Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชา หลักการขาย

แผนการสอนวิชา หลักการขาย

Published by chaipichit.c, 2020-05-27 02:23:40

Description: แผนการสอนมีไว้เพื่อประกอบการเรียนการสอน เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนการสอนวิชาหลักการขาย

Keywords: แผนการสอน

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ รหัสวชิ า 3200 – 0002 ชื่อวชิ า หลักการขาย หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชน้ั สูงพทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ า บริหารธุรกจิ . สาขาวชิ า การตลาด จดั ทาโดย นางสาวชญานุช โอภ้ าษี วิทยาลยั เทคนคิ ปราจนี บรุ ี สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคกลาง 3 สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ แผนการจดั การเรยี นรู้นจ้ี ดั ทาขนึ้ มาโดยเน้นให้เน้นผเู้ รยี นสาคญั ที่สุด ซ่ึงกจิ กรรมการเรยี นการสอนท่ี จัด ประกอบดว้ ยลักษณะสาคัญดังน้ี 1. ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นร้จู ากการปฏบิ ตั จิ ริง 2. ผเู้ รยี นมโี อกาสเลอื กเรยี นร้ใู นสงิ่ ท่ตี นถนัดและสนใจ 3. ผ้เู รียนได้มโี อกาสแสวงหาความรูแ้ ละสรา้ งองค์ความรดู้ ้วยตัวเอง 4. ผเู้ รียนไดม้ ีโอกาสท่จี ะนาความรูไ้ ปปฏิบัติใช้จรงิ ในชีวิตประจาวนั 5. ผเู้ รยี นมีส่วนร่วมในการประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องตนเอง ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ด้วยการบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในรายวิชา และในการคิดกิจกรรมที่จะส่งเสริม การเรยี นรขู้ องนักเรยี นตามพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาตใิ หเ้ ป็นรปู ธรรม นางสาวชญานุช โอ้ภาษี

สารบญั หนา้ ลักษณะรายวชิ า 1 รายการสอน 2 ตารางวเิ คาระห์โครงสรา้ งเนอื้ หาวชิ าฯ 3 การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ประจาหน่วยการเรยี นรู้ 4 ความสาคญของการของการขายและแนวความคิดทางการตลาด 21 ประเภทและลักษณะของการขาย 27 ชอ่ งทางการจัดจาหน่าย 33 การโฆษาและส่งเสริมการขาย 40 ความรเู้ กย่ี วกบั ผลติ ภัณฑ์ 47 ความรุ้เกี่ยวกบั ลูกคา้ 57 ความรเู้ กยี่ วกบั กจิ การ 60 ความรเู้ กี่ยวกบั การแข่งขนั 65 เทคนิคการขาย 70 คุณสมบัติของพนักงานขาย 75 จรรยาบรรณาและโอกาสความกา้ วหน้าของพนักงานขาย 79 เทคโนโลยีสมัยทเ่ี ก่ยี วข้องกับการขาย 84

ลกั ษณะรายวชิ า 1 รหัสวชิ า 3200-0002 ชอ่ื วิชา หลักการขาย หนว่ ยกติ 3 เวลาเรยี นตอ่ ภาค 3 ชัว่ โมง จดุ ประสงค์รำยวิชำ 1. เขา้ ใจเกีย่ วกับหลักการขายและความรู้พ้ืนฐานงานขาย 2. มที ักษะเกยี่ วกับการวางแผนกระบวนการขาย 3. มีเจตคติและกิจนิสยั ที่ดีในอาชีพขาย สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั หลกั การขายและความรู้พ้นื ฐานงานขาย 2. วางแผนการขายตามกระบวนการ 3. แสดงเจตคติและกิจนิสยั ทีด่ ีในอาชีพขาย คำอภิบำยรำยวิชำ ศึกษาเก่ียวกับหลกั การขาย คณุ สมบัติและจรรยาบรรณของนกั ขาย กระบวนการขาย การแสวงหาลุกคา้ การเตรียมตัวก่อนเข้าพบ การเข้าพบ การเสนอขายและการสาธิต การตอบข้อโต้แย้ง การปิดการขาย การ ติดตามและประเมินผลการขาย การบริการก่อนและหลังการขาย โอกาสความก้าวหน้าของนักขาย และเทต โนโลยที เ่ี กย่ี วขอ้ งกับงานขาย

รายการสอน 2 ท่ี รายการสอน เวลาเรยี น( ชม.) ทฤษฎี ปฏิบัติ รวม 1 ความสาคญของการของการขายและแนวความคดิ ทางการตลาด 2 ประเภทและลักษณะของการขาย 66 3 ชอ่ งทางการจัดจาหน่าย 33 4 การโฆษาและส่งเสริมการขาย 66 5 ความรู้เกี่ยวกบั ผลติ ภณั ฑ์ 66 6 ความรุ้เก่ยี วกบั ลูกคา้ 66 7 ความรู้เกี่ยวกับกิจการ 33 8 ความร้เู กย่ี วกบั การแข่งขัน 33 9 เทคนิคการขาย 33 10 คณุ สมบตั ิของพนกั งานขาย 99 11 จรรยาบรรณาและโอกาสความก้าวหน้าของพนกั งานขาย 33 12 เทคโนโลยสี มยั ท่เี กย่ี วข้องกับการขาย 33 33 54 54

3 ตารางวิเคราะห์โครงการสร้างเน้อื หาวิชากับความสอดคล้องตรงตามสมรรถนะรายวชิ า หนว่ ย เน้ือหา จานวน สรรถนะรายวชิ า 23456 ท่ี (รายการสอน) ชม. 1 // 7 ๑ ความสาคญของการของการขายและแนวความคดิ 3 / // ทางการตลาด ๒ ประเภทและลักษณะของการขาย 3/ ๓ ช่องทางการจัดจาหน่าย 6 /// ๔ การโฆษาและส่งเสรมิ การขาย 6 /// ๕ ความรู้เกย่ี วกบั ผลิตภัณฑ์ 6 /// ๖ ความร้เุ กี่ยวกับลูกคา้ 3 /// ๗ ความรเู้ กี่ยวกบั กิจการ 3 /// ๘ ความรูเ้ กี่ยวกบั การแข่งขัน 3 /// ๙ เทคนิคการขาย 9 /// ๑๐ คุณสมบัติของพนกั งานขาย 3 /// ๑๑ จรรยาบรรณาและโอกาสความก้าวหน้าของ 3 /// พนกั งานขาย 3 /// ๑๒ เทคโนโลยีสมยั ท่ีเก่ยี วข้องกบั การขาย

กาหนดการสอน 4 แนวทางการประเมิน หน่วย รายการสอน สมรรถนะ ทดสอบความรู้ ท่ี ประเ ิมนการปฎิบั ิตงาน การประเ ิมนผลงาน ประเ ิมนพฤติกกรรม ื่อนๆ ๑. แสดงความรกู้ บั ความสาคัญ แสดงความรู้กบั ความสาคัญของการขายและ / // ของการขายและแนวคิด แนวคิดทางการตลาด ทางการตลาด ๒. ประเภทและลักษณะของการ แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั ประเภทและลักษณะ / // ขาย ของการขาย ๓ ช่องทางการจดั จาหน่าย แสดงความรู้เกย่ี วกบั แสดงความรู้เกย่ี วกับ / // ชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ย ๔ การโฆษาและส่งเสรมิ การขาย แสดงความรู้เกี่ยวกับการโฆษาและสง่ เสรมิ / // การขาย ๕ ความรู้เกย่ี วกับผลติ ภัณฑ์ แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์ / // ๖ ความรูเ้ กี่ยวกบั ลูกค้า แสดงความร้เู กีย่ วกบั ความรเู้ กี่ยวกบั ลกู ค้า / // ๗ ความรู้เกยี่ วกบั กิจการ แสดงความรเู้ กี่ยวกับความร้เู กย่ี วกับกิจการ / // 8. ความรู้เก่ียวกบั คู่แข่งขนั แสดงความรู้เกยี่ วกับความรู้เกี่ยวกบั คู่แข่งขัน / // ๙. เทคนิคการขาย ๑.แสดงความรูเ้ ก่ยี วกบั การแขง่ ขนั // / / ๒.ปฏบิ ตั กิ ารขายตามข้นั ตอนกระบวนการ ขาย ๑๐. คณุ สมบัติของพนักงานขาย แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั คุณสมบัตขิ องพนักงาน / // ขาย ๑๑. จรรยาบรรณและโอกาส แสดงความรเู้ กี่ยวกบั จรรยาบรรณาและ / // ความก้าวหนา้ ของพนักงาน โอกาสความกา้ วหนา้ ของพนักงานขาย ขาย ๑๒. เทคโนโลยีทนั สมัยที่เก่ยี วข้อง ๑.แสดงความรเู้ กยี่ วกบั เทคโนโลยีทนั สมยั / / / / / กบั การขาย เกยี่ วข้องกับการขาย ๒.ปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีทท่ี ันสมัยเกี่ยวกบั การขาย 13. สอบปลายภาค

ใบรำยกำรวตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 6 หน้ำท่ี รำยกำรสอน รหัสวิชำ 3200 - 0002 วชิ ำ หลักการขาย ระดบั วตั ถุประสงค์ 1.ความสาคญั ของการขาย วัตถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ความรู้ ทักษะ และแนวความคิดทางการ ปฏิบัติ ทฤษฎีและปฏิบัติ RAT ICA ตลาด // 1.อธบิ ายความหมายและความสาคัญของการขายได้ 2.ประเภทและลักษณะ อย่างถูกต้อง // ของการขาย 2.อธิบายหลักพน้ื ฐานของการขายได้อย่างถกู ต้อง 3.อธบิ ายหนา้ ท่ีของการขายได้อย่างถูกต้อง 4.อธิบายแนวความคดิ เกย่ี วกับการตลาดได้อย่างถกู ต้อง 5.อธบิ ายหนา้ ที่ของการตลาดได้อยา่ งถูกตอ้ ง 1.อธบิ ายถึงการจัดประเภทของงานขายได้อย่างถกู ต้อง 2.อธบิ ายลักษณะของงานขายไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3.อธบิ ายถงึ การจัดประเภทของนกั งานขายไดอ้ ย่าง ถูกต้อง 4.อธิบายถงึ ความสมั พนั ธข์ องงานขายกบั หนา้ ท่ีของการ สง่ เสรมิ การตลาดไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 3.ช่องทางการจัดจาหน่าย 1.บอกความหมายและความสาคญั ของช่องทางการจัด / / จาหนา่ ยได้อย่างถูกตอ้ ง 2.บอกชอ่ งทางการจัดจาหน่ายสินค้าบรโิ ภคและสนิ คา้ อตุ สาหกรรมได้อยา่ งถูกต้อง 3.บอกปจั จยั ที่มีอิทธพิ ลตอ่ การกาหนดชอ่ งทางการจัด จาหนา่ ยไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 4.บอกถึงการตดั สินใจเลอื กช่องทางการจัดจาหนา่ ยได้ได้ อย่างถูกต้อง 5.บอกถึงความบุคคลทเี่ กีย่ วข้องกบั ช่องทางการจดั จาหนา่ ยไดอ้ ย่างถูกต้อง 6.บอกปญั หาของช่องทางการจัดจาหน่ายไดไ้ ดอ้ ย่าง ถูกต้อง

