Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 35นักการเมืองถิ่นมหาสารคาม

35นักการเมืองถิ่นมหาสารคาม

Description: เล่มที่35นักการเมืองถิ่นมหาสารคาม

Search

Read the Text Version

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม รหัสไปรษณีย์ 44140 การศึกษาสูงสุด ระดับปริญญาโท อาชีพ ปัจจุบัน นักธุรกิจ สมรสกับนายดนัย อุรเคนทร์ มีบุตรชาย 1 คน 2. สมรรถนะและความสามารถเบื้องต้น นางมยุรา อุรเคนทร์ เป็นผู้นำนักการเมืองที่มีสมรรถนะ และความสามารถของนักการเมือง จากการประเมินตนเองตาม ตัวชี้วัด ดังนี้ 1. ด้านศักยภาพ มีความใฝ่รู้และพัฒนาตนเอง อยู่เสมอ โดยการเข้ารับการอบรม ติดตามข่าวสารบ้านเมือง 2. ด้านศีลธรรมจริยธรรม มีความกล้าหาญที่จะต่อต้าน การกระทำที่ขัดต่อศาสนา 3. ด้านความสามารถเฉพาะตัว มีความเป็นกันเอง โอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้อื่น 4. ด้านการวางแผนและแก้ไขปัญหา สามารถให้ ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาได้รอบคอบ 5. ด้านการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนา สามารถจัดลำดับ ความสำคัญของปัญหาได้ และระบุสาเหตุของปัญหาได้อย่าง รอบด้าน 6. ด้านการใช้หลักประชาธิปไตยในการทำงานร่วมกับ ผู้อื่น เปิดโอกาสให้ผู้อื่นแสดงความคิดเห็น ยอมรับในความ แตกต่างของความเห็นโดยนำไปพิจารณาปฏิบัติตามความ เหมาะสม 84

ผลการศึกษา 7. ด้านความรับผิดชอบ แสดงออกถึงการยอมรับ ข้อผิดพลาดในหน้าที่ก่อนโดยไม่ต้องรอให้ผู้อื่น ตำหนิหรือ จำนนต่อหลักฐาน 3. บทสรุปนักการเมือง นางมยุรา อุรเคนทร์ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2539 และ ได้รับเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2539 ในนามพรรคความหวังใหม่ เหตุผลในการลงสมัครรับเลือกตั้ง นางมยุรา อุรเคนทร์ กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของ “คนทุกคนในสงั คม” การเมืองเป็นเรื่อง ของการจัดสรรผลประโยชน์ของประเทศให้กับชุมชนและ ทุกองค์กรทั้งด้าน การศึกษา เศรษฐกิจ สังคมและความ เสมอภาคของมนุษย์ ผู้ดูแลและกำหนดทิศทางของประเทศ คือ นักการเมือง จังหวัดมหาสารคามเป็นบ้านเกิด ก็ควรจะได้ รับการดูแลและเอาใจใส่จากรัฐบาลอย่างเป็นธรรม จึงอยาก เป็นตัวแทนของจังหวัดเข้าไปดูแลในส่วนนี้ ส่วนเหตุผลสำคัญ ที่ส่งผลทำให้ได้รับการเลือกตั้ง มาจากปัจจัยสำคัญ คือ การ ลงสมัครติดต่อกัน 3 ครั้งอย่างต่อเนื่อง โดยเข้าปราศรัยกับกลุ่ม ผู้นำชุมชนทุกตำบล และทุกกลุ่มของชุมชน เช่นกลุ่มสตรี แม่บ้าน กำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กร ผู้นำครู กลุ่มสก อ.ย. กลุ่ม เยาวชน ข้าราชการตำรวจ (จัด-อบรมตำรวจบ้าน) แยกทำ ทุกตำบลในหลายอำเภอ อ.โกสุมพิสัย กุดรัง พยัคภูมิพิสัย ยางสีสุราช และการก่อตั้งกองทุนมยุรา อุรเคนทร์ ความ ประทับใจในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร คือ ได้เป็นผู้เสนอยกร่างกฎหมาย และเสนอปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. 85

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม ที่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และสังคม ซึ่งกฎหมาย หลายฉบับที่จำเป็นในการดำรงชีพแต่ล้าหลังไม่ทันเหตุการณ ์ ในยุคโลกาภิวัตน์ เช่น พ.ร.บ.ฟื้นฟูชีวิตเกษตรกร(กองทุนฟื้นฟู ปัจจุบัน) พ.ร.บ. ส.ค.บ (คุ้มครองผู้บริโภคและการขายตรง) ปรับปรุง-แก้ไข พ.ร.บ วิชาชีพพยาบาล ปรับปรุง – แก้ไข พ.ร.บ สถานพยาบาล เป็นต้น การดำเนินงานในช่วงที่ยังไม่ได้ดำรง ตำแหน่ง ได้ก่อตั้งกองทุน “มยุรา อุรเคนทร์” ให้กับ กลุ่มสตรี แม่บ้านทุกอำเภอในจังหวัดมหาสารคาม เขต 2 และสนับสนุน ส่งเสริมองค์กรครู โดยมอบกองทุนให้ครูทุกอำเภอในเขต 2 “สนง.ประถมศึกษา” ออกพบปะชาวบ้านที่ได้รับความ เดือดร้อน เช่น น้ำท่วมอำเภอโกสุมพิสัย – แจกข้าวสารอาหาร แห้งตามกำลังที่จะทำได้ในขณะนั้น ประสบการณ์ที่ประทับใจจากการทำงาน คือ การต่อสู้ ให้ได้มาซึ่ง “กระทรวงวัฒนธรรม” โดยกระทรวงที่ขึ้นต่อ สำนักนายกรัฐมนตรี มีการบริหารเข้าตรงกับนายกรัฐมนตรี และมีอิสระในการปฏิบัติงาน และขอให้ตั้งสำนักงานวัฒนธรรม ขึ้นในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล เพื่อดำรงรักษาไว้ ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจะนำมา เพื่อความเข้มแข็งของชุมชนและสังคมต่อไป (ถึงแม้การต่อสู้ จะไปได้มาซึ่งกระทรวงพุทธศาสนาก็ตามที) ในลักษณะและ รูปแบบในการดำเนินงาน ด้านอำนาจหน้าที่ในสภา จะมีการ ประชุม สภาวันพุธ-พฤหัสฯ ก็จะยึดกฎระเบียบข้อบังคับอย่าง เคร่งครัด ก่อนประชุมทุกครั้งก็จะทำการบ้านก่อนทุกวาระ เพื่อ จะได้ติดตามงานอย่างใกล้ชิด และไม่ขาดการประชุมแม้ต้อง อยู่ดึกดื่น หากป่วยก็จะมีใบลา ใบรับรองแพทย์ประจำ 86

ผลการศึกษา ด้านตัวแทนประชาชน เสียภาษีรายได้ ตามรัฐบาลกำหนด ไม่ทำตัวเป็นภาระของสังคมและของชาติ ทำสังคม-ชุมชน ที่เรารับผิดชอบให้เข้มแข็ง ไม่เป็นภาระของสังคม-ชาติ ไม่เบียดเบียนตัวเอง และบุคคลอื่นในสังคมที่เรารับผิดชอบและ ด้านบทบาทหน้าที่มรครอบครัว ดูแลบุตร-บริวารไม่ให้บกพร่อง และไม่ให้ไปสร้างปัญหากับสังคมและประเทศชาติ ให้การ ศึกษาบุตร-บริวาร อบรม-ดแู ล ไม่ให้เป็นภาระแก่สังคม 4. รูปแบบหรือวิธีการดำเนินงานในฐานะที่เป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 4.1 ด้านอำนาจหนา้ ท่ี การออกกฎหมาย การเสนอกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย และการพิจารณากฎหมายเพื่อความเป็นธรรมของประชาชน โดยยึดหลักการเข้าพบปะให้กำลังใจฉันญาติที่ห่วงใย ส่วน บทบาทในขณะที่ดำรงตำแหน่ง แบ่งเป็น 2 ส่วน ประชุมสภา วันพุธ-วันพฤหัสบดี บ่ายโมง-1 ทุ่ม โดยประมาณ วันอังคาร 9.30-17.00 น. ประชุมกรรมาธิการเกษตร, กรรมาธิการกิจการ วันพุธ เช้า 9.30-12.00 น. ประชุมกรรมาธิการแรงงาน ทำหน้าที่ ในการเป็นตัวแทนของประชาชนในบทบาทในสภาที่ชัดเจนเพื่อ สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง 4.2 ดา้ นบทบาทหนา้ ที่ตัวแทนของประชาชน มีการดำเนินงานทั้งในบทบาทหน้าที่ของ สส. เชื่อมโยงกับการพบปะกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยยึดคติที่ว่า ความทุกข์ของประชาชนคือหน้าที่ของ สส. 87

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม โดยในวันศุกร์-อาทิตย์ ลงพื้นที่ออกงานตามคำร้องของชาวบ้าน และผู้นำชุมชน 4.3 ดา้ นบทบาทหนา้ ทใ่ี นครอบครวั มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในครอบครัวให้ชัดเจน ปลูกฝังให้ครอบครัวมีทัศนคติที่ดีในทางการเมืองและไปในทาง เดียวกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัว สามารถที่มีความสุขได้จากบทบาทหน้าที่ในฐานะนักการเมือง พยายามจัดเวลาให้กับบุตร เพื่อมอบความรักความอบอุ่น หากจัดเวลาได้น้อย ก็จะใช้โทรศัพท์เป็นบางครั้งหากจำเป็น 5. วิธีหาเสียง กลยุทธ์และวิธีการในการหาเสียง มีการเข้าพบปะแกน นำที่เราก่อตั้งไว้ทุกกลุ่ม ยืนบนอุดมการณ์เดิมและพร้อมจะ ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับพวกเขาเพื่อแก้ปัญหาชุมชนและองค์กร ร่วมกันดังนี้ 1) การปราศรัยตามหมู่บ้าน-ตำบล ทุกอำเภอจนครบ รับฟังปัญหาของทุกกลุ่ม แก้ปัญหาร่วมกับทุกกลุ่ม 2) จัดตั้งเครือข่ายข่าวสาร รู้เขา-รู้เรา ดูความเคลื่อนไหว ของฝ่ายตรงข้าม โดยมีการประเมินงานอย่างต่อเนื่อง คือ มีผู้ประสานงานระดับอำเภอ 2 คน ระดับตำบล ตำบลละ 3 คน ระดับหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 10 คน เพื่อเราผลักดันโครงการ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแต่ละชุมชน ก็จะได้รับทราบข่าวสาร จากทีมงานที่จัดตั้งไว้ 3) มีตัวแทนของเขต และตัวแทนระดับอำเภอ เพื่อ 88

