28นักการเมืองถิ่นกระบี่.

นักการเมอื งถนิ่ จังหวดั กระบี่ ที่ทำ�ชื่อเสียงใหก้ ับจังหวัดกระบี่ เพราะมีพืน้ ทกี่ ารเพาะปลกู มาก ใน ขณะเดียวกันนายพิเชษฐ ก็ทำ�ธุรกิจโรงแรมควบคู่กันไป นายพิเชษฐ พยายามทำ�งานเพ่ือช่วยเหลอื สงั คม เมือ่ ประชาชนลำ�บาก ไมม่ ีอาชีพ ก็พยายามหาทางช่วยเหลอื โดยการสนบั สนุนใหม้ ีงานทำ� การเมืองในจังหวัดกระบ่ีก็เหมือนการเมืองทั่วไปของภาคใต้ มีการแข่งขันกันเป็นเร่ืองปกติ กลยุทธ์ในการหาเสียง คือ การต้ังใจ ท�ำ งานเพอ่ื สว่ นรวมเพอ่ื ประชาชน มคี วามตงั้ ใจทที่ �ำ งานเพอื่ ชว่ ยเหลอื สังคมจริงๆ ประชาชนจึงเห็นผลงานและความต้ังใจของตนเอง จึง วางใจเลอื กตนเปน็ ผแู้ ทนของเขา สว่ นวธิ กี ารหาเสยี งของนายพเิ ชษฐคอื การใชร้ ปู แบบการแหร่ ถประชาสมั พันธไ์ ปรอบเขตเลอื กต้งั เพ่ือเปน็ การ แนะจ�ำ ตวั บทบาทของพรรคการเมอื งและกลุ่มผลประโยชน์อนื่ ๆ นายพเิ ชษฐ มองวา่ พรรคการเมอื งมบี ทบาทตอ่ การเลอื กตง้ั นอ้ ย กลมุ่ ผลประโยชน์ต่างๆ เช่น กลุ่มผนู้ �ำ ศาสนา กลุม่ นักการเมอื งท้องถิน่ กลุ่มสตรี และกล่มุ อน่ื ๆ ไมค่ ่อยมีความสำ�คญั มากต่อการเมือง และ การไดเ้ ปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร หรอื ขนาดท�ำ ใหไ้ ดเ้ ปน็ ส.ส. หมาย ถึงมีบทบาทแต่ไม่โดดเด่นถึงกับมีส่วนได้เสียต่อการได้เป็นสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร จังหวดั กระบม่ี กี ารแข่งขันทางการเมอื งแบบสากล คอื ศาสนา ไม่ค่อยมีผลต่อการเมืองโดยเฉพาะในตัวเมืองกระบี่มีผู้นับถือศาสนา อิสลามกับศาสนาพุทธ ไม่ต่างกันมากนักโดยเฉลี่ยใกล้เคียงกัน การเมืองในอดีตมีการแข่งกันน้อยและการซ้ือเสียงมีน้อยไม่เหมือน การเมอื งในปจั จบุ นั มกี ารซอ้ื เสยี งกนั มากและมกี ารกระทำ�การหลายรปู แบบ นายพเิ ชษฐไดใ้ หข้ อ้ คดิ ถงึ แนวทางการท�ำ งานการเมอื งเพอ่ื ใหค้ น 100

รุ่นใหม่เอาเป็นแบบอย่าง คือ ขอใหม้ ีความจรงิ ใจและตัง้ ใจจริงในการ ทำ�งานเพ่ือส่วนรวมและให้คำ�นึงประโยชน์ส่วนรวมให้มาก เห็นความ ทุกขส์ ุขของประชาชนเหมอื นเป็นความทกุ ข์ของตน 4. นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ นั ติ นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ นั ติ ไมไ่ ดเ้ ลน่ การเมอื งมานานแลว้ แต่ ยงั ตดิ ตามการเมอื งอยบู่ า้ ง ซง่ึ ในปจั จบุ นั นายวาสนาท�ำ สวนอยทู่ จี่ งั หวดั เพชรบูรณ์ นายวาสนาเริ่มต้นเล่นการเมืองเพราะว่าได้รับแรงกดดัน จากท่ีท�ำ งานของตนเอง เพราะมีอาชพี รับราชการ ถูกกลน่ั แกลง้ จากผู้ บังคบั บัญชา จนในท่ีสุดตอ้ งลาออกเพราะรบั สภาพการท�ำ งานภายใน องค์กรไม่ได้ โดยออกมาทำ�งานส่วนตัวทำ�ไร่อ้อยที่จังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากนนั้ จงึ คดิ วางแผนเลน่ การเมือง ในขณะที่ นายวาสนาไมม่ ีเงนิ ทองมากมายแตอ่ ยากเล่นการเมือง สดุ ทา้ ยตัดสินใจเลน่ การเมอื งโดย กลับมาบ้านที่จังหวัดกระบี่ นายวาสนากล่าวว่าตนลงการเมืองโดยใช้ เงนิ นอ้ ยมาก อาศยั ใชเ้ พื่อนๆ ชว่ ยโดยเฉพาะเพอ่ื นทมี่ รี ถยนต์ทลี่ งไป สง่ ของทภี่ าคใต้ นายวาสนาจะอาศยั เพอ่ื นลงไปดว้ ยเพราะไมต่ อ้ งจา่ ย คา่ รถในการเดนิ ทางกลบั บา้ น เมอื่ กลบั มาบา้ นกอ้ ลงพน้ื ทแ่ี ละไปทวั่ ทกุ หมู่บ้าน คำ่�ลงบ้านใครก็นอนบ้านคนน้ัน ต่ืนเช้ามาก้อเดินทางต่ออีก ท�ำ อยา่ งนีต้ ลอดกระทง่ั ถึงวันสดุ ทา้ ยของการเลือกต้ัง นายวาสนายอมรับว่ากลวิธีการหาเสียงเลือกตั้งการเมืองใน สมัยก่อนน้ันแตกต่างกับปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะสมัยน้ีมีการใช้ เงินกนั มากและมีหลายวิธกี ารทีจ่ ะเอาชนะการเลอื กต้งั ให้ได้ ไมไ่ ดด้ ้วย เลห่ ก์ เ็ อาดว้ ยกล ท�ำ ทกุ วธิ กี ารเพอื่ ใหต้ นเองไดร้ บั การเลอื กตงั้ เขา้ มาเปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 101

นักการเมอื งถน่ิ จังหวดั กระบี่ บทบาทของพรรคการเมอื ง ในสมัยก่อนพรรคการเมืองไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่เพราะ สมัยก่อน ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่จำ�เป็นต้องสังกัด พรรคการเมือง แต่ผ่านมาไม่นานกฎหมายกำ�หนดให้ผู้สมัครสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรต้องสังกัดพรรคการเมือง ซ่ึงในขณะน้ันนายวาสนา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่เกิดปัญหาการเมืองภายในจึงไม่สามารถ ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคประชาธิปัตย์ได้ จึง ได้ลงสมัครอีกพรรคหน่ึง แต่ช่วงหลังบทบาทพรรคการเมืองเร่ิมเข้ามา มบี ทบาทโดยเฉพาะพรรคประชาธปิ ตั ย์ ที่เขา้ มามบี ทบาทในการเมอื ง ภาคใต้รวมถึงในจังหวัดกระบ่ีด้วย นายวาสนามีความเห็นว่า “ผู้นำ� ทางการเมือง มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งบ้างเหมือนกัน แต่ไม่มากถึง ขนาดเปลี่ยนแปลงผลการเลือกต้ังได้ และนักการเมืองสมัยก่อนกับ ปจั จบุ นั แตกตา่ งกนั มากเพราะสมยั กอ่ นมนี กั การเมอื ง 100 คน ไมค่ อ่ ย เขา้ ท่า(ไมด่ ี)ประมาณ10 คน แตป่ จั จุบนั มีนกั การเมอื ง100 คน ไม่คอ่ ย เข้าท่าเกือบหมด” 5. นายสมบูรณ์ สิทธมิ นต์ นายสมบูรณ์ สทิ ธมิ นต์ เกิดเมื่อวนั ท่ี 17 มถิ นุ ายน 2490 ท่ี อ�ำ เภอเหนอื คลอง จังหวดั กระบ่ี เคยไดร้ บั เลือกให้เป็นสมาชกิ สภาผู้ แทนราษฎรเมอื่ ปี 2529 ในนามผสู้ มคั รพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรปี 2531 ในนามพรรคเอกภาพ นายสมบรู ณ์ ได้ให้สมั ภาษณเ์ รอ่ื งการเมอื งวา่ “การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ เรา ต้องยอมรับว่าการเมืองที่แท้จริงคือเรื่องของผลประโยชน์น่ันเอง การเมอื งคอื การเขา้ ไปรกั ษาผลประโยชนข์ องกลมุ่ คน กลมุ่ ผลประโยชน์ 102

นายทุน กลุ่มทุนนิยมท่ีตามมาทีหลัง รัฐบาลไหนนายคนไหนก็ยังยึด ติดกบั ผลประโยชนเ์ หลา่ น้นั ของกลมุ่ จงึ มีการพูดทีหลังวา่ ผลประโยชน์ ทับซ้อน ในกระบี่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ัน” การยอมรับว่าการเมือง คือเรื่องผลประโยชน์ตามที่นายสมบูรณ์ได้กล่าวไว้ข้างต้น เก่ียวข้อง กบั การบกุ รุกป่าสงวนจ�ำ นวน 5,000 ไร่ ของนักการเมอื งใหญ่ ไม่มี ใครกล้ายงุ่ หลายคนทเี่ ข้าไปตอ่ สบู้ า้ งกล็ ม้ หายตายจาก บา้ งกบ็ าดเจ็บ สาหัส อำ�เภอเขาพนม อำ�เภอปลายพระยา อำ�เภออ่าวลึก อำ�เภอ เมอื ง เป็นการถือครองท้ังสนิ้ ซึง่ ในขณะนอ้ี อกมาในรูปแบบการเก็บ ภาษี แต่ม่ันใจว่าไม่มีรัฐบาลใดกล้าเข้าไปยุ่งเก่ียว ตราบใดที่กระทบ กับกลุ่มผลประโยชน์ ในการลงเลอื กตัง้ การเมอื งท้องถ่ิน นายสมบรู ณ์ เคยอภปิ รายถึงเร่อื งการบกุ รกุ ป่าเม่ือปี 2532 ดว้ ย “ปัจจุบันไม่ต้องหาเสียงมาก อีสานซ้ือเสียง แต่คิดว่าภาคใต้ มีการซื้อเสียงมากกว่า เหตุผลท่ีภาคใต้ซื้อเสียงมากเพราะมีอิทธิพล ปัญหาจากพรรคการเมืองในสภาพเศรษฐกิจแบบน้ี เช่น การเลือก ต้ังองค์การบริหารส่วนตำ�บลที่จังหวัดภูเก็ต ใช้เงินทั้งหมด 30 ล้าน จ่ายเงินเป็นรายหัว พูดได้ว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ตราบใดท่ีคนยังเห็น แก่ประโยชน์ส่วนตัว การเมืองไทยและสากลแตกต่างกันในเร่ืองของ กฎหมาย คณุ ภาพคน และเหน็ วา่ การศกึ ษาสามารถยกระดบั เศรษฐกจิ และสังคมได้ ในทรรศนะของตนอยากได้นักการเมืองท่ีมีคุณภาพ และให้ความสำ�คัญกับการศึกษา” ในตอนท้ายนายสมบูรณ์ได้กล่าว เพิ่มเติมว่า “การเมืองไม่มีมิตรที่แท้จริง และศัตรูที่ถาวร ส่วนสาเหตุ ท่ีตนลงมาเล่นการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ เน่ืองจากว่าพรรค ประชาธปิ ัตย์คอ่ นขา้ งจะเปิดกวา้ งและให้โอกาสกบั ทุก ๆ คน ท้งั ท่ีตน เป็นชาวไทยมสุ ลมิ และเคยลงสมคั ร ส.ส. แขง่ กบั พรรคประชาธปิ ัตย์มา 103

นกั การเมืองถิน่ จังหวัดกระบ่ี หลายสมยั ถอื วา่ ประชาธปิ ตั ยน์ น้ั มแี นวทางทจ่ี ะสรา้ งความสมานฉนั ท์ ให้กับสงั คมได้ เพราะในจังหวัดกระบี่มีท้ังชาวไทยพุทธและมุสลิมอยู่ รว่ มกนั สันตสิ ขุ ” วิธีการหาเสียง การหาเสียงโดยการอาศัยฐานเสียงจากพี่น้องมุสลิมเป็นส่วน ใหญ่และฐานเสียงท่สี ำ�คญั ของนายสมบรู ณอ์ กี กลมุ่ หนง่ึ คอื ฐานเสยี ง จากเพื่อนคร,ู ลูกศิษย์ และเพือ่ น ๆ เป็นส่วนทีเ่ สรมิ ส่งใหน้ ายสมบูรณ์ ไดร้ บั การเลอื กตัง้ อย่างไม่ยากนกั ศาสนากบั การเมือง นายสมบูรณ์ ยอมรับว่าศาสนามีบทบาทสำ�คัญต่อการเมือง ในกระบ่ี และตนเองเป็นมสุ ลิมดว้ ย จึงไดเ้ ปรียบในการรณรงค์หาเสยี ง กบั กลมุ่ น้ี สว่ นพรรคการเมอื งกม็ บี ทบาทตอ่ การเมอื งในกระบี่ โดยเฉพาะ ช่วงหลังพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถเข้ามามีบทบาทต่อการเลือกต้ัง อยา่ งมาก 6. นายไมตรี บุญยงั นายไมตรี บุญยงั ประธานคณะกรรมการการเลือกต้งั กระบ่ี กล่าวถึงการเมืองกระบี่ว่าระบบอุปถัมภ์ในกระบ่ียังมีอยู่ ดังนั้น จึง ต้องให้ความรู้พื้นฐานกับคนในสังคมไทยเริ่มจากในระดับครอบครัว พรรคประชาธิปัตย์ต้องปรับบทบาทของพรรคการเมืองให้ได้ ทำ�งาน ให้กบั ชาวบ้านเพอ่ื ผลประโยชน์ เพื่อกล่มุ เพราะการเลอื กสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรต้องมาจากพ้ืนฐานคือสมาชิกพรรคการเมือง ต้องปรับ เข้าหากัน การขายเสียงจะหมดไปถ้าหากมกี ารใหค้ วามรูแ้ กป่ ระชาชน 104

อยา่ งทวั่ ถงึ วธิ กี ารหาเสยี งควรปฏบิ ตั ภิ ายใตก้ ฎหมายไมใ่ หเ้ กดิ การเอา เปรยี บกนั ในมมุ มองของนายไมตรี ศาสนาไมม่ ผี ลในการหาเสยี งเลอื ก ตงั้ ไม่เหมือนความขัดแยง้ ในสามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ผู้มอี ทิ ธิพล ไมม่ ผี ลตอ่ การเลอื กตง้ั การเมอื งในกระบโ่ี ดยรวมเหมอื นกบั จงั หวดั อน่ื ๆ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องกลับมาอธิบาย พูดคุยให้ประชาชน ได้รับรู้ รับฟังปัญหาความต้องการของชาวบ้าน เพ่ือชี้แจงว่าตนได้มี บทบาทในการพฒั นาอะไรบ้าง โดยใหส้ อ่ื ช่วยประชาสมั พันธผ์ ลงาน ระบบพรรคการเมืองมีบทบาทสูงในการเลือกตั้ง ในระบบ เศรษฐกิจตกตำ่�เน่ืองจากอาจมีการช้ีนำ�ประชาชนได้ ดังน้ันประการ สำ�คัญที่สนบั สนุนประชาธปิ ไตยคอื 1) ใหค้ วามสำ�คัญกบั ลกู หลานจาก อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย 2) ทำ�อย่างไรให้นักการเมืองไทยอยู่ใกล้ ชิดกับประชาชน เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักมองประโยชน์ ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน 7. นายวฒั นา ธนาศักดิเ์ จริญ ดำ�รงตำ�แหน่งประธานคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดกระบี่ เมื่อ พ.ศ. 2548-2552 ซง่ึ สน้ิ สดุ วาระเม่อื เดือนเมษายน 2552 ได้ให้ สัมภาษณ์เก่ียวกับการเมืองกระบี่ในอดีตจนถึงปัจจุบันว่าการเมือง ท้องถ่ินจะแบ่งฝ่ายประชาธิปัตย์กับไม่ประชาธิปัตย์เป็นคู่แข่งทาง การเมืองที่แบ่งขั้วค่อนข้างชัดเจน โดยพรรคประชาธิปัตย์กับพรรค ไทยรักไทย ประชาชนในกระบี่มีความรู้สึกฝังใจกับพรรคประชาธิปัตย์ และยึดติดอยู่กับหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นส่วนใหญ่ พรรคการเมือง มากอ่ นส่วนตัวบุคคลให้ความส�ำ คญั กับพรรคการเมอื ง 50 เปอร์เซน็ ต์ ความสำ�คัญส่วนบุคคล 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือก็เป็นนโยบาย 105

นกั การเมอื งถิ่นจังหวัดกระบี่ พรรคการเมืองและอื่น ๆ 20 เปอร์เซ็นต์ และให้ความเห็นเพ่ิมเติม ว่าการเมืองมีอิทธิพลต่อการพัฒนาการเมืองเป็นอย่างมากไม่ว่า ดา้ นบวกหรอื ดา้ นลบ อกี ท้ังมีผลตอ่ การพัฒนาเศรษฐกิจ ดงั นั้นจงึ ควร มองนักการเมืองที่ภาพรวมของประเทศไม่ใช่เฉพาะจังหวัดกระบี่ ส่วนศาสนามีผลต่อการเมืองในจังหวัดกระบ่ีเล็กน้อย โดยแบ่งเป็น ศาสนาพทุ ธ 64 เปอร์เซน็ ต์ และศาสนาอสิ ลาม 36 เปอรเ์ ซน็ ต์ 8. นายกรี ตศิ ักด์ิ ภูเก้าลว้ น นายกรี ติศกั ด์ิ ภเู ก้าล้วน ดำ�รงต�ำ แหนง่ นายกเทศมนตรจี ังหวัด กระบ่ีมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ได้ให้ความเห็นว่าปัญหาต่าง ๆ ใน จังหวัดกระบ่ีเริ่มต้นจากเทศบาลที่ยากจนมาก ๆ ไม่สามารถใช้งบ ประมาณในการพัฒนาได้ การบริหารบ้านเมืองไม่ก้าวหน้าเพราะเกิด ความขาดแคลน ความไม่พร้อมทำ�ให้กระบ่ีไม่ก้าวหน้า หลังจากตน เข้ามาก็ได้มีความเปล่ียนแปลงเกิดขึ้นในจังหวัดกระบ่ี มีการส่งเสริม ให้ประชาชนในเมืองและชนบทมีอาชีพเสริม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และอีกหลาย ๆ ด้าน นายกีรติศักดิ์เห็นว่าการเมืองระดับชาติเป็น เร่ืองไกลตัว พรรคการเมืองมีอิทธิพลต่อการเมือง ส่วนการเมือง ท้องถ่ินมีขนาดเล็กไม่ได้ทำ�ให้การเมืองม่ันคง อยากให้การเมืองระดับ ชาติมีความเป็นประชาธิปไตย อยากให้เลือกคนที่มีความรู้ความ สามารถ ในจงั หวดั กระบมี่ กี ารซอ้ื เสยี งกนั ไมม่ ากเนอื่ งจากงบประมาณ ของกลุ่มผลประโยชน์มีน้อย ความผูกพันและผลงานเป็นตัวบ่งชี้ นักการเมือง และจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเพิ่มข้ึนมีผลต่อ การพฒั นาทางการเมอื ง จุดเปลี่ยนของการเมืองในจังหวัดกระบ่ีเกิดจากมีสมาชิกสภา 106

ผู้แทนราษฎรประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นผู้แทน และเป็นที่ยอมรับของ ประชาชน การประชาสมั พนั ธ์ การชกั ชวน การใหข้ อ้ มลู เปน็ สว่ นสำ�คญั 9. นายสมศกั ด์ิ กิตติธรกุล นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กล่าวถึงการสังกัดพรรคการเมืองว่ามีผลต่อการเลือกต้ังแต่ไม่มาก นัก ผู้นำ�มีอิทธิพลต่อการเมืองไม่มาก กลุ่มผลประโยชน์มีผลในการ ชี้นำ�การเมืองในระดับท้องถิ่นและระดับชาติพอสมควร และเห็นว่า ความสมั พนั ธส์ ว่ นตวั ในเครอื ญาตมิ กี ารเชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยในระดบั ลา่ ง แต่ในระดับสูงกว่าน้ันไม่มี จังหวัดกระบ่ีมีการซ้ือเสียงลดลงไป มีการ แข่งขันกันหลายพรรคการเมืองจึงมีความกระตือรือร้นในการทำ�งาน มากขนึ้ และโดยสว่ นตวั มคี วามประทบั ใจอดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ของกระบ่ี คอื คุณวาสนา บญุ ภพู นั ธ์ตนั ติ เพราะเปน็ ตน้ แบบใหก้ บั นักการเมอื งรุ่นใหม่ 10. นายอารี กง่ิ เล็ก นกั การเมอื งถนิ่ จงั หวดั กระบี่ ไดเ้ สนอแนวคดิ เรอ่ื งการเมอื งทอ้ ง ถน่ิ ของจงั หวดั กระบ่ี ตามทรรศนะของนายอารคี อื การใชห้ ลกั การเปน็ ผู้นำ�ท้องถิ่นและทำ�งานช่วยเหลืออยู่ในภาคประชาชน ไม่นำ�ศาสนา มาเป็นเคร่ืองมือในการทำ�งานการเมือง ปัจจัยที่มีผลต่อการได้รับการ เลอื กต้ัง ได้แก่ 1. เปน็ ผู้เสยี สละ 2. ความพร้อมทางเศรษฐกิจ 107

นกั การเมอื งถิน่ จงั หวัดกระบ่ี 11. นายเดชา สาโรจน์ ผู้ใหญ่เดชา สาโรจน์ ได้กล่าวถึงทิศทางการเมืองของคนใน จังหวัดกระบว่ี า่ ตงั้ แต่เรม่ิ เขา้ มาด�ำ รงตำ�แหน่งผูใ้ หญ่บ้าน จังหวัดกระบี่ มีการแข่งขันการสมัครเลือกต้ัง ไม่ว่าในท้องถ่ิน หรือระดับประเทศ กลุ่มประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดกระบี่ได้รับ ขา่ วสารในการเมอื ง มกี ารซอื้ เสยี ง แตก่ ารเมอื งระดบั ชาตไิ มค่ อ่ ยมกี าร ซอ้ื เสยี ง แตกตา่ งกบั ในระดบั ทอ้ งถน่ิ ทมี่ กี ารซอื้ เสยี งกนั มาก ในอนาคต อยากใหม้ ีการแกไ้ ขกฎหมาย ระเบียบ เก่ยี วกบั นกั การเมอื งทอ้ งถิ่น 4.4 เครอื ข่ายเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ของสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรในจงั หวดั กระบ่ี ความสมั พนั ธข์ องสมาชกิ สภาพผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั กระบี่ เปน็ ไปในลักษณะของการประสานการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า คือ ใครได้รับการคัดสรรให้เป็นตัวแทนของพรรคได้ก็มักจะได้รับการ เลอื กตงั้ และนกั การเมอื งทเ่ี ปน็ คแู่ ขง่ พรรคประชาธปิ ตั ยใ์ นจงั หวดั กระบี่ แทบจะไม่มีการแข่งขันเลยโดยเฉพาะหลังจากพ้นยุคของนายวาสนา บุญภูพันธต์ ันติ ทีส่ ังกัดพรรคกจิ สังคม และเปน็ ยคุ ทน่ี ายชวน หลีกภัย สังกดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ 108

บ5ทที่ สรปุ ผลการศกึ ษาวจิ ัย และขอ้ เสนอแนะ การวิจัยเร่ือง นักการเมืองถ่ินจังหวัดกระบี่ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสำ�รวจประมวลข้อมูลนักการเมืองถิ่น:จังหวัดกระบี่ เพื่อเป็นฐาน ข้อมูลในการทำ�ความเข้าใจกับพัฒนาการของการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ผู้วิจัยดำ�เนินการศึกษาโดยรวบรวมเอกสารด้าน ประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง การรวมกลุ่มของผู้สนับสนุน นักการเมอื งถ่ิน การสงั กัดพรรคการเมอื งของนกั การ เมืองถน่ิ ศกึ ษา บทบาทของผนู้ �ำ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในการขบั เคลอื่ นการเมอื งของจงั หวดั กระบี่ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจบริบทด้านการเมืองของจังหวัดกระบ่ีต้ังแต่อดีต ถึงปจั จบุ นั รวมถงึ สงั เกตพฤติกรรมทางการเมือง วฒั นธรรมการเมือง และประเด็นต่าง ๆ สรุปผลการศกึ ษามดี ังตอ่ ไปน้ี 109

นกั การเมอื งถิ่นจงั หวัดกระบ่ี 5.1 นกั การเมอื งถนิ่ : จงั หวดั กระบ่ี ผู้วิจัยรวบรวมเพื่อให้เห็นภาพกว้าง ๆ ตั้งแต่เร่ิมการเลือกตั้ง ครั้งแรก คอื วันท่ี 15 พฤศจิกายน 2476 ถึงปจั จุบนั นบั เปน็ เวลา 77 ปี ทำ�ให้เห็นการเปล่ยี นแปลงทางการเมืองท่มี กี ารพฒั นาไปในทิศทาง ทดี่ ขี นึ้ โดยมจี �ำ นวนการเลือกตั้งท้งั หมด 22 ครัง้ คร้ังท่ี 1- คร้ังที่ 12 มจี ำ�นวนสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรคราวละ 1 คน สว่ นในการเลือก ตัง้ ครงั้ ท่ี 13 - ครง้ั ที่ 21 มีจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคราวละ 2 คน และในการเลอื กต้ังครง้ั สดุ ทา้ ยคอื ครั้งที่ 22 มีจ�ำ นวนสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎร 3 คน (ดรู ายละเอยี ดในตารางท่ี 4.13) 5.2 ประวตั คิ วามเปน็ มาของนักการเมืองถ่นิ ในจงั หวัดกระบี่ ผู้วิจัยศึกษาค้นคว้าโดยวิธีการสัมภาษณ์สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประธานคณะกรรมการการเลือกต้ัง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ประธาน หอการค้า รวมถึงผู้รู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความรู้ในเรื่องการเมือง ของจงั หวัดกระบ่ี มีจำ�นวน 11 คน ดังน้ี 1. นายอาคม เอง่ ฉว้ น 2. นายสาคร เกยี่ วขอ้ ง 3. นายพิเชษฐ พนั ธ์วุ ชิ าตกิ ุล 4. นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ นั ติ 5. นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ 110

6. นายไมตรี บุญยัง 7. นายวัฒนา ธนาศกั ดิ์เจรญิ 8. นายกรี ติศกั ด์ิ ภเู ก้าล้วน 9. นายสมศกั ดิ์ กิตติธรกลุ 10. นายอารี กิง่ เล็ก 11. นายเดชา สาโรจน์ 5.3 สรุป อภิปรายผลข้อค้นพบ 5.3.1 นักการเมืองถิ่นกระบ่ีมีภูมิหลังก่อนลงสมัครรับเลือก ตั้งคือ มีอาชีพที่มั่นคง ส่วนมากเคยรับราชการแล้วค่อยเปลี่ยนเส้น ทางมาลงเลือกต้ัง มีการวางแผนก่อนการรับสมัครเลือกต้ังโดยใช้ เครือข่ายหรือฐานเสียงจากอาชีพของตนเอง ซ่ึงก็ทำ�ให้ประสบความ สำ�เรจ็ เพราะอาชพี ทีเ่ คยทำ�มาในอดตี เป็นตวั แปรที่สำ�คญั มีเพอื่ นร่วม อาชีพ มีผู้บังคับบัญชา มีผู้ใต้บังคับบัญชา และมีเครือญาติที่มีส่วน สนับสนุนในการหาเสียง ส่งผลให้การหาเสียงมีความง่ายข้ึน ดังน้ัน จะเห็นได้ว่าพ้ืนฐานของนักการเมืองถ่ินจังหวัดกระบ่ีที่สำ�คัญต่อการ เลือกต้งั คือ ภมู หิ ลังของการประกอบอาชพี การมเี ครือข่ายจากอาชพี การวางแผนทีด่ ี การมีเครือญาติทไี่ วว้ างใจและมีศรทั ธาในผ้สู มัครหรือ นักการเมืองถ่ินท่ีเป็นคนดี มีความตั้งใจช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้อยโอกาส การสรา้ งงาน การมภี าวะผนู้ �ำ ท�ำ ใหม้ โี อกาสสงู ทจ่ี ะไดร้ บั ความไวว้ างใจ และเขา้ มา ท�ำ หนา้ ทส่ี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในปจั จบุ นั สอดคลอ้ งกบั ท่ี โกวทิ วงศส์ รุ วฒั น์ (2548) ไดก้ ลา่ วไวว้ า่ กลมุ่ ผลประโยชนเ์ มอ่ื รวมตวั กนั 111

นกั การเมืองถิน่ จังหวดั กระบ่ี มีการจัดองค์การท่ีดีมีประสิทธิภาพแล้ว ก็จะสามารถสร้างพลังและ เปล่ียนแปลงกลายเป็นกลุ่มท่ีมีอิทธิพลและอำ�นาจ ซ่ึงแตกต่างกับที่ ดลฤดี วรรณสุทธะ ( 2544 : บทคัดย่อ) ไดศ้ ึกษาพฤตกิ รรมการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร : ศกึ ษากรณกี ารเลอื กตง้ั ทว่ั ไปเมอื่ 6 มกราคม 2544 ในพืน้ ท่ีอำ�เภอกดุ ชมุ จงั หวัดยโสธร พบว่า“ระบบอปุ ถมั ภ”์ ไดแ้ ก่ การซื้อเสียง การให้ผลประโยชน์ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการ ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชน ส่วนกลุ่มเครือญาติไม่มีความ สมั พันธ์กับพฤตกิ รรมคะแนนเสยี งเลือกต้ัง ของประชาชน 5.3.2 กลุ่มผลักดันหรือกลุ่มผลประโยชน์ที่เก่ียวข้องกับนัก การเมอื งถนิ่ กระบี่ ไมไ่ ดจ้ ดั ตงั้ เปน็ กลมุ่ อยา่ งชดั เจน แตเ่ ปน็ กลมุ่ ผลกั ดนั หรอื กลมุ่ ผลประโยชนท์ แ่ี ฝงอยกู่ บั กลมุ่ แมบ่ า้ น สถานศกึ ษาและผสู้ งู อายุ ทงั้ น้ี เนอ่ื งจากการเมอื งถน่ิ กระบไ่ี มค่ อ่ ยมกี ารแขง่ ขนั กนั สงู มากเหมอื น ในจงั หวดั อนื่ ๆ ของภาคใตเ้ พราะคนกระบศี่ รทั ธานายชวน หลกี ภยั จงึ ท�ำ ใหพ้ รรคประชาธปิ ัตย์ไดเ้ ปรยี บกวา่ พรรคการเมืองอืน่ 5.3.3 กลยทุ ธใ์ นการหาเสยี งของนกั การเมอื งถน่ิ กระบี่ จากการ ศกึ ษาผวู้ จิ ยั พบว่า 1) กลยทุ ธใ์ นการหาเสยี ง คอื การทนี่ กั การเมอื งลงพนื้ ทห่ี าเสยี ง ด้วยตนเอง พบปะชาวบา้ นและแกนน�ำ อย่างสม่ำ�เสมอ นักการเมอื ง ถ่ินกระบ่ีใช้กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์หลักในการหาเสียงเพราะเอาชนะใจ ชาวบ้าน ท�ำ ให้ชาวบา้ นมคี วามผูกพนั กบั นกั การเมอื งและมคี วามภาค ภูมิใจ เม่ือได้พบกับผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักการเมือง คนใดเข้าถึงชาวบ้านก่อนโอกาสท่ีจะได้รับคะแนนเสียงมีสูงมาก โดย เฉพาะผ้มู ีคุณสมบตั ิโดดเด่น เช่น มอี ธั ยาศยั ดี ไมถ่ อื ตวั จะได้เปรียบ เพราะได้รับความนับถือจากชาวบ้านมากย่ิงข้ึน ผู้สมัครบางคนถึงกับ 112

ลงพื้นท่ีหาเสียงโดยการกินอยู่กับชาวบ้านเพื่อเรียกคะแนนเสียงต้ังแต่ กอ่ นวนั เลือกตงั้ เพื่อท�ำ ให้ชาวบา้ นยอมรบั แตน่ อ้ ยคนทีจ่ ะใชก้ ลยุทธ์ น้ีไดส้ �ำ เรจ็ เพราะชาวบา้ นในจังหวัดกระบ่มี คี วามผกู พนั และยดึ ติดต่อ พรรคการเมอื งทต่ี นชอบอยใู่ นระดบั สงู มาก ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั ที่ ภญิ โญ ตนั พิทยคุปต์ ( 2549 : บทคัดย่อ ) ศกึ ษานักการเมืองถนิ่ จงั หวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพ่ือรู้จักเพื่อทำ�ความรู้จักและทำ�ความเข้าใจบทบาท พฤติกรรมของนักการเมืองจังหวัดสงขลา ต้ังแต่อดีตถึงปัจจุบัน พบ ว่า กลวิธีสำ�คัญในการหาเสียงในการรักษาฐานเสียงคือ การลงพ้ืนท่ี พบปะประชาชน การเขา้ รว่ มกิจกรรมทางสังคมในชมุ ชน การปราศรัย และการให้ความอปุ ถัมภ์ช่วยเหลือในรปู แบบต่างๆ 2) กลยุทธ์การหาเสียงกับสถานศึกษาเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งท่ีผู้ สมคั รรบั เลอื กตงั้ จงั หวดั กระบใี่ ชก้ บั การเลอื กตงั้ ในแตล่ ะครง้ั โดยเฉพาะ กับสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงเพราะนักการเมืองถิ่นคนไหนสำ�เร็จการ ศกึ ษามาจากสถานศกึ ษาทมี่ ชี อื่ เสยี งจะท�ำ ใหม้ เี ครอื ขา่ ย มกี ารชว่ ยเหลอื กัน เพือ่ สร้างชื่อเสียงใหก้ บั สถานศกึ ษานั้น ๆ และเพ่ือน ๆ พ่ี น้องใน สถานศกึ ษากม็ คี วามภาคภมู ใิ จในผสู้ มคั รทไี่ ดร้ บั การเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร และยงั ท�ำ ใหเ้ กดิ การยอมรับในสถานศึกษา เพราะ นักการเมืองแต่ละคนท่ีลงรับสมัครเลือกต้ังคุณสมบัติหน่ึงท่ีได้เปรียบคู่ แขง่ ขนั ในการพจิ ารณาเลอื กตง้ั จากชาวบา้ นคอื สถานศกึ ษา โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ สถานศกึ ษาที่มีชื่อเสยี ง 3) กลยุทธ์การหาเสียงจากกลุ่มสตรี นักการเมืองกระบี่ใช้ กลยุทธ์การหาเสียงจากกลุ่มสตรี เพราะเห็นว่ากลุ่มสตรีมีบทบาท สำ�คัญและการที่นักการเมืองได้รับฐานเสียงจากกลุ่มสตรีเพราะโดย สว่ นใหญ่สตรีพูดง่าย โอกาสได้คะแนนสูง ท�ำ ให้นกั การเมอื งหันมาให้ 113

นกั การเมืองถิน่ จงั หวัดกระบ่ี ความส�ำ คญั กบั กลมุ่ สตรมี ากยงิ่ ขนึ้ ใชว้ ธิ กี ารใหก้ ารดแู ลและหากจิ กรรม เพือ่ สง่ เสรมิ อาชพี สร้างเครือข่ายใหก้ ับตนเอง ผลงานโดดเดน่ ท่ีเคยได้ รับการยอมรับและเป็นท่ีประทับใจของกลุ่มน้ีก็คือ ในหนึ่งปีมีโอกาส ไปดูงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศหนึ่งครั้ง กระบวนการนี้มีการใช้ กลยุทธท์ ่แี ยบยล คอื ในระหว่างทีน่ ำ�กลมุ่ สตรไี ปดงู านกจ็ ะให้ทีมงาน ของนกั การเมอื งตดิ ตามไปดว้ ย เพอ่ื ชแี้ จงวตั ถปุ ระสงคข์ องการไปศกึ ษา ดงู าน และสดุ ทา้ ยกห็ าเสยี งใหต้ นเองโดยการบอกใหก้ ลมุ่ ผดู้ งู านไดร้ บั ทราบว่าการศึกษาดูงานทีเ่ กิดข้นึ มาในคร้งั นี้เปน็ นโยบายของตนซึ่งนบั วา่ เปน็ กลยุทธ์ทแี่ ยบยลของนกั การเมืองถิน่ 4) กลยุทธก์ ารหาเสยี งกับกลุม่ ผสู้ งู อายุ เปน็ อกี กลยทุ ธ์หนงึ่ ท่ี สำ�คญั ของนักการเมอื งถ่นิ กระบ่ี เปน็ การหาเสียงจากผู้สูงอายุ เพราะ รัฐบาลมีนโยบายมอบเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ (เบ้ียยังชีพคนชรา) ดัง นนั้ เมื่อมงี บประมาณจากรฐั บาลถึงหน่วยงานที่เกยี่ วขอ้ ง นักการเมอื ง ถ่ินกระบ่ีก็จะประสานงานเพื่อให้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดสถาน ท่ี อำ�นวยความสะดวก นัดแนะทมี งาน พรอ้ มกำ�หนดการเพือ่ จะรว่ ม ดำ�เนินงานในพิธีการมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ และถือโอกาสนี้ เลีย้ งน�ำ้ ชา (กาแฟ) กบั ผู้สูงอายุ สร้างความใกลช้ ิดให้ผูส้ ูงอายุไว้วางใจ เพอ่ื สรา้ งคะแนนนยิ มใหก้ บั ตนเองและทมี งานนกั การเมอื งทรี่ ว่ มพรรค เดยี วกนั วธิ กี ารนที้ �ำ ใหน้ กั การเมอื งถนิ่ ไดร้ บั คะแนนนยิ มมากขนึ้ เพราะ ผู้สูงอายุที่มารับเงินช่วยเหลือกลับไปถึงบ้านก็บอกกล่าวให้ลูกหลาน ได้รับรู้รับทราบและบอกต่อถึงความประทับใจที่นักการเมืองถิ่นให้การ ตอ้ นรบั เป็นอยา่ งดี ในบางรายอาจเขา้ ใจผิดไดว้ ่าการให้การช่วยเหลือ นนั้ มาจากผลู้ งสมคั รรบั เลอื กตง้ั คนนน้ั ไดม้ สี ว่ นสนบั สนนุ ใหต้ นไดร้ บั งบ ประมาณหรือเบีย้ ยงั ชีพคนชรา 114

5) กลยุทธ์การหาเสียงโดยการใช้ศาสนา การใช้ศาสนากับ การเลือกตัง้ มใี นนกั การเมืองกระบีน่ ้อย แต่ที่เหน็ ไดช้ ัดคือ การอ้างองิ การเมอื งกับศาสนาอสิ ลาม ซ่งึ ในบางพื้นทีข่ องกระบ่มี ีผู้นบั ถือศาสนา อิสลามจำ�นวนมาก ในอดีตมีการเลือกตั้งโดยนักการเมืองถ่ินที่นับถือ ศาสนาอสิ ลาม ไดร้ บั การเลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร คอื นาย สมบูรณ์ สิทธิมนต์ แต่ในปัจจุบันไม่มีนักการเมืองถ่ินที่นับถือศาสนา อิสลามและได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเลย แม้กระทั่งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรคนลา่ สุดของกระบ่ี นายสาคร เก่ยี วขอ้ ง ก็นับถือศาสนาพทุ ธ จากการท่ี ผู้วิจัยไดศ้ ึกษาโดยการสมั ภาษณแ์ ละมีการสังเกตพฤติกรรม ทางการเมอื ง วเิ คราะหไ์ ดว้ า่ โดยภาพรวมแลว้ ชาวบา้ นในจงั หวดั กระบ่ี ทน่ี บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม เลอื กนกั การเมอื งถนิ่ ของตนเอง โดยพจิ ารณา คดั เลอื กจากคณุ สมบตั อิ นื่ โดยไมค่ �ำ นงึ ถงึ ศาสนา ฉะนนั้ ในการทน่ี กั การ เมืองถ่ินท่ีนับถือศาสนาอิสลาม พยายามใช้เครือข่ายความเป็นมุสลิม เพอ่ื เปน็ จดุ เดน่ หรอื ขอ้ ดใี นการหาเสยี งนนั้ กใ็ ชไ้ ดเ้ ฉพาะในชว่ งเวลาหนง่ึ เท่าน้ันเอง เพราะจากสถิติการเลือกต้ังในกระบ่ีท่ีผ่านมาในอดีตจนถึง ปัจจุบันไม่ปรากฏนักการเมืองที่ใช้กลยุทธ์การหาเสียงโดยใช้กลยุทธ์ ทางศาสนามาใช้ไดส้ �ำ เร็จ 6) การใช้กลยทุ ธ์ในการหาเสยี งโดยใช้พรรคการเมือง บทบาท ของพรรคการเมอื ง อดตี เริม่ สมัยแรกนนั้ นกั การเมืองถ่นิ ไม่ต้องสงั กดั พรรคการเมือง พรรคการเมืองแรกเข้ามามีบทบาทในจังหวัดกระบ่ี คือ พรรคกจิ สงั คม ปี 2526 ประชาชนในกระบเี่ ริ่มรูจ้ ักพรรคกจิ สังคม และได้รบั ความไว้วางใจจากประชาชนในจังหวัดกระบ่สี งู มาก ปจั จุบนั บทบาทของพรรคการเมืองก็ยังมีอยู่ แต่ได้เปล่ียนจากพรรคกิจสังคม มาเปน็ พรรคประชาธปิ ตั ยแ์ ทน และครองใจคนกระบต่ี ลอดมา ถงึ ขนาด 115

นกั การเมืองถ่ินจงั หวัดกระบ่ี นักการเมืองบางคนยอมรับว่าหากไม่ได้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ ได้รับการเลือกต้ัง เพราะชาวบ้านยอมรับพรรคการเมืองนี้มากและมี ผู้นำ�ท่ีได้รับการยอมรับจากคนใต้ ผู้นำ�ท่ีมีบทบาทสำ�คัญที่ได้รับการ ยอมรับนับถือท่ีเกื้อหนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ครองใจคนกระบี่ได้คือ นายชวน หลีกภัย ประธานท่ีปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายก รัฐมนตรี 2 สมยั และอดีตหวั หน้าพรรคประชาธปิ ัตยแ์ ละสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรตลอดกาลของจงั หวดั ตรงั มาเปน็ คะแนนเสยี งส�ำ คญั ใหก้ บั พรรคประชาธปิ ตั ย์ จงึ นับได้วา่ นายชวน หลีกภยั เปน็ ความภาคภูมิใจ ของคนกระบแ่ี ละเปน็ ความภาคภมู ใิ จของคนกระบแี่ ละสง่ ผลใหน้ กั การ เมืองถิ่นจังหวัดกระบี่ชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดาย ซ่ึงสอดคล้องกับ ผลการศึกษาของภญิ โญ ตนั พทิ ยคุปต์ (2549) ท่พี บวา่ นกั การเมือง ท่ีสำ�คัญเสมือนผู้วางฐานรากแห่งการศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ใน จติ ส�ำ นึกของคนสงขลา คือ นายคล้าย ละอองมณี กลมุ่ ผลประโยชน์ ทส่ี �ำ คญั ตอ่ การเมอื งสงขลาคอื พรรคประชาธปิ ตั ย์ บคุ คลทม่ี บี ทบาทสงู ย่ิงคือ นายชวน หลกี ภัย บทบาทของพรรคการเมืองมีอิทธิพลต่อคนกระบี่ตั้งแต่อดีต จนถงึ ปจั จบุ นั ผวู้ จิ ยั ตงั้ ขอ้ สงั เกตวา่ คนกระบม่ี กี ารเลอื กตงั้ นกั การเมอื ง ถ่ินโดยคำ�นงึ ถงึ ความเปน็ เอกภาพของพรรคการเมืองเปน็ หลัก เพราะ ในอดีตพรรคกจิ สังคมไดเ้ คยมบี ทบาทมากในการบรหิ ารประเทศ และ เปน็ พรรคการเมอื งทมี่ บี ทบาทตอ่ คนกระบเ่ี ปน็ อยา่ งมาก ซงึ่ ในขณะนนั้ พรรคประชาธปิ ตั ยไ์ มม่ บี ทบาทเลย พรรคประชาธปิ ตั ยม์ ามบี ทบาทเมอ่ื พรรคกจิ สงั คมเรม่ิ ขาดความเปน็ เอกภาพและพรรคประชาธปิ ตั ยก์ เ็ ขา้ มา มีบทบาทแทนจนถึงปัจจุบัน 116

5.4 ขอ้ เสนอแนะจากการวิจัย 1) ควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการ เลอื กตัง้ เพอ่ื ความโปรง่ ใสในการเลือกตงั้ 2) ควรศกึ ษากลยทุ ธก์ ารปราศรยั หาเสยี งของพรรคการเมอื งใน ประเดน็ ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหเ้ หน็ มมุ มองทเ่ี หมอื นหรอื แตกตา่ งกนั ในแงก่ ลยทุ ธ์ การปราศรยั หาเสยี งเลอื กตง้ั ในแตล่ ะพรรค และควรศกึ ษาปจั จยั อนื่ ทม่ี ี ผลตอ่ การเลอื กตงั้ ดว้ ย เชน่ ภาพลกั ษณข์ องพรรคการเมอื ง การด�ำ เนนิ งานของเครือขา่ ยทางการเมือง 3) ควรมกี ารศึกษาวจิ ัยในประเด็นตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับความ ผูกพันต่อพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็น ศึกษาวิจัยส่วนบุคคลหรือในระดับสถาบันการศึกษาเพ่ือหาแนวทาง ที่เหมาะสมในการสร้างความผูกพันท่ีเป็นรูปธรรมและเป็นการสร้าง พรรคการเมืองท่ีเป็นตัวแทนของประชาชน นอกจากนั้นยังเป็นการ กำ�หนดรูปแบบของกิจกรรมที่พรรคการเมืองจะได้รับเงินอุดหนุนจาก กองทุนพัฒนาพรรคการเมืองในการทำ�กิจกรรมกับประชาชนในพ้ืนที่ อกี ดว้ ย 117

บรรณานกุ รมนกั การเมืองถิ่นจงั หวัดกระบี่ กนก วงศ์ตระหง่าน.(2536).พรรคการเมอื ง.กรุงเทพฯ:สำ�นกั พมิ พ์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. โกวทิ วงศ์สรุ วฒั น์.(2548).บ้ีโลก.กรงุ เทพฯ:สำ�นักพมิ พ์ดีบคุ ส์เซนเตอร์. จิรโชค วีรสัย และคณะ.(2542).รฐั ศาสตรท์ วั่ ไป.กรุงเทพฯ:ส�ำ นกั พิมพ์ มหาวทิ ยาลยั รามคำ�แหง. มูฆอรี ย่ีหมะ.(2549).นักการเมอื งถนิ่ จังหวดั ปัตตาน.ี สถาบันพระ ปกเกลา้ . วทิ ยา นภาศริ ิกุลกจิ และสรุ พล ราชภัณฑรักษ.์ (2544).พรรคการเมอื ง และกลมุ่ ผลประโยชน.์ กรงุ เทพฯ:สำ�นกั พมิ พม์ หาวิทยาลยั รามค�ำ แหง. นิยม รฐั อมฤต.(2540).การเมืองไทยยุคปัจจบุ นั :ปัญหาการ พฒั นาพรรคการเมืองในประเทศไทย.กรงุ เทพฯ:โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลัยรามค�ำ แหง. ภิญโญ ตนั พิทยคุปต.์ (2549).นักการเมืองถ่นิ จังหวัดสงขลา.สถาบัน พระปกเกล้า. พรชยั เทพปัญญา.(2549).ส�ำ รวจเพ่ือประมวลข้อมลู นักการเมอื งถ่ิน จงั หวัดสมทุ รปราการ.กรงุ เทพฯ:โรงพมิ พศ์ าลาแดง. พชิ ญ์ สมพอง.(2551).นักการเมอื งถ่ินจังหวดั ยโสธร.สถาบันพระ ปกเกลา้ . ดลฤด ี วรรณสทุ ธะ.(2544).พฤตกิ รรมการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทน ราษฎร:ศกึ ษากรณกี ารเลอื กต้ังทัว่ ไปเมือ่ วันท่ี 6 มกราคม พ.ศ. 118

2544 ในพ้นื ท่ีอำ�เภอกุดชมุ จงั หวัดยโสธร.วทิ ยานพิ นธศ์ ิลป ศาสตรมหาบณั ฑิต.รัฐศาสตร์.มหาวทิ ยาลัยรามคำ�แหง. ดารารัตน ์ เมตตาริกานนท.์ (2535).รายงานการวจิ ยั เรื่องผูน้ ำ�ท้องถนิ่ อีสานกบั เครือข่ายความสัมพันธ:์ กรณศี กึ ษาสมาชกิ สภา เทศบาลขอนแก่น.สำ�นักวทิ ยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ทกั ษิณ เฉลิมเตยี รณ.(2526).การเมืองระบบพ่อขนุ อปุ ถัมภแ์ บบ เผดจ็ การ.กรงุ เทพฯ:ส�ำ นกั พิมพม์ หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ศรุดา สมพอง.(2550).นกั การเมอื งถ่ินจงั หวดั ฉะเชงิ เทรา.สถาบนั พระ ปกเกลา้ . สมบตั ิ ธำ�รงธัญวงศ์.(2548).การเมอื ง:แนวความคดิ และการพัฒนา. (พมิ พค์ รัง้ ท่ี 15).กรงุ เทพฯ:โครงการเอกสารและตำ�รา คณะ รฐั ประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑติ พัฒนบรหิ ารศาสตร์. สานติ ย ์ เพชรกาษ.(2549).นกั การเมอื งถ่ินจังหวดั พัทลงุ .สถาบันพระ ปกเกลา้ . สิทธิพนั ธ์ พุทธหนุ .(2544).ทฤษฎีพัฒนาการเมือง.กรงุ เทพฯ:สำ�นกั พิมพ์ มหาวทิ ยาลยั รามค�ำ แหง. สุวชิ า วรวิเชียรวงษ์ และณฐั พงศ ์ บญุ เหลือ.(2537).รฐั ศาสตร์เบ้อื งต้น การเมืองประชารัฐและประชากิจ.บรษิ ทั ออฟเซท็ จำ�กัด. อมร รักษาสัตย์ และคณะ.(2539).ประชาธิปไตย อุดมการณ์ หลกั การ และแบบอยา่ งการปกครองหลายประเทศ.ส�ำ นกั พมิ พ์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. อเนก เหลา่ ธรรมทัศน์.(2543).สองนักคราประชาธปิ ไตย:แนวทางปฏิรูป การเมอื ง เศรษฐกิจเพ่อื ประชาธปิ ไตย.กรงุ เทพฯ:สำ�นักพิมพว์ ิ ภาษา. สืบค้นเมอื่ วันที ่ 20 พฤษภาคม 2552, จาก http://www.bloggang. 119

นกั การเมืองถิ่นจังหวัดกระบี่ com/viewdiary.php?id=anuchart & month=07-2006. http://www.province.prd.go.th/krabi/provincekrabi/ hiskrabi.html. http://www.krabiinformation cam/home/krabi_Geninfo. html. http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q3/ article2005july10p1.htm. http://www.paisalvision.com/ content/2008-12-08-03-15-07/3583-2009-12-03-04- 58-44.html. http://th.wikipedia.org/wiki. 120

ภาคผนวก ค�ำ ขวัญของจงั หวัดกระบ่ี “กระบเี่ มอื งน่าอยู่ ผูค้ นน่ารัก” ตราประจ�ำ และความหมายจังหวดั กระบี่ รูปกระบี่ไขว้ เบ้ืองหลังมีภเู ขาและทะเล กระบีไ่ ขว ้   หมายถึง ดาบโบราณซ่งึ ครัง้ หนงึ่ มผี ู้คน้ พบในทอ้ งท่ีจังหวัด ภูเขา   คือ เทอื กเขาพนมเบญจาทสี่ ูงสุดในแถบนัน้ มีเมฆ ปกคลุมตลอดเวลา และกน้ั เขตแดนกบั จังหวดั อ่นื ทะเล   คือ ชายอาณาเขตอีกด้านหนึง่ ซง่ึ ตดิ ต่อกับมหาสมุทร อินเดยี จังหวดั กระบ่ี ใชอ้ ักษรย่อวา่ “กบ” 121

นักการเมอื งถ่นิ จังหวดั กระบี่ ธงประจ�ำ จังหวัดกระบ่ี ต้นไมแ้ ละดอกไม้ ประจ�ำ จังหวดั “ทุง้ ฟ้า 122

เพลงมารช์ เมอื งกระบ่ี ผแู้ ตง่ และเรยี บเรยี ง : สมาน กาญจนผลนิ ผู้แต่งเนือ้ ร้อง : ประสทิ ธ์ิ กติ ตสิ ทิ โธ อันกระบี่สมญาศาสตราวุธ ช่อื จงั หวดั แรกสุดของเมอื งไทย ตั้งอย่ใู นเขตประเทศถนิ่ ใต้ ทะเลกวา้ งใหญเ่ ขาไพรอุดม รวมอ�ำ เภอเมือง อา่ วลกึ และเกาะลันตา อีกคลองทอ่ ม ปลายพระยาเขาพนม ทุกคนภูมใิ จ รักใครเ่ กลียวกลม ความคดิ แหลมคมเชน่ กระบ่ี สมญา สสุ านหอยเจด็ สบิ ห้าล้านปี น�ำ้ ตกโบกขรณี หาดนพรัตน์งามตา สวนปาลม์ ลิกไนต์ แร่ ยางพารา ทรพั ย์สินนานา กระบ่ีกม็ ีมากมาย ชาวเมอื งกระบี่น้นั มคี ณุ ธรรม สัจจะน้อมน�ำ ประจ�ำ จิตใจ รกั เมอื งกระบี่ รักศักดิ์ศรีของไทย ประสทิ ธ์ใิ หก้ ระบเ่ี มืองรงุ่ เรืองเอย 123

การนกั การเมอื งถ่ินจงั หวัดกระบี่ สัมภาษณ์ นายอาคม เอ่งฉว้ น.(28 กมุ ภาพนั ธ์ 2552).สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จังหวดั กระบ.ี่ สัมภาษณ.์ นายสาคร เกยี่ วขอ้ ง. (25 กมุ ภาพนั ธ์ 2552).สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จังหวัดกระบ่ี.สมั ภาษณ์. นายพิเชษฐ พันธ์ุวิชาติกุล.(28 กุมภาพันธ์ 2552).สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร จังหวัดกระบี่.สัมภาษณ์. นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ นั ต.ิ (11 ตลุ าคม 2552).อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎร จงั หวดั กระบี่.สัมภาษณ์. นายสมบรู ณ ์ สทิ ธมิ นต.์ (1 มนี าคม 2552).อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จังหวัดกระบ่ี.สัมภาษณ์. นายวัฒนา ธนาศักด์ิเจริญ.(28 กุมภาพันธ์ 2552).ประธานหอการค้า จังหวดั กระบี่.สัมภาษณ.์ นายกีรติศักด์ิ ภูเก้าล้วน.(1 มีนาคม 2552).นายกเทศมนตรีจังหวัด กระบ.ี่ สมั ภาษณ์. นายสมศักด์ิ กิตติธรกุลเจริญ.(28 กุมภาพันธ์ 2552).นายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด.สมั ภาษณ์. นายอารี กิ่งเล็ก.(21 กรกฎาคม 2552).นกั การเมอื งถน่ิ .สัมภาษณ.์ นายเดชา สาโรจน์ .(21 กรกฎาคม 2552).นกั การเมืองถิ่น.สมั ภาษณ์. นายไมตรี บุญยงั .(21 กรกฎาคม 2552).ประธานคณะกรรมการการ เลอื กต้งั จังหวัดกระบี่.สมั ภาษณ์. นายราเมศ รตั นะเชวง.(20 มิถนุ ายน 2552).ผชู้ ว่ ยสมาชิกสภาผูแ้ ทน ราษฎร (นายสาคร เกีย่ วขอ้ ง).สมั ภาษณ.์ 124

ภาพนกั การเมอื งถน่ิ จงั หวดั กระบ่ี (บางสว่ น) นายอาคม เอ่งฉ้วน นายพิเชษฐ์ พนั ธุ์วิชาตกิ ุล นายสาคร เก่ยี วข้อง นายสมบรู ณ์ สิทธิมนต์ 125

นกั การเมืองถน่ิ จงั หวดั กระบ่ี อ.กรวทิ ย์ เกาะกลางถ่ายภาพกบั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร (นายสาคร เก่ยี วข้อง) ผูว้ ิจัยสมั ภาษณส์ มาชกิ วุฒสิ ภา อ.กรวิทย์ เกาะกลางถ่ายภาพกบั และนกั การเมอื งถนิ่ กระบ่ี นายวาสนา บญุ ภูพนั ธ์ตนั ติ อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 126 จงั หวดั กระบ่ี

ประวัตินักวิจัย นายกรวทิ ย์ เกาะกลาง ต�ำ แหนง่ ปจั จบุ นั อาจารยป์ ระจำ� มหาวิทยาลยั ราชภัฎวไลยอลงกรณ์ (ศูนยบ์ รกิ ารวิชาการ จ.ตรงั ) =อำ�เภอเมือง จังหวัดตรัง การศกึ ษา ปรญิ ญาเอก (candidate) สาขารฐั ศาสตร์ University Utara Malaysia. ปรญิ ญาโท ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ (รัฐศาสตร)์ มหาวิทยาลยั รามค�ำ แหง ปริญญาตรี ศลิ ปศาสตรบณั ฑิต (รัฐศาสตร)์ มหาวทิ ยาลัยรามค�ำ แหง ประสบการณใ์ นการทำ�งาน - ผู้ดำ�เนนิ การให้ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเทีย่ ว วฒุ สิ ภา - นกั วิชาการประจ�ำ คณะกรรมาธิการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบสภาผแู้ ทนราษฏร - คณะทำ�งานตรวจสอบการป้องกันทุจรติ และประพฤติมชิ อบ สภาผูแ้ ทน ราษฏร - ผชู้ ่วยคณบดี คณะรฐั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั เวสเทิรน์ - รองอ�ำ นวยการส�ำ นกั กจิ การนสิ ติ มหาวิทยาลัยเวสเทริ น์ - หวั หนา้ ภาควชิ าปกครอง มหาวทิ ยาลยั เวสเทิร์น - หวั หนา้ สาขาการปกครองท้องถ่นิ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ - อาจารยป์ ระจ�ำ สาขารฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรธี รรมราช ผลงานวจิ ยั - ประเมินการใหบ้ รกิ ารประชาชนขององคก์ ารบริหารสว่ นต�ำ บลโพธ์เิ สดจ็ 2550 - ความสมั พนั ธร์ ะหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย : วิเคราะหป์ จั จยั เสริมสร้าง ความสัมพนั ธ์อันดี 2540-2545 - ส�ำ รวจเพ่อื ประมวลขอ้ มูลนกั การเมืองถ่นิ จงั หวัดกระบ่ี.2551 127





นักการเมอื งถิน่ จังหวัดกระบี่ โดย กรวิทย์ เกาะกลาง ขอ้ มลู ทางบรรณานกุ รมของหอสมดุ แห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data กรวิทย์ เกาะกลาง นกั การเมอื งถน่ิ จงั หวดั กระบ.่ี -- กรงุ เทพฯ : สำ� นกั วจิ ยั และพฒั นา สถาบนั พระปกเกลา้ , 2555. 256 หน้า. 1. นักการเมอื ง --กระบ.่ี การเมอื งการปกครอง I. ช่อื เรือ่ ง. 923.2593 ISBN 978-974-449-663-8 รหัสสง่ิ พมิ พ์ของสถาบนั พระปกเกล้า สวพ.55-51-500.0 เลขมาตรฐานสากลประจำ� หนังสือ 978-974-449-663-8 ราคา 160 บาท พมิ พ์ครั้งท่1ี กันยายน 2555 จำ� นวนพมิ พ์ 500 เลม่ ลขิ สิทธ์ิ สถาบันพระปกเกล้า ทีป่ รึกษา ศาสตราจารย์ นรนิติ เศรษฐบตุ ร รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต รองศาสตราจารย์ ดร. ปรีชา หงษ์ไกรเลิศ รองศาสตราจารย์ พรชัย เทพปญั ญา ดร. ถวิลวดี บรุ ีกุล ผู้แต่ง กรวทิ ย์ เกาะกลาง ผปู้ ระสานงาน ณัฏฐกาญจน์ ศกุ ลรัตนเมธี จดั พมิ พโ์ ดย สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลมิ พระเกยี รติ 80 พรรษาฯ อาคารบี ชน้ั 5 (โซนทิศใต)้ เลขท่ี 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวฒั นะ แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-141-9607 โทรสาร 02-143-8177 http://www.kpi.ac.th พมิ พ์ท่ี บริษทั ไบรท์ แอนด์ พริน้ จ�ำกดั เลขท่ี 12 ซ.ลาดพรา้ ววงั หนิ 43 ถ.ลาดพร้าว แขวง/เขตลาดพรา้ ว กรุงเทพฯ 10230 โทรศพั ท์ 0-2539-5008, 0-2539-5021 โทรสาร 0-2931-7020

นจกั ังกหาวรดัเมกอื รงะถบิ่น่ี กรวทิ ย์ เกาะกลาง สถาบันพระปกเกลา้ อภินันทนาการ

บทคัดย่อ การวิจัยเรื่อง นักการเมืองถิ่นจังหวัดกระบ่ี มีวัตถุประสงค์เพ่ือ สำ�รวจประมวลข้อมูลนักการเมืองถ่ิน : จังหวัดกระบ่ี จากการ ศึกษาพบวา่ 1. นักการเมืองถ่ินกระบ่ีมีภูมิหลังก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง คือ มีอาชีพท่ีม่ันคง ส่วนมากเคยรับราชการแล้วค่อยเปล่ียนเส้นทาง มาลงเลือกตั้ง มีการวางแผนก่อนการรับสมัครเลือกต้ังโดยใช้ เครอื ขา่ ยหรอื ฐานเสยี งจากอาชพี ของตนเอง ซง่ึ ท�ำ ใหป้ ระสบความส�ำ เรจ็ เพราะอาชีพทเ่ี คยทำ�มาในอดีตเปน็ ตัวแปรที่ส�ำ คญั มีเพอ่ื นรว่ มอาชีพ มีผบู้ ังคับบัญชา มผี ู้ใตบ้ ังคบั บัญชา และมีเครอื ญาติทมี่ ีสว่ นสนับสนนุ ในการหาเสียง สง่ ผลให้การหาเสยี งสะดวกขึน้ 2. กลยุทธ์ในการหาเสียงของนักการเมืองถ่ินกระบี่ จากการ ศกึ ษาพบวา่ 1) กลยทุ ธ์ในการหาเสียงพบปะชาวบ้านดว้ ยตนเอง การท่ี นักการเมืองถ่ิน ลงพ้ืนท่ีหาเสียงด้วยตนเอง พบปะชาวบ้านและ IV

แกนน�ำ อยา่ งสมำ่�เสมอ นกั การเมืองถ่ินกระบ่ี ใช้กลยุทธน์ เ้ี ป็นกลยทุ ธ์ หลักในการหาเสียงเพราะเอาชนะใจชาวบ้าน ทำ�ให้ชาวบ้านมีความ ผกู พนั กบั นกั การเมอื งถน่ิ และมคี วามภาคภมู ใิ จทน่ี กั การเมอื งถนิ่ ไปพบ ถึงบา้ น นกั การเมอื งคนใดเข้าถงึ ชาวบา้ นกอ่ นโอกาสทจ่ี ะได้รบั คะแนน เสียงมีสูงมาก โดยเฉพาะผู้มีคุณสมบัติโดดเด่น เช่น มีอัธยาศัยดี ไมถ่ ือตวั จะได้เปรยี บ เพราะไดร้ บั ความนบั ถอื จากชาวบ้าน มากยง่ิ ข้ึน นกั การเมอื งถนิ่ บางคนถงึ กบั ลงพน้ื ทห่ี าเสยี งโดยการกนิ อยกู่ บั ชาวบา้ น เพอ่ื เรยี กคะแนนเสยี งตง้ั แตก่ อ่ นเรมิ่ เลอื กตง้ั เพอื่ ท�ำ ใหช้ าวบา้ นยอมรบั 2) กลยุทธ์การหาเสยี งกบั สถานศึกษา เปน็ อกี กลยทุ ธ์หนึง่ ท่ีผู้สมัครรับเลือกตั้งจังหวัดกระบี่ใช้กับการเลือกต้ังในแต่ละครั้ง โดย เฉพาะกับสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงเพราะนักการเมืองถ่ินคนไหนสำ�เร็จ การศกึ ษามาจากสถานทม่ี ชี อ่ื เสยี งจะท�ำ ใหม้ เี ครอื ขา่ ย มกี ารชว่ ยเหลอื กนั เพือ่ สร้างช่อื เสียงให้กับสถานศกึ ษาน้นั พร้อมเพ่ือน พี่และนอ้ งใน สถานศกึ ษา กม็ คี วามภาคภมู ใิ จในผสู้ มคั รทไ่ี ดร้ บั การเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร และยงั ท�ำ ใหเ้ กิดการยอมรับในสถานศกึ ษานั้น 3) กลยุทธ์การหาเสียงจากกลุ่มสตรี นักการเมืองกระบ่ีใช้ กลยทุ ธก์ ารหาเสยี งจากกลมุ่ สตรี เพราะเหน็ วา่ กลมุ่ สตรมี บี ทบาทส�ำ คญั และการทนี่ กั การเมอื งไดร้ บั ฐานเสยี ง จากกลมุ่ สตรเี พราะโดยสว่ นใหญ่ สตรีพูดง่าย โอกาสได้คะแนนสูง ทำ�ให้นักการเมืองหันมา ให้ความ ส�ำ คญั กบั กลุ่มสตรมี ากยงิ่ ขนึ้ ใชว้ ิธกี ารให้การดแู ลและหากจิ กรรมเพือ่ สง่ เสรมิ อาชพี สรา้ งเครอื ขา่ ยใหก้ บั ตนเอง ผลงานโดดเดน่ ทเ่ี คยไดร้ บั การ ยอมรบั และเป็นที่ประทับใจของ กล่มุ นกี้ ค็ ือ ในหนงึ่ ปีมีโอกาสไปดงู าน ตา่ งจงั หวดั หรอื ตา่ งประเทศหนงึ่ ครง้ั วธิ นี ม้ี กี ารใชก้ ลยทุ ธท์ แ่ี ยบยล คอื ในระหวา่ งทน่ี �ำ กลมุ่ สตรไี ปดงู านกจ็ ะใหท้ มี งานของนกั การเมอื งตดิ ตาม V

ไปดว้ ย เพอ่ื ชแี้ จงวตั ถปุ ระสงคข์ องการไปศกึ ษาดงู าน และสดุ ทา้ ยกห็ า เสยี งใหต้ นเองโดยการบอกใหก้ ลมุ่ ผดู้ งู านไดร้ บั ทราบวา่ การศกึ ษาดงู าน ทเ่ี กดิ ขน้ึ มาในครงั้ นเ้ี ปน็ นโยบายของตนซงึ่ นบั วา่ เปน็ กลยทุ ธท์ แ่ี ยบยล ของนกั การเมอื งถิ่น 4) กลยทุ ธก์ ารหาเสยี งกบั กลมุ่ ผสู้ งู อายุ เปน็ อกี กลยทุ ธห์ นงึ่ ทสี่ �ำ คญั ของนกั การเมอื งถน่ิ กระบ่ี เปน็ การหาเสยี งจากผสู้ งู อายุ เพราะ รัฐบาลมีนโยบายมอบเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ (เบ้ียยังชีพคนชรา) ดงั นนั้ เมอ่ื มงี บประมาณจากรฐั บาลถงึ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง นกั การเมอื ง ถ่ินกระบ่ีก็จะประสานงานเพ่ือให้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดสถาน ที่ อำ�นวย ความสะดวก นดั แนะทมี งาน พร้อมกำ�หนดการเพือ่ จะร่วม ดำ�เนินงานในพิธีการมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ และถือโอกาสนี้ เลยี้ งน้ำ�ชา (กาแฟ) กับผ้สู ูงอายุ สร้างความใกลช้ ิด ใหผ้ ู้สงู อายุไว้วางใจ เพอื่ สรา้ งคะแนนนยิ มใหก้ บั ตนเองและทมี งานนกั การเมอื งทรี่ ว่ มพรรค เดยี วกนั วธิ กี ารนที้ �ำ ใหน้ กั การเมอื งถน่ิ ไดร้ บั คะแนนนยิ มมากขนึ้ เพราะ ผสู้ งู อายทุ มี่ ารบั เงนิ ชว่ ยเหลอื กลบั ไปถงึ บา้ นกบ็ อกกลา่ วใหล้ กู หลานได้ รับรู้รับทราบและบอกต่อถึง ความประทับใจที่นักการเมืองถิ่นให้การ ต้อนรบั เป็นอยา่ งดี ในบางรายอาจเขา้ ใจผิดไดว้ า่ การให้การชว่ ยเหลอื นน้ั มาจากผลู้ งสมคั รรบั เลอื กตงั้ คนนนั้ ไดม้ สี ว่ นสนบั สนนุ ใหต้ นไดร้ บั งบ ประมาณหรือเบี้ยยงั ชีพคนชรา 5) กลยุทธ์การหาเสียงโดยการใช้ศาสนา การใช้ศาสนากับ การเลือกตัง้ มีในนกั การเมืองกระบน่ี ้อย แตท่ ่ีเห็นได้ชัดคอื การอ้างองิ การเมืองกับศาสนาอิสลาม ซ่ึงในบางพ้ืนที่ของกระบี่มีผู้นับถือศาสนา อิสลามจำ�นวนมาก ในอดีตมีการเลือกตั้งโดยนักการเมืองถ่ินท่ีนับถือ ศาสนาอสิ ลาม ไดร้ บั การเลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร คอื นาย VI

สมบูรณ์ สิทธิมนต์ แต่ในปัจจุบันไม่มีนักการเมืองถิ่นที่นับถือศาสนา อิสลามและได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเลย แม้กระทั่งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรคนล่าสุดของกระบ่ี นายสาคร เกี่ยวข้อง ก็นับถือศาสนาพุทธ จากการที่ผู้วิจัยได้ศึกษาโดยการสัมภาษณ์และมีการสังเกตพฤติกรรม ทางการเมอื ง วเิ คราะหไ์ ดว้ า่ โดยภาพรวมแลว้ ชาวบา้ นในจงั หวดั กระบ่ี ทนี่ บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม เลอื กนกั การเมอื งถนิ่ ของตนเอง โดยพจิ ารณา คดั เลอื กจากคณุ สมบตั อิ น่ื โดยไมค่ �ำ นงึ ถงึ ศาสนา ฉะนน้ั ในการทน่ี กั การ เมืองถ่ินที่นับถือศาสนาอิสลาม พยายามใช้เครือข่ายความเป็นมุสลิม เพ่ือเป็นจุดเด่นหรือข้อดีในการหาเสียงนั้น ก็ใช้ได้เฉพาะในช่วงเวลา หน่ึงเท่านั้น เพราะจากสถิติการเลือกตั้งในกระบี่ที่ผ่านมาต้ังแต่อดีต จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏนักการเมืองที่ใช้กลยุทธ์การหาเสียงโดยใช้ ศาสนามาใช้ไดส้ �ำ เรจ็ 6) การใช้กลยุทธ์ในการหาเสียงโดยใช้พรรคการเมือง บทบาทของพรรคการเมอื ง อดตี เรมิ่ สมยั แรกนน้ั นกั การเมอื งถนิ่ ไมต่ อ้ ง สงั กดั พรรคการเมอื ง พรรคการเมอื งแรกเขา้ มามบี ทบาทในจงั หวดั กระบ่ี คือ พรรคกจิ สงั คม ปี 2526 ชาวบา้ นในกระบเ่ี ริ่มรจู้ กั พรรคกิจสังคม และได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านในจังหวัดกระบี่สูงมาก ปัจจุบัน บทบาทของพรรคการเมืองก็ยังมีอยู่ แต่ได้เปล่ียนจากพรรคกิจสังคม มาเปน็ พรรคประชาธปิ ตั ยแ์ ทน และครองใจของคนกระบต่ี ลอดมา ถงึ ขนาดนกั การเมอื งบางคนยอมรบั วา่ หากไมไ่ ดส้ งั กดั พรรคประชาธปิ ตั ยก์ ็ ไม่ได้รับการเลือกต้ัง เพราะชาวบ้านยอมรับพรรคการเมืองน้ีมากและ มีผูน้ �ำ ทไี่ ด้รบั การยอมรับจากคนใต้ ผนู้ �ำ ทมี่ บี ทบาทส�ำ คัญที่ได้รับการ ยอมรับนับถือท่ีเกื้อหนุนให้ พรรคประชาธิปัตย์ครองใจคนกระบ่ีมาก คอื นายชวน หลกี ภยั ประธานทป่ี รกึ ษาพรรคประชาธปิ ตั ย์ อดตี นายก VII

รัฐมนตรี 2 สมยั และอดีตหัวหนา้ พรรคประชาธปิ ตั ย์และสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรตลอดกาลของจงั หวดั ตรงั ซง่ึ เปน็ คะแนนเสยี งส�ำ คญั ใหก้ บั พรรคประชาธปิ ัตย์ จึงนับได้วา่ นายชวน หลีกภัย เปน็ ความภาคภูมิใจ ของคนกระบ่ีและส่งผลให้นักการเมืองถ่ินจังหวัดกระบี่ชนะการ เลือกตง้ั อย่างง่ายดาย บทบาทของพรรคการเมืองมีอิทธิพลต่อคนกระบ่ีตั้งแต่อดีต จนถงึ ปจั จบุ นั ผวู้ จิ ยั ตงั้ ขอ้ สงั เกตวา่ คนกระบม่ี กี ารเลอื กตง้ั นกั การเมอื ง ถ่ินโดยคำ�นึงถึงความเป็นเอกภาพของพรรคการเมืองเป็นหลัก เพราะ ในอดีตพรรคกิจสังคมได้เคยมีบทบาทมากในการบริหารประเทศ และ เป็นพรรคการเมืองท่ีมีบทบาทต่อคนกระบ่ีเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะ นน้ั พรรคประชาธปิ ตั ยไ์ มม่ บี ทบาทเลย พรรคประชาธปิ ตั ยม์ ามบี ทบาท เมื่อพรรคกิจสังคมเร่ิมขาดความเป็นเอกภาพและพรรคประชาธิปัตย์ก็ เข้ามามีบทบาทแทนจนถึงปัจจุบัน VIII

Abstract T his research entitled has the main attempt to explore as possible as information regarding Krabi politicians. The major findings are two folds. First, Krabi politicians before running for an election usually had a stable occupation background, especially those who used to be a long-time government officer. Most of them had a great plan of canvassing network establishment which mainly benefits from their career networks. For this reason, the most successful politicians in Krabi province have been politicians that have a large number of friends with a similar occupation background both at the higher and lower levels. This succession also was a result of the great support by their relatives who can make their campaign convenient. Second, there are at least six campaign strategies most often utilized by Krabi politicians. The first and the most often conducted is a face-to-face visit to voters’ home or community. This campaign strategy is success because it makes people feel close to the politicians and IX

proud of their home visits. The faster politicians reach to the voters the more opportunity they gain their support. Thus, politicians who are friendly and touchable tended to gain more advantage from this kind of strategy than those who are not. Moreover, some politicians in Krabi had spent their time by staying at villagers’ house for many days before the election in order to make people trust in them. The second campaign strategy is to organize election campaign on campuses, particularly those that are well-known. Graduation from a famous school or university in the province also helps politicians to establish a strong canvassing network because people who were graduated from the same school as the politicians may assist them in the campaign in order to make their school more reputed. The third strategy is to create a close relationship with women groups. This strategy is useful because women have played a critical role in their community. Many politicians obtained a great support from women groups by arranging several kinds of activities for them in particular those that help them to strengthen their job and create occupation network. One of the most successful activities many politicians organized in order to convince the women group is study visit. During the trip, politicians or their staffs not only informed participants about objectives of study visit but also claimed that the activity is policy aiming to enhance women’s visions and knowledge. The fourth strategy focused on senior groups. This strategy was popular in Krabi because granting senior citizens with monthly support is one of the most attractive policies the governments in the past decade initiated. Therefore, when the budget was delivered to the X

involved agencies in the province, the politicians linked themselves to the policy by organizing a formal event for distributing money to the seniors. In such events the politicians had a great opportunity to make a close relationship to the seniors which helps to increase their popularity not only among the seniors who participated in the events but also among other people who may learn from the seniors about how they appreciated what the politicians took care of them. The fifth strategy relates to religious representation. Even though this strategy was not widely implemented by current Krabi politicians, it used to be success by Muslim politician in the past (i.e. MP Somboon Sitthimon). The research observed that while Muslim voters in Krabi are numerous they considered candidates based largely on other factors rather than religion that the candidate belongs to. Thus, in the researcher’s view, this strategy can be use only in some periods of time as well as with some specific groups of people. The sixth strategy relies on the role of political party. This strategy was not very much important until Chuan Leakpai became the leader of Democrat Party. Because of his popularity, Chuan has played a critical role in mobilizing Krabi citizens to vote for Democrat Party’s candidates. This role eventually made not only Krabi voters but also many Sothern Thai people believing that Democrat Party is the party of Southern citizens. Supporting by this premise, politicians who is not a member of Democrat party had no chance to win in any House election in Krabi for decades. XI

กิติกรรม ประกาศ โครงการส�ำรวจเพ่ือประมวลข้อมูลนักการเมืองถ่ิน : จังหวัดกระบี่ เป็นส่วนหน่ึงของโครงการส�ำรวจเพื่อประมวลข้อมูลนักการเมือง ถนิ่ ทว่ั ประเทศ เปน็ ฐานขอ้ มลู ทสี่ �ำคญั ในการท�ำความเขา้ ใจพฒั นาการ ทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย การจัดการศึกษาข้อมูลการเมืองถ่ินของแต่ละจังหวัด มักขาด การศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง การจนิ ตนาการการเมอื งถน่ิ จงึ มกั ถกู มองขา้ ม ความส�ำคญั ไปอยา่ งนา่ เสยี ดาย ทงั้ ทกี่ ารเตบิ โตของการเมอื งระดบั ชาติ ทง้ั หลายในประเทศล้วนแล้วแต่เกดิ จากการเมอื งถนิ่ เช่นเดยี วกบั งาน วจิ ัยเลม่ น้ี หากขาดหนว่ ยงานท่ใี ห้งบสนบั สนนุ เสยี แล้ว งานวจิ ัยเล่มน้ี กไ็ มส่ ามารถออกมาเปน็ เลม่ ได้ ผวู้ จิ ยั ขอขอบคณุ ส�ำนกั วจิ ยั และพฒั นา (ดร.ถวิลวดี บุรีกุล) สถาบันพระปกเกล้าที่ให้งบประมาณท�ำวิจัยใน ครัง้ น้ี ขอขอบคุณ ส.ส.อาคม เอง่ ฉ้วน, ส.ส. พิเชษฐ พนั ธว์ุ ชิ าตกิ ุล, ส.ส.สาคร เก่ียวข้อง, นายสมบูรณ์ สทิ ธมิ นต,์ นายวาสนา บุญภพู นั ธิ ตันติ, นายไมตรี บุญยัง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด XII

กระบ่ี ทส่ี ละเวลาใหผ้ วู้ จิ ยั สมั ภาษณ์ ขอขอบคณุ รศ. ดร.นยิ ม รฐั อมฤต, ร.ศ.พรชยั เทพปญั ญา, ผศ.ดร.กฤษณา ไวส�ำรวจ, ผศ.พมิ ล พพู พิ ธิ , ผศ.ดนัย ทองใหญ่, รศ.ดร.สุรพล ราชภัณธารักณ์, รศ.ดร.สมิหรา จติ ลดาการ ทอ่ี บรมสง่ั สอนผวู้ จิ ยั ดว้ ยดเี สมอมา ขอบคณุ พนั ต�ำรวจเอก อุทัย จารุเดชขจร, ดร.บูฆอรี ยีหมะ, นายมนูญ โดะโอย, ดร.พิเชษ แสงทอง ดร.นพิ นธ์ โซะเฮง, ดร.ณฐั พงษ์ บญุ เหลอื , อ.ปรญิ ญา นวลเปยี น, อ.ประทุมทพิ ย์ ทองเจรญิ , นายราเมฆ รัตนเชวง, นายอริยทัศน์ แก้ว เกาะสะบา้ , น.ส.ชนดิ า เนตยากร, น.ส.สายทิพย์ เกียรติวานชิ ที่ให้ ความเป็นกัลยามิตรที่ดีตลอดมา ขอบคุณนางสุธาทิพย์ หวันจิ ช่วยปรับปรงุ ตน้ ฉบบั และเสรจ็ เปน็ รปู เลม่ ขอบคณุ น.ส.ณฏั ฐกาญจน์ ศุกลรัตนเมธี ผู้ประสานงานโครงการที่เป็นธุระจัดการประสานงานให้ เป็นอย่างดี ท้ายทส่ี ุดขอขอบคุณครอบครัวเกาะกลางของผวู้ จิ ัย ผู้ให้ ก�ำเนิด (นางเดียะและนายเริ่ม เกาะกลาง) ทีเ่ ปน็ ก�ำลังใจให้มาตลอดทั้ง ในยามท่ีท้อถอยและหมดก�ำลังใจ ความดีที่เกิดจากงานวิจัยเล่มน้ี จะเปน็ ของทกุ คนทก่ี ลา่ วมาและผทู้ ไ่ี มส่ ามารถกลา่ วถงึ ได้ แตท่ กุ ประการ ท่ีบกพร่องผู้วิจัยขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ผู้วิจัยเชื่อว่างานวิจัย เล่มนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อการศึกษาการเมืองถิ่นของประเทศบ้างโดย เฉพาะบุคคลท่ตี อ้ งการทราบความเป็นมาของการเมืองกระบ่ี งานวจิ ยั เล่มเล็กๆ แต่จะมีคณุ ค่ามหาศาลเม่ืออา่ นและท�ำความเขา้ ใจ กรวิทย์ เกาะกลาง XIII

สารบญั บทคดั ยอ่ ภาษาไทย หน้า บทคัดย่อภาษาองั กฤษ IV กติ ตกิ รรมประกาศ IX สารบัญตาราง XII สารบญั ภาพประกอบ (XV) (XV) บทที่ 1 บทน�ำ 1 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎแี ละงานวิจัยท่เี กยี่ วขอ้ ง 5 บทท่ี 3 ข้อมูลทว่ั ไปและประวตั ิความเป็นมาของจงั หวัดกระบ ี 39 บทที่ 4 ขอ้ มลู นักการเมอื งถิน่ จงั หวัดกระบี 51 บทท่ี 5 สรุปผลการศึกษาวจิ ัยและข้อเสนอแนะ 109 บรรณานกุ รม 118 ภาคผนวก 121 XIV

สารบัญตาราง ตารางท ่ี หน้า 3.1 ข้อมูลประชากรจงั หวดั กระบ่ี 45 4.1 การเลอื กตัง้ พ.ศ. 2512 จังหวัดกระบี่ 59 4.2 การเลอื กต้ัง พ.ศ. 2518 จังหวดั กระบ ่ี 60 4.3 การเลอื กตั้ง พ.ศ. 2519 จังหวัดกระบ ่ี 61 4.4 การเลอื กตั้ง พ.ศ. 2520 จงั หวัดกระบ ่ี 63 4.5 การเลอื กตง้ั พ.ศ. 2526 จังหวดั กระบ ่ี 65 4.6 การเลอื กตั้ง พ.ศ. 2529 จังหวดั กระบี่ 67 4.7 การเลือกตง้ั พ.ศ. 2531 จงั หวดั กระบี่ 69 4.8 การเลอื กตง้ั พ.ศ. 2535 จังหวัดกระบี่ 72 4.9 การเลอื กตง้ั พ.ศ. 2538 จังหวดั กระบี่ 74 4.10 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 จังหวัดกระบ ่ี 76 4.11 การเลอื กตั้ง พ.ศ. 2548 จงั หวดั กระบ ่ี 78 4.12 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 จงั หวดั กระบี่ 81 4.13 รายชือ่ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรของจังหวดั กระบี่ 83 สารบญั ภาพ หนา้ 32 ภาพท่ี 44 2.1 วัฎจักรแห่งความชัว่ รา้ ย 3.1 แผนที่จังหวัดกระบ ่ี XV