Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ “ รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5

แผนการจัดการเรียนรู้ “ รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5

Published by phrapradisth, 2019-12-04 06:38:12

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ “ รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5

Search

Read the Text Version

- ๔๘ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ใฝเ่ รยี นรู้ คาชีแ้ จง : ใหค้ รสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน แสวงหาข้อมูล มกี ารจดบนั ทกึ สรปุ ความรู้ได้ รวม สรปุ จากแหลง่ ความรอู้ ย่าง อยา่ งมเี หตุผล คะแนน ลาดับที่ ช่อื -สกลุ การเรียนรู้ต่างๆ เป็นระบบ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ๓๒๑๓๒๑ ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน (...................................................) ............../.................../................ ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ ดีเยย่ี ม ไดค้ ะแนน ๗-๙ คะแนน ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน ผา่ น ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน ไมผ่ า่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน

- ๔๙ - การให้คะแนนตารางผงั ความคิด ๑. การระบใุ จความสาคญั และรายละเอียดของขอ้ มูลทส่ี นบั สนุนจากเรือ่ งทศี่ ึกษา (๒ คะแนน) ๒. การตคี วามและประเมนิ คุณค่าแนวคิดทีไ่ ดจ้ ากงานเขยี น (๒ คะแนน) ๓. การเสนอแนะแนวทางในการนาความคิดจากเร่ืองไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ิต (๒ คะแนน) ๔. ความถกู ตอ้ งของการเขยี นกรอบแนวคดิ (๒ คะแนน) ๕. การใช้ภาษา (๒ คะแนน) รายการประเมนิ ๑ คะแนน ๒ คะแนน ๑. การระบุใจความสาคญั และ ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดของ ระบุใจความสาคญั และรายละเอียดของ รายละเอียดของข้อมลู ที่สนบั สนุนจาก เร่อื งทศี่ ึกษา ขอ้ มลู ทส่ี นบั สนนุ จากเรอ่ื งทศี่ ึกษาเปน็ ขอ้ มลู ท่ีสนบั สนุนจากเรอื่ งท่ีศึกษาได้ บางสว่ น ถกู ต้อง ๒. การตคี วามและประเมินคณุ คา่ ตคี วามและประเมนิ คณุ คา่ แนวคดิ ที่ได้ ตคี วามและประเมินคณุ ค่าแนวคดิ ท่ไี ด้ แนวคิดที่ได้จากงานเขยี น จากงานเขียนไดถ้ กู ต้องมตี วั อย่างชัดเจน จากงานเขยี นได้ถกู ต้องมีตัวอย่างชัดเจน เป็นบางส่วน ๓. การเสนอแนะแนวทางในการนา แนวทางในการนาความคิดจากเรอื่ งไป แนวทางในการนาความคดิ จากเรอื่ งไป ความคิดจากเรอ่ื งไปใชแ้ ก้ปัญหาในชีวิต ใชแ้ กป้ ัญหาในชวี ิตได้อย่างมีคณุ ภาพ ใชแ้ ก้ปัญหาในชีวติ ได้อย่างมีคณุ ภาพ เปน็ บางสว่ น ๔. ความถูกต้องของการเขยี นกรอบ มขี ้อบกพรอ่ งในการเขียนผงั ความคิด วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา เรยี บเรยี ง จดั หมวดหมู่ แนวคิด เนือ้ หา วางประเดน็ หลักไว้กลาง หน้ากระดาษ เขียนประเดน็ รองไวต้ าม หวั ข้อ ๕. การใชภ้ าษา ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง สละสลวย ไมส่ บั สน ใช้ภาษาถูกต้อง สละสลวย ไมส่ บั สน วกวน อา่ นเข้าใจง่ายเป็นบางส่วน วกวน อ่านเข้าใจง่าย

- ๕๐ - หนว่ ยท่ี ๒ ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ

- ๕๑ - แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยท่ี ๒ ชอื่ หน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง การทาการบา้ น และการทาเวร ทาความสะอาด ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ ทกุ รปู แบบ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถทาการบา้ นส่งครตู ามเวลาท่ีกาหนดและทาด้วยตนเองโดยไมต่ ้องลอกเพ่อื น ๒.๒ นักเรียนสามารถทาเวรและทาความสะอาดไดต้ ามทไ่ี ด้รับมอบหมาย ๒.๓ นกั เรียนไมห่ ลกี เลี่ยงการทาการบ้าน การทาเวร และการทาความสะอาด ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) การทาการบ้านส่งครูตามเวลาท่กี าหนด ๒) การทาเวรและทาความสะอาด ๓) ไม่หลีกเลีย่ งการทาการบ้านการทาเวรและการทาความสะอาด ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ ๑) ความสามารถในการส่ือสาร - ฟัง พดู อา่ น เขียน ๒) ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑) วินยั ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรียนรู้ ๑) ชั่วโมงที่ ๑ ๑) ครูเปดิ คลปิ วีดิโอ เรอื่ ง เบื้องหลังการทาการบ้านของนักเรียน (YouTube The WINNER TV) ให้นกั เรียนดู ๒) ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แสดงความคิดเหน็ อภิปรายถึง พฤตกิ รรมของตวั ละครแต่ละคน นกั เรยี น คดิ เหน็ อยา่ งไร เพราะอะไรจงึ คดิ เช่นนนั้ ๓) ครูพูดถงึ ความจาเป็นท่ีต้องทาการบ้าน ทาความสะอาดหอ้ ง โดยครูช้ีให้นกั เรยี นถงึ ความมีวนิ ยั ในความรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีข่ องตนเอง ๔) ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคนเขียนขอ้ ดีของการทาการบ้านลงในใบงาน การทาความสะอาดหอ้ งเรยี น และขอ้ เสียของคนท่ไี ม่ชอบทาการบ้าน ไม่ชว่ ยเพื่อนทาความสะอาดหอ้ งเรียน บริเวณโรงเรียน ส่งครู ๕) ครูนาผลงานของนักเรียนไปติดทปี่ า้ ยนเิ ทศใหน้ ักเรยี นทุกคนไดอ้ ่านถงึ ผลดีผลเสยี นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ วา่ นักเรียนจะเลือกปฏิบัติตามแบบอย่างขอ้ ไหนดีและถา้ เลือกปฏิบัตติ าม แลว้ จะสง่ ผลดีต่อตัวเองและประเทศชาติอย่างไร

- ๕๒ - ๖) ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ ๒ กลุม่ ช่วยกันคดิ วางแผนดงั นี้ กลมุ่ ที่ ๑ สรา้ งคลปิ วดี โี อ “เปรยี บเทียบขอ้ ดขี ้อเสียของการทาการบา้ น” กลุ่มท่ี ๒ เขียน Power point ขอ้ ดีข้อเสยี ของการไม่ช่วยกันทาความสะอาดห้องเรยี น ๒) ชวั่ โมงท่ี ๒ ๑) แตล่ ะกลุม่ นาเสนองานผ่านจอคอมพวิ เตอร์ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั เสนอข้อคิดที่ได้จากการ ชมการนาเสนอของแต่ละกลุ่ม ๒) ครสู รปุ ผลดี ผลเสีย ของการทาการบา้ น และการทาความสะอาดหอ้ งเรียน ๔.๒ ส่อื การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ป้ายนเิ ทศ ๒) คลิปวดิ โี อ เรือ่ ง เบ้อื งหลงั การทาการบา้ นของนักเรยี น ๓) คลิปวดิ ีโอ เร่อื ง เปรียบเทียบข้อดีของการทาการบา้ น ๔) ส่ือ Power Point ๕) หอ้ งสมุด ๖) อินเตอร์เน็ต ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ๑) สังเกตพฤติกรรมการทางาน ๒) ตรวจผลงานจากใบงาน ๓) ตรวจการนาเสนอผลงานกลุ่ม ๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน ๑) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ๒) แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมิน ระดับดี ขน้ึ ไป ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ลงชอ่ื ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)

- ๕๓ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านกลมุ่ กลุ่ม............ชัน้ ............ พฤติกรรม ลาดบั ชอื่ -สกลุ ความร่วมมือ การแสดงความ การรบั ฟังความ การมสี ว่ นรว่ มใน รวม ที่ สมาชกิ กลุ่ม คดิ เห็น คดิ เหน็ การอภิปราย ๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การให้คะแนน = ๔ ประสิทธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ๙๐-๑๐๐ % หรือปฏบิ ัติบ่อยครั้ง ดีมาก = ๓ ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๗๐-๘๙ % หรือปฏบิ ตั ิบางครง้ั ดี = ๒ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐-๖๙ % หรอื ปฏบิ ตั ิคร้ังเดียว ปานกลาง = ๑ ประสิทธิภาพต่ากวา่ เกณฑ์ ๕๐ % หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิเลย ปรบั ปรงุ นกั เรยี นตอ้ งผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ในระดับดี ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ดี ๗๐-๘๙ % ลงชื่อ...................................................ผู้สังเกต (...................................................) ............../.................../................

- ๕๔ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล (การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็น) พฤตกิ รรม การแสดงความ การยอมรับฟัง หมาย คิดเห็น ผูอ้ ื่น เหตุ ที่ ความสนใจ การตอบคาถาม ทางานตามทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ช่ือ-สกลุ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั นี้ ดมี าก = ๔ สนใจฟงั ไมพ่ ดู คยุ นอกประเด็น มคี าถามท่ีดี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานสง่ ครบ ตรงเวลา ดี = ๓ สนใจฟัง พูดคุยนอกประเดน็ บ้าง มีคาถาม ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบ ตรงเวลา ปานกลาง = ๒ สนใจฟัง พูดคุยนอกประเดน็ บา้ ง มคี าถาม ไม่ค่อยตอบคาถาม ทางานส่งครบ ตรงเวลาบา้ งไมต่ รงเวลาบ้าง ปรับปรุง = ๑ สนใจฟงั พูดคุยนอกประเด็นบา้ ง ไม่มีการตัง้ คาถาม ไม่ตอบคาถาม ส่งงานไม่ครบ ครบ ไมต่ รงเวลา นักเรียนต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดบั ๒ จงึ จะผ่าน ลงช่ือ...................................................ผู้สังเกต (...................................................) ............../.................../................

- ๕๕ - ตัวชี้วัด ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบหนา้ ที่การทางาน ๖.๒ ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพ่ือให้งานสาเรจ็ ตามเป้าหมาย ตัวชวี้ ดั พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบหน้าทีก่ ารทางาน ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อการ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทท่ี ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการทางานให้สาเรจ็ ๖.๑.๓ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทางานดว้ ยตนเอง ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายาม และอดทนเพ่อื ให้ ๖.๒.๑ ทมุ่ เททางาน อดทน ไมย่ อ่ ท้อตอ่ ปญั หา และ งานสาเร็จตามเป้าหมาย อปุ สรรคในการทางาน ๖.๒.๑ พยายามแก้ปัญหาและอปุ สรรคในการทางาน ให้สาเร็จ ๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงานด้วยความภมู ใิ จ เกณฑ์การประเมนิ ตวั ชว้ี ัดท่ี ๖.๑ ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าทก่ี ารงาน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไม่ผา่ น(๐) ผา่ น(๑) ดี(๒) ดเี ยยี่ ม(๓) ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อ ไมต่ ้ังใจปฏิบตั ิหน้าที่ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบใน ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบใน ต้ังใจและรับผิดชอบใน การปฏบิ ตั หิ นา้ ทท่ี ี่ การงาน การปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ่ี การปฏบิ ัตหิ น้าท่ที ่ี การปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ี่ ได้รับมอบหมาย ไดร้ บั มอบหมายให้ ได้รับมอบหมายให้ ได้รับมอบหมายให้ ๖.๑.๒ ตง้ั ใจและ สาเรจ็ มกี ารปรบั ปรงุ สาเรจ็ มกี ารปรบั ปรุง สาเรจ็ มีการปรับปรงุ รับผิดชอบในการ และการทางานใหด้ ีขน้ึ และพัฒนาการทางาน และพัฒนาการทางาน ทางานใหส้ าเร็จ ให้ดีขึน้ ใหด้ ขี ้นึ ด้วยตนเอง ๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และ พฒั นาการทางานด้วย ตนเอง ตวั ช้วี ัดที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รและความอดทนเพื่อใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน(๐) ผ่าน(๑) ด(ี ๒) ดีเยีย่ ม(๓) ๖.๒.๑ ท่มุ เททางาน ไม่ขยัน อดทนในการ ทางานด้วยความขยนั ทางานด้วยความขยัน ทางานด้วยความขยัน อดทน และพยายาม อดทน และพยายาม อดทน และพยายาม อดทนไม่ย่อทอ้ ต่อ ทางาน ใหง้ านสาเร็จตาม ใหง้ านสาเร็จตาม ใหง้ านสาเร็จตาม เป้าหมาย และชืน่ ชม เปา้ หมาย ไมย่ ่อทอ้ ตอ่ เปา้ หมาย ภายในเวลา ปญั หาและอปุ สรรคใน ผลงานด้วยความ ปัญหาในการทางาน ทก่ี าหนดไมย่ อ่ ท้อตอ่ ภาคภูมใิ จ และชนื่ ชมผลงานด้วย ปัญหาในการทางาน การทางาน ความภาคภมู ใิ จ และช่นื ชมผลงานดว้ ย ความภาคภูมใิ จ ๖.๒.๒ พยายาม แก้ปญั หาและอุปสรรค ในการ ๖.๒.๓ ชน่ื ชมผลงาน ด้วยความภาคภมู ิใจ

- ๕๖ - เกณฑพ์ ิจารณาสรุปผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ขอ้ ท่ี ๖ มุ่งม่ันในการทางาน ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดเี ยยี่ ม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดเี ยีย่ ม ทกุ ตัวชวี้ ัด หรอื ดี (๒) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดเี ยย่ี ม และดี ระดบั ละ ๑ ตวั ชว้ี ัด ผ่าน (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี ทกุ ตวั ชี้วัด หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ ม และระดับผา่ น ระดบั ละ ๑ ตัวชี้วดั ไมผ่ า่ น (๐) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ผา่ น ทกุ ตัวช้ีวัด หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี และระดับผา่ น ระดับละ ๑ ตัวชี้วัด มีผลการประเมนิ ตวั ช้ีวดั ขอ้ ใดข้อหนง่ึ ไดร้ ะดับ ไมผ่ ่าน

- ๕๗ - แบบประเมินการนาเสนอผลงาน/อภปิ รายหนา้ ห้อง เรอ่ื ง.......................................................................... กลมุ่ ...........................................ห้อง......................................... สมาชิก ๑........................................................................................................................................................................... ๒........................................................................................................................................................................... ๓........................................................................................................................................................................... คาช้แี จง : ใหท้ าเครือ่ งหมาย √ ในช่องวา่ งท่กี าหนดให้ √ ประเมินตนเอง รายการประเมนิ พฤติกรรมบง่ ช้ี รวม ๕๔๓๒๑ ๑. มีการวางแผนการทางาน ๒. มีความพร้อมในการนาเสนอ ๓. ความน่าสนใจในการนาเสนอ ๔. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ๕. ประโยชน์-ความถูกต้องของงานนาเสนอ √ เพ่อื นประเมนิ รายการประเมิน พฤตกิ รรมบ่งชี้ รวม ๕๔๓๒๑ ๑. มีการวางแผนการทางาน ๒. มีความพรอ้ มในการนาเสนอ ๓. ความนา่ สนใจในการนาเสนอ ๔. มีความคิดสรา้ งสรรค์ ๕. ประโยชน์-ความถูกตอ้ งของงานนาเสนอ เกณฑ์การประเมนิ ๔ ๓ ๒๑ ดี ปานกลาง น้อย ตอ้ งปรับปรุง ๕ ดมี าก ลงช่อื ..................................ผูป้ ระเมนิ ลงชือ่ ..................................ผ้ปู ร ะเมนิ

- ๕๘ - เกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน รายการประเมนิ ๕ ๔ คะแนน ๐ ๑. ผลงานตรงกบั ผลงาน ไม่ทาผลงาน จุดประสงคท์ ่ีกาหนด สอดคล้องกับ ผลงาน ๓๒๑ ไม่ทาผลงาน จดุ ประสงค์ทุก สอดคลอ้ งกบั ไม่ทาผลงาน ๒. ผลงานมคี วาม ประเด็นมาก จุดประสงค์ทุก ผลงาน ผลงาน ผลงานไม่ ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ทีส่ ุด ประเด็น สอดคลอ้ งกับ สอดคล้องกบั สอดคลอ้ งกับ ไมท่ าผลงาน เน้ือหาสาระ จดุ ประสงคเ์ ป็น จดุ ประสงค์บาง จุดประสงค์ ๓. ผลงานมีความคดิ ของผลงาน สว่ นใหญ่ ประเด็น ไมท่ าผลงาน สร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นดี เนื้อหาสาระ เนอ้ื หาสาระ เนอ้ื หาสาระ เน้ือหาสาระ ๔. ผลงานมีความเป็น เยยี่ ม ของผลงาน ของผลงาน ของผลงาน ของผลงานไม่ ระเบียบ ผลงานมี ถูกต้อง ถูกตอ้ งเปน็ ถกู ต้องเป็นบาง ถูกตอ้ งเปน็ ความคิด ครบถ้วน ส่วนใหญ่ ประเด็น ส่วนใหญ่ ๕. ผลงานเสรจ็ ตาม สร้างสรรค์ เวลาทีก่ าหนด แปลกใหม่และ ผลงานมี ผลงานมี ผลงานมีความ ผลงานไม่ เป็นระบบมาก ความคดิ ความคดิ นา่ สนใจ แตย่ งั นา่ สนใจไมม่ ี ที่สดุ สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ แต่ ไม่มีความคดิ ความคดิ ผลงานทม่ี ี แปลกใหมแ่ ละ ยังไมเ่ ปน็ ระบบ สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ ความเป็น เป็นระบบ แปลกใหม่ แปลกใหม่ ระเบยี บ แสดงออกถงึ ผลงานมีความ ผลงานสว่ น ผลงานมีความ ผลงานสว่ น ความประณีต เป็นระเบียบ ใหญ่มคี วาม เปน็ ระเบียบ ใหญ่ไมเ่ ป็น แสดงออกถึง เปน็ ระเบียบ แตม่ ี ระเบียบและมี สง่ ผลงานตาม ความประณตี แต่ยังมี ขอ้ บกพรอ่ ง ขอ้ บกพรอ่ ง เวลาทก่ี าหนด ข้อบกพร่อง บางส่วน ที่สดุ สง่ ผลงานตาม เล็กนอ้ ย เวลาทก่ี าหนด สง่ ผลงานชา้ สง่ ผลงานช้า ส่งผลงานชา้ กวา่ เวลาที่ กวา่ เวลาที่ กว่าเวลาที่ กาหนด กาหนด เกนิ ๕ กาหนด ๓-๕ วนั วนั ขน้ึ ไป ๑-๒ วัน

- ๕๙ - แผนการจดั การเรียนรู้ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๒ ช่ัวโมง หน่วยที่ ๒ ชื่อหน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง การสอบและการเลอื กตงั้ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผูล้ ะอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถปฏิบัติตนในการสอบได้อย่างถูกต้อง ๒.๒ นกั เรียนเข้ารว่ มกจิ กรรมการเลอื กตั้งดว้ ยความซอ่ื สัตย์สจุ รติ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ปฏบิ ตั ิตนในการสอบ ๒) กิจกรรมการเลอื กต้งั ดว้ ยความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร - ฟงั พูด อ่าน เขียน ๒) ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ / ค่านิยม ๑) ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑) ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นถึงคนท่ีชอบลอกข้อสอบเพื่อน / คนท่ีจดข้อสอบเข้าห้องสอบ มี ลักษณะเป็นคนอย่างไร ทาไมจึงเป็นเช่นนั้น ๒) ครูพูดถึงความมีวินัยในการสอบและการไม่เลือกต้ังเราควรจะต้องยึดกฎระเบียบของการสอบ และการ เลอื กต้ังให้ถกู ตอ้ งไมส่ รา้ งความเดือดรอ้ นกับสังคม และประเทศชาติ ๓) ครแู บง่ กลมุ่ นักเรียน ๒ กลมุ่ ไปศึกษาค้นคว้าหัวข้อตอ่ ไป ๓.๑ การสอบกับการทจุ รติ ๓.๒. การเลือกตัง้ กับการทุจรติ ๔) นักเรียนส่งตัวแทนออกมาจับฉลากหัวข้อจากนั้นนักเรียนแต่ละกลุ่มรวมกันวางแผนการไป ศกึ ษา คน้ ควา้ จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ เช่น อนิ เตอร์เน็ต ห้องสมุด ฯลฯ มาเขยี นลงในกระดาษ Flip Chart

- ๖๐ - ๒) ช่ัวโมงที่ ๒ ๑) แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนแล้วนาผลงานไปจัดป้ายนิเทศของโรงเรียน เพ่อื ให้ นกั เรยี นชนั้ ตา่ งๆ ได้มาศกึ ษาเรียนรู้ และนาไปปฏิบัติเพ่อื จะไดล้ ดละการทจุ รติ ต่อไป ๒) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปข้อดีของการไม่ลอกข้อสอบและการไม่รับสินบนจากการไปใช้สิทธ์ิ ในการ เลือกตัง้ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นนาไปปฏบิ ัตใิ นชีวิตประจาวนั ต่อไป ๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) กระดาษ Flip Chart ๒) สีไม้,สีชอล์ก ๓) ส่อื จากอินเตอรเ์ น็ต ๔) ห้องสมุด / แหลง่ เรยี นรู้อ่ืนๆ ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตริ ายบคุ คล ๓) สงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานกลมุ่ ๔) ตรวจการนาเสนอผลงาน ๕.๒ เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล ๓) แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานกลมุ่ ๔) แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ระดบั ดขี ้ึนไป ๖. บันทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ลงชือ่ ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)

- ๖๑ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิงานกลุ่ม กลุ่ม............ช้ัน............ พฤติกรรม ลาดับ ช่อื -สกลุ ความร่วมมือ การแสดงความ การรับฟังความ การมีสว่ นร่วมใน รวม ท่ี สมาชิกกลุ่ม คิดเห็น คดิ เหน็ การอภปิ ราย ๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การให้คะแนน หรอื ปฏิบตั ิบ่อยครง้ั ดมี าก = ๔ ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๙๐-๑๐๐ % หรือปฏิบตั ิบางครง้ั ดี = ๓ ประสิทธภิ าพอยใู่ นเกณฑ์ ๗๐-๘๙ % หรือปฏบิ ตั ิครง้ั เดียว ปานกลาง = ๒ ประสิทธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๕๐-๖๙ % หรือไมป่ ฏิบตั ิเลย ปรับปรุง = ๑ ประสิทธิภาพตา่ กวา่ เกณฑ์ ๕๐ % นกั เรียนตอ้ งผา่ นเกณฑ์การประเมิน ในระดับดี ประสิทธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ดี ๗๐-๘๙ % ลงช่อื ...................................................ผู้สงั เกต (...................................................) ............../.................../................

- ๖๒ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล (การอภิปรายแสดงความคิดเห็น) ที่ พฤติกรรม ความสนใจ การแสดงความ การตอบคาถาม การยอมรบั ฟงั ทางานตามท่ไี ดร้ บั หมาย คดิ เห็น ผอู้ น่ื มอบหมาย เหตุ ช่อื -สกุล ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การวดั ผล ให้คะแนนระดบั คุณภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดงั น้ี ดีมาก = ๔ สนใจฟัง ไมห่ ลบั ไม่พูดคยุ นอกประเดน็ มคี าถามที่ดี ตอบคาถามถูกตอ้ ง ทางานสง่ ครบตรงเวลา ดี = ๓ สนใจฟงั ไมห่ ลบั พูดคยุ นอกประเดน็ บา้ ง มีคาถาม ตอบคาถามถูกตอ้ ง ทางานส่ง ครบ ตรงเวลา ปานกลาง = ๒ สนใจฟัง ไมห่ ลับ พดู คุยนอกประเดน็ บา้ ง มคี าถาม ไม่ค่อยตอบคาถาม ทางานสง่ ครบตรงเวลาบา้ งไม่ตรงเวลาบ้าง ปรับปรงุ = ๑ สนใจฟัง ไม่หลบั พูดคุยนอกประเดน็ บ้าง ไม่มีการตงั้ คาถาม ไมต่ อบคาถาม ส่งงาน ไม่ครบครบ ไม่ตรงเวลา นกั เรยี นต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดบั ๒ จึงจะผ่าน ลงชอื่ ...................................................ผู้สงั เกต (...................................................) ............../.................../................

- ๖๓ - ตัวชว้ี ัด ๖.๑ ต้ังใจและรับผดิ ชอบหนา้ ทกี่ ารทางาน ๖.๒ ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพอ่ื ให้งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ตัวชี้วัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๖.๑ ตั้งใจและรับผดิ ชอบหน้าที่การทางาน ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ ่อการ ปฏบิ ตั หิ น้าท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายาม และอดทนเพ่อื ให้งาน ๖.๑.๒ ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเร็จ สาเรจ็ ตามเป้าหมาย ๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทางานด้วยตนเอง ๖.๒.๑ ท่มุ เททางาน อดทน ไมย่ อ่ ท้อต่อปญั หา และอุปสรรค ในการทางาน ๖.๒.๑ พยายามแกป้ ญั หาและอุปสรรคในการทางานให้ สาเรจ็ ๖.๒.๓ ชนื่ ชมผลงานด้วยความภมู ิใจ เกณฑ์การประเมิน ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ัติหน้าทกี่ ารงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน(๐) ผ่าน(๑) ดี(๒) ดีเยี่ยม(๓) ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ อ่ ไม่ต้ังใจปฏบิ ตั หิ น้าที่ ตง้ั ใจและรับผิดชอบใน ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบใน ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบใน การปฏิบตั หิ น้าทท่ี ี่ การงาน ได้รับมอบหมาย การปฏิบัตหิ นา้ ท่ีท่ี การปฏิบตั หิ น้าทที่ ่ี การปฏบิ ตั หิ นา้ ทที่ ่ี ๖.๑.๒ ต้งั ใจและ รบั ผิดชอบในการ ไดร้ บั มอบหมายให้ ไดร้ ับมอบหมายให้ ไดร้ ับมอบหมายให้ ทางานใหส้ าเรจ็ ๖.๑.๓ ปรับปรุงและ สาเรจ็ มีการปรับปรงุ สาเรจ็ มกี ารปรับปรุง สาเรจ็ มีการปรับปรุง พัฒนาการทางานด้วย ตนเอง และการทางานใหด้ ขี ึ้น และพฒั นาการทางาน และพฒั นาการทางาน ใหด้ ีข้นึ ใหด้ ีข้นึ ด้วยตนเอง

- ๖๔ - ตวั ชว้ี ัดท่ี ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรและความอดทนเพ่ือให้งานสาเรจ็ ตามเป้าหมาย พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น(๐) ผา่ น(๑) ด(ี ๒) ดเี ยยี่ ม(๓) ๖.๒.๑ ท่มุ เททางาน ไมข่ ยนั อดทนในการ ทางานด้วยความขยัน ทางานด้วยความขยนั ทางานด้วยความขยัน อดทน และพยายาม อดทน และพยายาม อดทน และพยายาม อดทนไม่ย่อทอ้ ตอ่ ทางาน ใหง้ านสาเร็จตาม ให้งานสาเรจ็ ตาม ใหง้ านสาเรจ็ ตาม เป้าหมาย และชื่นชม เปา้ หมาย ไม่ยอ่ ท้อตอ่ เป้าหมาย ภายในเวลา ปญั หาและอปุ สรรคใน ผลงานด้วยความ ปญั หาในการทางาน ทีก่ าหนดไมย่ อ่ ท้อตอ่ ภาคภมู ิใจ และชน่ื ชมผลงานดว้ ย ปญั หาในการทางาน การทางาน ความภาคภมู ใิ จ และช่นื ชมผลงานดว้ ย ความภาคภูมใิ จ ๖.๒.๒ พยายาม แกป้ ัญหาและอปุ สรรค ในการ ๖.๒.๓ ชื่นชมผลงาน ด้วยความภาคภมู ใิ จ เกณฑ์พิจารณาสรปุ ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ข้อที่ ๖ มุ่งมัน่ ในการทางาน ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดีเยยี่ ม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยีย่ ม ทุกตวั ชี้วัด หรือ ดี (๒) ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเย่ยี ม และดี ระดับละ ๑ ตวั ช้วี ัด ผา่ น (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี ทกุ ตวั ชี้วดั หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ ม และระดับผา่ น ระดับละ ๑ ตัวช้วี ดั ไมผ่ า่ น (๐) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น ทกุ ตวั ช้ีวัด หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี และระดบั ผ่าน ระดบั ละ ๑ ตวั ชว้ี ัด มีผลการประเมนิ ตัวช้วี ดั ขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ ไดร้ ะดบั ไมผ่ ่าน

- ๖๕ - แบบประเมินการนาเสนอผลงาน เรอื่ ง.......................................................................... กลมุ่ ...........................................ห้อง......................................... สมาชกิ ๑........................................................................................................................................................................... ๒........................................................................................................................................................................... ๓........................................................................................................................................................................... คาชแี้ จง : ใหท้ าเครือ่ งหมาย √ ในชอ่ ว่างทกี่ าหนดให้ √ ประเมินตนเอง รายการประเมิน พฤตกิ รรมบ่งชี้ รวม ๕๔๓๒๑ ๑. มกี ารวางแผนการทางาน ๒. มคี วามพรอ้ มในการนาเสนอ ๓. ความน่าสนใจในการนาเสนอ ๔. มคี วามคิดสร้างสรรค์ ๕. ประโยชน์-ความถกู ตอ้ งของงานนาเสนอ √ เพื่อนประเมนิ รายการประเมนิ พฤติกรรมบง่ ชี้ รวม ๕๔๓๒๑ ๑. มีการวางแผนการทางาน ๒. มคี วามพร้อมในการนาเสนอ ๓. ความน่าสนใจในการนาเสนอ ๔. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ๕. ประโยชน์-ความถูกตอ้ งของงานนาเสนอ เกณฑ์การประเมนิ ๔ ๓ ๒๑ ดี ปานกลาง นอ้ ย ตอ้ งปรับปรุง ๕ ดีมาก ลงช่อื ..................................ผ้ปู ระเมิน ลงช่ือ..................................ผปู้ ร ะเมนิ

- ๖๖ - เกณฑ์การใหค้ ะแนนผลงาน รายการประเมนิ ๕ ๔ คะแนน ๐ ๑. ผลงานตรงกับ ผลงาน ไม่ทาผลงาน จดุ ประสงคท์ ก่ี าหนด สอดคล้องกับ ผลงาน ๓๒๑ ไมท่ าผลงาน จดุ ประสงค์ทกุ สอดคล้องกบั ไม่ทาผลงาน ๒. ผลงานมคี วาม ประเดน็ มาก จดุ ประสงคท์ ุก ผลงาน ผลงาน ผลงานไม่ ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ท่สี ุด ประเด็น สอดคลอ้ งกับ สอดคล้องกบั สอดคล้องกับ ไม่ทาผลงาน เน้อื หาสาระ จุดประสงคเ์ ปน็ จดุ ประสงค์บาง จุดประสงค์ ๓. ผลงานมีความคดิ ของผลงาน ส่วนใหญ่ ประเด็น ไมท่ าผลงาน สร้างสรรค์ ถกู ต้อง ครบถ้วนดี เน้อื หาสาระ เน้ือหาสาระ เน้อื หาสาระ เนื้อหาสาระ ๔. ผลงานมีความเป็น เย่ียม ของผลงาน ของผลงาน ของผลงาน ของผลงานไม่ ระเบียบ ผลงานมี ถูกตอ้ ง ถกู ต้องเปน็ ถกู ตอ้ งเป็นบาง ถกู ตอ้ งเปน็ ความคิด ครบถว้ น สว่ นใหญ่ ประเดน็ ส่วนใหญ่ ๕. ผลงานเสรจ็ ตาม สรา้ งสรรค์ เวลาทก่ี าหนด แปลกใหม่และ ผลงานมี ผลงานมี ผลงานมีความ ผลงานไม่ เป็นระบบมาก ความคิด ความคดิ น่าสนใจ แตย่ งั น่าสนใจไมม่ ี ที่สดุ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ แต่ ไม่มีความคดิ ความคดิ ผลงานที่มี แปลกใหมแ่ ละ ยงั ไมเ่ ป็นระบบ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ ความเป็น เป็นระบบ แปลกใหม่ แปลกใหม่ ระเบียบ แสดงออกถึง ผลงานมคี วาม ผลงานส่วน ผลงานมคี วาม ผลงานส่วน ความประณตี เป็นระเบียบ ใหญ่มีความ เป็นระเบียบ ใหญไ่ มเ่ ปน็ แสดงออกถงึ เป็นระเบียบ แตม่ ี ระเบียบและมี สง่ ผลงานตาม ความประณีต แตย่ ังมี ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เวลาที่กาหนด ขอ้ บกพร่อง บางสว่ น ทส่ี ุด สง่ ผลงานตาม เล็กน้อย เวลาท่กี าหนด ส่งผลงานช้า ส่งผลงานช้า ส่งผลงานช้า กวา่ เวลาที่ กวา่ เวลาที่ กว่าเวลาที่ กาหนด กาหนด เกนิ ๕ กาหนด ๓-๕ วนั วันข้นึ ไป ๑-๒ วนั

- ๖๗ - แผนการจัดการเรียนรู้ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๒ ชวั่ โมง หนว่ ยที่ ๒ ชอื่ หน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เร่ือง การแต่งกาย ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ้ลู ะอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ แต่งกายได้ถูกต้องตามระเบียบของสถานศึกษา ๒.๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ (การแต่งกาย) ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต (การแต่งกาย) ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร - ฟงั พดู อา่ น เขยี น ๒) ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ ๓.๓ คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ค่านิยม ๑) วนิ ยั ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ช่ัวโมงท่ี ๑ ๑) ให้นกั เรยี นสารวจการแต่งกายของตนเอง ๒) ใหน้ กั เรยี นจัดกลุ่มกลมุ่ ละ ๒-๔ คน สารวจการแต่งกายของตนเองและเพ่อื นในกลุม่ เช่น เครื่องแบบ ผม ถุงเทา้ รองเทา้ เปน็ ตน้ ๓) แต่ละกลุม่ มานาเสนอความเหมือนและความแตกต่างของเครื่องแบบของตนกับเพื่อน ๔) ครูนาเสนอภาพการแต่งกายชุดเคร่ืองแบบนักเรียนชาย-หญิงตามระเบียบสถานศึกษา ๕) นกั เรียนปฏิบัติตนในการแตง่ กายชุดเคร่ืองแบบนักเรียนใหถ้ กู ต้องตามระเบยี บสถานศึกษา ๖) ครตู รวจสอบการแต่งกายของนักเรยี นทกุ วนั ๒) ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑) ครใู ห้นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เร่อื ง การแตง่ กาย ๒) ครใู หน้ ักเรยี นบอกความแตกตา่ งการแตง่ กายของเคร่อื งแบบนักเรียน , เครือ่ งแบบลกู เสือ-เนตร นารี , เคร่ืองแบบยุวกาชาด , ชดุ พละ จากใบงานเรอ่ื งการแตง่ กาย ๓) นกั เรียนปฏบิ ตั ิตนในการแต่งกายชุดเคร่ืองแบบนักเรียนใหถ้ ูกต้องตามระเบียบสถานศึกษา ๔) ครตู รวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมในการแต่งกายของนักเรียน

- ๖๘ - ๕) ครูให้นักเรียนอภิปรายความแตกต่างระหว่างการแต่งกายถูกต้องตามระเบียบสถานศึกษากับ การแต่งการไม่ถูกต้องตามระเบยี บสถานศึกษา เกิดผลดีและผลเสียอย่างไร ๖) นกั เรียนและครูร่วมกันสรปุ ว่า “นักเรยี นท่ีแต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบสถานศกึ ษาถือว่าเป็นผู้ที่ มี ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต (แต่งกายผิดระเบียบของสถานศึกษา) ส่วนนักเรียนท่ีแต่งกายไม่ถูก ระเบียบของสถานศึกษา ถือว่า เป็นผู้ไม่มีความละอายและเป็นผู้ทุจริตเก่ียวกับการแต่งกาย ซึ่งควรปรับปรุง แกไ้ ขเก่ยี วกบั การแตง่ กายใหถ้ กู ต้อง” ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ใบความรู้ เรื่อง ภาพการแตง่ กายนักเรียนชาย-หญิง ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตามระเบยี บ ของสถานศกึ ษา เช่น ภาพเคร่ืองแบบนักเรียน , เครอื่ งแบบลกู เสอื -เนตรนารี , ภาพเครื่องแบบยุวกาชาด , ภาพเครื่องแบบชดุ พละ ๒) ใบงาน เร่ือง การแตง่ กาย ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑) ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เร่อื ง การแตง่ กาย ๒) ครสู ังเกตพฤติกรรมใฝ่เรียนรู้ของนักเรยี น ๕.๒ เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง การแตง่ กาย ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ ๑) นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ดี ข้นึ ไป ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ลงชือ่ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๖๙ - 7. ภาคผนวก ใบความรู้ เรอื่ ง ภาพการแตง่ กายนกั เรยี นชาย-หญงิ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ตามระเบียบของสถานศึกษา เช่น ภาพเคร่ืองแบบนกั เรยี น, เครือ่ งแบบลกู เสือ-เนตรนารี, ภาพเครอ่ื งแบบ ยุวกาชาด, ภาพเคร่อื งแบบ ชดุ พละ ขึ้นอย่กู ับการแตง่ กายของสถานศึกษาแตล่ ะแห่งทกี่ าหนดไว้

- ๗๐ - ใบงาน เรือ่ ง การแต่งกาย คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. การแตง่ กายเคร่ืองแบบนกั เรยี นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ............................................................................... ๒. การแต่งกายเครื่องแบบลูกเสือเนตรนารี ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ๓. การแตง่ กายเครื่องแบบยุวกาชาด ............................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................................ ........... ๔. การแตง่ กายชดุ พละ .................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................... ........................

- ๗๑ - ใบงาน เรอ่ื ง การแต่งกาย (เฉลย) คาช้ีแจง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี ๑. การแต่งกายเครอ่ื งแบบนักเรียนมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ขึน้ อยูก่ ับดลุ พินิจของครูผสู้ อน ๒. การแต่งกายเครอ่ื งแบบลกู เสือเนตรนารี ขนึ้ อย่กู ับดุลพินิจของครผู ู้สอน ๓. การแตง่ กายเคร่ืองแบบนักเรยี นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ขึ้นอยู่กับดลุ พนิ จิ ของครูผสู้ อน ๔. การแต่งกายชดุ พละ ขน้ึ อยกู่ ับดลุ พนิ จิ ของครผู ู้สอน

- ๗๒ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม วินัย คาชีแ้ จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน แตง่ กายถกู แตง่ กายสุภาพ แตง่ กายสภุ าพ รวม สรุป ระเบียบ เรียบร้อย เรยี บร้อย คะแนน ลาดับที่ ชอ่ื -สกลุ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ระดับคุณภาพ ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ดีเยยี่ ม (...................................................) ดี ............../.................../................ ผา่ น ไมผ่ า่ น เกณฑ์การตดั สนิ ไดค้ ะแนน ๗-๙ คะแนน ได้คะแนน ๕-๖ คะแนน ไดค้ ะแนน ๓-๔ คะแนน ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน

- ๗๓ - แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอื่ ง การแตง่ กาย คาชีแ้ จง : ครูให้คะแนนการตรวจผลงานนกั เรียน แล้วขดี  ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน ลาดับ รายการประเมิน รวม ที่ ชื่อ-สกลุ รปู แบบผลงาน ภาษา เนื้อหา เวลา ๑๖ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน (..................................................) ............../.................../................ เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดีเยี่ยม คะแนน ๑๐-๑๓ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถงึ ไม่ผ่าน

- ๗๔ - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๔ เร่อื ง เขา้ แถว เวลา ๑ ชัว่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบัติตนเป็นผ้ลู ะอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทุกรูปแบบ ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับความละอายต่อการไมเ่ ข้าแถว ๒.๒ นกั เรียนปฏิบัตติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทจุ ริตในเรื่องการเข้าแถว ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ (การเขา้ แถว) ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร - ฟัง พูด อา่ น เขียน ๒) ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ ๓.๓ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ค่านยิ ม ๑) ใฝเ่ รยี นรู้ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชว่ั โมงที่ ๑ ๑) ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนร้ใู หก้ ับนกั เรยี นทราบและ ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น ๕ กลุม่ กลุ่มละ เทา่ ๆ กนั ๒) ครถู ามนักเรยี นว่า “สาเหตขุ องการละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ (การเขา้ แถว) เน่ืองมาจาก อะไร” ๓) ครูให้นกั เรียนชมคลปิ วดิ ีโอจาก YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=H1lsvIVVdEg “เรือ่ ง มนตย์ ้ิมเดลี.่ ..คนดีไม่คอร์รปั ชั่น” ตอน “เขา้ แถว” ๔) ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันอภิปราย จากการรับชมสือ่ จาก YouTube ๕) ครูสรุปผลการอภิปรายให้นกั เรียนเข้าใจ ๒) ช่วั โมงที่ ๒ ๑) ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ เรือ่ ง ความละอายและความไม่คงทนต่อการทจุ รติ (การเข้าแถว) ๒) ใหน้ ักเรียนชม YouTube เร่ืองการเข้าแถว ๓) ครใู หน้ กั เรียนทาใบงานจาก YouTube โดยสรุปเรอ่ื งที่ได้จาก YouTube การเขา้ แถว

- ๗๕ - ๔) นักเรียนอภิปราย เรื่องการเขา้ แถว ท่ีได้จากการชม YouTube ว่า ๔.๑ การเข้าแถวเปน็ อย่างไร ๔.๒ เกดิ ผลดหี รือผลเสียอยา่ งไร ๔.๓ นักเรยี นควรนาตวั อย่างการเข้าแถวปฏิบตั ใิ นชวี ติ ประจาวันหรือไม่ เพราะเหตุใด ๕) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับการเข้าแถวว่า “ต้องเข้าแถวให้เป็นระเบียบ ไม่แซงคิวคน อน่ื เข้าแถวให้ตรง” ๖) นักเรียนปฏิบัติตนในการเข้าแถวให้ถูกระเบียบ ครูตรวจการปฏิบัติตนในการเข้าแถวของ นักเรียน ๗) ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกบั ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต (การเข้าแถว) ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) สื่อจาก YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=H1lsvIVVdEg “เรอื่ ง มนต์ยิม้ เดล.ี่ .. คนดีไม่คอรร์ ปั ชั่น” ตอน “เข้าแถว” ๒) ใบงาน เร่ือง ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต (การเขา้ แถว) ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจผลงานการทาใบงาน เร่ือง ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ (การเข้าแถว) ๒) สังเกตพฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ของนักเรยี น ๓) สงั เกตการปฏบิ ตั ติ นในการเขา้ แถวของนักเรยี น ๕.๒ เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรื่อง ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต (การเข้าแถว) ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมใฝ่เรียนรู้ ๓) แบบสงั เกตการปฏิบัตติ นในการเข้าแถวของนักเรยี น ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ ๑) นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ข้นึ ไป ๖. บันทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๗๖ - 7. ภาคผนวก ใบงาน เรื่อง ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต (การเข้าแถว) คาชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. ใหน้ ักเรยี นสรปุ จากการชมสอ่ื YouTube เรื่องการเข้าแถว ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ............................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ....................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................................. .......... ........................................................................................................................ ............................................... ............................................................................................................................. ..........................................

- ๗๗ - ใบงาน (เฉลย) เรื่อง ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต (การเขา้ แถว) คาช้ีแจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. ให้นกั เรียนสรุปจากการชมส่อื YouTube เรือ่ งการเขา้ แถว ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................ข...ึน้ ..อ...ย..ู่ก..ับ...ด...ล..พ...ิน..ิจ...ข..อ..ง..ค...ร..ูผ..สู้..อ...น................................................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ....................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................ ....................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................................................. .......... ........................................................................................................................ ............................................... ............................................................................................................................. ..........................................

- ๗๘ - แบบให้คะแนนการปฏบิ ตั ติ น เร่อื ง การเขา้ แถว คาชี้แจง : ครูใหค้ ะแนนการตรวจผลงานนกั เรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน ลาดบั ชือ่ -สกลุ เข้าแถวเป็น รายการประเมนิ เข้าแถวตรง รวม ท่ี ระเบียบ ไมแ่ ซงคิว เขา้ แถวตรง เวลา ๑๖ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ (..................................................) ............../.................../................ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถึง ดีเยยี่ ม คะแนน ๑๐-๑๓ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถงึ ไมผ่ ่าน

- ๗๙ - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๒ ช่ือหน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ เร่อื ง กจิ กรรมนักเรียน (ชุมนุม) เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบัติตนเป็นผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถอธบิ ายความรบั ผดิ ชอบในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมนักเรียนของชมุ ชนได้ ๒.๒ นกั เรียนมีความตระหนักและมีความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความรบั ผดิ ชอบในการเขา้ รว่ มกิจกรรมนักเรียนของชุมชน ๒) ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต กจิ กรรมนกั เรยี น (ชมุ นมุ ) ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร - ฟงั พดู เขยี น ๒) ความสามารถในการคดิ - คิดวิเคราะห์ ๓.๓ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑) ใฝเ่ รยี นรู้ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ชว่ั โมงที่ ๑ ๑) ครูเกร่ินนากับนกั เรยี นโดยใชค้ าถาม เช่น โรงเรียนของเรามีกิจกรรมอะไรท่ีมีชุมชนเข้ามา มสี ่วน รว่ ม และโรงเรียนของเรา มีส่วนรว่ มกบั กจิ กรรมของชุมชนอยา่ งไร ๒) ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมในกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นเกีย่ วกับชมุ ชน แตล่ ะกิจกรรมทโ่ี รงเรยี นจดั ลว้ นมี ความสาคญั ดังนั้น นักเรียนทุกคนควรเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้ง ๓) ครตู ้งั ประเด็นคาถามใหน้ กั เรยี นทาลงในใบงาน ว่าหากนักเรียนคนใดไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่ จดั ขึ้น ตอ่ ชุมชน นกั เรยี นจะไดร้ บั ผลกระทบหรือผลเสยี อย่างไรบา้ ง และนกั เรยี นมวี ธิ แี ก้ปัญหาการไม่เข้าร่วมกิจกรรม นกั เรียนอยา่ งไรบ้าง ๔) นักเรียนเขียนช่ือชุมนุม/ชมรมท่ีมีในโรงเรียนว่ามีชุมนุมอะไรบ้างและชุมนุมมีจุดประสงค์ และ กิจกรรมอะไรบา้ ง ๕) นกั เรียนที่ไมเ่ ขา้ ร่วมชุมนุมถือวา่ เป็นคนอย่างไร และควรมีการลงโทษอย่างไร โดยนกั เรยี น ร่วมกนั อภปิ ราย

- ๘๐ - ๖) ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปว่านักเรยี นท่ไี ม่เข้าชมุ นุมถอื ว่าความละอายและความไม่ทนต่อ การทจุ รติ ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) รูปภาพกจิ กรรมต่างๆ ๒) ใบงาน เรือ่ ง ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต กจิ กรรมนักเรียน (ชุมชน) ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เร่ือง ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ กิจกรรมนักเรยี น (ชมุ ชน) ๒) ครสู งั เกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้ของนักเรยี น ๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการประเมนิ ๑) แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เร่อื ง ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต กิจกรรม นกั เรียน (ชุมชน) ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน ๑) นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินไดค้ ะแนนระดบั ดขี ้นึ ไป ๖. บันทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ........................... ลงช่ือ ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)

- ๘๑ - แบบสังเกตพฤติกรรม ใฝ่เรียนรู้ คาชแี้ จง : ให้ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน แสวงหาข้อมูล มกี ารจดบันทึก สรปุ ความรู้ได้ รวม สรปุ จากแหล่ง ความรูอ้ ยา่ ง อยา่ งมเี หตุผล คะแนน ลาดับที่ ช่ือ-สกลุ การเรียนร้ตู ่างๆ เป็นระบบ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ ๓๒๑๓๒๑ ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ (...................................................) ............../.................../................ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสนิ ดเี ย่ยี ม ไดค้ ะแนน ๗-๙ คะแนน ดี ได้คะแนน ๕-๖ คะแนน ผ่าน ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน ไม่ผา่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน

- ๘๒ - 7. ภาคผนวก ใบงาน เรือ่ ง ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ให้นักเรียนตอบคาถาม ดังต่อไปน้ี ๑) นักเรยี นมีความรับผิดชอบในชุมนุมของตนเองอย่างไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ๒) เมอ่ื นกั เรยี นพบเหน็ เพ่ือนตนเองไม่เข้ารว่ มชุมนุมนกั เรียนจะมีวิธีการบอกแนะนาเพื่อนอย่างไรและมี บทลงโทษ อยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๓) กจิ กรรมชมุ นมุ ของนกั เรียนมปี ระโยชน์ต่อตนเองและสงั คมอยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................

- ๘๓ - หน่วยท่ี ๓ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ รติ

- ๘๔ - แผนการจดั การเรียนรู้ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ หนว่ ยท่ี ๓ ช่อื หน่วย STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจรติ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง ความพอเพยี ง เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจริต ๒. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้ท่ี STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของคาวา่ พอเพยี งได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถนาหลกั ความพอเพยี งมาใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ 1. ความหมายคาว่าความพอเพยี ง 2. ยกตัวอยา่ งพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความพอเพียง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ ) ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร (อา่ น ฟัง พดู เขยี น) ๒) ความสามารถในการคดิ (วเิ คราะห์ จัดกลมุ่ สรปุ ) ๓.๓ คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / คา่ นิยม อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑) ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกับ คาว่า พอเพยี ง และการนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เปน็ การสร้างภูมคิ มุ้ กนั หา่ งไกลจากการทุจริต ๒) ครใู ห้นกั เรียนชม วดี ีโอ เร่ือง “พอเท่ากับดี” จากนั้นให้นักเรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม กลุ่ม ละ ๔-๕ คน ช่วยกนั อภปิ รายประเดน็ และร่มกันเขยี นผังความคิด ๓) ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น โดยครผู สู้ อนเปน็ ผู้สรุปอธิบายเพม่ิ เติม ชว่ั โมงที่ ๒ 1) ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน อภิปราย 2) ครูให้นักเรียนตอบคาถามในใบงาน เรือ่ ง ความพอเพยี ง และปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 3) ครู และนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้ ได้วา่ “ความพอเพียงถือเปน็ ภูมิคุม้ กันทีด่ ีในการดารงชวี ติ อย่างมีจริยธรรมเป็นผ้ทู ห่ี ่างไกลและละอายต่อการทจุ รติ ” ๔.๒ สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) วดี ิทัศนเ์ รือ่ ง พอเท่ากบั ดี ๒) ใบความรู้ เร่อื ง เศรษฐกิจพอเพยี ง

- ๘๕ - ๓) ใบงาน เรื่อง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน - ครูตรวจผลงานการทาใบงาน เรื่อง ความพอเพียง และปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง - ครูสงั เกตพฤตกิ รรมอยู่อย่างพอเพยี งของนักเรยี น ๕.๒ เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน - แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ความพอเพยี ง และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมอยู่อย่างพอเพียง ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดีข้นึ ไป ๖. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - ๘๖ - ใบความรู้ เรอื่ ง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพยี ง “เศรษฐกจิ พอเพียง” เปน็ ปรัชญาทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ในรัชกาลท่ี 9 ทรงมพี ระ ราชดารัสชีแ้ นะแนวทาง การดารัสชแี้ นะแนวทาง การดาเนินชีวิตแกพ่ สกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนาน กว่า ๓0 ปี ตงั้ แต่ก่อนเกดิ วกิ ฤตการณ์ทางเศรษฐกจิ และเม่อื ภายหลงั ได้ทรงเน้นยา้ แนวทางแก้ไข เพอ่ื ใหร้ อดพ้น และสามารถดารงอยู่ไดอ้ ยา่ งมั่นคงและย่ังยืน ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ัตน์ และความ เปล่ยี นแปลงต่าง ๆ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แนวคดิ หลกั เปน็ ปรชั ญาท่ีชีแ้ นวทางการดารงอย่แู ละปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดับตั้งแต่ระดบั ครอบครวั ระดับชุมชน จนถงึ ระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศใหด้ าเนนิ ไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ เพอื่ ให้ก้าวทนั ต่อโลกยคุ โลกาภิวตั น์ เป้าหมาย มงุ่ ให้เกิดความสมดุลพรอ้ มรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ และกวา้ งขวาง ทั้งทาง เศรษฐกจิ สงั คม สงิ่ แวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เปน็ อย่างดี หลกั การ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสร้างภูมิค้มุ กันท่ีดใี นตัว พอสมควรต่อการมผี ลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลย่ี นแปลงทัง้ ภายนอกและภายใน เงื่อนไขพน้ื ฐาน - จะตอ้ งอาศยั ความรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอยา่ งย่ิง ในการนาวิชาการ ต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และการดาเนินการทุกข้นั ตอน - การเสรมิ สรา้ งจิตใจของตนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หน้าที่ของรัฐ นกั ทฤษฎแี ละนักธรุ กิจในทุก ระดบั ให้สานึกคุณธรรม ความซ่ือสตั ย์ สจุ รติ และให้มคี วามรอบร้ทู เี่ หมาะสม ดาเนินชวี ิตด้วยความ อดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ

- ๘๗ - นยิ ามของความพอเพียง ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีท่ีไม่น้อยเกนิ ไป และไมม่ ากเกินไป โดยไม่ เบียดเบียนตนเองและผู้อน่ื เชน่ การผลติ และการบริโภคท่ีอย่ใู นระดับพอประมาณ ความมเี หตุผล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกีย่ วกบั ความพอเพยี งนน้ั จะต้องเปน็ ไปอยา่ งมี เหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตุปัจจยั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ตลอดจนคานงึ ถึงผลทคี่ าดวา่ จะเกิดจาก การกระทานนั้ ๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคมุ้ กันในตัวทดี่ ี หมายถงึ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และความเส่ยี ง จากการเปล่ยี นแปลงดา้ นตา่ ง ๆ ท่คี าดวา่ จะเกดิ ข้นึ ในอนาคตทั้งใกล้และไกล เงอ่ื นไขเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความพอเพียง การตัดสนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมต่าง ๆ ให้พอเพียงต้องอาศัยท้ังความรู้ และคุณธรรม พืน้ ฐาน เง่อื นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ ก่ยี วกับวชิ าการต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องอย่างรอบ ดา้ นความรอบคอบทจ่ี ะนาความรเู้ หล่าน้นั มาพิจารณาใหเ้ ช่ือมโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบตั ิ เงอ่ื นไขคุณธรรม ที่จะต้องเสรมิ สรา้ ง ประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม เช่น มีความซื่อสัตยส์ ุจรติ ความอดทน ความเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนนิ ชวี ิต ทีม่ า : สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาต,ิ หนังสือเศรษฐกิจพอเพยี งคืออะไร ๒๕๔๙. หมายเหตุ ศกึ ษาข้อมลู เพิม่ เติม ศูนย์สถานศึกษาพอเพยี ง มูลนิธยิ ุวสดิรคณุ เวบ็ ไซต์

- ๘๘ - ใบงาน คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นชมวดี ิโอ เร่ือง “พอเท่ากบั ดี” จากนน้ั ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม กลุ่มละ 4- 5 คน ชว่ ยกันอภปิ รายและร่มกันเขียนแผนผงั ความคดิ

- ๘๙ - แบบประเมนิ แผนผงั ความคิด รายการประเมนิ ท่ี กลุ่มที่ มคี วามถกู ตอ้ ง การใช้ภาษา การลาดบั เนือ้ หา ความเรยี บร้อย การคดิ วิเคราะห์ รวม ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔ ๓๒ ๑ 20 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ( ลงชอื่ ).........................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน เท่ากบั ดีมาก (.....................................................) 3 คะแนน เทา่ กบั ดี .............../................./.................... 2 คะแนน เท่ากับ พอใช้ 1 คะแนน เท่ากบั ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 16-20 คะแนน เท่ากบั ดีมาก 11-15 คะแนน เท่ากับ ดี 6-10 คะแนน เท่ากับ พอใช้ 1-5 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ

- ๙๐ - ใบงาน เรื่อง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นศึกษาใบความรู้ เรือ่ ง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง แล้ววิเคราะห์ แนวทางการดาเนนิ ชีวิตใหส้ อดคลอ้ งกบั แนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑. ความพอประมาณ ด้านการเรียน อา่ นหนังสือพอประมาณแก่วัยและเวลา (ตวั อย่างการตอบคาถาม) ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ๒. ความมีเหตผุ ล ...................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ๓. มภี มู ิคุ้มกันท่ีดีในตวั ที่ดี ..................................................................................................... .................................................................. ....... ................................................................................................... ........................................................................... ๔. เงอื่ นไขความรู้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๕. เงื่อนไขคุณธรรม .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๖. ให้นกั เรยี นเขียนสรุปแนวทางการดาเนนิ ชีวติ ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง - ดา้ นวตั ถุ เชน่ การออมเงนิ .............................................................................................................................................................................. - ด้านสังคม ................................................................................................. ............................................................................. - ด้านสิง่ แวดล้อม ........................................................................................ ...................................................................................... - ด้านวัฒนธรรม ..............................................................................................................................................................................

- ๙๑ - เฉลย ใบงาน เรื่อง ความพอเพียงและ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คาช้ีแจง : นกั เรียนวิเคราะห์แนวทางการดาเนินชวี ิตใหส้ อดคลอ้ งกบั แนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวคาตอบ ๑. ความพอประมาณ เช่น ดา้ นการเรียน อา่ นหนังสอื พอประมาณแกว่ ัยและเวลา ดา้ นสขุ ภาพ อย่าอา่ นหนงั สือดกึ ให้พักผ่อนให้พอเพยี ง ดา้ นกีฬา เลน่ กีฬาที่ตนเองชอบและถนัด ๒. ความมเี หตุผล เชน่ การใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั รูจ้ ักลาดับความสาคญั ของการใชเ้ งิน การทาบญั ชรี ายรบั - รายจา่ ย การอดอออม ๓. มีภูมคิ ุ้มกันท่ีดีในตัวท่ดี ี เช่น การวางแผนการอ่านหนงั สือ เพ่ือเตรยี มตัวสอบ การปลกู ต้นไม้เพื่ออนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ ๔. เงื่อนไขความรู้ มคี วามรเู้ กยี่ วกบั วิชาการต่าง ๆ เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวัน สามารถอยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ่ืนได้อย่างมีความสุข ๕. เงื่อนไขคุณธรรม การเป็นคนดี ประพฤติตนตามหลกั ธรรม เช่น มีความรบั ผิดชอบ มีความซือ่ สตั ยส์ ุจรติ ขยนั มีความรอบคอบ ๖. ให้นกั เรยี นเขียนสรุปแนวทางการดาเนนิ ชีวิตตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง - ด้านวตั ถุ เช่น การออมเงนิ การทาบัญชีรายรบั -รายจ่าย - ด้านสังคม เชน่ จิตอาสา ชว่ ยเหลือผู้ด้อยโอกาส - ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม เช่น อนุรกั ษต์ น้ น้า ปลกู /ฟน้ื ฟปู ่า - ดา้ นวฒั นธรรม เชน่ การพดู ภาษาถิน่ อนุรักษ์อาหารท้องถ่ิน

- ๙๒ - แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (อยู่อยา่ งพอเพียง) คาช้ีแจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี นแล้วขดี  ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน รายการประเมิน ที่ ชอื่ - ใ ้ชทรัพ ์ยสินของตนเอง เ ่ชน สกลุ ส่ิงของเครื่องใ ้ช ฯลฯ อ ่ยาง ประห ัยด คุ้มค่า และเก็บรักษา ดูแลอ ่ยางดีและใ ้ชเวลาย่างคุ้มค่า ใ ้ชทรัพยากรของส่วนรวมอ ่ยาง ประหยัด คุ้มค่า และเ ็กบรักษา ดูแลอ ่ยาง ีด ปฏิบัติตนและ ัตดสินใจด้วยความ รอบคอบ มีเหตุผล ไม่เอาเปรียบผู้อ่ืน และไ ่มทาให้ ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อ ัภยเม่ือ ผู้อ่ืนกระทาผิดพลาด วางแผนการเรียน การทางาน และการใ ้ช ีชวิตประจาวัน บน พ้ืนฐานของความรู้ ้ขอ ูมลข่าวสาร รู้เท่า ัทนการเปล่ียนแปลงทาง สังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับละปรับตัว อ ู่ยร่วม ักบผู้อื่น ได้อย่าง ีมความสุข 432143214321432143214321 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ( ลงช่อื ).........................................................ผู้ประเมิน 4 คะแนน เท่ากบั ดีมาก (.....................................................) 3 คะแนน เท่ากบั ดี .............../................./.................... 2 คะแนน เท่ากบั พอใช้ 1 คะแนน เทา่ กบั ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ 15-24 คะแนน เทา่ กับ ดมี าก 13-14 คะแนน เท่ากบั ดี 7-12 คะแนน เทา่ กบั พอใช้ 1-6 คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรุง

- ๙๓ - แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ความพอเพยี ง และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คาชี้แจง : ครูให้คะแนนการตรวจผลงานนักเรียน แล้วขดี  ลงในช่องทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลาดบั รายการประเมนิ รวม ท่ี ชอ่ื -สกลุ รูปแบบผลงาน ภาษา เนือ้ หา เวลา ๑๖ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน (..................................................) ............../.................../................ เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดเี ยย่ี ม คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถงึ ผ่าน คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ไมผ่ ่าน

- ๙๔ - รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนนแบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เร่อื ง ความพอเพียง และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมิน ๔๓๒ ๑ ๑. รปู แบบผลงาน - มีสีสันสวยงาม - รปู แบบผลงาน - รูปแบบผลงาน - มีขนาดเหมาะสม สัมพันธก์ ับเน้ือหา ๒. ภาษา ถกู ต้องตามท่ี แปลกใหม่ - มีสีสนั สวยงาม - มีการใชภ้ าษา ๓. เนอื้ หา อย่างสรา้ งสรรค์ กาหนด - มีขนาดเหมาะสม สัมพันธ์กบั เนื้อหา ๔. เวลา - รายละเอียด - รูปแบบแปลกใหม่ - มสี ีสันสวยงาม ครอบคลุม - เน้ือหาสอดคล้อง นา่ สนใจ สมั พนั ธก์ ับเน้ือหา - มขี นาดเหมาะสม - มีสสี นั สวยงาม สัมพนั ธ์กบั เน้ือหา - มกี ารใช้ภาษา - สะกดคาถกู ต้อง - มกี ารเว้นวรรค อยา่ งถูกต้อง - มกี ารเว้นวรรค โดยไมฉ่ กี คา - สะกดคาถกู ต้อง โดยไมฉ่ กี คา - มกี ารใชภ้ าษา - มกี ารเว้นวรรค - มกี ารใช้ภาษา อย่างสรา้ งสรรค์ โดยไมฉ่ ีกคา อย่างสรา้ งสรรค์ - มกี ารใชภ้ าษา อยา่ งสร้างสรรค์ - เนอ้ื หาถูกต้อง - เนอ้ื หาตรงตาม - เน้ือหาเป็นไป - เนอ้ื หาตรงตาม หัวขอ้ เรอื่ ง ตามทก่ี าหนด หวั ขอ้ เรื่อง - เนื้อหาเปน็ ไป - รายละเอียด - เนอ้ื หาเป็นไป ตามทกี่ าหนด ครอบคลุม ตามทก่ี าหนด - รายละเอียด - เน้ือหาสอดคล้อง - รายละเอียด ครอบคลุม ครอบคลุม - เนอื้ หาสอดคล้อง - เนื้อหาสอดคล้อง - ส่งช้นิ งานภายใน - ส่งช้ินงานชา้ กวา่ เวลาท่กี าหนด กาหนด ๑ วัน

- ๙๕ - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๓ ชือ่ หน่วย STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๑ ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรือ่ ง ความโปรง่ ใส 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับ STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ 1.2 ปฏิบัตติ นเป็นผูท้ ่ี STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ คาวา่ ความโปร่งใส ได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถอธิบายและยกตวั อยา่ งพฤติกรรมทเ่ี กี่ยวกับความโปรง่ ใสได้ 3. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ 1. ความหมายของความโปร่งใส 2. ยกตัวอยา่ งพฤติกรรมที่เก่ียวกบั ความโปรง่ ใสได้ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กิด) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขยี น) ๒) ความสามารถในการคดิ (วิเคราะห์ สรปุ ) ๓.๓ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / คา่ นิยม ซือ่ สัตย์ สจุ ริต ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ ๑) ครตู ั้งคาถามใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกับความโปรง่ ใส ท่นี กั เรียนเคยพบเห็นใน ชวี ติ ประจาวัน ในประเดน็ ดงั ต่อไปนี้ - ความโปรง่ ใส หมายถึง - ถ้าไม่โปร่งใสประเทศชาติจะเป็นอยา่ งไร - มพี ฤติกรรมอะไรบ้างทแ่ี สดงถงึ ความโปรง่ ใส - ความโปรง่ ใส มผี ลดตี อ่ ประเทศชาตอิ ยา่ งไร ๒) ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกนั ประมาณ ๕-๘ คน ศกึ ษาใบความรู้ เร่ือง ความ โปร่งใส ๓) ครูใหน้ ักเรียนดวู ดี โิ อ เร่ือง “ลองใจครสู าว” และให้แต่กลุ่มอภปิ รายรว่ มกนั สรปุ เปน็ ผัง ความคดิ แสดงให้เห็นพฤตกิ รรมทเี่ กดิ จากครสู าวท่ีแสดงถึงความโปร่งใสในการมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ยกตัวอยา่ งพฤติกรรมที่แสดงถงึ ความโปร่งใสและไม่โปรง่ ใส ๔. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียนจากการทาผงั ความคิดทไี่ ดจ้ ากการชม วดิ ีโอ เรอ่ื ง “ลองใจครูสาว” ๕. ครใู หน้ กั เรียนเขียนพฤตกิ รรมท่ีแสดงถึงความโปร่งใสและไมโ่ ปรง่ ใสของประเทศชาติใน ปจั จบุ ัน ลงในใบงาน เร่ือง ความโปร่งใสในประเทศไทย

- ๙๖ - ๖. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ่ไี ด้รบั เรื่อง ความโปร่งใส พรอ้ มท้ังสรุปพฤติกรรมทแ่ี สดง ถึงความโปร่งใสและไมโ่ ปร่งใสในประเทศไทย ๔.๒ ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) VDO เร่อื ง ลองใจครสู าว ๒) ใบความรู้ เร่อื ง ความโปรง่ ใส ๓) ใบงาน เรอ่ื ง ความโปรง่ ใสในประเทศไทย ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ - ครูตรวจผลงานการทาใบงาน เรอ่ื ง ความโปรง่ ใสในประเทศไทย - ครสู ังเกตพฤติกรรมซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ของนักเรียน ๕.๒ เครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการประเมิน - แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ความโปรง่ ใสในประเทศไทย - แบบสังเกตพฤติกรรมซือ่ สัตยส์ จุ รติ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน - นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดบั ดีข้นึ ไป ๖. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ........................................... ......................................................................................................................................... ............................... ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................... ลงช่ือ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- ๙๗ - 7. ภาคผนวก ใบงาน เร่ือง ลองใจครสู าว คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นชมวดี โิ อ เรอื่ ง ลองใจครูสาว จากนั้นแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสม กลุ่มละ 4-5 คน ชว่ ยกนั อภปิ รายและร่วมกันเขยี นแผนผังความคิด และยกตวั อย่างพฤติกรรมที่แสดงถึงความโปร่งใสและไม่ โปรง่ ใส