ผลการศึกษา เข้าพบปะทั้งในระดับเขตและระดับอำเภออย่างสม่ำเสมอ และ ในการดำเนินงานนั้นก็ได้มีการวางแผนการดำเนินงานอย่าง ต่อเนื่อง ภาวะการเมือง สังคม เกิดความแตกแยก การเมือง ปัจจุบันควรได้รับการปฎิรูปไปในทิศทางที่ดีและมีเสถียรภาพ ที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. ควรชัดเจนกว่านี้ การแบ่งเขตเลือกตั้ง องค์กรอิสระต่างๆ ทำงานไม่ชัดเจน พี่น้องประชาชนไม่สามารถ รับสื่อที่เป็นจริงได้ทั่วถึง ทุกอย่างควรปฏิรูปก่อนถึงประโยชน์ต่อ ประเทศชาติ การเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคน การเมืองเป็นการ จัดสรรผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมให้กับทุกชุมชน 6. การสร้างเครือข่ายและผู้สืบทอดทางการเมือง พร้อมจะสนับสนุนคนรุ่นหลังให้เข้าใจรากเหง้าของ ปัญหาทุกด้านของประเทศและแนวทางแก้ไขเพื่อร่วมกัน แก้ไข ปัญหาชาติอย่างเป็นระบบ เมื่อมีผู้มาขอคำแนะนำ และมีการ สร้างเครือข่ายทางการเมืองโดยมีการร่วมพบปะกับผู้นำองค์กร ชุมชนที่ก่อตั้งไว้เดิมอย่างสม่ำเสมอ และสร้างผู้นำในกลุ่ม รุ่นใหม่จนครอบคลุมทั้งระดับเขตและระดับอำเภอ แล้วมีการ พบปะแลกเปลี่ยนแนวทางกับกลุ่มรุ่นใหม่ ให้เข้าใจเป้าหมาย ที่แท้จริงในการทำงานของเครือข่าย และอุดมการณ์ร่วมของ พรรค มีการจัดกิจกรรมทางการเมืองให้กับผู้มีอุดมการณ์ เดียวกัน แลกเปลี่ยนสถานการณ์ วิเคราะห์ถึงปัญหา สาเหตุ และผลของปัญหาของสังคมและประเทศชาติชาติร่วมกันอย่าง สม่ำเสมอ และแลกเปลี่ยนข้อมูล-เพื่อขยายผลสร้างบุคลากร ใหม่ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ 89

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง 1. ข้อมูลส่วนตัว นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง อายุ 58 อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ที่ 16 ถนนแจ้งสนิท ตำบลบรบือ อำเภอบรบือ จังหวัด มหาสารคาม 44130 การศึกษาระดับปริญญาโท รัฐประศาสน- ศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาชีพปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม สมรสกับ ดร.บังอร สุจริตกุล ภรรยา อายุ 47 ปี อาชีพนักธุรกิจ การศึกษาปริญญาเอก 2. สมรรถนะและความสามารถเบ้ืองต้น นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง เป็นผู้นำนักการเมืองที่มี สมรรถนะและความสามารถของนักการเมือง จากการประเมิน ตนเองตามตัวชี้วัด ดังนี้ 1. ด้านศักยภาพ เป็นผู้นำในการส่งเสริมให้คนในชุมชน ได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในการทำงานร่วมกัน 2. ด้านศีลธรรมจริยธรรม เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา และวัฒนธรรมประเพณีอย่างสม่ำเสมอ 3. ด้านความสามารถเฉพาะตัว เป็นผู้นำในการส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มองค์กร เครือข่ายเพื่อประโยชน์ ของส่วนรวม 4. การวางแผนและการแก้ไขปัญหา สามารถหาวิธีการ ที่ดีที่สุดในการดำเนินการตามแผนเพื่อให้กลุ่มและองค์กรได้รับ ประโยชน์สูงสุด 90

ผลการศึกษา 5. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนา สามารถนำความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กลุ่มไม่เคยใช้มาก่อน มาใช้ในการทำงานของกลุ่มจนสามารถลดต้นทุน และขั้นตอน ในการผลิตได้ 6. การใช้หลักประชาธิปไตยในการทำงาน เปิดโอกาส ให้ผู้อื่นแสดงความคิดเห็น ยอมรับในความแตกต่างของ ความเห็นโดยนำไปพิจารณาปฏิบัติตามความเหมาะสม 7. ด้านความรับผิดชอบ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการ ทำงานของหมู่คณะ หรือทีมแสดงออกถึงความรับผิดชอบ ออกรับแทน 3. บทสรุปนักการเมือง นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในปัจจุบัน จากการ สัมภาษณ์และการศึกษาบุคคลใกล้เคียง (นายนิพนธ์ ยศดา) เป็นบุคคลที่ฉายแววผู้นำมาตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มจากการรวบรวม สมัครพรรคพวกทำกิจกรรมต่างๆ ของอำเภอบรบือ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องกีฬา ดนตรี สิ่งเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่มีอยู่ในตัวของ นักการเมืองหนุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นคนนี้ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง เริ่มเข้าสู่เวทีทางการเมืองหลังจากที่ ช่วยพ่อขายกาแฟ แม่ขายหนังสือพิมพ์ ควบคู่ไปกับการเรียน จนจบในระดับมัธยมศึกษาและประกอบอาชีพส่วนตัวได้ระยะ หนึ่ง ด้วยความเป็นนักการเมืองมาตั้งแต่เกิด สายเลือดทาง การเมืองมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมจึงรบเร้าให้เขาก้าวเข้าสู่เวที ทางการเมืองอย่างเต็มตัว โดยการลงสมัครและได้รับเลือกตั้ง 91

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นสมาชิกสภาจังหวัดมหาสารคาม (สจ.) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 ด้วยคะแนนท่วมท้น พ.ศ.2526 เข้าสู่เวทีการเมืองใหญ่ลงสมัคร รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดมหาสารคาม (สส.) สมัยแรกในนามพรรคกิจสังคม ที่มีนโยบายโดนใจประชาชน คือ “เงินผัน” จนมีเพลงประจำพรรค คือ คึกฤทธิ์ เป็นคนคิดลึก ซึ่งเหตุผลสำคัญในการลงสมัครรับเลือกตั้ง คือ มีความสนใจ ในการเมืองเลือกเส้นทางเดินสู่รัฐสภาและเป็นการตัดสินใจเพื่อ ที่จะมีส่วนเข้าส่งเสริมและรักษาระบอบประชาธิปไตยและ ทำงานรับใช้บ้านเมืองตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการ ตัดสินใจที่สำคัญต่อชีวิตทางการเมืองและสามารถยืนหยัด อยู่ได้จนมาถึงทุกวันนี้ และเมื่อมองลึกลงไปถึงเหตุผลสำคัญ ที่ส่งผลให้ได้รับเลือกตั้งและประสบผลสำเร็จในเส้นทาง การเมืองอย่างละเอียดและตัวตนที่แท้จริงแล้วจะพบว่ามีหลาย อย่างที่ส่งผลให้คนผู้นี้ไม่ใช่ธรรมดา จากพฤติกรรมดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการนำทีมงานและตัวเองไปสู่ความสำเร็จ เป้าหมายแห่งชัยชนะอันเป็นเกียรติยศของตนเองและ วงศ์ตระกูล และถือว่าเป็นตำนานและสร้างชื่อเสียงให้กับ ชาวบรบือ จังหวัดมหาสารคามอีกหน้าหนึ่งได้จารึกไว้เป็น ประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป ซึ่งปัจจัย ทั้งหลายนี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดแต่ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยและ พฤติกรรมของท่านที่ส่งผลต่อความสำเร็จทางการเมืองที่ผู้คิด จะเล่นการเมืองต้องนำไปศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ก่อนการตัดสินใจ ในการดำเนินงานของท่านในช่วงที่ยังไม่ได้ เป็น สส. ท่านจะเน้นให้ความสำคัญในการสร้างทีมงานทีมี คุณภาพในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ที่ถือว่าเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ 92

ผลการศึกษา เทคนิคในการสร้างทีมงานของท่านนั้นใช้ทุกรูปแบบที่สำคัญ เป็นการสื่อสารทางตรงจากท่านสู่ทีม สู่ประชาชน โดยการสร้าง ทีมดังกล่าวปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องใช่เฉพาะแต่ในช่วงการ เลือกตั้งเท่านั้น โดยที่นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เป็นต้นว่า การสร้างเครือข่ายแม่บ้านในทุกชุมชน ทีมผู้นำชุมชน ผู้นำ ท้องถิ่น ทีมการศึกษา เช่น ครูในท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งหัวใจ สำคัญในแนวคิดและทางในการดำเนินงานทางการเมืองหลัก คือ การมองการเมืองอย่างผู้ชนะ ซึ่งผลจากความสำเร็จในการ เดินสู่ถนนทางการเมืองของท่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ได้ผ่านการดำรงตำแหน่งที่สำคัญมากมาย เช่น ประธาน คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ประธาน คณะกรรมาธิการปฏิรูปการบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา ประธาน คณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครรัฐสภา นายกสโมสร รัฐสภา เลขานุการประจำรัฐสภา รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย วิปรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งทุกตำแหน่งหน้าที่ล้วนเป็น ความภาคภูมิใจและประทับใจในการทำงานเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง 4. วิธีหาเสียง ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จมีอยู่หลายประการ 1) กล้าคิด กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว คิดใหญ่ ทำใหญ่ 2) มีความเป็นประชาธิปไตยสูง มีความเคารพ ในเหตุผลของทีมงานและฟังความเห็นของผู้อื่น มีความอดทน หนักแน่น 93

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม 3) การต่อสู้ทางการเมืองไม่ท้อแท้ ถึงท้อแท้ แต่ก็ไม่ถอย บุคลิกภาพส่วนตัวจากการศึกษา ผใู้ กลช้ ดิ ในฐานะเรยี กไดว้ า่ “เพอ่ื นคคู่ ดิ มติ รรใู้ จ สหายคู่ยาก” อย่าง มีฤทธิ์ ปัญญาวงศ์ เลขานุการส่วนตัว ทำให้ทราบถึงข้อมูลแก่นแท้ ในประเด็นที่สำคัญที่ถือเป็นตัวตนที่แท้จริงของ ท่านรัฐมนตรีผู้นี้ 4) เป็นคนจำคนแม่น ทักชื่อได้ถูกต้องชัดเจน มีเพื่อนมากในทุกหมู่บ้าน เสมือนหนึ่งเป็น ญาติสายโลหิต มีความกตัญญูเป็นเลิศ ไม่ผูก อาฆาตร้าย ไม่พยาบาท โกรธง่ายหายเร็ว ชอบ อ่านหนังสือ ตื่นเช้านอนน้อย คิดใหญ่ ทำใหญ่ ไม่แสดงพฤติกรรที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ช่วงชิง โอกาส แต่สร้างโอกาสให้กับตนอง 5. รูปแบบหรือวิธีการดำเนินงานในฐานะท่ีเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 5.1 ด้านอำนาจหนา้ ที่ การออกกฎหมาย การเสนอกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย และการพิจารณากฏหมายเพื่อความเป็นธรรมของประชาชน 5.2 ด้านบทบาทหนา้ ที่ตัวแทนของประชาชน มีการดำเนินงานทั้งในบทบาทหน้าที่ของ สส. เชื่อมโยงกับการพบปะกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยยึดคติที่ว่า ความทุกข์ของประชาชนคือหน้าที่ของ สส. และ 94

ผลการศึกษา ทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนของประชาชนในบทบาทในสภา ที่ชัดเจน 5.3 ดา้ นบทบาทหนา้ ท่ใี นครอบครวั มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในครอบครัวให้ชัดเจน ปลูกฝังให้ครอบครัวมีทัศนคติที่ดีในทางการเมืองและไปในทาง เดียวกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัว สามารถที่มีความสุขได้ และในช่วง 30 ปี เวทีการเมือง จาก สภากาแฟสู่รัฐสภา “ผมเกิดในสภา” เพราะบ้านผมขายกาแฟ บ้านคือ “สภากาแฟ” “ผมเกิดในห้องสมุด” เพราะบ้านผมขาย หนังสือพิมพ์ที่บ้านจึงเป็น “ห้องสมุด” 6. การสร้างเครือข่ายและผู้สืบทอดทางการเมือง การวางแผนต่อเนื่องในการลงสมัครเลือกตั้งครั้งต่อไป ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินเน้นการทำงานที่เสมอต้น เสมอปลาย ถือว่าเป็นการวางแผนทางการเมืองที่ดีที่สุด อีกประเด็นที่สำคัญ คือ การวางแผนเกี่ยวกับพรรคการเมือง ที่สังกัดมีความสำคัญมากเพราะการเมืองในปัจจุบันประชาชน มักมองที่กระแสความนิยมเป็นหลักมาก่อน ต้องมีการปรับ ทิศทางทางการเมืองอย่างไร มีการศึกษาและรับฟังปัญหาของ ชาวบ้านตลอดเวลาตามยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง ส่วนการวางแผน สืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองนั้น การสืบทอดโดยผ่านบุคคล เช่น ญาติ บุตร และเพื่อนๆ 95

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ 1. ข้อมูลส่วนตัว นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 1 ตำบลบรบือ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม 44100 การศึกษาสูงสุด ระดับปริญญาโท อาชีพปัจจุบัน นักการเมือง สมรสกับนางรัชนี ศิริไปล์ มีบุตรสาว 2 คน 2. สมรรถนะและความสามารถเบื้องต้น นายสรรพภัญญ ู ศิริไปล์ เป็นผู้นำนักการเมืองที่มี สมรรถนะและความสามารถของนักการเมือง จากการประเมิน ตนเองตามตัวชี้วัด ดังนี้ 1. สามารถใช้ความรู้ความสามารถของตนเองในการ แก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ 2. แสดงตนเป็นแบบอย่างที่ดีตามหลักวัฒนธรรม ประเพณี 3. มีความเป็นกันเอง โอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้อื่น 4. สามารถให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาได้ รอบด้าน 5. สามารถคาดการณ์ถึงปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นและ เลือกแนวทางการป้องกันไว้ล่วงหน้าโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างจำกัดให้คุ้มค่าที่สุด 6. เมื่อมีข้อขัดแย้งหรือถูกตำหนิสามารถควบคุม อารมณ์ได้ดี 96

ผลการศึกษา 7. มีความรับผิดชอบแสดงออกถึงการยอมรับข้อ ผิดพลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่อื่น 3. บทสรุปนักการเมือง นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2543 ในนามพรรคความหวังใหม่ ได้คะแนนมากแต่ก็ยังไม่ได้รับการ เลือกตั้งโดยแพ้นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ที่ลงสมัครในนามพรรค ไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งเป็น สส.ครั้งแรกในปี 2550 ในนามพรรคพลังประชาชน โดยได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณ 1 แสนกว่าคะแนน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่มากมาย ในระยะนั้น เหตุผลในการลงสมัครรับเลือกตั้ง นายสรรพภัญญ ู ศิริไปล์ กล่าวว่า ที่ต้องการเล่นการเมืองเพราะมีพื้นฐานทาง การเมืองอยู่แล้ว คือพี่ชายเล่นการเมืองมาก่อน ได้มองเห็น แนวทางและประสบการณ์จากพี่ชาย และตนเองก็มีความชอบ ในการเมืองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเคยได้เป็นประธานนักเรียน ในสมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม เป็น สมาชิกสภาจังหวัดและรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นักการเมืองคือผู้ดูและ กำหนดทศิ ทางของประเทศ คอื นกั การเมอื ง จงั หวดั มหาสารคาม เป็นบ้านเกิด จึงอยากเป็นตัวแทนของจังหวัดและน่าจะเข้ามา มีส่วนร่วมเข้าไปดูแลในส่วนนี้ ส่วนเหตุผลสำคัญที่ส่งผลทำให้ ได้รับการเลือกตั้ง มาจากปัจจัยสำคัญ คือ การปฏิบัติงาน ในด้านชุมชนและช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เมื่อ ชาวบ้านเกิดความเจ็บป่วย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน 97

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม ทั้งในเรื่องศาสนา ประเพณี จึงทำให้เป็นที่รู้จักของประชาชน ความประทับใจในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร คือ ได้เป็นลูกอีสานคนหนึ่งที่มีโอกาสเข้าไปนั่งในสภาผู้แทน ราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชนในการช่วยเหลือราษฎร มีส่วน ในการออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์กับประชาชนโดยส่วนรวม เป็นกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2551 ด้านการแปรญัตติในการ บริหารประเทศ การเงินและงบประมาณ ติดตามการผันน้ำจาก แม่น้ำชีไปช่วยประชาชนในเขตพื้นที่ ในระบบท่อ แต่น่าเสียดาย ที่ยังไม่ได้เต็มที่เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก่อน ซึ่ง โครงการได้มีการออกแบบไว้แล้ว ด้านการดำเนินงานในช่วงที่ ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง มีการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่าง ต่อเนื่องโดยมีการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในพื้นที่ตลอด เวลา 4. วิธีหาเสียง กลยุทธ์และวิธีการในการหาเสียง มีการเข้าพบปะแกน นำที่เราก่อตั้งไว้ทุกกลุ่ม ยืนบนอุดมการณ์เดิมและพร้อมจะ ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทั้งระดับชุมชน หรือ หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เพื่อแก้ปัญหาชุมชนและองค์กรชุมชน ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1. การพบปะ เยี่ยมเยือนผู้นำ กลุ่มแกนเครือข่าย ประชาชน องค์กรภาคีแห่งความร่วมมือ และปราศรัยตาม หมู่บ้าน-ตำบล ทุกอำเภอจนครบ รับฟังปัญหาของทุกกลุ่ม เพื่อนำมาวิเคราะห์วางแผนแก้ปัญหาร่วมกับทุกกลุ่มและ เครือข่าย ถือเป็นญาติมิตรเสมอต้นเสมอปลาย 98

ผลการศึกษา 2. จัดตั้งศูนย์เครือข่ายข่าวสาร มีหน่วยความเคลื่อนเร็ว เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนในเขตบริการ โดยมีการ ประเมินงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับอำเภอ ระดับตำบล ระดับ หมู่บ้านในลักษณะตัวแทนพรรคการเมืองระดับท้องถิ่น เกิด ความเชื่อมโยงการเมืองระดับชาติ 3. มีตัวแทนของชุมชนหรือหมู่บ้าน ตัวแทนระดับตำบล และตัวแทนระดับอำเภอ เพื่อเข้าพบปะทั้งในระดับกลุ่มองค์กร ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล ระดับอำเภอ และระดับเขตเลือกตั้ง อย่างสม่ำเสมอ มีการวางแผน การดำเนินงานตามแผน สรุป สะท้อนผล และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทาง การเมืองทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง 5. รูปแบบหรือวิธีการดำเนินงานในฐานะที่เป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 5.1 ด้านอำนาจหนา้ ที่ การออกกฎหมาย การเสนอกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย และการพิจารณากฏหมายเพื่อความเป็นธรรมของประชาชน และมีบทบาทในขณะที่ดำรงตำแหน่ง แบ่งเป็น 2 ส่วน ประชุม สภา ประชุมกรรมาธิการด้านต่างๆ ตำแหน่งทางการเมืองที่มี บทบาทสำคัญ คือ เป็นกรรมาธิการการปกครอง 5.2 ดา้ นบทบาทหน้าที่ตัวแทนของประชาชน มีการดำเนินงานทั้งในบทบาทหน้าที่ของ สส. เชื่อมโยงกับการพบปะกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การลงพื้นที่ออกงานตามคำร้องของชาวบ้านและผู้นำชุมชน 99

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ร้องขอ ในด้านบทบาทหน้าที่นั้นที่สำคัญถือเป็นความภาค ภูมิใจของวงศ์ตระกูล ในการมีส่วนร่วมแปลงงบประมาณลงสู่ พื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อน ทั้งใน เรื่องประชาชนร้องเรียน ปัญหาที่ดิน องค์การบริหารส่วนตำบล งบประมาณสนับสนุน เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเรื่องไฟฟ้าที่ประชาชน เดือดร้อน ในลักษณะและรูปแบบในการดำเนินงาน และกระทำ ตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่กระทำตัวเป็นภาระของสังคมและของ ชาติ ที่เรารับผิดชอบให้เข้มแข็ง ตลอดทั้ง ไม่เบียดเบียนบุคคล อื่นในสังคมที่เรารับผิดชอบ 5.3 ด้านบทบาทหน้าท่ีในครอบครวั มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในครอบครัวให้ชัดเจน ปลูกฝังให้ครอบครัวมีทัศนคติที่ดีในทางการเมืองและไปในทาง เดียวกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัว สามารถที่มีความสุขได้ โดยดูแลทั้งบุตร บริวารญาติมิตรไม่ให้ บกพร่อง และไม่ให้ไปสร้างปัญหากับสังคมและประเทศชาติ ให้การศึกษาบุตร-บริวาร อบรม-ดูแล ไม่ให้เป็นภาระของสังคม พยายามจัดหาเวลาให้กับภรรยา บุตรและญาติมิตร เพื่อมอบ ความรักและความอบอุ่นอย่างต่อเนื่อง 6. การสร้างเครือข่ายและผู้สืบทอดทางการเมือง 1. มีการเข้าพบปะแกนนำโดยเน้นหาฐานเสียงคะแนน จากผู้มีบารมีเก่าในพื้นที่เป็นหลัก เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือ ผู้ที่ประชาชนให้การยอมรับนับถือในพื้นที่ ยืนบนอุดมการณ์ เดิมและพร้อมจะยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับพวกเขาเพื่อแก้ปัญหา ชุมชน-องค์กรร่วมกัน 100

ผลการศึกษา 2. การปราศรัยตามหมู่บ้าน-ตำบล ทุกอำเภอ รับฟัง ปัญหาของประชาชน โดยมีการประเมินงานอย่างต่อเนื่อง คือ เน้นการลงพื้นที่เพื่อตรวจดูความเดือดร้อนของประชาชนด้วย ตนเองอย่างต่อเนื่อง และค้นหาผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระดับ ชุมชน ตำบล หรืออำเภอในเขตบริการเลือกตั้งมาเป็นทีม นักการเมือง ในระดับท้องถิ่น ทั้งในส่วนของญาติ และบุตร ในอนาคต 3. กิจกรรมการดำเนินงานของพรรคการเมืองที่ตนเอง สังกัด ได้มีการวางแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ภาวะ การเมือง สังคม เกิดความแตกแยก ทุกอย่างควรปฏิรูปก่อน จึงประโยชน์ต่อประเทศชาติ การเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคน 4. มีการสร้างเครือข่ายทางการเมืองโดยมีการร่วม พบปะกับผู้นำองค์กรชุมนที่ก่อตั้งไว้เดิมอย่างสม่ำเสมอ สร้าง ผู้นำในกลุ่มใหม่จนครบ โดยเน้นฐานเสียงเดิมจากการที่เคยเป็น สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และรองนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดเป็นหลัก นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท 1. ข้อมูลส่วนตัว นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่12 ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม รหัสไปรษณีย์ 44140 การศึกษาสูงสุด กำลังศึกษาต่อในระดับ ปริญญาเอก อาชีพปัจจุบัน นักธุรกิจ มีบุตร 2 คน ผู้ชายและ ผู้หญิง 101

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม 2. สมรรถนะและความสามารถเบื้องต้น นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท เป็นผู้นำนักการเมืองที่มี สมรรถนะและความสามารถของนักการเมือง จากการประเมิน ตนเองตามตัวชี้วัด ดังนี้ 1. มีความใฝ่รู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยการ เข้ารับการอบรม ติดตามข่าวสารบ้านเมือง 2. แสดงตนเป็นแบบอย่างที่ดีตามหลักวัฒนธรรม ประเพณี 3. มีความเป็นกันเอง โอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้อื่น 4. สามารถหาวิธีการที่ดีที่สุดในการดำเนินงานตาม แผนเพื่อให้กลุ่มและองค์กรได้รับประโยชน์สงู สุด 5. สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กลุ่มไม่เคย ใช้มาก่อนมาใช้ในการทำงานของกลุ่มจนสามารถลดต้นทุนและ ขั้นตอนในการผลิตได้ 6. ยอมรับฟังความคิดเห็นและเหตุผลของคนอื่นและ ใช้ความคิดเห็นของคนอื่นมาใช้ในการแก้ไขปัญหา 7. เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการทำงานของหมู่คณะ หรือ ทีม แสดงออกถึงความรับผิดชอบออกรับแทน 3. บทสรุปนักการเมือง นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2535 และปี พ.ศ. 2539 แต่ยังไม่ได้รับการเลือกตั้ง และได้รับเลือกตั้ง 102

ผลการศึกษา ในปี พ.ศ. 2544 จังหวัดมหาสารคามในนามพรรคไทยรักไทย สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และได้รับ เลือกตั้งอีกสมัยในปี พ.ศ. 2548 และ 2549 แต่การเลือกตั้ง ครั้งนั้นเป็นโมฆะ และได้รับเลือกตั้งในคะแนนที่มากขึ้นเรื่อยมา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เหตุผลในการลงสมัครรับเลือกตั้ง นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของ “คนทุกคน ในสังคม” การเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรผลประโยชน์ ของประเทศให้กับชุมชนและทุกองค์กรทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคมและความเสมอภาคของมนุษย์ ผู้ดูแลและ กำหนดทศิ ทางของประเทศ คอื นกั การเมอื ง จงั หวดั มหาสารคาม เป็นบ้านเกิด ก็ควรจะได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากรัฐบาล อย่างเป็นธรรม จึงอยากเป็นตัวแทนของจังหวัดเข้าไปดูแลใน ส่วนนี้ และอยากสืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองของครอบครัว ซึ่งพ่อแม่เป็นนักการเมืองในพื้นที่ทั้งสองคนในอดีต อีกทั้ง ในสมัยนั้นคิดว่านักการเมืองส่วนใหญ่ยังขาดคุณวุฒิ การศึกษาที่ดีเท่าที่ควรตนเองจึงอยากเข้ามามีบทบาทในการ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ คิดว่าตนเองมีศักยภาพเพียงพอ ที่จะรับใช้ประชาชนได้ และที่สำคัญอยากมีส่วนร่วมในการช่วย แก้ไขปัญหาความยากจนของชาวอีสาน ผลงานในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ชัดเจน โดดเด่น ในลักษณะและรูปแบบในการดำเนินงาน ด้านอำนาจ หน้าที่ในสภา จะมีการประชุม สภาวันพุธ-พฤหัสฯ ก็จะยึดกฎ ระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ก่อนประชุมทุกครั้งก็จะทำการ บ้านก่อนทุกวาระ เพื่อจะได้ติดตามงานอย่างใกล้ชิด และ ไม่ขาดการประชุมแม้ต้องอยู่ดึกดื่น ด้านตัวแทนประชาชน 103

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม มีการทำงานโดยเน้นประโยชน์ส่วนรวมมาก่อน คิดถึงคนอื่นให้ มากกว่าคิดถึงตนเองเป็นสำคัญ มีอุดมการณ์ มีความเสียสละ เพื่อส่วนรวม ไม่เป็นภาระของสังคม-ชาติ และบุคคลอื่นใน สังคมที่เรารับผิดชอบและด้านบทบาทหน้าที่ในครอบครัว ดูแล บุตร-บริวารไม่ให้บกพร่อง และไม่ให้ไปสร้างปัญหากับสังคม- ชาติ พยายามจัดเวลาให้กับบุตร เพื่อมอบความรัก-ความอบอุ่น สร้างความเข้าใจที่ดีให้กับครอบครัวเกี่ยวกับอาชีพของตนเอง ประชาชนคือนาย และครอบครัวมีส่วนร่วมและรักในอาชีพเรา การทำงานให้ครอบครัวเห็นความสำคัญและมีความสุขร่วมกับ เราในการทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน 4. กลวิธีหาเสียง กลยุทธ์/วิธีหาเสียงถือเป็นกระบวนการสำคัญที่ส่งผล ทำให้ได้รับการเลือกตั้ง มาจากปัจจัยสำคัญหลัก คือ 1. การลงสมัครติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง การดำเนินงาน พัฒนางานในพื้นที่ที่ตนเองทำเป็นทุนเดิมอยู่ทำให้เป็นที่รู้จัก ของประชาชนในพื้นที่ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างกลุ่มสตรีแม่บ้าน 2. ออกไปพบปะ ปราศรัยกับกลุ่มผู้นำชุมชนทุกตำบล และทุกกลุ่มของชุมชน เช่น กลุ่มสตรีแม่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กร ผู้นำครู กลุ่มอาชีพ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเยาวชน แยกทำทุกตำบลในหลายอำเภอ โดยเน้นคำที่ว่า “ทำงานทุกวัน ทันใจทุกเรื่อง” โดยเน้นระบบอุปถัมถ์และการเข้าใจใน วัฒนธรรมพื้นบ้านอีสานเป็นหลักในการทำงานรับใช้ประชาชน ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 104

ผลการศึกษา 3. มีรูปแบบการหาเสียงที่แตกต่างจากคนอื่น คือ มีการ ค้นหาผู้นำในชุมชนที่เน้นเป็นผู้นำตามธรรมชาติมากกว่าผู้นำ ที่เป็นทางการ คือ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้น เพราะคิดว่าผู้นำ ที่ชาวบ้านรักตามธรรมชาติจะสามารถเป็นฐานเสียงที่มั่นคงกว่า ผู้นำที่เป็นทางการ โดยมีหัวคะแนนที่เชื่อใจได้อยู่ในตำบลละ 1 คน และอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านละ 10 คนเป็นหลักในการหาเสียง ในพื้นที่ ยืนบนอุดมการณ์เดิมและพร้อมจะยืนยัดต่อสู้ร่วมกับ พวกเขาเพื่อแก้ปัญหาชุมชน องค์กร มีการคัดเลือกคนที่ สามารถเป็นปากเสียงแทนตนเองในพื้นที่ได้เพื่อรองรับการ เสียดสี และดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม จากคู่แข่ง ช่วยการปราศรัย ช่วยเหลือความเดือดร้อนตามหมู่บ้าน ตำบล ทุกอำเภอจนครบ รับฟังปัญหาของทุกกลุ่ม แก้ปัญหาร่วมกับ ทุกกลุ่ม โดยมีการประเมินงานอย่างต่อเนื่อง มีกิจกรรมประชุม เครือข่ายสมาชิก จัดกิจกรรมเสริมสร้างกำลังใจให้กับสมาชิก อย่างต่อเนื่อง 5. รูปแบบหรือวิธีการดำเนินงานในฐานะที่เป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 5.1 ดา้ นอำนาจหนา้ ท่ี การออกกฎหมาย การเสนอกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย และการพิจารณากฏหมายเพื่อความเป็นธรรมของประชาชน และมีบทบาทในขณะที่ดำรงตำแหน่ง แบ่งเป็น 2 ส่วน ประชุม สภา วันพุธ-วันพฤหัสบดี บ่ายโมง-1 ทุ่ม โดยประมาณ ประชุม กรรมาธิการด้านต่างๆ ตำแหน่งทางการเมืองที่มีบทบาทสำคัญ คือ เป็นประธานอนุกรรมการดูแลสิทธิประโยชน์ของคนไทย 105

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ต่างแดน และเป็นกรรมาธิการด้านสตรี ผลงานที่ภาคภูมิใจ คือ การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดีเด่น ในปี 2546 โดยไม่ขาด ประชุมสภา 5.2 ด้านบทบาทหน้าที่ตัวแทนของประชาชน มีการดำเนินงานทั้งในบทบาทหน้าที่ของ สส. เชื่อมโยงกับการพบปะกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การลงพื้นที่วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ลงพื้นที่ ออกงานตามคำร้อง ของชาวบ้านและผู้นำชุมชนร้องความประทับใจในการดำรง ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร คือ การได้มีส่วนผลักดัน เรื่องทุนการศึกษาเด็กให้มีทุนในการศึกษาต่อไม่น้อยกว่า 20,000-30,000 คน การก่อตั้งโรงพยาบาลกุดรัง เพื่อรักษาคน ในพื้นที่ใกล้เคียงให้ได้รับการพยาบาลที่รวดเร็วสะดวกในการ เดินทาง ร่วมผลักดันโครงการพัฒนาพื้นที่ สะดืออีสานให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ คนไทยที่ไปทำงานในต่างแดนให้ได้รับความช่วยเหลือที่เป็น ธรรม สนับสนุน ส่งเสริมองค์กรต่างๆ ปัจจุบันสังกัดพรรค เพื่อแผ่นดินยังคงความเป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการ ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ออกพบปะชาวบ้านที่ได้รับความ เดือดร้อน เช่น น้ำท่วมอำเภอโกสุมพิสัย แจกข้าวสารอาหาร แห้งตามกำลังที่จะทำได้ในขณะนั้นโดยยึดหลักการเข้าพบปะให้ กำลังใจฉันญาติที่ห่วงใย 5.3 ดา้ นบทบาทหนา้ ท่ใี นครอบครัว มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในครอบครัวให้ชัดเจน ปลูกฝังให้ครอบครัวมีทัศนคติที่ดีในทางการเมืองและไปในทาง 106