ใบรำยกำรวตั ถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม หนำ้ ที่ รำยกำรสอน รหสั วิชำ 3200 - 0002 วิชำ หลกั การขาย 4.การโฆษณาและการ ระดบั วตั ถุประสงค์ ส่งเสรมิ วตั ถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม ความรู้ ทักษะ ปฏิบัติ ทฤษฎีและปฏบิ ัติ RAT ICA 5.ความร้เู ก่ียวกับ // ผลิตภณั ฑ์ 1.อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของการโฆษณาได้ ได้อย่างถกู ตอ้ ง // 6.ความรู้เกยี่ วกับลูกค้า 2.บอกวัตถปุ ระสงค์ของการโฆษณาได้อยา่ งถูกต้อง 3.บอกประเภทของการโฆษณาได้อย่างถูกตอ้ ง // 4.บอกชนิดของส่อื ทใ่ี ช้ในการโฆษณาไดอ้ ย่างถูกต้อง 5.บอกความหมายและความสาคัญ 6.บอกวตั ถุประสงค์และเป้าหมายของการส่งเสรมิ การ ขายได้อย่างถกู ต้อง 7.บอกประเภทและวธิ กี ารส่งเสรมิ การขายได้อย่าง ถกู ต้อง 1.อธิบายความหนาได้อยา่ งถูกตอ้ ง 2.อธิบายความสาคญั ของการมคี วามรู้เก่ยี วกับผลิตภณั ฑ์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3.อธบิ ายรายละเอียดทเ่ี ก่ยี วกับผลิตภณั ฑ์ได้อยา่ ง ถูกต้อง 4.อธิบายประเภทของผลิตภัณฑ์ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 5.อธบิ ายส่วนผสมของผลติ ภณั ฑไ์ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง 6.อธิบายองค์ประกอบของผลิตภัณฑไ์ ด้อย่างถูกต้อง 7.อธบิ ายแหลง่ ความรเู้ ก่ยี วกับผลิตภณั ฑ์ได้ไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้อง 1.อธิบายความหมายและประเภทของลูกคา้ ไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง 2.อธบิ ายพฤติกรรมของลูกค้าไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3.อธบิ ายถึงความต้องการและแรงจงู ใจในการซ้ือของ ลกู คา้ ได้อยา่ งถกู ต้อง

ใบรำยกำรวัตถปุ ระสงค์เชิงพฤตกิ รรม หน้ำที่ รำยกำรสอน รหัสวิชำ 3200 - 0002 วชิ ำ หลักการขาย ระดบั วตั ถุประสงค์ 7.ความรูเ้ ก่ยี วกบั กจิ การ วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ความรู้ ทกั ษะ 8.ความรูเ้ กี่ยวกบั การ ปฏบิ ัติ ทฤษฎีและปฏิบตั ิ RAT ICA แขง่ ขนั 4.อธบิ ายถงึ ปจั จยั ภายในและปัจจัยภายนอก ท่มี ี // 9.เทคนคิ การขาย ผลกระทบต่อพฤตกิ รรม การซ้ือของลูกค้าได้อย่าง ถกู ต้อง // 5.อธิบายถงึ กระบวนการตัดสนิ ใจซอื้ ได้อย่างถกู ตอ้ ง 6.วิเคราะหห์ าสาเหตขุ องการตดั สินใจซือ้ ของ ลูกคา้ ได้ // อย่างถูกต้อง 1.อธิบายความร้เู กย่ี วกับกจิ การที่พนกั งานขายตอ้ ง ศึกษาได้อยา่ งถูกต้อง 2.บอกแหล่งความรู้เกย่ี วกบั กิจการได้อยา่ งถูกต้อง 3.อธบิ ายประโยชน์ของการมีความรู้เก่ียวกบั กิจการได้ อยา่ งถูกต้อง 1.บอกความหมายและความสาคัญของคู่แขง่ ขนั ได้อยา่ ง ถกู ต้อง 2.บอกความจาเปน็ ทต่ี ้องมีความรูเ้ กีย่ วกบั ค่แู ข่งขันได้ อย่างถูกต้อง 3.บอกสงิ่ ที่ควรรูพ้ รอ้ มแหล่งข้อมลู เกย่ี วกับคู่แข่งขันได้ อย่างถูกต้อง 4.สรปุ วิธีทพ่ี นกั งานขายจะชนะคูแ่ ข่งขนั ได้อยา่ งถูกต้อง 5.บอกประโยชน์ของการมคี วามรเู้ กี่ยวกบั ค่แู ขง่ ขันได้ อยา่ งถูกต้อง 1.อธบิ ายความหมายของเทคนิคการขายได้อยา่ งถกู ต้อง 2.ลาดบั ข้ันตอนของเทคนิควิธกี ารขายไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 3.อธบิ ายรายละเอยี ดและวิธีการในขน้ั ตอนได้อยา่ ง ถูกต้อง 4.อธิบายประโยชน์และขั้นตอนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 5.สรุปสาระสาคญั แต่ละขัน้ ตอนได้อยา่ งถกู ต้อง

ใบรำยกำรวัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม หนำ้ ท่ี รำยกำรสอน รหัสวิชำ 3200 - 0002 วชิ ำ หลักการขาย ระดบั วัตถุประสงค์ 10.คุณสมบตั ิของพนักงาน วัตถุประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ความรู้ ทักษะ ขาย ปฏบิ ตั ิ ทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ RAT ICA // 11.จรรยาบรรณและ 6.ปฏบิ ตั กิ ารขายตามขั้นตอนกระบวนตามข้ันตอน โอกาสความกา้ วหน้าของ กระบวนการขายไดอ้ ยา่ งถูกต้อง // พนกั งานขาย 1.อธบิ ายคุณสมบัติท่ัวไปของพนักงานขายไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง 2.อธบิ ายคุณสมบัติทด่ี ีของของพนักงานขายที่นายพงึ ปรารถนาได้อย่างถูกต้อง 3.อธบิ ายคณุ สมบัตทิ ่ดี ีของพนักงานขายท่ลี กู ค้าพึง ปรารถนาได้อย่างถกู ต้อง 4.บอกลกั ษณะของพนักงานขายทีช่ นะใจลูกค้าได้อยา่ ง ถกู ต้อง 5.อธิบายความรพู้ ้นื ฐานของพนกั งานขายได้อย่างถูกต้อง 6.บอกเทคนคิ ของการชนะใจลูกคา้ ได้อย่างถกู ต้อง 1.อธิบายความหมายของจรรยาบรรณได้อยา่ งถูกต้อง 2.บอกคุณสมบัติที่จาเปน็ ของพนักงานขายได้อยา่ งทุก ถูกต้อง 3.อธิบายจรรยาบรรณของพนักงานขายที่มตี ่อลกู ค้าได้ อยา่ งถูกต้อง 4.อธบิ ายจรรยาบรรณของพนักงานขายที่มตี ่อกจิ การได้ อยา่ งถูกต้อง 5.อธบิ ายจรรยาบรรณของพนักงานขายที่มีต่อคูแ่ ขง่ ขัน ไดอ้ ย่างถูกต้อง 6.อธบิ ายจรรยาบรรณของพนักงานขายทมี่ ตี ่อสงั คมได้ อย่างถูกต้อง 7.อธบิ ายการเสริมสร้างจรรยาบรรณให้กบั พนกั งานขาย ได้

ใบรำยกำรวัตถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม หนำ้ ท่ี รำยกำรสอน รหัสวชิ ำ 3200 - 0002 วิชำ หลักการขาย ระดับวตั ถุประสงค์ วัตถปุ ระสงค์เชงิ พฤติกรรม ความรู้ ทกั ษะ ปฏบิ ัติ ทฤษฎแี ละปฏิบัติ RAT ICA 8.บอกสาเหตุท่ีทาให้พนกั งานขายขาดจรรยาบรรณได้ อย่างถูกต้อง 12.เทคโนโลยีทันสมยั ที่ 1.บอกความสาคัญของอาชีพการขายไดอ้ ย่างถูกต้อง / / เกี่ยวขอ้ งกบั การขาย 2.บอกองค์ประกอบทส่ี รา้ งความสาเร็จให้กบั อาชพี ขาย ไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.อธิบายคุณสมบัติของพนักงานขายในฐานะผู้ บรหิ ารงานขายได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 4.อธิบายคณุ สมบัตขิ องพนักงานขายท่ีประสบ ความสาเร็จในอาชีพขายได้อย่างถูกต้อง 5.อธบิ ายรายได้และผลประโยชน์เกอ้ื กลู ของผปู้ ระกอบ อาชพี ขายได้อยา่ งถกู ต้อง 6.ปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีทที่ ันสมยั เกยี่ วกับการขายได้

11 กำหนดกำรสอน ช่อื หน่วยกำรเรยี นรู้ / รำยกำรสอน สมรรถนะประจำหน่วย สัปดำห์ ชวั่ โมง ท่ี ท่ี 1.ความสาคัญของการขายและ แสดงความรเู้ กีย่ วกับความสาคญั ของการขายและ 1-2 1-6 แนวความคิดทางการตลาด แนวความคดิ ทางการตลาด 2.ประเภทและลักษณะของการขาย แสดงความรู้เกี่ยวกับประเภทและลักษณะของการขาย 3 7-9 3.ช่องทางการจดั จาหนา่ ย แสดงความรเู้ กย่ี วกบั แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั ชอ่ งทางการจดั 4-5 10-15 จาหน่าย 4.การโฆษณาและการส่งเสริม แสดงความรู้เก่ียวกับการโฆษณาและการสง่ เสรมิ การขาย 6 16-18 5.ความรู้เกย่ี วกับผลิตภัณฑ์ แสดงความรเู้ กย่ี วกับความรู้เกีย่ วกับผลติ ภัณฑ์ 7 19-21 6.ความรู้เก่ยี วกับลกู ค้า แสดงความรูเ้ กีย่ วกับความรเู้ ก่ียวกบั ลกู ค้า 8-9 22-27 7.ความรเู้ กย่ี วกับกจิ การ แสดงความรู้เกี่ยวกบั ความรเู้ กี่ยวกับกิจการ 10 28-30 8.ความรเู้ ก่ยี วกบั การแข่งขนั แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ความรเู้ ก่ียวกบั การแข่งขัน 11 31-32 9.เทคนคิ การขาย 1.แสดงความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการขาย 12-14 33-41 2.ปฏิบตั กิ ารขายตามขั้นตอนกระบวนการขาย 10.คณุ สมบัติของพนักงานขาย แสดงความรเู้ กี่ยวกบั คุณสมบัตขิ องพนกั งานขาย 15 42-44 11.จรรยาบรรณและโอกาส แสดงความรเู้ กี่ยวกับจรรยาบรรณและโอกาสความกา้ วหน้า 16 45-47 ความกา้ วหนา้ ของพนักงานขาย ของพนกั งานขาย 12.เทคโนโลยีทันสมยั ทีเ่ กย่ี วข้องกบั 1.แสดงความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีทนั สมยั ทเี่ กยี่ วข้องกับการ 17 48-51 การขาย ขาย 2.ปฏบิ ัตกิ ารใช้เทคโนโลยที ี่ทันสมยั เก่ยี วกับการขาย 18 52-54 13.สอบปลายภาค

