การประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานหน้าที่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ณพัชรกรณ์ ปั้นพุ่มโพธิ์

2 คำนำ เอกสารการรายงานการประ เมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการรายงาน สัมฤทธิผลในการปฏิบัติหน้าที่งานในหน้าที่ของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา รอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ตามกรอบตวั ชวี้ ดั 3 องคป์ ระกอบ ดังน้ี องค์ประกอบที่ 1. การบริหารจัดการสถานศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1) การบริหารงาน วิชาการ 2) การบริหารงบประมาณ การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพือ่ การศึกษา 3) การบริหารงานบุคคล การส่งเสริมวินัยการรักษาวินัยจรรยาบรรณวิชาชีพ และการพัฒนาทางวิชาชีพ และ 4) การบริหารงานทั่วไป และการมีส่วนร่วมของสถานศึกษากับผู้ปกครองและชุมชน องค์ประกอบที่ 2 ผลการดำเนินการตามนโยบาย กระทรวงศึกษาธิการ หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์ประกอบที่ ๓ ผลงานที่เกิด จากการบรหิ ารจัดการของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา กรอบตัวชี้วัดท้ัง 3 องค์ประกอบนี้ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาจะต้องมีส่วนช่วยพัฒนาโรงเรียนให้ เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อสถานศึกษา เพื่อให้สถานศึกษามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตาม กระบวนการตามแผนงานที่วางไว้ นายณพชั รกรณ์ ปนั้ พุม่ โพธิ์

3 สารบญั ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐาน................................................................................................................................ 1 สว่ นที่ 2 ขอ้ มลู ทวั่ ไปของสถานศึกษา.......................................................................................................... 6 ส่วนท่ี 3 รายงานการประเมนิ สมั ฤทธผิ ลการปฏิบัติงานในหนา้ ท่ี................................................................ 18 1. การบรหิ ารจัดการสถานศึกษาทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ...................................................................................... 21 1.1. การบรหิ ารงานวชิ าการ........................................................................................................................ 21 1.2. การบริหารงานงบประมาณ การระดมทรัพยากรและการลงทนุ เพื่อการศกึ ษา.................................... 49 1.3. การบริหารงานบคุ คล การส่งเสรมิ วินยั การรกั ษาวินัย จรรยาบรรณวิชาชีพ และการพฒั นาทางวชิ าชีพ.......................................................................................................................... 60 1.4. การบรหิ ารงานทั่วไป และการมีส่วนร่วมของสถานศกึ ษากับผู้ปกครอง และชมุ ชน............................ 67 2. ผลการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงศกึ ษาธกิ าร หรือสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พ้ืนฐาน.................................................................................................................................................. 75 3. ผลงานที่เกิดจากการบรหิ ารจดั การของผู้บริหารสถานศึกษา................................................................. 82

1 เอกสารประกอบการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบตั ิงานในหนา้ ที่ ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน (ตำแหน่งรองผูอ้ ำนวยการ) ประวัตสิ ่วนตวั ชอื่ -สกุล นายณพชั รกรณ์ ปน้ั พุ่มโพธ์ิ เกดิ เม่ือวันที่ 16 ธนั วาคม 2534 อายุ 29 ปี ประวัติการศกึ ษา 1) ระดบั ปรญิ ญาโท การศกึ ษามหาบณั ฑติ (กศ.ม.) การบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั บูรพา 2) ระดบั ปรญิ ญาตรี ศึกษาศาสตรบณั ฑิต (ศษ.บ.) นาฏศิลปไ์ ทยศึกษา สถาบนั บณั ฑิตพฒั นศิลป์ 3) ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ สาขาวชิ า นาฏศลิ ปไ์ ทย (โขนพระ) วทิ ยาลยั นาฏศิลปลพบุรี 4) ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนแกง่ คอย จงั หวดั สระบุรี 5) ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาลพัฒนา จงั หวัดสระบุรี ประวตั กิ ารรบั ราชการ 1) วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย โรงเรยี นทพั พระยาพทิ ยา จ. สระแก้ว สพม.7 2) วนั ที่ 26 พฤษภาคม 2559 ตำแหนง่ ครู โรงเรียนทพั พระยาพิทยา จ. สระแก้ว สพม.7 3) วนั ท่ี 5 เมษายน 2562 ตำแหน่ง ครู โรงเรยี นหนองแค “สรกิจพิทยา” จ. สระบรุ ี สพม.4 4) วนั ท่ี 9 พฤศจิกายน 2564 ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา โรงเรียนประเทยี บวิทยาทาน จ. สระบรุ ี สพม.สระบรุ ี ภมู ลิ ำเนา จงั หวดั ปทุมธานี ทอ่ี ยู่ตามทะเบยี นบา้ น 140 หมทู่ ี่ 1 ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ท่อี ยู่ปัจจบุ ัน บ้านพักขา้ ราชการ โรงเรยี นประเทยี บวทิ ยาทาน 259 ม.1 ต.หนองสรวง อำเภอหนองแค จงั หวดั สระบรุ ี ข้อมูลการตดิ ต่อ E-mail : [email protected] โทร. 08-6453-9563

2 บันทึกข้อตกลงการปฏิบัตงิ านในหน้าท่ี

3 อำนาจหนา้ ท่ี ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา มดี ังน้ี หนา้ ท่ีและความรับผิดชอบ มีหน้าที่และความรับผิดชอบหลักในการบังคับบัญชาข้าราชการครูและบุคลาการทางการศึกษาและ บุคลากร ในสถานศึกษารองจากผู้อำนวยการสถานศึกษา และช่วยปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการบริหารงาน งบประมาณและบุคลากร การบริหารงานทั่วไป และการบริหารงานอาคารสถานที่ บริหารจัดการสถานศึกษา บริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บริหารงานชุมชนและเครือข่าย รวมทั้งพัฒนาตนเองและ วิชาชีพ และปฏิบตั ิงานอนื่ ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ลกั ษณะงานท่ีปฏบิ ตั ิ การปฏิบัติงานของรองผู้อํานวยการสถานศึกษาเป็นการช่วยปฏิบัติงานของผู้อํานวยการสถานศึกษา ซ่ึงต้องมกี ารบูรณาการงานทง้ั 5 ดา้ น ให้เชือ่ มโยงและสอดคลอ้ งกนั ดังนี้ 1. ด้านการบรหิ ารวิชาการและความเป็นผนู้ าํ ทางวชิ าการ 1.1 พัฒนามาตรฐานการเรียนรู้ วางแผน ตรวจสอบ ทบทวน จัดทํา และพัฒนาหลักสูตร ประสานงาน วิชาการ และนําหลักสูตรไปใช้ ให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะและการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ 1.2 ปฏิบัติการสอน พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ วัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ที่เน้น ผู้เรียนเป็นสําคัญ ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมีความพร้อมในการดํารงชีวิต ใน ปัจจุบนั และอนาคต 1.3 ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนา หรือ การนําสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา มาใช้ ในการจดั การเรยี นรใู้ หผ้ ู้เรยี นมีทักษะการคิดและสร้างนวัตกรรมได้ 1.4 นิเทศ กํากับ ติดตาม และประเมินผล การจัดการเรียนรู้ของครู โดยส่งเสริมกระบวนการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ ให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างและสนับสนุนให้สถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการ เรยี นรู้ ทางวชิ าชพี 1.5 ศกึ ษา วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และวิจยั เพ่อื แกป้ ญั หาและพฒั นา เพื่อยกระดับคณุ ภาพการศึกษา ของสถานศึกษา 1.6 จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา เพื่อปรับปรุงและพัฒนา คุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง 2. ดา้ นการบริหารจัดการสถานศึกษา 2.1 บังคับบัญชาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และบุคลากร ในสถานศึกษา และ บรหิ ารกจิ การของสถานศกึ ษา ให้เปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ และข้อบังคบั 2.2 บริหารงานบุคคล บริหารงบประมาณ และบริหารทั่วไปของสถานศึกษา ให้เป็นไปตาม กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคบั นโยบาย และเป็นไปตามหลักบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งที่ดี

4 2.3 ส่งเสริมและพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ให้มีสมรรถนะ เต็มตามศักยภาพ โดยเน้นทักษะการใชภ้ าษาไทยและภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่น และทักษะ การ ใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ลั ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม 2.4 บริหารกิจการผู้เรียน จัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2.5 จัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรยี น เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนให้มีโอกาสและความเสมอภาค ทางการศกึ ษา ลดความเหลือ่ มล้ำ 3. ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชงิ กลยุทธแ์ ละนวัตกรรม 3.1 กําหนดนโยบาย แผน กลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาร่วมกับครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นฐาน เพื่อเป็นแนวทางเชิงรุกในการพัฒนา สถานศึกษา และคุณภาพผูเ้ รียน 3.2 นํานโยบาย แผน กลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาไปปฏิบัติ ส่งเสริม สนับสนุน กํากับ และติดตาม ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคต์ ามแผนทีก่ ําหนด 3.3 สร้างหรือนํานวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาและผู้เรียน ส่งเสริม สนบั สนนุ ให้ผเู้ รยี นมีสมรรถนะและสามารถดํารงชีวิตไดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพในอนาคต 3.4 สร้างการมีส่วนร่วม การทํางานเป็นทีม ในการบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม ในสถานศกึ ษา ใหเ้ กดิ การพฒั นาสถานศึกษาอยา่ งยงั่ ยืน 4. ด้านการบรหิ ารงานชมุ ชนและเครอื ขา่ ย 4.1 สร้างและพัฒนาความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวข้อง ชุมชนและเครือข่าย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม การดูแล ช่วยเหลือ และพัฒนาคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผเู้ รียน 4.2 จัดระบบการให้บริการในสถานศึกษา ประสานความร่วมมือกับชุมชนและเครือข่าย ในการ ระดม ทรัพยากรเพื่อการศึกษา ให้บริการด้านวิชาการแก่ชุมชน และงานจิตอาสา เพื่อสร้างเครือข่ายในการ พฒั นา คุณภาพการศกึ ษาใหแ้ กผ่ ู้เรียน สถานศกึ ษา และชุมชน และเสริมสรา้ งวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ 5. ด้านการพฒั นาตนเองและวิชาชพี 5.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะ อย่างย่ิงการใชภ้ าษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทลั เพื่อการศึกษา สมรรถนะ ทางวิชาชพี ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา และความรอบรู้ในการบริหารงานใหส้ งู ขึน้ 5.2 มีส่วนร่วม และเป็นผู้นําในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และการจัดการศกึ ษา

5 5.3 นําความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา การบรหิ ารจัดการสถานศกึ ษา รวมถงึ การพฒั นานวัตกรรมการจดั การเรียนรูท้ ่สี ง่ ผลต่อคณุ ภาพครูและผูเ้ รียน 5.4 สรา้ งและสนบั สนนุ ชุมชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ วินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดํารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง มีจติ สํานกึ ความรบั ผิดชอบในการบริหารสถานศึกษา และมีจรรยาบรรณของวชิ าชพี คณุ สมบตั เิ ฉพาะสําหรบั ตาํ แหนง่ 1. มีใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี ผบู้ ริหารสถานศึกษา 2. ดาํ รงตําแหนง่ หรือ เคยดํารงตาํ แหนง่ อย่างใดอยา่ งหนง่ึ ตอ่ ไปน้ี 2.1 ตาํ แหน่งครู ทม่ี ีวทิ ยฐานะไม่ต่าํ กว่าครชู าํ นาญการ 2.2 ตาํ แหนง่ ศึกษานิเทศก์ ที่มวี ทิ ยฐานะไมต่ ำ่ กว่าศึกษานเิ ทศกช์ ํานาญการ 2.3 ตาํ แหน่งบคุ ลากรทางการศกึ ษาอน่ื ตามมาตรา 38 ค. (2) ทม่ี รี ะดบั ตําแหนง่ ไมต่ ำ่ กวา่ ชํานาญการ มาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า 3 ปี 2.4 ตาํ แหนง่ อนื่ ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา่ ความร้แู ละสมรรถนะทจ่ี ําเป็นสาํ หรับตาํ แหน่ง 1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานในหน้าที่ กฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับ การ ปฏบิ ัติงาน และมีความรอบรู้ทั่วไป 2. มสี มรรถนะทีจ่ ําเปน็ สาํ หรบั การปฏิบตั งิ านในตําแหนง่

6 ขอ้ มูลทั่วไปของสถานศกึ ษา โรงเรียนประเทียบวิทยาทาน ที่ตั้ง 259 หมู่ 1 ตำบลหนองสรวง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระบุรี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้ นพื้นฐาน โทรศัพท์ 0-3637-7456 website : http://www.prateab.ac.th ประวัติของโรงเรียน โรงเรียนประเทียบวิทยาทาน เป็นโรงเรียนสหศึกษาระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศกึ ษามัธยมศึกษาสระบุรี สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ตำบลหนองสรวง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2504 โดยคุณหญิงประเทียบ ชลทรัพย์ ได้บริจาคที่ดินสร้าง อาคารเรียน เปิดทำการเรียนการสอนครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2504 รวมระยะเวลาตั้งแต่ก่อตั้งมา จนถึงปัจจบุ นั เปน็ เวลา 60 ปี ปจั จุบันมอี าคารเรียน 5 หลัง โรงฝกึ งาน 2 หลงั หอประชุม 1 หลัง โรงอาหาร 1 หลงั อาคารประกอบ 3 หลังและ หอสมดุ 1 หลงั ตงั้ อยบู่ นพนื้ ท่ี 26 ไร่ 72 ตารางวา ปัจจุบัน ดร. กุสุมาวดี คีรี ดำรงตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนประเทียบวิทยาทาน เปิดทำการสอน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 มีนักเรียนทั้งหมด 1,744 คน ได้รับการรับรองเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียน ในฝัน เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2549 ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การประเมินมาตรฐานภายนอก รอบที่สอง เมื่อวันที่ 12 – 14 มกราคม 2552 และได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การประเมินมาตรฐาน ภายนอกรอบที่สาม เม่ือวันที่ 12 – 14 มกราคม 2556

7 โครงสร้างการบริหารงานโรงเรียนประเทยี บวทิ ยาทาน สมาคมผปู้ กครองและครู สมาคมนักเรยี นเก่า นางกุสมุ าวดี คีรี ผ้อู ำนวยการโรงเรียน นายณพัชรกรณ์ ป้ันพุ่มโพธิ์ นางสาวอมุ าพร นารินทร์ รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี น รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี น กล่มุ บรหิ ารวิชาการ งานงบประมาณและแผนงาน นางสาววิภารัตน์ บญุ ล้อม นางประนอม นอบนอ้ ม ครู (ผู้ชว่ ยผอู้ ำนวยการโรงเรียน) ครู (ผชู้ ่วยผู้อำนวยการโรงเรยี น) กลมุ่ บรหิ ารกจิ การนักเรยี น นายวิทยทุ ธ วลิ ามาศ กลุม่ บรหิ ารงานบุคคล นางสาวรชั นีวรรณ อิม่ สมัย ครู (ผู้ช่วยผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น) ครู (ผู้ช่วยผ้อู ำนวยการโรงเรยี น) กลมุ่ บริหารงานท่ัวไป นายกติ ติศกั ดิ์ ฉายรตั น์ ครู (ผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการโรงเรียน) กลุ่มบริหารงานอาคารสถานท่ี นายสมพร อฐั มาลา ครู (ผชู้ ่วยผู้อำนวยการโรงเรยี น)

8 ขอ้ มูลครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ปกี ารศึกษา ผูบ้ รหิ าร ข้าราชการ ครู พนักงาน ครู เจา้ หน้าที่ รวม บุคลากร ครู ต่างชาติ ราชการ อตั รา ธรุ การ ท้ังหมด จ้าง ปีการศึกษา 2564 95 3 76 3 1 11 1 ขอ้ มูลวิทยฐานะ วิทยฐานะ ชาย หญงิ รวม เช่ยี วชาญ 213 ชำนาญการพเิ ศษ 5 13 18 ชำนาญการ 8 12 20 ครู 10 23 33 ครผู ชู้ ่วย 145 รวม 26 53 79 ข้อมูลครู จำแนกตำมวิทยฐำนะ เช่ียวชาญ ชานาญการพิเศษ 6% 4% ชานาญการ 23% ครู ครูผชู้ ว่ ย 42% 25%

9 ขอ้ มลู นักเรยี นปีการศึกษา 2564 ระดับช้นั จำนวนหอ้ งเรยี น จำนวนนกั เรียน รวม ชาย หญิง มัธยมศึกษาปที ่ี 1 9 341 มัธยมศึกษาปีที่ 2 9 173 168 320 มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 9 166 154 291 รวมระดับช้ันมธั ยมศกึ ษา 155 136 27 952 ตอนตน้ 494 458 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 8 318 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 7 128 190 229 มัธยมศึกษาปที ่ี 6 7 81 148 238 รวมระดับชนั้ มัธยมศึกษาตอน 123 115 22 785 ปลาย 332 453 รวมทั้งสิ้น 49 1,737 826 911 ข้อมูลดา้ นอาคารสถานท่ี ชือ่ ห้องเรียน จำนวน (ห้อง) หอประชมุ 1 ห้องประชุม 2 หอประชมุ (นำมาใชเ้ ปน็ โรงอาหาร) 1 อาคารเอนกประสงค์ 2 ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 4 หอ้ งปฏบิ ัติการวิทยาศาสตร์ 6 ห้องปฏบิ ัติการภาษา 1 หอ้ งสมุด 1 ห้องพยาบาล 1 ห้องปฏบิ ัติการ ทัศนศิลป/์ ดนตรี/นาฏศิลป์ 4 หอ้ งเรียนทง้ั หมด 41 หอ้ งปฏิบตั กิ ารอุตสาหกรรม 3

10 ข้อมลู ดา้ นแหลง่ เรียนรู้ แหลง่ เรียนรใู้ นสถานศกึ ษา แหลง่ เรยี นรู้นอกสถานศกึ ษา 1. หอ้ งประวตั ิศาสตร์ 1. จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย 2. หอ้ งแหล่งเรียนรูแ้ ละภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ 2. บงึ หนองโพธิ์ 3. ห้องไร้พรมแดน 3. เทศบาลตำบลหนองสรวง 4. หอ้ งอาเซยี น 4. บึงหนองโสน ตำบลหนองสรวง 5. หอ้ งจริยศึกษา 5. บริษทั อายิโนะโมะโตะ๊ 6. ห้องสมุดโรงเรียนประเทียบวิทยาทาน 6. เทศบาลวหิ ารแดง 7. ห้องสมดุ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 7. สนามกฬี า (ฟตุ ซอล) ทว่ี า่ การอำเภอวิหารแดง 8. ห้องสบื คน้ กล่มุ สาระสงั คมศกึ ษาฯ 8. สนามกฬี า (ฟุตบอล) โรงเรยี นวัดหนองโพธ์ิ 9. มมุ สืบคน้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย 9. วัดพระพุทธบาท 10. ธนาคารโรงเรยี น 10. วัดพระพุทธฉาย 11. หอ้ งดนตร/ี นาฎศลิ ป์ 11. ธนาคารออมสิน 12. ห้องศิลปะ 12. เจดยี พ์ ระคณุ แมว่ ดั คลองใหม่ 13. ฟาร์มเหด็ ลุงหยดุ

11 โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรียนประเทียบวทิ ยาทาน หลักสตู รโรงเรยี นประเทียบวิทยาทาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัดกลุม่ สาระคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง 2560) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียนไว้ ดังนี้ เวลาเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้/ กจิ กรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ม.1 ม.2 ม.3 ม.4-6 ภาษาไทย 120 120 120 240 คณติ ศาสตร์ (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.) วทิ ยาศาสตร์ 120 120 120 240 (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.) 120 120 120 240 (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.) เทคโนโลยี 40 40 40 240 (1 นก.) (1 นก.) (1 นก.) (6 นก.) สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 160 160 160 320 - ประวตั ิศาสตร์ (4 นก.) (4 นก.) (4 นก.) (8 นก.) 40 40 40 80 (1 นก.) (1 นก.) (1 นก.) (2 นก.) - ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม - หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการ 120 120 120 240 ดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (6 นก.) - เศรษฐศาสตร์ - ภมู ศิ าสตร์ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 80 80 80 120 (2 นก.) (2 นก.) (2 นก.) (3 นก.) ศิลปะ 80 80 80 120 การงานอาชพี (2 นก.) (2 นก.) (2 นก.) (3 นก.) 120 ภาษาตา่ งประเทศ 40 40 40 (3 นก.) (1 นก.) (1 นก.) (1 นก.) 240 รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 120 120 120 (6 นก.) (3 นก.) (3 นก.) (3 นก.) 2,200  กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 880 880 880 (55 นก.)  รายวิชา / กิจกรรมท่ีสถานศึกษาจัด (22 นก.) (22 นก.) (22 นก.) 360 เพม่ิ เตมิ ตามความพร้อมและจดุ เนน้ 120 120 120 รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด ไมน่ ้อยกวา่ 1,600 ชัว่ โมง ปีละไมน่ อ้ ยกวา่ 200 ชวั่ โมง รวม 3 ปี ไม่น้อยกวา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 1,200 ชั่วโมง/ปี 3,600 ชว่ั โมง

12 การกำหนดโครงสร้างเวลาเรียนพน้ื ฐาน และเพม่ิ เติม สถานศกึ ษาสามารถดำเนินการ ดงั นี้ ระดับมัธยมศึกษา ต้องจัดโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐานให้เป็นไปตามที่กำหนดและสอดคล้องกับ เกณฑ์การจบหลกั สตู ร ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) รวม 3 ปี จำนวน ไม่น้อยกวา่ 66 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4-6) รวม 3 ปี จำนวน ไมน่ ้อยกว่า ๔๑ หน่วยกิต สำหรับเวลาเรียนเพ่ิมเตมิ ในระดับมธั ยมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) รวม 3 ปี จำนวน ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๑ หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4-6) รวม 3 ปี จำนวน ไม่น้อยกวา่ ๓๖ หน่วยกติ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษาและเกณฑ์การจบ หลกั สตู ร กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนท่ีกำหนดไว้ในชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ปีละ 120 ชั่วโมง และชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 จำนวน 360 ชั่วโมงนั้น เปน็ เวลาสำหรับปฏบิ ัติกจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน และกจิ กรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ให้สถานศึกษาจัดสรรเวลาให้ผู้เรียนได้ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ดงั นี้ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.1-3) รวม 3 ปี จำนวน 45 ชั่วโมง ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) รวม 3 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง

13 ขอ้ มูลผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรียน ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ ระดับชนั้ ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ปีการศกึ ษา 2563 สาระวชิ า จำนวน คะแนน ส่วน ขดี จำกดั จำนวน/รอ้ ยละของกั เรียน คน เฉล่ยี เบี่ยงเบน ลา่ ง* ท่ีมี มาตรฐาน คะแนนสูงกว่าขีดจำกดั ลา่ ง ภาษาไทย 127 56.94 13.47 54.22 82 64.57 ภาษาองั กฤษ 127 31.57 10.30 34.32 48 37.80 คณติ ศาสตร์ 127 22.83 10.67 25.40 43 33.86 วิทยาศาสตร์ 127 31.05 8.54 29.85 67 52.76 ระดบั / วชิ า ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ คะแนนเฉล่ยี ของโรงเรียน 56.94 31.57 22.83 31.05 คะแนนเฉลี่ยระดบั จังหวดั 54.81 34.83 25.19 29.96 คะแนนเฉลยี่ สงั กัด สพฐ. 55.18 34.14 25.82 30.17 คะแนนเฉล่ยี ระดบั ประเทศ 45.29 34.38 25.46 29.89 ผลการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษาระดับชาติ ปีการศึกษา 2563 มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 60 50 40 30 20 10 0 ภาษาอังกฤษ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาไทย คะแนนเฉลย่ี ของโรงเรียน คะแนนเฉลี่ยระดับจังหวัด คะแนนเฉลยี่ สังกดั สพฐ. คะแนนเฉลยี่ ระดับประเทศ

14 ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั ชาติ ระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ปกี ารศึกษา 2563 สาระวชิ า จำนวน คะแนน สว่ น ขดี จำกัด จำนวน/รอ้ ยละของนกั เรียนท่ีมี คน เฉล่ยี เบยี่ งเบน ล่าง คะแนนสูงกว่าขดี จำกดั ลา่ ง มาตรฐาน ภาษาไทย 197 40.80 15.41 44.29 88 44.67 สังคมศึกษาฯ 197 33.57 6.75 35.89 72 36.67 ภาษาองั กฤษ 197 24.41 7.77 29.88 42 21.21 คณติ ศาสตร์ 197 20.33 9.21 25.97 36 18.18 วิทยาศาสตร์ 197 28.61 10.09 32.62 58 29.44 ระดับ / วชิ า ภาษาไทย สงั คมศกึ ษา ศาสนา ภาษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรม คะแนนเฉลีย่ ของโรงเรยี น 40.88 24.41 20.33 28.61 คะแนนเฉล่ียระดบั จงั หวัด 43.04 33.57 28.74 24.28 32.00 คะแนนเฉล่ยี สังกัด สพฐ. 45.22 35.33 29.73 26.33 33.04 คะแนนเฉล่ียระดับประเทศ 44.36 36.32 29.94 26.04 32.68 35.93 ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาระดบั ชาติ ปกี ารศึกษา 2563 มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 50 40 30 20 10 0 คะแนนเฉลี่ยของโรงเรยี น คะแนนเฉล่ียระดับจงั หวัด คะแนนเฉลย่ี สังกดั สพฐ. คะแนนเฉลย่ี ระดบั ประเทศ

15 เปรยี บเทยี บผลการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาระดับชาติ ปีการศึกษา 2561 – 2563 มธั ยมศึกษาปีที่ 3 วชิ า ปกี ารศกึ ษา เพม่ิ ขึ้น / ลดลง ภาษาไทย 2561 2562 2563 เปรียบเทียบปี 2562 ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ 51.37 55.16 56.94 +1.78 วทิ ยาศาสตร์ 28.14 31.37 31.57 +0.20 27.66 23.13 22.83 -0.30 34.45 29.32 31.05 +1.73 เปรียบเทยี บผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษาระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2561 – 2563 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 60 50 40 30 20 10 0 ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ปกี ารศกึ ษา 2561 ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563

16 มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 วชิ า ปกี ารศึกษา เพ่ิมข้ึน / ลดลง ภาษาไทย 2561 2562 2563 เปรียบเทยี บปี 2562 สังคมฯ ภาษาอังกฤษ 43.02 37.01 40.88 +3.79 คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 33.41 34.06 33.57 -0.49 26.60 23.69 24.41 +0.72 24.85 20.37 20.33 -0.04 30.08 27.54 28.61 +1.07 เปรยี บเทียบผลการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2561 – 2563 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 50 40 30 20 10 0 สังคมฯ ภาษาอังกฤษ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาไทย ปกี ารศึกษา 2561 ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศึกษา 2563

17 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นเฉลี่ย 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ทกุ ระดบั ช้ัน ปีการศึกษา 2561 – 2564 วิชา ปีการศกึ ษา 2561 ปกี ารศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563 ปกี ารศึกษา 2564 ภาษาไทย ภาคเรียน ภาคเรียน ภาคเรียน ภาคเรยี น ภาคเรยี น ภาคเรียน ภาคเรยี น ภาคเรียน ท่ี 1 ท่ี 2 ท่ี 1 ท่ี 2 ท่ี 1 ที่ 2 ที่ 1 ที่ 2 2.92 2.88 2.48 2.86 2.95 3.13 2.62 คณติ ศาสตร์ 2.19 2.25 2.31 2.32 2.38 2.58 2.60 วทิ ยาศาสตร์ 2.28 2.62 2.46 2.54 2.94 2.99 2.91 สงั คมศึกษา ฯ 2.93 3.02 2.88 2.97 3.04 3.14 2.91 ศลิ ปะ 3.49 3.56 3.32 3.25 3.24 3.45 2.98 สุขศึกษาฯ 3.33 3.40 3.34 3.40 3.39 3.57 3.17 การงานอาชพี 3.08 3.26 3.14 3.01 3.17 3.48 2.55 ภาษาตา่ งประเทศ 2.92 2.79 3.02 2.90 2.85 2.90 2.77 คอมพวิ เตอร์ 3.31 3.07 3.09 3.23 3.30 3.32 3.00 รวม 2.94 2.98 2.89 2.94 3.03 3.17 2.83 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉล่ีย 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทุกระดับช้ัน ปีการศกึ ษา 2561 – 2564 3.20 ปีการศกึ ษา 2561 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 ภาคเรียนท่ี 2 3.10 ปีการศกึ ษา 2562 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ภาคเรยี นท่ี 2 3.00 ปีการศกึ ษา 2563 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 ภาคเรียนท่ี 2 2.90 ปีการศกึ ษา 2564 ภาคเรยี นท่ี 1 2.80 ปีการศกึ ษา 2564 ภาคเรียนท่ี 2 2.70 2.60

18 รายงานผลการประเมนิ สัมฤทธผิ ลการปฏิบัตงิ านในหนา้ ที่ ข้าพเจ้าไดศ้ ึกษาแนวคิดในการบริหารจัดการสถานศกึ ษาและได้เลือกใช้แนวคิดการบริหารจัดการ สถานศึกษาโดยยึดหลักธรรมาภิบาล 6 ประการ มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการสถานศึกษา เพ่ือ เสรมิ สรา้ งองคก์ รให้มีคุณภาพ โดยมีรายละเอยี ดดงั นี้ การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. 2542 ซึ่งกำหนดหลักพื้นฐานการบริหารตาม หลักธรรมาภิบาล 6 ประการ ประกอบดว้ ย 1) หลกั นติ ิ ธรรม (Rule of law) 2) หลักคุณธรรม (Morality) 3) หลักความโปร่งใส (Transparency) 4) หลักการมี ส่วนร่วม (Participation) 5) หลักความรับผิดชอบ (Accountability) และ 6) หลักความคุ้มค่า (Utility) ซึ่งข้าพเจ้าจะนำหลักการบริหารจัดการสถานศึกษา ดังกล่าว โดยนำข้อมูลข้างตน้ มาประยกุ ต์ใช้ในการบริหารจัดการสถานศึกษา ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ภายใต้ วงจรคณุ ภาพ PDCA ดงั น้ี หลักที่ 1 หลักการมีส่วนร่วม (Participation) การจัดประชุมชี้แจงนโยบาย ให้ผู้ร่วมงานแสดงความคิดเห็น ลงมติหาข้อสรุป เน้นการทำงานเป็นทีม สงเสริมใหครูทํางานแบบมีสวนรวมตั้งแตการศึกษาสภาพปญหา ความตองการสภาพแวดลอมภายในและภายนอกการวางแผนการดาํ เนินการตามแผนและการประเมินผลการ ดําเนินงานตามโครงการ เปดโอกาสใหชุมชนมีสวนรวมในการจัดการศึกษา ประสานความรวมมือกับชุมชนใน การใช้แหล่งเรียนรูเชญิ วทิ ยากรทองถน่ิ มาใหความรูกบั นกั เรยี น หลักที่ 2 หลักความคุ้มคา่ (Utility) กระตนุ้ เตือนใหบ้ ุคลากรในฝา่ ยช่วยกันบรหิ ารจัดการทรัพยากรท่ีมีอย่าง จำกัด นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ประหยัดวัสดุอุปกรณ์ น้ำ ไฟ ใช้อย่างรู้คุณค่า โครงการหรือ กิจกรรมที่จัดจะต้องเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ควรประเมินและติดตามพร้อมที่จะแก้ไขและปรับปรุงให้ดี ข้ึน เสมอ หลักที่ 3 หลักความโปร่งใส (Transparency) มีกระบวนการใหประชาชนผูปกครองนักเรียนและ คณะกรรมการสถานศึกษาได้ตรวจสอบความถูกต้องอย่างชัดเจน งานพัสดุการจัดซื้อใหเปนไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวของอยางโปรงใสและสามารถตรวจสอบได้ สงเสริมใหครูดําเนินการวัดและประเมนิ ผลการ

19 เรียนดวยความโปรงใส สรางความตระหนักใหคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการสถานศึกษาปฏิบัติ หน้าที่ดวยความโปรงใสและสงเสริมใหมีการใชระบบขอมูลขาวสารทางราชการในเรื่องการขอดูรายงานการ วดั ผลของผูเรียน การรับนักเรียนเขาเรียนดวยความโปรงใสและแจงงบประมาณแก ผูปกครองทราบกอนดาํ เนินการ หลักที่ 4 หลักหัวใจแห่งคุณธรรม (Heart of morality) หลักธรรมที่ข้าพเจ้าจะนำมาใช้ในการทำงานอย่าง สม่ำเสมอ ซ่ึงสามารถทำให้การบรหิ ารงานนำไปสคู่ วามสำเร็จไดด้ ้วยดี ไดแ้ ก่ 1) ธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เช่น มีความสุภาพ อ่อนน้อม วาจาไพเราะ ซื่อสัตย์สุจริต เป็น ตน้ แบบท่ีดใี ห้กบั ครแู ละบุคลากรภายในโรงเรยี น 2) อิทธิบาท 4 สร้างความรักความพอใจในหน้าท่ีการงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ลงมอื ทำด้วยความ เอาใจ ใส่ในงานที่ทำ โดยไม่ทอดทิ้งและใช้ปัญญาพิจารณาหาเหตุผลในการทำงาน ว่ามีจุดบกพร่องในส่วนใดบ้างแลว้ พยายามปรบั ปรงุ พัฒนาให้ดีขึน้ 3) พรหมวิหาร 4 การบริหารบุคลากร ด้วยการมีความปรารถนาดีต้องการให้ทุกคนมีความสุข ยนิ ดดี ้วยเมือ่ ทกุ คนไดด้ ี พรอ้ มกับการวางตนเปน็ กลางเพื่อรักษาความถูกต้อง 4) สังคหวัตถุ เป็นหลักธรรมที่ใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจของกันและกัน ช่วยประสานความสามัคคีระหว่าง ผู้บริหารกับครูและบุคลากรภายในโรงเรียน ที่ควรให้เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูล พูดจาสุภาพ ทำตนให้เป็น ประโยชน์ตอ่ สว่ นรวมไม่น่งิ ดดู าย และเปน็ ผ้รู ้จู ักวางตนใหเ้ หมาะสมกับหนา้ ที่การงาน หลักที่ 5 หลักการประเมินผล (Evaluation) เป็นการติดตามผลการดำเนินงาน โดยการวัด และประเมินผล ในลักษณะของการนิเทศ/ประเมิน โดยผทู้ ี่เก่ยี วข้อง ผูป้ กครอง และนักเรียน ในทุกแผนงาน และโครงการที่แต่ ละงานได้นำเสนอ และนำผลการประเมินเสนอต่อที่ประชุมวิชาการของทุกเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ (Knowledge Sharing) ตามหลักทฤษฎีของการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เม่ือ สิน้ สุดโครงการ/แผนงาน หลักที่ 6 หลักความรับผิดชอบ (Accountability) การมอบหมายบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน แต่งต้ัง ออกเป็นคำสั่งให้ชัดเจน การประชุมมอบหมายงาน เพื่อให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบ ใหครูทํางานดวยความ รับผิดชอบโดยเฉพาะการเรียนการสอนกิจกรรมสอนซ่อมเสริมการวัดผลประเมินผลดวยความบริสุทธิ์ยุตธิ รรม การเอาใจใสตอนกั เรยี น หลักที่ 7 หลักนิติธรรม (Rule of law) การแจ้งให้คุณครูทุกท่านทราบถึงกฎระเบียบนโยบาย ด้วยเอกสาร และวาจาประชุมโดยให้ครูได้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการและของโรงเรียนเพื่อปฏิบัติตนเป็นครูที่มี ระเบยี บวินัยเปน็ แบบอยา่ งของนักเรียนและระงบั ปญั หาตา่ ง ๆ ทีจ่ ะเกดิ ขึ้น สงเสริมใหครูปฏบิ ตั กิ ารสอนโดยยึด ระเบียบมาตรฐานการปฏิบัติงานตามที่คุรุสภากำหนดและมาตรฐานการปฏิบัติตนตามมาตรฐานความรู และ ประสบการณวชิ าชพี และจรรยาบรรณวิชาชีพครู

20 หลักท่ี 8 หลักเทคโนโลยี (technology for education) ครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องมีทักษะ ใน การใชเ้ ทคโนโลยเี ขา้ มาชว่ ยในการจดั การเรยี นการสอน เนื่องจากกิจกรรมการเรียนการสอนทีใ่ ชเ้ ทคโนโลยจี ะ ชว่ ยกระตุน้ ความสนใจให้กับนักเรียน และหากออกแบบ กิจกรรมการเรยี นการสอนอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ จะ ชว่ ย ส่งเสริมความรู้และทักษะท่ีต้องการได้เปน็ อยา่ งดี และควรสร้างโอกาสในการใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ การเรียนรู้ ให้แก่ผูเ้ รยี น

21 1. การบริหารจดั การท่มี ีประสิทธภิ าพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนินกจิ กรรมทางวิชาการ 1) จดั ทำแผนการพัฒนาคุณภาพ และยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น 1. ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของผเู้ รียน โดยมกี ารดำเนนิ การดังนี้ 1.2 ประชุมวางแผนร่วมกับคณะกรรมการการบริหารโรงเรียนประเทียบวิทยาทาน ในการเสนอเพื่อ พิจารณาจัดทำแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา จากรปู แบบปงี บประมาณเป็นรปู แบบปีการศึกษา 1.2 ประชุมวางแผนร่วมกับคณะกรรมการการบริหารโรงเรียน และคณะครู ในการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษา ปี 2564 – 2566 และแผนปฏิบัติการปีการศึกษา 2564 ที่เกิดจากการนำข้อมูลต่าง ๆ เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET และการวิเคราะห์ SWOT Analysis จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับ ได้แก่ ผู้บริหาร ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เรียน โดยมีโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาสระบรุ ี 2.3. ดำเนินการจัดทำโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน และแต่งตั้งครู ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ/กจิ กรรม ผลการดำเนนิ งาน - โรงเรียนมแี ผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ปี 2564 – 2566 - โรงเรียนมีแผนปฏิบัติการปกี ารศึกษา 2564

22 1. การบริหารจดั การทีม่ ีประสทิ ธิภาพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนินกจิ กรรมทางวิชาการ 2) ดำเนินการตามแผนพัฒนาคณุ ภาพ และยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น การดำเนินการ 1. ตดิ ตามใหค้ รูผู้รับผิดชอบโครงการและกิจกรรม ดำเนนิ การตามกำหนดการตามแผนการพัฒนาคุณภาพ การศึกษา และโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายตามความเหมาะสมกับ บริบทของโรงเรียน เพ่อื พัฒนาศกั ยภาพของผเู้ รียน และมีผลสัมฤทธ์ิเพม่ิ สงู ขนึ้ ดงั น้ี 1.1. โครงการยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติ ( O-NET) - สง่ เสริมการเรยี นรู้ภาษาไทย (วันสนุ ทรภ่,ู วันภาษาไทย) - กจิ กรรม Math Day - กิจกรรมสัปดาห์วทิ ยาศาสตร์ 1.2 โครงการบริหารวชิ าการและกระบวนการจัดการเรยี นรู้ - จัดซ้ือหนังสือเรียน 1.3 โครงการส่งเสริมศกั ยภาพผู้เรียน - อ่าน เขียน เรยี นเพลนิ 1.4 สบื สานวนั สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา - กิจกรรมวันเขา้ พรรษา 2. ดำเนินการทดสอบตา่ งๆ ประจำปีการศกึ ษา 2564 - สอบกลางภาค/ปลายภาค หมายเหตุ 1. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น ส่งผลให้กิจกรรมที่กำหนด ไว้ในแผนปฏิบัติการบางกิจกรรมนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ครูผู้รับผิดชอบกิจกรรม จะต้องดำเนินการบันทึกข้อความขอเลื่อนจดั กิจกรรม หรือหากจัดกิจกรรม แต่วัสดุ-ครุภัณฑท์ ีก่ ำหนดไว้นั้น ไม่ สามารถดำเนนิ การจดั ซื้อจดั จ้างได้ สามารถขออนุมตั ิเปลยี่ นแปลงรายการวสั ดุ-ครุภัณฑ์ได้ 2. ติดตามให้ครูผู้รับผิดชอบโครงการ/กิจกรรม ดำเนินการรายงานผลการดำเนินงานให้ผู้บริหารรับทราบภายใน ระยะเวลาทีก่ ำหนด ผลการดำเนินงาน 1. โรงเรียนดำเนินการตามแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่งผลให้มีกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพ และ ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอย่างหลากหลาย โดยปรับให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ โคโรนา 2019 2. โรงเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกระดับชั้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 โดยมคี ่าเฉล่ีย 2.83 ซง่ึ ตำ่ กวา่ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยมีค่าเฉล่ยี 3.30 จากปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้การจัดการ เรียนการสอนออนไลน์ และ ออนแฮนด์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ

23 โคโรนา 2019 นั้น ปรากฏว่ามีนกั เรียนสว่ นหน่งึ ทขี่ าดความรับผดิ ชอบในการเข้าเรียน ขาดความเขา้ ใจในเนื้อหา บทเรียน และไม่พร้อมทั้งด้านการเข้าเรียนออนไลน์ เมื่อเรียนออนแฮนด์ที่บ้าน นักเรียนก็ไม่สามารถเข้าใจ เนื้อหาไดด้ ว้ ยตนเอง จากปญั หาดงั กลา่ วจึงอาจสง่ ผลตอ่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นได้ ทางกลมุ่ บริหารวิชาการจงึ ได้ นำปญั หาดงั กลา่ ววางแผนร่วมกับคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา เพื่อรว่ มวางแผนแก้ปญั หาทพี่ ร้อมปรับใช้ใน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ใหด้ ียง่ิ ขึ้น ระบบรายงานการจัดการเรียนรู้ในรปู แบบออนไลน์

24 การจัดการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์

25 การรับใบงานของนักเรยี นท่เี รียนรปู แบบ On hand

26 กิจกรรมวนั ภาษาไทย ออนไลน์ กิจกรรม Math Day

27 กจิ กรรม Math Day

28 กจิ กรรม สปั ดาห์วิทยาศาสตร์

29 กิจกรรมวันเข้าพรรษา นิเทศการสอบปลายภาคท้ังรูปแบบ On Site นิเทศการสอบปลายภาคทั้งรูปแบบ Online

30

31 1. การบริหารจดั การที่มีประสทิ ธภิ าพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนนิ กิจกรรมทางวชิ าการ 3) จัดทำฐานข้อมูลคุณภาพ และผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล มอบหมายให้งานการรับนักเรียน และข้อมูลนักเรียน งานทะเบียนนักเรียน งานวัด ประเมินผล และเทียบผล การเรียน จัดทำข้อมูลคุณภาพและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนรายบุคคลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อเป็น ข้อมูลในการพฒั นาผเู้ รยี นให้ตรงตามศักยภาพ ดงั นี้ 1. จัดทำฐานขอ้ มลู โปรแกรมจัดเกบ็ ข้อมูลนักเรียนราย บุคคล (Data Management Center : DMC) 2. จัดทำฐานขอ้ มลู งานทะเบยี น วัดผล SGS 3. จัดทำรายงานผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของผู้เรยี นเป็นรายบคุ คล เช่น สอบคัดกรองการอ่านและการ เขยี นภาษาไทย สอบกลางภาค สอบปลายภาค และผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน ผลการดำเนนิ งาน โรงเรยี นมีขอ้ มลู คุณภาพ และผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผ้เู รียนรายบุคคลที่เป็นปจั จบุ ัน ข้อมลู ผู้เรียนจาก ระบบ SGS รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปกี ารศกึ ษา 2561-2564

32 1. การบริหารจดั การทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ 4) มีการพัฒนาครูด้วยกิจกรรมที่หลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับความ ต้องการ ดำเนินการพัฒนาครูด้วยกิจกรรมที่หลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับความ ต้องการของครู ดงั นี้ 1. ประชุมครู ชี้แจง/รับทราบแนวทางการพัฒนาตนเอง สนับสนุน ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาเข้ารับการอบรม ในเนื้อหาที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ และงานอ่ืน นอกเหนือจากการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงาน เป็นการนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนา ผู้เรียนใหม้ ีความรูอ้ ยา่ งรอบด้าน 2. ครูดำเนินการพัฒนาตนเองดว้ ยกิจกรรมที่หลากหลาย - จัดทำ ID PLAN ของตนเอง - PLC กลมุ่ สาระ - แลกเปลยี่ นเรียนรู้ - อบรม ประชุม สมั มนา - อบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ 3. ครูดำเนนิ การจัดทำรายงานผลการพฒั นาตนเอง 4. ติดตามผลการพัฒนาตนเองของครู ผลการดำเนินงาน 1. ครูทุกคนได้รับการพัฒนาสอดคล้องกับความต้องการของครู ในด้านการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ การขอมีหรอื เล่ือนวทิ ยฐานะตาม ว 9/2564 และการอบรมสูตรอนื่ ๆ ที่หนว่ ยงานต่างๆ จัดข้ึน 2. ครูทกุ คนได้รับการอบรมตามหลักสตู รท่ตี นเองสนใจอย่างน้อยคนละ 1 หลกั สูตร 3. ครทู ุกคนได้รว่ มการนิเทศการจัดการเรยี นรู้ ดว้ ยกระบวนการ PLC

33 ครเู ขา้ ร่วมการอบรมพฒั นาตนเอง

34 กิจกรรมการรว่ มชุมชนการเรียนร้ทู างวิชาชีพ PLC เพื่อพัฒนาผู้เรยี น

35 1. การบรหิ ารจดั การท่ีมีประสทิ ธภิ าพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนนิ กิจกรรมทางวชิ าการ 5) มกี ารพัฒนานักเรยี นดว้ ยกจิ กรรมท่ีหลากหลายตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการ ดำเนินการพัฒนานกั เรียนด้วยกจิ กรรมทห่ี ลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการ โดยมีการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ดังนี้ 1. ประชุมคณะครู เพื่อชี้แจง/วิเคราะห์สภาพปัญหาและความตอ้ งการของผู้เรียน และแนวทางการจดั กิจกรรมของนักเรียน 2. แต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ตรงตามความ ต้องการของผูเ้ รียนและสอดคล้องตามมาตรฐานตัวชว้ี ดั 3. ครูผู้รบั ผดิ ชอบดำเนินการตามแนวทางทีว่ างแผนไว้ ดังนี้ 3.1 โครงการยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติ ( O-NET) - ส่งเสรมิ การเรียนรภู้ าษาไทย (วันสุนทรภู,่ วนั ภาษาไทย) - กจิ กรรม Math Day - กจิ กรรมสปั ดาห์วิทยาศาสตร์ 3.2 โครงการสง่ เสรมิ ศักยภาพผู้เรยี น - อ่าน เขยี น เรียนเพลิน 3.3 สืบสานวันสำคญั - กิจกรรมวันเข้าพรรษา - กิจกรรมวันแม่แหง่ ชาติ 4. ครผู รู้ ับผิดชอบรายงานผลการดำเนินงาน 5. ติดตาม นิเทศ และประเมินผลโครงการและกิจกรรม ผลการดำเนินงาน 1. นักเรียนรอ้ ยละ 80 ได้เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีโรงเรียนจดั ขึ้น 2. โรงเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่า ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการเรียนการสอนที่มี ประสทิ ธิภาพมากยิ่งขึ้น และกิจกรรม Math day ท่จี ัดขึน้ นั้นผูเ้ รียนได้รบั ความรู้จากกิจกรรมและนำมาปรับ ใช้ในรายวิชาไดด้ ียง่ิ ข้ึน

36 กจิ กรรม Math Day

37 กจิ กรรมสปั ดาห์วิทยาศาสตร์

38 กิจกรรมวนั แม่แหง่ ชาติ การจัดกิจกรรมการเรียนออนไลน์

39 1. การบรหิ ารจัดการที่มีประสิทธิภาพ 1.1. การบริหารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ 6) มีแหล่งเรียนรู้ท่เี หมาะสมและเอ้ือตอ่ การเรียนรู้ของผู้เรียน การดำเนนิ การ ดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนจัดให้มีแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียนที่เหมาะสมและ เอ้ือตอ่ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนของผู้เรยี น เชน่ แหลง่ เรยี นรภู้ ายใน แหล่งเรียนรู้ภายนอก - ห้องสมดุ โรงเรยี น - จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย - ห้องคอมพวิ เตอร์ - หอ้ งเรียนแปลงสาธติ เกษตร - ฟารม์ เหด็ ลงุ หยดุ - วดั หนองโพธิ์ - ธนาคารโรงเรียน - สถาบันการจัดการปญั ญาภิวัฒน์ ผลการดำเนนิ งาน โรงเรยี นมแี หล่งการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมและเอื้อต่อการเรยี นรู้ของผู้เรียนและเอื้อต่อการสอน ของครู รายงานการใชแ้ หล่งเรียนรู้ หอ้ งเรียนสาธิตแปลงเกษตร แหล่งเรยี นร้วู ัดหนองโพธ์ิ ห้องเรียน สถาบันการจดั การปัญญาภิวฒั น์ หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์

40 1. การบรหิ ารจัดการทีม่ ีประสิทธิภาพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ 7) มกี ารทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้ดว้ ยเคร่อื งมือทม่ี ีมาตรฐานด้วย วิธแี ละรปู แบบทห่ี ลากหลาย ส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการสอนที่มีการประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลาย ประเมินผลการเรียนรู้ อย่างรอบด้าน เช่น ประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้วยเครื่องมือที่มี มาตรฐานและสอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำผลการประเมินไปปรับปรุงกระบวนการ จัดการเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา โรงเรียนมีการประเมินผลที่มุ่ง ประเมนิ ผู้เรียนตามสภาพจริง โดยมกี ารดำเนนิ การดังน้ี 1. ประชุมวางแผน ร่วมกับครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้เพื่อวางแผนในการกำหนดแนวทางการปรับ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ การทดสอบ และประเมินผลการเรียนรู้ โดยยึดตัวชี้วัดที่ต้องรู้และควรรู้ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด การสอบกลางภาคให้ครูผู้สอนดำเนินการวัด ประเมินผลจากผลงาน ช้ินงาน รว่ มกบั การทำแบบทดสอบ และการสอบปลายภาค ทางกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ จะดำเนนิ การทดสอบ 2. ประชุมคณะครู เพื่อชี้แจงให้ครูวางแผนจัดการเรียนการสอน เนื้อหาบทเรียน สอนตามแนวทางการ ปรับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้อย่างเหมาะสมกับนักเรียน โดยยึด ตัวช้วี ดั ท่ีตอ้ งรู้ และ ควรรู้ ตามทส่ี ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐานกำหนด 3. ครดู ำเนนิ การทดสอบและประเมนิ ผลการเรียนร้ดู ว้ ยเคร่ืองมือท่ีมีมาตรฐานด้วยวิธีการและรูปแบบที่ หลากหลายเชน่ - การสอบปฏบิ ัติ การสมั ภาษณ์ และการสงั เกต - ประเมินคะแนนจากผลงานของผเู้ รียน - มกี ารทดสอบดว้ ย Platform ตา่ ง ๆ 4. ครรู ายงานผลการเรียนของนักเรยี นในรายวิชาท่รี ับผดิ ชอบ ผลการดำเนนิ งาน 1) นกั เรียนได้รับการทดสอบและประเมนิ ผลการเรียนรดู้ ว้ ยวิธีทีห่ ลากหลาย และประเมนิ ตามสภาพจรงิ 2) โรงเรียนมคี ลงั ขอ้ สอบ ทไ่ี ดผ้ ่านการวเิ คราะห์แบบทดสอบแลว้ สามารถนำมาปรับใช้ในการทดสอบได้

41 แผนการจดั การเรียนรู้ และ เกณฑ์การประเมนิ ผเู้ รยี น

42 การจดั กจิ กรรมการเรยี นออนไลน์ การประเมนิ ผลงานของผูเ้ รียน

43 1. การบรหิ ารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ 1.1. การบริหารงานวิชาการ 1.1.1. การดำเนินกจิ กรรมทางวชิ าการ 8) มรี ะบบนเิ ทศ กำกบั ติดตาม ประเมินและรายงานผลการดำเนนิ งานท่ชี ัดเจน ดำเนินการนิเทศ กำกับ ตดิ ตาม ประเมิน และรายงานผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1. ผู้บริหารประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วยกระบวนการ PLC ซึ่ง บูรณาการร่วมกับโรงเรยี นคุณภาพวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีตามมาตรฐาน สสวท. เม่ือได้มติ ในท่ปี ระชุมแลว้ ผู้บริหารไดน้ ัดประชุมคณะครูเพือ่ วางแผนการการนิเทศ โดยมีขั้นตอนดังนี้ - ศึกษาเอกสาร และแนวทางการนเิ ทศโดยใชก้ ระบวนการ PLC - ดำเนินการจบั กลุ่ม 2 คนข้ึนไป โดยจัดต้งั ชื่อกลมุ่ PLC ของตนเอง 2. ดำเนินงานตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ด้วยวิธีการด้วยกระบวนการ PLC ซึ่งบูรณาการร่วมกับ โรงเรยี นคณุ ภาพวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยตี ามมาตรฐาน สสวท. 3. ผู้บรหิ าร และครดู ำเนินการนิเทศการสอนโดยนิเทศ และเยี่ยมหอ้ งเรยี น 4. ผู้นิเทศจัดกิจกรรมนิเทศตามแผนนิเทศที่ได้รับมอบหมาย บันทึกการนิเทศ และผลการนิเทศตาม กจิ กรรมทไี่ ด้รบั มอบหมาย และรายงานผลตอ่ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา 5. ประเมินผลโครงการปรับปรงุ แกไ้ ข เม่อื เสร็จสิน้ การดำเนิน งานตามแผนนำไปเปรยี บเทยี บกับสภาพ ความสำเร็จ เพือ่ แกไ้ ข ปรับปรุง และพฒั นาใหด้ ยี ิง่ ข้นึ 6. รวบรวมข้อมูลผลการนิเทศเพื่อรายงานผลโครงการนิเทศภายในโรงเรียนเพื่อเสนอต่อผู้บริหารใน ลำดับตอ่ ไป ผลการดำเนินงาน 1. สง่ เสรมิ ใหค้ รูตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการพัฒนานกั เรียนตามศักยภาพ มีรายงาน ผลโครงการ/กจิ กรรมตามกำหนดเวลา และนำผลการนเิ ทศการจัดการเรยี นรู้ เพื่อพัฒนาการจดั การเรยี นรใู้ ห้ดี ยิง่ ขน้ึ 2. ครูทกุ คนไดร้ ่วมกจิ กรรมนิเทศการจัดการเรยี นรู้ ผา่ นกระบวนการ PLC ซ่งึ บรู ณาการร่วมกับโครงการ โรงเรยี นคณุ ภาพวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยีตามมาตรฐาน สสวท. ซึง่ เปน็ กระบวนการทีท่ ำให้ ครูได้ปรบั ปรุง พัฒนา และต่อยอด การจัดการเรียนร้ไู ด้อยา่ งมคี ุณภาพมากขน้ึ

44 การประชมุ เพื่อวางแผน และสร้างความเข้าใจ

45 กิจกรรมการรว่ มชุมชนการเรียนร้ทู างวิชาชีพ PLC เพื่อพัฒนาผู้เรยี น

46 1. การบรหิ ารจดั การที่มีประสทิ ธภิ าพ 1.1. การบริหารงานวิชาการ 1.1.2 กิจกรรมการพัฒนาทกั ษะด้านการอา่ นและเขยี นภาษาไทย 1) มกี ารส่งเสรมิ สนับสนนุ ในการสร้างความตระหนัก และใหค้ วามร้แู กค่ รู สรา้ งความตระหนกั และให้ความรแู้ กค่ รดู ้านการอา่ นและการเขียนภาษาไทย ดังนี้ 1. ประชุมครูเพื่อชี้แจงเพื่อสร้างความตระหนัก แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้ คณะครูได้รับทราบร่วมกัน เนื่องจากปีการศึกษา 2563 ที่ผ่านมาพบว่าผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เข้ามา ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 บางส่วนนั้นมีผลการทดสอบเข้าศึกษาต่อที่ค่อนข้างต่ำ ทางโรงเรียนจึงเล็งเห็น ความสำคญั ของผเู้ รียนกลุ่มนี้ เพราะจะส่งผลต่อการเรียนวชิ าอื่น ๆ และขาดแรงจงู ใจใฝ่เรียนรู้อาจจะน้อยลง อีกทั้งอาจ ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่จะไม่ผ่านเกณฑ์ หรือการไม่จบการศึกษาตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ จึงแก้ปัญหาด้านการอ่านไม่คล่อง และการเขียนไม่คล่องของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยกิจกรรม ค่าย พฒั นาทักษะดา้ นการอ่านและการเขียนภาษาไทย และชุมนุม “อ่านเขยี นเรยี นเพลนิ ” จึงได้เกิดแนวคิดในการต่อยอดกิจกรรมโดยมุ่งสำรวจนักเรียนโรงเรยี นประเทียบวิทยาทานทุกคน เพื่อ ทราบขอ้ มูลในดา้ นการอ่าน และการเขียน และนำนักเรยี นทม่ี ีปัญหามาเขา้ ร่วมกิจกรรมทจ่ี ะส่งผลใหน้ ักเรียน อา่ นออก และเขยี นได้ ผลการดำเนินงาน 1. ครูทกุ คนมีแนวทางการดำเนนิ การพฒั นาทกั ษะดา้ นการอ่านและการเขียนภาษาไทยเปน็ แนวทางเดียวกัน 2. ครูตระหนักถงึ ความสำคญั ในการอ่านออก เขยี นได้ ของภาษาไทย เพื่อท่จี ะส่งผลตอ่ การเรียนทุกๆ รายวชิ า ตลอดจนการใชภ้ าษาในโซเชียลมีเดยี ของนกั เรียนอีกด้วย 2) มกี ารสง่ เสริมสนับสนุน การนำความรสู้ กู่ ารปฏบิ ตั ิ มีการดำเนินการส่งเสริมสนับสนุน การนำความรู้สู่การปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาทักษะด้านการอ่านและการเขียน ภาษาไทย ดังน้ี 1. มอบหมายให้กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยดำเนินการวางแผนการจัดกิจกรรม 2. ประชุมร่วมกับครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติ ขั้นตอนการดำเนิน กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะดา้ นการอ่านและการเขยี นภาษาไทย 3. ประชุม ผู้บริหาร ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติ ขั้นตอนการ ดำเนนิ กิจกรรมพัฒนาทักษะด้านการอา่ นและการเขียนภาษาไทย 4. จัดทดสอบทักษะด้านการอ่าน และการเขียน กับนักเรียนโรงเรียนประเทียบวิทยาทานทุกคน เพื่อ ค้นหาผเู้ รยี นที่อา่ นไม่คล่อง เขียนไมค่ ล่อง ดว้ ยแบบประเมนิ การอ่าน – การเขียน 5. ผู้เรียนที่อ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่องจะต้องร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะด้านการอ่านและการเขียน ภาษาไทย ระยะเวลา 1 สปั ดาห์

47 1. การบรหิ ารจัดการที่มีประสทิ ธภิ าพ 1.1. การบรหิ ารงานวิชาการ 1.1.2 กจิ กรรมการพัฒนาทักษะดา้ นการอ่านและเขยี นภาษาไทย 2) มกี ารส่งเสรมิ สนบั สนนุ การนำความร้สู ูก่ ารปฏิบัติ (ต่อ) 6. ผู้เรียนจะต้องทดสอบหลังเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะด้านการอ่าน และการเขียนภาษาไทย เพื่อดู พัฒนาการของผูเ้ รียน โดยแบ่งออกเปน็ 2 กลุม่ ดงั นี้ - กลมุ่ ท่สี อบไม่ผา่ น ผู้เรียนที่อ่านไม่คลอ่ ง เขียนไมค่ ล่อง จะต้องเข้าเรียนชมุ นมุ อ่าน เขยี น เรยี น เพลิน กบั ครูในกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย และมีการนัดใหม้ าเรียนเพิ่มเตมิ ในวันเสาร์ - กล่มุ ท่สี อบผ่าน อา่ นได้ เขยี นได้ ผเู้ รยี นสามารถเลอื กชุมนุมอ่นื ไดต้ ามความสนใจ ผลการดำเนินงาน ผู้เรียนมีทักษะด้านการอ่าน และการเขียนภาษาไทยที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ ความ เขา้ ใจตอ่ การเรยี นวชิ าภาษาไทย และวชิ าอ่ืน ๆ ซ่ึงสง่ ผลตอ่ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้นอกี ด้วย 3) มีการส่งเสริม สนบั สนนุ ให้มีการจดั ทำส่อื หรือนวัตกรรม ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูได้จัดทำสื่อหรือนวัตกรรมและนำมาใช้กับนักเรียนสำหรับนักเรียนอย่างเหมาะสม และเพียงพอ ใชส้ อื่ การสอนท่ีหลากหลาย เพ่อื พัฒนาผ้เู รียนด้านทักษะการอ่าน และการเขยี นภาษาไทย ดงั น้ี 1. กบั ผู้บรหิ าร ประชุมร่วมกับครูกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เพอื่ ตดิ ตามการดำเนนิ การโครงการ/กิจกรรม ตามแผนปฏิบัติการ ในการดำเนินการจัดทำสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยี ในการจัดการเรียนการสอน และ มอบนโยบายให้คุณครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการผลิตสื่อ หรือเลือกใช้ส่ือ นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะดา้ นการอ่าน และการเขียนภาษาไทย 2. ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูนำสื่อที่มีอยู่อย่างหลากหลาย บนออนไลน์มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เชน่ สือ่ การสอนจากช่องทาง DLTV, www.youtube.com รวมถงึ การสนบั สนนุ 3. สนับสนนุ สง่ เสรมิ ใหค้ รูนำความร้ทู ไี่ ด้จากการอบรม พัฒนา มาใช้ผลติ ส่อื ในการจดั การเรยี นการสอน ผลการดำเนนิ งาน ครูในกลมุ่ สาระภาษาไทยทกุ คนพัฒนาตนเอง มีการจดั ทำสื่อการเรยี นรู้ หรือนวัตกรรม และนำมาใชก้ ับนักเรยี นได้จริง ทำใหน้ ักเรยี นอ่านออก เขยี นได้ ส่งผลให้ผูเ้ รยี นเขา้ ใจเน้ือหาวิชาอืน่ ๆ ได้มาก ขนึ้ 4) มีการวางแผนนิเทศ และตดิ ตาม วางแผนนิเทศและติดตามอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ดงั น้ี 1. ประชุม วางแผน ร่วมกับครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในการติดตามกจิ กรรมพฒั นาทักษะด้าน การอ่านและการเขียนภาษาไทย 2. กำหนดปฏิทินการนิเทศ ติดตาม พร้อมกับการนิเทศการสอน การเยี่ยมชั้นเรียนอย่างเป็น กลั ยาณมิตร ในการจดั กจิ กรรมพฒั นาทักษะดา้ นการอ่านและการเขียนภาษาไทย