กโครงการอนรุ ักษ์พันธุกรรมพชื อันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น รายงานผลการดาเนนิ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ประจาปกี ารศกึ ษา 2560 สนองพระราชดารโิ ดย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเคง่ิ อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชียงใหม่ วนั ท่ี 14 มนี าคม พ.ศ. 2560
กโครงการอนรุ ักษ์พนั ธกุ รรมพชื อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน รายงานผลการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ประจาปกี ารศกึ ษา 2560 สนองพระราชดาริโดย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเค่ิง อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ วนั ท่ี 14 มนี าคม พ.ศ. 2560
ก กิตติกรรมประกาศ ขอบคุณโครงการอนรุ ักษพ์ ันธกุ รรมพชื อันเน่ืองมาจากพระราชดาริสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ท่ไี ด้ใหแ้ นวทางในการจัดการเรียนรู้ บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ตลอดจนทปี่ รกึ ษาประสานงาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น รองผอู้ านวยการโครงการอนุรักษพ์ นั ธุกรรมพืชฯเจา้ หน้าทโ่ี ครงการอนุรกั ษ์พันธกุ รรมพชื ฯ ขอบคณุ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ท่ไี ดส้ นบั สนุนงบประมาณ วสั ดุอปุ กรณ์ การอานวยความสะดวก และขอ้ เสนอแนะทเี่ ป็นประโยชน์ ตลอดจนขอขอบคุณคณะกรรมการโรงเรยี น คณะครู นักเรียน บคุ ลากรสนับสนนุ ของโรงเรียน ผูป้ กครอง ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ รวมถงึ ผทู้ ม่ี ีสว่ นเกีย่ วข้องทกุ ทา่ น ทีเ่ ป็นกาลังสาคัญ ในการดาเนนิ งานจนทาให้ผลการดาเนนิ งานของโรงเรียนสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี คณะกรรมการดาเนนิ งาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
ขก คานา โครงการอนรุ กั ษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เน่อื งมาจากพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ ารี ได้ให้แนวทางในการจัดการเรียนรู้ บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน การบูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนครั้งนี้ได้จัดทาข้ึนเพ่ือสร้างความตระหนักให้กับเยาวชน เห็นคณุ ร้คู า่ ของพชื พรรณ โดยในรายงานผลการศึกษาฉบับนี้ไดก้ ล่าวถงึ การดาเนินงานบรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ด้านการบริหารและการจัดการ ด้านการดาเนินงาน และด้านผลการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ จะดาเนนิ การบูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ในปีการศึกษาต่อไปให้มากยิง่ ขน้ึ และจะดาเนินการอยา่ งตอ่ เนื่อง คณะกรรมการดาเนนิ งาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
สารบญั คก กติ ตกิ รรมประกาศ หน้า คานา ก สารบัญ ข สว่ นท่ี ๑ ขอ้ มูลทวั่ ไปของสถานศึกษา ค สว่ นที่ ๒ สรุปผลความกา้ วหนา้ ในการดาเนนิ งาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในโครงการ ๑ ๑๑-๓๑ อนุรักษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริฯ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๙ .๑ โรงเรียน และชมุ ชนมีส่วนรว่ ม ในงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ๓๒-๓๔ ๓๕-๙๓ ๑.๒ แต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินงาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๑.๓ วางแผนการบริหารและแผนการจัดการเรียนรู้ ๑.๔ ดาเนนิ งานตามแผน การประสานงานของคณะกรรมการดาเนนิ งาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น หนว่ ยงานตา่ งๆ ๑.๕ สรุปและประเมนิ ผลการดาเนินงานส่วนท่ี ๓ การวเิ คราะห์ ปัญหา – อุปสรรคในการดาเนินงานภาคผนวก
1 ส่วนที่ ๑ ข้อมูลทวั่ ไปของสถานศึกษา ---------------ส่วนที่ ๑ ขอ้ มูลพนื้ ฐานของโรงเรียน๑. ข้อมลู ท่วั ไป โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เลขท่ี ๙๙ หมู่ ๑๐ ตาบลช่างเค่งิ อาเภอแมแ่ จม่จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๒๗๐ โทรศัพท์ ๐-๕๓๒๖-๘๖๔๒ โทรสาร ๐-๕๓๒๖-๘๖๔๒E-mail address : [email protected] Website : www.rpk31.ac.thสงั กัด : สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ และ สพป. เชียงใหม่ เขต ๖ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้พืน้ ฐานกระทรวงศกึ ษาธิการเปดิ สอนตงั้ แตร่ ะดับ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ ถงึ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖รบั นกั เรยี นในเขตพ้นื ท่ีบรกิ าร ๖ อาเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ไดแ้ ก่ อาเภอแมแ่ จม่ อาเภอจอมทอง อาเภอฮอดอาเภออมกอ๋ ย อาเภอดอยเตา่ และอาเภอดอยหล่อประวัตแิ ละความเป็นมาของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เน่ืองจากสภาพพื้นที่อาเภอแม่แจ่ม เป็นภูเขาสลับซับซ้อนทุรกันดาร มีเนื้อที่ ๓,๓๖๑.๑๕๑ตารางกิโลเมตร มีประชากรจานวน ๖๘,๑๘๕ คน มีหย่อมบ้าน ๒๑๕ หย่อมบ้าน ระยะทางห่างจากตัวจังหวัดเชยี งใหม่ ประมาณ ๑๑๗ กิโลเมตร (เส้นทางสายดอยอินทนนท์) และประมาณ ๑๕๖ กิโลเมตร (เส้นทางสายฮอด) ประชากรสว่ นใหญ่เป็นชาวไทยภูเขา เผ่ากะเหรี่ยง ม้ง ล๊ัว และ ลีซอ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทานา ทาสวน ปลูกข้าวไร่และรับจ้าง การคมนาคมไม่สะดวก บางหย่อมบ้านห่างจากหมู่บ้านหลักมาก ต้องเดนิ ทางด้วยเท้าใช้เวลาประมาณ ๒-๓ วัน เนื่องจากหย่อมบ้านอยู่อย่างกระจัดกระจายห่างไกลกัน ทาให้เป็นอุปสรรคในการจัดการศกึ ษาอย่างทว่ั ถึง เดก็ ขาดโอกาสทางการศกึ ษา (ภาคบงั คบั ) ถึง ๑๔๑ หย่อมบ้าน ในช่วงอายุระหวา่ ง ๖-๑๓ ปี จานวน ๓,๗๐๙ คน จากสภาพป๎ญหาและอุปสรรคในพ้ืนท่ีอาเภอแม่แจ่ม ทาให้ไม่สามารถจัดการศึกษาได้อย่างท่ัวถึง มีเด็กอีกจานวนมากที่ไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ในพ้ืนท่ีและพยายามดิ้นรนหาทางไปเรียนหนังสือท่ีอื่น ทาให้เกิดป๎ญหาถกู หลอกลวง ถกู กดข่ใี ชแ้ รงงานเด็ก เป็นเด็กเรร่ ่อน เด็กยากจนขาดผู้อปุ การะ จึงควรให้ความสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กที่ประสบป๎ญหาดังกล่าว ทางคณะกรรมการทางการศึกษา การศาสนาและการวัฒนาธรรม(ศศว.อ.) อาเภอแมแ่ จม่ โดยสานกั งานศึกษาธิการอาเภอแม่แจ่ม ได้เสนอโครงการจัดตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ประเภทประจาข้ึน และได้เสนอโครงการดังกล่าวไปยังกองราชเลขานุการ ในองค์สมเด็จพระบรมราชนิ ีนาถ (ฝุายการศกึ ษา) ได้รับคาแนะนาให้เสนอเรอื่ งขอเปิดโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โดยผ่านทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ในวันท่ี ๕ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ รองเลขาธิการพระราชวัง นาโดยนายขวัญแก้ว วัชโรทัย และคณะได้เดินทางมาสารวจพ้ืนที่ ที่จะจัดต้ังโรงเรียน ณ บ้านปุาเทอ้ ผลการสารวจปรากฏวา่ สถานที่ไม่เหมาะสม เพราะขาดแหล่งน้า จงึ ได้เสนอให้ทางอาเภอจัดหาสถานท่ีต้ังใหมใ่ น วันท่ี ๒๐ เดอื นมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ นายขวญั แก้ว วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชา
2นุเคราะห์ฯ นายโชดก วีรธรรมพูลสวัสด์ิ เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้เดินทางมาตรวจดูสภาพพนื้ ที่ ทจ่ี ะกอ่ สร้างโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ตามพระราชดาริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีและนายอาเภอแมแ่ จ่ม (นายขวัญชัย วงศน์ ติ กิ ร) ซึง่ ไดร้ บั มอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ใหบ้ รรยายเกยี่ วกบั ข้อมลู ของสถานที่ ทจ่ี ะใชก้ อ่ สร้าง ๔ แหง่ และผลจากการสารวจไดก้ าหนดทตี่ ัง้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่บ้านแม่ปาน หมู่ที่ ๑๐ ตาบลช่างเค่ิง อาเภอแม่แจ่มจงั หวดั เชียงใหม่ มพี ้นื ทท่ี ง้ั หมด จานวน ๒๒๖ ไร่ อยู่ห่างจากท่ีว่าการอาเภอแม่แจ่มประมาณ ๘ กิโลเมตรได้มีพิธีวางศลิ าฤกษ์โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ ในวนั พุธท่ี ๑๕ เดือนตุลาคมพ.ศ.๒๕๔๐ เวลา ๑๐.๔๙ น. โดยนายขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปน็ ประธานในพิธี รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ นายชุมพล ศลิ ปอาชา ได้ลงนามในประกาศจัดต้ังโรงเรียน เม่ือวันท่ี ๓๐ เดอื นกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเพื่อรับเด็กด้อยโอกาสท่ีมีความเป็นอยู่ด้อยกว่าเด็กปกติทั่วไป ได้แก่เด็กยากจนมากเป็นพิเศษ (ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาทต่อปี) เด็กกาพรา้ เดก็ ถูกทอดทิ้ง เดก็ ในชนกลุ่มน้อย เด็กถูกทารา้ ยทารณุ เด็กที่ไดร้ บั ผลกระทบจากโรคเอดส์ เด็กเร่ร่อนแรงงานเดก็ เดก็ ในสถานพินิจและค้มุ ครองเดก็ และเยาวชนฯลฯ ในเขตพื้นท่ีอาเภอแม่แจ่ม อาเภอฮอด อาเภอจอมทอง อาเภอดอยเต่า อาเภออมก๋อยและอาเภอดอยหล่อ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มรับนักเรียนในปีการศึกษา ๒๕๔๑ ในช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ จานวน ๗๐ คน โดยฝากเรียนที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๖ อาเภอปุาซาง จังหวัดลาพูนและชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จานวน ๘๐ คน ฝากเรียนท่ีโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในปีการศึกษา ๒๕๕๔ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ สังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ดาเนนิ งานภายใตก้ ารประสานงานระหว่างมลู นธิ ริ าชประชานุเคราะหใ์ นพระบรมราชูปถมั ภ์กบั สานักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดรับนักเรยี นด้อยโอกาสทางการศึกษา โดยจัดการเรียนการสอนในระดับการศกึ ษาภาคบังคับ และการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน มหี ้องเรยี นตามแผนการรบั นกั เรียนคือ ๑-๑-๑-๑-๑-๑/๓-๓-๓/๓-๓-๓ รวมจานวน ๒๔ ห้องเรยี น มนี กั เรียนทัง้ สน้ิ จานวน ๙๖๗ คน จานวนอาคารเรียนในป๎จจุบัน ประกอบด้วยอาคารเรียนแบบ ๑๐๔ ล หลังคาทรงไทย จานวน ๒หลัง ๘ ห้องเรยี น อาคารเรียน ๓๒๔ ล หลงั คาทรงไทย จานวน ๑ หลงั ๒๔ ห้องเรียนและอาคารเรียน ๒๑๖ ลจานวน ๑ หลัง ๑๖ ห้องเรียน รวมจานวนอาคารเรียนท้ังหมด ๔ หลัง ๔๘ ห้องเรียน ซ่ึงจัดเป็นห้องเรียนจานวน ๒๔ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ๔ ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ๓ ห้องหอ้ งปฏบิ ตั ิการทางภาษา ๒ หอ้ ง ห้องปฏิบัติการผ้าและการตัดเย็บ ๑ ห้อง ห้องดนตรี ๒ ห้อง ห้องศิลปศึกษา๑ ห้อง ห้องนาฏศลิ ป์ ๑ หอ้ ง ห้องจริยศึกษา ๑ ห้องและห้องศนู ยก์ ารเรียนรตู้ ามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ต่างๆจานวน ๘ ห้อง หอ้ งแนะแนวและห้องให้คาปรกึ ษาจานวน ๑ ห้อง
3๒ ขอ้ มูลผบู้ ริหาร ๑. ผ้อู านวยการโรงเรียน นางวิลาวัลย์ ปาลี วุฒกิ ารศึกษาสูงสดุ ศึกษาศาสตรม์ หาบัณฑติ วชิ าเอกการบรหิ ารการศกึ ษา โทร. 087 180 5595 ๒. รองผอู้ านวยการโรงเรียน ๑ คน ๒.๑ นายวเิ ศษ ฟองตา วฒุ ิการศกึ ษาสูงสุด ศึกษาศาสตรม์ หาบัณฑิต วิชาเอกการบรหิ ารการศึกษา โทร. 089 7800193๓. ปณิธาน ปรัชญา สุภาษิต คาขวญั อัตลกั ษณ์ สีประจาโรงเรียน และแผนท่เี ดินทางสโู่ รงเรยี น ปณิธาน เปน็ คนดี มีความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ปรชั ญา ใฝุรู้ สู้งาน สืบสานแนวทางตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สุภาษติ อตตฺ าหิ อตฺตโน นาโถ หมายถึง ตนแลเปน็ ท่ีพงึ่ แหง่ ตน คาขวัญ คณุ ธรรมดี มีความรู้ สูว่ ิถตี ามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง อัตลักษณ์ ย้ิม ไหว้ ทกั ทาย อ่อนน้อมถ่อมตน เอกลักษณ์ สะอาด ร่มรน่ื อนุรกั ษ์ส่งิ แวดลอ้ ม หลากหลายชนเผ่า และแหลง่ เรียนร้ตู ามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
4 สปี ระจาโรงเรยี นสีนา้ เงิน – เหลือง สีน้าเงิน หมายถึง สถาบันพระมหากษัตริย์โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จัดต้ังข้ึนตามพระราชดาริของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว เพื่อจดั การศึกษาสาหรับเดก็ ด้อยโอกาส สเี หลอื ง หมายถงึ สีแห่งแสงสว่างทางป๎ญญา และเป็นสีแห่งวันพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยูห่ วั โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลกั คณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ตามแนวพระราชดาริ มาเป็นแนวทางการจัดการเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาทางป๎ญญาแก่นักเรยี น
๕
6๔. ขอ้ มูลจานวนนกั เรียน ระดับชนั้ ปกี ารศึกษา ๒๕๕๘ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ประถมศึกษา ๑๖๐ ๑๓๐ ๑๑๑มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ๓๗๒ ๓๖๒ ๓๕๗มธั ยมศึกษาตอนปลาย ๓๙๒ ๓๗๖ ๓๘๕ ๙๒๔ ๘๖๘ ๘๕๓ รวมทงั้ หมด๕. ข้อมลู การเสด็จพระราชดาเนนิ ณ โรงเรียนแห่งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดาเนิน เมือ่ วันท่ี ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔
7สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดาเนนิ เมอื่ วนั ท่ี ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
