Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องที่2รู้คิดระบบนิเวศ2

เรื่องที่2รู้คิดระบบนิเวศ2

Published by กมลชนก สะคำปัน, 2018-11-01 09:26:01

Description: เรื่องที่2รู้คิดระบบนิเวศ2

Search

Read the Text Version

คำนำ หนงั สือกำรต์ ูนเรื่อง สง่ิ แวดล้อมเมืองลำพูน เป็นหนงั สือประกอบกำรเรียนรู้กลมุ่ สำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตรส์ ำหรบันกั เรียน ชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 ซึ่งมีทัง้ หมดจำนวน 8 เลม่ หนังสือกำรต์ ูนเรื่องสิ่งแวดล้อมเมืองลำพูน เล่มท่ี 2รคู้ ิดระบบนิเวศนี้จดั ทำขึน้ เพือ่ พฒั นำผูเ้ รียน ใหม้ ีควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ เรื่องควำมสัมพนั ธร์ ะหว่ำง กำรดำรงชีวติ ของส่งิ มีชีวิตกับสภำพแวดล้อม ในท้องถ่นิ ตลอดจนสำมำรถนำควำมรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ ผ้จู ัดทำขอขอบพระคณุ ทกุ ท่ำนทม่ี ีสว่ นเกี่ยวขอ้ งในกำรให้คำแนะนำคำปรึกษำดว้ ยดีตลอดมำและหวงั เปน็ อยำ่ งย่งิ วำ่หนงั สือกำรต์ นู เลม่ นีจ้ ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ กำรพฒั นำกำรเรียนรู้ของนักเรียนต่อไป นำงสำวกมลชนก สะคำปัน

มำตรฐำนกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตรช์ น้ั ประถมศึกษำปีที่ 6 สำระท่ี 2 ชีวติ กับสิ่งแวดล้อม มำตรฐำน ว 2.1 เข้ำใจสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ินควำมสัมพันธ์ ระหว่ำงสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งมีชีวิต ต่ำง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้และ จิตวิทยำศำสตร์ สื่อสำรสิ่งท่ีเรียนรู้ และนำควำมรู้ไปใช้ ประโยชน์ ตวั ชี้วดั ที่ ป 6/2อธิบำยควำมสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตในรูปของโซ่อำหำร และสำยใยอำหำร ตวั ชีว้ ัดที่ ป 6/3 สืบค้นข้อมูลและอธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงกำรดำรงชีวิตของ สิ่งมีชีวติ กบั สภำพแวดล้อมในทอ้ งถิน่ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบำยควำมหมำยของระบบนิเวศได้ (K) 2. อธิบำยควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงกำรดำรงชีวติ ของสิ่งมีชีวติ กบั สภำพแวดลอ้ มทอ้ งถิ่นได้ (K)

3. อธิบำยผลกระทบกำรใช้ทรพั ยำกรธรรมชำติในท้องถิ่นต่อ ระบบนเิ วศเมืองลำพูนได้ (K)4. มีทักษะในกำรทำงำนกลุ่ม( P )5. มีควำมตระหนักในควำมสำคญั ของกำรเรียนรู้ (A)

สิ่งมีชีวติ มีควำมสัมพันธ์กบัสิง่ แวดลอ้ มมย๊ั นะ?ไอซ์ แนน่ อนซิ ! เพรำะสิง่ มีชวี ิต ก็ได้แก่ พืช และสัตว์ ต้องอำศยั ปัจจยั สำคัญ จำกสิ่งแวดลอ้ มในกำร ดำรงชีวติ ว่ำแตว่ ่ำ ! สิง่ แวดลอ้ มคืออะไร แลว้ มีชวี ิตรเึ ปล่ำ 1

สิ่งแวดลอ้ มกค็ อื สิง่ ทีอ่ ยู่รอบๆตวั เรำเช่นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติได้แก่ป่ำไม้ ภูเขำ ดิน น้ำ อำกำศทรพั ยำกรธรรมชำติ แล้วก็มีสิ่งแวดลอ้ มที่ มนุษย์สร้ำงขึ้นใช่มั๊ย เชน่ ชมุ ชนเมือง สิง่ ก่อสร้ำงบ รำณสถำน ศิลปกรรม 2

งั้น! สิง่ แวดล้อมก็เปน็ สิง่ ทีไ่ ม่มีชวี ิตแตส่ ิ่งมีชีวติ ต้องอำศัยสิ่งแวดล้อมในกำรดำรงชีวติมนั กถ็ กู นะ แตจ่ รงิ ๆแล้วสิง่ แวดล้อมยังประกอบดว้ ยสิง่ ทีม่ ีชีวติและสิง่ ที่ไมม่ ีชวี ิตจะ๊วิง่ มำซะเหนื่อยเลย ใช่ๆเหน่อื ยแทนต้นทำนน้ำซะหนอ่ ย เห็น สิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิตเธอทงั้ สองคนคุยกัน ก็นำ่ จะเปน็ แสงฉัน กอ็ ยำกถำมว่ำ อณุ หภมู ิ ดิน แร่ธำตุสิ่งแวดล้อมทีไ่ มม่ ีชวี ิต อำกำศจ๊ะประกอบดว้ ยอะไรบ้ำง 3

ไอซ์ ลองบอกมีนหนอ่ ยซิวำ่ สิง่ แวดล้อมที่สิง่ มีชีวติ ตอ้ งใช้ในกำรดำรงชีวติ มำกท่สี ดุ มีอะไรบ้ำงอยำ่ งแรกกค็ งจะเปน็ แสงนะเพรำะแสง 4เปน็ ปจั จยั สำคญั ทีม่ ีอิทธิพลตอ่ กำรดำรงชีวติ ของสิง่ มีชีวิตหลำยชนิดเช่น ใช้ในกระบวนกำรสงั เครำะห์ ดว้ ยแสงของพืชรวมทั้งกำรหุบและบำนของดอกและใบของพืชหลำยชนิดเชน่ ใบไมยรำบใบกระถิน ใบ ไมยรำบ

กระบวนกำรสร้ำงอำหำรของ พืชนอกจำกพืชสร้ำงอำหำรโดยใช้กระบวนกำรสงั เครำะหด์ ้วยแสง ลำต้นพืชยังเบนโค้งเข้ำหำแสงแดดตลอดเวลำ 5

สว่ นอุณหภูมิมีผลต่อกำรหุบ และบำนของดอกไมบ้ ำงชนิดเช่น ดอกบัว จะบำนตอนกลำงวนั และจะหุบในตอนกลำงคืนและยังใช้แสง ในกำรออกหำอำหำรของสตั วด์ ว้ ย นอกจำกนีอ้ ุณหภมู ิก็ มีผลต่อพฤติกรรม บำงประกำรของสตั ว์ นะ 6

เชน่ พฤติกรรมกำรจำ อยำ่ งที่เมืองลำพูนก็มีสัตวท์ ่จี ำศีลในฤดูหนำวของหมี ศีลเพรำะ ต้องทนตอ่ ควำมแห้งขัว้ โลกไงละ แล้ง ขำดแคลนอำหำรไมไ่ หวก็ เลยเก็บสะสมพลงั งำนไว้ในรปู ไขมันขดุ รู อยู่นิ่งๆ เพื่อลด กำรใชพ้ ลังงำน เช่น กบไงอุณหภมู ิมีผลตอ่ ลกั ษณะและรปู รำ่ งของสิ่งมีชีวติ เช่น สตั ว์ในเขตหนำวจะมีขนำดตวั ท่ีใหญก่ วำ่ สัตว์ ในเขตร้อน แต่ทล่ี ำพูนไมม่ ีหมีขั้วโลกนะจ๊ะ 555 หรอื สตั วบ์ ำงชนิดที่ 7 อยู่ในเขตหนำวจะมี ขนหนำกว่ำสัตวใ์ น เขตรอ้ น

นำ้ ยังเป็นปัจจัยสำคญั ท่ีมีอิทธิพลต่อกำรดำรงชีวติ ของสิง่ มีชีวติ เช่น น้ำเปน็ วัตถุดิบในกระบวนกำรสังเครำะห์ด้วยแสงของพชื และนำ้ ยังเป็นตวั ทำละลำย ท่สี ำคัญที่ทำใหแ้ ร่ธำตุต่ำงๆท่มี ีอยู่ในดินละลำยและซึม สู่พืน้ ดินเพื่อใหพ้ ชื สำมำรถนำไปใชไ้ ด้เชียวนะ ท่สี ำคัญมำกๆอีกอย่ำงนะน้ำยังเป็นปจั จัยท่ี มีผลต่อกำรงอกของเมล็ดเปน็ ส่วนประกอบ ในเซลล์ร่ำงกำยของสิ่งมีชีวิตทกุ ชนดิ และ เป็นสือ่ กลำงในกำรชว่ ย ขับของเสียออก จำกร่ำงกำรของสิง่ มีชวี ิต สดุ ยอดเลย!! 8

ไมเ่ ปน็ ไรหรอกใส่ ปุ๋ยดแู ลดีๆก็ เจริญเติบโต เหมือนเดิมนะ แหละ แต่อยำ่ เหยียบอยุ้ ตบำ่อยย!ๆนี่คยุ ไปเล่นไปเหกย็แียลบ้วกหนัญ5ำ้ แ5บ5นเรยี บเลย ลงุ ภำรโรงดเุ ปลำ่ เนี่ยเอ! คดิ ๆดูแล้วดินนีด่ ีจริงๆ ที่สำคญั ดินเปน็ ที่อยูอ่ ำศัยของเลยนอกจำกเป็นแหลง่ ท่ี สิ่งมีชีวติ เกือบทกุ ชนดิ บนอยู่ของพืช อีกทง้ั ยงั ให้แร่ โลก และท่ชี อบมำกท่สี ดุ ก็คือธำตุทจ่ี ำเป็นในกำร มีพ้นื ท่ี ให้เรำวิ่งเลน่ ไงละดำรงชีวติ ดินกย็ งั ช่วยในกำรกกั เก็บนำ้ และอำกำศ 9

เฮ้อ! วนั นี้อำกำศรอ้ นจังเลยนีถ่ ำมหนอ่ ยซิไอซ์อำกำศเป็นสิ่งแวดลอ้ มรึเปลำ่ เนี่ย โอ้โฮ้ !อำกำศ เปน็ สิ่งแวดล้อมทีไ่ มม่ ีชวี ิตเปน็ ปจั จัยทำงกำยภำพมี ควำมสำคัญ ตอ่ กำร ดำรงชีวติ ของสิง่ มีชีวิตมำกเพรำะอำกำศมีแก๊ส เชียวแหละ นอกจำกนีพ้ ชื ยงั ใช้ออกซิเจน ซึ่งเปน็ กำ๊ ซส่วนประกอบที่จำเป็น คำร์บอนไดออกไซด์ตอ่ กำรดำรงชีวติ ของ เปน็ วตั ถุดิบในกำรสิง่ มีชีวติ แทบทุกชนิด สรำ้ งอำหำรของพืช อีกด้วย 10

ใชแ่ ล้วจ๊ะ!มำแอบฟงั เดก็ ๆคุยกนั ต้งั นำนแล้วเด็กๆรูม้ ๊ัยว่ำระบบนเิ วศทุกระบบในโลกของสิง่ มีชีวติ เป็นโครงสร้ำงที่แสดงถงึควำมสัมพันธใ์ นแง่ของกำรถ่ำยทอดพลังงำนที่อยใู่ นโมเลกลุ ของสำรระหว่ำงกลมุ่ สิ่งมีชีวติ ท่เี ป็นผผู้ ลิตผ้บู ริโภคพืชพืชผู้บริโภคสัตวผ์ ู้ยอ่ ยสลำยอินทรยี ส์ ำรและยงัมคีคณุ วคำรมมู สำัมพันธใ์ นแงข่ องกำรหมุนเวียนสพำอรดรีะหว่ำงสิ่งมีชีวติ กบั สิง่ แวดลอ้ มด้วยจ๊ะควำมสัมพันธเ์ กีย่ วขอ้ งกันระหว่ำงสิ่งมีชีวติกบั สิ่งมีชีวติ ดว้ ยกนั หรือควำมสมั พันธ์ระหว่ำงสิ่งมีชวี ิตกบั สิ่งไม่มีชวี ิต โดยอำศยัอยูแ่ หล่งเดียวกนั เปน็ ลกั ษณะควำมสมั พันธ์ของสิ่งมีชีวิตได้แก่ มนุษย์สตั ว์ พืช กับสิ่งแวดลอ้ มเรำเรยี กว่ำอะไรเรยี กวำ่ ระบบนิเวศใชม่ ัย๊ !ครบั คุณครู 11

ใช่แลว้ จะ๊ เก่งมำก จริงๆแลว้ ระบบนิเวศมีองคป์ ระกอบท่สี ำคญั 2ส่วน มใี ครทรำบคำตอบบ้ำง ผมทรำบครับองคป์ ระกอบแรกคอืส่วนประกอบท่ไี มม่ ีชวี ิตใช่ม๊ยั ครับคุณครู เย!้ เกง่ อะ่ แล้วสว่ นที่ไมม่ ฮี ่ำๆๆชีวติ มีอะไรบ้ำงจะ๊กม็ ีโปรตีนไขมันคำร์โบไฮเดรต ซึง่มีองค์ประกอบของเซลล์สิ่งมีชีวติ ไดแ้ ก่ น้ำออกซิเจน ไนโตรเจนฟอสฟอรัส โพแทสเซียมและคำรบ์ อนคะ 12

นอกจำกนีก้ ็เป็นสภำพแวดล้อมก็เปน็ ส่วนท่ไี ม่มีชีวติ ได้แก่แสง อณุ หภูมิ อำกำศควำมชื้น ที่อยู่อำศยั ไงละซึ่งเปน็ สิ่งท่จี ำเป็นต่อกำรดำรงชีวติและ ใชแ่ ลว้ จ๊ะ ละก็ ส่วนท่มี ีชวี ิตองค์ประกอบที่ ไดแ้ ก่ สิ่งมีชวี ิตทกุ ชนิดสองกค็ อื สว่ นท่ี แบง่ ตำมบทบำทหน้ำท่ไี ด้ 3มีชวี ิตใช่มย๊ั คะ กล่มุ อยำกรใู้ ช่มยั๊ ละ! วำ่ มี อะไรบ้ำง ?ใหเ้ ดก็ ๆไป คน้ คว้ำแลว้ นำควำมรู้ มำ นำเสนอหน้ำช้ัน 13

สวัสดีคะไอซืเป็นกล่มุ แรกที่จะนำเสนอองค์ประกอบของสิง่ มีชวี ิต ส่วนท่มี ีชวี ิตกลุม่ แรกคอื ผูผ้ ลิต (Producer ) หมำยถึง สิง่ มีชีวติ ท่ีสำมำรถสร้ำงอำหำรเองได้ โดยวิธีกำรสังเครำะห์ด้วยแสง ไดแ้ ก่ พืชสีเขียว ใหเ้ พือ่ นๆดูภำพประภกำอพบปไประดก้วอยบนกะคระบวนกำรสรำ้ งอำหำรของพืช 14

กลมุ่ ที่ สองคือผูบ้ ริโภค อยำ่ งแรกไดแ้ ก่พวกที่(Consumer) สิง่ มีชวี ิตทีไ่ ม่ กินพืชเปน็ อำหำรอย่ำงสำมำรถสรำ้ งอำหำรเองได้แต่ เดียว เชน่ ชำ้ ง ม้ำ วัวได้รบั อำหำรจำกผู้ผลิตหรือ ควำย แกะ แพะผ้บู ริโภคด้วยกนั เอง ไดแ้ ก่ กระต่ำยสัตวต์ ำ่ งๆเรำแบ่งผู้บริโภคเป็น 4 พวกสองพวกทีก่ ินสตั ว์เปน็ สำมพวกที่กินซำกพืชอำหำรอยำ่ งเดียว เชน่ งู ซำกสัตวท์ ่ตี ำยจนเน่ำกบ เขียด จิ้งจก ตกุ๊ แก นก เปื่อยผพุ งั เปน็ อำหำรเค้ำแมว จระเข้ เหยี่ยว เชน่ นกแร้ง ไส้เดือนสิงโต เสือจะ๊ ปลวก กิง้ กือ 15

เข้ำใจมำก สุดทำ้ ยก็คอืขึน้ พวก ท่กี ินท้ังพืช และสตั ว์เป็น อำหำร เช่น คน ไก่ เป็ด หนู สุนขั แมวผยู้ อ่ ยสลำยอินทรยี ์สำร(Decomposer) หมำยถึง สิง่ มีชีวติ ทีไมส่ ำมำรถสร้ำงอำหำรเองได้ แตไ่ ด้จำกกำรย่อยสลำยซำกพืช ซำกสตั ว์ทต่ี ำย ให้เน่ำเปือ่ ยผพุ งั กลำยเปน็ ธำตุอำหำรให้ผ้ผู ลิตนำไปใช้ได้อีก ตัวอยำ่ งสิ่งมีชวี ิตพวกนีไ้ ดแ้ ก่ เหด็ รำ ยีสต์ แบคทีเรีย 16

เหมือนแผนภำพทแ่ี สดงไว้เลยจ๊ะ ดูแล้วจะทำให้เรำเข้ำใจมำกขึ้นสรุปแล้วควำมสัมพันธข์ องสิง่ มีชวี ิตกับ ไมม่ ี นอกจำกนี้ยงัชีวติ ซึง่ ประกอบด้วย แสง อุณหภมู ิ น้ำ ดิน เปน็ กำรกำหนดอำกำศ เพรำะแสงก็เป็นปัจจัยในกำรปรุง ช่วงเวลำในกำรอำหำรของพืชคะ ออกหำกินของ สตั ว์ดว้ ยคะ 17

อณุ หภมู ิ ก็มีผลต่อกำรผลัดใบเมื่ออำกำศมีอุณหภมู ิสูงขึ้น และเมลด็ พืชจะงอกไดก้ ็ ต่อเมือ่ ไดร้ ับนำ้ และ ควำมชื้นสิ่งมีชีวติ ทกุ อย่ำงขำดน้ำไม่ได้ดินกเ็ ป็นที่ยึดรำกและ และสุดทำ้ ยอำกำศ เพรำะลำต้นของพืชแร่ธำตุใน สิ่งมชี ีวติ ทกุ ชนิดต้องใชอ้ ำกำศดินทำให้พืชเจริญเติบโต ในกำรหำยใจพืชใช้ได้ดี คำรบ์ อนไดออกไซด์ เป็นวัตถดุ ิบในกำรสร้ำง อำหำร 18

ปลำอำศัยนำ้ เปน็ ทอ่ี ยูอ่ ำศัย และได้รับอออกซิเจนจำกน้ำ เพือ่ ใชใ้ นกำรหำยใจและต้นไม้ บำงชนิดอำศยั อยู่ในน้ำโดย ตน้ ไมส้ ังเครำะห์ดว้ ยแสง ชว่ ย เพิ่มออกซิเจนในนำ้ควำมสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวิตทอ่ี ยรู่ ่วมกนั ในแง่ของกำรถ่ำยทอด พลังงำน 19

ควำมสมั พันธ์ของสิง่ มีชีวิตท่อี ยู่ ใช่จะ๊ เมือ่ พืช คน และรว่ มกันในแง่ของกำรถำ่ ยทอด สัตว์ ตำยลงจะถูกพลงั งำนโดยคนและสัตว์ไดร้ บั จุลินทรยี ์ เชน่ แบคทเี รยีอำหำรและแกส๊ ออกซิเจน (O2) รำย่อยสลำยกลำยเป็นแร่จำกพืช ส่วนพืชได้รบั แก๊ส ธำตใุ นดินคำร์บอนไดออกไซด์(CO2)จำกคนและสัตว์เฮ!้ ในท่สี ุดเรำก็ ใชๆ่ พวกเรำตอ้ งอยู่เข้ำใจ กบั ระบบนเิ วศไม่และเห็น ทำลำยใหร้ ะบบนิเวศควำมสัมพันธข์ อง เสียสมดลุระบบนเิ วศ ตอนนี้ถึงเรียนแล้ว เวลำเลิกเรยี น แยก ย้ำยกันกลับบ้ำนแลว้ พรงุ่ นีเ้ จอกันนะบำ๊ ยๆ 20

บรรณานุกรมภาษาไทยการศึกษาสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ตามหลกั สูตร แกนกลาง การศึกษาข้นั พืน้ ฐานพทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศ ไทย.ก่องแกว้ พนั ธกานต.์ (2551). สรุปหลักวทิ ยาศาสตร์ ม.1-2-3 ช่วง ช้ันท่ี 3 กล่มุ สาระ การเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพเ์ จริญรัตนก์ ารพิมพ.์บูรชยั ศิริมหาสาคร , พดั ชากวางทอง. (2544) .คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้สาระ การเรียนรู้พืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ป.6 . กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจริญทศั น์(อจท.) จากดั .รุจิร์ ภู่สาระ , สุสรดิษฐ์ ทองเปรม และ เอกรินทร์ ส่ีมหาศาล.(2551). ชุด แม่บท มาตรฐานหลักสูตรแกนกลาง .วทิ ยาศาสตร์ ป.6. กรุงเทพมหานคร : อกั ษร เจริญทศั น์(อจท.)จากดั .สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). การจัดการเรียนรู้กลุ่มวทิ ยาศาสตร์กลกั สูตรการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พค์ ุครุสภาลาดพร้าว. 21

สานกั งานวชิ าการและมาตรฐานการศึกษาสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานกระทรวงศึกษาธิการ.(2551). ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พืน้ ฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ มนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย.ส่ืออเิ ลคทรอนิกส์ระบบนิเวศ .(ออนไลน์).แหล่งที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki . วนั ท่ีสืบคน้ 15 พฤษภาคม 2551ระบบนิเวศ /อดินนั ท์ หวงั พิทยา.(ออนไลน์) แหล่งที่มา : http://stks.or.th/ling/mareenee.วนั ที่สืบคน้ 25 พฤษภาคม 2551วกิ ีพิเดีย . (2551) ระบบนิเวศ .( ออนไลน์) แหล่งที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki วนั ท่ีสืบคน้ 15 พฤษภาคม 2551.สถาพร ทพั พะกุล ณ อยทุ ธยา ,ถนอมจิตร เสนมา ,บุญครอง พ่งึ สุข(_______. (2551).(ออนไลน์) แหล่งที่มา : http://www.google.com/imgres/. วนั ที่ สืบคน้ 17 ธนั วาคม 2551. 22

สิทธิชยั หวลอารมณ์ เสนอ อาจารยภ์ าสกร เรืองรอง รายวิชาเทคโนโลยี และสื่อสารการศึกษา 355201 สงวนลิขสิทธ์ิ โดยคณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร พ.ศ. 2547 แหล่งท่ีมา : http://student.nu.ac.th/u46411062/lesson%202.htmวนั ท่ีสืบคน้ 28ธนั วาคม 2552สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพท่ีมา: หนงั สือเรียนวชิ า วทิ ยาศาสตร์ สานกั พิมพน์ ิยมวทิ ยา แหล่งท่ีมา : http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/special_report/15109วนั ที่ สืบคน้ 29 ธนั วาคม 2552อดินนั ท์ หวงั พิทยา. (2551) . ระบบนิเวศ .( ออนไลน์) แหล่งที่มา : http://stks.or.th/ling/mareenee วนั ท่ีสืบคน้ 25 พฤษภาคม 2551.ขอ้ มูลออนไลน์ http://office.microsoft.com/th 23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook