ ระสงค์ - ผ้เู รียนนาความรจู้ าก กิจกรรมไปประยุกตใ์ ช้ได้ - จานวนวัสดุ อปุ กรณ์ - ตอ้ งการใหผ้ ้เู รียนไดล้ ง - เตรยี มวสั ดุ อปุ กรณใ์ ห้ สอ่ื /อุปกรณ์ เครือ่ งมอื เหมาะสมกบั มือปฏบิ ัติจริงตาม พรอ้ มก่อนจัดกิจกรรม งานอาชพี ในแตล่ ะอาชีพ วตั ถปุ ระสงค์ท่ีกาหนดไว้ - มีลาดบั ข้นั ตอนการใช้ และมีปรมิ าณเพียงพอกับ ส่อื อุปกรณ์ จานวนผู้เรียน - มีความชานาญในการใช้ ส่อื อปุ กรณ์ เคร่ืองมือใน งานอาชพี
๖๒ หลักพอเพียง พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู คิ ้มุ กนั ในตัวท่ดี ี ประเดน็ - ทาการปฏิบัติงานอาชีพ - ตอ้ งการให้เรียนใช้วสั ดุ - เตรียมหอ้ งปฏบิ ตั ิการ แหล่งเรยี นรู้/ฐานการ สถานท่ใี ช้ฝึกงานอาชีพ อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื ในการ ให้พรอ้ มก่อนลงมือ เรียนรู้ เหมาะสมกับกจิ กรรมท่ี ปฏิบัตกิ ารสถานท่จี ดั ฝกึ งานอาชีพ กาหนด กจิ กรรมท่ีมีความพรอ้ ม - ตดิ ตอ่ ประสานงาน ในการฝกึ งานอาชีพ ตาม ความรู้งานส่งเสริมอาชพี วตั ถปุ ระสงค์ ที่จะทา กอ่ นการศึกษาดูงาน - จดั ทาแบบประเมินผล - ตอ้ งการประเมนิ ผลการ - วางแผนการวัด การประเมินผล และประเมนิ พฤตกิ รรม จดั กิจกรรมตาม ประเมินผลตามข้นั ตอน ให้เหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ทก่ี าหนด การจดั กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ - มกี ารตรวจสอบแบบ ประเมินผลในการติดตาม วตั ถปุ ระสงค์ท่กี าหนด 2.2 ผู้เรียนได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่สมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 4 มิติ ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงดงั น้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมการเปลี่ยนแปลงในดา้ นตา่ งๆ องค์ประกอบ วัตถุ สงั คม ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม - ความรูเ้ ก่ียวกบั - มีความรูใ้ นการ - มคี วามร้ใู นการ - มคี วามร้เู กยี่ วกับ การประกอบอาชีพ แบ่งหนา้ ที่ภายใน ดแู ลรกั ษาความ อาชีพทีเ่ ป็นมรดก ในท้องถ่ินทต่ี น กลมุ่ ได้อยา่ ง สะอาดวสั ดุอุปกรณ์ ทางวัฒนธรรมของ ความรู้ สนใจถกู ต้อง เหมาะสม และจัดการขยะ ทอ้ งถิ่น - มีความรใู้ นการ อย่างถูกต้องของ ปฏบิ ตั ิตนที่จะ ห้องปฏบิ ตั กิ ารและ ทางานรว่ มกบั ผู้อื่น แหลง่ ผลติ และ จาหนา่ ย - มที กั ษะในการใช้ - ทางานรว่ มกนั - รกั ษาความ มีทกั ษะเกย่ี วกับ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการ ภายในกลุ่มตามที่ สะอาดของวัสดุ การปฏิบัติอาชพี ที่ ประกอบอาชีพ ไดร้ ับมอบหมายจน อุปกรณ์ และ เป็นมรดกทาง ทักษะ อยา่ งถูกต้องและ สาเร็จและมี ห้องปฏิบัติการ วฒั นธรรมของ ประหยดั ความสุข แหล่งผลติ และ ท้องถิ่น จาหนา่ ยหลงั การ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
๖๓ ด้าน สมดลุ และพร้อมการเปลี่ยนแปลงในดา้ นตา่ งๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรม - เห็นความสาคญั - มคี วามรบั ผดิ ชอบ - มจี ิตสานกึ ในการ - ตระหนักถงึ คณุ คา่ ของการประกอบ ต่อผลงาน / รกั ษา ของทัอาชีพท่ีเป็น อาชพี สุจรติ ผลผลติ สภาพแวดลอ้ ม มรดกทาง - มรี ายไดร้ ะหวา่ ง - ยอมรบั ความ หอ้ งปฏบิ ตั ิการ วัฒนธรรมของ เรยี น คิดเหน็ ซึ่งกันและ แหล่งผลติ และ ทอ้ งถน่ิ คา่ นิยม - มีบญั ชรี ายรับ – กัน จาหนา่ ยหลงั การ จา่ ย - มคี วามขยัน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม เสียสละอดทน
๖๔ \" ดนตรีทุกชนิดเปน็ ศลิ ปะท่ีสาคัญอย่างหนึ่ง มนษุ ย์เกือบทั้งหมดชอบและรู้จักดนตรี ตง้ั แตเ่ ยาวว์ ยั คนเริม่ รจู้ ักดนตรบี ้างแล้ว ความรอบรูท้ างดนตรอี ย่างกวา้ งขวางย่อมขนึ้ กับเชาวน์ และสามารถในการแสดงของแต่ละคน อาศัยเหตุนีจ้ งึ กล่าวไดว้ า่ ในระหวา่ งศลิ ปะนานาชนดิ ดนตรีเป็นศิลปะทแี่ พร่หลายกวา่ ศลิ ปะอ่ืนๆ และมีความสาคญั ในด้านการศึกษาของประชาชน ทกุ ประเทศดว้ ย \" ในกระแสพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ภายหลงั ทีส่ ถาบันดนตรีและศิลปะแหง่ กรุงเวยี นนาทูลเกลา้ ทลู กระหม่อมถวาย ประกาศนียบตั รเกียรติคุณชัน้ สงู ใหท้ รงดารงตาแหนง่ สมาชกิ กิตตมิ ศกั ด์ิหมายเลข 23 เมือ่ วันท่ี 5 ตุลาคม 2507
๖๕ กิจกรรมพฒั นาสนุ ทรยี ภาพ หลักการ กิจกรรมพฒั นาสุนทรียภาพ เป็นกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ ตาม ความถนัดและสนใจ สร้างผลงานตนเอง ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และ สังคม สง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นรู้จักและเขา้ ใจตนเอง กล้าแสดงออก มคี วามเชื่อม่นั ในตนเอง และดารงชีวิตได้อย่างมี ความสขุ วตั ถุประสงค์ เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมสี ุนทรยี ภาพดา้ นศลิ ปะ ดนตรี กีฬา หรือนนั ทนาการตามความถนัดความสนใจและรู้จัก ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ ตัวบ่งชี้ ระดบั ประถมศึกษาตอนต้น รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการหรือ กิจกรรมตามความถนดั ความสนใจ และปฏบิ ัติตามคาแนะนาได้อยา่ งถูกต้อง ระดับประถมศกึ ษาตอนปลาย รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการหรือ กิจกรรมตามความถนัดความสนใจ โดยไดร้ บั คาแนะนาเล็กน้อย ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และวางแผนพัฒนาตนเองในด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ หรอื กิจกรรมตามความถนัดความสนใจ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และวางแผนพัฒนาตนเองในด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ หรอื กจิ กรรมตามความถนัดความสนใจ สามารถเป็นผู้นาและเป็นแบบอย่างได้ ขอบขา่ ยกิจกรรม เป็นกิจกรรมการพัฒนาสุนทรียภาพตามความถนัดและความสนใจในด้านต่างๆ คือ ด้านศิลปะ ด้าน ดนตรี ด้านกีฬา ด้านนันทนาการตามความถนัดความสนใจ และด้านการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการ รับรู้และช่ืนชมความงาม เป็นที่ทราบดีว่าสุนทรียภาพเป็นเรื่องของอัตวิสัย(Subjective) ความเข้าใจและ ความรู้สกึ ของแต่ละบุคคลที่มีตอ่ ความงามในธรรมชาติหรืองานศลิ ปะ ข้ันตอนการจดั กจิ กรรม ๑. วางแผนการจดั กจิ กรรม และออกแบบแนวทางในการประเมนิ ผลและเก็บรวบรวมขอ้ มลู
๖๖ ๒. ดาเนินการจดั กจิ กรรมพัฒนาสนุ ทรียภาพ ในด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ โดยเน้นให้ผู้เรียน เลอื กกิจกรรมตามความถนดั และสนใจ ๓. กระตนุ้ การใช้เวลาวา่ งพฒั นาศักยภาพตนเอง และพฒั นาความสามารถในการแสดงออก ๔. จัดเวทีแลกเปล่ยี นประสบการณ์ และการแสดงผลงาน เมอื่ สิน้ สุดกิจกรรม เพื่อให้เกิดการช่ืนชมและ เห็นคณุ ค่าในผลงานของตนเองและผู้อน่ื ประเมินผลและเก็บรวบรวมขอ้ มลู ก่อนการจดั กจิ กรรม ระหว่างการจัดกิจกรรม และหลงั การจดั กจิ กรรม ๕. นาผลมาใชใ้ นการแก้ไขและพฒั นาพฤตกิ รรมผูเ้ รยี นอย่างตอ่ เน่อื ง หมายเหตุข้ันตอนการจัดกิจกรรมในแต่ละระดับชั้นดาเนินการในแนวเดียวกัน ดังน้ันสถานศึกษาควร เนน้ รายละเอียดการประเมนิ ในแต่ละระดับชั้นให้แตกต่างกัน โดยการสร้างเกณฑ์การประเมินตามประเด็นการ ประเมิน แยกรายละเอียดที่แสดงถึงระดับคุณลักษณะของผู้เรียนท่ีสอดคล้องกับตัวบ่งชี้ แตกต่างกันในแต่ละ ระดับชนั้ การประเมนิ ผลกิจกรรม ๑. เวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม ๒. ผลงานหรือชิ้นงานหรอื รอ่ งรอยการปฏิบตั ดิ า้ นสนุ ทรียภาพ ๒.๑ การประเมนิ ผลงานหรือชนิ้ งานหรือรอ่ งรอยการปฏิบตั ิด้านสุนทรยี ภาพ วิธกี ารประเมนิ ๑. การประเมินสุนทรียภาพด้านกีฬาให้ครูท่ีเป็นที่ปรึกษาหรือคณะกรรมการหรือผู้ท่ีได้รับ มอบหมายประเมินผเู้ รยี นเป็นรายบคุ คล/รายกลมุ่ โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ตามตัวบง่ ชี้ของแตล่ ะระดับช้ัน ๒. การประเมินสุนทรียภาพด้านดนตรีและศิลปะให้ครูผู้สอนรายวิชาดนตรีและศิลปะหรือ คณะกรรมการหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายประเมนิ ผเู้ รียนเป็นรายบคุ คล/รายกลุม่ โดยใช้เกณฑ์การประเมินตามตัว บง่ ชข้ี องแต่ละระดับชัน้ ๓. สามารถให้ผ้เู รยี นมสี ว่ นร่วมในการประเมินโดย ใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วม คือ ครู ประเมินผเู้ รยี น เพอ่ื นประเมนิ เพ่ือน ผู้เรยี นประเมนิ ตนเอง ๔. ประเมินอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง เพ่ือดูพัฒนาการและนาผลการประเมินเพ่ือแก้ไข และพฒั นาผ้เู รยี น ๕. สถานศึกษาอาจจัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้และเผยแพร่ผลงานท่ีประสบความสาเร็จ เพอ่ื ให้ผู้เรียนไดน้ าเสนอผลงานเมอ่ื สน้ิ ภาคเรียน เกณฑก์ ารประเมิน ประเมนิ ตามระดบั คณุ ภาพ โดยกาหนดระดับคณุ ภาพ ดังนี้ ๑ หมายถงึ ผู้เรยี นมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมน้อยกว่า รอ้ ยละ ๘๐ ๒ หมายถึง ผ้เู รียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมมากกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ๓ หมายถงึ มี ผูเ้ รียนมีเวลาเข้าร่วมกจิ กรรมมากกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ และเป็นแบบอยา่ งได้ เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาสนุ ทรียภาพ ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ากว่าร้อยละ ๘๐ และมีผลการประเมินผล งาน/ชน้ิ งานหรอื ร่องรอยการปฏบิ ัตดิ ้านสนุ ทรยี ภาพเฉลย่ี ระดบั ๒ ขึ้นไป ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมต่ากว่าร้อยละ ๘๐ หรือมีผลการประเมินผล งาน/ชิ้นงานหรือรอ่ งรอยการปฏิบตั ิดา้ นสุนทรียภาพเฉลย่ี ต่ากวา่ ระดับ ๒
๖๗ 1. แนวทางการนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจดั กิจกรรมพัฒนาสุนทรียภาพ 1.1 ครูผูจ้ ัดกิจกรรมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาออกแบบกจิ กรรมการเรียนร้ดู ังนี้ ความรูท้ ีค่ รตู ้องมีมาก่อนการจดั กจิ กรรม คุณธรรมของครู 1. ความรดู้ า้ นศิลปะ ดนตรี กีฬา นนั ทนาการ 1. ความเมตตา ๒. พน้ื ฐานการใช้เครื่องมืออปุ กรณ์ด้านศิลปะ 2. ความรับผดิ ชอบ ดนตรี กฬี า นนั ทนาการ 3. ความยุตธิ รรม ๓. ความรูเ้ ร่ืองจติ วทิ ยาและพฒั นาการของเด็ก แตล่ ะวยั หลกั พอเพยี ง พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมิค้มุ กนั ในตวั ทดี่ ี ประเดน็ - วธิ ีการจัดกจิ กรรม ต้องการให้ผู้เรียนร้วู ิธีจัด - จดั เรยี งลาดับเนอื้ หา สนุ ทรยี ภาพ (ศิลปะ ดนตรี กจิ กรรมไปปรับใช้ใน กจิ กรรมพัฒนา เน้ือหา กีฬา นนั ทนาการ) ชีวติ ประจาวัน สนุ ทรยี ภาพจากงา่ ยไป เหมาะสมกบั เวลาและวัย หายาก ของผเู้ รียน - มรี ูปภาพประกอบ เน้อื หา เวลา กาหนดเวลาในแตล่ ะ - จดั กิจกรรมให้ครบถ้วน กาหนดเวลาจดั กจิ กรรม กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกับ ตามที่ออกแบบไว้ ให้มคี วามยดื หยุน่ เพื่อ กจิ กรรมและวัยของผู้เรียน รองรบั การเปลยี่ นแปลง ที่เกดิ ขึน้ - แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี นได้พอดี - ตอ้ งการให้ผู้เรยี น - แบ่งกล่มุ ผเู้ รียนตาม การจัดกิจกรรม กับจานวนผูเ้ รียนกาหนด ปฏิบัติกิจกรรมอยา่ ง ศกั ยภาพความสามารถ กับการจัดกิจกรรม ทว่ั ถึงตามศกั ยภาพของ ของผู้เรียน เหมาะสมกับเวลา ผูเ้ รียน - สงั เกตุพฤติกรรมและ - มอบหมายภาระงานตาม - เพ่ือต้องการใหผ้ ้เู รียน ใหค้ วามช่วยเหลือแก่ ศกั ยภาพความสามารถ เกิดการเรียนร้ตู าม ผูเ้ รยี นทมี่ ีปัญหา และสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ที่กาหนดไว้ วัตถปุ ระสงค์ของผูเ้ รียน - อปุ กรณใ์ ห้เพียงพอมี - ตอ้ งการใหผ้ ้เู รียนใช้ - เตรียมเครือ่ งมือ ปริมาณท่ีเหมาะสมกบั การ เคร่อื งมืออปุ กรณ์ ปฏบิ ัติ อปุ กรณ์ใหพ้ ร้อมก่อน จัดกิจกรรม จริงตามวตั ถุประสงค์ที่ การลงมือปฏิบัติ สอ่ื /อปุ กรณ์ - จานวนเคร่อื งมืออปุ กรณ์ กาหนดปฏิบัตกิ ิจกรรม - ตรวจสอบเครือ่ งมือ อปุ กรณ์เหมาะสมกบั แต่ ตามวัตถุประสงคท์ ี่ อปุ กรณ์ใหพ้ ร้อมก่อน ละกิจกรรมและมปี รมิ าณ กาหนดไว้ การใชง้ าน เพยี งพอกับจานวนผู้เรยี น - มคี วามชานาญในการ ใช้เครื่องมืออปุ กรณแ์ ต่ ละชนดิ
๖๘ หลกั พอเพียง พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวท่ีดี ประเด็น - ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นใช้ - เตรยี มสถานทีใ่ ห้ - สถานทีเ่ พียงพอกับ เครือ่ งมือ อุปกรณ์ที่มี พรอ้ มสาหรับการลงมือ ความพร้อมใน ปฏบิ ัติกิจกรรม แหล่งเรียนรู้/ฐาน จานวนผ้เู รียน หอ้ งปฏบิ ัติการ สถานที่ - เตรยี มสถานที่สารอง ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตาม สาหรับจดั กจิ กรรมหาก การเรียนรู้ - หอ้ งปฏิบตั ิการศลิ ปะ วตั ถุประสงค์ เกิดกรณีฉุกเฉิน - ตอ้ งการประเมินผล - ออกแบบวางแผนการ ดนตรี กฬี า นันทนาการ การจดั กิจกรรมตาม ประเมนิ ผล วัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้ - ตรวจสอบแบบ เพียงพอกับจานวนผูเ้ รียน ประเมินผลให้ตรงตาม วัตถปุ ระสงค์ท่ีกาหนด การประเมนิ ผล - จดั ทาแบบประเมนิ ผล ไว้ และประเมนิ พฤตกิ รรมให้ เหมาะสมกบั วยั และ วัตถปุ ระสงค์ท่ีกาหนดไว้ 2. ผลที่เกิดขึ้นกบั ผู้เรยี นสอดคลอ้ งกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งจากการจัดกิจกรรมพฒั นา สนุ ทรยี ภาพ 2.1 ไดเ้ รียนรู้หลักคิดและฝกึ ปฏบิ ัตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้ คุณธรรม 1. ความรู้ศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ ตาม 1. ความสามัคคี ความถนัดความสนใจ 2. ความรับผดิ ชอบ ๒. มคี วามรู้พนื้ ฐานวิธกี ารใช้อุปกรณ์เคร่ืองมือการ 3. ความอดทน จัดกิจกรรมศลิ ปะ ดนตรี กีฬา นนั ทนาการหรอื 4. การแบ่งปนั และเอ้ือเฟื้อเผ่อื แผ่ กิจกรรมอ่นื ๆ พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ที่ดี 1. ผเู้ รยี นกาหนดหน้าที่ภายใน 1. ผเู้ รียนนาการจัดกจิ กรรม 1. วางแผนการทางานกล่มุ อยา่ งเป็น กลุ่มตัวแทนในการจดั กจิ กรรม พฒั นาสนุ ทรียภาพไปใชใ้ น ขัน้ ตอน ได้อยา่ งเหมาะสมตาม ชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ ง 2. เตรยี มอปุ กรณ์เคร่อื งมอื ไดค้ รบถว้ น ความสามารถของแตล่ ะบุคคล สมเหตุสมผล ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ของการจัด 2. ผ้เู รียนได้ใช้อุปกรณ์ กจิ กรรมพฒั นาสุนทรียภาพ เครื่องมือในการทากิจกรรมได้ 3. ศกึ ษาวิธีการการจดั กิจกรรมพัฒนา เหมาะสมในแต่ละกิจกรรม สนุ ทรียภาพให้เขา้ ใจก่อนลงมือปฏิบตั ิ กจิ กรรม
๖๙ 2.2 ผ้เู รยี นได้เรียนร้กู ารใชช้ วี ติ ที่สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ยี นแปลง 4 มิติ ตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งดงั นี้ ดา้ น สมดุลและพร้อมการเปลีย่ นแปลงในด้านตา่ งๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม - มีความรู้ในการใช้ - มคี วามรใู้ นการ - มีความรู้ในการ - มคี วามร้เู ก่ยี วกับ เครอื่ งมืออปุ กรณ์ จดั แบ่งหนา้ ท่ขี อง ดูแลรักษา เก็บ ศลิ ปะ ดนตรี กีฬา ความรู้ ในการจัดกจิ กรรม สมาชกิ ภายในกลุม่ เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ นนั ทนาการ ของ พฒั นาสนุ ทรียภาพ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ในการจัดกิจกรรม ท้องถน่ิ ตนเอง ได้อยา่ งถกู ต้องและ - มคี วามรู้ในการ พัฒนาสุนทรียภาพ ประหยดั ปฏิบัตติ นทีจ่ ะ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ทางานรว่ มกับผู้อ่นื ทักษะ - มีทักษะในการใช้ - ผเู้ รียนทางาน - มที กั ษะในการ - ผ้เู รียนปฏบิ ตั ิ ค่านยิ ม เครอ่ื งมอื อุปกรณ์ ร่วมกนั ภายในกล่มุ รักษาความสะอาด กจิ กรรม ศิลปะ เชน่ ศิลปะ ดนตรี ในการจดั กจิ กรรม ความสะอาดของ ดนตรี กฬี า กฬี า นันทนาการ จนสาเร็จและมี เครือ่ งมืออุปกรณ์ นนั ทนาการของ อย่างปลอดภยั และ ความสุข หลังจากการปฏิบตั ิ ทอ้ งถ่ินตนเอง ประหยัด กจิ กรรมพัฒนา - มคี วาม สนุ ทรยี ภาพ - เห็นคณุ คา่ สบื - เหน็ ความสาคญั รบั ผิดชอบตอ่ การ สาน ศลิ ปะ ดนตรี ของวัสดอุ ปุ กรณ์ ทางานของกลุ่ม - มีจติ สานึกใน กีฬาในทอ้ งถน่ิ อย่างประหยัดและ - ยอมรับความ การรกั ษา ตนเอง คมุ้ ค่า คดิ เห็นของกลมุ่ สภาพแวดลอ้ ม และซงึ่ กันและกนั สถานทใี่ นการจดั มคี วามอดทน และ กจิ กรรมใหส้ ะอาด เสยี สละ เรียบร้อย
๗๐ โครงสร้างกจิ กรรมทกั ษะการดารงชีวติ กิจกรรมพัฒนาสนุ ทรียภาพ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษา เวลา ๘๐ ชัว่ โมง/ปกี ารศึกษา ท่ี ชอื่ หน่วย สาระสาคัญ เวลา กิจกรรมการเรียนรู้ ผลทีเ่ กดิ ขึน้ กบั ผูเ้ รยี น การเรียนรู้ (ช่วั โมง) - สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ตาม ๑ ศิลปะ จินตนาการ และความคิด ๘๐ - การวาดภาพ การป้นั - ผเู้ รยี นสอ่ื ความคิด สรา้ งสรรค์ การหลอ่ และการ จนิ ตนาการ ความรูส้ กึ - วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่ งานทัศนศิลป์ แกะสลัก ประทบั ใจ ด้วยงานทัศนศลิ ป์ - ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคดิ ต่อ - บรรยายผลงาน วธิ ีการตา่ ง ๆได้ งานศลิ ปะอยา่ งอิสระ ช่นื ชม และประยกุ ต์ ใชใ้ น ทัศนศลิ ปต์ าม - ผู้เรียนสร้างสรรคง์ าน ชวี ิตประจาวนั ความรสู้ ึก ประดิษฐจ์ ากวสั ดทุ ีอ่ ยใู่ น - สร้างสรรค์งาน ท้องถ่ินได้ ประดิษฐจ์ ากวสั ดุทีอ่ ยู่ - ผูเ้ รียนมีเจตคตทิ ี่ดตี ่องาน ในท้องถน่ิ ทศั นศลิ ป์ - ผูเ้ รียนใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ๒ ดนตร-ี - ประวตั ิความเปน็ มา ความสาคญั ๘๐ - ประดษิ ฐว์ สั ดธุ รรมชาติ - ผเู้ รียนเห็นความสาคัญและ นาฏศลิ ป์ และความสัมพันธ์ของดนตร-ี ใหเ้ กดิ เสยี ง ความสมั พนั ธ์ของดนตร-ี ๓ กีฬาและ นาฏศลิ ป์ นนั ทนาการ - การแสดงออกทางดนตร-ี - ขบั รอ้ งประกอบ นาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์ อย่างสรา้ งสรรค์ เสียงเพลงในท้องถิ่น - ผเู้ รยี นแสดงออกทางดนตรี- - การถ่ายทอดความรสู้ กึ ความ - คิดต่อดนตรี-นาฏศลิ ป์ อยา่ ง - เล่นเคร่ืองดนตรี ใน นาฏศลิ ป์ อย่างสรา้ งสรรค์ อสิ ระ ท้องถิ่น - การนาดนตรี-นาฏศลิ ปไ์ ปใช้ใน - แสดงบทบาทสมมติ ชวี ิตประจาวนั - มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญา - แสดงนาฏศิลป์ ทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล ประเภทรา เต้น - ทักษะในการ เคล่ือนไหว ๘๐ - จัดกิจกรรมสง่ เสริมการ - ผู้เรียนมีทักษะในการ กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม เคลื่อนไหว เคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย และกฬี า - เกมและกีฬา การเลน่ เกม กีฬา และ - กฎ กติกา และความมีนา้ ใจ การละเลน่ ในท้องถิน่ นักกฬี า - กฬี าและการละเลน่ ในท้องถิ่น - ผเู้ รียนรกู้ ฎ กติกา และความมี นา้ ใจนักกีฬา - ผู้เรียนสามารถทากิจกรรม รว่ มกับผ้อู ่นื ได้ หมายเหตุ ผู้เรียนเลอื กเข้ารว่ ม ๑ กิจกรรม รวม ๘๐
๗๑ โครงสร้างกิจกรรมทักษะการดารงชวี ติ กิจกรรมพฒั นาสนุ ทรยี ภาพ ระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนตน้ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ที่ ชอ่ื หน่วย สาระสาคัญ เวลา กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลที่เกดิ ขึน้ กับผู้เรียน การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) ๑ ศลิ ปะ - สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ ๔๐ - การวาดภาพ การป้นั - ผ้เู รียนสอื่ ความคิด ตามจินตนาการ และ การหล่อ และการ จนิ ตนาการ ความร้สู กึ ความคดิ สร้างสรรค์ แกะสลัก ประทบั ใจ ดว้ ยงาน - วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ - บรรยาย วิเคราะห์ ทัศนศลิ ป์ วิธีการต่างๆ ได้ คุณค่างานทศั นศลิ ป์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ผลงาน - -ผู้เรียนสรา้ งสรรคง์ าน - ถา่ ยทอดความรู้สึก ทัศนศิลป์ตาม ประดษิ ฐจ์ ากวัสดทุ ี่อยู่ใน ความคดิ ต่องานศิลปะอยา่ ง ความรูส้ กึ ท้องถิ่นและเห็นคณุ ค่าของ อสิ ระ ชื่นชม และ - สรา้ งสรรค์งาน ผลงานน้นั ประยุกต์ ใช้ใน ประดิษฐ์จากวสั ดทุ ี่อยู่ - ผูเ้ รยี นมเี จตคตทิ ่ีดีต่องาน ชีวติ ประจาวนั ในทอ้ งถ่ิน ทศั นศิลป์ - ผเู้ รยี นใชเ้ วลาว่างให้เป็น ประโยชน์ ๒ ดนตรี-นาฏศลิ ป์ - ประวัตคิ วามเป็นมา ๔๐ - ศกึ ษา ขบั รอ้ งและ - ผ้เู รียนตระหนักและและ ความสาคัญและ บรรเลงเพลงพืน้ บ้าน เห็นความสาคัญ ความสัมพนั ธข์ องดนตรี- ในรปู แบบของการ ความสมั พนั ธข์ องดนตรี- นาฏศลิ ป์ แสดงทอ้ งถนิ่ ๔ ภาค นาฏศิลป์ - การแสดงออกทางดนตรี- - กิจกรรมสรา้ งสรรค์ งาน - ผูเ้ รียนแสดงออกทางดนตรี- นาฏศลิ ป์ อยา่ งสร้างสรรค์ ทางดนตรีเก่ียวกับการ นาฏศลิ ป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ - การถา่ ยทอดความรู้สกึ ดารงชพี ของแต่ละ ตามแบบวถิ ีชีวติ ในท้องถนิ่ ความคิดต่อดนตรี- ภมู ิภาค นาฏศลิ ป์ อยา่ งอสิ ระ - แสดงบทบาทสมมติ - การนาดนตรี-นาฏศลิ ป์ไป - คิดประดิษฐท์ ่าราและ ใชใ้ นชีวิตประจาวนั สรา้ งสรรค์ละคร - มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิ เก่ียวกบั วถิ ีชีวิตและ ปัญญาท้องถิ่น ภูมปิ ัญญา วัฒนธรรมในท้องถ่ิน ไทยและสากล ๓ กีฬาและ - ทักษะในการเคล่ือนไหว ๔๐ - ออกแบบทักษะออก - ผู้เรียนมีทกั ษะในการ นนั ทนาการ กิจกรรมทางกาย การเลน่ กาลังกายโดยใชภ้ มู ิ เคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทาง เกม และกฬี า ปัญญาท้องถน่ิ กาย การเล่นเกมกีฬา และ - กฎ กตกิ า และความมี - ใช้วสั ดุทอ้ งถน่ิ ในการ การละเลน่ ในท้องถน่ิ - ผเู้ รยี นร้กู ฎ กติกา ความมี น้าใจนกั กีฬา ออกกาลงั กาย - กีฬาและการละเล่นใน - เกมและกีฬาพ้นื บ้าน นา้ ใจนักกีฬา - ผูเ้ รยี นเลน่ เกมและกีฬาด้วย ท้องถนิ่ ในทอ้ งถ่ิน ความปลอดภยั - ผูเ้ รียนสามารถทากจิ กรรม
ที่ ชือ่ หน่วย สาระสาคัญ ๗๒ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลท่เี กดิ ขน้ึ กบั ผู้เรียน การเรียนรู้ รว่ มกับผูอ้ ืน่ ได้ เวลา (ชว่ั โมง) รวม ๔๐ หมายเหตุ ผเู้ รียนเลือกเข้ารว่ ม ๑ กจิ กรรม
๗๓ โครงสร้างกจิ กรรมทกั ษะการดารงชวี ิต กจิ กรรมพัฒนาสุนทรยี ภาพ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ที่ ช่ือหน่วย สาระสาคญั เวลา กิจกรรมการเรียนรู้ ผลท่ีเกดิ ขน้ึ กับผ้เู รียน การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) ๑ ศิลปะ - สร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ ตาม ๔๐ - การวาดภาพ การปนั้ - ผู้เรียนสือ่ ความคดิ จนิ ตนาการ และความคิด การหลอ่ และการ จนิ ตนาการ ความรู้สึก สรา้ งสรรค์ แกะสลกั ประทับใจ ดว้ ยงาน - วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ - บรรยาย วิเคราะห์ ทัศนศลิ ป์ วิธกี ารตา่ งๆ ได้ คุณคา่ งานทัศนศิลป์ วพิ ากษ์ วจิ ารณผ์ ลงาน - ผเู้ รยี นสร้างสรรค์งาน - ถ่ายทอดความร้สู ึกความคดิ ทศั นศิลปต์ าม ประดษิ ฐ์จากวัสดุที่อยใู่ น ตอ่ งานศลิ ปะอย่างอสิ ระ ความร้สู ึก ทอ้ งถ่ินและเห็นคณุ ค่าของ ชนื่ ชม และประยุกต์ ใชใ้ น - สรา้ งสรรคง์ าน ผลงานน้นั ชวี ิตประจาวนั ประดิษฐจ์ ากวัสดุที่อยู่ - ผเู้ รยี นมเี จตคติทดี่ ีต่องาน - ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ในท้องถิ่น ทัศนศิลป์ ทศั นศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์ - สรา้ งสรรค์งาน - ผเู้ รียนมีความเข้าใจ และวัฒนธรรม ทศั นศิลปท์ ี่แสดงออก ความสัมพนั ธ์ระหว่าง - คุณค่างานทศั นศิลปท์ ่เี ป็น ถงึ วัฒนธรรมและภมู ิ ทศั นศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิ ปญั ญาในท้องถนิ่ และวฒั นธรรม ปญั ญาท้องถน่ิ ภมู ิปัญญา - ผู้เรียนใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ไทยและสากล ประโยชน์ ๒ ดนตรี- - ประวัติความเป็นมา ๔๐ - ศกึ ษา ขับรอ้ งและ - ผู้เรยี นตระหนักและและ นาฏศลิ ป์ ความสาคญั และ บรรเลงเพลงพืน้ บ้านใน เห็นความสาคัญ ความสัมพันธข์ องดนตรี- รปู แบบของการแสดง ความสมั พนั ธ์ของดนตรี- นาฏศิลป์ ทอ้ งถน่ิ ๔ ภาค นาฏศิลป์ - การแสดงออกทางดนตรี- - กิจกรรมสรา้ งสรรค์ - ผเู้ รยี นแสดงออกทางดนตรี- นาฏศิลป์ อย่างสรา้ งสรรค์ งานทางดนตรีเกย่ี วกับ นาฏศิลป์ อย่างสรา้ งสรรค์ - การถา่ ยทอดความร้สู ึก การดารงชพี ของแต่ละ ตามแบบวถิ ีชวี ิตในท้องถิ่น ความคดิ ต่อดนตรี-นาฏศลิ ป์ ภูมิภาค - ผู้เรียนมีความเข้าใจ อยา่ งอิสระ - แสดงบทบาทสมมติ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างดนตรี - การนาดนตรี-นาฏศลิ ป์ไปใช้ เกีย่ วกบั อาชีพใน ประวัติศาสตร์ และ ในชีวติ ประจาวนั ท้องถิ่น วัฒนธรรม - มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิ - คิดประดิษฐท์ ่าราและ ปญั ญาท้องถน่ิ ภูมิปญั ญา สรา้ งสรรค์ละคร ไทยและสากล เกยี่ วกับวิถชี ีวติ และ - ความสัมพันธร์ ะหวา่ งดนตรี วฒั นธรรมในทอ้ งถิ่น ประวตั ศิ าสตร์ และ - สร้างสรรค์งานดนตรีท่ี วฒั นธรรม แสดงออกถึงวัฒนธรรม - คุณคา่ ของดนตรที ีเ่ ปน็ มรดก และภูมปิ ญั ญาใน ทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญา ท้องถิน่
๗๔ ที่ ชอ่ื หน่วย สาระสาคัญ เวลา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลที่เกดิ ขึน้ กบั ผู้เรียน การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) ท้องถน่ิ ภูมิปัญญาไทยและ - ผู้เรียนมีทกั ษะในการ ๓ กฬี าและ สากล ๔๐ - ออกแบบทักษะออก เคล่อื นไหว กิจกรรมทาง นันทนาการ - ทักษะในการ เคล่ือนไหว กาย การเล่นเกม กฬี า กจิ กรรมทางกาย การเลน่ กาลังกายโดยใช้ภมู ิ และการละเล่นในท้องถน่ิ เกม และกฬี า ปญั ญาท้องถ่ิน - กฎ กติกา และความมีน้าใจ - ในวัสดุทอ้ งถ่ินใชใ้ นการ - ผเู้ รียนร้กู ฎ กตกิ า ความมี นกั กฬี า น้าใจนกั กีฬา - กฬี าและการละเล่นใน ออกกาลังกาย ทอ้ งถ่นิ - เกมและกีฬาพ้นื บ้านใน - ผู้เรยี นเลน่ เกมและกีฬาดว้ ย ความปลอดภยั ท้องถิ่น - ผู้เรียนสามารถทากิจกรรม ร่วมกบั ผอู้ ่นื ได้ หมายเหตุ ผู้เรยี นเลอื กเข้าร่วม ๑ กจิ กรรม รวม ๔๐
๗ โครงสร้างกจิ กรรม กิจกรรมพัฒนาสุนทรียภาพ ระดบั ชัน้ ประ ที่ ชื่อหนว่ ย สาระสาคญั เวล การเรียนรู้ (ชั่วโ ๑ ศลิ ปะ - สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์ ตาม ๘๐ จินตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ - วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณค์ ุณคา่ งานทศั นศิลป์ - ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยกุ ต์ ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ๒ ดนตรี- - ประวัตคิ วามเปน็ มา ความสาคญั ๘๐ นาฏศิลป์ และความสัมพนั ธ์ของดนตรี- นาฏศลิ ป์ - การแสดงออกทางดนตร-ี
๗๕ มทักษะการดารงชวี ิต ะถมศึกษา เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปกี ารศึกษา ลา กิจกรรมการเรียนรู้ ผลทเ่ี กิดขน้ึ กบั ผเู้ รยี น โมง) ๐ - การวาดภาพ การปน้ั - ผู้เรยี นสื่อความคดิ การหล่อ และการ จินตนาการ ความรู้สึก แกะสลกั ประทับใจ ด้วยงานทศั นศลิ ป์ - บรรยายผลงาน วิธกี ารต่าง ๆได้ ทัศนศิลป์ตาม - ผู้เรยี นสรา้ งสรรค์งาน ความรู้สึก ประดิษฐ์จากวสั ดุท่ีอย่ใู น - สร้างสรรค์งาน ทอ้ งถิ่นได้ ประดิษฐ์จากวัสดุท่ีอยู่ - ผู้เรียนมีเจตคตทิ ่ดี ีต่องาน ในท้องถิน่ ทศั นศลิ ป์ - ผเู้ รียนใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็น ประโยชน์ ๐ - ประดษิ ฐว์ สั ดธุ รรมชาติ - ผูเ้ รยี นเห็นความสาคัญและ ใหเ้ กิดเสยี ง ความสมั พนั ธ์ของดนตร-ี - ขบั รอ้ งประกอบ นาฏศิลป์ เสยี งเพลงในทอ้ งถิ่น - ผูเ้ รยี นแสดงออกทางดนตรี-
ที่ ช่อื หนว่ ย สาระสาคัญ ๗ การเรียนรู้ เวล นาฏศิลป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (ช่ัวโ ๓ กีฬาและ - การถ่ายทอดความรู้สึกความ นันทนาการ - คิดต่อดนตรี-นาฏศิลป์ อย่าง ๘๐ อสิ ระ - การนาดนตรี-นาฏศลิ ปไ์ ปใช้ใน ชีวิตประจาวนั - มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญา ท้องถิน่ ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล - ทักษะในการ เคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา - กฎ กตกิ า และความมนี า้ ใจ นกั กฬี า - กีฬาและการละเล่นในทอ้ งถิน่ หมายเหตุ ผ้เู รียนเลอื กเข้าร่วม ๑ กิจกรรม รวม ๘
๗๖ ลา กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลที่เกดิ ขนึ้ กบั ผ้เู รยี น โมง) นาฏศิลป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ - เลน่ เครื่องดนตรี ใน ท้องถน่ิ - แสดงบทบาทสมมติ - แสดงนาฏศิลป์ ประเภทรา เตน้ ๐ - จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การ - ผเู้ รียนมที กั ษะในการ เคลือ่ นไหว เคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย - เกมและกฬี า การเล่นเกม กีฬา และ การละเลน่ ในทอ้ งถน่ิ - ผู้เรียนร้กู ฎ กติกา และความมี นา้ ใจนกั กฬี า - ผู้เรียนสามารถทากจิ กรรม รว่ มกับผู้อื่นได้ ๘๐
๗ โครงสรา้ งกิจกรรม กจิ กรรมพัฒนาสุนทรยี ภาพ ระดบั ชน้ั มัธยมศ ท่ี ช่ือหน่วย สาระสาคัญ เวลา การเรยี นรู้ (ชัว่ โม ๑ ศิลปะ - สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ๔๐ ตามจินตนาการ และ ความคดิ สร้างสรรค์ - วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คุณคา่ งานทศั นศลิ ป์ - ถา่ ยทอดความร้สู ึก ความคดิ ต่องานศิลปะอย่าง อสิ ระ ช่ืนชม และ ประยุกต์ ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ๒ ดนตรี-นาฏศิลป์ - ประวัติความเปน็ มา ๔๐ ความสาคญั และ ความสมั พนั ธข์ องดนตรี-
๗๗ มทกั ษะการดารงชวี ติ ศึกษาตอนต้น เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน า กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลทีเ่ กดิ ข้ึนกบั ผ้เู รียน มง) - การวาดภาพ การปัน้ - ผเู้ รียนสือ่ ความคิด การหลอ่ และการ จินตนาการ ความร้สู กึ แกะสลกั ประทับใจ ด้วยงาน - บรรยาย วิเคราะห์ ทศั นศิลป์ วธิ กี ารต่างๆ ได้ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ผลงาน - -ผู้เรียนสรา้ งสรรคง์ าน ทัศนศลิ ปต์ าม ประดิษฐ์จากวัสดุที่อยใู่ น ความรสู้ กึ ทอ้ งถน่ิ และเห็นคณุ ค่าของ - สร้างสรรคง์ าน ผลงานน้นั ประดิษฐจ์ ากวัสดุท่ีอยู่ - ผเู้ รียนมีเจตคติที่ดีต่องาน ในท้องถ่นิ ทัศนศิลป์ - ผเู้ รยี นใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ - ศึกษา ขบั ร้องและ - ผเู้ รยี นตระหนักและและ บรรเลงเพลงพ้ืนบ้าน เหน็ ความสาคัญ ในรูปแบบของการ ความสัมพันธข์ องดนตรี-
ท่ี ชอ่ื หน่วย สาระสาคัญ ๗ การเรยี นรู้ เวลา นาฏศลิ ป์ (ชว่ั โม ๓ กฬี าและ - การแสดงออกทางดนตรี- นันทนาการ ๔๐ นาฏศลิ ป์ อยา่ งสร้างสรรค์ - การถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรี- นาฏศิลป์ อย่างอสิ ระ - การนาดนตรี-นาฏศลิ ปไ์ ป ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั - มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิ ปญั ญาท้องถ่นิ ภูมปิ ัญญา ไทยและสากล - ทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่น เกม และกีฬา - กฎ กตกิ า และความมี นา้ ใจนกั กีฬา - กฬี าและการละเลน่ ใน
๗๘ า กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลทเี่ กดิ ข้ึนกับผเู้ รียน มง) แสดงท้องถิน่ ๔ ภาค นาฏศลิ ป์ - กิจกรรมสร้างสรรค์ งาน - ผู้เรยี นแสดงออกทางดนตรี- ทางดนตรเี ก่ยี วกับการ นาฏศิลป์ อย่างสร้างสรรค์ ดารงชีพของแตล่ ะ ตามแบบวถิ ีชวี ิตในท้องถ่ิน ภมู ิภาค - แสดงบทบาทสมมติ - คดิ ประดิษฐ์ทา่ ราและ สร้างสรรค์ละคร เกยี่ วกบั วถิ ีชีวติ และ วัฒนธรรมในท้องถน่ิ - ออกแบบทักษะออก - ผ้เู รยี นมที กั ษะในการ กาลังกายโดยใชภ้ มู ิ เคล่อื นไหว กิจกรรมทาง ปญั ญาท้องถนิ่ กาย การเลน่ เกมกีฬา และ - ใชว้ ัสดุทอ้ งถิ่นในการ การละเล่นในท้องถนิ่ - ผเู้ รยี นรู้กฎ กตกิ า ความมี ออกกาลงั กาย น้าใจนักกีฬา - เกมและกีฬาพืน้ บ้าน
ที่ ช่ือหน่วย สาระสาคัญ ๗ การเรียนรู้ ท้องถนิ่ เวลา (ชว่ั โม รวม ๔๐ หมายเหตุ ผู้เรียนเลือกเข้ารว่ ม ๑ กิจกรรม
๗๙ า กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลทีเ่ กิดข้ึนกบั ผู้เรียน มง) - ผ้เู รยี นเล่นเกมและกฬี าดว้ ย ในท้องถนิ่ ความปลอดภัย - ผู้เรียนสามารถทากจิ กรรม ร่วมกบั ผู้อืน่ ได้ ๐
๘ โครงสร้างกิจกรรม กิจกรรมพัฒนาสนุ ทรยี ภาพ ระดบั ชน้ั มธั ยมศ ที่ ชื่อหน่วย สาระสาคญั เวลา การเรียนรู้ (ชั่วโมง ๑ ศลิ ปะ - สรา้ งสรรค์งานทศั นศิลป์ ตาม ๔๐ จินตนาการ และความคิด สร้างสรรค์ - วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คุณคา่ งานทศั นศลิ ป์ - ถ่ายทอดความรู้สึกความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอย่างอิสระ ชน่ื ชม และประยกุ ต์ ใช้ใน ชีวิตประจาวัน - ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม - คุณค่างานทศั นศลิ ป์ท่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิ ปญั ญาท้องถนิ่ ภูมปิ ญั ญา
๘๐ มทักษะการดารงชีวิต ศึกษาตอนปลาย เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน ง) กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลท่ีเกดิ ขนึ้ กับผู้เรียน - การวาดภาพ การปนั้ - ผู้เรยี นส่ือความคดิ การหล่อ และการ จนิ ตนาการ ความรูส้ กึ แกะสลกั ประทับใจ ดว้ ยงาน ทศั นศลิ ป์ วิธีการต่างๆ ได้ - บรรยาย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณผ์ ลงาน - ผ้เู รียนสร้างสรรคง์ าน ทศั นศิลปต์ าม ประดิษฐจ์ ากวัสดทุ ่ีอยใู่ น ความรสู้ ึก ท้องถิน่ และเห็นคณุ ค่าของ ผลงานนั้น - สรา้ งสรรคง์ าน ประดิษฐจ์ ากวัสดุที่อยู่ - ผู้เรยี นมีเจตคตทิ ่ีดีต่องาน ในท้องถิ่น ทัศนศิลป์ - สร้างสรรค์งาน - ผู้เรยี นมคี วามเขา้ ใจ ทศั นศิลปท์ ่ีแสดงออก ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ถงึ วฒั นธรรมและภมู ิ ทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ ปัญญาในท้องถนิ่ และวัฒนธรรม - ผู้เรียนใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็
ท่ี ช่ือหน่วย สาระสาคัญ ๘ การเรียนรู้ เวลา ไทยและสากล (ชว่ั โมง ๒ ดนตรี- - ประวตั ิความเป็นมา นาฏศิลป์ ๔๐ ความสาคญั และ ความสมั พันธ์ของดนตรี- นาฏศลิ ป์ - การแสดงออกทางดนตรี- นาฏศลิ ป์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ - การถ่ายทอดความรูส้ กึ ความคดิ ต่อดนตรี-นาฏศิลป์ อยา่ งอิสระ - การนาดนตรี-นาฏศลิ ปไ์ ปใช้ ในชีวติ ประจาวนั - มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาท้องถน่ิ ภมู ปิ ญั ญา ไทยและสากล - ความสัมพันธ์ระหวา่ งดนตรี ประวัติศาสตร์ และ
๘๑ ง) กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลทเี่ กดิ ข้ึนกบั ผเู้ รียน - ศกึ ษา ขบั รอ้ งและ ประโยชน์ บรรเลงเพลงพนื้ บ้านใน - ผ้เู รยี นตระหนกั และและ รูปแบบของการแสดง ท้องถน่ิ ๔ ภาค เหน็ ความสาคัญ ความสมั พันธข์ องดนตรี- - กจิ กรรมสร้างสรรค์ นาฏศิลป์ งานทางดนตรเี ก่ียวกบั - ผเู้ รียนแสดงออกทางดนตรี- การดารงชพี ของแต่ละ นาฏศลิ ป์ อยา่ งสร้างสรรค์ ภูมิภาค ตามแบบวถิ ชี ีวิตในท้องถนิ่ - ผู้เรียนมีความเข้าใจ - แสดงบทบาทสมมติ ความสมั พันธ์ระหวา่ งดนตรี เกี่ยวกับอาชีพใน ประวัติศาสตร์ และ ทอ้ งถน่ิ วัฒนธรรม - คดิ ประดิษฐท์ ่าราและ สร้างสรรค์ละคร เกยี่ วกบั วถิ ชี ีวติ และ วฒั นธรรมในท้องถน่ิ - สร้างสรรค์งานดนตรที ่ี
ท่ี ช่ือหน่วย สาระสาคัญ ๘ การเรียนรู้ เวลา วฒั นธรรม (ช่วั โมง ๓ กฬี าและ - คุณค่าของดนตรที ี่เปน็ มรดก นันทนาการ ๔๐ ทางวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญา ท้องถน่ิ ภูมิปญั ญาไทยและ สากล - ทกั ษะในการ เคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา - กฎ กตกิ า และความมนี ้าใจ นักกีฬา - กีฬาและการละเล่นใน ท้องถ่นิ หมายเหตุ ผู้เรยี นเลอื กเข้าร่วม ๑ กจิ กรรม รวม ๔๐
๘๒ ผลท่เี กิดขึ้นกับผู้เรียน ง) กจิ กรรมการเรียนรู้ แสดงออกถึงวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาใน ทอ้ งถิ่น - ออกแบบทักษะออก - ผู้เรียนมีทกั ษะในการ กาลังกายโดยใชภ้ ูมิ เคล่อื นไหว กิจกรรมทาง ปัญญาท้องถิน่ กาย การเล่นเกม กฬี า และการละเล่นในท้องถ่ิน - ในวัสดุท้องถิ่นใชใ้ นการ ออกกาลังกาย - ผู้เรยี นรกู้ ฎ กตกิ า ความมี น้าใจนักกีฬา - เกมและกีฬาพ้ืนบ้านใน ท้องถน่ิ - ผ้เู รียนเลน่ เกมและกฬี าดว้ ย ความปลอดภัย - ผูเ้ รยี นสามารถทากจิ กรรม ร่วมกบั ผ้อู ่นื ได้
๘๓ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ือง ศิลปะ (ทัศนศลิ ป์) กจิ กรรมพัฒนาสุนทรยี ภาพ ระดับชนั้ ประถมศึกษา เวลาเรยี น ๓๐ ช่วั โมง โรงเรียน................................................ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ ๑. วัตถุประสงค์ เพอื่ ให้ผูเ้ รยี นมสี นุ ทรียภาพด้าน ศิลปะ ตามความถนดั ความสนใจและรจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิด ประโยชน์ ๒. ตวั บ่งชี้ รูจ้ ักใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ และเข้าร่วมกจิ กรรมทางด้านศลิ ปะ ดนตรี กฬี า นนั ทนาการหรือ กจิ กรรมตามความถนัดความสนใจ ๓. สาระสาคัญ สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ๔. ผลทจี่ ะเกดิ กับผเู้ รียน ๑. ผู้เรียนสื่อความคดิ ๒. จินตนาการ ความร้สู กึ ประทับใจ ด้วยงานทศั นศลิ ป์ วธิ กี ารตา่ ง ๆได้ ๓. ผเู้ รยี นสรา้ งสรรคง์ านประดษิ ฐจ์ ากวัสดุทีอ่ ยู่ในท้องถ่ินได้ ๔. ผู้เรียนมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ งานทศั นศลิ ป์ ๕. ผเู้ รียนใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ๕. การวัดและการประเมนิ ผล ๑. เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม ๒. ผลงานหรือชนิ้ งานหรอื ร่องรอยการปฏิบตั ดิ ้านสนุ ทรียภาพ เกณฑ์ การประเมิน ประเมินตามระดบั คณุ ภาพ โดยกาหนดระดับคุณภาพ ดังนี้ ๑ หมายถึง มีผลงานหรือร่องรอยการปฏบิ ัติ ไม่ค่อยเหมาะสม ตอ้ งได้รับการปรับปรงุ แก้ไข เป็นอย่างมาก ๒ หมายถงึ มผี ลงานหรือร่องรอยการปฏบิ ตั ิ เหมาะสม เรียบรอ้ ย แตย่ ังตอ้ งไดร้ บั การปรบั ปรุง แก้ไขในบางประเดน็ ๓ หมายถงึ มผี ลงานหรือรอ่ งรอยการปฏิบัติ เหมาะสม เรียบรอ้ ย สามารถเป็นแบบอย่างแก่ บุคคลอืน่ ได้ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. การวาดภาพ การป้ัน การหลอ่ และการแกะสลัก ๒. บรรยายผลงานทัศนศิลป์ตามความรู้สึก ๓. สร้างสรรคง์ านประดษิ ฐจ์ ากวัสดุทีอ่ ย่ใู นทอ้ งถิ่น
๘๔ ๗. ส่อื / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. หอ้ งสมุด ๒. อินเตอรเ์ น็ต
๘๕ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง ดนตรี – นาฏศิลป์ กิจกรรมพัฒนาสุนทรยี ภาพ ระดบั ช้ันประถมศึกษา เวลาเรียน ๓๐ ชั่วโมง โรงเรียน................................................ สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ ๑. วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ประวัตคิ วามเป็นมา ความสาคัญ และความสมั พนั ธ์ของ ดนตรี - นาฏศลิ ป์ ๒. เพ่ือให้ผู้เรยี นเห็นคณุ ค่าของดนตรี - นาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาของไทยและสากล ๓. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นมีทักษะในการขับรอ้ ง และ เลน่ ดนตรใี นท้องถิ่นได้ ๔. เพ่ือให้ผ้เู รียนใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ ทง้ั ต่อตนเองและผอู้ ่ืน ๒. ตวั บง่ ช้ี รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ และเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านศลิ ปะ ดนตรี กีฬา นนั ทนาการหรือ กิจกรรมตามความถนัดความสนใจ ๓. สาระสาคญั ๑. สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์ ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ ๒. วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคา่ งานทัศนศิลป์ ๓. ถ่ายทอดความรสู้ ึกความคิดตอ่ งานศลิ ปะอย่างอสิ ระ ชนื่ ชม และประยุกต์ ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ๔. ผลท่ีจะเกดิ กับผู้เรยี น ๑. ผู้เรยี นตระหนกั และและเหน็ ความสาคัญความสมั พนั ธ์ของดนตรี-นาฏศลิ ป์ ๒. ผู้เรยี นแสดงออกทางดนตรี-นาฏศลิ ป์ อย่างสรา้ งสรรค์ ตามแบบวถิ ชี ีวติ ในท้องถนิ่ ๓. ผู้เรียนมีความเข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งดนตรปี ระวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม ๕. การวดั และการประเมนิ ผล ๑. เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม ๒. ผลงานหรอื ชิน้ งานหรอื ร่องรอยการปฏิบตั ดิ ้านสนุ ทรยี ภาพ เกณฑ์ การประเมิน ประเมินตามระดบั คณุ ภาพ โดยกาหนดระดับคุณภาพ ดงั น้ี ๑ หมายถงึ มีผลงานหรือรอ่ งรอยการปฏบิ ัติ ไมค่ ่อยเหมาะสม ต้องได้รบั การปรบั ปรุง แก้ไขเป็น อย่างมาก ๒ หมายถึง มีผลงานหรือร่องรอยการปฏบิ ตั ิ เหมาะสม เรียบร้อย แต่ยงั ต้องไดร้ บั การปรับปรงุ แกไ้ ขในบางประเดน็ ๓ หมายถึง มีผลงานหรือร่องรอยการปฏิบตั ิ เหมาะสม เรียบรอ้ ย สามารถเป็นแบบอย่างแก่ บุคคลอ่นื ได้ ๖. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ประดิษฐ์วัสดธุ รรมชาตใิ หเ้ กดิ เสยี ง
