แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท่ี 4 1 โดย ครูสดุ าภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 2 แผนการจดั การเรียนรู หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 เรอ่ื ง ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ิต แผนจัดการเรยี นรูท1ี่ เรื่อง ธรรมชาตขิ องสง่ิ มีชีวติ รายวิชา วิทยาศาสตรชวี ภาพ รหัสวชิ า 31101 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปการศึกษา 2564 นํา้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ช่วั โมง/สปั ดาห เวลาที่ใชใ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู 2 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคญั สงิ่ ตา งๆ ทีพ่ บเห็นอยูทวั่ ไป มที ง้ั สิ่งมชี ีวิตและสง่ิ ไมมีชีวติ โดยส่งิ มีชีวิตบางชนดิ อาจมีลกั ษณะคลา ยกบั ส่งิ ไมมีชวี ิต ปจจุบันจึงมีเกณฑท ใี่ ชจ าํ แนกสงิ่ ตางๆ วา เปน ส่งิ มีชวี ติ หรือไม โดยพิจารณาจากลกั ษณะตา งๆ ซึง่ ส่ิงมชี วี ิตมกี ารสืบพนั ธุ ตอ งการสารอาหารและพลังงาน มีการเจรญิ เติบโต มีอายขุ ยั และขนาดจาํ กดั มกี าร ตอบสนองตอ สิ่งเรา มีการรักษาดุลยภาพของรางกาย มลี ักษณะจําเพาะ และมกี ารจัดระบบ 2. ผลการเรียนรู 1. อธิบายและสรุปสมบตั ิทส่ี ําคญั ของสง่ิ มชี ีวติ และความสมั พนั ธของการจดั ระบบในสง่ิ มีชวี ิตทท่ี าํ ให สิง่ มีชวี ิตดาํ รงชวี ิตอยูได 3. สาระการเรยี นรู 3.1 เนือ้ หาสาระหลกั : Knowledge 1) อธิบายสมบัติท่ีสาํ คัญของสิง่ มชี ีวิตได 2) อธิบายความสมั พนั ธของการจัดระบบในส่ิงมีชวี ติ ทท่ี ําใหสงิ่ มีชวี ิตดํารงชวี ติ อยูได 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) ทดลองเก่ียวกบั การรกั ษาดุลยภาพของรางกายสิง่ มชี ีวิตได 3.3 คณุ ลักษณะที่พึงประสงค : Attitude 1) สนใจใฝรใู นการศกึ ษา 4. สมรรถนะสําคัญของนกั เรยี น 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 5) ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1) ความรับผิดชอบ 2) กระบวนการกลุม 6. คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเรยี นรู 3. อยอู ยางพอเพียง 4. มงุ ม่ันในการทาํ งาน โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปที่ 4 3 7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : 1. แบบทดสอบกอนเรียน เรอ่ื ง ธรรมชาตขิ องสิ่งมีชวี ิต 2. ใบงาน เรอ่ื ง การตอบสนองตอ สิ่งเรา ของสิ่งมีชีวิต 3. กิจกรรม เรือ่ ง อุณหภมู กิ ับการรกั ษาดลุ ยภาพของปลา 4. แบบฝกทักษะ เร่อื ง ธรรมชาตขิ องสิ่งมชี ีวติ 8. กจิ กรรมการเรียนรู ชัว่ โมงท่ี 1 ขน้ั นาํ เขาสูบทเรียน/ข้ันต้งั คาํ ถาม 1. ครูแจง ผลการเรยี นรู ใหน ักเรียนทราบ 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบทดสอบกอ นเรียน เรื่อง ธรรมชาติของสิง่ มชี ีวติ 3. ครถู ามคําถาม เพ่อื กระตุนความสนใจของนักเรียนวา เราจะทราบไดอยางไรวา สิง่ ใดเปน ส่ิงมชี ีวติ (แนวตอบ : นักเรียนอาจตอบวาพจิ ารณาจากเกณฑท ีใ่ ชจ ําแนกสงิ่ ตางๆ วา เปน สงิ่ มีชีวติ หรอื ไม โดย ส่งิ มชี ีวติ มลี ักษณะตางๆ ดงั นี้ - มกี ารสืบพนั ธุ - ตองการสารอาหารและพลงั งาน - มีการเจรญิ เติบโต มีอายขุ ยั และมีขนาดจาํ กดั - มกี ารตอบสนองตอสิ่งเรา - มีการรักษาดุลยภาพของรางกาย - มีการจดั ระบบ) 4. ใหน กั เรียนรว มกนั แสดงความคดิ เหน็ จากคําถามขา งตน จากน้นั ครนู ําอภปิ รายวา ส่ิงมีชวี ิตบางชนดิ มีลักษณะคลายกบั สิง่ ไมม ีชีวติ แลว ใหน กั เรียนยกตัวอยางสง่ิ มชี วี ิตทมี่ ลี กั ษณะดงั กลา ว โดยครูอาจ ยกตวั อยา งพืชชนิดหนึ่งในกลุมของพชื อวบนา้ํ ท่ชี ่ือวา ไลทอป (lithops) ซง่ึ มีลกั ษณะคลา ยกอ น หิน ข้นั สาํ รวจและคนพบ/ขั้นการเตรยี มการคนหาคําตอบ 1. ใหน ักเรยี นแบงกลมุ ออกเปน 7 กลุม เพ่อื ศึกษาขอมลู เก่ยี วกับลักษณะของสิ่งมชี ีวิต 1) ศึกษาหัวขอ สงิ่ มชี ีวิตมกี ารสืบพนั ธุ 2) ศึกษาหวั ขอ สิ่งมีชีวิตตองการสารอาหารและพลังงาน 3) ศึกษาหัวขอ สิ่งมีชีวิตมกี ารเจรญิ เตบิ โต มีอายุขัย และมีขนาดจํากัด 4) ศกึ ษาหัวขอ สิ่งมีชีวติ มีการตอบสนองตอส่งิ เรา 5) ศกึ ษาหัวขอ สง่ิ มชี วี ิตมีการรกั ษาดุลยภาพของรา งกาย 6) ศกึ ษาหัวขอ ส่ิงมีชวี ิตมลี กั ษณะจาํ เพาะ 7) ศกึ ษาหัวขอ ส่ิงมชี ีวติ มีการจัดระบบ 2. ใหแตละกลมุ สรุปความรทู ่ศี กึ ษาในรปู แบบของแผนผังความคดิ แลวรวมกนั ตง้ั คําถามกลมุ ละ 1 คําถามเก่ียวกบั เร่อื งท่กี ลมุ ตนเองศึกษา 3. ใหแตละกลุมสงตัวแทนออกมานําเสนอแผนผงั ความคิดของกลมุ ตนเองและถามคาํ ถามเพือ่ นคน อืน่ ๆ ในชัน้ เรยี น 4. ใหนักเรียนแตละคนสรปุ ความรูท่ีไดจากการศึกษาและจากการนาํ เสนอของเพือ่ นลงในสมดุ บันทกึ โดยใชความคดิ สรางสรรคออกแบบใหมีความนาสนใจ 5. ครแู จงจุดประสงคข องการทาํ กิจกรรม เรื่อง อณุ หภมู ิกับการรกั ษาดุลยภาพของปลา โดย กําหนดใหส มาชิกแตละคนภายในกลมุ (กลมุ เดิมการการศกึ ษาขอมูลขางตน ) มีบทบาทหนา ที่ โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรูว ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 4 ของตนเอง ดังนี้ สมาชกิ กลมุ ยอ ยที่ 1 : ทาํ หนา ทีเ่ ตรยี มวัสดุอุปกรณ สมาชกิ กลุม ยอยท่ี 2 : ทําหนา ทีอ่ านวิธกี ารทาํ กจิ กรรม และอธิบายใหสมาชกิ ภายในกลุม ฟง สมาชิกกลมุ ยอ ยท่ี 3 : ทําหนาที่บนั ทกึ ผลการทดลอง สมาชิกกลมุ ยอ ยที่ 4 : ทาํ หนา ท่นี าํ เสนอผลการทดลอง 6. ครนู ําอภปิ รายกอนการทํากจิ กรรมวา นักเรยี นไดทราบแลววา ปจจัยทางกายภาพ เชน อุณหภูมิมี ผลตอการดํารงชวี ิตของสิ่งมีชวี ติ ถาอุณหภมู ขิ องน้ําเปลีย่ นไปจะมผี ลตอส่งิ มชี วี ติ ทอี่ าศัยอยูในนาํ้ เชน ปลา อยางไร 7. ใหนกั เรียนแตล ะกลุมทาํ กิจกรรมเรือ่ ง อุณหภมู ิกบั การรกั ษาดุลยภาพของปลา ช่วั โมงที่ 2 ข้นั อธิบายและลงขอ สรปุ /ข้ันดําเนนิ การคนหาคําตอบและตรวจสอบคาํ ตอบ 1. ครแู ละนักเรยี นรว มกันอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยครูตง้ั คาํ ถามเพ่อื ใหนกั เรยี นแตละกลมุ รวมกนั แสดงความคิดเห็นวา • อัตราการขยบั แผนปด เหงือกของปลากอ นและหลงั การเปล่ียนแปลงอุณหภมู ิของน้ํา แตกตางกนั หรือไม อยา งไร (แนวตอบ : แตกตางกนั โดยหากน้าํ มอี ุณหภมู ิต่ํา อตั ราการขยับแผนปดเหงือกจะลดลง แตหากนา้ํ มี อณุ หภูมิสูง อัตราการขยบั แผน ปด เหงือกจะเพ่ิมขน้ึ ) • หากเปลย่ี นขนาดหรือชนดิ ของปลาในการทดลอง อัตราการขยับแผนปด เหงือกของปลาจะ แตกตางกนั หรือไม อยางไร (แนวตอบ : แตกตา งกนั ท่จี าํ นวนครัง้ แตลักษณะจะไมตางกนั โดยเมื่อนา้ํ มีอณุ หภูมิตา่ํ อัตราการ ขยับแผนปดเหงอื กจะลดลง แตห ากน้าํ มอี ุณหภูมสิ ูง อัตราการขยบั แผน ปด เหงอื กจะเพมิ่ ขึน้ ) 2. หลงั จากอภิปรายผลการทํากจิ กรรม ครูทบทวนเกยี่ วกับการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวติ เชน การ รกั ษาดุลยภาพนา้ํ ในเซลลพารามีเซียม โดยใชค อนแทรกไทลแ วควิ โอว การรักษาสมดลุ ของอุณหภมู ิ ในรางกายสตั วและมนษุ ย การรกั ษาสมดุลของกรด-เบสในเลอื ดของมนุษย เปน ตน โดยอาจตัง้ คําถามเช่อื มโยงเขาสูเรื่องดังกลาว ดงั นี้ • เม่อื อยูในสภาพแวดลอมทีม่ ีอุณหภูมิต่ํา เหตใุ ดรา งกายของจงึ ขบั ปส สาวะมากกวา เมอื่ อยูใน สภาพแวดลอมท่ีมอี ณุ หภูมิสูง (แนวตอบ : เมือ่ อยูในสภาพแวดลอ มทม่ี ีอณุ หภมู ิตํา่ รา งกายจะขับเหงื่อไดน อย และมนี ้าํ ในเลอื ด มาก เพื่อรักษาสมดุลของนํา้ ในรางกายจงึ มกี ารกาํ จัดนา้ํ ออกในรปู ของปส สาวะปรมิ าณมาก) • ขณะทอ่ี อกกําลงั กาย เหตุใดอตั ราการหายใจจึงสูงขน้ึ กวา ปกติ (แนวตอบ : ขณะออกกาํ ลงั กายรา งกายตอ งใชพลังงานมาก จึงตองนําออกซิเจนเขาสูรา งกายและ นําคารบอนไดออกไซดออกจากรา งกายอยา งรวดเร็วเพื่อรักษาสมดุลของกรด-เบสในเลอื ด ดงั นน้ั จึง ตอ งมีอัตราการหายใจท่ีสูงขนึ้ กวา ปกต)ิ ข้นั อธิบายและลงขอสรปุ /ข้ันดําเนินการคน หาคําตอบและตรวจสอบคําตอบ 1. ครนู ําอภปิ รายเกย่ี วกับลกั ษณะของสิง่ มีชีวติ ทีม่ ีการตอบสนองตอ ส่ิงเรา เชน แมลงเมาบนิ เขาหา กองไฟ มดเดนิ ตามกันไปยังแหลง อาหาร เปนตน จากนนั้ ตง้ั คําถามใหน กั เรียนรว มกนั โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 5 แสดงความคิดเหน็ • จงยกตัวอยางพฤติกรรมของส่ิงมชี วี ติ ทม่ี ีการตอบสนองตอส่ิงเรา (แนวตอบ : พิจารณาจากคาํ ตอบของนักเรยี น ตวั อยา งเชน - ไสเ ดอื นดินเคล่ือนท่ีเขาหาความชนื้ - แมวเลยี อุงเทาเพือ่ ระบายความรอ นออกจากรางกาย - องึ่ อางพองตวั เม่อื ถูกสัมผสั - ตน ตําลงึ มีมอื เกาะใชพ นั หลกั - ตน กาบหอยแครงหุบใบเมอื่ มแี มลงมาสมั ผัส) 2. ครูมอบหมายใหนกั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 5-6 คน ทํากิจกรรมในใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การตอบสนอง ตอ สง่ิ เรา ของส่ิงมชี วี ิต โดยศกึ ษาขอ มลู จากแหลงเรียนรตู างๆ หรอื จากใบความรูที่ 1.1 เร่อื ง การ ตอบสนองตอ ส่งิ เราของสิง่ มชี วี ิต 3. ครูมอบหมายการบา นใหน กั เรียนทาํ แบบฝกทกั ษะ เร่อื ง ธรรมชาติของส่งิ มชี ีวติ ขัน้ สรุปและประเมนิ ผล 1. ครูตรวจสอบผลการทําแบบทดสอบกอ นเรยี น เรือ่ ง ธรรมชาตขิ องส่งิ มชี วี ติ 2. ครตู รวจสอบผลจากใบงาน เร่ือง การตอบสนองตอ สิ่งเรา ของสงิ่ มีชวี ิต 3. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ กิจกรรม เร่อื ง อุณหภูมิกับการรักษาดุลยภาพของปลา 4. ครูตรวจสอบผลจากการทาํ แบบฝกทักษะ เรื่อง ธรรมชาตขิ องสิง่ มีชวี ิต 9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลงเรยี นรู จํานวน สภาพการใชส่ือ รายการสอื่ 1 ชดุ ขัน้ ตรวจสอบความรเู ดมิ 1. แบบทดสอบกอ นเรยี น เร่อื ง ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชวี ติ 1 ชุด ขน้ั อธิบายและลงขอสรุป 2. ใบงาน เร่ือง การตอบสนองตอ สิง่ เรา ของสิง่ มชี ีวติ 1 ชุด ขั้นอธบิ ายและลงขอสรุป 3. กิจกรรม เร่อื ง อุณหภมู กิ ับการรักษาดลุ ยภาพของปลา 1 ชุด ขนั้ อธิบายและลงขอสรุป 4. แบบฝกทักษะ เรอ่ื ง ธรรมชาตขิ องสิง่ มชี วี ิต 1 ชุด ขั้นสาํ รวจและคน พบ 4. Microsoft PowerPoint หนว ยที่ 1 ธรรมชาตขิ องสิ่งมชี วี ิต โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4 6 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา หมาย หลักฐานการเรียนรู วธิ ีวัด เคร่ืองมอื วัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑการให 1) อธิบายสมบัตทิ ี่ 1. แบบทดสอบกอน ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบกอ นเรียน คะแนน สําคญั ของ เรยี น เร่อื ง ธรรมชาติ กอ นเรียน แบบประเมินใบงาน ประเมินตามสภาพ สงิ่ มชี วี ิตได ของส่ิงมีชีวติ จริง 2. ใบงาน เรื่อง การ ตรวจใบงาน แบบประเมินช้ินงาน รอยละ 65 ผาน 2) อธบิ าย ตอบสนองตอส่งิ เราของ เรอ่ื ง การตอบ เกณฑ ความสัมพันธข อง สง่ิ มชี วี ติ สนองตอ ส่ิงเรา ของ การจดั ระบบใน สิ่งมีชวี ติ รอ ยละ 65 ผา น สิง่ มชี วี ติ ทท่ี ําให 3. กจิ กรรม เร่อื ง ตรวจใบกิจกรรม เกณฑ สิ่งมีชีวิตดาํ รงชวี ติ อุณหภูมกิ ับการรักษา เร่อื ง อุณหภูมิกบั อยไู ด ดลุ ยภาพของปลา การรกั ษาดลุ ยภาพ รอยละ 65 ผา น เกณฑ ของปลา ระดับคุณภาพ 2 ผา นเกณฑ แบบฝก ทกั ษะ เร่อื ง ตรวจแบบฝก ทักษะ แบบประเมินแบบฝก ระดบั คณุ ภาพ 2 ธรรมชาตขิ องส่งิ มีชีวิต เรอ่ื ง ธรรมชาติของ ทักษะ ผานเกณฑ ระดบั คณุ ภาพ 2 สง่ิ มชี ีวติ ผานเกณฑ ระดบั คณุ ภาพ 2 6. การนําเสนอผลงาน ประเมนิ การ ผลงานทีน่ าํ เสนอ ผานเกณฑ นาํ เสนอผลงาน 7. พฤติกรรมการ สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม ทํางานรายบุคคล การทาํ งาน การทํางานรายบุคคล รายบุคคล 8. พฤตกิ รรมการ สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ทํางานรายกลมุ การทํางานรายกลุม การทํางานรายกลมุ 9. คุณลักษณะ สงั เกตความมีวนิ ยั แบบประเมิน อันพึงประสงค ใฝเรยี นรูแ ละมงุ ม่ัน คุณลักษณะ ในการทาํ งาน อนั พงึ ประสงค โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปที่ 4 7 แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ท่ี 1 แบบประเมินการนําเสนอผลงาน คาํ ชีแ้ จง : ใหผ ูส อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวางเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว ขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน ลาํ ดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 เน้อื หาละเอยี ดชัดเจน 2 ความถูกตองของเนอ้ื หา 3 ภาษาที่ใชเขาใจงาย 4 ประโยชนท ไ่ี ดจากการนาํ เสนอ 5 วิธีการนาํ เสนอผลงาน รวม ลงชอื่ ...................................................ผปู ระเมิน (นางสาวสดุ าภรณ สืบบญุ เปย ม) ............./................../............... เกณฑก ารใหคะแนน ให 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ งกับรายการประเมนิ สมบูรณช ัดเจน ให 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลองกบั รายการประเมินเปนสว นใหญ ให 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลองกบั รายการประเมนิ บางสวน เกณฑการตัดสนิ คณุ ภาพ ชว งคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ต่าํ กวา 8 ปรับปรุง โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 8 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบุคคล คาํ ช้ีแจง : ใหผ สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน ลําดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 21 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรบั ฟง ความคิดเห็นของผอู น่ื 3 การทํางานตามหนา ที่ทไ่ี ดรบั มอบหมาย 4 ความมีนํ้าใจ 5 การตรงตอเวลา รวม ลงชือ่ ...................................................ผปู ระเมนิ นางสาวสุดาภรณ สบื บญุ เปยม ............./................../.............. เกณฑการใหคะแนน ให 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา งสมํ่าเสมอ ให 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ ยครง้ั ให 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑการตัดสินคณุ ภาพ ชว งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ตาํ่ กวา 8 ปรับปรุง โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มัธยมศึกษาปท ี่ 4 9 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ คาํ ชแ้ี จง : ใหผ สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรยี น แลวขดี ลงในชองที่ ตรงกบั ระดับคะแนน การมี ลําดบั ที่ ชอื่ – สกุล การแสดง การยอมรับ การทาํ งาน ความมี สวนรวมใน รวม ของนักเรยี น ความ ฟง คนอื่น ตามท่ีไดรบั น้ําใจ 15 คดิ เหน็ การ คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุม 321321321321321 เกณฑก ารใหค ะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผูประเมนิ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยางสมํา่ เสมอ (นางสาวสดุ าภรณ สืบบุญเปย ม) ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอยคร้ัง ............../.................../............... ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให 3 คะแนน ให 2 คะแนน ให 1 คะแนน เกณฑการตัดสินคุณภาพ ชวงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14 - 15 ดมี าก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ตํา่ กวา 8 ปรับปรุง โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 10 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค คําชแ้ี จง : ใหผสู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวางเรียนและนอกเวลาเรยี น แลวขดี ลงในชอ งที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงคดาน 321 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 1.1 ปฏบิ ัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคบั ของครอบครัว มีความตรงตอ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา ง ๆ ในชีวิตประจาํ วัน 2. ใฝเรยี นรู 2.1 รจู กั ใชเวลาวางใหเปน ประโยชน และนาํ ไปปฏบิ ัติได 2.2 รจู กั จดั สรรเวลาใหเหมาะสม 2.3 เชื่อฟง คําส่ังสอนของบิดา - มารดา โดยไมโ ตแยง 2.4 ตั้งใจเรยี น 3. มงุ มนั่ ในการทํางาน 3.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทาํ งานทไ่ี ดร บั มอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไมทอ แทตออปุ สรรคเพือ่ ใหง านสําเร็จ ลงชื่อ...................................................ผปู ระเมิน (นางสาวสดุ าภรณ สบื บุญเปย ม) ............../.................../................ เกณฑการใหค ะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมํ่าเสมอ ให 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอยคร้งั ให 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครั้ง ให 1 คะแนน เกณฑก ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 51 - 60 ดมี าก 41 - 50 ดี 30 - 40 พอใช ตํ่ากวา 30 ปรับปรุง โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 11 11. ความเหน็ ของผบู ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู ีไ่ ดร บั มอบหมาย ขอเสนอแนะ ลงช่ือ.................................................. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ผูอํานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 12. บันทกึ ผลหลังการสอน ดา นความรู ดา นสมรรถนะสาํ คัญของผูเรยี น ดา นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค ดา นความสามารถทางวิทยาศาสตร ดา นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน หรอื พฤตกิ รรมทม่ี ปี ญ หาของนักเรยี นเปนรายบุคคล (ถาม)ี ) ปญ หา/อุปสรรค แนวทางการแกไข ลงช่อื ..................................................ผสู อน (นางสาวสุดาภรณ สืบบุญเปยม) ตําแหนง พนักงานราชการ โดย ครูสดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 12 แบบทดสอบกอ นเรียน หนว ยการเรยี นรูที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต คาํ ชี้แจง : ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว 1. ขอใดไมใชเกณฑท่ีใชพิจารณาวาสิ่งตางๆ เปน 5. โครงสรางใดมีบทบาทในการรักษาสมดุลนํ้าใน สิง่ มีชวี ิตหรอื ไม พืช 1. มีหลายเซลล 1. กงิ่ 2. ราก 2. มีการสืบพันธุ 3. ลําตน 4. ปากใบ 3. มีการเจรญิ เตบิ โต 5. เนอื้ เย่ือปลายยอด 4. มกี ารตอบสนองตอ สิ่งเรา 6. หากนักเรียนตองการศึกษาเก่ียวกับจุลินทรีย 5. มกี ารปรบั ตวั ทางววิ ัฒนาการ นักเรยี นจะเลอื กศกึ ษาแขนงวชิ าใด 2. สิง่ มชี ีวิตกับสิง่ ไมม ชี ีวิตมคี วามเหมอื นกนั อยา งไร 1. cytology 1. มีการสืบพนั ธุ 2. ecology 2. มกี ารใชพ ลังงานจากแสง 3. evolution 3. มกี ระบวนการเมแทบอลซิ มึ 4. anatomy 4. มกี ารถา ยทอดพลังงานระหวา งกนั 5. microbiology 5. ประกอบดวยไปอะตอมและโมเลกุล 7. ปจจุบันมีการเพ่ิมผลผลิตทางการเกษตรและ 3. พจิ ารณาตวั เลือกวาขอใดตา งจากขออนื่ ปรับปรุงพันธุพืชเปนจํานวนมาก นักเรียนคิดวา 1. การแตกหนอของไฮดรา เปน การใชประโยชนท างชีววิทยาสาขาใด 2. การสรา งสปอรข องเชอ้ื รา 1. genetic 3. มีกระบวนการเมแทบอลิซมึ 2. cytology 4. การงอกขาที่ขาดไปของซาลามานเดอร 3. bioevolution 5. การแบง ออกเปน สองสว นของพารามีเซยี ม 4. biochemistry 4. หนวยพื้นฐานของส่ิงมีชีวิต มีโครงสรางหลักที่ 5. biotechnology เหมอื นกัน ไดแ กอ ะไรบาง 8. ขอใดตอไปน้ี ไมตอ งใชค วามรทู างดา น 1. ออรแกเนลล เยื่อหุมเซลล นวิ เคลียส พนั ธวุ ศิ วกรรม 2. ออรแกเนลล ไซโทพลาซมึ เยื่อหุมเซลล 1. แบคทเี รยี ที่สรางอนิ ซลู นิ ได 3. สว นทห่ี อหมุ เซลล นวิ เคลยี ส ไซโทพลาซมึ 2. มะละกอตา นโรคจุดวงแหวน 4. สวนที่หอ หุมเซลล โครโมโซม ไซโทพลาซมึ 3. การผลิตยาปฏชิ วี นะจากจุลนิ ทรีย 5. สวนที่หอหมุ เซลล เย่อื หุมเซลล ไซโทพลาซึม 4. จอกแหนท่ตี รงึ ไนโตรเจนในอากาศ 5. จลุ นิ ทรียท่ีสามารถกาํ จัดคราบนํา้ มันได โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปที่ 4 13 9. ขอใดเรียงลําดับขั้นตอนของกระบวนการทาง 10. การทดสอบสมมติฐานท่ีวา หนูสามารถตานทาน วิทยาศาสตรไดถกู ตอ ง ไวรสั ชนิดหน่งึ ไดจ ริงหรือไม ผูทําการทดลองควร 1. การกําหนดปญหา การต้ังสมมติฐาน การ แบง สตั วใ นการทดลองอยางไร ทดลอง การสรุปผล 1. แบงออกเปน 1 กลุม และฉีดสารละลายที่มี 2. ก า ร สั ง เ ก ต ก า ร กํ า ห น ด ป ญ ห า ก า ร ไวรสั ต้งั สมมตฐิ าน การทดลอง การสรปุ ผล 2. แบงออกเปน 1 กลุม และฉีดสารละลายท่ีไม 3. การต้ังสมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน มไี วรสั การเก็บรวมรวมขอมูลและวิเคราะหขอมูล 3. แบงออกเปน 2 กลุม โดยกลุมที่ 1 ฉีด การสรปุ ผล สารละลายทม่ี ไี วรัสทต่ี องการศกึ ษา สวนกลุม 4. การกําหนดปญหา การตั้งสมมติฐาน การ ที่ 2 ไมฉีดสารละลาย ตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวมรวมขอมูล 4. แบงออกเปน 2 กลุม โดยกลุมท่ี 1 ฉีด การสรปุ ผล สารละลายทม่ี ีไวรสั ที่ตองการศึกษา สวนกลุม 5. การกําหนดปญหา การต้ังสมมติฐาน การ ท่ี 2 ฉดี สารละลายทไี่ มม ีไวรสั ตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวมรวมขอมูล 5. แบงออกเปน 2 กลุม โดยกลุมที่ 1 ฉีด และวเิ คราะหข อ มลู การสรุปผล สารละลายที่มไี วรสั ทตี่ องการศึกษา สวนกลุม ท่ี 2 ฉีดสารละลายท่ีมไี วรัสอีกชนดิ หน่งึ โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท ่ี 4 14 เฉลยแบบทดสอบกอ นเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต คําชี้แจง : ใหนักเรยี นเลือกคําตอบท่ีถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว 1. ขอใดไมใชเกณฑทีใ่ ชพิจารณาวา สิง่ ตางๆ เปน 5. โครงสรา งใดมีบทบาทในการรกั ษาสมดุลนํ้าในพืช สิ่งมีชวี ติ หรือไม 1. ก่งิ 2. ราก 1. มีหลายเซลล 3. ลําตน 4. ปากใบ 2. มีการสบื พนั ธุ 5. เน้ือเยอ่ื ปลายยอด 3. มีการเจรญิ เตบิ โต 6. หากนกั เรียนตองการศกึ ษาเกี่ยวกบั จุลนิ ทรยี 4. มีการตอบสนองตอส่ิงเรา นกั เรยี นจะเลอื กศกึ ษาแขนงวิชาใด 5. มกี ารปรบั ตวั ทางววิ ัฒนาการ 1. cytology 2. ecology 2. สงิ่ มชี วี ิตกบั สิ่งไมม ีชีวิตมคี วามเหมือนกนั อยางไร 3. evolution 1. มีการสืบพันธุ 4. anatomy 2. มีการใชพลังงานจากแสง 5. microbiology 3. มกี ระบวนการเมแทบอลิซึม 7. ปจจบุ นั มกี ารเพม่ิ ผลผลิตทางการเกษตรและ 4. มีการถายทอดพลงั งานระหวา งกัน ปรับปรงุ พันธพุ ชื เปนจาํ นวนมาก นกั เรยี นคดิ วา 5. ประกอบดว ยไปอะตอมและโมเลกลุ เปน การใชป ระโยชนทางชีววิทยาสาขาใด 1. genetic 3. พิจารณาตวั เลือกวาขอใดตา งจากขออื่น 2. cytology 1. การแตกหนอของไฮดรา 3. bioevolution 2. การสรา งสปอรข องเช้ือรา 4. biochemistry 3. มกี ระบวนการเมแทบอลิซึม 5. biotechnology 4. การงอกขาที่ขาดไปของซาลามานเดอร 8. ขอ ใดตอ ไปน้ี ไมตองใชค วามรูทางดาน 5. การแบงออกเปนสองสวนของพารามเี ซยี ม พนั ธุวศิ วกรรม 1. แบคทเี รียทีส่ รางอินซูลินได 4. หนว ยพนื้ ฐานของส่งิ มีชวี ิต มีโครงสรา งหลกั ที่ 2. มะละกอตานโรคจุดวงแหวน เหมอื นกนั ไดแ กอ ะไรบาง 3. การผลติ ยาปฏิชวี นะจากจุลนิ ทรยี 1. ออรแกเนลล เยื่อหุมเซลล นิวเคลียส 4. จอกแหนทต่ี รงึ ไนโตรเจนในอากาศ 2. ออรแ กเนลล ไซโทพลาซึม เย่ือหุมเซลล 5. จลุ นิ ทรียท ่สี ามารถกาํ จัดคราบน้ํามนั ได 3. สวนท่ีหอหุมเซลล นวิ เคลยี ส ไซโทพลาซมึ 4. สว นทห่ี อ หมุ เซลล โครโมโซม ไซโทพลาซึม 5. สว นท่หี อ หมุ เซลล เย่อื หมุ เซลล ไซโทพลาซึม โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปยม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปที่ 4 15 9. ขอ ใดเรียงลาํ ดบั ขัน้ ตอนของกระบวนการทาง 10. การทดสอบสมมติฐานทวี่ า หนูสามารถตา นทาน วิทยาศาสตรไ ดถ ูกตอ ง ไวรัสชนดิ หนึ่งไดจริงหรอื ไม ผทู ําการทดลองควร 1. การกาํ หนดปญ หา การตั้งสมมตฐิ าน การ แบงสตั วในการทดลองอยา งไร ทดลอง การสรุปผล 1. แบง ออกเปน 1 กลมุ และฉดี สารละลายท่ีมี 2. การสังเกต การกําหนดปญหา การตัง้ สมมติฐาน ไวรสั การทดลอง การสรุปผล 2. แบงออกเปน 1 กลมุ และฉีดสารละลายท่ีไมม ี 3. การต้ังสมมติฐาน การตรวจสอบสมมตฐิ าน การ ไวรสั เกบ็ รวมรวมขอมลู และวเิ คราะหข อ มลู การ 3. แบงออกเปน 2 กลุม โดยกลุมท่ี 1 ฉดี สรปุ ผล สารละลายทม่ี ไี วรสั ทต่ี อ งการศึกษา สวนกลมุ ที่ 4. การกาํ หนดปญหา การต้งั สมมตฐิ าน การ 2 ไมฉ ดี สารละลาย ตรวจสอบสมมติฐาน การเกบ็ รวมรวมขอ มลู 4. แบงออกเปน 2 กลมุ โดยกลมุ ที่ 1 ฉดี การสรปุ ผล สารละลายท่ีมีไวรัสท่ตี อ งการศกึ ษา สวนกลุมที่ 5. การกําหนดปญหา การตัง้ สมมติฐาน การ 2 ฉดี สารละลายทไ่ี มมไี วรัส ตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวมรวมขอมูล 5. แบง ออกเปน 2 กลมุ โดยกลุมท่ี 1 ฉีด และวเิ คราะหขอ มูล การสรปุ ผล สารละลายทม่ี ไี วรัสท่ตี องการศึกษา สวนกลุม ที่ 2 ฉีดสารละลายทีม่ ไี วรสั อกี ชนิดหน่งึ โดย ครูสดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท ี่ 4 16 ใบความรู เรื่อง การตอบสนองตอสิง่ เราของส่งิ มีชีวิต ส่งิ มชี วี ิตจะมีการแสดงพฤตกิ รรมเพอื่ ตอบสนองตอสิง่ ทม่ี ากระตนุ ท้งั สิง่ เราภายในและสง่ิ เราภายนอก 1) ส่ิงเราภายใน (internal stimulus) คือ ส่ิงเราที่เกิดจากการกระตุนของระบบรางกาย ซึ่งสงผลให เกิดความตองการทางกายภาพ เชน ความหิวกระหาย ความรูสึกรอน-เย็น เปนตน ส่ิงเราภายใน เชน ฮอรโมน การเปล่ียนแปลงระดบั สารในรา งกาย เปนตน 2) สงิ่ เรา ภายนอก (external stimulus) คือ ส่ิงเราท่ีไดรับจากภายนอกหรือจากสิ่งแวดลอมท่ีกระตุน ผานระบบสัมผัสของระบบประสาทท้ัง 5 คือ หู ตา คอ จมูก และการสัมผัส สิ่งเราภายนอก เชน แสง อุณหภูมิ นา้ํ การสัมผัส เปน ตน การตอบสนองเมือ่ มแี สงเปนสงิ่ เรา ตวั อยางเชน - มนษุ ยห ร่ีตาเมอื่ ไดร ับแสงสวางมากเกนิ ไป - นกบินกลบั รงั เมือ่ พระอาทติ ยต กดิน - ยอดพืชเจริญเติบโตเขา หาแสง การตอบสนองเมอื่ มอี ณุ หภมู เิ ปนส่ิงเรา ตวั อยางเชน - มนุษยข ับเหงือ่ ปรมิ าณมากเมอ่ื อากาศรอน - สุนัขแลบล้ินเพ่อื ระบายความรอนออกจากรางกาย - แมวเลยี อุงเทา เพ่ือระบายความรอ นออกจากรา งกาย การตอบสนองเมือ่ มีนํ้าหรอื ความชืน้ เปน สง่ิ เรา ตวั อยางเชน - ไสเดือนดินเคลอ่ื นทเ่ี ขา หาความช้ืน - รากพชื เจริญเขาหาความช้ืน การตอบสนองเมอื่ มกี ารสัมผสั เปนสง่ิ เรา ตวั อยา งเชน - กง้ิ กือมวนตวั เมื่อถกู สัมผัส - ปลาปก เปาพองตัวเม่อื ถกู สัมผสั - ไมยราบหุบใบเม่อื ถกู สมั ผัส การตอบสนองเมอ่ื มีเสียงเปน สิ่งเรา ตวั อยา งเชน - ลกู ไกจะเขา ไปหลบใตปกของแมไ กเ ม่ือไดยินเสยี งแมไกรองเรยี ก - ตนชอ ยนางราํ ขยับโคนของยอดใบออ นเมอ่ื ไดรับเสยี ง การตอบสนองเม่อื มกี ลน่ิ เปนสงิ่ เรา ตวั อยา งเชน - มดเดินตามกลิน่ ของอาหาร - สุนัขปสสาวะเพื่อเปน การบง บอกถงึ อาณาเขต โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 17 ใบงาน เร่อื ง การตอบสนองตอสง่ิ เราของส่งิ มชี ีวิต คําช้ีแจง : ใหนกั เรยี นออกแบบและดําเนนิ การทดลองเพือ่ ศกึ ษาการตอบสนองตอ สง่ิ เรา ของส่งิ มีชีวติ วธิ ีดําเนินการ 1. ใหนักเรยี นแบง กลุม กลมุ ละ 5-6 คน ออกแบบและดําเนินการทดลองเพื่อศกึ ษาการตอบสนองตอ ส่งิ เราของสิ่งมีชีวติ 2. กาํ หนดชนิดของสิ่งเรา และเลอื กชนิดของพืชหรอื สตั วท่จี ะศึกษา โดยไมซ า้ํ กบั กลมุ อนื่ ๆ 3. กาํ หนดปญหา สมมติฐาน ตัวแปรตน ตวั แปรตาม ตวั แปรควบคมุ และออกแบบการทดลอง โดยบันทกึ ลงในกรอบดา นลา ง 4. ปฏิบัติการทดลองตามที่ออกแบบไว บนั ทึกผล และนาํ เสนอผลงาน โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 18 เฉลยใบงาน เรอื่ ง การตอบสนองตอสิง่ เรา ของส่ิงมีชีวติ คาํ ช้ีแจง : ใหน ักเรยี นออกแบบและดําเนินการทดลองเพื่อศึกษาการตอบสนองตอสิ่งเรา ของส่ิงมีชีวติ วธิ ีดาํ เนนิ การ 1. ใหน กั เรียนแบงกลมุ กลุมละ 5-6 คน ออกแบบและดาํ เนนิ การทดลองเพื่อศึกษาการตอบสนองตอ สงิ่ เรา ของสงิ่ มชี วี ติ 2. กาํ หนดชนดิ ของสง่ิ เรา และเลือกชนิดของพืชหรือสัตวท จ่ี ะศกึ ษา โดยไมซ า้ํ กับกลุมอ่นื ๆ 3. กาํ หนดปญหา สมมติฐาน ตัวแปรตน ตวั แปรตาม ตัวแปรควบคุม และออกแบบการทดลอง โดยบนั ทกึ ลงในกรอบดา นลาง 4. ปฏิบตั ิการทดลองตามทีอ่ อกแบบไว บันทึกผล และนาํ เสนอผลงาน พิจารณาจากผลงานของนักเรยี น โดยอยใู นดลุ ยพินิจของครผู ูสอน ตัวอยางเชน การตอบสนองตอ สิ่งเรา ของสตั ว ปญ หา : ชนิดของอาหารมผี ลตอการเคล่ือนที่ของมดเพื่อเขา หาอาหารหรือไม สมมติฐาน : ถา ชนดิ ของอาหารมผี ลตอ การเคล่อื นที่ของมดเพือ่ เขาหาอาหาร ดงั นน้ั ถา ใชนาํ้ ตาลเปน อาหาร มดจะเคลอ่ื นทีเ่ ขาไปหาเรว็ กวาอาหารชนดิ อ่ืน ตัวแปรตน : อาหารชนิดตา งๆ เชน นํา้ ตาล ขาว เนอ้ื สัตว ผลไม ตวั แปรตาม : ระยะเวลาทมี่ ดใชในการเคลือ่ นที่เขา หาอาหาร ตัวแปรควบคุม : ปริมาณอาหาร ชนิดและขนาดของมด ระยะทาง ภาชนะทใี่ ส อุณหภมู ิ การออกแบบการทดลอง : 1. นาํ กลอ งพลาสตกิ ใสทรงกลมขนาดใหญ 1 กลอ ง มาแบงชอ งตามรัศมีของกลอง โดย จาํ นวนชอ งเทา กับชนิดของอาหารท่ีจะศกึ ษา 2. นําอาหารแตละชนิดวางลงในกลองพลาสติกตามชองตา งๆ 3. นาํ มด 1 ตวั ไปปลอยบริเวณตรงกลางของกลองพลาสติก สงั เกตการเคล่อื นทข่ี องมด และจบั เวลาท่ใี ชใ นการเคลอ่ื นที่ โดย ครูสดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 19 แบบฝกทกั ษะ เรื่อง ธรรมชาติของส่ิงมชี ีวิต คําชี้แจง : ใหน กั เรยี นตอบคาํ ถามเก่ยี วกับธรรมชาตขิ องสงิ่ มีชีวิต 1. ปจจัยใดบางที่ทําใหสงิ่ มีชวี ติ ในธรรมชาตมิ ีลักษณะแตกตางกนั ออกไป ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การงอกใหม (regeneration) ของหางจ้งิ จกจัดวาเปน การสืบพนั ธแุ บบไมอาศัยเพศ หรอื ไม เพราะเหตุใด ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. การสืบพันธุแบบไมอ าศัยเพศมีขอ ดหี รอื ขอ เสยี อยา งไร ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. พลงั งานและสารอาหารท่ีส่ิงมีชีวิตนาํ มาใชในการดาํ รงชีวติ น้นั มแี หลงกาํ หนดมาจากแหลงใด และมีการ ถา ยทอดพลงั งานอยางไร ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. การเจรญิ เตบิ โตของสิ่งมชี ีวิตเกิดขน้ึ อยางไร ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 6. สิ่งเรามีผลตอ การดํารงชวี ิตของสง่ิ มชี ีวิตอยางไร จงอธบิ ายพรอ มยกตวั อยาง ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท่ี 4 20 7. พิจารณาขอความท่กี าํ หนดใหว าเปน สิ่งเรา ภายนอกหรือภายในของส่งิ มชี วี ติ ฮอรโมน ความหวิ แสงแดด เสียงแตรรถ ปรมิ าณนํ้าในรางกาย ปริมาณแกส คารบอนมอนอกไซด ระดบั นา้ํ ตาลในเลือด สงิ่ เราภายนอก ไดแ ก ....................................................................................................................... สง่ิ เรา ภายใน ไดแ ก .......................................................................................................................... 8. สง่ิ เรา มีผลตอการดาํ รงชีวติ ตอ สงิ่ มชี ีวิตอยา งไร ประกอบดว ยโครงสรางหลัก ไดแ กอะไรบา ง ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 9. หนวยพื้นฐานของสงิ่ มีชวี ิตคอื อะไร ประกอบดว ยโครงสรางหลกั ไดแกอ ะไรบา ง ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10. ส่ิงมชี วี ิตหลายเซลลมีการจดั ระบบรา งกายอยา งไร ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 21 เฉลยแบบฝก ทักษะ เรื่อง ธรรมชาตขิ องสิ่งมีชีวติ คาํ ช้แี จง : ใหนักเรียนตอบคําถามเก่ียวกบั ธรรมชาตขิ องสิ่งมีชวี ติ 1. ปจจัยใดบางที่ทาํ ใหสงิ่ มีชวี ติ ในธรรมชาตมิ ีลกั ษณะแตกตางกนั ออกไป ตอบ= ปจจัยท่ีทําใหสิง่ มีชีวติ ในธรรมชาตมิ ีลักษณะแตกตางกัน ไดแ ก ยีน ซง่ึ เปนตัวกาํ หนดลกั ษณะตา งๆ ของสงิ่ มีชวี ติ และอีกปจจัยหนง่ึ คอื สง่ิ แวดลอ ม ซง่ึ ทาํ ใหส ่งิ มีชวี ติ มกี ารปรับตวั และดํารงชีวิตอยไู ด 2. การงอกใหม (regeneration) ของหางจง้ิ จกจัดวาเปน การสืบพันธุแบบไมอาศยั เพศ หรือไม เพราะเหตุใด ตอบ= การงอกใหม (regeneration) ของหางจิ้งจก ไมใ ชการสบื พนั ธุแบบไมอ าศัยเพศ เพราะไมทาํ ใหเกิด สิ่งมีชีวติ ตวั ใหม แตเปนเพียงการงอกใหมเ พ่ือซอ มแซมสวนทขี่ าดหายไปของรางกายเทานั้น 3. การสบื พนั ธแุ บบไมอ าศยั เพศมีขอ ดหี รอื ขอเสยี อยางไร ตอบ= ขอ ดี คือ จะไดส ง่ิ มีชีวติ ตวั ใหมท ี่เหมอื นตัวแมท ุกประการ สามารถเพ่ิมปรมิ าณสิ่งมชี วี ติ ไดในปรมิ าณ ทีม่ ากและรวดเรว็ สวนขอเสีย คือ ไมก อ ใหเ กิดววิ ัฒนาการของสง่ิ มชี วี ติ 4. พลังงานและสารอาหารที่ส่ิงมชี วี ติ นาํ มาใชในการดํารงชวี ิตนั้นมแี หลงกําหนดมาจากแหลงใด และมกี าร ถายทอดพลังงานอยา งไร ตอบ= พลงั งานในระบบนิเวศมีแหลง กําหนดมาจากดวงอาทิตย โดยส่ิงมีชวี ิตท่ีเปนผูผลิตจะสามารถเปล่ียน พลังงานแสงใหเปนพลังงานเคมีสะสมไวในรูปของเน้ือเย่อื ซงึ่ ส่ิงมีชวี ิตอ่นื ๆ จะไดร บั การถา ยทอด พลงั งานน้ันโดยการกนิ ตอกนั เปนทอดๆ ในรปู ของโซอาหารและสายใยอาหาร 5. การเจริญเตบิ โตของสิ่งมีชีวติ เกิดข้นึ อยา งไร ตอบ= การเจริญเติบโตของสิ่งมีชวี ติ คอื การทีเซลลขยายขนาด เพ่มิ จํานวน มีการเปล่ยี นแปลงไปทาํ หนา ที่ เฉพาะอยา ง หรอื รวมกลมุ กนั เปนเนอื้ เยื่อ ทจ่ี ะพฒั นาตอไปเปน อวัยวะตา งๆ ซง่ึ ส่งิ มชี ีวิตทุกชนิดจะมี การเจริญเติบโตท่แี ตกตางกนั 6. สิง่ เรา มผี ลตอการดํารงชวี ิตของสง่ิ มชี ีวิตอยา งไร จงอธบิ ายพรอมยกตวั อยาง ตอบ= สง่ิ เรา เปน ปจ จัยท่ีทําใหสิ่งมีชวี ติ แสดงพฤตกิ รรมออกมา ใหเ หมาะสมตอ สิ่งแวดลอ มหรอื สถานการณขณะนนั้ ทง้ั น้ี เพ่ือทําใหสิ่งมีชวี ิตสามารถดํารงชีวิตอยไู ดต ามปกติ เชน หากในรางกายมี ปรมิ าณนํา้ นอ ย สง่ิ มีชวี ติ จะแสดงพฤติกรรมกระหายนํ้า และหานาํ้ ดมื่ เพอื่ เพิม่ ปรมิ าณน้าํ ในรา งกาย 7. พิจารณาขอความท่ีกาํ หนดใหว าเปนสิง่ เรา ภายนอกหรอื ภายในของสง่ิ มชี ีวติ ฮอรโมน ความหวิ แสงแดด เสยี งแตรรถ ปริมาณนาํ้ ในรางกาย ปรมิ าณแกส คารบ อนมอนอกไซด ระดบั น้าํ ตาลในเลือด ส่งิ เรา ภายนอก ไดแ ก แสงแดด เสียงแตรรถ และปรมิ าณแกสคารบอนมอนอกไซด สิ่งเราภายใน ไดแ ก ฮอรโ มน ความหิว ปรมิ าณน้ําในรางกาย และระดับนาํ้ ตาลในเลอื ด โดย ครูสดุ าภรณ สบื บุญเปยม กลมุ สาระการเรยี นรูว ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 22 8. สงิ่ เรามผี ลตอ การดาํ รงชีวติ ตอ สิ่งมีชวี ติ อยา งไร ประกอบดวยโครงสรา งหลกั ไดแกอะไรบา ง ตอบ= โพรโทซวั นํา้ จดื อาศยั อยใู นนา้ํ ท่มี คี วามเขม ขน ของสารตา งๆ นอยกวา ภายในเซลล ทําใหน้ําภายนอก เซลลออสโมซิสเขา สูเซลลข องโพรโทซัวตลอดเวลา ซง่ึ หากไมมกี ารขับนาํ้ ออก เซลลของโพรโทซัวจะ เตงและแตกได ดงั นน้ั โพรโทซวั จงึ ใชโครงสรา ง คอนแทรก็ ไทดแ วคิวโอล (contractile vacuole) เปน ตวั กาํ จัดนํ้าสวนเกนิ ออกนอกเซลล เพือ่ รกั ษาสมดุลน้าํ ภายในเซลล ใหเหมาะสมตอ การ ดํารงชีวติ 9. หนว ยพ้นื ฐานของสงิ่ มีชีวิตคอื อะไร ประกอบดว ยโครงสรา งหลัก ไดแ กอ ะไรบาง ตอบ= หนวยพน้ื ฐานของสิ่งมชี ีวิต คอื เซลล ซึ่งประกอบดว ยโครงสรา งหลัก ไดแก สวนหุมเซลล ไซโทพลาซมึ และนิวเคลียส 10. สง่ิ มีชีวติ หลายเซลลม กี ารจัดระบบรา งกายอยา งไร ตอบ= รางกายของสงิ่ มีชีวิตหลายเซลลประกอบดว ยเซลลจํานวนมาก ซงึ่ เซลลจะรวมตัวกันเปน เนอื้ เย่ือ เพอื่ ทาํ หนา ท่เี ฉพาะ เนอ้ื เยื่อหลายชนิดก็จะประกอบกนั เปนอวัยวะ ซงึ่ อวยั วะหลายๆ อวัยวะจะทาํ หนา ท่ีประสานสมั พันธกันเปน ระบบอวัยวะ และทุกๆ ระบบอวยั วะประกอบกันเปนรา งกายของ ส่ิงมชี วี ิต ซ่ึงทาํ ใหรางกายของส่ิงมีชีวติ สามารถดํารงชวี ติ อยูไ ด โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปยม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 23 แผนการจัดการเรยี นรู หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 เรอื่ ง ธรรมชาตขิ องสงิ่ มชี วี ิต แผนจัดการเรียนรทู ่ี 2 เรอ่ื ง ชวี วทิ ยาคอื อะไร ชีววิทยากบั การดํารงชวี ิต และชีวจรยิ ธรรม รายวิชา วทิ ยาศาสตรชีวภาพ รหัสวชิ า 31101 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปการศึกษา 2564 นํา้ หนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห เวลาทีใ่ ชในการจัดกิจกรรมการเรียนรู 2 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคญั การศกึ ษาเก่ยี วกบั สง่ิ มีชวี ติ กอใหเกิดวชิ าเฉพาะดานทางชีววิทยา ซ่ึงเปนประโยชนต อ การพัฒนา คุณภาพชีวติ มนุษยแ ละเปนประโยชนตอ ส่ิงแวดลอม ซงึ่ การศกึ ษาการใชป ระโยชนเก่ยี วกับสง่ิ มีชีวิตตอ ง คํานึงถงึ ชวี จรยิ ธรรม 2. ผลการเรียนรู 2. อภิปราย และบอกความสําคญั ของการระบุปญ หา ความสมั พนั ธร ะหวา งปญ หา สมมติฐาน และ วิธกี ารตรวจสอบสมมตฐิ าน รวมท้ังออกแบบการทดลองเพือ่ ตรวจสอบสมมตฐิ าน 3. สาระการเรียนรู 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge 1) อธิบายเกย่ี วกับสมบัติของน้ําได 2) อธบิ ายเกีย่ วกบั แขนงวิชาตา งๆ ของชีววทิ ยาและสาขาอ่ืนๆ ที่เกีย่ วขอ งได 3) อธบิ ายเก่ยี วกับชีวจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณการใชสัตวทดลองได 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1) ออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมติฐานได 3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค : Attitude 1) สนใจใฝร ูใ นการศกึ ษา 4. สมรรถนะสาํ คญั ของนักเรียน 1) ความสามารถในการสอ่ื สาร 2) ความสามารถในการคิด 5) ความสามารถในการใชเทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะของวิชา 1) ความรบั ผิดชอบ 2) กระบวนการกลุม 6. คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค 1. มวี ินัย 2. ใฝเรียนรู 3. มุงมนั่ ในการทาํ งาน โดย ครูสดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 24 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : 1. ใบงาน เรื่อง ชีวจริยธรรม 2. แบบฝกทกั ษะ เรื่อง ชวี วิทยาคืออะไร 3. แบบฝกทกั ษะ เร่ือง ชีววิทยากับการดาํ รงชวี ิต 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นําเขาสบู ทเรยี น/ข้ันต้ังคาํ ถาม 1. ครูต้งั คําถามเพอื่ ทบทวนความรูเ ดิมของนกั เรยี น โดยใหนักเรียนชวยกนั ระดมความคิดในการตอบ คําถาม 1.1 ความรูทางวิทยาศาสตรแ บง ออกไดก ส่ี าขา อะไรบาง (แนวคาํ ตอบ : ความรทู างวิทยาศาสตรแบง ออกเปน แขนงใหญๆ ได 5 สาขา ดงั น้ี - วทิ ยาศาสตรธรรมชาติ ไดแ ก ฟส กิ ส เคมี ชีววิทยา และวิทยาศาสตรโ ลก - วทิ ยาศาสตรป ระยกุ ต เชน วศิ วกรรม วิทยาการคอมพวิ เตอร - วทิ ยาศาสตรส งั คม เชน มานษุ ยวิทยา ภูมิศาสตร จิตวิทยา - วทิ ยาศาสตรการทหาร - วิทยาศาสตรสิง่ แวดลอม) 1.2 ชวี วทิ ยาศึกษาเกี่ยวกับสงิ่ ใด (แนวคําตอบ : ชีววิทยาเปนวชิ าท่ีศึกษาเกยี่ วกับส่ิงมีชวี ิตทั้งในดานการดํารงชวี ิต ความสมั พันธร ะหวางส่ิงมีชวี ิต และสงิ่ แวดลอ ม) 2. ใหน กั เรยี นรวมกันแสดงความคิดเห็นจากคําถามขา งตน จากน้นั ครอู าจนําอภปิ รายวา ชวี วทิ ยา สามารถจําแนกออกเปนแขนงยอยๆ ไดห ลายแขนง ขัน้ สํารวจและคนพบ/ข้ันการเตรยี มการคน หาคําตอบ 1. ครใู หนกั เรียนศึกษาเกีย่ วกับชวี วทิ ยาวา มีความเกย่ี วขอ งกับการดํารงชวี ติ ของมนุษยแ ละสตั ว อยา งไร และชีวจรยิ ธรรม 2. ครตู ้งั คาํ ถามเพื่อเช่ือมโยงความรูจากการศกึ ษาเกีย่ วกับแขนงตางๆ ทางชีววทิ ยา ใหนกั เรยี น ชว ยกนั ระดมความคดิ ในการตอบคาํ ถาม โดยถามคําถามวา ความรูจากแขนงตางๆ ทางชวี วิทยา เก่ียวของกับการดํารงชวี ติ ของมนษุ ยอยางไรบา ง (แนวคําตอบ : ความรูจากแขนงตา งๆ ทางชวี วิทยา เกี่ยวขอ งกบั การดาํ รงชวี ิตของมนษุ ย เชน - ความรดู านกายวิภาคศาสตรแ ละสรีรวทิ ยา ทําใหเ ขาใจการทํางานของระบบตา งๆ ในรางกาย และทราบวธิ ีการดแู ลรักษาระบบตางๆ ในรางกายใหทํางานไดอ ยา งปกติ - ความรดู านจลุ ชวี วทิ ยา นําไปสกู ารคน ควา วิจัยหาตวั ยาในการรกั ษาโรคตา งๆ) ชั่วโมงที่ 2 ขน้ั สํารวจและคน พบ/ขั้นการเตรียมการคน หาคําตอบ 1. ครูใหน กั เรยี นรวมกลมุ กัน กลุมละ 5-6 คน เพือ่ เลนเกมตอบคําถาม 2. ครตู ัง้ คําถามใหน ักเรียนแตละกลุม รว มเลนเกม ตวั อยางเชน โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท ่ี 4 25 2.1 จงยกตังอยา งการใชประโยชนจากความรทู างชวี วทิ ยาในดา นการเกษตร (แนวตอบ : ใชการเพาะเล้ียงเนอื้ เยอ่ื เพอ่ื ขยายพนั ธพุ ืชเศรษฐกจิ ใชเ ทคนิคการดัดแปรพนั ธุกรรม สรา งพชื ท่ีมคี วามแข็งแรง ตา นทานโรค และทนตอ ศัตรพู ชื การผสมเทียมสัตวต างๆ การผลิตปุย ชวี ภาพ) 2.2 จงยกตงั อยางการใชประโยชนจ ากความรทู างชวี วทิ ยาในดา นการการแพทยและสาธารณสุข (แนวตอบ : ใชเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมสรา งส่งิ มชี ีวิตทส่ี รางสารบางชนดิ ท่มี ีประโยชนต อ การแพทย เชน ฮอรโมนอินซูลิน สารปฏชิ วี นะ) 2.3 จงยกตงั อยา งการใชประโยชนจ ากความรทู างชีววิทยาในดานอตุ สาหกรรม (แนวตอบ : ใชเ ทคโนโลยีการหมักในการผลติ ขนมปง เคร่อื งดืม่ แอลกอฮอล นมเปร้ียว โยเกิรต) ขั้นอธบิ ายและลงขอสรุป/ข้ันดาํ เนนิ การคนหาคาํ ตอบและตรวจสอบคาํ ตอบ 1. ครนู าํ อภิปรายโดยกลาวถึงกจิ กรรม เรือ่ ง อุณหภูมิกบั การรักษาดุลยภาพของปลา วาในขณะทํา กจิ กรรมนักเรียนกระทําอยา งไรกบั ปลาบาง และการกระทาํ น้นั คํานงึ ถึงชวี จริยธรรมหรือไม อยางไร 2. ครตู ้งั คาํ ถามใหนักเรียนรวมกันอภปิ รายวา การนําความรูทางชวี วทิ ยาไปใชต อ งคํานึงถึงชวี จริย ธรรมอยา งไรบา ง โดยใหนกั เรยี นชวยกนั ยกตัวอยางกจิ กรรมทค่ี าํ นึงถึงชีวจริยธรรม 3. ครูมอบหมายใหน กั เรยี นจับคูกนั ทํากจิ กรรมในใบงาน เรื่อง ชีวจรยิ ธรรม โดยศึกษาขอมลู จาก แหลง เรยี นรูตางๆ ขั้นสรปุ และประเมินผล 1. ครตู รวจสอบผลจากใบงานท่ี เร่ือง ชีวจรยิ ธรรม 2. ครูตรวจสอบผลจากการทาํ แบบฝกทกั ษะ เรือ่ ง ชีววิทยาคอื อะไร 3. ครูตรวจสอบผลจากการทาํ แบบฝกทักษะ เรื่อง ชวี วิทยากบั การดาํ รงชีวติ 9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลงเรียนรู จาํ นวน สภาพการใชสอื่ รายการสอื่ 1 ชุด ข้นั อธิบายและลงขอสรปุ 1 ชุด ขน้ั อธบิ ายและลงขอสรปุ 1. ใบงานท่ี เร่อื ง ชวี จริยธรรม 1 ชดุ ขั้นอธบิ ายและลงขอสรุป 2. แบบฝกทกั ษะ เร่ือง ชวี วทิ ยาคอื อะไร 3. แบบฝก ทักษะ เรือ่ ง ชีววทิ ยากบั การดํารงชวี ติ โดย ครูสุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท่ี 4 26 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู วธิ วี ดั เครอื่ งมือวัดฯ ประเด็น/ การเรียนรู ช้นิ งาน/ภาระงาน ตรวจใบงานท่ี เกณฑการใหคะแนน 1) อธิบายเก่ียวกับ 1. ใบงานที่ เรื่อง เรือ่ ง ชีวจริยธรรม แบบประเมินใบงาน ระดับคุณภาพ สมบตั ิของนา้ํ ได ชวี จรยิ ธรรม รอยละ 65 2) อธบิ ายเก่ยี วกับ 2. แบบฝก ทักษะ เรื่อง ตรวจแบบฝกทกั ษะ ผานเกณฑ แขนงวชิ าตางๆ ชวี วทิ ยาคอื อะไร เร่ือง ชวี วทิ ยาคือ แบบประเมินแบบ ระดับคุณภาพ ของชีววิทยาและ 3. แบบฝกทกั ษะ เรอ่ื ง อะไร ฝกทกั ษะ รอยละ 65 สาขาอ่ืนๆ ที่ ชีววทิ ยากบั การ ตรวจแบบฝก ทกั ษะ ผา นเกณฑ เกยี่ วของได ดํารงชวี ิต เรื่อง ชวี วทิ ยากับ แบบประเมนิ แบบ ระดับคณุ ภาพ 3) อธบิ ายเก่ยี วกบั 5. การนาํ เสนอผลงาน การดํารงชีวิต ฝก ทกั ษะ รอยละ 65 ชีวจริยธรรมและ 6. พฤติกรรมการ ผา นเกณฑ จรรยาบรรณการ ทํางานรายบคุ คล ประเมินการ ใชสัตวทดลองได นาํ เสนอผลงาน ผลงานทน่ี าํ เสนอ ระดับคุณภาพ 2 7. พฤติกรรมการ สังเกตพฤติกรรม ผา นเกณฑ ทํางานรายกลุม การทาํ งาน รายบคุ คล แบบสงั เกต ระดบั คณุ ภาพ 2 8. คุณลกั ษณะ พฤตกิ รรม ผานเกณฑ อนั พึงประสงค สงั เกตพฤติกรรม การทาํ งาน การทาํ งานรายกลุม รายบุคคล แบบสงั เกต ระดบั คุณภาพ 2 สังเกตความมวี ินยั พฤตกิ รรม ผา นเกณฑ ใฝเรียนรแู ละมงุ ม่ัน การทํางานรายกลมุ ในการทํางาน แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 คุณลักษณะ ผา นเกณฑ อนั พึงประสงค โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปยม กลมุ สาระการเรียนรูว ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท ่ี 4 27 แบบประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ที่ 2 แบบประเมินการนาํ เสนอผลงาน คําชแ้ี จง : ใหผ ูสอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว ขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน ลําดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถกู ตอ งของเนอื้ หา 3 ภาษาท่ีใชเขาใจงาย 4 ประโยชนท ่ีไดจ ากการนําเสนอ 5 วิธีการนาํ เสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผปู ระเมิน (นางสาวสุดาภรณ สืบบุญเปยม) ............./................../............... เกณฑการใหค ะแนน ให 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลองกับรายการประเมินสมบรู ณช ัดเจน ให 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ งกับรายการประเมนิ เปน สวนใหญ ให 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ งกบั รายการประเมนิ บางสวน เกณฑการตัดสินคณุ ภาพ ชวงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 - 15 ดมี าก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ต่ํากวา 8 ปรับปรงุ โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 28 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบุคคล คําชี้แจง : ใหผสู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว ขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน ลําดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 3 21 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรบั ฟง ความคดิ เห็นของผอู ่ืน 3 การทาํ งานตามหนา ท่ีที่ไดรบั มอบหมาย 4 ความมีน้าํ ใจ 5 การตรงตอเวลา รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู ระเมนิ (นางสาวสดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม) ............./................../.............. เกณฑการใหค ะแนน ให 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา งสม่ําเสมอ ให 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ ยคร้ัง ให 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑก ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ต่าํ กวา 8 ปรับปรุง โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท่ี 4 29 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ คําชแ้ี จง : ใหผสู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา งเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขดี ลงในชอ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน การมี ลําดับที่ ช่อื – สกลุ การแสดง การยอมรบั การทํางาน ความมี สวนรว มใน รวม ของนักเรียน ความ ฟงคนอ่ืน ตามทไี่ ดร บั น้ําใจ 15 คดิ เหน็ การ คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรุง ผลงานกลมุ 321321321321321 เกณฑการใหคะแนน ลงช่ือ...................................................ผูประเมิน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา งสม่ําเสมอ (นางสาวสุดาภรณ สืบบุญเปย ม) ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ ยครัง้ ............../.................../............... ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให 3 คะแนน ให 2 คะแนน ให 1 คะแนน เกณฑการตัดสินคณุ ภาพ ชว งคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ต่าํ กวา 8 ปรับปรงุ โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 30 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค คําชแ้ี จง : ใหผสู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวางเรียนและนอกเวลาเรยี น แลวขดี ลงในชอ งที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงคดาน 321 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 1.1 ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคบั ของครอบครัว มีความตรงตอ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา ง ๆ ในชีวิตประจาํ วัน 2. ใฝเรยี นรู 2.1 รจู กั ใชเ วลาวางใหเปน ประโยชน และนาํ ไปปฏบิ ัติได 2.2 รจู กั จัดสรรเวลาใหเ หมาะสม 2.3 เช่ือฟง คําส่ังสอนของบิดา - มารดา โดยไมโ ตแยง 2.4 ตัง้ ใจเรยี น 3. มงุ มนั่ ในการทํางาน 3.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทาํ งานทไ่ี ดร บั มอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไมทอ แทตออปุ สรรคเพือ่ ใหง านสําเร็จ ลงชื่อ...................................................ผปู ระเมิน (นางสาวสดุ าภรณ สบื บุญเปย ม) ............../.................../................ เกณฑการใหค ะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมํ่าเสมอ ให 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอยคร้งั ให 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครงั้ ให 1 คะแนน เกณฑก ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชวงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 51 - 60 ดมี าก 41 - 50 ดี 30 - 40 พอใช ตํ่ากวา 30 ปรับปรุง โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปที่ 4 31 11. ความเหน็ ของผบู รหิ ารสถานศึกษาหรือผทู ี่ไดร บั มอบหมาย ขอเสนอแนะ ลงชือ่ .................................................. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ผอู ํานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห 31 12. บันทึกผลหลังการสอน ดา นความรู ดา นสมรรถนะสําคัญของผเู รยี น ดา นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค ดานความสามารถทางวทิ ยาศาสตร ดา นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเดน หรอื พฤติกรรมทมี่ ีปญหาของนักเรียนเปน รายบุคคล (ถามี)) ปญ หา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ ข ลงช่ือ..................................................ผสู อน (นางสาวสดุ าภรณ สืบบญุ เปย ม) ตําแหนง พนักงานราชการ โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 32 ใบงาน เรื่อง ชวี จรยิ ธรรม คําชแี้ จง : ใหน ักเรียนสบื คน ขอ มลู เกย่ี วกบั การใชความรทู างชวี วทิ ยาโดยคํานึงถึงชวี จรยิ ธรรม วธิ ดี าํ เนินการ ใหน ักเรยี นจบั คูกันสบื คนขอ มูลเกย่ี วกับการใชความรทู างชีววทิ ยาโดยคํานงึ ถงึ ชวี จรยิ ธรรม แลว สรปุ ความรูล งในกรอบดานลาง ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... ............................................................................................................................... โดย ครูสดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มัธยมศึกษาปท ี่ 4 33 เฉลยใบงาน เรื่อง ชีวจริยธรรม คําชแ้ี จง : ใหน กั เรยี นสืบคนขอ มลู เกยี่ วกบั การใชความรูทางชีววทิ ยาโดยคํานงึ ถงึ ชวี จริยธรรม วิธีดาํ เนนิ การ ใหนกั เรียนจับคกู นั สบื คนขอมูลเก่ยี วกบั การใชความรทู างชีววิทยาโดยคํานึงถงึ ชวี จริยธรรม แลว สรุปความรลู งในกรอบดา นลา ง ชวี จรยิ ธรรม (bioethics) หมายถึง การปฏิบัตติ อส่งิ มีชวี ติ อยางมคี ุณธรรม ไมท ําราย หรอื ทําอนั ตรายตอสตั วหรือมนษุ ยเพือ่ การศกึ ษาหรือการวิจัยเชน • จรรยาบรรณในการใชส ตั วท ดลอง สาํ นกั งานคณะกรรมการการวิจัยแหงชาติ ไดกําหนดจรรยาบรรณการใชสัตวเ พอื่ งานวิจยั งานสอน งานทดสอบ และงานผลิตชวี วัตถุไว ดังน้ี 1. ผูใ ชสัตวต อ งตระหนักถึงคุณคา ของชวี ิตสตั ว 2. ผใู ชสัตวตอ งตระหนกั ถึงความแมนยาํ ของผลงานโดยใชสตั วจาํ นวนนอ ยท่สี ดุ 3. การใชสัตวป าตองไมขัดตอ กฎหมายและนโยบายการอนุรกั ษปา 4. ผูใชสัตวต อ งตระหนกั วาสตั วเ ปนสิ่งมชี ีวิตเชน เดยี วกับมนษุ ย 5. ผใู ชสัตวตอ งบันทึกการปฏบิ ัติตอ สัตวไ วเ ปนหลักฐานอยางครบถวน • การใชเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีชวี ภาพ หมายถงึ การนาํ สง่ิ มีชีวติ หรือช้ินสว นของส่ิงมีชีวิตมาทําใหเ กิดการ เปลย่ี นแปลงที่เปน ประโยชนมากขึ้นโดยใชเทคโนโลยี แตห ากนาํ ไปใชในทางลบ เชน นําเอาส่ิงมชี วี ติ ที่เปนอันตรายตอพชื สัตว โดยเฉพาะมนุษยม าใชเปน อาวธุ ทาํ ลายลางกัน ท่ีเรยี กวา อาวุธชีวภาพ กจ็ ะขดั ตอ หลักชวี จริยธรรม • การใชค วามรูดา นการเกษตร การใชสารเรงการเจริญเติบโตในพชื หรอื ในสัตวอ าจกอใหเ กิดสารตกคางซ่ึงมผี ลเสยี ตอ ผูบริโภค การใชสารฟอรม าลนิ แชผัก ปลา หรือเนอ้ื การใชส ารบอแรกซ ใสใ นลกู ชิ้น ลว นเปนการกระทาํ ทขี่ ดั ตอหลักชวี จริยธรรม โดย ครูสุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปที่ 4 34 แบบฝกทักษะ เร่อื ง ชวี วิทยา คืออะไร คาํ ชแ้ี จง ใหนกั เรียนนําตวั อกั ษรหนาขอความทางดานขวามาเตมิ หนา ขอ ที่มคี วามสมั พันธกนั ……….. 1. Microbiology A. ความสัมพนั ธร ะหวางส่งิ มีชีวติ กับสง่ิ แวดลอ ม ……….. 2. Ecology B. กลไกการทาํ งานในรางกาย ……….. 3. Malacology C. ชนดิ โครงสรางรา งกาย และการดาํ รงชีวิตของนก ……….. 4. Ichthyology D. การประยกุ ตใ ชความรูท างชีววทิ ยากับสิ่งมีชวี ติ ……….. 5. Entomology E. ลักษณะโครงสรางของเซลล ……….. 6. Taxonomy F. การเจรญิ และพัฒนาของตวั ออ น ……….. 7. Evolution G. โครงสรางภายในรางกาย ……….. 8. Biotechnology H. ชนดิ โครงสรางรา งกาย และการดาํ รงชีวิตของสตั ว ……….. 9. Ethology I. ชนดิ โครงสรา งรา งกาย และการดํารงชวี ิตของแมลง ……….. 10.embryology J. ชนิด โครงสรางรา งกาย และการดาํ รงชีวิตของปลา ……….. 11. Cytology K. การจดั หมวดหมูของส่งิ มชี วี ติ ……….. 12. physiology L. ชนดิ โครงสรา งรางกาย และการดํารงชวี ติ ของหอย ……….. 13. Anatomy M. จลุ ินทรยี หรือสิง่ มีชวี ติ ท่ีไมสามารถมองเห็นไดดว ยตาเปลา ……….. 14. Genetics N. พฤตกิ รรมของสง่ิ มีชีวิต ……….. 15. Zoology O. วิวัฒนาการของส่ิงมชี ีวติ ……….. 16. ornithology P. ปรสิต ……….. 17. Parasitology Q. ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม และการถายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม ……….. 18. Morphology R. ชนิด โครงสราง และการดํารงชวี ติ ของพชื ……….. 19. botany S. โครงสรา งภายนอกของสิง่ มชี วี ิต ……….. 20.phycology T. ชนดิ โครงสราง และการดาํ รงชีวติ ของสาหราย 2. การผลิตพืชท่ีมีความทนทานตอความแหง แลงเก่ียวของกับแขนงวิชายอ ยทางชวี วทิ ยาแขนงใด มาก ท่สี ุด เพราะเหตใุ ด ตอบ = ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 35 เฉลยแบบฝกทกั ษะ เรอื่ ง ชวี วิทยา คอื อะไร คาํ ช้ีแจง 1. ใหนักเรยี นนาํ ตวั อกั ษรหนาขอ ความทางดา นขวามาเติมหนา ขอที่มีความสัมพันธก ัน …M….. 1. Microbiology A. ความสมั พนั ธระหวางสิ่งมีชวี ิตกับสง่ิ แวดลอม …A….. 2. Ecology B. กลไกการทาํ งานในรา งกาย …L….. 3. Malacology C. ชนดิ โครงสรา งรางกาย และการดาํ รงชีวติ ของนก …J….. 4. Ichthyology D. การประยุกตใชค วามรูทางชีววิทยากับส่งิ มชี ีวิต …I….. 5. Entomology E. ลักษณะโครงสรา งของเซลล …K….. 6. Taxonomy F. การเจริญและพฒั นาของตวั ออ น …O….. 7. Evolution G. โครงสรา งภายในรางกาย …D….. 8. Biotechnology H. ชนดิ โครงสรา งรางกาย และการดาํ รงชีวิตของสัตว …N….. 9. Ethology I. ชนิด โครงสรางรา งกาย และการดาํ รงชีวิตของแมลง …F….. 10.embryology J. ชนิด โครงสรางรางกาย และการดาํ รงชวี ิตของปลา …E….. 11. Cytology K. การจัดหมวดหมูของส่ิงมชี ีวติ …B….. 12. physiology L. ชนิด โครงสรา งรางกาย และการดํารงชวี ิตของหอย …G….. 13. Anatomy M. จุลนิ ทรียหรือสิง่ มีชีวิตท่ีไมส ามารถมองเห็นไดด วยตาเปลา …Q….. 14. Genetics N. พฤติกรรมของส่ิงมชี ีวติ …H….. 15. Zoology O. วิวฒั นาการของส่ิงมีชีวติ …C….. 16. ornithology P. ปรสติ …P….. 17. Parasitology Q. ลักษณะทางพนั ธกุ รรม และการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม …S….. 18. Morphology R. ชนดิ โครงสราง และการดาํ รงชวี ติ ของพืช …R….. 19. botany S. โครงสรา งภายนอกของสิ่งมีชีวติ …T….. 20.phycology T. ชนิด โครงสราง และการดํารงชวี ิตของสาหรา ย 2. การผลิตพชื ทมี่ คี วามทนทานตอความแหง แลงเก่ยี วของกบั แขนงวชิ ายอยทางชีววิทยาแขนงใด มาก ทีส่ ุด เพราะเหตใุ ด ตอบ = เก่ียวขอ งกับเทคโนโลยชี ีวภาพ (biotechnology) เพราะการผลิตพืชใหไดลักษณะตามท่ีตองการน้ี จะตอ งนําความรูดา นตา งๆ ทางวิทยาศาสตรม าประยุกตใชกบั สิ่งมีชีวิต และอาศัยความรูดา น พนั ธุวศิ วกรรมดวย โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปยม กลมุ สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4 36 แบบฝก ทกั ษะ เรื่อง ชีววิทยากบั การดาํ รงชีวติ คําชแ้ี จง ใหน ักเรยี นตอบคําถามเก่ยี วกบั การประยกุ ตใ ชค วามรดู านชีววทิ ยา อานขอความทก่ี าํ หนดให แลวตอบคาํ ถาม “อเล็กซานเดอร เฟลมิง เปน นักชวี วทิ ยาและนักเภสัชวทิ ยา ชาวสกอตแลนด เกดิ เมื่อ วนั ที่ 6 สงิ หาคม พ.ศ. 2424 ในกรงุ ดารเวล ประเทศสกอตแลนด และเสยี ชวี ิตในวันที่ 11 มนี าคม พ.ศ.2498 ท่ี กรงุ ลอนดอนประเทศองั กฤษ เปนผูค น พบเชือ้ ราชนิดหน่ึง โดยบงั เอญิ ซึ่งเชอื้ รานม้ี ีชื่อวา เพนิซลิ เลียม (penicillium) และยังคนพบวา สารทเ่ี ชือ้ รานสี้ รา งขึ้นสามารถยับยัง้ การเจริญของแบคทีเรียได ซงึ่ ตอ มา สารดงั กลาวนนั้ ถกู นาํ มาผลติ เปนยาปฏิชวี นะชนิดหน่งึ ท่ชี ื่อวา เพนิซลิ ลนิ (penicillin) ท่ีใชรกั ษาโรคบาง ชนดิ ในปจ จุบนั ” 1. นักเรียนคิดวา การคน พบของอเล็กซานเดอร เฟลมงิ เปนประโยชนต อการดํารงชวี ิตของมนุษย อยางไร ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ความรทู างดา นชีววทิ ยามปี ระโยชนต อ การดํารงชวี ิตของมนุษย ในดานการเกษตร การแพทย และ สาธารณสุข และอตุ สาหกรรมอยา งไร ตอบ= ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… โดย ครูสดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 37 เฉลยเแบบฝกทักษะ เรอื่ ง ชีววทิ ยากับการดาํ รงชีวิต คาํ ช้แี จง ใหนกั เรยี นตอบคําถามเกยี่ วกบั การประยุกตใชค วามรูดานชวี วทิ ยา อานขอความที่กาํ หนดให แลว ตอบคําถาม “อเล็กซานเดอร เฟลมงิ เปน นักชีววิทยาและนักเภสัชวิทยา ชาวสกอตแลนด เกิดเม่ือ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2424 ในกรงุ ดารเวล ประเทศสกอตแลนด และเสียชีวิตในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2498 ที่ กรงุ ลอนดอนประเทศองั กฤษ เปนผคู น พบเช้ือราชนดิ หนง่ึ โดยบังเอิญ ซ่ึงเช้ือรานมี้ ีชื่อวา เพนซิ ิลเลยี ม (penicillium) และยงั คน พบวา สารทีเ่ ชื้อรานสี้ รา งขึ้นสามารถยับยั้งการเจริญของแบคทเี รยี ได ซง่ึ ตอ มา สารดงั กลา วนัน้ ถูกนาํ มาผลติ เปนยาปฏชิ ีวนะชนิดหนง่ึ ท่ีชื่อวา เพนซิ ลิ ลนิ (penicillin) ที่ใชรักษาโรคบาง ชนิดในปจจุบนั ” 1. นักเรยี นคดิ วา การคน พบของอเล็กซานเดอร เฟลมงิ เปน ประโยชนต อการดํารงชีวิตของมนุษย อยา งไร ตอบ= การคน พบของอเล็กซานเดอร เฟลมิง เปน ประโยชนอ ยางมากในดา นการแพทยและสาธารณสุข โดย การคน พบดงั กลาวสามารถนาํ มาพฒั นายาเพ่ือยับย้งั โรคที่เกิดจากแบคทีเรียได ซง่ึ ปจ จบุ ันยังคงมกี ารใช ยาเพนิซลิ ินรักษาโรคบางชนิด นอกจากนี้ ยงั ถอื ไดวาการคนพบนีเ้ ปน จุดเร่มิ ตนทจี่ ะพฒั นายาชนดิ ใหมๆ เพ่อื ใชร ักษาโรคอื่นๆ ตอไป 2. ความรทู างดานชีววิทยามปี ระโยชนตอ การดํารงชีวิตของมนุษย ในดา นการเกษตร การแพทย และ สาธารณสขุ และอตุ สาหกรรมอยา งไร ตอบ= ความรทู างดา นชวี วทิ ยาสามารถนาํ มาใชประโยชนในหลายๆ ดา น ตัวอยา งเชน - ดานการเกษตร โดยการใชเ ทคนคิ เพาะเลยี้ งเน้ือเยื่อ เพ่ือการขยายพันธุและปรบั ปรงุ พันธพุ ืช เศรษฐกิจ หรือพชื ที่ใกลสูญพันธุ - ดานการแพทยและสาธารณสขุ ใชค วามรทู างดานวศิ วกรรมในการตดั ตอ ยนี ของสิ่งมชี วี ิต เพอ่ื ให สามารถสรา งสารบางชนิดได เชน ใชแบคทีเรียท่ีผลิตฮอรโ มนอนิ ซลู ินเพอ่ื รักษาโรคเบาหวาน - ดานอุตสาหกรรม สามารถนําความรทู างดา นจุลชีววทิ ยาซึ่งเปนแขนงวิชาหนงึ่ ในชวี วทิ ยา มาใชใ น โรงงานอตุ สาหกรรมตา งๆ เชน ในกระบวนการหมักแปง ของยีสตในการผลิตขนมปง ใชย ีสตหมัก ผลติ เครื่องด่ืมทม่ี ีแอลกอฮอล (พิจารณาจากคาํ ตอบของนักเรยี นโดยขน้ึ อยกู ับดุลยพินิจของครูผูสอน) โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท่ี 4 38 แผนการจดั การเรยี นรู หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 เรื่อง ธรรมชาตขิ องสง่ิ มีชีวิต แผนจัดการเรียนรทู ี่ 3 เรอ่ื ง การศกึ ษาชวี วทิ ยา รายวชิ า วิทยาศาสตรชวี ภาพ รหัสวชิ า 31101 ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2564 น้ําหนกั เวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ช่วั โมง/สัปดาห เวลาที่ใชใ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู 4 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคญั นักชีววิทยาใชวิธีการทางวิทยาศาสตรในการศึกษา ซึ่งประกอบดวยการกําหนดปญหา การ ตงั้ สมมตฐิ าน การตรวจสอบสมมตฐิ าน การเกบ็ รวบรวมขอมลู และวิเคราะหขอ มูล และการสรุปผล ความรูทาง ชีววิทยาอาจไดจากการสํารวจและศึกษาทั้งในและนอกหองปฏิบัติการ ดังนั้น ชีววิทยาประกอบดวยสวนท่ี สาํ คัญ 2 สว น คือ สว นท่ีเปนความรแู ละสวนท่ีเปน กระบวนการคน หาความรู 2. ผลการเรียนรู 2. อภิปราย และบอกความสาํ คญั ของการระบปุ ญหา ความสัมพนั ธระหวา งปญหา สมมติฐาน และ วธิ ีการตรวจสอบสมมติฐาน รวมท้ังออกแบบการทดลองเพือ่ ตรวจสอบสมมตฐิ าน 3. สาระการเรียนรู 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge 1) อธิบายความสําคญั ของการระบุปญหา ความสัมพันธร ะหวางปญ หา สมมติฐาน และวิธกี ร ตรวจสอบสมมติฐานได 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) ออกแบบและดําเนินการทดลองตามวธิ กี ารทางวิทยาศาสตรได 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค : Attitude 1) สนใจใฝรูใ นการศึกษา 4. สมรรถนะสาํ คัญของนักเรยี น 1) ความสามารถในการส่อื สาร 2) ความสามารถในการคิด 5) ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะของวิชา 1) ความรบั ผิดชอบ 2) กระบวนการกลุม 6. คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค 1. มวี ินัย 2. ใฝเ รียนรู 3. มงุ มน่ั ในการทาํ งาน โดย ครูสุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 39 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : 1. ใบงาน เร่ือง วธิ ีการทางวิทยาศาสตร 2. แบบฝกทักษะ เรื่อง การศึกษาชวี วิทยา 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง ธรรมชาตขิ องสง่ิ มชี ีวิต 8. กิจกรรมการเรยี นรู ชว่ั โมงท่ี 1 ขนั้ นาํ เขา สบู ทเรียน/ขั้นตง้ั คาํ ถาม 1. ครูนําเขา สกู ิจกรรม โดยใหนักเรยี นนับเลข 1-5 วนกันไปเรือ่ ยๆ จนครบทั้งหอง จากน้ันใหน กั เรียน ทีน่ ับเลขเดยี วกนั อยกู ลมุ เดียวกนั 2. ครูเตรยี มรูปสิง่ มชี วี ิตชนิดใดชนิดหน่ึงใหน กั เรียนแตละกลมุ สงั เกตลักษณะตา งๆ ของสงิ่ มชี วี ิตชนิด นั้น โดยใหเวลาสังเกตประมาณ 5 นาที 3. ใหแ ตละกลุมจดบนั ทึกลกั ษณะของส่ิงมีชีวติ ท่ีสังเกต และตัง้ คําถามเก่ยี วกบั ส่ิงมชี วี ติ นน้ั 2-3 คําถาม 4. ใหน ักเรียนแตล ะกลมุ สงตัวแทนออกมาเสนอผลงานหนาช้นั เรียน จากน้ันครูต้ังคาํ ถามเพอ่ื ให นกั เรยี นรว มกันอภปิ ราย ดังน้ี - ขอมูลทีก่ ลมุ นักเรียนบันทกึ ไดจากการสังเกตสง่ิ มชี ีวิต เม่อื เปรยี บเทยี บกบั กลุมอืน่ ๆ แลวมี ขอ มูลละเอียดครบถว นหรอื ไม อยา งไร (แนวคําตอบ : นกั เรยี นบางกลุม อาจบนั ทึกขอมลู ไดล ะเอียดครบถว น แตบ างกลุมอาจบนั ทึก ไดไ มละเอียดครบถวน) - คาํ ถามที่กลมุ นักเรยี นตัง้ ข้ึน เมือ่ เปรยี บเทียบกบั กลุมอื่นๆ แลวมลี ักษณะอยางไร (แนวคําตอบ : บางคําถามอาจนาํ ไปสกู ารคนหาคําตอบทน่ี า สนใจ แตบางคาํ ถามไมนา สนใจ) ขั้นสํารวจและคน พบ/ข้นั การเตรียมการคนหาคําตอบ 1. ครตู ั้งคาํ ถามเพ่อื นําเขาสกู ารสบื คน ขอมูล ดงั นี้ - วิธกี ารทางวทิ ยาศาสตรป ระกอบดวยอะไรบาง (แนวคําตอบ : วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตรประกอบดวยการกําหนดปญ หา การต้ังสมมติฐาน การ ตรวจสอบสมมตฐิ าน การเก็บรวบรวมขอ มูลและวิเคราะหขอมูล และการสรปุ ผล) - นกั เรียนคดิ วานักวทิ ยาศาสตรค วรมลี กั ษณะอยางไร (แนวคําตอบ : นักวทิ ยาศาสตรม กั เปน คนชางสังเกต ซง่ึ การสงั เกตจะนาํ ไปสกู ารตัง้ คําถาม) - เพราะเหตใุ ดจงึ ควรตัง้ สมมตฐิ านไวห ลายๆ สมมตฐิ าน (แนวคําตอบ : เพอ่ื ใหม ีแนวทางในการสืบคน หาคําตอบไดห ลายวธิ ี โดยไมย ึดสมมติฐานใด สมมตฐิ านหนึ่งเปนคําตอบกอ นท่ีจะไดพิสูจนต รวจสอบแลว) 2. ครูใหนกั เรยี นแตละกลุมสืบคน ขอมูลเกย่ี วกบั การกาํ หนดปญ หา และการตัง้ สมมติฐาน 3. ใหนกั เรยี นแตล ะกลมุ ทาํ กิจกรรม เร่ือง การกําหนดปญหาและตง้ั สมมตฐิ าน โดย ครูสดุ าภรณ สบื บุญเปยม กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มัธยมศึกษาปท ี่ 4 40 ขั้นอธบิ ายและลงขอสรปุ /ข้ันดาํ เนนิ การคนหาคําตอบและตรวจสอบคําตอบ 1. ใหน ักเรียนแตละกลุมรว มกนั กาํ หนดปญหาเกยี่ วกับความรูทางวิทยาศาสตร และต้ังสมติฐานที่ สอดคลองกบั ปญ หาทกี่ าํ หนดขนึ้ อยางนอยกลุมละ 3 ปญ หา ตัวอยางเชน - ปญหา : ความเขมของแสงมีผลตอการเจรญิ เติบโตของพืชหรอื ไม สมมตฐิ าน : ถาความเขม ของแสงมผี ลตอการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้น พชื ท่ีอยูกลางแจง จะเจริญเติบโตมากกวาพชื ที่อยูในทีร่ ม : ถาความเขมของแสงมผี ลตอ การเจรญิ เตบิ โตของพืช ดังนั้น พืชทอี่ ยูกลางแจง จะมีความสูงมากกวา พืชที่อยูในท่ีรม - ปญ หา : ความเขม ขน ของนํา้ ตาลในนํ้าสบั ปะรดมผี ลตอการสลายน้าํ ตาลของยีสตห รือไม สมมตฐิ าน : ถาความเขมขนของน้าํ ตาลในนาํ้ สับปะรดมีผลตอการสลายน้าํ ตาลของยีสต ดังนน้ั ในน้ําสับปะรดที่มีความเขมขนของนํ้าตาลสูงจะเกดิ แกส CO2 มากกวาในนํ้า สับปะรดทม่ี ีความเขมขน ของนํ้าตาลตาํ่ 2. ครูและนกั เรยี นรวมกนั อภิปรายความเหมอื นและความแตกตา งของสมมติฐานท่ียกตวั อยา งไป ในขอ 1. - ปญหา : ความเขม ของแสงมผี ลตอการเจรญิ เติบโตของพืชหรือไม สมมติฐาน : ถาความเขมของแสงมผี ลตอ การเจริญเติบโตของพชื ดังนั้น พืชท่อี ยูกลางแจง จะเจริญเติบโตมากกวาพืชทอ่ี ยใู นทีร่ ม : ถาความเขม ของแสงมผี ลตอการเจรญิ เตบิ โตของพชื ดงั น้นั พืชทีอ่ ยกู ลางแจง จะ มีความสงู มากกวา พชื ที่อยูในทร่ี ม โดยแนวการอภิปรายควรเปน ดังน้ี สมมตฐิ านทั้งสองนัน้ ในสว นทีเ่ ปน ดงั นั้น จะแนะแนวทางในการ ออกแบบการทดลองออกเปน 2 กลุม คอื กลุมทอี่ ยูใ นที่แจงกับกลมุ ท่ีอยูในทีร่ ม แตสว นท่ตี า งกนั คือ สมมติฐานแรกไมไดร ะบนุ ยิ ามปฏิบตั ิการของการเจรญิ เตบิ โตของพืชวาจะวัดจากสงิ่ ใด สวนสมมติฐานทส่ี อง ระบุนยิ ามปฏิบตั กิ ารของการเจรญิ เตบิ โตวาวัดจากความสงู ซ่ึงเปนการชี้แนะวิธกี ารวัดผลการทดลองนน่ั เอง ชว่ั โมงที่ 2 ขัน้ สาํ รวจและคนพบ/ข้นั การเตรยี มการคนหาคาํ ตอบ 1. ครตู งั้ คาํ ถามเพอ่ื นําเขาสูก ารสืบคน ขอมลู ดังน้ี - การตรวจสอบสมมติฐานสามารถทําไดอยางไร (แนวคําตอบ : นักเรยี นอาจตอบวา ทําไดโ ดยการ ทดลอง) 2. จากคาํ ถามในขอ 1. ครูช้แี จงวา การตรวจสอบสมมติฐานสามารถทําไดหลายวธิ ี เชน การสังเกต การตอบแบบสอบถาม การสมั ภาษณ การสํารวจ และการทดลอง 3. ครนู ําอภปิ รายเกี่ยวกบั ปจจยั ท่ีมีผลตอการทดลองวา ปจ จัยดังกลา วนนั้ เรยี กวา ตวั แปร จากน้นั ให นักเรียนแตล ะคนศกึ ษาเรือ่ ง การตรวจสอบสมมติฐาน ขัน้ อธิบายและลงขอ สรปุ /ข้ันดําเนนิ การคนหาคาํ ตอบและตรวจสอบคําตอบ 1. ใหน กั เรียนรว มกนั ตอบคาํ ถาม ดังนี้ - เหตุใดจึงตองมีการตรวจสอบสมมตฐิ าน และการตรวจสอบสมมติฐานมีจุดประสงคเพอื่ สงิ่ ใด โดย ครูสดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท ี่ 4 41 (แนวคาํ ตอบ : การตรวจสอบสมมตฐิ านเพอื่ ทาํ ใหทราบแนช ัดวาสมติฐานใดถูกตอง ซง่ึ การ ตรวจสอบสมมติฐานมจี ุดประสงคเพ่อื คน ควาหาขอมูล รวบรวมขอ มูล และตรวจสอบวา สมมติฐานขอใดเปน คําตอบท่ีถูกตองทีสุด) 2. ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายความหมายของคาํ ตางๆ ดังน้ี - ตัวแปรตนหรือตัวแปรอสิ ระ (independent variable) : ตัวแปรท่ีผูท ดลองกําหนดข้นึ เพือ่ ทดสอบผลท่เี กิดข้นึ จากตัวแปรนี้ - ตวั แปรตาม (dependent variable) : ตัวแปรท่ีเปนผลมาจากตวั แปรตนหรอื ตัวแปรอสิ ระ - ตัวแปรควบคุม (controlled variable) : สง่ิ ตา งๆ นอกเหนอื จากตวั แปรตน ที่อาจทําใหผลการ ทดลองเกิดความคลาดเคลอ่ื นได ซ่งึ ผูทดลองจะตองควบคุมใหส่งิ ตา งๆ เหลาน้ันคงทต่ี ลอดการ ทดลอง ชั่วโมงที่ 3 ขัน้ สํารวจและคนพบ/ขั้นการเตรียมการคน หาคําตอบ 1. ครูใหนักเรียนสบื คน ขอ มูลเรอ่ื งการเก็บรวบรวมขอ มลู และวเิ คราะหขอมูล และการสรุปผล 2. ใหนักเรยี นกลมุ เดิมศึกษากิจกรรมเรื่อง การกําหนดตัวแปร วเิ คราะหขอ มูล และสรุปผลการทดลอง 3. ครูเนน ยา้ํ วา จากกิจกรรมนักเรยี นจะไดใชทักษะตางๆ เชน ทักษะการสังเกต ทักษะการลงความ คิดเหน็ จากขอมูล ทักษะการจัดทําและสื่อความหมายของขอมูล ทักษะการกาํ หนดและควบคมุ ตัว แปร ทกั ษะการตีความหมายและสรปุ ขอ มูล ซึ่งเปนทักษะพื้นฐานทีส่ าํ คญั ในการศกึ ษาวทิ ยาศาสตร ข้ันอธิบายและลงขอสรปุ /ขั้นดาํ เนนิ การคนหาคําตอบและตรวจสอบคําตอบ 1. ครูและนักเรยี นรว มกนั อภิปรายคําถามทา ยกจิ กรรม ดังน้ี - ในการทดลองน้ี สงิ่ ใดเปนตวั แปรควบคุม สิ่งใดเปน ตวั แปรตน และสงิ่ ใดเปนตวั แปรตาม (แนวคาํ ตอบ : ตัวแปรควบคมุ คอื พชื ชนิดเดียวกนั ที่มีขนาดใกลเคียงกัน และมีอายเุ ทา กัน ใชด ิน ชนดิ เดยี วกัน ปรมิ าณดินเทากัน กระถามขนาดเดียวกนั ปรมิ าณนํ้าเทากัน ตัวแปรตน คือ แสงสวา งท่มี สี ตี างกัน ตัวแปรตาม คือ ขนาดและความสูงของลาํ ตน ) - แสงสีใดมีผลทาํ ใหพ ชื เจรญิ เติบโตไดด ที ี่สดุ และไดนอ ยท่ีสดุ ตามลาํ ดบั (แนวคาํ ตอบ : แสงสแี ดงมีผลทําใหพชื เจรญิ เติบโตไดด ที ่สี ุด สวนแสงสีเหลืองมีผลทําใหพชื เจริญเตบิ โตไดนอ ยทส่ี ุด) - ใหนักเรยี นแสดงผลการทดลองเปน แผนภูมหิ รือกราฟการเจรญิ เตบิ โตของพืชเมื่อไดร ับแสงสตี างๆ (แนวคําตอบ : พิจารณาจากผลงานของนกั เรียน โดยอยูในดลุ ยพินิจของครผู ูสอน) 2. ครูใหนกั เรียนทาํ ใบงาน เรื่อง วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร ชวั่ โมงท่ี 4 ขน้ั ขยายความรูและนําเสนอผลการคน หาคาํ ตอบ 1. ครูนําอภิปรายวา หากผลการทดลองไมส อดคลองกบั สมมติฐานท่ตี ้งั ไว นกั เรียนควรดาํ เนินการ อยางไร โดย ครสู ุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท่ี 4 42 หากผลการทดลองไมสอดคลอ งกับสมมติฐานทต่ี ัง้ ไว นกั เรียนควรพิจารณาหาขอผิดพลาด แลว ดําเนนิ การทดลองซํ้า แตหากทดลองซ้ําหลายครง้ั แลวผลการทดลองไมส อดคลองกับสมมติฐาน ท่ีต้ังไว ควรต้งั สมมติฐานใหม และดําเนินการตรวจสอบสมมตฐิ านอีกครงั้ 2. ครแู ละนกั เรียนรว มกนั อภิปรายเกย่ี วกบั การศึกษาชวี วทิ ยา โดยควรไดข อ สรุป ดังน้ี การศกึ ษาชวี วิทยาประกอบดวย 2 สวน คอื สวนทเ่ี ปน ความรู และสว นทเี่ ปนกระบวนการคนหา ความรู ซึง่ ไดแ ก การกําหนดปญหา การตั้งสมมตฐิ าน การตรวจสอบสมมติฐาน การเกบ็ รวบรวม ขอ มูลและวเิ คราะหขอ มูล และการสรปุ ผล ความรทู ่ไี ดจากกระบวนการตรวจสอบสมมติฐาน ตองผานการตรวจสอบจากนกั วิทยาศาสตร หลายๆ ทา น จนกระท่งั ไดขอสรุปท่เี ปน หลักการเดียวกัน ความรูนนั้ ๆ จึงสามารถนําไปต้ังเปนกฎ และทฤษฎี เชน กฎของเมนเดล ทฤษฎเี ซลล เปนตน 3. ครูใหนกั เรียนแตล ะกลมุ ดาํ เนนิ การตามขน้ั ตอนทน่ี กั วทิ ยาศาสตรใชใ นการศึกษาส่งิ ตา งๆ นับตง้ั แต การกําหนดปญ หา การตั้งสมมตฐิ าน การตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวบรวมขอมูลและวเิ คราะห ขอ มูล และการสรปุ ผล โดยปฏิบัตกิ ิจกรรมในใบงานที่ 1.3 เร่อื ง วิธกี ารทางวิทยาศาสตร 4. ครใู หนักเรียน ทาํ แบบฝก ทักษะ เรอื่ ง การศกึ ษาชีววิทยา ข้นั สรปุ และประเมนิ ผล 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสังเกตการตอบคําถาม การรวมกนั ทําผลงาน และจากการนาํ เสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลจากใบงาน เร่อื ง วธิ ีการทางวิทยาศาสตร 3. ครูตรวจสอบผลจากแบบฝก ทกั ษะ เรอ่ื ง การศึกษาชวี วิทยา 4. ครตู รวจสอบผลจากแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง ธรรมชาติของส่ิงมชี ีวิต 9. ส่ือการเรียนการสอน / แหลงเรียนรู จาํ นวน สภาพการใชส อื่ รายการสอ่ื 1 ชดุ ข้นั สาํ รวจและคนพบ 1 ชุด ขน้ั อธิบายและลงขอสรปุ 1. กจิ กรรม เร่ือง การกาํ หนดปญ หาและต้งั สมมติฐาน 1 ชุด ขน้ั อธิบายและลงขอ สรุป 2. ใบงาน เร่ือง วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร 1 ชุด ขนั้ ขยายความรู 3. แบบฝกทักษะ เร่ือง การศึกษาชีววิทยา 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง ธรรมชาตขิ องสง่ิ มชี วี ติ โดย ครูสุดาภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มัธยมศึกษาปท่ี 4 43 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปาหมาย หลักฐานการเรยี นรู วิธวี ดั เคร่อื งมอื วดั ฯ ประเดน็ / การเรยี นรู ชิน้ งาน/ภาระงาน เกณฑการให ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรยี น 1) อธบิ ายความ 1. แบบทดสอบหลงั หลงั เรยี น คะแนน สาํ คญั ของการระบุ เรียน เร่อื ง ประเมนิ ตามสภาพ ปญ หา ความสัมพันธ ธรรมชาติของสิง่ มชี วี ติ ตรวจกจิ กรรม เรื่อง แบบประเมนิ การ จรงิ ระหวางปญหา 2. กจิ กรรม เร่ือง การ การกาํ หนดปญ หา ปฏบิ ัตกิ าร ระดับคุณภาพ 2 สมมติฐาน และวิธกี ร กาํ หนดปญหาและ และตัง้ สมมตฐิ าน ผา นเกณฑ ตรวจสอบสมมติฐาน ต้ังสมมติฐาน ได ตรวจใบงาน เร่ือง แบบประเมินใบงาน ระดับคณุ ภาพ วิธีการทาง รอ ยละ 65 3. ใบงาน เร่อื ง วิธกี าร วทิ ยาศาสตร ผา นเกณฑ ทางวิทยาศาสตร ตรวจแบบฝก ทกั ษะ แบบประเมนิ แบบฝก ระดบั คุณภาพ เร่อื ง การศกึ ษา ทกั ษะ รอ ยละ 65 4. แบบฝก ทักษะ เรอื่ ง ชวี วิทยา ผานเกณฑ การศึกษาชวี วิทยา 6. การนําเสนอผลงาน ประเมนิ การ ผลงานท่ีนาํ เสนอ ระดับคณุ ภาพ 2 นาํ เสนอผลงาน ผา นเกณฑ 7. พฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ 2 ทํางานรายบุคคล สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ผา นเกณฑ การทาํ งาน การทํางานรายบคุ คล 8. พฤติกรรมการ รายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ทํางานรายกลุม สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา นเกณฑ การทาํ งานรายกลุม การทํางานรายกลุม ระดบั คณุ ภาพ 2 9. คณุ ลกั ษณะ ผานเกณฑ อนั พึงประสงค สงั เกตความมวี นิ ยั แบบประเมนิ ใฝเรียนรแู ละมงุ ม่นั คุณลักษณะ ในการทาํ งาน อนั พงึ ประสงค โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 44 แบบประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผน ฯ ท่ี 3 แบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน คําชแี้ จง : ใหผสู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลวขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน ลําดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 เนื้อหาละเอียดชดั เจน 2 ความถูกตอ งของเน้ือหา 3 ภาษาท่ีใชเขาใจงาย 4 ประโยชนท ไ่ี ดจ ากการนาํ เสนอ 5 วธิ ีการนําเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผปู ระเมิน (นางสาวสุดาภรณ สืบบุญเปยม) ............./................../............... เกณฑก ารใหคะแนน ให 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ งกับรายการประเมินสมบูรณช ดั เจน ให 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ งกบั รายการประเมนิ เปนสว นใหญ ให 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ งกบั รายการประเมนิ บางสวน เกณฑก ารตัดสินคณุ ภาพ ชวงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ต่ํากวา 8 ปรบั ปรงุ โดย ครูสุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มัธยมศกึ ษาปท ี่ 4 45 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบุคคล คําชี้แจง : ใหผสู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว ขีด ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน ลําดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 21 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรบั ฟง ความคดิ เห็นของผอู ่ืน 3 การทาํ งานตามหนา ท่ีที่ไดรบั มอบหมาย 4 ความมีน้าํ ใจ 5 การตรงตอเวลา รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู ระเมนิ (นางสาวสุดาภรณ สืบบุญเปย ม) ............./................../.............. เกณฑการใหค ะแนน ให 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา งสม่ําเสมอ ให 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ ยคร้ัง ให 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑก ารตัดสินคณุ ภาพ ชว งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ตา่ํ กวา 8 ปรบั ปรุง โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปที่ 4 46 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ คําช้แี จง : ใหผ สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว ขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน การมี การแสดง การยอมรบั การทาํ งาน ความมี สวนรว มใน รวม ช่อื – สกลุ ความ ฟงคนอน่ื ตามที่ไดรับ น้าํ ใจ การ 15 ลาํ ดบั ที่ ของนกั เรยี น คิดเห็น มอบหมาย ปรบั ปรุง คะแนน ผลงานกลุม 321321321321321 ลงชือ่ ...................................................ผูป ระเมนิ (นางสาวสุดาภรณ สบื บญุ เปย ม) ............../.................../............... เกณฑการใหคะแนน ให 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา งสมํา่ เสมอ ให 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ ยครง้ั ให 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ เกณฑก ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 15 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช ตํ่ากวา 8 ปรบั ปรงุ โดย ครูสุดาภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรียนรูว ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาชวี วิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท่ี 4 47 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค คําชแ้ี จง : ใหผสู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว ขดี ลงในชองที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงคดาน 321 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 1.1 ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับของครอบครัว มีความตรงตอ เวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตาง ๆ ในชวี ิตประจําวัน 2. ใฝเรยี นรู 2.1 รจู กั ใชเวลาวางใหเปน ประโยชน และนําไปปฏบิ ัติได 2.2 รจู กั จัดสรรเวลาใหเ หมาะสม 2.3 เชื่อฟง คําส่ังสอนของบิดา - มารดา โดยไมโตแ ยง 2.4 ตัง้ ใจเรยี น 3. มงุ มนั่ ในการทํางาน 3.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทาํ งานทไี่ ดรับมอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไมทอ แทตออปุ สรรคเพ่ือใหง านสําเรจ็ ลงช่อื ...................................................ผูประเมิน (นางสาวสดุ าภรณ สืบบญุ เปย ม) ............../.................../................ เกณฑการใหค ะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและสมํ่าเสมอ ให 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอยคร้งั ให 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครงั้ ให 1 คะแนน เกณฑก ารตัดสินคณุ ภาพ ชว งคะแนน ระดับคุณภาพ 51 - 60 ดมี าก 41 - 50 ดี 30 - 40 พอใช ตํ่ากวา 30 ปรับปรงุ โดย ครูสุดาภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชีววิทยา 1 มธั ยมศึกษาปท่ี 4 48 11. ความเหน็ ของผบู รหิ ารสถานศึกษาหรือผทู ี่ไดรบั มอบหมาย ขอ เสนอแนะ ลงช่ือ.................................................. (นายอดศิ ร แดงเรือน) ผอู ํานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห 12. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ดานความรู ดานสมรรถนะสําคัญของผเู รยี น ดา นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค ดา นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร ดา นอ่ืน ๆ (พฤตกิ รรมเดน หรอื พฤติกรรมที่มีปญ หาของนักเรียนเปน รายบุคคล (ถา มี)) ปญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไข ลงชื่อ..................................................ผูส อน (นางสาวสดุ าภรณ สบื บุญเปย ม) ตําแหนง พนักงานราชการ โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บญุ เปยม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาชีววิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปที่ 4 49 ใบงาน เรือ่ ง วิธีการทางวทิ ยาศาสตร คําช้ีแจง : ใหน กั เรียนใชวธิ กี ารทางวิทยาศาสตรเพือ่ ศกึ ษาส่งิ ทสี่ นใจ วธิ ดี าํ เนนิ การ ใหน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 5-6 คน ออกแบบและดาํ เนนิ การทดลองโดยใชวธิ ีการทางวิทยาศาสตรเพอ่ื ศกึ ษาสิ่งทีน่ ักเรยี นสนใจ บันทึกลงในใบงาน และนําเสนอผลการทดลองหนา ชัน้ เรยี น ปญ หา : สมมตฐิ าน : ตัวแปรในการทดลอง : ตัวแปรตน : ตวั แปรตาม : ตวั แปรควบคุม : วธิ กี ารทดลอง : ตารางบันทกึ ผลการทดลอง : โดย ครสู ดุ าภรณ สบื บุญเปย ม กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าชวี วิทยา 1 มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 50 เฉลยใบงาน เรือ่ ง วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร คําชแ้ี จง : ใหนกั เรียนใชว ิธีการทางวิทยาศาสตรเ พื่อศึกษาส่ิงท่สี นใจ วธิ ดี าํ เนินการ ใหน กั เรียนแบง กลมุ กลมุ ละ 5-6 คน ออกแบบและดาํ เนินการทดลองโดยใชวิธีการทางวิทยาศาสตรเพอื่ ศกึ ษาส่งิ ทน่ี ักเรยี นสนใจ บันทึกลงในใบงาน และนําเสนอผลการทดลองหนาช้ันเรยี น ปญ หา : อณุ หภูมมิ ีผลตอการสลายนา้ํ ตาลของยสี ตในนํา้ สบั ปะรดหรอื ไม สมมติฐาน : ถา อุณหภูมิมผี ลตอ การสลายน้ําตาลของยสี ตใ นนา้ํ สับปะรด ดังน้นั อุณหภมู ิท่แี ตกตางกัน ยอมมผี ลตอ อตั ราการเกิดแกส CO2 ทีไ่ ดจ ากการสลายนาํ้ ตาลของยีสต ตวั แปรในการทดลอง : ตวั แปรตน : อุณหภูมิทแี่ ตกตา งกนั ตัวแปรตาม : อัตราการเกิดแกส CO2 ตวั แปรควบคมุ : ขนาดขวดรูปชมพู ปรมิ าณนํ้าสับปะรด ปรมิ าณยีสต วิธกี ารทดลอง : 1. ค้ันนาํ้ สับปะรดประมาณ 100 cm3 2. ตวงนํ้าสับปะรดใสขวดรปู ชมพู 3 ใบ ใบละ 10 cm3 3. ชัง่ ยีสตใ สลงในขวดรูปชมพใู นขอ 2. ขวดละ 2.5 g 4. นาํ จุกยางที่มีหลอดนาํ แกสเสียบอยูไปปด ขวดรูปชมพูท ั้ง 3 ใบ แลว นาํ ไปไวใ นสภาวะตา งกัน ดงั นี้ ชุดที่ 1 แชในบกี เกอรท ปี่ รบั อณุ หภมู ิเปน 0 oC ชดุ ท่ี 2 แชใ นบีกเกอรทป่ี รบั อณุ หภมู ิเปน 25 oC ชดุ ที่ 3 แชใ นบกี เกอรท ีป่ รับอุณหภมู ิเปน 40 oC 5. ต้ังชดุ การทดลองไวประมาณ 10 นาที สงั เกตปริมาณแกสท่เี กดิ ขึน้ 6. ทําการทดลองซา้ํ อีก 2 ครงั้ แลว นําผลการทดลองมาหาคาเฉลี่ย ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง : ปรมิ าณแกส CO2 ทีเ่ กดิ ขึ้น (cm3) อุณหภมู ิ (oC) คร้งั ที่ 2 ครง้ั ที่ 3 คา เฉล่ีย 0.33 ครง้ั ท่ี 1 1.33 0 0.3 ทรัพยแาบกบรฝธรก รทมัก102ชษ...354าะตทแิ ี่ ล4ะ.1ส่งิ แวดลอ 02ม1..31 2.20 25 40 เร21อื่ ..52ง คําชแ้ี จง ใหนักเรยี นตอบคาํ ถามเกยี่ วกับทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอมตอ ไปน้ี 1. ทรพั ยากรธรรมชาตคิ อื อะไร แบง ออกเปนก่ปี ระเภท อะไรบาง ตอบ = ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… โดย ครสู ุดาภรณ สบื บญุ เปย ม กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
Search