51 2.2 กลวิธีการพนัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งบางคนจะใช้กลวิธีการพนันในการหาคะแนนเสียงเลือกต้ัง จากประชาชน การใชว้ ิธีการพนนั จะมที ัง้ กอ่ นและหลงั เลือกตัง้ โดยมีวิธีการดงั นีค้ อื สมมตวิ า่ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั หมายเลข 1 ตอ้ งการไดร้ บั ชยั ชนะ กจ็ ะใหห้ วั คะแนนของตนไปสรา้ งขา่ ววา่ หมายเลข 1 สู้หมายเลข 2 ไม่ได้ โดยมีการท้าพนันให้หมายเลข 2 เป็นต่อหมายเลข 1 ถึง 1 ตอ่ 2 หรอื 1 ตอ่ 3 และมกี ารวางเงนิ พนนั คอ่ นขา้ งสงู การใชว้ ธิ เี ลน่ พนนั มกั ไดผ้ ลแตผ่ สู้ มคั ร ตอ้ งลงทนุ มาก เพราะผสู้ มคั รตอ้ งเสยี เงนิ นบั ลา้ นบาท เพอื่ ยอมเสยี การพนนั โดยทตี่ อ้ งการให้ ประชาชนที่รบั ทา้ พนนั ออกไปช่วยหาเสยี งใหก้ บั เขา 2.3 กลวธิ กี ารท�ำลายผแู้ ขง่ ขนั การทาํ ลายผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ซงึ่ เปน็ ผแู้ ขง่ ขนั มวี ธิ กี ารตง้ั แตก่ ารจดั หา มือปืนรับจ้างเพื่อฆ่าหัวคะแนนของฝ่ายตรงข้าม การฉีกโปสเตอร์หาเสียง การปาระเบิดใน การปราศรัยหาเสียง การขุดคุ้ยประวัติด้านร้าย ๆ ของผู้สมัครคู่แข่งมาประจานเพ่ือให้คน เกลียดชังไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จก็ตาม และวิธีการที่อันตรายที่สุดคือ การฆ่าผู้สมัครคู่แข่ง ซึง่ มคี ะแนนนยิ มสงู กว่า 2.4 การใช้เงินซ้ือคะแนนเสียง บทบาทของเงินท่ีมีอิทธิพลต่อการเลือกต้ัง เป็นปัญหาท่ีเกิดจาก การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ซ่ึงทําให้เงินมีบทบาทเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลพยายามจํากัด การใชจ้ า่ ยเงนิ ในการหาเสยี งเลอื กตงั้ หลายยคุ หลายสมยั โดยออกมาในรปู ของกฎหมายเลอื กตงั้ แต่ในความเป็นจริงผู้สมัครแทบทุกคนใช้จ่ายเงินเป็นจํานวนมากทั้งสิ้น และแสดงหลักฐาน คา่ ใช้จ่ายทไ่ี มถ่ กู ต้องภายหลังการเลือกตง้ั 3. รูปแบบการหาเสียงท่ีถูกต้องตามกฎหมายแต่ผิดจริยธรรมทางการเมือง คือ การหาเสียงที่ ไม่ผดิ กฎหมาย เมื่อพจิ ารณาในแง่จรยิ ธรรมทางการเมอื งแล้วถอื ว่าเป็นเรือ่ งน่าตาํ หนิ ไดแ้ ก่ 3.1 การใส่รา้ ยป้ายสีคแู่ ข่งโดยปราศจากมูลความจรงิ 3.2 การกระตุ้นให้ประชาชนเอือมระอาคู่แข่ง ทําให้ประชาชนเกิดความร�ำคาญผู้สมัครบางคน จนไมไ่ ปลงคะแนนเสยี งให้ จากการศกึ ษาดงั กลา่ ว อาจนาํ มาปรบั ใชใ้ นการอธบิ ายถงึ รปู แบบและวธิ กี ารของผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ฯ วา่ ไดเ้ ลือกใช้กลยุทธ์ในการหาเสียงเลอื กต้ังครั้งนอี้ ยา่ งไรบ้าง เพ่ือให้เข้าถึงเปา้ หมายกล่มุ ประชากรท่ีตนต้องการ
52 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 2.3 ระบบหัวคะแนน สุรชัย ต้ังมกรา (2556, น.13-18) ได้รวบรวมลักษณะหัวคะแนนที่มีความส�ำคัญต่อการหาเสียง อย่างมากในการเลือกต้ังทุกระดับ ความส�ำเร็จส่วนหนึ่งของผู้สมัครมาจากหัวคะแนนที่มีประสิทธิภาพ แมค้ นทวั่ ไปจะมที ศั นคติด้านลบต่อหวั คะแนนว่าเปน็ บุคคลทชี่ ่วยหาเสยี งแกผ่ สู้ มัครโดยใชว้ ธิ ผี ิดกฎหมายตา่ ง ๆ กลโกง หรอื ใหเ้ งนิ แกผ่ ลู้ งคะแนนใหเ้ ลอื กผสู้ มคั รทเ่ี ขาเปน็ หวั คะแนนให้ ทว่ั ไปแลว้ หวั คะแนนมกั หวงั คา่ ตอบแทน จากผู้สมัครหรอื ยกั ยอกเงินดังกล่าวไวส้ ่วนหนึ่ง ส่วนผู้ท่ีช่วยผู้สมัครหาเสียงโดยไม่หวังค่าตอบแทน เรียกว่า “ผู้สนับสนุน” มากกว่า “หัวคะแนน” ดังนั้น “ผู้สนับสนุน” หรือ “หัวคะแนน” คือบุคคลที่สามารถหาคะแนนให้กับผู้สมัครโดยไม่ค�ำนึงถึงว่าจะใช ้ วิธีการอย่างไรมาแสวงหาความสนับสนุนให้กับผู้สมัครของตน หัวคะแนนจึงเป็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญ ในกระบวนการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัคร ในการประสานติดต่อและกระตุ้นให้ผู้ลงคะแนนเห็นความส�ำคัญ ของผู้สมัครทเ่ี ขาสนับสนุน ในเขตเลือกตั้งขนาดใหญ่หรือในพื้นท่ีทุรกันดารคมนาคมไม่สะดวกเช่น ภูมิประเทศเป็นเทือกเขา สลับซับซ้อน ประชาชนอยู่ห่างไกลและกระจายตัว ท�ำให้การหาเสียงเป็นไปด้วยความยากล�ำบาก หรือในพ้ืนท่ี ที่ประชาชนขาดความรู้และความสนใจต่อกิจกรรมทางการเมือง ทั้งหมดท�ำให้ผู้สมัครต้องอาศัยหัวคะแนนเป็น ผู้กระตุ้น ผู้ลงคะแนนเห็นความส�ำคัญและรวบรวมคะแนนเสียงท่ีกระจัดกระจายให้รวมกันสนับสนุน ฉะน้ัน หวั คะแนนเปรยี บเสมือนตัวกลางระหว่างผลู้ งคะแนนกับผสู้ มคั ร หัวคะแนนต้องเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถ่ิน มีญาติพี่น้องและมิตรสหายจ�ำนวนมาก เป็นท่ีนับถือของ ประชาชน ผสู้ มคั รจงึ ตอ้ งใชห้ วั คะแนนเพราะเขามคี วามสมั พนั ธส์ ว่ นตวั ใกลช้ ดิ หรอื เปน็ ผนู้ �ำของชมุ ชนทช่ี าวบา้ น ยอมรับนับถอื หัวคะแนนทปี่ ระสบความส�ำเร็จในการชักจูงใหช้ าวบ้านลงคะแนนแก่ผสู้ มคั ร มักใชค้ วามสมั พนั ธ์ และการยอมรบั ทช่ี าวบา้ นมใี หก้ บั เขาเปน็ เครอื่ งมอื ส�ำคญั เพอื่ โนม้ นา้ วใจใหช้ าวบา้ นคลอ้ ยตาม แตถ่ า้ ความสมั พนั ธ์ ระหว่างชาวบ้านกับหัวคะแนนมีไม่มากพอ หัวคะแนนอาจจะต้องอาศัยปัจจัยอื่น เช่น เงิน เพื่อโน้มน้าวจิตใจ ชาวบา้ นใหเ้ ลอื กผสู้ มคั ร บางกรณี หวั คะแนนอาจจะท�ำหนา้ ทเี่ ปน็ เพยี งผปู้ ระสานระหวา่ ง “การซอื้ -ขายคะแนน เสยี ง” ของผสู้ มคั รกบั ชาวบา้ นเทา่ นน้ั (ฐติ นิ นั ทนา เตตวิ งษ.์ (..., 2553, ...) อา้ งถงึ ใน สรุ ชยั ตงั้ มกรา, 2556 น.14) เพิ่มพงษ์ ชวลิตและศรีสมภพ จิตภิรมณ์ศรี (อ้างถึงใน สุรชัย ตั้งมกรา, 2556) จากการศึกษาเร่ือง หาคะแนนอย่างไรให้เป็น ส.ส. ไดแ้ บ่งประเภทของหัวคะแนนไวด้ ังน้ี 1) การแบง่ ประเภทของหวั คะแนนโดยยดึ หลกั ความสมั พนั ธก์ บั ผสู้ มคั ร แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทท่ีหนึ่ง กลุ่มหัวคะแนนที่เป็นเครือญาติของผู้สมัคร – เป็นกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดและ ชว่ ยเหลอื ผสู้ มคั รในการหาเสยี งไดม้ ากทสี่ ดุ ความใกลช้ ดิ สง่ ผลใหห้ วั คะแนน กลุ่มนมี้ คี วามซ่ือสตั ย์ต่อผูส้ มคั รมากท่ีสดุ
53 ประเภทท่สี อง กลมุ่ หวั คะแนนทมี่ คี วามเปน็ เพอ่ื นหรอื เปน็ คนรจู้ กั กบั ผสู้ มคั รโดยตรง บคุ คล ประเภทท่ีสาม กลุ่มนจี้ ะชว่ ยผ้สู มัครหาเสยี งได้มากแคไ่ หน ขึ้นอยู่กบั ความสมั พันธ์ระหวา่ ง บคุ คลสองฝ่าย กลมุ่ หวั คะแนนทไี่ ดร้ บั การแนะน�ำมา – หวั คะแนนประเภทนไี้ มม่ คี วามสมั พนั ธ์ กบั ผสู้ มคั รโดยตรงแตไ่ ดร้ บั ค�ำแนะน�ำมาจากกลมุ่ หวั คะแนนประเภทแรกและ ประเภทท่ีสอง 2) การแบ่งหวั คะแนนตามสาขาอาชีพ แบง่ เปน็ กลมุ่ ขา้ ราชการและอดตี ขา้ ราชการทง้ั สองตา่ งเปน็ กลมุ่ ทม่ี อี �ำนาจและอทิ ธพิ ลตอ่ ผลู้ งคะแนนสงู มคี นเคารพนบั ถอื มากในทอ้ งถน่ิ และเปน็ ตวั เชอื่ มไปยงั หวั คะแนนอน่ื ๆ ในสว่ นของขา้ ราชการทมี่ สี ายการบงั คบั บัญชา ข้าราชการระดับหัวหน้าสามารถสั่งให้ผู้ใต้บังคัญบัญชาลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครท่ีตนสนับสนุน เช่น ข้าราชการฝ่ายปกครอง ต�ำรวจ ทหาร สาธารณสุข ครู ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดกับท้องถ่ินมากท่ีสุด นอกจากน้ี กลมุ่ ขา้ ราชการสามรถชว่ ยเหลือผสู้ มคั รโดยอาศัยวธิ ีการที่ผิดปกตหิ รอื อาศัยกลไกลรัฐ 2.1) กลุม่ ผนู้ าํ ทอ้ งถิ่นทม่ี าจากการแต่งต้ังของทางราชการ ไดแ้ ก่ กํานัน ผ้ใู หญบ่ ้าน สารวตั รกํานนั แพทยป์ ระจาํ ตาํ บล กรรมการสภาตาํ บล กรรมการหมบู่ า้ น ผนู้ าํ เหลา่ นจี้ ะเปน็ ผทู้ ม่ี เี ครอื ญาตมิ าก กอ่ นจะมาเปน็ ผนู้ าํ ชมุ ชน พวกเขาตอ้ งมฐี านคะแนนเสยี งในหมบู่ า้ นมากอยแู่ ลว้ ดงั นนั้ ในการ เลอื กตงั้ แตล่ ะครงั้ ผสู้ มคั รจงึ พยายามดงึ คนกลมุ่ นมี้ าเปน็ หวั คะแนนใหก้ บั ตนเอง แตก่ ารเลอื กตง้ั ชว่ งหลงั หวั คะแนนกลมุ่ นม้ี ขี อ้ จาํ กดั มากขน้ึ เพราะการเขา้ สตู่ าํ แหนง่ ตอ้ งแขง่ ขนั กบั ผนู้ าํ ทอ้ งถนิ่ อื่น ๆ จงึ ทําให้ฐานคะแนนถกู แบง่ แยก และไม่ได้รบั คะแนนเสยี งมากอย่างแตก่ อ่ น 2.2) กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นได้แก่ สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล นายกเทศมนตร ี ซ่ึงเป็นบุคคลที่ได้รับการเลือกต้ังจากประชาชนในเขตเลือกตั้ง หัวคะแนนในกลุ่มน้ีมี ความชาํ นาญในการเลอื กตง้ั มฐี านคะแนนกวา้ งกวา่ ผนู้ าํ ทอ้ งถนิ่ ขา้ งตน้ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง นักการเมืองท้องถ่ินกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีลักษณะพ่ึงพาอาศัยซ่ึงกันและกัน ท้ังด้าน ฐานคะแนนเสียงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 2.3) กลุ่มนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดีท้องถ่ิน ได้แก่ กลุ่มพ่อค้าที่มีฐานะร�่ำรวยจนเป็นผู้กว้างขวาง ทางธรุ กจิ มคี วามสมั พนั ธก์ บั ประชาชนทวั่ ไปในทอ้ งถน่ิ หวั คะแนนกลมุ่ นม้ี อี ทิ ธพิ ลและบทบาท ต่อการหาคะแนนเสียง โดยนําวิธีการให้ประโยชน์ทางวัตถุเข้าแลกเปล่ียนหรือความสัมพันธ์ เชงิ ธรุ กจิ ฐานะเปน็ พอ่ คา้ -ลกู คา้ หรอื เจา้ หน-ี้ ลกู หนม้ี าใช้ หวั คะแนนประเภทนไ้ี ดร้ บั การยอมรบั มากข้ึนในการเลือกตั้งชว่ งหลัง ๆ
54 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 2.4) พระสงฆโ์ ดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ระดบั เจา้ อาวาสหรอื พระอาจารยต์ า่ ง ๆ เปน็ ผทู้ ม่ี อี ทิ ธพิ ลทางจติ ใจ ตอ่ ชาวบา้ นเปน็ อยา่ งยงิ่ หากผสู้ มคั รสามารถโนม้ นา้ วใหพ้ ระชว่ ยหาคะแนนใหแ้ ลว้ โอกาสทจี่ ะ ไดร้ ับคะแนนเสยี งในเขตเลอื กต้ังในจํานวนมากเป็นไปได้สูง 2.5) กลุม่ อาชีพอ่ืน ๆ ทเ่ี ปน็ เจา้ พ่อ นกั เลง อนั ธพาล หัวคะแนนประเภทนส้ี ว่ นใหญเ่ ป็นผู้ประกอบ อาชพี ไมส่ จุ รติ หรอื ผดิ กฎหมาย เชน่ เจา้ มอื บอ่ นการพนนั เจา้ มอื หวยเถอ่ื น ซง่ึ มกั มคี วามสมั พนั ธ์ อนั ดกี บั เจา้ หนา้ ทท่ี อ้ งถน่ิ แมจ้ ะมอี าชพี ทผ่ี ดิ กฎหมาย เนอื่ งจากมกี ารแลกเปลยี่ นผลประโยชน์ ต่อกัน รวมทั้งยังมีความสัมพันธ์กับประชาชนโดยมากด้วยธุรกิจท่ีไม่เปิดเผยเช่น เจ้ามือ หวยใต้ดินจะเป็นที่รู้จักของประชาชนอย่างกว้างขวางแทบทุกหมู่บ้านและชุมชน โดยผ่าน คนเดนิ โพย เมอ่ื เจา้ มอื หวยเถอื่ นแปรสภาพเปน็ หวั คะแนน คนเดนิ โพยกแ็ ปรสภาพเปน็ หวั คะแนน ในระดับชมุ ชนไดเ้ ป็นอยา่ งดี 3) การแบง่ ประเภทหวั คะแนนตามลกั ษณะการจัดตงั้ แบง่ ออกเป็น 3.1) หัวคะแนนที่มีการจัดตั้งโดยตรงจากผู้สมัครหรือพรรคการเมืองของผู้สมัคร ได้แก่ หัวคะแนน ท่ีเป็นฐานคะแนนเสียงหรือเกิดจากการจัดต้ังของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองของผู้สมัคร การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งช่วงหลัง ๆ ผู้สมัครพยายามจัดต้ังหัวคะแนนระดับต่าง ๆ เพ่ือให้ ครอบคลมุ พนื้ ทมี่ ากทส่ี ดุ โดยอาศยั หวั คะแนนเหลา่ นน้ั ระดมใหผ้ ลู้ งคะแนนมาลงคะแนนเสยี ง ให้แก่ผู้สมัครด้วยวิธีการต่าง ๆ คะแนนเสียงท่ีได้มาในลักษณะน้ีเรียกว่า “คะแนนจัดต้ัง” หมายถงึ ผลู้ งคะแนนทีม่ าลงคะแนนเสยี งเลือกตั้งโดยการชกั นําของหัวคะแนนผู้สมคั ร 3.2) หัวคะแนนท่ีไม่มีการจัดต้ังไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้สมัครที่เป็นหัวคะแนนที่เกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีการชักชวนจากผู้สมัครโดยตรง แต่เป็นผู้ท่ีช่วยในการรณรงค์หาเสียงให้ผู้สมัคร ดว้ ยความสมคั รใจโดยมไิ ดห้ วงั ผลตอบแทน หวั คะแนนในลกั ษณะนเี้ กดิ ภายใตส้ ภาพการณพ์ เิ ศษ หรือผู้สมคั รมีคณุ สมบัติโดดเด่นตา่ งไปจากคณุ สมบตั ิของผู้สมคั รคนอ่ืน ๆ 4) การแบ่งประเภทหัวคะแนนตามความชาํ นาญ แบ่งออกเปน็ สามประเภทคอื 4.1) หัวคะแนนมีความชํานาญ ได้แก่ หัวคะแนนท่ีมีความชํานาญในการหาเสียงในพื้นท่ีนั้น ๆ ทกุ สมยั ผสู้ มคั รทม่ี หี วั คะแนนในลกั ษณะนชี้ ว่ ยหาเสยี งยอ่ มมหี ลกั ประกนั ในการไดร้ บั คะแนนเสยี ง 4.2) หัวคะแนนท่ียังไม่เคยเป็นหัวคะแนนมาก่อน หัวคะแนนประเภทนี้ไม่ค่อยมีความชํานาญ ในการหาเสียง ทําใหค้ าดการณค์ ะแนนเสียงทจ่ี ะไดร้ บั ยาก 4.3) หัวคะแนนจอมปลอมหรือหัวคะแนนหลอกลวง ได้แก่ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เป็น หวั คะแนนจรงิ แตใ่ ชว้ ธิ กี ารตา่ ง ๆ หลอกลวงผสู้ มคั รวา่ ตนเปน็ หวั คะแนนจรงิ เพอื่ หวงั เรยี กรอ้ ง ผลประโยชน์จากผู้สมคั รหนา้ ใหมห่ รอื ยังไมม่ ปี ระสบการณ์ในพื้นท่ี
55 5) การแบ่งหัวคะแนนตามระดบั และโครงสรา้ งของหัวคะแนน แบง่ ออกเป็น 5.1) หัวคะแนนระดับจังหวัด ได้แก่ หัวคะแนนท่ีมีฐานคะแนนเสียงในระดับจังหวัด ถือเป็น หวั คะแนนทมี่ ฐี านะสงู สดุ เปน็ ผทู้ มี่ ปี ระสบการณแ์ ละคนุ้ เคยกบั การหาเสยี งเลอื กตง้ั เปน็ อยา่ งด ี หวั คะแนนระดบั นอ้ี าจมเี ครอื ขา่ ยหวั คะแนน หรอื ฐานเสยี งเปน็ ลาํ ดบั ชนั้ ลงมาจนถงึ ฐานคะแนนเสยี ง ระดับตำ่� สุด 5.2) หัวคะแนนระดับอําเภอ ได้แก่ หัวคะแนนท่ีควบคุมฐานคะแนนเสียงในระดับอําเภอ มีฐานะ รองจากหัวคะแนนระดับจังหวัด ทําหน้าที่ในการประสานระหว่างผู้สมัครกับหัวคะแนน ระดับต่�ำกว่า หัวคะแนนระดับอําเภออาจมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับหัวคะแนนระดับตําบลและ หวั คะแนนระดับหมูบ่ ้านโดยตรง 5.3) หัวคะแนนระดับตําบล ได้แก่ หัวคะแนนท่ีควบคุมฐานคะแนนเสียงในระดับตําบล ทําหน้าที่ ในการประสานกับหัวคะแนนในระดับหมู่บ้านและระดับอําเภอ ส่วนใหญ่เป็นผู้ท่ีได้รับ ความเคารพนบั ถือจากชาวบา้ น 5.4) หัวคะแนนระดับคุ้มหรือกลุ่มบ้าน ได้แก่ บางหมู่บ้านจะมีการต้ังบ้านเรือนเป็นกลุ่ม ๆ ตาม ความสัมพันธ์ทางเครือญาติหรือพ้ืนเพดั้งเดิม ในกรณีที่หัวคะแนนระดับหมู่บ้านไม่สามารถ ทํางานได้ครอบคลุมทั่วท้ังหมู่บ้าน ผู้สมัครต้องหาหัวคะแนนระดับคุ้ม เช่น กลุ่มเครือญาต ิ กลุม่ พวกพ้อง เป็นต้น เพือ่ ทาํ ใหค้ ะแนนเสยี งของผสู้ มคั รมีความเสถียรมากข้นึ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างระดับต่าง ๆ ของหัวคะแนนในความเป็นจริงมิได้มีสภาพเป็นเครือข่าย เช่ือมโยงเป็นช่วงชั้นเสมอไป บางครั้งก็มีความสัมพันธ์เชื่อมประสานโดยตรงกับผู้สมัคร การท่ีจะกล่าวว่า หวั คะแนนอยใู่ นระดับใดขนึ้ อยู่กับฐานคะแนนเสียงทม่ี ีอย่เู ปน็ สําคญั นอกจากนี้ เพ่ิมพงศ์และศรีสมภพ (2551, ... อ้างถึงใน สุรชัย ต้ังมกรา. 2556, น.17) ได้แบ่งหน้าท่ี ของหวั คะแนนออกเปน็ 3 ขน้ั ตอน คอื ขน้ั ตอนกอ่ นวนั เลอื กตง้ั ขน้ั ตอนวนั เลอื กตง้ั และขน้ั ตอนภายหลงั เลอื กตงั้ ขัน้ ตอนกอ่ นวนั เลอื กตง้ั หัวคะแนนมหี น้าท่ดี ังนี้ 1. การประชาสัมพันธ์ในทางหลักการ การประชาสัมพันธ์ของหัวคะแนนในระยะนี้คือ การโฆษณา ให้ผู้ลงคะแนนทราบประวัติ การศึกษา การทํางาน ประสบการณ์และนโยบายของผู้สมัคร เพ่ือใหผ้ ลู้ งคะแนนเกดิ ความรู้สึกพงึ พอใจและพร้อมลงคะแนนใหแ้ ก่ผ้สู มคั ร 2. การสาํ รวจขอ้ มลู พน้ื ฐานของทอ้ งที่ เชน่ สภาพทอ้ งถน่ิ ความนยิ ม ทศั นคติ ความตอ้ งการของชมุ ชน จาํ นวนรายชอื่ ผมู้ สี ทิ ธิเลอื กตั้ง พรอ้ มเลขท่บี ตั รประจาํ ตัวประชาชนของบุคคลเหลา่ นั้น เป็นตน้
56 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 3. งานการข่าว หมายถึง กิจกรรมในการหาข่าว สร้างข่าว ปล่อยข่าว ลวงข่าว ตอบโต้ข่าวโดยม ี จุดประสงค์หลักท่ีจะสืบทราบความเคล่ือนไหวของฝ่ายตน รวมทั้งล่อลวงให้คู่แข่งขันเข้าใจ สถานการณ์ของตนผิดพลาดไป 4. ประเด็นสําคัญในการหาข่าวของผู้สมัครแต่ละคนโดยผ่านหัวคะแนนแบ่งได้ออกเป็น 2 ลักษณะ ไดแ้ ก่ การหาขา่ วเกย่ี วกบั ความเคลอ่ื นไหวของฝา่ ยตรงขา้ ม และการหาขา่ วสถานการณอ์ นั เกดิ จาก การเคลอื่ นไหวของฝา่ ยตน ในประเดน็ แรกมขี า่ วสารสาํ คญั ทจ่ี ะตอ้ งสบื หา ไดแ้ ก่ คะแนนนยิ มของ คู่แข่งขันในแต่ละพ้ืนที่ ความเคล่ือนไหวของคู่แข่งขันในระดับท้องถิ่น ใครเป็นหัวคะแนนให้กับ คแู่ ขง่ คนสาํ คญั การเคลอ่ื นไหวของคแู่ ขง่ ขนั สง่ ผลกระทบตอ่ คะแนนนยิ มของตนหรอื ไม่ และประเมนิ ทศั นคตขิ องประชาชนภายในทอ้ งที่ต่อการปลอ่ ยขา่ วหรือตอบโตข้ ่าว เพื่อทําสงครามจิตวทิ ยา 5. การประสานกบั ฝา่ ยผสู้ มคั รในการดาํ เนนิ งานในพนื้ ที่ ในการรณรงคห์ าเสยี งผสู้ มคั รมหี นา้ ทสี่ าํ คญั คอื ปราศรยั ออกพนื้ ทเี่ ยย่ี มผลู้ งคะแนนในเขตเลอื กตงั้ การวางแผนปรากฏตวั ของผสู้ มคั รในหมบู่ า้ น และชมุ ชนต่าง ๆ ผ้สู มคั รกับหัวคะแนนต้องประสานงานกนั ใหด้ ี เพราะแตล่ ะเขตเลือกต้ังมีพน้ื ท่ี กวา้ งใหญ่ ผ้สู มัครไม่สามารถลงพื้นที่ครบทุกจดุ การประสานงานกับหัวคะแนนในพน้ื ทจี่ ึงสาํ คัญ นอกจากน้ี หัวคะแนนต้องทราบว่าในท้องท่ีมีงานประเพณีสําคัญ ๆ หรืองานพิธีของชาวบ้าน อะไรบ้าง เช่น เทศกาลประจําปี งานบวช งานแต่งงาน งานศพ เป็นต้น และประสานให้ผู้สมัคร มาปรากฏตัวในงานเหล่านี้ ถ้าผู้สมัครไม่สามารถมาได้ หัวคะแนนจะต้องทําหน้าท่ีเป็นตัวแทน ของผูส้ มคั รเสยี เอง 6. การรักษาฐานคะแนนเสียงของผู้สมัคร การรณรงค์หาเสียงทุกรูปแบบของทั้งฝ่ายผู้สมัคร และ หัวคะแนนล้วนเป็นไปเพื่อรักษาฐานคะแนนเสียงท้ังสิ้น ในระดับพ้ืนฐานหัวคะแนนมีส่วนสําคัญ ในการรกั ษาฐานคะแนนเสยี ง การแยง่ ชงิ ฐานระดบั ลา่ งระหวา่ งฝา่ ยตา่ ง ๆ เปน็ ไปไดแ้ ทบทกุ พนื้ ท่ี โดยเฉพาะในเขตพนื้ ทที่ มี่ ผี สู้ มคั รมากกวา่ หนงึ่ ฝา่ ยเละมฐี านทางการเงนิ ใกลเ้ คยี งกนั ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งผสู้ มคั รแตล่ ะคนกบั หวั คะแนนจะเปน็ ปจั จยั ชวี้ า่ ฐานคะแนนเสยี งนนั้ ๆ จะมคี วามมน่ั คง หรือไม่ การรักษาฐานคะแนนเสียงของหัวคะแนนดํารงอยู่นานเพียงใดข้ึนอยู่กับความสัมพันธ์ ระหว่างหัวคะแนนกับชาวบ้านเป็นสําคัญ ความสัมพันธ์น้ีอยู่ได้ด้วยสายใยแห่งระบบอุปถัมภ ์ หรอื ระบบอาวโุ ส ขั้นตอนภายหลังการเลือกตั้ง หัวคะแนนจะต้องทําหน้าท่ีขอบคุณประชาชนแทนผู้สมัคร ไม่ว่า ผลการเลอื กตง้ั จะเปน็ อย่างไรก็ตาม วิธกี ารทีใ่ ชอ้ าจเปน็ การจดั เลีย้ งหรือสงั สรรค์อย่างไมเ่ ปน็ ทางการก็ได้ ดังน้ันจะเห็นได้ว่า หัวคะแนนสามารถเป็นผู้ยึดโยงให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างผู้สมัครกับ ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากกรณีความสัมพันธ์เชิงเครือญาติ สาขาอาชีพ โดยสามารถแบ่ง พิจารณาได้หลายระดับ เช่น ระดับจังหวัด อ�ำเภอ ต�ำบล หรือกลุ่มบ้าน โดยสามารถเป็นประเด็นส�ำคัญถึง การวเิ คราะห์การส่อื สารทางการเมืองในการเลอื กต้ังฯ จังหวดั พะเยา ภายใต้แนวคดิ ดงั กลา่ วต่อ
57 2.4 งานวิจยั ทีเ่ กยี่ วข้อง ในประเด็นเก่ียวกับระบบการเลือกต้ังจากการศึกษาของ ปุรวิชญ์ วัฒนสุข (2554) โดยศึกษา เร่ือง การปฏิรูประบบการเลือกตั้งกับการเปล่ียนแปลงระบบพรรคการเมืองและการเป็นตัวแทนในรัฐสภา: ศกึ ษาเปรยี บเทยี บระหวา่ งไทยกับนิวซแี ลนด์ พบวา่ การที่นวิ ซแี ลนดเ์ ปล่ยี นแปลงระบบการเลือกตงั้ จากระบบ เลอื กตงั้ แบบเสยี งขา้ งมากธรรมดา (Plurality System) เปน็ ระบบเลอื กตงั้ แบบผสมสดั สว่ น (Mixed-Member Proportion) สง่ ผลตอ่ ใหร้ ะบบพรรคการเมอื งทเ่ี คยเปน็ แบบสองพรรคกลายเปน็ ระบบหลายพรรคทม่ี พี รรคเดน่ ส�ำหรบั ประเทศไทยไดม้ กี ารเปลยี่ นจากระบบเลอื กตง้ั แบบเสยี งขา้ งมากธรรมดาไปเปน็ ระบบเลอื กตง้ั แบบคขู่ นาน (Parallel Voting) ซง่ึ สง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นระบบพรรคการเมอื งจากระบบหลายพรรคไมม่ พี รรคเดน่ ไปเปน็ ระบบ หลายพรรคมพี รรคเดน่ เชน่ เดยี วกบั นวิ ซแี ลนด์ อยา่ งไรกต็ าม ระบบการเลอื กตง้ั ไมไ่ ดเ้ ปน็ เพยี งปจั จยั เดยี วทสี่ ง่ ผล ต่อการเปล่ียนแปลงระบบพรรคการเมือง ยังต้องรวมถึงพฤติกรรมการเลือกต้ังของประชาชนผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้ง อีกด้วย นอกจากน้ี ในการปฏิรูประบบการเลือกต้ังของนิวซีแลนด์ยังท�ำให้ผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย มีสัดส่วน ในสภาเพม่ิ มากขึ้น แต่ส�ำหรับประเทศไทยไมม่ ผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงเรือ่ งดังกล่าว ในดา้ นการน�ำเสนอนโยบายของพรรคการเมอื ง James Ockey (2003, ... อา้ งถงึ ใน อภชิ าต สถติ นริ ามยั , 2556) ศึกษาผลกระทบของรัฐธรรมนูญ 2540 ต่อการเปล่ียนแปลงสถาบันทางการเมือง พรรคการเมือง พฤติกรรมของการรวมกลุ่มในพรรคการเมือง การเลือกต้ัง การซ้ือเสียง โดยพบว่าการซ้ือเสียงยังคงเกิดข้ึน รวมถึงการรวมกลุ่มมุ้งต่าง ๆ เพ่ือจัดตั้งรัฐบาล ยังคงมีระบบอุปถัมภ์ระหว่างนักการเมืองที่มีอิทธิพลและ อ่อนอาวุโส แต่อย่างไรก็ตาม ในการเลือกต้ังคร้ังแรก (พ.ศ. 2544) ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 พรรคไทยรักไทย ได้พัฒนานโยบายที่กระชับ ชัดเจน และพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนยากคนในชนบท ไม่ว่าจะเป็นนโยบายพักช�ำระหนี้ เกษตรกร นโยบายกองทุนหมู่บ้าน และนโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ท่ีเย้ย ไปท่ีการร่วมมือกับ IMF เพื่อนโยบายทางเศรษฐกิจ ท้ังยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผลประโยชน์ท่ีจะตกกับ ชาวชนบทเหมือนอย่างท่ีพรรคไทยรักไทยได้น�ำเสนอ ด้วยเหตุน้ี พรรคประชาธิปัตย์จึงพ่ายแพ้กับการเลือกต้ัง ครง้ั แรกภายใตร้ ฐั ธรรมนญู 2540 ซง่ึ Ockey ไดต้ งั้ ขอ้ สงั เกตวา่ การทพี่ รรคไทยรกั ไทยไดร้ บั เลอื กตงั้ อาจจะไมไ่ ด้ มาจากรฐั ธรรมนญู 2540 โดยตรง แตอ่ าจจะมาจากการทีพ่ รรคจับประเดน็ ปญั หาถูกต้อง กล่าวคือ พรรคเสนอ แนวทางแกป้ ญั หาวกิ ฤตเศรษฐกจิ ปี 2540 ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรมดกี วา่ พรรคประชาธปิ ตั ย์ แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม สาเหตุ ของชยั ชนะการเลอื กตงั้ ของพรรคเพอ่ื ไทยกเ็ ปลย่ี นแปลงไปหลงั เหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบทางการเมอื งของไทย เชน่ จากศึกษาของสุรชัย ตั้งมกรา (2556) ที่ศึกษาถึงปัจจัยที่ท�ำให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ประสบความส�ำเร็จในการเลือกต้ังท่ัวไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เขตเลือกตั้งท่ี 5 จังหวัดเชียงใหม ่ พบวา่ ชยั ชนะในการเลอื กตงั้ ของพรรคเพอื่ ไทยเกดิ จากการเคลอ่ื นไหวของชมรมคนรกั ฝาง แมอ่ าย ไชยปราการ กลุ่มคนเส้ือแดงที่มีการวางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการเลือกต้ังอย่างเป็นระบบและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ทางการเมอื ง โดยเฉพาะการสรา้ งอตั ลกั ษณท์ างการเมอื งร่วมกันของคนเส้อื แดง
58 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา ส�ำหรับพฤติกรรมการเลือกตั้ง จากการศึกษาของ สิริพรรณ นกสวน สวัสดี (2554) เร่ือง บทบาท พรรคการเมืองและพฤติกรรมและการตัดสินใจเลือกต้ังของประชาชนในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ในการเลอื กตงั้ พ.ศ. 2554 พบวา่ ประชาชนสนใจกบั ชดุ นโยบายของพรรคการเมอื งมากยง่ิ ขนึ้ โดยพรรคการเมอื ง พยายามเสนอนโยบายให้กับประชาชนในลักษณะที่ครอบคลุมทุกด้าน และประชาชนแสดงพฤติกรรมในการ ลงคะแนนเสียงผ่านการตัดสินใจด้วย “ตัวเอง” มากขึ้น ซ่ึงแสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของในการชักจูงของแกนน�ำ หัวคะแนน นกั การเมอื งท้องถ่นิ และเจ้าหนา้ ทีร่ ัฐลดลง และยังท�ำใหเ้ ห็นว่า ประชาชนมกี ารเรียนรทู้ างการเมือง มากยง่ิ ขนึ้ สอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาของ อภชิ าต สถติ นริ ามยั และคณะ (2556) ในการทบทวนภมู ทิ ศั นก์ ารเมอื งไทย โดยอธบิ ายการเปลย่ี นแปลงสถาบนั ทางการเมอื งตง้ั แตก่ ารมรี ฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2540 สถาบนั การเมอื งแบบใหมน่ ี้ ในทางหนงึ่ สร้างแรงจงู ใจให้นกั การเมอื งตอบสนองความตอ้ งการของผูม้ ีสิทธ์ิเลือกตั้งมากขน้ึ โดยสรา้ งนโยบาย ในขอบเขตระดับชาติ และการเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในรอบย่ีสิบปีที่ผ่านมา ท�ำให้ความสัมพันธ ์ ของผู้คนในสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปโดยรากฐาน โดยแม้ความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ยังคงมีอยู่ แต่ความสัมพันธ์ แนวต้ังแบบนี้ไม่ได้เป็นลักษณะของสังคมอีกต่อไป ตรงกันข้ามความสัมพันธ์ในลักษณะอื่น ๆ โดยเฉพาะใน เชิงแนวนอนจะมีความส�ำคัญเพิ่มข้ึน กล่าวคือ ในหลายท้องถิ่นมีการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมแบบใหม่ ซงึ่ มลี กั ษณะสงั คมในแบบเครือข่ายแนวนอนท่ีมคี วามซบั ซอ้ น ยืดหย่นุ และผนั แปรอยเู่ สมอ ทงั้ น้ี สมบตั ิ จนั ทรวงศ์ ((2536, ... ณสดมภ์ ธติ ปิ รชี า, 2554) ไดท้ �ำการศกึ ษาวจิ ยั พฤตกิ รรมเบย่ี งเบน ในการหาเสียงเลือกตั้งในช่วงระยะเวลาก่อนปี 2536 (ในนัยยะน้ีหมายถึงพฤติกรรมท่ีไม่ดี ไม่พึ่งประสงค ์ ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤตในการเลือกต้ังของสังคมไทย) ระบุว่า สาเหตุท่ีก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เบ่ียงเบนมาจากสาเหต ุ 7 ประการ คอื ประการทหี่ นงึ่ ความเหลอื่ มลำ�้ ทางดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คม กอ่ ใหเ้ กดิ ระบบอปุ ถมั ภร์ ะหวา่ ง นกั การเมอื งและประชาชน งา่ ยตอ่ การซอื้ สทิ ธขิ์ ายเสยี ง หรอื การน�ำเอางบประมาณมาทมุ่ พฒั นาฐานเสยี งของตน เปน็ การเมอื งแบบจดั สรรผลประโยชน์ (Pork – Barrel Politics) ประการทสี่ อง สาเหตดุ า้ นวฒั นธรรมและทศั นคติ สืบเนอ่ื งจากเหตุผลประการแรก ท�ำใหท้ ั้งตวั ประชาชนและผู้สมัครลงเลือกต้งั มองพฤตกิ รรมท่ีเบย่ี งเบนเหลา่ น้ ี ดงั เชน่ การสรา้ งเครอื ขา่ ยอปุ ถมั ภ์ การซอ้ื สทิ ธขิ์ ายเสยี ง การแลกเปลย่ี นผลประโยชน์ กลายเปน็ เรอื่ งปกตทิ ใี่ คร ๆ ก็ท�ำกัน นักการเมืองจึงด�ำรงสถานะในฐานะผู้อุปถัมภ์น่ันเอง ประการท่ีสาม ความหย่อนยานของการบังคับใช้ กฎหมายท่ีปล่อยปะละเลยกฎหมายที่ดี เสมือนว่าจะเน้นหลักความเสมอภาคของผู้เข้าแข่งขันและเสรีภาพของ ผเู้ ลือกตัง้ แตก่ ารปฏิบตั จิ รงิ หาเปน็ เช่นนัน้ ไม่ เพราะไม่มีการบังคับใช้อยา่ งจรงิ จงั ปลอ่ ยปะละเลย จนกลายเปน็ วัฒนธรรมทางการเมืองของสังคมไทยอย่างหนึ่งไปเสียแล้ว อีกทั้งการจัดการเลือกตั้งที่ท�ำตามข้าราชประจ�ำ ผลคือท�ำให้นักการเมืองสามารถควบคุมและมีผลได้ผลเสียต่อการเลือกต้ังได้ ข้าราชการจึงตกอยู่ใน ภาวะล�ำบากในการตรวจสอบความโปร่งใสในการเลือกตั้ง ประการที่สี่ เขตเลือกตั้งที่ใหญ่จนเกินไป กล่าวคือ ท�ำให้ยุทธศาสตร์อื่น ๆ ในการเลือกต้ังนั้นยากล�ำบาก การกระท�ำพฤติกรรมเบ่ียงเบนในการเลือกตั้ง ผ่านการซื้อสิทธิ์ขายเสียงดูจะเป็นตัวเลือกท่ีง่ายกว่าในการเข้าถึง และสะดวกกว่าในการค�ำนวณฐานเสียง ประการท่ีห้า ความอ่อนแอของระบบพรรคการเมือง เน่ืองจากพรรคการเมืองไทยเป็นเพียงแค่การรวมตัว หลวม ๆ เพ่ือได้สิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งเพียงเท่าน้ัน แต่เน้นการหาเสียงและยุทธศาสตร์ของตัวบุคคล เสยี มากกวา่ ประการทห่ี ก ระบบการเลอื กตง้ั แบบแบง่ เขต-เรยี งเบอร์ ระบบการเลอื กตง้ั เชน่ นเ้ี ปดิ โอกาสใหเ้ กดิ
59 การหาเสียงแบบโดด กล่าวคือ โดยล�ำพังมิต้องพ่ึงทีมและพรรคในการหาเสียง แน่นอนว่าท�ำให้พรรคการเมือง ออ่ นแอ ผสู้ มคั รหาเสยี ง และพรรคเองกส็ ามารถรว่ มงานกนั ได้ ถงึ แมจ้ ะไมม่ อี ดุ มการณห์ รอื นโยบายรว่ มกนั ใด ๆ เลย ระบบการเลอื กตงั้ เชน่ นเ้ี ออ้ื ในทางการหาเสยี งโดยเนน้ ตวั บคุ คลผสู้ มคั รเปน็ หลกั พฤตกิ รรมเบย่ี งเบนในการเลอื กตง้ั จึงเกิดขึ้นเน่ืองด้วยว่าเป็นวิธีการท่ีง่าย สะดวก และตัดก�ำลังคู่แข่งท้ังต่างพรรคและในพรรคการเมือง อีกท้ัง ยังส่งเสริมระบบอุปถัมภ์ด้วยเช่นกัน ประการสุดท้าย ประการที่เจ็ด คือ บทบาทของนักธุรกิจ/นักการเมือง ทม่ี กั อาศยั ชอ่ งโหวช่ อ่ งวา่ งทางกฎหมาย หรอื พยายามหลบเลย่ี งในการกระท�ำพฤตกิ รรมเบยี่ งเบนในการเลอื กตงั้ ซ้ือสิทธิ์ขายเสียง นักธุรกิจมักอาศัยช่องทางและอ�ำนาจทางการเมืองเพื่อสร้าง พิทักษ์ หรือขยายกิจการและ ผลประโยชน์ของตนเอง จึงมักสนับสนุนกลุ่มการเมือง หรือไม่ก็เข้ามาเล่นการเมืองเสียเอง ซึ่งต่อมานักธุรกิจ/ การเมืองเหล่าน้ีพัฒนาการหาเสียงตนเองให้เปรียบเสมือนระบบตลาดมากข้ึนเรื่อย ๆ กล่าวคือ ใช้กลยุทธ์ท่ีม ี แนวโนม้ ไปในเชงิ พฤตกิ รรมเบยี่ งเบนในการเลอื กตงั้ มากขนึ้ จนเรม่ิ มลี กั ษณะความเปน็ สถาบนั ไปเสยี แลว้ นอกจากนน้ั ยงั พยายามเขา้ ไปแทรกแซงการเมอื งทอ้ งถนิ่ ไปจนถงึ ระดบั หมบู่ า้ น เพอ่ื ผลประโยชนท์ างการเมอื งและเศรษฐกจิ จากงบประมาณในโครงการตา่ ง ๆ นน้ั เอง จนกลายเปน็ วงจรทไ่ี ด้รบั การยอมรบั โดยท่ัวไป ในการศึกษาเรื่องพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนในจังหวัดพะเยา ช่วงการเลือกตั้งท่ีผ่านมา เช่น งานของ วีระ เลิศสมพร (2558) โดยศึกษาความเคล่ือไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร จังหวดั พะเยา พ.ศ. 2544 พบวา่ ผูส้ มคั รรับเลือกตง้ั ไดด้ �ำเนินการประชาสมั พันธผ์ า่ น ชอ่ งทางตา่ ง ๆ เชน่ ปา้ ยคทั เอาท์ แผน่ พบั ใบปลวิ รถแหป่ ระชาสมั พนั ธ์ เปน็ ตน้ โดยไดด้ �ำเนนิ การตามกฎเกณฑ์ ภายใต้ข้อก�ำหนด แต่จะมีบางพื้นท่ีท่ีเกิดการท�ำลายป้ายหาเสียง ส่วนบรรยากาศของประชาในจังหวัดพะเยา มคี วามตนื่ เตน้ และคกึ คกั จากการประชาสมั พนั ธจ์ ากหนว่ ยงานระดบั ชาตแิ ละระดบั ทอ้ งถน่ิ ซงึ่ ประชาชนมคี วามร ู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกต้ังในระดับหน่ึง จาก “ความตื่นตัว” และ “ความกระตือรือร้น” ในการออก มาใช้สิทธิเลือกต้ัง ส�ำหรับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกต้ังมาก พอสมควร โดยบรรยากาศใกล้ช่วงวันเลือกต้ังจะคึกคักเป็นพิเศษ และถ้าหากประชาชนมีความรู้ทางการเมือง ในทิศทางใดก็จะปฏิบัติเช่นน้ัน ความเคล่ือนไหวและพฤติกรรมของผู้สมัครรับเลือกต้ังท่ีเป็นไปในเชิงบวก คือ การไม่ขัดต่อกฎหมายหรือสรา้ งสรรค์ การไมเ่ น้นโจมตีผแู้ ขง่ แต่จะเนน้ การน�ำเสนอนโยบายของพรรคการเมือง ตน้ สงั กดั เปน็ ตน้ โดยมวี ธี กี ารหาเสยี งเชงิ บวกแบบเปดิ เผย เชน่ การแจกใบปลวิ การเดนิ เคาะประตบู า้ น การจดั เวทีปราศัยท้ังขนาดย่อยและใหญ่ การออกส่ือโทรทัศน์ แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของผู้สมัคร รบั เลอื กตง้ั ในเชงิ ลบ ไดแ้ ก่ การซอื้ เสยี ง อยา่ งไรกต็ าม ยงั มขี า้ ราชการบางกลมุ่ ทม่ี พี ฤตกิ รรมการวางตวั ไมเ่ ปน็ กลาง หรอื ใหก้ ารสนนั สนนุ พรรคการเมอื งทเี่ ออื้ ผลประโยชนต์ า่ ง ๆ กบั ตน อาจเนอื่ งดว้ ยแบบแผนพฤตกิ รรมทางการเมอื ง ของประชาชนจงั หวดั พะเยา มคี วามสอดคลอ้ งกบั “วฒั ธรรมทางการเมอื ง” ซง่ึ จากผลสรปุ ในขา้ งตน้ ทกี่ ลา่ วมานนั้ วัฒธรรมทางการเมืองของคนจังหวัดพะเยามีลักษณะเป็นไปตามแนวคิดแบบ “ไพร่ฟ้า” อ�ำนาจนิยม และ ความสัมพันธ์แบบอุปถัมป์ ซึ่งสอดคล้องกับงานของ ฉัตรทิพย์ ชัยฉกรรจ์ (2559) ศึกษาเรื่องโครงการวิจัย เชิงส�ำรวจความคิดเห็นของประชาชนจังหวัดพะเยาท่ีมีต่อเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2557 ที่มีข้อเสนอแนะ จากผลสรปุ งานวจิ ยั คอื แมค้ นพะเยาจะไมค่ อ่ ยแสดงความคดิ เหน็ ทางการเมอื งอยา่ งชดั เจน แตก่ ม็ คี วามคดิ เหน็ ทางการเมืองท่ีหลากหลาย จึงท�ำให้การเมืองพะเยามีความหลากหลายมากกว่าท่ีจะสรุปว่าเป็นสีใดสีหนึ่ง
60 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา ประการที่สอง คือ ความกลัวเป็นสภาวะความรู้สึกที่พบเห็นได้ท่ัวไปในการศึกษาความคิดเห็นต่อรัฐประหาร แต่เหตุผลของความกลัวแตกต่างกันออกไป เช่น กลัวความผิด กลัวทหาร กลัววิถีชีวิตเปล่ียน เป็นต้น และ ประการสุดท้าย คือ วัฒนธรรมทางการเมืองของคนเหนือมีอัตลักษณ์ของความเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ดูเหมือนรักสงบ แต่ก็ไม่ยอมรับอะไรง่าย ๆ ซ่ึงสะท้อนจากความคิดเห็นของผู้ให้ข้อมูลหลายคนที่มองว่า สถานการณท์ างการเมอื งหลงั รฐั ประหารในจงั หวดั พะเยานน้ั เปน็ คลน่ื ใตน้ ำ้� ซง่ึ การศกึ ษาดงั กลา่ วท�ำใหว้ ฒั นธรรม ทางการเมืองของคนพะเยาเป็นปัจจัยประการหนงึ่ ที่อาจสง่ ผลต่อการเลอื กตั้งฯ ภายใตร้ ฐั ธรรมนูญใหมเ่ ช่นกัน
61 2.5 กรอบและแนวคิดในการศึกษา จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องน้ัน สามารถสรุปความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นใน ตัวแปรส�ำคญั สรุปเป็นกรอบของการศึกษาไดด้ ังนี้ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 และกฎหมายทเี่ ก่ียวขอ้ ง กอ่ นการ บริบท สถานการณ์ การเมอื งจงั หวัดพะเยา เลือกตั้ง (บรรยากาศทางการเมือง ความเคลอื่ นไหวทางการเมือง การยา้ ยพรรค การเปลยี่ นแปลงขว้ั อ�ำนาจ) ระหว่าง รูปแบบและวิธีการ การมี พรฎ. ก�ำหนด - รปู แบบและวธิ กี ารการสอ่ื สารทางการเมอื งในการรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตงั้ ของ การเลือกต้ัง ผู้ลงสมัครรบั เลือกตัง้ ฯ วนั เลือกตัง้ - รูปแบบและวิธีการในการเข้าถึงข้อมูลการเลือกตั้งของประชาชนที่เกิดจาก การล่ือสารทางการเมอื งของผู้สมัครรับเลอื กต้งั ฯ - พฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน กลุ่มทางการเมือง ผู้น�ำ ทอ้ งทแี่ ละทอ้ งถน่ิ หนว่ ยงานภาครฐั องคก์ รสาธารณะ และองคก์ รอน่ื เปลย่ี นแปลง ขั้วอ�ำนาจ) ภายหลัง ผลกระทบการเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา วนั เลือกตั้ง
62 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา บทท่ี 3 วิธดี �ำเนนิ งานวิจัย
63 การศึกษา/วิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ทั้งหมดเพื่อได้ข้อมูลท ี่ สามารถน�ำมาวเิ คราะหต์ ามวตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษา โดยใหค้ วามส�ำคญั ทง้ั ขอ้ มลู บรบิ ท สถานการณท์ างการเมอื ง การปกครอง ประชาชน ภาคประชาชน กลมุ่ ทางการเมอื ง ผลู้ งสมคั รรบั เลอื กตง้ั และหนว่ ยงานภาครฐั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยมกี ระบวนการในการศึกษาตามระเบียบการวจิ ยั ดังน้ี 1. การด�ำเนินการวจิ ยั 2. กล่มุ ประชากร ขนาดตวั อย่างและวธิ ีการคัดเลือกตัวอย่างในการวจิ ัย 3. เคร่อื งมอื ในการวิจัย 4. ขอบเขตของการวจิ ยั 5. การวเิ คราะหข์ ้อมูล 3.1 การด�ำเนินการวจิ ัย วิธกี ารเกบ็ ขอ้ มลู ด�ำเนินการเกบ็ ข้อมูลโดยใช้เครอ่ื งมือ 2 แบบ ได้แก่ 1) การวจิ ยั เอกสาร ซงึ่ เปน็ การเนน้ การเกบ็ ขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง โดยขอ้ มลู ตา่ ง ๆ อาจอยใู่ น รปู แบบสงิ่ พมิ พ์ เชน่ หนงั สอื ประกาศ เอกสาร หรอื การรายงานขอ้ มลู ของราชการ หนงั สอื พมิ พ์ เป็นต้น หรือรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ส่ือออนไลน์ โซเซียลมีเดียต่าง ๆ เป็นต้น ท้ังน ้ี ในการพิจารณาขอ้ มลู จะพิจารณาโดยอาศยั ค�ำส�ำคัญทไ่ี ด้ถกู ก�ำหนดไวเ้ บอื้ งตน้ 2) การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (semi-structured interview) การสัมภาษณ์เชิงลึก (Deep interview) กลมุ่ ตวั อยา่ งเพอื่ เกบ็ ขอ้ มลู เชงิ ลกึ ทง้ั น้ี จะอาศยั การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบไมใ่ ช้ ความนา่ จะเป็น แบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling)
64 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 3.2 ประชากร และกลมุ่ ตวั อย่าง กลุ่มตัวอย่างในการสัมภาษณ์แบบก่ึงโครงสร้าง และไม่มีโครงสร้าง โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบไม่ใช้ ความนา่ จะเปน็ แบบเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย 1) ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา ในเขตเลอื กตงั้ ท่ี 1, 2 และ 3 รวมทง้ั สน้ิ 6 คน โดยแบง่ เป็น ก. ผลู้ งสมคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยาของพรรคการเมอื งเดมิ เขตละ 1 คน ข. ผลู้ งสมคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยาของพรรคการเมอื งใหม่ เขตละ 1 คน 2) ประชาชน หมายถึงผู้มีสิทธิ์เลือกต้ังฯ ในจังหวัดพะเยา เขตเลือกตั้งที่ 1, 2 และ 3 ในจังหวัด พะเยา โดยแบง่ ตามสัดสว่ นลักษณะประชากรศาสตรก์ ล่มุ ละ 2 คน ในแต่ละเขตเลอื กตั้ง รวมท้ังสน้ิ คน 24 คน ประกอบดว้ ย ก. ประชาชนผมู้ สี ิทธิ์เลอื กตั้ง อายุ 18 – 22 ปี (ประสบการณก์ ารเลอื กต้ังครง้ั แรก) ข. ประชาชนผ้มู ีสทิ ธเ์ิ ลือกตั้ง อายุ 23 – 35 ปี (ประสบการณ์การเลือกตัง้ 1 - 4 ครัง้ ) ค. ประชาชนผู้มสี ทิ ธิ์เลือกตัง้ อายุ 36 – 59 ปี (ประสบการณก์ ารเลอื กตั้งเกนิ 4 คร้งั ขนึ้ ไป) ง. ประชาชนผมู้ สี ิทธิเ์ ลือกตั้ง อายุ 60 ปีขน้ึ ไป 3) ตวั แทนภาคประชาสงั คมกลุ่มทางการเมืองในจงั หวัดพะเยา 4) ผู้น�ำท้องท่ี และ ทอ้ งถิ่น จากเขตเลอื กตัง้ ละ 1 คน 5) หน่วยงานภาครฐั ท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การเลือกตั้งสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจังหวดั พะเยา
65 3.3 เครือ่ งมอื ในการวจิ ยั ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกตการณ์ท้ังแบบมีส่วนร่วม และไมม่ สี ว่ นรว่ ม รวมถงึ การสมั ภาษณ์แบบมีโครงสรา้ ง และสมั ภาษณ์เชิงลกึ ก่ึงมีโครงสร้างและไม่มโี ครงสรา้ ง 3.4 ขอบเขตของการวิจัย ขอบเขตพ้ืนที่การศึกษา รูปแบบ วิธีการ และผลกระทบการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงั หวดั พะเยา โดยมแี บง่ ตามเขตการเลอื กต้งั ดังนี้ เขตเลอื กตัง้ ที่ 1 : อ�ำเภอเมืองพะเยาและอ�ำเภอแมใ่ จ เขตเลอื กตั้งท่ี 2 : อ�ำเภอจนุ , อ�ำเภอเชยี งค�ำ และ ก่ิงอ�ำเภอภูซาง เขตเลอื กต้งั ที่ 3 : อ�ำเภอภูกามยาว, อ�ำเภอดอกค�ำใต,้ อ�ำเภอเชียงม่วน และอ�ำเภอปง 3.5 การวเิ คราะหข์ ้อมูล ในกระบวนการศึกษา ผู้วิจัยได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลแบบสร้างข้อสรุป โดยการใช้การวิเคราะห์ แบบสังเคราะห์แบบอุปนัย (Analytic Induction) เป็นการวิเคราะห์แบบจ�ำแนกข้อมูล (Typical Analysis) แบบใช้แนวคดิ ทฤษฎที ีเ่ กยี่ วขอ้ งวเิ คราะห์ขอ้ มูลเปรียบเทยี บ โดยมขี ้นั ตอนดังนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นในบริบทของพื้นท่ีเพื่อตีกรอบโดยสังเขป เพ่ือแยกประเด็นค�ำถามตาม แบบสัมภาษณ์ ตามกลุ่มประชากรที่ศึกษา มุ่งเก็บข้อมูลเชิงลึกเชิงกว้าง น�ำข้อมูลมาเปรียบแล้วเช่ือมโยง ข้อมูลพ้ืนฐาน เพื่อใช้ในการด�ำเนินการเก็บรายละเอียดเพ่ิมเติมในด้านอ่ืน ๆ หรือบุคคลอ่ืนท่ีมีความส�ำคัญ เก่ียวข้องตอ่ ไป การวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงการด�ำเนินการเก็บข้อมูลการวิจัยจากการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมและ ไม่มีส่วนร่วม แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การสัมภาษณ์จากกรอบค�ำถามในประเด็นค�ำถามที่ตั้งไว้ เพื่อสร้างข้อสรุปเบือ้ งต้นแลว้ น�ำไปสกู่ ารเก็บข้อมูล และการใช้วิธีวเิ คราะห์แบบอุปนยั เพือ่ สรา้ งข้อสรปุ เบื้องต้น และใช้การวิเคราะห์โดยการจ�ำแนกและอธิบายความสมั พันธข์ องปรากฏการณ์ โดยใชแ้ นวคดิ ทฤษฎีที่เก่ียวขอ้ ง มาเปรยี บเทยี บ
66 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา บทที่ 4 ผลการวิจยั
67 การศึกษารูปแบบ วิธีการ และผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ กรณีศึกษา: จังหวัดพะเยา เพ่ือศึกษาบริบท และ สถานการณ์ทางการเมืองของจังหวัดพะเยา ช่วงก่อน ระหว่าง และหลัง การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา รวมถึงศึกษารูปแบบ วิธีการ และผลกระทบการเลือกตั้ง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวัดพะเยา ของผู้สมคั รรับเลือกต้ัง ประชาชน ภาคประชาสังคม กลุ่มทางการเมือง ผนู้ �ำท้องทีแ่ ละท้องถิน่ หนว่ ยงานภาครัฐ องค์กรสาธารณะ และองค์กรอนื่ ๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกับการเลือกตั้ง โดยไดม้ กี ารศกึ ษาในชว่ งระยะเวลากอ่ นการเลอื กตงั้ ระหวา่ งการมพี ระราชกฤษฎกี �ำหนดการเลอื กตงั้ วันเลือกตั้ง จนถึงประมาณหนึ่งเดือนภายหลังจากคณะกรรมการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกต้ัง อย่างเป็นทางการในจังหวัดพะเยา โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบคุณภาพ จากเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์ เชิงลึกกับกลุ่มประชากร และการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม ผลการศึกษาสามารถแบ่งเป็น ประเด็นตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ยั ดงั น้ี 1) ช่วงก่อนการเลือกตั้ง (ก่อนพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็น การทวั่ ไป พ.ศ. 2562) • บรบิ ท สถานการณท์ างการเมอื งของจงั หวดั พะเยา ชว่ งกอ่ นการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวัดพะเยา พ.ศ. 2562 2) ระหว่างการเลือกต้ัง (ช่วงระยะเวลาพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทว่ั ไป พ.ศ. 2562) • บริบท สถานการณ์ทางการเมืองของจังหวัดพะเยา การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวดั พะเยา ภายใตร้ ฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 • รูปแบบ วิธีการ และผลกระทบการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา ของผู้สมัคร รบั เลือกต้ัง ภายใต้รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช 2560 • รปู แบบ วธิ กี าร และผลกระทบการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา ของประชาชน ภาคประชาสังคม และกลุ่มทางการเมอื ง ภายใต้รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2560
68 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา • รปู แบบ วธิ กี าร และผลกระทบการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา ของผนู้ �ำทอ้ งท ่ี และทอ้ งถ่ิน ภายใต้รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2560 • รปู แบบ วธิ กี าร และผลกระทบการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา ของหนว่ ยงาน ภาครฐั องคก์ รสาธารณะ และองคก์ รอนื่ ๆ ภายใตร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 3) หลงั การเลือกตัง้ • ผลการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวดั พะเยา พ.ศ. 2562 จงั หวดั พะเยา 4.1 บรบิ ท และ สถานการณท์ างการเมอื งของจงั หวดั พะเยา ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวดั พะเยา จังหวัดพะเยา แบ่งออกเป็น 9 อ�ำเภอ 68 ต�ำบล 780 หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ�ำนวน 72 แห่ง แบ่งเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลต�ำบล 33 แห่ง องค์การบริหารส่วนต�ำบล 36 แห่ง มีประชากรทั้งสิ้น 382,572 คน (ส�ำนักสาธารณสุขจังหวัดพะเยา, 2561) ดังตารางที่ 4 (ขอ้ มลู ไมส่ มั พันธก์ ับ กกต.) ตารางท่ี 4 แสดงจ�ำนวนประชากรจังหวดั พะเยา แยกตามรายอ�ำเภอ อำ� เภอ เพศชาย เพศหญิง รวม เมืองพะเยา 56,765 62,796 119,561 16,386 17,748 34,134 จนุ 26,748 28,701 55,449 เชียงค�ำ 6,540 6,887 13,427 เชยี งม่วน 26,282 27,398 53,680 ดอกค�ำใต้ 19,147 19,454 38,601 11,617 12,294 23,911 ปง 14,450 14,747 29,197 แมใ่ จ 7,028 7,584 14,612 ภูซาง 184,963 197,609 382,572 ภกู ามยาว รวม ที่มา ส�ำนกั งานสาธารณสขุ จังหวดั พะเยา, 2561
69 โดยบริบทที่ส�ำคัญในช่วงกอ่ นการเลือกต้งั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร สามารถแบง่ เปน็ ประเด็นได้ดังนี้ 1) การแบง่ เขตเลอื กตัง้ ในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 จังหวัดพะเยามีจ�ำนวนราษฎรทั้งสิ้น 477,100 คน จึงท�ำให้จ�ำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อ ส.ส. 1 คน เท่ากับ 159,033 คน และมจี �ำนวนผมู้ สี ทิ ธเ์ิ ลอื กตงั้ 391,849 คน ท�ำใหส้ ามารถมสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรแบบแบง่ เขต ได้ทัง้ ส้ินจ�ำนวน 3 คน (คณะกรรมการการเลอื กต้งั ประจ�ำจังหวดั พะเยา, 2561) โดยคณะกรรมการเลือกต้ังได้แบ่งเขตการเลือกตั้งเป็น 3 เขตเลือกต้ัง โดยได้มีประกาศเพื่อรับฟัง ความคดิ เหน็ ของพรรคการเมอื งและประชาชนในจงั หวดั ตามระเบยี บคณะกรรมการเลอื กตงั้ วา่ ดว้ ยการแบง่ เขต เลอื กตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 2 ตลุ าคม พ.ศ. 2561 โดยมีจ�ำนวน 3 รปู แบบ (ตารางที่ 5 - 7) โดยก�ำหนดระยะเวลาการยื่นค�ำร้องเรียนหรือการแสดงความคิดเห็นต้ังแต่วันที่ 20 – 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ซ่ึงต่อมาคณะกรรมการการเลือกต้ังจังหวัดพะเยา มีมติในการพิจารณาการแบ่งเขตเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา ใช้เขตเลือกตั้งรูปแบบแบบท่ี 1 ประกอบด้วย เขตท่ี 1 อ.เมืองพะเยา และ อ.แม่ใจ เขตที่ 2 อ.เชยี งค�ำ และ อ.ภูซาง และ เขตที่ 3 อ.ดอกค�ำใต้ อ.ภกู ามยาว อ. ปง และ อ.เชยี งมว่ น (ส�ำนักงานคณะกรรมการการเลอื กตงั้ , 2554) ตารางที่ 5 พน้ื ท่ปี ระกอบเขตเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา รูปแบบท่ี 1 เขต พ้ืนทป่ี ระกอบด้วย จ�ำนวน ผลต่างจาก คิดเปน็ หมายเหตุ เลอื ก ราษฎร จ�ำนวนเฉลี่ย ร้อยละ ตงั้ ในเขต ต่อ ส.ส. เลือกตง้ั หน่ึงคน 1 อ.เมอื งพะเยา และ อ.แมใ่ จ 155,114 2 อ.เชยี งค�ำ อ.จนุ และ อ.ภูซาง 3,919 2.46 เป็นเขตการเลือกต้งั เดิม 3 อ.ดอกค�ำใต้ อ.ภูกามยาว 157,298 พ้ืนทต่ี ิดตอ่ กัน 265 0.17 การคมนาคมสะดวก อ. ปง และ อ.เชียงม่วน 162,688 ประชากรไมเ่ กดิ 3,655 2.30 ความสับสน ท่ีมา คณะกรรมการการเลอื กตั้งประจ�ำจงั หวดั พะเยา, 2561
70 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา ตารางที่ 6 พน้ื ที่ประกอบเขตเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจงั หวัดพะเยา รปู แบบที่ 2 เขต พนื้ ทป่ี ระกอบดว้ ย จ�ำนวน ผลต่างจาก คิดเปน็ หมายเหตุ เลือก ราษฎรในเขต จ�ำนวนเฉล่ีย ร้อยละ ตั้ง เลอื กตง้ั ต่อ ส.ส. หนง่ึ คน 1 อ.เมืองพะเยา และ อ.แมใ่ จ 163,718 4,685 2.95 พนื้ ทีต่ ิดต่อกนั อ.ภูมกามยาว เฉพาะ ต.ดงเจน การคมนาคมสะดวก 2 อ.เชยี งค�ำ อ. ปง และ อ.ภซู าง 162,294 3,261 2.05 3 อ.ดอกค�ำใต้ อ.จนุ อ.เชยี งม่วน 151,088 7,945 5.00 อ.ภกู ามยาว เฉพาะ ต.แมอ่ งิ และ ต.หว้ ยแก้ว ทม่ี า คณะกรรมการการเลือกต้งั ประจ�ำจงั หวดั พะเยา, 2561 ตารางที่ 7 พน้ื ที่ประกอบเขตเลือกต้งั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา รูปแบบท่ี 3 เขต พ้ืนที่ประกอบดว้ ย จำ� นวนราษฎร ผลตา่ งจาก คดิ เปน็ หมายเหตุ เลอื ก ในเขตเลือกตงั้ จำ� นวนเฉลย่ี ร้อยละ พ้นื ท่ตี ิดตอ่ กัน ตงั้ ต่อ ส.ส. การคมนาคมสะดวก หนึง่ คน 1 อ.เมืองพะเยา และ อ.แม่ใจ 167,852 8,819 5.55 อ.ภูมกามยาว เฉพาะ ต.ดงเจน และ ต. แม่อิง 2 อ.เชียงค�ำ อ.จนุ และอ.ภซู าง 159,298 265 0.17 3 อ.ดอกค�ำใต้ อ.เชียงม่วน อ.ภูกาม 151,088 9,083 5.71 ยาว เฉพาะ ต.หว้ ยแกว้ ท่มี า คณะกรรมการการเลอื กต้ังประจ�ำจังหวดั พะเยา, 2561 จากการแบง่ เขตการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จ. พะเยา พ.ศ. 2562 โดยก�ำหนดเขตตามแบบ ทห่ี นงึ่ โดยเหตผุ ล คอื การเปน็ พนื้ ทต่ี ดิ ตอ่ กนั และมกี ารคมนาคมสะดวก และการแบง่ เขตเลอื กตง้ั ดงั กลา่ วยงั เปน็ เขตเลอื กตง้ั เดมิ ทใ่ี ชม้ าตงั้ แตก่ ารเลอื กตงั้ พ.ศ. 2544 (ยกเวน้ การเลอื กตงั้ ใน พ.ศ. 2550 ทม่ี กี ารก�ำหนดใหจ้ งั หวดั มีเพียงแค่เขตเลือกต้ัง (ดังตารางที่ 8) ดังนั้นการแบ่งเขตการเลือกต้ังดังกล่าวส่งผลให้ผู้ลงสมัครรับเลือกต้ังฯ ท้ังจากพรรคการเมืองเดิมและพรรคการเมืองใหม่สามารถสร้างฐานคะแนนเสียงสนับสนุนได้ก่อนการประกาศ พระราชกฤษฎกี ารเลือกต้ัง
71 ตารางที่ 8 แสดงการแบ่งเขตเลอื กตั้ง จงั หวัดพะเยาตัง้ แต่ พ.ศ. 2544 -2562 การเลือกตงั้ เขตเลือกตั้ง แผนที่ (พ.ศ. ) เขตเลอื กต้งั ที่ 1 อ.เมอื งพะเยา และ อ.แมใ่ จ 2544 เขตเลอื กตั้งท่ี 2 อ.เชียงค�ำ อ.จุน และ ก่ิงอ.ภูซาง 2548 เขตเลือกตง้ั ท่ี 3 อ.ดอกค�ำใต้ อ.ภกู ามยาว อ. ปง และ อ.เชยี งม่วน 2550 เขตเลือกตง้ั ท่ี 1 ทงั้ จังหวัด ทง้ั จังหวัด 2554 เขตเลอื กตั้งที่ 1 อ.เมอื งพะเยา และ อ.แมใ่ จ 2557 เขตเลือกต้งั ท่ี 2 อ.เชยี งค�ำ อ.จนุ และ อ.ภซู าง 2562 เขตเลือกตง้ั ท่ี 3 อ.ดอกค�ำใต้ อ.ภกู ามยาว อ. ปง และ อ.เชยี งมว่ น 4.2 การต้ังพรรคการเมืองใหม่ และการเปล่ียนข้ัว ทางการเมอื ง นับได้ว่าความเคลื่อนไหวในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้เร่ิมขึ้นต้ังแต่ช่วงก่อนการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกต้ังฯ (วันท่ี 23 มกราคม พ.ศ. 2562) โดยเฉพาะเมื่อเกิดการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ น�ำมาสู่กระแสการย้ายพรรคการเมือง การเปล่ียนข้ัวอ�ำนาจ การเมอื ง และการลาออกของขา้ ราชการการเมอื งระดบั ทอ้ งถน่ิ สกู่ ารลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ ในครง้ั นใี้ นจงั หวดั พะเยา เป็นสถานการณ์ร่วมที่ส�ำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงก่อนการเลือกตั้งฯ ในจงั หวดั พะเยา เชน่ • การเปดิ ตัวทีท่ �ำการและวา่ ที่ผสู้ มัครเลอื กตัง้ ฯ ของพรรคการเมอื งในจงั หวดั พะเยา ในการเลือกตั้งนี้ได้มีพรรคการเมืองใหม่ท่ีจัดต้ังข้ึน และคาดว่าจะส่งผู้สมัครลงเลือกต้ังฯ ในจังหวัด พะเยา โดยแต่ละพรรคการเมืองต่างก็มีการเปิดสถานท่ีท�ำการพรรคอย่างเป็นทางการ เช่น กรณีพรรค อนาคตใหม่ พรรคเพอ่ื ชาติ และพรรคพลงั ประชารฐั เปน็ ตน้ รวมถงึ การจดั การเปดิ ตวั แนะน�ำวา่ ทผ่ี ลู้ งสมคั รเลอื กตงั้ ฯ ของพรรคให้ประชาชนได้รับทราบ เน่ืองจากว่าที่ผู้สมัครฯ บางรายอาจยังไม่เป็นท่ีรู้จักของประชาชนมาก่อน
72 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา แตก่ รณพี รรคการเมอื งเดมิ เชน่ พรรคเพอ่ื ไทยนน้ั ยงั คงใชส้ ถานทท่ี �ำการพรรคเดมิ เหมอื นเชน่ การเลอื กตงั้ ทกุ ครง้ั ท่ีผ่านมา แต่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม เช่น การมีผู้รักษา ความปลอดภยั เพอ่ื ดแู ลผู้เขา้ ออกอย่างเขม้ งวด เปน็ ต้น กรณีการเปิดตัวว่าท่ีผู้สมัครฯ ในจังหวัดพะเยาท่ีส�ำคัญ คือ บุคคลส�ำคัญและเป็นอดีตสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายช่ือของพรรคเพื่อไทย คือ นายธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ประกาศด�ำรงต�ำแหน่ง ประธานยทุ ธศาสตร์การเลอื กตั้งภาคเหนือของพรรคการเมอื งใหม่ และประกาศเปน็ วา่ ท่ีผ้ลู งสมัครรบั เลือกต้ังฯ แบบแบ่งเขต ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพะเยา (ดังภาพที่ 5) ซ่ึงปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลอย่างมากต่อ ฐานคะแนนเสยี งของพรรคเพอ่ื โดยเฉพาะในกลมุ่ ของผนู้ �ำทอ้ งทแี่ ละทอ้ งถน่ิ ทงั้ นจี้ ะกลา่ วในหวั ขอ้ รปู แบบและ วธิ ีการของผูล้ งสมัครรับเลือกต้งั ประชาชน และภาคประชาชนตอ่ ไป “ธรรมนัส” เปดิ ตัววา่ ทผ่ี ู้สมัคร ส.ส.พะเยาพรรคพลังประชารฐั ท้ังเขตและปาร์ต้ลี สิ ต์ ภาพที่ 5 ภาพขา่ วและพาดหัวขา่ วจากหนังสอื พิมพค์ มชัดลึก วันที่ 30 ธนั วาคม 2561 ท่มี า คมชัดลกึ , 2561
73 • การเข้าพ้นื ทห่ี าเสียงก่อนการประกาศการก�ำหนดวันเลอื กตัง้ ฯ โดยเฉพาะการเข้าพ้ืนท่ีหาเสียงก่อนการประกาศวันเลือกต้ังของคณะกรรมการบริหารพรรคเพ่ือไทย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสามารถสะท้อนความกังวลของพรรคการเมืองเดิมท่ีอาจต้องสูญเสียฐานคะแนนเสียง จากสถานการณ์การย้ายพรรค หรือ การเปลี่ยนขั้วการให้การสนับสนุนทางการเมืองท่ีจะเกิดข้ึนในจังหวัด พะเยา และเป็นเสมือนสัญญาณแจ้งเตือนถึงการแข่งขันในการเลือกตั้งฯ ของจังหวัดพะเยาครั้งนี้ว่า น่าจะม ี การเปลีย่ นแปลงจากเดิมท้ังผ้สู มคั ร ผมู้ สี ิทธิเ์ ลอื กตัง้ และองคก์ รทเี่ กยี่ วข้อง (ดงั ภาพที่ 6 - 8) “พท. ส่งสดุ ารตั น์ ช่วยหาเสียงพะเยาหวงั รักษาแชมป์ 5 ส.ส” ภาพท่ี 6 ภาพข่าวและพาดหวั ขา่ วจากหนังสอื พมิ พโ์ พสต์ทเู ดย์ วนั ที่ 6 มกราคม 2562 ทีม่ า โพสตท์ ูเดย,์ 2562 ซง่ึ ก�ำหนดการเขา้ พน้ื ทห่ี าเสยี งดงั กลา่ ว คอื วนั ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยเปน็ ก�ำหนดการเดยี วกนั ของการตั้งเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการจัดในสถานที่ท่ีไม่ห่างไกลกันมากนัก แต่เวลาต่อมา เวทปี ราศรยั หาเสยี งของพรรคเพอ่ื ไทยทเี่ ตรยี มการไว้ ณ สนามกฬี าองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั พะเยา ไดถ้ กู ยกเลกิ การขออนญุ าตในชว่ งเช้าของวันดงั กลา่ ว ท�ำใหห้ ัวหน้าพรรค คณะกรรมการพรรคและว่าทผี่ ู้สมคั รฯ ของพรรค เพื่อไทย ต้องหาเสียงบนยานพานะพร้อมเครื่องกระจายเสียงท่ามกลางประชาชนท่ีมารอต้อนรับจ�ำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และเกิดเป็นกระแสในสื่อและ ทางออนไลนถ์ ึงการเลือกตงั้ ฯ ของจังหวดั พะเยา
74 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา โดยผลกระทบของการยกเลิกการอนุญาตใช้พื้นที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดในช่วงเช้า วันดังกล่าว น�ำไปสู่การตั้งค�ำถามต่อการวางตัวของข้าราชการในการเลือกต้ังครั้งนี้ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงถึง การที่กระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0818.4/ว 0151 ลงวันท่ี 9 มกราคม 2562 เวียนถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เรื่องแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 25621 ว่ามีส่วนเก่ียวข้องกับสถานการณ์น้ีหรือไม่ ดังน้ัน จะเห็นได้ว่าบริบทและสถานการณ์ช่วงก่อนการเลือกตั้งฯ จังหวัดพะเยา ภายใต้รัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 ไมไ่ ดร้ บั ผลกระทบในการเปลยี่ นแปลงเขตเลอื กตง้ั แตส่ ถานการณก์ ารจดั ตง้ั พรรคการเมืองใหม่ และการย้ายพรรคการเมืองของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคการเมืองใหม่ น�ำมาสู่ การเปล่ียนแปลงฐานเสียงสนับสนุนของพรรคการเมืองเดิม ภาคประชาชน รวมทั้งผู้น�ำท้องถ่ินและท้องท่ี ในจงั หวัดพะเยา โดยจะกล่าวในประเดน็ ต่อไป “เพ่ือไทยโวยถูกยกเลกิ ใชส้ ถานทีก่ ะทันหนั “บกิ๊ ป้อม” ย�้ำทุกพรรคมาตรฐานเดียวกัน” ภาพที่ 7 ภาพข่าวและพาดหัวขา่ วจากหนังสือพมิ พเ์ วิรค์ พอยท์ นวิ ส์ วนั ที่ 10 มกราคม 2562 ท่ีมา เวิรค์ พอยท์ นิวส,์ 2562 1 หนังสอื ดว่ นทีส่ ดุ ท่ี มท 0818.4/ว 0151 ลงวันท่ี 9 มกราคม 2562 เวยี นถงึ ผู้ว่าราชการจังหวดั ทุกจังหวัด เรอ่ื งแนวทาง ปฏิบัติในการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562โดยขอให้จังหวัดด�ำเนินการ 1) แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนบั สนุนช่วยเหลอื คณะกรรมการการเลอื กตง้ั ในการเลอื กตัง้ ส.ส. 2) แจ้งใหผ้ ้บู ริหารทอ้ งถนิ่ สมาชกิ สภาทอ้ งถ่ิน ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถ่ิน วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด และไม่สนับสนุนหรือช่วยเหลือพรรคการเมือง หรือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งในการหาเสียงไม่ว่าในทางใด เน่ืองจากมีความผิดและมีบทลงโทษตาม พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส.จ�ำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกต้ัง 20 ปี และ 3) แจ้งประชาสัมพันธ์ให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิน่ ทราบถงึ บทลงโทษ
75 “พรรคพลงั ประชารฐั เปดิ เวทปี ราศรยั ใน อ.ดอกค�ำใต้ จ.พะเยา ไมห่ า่ งจากการปราศรัยของพรรคเพือ่ ไทยท่ีไมไ่ ด้รบั อนญุ าตจาก อบจ.พะเยา” ภาพท่ี 8 ภาพขา่ วและภาพหัวข่าวจากหนงั สือพิมพเ์ วิรค์ พอยท์ นวิ ส์ วันที่ 10 มกราคม 2562 ทมี่ า เวริ ์คพอยท์ นวิ ส์, 2562 4.2 บรบิ ท และ สถานการณท์ างการเมอื งของจงั หวดั พะเยา ระหวา่ งการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวัดพะเยา นับจากการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 (ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562) จนถึงวันท่ี 24 มีนาคม 2562 ถือได้ว่าเป็นช่วงระหว่าง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยมีสถานการณ์ที่น�ำไปสู่การวิเคราะห์ รูปแบบ และวิธีการของผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ประชาชน ภาคประชาสงั คม กลุ่มทางการเมือง ผู้น�ำท้องที่และท้องถิ่น ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หน่วยงานภาครัฐ องค์กรสาธารณะ และองค์กร อน่ื ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกับการเลอื กต้ัง ดงั น้ี
76 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 4.2.1 สถานการณ์วันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวดั พะเยา สถานการณว์ นั สมคั รรบั เลอื กตงั้ ฯ มกี ารเคลอื่ นไหวทแ่ี ตกตา่ งจากการเลอื กตงั้ ฯ ทกุ ครง้ั ทผี่ า่ นมา ซง่ึ เปน็ ผลจากประกาศของคณะกรรมการเลอื กตง้ั ทไ่ี ดม้ กี ารควบคมุ การหาเสยี งของผลู้ งสมคั รรบั เลอื กตง้ั อยา่ งเขม้ งวด อาทเิ ชน่ กฎหมายการเลอื กตง้ั มาตรา 73 (3) โดยมกี �ำหนดวา่ หา้ มผสู้ มคั รโฆษณาหาเสยี งดว้ ยการจดั มหรสพ หรอื การร่ืนเริงต่าง ๆ หรือ ประกาศ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามการหาเสียงเลือกต้ังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร 2561 และระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียง โดย กฎหมายและประกาศดงั กลา่ วสง่ ผลใหว้ นั รบั สมคั รฯ ผสู้ มคั รไมส่ ามารถใชเ้ สยี งเพลงเพอื่ ปลกุ เรา้ สรา้ งบรรยากาศ ความคกึ คัก และการระดมการเสียงสนบั สนนุ หรอื กองเชียรข์ องตนเชน่ การเลอื กตง้ั ทุกครั้ง (ดงั ภาพท่ี 9 -12) ส�ำหรับประเด็นหมายเลขผู้สมัครฯ ในการเลือกต้ังคร้ังนี้ได้มีการเปล่ียนแปลง อันเป็นผลจากระบบ การเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กล่าวคือ จากเดิมท่ีผู้สมัครพรรคการเมือง เดียวกันสามารถมีหมายเลขเดียวกันทั้งประเทศ จากการจับฉลากของหัวหน้าพรรคการเมือง เปล่ียนแปลง เป็นการจัดล�ำดับการสมัคร หรือการจับฉลาก ในกรณีท่ีผู้สมัครมาสมัครพร้อมกัน ในแต่ละเขตเลือกต้ัง ซ่ึงส่ง ผลให้พรรคการเมืองเดียวกันผู้สมัครอาจมีหมายเลขที่แตกต่างกัน เช่น ผู้ลงสมัคร ส.ส. พรรค ก ในเขตหนึ่งได้ หมายเลข 1, ในเขตสองอาจไดห้ มายเลข 2 และในเขตสามอาจไดห้ มายเลต 3 เปน็ ต้น ซึง่ กรณดี ังกลา่ วได้ส่งผล ให้ป้ายหาเสียง และรถแห่ ทม่ี ารอในช่วงเชา้ ยังไม่สามารถติดหมายเลขผสู้ มัครได้ (ดงั ภาพที่ 10) ยกเวน้ ผู้สมคั ร บางพรรคการเมืองที่มาสมัครในช่วงวันสุดท้าย สามารถคาดคะเน/ ทราบหมายเลขของตน ก็ได้จัดท�ำป้าย หาเสียงและรถแหพ่ ร้อมตดิ หมายเลขมาล่วงหน้า ภาพท่ี 9 บรรยากาศหนา้ ศาลาประชาคมจงั หวัดพะเยา ในวนั แรกของการเปิดรับสมัคร (บันทกึ ภาพเมือ่ วันท่ี 4 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2562)
ภาพท่ี 11 บรรยากาศหลงั จาก 77 ผู้สมคั รไดร้ ับหมายเลขสมคั ร ภาพที่ 10 รถหาเสยี งเดนิ ทางมารอ ณศาลาประชาคมจังหวดั พะเยา ผู้สมัครในช่วงเช้าก่อนมีหมายเลข (บันทึกภาพเม่ือวันท่ี 4 กุมภาพันธ์ ประจ�ำตัว ศาลาประชาคมจังหวัด พ.ศ. 2562) พะเยา (บันทึกภาพเมื่อวนั ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562) ภาพที่ 12 บรรยากาศกองเชยี ร์ หน้าศาลาประชาคมจงั หวดั พะเยา (บนั ทกึ ภาพเมอ่ื วันท่ี 5 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2562)
78 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา จากการเปิดรับสมัครผู้สมัครผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา ในระหว่างวันที่ 4 - 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยต่อมาคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดพะเยา ได้มีประกาศผู้อ�ำนวยการการเลือกต้ังประจ�ำเขต การเลอื กตงั้ ท่ี 1-3 จังหวัดพะเยา เรื่อง รายชื่อผสู้ มคั รรับเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรแบบแบง่ เขตเลอื กตัง้ ณ วันท่ี 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยมีผู้สมัครรวมทั้งส้ินจ�ำนวน 85 คน แบ่งเป็น เขตเลือกต้ังท่ี 1 จ�ำนวน 27 คน เขตเลอื กต้งั ท่ี 2 จ�ำนวน 28 คน และเขตเลอื กตั้งที่ 3 จ�ำนวน 30 คน ทัง้ น้ีจงึ นบั การเลือกต้ังฯ จังหวดั พะเยา พ.ศ. 2562 มีจ�ำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งมากท่ีสุด นับต้ังแต่การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2548 ดังตารางท่ี 9 และแผนภูมิที่ 1 ตารางที่ 9 จำ� นวนผสู้ มัครรับเลือกต้งั ฯ จงั หวดั พะเยา ตง้ั แตก่ ารเลือกตงั้ พงศ. 2548 - 2562 พรรคการเมือง พ.ศ. หมายเหตุ 2548 2550 2554 2562 พรรคการเมืองเดมิ เผา่ ไท เพื่อแผ่นดนิ 1 เพอ่ื ไทย* 31 เพ่อื นเกษตรไทย 33 เพ่ือฟ้าดิน 3 ไทเป็นไท 2 ไทยรักไทย* 3 ไทยร�่ำรวย คนขอปลดหน้ี 3 ความหวังใหม่ 3 ชาตไิ ทย ชาติพฒั นาเพือ่ แผน่ ดนิ 2 ประชาธิปตั ย์ 3 ประชามติ พลังคนกฬี า 13 พลังประชาชน* 3 ภูมิใจไทย มหาชน 3333 มัชฌมิ าธปิ ไตย 3 รวมใจไทยชาตพิ ัฒนา 1 รักเมืองไทย 3 รกั ษ์สันติ 13 3 3 3 3 2
79 พรรคการเมอื ง พ.ศ. หมายเหตุ 2548 2550 2554 2562 ประชาภิวัฒน์ อนาคตใหม่ 3 พรรคการเมอื งใหม่ เพ่อื ชาติ 3 รกั ษผ์ นื ป่าประเทศไทย 3 แผน่ ดินธรรม 3 พลังท้องถนิ่ ไท 1 พลงั ปวงชนไทย 3 รวมใจไทย 3 เสรรี วมไทย 3 รวมพลงั ประชาชาตไิ ทย 3 ประชานยิ ม 3 พลังประชารัฐ 3 ภราดรภาพ 3 พลงั ชาติไทย 3 ประชากรไทย 3 ไทยศรีวิไลย์ 3 ครูไทยเพอ่ื ประชาชน 3 ประชาชนปฏิรูป 3 พลังไทยรกั ไทย 3 เศรษฐกิจใหม่ 3 ชาตพิ ันธุ์ไทย 3 ไทรักธรรม 3 ประชาธรรมไทย 3 ประชาชาติ 2 เพ่อื แผน่ ดิน 2 ส่งสมัครเฉพาะเขต 2 พลงั ประชาธปิ ไตย 2 และ 3 พลังแผน่ ดินทอง 2 ประชาไทย 1 ส่งสมคั รเฉพาะเขต 2 ผง้ึ หลวง 1 ส่งสมคั รเฉพาะเขต3 1 13 30 21 85
80 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา แผนภูมิท่ี 1 จ�ำนวนผู้รับสมัครเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต จังหวัดพะเยา ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 - 2562 จาํ นวนผสู้ มคั ร 90 30 21 85 80 70 2550 2554 2560 60 50 40 30 20 10 13 0 2548 ทงั้ นี้ ปจั จยั ส�ำคญั ของจ�ำนวนผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ฯ จงั หวดั พะเยา พ.ศ. 2562 ทมี่ จี �ำนวนสงู มากขน้ึ นนั้ เป็นผลกระทบส่วนหน่ึงจากการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้ง เป็นรูปแบบวิธีการระบบจัดสรรปันส่วนผสม ซึ่งท�ำให้พรรคการเมืองต้องส่งตัวแทนลงสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกต้ังก่อนจึงจะสามารถได้รับคะแนน แบบระบบบัญชีรายชื่อ โดยมีความแตกต่างจากวิธีการระบบผสมแบบคู่ขนานที่ใช้มาตั้งแต่การเลือกตั้งภายใต้ รัฐธรรมนญู 2540 และ 2550 ทกี่ ารเลือกตงั้ แบบแบง่ เขตและระบบบญั ชรี ายชอื่ แยกออกจากกนั ดงั นนั้ การส่ง ผสู้ มคั รฯ ในแตล่ ะเขตอาจไมไ่ ดห้ วงั ผลในการชนะการเลอื กตง้ั ในเขตนน้ั แตห่ มายถงึ ผลคะแนนทจี่ ะถกู นบั ในการ ค�ำนวณสัดส่วนท่ีนั่งของสมาชิกสภาผู้แทนแบบบัญชีรายช่ือ จนน�ำมาสู่การเกิดกระแสข่าวว่ามีพรรคการเมือง ว่าจ้างให้บุคคลลงสมัครรับเลือกต้ังในเขตต่าง ๆ เพื่อหวังผลการเก็บคะแนนจากผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกต้ัง ใหพ้ รรคการเมืองของตนในการค�ำนวณใหส้ มาชิกผแู้ ทนราษฎร แบบบญั ชรี ายชอื่ 4.2.2 รูปแบบ แบบและวิธีการ ของผู้สมัครรับเลือกต้ังสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั พะเยา รปู แบบ และวธิ กี าร ของผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั พะเยานนั้ จะน�ำเสนอผา่ น กรอบแนวคิดการส่ือสารทางการเมือง ที่เกิดขึ้นในการรณรงค์หาเสียงการเลือกต้ังฯ จังหวัดพะเยา พ.ศ. 2562 โดยเป็นข้อมูลการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขต รวมทั้งจากการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม และไมม่ ีส่วนรว่ ม โดยมขี อ้ ค้นพบคือ
81 1) รปู แบบ รูปแบบการนำ�เสนอนโยบาย การน�ำเสนอนโยบายของผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั นบั ไดว้ า่ เปน็ เครอื่ งมอื ส�ำคญั ในการหาเสยี งเลอื กตง้ั ฯ เพอ่ื แสวงหาการสนบั สนนุ จากประชาชนในเขตเลอื กตงั้ ของตน และส�ำหรบั การเลอื กตง้ั ผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั พะเยา ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่นี้ จากการสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์การน�ำเสนอนโยบายผ่านวิธีการการหาเสียง ในรูปแบบต่าง ๆ พบว่าผู้สมัครฯ ได้แบ่งกลุ่มฐานเสียงคะแนนตามประเภทอาชีพ และกลุ่มอายุ ซึ่งน�ำไปสู่ การน�ำเสนอนโยบายท่ีแตกตา่ ง เพ่ือเป็นประโยชน์ต่อฐานกล่มุ คะแนนเสียง เช่น • กรณีนำ�เสนอนโยบายในกลุ่มผมู้ สี ิทธ์ิเลอื กตัง้ โดยเน้นกลุ่มอาชพี พบว่าผู้สมัครทั้งจากพรรคการเมืองเกา่ และพรรคการเมืองใหม่ต่างก็ได้มีรปู แบบการ น�ำเสนอนโยบายที่เก่ียวข้องกับกลุ่มอาชีพเช่นกัน โดยเฉพาะกับ “กลุ่มอาชีพเกษตรกร” ซ่ึงเป็นอาชีพส่วนใหญ่ของประชาชนจังหวัดพะเยา จึงได้เกิดการน�ำเสนอนโยบายเก่ียวกับ การเพิ่มรายได้ การประกันราคาสินค้าทางการเกษตร ซ่ึงสามารถพบได้จากประโยคโฆษณา ในป้ายและแผ่นพบั ประชาสมั พันธ์หาเสยี งของผู้สมัครในหลายพรรคการเมือง เช่น “ลดอ�ำนาจรัฐ ทวงคืนกำ� ไรให้ชาวนา” “เพิม่ พลงั ชมุ ชนทอ้ งถ่ิน ประกนั ราคา สินคา้ การเกษตร ไดด้ ว้ ยตนเอง” “ทวงคนื ก�ำไรให้ชาวนา” “ปรับลด ปลดหนี้ เกษตรกร” • กรณนี ำ�เสนอนโยบายในกล่มุ ผูม้ สี ิทธ์ิเลอื กตง้ั โดยเน้นตามกลุ่มอายุ โดยพบว่ากรณีการหาเสียงตามกลุ่มอายุนั้น ผู้สมัครท้ังพรรคการเมืองเก่าและ พรรคการเมืองใหม่ ต่างมีรูปแบบการน�ำเสนอนโยบายท่ีเหมือนกันกับกลุ่มผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้ง ต่างอายุกัน กล่าวคือ มีรูปแบบการสื่อสารนโยบายเพื่อส่ือสารไปยังแต่ละกลุ่มอายุ ตาม ประสบการณ์ทางการสงั คม การเมอื ง และเศรษฐกิจ เชน่ 1) ผู้มีสิทธ์ิเลือกต้ัง อายุ 18 – 26 ปี ผู้สมัครฯ ได้น�ำเสนอนโยบายหาเสียงในประเด็น ด้านการเปล่ียนแปลงประเทศชาติสู่ความเป็นประชาธิปไตย โดยนโยบายท่ีน�ำเสนออาจมี ความเปน็ นามธรรมสงู แตผ่ สู้ มคั รฯ กม็ คี วามมนั่ ใจวา่ รปู บแบบดงั กลา่ วกลมุ่ เปา้ หมายสามารถ เขา้ ใจได้ เชน่ “เราคอื เพอ่ื นรว่ มทาง สร้างอนาคตใหม”่ “หยดุ ผกู ขาด ล้างระบบเสน้ สาย ทำ� ลายคอร์รปั ชัน”
82 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา หรือผู้สมัครบางรายอาจมีรูปแบบการน�ำเสนอนโยบายดังกล่าวผ่านการปราศรัย ซึ่งใช้ถ้อยค�ำรุนแรง ปลุกใจ และรวมถึงการกล่าวโจมตีการท�ำงานของรัฐบาลเผด็จการ นอกจากน้ี ยังมีการน�ำเสนอนโยบายการศึกษาท่ีผู้สมัครจะสามารถโน้มน้าวผู้มีสิทธ์เลือกตั้ง ในกลุ่มนีไ้ ด้ เช่น “แก้ปญั หาหนี้ กยศ. ปลดภาระผคู้ �ำ้ ไม่มเี บีย้ ปรบั ” “เรยี นฟรถี ึง ปวส. จบแลว้ มงี านท�ำ” 2) ผู้มีสทิ ธ์ิเลือกตั้ง อายุ 27 – 50 ปี ส�ำหรบั กล่มุ อายนุ ้ี คอื กลุ่มประชากรวยั ท�ำงาน โดยผู้สมัคร ได้น�ำเสนอนโยบายทเี่ กย่ี วขอ้ งกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายการลดหนี้ภาคครัวเรอื น หรือ การพฒั นาเศรษฐกิจชาติ เชน่ “รว่ มกนั หยุดวิกฤติ เศรษฐกจิ หยดุ สร้างหนี”้ “เร่งโอกาส สร้างรายได้ เลือกนักบริหารมืออาชีพ” 3) ผมู้ สี ทิ ธเิ์ ลอื กตงั้ อายุ 60 ปขี นึ้ ไป ซงึ่ เปน็ ประชากรกลมุ่ สงู อายุ โดยผสู้ มคั รฯ หลายพรรคการเมอื ง ไดเ้ นน้ ผมู้ สี ทิ ธเ์ิ ลอื กตงั้ กลมุ่ นเ้ี ปน็ อยา่ งมาก เนอ่ื งจากจงั หวดั พะเยามจี �ำนวนผสู้ งู อายเุ ปน็ จ�ำนวน มาก จึงท�ำให้มีการน�ำเสนอนโยบายด้านสวัสดิการ เพื่อเข้าถึงความต้องการของผู้สูงอายุท่ี ตอ้ งการได้รับความชว่ ยเหลอื โดยสามารถเห็นไดจ้ ากการน�ำเสนอนโยบายลักษณะน้ี เชน่ “สวัสดิการ ประชารัฐ ลดหน้ี มีเงนิ ออม” “บัตรประชารัฐ เพ่ิมคนเพิม่ สทิ ธ์ิ” อย่างไรก็ตาม รูปแบบการน�ำเสนอนโยบายของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในคร้ังนี้ ผู้สมัครฯ ไม่สามารถ น�ำเสนอนโยบายท่ีเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากการหาเสียงถูกจ�ำกัดภายใต้ รฐั ธรรมนญู ฯ และกฎหมายพรรคการเมอื ง มาตรา 57 ในการน�ำเสนอนโยบายของพรรคการเมอื ง โดยตอ้ งแสดงวา่ นโยบายดังกล่าวใช้เงินจ�ำนวนเท่าไร และที่มาของเงินท่ีจะใช้ในการด�ำเนินนโยบาย ความคุ้มค่าและประโยชน์ ในการด�ำเนนิ นโยบาย รวมถงึ ผลกระทบและความเสย่ี งในการด�ำเนนิ นโยบายตอ่ คณะกรรมการการเลอื กตง้ั กอ่ น จึงจะสามารถน�ำเสนอนโยบายดังกล่าวต่อประชาชนได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวท�ำให้พรรคการเมืองและผู้สมัครฯ ไม่สามารถน�ำเสนอนโยบายในลักษณะให้สัญญา หรือ นโยบายที่เข้าข่ายประชานิยมได้ รวมถึงการตัดสินใจ ผลิตส่ือเพ่ือการรณรงค์การเลือกตั้งเพ่ือน�ำเสนอนโยบายของผู้สมัครแบบแบ่งเขตก็มีความล่าช้ากว่าทุกคร้ัง เพราะจ�ำเป็นต้องรอให้พรรคการเมืองน�ำเสนอนโยบายต่าง ๆ ตามกฎหมายให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถน�ำ เสนอนโยบายต่อประชาชนได้
83 รูปแบบการนำ�เสนอดา้ นตัวบคุ คล ในการน�ำเสนอตวั บคุ คลถอื เปน็ ประเดน็ ใหมข่ องรปู แบบการหาเสยี งเลอื กตงั้ ฯ จงั หวดั พะเยา อนั เปน็ ผล จากรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 88 ระบุว่า “ในการเลอื กตง้ั ทวั่ ไป ใหพ้ รรคการเมอื ง ทสี่ ง่ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั แจง้ รายชอื่ บคุ คล ซง่ึ พรรคการเมอื งนน้ั มมี ตวิ า่ จะเสนอใหส้ ภาผแู้ ทนราษฎรเพอื่ พจิ ารณา ใหค้ วามเหน็ ชอบแตง่ ตง้ั เปน็ นายกรฐั มนตรี ไมเ่ กนิ สามรายชอ่ื ตอ่ คณะกรรมการการเลอื กตง้ั กอ่ นปดิ การรบั สมคั ร รบั เลอื กตงั้ และใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตงั้ ประกาศรายชอ่ื บคุ คลดงั กลา่ วใหป้ ระชาชนทราบ และใหน้ าํ ความ ในมาตรา ๘๗ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม” โดยมาตราดังกล่าวมีผลต่อรูปแบบการรณรงค์หาเสียง ในการน�ำเสนอดา้ นตวั บคุ คลซงึ่ พรรคการเมอื งนน้ั มมี ตวิ า่ จะเสนอใหส้ ภาผแู้ ทนราษฎรเพอื่ พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 88 หรือท่ีเรียกว่า “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคการเมืองน้ัน เพิ่มเติม จากการเลือกตง้ั ทุกคร้งั ทมี่ กี ารน�ำเสนอแตต่ วั ผสู้ มัครฯ แบบแบง่ เขต โดยการน�ำเสนอแคนดิเดตนายกฯ เป็นอีกกลยุทธ์ท่ีส�ำคัญของผู้สมัครบางพรรค โดยผู้สมัครท้ัง พรรคการเมอื งเดมิ และพรรคการเมอื งใหมต่ า่ งกย็ อมรบั วา่ แคนดเิ ดตนายกฯ สามารถเพม่ิ คะแนนเสยี งสนบั สนนุ ของตนได้ โดยเฉพาะการทพ่ี รรคตนมแี คนดเิ ดตนายกฯ ทปี่ ระชาชนรจู้ กั ถงึ สองคน เชน่ กรณพี รรคเพอื่ ไทย หรอื กรณบี างพรรคทผ่ี ลู้ งสมคั รฯ แบบแบง่ เขตอาจจะยงั ไมเ่ ปน็ ทรี่ จู้ กั ของประชาชน เนอื่ งจากเปน็ พรรคการเมอื งใหม่ หรือเป็นผ้สู มคั รหน้าใหม่ รูปแบบการน�ำเสนอตัวบคุ คลเปน็ จะนายกรฐั มนตรขี องพรรคตนก็สามารถท�ำใหไ้ ด้รับ คะแนนเสยี งในคร้ังนีไ้ ด้ เชน่ กรณพี รรคอนาคตใหม่ พรรคภูมิใจไทย พรรคเสรีรวมไทย เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าบางกรณีท่ีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองนั้น อาจไม่ได้รับความนิยม หรอื ไมเ่ ปน็ ทร่ี จู้ กั ในจงั หวดั พะเยา พรรคการเมอื งนน้ั กม็ รี ปู แบบการน�ำเสนอตวั บคุ คลเฉพาะผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ฯ แบบแบง่ เขตเทา่ นนั้ ประกอบกบั สถานการณก์ ารเลอื กตงั้ ฯ จงั หวดั พะเยา ไดม้ กี ารเปลยี่ นแปลงขวั้ ทางการเมอื ง ในการเลอื กต้ังครั้งน้ี จึงท�ำใหม้ กี ารใชร้ ปู แบบการน�ำเสนอเฉพาะตัวบคุ คลที่คาดวา่ มีความสามารถและมอี �ำนาจ ที่จะพัฒนาหรือเปล่ียนแปลงจังหวัดพะเยาได้ หรือกรณีการเปล่ียนชื่อให้ผู้มีสิทธ์ิเลือกต้ังสามารถจ�ำผู้สมัคร รับเลือกต้ังฯ แบบแบ่งเขตได้ เช่น กรณีการเปล่ียนชื่อเป็น “ทักษิณ” ของผู้สมัครพรรคเพ่ือชาติในเขต 1 และ เขต 3 กส็ ามารถชใ้ี หเ้ หน็ ไดว้ า่ ผสู้ มคั รฯ จงั หวดั พะเยา ไดเ้ นน้ รปู แบบการน�ำเสนอตวั บคุ คลทลี่ งสมคั รรบั เลอื กตงั้ แบบแบ่งเขต เป็นการสอื่ สารทางการเมอื งทสี่ �ำคัญในการเลือกตัง้ ครัง้ นี้ด้วยเชน่ กัน 2) วิธีการ ภายใตร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 และกฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ งในการหาเสยี งเลอื กตง้ั ไดส้ ง่ ผลต่อวิธกี ารของผูส้ มคั รรับเลือกตัง้ ฯ จงั หวัดพะเยาทง้ั 3 เขตเลือกตง้ั ในช่วงระหวา่ งการเลอื กตั้ง โดยจาก การสัมภาษณ์ผลู้ งสมคั รรับเลอื กต้งั ฯ การสังเกตการณแ์ บบมสี ว่ นรว่ มและไม่มสี ว่ นร่วม สามารถแบ่งวธิ กี ารของ ผูล้ งสมคั รรับเลือกตง้ั ได้ท้ังทม่ี ลี ักษณะที่เปน็ ทางการและไม่เปน็ ทางการ กล่าวคอื
84 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 2.1) วิธีการท่เี ปน็ ทางการ วิธีการที่เป็นทางการ หมายถึง วิธีการรณรงค์หาเสียงการเลือกต้ังท่ีระบุในพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร พ.ศ. 2561 ทพ่ี บในการเลือกตง้ั ฯ จังหวัดพะเยา ดงั น้ี การแจกเอกสารหรอื วิดที ศั นเ์ กยี่ วกบั การหาเสียง กรณีพบวิธีการส่ือสารของผู้สมัครผ่านกรณีการแจกเอกสารแบบแผ่นผับหาเสียง ตามระเบียบ คณะกรรมการการเลือกต้ัง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2561 ไดก้ �ำหนดใหผ้ สู้ มคั รสามารถแจกเอกสารหรอื วดี ที ศั นเ์ กย่ี วกบั การเลอื กตงั้ ในเขตชมุ ชน สถานที่ต่าง ๆ หรืองานพิธีการได้ โดยระบุชื่อ รูปถ่าย หมายเลขประจ�ำของตัวผู้สมัคร ช่ือของพรรคการเมือง สัญลกั ษณข์ องพรรคการเมอื ง นโยบายของพรรคการเมือง คติพจน์ ค�ำขวัญ หรือข้อมลู ประวตั ิเฉพาะทเ่ี กี่ยวกบั ตัวผู้สมัครหรือพรรคการเมือง พร้อมระบุชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้ว่าจ้าง ผู้ผลิต จ�ำนวน และวันเดือนปีที่ผลิต ไว้อย่างชัดเจนท่ดี ้านหน้า ของเอกสารหรือวดี ีทศั นด์ ้วย โดยผู้สมัครเลือกตั้งฯ จังหวัดพะเยาต่างมุ่งหวังว่าวิธีการแจกเอกสารแผ่นพับดังกล่าว จะสามารถ ช่วยให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งรู้จักตน พร้อมทั้งประวัติ นโยบาย และผู้ท่ีพรรคการเมืองเสนอชื่อเป็น นายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองของตนได้เป็นมากข้ึน และน่าจะสามารถสื่อสารได้กับคนทุกวัย โดยเฉพาะ กลมุ่ ผสู้ ทิ ธเ์ิ ลอื กตง้ั ในพน้ื ที่ กลมุ่ แมบ่ า้ น กลมุ่ ผสู้ งู อายุ หรอื กลมุ่ ทอี่ าจไมค่ อ่ ยไดเ้ ขา้ ถงึ ถงึ อนิ เตอรเ์ นต็ ดงั ภาพที่ 13 ภาพที่ 13 แผน่ พับหาเสยี งของผ้สู มคั ร ในจังหวัดพะเยา โดยมีการแจกรณรงค์หาเสียง ในงาน “รฐั ศาสตรว์ ชิ าการครง้ั ท่ี 8” มหาวทิ ยาลยั พะเยา ในวันท่ี 7 มีนาคม พ.ศ. 2562
85 การใชพ้ าหนะตา่ ง ๆ ในการหาเสียงเลือกต้งั หรอื จดั สถานทหี่ รอื เวทีเพื่อโฆษณาหาเสยี งเลอื กตั้ง ในกรณกี ารใชพ้ าหนะตา่ ง ๆ เปน็ วธิ กี ารทเ่ี กดิ ขน้ึ ในการหาเสยี งของผสู้ มคั รเลอื กตง้ั ฯ ซง่ึ จะมกี ารตดิ ตงั้ เครอ่ื งกระจายเสยี งเพอื่ กระจายเสยี งรณรงคก์ ารเลอื กตง้ั ซง่ึ ในการเลอื กตง้ั ครงั้ นถี้ กู ควบคมุ มากกวา่ การเลอื กตง้ั ฯ ทุกครั้งท่ีผ่านมา ทั้งพาหนะ เครื่องขยายเสียง และผู้ช่วยหาเสียงตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกต้ัง ว่าด้วยวิธีการหาเสยี งฯ โดยต้องแจ้งรายละเอียดตอ่ คณะกรรมการการเลอื กตงั้ ภายใน 10 วันหลงั จากปิดสมัคร รบั เลอื กตงั้ และสามารถเปลยี่ นผชู้ ว่ ยหาเสยี งไดไ้ มเ่ กนิ 3 ครงั้ มเิ ชน่ นนั้ จะถอื วา่ ผดิ กฎหมายเลอื กตงั้ โดยวธิ กี ารน ้ี ผู้สมัครหวังผลว่าจะสามารถรณรงค์หาเสียงได้กับผู้มีสิทธ์ิเลือกต้ังในกลุ่มแม่บ้าน และผู้สูงอายุ โดยช่วงเวลา ท่ีผู้สมัครฯ นิยมน�ำรถแห่ออกมารณรงค์หาเสียง คือ ช่วงเช้าและเย็น หรือ ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ โดยเน้น บริเวณชมุ ชนและตลาดเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม การจัดสถานท่ีหรือเวทีเพ่ือโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง เป็นเวทีใหญ่ในจังหวัดพะเยา ในการเลือกต้ังฯ ครั้งนี้กลับไม่ได้เป็นวิธีการท่ีนิยมเช่นการเลือกต้ังทุกคร้ังท่ีผ่านมา เพราะเน่ืองจากต้องใช้ งบประมาณจ�ำนวน อนั เป็นผลเนอ่ื งจากการจ�ำกัดงบประมาณของการหาเสยี งผา่ นกฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ภาพที่ 14 บรรยากาศการหาเสยี งโดยวธิ กี าร ใชร้ ถยนตพ์ รอ้ มเครอ่ื งกระจายเสยี งของพรรคประชาธปิ ตั ย์ โดยมนี ายอภสิ ิทธิ์ เวชชาชีวะ หวั หนา้ พรรคในขณะน้ัน บรเิ วณตลาดอาเขต จงั หวดั พะเยา (บันทกึ ภาพเม่อื วันท่ี 7 มนี าคม พ.ศ. 2562)
86 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา การปดิ แผน่ ปา้ ยโฆษณาหรอื ติดแผ่นปา้ ยหาเสยี งในการหาเสียง • แผ่นตดิ ประกาศเกย่ี วกบั เลือกตงั้ ส�ำหรบั การรณรงคห์ าเสยี งโดยแผน่ ตดิ ประกาศเกยี่ วกบั เลอื กตง้ั ในการเลอื กตง้ั ครงั้ น้ี ถูกก�ำหนดตามประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท�ำฯ ให้มีจ�ำนวนไม่เกิน 10 เท่าของ จ�ำนวนหน่วยการเลือกตั้งในเขตการเลือกตั้งน้ัน โดยก�ำหนดเป็นแนวตั้ง มีขนาดความกว้าง ไม่เกิน 30 เซนติเมตร และมีขนาดความสูงไม่เกิน 42 เซนติเมตร (ขนาดเอ 3) ตามสถานท ่ี ที่ก�ำหนดของประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดท�ำ สถานท ่ี ปดิ ประกาศเกยี่ วกบั เลอื กตงั้ และสถานทต่ี ดิ แผน่ ปา้ ยเกยี่ วกบั การเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2561 เทา่ นน้ั เชน่ บอรด์ ประชาสมั พนั ธ์ ณ ทท่ี �ำการขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ หรอื หนา้ หนว่ ยการเลอื กตง้ั เปน็ ตน้ จงึ ท�ำใหใ้ นการเลอื กตง้ั ครงั้ นแี้ ผน่ ตดิ ประกาศเกยี่ วกบั เลอื กตง้ั อยู่ในบริเวณสถานท่ีราชการเท่าน้ัน ไม่ได้แพร่กระจายไปยังสถานท่ีต่าง ๆ เช่น การติดตาม เสาไฟฟ้า ก�ำแพงตามพ้ืนที่สาธารณะ จึงอาจกล่าวได้ว่าสื่อประเภทนี้สามารถรณรงค์ทาง การเมอื งได้ค่อนข้างน้อยกวา่ เลือกตงั้ ทุกคร้งั ทีผ่ า่ นมา • แผน่ ป้ายหาเสยี งเกย่ี วกับเลือกต้ัง แผ่นปา้ ยหาเสยี งเก่ยี วกับเลอื กต้ังผู้สมัครฯ ถกู ก�ำหนดดว้ ยประกาศ เร่อื ง หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารจดั ท�ำฯ สามารถตดิ ตงั้ ไดไ้ มเ่ กนิ 2 เทา่ ของจ�ำนวนหนว่ ยการเลอื กตงั้ ในเขตนนั้ และ พรรคการเมอื งจดั ท�ำแผน่ ปา้ ยเกยี่ วกบั เลอื กตงั้ จ�ำนวนไมเ่ กนิ 1 เทา่ ของจ�ำนวนหนว่ ยเลอื กตง้ั ขนาดความกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร ยาวไม่เกิน 255 เซนติเมตร พร้อมระบุชื่อตัว สกุล ที่อยู่ผู้ว่าจ้าง ผู้ผลิต จ�ำนวน วันเดือนปีที่ผลิต โดยติดต้ังในสถานที่ท่ีผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน คณะกรรมการเลือกต้ังประจ�ำจังหวัด ประกาศก�ำหนดสถานท่ีติดแผ่นป้ายท่ีเก่ียวข้องกับ การเลือกต้งั เชน่ บริเวณถนนสาธารณะ เปน็ ตน้ โดยลักษณะดังกล่าว ท�ำให้แผ่นป้ายหาเสียงในการเลือกตั้งฯ ครั้งน้ี มีปรากฏการณ์ของการสร้าง ภาพลกั ษณก์ ารน�ำเสนอผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั และพรรคการเมอื งทต่ี นสงั กดั ไปพรอ้ มกนั โดยมกี ารน�ำเสนอทแ่ี ตกตา่ ง กันไป เช่น บางพรรคอาจมีการน�ำเสนอตัวผู้สมัครฯ และแคนดิเดตนายกของพรรคตนเอง หรือบางพรรค มีการน�ำเสนอเฉพาะผ้สู มัครฯ เท่านัน้ (ดังเชน่ ภาพท่ี 15 -16) ซ่งึ ลกั ษณะดงั กล่าวท�ำใหเ้ ห็นจุดเนน้ ของผ้สู มัครฯ ในการรณรงค์การเลือกตั้งที่แตกต่างกัน โดยวิธีการสื่อสารดังกล่าวผู้สมัครฯ ต่างมีความคาดหวังว่าจะสามารถ ส่ือสารกับประชาชนให้เห็นถึงคุณสมบัติของตนทั้งลักษณะภายนอก ความคิด อุดมการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะหมายเลขผู้สมัคร รวมถึงนโยบายของพรรคการเมืองของตน โดยส่ือประเภทน้ีสามารถส่ือสารได้กับ คนทุกเพศทกุ วัย
87 ภาพท่ี 15 แผ่นป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส. แบบแบง่ เขต จงั หวดั พะเยา ตดิ ตง้ั คกู่ บั แผน่ ปา้ ย หาเสียงของพรรคการเมือง โดยมีการน�ำเสนอตัว ผู้สมคั รฯ และแคนดเิ ดตนายกของพรรคตนเอง (บนั ทกึ ภาพเมอ่ื วนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธ2์ 562) ภาพที่ 16 แผน่ ปา้ ยหาเสยี งของผสู้ มคั ร ส.ส.แบบแบง่ เขต จงั หวดั พะเยา ตดิ ตงั้ คกู่ บั แผน่ ปา้ ยหาเสยี ง ของพรรคการเมือง โดยมีการน�ำเสนอเฉพาะตัวผู้สมัครฯ (บันทกึ ภาพเมื่อวันท่ี 24 กุมภาพันธ2์ 562)
88 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา การหาเสยี งเลอื กตั้งทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ สอื่ ประเภทนี้ ไดแ้ ก่ เวบ็ ไซด์ โซเชียลมีเดยี ยูทูป แอปพลิเคชัน อีเมล์ เอสเอม็ เอส โดยท้ังน้ชี ่องทางนี้ โซเชยี ลมเี ดยี อยา่ ง เฟซบกุ๊ (Facebook) ไดเ้ ปน็ ชอ่ งทางทไี่ ดร้ บั ความนยิ มเปน็ อยา่ งมากของผลู้ งสมคั ร ส.ส. แบบ แบ่งเขตของจังหวัดพะเยาทั้งจากพรรคการเมืองเดิมและพรรคการเมืองใหม่ โดยทั้งนี้ระเบียบคณะกรรมการ การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกต้ัง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ได้ระบุให้ผู้ผลิตส่ืออิเล็กทรอนิกส์ จะต้องระบุช่ือตัว ช่ือสกุล ที่อยู่ และ วนั เดือนปีผลติ ไวอ้ ย่างชดั เจนด้วย และหากเกิดคา่ ใชจ้ ่ายจากการใชส้ อื่ ออนไลนต์ ้องแจง้ ต่อ กกต. ส�ำหรบั การเลอื กตงั้ ฯ จงั หวดั พะเยา นบั ไดว้ า่ การหาเสยี งเลอื กตงั้ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เปน็ วธิ กี ารสอื่ สาร ทางการเมอื งทีไ่ ด้รบั ความนยิ มเป็นอย่างมากจากผูล้ งสมคั รรบั เลือกต้ังฯ ทง้ั ในระดบั ประเทศและจงั หวัดพะเยา โดยเฉพาะหากผู้สมัครต้องการรณรงค์หาเสียงกับกลุ่ม “วัยรุ่น” และ “วัยท�ำงาน” โดยวิธีการดังกล่าวถือว่า มคี วามสะดวกรวดเรว็ และประหยดั เปน็ อยา่ งมาก เพราะการเลอื กตง้ั ครง้ั นผี้ สู้ มคั ร ส.ส. แบบแบง่ เขต ถกู ก�ำหนด ใหใ้ ชเ้ งินในการหาเสยี งไดไ้ ม่เกนิ 1,500,000 บาท โดยถอื วา่ เปน็ จ�ำนวนนอ้ ยกว่าการเลอื กต้ังทกุ คร้ัง และหากมี การใชจ้ า่ ยเงนิ เกนิ จะมโี ทษจ�ำคกุ 1 – 5 ปี หรอื ปรบั 20,000 – 100,000 บาท หรอื 3 เทา่ ของจ�ำนวนเงนิ ทเ่ี กนิ มา และถกู สัง่ เพกิ ถอนสิทธ์เิ ลือกตั้งเปน็ เวลา 20 ปี ภาพที่ 17 ตัวอย่างของการใช้สื่ออิเล็กทรอนิคส์ Facebook ส่วนตัวของผู้สมัคร ในการรณรงค ์ หาเสียงของผู้สมคั รลงเลอื กต้ัง ส.ส. จังหวัดพะเยา ทมี่ า พรรคพลงั ประชารัฐ, 2562
89 ภาพท่ี 18 ตวั อยา่ งของการใชส้ อื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ในการรณรงคห์ าเสยี งของพรรคการเมอื ง ทมี่ ผี สู้ มคั ร รับเลือกตง้ั ส.ส. แบบแบง่ เขต จังหวดั พะเยา โดยมลี กั ษณะเป็น Page Facebook ท่มี า พรรคอนาคตใหม่, 2562 โดยเฉพาะกรณีการใช้เฟซบุ๊กของผู้สมัครรับเลือกต้ังฯ และ การใช้เพจ (Page) ของพรรคการเมือง เปรยี บเสมอื นการสอ่ื สารสองทาง (Two-way communication) ระหวา่ งผสู้ มคั รฯ พรรคการเมอื ง และประชาชน ทว่ั ไป จากการแสดงความเหน็ (comment) หรอื สนทนาผา่ นกลอ่ งขอ้ ความ (Inbox) รวมถงึ การแสดงความรสู้ กึ ในโพสต์ที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งฯ ได้รณรงค์การเลือกต้ังผ่าน Facebook ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเร่ืองนโยบายของ พรรค/ ของผู้สมัคร หรือ กิจกรรมการหาเสียงต่าง ๆ โดยนอกจากนี้ ผู้สมัครซ่ึงเป็นเจ้าของ Facebook หรือ Page น้นั ยังสามารถติดตามประชาชนท่ีมาตดิ ตามตนเองได้ และสามารถวิเคราะห์สถิตจิ ากยอดผตู้ ิดตาม หรอื ยอดไลค์ (Like) ยอดแชร์ (Share) ได้อีกด้วย ดังตัวอย่างภาพท่ี 17 – 18 นอกจากผู้สมัครบางรายก็ได้มีการแนะน�ำตัวเองเป็นลักษณะบทเพลงเพื่อให้ผู้มีสิทธ์ิเลือกต้ังสามารถ จดจ�ำตนได้และสามารถทราบถึงประวัตกิ ารท�ำงานของตนมากข้นึ โดยเผยแพร่ทางชอ่ งทางยูทปู เพือ่ ให้ผู้มสี ทิ ธิ์ เลือกตัง้ สามารถเขา้ ถงึ ได้งา่ ย ดังภาพท่ี 19 “เปดิ ตัวว่าท่ีผู้สมคั ร ส.ส.พะเยา เขต 2 พรรคประชาธปิ ัตย์ กาจพล เอบิ สุขสริ ิ” ภาพที่ 19 การแนะน�ำผสู้ มคั รผา่ นชอ่ งทางยทู ปู ท่ีมา Nitipat Anusorn, 2018
90 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา กรณอี ่นื ๆ • วิทยุที่กระจายเสยี ง ในการใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงน้ัน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและป้องกันการท�ำผิด กฎหมายเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ให้ผู้สมัครอัดเสียงตนเองภายในเวลา 2 นาท ี ลงแผน่ ซดี แี ละน�ำสง่ ให้ กกต.ด�ำเนนิ การเผยแพรผ่ า่ นวทิ ยกุ ระจายเสยี งตา่ ง ๆ ของจงั หวดั พะเยา โดยวิธีการสื่อสารนี้ผู้สมัครเชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มแม่บ้าน และประชาชน ทอ่ี ยใู่ นชนบทได้ แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม เวลาเพยี ง 2 นาที ผสู้ มคั รบางรายคดิ วา่ เปน็ เวลาทนี่ อ้ ยเกนิ ไป โดยเฉพาะผู้สมัครใหมท่ ีต่ ้องการเวลาในการแนะน�ำตนกบั ประชาชนมากกวา่ ผู้สมัครเดิม • ส่ือบุคคลหรอื การส่ือสารแบบตวั ต่อตัว (Personal contact) การส่ือสารแบบบุคคล หรือ แบบตัวต่อตัวน้ัน เป็นวิธีการการสื่อสารทางการเมือง หรือรณรงค์หาเสียงท่ีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งหลายคนนิยมใช้วิธีการนี้เหมือนเช่นการเลือกตั้ง ทุกคร้ังท่ีผ่านมา ท้ังน้ี อาจมีวิธีการที่เหมือนและคล้ายกันตามความสะดวกของผู้ลงสมัคร รับเลือกต้ัง โดยการสื่อสารวิธีการน้ีสามารถเข้าถึงประชากรได้ทุกช่วงอายุ และหลากหลาย อาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มประชากรสูงวัย ซ่ึงในจังหวัดพะเยามีจ�ำนวนประชากรสูงวัยประมาณ ร้อยละ 20 และประชากรกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในเขตพ้ืนที่สูง เน่ืองจากเป็นกลุ่มคน ท่ีท�ำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยมีทั้งลักษณะรวมถึงการขึ้นยานพาหนะพร้อม เครอื่ งกระจายเสยี ง และ เดินเคาะประตูบ้าน โดยการหาเสียงเคาะประตบู า้ น ในที่หมายถึง การท่ีผูส้ มัครฯ ลงพื้นท่หี าเสียงพบปะ ประชาชนในท่ีอยอู่ าศยั สถานที่ท�ำงาน รวมถึงสถานทส่ี าธารณะตา่ ง ๆ เชน่ ในตลาด รา้ นค้า เปน็ ตน้ โดยวธิ กี ารดงั กลา่ ว ผสู้ มคั ร ส.ส. ถอื วา่ เปน็ วธิ กี ารทส่ี ามารถสรา้ งความประทบั ใจ และ ใกลช้ ดิ ประชาชนไดม้ ากทส่ี ดุ ดง่ั ค�ำเปรยี บเปรยของอดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา รายหนึ่งเผยถึงวิธีการหาเสียงของตนในการเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกต้ังฯ ในอดีตว่า “กว่าจะ ไดเ้ ป็น ส.ส. เดินจนรองเท้าขาดไปหลายสบิ ค่”ู
91 ท้ังนี้ ในกรณีผู้สมัครรายเดิม การลงพื้นท่ีแบบเคาะประตูบ้านสามารถได้รับข้อมูลจากประชาชน ในเรอื่ งคะแนนเสียง ความนยิ มของตนในพ้ืนท่ี เพอ่ื ประเมนิ สถานการณก์ ารรณรงค์หาเสยี งได้ สว่ นในกรณขี อง ผู้สมัครหน้าใหม่สามารถท�ำให้ชาวบ้านรู้จักหน้าตาของผู้สมัครได้มากขึ้น นอกจากน้ีผู้สมัครเองก็ถือโอกาสใน การส�ำรวจพน้ื ท่ี เพอื่ น�ำสงิ่ ทพี่ บเจอมาปรบั ปรงุ นโยบายในการหาเสยี งของตนเองใหถ้ กู ใจกลมุ่ เปา้ หมายไดต้ อ่ ไป นอกจากน้ี ในรูปแบบดังกล่าว ยังมีการเกิด “หัวคะแนน” ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ท�ำหน้าที่โน้มน้าว ใหเ้ กิดการลงคะแนนเสียงใหก้ บั ผสู้ มัครฯ ด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ เช่น การพูดโน้มนา้ วใหผ้ ู้อืน่ เห็นถึงขอ้ ดีของผูส้ มัคร ทต่ี นชนื่ ชอบ ซงึ่ ลกั ษณะดงั กลา่ วถอื ไดว้ า่ เปน็ การสอ่ื สารทางการเมอื งแบบตวั ตอ่ ตวั โดยหวั คะแนนของผสู้ มคั รฯ บางราย อาจเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ช่วยหาเสียงตามที่แจ้งกับ กกต. หรือต่างออกไปก็ได้ โดยหัวคะแนนอาจ ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน หรือ สิ่งของ หรือไม่ได้รับค่าตอบแทน ทั้งน้ีอาจอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว เช่น ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ หรือความสัมพันธ์เชิงเครือญาติ หรืออาจไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวแต่เกิดจาก ความนยิ มหรอื การชน่ื ชมอดุ มการณท์ างการเมอื งของผสู้ มคั รหรอื พรรคการเมอื งนนั้ จงึ ตดั สนิ ใจเปน็ หวั คะแนนให้ จากรปู แบบ และวธิ กี ารของผสู้ มคั รทมี่ ลี กั ษณะทางการนนั้ สามารถเหน็ ถงึ ความชดั เจนของเปา้ หมาย ในการส่ือสารทางการเมืองของผู้สมัครในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งฯ กับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังฯ ตามคณุ สมบตั ิกลุ่มอายุตามโครงสรา้ งประชากร ตารางที่ 10 ตารางที่ 10 ส่ือสารการรณรงค์หาเสียงเลือกต้ังฯ ของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบง่ เขต จงั หวดั พะเยา ในการเข้าถงึ ประชากรกลุ่มต่าง ๆ ตามคณุ สมบัติกลุม่ อายุตามโครงสร้างประชากร วิธกี ารส่อื สารทางการเมอื งที่เป็นทางการ กล่มุ เป้าหมายตามกลมุ่ อายุ การแจกเอกสาร 18 - 26 ปี 27 - 35 ปี 36 – 59 60 ปีขึ้นไป // การใชพ้ าหนะต่าง ๆ ในการหาเสยี งเลือกตง้ั // การปดิ แผน่ ป้ายโฆษณา กรณีแผ่นตดิ ประกาศเกยี่ วกบั / // / เลอื กต้งั / / การหาเสยี งเลอื กตง้ั ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ อ่ืน ๆ กรณวี ทิ ยกุ ระจายเสยี ง // อื่น ๆ กรณกี ารสื่อสารแบบตวั ต่อตวั / ///
92 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา 2.2) วธิ ีการทีไ่ มเ่ ปน็ ทางการ วิธีการท่ีไม่เป็นทางการ หมายถึง การใช้อิทธิพลจากราชการ กลวิธีการพนัน การท�ำลายคู่แข่ง การใช้เงินซื้อ ที่ผู้รับสมัครลงเลือกต้ังใช้รณรงค์การต้ังฯ โดยพบวิธีการท่ีเกิดขึ้นจากกสัมภาษณ์และ การสงั เกตการณ์แบบมสี ่วนร่วมและไมม่ ีส่วนร่วม ดงั นี้ การใชอ้ ิทธพิ ลจากราชการ จากบรบิ ทของการเกดิ พรรคการเมอื งใหม่ และสถานการณ์การย้ายฐานขว้ั การเมืองในจังหวดั พะเยา รวมถงึ การเคลอื่ นไหวการหาเสยี งตง้ั แตช่ ว่ งกอ่ นการประกาศพระราชกฤษฎกี าการเลอื กตง้ั ของพรรคการเมอื งเดมิ และพรรคการเมืองใหม่ ซ่ึงได้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถ่ิน ว่าจะส่งผลต่อการเลือกต้ังฯ คร้ังน้ีหรือไม่ เน่ืองจากอาจเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบใน การหาเสียงท่ีจะเกิดข้ึน โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีชื่อพ้องกับโครงการนโยบายของภาครัฐบาลในขณะน้ัน อาจได้รับความไดเ้ ปรยี บในการรณรงคห์ าเสียงเลอื กตง้ั ผา่ นนโยบายดงั กล่าว หรือการเกดิ ระบบหวั คะแนนผ่าน ระบบข้าราชการส่วนท้องถ่ินท่ีมีความสัมพันธ์เครือญาติเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกต้ังครั้งนี้ โดยจะกล่าวใน รายละเอยี ดการใช้เงนิ ซอื้ เสียงตอ่ ไป การทำ�ลายคแู่ ขง่ ในการเลือกต้ังฯ ผู้สมัครรับเลือกต้ัง และประชาชนในจังหวัดพะเยา ต่างรู้สึกว่าในการเลือกต้ังคร้ังน้ี มีความเข้มข้นและมีการแข่งขันระหว่างผู้สมัครฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้วันเลือกต้ัง ได้มีกลยุทธ์การท�ำลายช่ือเสียงของผู้สมัครฯ เกิดขึ้น โดยเฉพาะพรรคการเมืองท่ีมีคะแนนนิยมน�ำในขณะน้ัน โดยวิธีที่เกิดข้ึนเช่น การท�ำให้รู้สึกกลัว เช่น กรณีการย่ืนหนังสือต่อคณะกรรมการเลือกต้ัง ของผู้สมัครในเขต 1 และ เขต 2 ของพรรคเพื่อไทยจากการถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์ หรือการท�ำลายป้ายหาเสียงของผู้ลงสมัครฯ ในหลายเขตเลือกต้ัง (ดังภาพท่ี 15) รวมถึงการแจกเอกสารโจมตี เช่น กรณีคืนวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562 ซ่ึงเป็นระยะเวลาที่ส�ำคัญในการแข่งขันการเลือกต้ัง ได้มีการแจกเอกสารที่มีลักษณะไม่เปิดเผยผู้เผยแพร่ โดยมีวัตถุประสงค์ท�ำลายช่ือเสียงของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 1 และ เขต 2 (ภาพท่ี 16) รวมถึงการสร้าง เหตุการณ์เพื่อใส่ร้ายผสู้ มคั รวา่ ไดม้ กี ารกระท�ำการซอ้ื เสยี งเลอื กตงั้ ใน เขตท่ี 2 เปน็ ต้น
93 ภาพท่ี 20 การรายงานข่าวสถานการณ์การเลือกต้ังฯ จังหวัดพะเยา ของเว็บไซต์ข่าว TNN16 แสดงพาดหวั ขอ้ ข่าว “เลอื กตงั้ 2562 : พะเยาเดอื ด! ผสู้ มคั รสส.พรรคประชาธปิ ตั ยร์ อ้ งทกุ ขแ์ จง้ ความกบั นายอำ� เภอเชยี งคำ� โดนกรีดปา้ ยหาเสยี งเลอื กตั้ง” ท่ีมา ไม่ปรากฏ, 2562
94 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา ภาพที่ 21 สิ่งพิมพ์ที่ผิดกฎหมายและจริยธรรมทางการเมือง โดยมีการโปรยส่ิงพิมพ์ดังกล่าวหน้า มหาวทิ ยาลัยพะเยา เวลาประมาณ 23.00 น ณ วันท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2562 (บนั ทกึ ภาพเมอื่ 23 มนี าคม พ.ศ. 2562) การใช้เงนิ ซอื้ วธิ ีการใช้เงินซ้ือยงั คงเกดิ ข้นึ ในการเลอื กต้งั ฯ พ.ศ. 2562 จังหวัดพะเยา โดยจากการสมั ภาษณพ์ บวา่ การใช้เงินซื้อเสียงในครั้งน้ี “มีเม็ดเงินนอกระบบเยอะ2” แต่อย่างไรก็ตามวิธีการดังกล่าวใช้ได้กับกลุ่มผู้มีสิทธิ์ เลือกต้ังบางกลุ่มเท่านั้น โดยหัวคะแนนจะเป็นผู้ทราบว่าติดต่อใครและเจาะกลุ่มเป้าหมายไปท่ีกลุ่มคนอายุใด ในพ้นื ที่ ในกลวธิ กี ารใชเ้ งนิ ซอื้ ไดท้ �ำผา่ น “ระบบหวั คะแนน” โดยพบวา่ รปู แบบและวธิ กี ารทเี่ กดิ ขนึ้ ในแตล่ ะเขต มลี กั ษณะทคี่ ลา้ ยคลงึ กนั กลา่ วคอื จะมวี ธิ กี ารด�ำเนนิ งานตามล�ำดบั ชน้ั แนวดงิ่ จากหวั คะแนนทม่ี คี วามใกลช้ ดิ กบั 2 ผ้ใู ห้สมั ภาษณใ์ นเขต 2
95 ผ้ลู งสมัครฯ สูห่ ัวหนา้ หวั คะแนนในแต่ละเขตเลือกตง้ั โดยอาศัยความไวใ้ จ เชน่ เคยท�ำงานรว่ มกัน มีอุดมการณ์การลงคะแนนเสี�งเลอื กตง�ั ทางการเมืองร่วมกัน รวมท้ังมีผลประโยชน์ร่วมกันบางประการ โดยต่อมาหัวคะแนนในแต่ละเขตเลือกต้ัง จะประสานกับหัวคะแนนในอ�ำเภอ และชุมชน ซ่ึงถือว่ามีความใกล้ชิดกับประชาชน โดยเฉพาะญาติพ่ีน้อง หรือเป็นผมู้ ีอทิ ธพิ ล เปน็ ทนี่ ับถือของประชาชน เพอ่ื นฝูงใกลบ้ า้ น หรอื ในกลุม่ อาชีพเดยี วกนั และเป็นท่ียอมรับ ของผสู้ มคั รฯ ดว้ ย (ดงั ภาพท่ี 21) ทง้ั นี้ หวั คะแนนอาจไดร้ บั การตอบแทนเปน็ ลกั ษณะเงนิ สง่ิ ของ หรอื ไดร้ บั ความ อุปถมั ภ์ จากผลู้ งสมัครรบั เลือกตงั้ ซง่ึ ในการเลือกตงั้ คร้งั น้จี ากข้อมูลการใหส้ ัมภาษณพ์ บว่าข้าราชการการเมอื ง สว่ นทอ้ งถน่ิ ขา้ ราชการสว่ นทอ้ งทใ่ี นระดับชมุ ชน และอาสาสมัครสาธารณสขุ ประจ�ำหมู่บา้ น (อสม.) มสี ว่ นช่วย และเปน็ กลไกประสานงานส�ำคญั ของหัวคะแนนระดับชมุ ชนด้วย ผสู้ มคั รฯ หวั คะแนน��มี ีความใกลช้ ดิ ผลู้ งสมคั ร ฯ หวั คะแนนในเ�ตเลอื กตงั� หวั คะแนนในชมุ ชน หวั คะแนนในชมุ ชน หวั คะแนนในชมุ ชน เครอื ญาติ ประชาชน (ลกู บา้ น) เพ�ือนพอ้ งใกลบ้ า้ น / กลมุ่ อาชีพ ภาพท่ี 22 ความสัมพันธ์ระบบหัวคะแนน โดยผ่านลงมายังระบบเครือญาติ ประชาชน (ลูกบ้าน) หรอื เพอ่ื นพอ้ งใกลบ้ า้ น /กลุ่มอาชพี ในการเลือกตงั้ ฯ ในช่วงระหว่างก่อนวันเลือกต้ัง “หัวคะแนนในชุมชน” จะต้องส�ำรวจข้อมูลในชุมชนถึงความนิยม ชมชอบต่อพรรคการเมือง หรือตัวผู้สมัครพรรคการเมืองว่ามีความนิยมจากประชาชนในพื้นท่ี/ชุมชน มากน้อยเพียงไร เพื่อน�ำข้อมูลในการการันตีจ�ำนวนผู้จะลงคะแนนเสียงให้ผู้ลงสมัครรับเลือกต้ังได้ว่า ในพ้ืนท ่ี ทตี่ นรบั ผดิ ชอบจะมกี ารลงคะแนนเสยี งใหไ้ ดก้ คี่ ะแนนเสยี ง ซงึ่ วธิ กี ารสอื่ สารและการตดิ ตามการท�ำงานระหวา่ ง หัวคะแนนแต่ละระดับชั้นจะสื่อสารผ่านการประชุมแบบไม่เป็นทางการ (ทานอาหารร่วมกัน) อยู่บ่อยครั้งเพ่ือ ผ้สู มคั รไดม้ ่ันใจถงึ ฐานเสียงของตน หรอื อาจมีการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ขา่ วสาร สกู่ ารเกิดขอ้ เสนอแนะในการปรบั กลยุทธ์ที่ควรจะเกิดข้ึนในพ้ืนท่ีเม่ือมีพรรคคู่แข่งเข้าไปหาเสียงในพื้นท่ีที่ตนรับผิดชอบ รวมถึงเป็นผู้ประสานใน การด�ำเนนิ กจิ กรรมทนี่ �ำไปสกู่ ารไดค้ ะแนนความนยิ มในพนื้ ทขี่ องผสู้ มคั รเพม่ิ มากขน้ึ โดยการด�ำเนนิ การดงั กลา่ ว อาจท�ำผา่ นงานต่าง ๆ ในชุมชน เชน่ กรณีงานประเพณใี นชมุ ชน เช่น กรณงี านศพ หรอื งานบญุ ในพ้ืนท่ี เปน็ ต้น
96 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา จากรปู แบบและวธิ กี ารของ ผสู้ มคั รลงเลอื กตง้ั ฯ หลงั จากการประกาศพระราชกฤษฎกี าใหม้ กี ารเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรเปน็ การทว่ั ไป พ.ศ. 2562 สามารถสรปุ ไดว้ า่ ในการเลอื กตง้ั ผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยท้ังพรรคการเมืองเดิมและพรรคการเมืองใหม่ต่างก็ ไดร้ บั ผลกระทบจากกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ ง ทท่ี �ำใหร้ ปู แบบและวธิ กี ารมคี วามแตกตา่ งจากการเลอื กตง้ั ครงั้ ทผ่ี า่ นมา เช่น การน�ำเสนอนโยบายการหาเสียงที่ต้องด�ำเนินไปอย่างรอบคอบ รัดกุม มากกว่าทุกครั้ง โดยมีการเน้น กลมุ่ เปา้ หมายในการสอ่ื สารทชี่ ดั เจน เชน่ กลมุ่ อาชพี และกลมุ่ อายใุ นจงั หวดั พะเยา รวมถงึ รปู แบบทกี่ ารรณรงค์ หาเสยี งทางการเมอื งโดยเนน้ ตวั บคุ คล เชน่ การน�ำเสนอผทู้ พี่ รรคเสนอใหเ้ ปน็ ผดู้ �ำรงต�ำแหนง่ นายกรฐั มนตรตี าม มาตรา 88 หรอื การน�ำเสนอเฉพาะตวั บคุ คลทเ่ี ปน็ ผสู้ มคั รรับเลือกตัง้ ฯ แบบแบง่ เขตทไ่ี ด้รบั ความนิยมในพ้ืนท่ี ในด้านวิธีการน้ัน ผู้สมัครจากพรรคการเมืองเดิมและพรรคการเมืองใหม่ ต่างก็มีวิธีการน�ำเสนอที่ หลากหลาย ท้ังรูปแบบท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายในแต่ละวิธีการส่ือสารรณรงค์ หาเสียงท่ีชัดเจน แต่อย่างไรน้ัน การส่ือสารในวิธีการต่าง ๆ จะสามารถส่ือสารได้ตรงกลับกลุ่มเป้าหมายที่เป็น ผมู้ สี ทิ ธเ์ิ ลอื กตงั้ หรอื ไม่ กข็ นึ้ อยกู่ บั ประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ์ ลอื กตง้ั วา่ มรี ปู แบบและวธิ กี ารในการเลอื กตงั้ ครง้ั นอี้ ยา่ งไร ซึ่งจะกล่าวในหัวข้อต่อไป 4.2.3 รูปแบบ และวิธีการ ของประชาชน ภาคประชาสังคม และ กลมุ่ ทางการเมอื ง ในการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั พะเยา ในที่นี้จะน�ำเสนอข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และการสัมภาษณ์เชิงลึก รวมถึง การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม ในประเด็นเกี่ยวกับรูปแบบ และวิธีการของประชาชน ภาคประชาชน และกลุ่มทางการเมือง ในการแสดงออกทางการเมืองต่อการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 จงั หวัดพะเยาภายใต้รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 ทง้ั 3 เขต ดังน้ี 1) ประชาชน ประชาชนผู้มีสิทธ์ิเลือกต้ังฯ ในจังหวัดพะเยามีท้ังส้ิน 391,849 คน โดยคณะผู้วิจัยพบว่าผู้มีสิทธิ์ เลือกต้ังฯ ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งมีรูปแบบและวิธีการท่ีไม่แตกต่างกัน เช่น ต่างมีความรู้สึกว่า การเลอื กตัง้ ฯ จังหวัดพะเยาครั้งนมี้ คี วามคึกคัก และมกี ารแขง่ ขันที่รนุ แรงโดยเฉพาะช่วงใกลว้ ันเลอื กตงั้ ฯ และ รับรู้รับทราบถึงการใช้เงินซ้ือเสียงผ่านหัวคะแนนในชุมชนเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถด�ำเนินการต่าง ๆ ได้เนื่องจาก “ความกลัว” และ “ความปลอดภยั ” ของตน โดยแม้ว่าในการเลือกตั้งครั้งน้ี จะมีพรรคการเมืองส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งมากท่ีสุดในการเลือกต้ังฯ จงั หวดั พะเยาดงั ทก่ี ลา่ วไวข้ า้ งตน้ แตผ่ มู้ สี ทิ ธเ์ิ ลอื กตง้ั ฯ พบการรณรงคก์ ารหาเสยี งเลอื กตงั้ ในพนื้ ทจ่ี ากพรรคการเมอื ง ไม่ก่ีพรรค โดยเฉพาะพรรคการเมืองท่ีมีการรณรงค์หาเสียงมากท่ีสุด คือ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธปิ ตั ย์ จากการสอื่ สารแบบตวั ตอ่ ตวั หรอื การรณรงคห์ าเสยี งดว้ ยการใชพ้ าหนะหาเสยี งพรอ้ ม
97 เครื่องกระจายเสียงตามแหล่งชุมชน ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ แผ่นป้ายโฆษณา ส่ือโทรทัศน์วิทยุ หรือเอกสาร จากผูส้ มคั รรบั เลือกตัง้ หรอื จากคณะกรรมการเลอื กต้งั อย่างไรก็ตาม คณะผู้วิจัยพบว่า ความแตกต่างทางประสบการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ตามกล่มุ อายุโครงสร้างประชาชน ท�ำใหม้ รี ูปแบบและวธิ กี ารในการเลือกตั้งคร้งั นแ้ี ตกตา่ งกัน ดงั น้ี 1.1) กล่มุ ประชากรอายุระหว่าง 18 – 22 ปี ประชากรกลุ่มอายุ 18-22 ปี คือผู้ท่ีเกิดใน พ.ศ. 2540 - 2544 คิดเป็นร้อยละ 7.17 ของจ�ำนวน ผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งจังหวัดพะเยา (กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดพะเยา, 2562) โดยมีประสบการณ์ทางการเมือง ช่วงเหตุการณ์วิกฤตการณ์ทางการเมืองเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 การรัฐประหารเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 และส�ำหรับการเลือกต้ังนัน้ กลุ่มประชากรกล่มุ นี้มีประสบการณใ์ นการเลอื กตั้งสมาชกิ ผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2562 เปน็ ครงั้ แรก ทง้ั นพี้ บวา่ ประชากรกลมุ่ นสี้ ว่ นหนง่ึ จะเรยี นหนงั สอื หรอื ท�ำงานอยตู่ า่ งจงั หวดั และไดเ้ ดนิ ทางกลบั มา เพื่อใช้สิทธ์ิเลือกตั้งในเขตภูมิล�ำเนาจังหวัดพะเยา โดยประชากรกลุ่มน้ีมีความสนใจ และต่ืนตัวในการเลือกต้ัง คร้ังน้ีค่อนข้างสูง ซ่ึงเหตุผลที่ส�ำคัญคือการเลือกตั้งครั้งน้ีเป็นการใช้สิทธ์ิเลือกตั้งครั้งแรก (First-time Voters) และต้องการรักษาสิทธ์ิทางการเมืองของตน โดยมีความต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ เช่น ความคาดหวงั ตอ่ การเลอื กตงั้ ครงั้ นจ้ี ะสามารถสรา้ งประชาธปิ ไตยในประเทศได้ พรอ้ มกบั มคี วามสนใจในนโยบาย ต่าง ๆ ท่ีพรรคการเมืองน�ำเสนอ โดยเฉพาะนโยบายเรื่องการศึกษา นโยบายการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และ นโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ส�ำหรับประสบการณ์การเลือกต้ังคร้ังแรก จึงยังท�ำให้ประชากรกลุ่มนี้ไม่สามารถระบุความแตกต่าง ระหว่างการเลือกต้ังคร้ังนี้กับการเลือกต้ังที่ผ่าน ๆ มา แต่มีความเข้าใจในระบบการเลือกการเลือกต้ังภายใต้ รฐั ธรรมนูญใหมอ่ ยา่ งเห็นได้ชัด เชน่ การเขา้ ใจถึงวิธกี ารลงคะแนนและการนบั คะแนนพอสมควร และยังเห็นว่า การเลือกตั้งผ่านบัตรเลือกตั้งใบเดียวสามารถเข้าใจง่าย สามารถเข้าถึงในกลุ่มทุกวัยได้ แต่อาจส่งผลต่อ ความสับสนในการค�ำนวณคะแนนเพ่ือจัดสรรท่ีน่ังของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และคาดการณ์ว่าการท่ีผู้สมัคร รับเลือกตั้งจากพรรคเดียวมีหมายเลขแตกต่างกันในแต่ละเขตเลือกตั้งฯ ไม่มีผลต่อการสร้างความสับสนใน เจตนารมณ์ของผ้ใู ชส้ ทิ ธ์ิเลือกตัง้ แต่อยา่ งใด รปู แบบการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลข่าวสารชว่ งการเลอื กตั้ง พบว่า ประชากรกลุ่มนี้มีการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งฯ ผ่านรูปแบบการสนทนากับ กลุ่มเพ่ือนทั้งท่ีเป็นทางการ เช่น วิชาท่ีเรียนในสถาบันการศึกษา และการสนทนาแบบไม่เป็นทางการ เช่น การจับกลุ่มสนทนากับเพื่อนอย่างเปิดเผยแต่จะเป็นลักษณะการพูดเล่น และมีสรรพนามแทนบุคคลท่ีกล่าวถึง มากกว่าจะกล่าวถึงใครโดยตรง การสนทนาในประเด็นการเมืองและการเลือกตั้งกับคนในครอบครัวด้วย รวมถึงการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองท่ีตนชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมืองเพ่ือช่วยรณรงค์หาเสียง เช่น การเป็นอาสาสมคั รแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ เป็นตน้
98 การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา ในการติดตามข่าวสารทางการเมือง ประชากรกลุ่มน้ีให้ความสนใจกับนโยบายของพรรคการเมืองท ี่ ตนชื่นชอบ รวมถึงการให้ความสนใจบุคคลท่ีมีชื่อเสียงของพรรคการเมืองนั้น และบุคคลท่ีพรรคการเมืองเสนอ ชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันพบว่า ประชากรกลุ่มน้ียังไม่ค่อยรับทราบถึงผู้ลงสมัคร รับเลือกต้ังแบบแบ่งเขตในเขตของตน โดยทราบเพียงหมายเลขประจ�ำตัวในเขตเลือกต้ังเพื่อวัตถุประสงค ์ ในการใชส้ ิทธ์เิ ทา่ น้ัน วธิ ีการเข้าถึงข้อมลู ข่าวสารชว่ งการเลือกต้ัง ส�ำหรับวิธีการติดตามการเมืองช่วงการเลือกต้ังฯ และการรับทราบถึงความรู้ความเข้าใจในการเลือก ต้ัง นโยบายและผู้ลงสมัครฯ น้ัน ประชากรกลุ่มมีการสื่อสารท้ังการเป็นผู้รับสารและส่งสาร จากทางช่องทาง อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ปน็ หลกั โดยเฉพาะโซเชยี ลมเี ดยี (Social Media) อยา่ งเฟซบกุ๊ (Facebook) ทวติ เตอร์ (Twitter) หรือแม้แต่ในห้องสนทนาบอร์ดเกมส์ เน่ืองจากเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว ผ่านเครื่องมือสื่อสาร อยา่ งโทรศพั ทม์ อื ถอื โดยวธิ กี ารดงั กลา่ วสามารถตดิ ตามขา่ วสารและการแสดงทศั นคตผิ า่ นเรอ่ื งราวทางการเมอื ง ต่าง ๆ ในเป็นประเด็นทต่ี นสนใจ เชน่ การให้ความเห็น กดแชร์ (Share) ในข่าวทีต่ นสนใจ การตดิ ตามเรอื่ งราว ความเคลอื่ นไหวทางการเมอื งในขณะการเลอื กตงั้ ผา่ นแฮชแทก็ (#) ทเี่ ปน็ ทน่ี ยิ ม เชน่ #ThailandElection2019 #ทรงพระสเลนเดอร์ #ไทยรกั ษาชาติ #ฟา้ รกั พอ่ #โตแลว้ เลอื กเองได้ ฯลฯ รวมถงึ การใหค้ วามสนใจในการดเี บต (Debate) ของตัวแทนพรรคการเมืองในระดับชาติที่สถานีโทรทัศน์จัดขึ้นผ่านการถ่ายทอดสดในช่องทาง เฟซบุ๊กไลฟ์ (Facebook Live) หรอื ดยู อ้ นหลังผา่ นยทู ปู (Youtube) ส�ำหรับการรับทราบข้อมูลในการเลือกตั้งในช่องทางอ่ืนท่ีพบได้จากประชากรกลุ่มน้ี ตามวิธีการ ที่ผู้สมัครฯ แบบแบ่งเขตที่เลือกใช้ เช่น เอกสารของผู้ลงสมัครฯ การประกาศเสียงตามสายของผู้น�ำชุมชน โดยเฉพาะการใชพ้ าหนะตา่ ง ๆ พรอ้ มเครอื่ งกระจายเสยี งตามตลาดนดั ในชว่ งเวลาเยน็ ส�ำหรบั การประชาสมั พนั ธ์ ใหค้ วามรกู้ ารเลอื กตงั้ รบั ทราบเพมิ่ เตมิ จากจดหมายประชาสมั พนั ธข์ องคณะกรรมการเลอื กตงั้ การประกาศเสยี ง ตามสายของผ้นู �ำชุมชน อาจกล่าวได้ว่า ประชากรกลุ่มอายุ 18-26 ปี ซึ่งแม้จะมีประสบการณ์การเลือกตั้งฯ ในวันท่ี 24 มนี าคม พ.ศ. 2562 เปน็ ครง้ั แรก แตม่ คี วามตนื่ ตวั ทางการเมอื ง โดยเฉพาะวธิ กี ารรบั รกู้ ารสอ่ื สารทางการเมอื ง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งท�ำให้รับทราบนโยบายของพรรคการเมือง รวมถึงตัวบุคคลที่มีช่ือเสียงของ พรรคการเมอื ง บคุ คลที่พรรคการเมอื งเสนอชือ่ เปน็ นายกรฐั มนตรี 1.2) ประชากรกลมุ่ อายรุ ะหว่าง 23-36 ปี “เพราะเปน็ ชว่ งเวลาทร่ี อมานาน และครงั้ นีก้ ็เป็นการเลอื กต้งั ที่นา่ ตืน่ เตน้ และกล็ นุ้ วา่ ใครจะเขา้ มาเป็นนายก” ผู้สัมภาษณว์ ยั 22 เขตเลือกตั้ง 1
99 ประชากรกลุ่มอายุ 23-36 ปี คือผู้ท่ีเกิดใน พ.ศ. 2526 – 2539 มีจ�ำนวนประมาณร้อย 16.48 ของ จ�ำนวนผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งจังหวัดพะเยา (กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดพะเยา, 2562) โดยประชากรกลุ่มนี้จะม ี ประการณก์ ารเลือกตงั้ อยา่ งน้อย 1 – 4 คร้ัง ตงั้ แตก่ ารเลือกตัง้ พ.ศ. 2544 – 2557 ซ่งึ เปน็ การเลอื กตั้งภายใต้ ระบบผสมแบบคู่ขนาน ระหว่างแบบแบง่ เขตและสดั ส่วน รวมถึงประสบการณ์ทางการเมอื งในประชากรกลุ่มนี้ เช่น การเกดิ เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 และ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 และวิกฤตการณ์ ทางการเมือง ใน พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2557 ดังนน้ั จึงมีประสบการณท์ างการเมอื งแตกตา่ งไปจากประชากร กลุ่มแรก ซึ่งสามารถบอกถึงความแตกต่างการเลือกต้ังครั้งก่อนและคร้ังน้ีได้ รวมถึงประเด็นความตื่นตัวและ สนใจในการเลอื กตง้ั ทเี่ กดิ ขน้ึ เชน่ เดยี วกนั สว่ นหนง่ึ นนั้ เนอ่ื งมาจากการเลอื กตง้ั ไมไ่ ดเ้ กดิ ขนึ้ มาเปน็ ระยะเวลานาน โดยคาดหวังว่าการเลือกตงั้ ครัง้ น้จี ะสามารถน�ำมาสเู่ ปลย่ี นแปลงในการปกครองระดับชาติได้ ในประเด็นการเปลี่ยนแปลงของระบบเลือกต้ังจากผลของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เห็นได้ว่าประชากร กลุ่มน้ีมีความเข้าใจระบบการเลือกตั้งแบบใหม่โดยสามารถรู้ผลลัพธ์ของการลงคะแนนเสียงคร้ังน้ี โดยมีทั้ง กลมุ่ ท่ีมองถงึ ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ของระบบการเลือกตงั้ ดังกลา่ ว ดงั กลอ่ งขอ้ ความท่ี 1 และ 2 กลอ่ งข้อความท่ี 1 “การเลอื กเพยี งแค่คนเดียวเปน็ การประหยัดเวลาในการเลือกตัง้ มากกวา่ ครัง้ ท่ผี ่านมา สามารถเอาเวลาทีเ่ หลือไปท�ำอย่างอ่นื ได”้ ผู้สมั ภาษณ์วยั 24 ปี เขตเลอื กต้งั ที่ 2 “การเลือกตง้ั ครัง้ นก้ี ็ดี ชอบคนไหนก็กาคนนนั้ เลย วยั รุน่ ไมส่ บั สนแตค่ นแก่บางคนอาจไมเ่ ข้าใจ การปิดหีบทข่ี ยายเวลาออกไปเปน็ หา้ โมง ก็ดคี นจะได้เดนิ ทางกลับมาใช้สิทธใิ์ นชว่ งเย็นได”้ ผู้สัมภาษณว์ ัย 25 ปี เขตเลอื กตัง้ ที่ 3 จากกลอ่ งข้อความที่ 1 สามารถสะท้อนถงึ ขอ้ ดีของรปู แบบการเลือกตงั้ ตามรฐั ธรรมนูญฉบับใหมจ่ าก ประชากรกลุ่มน้ีได้ว่า การมีบัตรเลือกตั้งเหลือเพียงใบเดียว และขยายเวลาจนถึง 17.00 น. สามารถอ�ำนวยให้ การเลือกตง้ั มคี วามสะดวกและรวดเรว็ เปิดโอกาสใหผ้ ทู้ อี่ ยู่ไกลจากภูมิล�ำเนากลับมาเลือกตง้ั ฯ ไดส้ ะดวกข้ึน
100 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดพะเยา กลอ่ งข้อความที่ 2 “ดเู หมอื นจะง่ายแตโ่ ดยสว่ นตัวคิดว่ามีความยงุ่ ยากโดยเฉพาะการคิดคะแนน เพราะทุกคะแนนมคี วามหมายเพราะคนทเี่ ขาจะไม่ชนะกส็ ามารถนำ� เอากลบั ไปคิดได้อกี ซึง่ เป็นวิธกี ารทท่ี บทวนมาเป็นอย่างดี” ผสู้ ัมภาษณว์ ยั 30 ปี เขตเลอื กตัง้ ท่ี 2 “ชอบรปู แบบการเลอื กตงั้ ครง้ั เดมิ มากกวา่ รูปแบบเลือกตัง้ คร้ังน้ี เพราะครั้งก่อนเราสามารถ เลอื กได้มากกวา่ คือ เราสามารถเลือก ส.ส.คนท่ีเราชอบ แล้วยงั สามารถเลอื กพรรคการเมอื ง ทีช่ อบได้อกี ด้วย แตค่ รง้ั น้ีแคก่ าเบอรเ์ ดยี วได้คนทัง้ พรรคและนายกดว้ ย” ผสู้ มั ภาษณ์วัย 24 ปี เขตเลอื กต้งั ที่ 3 ในผ่านบัตรเลือกตั้งใบเดียว ซึ่งมีความแตกต่างจากกรณีการเลือกต้ังในรูปแบบผสมแบบคู่ขนานตาม รัฐธรรมนญู ฯ พ.ศ. 2540 และ 2550 ท่สี ามารถแยกการตดั สินใจโดยเปิดโอกาสใหเ้ ลอื กผูล้ งสมัครรับเลอื กตง้ั ฯ แบบแบ่งเขต และเลือกพรรคการเมือง จากระบบบัญชีรายชื่อได้ ซึ่งการเข้าใจในการเลือกต้ังระบบแบบใหม่นี้ ท�ำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถวิเคราะห์ถึงผลของการเลือกต้ังที่จะตามมาด้วย โดยมองว่าระบบการเลือกตั้ง แบบใหม่อาจเออ้ื ใหก้ ลับกลมุ่ ใดกลมุ่ หนง่ึ โดยเฉพาะ รปู แบบการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลขา่ วสารช่วงการเลือกต้ัง พบว่าประชากรกลุ่มน้ีมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการเลือกต้ังฯ ผ่านรูปแบบการสนทนากับใน ครอบครวั คนทใ่ี กล้ชดิ และคนในชมุ ชนในบางโอกาสโดยเฉพาะในแหลง่ ชมุ ชนเชน่ ตลาด การติดตามข่าวสารทางการเมือง ประชากรกลุ่มน้ีให้ความสนใจเช่นเดียวกับประชากรกลุ่มแรก โดยให้ความสนใจกับนโยบายของพรรคการเมืองท่ีตนช่ืนชอบโดยเฉพาะประเด็นทางเศรษฐกิจ แต่มีการให ้ ความสนใจในประเด็นของความสงบสุขของเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นปัจจัยเพ่ิมเติมในการเลือกต้ังคร้ังน ี้ รวมถงึ การใหค้ วามสนใจกบั การรณรงคห์ าเสยี งโดยตวั บคุ คล ไมว่ า่ จะเปน็ บคุ คลทมี่ ชี อื่ เสยี งของพรรคการเมอื งนน้ั บคุ คลท่ีพรรคการเมอื งเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงบคุ คลทลี่ งสมคั รรับเลอื กตัง้ ฯ ในเขตของตน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149