Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรเขาหมอนพลูตาหลวง

หลักสูตรเขาหมอนพลูตาหลวง

Published by สุภาภรณ์ นวมมา, 2020-01-17 03:13:37

Description: หลักสูตรเขาหมอนพลูตาหลวง

Search

Read the Text Version

เดยี วกนั โดยอาจแบง่ เน้ือหาออกเป็นส่วนๆไป หรอื จดั เป็นกลมุ่ เป็นหมวดหมู่ เพ่ือความเป็นระเบียบ ใชง้ าน กกกกกกก 1.2.2 องคป์ ระกอบของการออกแบบเว็บเพจ ในการออกเว็บเพจจะเก่ียวข้องกับขนาด ของเว็บเพจ การจัดหน้า พื้นหลัง ศิลปะการใช้ตัวพิมพ์ และโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบ มี แนวทางในการออกแบบ ดงั น้ี 1.2.2.1 ขนาดของเวบ็ เพจ ในปัจจุบันจอคอมพิวเตอร์มีหลายขนาด เช่น “ 14 “15 “17 “19 และ 20” เป็นต้น ทาให้การแสดงผลของเว็บไซต์ ให้มีรูปแบบท่ีเป็นมาตรฐานและแสดงข้อมูลในแต่ละหน้าได้ อยา่ งครบถว้ น ขนาดของเว็บไซตท์ ี่ใชก้ ันมากทส่ี ุดในปัจจบุ ันมี 2 ขนาด คอื 1) ขนาดของเว็บไซต์ 800X600 พิกเซล เปน็ ขนาดมาตรฐานท่ีใชก้ บั หนา้ จอ คอมพิวเตอร์ได้ทุกๆขนาด 2) ขนาดของเว็บไซต์ 1024X768 พิกเซล เป็นขนาดที่นิยมใช่กับหน้าจอ คอมพิวเตอร์ชนิด LCD จะแสดงผลข้อมลู เต็มหนา้ จอภาพ 1.2.2.2 การจดั หนา้ -กาหนดความยาวของหน้าให้สั้น โดยการกาหนดจานวนของข้อความที่ จะบรรจุในแตล่ ะหนา้ โดยควรมีความยาวระหว่าง 200-500 คาในแตล่ ะหนา้ -ใส่สารสนเทศท่ีสาคัญที่สุดในส่วนบนของหน้า ถ้าเปรียบเทียบเว็บไซต์ กับสถานที่แหง่ หนึง่ เนอ้ื ท่ีท่ีมีคา่ ท่สี ดุ จะอยู่ในส่วนหนึ่งคือส่วนบนสุดของหน้าจอภาพน่ันเอง ทุกคนที่ เข้ามาในเว็บไซต์จะมองเห็นส่วนบนของจอภาพลาดับแรก ถ้าผู้อ่านไม่อยากที่จะใช้แถบเลื่อนเพ่ือ เลื่อนจอภาพลงมาจะยังคงเห็นส่วนบนของจอภาพอยู่ได้ตลอดเวลา ถ้าไม่ต้องการให้ผู้อ่านพลาด สาระสาคัญของเน้ือหา กค็ วรใสส่ ่วนบนของหนา้ ซึ่งอยูภ่ ายในประมาณ 300 พิกเซล -ตาราง จะเป็นสิ่งที่อานวยประโยชน์และช่วยออกแบบได้อย่างมาก การ ใช้ตารางจึงจาเปน็ สาหรับการสรา้ งหนา้ ที่ซับซ้อนหรือไม่เรียบธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม่ือต้องการ ใช้คอลัมน์ ตารางจะใช้ได้เป็นอย่างดีในการจัดระเบียบหน้า เช่น การแบ่งแยกภาพกราฟิก หรือ เครื่องมอื นาทางออกจากข้อความ หรือการจดั แบ่งข้อความออกเปน็ คอลัมน์ 1.2.2.3 พืน้ หลงั -ความยากง่ายในการอ่าน พื้นหลังลวดลายมากจะทาให้หน้าเว็บเพจมี ความยากลาบากในการอ่าน การใช้สีร้อนที่มีความเปรียบต่างสูงจะทาให้ไม่สบายตาในการอ่าน เชน่ กัน ไม่ควรใชพ้ ้ืนหลังท่มี ลี วดลายเกนิ ความจาเปน็ และควรใช้สีเย็นเนสีพื้นหลังจะทาให้เว็บเพจนั่น นา่ อา่ นมากกว่า -ทดสอบการอ่าน การทดสอบที่ดีท่ีสุดในเร่ืองของความสามารถในการ อา่ นเมือ่ ใช้พืน้ หลัง คอื ให้ผูใ้ ดกไ็ ดท้ ี่ไม่เคยอา่ นเนื้อหาของเว็บเพจมาก่อนลองอ่านข้อความท่ีอยู่บนพ้ืน หลงั ทจ่ี ดั ทาไว้ หรือทดสอบการอ่านดว้ ยตวั เอง ถ้าอา่ นไดแ้ สดงว่าสามารถใช้พ้ืนหลงั นนั่ ได้ 1.2.2.4 ศลิ ปะการใชต้ ัวพิมพ์ -ความจากดั ของการใชต้ ัวพิมพ์ ผอู้ อกแบบจะถูกจากดั ในเร่ืองของศลิ ปะ การใช้ตัวพมิ พแ์ บบเวบ็ เพจมากกวา่ ในสงิ่ พมิ พ์ โปรแกรมรุ่นใหม่จะสามารถใชแ้ บบอกั ษรไดห้ ลาย

แบบมากข้ึน และการพิมพ์ในเวบ็ เพจจะไมส่ ามารถควบคมุ ช่วงบรรทดั ซง่ึ เป็นเนื้อท่รี ะหวา่ ง บรรทัด หรอื ชอ่ งไฟระหว่างตัวอักษรได้ -สรา้ งแบบการพิมพเ์ ป็นแนวทางไว้ แม้จะมขี ้อแมจ้ ากัดในเรอื่ งการใช้ ตัวพมิ พบ์ นเว็บเพจกต็ าม แต่ผู้ออกแบบสามารถระบุระดบั ของหวั เรือ่ งและเนื้อหาไว้ไดเ้ ช่นเดยี วกบั การพิมพ์ในหนงั สือ -ใช้ลักษณะกราฟิกแทนตัวอักษรธรรมดาให้นอ้ ยที่สดุ ถงึ แม้จะสามารถใช้ ลักษณะกราฟิกแทนตวั อักษรธรรมดาได้กต็ าม แตไ่ มค่ วรใชม้ ากเกินกวา่ 2-3 บรรทดั ทั้งน้ี ท้งั น้ีเพราะ จะทาใหเ้ สียเวลาในการบรรจลุ งมากกว่าปกติ กกกกกกก 1.2.3 ขัน้ ตอนการออกแบบเว็บเพจ นาไฟล์เว็บเพจมาเรียบเรยี งและนาเสนอเปน็ กล่มุ ขอ้ มูลที่เรียกวา่ เว็บไซต์ มีขัน้ ตอนดังน้ี กกกกกกก 1) กาหนดโครงรา่ งของเวบ็ ไซต์ ด้วยการออกแบบผังของเวบ็ เพจ ที่เรยี กวา่ Site map ดังรปู กกกกกกก 2) กาหนดการเชอ่ื มโยงระหว่างเวบ็ เพจ กาหนดใหเ้ ว็บเพจในแตล่ ะหนา้ ทาการ เชือ่ มโยงกันระหว่างหน้าต่าง ๆ ได้ ดว้ ยการแสดงรายชื่อไฟล์ html แต่ละไฟล์ที่มกี ารเช่ือมโยงความ สาพันธด์ ังรปู

กกกกกกก 3) ออกแบบเว็บเพจแตล่ ะหน้า การออกแบบเว็บเพจในแต่ละหน้าให้สวยงาม ดงึ ดูดความสนใจ ด้วยการเตรียมรูปภาพที่ตกแต่งในโปรแกรม Photoshop หรอื ภาพเคล่ือนไหวท่ที า ในโปรแกรม Flash แล้ว นามาวางบนหนา้ เว็บเพจในแต่ละหนา้

กกกกกกก 4) สร้างเว็บแต่ละหนา้ หลังจากการออกแบบและวางรูปแบบเว็บเพจไว้แตล่ ะ หน้าเสรจ็ แล้ว นามาเขียนโปรแกรมภาษา html ด้วยการนาเสนอข้อความ รูปภาพ ตลอดจนวิดีโอ ตามรูปแบบทว่ี างไว้ 2. กำรขำยออนไลน์ กกกกกกก ความหมายของพาณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Commerce) กกกกกกก พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ หมายถงึ การทาธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซ้ือขาย สินค้า/บรกิ าร การชาระเงิน การโฆษณาโดยผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่าย ทางอินเทอร์เน็ตกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดาเนินธุรกิจทุกรูปแบบท่ีเกี่ยวข้องกับการซ้ือขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบส่ือสาร โทรคมนาคมหรือสอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ องค์กรการค้าโลก ให้คาจากัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนสง่ ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ ารโดยใชส้ ื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ กกกกกก 2.1. ความหมายของการขายออนไลน์ กกกกกกก ความหมายของการซื้อขายออนไลน์ การซ้ือขายสินค้าออนไลน์ หมายถึง พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เป็นการทา ธุรกรรมการซ้ือขายสินค้าระหว่างผู้ขายและผู้ซ้ือผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยท้ังสองฝ่ายไม่ต้อง พบกัน แต่ ใชก้ ารตดิ ต่อขายทางอินเทอร์เนต็ กส็ ามารถซอ้ื ขายสินค้าได้ทุกรูปแบบสินค้าทุกประเภท ตลอด 24 ชั่วโมง ทว่ั โลก เกิดความสะดวกสบาย กกกกกกก ความหมายของการขายออนไลน์ กกกกกกก การขายออนไลน์ หมายถงึ การนาสนิ ค้าไปประกาศขายตามเวบ็ ไซต์ที่เป็นทาเล หรอื Maketplace ท่ผี ้ซู อ้ื กบั ผ้ขู ายออนไลน์พบกนั ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซตใ์ นไทย หรอื ในตา่ งประเทศ เชน่ Trade.com และ weloveshopping.com หรอื ในต่างประเทศ เช่น amazon.com และ ebaly.com ซง่ึ เป็นเว็บไซต์สาเร็จรูปทส่ี ามารถประกาศขายไดท้ ันทีมีบคุ คลเข้ามาดูสินค้าหรือ สอบถามรายละเอียด เพ่มิ เติม เพราะเปน็ เว็บไซต์ขนาดใหญ่ และมีคา่ ใชจ้ ่ายตา่ กกกกกกก ความหมายของการเปดิ รา้ นค้าออนไลน์ กกกกกกก การเปิดรา้ นคา้ ออนไลน์ หมายถึง การสร้างเว็บไซต์ข้ึนมาเพื่อนาสินค้าของตนเองมา จาหนา่ ยผา่ นทางช่องทางออนไลน์ ซงึ่ ร้านค้าออนไลน์จะเหมือนกบั ร้านคา้ ท่ัวไปนาสนิ ค้ามาวางขายแต่ มคี วามแตกต่างกันตรงที่ทาการซ้ือขายทุกขั้นตอนผ่านอินเทอร์เน็ตเท่าน้ันสามารถซื้อขายได้ทุกที่ ทุก เวลา กกกกกกก 2.2 ความสาคัญของการขายออนไลน์ กกกกกกก ในโลกปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทสาคัญอย่างยิ่งในชีวิต ไม่เพียงแต่การ สืบค้นข่าวสารข้อมูลต่างๆ การติดต่อสื่อสารในกลุ่มเพื่อน แต่รวมไปถึงการซ้ือขายสินค้าแบะบริการ ผ่านทางอนิ เทอรเ์ นต็ หรือ ที่เรยี กกนั ว่า E-Commerce เพราะ E-Commerce คอื บรกิ ารการซ้ือขาย ออนไลน์ มีความสาคัญ ดังน้ี ทาให้การซื้อขายออนไลน์ สามารถซื้อขายได้ทุกที่ สร้างความ สะดวกสบายให้ผซู้ อื้ และผูข้ าย กกกกกกก

เทคโนโลยี ก็ยังถือปัจจัยหลักท่ีช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตไปได้ อย่างรวดเร็วมาก เพราะทาธุรกิจ E-Commerce ปัจจุบันสามารถใช้งานได้หลากหลายช่องทางท้ัง ทางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ ซ่ึงระบบของ E-Commerce มีความปลอดภัย โดย เว็บไซต์ E-Commerce ส่วนใหญ่จะมีระบบการจ่ายเงินที่สะดวกสบายแต่ระบบความปลอดภัยสูง มากเป็นช่องทางใหม่สาหรับผู้ประกอบการ ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งท่ีช่วยสร้างโอกาสในการขยาย ช่องทางการค้าขายให้ผู้ประกอบการได้มากยิ่งขึ้น และเป็นตัวช่วยหนึ่งในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และตรงกลุม่ เป้าหมายมากข้ึนเป็นวธิ ีทดี่ ใี นการสร้างแบรนด์ใหเ้ ป็นท่ีร้จู ัก เพราะปจั จบุ ันสังคมออนไลน์ ถอื เปน็ สอ่ื หลักท่ีช่วยในการโฆษณาและประชาสมั พนั ธไ์ ดอ้ ย่างดเี ย่ียม ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ดังน้ัน จึงถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยขยายแบรนด์ ซ่ึงช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและขยายฐานธุรกิจ ออกไปอกี ดว้ ย กกกกกกก 2.3 ลักษณะของการขายออนไลน์ กกกกกกก การขายสินค้าโดยปกติ ต้องมีหน้าร้านหรือแผงสาหรับการขายสินค้า อาจต้องเช้า พื้นท่ีในห้าง หรือ ต้องหาพ้ืนที่เช่าอื่นๆในราคาไม่แพง นอกจากน้ันยังต้องซื้อสินค้ามาจัดวาง แต่การ ขายออนไลน์น้ันไม่ได้ยุ่งยากเพียงแค่ลงรายการสินค้า ลงรูป รายละเอียด และราคาของสินค้าใน เวบ็ ไซต์กส็ ามารถขายของได้แลว้ ในกรณีใช้บริการเปดิ รา้ นคา้ ออนไลน์ สามารถตั้งชื่อร้าน ตกแต่งป้าย ร้านและหน้าตาของร้านได้ตามต้องการ ดังนั้น จะเห็นว่าการขายออนไลน์มีลักษณะท่ีต่างจากร้านค้า ปกติ ดังน้ี กกกกกกก 1. ใช้ตน้ ทุนต่ากว่าเปดิ รา้ นจริง การขายออนไลน์นัน้ มตี น้ ทนุ ต่ากว่าเปิดรา้ นจรงิ ๆ เน่ืองจากไม่ต้องเสยี ค่าเช่าร้าน คา่ น้า ค่าไฟ คา่ จา้ งพนักงาน แต่ถา้ ตอ้ งการมีเวบ็ ไซตเ์ ป็นของตวั เอง หรือ ไปสมัครใช้บรกิ ารตามเว็บไซต์ท่ีใหบ้ รกิ ารเปดิ รา้ นค้าออนไลน์หรือฝากขายสนิ คา้ กต็ ้องมีค่าเช่า พื้นที่ ค่าธรรมเนยี มรายเดือน-รายปี หรอื อาจจะแบง่ เปอร์เซ็นจากการขาย เป็นตน้ กกกกกกก 2. กลมุ่ ลกู คา้ มีจานวนมาก อตั ราการใช้งานอินเทอร์เนต็ ที่เพ่ิมขน้ึ ทุกปี ทาให้โอกาส ในการขายของออนไลน์เพมิ่ ข้ึนตามไปดว้ ย จากสถติ ผิ ้ใู ช้งานอินเทอรเ์ น็ตในปี 2012 พบวา่ ประเทศ ไทยมจี านวนผเู้ ขา้ ใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตในแตล่ ะวันมากกว่า 6 ลา้ นคน แต่ละคนจะเข้าเยีย่ มชมหน้าเวบ็ อยา่ งน้อย 50 หนา้ ในแต่ละวันเวลาท่คี นเข้าชมเวบ็ ไซต์มากทสี่ ุดคือ ช่วง 4-5 โมงเยน็ และแต่ละ ยงั Search Enginge ในการค้นหาขอ้ มลู หรือ สินค้าประมาณ 8 ครั้งต่อวนั อกี ด้วย กกกกกกก 3. เปิดร้านค้าได้ทกุ วนั การเปดิ รา้ นคา้ ทั่วไปจะต้องมเี วลาเปิด-ปิด เชน่ เปดิ รา้ นค้า เวลา 10 โมงเชา้ ปดิ ร้านเวลา 1 ทุ่ม เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ หยดุ วันอาทติ ย์ เปน็ ตน้ นอกจากนยี้ งั ต้อง มคี นคอยเฝ้ารา้ น ซึง่ ต้องแบ่งเวลาไปทาธุรกจิ อนื่ ๆ แตส่ าหรับการขายหรือเปิดรา้ นค้าออนไลนแ์ ลว้ สามารถเปิดไดท้ ุกวนั ไมจ่ ากัดเวลา ทาให้ลกู คา้ สามารถเขา้ มาชมสนิ ค้าภายในร้านค้าหรอื กระทู้ขาย ของได้ตลอดเวลา กกกกกกก 4. เพม่ิ ช่องทางในการขายสินคา้ สาหรบั ผูท้ ่มี หี นา้ รา้ นค้าจรงิ อยแู่ ล้ว สามารถเปดิ รา้ นคา้ ออนไลนเ์ พ่ือเพิ่มช่องทางการขายสินค้าอีกทางหนงึ่ เนือ่ งจากการเปดิ รา้ นคา้ ออนไลนใ์ ชท้ ุนไม่ มาก สามารถลงรูปพร้อมรายละเอียดของสินค้าโปรโมชัน่ ใหม่ ๆ ทีอ่ ยูข่ องรา้ น นอกจากน้ยี งั ช่วย โฆษณาและสร้างความน่าเชื่อถอื ให้กบั ร้านได้ กกกกกกก