ผลการศึกษา เดียวกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัว สามารถที่มีความสุขได้ โดยดูแลทั้งบุตร บริวารญาติมิตรไม่ให้ บกพร่อง และไม่ให้ไปสร้างปัญหากับสังคมและประเทศชาติ ให้การศึกษาบุตร-บริวาร อบรม-ดูแล ไม่ให้เป็นภาระของสังคม พยายามจัดหาเวลาให้กับภรรยา บุตรและญาติมิตร เพื่อมอบ ความรักและความอบอุ่นอย่างต่อเนื่อง 6. การสร้างเครือข่ายและผู้สืบทอดทางการเมือง 1. ประชาชนคือนาย และครอบครัวมีส่วนร่วมและรัก ในอาชีพเราการทำงานให้ครอบครัวเห็นความสำคัญและ มีความสุขร่วมกับเราในการทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน ส่วนในด้านกลยุทธ์และวิธีการในการหาเสียง มีรูปแบบหาเสียง ที่แตกต่างจากคนอื่น คือ มีการค้นหาผู้นำในชุมชนที่เน้นเป็น ผู้นำตามธรรมชาติมากกว่าผู้นำที่เป็นทางการ คือ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้น เพราะคิดว่าผู้นำที่ชาวบ้านรักตามธรรมชาติ จะสามารถเป็นฐานเสียงที่มั่นคงกว่าผู้นำที่เป็นทางการ โดยมี หัวคะแนนที่เชื่อใจได้อยู่ในตำบลละ 1 คน และอยู่ในพื้นที่ หมู่บ้านละ 10 คนเป็นหลักในการหาเสียงในพื้นที่ 2. รับฟังปัญหาของทุกกลุ่ม แก้ปัญหาร่วมกับทุกกลุ่ม โดยมีการประเมินงานอย่างต่อเนื่อง มีกิจกรรมประชุมเครือข่าย สมาชิก จัดกิจกรรมเสริมสร้างกำลังใจให้กับสมาชิกอย่าง ต่อเนื่อง เช่น การไปเที่ยว สังสรรค์ประชุมทีมงานในพื้นที่ เพื่อ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแต่ละชุมชน ก็จะได้รับทราบข่าวสาร จากทีมงานที่จัดตั้งไว้ตัวแทนของเขต ตัวแทนระดับอำเภอก็จะ เข้าพบปะระดับต่างๆ สม่ำเสมอ 107

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม 3. มีการวางแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ภาวะ การเมือง สังคม เกิดความแตกแยก การเมืองปัจจุบันควรได้รับ การปฎิรูปไปในทิศทางที่ดีและมีเสถียรภาพ ด้านการเมืองมีการ วางพื้นฐานในการลงสมัครเลือกตั้งไว้โดยการดูแลพื้นฐานเดิม อย่างต่อเนื่อง ลงพื้นที่พบปะประชาชน แกนนำ และวางแผน ในการลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน 4. การเลือกตั้งในอนาคตนั้นมีความเห็นว่ารูปแบบ การเลือกตั้ง ควรกลับมาใช้ระบบเดิม คือ ระบบ One Man One Vote เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนสามารถเลือก คนที่รักได้อย่างชัดเจนสามารถดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่าง ทั่วถึง การเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคน การเมืองเป็นการจัดสรร ผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมให้กับทุกชุมชน 5. ส่วนด้านการสืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของสมาชิกในครอบครัวโดยไม่มีการ วางทายาทที่ชัดเจนเอาไว้เพียงแต่ให้ครอบครัวได้มีการซึมซับ การทำงานในฐานะตัวแทนประชาชนไปเรื่อยๆ ก่อนการ ตัดสินใจในการเล่นการเมือง เพื่อเข้ามาหาแนวทางแก้ไข เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาชาติอย่างเป็นระบบ และมีการสร้าง เครือข่ายทางการเมืองโดยมีการร่วมพบปะกับผู้นำองค์กรชุม ที่ก่อตั้งไว้เดิมอย่างสม่ำเสมอ และสร้างผู้นำรุ่นใหม่อย่าง ต่อเนื่องและแลกเปลี่ยนแนวทางกับกลุ่มที่ยังไม่เข้าฝ่ายเรา และ สำคัญคือต้องสร้างผลงานให้ประชาชนในพื้นที่เห็นเป็นรูปธรรม และร่วมแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ปัจจุบันวิเคราะห์ปัญหาสังคม – ประเทศชาติร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ 108

บ4ทท ่ี สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ จากการศึกษาจากทั้งเอกสารและการสัมภาษณ ์ นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคามในการดำเนินงาน สามารถ ประมวลผลและข้อค้นพบได้ดังนี้ สรุปผล 1. ด้านนักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคามท่ีเคยได้รับการ เลือกตั้ง นักการเมืองถิ่นมหาสารคามที่เคยได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อจำแนกตามภูมิหลังก่อนที่จะ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ 3 กลุ่มที่ชัดเจน คือ กลุ่มที่ เป็นอดีตข้าราชการ กลุ่มนักธุรกิจและผู้กว้างขวางในพื้นที่และ กลุ่มนักกฎหมาย ซึ่งมีข้อมูลจากผลการศึกษาในระยะแรก สามารถสรุปได้ดังนี้

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม 1.1 กลมุ่ อดตี ขา้ ราชการ นักการเมืองในกลุ่มนี้ เช่น ครู อาจารย์ นักวิชาการ ได้แก่ นายกริช กงเพชร นายสุชาติ ศรีสังข์ และนายสุทิน คลังแสง และข้าราชการกระทรวงอื่น ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย คือ นายทองหล่อ พลโคตร มีดังนี้ นายกริช กงเพชร ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษและมีบทบาท สำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่ที่โดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับในวง วิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอดการเรียนรู้ จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง คือ ได้รับ เลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามถึง 3 สมัย มีบทบาทหน้าที่ในถนนสายการเมืองระดับประเทศ อย่างช่ำชอง ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นรองประธานสภาผู้แทน ราษฎรคนที่ 1 และฝ่ายบริหารบ้านเมืองเคยดำรงตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ศรีสังข์ ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญและมีบทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่า ยิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอดการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจาก คนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอีกคนหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามถึง 3 สมัยเช่นกัน มีบทบาทหน้าที่ในถนนสายการเมืองระดับประเทศผู้หนึ่ง ฝ่าย รฐั สภา เปน็ กรรมาธกิ ารการการเกษตร กรรมาธกิ ารวทิ ยาศาสตร์ 110

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ และกรรมาธกิ ารอตุ สาหกรรม และเปน็ โฆษกในคณะกรรมาธกิ าร ดังกล่าว นายสุทิน คลังแสง ถือเป็นเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความชำนาญการ ความสามารถ ทางการเมือง และมีบทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอด การเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง อีกคนหนึ่ง มีบทบาทหน้าที่ในถนนสายการเมืองระดับประเทศ ที่น่าสนใจ เพราะฝ่ายรัฐสภา เคยเป็นรองประธานกรรมาธิการ สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ประธานกรรมาธิการ รัฐวิสาหกิจและกองทุน และรองประธานกรรมาธิการสามัญ ด้านการศึกษา นายทองหล่อ พลโคตร ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความชำนาญการ ความสามารถ ทางการเมือง และมีบทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอด การเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง อีกคนหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามถึง 2 สมัย มีบทบาทหน้าที่ในถนนสาย การเมือง ระดับประเทศที่น่าสนใจ เพราะฝ่ายรัฐสภา เคยเป็น รองประธานกรรมาธิการการปกครอง และเคยเป็นที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้อค้นพบ นักการเมืองที่มาจากกลุ่มอดีตข้าราชการ มีพื้นฐานของทุนความรู้ซึ่งมีอยู่ในตัวเป็นทุนเดิมรวมทั้ง 111

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม ประสบการณ์ที่ได้สั่งสมผลงานให้เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงที่เป็น ข้าราชการ ซึ่งมีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมทางสังคมของคน มหาสารคามที่ให้การยอมรับ ยกย่องบุคคลที่เป็นข้าราชการเป็น ทุนเดิม ซึ่งมีนักการเมืองหลายคนได้มีการปฏิบัติหน้าที่ได้มี โอกาส มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับประชาชน ลงพื้นที่พบปะ ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้ใช้โครงสร้างของระบบราชการและ กิจกรรมของราชการเป็นประโยชน์ จนกระทั่งได้รับความนิยม และส่งผลให้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1.2 กล่มุ นักธุรกจิ และผูก้ ว้างขวางในพนื้ ท่ี นักการเมืองในกลุ่มนี้ ได้แก่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร นายประวัติ ทองสมบรู ณ์ นางมยุรา อุรเคนทร์ และนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง มีดังนี้ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ และมี บทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่ที่โดดเด่นจนเป็นที่ ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอด การเรียนรู้ จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง อีกคนหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม 1 สมัย มีบทบาทหน้าที่ในถนนสาย การเมืองระดับประเทศอย่างโชกโชน ฝ่ายนิติบัญญัติ เคยเป็น กรรมาธิการงบประมาณ เป็นกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ปี พ.ศ. 2540 และฝ่ายบริหารบ้านเมือง เคยเป็นคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลในอดีต เคยดำรงตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3 สมัย 112

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและ สิ่งแวดล้อม และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและ สวัสดิการสังคม นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ถือเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ และมีบทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่ที่เด่นจนเป็นที่ ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอด การเรียนรู้ จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง อีกคนหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามถึง 7 สมัยเช่นกัน มีบทบาทหน้าที่ในถนน สายการเมืองระดับประเทศอย่างช่ำชอง ฝ่ายนิติบัญญัติ เคย เป็นกรรมาธิการงบประมาณ เป็นกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ปี พ.ศ. 2540 ฝา่ ยรฐั สภา เปน็ กรรมาธกิ าร การท่องเที่ยว กรรมาธิการปกครองท้องถิ่นและฝ่ายบริหาร บ้านเมือง เป็นคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลในปัจจุบัน ชุดที่ 59 ดำรงตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความชำนาญการพิเศษและมี บทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่ได้โดดเด่นผู้หนึ่งเช่นกัน เป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และ ถ่ายทอดการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีก รุ่นหนึ่งอีกคนหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามถึง 4 สมัย มีบทบาทหน้าที่ในถนน สายการเมืองระดับประเทศที่น่าสนใจ เพราะฝ่ายบริหาร 113

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม บ้านเมือง เคยเป็นคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลในอดีต เคยดำรง ตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเป็น เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมยุรา อุรเคนทร์ ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามที่มีความสามารถทางการเมือง และมี บทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอดการเรียนรู้จากการ ปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอีกคนหนึ่ง คือ ที่เคย ได้รบั เลอื กต้ัง เปน็ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรจงั หวัดมหาสารคาม 1 สมัย มีบทบาทหน้าที่ในถนนสายการเมือง ระดับประเทศ ที่น่าสนใจ เพราะฝ่ายรัฐสภา เคยเสนอกฎหมาย พระราช บัญญัติฟื้นฟูเกษตรกร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการเกษตร มหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ และมี บทบาทสำคัญ ได้ทำการปฏิบัติหน้าที่ที่เด่นจนเป็นที่ยอมรับใน วงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และถ่ายทอดการเรียนรู้ จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอีกคนหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด มหาสารคามถึง 7 สมัยเช่นกัน มีบทบาทหน้าที่ในถนนสาย การเมืองระดับประเทศอย่างโชกโชน เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เคย เป็นกรรมาธิการงบประมาณ เป็นกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ปี พ.ศ. 2540 ฝ่ายและฝ่ายบริหาร บ้านเมือง เป็นคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลในปัจจุบัน ชุดที่ 59 ดำรงตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 114

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ข้อค้นพบ นักการเมืองที่มาจากกลุ่มนักธุรกิจและผู้ที่ กว้างขวางในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองที่มีภูมิหลังเป็นที่ รู้จักในสังคม เช่น พ่อค้า คนจัดรายการวิทยุ นักต่อสู้ในพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งเป็นคนที่ประชาชนสามารถพึ่งพาอาศัยได้ มีบุคลิก ส่วนตัวชอบให้ความอุปถัมภ์ และช่วยเหลือชาวบ้าน มีพรรค พวกบริวารเครือข่าย มีลักษณะที่แสดงออกมีบุญคุณกับ ชาวบ้านโดยตรงทั้งการแสดงออกทางพฤติกรรมและ คุณลักษณะทางจิตใจ คือ เป็นคนใจใหญ่ ใจกว้าง กล้าได้ กล้าเสีย รับภาระในการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเกื้อกูลทั้งใน งานส่วนตัวและงานส่วนรวม โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือ การอำนวยความสะดวกในด้านการเกิด แก่ เจ็บ ตาย โดย อาศัยศักยภาพและความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนใน พื้นที่ จึงส่งผลให้นักการเมืองกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่มีมากที่สุดใน จำนวนนักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคามซึ่งจะได้มีการศึกษา เพิ่มเติมในระยะต่อไป 1.3 กลุ่มนักกฎหมาย นักการเมืองในกลุ่มนี้ ได้แก่ กุสุมาลวดี ศิริโกมุท และ นายกริช กงเพชร ดังนี้ นายกริช กงเพชร ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษและมีบทบาท สำคัญ พร้อมยังมีความรู้ความสามารถบวกกับการการศึกษาที่ ได้สำเร็จทางด้านกฎหมายและได้ทำการปฏิบัติหน้าที่ที่โดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ และมีคุณค่ายิ่งที่ควรศึกษา และ ถ่ายทอดการเรียนรู้ จากการปฏิบัติงานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีก 115

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม รุ่นหนึ่ง คือ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด มหาสารคามถึง 3 สมัย มีบทบาทหน้าที่ในถนนสายการเมือง ระดับประเทศอย่างช่ำชอง ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นรองประธาน สภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และฝ่ายบริหารบ้านเมืองเคยดำรง ตำแหน่ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางกุสุมาลวดี ศิริโกมุท ถือเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคามที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ มีบทบาท สำคัญและผลงานในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ที่ชัดเจน โดดเด่น ในลักษณะและรูปแบบในการดำเนินงาน ที่เป็นรูปธรรมในการสร้างผู้บริหารเปลี่ยนแปลง ด้านอำนาจ หน้าที่ในสภา จะมีการประชุม ก็จะยึดกฎระเบียบข้อบังคับ อย่างเคร่งครัด ก่อนประชุมทุกครั้งก็จะทำการบ้านก่อนทุกวาระ เพื่อจะได้ติดตามงานอย่างใกล้ชิด และไม่ขาดการประชุม แม้ต้องอยู่ดึกดื่น ด้านตัวแทนประชาชน มีการทำงานโดยเน้น ประโยชน์ส่วนรวมมาก่อน ข้อค้นพบ นักกฎหมายมีพื้นฐานของทุนความรู้ซึ่งมีอยู่ ในตัวเป็นทุนเดิมรวมทั้งประสบการณ์ที่ได้สั่งสมผลงานให้เกิด ขึ้นตั้งแต่ในช่วงที่เป็นนักกฎหมาย ซึ่งมีความสอดคล้องกับทาง สังคมของคนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามที่ให้การยอมรับ ยกยอ่ งบคุ คลทเ่ี ปน็ นกั การกฎหมายเปน็ ทนุ เดมิ ซง่ึ มนี กั การเมอื ง หลายคนได้มีการปฏิบัติหน้าที่ได้มีโอกาส มีความใกล้ชิดสนิท สนมกับประชาชน ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้มี กิจกรรมในการหาเสียงแบบการมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกันจนกระทั่งได้รับความนิยมและส่งผลให้ได้รับ เลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 116

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 2. ด้านข้อมูลทั่วไปและเครือข่ายความสัมพันธ์ของนักการเมือง ถ่ินจังหวัดมหาสารคาม ด้านข้อมูลทั่วไปและเครือข่ายความสัมพันธ์ของ นักการเมืองในจังหวัดมหาสารคาม ถือเป็นประเด็นที่มีความ สำคัญมากในการดำเนินงานทางการเมือง ซึ่งนักการเมืองถิ่น จังหวัดมหาสารคามส่วนใหญ่ที่นำเสนอในระยะแรกนี้ส่วนใหญ่ จะเกิดจากการมีพื้นฐานความใกล้ชิดกับชาวบ้าน จากการ อาศัยฐานอาชีพเดิมของตนเองเป็นหลักทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ ส่วนใหญ่มักเป็นนักการเมืองที่ต่อสู้มาด้วยอุดมการณ์ของ ตนเองเป็นหลัก เพื่อเป็นทุนในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส่วนใหญ่ คือ ยังเป็นนักการเมืองในยุคแรกที่ต้องมีการต่อสู้ด้วย ตนเองก่อนเป็นหลัก เช่น นายกริช กงเพชร นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ และนายสุชาติ ศรีสังข์ เป็นต้น 3. ด้านบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรค การเมืองถิ่น จังหวัดมหาสารคาม จากข้อมูลการเลือกตั้งชี้แสดงให้เห็นว่าพรรคการเมือง ที่เคยได้รับการเลือกตั้งในการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย 1) พรรคกิจสังคม 2) พรรคชาติไทย 3) พรรคความหวังใหม่ 4) พรรคไทยรักไทย 5) พรรคชาติพัฒนา 117

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม 6) พรรคพลังประชาชน 7) พรรคประชาธิปัตย์ พรรคที่ได้รับความนิยม 3 ลำดับแรก ได้แก่ พรรค ไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคความหวังใหม่ การเรียงลำดับนี้ เรียงตามจำนวน ส.ส. ในสังกัดที่ได้รับการ เลือกตั้ง ตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ถึง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรรคการเมืองจากพื้นฐานวัฒนธรรมในการเลือกตั้งของ ชาวจังหวัดมหาสารคามตั้งแต่อดีตได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง มากในปัจจุบัน ซึ่งในอดีตการเลือกตั้งนั้นประชาชนส่วนใหญ่ จะเน้นการมองที่ความสามารถของตัวบุคคลเป็นหลัก รองลงมา คือ การมองกระแสนิยมในพรรคการเมือง ซึ่งในอดีตส่วนใหญ่ จะเป็นพรรคกิจสังคม แต่ก็ยังมีพรรคอื่นบ้าง เป็นหลักเพื่อเป็น ตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภา แต่ในระยะต่อมาซึ่งจะปฏิเสธ ไม่ได้ว่าปัจจัยด้านพรรคการเมืองเข้ามามีบทบาทสำคัญในการ เข้ามาสร้างความนิยมให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งเริ่ม จากในช่วงที่ประชาชนกำลังมองหาการเมืองในรูปแบบใหม่นั้น พรรคไทยรักไทย นำโดย พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ามา ตอบสนองความต้องการได้ตรงตามความต้องการของ ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งได้รับความนิยมทั้งใน กระแสพรรคและประชาชนให้ความรักและศรัทธาในตัว พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างมาก จึงส่งผลทำให้ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา การเมืองในจังหวัดมหาสารคามเริ่มจะมีการผูกขาด จากพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องหรือเกิดจากการเปลี่ยนผ่านจาก 118

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ พรรคไทยรักไทยมากขึ้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ สังกัดพรรคที่เกิดจากฐานเดิมของพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นการ ผูกขาดทางการเมืองมาจนถึงปัจจุบันในการเลือกตั้งในปี 2550 ของจังหวัดมหาสารคาม 4. ด้านสมรรถนะและความสามารถเบื้องต้นของนักการเมือง ถ่ินจังหวัดมหาสารคาม นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ในด้านสมรรถนะ และความสามารถเบื้องต้นของนักการเมืองถิ่นจังหวัด มหาสารคาม ซึ่งสามารถประมวลจัดลำดับได้ดังนี้ 1. ด้านศักยภาพ 2. ด้านศีลธรรมและจริยธรรม 3. ด้านความสามารถเฉพาะตัว 4. ความสามารถในการวางแผนและแก้ไขปัญหา 5. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์เพื่อพัฒนา 6. การใช้หลักประชาธิปไตยในการทำงาน 7. ความรับผิดชอบ 5. ด้านวิธีการหาเสียงถ่ินจังหวัดมหาสารคาม นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคามตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน มักใช้เทคนิควิธีการหาเสียงที่เหนือกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพอประมวลได้ดังนี้ 5.1 การปราศรัย การพบปะประชาชน การพูดจูงใจ โดยใช้ระบบหัวคะแนนเข้ามาช่วยในการหาเสียง ในการ 119

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ปราศัยนั้นจะมีแกนนำแต่ละหมู่บ้านต่างๆ มารวมกลุ่มกัน หรือ มีการปราศรัยตามหมู่บ้าน ตำบล ทุกอำเภอ เพื่อรับฟังปัญหา ของทุกกลุ่มแก้ปัญหาร่วมกันกับทุกกลุ่ม ผู้ที่ใช้วิธีการหาเสียง แบบนี้ก็มีหลายคนเป็นต้นว่า นายกริช กงเพชร นายประวัติ ทองสมบรู ณ์ นางมยุรา อรเคนทร์ และนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท 5.2 การลงพื้นที่ จะเป็นการลงพื้นที่หาเสียงอย่าง ต่อเนื่อง มีความเสมอต้นเสมอปลาย และซื่อสัตย์สุจริตจริงใจ กับประชาชน ผู้ที่ใช้วิธีการหาเสียงแบบนี้ก็มีหลายคนเป็นต้นว่า นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร นายสุชาติ ศรีสังข์ นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ทองหล่อ พลโคตร นางมยุรา อรเคนทร์ และ นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ และนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท จากการศึกษาจากทั้งเอกสารและการสัมภาษณ์ นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคามในการดำเนินงาน สามารถ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะได้ดังนี้ 1. ด้านนักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคามที่เคยได้รับการ เลือกตั้ง 1.1 กลุ่มอดตี ขา้ ราชการ นักการเมืองที่มาจากกลุ่มอดีตข้าราชการมีพื้นฐานของ ทุนความรู้ซึ่งมีอยู่ในตัวเป็นทุนเดิม ซึ่งมีความสอดคล้องกับ วัฒนธรรมทางสังคมของคนมหาสารคามที่ให้การยอมรับ ยกย่องบุคคลที่เป็นข้าราชการเป็นทุนเดิม ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ ว่ามีนักการเมืองหลายคนได้มีการปฏิบัติหน้าที่ได้มีโอกาส มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับประชาชน ลงพื้นที่พบปะประชาชน 120

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ อย่างต่อเนื่อง ได้ใช้โครงสร้างของระบบราชการและกิจกรรม ของราชการเป็นประโยชน์ ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ (พิชญ์ สมพอง. 2551 : 56-61) นักการเมืองถิ่นยโสธรมีกลุ่ม ข้าราชการที่สร้างเครือข่ายสัมพันธ์จะเป็นบิดา-มารดา 1 คู่ นอกนั้นจะเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายกับกลุ่มผลประโยชน์ ทางการเมืองในระดับท้องถิ่น 1.2 กลุม่ นกั ธุรกจิ และผู้กว้างขวางในพนื้ ท ี่ นักการเมืองที่มาจากกลุ่มนักธุรกิจและผู้ที่กว้างขวาง ในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองที่มีภูมิหลังเป็นที่รู้จักในสังคม ซึ่งเป็นคนที่ประชาชนสามารถพึ่งพาอาศัยได้ มีบุคลิกส่วนตัว ชอบให้ความอุปถัมภ์ และช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งนี้อาจเป็น เพราะมีพรรคพวกบริวารเครือข่าย มีลักษณะที่แสดงออก มีบุญคุณกับชาวบ้านโดยตรงทั้งการแสดงออกทางพฤติกรรม และคุณลักษณะทางจิตใจ คือ เป็นคนใจใหญ่ ใจกว้าง กล้าได้ กล้าเสีย รับภาระในการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเกื้อกูลทั้งใน งานส่วนตัวและงานส่วนรวม ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ (กนก วงษ์ตระหง่าน. 2528 : 336) ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ ส่วนตัวกับการเมืองไทยว่า การเมืองที่เกิดการรวมกลุ่มนั้น เป็นการเกิดกลุ่มในลักษณะที่อิงอยู่กับบุคคลมากกว่าหลักการ หรือผลประโยชน์ร่วมกันนี้ มีเหตุมาจากการที่คนไทยมี วัฒนธรรมสังคมที่ยึดตัวบุคคล (Personalism) กล่าวคือ โครงสร้างของสังคมไทย เป็นการผูกโยงเข้าด้วยกันของความ เป็นส่วนตัว ความใกล้ชิดสนิทสนม ไว้วางใจ และช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน 121

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม 1.3 กล่มุ นกั กฎหมาย นักกฎหมายมีพื้นฐานของทุนความรู้ซึ่งมีอยู่ในตัวเป็นทุน เดิมรวมทั้งประสบการณ์ที่ได้สั่งสมผลงานให้เกิดขึ้นตั้งแต่ใน ช่วงที่เป็นนักกฎหมาย ซึ่งมีความสอดคล้องกับทางสังคมของ คนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามที่ให้การยอมรับยกย่อง บุคคลที่เป็นนักการกฎหมายเป็นทุนเดิม ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมี นักการเมืองหลายคนได้มีการปฏิบัติหน้าที่ได้มีโอกาส มีความ ใกล้ชิดสนิทสนมกับประชาชน ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่าง ต่อเนื่อง ได้มีกิจกรรมในการหาเสียงแบบการมีส่วนร่วมในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ (ภิญโญ ตันพิทยคุปต์. 2548 : 71-86) การเข้าร่วมกิจกรรมทาง สังคมในชุมชน การพบปะชุมชน การปราศรัย และการให้ความ อุปถัมภ์ช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ และในทัศนะของ นักการเมืองถิ่นปัจจุบัน กลุ่มสตรีแม่บ้านเป็นคะแนนเสียง สำคัญและเชื่อถือได้มากในการเมืองถิ่นสงขลา 2. ด้านข้อมูลทั่วไปและเครือข่ายความสัมพันธ์ของนักการเมือง ถ่ินจังหวัดมหาสารคาม ด้านมูลข้อทั่วไปและเครือข่ายความสัมพันธ์ของ นักการเมืองในจังหวัดมหาสารคาม ถือเป็นประเด็นที่มีความ สำคัญมากในการดำเนินงานทางการเมือง อาจเป็นเพราะว่า นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคามส่วนใหญ่เกิดจากการ มีพื้นฐานความใกล้ชิดกับชาวบ้านจากการอาศัยฐานอาชีพเดิม ของตนเองเป็นหลักทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ มักเป็นนักการเมือง ที่ต่อสู้มาด้วยอุดมการณ์ของตนเองเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับ 122

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ คำกล่าวของ (สนิท สมัครการ. 2523 : 18) ความสัมพันธ์แต่ละ ฝ่าย มีบทบาทหน้าที่และความคาดหวังต่อกันบางประการ ซึ่งเป็นที่รับรู้หรือยอมรับกันตามธรรมเนียมประเพณีหรือ วัฒนธรรมทางสังคม และแบ่งระบบอุปถัมภ์ออกเป็น 4 แบบ คือ ระบบอุปถัมภ์ที่มีอยู่ในหมู่ญาติ ระบบอุปถัมภ์ที่มีอยู่ใน หมู่มิตรสหาย ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและ เอกชน ระบบอุปถัมภ์ระหว่างอาชีพ 3. ด้านบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองถิ่นจังหวัด มหาสารคาม ด้านบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองถิ่น จังหวัดมหาสารคาม การเลือกตั้งของชาวจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่อดีตได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งในอดีต การเลือกตั้งนั้นประชาชนส่วนใหญ่จะเน้นการมองที่ความ สามารถของตัวบุคคลเป็นหลัก รองลงมา คือ การมองกระแส นิยมในพรรคการเมือง อาจเป็นเพราะว่าในอดีตจะมีแต่พรรค กิจสังคม แต่ก็ยังมีพรรคอื่นบ้างเป็นหลักเพื่อเป็นตัวแทนเข้าไป ทำหน้าที่ในสภา แต่ในระยะต่อมาซึ่งจะปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัย ด้านพรรคการเมืองเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเข้ามาสร้าง ความนิยมให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งเริ่มจากในช่วงที่ ประชาชนกำลังมองหาการเมืองในรูปแบบใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับ คำกล่าวของ (นิรันดร์ กุลฑทนันท์. 2549 : 88-89) บทบาทของ พรรคการเมืองในการสนับสนนุ สมั พนั ธ์กบั นกั การเมอื งถิ่นยโสธร เกิดจากความนิยม ซึ่งพรรคที่ได้รับความนิยม 5 ลำดับแรก ได้แก่ ไทยรักไทย ความหวังใหม่ กิจสังคม ประชาธิปัตย์ เป็นที่ 123

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม น่าสังเกตว่า การเลือกพรรคของประชาชนชาวยโสธรมักเปลี่ยน ไปตามกระแสนิยม 4. ด้านสมรรถนะและความสามารถเบื้องต้นของนักการเมือง ถ่ินจังหวัดมหาสารคาม ด ้ า น ส ม ร ร ถ น ะ แ ล ะ ค ว า ม ส า ม า ร ถ เ บ ื ้ อ ง ต ้ น ข อ ง นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม มีดังนี้ ด้านศักยภาพ ด้านศีลธรรมและจริยธรรม ด้านความสามารถเฉพาะตัว ความสามารถในการวางแผนและแก้ไขปัญหาสังคม เป็นที่น่า สังเกตว่า การเลือกตั้งพรรคของประชาชนชาวยโสธร มักเปลี่ยนไปตามกระแสนิยมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาการใช้หลักประชาธิปไตยในการทำงาน ความ รับผิดชอบ อาจเป็นเพราะว่านักการเมืองต้องมีความรู้เกี่ยวกับ คุณลักษณะผู้นำที่ดี เพื่อเป็นการนำมาเป็นจุดเด่นการบริหาร ตัวเองและอาชีพของตนเองต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ (กิติพันธ์ รุจิรกุล. 2529 : 40-41) คุณลักษณะที่ผู้นำควรมีนั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 7 ประการ คือ 1) การมีสุขภาพที่ดี 2) อารมณ์ 3) สติปัญญาและคุณภาพทางสมอง 4) ภูมิหลัง ทางสังคมและประสบการณ์ 5) บุคลิกภาพและความสนใจ 6) ลักษณะที่เกี่ยวข้องกับงาน และ 7) ลักษณะทางสังคม และ สอดคล้องกับคำกล่าวของ (นพพงษ์ บุญจิตราดุล. 2525 : 96) คุณลักษณะของผู้นำประกอบด้วย 6 ประการดังนี้ 1) ผู้นำจะ ต้องเป็นผู้มีความสามารถ (Capacity) 2) ผู้นำจะต้องเป็นผู้มี ความสำเร็จ (Achievement) 3) ผู้นำจะต้องเป็นผู้มีความ รับผิดชอบ (Responsibility) 4) ผู้นำจะต้องเป็นผู้เข้าไปมีส่วนร่วม (Participation) 5) ผู้นำจะต้องมีฐานะทางสังคม (Status) และ 124

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 6) รู้สภาพการณ์ (Situation) 5. ด้านวิธีการหาเสียงถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ด้านวิธีการหาเสียงถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มักใช้เทคนิควิธีการหาเสียงที่พบบ่อยครั้งคือ การปราศรัย และการลงพื้นที่ ก็อาจเป็นเพราะว่า จะเป็นการ พบประประชาชน การพูดจูงใจ มีความเสมอต้นเสมอปลาย และซื่อสัตย์สุจริตจริงใจกับประชาชน เพื่อให้เกิดความสนิท สนม ความไว้ใจกัน เมื่อมีปัญหาจะได้หาทางแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ถูกต้อง ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ (นิรันดร์ กุลฑทนันท์. 2549 : 90) ในการปราศรัยใหญ่ของพรรคการเมืองต้นสังกัด จะลงมาช่วย ถ้าหัวหน้าพรรคมาไม่ได้ก็มีกรรมการบริหาร พรรคการเมืองระดับรองลงมาไปปราศรัยช่วย และลงพื้นที่หาก มีเทศกาลงานบุญประเพณีก็จะถือโอกาสปราศรัยหาเสียง ไปด้วย ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะเพ่ือการวิจัย เนื่องจากการศึกษาวิจัยการเมืองมหาสารคาม ทั้งใน ด้านพฤติกรรมของนักการเมือง และพฤติกรรมการเมืองของ ประชาชนในจังหวัดมหาสารคามยังมีการศึกษากันน้อย ทั้งๆ ที่ จังหวัดมหาสารคามในอดีตได้ชื่อว่าเป็นตักสิลา หรือศูนย์กลาง ด้านการศึกษาตั้งแต่สมัยก่อนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้จะปรากฏอยู่บ้างส่วนใหญ่ยังเป็นข้อเขียนเชิงบอกเล่าประวัติ ควรมีการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับการเมืองมหาสารคาม ดังนี้ 125

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัจจัย อิทธิพล ความ สัมพันธ์ของนักการเมืองระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นในระดับ ชาติ เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่ามี ผลกระทบต่อสภาพการเมืองจังหวัดมหาสารคามอย่างไร ควรมีการวิจัยเชิงสำรวจข้อมูลนักการเมืองท้องถิ่น มหาสารคามอย่างต่อเนื่อง และใช้รูปแบบที่หลากหลาย เช่น มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักการเมืองมหาสารคามให้กับ ประชาชนได้รับทราบผลงานของนักการเมืองมหาสารคาม ที่ผ่านมาเป็นประจำทุกปี โดยใช้สถาบันการศึกษาในจังหวัด เป็นผู้ประสานงาน 2. ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการเมืองมหาสารคาม การพัฒนาการเมืองมหาสารคามให้บรรลุทิศทางที ่ พึงประสงค์ มีความรักเอื้ออาทรต่อกันและมีความสมานฉันท์ เป็นช่องทางการพัฒนาจังหวัดมหาสารคามให้มีคุณภาพ และ ประสิทธิภาพสนองตอบความต้องของประชาชนอย่างแท้จริง ควรดำเนินการดังนี้ 2.1 ควรมีโครงการพัฒนานักการเมืองและเครือข่าย องค์กรทางสังคมของมหาสารคามในทุกระดับ โดยการประชุม สัมมนาและฝึกอบรม ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และจิตสำนึก รวมทั้งคุณธรรมจริยธรรม ในการเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ และเป็นการวางแผนให้เกิดนักการเมืองมืออาชีพในอนาคต อันเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และตอบแทน แผ่นดินเกิดในจังหวัดของตนเอง 126

สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 2.2 ควรมีการพัฒนาศักยภาพนักการเมืองขั้นพื้นฐาน และ สมรรถนะความสามารถพื้นฐาน หรือตัวชี้วัดนักการเมือง มืออาชีพ เพื่อเป็นมาตรฐานเชิงจริยธรรม และการประพฤติ ปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมตามบทบาทหน้าที่ มีความรับผิดชอบสูง มีการเรียนรู้จากการปฏิบัติและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การสืบทอดสอนงานการเมืองมหาสารคามจากรุ่นสู่รุ่น ให้สมกับเป็นจังหวัดตักสิลา เมืองการศึกษาของภาคตะวันออก- เฉียงเหนือ 127

บรรณานุกรม กนก วงษ์ตระหง่าน. (2528). การเมืองในระบอบประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กมลวรรณ ทองขันธ์. (2551). ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้นำชุมชนกับ นักการเมืองท้องถ่ินใน กระบวนการพัฒนาท้องถิ่นของ เทศบาลตำบลยางเน้ิง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่. การศึกษาค้นคว้าแบบอิสระ ร.ม. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ กฤตภพ จันทวงศ์. (2551). บุคลิกภาพเชิงจริยธรรมของนักการเมือง ท้องถิ่นตามแนวคิดของแมคเคียเวลลี กรณีศึกษา อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์ ร.ม. สุโขทัย : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครรชิต เหมะรักษ์. (2550). คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถ่ิน ที่พึงประสงค์ของประชาชนในอำเภอระโนด จังหวัด สงขลา. รายงานการศึกษาอิสระ ร.ม. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น

บรรณานุกรม ชัยอนันต์ สมุทวาณิช. (2525). การเมืองการบริหาร. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ ไชยวุฒิ มนตรีรักษ์. (2551). นักการเมืองถิ่นจังหวัดเลย. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า ณรงค์ สินสวัสดิ์. (2539). จิตวิทยาการเมือง. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : บริษัทวัชรินทร์การพิมพ์ จำกัด นงนชุ พรชยั ไชยวฒั น.์ (2549). พฤตกิ รรมจรยิ ธรรมนกั การเมอื งทอ้ งถนิ่ ระดับผู้นำในจังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา นิรันดร์ กุลฑทนันท์. (2549). รายงานวิจัยนักการเมืองถิ่นจังหวัด บรุ ีรัมย์. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า พิชญ์ สมพอง. (2551). รายงานวิจัยนักการเมืองถ่ินจังหวัดยโสธร. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า ภิญโญ ตันพิทยคุปต์. (2548). รายงานการวิจัยโครงการสำรวจเพื่อ ประมวลข้อมูลนักการเมืองถิ่น. การศึกษาค้นคว้าอิสระ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ : มหาวิทยาลัยทักษิณ สนิท สมัครการ. (2533). สังคมไทย : Society. นนทบุรี : สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม. (2550). ทำเนียบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www2.ect.go.th/about.php? Province=mahasarakham&SiteMenuID=2459. (วนั ทค่ี น้ ขอ้ มลู : 16 มกราคม 2550). วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม. เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดมหาสารคาม 129

นักการเมืองถ่ินจังหวัดมหาสารคาม อรุณ รักธรรม. (2526). พฤตกิ รรมองคก์ าร. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์ เอ็ด สาระภูมิ. (2530). ศัพท์ทางการบริหาร. กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 130

ภาค ผนวก ภาคผนวก ก เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ชุดท่ี 1 แบบสอบถามผู้นำนักการเมืองจังหวัดมหาสารคาม ชุดท่ี 2 แบบสัมภาษณ์ผู้นำนักการเมืองจังหวัดมหาสารคาม

นักการเมืองถิ่นจังหวัดมหาสารคาม 72 ชุดที่ 1 แบบสอบถามผูนาํ นกั การเมืองจงั หวัดมหาสารคาม คาํ ช้ีแจง 1. ใชสอบถามนักการเมอื งจงั หวัดมหาสารคาม เฉพาะทเี่ ปนสมาชิกสภาผแู ทนราษฎรทง้ั อดตี และปจจุบัน แบบสอบถามมที ้งั หมด 2 ตอน ขอความอนเุ คราะหไ ดกรอกใหครบ ตอนที่ 1 ขอมลู เกี่ยวกับผูตอบแบบสอบถาม ชอ่ื …………………………………….สกลุ …………………………..อาย…ุ ……ป เพศ…………บานเลขท.่ี ………หมทู .ี่ .……..ตาํ บล………………………อาํ เภอ……………… จังหวดั ……………………………………. รหัสไปรษณยี  .................................................. โทรศพั ท ทต่ี ดิ ตอได ............................................. E-mail ............................................................... การศึกษาสูงสดุ ......................................... สถานภาพ .................................................................... อาชพี ปจ จุบัน ......................................................... สถานทีท่ าํ งาน .................................................. .................................................................................................... ........................................................ รายไดใ นปจ จบุ ันตอ เดอื น ..................................... บาท ระบจุ าํ นวนภรรยา บุตร และธดิ าในครอบครัว รวมท้งั หมดจํานวน ........... คน ประกอบดวย ชื่อ – สกลุ อายุ การศึกษา อาชีพ ความสัมพนั ธ ตอนที่ 2 สมรรถนะและความสามารถของผนู ํานักการเมือง คําถาม โดยเขียนเคร่ืองหมาย / ลงหนา ระดับ 1 หรือ ระดับ 2 หรือ ระดบั 3 หรือ ระดบั 4 และ หรอื ระดบั 5 เพยี งระดบั เดยี ว ตามความคิดเหน็ ของทาน ในขอ 1-7 1. ทานเปนผนู ํานกั การเมืองทีม่ ศี ักยภาพ อยางไร ........ระดับ 1 ใฝร ูและสนใจติดตามขอ มูลขาวสารความรูใหม ๆ ไมต อ เนื่อง ........ระดับ 2 มีความใฝรูแ ละพัฒนาตนเองอยูเสมอ โดยการเขา รับการอบรม ติดตามขาวสาร บา นเมอื ง ........ระดบั 3 สามารถใชค วามรูความสามารถของตนเองในการแกไขปญหาตามสถานการณ 132

ภาคผนว7ก3 ........ระดับ 4 สามารถสรา งและเผยแพรความรทู ีเ่ กิดจากการปฏบิ ตั จิ รงิ เปนที่ยอมรบั ของคนทงั้ ใน และนอกชมุ ชน ........ระดบั 5 เปนผูนาํ ในการสงเสรมิ ใหคนในชมุ ชนไดเกิดกระบวนการเรยี นรใู นการทํางานรว มกนั 2. ทานเปนผนู ํานักการเมืองที่แสดงออกดานศีลธรรมและจริยธรรมอยางไร ........ระดบั 1 ใหความสนใจในกจิ กรรมดา นศาสนาและวัฒนธรรมประเพณแี ตย ังนอย ........ระดับ 2 เขา รว มกจิ กรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมประเพณอี ยางสม่ําเสมอ ........ระดบั 3 แสดงตนเปนแบบอยา งทด่ี ีตามหลกั วัฒนธรรม ประเพณี ........ระดบั 4 มคี วามกลา หาญท่จี ะตอ ตา นการกระทาํ ท่ีขัดตอ หลักศาสนา ........ระดับ 5 สามารถเปนผนู าํ ในการทําพธิ ีกรรมทางศาสนา วฒั นธรรมของชมุ ชนไดบา งโอกาส 3. ทา นเปนผนู ํานกั การเมืองท่ีแสดงออกในความสามารถเฉพาะตัวอยางไร ........ระดบั 1 สามารถสรา งความสัมพันธทดี่ กี บั เพอื่ นรวมงานได ........ระดับ 2 มีความเปนกนั เอง โอบออ มอารีชวยเหลือผอู ่ืน ........ระดบั 3 วางตวั เปนกลางและสามารถเขา กับบคุ คลไดทุกประเภท ........ระดับ 4 กลน่ั กรองคําพูดและการกระทําโดยคาํ นึงถึงความรูสึกของผอู ื่น ........ระดับ 5 เปน ผนู าํ ในการสงเสรมิ สนับสนนุ ใหเ กดิ การรวมกลุม องคกร เครอื ขา ยเพ่อื ประโยชน ของสว นรวม 4. ทา นมคี วามสามารถในการวางแผนและแกไขปญหามากนอ ยเพยี งใด ........ระดบั 1 สามารถวางแผนแกไ ขปญหารวมกบั ทมี งานได ........ระดับ 2 สามารถคาดการณส ถานการณทอ่ี าจเกดิ ขึน้ ทัง้ ภายในและภายนอกชมุ ชนได ........ระดบั 3 นาํ ขอ มูลแนวโนม สถานการณท ัง้ ภายในและภายนอกชุมชนมาใชกาํ หนดทศิ ทางใน การวางแผนพัฒนาชมุ ชนตนเองได ........ระดับ 4 สามารถหาวธิ กี ารทดี่ ที ี่สุดในการดาํ เนินการตามแผนเพอ่ื ใหก ลุม และองคก รไดรบั ประโยชนส ูงสดุ ........ระดับ 5 สามารถใหขอเสนอแนะในการแกไขปญ หาไดรอบดาน 5. ทานมคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะหเ พือ่ พัฒนามากนอยเพยี งไร ........ระดบั 1 สามารถแกไขปญหาทไี่ มซบั ซอนมากนักได ........ระดับ 2 สามารถจดั ลําดับความสาํ คัญของปญหาได และระบุสาเหตุของปญ หาไดอ ยา งรอบ ดาน 133