๘๖ ๒. ขับรอ้ งประกอบเสียงเพลงในทอ้ งถนิ่ ๓. เลน่ เครือ่ งดนตรี ในทอ้ งถิ่น ๔. แสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับอาชีพในท้องถนิ่ ๕. แสดงนาฏศลิ ป์ ประเภทรา เตน้ ๗. ส่ือ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑. วีดีทศั น์ ๒. เคร่ืองดนตรี ๓. เพลง ๔. วทิ ยากรท้องถนิ่ ๕. แหล่งเรียนร้ใู นชมุ ชน
๘๗ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรอื่ ง กีฬาและนันทนาการ กจิ กรรมพฒั นาสนุ ทรยี ภาพ ระดับชัน้ ประถมศึกษา เวลาเรียน ๒๐ ชัว่ โมง โรงเรียน................................................ สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ ๑. วัตถุประสงค์ ๑. ผเู้ รียนมีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหวกิจกรรมทางกาย การเล่นเกม กีฬา และการละเล่นในท้องถน่ิ ๒. ผู้เรยี นมคี วามรู้ กฎ กติกา มารยาท และการมนี ้าใจนกั กีฬา และสามารถร่วมกจิ กรรมกบั ผูอ้ ่นื ได้ ๒. ตวั บ่งช้ี รจู้ ักใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ และเข้ารว่ มกิจกรรมทางด้านศลิ ปะ ดนตรี กฬี า นนั ทนาการหรอื กิจกรรมตามความถนัดความสนใจ ๓. สาระสาคญั ๑. ทกั ษะในการ เคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ๒. กฎ กติกา และความมีนา้ ใจนกั กีฬา ๓. กฬี าและการละเล่นในท้องถิ่น ๔. ผลท่ีจะเกดิ กับผูเ้ รยี น ๑. ผเู้ รยี นมที ักษะในการ เคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม กีฬา และการละเล่นในท้องถ่ิน ๒. ผูเ้ รียนรูก้ ฎ กตกิ า และความมนี ้าใจนักกีฬา ๓. ผเู้ รียนสามารถทากิจกรรมร่วมกบั ผู้อนื่ ได้ ๕. การวดั และการประเมนิ ผล ๑. เวลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒. ผลงานหรือชน้ิ งานหรือร่องรอยการปฏิบตั ิด้านสุนทรียภาพ เกณฑ์ การประเมนิ ประเมนิ ตามระดบั คณุ ภาพ โดยกาหนดระดับคณุ ภาพ ดงั น้ี ๑ หมายถึง มีผลงานหรอื ร่องรอยการปฏบิ ัติ ไมค่ ่อยเหมาะสม ตอ้ งได้รับการปรบั ปรงุ แก้ไขเปน็ อยา่ งมาก ๒ หมายถึง มีผลงานหรือรอ่ งรอยการปฏิบัติ เหมาะสม เรียบรอ้ ย แตย่ ังต้องไดร้ บั การปรับปรงุ แก้ไขในบางประเด็น ๓ หมายถงึ มีผลงานหรอื ร่องรอยการปฏบิ ตั ิ เหมาะสม เรยี บร้อย สามารถเป็นแบบอย่างแก่ บุคคลอืน่ ได้ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. จัดกิจกรรมสง่ เสริมการเคล่ือนไหว ๒. จัดกิจกรรมการเล่นเกมและกีฬา ๗. สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้
๘๘ ๑. อปุ กรณ์ ๒. เทป / แผน่ เพลง
๘๙ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ ง ศิลปะ (ทัศนศลิ ป์) กจิ กรรมพฒั นาสุนทรียภาพ ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น เวลาเรยี น ๑๕ ช่ัวโมง โรงเรียน................................................ สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ ๑. วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนมีสุนทรยี ภาพด้าน ศลิ ปะ ตามความถนดั ความสนใจและรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ ๒. ตวั บง่ ชี้ รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ และวางแผนพัฒนาตนเองในดา้ นศลิ ปะ ดนตรี กฬี า นันทนาการ หรอื กจิ กรรมตามความถนัดความสนใจ ๓. สาระสาคญั ๑. สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ๒. วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คณุ คา่ งานทัศนศิลป์ ๓. ถา่ ยทอดความรูส้ ึกความคิดตอ่ งานศิลปะอย่างอิสระ ๔. ผลที่จะเกิดกับผเู้ รียน ๑.ผเู้ รยี นส่อื ความคดิ จินตนาการ ความรู้สึกประทับใจ ดว้ ยงานทศั นศิลป์ วธิ กี ารตา่ ง ๆ ได้ ๒. ผ้เู รียนสร้างสรรค์งานประดิษฐจ์ ากวัสดทุ อี่ ยู่ในท้องถน่ิ และเห็นคุณค่าของผลงานนน้ั ๓. ผ้เู รยี นมเี จตคตทิ ่ดี ีตอ่ งานทศั นศิลป์ ๔. ผเู้ รยี นใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ๕. การวัดและการประเมินผล ๑. เวลาการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒. ผลงานหรอื ชนิ้ งานหรอื ร่องรอยการปฏบิ ตั ิด้านสุนทรียภาพ เกณฑ์ การประเมนิ ประเมนิ ตามระดับคณุ ภาพ โดยกาหนดระดับคณุ ภาพ ดังน้ี ๑ หมายถึง มผี ลงานหรือร่องรอยการปฏิบัติ ไมค่ ่อยเหมาะสม ต้องได้รับการปรบั ปรุง แก้ไขเปน็ อยา่ งมาก ๒ หมายถึง มผี ลงานหรอื รอ่ งรอยการปฏบิ ตั ิ เหมาะสม เรียบรอ้ ย แต่ยงั ต้องไดร้ บั การปรับปรุง แกไ้ ขในบางประเดน็ ๓ หมายถึง มีผลงานหรอื รอ่ งรอยการปฏิบตั ิ เหมาะสม เรียบรอ้ ย สามารถเป็นแบบอย่างแก่ บคุ คลอ่นื ได้ ๖. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. การวาดภาพ การป้ัน การหลอ่ และการแกะสลัก ๒. บรรยาย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ผลงานทศั นศลิ ปต์ ามความรู้สึก ๓. สร้างสรรค์งานประดษิ ฐจ์ ากวสั ดทุ อี่ ยใู่ นท้องถิ่น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148