12 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 จานวน 6 ชั่วโมง สปั ดาห์ท่ี 1-2 ช่อื วิชาการขายเบื้องต้น ช่ือหน่วย ความสาคญั ของการขายและแนวความคิดทางการตลาด ช่อื เร่ือง ความสาคญั ของการขายและแนวความคิดทางการตลาด 1. สาระสาคัญ การศกึ ษาวชิ าการขายเบ้อื งต้น เป็นวชิ าท่สี าคัญซ่ึงชว่ ยให้รจู้ ักพฒั นาสติปัญญาเพ่ือแกป้ ัญหา ผู้เรียน วชิ าน้ีนอกจากจะได้ความรูท้ ี่ถูกตอ้ งตามหลกั พ้นื ฐานการขายแล้ว ยังสามารถแกป้ ญั หาเฉพาะหน้าได้อกี ด้วย การขายเปน็ กจิ กรรมทมี่ ีความสาคัญตอ่ การดาเนินธรุ กจิ ทกุ ประเภท เพราะการขายท่ดี จี ะสามารถสร้างรายได้ มหาศาลใหแ้ กอ่ งค์กร และสามารถทาให้องค์กรไดร้ ับผลกาไรตอบแทนสูงสดุ ซ่งึ เปน็ เปา้ หมายสาคญั ของธรุ กจิ การขายเป็นอาชพี ทมี่ คี วามเป็นอิสระ มีความทา้ ทายในตวั เอง เป็นวชิ าท่จี ะต้องใช้ท้ังศาสตร์และศลิ ป์ เพื่อ สร้างความเชื่อถือและไวว้ างใจจากลูกคา้ ซึ่งจะทาให้เกิดการซ้ือในทสี่ ุด 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรูเ้ กย่ี วกับความสาคญั ของการขายและแนวความคดิ ทางการตลาด 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 แสดงความรเู้ ก่ยี วกับความสาคัญของการขายและแนวความคดิ ทางการตลาด 3.1.1. อธิบายความหมายและความสาคัญของการขายได้อย่างถูกต้อง 3.1.2. อธบิ ายหลักพน้ื ฐานของการขายได้อย่างถกู ต้อง 3.1.3. อธิบายหนา้ ที่ของการขายได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.4. อธิบายแนวความคิดเก่ียวกับการตลาดได้ได้อย่างถูถต้อง 3.1.5. อธิบายหนา้ ที่ของการตลาดได้ได้อย่างถูกตอ้ ง 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและความสาคัญของการขาย 2. หลกั พ้ืนฐานของการขาย 3. หน้าที่ของการขาย 4. แนวความคิดเกย่ี วกับการตลาด 5. หนา้ ทขี่ องการตลาด 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี.......1.....) ขน้ั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ใหน้ ักเรียนสร้างความคุ้นเคยโดยการจัดกลุ่มแบง่ ประเภทอาชีพงานขาย โดยยดึ แนวพระราช ดารสั เศรษฐกิจพอเพยี งให้ตวั แทนเขยี นตอบในกระดาษ หรือออกมาเขยี นตอบบนกระดานหน้าชัน้ เรียน และบอกแนวคดิ ในการประกอบอาชีพนนั้ ๆ ขนั้ ใหเ้ นอ้ื หา (Information) 1. นักเรียนกบั ครผู ้สู อน ชว่ ยกันสรปุ ความสาคัญของการการขาย โดยบรู ณาการกับหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี งทน่ี ามาใชใ้ นชวี ิตประจาวนั กนั โดยท่ัวไป โดยผเู้ รยี นไดจ้ ดบันทึกไว้ 2. นักเรยี นรับฟังคาชีแ้ จงสังเขปรายวชิ าการขาย 1 และการวดั ประเมนิ ผล ซกั ถามขอ้ ปญั หา รวมทงั้ แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั การเรียนวิชานี้

13 ขน้ั พยายาม (Application) 1. ทาแบบฝึกหดั และใบงาน ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝกึ หดั และใบงานของผูเ้ รียน (สปั ดาห์ที่.......2.....) ขั้นสนใจปญั หา (Motivation) 1.. ครูเล่าเรื่องการขายในอดีตให้นักเรียนฟัง ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เพ่ือเปรียบเทียบกับการ ขายในปจั จบุ ันซึ่งมีการเปล่ียนแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว ขน้ั ให้เน้อื หา (Information) 1. ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนิคการสอนโดยใชก้ ารบรรยาย (Lecture) เพอ่ื ชว่ ยใหน้ กั เรียนเกดิ การเรยี นรตู้ าม วตั ถุประสงค์ทก่ี าหนด โดยการพูด บอก เล่า อธิบาย ในส่งิ ท่ตี ้องการสอนแกผ่ เู้ รยี น ใหผ้ ู้เรียนซกั ถาม แล้ว ประเมินการเรียนรูข้ องผเู้ รยี นดว้ ยวิธีใดวธิ ีหนึง่ ซึ่งมีองค์ประกอบสาคัญท่ีขาดไม่ไดข้ องวิธสี อนไดแ้ ก่ - ความหมายและความสาคัญของการขาย - หลักพื้นฐานของการขาย - หน้าที่ของการขาย ข้นั พยายาม (Application) 1. ทาแบบทดสอบหนว่ ยท่ี 1 ข้ันสาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 6. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่อื 1. หนังสือ/ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รปู ภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื ตาราเรียน (หอ้ งสมุด) 2. ข้อมลู ทางอินเทอร์เนต็ 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝึกหัด และแบบทดสอบเก็บคะแนน 7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1. แบบฝกึ หัด 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เคร่อื งมอื ประเมนิ 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

8.2 เกณฑก์ ารประเมิน 14 1. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คอื (50 % ข้ึนไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คือ พอใช้ - คะแนน ตา่ กว่า 5 คือ ปรบั ปรงุ 2. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยะรรม คา่ นยิ ม และลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ บั ตาม สภาพความเป็นจร 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถา้ ม)ี ให้ผเู้ รียนหาความรเู้ พิ่มเตมิ จากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ 10. เอกสารอ้างอิง จรญิ ญา จนั ทรป์ าน. มปพ. การเขียนแผนธุรกิจ. กรงุ เทพมหานคร : ไอดซี ี อนิ โฟ ดสิ ทรบิ วิ เตอร์ เซน็ เตอร์ จากดั จาเนียร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จติ วทิ ยาการรับร้แู ละเรยี นรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัย รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหติ ย์. (2532). พัฒนาการทางอาชีพ. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควิชาจิตวทิ ยา. พร้มิ เพรา ดษิ ยวณิช. (2544). การจงู ใจ. เชยี งใหม่: บริษัทกลางเวียงการพมิ พ์ จากัด

15 11. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 11.1 ข้อสรุปหลังการจัดการเรียนรู้ 11.2 ปญั หาอุปสรรคที่พบ 11.3 แนวทางแก้ปัญหาและหรือพัฒนา

16 รายการตรวจสอบและอนญุ าตใหใ้ ช้  เหน็ ควรอนุญาตให้ใชก้ ารสอนได้  เหน็ ควรปรบั ปรงุ เกย่ี วกบั  ควรอนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงชื่อ (นายชุมพล บุณยรงั ค์)  ควรปรับปรงุ เกยี่ วกบั . หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า  อน่ื ๆ //  อนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงชื่อ(............................................)  อ่ืน ๆ รองผอู้ านวยการฝ่ายวชิ าการ // . ลงช่อื (............................................) ผ้อู านวยการ // 17

18 กรอบการจัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการเป็นเรอื่ ง/ชิ้นงาน/โครงการ และบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สมรรถนะด้านความมเี หตุผล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายผลกระทบท่ีเกิดข้ึนกบั อธิบายประเภทและลักษณะ ของการขายไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ใหเ้ หมาะสมกบั ประเภทและ ประเภทและลักษณะของการ ลกั ษณะของการขาย ขาย เงื่อนไขด้านความรู้และทกั ษะ มีความรู้และทกั ษะดา้ น ประเภทและ เงื่อนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม ลกั ษณะของ ค่านยิ มคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ประเภทและลักษณะของการ ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมตี อ่ ขาย การขาย ประเภทและลักษณะของการ ขาย ผลกระทบเพ่ือความสมดุล พร้อมรบั การเปล่ียนแปลง ด้านสงั คม ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านวฒั นธรรม ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม ประเภทและลักษณะของ บทบาทของประเภทและ วัฒนธรรมมผี ลกระทบตอ่ การขายใหค้ วามสาคญั กบั การขาย ลกั ษณะของการขายทมี่ ตี อ่ สง่ิ แวดลอ้ ม โดยใชห้ ลัก ประเภทและลักษณะของ การตลาดสีเขียว Green ระบบเศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ที่ การขายทแี่ ตกตา่ งกัน Marketing แตกตา่ งกัน

หนว่ ยที่ แผนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมง สัปดาหท์ ่ี 3 ช่อื วิชา ชื่อหน่วย 2 จานวน 3 ชือ่ เรือ่ ง การขายเบื้องต้น ประเภทและลักษณะของการขาย ประเภทและลักษณะของการขาย 1. สาระสาคญั การขาย (Selling) คอื การตอบสนองความต้องการของลกู ค้า เราต้องค้นหาให้พบวา่ ลูกคา้ ต้องการ อะไร และสามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ ทงั้ นเ้ี พราะสนิ คา้ และบริการท่มี ีอยู่ในตลาดมีอยู่ มากมายหลายชนิด แตกตา่ งกนั ไปตามลักษณะ คณุ ประโยชน์ คณุ สมบัติ และลกั ษณะของการใช้งาน ดังน้นั การขายสินคา้ จึงเปน็ งานท่ีแตกตา่ งกันตามลักษณะของสินค้าและบริการ ตลอดจนนโยบายของกจิ การนน้ั ๆ ดว้ ยเหตนุ ้ีพนักงานขายต้องใช้ความสามารถเฉพาะตวั สูงมากจงึ จะประสบความสาเรจ็ ได้ จึงเป็นสาเหตุหน่งึ ที่ ต้องศึกษาว่าการขายมีประเภทใดบ้าง และลกั ษณะของการขายนน้ั เป็นอยา่ งไร เพือ่ จะไดน้ าไปใช้กบั ลูกค้าได้ อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ประเภทและลกั ษณะของการขาย 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 แสดงความรู้เกยี่ วกบั ประเภทและลักษณะของการขาย 3.1.1.อธบิ ายถึงการจัดประเภทของงานขายได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.2.อธิบายลกั ษณะของงานขายได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.3.อธบิ ายถึงการจัดประเภทของนักงานขายได้อยา่ งถกู ต้อง 3.1.4.อธบิ ายถงึ ความสัมพนั ธ์ของงานขายกับหน้าท่ขี องการสง่ เสริมการตลาดได้อยา่ ง ถกู ต้อง 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ประเภทของงานขาย 2. ลกั ษณะของงานขาย 3. ประเภทของพนักงานขาย 4. ความสมั พันธข์ องงานขายกบั หนา้ ทข่ี องการส่งเสรมิ การตลาด 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท.่ี ......3.....) ข้ันสนใจปญั หา (Motivation) 1. ครูนาสินคา้ มา 2 ชนดิ คือยาสีฟนั ยห่ี อ้ หนึง่ และโทรศพั ท์มือถือ เพื่อให้นกั เรยี นสาธติ วิธีการขาย ตามที่นกั เรียนมีประสบการณ์พบเหน็ ในชีวิตประจาวันโดยท่ัวไปจากร้านคา้ ปลีก หรอื รา้ นอ่นื ๆ เป็นตน้ เพ่ือ ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะของนักเรยี นในการเตรียมความพร้อมศึกษาวชิ าการขาย ข้นั ให้เนื้อหา (Information) 1. ครูผู้สอนใช้เทคนิคการสอนโดยใชก้ ารบรรยาย (Lecture) เพื่อชว่ ยใหน้ ักเรียนเกิดการเรยี นรตู้ าม วัตถปุ ระสงค์ทก่ี าหนด และนาการสอนแบบศูนย์การเรียนรมู้ าใชใ้ นหน่วยการเรยี นรูใ้ นเรื่อง 19

