- ๑๔๘ - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๔ ช่อื หน่วย พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย เวลา ๔ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับพลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสงั คม ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามหน้าท่ีพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของคาว่าระเบียบ กฎ กตกิ า และกฎหมาย ๒.๒ นกั เรียนสามารถความสาคัญของคาวา่ ระเบยี บ กฎ กตกิ า และกฎหมาย ๒.๓ นกั เรยี นสามารถเขยี นโครงงานได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความหมายของคาวา่ ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ๒) ความสาคัญของคาวา่ ระเบียบกฎกตกิ าและกฎหมาย ๓) โครงงาน ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) ๑) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๒) ความสามารถในการคิด - วเิ คราะห์ จดั กลุม่ สรปุ ๓.๓ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑) มีวินยั รับผดิ ชอบ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ช่วั โมงที่ ๑ ๑. ครชู แ้ี จงจดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรียนทราบ ๒. ครูถามนกั เรียนว่าความหมายคาว่า ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมายหมายถงึ อะไร พรอ้ มทั้ง ซักถามนักเรยี นถึงความสาคัญ โดย ครอู ธิบายเพิม่ เติมระเบยี บ หมายถงึ แบบแผนทว่ี างไวเ้ ป็นแนวปฏบิ ัติ หรอื ดาเนนิ การ เช่น ระเบียบวนิ ัยระเบียบข้อบังคบั ต้องปฏิบตั ิตามระเบยี บ ถูกลาดบั ถูกที่เป็นแถวเป็นแนว มีลักษณะเรยี บร้อยเปน็ ตน้ ๓. ครใู ห้นกั เรียนเขยี นปัญหาท่ีเกิดขน้ึ ใน โรงเรียน บา้ น วดั ชมุ ชน และประเทศ ที่เกดิ ขึ้นใน สงั คมไทยใน ปจั จบุ นั และนกั เรียนจะร่วมแกป้ ัญหาน้ันอย่างไร ๔. ครูถามว่าถ้าสังคมไทยไม่มี ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ผลจะเป็นอย่างไร ร่วมกัน แกป้ ญั หาอย่างไร ๕. ครูสมุ่ เลอื กนกั เรยี น ๓–๕ คน ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ห้องเรยี น จากนน้ั ครแู ละนกั เรียน
- ๑๔๙ - ร่วมกันสรุปว่า ถ้าทุกคนมีระเบียบ ทาให้บ้านเมืองของเราสงบสุขและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การมี ระเบียบวินยั จงึ เปน็ คณุ ลกั ษณะสาคัญทีค่ วรปลูกฝงั ให้เกิดขึ้นในคนไทยทุกคน ถ้าทุกคนช่วยกันสังคมไทยก็จะ น่าอยู่ ๒) ชัว่ โมงที่ ๒ ๑. ครูอธิบายหรือเสริมความรู้ว่า การเป็นผู้มีระเบียบวินัยไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ และ ระเบยี บของโรงเรยี นเทา่ น้นั แตก่ ารเป็นผูม้ รี ะเบียบวินัยยังรวมถึงข้อกาหนดทางใจด้วย เช่น มารยาท (ความ เกรงใจ การต่อแถว ฯลฯ) ขนบธรรมเนียมประเพณี (การเคารพผู้ใหญ่ ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ ฯลฯ ) วัฒนธรรม (ภาษาไทย การแต่งกาย การไหว้) ๒. นักเรียนอ่านใบความรู้ เร่ือง ระเบียบ กติกา กฎ กฎหมาย แล้ว ทาใบงานเร่ือง ระเบียบ กตกิ า กฎหมาย ๓. ครูสรุปความรู้ เร่ือง ระเบยี บ กติกา กฎ และกฎหมาย แล้วให้นักเรียนปรึกษากันว่าจะเขียน โครงงานเรือ่ งอะไร ๓) ชั่วโมงที่ ๓ ๑. ครใู ห้นกั เรียนดูคลิปวดิ ีโอ เร่ือง ขัน้ ตอนการทาโครงงานคุณธรรม ๒. ครูแจกตัวอย่างโครงงานพรอ้ มทั้งอธิบายข้ันตอนการทาโครงงานใหน้ ักเรยี นฟัง ๓. แบง่ นักเรยี นออกเป็น ๕ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน จากนนั้ ให้เขียนโครงงานเกี่ยวกับ ระเบยี บ กติกา กฎและกฎหมาย ๔) ชั่วโมงที่ ๔ ๑. ครใู หน้ กั เรียนศึกษาคน้ คว้าข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ต และหอ้ งสมดุ โรงเรียน มาจัดทาโครงงาน ๒. ครใู ห้นกั เรียนวางแผนกันในแต่ละกลุ่ม ร่วมแก้ปัญหาจากหวั ขอ้ ทีแ่ ต่ละกล่มุ เลอื ก ๓. นกั เรยี นลงมือเขยี นและทากิจกรรมร่วมกัน ๔. ครสู รปุ ความรู้ เร่ือง การทาโครงงาน และตรวจการเขยี นรายงานของนกั เรยี น เพ่อื ให้ นกั เรยี นไป ปรับปรุงแก้ไข ๔.๒ สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ใบความรู้ ระเบียบ กติกา กฎ และกฎหมาย ๒) คลปิ วิดโี อ เรือ่ ง การทาโครงงานคณุ ธรรม ๓) ใบงาน เรอ่ื ง ระเบียบ กติกา กฎ และกฎหมาย ๔) โครงงานคณุ ธรรม ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจโครงงาน ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมด้านมวี นิ ัย/รบั ผดิ ชอบ ๕.๒ เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการประเมนิ
- ๑๕๐ - ๑) แบบประเมนิ ผลงาน ๒) แบบประเมนิ พฤติกรรมมีวินัย ความรบั ผดิ ชอบ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน ๑) นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดขี ึ้นไป ถือวา่ ผ่าน ๒) นักเรยี นผา่ นการประเมินพฤติกรรมระดับดขี ึน้ ไป ๖. บันทึกหลังสอน ......................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................. .......................................................................................................................................................... ................. ................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................)
- ๑๕๑ - ใบความรู้ เรอ่ื ง ระเบยี บ กติกา กฎ กฎหมาย การมีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าท่ี ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสาคัญประจาตัวของคนทุกคน แต่ ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้น เป็นได้ทั้งในทางบวกและ ทางลบ ซงึ่ ยอ่ มใหค้ ณุ หรอื ให้โทษไดม้ ากเทา่ ๆ กัน ท้งั ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เม่ือจะอบรม จาเป็นต้องพิจารณา ให้ถ่องแท้แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรมกติกา คือ ส่ิงที่บุคคลหรือคณะบุคคลสร้างขึ้น เพื่อให้เป็นแบบแผนปฏิบัติในเร่ืองใดเรื่องหน่ึง เม่ือ กติกานั้น ได้รับ ได้รับการยอมรับในสังคมมากข้ึน กติกานั้นก็จะกลายเป็น กติกาสากล กติกาการแข่งขันกีฬาเป็นต้น พระ ราชดารัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว... (๗๒) (พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ วันอังคาร ๑๒ ก.ค.๒๕๒๖) ระเบียบ หมายถึง น. แบบแผนท่ีวางไว้เป็นแนวปฏิบัติหรือดาเนินการ เช่น ระเบียบวินัยระเบียบ ข้อบังคับ ต้องปฏิบัติตามระเบียบ วินัย ถูกลาดับ ถูกที่เป็นแถวเป็นแนว มีลักษณะเรียบร้อย เช่น เขาทางาน อยา่ งมีระเบยี บ กฎ ตาม พ.ร.บ. หมายถึง วธิ ีปฏบิ ัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๕(๒) หมายความ ว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถ่ิน ระเบียบ ข้อบังคับ หรือ บทบญั ญัตอิ ื่นทมี่ ีผลบงั คับเปน็ การทัว่ ไป โดยไมม่ งุ่ หมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเปน็ การจาเพาะ อธิบาย กฎ หมายถึงทุกอย่างที่กล่าวมาแต่ต้นออกโดย หน่วยงานทางปกครอง โดยมีผลบังคับ เช่นเดียวกบั กฎหมาย อาจมรี ะยะเวลาหรอื ไม่ก็ได้ ท่เี รียกว่า กฎ ก็เพราะว่า กฎ ไม่ได้ออกโดยรัฐสภา หรือ ฝ่ายนิติบัญญัติ มีศักดิ์ทางกฎหมายตามลาดับข้ันอยู่ในช้ัน กฎ ถึงแม้ระเบียบข้อบังคับท้องถิ่นจะออกโดย สภานิตบิ ัญญตั ทิ ้องถิน่ กม็ ศี ักดิ์เปน็ เพียง กฎ กฎหมาย หรือ พระราชบัญญัติ ถูกตราข้ึนโดยฝ่ายนิติบัญญัติหรือ รัฐสภา คือ สภาผู้แทน + วฒุ สิ ภา = รัฐสภา ในประเทศที่ใช้ระบบ สองสภา ส่วนในประเทศท่ีใช้สภาเดียว ก็ทาหน้าที่เป็นรัฐสภาไป เลย การเสนอกฎหมาย ถงึ แมโ้ ดยหลักการจะออกโดยรัฐสภา แต่กฎหมายส่วนใหญ่ถูกเสนอขึ้นโดยฝ่าย บริหาร หรือ รัฐบาล(ในรูปแบบรัฐสภา) ในรูปแบบอ่ืนจะต่างไปจากน้ี กฎหมาย สมาชิกสภาผู้แทนฯ สามารถเสนอเข้าสู่สภาได้ โดยมีผู้เข้าช่ือรับรองในการเสนอร่างกฎหมายน้ัน ๒๐ คน แต่กฎหมายใดเป็น กฎหมายที่เก่ียวกับการเงิน คือ เก่ียวข้องกับงบประมาณแผ่นดิน เช่น แยกกระทรวง แยกจังหวัด เป็นต้น ร่างกฎหมายฉบบั นั้น ตอ้ งให้นายกรัฐมนตรเี ซ็นรับรองก่อนเสนอเขา้ สสู่ ภา ดงั น้ัน กฎหมายจึงมศี ักดิ์สูงกว่ากฎ โดยลาดับชั้นทางกฎหมาย รัฐธรรมนูญมีศักด์ิสูงสุด การแก้ไข รัฐธรรมนญู หรือยกเลิกก็จะเลิกด้วยรฐั ธรรมนญู ฉบับใหม่ หรือ รัฐประหารทเี่ ปน็ วธิ ีนอกขั้นตอน กฎหมายถ้า จะยกเลิกก็ต้องตรากฎหมายใหม่ขน้ึ มายกเลิกเช่นกนั
- ๑๕๒ - ใบงานท่ี ๑ เรื่อง ระเบยี บ กติกา กฎ กฎหมาย คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปน้ี โดยการเขยี นอธิบายพร้อมยกเหตุผลประกอบ ๑. ระเบียบ หมายถึงอะไรจงอธิบาย พร้อมท้ังยกตัวอย่างประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๒. กตกิ า หมายถึงอะไรจงอธบิ าย พร้อมท้ังยกตวั อย่างประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๓. กฎ หมายถงึ อะไรจงอธบิ าย พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๔. กฎหมาย หมายถึงอะไรจงอธิบาย พรอ้ มทง้ั ยกตัวอยา่ งประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๕. ถา้ คนไทยบางคนขาดระเบียบขาดระเบยี บสงั คมไทยจะเปน็ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- ๑๕๓ - ช่ือ.........................................................................................................ช้ัน....................เลขที่........... แบบประเมนิ การใหค้ ะแนน แบบฝกึ หัด และใบงาน รายการประเมนิ รวม ที่ ชื่อ – สกุล มคี วาม การใชภ้ าษา การลาดบั ความเรยี บรอ้ ย การคิด ๒๐ ถูกต้อง เนอื้ หา วเิ คราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้สังเกต (...................................................) ๔ คะแนน เทา่ กบั ดีมาก ............../.................../............ ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี ๒ คะแนน เท่ากับ พอใช้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ๑ คะแนน เท่ากบั ปรับปรุง ๑๖-๒๐ คะแนน เท่ากบั ดีมาก ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากบั ดี ๖-๑๐ คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑-๕ คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ
- ๑๕๔ - แบบประเมนิ พฤตกิ รรมมวี ินยั คาชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดบั คะแนน รายการประเมนิ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของ ที่ ช่อื – สกลุ ครอบครัว และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ในชีวติ ประจาวัน ๔ ๓ ๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ ๔ คะแนน เทา่ กบั ดีมาก ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ๒ คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑๖-๒๐ คะแนน เทา่ กับ ดีมาก ๑ คะแนน เทา่ กบั ปรับปรงุ ๑๑-๑๕ คะแนน เทา่ กบั ดี ๖-๑๐ คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๑-๕ คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรุง
- ๑๕๕ - แผนการจดั การเรียนรู้ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๒ ชวั่ โมง หนว่ ยท่ี ๔ ช่อื หนว่ ย พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ เรือ่ ง พลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสังคม ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั พลเมอื งและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม ๑.๒ ปฏิบัตติ นตามหน้าท่ีพลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถอธิบายความหมายของคาว่า พลเมือง และความรับผิดชอบได้ ๒.๒ เพอ่ื ให้นักเรียนมีรู้และเข้าใจเก่ียวกบั พลเมืองและความรับผิดชอบได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความหมายของคาวา่ พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบ ๒) ความรแู้ ละความเขา้ ใจเก่ยี วกบั พลเมืองและความรับผดิ ชอบ ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร - ฟัง พดู เขยี น ๒) ความสามารถในการคิด - วิเคราะห์ จดั กลมุ่ สรปุ ๓.๓ คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ / คา่ นิยม ๑) ใฝเ่ รียนรู้ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชัว่ โมงที่ ๑ ๑) ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบ เร่ือง พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๒) ครชู แ้ี จงจุดประสงค์การเรยี นรใู้ หก้ บั ผูเ้ รียน และใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ ๕-๘ คน ๓) ครถู ามนักเรียนว่า นกั เรียนแตล่ ะคนมคี วามรบั ผิดชอบ อะไรบา้ งในแตล่ ะวนั ๔) ครูให้ผู้เรียนชมส่ือวีดีทัศน์ เร่ือง MOST -The Bridge v.๒ ไทย ซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ พนักงานการรถไฟ ผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสะพานรถไฟ วันหนึ่งเขาได้พาลูกชายมาที่ทางาน ขณะน้ันมีรถไฟขบวน หนึ่งกาลังวิ่งเข้ามาใกล้สะพาน ลูกชายเห็นรถไฟกาลังมาแต่มองไม่เห็นพ่อ จึงว่ิงไปท่ีสะพานเพื่อที่จะดึงคัน โยกให้สะพานลงเพ่ือให้รถไฟว่ิงผ่าน แต่เกิดพลัดตกลงไปใต้สะพาน ซ่ึงขณะน้ันพนักงานฯ มองเห็นลูกชาย ของตนเองตกไปใต้สะพาน และรถไฟวิ่งใกล้จะถึงสะพาน จึงเป็นวินาทีท่ีต้องตัดสินใจว่า จะดึงคันโยกใ ห้ สะพานลงเพ่ือใหร้ ถไฟวิ่งผา่ น หรอื จะไม่ดึงคันโยกให้สะพานลง เพ่ือชว่ ยชวี ติ ลูกของตนเอง ๕) ครูให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย จากการรับชมคลิปวิดีโอ ตามประเด็นต่อไปนี้ ท่ีครูมอบให้ ได้แก่ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนอย่างไร ถ้านักเรียนเป็นพนักงานรถไฟผู้ซ่ึงทาหน้าท่ีดูแลรถไฟ นกั เรียนจะตดั สนิ ใจอย่างไร