8๖. ข้อมลู ด้านอาคารสถานที่ ห้องปฏิบตั กิ ารต่างๆ จานวนหน่วย ๖.๑ ขอ้ มลู ด้านอาคารเรียน อาคารประกอบ และสง่ิ กอ่ สรา้ งอื่น ๑ ท่ี ประเภท/แบบ ๑ ๑ อาคารเรยี น ๑ ๑.๑ อาคารเรียนแบบ ๑๐๔ ล / ๔๑ (หลังคาทรงไทย) ๑.๒ อาคารเรยี นแบบ ๑๐๔ ล / ๔๑ (หลงั คาทรงไทย) ๒ ๑.๓ อาคารเรยี นแบบ ๓๒๔/๔๑ (หลงั คาทรงไทย) ๒ ๒ อาคารฝึกงาน ๑ ๒.๑ อาคารฝกึ งานแบบ ๑๐๒ / ๒๗ ๒.๒ อาคารฝึกงานแบบ ๑๐๒ / ๒๗ ๑ ๒.๓ โรงนา้ ดืม่ พร้อมอุปกรณผ์ ลิตนา้ ด่มื ๓ อาคารโรงอาหารหอประชมุ ๑ ๓.๑ อาคารโรงอาหารหอประชมุ แบบ ๑๐๑ ล / ๒๗ (พเิ ศษ) ๙ ๔ อาคารประกอบอ่นื ๆ ๔ ๔.๑ โรงหุงต้ม ๑๐ ๔.๒ หอนอนมาตรฐาน ๒๖ พรอ้ มครุภัณฑ์ (๑ หลัง =๔๐ที)่ ๑๓ ๔.๓ หอนอนมาตรฐาน ๒๖ พร้อมครุภณั ฑ์ (๒ หลัง =๘๐ท่)ี ๑ ๔.๔ โรงอาบน้านกั เรยี น ๑ ๔.๕ ห้องน้า – หอ้ งส้วม (หลงั ) ๑ ๔.๖ อาคารพยาบาล ๓ ๔.๗ อาคารพลศกึ ษา ๔.๘ บ้านพักครู แบบ ๒๐๗ บา้ นพกั ผู้บรหิ าร ๓ ๔.๙บ้านพักครู แบบ ๒๐๓/๓๒ (๑ หลงั =๓ หน่วย) ๑ ๔.๑๐ บา้ นพักครู แบบแฟลต 8 หนว่ ย ๑ ๔.๑๑ บา้ นพกั ภารโรง ๑ ๔.๑๒ โรงเล้ยี งไกเ่ น้ือ ๑ ๔.๑๓ บ้านพักภารโรงแบบแฟลต 12 หน่วย ๔.๑๔ โรงเกบ็ รถยนต์ ๑ ๔.๑๕ อาคารเรอื นเพาะชา ๑ ๕ สง่ิ ก่อสรา้ งอนื่ ๑ ๕.๑ เสาธง ๑ ๕.๒ สนามบาสเกตบอล ๑ ๕.๓ บอ่ พักนา้ ขนาด 60 ลบ.ม. ๑ ๕.๔ โรงยิมเนเซี่ยม ๕.๕ ปอู มยาม ๕.๖ สนามฟุตซอลพรอ้ มโครงหลังคา
ท่ี ประเภท/แบบ 9 ๕.๗ สนามฟตุ บอลพรอ้ มลู่วงิ่ ๕.๘ ถงั เก็บน้าใต้ดิน จานวนหนว่ ย ๑ ๑๖.๒ หอ้ งปฏิบตั กิ าร๑) คอมพิวเตอร์ มจี านวนท้ังหมด ๑๔๕ เครอื่ ง ใชเ้ พ่อื การเรียนการสอน ๑๐๒ เครอื่ ง ใชส้ บื ค้นข้อมลู ทางอนิ เตอร์เนต็ ได้ ๑๐๕ เครื่อง ใช้ในงานบริหารจดั การ ๔๓ เครอื่ ง๒) หอ้ งทีจ่ ัดไวใ้ ช้ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเฉพาะ ไดแ้ ก่- หอ้ งปฏบิ ตั ิการวทิ ยาศาสตร์ ๓ หอ้ ง- หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ ๔ หอ้ ง- ห้องปฏิบัติการทางภาษา ๒ ห้อง- ห้องผา้ และการตัดเย็บ ๑ หอ้ ง- ห้องดนตรี ๒ หอ้ ง- ห้องทัศนศิลป์ ๑ ห้อง - หอ้ งนาฎศลิ ป์ ๑ หอ้ ง - หอ้ งจริยศกึ ษา ๑ ห้อง - หอ้ งเรยี นร่วม ๑ หอ้ ง - ห้องสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ๑ หอ้ ง - หอ้ งแนะแนว ๑ ห้อง - หอ้ งจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ ส.อ.ร. ๑ หอ้ ง - ห้องธนาคารโรงเรียน ๑ ห้อง - ห้องสหกรณ์โรงเรยี น ๑ ห้อง - หอ้ งสภานกั เรียน ๑ หอ้ ง - อาคารคหกรรม ๑ หลัง โรงฝึกงานช่างอตุ สาหกรรม / คหกรรม ๑ หลงั ๒ หน่วย - หอ้ งนวด ๑ ห้อง - หอ้ งตัดผมชาย ๑ หอ้ ง - ห้องเสรมิ สวยหญงิ ๑ หอ้ ง
10หอ้ งเรยี น ICT ได้แก่ - ศูนย์การเรียนรู้ ICT วิชาวิทยาศาสตร์ - ศูนยก์ ารเรียนรู้ ICT วชิ าคณิตศาสตร์ - ศนู ย์การเรียนรู้ ICT วิชาสงั คมศึกษา - ศนู ย์การเรียนรู้ ICT วิชาภาษาไทย - ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ICT วิชาภาษาตา่ งประเทศ - ศนู ยก์ ารเรียนรู้ ICT กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน๓) พน้ื ท่ปี ฏบิ ตั ิกจิ กรรม / นนั ทนาการ ไดแ้ ก่ สนามกฬี า ๑๐๐ ปสี มเดจ็ ย่า สวนสขุ ภาพสนามเปตอง สนามฟตุ ซอล อาคารหอประชุม
11 สว่ นท่ี ๒ สรุปผลความก้าวหน้าในการดาเนนิ งาน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นในโครงการอนุรักษ์ พันธกุ รรมพืชอนั เน่ืองมาจากพระราชดารฯิ ประจาปี ๒๕๖๐1. ปีท่ีเขา้ เป็นสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น พ.ศ. ๒๕๔๖ รหัสสมาชิก ๗-๕๐๒๗๐-๐๐๑2. ชอื่ ผ้รู ับผิดชอบงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น นางสาวณัฐธนญั า บญุ ถึง ตาแหนง่ ครชู านาญการ นาย เสรี แซ่จาง ตาแหน่งพนักงานราชการ นางสาวสดุ าภรณ์ สืบบุญเป่ยี ม ตาแหนง่ พนักงานราชการ นางอมลศริ ิ คาฟู ตาแหน่งพนกั งานราชการ นางสาวสริ ิธรณ์ ดวงสิริ ตาแหนง่ พนักงานราชการ3. ระดบั ชนั้ ของนักเรียนทเ่ี ข้าร่วมกจิ กรรมในโครงการชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ – มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖4. ปีที่ไดร้ บั พระราชทานเกยี รติบัตรแหง่ ความมุ่งม่ัน -5. ปีท่ีไดร้ บั ปูายสนองพระราชดารสิ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน พ.ศ. ๒๕๕๒6. การดาเนินงานตามองคป์ ระกอบของสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น (เรมิ่ โครงการ- ปีการศกึ ษา ๒๕๖๐)
12 ผลการปฏิบัติงานด้านการบรหิ ารจดั การ๑.๑ โรงเรยี นและชุมชนมสี ่วนร่วมในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๑.๑.๑ โรงเรียนและชมุ ชนมสี ่วนรว่ มในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โดยมีการจัดวาระประชมุเกีย่ วกบั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในการประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐานของโรงเรยี น จานวน ๓ครงั้ ดงั น้ี ตารางสรปุ การประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ที่มกี ารรายงานเก่ยี วกบั การดาเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นปี ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐จานวนครง้ั ๒ ๒ ๒๑.๑.๒ มีการประชุมคณะกรรมการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ดงั น้ีตารางสรปุ การประชุมคณะกรรมการดาเนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นปี ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐จานวนครัง้ ๒ ๒ ๒๑.๑.๓ มีการประชุมคณะครูในโรงเรียนเพอื่ ช้ีแจงการดาเนินงานงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนตารางสรปุ การประชุมคณะครเู พ่ือช้ีแจงดาเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นปี ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐จานวนครงั้ ๒ ๒ ๒๑.๒ แต่งตัง้ คณะกรรมการดาเนินงาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรยี นมีคาสง่ั แต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ที่ ๒๖๔/ ๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๑๔กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐
13๑.๓ วางแผนการบรหิ ารและแผนการจัดการเรียนรู้ ๑.๓.๑ แผนการดาเนนิ งานด้านการบรหิ าร มีการเขยี นโครงการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นรวมกับ แผนงานประจาปีของโรงเรียน แสดงรายละเอียดงาน ระยะเวลา งบประมาณ ผรู้ ับผิดชอบ ๑.๓.๒ มีการจัดการเรยี นรู้โดยใช้สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นบรู ณาการในการเรยี นรู้ - คณะครไู ดน้ าสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นมาบรู ณาการในการจดั การเรียนการสอนจานวน ๖๔ คน มแี ผนการจัดการเรียนรู้ จานวน ๖๔ แผน แยกตามกลุ่มสาระ ๘ กลุม่ สาระ - มีการจดั ทาแผนการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ ในทุกชว่ งชนั้ (ช่วงชั้นที่ ๑ – ๔) ตามสาระ การเรยี นรู้๑.๔ ดาเนนิ งานตามแผน ๑.๔.๑ มกี ารจัดทาเอกสารสรปุ ค่าใช้จา่ ยในการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ลงนามชอ่ืผบู้ รหิ าร หัวหน้างาน แบบสรปุ งบประมาณในการดาเนนิ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๐ประเภทงบประมาณ จานวนเงิน (บาท) เบกิ จา่ ยจรงิ (บาท) หมายเหตุงบดาเนินงาน ๔๐,๐๐๐ ๓๗,๖๐๕ คงเหลือ ๒,๓๙๕ บาทงบอน่ื ๆ -- -รวมงบประมาณ ๔๐,๐๐๐ ๓๗,๖๐๕ คงเหลอื ๒,๓๙๕ บาท๑.๕ สรปุ และประเมนิ ผลการดาเนนิ งานตามองคป์ ระกอบของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๐ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ไดจ้ ัดกิจกรรมการเรียนร้แู บบบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โดยนักเรยี นทกุ ระดบั ชนั้ มีการปฏิบตั งิ านตามองคป์ ระกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
14องคป์ ระกอบท่ี ๑ การจดั ทาปา้ ยชอื่ พรรณไม้ ๑.๑ การกาหนดพนื้ ที่และการสารวจพรรณไม้กาหนดพ้นื ทศ่ี กึ ษา จานวน ๘ พน้ื ท่ศี กึ ษา ตามโซนโดยคละหอ้ งเรียน นกั เรยี นระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ –มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ๑.๒ สารวจพรรณไม้ในพ้ืนทศ่ี กึ ษา นกั เรยี นทกุ ห้องเรยี นทาการสารวจพรรณไม้ในพนื้ ท่ีศกึ ษา
15 ๑.๓ ทาและติดปูายรหสั ต้นมปี าู ยแสดงรหัสต้นไม้จานวน ๑,๕๐๐ ปูาย ๑.๔ ต้งั ชือ่ สอบถามชื่อ ศึกษาขอ้ มูลพื้นบา้ น (ก.7-003 หนา้ 1)ตั้งช่ือ สอบถามชื่อขอ้ มูลพ้ืนบา้ น จานวน ๒๐๗ เล่ม
16 ๑.๕ ทาผังแสดงตาแหน่งพรรณไม้มีผังแสดงตาแหนง่ พรรณไมจ้ านวน ๘ ผงั๑.๖ ศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ จานวน ๒๐๗ เล่ม
17 ๑.๗ วาดภาพ หรอื บันทกึ ภาพทางพฤกษศาสตร์วาดภาพทางพฤกษศาสตร์ จานวน ๑๙๐ ภาพ ๑๙๐ ชนิด
18 ๑.๘ ทาตวั อย่างพรรณไม้แห้ง พรรณไมด้ องจดั ทาตัวอย่างพรรณไมแ้ หง้ จานวน ๘๐ ชนดิ ๑๖๐ ตวั อย่าง
19จดั ทาตวั อย่างพรรณไมด้ องจานวน ๒๐ ชนิด ๔๐ ตัวอยา่ ง
20จัดทาตัวอยา่ งพรรณไมเ้ ฉพาะส่วนจานวน ๑๕ ชนิด ๓๐ ตัวอยา่ ง
21๑.๙ เปรียบเทียบข้อมลู สรปุ หนา้ ที่ ๘ กับข้อมูลที่สืบคน้ จากเอกสาร จานวน ๒๐๗ เลม่๑.๑๐ จดั ระบบข้อมูลทะเบยี นพรรณไม้
22ระบบการจดั เก็บ ทะเบียนพรรณไม้ แบบเอกสาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Microsoft excel โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Microsoft power point ๑.๑๑ ทาร่างปาู ยชื่อสมบูรณ์ การรา่ งปูายช่ือพรรณไมส้ มบูรณ์ จานวน ๑,๕๐๐ ปูาย
23 ๑.๑๒ ตรวจสอบความถกู ต้องด้านวชิ าการจากนกั พฤกษศาสตร์ ๑.๑๓ การจดั ทาปูายช่อื พรรณไม้สมบรู ณ์ การจดั ทาปูายชือ่ พรรณไม้สมบูรณ์ จานวน ๑,๕๐๐ ปาู ย การติดปาู ยชื่อพรรณไม้สมบูรณ์ จานวน ๑,๕๐๐ ปูายองค์ประกอบท่ี ๒ การรวบรวมพรรณไมเ้ ขา้ ปลูกในโรงเรยี น การสารวจสภาพภมู ิศาสตรแ์ ละการศกึ ษาธรรมชาติ การกาหนดชนดิ พรรณไมท้ จ่ี ะปลูกและกาหนดการใช้ประโยชน์ การทาผงั ภมู ิทัศน์ การจัดหาพรรณไม้และการปลกู พรรณไม้ การศึกษาพรรณไม้หลงั การปลูก
24องค์ประกอบที่ ๓ การศึกษาข้อมลู ดา้ นต่างๆ การศึกษาความรูเ้ พม่ิ เติมในพชื พรรณไมท้ ่มี ใี นโรงเรียน นกั เรียนช้ัน ม. ๑ – ม. ๖ ทาการศกึ ษาข้อมลู ด้านต่างๆของพชื ทม่ี ีในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ๓.๑ การศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี น (แบบ ก ๗ – ๐๐๓ ) ครบตามทะเบยี นพรรณ ไม้ จานวน ๒๐๗ เล่ม
25๓.๒ การศกึ ษาพรรณไม้ท่ีสนใจ (พชื ศึกษา)
26รายงานผลการศกึ ษาพชื ศึกษา ดา้ นอนุกรมวธิ านของพชื ชือ่ พื้นเมอื ง กล้วยผา กลว้ ยครก สะกุยเล่อ ยะเปอ่ ลา ( กะเหรยี่ ง เชียงใหม่ ) ช่อื วทิ ยาศาสตร์ Ensete superbum (Roxb.)Cheesman ช่ือวงศ์ MUSACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ พชื ล้มลกุ มอี ายุประมาณ ๒ – ๓ ปี ใบเลี้ยงเดี่ยวโคนใบเรยี งเปน็ วงสลับบนลาต้นแท้จริงใต้ดินเกิดเป็นลาต้นเทียมเหนือดินท่ีแน่นและแข็งแรง ส่วนโคนต้นขยายใหญ่กว่าส่วนปลาย คล้ายรูปสามเหล่ียม ปลายใบแยกออกสลับไม่ซ้อนกัน ประกอบด้วยก้านใบสั้นๆสีเขียว ร่องใบกว้างแผ่นใบ สองข้างมีเส้นใบคู่ขนานสีเขีย วขณะท่ีลาต้นเทียมมีการเจริญจานวนใบจะเพิ่มข้ึนและมีขนาดใหญ่ขึ้นวัดความยาวจากโคนใบถึงปลายใบ ยาวประมาณ ๒๕๐ cm. กว้างประมาณ ๘๐ cm. ใบท่ีเล็กทสี่ ดุ ยาวประมาณ ๓๖ cm. กวา้ ง ๑๓ cm. กล้วยผา ๑ ต้นมีใบประมาณ ๔๕ – ๔๙ ใบ ใบมีรูปขอบขนาน แกมรี ปลายใบแหลมขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มกว่าดา้ นล่าง ก้านใบมีนวลหนาสีขาว เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งปลายใบจะแห้ง และถูกไฟปุาไหม้เป็นประจา โคนใบที่อัดแน่นเป็นลาตน้ เทียมดา้ นในไม่แหง้ และหอ่ หมุ้ ลาตน้ ไม่ไหไ้ ดร้ ับความเสยี หายจากไฟ หากแล้งจัดจะพักตัวอยู่ในลาต้นใต้ดิน เมือ่ ถึงฤดฝู นอกี คร้ังหน่ึงจงึ จะงอกใบออกมา ดอก เป็นดอกช่อขนาดใหญ่ชูต้ังข้ึนและโน้มลงขนานกับพ้ืนดินวัดความสูงจากลาต้นใต้ดิน ถึงปลายช่อดอก ประมาณ ๒๑๕ cm. แต่ละช่อมีใบประดับห่อหุ้มอยู่สีแดงปนเหลืองหรือออกสสี ้ม รปู ปูอม ปลายปูาน ดอกท่ีอยู่ที่โคนช่อดอกเป็นดอกกะเทย ดอกย่อยแต่ละดอกเช่ือมติดอยู่กับฐานของใบประดบั ดอกย่อยแต่ละดอกไมม่ ใี บประดบั มวี งกลบี เล้ยี งและกลีบดอกเชื่อมรวมกันเรียกกลีบรวม( tepal )มีสองส่วนคือส่วนทอ่ี ย่ดู ้านบนของดอกเป็นกลีบรวมใหญ่จานวน ๕ กลีบเชื่อมติดกัน เป็น สามแฉกตรงกลางมี ๓กลีบรวมเปน็ กลีบรวมใหญ่ อีกสองกลีบตดิ อยูด่ ้านข้าง ขนาดเล็ก ส่วนกลีบรวมขนาดเล็กท่ีอยู่ด้านล่างของดอก มีลกั ษณะเป็นแผน่ ใสๆ ไมม่ ีสี เกสรตวั ผู้จานวน ๕ อัน เกสรตวั เมยี ๑ อัน สขี าวนวลมีต่อมน้าหวานที่ปลายรังไข่และรวมไว้ท่ีบริเวณฐานของกลบี รวม มีลักษณะเปน็ เมือกหรือเจลลาติน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบดอก(inferior ovary) มี ๓ พูมอี อวลุ เรยี งเปน็ ระเบยี บพลู ะ ๒ แถว ต้องการการผสมเกสรเพ่ือการเจริญของผล ผลเรียงกันไม่เป็นระเบียบ รูปปูอม ปลายแหลม ขนาด ๒ – ๔ cm. ปลายผลมีจุกยาวแหลม เห็นก้านเกสรตัวเมียติดอยู่ ผลอ่อนเปลือกสีเขียวเน้ือสีขาว เหน็ เมล็ดออ่ น มีเอ็นโดสเปิร์ม ( endosperm ) ขนาดใหญ่ทาหน้าที่สะสมอาหารมีสีขาว ผลแก่เปลือกส่วนโคนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื้ออ่อนน่ิม เมล็ดมีจานวนมาก เปลือกแข็งสีดา เอ็นโดสเปิร์มจะมีลักษณะเป็นผงคล้ายแปูง มีเน้ือหุ้มล้อมรอบ มีรสหวานไม่นิยมรับประทานเน่ืองจากเมล็ดมีจานวนมาก เมล็ดงอกช้า ไม่มีการนามาบรโิ ภค แต่มีการนามาทาเครอ่ื งประดับ หากไมไ่ ดร้ บั การผสมเกสรจะไม่มีการพฒั นาเปน็ ผล ดา้ นนิเวศวทิ ยาและการกระจายพันธุ์ กล้วยมถี ิน่ กาเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ กล้วยผาเปน็ สกุลกล้วยปาุ ในประเทศไทยพบกระจายพันธ์ุตามภูเขาทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ีระดับความสูง ๓๐๐ – ๘๐๐ เมตร จากระดับน้าทะเล เมลด็ มกี ารพักตวั เป็นเวลานาน สามารถงอกไดใ้ นฤดฝู นตอ่ มา เปน็ กลว้ ยท่ที นความแห้งแล้งได้ดี ข้ึนตามซอกหนา้ ผาท่เี ปน็ หินได้ (เบญจมาศ ๒๕๔๕ ) กลว้ ยผาทข่ี ึ้นอยูใ่ นบริเวณโรงเรียนเป็นกล้วยผาที่นามาปลูกเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ อาคารสถานท่ี บริเวณปุาใกล้เคียงกับโรงเรียนมีกล้วยผาข้ึนหนาแน่นในช่วงฤดูฝน มีขนาดแตกตา่ งกนั บางตน้ กาลังออกดอก บางต้นตดิ ผล และบางต้นเหลือแต่ลาต้นที่ออกปลีดอกแล้วแห้งตาย รอบๆลาต้นทีแ่ หง้ ตายจะมีเมล็ดกล้วยผาสีดาจานวนมากตกบนพื้นกระจายอยู่โดยรอบ เม่ือฝนตก น้าฝนจะพาเมล็ดกล้วยผาไหลไปตามนา้ ผ่านระยะการพกั ตวั และจะงอกเมอื่ ถงึ ฤดูฝนอีกครั้งหนึ่ง ทาให้กล้วยผามีการกระจายไปบริเวณใกล้ๆกบั ต้นทีเ่ มลด็ ตกบนพืน้ และบรเิ วณรอ่ งน้าใกล้เคยี ง
27 ดา้ นการใช้ประโยชน์ ลาต้นเทียมเหนือดนิ ด้านในเรยี กหยวกกล้วยออ่ น สขี าวนวล นามาประกอบอาหารพ้ืนบ้านทางภาคเหนือได้หลายชนิด เช่น แกงอ่อมหยวกกล้วยผาใส่ไก่ หมู วุ้นเส้น จอหยวกกล้วยผาใส่หมู ผัดหยวกกล้วยกะทิสดกาบกล้วยดา้ นนอกนามาประดษิ ฐข์ องเล่นเช่น เรือใบกล้วย ก้านกล้วยผา มีขนาดใหญ่นามาทาของเด็กเล่นหลายชนิด เช่น ม้ากา้ นกลว้ ย ปืนก้านกลว้ ย มดี ดาบกา้ นกลว้ ย ใบกล้วยออ่ นมีลักษณะม้วนงอ นามารีดให้เรียบประดิษฐ์เป็นของทีร่ ะลกึ เครือ่ งประดับ ก๊ิบติดผม ชาวบ้านใช้ใบอ่อนรีดตัดเป็นช้ินใช้มวนบุหร่ีสูบ ใบแก่ใช้ห่ออาหาร ดอกหรอื ปลีกล้วยนามาประกอบอาหารรับประทานในบางท้องที่ เช่น ลวกจ้ิมน้าพริก แกงปลีกล้วย แต่บางท้องที่ไม่นยิ มรับประทานเนอื่ งจากมรี สฝาด ผลกลว้ ยผาเม่ืออ่อนอยู่สามารถนามารับประทานได้เนื่องจากเมล็ดยังเจริญไม่เต็มท่ี เมล็ดกล้วยผามีจานวนมากเม่ือแก่มีเปลือกแข็ง หุ้มเมล็ดสีดา เมื่อลูบคลามากๆจะเป็นมันเงา ใช้ทาเคร่อื งประดบั เช่นทาตกุ๊ ตา หรอื สรอ้ ยคอ สรอ้ ยขอ้ มือ ยางกล้วยผา ไดจ้ ากส่วน กา้ นใบ ลาต้นเทียม ลาต้นแท้จริงมีสนี า้ ตาลแดง เมือ่ ตดิ เส้อื ผา้ ซกั ทาความสะอาดยาก ใช้ยางทางานด้านศิลปะ เช่น การพิมพ์ภาพจากยางกล้วยผาการวาดภาพดว้ ยยางของกล้วยผา การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพรยาง : รสฝาด สมานแผล ห้ามเลือด ผลดิบ : รสฝาดท้ังเปลือกหั่นตากแหง้ บดเป็นผงชงน้าร้อนหรือป๎้นเม็ดรับประทาน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ท้องเสียเรอื้ รัง ซ่ึงทาใหอ้ าหารไม่ย่อย ผงกล้วยดิบทั้งเปลือก ใช้โรยรักษาแผลเร้ือรัง แผลเน่าเปื่อย แผลติดเชื้อต่างๆ ผลสุก : รสหวานระบายอุจจาระ บารุงกาลัง บารุงร่างกาย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เปลือกลูกดิบ : รสฝาดสมานแผล หวั ปลี : รสฝาดแก้โรคกระเพาะอาหาร ลาไส้ แก้โรคโลหิตจาง ลดน้าตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวานนา้ ค้ันจากหวั ปลี รบั ประทานแก้ถ่ายเปน็ มกู เลอื ด บารุงโลหิต ใบ : รสเย็นจืดปิ้งไฟปิดแผลไฟไหม้ ต้มอาบแก้เม็ดผด ผ่ืนคัน ราก :รสฝาดเย็นต้มด่ืม แก้ไข้ ร้อนในกระหายน้า แก้ไข้ท้องเสีย แก้บิด แก้ผื่นคัน สมานภายใน(วุฒิวฒุ ธิ รรมเวช ๒๕๔๐.) ด้านการขยายพนั ธ์กุ ลว้ ยผา กล้วยผาขยายพันธุโ์ ดยใช้เมล็ด เมลด็ มเี ปลอื กแข็งหมุ้ การงอกใชร้ ะยะเวลานานต้องการระยะพักตวัประมาณ ๑ ปี จึงจะงอกใหมเ่ มือ่ ถึงฤดูฝน เพื่อให้มีการงอกทีเ่ รว็ ข้นึ จงึ ควรทาให้เปลือกของเมลด็ บางลงโดยแชใ่ นกรดซัลฟูรกิ ที่เขม้ ขน้ นาน ๑๕ นาที (ไม่ควรแชน่ านเกิน ๓๐ นาทเี พราะจะทาให้เมล็ดตาย) หรอื ใชว้ ิธกี ารฝนเมล็ดโดยใช้เครือ่ งผสมดนิ เวลาเพาะใชว้ ัสดทุ ่ีอุ้มความชื้นและอณุ หภมู ปิ ระมาณ ๓๕ °C จะทาให้เมลด็ งอกไดด้ ีขน้ึ (เบญจมาศ ๒๕๔๕ ) ดา้ นการศกึ ษาสรรพส่งิ ล้วนพนั เกย่ี ว จากการศึกษาปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างกล้วยผากบั ป๎จจัยแวดล้อมทางกายภาพและชวี ภาพพบวา่ พบวา่ กล้วยผาขนึ้ ในสภาพอากาศที่อบอนุ่ ช่มุ ชน้ื ดินมีการระบายนา้ ที่ดสี ามารถข้นึ ตามซอกหน้าผาที่เปน็ หนิ ได้ (เบญจมาศ๒๕๔๕ ) บรเิ วณที่กล้วยผาขึ้นไดจ้ าการศึกษามที งั้ สภาพของดนิ รว่ นปนทราย ใกล้กับลาหว้ ย และดนิ ร่วนปนกรวดเลก็ ๆ ไปจนถงึ บนซอกหิน หรอื หน้าผา ลักษณะการเจริญเติบโตในสภาพพื้นที่ทแี่ ตกต่างกัน จะมีการเจรญิ เติบโตทแี่ ตกตา่ งกัน คอื หากต้นกล้วยผาขึน้ ในพ้นื ที่ท่ดี นิ เป็นดินรว่ นปนทรายและมีนา้ ตลอดทั้งปี กล้วยผาจะผลิใบออ่ นออกมาตลอดปี แต่ในบริเวณท่ไี ม่มนี า้ ในฤดแู ลง้ กลว้ ยผาจะไมผ่ ลใิ บ หลบพกั ตัวอยู่ในล้าตน้ แท้จรงิ ใตด้ นิจะผลิใบออกมาเฉพาะฤดูฝนเทา่ นัน้ กล้วยผาเป็นพืชล้มลุกอายุประมาณ ๓ ปี จึงจะออกดอกแล้ว ตายไป แตถ่ ้าตน้กลว้ ยได้รับน้าตลอด แม้จะออกดอกแลว้ ยังสามารถมชี วี ิตต่อได้ แสดงว่าการเจรญิ ของกล้วยผามคี วามสัมพนั ธ์เกี่ยวขอ้ งกบั ป๎จจัยเรอื่ งนา้ เป็นหลกั ส่วนบริเวณรอบๆโคนตน้ มคี วามช้ืนสูงเป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ขนาดเลก็ หลายชนดิ เช่นเพล้ยี แปงู พบตามกาบลาต้นเทียมเจาะดดู กนิ น้าเล้ียงจากเน้อื เย่อื ภายในลาต้น มดดาอยรู่ อบๆลาตน้ และตามพน้ื ดิน แมงมมุ ชักใยดกั แมลงบริเวณใบกลว้ ยผา ผงึ้ หาน้าหวานบริเวณดอกยอ่ ยของกลว้ ยผาและชว่ ยผสมเกสร ผีเสอื้ ดดู น้าหวานบริเวณดอกยอ่ ย หอยทาก พบบริเวณโคนต้นกดั กินใบไม้เล็กท่อี ย่โู คนตน้ เม่ือต้นมีขนาด
28เล็กใบจะแผ่ปกคลุมหนา้ ดนิ ทาให้ไม่มหี ญา้ วัชพืช จนเมื่อลาต้นเทียมยืดสูงขึ้น รอบๆลาตน้ จะพบหญ้า วชั พชื ขนาดเล็กหลายชนดิ เช่น หญ้า สาบแรง้ สาบกา นา้ นมราชสีห์ ผักปราบ เปน็ ตน้ พชื ขนาดเลก็ เหลา่ นี้เลื้อยอยตู่ ามพื้นดินและขน้ึ บรเิ วณที่ชุม่ ช้ืน ได้รบั ความช้ืนจากต้นกล้วยผา สรุปและวจิ ารณ์ การศกึ ษาองคป์ ระกอบของพชื และปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างกล้วยผากับป๎จจยั ทางกายภาพและชวี ภาพ ของโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑พบว่า กล้วยผาเปน็ พืชที่พบ ตามธรรมชาตจิ ะข้ึนอยตู่ ามชายปาุ ที่ระดับความสงู๓๐๐ – ๘๐๐ เมตรจากระดับน้าทะเล สามารถข้ึนไดบ้ ริเวณซอกหน้าผา หรอื กอ้ นหินขนาดใหญ่ เป็นกล้วยปุาอยู่ในสกุลกล้วยโทน ไมม่ กี ารแตกกอ ขยายพนั ธุ์ด้วยเมลด็ นิยมปลูกเปน็ ไมป้ ระดบั ตามวดั บ้านเรือน อาคารสถานที่เป็นพืชล้มลกุ อายุประมาณ ๓ ปี ออกดอกชอ่ ขนาดใหญ่ ผลมีเมลด็ มาก ใช้ประโยชนจ์ ากส่วนของลาต้นเทียมอ่อนหรอื หยวกกลว้ ยนามาประกอบอาหารไดห้ ลายชนดิ กล้วยผาในธรรมชาติทีไ่ ด้รับนา้ ตลอดทัง้ ปี จะผลิใบออกตลอดแต่กลว้ ยผาทข่ี นึ้ ในทแี่ หง้ แล้งจะพักตวั ในลาตน้ ใต้ดินชว่ งฤดูแลง้ และผลิใบในชว่ งฤดฝู นเทา่ นน้ั ต้องการการผสมเกสรเพื่อใหเ้ กิดพฒั นาการของผลและเมล็ดจึงมแี มลงหลายชนิดมาช่วยผสมเกสร เช่นผึ้ง ผีเส้อื
29องค์ประกอบท่ี ๔ การรายงานผลการเรียนรู้ นักเรียนไดท้ าการศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั พรรณไมใ้ นสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โดยให้นักเรยี นเลือกพืชท่ีสนใจทาการศึกษาขอ้ มูล แล้วจดบนั ทึกเขียนรายงานผลการศกึ ษาพรรณไมใ้ นสวนพฤกษศาสตร์ ในรูปแบบการแสดงผลงานรายวชิ าบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
30องคป์ ระกอบที่ ๕ การนาไปใช้ประโยชนท์ างการศึกษา ๕.๑ การนาสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนบรู ณาการส่กู ารเรียนการสอน คณะครทู ุกกลุ่มสาระรว่ มกนั จดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ในทกุ ระดับช้ัน ตัวอยา่ งผลงานจากการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการ
31๕.๒ การใช้สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนเปน็ แหล่งเรียนรู้ ๑. เป็นแหลง่ การเรียนรู้ ในการจดั การเรียนการสอน ๒. เปน็ ส่ือการสอน รายวิชาพฤกษศาสตรพ์ ้นื บ้าน การปลูกไมด้ อกไม้ประดบั ชวี วทิ ยา วิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ พืชสมนุ ไพรทอ้ งถนิ่ ภาษาองั กฤษ สงั คมศกึ ษา กิจกรรมชมุ นุมนักพฤกษศาสตร์รุ่นเยาว์ ๓. ขยายพนั ธุพ์ ชื ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นนาไปใช้ในการตกแต่งสถานที่ตา่ งๆใน โรงเรยี น ๔. หอ้ งพฤกษศาสตร์เป็นแหลง่ เรียนรู้ ซงึ่ รวบรวม เอกสาร หนงั สอื ค้นควา้ เก็บตัวอยา่ งพชื อัด แห้ง เมล็ดพันธุพ์ ชื บริการสาหรับ นกั เรียน ครู และบุคคลทว่ั ไป
32 สว่ นท่ี ๓ การวเิ คราะห์ ปญั หา – อุปสรรคในการดาเนินงานปัญหาดา้ นพนื้ ที่ - การแบ่งพืน้ ที่ศกึ ษา บางพ้นื ท่ีอยูไ่ กลจากอาคารเรยี น ทาใหน้ ักเรียนไม่อยากไปศกึ ษา - พืน้ ทศี่ ึกษาบางแหง่ มีจานวนพรรณไม้ไม่ครบตามจานวนนักเรยี น - พ้ืนทีศ่ ึกษาสว่ นใหญ่ จะมตี ้นตงึ ตน้ เต็ง ซงึ่ ไมม่ ดี อกในระยะทีศ่ กึ ษาปญั หาดา้ นการจัดการ - การจดั ทาหลักสูตร สาระวิชาบูรณาการ ครูผสู้ อนยงั ไม่เข้าใจเทา่ ที่ควร - หนงั สือคน้ คว้าขอ้ มูลพรรณไม้มจี านวนไม่เพยี งพอกับนักเรียนปัญหาดา้ นบุคลากร - คณะครรู อ้ ยละ 95 ยังไม่ผ่านการอบรม การดาเนนิ งานตามองค์ประกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี น และสาระการเรยี นรู้ ทาใหไ้ ม่เขา้ ใจหลกั การดาเนินงาน - ผ้ปู ระสานงานโครงการมภี าระงานท่รี ับผดิ ชอบหลายงาน ส่งผลให้การพฒั นางานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี นเปน็ ไปอยา่ งลา่ ชา้แนวทางการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนใน ปี ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ * ดาเนนิ งานตามองคป์ ระกอบ ๕ องค์ประกอบ ของสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน * นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาจดั ทาหลกั สตู รบรู ณาการ กับการดาเนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ จดั การเรยี นการสอนแบบบรู ณาการ * ศึกษาพชื เชิงลึก “กล้วยผา” ในหัวขอ้ สรรพส่ิงล้วนพันเก่ยี ว และประโยชน์แทแ้ กม่ หาชน * ประชาสัมพนั ธ์การดาเนนิ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนใหแ้ พรห่ ลาย * ประเมนิ ความพรอ้ มของตนเอง เพอื่ รบั เกยี รตบิ ัตรแหง่ ความมงุ่ มน่ั อนุรักษ์สรรพสง่ิ สรรพชวี ติ ดว้ ยจิตสานกึ ของครูและเยาวชน
33 ความต้องการรับการสนบั สนนุ การดาเนินงาน (ระบุกจิ กรรม/งบประมาณและหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนนุ ) ๑. การอบรมครู- บคุ ลากร เพอ่ื ให้ความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการดาเนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนทั้งหลกั สูตร ๕ องค์ประกอบ ธรรมชาตแิ ห่งชีวติ : สรรพสงิ่ ลว้ นพนั เก่ยี ว : ประโยชน์แท้แก่มหาชน ฐานทรพั ยากรทอ้ งถ่นิ เพือ่ ให้มีความเข้าใจตรงกัน งบประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท ขอรบั การสนบั สนุน วิทยากรจากโครงการอนุรกั ษ์พนั ธกุ รรมพืชอนั เนื่องมาจากพระราชดาริฯ ๒. การวิจัยเก่ียวกับพืชสมนุ ไพรในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น และในทอ้ งถ่ิน ๓. การจัดทาฐานขอ้ มลู พรรณไมใ้ นสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ตอ้ งการผทู้ ีม่ คี วามรู้ด้านการจัดการฐานขอ้ มูล ๔. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์สาหรับการสืบค้นข้อมูล
34 ลงช่อื (นางสาวสุดาภรณ์ สืบบญุ เปี่ยม) พนกั งานราชการ ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงการความเห็นของหวั หน้าแผนงานกลมุ่ บริหารงานวิชาการ( ) บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ของโครงการ/กจิ กรรม/งาน( ) ไมบ่ รรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ/กจิ กรรม/งาน.............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ............................................................ (นางสาวณัฐธนัญา บุญถึง) ตาแหน่ง ครูชานาญการความเหน็ ของหวั หน้าแผนงานโรงเรียน( ) บรรลุตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการ/กจิ กรรม/งาน( ) ไมบ่ รรลุตามวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ/กิจกรรม/งาน.............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ............................................................ (นางสาวรัตติกาล ยศสขุ ) ตาแหนง่ ครชู านาญการความเหน็ ของผ้อู านวยการสถานศกึ ษา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ลงชือ่ ............................................................ (นางวลิ าวัลย์ ปาลี) ผ้อู านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
35ภาคผนวก
36 บันทกึ ข้อความส่วนราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ท่ี วนั ที่ 17 พฤษภาคม 2560เรือ่ ง เสนอจดุ รับผิดชอบทาความสะอาดและปฏบิ ัตงิ านสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นส่ิงทีส่ ง่ มาดว้ ย 1. ตารางแสดงจุดรบั ผดิ ชอบ 2. ผงั แสดงตาแหนง่ ทร่ี บั ผิดชอบ 3. ปฏิทินปฏิบตั งิ านเรียน ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ข้าพเจ้านางสาวสดุ าภรณ์ สืบบุญเปีย่ ม รับผิดชอบงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ได้รับมอบหมายจากผอู้ านวยการใหเ้ สนอจดุ รับผิดชอบทาความสะอาดและปฏบิ ตั ิการกจิ กรรมชุมนุมสวนพฤกษศาสตร์ ประจาภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2560 ตามองคป์ ระกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพื่อ ใหก้ ารดาเนินงานมีความต่อเน่ือง และบงั เกดิ ผลสมั ฤทธติ์ ่อโครงการสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นข้าพเจา้ จึงเสนอจุดรบั ผิดชอบทาความสะอาด และปฏบิ ตั กิ ารงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ตามรายละเอยี ดดงั นี้ 1. จุดรับผดิ ชอบทาความสะอาด และปฏิบัติการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ในบรเิ วณเรือนนอน ให้ เป็นความรับผดิ ชอบของนกั เรยี นในเรอื นนอน โดยมีครูเรือนนอนเป็นทปี่ รกึ ษา 2. จุดรบั ผิดชอบทาความสะอาด และปฏิบตั ิการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน บรเิ วณสว่ นกลางนอก เรือนนอน ได้เสนอให้นกั เรียนในแตล่ ะห้องเรียน เปน็ ผ้รู บั ผิดชอบ โดยมีครทู ีป่ รึกษา/ครปู ระจาชัน้ เปน็ ผู้ดแู ล จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดพิจารณา ลงช่อื (นางสาวสุดาภรณ์ สบื บญุ เปี่ยม) ตาแหน่งพนกั งานราชการ ผู้ประสานงาน งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31
37ตารางแสดงจุดรับผิดชอบปฏบิ ตั กิ าร กจิ กรรมบรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1/2560 ชั้น จุดรับผิดชอบ อาจารย์ทีป่ รกึ ษาป. 1 รอบๆอาคารเรียน 3 หอ้ งนา้ หลงั อาคารเรียน 3ป. 2 รอบๆอาคารเรยี น 4 อาคารคหกรรม โรงแยกขยะ อ.กลุ ริศา สนธคิ ุณป. 3 รอบๆสหกรณ์ โรงอาหารครูป. 4 รอบๆอาคารเรยี น 2 รอบบา้ นพกั ผูอ้ านวยการ รอบบ้านพกั ครู อ.สมพร อิน่ ใจป. 5 รอบๆอาคารพลศึกษา อ.จรี าวรรณ คาปน๎ป. 6 รอบๆอาคารโรงฝกึ งานม.1/1 หนา้ รว้ั โรงเรียน หนา้ ซุ้มประตู รร.รอบๆศาลาปกครอง อ.ภมู ิพฒั น์ รัตนเรงิ วิทยากุล อ.จันจริ า ธนนั ชยัม.1/2 หนา้ ปาู ย food bank แปลงนา ริมถนน อ.สมพงษ์ ตระการศภุ กรม.1/3 รอบๆสระน้า อาคารโรงนา้ ด่ืมเก่า ตรงข้ามปูอมยาม อ.ลักษณ์นารา โยระภัตรม.2/1 สวนสักตรงขา้ มสวนพทุ ธวนารมณ์ ศาลพระพรหม อ.ศรมี ลู สมบุตรม.2/2 รอบๆบา้ นพกั รบั รอง โรงนา้ ดมื่ อ.กรแก้ว โอภาสสวุ คนธ์ อ.รกั ชนก วงษ์ม.2/3 รอบๆบ้านพักครู บา้ นพกั รองฯนพรตั น์ อ.นฤมล จอมธรรมม.3/1 รอบๆโรงครวั หลังบา้ นพกั อ.จนิ ตานาถ เทพวงศ์ม.3/2 รอบๆ อา่ งลา้ งถาด รอบโรงเก็บอาหารแห้ง โรงเกบ็ ถาด เนิน อ.สดุ าภรณ์ สืบบญุ เปยี่ ม ด้านลา่ งหอประชมุ อ.ลิปปกร เหมอื งคาม.3/3 สวนเกษตรแปลงไม้ผล รอบๆบ้านพกั อ.พนม อ.พิกุล เหมืองคาม.4/1 บา้ นกะเหรีย่ ง ขว่ งละอ่อน จุดแปรงฟ๎น อ.นิกร ไวยบุตร อ.วันเพ็ญ ไผทพิทักษว์ งศ์ม.4/2 รอบๆอาคารหอประชมุ อนิ ทนนท์ สนามฟตุ ซอล อ.พนม บุญตอมม.4/3 รอบๆสภานกั เรยี น โรงตดั ผม โรงนวด อาคารคหกรรมเบเกอรีม.4/4 รอบอาคารพลศึกษา 2 หลงั หลังอาคารเรียน 4 หลังบ้านพัก อ.ธนญั ภรณ์ ธรรมใจ อ.พงศ์ธร เปงวงศ์ ชายม.5/1 สวนพุทธวนารมณ์ สวนพฤกษศาสตร์ อ.รัตตกิ าล ยศสุข อ.อาภาภรณ์ สอนประเสรฐิม.5/2 รอบๆ อาคารเรยี น 1 บ้านล๊ัวะ อ.คณธร ศรไี ม้ อ.ลภัสนนั ท์ คาลือเกียรติ์ อ.วันวสิ าข์ อนิ ทะวงศ์ อ.ฐิตารตั น์ คัมภรี ะ อ.อมลสริ ิ คาฟู อ.รงุ่ นภา กาพย์ไชย อ.ศภุ ากร ทาอวน อ.นิทศั น์ อนิ ทานันท์ อ.ชาญยทุ ธ สุทธิธรานนท์ อ.อรวรรณ เมืองแก้ว อ.วรรณภรณ์ ทิพยส์ อน อ.นราวุธ รยิ ะนา อ.กนกอร วงศ์ษา อ.เสรี แซ่จาง
38 ชน้ั จุดรบั ผดิ ชอบ อาจารยท์ ีป่ รกึ ษาม.5/3 รอบๆอาคารเรยี น 2 รอบบ้านพกั ผ้อู านวยการ รอบบา้ นพัก อ.วรี ์รัศมิ์ สิทธพิ พิ ัฒนานันท์ รองฯชยุต อ.ลกั ษณา ไชยบตุ รม.5/4 รอบๆอาคารเรยี น 3 หอ้ งนา้ หลงั อาคารเรยี น 3 อ.ศิรมิ า เมฆป๎จฉาพิชติม.6/1 รอบๆอาคารเรียน 3 ห้องน้าหลังอาคารเรียน 3 อ.วรารัตน์ ธิลา อ.อศั นยั กนั งามม.6/2 รอบๆอาคารเรียน 4 อาคารคหกรรม โรงแยกขยะม.6/3 รอบๆสหกรณ์ โรงอาหารครู สวนสขุ ภาพ อ.ณฐั ธนัญา บญุ ถงึ อ.ปวรศิ า กา๋ วงศว์ นิม.6/4 รอบๆสหกรณ์ โรงอาหารครู สวนสขุ ภาพ อ.ยศวริศ เพมิ่ บุญ อ.รัตนวัชร์ เลศิ นนั ทรัตน์ อ.วชริ วทิ ย์ หนั จางสทิ ธิ์ อ.ป๎ณชดา ไชยมงคล อ.นพิ ล โทรกั ษา
39แผนผงั แสดงจุดปฏิบัติการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2560 1/3 1/1 3/3 2/2 1/2 2/3 5/1 2/13/13/2 4/2 6/3 6/3 5/2 ป.3 4/3 5/3 ป.4 6/2 6/1 ป2 ป1ป.5ม.4/4 ป.6
40 บนั ทกึ ขอ้ ความส่วนราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จังหวดั เชยี งใหม่ที…่ ………………………………………… วันท่ี 13 กมุ ภาพนั ธ์ 2561เร่ือง ขออนุญาตนานักเรียนเข้าสารวจและจัดทาฐานทรัพยากรท้องถิน่เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ด้วยข้าพเจ้า นางสาวสดุ าภรณ์ สบื บญุ เปีย่ ม ตาแหนง่ พนกั งานราชการ ขออนุญาตนานักเรียนแกนนาสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน จานวน 20 คน เข้าสารวจและจัดทาฐานทรัพยากรท้องถิ่น ณ บ้านแม่ปาน(สันกู่) หมู่10 ตาบลช่างเคิง่ อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ เพ่ือจัดทาฐานทรัพยากรท้องถิ่น ซ่ึงเป็นการรวบรวมข้อมูลด้านกายภาพ ชวี ภาพ รวมท้ังวัฒนธรรมและภูมิป๎ญญาในท้องถิ่น ต้ังแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน พร้อมวิเคราะห์จัดทาเป็นระบบฐานข้อมลู ในวันเสาร์ที่ 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2561 ระหวา่ งเวลา 06.00 – 08.00 น. รายละเอยี ดดงั แนบจึงเรียนมาเพือ่ โปรดทราบและพิจารณา ( นางสาวสุดาภรณ์ สืบบุญเป่ยี ม ) ตาแหนง่ พนักงานราชการ
41 งานฐานทรพั ยากรท้องถนิ่ (งานที่ 2 การสารวจและจัดทาฐานทรัพยากรท้องถ่นิ )หลักการ รทู้ รัพยากร เห็นความหลากหลาย รูร้ ะบบฐานสาระการเรียนรู้ การสารวจและจัดทาฐานทรัพยากรทอ้ งถนิ่ เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทางด้านศักยภาพ ชีวภาพ รวมท้ังวัฒนธรรมและภูมิป๎ญญา ของแต่ละท้องถิ่น ตั้งแต่อดีตจนถึงป๎จจุบัน วิเคราะห์จัดทาเป็นระบบฐานข้อมูลประกอบไปด้วย 9 ใบงาน และ 6 ทะเบียน ดงั นี้ลาดับการเรยี นรู้ - ใบงานที่ 1 เรือ่ ง การเกบ็ ข้อมูลพืน้ ฐานในท้องถน่ิ - ใบงานที่ 2 เรื่อง การเกบ็ ข้อมูลการประกอบอาชีพในท้องงถนิ่ - ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง การเกบ็ ขอ้ มลู ดา้ นกายภาพในทอ้ งถิน่ - ใบงานท่ี 4 เรือ่ ง การเกบ็ ขอ้ มูลประวตั ิหมบู่ า้ น ชุมชน วิถชี มุ ชน - ใบงานที่ 5 เร่อื ง การเก็บขอ้ มลู การใช้ประโยชน์ของพชื ในทอ้ งถน่ิ - ใบงานที่ 6 เร่ือง การเกบ็ ขอ้ มูลการใช้ประโยชนข์ องสตั วใ์ นทอ้ งถน่ิ - ใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง การเก็บขอ้ มูลการใชป้ ระโยชน์ของชีวภาพอื่นๆ ในท้องถ่นิ - ใบงานท่ี 8 เรือ่ ง การเกบ็ ข้อมูลภมู ิป๎ญญาในท้องถน่ิ - ใบงานที่ 9 เร่ือง การเก็บข้อมูลแหลง่ ทรพั ยากรและโบราณคดใี นท้องถิ่น จัดทาฐานข้อมูลทรพั ยากรในท้องถนิ่ - ทะเบียนพรรณไม้ในชุมชน - ทะเบียนพรรณไม้ในชุมชน - ทะเบยี นพันธุส์ ัตวใ์ นชมุ ชน - ทะเบียนชีวภาพอ่ืนๆ ในชมุ ชน - ทะเบยี นภูมิป๎ญญาในชุมชน - ทะเบยี นแหลง่ ทรพั ยากรในชมุ ชน - ทะเบยี นโบราณคดใี นชมุ ชน
42ท่ี ศธ ๐๔๐๐๗.๒๓๘ /๑๑๕ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ๙๙ หมู่ ๑๐ ต.ชา่ งเคงิ่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ๕๐๒๗๐ ๑๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๑เร่ือง ขออนุญาตนานักเรยี นเข้าสารวจและจดั ทาฐานทรัพยากรทอ้ งถน่ิเรียน ผู้ใหญบ่ ้าน บา้ นแม่ปาน ดว้ ย งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ มีความประสงค์จะนานักเรียนเข้าสารวจและจดั ทาฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ซ่ึงเปน็ การรวบรวมขอ้ มูลด้านกายภาพ ชีวภาพ รวมทั้งวัฒนธรรมและภูมปิ ๎ญญาในทอ้ งถ่ิน ต้ังแตอ่ ดีตจนถึงปจ๎ จุบนั พรอ้ มวิเคราะห์จัดทาเปน็ ระบบฐานขอ้ มลู ประกอบไปด้วย 9 ใบงานและ 6 ทะเบียน ดงั นี้ เกบ็ ขอ้ มูลพนื้ ฐานการประกอบอาชีพ ดา้ นกายภาพ ประวัติหมู่บ้าน ชุมชน วิถีชุมชน การใช้ประโยชน์ของพืช สัตว์ และชีวภาพอื่นๆ ในท้องถิ่น การเก็บข้อมูลภูมิป๎ญญา แหล่งทรัพยากรและโบราณคดีในท้องถ่ิน และจัดทาฐานขอ้ มลู ทรพั ยากรในท้องถ่นิ ในการนี้ทางงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นได้เล็งเห็นสัมพันธภาพระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน จึงใคร่ขอความอนเุ คราะห์นานกั เรียนแกนนาสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น จานวน ๒๐ คน และครู จานวน ๒ คน (รายช่ือดังแนบ) เข้าสารวจและจดั ทาฐานทรัพยากรท้องถิ่น ในวันเสาร์ท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ระหว่างเวลา ๐๖.๐๐ –๐๘.๐๐ น. ทางโรงเรียน หวังเป็นอย่างยิง่ วา่ คงไดร้ ับความอนุเคราะห์จากท่าน และขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสน้ีจงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณา ( นางวิลาวัลย์ ปาลี ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑กลมุ่ บริหารงานวิชาการโทรศัพท์ ๐-๕๓๒๖-๘๖๔๒โทรสาร ๐-๕๓๒๖-๘๖๔๒
43 รายชอ่ื ครผู รู้ ับผดิ ชอบ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกิจกรรมการเข้าสารวจและจัดทาฐานทรัพยากรทอ้ งถน่ิ วนั เสาร์ ท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ท่ี ชอื่ – สกุล ตาแหนง่ พนกั งานราชการ๑ นางสาวสดุ าภรณ์ สืบบุญเปยี่ ม พนกั งานราชการ๒ นายบรุ ิศร์ กองมะลิ รายชอื่ นกั เรียนแกนนาสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมสารวจและจัดทาฐานทรพั ยากรท้องถน่ิ วันเสาร์ ที่ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๑ท่ี ชือ่ – สกุล ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/1๑ นางสาวเกศินี เกษมสุขเจริญกุล มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/1๒ นางสาวจอมขวัญ วิวิตตา มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/1๓ นางสาวธิดาพร ชน่ื สขุ เลิศเกษม มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/1 มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/1๔ นางสาวชลธชิ า สมบรู ณพ์ ลู เพิ่ม มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1๕ นางสาวอสิ ริยะ ปฐมนพุ งศ์ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/1๖ นางสาวพิมพ์วิกา ดนยั กรประเสริฐ มัธยมศึกษาปที ่ี 4/1 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/4๗ นางสาวสุนิตา ขวญั ถาวรกลุ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/4 มัธยมศึกษาปีที่ 4/4๘ นางสาวจนั ทรจ์ ริ า กลุ สวัสด์ิมงคล มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/4 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/4๙ นางสาวศิริพร สุกใส มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/4 มัธยมศึกษาปที ี่ 4/1๑๐ นางสาวจริ าพชั ร นะตกิ า มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/1๑๑ นางสาวกุนมลี ทองคุณโชคชยั๑๒ นางสาวจนั ทรญิ า จารัสประทปี พงศ์๑๓ นางสาวสุดารตั น์ มรพุ งศ์๑๔ นายยงยุทธ สิริพงษว์ าณชิ๑๕ นายฤทธิ์เดช สทุ ธิมงคลกุล๑๖ นายสุทธพิ งศ์ พงศส์ ทุ ธชิ ยั๑๗ นายศรันํู โชคสขุ เสียงวเิ วช๑๘ นายสุทธพิ ล พงษ์พนากุล๑๙ นายสงกรานต์ พงษ์พนากุล๒๐ นางสาววนั ชนก แซล่ ี๒๑ นางสาวสวุ นันท์ ชมพนู ชุ แจ่มจรสั
44 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1รายวิชาบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ชอ่ื หนว่ ย พชื สมุนไพรประโยชน์แทแ้ ก่มหาชนชัน้ ม. 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2560 เวลา 4 ช่วั โมงสาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด พชื สมุนไพรหมายถึง พืชที่ใช้ทาเป็นเครื่องยา สมุนไพรกาเนิดมาจากธรรมชาติและมีความหมายต่อชีวิตมนษุ ย์โดยเฉพาะการสง่ เสริมสขุ ภาพและการรักษาโรค การศึกษาเก่ียวกับพืชสมุนไพรควรศึกษาถึงชนิดพันธ์ุพืชท่ีถูกต้อง ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชื่อพื้นเมือง ถิ่นกาเนิด ประโยชน์ หรอื โทษของพืช ฯลฯ ตลอดจนศกึ ษาถึงวิธีการนาพืชไปใช้ประโยชน์มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ัด ท 4.1 ม.4-6/4 แตง่ บทรอ้ ยกรอง ค 5.1 ม 4-6/1 เขา้ ใจวิธีการสารวจความคดิ เห็นอยา่ งงา่ ย ว 8.1 ม.4-6/1 ตั้งคาถามที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ หรือความสนใจหรือจากประเดน็ ที่เกดิ ขึ้นในขณะนั้น ท่ีสามารถทาการสารวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่างครอบคลุมและเชอื่ ถือได้ ว 8.1 ม.4-6/2 สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับ หรือคาดการณ์สิ่งท่ีจะพบ หรือสร้างแบบจาลอง หรือสรา้ งรปู แบบ เพอื่ นาไปสกู่ ารสารวจตรวจสอบ พ.3.1 ม 4-6/2 ใชค้ วามสามารถของตนเพือ่ เพิ่มศกั ยภาพของทมี คานึงถึงผลท่เี กิดต่อผอู้ นื่ และสงั คม ศ 1.1 ม.4-6/6 ออกแบบงานทัศนศิลป์ไดเ้ หมาะกบั โอกาสและสถานท่ี ง 1.1 ม.4-6/2 สรา้ งผลงานอยา่ งมีความคิด สรา้ งสรรค์ และมที กั ษะการทางานร่วมกัน ง 1.1 ม.4-6/3 มีทักษะการจดั การในการทางาน ต 1.1 ม.6/3 อธบิ ายและเขยี นประโยคและข้อความให้สมั พันธก์ ับสอื่ ท่ไี มใ่ ชค่ วามเรยี งรปู แบบต่างๆ ท่ีอ่านรวมทัง้ ระบแุ ละเขียนสื่อทไ่ี ม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบตา่ งๆ ใหส้ ัมพนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความทฟ่ี ง๎ หรอื อ่านสาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. หลักการแต่งบทรอ้ ยกรอง 2. การสารวจความคดิ เห็น 3. การค้นควา้ รวบรวมข้อมูล 4. การออกแบบผลงาน 5. การเขียนประโยคบอกเลา่ ทักษะกระบวนการ การจดั กระทาขอ้ มูล การทางานเป็นกลมุ่สมรรถนะที่สาคญั ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์คณุ ลักษณะของวิชา ความอยากรอู้ ยากเห็น ความละเอยี ดรอบคอบ
45คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ ความมวี ินยั ใฝเุ รียนรู้ชนิ้ งาน/ภาระงาน ภาระงาน/ชิน้ งานตามตัวช้วี ัด 1. แตง่ บทรอ้ ยกรอง 2. แบบบันทกึ ข้อมลู จากการสารวจ 3. ผงั mind map เป็นภาษาอังกฤษ ภาระงาน/ชิน้ งานรวบยอด 1. สารวจพชื สมุนไพรในพืน้ ทท่ี ่ีรบั ผิดชอบกจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครใู ห้นกั เรียนชมวดี ีทัศน์ เรอื่ งสว่ นประกอบของพชื และพืชสมุนไพรในท้องถน่ิ เปน็ เวลา 10 นาที 2. แจกภาพจิ๊กซอว์ รูปต้นไม้ นักเรียนแต่ละห้องจับสลาก คนละ 1 ช้ิน ให้นักเรียนแต่ละคนหาภาพท่ีเป็น ภาพเดยี วกนั เพ่ือรวมกลุ่ม ขนั้ ตัง้ คาถาม 1. จากที่นักเรียนได้ชมวีดีทัศน์เกี่ยวกับพืชสมุนไพรในท้องถิ่น นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งคาถามตามใบงานที่ 1 พชื สมุนไพร 2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ อภิปรายต้ังคาถาม ประเดน็ ทตี่ ้องการร้เู ก่ยี วกับพืชสมนุ ไพร 3. ครใู หส้ ง่ ตวั แทนกลุ่มนาเสนอประเดน็ ท่ีตอ้ งการรเู้ กีย่ วกับพืชสมุนไพร คนละ 1 ประเดน็ ขน้ั เตรยี มการคน้ หาคาตอบ 1. ถา้ นักเรียนจะตอ้ งไปสารวจพืชสมุนไพรในทอ้ งถ่นิ จะต้องทาอยา่ งไรบ้าง 2. นักเรียนทาใบงานที่ 2 วางแผนการสารวจพืชสมุนไพร ช่ัวโมงที่ 2 ขน้ั ลงมอื คน้ หาคาตอบ 1. ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มไปสารวจพืชสมุนไพรในพ้ืนท่ีที่รับผิดชอบ และแนะให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มนาเสนอในรูปแบบของร้อยกรอง ลงในใบงานท่ี 3 และแบบบันทกึ ข้อมูลพืชสมุนไพร 2. ครูให้นักเรยี นเขา้ ห้องสมุด หอ้ งสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น หอ้ งคอมพวิ เตอร์ เพื่อสบื ค้นข้อมูลเพ่ิมเตมิ ชว่ั โมงท่ี 3 1. ครมู อบหมายภาระงานใหน้ กั เรียนทาผังพืชสมุนไพรเป็นภาษาองั กฤษคนละ 1 ผงั 2. ครมู อบหมายใหส้ มาชิกภายในกลุ่มชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
Search