บ4ทที่ ข้อมลู นักการเมอื งถิ่น จงั หวดั กระบ่ี 4.1 ประวัติการเมืองถิ่นในจังหวดั กระบี่ ประเทศไทยภายหลงั การเปลีย่ นแปลงการปกครองจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยคณะบุคคลคณะหน่ึงท่ี รวมตวั กนั ทง้ั ทหารบก ทหารเรอื ทหารอากาศและพลเรอื น ซงึ่ เรยี กชอ่ื ตนเองวา่ “คณะราษฎร” ทำ�การยดึ อำ�นาจพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เม่ือก่อนรุ่งอรุณของวันท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 โดยการจบั กมุ บคุ คลส�ำ คญั ไวเ้ ปน็ ตวั ประกนั และขอพระราชทาน รัฐธรรมนูญระบอบประชาธิปไตยเพ่ือใช้ในการปกครองประเทศนั่น คือ พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามช่ัวคราว พทุ ธศกั ราช 2475 ประกาศใชเ้ มอ่ื วนั ที่ 27 มถิ นุ ายน พ.ศ.2475 เปน็ การ บงั คับใชช้ ่ัวคราว 51
นักการเมืองถน่ิ จังหวดั กระบี่ การเลือกต้ังครั้งแรกของประเทศ เร่ิมต้นเมื่อมีการประกาศใช้ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รสยาม พทุ ธศักราช 2475 เมอ่ื วันท่ี 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 จากรัฐธรรมนญู ฉบับนี้ ได้บญั ญตั ิให้สมาชกิ สภา ผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชิกสองประเภทท่ีมีจำ�นวนสมาชิกเท่า กนั และมวี าระในการดำ�รงตำ�แหนง่ 4 ปี คือ 1. สมาชิกประเภทท่ี 1 (มาจากการเลอื กตง้ั โดยอ้อม) 2. สมาชกิ ประเภทที่ 2 (มาจากการแตง่ ตั้ง) 4.2 ขอ้ มลู พนื้ ฐานการเลอื กต้ัง ปี พ.ศ. 2476 - พ.ศ. 2551 (ปจั จุบนั ) 4.2.1 การเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร ของจงั หวดั กระบ่ี คร้งั ที่ 1 การเลอื กตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ครง้ั ที่ 1 ได้มีข้นึ เมื่อวนั ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 ซง่ึ เปน็ การเลอื กต้ังทางออ้ ม มสี มาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรประเภทที่ 1 รวม 78 คน โดยถอื จำ�นวนราษฎร 200,000 คน ตอ่ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 1 คน เป็นการเลือกตง้ั แบบรวมเขต จงั หวัด เขตจงั หวดั แต่ละจังหวัดเป็นเขตเลือกตงั้ โดยมกี ารเลือกตัง้ ผู้ แทนต�ำ บลกอ่ นและผแู้ ทนต�ำ บลจะเปน็ ผเู้ ลอื กสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร อีกทีหน่ึง มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งท่ัวประเทศในคร้ังแรกนี้คิดเป็นร้อยละ 41.45 ในการเลอื กตงั้ ครง้ั น้ี ผทู้ ไ่ี ดร้ บั เลอื กเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร คนแรกของจงั หวดั กระบี่ คอื พระบรริ กั ษร์ าชอกั ษร (มาตย์ ณ ถลาง)ใน สภาชุดน้ีมีประธานรฐั สภา 4 คนดว้ ยกัน ไดแ้ ก่ (1) เจา้ พระยาธรรมศกั ดิ์ มนตรี (พ.ศ.2476) (2) พลเรือตรีพระยาศรยทุ ธเสนี (พ.ศ.2476-2477) 52
(3)เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (พ.ศ.2477-2479) (4) พระยามานวราช เสวี (พ.ศ.2479-2480) มพี ระยามโนปกรณน์ ติ ธิ าดา ด�ำ รงต�ำ แหนง่ นายก รฐั มนตรคี นแรกของประเทศไทย สภาชดุ นส้ี นิ้ สดุ ลงเมอ่ื วนั ที่ 9 ธนั วาคม พ.ศ.2480 โดยการสิ้นสดุ ลงตามวาระ 4.2.2 การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจงั หวดั กระบี่ คร้งั ที่ 2 จังหวัดกระบี่ได้มีการเลือกต้ังอีกคร้ังเป็นคร้ังที่ 2 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2480 เป็นการเลือกตั้งโดยตรงแบบแบ่งเขต เขตละ 1 คน อยใู่ นวาระ 4 ปี ใช้อัตราราษฎร 200,000 คน ตอ่ สมาชกิ สภา ผแู้ ทนราษฎร 1 คน มสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรประเภทที่ 1 รวม 91 คน ซึ่งในการเลือกต้ังคร้ังนี้ จังหวัดกระบี่มีผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร ได้แก่ นายทองใบ สุคนธกนิษฐ์ สภาชุดน้ีมี พระยามานวราชเสวี (พ.ศ.2480-2481) เปน็ ประธานรฐั สภา และพระยา พหลพยหุ เสนา ด�ำ รงต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี สภาชดุ นสี้ น้ิ สดุ ลงเมอ่ื วนั ท1่ี 1 กนั ยายน พ.ศ.2481 โดยการยบุ สภา 4.2.3 การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัดกระบี่ คร้ังที่ 3 การเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร เมอ่ื วนั ท่ี 12 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2481 เป็นการเลือกตั้งท่ัวไปครั้งที่ 3 มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 1 จำ�นวน 91 คน เป็นการเลือกต้ังโดยตรงแบบแบ่งเขต เขตละ 1 คน อยใู่ นวาระ 4 ปี ใชอ้ ัตราราษฎร 200,000 คน ตอ่ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 1 คน ซึ่งในการเลอื กตงั้ คร้งั น้ี จงั หวัดกระบ่ี ผทู้ ี่ไดร้ ับ 53
นักการเมอื งถิน่ จังหวดั กระบ่ี การเลอื กตงั้ เขา้ มาไดแ้ ก่ นายเต๋ พวงนนุ่ สภาชดุ นส้ี น้ิ สดุ ลงเมอ่ื วนั ที่ 15 ตลุ าคม พ.ศ.2488 แต่ไดม้ ีการขยายเวลาให้อยใู่ นต�ำ แหนง่ สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร (สมาชกิ ประเภทที่ 1) สองครง้ั ครง้ั ละไมเ่ กนิ 2 ปี เพราะ เกิดสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ไม่สามารถทำ�การเลือกต้ังได้ โดยมีพระยา มานราชเสวี เป็นประธานรัฐสภา ระหว่างปี พ.ศ. 2481-2485 นาย ปลอด วิเชยี ร ณ สงขลา ระหว่างปี พ.ศ. 2485-2486 พลเรือตรกี ระแส ประวาหะนาวิน (ศรยุทธเสนี) พ.ศ. 2486-2487 นายปลอด วิเชียร ณ สงขลา ระหว่างปี พ.ศ.2487-2488 และพระยามานวราชเสวี ปี พ.ศ. 2488 และมีพลเอกหลวงพิบูลสงคราม ดำ�รงตำ�แหน่งนายก รฐั มนตรี สมยั แรก เมือ่ วันท่ี 16 ธันวาคม พ.ศ. 2481 - 6 มีนาคม พ.ศ. 2485 สภาผแู้ ทนราษฎรประเภทท่ี 1 ชดุ นสี้ น้ิ สดุ ลงโดยการยบุ สภาผแู้ ทน ราษฎรเมอื่ วนั ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2488 4.2.4 การเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ของจงั หวดั กระบ่ี ครัง้ ท่ี 4 การเลอื กตงั้ เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2489 เปน็ การเลอื กตั้ง ทั่วไปคร้ังท่ี 4 ใช้การเลือกตั้งโดยตรงแบบแบ่งเขต เขตละ 1 คน มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทท่ี 1 จำ�นวน 96 คน ใช้อัตราส่วน ราษฎร 200,000 คน ต่อสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 1 คน อยใู่ นวาระ 4 ปี จังหวัดกระบ่ีผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ นายปริญญา จุฑามาตย์ สภาชุดน้ีมีพลตรีวิลาศ โอสถานนท์ (พ.ศ.2489 - 2490) เปน็ ประธานรัฐสภา พลเรอื ตรกี ระแส ประวาหะ นาวิน (ศรยุทธเสนี) ประธานพฤฒสภา เป็นประธานรัฐสภา สมาชิก ประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกต้ังของสภาชุดนี้สิ้นสุดลงโดยการทำ� 54
รัฐประหารน�ำ โดย พลโทผนิ ชณุ หะวัณ เมือ่ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 4.2.5 การเลอื กต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจงั หวัดกระบี่ ครั้งที่ 5 การเลือกต้งั ทวั่ ไปครัง้ ท่ี 5 เม่อื วันท่ี 29 มกราคม พ.ศ. 2491 ซึ่ง ตามรฐั ธรรมนญู ฉบบั ท่ี 4 “รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (ฉบบั ชว่ั คราว) พทุ ธศกั ราช 2490” ประกาศใชร้ ะหวา่ งวนั ที่ 9 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2490 ถงึ 23 มนี าคม พ.ศ. 2492 ไดก้ ำ�หนดใหม้ ี 2 สภา คือ 1) สภาผ้แู ทนราษฎร 2) วฒุ ิสภา ในส่วนของสภาผแู้ ทนราษฎร สมาชิกจะ มาจากการเลอื กตง้ั โดยตรงแบบรวมเขตจงั หวดั จงั หวดั ละ 1 คน มวี าระ 4 ปี มสี มาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จำ�นวน 99 คน มีผู้มาใชส้ ทิ ธิ์เลือกตงั้ ท่ัวประเทศคิดเป็นร้อยละ 29.50 จังหวัดกระบ่ีได้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรชื่อ นายเนนิ่ เกษสุวรรณ์ สภาชดุ นมี้ ีเจา้ พระยาศรีธรรมาธิเบศ ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา (พ.ศ. 2490-2494) มีนายควง อภัยวงศ์ ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเป็นสมัยท่ี 3 เมื่อวันท่ี 8 เมษายน พ.ศ. 2491 - 25 มิถุนายน พ.ศ. 2492 และดำ�รงต�ำ แหนง่ นายกรัฐมนตรอี กี ครั้ง สมัยท่ี 4เมื่อวันท่ี 25 มิถุนายน พ.ศ.2492 - 29 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2494 สมัยท่ี 5 เมอื่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 (7 วนั ) สมยั ท่ี 6 เมื่อวนั ท่ี 6 ธันวาคม พ.ศ. 2494 - 24 มนี าคม พ.ศ. 2495 สภาชดุ นส้ี น้ิ สดุ ลงโดยการท�ำ รฐั ประหาร โดยพลเอกผณิ ชณุ หะวณั เมอื่ วนั ที่ 29 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2494 55
นักการเมืองถน่ิ จงั หวัดกระบี่ 4.2.6 การเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจงั หวัดกระบ่ี ครัง้ ที่ 6 การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรทว่ั ไป ครง้ั ท่ี 6 เมอ่ื วันที่ 26 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2495 สมาชิกประเภทท่ี 1 มีสมาชกิ สภาผู้แทน ราษฎร 123 คน เปน็ การเลือกตง้ั โดยตรงแบบรวมเขตจงั หวดั จงั หวัด ละเขต ใช้อัตราสว่ นราษฎร 200,000 คน ต่อสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 1 คน อยู่ในวาระ 5 ปี จงั หวัดกระบ่ีมีผ้ทู ีไ่ ด้รับเลอื กต้งั เปน็ สมาชกิ สภา ผแู้ ทนราษฎรช่อื นายเนิน่ เกษสวุ รรณ์ คนเก่าได้รบั การเลือกต้งั เข้ามา โดยมี พลเอกพระประจนปัจจนึก เปน็ ประธานรัฐสภาจอมพล ป. พิบูล สงคราม ด�ำ รงตำ�แหน่งนายกรฐั มนตรเี ปน็ สมยั ท่ี 7 ( 24 มีนาคม พ.ศ. 2495 - 21มีนาคม พ.ศ.2450) และสภาชุดนี้ไดส้ ้นิ สดุ ลงเม่อื วนั ท่ี 25 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2500 โดยเปน็ การส้นิ สุดลงตามวาระ 5 ปี 4.2.7 การเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ของจังหวัดกระบี่ คร้งั ที่ 7 วันท่ี 26 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2500 ไดม้ ีการเลือกต้งั สมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรทว่ั ไป ครงั้ ที่ 7 มสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจ�ำ นวน 160 คน เป็นการเลือกตั้งโดยตรงแบบรวมเขตจังหวัด (เขตจังหวัดแต่ละจังหวัด เป็นเขตเลือกต้ัง) ใช้อัตราส่วนราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 1 คนและมีวาระ 5 ปี ในการเลือกต้ังคร้ังนี้ มีผู้มาใช้ สิทธิ์เลือกต้ังทั่วประเทศคิดเป็นร้อยละ 57.50 และการลงสมัครรับ เลือกตัง้ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร มีการสงั กัดพรรคการเมอื งอย่างแพร่ หลาย จังหวดั กระบ่ี ไดส้ มาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนเดมิ คอื นายเน่ิน เกษสุวรรณ์ แต่คร้ังน้ีผู้สมัครสังกัดพรรคการเมืองโดยนายเนิ่น 56
เกษสุวรรณ์ สังกัดพรรคเสรีมนังคศิลาและในการเลือกต้ังในคร้ังน้ีได้ ชอ่ื วา่ เปน็ การเลอื กตง้ั ทสี่ กปรกมาก มกี ารโกงการเลอื กตง้ั ใหแ้ กผ่ สู้ มคั ร ของพรรคเสรีมนังคศิลา ซงึ่ มี จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม เปน็ หวั หน้า พรรคและดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยท่ี 8 เมื่อวันท่ี 21 มนี าคม พ.ศ. 2500 - 16 กนั ยายน พ.ศ. 2500 มนี ายพจน์ สารสิน ดำ�รงต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี เมอื่ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2500 - 1 มกราคม พ.ศ. 2501 สภาชุดนีม้ ี พลเอก พระประจน ปจั จนกึ เป็น ประธานรฐั สภา และสภาชดุ นส้ี น้ิ สดุ ลงเมอื่ วนั ที่ 16 กนั ยายน พ.ศ. 2500 โดยการทำ�รัฐประหารนำ�โดยจอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์ 4.2.8 การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ของจังหวัดกระบ่ี คร้งั ที่ 8 การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไป คร้ังท่ี 8 เม่ือวัน ท่ี 15 ธันวาคม พ.ศ. 2500 จ�ำ นวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 160 คน เป็นการเลือกตั้งโดยตรงแบบรวมเขตจังหวัด (เขตจังหวัดแต่ละจังหวัด เป็นเขตเลือกต้ัง) ใช้อัตราส่วนราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร 1 คน และมวี าระการดำ�รงตำ�แหนง่ 5 ปี มผี มู้ าใช้สิทธิ์ เลอื กตงั้ ทวั่ ประเทศคดิ เปน็ รอ้ ยละ 44.07 จงั หวดั กระบี่ ผทู้ ไี่ ดร้ บั เลอื กตงั้ เป็นสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ไดแ้ ก่ นายฟน้ื สคุ นธกนิษฐ์ เปน็ สมาชิก สภาผ้แู ทนราษฎร ซง่ึ เปน็ คนใหม่ หลงั จากที่นายเนนิ่ เป็นมาติดต่อกนั 3 สมยั แตก่ ารเลอื กตงั้ ครงั้ นผ้ี ไู้ ดร้ บั การเลอื กตง้ั สงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ สภาชุดน้ีมี พลเอกสุทธิ์ สทุ ธิสารรณกร เป็นประธานรัฐสภา ระหว่างปี พ.ศ. 2500 และในชว่ งปี พ.ศ. 2502 - 2511 พลเอกพระประจน ปจั จนกึ (พ.ศ. 2500 - 2501) นายทวี บุณยเกตุ (พ.ศ. 2511) และมพี ลโทถนอม 57
นกั การเมอื งถน่ิ จังหวดั กระบี่ กิตติขจร ด�ำ รงต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี ต่อดว้ ยจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ (9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 - 8 ธนั วาคม พ.ศ. 2506) และจอมพลถนอม กิตติขจร ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีอีกคร้ัง (สมัยท่ี 2) เมื่อวันท่ี 9 ธนั วาคม พ.ศ. 2506 - 7 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2512 หลงั จากมกี ารประกาศ ใช้รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2511 (ฉบบั ที่ 8) 4.2.9 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัด กระบี่ คร้งั ท่ี 9 และได้มีการเลือกตั้งท่ัวไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ เมอ่ื วนั ท่ี 10 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2512 เปน็ การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎรทว่ั ไป ครง้ั ท่ี 9 มจี �ำ นวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 219 คน เปน็ การเลอื กตง้ั โดยตรงแบบรวมเขต ใชอ้ ตั ราสว่ นราษฎร 150,000 คน ต่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คน มีวาระ 4 ปี มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทั่วประเทศคิดเป็นร้อยละ 49.16 ในการเลือกตั้งคร้ังนี้จังหวัดกระบ่ี มสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ไดแ้ ก่ นายปรีดา อรา่ ม ซึง่ ไม่สงั กัดพรรค การเมอื ง โดยมพี ลเอกนายวรการ บญั ชา ประธานวฒุ สิ ภาเปน็ ประธาน รฐั สภา (พ.ศ. 2512 -2514) สภาชุดนส้ี นิ้ สดุ ลงเมอ่ื วนั ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 จากการปฏิวัติ นำ�โดยจอมพลถนอม กิตติขจร หลังจาก จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ทำ�การปฏิวัติ และเข้าบริหารประเทศ แต่ ได้รับแรงตอ่ ตา้ นจากนกั ศึกษา ประชาชน จนเกิดเหตกุ ารณ์ 14 ตลุ าคม 2516 วันมหาวิปโยค อันถือว่าเป็นประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลง ทางการเมืองที่สำ�คัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย รัฐบาลชุดน้ีส้ิน สุดลงโดยการลาออกจากตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพลถนอม กติ ตขิ จร ในวันท่ี 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ดงั ปรากฏในตารางที่ 4.1 58
ตารางท่ี 4.1 การเลอื กตั้ง พ.ศ. 2512 จงั หวดั กระบี่ ล�ำ ดบั ชอื่ ผู้สมัคร เลขหมาย สังกดั พรรค ไดร้ ับ หมายเหตุ ที่ ประจำ�ตวั การเมอื ง คะแนน ผสู้ มคั ร 1 นายปรีดา อร่าม 1 ไม่สังกัดพรรค 11,474 ผไู้ ดร้ ับเลอื กตงั้ 2 นายพัว ทรพั ยท์ วี 3 สหประชาไทย 8,065 ผ้ไู ม่ไดร้ ับเลอื กตั้ง 3 นายฟื้น สุคนธกนิษฐ 2 ไม่สังกัดพรรค 6,519 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลือกตง้ั 4 นายสว่าง พันธวุ ิภาส 4 ไม่สงั กัดพรรค 5,040 ผู้ไม่ไดร้ ับเลอื กตง้ั 5 นายพฒั น์ เทียนโพธ์ิ 6 แรงงาน 1,767 ผูไ้ ม่ได้รับเลือกตั้ง 6 นายสนั่น สมุ าตรา 5 ไม่สังกัดพรรค 1,549 ผไู้ ม่ได้รับเลือกต้ัง ท่มี า : “หนงั สอื ที่ระลกึ 67 ปีรัฐสภาไทย,ข้อมูลประวัติการเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ,2543. 4.2.10 การเลือกตั้งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ของจังหวดั กระบ่ี คร้งั ที่ 10 การเลือกต้ังสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรท่ัวไปคร้งั ท่ี 10 เมื่อวนั ท่ี 26 มกราคม พ.ศ. 2518 ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517 (ฉบับที่ 10) จำ�นวนสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร 269 คน เปน็ การเลอื กตง้ั โดยตรงแบบผสม (เขตละไมเ่ กนิ 3 คน) ใช้อัตราสว่ นราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 1 คน มวี าระ 4 ปี มผี มู้ าใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตงั้ ทวั่ ประเทศคดิ เปน็ รอ้ ยละ 47.17 จงั หวัดกระบี่ ผูท้ ่ีไดร้ บั การเลือกตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ได้แก่ 59
นกั การเมืองถิ่นจังหวัดกระบี่ นายปรญิ ญา จฑู ามาตย์ สงั กดั พรรคประชาธปิ ไตย โดยมนี ายประสทิ ธ์ิ กาญจนวฒั น์ ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรเป็นประธานรฐั สภา มีหม่อม ราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หวั หนา้ พรรคประชาธิปตั ยด์ �ำ รงต�ำ แหนง่ นายก รฐั มนตร(ี 15 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2518-14 มนี าคม พ.ศ. 2518) และรฐั สภา ชุดนี้สนิ้ สดุ ลงเม่ือวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2519 โดยการยุบสภา ดัง ปรากฏในตารางที่ 4.2 ตารางที่ 4.2 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2518 จังหวัดกระบี่ ล�ำ ดับ ชอื่ ผูส้ มคั ร เลขหมาย สงั กดั พรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจำ�ตัว การเมอื ง คะแนน ผสู้ มคั ร 1 นายปริญญา จฑุ ามาตย์ 4 ประชาธปิ ัตย์ 10,595 ผไู้ ดร้ บั เลือกตง้ั 2 นายวาสนา บญุ ภพู ันธต์ นั ติ 6 สงั คมชาตินยิ ม 7,276 ผ้ไู ม่ได้รบั เลอื กตง้ั 3 นายกวี ใสหยดิ 5 ชาติไทย 6,967 ผไู้ ม่ไดร้ ับเลือกตั้ง 4 นายปรีดา อร่าม 2 ธรรมสงั คม 5,231 ผ้ไู มไ่ ด้รบั เลอื กตง้ั 5 นายเสน่ห์ เครือจนั ทร์ 8 กจิ สังคม 3,677 ผไู้ ม่ได้รบั เลือกตง้ั 6 นายฟ้นื สคุ นธกนิษฐ 3 ฟืน้ ฟูชาตไิ ทย 3,362 ผไู้ ม่ได้รบั เลอื กตง้ั 7 นายหยวี า่ เหต ุ ย่ิงเล็ก 7 ประชาก้าวหน้า 3,293 ผู้ไมไ่ ด้รบั เลือกตง้ั 8 นายถนอม จารุพนั ธ์ 9 พลงั ใหม่ 816 ผูไ้ ม่ไดร้ ับเลือกตั้ง 9 นายสทุ ศั น์ ประภาส 1 แนวร่วมสงั คม 538 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลอื กตง้ั 10 นายพฒั น์ เทยี นโพธ์ิ 10 แรงงาน 432 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กตั้ง 11 นายปรญิ ญา สวุ รรณสนิ ธุ 11 อธิปัตย์ 58 ผู้ไม่ได้รับเลอื กตง้ั ท่มี า : “หนงั สอื ทีร่ ะลกึ 67 ปีรฐั สภาไทย,ขอ้ มลู ประวตั กิ ารเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 60
4.2.11 การเลือกตงั้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ของจงั หวดั กระบี่ ครงั้ ที่ 11 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่ัวไป คร้ังท่ี 11 เมื่อวัน ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2519 จ�ำ นวนสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร 279 คน เป็นการเลือกต้ังโดยตรงแบบผสม (เขตละไม่เกิน 3 คน)ใช้อัตราส่วน ราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คน และมีวาระ 4 ปี ในการเลือกต้ังคร้ังนี้มีผู้มาใช้สิทธ์ิเลือกต้ังท่ัวประเทศคิดเป็น ร้อยละ 43.99 และในการเลือกตั้งคร้ังน้ี จังหวัดกระบ่ี มีสมาชิกสภา ผูแ้ ทนราษฎรไดแ้ ก่ นายกวี ใสยดิ สงั กัดพรรคประชาธิปตั ย์ ซงึ่ สงั เกต ว่าในจังหวัดกระบี่ กระแสพรรคประชาธิปัตย์เริ่มเข้ามาเพราะผู้สมัคร ครง้ั ทผ่ี ่านมากส็ งั กัดพรรคประชาธปิ ัตยเ์ ช่นเดยี วกนั สภาชุดนส้ี น้ิ สดุ ลง โดยการปฏิวัติยึดอำ�นาจการปกครองของคณะการปฏิรูปการปกครอง แผ่นดนิ น�ำ โดยพลเรอื เอกสงดั ชลออยู่ เมื่อวันที่ 6 ตลุ าคม พ.ศ. 2519 ดังปรากฏในตารางท่ี 4.3 ตารางท่ี 4.3 การเลือกตัง้ พ.ศ. 2519 จังหวัดกระบี่ ลำ�ดบั ชื่อผู้สมัคร เลขหมาย สังกดั พรรค ได้รับ หมายเหตุ ที่ ประจ�ำ ตวั การเมอื ง คะแนน ผู้สมคั ร 1 นายกว ี ใสหยดิ 8 ประชาธิปตั ย์ 13,174 ผู้ได้รบั เลอื กต้ัง 2 นายวาสนา บุญภูพนั ธต์ นั ติ 2 กจิ สังคม 6,639 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลอื กตั้ง 3 นายทว ี ศรีสคุ นธ์ 1 ชาตไิ ทย 5,329 ผู้ไม่ได้รบั เลอื กตง้ั 61
นกั การเมอื งถน่ิ จังหวดั กระบี่ ลำ�ดับ ช่ือผสู้ มัคร เลขหมาย สังกดั พรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ที่ ประจำ�ตวั การเมอื ง คะแนน ผู้สมัคร 4 นายอาคม เอ่งฉ้วน 3 พลังใหม่ 4,158 ผู้ไมไ่ ด้รบั เลือกตง้ั 5 นายปรดี า อร่าม 4 ธรรมสงั คม 3,307 ผู้ไม่ได้รับเลือกตง้ั 6 นายฟ้นื สคุ นธกนิษฐ 7 สันตชิ น 1,646 ผไู้ ม่ได้รับเลือกตั้ง 7 นายอรณุ สุชาฎา 9 สังคมนิยมแหง่ 1,605 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลือกตงั้ 8 นายสมจติ ร การพร้อม ประเทศไทย 10 พลังประชาชน 865 ผู้ไม่ได้รบั เลือกต้งั 9 นายศลิ ป ์ เสรมิ เกยี รติวัฒน์ 6 พทิ กั ษ์ไทย 510 ผูไ้ มไ่ ด้รับเลอื กต้งั 10 นายสุทศั น์ ประภาส 5 แนวรว่ ม 466 ผู้ไมไ่ ด้รบั เลอื กตง้ั 11 นายชว่ ง ใจแกว้ ประชาธิปไตย 11 สยามใหม่ 333 ผูไ้ ม่ได้รับเลือกต้ัง ท่มี า : “หนงั สอื ท่ีระลกึ 67 ปีรัฐสภาไทย,ขอ้ มูลประวตั กิ ารเมืองไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ,2543. 4.2.12 การเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัดกระบี่ คร้งั ที่ 12 เมือ่ วนั ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2520 ประเทศไทยมีการเลอื กตัง้ อีก คร้ัง เม่ือมีการนำ�เอารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521 (ฉบับที่ 13) มาใช้ ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญให้มีการ เลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทวั่ ไป ครง้ั ที่ 12 เมอื่ วนั ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 301 คน เปน็ การเลอื กตง้ั โดยตรงแบบผสม (เขตละไมเ่ กนิ 3 คน) ใช้ อัตราส่วนราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 1 คน และ 62
มีวาระการดำ�รงต�ำ แหน่ง 4 ปี มีผ้มู าใช้สทิ ธ์เิ ลือกตั้งทว่ั ประเทศคดิ เป็น ร้อยละ 43.90 การเลือกต้ังในครั้งน้ีไม่มีการจัดต้ังพรรคการเมืองโดย ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ในทางปฏิบัติได้มีการจัดองค์กรและหาเสียง ในนามของพรรคการเมือง ผลการเลือกตั้งจังหวัดกระบี่มีสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร ได้แก่ นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ นั ติ สงั กัดพรรคกิจสังคม เป็นการแจ้งเกิดครั้งแรกของพรรคกิจสังคม ในจังหวัดกระบี่ สำ�หรับ สภาชดุ น้มี ี พลอากาศเอกหะริน หงสกุล ประธานวฒุ สิ ภาเป็นประธาน รัฐสภา มีพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่าง วันท่ี 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 – 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 และ พลเอกเปรม ตณิ สูลานนท์ ด�ำ รงตำ�แหนง่ นายกรฐั มนตรี ระหวา่ งวันท่ี 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 - 30 เมษายน พ.ศ. 2526 สภาชดุ นส้ี ิ้นสุดลงเม่ือ วนั ที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2526 โดยมกี ารยบุ สภาเพ่ือให้มกี ารเลือกตง้ั ใหม ดงั ปรากฏในตารางที่ 4.4 ตารางท่ี 4.4 การเลือกตง้ั พ.ศ. 2520 จังหวดั กระบี่ ล�ำ ดบั ช่อื ผ้สู มคั ร เลขหมาย สังกดั พรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจ�ำ ตัว การเมือง คะแนน ผูส้ มคั ร 1 นายวาสนา บุญภูพนั ธต์ ันติ 1 กิจสงั คม 18,505 ผไู้ ด้รบั เลือกต้งั 2 นายกวี ใสหยิด 3 นายปรดี า อรา่ ม 3 ประชาธิปตั ย์ 8,980 ผู้ไม่ได้รับเลอื กต้ัง 4 นายสมจติ ร การพรอ้ ม 4 ชาตปิ ระชาชน 4,346 ผไู้ ม่ไดร้ ับเลือกตั้ง 5 อิสระ 3,135 ผู้ไม่ไดร้ ับเลอื กต้งั 63
นักการเมอื งถิ่นจังหวัดกระบ่ี ล�ำ ดบั ชอื่ ผู้สมคั ร เลขหมาย สังกดั พรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ที่ ประจ�ำ ตัว การเมอื ง คะแนน ผู้สมคั ร 5 นายฉวาง สขุ กาย 6 อสิ ระ 1,437 ผูไ้ ม่ได้รับเลอื กตง้ั 6 นายกร บณุ โยดม 2 อสิ ระ 1,295 ผู้ไมไ่ ดร้ ับเลือกตง้ั ทีม่ า : “หนงั สือทีร่ ะลึก 67 ปีรฐั สภาไทย,ข้อมูลประวัตกิ ารเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 4.2.13 การเลือกต้งั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัดกระบ่ี ครงั้ ท่ี 13 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปคร้ังที่ 13 ได้จัดให้ มีการเลือกตั้งในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2526 ในการเลือกตั้งครั้งน้ี มีจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 324 คน เป็นการเลือกตั้งโดยตรง แบบผสม (เขตละไม่เกิน 3 คน) ใช้อัตราส่วนราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คน มีวาระ 4 ปี มีผู้มาใช้สิทธ์ิเลือก ตั้งท่ัวประเทศคิดเป็นร้อยละ 50.76 การเลือกต้ังในคร้ังนี้กฏหมายได้ บังคับให้พรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งไม่น้อยกว่า กงึ่ หนงึ่ ของจ�ำ นวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทง้ั หมด แตผ่ สู้ มคั รรบั เลอื ก ต้ังไม่จำ�เป็นต้องสังกัดพรรคการเมืองก็ได้ การเลือกตั้งคร้ังน้ีจังหวัด กระบ่ี มีผู้ท่ีได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 คน ได้แก่ นายอาคม เอ่งฉ้วน สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ นั ติ สงั กดั พรรคกจิ สงั คม เปน็ ครง้ั แรกของการเลอื กตง้ั จงั หวดั กระบ่ีท่ีมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 2 คน สภาชุดนี้มีนายจารุบุตร เรืองสุวรรณ (พ.ศ. 2526 -2527) นายอุกฤษ มงคลนาวิน (พ.ศ. 2527 64
- 2529) ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา และมีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 สภาชุดนส้ี ้นิ สดุ ลงโดยการยุบสภา เมื่อวันท่ี 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 ดังปรากฏในตารางที่ 4.5 ตารางที่ 4.5 การเลอื กตงั้ พ.ศ. 2526 จังหวดั กระบ่ี ล�ำ ดับ ช่ือผสู้ มคั ร เลขหมาย สังกดั พรรค ได้รับ หมายเหตุ ที่ ประจำ�ตวั การเมือง คะแนน ผู้สมคั ร 1 นายอาคม เอ่งฉว้ น ประชาธปิ ัตย์ 21,539 ผไู้ ดร้ บั เลอื กตั้ง 2 นายวาสนา 7 กจิ สงั คม 19,757 ผไู้ ด้รบั เลือกตงั้ บญุ ภพู ันธต์ ันติ 5 3 นายวัชระ สงิ คิวบิ ลู ย์ 2 ชาติไทย 17,265 ผไู้ มไ่ ด้รบั เลือกตง้ั 4 นายสมบูรณ์ สทิ ธิมนต์ 8 ประชาธปิ ัตย์ 13,378 ผู้ไมไ่ ด้รบั เลือกตัง้ 5 นายสันต ิ งามทรัพย์ 4 ชาติ 12,750 ผไู้ ม่ได้รับเลือกต้งั 6 นายกวี ใสหยิด ประชาธปิ ไตย 7 นายภญิ โญ ชูขันธ์ 1 ชาติไทย 9,365 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลือกตั้ง 3 ชาติ 6,410 ผูไ้ มไ่ ดร้ บั เลือกตั้ง 8 นายดวล ดำ�ดี 9 นายเคลื่อน รักการ ประชาธิปไตย 10 นายวริ ตั น์ ปาไหน 11 นายสมพล ขนุ ทอง 6 กิจสังคม 5,306 ผ้ไู มไ่ ด้รับเลอื กตั้ง 10 - 4,134 ผู้ไม่ไดร้ ับเลอื กตงั้ 12 กา้ วหน้า 2,408 ผูไ้ ม่ได้รบั เลอื กตง้ั 11 - 2,246 ผู้ไม่ไดร้ ับเลอื กตั้ง 65
นกั การเมืองถน่ิ จังหวัดกระบี่ ลำ�ดบั ช่ือผูส้ มัคร เลขหมาย สงั กดั พรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจำ�ตัว การเมือง คะแนน ผสู้ มัคร 12 นายสภุ าพ ชนะกุล 14 - 1,738 ผู้ไม่ได้รับเลือกตง้ั 13 นายชอบ คงชนะ 14 นายช่วง ใจแกว้ 9 ประชาเสรี 1,236 ผูไ้ มไ่ ดร้ บั เลอื กต้งั 13 ประชาเสรี 377 ผู้ไม่ไดร้ บั เลอื กตั้ง ท่ีมา : “หนงั สอื ท่ีระลกึ 67 ปรี ัฐสภาไทย,ขอ้ มลู ประวตั กิ ารเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 4.2.14 การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจงั หวัดกระบี่ คร้ังที่ 14 การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทว่ั ไป ครงั้ ที่ 14 มขี น้ึ ในวนั ท่ี 27 กรกฎาคม พ.ศ.2529 ในการเลือกต้งั ครั้งนี้ มีจ�ำ นวนสมาชกิ สภา ผู้แทนราษฎรทงั้ ส้ิน 347 คน เป็นการเลอื กต้งั โดยตรงแบบผสม (เขตละ ไมเ่ กนิ 3 คน) ใช้อตั ราสว่ นราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร1 คน และมีวาระในการดำ�รงต�ำ แหน่ง 4 ปี ผู้มาใช้สทิ ธิเ์ ลอื กตงั้ ทั่วประเทศคิดเป็นร้อยละ 61.43 ในการเลือกตั้งครั้งน้ีผู้สมัครสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรทุกคนต้องสังกัดพรรคการเมือง และพรรคการเมือง ต้องส่งสมาชิกสมัครรับเลือกต้ังไม่น้อยกว่าก่ึงหนึ่งของจำ�นวนสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด จงั หวดั กระบี่ มผี ้ทู ี่ไดร้ บั เลอื กต้งั เปน็ สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร 2 คนด้วยกนั คือ นายวาสนา บุญภพู ันธ์ตนั ติ สงั กดั พรรคกจิ สงั คม นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ สภาชดุ นีม้ นี ายจารบุ ุตร เรืองสุวรรณ (พ.ศ. 2526 - 2527) นายอุกฤษ มงคลนาวนิ (พ.ศ. 2527 - 2529)ประธานวฒุ สิ ภาเป็นประธานรฐั สภา 66
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 5 สิงหาคม พ.ศ.2529 – 4 สิงหาคม พ.ศ. 2531 ส�ำ หรบั สภาชุดนีไ้ ด้ส้นิ สดุ ลงเมอ่ื วนั ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 โดยการยบุ สภา ดงั ปรากฏ ในตารางที่ 4.6 ตารางที่ 4.6 การเลอื กตัง้ พ.ศ. 2529 จังหวัดกระบี่ ล�ำ ดับ ชือ่ ผูส้ มัคร เลขหมาย สังกัดพรรค ไดร้ ับ หมายเหตุ ที่ ประจ�ำ ตัว การเมอื ง คะแนน ผสู้ มัคร 1 นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ 8 ประชาธปิ ตั ย์ 32,043 ผไู้ ด้รบั เลอื กต้งั 2 นายวาสนา บุญภพู นั ธ์ตนั ติ 1 กจิ สงั คม 26,401 ผู้ได้รบั เลือกตั้ง 3 นายอาคม เอ่งฉ้วน 7 ประชาธปิ ัตย์ 25,266 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กตง้ั 4 นายประสทิ ธ ิ กิตติสิทโธ 9 ชาตไิ ทย 20,259 ผไู้ ม่ได้รับเลือกตั้ง 5 นายสนั ต ิ งามทรัพย์ 11 ชาติ 9,008 ผู้ไม่ได้รบั เลอื กตง้ั 6 นายวิรัตน ์ ปาไหน ประชาธปิ ไตย 10 ชาตไิ ทย 6,282 ผู้ไมไ่ ดร้ บั เลือกตั้ง 7 นายอรุณ สชุ าฎา 3 ก้าวหน้า 3,905 ผไู้ ม่ได้รับเลอื กต้งั 8 นายภิญโญ ชขู นั ธ์ 12 ชาติ 3,162 ผู้ไมไ่ ดร้ ับเลอื กตั้ง 9 นายสุขสันต ิ ไทรบุรี ประชาธิปไตย 2 กิจประชาคม 2,934 ผู้ไมไ่ ดร้ บั เลือกตั้ง 10 นายชอบ คงชนะ 5 สหประชา 1,584 ผไู้ มไ่ ด้รับเลอื กตั้ง ธิปไตย 11 นายธีรเดช ดินแดง 4 กา้ วหนา้ 1,381 ผ้ไู ม่ได้รับเลือกตงั้ 12 นายศลิ ป์ เสริมเกยี รติวฒั น์ 6 สหธปปิ รไตะชยา 1,115 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กตั้ง 67
นกั การเมอื งถนิ่ จงั หวัดกระบ่ี ลำ�ดับ ชื่อผูส้ มัคร เลขหมาย สังกัดพรรค ได้รบั หมายเหตุ ท่ี ประจ�ำ ตัว การเมอื ง คะแนน ผ้สู มัคร 13 นายกุศล ทบั ไทร 14 ประแชรางธงาิปนไตย 721 ผไู้ ม่ได้รบั เลือกตง้ั 14 นายอาคม 16 เสรนี ยิ ม 183 ผไู้ ม่ไดร้ ับเลอื กตง้ั ศรางกูร ณ อยธุ ยา 15 นายอนุศักดิ ์ สุขทรัพย์สร้าง 13 แรงงาน 160 ผไู้ มไ่ ดร้ บั เลอื กต้ัง ประชาธิปไตย 16 นายอดลุ ย์ บญุ โพธ์ิ 15 เสรีนยิ ม 123 ผ้ไู มไ่ ด้รบั เลือกตง้ั ทม่ี า : “หนงั สือท่ีระลกึ 67 ปรี ฐั สภาไทย,ข้อมลู ประวัติการเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 4.2.15 การเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ของจังหวัดกระบ่ี ครัง้ ท่ี 15 การเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรทั่วไปครั้งที่ 15 ได้มขี ้นึ ใน วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2531 ในการเลอื กตง้ั ครั้งน้ี มจี ำ�นวนสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 357 คน เป็นการเลอื กตงั้ โดยตรงแบบผสม (เขตละ ไม่เกิน 3 คน) ใชอ้ ัตราสว่ นราษฎร 150,000 คน ตอ่ สมาชกิ สภาผู้แทน ราษฎร 1 คน มีวาระ 4 ปี ผมู้ าใชส้ ิทธิ์เลือกตัง้ ทว่ั ประเทศคิดเปน็ รอ้ ย ละ 63.56 ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนต้องสมัครในนาม พรรคการเมือง และพรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งไม่ น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด จังหวัด กระบ่ี มผี ทู้ ไ่ี ดร้ บั เลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2 คนเหมอื นเดมิ การเลอื กต้ังครง้ั นี้ผู้ได้รบั การเลอื กต้งั ไดแ้ ก่ นายอาคม เอ่งฉว้ น สังกดั พรรคประชาธปิ ตั ยแ์ ละนายสมบรู ณ์ สทิ ธมิ นตส์ งั กดั พรรคเอกภาพ สภา 68
ชดุ นม้ี นี ายอุกฤษ มงคลนาวิน (พ.ศ. 2531 - 2532) เปน็ ประธานรฐั สภา และรอ้ ยตำ�รวจตรี วรรณ ชนั ซ่อื ประธานวฒุ สิ ภาเปน็ ประธานรฐั สภา (พ.ศ. 2532 -2534) พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ดำ�รงตำ�แหนง่ นายก รฐั มนตรี เมอื่ วนั ที่ 4 สงิ หาคม พ.ศ. 2531 - 9 ธนั วาคม พ.ศ. 2533 และอกี คร้งั ในระหว่างวนั ท่ี 9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 23 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2534 ส�ำ หรบั สภาชุดนี้ไดส้ ิน้ สุดลงเม่อื วนั ท่ี 23 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2534 โดยการปฏิวัติยึดอำ�นาจการปกครองของคณะรักษาความสงบ เรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ภายใต้การนำ�ของพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ การปกครองประเทศโดยคณะรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยแหง่ ชาติ (รสช.) ภายใต้การนำ�ของพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ส้ินสุดลงเม่ือวันท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 เพราะมีการประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่ คอื รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2534 (ฉบับท่ี 15) ดัง ปรากฏในตารางท่ี 4.7 ตารางท่ี 4.7 การเลอื กตง้ั พ.ศ. 2531 จงั หวัดกระบ่ี ลำ�ดับ ชือ่ ผูส้ มคั ร เลขหมาย สงั กัดพรรค ไดร้ ับ หมายเหตุ ท่ี ประจ�ำ ตวั การเมือง คะแนน ผู้สมัคร 1 นายอาคม เอง่ ฉว้ น ประชาธิปตั ย์ 37,699 ผไู้ ด้รบั เลือกตัง้ 29,456 ผู้ได้รบั เลอื กตัง้ 2 นายสมบูรณ์ สิทธมิ นต์ ประชาชน 3 นายวาสนา กิจประชาคม 26,091 ผูไ้ มไ่ ดร้ ับเลอื กต้ัง บญุ ภูพันธ์ตนั ติ 69
นกั การเมืองถิน่ จงั หวัดกระบ่ี ลำ�ดบั ชื่อผ้สู มคั ร เลขหมาย สงั กดั พรรค ได้รับ หมายเหตุ ท่ี ประจำ�ตวั การเมอื ง คะแนน ผ้สู มัคร 4 นายประสทิ ธ ิ กิตตสิ ทิ โธ ชาติไทย 14,332 ผไู้ ม่ได้รับเลอื กตง้ั 5 นายประศึก ผ่อล้วน ประชาชน 12,674 ผู้ไมไ่ ด้รบั เลอื กตัง้ 6 นายวริ ัตน์ ปาไหน กา้ วหน้า 11,106 ผู้ไม่ได้รับเลือกตง้ั 7 นายประหยัด เกกนิ ะ ประชาธปิ ัตย์ 8,198 ผู้ไมไ่ ดร้ บั เลอื กตั้ง 8 จ.ส.ต.สุนันท ์ บญุ มา ราษฎร 3,699 ผไู้ มไ่ ดร้ บั เลอื กตงั้ 9 นายภญิ โญ ชูขนั ธ์ พลังธรรม 3,046 ผไู้ มไ่ ดร้ บั เลือกตง้ั 10 นายไกรลาศ สทุ ธเิ กิด พลงั ธรรม 2,957 ผไู้ ม่ไดร้ ับเลอื กตง้ั 11 นายสุขสนั ติ ไทรบรุ ี กจิ ประชาคม 2,615 ผไู้ มไ่ ดร้ บั เลอื กตงั้ 12 นายธีรเดช ดินแดง กจิ สงั คม 1,061 ผไู้ ม่ไดร้ ับเลือกตง้ั 13 นายกอ่ คาด เยบ็ ปกั ษ์ ราษฎร 1,025 ผู้ไม่ได้รับเลอื กต้งั 14 นางวรรณ ี กติ ติสทิ โธ ชาตไิ ทย 829 ผู้ไมไ่ ด้รับเลอื กตง้ั 15 นายสุชน ชดชอ้ ย กจิ สังคม 829 ผูไ้ ม่ได้รบั เลือกตั้ง 16 นายประจักษ ์ คงสวุ รรณ กา้ วหน้า 281 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลือกตั้ง ทมี่ า : “หนงั สือทรี่ ะลึก 67 ปรี ัฐสภาไทย,ขอ้ มลู ประวตั กิ ารเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 4.2.16 การเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัดกระบ่ี คร้งั ท่ี 16 ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่ัวไปคร้ังที่ 16 เม่ือ วนั ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 มีจำ�นวนสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 360 คน โดยจำ�นวนไม่มีการเปล่ียนแปลงไปตามจำ�นวนราษฎรที่เพ่ิมข้ึน 70
แต่อย่างใด เป็นการเลือกต้ังโดยตรงแบบผสม เขตละไม่เกิน 3 คน และมีวาระ 4 ปี ผมู้ าใช้สิทธเ์ิ ลือกต้ังท่วั ประเทศคดิ เปน็ รอ้ ยละ 59.28 ผสู้ มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทกุ คนตอ้ งสมคั รในนามพรรคการเมอื ง และพรรคการเมอื งตอ้ งสง่ สมาชกิ สมคั รรบั เลอื กตง้ั ไมน่ อ้ ยกวา่ 120 คน จังหวัดกระบ่ีมีผู้ที่ได้รับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุลและนายอาคม เอ่งฉ้วน สังกัดพรรค ประชาธิปัตย และเป็นคร้ังแรกที่พรรคประชาธิปัตย์ สามารถปักธง คว้าชัยชนะได้ทั้ง 2 คน ในจังหวัดกระบ่ี สภาชุดนี้มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา สภาชุดนี้ส้ินสุดลง เมื่อวันท่ี 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535 โดยการยุบสภา ซ่ึงในช่วงระยะ เวลาน้ีได้เกิดเหตุการณ์เดินขบวนประท้วงขับไล่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ที่ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี โดยไม่ได้เป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเป็นเหตุให้ประชาชน นักวิชาการ นักศึกษา และ นักการเมืองร่วมกันเดินขบวนขับไล่เผด็จการสุจินดา และได้มีการ สลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงโดยเอาปืนยิงใส่ประชาชน ก่อให้ เกิดเหตุการณ์การเปล่ียนแปลงทางการเมืองที่สำ�คัญของประเทศไทย ท่ีเรยี กวา่ “พฤษภาทมิฬ” ดงั ปรากฏในตารางที่ 4.8 71
นกั การเมอื งถน่ิ จงั หวัดกระบี่ ตารางท่ี 4.8 การเลอื กต้งั พ.ศ. 2535 จงั หวดั กระบ่ี ลำ�ดบั ชอื่ ผ้สู มัคร เลขหมาย สงั กัดพรรค ได้รบั หมายเหตุ ที่ ประจ�ำ ตวั การเมอื ง คะแนน ผู้สมคั ร 1 นายพเิ ชษฐ พนั ธวุ์ ชิ าตกิ ุล 1 ประชาธิปัตย์ 47,999 ผู้ได้รับเลอื กตง้ั 2 นายอาคม เอ่งฉ้วน 2 ประชาธปิ ัตย์ 46,793 ผ้ไู ด้รับเลือกต้ัง 3 นายสมเกียรต ิ กติ ติธรกลุ 3 ความหวังใหม่ 41,745 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กตง้ั 4 นายสมบูรณ ์ สิทธมิ นต์ 4 ความหวังใหม่ 35,497 ผไู้ มไ่ ด้รับเลือกตั้ง 5 นายวาสนา บญุ ภพู นั ธต์ ันติ 5 พลังธรรม 10,049 ผูไ้ มไ่ ดร้ ับเลอื กต้งั 6 นายพิบลู ย ์ สาระวารี 6 พลงั ธรรม 8,598 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลอื กตัง้ ทม่ี า : “หนังสอื ทรี่ ะลึก 67 ปรี ัฐสภาไทย, ข้อมลู ประวตั ิการเมืองไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 4.2.17 การเลอื กต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ของจังหวดั กระบี่ คร้ังท่ี 17 การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทวั่ ไปครง้ั ท่ี 17 ไดม้ ขี นึ้ เมอ่ื วนั ท่ี 13 กนั ยายน พ.ศ.2535 ในการเลอื กตงั้ ครงั้ น้ี มจี �ำ นวนสมาชกิ สภา ผู้แทนราษฎร 360 คน เป็นการเลือกต้ังโดยตรงแบบผสม (เขตละไม่ เกนิ 3 คน) ใชอ้ ตั ราสว่ นราษฎรเฉลย่ี ท้ังประเทศ ตอ่ สมาชกิ สภาผู้แทน ราษฎร 360 คน ประมาณ 150,000 คน ต่อสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 1 คน และมวี าระ 4 ปี ผมู้ าใช้สทิ ธิเ์ ลอื กตั้งทว่ั ประเทศคิดเป็นร้อยละ 61.61 ผสู้ มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทกุ คนตอ้ งสงั กดั พรรคการเมอื ง 72
และพรรคการเมอื งตอ้ งสง่ สมาชกิ สมคั รรบั เลอื กตง้ั ไมน่ อ้ ยกวา่ 120 คน จงั หวัดกระบ่ี มผี ทู้ ไ่ี ด้รับเลือกต้ังเปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 คน ได้แกน่ ายพิเชษฐ พันธว์ุ ิชาติกลุ และ นายอาคม เอ่งฉ้วน สังกัดพรรค ประชาธปิ ตั ย์ สภาชดุ นมี้ นี ายมารตุ บนุ นาค ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร เป็นประธานรฐั สภา มีนายชวน หลกี ภยั ด�ำ รงต�ำ แหนง่ นายกรัฐมนตรี ระหวา่ งวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2535 – 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 และ สภาชดุ นี้สิน้ สุดลงเมือ่ วันท่ี 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 โดยการยุบสภา 4.2.18 การเลอื กต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจังหวดั กระบี่ ครั้งท่ี 18 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปครั้งที่ 18 เม่ือวัน ท่ี 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 การเลือกตั้งคร้ังน้ี มีจำ�นวนสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร 391 คน เป็นการเลือกตั้งโดยตรงแบบผสม เขตละไม่เกิน 3 คน ใชอ้ ัตราสว่ นราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 1 คนและมวี าระในการดำ�รงตำ�แหนง่ 4 ปี ในการเลือกตงั้ ครง้ั น้มี ีผู้มา ใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศคิดเป็นร้อยละ 62.04 ในการเลือกต้ังคร้ังน้ี ผทู้ มี่ อี ายไุ มต่ �ำ่ กวา่ 18 ปบี รบิ รู ณใ์ นวนั ท่ี 1 มกราคม ของปที มี่ กี ารเลอื ก ต้ังมีสิทธิเลือกต้ังได้เป็นครั้งแรก ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุก คนต้องสังกัดพรรคการเมือง และพรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกสมัคร รับเลือกตั้งไม่น้อยกว่าหนึ่งในส่ีของจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทง้ั หมด ผลการเลอื กตง้ั ในครง้ั นจ้ี งั หวดั กระบ่ี มผี ทู้ ไี่ ดร้ บั การเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจ�ำ นวน 2 คน ไดแ้ ก่ นายพเิ ชษฐ พนั ธว์ุ ชิ าตกิ ลุ และนายอาคม เอง่ ฉว้ นสงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ เหมอื นเดมิ สภาชดุ น้ี มนี ายบญุ เออ้ื ประเสรฐิ สวุ รรณ ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรเปน็ ประธาน 73
นักการเมอื งถิน่ จงั หวดั กระบ่ี รัฐสภา (พ.ศ. 2538 - 2539) มนี ายบรรหาร ศลิ ปอาชา ดำ�รงตำ�แหนง่ นายกรัฐมนตรี เมือ่ วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 สภาผู้แทนราษฎรชดุ นี้สนิ้ สุดลงโดยการยุบสภา ดังปรากฏ ในตารางท่ี 4.9 ตารางท่ี 4.9 การเลอื กต้งั พ.ศ. 2538 จงั หวดั กระบี่ ล�ำ ดบั ชอ่ื ผ้สู มคั ร เลขหมาย สงั กัดพรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจำ�ตัว การเมือง คะแนน ผ้สู มคั ร 1 นายพิเชษฐ พนั ธุว์ ิชาตกิ ลุ 1 ประชาธิปัตย์ 94,356 ผู้ได้รับเลือกตั้ง 2 นายอาคม เอง่ ฉว้ น 2 ประชาธิปัตย์ 83,024 ผไู้ ด้รบั เลือกต้ัง 3 นายสมเกียรติ กิตตธิ รกุล 3 ชาติไทย 47,012 ผู้ไมไ่ ด้รับเลอื กตั้ง 4 นายสมบูรณ์ สทิ ธิมนต์ 5 ความหวังใหม่ 25,460 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลือกตั้ง 5 นายสวสั ด ิ์ พยายาม 4 ชาตไิ ทย 4,341 ผู้ไม่ได้รับเลือกตั้ง 6 นางสาวปา่ ณณสิ ตต์ า 6 ความหวงั ใหม่ 3,097 ผไู้ ม่ได้รับเลอื กต้ัง มาศหวัง ทมี่ า : “หนังสือท่ีระลึก 67 ปีรฐั สภาไทย,ข้อมลู ประวตั กิ ารเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 4.2.19 การเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัดกระบี่ คร้ังท่ี 19 การเลือกต้งั สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรท่วั ไปคร้งั ท่ี 19 เม่อื วันท่ี 74
17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 การเลือกต้งั คร้งั น้ี มีจำ�นวนสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 393 คน เป็นการเลือกตั้งโดยตรงแบบผสม (เขตละไม่ เกิน 3 คน) ใช้อัตราส่วนราษฎร 150,000 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร 1 มีวาระ 4 ปี มีผมู้ าใช้สิทธิ์เลอื กตั้งทั่วประเทศคดิ เป็นร้อยละ 62.42 ผสู้ มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทกุ คน ตอ้ งสงั กดั พรรคการเมอื ง และพรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรไม่น้อยกว่าหน่ึงในส่ีของจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท้งั หมด ผลการเลือกตงั้ ในคร้ังนจ้ี งั หวัดกระบ่ี มีผทู้ ่ไี ด้รับการเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2 คน ได้แก่ นายพเิ ชษฐ พันธุว์ ชิ าติกลุ และนายอาคม เอง่ ฉว้ น สงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ เหมอื นเดมิ สภาชดุ นม้ี ี นายวนั มหู ะมดั นอร์ มะทา ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรเปน็ ประธานรฐั สภา (พ.ศ. 2539 - 2543) มีพลเอกเชาวลติ ยงใจยุทธ ดำ�รงต�ำ แหน่งนายก รฐั มนตรี (25 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2539-9 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2540) สภาผแู้ ทน ราษฎรชดุ นส้ี น้ิ สดุ ลงเมอ่ื วนั ท่ี 9 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2543 โดยการยบุ สภา 4.2.20 การเลือกตั้งสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร ของจงั หวดั กระบี่ ครั้งที่ 20 การเลอื กต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรท่วั ไปครัง้ ท่ี 20 เมือ่ วนั ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 การเลือกต้ังครงั้ น้มี จี �ำ นวนสมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎร 500 คน มาจากการเลอื กตง้ั แบบแบง่ เขตเลอื กตง้ั จ�ำ นวน 400 คน และมาจากการเลอื กตง้ั แบบบญั ชรี ายชอื่ จ�ำ นวน 100 คน ซงึ่ เปน็ มติ ใิ หม่ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (ฉบบั ท่ี 16) รัฐธรรมนูญ 75
นกั การเมอื งถนิ่ จังหวดั กระบ่ี ฉบับนถี้ อื ไดว้ า่ เปน็ รฐั ธรรมนญู เพื่อการปฏริ ูปการเมือง ท�ำ ให้การเมอื ง ไทยมีความทันสมัย และเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมมากยิ่งข้ึน จังหวัดกระบี่ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 2 คนได้แก่นายพิเชษฐ พนั ธวุ์ ชิ าตกิ ลุ และนายอาคม เอง่ ฉว้ น สงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ยเ์ หมอื น เดิม สำ�หรับสภาชุดนี้มีนายอุทัย พิมพ์ใจชน ดำ�รงตำ�แหน่งประธาน รัฐสภา มีพันตำ�รวจโททักษิณ ชินวัตร ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2544 ถึงวนั ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548 และ สภาชดุ นไี้ ดส้ น้ิ สดุ ลงเมอ่ื ครบวาระ 4 ปี เมอื่ วนั ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2548 ดังปรากฏในตารางท่ี 4.10 ตารางที่ 4.10 การเลอื กต้งั พ.ศ. 2544 จงั หวดั กระบ่ี ลำ�ดับ ชอ่ื ผสู้ มคั ร เลขหมาย สงั กัดพรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจ�ำ ตัว การเมือง คะแนน ขอ้ มูลเขต1 ผู้สมัคร 1 นายอาคม เอง่ ฉว้ น 16 ประชาธิปตั ย์ 53,059 ผไู้ ด้รบั เลือกต้งั 2 นายนพรตั น ์ กาญจนวโรดม 7 ไทยรักไทย 16,465 ผู้ไมไ่ ดร้ ับเลือกตั้ง 3 นายม่านดั หลานหาด 15 เสรธี รรม 2,715 ผู้ไมไ่ ดร้ บั เลอื กต้ัง 4 นายอริษฎ์ จริ เดชตระกลู 5 ความหวงั ใหม่ 1,237 ผ้ไู ม่ได้รบั เลอื กตั้ง 5 นายอรรถพล หริ ญั พงศ์ 18 ประชากรไทย 1,139 ผ้ไู ม่ไดร้ บั เลอื กตั้ง 6 นายอุทัย เอ่งฉ้วน 11 ถนิ่ ไทย 650 ผไู้ ม่ได้รับเลือกตงั้ 7 นายชะลอ หมนั การ 21 ชาตพิ ฒั นา 629 ผไู้ ม่ได้รบั เลอื กตง้ั 8 นายสมจิตร การพร้อม 9 ชาติไทย 557 ผู้ไม่ได้รับเลือกตง้ั 76
ล�ำ ดับ ชอื่ ผูส้ มคั ร เลขหมาย สังกัดพรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจำ�ตัว การเมอื ง คะแนน ผูส้ มัคร 9 นางสาวสมหทัย มนสั วโรวงค์ 28 ไทยมหารฐั 556 ผู้ไม่ได้รบั เลอื กตัง้ พลังธรรม 108 ผู้ไม่ได้รับเลอื กต้ัง 10 นายภญิ โญ ชขู นั ธ์ 32 ท่ีมา : “หนงั สือท่ีระลกึ 67 ปีรัฐสภาไทย,ข้อมลู ประวัตกิ ารเมืองไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ,2543. 4.2.21 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ของจงั หวัดกระบี่ ครงั้ ท่ี 21 การเลอื กต้ังสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรทัว่ ไปคร้ังที่ 21 เม่อื วนั ท่ี 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 การเลือกตั้งครั้งน้ี มีจำ�นวนสมาชิกสภา ผูแ้ ทนราษฎร 500 คน มาจากการเลือกต้ังแบบแบง่ เขตเลือกตัง้ จำ�นวน 400 คน และมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายช่ือจำ�นวน 100 คน จังหวดั กระบ่ี มสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรที่ได้รบั เลือก 2 คนเหมือนเดมิ ได้แก่นายพิเชษฐ พันธ์ุวิชาติกุลและนายอาคม เอ่งฉ้วน สังกัดพรรค ประชาธปิ ัตย์ สภาชดุ น้มี ีนายโภคิน พลกลุ เปน็ ประธานรัฐสภา มีพนั ตำ�รวจโททักษิณ ชนิ วัตร ด�ำ รงตำ�แหนง่ นายกรฐั มนตรี สภาชดุ นี้ส้ินสุด ลงโดยการยบุ สภาเมือ่ วันท่ี 24 กุมภาพันธ์ 2549 และได้ก�ำ หนดให้มี การเลือกต้งั ทว่ั ไปในวันท่ี 2 เมษายน 2549 ในการประกาศยบุ สภาใน ครง้ั น้ี กลุ่มทตี่ ้องการให้ พนั ตำ�รวจโท ดร. ทกั ษณิ ชินวตั ร ลาออกจาก ต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี เนอ่ื งจากปญั หาจรยิ ธรรมในการบรหิ ารประเทศ ภายใต้การนำ�ของ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพ่ือประชาธิปไตย” นำ�โดยพลตรีจำ�ลอง ศรเี มือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผ้จู ดั รายการ “เมือง 77
นกั การเมืองถ่ินจังหวัดกระบี่ ไทยรายสัปดาห์สัญจร” นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงศ์ ไพบูลย์ และนายสรุ ยิ ะใส กตะศลิ า ซ่ึงได้จดั ชุมนมุ ประทว้ ง เดินขบวน ขับไล่ เรียกร้อง ให้พันตำ�รวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตรลาออกจากการ เปน็ นายกรฐั มนตรี ซงึ่ เปน็ ความขัดแยง้ ทางความคิด ของคนในสังคม ไทยอย่างรุนแรง อย่างท่ีไม่เคยมีมาก่อน ในคร้ังน้ีพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน คว่ำ�บาทไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกต้ัง เม่ือการเลือกต้ังเสร็จส้ินแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้การเลือกต้ัง ในครั้งน้ีเป็นโมฆะ จึงทำ�ให้ต้องมกี ารเลือกต้ังใหม่อีกครั้ง โดยกำ�หนด ให้มีข้ึนในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2549 แต่ยังไม่ได้เลือกตั้งเพราะ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ยึดอำ�นาจเสียก่อน เมอื่ วนั ท่ี 19 กนั ยายน 2549 ประเทศไทยถกู ปกครองโดยทหารอกี ครงั้ หนง่ึ และดำ�เนนิ การรา่ งรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยเสรจ็ และจดั ให้มีการเลอื กต้ังใหม่อกี ครง้ั ดังปรากฏในตารางท่ี 4.11 ตารางที่ 4.11 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 จงั หวัดกระบี่ ล�ำ ดบั ช่อื ผู้สมัคร เลขหมาย สังกดั พรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจ�ำ ตัว การเมือง คะแนน ผ้สู มคั ร 1 นายพเิ ชษฐ พนั ธุวชิ าตกิ ลุ ประชาธปิ ตั ย์ 67,022 ผู้ได้รบั เลือกตง้ั 2 นายอาคม เอง่ ฉว้ น ประชาธิปตั ย์ 63,783 ผไู้ ดร้ ับเลอื กตัง้ 3 นายดำ�รง กิตติธรกลุ ไทยรกั ไทย 32,594 ผู้ไม่ได้รับเลอื กตงั้ 4 นายสฤษฎพ์ งษ์ เกยี่ วขอ้ ง ไทยรกั ไทย 30,581 ผไู้ ม่ได้รับเลอื กต้ัง 78
ล�ำ ดบั ชอ่ื ผู้สมคั ร เลขหมาย สังกดั พรรค ได้รบั หมายเหตุ ที่ ประจำ�ตัว การเมอื ง คะแนน ผู้สมัคร 5 นายอรษิ ฎร์ จริ เดชตระกลู มหาชน 3,177 ผูไ้ ม่ไดร้ ับเลอื กต้ัง ท่ีมา : “หนงั สือทีร่ ะลึก 67 ปีรฐั สภาไทย,ขอ้ มูลประวตั ิการเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ,2543. 4.2.22 การเลือกตงั้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ของจงั หวดั กระบี่ ครัง้ ท่ี 22 วันที่ 23 ธนั วาคม 2550 นายพิเชษฐ พันธุว์ ิชาติกุล นายอาคม เอ่งฉว้ นและนายสาคร เกีย่ วข้อง สังกดั พรรคประชาธปิ ัตย์ ไดร้ ับการ เลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เป็นครั้งแรกของจังหวัดกระบี่ท่ี ไดจ้ �ำ นวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฏรเพมิ่ ขนึ้ และสงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ ทง้ั หมด โดยมนี ายสมคั ร สุนทรเวช เปน็ นายกรัฐมนตรี ตอ่ มาตุลาการ ศาลรฐั ธรรมนูญได้ตดั สนิ คดี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ถกู ร้องว่า เป็นพิธีกรในรายการ “ชิมไปบ่นไป” และรายการ “ยกโขยง หกโมงเช้า” ของบริษัทเฟซ มีเดีย มาหลายปีต้ังแต่ก่อนรับตำ�แหน่ง นายกรัฐมนตรี และหลังจากท่ีนายสมัครฯได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งต้ังเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังคงเป็นพิธีกรต่อเน่ือง ตามท่ี นายเรืองไกรและ กกต.ย่ืนคำ�ร้อง เข้าข่ายการเป็นลูกจ้าง ซ่ึงต้อง ห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๗ (ห้ามนายกรัฐมนตรีดำ�รง ตำ�แหน่งใดๆ ในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำ�เนินธุรกิจ โดยมุ่งหาผลกำ�ไรหรือรายได้มาแบ่งปันกันหรือเป็นลูกจ้างของ บุคคลใดก็มิได้ด้วย) จึงทำ�ให้ความเป็นรัฐมนตรี(นายกรัฐมนตรี) 79
นักการเมืองถิน่ จงั หวัดกระบ่ี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๒/๗ เม่ือวันอังคารท่ี ๙ กันยายน ๒๕๕๑ เวลา ๑๕.๔๐ น. (http://www.paisalvision.com/ content/2008-12-08-03-15-07/3583-2009-12-03-04-58-44.html) หลังจากน้ันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (น้องเขยพันตำ�รวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร) ได้รับการโหวตจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีและถูกกล่าวหาว่าเป็นร่างทรง พันตำ�รวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร จึงถูกกลุ่มพันธมิตรยึดที่ทำ�เนียบไม่สามารถเข้า ท�ำ งานที่ท�ำ เนยี บรัฐบาลได้ ตอ่ มาวนั ท่ี 2 ธนั วาคม พ.ศ. 2551 ศาล รัฐธรรมนูญได้อ่านคำ�วินิจฉัยคดียุบพรรค พลังประชาชน อันเน่ือง มาจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช จากพรรค พลังประชาชน แถลงด้วยวาจาเสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่รอพรรคพลัง ประชาชนไมไ่ ด้สง่ ตวั เข้าแถลงปดิ คดแี ตอ่ ยา่ งใด ต่อมาศาลรฐั ธรรมนูญ ได้อ่านคำ�วินิจฉัยในส่วนของพรรคพลังประชาชน ด้วยมติเอกฉันท์ 9 ตอ่ 0 ใหย้ บุ พรรคพลงั ประชาชน และตดั สิทธทิ างการเมืองหัวหน้า พรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 37 คน) ตามประกาศ คณะปฏริ ปู การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริย์ ทรงเปน็ ประมขุ ท�ำ ใหน้ ายสมชาย วงศส์ วสั ดิ์ ในฐานะรกั ษาการหวั หนา้ พรรคพลังประชาชนต้องพ้นจากตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย (http://th.wikipedia.org/wiki) และท่ีสำ�คัญนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถเข้างานใน ท�ำ เนียบรัฐบาลได้ จนมาถงึ นายกรฐั มนตรคี นปจั จบุ นั คอื นายอภสิ ทิ ธ์ิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายชัย ชิดชอบ เป็น ประธานสภาผ้แู ทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา แต่การเลือกต้งั ยังไม่ เปลย่ี น แปลงจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของจังหวัดกระบี่ก็ยัง 80
เหมือนเดิม ดังปรากฏในตารางท่ี 4.12 ตารางที่ 4.12 การเลอื กตัง้ พ.ศ. 2550 จงั หวดั กระบี่ ล�ำ ดับ ชื่อผู้สมัคร เลขหมาย สังกัดพรรค ได้รบั หมายเหตุ ท่ี ประจำ�ตัว การเมือง คะแนน ผสู้ มัคร 1 นายอาคม เอง่ ฉว้ น 7 ประชาธิปัตย์ 124,739 ผไู้ ด้รับเลอื กตั้ง 2 นายสาคร เกีย่ วข้อง 8 ประชาธปิ ตั ย์ 124,600 ผู้ได้รบั เลือกตั้ง 3 นายพเิ ชษฐ พนั ธว์ุ ิชาตกิ ลุ 9 ประชาธิปัตย์ 120,612 ผไู้ ด้รบั เลือกตง้ั 4 นายสวัสด์ิ พยายาม 18 พลงั ประชาชน 24,453 ผู้ไมไ่ ด้รับเลอื กตง้ั 5 นายวทิ ยาการ ลกู หยี 13 เพื่อแผ่นดิน 23,220 ผไู้ ม่ไดร้ ับเลือกตง้ั 6 นายมา่ นัด หลานหาด 5 รวมใจไทย 22,374 ผู้ไมไ่ ดร้ ับเลือกตัง้ ชาตพิ ฒั นา 7 นางสาวรงุ่ นภา ใยทอง 4 รวมใจไทย 20,938 ผไู้ มไ่ ด้รับเลือกตั้ง ชาตพิ ัฒนา 8 นายสฤษฎพ์ งษ์ เกี่ยวข้อง 16 พลังประชาชน 19,388 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กตั้ง 9 นายอรรถพล หริ ญั พงศ์ 17 พลงั ประชาชน 14,141 ผู้ไม่ไดร้ ับเลือกตั้ง 10 นายสนทยา เกอื้ บุตร 6 รวมใจไทย 10,724 ผู้ไม่ไดร้ ับเลือกตงั้ 11 นายวษิ ณ ุ มณมี ัย ชาติพัฒนา 1 เครอื ข่ายชาวนา 5,789 ผู้ไม่ได้รับเลอื กต้ัง แหง่ ประเทศไทย 12 นายจรยิ วฒั น ์ ปานแก้ว 3 เครือข่ายชาวนา 5,623 ผูไ้ มไ่ ดร้ ับเลือกตัง้ แห่งประเทศไทย 13 นายวรเชษ บุญประกอบ 15 เพอ่ื แผน่ ดิน 5,532 ผู้ไม่ได้รับเลือกตงั้ 81
นกั การเมอื งถิ่นจังหวดั กระบ่ี ล�ำ ดับ ช่ือผู้สมคั ร เลขหมาย สงั กัดพรรค ไดร้ บั หมายเหตุ ท่ี ประจ�ำ ตัว การเมอื ง คะแนน ผ้สู มคั ร 14 ด.ต.วิมล ศรสี วัสดิ์ 10 ชาตไิ ทย 5,260 ผู้ไม่ได้รบั เลือกตัง้ 15 นายสมเกียรต์ ิ ช�ำ นาญกิจ 2 เครอื ข่ายชาวนา 4,739 ผไู้ ม่ได้รบั เลอื กตั้ง แห่งประเทศไทย 16 นายนนั ทพร คาวิจิตร 12 ชาตไิ ทย 4,512 ผู้ไม่ได้รับเลอื กตง้ั 17 นายอรษิ ฎร ์ จิรเดชตระกูล 14 เพอ่ื แผน่ ดนิ 3,677 ผู้ไม่ไดร้ ับเลอื กตง้ั 18 วา่ ท่ี พ.ต.เจ๊ะห้าสัน ยะลา 11 ชาติไทย 3,136 ผู้ไม่ได้รับเลือกตง้ั 19 นางศิริรตั น์ สังข์ขำ� 19 ไทยร�่ำรวย 2,484 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กตง้ั 20 นายอดลุ ย์ บตุ รหล�ำ 21 ไทยร่ำ� รวย 1,573 ผไู้ มไ่ ดร้ ับเลอื กต้ัง 21 นายรจุ เถนวอ้ ง 20 ไทยร�ำ่ รวย 1,204 ผู้ไมไ่ ดร้ ับเลอื กตั้ง 22 นายจาตุรงค์ พูลเกิด 23 พลงั แผ่นดิน 829 ผู้ไมไ่ ดร้ ับเลอื กตั้ง 23 นายสมใจ คงแจ่ม 22 พลังแผน่ ดิน 674 ผ้ไู ม่ไดร้ บั เลอื กตง้ั 24 นายสมชาย ไกรณรา 24 พลังแผน่ ดนิ 511 ผไู้ ม่ไดร้ บั เลอื กต้งั ทมี่ า : “หนังสอื ทร่ี ะลึก 67 ปรี ัฐสภาไทย,ขอ้ มลู ประวัติการเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ,2543. บทสรุปการเมืองจังหวัดกระบี่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ผู้วิจัย รวบรวมเพื่อให้เห็นภาพ กว้าง ๆ ตั้งแต่เริ่มการเลือกต้ังคร้ังแรก คือ วนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2476 ถึงปัจจบุ ันนบั เปน็ เวลา 77 ปี ท�ำ ให้ เห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองท่ีมีการพัฒนาไปในทิศทางท่ีดีข้ึน โดยมีจำ�นวนการเลอื กต้ังทง้ั หมด 22 คร้ัง ครงั้ ที่ 1 - ครง้ั ท่ี 12 มี จ�ำ นวนสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรคราวละ 1 คน สว่ นในการเลอื กตง้ั ครงั้ ที่ 13 - ครงั้ ที่ 21 มจี ำ�นวนสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรคราวละ 2 คน 82
และในการเลือกต้ังครั้งสุดท้ายคือ คร้ังที่ 22 มีจำ�นวนสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร 3 คน รายละเอยี ดดังปรากฏในตารางท่ี 4.13 ตารางที่ 4.13 รายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวดั กระบี่ ตั้งแต่วนั ที่ 15 พฤศจิกายน 2476 - 23 ธันวาคม 2550 ครงั้ ท่ี วนั เดอื น ปี ผไู้ ด้รบั เลือกตง้ั พรรค 1 15 พฤศจิกายน 2476 พระบรริ กั ษร์ าชอกั ษร เสรีมนงั คศิลา (มาตย ์ ณ ถลาง) ประชาธปิ ตั ย์ ไมส่ ังกดั พรรค 2 7 พฤศจิกายน 2480 นายทองใบ สคุ นธกนิษฐ์ ประชาธปิ ตั ย์ ประชาธิปัตย์ 3 12 พฤศจกิ ายน 2481 นายเต๋ พวงนุ่น กิจสังคม ประชาธิปัตย์ 4 6 มกราคม 2489 นายปรญิ ญา จูฑามาตย์ กจิ สงั คม กิจประชาคม 5 29 มกราคม 2491 นายเน่นิ เกษสวุ รรณ์ ประชาธปิ ัตย์ 6 26 กุมภาพนั ธ์ 2495 นายเน่ิน เกษสุวรรณ์ 83 7 26 กมุ ภาพันธ์ 2500 นายเนนิ่ เกษสวุ รรณ์ 8 15 ธันวาคม 2500 นายฟื้น สคุ นธกนษิ ฐ์ 9 10 กมุ ภาพนั ธ์ 2512 นายปรีดา อรา่ ม 10 26 มกราคม 2518 นายปริญญา จฑู ามาตย์ 11 4 เมษายน 2519 นายกวี ใสยิด 12 22 เมษายน 2522 นายวาสนา บุญภูพันธต์ ันติ 13 18 เมษายน 2526 นายอาคม เอง่ ฉว้ น นายวาสนา บุญภูพันธ์ตันติ 14 27 กรกฎาคม 2529 นายวาสนา บุญภพู ันธ์ตันติ นายสมบูรณ์ สทิ ธมิ นต์
นกั การเมอื งถิน่ จังหวัดกระบ่ี ครั้งที่ วนั เดอื น ปี ผู้ได้รบั เลอื กตัง้ พรรค 15 24 กรกฎาคม 2531 นายอาคม เอง่ ฉ้วน ประชาธปิ ตั ย์ 16 22 มนี าคม 2535 นายสมบรู ณ์ สทิ ธมิ นต์ เอกภาพ 17 13 กนั ยายน 2535 นายพเิ ชษฐ พันธว์ุ ิชาตกิ ลุ ประชาธปิ ัตย์ 18 2 กรกฎาคม 2538 นายอาคม เอ่งฉ้วน ประชาธิปตั ย์ 19 17 พฤศจกิ ายน 2539 นายพเิ ชษฐ พันธ์วชิ าติกลุ ประชาธิปัตย์ 20 6 มกราคม 2544 นายอาคม เอง่ ฉ้วน ประชาธปิ ตั ย์ 21 6 กมุ ภาพนั ธ์ 2548 ประชาธิปตั ย์ นายพิเชษฐ พันธ์วชิ าตกิ ุล ประชาธิปัตย์ 22 23 ธนั วาคม 2550 นายอาคม เอ่งฉว้ น ประชาธิปัตย์ นายพิเชษฐ พนั ธว์ ชิ าติกุล ประชาธปิ ัตย์ นายอาคม เอ่งฉ้วน ประชาธปิ ัตย์ นายอาคม เอง่ ฉว้ น ประชาธปิ ัตย์ นายพิเชษฐ พนั ธ์ุวิชาตกิ ุล ประชาธปิ ตั ย์ นายอาคม เอ่งฉ้วน ประชาธปิ ตั ย์ นายพเิ ชษฐ พันธว์ุ ชิ าติกลุ ประชาธปิ ตั ย์ นายอาคม เอง่ ฉ้วน ประชาธปิ ัตย์ นายสาคร เกย่ี วข้อง ประชาธิปัตย์ นายพเิ ชษฐ พนั ธุ์วิชาตกิ ุล ทีม่ า : “หนงั สือทีร่ ะลึก 67 ปรี ัฐสภาไทย,ข้อมลู ประวตั กิ ารเมอื งไทย,” โดย นคร พจนวรพงห์ และคณะ, 2543. 84
4.3 ประวัติความเป็นมาของนักการเมอื งถนิ่ ในจังหวดั กระบ่ี ในสว่ นของประวตั คิ วามเปน็ มาของนกั การเมอื งถน่ิ สมาชกิ สภา ผ้แู ทนราษฎร (ส.ส.) ของจงั หวัดกระบ่ี และวิธีที่ใช้ในการหาเสยี งของ แตล่ ะคน รวมถงึ รายละเอยี ดในส่วนท่ีเกยี่ วกับกลุ่มผลประโยชนต์ ่าง ๆ ท่ีมีส่วนช่วยในการลงสมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เช่น กลุ่มเครือญาติ กลุ่มแม่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ความ สมั พันธก์ บั กลุ่มราชการ เช่น ก�ำ นันผใู้ หญบ่ ้าน กลมุ่ นกั ธรุ กิจ และกลมุ่ นกั การเมอื งทอ้ งถนิ่ เชน่ นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บล (อบต.) นายก องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด (อบจ.) นายกเทศมนตรีกระบ่ี ผู้วจิ ยั ศกึ ษา คน้ ควา้ โดยวธิ กี ารสมั ภาษณส์ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ประธานหอการคา้ ท้ังในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความรู้ในเรื่อง การเมืองของจงั หวดั กระบี่ ซ่งึ มรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี 1. นายอาคม เอง่ ฉว้ น นายอาคม เอ่งฉว้ น เกดิ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2494 ทต่ี ำ�บลทบั ปริก อำ�เภอเมอื ง จังหวัดกระบ่ี เปน็ บุตรของนายตว่ น เอง่ ฉ้วน ผู้ใหญ่ บ้าน และนางปรญี า เอ่งฉว้ น แมบ่ ้านผ้มู ีประสบการณท์ างดา้ นการคา้ และท�ำ สวนยางพารา ได้รับการศึกษาขน้ั ตน้ ท่โี รงเรยี นในชอ่ งมิตรภาพ ซึ่งเป็นโรงเรียนท่ีนาย ต่วน เอ่งฉ้วน ได้บริจาคที่ดินให้จัดตั้ง สำ�เร็จ มธั ยมศกึ ษา (ม.ศ.3) ทโ่ี รงเรยี นอ�ำ มาตยพ์ านชิ นกุ ลู จงั หวดั กระบี่ ตอ่ มา เดนิ ทางเขา้ มาเรยี นทวี่ ทิ ยาลยั ครพู ระนคร ไดร้ บั วฒุ ิ ป.กศ.ชนั้ สงู และได้ เขา้ ศกึ ษาตอ่ ทม่ี หาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ บางเขน ส�ำ เรจ็ การศกึ ษา 85
นกั การเมืองถิน่ จงั หวัดกระบ่ี บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์ (NIDA) ไดว้ ฒุ ิ พบ.ม. (รฐั ประศาสนศาสตร)์ ทำ�ใหเ้ ปน็ ผมู้ ีประสบการณ์ทางการเมอื ง และรัฐสภาเป็น อย่างดียิง่ ไม่ ว่าพรรคที่สังกัดอยู่จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เป็นนักการเมือง ระดับคณุ ภาพทีร่ ักษามาตรฐานการเมืองโดยตลอด ตำ�แหน่งทางการเมือง • เป็นผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ (สมยั นายสุเทพ เทอื กสุบรรณ) • รองเลขาธิการนายกรฐั มนตรีฝา่ ยการเมอื ง (สมยั นายบัญญัติ บรรทัดฐาน) • โฆษกพรรคประชาธปิ ตั ย์ • กรรมการบรหิ ารพรรคประชาธปิ ัตย์ • ผ้บู รหิ ารพรรคประชาธปิ ัตย์ • รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ • รฐั มนตรชี ว่ ยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ • มหาวชิรมงกฏุ (ม.ว.ม) • มหาปรมาภรณ์ช้างเผอื ก (ม.ป.ช.) หลักในการปฏิบัติงาน และหลักในการดำ�รงชีวิตของนาย อาคม เอง้ ฉ้วน คอื ประหยัด ซ่ือสตั ย์ ประสทิ ธภิ าพ มีคณุ ธรรมในจิตใจ และมีวสิ ยั ทัศนก์ วา้ งไกล 86
กลวิธกี ารหาเสียงของนายอาคม เอ่งฉ้วน แรงบัลดาลใจท่ีสมคั รเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) คร้ัง แรกเกิดจากการท่ีคิดว่าในครอบครัวไม่มีใครเป็นนักการเมืองเลยและ มคี วามสนใจในการเปน็ ผู้นำ� โดยทพี่ นื้ เพแลว้ พ่อเป็นผู้ใหญบ่ า้ นและปู่ ก็เป็นกำ�นันและการเป็นผู้ใหญ่บ้านในชนบทจะได้รับเร่ืองร้องทุกข์จาก ประชาชนอยูเ่ สมอ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากบรรพบรุ ษุ ส่วนแรงบัลดาลใจท่ี 2 เกิดขึ้นตอนท่ีไปเรียนที่วิทยาลัยครูพระนคร ตอนที่เรียนได้เป็นประธานนักศึกษา ช่วงปี 2518 เป็นนักศึกษาได้ทำ� กิจกรรมและประธานนักศึกษาต้องมีการประชุมกันระหว่างมหาลัย และเมอื่ มาศกึ ษาตอ่ ปรญิ ญาตรไี ดเ้ ปน็ ตวั แทนศนู ยก์ ลางนสิ ติ นกั ศกึ ษา และยังได้เป็นประธานโต้วาทีของมหาวิทยาลัยน้ีเป็นแรงบัลดาลใจให้ เป็นนักการเมือง และการโต้วาทีทำ�ให้นักการเมืองเห็นแววของนาย อาคม ต่อมาก็ได้รับการทาบทามให้มาอยู่ในพรรคพลังใหม่ช่วง พ.ศ. 2519 และการเลอื กตง้ั ครงั้ แรกไดม้ าทงั้ หมด 4,300 เสยี ง เหน็ ไดว้ า่ พรรค มีผลต่อการเลือกตั้งเพราะคู่แข่งที่ลงสมัครมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไดท้ ั้งหมด 13,000 เสยี ง และอกี แรงบัลดาลใจอีกอย่างหนง่ึ คอื ตอนที่ ประกอบอาชพี ครไู ดซ้ มึ ซบั ความเปน็ ผนู้ �ำ เพราะไดเ้ ปน็ ผนู้ �ำ ครู ตอ่ มาเลย ลงสมคั รเปน็ ตวั แทนของพรรคประชาธปิ ตั ย์ เพราะเลง็ เหน็ วา่ ประชาชน ในภาคใตย้ ดึ ตดิ ในพรรคการเมอื งมากกวา่ นโยบายของพรรคและการพดู กม็ สี ว่ นส�ำ คญั ในการเรยี กคะแนนเสยี งจากประชาชนอกี ดว้ ย โดยพดู ถงึ ปัญหาทปี่ ระชาชนประสบและตอ้ งการไดร้ บั การช่วยเหลอื อยู่ สรปุ คอื แรงบัลดาลใจมาจาก ครอบครัว สถานทศี่ กึ ษา พรรคการเมอื ง และที่ ส�ำ คญั ท่สี ุดคือภาวการณ์เป็นผู้นำ� อีกอย่างหน่ึงที่ขาดไมไ่ ดค้ อื การเสยี สละ ซงึ่ เปน็ ปจั จยั หนง่ึ ทที่ �ำ ใหค้ นรจู้ กั อกี ดว้ ย และการทจี่ ะเรยี กคะแนน 87
นักการเมอื งถ่นิ จงั หวัดกระบ่ี เสยี งใหไ้ ดเ้ ยอะสว่ นหนงึ่ จะตอ้ งอาศยั พรรคการเมอื งและอกี สว่ นหนงึ่ คอื การให้ประชาชนยอมรับ และจะต้องมีความยืดหยุ่นโดยยึดหลักความ ถูกต้องกับประชาชน วธิ กี ารหาเสียงของนายอาคม เอ่งฉว้ น วธิ กี ารหาเสยี งกเ็ ปน็ ประเดน็ ทส่ี �ำ คญั ในการลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั ซ่ึงต้องหาทางแก้ไขอีกจุดหนึ่งคือการท่ีนักการเมืองใช้หัวคะแนนและ ทำ�ให้ไมม่ กี ารปราศรัย โดยเชือ่ มโยงกบั กำ�นนั ผ้ใู หญแ่ ละก็ครูดัง ๆ ใน พ้ืนที่และไม่มีการซื้อเสียง แต่จะเป็นการรับปากว่าจะให้คะแนนเสียง มากกวา่ แตจ่ ะขอเปน็ ผลตอบแทนในการท�ำ บญุ ใหว้ ดั ซง่ึ ในสมยั นถ้ี อื วา่ ผดิ กฎหมายในการเลอื กตงั้ แลว้ โดยนายอาคมเลง็ เหน็ วา่ วธิ ดี งั กลา่ วเปน็ วิธีที่ผิดๆ เพราะประชาชนในชนบทขาดการได้รับความรู้และปราศรัย และนายอาคมอยากจะยนื่ ขอ้ เสนอแกป่ ระชาชนโดยการทอ่ี ยากจะเปน็ ตวั แทนประชาชนคนจนเพอ่ื เขา้ สสู่ ภาโดยมคี ำ�พดู ทว่ี า่ คนชนชนั้ ใดออก กฎหมายกจ็ ะรกั ษาผลประโยชนข์ องคนชน้ั นน้ั และตอ้ งการหกั ลา้ งการ หาเสยี งแบบสมยั เกา่ ๆ โดยใหแ้ งค่ ดิ แกป่ ระชาชนวา่ เมอื่ ประชาชนอยาก ไดอ้ ะไรสามารถท�ำ ใหไ้ ด้ แตไ่ มม่ เี งนิ ใหเ้ พราะมนี กั การเมอื งหลายๆ คน ที่รับข้อเสนอของประชาชนแต่เม่ือได้เป็นผู้แทนของประชาชนแล้ว ก็ ท�ำ เฉยไม่ไดท้ �ำ ให้อยา่ งที่รับข้อเสนอไว้ นายอาคมจึงพยายามช้แี จงให้ ประชนชนเขา้ ใจในเชงิ วชิ าการและชถ้ี งึ จดุ ปญั หาทกี่ �ำ ลงั เกดิ ขนึ้ จรงิ ใหแ้ ก่ ประชาชนไดท้ ราบ และการใชว้ ธิ นี เี้ ปน็ วธิ ที ไ่ี ดผ้ ลเพราะท�ำ ใหป้ ระชาชน สว่ นมากชน่ื ชอบและรจู้ กั ในตวั ของนายอาคมมากขนึ้ ซง่ึ แผข่ ยายกวา้ ง ไปถึงหลายๆจังหวัด และนายอาคมได้ชี้ให้เห็นถึงจุดบอดของนักการ เมืองจังหวัดกระบ่ีคือนักการเมืองไม่เป็นท่ีรู้จักของส่ือและนำ�จุดบอด 88
ตรงน้ีมาเป็นกลยุทธ์ในการหาเสียงคือได้บอกกับประชาชนว่าจะทำ�ให้ เหน็ ว่านายอาคมสามารถท�ำ ให้สอ่ื ร้จู ักได้ วธิ กี ารหาเสยี งแตล่ ะครงั้ จะมรี ปู แบบในการหาเสยี งทค่ี ลา้ ยคลงึ กันและควรท่ีจะปฏิบัติ ตัวให้มีความสม่ำ�เสมอแก่ประชาชนอีกท้ังจะ ต้องรักษาเครือข่ายเอาไว้ซึ่งเครือข่ายน้ีมาจากการท่ีเราไปช่วยเหลือ ท้ังแบบสว่ นตวั และสว่ นรวม และการเมอื งไทยเป็นการเมืองในรูปแบบ อุปถัมภ์ซ่ึงหลีกเลี่ยงไม่ได้และนายอาคมมีความคิดเห็นว่าระบบน้ีควร จะหมดไปกับการเมืองในอนาคต วิธีการรักษาฐานเสียงต่อมาคือการ ประชาสัมพันธ์ต้องมีการพัฒนาให้ชัดเจนมากย่ิงขึ้นเพื่อง่ายต่อการ เข้าใจของประชาชน และผสมผสานการหาฐานเสียงโดยการใช้ท้ังวิธี แบบเก่าและแบบใหม่ไปพร้อมๆ กัน และนายอาคมได้ใช้วิธีการแบบ การเมืองโฆษณาอีกด้วย และเด็กยังเป็นแกนนำ�สำ�คัญในการสร้าง ฐานเสียงที่ขาดไม่ได้หรือมองข้ามไม่ได้ และนายอาคมคิดว่าการพูด ในเชิงวาทศิลป์มีผลต่อการสร้างฐานเสียงเพราะคนในภาคใต้ชอบพูด คุยหรือโต้เถียงกันเรื่องการเมืองเป็นปกติอยู่แล้ว และวิธีการหาเสียง ทางการเมืองของนายอาคมจะมีการเปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลาโดย นำ�เหตุการณ์ปัจจุบัน ณ ขณะนั้นมาปราศรัยและอภิปราย และเงินก็ ยังเป็นปัจจัยอย่างหน่ึงในการหาเสียงหรือสร้างฐานเสียงเช่นกัน ท้ังน้ี พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากประชาชน จงั หวดั กระบแ่ี ละเปน็ สว่ นชว่ ยทที่ �ำ ใหน้ ายอาคมไมพ่ ลาดในการหาเสยี ง ในแต่ละคร้ัง และการปราศรัยจะต้องทำ�ให้น่าสนใจเพ่ือดึงดูดและ โน้มน้าวประชาชน 89
นกั การเมอื งถนิ่ จังหวัดกระบ่ี วธิ ีในการรักษาฐานเสยี งของนายอาคม เอ่งฉ้วน วิธีในการรักษาฐานเสียงของนายอาคม คือการทำ�ให้ส่ือรู้จัก และพยายามยน่ื อภปิ รายตอ่ สภาในเรอื่ งทก่ี �ำ ลงั เปน็ ปญั หาของประเทศ และนายอาคมได้แจ้งเกิดทางการเมืองในตอนท่ีเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายอาคมได้ตั้งคณะการสอบสวน คณะกรรมการที่จัดสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ในกระทรวงศึกษาธิการมีความ ผิดข้าราชการโดนไล่ออกไปทั้งหมด 7 คนในปี 2540 ทั้งหมดน้ีทำ�ให้ ประชาชนในจงั หวดั กระบย่ี อมรบั นายอาคมมากขนึ้ และยดึ หลกั ทว่ี า่ ถงึ จะมตี �ำ แหนง่ ทส่ี งู แตป่ ระชาชนกย็ งั เขา้ ถงึ ไดง้ า่ ยเหมอื นเดมิ และใหค้ วาม เป็นกันเองกับประชาชน ต่อมาการเป็นรัฐมนตรี เกิดจากการที่คน รอบขา้ งหรอื นกั การเมอื งจงั หวดั ขา้ งๆไดเ้ ปน็ รฐั มนตรกี นั แลว้ จงึ เกดิ แรง ผลักดนั ทีอ่ ยากจะก้าวข้นึ สูต่ �ำ แหนง่ รัฐมนตรี เพศหญิงและศาสนามีอิทธิพลต่อคะแนนเสียงของนาย อาคม เอ่งฉ้วน นายอาคมเห็นว่าประชาชนเพศหญิงมีอิทธิพลต่อคะแนนเสียง เพราะเมอ่ื มกี ารรวมกลมุ่ ประกอบอาชพี เสรมิ หรอื มงี านประเพณตี า่ ง ๆ เหล่าแม่บ้านก็จะมาร่วมกันทำ�กิจกรรม ได้แลกเปล่ียนความคิดเห็น และมีความชอบท่ีคล้ายกัน และแม่บ้านก็จะเป็นผู้ชักจูงให้สมาชิกใน ครอบครวั คล้อยตามในส่งิ ที่ตนเองชอบ ท้งั นี้ยังเป็นฐานเสยี งที่มนั่ คง อกี ด้วย ตอ่ มาช่วงปี 2529 ศาสนาเร่มิ มีอิทธพิ ลต่อการเมืองและเร่มิ มีความสำ�คัญอย่างมากในเวลาต่อมา นายอาคมยังช้ีให้เห็นถึงปัญหา ของตนท่ีโดนเพ่ือนนักการเมืองหักหลังจนเกือบหมดอนาคตทาง การเมือง และการทีไ่ ม่สมำ�่ เสมอของนักการเมืองจะทำ�ใหห้ มดอนาคต ทางการเมือง เร็วเชน่ กัน และจะเห็นไดว้ า่ มนี กั การเมืองหลายๆ ทา่ น 90
ที่มักจะโกงหรือหาเสียงในรูปแบบที่ผิดๆอยู่ อีกท้ังจะเห็นได้ว่าเวที การเมืองมีการแก่งแย่งชิงดีกันอยู่ตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่นักการเมือง ในพรรคการเมืองเดียวกนั บทบาทพรรคการเมอื งในมมุ มองของนายอาคม เอ่งฉ้วน นายอาคมได้กล่าวยอมรับว่าพรรคการเมืองเป็นส่วนสำ�คัญ อย่างมากท่ีจะทำ�ให้ได้คะแนนเสียงท่ีมากและนายอาคมยังบอกอีก ว่าคะแนนที่ตนได้น้ันก็มาจากการท่ีสังกัดพรรคการเมืองท่ีได้รับความ นยิ มของประชาชน ณ พน้ื ทน่ี น้ั ๆ หรอื จะพดู ไดว้ า่ ประชาชนเลอื กพรรค มากกว่าตัวบุคคลถึงแมว้ า่ ผูส้ มัครจะมคี วามสามารถมากนอ้ ยเพยี งใด แต่ถ้าไมส่ งั กัดในพรรคการเมืองทป่ี ระชาชนนยิ มแล้ว ก็จะขาดคะแนน เสยี งไปอยา่ งมากเลยทเี ดียว ทงั้ นี้ ควรจะดูแลผู้จะให้การสนับสนนุ เรา ไมป่ ลอ่ ยประละเลยและพยายามอยา่ สรา้ งศตั รู และอยา่ พยายามกดี กนั หรอื ปดิ ก้นั ทางศาสนาของประชาชน บทบาทของกล่มุ ผลประโยชน์ ช่วงภายหลังได้มีกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาแทรกแซงจึงทำ�ให้ ความเชื่อถือและนยิ มในผูใ้ หญ่บ้านและกำ�นนั ลดลง กลุม่ ผลประโยชน์ ดังกล่าวเราจะรู้จักกันดีในนามว่า องค์การบริหารส่วนตำ�บล (อบต.) นั่นเอง และนายอาคมยังช้ีให้เห็นอีกว่าการเมืองระดับท้องถ่ินมีส่วน สำ�คัญและสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เพราะประชาชนในปัจจุบัน นิยมนักการเมืองทเี่ ป็นคนทอ้ งถ่ิน สุดท้ายนายอาคมได้ฝากไว้ว่า คิดว่าตนเองเป็นนักการเมืองที่ เปดิ ศกั ราชใหมท่ างการเมอื งและอยากจะใหป้ ระชาชนเลอื กเพราะความ ดี คุณภาพและส่ิงที่นักการเมืองรุ่นหลังควรจะมีคือจะต้องเห็นความ เดือดร้อนของชาวบ้านเป็นความเดือดร้อนของตนเองและตอบสนอง 91
นกั การเมืองถน่ิ จังหวัดกระบี่ กับความต้องการให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และ นายอาคมยังไดย้ ืนยันวา่ ตนไม่เคยมีการซ้ือเสียงในการเลือกต้งั 2. นายสาคร เกี่ยวข้อง นายสาคร เก่ียวขอ้ ง เกดิ วันท่ี 21 กันยายน 2505 สำ�เรจ็ การ ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทย ปรญิ ญาโท สาขาบรหิ ารธรุ กิจ (การตลาด) มหาวิทยาลยั ราชภัฏภูเกต็ มีพ้ืนฐานของครอบครัวมาจากการประกอบอาชีพค้าขายและทำ�สวน ยางพารา โดยมารดามอี าชพี คา้ ขายและบรรพบรุ ษุ ครอบครวั ไดม้ อี าชพี ทำ�สวนยางพารา ประชาชนส่วนใหญ่รวมท้ังตนกห็ ารายไดม้ าจากการ ทำ�เกษตรกรรม ท้ังน้ีบิดาของนายสาคร เป็นผู้ท่ีนำ�ยางพารามาปลูก เป็นลำ�ดับต้นๆ ภายในพ้ืนที่และยังเป็นวิทยากร ผู้นำ�ทางการเกษตร ปลกู ยางพาราอกี ดว้ ย ดว้ ยเหตผุ ลนนี้ ายสาครจงึ มแี รงบลั ดาลใจใหส้ นใจ การเมือง โดยมบี ิดาเป็นตน้ แบบ บิดาของนายสาครมีตำ�แหน่งเป็นกำ�นัน คอยรับเร่ืองร้องทุกข์ จากประชาชนและคอยใหค้ วามเปน็ ธรรมแกป่ ระชาชนอยเู่ สมอๆ ท�ำ ให้ นายสาครซึมซับ และจากการที่บิดามีตำ�แหน่งทำ�ให้มีนักการเมือง แวะเวยี นมาพบปะ พดู คยุ ถงึ เรอื่ งนโยบายอยเู่ สมอๆ ดว้ ยเหตนุ อี้ าจจะ เปน็ เหตผุ ลหรอื ปจั จยั แรกๆ ทท่ี �ำ ใหน้ ายสาครสนใจทางการเมอื งและคน ทีช่ กั นำ�นายสาครเข้าสู่การเมือง คือ นายสญั ญา เก่ียวขอ้ ง พี่ชายและ นายพเิ ชษฐ พนั ธว์ุ ชิ าตกิ ลุ เพราะเหน็ วา่ นายสาครมคี วามสนใจการเมอื ง และมคี วามรคู้ วามสามารถ และนายสญั ญาพช่ี ายของนายสาครกไ็ ดล้ ง สมคั รการเมอื งทอ้ งถนิ่ อกี ทง้ั ครอบครวั กใ็ หก้ ารสนบั สนนุ ในเรอื่ งนเ้ี ปน็ อย่างมากหรอื จะเรียกวา่ จุดยืนของครอบครัวคณุ สาครก็เปน็ ได้ 92
ตำ�แหนง่ ปจั จบุ นั • สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร • โฆษกกรรมาธกิ ารกิจการองคก์ รตามรัฐธรรมนญู รัฐวสิ าหกจิ องคก์ ารมหาชน และกองทุน สภาผแู้ ทนราษฎร • กรรมาธิการการพลังงาน สภาผแู้ ทนราษฎร ประวัตกิ ารทำ�งาน การท�ำ งานท่ีผา่ นมา • เป็นรองประธานสภาองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั กระบี่ • เป็นสมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัดกระบี่ • อดตี กรรมการบริหารหอการคา้ จังหวดั กระบี่ กลวธิ กี ารหาเสียง นายสาครยังบอกอีกว่าการท่ีครอบครัวมีบทบาททางการเมือง มาเป็นเวลานานต้ังแต่รุ่นบิดามีส่วนช่วยในการหาเสียงทางการเมือง ของตนอยู่ไม่น้อยเพราะสามารถสร้างความเชื่อถือให้แก่ประชาชน ในระดับหน่ึง ท้ังนี้พรรคการเมืองมีบทบาทและมีความสำ�คัญอย่าง มากในการที่การท่ีจะได้รับเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนและ ยอมรับว่าการที่ตนได้รับเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนน้ันมาจากการสังกัด พรรคประชาธิปัตย์ท่ีประชาชนในพ้ืนท่ีนั้นๆ นิยมชมชอบอยู่ เพราะ ประชาชนในพ้ืนท่ีที่ตนสมัครนั้นมองการเมืองเป็นเรื่องของอุดมการณ์ มากกว่าเรอ่ื งของการหาผลประโยชน์ และการที่ประชาชนในพื้นท่มี อง การเมอื งเปน็ เรอื่ งอดุ มการณน์ นั้ ท�ำ ใหพ้ รรคการเมอื งทไ่ี ดร้ บั ความนยิ ม มคี ะแนนเสยี งทที่ ว่ มทน้ และลน้ หลามอยเู่ สมอๆ ไดร้ บั เสยี งตอบรบั ทดี่ ี 93
นักการเมอื งถ่นิ จังหวดั กระบ่ี ไม่วา่ จะมีการปราศรยั หรือเลอื กตั้งกคี่ ร้ัง หรือจะเรียกไดว้ า่ ประชาชนมี จุดยืนที่ชัดเจนและการท่ีพรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมนั้นมาจาก แกนน�ำ ของพรรคทเ่ี สมอตน้ เสมอปลาย มกี ารพบปะประชาชนในพน้ื ที่ อยา่ งทวั่ ถงึ และคดิ วา่ การเปลย่ี นแกนน�ำ พรรคไมม่ ผี ลตอ่ ความนยิ มของ ประชาชนเพราะพรรคยังคงยดึ ถอื หลกั และอุดมการณเ์ ดมิ อยู่ วธิ ีการหาเสียง วธิ กี ารลงหาเสยี งของนายสาครคอื พยายามลงพน้ื ทเ่ี พอื่ พบปะ ประชาชนใหม้ ากทส่ี ดุ และชแี้ จงนโยบาย กฎหมายใหป้ ระชาชนในพนื้ ที่ ได้ทราบ ในขณะเดียวกันก็เปิดรับเร่ืองร้องทุกข์ของประชาชนเพื่อมา แก้ไขด้วย และพยายามหาโอกาสต่างๆ เพ่ือที่จะแถลงและช้ีแจงแก่ ประชาชนอยเู่ สมอโดยจะเนน้ ประเดน็ หรือเร่อื งที่กำ�ลังเกิดข้นึ ณ ขณะ ที่มาพูด และการท่ีนายสาครเรียนโรงเรียนที่มีประชากรนับถือศาสนา อิสลามทำ�ให้เข้าถึงประชาชนเหล่าน้ีได้ง่าย แต่ท้ังนี้ประชากรในพ้ืนท่ี กวา่ 50 เปอรเ์ ซนต์ นบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม จงึ มกี ารเรยี กรอ้ งใหม้ ตี วั แทน ทเ่ี ปน็ ชาวมสุ ลมิ ดว้ ย นายสาครมคี วามเหน็ วา่ ศาสนามสี ว่ นในการเรยี ก คะแนนเสียงจากประชาชนอยมู่ ากแตไ่ ม่ใชท่ ั้งหมด และนายสาครและ พรรคยงั ใหโ้ อกาสตวั แทนชาวมสุ ลมิ ไดร้ บั การลงสมคั รเลอื กตงั้ จนไดร้ บั การเลอื กตงั้ อกี ดว้ ย เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเทา่ เทยี มกนั ทงั้ นคี้ ณุ สาครเหน็ วา่ เครอื ข่ายกม็ สี ่วนสำ�คญั ในการหาเสยี งเลือกตั้ง เชน่ โรงเรยี น เครือขา่ ย ท้องถ่นิ อาชพี ทางการเกษตร เพราะประชาชน สว่ นใหญ่จะคิดว่าคน ทมี่ อี าชพี เดยี วกนั นา่ จะรปู้ ญั หาไดด้ ี และทางธรุ กจิ มสี ว่ นนอ้ ยหรอื แทบ จะไมม่ บี ทบาทในเรอื่ งของคะแนนเสียง 94
บทบาทพรรคการเมอื ง นายสาครได้กล่าวถึงการเมืองในจังหวัดกระบี่ว่า การเมืองใน จังหวัดนี้เป็นการเมืองที่บริสุทธ์ิและยากมากที่จะมีอิทธิพลมาชี้นำ� หรอื เปลย่ี นแปลงและการเมอื งในจงั หวดั มกี ารแบง่ แยกอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ทั้งนี้การเมืองท้องถิ่นภายในจังหวัดกระบ่ี พรรคการเมืองไม่ได้มีส่วน ในการเลือกตั้งหรือหาคะแนนเสียงเลย เพราะประชาชนจะยึดติด และเลือกคนท่ีตนเองคุ้นเคยแต่ในทางกลับกัน การเมืองระดับชาติ พรรคการเมืองยังเป็นส่วนสำ�คัญในการหาเสียงและการได้รับเลือก จากการเลอื กตง้ั อยู่ และวธิ กี ารหาเสยี งอกี อยา่ งหนงึ่ คอื การรว่ มงานและ กจิ กรรมทางสังคมท่เี ปน็ สว่ นรวม เชน่ งานบวช งานแตง่ งาน งานศพ เป็นต้น ท้ังนี้การผูกมิตรให้ความสัมพันธ์กับประชาชนอย่างสัมพันธ์ พี่น้องญาติมิตร ปฏิบัติเหมือนคนในครอบครัวก็เป็นวิธีการหาเสียง อีกวิธีหน่ึงเช่นกัน คือ ทำ�ให้ประชาชนรัก การมีคุณธรรมไม่เอารัด เอาเปรียบประชาชนก็เป็นอีกส่ิงหนึ่งที่ผู้สมัครหรือตัวแทนควรจะทำ� อำ�นาจการเมืองสำ�หรับนายสาคร คือ ใช้ในการติดต่อประสานงาน เกีย่ วกับเรอ่ื งทชี่ าวบา้ นร้องทกุ ขเ์ พื่อใหส้ �ำ เรจ็ และลุล่วงไปไดด้ ้วยดแี ละ โดยเรว็ และไดช้ ี้ใหเ้ ห็นอีกวา่ ยงิ่ ต�ำ แหน่งหน้าที่สงู มากขนึ้ เทา่ ไหร่ การ ใหค้ วามร่วมมอื ของหนว่ ยงานกจ็ ะมมี ากข้นึ เท่านั้น วัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชนในจังหวัดกระบ่ี ประชาชนมองว่าผู้แทนเป็นคนธรรมดาที่ถูกเลือกมาเพื่อเป็นตัวแทน ในการทำ�หน้าท่ีแทนประชาชน และประชาชนจังหวัดกระบี่ไม่ได้มี ความคาดหวังมากนักกับตัวแทนท่ีได้เลือกไป แค่ต้องการให้ผู้แทนมี ส่วนร่วมและรับฟังปัญหา นายสาครยึดถือคติท่ีว่าจะไม่ใช้อำ�นาจใน การช่วยเหลือประชาชนในทางท่ีมิชอบหรือเป็นการสร้างความ 95
นกั การเมืองถ่นิ จงั หวดั กระบ่ี เดือดรอ้ นใหป้ ระชาชนคนอน่ื เช่น การฝากบุตรหลานเขา้ เรยี น เปน็ ตน้ แต่จะช่วยเหลือและอำ�นวยความสะดวกในเร่ืองที่ไม่การสร้างความ เดือดรอ้ นประชาชนคนอ่นื แทน ศาสนากบั การเมอื ง ศาสนาเป็นส่วนหน่ึงของระบบเครือข่ายและมีความสำ�คัญต่อ คะแนนเสียงเกือบเท่าการสังกัดพรรคการเมือง และเป็นการบอกถึง ความนา่ เชือ่ ถอื ของพรรคการเมอื งวา่ มกี ารคดิ เลือกและคัดสรรสมาชิก เป็นอย่างดี โดยท่ีจะเลือกคนท่ีมีคุณธรรมและความสามารถเข้ามา เป็นตัวแทนในทุกๆ ระดับ และการที่ผู้สมัครท่ีนับถือศาสนาอิสลาม ได้รับความนิยมหรือถูกตัดสิทธิหลายๆ อย่างเกิดจากการท่ีผู้สมัคร เหล่าน้ันขาดจุดยืนและรับสินบนจากพรรคการเมือง ไม่สังกัดพรรคใน การเลือกต้ังแต่ละคร้ังอย่างแน่นอน ทำ�ให้มีความเช่ือถือจากผู้สมัคร และประชาชนรอบข้างท่ีค่อนข้างน้อย และยังช้ีให้เห็นถึงจุดเด่นและ วัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ว่าถึงแม้ในการประชุมแต่ละครั้ง สมาชิกจะมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันแต่เมื่อออกมาจากท่ีประชุมก็จะ มีความคดิ เห็นท่ตี รงกนั เพราะทุกคนเหน็ วา่ พรรคมีบทบาทสูงมากใน การหาเสยี งหรอื เลือกต้ัง วิธีในการรกั ษาฐานเสยี ง “การสงั กดั พรรคการเมอื ง นบั เป็นองคป์ ระกอบหลกั ส�ำ คัญของ การหาเสยี งเลอื กตั้ง ประมาณ 60 เปอรเ์ ซ็นต์ รองลงมาคอื เครือข่าย ท่ีขยายกว้างมีส่วนประมาน 20 เปอร์เซ็นต์ และท่ีขาดไม่ได้คือการ ประกอบอาชีพที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกับประชาชนในพื้นที่ซ่ึงมีส่วน ประมาน 10 กวา่ เปอรเ์ ซ็นต์ นายสาครยอมรับวา่ พรรคประชาธปิ ัตย์ มีส่วนต่อความนิยมเป็นอย่างมากกับประชาชนในจังหวัดกระบ่ี และ 96
การที่ตนเองได้รับเลือกต้ังนั้นส่วนใหญ่เป็นผลพวงมากจากการสังกัด พรรคประชาธปิ ตั ยท์ ป่ี ระชาชนในพน้ื ทก่ี ารนยิ มสงู สดุ ” นายสาครคดิ วา่ ประชาชนคอื พลงั เสยี งทยี่ ง่ิ ใหญ่ ทง้ั นไ้ี ดแ้ สดงความไมเ่ หน็ ดว้ ยตอ่ การ เลอื กตง้ั ครงั้ ทผี่ า่ นมาทไ่ี มม่ กี ารใหป้ ราศรยั และยงั คาดหวงั ใหป้ ระชาชน มองถงึ การท�ำ งาน การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ของผลู้ งสมคั รมากกวา่ คนทเ่ี กง่ แต่ไม่ไดล้ งพนื้ ท่ี ไม่ไดส้ มั ผสั ถงึ ปญั หาทเ่ี กดิ ขึน้ จริง และยงั คิดว่าพรรค ประชาธปิ ตั ยท์ ต่ี นสงั กดั อยมู่ คี วามสมั พนั ธอ์ ยา่ งแนน่ แฟน้ กบั คนในพนื้ ที่ และไดม้ กี ารพบปะชว่ ยเหลอื ประชาชนอยา่ งเตม็ 100 เปอรเ์ ซน็ ต์ ตาม ทน่ี กั การเมอื งรนุ่ พไี่ ดว้ างรากฐาน สรา้ งเครอื ขา่ ย และเปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ี นายราเมศ รัตนะเชวง ผชู้ ่วยสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร นายสาคร เก่ียวขอ้ ง ซ่ึงรบั ผดิ ชอบงานในระบบงานรฐั สภา ไดก้ ล่าวว่า “จากการท่ีได้ปฏบิ ตั ิงานรว่ ม กับ สส.สาคร เกีย่ วขอ้ ง ทา่ นได้ใหค้ วามส�ำ คญั กับปัญหาต่าง ๆ ของ พ่นี ้องประชาชนในพ้นื ท่ี ในทกุ ๆ เรอ่ื ง ผมกล้าพดู ได้ว่า คำ�ว่า ผแู้ ทน ราษฎร ค�ำ น้ี เปน็ ค�ำ ทม่ี คี วามหมาย เพราะวา่ พนี่ อ้ งประชาชน ไดเ้ ลอื ก มาเพอ่ื ท�ำ หนา้ ทท่ี ส่ี �ำ คญั แทนพน่ี อ้ งประชาชน และ สส.สาคร เกยี่ วขอ้ ง ก็ทำ�หน้าท่ีน้ีได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ทุกปัญหาในพ้ืนท่ี ได้ สะท้อนผ่านระบบรัฐสภา อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ถาม ฝา่ ยบรหิ ารในเรอื่ งทเ่ี ปน็ ปญั หาของพนี่ อ้ งประชาชน หรอื การน�ำ ปญั หา ตา่ ง ๆ เข้าสูก่ ารพิจารณาของ คณะกรรมาธกิ ารเพอื่ แก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ใหก้ ับพีน่ อ้ งประชาชน” 3. นายพิเชษฐ พนั ธุ์วชิ าตกิ ุล นายพิเชษฐ พันธ์ุวิชาติกุล รองนายกรัฐมนตรีเงา พรรค 97
นกั การเมอื งถนิ่ จงั หวัดกระบ่ี ประชาธิปัตย์ ส.ส.จังหวัดกระบี่ หลายสมัย และอดีตรัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงการคลัง เกิดวนั ท่ี 5 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2487 ทจี่ งั หวัด สรุ าษฎรธ์ านี นายพเิ ชษฐ จบปรญิ ญาตรี สาขานติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ประกอบวิชาชีพทนายความมาอย่างยาวนาน ถือเป็น ผู้เช่ียวชาญด้านกฎหมาย และยังประกอบธุรกิจหลายด้านในพ้ืนที่ ภาคใต้ โดยมีบทบาทสำ�คัญในสภาหอการค้า ทำ�ให้มีความเชี่ยวชาญ ในด้านธุรกิจการค้า เข้าสู่วงการเมืองโดยลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรครัง้ แรกท่ี จังหวัดกระบี่ เมื่อปี พ.ศ. 2531 และชนะเลอื กต้งั มา โดยตลอดทกุ ครงั้ ทล่ี งสมคั ร เคยด�ำ รงต�ำ แหนง่ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารรฐั มนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเคยดำ�รงตำ�แหน่ง ประธานกรรมาธิการ การคลงั การธนาคารและสถาบนั การเงนิ สภาผแู้ ทนราษฎร และในทส่ี ดุ ดำ�รงตำ�แหนง่ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงการคลัง ในรฐั บาลชวน 2 ถอื เปน็ หนึ่งในแกนนำ�ทีมเศรษฐกิจ ของพรรคประชาธิปตั ย์ ในปจั จุบัน ซงึ่ นายพเิ ชษฐ เขา้ สกู่ ารเมอื งโดยมนี ายสญั ญา เกยี่ วขอ้ ง เปน็ ผชู้ กั น�ำ เมอ่ื ครัง้ ที่นายพเิ ชษ ได้เข้ามาทำ�ธุรกิจในจังหวดั กระบี่ นอกจากทำ�งานการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ นายพิเชษฐ ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ� ให้กับหนังสือพิมพ์แนวหน้า มีผลงานตี พิมพ์เผยแพร่ต่อสาธารณะในชื่อของตัวเอง โดยสมำ่�เสมออีกด้วย ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดต้ัง ครม.เงา ข้ึนเป็นครั้งแรก นายพิเชษฐ์ พันธ์ุวิชาติกุล ได้รับเลือกจากท่ีประชุม พรรคประชาธิปัตย์ให้ทำ�หน้าท่ี รองนายกรัฐมนตรีเงา ดูแลตรวจ สอบ กระทรวงการคลัง สำ�นักงบประมาณ และกระทรวงท่องเที่ยว และกฬี า 98
ประวตั ิการศกึ ษา - ปรญิ ญาตรี สาขานติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ปี 2513 ประวัตกิ ารทำ�งาน - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกระบี่ หลายสมยั (ปี พ.ศ. 2531, 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550) - ผชู้ ว่ ยเลขานุการ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั ปี 2535- 2538 - เลขานกุ าร รฐั มนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปี 2538 - ประธานคณะกรรมาธกิ ารการคลัง การธนาคาร และสถาบนั การเงนิ ปี 2538 - กรรมาธกิ ารวสิ ามญั พจิ ารณารา่ ง พ.ร.บ.งบประมาณรายจา่ ยฯ ปี 2537, 2539, 2541-2544 - รฐั มนตรีชว่ ยวา่ การกระทรวงการคลงั ปี 2540-2544 - คอลัมนสิ ตป์ ระจ�ำ หนังสอื พิมพแ์ นวหน้า ปี 2550 - รองนายกรัฐมนตรีเงา ปี 2551 เครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ มหาปรมาภรณช์ า้ งเผือก (ม.ป.ช.) ปี 2542 นายพเิ ชษฐ พนั ธวุ์ ชิ าตกิ ลุ เคยท�ำ งานดา้ นกฎหมายและประกอบ ธุรกิจในช่วงท่ีจังหวัดกระบี่ไม่ค่อยมีการพัฒนาและประชาชนยากจน มาก การเดินทางยากลำ�บากโดยเฉพาะเกษตรกร จึงประสานงานกับ เครอื ขา่ ยเพอื่ มาพฒั นากระบ่ี เชน่ การปลกู ปาลม์ ซงึ่ เปน็ สนิ คา้ เกษตร 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146