- ๑๕๖ - ๖) ครูสรุปผลการอภิปรายให้นักเรียนเข้าใจพลเมืองท่ีมีคุณลักษณะท่ีสาคัญ คือ ยึดม่ันใน ผลประโยชน์ของส่วนร่วม และเป็นผู้ที่ยึดมั่นในหลักศีลธรรมและคุณธรรมของศาสนา มีหลักการทาง ประชาธิปไตยในการดารงชีวิตปฏิบัติตนตามกฎหมายดารงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีการช่วยเหลือ เก้ือกูลกันอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ให้เป็นสังคมและประเทศประชาธิปไตยอย่าง แทจ้ ริง ๒) ชว่ั โมงที่ ๒ ๑. ครูสนทนากบั นักเรยี น เก่ยี วกับ ความรบั ผิดชอบ ว่าความรับผดิ ชอบหมายถึงอะไร คนแต่ละ คนมคี วามรบั ผดิ ชอบอะไรบา้ ง ครูตัง้ คาถามนา เชน่ - ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง คืออะไร - ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม คอื อะไร ๒. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ทาแผนผังความคิด เร่ือง ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม โดยให้นกั เรียน เขยี นภาระหน้าท่ีและความรับผิดชอบทจ่ี ะต้องปฏบิ ัตติ ่อสังคม ดังต่อไปน้ี ความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่พลเมอื ง ความรับผิดชอบต่อครอบครัว ความรับผิดชอบตอ่ โรงเรยี น และความรับผดิ ชอบต่อเพือ่ น ๓. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกนั อภปิ รายและ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน ๔. ครแู จกใบความรู้ เรอ่ื งพลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมใหน้ ักเรียนศึกษา ๕. ให้นักเรียนแตล่ ะคนทาใบงาน เรื่อง ความรับผิดชอบต่อสังคม ๖. ครูสรุปผลการอภิปรายใหน้ กั เรยี นเข้าใจ ความรับผิดชอบต่อสังคม คือ ภาระหน้าที่ของบุคคล ท่ีจะต้องเกี่ยวข้อง และมสี ่วนร่วมต่อสวัสดิภาพของสังคมทต่ี นเองดารงอยู่ ซ่ึงเป็นเร่ืองท่ีเก่ียวข้องกับหลายสิ่ง หลายอยา่ ง ตั้งแตส่ ังคมขนาดเล็ก จนถงึ สงั คมขนาดใหญ่ การกระทาของบุคคลใดบุคคลหนึ่งย่อมมีผลกระทบ ต่อสงั คมไมม่ ากก็น้อย บุคคลทุกคนจึงต้องมีภาระหน้าท่ี และความรับผิดชอบทีจ่ ะตอ้ งปฏิบัติต่อสังคม ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) แบบทดสอบ เร่อื ง พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ๒) คลิปวดิ โี อ เรือ่ ง MOST -The Bridge v.๒ ไทย ๓) ใบงาน เรือ่ ง ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ๔) ใบความรู้ เรื่อง พลเมอื งและความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบ เร่ือง พลเมืองและความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ๒) ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เรือ่ ง พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ๓) ครสู งั เกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรขู้ องนักเรียน ๕.๒ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบทดสอบ ๒) แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรื่อง พลเมืองกบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม ๓) แบบสงั เกตพฤติกรรมใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ เกณฑ์การตัดสนิ ๑) นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนระดับดีขึน้ ไป ถือว่าผ่าน ๒) นักเรียนผา่ นการประเมินพฤติกรรมในระดับดขี ้นึ ไป
- ๑๕๗ - ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ลงชื่อ ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)
- ๑๕๘ - 7. ภาคผนวก แบบทดสอบ เรอื่ ง พลเมืองกับความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเตมิ คาตอบที่ถูกตอ้ งลงในกระดาษคาตอบทก่ี าหนดใหไ้ ด้อยา่ งถูกต้อง ๑. พลเมือง หมายถึงอะไร ........................................................................................................................... ................................................ ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................................................................................................. ... ๒. ความรบั ผิดชอบ หมายถงึ อะไร ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ๓. พลเมอื งดีในวถิ ชี ีวติ ประชาธปิ ไตย หมายถึงอะไร ............................................................................................................................. .............................................. ...................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ........................................ ๔. ความรับผดิ ชอบต่อตนเอง คืออะไร ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................ ................................... ................................................................................................ ..................................................................... ๕. ความรับผิดชอบต่อสังคม คืออะไร ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. .....................................................................................................................................................................
- ๑๕๙ - เฉลยแบบทดสอบ เร่อื ง พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม คาช้แี จง ให้นกั เรียนเติมคาตอบที่ถูกต้องลงในกระดาษคาตอบท่ีกาหนดให้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ๑.พลเมือง ชาวเมือง ชาวประเทศประชาชน“วิถี” หมายถึง สาย แนว ทาง ถนน และ “ประชาธิปไตย” หมายถึง แบบการปกครองที่ถือมติปวงชนเป็นใหญ่ ดังน้ัน คาว่า “พลเมืองดีในวิถีชีวิตประชาธิปไตย” จงึ หมายถงึ พลเมอื งทม่ี คี ณุ ลกั ษณะทีส่ าคญั คอื เปน็ ผู้ทย่ี ดึ มัน่ ในหลักศีลธรรมและคณุ ธรรมของศาสนา มี หลกั การทางประชาธิปไตยในการดารงชีวิตปฏิบัติตนตามกฎหมายดารงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมี การช่วยเหลือเกื้อกูลกันอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ให้เป็นสังคมและประเทศ ประชาธปิ ไตยอย่างแท้จรงิ ๒.ความรับผิดชอบ บคุ คลทแ่ี สดงออกถึงความเอาใจใส่ จดจ่อตัง้ ใจ มุ่งม่ันต่อหนา้ ท่กี ารงาน การศกึ ษาเล่าเรยี น และการ เป็นอยู่ของตนเอง และ ผู้อยู่ในความดแู ล ตลอดจนสังคม อย่างเต็มความสามารถ ๓. พลเมอื งดใี นวิถชี ีวิตประชาธปิ ไตย พลเมืองที่มีคุณลักษณะท่ีสาคัญ คือ เป็นผู้ที่ยึดม่ันในหลักศีลธรรมและคุณธรรมของศาสนา มี หลกั การทางประชาธปิ ไตยในการดารงชีวิตปฏิบัติตนตามกฎหมายดารงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมี การช่วยเหลือเก้ือกูลกันอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ให้เป็นสังคมและประเทศ ประชาธปิ ไตยอย่างแทจ้ ริง ๔. ความรับผิดชอบต่อตนเอง การรับรู้ฐานนะและบทบาทของตนที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมจะต้องดารงตนให้อยู่ในฐานะท่ี ช่วยเหลือตัวเองได้ รู้จักว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด ยอมรับผลการกระทาของตนเองทั้งที่เป็นผลดีและผลเสีย เพราะฉะนั้นบุคคลที่มีความรับผดิ ชอบในตนเองย่อมจะไตรต่ รองดูใหร้ อบคอบกอ่ นว่า สิ่งท่ีตนเองทาลงไป นนั้ จะมผี ลดผี ลเสียหรอื ไม่และจะเลอื กปฏบิ ตั ิแต่สิ่งทจี่ ะก่อให้เกิดผลดเี ท่านัน้ ๕. ความรับผดิ ชอบต่อสังคม ภาระหนา้ ท่ขี องบคุ คลทีจ่ ะต้องเก่ียวข้อง และมสี ่วนรว่ มต่อสวสั ดภิ าพของสังคมทตี่ นเองดารงอยู่ ซึ่ง เปน็ เร่อื งท่ีเกย่ี วข้องกบั หลายสิ่งหลายอยา่ ง ต้ังแตส่ ังคมขนาดเล็ก จนถึงสังคมขนาดใหญ่ การกระทา ของบคุ คลใดบคุ คลหนึง่ ย่อมมผี ลกระทบต่อสงั คมไมม่ ากกน็ อ้ ย บุคคลทุกคนจึงตอ้ งมีภาระหน้าท่ี และ ความรับผิดชอบทจ่ี ะต้องปฏิบตั ิตอ่ สังคม
- ๑๖๐ - ใบความรู้ เร่ือง พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสงั คม พจนานกุ รมนกั เรยี นฉบับราชบณั ฑิตยสถาน ใหค้ วามหมาย “พลเมือง” หมายถึง ชาวเมือง ชาวประเทศ ประชาชน“วิถ”ี หมายถึง สาย แนว ทาง ถนน และ “ประชาธปิ ไตย” หมายถึง แบบการปกครองที่ถือมติปวง ชนเป็นใหญ่ ดังนั้น คาว่า “พลเมืองดีในวิถีชีวิตประชาธิปไตย” จึงหมายถึง พลเมืองที่มีคุณลักษณะท่ีสาคัญ คือ เป็นผู้ที่ยึดม่ันในหลักศีลธรรมและคุณธรรมของศาสนา มีหลักการทางประชาธิปไตยในการดารงชีวิต ปฏิบัติตนตามกฎหมายดารงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันอันจะก่อให้เกิดการ พฒั นาสังคมและประเทศชาติ ใหเ้ ปน็ สังคมและประเทศประชาธปิ ไตยอย่างแท้จรงิ พลเมอื งและความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม พลเมือง คือ ประชาชนที่นอกจากเสียภาษีและปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ยังต้องมีบทบาท ในทางการเมือง คือ อย่างน้อยมีสิทธิไปเลือกต้ัง แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ต่อ ทางการหรือรัฐได้ ทั้งยังมีสิทธิเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ กับรัฐและอาจเป็นฝ่ายรุกเพ่ือเรียกร้องกฎหมาย นโยบายและกิจกรรมของรัฐตามที่เห็นพ้อง พลเมืองน้ันจะเป็นคนที่รู้สึกเป็นเจ้าของในสิ่งสาธารณะ มีความ กระตอื รอื รน้ อยากมสี ว่ นร่วม เอาใจใส่การทางานของรัฐ และเป็นประชาชนท่ีสามารถแก้ไขปัญหาส่วนรวมได้ ในระดับหน่ึง โดยไม่ต้องรอให้รัฐมาแก้ไขให้เท่านั้นความรับผิดชอบ คือ ลักษณะของบุคคลท่ีแสดงออกถึง ความเอาใจใส่ จดจ่อต้ังใจ มุ่งม่ันต่อหน้าท่ีการงาน การศึกษาเล่าเรียน และการเป็นอยู่ของตนเอง และ ผู้อยู่ ในความดูแล ตลอดจนสังคม อย่างเต็มความสามารถ เพ่ือให้บรรลุผลสาเร็จตามความมุ่งหมายในเวลาท่ี กาหนด ยอมรับผลการกระทาท้ังผลดีและผลเสียท่ีเกิดขึ้น รวมทั้งปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีข้ึนเป็นความ ผูกพันในการที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้สาเร็จลุล่วงไปได้ และความสาเร็จนี้เกี่ยวข้องกับปัจจัย ๓ ประการ คือ พันธะผกู พนั หนา้ ท่กี ารงาน และวัตถุประสงคแ์ บง่ ประเภทความรบั ผดิ ชอบไวด้ งั น้ี ๑. ความรับผิดชอบต่อตนเอง หมายถึง การรับรู้ฐานนะและบทบาทของตนที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม จะต้องดารงตนให้อยู่ในฐานนะท่ีช่วยเหลือตัวเองได้ รู้จักว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด ยอมรับผลการกระทาขอ ง ตนเองทัง้ ที่เป็นผลดีและผลเสยี เพราะฉะนัน้ บคุ คลทม่ี ีความรับผดิ ชอบในตนเองย่อมจะไตร่ตรองดูให้รอบคอบ ก่อนวา่ ส่ิงที่ตนเองทาลงไปนั้นจะมีผลดีผลเสียหรือไม่และจะเลือกปฏบิ ตั แิ ตส่ ่ิงท่ีจะก่อให้เกิดผลดีเท่านนั้ ๒. ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม หมายถึง ภาระหน้าท่ีของบคุ คลที่จะต้องเกี่ยวข้อง และมีส่วนร่วมต่อสวัสดิ ภาพของสังคมท่ีตนเองดารงอยู่ ซ่ึงเป็นเร่ืองที่เก่ียวข้องกับหลายสิ่งหลายอย่าง ตั้งแต่สังคมขนาดเล็ก จนถึง สังคมขนาดใหญ่ การกระทาของบุคคลใดบุคคลหน่ึงย่อมมีผลกระทบต่อสังคมไม่มากก็น้อย บุคคลทุกคนจึง ต้องมภี าระหนา้ ท่แี ละความรับผิดชอบทจ่ี ะต้องปฏิบตั ติ ่อสังคม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๒.๑ ความรบั ผิดชอบต่อหน้าที่พลเมือง ได้แก่ การปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม การรักษาทรัพย์สิน ของสังคม การช่วยเหลอื ผู้อนื่ และการใหค้ วามร่วมมอื กบั ผอู้ ื่น ๒.๒ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว ได้แก่ การเคารพเชื่อฟังผู้ปกครอง การช่วยเหลืองานบ้านและการ รักษาชอื่ เสียงของครอบครวั ๒.๓ ความรบั ผดิ ชอบต่อโรงเรียน ได้แก่ ความต้ังใจเรียน การเชื่อฟังครู–อาจารย์ การปฏิบัติตามกฎของ โรงเรียนและการรักษาสมบตั ิของโรงเรยี น ๒.๔ ความรับผิดชอบต่อเพื่อน ได้แก่ การช่วยตักเตือนแนะนาเมื่อเพื่อนกระทาผิด การช่วยเหลือเพ่ือน อย่างเหมาะสม การให้อภัยเม่ือเพ่ือนทาผิดการไม่ทะเลาะและ เอาเปรียบเพ่ือน และการเคารพสิทธิซ่ึงกัน และกัน
- ๑๖๑ - ใบงาน เรอ่ื ง ความรับผดิ ชอบต่อสังคม คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมเป็นแผนผังความคดิ
- ๑๖๒ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ใฝเ่ รยี นรู้ คาชแ้ี จง : ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน แสวงหาข้อมูล มีการจดบนั ทึก สรุปความรู้ได้ รวม สรปุ จากแหล่ง ความรอู้ ย่าง อยา่ งมีเหตุผล คะแนน ลาดับท่ี ชือ่ -สกลุ การเรียนรตู้ ่างๆ เปน็ ระบบ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ๓๒๑๓๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน (...................................................) ๔ คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ............../.................../................ ๓ คะแนน เท่ากบั ดี ๒ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ๑ คะแนน เทา่ กบั ปรบั ปรงุ ๑๖-๒๐ คะแนน เท่ากบั ดีมาก ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากบั ดี ๖-๑๐ คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๑-๕ คะแนน เทา่ กับ ปรบั ปรุง
- ๑๖๓ - แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม คาชี้แจง : ครใู ห้คะแนนการตรวจผลงานนักเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน ลาดบั รายการประเมิน รวม ที่ ชือ่ -สกลุ รปู แบบผลงาน ภาษา เน้ือหา เวลา ๑๖ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน (..................................................) ............../.................../................
- ๑๖๔ - แบบประเมินการให้คะแนน ใบกิจกรรมกลุ่ม (เขียนแผนผงั ความคดิ ) คาช้แี จง ให้ครผู ู้สอนทาเครอ่ื งหมาย ( / ) ลงในช่องคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมิน สรุปความรูไ้ ด้ถกู ต้อง การเชื่อมโยงความรไู้ ด้ มีความคิดสรา้ งสรรค์ใน ครบตรงประเดน็ กลุ่มท่ี ถกู ตอ้ งตามลาดบั ขนั้ การเขยี น รวม ๑๒ คะแนน ความสมั พันธ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงช่ือ)...................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ............../................./.................
- ๑๖๕ - เกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพ รายการประเมิน คาอธบิ ายระดบั คุณภาพ ๑. สรุปความรู้ไดถ้ กู ตอ้ ง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรุง) ครบตรงประเด็น สรปุ ความรไู้ มถ่ กู ตอ้ ง สามารถสรุปความรู้ไดค้ รบ สามารถสรปุ ความร้ไู ดค้ รบ สรปุ ความร้ไู มค่ รบทกุ ๒. การเชอื่ มโยงความรไู้ ด้ และตรงประเด็นและ สามารถเชื่อมโยงความรูไ้ ด้ ถกู ตอ้ งตามลาดบั ขน้ั ถกู ตอ้ งทกุ หวั ขอ้ ตรงประเด็นและมีความ ประเด็น แต่ไมเ่ ปน็ ไปตามลาดบั ความสมั พนั ธ์ ความสมั พันธ์ ๓. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ สามารถเช่ือมโยงความรู้ได้ ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ สามารถเขียนได้ แตข่ าด ในการเขยี น ถกู ตอ้ งตามลาดบั รูปแบบและความสวยงาม ความสมั พันธ์ สามารถเชือ่ มโยงความรไู้ ด้ สามารถเชอื่ มโยงความรู้ สามารถเขยี นได้ในรปู แบบ และลาดับความ สมั พันธ์ และลาดบั ความสมั พันธไ์ ด้ ที่ถกู ต้องและสวยงาม ได้ค่อนข้างครบ บ้าง สามารถเขยี นได้ถกู ตอ้ ง สามารถเขียนได้ และมี และมีข้อบกพร่องเพยี ง ข้อบกพร่องเป็นบางสว่ น เล็กน้อย คะแนนตดั สนิ ระดับคุณภาพ คะแนน คุณภาพ ๑๐ - ๑๒ ดีมาก ๗–๙ ดี ๔–๖ ๑–๓ พอใช้ ควรปรับปรงุ
- ๑๖๖ - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๔ ช่อื หน่วย พลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสงั คม ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๕ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ เรื่อง แนวทางการปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดี เวลา ๓ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ท่ีพลเมอื งและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ เพื่อให้นกั เรียนสามารถอธบิ ายแนวทางการปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดีได้ ๒.๒ เพือ่ ใหน้ กั เรยี นอธิบายแนวทางการสร้างเสริมสานึกความเปน็ พลเมืองได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองทด่ี ี ๒) แนวทางการเสริมสรา้ งสานกึ ความเปน็ พลเมือง ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร - ฟัง พูด เขยี น ๒) ความสามารถในการคิด - วเิ คราะห์ จดั กลุม่ สรุป ๓.๓ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑) ใฝ่เรียนรู้ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ ๑) ช่ัวโมงท่ี ๑ ๑) ครูชแ้ี จงจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้กบั ผเู้ รยี น และให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕-๘ คน ๒) ครูถามนักเรียนว่า แนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี นักเรียนควรปฏิบัติตนอย่างไร อะไรบา้ ง ๓) ครูให้ผู้เรียนชมสื่อวีดีทัศน์ เร่ือง ลุงพอใจคนดีของสังคม ซึ่งเป็นเน้ือหาเก่ียวกับ ลุงพอใจเป็น คนพิการ เก็บขยะ วนั หนึ่งเขาเห็นเดก็ ผหู้ ญงิ อยากกนิ ไอศกรมี แตไ่ มม่ เี งิน เขาจึงให้เงินกับเด็กผู้หญิงคนน้ันไป สบิ บาทเพอ่ื ซ้อื ไอศกรีม ๔) ครูใหผ้ เู้ รียนร่วมกันอภิปราย จากการรบั ชมคลิปวิดีโอ ในหวั ข้อ ทาดไี ด้ดี ทาช่ัวไดช้ ่วั ๕) ครสู รปุ เรื่องใหน้ ักเรียนฟัง เก่ยี วกับการ ทาดีไดด้ ี ทาชว่ั ไดช้ ว่ั ๒) ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑) ครูสนทนากบั นักเรียน เกีย่ วกับ แนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดี ๒) ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลุ่มทาแผนผังความคิด เร่ือง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดี โดยให้ นักเรยี น
- ๑๖๗ - ศึกษาตามหวั ข้อ ดงั ต่อไปนี้ แนวทางการสรา้ งเสริมสานึกความเป็นพลเมือง : กรณีศกึ ษาประเทศไทย กรณี ภาคเหนือ : จังหวัดลาปาง กรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จงั หวดั สกลนคร กรณภี าคใต้ : จังหวัดยะลา และ การศึกษาเกี่ยวกับความเปน็ พลเมอื งในบรบิ ทตา่ งประเทศ ประเทศญีป่ ่นุ และเกาหลี ๓) ช่วั โมงท่ี ๓ ๑) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ค้นหาข้อมูลจาก YouTube มา ๑ เร่ือง พร้อมทั้งสรุปเนื้อหา ขอ้ คิด และการนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน มาสง่ ครู ๒) ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น ครูสรปุ เรอื่ งให้นกั เรยี นฟัง ๔.๒ สือ่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้ ๑) คลปิ วิดีโอ เร่ือง ลุงพอใจคนดีของสงั คม ๒) ใบความรู้ เรื่อง แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดี ๓) ใบความรู้ที่ ๒ เรื่อง แนวทางการสรา้ งเสรมิ สานึกความเปน็ พลเมืองดี ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) ตรวจผลงานการทาแผนผังความคิด เร่ือง แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดี ๒) สังเกตพฤตกิ รรมใฝเ่ รียนรขู้ องนกั เรียน ๕.๒ เครอ่ื งมือท่ใี ช้ในการประเมิน ๑) แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง แนวทางการปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดี ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ ๑) นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินไดค้ ะแนนระดบั ดขี ้ึนไป ถือวา่ ผ่าน ๒) นักเรียนผ่านการประเมินพฤติกรรมในระดบั ดีขึน้ ไป ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................... ลงชื่อ ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)
- ๑๖๘ - 7. ภาคผนวก ใบความรู้ ท่ี ๑ เรือ่ ง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี ณัฐนันท์ ศิริเจริญ (๒๕๕๕) ได้กล่าวถึง แนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีชีวิต ประชาธปิ ไตยควรมีแนวทางการปฏิบัตติ น ดงั นี้ ด้านสังคม ได้แก่ ๑) การแสดงความคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล ๒) การรบั ฟังขอ้ คิดเหน็ ของผู้อนื่ ๓) การยอมรับเม่ือผู้อนื่ มีเหตุผลทีด่ กี ว่า ๔) การตดั สินใจโดยใชเ้ หตุผลมากกวา่ อารมณ์ ๕) การเคารพระเบยี บของสังคม ๖) การมจี ิตสาธารณะ คือ เห็นแก่ประโยชน์ของสว่ นรวมและรกั ษาสาธารณสมบัติ ด้านเศรษฐกจิ ได้แก่ ๑) การประหยดั และอดออมในครอบครวั ๒) การซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ต่ออาชพี ทีท่ า ๓) การพฒั นางานอาชีพใหก้ ้าวหน้า ๔) การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคม ๕) การสร้างงานและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยและสังคม โลก ๖) การเปน็ ผ้ผู ลติ และผบู้ ริโภคท่ีดี มีความซือ่ สตั ย์ ยึดม่นั ในอดุ มการณท์ ีด่ ีตอ่ ชาติเปน็ สาคัญ ดา้ นการเมอื งการปกครอง ไดแ้ ก่ ๑) การเคารพกฎหมาย ๒) การรบั ฟังขอ้ คดิ เหน็ ของทุกคนโดยอดทนต่อความขัดแย้งที่เกดิ ขนึ้ ๓) การยอมรบั ในเหตุผลท่ดี กี ว่า ๔) การซอ่ื สตั ย์ต่อหน้าท่ีโดยไม่เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ่วนตน ๕) การกล้าเสนอความคิดเห็นต่อส่วนรวมกล้าเสนอตนเองในการทาหน้าท่ีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรอื สมาชิกวฒุ สิ ภา ๖) การทางานอย่างเต็มความสามารถเตม็ เวลา
- ๑๖๙ - ใบความรู้ ท่ี ๒ แนวทางการสร้างเสริมสานึกความเปน็ พลเมือง : กรณีศกึ ษาประเทศไทย จากรายงานการศึกษาแนวทางการสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน โดยสภาพัฒนา การเมืองสถาบนั พระปกเกลา้ ร่วมมือกบั หน่วยงานในพ้ืนท่ีจดั ทารายงานการศึกษาในระดบั พื้นที่ เชน่ กรณภี าคเหนอื : จงั หวัดลาปาง ๑) กิจกรรมเพือ่ เสริมสรา้ งสานึกความเปน็ พลเมืองแกเ่ ยาวชนในจังหวดั ลาปาง ภาพรวมของการจัดกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนและภาพรวมของการ สนับสนุนส่งเสริมจากภาคส่วนต่างๆ ในการจัดกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนใน จังหวัดลาปาง ส่วนใหญ่เป็นการดาเนินการจัดกิจกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเด็กและเยาวชน ไม่ได้ตั้ง วัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนโดยตรง เหมือนเช่นโครงการที่ได้รับการ สนบั สนุนจากสถาบันพระปกเกลาท่ไี ด้ดาเนินการในโรงเรียนบางแห่งของจังหวัดลาปาง แต่อย่างไรก็ตามการ จดั กิจกรรมการพฒั นาเด็กและเยาวชนตา่ งๆ ที่ได้ดาเนินการในจังหวัดลาปางน้ันท้ายที่สุดแล้วก็จะส่งผลหนุน เสริมเติมเต็มสานึกความเป็นพลเมืองของเด็กและเยาวชนได้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ภาคส่วนต่างๆ ที่ ดาเนินการสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนหรือกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมือง แก่เยาวชน ซ่ึงประกอบไปด้วย กลุ่มผู้ปฏิบัติการกลุ่มผู้สนับสนุนงบประมาณ กลุ่มผู้สนุบสนุนวิชาการองค์ ความรู้ กลุ่มผู้สนับสนุนบุคลากรวิทยากรกลุ่มผู้สนับสนุนอาคารสถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วน เสียกับการจัดกิจกรรมต่างๆ มีความร่วมมือระหว่างกัน ตามภาระหน้าท่ี พันธกิจและตามความสัมพันธ์ของ ภาคส่วนตา่ งๆ เหลา่ น้ี ๒) ปัญหาอุปสรรคและปัจจัยสู่ความสาเร็จในการสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็ก และเยาวชน การดาเนินกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนในจังหวัดลาปาง มีปัญหา อุปสรรคและความสาเร็จเกิดข้ึนมาก จากการศึกษาข้อมูลผ่านเวทีสะท้อนในการประชุมกลุ่มย่อย สามารถ สรุปปจั จัยสาคญั ที่เปน็ ปจั จยั ปญั หาอปุ สรรคของการดาเนินงานสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน เกิดจาก๓ ปัจจัย คือ ปัจจัยครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ปัจจัยการสนับสนุนของหน่วยงานองค์กรท่ี เก่ียวข้องกับงานด้านเด็กและเยาวชน และปัจจัยโอกาสการเข้าถึงกิจกรรมของเด็กและเยาวชน ส่วนปัจจัย สาคญั ทเ่ี ป็นปจั จัยแห่งความสาเร็จน้ันเกิดจาก ๔ ปัจจัย คือ ปัจจัยพลังเด็กและเยาวชน ปัจจัยครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ปัจจัยบุคคล หน่วยงาน องคก์ ร ชุมชน และปัจจยั เครอื ขา่ ยการทางาน ๓) แนวทางในการพัฒนารูปแบบกจิ กรรมเพื่อเสริมสร้างสานึกความเปน็ พลเมืองแก่เด็กและ เยาวชน การพฒั นาเด็กและเยาวชนเป็นงานท่ตี ้องอาศัยเวลาและต้องมีรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสม สอดคล้อง กับบริบทการทางานของแต่ละพื้นท่ี ซ่ึงจาเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบกิจกรรมอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ เหมาะสมทันต่อสภาวการณ์ของเด็กและเยาวชน และสภาพการเปล่ียนแปลงทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก และเยาวชนอย่างรวดเรว็ จากการศกึ ษาพบว่า แนวทางการพัฒนารูปแบบกิจกรรมเพ่ือสร้างเสริมสานึกความ เป็นพลเมืองแก่เยาวชนในจังหวัดลาปาง ควรพัฒนารูปแบบกิจกรรมโดยเน้นการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน การบูรณาการกิจกรรมในพ้ืนท่ีระดับตาบล การพัฒนาเครือข่ายการทางานด้านเด็กและเยาวชน และการ สื่อสารสรา้ งความรูค้ วามเข้าใจในพ้ืนทีอ่ ย่างทวั่ ถึง
- ๑๗๐ - กรณีภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื : จงั หวดั สกลนคร ๑) กิจกรรมการสรา้ งเสริมสานกึ ความเป็นพลเมืองแกเ่ ด็กและเยาวชนในจังหวัดสกลนคร ในรอบ ๓ ปีท่ีผ่านมา เป็นการดาเนินกิจกรรมของหน่วยงานท้ังภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน ท่ีทางานขับเคล่ือนการพัฒนาเด็กและเยาวชน แต่พบว่าเป็นกิจกรรมที่มักจะพัฒนาแนวคิดการดาเนินงาน ที่เป็นลักษณะนโยบายส่วนกลาง เพ่ือรองรับงบประมาณ เช่น สานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของ มนุษย์ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมเด่นๆ ท่ีเกิดจากมุมมองในปัญหาของเด็กและเยาวชนและผู้ท่ีทางานกับเด็กและ เยาวชนจริงๆ จะเห็นว่ายังไม่ได้เกิดในหน่วยงานภาครัฐ กิจกรรมท่ีสามารถสร้างสานึกพลเมืองเด็กและ เยาวชนท่ีเห็นผลของการพัฒนาการสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ที่มีเสียงจากกลุ่มเด็ก และเยาวชน คือ กิจกรรมค่ายที่ให้โอกาสเด็กและเยาวชนได้คิดสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ และหลากหลาย โดย อยู่ภายใต้การดูแลให้คาแนะนาและได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากผู้ใหญ่ใจดี เช่น กิจกรรมของชมรมคนรัก ศิลป์ กิจกรรมของกลุ่มเด็กฮักถิ่น สรุปภาพรวมผลการสนทนากลุ่มย่อยในการสร้างสานึกความเป็นพลเมือง แก่เด็กและเยาวชนในจังหวัดสกลนคร มีสาระสาคัญ คือ การให้นิยามความหมายของเด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่ ไมไ่ ดแ้ ตกต่างกัน ส่วนสานกึ พลเมืองเดก็ และเยาวชนในปัจจบุ ันควรจะมตี น้ แบบสานกึ พลเมืองจากผู้ใหญ่ ส่วน สานกึ พลเมืองของเด็กและเยาวชนน้นั ได้เรยี นรผู้ า่ นกิจกรรมค่ายที่มงุ่ เนน้ การพฒั นาจิตอาสา ๒) ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน ในจังหวดั สกลนคร ปัจจยั ทเี่ ปน็ ปญั หาและอุปสรรคในการเสริมสร้างสานึกพลเมืองแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัด สกลนคร สรุปได้ดังนี้ ๑) การขาดโอกาสในการเรียนรู้ความเป็นพลเมืองของเด็กและเยาวชน ๒) พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ในสังคม ไม่เป็นต้นแบบท่ีดีแก่ลูกหลานขาดต้นแบบผู้ใหญ่ท่ีดี ๓) สถาบันการศึกษาขาด ความเข้าใจในการสร้างสานึกพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ผ่านหลักสูตรการจัดการเรียนการสอน และ ๔) หนว่ ยงานท่ดี ูแลด้านเดก็ และเยาวชนขาดการประสานงาน ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการสร้างสานึก พลเมอื งและทางานซ้าซ้อน ๓) แนวทางในการพัฒนารูปแบบกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและ เยาวชนจังหวัดสกลนคร มี ๒ มุมมอง คือ มมุ มองของผ้ใู หญ่ และ มมุ มองของเดก็ และเยาวชน มุมมองของผู้ใหญ่ การสร้างตน้ แบบให้กับเด็กและเยาวชนผ่านสื่อต่างๆ การส่งเสริมต้นแบบคนดี โดยมีเวทแี สดงความดีเชงิ ประจักษ์ เชิดชูความดีคนดีเพ่ือเป็นกาลังใจแก่คนทาดี โดยเร่ิมจากระดับครอบครัว และการพัฒนาแบบผสมผสานหลักธรรมคาสอนกับกิจกรรมในชีวิตประจาวัน รวมท้ังการบรรจุหลักสูตรการ เสริมสร้างสานกึ พลเมืองแก่เดก็ และเยาวชนในทุกระดับการศึกษาท่ีครอบคลุมเน้ือหาทุกวิชา ทุกมติ ิ มุมมองของเด็กและเยาวชน รูปแบบกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างสานึกพลเมืองที่อยากเห็นและ ต้องการคือ การให้โอกาสได้เข้าร่วมกาหนดกรอบแนวทางเพื่อสร้างสานึกพลเมืองกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง โดย สอดแทรก กจิ กรรมจติ อาสาพฒั นาสาธารณะใหแ้ กเ่ ดก็ และเยาวชนอยา่ งต่อเน่ืองและย่งั ยืน กรณภี าคใต้ : จงั หวดั ยะลา บริบทปัญหาส่วนใหญ่ที่คุกคามหรือส่งเสริมการสร้างสานึกพลเมืองจังหวัดยะลา คือ เยาวชน ว่างงาน เยาวชนเลน่ การพนนั เยาวชนติดยาเสพติด เยาวชนขบั รถช่ิง เยาวชนขาดการศึกษา ขาดทุนทรัพย์ใน การศึกษา แต่ท่ีสาคัญจากผลการวิจัย พบว่า ปัญหาสาคัญในจังหวัดยะลา คือ เยาวชนติดยาเสพติด และ เยาวชนได้รบั การศกึ ษานอ้ ย
- ๑๗๑ - สาหรับที่ผ่านมา การดาเนินงานด้านการพัฒนาเยาวชนในจังหวัดยะลา จากข้อมูลประเด็น ยุทธศาสตร์ของจังหวัดยะลา สรุปได้ว่า โครงการพัฒนาเยาวชนเพ่ือสร้างงานโครงการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาในช่วงปดิ ภาคฤดรู ้อน โครงการฝกึ อาชีพแกเ่ ยาวชนในสถาบันการศึกษาปอเนาะ โครงการมหกรรม เปดิ โลกการศกึ ษาและอาชพี เพ่ือการ มีงานทาโครงการศูนย์ยะลาสันติสุขคืนคนดีสู่สังคม โครงการมวลชนสานสัมพันธ์สานฝันสู่อันดามัน และ โครงการครอบครัวป้องกันภัยแก่ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนมีโครงการพัฒนาเยาวชนในถ่ินทุรกันดาร โครงการทูบีนับเบอร์วัน เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่า การสร้างเยาวชนให้มีสานึกพลเมือ เริ่มต้นจากการอบรม ดูแล เอาใจใส่ ศึกษาให้ความรู้ของครอบครัว พ่อแม่ และญาติพี่น้อง การได้รับการศึกษาจากสถาบันที่ เยาวชนศกึ ษาและหน่วยงานภาครัฐที่มหี น้าทีเ่ กี่ยวกบั เยาวชน คอื สานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์จงั หวัดยะลา และสานกั งานพัฒนาชมุ ชนจังหวัดยะลา ๑) กจิ กรรมการสร้างเสริมสานกึ ความเป็นพลเมืองแก่เดก็ และเยาวชนในระดับพ้นื ที่จังหวัด ยะลา - จัดโครงการสอนภาษาไทยให้ผู้ไม่รู้หนังสือหรือผู้อ่านภาษาไทยไม่ได้ เพ่ือสร้างความภาคภูมิใจ ในความเปน็ คนไทยมีความเปน็ เจา้ ของประเทศมากขึ้น - โครงการสอนภาษามลายูให้แก่ทหารพรานเพ่ือให้สามารถสื่อสารสร้างความเข้าใจกับ ประชาชน - โครงการสานึกรักษ์ท้องถ่ินเสริมสร้างความสมานฉันท์ เพ่ือให้เยาวชนทากิจกรรมร่วมกันและ เป็นโครงการที่สง่ เสรมิ ปลกู จติ สานกึ ให้เยาวชนรักบ้านเกิด รสู้ กึ ความเปน็ เจ้าของ - โครงการนาเยาวชนสู่สันติเพ่ือเรยี นรวู้ ธิ ีการสร้างสนั ตภิ าพการจัดการความขัดแย้ง - โครงการค่ายเอดส์และยาเสพติด - จัดต้ังศูนย์บริการที่เป็นมิตรแก่เยาวชน เพ่ือให้เยาวชนมีความพอใจ มีความประทับใจรู้สึกว่า ตนเองมีความสาคัญทาใหม้ ีความรกั ต่อประเทศชาติ - จัดเวทีประชาคมหมู่บ้านเพ่ือให้เยาวชนมีส่วนร่วมกับทุกฝ่ายในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหา ในชุมชนทาใหเ้ ยาวชนภูมิใจและมคี วามรกั ต่อชมุ ชน - โครงการส่งเสริมอาชีพแก่เยาวชน เพ่ือให้เยาวชนเห็นช่องทางอาชีพในอนาคต ใช้เวลาว่างให้ เปน็ ประโยชน์ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มคี วามรบั ผิดชอบมากขนึ้ - กิจกรรมนันทนาการเช่น กิจกรรมฟุตบอลภาคฤดูร้อน และกิจกรรมออเครสตร้าเพ่ือสะท้อน การอยรู่ ่วมกัน - โครงการสานพลังเยาวชนนาสังคมเขม้ แข็ง - โครงการสง่ เสรมิ อาชพี ใหเ้ ดก็ และเยาวชน เชน่ ปลูกผกั เล้ียงไก่ ซ่อมรถจกั รยานยนต์ ๒) ปัญหาและอปุ สรรคในการดาเนนิ กิจกรรมเพอ่ื เสริมสร้างสานกึ ความเปน็ พลเมืองแก่ เยาวชนในจังหวัดยะลา ปัญหาส่วนใหญ่ที่คุกคามหรือส่งเสริมการสร้างสานึกพลเมืองจังหวัดยะลา คือ เยาวชนขาดความ รับผดิ ชอบในการร่วมกจิ กรรมเพอื่ การพฒั นาศักยภาพและในการทาโครงการ ปัญหาความไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ ของการทากจิ กรรม เยาชนขาดจิตอาสาจติ สาธารณะ ปญั หาด้านยาเสพติด งบประมาณในการพัฒนาศักยภาพ ของเยาชนในการทาโครงการไม่ต่อเน่ือง การใช้งบประมาณไมโ่ ปรง่ ใส ขาดความเป็นอสิ ระ
- ๑๗๒ - ๓) แนวทางในการพัฒนารูปแบบกิจกรรมการสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและ เยาวชนในระดับพน้ื ทีจ่ งั หวดั ยะลา - กิจกรรมการสรา้ งเสริมสานึกความเปน็ พลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ควรดาเนินการทั้งในระบบ และนอกระบบโรงเรียน เน้นกิจกรรมการมีส่วนร่วมและสรุปบทเรียนร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้และ ย้าสานกึ พลเมอื งบอ่ ยๆ เพ่อื ให้กลายเปน็ วฒั นธรรมของชุมชนตอ่ ไป - กิจกรรมนอกหลักสูตร ที่ทานอกเหนือกิจกรรมในชั้นเรียน นอกจากนี้ ยังรวมท้ังการให้ หน่วยงานราชการภาคีท่ีมีหน้าท่ีเก่ียวกับโครงการท่ีเยาวชนดาเนินการ หรือบุคคลท่ีมีบทบาทในชุมชนมาร่วมรับรู้ เป็นสักขีพยานการทางานของโครงการ โดยเน้นวางระบบการทางานแบบเป็นทางการและลายลักษณ์อักษร มี กาหนดการทางานทช่ี ัดเจน และมีคณะบคุ คลทมี่ หี นา้ ทเี ก่ยี วข้องมาร่วมติดตาม ๔.๖ การศึกษาเก่ียวกับความเปน็ พลเมืองในบรบิ ทต่างประเทศ ในหลายประเทศมีการส่งเสริมเรื่องการศึกษาเร่ืองความเป็นพลเมือง ซ่ึงแต่ละประเทศมีแนวคิดและ ประเด็นในการศึกษาที่แตกต่างกัน โดยเอกสารน้ีจะนาเสนอแนวคิด พร้อมท้ังประเด็นการปฏิบัติท่ีน่าสนใจ ท่ีเกิดข้ึนจากการส่งเสริมด้านความเป็นพลเมือง โดยเน้ือหาหลักนามาจากบทความของเสิศพงษ์ อุดมพงศ์ เร่ือง การศึกษาเพื่อความเป็นพลเมือง (Civic/Citizenship Education) ในการส่งเสริมบทบาทของภาคพลเมือง ในการเมืองระบบตัวแทน : แนวทางท่ีย่ังยืนผ่านประสบการณ์จากต่างประเทศ (๒๕๕๘) ซ่ึงมีประเทศ ที่นา่ สนใจดังนี้ ประเทศญ่ีปุ่น ญ่ีปุ่นเป็นประเทศท่ีอยู่ในทวีปเอเชียมีรูปแบบของรัฐเป็นรัฐเด่ียวและปกครองด้วยระบอบ ประชาธปิ ไตยในระบบรัฐสภามอี งค์พระจักรพรรดหิ รือกษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นาในการ บริหารประเทศเช่นเดียวกับประเทศไทย (ชานาญ จันทร์เรือง, ๒๕๕๔) ในปีคศ. ๒๐๑๓ ได้รับการจัดอันดับด้าน ความเปน็ ประชาธิปไตย(Democracy Ranking) เปน็ อนั ดบั ๒๐ ของโลก (แคมป์เบลล์และคณะ Campbell et.al., ๒๐๑๓) นับเป็นประเทศประชาธปิ ไตยในฝั่งเอเชยี เพยี งไมก่ ่ปี ระเทศท่ไี ด้รับการประเมินอยู่ในอนั ดับตน้ ๆ ของโลก การศึกษาเพื่อความเป็นพลเมืองในประเทศญ่ีปุ่น คือ การพัฒนาพลเมืองผู้ซ่ึงจะสร้างสังคม ประชาธิปไตยในอนาคต ซ่ึงประชาธิปไตยมีท้ังทางตรงและทางอ้อมความ เป็นพลเมืองมีท้ังรูปแบบเสรีนิยม และรัฐนิยม จึงมีความหลากหลายและความยากที่จะนิยามคานี้ให้มีความหมายท่ีครอบคลุมได้ในระดับ นโยบายเรอ่ื งการศึกษาเพอื่ ความเป็นพลเมอื งนั้นอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงหลัก ๒ กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ และกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ กีฬา และ เทคโนโลยี โดยท่ีรัฐบาลมีการกาหนดแผนนโยบายการพัฒนาเด็กและเยาวชนขึ้นในปีคศ. ๒๐๐๓ โดยได้ กลา่ วถึงหลกั การสาคัญ ๔ ข้อ สาหรบั การจดั การศกึ ษาเพอ่ื ความเป็นพลเมืองของญ่ีปุน่ ประกอบดว้ ย ๑) สนับสนนุ ความเป็นอสิ ระทางสงั คม ๒) สนับสนนุ ให้ได้รับประสบการณ์ตามความต้องการของแต่ละบคุ คล ๓) ปรบั เปล่ยี นมมุ มองของเยาวชนในฐานะสมาชกิ ที่กระตือรือรน้ ของสังคม ๔) กระตนุ้ ให้เกดิ บรรยากาศที่เปน็ อิสระและมีการอภิปรายไดอ้ ย่างเปิดกว้างในสงั คม ในปีคศ. ๒๐๐๖ มีการปฏิรูปพระราชบัญญัติการศึกษาขั้นพื้นฐานของญี่ปุ่น ซึ่งนับต้ังแต่ปี คศ.๑๙๔๗ ที่ยังไม่เคยมีการปฏิรูป แต่หลักการที่สาคัญประการหนึ่งที่ยังคงไว้อยู่ในพระราชบัญญัติโดยท่ีมิได้ มีการ เปล่ียนแปลง มีใจความสาคัญในวรรคแรกวา่ เป้าหมายของการศึกษาที่สาคัญ คือ การศึกษาจะก่อให้เกิดการ
- ๑๗๓ - พัฒนาบุคลิกภาพโดยสมบูรณ์ พยายามอย่างหนักในการส่ังสอนขัดเกลาบุคคล มีจิตใจท่ีสดใสร่างกายที่ สมบูรณเ์ ป็นผซู้ ึง่ รักในความถกู ต้องและความยุติธรรม เคารพในคุณค่าของตนเอง เคารพผู้ใช้แรงงาน มีความ ตระหนักต่อความสานักรับผดิ ชอบอยา่ งลึกซ้ึง ซึมซบั จิตวิญญาณท่ีเป็นอิสระในฐานะเป็นผู้สร้างสันติภาพแห่ง รัฐและสังคม ซึ่งเป้าหมายที่กาหนดขึ้นนั้น เป็นประเด็นสาคัญที่จะสนับสนุนให้ประชาชนเป็นพลเมืองอย่าง แทจ้ รงิ มกี ารส่งเสริมเรื่องจติ สาธารณะ ซึง่ นาไปสกู่ ารมีสว่ นรว่ มอย่างอิสระในการสร้างสังคมพร้อมท้ังการ พัฒนาทัศนคติที่มีต่อความต้องการรับผิดชอบต่อการเติบโตของสังคม ซ่ึงปัจจุบันทาให้ประชาชนในประเทศ มจี ติ สาธารณะ สามารถเห็นได้ในหลายๆ เหตกุ ารณ์ท่เี กิดขน้ึ ในประเทศญ่ปี ่นุ การศึกษาความเป็นพลเมืองถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่ในระดับประถมศึกษา เน้ือหาวิชาพลเมืองเป็นศูนย์กลางของการสร้างความเป็นพลเมือง โดยอาศัยฐานของการตระหนักใน ประชาธิปไตยและความรู้ความเข้าใจในสิทธิมนุษยชน และความหมายและแนวคิดในเร่ืองความสัมพันธ์ ระหวา่ งประเทศ “สร้างความเชื่อมโยงกับครอบครวั และชุมชน สรา้ งให้นกั เรียนมีความตระหนักว่ามนุษย์เป็น จุดเร่ิมต้นที่สาคัญของสังคม สร้างให้นักเรียนมีความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเร่ืองส่วนตัวและสังคม ความมีศักด์ิศรีของตนเองในระบบครอบครัวแบบร่วมสมัย ความเท่าเทียมทางเพศ และสร้างให้เยาวชน ตระหนักถึงความสาคัญของแบบแผนประเพณีของชีวิตในสังคม การรักษาขนบธรรมเนียมและความสานึก รับผิดชอบของแต่ละบคุ คล” ประเดน็ ศึกษาเกี่ยวกับหน้าท่ีพลเมืองในประเทศญ่ปี ุน่ สาหรับประเทศญ่ีปุ่นเป็นประเทศท่ีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยคร้ัง แต่ละคร้ังมีความรุนแรง และสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจานวนมาก แต่จากความยากลาบากจากสิ่งท่ีเกิดขึ้น ก็ได้ เกิดส่ิงท่ีน่าสนใจจากพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเป็นพลเมือง ท้ังในส่วนของความรับผิดชอบต่อสังคม จิต สาธารณะ ความมีวินัย และอ่ืนๆ โดยจะนาเสนอเป็นเร่ืองราวสั้นๆ เพื่อง่ายต่อการทาความเข้าใจ ดังน้ี โดย เนอ้ื หานามาจากบทความเร่ือง “เรื่องราวดีๆ ของคนญ่ีปุ่นยามภาวะฉกุ เฉนิ ” (“เรือ่ งราวดีๆ”, ๒๕๕๔) กรณีที่ ๑ ท่ีสวนสนุกแห่งหน่ึง เกิดเหตุการณ์ซ่ึงทาให้นักท่องเท่ียวจานวนมากไม่สามารถออกไป ข้างนอกได้ และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเท่ียว มีนักเรียนชั้นมัธยมปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอา มาเปน็ จานวนมาก ซึ่งมากเกินกว่าที่จะบริโภคหมด ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีว่า “ทาไมเอาไปเยอะ” แต่วินาทีต่อมา กลายเป็นความรู้สึกต้ืนตันใจ เพราะ “เด็กกลุ่มน้ันเอาขนมไปให้เด็กๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้ เนอื่ งจากตอ้ งอยู่ดูแลลูก จากเหตุการณ์น้ีแสดงให้เห็นถึงความเอ้ือเฟื้อ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความรับผิดชอบต่อ ผอู้ ืน่ กรณีที่ ๒ ในซปุ เปอรม์ าร์เกต็ แหง่ หนง่ึ มีของตกระเกะระกะเต็มพ้ืนเพราะแรงแผ่นดินไหว แต่คนท่ี เขา้ ไปซ้ือของได้ช่วยกันเก็บของขึน้ ไวบ้ นช้ัน แล้วกห็ ยบิ สว่ นท่ีตนอยากซือ้ ไปต่อควิ จา่ ยเงิน จากเหตุการณ์น้ีแสดงให้เห็นถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อย การช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และมี ความรบั ผิดชอบตอ่ ผู้อนื่ กรณที ี่ ๓ ในจังหวดั จบิ ะเกดิ แผน่ ดนิ ไหวบ้านเรือนพังเสยี หาย คุณลุงคนหนึ่งท่ีหลบภัยอยู่ก็ได้เปรย ออกมาว่า ต่อจากน้ีไปจะเป็นอย่างไร เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไป เม่ือเปน็ ผูใ้ หญ่ พวกผมจะทาให้มนั กลบั มาเหมือนเดิมแน่นอน จากเหตุการณน์ ้แี สดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนบ้านเกิด มีความคิดที่จะสร้างชุมชนบ้าน เกิดกลบั มาให้เหมือนเดมิ ไม่ย่อทอ้ ต่อความยากลาบาก
- ๑๗๔ - กรณีท่ี ๔ หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิคร้ังใหญ่ อาคารบ้านเรือนพังเสียหาย ประชาชนไม่มีที่อยู่ อาศัย และอาหารไม่เพียงพอต่อการบริโภค มีการแจกจ่ายอาหาร ประชาชนไม่มีการแย่งอาหารกัน ประชาชนต่อแถวเพอ่ื รบั อาหารอยา่ งเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย ประเทศสาธารณรฐั เกาหลี สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ตั้งอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มีระบบการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย โดยมีประมุขของประเทศ คือ ประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการเลือกต้ังโดยตรงจากประชาชน ให้ เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และมีนายกรัฐมนตรี ซ่ึงได้รับการแต่งต้ังโดยประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบจาก รัฐสภา(กระทรวงการต่างประเทศ, ๒๕๕๖) เกาหลีใต้เป็นประเทศในเอเชียเพียงไม่ก่ีประเทศที่ได้รับการจัด อันดับด้านความเป็นประชาธิปไตย (Democracy Ranking) ติด ๑ ใน ๓๐ ของโลก โดยได้เป็นอันดับ ๒๖ จากการประเมินปี คศ. ๒๐๑๓ (แคมป์เบลล์และคณะ Campbell et.al., ๒๐๑๓) อาจกล่าวได้ว่า ประเทศ เกาหลีใต้มีพัฒนาการของความเป็นประชาธิปไตยดีขึ้นมาเป็นลาดับ ทั้งความก้าวหน้าในด้านระบบการ เลอื กตั้งและความเจริญทางวัฒนธรรม ดัชนีความเป็นประชาธิปไตยขยับเพิ่มขึ้นทุกปี มีคะแนนสูงในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านสิทธิทางการเมืองและด้านเสรีภาพของพลเมือง จนได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม ประเทศท่ีเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์เต็มใบ ในด้านการพัฒนาเยาวชนด้านการศึกษาเพ่ือความเป็นพลเมือง นั้นมีการดาเนินการมาอย่างต่อเน่ือง มีการกาหนดค่านิยม/ส่ิงท่ีดีงามพื้นฐานที่เป็นองค์ประกอบของทักษะ ชีวิต ๔ ด้าน ดา้ นละ ๕ ลกั ษณะย่อย ไดแ้ ก่ ๑) การใช้ชีวิตส่วนตัว : การเคารพตนเอง ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความเป็นอิสระ และการ ยบั ยงั้ ชัง่ ใจ ๒) การใช้ชีวติ ร่วมกันในครอบครัว เพอื่ นบา้ น และโรงเรียน : การปฏิบัติตนตามศาสนาการปฏิบัติ หนา้ ท่ขี องลูกตอ่ พอ่ แม่ จรรยามารยาทการอยรู่ ่วมกนั และความรักต่อโรงเรยี นและบ้านเกดิ ๓) การใช้ชีวิตในสังคม : การปฏิบัติตนตามกฎหมายการสนใจต่อผู้อื่นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความยุตธิ รรม และการสร้างจติ สานกึ สาธารณะ ๔) การใช้ชีวิตในระดับชาติและชาติพันธุ์: ความรักในรัฐความรักในชาติ การมีจิตใจที่มั่นคง มีสติ สมั ปชัญญะ การสรา้ งความสันติภายหลัง การแบง่ แยกและความรักในมนษุ ยชาติ ลักษณะสาคัญ ๔ ประการน้ี ถูกปลูกฝังมาต้ังแต่ในระดับช้ันประถมศึกษา และยังส่งเสริมการ ปลกู ฝงั ทกั ษะการคิดและการตัดสินใจเชิงจริยธรรม (moral thinking and judgment) หรือทักษะที่จาเป็น ตอ่ การแก้ไขเชิงจริยธรรมในชวี ิตประจาวนั อยา่ งถกู ต้องและมเี หตุผล โดยสรุป แนวคิดสาหรับการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองของเกาหลีใต้ หมายถึง การฝึกฝน ความสามารถในการคิดตัดสินใจในสถานการณ์ท่ีเก่ียวข้องกับการเมือง และมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์ทางการเมืองระดับชาติและท้องถ่ิน ในฐานะท่ีเป็นพลเมืองผู้ถืออานาจอธิปไตย (sovereign citizen) และสาหรับการให้การศึกษาแก่เยาวชนเก่ียวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง จะให้ความสาคัญกับการฝึกฝน ทักษะและสอนใหร้ ้บู ทบาทหน้าทใ่ี นฐานะพลเมอื งทีม่ ีความสานึกรบั ผดิ ชอบ (responsible citizen) วฒั นธรรมของคนเกาหลีใต้สอนให้คนมีระเบียบวินัย หากได้เคยสัมผัสหรือสังเกตคนเกาหลีใต้จะรับรู้ ได้ไม่ว่าจะเป็นท้ังทางด้านการศึกษา กีฬา หรือการใช้ชีวิต และหากดูวิวัฒนาการของเกาหลีใต้น้ันประสบ ความสาเร็จในหลากหลายด้านในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเกาหลีใต้สอนให้มีการตื่นตัวกับส่ิงต่างๆ อยู่เสมอ มี การปลูกฝงั ความรกั ชาติ ซึ่งเป็นวฒั นธรรมทสี่ ืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
- ๑๗๕ - ประเดน็ ศึกษาเก่ยี วกับหนา้ ท่ีพลเมืองในประเทศสาธารณรฐั เกาหลี กรณีที่ ๑ กรณีการอัปปางของเรือเฟอร์รี่ของเกาหลีใต้ท่ีชื่อเซวอลซ่ึงจมลงระหว่างการเดินทางจาก กรุงโซลไปยังเกาะเซจูทั้งสาเหตุของการล่มของเรือความรับผิดชอบของกัปตันเรือนายลีจูนเซ๊ียก (Lee Joon-seok) และผู้ช่วยกัปตันเรือการปฏิบัติการและการกระจายคาส่ังของลูกเรือหลังเกิดอุบัติเหตุรวมท้ังการกู้ภัยท่ียังคง ดาเนินอยู่ซ่ึงพบศพผู้โดยสาร ๕๔ คนสูญหาย ๒๔๘ คน รอดชีวิต ๑๗๔ คนจากจานวนผู้โดยสารและลูกเรือ ท้งั หมด ๔๗๖ คนผเู้ สียชวี ติ และสูญหายส่วนใหญเ่ ป็นนกั เรียนมธั ยมจากโรงเรียน Danwon High School ใน เมืองอนั ซนั ชานกรุงโซลที่ไปทศั นศึกษาถงึ ๓๕๐ คน ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธมัยลาภ ได้เขียนเร่ืองที่น่าสนใจประเด็นหน่ึงไว้ คือ การปฏิบัติของนักเรียน ที่อยู่บนเรือ หลังจากมีคาส่ังจากลูกเรือไปยังผู้โดยสารเมื่อเกิดเหตุแล้วก็คือ “ให้นั่งอยู่กับที่ห้ามเคล่ือนไหวไป ไหน ขณะท่ีเจ้าหน้าที่กาลังดาเนินการแก้ไขปัญหากันอยู่ซึ่งผู้โดยสารจานวนมากก็ปฏิบัติตามคาสั่งนี้ ” จนกระท่ังเรือเอียงและจมลงแม้ว่าจะมีเวลาถึง ๒ ชั่วโมงกว่าก่อนที่เรือจะจมซ่ึงผู้โดยสารน่าจะมีเวลาเพียง พอท่ีจะสามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาจากเรือได้ซ่ึงสะท้อนให้เห็นถึงวินัยของเด็กๆนักเรียนท่ีฟังคาสั่งของ “ผใู้ หญ่” และสะทอ้ นถึงความมีระเบียบวินัยของคนเกาหลีท่ีเชื่อฟังคาสั่งแม้ตนทราบดีว่าอันตรายใกล้ตัวเข้า มามากแลว้ แต่คร้ังน้ี “ผใู้ หญ่” คงประเมินสถานการณ์ผิดพลาดอย่างร้ายแรง มีรายงานว่าลูกเรือได้พยายาม กระจายคาสง่ั สละเรือในชว่ งครึง่ ชวั่ โมงตอ่ มาหลงั จากเกดิ อุบัติเหตุแตเ่ ข้าใจว่าคาส่ังน้ีกระจายไปไม่ท่ัวถึง และ เช่ือว่าผโู้ ดยสารจานวนมากโดยเฉพาะเดก็ ๆ ก็ยงั คงนงั่ อยกู่ บั ท่ี (ยงยุทธ มยั ลาภ, ม.ป.ป.) กรณีท่ี ๒ ประเด็นเรื่องของความรับผิดชอบ เห็นได้จากการลาออกและฆ่าตัวตายของข้าราชการ นักการเมืองในประเทศหลายคนท้ังๆ ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับความผิดท่ีเกิดขึ้นโดยตรง แต่อยู่ในภาระหน้าท่ีท่ีดูแล เช่น การลาออกของนายกรัฐมนตรี ชอง ฮง วอน เพ่ือรับผิดชอบต่อการล่มของเรือเซลวอนและไม่สามารถ ชว่ ยเหลือไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ทง้ั ๆ ทนี่ ายกรัฐมนตรไี มใ่ ชค่ นขบั เรือและก็ไม่ใช่คนทเี่ ข้าไปช่วยเหลอื เดือนธันวาคม ๒๕๔๘ นายฮูห์ จุนยัง ผู้บัญชาการตารวจเกาหลีใต้ ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก ตาแหน่งเพ่ือรับผิดชอบกรณีที่ตารวจปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงจนถึงแก่ความตายกรณีเจ้าหน้าท่ีตารวจทุบตี กลุ่มเกษตรกรทีม่ ารวมตวั ประท้วงเรื่องการเปดิ เสรีขา้ วในกรงุ โซล จนเป็นเหตุให้มีชาวนาเสียชีวิต ๒ คนพร้อม กบั ขอโทษตอ่ กรณีดังกล่าว (เมธา มาสขาว, ๒๕๕๗) เดือนมีนาคม ๒๕๔๙ นายกรัฐมนตรีลี เฮชอน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศลาออกจากตาแหน่ง ภายหลังจากท่ีเขาแอบไปร่วมตีกอล์ฟกับกลุ่มนักธุรกิจ ท่ีเมืองปูซานเม่ือวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๙ แม้จะเป็น วันหยุดของเกาหลีใต้ แต่ก็ฟังไม่ขึ้น ในขณะที่ทั้งประเทศกาลังประสบปัญหาเน่ืองจากการประท้วงของ พนกั งานรถไฟ (เมธา มาสขาว, ๒๕๕๗)
- ๑๗๖ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ใฝเ่ รยี นรู้ คาชีแ้ จง : ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน แสวงหาข้อมูล มกี ารจดบันทึก สรปุ ความร้ไู ด้ รวม สรุป จากแหลง่ ความร้อู ย่าง อย่างมเี หตผุ ล คะแนน ลาดับที่ ชอื่ -สกลุ การเรยี นรตู้ ่างๆ เปน็ ระบบ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ๓๒๑๓๒๑ ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน (...................................................) ............../.................../................ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตดั สนิ ดเี ยยี่ ม ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน ผ่าน ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน ไมผ่ า่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๗๗ - แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรอื่ ง แนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็น พลเมืองดี คาชีแ้ จง : ครใู ห้คะแนนการตรวจผลงานนกั เรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน ลาดับ รายการประเมิน รวม ที่ ชอ่ื -สกลุ รูปแบบผลงาน ภาษา เนอื้ หา เวลา ๑๖ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน (..................................................) ๔ คะแนน เท่ากับ ดีมาก ............../.................../................ ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี ๒ คะแนน เท่ากับ พอใช้ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ๑ คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรุง ๑๖-๒๐ คะแนน เทา่ กบั ดีมาก ๑๑-๑๕ คะแนน เทา่ กับ ดี ๖-๑๐ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ ๑-๕ คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรุง
- ๑๗๘ - แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๒ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๔ ชื่อหน่วย พลเมอื งกบั ความรับผิดชอบต่อสังคม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ เร่อื ง ความเป็นพลเมืองของประเทศ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั พลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๑.๒ ปฏิบัติตนตามหน้าท่ีพลเมอื งและมีความรบั ผิดชอบต่อสงั คม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถตระหนกั รู้ความเป็นพลเมืองของประเทศ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ตระหนกั รู้ความเปน็ พลเมืองของประเทศ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร - ฟงั พูด เขยี น ๒) ความสามารถในการคิด - วิเคราะห์ จดั กลุม่ สรุป ๓.๓ คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑) ใฝเ่ รยี นรู้ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ ๑) ช่วั โมงที่ ๑ ๑) ครชู ้ีแจงจุดประสงค์การเรียนรูใ้ หก้ บั ผูเ้ รยี นทราบ และให้นักเรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ ๕-๘ คน ๒) ครูให้ผู้เรียนชมคลิปวิดีโอ เรื่อง Pan AM Boeing 747 KLM Boeing 747 Crash-Tenerife (crash of the century) ๓) ผ้สู อนซกั ถามนักเรียนว่า สาเหตุทที่ าใหเ้ ครอื่ งบนิ ท้งั สองชนกันคอื อะไร ๔) ครสู มุ่ นักเรยี นออกมาเล่าเร่ือง และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สาเหตุที่ทาให้เครื่องบินท้ังสองชน กนั ๒) ชั่วโมงที่ ๒ ๑) ครสู นทนากบั นักเรยี น เก่ยี วกบั เรื่อง Pan AM Boeing 747 KLM Boeing 747 Crash- Tenerife (crash of the century) ครูต้ังคาถามนา ๒ ข้อ - นกั เรยี นมีความคดิ เห็นอยา่ งไร ต่อการปฏิบัติหนา้ ท่ีของกัปตนั Veldhuyzen van zanten - ในฐานะที่นักเรียนเป็นพลเมืองหรือพลโลก ถ้าหากนักเรียนเป็นหนึ่งในผู้โดยสาร หรือญาติ คนรู้จักของ
- ๑๗๙ - นักเรียนอยู่ในเครื่องลานี้ นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์น้ี และผู้เรียนต้องการให้กัปตันปฏิบัติ อยา่ งไร เพอ่ื แสดงความเคารพต่อสิทธิ รวมถงึ เคารพต่อผูโ้ ดยสาร ๒) ครใู หน้ ักเรยี นร่วมแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับคาถามที่ครถู ามท้งั ๒ ข้อ ๓) ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ออกนาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น ๔) ครสู รุปใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจในเรอ่ื ง ของการตระหนกั รู้ความเป็นพลเมืองของประเทศ พร้อม ยกตัวอย่างสถานการณใ์ หน้ กั เรียนฟัง ๕) ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละคนทาใบงาน เรอื่ ง ความเปน็ พลเมืองของประเทศ ๔.๒ สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) คลิปวดิ ีโอ เรอ่ื ง เร่อื ง Pan AM Boeing 747 KLM Boeing 747 Crash-Tenerife (crash of the century) ๒) ใบงาน เรอื่ ง ความเป็นพลเมอื งของประเทศ ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ๑) ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เร่ือง ความเป็นพลเมืองของประเทศ ๒) ครสู ังเกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ของนกั เรยี น ๕.๒ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรื่อง ความเปน็ พลเมืองของประเทศ ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน ๑) นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินไดค้ ะแนนระดับดขี น้ึ ไป ๒) นกั เรียนผ่านการประเมินพฤติกรรมระดับดีข้นึ ไป ๖. บันทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ลงช่อื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)
- ๑๘๐ - 7. ภาคผนวก ใบงาน เรอื่ ง ความเป็นพลเมืองของประเทศ ให้นักเรยี นตอบคาถาม ดังต่อไปน้ี ๑) พลเมอื งโลกของประเทศ หมายถึงอะไร ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ๒) จงยกตัวอยา่ งการเป็นพลเมืองโลกของประเทศที่ดี มา ๓ ตวั อยา่ ง ........................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .............................................. ๓) นักเรียนมคี วามคดิ เหน็ อย่างไร ต่อการปฏิบัติหนา้ ท่ีของกปั ตนั Veldhuyzen van zanten ............................................................................................................................. .............................................. ................................................................................................................................. .......................................... ๔) ในฐานะท่นี ักเรยี นเปน็ พลเมอื งของโลก ถ้าหากนักเรยี นเปน็ หนึ่งในผู้โดยสารหรือญาติคนรจู้ ักของนักเรียน อยใู่ นลาน้ี นักเรียนมีความร้สู ึกอย่างไรต่อเหตกุ ารณ์น้ี ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................................... ............................
- ๑๘๑ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ใฝเ่ รยี นรู้ คาชีแ้ จง : ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน แสวงหาข้อมูล มกี ารจดบันทึก สรปุ ความร้ไู ด้ รวม สรุป จากแหลง่ ความร้อู ย่าง อย่างมเี หตผุ ล คะแนน ลาดับที่ ชอื่ -สกลุ การเรยี นรตู้ ่างๆ เปน็ ระบบ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ๓๒๑๓๒๑ ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน (...................................................) ............../.................../................ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตดั สนิ ดเี ยยี่ ม ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน ผ่าน ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน ไมผ่ า่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๘๒ - แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ความเปน็ พลเมืองของประเทศ คาชแ้ี จง : ครใู หค้ ะแนนการตรวจผลงานนกั เรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั รายการประเมนิ รวม ที่ ชอื่ -สกลุ รปู แบบผลงาน ภาษา เน้อื หา เวลา ๑๖ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (..................................................) ............../.................../................ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ ดเี ยี่ยม ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน ผา่ น ไดค้ ะแนน ๓-๔ คะแนน ไม่ผา่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๘๓ - แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยท่ี ๔ ชอ่ื หน่วย พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ เรื่อง ความเปน็ พลเมอื งของโลก เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับพลเมือง และมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏิบัติตนตามหนา้ ท่พี ลเมอื ง และมคี วามรับผิดชอบต่อสงั คม ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของความเปน็ พลเมอื งของโลกได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถอธิบายลักษณะของความเป็นพลเมืองของโลกได้ ๒.๓ นักเรยี นสามารถยกตวั อยา่ งพลเมืองทด่ี ีของประเทศได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความหมายของความเปน็ พลเมืองของโลก ๒) ลกั ษณะของความเปน็ พลเมืองของโลก ๓) ตัวอยา่ งพลเมอื งทด่ี ขี องประเทศ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร - วเิ คราะห์ ฟัง พดู เขียน ๒) ความสามารถในการคดิ - วเิ คราะห์ จดั กลุม่ สรปุ ๓.๓ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ค่านิยม ๑) ใฝเ่ รียนรู้ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรียนรู้ ๑) ชว่ั โมงที่ ๑ ๑) ครชู ี้แจงจุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ ห้กบั ผเู้ รียน ๒) ครซู กั ถามนกั เรยี น ดงั นี้ - นกั เรียนคิดวา่ คาว่า “พลโลก” หมายถงึ อะไร - ลักษณะของการเปน็ พลโลก คอื อะไร อธิบายตามความเข้าใจของตนเอง ๓) ครสู รุป และเชือ่ มโยงไปสเู่ น้ือหาท่จี ะเรยี น ๔) นักเรียนศึกษาใบความรู้ เร่ือง พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลกและครูอธิบาย เพมิ่ เติม ๕) นักเรียนแต่ละคนทาใบงาน เร่ือง พลเมืองโลก และใบงานเร่ือง แนวทางการปฏิบัติตนเป็น พลโลก ๒) ชวั่ โมงที่ ๒ ๑) นกั เรียนแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสม ร่วมกันจัดสัมมนาในหัวข้อ พลเมอื งดขี องประเทศชาติ ๒) ครูเปิดคลิปวิดีโอ เรอื่ ง การจัดสมั มนา ให้นกั เรียนดู
- ๑๘๔ - ๓) ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาใบงาน เรือ่ ง การจดั สัมมนา และอธิบายขัน้ ตอนการจัดสัมมนา ๔) นักเรียนแบ่งกลุม่ กันวางแผนการจดั สัมมนาและออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) คลิปวิดโี อเรื่อง การจัดสัมมนา ๒) ใบความรู้ เร่ือง พลเมืองดีของประเทศชาตแิ ละสังคมโลก ๓) ใบงาน เรอ่ื ง พลเมืองโลก ๔) ใบงาน เร่ือง แนวทางการปฏบิ ัตติ นเปน็ พลโลก ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ๑) ตรวจใบงาน เรื่อง พลเมืองโลกและแนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็นพลโลก ๕.๒ เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการประเมิน ๑) แบบประเมนิ ใบงาน ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน ๑) นกั เรียนผา่ นเกณฑไ์ ด้คะแนนระดบั ดีขึ้นไป ๒) นักเรียนผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมในระดับดีข้ึนไป ๖. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ลงชื่อ ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)
- ๑๘๕ - 7. ภาคผนวก ใบความรู้ เร่ือง พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก ความหมาย พลเมืองดี หมายถึง ประชาชนท่ีประพฤติปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคมมีความรับผิดชอบต่อ หน้าท่ี ของตนเอง รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง และปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมไม่ละเมิดล่วงล้าสิทธิ และ เสรภี าพของ บุคคลอืน่ ความสาคญั พลเมืองเป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญของสังคมของสังคมไทย เช่นเดียวกับสังคมอ่ืน ๆ ทุกสังคมย่อม ต้องการพลเมืองที่มีคุณภาพ ซ่ึงหมายถึงความมีร่างกายจิตใจดี คิดเป็น ทาเป็น แก้ไขปัญหาได้ มี ประสิทธิภาพเป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้า ความมั่นคงให้กับประเทศชาติและการเป็น พลเมืองดีนั้นย่อมต้องการปฏิบัติตามบรรทัดฐานและขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมมีคุณธรรมเป็นแนว ปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชวี ิตอีกดว้ ย เพ่อื การพฒั นาสงั คมใหย้ ัง่ ยืน วตั ถุประสงค์ของการพัฒนาใหเ้ ปน็ พลเมอื งดี วัตถปุ ระสงคข์ องการพฒั นาให้เปน็ พลเมืองดี มดี งั น้ี ๑. เพ่อื ให้รูจ้ ักปฏิบตั ิตามบรรทัดฐานของสงั คม ๒. เพ่อื ปลกู ฝงั ทักษะการดารงชวี ิตอยู่ร่วมกบั ผอู้ ื่นในสงั คม ๓. เพ่อื ปลกู ฝังความมรี ะเบยี บวนิ ัย และเคารพกฎหมาย ๔. เพ่อื ปลูกฝังให้มีทัศนคติและคา่ นยิ มที่ดตี ่อสงั คม ลักษณะของพลเมอื งดี การเป็นพลเมืองดีจะมีลักษณะอย่างไรน้ัน สังคมจะเป็นผู้กาหนดลักษณะที่พึงประสงค์เพ่ือที่จะได้ พลเมือง ที่ดี ต้องการังนั้นคุณสมบัติของสมาชิกในสังคมก็จะต้องมีคุณสมบัติที่เป็นพื้นฐานและ คณุ สมบัตเิ ฉพาะ ดงั นี้ คุณสมบัติพ้ืนฐาน คือ คุณสมบัติทั่วไปของการเป็นพลเมืองดี เช่นขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ประหยัด รับผดิ ชอบ มเี หตผุ ล โอบอ้อมอารี มเี มตตา เห็นประโยชน์ส่วนรวมมีความสาคัญเสมอ คุณสมบัติเฉพาะ คือ คุณสมบัติเฉพาะอย่างท่ีสังคมต้องการให้บุคคลพึ่งปฏิบัติ เช่นต้องการบุคคลท่ีมี คุณธรรมนาความรู้ ต้องการให้คนในสังคมไทยหันมาสนใจ พัฒนาวิจัยในงานอาชีพด้านการเกษตรให้มาก เนื่องจากเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เนื่องจากเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เพื่อการพัฒนาสังคมให้ เจรญิ ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน การปฏิบตั ติ นเปน็ พลเมอื งดีของประเทศชาติและสงั คมโลก ๑. เคารพกฎหมายและปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคม เมื่อพลเมืองทุกคนปฏิบัติตาม กฎระเบยี บ ข้อบงั คับของสังคม และบทบัญญัติของกฎหมาย เช่น ไม่ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อ่ืน หรือไม่กระทา
- ๑๘๖ - ความผิดตามท่ีกฎหมายกาหนดก็จะทาให้รัฐไม่ต้องเสียงบประมาณในการป้องกัน ปราบปรามและจับกุมผู้ท่ี กระทาความผิดมาลงโทษ นอกจากนี้ยังทาให้สังคมมีความเป็นระเบียบสงบสุขทุกคนอยู่ร่วมกันอย่าง สมานฉันท์ ไม่หวาดระแวงคดิ ร้ายตอ่ กนั ๒. เป็นผู้มีเหตุผล และรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืนทุกคนย่อมมีอิสรเสรีภาพในการแลกเปล่ียนความ คิดเห็นระหว่างกัน ซึ่งการรู้จักการใช้เหตุผลในการดาเนินงาน จะทาให้ช่วยประสานความสัมพันธ์ ทาให้เกิด ความเขา้ ใจอนั ดีงามต่อกัน ๓. ยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่ เมื่อมีความขัดแย้งกันในการดาเนินกิจกรรมอันเกิดจากความ คิดเห็นท่ีแตกต่างกัน และจาเป็นต้องตัดสินปัญหาด้วยการใช้เสียงข้างมากเข้าช่วย และมติส่วนใหญ่ตกลงว่า อยา่ งไร ถึงแมว้ า่ จะไม่ตรงกบั ความคดิ ของเรา เราก็ตอ้ งปฏิบตั ิตาม เพราะเป็นมตขิ องเสียงสว่ นใหญ่น้นั ๔. เป็นผู้นามีน้าใจประชาธิปไตย และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ผู้ที่มีความเป็นประชาธิปไตยนั้น จะต้องมีความเสียสละในเรื่องที่จาเป็น เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมและรักษาไว้ซ่ึงสังคมประชาธิปไตย เป็นการสง่ ผลต่อความมน่ั คงและความกา้ วหน้าขององค์กร ซึ่งสุดท้ายแล้วผลประโยชน์ดังกล่าวก็ย้อนกลับมา สู่สมาชิกของสังคม เช่นการไปใช้สิทธิ์เลือกต้ัง ถึงแม้ว่าเราจะมีอาชีพบางอย่างท่ีมีรายได้ตลอดเวลา เช่น ค้าขาย แต่ก็ยอมเสียเวลาค้าขายเพ่ือไปลงสิทธิ์เลือกตั้ง บางครั้งเราต้องมีน้าใจช่วยเหลือกิจกรรมส่วนร่วม เชน่ การสมัครเปน็ กรรมการเลอื กตั้ง หรอื สมาคมบาเพญ็ ประโยชนส์ ่วนรวม เป็นตน้ ๕. เคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ควรรูจักเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อ่ืนเช่นบุคคลมีเสรีภาพใน การแสดงความคิดเห็นการพูด แตต่ ้องไม่เปน็ การพดู แสดงความคดิ เห็นที่ใสร่ ้ายผอู้ นื่ ให้เสียหาย ๖. มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง สังคม ชมุ ชน ประเทศชาติ ในการอยู่ร่วมกันในสังคม ย่อมต้องมีการ ทางานเปน็ หมคู่ ณะ จึงต้องมีการแบง่ หน้าท่คี วามรบั ผิดชอบในงานน้นั ๆ ให้สมาชกิ แตล่ ะคนนาไปปฏิบัติตามท่ี ได้รับหมอบหมายไว้อย่างเต็มที่ ๗. มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมือง การปกครอง ในสังคมประชาธิปไตยน้ันสมาชิกทุกคนต้องมีส่วน ร่วมในกิจกรรมการเมืองการปกครอง เชน่ การเลือกตั้ง เปน็ ต้น ๘. มีส่วนร่วมในการป้องกัน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง ช่วยสอดส่อง พฤตกิ รรมมั่วสุมของเยาวชนในสถานบันเทิงต่าง ไม่หลงเช่อื ข่าวลือคากลา่ วร้ายโจมตี ไม่มองผทู้ ไี่ ม่เห็นด้วยกับ เราเปน็ ศัตรู รวมถึงสงเสรมิ สนบั สนุนการแกไ้ ขปัญหาความขดั แยง้ ตา่ งๆ ด้วยสนั ติวิธี ๙. มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติตนตามหลักธรรม ทุกคนควรมีศีลธรรมไว้เป็นหลักในการ ควบคุมพฤตกิ รรมของบุคลให้ดาเนนิ ไปอยา่ งเหมาะสม ถงึ แม้จะไมม่ ีบทลงโทษใดๆ กต็ าม คุณธรรม จริยธรรมของการเปน็ พลเมืองดขี องประเทศชาตแิ ละสังคมโลก คณุ ธรรม จรยิ ธรรมคอื ส่งิ ท่ีเป็นความดคี วรประพฤติปฏิบตั ิ เพราะจะนาความสุข ความเจริญ ความ มน่ั คงมาสปู่ ระเทศชาติ สังคม และบคุ คล คณุ ธรรมจริยธรรมทีส่ าคัญๆ มีดังตอ่ ไปนี้ ๑. ความจงรักภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ประเทศชาติ ๒. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ หมายถึง การปฏิบัติกิจการงานของตนเอง และท่ีได้รับมอบหมายด้วย ความมานะพยายาม อุทศิ กาลงั กาย กาลงั ใจอยา่ งเต็มความสามารถ ท้ังน้ีรวมไปถึงการรับผิดเมื่องานล้มเหลว พยายามแก้ไขปัญหาและอุปสรรคโดยไมเ่ ก่ียงงอนผู้อืน่ ๓. ความมีระเบียบวินัย หมายถึง การเป็นผู้รู้และปฏิบัติตามแบบแผนท่ีตนเอง ครอบครัว และสังคม กาหนดไว้ โดยทจ่ี ะปฏิเสธไม่รับรกู้ ฎเกณฑห์ รือกตาตา่ ง ๆ ของสงั คมไม่ได้
- ๑๘๗ - ๔. ความซอ่ื สตั ย์ หมายถึง การปฏิบัติตน ทางกาย วาจา จิตใจ ท่ตี รงไปตรงมา ไม่แสดงความคดโกงไม่ หลอกลวง ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ื่น ล่นั วาจาว่าจะทางานสิง่ ใดก็ต้องทาใหส้ าเร็จเป็นอย่างดี ไม่กลับกลอก มีความ จริงใจตอ่ ทกุ คน จนเป็นทไี่ วว้ างใจของคนทกุ คน ๕. ความเสียสละ หมายถึง การปฏิบัติตนโดยอุทิศกาลังกาย กาลังทรัพย์ กาลังปัญญา เพ่ือช่วยเหลือ ผูอ้ ื่นและสงั คมด้วยความต้งั ใจจริง มเี จตนาท่ีบริสุทธิ์ คุณธรรมด้านนี้เป็นการสะสมบารมีให้แก่ตนเอง ทาให้มี คนรักใคร่ไว้วางใจ เปน็ ที่ยกยอ่ งของสังคม ผูค้ นเคารพนับถอื ๖. ความอดทน หมายถงึ ความเปน็ ผทู้ ่ีมีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคใดๆ มุ่งม่ันท่ีจะทางานให้ บังเกิดผลดีโดยไมใ่ หผ้ ้อู ่นื เดือดรอ้ น ความอดทนมี ๔ ลกั ษณะ คอื - อดทนต่อความยากลาบาก เจบ็ ป่วย ไดร้ บั ทุกขเวทนาก็ไมแ่ สดงอาการจนเกินกว่าเหตุ - อดทนต่อการตรากตราทางาน ไมท่ อดท้ิงงาน ฟันฝ่าอุปสรรคจนประสบผลสาเร็จ - อดทนต่อความเจ็บใจ ไมแ่ สดงความโกรธ ไมอ่ าฆาตพยาบาท อดทนตอ่ คาเสียดสี - อดทนตอ่ กิเลส คือ ไม่อยากได้ของผู้อ่ืนจนเกิดทุกข์ ไม่ตอบโต้คนอื่นที่ทาให้เราโกรธ และ ไมล่ ่มุ หลงในส่ิงทจี่ ะพาเราไปพบกบั ความเสียหาย ๗. การไม่ทาบาป หมายถึง การงดเว้นพฤติกรรมท่ีช่ัวร้าย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อ่ืนเพราะเป็นเร่ือง เศรา้ หมองของจิตใจ ควรงดเว้นพฤตกิ รรมชั่วร้าย ๓ ทาง คือ - ทางกาย เช่น ไม่ฆา่ สตั ว์ ไมท่ ุจรติ ไมล่ กั ขโมย ไม่ผดิ ประเวณี - ทางวาจา เช่น ไม่โกหก ไมก่ ลา่ วถ้วยคาหยาบคาย ไม่ใสร่ ้าย - ทางใจ เชน่ ไม่คิดเนรคุณ ไมค่ ดิ อาฆาต ไม่คิดอยากได้ ๘. ความสามัคคี หมายถึง การท่ีทุกคนมีความพร้อมกาย พร้อมใจ และพร้อมความคิดเป็นน้าหน่ึงใจ เดียวกัน มีจุดมุ่งหมายท่ีจะปฏิบัติงานให้ประสบความสาเร็จ โดยไม่มีการเกี่ยงงอนหรือคิดชิงดีชิงเด่นกัน ทุก คนมุ่งท่ีจะให้สังคมและประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง มีความรักใคร่กลมเกลียวกันด้วยความจริงใจ ความไม่เห็น แก่ตวั การวางตนเสมอต้นเสมอปลายก็หมายถึงความสามัคคดี ว้ ย บทบาทหนา้ ทีข่ องพลเมืองดตี ่อประเทศชาติ และสังคมโลก บทบาท หมายถงึ การปฏิบัติตามสิทธิ หน้าท่ีอันเน่ืองมาจากสถานภาพของบุคคล เน่ืองจากบุคคลมี หลายสถานภาพในคนคนเดียว ฉะน้ันบทบาทของบุคคลจึงต้องปฏิบัติไปตามสถานภาพในสถานการณ์ตาม สถานภาพน้ันๆ หนา้ ท่ี หมายถงึ ภาระรบั ผดิ ชอบของบุคคลที่จะตอ้ งปฏิบตั ิ เชน่ หนา้ ทีข่ องบิดาท่มี ีตอ่ บุตร เป็นต้น
- ๑๘๘ - การปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมืองดีตามวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรม คือ แบบแผนการกระทา หรือผลการกระทาท่ีพัฒนาจากสภาพเดิมตามธรรมชาติให้ดี งามย่ังยนื จนเป็นทยี่ อมรบั ของคนในสังคม เช่น กริ ยิ า มารยาท การพูด การแต่งกาย การรับประทานอาหาร เป็นต้น วัฒนธรรมการไหว้ เป็นวัฒนธรรมภายนอกท่ีมักได้รับการตอบสนองจากผู้ได้รับด้วยการไหว้ตอบ นอกจากน้ี ยังมีวัฒนธรรมไทยอื่นๆ ที่งดงาม เช่น การกราบ การทาบุญตักบาตร การแต่งกายแบบไทย เป็น ตน้ การปฏิบตั ติ นเปน็ พลเมอื งดตี ามประเพณีไทย ขนบธรรมเนยี มประเพณี คือ สงิ่ ที่ปฏิบตั ิสืบทอดสืบทอดกันมาและถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงาม ของแต่ละสังคมอาจเหมือนกัน คล้ายกัน หรือแตกต่างกันก็ได้ และสิ่งท่ีดีงามของสังคมหนึ่งเม่ือเวลาผ่าน ไป สงั คมน้ันอาจเห็นเปน็ ส่งิ ไม่ดีงามกไ็ ด้ วัฒนธรรมและประเพณีไทย เป็นกิจกรรมท่ีสืบทอดมายาวนานและสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งดีควร อนรุ กั ษ์ไว้ การเป็นสมาชิกทด่ี ขี องสังคมไทยและสงั คมโลก การที่บุคคลจะเป็นสมาชกท่ีดีของสังคมไทยและสังคมโลก จะต้องคานึงถึงสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ และหนา้ ท่ีในการปฏิบัตติ นเป็นพลเมอื งดี
- ๑๘๙ - ใบงาน เร่อื ง พลเมอื งโลก คาชี้แจง : ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง พลเมอื งโลก
- ๑๙๐ - ใบงาน เรอื่ ง แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลโลก คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเขียนแนวทางการปฏบิ ัติตนเป็นพลโลก
- ๑๙๑ - แบบประเมินการให้คะแนน แบบฝกึ หัด และใบงาน รายการประเมนิ รวม ที่ ชอื่ – สกุล มคี วาม การใช้ภาษา การลาดบั ความเรยี บร้อย การคิด ๒๐ ถูกต้อง เนื้อหา วเิ คราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ๔ คะแนน เทา่ กับ ดมี าก ๑๖-๒๐ คะแนน เท่ากบั ดีมาก ๓ คะแนน เท่ากบั ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากับ ดี ๒ คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๕-๑๐ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ ๐-๕ คะแนน เทา่ กบั ปรับปรุง
- ๑๙๒ - แบบสังเกตพฤติกรรม ใฝ่เรียนรู้ คาชแี้ จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน แสวงหาข้อมูล มีการจดบนั ทึก สรุปความรไู้ ด้ รวม สรปุ จากแหล่ง ความร้อู ย่าง อย่างมีเหตุผล คะแนน ลาดบั ท่ี ชอื่ -สกลุ การเรียนรู้ต่างๆ เปน็ ระบบ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ๓๒๑๓๒๑ ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ (...................................................) ............../.................../................ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตดั สนิ ดเี ยย่ี ม ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน ผ่าน ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน ไมผ่ า่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๙๓ - ภาคผนวก
- ๑๙๔ - คาส่ังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ท.ี่ . 646/2560 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนกุ รรมการจัดทาหลกั สูตรหรือชดุ การเรียนรู้และส่ือประกอบการเรยี นรู้ ดา้ นการป้องกนั การทจุ ริต ---------------------------------------- ด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมคร้ังที่ 855-26/2560 เม่ือวันที่ 11 เมษายน 2560 ได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการ ปอ้ งกันการทจุ ริต เพือ่ ดาเนนิ การจัดทาหลักสูตรหรอื ชดุ การเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกัน การทุจริต สาหรับใช้เป็นเนื้อหามาตรฐานกลางให้สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่เก่ียวข้องนาไปพิจารณา ปรับใช้ในการเรียนการสอนให้กับกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกระดับชั้นเรียน เพื่อปลูกฝังจิตสานึกในการ แยกแยะประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง และสร้างพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและไม่ทนต่อการ ทจุ รติ อันเปน็ การดาเนนิ งานตามยุทธศาสตรช์ าติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศาสตร์ที่ 1 “สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต” กลยุทธ์ท่ี 1 ปรับฐานความคิดทุกช่วง วัย ต้ังแต่ปฐมวัยให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม และกลยุทธ์ท่ี 3 ประยกุ ตห์ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นเคร่ืองมือตา้ นทจุ รติ ฉะนั้น อาศัยอานาจตามมาตรา 19 (16) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 จึงขอแต่งตั้ง คณะอนกุ รรมการจดั ทาหลักสตู รหรือชดุ การเรยี นรู้และสอ่ื ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต โดย มีองคป์ ระกอบ ดังน้ี 1. รองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธรี านวุ ัฒศิริ ประธานอนกุ รรมการ 2. รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. อนกุ รรมการ (นายประหยัด พวงจาปา) 3. ผู้ชว่ ยเลขาธกิ ารคณะกรรมการ ป.ป.ช. อนุกรรมการ (นายกติ ติ ลม้ิ พงษ)์ 4. ผ้ชู ว่ ยเลขาธกิ ารคณะกรรมการ ป.ป.ช. อนกุ รรมการ (นายอุทศิ บัวศร)ี 5. ผอู้ านวยการสานักป้องกันการทุจรติ ภาคการเมือง อนุกรรมการ 6. ผอู้ านวยการสานักป้องกันการทุจริตภาครัฐวิสาหกจิ อนุกรรมการ และธรุ กิจเอกชน 7. ผู้อานวยการสานกั ป้องกันการทุจริตภาคประชาสงั คม อนุกรรมการ และการพฒั นาเครือขา่ ย
- ๑๙๕ - 8. ผแู้ ทนสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อนุกรรมการ (ด้านการสร้างหลกั สตู รและสอื่ การเรยี นรู้) 9. ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน อนุกรรมการ (ด้านการสรา้ งหลกั สตู รและสือ่ การเรียนร)ู้ 10. ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา อนุกรรมการ (ด้านการสร้างหลกั สูตรและส่อื การเรยี นร)ู้ 11. ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา อนกุ รรมการ (ด้านการสร้างหลักสูตรและสอ่ื การเรียนรู้) 12. ผู้แทนสานักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา อนุกรรมการ (ด้านการสรา้ งหลักสตู รและสื่อการเรียนรู้) 13. ผแู้ ทนสานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ อนุกรรมการ การศกึ ษาตามอัธยาศยั (ดา้ นการสร้างหลกั สูตรและสอ่ื การเรียนรู้) 14. ผู้แทนสานักงานลกู เสอื แห่งชาติ อนกุ รรมการ (ดา้ นการสรา้ งหลกั สตู รและสื่อการเรยี นรู้) 15. ผแู้ ทนทปี่ ระชุมอธกิ ารบดีแหง่ ประเทศไทย อนกุ รรมการ (ดา้ นการสร้างหลักสตู รและสอ่ื การเรยี นรู้) 16. ผู้แทนทป่ี ระชุมอธกิ ารบดีมหาวิทยาลยั ราชภฏั อนกุ รรมการ (ด้านการสร้างหลกั สูตรและสื่อการเรียนรู้) 17. ผู้แทนคณะกรรมการอธกิ ารบดมี หาวิทยาลยั อนุกรรมการ เทคโนโลยรี าชมงคล (ดา้ นการสร้างหลักสตู รและส่อื การเรยี นร)ู้ 18. ผ้แู ทนสถาบันวชิ าการปอ้ งกนั ประเทศ อนุกรรมการ กองบัญชาการกองทัพไทย (ดา้ นการสรา้ งหลักสูตรและสอื่ การเรียนร)ู้ 19. ผู้แทนกรมยุทธศกึ ษาทหารบก อนุกรรมการ (ด้านการสร้างหลกั สตู รและสื่อการเรยี นรู)้ 20. ผู้แทนกรมยุทธศึกษาทหารเรอื อนกุ รรมการ (ด้านการสร้างหลกั สตู รและสื่อการเรียนรู้) 21. ผู้แทนกรมยุทธศกึ ษาทหารอากาศ อนกุ รรมการ (ด้านการสรา้ งหลักสตู รและสอ่ื การเรยี นรู)้ 22. ผแู้ ทนกองบญั ชาการศึกษา สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ อนุกรรมการ (ด้านการสรา้ งหลักสูตรและสือ่ การเรียนรู)้ 23. พลโท ดร.ชัยฤกษ์ แกว้ พรหมมาลย์ อนกุ รรมการ 24. นายเสฏฐนนั ท์ องั กรู ภาสวชิ ญ์ อนุกรรมการ 25. นายสุเทพ พรหมวาศ อนุกรรมการ 26. ผ้อู านวยการสานักปอ้ งกันการทุจริตภาครฐั อนุกรรมการและเลขานกุ าร 27. นายสมพจน์ แพง่ ประสิทธ์ิ ผู้ช่วยเลขานุการ
- ๑๙๖ - 28. นางสาวกลั ยา สวนโพธิ์ ผู้ช่วยเลขานกุ าร 29. นายสราวุฒิ เศรษฐกร ผู้ช่วยเลขานกุ าร 30. นายกาญจน์บัณฑิต สนนุช ผชู้ ่วยเลขานุการ 31. นายเทอดภมู ิ ทัศนพิมล ผู้ช่วยเลขานกุ าร 32. นายธนวัฒน์ มะแม้น ผู้ช่วยเลขานกุ าร โดยคณะอนุกรรมการฯ มีอานาจหน้าท่ีดงั นี้ 1. ศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้ และสอื่ ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทจุ รติ 2. กาหนดแนวทางและขอบเขตในการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อ ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทจุ รติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศาสตร์ท่ี 1 “สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจรติ ” 3. พจิ ารณายกรา่ งและจดั ทาเนอ้ื หาหลักสตู รหรือชดุ การเรียนร้แู ละสอ่ื ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจรติ โดยกาหนดโครงสร้างหลักสตู ร วัตถปุ ระสงค์ของหลักสูตร จุดประสงค์ของรายวิชา เน้อื หาสาระ จดั ระเบยี บ/ลาดับของเนื้อหาสาระ วธิ ีการประเมนิ ผลการเรียนรู้ รวมท้ังอื่นๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง 4. พิจารณาให้ความเห็นเพ่ิมเติมเก่ียวกับการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อ ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต เพ่ือให้มีเนื้อหาท่ีครอบคลุมและสมบูรณ์ พร้อมท้ังนาเสนอ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ ทัง้ นี้ ใหด้ าเนินการแลว้ เสร็จในปี พ.ศ. 2560 5. กาหนดแผนหรือแนวทางการนาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ ดา้ นการปอ้ งกันการทุจริต ไปใชใ้ นหน่วยงานท่เี กย่ี วข้อง 6. ดาเนินการอนื่ ๆ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย ท้ังนี้ ตั้งแต่บัดน้ีเป็นต้นไป ส่ัง ณ วันท่ี 26 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2560 พลตารวจเอก (วัชรพล ประสารราชกิจ) ประธานกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ
- ๑๙๗ - รายช่อื คณะทางาน จดั ทาหลักสตู รหรือชดุ การเรียนรู้ และส่อื ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกนั การทุจริต กลมุ่ การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน -------------------------------- ท่ปี รกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน 1. นายบญุ รักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน 2. นางสาวอษุ ณยี ์ ธโนศวรรย์ ผอู้ านวยการสานกั พัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา 3. นายสรุ ศกั ดิ์ อินศรีไกร ผู้ช่วยเลขาธกิ ารคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 4. นายอุทิศ บวั ศรี คณะทางาน กลมุ่ ที่ 1 หลกั สตู รปฐมวัย 1. นางธารณี พรมหนู ครู โรงเรียนอนบุ าลเสาไห้ สพป.สระบรุ ี เขต 1 2. นางสมบตั ร สบื ศักดิ์ ครู โรงเรยี นอนุบาลบอ่ พลอย สพป.กาญจนบรุ ี เขต 4 3. นางสาวนภสั สร ภิรมย์รกั ษ์ ครู โรงเรียนอนบุ าลบ่อพลอย สพป.กาญจนบรุ ี เขต 4 4. นางสาวลักขณา โคบตุ ร ครู โรงเรียนอนบุ าลบอ่ พลอย สพป.กาญจนบุรี เขต 4 5. นางสมใจ จนี เทห่ ์ ครู โรงเรยี นวดั เกา้ ชั่ง สพป.สิงหบ์ รุ ี 6. นางสาวกชกร จนี เทห์ ครู โรงเรียนวัดระนาม สพป.สงิ ห์บุรี 7. นางสุพิกา ตน้ สอน ครู โรงเรยี นวัดบ้านป้องน้อย สพป.ราชบุรี เขต 2 8. นายพัฒนา พวงมาลี ครู โรงเรียนอนบุ าลเดิมบางนางบวช (วัดท่าช้าง) สพป.สุพรรณบรุ ี เขต 3 9. นางสภุ คั ษร พรอดุ มประเสรฐิ ครู โรงเรยี นวดั บอ่ กรุ “คุรปุ ระชาสรรค์” สพป.สพุ รรณบรุ ี เขต 3 10. นางฐิติพร ศรแี จ่ม ครู โรงเรียนวดั บอ่ กรุ “คุรปุ ระชาสรรค์” สพป.สุพรรณบรุ ี เขต 3 11. นางอารียว์ รรณ เขม็ เงิน ครู โรงเรียนวัดนา้ พุ สพป.สพุ รรณบรุ ี เขต 3 กลุ่มที่ 2 หลกั สูตรประถมศึกษาตอนต้น 1. นางสาวสภุ ัสสร สุภาพ ครู โรงเรียนชลประทานอนุเคราะห์ สพป.พระนครศรอี ยธุ ยา เขต 1 2. นางสาวกนกนพ วรัฏธร ครู โรงเรยี นชลประทานอนุเคราะห์ สพป.พระนครศรอี ยุธยา เขต 1 3. นางอารี พวงวรนิ ทร์ ผู้อานวยการโรงเรียนวดั ทุ่งคอก (สวุ รรณสาธกุ ิจ) สพป.สพุ รรณบุรี เขต 2 4. นางละเอียด สะอ้ิงทอง ครู โรงเรียนวัดทงุ่ คอก (สวุ รรณสาธกุ จิ ) สพป.สุพรรณบุรี เขต 2 5. นางสาวเรณู กุศลวงษ์ ครู โรงเรยี นอนุบาลวัดอา่ งทอง สพป.อา่ งทอง 6. นางสุจริ า อาบู ครู โรงเรยี นบ้านนาดา สพป.นราธิวาส เขต 1 7. นางสาววไิ ลวรรณ ทองไหม ครู โรงเรยี นเมอื งนราธิวาส สพป.นราธวิ าส เขต 1 8. นางสาวนติ ยา อาหมาด ครู โรงเรียนบา้ นมะนังกาหยี สพป.นราธิวาส เขต 1 9. นางสาวกัสมานี มามะ ครู โรงเรียนบา้ นบือเจ๊าะ สพป.นราธิวาส เขต 1 10. นางสาวนิสรนิ เทพลกั ษณ์ ครู โรงเรยี นบ้านโคกพนอม สพป.นราธิวาส เขต 1 11. นายยกู ฟิ ลี มาหะ ครู โรงเรยี นบา้ นฮแู ตยือลอ สพป.นราธวิ าส เขต 1 12. นางสาวซาฮาเราะ เจะยิ ครู โรงเรยี นบา้ นยอื สาแม สพป.นราธวิ าส เขต 1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206