- ประเภทของงานขาย - ลักษณะของงานขาย - ประเภทของพนกั งานขาย - ความสัมพันธข์ องงานขายกับหนา้ ท่ีของการสง่ เสรมิ การตลาด 2. นักเรียนจัดกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม ตามความเหมาะสม โดยเลือกประธานและเลขานุการกลุ่ม แต่ละ กลุ่มเปล่ียนกันเข้าศึกษาและทากิจกรรมในศูนยก์ ารเรียน ท่ีครจู ัดไว้จนครบทั้ง 5 ศนู ย์ แต่ละศนู ย์มีกิจกรรมให้ นกั เรยี นทาตามคาสง่ั ต่างๆ ส่วนศูนย์สารองเตรียมไวส้ าหรับกลมุ่ ทท่ี ากิจกรรมเสรจ็ เร็วก่อนกลมุ่ อ่นื ศนู ย์การเรียนรู้มีดงั น้ี ศูนยก์ ารเรียนร้ทู ี่ 1 ประเภทของงานขาย ศูนย์การเรียนรู้ท่ี 2 ลกั ษณะของงานขาย ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ท่ี 3 ประเภทของพนักงานขาย ศูนย์การเรยี นรู้ท่ี 4 ความสัมพนั ธข์ องงานขายกบั หน้าทข่ี องการส่งเสรมิ การตลาด 2. เม่ือนักเรยี นทกุ กลุ่มเข้าศกึ ษาและทากิจกรรมครบทุกศนู ย์การเรยี นแล้ว ให้เข้านั่งประจาท่ีและสง่ ตวั แทนแต่ละกลุ่มออกมาสรุปหนา้ ชั้นเรียนในหัวขอ้ ทก่ี ลุ่มเข้าทากิจกรรมในศนู ย์การเรยี นเปน็ ศูนยแ์ รก 4. เมือ่ ตวั แทนกลุ่มสรปุ เสรจ็ แลว้ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั ทากิจกรรมและใบงานตามที่ครูมอบหมาย ข้นั พยายาม (Application) 1. นักเรียนแสดงบทบาทสมมตุ ิในการขายสนิ คา้ โดยเป็นกล่มุ ผู้ขาย และผซู้ ้ือ 2. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ถึงลกั ษณะ และคุณสมบัตขิ องผู้แสดงบทบาทสมมตุ ใิ นการ ขายสินค้า สรุปการอภิปรายแลว้ กลา่ วนาเข้าสูเ่ น้ือหาทจ่ี ะศึกษาในเรื่องประเภทและลักษณะของการขาย 3. ทาแบบฝกึ หัด และใบงานของผู้เรียน ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝึกหัดและใบงานของผเู้ รียน 6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่ือ 1. หนงั สือ/ตาราเรยี น 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื ตาราเรียน (ห้องสมุด) 2. ข้อมลู ทางอนิ เทอรเ์ น็ต 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หัด และแบบทดสอบเก็บคะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน 1. แบบฝกึ หดั 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 20

8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1.1 เคร่ืองมือประเมิน 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8.2 เกณฑ์การประเมิน 1. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คอื (50 % ขน้ึ ไป) - คะแนน 9-10 คือ ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ตา่ กวา่ 5 คอื ปรับปรงุ 2. แบบประเมินคุณธรรม จริยะรรม ค่านยิ ม และลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ ับตาม สภาพความเปน็ จร 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถ้าม)ี ใหผ้ ู้เรยี นหาความรเู้ พิ่มเตมิ จากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ 10. เอกสารอ้างอิง จริญญา จันทร์ปาน. มปพ. การเขยี นแผนธุรกจิ . กรงุ เทพมหานคร : ไอดีซี อนิ โฟ ดสิ ทริบิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากดั จาเนยี ร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จิตวิทยาการรบั รแู้ ละเรยี นรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัย รามคาแหง นวลศิริ เปาโรหิตย์. (2532). พัฒนาการทางอาชีพ. กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ ศกึ ษาศาสตร์, ภาควชิ าจิตวิทยา. พรมิ้ เพรา ดิษยวณิช. (2544). การจูงใจ. เชียงใหม:่ บรษิ ทั กลางเวียงการพมิ พ์ จากดั

21 11. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 11.1 ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ 11.2 ปัญหาอุปสรรคท่ีพบ 11.3 แนวทางแก้ปญั หาและหรือพัฒนา 22

รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้  เห็นควรอนุญาตใหใ้ ชก้ ารสอนได้  เห็นควรปรับปรุงเกย่ี วกบั  ควรอนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงชอ่ื (นายชมุ พล บุณยรงั ค์)  ควรปรับปรุงเกี่ยวกับ. หวั หนา้ หมวด / แผนกวชิ า  อน่ื ๆ //  อนญุ าตใหน้ าไปใช้สอนได้ ลงชื่อ(............................................)  อ่ืน ๆ รองผอู้ านวยการฝ่ายวชิ าการ // ลงช่อื (............................................) ผู้อานวยการ // 23

กรอบการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการเปน็ เร่อื ง/ช้นิ งาน/โครงการ และบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สมรรถนะด้านความมเี หตุผล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ุ้มกนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายผลกระทบที่เกิดข้ึนกบั อธิบายช่องทางการจัด จาหนา่ ยของการขายไดอ้ ยา่ ง ใหเ้ หมาะสมกบั ชอ่ งทางการจดั ช่องทางการจดั จาหนา่ ย จาหนา่ ย ถูกตอ้ ง เง่ือนไขด้านคณุ ธรรมจริยธรรม ชอ่ งทางการ ค่านยิ มคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ เงื่อนไขด้านความรู้และทกั ษะ จัดจาหนา่ ย ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ มีความรู้และทกั ษะดา้ นช่อง ชอ่ งทางการจดั จาหน่าย ทางการจัดจาหน่าย ผลกระทบเพ่ือความสมดุล พรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลง ดา้ นสังคม ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านวัฒนธรรม ดา้ นสิ่งแวดล้อม ช่องทางการจดั จาหน่ายมี บทบาทของชอ่ งทางการจดั วฒั นธรรมมผี ลกระทบตอ่ ชอ่ ง การขายใหค้ วามสาคญั กบั ผลต่อระบบเศรษฐกจิ จาหนา่ ยทม่ี ีต่อระบบ ทางการจัดจาหนา่ ยที่ ส่งิ แวดล้อม โดยใช้หลัก การตลาดสเี ขียว Green เศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ท่ีแตกต่าง แตกต่างกนั Marketing กัน 24

หน่วยท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ ช่ัวโมง สัปดาหท์ ี่ 4-5 ชอื่ วิชา ช่อื หน่วย 3 จานวน 6 ช่อื เรื่อง การขายเบอื้ งต้น ชอ่ งทางการจัดจาหน่าย ช่องทางการจัดจาหน่าย 1. สาระสาคัญ ช่องทางการจัดจาหน่าย (Channel of Distribution) เป็นการนาสินค้าจากผู้ผลิตออกสู่ตลาด เป็น การสะดวกแก่ลูกค้าในการเลือกซ้ือสินค้าได้หลายรูปแบบในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตรงตามความ ต้องการของลูกค้า ซึ่งผู้ผลิตจะเลือกใช้ช่องทางการจัดจาหน่ายทางตรง จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค หรือช่อง ทางการจาหน่ายทางอ้อมท่ีมีคนกลางช่วยทาหน้าท่ีกระจายสินค้าก็ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้าและความ เหมาะสมของกิจการ โดยจะตอ้ งคานึงถึงค่าใชจ้ า่ ยตลอดจนการแข่งขันกบั คู่แขง่ ขันดว้ ย 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรูเ้ กยี่ วกับชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ย 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 แสดงความรู้เกยี่ วกับช่องทางการจดั จาหน่าย 3.1.1. บอกความหมายและความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ได้อยา่ งถกู ต้อง 3.1.2. บอกช่องทางการจัดจาหน่ายสนิ คา้ บรโิ ภคและสนิ ค้าอุตสาหกรรมได้ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3.1.3. บอกปัจจัยที่มีอิทธพิ ลตอ่ การกาหนดช่องทางการจัดจาหน่ายได้อย่างถกู ต้อง 3.1.4. บอกถึงการตัดสินใจเลือกชอ่ งทางการจัดจาหน่ายได้ได้อย่างถูกต้อง 3.1.5. บอกถึงบุคคลทเี่ ก่ียวข้องกบั ช่องทางการจดั จาหน่ายได้ได้อย่างถูกต้อง 3.1.6. บอกปัญหาของช่องทางการจัดจาหน่ายได้ไดอ้ ย่างถูกต้อง 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและความสาคัญของช่องทางการจัดจาหน่าย 2. ชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ยสินค้าบริโภคและสินคา้ อุตสาหกรรม 3. ปจั จยั ที่มีอทิ ธิพลตอ่ การกาหนดช่องทางการจดั จาหนา่ ย 4. การตดั สนิ ใจเลือกชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ย 5. บุคคลท่ีเกีย่ วข้องกับช่องทางการจัดจาหน่าย 6. ปัญหาของชอ่ งทางการจัดจาหน่าย 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่.......4.....) ขั้นสนใจปัญหา (Motivation) 1. ครูนาแผนภูมชิ ่องทางการจดั จาหน่ายมาอภปิ รายร่วมกัน พรอ้ มทง้ั สนทนาถงึ ความหมาย และความสาคัญของช่องทางการจดั จาหน่าย โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย 25 ข้นั ใหเ้ นื้อหา (Information)

