Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 29นักการเมืองถิ่นแพร่.

29นักการเมืองถิ่นแพร่.

Description: เล่มที29นักการเมืองถิ่นแพร่.

Search

Read the Text Version

นักการเมอื งถ่นิ จงั หวัดแพร่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ (อดตี ส.ส.แพร)่ บทบาททางการเมอื ง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เร่ิมลงสนามการเมืองในนามกลุ่ม เมืองแพร่ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ เม่ือปี พ.ศ.2533 ดำ�รงตำ�แหน่ง 2 สมยั ขณะที่ นายเมธา บดิ าของนายวรวจั น์ เอ้ืออภญิ ญกลุ วางมอื ทางการเมือง เมอ่ื ปี พ.ศ.2539 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ลงสมัครรับเลือกต้ัง สมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรจงั หวัดแพร่ สมัยแรก ในการเลอื กต้งั ทัว่ ไป คร้งั ท่ี 19 ของ ประเทศ เม่อื วนั ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ในสังกัดพรรคชาตไิ ทย สมยั ท่ีสอง การเลอื กตง้ั ทัว่ ไป ครั้งที่ 20 เม่อื วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 โดยยา้ ยไปสังกัด พรรคไทยรักไทย สมยั ที่สาม การเลือกตงั้ ทั่วไป ครง้ั ท่ี 21 เมื่อวนั ที่ 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ตอ่ มา พรรคไทยรกั ไทยถกู ค�ำ พพิ ากษาของศาลรฐั ธรรมนญู มคี �ำ สง่ั ยบุ พรรค จงึ ยา้ ยไปสงั กดั พรรคพลงั ประชาชน ซง่ึ คณะกรรมการ บริหารพรรคได้เตรียมไว้รองรับหลังคำ�พิพากษาของตุลาการศาล รัฐธรรมนูญ สมัยที่สี่ การเลือกตงั้ ทว่ั ไป ครั้งที่ 22 (ครง้ั ลา่ สดุ ) เมือ่ วันท่ี 23 ธนั วาคม พ.ศ.2550 ตอ่ มา พรรคพลงั ประชาชนถกู ค�ำ พพิ ากษาของศาล รัฐธรรมนญู มคี �ำ สัง่ ยบุ พรรค อกี คร้ังหน่ึง จงึ ย้ายไปสังกัดพรรคเพ่อื ไทย ในปัจจบุ นั (ปี พ.ศ. 2552) บทบาทและประสบการณท์ างการเมอื งทสี่ �ำ คญั ของ นายวรวจั น์ เออ้ื อภญิ ญกลุ ดว้ ยความหนมุ่ ทเ่ี ตบิ โตมาในครอบครวั นกั การเมอื งและ แวดวงลอ้ มรอบด้วยการเมอื ง ทงั้ การเมอื งระดบั ทอ้ งถนิ่ และการเมือง 86

ขอ้ มูลการเมืองถ่นิ และนกั การเมืองถ่ินจงั หวดั แพร่ ระดับชาติ เรียกได้ว่าเกิดและเติบโตมากับถนนสายการเมือง ด้วย บุคลิกภาพที่สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนแต่ดุดันในการแสดงความคิดเห็น ทางการเมืองไม่เกรงกลัวใคร มีความขยันในการทำ�งานมุ่งมั่นกับการ ตอ่ สบู้ นอดุ มการณท์ างการเมอื งทม่ี คี วามเชอ่ื ถอื จงึ เหน็ บทบาทส�ำ คญั ๆ หลายคร้ังในการตั้งกระทู้ถาม การอภิปรายท่ัวไป การอภิปรายไม่ไว้ วางใจในสภาผู้แทนราษฎร และในการให้สัมภาษณ์พร้อมตอบข้อซัก ถามผู้สือ่ ขา่ ว นายวรวัจน์ ได้รับการมอบหมายตำ�แหน่งสำ�คัญทางการเมือง ไดแ้ ก่ 1. เลขานุการรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวทิ ยาลัย 2. ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและ สวสั ดิการสังคม 3. เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 4. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวฒั นธรรม (สมยั นายสมชาย วงศส์ วสั ด์ิ นายกรฐั มนตร)ี บทบาททไี่ ด้รบั การกลา่ วขาน ในขณะที่ ดำ�รงต�ำ แหนง่ รฐั มนตรี ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คือ แนวคดิ ทจี่ ะน�ำ ความเช่ือ และพิธกี รรม ทางไสยศาสตร์มาทำ�เป็นสินค้าทางวัฒนธรรม เพ่ือจำ�หน่ายเป็นของ ที่ระลึก จนได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนจำ�นวนมาก จึงยัง ไมท่ ันได้ด�ำ เนนิ การ เครือขา่ ยและความสัมพันธ์ เครือข่ายความสัมพันธ์ของกลุ่มการเมือง กลุ่มอิทธิพล และ 87

นกั การเมืองถนิ่ จงั หวดั แพร่ กลุ่มผลประโยชน์ในจังหวัดแพร่ เป็นสิ่งท่ีปฏิเสธไม่ได้กับนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เพราะเขาคือคนใน “ตระกูลเอ้ืออภิญญกุล” ท้ังใน ฐานะบุตรชายของนายเมธา เอื้ออภิญญกุล น้องชายของนางปาน หทัย เสรีรักษ์ ผู้เปน็ ภรรยาของ นายแพยท์ทศพร เสรรี กั ษ์ (พ่เี ขย) อัน มีสายสัมพันธ์สนิทแนบแน่นกับ “ตระกูลวงศ์วรรณ” ท่ีมีนายณรงค์ วงศ์วรรณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มากด้วยประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถทางการเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง หลายพรรค รฐั มนตรหี ลายกระทรวง รองนายกรฐั มนตรี และเกอื บเปน็ นายกรัฐมนตรีมาแล้ว นายอนุวัธ วงศว์ รรณ นายอนุสรณ์ วงศว์ รรณ อกี ทง้ั ยงั คนุ้ เคยกนั ดกี บั ครอบครวั อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 7 สมยั จงั หวดั แพร่ คือ นายดสุ ิต รงั คสิริ ความสัมพันธ์จากสหายธุรกิจในรุ่นบุกเบิกสมัยบิดา มาเป็น ความสัมพันธ์เชิงกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มอิทธิพล สู่ความสัมพันธ์ทาง การเมือง จากระยะก่อร่างสร้างตัวทางการเมืองในรุ่นบิดาระหว่าง นายเมธา เอ้ืออภิญญกุล กับนายณรงค์ วงศ์วรรณท่ีระยะเร่ิมต้น กา้ วสกู่ ารเมืองท่ียังคงกระจดั กระจายกันคนละพรรค บางชว่ งบางเวลา ทางการเมืองนายณรงค์ วงศ์วรรณ เร่ิมต้นท่ีพรรครวมไทย พรรค กิจสังคม และพรรคเอกภาพ กระทั่ง การก่อตั้ง “พรรคสามัคคีธรรม” ในขณะท่ี นายเมธา เอ้ืออภิญญกุล เร่ิมก่อร่างสร้างตัวทางการเมือง จากพรรคธรรมสังคม และว่างเว้นทางการเมืองยาวนานก่อนกลับ มาแจ้งเกิดใหม่ในสังกัดพรรคชาติไทย ตามคำ�ชักชวนของนายดุสิต รังคสิริ กระท่ัง 3 สหายมาบรรจบพบกันเป็นทีมผู้สมัครรับเลือกต้ัง ทีมเดียวกันในสังกัด “พรรคชาติไทย” ตั้งแต่การเลือกต้ังทั่วไปคร้ังที่ 17 เม่อื วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535 กอ่ นท่เี ครือข่ายความสัมพนั ธ์ 88

ข้อมลู การเมอื งถิน่ และนกั การเมืองถน่ิ จังหวัดแพร่ จะเหนียวแนน่ ตกมาสู่นกั การเมืองถ่ินจังหวดั แพร่ร่นุ ตอ่ มา (รุ่นลกู ) คอื นายวรวัจน์ เอ้อื อภญิ ญกุล นายแพทยท์ ศพร เสรรี ักษ์ นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ นายอนวุ ัธ วงศว์ รรณ และ นายอนสุ รณ์ วงศ์วรรณ (สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำ�พูน) ในเครือข่ายสังกัด พรรคชาติไทย พรรคไทยรกั ไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ตามลำ�ดบั ของสถานการณท์ างการเมือง กลยุทธ์การหาเสยี ง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นักการเมืองหนุ่มไฟแรง ที่สะสม ประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างมากมายทั้งในสนามเล็กระดับ ท้องถิ่น ผ่านการเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ 2 สมยั ขณะท่ี มอี ายเุ พยี ง 31 ปี กอ่ นทจี่ ะกา้ วสเู่ วทกี ารเมอื งระดบั ชาตใิ นฐานะสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ในนามของพรรค ชาตไิ ทย และไดร้ บั การเลอื กตง้ั 4 สมยั ตดิ ตอ่ กนั ถงึ ปจั จบุ นั (ปี พ.ศ. 2552) บวกกบั การเรยี นรแู้ บบฝงั ลกึ จากครอบครวั โดยนายเมธา เออ้ื อภญิ ญกลุ ผ้บู ิดา ด้วยความเป็นนักการเมืองรนุ่ ใหม่ จงึ มีเทคนคิ วิธกี ารผสมผสาน กลยทุ ธร์ นุ่ พอ่ กบั กลยทุ ธร์ นุ่ ใหมเ่ ขา้ ดว้ ยกนั อยา่ งผสมกลมกลนื เรยี กวา่ กลยทุ ธ์ “เข้าใจ เข้าหา และเข้าใหถ้ ึง” 1. กลยุทธเ์ ขา้ ใจ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล จะพยายามศึกษาปัญหาของ ประชาชนในพื้นที่ ว่าประชาชนมีปัญหาอะไร มีความต้องการ และมี ความปรารถนาอยากไดค้ วามชว่ ยเหลอื อะไร เรยี กวา่ “สรา้ งความเขา้ ใจ ในความตอ้ งการของชาวบา้ น” เพอื่ ทจี่ ะวเิ คราะหว์ า่ ปญั หาของชาวบา้ น มีสาเหตุมาจากอะไร จึงแสวงหาแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขท่ีตรงกับ 89

นกั การเมอื งถ่ินจังหวัดแพร่ ส่ิงทช่ี าวบา้ นต้องการให้ช่วยเหลอื ซงึ่ นายวรวัจน์ มีความเชอ่ื ว่า นคี่ อื ผลงานทจ่ี ะสามารถนง่ั ในใจชาวบา้ นได้ เมอ่ื ถงึ ชว่ งรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตง้ั ชาวบา้ นผู้เคยได้รบั โครงการความชว่ ยเหลือต่าง ๆ กจ็ ะเลอื กเขาเข้าสู่ สภาผู้แทนราษฎร ซึง่ ที่ผ่านมาการเลอื กต้งั 4 สมัย เปน็ เครอื่ งพสิ จู นท์ ่ี ดใี นผลงาน ซ่งึ นายวรวัจน์เคยพดู เสมอวา่ “เวลาหาเสยี งไม่จำ�เป็นต้อง แจกเงนิ เวลาเป็นส.ส.แจกผลงานให้ชาวบ้านเหน็ ดกี ว่า หมายถึง การ เปน็ ส.ส.ผลงานตอ้ งเขา้ ตากรรมการ (ชาวบา้ น) ถา้ ไมม่ ผี ลงาน ชาวบา้ น ไม่เคยเห็นหัว เลือกให้ตายกี่สมัยก็ไม่มีทางได้เป็นส.ส.ชาวบ้านเขาไม่ โง่ เงินซอ้ื เขาไม่ได้ แน่นอนเงนิ ให้เขา เขารับแตเ่ ขาไมเ่ ลือก ตวั อยา่ งมี ให้เห็นเยอะแยะ” 2. กลยทุ ธเ์ ขา้ หา ช่วงเวลาของการหาเสียงเลือกต้ัง การเข้าหาชาวบ้านในเขต พน้ื ทเี่ ปน็ วธิ ที ดี่ ที สี่ ดุ ไปดว้ ยตนเองบา้ ง ทมี งานบา้ งสลบั กนั ไปใชท้ มี งาน อยา่ งเดยี วไมไ่ ด้ เพราะชาวบา้ นเขาตอ้ งการเหน็ หนา้ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ มีแผ่นปลิว โปสเตอร์ คัทเอ้าท์ Bill Board การปราศรัย ทั้งเวทีเล็ก เวทีใหญใ่ ช้ทุกรูปแบบ รถยนตแ์ ห่ เดินตลาด ยา่ นชุมชน หมู่บา้ นราย ครัวเรือน ไปวัดพบผู้เฒ่าผู้แก่ โรงเรียน ต้องเข้าหาให้หมดเพื่อบอก นโยบายของพรรค และของเราวา่ จะท�ำ อะไรตอ่ ไป เพอ่ื พน่ี อ้ งประชาชน ของเรา 3. กลยุทธ์เข้าใหถ้ ึง เมื่อเขา้ ใจปัญหาความทกุ ข์ยากเดอื ดร้อนของประชาชน และ เข้าหาประชาชนอย่างกว้างขวางแล้ว เราต้องเข้าให้ถึงใจของเขาด้วย ตอ้ งเขา้ ใจวา่ ประชาชนทเ่ี ราไปหาเสยี ง ผสู้ มคั รคนอนื่ เขากเ็ ขา้ ไปหาเสยี ง เชน่ เดยี วกนั เราไปเขากไ็ ป ประชาชนในพนื้ ทเ่ี ดยี วกนั ในเวทกี ารแขง่ ขนั 90

ขอ้ มูลการเมืองถิ่น และนกั การเมืองถ่นิ จงั หวดั แพร่ ดังน้ัน เมื่อเข้าหาประชาชนแล้วต้องเข้าให้ถึงใจเขาด้วย ต้องนั่งในใจ ชาวบ้านใหไ้ ด้ คะแนนจึงจะมา น่คี อื กลยุทธเ์ ข้าให้ถึง ต้องประเมินผล ให้ได้ว่าแต่ละระยะเวลาของการหาเสียงเรามีคะแนนนิยมที่เข้าถึงใจ เขาหรือไม่ นอกจากที่ กล่าวมาเกี่ยวกบั กลยทุ ธ์การหาเสียงทน่ี ายวรวัจน์ ใชใ้ นชว่ งการหาเสยี งเลอื กตง้ั และการบอกเลา่ ของคนใกลช้ ดิ สงิ่ ส�ำ คญั ที่นายวรวัจน์ไม่เคยลืมเลย คือ ชาวบ้านต้องพบหาง่าย ไม่ใช่อยู่แต่ กรุงเทพฯ ไม่เคยกลับมาพัฒนาพ้ืนที่และเวลาออกพ้ืนที่ ต้องเหมือน นกขม้นิ “คํา่ ไหนนอนนน่ั ” ไดท้ ้ังศาลาวดั โรงเรยี น และบา้ นชาวบา้ น นายแพทย์ทศพร เสรีรกั ษ์ นายแพทยท์ ศพร เสรรี ักษ์ เกดิ เม่ือ วนั ท่ี 8 มนี าคม 2498 บิดา ชื่อ นายอทุ ยั เสรีรกั ษ์ และมารดาชือ่ นางทัศนีย์ เสรีรกั ษ์ มพี ีน่ อ้ ง 4 คน (เป็นบตุ รคนที่ 3) สมรสกับนางปานหทยั เสรรี กั ษ์ (เอ้ืออภญิ ญกลุ ) มีบตุ ร 3 คน (ชาย 1 และหญิง 2 คน) ดา้ นการศึกษา โรงเรียนโชตริ ะวี จังหวดั นครสวรรค์ ชน้ั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นมาลยี ว์ ทิ ยา จงั หวดั นครราชสมี า โรงเรยี นควนวิเศษ จงั หวัดตรงั โรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั ชั้นมัธยมศกึ ษา ปรญิ ญาตรี คณะแพทย์ศาสตร์ ระดบั ปริญญา มหาวทิ ยาลยั มหิดล 91

นักการเมอื งถ่นิ จังหวดั แพร่ สาธารณสขุ ศาสตร์ มหาบณั ฑติ และวฒุ บิ ตั รจกั ษวุ ทิ ยา มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ด้านการท�ำ งาน แพทย์ประจ�ำ โรงพยาบาลแพร่ พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2522 ผอู้ �ำ นวยการโรงพยาบาลสงู เมน่ พ.ศ. 2523 ผู้อ�ำ นวยการโรงพยาบาลแพร่ โรงพยาบาลลอง พ.ศ. 2524 – 2539 ผอู้ �ำ นวยการโรงพยาบาลแพร่ ด้านการเมอื ง ดว้ ยปจั จยั ของการเปน็ บตุ รเขยของนกั การเมอื งจงั หวดั แพร่ นาย เมธา เอือ้ อภญิ ญกุล และ ประสบการณ์การตอ่ สเู้ พอ่ื ประชาธิปไตยใน ฐานะอดตี ผนู้ �ำ นกั ศกึ ษาสมยั เหตกุ ารณ์ วนั ท่ี 6 ตลุ าคม พ.ศ. 2519 ท�ำ ให้ มคี วามใฝฝ่ นั กบั งานการเมอื งมาตลอด และตดั สนิ ใจกา้ วสกู่ ารสมคั รรบั เลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ นายแพทย์ทศพร เสรรี กั ษ์ มเี อกลกั ษณท์ างการสวมเสอ้ื ผา้ ทแ่ี สดงความเปน็ เขยเมอื งแพร่ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ชนดิ ทค่ี นแพรเ่ หน็ จะจ�ำ ได้ คอื การใสเ่ สอ้ื โดยใชผ้ า้ ทต่ี ดั จาก ผ้าฝา้ ยพืน้ เมือง สีเหมอื นเสอ้ื ม่อฮอ่ มแต่จะตัดแบบมปี กมกี ระดุม สวม ใสจ่ นเปน็ เอกลกั ษณต์ ดิ ตวั แมแ้ ตบ่ างครงั้ ในการดำ�เนนิ กจิ กรรมทางการ เมอื งทส่ี ว่ นกลางกรงุ เทพมหานคร ซง่ึ คณุ หมอ ใหส้ มั ภาษณก์ บั ผวู้ จิ ยั วา่ “มันใส่สบายดี ไม่ร้อน และแสดงความเปน็ คนเมืองแพร”่ สมยั แรก การเลอื กตงั้ เมอื่ วนั ท่ี 17 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2539 ดว้ ย คะแนนเสยี ง 121,799 คะแนน ในสังกดั พรรคชาตไิ ทย สมัยทีส่ อง การเลือกต้ังเมื่อวันท่ี 6 มกราคม พ.ศ. 2544 ด้วย 92

ขอ้ มลู การเมืองถิ่น และนกั การเมืองถ่ินจังหวดั แพร่ คะแนนเสียง 59,174 คะแนน ในสงั กัดพรรคไทยรกั ไทย สมยั ทส่ี าม การเลอื กตง้ั เมอื่ วนั ที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2548 ดว้ ย คะแนนเสยี ง 72,162 คะแนน ในสังกดั พรรคไทยรกั ไทย บทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงั หวดั แพร่ สมัยแรกของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรค ชาติไทย ได้รบั ความไวว้ างใจใหเ้ ป็นโฆษกพรรคชาติไทย ตอ่ มา ยา้ ยไป สังกัดพรรคไทยรักไทย ในฐานะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยโดย มบี ทบาททางการเมืองทส่ี ำ�คญั คือ ดำ�รงตำ�แหนง่ เลขานกุ ารรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ ในช่วงท่ี นายอดิศัย โพธารามิก เป็นรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ นอกจากน้ี เคยดำ�รงตำ�แหน่งคณะกรรมาธิการ สภาผแู้ ทนราษฎรด้านเศรษฐกจิ กรรมาธกิ ารพาณชิ ย์ และกรรมาธิการ สาธารณสุข ตามล�ำ ดบั เครือข่ายและความสัมพันธ์ ขอ้ มลู ที่นา่ สนใจ 2 ประการของ นายทศพร เสรรี ักษ์ ด้วยความ เป็นแพทย์ที่มีความใกล้ชิดประชาชนโดยตรงทั้งในฐานะผู้บริหารโรง พยาบาลประจ�ำ จังหวัด การเปดิ คลินกิ รักษาทีบ่ รกิ ารประชาชนคนยาก คนจน ประกอบกับสถานะภาพทางครอบครัวที่เป็นเขยของครอบครัว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ นายเมธา เอ้ืออภิญญกุล (บิดา ของภรรยา) นายวรวัจน์ เออ้ื อภญิ ญกุล (นอ้ งชายของภรรยา) ซ่งึ เป็น ปจั จยั ส�ำ คัญของการกา้ วสกู่ ารไดร้ บั การเลอื กตง้ั เป็นสมาชกิ สภาผแู้ ทน 93

นักการเมืองถนิ่ จังหวัดแพร่ ราษฎร และไดร้ ับการยอมรับจากชาวจงั หวัดแพร่ ส่งิ สำ�คญั อกี ประการ คือ อุดมการณ์ทางการเมืองที่ยึดม่ันมาต้ังแต่สมัยเรียนอยู่ที่คณะ แพทยศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ในชว่ งสมยั การตอ่ สขู้ องนกั เรยี นนสิ ติ นกั ศกึ ษาและประชาชน ในชว่ ง เหตกุ ารณท์ างการเมอื ง วนั ท่ี 6 ตลุ าคม พ.ศ. 2519 ด้วยเครือขา่ ยพ่ีน้องคนเดอื นตุลาคมสายพรรคไทยรกั ไทย เป็นเครือข่ายที่สำ�คัญที่ทำ�ให้นายแพทย์นักต่อสู้ผู้นี้มีความผูกพันกับ เครือขา่ ยพรรคไทยรกั ไทย นายทศพร กลา่ ววา่ ปจั จยั ส�ำ คญั ของการกา้ วสสู่ นามการเมอื ง เกดิ จากอดุ มการณส์ มยั เรยี นมหาวทิ ยาลยั ทเ่ี คยตงั้ เปา้ หมายไว้ ไมไ่ ดเ้ กดิ จากการเป็นลูกเขยของนกั การเมือง กลยุทธว์ ธิ ีการหาเสยี ง นายทศพร เสรีรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า กลยุทธ์วิธีการหาเสียง ที่สำ�คัญซึ่งทำ�ให้ได้รับการเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัย กระท่ัง ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้ยุบพรรคไทยรักไทยและ กรรมการบรหิ ารพรรค จ�ำ นวน 111 คน ถกู หา้ มลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั เปน็ เวลา 6 ปี และเคยชนะการเลอื กตง้ั ทมี่ คี ะแนนสงู สดุ เปน็ อนั ดบั ท่ี 2 ของ ประเทศ เมอื่ การเลอื กตงั้ วันท่ี 6 มกราคม พ.ศ. 2544 วิธีการหาเสียง เลอื กตงั้ นอกจาก ชว่ งเวลาการรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตงั้ ทว่ั ไป ดว้ ยวธิ กี าร ท่วั ไป คอื การพบปะประชาชน การปราศรยั หาเสยี ง การแจกเอกสาร และโปสเตอรต์ า่ ง ๆ ซึง่ แสดงให้ประชาชนเห็นผลงาน ปัจจัยส�ำ คญั ท่ี ส.ส.น.พ. ทศพร เสรรี ักษ์ ใชเ้ ป็นกลยุทธ์ส�ำ คัญ คือ 1. กลยทุ ธก์ ารเขา้ ถงึ ประชาชน นายแพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ ถอื วา่ การเขา้ ถงึ ประชาชนเปน็ หลกั คดิ 94

ข้อมลู การเมืองถิ่น และนกั การเมืองถ่นิ จังหวัดแพร่ ส�ำ คญั ของกลยทุ ธก์ ารหาเสยี งทสี่ บื ทอดกนั มา แตส่ งิ่ ทเ่ี ปน็ ความเฉพาะ ของแพทยท์ ี่หมอทศพร ใช้คอื การท�ำ งานทีใ่ หค้ วามช่วยเหลือทางการ แพทยแ์ กป่ ระชาชนอยา่ งสม�่ำ เสมอ ซงึ่ ประเดน็ ของการเปน็ “หมอ” เปน็ กลยุทธ์สำ�คัญท่ีจะทำ�ให้เกิดความได้เปรียบในการเข้าถึงประชาชน ดังน้ัน ทุกคร้ังที่เสร็จสิ้นภารกิจสภาผู้แทนราษฎร และกิจกรรมของ พรรค จะเดินทางกลับจังหวัดแพร่ และเปิดคลินิกรักษาเพ่ือให้บริการ ประชาชนฟรี 2. กลยทุ ธด์ ้านผลงาน นายแพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ ใหค้ วามส�ำ คญั กบั การเยยี่ มประชาชน รบั ฟงั ความเดอื ดรอ้ น และบอกประชาชนว่าผลงานทีท่ ำ�มอี ะไรบ้าง ใน บางคร้ังถ้าเราไม่บอกไม่พูด ชาวบ้านจะไม่รู้ว่าเราทำ�ผลงานอะไรบ้าง แต่ส่ิงสำ�คัญต้องเป็นผลงานของเราจริง ไม่ใช่แอบเอาผลงานของคน อ่ืนมาเป็นผลงานของเรา 3.กลยทุ ธ์การลงพ้ืนท่ี การลงพ้นื ท่ไี ม่วา่ สมยั ไหน ถือวา่ เปน็ กลยุทธ์สำ�คญั ท้ังระหวา่ ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือช่วงเวลาหาเสียง การอยู่กับพ้ืนท่ี สำ�คัญมาก ปกติวันหยุดเสาร์อาทิตย์ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ จะ กลบั แพรเ่ สมอ และเมอ่ื กลบั มาจงั หวดั แพร่ กจ็ ะออกพบปะชาวบา้ นท�ำ หนว่ ยแพทยเ์ คล่ือนท่ี หรอื เปดิ คลินิกท่บี า้ นรักษาชาวบ้านเพ่อื เป็นการ ให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ความเป็นวิชาชีพแพทย์มีประโยชน์ที่จะ สามารถเข้าถึงประชาชน และประชาชนให้การยอมรับนับถือเป็นทุน เดิมอยู่แล้ว นอกจากน้ัน ช่วงหาเสียงเลือกตั้งก็จะใช้วิธีโดยท่ัวไป คือ การเดินหาเสียง การปราศรยั ตดิ โปสเตอร์ แจกแผน่ พับบอกหมายเลข ผู้สมัคร โดยจะไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่ีชาวบ้านมักไปรวมตัวกัน 95

นกั การเมอื งถ่ินจงั หวดั แพร่ มาก ๆ ท�ำ ให้ประหยัดเวลา เชน่ ตลาดสด วดั โรงเรยี น สถานท่ีท�ำ งาน ต่าง ๆ เปน็ ตน้ ซง่ึ อาจไปแบบยกทีมผสู้ มคั รหรือแยกทีมกนั ไป แลว้ แต่ การวางแผนในแต่ละชว่ งเวลา นอกจากนี้ คือ การมีสว่ นรว่ มของทีมงานหาเสียง ทเ่ี ราต้องฟัง เขา เพราะเขาอาจมขี อ้ มลู คแู่ ขง่ ทเี่ ราไมม่ แี ละแนวทางการหาเสยี งทท่ี มี งานผู้สมคั รแตล่ ะคนอาจมีความคิดเหน็ ท่ีแตกตา่ งกนั ออกไป สิ่งส�ำ คัญ ต้องท�ำ งานเป็นทีม จึงสามารถประสบชัยชนะแบบยกทมี นางปานหทัย เสรรี กั ษ์ บุตรสาวนายเมธา เอ้ืออภิญญกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวดั แพร่และอดตี รัฐมนตรี และยังเป็นพี่สาวของนายวรวัจน์ เอื้ออภญิ ญกุล นางปานหทัย เสรีรักษ์ (เอื้ออภิญญกุล) สมรสกับนายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ อดตี สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพรห่ ลายสมัย นางปานหทัย เสรีรักษ์ ประกอบอาชีพนักธุรกิจ ดำ�เนินธุรกิจ ของครอบครัวโดยเป็นกรรมการบริษัทสารินพร็อพเพอร์ต้ี จำ�กัด และ ทีป่ รึกษาบรษิ ทั บ้านปู จ�ำ กัด (มหาชน) ด้านการศกึ ษา ระดบั ปรญิ ญาตรี อกั ษรศาสตรบณั ฑติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ระดับปริญญาโท Asian Studies Washington University ประเทศสหรัฐอเมรกิ า 96

ขอ้ มูลการเมอื งถ่นิ และนกั การเมืองถิ่นจงั หวัดแพร่ ดา้ นบทบาททางการเมือง นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ (เออื้ อภญิ ญกลุ ) มโี อกาสตดิ ตามกจิ กรรม ทางการเมอื งมาตลอด ด้วยเหตผุ ลทางครอบครัวในฐานะบุตรสาวของ นกั การเมอื ง คอื นายเมธา เออื้ อภญิ ญกลุ อดตี นกั การเมอื งทอ้ งถนิ่ คน ส�ำ คญั ของจังหวดั แพร่ อดตี สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ และ อดีตรัฐมนตรี อีกทั้ง ความสัมพันธ์ในฐานะภรรยาของ นพ.ทศพร เสรรี กั ษ์ อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ และกรรมการบรหิ าร พรรคไทยรักไทย (ถูกตัดสิทธิทางการเมืองในฐานะกรรมการบริหาร พรรคไทยรักไทย กรณกี ารถกู ยบุ พรรคการเมือง) และพส่ี าวของ นาย วรวจั น์ เออื้ อภญิ ญกลุ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพรท่ ม่ี บี ทบาท สำ�คญั ทางการเมืองในปจั จบุ ัน (ปี พ.ศ.2552) ในระยะแรก ความสนใจทางการเมอื งโดยตรงของนางปานหทยั มีเพียงในฐานะสมาชิกของครอบครัวนักการเมือง ท้ังบิดา น้องชาย และสามีที่เป็นนักการเมือง บทบาทในฐานะผู้ติดตาม และผู้ให้การ สนับสนนุ เบือ้ งหลงั นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ ลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั สมยั แรก ในการเลอื ก ตงั้ ทวั่ ไป ครงั้ ที่ 22 เมอื่ วนั ท่ี 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2550 รว่ มกบั นายวรวจั น์ เอ้อื อภญิ ญกลุ (น้องชาย) และนายแพทย์นยิ ม วิวรรธนดิฐกลุ ในสังกดั พรรคพลังประชาชน ทป่ี จั จุบันยา้ ยไปสังกดั พรรคเพอ่ื ไทย เครอื ข่ายและความสัมพันธ์ นางปานหทัย เสรีรักษ์ สกุลเดิม เอื้ออภิญญกุล เมื่อกล่าวถึง นามสกุลทั้ง 2 มิติ ท้ังมิตทิ ่ี 1 บุตรสาวของนายเมธา เอ้ืออภญิ ญกุล และพส่ี าวของนายวรวจั น์ เอ้ืออภญิ ญกุล กับมิตทิ ่ี 2 ภรรยาของนาย 97

นักการเมอื งถนิ่ จังหวัดแพร่ ทศพร เสรีรักษ์ ท้งั 2 มติ ิ มีความชดั เจนในเชงิ ครอบครัวและเครือญาติ สายตรงทกุ เสน้ ทาง ซงึ่ เปน็ ปจั จยั ส�ำ คญั ของการกา้ วสถู่ นนสายการเมอื ง ในการลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั แทนนายทศพร เสรรี กั ษ์ อดตี กรรมการบรหิ าร พรรคไทยรักไทยที่ถูกเว้นวรรคทางการเมืองตามคำ�พิพากษาของศาล และเปน็ เหตผุ ลหนง่ึ ของการไดร้ บั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ของชาวจงั หวัดแพร่ กลยทุ ธ์การหาเสยี ง นางปานหทัย เสรีรักษ์ มีฐานเสียงจากความสัมพันธ์ทาง ครอบครัวของนักการเมืองคนสำ�คัญของจังหวัดท้ังในฐานะบุตรสาว พ่ีสาว และภรรยาของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีบทบาทสำ�คัญในเวที การเมืองของจังหวัดในระดับประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องยากลำ�บากสำ�หรับ การหาเสยี งเลือกตัง้ อกี ทั้ง การเปน็ สตรผี อู้ ยเู่ บอื้ งหลังจึงไม่มีศตั รู และ ความขัดแย้งทางการเมืองกับกลุ่มใด อีกทั้ง เป็นผู้เคยให้การต้อนรับ ชาวบา้ นอยา่ งสมา่ํ เสมอ จงึ ไดร้ บั การยอมรบั จากประชาชนทเ่ี ปน็ ฐานเสยี ง ทางการเมืองเดิมของครอบครัว ประกอบกับการลงสมัครรับเลือกตั้ง แทน นายทศพร เสรรี กั ษ์ ผู้สามีทีถ่ ูกตดั สทิ ธทิ างการเมืองในฐานะหนงึ่ ในคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำ�นวน 111 คน จากกรณี ถูกยุบพรรคไทยรักไทย หากกล่าวถึง กลยุทธ์การหาเสียง ซึ่งเป็นอัตลักษณ์สำ�คัญของ การเมืองท้องถิ่นจังหวัดแพร่ อันมีส่วนช่วยให้นางปานหทัย เสรีรักษ์ ประสบความส�ำ เรจ็ ในการลงสมคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จังหวดั แพร่ คอื 1. การเขา้ ถงึ ประชาชนและนัง่ ในใจประชาชน 98

ขอ้ มลู การเมอื งถ่ิน และนักการเมืองถ่นิ จังหวดั แพร่ ดว้ ยเหตผุ ลของความเปน็ สตรที างการเมอื งคนทสี่ ามของจงั หวดั แพร่ นบั จาก คณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ และนางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู ถึงแม้ก่อนเข้าสู่เวทีการเมืองนางปานหทัย เสรีรักษ์ จะประกอบธุรกิจ ส่วนตัว แต่เนื่องจาก เติบโตมากับครอบครัวนักการเมือง จึงมีโอกาส เรยี นรปู้ ระสบการณท์ างการเมอื ง และวธิ กี ารเขา้ ถงึ ประชาชนโดยเฉพาะ อย่างยิ่งการให้บริการทางการแพทย์ของนายแพทย์ทศพรผู้เป็นสามี การให้ความช่วยเหลือเรื่องราวร้องทุกข์ของชาวบ้าน เธอเล่าว่า “บางครั้งชาวบ้านมาขอสตางค์เพื่อไปจ่ายค่าเล่าเรียนลูกหรือมารักษา กับคุณหมอ ๆ ไม่เก็บสตางค์ และยังให้สตางค์กลับบ้าน” เป็นการ นัง่ ในใจประชาชน เพราะชาวบา้ นคิดว่า “เรา คือ ผู้แทนของเขา” 2. การเขา้ วัดทำ�บญุ กบั ประชาชน การใช้ศาลาวัด หรือท่ีชุมนุมชาวบ้าน เน่ืองจากชาวแพร่จะมี ความผูกพันกับวัดคนเฒ่าคนแก่ประชาชนท่ัวไป ไปทำ�บุญท่ีวัด การ ออกเยี่ยมเยียนชาวบ้าน และให้บริการทางการแพทย์ของคุณหมอ ทศพร เป็นกลยุทธ์อันสำ�คัญที่ใช้มาตั้งแต่สมัยการหาเสียงของนาย แพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ ซง่ึ ยงั คงใชอ้ ยอู่ ยา่ งเปน็ ประจ�ำ และเธอเชอ่ื วา่ การ พบปะชาวบ้านเป็นประจำ�ทุกวันเสาร์อาทิตย์ คือ กลยุทธ์ท่ีดีท่ีสุดใน การหาเสียงเลือกตั้ง ความต่อเนื่องกับคนในพื้นท่ี การพบหาง่ายไม่ ถือตวั กับชาวบ้าน ส�ำ หรบั การรณรงคห์ าเสยี งเลอื กตงั้ ในชว่ งการเลอื กตง้ั ทผ่ี า่ นมา ซ่งึ เปน็ ครงั้ แรกท่ีเป็นผสู้ มคั รรบั เลือกต้งั ยอมรบั ว่าตน่ื เตน้ เธอใชว้ ธิ กี าร ลงพน้ื ทร่ี ว่ มกบั ผสู้ มคั รรว่ มทมี ในบางครง้ั แยกเดยี่ วอยา่ งมกี ารวางแผน และแบง่ พน้ื ทโี่ ดยมนี ายแพทยท์ ศพรเปน็ พเี่ ลยี้ ง กลยทุ ธท์ ด่ี ี คอื “เชอื่ ใจ ไว้ใจ เห็นใจคุณหมอท่ีไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งช่วยสนับสนุนด้วยขอ 99

นกั การเมอื งถน่ิ จงั หวัดแพร่ เป็นส.ส.แทนคุณหมอจะช่วยสานงานต่อจากคุณหมอ” คำ�สัมภาษณ์ จาก นางปานหทัย เสรีรกั ษ์ 3.การเปิดเวทปี ราศรยั ทั้งเวทเี ล็ก และเวทใี หญ่โดยการปราศรยั ของคณะกรรมการบรหิ ารพรรค และทมี งานตามจดุ ส�ำ คญั ๆ เชน่ สถาน ทร่ี าชการ วัด โรงเรียน นายอนวุ ธั วงศ์วรรณ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ บุตรชายทายาททางการเมือง ของนัก การเมืองคนดังจงั หวัดแพร่ คือ พอ่ เลย้ี งณรงค์ วงศ์วรรณ อดตี ผูส้ รา้ ง ต�ำ นานการเมอื งอนั ส�ำ คญั ของประเทศในหลาย ๆ เรอื่ ง กบั นางอไุ รวรรณ วงศว์ รรณ มารดา และเปน็ นอ้ งชายของนายอนสุ รณ์ วงศว์ รรณ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรหลายสมัยของจังหวดั ล�ำ พูน นายอนวุ ัธ วงศ์วรรณ เกดิ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2496 กอ่ นลง สนามเลอื กตง้ั ประกอบอาชพี เปน็ นกั ธรุ กจิ สง่ ออกดา้ นการเกษตร และ ธรุ กจิ รับซ้ือใบยาสูบในเขตภาคเหนอื ด้านการศึกษา ระดับอนุบาล โรงเรยี นอนุบาลแพร่ จังหวัดแพร่ ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นมงฟอรต์ วทิ ยาลยั จงั หวดั เชยี งใหม่ ระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นวิทยาลัยบางแสน จงั หวัดชลบุรี โรงเรียนบดนิ ทร์เดชา กรุงเทพมหานคร ปรญิ ญาตรี University of Vermont Burlington, Vermont. U.S.A 100

ขอ้ มูลการเมืองถิน่ และนกั การเมืองถ่ินจงั หวดั แพร่ ดา้ นการเมอื ง สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ที่ปรกึ ษารฐั มนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่ปี รกึ ษารัฐมนตรีชว่ ยวา่ การกระทรวงมหาดไทย ปจั จุบนั เปลย่ี นบทบาททางการเมอื งไปลงสนามเลือกตง้ั ระดับ ทอ้ งถ่ิน และด�ำ รงต�ำ แหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ บทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงั หวัดแพร่ สมยั แรก การเลอื กตงั้ ทวั่ ไปครง้ั ที่ 21 ของประเทศเมอ่ื วนั ท่ี 6 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2548 ในสังกดั พรรคไทยรกั ไทย รว่ มทีมกับนายทศพร เสรีรักษ์ และนายวรวจั น์ เอือ้ อภญิ ญกุล สนามเลือกตั้งจังหวัดแพร่กลับมามีความคึกคัก ด้วยเหตุผล ความตอ้ งการทวงคนื ต�ำ แหนง่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพรข่ อง ตระกลู วงศว์ รรณ ซง่ึ แผนกลยทุ ธก์ ารหาเสยี งทกุ ดา้ นทวี่ างแผนไวเ้ ปน็ ไป ดว้ ยความส�ำ เรจ็ เมอื่ นายอนวุ ธั วงศว์ รรณ ไดร้ บั ชยั ชนะในการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรเขต 2 จังหวัดแพร่ และ พรรคไทยรกั ไทย ทง้ั 3 เขตไดร้ บั ชยั ชนะ ท�ำ ให้แมเ่ ลย้ี งต๊ิก นางศิริวรรณ ปราศจากศตั รู พ่าย แพไ้ ม่สามารถน�ำ ลูกทีมพรรคประชาธิปตั ยเ์ ข้าสภาได้แม้แต่คนเดยี ว เครอื ข่ายและความสมั พนั ธ์ การเลอื กต้งั ทว่ั ไป คร้งั ท่ี 21 เมอ่ื วนั ท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2548 จังหวัดแพร่กลับมาคึกคักอีกครั้งหน่ึง เม่ือตระกูลวงศ์วรรณ ประกาศ ทวงตำ�แหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ คืนจากแม่เลี้ยงต๊ิก 101

นกั การเมอื งถ่นิ จงั หวดั แพร่ โดยสง่ นายอนวุ ัธ วงศ์วรรณ บุตรชายของนายณรงค์ วงศว์ รรณ ลงชิง เกา้ อแ้ี ทน กลา่ วไดว้ า่ ความสมั พนั ธผ์ นกึ 2 ตระกลู ระหวา่ งตระกลู วงศว์ รรณ กับตระกูลเอ้ืออภิญญกุล ที่ยังใช้ความแข็งแกร่งของกระแสนิยมพรรค ไทยรักไทย โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวตั ร หัวหน้าพรรคสนับสนนุ การ สู้ศึก ทำ�ให้ศึกเลือกตั้งคร้ังนี้ดุเดือด ประกอบกับคำ�ปฏิเสธย้ายพรรค ของแมเ่ ลย้ี งติก๊ ท�ำ ใหก้ ารเลอื กต้ัง คร้งั น้ี จังหวัดแพรพ่ รรคไทยรกั ไทย ประกาศแพ้ไมไ่ ด้ กลายเป็นศึกแห่งศักดศิ์ รี ระหว่างตระกลู และระหวา่ ง พรรคไทยรักไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ซ่ึงต่างฝ่ายระดมกำ�ลังแกนน�ำ คนส�ำ คญั ของพรรคมากมายหลายคนลงพืน้ ทห่ี าเสียงอยา่ งเต็มท่ี เปดิ เวทปี ราศรัยใหญ่ชว่ ยผ้สู มคั รในสงั กัด กลยุทธก์ ารหาเสยี ง หลายคนมคี วามเห็นว่านายอนุวธั ใชว้ ธิ กี ารบรหิ ารจัดการตาม ระบบราชการ ทำ�งานให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ การนำ� หลักการบริหารมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของ ชาวบ้านโดยผ่านกลไกของระบบราชการ นายอนุวัธเข้าไปมีบทบาท สำ�คัญในการทำ�งานระดับจังหวัด โดยเฉพาะผลงานท่ีโดดเด่นในการ ท�ำ งานใหพ้ รรค คอื ในเขต 2 จงั หวดั แพร่ เขาสามารถรณรงคห์ าสมาชกิ เข้าพรรคไทยรกั ไทยได้ถึง 70,000 คน เรยี ก “กลยทุ ธฐ์ านคะแนนเสยี ง” เปน็ การเพม่ิ ความเชอื่ มนั่ ในชยั ชนะ ตอ่ มา ผลการเลอื กตง้ั ประสบความ ส�ำ เรจ็ ชยั ชนะทัง้ ระดบั จังหวดั และระดับประเทศของพรรคไทยรกั ไทย กรรมการบริหารพรรคจึงแต่งตั้งให้นายอนุวธั วงศว์ รรณ เป็น ทปี่ รกึ ษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการต้ังทีมงานทำ�งาน ประสานระหว่างระดับกระทรวงกบั ระดบั จังหวดั ไดอ้ ย่างผสมกลมกลืน 102

ข้อมูลการเมืองถิน่ และนักการเมืองถน่ิ จงั หวดั แพร่ นอกจากน้ี กลยทุ ธก์ ารเขา้ ถงึ ประชาชน ซง่ึ นายอนวุ ธั ยงั คงใชว้ ธิ ี การหาเสยี งแบบเดิม ๆ ของนักการเมอื งรุ่นเก่าอย่างรุ่นคณุ พอ่ (นาย ณรงค์ วงศว์ รรณ) คอื การไปรว่ มงานศพ งานมงคล งานวัด งานบุญ นายนิยม วิวรรธนดฐิ กุล นายนยิ ม ววิ รรธนดฐิ กลุ เกดิ เมอื่ วนั ท่ี 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2499 ณ บ้านเลขที่ 140/6 หมู่ที่ 2 ตำ�บลทุ่งกวา๋ ว อ.เมอื ง จ.แพร่ ประกอบ อาชพี แพทย์ ด้านการศึกษา วทิ ยาศาสตรบณั ฑิต มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ แพทยศ์ าสตรบณั ฑติ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล วฒุ ิบตั รวิชาชีพ สาขากุมารเวชศาสตร์ แพทย์สภา การศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัย นเรศวร บทบาททางการเมือง นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ก้าวสู่ถนนการเมืองจากการเป็นนัก การเมอื งระดับท้องถิ่น ในนาม “กลุม่ เมืองแพร่” ได้รบั การเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาจงั หวดั แพร่ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2533 ถงึ ปี พ.ศ. 2542 รวมเวลา 9 ปี และเคยด�ำ รงตำ�แหนง่ รองประธานสภาองคก์ ารบรหิ าร สว่ นจังหวัดแพร่ 103

นักการเมอื งถ่นิ จงั หวัดแพร่ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแพร่ ระหว่าง วันท่ี 28 กรกฎาคม ถึง วนั ท่ี 19 กนั ยายน พ.ศ. 2549ตามการสนิ้ สุดของวฒุ สิ ภาภายหลังการ ท�ำ รัฐประหารยึดอ�ำ นาจการปกครอง ของ คณะมนตรีรกั ษาความสงบ เรียบรอ้ ยแห่งชาติ (คมช) ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2550 นายนยิ ม วิวรรธนดฐิ กุล จงึ ตัดสินใจเปลีย่ นบทบาท วิถีชีวิตทางการเมือง สู่สนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด แพร่ เขต 1 ในการเลอื กตัง้ ทัว่ ไปครั้งท่ี 22 เม่ือวนั ที่ 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2550 ในสงั กัดพรรคพลงั ประชาชน ร่วมกับนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และนางปานหทัย เสรรี ักษ์ ตอ่ มา ย้ายไปสังกดั พรรคเพอ่ื ไทย จากค�ำ ส่ังพิพากษายุบพรรคกรณนี ายสมัคร สุนทรเวช จัดรายการชิมไปบน่ ไป เครือขา่ ยและความสมั พนั ธ์ นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล หากวิเคราะห์อย่างผิวเผินถึง ความสมั พนั ธท์ างการเมอื งแบบเครอื ญาตสิ ายตระกลู ของ 4 – 5 ตระกลู การเมอื งใหญข่ องจงั หวดั แพร่ อาทิ ตระกลู วงศว์ รรณ ตระกลู เออ้ื อภญิ ญกลุ ตระกูลศุภศิริ ตระกลู พนมขวัญ และตระกูลรงั คสริ ิ อาจไม่เกี่ยวในสาย ตรงกบั นายนยิ ม วิวรรธนดฐิ กุล ก็ตาม แต่ความสัมพนั ธ์เชิงลกึ ในฐานะ สมาชกิ กลมุ่ เมอื งแพร่ กลมุ่ การเมอื งระดบั ทอ้ งถน่ิ สายตระกลู เออ้ื อภญิ ญกลุ ทเี่ คยผกู ขาดการเมอื งระดบั ทอ้ งถนิ่ ของจงั หวดั แพร่ ทงั้ ในระดบั เทศบาล เมืองแพร่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และประการสำ�คัญ ตระกูล เอ้ืออภญิ ญกลุ ตระกลู วงศว์ รรณ และพรรคไทยรักไทย คอื เครือข่าย ความสัมพันธ์ที่สนับสนุนให้ นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล ได้รับ การเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแพร่ เมื่อการเลือกต้ัง ปี พ.ศ. 104

ข้อมูลการเมอื งถ่ิน และนกั การเมอื งถิ่นจงั หวดั แพร่ 2549 กอ่ นการรัฐประหารเมอื่ วันท่ี 19 กันยายน พ.ศ. 2549 และ หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล จึงเบนเข็มการเมืองมาลงสมัครรับเลือกต้ัง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพรแ่ ทนนายอนวุ ธั วงศว์ รรณ ทเ่ี ปลยี่ น ไปสสู่ นามการเมอื งระดบั ทอ้ งถนิ่ ดว้ ยการลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ เปน็ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เม่ือมีการเลือกตั้งทดแทนกรณีการ เสียชวี ติ ของ นายแพทย์ชาญชัย ศิลปอวยชยั การเมืองท้องถิ่นในจงั หวัดแพร่ ยังคงฉายภาพความสมั พันธ์ แบบเครือข่ายเชิงเครือญาติ กลุ่มอิทธิพล กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่ม การเมอื ง และพรรคการเมอื งแบบแยกกันไม่ออก อย่างชดั เจน กลยทุ ธก์ ารหาเสยี ง นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ผิวเผินอาจเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรหนา้ ใหมส่ มยั แรก เชน่ เดยี วกบั นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ แตป่ ระวตั ิ และประสบการณ์ทางการเมือง น้นั กลบั มีมากมาย ทงั้ การเมอื งระดับ ทอ้ งถน่ิ การเมอื งระดบั ชาตใิ นฐานะสมาชกิ วฒุ สิ ภา จงึ ประมวลภาพได้ วา่ นายแพทย์นิยม ววิ รรธนดฐิ กลุ มกี ลยุทธ์การหาเสยี ง ดังน้ี 1. กลยุทธช์ าวบา้ นเปน็ ฐาน จาก ประสบการณ์ทางการเมืองระดับท้องถ่ินในฐานะสมาชิก สภาจังหวัดแพร่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 อย่างต่อเน่ือง กระทั่ง สมาชิก วุฒิสภาจังหวัดแพร่ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ นาย นิยม วิวรรธนดิฐกุล สร้างฐานเสียงของตนเองให้มีความแน่นอนด้วย ผลงานแต่ละระดับ อย่างต่อเน่ือง สม่ําเสมอ เข้าถึงชาวบ้านทำ�ให้ ชาวบ้านรักและผูกพัน ชาวบ้านจะเป็นฐานท่ีม่ันที่สำ�คัญในการ 105

นกั การเมอื งถ่นิ จงั หวดั แพร่ ได้คะแนนเสียงเลอื กต้งั ทุกสนาม 2. การปราศรยั หาเสยี งต่อสาธารณะชน เป็นวิธีการทั่วไปท่ีผู้สมัครรับเลือกต้ังทุกคนต้องใช้เป็นกลยุทธ์ ส�ำ คัญ โดยมวี ธิ ีการวางแผนก�ำ หนดวนั เวลา และสถานที่ทจี่ ะเปดิ เวที ปราศรยั มกี ารประชาสมั พนั ธล์ ว่ งหนา้ ทง้ั นี้ การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ น เวลาปราศรยั จะมผี นู้ �ำ เวที พดู เนน้ หมายเลขทไ่ี ด้ จดั วางทมี งานปราศรยั ใครพูดเร่ืองอะไร ต้องมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน และหากมีผู้ใหญ่ ภายในพรรคร่วมปราศรัยใหญ่ จะเกดิ ผลดตี อ่ คะแนนนยิ ม 3. การใช้ส่อื บคุ คล สอ่ื บคุ คลหรอื เรยี กกนั ทว่ั ไป คอื หวั คะแนน นายนยิ ม ววิ รรธนดฐิ กลุ จะวางแผนก�ำ ลงั คนทเี่ ป็นหัวคะแนน ในทกุ ต�ำ บล หมบู่ า้ น ชมุ ชน หรือ แม้แต่ วดั ทม่ี ีช่อื เสยี ง 4. ทนุ ทางการเมืองส่วนตวั นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ในสนาม เลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจงั หวัดแพร่ แต่ไมใ่ ช่ผสู้ มัครหน้าใหม่ ในเวทีการเมืองระดับท้องถ่ิน เพราะนายนิยม ผ่านเวทีสภาองค์การ บรหิ ารสว่ นจงั หวดั แพร่ มาแลว้ หลายสมยั และ เวทกี ารเลอื กตงั้ สมาชกิ วุฒิสภาจังหวัดแพร่ การวางเครือข่ายพันธมิตรทางการเมืองจึงเกิดข้ึน ซึ่งถือว่าเป็นทุนทางการเมืองท่ีสำ�คัญทำ�ให้นายนิยมมีความเช่ือม่ันใน ชัยชนะ เขาจงึ ประสบความส�ำ เร็จสำ�หรับการเลือกตงั้ ในครง้ั น้ี 106

บ4ทที่สรปุ อภิปรายผลการศกึ ษา และข้อเสนอแนะ สรปุ อภิปรายผลการศกึ ษา และขอ้ เสนอแนะ จาก การศกึ ษาวจิ ยั ประมวลขอ้ มลู การเมอื งถนิ่ และนกั การเมอื ง ถ่ินจังหวัดแพร่ ในส่วนของผู้ดำ�รงตำ�แหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดแพร่ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2476 – 2550 สามารถสรุปข้อมลู ต่าง ๆ และ อภปิ รายผลการศกึ ษาออกเป็น 4 ด้านหลกั ดงั นี้ 1. เครือข่าย และความสัมพนั ธ์ของนกั การเมืองในจงั หวัดแพร่ 2. บทบาท และความสมั พนั ธ์ของกล่มุ ผลประโยชน์ และกลมุ่ ไมเ่ ป็นทางการ เช่น ครอบครวั วงศาคณาญาติ กลมุ่ การเมือง เป็นตน้ ทม่ี ีสว่ นสนับสนนุ ทางการเมอื งแกน่ กั การเมอื งในจังหวัดแพร่ 3. บทบาท และความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับนัก การเมอื งในจังหวัดแพร่ 4. รูปแบบ วิธีการ และกลยุทธ์การหาเสียงเลือกต้ังของนัก การเมืองในจังหวดั แพร่ 107

นักการเมืองถิน่ จงั หวัดแพร่ 1. เครอื ข่ายและความสมั พันธ์ของนกั การเมอื ง ในจังหวดั แพร่ นักการเมืองในจังหวัดแพร่ส่วนมากมีเครือข่าย และความ สัมพันธ์ท่ีกว้างขวาง และทรงอิทธิพลในระดับพื้นที่ท่ีครอบคลุมท่ัวทั้ง จงั หวดั ซงึ่ เปน็ ปจั จยั ส�ำ คญั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การไดร้ บั การเลอื กตง้ั และบทบาท ทางการเมืองในสมยั ตอ่ ๆ ไป จากผลการศกึ ษา พบวา่ เครือข่าย และ ความสัมพันธ์ก่อนการลงสมัครรับเลือกตั้งของนักการเมืองในจังหวัด แพร่ โดยเฉพาะ “ความสมั พันธ์เชิงเครือญาติ กลุ่มการเมือง และกลมุ่ อาชีพ” จากคำ�สมั ภาษณ์ของ นายดุสิต รังคสริ ิ เปน็ ปัจจยั หลักสำ�คัญที่ มสี ว่ นสนบั สนนุ ในการตดั สนิ ใจลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ และเปน็ สว่ นส�ำ คญั ท�ำ ใหไ้ ด้รบั ชัยชนะในการเลือกตง้ั โดยสามารถสรปุ ได้ ดงั นี้ เครือขา่ ย และความสัมพนั ธ์ด้านกลมุ่ การเมือง นายทอง กันทาธรรม นักกฎหมาย นักต่อสู้เพื่อเอกราช และ ประชาธิปไตย มคี วามสมั พันธ์ด้านกลมุ่ การเมอื ง รว่ มกับอาจารยป์ รดี ี พนมยงค์ สมาชิกเครือข่ายในกลุ่มนักเคล่ือนไหวต่อต้านการรุกราน เรียกว่า “กลุ่มเสรีไทย” ในฐานะนักรบกองจรยุทธ์หัวหน้าเสรีไทยเขต ภาคเหนือ และนักกฎหมายในฐานะ “ทนายความ” ที่ต่อสู้เพ่ือความ ถกู ตอ้ งเปน็ ธรรมแกพ่ น่ี อ้ งประชาชน กระทงั่ ท�ำ ให้ นายทอง กนั ทาธรรม ไดร้ ับการเลอื กตง้ั เป็นสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรจังหวดั แพร่ 5 สมัย เครือข่าย และความสมั พันธ์ด้านการเมืองระดับทอ้ งถนิ่ นายรัตน์ พนมขวัญ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนป่าไม้แพร่ เคยผ่านเวที การเมอื งระดบั ทอ้ งถิน่ “นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร”่ 108

สรุป อภิปรายผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ นายดสุ ิต รังคสิริ เคยได้รบั การเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจงั หวดั แพร่ และไดร้ บั การคดั เลอื กใหด้ ำ�รงต�ำ แหนง่ “ประธานสภาจงั หวดั แพร”่ นายวรวัจน์ เอือ้ อภญิ ญกุล เรม่ิ ท�ำ งานการเมืองในนาม “กล่มุ เมืองแพร่” ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ เมื่อปี พ.ศ.2533 ด�ำ รงต�ำ แหน่ง 2 สมยั ก่อนประสบความส�ำ เรจ็ ในสนามการ เลือกต้ังสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ นายแพทยน์ ยิ ม ววิ รรธนดฐิ กลุ กา้ วสถู่ นนการเมอื งจากการเปน็ นกั การเมอื งระดับทอ้ งถน่ิ ในนาม “กลุ่มเมอื งแพร่” ไดร้ ับการเลือกตั้ง เปน็ สมาชิกสภาจังหวัดแพร่ ตงั้ แต่ ปี พ.ศ. 2533 ถงึ ปี พ.ศ. 2542 และเคยด�ำ รงต�ำ แหนง่ รองประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั แพร่ นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู ในฐานะเครอื ขา่ ยฐานเสยี งทางการ เมืองระดับท้องถ่ินให้กับสายตระกูลศุภศิริของตนเอง และสายตระกูล พนมขวัญ เช่น นายโชคชัย พนมขวัญ นายขวัญชัย พนมขวัญ และ นายสามขวญั พนมขวญั รวมถงึ ความสมั พนั ธอ์ นั ดใี นฐานะผสู้ นบั สนนุ และเกื้อกลู ทางการเมืองกับนายณรงค์ วงศว์ รรณ กระทั่ง การแยกสาย สัมพนั ธ์ทางการเมืองแบบคขู่ นานเม่อื นางศริ ิวรรณ ปราศจากศัตรู ลง สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ในสังกัดพรรค ประชาธปิ ตั ย์ เครือขา่ ยและความสมั พนั ธ์ด้านการศกึ ษา (กลมุ่ อาชีพ) มิติดา้ นอาชีพครู อาจารย์ใหญบ่ วั เขยี ว และ/หรือ ผ้อู �ำ นวยการโรงเรยี น อาจารย์ บัวเขียว ผู้บริหารโรงเรียนสตรีประจำ�จังหวัดแพร่ท่ีมีความมุ่งม่ัน พฒั นาการศกึ ษาใหก้ ลุ ธดิ าของคนแพรม่ านานกวา่ 30 ปี ท�ำ ใหค้ ณุ หญงิ 109

นักการเมืองถน่ิ จังหวัดแพร่ บวั เขยี ว รังคสริ ิ ก้าวสู่ “นกั การเมอื งถิ่น” จงั หวัดแพร่ นายสุธรรม สายศร ผกู้ อ่ ต้ังโรงเรยี นสหราษฎร์พิทยา (โรงเรียน ราษฎร์) และต่อมาได้บริจาคให้เป็นโรงเรียนประจำ�อำ�เภอร้องกวาง “โรงเรียนร้องกวางอนุสรณ์” และ ก่อตั้ง “โรงเรียนอาชีวศึกษาแพร่” ปจั จบุ นั คือ วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาจงั หวดั แพร่ นายรตั น์ พนมขวญั ผูก้ ่อตัง้ โรงเรยี นปา่ ไม้แพร่ มติ ดิ ้านการให้ทุนการศกึ ษา นายดุสิต รังคสิริ นักการเมืองท่ีให้ความสำ�คัญด้านการศึกษา จดั ตั้งกองทนุ การศกึ ษา“มลู นิธคิ ณุ หญิงบวั เขยี ว รังคสริ ิ เพื่อการศึกษา” เป็นทุนการศกึ ษา 8 อ�ำ เภอ สรา้ ง โรงเรียนสลวยเสรีไทย สร้างโรงเรยี น มัธยมวังชิ้น มอบให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ และประธานมูลนิธิการ ประถมศึกษา อำ�เภอเมอื ง จังหวัดแพร่ เครือข่ายและความสัมพันธด์ ้านธุรกิจ นายรตั น์ พนมขวญั ประกอบธรุ กจิ ดา้ นสมั ปทานปา่ ไม้ ประเภท ไมส้ กั และธรุ กจิ ประเภทโรงแรม เจา้ ของ”โรงแรมนครแพร”่ และ “โรงแรม นครแพรท่ ราวเวอร”์ ในรุ่นปัจจุบนั นายดสุ ติ รงั คสริ ิ ประกอบอาชพี นกั ธรุ กจิ ดา้ นสมั ปทานไมห้ มอน รถไฟ และไมส้ �ำ หรบั สรา้ งสะพานรถไฟ และธรุ กจิ ตวั แทนจ�ำ หนา่ ยน�้ำ มนั สามทหาร (ปตท.ในปัจจุบัน) ในนาม “ห้างห้นุ ส่วนจ�ำ กัดดุสติ พาณิชย์” นายชวู ทิ ย์ จติ รสกลุ ประกอบธุรกจิ จ�ำ หนา่ ยรถยนต์ “บริษัทโต โยตา้ แพร่” นายพล วชั รปรีชา ประกอบธรุ กจิ ดา้ นสมั ปทานโรงโม่หิน และ 110

สรปุ อภิปรายผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ การรับเหมาก่อสรา้ ง นายเมธา เออ้ื อภญิ ญกลุ มบี ตุ ร 3 คน คอื (1) นายเมธี เออ้ื อภญิ ญกลุ กรรมการและเจา้ หนา้ ทบี่ รหิ าร บรษิ ทั บ้านปู จ�ำ กัด (มหาชน) (2) นาง ปานหทัย เสรรี ักษ์ อดตี ทป่ี รกึ ษาบรษิ ทั บ้านปู จำ�กดั (มหาชน) และ อดตี กรรมการบริษัท สารนิ ทรอ็ ทเทอรต์ ี้ จ�ำ กดั ซง่ึ ถอื วา่ เป็นกล่มุ ธุรกจิ สำ�คญั ของครอบครวั เอื้ออภิญญกุล (3) นายวรวัจน์ เอื้ออภญิ ญกลุ นายณรงค์ วงศว์ รรณ และ ตระกลู วงศว์ รรณ ประกอบธรุ กจิ ดา้ น การเกษตร และธุรกิจใบยาสูบมาจนรุ่นลูกในปัจจุบันทั้ง นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ และนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นักธุรกิจส่งออกด้านการเกษตร และธรุ กิจรับซ้อื ใบยาสูบ นางศิรวิ รรณ ปราศจากศัตรู ประกอบอาชพี ด้านใบยาสบู และ พืชผลทางการเกษตร ตงั้ แต่รุน่ บิดา คือ พ่อเลยี้ งศานิตย์ ศภุ ศิริ เครอื ข่ายและความสมั พนั ธด์ ้านการแพทย์ นายแพทยท์ ศพร เสรีรกั ษ์ และ นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล ซึ่งทั้งสองคนประกอบอาชีพเป็นแพทย์วิชาชีพ ก่อนก้าวเข้าสู่สนาม การเมือง 2. บทบาทความสัมพนั ธ์ของกลุม่ ผลประโยชน์ กลุ่มไมเ่ ป็นทางการ และกล่มุ ครอบครวั วงศาคณา ญาติ บทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มไม่เป็น ทางการ โดยเฉพาะความสัมพันธ์เชิงครอบครัว วงศาคณาญาติของ กลุ่มการเมือง มีส่วนสนับสนุนทางการเมืองแก่นักการเมืองในจังหวัด 111

นกั การเมืองถนิ่ จงั หวดั แพร่ แพร่ กล่าวได้ว่า เป็นปัจจัยหลักสำ�คัญท่ีสนับสนุนให้ผู้สมัครรับเลือก ตงั้ มโี อกาส และบทบาททางการเมอื งในฐานะสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั แพร่ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของ ชยั อนนั ต์ สมทุ รวาณชิ (2525,น. 41 - 42) ท่เี รียกว่า “ระบบอุปถมั ภใ์ นสังคมไทย” อธบิ ายได้วา่ ลกั ษณะ สงั คมไทยมีการรวมกลุม่ และเกิดกลุ่มซง่ึ มีความเก่ียวข้อง และสมั พนั ธ์ กันเป็นส่วนบุคคลในลักษณะความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ ขณะที่ อนุช อาภาภิรม (สานิตย์ เพชรกาฬ,อ้างในนักการเมืองถิ่นจังหวัดพัทลุง. 2550.น.35 - 36) เรียกระบบอุปถัมภ์ทางการเมืองท่ีผ่านตัวแทนว่า “ระบบหัวคะแนน” ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วยบุคคลเด่นดังในพ้ืนท่ี เช่น กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น ระบบหัวคะแนนเป็นที่นิยมใช้กันใน กระบวนการหาเสยี งเลอื กตง้ั ของสงั คมการเมอื งไทยทกุ พน้ื ทที่ ว่ั ประเทศ นอกจากนี้ การเมืองจังหวัดแพร่ยังคงมีส่วนที่สอดคล้องกับการเมือง ระบบเครอื ญาตทิ พ่ี บในหลายจงั หวดั เชน่ จงั หวดั ภาคใต้ “ในความเปน็ สงั คมเครอื ญาติ ใครทศ่ี กึ ษาเรอ่ื งการเลอื กตง้ั ภาคใตม้ กั พบวา่ ปจั จยั หนง่ึ ทท่ี �ำ ใหผ้ สู้ มคั รไดร้ บั เลอื กตง้ั จะมาจากการ “มพี น่ี อ้ งมาก นน่ั คอื มญี าติ มาก” (ภญิ โญ ตนั พทิ ยคุปต์,นักการเมอื งถ่ินจังหวัดสงขลา.2549.น.30) และ จากรายงานการเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร คร้ังท่ี 20 เม่ือ วันท่ี 6 ก.พ. 2548 วิเคราะหว์ ่า “มสี มาชิกสภาผู้แทนราษฎรทม่ี าจาก ตระกลู เดียวกนั จ�ำ นวน 26 ตระกูล” ซึ่งรวมถึง การเลือกตง้ั สมาชกิ สภา ผู้แทนราษฎรจงั หวดั แพร่ เชน่ เดยี วกนั (ท่มี า : กลุ่มงานบริการวิชาการ 1 ส�ำ นกั วิชาการ สำ�นกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) แสดงใหเ้ ห็น ว่า สังคมเครือญาติ และความสมั พันธ์เชิงอปุ ถัมภ์มอี ทิ ธิพลตอ่ การลง สมคั รรบั เลอื กตงั้ และการเลอื กสนบั สนนุ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ดงั นนั้ จาก การศกึ ษา “การเมอื งถนิ่ ” และ “นกั การเมืองถิ่น” ในพื้นทจี่ งั หวดั แพร่ 112

สรปุ อภปิ รายผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ สามารถอภิปรายผลโดยสรุป ดงั นี้ นบั จากการเลอื กตง้ั ทั่วไปคร้งั แรกของประเทศไทย เมื่อวนั ที่ 15 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2476 กระทั่ง การเลอื กตง้ั ทัว่ ไป ครงั้ ท่ี 22 เม่อื วัน ที่ 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2550 สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจังหวดั แพร่ ท่ไี ด้ รับการเลอื กตั้งมากกว่าหน่ึงสมัยจะอยูใ่ นครอบครัวตระกูลเพยี ง 4 – 5 ตระกูลสำ�คญั คือ ตระกูล “รังคสิริ” ประกอบด้วย คุณหญิงบัวเขียว รังคสิริ (มารดา) นายดุสิต รังคสิริ ซ่ึงนายดุสิต มีความสนิทใกล้ชิดกับอีก 4 ตระกูลทมี่ คี วามสมั พันธท์ างการเลือกต้ัง หากวเิ คราะหย์ ้อนกลับไปใน อดตี ประวตั ขิ องนกั การเมอื งทอ้ งถน่ิ ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั แพร่ ความสมั พนั ธ์ ตระกลู รงั คสริ ิ คอื คณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ มมี ารดาชอ่ื แมเ่ จา้ สคุ นั ธา แสนศิริพันธ์ุ ซึ่งเป็นพี่สาวของเจ้าวงศ์ แสนศิริพันธุ์ (นายวงศ์ แสนศริ พิ นั ธ)ุ์ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรคนแรกของจงั หวดั แพร่ กลา่ วไดว้ า่ มีความสัมพันธ์ทางสายตระกูลท่ีอาจจะไม่ใช่สายตรงเสียทีเดียวก็ตาม แตก่ ม็ คี วามผกู พนั ในฐานะของการมสี ว่ นสรา้ งเมอื งแพรใ่ หม้ คี วามเจรญิ โดยผ่านมิติการเมืองของกลไกสภาผแู้ ทนราษฎรจังหวัดแพร่ ตระกลู “วงศว์ รรณ” ประกอบด้วย นายณรงค์ วงศว์ รรณ บดิ า ของ นายอนวุ ัธ วงศว์ รรณ และนายอนสุ รณ์ วงศ์วรรณ ซง่ึ มฐี านธุรกิจ รับซื้อใบยาสูบ และธุรกิจส่งออกด้านการเกษตรกระจายอยู่ในจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวดั ลำ�พนู กระทั่ง นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ลงสมคั รรับเลือกตัง้ เปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำ�พูน ขณะที่ 113

นักการเมืองถน่ิ จังหวัดแพร่ นายอนวุ ัธ วงศ์วรรณ กลับมาชงิ เก้าอีส้ มาชิกสภาผู้แทนราษฎรจงั หวัด แพรค่ ืนจากแม่เลีย้ งติก๊ และปัจจบุ ัน นายอนุวธั วงศว์ รรณ ได้เปลยี่ น ยุทธศาสตร์ทางการเมืองใหม่ โดยลงชิงชัยการเมืองระดับท้องถิ่นใน ตำ�แหนง่ นายกองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั แพร่ ตระกลู “เออื้ อภญิ ญกลุ ” ประกอบดว้ ย นายเมธา เออ้ื อภญิ ญ- กุล (บิดา) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล (บุตรชาย) นายแพทย์ทศพร เสรีรกั ษ์ (บตุ รเขย) และนางปานหทยั เสรรี กั ษ์ (บตุ รสาว) ท่ีสมรสกับ นายแพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ ตระกลู เออื้ อภญิ ญกลุ นา่ จะเปน็ ตระกลู ส�ำ คญั ทางการเมอื งในพนื้ ทจี่ งั หวดั แพร่ ทม่ี ที ายาททางการเมอื งครอบคลมุ ตอ่ เนอ่ื ง ตง้ั แตบ่ ุตรชาย บุตรเขย และลา่ สดุ คือ บุตรสาว จากการศกึ ษา ข้อมูลพบว่า ตระกูลเอ้ืออภิญญกุล จะยังมีผู้สืบทอดมรดกทางการ เมืองอีกยาวนาน ท้ังความรู้ ความสามารถ ผลงานท่ีเข้าตาชาวแพร่ และความเปน็ คนรุ่นใหม่อย่าง นาย วรวจั น์ เอือ้ อภิญญกุล นายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ ยิ่งเป็นแรงเสริมท่ีชาวแพร่พร้อมสนับสนุนอย่าง เตม็ ที่ อกี ทงั้ นายแพทยน์ ยิ ม ววิ รรธนดฐิ กลุ ทม่ี สี ายสมั พนั ธใ์ กลช้ ดิ จาก ภรรยาท่มี ตี ่อตระกูลเออื้ อภญิ ญกลุ และตระกูลวงศ์วรรณ วเิ คราะหไ์ ด้ ว่า เครอื ข่าย และความสมั พนั ธข์ องนกั การเมอื ง “กลมุ่ เมอื งแพร”่ กล่มุ น้ีคงผูกขาดทางการเมืองอีกยาวนาน ยากท่ีสายการเมืองของแม่เลี้ยง ต๊ิกจะเจาะฐานคะแนนเสยี งได้ ดว้ ยศักยภาพทางเครือญาติ ทกี่ ลา่ วมา และความพรอ้ มของกลมุ่ ผลประโยชน์ที่มฐี านธุรกิจ และฐานการเงนิ ที่ มน่ั คงสนบั สนนุ ส�ำ หรับการเลอื กตั้ง คร้ังต่อไป ตระกลู “ศุภศิริ” ประกอบดว้ ย นายศานิตย์ ศภุ ศิริ (บิดา) นาง 114

สรุป อภปิ รายผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ ศิรวิ รรณ ปราศจากศตั รู ซึ่งมีสายความสมั พนั ธก์ ับกลุ่มการเมอื งระดับ ท้องถ่ินทั้งในสนามเลือกต้ังองค์การบริหารส่วนตำ�บล เทศบาล และ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เรียกว่า กลุ่มตระกูลศุภศิริ มีฐานเสียง สนับสนนุ จากการเมอื งระดับท้องถนิ่ ท่ีกล่มุ ตระกูลเอือ้ อภิญญกุล และ กลุ่มตระกูลวงศ์วรรณ พยายามเจาะและทำ�ลายฐานเสียงท่ีมีอยู่ และ เปน็ เหตผุ ลหนึ่งที่ผวู้ จิ ยั วเิ คราะหไ์ ด้วา่ ความพยายามเจาะฐานคะแนน เสยี งการเมืองระดับทอ้ งถิน่ ของแมเ่ ล้ยี งตก๊ิ โดยเฉพาะผลการเลอื กตัง้ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ครั้งล่าสุดท่ี นายอนุวัธ วงศ์วรรณ ชนะการเลือกตั้ง ย่ิงเป็นสัญญาณเตือนภัยสำ�หรับแม่เล้ียงติ๊กในการ ลงสมัครรบั เลือกตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ในอนาคต ตระกูล “พนมขวัญ” ประกอบดว้ ย นายรัตน์ พนมขวญั (เสยี ชวี ติ แลว้ ) ถึงแม้วา่ ตระกูลพนมขวัญในรุ่นลกู ท้งั นายโชคชัย พนมขวญั นายขวัญชัย พนมขวัญ และนายสามขวญั พนมขวัญ จะไม่คอ่ ยสนใจ การเมืองระดับชาติ ด้วยการไม่ลงสมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ตระกูลพนมขวัญให้ความสนใจ และความสำ�คัญกับการเมือง ระดับท้องถนิ่ อยา่ งไรกต็ าม กลมุ่ ตระกูลพนมขวญั ยงั มฐี านเสยี งเพียง พอสำ�หรับการจะสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อให้สามารถชนะการ เลอื กตงั้ ในสนามใหญข่ องการเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ ไมว่ า่ จะเปน็ ขว้ั การเมอื งของแมเ่ ลย้ี งตก๊ิ ในสงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ หรอื ข้ัวการเมืองสายเอื้ออภิญญกุล ในสังกัดพรรคเพ่ือไทย หากสามารถ เข้าไปนัง่ ในใจของคนในตระกูลพนมขวญั การเปลยี่ นขวั้ สนับสนุนกจ็ ะ มีความเป็นไปได้ จากกรณตี วั อยา่ ง “การเปลยี่ นข้วั สนบั สนุนของนาย แพทย์ชาญชัย ศิลปะอวยชัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 115

นกั การเมืองถนิ่ จังหวดั แพร่ แพร”่ เป็นกรณีศกึ ษา ของฐานเสยี งส�ำ คัญในการเมอื งระดบั ท้องถ่นิ ที่ มีผลต่อการเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจังหวัดแพร่ ดังนั้น การเมอื งถิน่ และนกั การเมืองถิ่นในพ้ืนทีจ่ งั หวัดแพร่ คง ไม่ควรมองข้ามเครือข่ายและความสัมพันธ์ของกลุ่มการเมืองตระกูล พนมขวญั โดยเดด็ ขาด 3. บทบาทและความสัมพนั ธ์ของพรรคการเมืองกับ นักการเมอื งในจังหวดั แพร่ การเมืองท้องถิ่น และนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นท่ีจังหวัดแพร่ จังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือของประเทศ หลายคนอาจมองข้ามใน บทบาท และความสำ�คัญทางการเมืองในระดับประเทศ เพราะหลาย คนอาจมองบทบาทไปท่ีนกั การเมืองในทอ้ งถน่ิ จังหวัดขนาดใหญ่ อาทิ กรงุ เทพมหานคร เชยี งใหม่ หรอื จงั หวดั ส�ำ คญั ทางภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เปน็ ตน้ แตเ่ มอ่ื ศกึ ษาวเิ คราะหผ์ วู้ จิ ยั พบวา่ นกั การเมอื ง ถิ่นจังหวัดแพร่มีบทบาท และความสัมพันธ์อันสำ�คัญในเวทีการเมือง ของประเทศ มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เช่น นายทอง กันทาธรรม อดตี หวั หนา้ เสรไี ทยภาคเหนอื และผนู้ �ำ มวลชนกองจรยทุ ธจ์ งั หวดั แพร่ ในสมยั เสรไี ทยรว่ มกับผนู้ �ำ ระดับประเทศ อาทิ ฯพณฯ ปรดี ี พนมยงค์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายเตียง ศิริขันธ์ุ (นักรบแห่งเทือกเขาภูพาน) และนายณรงค์ วงศ์วรรณ ผู้มบี ทบาทส�ำ คัญทางการเมืองชว่ งปี พ.ศ. 2535 และเกือบได้รบั การเสนอชอ่ื เปน็ นายกรฐั มนตรีมาแลว้ นอกจาก นี้ กล่าวได้ว่า นักการเมืองจังหวัดแพร่มีตำ�แหน่งสำ�คัญในการบริหาร ประเทศมากมายหลายคน ในฐานะกลไกการขับเคลื่อนการเมืองการ 116

สรปุ อภิปรายผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ ปกครองระบบรัฐสภาตามระบอบประชาธปิ ไตย ประวัติศาสตร์การเมืองท้องถ่ินจังหวัดแพร่ท่ีมีบทบาทและความ สัมพันธ์กบั พรรคการเมือง ดังนี้ การเมอื งยคุ กอ่ นระบบพรรคการเมอื ง (ระหวา่ งปี พ.ศ. 2476 - พ.ศ. 2495) การเลือกตง้ั ท่วั ไปครั้งท่ี 1 – 6 การเมืองไทยยุคต้นระยะเริ่มแรกของการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หลังวัน อภิวัติเปล่ียนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเปน็ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยในระบบรฐั สภา สมาชกิ สภา ผแู้ ทนราษฎรยังไมม่ กี ารสงั กัดพรรคการเมอื ง ดังน้ัน บทบาท และความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองจึงยังไม่ เกิดข้ึน การหาเสียงเลือกต้ังในยุคแรกต้องใช้ผลงานของผู้สมัครเป็น กลยทุ ธส์ �ำ คญั รายชอ่ื สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพรย่ คุ กอ่ นระบบ พรรคการเมือง ไดแ้ ก่ 1. นายวงศ ์ แสนสิรพิ นั ธุ์ 2. นายทอง กนั ทาธรรม 3. นายวิภาค บุญศรี วังซ้าย 4. นายวงั ศศิบุตร์ การเมอื งยคุ ระบบพรรคการเมอื ง (ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2500 จนถงึ ปจั จบุ นั ) การเลือกต้ังท่ัวไปตั้งแต่ ครั้งท่ี 7 เม่ือ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 117

นกั การเมอื งถ่ินจังหวดั แพร่ ความต่ืนตัวทางการเมืองในระบบพรรคการเมืองได้รับการ ยอมรับจากนักการเมอื งจงั หวัดแพร่ เมือ่ นกั การเมอื งทีไ่ ดร้ บั การเลือก ต้งั สว่ นใหญ่สังกดั พรรคการเมอื ง ไดแ้ ก่ การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 7 นายทอง กันทาธรรม สังกัดพรรค ชาตินยิ ม นายวัง ศศบิ ตุ ร์ สงั กดั พรรคเสรีมนังคศิลา การเลือกต้ังท่ัวไปคร้ังท่ี 8 นายไชย วงศ์สว่าง สังกัดพรรค ประชาธปิ ัตย์ นายทอง กันทาธรรม สังกัดพรรคชาตนิ ยิ ม การเลือกตั้งท่ัวไปคร้ังที่ 9 เป็นครั้งเดียวหลังยุคระบบ พรรคการเมืองที่ผ้ไู ดร้ ับการเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท้งั 2 คน ไม่สังกดั พรรคการเมอื ง การเลอื กตงั้ ทว่ั ไปครง้ั ท่ี 10 คณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ สงั กดั พรรค ชาตินยิ ม นายเมธา เออ้ื อภิญญกุล สังกัดพรรคธรรมสงั คม และจ.ส.อ. สมชาย อนิ ทราวุธ สงั กดั พรรคเสรีชน การเลือกต้ังท่ัวไปครั้งท่ี 11 นายรัตน์ พนมขวัญ นายดุสิต รงั คสริ ิ และนายนคร ตันจันทรพ์ งศ์ สงั กดั พรรคชาติไทย การเลอื กตัง้ ทัว่ ไปครัง้ ที่ 12 นายณรงค์ วงศ์วรรณ และนายพล วัชรปรชี า สังกัดพรรครวมไทย ในขณะที่ นายดุสติ รังคสริ ิ ผู้ยึดมั่นใน อดุ มการณ์ของพรรคชาตไิ ทย การเลอื กตง้ั ทั่วไปคร้งั ท่ี 13 นายณรงค์ วงศ์วรรณ และนายพล วัชรปรีชา โดยในช่วงเวลาของการหาเสียงเลือกต้ัง ผู้สมัครท้ัง 2 คน สงั กดั พรรคกิจสังคม ตอ่ มา ระหว่างการเปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไดย้ ้ายกลับไปสังกดั พรรครวมไทยดงั เดมิ ขณะท่ี นายดสุ ิต รงั คสริ ิ ยัง คงสงั กัดพรรคชาตไิ ทย การเลอื กต้งั ท่วั ไปครั้งท่ี 14 นายณรงค์ วงศว์ รรณ และนายพล 118

สรุป อภปิ รายผลการศกึ ษา และข้อเสนอแนะ วัชรปรชี า สงั กัดพรรครวมไทย นายดุสติ รงั คสิริ สงั กดั พรรคชาตไิ ทย การเลอื กตงั้ ทว่ั ไปครงั้ ที่ 15 นายณรงค์ วงศว์ รรณ และนายชวู ทิ ย์ จติ รสกลุ ทลี่ งสมคั รรบั เลอื กตง้ั แทนนายพล วชั รปรชี า ทเ่ี สยี ชวี ติ ระหวา่ ง การด�ำ รงต�ำ แหน่งสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จากการเลือกต้ังทวั่ ไปคร้ัง ที่ 14 สงั กัดพรรครวมไทย ต่อมา ทั้ง 2 คนย้ายไปสงั กดั พรรคเอกภาพ ส�ำ หรบั นายดสุ ิต รงั คสริ ิ ยังคงเหนยี วแนน่ ในสังกัดพรรคชาตไิ ทย การเลือกต้ังท่ัวไปคร้ังท่ี 16 เมื่อปี พ.ศ. 2535 บทบาททาง การเมอื งของนกั การเมืองถนิ่ อยา่ ง นายณรงค์ วงศ์วรรณ ผูม้ ีบทบาท สำ�คัญทางการเมืองระดับประเทศได้ก่อต้ัง “พรรคสามัคคีธรรม” โดย มจี ดุ มงุ่ หมายส�ำ คญั คอื สนับสนุนการสืบทอดอ�ำ นาจของผูน้ ำ�บางคน ท่ีมาจากการรัฐประหาร โดยมี นายณรงค์ วงศ์วรรณ ดำ�รงตำ�แหน่ง หัวหน้าพรรค นายเมธา เอื้ออภิญญกุล สมาชิกพรรคสามัคคีธรรม ได้รับการเลอื กต้งั เชน่ กัน ขณะที่ นายดสุ ติ รังคสิริ ท่ียงั คงเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคชาติไทย และจากผลการเลือกตั้งใน ครง้ั น้ี นายณรงค์ วงศว์ รรณ เกอื บมโี อกาสไดร้ บั การเสนอชอ่ื เปน็ นายก รัฐมนตรี การเลือกตั้งทว่ั ไปครง้ั ท่ี 17 นายดสุ ิต รงั คสิริ นายเมธา เอือ้ - อภิญญกุล และนายณรงค์ วงศ์วรรณ 3 ผู้ย่ิงใหญ่ และทรงอิทธิพล ทางการเมืองของจงั หวดั แพร่ ในสงั กัดพรรคชาตไิ ทยยกทมี การเลือกต้ังทั่วไปคร้ังที่ 18 ยุคเปล่ียนโฉม และวิวัฒนาการ ของความเป็นระบบพรรคการเมืองในการเลือกต้ังจังหวัดแพร่ กับ ความสัมพันธ์ของบทบาททางการแข่งขันระหว่างกลุ่มการเมือง พรรคการเมอื งท่เี ป็นคนละกล่มุ คนละขั้ว และคนละพรรค ซ่ึงจะตอ้ ง พยายามต่อสู้ช่วงชิงความได้เปรียบ ชิงไหวชิงพริบ เพ่ือชัยชนะท่ีอาจ 119

นักการเมอื งถน่ิ จังหวัดแพร่ นำ�ไปสู่ความขัดแย้งที่เริ่มฝังลึกในอนาคต ด้วยการตัดสินใจสู่สนาม การเมืองจากผสู้ นบั สนุน นายณรงค์ วงศ์วรรณ มาเป็นคูแ่ ขง่ คนส�ำ คญั ทางการเมอื ง ผลของการเลอื กตง้ั นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู หนงึ่ เดยี ว ของพรรคประชาธปิ ตั ยช์ นะการเลอื กตงั้ ท�ำ ใหน้ ายณรงค์ วงศว์ รรณ แพ้ การเลอื กตง้ั เปน็ ครง้ั แรก เหลอื ทนี่ ง่ั ไวใ้ หเ้ พอ่ื นสนทิ นายดสุ ติ รงั คสริ ิ กบั นายเมธา เอื้ออภิญญกุล พรรคชาติไทย การเลือกตั้งท่ัวไปครั้งท่ี 19 ยุคของการต่อสู้ในเวทีการเมือง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจังหวัดแพร่ เรียกวา่ เวทีนีเ้ พอ่ื รนุ่ ลกู ผูส้ มัคร รับเลือกตั้งที่ได้รับชัยชนะ อันดับที่ (1) นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู พรรคประชาธิปตั ย์ (2) นายแพทยท์ ศพร เสรรี ักษ์ และ (3) นายเมธา เอื้ออภิญญกลุ สังกดั พรรคชาตไิ ทย การเลือกตั้งทั่วไปคร้ังที่ 20 การเลือกตั้งภายใต้กระแสทักษิณ ฟรเี วอร์ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ และนายวรวัจน์ เออื้ อภญิ ญกลุ ท่ี เดิมสังกัดพรรคชาติไทย ได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย จากความ พยายามในการโค่นฐานเสียงของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู แห่ง พรรคประชาธิปตั ย์ เกอื บจะประสบความส�ำ เรจ็ แตแ่ ม่เลย้ี งตกิ๊ ทีส่ ะสม ผลงานและรักษาฐานเสียงมาเป็นอย่างดียังคงสามารถได้รับการเลือก ตัง้ เป็นอนั ดับ 2 การเลือกตั้งทั่วไปคร้ังท่ี 21 การเลือกต้ังที่กระแสทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ยังคงมาแรงจากผลงานที่ดลใจชาวบ้านระดับ รากหญา้ และการเปน็ นายกรฐั มนตรคี นแรกทบ่ี รหิ ารประเทศครบวาระ 4 ปี ผลท�ำ ใหน้ างศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู ในสงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ยไ์ ม่ สามารถสแู้ รงเสยี ดทานจากทุกดา้ นได้ ประกอบกบั การประกาศชดั เจน การกลับมาของคน “ตระกลู วงศ์ววรณ” ผลทำ�ใหผ้ ้สู มัครในสงั กดั พรรค 120

สรปุ อภปิ รายผลการศกึ ษา และข้อเสนอแนะ ไทยรักไทย คือ นายแพทย์ทศพร เสรรี ักษ์ นายอนวุ ธั วงศว์ รรณ และ นายวรวัจน์ เอ้อื อภญิ ญกุล ไดร้ ับการเลือกต้ังยกทมี การเลือกตั้งท่ัวไปคร้ังท่ี 22 การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ยุคสมัย ของวิวัฒนาการทางการเมืองไทยท่ีมีความสัมพันธ์ระหว่างระบบ พรรคการเมอื งกบั กลมุ่ ผลประโยชนท์ างการเมอื งในระดบั ประเทศทแ่ี ยก ไมอ่ อกจากการเมอื งในระดบั ทอ้ งถนิ่ แสดงใหเ้ หน็ ความสมั พนั ธอ์ ยา่ งมี นยั ส�ำ คญั อาทิ การแบง่ ขว้ั ทางการเมอื งระหวา่ งพรรคเพอ่ื ไทยทเี่ ปลยี่ น ช่ือพรรคมาจากพรรคพลังประชาชน และพรรคไทยรกั ไทย ตามลำ�ดบั ของเหตกุ ารณ์ อนั มผี ลมาจากค�ำ พพิ ากษาของตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู กรณกี ารยบุ พรรคการเมอื ง และผลกระทบจากการรฐั ประหารเมอ่ื วนั ท่ี 19 กนั ยายน พ.ศ. 2549 การเกิดข้นึ ของเครือข่ายและความสัมพนั ธใ์ น การจดั ตงั้ กลมุ่ อทิ ธพิ ล หรอื กลมุ่ ผลประโยชนท์ างการเมอื งส�ำ คญั ไดแ้ ก่ กล่มุ แนวร่วมประชาธปิ ไตยตอ่ ต้านเผด็จการ (นปก) หรอื กลุม่ แนวร่วม ประชาธปิ ไตยขบั ไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุม่ คนเส้อื แดง ซงึ่ มคี วามสัมพันธ์กบั พรรคเพือ่ ไทย และพ.ต.ท. ทกั ษณิ ชนิ วตั ร ผลท�ำ ให้ ผู้สมัครในสังกัดพรรคพลังประชาชนในเวลาน้ันชนะการเลือกตั้งแบบ ยกทีม คอื นายวรวจั น์ เอือ้ อภิญญกุล นางปานหทยั เสรีรกั ษ์ และนาย แพทย์นยิ ม ววิ รรธนดฐิ กลุ ขณะที่ นางศิริวรรณ ปราศจากศตั รู พรรค ประชาธิปตั ย์ ตอ้ งประสบความพา่ ยแพ้เปน็ คร้ังแรก 4. รปู แบบ วธิ กี าร และกลยุทธ์การหาเสยี งในการ เลือกตงั้ ของนกั การเมอื งในพ้ืนทีจ่ งั หวัดแพร่ จาก การประมวลความรู้ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทน 121

นักการเมืองถ่นิ จงั หวดั แพร่ ราษฎรจังหวดั แพร่ ตง้ั แต่ ปี พ.ศ. 2476 – 2550 ผ้วู ิจยั สามารถสรปุ รปู แบบ วธิ กี าร และกลยทุ ธก์ ารหาเสยี งเลอื กตง้ั ของนกั การเมอื งจงั หวดั แพร่ ไดด้ ังนี้ 1. การประกาศเจตนารมณใ์ นการรบั ใชช้ าติ รกั ษาประชา ธปิ ไตย และเปน็ ตวั แทนของพน่ี อ้ งประชาชน ตงั้ แต่อดีตนกั การเมอื งร่นุ เก่า เชน่ นายทอง กันทาธรรม และ นักการเมืองรุ่นใหม่ เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ได้พยายาม ประกาศจุดยืนทางการเมืองในยุคปัจจุบันปี พ.ศ. 2551 หลังการ เลือกตั้งท่ัวไปคร้ังล่าสุด นายวรวัจน์เป็นแกนนำ�ในการประกาศก่อตั้ง “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปก) เมืองแพร่ หรือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมืองแพร่ หรือกลุ่มคนเส้ือแดงเมืองแพร่” ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งทางการเมืองที่เขา เรียกว่า “การเมืองภาคประชาชน” 2. ดา้ นการศึกษา การมีอาชีพครูเป็นท่ียอมรับของบรรดาลูกศิษย์ ครอบครัว และประชาชนทั่วไป อย่างเช่น คุณหญิงบวั เขียว รงั คสริ ิ อาจารย์รตั น์ พนมขวญั การกอ่ ตง้ั มลู นธิ เิ พอื่ การใหท้ นุ การศกึ ษาของ นายดสุ ติ รงั คสริ ิ การบรจิ าคทนุ ทรัพยเ์ พอื่ การศึกษาของนายสธุ รรม สายศร และการกอ่ ต้งั โรงเรียนป่าไม้แพรข่ องอาจารยร์ ตั น์ พนมขวญั เปน็ ต้น ทำ�ให้บคุ คล เหล่าน้ีสามารถนั่งอยู่ในใจของชาวบ้านได้ตลอดเวลาถือเป็นกลยุทธ์ การหาเสยี งทสี่ �ำ คัญ 122

สรุป อภิปรายผลการศกึ ษา และขอ้ เสนอแนะ 3. การหาเสียงแบบเขา้ ถึงชาวบา้ น นายดุสิต รังคสิริ ยึดถือกลยุทธ์วิธีการหาเสียงท่ีสำ�คัญ คือ “พ้นื ฐานดี หาเสยี งงา่ ย คะแนนเสียงมา” จากคำ�สมั ภาษณ์ ท่วี า่ “ดแู ล ประชาชนในพื้นท่ี ทุกงานต้องไปหมด และไปด้วยตัวเอง เข้าถึงใจ ชาวบา้ น เปน็ ปจั จยั ส�ำ คญั ทที่ �ำ ใหช้ นะการเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎรต่อเนื่องยาวนานถงึ 7 สมยั ตดิ ตอ่ กนั ” นายเมธา เอ้ืออภญิ ญกุล เขา้ ถึงชาวบ้านด้วยวธิ กี ารแบบเขา้ ถึง ตวั (Face To Face) ท�ำ ใหช้ าวบา้ นคุ้นเคย เป็นพวกพ้องเดยี วกนั ให้ ความชว่ ยเหลอื ใกลช้ ดิ ชาวบ้าน นายณรงค์ วงศ์วรรณ เน้นความสม่ําเสมอกบั ชาวบ้าน เรียกวา่ ใครมเี รือ่ งอะไร มปี ัญหาอะไร ใครทำ�อะไร ตอ้ งมณี รงค์ วงศว์ รรณ ช่วย เหลืออย่างเสมอ และเท่าเทียมกัน นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ กล่าวว่า ใช้การทำ�งานที่ให้ความ ช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ประชาชนอย่างสมำ่�เสมอ เข้าถึงชาวบ้าน เป็นกันเอง เรียกว่า “ติดดิน” ด้วยภาพลักษณ์ใส่เส้ือผ้าแบบพื้นเมือง “เมอื งแพร่” 4. กลยทุ ธ์การลงพื้นท่ี การลงพ้ืนท่ีไม่ว่าสมัยไหนถือว่าเป็นกลยุทธ์สำ�คัญท้ังระหว่าง ภารกิจการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือช่วงเวลาหาเสียง การอยู่ กับพื้นที่สำ�คัญมาก ท้ังวันหยุดเสาร์อาทิตย์ กล่าวได้ว่า เป็นกลยุทธ์ สำ�คัญท่ีผู้สมัครรับเลือกต้ังทุกคนในจังหวัดแพร่ให้ความสำ�คัญ ไปทุก งาน ทุกสถานทเี่ พื่อใหป้ ระชาชนเหน็ หนา้ และพ่งึ พาไดเ้ สมอ 123

นักการเมอื งถิ่นจังหวัดแพร่ 5. การปราศรัยหาเสียง ในช่วงเวลาของการรณรงค์เพ่ือหาเสียงเลือกตั้งการเคาะประตู ชาวบา้ น ตามวดั ตลาด สถานทชี่ มุ ชน สถานทร่ี าชการ และสถานศกึ ษา เป็นกลยุทธ์ท่ียังคงมีให้เห็นสำ�หรับการหาเสียง โดยมีเครื่องมือสำ�คัญ เพอ่ื การบอกนโยบายพรรค หมายเลขผสู้ มคั ร และผลงานทผี่ า่ นมาของ ผ้สู มคั ร ได้แก่ คทั เอาท์ โปสเตอร์ แผน่ ปลวิ รถแห่ การเคาะประตูตาม บ้าน เพื่อสนับสนุนเครื่องมือที่สำ�คัญ คือ การปราศรัยหาเสียง โดย ผสู้ มคั รจะวางแผนก�ำ หนดวัน เวลา และสถานท่ปี ราศรยั สดั สว่ นของ การปราศรัย ผู้ปราศรัย และผู้รว่ มปราศรยั อาจเป็นปราศรยั ยอ่ ย หรอื ปราศรัยใหญ่ท่ีจะมีระดับขุนพลของพรรคท่ีสังกัดมาช่วย เป็นการเพ่ิม สสี นั และโอกาสในการชนะการเลือกต้ัง 6. กลยทุ ธ์เครอื ขา่ ย และความสมั พนั ธ์แบบ “หวั คะแนน” วิวัฒนาการของการเลือกต้ังระบบพรรคการเมืองตั้งแต่อดีตจน ปัจจุบัน ระบบหัวคะแนนเข้ามามีบทบาทสำ�คัญในการหาเสียง โดย หัวคะแนนจะเป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ทีมงานระดับแกนหลักของผู้สมัครรับ เลือกต้ัง ด้วยการวิเคราะห์ติดตามคะแนนความนิยมในแต่ช่วงวันของ การหาเสยี ง เพอ่ื พลกิ กลยทุ ธอ์ น่ื ๆ มาชว่ ยสนบั สนนุ ใหผ้ สู้ มคั รรบั เลอื ก ตงั้ มคี ะแนนเพม่ิ ขนึ้ ในโคง้ สดุ ทา้ ยของการหาเสยี ง ค�ำ วา่ “หวั คะแนน” จะ หมายถึง ผู้นำ�กลุ่มผทู้ ่ีนิยมผู้สมคั รใหม้ าลงคะแนนเสียงในคูหาเลอื กตั้ง ในบางคร้ังผสู้ มัครจะใช้กลวิธีต่าง ๆ ท่ีให้หัวคะแนนน�ำ ไปใช้ประโยชน์ ในการหาเสยี ง เชน่ เงิน ส่งิ ของ หรือค�ำ สญั ญาว่าจะทำ�ให้ หากไดร้ บั การเลือกตั้ง เป็นต้น 124

สรุป อภปิ รายผลการศึกษา และขอ้ เสนอแนะ 7. กลยทุ ธ์ทางการเงิน คงไมส่ ามารถปฏเิ สธได้ว่า “เงนิ ” เป็นปจั จยั สำ�คญั ทีเ่ ป็นกลยทุ ธ์ สำ�หรับการหาเสียงเลือกตั้ง เพียงว่า “ใครจะใช้มาก หรือใช้น้อยกว่า กัน” ถงึ แมใ้ นการเลอื กตั้งปัจจบุ ัน ประเทศไทยมอี งค์กรอสิ ระท�ำ หน้าท่ี ในการก�ำ กบั ตดิ ตามการเลอื กตงั้ เชน่ คณะกรรมการการเลอื กตงั้ (กกต) กต็ าม และมบี ทลงโทษทางการเมอื งทร่ี นุ แรงภายใตร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราช อาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2550 แมว้ า่ จะไมม่ ผี สู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ หรอื สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรคน ใดยอมรบั วา่ ตนเองซ้ือสิทธิข์ ายเสียง กต็ าม จะมเี พียงเล่าใหฟ้ งั และให้ ขอ้ มลู การวจิ ัยว่า “ผู้สมัครรับเลอื กตั้งฝ่ายตรงขา้ มใชเ้ งนิ มากนอ้ ยเพยี ง ใด” ผู้วจิ ัยสามารถวิเคราะห์สรุปจากข้อมูลไดว้ ่า “การหาเสียงเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพ้ืนท่ีจังหวัดแพร่ เงินยังเป็นปัจจัยสำ�คัญ กับผลแพห้ รอื ชนะการเลือกตั้ง” จาก ค�ำ กลา่ วในบันทกึ ค�ำ สัมภาษณ์ ของนายดสุ ิต รังคสริ ิ ที่ว่า ปัจจัยสำ�คญั ท่ที �ำ ให้ชนะการเลือกตัง้ ได้แก่ 1.การเปน็ คนทมี่ ีพนื้ ฐานครอบครัวเกดิ ทจ่ี งั หวัดแพร่ ครอบครัว บิดามารดาเป็นท่ีรจู้ ัก และได้รับการยอมรับของประชาชนในจงั หวัด 2. การมสี ังคม ญาตพิ ่นี ้อง และบรวิ ารท่มี คี วามกวา้ งขวาง 3. มีใจนักเลง มีพรรคพวกมาก และมีความเขม้ แขง็ และ 4. มีเงนิ มากเพียงพอ บทสรปุ จากการอภปิ รายผลการศกึ ษาเพอื่ สำ�รวจและประมวล ข้อมูลในมิติ ดังกล่าว สังเคราะห์ได้ว่าการมี “ความสัมพันธ์เชิง เครอื ญาติ กลมุ่ การเมอื ง และกลมุ่ อาชพี ” เปน็ ปจั จยั หลกั สำ�คญั ทม่ี สี ว่ น 125

นกั การเมอื งถิ่นจงั หวัดแพร่ สนับสนนุ ในการตดั สินใจลงสมคั รรับเลือกตงั้ และเป็นสว่ นสำ�คญั ท�ำ ให้ ได้รับ ชัยชนะส�ำ หรบั การเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจงั หวดั แพร่ ซึ่งเปน็ ไปตามท่ี ชัยอนันต์ สมุทรวาณิช (2525,น. 41 – 42) กลา่ วถึง สงั คมไทยมกั มลี กั ษณะการรวมกลมุ่ และการเกดิ กลมุ่ ซงึ่ มคี วามสมั พนั ธ์ กนั เปน็ สว่ นบุคคล เรยี กว่า “ระบบอุปถมั ภ์ในสังคมไทย” ซงึ่ มกั เกิดข้นึ ทวั่ ไปในสงั คมไทย ทมี่ รี ะบบชนชนั้ อนั สบื เนอ่ื งมาจากระบบศกั ดนิ านยิ ม ในอดตี โดยถอื เอาความผกู พนั ความสมั พนั ธท์ างสงั คม การเกอื้ กลู ทง้ั น้ี สอดคล้องกับทฤษฎีกลไกการปกครองระบอบประชาธิปไตย ท่ีมีกลไก ทำ�หน้าที่ในฐานะองค์กรขับเคล่ือนท่ีสำ�คัญ และมีอิทธิพลต่อบทบาท ทางการเมืองของนกั การเมืองในฐานะสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผลประโยชน์ กลมุ่ อทิ ธพิ ล และพรรคการเมอื ง อนั มคี วามสมั พนั ธ์ เชงิ สาเหตแุ ละผล ทผี่ วู้ จิ ยั ไดด้ �ำ เนนิ การทบทวนวรรณกรรมไวใ้ นบทท่ี 2 ข้อมลู ทว่ั ไป แนวคดิ ทฤษฎี และงานวิจัยทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 5. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ผลการศึกษาวิจัยประมวลข้อมูลการเมืองถ่ินและนักการเมือง ถ่ินในพ้นื ทจ่ี งั หวดั แพร่ ในสว่ นของผทู้ ด่ี ำ�รงต�ำ แหน่งสมาชิกสภาผ้แู ทน ราษฎร ต้งั แต่การเลอื กต้ังท่วั ไปคร้งั ที่ 1 ปี พ.ศ. 2476 ถงึ การเลอื กตง้ั ทั่วไปครัง้ ท่ี 22 ของประเทศไทย เม่ือ วนั ท่ี 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เพือ่ ตอบค�ำ ถามการวิจัย 4 ดา้ นหลกั ได้แก่ 1. เครอื ข่ายและความสมั พันธ์ของนกั การเมอื งในจังหวดั แพร่ 2. บทบาทและความสมั พันธข์ องกล่มุ ผลประโยชน์ และกลุ่มไม่ เปน็ ทางการ เชน่ ครอบครวั วงศาคณาญาติ กลุ่มการเมือง เป็นต้น ทม่ี ี 126

สรปุ อภิปรายผลการศกึ ษา และขอ้ เสนอแนะ สว่ นสนับสนุนทางการเมอื งแก่นกั การเมอื งในจังหวัดแพร่ 3. บทบาทและความสมั พนั ธข์ องพรรคการเมอื งกบั นกั การเมอื ง ในจังหวัดแพร่ 4. รปู แบบ วธิ กี าร และกลยทุ ธก์ ารหาเสยี งในการเลือกตัง้ ของ นกั การเมืองในจงั หวัดแพร่ ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเพ่ือ ประมวลความรนู้ กั การเมอื งไทย และการศกึ ษาตอ่ เน่อื งในอนาคต อัน จะนำ�ไปสู่การจัดการความรู้ด้านชีวประวัติของนักการเมืองไทย ตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาภูมิหลังทางการ เมืองของประเทศในหลายแงม่ ุม ดังน้ี 1. ประเด็นพัฒนาการทางการเมืองของประชาชนแบบมี ส่วนร่วมที่เอ้ือต่อการพัฒนาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมุข เนื่องจาก ประเทศไทยพัฒนาระบอบประชาธิปไตยมาด้วยวิธี การอภิวัฒน์การปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมกี ารใชอ้ ำ�นาจอธปิ ไตย 3 ฝา่ ย คือ ฝา่ ยบริหาร ฝา่ ยนิตบิ ญั ญัติ และฝ่ายตลุ าการ ซงึ่ การใช้อำ�นาจอธปิ ไตยตามระบบรัฐสภา คอื การ ใช้อ�ำ นาจเพอ่ื การตรวจสอบและถ่วงดลุ อำ�นาจ (Check and Balance) เหตุผลส�ำ คัญ จากการศกึ ษาวิจัย พบวา่ ชาวบ้านบางกล่มุ ใน จังหวัดแพร่ไม่เข้าใจกระบวนการทางการเมืองของระบบรัฐสภาตาม ระบอบประชาธิปไตย ว่าเป็นเร่ืองของการใช้อำ�นาจอธิปไตย 3 ฝ่าย 127

นกั การเมืองถ่ินจงั หวัดแพร่ ซึง่ อ�ำ นาจตุลาการเปน็ หนึ่งใน 3 อ�ำ นาจอธิปไตย ที่มหี นา้ ทต่ี รวจสอบ และถ่วงดุลกันและกัน อันเป็นสาเหตุจากการสะดุดของพัฒนาการ ทางการเมืองของประเทศในปัจจุบันกับคำ�กล่าวว่า “ตุลาการภิวัฒน์” เร่อื งของฝา่ ยการเมอื ง คอื ฝ่ายบริหาร และฝา่ ยนติ ิบัญญตั ิ ไม่ใชเ่ รือ่ ง ของฝ่ายตุลาการ ประชาชนบางกลุ่มจึงตกเป็นเคร่ืองมือของความ ขัดแยง้ ในสังคม ขอ้ เสนอแนะ มกี ารศึกษากลไกพัฒนาการเมอื งภาคประชาชน หรือภาคประชาสังคม เพื่อส่งเสริมการรับรู้ของประชาชน และการมี สว่ นรว่ มทางการเมอื งของประชาชนทมี่ เี ครอื ขา่ ย และความสมั พนั ธก์ บั องคก์ รอิสระต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ สถาบนั การศกึ ษา อันเชือ่ ได้ว่าจะ นำ�ไปสกู่ ารพฒั นาองคค์ วามรู้ใหม่ในอนาคต 2. ประเด็นวัฒนธรรมทางการเมืองระบบเครือญาติ และ ระบบอุปถมั ภ์ เน่ืองจากข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่า นักการเมืองในพื้นที่ จังหวัดแพร่ และในหลายจังหวัด มักมีความสัมพันธ์และเครือข่ายใน ระบบอุปถัมภ์ ระบบวงศาคณาญาติ มากกว่าความรู้ ความสามารถ นกั การเมอื งในจงั หวดั แพรจ่ งึ มสี ายความสมั พนั ธเ์ พยี งไมก่ ตี่ ระกลู และ แบ่งเปน็ กล่มุ หากผลประโยชน์ และอำ�นาจทางการเมอื งเปล่ยี นแปลง สามารถนำ�ไปสู่ความรุนแรง และความมงุ่ หมายในชวี ิต ขอ้ เสนอแนะ การเสรมิ สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจในกระบวนการ ทางการเมือง การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสร้างความเข้มแข็งของระบบ พรรคการเมือง การพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมือง เพ่ือเป็นกลไกขับเคล่ือนประชาธิปไตยระบบรัฐสภาให้มีความสมบูรณ์ 128

สรุป อภิปรายผลการศกึ ษา และข้อเสนอแนะ อาทิ กระบวนการสรรหาคัดเลือกผู้แทนพรรคการเมืองให้เป็นผู้สมัคร รบั เลอื กตงั้ ในจงั หวดั ตา่ ง ๆ มากกวา่ การทจี่ ะผกู ขาดในระบบเครอื ญาติ ตามผลการศกึ ษาวจิ ยั 3. ประเด็นการสนบั สนนุ ทนุ การวจิ ัย ตอ่ เน่ือง ผลงานวิจัยที่เกิดข้ึน และมีความสำ�เร็จต้องอาศัยปัจจัยหลาย ด้าน อาทิ การสนบั สนนุ ทุนการวิจยั จากสถาบันพระปกเกล้า นักวจิ ัยท่ี มที ศั นคติ และแนวคดิ ทจี่ ะพฒั นาการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข และการพฒั นาองค์ความรู้ เคร่ือง มอื ดา้ นระยะเวลา และความตอ่ เน่อื งของงานวจิ ัย เหตุผลสำ�คัญ ประเทศไทยยังขาดนักวิจัย ขาดแหล่งทุน สนบั สนนุ การวจิ ยั และความตอ่ เนอ่ื งในผลงานการวจิ ยั ของนกั วจิ ยั ทาง รฐั ศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ข้อเสนอแนะ การสนับสนุนทุนวจิ ัยทเ่ี พยี งพอ ระยะเวลาการ วิจยั ทเี่ หมาะสม และความตอ่ เนือ่ งของงานวจิ ัยที่สถาบนั พระปกเกล้า จะสนับสนนุ ในอนาคต อยา่ งตอ่ เนอื่ ง อันน�ำ ไปสกู่ ารสร้างนักวจิ ยั ให้ กบั ประเทศไทย ต่อไป 129

บรรณานุกรมนกั การเมอื งถ่นิ จงั หวดั แพร่ คณิน บุญสุวรรณ, ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย ฉบับสมบูรณ์, กรุงเทพมหานคร : สำ�นกั พมิ พ์สขุ ภาพใจ บรษิ ัทตถาตา พับลเิ คชนั่ จำ�กดั , 2548. โคทม อารยี า, สารานกุ รมรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (พ.ศ.2540) หมวด องค์การทางการเมือง, กรุงเทพมหานคร : องคก์ ารค้าคุรุสภา,2544. จักรพันธุ์ วงษ์บูรณาวาทย์,ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์. เชียงใหม่ : ภาควิชา รัฐศาสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม,่ 2542. ชยั อนันต์ สมทุ วาณชิ ,การเมืองการบริหาร.กรงุ เทพมหานคร : สำ�นกั พิมพบ์ รรณ กิจ.2525. ชาญณวุฒ ไชยรักษา, นักการเมืองถ่ินจังหวัดพิษณุโลก. นนทบุรี : สถาบัน พระปกเกลา้ .2549. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ,ประวัติการเมืองไทย 2475 – 2500 ขุนพลภูพาน.มูลนิธิ โครงการต�ำ ราสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์, โรงพมิ พเ์ รอื นแกว้ , 2549. เดชชาติ วงศโ์ กมลเชษฐ,์ หลักรัฐศาสตร.์ กรงุ เทพมหานคร : สมาคมสงั คมศาสตร,์ 2535 ตนิ ปรัชญพฤทธ,ิ์ ศัพท์ทางรัฐประศาสนศาสตร.์ กรุงเทพมหานคร : ส�ำ นกั พิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2546. ท่ีทำ�การปกครองจังหวัดแพร,่ ขอ้ มูลการปกครอง.แพร่.2550. ปรีชา จนั ทรเ์ รอื ง,พฤตกิ รรมการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรไทย.รัฐสภา สาร,2540. 130

บรรณานุกรม ประกายศรี ศรีรุ่งเรือง, นักการเมืองถ่ินจังหวัดเชียงราย. นนทบุรี : สถาบัน พระปกเกลา้ .2550. ภิญโญ ตันพิทยคุปต์, สำ�รวจเพ่ือประมวลนักการเมืองถิ่น : จังหวัดสงขลา. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกลา้ .2549. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2550, กรงุ เทพมหานคร : ส�ำ นัก พมิ พค์ ณะรฐั มนตรแี ละราชกิจจานุเบกษา, 2550. โรงเรียนรอ้ งกวางอนสุ รณ,์ ประวตั ิโรงเรยี นรอ้ งกวางอนุสรณ์. แพร.่ 2549 วภิ าค ฉัพพรรณ. บทสรุปที่ไม่จบ กรณีณรงค์ วงศว์ รรณ ถูกสหรัฐแบล็คลิสต์ เปน็ บคุ คลตอ้ งหา้ ม. มตชิ นรายวนั . 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 (หน้า 3) สานติ ย์ เพชรกาฬ, นกั การเมอื งถนิ่ จงั หวดั พทั ลงุ . นนทบรุ ี : สถาบนั พระปกเกลา้ . 2550. สำ�นกั งานวัฒนธรรมจังหวัดแพร,่ ข้อมูลพิพธิ ภัณฑเ์ สรีไทยแพร.่ แพร.่ 2552. .ข้อมูลสมาชิกสภา ณ ส�ำ นักงานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราชฎร. ขอ้ มลู สมาชกิ สภา ณ ป.ี 2555 .สำ�นักวชิ าการ. กรงุ เทพมหานคร เวบ็ ไซต์ http://www.parliament.go.th http://www.thailand/political http://www.wikipedia.org 131

ภาคผนวกนกั การเมืองถ่นิ จังหวัดแพร่ ก แบบสัมภาษณ์ นักการเมอื งถน่ิ ในพน้ื ทีจ่ งั หวดั แพร่ ……………………………………………………… ขอ้ มลู .................................................วนั เกดิ .........................อาย…ุ ..……ปี ผู้ใหส้ มั ภาษณ์ .............................................................................................. ................................................................................................................... ประวัตคิ รอบครวั (บิดา/มารดา/ครอบครวั ) .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ประวัตกิ ารศกึ ษา .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ประวตั ิการท�ำ งาน .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... 132

ภาคผนวก บทบาททางสงั คมก่อนลงสมัครรบั เลอื กตงั้ .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ประวัติการเปน็ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... สาเหตุ/ปัจจัยการลงสมคั รรบั การเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร กลุ่มผลประโยชน์(กลุ่มทางการ)ที่มอี ทิ ธิพลสนับสนุนการเลอื กต้งั เชน่ .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... กลุ่มไม่เป็นทางการมอี ทิ ธพิ ลสนับสนุนการเลอื กต้ัง เชน่ ครอบครัว วงศาคณา ญาติ .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... พรรคการเมืองมีอทิ ธพิ ลหรือมีส่วนสนบั สนุนส่งเสรมิ ใหช้ นะการเลอื กต้ัง .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... แนวทาง วธิ กี าร หรอื กลยทุ ธท์ ีใ่ ช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... 133

นกั การเมืองถิ่นจงั หวดั แพร่ ปัจจัยทีท่ �ำ ใหช้ นะการเลือกต้งั ตัวแปรท่ีส�ำ คญั คอื .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... บทบาททางการเมือง .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ทา่ นคดิ วา่ การเมืองทอ้ งถ่ินจงั หวดั แพรม่ ีอัตลักษณ์ทสี่ ำ�คญั .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ขอ้ คิดเหน็ หรือข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาการเมืองไทย .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ขอขอบพระคุณในความอนเุ คราะหข์ อ้ มลู .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... อ.วันชาติ นภาศรี นักวจิ ยั 134

ภาคผภานคผวนกวก ข รายนามผู้ให้คำ�สมั ภาษณ์ รายนามผู้ได้รับการสัมภาษณ์ ประกอบด้วย นักการเมืองถิ่น เครอื ญาติ และผูส้ นับสนุน ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. นายภชุ งค์ กันทาธรรม 2. นายดสุ ิต รงั คสริ ิ 3. นายทศพร เสรีรกั ษ์ 4. นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ 5. นางศริ ิวรรณ ปราศจากศัตรู 6. นายประสงค์ (ไม่ทราบนามสกุล) คนสนิทของ นางศิรวิ รรณ ปราศจากศตั รู 7. นายสาคร เสยี งมงคล 8. นายสูรย์ สขุ วงศ์ 9. นายนิยม วิวรรธนดิฐกลุ 135