1.4) กิจกรรมการลดขยะภายในโรงเรียน นักเรียนทุกคนจะมีแก้วน้าประจาตัวเพ่ือลด 45 การใชแ้ กว้ พลาสตกิ ทาใหจ้ านวนขยะแกว้ พลาสตกิ ลดลง 2) การส่งเสริมการสรา้ งวินัยในการกาจดั ขยะมูลฝอยใหแ้ ก่นกั เรียนและบุคลากรในโรงเรียน ส่งผลให้นกั เรยี นนาพฤติกรรมการคัดแยกขยะทท่ี าในโรงเรียน กลับไปทาท่บี า้ น ซง่ึ เปน็ การขยายผลไปสู่ ครอบครวั และชมุ ชน 2.1) นักเรยี นและบุคลากรทุกชนั้ เป็นสมาชกิ โครงการโรงเรยี นปลอดขยะ 2.2) นักเรยี นและบุคลากรทกุ คนคดั แยกขยะก่อนทง้ิ
2.3) นักเรยี นและบุคลากรทกุ คนใชแ้ ก้วน้าสว่ นตวั ในการซ้ือนา้ ด่มื 46 3) ดาเนินกิจกรรม “การลด การใช้ซ้า และคัดแยกกลับมาใช้ประโยชน์ (3Rs) - Reduce Reuse Recycle” การจัดกิจกรรมสง่ เสริมใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงออกทางความคิดสรา้ งสรรคง์ านจากขยะ ต่างๆ การนากระดาษที่ใช้แล้วมาสร้างงานศิลปะกระดาษ การทาหุ่นจากลังกระดาษ การใช้ถุงผ้าแทน ถุงพลาสตกิ ซง่ึ กจิ กรรมต่างๆ นกั เรียนมคี วามสนกุ และสนใจในการเข้ารว่ มกิจกรรมเป็นอยา่ งดี บทที่ 4
จากการดาเนินโครงการโดยการให้ความรู้เก่ียวกับการรีไซเคิลขยะ ทั้งจากลังกระดาษ 47 ขวดพลาสตกิ หลอดกาแฟ ซ่ึงมีการจัดกิจกรรมในช่วงพักกลางวันเปน็ ประจาทุกวัน ทาให้นักเรยี นได้ใช้ เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ส่งผลให้นักเรียนมจี ิตสานกึ ที่ดีมากขึน้ มองเห็นคณุ ค่าจากขยะที่เหลือใช้แล้ว สามารถนากลับมาใช้ใหม่และสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ได้ จากการสารวจพบว่านักเรียนระดับ ประถมศึกษาปีที่ 4-5 ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 67.94) ได้ทราบและเห็นคุณค่าของขยะท่ีอยู่รอบตัว รู้สึก ตระหนักถึงผลกระทบของขยะที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะขยะขวดพลาสติกซ่ึงเป็นปัญหาในชุมชน โรงเรียนบ้านสารจิตร หลังดาเนินโครงการมาระยะหน่ึง สังเกตพบว่าปริมาณขยะขวดพลาสติกลดลง อย่างชัดเจน นอกจากน้ี ในอนาคตทางโรงเรียนจะจัดสอนเรื่องการประดิษฐ์สิ่งของเคร่ืองใช้จากวัสดุ เหลือใช้ต่างๆ โดยอาจจัดต้ังเป็นชมรมคนรักษ์โลกหรือกิจกรรม DIY ซึ่งน่าจะได้รับความสนใจจาก นักเรยี น สรปุ รำยงำนกำรใชเ้ งนิ ของกล่มุ ผพู้ ิทกั ษค์ วำมซ่ือตรง จำนวน รำยกำร จำนวน รำคำตอ่ หน่วย จำนวนเงนิ 1 กระดาษ 100 ปอนด์ 1 โหล 180 180 2 พลาสติกใส 6 เมตร 20 120 3 กระดาษโฟโต้ 1 ห่อ 180 180 4 กระดาษ ดบั เบลิ้ A 1 รีม 110 110 5 กาวสองหนา้ บาง 4 ม้วน 15 60 6 เทปสีเสน้ 4 มว้ น 19 76 7 กระดาษสี 2 หนา้ 7 แผ่น 6 42 8 ไมบ้ รรทดั 1 อัน 95 95 9 ปากกาเคมี ครึง่ โหล 120 60 10 ดนิ สอ 1 กล่อง 28 28 11 สไี ม้ 1 กลอ่ ง 180 180 1,131 บำท รวมเป็นเงนิ
3.3 โครงกำรชิดขวำหน้ำตรง 48 ชอ่ื กล่มุ : เดก็ ดมี วี นิ ยั รำยละเอียดโครงกำร : การฝึกให้นักเรียนมีระเบียบวินัยและเคารพกฎระเบียบของ โรงเรียนเป็นการสร้างลักษณะนิสัยท่ีดีให้แก่เด็กในเบื้องต้น หากปฏบิ ตั ิอย่างตอ่ เน่ืองก็จะเตบิ โตไปเปน็ สมาชกิ ที่ดีของสงั คม ท่ีเคารพกฎหมาย กฎระเบียบของสังคม ทางกลุ่มจึงเลือก ดาเนินโครงการชิดขวาหน้าตรงท่ีมุ่งสร้างระเบียบวินัยให้แก่ นักเรียนทุกคนในโรงเรียน โดยการเข้าแถวและเดินแถวเรียง เด่ยี ว ชดิ ขวา อยา่ งเป็นระเบียบ วตั ถุประสงคข์ องโครงกำร : 1. เพือ่ แกป้ ัญหาการเดนิ แถวที่ไมเ่ ปน็ ระเบยี บของนักเรยี น 2. เพ่ือสร้างความมีระเบียบวนิ ยั ใหน้ กั เรียนเพ่อื ให้เกดิ เปน็ ลักษณะนิสัยทด่ี ตี อ่ ไป ผูเ้ ข้ำรว่ มโครงกำร : นักเรยี นโรงเรยี นบา้ นสารจติ ร ระดบั ชั้นอนุบาล 2-3 ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1-6 และระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษา ปีท่ี 1-3 จานวน 418 คน ข้ันตอนกำรดำเนนิ งำน : ขั้นตอนท่ี 1 วางแผนการทาโครงการชิดขวา หน้าตรง กบั สมาชิกภายในกลุ่ม และครทู ปี่ รึกษาเกี่ยวกบั การฝึกใหน้ ักเรยี น โรงเรยี นบา้ นสารจติ รเขา้ แถวและเดนิ แถวอย่างเปน็ ระเบียบ
ข้ันตอนที่ 2 การจดั เตรยี มอุปกรณ์ในการทาโครงการ ชดิ ขวา หนา้ ตรง 49 ขั้นตอนท่ี 3 ลงมือปฏิบัติการ ฝึกให้นักเรียนโรงเรียนบ้านสารจิตรมีการเข้าแถวและเดิน แถวอย่างเป็นระเบียบ ด้วยการติดหัวลูกศรบริเวณทางขึ้นลงบันไดให้กับนักเรียน โดยติดท่ีอาคารเรียน ทงั้ หมด 5 อาคาร ดังน้ี 3.1 อาคารอนบุ าล 3.2 อาคารเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1-3 3.3 อาคารเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-6 3.4 อาคารเรียนมธั ยมศึกษาปที ี่ 1-3 3.5 อาคารอนันตวิชช์
ข้ันตอนท่ี 4 ทาการพ่นถนนเป็นหัวลกู ศรดว้ ยสีเขียว และสีเหลือง เพื่อให้นักเรียนฝกึ ความ 50 มีวินยั เรื่องการเดนิ แถวต้ังแตต่ อนเดินเข้ามาในโรงเรียน ข้ันตอนที่ 5 การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการข้ึนและลงบันไดของอาคารต่างๆ ให้กับนักเรียน โรงเรียนบ้านสารจิตรวา่ ขณะขึ้นลงบันไดให้เดินตามหวั ลกู ศรทต่ี ิดไว้ เพื่อใหเ้ กดิ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขั้นตอนท่ี 6 ติดป้ายประชาสัมพนั ธ์ดว้ ยขอ้ ความวา่ “ชดิ ขวาตลอด” หรอื “ขึน้ ลงจงชิดขวา” เพื่อเปน็ การยา้ เตือนใหน้ ักเรียนขนึ้ ลงบันไดอย่างเป็นระเบยี บ ผลกำรดำเนนิ งำน : กลุ่มเด็กดีมีวินัยใช้การติดตั้งหัวลูกศรกาหนดทิศทางการเดินของ สมาชิกทุกคนในโรงเรียนเพ่ือสร้างระเบียบวินัยในการเข้าแถวและการเดิน โดยเร่ิมต้ังแต่ทางเดินเข้า โรงเรียน ท้ังนี้ได้แบ่งการติดต้ังเป็น 2 รูปแบบคือ 1) หัวลูกศรที่เป็นการพ่นสเปรย์สีเขียวและสีเหลือง ลงบนพ้ืนซีเมนต์บริเวณทางเดินเข้าโรงเรียน เร่ิมต้นจากหน้าประตูโรงเรียนไปยังอาคารต่างๆ และ 2) หัวลูกศรท่ีเป็นสติกเกอร์สีเขียวและสีเหลืองใช้ติดบริเวณทางข้ึน-ลงบันได ที่อาคารเรียนทั้ง 5 อาคาร คือ อาคารอนุบาล อาคารเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1-3 อาคารเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4-6 อาคาร เรียนมธั ยมศึกษาปที ่ี 1-3 และอาคารอนนั ตวิชช์
นอกจากน้ียังใช้การติดปา้ ยประชาสัมพันธด์ ้วยขอ้ ความว่า “ชิดขวาตลอด”และ“ขึ้นลงจงชิดขวา” 51 เพ่ือเป็นการย้าเตือน รวมถึงประชาสัมพันธ์เก่ียวกับการขึ้นและลงบันไดของอาคารต่างๆ ให้นักเรียน โรงเรยี นบ้านสารจติ รทราบว่า ขณะข้ึนลงบันไดใหเ้ ดนิ ตามหัวลูกศรท่ีติดไว้ เพอื่ ให้เกดิ ความเปน็ ระเบยี บ เรียบร้อย หลังดาเนนิ การเปน็ เวลา 3 เดือนตลอดภาคการศกึ ษาท่ี 1 ของปีการศึกษา 2562 ได้สังเกตและ สอบถามจากครูประจาอาคารท้ัง 5 อาคาร พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 80 เดินแถวอย่าง เป็นระเบียบทุกคร้ังเมื่ออยู่ในโรงเรียน เช่น การเดินข้ึน-ลงบันไดเพ่ือเปลี่ยนชั่วโมงเรียน การไปห้องน้า การเดินไปรับประทานอาหาร การไปร่วมกิจกรรมต่างๆ จึงสรุปได้ว่า การดาเนินกิจกรรมดังกล่าวอย่าง ต่อเนื่องสามารถปลูกฝังจิตสานึกความมีระเบียบวินัยของนักเรียน เพ่ือท่ีนักเรียนจะได้นาวินัยในการ เดินแถวและวินยั ในการเขา้ แถวเพ่ือต่อคิวไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ในอนาคตทางโรงเรยี นจะจดั รณรงค์การเข้าแถวทุกอาทิตย์เพ่อื ใหน้ ักเรยี นทุกคนฝึกฝนอยา่ งต่อเนือ่ งจนเกดิ เปน็ นสิ ยั สรุปรำยงำนกำรใชเ้ งนิ ของกลุม่ เดก็ ดีมวี ินยั จำนวน รำยกำร จำนวน รำคำต่อหนว่ ย จำนวนเงิน 6 แผ่น 25 150 1 ฟวิ เจอรบ์ อร์ด 3 แผน่ 15 45 1 หอ่ 180 180 2 สต๊ิกเกอร์ใส 1 กล่อง 28 28 2 อนั 36 3 กระดาษโฟโต้ 2 ม้วน 15 30 2 ม้วน 35 70 4 ดินสอ 2 ก้อน 5 10 6 แทง่ 10 60 5 ไมบ้ รรทัด 8 แผ่น 35 280 6 กระปอ๋ ง 55 330 6 กาว 2 หนา้ (บาง) 1,189 บำท 7 แลค็ ซนี 8 ยางลบ 9 ปากกาเคมี 10 สติ๊กเกอร์สี 11 สสี เปรย์ รวมเปน็ เงิน
3.4 โครงกำรเขำ้ เรยี นตรงเวลำเพือ่ พัฒนำตนเอง 52 ชือ่ กลุ่ม : เด็กดมี ีคุณธรรม รำยละเอียดโครงกำร : คนตรงต่อเวลามักเป็นคนท่ีมีสานึกรับผิดชอบต่อภารกิจหน้าท่ี ของตน บุคคลประเภทน้ีจะมีประสิทธิภาพในการทางานสูง เป็นท่ีเชื่อถือไว้วางใจจากผู้ร่วมงานและคนอื่นในสังคมอย่างดี และมักจะประสบความสาเร็จในชีวติ ทางกลุ่มจึงจดั ตั้งโครงการ เข้าเรียนตรงเวลาเพ่ือพัฒนาตนเองข้ึนเพื่อพัฒนาและสร้าง ลกั ษณะนสิ ัยตรงต่อเวลาให้แก่นักเรยี นบา้ นสารจติ ร วตั ถุประสงค์ของโครงกำร : 1. เพื่อฝกึ ใหน้ กั เรยี นมีความตรงตอ่ เวลาในการเขา้ เรยี น 2. เพือ่ ปลูกฝังใหน้ ักเรียนเปน็ คนมรี ะเบียบวินยั เพมิ่ มากข้ึน ผู้เข้ำรว่ มโครงกำร : นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4-6 และมธั ยมศึกษาปีท่ี 1-3 โรงเรียนบ้านสารจติ ร ข้ันตอนกำรดำเนินงำน : ขน้ั ตอนที่ 1 วางแผน การทาโครงการเข้าเรียนใหต้ รงเวลา เพ่ือพัฒนาตนเอง รว่ มกบั สมาชิกใน กลมุ่ และแบง่ หนา้ ทีใ่ นการทางาน ขั้นตอนที่ 2 จัดเตรียมทาเล่มแบบบันทึกการเข้าเรียนสายเกิน 5 นาที (เฉพาะวิชาที่ต้อง เดนิ เรยี น) ให้กับนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4-6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จานวนท้ังหมด 8 ห้องเรียน
ขั้นตอนท่ี 3 จัดการประชุมของกลุ่มเด็กดีมีคุณธรรมร่วมกับหัวหน้าห้องช้ันประถมศึกษา 53 ปีท่ี 4-6 และมธั ยมศึกษาปที ่ี 1-3 เพือ่ พูดคุยเก่ียวกับเรือ่ งการเขา้ เรียนของสมาชกิ ในห้องเรยี น ขั้นตอนที่ 4 แจกแบบบันทึกนกั เรยี นเขา้ เรยี นสายเกนิ 5 นาทีใหก้ บั หัวหนา้ หอ้ งในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4-6 และมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 ขนั้ ตอนที่ 5 ใหห้ ัวหน้าห้อง ป.4-6 เช็คการเขา้ เรยี นในวิชาคณติ ศาสตร์ และให้หัวหน้าหอ้ ง ม.1-3 เช็คการเข้าเรียนวชิ าภาษาองั กฤษ ข้ันตอนที่ 6 หัวหน้าห้องแต่ละห้องทาแบบบันทึกนักเรียนเข้าเรียนสายเกิน 5 นาที และ สรุปจานวนนักเรียนท่ีเข้าเรียนสายในทุกๆ ส้ินเดือน ห้องเรียนที่มีการพัฒนาตนเองให้เป็นคนตรงต่อ เวลากจ็ ะได้รบั เกยี รติบัตรประจาหอ้ งเรียน เพอื่ แสดงใหเ้ ห็นวา่ ห้องนเ้ี ข้าเรียนตรงเวลา ผลกำรดำเนนิ งำน : กลุ่มเด็กดีมีคณุ ธรรมดาเนินการตรวจสอบการเขา้ ห้องเรียนตรงต่อ เวลา โดยเลือกเฉพาะวิชาที่มีการเดินเรียน 2 วิชา คือ ระดับประถมศึกษาปีท่ี 4-6 ตรวจสอบวิชา คณิตศาสตร์ และระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 ตรวจสอบในวิชาภาษาอังกฤษ ท้ังนี้มอบหมายให้หัวหน้า ห้องแต่ละห้องทาหน้าที่บันทึกผลการตรวจสอบลงแบบบันทึกการเข้าเรียนสายเกิน 5 นาที ผลการ ดาเนินงาน พบว่า นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4-6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนบ้านสารจิตร ร้อยละ 80 เข้าเรียนตรงเวลา มีระเบียบวินัยเพ่ิมมากขึ้น เห็นความสาคัญของการตรงต่อเวลา และรู้จกั หน้าที่ของตนเอง เริ่มท่ีจะปฏิบตั ติ นอยู่ในระเบียบวินัยโดยที่คณุ ครูไม่ตอ้ งคอยตักเตอื น จึงเสนอแนะให้ มีการดาเนนิ โครงการน้ีต่อเนอ่ื งทุกปี เพื่อส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นเข้าเรยี นตรงเวลา
สรุปรำยงำนกำรใชเ้ งนิ ของกลุ่มเดก็ ดีมคี ณุ ธรรม 54 จำนวน รำยกำร จำนวน รำคำตอ่ หน่วย จำนวนเงิน 1 ฟวิ เจอร์บอรด์ 1 โหล 280 280 2 กระดาษแขง็ สี ครึ่งโหล 50 50 3 กระดาษดบั เบลิ้ A 1 รีม 110 110 4 พลาสตกิ ใส A4 1 โหล 20 20 5 สไี ม้ 1 กล่อง 180 180 6 ปากกาเคมี คร่งึ โหล 60 60 7 แล็คซนี 2 มว้ น 35 70 8 ไม้บรรทดั เหลก็ (ยาว) 1 อัน 75 75 9 ดนิ สอ 3 แท่ง 39 10 ยางลบ 3 ก้อน 5 15 11 กาว 2 หนา้ บาง 1 ม้วน 22 22 รวมเป็นเงนิ 891 บำท
3.5 โครงกำรเด็กไทยหำ่ งไกลอบำยมุข 55 ช่อื กล่มุ : ใบโพธ์แิ ห่งความซ่อื ตรง รำยละเอียดโครงกำร : ปัญหายาเสพตดิ เป็นปัญหาสาคัญประการหนึ่งของประเทศไทย ซ่ึงบ่อนทาลายทรัพยากรบุคคลและความม่ันคงของประเทศ ชาติ ปัจจุบันยาเสพติดระบาดตามชุมชนต่างๆ รวมถึงใน สถานศึกษา ซง่ึ มกั ริเรม่ิ ชกั ชวนกนั ทดลองระหวา่ งเพอื่ นนกั เรยี น แม้แต่ในโรงเรียนบ้านสารจิตรก็พบนักเรียนบางกลุ่มแอบ สูบบุหรี่ในห้องน้าหรือที่ลับตา และมีการดื่มเหล้า อีกทั้ง ในชุมชนรอบโรงเรียนก็พบปัญหาเยาวชนถูกจับเพราะไปยุ่ง เกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้าด้วย ทางกลุ่มจึงได้จัดทา โครงการน้ีข้ึนเพ่ือรณรงค์ให้เพ่ือนนักเรียนห่างไกลอบายมุข ชนิดต่างๆ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร : 1. เพื่อให้เด็กไทยห่างไกลจากอบายมุข โดยเฉพาะสุรา บุหรี่ กญั ชาและยาบ้า 2. เพื่อส่งเสริมให้ความร้เู กีย่ วกับอบายมุข โดยเฉพาะสรุ า บหุ ร่ี กัญชาและยาบ้า ผู้เข้ำรว่ มโครงกำร : นักเรียนโรงเรยี นบา้ นสารจติ รทุกคน จานวน 418 คน และ คณะครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาของโรงเรียนบ้านสารจิตร จานวน 26 คน รวมทั้งสนิ้ 444 คน ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำน : ขน้ั ตอนที่ 1 สมาชิก กลุ่มใบโพธแิ์ หง่ ความซ่อื ตรง รว่ มกันวางแผนการทางาน
ขั้นตอนที่ 2 รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั “ยาเสพติด” จากทางอนิ เตอร์เน็ต 56 ขั้นตอนที่ 3 จัดทาแผ่นพับประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีรายละเอียดเก่ียวกับอบายมุข โดยเฉพาะ สุรา บหุ รี่ กญั ชา และยาบา้ ขั้นตอนที่ 4 ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่คณะครูและนักเรยี นบริเวณหน้าเสาธง ทุกเช้าวัน พฤหัสบดีต้นเดือน จานวน 5 ครั้ง เพ่ือให้ทุกคนรับรู้และไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข โดยเฉพาะสุรา บุหรี่ กญั ชา และยาบา้ ขนั้ ตอนท่ี 5 จดั กิจกรรมตา่ งๆ เพ่ือเปน็ การรณรงคใ์ หน้ ักเรียนและคณะครูโรงเรียนบ้านสาร จติ รห่างไกลจากอบายมุข ดังนี้ 5.1) จัดกิจกรรมในวันต่อต้านยาเสพติด โดยทางกลุ่มได้จัดทาป้ายรณรงค์เกี่ยวกับ ยาเสพติดประเภทต่างๆ เพื่อเป็นการบอกกล่าวกับนักเรียน คณะครู และสมาชิกชุมชนรอบโรงเรียน ได้รับทราบถึงอันตรายและโทษของยาเสพติด เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงภัยร้ายของยาเสพติดและ ช่วยกันป้องกันไม่ให้ลูกหลานของตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข และได้เชิญเจ้าหน้าที่ตารวจ สถานี ตารวจบ้านแกง่ มาให้ความรูก้ ับพๆี่ เพ่ือนๆ น้องๆ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 – ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3
5.2) ร่วมมือกับสภานักเรียนจัดกิจกรรมกีฬาต้านยาเสพติด โดยทางสภานักเรียนได้จัด 57 งานแข่งขันกีฬาฟุตซอลภายในโรงเรียน ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2562 เพื่อให้ นักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนของชาติหันมาใช้เวลาว่างเพ่ือเล่นกีฬา มากกว่าใช้เวลาว่างรวมกลุ่มกันเพ่ือเล่น โทรศัพท์มือถือหรือขับข่ีมอเตอร์ไซด์ซ่ิง หรือพากันไปมั่วสุมอบายมุขหรือทาในสิ่งที่ไม่ดีต่อตนเองและ ชมุ ชน 5.3) จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่น้องๆ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1-3 เก่ียวกับอบายมุข และ เชิญชวนน้องร่วมกิจกรรมเล่นเกมส์ ได้แก่ บวกเลขอบายมุข ตอบคาถาม บิงโกอบายมุข และมอบของ รางวัลให้กับน้องๆ 5.4) จัดกิจกรรมชวนเพ่ือนทาลูกอมจากหญ้าดอกขาว เพ่ือลดความอยากสูบบุหรี่ แล้ว นาไปแจกให้กับนักเรยี นกลุม่ เสีย่ งทม่ี ีพฤตกิ รรมชอบสูบบุหร่ี
ผลกำรดำเนินงำน : จากการดาเนนิ งานใหค้ วามรู้เกี่ยวกับอบายมุขโดยเฉพาะสรุ า บุหรี่ 58 กัญชา และยาบ้า ทุกเช้าวันพฤหสั บดีของสัปดาห์ต้นเดอื น บริเวณหน้าเสาธงทาใหน้ ักเรยี นและคณะครู ร้แู ละเข้าใจภัยและโทษของสุรา บหุ ร่ี กัญชาและยาบ้ามากยงิ่ ขึน้ จากการสารวจพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ 360 คน คิดเป็นร้อยละ 86.12 รู้ถึงภัยและโทษของอบายมุขและจะไม่ยุ่งเก่ียวกับอบายมุขโดยเฉพาะ สุรา บุหร่ี กัญชา และยาบ้า สาหรับคณะครูคิดเป็นร้อยละ 100 รู้ถึงภัยและโทษของอบายมุข แต่ยัง ยุ่งเก่ียวกับสุราและบหุ รี่อยู่ ซ่ึงยังเลิกไม่ไดอ้ ีก 4 คน ส่วน 22 คน รู้ถึงโทษและจะไมย่ ุ่งเก่ียวกบั อบายมขุ โดยเฉพาะสุรา บุหรี่ กัญชาและยาบ้า คิดเป็นร้อยละ 84.62 โดยทางโรงเรียนจะจัดทาโครงงานหรือ กิจกรรมต่างๆ ท่เี กยี่ วกับการทาให้เยาวชนไทยห่างไกลอบายมขุ และยาเสพตดิ ต่อไป สรปุ รำยงำนกำรใชเ้ งินของกล่มุ ใบโพธิ์แห่งควำมซ่อื ตรง จำนวน รำยกำร จำนวน รำคำต่อหน่วย จำนวนเงิน 1 กระดาษแขง็ สี 21 แผน่ 10 210 2 กระดาษเทา-ขาว 2 แผน่ 12 24 3 ฟวิ เจอรบ์ อร์ด 3 พับ 4 อนั 85 340 4 กระดาษดบั เบล้ิ A 1 รีม 110 110 5 กระดาษโฟโต้ 1 หอ่ 180 180 6 กาว TOA 1 ขวด 35 35 7 กาวสองหน้าชนดิ บาง 1 มว้ น 15 15 8 กาวสองหนา้ ชนิดหนา 1 ม้วน 50 50 9 กากเพชร 1 ขวด 15 15 10 ยางลบ 3 ก้อน 5 15 11 ปากกาเคมี 6 แท่ง 10 60 12 ของรางวัล 3 แพค็ 20 60 13 นา้ ตาล 1 ถงุ 25 25 14 แบะแซ 1 ถงุ 40 40 15 กระดาษแก้ว 4 แผน่ 4 16 รวมเป็นเงนิ 1,135 บำท
3.6 โครงกำร ส.จ.รกั ษ์สิ่งแวดลอ้ ม 59 ช่ือกลมุ่ : มินิฮาร์ทผมู้ ีความซ่อื ตรง รำยละเอยี ดโครงกำร : ปัญหาขยะในประเทศไทยถือเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สาคัญ อันเกิดข้ึนจากพฤติกรรมการบริโภคและขาดการแยกขยะ จากต้นทาง โดยปริมาณขยะท่ีเพ่ิมข้ึนแต่ไม่ได้รับการจัดการ อยา่ งถกู ตอ้ งย่อมส่งผลกระทบตอ่ ชีวติ และสุขภาพของประชาชน โดยทั่วไปกระบวนการทาลายขยะก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนได- ออกไซด์ หากใช้วิธีการกลบฝังก็ใชเ้ วลาในการย่อยสลายถึง 450 ปี ทางกลุ่มมินิฮาร์ทผู้มีความซ่ือตรงเห็นความสาคัญของการลด ขยะพลาสตกิ จงึ สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นโรงเรียนบา้ นสารจิตรเปลี่ยน มาใชถ้ ุงผา้ แทน โดยการจดั ทาโครงการ ส.จ.รักษส์ งิ่ แวดล้อม วตั ถุประสงค์ของโครงกำร : 1. เพอ่ื ลดปรมิ าณของขยะภายในโรงเรยี นบ้านสารจติ ร 2. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นโรงเรยี นบา้ นสารจติ รเหน็ ประโยชน์ของ ถุงผ้าและหันมาใชถ้ งุ ผา้ แทนถุงพลาสติก ผูเ้ ข้ำรว่ มโครงกำร : นักเรียนระดบั ช้ันอนุบาล 2 – มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 จานวน 418 คน โดยระยะสนั้ ภาคเรยี นท่ี 1 นักเรยี นโรงเรียนบ้านสารจิตร รอ้ ยละ 50 หันมาใชถ้ ุงผา้ แทนถุงพลาสตกิ ระยะยาวในภาค เรียนที่ 2 นกั เรยี นโรงเรียนบ้านสารจติ รรอ้ ยละ 80 หนั มาใช้ ถุงผ้าแทนถุงพลาสตกิ ขั้นตอนกำรดำเนนิ งำน : ขั้นตอนท่ี 1 วางแผนการทางานในโครงการ ส.จ. รกั ษ์สงิ่ แวดล้อม
ขั้นตอนท่ี 2 การรณรงค์ใหท้ ุกคนภายในโรงเรยี นแยกขยะก่อนทง้ิ และลดการใชถ้ งุ พลาสติก 60 ชมวดี ทิ ัศนเ์ ก่ียวกับ การคดั แยกขยะ เพอื่ เปน็ ขอ้ มลู และจดั ทาสือ่ รณรงค์ ขน้ั ตอนท่ี 3 หัวหน้า รองหัวหนา้ หอ้ งในแตล่ ะระดบั ชนั้ และคณะครู ร่วมกนั เดนิ สารวจและ สังเกตปริมาณขยะภายในโรงเรียน โดยเฉพาะขยะพลาสติกว่ามีปริมาณลดลงหรอื ไม่
ขั้นตอนท่ี 4 ประชาสัมพันธ์เชญิ ชวนนกั เรยี นในระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4-6 มาเย็บถุงผา้ 61 ใชเ้ อง โดยสามารถเลอื กเย็บถุงผา้ ที่มีลวดลายและขนาดตามต้องการได้ และนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้จรงิ ขั้นตอนท่ี 5 สมาชิกภายในกลุ่มมินิฮารท์ ผู้มคี วามซื่อตรง แบ่งสมาชิกออกเป็น 5 กลุ่มย่อย เพื่อไปสอนพ่ีๆ เพ่ือนๆ และน้องๆ เย็บถุงผ้า โดยจะเร่ิมจากสอนนักเรียนในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4-6 จานวน 5 ห้อง โดยใช้เวลาในชวั่ โมงซอ่ มเสริมของวนั พุธและพฤหสั บดี เพ่อื ให้พ่ีๆ เพ่อื นๆ และนอ้ งๆ ไดล้ งมอื เย็บถงุ ผ้าดว้ ยตนเอง
ข้ันตอนที่ 6 มีการบันทึกการใช้ถุงผ้า 62 ในแต่ละระดับชั้น เพื่อประกวดการใช้ถุงผ้าประจา เดือน และมีการรายงานผลทุกวันศุกร์ส้ินเดือนเป็น คะแนนสะสม ผลกำรดำเนนิ งำน : จากการดาเนินงานทั้ง 6 ขั้นตอนส่งผลให้ขยะในโรงเรียนบ้าน สารจิตรมีปริมาณลดน้อยลง โดยนักเรียนมีการแยกขยะและทิ้งขยะลงถังมากขึ้น จนเกิดเป็นนิสัยและ สามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องมีการเตือนหรือบังคับ โดยนักเรียนร้อยละ 50 เปล่ียนมาใช้ถุงผ้าแทน ถุงพลาสติก และนักเรียนร้อยละ 80 ใช้แก้วน้าท่ีโรงเรียนแจก นาไปซ้ือน้าจากร้านค้าหน้าโรงเรียนเพ่อื ลดปรมิ าณการใชแ้ กว้ น้าพลาสตกิ ระยะเวลาสั้นๆ ซง่ึ จะกลายเปน็ ขยะในที่สดุ ในอนาคตทางโรงเรยี นจะ รณรงค์ตอ่ เนื่องเพอ่ื ให้นักเรียนทกุ คนมีถงุ ผา้ ประจาตัวคนละ 1 ใบเพือ่ ใช้ในชวี ิตประจาวันแทนถงุ พลาสตกิ สรุปรำยงำนกำรใชเ้ งนิ ของกลุ่มมินิฮำรท์ ผู้มคี วำมซือ่ ตรง จำนวน รำยกำร จำนวน รำคำตอ่ หน่วย จำนวนเงนิ 1 ฟวิ เจอรบ์ อรด์ 2 แผน่ 25 50 2 กระดาษโฟโต้ 1 หอ่ 180 180 3 กระดาษการด์ A4 1 หอ่ 70 70 4 เขม็ เยบ็ ผ้า 1 แพค็ 20 20 5 ดา้ ยเย็บผา้ 2 ชุด 20 40 6 กาวสองหนา้ บาง 2 มว้ น 15 30 7 กระดาษลอกลาย 1 โหล 50 50 8 ปนื กาว และไส้กาว 1 ชดุ 40 40 9 กรรไกร 4 อัน 10 40 10 สายหกู ระเป๋าผา้ 10 เมตร 25 250 11 ปากกาเคมี 6 ด้าม 10 60 12 กระดาษ Double A 1 รีม 110 110 13 เข็มกลัด 1 เเพ็ค 20 20 รวมเปน็ เงิน 960 บำท
บทท่ี 4 63 สรปุ ผลการดาเนินโครงการและถอดบทเรียน ในบทน้ีจะแบง่ การนาเสนอออกเปน็ 4 ส่วน คือ 1) การนาเสนอผลงานของนักเรียน 2) ผลการ พิจารณาจากคณะกรรมการ 3) ผลการถอดบทเรียน และ 4) การมอบใบประกาศและโล่รางวัล 4.1 การนาเสนอผลงานของนักเรียน นักเรียนโรงเรยี นบ้านสารจิตรได้วางแผนปฏิบตั ิการเร่ืองความซื่อตรง 6 โครงการที่เกิดจากการ ระดมความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม และได้นาแผนดังกล่าวไปดาเนินการดังรายละเอียดท่ีกล่าวไว้ใน บทท่ี 3 เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน จากนั้นทางสถาบันฯ จึงได้จัดเวทีนาเสนอผลงานของนักเรียน ทั้ง 6 กลุ่มข้ึนในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562 ท่ีโรงเรียน บ้านสารจิตร จังหวัดสุโขทัย กาหนดให้แต่ละกลุ่มมีเวลา ในการนาเสนอกลุ่มละไม่เกิน 10 นาที นักเรียนสามารถ เลือกใช้ส่ือประกอบการนาเสนอและวิธีการนาเสนอได้ตาม ความถนัดของตนเองโดยคณะกรรมการ จะสอบถามเพิม่ เตมิ ในประเด็นที่ต้องการความชัดเจน ก่อนบันทึกคะแนน ทั้งนี้ ทางสถาบนั ฯ ไดร้ บั เกยี รตจิ าก นางกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา สมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วมรับฟังการนาเสนอผลงานของเด็กๆ พรอ้ มท้งั เปน็ กรรมการพิจารณาผลงานด้วย
4.2 ผลการพจิ ารณาจากคณะกรรมการ 64 การพิจารณาผลการดาเนินงาน มีตัวช้ีวัดจานวน 7 ตัวช้ีวัดซ่ึงคณะกรรมการใช้เป็นกรอบในการ พิจารณาให้คะแนน โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1) ภาพรวมของโครงการ มี 4 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย กระบวนการทางาน (การวางแผนและการทางานเปน็ ทมี เป็นตน้ ) การเลือกใชว้ ธิ ีการในการประเมินผล กิจกรรม ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบกิจกรรม และความสอดคล้องของกิจกรรมท่ีทากับเร่ือง ความซ่ือตรง 2) การนาเสนอ มี 2 ตัวช้ีวัด คือ ความน่าสนใจ และตรงประเด็น 3) รายงานผลการ ดาเนนิ งาน เป็นตัวชีว้ ัดขอ้ สดุ ท้าย ท้ังน้แี ต่ละตวั ชี้วดั จะมีค่าคะแนนแตกตา่ งกัน ดังน้ี กระบวนการทางาน (การวางแผนและการทางานเปน็ ทีม เป็นตน้ ) 20 คะแนน การเลอื กใชว้ ธิ กี ารในการประเมนิ ผลกจิ กรรม 10 คะแนน ความคดิ สร้างสรรค์ในการออกแบบกจิ กรรม 10 คะแนน ความสอดคลอ้ งของกิจกรรมทท่ี ากบั เร่อื งความซ่อื ตรง 20 คะแนน ความน่าสนใจ 10 คะแนน ตรงประเด็น 10 คะแนน รายงานผลการดาเนินงาน 20 คะแนน รวม 100 คะแนน
สาหรบั การพิจารณาผลงานครัง้ นม้ี คี ณะกรรมการ ทงั้ สน้ิ 4 ทา่ น ประกอบดว้ ย 65 1) ดร.ถวลิ วดี บรุ กี ลุ ผู้อานวยการสานักวจิ ัยและพฒั นา สถาบนั พระปกเกลา้ 2) นางกอบกลุ อาภากร ณ อยธุ ยา สมาชกิ วฒุ ิสภา 3) นางสาวปทั มา สูบกาปงั นักวชิ าการผชู้ านาญการ สถาบันพระปกเกลา้ 4) ดร.เลศิ พร อุดมพงษ์ นกั วชิ าการผูช้ านาญการ สถาบนั พระปกเกล้า และมคี ะแนนผลการดาเนนิ งานของแต่ละกลมุ่ ดงั ปรากฎในตารางดา้ นล่างน้ี ลาดบั ชือ่ โครงการ ชือ่ กลุ่ม คะแนนรวม 1. เด็กดไี ม่เลย้ี งแกะ เด็กดีมีน้าใจ 342 2. สารจติ รรว่ มใจสร้างวนิ ัยการท้ิงขยะ ผูพ้ ิทกั ษค์ วามซ่ือตรง 341.5 3. ชดิ ขวาหน้าตรง เดก็ ดมี วี นิ ัย 339 4. เข้าเรียนตรงเวลาเพื่อพัฒนาตนเอง เดก็ ดีมีคุณธรรม 330 5. เดก็ ไทยหา่ งไกลอบายมุข ใบโพธแิ์ หง่ ความซื่อสัตย์ 328 6. ส.จ.รักษ์สิ่งแวดล้อม มนิ ิฮารท์ ผู้มีความซ่ือตรง 317 4.3 ผลการถอดบทเรยี น เมอื่ นกั เรียนนาเสนอผลการดาเนนิ งานเรยี บรอ้ ยแลว้ ทมี วิทยากรจงึ นาเขา้ สู่กระบวนการถอด บทเรยี นเพื่อประเมนิ ผลการทางานและปัจจัยแห่งความสาเร็จของแตล่ ะทมี โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคน เขยี นส่งิ ทีค่ ิดวา่ เป็นปัจจยั แหง่ ความสาเรจ็ ในการทางานกลุม่ ครงั้ นี้ แลว้ จัดกลุม่ ประเด็นทใี่ กลเ้ คยี งกนั ไวด้ ้วยกนั สรุปเปน็ ปจั จัย ความสาเร็จ ของกลมุ่ ดงั ภาพประกอบ ซ่งึ อาจมีตง้ั แต่ 3 ปัจจยั ไปจนถึง 6 ปัจจัย