2. ครอู ธิบายความหมายและความสาคัญของชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย โดยยกตัวอยา่ งช่องทางการ จดั จาหนา่ ยทางตรง และทางออ้ มมาแสดงเป็นตัวอย่างให้นักเรยี นได้เรียนรู้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเข้าใจในเน้ือหา ขนั้ พยายาม (Application) 1. ครแู ละนกั เรียนทบทวนบทเรียน โดยการอธบิ ายซกั ถาม และให้แต่ละกลุ่มทากจิ กรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ โดยรว่ มมือกนั ทากจิ กรรมสง่ ครู ขนั้ สาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝึกหดั และใบงานของผเู้ รยี น กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที.่ ......5.....) ข้นั สนใจปญั หา (Motivation) 1. ครนู าแผนภมู ิช่องทางการจดั จาหน่ายมาอภปิ รายร่วมกัน พร้อมทั้งสนทนาถึงความหมาย และความสาคญั ของช่องทางการจัดจาหนา่ ย โดยให้นักเรียนรว่ มกันอภิปราย ขน้ั ใหเ้ นื้อหา (Information) นกั เรียนจดั กลุม่ โดยวธิ นี บั 1 ถงึ 5 และให้นักเรียนท่ีนบั หมายเลขเดียวกันจะอยกู่ ลุ่มเดยี วกนั โดย แต่ละกล่มุ จะเลอื กประธานและเลขานกุ ารกลุ่ม ร่วมกันศึกษาและอภิปรายภายในกลมุ่ ดังน้ี กลุม่ 1 ช่องทางการจดั จาหนา่ ยสินค้าบริโภคและสินค้าอตุ สาหกรรม กลมุ่ 2 ปัจจยั ที่มอี ิทธิพลตอ่ การกาหนดช่องทางการจดั จาหน่าย กลุ่ม 3 การตัดสินใจเลือกชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย กลุม่ 4 บคุ คลทเี่ ก่ยี วข้องกับชอ่ งทางการจดั จาหน่าย กลมุ่ 5 ปัญหาของช่องทางการจัดจาหน่าย 2. ประธานกล่มุ สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มของสมาชิกในกลุ่ม พรอ้ มจดบนั ทึกสง่ ครู 3. ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลการอภิปรายกลุ่ม กลมุ่ ละไม่เกิน 5 นาทีตามลาดับ กลุ่มผู้ที่สังเกต พฤติกรรม การนาเสนอผลงานให้บนั ทกึ สง่ ครู 26

ขน้ั พยายาม (Application) 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมสรปุ เน้ือหาในหนว่ ยการเรียนอีกครง้ั โดยวธิ ี ถาม – ตอบและซักถามข้อ สงสยั นกั เรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบประเมินตนเอง รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ =9-10 คะแนน =7-8 คะแนน =5-6 คะแนน =ตา่ กวา่ 5 คะแนน 1.การกลา่ วนา แนะนาตวั และเพือ่ นรว่ มงาน 2.จดุ ประสงคใ์ นการทางาน แหลง่ ขอ้ มลู วธิ กี ารทางาน 3.ออกเสยี ง ชัดเจน ถูกต้อง 4.น้าเสียงเหมาะสม 5.ตัวอย่างประกอบมสี อ่ื ชดั เจน 6.ลาดับความคิดไดด้ ี 7.ทา่ ทางเหมาะสม 2. ทดสอบเก็บคะแนนหนว่ ยเรียนที่ 3 ขัน้ สาเรจ็ ผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝกึ หัด ใบงานของผเู้ รยี น และคะแนนทดสอบ 6. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อ 1. หนงั สอื /ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รปู ภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือตาราเรยี น (หอ้ งสมุด) 2. ข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ นต็ 7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หดั ใบงาน และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัติงาน 1. แบบฝกึ หัด 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8.1 เคร่อื งมือประเมนิ 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1. เกณฑผ์ า่ นการประเมินแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ คือ (50 % ขนึ้ ไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี 27

- คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ต่ากวา่ 5 คอื ปรบั ปรุง 2. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ะรรม ค่านิยม และลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ บั ตาม สภาพความเป็นจร 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถ้าม)ี ให้ผเู้ รียนหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ 10. เอกสารอา้ งอิง จรญิ ญา จันทรป์ าน. มปพ. การเขียนแผนธรุ กจิ . กรงุ เทพมหานคร : ไอดีซี อินโฟ ดสิ ทรบิ ิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากดั จาเนียร ช่วงโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรับรู้และเรยี นรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหิตย์. (2532). พฒั นาการทางอาชพี . กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควิชาจติ วทิ ยา. พร้มิ เพรา ดษิ ยวณชิ . (2544). การจงู ใจ. เชยี งใหม่: บริษัทกลางเวยี งการพิมพ์ จากดั 28

11. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 11.1 ขอ้ สรุปหลังการจดั การเรยี นรู้ 11.2 ปญั หาอุปสรรคท่ีพบ 11.3 แนวทางแกป้ ญั หาและหรือพัฒนา

29 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้  เหน็ ควรอนญุ าตให้ใช้การสอนได้  เหน็ ควรปรบั ปรงุ เก่ียวกับ  ควรอนุญาตใหน้ าไปใช้สอนได้ ลงชื่อ (นายชมุ พล บณุ ยรังค์)  ควรปรบั ปรงุ เก่ยี วกบั . หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า  อ่นื ๆ //  อนญุ าตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงชือ่ (............................................)  อนื่ ๆ รองผูอ้ านวยการฝ่ายวิชาการ // ลงช่อื (............................................) ผอู้ านวยการ //

30 กรอบการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการเป็นเร่อื ง/ชิ้นงาน/โครงการ และบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สมรรถนะด้านความมเี หตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั อธิบายการโฆษณาและการ สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด ใหเ้ หมาะสมกบั การโฆษณาและ อธิบายผลกระทบท่ีเกิดข้ึนกบั ส่งเสรมิ การขายจาหน่ายได้ การสง่ เสรมิ การขาย การโฆษณาและการสง่ เสรมิ การ อยา่ งถูกตอ้ ง ขาย เง่ือนไขด้านความรู้และทกั ษะ การโฆษณา เง่ือนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้และทกั ษะดา้ นการ และการ ค่านยิ มคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ โฆษณาและการส่งเสรมิ การขาย สง่ เสรมิ การ ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมีต่อการ โฆษณาและการส่งเสรมิ การขาย ขาย ผลกระทบเพ่ือความสมดุล พรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลง ดา้ นสังคม ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นวฒั นธรรม ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม การโฆษณาและการส่งเสริม บทบาทของการโฆษณาและ วัฒนธรรมมผี ลกระทบต่อการ การขายให้ความสาคญั กับ การส่งเสริมการขายทีม่ ตี ่อ โฆษณาและการสง่ เสรมิ การ สง่ิ แวดลอ้ ม โดยใชห้ ลกั การขายมผี ลตอ่ ระบบ ระบบเศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ท่ี ขายที่แตกตา่ งกัน การตลาดสีเขยี ว Green เศรษฐกิจ แตกตา่ งกนั Marketing

31 แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 4 จานวน 6 ช่ัวโมง สปั ดาหท์ ่ี 6-7 ชอ่ื วชิ า การขายเบ้ืองต้น ชื่อหน่วย ชือ่ เรื่อง การโฆษณาและการส่งเสรมิ การขาย การโฆษณาและการส่งเสริมการขาย 1. สาระสาคัญ การโฆษณาเป็นส่วนหน่ึงของการส่งเสริมการขาย การโฆษณาจะช่วยให้การติดต่อระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้บริโภคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถให้ข้อมูลเก่ียวกับสินค้าได้ชัดเจน สามารถนาไป เปรียบเทียบกับคู่แข่งขันได้ การโฆษณามีหลายรูปแบบและใช้กับส่ือได้หลากหลาย การตัดสินใจจะเลือก รูปแบบโฆษณาแบบใดหรือใช้ส่อื ชนิดใดขึน้ อย่กู ับชนดิ ของสนิ คา้ และกลุ่มลกู คา้ เปา้ หมาย นอกจากนีก้ ารส่งเสรมิ การขายวิธีการตา่ งๆ ก็จะชว่ ยในการสร้างแรงจูงใจใหผ้ บู้ รโิ ภคเกิดการตัดสนิ ใจ ซื้อสนิ คา้ ไดด้ ีขึ้นด้วย ซึ่งจะทาใหธ้ รุ กจิ ประสบความสาเร็จบรรลุเป้าหมายได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความร้เู กยี่ วกับการโฆษณาและการสง่ เสริมการขาย 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 แสดงความรู้เกย่ี วกับการโฆษณาและการส่งเสรมิ การขาย 3.1.1. อธิบายความหมายและความสาคัญของการโฆษณาไดไ้ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3.1.2. บอกวัตถุประสงค์ของการโฆษณาได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.3. บอกประเภทของการโฆษณาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3.1.4. บอกชนดิ ของสือ่ ทใี่ ช้ในการโฆษณาได้อย่างถูกต้อง 3.1.5. บอกความหมายและความสาคัญของการสง่ เสริมการขายได้อยา่ งถูกต้อง 3.1.6. บอกวัตถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายของการสง่ เสรมิ การขายได้อย่างถูกต้อง 3.1.7. บอกประเภทและวธิ ีการสง่ เสริมการขายได้อย่างถูกต้อง 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและความสาคัญของการโฆษณา 2. วตั ถุประสงค์ของการโฆษณา 3. ประเภทของการโฆษณา 4. สอื่ ท่ใี ชใ้ นการโฆษณา 5. ความหมายและความสาคญั ของการส่งเสรมิ การขาย 6. วัตถุประสงค์ของการสง่ เสรมิ การขาย 7. ประเภทของการส่งเสริมการขาย 8. สอื่ ทีใ่ ชใ้ นการสง่ เสรมิ การขาย

32 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี.......6.....) ขน้ั สนใจปญั หา (Motivation) 1. ใหน้ ักเรยี นดภู าพโฆษณาและร่วมกนั อภปิ รายถึงความหมายและความสาคญั ของการโฆษณา สรุปถึงความหมายและความสาคัญของการโฆษณา ข้นั ใหเ้ นื้อหา (Information) 2. ครใู ช้วิธีการสอนแบบ Jigsaw โดยใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ กลมุ่ ยอ่ ย กลุ่มละ 3 คน เลือก ประธานและเลขานุการ สมาชิกในแต่ละกลุ่มมคี วามสามารถแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะกลมุ่ ต้ังชอื่ วา่ เปน็ กลุ่มบ้าน กลุม่ บ้าน ก กลมุ่ บา้ น ข กลมุ่ บา้ น ค สมาชกิ ทง้ั 3 คน ในแตล่ ะกลมุ่ บ้านย่อยๆ นัน้ จะไดร้ บั ใบงานไปปฏบิ ัตเิ หมอื นกนั ดังน้ี สมาชกิ คนท่ี 1 ในกลุ่ม ก ,ข , ค ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง วัตถปุ ระสงค์ของการโฆษณา สมาชกิ คนท่ี 2 ในกลมุ่ ก ,ข , ค ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง ประเภทของการโฆษณา สมาชกิ คนที่ 3 ในกลุ่ม ก ,ข , ค ใบงานที่ 3 เรื่อง สอื่ ทใ่ี ชใ้ นการโฆษณา เม่ือได้รับใบงานครบ ครูให้นักเรียนที่ได้รับใบงานเรื่องเดียวกันเข้ารวมกลุ่มกัน เรียกช่ือใหม่ว่า กลมุ่ ผู้เชย่ี วชาญ แตล่ ะกลมุ่ ใน 3 กลุ่ม เลือกประธานและเลขานกุ าร 3. นกั เรยี นกลุ่มผ้เู ชีย่ วชาญแตล่ ะกลมุ่ ทากจิ กรรมท่ีกาหนดในใบงาน โดยรว่ มกันค้นคว้าอภปิ รายแสดง ความคิดเห็นหาข้อสรุปและบันทึกในใบงานของตน ประธานกลุ่มสังเกตพฤติกรรมการทากิจกรรมกลุ่มของ สมาชกิ 4. ให้นกั เรยี นอา่ นบทความ “โพลออนไลนอ์ ิทธิพลโฆษณาพบรปู แบบ “ปากตอ่ ปาก” ขยายผลมาก ที่สดุ แล้วใหต้ อบคาถาม: 1. การโฆษณามีควาสาคญั ต่อการขายอย่างไรบ้าง 2. ถา้ นักเรียนเปน็ ผจู้ าหน่าย สนิ ค้า นักเรียนจะใชว้ ธิ ีการโฆษณารปู แบบใด และเพราะเหตุใด 5. ใหน้ กั เรยี นบอกประเภทของการโฆษณาพร้อมยกตัวอย่างรูปภาพประกอบ ขน้ั พยายาม (Application) 1. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มผเู้ ชี่ยวชาญกลบั มายังกลมุ่ เดิม คอื กลมุ่ บา้ น ก ,ข ,ค แลว้ ผลัดเปลยี่ นกัน อธิบายเรอื่ งทีต่ นคน้ ควา้ และได้ขอ้ สรุปมาใหเ้ พอ่ื นสมาชกิ ในกลุม่ ฟงั ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝึกหัด ใบงานของผู้เรยี น และสงั เกตพฤตกิ รรมกล่มุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ .่ี ......7.....) ขนั้ สนใจปญั หา (Motivation) 1. ให้นกั เรยี นดูภาพโฆษณาและร่วมกนั อภปิ รายถึงความหมายและความสาคญั ของการโฆษณา สรปุ ถึงความหมายและความสาคญั ของการสง่ เสรมิ การขาย 33

ขั้นใหเ้ นือ้ หา (Information) 1. ครูใชว้ ธิ กี ารสอนแบบ Jigsaw โดยใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็นกล่มุ ยอ่ ย กล่มุ ละ 3 คน เลือก ประธานและเลขานกุ าร สมาชกิ ในแต่ละกล่มุ มีความสามารถแตกต่างกนั ในแต่ละกลุ่มตั้งชือ่ วา่ เปน็ กลุ่มบา้ น กลุ่มบา้ น ก กลมุ่ บา้ น ข กลุ่มบา้ น ค สมาชิกทัง้ 3 คน ในแตล่ ะกล่มุ บา้ นยอ่ ยๆ นน้ั จะไดร้ บั ใบงานไปปฏบิ ตั เิ หมือนกันดังนี้ สมาชกิ คนที่ 1 ในกลุ่ม ก ,ข , ค ใบงานที่ 1 เรื่อง วัตถปุ ระสงค์ของการสง่ เสริมการขาย สมาชกิ คนที่ 2 ในกลมุ่ ก ,ข , ค ใบงานท่ี 2 เร่ือง ประเภทของการส่งเสรมิ การขาย สมาชิกคนท่ี 3 ในกลุ่ม ก ,ข , ค ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง ส่ือทีใ่ ชใ้ นการสง่ เสรมิ การขาย เมื่อได้รับใบงานครบ ครูให้นักเรียนที่ได้รับใบงานเร่ืองเดียวกันเข้ารวมกลุ่มกัน เรียกช่ือใหม่ว่า กลมุ่ ผเู้ ชีย่ วชาญ แตล่ ะกลุ่มใน 3 กลุ่ม เลือกประธานและเลขานกุ าร 2. นักเรยี นกล่มุ ผเู้ ชย่ี วชาญแต่ละกลมุ่ ทากจิ กรรมท่ีกาหนดในใบงาน โดยร่วมกนั คน้ คว้าอภปิ รายแสดง ความคิดเห็นหาข้อสรุปและบันทึกในใบงานของตน ประธานกลุ่มสังเกตพฤติกรรมการทากิจกรรมกลุ่มของ สมาชิก 3. ใหน้ กั เรยี นอ่านบทความ “เก่ียวกบั การส่งเสริมการขาย “ปากต่อปาก” ขยายผลมากท่สี ดุ แล้วให้ ตอบคาถาม: 1. การส่งเสริมการขายมคี วาสาคัญตอ่ การขายอยา่ งไรบ้าง 2. ถ้านักเรียนเป็นผูจ้ าหนา่ ยสินค้า นักเรียนจะใช้วธิ กี ารโฆษณารูปแบบใด และเพราะเหตใุ ด 4. ให้นกั เรยี นบอกประเภทของการสง่ เสริมการขายพรอ้ มยกตวั อย่างรูปภาพประกอบ ขนั้ พยายาม (Application) 1. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มผเู้ ชยี่ วชาญกลบั มายงั กลุ่มเดมิ คอื กล่มุ บ้าน ก ,ข ,ค แลว้ ผลดั เปลี่ยนกนั อธิบายเรือ่ งทีต่ นคน้ ควา้ และไดข้ ้อสรุปมาใหเ้ พอ่ื นสมาชิกในกลุม่ ฟงั 2. ทดสอบเกบ็ คะแนนหนว่ ยที่ 4 ขน้ั สาเรจ็ ผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงานของผเู้ รียน แบบทดสอบ และสงั เกตพฤติกรรมกลุ่ม 6. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สื่อ 1. หนงั สอื /ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รูปภาพ 4. แบบทดสอบเก็บคะแนน 6.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื ตาราเรียน (หอ้ งสมุด) 2. ข้อมูลทางอินเทอร์เนต็ 7. หลักฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝึกหดั ใบงาน และแบบทดสอบเก็บคะแนน 7.2 หลักฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1. แบบฝกึ หัด 2. แบบทดสอบเก็บคะแนน 34

8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1.2 เคร่อื งมือประเมนิ 5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1. เกณฑผ์ ่านการประเมินแบบประเมินผลการเรียนรู้ คอื (50 % ข้ึนไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คือ พอใช้ - คะแนน ต่ากว่า 5 คอื ปรบั ปรุง 2. แบบประเมินคุณธรรม จริยะรรม คา่ นิยม และลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ บั ตาม สภาพความเปน็ จร 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถา้ มี) ให้ผูเ้ รียนหาความรเู้ พ่ิมเติมจากแหล่งเรยี นร้ตู า่ งๆ 10. เอกสารอา้ งอิง จริญญา จนั ทรป์ าน. มปพ. การเขยี นแผนธุรกิจ. กรุงเทพมหานคร : ไอดซี ี อนิ โฟ ดิสทริบวิ เตอร์ เซน็ เตอร์ จากดั จาเนยี ร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรับรูแ้ ละเรียนรู้. กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหิตย์. (2532). พฒั นาการทางอาชีพ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั รามคาแหง. คณะ 35

11. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 11.1 ขอ้ สรุปหลังการจดั การเรยี นรู้ 11.2 ปญั หาอุปสรรคท่ีพบ 11.3 แนวทางแกป้ ญั หาและหรือพัฒนา

36 รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้  เห็นควรอนุญาตใหใ้ ช้การสอนได้  เหน็ ควรปรับปรงุ เกี่ยวกับ  ควรอนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้ ลงชอื่ (นายชุมพล บณุ ยรงั ค์)  ควรปรับปรงุ เกีย่ วกับ. หวั หนา้ หมวด / แผนกวชิ า  อื่น ๆ //  อนญุ าตให้นาไปใชส้ อนได้ ลงชอ่ื (............................................)  อื่น ๆ รองผอู้ านวยการฝ่ายวิชาการ // ลงช่อื (............................................) ผอู้ านวยการ //

37 กรอบการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการเป็นเรื่อง/ชิน้ งาน/โครงการ และบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สมรรถนะด้านความมเี หตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั สามารถระบุกลยทุ ธ์ทางการตลาด อธิบายผลกระทบที่เกิดข้ึนกบั อธิบายความร้เู กยี่ วกับ ผลิตภัณฑ์ส่งไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ใหเ้ หมาะสมกบั ความร้เู กี่ยวกบั ความรเู้ ก่ยี วกับผลติ ภณั ฑ์ ผลติ ภัณฑ์ เง่ือนไขด้านความรู้และทกั ษะ ความรู้ เงื่อนไขด้านคณุ ธรรมจริยธรรม มีความรู้และทกั ษะดา้ นการ เกย่ี วกบั ค่านยิ มคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ผลิตภณั ฑ์ ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมตี ่อการ ความรเู้ กยี่ วกบั ผลิตภณั ฑ์ ความรเู้ ก่ียวกบั ผลติ ภัณฑ์ ผลกระทบเพ่ือความสมดลุ พรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลง ดา้ นสังคม ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นวัฒนธรรม ดา้ นส่ิงแวดล้อม ผลติ ภณั ฑ์มผี ลต่อระบบ บทบาทของผลิตภัณฑ์ทีม่ ตี อ่ วัฒนธรรมมผี ลกระทบตอ่ การ การขายใหค้ วามสาคญั กับ เศรษฐกิจและสงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม โดยใช้หลัก ระบบเศรษฐกิจแตล่ ะยคุ ท่ี ความรู้เกย่ี วกับผลิตภณั ฑ์ข การตลาดสเี ขียว Green แตกต่างกนั Marketing ทแี่ ตกตา่ งกนั