5. ใชเ้ วลาไมม่ ากทาเปน็ อาชีพเสริมได้ ถงึ แมว้ า่ จะมีงานประจาทาอยแู่ ลว้ ก็ สามารถขายของหรอื เปดิ รา้ นคา้ ออนไลนเ์ ปน็ รายได้เสริมอีกทางหนึง่ ได้ เพราะใชเ้ วลาในการดูแลร้าน ไมม่ าก สามารถใช้เวลาในชว่ งเช้าหรือพักเที่ยง เพอื่ อกี ทางหนง่ึ ได้ เพราะใช้เวลาในการดูแลรา้ นไม่ มาก สามารถใช้เวลาในชว่ งเชา้ หรอื พักเทยี่ ง เพอื่ เขา้ มาตรวจสอบดกู ระท้ใู นเว็บบอร์ดหรืออา่ นอีเมล ว่ามีลูกค้าเข้ามาสอบถามหรือสงั่ ซอ้ื สนิ ค้าของทางรา้ นหรือไม่ และเวลาจะส่งสินคา้ ใหล้ กู ค้าทาง ไปรษณีย์ สามารถไปสง่ ท่ไี ปรษณยี ์ ในวนั เสารก์ ่อนเทย่ี งได้ เพราะไปรษณียไ์ ทยเปิดทาการในวันเสาร์ คร่ึงวนั ดว้ ย จะได้ไม่รบกวน เวลาทางานจนเสยี งาน หรอื หากที่ทางานอยู่ใกล้ไปรษณยี ์กถ็ อื วา่ สะดวก มาก สามารถสง่ สนิ ค้าได้ทกุ วัน กกกกกกก 2.4 องค์ประกอบทางการตลาด กกกกกกก 1. การวเิ คราะห์เก่ยี วกับความจาเปน็ ความต้องการ และความตอ้ งการซื้อ (อุปสงค์) กกกกกกก 1.1 ความจาเป็น เป็นอานาจพ้ืนฐานท่ีทาให้บุคคลต้องการส่ิงใดส่ิงหน่ึง เพ่ือสนอง ความต้องการขั้นพ้ืนฐานของร่างกาย ประกอบด้วยความต้องการในปัจจัย 4 ได้แก่อาหาร เครอ่ื งน่งุ หม่ ทอ่ี ย่อู าศัย และยารักษาโรค รวมถึงความต้องการพักผอ่ น และความตอ้ งการทางเพศ กกกกกกก 1.2 ความต้องการ เป็นรูปแบบหน่ึงของความจาเป็นท่ีพัฒนามาจากความจาเป็นข้ัน พ้ืนฐาน เป็นความปรารถนาของบุคคลที่จะได้รับการตอบสนองความพอใจ ซึ่งเป็นความต้องการใน ระดับท่ีลึกซ้ึงกว่าความจาเป็น โดยได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและบุคลิกภาพส่วนบุคคลเกิดจาก การเรยี นรู้ด้านวฒั นธรรมและสงั คม และการยกยอ่ งทางสังคมรวมถงึ ต้องการประสบความสาเร็จสูงสุด ในชีวิต เช่นความต้องการรับประทานอาหารในร้านหรู ราคาหลายสิบล้านบาท ต้องการท่ีดินทาเลดี เพ่ือหวังผลกาไรสูงสุดในอนาคต ฯลฯ มักจะให้ความสาคัญกับความลึกซ้ึงของความหมาย เพ่ือใช้ ประโยชน์ในการกระต้นุ ให้ผบู้ รโิ ภคเกดิ ความตอ้ งการสินคา้ และบริการ กกกกกกก 1.3 ความต้องการซ้อื (อปุ สงค์) เป็นความตอ้ งการผลติ ภัณฑ์ใดผลิตภัณฑห์ น่งึ ที่ตอ้ ง มีความสามารถในการซือ้ ซงึ่ จะประกอบดว้ ยองค์ประกอบ 3 ประการ คือ 1. ความตอ้ งการหรือความจาเปน็ ในผลิตภณั ฑ์ 2. ความสามารถในการซ้อื หรือมีอานาจซ้ือ มีเงนิ พอทจี่ ะซ้ือ 3. ความเต็มใจทจี่ ะซอ้ื สนิ ค้าน้นั กกกกกกก ความจาเปน็ หรอื ความตอ้ งการสามารถเปลีย่ นเปน็ ความต้องการซือ้ ได้ถ้ามีอานาจซ้ือ และมีความเต็มใจซื้อมาประกอบกัน ความจาเป็น ความต้องการและความต้องการการซื้อเป็น จุดเริ่มต้นของการตลาด ทาเกิดความคิดที่จะเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อท่ีจะสนองความต้องการ ของบุคคล ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการตลาดก็คือการวิเคราะห์และวิจัยถึงความต้องการของบุคคลท่ียัง ไม่ไดร้ บั การตอบสนองแล้ว จงึ จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพ่อื ท่จี ะสนองความตอ้ งการเหลา่ น้นั กกกกกกก 2. ธรุ กจิ ต้องเสนอผลิตภัณฑ์ (product) เพอื่ สนองความตอ้ งการของผู้บริโภค กกกกกกก ผลิตภัณฑ์ (product) หมายถึง ส่ิงที่นาเสนอต่อตลาด เพื่อตอบสนองความจาเป็น หรือความต้องการของผู้บริโภค อาจเป็นสิ่งที่มีลักษณะทางกายภาพ ซึ่งเรียกว่าสินค้า (good) และ รวมถึงบริการ (services) ซ่ึงเป็นกิจกรรมหรือผลประโยชน์ที่มีการเสนอขาย นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ยัง หมายถึงความรู้ ความชานาญ บุคคล สถานที่ องค์การ ข้อมูลและแนวคิด ดังนั้นผลิตภัณฑ์จึงมี ความหมายกว้างมาก ผลิตภัณฑ์ท่ีสนองความต้องการของผู้บริโภคได้น้ัน อาจเป็นสิ่งท่ีสนองความ

ต้องการของรา่ งกาย เชน่ อาหารท่ีทาให้อิ่ม อาจเป็นสถานท่ีซึ่งมีบรรยากาศเป็นท่ีต้องการ เช่น ริมน้า ทไ่ี ดก้ ลนิ่ ของแม่น้า อาจเป็นเหตุการณ์ซ่ึงมีผลต่อประสบการณ์ของผู้บริโภคเอง เช่น ดูภาพยนตร์บาง เรื่องท่ีทาให้นึกถึงเหตุการณ์เม่ือยังเด็ก อาจเป็นความบันเทิงหรือเพลิดเพลิน เช่น การฟังเพลง ความคิดซ่งึ เปน็ ทยี่ อมรับ เชน่ นโยบายของพรรคการเมือง ส่ิงเหล่านี้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งน้ัน ดังน้ัน การเสนอผลติ ภณั ฑจ์ ึงควรคานงึ ถงึ ผลประโยชน์ท่ีผบู้ ริโภคจะไดร้ ับมากกว่าทจี่ ะเปน็ ตวั ผลติ ภัณฑ์ กกกกกกก 3. ผลติ ภัณฑ์น้นั ตอ้ งมีคุณค่า (value) ตอ้ งคานงึ ถึงความต้องการของลกู ค้า หรอื ราคา สินค้าทล่ี กู ค้าซ้อื และความพึงพอใจของลูกค้า (satisfaction) ผ้บู ริโภคจะตดั สนิ ใจซอื้ สนิ ค้าหรือไมน่ ั้น เขายอ่ มคานึงถงึ คุณคา่ ของสินค้า ตลอดจนความพงึ พอใจที่มีตอ่ สนิ คา้ น้นั รวมทั้งความสามารถในการ จ่ายซึง่ หมายถึงราคาสนิ ค้าหรือ ตน้ ทุนสนิ ค้าในสายตาผู้บรโิ ภคนนั่ เอง ซึ่งสิ่งเหล่านีส้ ามารถอธิบาย รายละเอยี ดได้ดังน้ี กกกกกกก 3.1 คณุ ค่า (value) หมายถึงคุณคา่ สนิ ค้าหรือบรกิ าร เพื่อจงู ใจใหผ้ ลิตภณั ฑเ์ กิดการ แลกเปล่ยี น ซ่งึ ผลิตภัณฑ์ทีเ่ สนอให้กบั ลูกค้าต้อมีคณุ ค่า (value) ในสายตาของลูกค้า กล่าวคือ ตอ้ งมี ลักษณะตา่ งจากคแู่ ข่ง นักการตลาดต้องพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ของตนเองให้มีคุณา่ เพิ่ม ในสายตาของลูกค้า กกกกกกก 3.2 ต้นทุน (cost) ของลกู ค้า หมายถึงตน้ ทนุ ของลกู ค้าทเ่ี กิดจากการตดั สินใจซอ้ื สินคา้ ชนิดใดชนดิ หนงึ่ สมมุติว่าผู้บรโิ ภคตดั สินใจซอื้ ผ้าไหม ต้นทนุ ท่สี าคญั ในการตดั สนิ ใจซ้อื ผา้ ไหม หน่ึงชนิ้ ประกอบดว้ ยต้นทนุ ต่อไปน้ี - ราคาในรูปตวั เงนิ ของผา้ ไหมที่ผู้บรโิ ภคในการตัดสินใจซ้ือ - ต้นทุนดา้ นเวลา หมายถึง เวลาทีล่ ูกค้าสญู เสียไปหรือใชไ้ ปในการซื้อผา้ ไหม เวลาในการตรวจสอบ คุณสมบัติของผ้าไหม เวลาในการแสวงหารา้ นทีข่ าย - ต้นทุนพลงั งาน หมายถึง พลงั งานท่ีลูกค้าสูญเสียไปจากการใช้พลังความคิดใน การตัดสนิ ใจตลอดจนความเหนด็ เหนอื่ ยในการสารวจหาลายผา้ แหล่งจาหน่าย - ต้นทุนดา้ นจติ วิทยา เปน็ ความไมส่ บายใจหรือความวติ กกงั วลท่เี กิดจากการใช้ ผ้าไหม เชน่ ความกังวลต่อวธิ ีการซกั ความกังวลต่อการตดั เย็บ กงั วลต่อสายตอ่ คนรอบขา้ งเมือ่ ใสผ่ า้ ไหม ฯลฯ 3.3 คุณคา่ ในมุมมองของผบู้ ริโภค (customer value) เปน็ ความแตกต่างระหวา่ ง ผลประโยชนท์ ีผ่ บู้ ริโภคได้รับจากการบรโิ ภคผลิตภัณฑ์น้ัน เทยี บกับตน้ ทนุ ทต่ี ้องจา่ ยไป เพื่อให้ไดม้ าซึง่ ผลิตภัณฑ์ ซ่งึ ในบางกรณ๊ผู้บริโภคจะใช้คุณค่าทตี่ นรบั รู้ได้ (perceived value) เป็นสิ่งกาหนด ผูซ้ อ้ื จะ ตัดสินใจซอื้ สินคา้ อย่างใดอย่างหนง่ึ โดยพจิ ารณาถึงคณุ ค่าผลติ ภณั ฑ์ (value) และตน้ ทุนทเ่ี ขาต้อง จ่ายซอ้ื สนิ คา้ เมื่อใดทเี่ ขารสู้ ึกวา่ คณุ คา่ ผลติ ภัณฑส์ งู กว่าต้นทนุ หรอื เงนิ ท่ีเขาต้องจา่ ยซื้อสนิ คา้ แสดง ว่าเขาไดร้ บั ประโยชน์ หรอื กาไรจากการขายสนิ ค้าน้ัน 3.4 ความพึงพอใจของลกู คา้ (satisfaction) เกิดจากการไดร้ ับผลติ ภณั ฑ์ที่มคี ุณคา่ สูงกว่า ตน้ ทุนท่ีเขาตอ้ งจา่ ยไปและยังขน้ึ กับเครื่องมือการตลาดและกจิ กรรมการตลาดอ่ืน ๆ ดว้ ย กกกกกกก 4. ผลติ ภณั ฑ์จะมีการแลกเปลย่ี น (exchange) และการติดต่อธุรกิจ (transation) บุคคลจะไดร้ บั ผลติ ภณั ฑ์สองวิธีดว้ ยกนั คือ 4.1 การแลกเปลยี่ น (exchange) เป็นกจิ กรรมที่ได้รบั ผลิตภัณฑ์จากบุคคลหน่งึ โดย การเสนอส่ิงท่ีมคี ุณคา่ เปน็ การตอบแทน ลักษณะของการแลกเปลย่ี นประกอบด้วย

1. บุคคลหรอื กล่มุ บุคคลต้ังแต่สองฝ่ายขึ้นไป 2. แต่ละฝา่ ย มบี างสงิ่ ทมี่ ีคุณคา่ สาหรับอีกฝา่ ยหนง่ึ 3. แตล่ ะฝา่ ยมคี วามสามารถในการติดต่อสอ่ื สาร และการส่งมอบ 4. แตล่ ะฝา่ ยมอี สิ ระทจ่ี ะยอมรับ หรือปฎิเสธในสง่ิ ทีอ่ ีกฝ่ายหนง่ึ เสนอ 5. แต่ละฝา่ ยเชือ่ วา่ เปน็ การเหมาะสม หรอื พอใจที่จะติดต่อส่ือสารกบั อีกฝ่ายหนึ่ง ซ่ึงสรุปได้ว่า การแลกเปลย่ี นระหว่างนกั การตลาดและผู้ท่ีคาดว่าจะเปน็ ลูกค้า กล่าวคอื นักการตลาด จะตอ้ งเสนอเครื่องมือการตลาด (ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจดั จาหนา่ ย การส่งเสริมการตลาด) ที่ เหมาะสม เพอ่ื สนองความตอ้ งการของลกู คา้ หรือผทู้ ี่คาดว่าจะเปน็ ลกู ค้าให้เกิดความพงึ พอใจและใน ขณะเดียวกนั เขาก็ต้องการขายผลิตภณั ฑ์ไดใ้ นราคาทเี่ หมาะสม การชาระเงินตรงเวลาและการเจรา ขายได้ผล 4.2 การตดิ ตอ่ ธรุ กิจ ประกอบด้วยการทาการค้าระหวา่ ง 2 ฝ่าย ในท่ีนไ้ี ด้แก่ ฝ่าย ผขู้ าย และผ้ซู ้ือ การตดิ ต่อธุรกิจมีดงั น้ี 1. ตอ้ งมสี องสิ่งท่ีมีคณุ ค่า 2. มกี ารตกลงภายใต้เง่ือนไข 3. มีระยะเวลาของการตกลง 4. มีสถานทใ่ี นการตกลง 4.3 การสร้างความสัมพนั ธ์ที่ดกี ับลูกค้าและการสร้างเครือข่าย การตลาด ตอ้ งอาศยั การสร้างความสัมพนั ธ์ที่ดีกับลูกค้า และอาศยั เครอื ขา่ ยทางการตลาดดังน้ี 1. การตลาดเพ่ือความสัมพนั ธท์ ีด่ ี เป็นการสรา้ งความสัมพันธ์อนั ดีแกก่ ลุ่มต่าง ๆ เช่นลกู คา้ ผ้บู ริโภค ผูจ้ ดั จาหนา่ ยคนกลาง ผู้ขายปัจจัยการผลิต ฯลฯ ซ่ึงจะมกี ารสง่ มอบสินค้าและ บรกิ ารทม่ี ีคณุ ภาพสูง ราคาเหมาะสม การจดั จาหนา่ ยรวดเร็ว และการสง่ เสรมิ การตลาดท่ีเหมาะสม หลกั การสาคัญคือการสรา้ งความสมั พันธ์ทดี่ ีและสามารถสร้างกาไรได้ ผลลพั ธ์จากการใช้เครื่องมือทาง การตลาด เพ่ือสรา้ งความสัมพันธอ์ ันดที าให้เกิดส่งิ ทีม่ ีคุณค่ากบั กิจการเรยี กวา่ \"เครือข่ายการตลาด\" 2. เครือข่ายทางการตลาด ประกอบดว้ ยกิจการและกลมุ่ ผทู้ ี่เกี่ยวข้องกับ องค์การ ซง่ึ เปน็ กลมุ่ บุคคลตา่ ง ๆ ทีใ่ ห้การสนับสนุน มีผลต่อการดาเนนิ ธุรกิจขององค์การ เชน่ ลูกค้า พนกั งาน ชุมชนในท้องที่ และผู้ถือห้นุ กกกกกกก 5. การตลาด คือ กลุ่มเป้าหมายของการขายผลิตภัณฑ์ซึ่งหมายถึงลูกค้าซ่ึงมีศักยภาพ ทั้งหมดท่ีมีความจาเป็น และความต้องการผลิตภัณฑ์ซ่ึงอาจมีความเต็มใจและความสามารถท่ีจะ แลกเปลยี่ นเพอื่ สนองความจาเป็นหรือความต้องการให้ได้รับความพอใจของตน โดยใช้เงินในการจ่าย ซ้ือความพึงพอใจเหล่านั้น องค์ประกอบท้ัง 5 ประการเป็นกระบวนการทางการตลาด (marketing process) ซ่ึงเริ่มจากการกาหนดและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและสิ่งแวดล้อม การวางแผน ส่วนประสมการตลาด การปฏิบัติตามแผนและการควบคุมให้เป็นไปตามแผนถือว่าเป็นกระบวนการ ตลาดมาประยุกต์ใช้กับปัญหาทางธุรกิจ ทั้งด้านการวางแผนและการควบคุม ส่วนใหญ่ข้อมูลท่ีได้มัก ได้มาจากแบบจาลอง (model) ท่ีใช้เทคนิคความรู้ทางธุรกิจและทางการตลาดข้ันสูงสร้างขึ้นมา แล้ว นาเอาความรู้ทางสถิติไปพิจารณาหาความสัมพันธ์ของข้อมูล และทดสอบความน่าเช่ือถือของข้อมูล