จากน้นั จึงจดั ลาดบั ความสาคัญ ดว้ ยการที่สมาชิกในกล่มุ ให้คะแนนความสาคญั ของแต่ละปัจจยั ลงใน 66 ตารางดา้ นล่างน้ที ีละคนตามความคดิ เห็นของตน ค่าคะแนนมตี ั้งแต่ 1-5 โดยกาหนดให้ 1 คะแนน หมายถงึ ปัจจัยน้ันมีความสาคัญน้อยที่สุด, 2 คะแนน หมายถึง ปัจจัยนั้นมีความสาคัญน้อย, 3 คะแนน หมายถึง ปัจจัยน้ันมีความสาคัญปานกลาง, 4 คะแนน หมายถึง ปัจจัยน้ันมีความสาคัญมาก และ 5 คะแนน หมายถงึ ปัจจัยนั้นมีความสาคัญมากที่สุด เมื่อสมาชิกทุกคนให้ค่าคะแนนตามความคิดเห็นของตนครบถ้วนแล้ว จงึ นามาหาค่าเฉลี่ย โดยรวมคะแนนแตล่ ะปจั จัยแลว้ หารดว้ ยจานวนสมาชกิ ในกลมุ่ บนั ทกึ ผลลพั ธ์ทไี่ ด้พร้อม ด้วยทศนยิ มสองตาแหน่งลงในตาราง การประเมนิ ความสาเรจ็ ของการทากจิ กรรม ชื่อโรงเรียน................................................................................... ช่อื กล่มุ .......................................................................... ปัจจยั ช่ือปจั จัย คะแนนจากสมาชกิ กลมุ่ คะแนน ค่าเฉล่ีย ท่ี รวม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 1 2 3 4 5 6 น า ค่ า เ ฉ ลี่ ย ม า จั ด ท า เป็นกราฟหรือแผนภูมิใยแมงมมุ ให้มีจานวนแกนเท่ากับจานวน ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ แลว้ เขยี น ชอื่ ปัจจยั ลงในแต่ละแกน
4.3.1 ปจั จยั แหง่ ความสาเร็จของกลุม่ เดก็ ดมี นี าใจ 67 สมาชิกกลุ่มเด็กดีมนี ้าใจร่วมกนั ประเมนิ ปัจจัยแห่งความสาเร็จในการทางานของกลุ่ม พบว่ามี 3 ปจั จยั คือ 1) ร่วมด้วยช่วยกัน อันประกอบด้วย การร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่ม การช่วยกันทา การรว่ มมอื ร่วมใจ การร่วมมือกนั การรว่ มมือและร่วมใจ 2) ความสามัคคี ประกอบด้วย ความสามัคคีของกลุ่ม ความสามัคคี ความสามัคคีกัน ความสามคั คีในกลมุ่ 3) ความมนี ้าใจ ซึ่งมาจากบตั รความคดิ ที่เขียนว่า มนี ้าใจใหก้ ันในกล่มุ เม่ือสมาชกิ ในกลมุ่ เดก็ ดีมีนา้ ใจ ให้คา่ คะแนนแตล่ ะปจั จัย เรยี บรอ้ ย แล้วนาปจั จยั ทัง้ 3 มาวาดเปน็ แผนภูมิ ใยแมงมมุ จงึ ได้เป็นแผนภมู ิ รูปสามเหลี่ยมดังภาพ 4.3.2 ปจั จยั แห่งความสาเรจ็ ของกลมุ่ ผพู้ ิทักษค์ วามซอ่ื ตรง กลุ่มผ้พู ทิ ักษ์ความซ่อื ตรงประเมินปัจจัยแหง่ ความสาเร็จในการทางานของกลมุ่ ไว้ 4 ปจั จัย คือ 1) ความซ่ือสตั ย์ : มีความซอื่ สัตย์ตอ่ กนั ทางานตามท่ีไดร้ บั มอบหมายทกุ คน 2) ความสามคั คี : ชว่ ยกันไมเ่ กี่ยงกัน ทางานโดยไม่เกยี่ งกนั และรว่ มแรงรว่ มใจ มคี วาม รว่ มมอื กนั มีความสามคั คีกนั ขณะทางานไมเ่ ล่นกนั 3) ความมนี ้าใจ : มีนา้ ใจต่อกนั ถา้ งานเราเสรจ็ แลว้ กไ็ ปชว่ ยเพ่ือนได้ 4) ความอดทน ม่งุ มน่ั : มีความมงุ่ มน่ั มคี วามตงั้ ใจ มคี วามอดทน
เมือ่ สมาชกิ 68 ในกลุ่มผู้พทิ กั ษค์ วาม ซื่อตรงลงคะแนน ในตารางเรียบร้อย จงึ นาคา่ คะแนนเฉลีย่ มาจดั ทาเปน็ แผนภมู ิ ใยแมงมมุ รูปสเี่ หลย่ี ม ตามจานวนปัจจยั ดงั ภาพ 4.3.3 ปจั จัยแหง่ ความสาเร็จของกลมุ่ เด็กดีมวี ินยั สาหรับปัจจัยแห่งความสาเร็จของกลุ่มเด็กดีมีวินัย ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลักเช่นเดียวกัน โดยแบ่งเปน็ 1) ความสามคั คี : ความสามคั คี ความรว่ มมอื 2) ความมงุ่ มนั่ พยายาม ตง้ั ใจ : ความตง้ั ใจ ความมงุ่ มน่ั และความพยายาม 3) ความอดทน : ความอดทน 4) ความรบั ผดิ ชอบ : ความรบั ผดิ ชอบ ความทมุ่ เท
4.3.4 ปัจจัยแห่งความสาเรจ็ ของกลุ่มเด็กดมี ีคุณธรรม 69 ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ ของกลมุ่ เดก็ ดีมคี ุณธรรม ประกอบด้วย 4 ปจั จยั คือ 1) ทุกคนร่วมมอื กนั 2) ทกุ คนทมุ่ เท 3) ทกุ คนสามคั คกี นั 4) ทกุ คนปฏิบตั ติ ามหนา้ ที่ กลุ่มนไ้ี ดแ้ ผนภูมใิ ยแมงมมุ เปน็ รปู สเ่ี หลยี่ มตามจานวน ปัจจยั 4.3.5 ปจั จัยแห่งความสาเรจ็ ของกลุ่มใบโพธิ์แห่งความซื่อสัตย์ กลมุ่ ใบโพธิแ์ ห่งความซอื่ สัตย์ไดร้ ะดมความคดิ เห็นของสมาชิกเกยี่ วกบั ปัจจยั แห่งความสาเรจ็ และ จดั กล่มุ ความคิดได้ 5 ปัจจยั คือ 1) ความสามัคคี : ความสามคั คกี ัน และความรว่ มมือร่วมใจกนั 2) การชว่ ยเหลอื กนั : การชว่ ยเหลือกนั 3) ความมนี า้ ใจ : ความมีนา้ ใจ ความมีนา้ ใจ 4) แรงบนั ดาลใจ : แรงบนั ดาลใจ 5) ความอดทน : ความอดทน
4.3.6 ปัจจยั แห่งความสาเร็จของกล่มุ มนิ ฮิ ารท์ ผู้มคี วามซ่ือตรง 70 ปัจจยั แหง่ ความสาเรจ็ ของกลุม่ มนิ ฮิ าร์ทผู้มีความซอื่ ตรง ประกอบดว้ ย 5 ปัจจัย คือ 1) ความตง้ั ใจ : มคี วามตง้ั ใจในการทางาน ความตง้ั ใจ ความตัง้ ใจและพยายามทจ่ี ะทามนั ความตง้ั ใจ ความมงุ่ มนั่ และตงั้ ใจ 2) ความอดทน : ความอดทนตอ่ สงิ่ ตา่ งๆ 3) สามคั คชี ่วยกนั ทา : เพ่อื นๆ และคนในกลมุ่ รว่ มกนั ทามนั รว่ มแรงรว่ มใจ ความสามคั คี คอื การชว่ ยกนั ความรว่ มมือ ความพยายามและสามัคคกี นั มีการชว่ ยเหลอื กนั 4) ความรบั ผดิ ชอบ : มคี วามรบั ผดิ ชอบ 5) ยอมรับกับปัญหา : ยอมรับปัญหาท่ีเกิดและต้ังใจมากขึ้น ยอมรับและแก้ไขปัญหาท่ี เกดิ ข้นึ ยอมรบั ปญั หาที่เกิดขนึ้ และชว่ ยกนั แก้ไขปญั หา เม่อื นาคา่ คะแนนมาจดั ทาแผนภูมใิ ยแมงมุมจงึ ไดแ้ ผนภูมริ ูปห้าเหลย่ี มดังภาพ หลงั จากคน้ หาปจั จยั แหง่ ความสาเร็จเรียบรอ้ ยแลว้ คณะวทิ ยากรจึงดาเนินการถอดบทเรียนการ ทากิจกรรมโรงเรียนแหง่ ความซอ่ื ตรงในภาพรวม ซง่ึ มผี ลการถอดบทเรยี นดงั รายละเอียดในหวั ข้อตอ่ ไป
4.3.7 การถอดบทเรยี นการทากจิ กรรมในภาพรวม 71 การถอดบทเรียนในส่วนนแ้ี บง่ ออกเป็น 4 คาถาม คือ นกั เรียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไรจากการทา กจิ กรรมนี้ นักเรยี นรู้สกึ อยา่ งไร ชอบอะไรมากท่สี ดุ และมอี ะไรทส่ี ามารถนาไปใช้ตอ่ ได้บา้ ง 1) จากข้อคาถามท่ีว่า ได้เรียนรู้อะไรจากการทากิจกรรมนี้ ได้รับคาตอบหลากหลาย อาทิ ได้เรียนรู้เรื่องลดการใช้ถุงพลาสติก การใช้ถุงผ้า การเดินแถวเป็นระเบียบ เรียนรู้เรื่องความสามัคคี ทางานร่วมกันเปน็ ทีม ความหมายของโรงเรียนซ่อื ตรง การทาอะไรที่ถูกต้อง การแยกขยะ การไมพ่ ดู โกหก เรียนรูเ้ รือ่ งความซื่อตรง และซอื่ สัตยส์ จุ รติ 2) เมื่อถามว่านักเรียนรู้สึกอย่างไร คณะวิทยากรได้รับคาตอบท่ีน่าสนใจดังน้ี คือ ดีใจ ภูมิใจ รักเพื่อนมากข้ึน สนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์การทาโครงการและการ นาเสนอ และกล้ามากขึน้ 3) สิ่งท่ีเด็กๆ ชอบมากที่สุดในการทากิจกรรมคร้ังนี้ คือ การนาเสนอผลงาน การทางาน เป็นกลุ่ม การเอาความรู้มาแจก ชอบความสามัคคี ความมีน้าใจ ชอบการเขียนบัตรความคิด และ ชอบการวาดรูประบายสี 4) สาหรับส่ิงที่สามารถนาไปใช้ต่อได้ ก็คือ ความมีระเบียบวินัยในตนเอง เช่น การเดินแถว เป็นระเบียบ การวางรองเท้าเปน็ ระเบยี บ ความซือ่ สัตย์ ซื่อตรง ตรงเวลา รับผิดชอบ ไม่ติดยาเสพตดิ สอนการทาลูกอม มีนา้ ใจ ความรูท้ ่ไี ด้รับนาไปใช้ตอ่ ได้ เชน่ เรือ่ งการแยกขยะ การใชถ้ งุ ผ้า
4.4 การมอบรางวัลผลงานกลุ่ม มอบใบประกาศ และโล่รางวลั 72 ในการดาเนนิ โครงการย่อย ทั้ง 6 เปน็ เวลาประมาณ 3 เดือน เด็กๆ ไดท้ ่มุ เทท้งั เวลา แรงกายและแรงใจอย่างเต็มท่ี ทางสถาบันฯ จงึ มขี องรางวลั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ มามอบให้ แต่ละกลุม่ เพอื่ เปน็ กาลังใจ โดยผแู้ ทน คณะกรรมการ ทาหนา้ ท่ี มอบรางวัล ตามลาดบั คะแนน จากนั้นจึงมีพิธีมอบใบประกาศและเข็มกลัด ชมรมซื่อตรงให้แก่นักเรียนและคุณครูที่ปรึกษา ทุกคน ตามด้วยการมอบโล่รางวัลชมรมซื่อตรง ให้แก่โรงเรียนบา้ นสารจิตรตามลาดับ
และก่อนปิดโครงการโรงเรียนแห่งความซ่ือตรงอย่างเป็นทางการ วิทยากรขอให้เด็กๆ แต่ละ 73 กลุ่มทากิจกรรมส่งทา้ ยอีกชนิ้ หนึ่ง ด้วยการวาดภาพและระบายสโี รงเรียนแหง่ ความซอ่ื ตรงในทศั นะของ เด็กๆ เปน็ ผลงานส่งท้ายด้วยรอยยม้ิ
ภาคผนวก 74 ภาพการประชมุ ระดมความคิดเหน็
75
ภาพการนาเสนอผลการทากิจกรรม 76
ภาพการรับเสด็จในการแสดงผลงานบรเิ วณสว่ นนิทรรศการ 77 งานประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครังท่ี 21 จัดขนึ ระหวา่ งวันที่ 1-3 พฤศจกิ ายน 2562
Search