38 หน่วยท่ี แผนการจดั การเรยี นรู้ ชั่วโมง สปั ดาหท์ ี่ 8-9 ชือ่ วิชา ชอ่ื หน่วย 5 จานวน 6 ชอื่ เรื่อง การขายเบื้องต้น ความรเู้ กย่ี วกบั ผลิตภัณฑ์ ความรเู้ กยี่ วกบั ผลติ ภัณฑ์ 1. สาระสาคญั การนาเสนองานขายสินค้าหรือบริการนั้น ผู้ขายจาเป็นต้องศึกษาถึงรายละเอียดในตัวสินค้าหรือ บริการเป็นอย่างดีเสียก่อน ก่อนที่จะถ่ายทอดไปยังบุคคลอื่นหรือกลุ่มเป้าหมาย เพ่ือจะได้ไม่เกิดความสับสน ในคุณสมบัติของตัวสินค้าหรือบริการนั้น ดังนั้นในหน่วยนี้จึงนาเสนอประเด็นที่สาคัญๆ เก่ียวกับความรู้ในตัว ผลติ ภณั ฑ์ เพื่อเป็นประโยชน์ในงานขาย 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความร้เู กี่ยวกับความรู้เกย่ี วกบั ผลิตภัณฑ์ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 แสดงความรู้เก่ยี วกบั ความรู้เกยี่ วกบั ผลติ ภณั ฑ์ 3.1.1. อธบิ ายความหมายได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3.1.2. อธบิ ายความสาคญั ของการมคี วามรูเ้ ก่ยี วกบั ผลติ ภณั ฑ์ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3.1.3. อธิบายรายละเอียดทเ่ี กย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์ไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.1.4. อธิบายประเภทของผลิตภณั ฑไ์ ดอ้ ย่างถกู ต้อง 3.1.5. อธิบายสว่ นผสมของผลติ ภณั ฑ์ไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.1.6. อธบิ ายองค์ประกอบของผลติ ภณั ฑไ์ ด้อย่างถกู ต้อง 3.1.7. อธิบายแหลง่ ความรเู้ กีย่ วกบั ผลติ ภัณฑ์ไดไ้ ด้อยา่ งถูกต้อง 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายทเ่ี ก่ยี วกบั ผลิตภัณฑ์ 2. ความสาคญั ของการมีความรเู้ กย่ี วกบั ผลิตภัณฑ์ 3. รายละเอยี ดเกยี่ วกบั ผลติ ภณั ฑ์ 4. ประเภทของผลิตภัณฑ์ 5. ส่วนผสมของผลิตภณั ฑไ์ ด้ 6. องค์ประกอบของผลติ ภัณฑ์ 7. แหลง่ ความรู้เกยี่ วกบั ผลิตภัณฑ์ 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ .ี่ ......8.....) ขน้ั สนใจปัญหา (Motivation) 1. นักเรียนนาสบู่ ยาสีฟนั แชมพสู ระผม และขนมของขบเค้ียวยห่ี ้อตา่ งๆ แลว้ ร่วมกันอภปิ รายว่าเพราะเหตใุ ด จงึ ตอ้ งเจาะจงใชผ้ ลิตภณั ฑ์ตรายีห่ ้อนนั้ ๆ 2. ครูรว่ มสรุปผลการอภิปราย และกลา่ วโยงเข้าสู่เน้ือหาความรเู้ กี่ยวกบั ผลติ ภณั ฑ์

39 ขั้นให้เนือ้ หา (Information) 2. นกั เรียนจดั กล่มุ ตามความเหมาะสมออกเป็น 5 กลุม่ เลือกประธานและเลขานกุ าร ศกึ ษาเนอื้ หาจากเอกสาร ประกอบการเรียน เขียนสรปุ ลงในสมดุ ของแตล่ ะคนตามหวั ข้อดงั นี้ - ความหมายท่ีเกย่ี วกับผลติ ภัณฑ์ - ความสาคัญของการมีความรเู้ กี่ยวกบั ผลติ ภัณฑ์ - รายละเอียดเกย่ี วกับผลติ ภัณฑ์ - ประเภทของผลิตภณั ฑ์ - ส่วนผสมของผลิตภณั ฑ์ ขนั้ พยายาม (Application) 1. ทาแบบฝึกหัด และใบงาน ข้ันสาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝกึ หดั และใบงานของผูเ้ รียน (สปั ดาหท์ ่.ี ......9.....) ขั้นสนใจปัญหา (Motivation) 1.. ครูกลา่ วถงึ ความสาคัญทพี่ นักงานขายต้องมีความรูเ้ กีย่ วกับผลติ ภณั ฑ์ และกลา่ วโยงเขา้ สูเ่ นือ้ หาความรู้ เกีย่ วกับผลิตภัณฑ์ ขน้ั ใหเ้ น้อื หา (Information) ความร้เู ก่ยี วกับผลิตภัณฑ์ การมคี วามร้เู ก่ียวกบั ผลติ ภัณฑ์ก่อให้เกดิ ประโยชน์ ดังต่อไปนี้ 1. สามารถตอบข้อซักถามได้ เมือ่ ผมู้ ุง่ หวงั มีขอ้ สงสัยท่จี ะซักถาม พนกั งานขายจะต้องสามารถตอบ ได้ เพ่ือจะช่วยสร้างความเชื่อมน่ั ให้เกิดแกผ่ มู้ ่งุ หวงั 2. เกิดความเชอื่ ม่ันและสรา้ งความกระตือรอื รน้ เม่ือมีความรเู้ กยี่ วกบั ผลติ ภัณฑท์ ่ีตนเสนอขายจะ ช่วยสรา้ งความเช่อื มน่ั ใหก้ บั ตนเอง และผู้มุ่งหวัง และมีความเชอ่ื ม่นั ว่าสามารถให้ข้อมูลเก่ยี วกับผลติ ภณั ฑ์ได้ จะทาให้มคี วามกระตือรอื รน้ ในการเสนอขายมากขนึ้ 3. ชว่ ยให้การขายมีชวี ติ ชวี าขน้ึ เมื่อมีความรู้เกีย่ วกับผลิตภัณฑ์ยอ่ มมคี วามพร้อม ในการนาเสนอ สามารถเสนอขายได้โดยไม่ลังเล ทาให้บรรยากาศในการเสนอขายนน้ั มีชีวิตชวี าเพม่ิ มากข้นึ 4. ทาใหก้ ารเสนอขายเกดิ ความสมบูรณ์ พนักงานขายทม่ี ีความรเู้ กยี่ วกบั ผลติ ภณั ฑ์เปน็ อยา่ งดี จะ ตอบคาถามหรือข้อสงสัยของผ้มู ่งุ หวังไดเ้ ปน็ อย่างดี การเสนอขายนั้นกจ็ ะมคี วามสมบรู ณ์ขนึ้ 5. ทาใหก้ ารทางานสนุกสนาน เม่อื พนักงานขายสามารถตอบคาถามหรือข้อสงสัยของผู้ม่งุ หวัง ได้ การทางานกจ็ ะราบรืน่ ผู้มุ่งหวังเกิดความรสู้ กึ ทด่ี ีต่อพนักงานขาย พนกั งานขายจะรูส้ ึกสนุกกับการทางาน และไมร่ สู้ ึกเบ่ือ 7. ได้รับการส่งเสรมิ สนบั สนนุ ในการทางาน พนักงานขายท่ีมีความรเู้ กีย่ วกบั ผลติ ภัณฑ์ โอกาสทจี่ ะประสบความสาเรจ็ ในอาชพี ขายย่อมมีมาก จงึ มักได้รับการสนบั สนนุ ใหไ้ ด้เลื่อนตาแหน่งในการ ทางานใหส้ ูงข้นึ 8. ตัวแทนกลุ่มจับสลาก เพื่อนาเสนอหน้าชั้นเรียนเพียง 2-3 กลุ่ม ส่วนกลุ่มท่ีไม่ได้นาเสนอให้ เตรียมขอ้ มูลเพอ่ื ซกั ถาม 9. ครแู ละประธานกลุ่มสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุม่ และการนาเสนอผลงาน 10. ครอู ธิบายสรปุ เนอ้ื หาทั้งหมด โดยใช้แผ่นใสประกอบ และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามข้อสงสยั 40

11. ใหน้ ักเรียนพิจารณารูปภาพผลิตภณั ฑ์เพื่อการบริโภคท่ีครูนามา แล้วตอบคาถามเกยี่ วกับ ประเภทของผลิตภัณฑ์ และองคป์ ระกอบของผลติ ภัณฑ์fดังนี้ - เป็นผลติ ภัณฑ์ประเภทใด - ผลติ ภณั ฑห์ ลกั คอื อะไร - รูปลกั ษณ์ผลติ ภัณฑ์ คืออะไร - ผลิตภัณฑ์ทคี่ าดหวงั คอื อะไร - ผลติ ภัณฑค์ วบ คอื อะไร - ศักยภาพเกยี่ วกบั ผลติ ภัณฑ์ คอื อะไร ข้ันพยายาม (Application) 1. ตวั แทนกลมุ่ จับสลาก เพอ่ื นาเสนอหน้าชั้นเรยี นเพียง 2-3 กลมุ่ ส่วนกลุ่มท่ีไมไ่ ดน้ าเสนอใหเ้ ตรียมข้อมูล เพอ่ื ซักถาม 2. ครแู ละประธานกลุม่ สงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม และการนาเสนอผลงาน 3. ครอู ธบิ ายสรุปเนือ้ หาทั้งหมด โดยใชแ้ ผน่ ใสประกอบ และเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสัย 4. ให้นักเรียนพจิ ารณารปู ภาพผลติ ภณั ฑเ์ พื่อการบริโภคที่ครูนามา แล้วตอบคาถามเกีย่ วกบั ประเภทของผลติ ภัณฑ์ และองคป์ ระกอบของผลติ ภัณฑ์fดังนี้ - เป็นผลติ ภณั ฑ์ประเภทใด - ผลติ ภัณฑห์ ลกั คอื อะไร - รูปลักษณผ์ ลติ ภัณฑ์ คืออะไร - ผลิตภัณฑท์ คี่ าดหวัง คอื อะไร - ผลิตภณั ฑค์ วบ คืออะไร - ศักยภาพเกย่ี วกับผลติ ภณั ฑ์ คอื อะไร ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 1. ตรวจแบบฝกึ หดั ใบงานของผเู้ รยี น แบบทดสอบ และสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม 6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่ือ 1. หนงั สือ/ตาราเรยี น 2. ใบงาน 3. รปู ภาพ 4. ใบงาน 6.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือตาราเรยี น (ห้องสมดุ ) 2. ข้อมูลทางอนิ เทอร์เน็ต 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝกึ หดั และแบบทดสอบเกบ็ คะแนน 7.2 หลักฐานการปฏิบัตงิ าน 1. แบบฝึกหดั 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 3. ใบงาน 41

8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เครือ่ งมือประเมิน 1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1. เกณฑ์ผา่ นการประเมินแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คอื (50 % ขนึ้ ไป) - คะแนน 9-10 คือ ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ตา่ กวา่ 5 คอื ปรับปรุง 2. แบบประเมินคุณธรรม จริยะรรม ค่านยิ ม และลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับตาม สภาพความเป็นจร 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย (ถา้ มี) ใหผ้ ูเ้ รยี นหาความรู้เพ่ิมเติมจากแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ 10. เอกสารอ้างองิ จรญิ ญา จันทรป์ าน. มปพ. การเขียนแผนธรุ กิจ. กรุงเทพมหานคร : ไอดซี ี อินโฟ ดิสทริบิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จากัด จาเนยี ร ช่วงโชติ และคณะ. (2516). จิตวิทยาการรับรู้และเรยี นรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย รามคาแหง นวลศิริ เปาโรหิตย์. (2532). พฒั นาการทางอาชีพ. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. คณะ ศกึ ษาศาสตร์, ภาควชิ าจติ วิทยา. พร้ิมเพรา ดษิ ยวณิช. (2544). การจงู ใจ. เชยี งใหม่: บรษิ ัทกลางเวยี งการพมิ พ์ จากดั 42

11. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 11.1 ข้อสรุปหลังการจดั การเรียนรู้ 11.2 ปัญหาอุปสรรคที่พบ 11.3 แนวทางแก้ปญั หาและหรือพัฒนา 43

รายการตรวจสอบและอนญุ าตใหใ้ ช้  เห็นควรอนญุ าตให้ใช้การสอนได้  เห็นควรปรบั ปรงุ เกีย่ วกบั  ควรอนุญาตใหน้ าไปใช้สอนได้ ลงชอ่ื (นายชุมพล บณุ ยรงั ค์)  ควรปรับปรงุ เกี่ยวกบั . หวั หนา้ หมวด / แผนกวชิ า  อืน่ ๆ //  อนญุ าตให้นาไปใช้สอนได้ ลงชอ่ื (............................................)  อนื่ ๆ รองผอู้ านวยการฝ่ายวิชาการ . // ลงชื่อ (............................................) ผอู้ านวยการ // 44

45 กรอบการจัดการเรียนรูแ้ บบบรู ณาการเปน็ เร่อื ง/ช้ินงาน/โครงการ และบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สมรรถนะด้านความมเี หตผุ ล สมรรถนะด้านความพอประมาณ สมรรถนะด้านความมภี ูมคิ ้มุ กนั สามารถระบุกลยทุ ธท์ างการตลาด อธิบายผลกระทบที่เกิดข้ึนกบั อธิบายความรู้เกย่ี วกับลกู ค้าได้ ใหเ้ หมาะสมกบั ความรเู้ กี่ยวกับ ความรู้เกย่ี วกบั ลกู ค้า อยา่ งถูกตอ้ ง ลกู ค้า เง่ือนไขด้านความรู้และทกั ษะ ความรู้ เง่ือนไขด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้และทกั ษะดา้ นการ เกยี่ วกับ ค่านิยมคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ผลติ ภัณฑ์ ตระหนกั ถึงผลกระทบท่ีมตี อ่ การ ความรู้เก่ยี วกบั ลกู คา้ ความรเู้ ก่ยี วกบั ลกู คา้ ผลกระทบเพื่อความสมดุล พร้อมรบั การเปลีย่ นแปลง ด้านสงั คม ด้านเศรษฐกิจ ด้านวฒั นธรรม ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ลกู ค้ามผี ลตอ่ ระบบ บทบาทของลกู ค้าท่มี ีตอ่ ระบบ วัฒนธรรมมผี ลกระทบตอ่ การ การขายใหค้ วามสาคญั กบั เศรษฐกจิ และสงั คม เศรษฐกจิ แตล่ ะยคุ ท่ีแตกต่าง สง่ิ แวดลอ้ ม โดยใชห้ ลกั กัน ความร้เู ก่ยี วกับลูกค้าที่ การตลาดสีเขยี ว Green Marketing แตกตา่ งกัน

หน่วยที่ แผนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมง สปั ดาหท์ ่ี 10 ชอื่ วชิ า ชื่อหนว่ ย 6 จานวน 3 ชื่อเร่ือง การขายเบอื้ งตน้ ความรู้เกี่ยวกบั ลกู ค้า ความรู้เก่ียวกับลูกค้า 1. สาระสาคญั พนักงานขายเปน็ ผู้ที่ใกล้ชิดกับลกู ค้ามากท่ีสุด และถ่ายทอดตวั สนิ ค้าไปยังลกู ค้า ดังนน้ั ลกู คา้ จะซื้อ สินค้าหรือไม่น้ัน พนักงานขายจาเป็นตอ้ งศึกษาข้อมูลท่เี กย่ี วกบั ลูกค้าจะได้ทราบถึงลักษณะและความต้องการ ที่แท้จริงของลกู คา้ แต่ละบุคคลมีความตอ้ งการท่แี ตกตา่ งกันอยา่ งไร จะได้นาข้อมูลเหล่านน้ั มานาเสนอในงาน ขายสินค้านนั่ เอง 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับความรู้เก่ยี วกับลูกคา้ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 แสดงความรู้เก่ียวกับความรเู้ กี่ยวกับลกู ค้า 3.1.1. อธบิ ายความหมายและประเภทของลูกคา้ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3.1.2. อธบิ ายพฤติกรรมของลกู คา้ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3.1.3. อธิบายถงึ ความตอ้ งการและแรงจูงใจในการซ้ือของลกู คา้ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3.1.4. อธบิ ายถึงปัจจัยภายในและปจั จยั ภายนอก ท่ีมีผลกระทบตอ่ พฤตกิ รรม การซ้ือของลกู ค้าได้ อย่างถกู ต้อง 3.1.5. อธิบายถึงกระบวนการตดั สนิ ใจซือ้ ของลูกค้าได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 3.1.6. วเิ คราะหห์ าสาเหตุของการตัดสินใจซื้อของ ลูกค้าได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายและประเภทของลูกค้า 2. พฤติกรรมของลูกค้าหรือพฤติกรรมของผบู้ รโิ ภค 3. ความต้องการและแรงจูงใจในการซื้อของลกู คา้ 4. ปจั จัยภายในที่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการซื้อ 5. กระบวนการตัดสินใจซ้ือของลูกค้า 6. สาเหตุของการตัดสินใจซ้ือสนิ ค้า 5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ท.ี่ ......10.....) ข้ันสนใจปญั หา (Motivation) 1. ครูให้นักเรยี นสารวจรา้ นคา้ หรือหา้ งสรรพสนิ คา้ ทวั่ ไป โดยใหน้ ักเรยี นสงั เกตพฤติกรรมของลูกค้า ซ่ึงจะเหน็ ไดว้ า่ ในร้านค้าหรอื ห้างสรรพสินคา้ จะมีลกู คา้ ทมี่ ีพฤตกิ รรมหลากหลายมาซอ้ื สินค้าทร่ี า้ นจาหน่ายสนิ ค้า 46

ขน้ั ให้เน้อื หา (Information) 1. .นักเรียนแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ ประกอบด้วยผ้ทู ี่เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลาง ค่อนขา้ ง ออ่ นคละกนั 4. นกั เรียนแตล่ ะคนในกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษา และสรปุ เนอื้ หาจากเอกสารประกอบการเรยี นในหวั ข้อดังน้ี - ความหมายและประเภทของลูกคา้ - พฤติกรรมของลูกค้าหรือพฤติกรรมของผู้บรโิ ภค - ความต้องการและแรงจงู ใจในการซ้ือของลูกค้า - ปัจจยั ภายในทีม่ ีผลกระทบต่อพฤติกรรมการซือ้ - กระบวนการตดั สนิ ใจซ้อื ของลกู ค้า - สาเหตุของการตัดสนิ ใจซอ้ื สนิ คา้ 6. นักเรยี นแตล่ ะคนในกลุ่มอภปิ รายสรปุ เน้ือหาทีไ่ ด้ศึกษาใหเ้ พ่อื นในกลมุ่ ของตนฟงั และอภิปรายซกั ถามกัน เขา้ ใจทุกคน ขั้นพยายาม (Application) 4. ทาแบบฝกึ หัด และใบงาน ขน้ั สาเร็จผล (Progress) 7. ครูสงั เกตพฤติกรรมการทากิจกรรมกลมุ่ เพ่อื ประเมินผล กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่.ี ......11.....) ขนั้ สนใจปญั หา (Motivation) 1. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายพฤตกิ รรมทีล่ ูกคา้ แสดงออก และการโต้ตอบของผู้ขาย ครูและนกั เรยี นรว่ มสรุปผล การอภิปราย โดยครูอธิบายเร่อื งความหมายและประเภทของลูกค้า ขน้ั ให้เนื้อหา (Information) 1. ครใู หผ้ เู้ รียนบอกสาเหตุของการตัดสนิ ใจซ้อื หม้อของลูกค้า ตามแนวคดิ ของนักเรียนที่วิเคราะห์ ดงั นี้ 1. ประโยชน์ 2. ความสะดวก 3. ความปลอดภยั 4. ความเพลดิ เพลิน 5. การยอมรับของสังคม 6. ความแปลกใหม่ 2. ให้นักเรยี นทารายงาน โดยกาหนดหัวขอ้ ว่าถ้านักเรียนจะซื้อพัดลมมาใช้ในครอบครวั นกั เรียน จะมีกระบวนการตดั สินใจในการซอ้ื อย่างไรบา้ ง ข้ันพยายาม (Application) 1. ใหน้ ักเรียนทารายงาน โดยกาหนดหัวข้อว่าถา้ นักเรียนจะซื้อพดั ลมมาใช้ในครอบครัว นกั เรยี น จะมีกระบวนการตัดสนิ ใจในการซื้ออย่างไรบา้ ง ขัน้ สาเร็จผล (Progress) 2. ตรวจแบบฝกึ หัด ใบงานของผู้เรียน แบบทดสอบ และสังเกตพฤติกรรมกลุม่ 6. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 6.1 สอ่ื 1. หนังสือ/ตาราเรียน 2. ใบงาน 3. รปู ภาพ 47 4. ใบงาน 6.2 แหล่งการเรยี นรู้

1. หนังสอื ตาราเรียน (หอ้ งสมดุ ) 2. ขอ้ มูลทางอนิ เทอร์เน็ต 7. หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1. คะแนนจากแบบฝึกหดั และแบบทดสอบเก็บคะแนน 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั งิ าน 1. แบบฝกึ หดั 2. แบบทดสอบเกบ็ คะแนน 3. ใบงาน 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8.1 เครอื่ งมือประเมนิ 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8.2 เกณฑก์ ารประเมิน 9 เกณฑ์ผ่านการประเมินแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ คอื (50 % ขน้ึ ไป) - คะแนน 9-10 คอื ดมี าก - คะแนน 7-8 คอื ดี - คะแนน 5-6 คอื พอใช้ - คะแนน ตา่ กวา่ 5 คือ ปรับปรงุ 2. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ะรรม ค่านยิ ม และลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กบั ตาม สภาพความเปน็ จร 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถา้ มี) ให้ผู้เรียนหาความรู้เพ่ิมเติมจากแหล่งเรียนรตู้ ่างๆ 10. เอกสารอา้ งอิง จริญญา จันทรป์ าน. มปพ. การเขียนแผนธรุ กจิ . กรุงเทพมหานคร : ไอดซี ี อินโฟ ดสิ ทริบวิ เตอร์ เซน็ เตอร์ จากดั จาเนยี ร ชว่ งโชติ และคณะ. (2516). จติ วิทยาการรบั รแู้ ละเรยี นรู้. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย รามคาแหง นวลศริ ิ เปาโรหิตย.์ (2532). พัฒนาการทางอาชีพ. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง. คณะ ศึกษาศาสตร์, ภาควิชาจิตวทิ ยา. พรม้ิ เพรา ดษิ ยวณิช. (2544). การจงู ใจ. เชยี งใหม:่ บริษัทกลางเวียงการพิมพ์ จากัด 48

11. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 11.1 ข้อสรุปหลังการจดั การเรียนรู้ 11.2 ปัญหาอุปสรรคที่พบ 11.3 แนวทางแก้ปญั หาและหรือพัฒนา 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook