นักการเมืองถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า บทบาทของเครือข่ายและ กลุ่มผลประโยชน์ในการสนับสนุนนักการเมืองถิ่นโดยผ่าน วิธีการสนับสนุนต่างๆ ให้ได้รับการเลือกตั้ง พบว่า เครือข่าย และกลุ่มผลประโยชน์ในการสนับสนุนนักการเมืองถิ่นให้ได้ รับการเลือกตั้งสามารถจำแนกออกได้เป็น 5 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มครอบครัวและเครือญาติ 2.กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจ 3.กลุ่มการเมืองระดับชาติ (พรรคการเมือง) 4.กลุ่มการเมือง ท้องถิ่นและท้องที่ และ 5. กลุ่มผลประโยชน์ทางสังคม ซึ่งแต่ละ กลุ่มมีความเชื่อมโยงกันทางบวกต่อกันและกัน นอกจากนี ้ ยังพบว่าเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการได้รับการ เลือกตั้งคือกลุ่มครอบครัวและเครือญาติ รองลงมาคือกลุ่ม การเมืองท้องถิ่นและท้องที่ ส่วนกลุ่มผลประโยชน์ทางสังคม ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนมากนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่เปิด เผยอย่างชัดเจน และมักอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนต่างๆ ที่เกิดขึ้น วิธีการการหาเสียงของนักการเมืองถิ่น จังหวัดเพชรบูรณ์ วิธีการหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองถิ่นเพชรบูรณ์ พบว่า มีรปู แบบวิธีการหาเสียง 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การวางแผนการหาเสียง การวางแผนอย่างมี กลยุทธ์ในทางการเมืองหมายถึงการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและ วัดผลได้ มักจะเป็นรูปแบบการพัฒนาการทางการเมือง ในแต่ละเขตเลือกตั้ง หรือในแต่ละท้องถิ่น ว่าพรรคการเมือง ไหนที่มีฐานเสียงอยู่จังหวัดนั้นก็จะเอื้อประโยชน์ให้ตัว 144
วิธีดำเนินการวิจัย นักการเมืองและพรรคเป็นอย่างมากในการหาเสียง โดยการ เตรียมความพร้อมจัดวางตัวผู้สมัคร ว่าผู้ใดควรลงเขตไหน มีฐานเสียงอยู่ที่ไหน และการจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่าย ในการเลือกตั้ง ในการโฆษณาหาเสียงเพื่อการช่วงชิงความ ได้เปรียบและการสนองความต้องการของนักการเมืองและ พรรคการเมือง โดยผ่านการชูนโยบายของพรรคการเมืองต้น สังกัดที่ตรงกับความต้องการของประชาชนเพื่อให้ประชาชน พอใจและเลือกตนเข้าไปบริหารประเทศและจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนโยบายคือ สินค้าที่นำเสนอเพื่อใช้ในการหาเสียงมักนำ หลักการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การตลาดแบบบูรณาการ มาประยุกต์ โดยทำทุกวิถีทางให้ประชาชนเข้าใจว่านี่คือพรรค เปรียบได้เสมือนเป็นตัวแทน สัญลักษณ์ ตรา ยี่ห้อ ไม่ว่าจะ เป็นการรับสมัครสมาชิกพรรค โดยแจกเสื้อที่มีโลโก้และ สัญลักษณ์ให้สมาชิกทุกคนเพื่อให้ประชาชนรู้ว่านี่คือ ชื่อพรรค นี่คือสัญลักษณ์ของพรรค ซึ่งตามแต่กุศโลบายของแต่พรรคที่จะ นำมาใช้ ไม่ว่าทางใด ก็เพื่อให้ประชาชนสนใจซื้อ เลือก หรือ พึงพอใจให้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องมีผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อ วางแผนในรูปแบบของตลาดการเมือง 2. หาเสียงโดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ถึงประวัติส่วนตัวของผู้สมัครผ่านส่ือต่างๆ เช่น สิ่งพิมพ์ ป้ายหาเสียง ใบปลิว คำปราศรัยที่ออกอากาศสื่อทางวิทยุ โทรทัศน์หรือทางอินเตอร์เน็ตนั้นการแพร่ข้อมูลข่าวสารในการ หาเสียงเลือกตั้งนั้น การแพร่ข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนเป็น วิธีการหนึ่งที่ผู้สมัครทำให้ประชาชนเกิดการเปลี่ยนแปลงความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมโดยมีการสื่อสารระหว่างบุคคลเป็นตัว 145
นักการเมืองถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ ตอกย้ำในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ภายหลังการแพร่จาก สื่อมวลชนแล้วฉะนั้นสื่อมวลชนอาจไม่ใช่ตัวการที่มีอิทธิพลต่อ พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงสื่อมวลชนเป็นเพียงตัวหล่อหลอม ความคิดเห็นทางการเมืองเรื่องการเลือกตั้งโดยเฉพาะนวัตกรรม ทางความคิดมากกว่าพฤติกรรมประกอบด้วยขั้นการโน้มน้าว ในยอมรับและลงท้ายด้วยการประเมินผลซึ่งสื่อมวลชนจะมี ความสำคัญเพียงในแง่ของการแพร่ข้อมูลข่าวสารนอกจากนั้น การสื่อสารระหว่างบุคคลจะเป็นตัวการในการตีความจาก สื่อมวลชนต่อไปจนถึงระดับการชักจูงให้ไปลงคะแนนเสียง หรือ แม้กระทั่งการเป็นบุคคลในอุดมคติที่ตามมาตรฐานของ สาธารณะชนการสร้างความน่าไว้วางใจและการมีศีลธรรม การลงพื้นที่เพื่อพบปะชาวบ้านเพื่อแนะนำประวัติของ ผู้สมัครรวมทั้งนโยบายในการหาเสียงรวมทั้งเพื่อซักถามพูดคุย ปัญหาในพื้นที่และชีวิตของประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน ตำบล นักการเมืองถิ่นทุกท่านมีความเห็นพ้องต้องกันว่าวิธีการหาเสียง โดยการลงพื้นที่เพื่อพบปะชาวบ้านนี้เป็นวิธีการที่จำเป็นและ มีความสำคัญมากที่สุดผู้สมัครที่สามารถใช้เวลาในการคลุกคลี และสัมผัสกับชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้ยาวนานเท่าไรก็จะมี โอกาสได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกตั้งเข้ามาเป็น ส.ส.ได้อย่างไม่ยากเย็นนักไม่ว่าจะเป็น นายปัญจะ เกสรทอง ได้เป็น สส.ถึง 11 สมัย นายจรัส พั้วช่วย ได้เป็น สส.ถึง 9 สมัย นายไพศาล จันทรภักดี ได้เป็น สส.ถึง 8 สมัย และนายเอี่ยม ทองใจสด ได้เป็น สส.ถึง 8 สมัย ต่อมาเมื่อสังคมมีการ เปลี่ยนแปลงไปผู้สมัครอาจจะใช้วิธีไปปราศรัยในงานวัดหรือ งานรื่นเริงประจำปีซึ่งมีประชาชนมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก 146
วิธีดำเนินการวิจัย 3. การปราศรัยหาเสียงต่อสาธารณชน เป็นการพูด เปิดเผยต่อหน้าสาธารณะฉะนั้น ผู้สมัครจะวางแผนในการ กล่าวต่อหน้าผู้คนจำนวนมากซึ่งอาจต้องปราศรัยด้วยตนเอง หรือควบคู่ไปกับการใช้ตัวแทนโดยในการตัดสินใจที่จะปราศรัย การที่สมาชิกผู้แทนราษฎรจะปราศรัยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ ประโยชน์สมาชิกผู้แทนราษฎรจะได้รับดังนั้นสิ่งที่ผู้สมัคร ตระหนักคือประชาชนหรือกลุ่มใดจะมาฟังและขอบเขตของ สาระที่กำหนดเนื่องจากสาระที่พดู คาดคะเนได้จากสถิติที่บันทึก ไว้ในอดีตกับการหยั่งเสียงในปัจจุบันในการนำมาวิเคราะห์ให้ สอดคล้องกับภูมิหลังและรสนิยมของกลุ่มผู้ฟังทั้งนี้สมาชิก ผู้แทนราษฎรจะต้องรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับเขตการเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อนำมาวางแผนในการปราศรัยหาเสียงตั้งแต่การเคาะ ประตูการเดินพาเหรดการพูดบนเวทีและการใช้ขบวนรถเพื่อให้ เกิดผลในการสร้างคะแนนนิยมให้มากที่สุดและต้องลงทุนน้อย ที่สุดในการดึงคนส่วนใหญ่มาสนับสนุนสาระในการหาเสียง จะสร้างความพึงพอใจให้กับกลุ่มผู้ฟังความสามารถของการ ปราศรัยของสมาชิกผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่มีความชำนาญทั้งใน รูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการโดยการพูดกระชับและ เปิดให้มีการซักถามได้ 4. การเข้าถึงตัวผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ในการ หาเสียงหรือเรียกว่า “เคาะประตูบ้าน” ซึ่งจะกระทำในเขต ชุมชนหนาแน่นเช่น ชุมชนตลาดเขตเมือง ศูนย์การค้า ผู้สมัคร ได้ประโยชน์จากการหาเสียงโดยใช้การเข้าถึงตัวผู้มีสิทธิ ออกเสียงเลือกตั้งนั้นช่วยสร้างภาพพจน์ว่าเป็นสมาชิกผู้แทน 147
นักการเมืองถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ ราษฎรที่ชาวบ้านเข้าถึงได้และสร้างความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนม ให้เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งการเดิน “เคาะประตูบ้าน” เป็นวิธีการที่ผู้สมัคร ทุกคนใช้แนะนำตัว พร้อมแจกบัตรที่แสดงชื่อ เบอร์และพรรคไป ด้วย มีการรณรงค์หาเสียงมีแผนงาน ทั้งแผนงานในภาพรวม ตลอดระยะเวลาของการเลือกตั้ง ก่อนการเลือกตั้ง ระหว่างการ เลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง จะทำอะไรบ้าง ซึ่งมีแผนงานไว้ ทั้งหมดจัดตารางเวลาหาเสียงในเขตเลือกตั้งนอกจากนี้ หัวคะแนนคือ ผู้ที่เป็นหูเป็นตา ในหมู่บ้าน ชุมชนนั้นๆ ช่วย อธิบายความเรื่องต่างๆ แทนผู้สมัคร หัวคะแนนจึงต้องมีความรู้ รับรู้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับผู้สมัคร หัวคะแนนมีความรู้มาก เท่าใด การเลือกตั้งก็ใกล้ชัยชนะมากเท่านั้นการเรียกชื่อ ผู้สนับสนุน ว่า “หัวคะแนน” อาจจะไม่เหมาะสม และคนที่ถูก แต่งตั้งอาจจะไม่พอใจ หรือสร้างความไม่พอใจเกิดขึ้นแก่หมู่คน อ้างว่า พวกนี้ได้รับเงินจากผู้สมัคร ได้สิทธิประโยชน์มากกว่า ประชาชน คนเลือกตั้ง การแต่งตั้งหัวคะแนน จึงไม่ประสบ ความสำเร็จในการเลือกตั้งเสมอไปหรือประชาชนไม่เอาด้วยกับ หัวคะแนน มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมากมายในการเลือกตั้ง แต่ละครั้งประเด็นจึงหันมาที่ “ผู้สมัคร” เป็นสำคัญ ผู้สมัคร บางรายอาจไม่มีหัวคะแนนเลย โดยให้ประชาชนทุกคนเป็น ผู้สนับสนุนให้ประชาชนเขาเข้าใจจริงๆ จะเห็นได้ว่านักการเมืองถิ่นและพรรคการเมืองมีความ เข้าใจถึงการรณรงค์อย่างลึกซึ้งเนื่องด้วยลักษณะของงาน การเมืองต้องเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งประเทศนักการเมืองถิ่น 148
วิธีดำเนินการวิจัย ต้องดำเนินกิจกรรมต่างๆของพรรคการเมืองตามอุดมการณ์ สิ่งเหล่านี้นักการเมืองถิ่นดำเนินการอยู่ตลอดเวลาพยายาม ที่จะสื่อสารกับประชาชนความสัมพันธ์ของนักการเมืองถิ่น กับประชาชนอาจจะห่างไกลกันจนทำให้ประชาชนไม่มีความ ศรัทธาต่อพรรคการเมืองนั้นๆ ต่อไปด้วยเหตุนี้การรณรงค์ของ นักการเมืองถิ่นจึงมีการดำเนินงานอยู่อย่างต่อเนื่องโดยใช้ช่อง ทางในการสื่อสารหรือสื่อในการสื่อสาร ได้แก่ สื่อมวลชนเป็นสื่อ ที่ทำให้ข่าวสารส่งสารไปยังผู้รับสารเป้าหมายจำนวนมากๆ ได้แก่หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง ภาพยนตร์ แผน่ ปา้ ยสตกิ เกอร์ สอ่ื ทเ่ี ปน็ สอ่ื มวลชนจะมลี กั ษณะเปน็ ตวั กลาง หรือตัวเชื่อมระหว่างแหล่งข้อมูลข่าวสารและกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสื่อบุคคลในการโน้มน้าวจิตใจผู้รับสารสามารถจูงใจ บุคคลให้เปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ฝังรากลึกได้ดังนั้น เพื่อให้การ สื่อสารทางการเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนักการเมืองถิ่น เลือกใช้สื่อโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการสื่อสารเนื้อหา ของสารธรรมชาติของผู้รับสารและจังหวะเวลาเช่นถ้าเนื้อหา ทางการเมืองที่ถ่ายทอดเป็นเรื่องเกี่ยวกับนโยบายที่ซับซ้อนยาก แก่การเข้าใจจะใช้สื่อบุคคลมากกว่าสื่อวิทยุหรือโทรทัศน์ ในการจูงใจผู้มีสิทธิออกเสียงให้เลือกตนเป็นผู้แทนราษฎร ในขั้นแรกนักการเมืองถิ่นจะใช้สื่อมวลชนเพื่อบอกผู้มีสิทธ ิ ออกเสียงในเขตของตนทราบว่าตนได้ลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ในขั้นท้าย ๆ ของการรณรงค์จะใช้สื่อบุคคล เช่นผู้นำทางความ คิดหัวคะแนนหรืออาสาสมัครออกไปเคาะประตูบ้านเพื่อจูงใจ และกระตุ้นประชาชนผู้สนับสนุนตนให้ไปลงคะแนนเสียงให้ตน 149
นักการเมืองถ่ินจังหวัดเพชรบูรณ์ อาจสรุปได้ว่าวิธีการหาเสียงในการเลือกตั้งของนักการ เมืองถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า นักการเมืองถิ่นมีขั้นตอน ในการหาเสียง ดังนี้ 1. วางแผนการหาเสียง 2. หาเสียง โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงประวัติส่วนตัวของ ผู้สมัครผ่านสื่อต่างๆ 3. หาเสียงโดยการปราศรัยต่อสาธารณชน และ 4.หาเสียงแบบเข้าถึงตัวผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังพบว่านักการเมืองถิ่นมีวิธีการหาเสียงหลาย รูปแบบ เช่น การหาเสียงแบบเข้าถึงประชาชนโดยใช้ความ สามารถและบุคลิกเฉพาะตัว การลงพื้นที่พบปะประชาชน การแจกสิ่งของและการจัดเลี้ยงก่อนลงสมัครับเลือกตั้ง การ เข้าร่วมงานพิธีต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยรูปแบบ ที่สำคัญที่สุดคือการลงพื้นที่พบปะประชาชนร่วมกิจกรรม อย่างต่อเนื่อง บทส่งท้ายการวิเคราะห์การเมือง ในจังหวัดเพชรบูรณ์ การใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด เพชรบูรณ์ ประชาชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 – ถึงปัจจุบัน จากสถิติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด เพชรบูรณ์ที่ผ่านมา ประชาชนในจังหวัดเพชรบูรณ์จะนิยมในตัว บุคคลมากกว่าพรรคการเมือง ถึงแม้ว่าบุคคลที่เป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรในสมัยที่ผ่านมาจะย้ายพรรค แต่ประชาชนใน จงั หวดั เพชรบรู ณก์ ย็ งั คงใหค้ วามไวว้ างใจ และลงคะแนนเสยี งให้ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าประชาชนมีความนิยมในตัวสมาชิกสภา 150
วิธีดำเนินการวิจัย ผู้แทนราษฎร มากกว่าพรรคการเมืองที่สังกัดอยู่ (ยกเว้น 2 ครั้ง หลัง ซึ่งมีกระแสของพรรคการเมืองที่มาแรง ทำให้ประชาชน ตัดสินใจเลือกพรรคมากว่าที่จะเลือกคน) จากข้อมูลและสถิติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 – ถึงปัจจุบัน ปรากฏว่าจังหวัดเพชรบูรณ์ มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรรวมทั้งหมด 24 ครั้งและการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรทั้ง 24 ครั้งที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าจังหวัดเพชรบูรณ์ มีการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง คือได้รับ ใบแดงในการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งครั้งที่ 21 พ.ศ. 2544 ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขตที่ 1 และเขตที่ 4 จากพรรค ไทยรักไทย ส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งได้รับใบเหลืองมีเพียง 1 ท่าน คือในปี พ.ศ. 2550 ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 1 จากพรรคประชา- ธิปัตย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดเพชรบรู ณ์ มีความขาวสะอาด มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม และมีการทุจริต การคดโกงน้อยมาก จึงแสดงให้เห็นว่า ประชาชนในจังหวัดเพชรบูรณ์มีระดับการศึกษาที่ดี และมีความ รู้ความเข้าใจในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่างโปร่งใส และถูกต้อง การวิเคราะห์การเมืองในจังหวัดเพชรบูรณ์ จุดแข็งของการเมืองในจังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัด เพชรบูรณ์เป็นพื้นที่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มลี กั ษณะแบง่ เขตเลอื กตง้ั ออกเปน็ เขต ซง่ึ จดุ นท้ี ำใหน้ กั การเมอื ง สามารถบริหารจัดการแบบไม่ทับซ้อนกัน สามารถดูแลพื้นที่ 151
นักการเมืองถ่ินจังหวัดเพชรบูรณ์ ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่มีการข้ามเขต อีกทั้งการรวมกลุ่ม ของนักการเมืองในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อที่จะเพิ่มความเข้มแข็ง ในการพัฒนาจังหวัดให้ก้าวหน้าต่อไป ถึงแม้ว่านักการเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์จะอยู่ต่างพรรคก็ตาม แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร มากนัก ซึ่งต่างจากในอดีตที่ผ่านมา จะเป็นไปในรูปแบบ ต่างคนต่างเลือก ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน เหมือนปัจจุบัน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ ในอดีตที่ผ่าน ประชาชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ค่อนข้างมีความ ตื่นตัวในการออกไปใช้สิทธิ ใช้เสียงในการเลือกตั้ง โดยจะเห็น ได้จากผลการเลือกตั้ง 2 ครั้งหลัง คือในปี พ.ศ. 2550 ประชาชน ที่ออกไปใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ 68.97 และในปี พ.ศ. 2554 ประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ 72.12 แสดงให้เห็นว่า ประชาชนในจังหวัดเพชรบูรณ์มีความตื่นตัวในการออกไป ใช้สิทธิ ใช้เสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ค่อนข้างสูง ประชาชนต้องการมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย โดยการออกไปใช้สิทธิทางอ้อมโดยการออกไป เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกหนึ่งปัจจัยก็คือ การที่ ประชาชนมีการศึกษาที่สูงขึ้น มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทางการเมืองของจังหวัด เพชรบรู ณ์ จุดอ่อนของการเมืองในจังหวัดเพชรบูรณ์ การที่ นักการเมืองถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ มีเครือญาติเครือข่ายในการ หาเสยี งมากมาย (หวั คะแนน) ทำใหม้ คี วามเปน็ ไปไดท้ เ่ี ครอื ญาติ 152
วิธีดำเนินการวิจัย เครือข่ายของนักการเมืองถิ่นจะตอบสนองต่อกลุ่มผลประโยชน์ ที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้การรวมตัวของนักการเมืองถิ่นจังหวัด เพชรบูรณ์กลับกลายเป็นว่าผลประโยชน์ตกอยู่ที่กลุ่ม ผลประโยชน์เท่านั้น ทายาทของนักการเมืองถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็เป็น อีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดอ่อนเนื่องจาก มีการสืบทอดอำนาจของ นักการเมืองถิ่นในจังหวัดเพชรบูรณ์ อำนาจทางการเมืองก็จะ ตกอยู่ในมือของอดีตนักการเมืองหรือกลุ่มผลประโยชน์ที่มีส่วน เกี่ยวข้องเท่านั้น วิกฤตทางการเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ การเมืองไทย ในอดีตที่ผ่านมา จุดที่เป็นวิกฤตในทางการเมืองคือ การก่อ รัฐประหาร 4 ครั้ง การปฏิวัติ 2 ครั้ง การปฏิรูปการปกครอง 1 ครั้ง การยึดอำนาจ 1 ครั้ง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นจุดเปลี่ยน ของการเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเมืองการการปกครองยังคง อยู่ภายใต้ระบบทหาร ยังไม่ได้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง มีทหาร เข้าไปควบคุมการเมืองของไทย โอกาสทางการเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ การเลือกสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2540 การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่า เป็นโอกาสทางการเมืองไทย เป็นปรากฏการณ์ใหม่ทาง การเมืองไทย เพราะนับตั้งแต่รัฐธรรมนญู ฉบับที่ 16 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาใช้ และรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญในยุคของการปฏิรูปการเมือง ให้การเมืองไทยมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น 153
นักการเมืองถ่ินจังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็น การทั่วไป พ.ศ. 2550 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกภายใต้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และ ครั้งแรกภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 เป็นการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปภายใต้รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กำหนดให้มีขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ตามความในพระราช- กฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554 ที่ให้ยุบสภาผู้แทน ราษฎรเสีย ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในจังหวัดเพชรบูรณ์ออกมาใช้สิทธิทั้งสิ้น 72.12% จากจำนวน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 739,554 คน ซึ่งการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรที่ผ่านมานั้น การใช้สื่อประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร การตลาดแบบผสมผสานเพื่อการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งของ ผู้สมัครและพรรคการเมือง ต่างๆ ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยได้มีการศึกษา วิเคราะห์และ วางแผนการใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบ ผสมผสานเพื่อการรณรงค์หาเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ทำให้ การรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งนี้ เป็นการแข่งขันกันนำเสนอกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด เสมือนหนึ่งผู้สมัครและพรรคการเมืองเป็นสินค้ามากที่สุดใน ประวัติศาสตร์การเมืองไทย กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบ 154
วิธีดำเนินการวิจัย ผสมผสานเพื่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้ประชาชนได้ประโยชน์จากวิธีการ รณรงค์หาเสียงในแบบต่างๆ ของทั้งพรรคการเมืองและตัว ผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเอง 155
บ4ทท ี่ สรุปผลการศึกษา การวิจัยสำรวจเพื่อประมวลข้อมูลนักการเมืองถิ่น : จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการศึกษาการเมืองของนักการเมืองระดับ ชาติ ตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปของสมาชิกผู้แทนราษฎรครั้งแรก จนถึงปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับเครือข่ายและความ สัมพันธ์ของนักการเมือง และบทบาทของกลุ่มผลประโยชน์ และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการต่างๆ บทบาทและความสัมพันธ์ของ พรรคการเมืองกับนักการเมืองภายในจังหวัด ตลอดจนรูปแบบ วิธีการ และกลวิธีต่างๆ ที่นักการเมืองใช้ในการเลือกตั้ง แต่ละ ครั้งซึ่งการศึกษาวิจัยครั้งนี้จะนำมาเป็นข้อมูลสารสนเทศในการ ศึกษาและก่อให้เกิดพัฒนาการกระบวนการเลือกตั้งที่นำไปสู่
สรุปผลการศึกษา การเมืองการปกครองที่มีความโปร่งใสมีเสถียรภาพส่งผลต่อ การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศ การศึกษาในครั้งนี้ อาศัยรูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพเป็น เครื่องมือในการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้วิธีการ ศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ การสัมภาษณ์ผู้มีสิทธิออก เสียงเลือกตั้งและนักการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และ เฝ้าสังเกตติดตามความเคลื่อนไหวในพื้นที่และนำข้อมูลที่เก็บ รวบรวมได้มาจัดทำโดยการจัดเป็นตารางข้อมูลนักการเมืองถิ่น จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการศึกษาเรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัด เพชรบูรณ์สามารถสรุปวัตถุประสงค์ทั้ง 3 ประเด็น ได้ดังตาราง ต่อไปนี้ 157
นักการเมืองถ่ินจังหวัดเพชรบูรณ์ 158 ตารางที่ 16 บทสรปุ ข้อมลู นักการเมอื งถนิ่ เพชรบูรณ์ รายช่อื ข้อมลู เบื้องตน้ / ภูมหิ ลัง เครือขา่ วธิ ีการหาเสยี ง นกั การเมอื งถนิ่ ยผสู้ นับสนุน ทางการเมือง 1 2 3 4 1. ขุนอินทรภักดี - - - - (ทองอิน ทองมาก) การศกึ ษา อาชพี สงั กัดพรรค เขต จำนวน ตำแหนง่ ทางการ กลุ่มผสู้ นบั สนนุ - - - - 2. ขุนอนุสรสิทธิกรรม - ไม่ปรากฏ เลือกตั้ง สมยั เมอื ง - - - - (ทองดี วัชโรทยาน) อดีต 3 .นายเชื้อ สนั่นเมือง - ข้าราชการ 1 1 - - 4. พ.ต.ต.สงกรานต์ อดีต อุดมสิทธิ - ข้าราชการ ไม่ปรากฏ 1 2 - - - - ไม่ปรากฏ 1 1 - - อดีตข้าราชการ - เสรีมนังคศิลา 1 4 - รัฐมนตรี 1.กลุ่มเครือญาติ - สหประชาไทย ช่วยว่าการกระทรวง 2.พรรคการเมืองต้น ศึกษาธิการ สังกัด - รัฐมนตรี 3.กลุ่มการเมือง ช่วยว่าการกระทรวง ท้องถิ่นและท้องที่ มหาดไทย 4.กลุ่มนักธุรกิจใน พื้นที่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237