ด้วย ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากแบบจาลองเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจวางแผนและแก้ไขสถานการณ์ ทางธรุ กิจได้ เชน่ การพฒั นาผลิตภัณฑ์ใหม่ การกาหนดราคา การวางแผนการตลาด องคป์ ระกอบของการประกอบธุรกิจ 1. การจดั องค์กร คือกจิ กรรมที่ทาให้องค์การสามารถจัดรปู แบบการทางานของบุคลากร ภายในองค์กรได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2. การผลิตและปฏบิ ตั กิ าร คอื กิจกรรมของการนาเอาวัตถุดบิ มาผ่านกระบวนการในการผลิต เพื่อทาใหเ้ กิดมีสนิ คา้ หรือบริการ 3. การตลาด คือการดาเนนิ การเพื่อจะทาใหส้ นิ ค้าหรือบริการท่ีผลิตแล้วไดร้ ับการเปลย่ี นมือ ไปถึงมือผู้บรโิ ภค 4. การบัญชแี ละการเงิน คือการเก็บบันทึกข้อมลู การดาเนินงานการจัดทางบการเงนิ งบประมาณ การจดั หาเงินทนุ การใชเ้ งนิ ทุนและลงทนุ อย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยบรหิ ารให้เงินทุน หมุนเวียนอยา่ งพอเหมาะ 5. การจดั หาวตั ถุดิบมาป้อนโรงงาน คือกจิ กรรมในการจดั ซื้อและควบคุมการจัดซือ้ วตั ถุดิบ รวมทง้ั การตรวจนบั สินคา้ คงคลัง 6. การบรหิ ารงานบคุ คล คอื การดาเนินการจดั สรรพนกั งาน การฝกึ อบรม การจัดหารูปแบบ ของการจูงใจและสวัสดิการต่างๆ เพ่ือประสิทธิภาพในการบรหิ ารบคุ คลซ่งึ ส่งผลตอ่ ความสาเร็จของ องค์กร 7. การจดั การระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ คือการนาเอาเทคโนโลยีสมยั ใหมเ่ ข้ามาใช้ เพอ่ื ความมปี ระสิทธิภาพในการดาเนนิ งานดา้ นตา่ งๆ 8. การวจิ ยั และพัฒนา คอื กิจกรรมเพ่ือเนน้ ความคิดสร้างสรรค์ ค้นควา้ นวัตกรรมใหม่ๆใน ผลิตภัณฑ์ตา่ งๆเพือ่ ความพึงพอใจของผู้บริโภคอยา่ งสูงสดุ กกกกกกก องคป์ ระกอบทางการตลาด กกกกกกก1. การวิเคราะห์เกี่ยวกับความจาเปน็ ความต้องการ และความต้องการซ้ือ (อุปสงค)์ กกกกกกก 1.1 ความจาเป็น เป็นอานาจพ้ืนฐานที่ทาให้บุคคลต้องการส่ิงใดสิ่งหน่ึง เพื่อสนองความ ต้องการข้ันพื้นฐานของร่างกาย ประกอบด้วยความต้องการในปัจจัย 4 ได้แก่อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ท่ี อยอู่ าศยั และยารักษาโรค รวมถงึ ความตอ้ งการพักผ่อน และความตอ้ งการทางเพศ กกกกกกก 1.2 ความต้องการ เป็นรูปแบบหน่ึงของความจาเป็นท่ีพัฒนามาจากความจาเป็นขั้น พน้ื ฐาน เป็นความปรารถนาของบุคคลท่ีจะได้รับการตอบสนองความพอใจ ซ่ึงเป็นความต้องการใน ระดับที่ลึกซึ้งกว่าความจาเป็น โดยได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและบุคลิกภาพส่วนบุคคลเกิดจาก การเรยี นรู้ดา้ นวัฒนธรรมและสงั คม และการยกยอ่ งทางสังคมรวมถึงตอ้ งการประสบความสาเร็จสูงสุด ในชีวิต เช่นความต้องการรับประทานอาหารในร้านหรู ราคาหลายสิบล้านบาท ต้องการท่ีดินทาเลดี เพื่อหวังผลกาไรสูงสุดในอนาคต ฯลฯ มักจะให้ความสาคัญกับความลึกซึ้งของความหมาย เพ่ือใช้ ประโยชนใ์ นการกระต้นุ ให้ผูบ้ ริโภคเกดิ ความต้องการสนิ ค้าและบรกิ าร

กกกกกกก 1.3 ความต้องการซอ้ื (อปุ สงค)์ เปน็ ความต้องการผลติ ภัณฑ์ใดผลติ ภัณฑห์ นง่ึ ทต่ี ้องมี ความสามารถในการซ้ือ ซง่ึ จะประกอบด้วยองคป์ ระกอบ 3 ประการ คือ 1. ความต้องการหรือความจาเปน็ ในผลติ ภัณฑ์ 2. ความสามารถในการซือ้ หรือมีอานาจซื้อ มีเงนิ พอทจ่ี ะซื้อ 3. ความเตม็ ใจทีจ่ ะซื้อสินค้าน้ัน ความจาเป็นหรือความต้องการสามารถเปลี่ยนเป็นความต้องการซื้อได้ถ้ามีอานาจซ้ือและ มีความเต็มใจซื้อมาประกอบกัน ความจาเป็น ความต้องการและความต้องการการซ้ือเป็นจุดเริ่มต้น ของการตลาด ทาให้เกิดความคิดท่ีจะเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพ่ือที่จะสนองความต้องการของ บุคคล ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการตลาดก็คือการวิเคราะห์และวิจัยถึงความต้องการของบุคคลที่ยังไม่ได้ รับการตอบสนองแลว้ จงึ จะพัฒนาผลติ ภัณฑ์เพื่อทจ่ี ะสนองความตอ้ งการเหลา่ นัน้ กกกกกกก2. ธรุ กจิ ตอ้ งเสนอผลิตภัณฑ์ (product) เพื่อสนองความต้องการของผบู้ รโิ ภค กกกกกกก ผลิตภัณฑ์ (product) หมายถึง ส่ิงที่นาเสนอต่อตลาด เพื่อตอบสนองความจาเป็น หรือ ความต้องการของผู้บริโภค อาจเป็นสิ่งที่มีลักษณะทางกายภาพ ซึ่งเรียกว่าสินค้า (good) และรวมถึง บริการ (services) ซง่ึ เป็นกิจกรรมหรอื ผลประโยชน์ท่มี ีการเสนอขาย นอกจากน้ผี ลิตภัณฑ์ยังหมายถึง ความรู้ ความชานาญ บุคคล สถานที่ องค์การ ข้อมูลและแนวคิด ดังนั้นผลิตภัณฑ์จึงมีความหมาย กว้างมาก ผลิตภัณฑ์ที่สนองความต้องการของผู้บริโภคได้นั้น อาจเป็นสิ่งท่ีสนองความต้องการของ ร่างกาย เชน่ อาหารที่ทาให้อิม่ อาจเป็นสถานท่ีซง่ึ มีบรรยากาศเป็นที่ต้องการ เช่น ริมน้าท่ีได้กล่ินของ แม่น้า อาจเป็นเหตุการณ์ซ่ึงมีผลต่อประสบการณ์ของผู้บริโภคเอง เช่น ดูภาพยนตร์บางเรื่องท่ีทาให้ นึกถึงเหตุการณ์เม่ือยังเด็ก อาจเป็นความบันเทิงหรือเพลิดเพลิน เช่น การฟังเพลง ความคิดซ่ึงเป็นท่ี ยอมรับ เช่น นโยบายของพรรคการเมือง ส่ิงเหล่าน้ีถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งนั้น ดังนั้นการเสนอ ผลติ ภัณฑจ์ งึ ควรคานึงถงึ ผลประโยชน์ท่ีผู้บริโภคจะได้รบั มากกว่าที่จะเปน็ ตัวผลิตภัณฑ์ กกกกกกก3. ผลิตภัณฑ์นน้ั ตอ้ งมีคณุ คา่ (value) ตอ้ งคานึงถงึ ความตอ้ งการของลูกค้า หรือราคาสินค้า ท่ีลูกค้าซ้ือ และความพึงพอใจของลูกค้า (satisfaction) ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือไม่น้ัน เขา ย่อมคานงึ ถึงคณุ ค่าของสินคา้ ตลอดจนความพงึ พอใจทมี่ ีตอ่ สินคา้ น้นั รวมท้งั ความสามารถในการจ่าย ซึ่งหมายถึงราคาสินค้าหรือ ต้นทุนสินค้าในสายตาผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งส่ิงเหล่านี้สามารถอธิบาย รายละเอยี ดไดด้ ังนี้ กกกกกกก 3.1 คุณค่า (value) หมายถึงคุณค่าสินค้าหรือบริการ เพื่อจูงใจให้ผลิตภัณฑ์เกิดการ แลกเปลี่ยน ซ่ึงผลิตภัณฑ์ท่ีเสนอให้กับลูกค้าต้อมีคุณค่า (value) ในสายตาของลูกค้า กล่าวคือ ต้องมี ลกั ษณะตา่ งจากคู่แข่ง นักการตลาดต้องพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ของตนเองให้มีคณุ า่ เพ่ิม ในสายตาของลกู ค้า กกกกกกก 3.2 ต้นทุน (cost) ของลูกค้า หมายถึงต้นทุนของลูกค้าท่ีเกิดจากการตัดสินใจซ้ือ สินค้า ชนิดใดชนิดหนึ่ง สมมุตวิ า่ ผบู้ ริโภคตดั สนิ ใจซ้ือผา้ ไหม ต้นทุนที่สาคัญในการตัดสินใจซ้ือผ้าไหมหน่ึงชิ้น ประกอบดว้ ยต้นทุนต่อไปน้ี - ราคาในรูปตัวเงนิ ของผ้าไหมทผ่ี ู้บริโภคในการตัดสินใจซ้ือ - ตน้ ทนุ ด้านเวลา หมายถึง เวลาทล่ี ูกค้าสญู เสียไปหรือใช้ไปในการซอ้ื ผ้าไหมเวลาใน การตรวจสอบ คณุ สมบัตขิ องผา้ ไหม เวลาในการแสวงหาร้านท่ขี าย

- ตน้ ทุนพลงั งาน หมายถึง พลังงานที่ลูกค้าสูญเสียไปจากการใช้พลงั ความคดิ ใน การตัดสนิ ใจตลอดจนความเหนด็ เหนอ่ื ยในการสารวจหาลายผ้า แหล่งจาหน่าย - ต้นทุนด้านจติ วทิ ยา เป็นความไมส่ บายใจหรือความวิตกกงั วลที่เกดิ จากการใช้ผ้า ไหม เชน่ ความกังวลต่อวิธีการซัก ความกังวลตอ่ การตดั เยบ็ กังวลต่อสายต่อคนรอบขา้ งเม่ือใสผ่ ้าไหม ฯลฯ กกกกกกก 3.3 คุณค่าในมุมมองของผู้บริโภค (customer value) เป็นความแตกต่างระหว่าง ผลประโยชนท์ ี่ผ้บู ริโภคได้รับจากการบริโภคผลิตภัณฑ์น้ัน เทยี บกับตน้ ทนุ ทตี่ ้องจ่ายไป เพ่ือให้ได้มาซ่ึง ผลิตภัณฑ์ ซง่ึ ในบางกรณ๊ผู้บรโิ ภคจะใช้คุณคา่ ท่ตี นรบั ร้ไู ด้ (perceived value) เป็นสงิ่ กาหนด ผู้ซ้ือจะ ตัดสินใจซ้ือสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยพิจารณาถึงคุณค่าผลิตภัณฑ์ (value) และต้นทุนท่ีเขาต้อง จ่ายซ้ือสินค้า เมื่อใดที่เขารู้สึกว่าคุณค่าผลิตภัณฑ์สูงกว่าต้นทุน หรือเงินท่ีเขาต้องจ่ายซื้อสินค้า แสดง วา่ เขาได้รบั ประโยชน์ หรือกาไรจากการขายสินค้าน้ัน กกกกกกก 3.4 ความพงึ พอใจของลูกคา้ (satisfaction) เกดิ จากการไดร้ บั ผลิตภณั ฑท์ ี่มีคณุ คา่ สงู กว่าต้นทนุ ทีเ่ ขาต้องจา่ ยไปและยงั ข้นึ กับเคร่ืองมือการตลาดและกจิ กรรมการตลาดอืน่ ๆ ด้วย กกกกกกก4. ผลิตภัณฑ์จะมีการแลกเปล่ยี น (exchange) และการติดต่อธรุ กจิ (transation) บุคคล จะไดร้ ับผลิตภัณฑ์สองวิธดี ้วยกนั คอื กกกกกกก 4.1 การแลกเปล่ียน (exchange) เป็นกจิ กรรมทีไ่ ดร้ ับผลติ ภัณฑ์จากบคุ คลหน่งึ โดยการ เสนอส่งิ ท่ีมีคุณค่าเป็นการตอบแทน ลกั ษณะของการแลกเปลี่ยนประกอบด้วย 1. บุคคลหรอื กลุ่มบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายข้ึนไป 2. แต่ละฝา่ ย มบี างสิง่ ท่ีมีคณุ ค่าสาหรับอีกฝ่ายหนงึ่ 3. แต่ละฝ่ายมีความสามารถในการติดต่อส่ือสาร และการสง่ มอบ 4. แตล่ ะฝ่ายมีอสิ ระท่ีจะยอมรับ หรอื ปฎิเสธในส่ิงทอ่ี กี ฝ่ายหนึง่ เสนอ 5. แต่ละฝ่ายเชอื่ ว่าเปน็ การเหมาะสม หรือพอใจทีจ่ ะติดต่อสื่อสารกับอีกฝา่ ยหนง่ึ กกกกกกก ซ่งึ สรุปได้ว่า การแลกเปลย่ี นระหว่างนักการตลาดและผู้ท่คี าดวา่ จะเป็นลูกคา้ กลา่ วคือนักการตลาดจะต้องเสนอเคร่อื งมือการตลาด (ผลิตภณั ฑ์ ราคา ช่องทางการจดั จาหน่าย การ ส่งเสริมการตลาด) ทีเ่ หมาะสม เพือ่ สนองความต้องการของลูกค้า หรือผ้ทู ่ีคาดว่าจะเปน็ ลูกค้าใหเ้ กดิ ความพึงพอใจและในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการขายผลิตภณั ฑ์ได้ในราคาทเ่ี หมาะสม การชาระเงนิ ตรงเวลาและการเจราขายไดผ้ ล กกกกกกก 4.2 การติดตอ่ ธุรกิจ ประกอบด้วยการทาการค้าระหว่าง 2 ฝา่ ย ในท่ีน้ีได้แก่ ฝ่ายผู้ขาย และผซู้ ้อื การติดต่อธุรกจิ มดี งั นี้ 1. ตอ้ งมีสองสงิ่ ท่ีมคี ุณค่า 2. มีการตกลงภายใต้เงือ่ นไข 3. มีระยะเวลาของการตกลง 4. มีสถานที่ในการตกลง กกกกกกก 4.3 การสร้างความสัมพนั ธท์ ่ดี ีกบั ลกู คา้ และการสร้างเครือขา่ ย การตลาด ต้องอาศยั การ สร้างความสมั พันธท์ ี่ดีกบั ลกู ค้า และอาศยั เครือขา่ ยทางการตลาดดังนี้

1. การตลาดเพ่ือความสัมพันธ์ท่ีดี เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่กลุ่มต่าง ๆ เช่นลูกค้า ผู้บริโภค ผู้จัดจาหน่ายคนกลาง ผู้ขายปัจจัยการผลิต ฯลฯ ซึ่งจะมีการส่งมอบสินค้าและ บริการที่มีคุณภาพสูง ราคาเหมาะสม การจัดจาหน่ายรวดเร็ว และการส่งเสริมการตลาดท่ีเหมาะสม หลักการสาคัญคือการสรา้ งความสมั พนั ธ์ที่ดแี ละสามารถสรา้ งกาไรได้ ผลลัพธ์จากการใช้เคร่ืองมือทาง การตลาด เพือ่ สร้างความสัมพนั ธอ์ ันดที าใหเ้ กิดสงิ่ ที่มคี ุณค่ากบั กิจการเรียกวา่ \"เครอื ข่ายการตลาด\" 2. เครือข่ายทางการตลาด ประกอบด้วยกิจการและกลุ่มผู้ท่ีเก่ียวข้องกับองค์การ ซึง่ เป็นกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ท่ีให้การสนับสนุน มีผลต่อการดาเนินธุรกิจขององค์การ เช่น ลูกค้าพนักงาน ชุมชนในทอ้ งที่ และผถู้ อื ห้นุ กกกกกกก5. การตลาด คือ กลุ่มเป้าหมายของการขายผลิตภัณฑ์ซ่ึงหมายถึงลูกค้าซึ่งมีศักยภาพ ทั้งหมดท่ีมีความจาเป็น และความต้องการผลิตภัณฑซึ่งอาจมีความเต็มใจและความสามารถท่ีจะ แลกเปล่ยี นเพอื่ สนองความจาเป็นหรือความต้องการให้ได้รับความพอใจของตน โดยใช้เงินในการจ่าย ซ้ือความพึงพอใจเหล่านั้น องค์ประกอบท้ัง 5 ประการเป็นกระบวนการทางการตลาด (marketing process) ซึ่งเร่ิมจากการกาหนดและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและสิ่งแวดล้อม การวางแผน ส่วนประสมการตลาด การปฏิบัติตามแผนและการควบคุมให้เป็นไปตามแผนถือว่าเป็นกระบวนการ ตลาดมาประยุกต์ใช้กับปัญหาทางธุรกิจ ทั้งด้านการวางแผนและการควบคุม ส่วนใหญ่ข้อมูลท่ีได้มัก ไดม้ าจากแบบจาลอง (model) ที่ใช้เทคนิคความรู้ทางธุรกิจและทางการตลาดขั้นสูงสร้างขึ้นมา แล้ว นาเอาความรู้ทางสถิติไปพิจารณาหาความสัมพันธ์ของข้อมูล และทดสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล ด้วย ข้อมูลที่ได้จากแบบจาลองเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจวางแผนและแก้ไขสถานการณ์ ทางธรุ กิจได้ เช่น การพฒั นาผลติ ภัณฑ์ใหม่ การกาหนดราคา การวางแผนการตลาด องค์ประกอบของการประกอบธุรกิจ กกกกกกก1. การจัดองค์กร คือกจิ กรรมท่ที าใหอ้ งค์การสามารถจดั รปู แบบการทางานของบคุ ลากร ภายในองค์กรได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ กกกกกกก2. การผลิตและปฏิบตั ิการ คือกจิ กรรมของการนาเอาวตั ถดุ ิบมาผ่านกระบวนการในการ ผลิตเพอ่ื ทาให้เกิดมีสนิ คา้ หรือบรกิ าร กกกกกกก3. การตลาด คือการดาเนินการเพ่ือจะทาใหส้ ินค้าหรือบริการท่ีผลติ แลว้ ไดร้ ับการเปลีย่ น มอื ไปถงึ มือผบู้ ริโภค กกกกกกก4. การบญั ชีและการเงิน คือการเกบ็ บันทึกข้อมลู การดาเนินงานการจดั ทางบการเงิน งบประมาณ การจดั หาเงนิ ทนุ การใช้เงนิ ทุนและลงทุนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยบรหิ ารให้เงินทุน หมุนเวียนอยา่ งพอเหมาะ กกกกกกก5. การจดั หาวตั ถดุ ิบมาป้อนโรงงาน คอื กิจกรรมในการจดั ซ้ือและควบคุมการจัดซ้อื วตั ถุดิบ รวมทงั้ การตรวจนบั สินค้าคงคลงั กกกกกกก6. การบริหารงานบุคคล คอื การดาเนินการจัดสรรพนกั งาน การฝึกอบรม การจัดหา รูปแบบของการจงู ใจและสวัสดิการต่างๆ เพอ่ื ประสิทธภิ าพในการบริหารบุคคลซ่ึงสง่ ผลต่อ ความสาเร็จขององคก์ ร กกกกกกก7. การจัดการระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ คอื การนาเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เขา้ มาใช้ เพอื่ ความมปี ระสิทธิภาพในการดาเนนิ งานดา้ นตา่ งๆ

กกกกกกก8. การวจิ ยั และพฒั นา คือกิจกรรมเพอื่ เนน้ ความคดิ สรา้ งสรรค์ คน้ คว้านวตั กรรมใหมๆ่ ใน ผลิตภณั ฑต์ ่างๆเพ่ือความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคอยา่ งสงู สุด ตลาดเป้าหมายและแนวโน้มการขายออนไลน์ กกกกกกตลาดเปา้ หมาย Target Marketing หมายถงึ การจดั ผลิตภณั ฑ์ หรือบรกิ ารและส่วนประสม ทางการตลาดทแี่ ตกต่างกนั เพ่ือสนองความต้องการของตลาดท่ีมีลกั ษณะและความตอ้ งการที่แตกตา่ ง กนั กกกกกกกตลาดเป้าหมาย คือ กลมุ่ ลูกค้าเป้าหมายของกจิ การ กกกกกกกตลาดเป้าหมายเป็นส่วนหน่ึงตลาดแบง่ ออกเปน็ 5 ประเภทคือ กกกกกกก1. ตลาดผู้ค้าปลีก Retailingเป็น ลูกค้าเป้าหมายของกจิ การ ซื้อสินค้าหรือ บริการขาย ให้กับผบู้ ริโภคคนสดุ ทา้ ย กกกกกกก2. ตลาดผ้คู า้ สง่ Wholesalingเป็นลูกค้าเป้าหมายของกิจการ ซ้ือสนิ คา้ จากผ้ผู ลติ แลว้ มา ขายใหก้ บั ร้านคา้ ปลกี กกกกกกก3. ตลาดอุตสาหกรรมIndustrial Market หมายถึง ตลาดผูผ้ ลติ ซือ้ สินค้าไปใช้การผลิต หรอื นาไปใชธ้ รุ กจิ เชน่ ซอ้ื ผักกาด(วัตถดุ ิบ)ไปใชก้ ารผลติ เป็นผักกาดกระป๋อง กกกกกกก4. ตลาดรัฐบาล Government Market หมายถงึ หนว่ ยงานของรัฐบาลซอ้ื สินค้าและ บริการเพ่ือใช้ในการดาเนินงานของรัฐบาล โรงเรียนของรฐั บาล ซือ้ เครื่องคอมพวิ เตอร์ไปใชง้ าน กกกกกกก5. ตลาดระหว่างประเทศInternational Marketหมายถงึ ตลาดของสนิ ค้าและบรกิ ารจาก ผูผ้ ลติ ในประเทศหน่ึงท่จี าหน่ายไปสูผ่ ใู้ ชใ้ นอีกประเทศหน่งึ กกกกกกกความหมายการวิเคราะหส์ ถานการณ์การจัดจาหน่าย หมายถึงการวเิ คราะห์สถานการณ์ ทางการตลาดวา่ สนิ คา้ หรือบริการของกจิ การสามารถบรรลจุ ดุ มุ่งหมายในการ กกกกกกกจัดจาหน่ายหรอื ไม่จดุ มงุ่ หมายในการจัดจาหนา่ ย คอื การสร้างความประทับใจกับลูกคา้ กกกกกกกกลยุทธ์การเลือกตลาดเปา้ หมายท่สี าคัญ 3 ลกั ษณะคือ กกกกกกก1 การตลาดแบบไม่แยกแยะความแตกต่าง เชน่ เครือ่ งสาอาง กกกกกกก2 การตลาดแบบแยกแยะความแตกต่าง มีการกาหนดเปา้ หมายการตลาดชัดเจน มสี นิ ค้า หลาย ๆ คุณลักษณะมงุ่ ความต้องการเฉพาะกลุม่ กกกกกกก3 การตลาดแบบมุ่งเฉพาะเชน่ รถเบนซ์ กกกกกกกการแบง่ ส่วนตลาด MARKET SEGMENTATION หมายถงึ การแบง่ ตลาดของผลติ ภัณฑ์หรอื บรกิ ารชนดิ ใดชนิดหนึง่ ออกตามลกั ษณะความตอ้ งการท่ีคล้ายคลงึ กนั ออกเป็นตลาด ย่อย Submarket ตวั แปร Variable นิยมใช้ในการแบ่งส่วนตลาดแบง่ ได้ 4 กลุ่มคือ กกกกกกก1 ตวั แปรเชิงภูมศิ าสตรเ์ ช่น ขอบเขต ขนาดของจงั หวดั อากาศ ความหนาแน่น ประเทศ กกกกกกก2 ตวั แปรเชงิ ประชา เชน่ อายุ เพศ ขนาดครอบครวั วัฎจักรชวี ติ ครอบครวั กกกกกกก3 ตัวแปรเชิงจติ นิสัยหรอื เชิงจติ วทิ ยา เช่น ของสังคม วธิ กี ารดาเนนิ ชีวิต ลกั ษณะสว่ นบุคคล

กกกกกกก4 ตัวแปรเชิงพฤติกรรม เชน่ โอกาสในการซื้อ ผลประโยชน์ สถานภาพการใช้สินคา้ อตั รา การใชส้ ินค้า กกกกกกก การแบ่งส่วนตลาดเชิงพฤตกิ รรม เปน็ การแบ่งตลาดเปน็ สว่ นต่างๆ โดยคานึงถึงปจั จยั สาคญั ดา้ นพฤติกรรมของผู้บริโภคหลาย ๆ ประการ เชน่ ความรู้ ทศั นคติ อัตราการใช้สนิ คา้ กกกกกกก-พอ่ แมอ่ ายมุ ากอยู่คนเดยี วเปน็ ตัวแปรใช้การแบ่งสว่ นตลาดแบบวฎั จักรชวี ิตครอบครัว กกกกกกก-มรี ะเบยี บแบบแผน ชอบเที่ยวเตร่สนุกสนาน ซ่ือตรงเป็นตัวแปรใช้การแบ่งส่วนตลาดแบบ วิธีการดาเนินชีวิตการวางตาแหน่งผลิตภัณฑ์โดยคานึงถึงช่องทางท่ีดีกว่าในการแข่งขันเช่นนี้ จาเป็นตอ้ งได้อาศยั ความพรอ้ มหลายๆ ด้านประกอบดว้ ยคอื กกกกกกก1 บุคลกิ ภาพของผลติ ภัณฑ์ เช่น โจก๊ ชนดิ หนงึ่ วางตาแหน่งว่า อาหารเช้าในวาระรีบด่วน กกกกกกก2 กลมุ่ เป้าหมาย Target Market เช่น จอหน์ สัน แลนด์จอหน์ สนั ในปัจจุบนั วางตาแหน่ง ใชไ้ ดท้ กุ คน เดก็ วยั รนุ่ ผใู้ หญ่ กกกกกกก3 จดุ ขายทเี่ หนือกวา่ ค่แู ขง่ ขัน หมายถึงกจิ การสามารถหาจุดแตกต่างของคุณลักษณะของ ผลติ ภณั ฑ์ เชน่ การม่นั ใจวา่ สนิ ค้าเราเหนือกวา่ คู่แข่งขันทุกด้าน เราสามารถเลอื กวธิ ีการพ่งุ เขา้ ชน ยายากบั ไวไว กกกกกกก-PRODUCT LINE สายผลิตภณั ฑ์ กกกกกกกจุดมุง่ หมายในการจัดจาหน่าย คือ การสร้างความประทบั ใจกบั ลกู ค้า กกกกกกกปัจจยั การวางแผนการจัดจาหน่ายประกอบด้วย Variable กกกกกกก1. ผลิตภณั ฑ์ กกกกกกก2. ราคาสินค้า กกกกกกก3. สถานทีต่ ัง้ คลังสินค้า กกกกกกก4. กฎระเบยี บข้อบังคบั ของหนว่ ยราชการ กกกกกกก5. ฤดกู าลใชผ้ ลิตภณั ฑ์ กกกกกกก6. อุปกรณ์/เครือ่ งท่ใี ช้ในการขนส่ง กกกกกกก7. การคัดเลือกประเภทของการขนสง่ กกกกกกก8. คู่แขง่ ขนั ทางการคา้ กกกกกกก9. ปัจจยั ท่ีธรุ กจิ ควบคมุ ไมไ่ ด้ กกกกกกกววิ ฒั นาการของแนวความคิดเก่ยี วกับการตลาดตามเป้าหมายประกอบดว้ ย 3 ข้นั ตอนคอื กกกกกกก1. การตลาดมวลชน กกกกกกก2. การตลาดตามผลติ ภัณฑ์ กกกกกกก3. การตลาดตามเป้าหมาย กกกกกกกการตลาดสนิ ค้าอตุ สาหกรรม คือ ตลาดท่ซี ้ือมาเพ่อื ผลิตต่อหรอื แปรรปู ใหเ้ ป็นสนิ ค้า ประเภทอืน่ ต่อไป มีจดุ ม่งุ หวังกาไร

ลักษณะของตลาดสนิ คา้ อตุ สาหกรรม กกกกกกก1. ความต้องการเป็นลักษณะต่อเน่ือง กกกกกกก2. ความตอ้ งการเป็นลักษณะไมย่ ดื หยนุ่ ความต้องไมย่ ืดหยุ่นเป็นลักษณะที่วา่ แม้ราคา สินคา้ จะสงู ขึน้ ก็ตาม แต่ทว่าความตอ้ งการในประมาณสินค้าไม่ไดล้ ดลง กกกกกกก3. ในกรณขี องผู้เสนอขายความต้องการมีลกั ษณะยดื หยุ่น ความสมั พนั ธข์ องการบรหิ ารงานตลาดประกอบ กกกกกกก1. การวางแผนการตลาดหรอื กาหนดกลยุทธ์ กกกกกกก2. ปฏิบัติการตามแผนการตลาด กกกกกกก3. ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ วิเคราะห์ ควบคุมการ ปฏิบตั ิ กกกกกกก คอมพิวเตอร์จึงเข้ามาช่วยดาเนินงานแทนทาให้สามารถวิเคราะห์ข้องมูลได้ถูกต้อง รวดเร็ว โดยทาผ่านระบบON LINE COMPUTER E-MAIL INTERNET ประเภทของแนวโน้ม การตลาดออนไลน์ท่ีทุกธุรกิจควรพิจารณา เป็นนักการตลาดวางแผนล่วงหน้าสาหรับการที่จะลงทุน งบประมาณการตลาดของพวกเขาในปีต่อๆ ไปที่น่าสนใจในนวัตกรรมและแนวโน้มล่าสุดเพ่ิมขึ้นๆ มากขึ้นเพ่ือไม่ก่ีปีที่ผ่านมาเราได้ตรวจทานโอกาสในอนาคตจากมุมท่ีแตกต่างกันเช่นที่น่ีมี การ เปล่ียนแปลงและการตลาดแนวโน้มการรวมดิจิตอลในปี 2559 ; นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการตลาด ในปี 2558 และกลยุทธ์การตลาดดิจิตอลในปี 2557 เราได้มองยังเฉพาะท่ีแนวโน้มอีคอมเมิร์ซช้ันนา สาหรับปี 2560 ซึ่งทามากกว่าตักกับแนวโน้มการตลาดท่ัวไป แต่มีความแตกต่างท่ีสาคัญ ความสนใจ ในแนวโน้มและโอกาสทางให้บริการการตลาดออนไลน์รูปแบบใหม่ไม่แปลกใจตั้งแต่เม่ือคิดเก่ียวกับ วิธีการท่ีจะได้รับประโยชนส์ งู สุดจากการตลาดดิจิตอลมีจานวนมากดังน้ันกาเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์ม ใหม่จากชอบของแอปเปิ้ล, Google, Facebook และ LinkedIn ที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มล่าสุด จะให้ เพียงตัวอย่างหนึ่งที่ผมเขียนนี้ Google ประกาศร้านมือถือใหม่คุณลักษณะดู AdWords ซึ่งร้านค้า ปลกี ในภาคการที่จะตอ้ งตรวจสอบและดาเนินการ กกกกกกก1. แนวโน้มท่ีสาคัญอันดับแรกคือปริมาณการใช้ Smart Phone ได้เพ่ิมมากข้ึนอย่าง รวดเร็วจากมุมมองของการใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของผู้บริโภคท้ังสองแนวโน้มท่ีสาคัญท่ีมีกา ร เจริญเติบโตเพ่ิมข้ึนในการนามาร์ทโฟนและความนิยมอย่างต่อเนื่องของโทรศัพท์มือถือและการส่ง ข้อความโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ โทรศัพท์มือถอื เป็นไฮไลต์นักวิเคราะห์ท่ัวโลกทบทวนแนวโน้มอินเทอร์เน็ต ขณะท่ีการเติบโตในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกเป็นถึงท่ีราบสูง คะเนแนวโน้มจากเอเชีย แสดงใหเ้ ห็นถึงการขยายตัวในอนาคต กกกกกกก2. แนวโน้มในเทคนิคการตลาดในระดับช้ันนาเทคนิคการตลาดดิจิตอลใหม่ไม่น่าจะมี วิวัฒนาการค่อนข้างจะเป็นบริการใหม่จากแพลตฟอร์มที่เราได้พูดคุยเกี่ยวกับใน 1 ท่ีจะกลายเป็น ความสาคัญมากขนึ้ เทคนิคการตลาดดิจิตอลตวั หลักอย่ใู นขณะน้ีดีที่จัดตั้งข้ึนตามขาเข้าตลาดระยะร่ม แม้ว่าตลาดดิจิตอลได้ให้โอกาสมากมายสาหรับการส่ือสารแบบดิจิทัลที่มีผู้ชมของเรา ดูรายการ มากกว่า 100 ช่องทางการตลาดโดยการให้คาปรึกษาเหล่านี้เท่านั้นที่สามารถจัดการได้ในระดับท่ี

สูงขึ้นและส่ิงเหล่านี้เทคนิคการตลาดดิจิตอลตัวหลักที่มีแนวโน้มท่ีจะยังคงไม่เปล่ียนแปลงของเรา ภายในพนื้ ทข่ี องสมาชิกของเราและรายงานดิจิตอลทักษะด้านการตลาดของเราที่เราลดความซับซ้อน หลายช่องทางเหล่าน้ีลงไปเพียง 8 เทคนิคท่ีสาคัญที่มีความจาเป็นสาหรับธุรกิจในการจัดการในวันนี้ และสาหรับนักการตลาดของแตล่ ะบคุ คลในการพัฒนาทกั ษะ กกกกกกกเทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสือ่ สำรกำรขำยออนไลน์ กกกกกกกความหมายของอนิ เทอรเ์ นต็ กกกกกกกอินเตอร์เน็ต (Internet) นั้นย่อมาจากคาว่า “International network” หรือ “Inter Connection network” ซ่ึงหมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ท่ีเช่ือมโยงเครือข่าย คอมพิวเตอร์ท่ัวโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน โดย อาศัยตัวเช่ือมเครือข่ายภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงเดียวกัน น่ันก็คือ TCP/IP Protocol ซึ่งเป็น ข้อกาหนดวิธีการติดต่อส่ือสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย ซึ่งโปรโตคอลน้ีจะช่วยให้ คอมพิวเตอร์ท่ีมีฮาร์ดแวร์ท่ีแตกต่างกันสามารถติดต่อถึงกันได้การที่มีระบบอินเตอร์เน็ต ทาให้ สามารถเคลื่อนย้ายข่าวสารข้อมูลจากที่หน่ึงไปยังอีกท่ีหนึ่งได้ โดยไม่จากัดระยะทาง ส่งข้อมูลได้ หลายรูปแบบ ทั้งข้อความตัวหนังสือ ภาพ และ เสียง โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัว เชอ่ื มตอ่ เครือข่ายอนิ เตอร์เน็ตนบั เปน็ อภิระบบเครือข่ายที่ย่ิงใหญ่มาก มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้าน เคร่ืองท่ัวโลกเช่ือมต่อกับระบบ ทาให้คนในโลกทุกชาติทุกภาษาสามารถติดต่อส่ือสารกันได้ โดยไม่ ต้องเดินทางไป โลกทั้งโลกเปรียบเสมือนเป็นบ้านหน่ึงท่ีทุกคนในบ้านสามารถพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชวั่ โมง ประหยดั เวลา คา่ ใชจ้ ่าย แตเ่ กดิ ประโยชนต์ ่อสังคมโลกปจั จุบนั มาก กกกกกกกการเช่อื มต่อกบั อินเทอรเ์ นต็ กกกกกกกการเช่ือมเขา้ ส่รู ะบบอนิ เทอร์เนต็ ทน่ี ยิ มใช้สาหรบั ผใู้ ช้งานทัว่ ไปหรือหน่วยงานขนาดเล็กจะ ใชก้ ารเชื่อมต่อแบบหมนุ โทรศัพท์ (Dial-Up Connection) ซ่งึ เป็นการเชอื่ มต่อแบบชว่ั คราวหรอื เฉพาะบางเวลา ตามทผี่ ู้ใชต้ ้องการ ผ่านสายโทรศพั ท์ ซ่ึงสิง่ ทจี่ าเปน็ ในการเชื่อมต่อ มดี งั น้ี กกกกกกก1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เปน็ อุปกรณส์ าหรับใชใ้ นการส่งและรบั ข้อมูล กกกกกกก2. เวบ็ บราวเซอร์ เปน็ โปรแกรมทใ่ี ช้ในการดงึ ข้อมูลมาจาเวบ็ เซริ ์ฟเวอร์ ซ่งึ จัดเกบ็ อยู่ใน รูปแบบท่ีเรียกว่า HTML (Hyper Text Markup Language) และแปลความหมายของรูปแบบข้อมูล ทไี่ ดก้ าหนดเอาไวเ้ พื่อนาเสนอแกผ่ ู้ใช้ กกกกกกก3. หมายเลขโทรศัพทแ์ ละสายโทรศพั ท์ สาหรับเป็นสื่อกลางในการสง่ ข้อมลู ข่าวสาร โดย ผ้ใู ชต้ อ้ งเสยี คา่ ใช้จา่ ยในการโทรศัพทเ์ พยี ง 3 บาทต่อครั้งของการเชื่อมต่อ กกกกกกก4. โมเดม็ เปน็ อปุ กรณส์ าหรับแปลงสญั ญาณข้อมูลของคอมพิวเตอร์ซึง่ อยู่ในรูปแบบดจิ ิทัล (Digital) ให้เป็นสญั ญาณข้อมูลรปู แบบแอนะลอ็ ก (analog) และเมือ่ เปน็ ผสู้ ง่ จะแปลงสัญญาณข้อมูล รปู แบบแอนะล็อกใหเ้ ป็นดจิ ิทัล

กกกกกกก5 บริการชุดอนิ เทอร์เนต็ จากผใู้ ช้บริการอนิ เทอรเ์ นต็ (ISP) ซึง่ เปดิ โอกาสให้ผใู้ ชบ้ ริการ สามารถเลอื กขอเปน็ สมาชกิ เปน็ รายเดือน รายปี หรอื อาจเป็นการซ้อื ชุดอนิ เทอร์เนต็ แบบสาเรจ็ รูป โดยคดิ คา่ ใช้บริการเปน็ หน่วยช่วั โมง บรษิ ทั ที่ใหบ้ ริการอนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทย เชน่ ทีโอที กสท โทรคมนาคม ทที แี อนด์ที ล็อกอนิ โฟ 3BB เป็นตน้ กกกกกกกรูปแบบของกำรให้บรกิ ำรทำงอินเตอร์เนต็ กกกกกกกรปู แบบการใหบ้ ริการของอินเตอร์มดี งั น้ี กกกกกกก1. Electronic Mail (E-mail) เป็นรูปแบบการให้บริการที่ให้ผู้ใช้งาน รับ-ส่ง ข้อมูลหรือ แมสเสจ(Message) ท่ีเป็นข้อความไปยังผู้อ่ืนผ่านทางอินเตอร์เน็ต นอกจากน้ีผู้ส่งยังสามารถส่งไฟล์ อืน่ ๆไปพรอ้ มกบั แมสเสจน้ไี ด้ดว้ ย กกกกกกก2. World Wide Web(www) เปน็ รูปแบบการให้บริการท่ีเป็นสภาพแวดล้อมท่ีเป็นกราฟิก ทแ่ี สดงเว็บเพจจาก สถานท่ตี ่างๆซึง่ คุณสามารถอา่ นข้อมลู ดาวนโ์ หลดไฟล์ ดูหนัง ฟังเพลง เติมข้อมูล ในฟอร์ม โต้ตอบกับแอปพลิเคชัน(ท่ีเรียกว่า “applets” หรือ script)และค้นหาข้อมูล โดยแต่ละเว็บ เพจจะมีแอ็ดเดรส(address) เฉพาะที่ไมเ่ หมือนกัน ทาใหผ้ ู้ใช้งานสามารถกาหนดหรือดูเว็บเพจได้ด้วย เว็บบราวเซอร์(Web Browser) แอ็ดเดรสที่ว่านี้เรียกว่าURL (Uniform resource Locator) ซ่ึงจะ เรมิ่ ต้นดว้ ย http:wwww.microsoft.com เปน็ แอ้ดเดรสของบรษิ ัทไมโครซอฟ เป็นตน้ กกกกกกก3. File Transfer Protocol(FTP) เป็นรูปแบบการให้บรกิ ารผูใ้ ช้สามารถรับ-ส่งไฟล์ (เรียกว่าดาวน์โหลด (Download) และอัพโหลด(Upload)) จากคอมพวิ เตอรห์ น่ึงไปอีกคอมพวิ เตอร์ หน่ึง สว่ นมากเซิร์ฟเวอร์ของFTP จะยอมให้ดาวน์โหลดหรือ อพั โหลดเฉพาะสมาชิกเทา่ นั้น หรอื ใน บางเซิร์ฟเวอรจ์ ะให้อิสระในการเข้าไปดาวนโ์ หลดไฟล์ เช่น www.sharewera.com เป็นต้น กกกกกกก4. Gopher เห็นรูปแบบการให้บริการท่ีเป็นไฮเปอร์ลิงค์เพ่อื ชว่ ยเหลืดผใู้ ชง้ านในการคน้ หา ไฟลห์ รอื เอกสารท่ีต้องการบนอนิ เตอรเ์ น็ต กกกกกกก5. Internet Relay Chat ( IRC ) เป็นรปู แบบการใหบ้ ริการท่ใี ห้ผ้ใู ช้งานสามารถพูดคุยหรอื สนทนาแบบออนไลน์กบั ผใู้ ชง้ านคนอืน่ ทลี่ อ็ คอนิ เข้ามาในเซริ ์ฟเวอร์ท่ีให้บริการ กกกกกกก6. Telnet เป็นรปู แบบการใชค้ อมพิวเตอร์ท่อี ยู่หา่ งไกลโดยใช้คอมพิวเตอร์อื่นในลกั ษณะ รโี มตคอนโทรล ซ่ึงหมายถงึ ผู้ใช้ไมจ่ าเป็นต้องเข้ามานั่งทางานท่ีคอมพวิ เตอร์แต่อยา่ งใด เพยี งแค่ สั่งงานจากคอมพิวเตอร์ท่เี รียกใช้บริการ Telnet เทา่ นนั้ ส่วนใหญ่คอมพวิ เตอรท์ ่ถี ูกเรียกใช้งานมักจะ เป็นเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ท่ีมี ประสทิ ธภิ าพสงู เช่น ซเู ปอร์คอมพวิ เตอร์ มินิคอมพวิ เตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ หรือเครอ่ื งระดบั เวิรค์ สเตชนั ที่อาจจะอยู่หางไกลจากผูใ้ ชค้ นละประเทศซ่งึ ไม่ มี ปญั หาการเชอื่ มตอ่ อนิ เตอร์เน็ต สาหรับการเรียกใช้งานแบบน้ี ผู้ใช้จะต้องมโี ปรแกรมที่สนบั สนนุ การ ใชง้ านแบบนี้ เช่น Telnet เป็นต้น กกกกกกก7. UseNet เปน็ รูปแบบการใหบ้ ริการท่ีคล้ายกับบอรด์ แจง้ ขา่ วสาร ซึ่งจะมีขอ้ มูลท่แี จง้ ให้ ผ้อู ่นื ทราบหรอื อาจจะเปน็ การประชาสมั พันธ์ UseNet มาจากคาว่าUser Network ซ่งึ รปู แบบการ ใหบ้ รกิ ารแบบน้ีจะมเี ซิร์ฟเวอร์ ท่เี รยี กวา่ “ นิวส์ เซริ ฟ์ เวอร์ ”(News Server) ส่วนขอ้ มูลท่ตี ิด ประกาศนน้ั จะคลา้ ยกบั อเี มล์ที่สง่ มายังนิวสเ์ ซิรฟ์ เวอร์ น่ันเอง เน่ืองจากมผี ใู้ ชง้ านเป็นจานวนมากจงึ ได้ มกี ารแบง่ กลุ่มเลก็ ๆ ที่เรียกว่า “ นิวสก์ รุป๊ ” (New Group) ส่วนขอ้ ความทสี่ ่งเขา้ ไป

เรียกวา่ “บทความ” (Article) สาหรับการส่งบทความข้นไป หรอื เข้าไปอ่านบทความก็ต้องมีโปรแกรม เฉพาะในการใชง้ าน กกกกกกกกฎหมำย จรรยำบรรณองค์กำรท่เี กยี่ วขอ้ งกับกำรขำยออนไลน์ กกกกกกกพระรำชบญั ญตั ิว่ำด้วยิุรกรรมทำงอเิ ล็กทรอนิกส์ กกกกกกก“อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คล่ืน แม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอ่ืนใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทาง แสง วธิ กี ารทางแมเ่ หลก็ หรอื อปุ กรณ์ท่เี ก่ียวขอ้ งกับการประยุกตใ์ ช้วธิ ตี ่างๆ เช่นวา่ นน้ั กกกกกกก“ธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์” หมายความวา่ ธรุ กรรมทก่ี ระทาขึน้ โดยใชว้ ิธกี ารทาง อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน กกกกกกก“ขอ้ ความ” หมายความว่า เรอ่ื งราวหรือขอ้ เทจ็ จรงิ ไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบของตัวอักษร ตัวเลข เสียง ภาพ หรือรูปแบบอื่นใดท่ีสื่อความหมายได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการ ใดๆ กกกกกกก“ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ข้อความท่ีได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือ ประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วิธีการแลกเปล่ียนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์จดหมาย อิเลก็ ทรอนกิ ส์ โทรเลข โทรพิมพ์ หรอื โทรสาร กกกกกกก“ลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า อักษร อักขระ ตัวเลข เสียงหรือสัญลักษณ์อื่น ใดท่ีสร้างข้ึนให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซ่ึงนามาใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือแสดง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ ลายมือช่ืออิเล็กทรอนิกส์ที่เก่ียวข้องกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์น้ัน และเพื่อแสดงว่าบุคคลดังกล่าว ยอมรับขอ้ ความในข้อมลู อิเลก็ ทรอนิกสน์ ้นั กกกกกกก“ระบบขอ้ มูล” หมายความวา่ กระบวนการประมวลผลด้วยเครือ่ งมืออเิ ล็กทรอนิกสส์ าหรบั สร้าง ส่ง รบั เกบ็ รักษา หรอื ประมวลผลขอ้ มลู อเิ ลก็ ทรอนิกส์ กกกกกกก“การแลกเปลี่ยนข้อมลู ทางอิเลก็ ทรอนิกส์” หมายความว่า การส่งหรอื รบั ขอ้ ความด้วย วิธีการทางอเิ ล็กทรอนิกส์ระหวา่ งเคร่ืองคอมพวิ เตอร์โดยใชม้ าตรฐานทก่ี าหนดไวล้ ่วงหน้า กกกกกกก“ผสู้ ่งขอ้ มลู ” หมายความวา่ บคุ คลซ่ึงเป็นผ้สู ่งหรือสรา้ งข้อมูลอิเล็กทรอนกิ สก์ ่อนจะมีการ เกบ็ รกั ษาข้อมลู เพื่อส่งไปตามวธิ กี ารที่ผ้นู ้ันกาหนด โดยบุคคลนัน้ อาจจะสง่ หรือสรา้ งข้อมลู อิเลก็ ทรอนกิ ส์ดว้ ยตนเอง หรือมกี ารส่งหรือสรา้ งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในนามหรือแทนบุคคลนนั้ ก็ได้ ท้งั นี้ไมร่ วมถึงบุคคลทเี่ ปน็ ส่ือกลางสาหรบั ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นนั้ กกกกกกก“ผู้รับข้อมูล” หมายความวา่ บคุ คลซึ่งผสู้ ง่ ข้อมลู ประสงค์จะส่งข้อมูลอเิ ล็กทรอนิกส์ใหแ้ ละ ได้รับข้อมลู อิเล็กทรอนิกส์นน้ั ทงั้ น้ีไม่รวมถงึ บุคคลทีเ่ ปน็ สื่อกลางสาหรับขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนกิ สน์ ัน้ กกกกกกก“บคุ คลทเี่ ป็นส่ือกลาง” หมายความวา่ บุคคลซึ่งกระทาการในนามผูอ้ ื่นในการส่ง รบั หรอื เกบ็ รักษาข้อมูลอเิ ล็กทรอนิกสอ์ นั ใดอนั หน่ึงโดยเฉพาะ รวมถงึ ให้บริการอ่นื ทีเ่ ก่ยี วกับข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์นัน้ กกกกกกก“ใบรับรอง” หมายความว่า ขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนิกส์หรือการบนั ทึกอื่นใด ซ่งึ ยืนยันความ เชือ่ มโยงระหว่างเจา้ ของลายมอื ชอ่ื กับข้อมูลสาหรับใชส้ รา้ งลายมือช่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์

กกกกกกก“เจ้าของลายมือชอื่ ” หมายความวา่ ผซู้ ่งึ ถือข้อมูลสาหรับใชส้ ร้างลายมือช่อื อิเล็กทรอนิกส์ และสรา้ งลายมือชือ่ อิเล็กทรอนิกส์นัน้ ในนามตนเองหรือแทนบคุ คลอืน่ กกกกกกก“ค่กู รณที ี่เก่ียวขอ้ ง” หมายความวา่ ผซู้ ึ่งอาจกระทาการใด ๆ โดยขน้ึ อยกู่ ับใบรับรองหรือ ลายมือช่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ กกกกกกก“หนว่ ยงานของรัฐ” หมายความวา่ กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการทีเ่ รยี กชื่ออย่างอ่ืน และมีฐานะเป็นกรม ราชการสว่ นภมู ภิ าค ราชการสว่ นทอ้ งถ่นิ รฐั วิสาหกิจที่ต้ังขนึ้ โดยพระราชบญั ญตั ิ หรอื พระราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงนิตบิ ุคคล คณะบุคคล หรือบุคคลซ่งึ มีอานาจหน้าที่ ดาเนินงานของรัฐไม่วา่ ในการใดๆ กกกกกกก“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ กกกกกกก“รฐั มนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรผี ู้รกั ษาการตามพระราชบัญญตั ิน้ี กกกกกกกมาตรา ๕ บทบญั ญัติมาตรา ๑๓ ถงึ มาตรา ๒๔ และบทบัญญตั ิมาตรา ๒๖ ถงึ มาตรา ๓๑ จะตกลงกันเป็นอย่างอนื่ ก็ได้ กกกกกกกมาตรา ๖ ใหน้ ายกรัฐมนตรรี กั ษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี กกกกกกกหมวด ๑ กกกกกกกธุรกรรมทางอเลก็ ทรอนกิ ส์ กกกกกกกมาตรา ๗ หา้ มมใิ ห้ปฏิเสธความมผี ลผกู พันและการบังคบั ใชท้ างกฎหมายของข้อความใด เพียงเพราะเหตุทข่ี ้อความนัน้ อยใู่ นรปู ของข้อมูลอิเลก็ ทรอนิกส์ กกกกกกกมาตรา ๘ ภายใตบ้ ังคบั บทบญั ญตั ิแห่งมาตรา ๙ ในกรณีท่ีกฎหมายกาหนดให้การใดต้องทา เป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดง ถ้าได้มีการจัดทาข้อความข้ึนเป็นข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ท่ีสามารถเข้าถึงและนากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปล่ียนแปลง ให้ถือว่าข้อความ นั้นได้ทาเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดงแล้วในกรณีที่กฎหมายกาหนดให้ ต้ อ ง มี ก า ร ปิ ด อ า ก ร แ ส ต ม ป์ ห า ก ไ ด้ มี ก า ร ช า ร ะ เ งิ น แ ท น ห รื อ ด า เ นิ น ก า ร อื่ น ใ ด ด้ ว ย วิ ธี ก า ร ท า ง อิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่หน่วยงานของรัฐซ่ึงเกี่ยวข้องประกาศกาหนด ให้ถือว่า หนังสือ หลกั ฐานเปน็ หนังสอื หรอื เอกสาร ซ่งึ มีลักษณะเป็นตรา สารนั้นไดม้ ีการปิดอากรแสตมป์และขดี ฆ่าตามกฎหมายนนั้ แล้ว ในการน้ใี นการกาหนดหลักเกณฑ์และ วิธีการของหน่วยงานของรัฐดังกล่าว คณะกรรมการจะกาหนดกรอบและแนวทางเพื่อเป็นมาตรฐาน ท่วั ไปไวด้ ้วยกไ็ ด้ ความหมายของคาว่า จริยธรรมและจรรยาบรรณ กกกกกกกจริยธรรม คือ ความสานกึ หรอื ความประพฤติที่ดีงามเพ่ือประโยชนส์ ุขของตนเองและสงั คม กกกกกกกจรรยาบรรณ คือ กระบวนความประพฤตทิ ่กี ลุ่มวิชาชีพหรือสมาคมร่วมกนั พจิ ารณากาหนด ขน้ึ เพื่อให้สมาชกิ ในกลุ่มหรือในสงั คมนน้ั ยดึ ถือ กกกกกกกการมจี รยิ ธรรม เริ่มจากการปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ซึง่ เป็นสง่ิ ท่จี าเป็นมาก แต่ยังไม่เพยี งพอ ต้องปฏบิ ัตติ ามจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ปรัชญาดว้ ย จรยิ ธรรมและคณุ ธรรม คอื บันไดทีเ่ ชอ่ื มไปส่เู ป้าหมายของการเจริญก้าวหน้าอยา่ งยั่งยืน กกกกกกกองค์กรท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการขายออนไลน์ กกกกกกก1. สานักงานคณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค (สคบ.)

กกกกกกก2. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กกกกกกก3. กรมการพฒั นาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กกกกกกก4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง กกกกกกก5. กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ กระทรวงยุติธรรม (DSI) กกกกกกก6. สานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กกกกกกก7. สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กกกกกกก8. สานกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม (สมอ.) กกกกกกก9. กองบงั คบั การปราบปรามการกระทาความผดิ เกย่ี วกับการคุ้มครองผบู้ รโิ ภค (บก.ปคบ.) กองบังคบั การปราบปราม กกกกกกก3. กำรคำนวณต้นทุนกำรผลติ แบบง่ำย กกกกกกก 3.1 ต้นทนุ กกกกก ต้นทนุ (cost) หมายถงึ ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินกิจกรรมตา่ งๆตน้ ทุนการผลิต (production cost) หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการดาเนนิ กิจกรรมทางการผลิตเพ่ือใหไ้ ด้มาซ่งึ ผลิตภณั ฑ์ท่ี ดี มคี ณุ ภาพ ตามความตอ้ งการของลกู ค้า กกกกก ตน้ ทุนแบง่ ออกได้เปน็ 2 ลกั ษณะ กกกกก ตน้ ผนั แปร คือต้นทนุ ที่ผนั แปรตามจานวนหน่วยที่ผลิตหรือขาย เช่น วตั ถุดบิ คา่ แรง ทางตรง คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตทางตรงเปน็ ตน้ กกกกก ต้นทุนคงทคี่ ือตน้ ทนุ ทเ่ี กิดขึ้นไม่ว่ากจิ การจะได้ขายสินคา้ หรือไม่ ตน้ ทุนนีจ้ ะไม่ เปล่ียนแปลงตามจานวนหน่วยที่ผลิตหรอื ขาย เชน่ เงินเดือนพนักงานหน้าร้าน ค่าเชา่ ร้าน ค่าเสอ่ื ม ราคา คา่ ประกนั ภัย เป็นตน้ กกกกกกกดังนน้ั ต้นทนุ การผลิตจะประกอบไปด้วยวตั ถุดิบ+ค่าแรงงาน + คา่ ใช้จา่ ยในการผลติ ซึง่ ท้งั สามรายการนี้เป็นเพยี งส่วนของการผลติ เท่าน้นั หากเราจะคดิ ตน้ ทุนรวมของสนิ ค้าแล้วเราจาเป็นต้อง นาค่าใช้จ่ายในการขายและดาเนินการมารวมดว้ ยเช่น เงินเดอื น , คา่ คอมมิชช่นั พนักงานขาย, คา่ แรง พนักงานขายหน้ารา้ น, คา่ การตลาด (โฆษณา,แผน่ พับ), ค่าเช่าสานกั งานและรา้ น, ค่าไฟฟา้ และ นา้ ประปา, ค่าโทรศัพท์, คา่ นา้ มนั รถ,ดอกเบี้ย, คา่ เชา่ รถ, ค่าใช้จา่ ยเบด็ เตล็ด ฯลฯ เพ่ือการคานวณ ตน้ ทนุ ใหใ้ กล้เคยี งความจริง หากเราคานวณแคว่ ตั ถดุ ิบ คา่ แรงงานและคา่ น้าค่าไฟฟา้ ก็อาจทาใหเ้ รา ได้ต้นทุนสนิ คา้ ท่นี อ้ ยกว่าความเป็นจรงิ และมีผลทาใหต้ งั้ ราคาขายที่ต่าไปและอาจขาดทุนได้ กก กกกกก องค์ประกอบของต้นทนุ การผลิต กกกกกกก ตน้ ทุนการผลิต ประกอบด้วย กกกกกกก 1. ต้นทนุ ด้านวัสดุ (material cost) กกกกกกก เป็นค่าใชจ้ ่ายที่เก่ียวข้องกับวัสดุ, อปุ กรณ์, เครือ่ งมือ ท่ใี ชใ้ นการผลติ ทง้ั ทางตรง และทางอ้อม ดังน้ี กกกกกกก วัสดุทางตรง (direct material cost) คอื วสั ดุหรอื วัตถุดบิ ที่ใช้เพอ่ื การผลิตโดยตรง โดยสว่ นมากมกั จะเปน็ ส่วนประกอบหน่ึงของผลติ ภัณฑ์ เช่น ยางรถยนตม์ ยี างเปน็ วตั ถุดิบทางตรง,

ปากกา มี พลาสตกิ และหมึกเป็นวตั ถุดิบทางตรง เป็นต้น จานวนในการใช้งานวัสดุ/วัตถุดิบทางตรงนี้ จะแปรผันกบั หนว่ ยในการผลติ โดยตรง. กกกกกกก วัสดุทางอ้อม (indirect material cost) เชน่ วัสด,ุ เครื่องมือ, อุปกรณ์ ท่ีใช้ สนบั สนุนในการผลติ โดยส่วนมากจะไม่แปรผนั กบั ปริมาณการผลติ โดยตรง เชน่ กระดาษทราย, ผา้ เช็ดมอื , กาว, ตะปู เปน็ ต้น. ในบางครัง้ วัสดุทางอ้อมก็อาจถูกจดั ให้อยใู่ นหมวดหมู่ของวัสดทุ างตรงก็เปน็ ได้ ทั้งน้ีขึน้ อย่กู ับนโยบาย ทางการบญั ชีของแตล่ ะองค์กร เช่น มดี กลงึ สาหรับเครอ่ื งจักรซีเอน็ ซี ซ่ึงเปน็ วัถดุ บิ ทางอ้อม สามารถ ถกู จัดให้อยู่ในกลุ่มของวัตถุดิบทางตรงก็ได้ อาจเนือ่ งจากเหตผุ ลด้านราคาทสี่ งู และสามารถคานวณ อายุการใชง้ านต่อจานวนชิ้นงานทีท่ าการผลิตได้ (tool life) ถงึ แมว้ ่ามีดกลงึ จะไม่ได้ถูกประกอบไปกบั ชน้ิ งานกต็ าม. กกกกกกก 2. ตน้ ทนุ ด้านแรงงาน (labor cost) เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยด้านแรงงานในการทางานและผลิตสนิ สินคา้ เพ่ือใหเ้ กดิ ผลิตภัณฑ์สาเรจ็ รูป สามารถแบง่ ออกได้คลา้ ยๆ กับตน้ ทนุ วตั ถุ คือค่าใชจ้ า่ ยด้านแรงงานทางตรง และคา่ จ่ายดา้ นแรงงานทางอ้อม ดังน้ี กกกกกกก - คา่ ใช้จา่ ยด้านแรงงานทางตรง (direct labor cost) เช่น คา่ จา้ รายวัน/ เงินเดือนของพนักงานฝ่ายผลติ ,ซึง่ จะแปรผนั กบั ปริมาณการผลิตโดยตรง. กกกกกกก - คา่ ใช้จ่ายดา้ นแรงงานทางอ้อม (indirect labor cost) เชน่ เงนิ เดอื นของ พนกั งานขาย, เงินเดือนของผจู้ ดั การ, เงนิ ดือนของวิศวกร คา่ ใช้จ่ายเหล่าน้ีจะไมแ่ ปรผันกบั ปรมิ าณใน การผลติ โดยตรง กกกกกกก 3. ค่าใช้จา่ ยโรงงานหรอื คา่ โสหยุ้ ในการผลิต (overhead cost) เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยที่นอกเหนือจากจากคา่ ใชจ้ า่ ยของวสั ดแุ ละค่าใช้จา่ ยดา้ นแรงงาน เช่น คา่ สาธารณปู โภค, ค่าเชา่ โรงงาน, ค่าบารุงรักษาเครอ่ื งจักร, สวสั ดกิ ารต่างๆ เป็นต้น กกกก การคานวณตน้ ทนุ การผลิต กกกกกกก ตน้ ทุนการผลิต สามารถคานวณไดด้ ังน้ี กกกกกกก ต้นทนุ การผลิต = ต้นทนุ วัสดุ + ตน้ ทนุ แรงงาน + ค่าโสหุ้ย กกกก การวเิ คราะห์ตน้ ทุนการผลิต กกกกกกก การวิเคราะหต์ ้นทนุ การผลติ เป็นส่งิ จาเป็นอยา่ งมาก เป็นการรวบรวม, แจก แจง, วิเคราะห์และรายงานค่าใช้จา่ ยทีเ่ กิดขนึ้ ในส่วนของต้นทนุ ต่าง ๆ ของการผลิตเพ่ือประโยชนต์ อ่ การบรหิ ารงานและการดาเนินนโยบายของฝ่ายบรหิ าร. กกกกกกก การคานวณตน้ ทุนเปน็ ส่วนหนงึ่ ของระบบบัญชีและการเงินของกจิ การ เป็นการ บันทกึ การวัดผลและรายงานขอ้ มลู เก่ยี วกับต้นทุนของสนิ ค้าของกจิ การ โดยทว่ั ไปการคานวณตน้ ทุน จะใช้เวลาและลงรายละเอยี ดมากในกิจการท่ผี ลติ สินค้า แต่ไม่ได้หมายความว่ากจิ การประเภทอ่ืนเชน่ กิจการขายส่ง ขายปลกี รา้ นอาหารหรอื บรกิ ารต่างๆไมม่ ีความสาคญั ในการที่ต้องคานวณตน้ ทนุ เลย การคานวณต้นทนุ สามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นทุกกิจการเพราะมีความสาคญั ต่อการบริหารจดั การธรุ กจิ ดังน้ี กกกกกกก 1. เพื่อให้ทราบถึงตน้ ทุนการผลิตและต้นทนุ ขายของธรุ กจิ

กกกกกกก 2. เพอื่ สามารถนาต้นทนุ ทงั้ หมดของกิจการมาเปรียบเทยี บกบั รายได้จากการขาย เพือ่ จะได้ทราบวา่ มีกาไรหรือขาดทนุ ในการขายสินค้า กกกกกกก 3. เพื่อคานวณหรือตรี าคาสินคา้ คงเหลือทข่ี ายได้ไมห่ มดวา่ มีมูลค่าเท่าไหร่ กกกกกกก 4. เพ่ือใช้ในการวางแผนและควบคุมการซื้อสินคา้ และจดั ทางบประมาณในการซ้ือ สินค้า รวมท้งั ต่อรองราคากบั ผขู้ ายวตั ถดุ ิบ กกกกกกก 5. เพื่อใชใ้ นการตัดสินใจว่าสินค้าใดควรขายตอ่ ไปและสินคา้ ใดควรเลิกขาย (ใน กรณีท่ีผู้ผลติ มสี ินค้าหลายชนิด) กก วิิีกำรคำนวณหำตน้ ทุนกำรผลิตแบบง่ำยมีสูตรดังนี้ กกกกกกกการคานวณแบบง่ายๆน้เี หมาะกับผปู้ ระกอบการรายเลก็ ทีม่ สี นิ คา้ หรือผลติ ภณั ฑน้อยชนิด อาจขายเพียงนา้ พริก หรือแชมภูกไ็ ด้ ซง่ึ เหมาะกับการคานวณสนิ ค้าประเภทโอทอปทีม่ คี วามชัดเจน ในเรอื่ งการใชว้ ตั ถดุ ิบ ค่าแรงงานตอ่ รอบการผลติ และไม่มกี ารเก็บสตอ๊ กวัตถดุ ิบไว้ การคานวณ จาเป็นตอ้ งคดิ เพื่อให้ทราบถงึ ตน้ ทนุ ผลิตต่อหนว่ ย และนาต้นทุนผลติ ไปรวมกบั คา่ ใชจ้ า่ ยในการ ดาเนินการเพอ่ื ให้ทราบถึงต้นทนุ รวมของสินค้าอีกครงั้ หน่ึง การตงั้ ราคาเปน็ ส่วนประสมทางการตลาดทแี่ ตกตา่ งจากสว่ นประสมอ่ืนๆโดยตรง คือ การต้ัง ราคาจะเก่ียวข้องโดยตรงกับรายรับของธุรกิจ ขณะที่ส่วนประสมทางการตลาดอ่ืนๆ จะเก่ียวข้องกับ รายจ่ายของกิจการเป็นหลัก พ้ืนฐานทางธุรกิจท่ีสาคัญที่เป็นปัจจัยหลัก อันจะส่งผลกระทบโดยตรง ตอ่ การตงั้ ราคาคอื ต้นทุนของธุรกิจ ซ่ึงจะส่งผลต่อเนื่องถึงอัตรากาไรของกิจการ และการต้ังราคาจะ มผี ลโดยตรงตามหลกั เศรษฐศาสตรใ์ นการกาหนดจุดสมดลุ ระหว่างอปุ สงค์ และอุปทาน ดังน้ันคาถาม พ้นื ฐานท่ตี ัดสินใจยากทีส่ ดุ ของธรุ กจิ คอื จะตั้งราคาสนิ ค้าเทา่ ไหร่จึงจะพอดี และ ก่อใหเ้ กิดกาไรสูงสุด กกกกกกก

3.2 การกาหนดราคาสินค้านั้นสามารถทาได้หลายวิธี แต่วิธีท่ีนิยมใช้ในการกาหนดราคา สินคา้ โดยทั่วไป นิยมใช้ 2 วธิ ี คอื กกกกกกก 1. การกาหนดราคาแบบบวกกาไร (Cost-based Pricing) กกกกกกก 2. การกาหนดราคาแบบประเมนิ มูลคา่ (Value-based Pricing) แต่ละวธิ ีมีขอ้ ดแี ละขอ้ เสียทแี่ ตกตา่ งกัน ผูป้ ระกอบการสามารถเลอื กใช้ตามความเหมาะสม กกกกกกก 1. การกาหนดราคาแบบบวกกาไร (Cost-based Pricing) รูปแบบการกาหนด ราคาสินค้าแบบบวกกาไรสามารถทาได้โดยการศึกษาต้นทุนกิจการท้ังหมดบวกกาไรที่อยากได้ต่อปี หรือ ต่อเดอื น ตามความเหมาะสมของกิจการ มาเฉลี่ยลงในประมาณการยอดขายสินค้าในช่วงเวลาที่ กาหนดไว้ ซ่งึ จะไดร้ าคาเฉลี่ยต่อหนว่ ยของสินคา้ ท่ีจะกาหนดสูต่ ลาดตอ่ ไป วิธีการน้ีเป็นวิธีการต้ังราคาท่ีแพร่หลายมากที่สุดเน่ืองจากรูปแบบของการต้ังราคาท่ีไม่ ซับซ้อน อย่างไรก็ตามวิธีการต้ังราคาดังกล่าวมีข้อด้อยคือ ราคาที่กาหนดอาจไม่เหมาะสมต่อ กลุ่มเป้าหมายของสินค้า หรือราคาสูงเกินจุดเหมาะสมของสินค้าจากการท่ีเราพยายามจัดสรรต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆเฉล่ียลงเป็นต้นทุนของสินค้าสูงเกินไป หรือ คาดหวังผลตอบแทนกาไรสูงเกินไป ส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินคา้ ราคาแพงเกินไป และไม่ซ้ือสินค้าในที่สุด หรือในทางตรงกันข้าม ราคาของ สินค้าที่กาหนดขึ้นด้วยวิธีดังกล่าวน้ันถูกเกินไปซึ่งส่งผลให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสในการทากาไร ซึ่ง โดยมากแลว้ ผปู้ ระกอบการมักจะไม่กล้าต้ังราคาสินค้าของตนสูง อันเนื่องมาจากความเช่ือที่ว่าของถูก ย่อมขายไดท้ ่ีปลกู ฝังกันมาช้านาน โดยมิได้คานึงถึงว่าในบ่อยคร้ังท่ีผู้บริโภคมีความคิดว่าสินค้าท่ีราคา ถูกเกนิ ไปมักเปน็ สินค้าท่ีคุณภาพไม่ดี กกกกกกก 2. การกาหนดราคาแบบประเมินมูลค่า (Value-based Pricing) การกาหนดราคาแบบประเมนิ มลู คา่ นั้นมกี ระบวนการตัง้ ราคาท่แี ตกต่างกันจากวิธีแรก โดยจะเร่ิมจาก การกาหนดราคาด้วยการประเมินมูลค่า (Value) ในใจของลูกค้า ซึ่งมูลค่าของลูกค้าจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ประโยชน์ของสินค้า (Benefit) และ ต้นทุนในการเป็นเจ้าของสินค้านั้นๆตลอดอายุการใช้ งาน (Total Cost of Ownership) ดังสมการต่อไปนี้ มลู ค่า = ประโยชน์ของสินค้า / ราคาสนิ ค้า + ค่าใช้จา่ ยอ่ืนๆ กกกกกกกประโยชน์ของสินค้า สามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภทคือประโยชน์จากการใช้สอย (Functional Benefit) เช่น นาฬิกาให้ประโยชน์ในการบอกเวลา และ ประโยชน์ในด้านจิตใจ (Emotional Benefit) เช่น นาฬิกาโรเล็กซ์ ทีเ่ พิม่ ความภมู ฐิ านและความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ต้นทุนในการที่ผู้บริโภคจะได้เป็นเจ้าของสินค้าน้ันจะประกอบด้วย ต้นทุนที่เป็นเงินตรำซึ่งใช้ในการ ซอื้ หาและดูแลรักษา กับ ต้นทุนท่ีไม่ใช่เงินตรำ เช่น ระยะเวลาท่ีใช้ไป ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือ ต้นทุนแรงงานท่ีผู้บริโภคต้องลงแรงด้วยตนเอง ซ่ึงเป็นความยุ่งยากลาบากกว่าท่ีจะได้รับสินค้า วัตถุประสงค์ระยะยาวของธุรกิจโดยรวมคือการเพ่ิมมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในมุมมองของผู้บริโภคให้ สูงสุด ซ่ึงผู้ประกอบการสามารถทาได้โดยการเพ่ิมประโยชน์ใช้สอยหรือเพ่ิมประโยชน์ในด้านจิตใจ พรอ้ มๆกับการลดต้นทุนท่ีไมใ่ ช่เงินตรำให้ผบู้ ริโภคในการเป็นเจ้าของสินค้า เพ่ือรักษาระดับราคาขาย ไว้ ณ ท่รี ะดบั กาไรสูงสดุ

กกกกกกกวิธีการตั้งราคาแบบประเมินมูลค่ามีความซับซ้อนในกระบวนการประเมินประโยชน์ของ ผู้บริโภคแต่ละกลมุ่ เป้าหมาย ซงึ่ ต้องใชก้ ารวจิ ยั ตลาดจดั เกบ็ ข้อมูลและวิเคราะห์ ดังนั้นวิธีการประเมิน มลู ค่าทีง่ า่ ยกว่าคือการประเมินมูลค่าของสินค้าโดยอ้างอิงจากคู่แข่ง ซ่ึงจะกระทาได้ง่ายกว่าและมีเหตุ มผี ลในการอา้ งอิง ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องศึกษาทั้งสินค้าของคู่แข่งท่ีอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและ ค่แู ขง่ ในอุตสาหกรรมอ่ืนๆทีส่ ามารถทดแทนกนั ได้มาประกอบการตัดสนิ ใจต้ังราคา กกกกกกกการต้ังราคาแบบประเมินมูลค่านี้ ผู้ประกอบการสามารถกาหนดราคาสินค้าให้อยู่ในระดับ ราคาที่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายยอมรับและสามารถจับจ่ายได้ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการกลับต้องมี หน้าท่ีในการบริหารต้นทุนสินค้าให้อยู่ในระดับท่ีสามารถทากาไรอย่างเหมาะสมได้ โดยใน ขณะเดยี วกันก็จะตอ้ งรกั ษาประโยชน์ของผบู้ ริโภคให้อยใู่ นระดับที่แข่งขันได้เพื่อรักษาระดับมูลค่าของ สินค้าหรือหาวธิ ีเพม่ิ มูลคา่ อย่างต่อเนือ่ ง กกกกกก สื่อและแหล่งเรยี นรู้ กกกกกกก1. ส่ือเอกสาร ไดแ้ ก่ 1.1 ใบความรู้ 1.2 ใบงาน 1.3 หนังสอื เรียน สาระการประกอบอาชีพ เขาหมอนพลูตาหลวง 1.4 หนังสอื ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับการประดิษฐ์หมอน กกกกกกก2. สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ 2.1 CD 2.2 Website ได้แก่ การขายออนไลน์. สืบค้นเม่ือวันท่ี 5 สงิ หาคม 2562 จาก http://kwa2539.blogspot.com การคานวณตน้ ทนุ สืบค้นเมือ่ วนั ท่ี 6 สงิ หาคม 2562 จาก https://www.smethailandclub.com/money-969-id.html กำรวดั และประเมนิ ผล กกกกกกก1. ประเมินความกา้ วหนา้ ด้วยวธิ ีการ 1.1 การสงั เกต 1.2 ซักถาม ตอบคาถาม 1.3 ตรวจเอกสารการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (กรต.) กกกกกกก2. ประเมนิ ผลรวม ด้วยวิธกี าร 2.1 ตอบแบบทดสอบวดั ความรู้ หัวเรอ่ื งที่ 5 การคา้ ออนไลน์ จานวน 3 ขอ้ 2.2 ตอบแบบสอบถามวดั เจตคติท่ีมตี อ่ หลักสูตรท้องถ่นิ เขาหมอนพลตู าหลวง

บรรณานกุ รม

บรรณำนกุ รม นวรตั น์ บญุ กนั ภัยและวิจติ รา พุทธรกั ษา. ิรณวี ิทยำระวำงอำเภอบำงละมุง (5134 I) ระวำง อำเภอ สตั หีบ (5134 II) ระวำงอำเภอปลวกแดง (5134 IV). กรุงเทพฯ: สานกั งาน กรมทรัพยากรธรณี, 2552. รจนา เช้ือชม. ไอเดียงำนผำ้ หมอนองิ . กรงุ เทพฯ : วาดศลิ ป์ , 2555 การขายออนไลน์. สบื คน้ เม่อื วันท่ี 5 สงิ หาคม 2562 http://kwa2539.blogspot.com การคานวณต้นทุน สบื คน้ เม่ือวนั ที่ 6 สงิ หาคม 2562 https://www.smethailandclub.com/money- 969-id.html ขอ้ มลู ตาบลพลูตาหลวง อาเภอสัตหีบ ชลบุรี สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2562 จากก กกกกกกกกกhttp://www.thaitambon.com/tambon/200903 รูปแบบหมอนทาเอง ทาหมอนตกแต่งดว้ ยมือของคณุ เอง สืบคน้ เมือ่ วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2562 จากกก กกกกกกก https://skypress.ru/th/textiles/pillows-with-your-own-hands-pattern- templates- we-make-decorative-pillows-with-our-own-hands.htmlกก ประดิษฐ์ของใช้ สบื ค้นเม่อื วันท่ี 1 สงิ หาคม 2562 จำกhttps://p-dit.com/tag/ D.I.Y. วิธเี ยบ็ ปลอกหมอนใชเ้ องภายใน 20 นาที สืบคน้ เม่ือวันท่ี 1 สิงหาคม 2562 จาก https://home.kapook.com/view90001.html การทาหมอน การผลติ หมอน สบื คน้ เม่อื วันท่ี 1 สิงหาคม 2562 จากhttps://www.tistpillow.com/

ภำคผนวก

ใบควำมรู้ วิิ ีเย็บขัน้ พนื้ ฐำนที่ต้องรู้ การเยบ็ ผา้ ด้วยมือแบบง่ายพ้ืนฐาน 6 แบบ การเตรียมวสั ดแุ ละอปุ กรณก์ ันเสยี ก่อนนะคะ - เข็ม - ดา้ ยหรอื ไหมปัก - ผา้ ที่จะเยบ็ 1. สอย (Slip Stitch หรือ Ladder Stitch) การสอยแบบนี้เป็นทนี่ ยิ มเกบ็ ชายปลอกหมอนหรอื ชิน้ งานท่ีต้องการเก็บปลายแบบไม่ ตอ้ งการใหเ้ ห็นด้าย เพราะการสอยจะทาใหไ้ มเ่ ห็นดา้ ยเป็นเพียงจดุ เล็ก ๆ เพราะอย่างนั้นเราจึงควร เลอื กด้ายให้เขา้ กับสีผ้าท่สี ดุ 1. ร้อยด้านเข้ากับเขม็ มดั ปมปลายดา้ ยด้านหน่งึ จากนน้ั ก็แทงเข็มตรงรอยพับขอบผ้าด้านในแทง เขม็ ลงบนผา้ อีกผืนตรงข้ามกับจุดแรกทเ่ี ราแทงเขม็ ข้นึ ในขั้นตอนก่อนหนา้ แทงตรงรอยพบั จากดา้ น นอกเข้าไปด้านใน ตรงจดุ นจี้ ะเปน็ จดุ ท่ีเช่ือมให้ผา้ ท้ัง 2 ผืนตดิ กนั ต้องสอยใหท้ ้ัง 2 จุดตรงกันในแตล่ ะ ดา้ นเพื่อจะไดซ้ ่อนดา้ ยได้ แต่อยา่ เพิ่งดงึ เข็มให้สุด คา้ งไว้อยา่ งนน้ั กอ่ น

2. แทงเขม็ ขนึ้ จากจุดเดมิ บนผ้าชน้ิ เดมิ ไป ⅛ นิว้ แล้วดงึ เขม็ ขน้ึ ใหส้ ดุ 3. แทงเข็มลงบนผ้าอีกช้นิ ในจุดท่ีตรงกับจดุ ทเี่ ราแทงเข็มขน้ึ มาในขัน้ ตอนก่อน แล้วก็แทงเขม็ ข้ึน จากจุดน้ีไปอีก ⅛ นิ้วแล้วค่อยดึงเขม็ ขึน้ ใหส้ ดุ 4. ทาซ้าวิธเี ดิม นั่นคือแทงเข็มลงบนผ้าชิน้ ตรงขา้ มในจุดเดียวกับท่ีเราแทงเข็มขน้ึ ทาซา้ ไปเรอ่ื ย ๆ เลยจนสดุ ช้นิ งาน 5. รอยสอยทีไ่ ด้จะดเู หมอื นขั้นบันไดของบนั ไดลงิ เลย เปน็ ขนั้ ๆ เสมอกัน ขอ้ สาคญั ของการสอยก็ คือต้องดึงด้ายให้ตงึ และเลอื กสีด้ายใหเ้ ปน็ สเี ดยี วของผา้ คะ่

2. เนำ (Running Stitch) เนาคอื การเยบ็ แบบด้านเส้นสีเขียวทั้ง 2 เส้นด้านบน เป็นการเยบ็ แบบงา่ ยที่มักใช้เยบ็ ขอบ แบบธรรมดาพน้ื ฐาน และเม่ือต้องการยดึ ผ้า 2 ช้ินเขา้ ด้วยกันแบบชว่ั คราวแล้วละก็ การเย็บเนา ตะเขบ็ ค่อนข้างหา่ งกันกเ็ ปน็ ตัวเลือกทด่ี ี แตห่ ากต้องการตะเขบ็ แนน่ หนาก็ให้เยบ็ ถี่ ๆ 1. รอ้ ยดา้ ยเข้าในเขม็ แล้วมัดปมทปี่ ลายด้านหนึง่ แทงเข็มจากผา้ ดา้ นหลงั เพ่ือจะได้ซ่อนปมไว้ ดา้ นหลังผา้ 2. แทงเข็มลงไปในผา้ จากจุดแทงข้ึนเมอื่ ก้ี ½ นว้ิ แล้วแทงเขม็ กลบั ข้นึ มาอีกครั้งด้วยระยะห่างที่ เท่ากันซ่ึงก็คือ ½ นิว้

3. ทาแบบเดิมไปเร่อื ย ๆ ค่ะ ให้ไดร้ ะยะห่างเท่ากันจนสุดชิ้นงาน เมื่อเนาเสร็จแลว้ ก็จะดเู หมอื น เส้นประเลย จะปรบั ขนาดความหา่ งหรอื ถ่ขี องตะเขบ็ ยังไงก็ได้นะคะ ขอแคเ่ ย็บใหเ้ ท่ากันกพ็ อ 3. สอยฟนั ปลำ (Catchstitch) สอยฟนั ปลาสีฟ้าที่เหน็ ดา้ นบนนเ้ี ป็นตะเข็บแบบเห็นเพยี งคร่งึ เดียวตรงผา้ ด้านหน้า และยังเปน็ ตะเขบ็ ท่ีเหมาะมากสาหรบั เย็บขอบผ้า หรอื ใชก้ บั งานทเ่ี ปน็ วงกลมอย่างผ้าปูโต๊ะหรอื โซฟา ท้งั ยังเหมาะ สาหรับเย็บผา้ ซบั ในของผ้าม่านอกี ด้วย 1. รีดผ้าให้เรยี บกอ่ น จะช่วยให้เย็บได้ง่ายข้ึน

2. เรม่ิ เยบ็ จากด้านซ้ายของผ้าชิ้นล่าง แทงเข็มขึน้ จากด้านล่าง ผูกปมซ่อนไวด้ า้ นล่างเลย 3. ปกั เขม็ ลงบนผ้าอกี ช้นิ ท่ีอยู่ดา้ นบน แทงเขม็ ย้อนกลับไป ⅛ นว้ิ แลว้ ดึงเขม็ ขึน้ 4. ปกั เข็มกลบั มายังผา้ ชนิ้ ล่าง โดยใหไ้ หมปักพาดทบั ไหมที่ปักไวก้ อ่ นหน้าน้ีในแนวทแยง จากนั้นก็แทงเข็มข้ึนห่างจากจุดทป่ี กั ⅛ น้วิ ค่ะ เทา่ นีเ้ รากจ็ ะไดล้ ายปกั สอยฟันปลา แลว้

5. ปกั แบบเดมิ ซ้าไปเรื่อย ๆ จนกวา่ จะได้ความยาวตามต้องการ

4. ลำยปกั ริมผ้ำห่ม (Blanket stitch) 1. ประกบผ้า 2 ชิน้ เขา้ ด้วยกัน ขอบควรพับหรือรีดให้เรยี บรอ้ ยก่อนปักลายน้ี 2. มัดปมไหมปักก่อน จากน้ันแทงเข็มข้ึนจากใต้ผา้ ชิน้ บน ใหป้ มซอ่ นอยูต่ รงกลางระหว่างผา้ ทง้ั 2 ชิ้น แทงเข้ามาสัก 1 ซม. หรือแลว้ แต่วา่ ต้องการความสูงของลายมากแค่ไหน ดงึ เข็มข้นึ ด้านบน เลย 3. กลับไปแทงเข็มจากผ้าช้นิ ลา่ งสดุ ขึ้นมา แทงตรงรูเริม่ เลย 4. ค่อย ๆ ดงึ เข็มและไหมปัก พอไหมปักเริ่มกลายเปน็ ห่วงกลมเลก็ ๆ ใหส้ อดเข็มเขา้ ไปในหว่ งน้นั แล้วจงึ ดงึ ให้หว่ งปดิ สนิท

5. แทงเขม็ จากดา้ นลา่ งผ้าทง้ั 2 ชิ้นขึน้ มา แทงเข้ามาลึกเทา่ รอยปักแรก โดยให้หา่ งจากรอยเดมิ ¼ นิ้ว 6. ค่อย ๆ ดึงเข็ม เพื่อใหไ้ หมกลายเปน็ ห่วงกลมเล็ก ๆ จากนั้นให้สอดเข็มเข้าไปในห่วงแล้วดงึ ไหม ให้ปิดสนิท 7. จากนนั้ กข็ ยบั ไปแทงเข็มจากข้างล่าง หา่ งไป ¼ น้ิว 8. ทาซา้ วิธเี ดมิ ก็จะได้ลายนยี้ าวตอ่ กันไปเรอื่ ย ๆ เท่าท่ตี ้องการเลย

5. ตะเขบ็ เย็บหุ้ม (Whipstitch) ส่วนมากแลว้ การเยบ็ ตะเขบ็ แบบนมี้ ักใช้เยบ็ เก็บขอบตา่ ง ๆ คล้ายการสอยเลย แต่วา่ จะเห็น ดา้ ยชัดเจนกวา่ 1. มัดปมปลายไหมปักให้เรยี บร้อย ก่อนจะแทงเข็มจากตะเขบ็ ผ้าดา้ นในขน้ึ มาค่ะ ปมจะได้ถูก ซ่อนไว้ในผา้ แทงใหห้ ่างจากขอบผา้ เล็กน้อยนะคะ 2. แทงเข็มจากด้านลา่ งอกี ครั้งคะ่ ใหห้ ่างจากจดุ เดิมสกั ½ นวิ้ หรือแลว้ แต่วา่ เราจะต้องการให้ หา่ งมากน้อยแค่ไหน 3. ปกั เขม็ ขนึ้ จากนนั้ ก็ปักขนึ้ เช่นเดิม ทาซ้า ๆ จนกว่าจะจบช้นิ งาน



6.

ดน้ ถอยหลัง (Backstitch) ดน้ ถอยหลังเป็นการเยบ็ ขัน้ พื้นฐานทีส่ าคัญมากเลย เพราะใช้กันบ่อย ๆ แถมยงั เป็นลายเยบ็ ที่ แข็งแรงมาก เหมาะสาหรับเย็บผ้าใหต้ ิดกันแน่น ทั้งยงั ใชป้ ักลายผ้าดว้ ย 1. มัดปมไหมเสยี กอ่ น จากน้ันแทงเข็มจากดา้ นล่างขนึ้ มาด้านบน 2. สง่ เขม็ กลบั ด้านลา่ งผา้ ดว้ ยการแทงลงไป ห่างจากจดุ แรก ½ นว้ิ แตแ่ นน่ อนวา่ เราสามารถปรับ ความกว้างได้ตามต้องการเสมอ 3. แทงเข็มขึ้นจากด้านลา่ งค่ะ ห่างจากจดุ ทแี่ ทงลงไป ½ นิว้ หรอื ขนาดเดยี วกนั กับรอยเย็บแรก ควรให้มคี วามกวา้ งยาวเท่า ๆ กนั แนะนาให้ปักเป็นเส้นตรงก่อนสาหรบั มือใหม่ 4. ขัน้ ต่อไป แทนทีจ่ ะปักเข็มเยบ็ ไปดา้ นหน้า เราจะปักกลบั ไปยงั จดุ เดมิ ท่เี ราแทงเข็มลงไปก่อน หนา้ นี้ 5. แทงเข็มขึน้ มาบนผา้ อีกคร้ัง หา่ งจากจุดแทงขน้ึ ครงั้ ก่อน ½ นิว้ หรอื เทา่ กับรอยเย็บก่อน ๆ น้ี 6. เย็บย้อนกลับ แทงเข็มกลบั ไปยงั จุดเดิมท่เี พ่ิงแทงเขม็ ลงไปกอ่ นหน้า แล้วจากน้ันกป็ ักไป ดา้ นหนา้ ดว้ ยขนาดความกว้างยาวเทา่ ๆ กนั

7. ทาแบบนี้ไปเร่ือย ๆ ขนาดของรอยเย็บควรจะห่างเทา่ ๆ กัน และสาหรับขอแนะนาให้เย็บเป็น เส้นตรงกอ่ นแตห่ ากต้องการเย็บเป็นเส้นโคง้ ๆ กค็ วรตะเย็บใหถ้ ่ี ๆ ถึงจะไดเ้ ส้นโคง้ ทส่ี วยงาม

ใบความรูเ้ รือ่ งสมุนไพร 1. ประเภทของสมนุ ไพรทน่ี ามาทาหมอนสมุนไพร 1.1 ใบเตย เตย หรือ เตยหอม ชือ่ สามญั Pandan leaves, Fragrant pandan, Pandom wangi เตย ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Pandanus amaryllifolius Roxb. (ช่ือพ้องวทิ ยาศาสตร์ Pandanus odorus Ridl.) จัดอยูใ่ นวงศ์เตยทะเล (PANDANACEAE) สมุนไพรเตย มีชือ่ ท้องถิน่ อนื่ ๆ ว่า ใบส้มม่า (ระนอง), สม้ ตะเลงเครง (ตาก), สม้ ปู (แมฮ่ ่องสอน), สม้ พอดี ผักเกง็ เค็ง (ภาคเหนือ) เปน็ ต้น ลกั ษณะและที่มาของกลิน่ หอมของใบเตย ใบเตยเป็นพชื ใบเลี้ยงเดย่ี ว แตกกอเป็นพุ่มขนาดเลก็ มีรากคา้ ชว่ ยพยงุ ลาต้นไว้ ลาต้นเป็นข้อ และมใี บ เป็นใบเดย่ี วสลบั เวยี นเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ลกั ษณะใบเรยี วยาว ขอบใบเรยี บมีผวิ มัน ฯลฯ ใบเตยจะมีกลนิ่ หอมซ่ึงเปน็ กล่ินหอมจากสารเคมีท่ีเรียกวา่ 2-acetyl-1-pyrroline เป็นกล่ินหอมของ นา้ มนั หอมระเหย (Fragrant Screw Pine) ซง่ึ เปน็ กลิน่ เดยี วกนั กับท่ีได้ในข้าวหอมมะลิ ขนมปงั ขาว และดอกชมนาด ประโยชน์ ของใบเตย - ช่วยบารุงหวั ใจให้ชุ่มช่ืน และชว่ ยลดอัตราการเตน้ ของหวั ใจ (นา้ ใบเตย) - การดื่มนา้ ใบเตยจะชว่ ยดับกระหายคลายรอ้ นได้เป็นอยา่ งดี เพราะใบเตยมีกล่นิ หอมเย็น ดม่ื แล้ว รู้สกึ สดชื่น ผอ่ นคลาย - รสหวานเยน็ ของใบเตยช่วยชูกาลงั ได้ - การดื่มนา้ ใบเตยช่วยแก้อาการออ่ นเพลียของร่างกายได้ - ช่วยปรับสมดลุ ในรา่ งกาย - ชว่ ยรกั ษาโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้าตาลในเลือด ซ่ึงตามตารับยาไทยไดม้ ีการนาใบเตยหอม 32 ใบ, ใบของต้นสัก 9 ใบ นามาหั่นตากแดด แล้วนามาชงเปน็ ชาดมื่ อย่างน้อย 1 เดือน หรือจะใช้ รากประมาณ 1 กามอื นามาต้มกบั นา้ ด่ืมเชา้ เยน็ กไ็ ด้เหมือนกัน (ใบ, ราก) - ชว่ ยลดความดันโลหติ (สารสกัดน้าจากใบเตย) - ช่วยปอ้ งกนั การแข็งตวั ของหลอดเลอื ด

- ชว่ ยบรรเทาอาการอาการและดบั พิษไขไ้ ด้ การขยายพันธุใ์ บเตยหอม การขยายพนั ธุ์ใบเตยสามารถทาไดง้ า่ ย เพยี งแค่นาท่อนพันธมุ์ าปลูกลงดนิ แลว้ รดนา้ อยา่ งสม่าเสมอก็ สามารถทาใหเ้ ตยเติบโตได้แลว้ (ปลกู ไวร้ ิมแหล่งนา้ ก้ได้) แต่ถา้ หากจะปลกู ในเชงิ ธรุ กิจ ก็จะมีขั้นตอน ดงั น้ีครบั 1. หลังจากไถพรวนเตรยี มพน้ื ที่ปลูกเรียบร้อยแลว้ ให้ขุดหลุมขนาดกว้างประมาณ 5×5 เซ็นติเมตรลึก ประมาณ 6 เซ็นตเิ มตร 2. จากนั้นใหน้ าปยุ๋ คอกลงกน้ หลมุ แลว้ ใหใ้ ส่ท่อนพันธุใ์ บเตยลงไป แล้วกลบดินทับ 3. ขดุ หลุมปลูกตอ่ ไปให้มีระยะห่างประมาณ 10 เซน็ ตเิ มตร 4. เมือ่ ปลูกเสรจ็ แล้วถา้ ไมม่ ีฝนตกให้ทาการรดน้าใหช้ ุ่มช้นื 1.2 ตะไคร้ ตะไคร้ ชอื่ สามญั Lemongrass ตะไคร้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Cymbopogon citratus (DC.) Stapf จดั อย่ใู นวงศ์หญา้ (POACEAE หรอื GRAMINEAE) ตะไครจ้ ัดเป็นพชื ล้มลุกตระกูลหญา้ ใบมลี กั ษณะเรยี วยาว ปลายใบมขี นหนาม เป็นสมุนไพรไทยชนดิ หน่ึงท่นี ิยมนามาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนดิ ได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ ต้น ตะไครน้ า้ ตะไครห้ างนาค และตะไคร้หางสงิ ห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยท่นี ิยมปลูกท่วั ไปในบา้ นเรา โดยมถี ื่นกาเนิด ในประเทศอนิ เดีย อินโดนเี ซีย พมา่ ศรีลังกา และไทย ตะไครเ้ ปน็ ทง้ั ยารักษาโรคและยังมวี ิตามนิ และแรธ่ าตุท่ีมปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกายอีกดว้ ย เช่น วติ ามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตเุ หลก็ ชือ่ ทอ้ งถ่นิ คาหอม, ไคร, จะไคร, เชดิ เกรย, หวั สิงไค, เหลอะเกรย

ประโยชน์ตะไคร้ ลาต้น และใบสด – ใชเ้ ป็นเครอื่ งเทศประกอบอาหารสาหรบั ดบั กล่ินคาว ชว่ ยให้ อาหารมีกลนิ่ หอม และปรบั ปรงุ รสใหน้ ่ารับประทานมากขนึ้ – ใช้เปน็ ส่วนผสมของยาทากันยุง สเปรย์ กนั ยงุ และยาจดุ กนั ยุง น้ามันตะไคร้ – ใชเ้ ปน็ สว่ นผสมของนา้ หอม – ใช้เป็นสว่ นผสมสาหรบั ทาสบู่ แชมพูสระผม – ใชเ้ ปน็ ส่วนผสมของเครื่องสาอาง – ใช้ทานวด แกป้ วดเม่ือย – ใช้ทาลาตวั แขน ขา เพื่อป้องกัน และไลย่ ุง – ใช้เป็นสว่ นผสมของสารปอ้ งกัน และกาจัดแมลง การปลูกและขยายพันธุ์ ปลูกได้การปกั ชาตน้ เหง้า โดยตัดใบออกให้เหลอื ตอนโคนประมาณหนงึ่ คบื นามาปักชาไวส้ ักหน่ึงสัปดาห์ก็จะมรี ากงอกออกมา แลว้ นาไปลงแปลงดนิ ที่เตรยี มไว้ หรืออาจใช้วธเี อา โคนปักลงไปที่ดนิ ซึ่งเตรียมไว้เลย ให้ห่างประมาณหน่ึงศอก ถา้ ปลกู ในกระถางใชว้ ธิ ปี กั โคนลงใน กระถางๆละ 2-3 ตน้ ก็ได้ แล้วหม่ันรดน้าใหช้ ุ่มเช้าเย็น ตงั้ ไว้ให้โดนแดดตลอดวนั จะทาให้โตไดเ้ ร็ว

ใบงำน

ใบงำน หัวเรอ่ื งท่ี 1 ประวตั เิ ขำหมอนพลูตำหลวง คำชแี้ จง กกกกกกก1. ใบงานน้ีจดั ทาขนึ้ เพอื่ ให้นักศึกษามีความรู้และประสบการณใ์ นหวั เรื่องที่ 1 ประวตั ิเขา หมอนพลูตาหลวง กกกกกกก2. ให้นักศึกษาปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนต่อไปนี้ กกกกกกกกกก2.1 ให้นักศึกษาค้นคว้าประเด็น ประวัติเขาหมอนพลูตาหลวง จากส่ือการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย ได้แก่ ส่ือหนังสือท่ีเก่ียวข้อง (2 เล่ม) สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต (2 เว็บไซด์) สัมภาษณ์ภูมิ ปัญญาหรือผู้รู้ จานวน 1 คน และศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราช กุมารี” อาเภอสัตหบี กกกกกกกกกก2.2 ใหน้ กั ศึกษารวมรวบข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าในข้อ 2. 1 ลงในเอกสารการ เรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนเม่ือวันที่มาพบกลุ่มเสร็จส้ินในวันที่........ เดือน .............. พ.ศ. ...................... “ กกกกกกกกกก2.3 นักศึกษามาพบกลุ่มในวันท่ีท่ีได้กาหนดไว้ในข้อ 2.2 อภิปรายข้อมูลท่ีศึกษาค้นคว้า ได้ แลกเปลี่ยนกับเพ่ือนนกั ศกึ ษาและครูผ้สู อน อภปิ ราย วิเคราะห์ข้อมลู ท่ีศึกษาแลกเปลี่ยนกบั ครู กกกกกกกกกก2.4 สรุปการเรียนรู้ท่ีได้จากการอภิปรายและวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้ร่วมกัน บันทึกลงใน เอกสารการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) กกกกกกกกกก2.5 นักศึกษานาผลสรุปการเรียนรู้ท่ีได้ไป ปฏิบัติตอบคาถามในใบงานฉบับน้ี แล้ว บันทึกคาตอบที่ได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนหลังเสร็จสิ้นการพบกลุ่มใน วันท่ี....... เดือน ................. พ.ศ. ........... คำถำม กกกกกก1. บอกท่ตี ัง้ เขาหมอนพลูตาหลวง........................................................................................ คาตอบ.............................................................................................................................. 2. บอกลักษณะสภาพภูมิอากาศของเขาหมอนพลตู าหลวง................................................... คาตอบ............................................................................................................................. 3. บอกลักษณะการประกอบอาชีพของประชาชนในชมุ ชนพลูตาหลวง .......................……. คาตอบ.............................................................................................................................

ใบงำน หัวเรือ่ งท่ี 2 กำรทำหมอนอิง คำช้แี จง กกกกกกก1. ใบงานน้จี ดั ทาข้นึ เพือ่ ใหน้ กั ศึกษามีความรแู้ ละประสบการณ์ในหวั เรื่องท่ี 2 การทา หมอนอิง กกกกกกก2. ให้นกั ศกึ ษาปฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนต่อไปนี้ กกกกกกกกกก2.1 ให้นักศึกษาค้นคว้าประเด็น การทาหมอนข้าง จากส่ือการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ได้แก่ ส่ือหนังสือท่ีเก่ียวข้อง (2 เล่ม) สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต (2 เว็บไซด์) สัมภาษณ์ภูมิปัญญาหรือผู้รู้ จานวน 1 คน และศึกษาจากแหลง่ เรียนรู้ในชุมชน ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี”อาเภอสัตหีบ กกกกกกกกกก2.2 ให้นกั ศกึ ษารวมรวบข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าในข้อ 2. 1 ลงในเอกสารการ เรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนเม่ือวันที่มาพบกลุ่มเสร็จสิ้นในวันที่........ เดือน .............. พ.ศ. ...................... “ กกกกกกกกกก2.3 นักศึกษามาพบกลุ่มในวันท่ีที่ได้กาหนดไว้ในข้อ 2.2 อภิปรายข้อมูลท่ีศึกษาค้นคว้า ได้ แลกเปลีย่ นกบั เพื่อนนกั ศกึ ษาและครูผสู้ อน อภิปราย วิเคราะห์ข้อมลู ทศ่ี ึกษาแลกเปล่ียนกับครู กกกกกกกกกก2.4 สรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการอภิปรายและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ร่วมกัน บันทึกลงใน เอกสารการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) กกกกกกกกกก2.5 นักศึกษานาผลสรุปการเรียนรู้ที่ได้ไป ปฏิบัติตอบคาถามในใบงานฉบับนี้ แล้ว บันทึกคาตอบที่ได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนหลังเสร็จส้ินการพบกลุ่มใน วนั ที่....... เดือน ................. พ.ศ. ........... คำถำม กกกกกก1. บอกความหมายของหมอนองิ ........................................................................................ คาตอบ........................................................................................... ................................... 2. บอกประโยชนข์ องหมอนองิ ............................................................................................. คาตอบ............................................................................................................................. 3. บอกขน้ั ตอนการทาหมอนองิ ...................................................................................……. คาตอบ.............................................................................................................................

ใบงำน หัวเรอื่ งที่ 3 กำรทำหมอนข้ำง คำช้แี จง กกกกกกก1. ใบงานนจี้ ัดทาขนึ้ เพอื่ ให้นกั ศึกษามคี วามร้แู ละประสบการณใ์ นหวั เร่ืองท่ี 3 การหมอนข้าง กกกกกกก2. ใหน้ กั ศึกษาปฏิบัติตามขน้ั ตอนต่อไปน้ี กกกกกกกกกก2.1 ให้นักศึกษาค้นคว้าประเด็น การทาหมอนข้าง จากสื่อการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ได้แก่ ส่ือหนังสือที่เก่ียวข้อง (2 เล่ม) สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต (2 เว็บไซด์) สัมภาษณ์ภูมิปัญญาหรือผู้รู้ จานวน 1 คน และศึกษาจากแหล่งเรยี นรูใ้ นชมุ ชน หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” อาเภอสัตหีบ กกกกกกกกกก2.2 ให้นักศกึ ษารวมรวบข้อมูลท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้าในข้อ 2. 1 ลงในเอกสารการ เรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนเม่ือวันที่มาพบกลุ่มเสร็จส้ินในวันที่........ เดือน .............. พ.ศ. ...................... “ กกกกกกกกกก2.3 นักศึกษามาพบกลุ่มในวันที่ที่ได้กาหนดไว้ในข้อ 2.2 อภิปรายข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้า ได้ แลกเปลี่ยนกับเพ่อื นนักศึกษาและครผู สู้ อน อภิปราย วิเคราะหข์ ้อมลู ท่ศี ึกษาแลกเปลย่ี นกับครู กกกกกกกกกก2.4 สรุปการเรียนรู้ท่ีได้จากการอภิปรายและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ร่วมกัน บันทึกลงใน เอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) กกกกกกกกกก2.5 นักศึกษานาผลสรุปการเรียนรู้ที่ได้ไป ปฏิบัติตอบคาถามในใบงานฉบับนี้ แล้ว บันทึกคาตอบที่ได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนหลังเสร็จสิ้นการพบกลุ่มใน วนั ท่ี....... เดือน ................. พ.ศ. ........... คำถำม กกกกกก1. บอกความหมายของหมอนข้าง........................................................................................ คาตอบ.............................................................................................................................. 2. บอกประโยชน์ของหมอนข้าง........................................................................................... คาตอบ............................................................................................................................. 3. บอกขั้นตอนการทาหมอนขา้ ง...................................................................................……. คาตอบ.............................................................................................................................

ใบงำน หวั เรอ่ื งท่ี 4 กำรหมอนภูเขำสมนุ ไพร คำชแ้ี จง กกกกกกก1. ใบงานน้ีจดั ทาขึ้นเพ่ือให้นักศึกษามคี วามรแู้ ละประสบการณ์ในหัวเร่ืองที่ 4 การทาหมอน ภูเขาสมนุ ไพร กกกกกกก2. ให้นกั ศึกษาปฏิบตั ิตามข้นั ตอนต่อไปนี้ กกกกกกกกกก2.1 ให้นักศึกษาค้นคว้าประเด็น การทาหมอนภูเขาสมุนไพร จากส่ือการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย ได้แก่ สื่อหนังสือท่ีเกี่ยวข้อง (2 เล่ม) สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต (2 เว็บไซด์) สัมภาษณ์ ภูมิปัญญาหรือผู้รู้ จานวน 1 คน และศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อาเภอสัตหบี กกกกกกกกกก2.2 ให้นกั ศกึ ษารวมรวบข้อมูลท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้าในข้อ 2. 1 ลงในเอกสารการ เรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนเมื่อวันท่ีมาพบกลุ่มเสร็จส้ินในวันที่........ เดือน .............. พ.ศ. ...................... “ กกกกกกกกกก2.3 นักศึกษามาพบกลุ่มในวันท่ีที่ได้กาหนดไว้ในข้อ 2.2 อภิปรายข้อมูลท่ีศึกษาค้นคว้า ได้ แลกเปลยี่ นกับเพือ่ นนกั ศึกษาและครูผ้สู อน อภปิ ราย วเิ คราะห์ข้อมลู ทศ่ี กึ ษาแลกเปล่ียนกับครู กกกกกกกกกก2.4 สรุปการเรียนรู้ท่ีได้จากการอภิปรายและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ร่วมกัน บันทึกลงใน เอกสารการเรียนร้ดู ้วยตนเอง (กรต.) กกกกกกกกกก2.5 นักศึกษานาผลสรุปการเรียนรู้ท่ีได้ไป ปฏิบัติตอบคาถามในใบงานฉบับน้ี แล้ว บันทึกคาตอบที่ได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนหลังเสร็จส้ินการพบกลุ่มใน วนั ท่ี....... เดอื น ................. พ.ศ. ........... คำถำม กกกกกก1. บอกข้ันตอนการทาหมอนภูเขาสมุนไพร รปู แบบ 1............................................................ คาตอบ............................................................................................................................... 2. บอกข้ันตอนการทาหมอนภเู ขาสมนุ ไพร รูปแบบ 2.......................................................... คาตอบ.............................................................................................................................. 3. บอกประโยชนข์ องภูเขาหมอนสมุนไพร......................................................................……. คาตอบ.............................................................................................................................

ใบงำน หวั เรอ่ื งที่ 5 กำรค้ำขำยออนไลน์ คำชแ้ี จง กกกกกกก1. ใบงานนี้จัดทาข้นึ เพอื่ ให้นักศึกษามคี วามรู้และประสบการณใ์ นหัวเรื่องที่ 5 การค้าขาย ออนไลน์ กกกกกกก2. ให้นกั ศกึ ษาปฏิบตั ติ ามข้นั ตอนต่อไปนี้ กกกกกกกกกก2.1 ให้นักศกึ ษาคน้ คว้าประเด็น การค้าขายออนไลน์ จากสอ่ื การเรยี นรู้ท่หี ลากหลาย ไดแ้ ก่ สื่อหนังสือทเ่ี กย่ี วข้อง (2 เล่ม) สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต (2 เวบ็ ไซด์) สัมภาษณภ์ ูมปิ ัญญาหรือผรู้ ู้ จานวน 1 คน และศกึ ษาจากแหล่งเรยี นรใู้ นชุมชน ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”อาเภอสตั หบี กกกกกกกกกก2.2 ให้นกั ศึกษารวมรวบข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าในข้อ 2. 1 ลงในเอกสารการ เรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนเม่ือวันท่ีมาพบกลุ่มเสร็จสิ้นในวันที่........ เดือน .............. พ.ศ. ...................... “ กกกกกกกกกก2.3 นักศึกษามาพบกลุ่มในวันที่ที่ได้กาหนดไว้ในข้อ 2.2 อภิปรายข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้า ได้ แลกเปลย่ี นกับเพอื่ นนักศกึ ษาและครูผสู้ อน อภปิ ราย วเิ คราะห์ข้อมลู ที่ศึกษาแลกเปล่ียนกับครู กกกกกกกกกก2.4 สรุปการเรียนรู้ท่ีได้จากการอภิปรายและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ร่วมกัน บันทึกลงใน เอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) กกกกกกกกกก2.5 นักศึกษานาผลสรุปการเรียนรู้ที่ได้ไป ปฏิบัติตอบคาถามในใบงานฉบับนี้ แล้ว บันทึกคาตอบท่ีได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนหลังเสร็จส้ินการพบกลุ่มใน วันท่ี....... เดือน ................. พ.ศ. ........... คำถำม กกกกกก1. บอกขัน้ ตอนการสรา้ งเพจอยา่ งงา่ ย................................................................................... คาตอบ............................................................................................................................... 2. บอกความหมายของการค้าออนไลน์................................................................................ คาตอบ............................................................................................................................. 3. บอกวิธีการคานวณตน้ ทุน.........................................................................................……. คาตอบ.............................................................................................................................

แบบประเมินผลเอกสำรกำรเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.) ใบงำนหัวเรื่องที่ 1 ประวตั เิ ขำหมอนพลตู ำหลวง คำชแ้ี จง กกกกกกก1. เอกสารฉบับน้ีจัดทาขึ้นเพ่ือให้ครูผู้สอนใช้ตรวจผลการบันทึกเอกสารการเรียนรู้ด้วย ตนเอง (กรต.) ของนักศกึ ษาตามรายการท่ีครูผู้สอนมอบหมายใหน้ กั ศึกษาได้จัดทาหรือฝกึ ปฏิบัติ กกกกกกก2. ใหค้ รผู ู้สอนตรวจเอกสารการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (กรต.) ของนกั ศกึ ษาแล้วให้คะแนนตาม เกณฑ์ ดังตอ่ ไปนี้ กกกกกกกกก 2.1 ผลการศึกษาคน้ คว้าในประเดน็ ท่กี าหนดจากสอื่ การเรียนรู้ที่หลากหลาย ถ้าปฏิบัติ ได้ครบถ้วนตามท่ีกาหนดไว้ในใบงาน ให้ 10 คะแนน ถ้าไม่ครบถ้วน แต่ค่อนข้างทาได้มาก ให้ 8 คะแนน ถา้ ทาไดบ้ า้ งพอสมควร ให้ 5 คะแนน ถ้าทาได้นอ้ ย ให้ 3 คะแนน และถ้าไมท่ าเลย ให้ 0 คะแนน กกกกกกกกก 2.2 ผลการบนั ทึกสรุปผลการเรยี นร้ทู ไี่ ด้ร่วมกนั ถ้าบนั ทกึ ครบได้ถูกต้องครบถ้วน ให้ 5 คะแนน ถ้าบนั ทกึ ถกู ตอ้ ง แตไ่ มค่ รบถว้ น ให้ 3 คะแนน ถ้าบันทึกได้ถูกต้อง เล็กน้อย ไม่ครบถ้วนให้ 1 คะแนน และถ้าไม่ทาหรือไม่มีการบนั ทึกเลย ให้ 0 คะแนน กกกกกกกกก 2.3 ผลของการตอบคาถามในใบงานในแต่ละข้อ ถ้าตอบได้ถูกต้องครบถ้วน ให้ 5 คะแนน ถา้ ตอบได้ถูกต้อง แต่ไมค่ รบถว้ น ให้ 3 คะแนน ถ้าตอบได้ถกู ต้อง พอใช้ ไม่ครบถ้วน ให้ 2 คะแนน ถ้า ตอบได้ถูกต้อง เล็กน้อย ไม่ครบถ้วน ให้ 1 คะแนน และถ้าตอบได้ ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่ทา เลย ให้ 0 คะแนน ผลกำรตรวจ คะแนนเต็ม ผลการใหค้ ะแนน รายงานการตรวจสอบ 10 ............................. 5 ……………………….. 1. ผลการศึกษาค้นคว้าในประเด็นที่กาหนด 15 ............................. จากส่ือการเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย 5 ……………………….. 5 ……………………….. 2. ผลการบนั ทกึ สรุปผลการเรยี นร้ทู ไ่ี ดร้ ว่ มกนั 5 ……………………….. 3. ผลการตอบคาถามในใบงาน 30 ……………………….. 3.1 ผลการตรวจคาถามข้อท่ี 1 3.2 ผลการตรวจคาถามข้อท่ี 2 3.3 ผลการตรวจคาถามข้อที่ 3 รวม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook