Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 29นักการเมืองถิ่นแพร่.

29นักการเมืองถิ่นแพร่.

Description: เล่มที29นักการเมืองถิ่นแพร่.

Search

Read the Text Version

นักการเมอื งถนิ่ จังหวดั แพร่ รฐั มนตรี สมยั ที่ 2 อยา่ งไรกต็ าม กระแสเศรษฐกจิ ตกต�ำ่ ยงั คงอยู่ ในขณะที่ รฐั บาล พยายามแก้ไขปัญหาด้านการสร้างเสถียรภาพทางการเงินของสถาบัน การเงนิ ใหก้ ลบั มคี วามมน่ั คง และความนา่ เชอื่ ถอื เมอื่ กฎหมายประกอบ รฐั ธรรมนญู ส�ำ คญั 3 ฉบบั คอื พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยคณะกรรมการการ เลอื กตั้ง พระราชบญั ญตั ิว่าดว้ ยพรรคการเมือง และพระราชบัญญัติว่า ดว้ ยการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร และสมาชกิ วฒุ สิ ภาผา่ นการ พจิ ารณาของรฐั สภา และประกาศใช้ รฐั บาลจงึ ก�ำ หนดการเลอื กตง้ั ทวั่ ไป ขน้ึ ใน วนั ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 เปน็ การเลอื กตง้ั ตามบทบญั ญตั ขิ อง รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2540 ทก่ี �ำ หนดสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร มีจำ�นวน 500 คน ประกอบด้วย สมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎรแบบบัญชรี ายช่อื (Party List) 100 คน และแบบแบง่ เขต 400 คน ก�ำ หนดการค�ำ นวณเกณฑป์ ระชากรตอ่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 1 คน โดยค�ำ นวณจากจ�ำ นวนประชากรทง้ั ประเทศตามหลกั ฐานทะเบยี น ราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีท่ีมีการเลือกต้ัง เฉลี่ยด้วยจำ�นวน สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 400 คน เรยี กว่า เปน็ การเลอื กตั้งแบบแบง่ เขตเลอื กต้งั เปน็ ระบบ One Man One Vote กลา่ วคอื เขตเลือกตงั้ แต่ ละเขต มีจ�ำ นวน สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 1 คน (400 คน : 400 เขต) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ ไดแ้ ก่ นาแพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ สงั กดั พรรคไทยรกั ไทย นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู สงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ และนายวรวจั น์ เออ้ื อภญิ ญกลุ สงั กดั พรรคไทยรกั ไทย การเลือกตั้งทั่วไปคร้ังที่ 21 การเลือกตั้งตามบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เม่ือวันท่ี 6 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2548 จากการเลอื กต้งั ในครง้ั นี้ การบรหิ ารประเทศ 36

ขอ้ มูลทวั่ ไป แนวคดิ ทฤษฎีและงานวิจัยท่เี ก่ียวขอ้ ง โดย พ.ต.ท.ทกั ษณิ ชนิ วตั ร อย่ใู นตำ�แหนง่ ได้เพยี ง 1 ปเี ศษ ตอ่ มา เมือ่ วนั ที่ 19 กนั ยายน พ.ศ. 2549 คณะมนตรีความมนั่ คงแหง่ ชาติ (คมช.) โดย พลเอกสนธิ บุญญรัตกลิน ทำ�รัฐประหารและแต่งต้ังให้ พลเอก สรุ ยทุ ธ์ จลุ านนท์ เปน็ นายกรฐั มนตรี พรอ้ มประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (ฉบับชว่ั คราว) พทุ ธศกั ราช 2549 กบั ประกาศแตง่ ตง้ั สภาความมนั่ คงแหง่ ชาติ เพ่ือทำ�หนา้ ท่ดี ้านนติ ิบญั ญตั ิ และแต่งตงั้ สภารา่ งรฐั ธรรมนญู ท�ำ หนา้ ทย่ี กรา่ งรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2550 (ฉบับท่ี 18) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ สงั กดั พรรคไทยรกั ไทย ได้ รบั การเลอื กตง้ั ยกทมี ไดแ้ ก่ นายแพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ นายอนวุ ธั วงศว์ รรณ และนายวรวจั น์ เอื้ออภิญญกุล การเลอื กตงั้ ทว่ั ไปครงั้ ที่ 22 บทบญั ญตั ติ ามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราช อาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2550 กำ�หนดใหม้ สี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จำ�นวน 480 คน มาจากการเลอื กตง้ั แบบแบง่ เขตเลือกต้งั จำ�นวน 400 คน และสมาชกิ มาจากการเลือกต้งั แบบสัดส่วน จำ�นวน 80 คน พร้อม ก�ำ หนดให้ วนั ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นวันเลอื กตั้งทวั่ ไป สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ สงั กดั พรรคพลงั ประชาชน ได้รับการเลือกต้ังยกทีม ได้แก่ นางปานหทัย เสรีรักษ์ นายวรวัจน์ เอือ้ อภญิ ญกลุ และนายแพทย์นิยม ววิ รรธนดิฐกุล ซ่ึงต่อมา องคค์ ณะ ผู้พิพากษาในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำ�ส่ังวินิจฉัยด้วยมติเสียงข้าง มากให้ยุบพรรคพลังประชาชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 3 คนจึง ย้ายไปสังกดั พรรคเพ่อื ไทย 37

นักการเมืองถ่นิ จังหวัดแพร่ ตารางที่ 1 แสดงการเลือกตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดแพร่ พ.ศ. 2476 – 2550 ครงั้ ที่ วัน/เดอื น/ปี ลำ� ดบั /ช่อื – สกลุ เขต พรรค หมายเหตุ 1 15 พ.ย. 2476 1. นายวงศ์ แสนศิริพนั ธ์ุ เลอื กตั้งเพ่มิ 2 7 พ.ย. 2480 1. นายทอง กนั ทาธรรม ชาตินยิ ม เสรีมนังคศิลา 3 12 พ.ย. 2481 1. นายทอง กันทาธรรม ประชาธปิ ัตย์ 4 6 ม.ค. 2489 1. นายทอง กันทาธรรม ชาตินิยม 5 ส.ค. 2489 นายวภิ าต บุญศรี วังซ้าย ไมส่ งั กัดพรรค ไมส่ ังกัดพรรค 5 29 ม.ค. 2491 1. นายวงั ศศิบุตร์ สังคมชาตนิ ยิ ม ธรรมสังคม 6 26 ก.พ. 2495 1. นายวัง ศศิบุตร์ เสรีชน 7 26 ก.พ. 2500 1. นายทอง กันทาธรรม ชาตไิ ทย 2. นายวัง ศศิบตุ ร์ ชาติไทย ชาติไทย 8 15 ธ.ค. 2500 1. นายไชย วงศส์ ว่าง รวมไทย 2. นายทอง กันทาธรรม ชาติไทย รวมไทย 9 10 ก.พ. 2512 1. นายผจญ ผาทอง 2. นายสธุ รรม สายศร 1. คุณหญิง บัวเขียว รังคสริ ิ 10 26 ม.ค. 2518 2. นายเมธา เอื้ออภิญญกุล 3. จ.ส.อ. สมชาย อินทราวุธ 1. นายรัตน์ พนมขวญั 11 4 เม.ย. 2519 2. คณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ 3. นายนคร ตนั จันทรพ์ งศ์ 1. นายณรงค์ วงศ์วรรณ 12 22 เม.ย. 2522 2. นายดุสติ รังคสริ ิ 3. นายพล วัชรปรีชา 38

ขอ้ มูลทั่วไป แนวคิดทฤษฎีและงานวิจยั ทเี่ ก่ียวขอ้ ง ครง้ั ท่ี วนั /เดือน/ปี ล�ำดับ/ชือ่ – สกลุ เขต พรรค หมายเหตุ 1. นายณรงค์ วงศว์ รรณ กจิ สังคม/รวมไทย 13 18 เม.ย. 2526 2. นายดสุ ิต รังคสริ ิ ชาตไิ ทย 3. นายพล วชั รปรชี า 1. นายณรงค์ วงศ์วรรณ รวมไทย ถงึ แกก่ รรม 2. นายดสุ ิต รงั คสริ ิ ชาติไทย 11 ธ.ค. 30 14 27 ก.ค. 2529 3. นายพล วชั รปรีชา รวมไทย เลอื กตงั้ แทน 21 ก.พ. 31 นายชูวิทย์ จิตรสกลุ 1. นายณรงค์ วงศว์ รรณ รวมไทย/เอกภาพ 15 24 ก.ค. 2531 2. นายดสุ ิต รงั คสริ ิ ชาติไทย 3. นายชวู ิทย์ จติ รสกลุ รวมไทย/เอกภาพ 1. นายณรงค์ วงศว์ รรณ สามัคคีธรรม 16 22 มี.ค. 2535 2. นายเมธา เอื้ออภญิ ญกลุ สามคั คธี รรม 3. นายดสุ ติ รงั คสริ ิ ชาตไิ ทย 1. นายดุสิต รงั คสริ ิ ชาติไทย 17 13 ก.ย. 2535 2. นายเมธา เออ้ื อภญิ ญกุล ชาตไิ ทย ชาติไทย 3. นายณรงค์ วงศว์ รรณ ชาตไิ ทย ชาตไิ ทย 18 2 ก.ค. 2538 1. นายดุสติ รังคสริ ิ ประชาธปิ ตั ย์ 2. นายเมธา เออื้ อภญิ ญกุล ประชาธปิ ตั ย์ 3. นางศิรวิ รรณ ปราศจากศตั รู ชาติไทย ชาติไทย 1. นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู 19 17 พ.ย 2539 2. นายทศพร เสรรี กั ษ์ 3. นายวรวจั น์ เอื้ออภญิ ญกลุ 20 6 ม.ค. 2544 1. นายทศพร เสรรี ักษ์ 1 ไทยรกั ไทย 2. นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู 2 ประชาธปิ ัตย์ 3. นายวรวัจน์ เออ้ื อภิญญกุล 3 ไทยรกั ไทย 21 6 ก.พ. 2548 1. นายทศพร เสรีรกั ษ์ 1 ไทยรักไทย 2. นายอนุวัธ วงศ์วรรณ 2 ไทยรกั ไทย 3. นายวรวจั น์ เออ้ื อภิญญกลุ 3 ไทยรกั ไทย 39

นักการเมอื งถิน่ จังหวัดแพร่ คร้งั ที่ วัน/เดือน/ปี ล�ำดบั /ชือ่ – สกุล เขต พรรค หมายเหตุ เพอ่ื ไทย 1.นางปานหทยั เสรรี ักษ์ 1 เพือ่ ไทย 22 23 ธ.ค.2550 2.นายนยิ ม วิวรรธนดิฐกลุ 2 เพอ่ื ไทย 3 3.นายวรวจั น์ เอื้ออภิญญกลุ ทมี่ า : รายชอื่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2475 - 2550 กลมุ่ งานบรกิ ารวชิ าการ 1 สำ�นักวิชาการ ส�ำ นักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ข้อมลู ทว่ั ไปจงั หวัดแพร่ ตำ�นานเมืองแพร่ เป็นเมืองเก่าเมืองหนึ่งในภาคเหนือของ ประเทศไทย ประวัติศาสตร์การสร้างเมือง ไม่มีจารึกไว้ในที่ใดท่ีหนึ่ง โดยเฉพาะ การศึกษาเร่ืองราวของเมืองแพร่จึงต้องอาศัยหลักฐาน ตา่ ง ๆ เช่น พงศาวดารโยนก ต�ำ นานเมืองเหนือ ต�ำ นานการสร้างพระ ธาตลุ �ำ ปางหลวง และศลิ าจารกึ พอ่ ขนุ รามค�ำ แหงมหาราช เปน็ ตน้ จาก ต�ำ นานพระธาตชุ ่อแฮ กลา่ วว่า เมืองแพร่มมี าตง้ั แตส่ มยั พุทธศตวรรษ ที่ 17 เป็นรัฐของคนพื้นเมืองที่เกิดข้ึนภายในหุบเขา เป็นชุมชนทาง ผ่านของเสน้ ทางสนิ ค้าระหวา่ งหลวงพระบางและสุโขทัย เมอื งแพร่อยู่ ในฐานะแวน่ แควน้ หรือ รฐั อิสระ สรา้ งความสัมพันธ์กบั เมืองอนื่ ผ่าน ระบบเครือญาตแิ ละการค้า ต�ำ นานวัดหลวง กลา่ ววา่ ประมาณ พ.ศ. 1371 พ่อขุนหลวงพล ราชนัดดาแห่งกษัตริย์น่านเจ้าได้อพยพคนไทย (ไทยลือ้ ไทยเขิน) ส่วนหน่งึ จากเมืองเชียงแสน ไชยบุรี และเวยี งพางค�ำ มาสรา้ งเมอื งบนทรี่ าบรมิ ฝง่ั แมน่ �้ำ ยม ขนานนามวา่ เมอื งพลนคร (เมอื ง แพรป่ จั จบุ นั ) ต�ำ นานสิงหนวัติ กล่าววา่ เมอื งแพร่ เปน็ เมืองทป่ี กครอง 40

ขอ้ มูลท่วั ไป แนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวจิ ัยทเี่ กย่ี วขอ้ ง โดยพญาย่ีบา แห่งแคว้นหริภุญไชย สันนิฐานว่าเมืองแพร่ และเมือง ลำ�พูน เป็นเมืองที่สร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งสอดคล้องกับ หลกั ศลิ าจารึกพอ่ ขุนรามค�ำ แหงมหาราช หลักที่ 1 ด้านที่ 4 บรรทดั ที่ 24 – 25 ซง่ึ จารกึ ไวว้ า่ “ เบ้ืองตนี นอน รอดเมอื งแพล เมืองน่าน เมือง พลัวพน้ ฝง่ั ของเมอื งชวาเป็นทีแ่ ลว้ ” ในขอ้ ความนเี้ มืองแพล คอื เมอื ง แพร่ ศิลาจารึกนี้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1826 จึงเป็นสิ่งท่ียืนยันถึงความ เก่าแก่ของเมืองแพร่ว่ามีมาก่อนเมืองเชียงใหม่ และเช่ือว่าเมืองแพร่ ได้ก่อต้ังขึ้นแล้วก่อนการตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ชื่อเดิมของเมือง แพร่ จากการค้นพบ ไดแ้ ก่ เมอื งพล นครพล หรือพลรัฐนคร ซึง่ เปน็ ช่ือ เกา่ แกด่ งั้ เดิมท่สี ดุ ท่พี บ ในตำ�นานเมืองเหนอื ฉบับใบลาน พ.ศ.1824 กล่าวไวต้ อนหน่งึ วา่ เจา้ เมอื งลำ�ปางได้สง่ คนมาติดต่อเจ้านครพลใหไ้ ปร่วมงานนมสั การ และฉลองวัดพระธาตุลำ�ปางหลวง จากตำ�นาน พระธาตุลำ�ปางหลวง ตอนหนึ่ง ได้กล่าวถึง เจ้าเมืองพลยกกำ�ลังผู้คนไปขุดหาพระบรม สารรี กิ ธาตุ แตไ่ มพ่ บ เมอื่ ศกึ ษาต�ำ แหนง่ ทตี่ งั้ ของนครพลต�ำ นานดงั กลา่ ว พบวา่ คนเมอื งแพรป่ จั จบุ นั ชอ่ื พลนคร ปรากฏเปน็ ชอื่ วหิ ารในวดั หลวง ต�ำ บลในเวียง อ�ำ เภอเมืองแพร่ โดยเชอื่ ว่าวัดนเี้ ปน็ วดั ทีส่ ร้างมาพร้อม กบั การสรา้ งเมอื งแพร่ และเจา้ เมอื งแพรใ่ หค้ วามอปุ ถมั ภม์ าจนหมดยคุ การปกครองโดยเจา้ เมอื งโกศยั เปน็ ชอ่ื ทป่ี รากฏในพงศาวดารเมอื งเงนิ ยางเชยี งแสน ชอื่ นเ้ี รยี กเมอื งแพรใ่ นสมยั ขอมเรอื งอ�ำ นาจ ทชี่ อื่ เมอื งใน อาณาจักรล้านนาเปลย่ี นเป็นภาษาบาลีตามความในยุคนั้น เช่น นา่ น เปน็ นันทบุรี ลำ�พูนเป็นหริภุญไชย ล�ำ ปางเปน็ เขลางคน์ คร เปน็ ต้น ช่ือ “เวียงโกศัย” มาจากช่ือดอยที่เป็นที่ตั้งของพระธาตุช่อแฮ ซึ่งเป็นพระธาตุศักด์ิสิทธ์ิคู่บ้านคู่เมืองแพร่ คือ ดอยโกศัยธชัคบรรพต 41

นักการเมืองถิ่นจังหวดั แพร่ หมายถึง ดอยแห่งผ้าแพร เมืองแพล เป็นช่ือที่ปรากฏ ในศิลาจารึก พ่อขนุ รามค�ำ แหงมหาราช หลกั ที่ 1 ด้านท่ี 4 โดยคำ�วา่ “แพล” นา่ จะ มาจากศรัทธาของชาวเมืองที่มีต่อพระธาตุช่อแพร หรือช่อแฮท่ีสร้าง ขน้ึ ภายหลังการสรา้ งเมอื ง ต่อมา จึงได้ เรยี กช่ือว่า “เมอื งแพล” และได้ กลายเสยี งเปน็ “เมอื งแพร”่ ในปจั จุบัน (ท่มี า ขอ้ มลู ทวั่ ไปจังหวัดแพร่ สำ�นกั งานจงั หวัดแพร่) สัญลกั ษณ์จงั หวัดแพร่ รปู มา้ ยนื มพี ระธาตชุ อ่ แฮอยบู่ นหลงั มา้ หมายถงึ นามเมอื ง และ คณะกรรมการจงั หวดั แพร่ ไดเ้ สนอรปู มา้ ยนื เปน็ ดวงตราประจ�ำ จงั หวดั และไดน้ �ำ ภาพโบราณสถานทส่ี �ำ คญั ของจงั หวดั กค็ อื พระธาตชุ อ่ แฮ มา ประกอบอยู่บนหลังม้าด้วย ค�ำ ขวญั ของจังหวดั แพร่ หมอ้ หอ้ มไม้สกั ถิ่นรกั พระลอ ชอ่ แฮศรีเมือง ลอื เล่อื งแพะเมืองผี คนแพรน่ ใี้ จงาม 42

ข้อมลู ท่วั ไป แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ธงประจำ�จงั หวดั แพร่ จังหวัดแพร่เป็น 1 ใน 17 จงั หวดั ภาคเหนอื ของประเทศไทย ตัง้ อย่รู ะหวา่ งเสน้ รุ้งเหนอื ท่ี 14.70 ถึง 18.44 องศา กบั เส้นแวงที่ 99.58 ถึง 100.32 องศา อยสู่ ูงกว่าระดับน้ำ�ทะเลประมาณ 155 เมตร อยู่ห่าง จากกรงุ เทพมหานคร ตามทางหลวงหมายเลข 11 และ 101 ประมาณ 555 กโิ ลเมตร และทางรถไฟ 550 กโิ ลเมตร (ถงึ สถานรี ถไฟเดน่ ชัย) มี เน้ือทปี่ ระมาณ 6,538.59 ตารากโิ ลเมตร หรอื ประมาณ 4,086,625 ไร่ และมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวดั ใกล้เคยี งไดแ้ ก่ ทศิ เหนือ ตดิ ตอ่ กบั จงั หวดั พะเยาและจงั หวดั ล�ำ ปาง ทิศตะวันออก ตดิ ตอ่ กบั จังหวดั น่าน ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กบั จงั หวัดอุตรดิตถแ์ ละ จังหวัดสุโขทัย ทิศตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กบั จงั หวดั ล�ำ ปางและจงั หวดั สโุ ขทยั ด้านประชากร จังหวัดแพร่ มีประชากรทั้งหมด 467,653 คน แบ่งเป็นชาย จ�ำ นวน 228,705 คน และ เป็นหญิงจ�ำ นวน 238,948 คน มจี �ำ นวน บา้ น 154,513 หลังคาเรอื น 43

นักการเมอื งถ่นิ จงั หวดั แพร่ แผนทีต่ งั้ จังหวดั แพร่ ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2550 วันท่ี 23 ธนั วาคม 2550 จังหวัดแพร่ มีผู้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำ�นวนรวม ทั้งสนิ้ 24 คน 8 พรรคการเมอื ง มจี �ำ นวนผู้มีสิทธิเลอื กตงั้ 356,013 คน มีผู้มาใชส้ ิทธิรวมทั้งหมด 284,587 คน คิดเป็นร้อยละ 79.94 ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งล่าสุด ได้แก่ พรรคพลงั ประชาชน ซึ่งประกอบด้วย นายวรวัจน์ เออ้ื อภญิ ญกุล นาง 44

ข้อมลู ทว่ั ไป แนวคิดทฤษฎแี ละงานวิจัยทเี่ ก่ยี วข้อง ปานหทยั เสรรี กั ษ์ และนายนยิ ม วิวรรธนดฐิ กลุ และ ผลการเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรแบบสัดส่วน ได้แก่ พรรคพลังประชาชน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีคำ�สั่งท่ี 24/2551 ลงวันท่ี 14 มกราคม 2551 สง่ั ใหม้ กี ารเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั แพร่ เขตเลอื กตง้ั ที่ 1 จ�ำ นวน 3 คน ใหม่ โดยก�ำ หนดให้มีการเลอื ก ตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2551 โดยในการเลอื กตง้ั คร้งั นีม้ ผี ู้มี สิทธิเลือกตัง้ 356,039 คน มีผู้มาใช้สิทธิท้ังหมด 224,233 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 62.98 ซงึ่ ผลการเลือกต้งั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ไดแ้ ก่ นาย วรวจั น์ เออ้ื อภญิ ญกลุ นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ และนายนยิ ม ววิ รรธนดฐิ กลุ สงั กัดพรรคพลงั ประชาชน (ยา้ ยมาสงั กัดพรรคเพอื่ ไทย ในปัจจบุ นั จาก กรณกี ารยบุ พรรคพลงั ประชาชน) 45



บ3ทที่ขอ้ มลู การเมืองถิ่น และนักการเมอื งถนิ่ จงั หวดั แพร่ ขอ้ มลู การเมืองถ่ิน และนักการเมืองถน่ิ จงั หวัดแพร่ นับตง้ั แต่การเลือกตงั้ ครั้งแรกเมอ่ื วันท่ี 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 จนถึง การเลอื กตั้งเมื่อ วันที่ 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2550 รวมการ เลือกตั้งทัว่ ไปท้ังสิ้น จำ�นวน 22 ครัง้ ทัง้ นี้ ไม่ได้นับรวมถงึ การเลือกต้งั ซ่อมแทนตำ�แหนง่ ทีว่ ่าง สำ�หรับการเลือกตั้งคร้ังแรกเป็นการเลือกตั้งโดยทางอ้อมเพียง คร้ังเดียว กล่าวคือ การให้กรมการอำ�เภอดำ�เนินการให้ราษฎรเลือก ผู้แทนตำ�บล แล้วให้ผู้แทนตำ�บลไปใช้สิทธิเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร อีกคร้ังหนง่ึ สว่ นการเลือกตัง้ ทว่ั ไปตัง้ แตค่ รัง้ ที่สอง เมอ่ื วนั ท่ี 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 เป็นตน้ มา เป็นการเลือกตง้ั โดยทางตรงมา ตลอด คอื การใหผ้ มู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ ไปลงคะแนนเสยี งเลอื กผสู้ มคั รรบั เลอื ก ต้งั โดยตรง ด้านระบบการเลือกตัง้ โดยท่วั ไป ประกอบดว้ ย 1. การเลือกตงั้ ระบบรวมเขต 2. การเลอื กต้งั ระบบแบ่งเขต ทั้งนี้ การก�ำ หนดเขตเลือกตง้ั แต่ละระบบเปน็ ไปตามบทบัญญตั ิ 47

นักการเมอื งถ่นิ จังหวัดแพร่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในแต่ละยุคสมัยของการ เลอื กตง้ั นบั ตง้ั แตร่ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2475 (ฉบบั แรก) จนถงึ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2550 (ฉบับท่ี 18) นักการเมืองถ่ินจังหวัดแพร่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเน่ือง โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งท่ีได้รับคะแนนเสียงสูงสุด สามารถได้รับการ เลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในแต่ละคร้ังมีปัจจัยสำ�คัญ คือ ความศรทั ธาและความนยิ มจากประชาชนคนจงั หวดั แพรท่ ม่ี ตี อ่ ผสู้ มคั ร รับเลอื กตง้ั แต่ละคน นักการเมอื งถนิ่ บทบาท เครือขา่ ยความสมั พันธ์ และกลยทุ ธว์ ิธกี ารหาเสยี ง การศึกษาเพ่ือประมวลนักการเมืองถิ่นในจังหวัดแพร่ เพ่ือให้ ทราบถึงเครือข่ายความสัมพันธ์ บทบาทของนักการเมือง และกลวิธี การหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ โดย การใช้ข้อมูลหลักฐานจาก เอกสารประเภทตา่ ง ๆ การสัมภาษณบ์ คุ คล โดยตรง และบคุ คลทีม่ ีสว่ นเกี่ยวข้องกบั นกั การเมอื งถ่ิน แล้วน�ำ ข้อมลู มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำ�เสนอในลักษณะของการวิเคราะห์ พรรณนา เพ่ือให้ได้เห็นภาพรวมของนักการเมือง และบริบททาง การเมืองของสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรจงั หวัดแพร่ในแตล่ ะยุคสมยั ให้ มีความชดั เจนมากท่สี ดุ 48

ข้อมลู การเมืองถน่ิ และนักการเมอื งถนิ่ จังหวัดแพร่ นายทอง กันทาธรรม สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรจังหวดั แพร่ คนทีส่ อง ประวัติโดยย่อของนายทอง กันทาธรรม นครแพร่ ในคร้ังน้ัน ครอบครวั นายเทพ และนางศรีไวย กันทาธรรม ได้ให้ก�ำ เนดิ นายทอง กันทาธรรม ต้นสกุลของบิดาเป็นเจ้านายของเมืองเชียงแสนท่ีมีความ สัมพันธ์เกี่ยวดองกับเจ้านายในราชวงศ์เมืองแพร่ ส่วนทางมารดาสืบ เช้ือสายมาจากเจ้านายของพวกไทลื้อ ซ่ึงอพยพมาตั้งหลักฐานอยู่ เมืองเชียงแสน ต่อมา ได้อพยพมาอยู่เมืองแพร่ มารดาถือว่าเป็นต้น สกลุ “แสนไชยทิพย”์ นายทอง กนั ทาธรรม เมอ่ื อายุ 8 ขวบ เขา้ ศึกษาในโรงเรียน ประชาบาลวัดแมค่ �ำ มี อายุ 10 ขวบเข้าศกึ ษาในโรงเรยี นประจ�ำ จังหวดั แพร่ (โรงเรยี นพริ ยิ าลยั ) และยา้ ยไปศกึ ษาตอ่ ทโี่ รงเรยี นยพุ ราชวทิ ยาลยั จังหวัดเชยี งใหม่ จนส�ำ เรจ็ การศึกษาชัน้ มัธยมปีที่ 7 จงึ ขออนุญาตบดิ า มารดา ไปศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ใน ปี พ.ศ.2472 สำ�เร็จการศกึ ษาช้นั มัธยมปีที่ 8 จากนนั้ ปี พ.ศ. 2473 เข้าศึกษาวิชากฎหมาย ท่มี หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ กระทั่ง ส�ำ เรจ็ วชิ า กฎหมาย เมอ่ื ปี พ.ศ. 2477 และ เข้าทำ�งานในตำ�แหนง่ ประจ�ำ แผนก ตรวจสอบเรื่องและความเหน็ ส�ำ นกั งานเลขานกุ ารคณะรัฐมนตรี และ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 ได้เลื่อนขั้นเป็น ประจ�ำ แผนกตรวจสอบเรื่องราวและความเหน็ วันท่ี 1 มีนาคม 2478 ยา้ ยไปประจ�ำ แผนกสญั ญาทางพระราชไมตรกี องการตา่ งประเทศ กรม มหาดไทย กระท่ัง วันท่ี 3 มนี าคม พ.ศ. 2479 ได้ยา้ ยไปรบั ราชการใน ตำ�แหน่งนายอำ�เภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นนายอำ�เภอหางดง อยู่ได้ 9 เดือน จึงลาออกไปสมคั รเปน็ ผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ ขณะ 49

นกั การเมอื งถน่ิ จังหวดั แพร่ ที่อายุ 25 ปี นายทอง กันทาธรรม เป็นผแู้ ทนราษฎรท่ีมคี วามสามารถ มภี มู ิธรรม และมีความรู้ทางกฎหมาย บทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวดั แพร่ ครง้ั ท่ี 1 สมยั ท่ี 2 ของการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ขณะ ท่ี อายุสภาผ้แู ทนราษฎร มีอายุเพียง 1 ปี สาเหตุจากการประกาศยบุ สภาผแู้ ทนราษฎร ครง้ั ที่ 2 สมยั ที่ 3 ของการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร เมอื่ วันท่ี 10 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ในครั้งนี้ อายสุ ภาผูแ้ ทนราษฎรยาวนาน ถึง 8 ปี เนือ่ งจากอยู่ในระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพา กระทัง่ เมอ่ื วนั ท่ี 14 สิงหาคม พ.ศ. 2487 ได้ด�ำ รงตำ�แหนง่ เป็นเลขานกุ ารรฐั มนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทย อตั ชีวประวัตติ อนหน่งึ ของ นายทอง กันทาธรรม ในฐานะ เสรีไทย ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ ผู้สำ�เร็จราชการ และพลตำ�รวจเอก หลวงอดุลยเ์ ดช เดชจรัส (บตั ร พ่ึงพระคุณ) อธิบดกี รมตำ�รวจ พรอ้ ม ลกู ศษิ ยก์ น้ กฏุ ิ นายทอง กนั ทาธรรม ไดว้ างแผนเตรยี มกอ่ ตง้ั “ขบวนการ เสรีไทย” (ท่ีมา : พพิ ธิ ภณั ฑ์เสรไี ทยแพร่ สำ�นกั งานวัฒนธรรมจงั หวัด แพร)่ ขน้ึ ในประเทศไทย ขณะท่ี ม.ร.ว.เสนยี ์ ปราโมช เอกอัครราชทตู ไทยประจำ�สหรัฐอเมริกา ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยข้ึนต่อต้านญ่ีปุ่น ในสหรฐั อเมรกิ า นายทอง กนั ทาธรรม ไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ปน็ หวั หนา้ เสรไี ทยเขต 50

ข้อมูลการเมอื งถิ่น และนกั การเมอื งถ่นิ จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ เพ่ือเตรียมฝึกอาวุธไว้ต่อต้านทหารญี่ปุ่นในเขตภาคเหนือ วางแผนการรบแบบกองโจร ภายหลังการสิ้นสุดสงครามมหาเอเชีย บรู พา ในฐานะหวั หนา้ เสรีไทยภาคเหนือ นายทอง กนั ทาธรรม ไดร้ บั พระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำ�รงตำ�แหน่งรัฐมนตรีส่ังราชการ กระทรวงมหาดไทย ในสมัยนายทวี บญุ เกตุ นายกรฐั มนตรี เม่ือ วันท่ี 1 กนั ยายน พ.ศ. 2488 ขณะอายุ 33 ปี และ ในวนั ท่ี 19 กันยายน พ.ศ. 2488 มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ให้ดำ�รงตำ�แหนง่ รฐั มนตรีส่ัง การกระทรวงมหาดไทย ในรฐั บาลชดุ กชู้ าตโิ ดยมี ม.ร.ว. เสนยี ์ ปราโมช เปน็ นายกรฐั มนตรี และ คร้ังท่ี 3 การเลอื กตัง้ เม่ือ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2490 ไดพ้ ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหเ้ ปน็ รัฐมนตรชี ุด พลเรอื ตรหี ลวง ธ�ำ รงนาวาสวสั ด์ิ ใหเ้ ปน็ รฐั มนตรสี ง่ั การในกระทรวง เกษตราธกิ าร และ กระทรวงคมนาคม ตามล�ำ ดบั ชะตากรรมทางการเมอื งของ นายทอง กันทาธรรม ความโดดเดน่ ทางการเมอื งของ นายทอง กนั ทาธรรม ในฐานะ นักต่อสู้เพ่ือประชาธิปไตย ได้ประสบชะตากรรมถูกข้อกล่าวหา เป็น กบฏจากรัฐบาลท่ีมาจากการรฐั ประหาร เม่อื วนั ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2498 ภายใตก้ ารน�ำ ของ จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม กบั พลโทผนิ ชณุ หวณั ทำ�ใหต้ ิดคกุ ถึง 3 ครงั้ ครั้งแรก ติดคุกอยู่ 100 วัน ครงั้ ทีส่ อง ตดิ คกุ อยู่ 2 เดอื น ครงั้ ทส่ี าม ติดคกุ อยู่ 20 วัน กระทง่ั เกิดเหตกุ ารณ์การสงั หารรฐั มนตรีทเ่ี คยรว่ มงานเสรีไทย 51

นักการเมืองถ่นิ จงั หวดั แพร่ ได้แก่ นายถวลิ อดุล,นายทองอนิ ทร์ ภรู ิพัฒน,์ นายจ�ำ ลอง ดาวเรอื ง, และนายทองเปลว ชลภูมิ เปน็ เหตุให้ นายทอง กันทาธรรม ต้องลีภ้ ยั ไปอยู่ท่ีเมืองยองห้วย เขตเชียงตุงเหนือพยาก ทางทิศตะวันตกของ เมืองเชยี งกกประเทศพม่า กระทั่ง การเมืองสงบจงึ ไดก้ ลบั ประเทศไทย และใชช้ วี ติ ประกอบอาชพี “ทนายความ” และ“นกั การเมอื ง” สมคั รเปน็ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร อีกสมยั หน่งึ (ที่มา : พพิ ิธภณั ฑ์เสรไี ทยแพร่ ส�ำ นักงานวฒั นธรรมจงั หวัดแพร่) นายทอง กันทาธรรม นักกฎหมาย นักการเมอื ง และเสรีไทยผู้ รกั ชาติ เสยี ชวี ติ เม่ืออายไุ ด้ 72 ปี กลยทุ ธ์การหาเสยี ง การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย ในช่วงเวลาระยะแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย ยังไม่มีความสลับซับซ้อนมาก ระบบหัวคะแนนยังไม่ เกิดข้ึน การใช้จ่ายเงินเพ่ือการซื้อสิทธิขายเสียงยังไม่เกิดข้ึนเหมือน กบั การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรในปจั จบุ นั เนอื่ งจาก สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในยุคแรกผู้สมัครรับเลือกตั้งมุ่งหวังการเข้าทำ�งาน การเมอื งในฐานะตัวแทนของประชาชนในพ้ืนท่จี งั หวดั ท่จี ะเขา้ มาชว่ ย พฒั นาประเทศใหม้ คี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ตามวถิ ที างการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย และสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในยคุ แรกไมม่ ผี ลประโยชน์ อนื่ ใดแอบแฝง ดงั น้นั กลยทุ ธ์ทนี่ ายทอง กันทาธรรม ใชใ้ นการหาเสียง เลือกตั้ง คือ การประกาศเจตนารมณ์ในการรับใช้ชาติ รักษาอธิปไตย และเป็นตัวแทนของพี่นอ้ งประชาชน 52

ขอ้ มลู การเมอื งถ่นิ และนกั การเมืองถน่ิ จังหวดั แพร่ เครือขา่ ยและความสัมพันธ์ นายทอง กันทาธรรม นักกฎหมาย นักต่อสู้เพื่อรักษาเอกราช และประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ศิษย์เอกก้น กฎุ ิของ นายปรดี ี พนมยงค์ อดตี รัฐบุรษุ และอดีตนายกรัฐมนตรี ซ่งึ มี เครอื ข่ายในกลุ่มนกั เคลื่อนไหว เรียกวา่ “กลมุ่ เสรีไทย” ทเ่ี รม่ิ ก่อตัวข้ึน ในครงั้ สงครามมหาเอเชยี บรู พา นายทอง กนั ทาธรรม ผซู้ งึ่ มคี วามสนทิ ใกล้ชดิ กบั “ขนุ ศกึ แหง่ เทอื กเขาภูพาน” นายเตยี ง สริ ิขนั ธ์ นักตอ่ สู้เพื่อ ประชาธปิ ไตยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ผยู้ ่งิ ใหญ่ ในฐานะนกั รบกองจรยุทธ์ อดีตหวั หน้าเสรีไทยภาคเหนือ และ นกั กฎหมายทต่ี อ่ สเู้ พอื่ ความถกู ตอ้ ง ความเปน็ ธรรมแกพ่ น่ี อ้ งประชาชน จงึ ท�ำ ให้ นายทอง กนั ทาธรรม ไดร้ บั การเลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎรจังหวดั แพร่ 5 สมยั การเลอื กต้ังในครงั้ ท่ี 7 และ ครง้ั ท่ี 8 ของ ประเทศ ไดเ้ ขา้ สงั กดั ในนามพรรคชาตนิ ยิ ม เพอ่ื ตอ่ สกู้ บั พรรคเสรมี นงั คศลิ า (ภุชงค์ กันทาธรรม, เสรีไทยแพร่ พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ปฏิบัติการกู้ ชาต.ิ 2552) นายสุธรรม สายศร นายสธุ รรม สายศร ผกู้ อ่ ตงั้ โรงเรยี นราษฎร์ หรอื เรยี กวา่ โรงเรยี น สหราษฎร์พิทยา โดยด�ำ เนินการกอ่ ตั้งเม่ือ ปี พ.ศ. 2505 แตร่ ะหวา่ ง ดำ�เนินการก่อต้ัง ได้บริจาคให้กับทางราชการ และต่อมา กระทรวง ศึกษาธกิ ารสถาปนา เป็น โรงเรียนรอ้ งกวางอนุสรณ์ บทบาททางการเมอื ง นายสุธรรม สายศร ลงสมัครรับเลือกต้ังในการเลือกต้ังท่ัวไป 53

นกั การเมืองถนิ่ จงั หวดั แพร่ ครั้งที่ 9 เมอื่ วันที่ 10 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2512 ในฐานะผู้สมคั รอิสระ กลยุทธก์ ารหาเสยี ง จาก การศกึ ษาเอกสารประวตั ิของ นายสธุ รรม สายศร พบว่า ใช้กลยุทธ์ด้านการศึกษาเป็นเคร่ืองมือในการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะ กอ่ นลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ ประมาณเดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. 2505 ไดบ้ รจิ าค อาคารใหก้ บั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารในการกอ่ ตงั้ โรงเรยี นรอ้ งกวางอนสุ รณ์ เมือ่ วนั ท่ี 24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2505 (ที่มา : ประวตั ิโรงเรียนร้องกวาง อนุสรณ์ แผนกลยุทธ์โรงเรยี นรอ้ งกวางอนสุ รณ,์ 2549) นายรตั น์ พนมขวญั นายรัตน์ พนมขวัญ เป็นชาวแพร่โดยกำ�เนิด ผู้ก่อต้ังโรงเรียน ศึกษาป่าไม่แพร่ เจ้าของธุรกิจโรงแรมนครแพร่ และธุรกิจสัมปทาน ป่าไม้นายรัตน์ พนมขวัญ หรือที่คนแพร่ เรียกว่า “อาจารย์รัตน์” นายรตั นก์ า้ วสกู่ ารเมอื งในระดบั ทอ้ งถน่ิ มาหลายสมยั ในการเปน็ สมาชกิ สภาเทศบาลเมืองแพร่ และนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ หลาย สมยั กระทง่ั รนุ่ ลกู 3 พน่ี อ้ ง นายโชคชยั พนมขวญั นายขวญั ชยั พนมขวญั และ นายสามขวญั พนมขวญั ทีม่ ีบทบาททางการเมืองระดับทอ้ งถน่ิ ทง้ั ระดบั เทศบาลเมอื งแพร่ และระดบั องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั แพร่ บทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงั หวดั แพร่ การเลอื กตง้ั ทวั่ ไป ครง้ั ท่ี 11 เมอื่ วันท่ี 4 เมษายน พ.ศ. 2519 54

ข้อมูลการเมอื งถิ่น และนกั การเมืองถิน่ จงั หวัดแพร่ ในสังกดั พรรคชาติไทย แต่หลังจากเหตุการณ์ทางการเมืองเมือ่ วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นายรัตน์ พนมขวัญ หันหลังให้กับเวที การเมืองระดับประเทศ กลับมาสู่เวทีการเมืองในระดับท้องถ่ิน และ สนบั สนุนให้ลกู ๆ เข้าส่เู วทกี ารเมืองในระดบั ทอ้ งถ่ิน อย่างตอ่ เนอ่ื ง เครอื ข่ายและความสมั พนั ธ์ นายรตั น์ พนมขวญั เปน็ คนใจนกั เลง กล้าได้ กลา้ เสีย เพ่อื น ฝูงมาก และชอบช่วยเหลือคน นายรัตน์ พนมขวัญ จึงเป็นคนเพื่อน มากชาวแพรท่ ุกกลุ่มนับนา่ ถือตา มีความสนทิ สนม และนบั ถือกนั ดีกบั คุณหญิงบวั เขยี ว รังคสริ ิ และกับครอบครัวศุภศิริ ของพ่อเลยี้ งศานติ ย์ ศภุ ศริ ิ และครอบครวั วงศว์ รรณ ของนายณรงค์ วงศว์ รรณ (บทสมั ภาษณ์ ของ นายดสุ ิต รงั คสริ )ิ ตระกลู พนมขวญั เปน็ ครอบครวั ทมี่ บี ทบาทส�ำ คญั ทางการเมอื ง ในระดบั ตา่ ง ๆ ของทอ้ งถนิ่ เมอื งแพรท่ ง้ั ทางตรง และทางออ้ มในฐานะ ผู้สมคั รรบั เลอื กตัง้ และผ้สู นบั สนนุ ทางการเมอื ง กลยทุ ธ์การหาเสยี ง นายรัตน์ พนมขวัญ ท่ามกลางกระแสทางการเมืองในปัญหา ดา้ นเสถียรภาพของรฐั บาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ทีป่ ระกาศยุบสภา ผแู้ ทนราษฎร กลยทุ ธ์การหาเสียงของนายรัตน์ พนมขวัญ อาศัยฐาน เสียงจากกลุ่มการเมืองในท้องถิ่น และความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจใบ ยาสูบ กลุ่มสัมปทานป่าไม้ นักเรียนเก่าป่าไม้ และข้าราชการป่าไม้ท่ี รว่ มสนบั สนุน รวมถงึ กลมุ่ ตระกลู ศภุ ศริ ิ ตระกลู วงศว์ รรณ และตระกูล รังคสิริ ท่ีมีความผูกพันนับถือเกื้อกูลซ่ึงกันและกัน และกลยุทธ์อื่น ๆ 55

นักการเมอื งถ่นิ จงั หวดั แพร่ ท�ำ งานเปน็ ทีมแบง่ งานกันทำ� ด้วยวธิ กี ารปราศรัยหาเสียงเวทีย่อยตาม วดั โรงเรียน สถานทีร่ าชการ ตลาด เดินเคาะประตูชาวบา้ นแจกบตั ร หมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้ง และแจกส่ิงของช่วยเหลือประชาชน ผล ทำ�ให้ผ้สู มัครรบั เลือกตง้ั กลมุ่ นายรัตน์ พนมขวญั สังกัดพรรคชาตไิ ทย ได้รับการเลอื กตง้ั แบบยกทีม คุณหญิงบวั เขยี ว รงั คสิริ คณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี 27 ก.พ. พ.ศ. 2453 บดิ า ช่อื พลอมาตยโ์ ท เผือก ไชยประวตั ิ มารดาช่ือ แมเ่ จ้าสุคันธา แสนศิริ พันธุ์ ซ่ึงเป็นพ่ีสาวของ เจ้าวงศ์ แสนศิริพันธ์ุ (นายวงศ์ แสนศิริพันธ์ุ) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรคนแรกของจงั หวัดแพร่ คุณหญงิ บวั เขียว รังคสิริ สมรสกบั นายสถิตย์ รังคสิริ มีบตุ ร 2 คน คอื นายแพทยส์ ุขมุ รงั คสริ ิ และนายดสุ ิต รังคสริ ิ ด้านการศึกษา ระดับประถมศึกษา ถงึ มธั ยมศึกษาตอนต้น โรงเรยี นนารรี ัตน์ จังหวัดแพร่ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเบญจมราชาไลย์ กรุงเทพมหานคร ระดับปริญญาตรี โรงเรียนฝึกหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ กรงุ เทพมหานคร ด้านการทำ�งาน รับราชการครูโรงเรียนเฉลิมขวัญ จังหวัดพิษณุโลก ระยะเวลา 3 ปี ในสมัยขนุ จรรยา วฑิ รู ย์ ด�ำ รงต�ำ แหนง่ รองอธบิ ดีกรมสามัญศกึ ษา 56

ข้อมลู การเมืองถนิ่ และนักการเมืองถิ่นจังหวดั แพร่ ไดช้ กั ชวนใหย้ า้ ยมาเป็นครใู หญ่โรงเรยี นนารีรัตน์ จงั หวดั แพร่ คณุ หญงิ บัวเขียว รังคสิริ อยู่ในตำ�แหน่งผู้บริหารสูงสุดของโรงเรียน ตั้งแต่ ตำ�แหน่งครูใหญ่ ที่ต่อมายกฐานะครูใหญ่เป็นตำ�แหน่งอาจารย์ใหญ่ และกระทรวงศกึ ษาเปลย่ี นต�ำ แหนง่ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น เปน็ ผอู้ �ำ นวยการ โรงเรียน ในปัจจุบัน คุณหญิงบัวเขียว รังคสิริ ดำ�รงตำ�แหน่งผู้บริหาร สถานศกึ ษามาตลอด กระทงั่ เกษียณอายุราชการเมอื่ ปี พ.ศ.2516 ด้านการเมือง เหตุผลที่ คุณหญงิ บวั เขียว รงั คสริ ิ เป็นคนจงั หวัดแพรม่ าตัง้ แต่ ต้นตระกูล และประกอบหน้าท่ีการทำ�งานเป็นผู้บริหารโรงเรียนสตรี ประจ�ำ จงั หวดั แพร่ มาตลอด 30 กวา่ ปี มลี กู ศษิ ยม์ ากมายและเปน็ ทร่ี จู้ กั ของชาวแพร่ ขณะท่ี จดุ เปลี่ยนแปลงของชีวติ เริม่ ขน้ึ เม่อื ปี พ.ศ.2516 หลงั สามขี องคณุ หญงิ บวั เขยี ว คณุ สถติ ย์ รงั คสริ ิ เสยี ชวี ติ และเปน็ ปที คี่ ณุ หญิงเกษยี ณอายุราชการ เกดิ ความเหงา จึงคิดหาแนวทางการทำ�งาน เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ จึงตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคสังคมชาตินิยม เม่ือวันท่ี 26 มกราคม พ.ศ. 2518 เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรได้เพยี ง 1 ปี นายกรฐั มนตรี ม.ร.ว.เสนยี ์ ปราโมช ประกาศยบุ สภาผแู้ ทนราษฎร จากนนั้ ทา่ นผหู้ ญงิ บญุ เรอื น ชุณหวัณ ภรยิ าของพลเอกชาติชาย ชุณหวัณ หวั หนา้ พรรค ชาติไทย ในขณะน้ัน ซ่ึงมีความสนิทสนมกับคุณหญิงบัวเขียว รังคสิริ ในฐานะรุ่นพี่โรงเรียนเบญจมราชาไลย์ จึงชักชวนให้ย้ายพรรคมาลง สมัครรับเลือกตง้ั ในนาม พรรคชาตไิ ทย การเลือกตงั้ สมยั ที่สอง เมื่อวนั ท่ี 4 เมษายน พ.ศ. 2519 ร่วมกับ นายรตั น์ พนมขวัญ และ นายนคร ตนั จนั ทรพ์ งศ์ และถอื เปน็ การเลอื กตง้ั ครง้ั แรกทคี่ นแพรเ่ ลอื กสมาชกิ สภา 57

นกั การเมืองถ่ินจังหวัดแพร่ ผแู้ ทนราษฎรในระบบพรรค ซงึ่ ผลการเลอื กตงั้ ปรากฏวา่ ผสู้ มคั รรบั เลอื ก ต้งั ในสงั กัดพรรคชาติไทยท้งั 3 คน ไดร้ ับการเลอื กตงั้ แบบยกทมี บทบาททางการเมอื งในฐานะสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร การเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ สองสมยั ของ คณุ หญิงบัวเขียว รังคสิริ ทั้งในฐานะบทบาทของ ส.ส.หญิง และสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎรทม่ี ปี ระสบการณท์ างการศกึ ษา คณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นท่ีปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านกิจการสตรี และ กรรมาธิการด้านการศกึ ษาสภาผแู้ ทนราษฎร ทัง้ 2 สมัย คุณหญงิ บัวเขยี ว รังคสิริ เสยี ชีวิตเมื่อ เดือนสิงหาคม พ.ศ.2531 สิรอิ ายุ 78 ปี เครอื ข่ายและความสัมพนั ธ์ บทบาททางสงั คมในฐานะแมพ่ มิ พข์ องชาติ อาจารยค์ ณุ หญงิ บัวเขยี ว รงั คสริ ิ อนั เป็นท่ีรจู้ ักของคนแพรท่ ั้งจงั หวัด ด้วยมติ ดิ ้านเครือ ข่ายวงศาคณาญาติ คุณหญิงบัวเขียวสำ�หรับคนแพร่ถือกำ�เนิดมาจาก ตระกูลเชื้อสายของอดีตเจ้านายฝา่ ยสูงของเมืองแพร่ ท้ังสายบิดา คอื พลอมาตย์โทเผอื ก ไชยประวตั ิ ทสี่ มรสกบั แมเ่ จ้าสุคนั ธา แสนสิริพนั ธุ์ ธิดาของ แม่เจ้าค�ำ ป้อ แสนสริ พิ นั ธุ์ กับ พระยาพชิ ัย ราชา ทส่ี บื เชือ้ สาย มาจากอดตี เจา้ ผคู้ รองนครแพร่ กบั มติ ดิ า้ นอาชพี ครทู เี่ ปน็ ทย่ี อมรบั ของ บรรดาลูกศิษย์ และประชาชนท่ัวไป ซึ่งมีทัศนคติเชิงบวกต่อบทบาท ของครูใหญ่บัวเขียว อาจารย์ใหญ่บัวเขียว และ/หรือ ผอ.บัวเขียว ผู้ บรหิ ารโรงเรยี นสตรปี ระจ�ำ จงั หวดั แพรท่ มี่ คี วามมงุ่ มนั่ พฒั นาการศกึ ษา ใหก้ ุลบุตรกุลธิดาของคนแพร่มานานกวา่ 30 ปี ทำ�ใหค้ ุณหญงิ บัวเขียว 58

ขอ้ มูลการเมอื งถิ่น และนกั การเมืองถ่ินจังหวดั แพร่ รังคสิริ ก้าวสู่การเป็นนักการเมืองถ่ิน จังหวัดแพร่อย่างไม่ยากเย็นนัก นายดสุ ติ รงั คสริ ิ บตุ รชายผสู้ บื ทอดทางการเมอื งในฐานะสมาชกิ สภาผู้ แทนราษฎรต่อจากคณุ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสิริ กล่าวถึงข้อมูลประวตั ขิ อง คณุ หญงิ แม่ กลยทุ ธว์ ิธกี ารหาเสยี ง คุณดุสิต รังคสิริ ให้สัมภาษณ์ว่า กลยุทธ์วิธีการหาเสียง ของคุณหญิงบัวเขียว คือ การบอกกล่าวให้ประชาชนได้รับรู้ว่าจะใช้ ประสบการณ์งานอาชีพครู ไปทำ�ประโยชน์กับประเทศชาติได้อย่างไร โดยเฉพาะด้านการศึกษา และทุกวันหยุดราชการเม่ือว่างเว้นจากการ ประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร คณุ หญงิ บวั เขยี วจะกลบั บา้ นทจ่ี งั หวดั แพรเ่ ปน็ ประจ�ำ เพอื่ รบั ฟงั ความเดอื ดรอ้ นของประชาชนในพน้ื ที่ และน�ำ ไปหารอื กบั พรรคและรฐั บาลเพอื่ แสวงหาแนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข โดยเฉพาะ ด้านโอกาสทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนในชนบทห่างไกลความ เจริญของอ�ำ เภอรอบนอกในจงั หวัดแพร่ คือ ปญั หาการขาดแคลนทุน ทรพั ยท์ างการศึกษาของลกู หลานคนแพรต่ ามเขตอำ�เภอต่าง ๆ ตอ่ มา คุณหญิงบัวเขียวจงึ สนบั สนุนใหน้ ายดสุ ติ รังคสริ ิ บุตรชายก่อตงั้ มูลนธิ ิ คุณหญงิ บวั เขยี ว รังคสริ ิ เพอ่ื ทุนการศึกษา นายดสุ ิต รังคสิริ นายดุสิต รังคสิริ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรคนท่ี 12 และสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 7 สมยั ในสงั กดั พรรคชาตไิ ทยของจงั หวดั แพร่ ทายาท คณุ หญิงบัวเขยี ว รงั คสิริ เกิดเมอ่ื วันท่ี 4 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2484 เป็น บุตรคนที่ 2 ของนายสถติ ย์กบั นาง บัวเขียว รงั คสิริ บดิ าประกอบอาชีพ 59

นักการเมืองถ่ินจังหวัดแพร่ พนกั งานการรถไฟแหง่ ประเทศไทย มารดาประกอบอาชพี รบั ราชการครู สงั กดั กรมสามญั ศกึ ษา ต�ำ แหนง่ ผอู้ �ำ นวยการโรงเรยี นนารรี ตั น์ โรงเรยี น สตรีประจำ�จังหวัดแพร่ ก่อนก้าวสู่งานการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรจังหวดั แพร่ นายดุสติ รังคสิริ สมรสกบั นางดาราพรรณ์ รังคสิริ มีบตุ ร 2 คน ด้านการศึกษา ระดับประถมศกึ ษา ถึง มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 (มธั ยมศึกษาตอนตน้ ) โรงเรยี นเฉลิมราช จงั หวัดแพร่ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ถงึ 8 (ตอนปลาย) โรงเรยี นวชิราวธุ วิทยาลยั กรงุ เทพมหานคร ปริญญาตรี สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ Utah states University USA. ด้านการทำ�งาน นายดสุ ติ รงั คสริ ิ ประกอบอาชพี นกั ธรุ กจิ ดา้ นสมั ปทานไมห้ มอน รถไฟ และไมส้ �ำ หรบั สรา้ งสะพานรถไฟ และธรุ กจิ ตวั แทนจ�ำ หนา่ ยน�ำ้ มนั สามทหาร (ปตท.ในปจั จุบนั ) ในนาม ห้างหนุ้ ส่วนจำ�กัดดสุ ติ พาณชิ ย์ บทบาททางการเมอื งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เร่ิมต้นสนามการเมือง นายดุสิต รังคสิริ ก้าวสู่การเมืองตั้งแต่ ระดับทอ้ งถ่ิน สมัครรบั เลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ สภาจงั หวดั แพร่ ในปี พ.ศ. 2518 และได้รับการคัดเลอื กให้ด�ำ รงต�ำ แหน่ง ประธานสภาจงั หวดั แพร่ ตลอดสมยั 4 ปขี องการเปน็ สมาชกิ สภาจงั หวดั แพร่ ตอ่ มา หลงั จากคณุ 60

ข้อมูลการเมอื งถน่ิ และนกั การเมืองถ่นิ จงั หวัดแพร่ หญงิ บวั เขยี ว รงั คสริ ิ วางมอื ทางการเมอื งจากการเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎร ด้วยคำ�ร้องขอจากฐานคะแนนเสียงในจังหวัดแพร่ท่ีต้องการ สนับสนุนให้ นายดุสิต รังคสิริ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดแพร่ ในสงั กดั พรรคชาติไทย ตอ่ จาก คุณหญิงบวั เขยี ว ผู้ เปน็ มารดา ครง้ั แรกเมอื่ วนั ท่ี 22 เมษายน พ.ศ. 2522 ซงึ่ สามารถรกั ษา ที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ของพรรคชาติไทยไว้ได้เพียง คนเดียวดว้ ยคะแนนเสยี งมาเปน็ อนั ดับ 2 ขณะท่ี ผสู้ มัครสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจากพรรครวมไทย คือ นายณรงค์ วงศ์วรรณ กับนายพล วัชรปรีชา ไดร้ ับคะแนนเสยี งในอนั ดบั 1 และ 3 ตามลำ�ดบั สมัยที่สอง การเลือกต้ังเม่ือ วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2526 นายดสุ ติ รังคสริ ิ สงั กดั พรรคชาตไิ ทยดว้ ยคะแนนเสียงอันดบั 2 ขณะ ที่ ผสู้ มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจากพรรคกจิ สงั คม (ในชว่ งเวลาของ การหาเสียงเลือกต้ัง ผู้สมัครทั้ง 2 คนสังกัดพรรคกิจสังคม แต่ต่อมา ระหว่างการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ย้ายกลับไปสังกัดพรรค รวมไทย ตามเดมิ ) คอื นายณรงค์ วงศว์ รรณ กับนายพล วชั รปรีชา ซงึ่ ยังคงได้รบั คะแนนเสียงในอันดบั 1 และ 3 ตามล�ำ ดบั เหมอื นการเลอื ก ตั้งคร้งั ทผี่ า่ นมา สมัยทสี่ าม การเลอื กต้งั เมอ่ื วนั ท่ี 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 นายดุสิต รังคสิริ ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ชาติไทย ยงั คงไดร้ บั คะแนนนิยมในอนั ดบั ท่ี 2 ขณะท่ี ผลการเลือกตั้ง ในภาพรวมทั้งจังหวดั ยังคงมคี ะแนนเสยี งเหมอื นสองคร้ังทผ่ี ่านมา คือ นายณรงค์ วงศ์วรรณ และนายพล วัชรปรชี า ผสู้ มัครสงั กัดพรรครวม ไทย ไดค้ ะแนนเสียงในอันดบั ที่ 1 และ 3 ตามลำ�ดบั สมัยท่สี ่ี การเลือกต้งั เม่ือ วนั ท่ี 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ยงั 61

นักการเมืองถ่ินจังหวดั แพร่ คงเป็นปรศิ นาแห่งการเลอื กต้ังสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจังหวัดแพร่ ท่ี ผู้สมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรครวมไทย คือ นายณรงค์ วงศ์วรรณ กับนายชูวทิ ย์ จิตรสกลุ (ผู้สมัครรับเลอื กตัง้ แทน นายพล วชั รปรชี า ท่ี เสยี ชวี ิต เมอ่ื วนั ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2530 เลอื กตง้ั แทนเมอ่ื วนั ที่ 21 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2531) ยงั คงไดค้ ะแนนเสียงในอันดับท่ี 1 และ 3 ตาม ลำ�ดับ โดย นายดุสิต รังคสิริ สังกัดพรรคชาติไทยยังสอดแทรกเป็น สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในอนั ดบั ที่ 2 ของจงั หวดั แพรต่ ดิ ตอ่ กนั 4 สมยั สมยั ทห่ี ้า การเลือกต้งั เมอ่ื วนั ท่ี 22 มนี าคม พ.ศ. 2535 การ เลอื กตงั้ ครง้ั ส�ำ คญั ในชวี ติ การเมอื งของนายดสุ ติ รงั คสริ ิ ผสู้ มคั รในสงั กดั พรรคชาตไิ ทย ได้รบั คะแนนเสียงมาเปน็ อันดบั สดุ ทา้ ย ผลการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งน้ี นายณรงค์ วงศ์วรรณ กับ นายเมธา เอื้ออภิญญกุล สังกัดพรรคสามัคคีธรรม ได้คะแนนเสียงในอันดับ 1 และ 2 สมยั ทห่ี ก การเลอื กตงั้ เมอื่ วนั ที่ 13 กนั ยายน พ.ศ. 2535 หลงั เหตุการณ์พฤษภาทมฬิ นายดุสิต รงั คสริ ิ นักการเมอื ง และสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรผู้ยึดมนั่ ในอุดมการณท์ างการเมอื งของพรรคชาติไทย ได้ นำ�นายณรงค์ วงศว์ รรณ และนายเมธา เอ้ืออภญิ ญกลุ ย้ายจากพรรค สามคั คธี รรม มาสงั กดั พรรคชาตไิ ทยทมี เดยี วกนั ผลการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจงั หวดั แพรใ่ นครั้งน้ี นายดุสิต รังคสริ ิ เปน็ หัวหน้าทีม ท่ีนำ�ผู้สมัครสังกัดพรรคชาติไทยได้รับการเลือกต้ังยกทีม เช่นเดียวกับ สมยั คุณหญิงบัวเขียว โดยได้รบั คะแนนเสยี งในอนั ดับท่ี 1 สมัยท่ีเจ็ด การเลือกตั้งเมื่อ วันท่ี 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ประวัติศาสตร์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ต้อง จารกึ เกยี รตปิ ระวตั ขิ อง นายดสุ ติ รงั คสริ ิ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ สงั กดั พรรค 62

ข้อมลู การเมอื งถนิ่ และนักการเมอื งถน่ิ จังหวดั แพร่ ชาติไทย (ผู้ยึดม่ันอุดมการณ์ไม่เคยย้ายพรรคการเมือง) ได้รับการ เลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเจ็ดสมัยติดต่อกัน สำ�หรับ การเลอื กตั้งครงั้ น้ีได้รบั คะแนนเสยี งอนั ดบั 1 นายเมธา เออ้ื อภิญญกุล อันดับ 2 โดยมี นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (นามสกุลเดิม ศุภศิริ) ผูส้ มัครพรรคประชาธิปตั ย์ อนั ดบั 3 บทบาททางการเมอื ง ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2522 การเปน็ สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรสมัยแรก คุณดสุ ติ รังคสิริ ด�ำ รงตำ�แหนง่ กรรมาธกิ ารเศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร ปี พ.ศ. 2524 ดำ�รงตำ�แหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจ�ำ สำ�นัก นายกรัฐมนตรี โดยมี พลโทชาญ องั ศุโชติ รฐั มนตรปี ระจำ�สำ�นกั นายก รัฐมนตรี เป็น กรรมาธิการเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการ คัดเลอื กจากสภาผ้แู ทนราษฎรไทย ใหไ้ ปเปน็ กรรมการสหภาพรัฐสภา แหง่ เอเชยี (ASIA PARIMENT UNION : APU.) ปี พ.ศ. 2526 ในขณะท่ี พรรคชาติไทยเป็นฝ่ายค้านในสภา ผู้แทนราษฎร นายดุสิต รังคสิริ ดำ�รงตำ�แหน่งกรรมาธิการเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และวิปสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน (กลุ่ม ภาคเหนือตอนลา่ ง) ปี พ.ศ. 2529 ด�ำ รงต�ำ แหนง่ เลขานกุ ารรฐั มนตรวี า่ การกระทรวง ยตุ ธิ รรม โดยมี นายสะอาด ปยิ ะวรรณ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงยตุ ธิ รรม ยังคงเป็น กรรมาธิการเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการ คัดเลือกให้เป็นผู้แทนสภาผู้แทนราษฎรไทย เป็น กรรมการสหภาพ รฐั สภานานาชาติ (INTERNATIONAL PARIMENT UNION : IPU.) ปี พ.ศ. 2531 ดำ�รงตำ�แหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง 63

นกั การเมืองถ่นิ จงั หวดั แพร่ อตุ สาหกรรม สมัยพลเอกชาตชิ าย ชุณหวณั นายกรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2532 ไดร้ บั ความไวว้ างใจใหเ้ ปน็ ทปี่ รกึ ษานายกรฐั มนตรี ปี พ.ศ. 2535 - 2539 ดำ�รงต�ำ แหนง่ ที่ปรึกษารฐั มนตรีวา่ การ กระทรวงอุตสาหกรรม ในขณะท่ี ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ผ้แู ทนราษฎรสมยั ท่ี 5 - 7 เครอื ขา่ ยและความสัมพันธ์ การเมืองจังหวัดแพร่มีอัตลักษณ์ตามธรรมชาติทางการเมืองท่ี แตกตา่ งจากการเมอื งจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนอื กลา่ วคือ เครอื ข่าย ความสมั พันธ์ของกลมุ่ ไมเ่ ปน็ ทางการ กล่มุ อทิ ธิพล และความสมั พนั ธ์ เชิงเครือญาติมีอิทธิพลต่อการได้รับการเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎร และมนี ยั สำ�คญั ของความสมั พันธ์ทสี่ งู กวา่ ความสมั พันธ์ เชิงโครงสร้างกับกลุ่มทางการ เช่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคม หอการค้าจังหวัด สโมสรโรตารี สโมสรไลออนส์ หรอื พรรคการเมอื งที่ สงั กดั เปน็ ตน้ การตดั สนิ ใจเลอื กบคุ คลใดเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั แพร่ นายดสุ ติ รงั คสิริ มองวา่ จงั หวัดแพร่มีผลประโยชน์ทาง ธุรกิจเก่ียวกับไม้สัก แร่ ยาสูบ ที่มีมูลค่าสูง และเป็นผลประโยชน์ท่ีมี อทิ ธพิ ลเชอื่ มโยงกบั อ�ำ นาจทางการเมอื ง ซง่ึ นกั การเมอื งในจงั หวดั แพร่ ส่วนใหญ่มักจะมีผลประโยชน์จากธุรกิจ ดังกล่าว การแข่งขันทางการ เมอื งในจังหวดั แพร่จึงมกั มคี วามรุนแรงเกดิ ข้ึนบ่อยครั้ง ทัง้ การเมืองใน ระดับท้องถ่ินที่เช่ือมโยงฐานคะแนนเสียงการเมืองระดับชาติ นักการ เมอื งถน่ิ (สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร) แตล่ ะคนจะมสี ายความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ ผลประโยชนท์ างธรุ กจิ กลมุ่ อทิ ธพิ ล และนกั การเมอื งระดบั ทอ้ งถนิ่ อาทิ ก�ำ นนั ผใู้ หญ่บา้ น องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บล (อบต) เทศบาล และ 64

ขอ้ มลู การเมอื งถนิ่ และนกั การเมอื งถิน่ จังหวดั แพร่ องค์การบริหารส่วนจงั หวัด ขณะท่ี นายดสุ ติ รังคสริ ิ ท�ำ งานการเมือง ในบทบาทของสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร เคยตอ้ งใชค้ นคมุ้ กนั ตลอดเวลา ของการเดนิ ทางออกนอกพน้ื ที่ นอกจากนี้ นายดุสติ กลา่ ววา่ ความสมั พนั ธก์ ับประชาชนทั่วไป ทั้งการเข้าร่วมงานบุญ งานประเพณี งานศพ งานมงคล งานวัด งานมหรสพ งานประจำ�ปีต่าง ๆ ประชาชนประสบอุทกภัยความ เดือดร้อนน้ำ�ท่วม ภัยแล้ง ไม่มีงานทำ� ไม่มีเงินใช้ ลูกเข้าโรงเรียน ประชาชนเดือดร้อนนักการเมืองถิ่นจังหวัดแพร่ต้องพร้อมให้ความ ช่วยเหลือ จึงจะสามารถอยู่ในใจประชาชนได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรเจ็ดสมยั กลยทุ ธ์วิธีการหาเสยี ง นายดุสิต รังคสิริ กล่าวว่า กลยุทธ์การหาเสียงเลือกต้ังท่ีเป็น ปจั จยั ส�ำ คญั ท�ำ ใหช้ นะการเลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ 7 สมยั ตดิ ตอ่ กัน คอื 1. อยเู่ มืองแพรใ่ ห้มากกวา่ อยกู่ รงุ เทพฯ 2. ดแู ลประชาชนในพน้ื ที่ เมอ่ื ประชาชนเดอื ดรอ้ นมปี ญั หาตอ้ ง ชว่ ยเหลอื ไดท้ ุกเรอ่ื ง 3. งานต่าง ๆ เชน่ งานปี ประเพณี งานบุญ งานศพ งานมงคล ทกุ งานตอ้ งไปหมด และต้องไปด้วยตัวเอง นายดุสิต รังคสิริ ยึดถือกลยุทธ์วิธีการหาเสียงสำ�คัญ คำ� สัมภาษณท์ ว่ี ่า “พ้นื ฐานดี หาเสยี งงา่ ย คะแนนเสยี งมา” เป็นปัจจัย ความสำ�เรจ็ ส�ำ คญั ทีท่ �ำ ใหช้ นะการเลือกต้ัง ได้แก่ 1.การเป็นคนทม่ี พี ้นื ฐานครอบครวั เกดิ ท่ีจงั หวดั แพร่ ครอบครัว 65

นกั การเมอื งถน่ิ จงั หวดั แพร่ บดิ ามารดาเป็นทร่ี ้จู กั และไดร้ บั การยอมรับของประชาชนในจังหวดั 2. การมสี งั คม ญาตพิ น่ี ้อง และบรวิ ารท่มี คี วามกว้างขวาง 3. มีใจนักเลง พรรคพวกมาก และมีความเขม้ แขง็ (ใจถงึ กลา้ ได้ กล้าเสยี ) 4. มีเงินมากเพยี งพอ ตวั อย่างผลงานทคี่ นจังหวัดแพรใ่ ห้การยอมรบั โดยเฉพาะดา้ น การศึกษา คณุ ดสุ ติ รงั คสริ ิ จดั ต้ัง มลู นิธคิ ณุ หญงิ บัวเขียว รงั คสิริ เพอ่ื การศกึ ษา เปน็ กองทนุ การศกึ ษา 8 อ�ำ เภอในจงั หวดั แพร่ สรา้ งโรงเรยี น สลวยเสรไี ทย ใหเ้ ปน็ โรงเรยี นประถมศกึ ษาประจ�ำ อ�ำ เภอ สรา้ งโรงเรยี น มธั ยมวงั ชิ้น มอบใหแ้ ก่กระทรวงศึกษาธิการ สร้างตกึ โรงพยาบาลแพร่ จำ�นวน 1 หลงั บรจิ าคท่ีดินขนาด 200 ตารางวา เพือ่ กอ่ สรา้ งอาคาร เรียนโรงเรียนนารีรัตน์ และประธานมูลนิธิการประถมศึกษา อำ�เภอ เมอื ง จงั หวดั แพร่ ปี พ.ศ.2542 ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลตัวอย่างแห่งปี สาขา “นกั พัฒนาสงั คม ด้านการส่งเสรมิ ประชาธิปไตย” เมือ่ วันท่ี 13 พฤษภาคม พ.ศ.2542 (ที่มา : โล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลตัวอย่าง แห่งปี พ.ศ.2542) นายเมธา เออ้ื อภญิ ญกลุ นายเมธา เอื้ออภิญญกลุ หรอื ทชี่ าวแพร่ เรยี กว่า พอ่ เล้ยี งเมธา เกดิ วนั ที่ 23 เมษายน 2470 บตุ รนาย สมบรู ณ์ เออื้ อภญิ ญกลุ กบั มารดา นางบญุ ธรรม เอ้ืออภญิ ญกลุ เป็นคนแพรโ่ ดยก�ำ เนดิ 66

ขอ้ มลู การเมืองถนิ่ และนักการเมืองถนิ่ จังหวดั แพร่ ดา้ นการทำ�งาน นายเมธา เออ้ื อภญิ ญกลุ ประกอบอาชพี นกั ธรุ กจิ เจา้ ของกจิ การ โรงบม่ ใบยาสบู และ ดา้ นสมั ปทานเหมอื งแรล่ กิ ไนต์ ในนาม บรษิ ทั แพร่ ลิกไนต์ จำ�กัด และ บริษทั บ้านปู จ�ำ กดั (มหาชน) บทบาททางการเมอื งในฐานะสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร การเรม่ิ ตน้ สนามการเมืองของ นายเมธา เอ้อื อภญิ ญกุล กา้ ว สู่การเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ สมัยแรก สงั กัดพรรคธรรมสงั คม การเลือกต้ังทั่วไป เมอ่ื วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2518 ซ่ึงมคี วามสำ�คัญกับประวตั ิศาสตรก์ ารเมอื งไทย เน่อื งจาก พรรค กจิ สงั คม ทม่ี ี ม.ร.ว. คกึ ฤทธ์ิ ปราโมช เปน็ หวั หนา้ พรรค และมสี มาชสิ ภา ผแู้ ทนราษฎร เพยี ง 18 คน สามารถเปน็ แกนนำ�จัดต้งั รัฐบาลเปน็ นายก รัฐมนตรี ขณะท่ี พรรคประชาธิปตั ย์ มจี ำ�นวนสมาชกิ มากทสี่ ดุ ในสภา ผู้แทนราษฎรแต่กลับเป็นพรรคฝ่ายค้านในสภา อย่างไรก็ตามรัฐบาล ของ ม.ร.ว.คึกฤทธ์ิ ปราโมช ต้องเผชิญกบั แรงกดดันต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ปญั หาดา้ นเสถยี รภาพของรฐั บาลทม่ี จี �ำ นวนสมาชกิ ในสภาผู้แทนราษฎรแบบกํ้ากึ่ง ในท่ีสุดกระแสกดดันความขัดแย้งของ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรฝา่ ยรฐั บาลทห่ี นั ไปรว่ มกบั ฝา่ ยคา้ น เสนอญตั ติ ขอเปดิ อภิปรายทวั่ ไปเพือ่ ลงมติไมไ่ ว้วางใจรฐั บาลทำ�ให้นายกรัฐมนตรี ตอ้ งประกาศยุบสภาผูแ้ ทนราษฎร เมอื่ วนั ท่ี 11 มกราคม พ.ศ. 2519 และก�ำ หนดวันเลือกตงั้ ครัง้ ใหม่ คอื วนั ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2519 หลงั จาก การเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรสมยั แรก ระยะเวลา เพยี ง1ปีสาเหตจุ ากการประกาศยบุ สภาผแู้ ทนราษฎรนายเมธาเออ้ื อภญิ ญกลุ หา่ งเหนิ เวทสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั แพร่ นานถงึ 15 ปี และกลบั 67

นักการเมอื งถนิ่ จังหวดั แพร่ มาไดร้ บั การเลอื กตงั้ อกี ครงั้ ในการเลอื กตงั้ ทว่ั ไปครง้ั ท่ี 16 ของประเทศ เม่อื วนั ท่ี 22 มนี าคม พ.ศ.2535 หลงั การประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 คร้ังน้ี บทบาททางการเมืองท่ี สำ�คญั คอื การรว่ มกอ่ ตงั้ พรรคการเมืองใหม่ ชอื่ พรรคสามัคคีธรรม ท่ี มี นายณรงค์ วงศว์ รรณ อดตี หวั หน้าพรรครวมไทย และอดตี หัวหนา้ พรรคเอกภาพเป็นหัวหน้าพรรค พรรคสามัคคีธรรมที่ก่อต้ังข้ึนจาก การรวบรวมนักการเมืองหลายพรรค และบุคคลใกล้ชิดกับคณะรักษา ความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช) เพ่ือสนับสนุนและรักษาอำ�นาจ ของคณะรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยแหง่ ชาติ (รสช) อนั น�ำ ไปสเู่ หตกุ ารณ์ พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ.2535 ที่มีประชาชนจำ�นวนมากชุมนุมประท้วง และต่อต้านการดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ. สุจินดา คราประยรู และการสบื ทอดอำ�นาจของคณะรักษาความสงบเรยี บร้อย แห่งชาติ (รสช.) ระหวา่ งวันที่ 17 – 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 สมัยที่สาม การเลือกตง้ั ท่ัวไป ครงั้ ที่ 17 เม่ือ วนั ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2535 ในสังกัด พรรคชาติไทย เป็นการเลือกตั้งทั่วไปหลังเกิด เหตกุ ารณพ์ ฤษภาทมฬิ ผลการเลอื กตง้ั ครงั้ นผี้ สู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ในสงั กดั พรรคชาตไิ ทยไดร้ บั การเลอื กตง้ั ครบทมี ประกอบดว้ ย นายดสุ ติ รงั คสริ ิ นายเมธา เอือ้ อภญิ ญกลุ และนายณรงค์ วงศว์ รรณ สมัยท่ีส่ี การเลอื กตงั้ ทว่ั ไป คร้ังท่ี 18 เมอ่ื วันท่ี 2 ก.ค.2538 ใน สงั กัดพรรคชาตไิ ทย นายเมธา เออื้ อภญิ ญกลุ และนายดุสติ รงั คสิริ ได้ รับการเลือกตัง้ ซึ่งมผี สู้ มัครรับเลือกตง้ั จากพรรคประชาธปิ ัตย์ คือ นาง ศิริวรรณ ปราศจากศตั รู แจ้งเกดิ ในเวทกี ารเมืองจงั หวัดแพร่ แทนนาย ณรงค์ วงศ์ววรณ ทีแ่ พก้ ารเลอื กต้งั เปน็ ครั้งแรก 68

ขอ้ มลู การเมอื งถน่ิ และนกั การเมอื งถิ่นจังหวดั แพร่ บทบาททางการเมือง นายเมธา เออ้ื อภญิ ญกลุ ไดร้ บั การแตง่ ตงั้ เปน็ ทป่ี รกึ ษารฐั มนตรี ชว่ ยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (นางสาวกญั จนา ศลิ ปะอาชา รฐั มนตรี ว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ) ปี พ.ศ. 2543 เครือข่ายและความสมั พันธ์ กลมุ่ การเมอื งในจงั หวดั แพรม่ กั มสี ายสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงจากกลมุ่ ผลประโยชนท์ างธุรกิจ กลุม่ เครอื ญาติ และกลมุ่ การเมือง ซ่ึงหมายรวม ถึงพรรคการเมืองท่ีแต่ละคนสังกัด นายเมธา เอ้ืออภิญญกุล สหาย ร่วมอดุ มการณ์เดียวกนั กับนายดสุ ติ รงั คสิริ และนายณรงค์ วงศว์ รรณ ซงึ่ ถอื เปน็ สายตระกลู ใหญข่ องจงั หวดั แพรท่ งั้ สนิ้ ทเ่ี รยี กวา่ ไปไหนไปกนั ต้งั แต่ พรรคชาติไทย พรรคไทยรกั ไทย พรรคพลังประชาชน และพรรค เพ่ือไทย โดยมีตระกูลท่ีเคยเป็นมิตรแท้ และเป็นคู่แข่งทางการเมือง อย่างตระกูลพนมขวัญของอาจารย์รัตน์ พนมขวัญ และตระกูลศุภศิริ ของพอ่ เลี้ยงศานิตย์ ศุภศริ ิ (ปัจจุบนั ท้งั สองท่านเสยี ชวี ติ แลว้ ) บดิ าของ แมเ่ ลีย้ งตกิ๊ นางศิรวิ รรณ ปราศจากศตั รู ความแนบแน่น ความผกู พนั กันมาจากธรุ กิจหลกั ของจังหวัดแพร่ ไดแ้ ก่ ไม้สกั ใบยาสบู และเหมือง แรล่ กิ ไนต์ สสู่ นามแขง่ ขนั ทางการเมอื งซง่ึ ในบางครง้ั อาจมคี วามขดั แยง้ และความรนุ แรงบา้ งในบางชว่ งบางเวลาของความเขม้ ขน้ ทางการเมอื ง ในจงั หวัดแพร่ ซึ่งมคี วามสัมพนั ธร์ ะหวา่ งอ�ำ นาจทางการเมือง อทิ ธพิ ล และผลประโยชน์ทเ่ี ชอื่ มโยงกนั จากสายสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มการเมืองไปสู่ การสืบทอดทางการเมืองแบบ ระบบเครือญาติ พ่อเล้ียงเมธา เอ้ือ- อภิญญกลุ ผบู้ ุกเบิกถนนการเมืองสายตระกลู เอือ้ อภญิ ญกุล สบื ทอด 69

นกั การเมืองถิ่นจังหวดั แพร่ ต่อไปยังบุตรชาย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ บุตรเขย และล่าสุดบุตรสาว นางปานหทัย เสรีรักษ์ ภรรยา ของนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ที่ลงสมัครรับเลือกต้ังแทนสามี ซึ่งถูก ตัดสิทธิทางการเมืองในฐานะคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 1 ในจ�ำ นวน 111 คน จากกรณียบุ พรรคตามค�ำ พิพากษาของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนญู กลยทุ ธ์การหาเสยี ง นายเมธา เออื้ อภญิ ญกุล นกั การเมืองผู้มากดว้ ยประสบการณ์ มกี ลยทุ ธก์ ารหาเสยี งเลอื กตง้ั เรยี กวา่ ตอ้ งเขา้ ถงึ จติ ใจชาวบา้ น และโชว์ ผลงานทตี่ รงใจผชู้ มดว้ ยกลยุทธ์ ต่อไปน้ี 1.การเคาะประตชู าวบา้ น การเข้าถึงชาวบ้านด้วยวิธีการแบบเข้าถึงตัว (Face To Face) ทำ�ให้ชาวบ้านคุ้นเคยเป็นพวกพ้องเดียวกันให้ความช่วยเหลือใกล้ชิด ชาวบ้าน รับเอาลูกหลานของชาวแพร่มาทำ�งานในบริษัทธุรกิจของ ตนเอง กลา่ วคอื ชว่ ยให้ลูกหลานชาวบ้านได้งานท�ำ 2.กลยทุ ธ์ครอบครัวเดยี วกัน พอ่ เลยี้ งเมธา ดแู ลครอบครวั ชาวบา้ นทเี่ ดอื ดรอ้ นเสมอื นสมาชกิ ในเครอื ญาติ อาทิ การใหง้ านท�ำ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ หรอื ให้ เขา้ มาช่วยงานการเมือง ซึ่งชาวบา้ นเหล่าน้ีกลายกลมุ่ หวั คะแนนทเ่ี ป็น ฐานเสียงสำ�คญั ของนายเมธา เอ้อื อภญิ ญกุล 3. กลยทุ ธห์ ัวคะแนน นกั การเมอื งในชว่ ง 20 กวา่ ปที ผี่ า่ นมา นยิ มใชก้ ลยทุ ธห์ วั คะแนน หมายถึง ผู้ท่ีทำ�หน้าท่ีรวบรวมรายชื่อชาวบ้านท่ีมีความนิยมชมชอบ 70

ขอ้ มลู การเมืองถน่ิ และนักการเมืองถิ่นจังหวัดแพร่ และพรอ้ มสนบั สนนุ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ใหไ้ ดค้ ะแนนเสยี งมากทส่ี ดุ โดย มีเป้าหมายอยู่ท่กี ารชนะคู่แข่ง วิธีการ เช่น ใชแ้ รงจูงใจด้วยการใหเ้ งนิ หรือส่ิงของเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำ�วันสร้างให้เกิดความจงรักภักดีต่อ กัน เปน็ ต้น จากขอ้ มลู ค�ำ สัมภาษณ์ของนายแพทยท์ ศพร เสรีรกั ษ์ บตุ รเขย เน่ืองจากปัจจุบัน นายเมธา เอ้ืออภิญญกุล พำ�นักอยู่ ณ บ้านพักที่ กรุงเทพมหานคร และไม่รับรองแขก สาเหตุจากปัญหาด้านสุขภาพ ร่างกาย นายณรงค์ วงศ์วรรณ นายณรงค์ วงศ์วรรณ เกดิ เมอื่ วนั ที่ 25 เมษายน พ.ศ.2468 พ่อเลี้ยงเมืองแพร่ผู้มีบทบาทสำ�คัญที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้อง จารึกไวม้ ากมาย ดา้ นการศกึ ษา นายณรงค์ วงศ์วรรณ ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2522 - 2523 ด้านการเมือง นายณรงค์ วงศ์วรรณ นักการเมืองถ่ินจังหวัดแพร่ผู้มากด้วย ประสบการณแ์ ละบทบาททางการเมอื งทมี่ คี วามสำ�คญั ของประเทศ เคย ดำ�รงต�ำ แหน่งทางการเมืองทีส่ ำ�คญั ประกอบดว้ ย รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงมหาดไทย วนั ที่ 11 กมุ ภาพนั ธ์ ถงึ 71

นักการเมืองถิน่ จงั หวดั แพร่ วนั ท่ี 3 มีนาคม พ.ศ.2523 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันที่ 11 มนี าคม พ.ศ. 2524 ถึง วันท่ี 19 มีนาคม พ.ศ. 2526 รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วนั ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2526 ถึง วันท่ี 5 สงิ หาคม พ.ศ. 2529 รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วนั ที่ 9 ธนั วาคม พ.ศ. 2533 ถงึ วันท่ี 23 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2534 รองนายกรฐั มนตรี (สมยั นายกรฐั มนตรี พล.อ.สจุ นิ ดา คราประยรู ) วนั ที่ 7 เมษายน ถึง วนั ท่ี 9 มถิ ุนายน พ.ศ.2535 หลงั เหตุการณพ์ ฤษภา ทมฬิ บทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร นายณรงค์ วงศ์วรรณ ก้าวสู่การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงั หวัดแพร่ สมัยแรกในการเลือกตั้งท่วั ไปครง้ั ท่ี 12 เม่ือวนั ท่ี 22 เม.ย. 2522 สังกัดพรรครวมไทย ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทย ร่วมกับผู้ สมคั รอกี คนหนงึ่ คอื นายพล วชั รปรชี า (เสยี ชวี ติ เมอ่ื วนั ท่ี 11 ธนั วาคม พ.ศ. 2530) สมยั ที่สอง การเลอื กตัง้ ทัว่ ไป ครงั้ ท่ี 13 เมอื่ วนั ท่ี 18 เมษายน พ.ศ.2526 ย้ายไปสมคั รรับเลอื กตั้งในนามพรรคกจิ สงั คม สมยั ทสี่ าม การเลอื กตงั้ ทว่ั ไป ครง้ั ท่ี 14 เมอ่ื วนั ท่ี 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 นายณรงค์ ไดย้ ้ายกลับไปลงสมคั รรับเลอื กตง้ั ในนามพรรค รวมไทย อีกครงั้ หนงึ่ สมยั ทสี่ ี่ การเลือกตัง้ ท่ัวไป ครั้งที่ 15 เมื่อวนั ท่ี 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ในนามพรรครวมไทย แต่ต่อมาระหว่างการเป็นสมาชิก 72

ข้อมลู การเมืองถ่ิน และนักการเมืองถนิ่ จงั หวัดแพร่ สภาผแู้ ทนราษฎรไดย้ า้ ยไปสงั กดั พรรคเอกภาพ ในบทบาทของหวั หนา้ พรรคเอกภาพ สมยั ท่ีห้า การเลือกตั้งท่ัวไป ครั้งท่ี 16 เม่อื วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2535 หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 ในฐานะหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ที่ถูกก่อตั้งขึ้น เพอื่ สนบั สนนุ แกนน�ำ ของคณะรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยแหง่ ชาติ (รสช.) เพอื่ การรกั ษาและสบื ทอดอ�ำ นาจ โดยผลการเลอื กตง้ั พรรคสามคั คธี รรม ไดส้ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจ�ำ นวน 79 คน มากทสี่ ดุ จากจ�ำ นวนสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 360 คน ทำ�ให้ต้องจดั ต้ังรฐั บาลผสม 5 พรรค ไดแ้ ก่ พรรคสามคั คีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสงั คม พรรคประชากรไทย และพรรคราษฎร การเมืองพลิกผันทำ�ให้นายณรงค์ วงศ์วรรณ ไม่ได้เป็นนายก รฐั มนตรี จากกรณี นางมารก์ าเรต็ แท็ต ไวเลอร์ โฆษกกระทรวงการ ต่างประเทศสหรฐั อเมรกิ า แถลงการณว์ า่ นายณรงค์ วงศ์วรรณ เปน็ บุคคลท่ีต้องห้ามไม่สามารถขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตเุ พราะมีความใกลช้ ิดกบั กล่มุ นักคา้ ยาเสพตดิ ท�ำ ให้ในท่ีสดุ แกน นำ�พรรคร่วมรัฐบาลได้เลือกเสนอช่ือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ข้ึน ทูลเกล้าฯ และ มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตัง้ ให้เปน็ นายก รฐั มนตรี เมอื่ วนั ท่ี 7 เมษายน พ.ศ.2535 ทา่ มกลางเสยี งเรยี กรอ้ งนายก รฐั มนตรตี อ้ งมาจากการเลอื กตงั้ กระทง่ั เกดิ กระแสตอ่ ตา้ นมกี ารชมุ นมุ ประทว้ งของประชาชนจำ�นวนมาก ในทีส่ ุดน�ำ ไปสูเ่ หตุการณน์ องเลือด “พฤษภาทมฬิ ” ระหวา่ งวันท่ี 17 ถงึ วันท่ี 20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 และนำ�ไปสู่การเลือกตัง้ ท่ัวไปครง้ั ที่ 17 สมยั ทีห่ ก การเลอื กตั้งทวั่ ไป ครง้ั ท่ี 17 เมื่อวนั ท่ี 13 กันยายน 73

นกั การเมอื งถ่นิ จงั หวัดแพร่ พ.ศ. 2535 ในสงั กดั ใหม่ คอื พรรคชาตไิ ทย โดยการเลอื กตง้ั ครงั้ น้ี พรรค ชาติไทยชนะการเลือกตงั้ ยกทีม ประกอบดว้ ย (1) นายดุสิต รังคสริ ิ (2) นายเมธา เออ้ื อภญิ ญกุล และ (3) นายณรงค์ วงศ์วรรณ เครอื ข่ายและความสมั พันธ์ พ่อเล้ียงณรงค์ วงศ์วรรณ นักการเมืองผู้มีบทบาทสำ�คัญใน จังหวัดแพร่มีสายสัมพันธ์ กับกลุ่มตระกูลเอ้ืออภิญกุล ของนายเมธา เออ้ื อภิญญกุล สหายร่วมอุดมการณ์ และเป็นตระกูลใหญข่ องจังหวดั แพร่ อีกท้ัง ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลศุภศิริ ของพ่อเลี้ยง ศานิตย์ ศุภศิริ บิดาแม่เล้ียงต๊ิก นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ในช่วง เวลาที่ นายณรงค์ วงศ์วรรณ ดำ�รงตำ�แหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ แม่เล้ียงต๊ิกมีโอกาสช่วยเหลืองาน และติดตาม นายณรงค์ วงศว์ รรณ อย่างใกลช้ ิดโดยใช้กลไกระบบราชการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์บูรณาการมาสู่ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวแพร่ ขณะเดียวกัน เม่ือช่วงการรณรงค์หาเลียงเลือกตั้ง แม่เล้ียงต๊ิกจะเป็น ผู้ที่มีบทบาทสำ�คัญในฐานะหัวคะแนนฐานเสียงทางการเมืองให้กับ นายณรงค์ วงศ์วรรณ กระทง่ั การตดั สนิ ใจลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร สมัยแรกของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ในสังกัด พรรคประชาธิปัตย์ ซ่ึงกลับกลายมาเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำ�คัญ ของนายณรงค์ วงศ์วรรณ และตระกลู วงศว์ รรณ ในปัจจุบัน กลยทุ ธ์การหาเสยี ง นกั การเมอื งผมู้ ากดว้ ยประสบการณ์ ความสามารถ และการเขา้ ถงึ ประชาชน โดยเฉพาะกลุม่ อาชีพเกษตรกรรม ชาวนา ชาวไร่ ยาสูบ 74

ขอ้ มลู การเมอื งถ่ิน และนกั การเมอื งถนิ่ จังหวดั แพร่ และอน่ื ๆ ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งยากล�ำ บากส�ำ หรบั นกั การเมอื งทม่ี ชี อ่ื เรยี กวา่ พอ่ เลีย้ งณรงค์ วงศ์วรรณ กลยุทธ์การหาเสียงเลือกต้งั ทนี่ ายณรงค์ใชเ้ ป็น ประจำ� จะมสี ว่ นคลา้ ยคลงึ กบั นกั การเมอื งรนุ่ เกา่ ของประเทศหลายคน อนั แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำ เรจ็ ของการหาเสยี งในแตล่ ะยคุ แตล่ ะสมยั ใน เวทกี ารเมืองไทย ดงั กลยุทธ์ต่อไปนี้ 1. กลยุทธ์ชนะใจชาวบา้ น การเขา้ ถงึ ชาวบา้ นดว้ ยวธิ กี ารไปทกุ งาน ทง้ั งานศพ งานบญุ งาน วดั งานประเพณี ประธานเปดิ งาน ใหข้ องทเ่ี ปน็ ความชว่ ยเหลอื ชาวบา้ น เต้นท์ น้ําแข็ง เครือ่ งเสยี ง ตามงานต่าง ๆ ของชาวบ้าน ถงึ แม้ตัวไม่ไป ตอ้ งมคี นไปแทน หรอื มเี งนิ ทอง สงิ่ ของอาหาร เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชต้ า่ ง ๆ ไปใหช้ าวบ้านเห็นทุกคร้งั ส่ิงส�ำ คญั คอื ความสมํา่ เสมอ เรยี กวา่ ใครมี เรือ่ งอะไร มปี ญั หาอะไร ใครท�ำ อะไร ตอ้ งมีณรงค์ วงศ์วรรณ ช่วยเหลอื อยา่ งสมา่ํ เสมอ และเทา่ เทยี มกนั เพราะความคาดหวงั ของชาวบา้ น คอื ถา้ มีความเดือดร้อน ส.ส.ต้องชว่ ยได้ทกุ เรือ่ ง มีเรือ่ งเล่าให้ฟงั ว่า “มคี น ตกรถโดยสาร ไมม่ สี ตางคค์ า่ รถกลบั บา้ น เดนิ สวนกบั พอ่ เลย้ี งณรงค์ จงึ เดนิ เขา้ ไปขอสตางคค์ า่ รถ พอ่ เลย้ี งเรยี กกนิ ขา้ ว แลว้ ใหค้ นขบั รถไปสง่ ท่ี ท่ารถโดยสาร ฝากรถโดยสารไปไมเ่ สียสตางค์” ชาวบา้ นกพ็ ูดกนั ต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นเรอ่ื งทัว่ ๆ ไปงา่ ย ๆ ไม่ตอ้ งลงทุนมากมาย แต่อยู่ทีใ่ จ ความเป็นคนใจดีใจนกั เล็ง (ท่ีมา : นายสาคร เสียงมงคล ค�ำ บอกเลา่ ชาวบ้านในตลาดเหมอื งแดง,2552) 2. กลยุทธเ์ ด็กและเยาวชน พ่อเลยี้ งณรงค์ วงศว์ รรณ จะให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนทีเ่ รียน ดีและขาดแคลนทุนทรัพย์ พร้อมสนับสนุนการกีฬาสำ�หรับเยาชนชาว แพร่ ส่งเสริมให้คนแพร่ออกกำ�ลังกาย และเล่นกีฬา อย่างสม่ําเสมอ 75

นกั การเมืองถนิ่ จงั หวดั แพร่ เม่อื ป่ยู า่ ตายาย พอ่ แมแ่ ละลกู หลานพูดถึง พ่อเลี้ยงณรงค์ วงศว์ รรณ ในทางชื่นชม พอถึงช่วงเวลาของการหาเสียงเลือกต้ังออกไปพบปะ ชาวบา้ น จงึ เป็นเรื่องง่ายกบั คะแนนเสียงท่ีจะไดร้ บั 3. กลยทุ ธค์ วามภูมใิ จ สิ่งสำ�คญั ทีน่ ายณรงค์ วงศ์วรรณ ให้ความสำ�คญั ที่ชาวบ้านต้อง รับรู้ในการหาเสียงเลือกต้ังทุกครั้ง นอกจากความช่วยเหลือเวลาชาว บ้านเดือดร้อน คอื ผลงานของการเป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร (ส.ส.) ของคนแพร่ผลงานต่าง ๆ การดำ�รงตำ�แหน่งทางการเมือง บทบาท ทางการเมอื งในระดบั ประเทศ หวั หนา้ พรรคการเมอื ง เปน็ ตน้ ชาวบา้ น ต้องได้รบั รูข้ า่ วสารเพื่อใหช้ าวบ้าน คนแพรม่ ีความภูมิใจว่า ผแู้ ทนของ เขาเปน็ ใหญเ่ ป็นโต แล้วทำ�ประโยชน์อะไรให้กับเมอื งแพร่ พฒั นาเมอื ง แพรด่ า้ นใดบ้าง ซงึ่ จะเป็นขา่ วใหญ่ และขยายฐานคะแนนเสยี งออกไป 4 .กลยุทธศ์ าสนาและวดั พระพทุ ธศาสนา และความเช่ือทางวัฒนธรรม ค่านิยมพนื้ บา้ น การสวมใส่เสื้อม่อฮ่อมแพร่ เป็นภาพท่ีคุ้นเคยของคนแพร่ที่เห็นพ่อ เลยี้ งณรงค์ สวมใสเ่ ปน็ ประจ�ำ การสง่ เสรมิ ท�ำ นบุ �ำ รงุ สถานทสี่ �ำ คญั ทาง ศาสนา วดั โบราณสถาน หรือสถานที่ท่องเทีย่ ว เพือ่ ผกู มัดใจชาวแพร่ ถอื เป็นกลยทุ ธเ์ คล็ดลบั ส�ำ คญั อกี ประการ นางศิริวรรณ ปราศจากศตั รู นางศริ ิวรรณ ปราศจากศัตรู (สกลุ เดมิ ศภุ ศิริ) หรอื แม่เลยี้ งต๊ิก เกิดเมื่อ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2499 เป็นบุตรสาวของนายศานิตย์ ศุภศิริ อดีตนักการเมืองระดับท้องถิ่นคนดังของจังหวัดแพร่ อีกทั้ง พ่ีน้องหลายคนอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่นจังหวัดแพร่ บทบาทนัก 76

ขอ้ มูลการเมอื งถ่นิ และนกั การเมืองถน่ิ จังหวัดแพร่ การเมอื งสตรรี ะดบั แนวหน้าคนหน่ึง ซง่ึ อย่ทู ัง้ เบ้ืองหน้า และเบอ้ื งหลงั ความสำ�เร็จของนักการเมืองถิ่นในจังหวัดแพร่มาแล้วหลายคน แม้แต่ นายณรงค์ วงศว์ รรณ ดา้ นการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนมัธยมสาธิตวิทยาลัยวิชาการศึกษา ประสานมิตร (โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใน ปัจจบุ นั ) ปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั หอการค้าไทย ปรญิ ญาโท ศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั นเรศวร ด้านสังคม นายกสมาคมกีฬาจงั หวดั แพร่ ปี พ.ศ.2538 กรรมการบรหิ ารชมรมสมาชกิ สภาสตรีไทย ปี พ.ศ. 2543 ด้านการเมอื ง สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรจังหวัดแพร่ ปี พ.ศ.2538, 2539 และ 2544 เลขานุการคณะกรรมาธิการพลังงาน สภาผแู้ ทนราษฎร เลขานกุ ารคณะกรรมาธิการเศรษฐกจิ สภาผแู้ ทนราษฎร ท่ีปรกึ ษา รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงสาธารณสขุ (นายคำ�รณ ณ ลำ�พนู ) 77

นักการเมอื งถน่ิ จงั หวัดแพร่ เลขานกุ าร รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงคมนาคม (นายสเุ ทพ เทอื ก สบุ รรณ) เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายวิทยา แก้วภราดรยั ) รองประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รองเลขาธิการพรรคประชาธปิ ัตย์ บทบาททางการเมอื งในฐานะสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร สมยั แรก การเลือกตัง้ ทว่ั ไปครงั้ ที่ 18 ของประเทศ เมื่อ วนั ท่ี 2 กรกฎาคม พ.ศ.2538 ในสงั กดั พรรคประชาธิปัตย์ เปน็ การลงสมคั รรับ เลือกต้ังสมัยแรก หลังจากแยกทีมออกมาจากการเป็นผู้สนับสนุนการ รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้กับนายณรงค์ วงศ์วรรณ และกลายมาเป็น คู่แข่งคนสำ�คัญของทีมนายณรงค์ วงศ์วรรณ พรรคชาติไทย กระท่ัง ผลการเลือกตั้งแม่เลี้ยงติ๊กคะแนนเสียงมาเป็นอันดับที่ 3 สามารถ ปักธงไชยในนามพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดแพร่ได้สำ�เร็จ เป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์คนที่สอง หลังจากจังหวัดแพร่ เคยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เพียง คนเดยี ว คอื นายไชย วงศ์สวา่ ง จากการเลอื กตง้ั ทว่ั ไปคร้ังที่ 8 เมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2500 ว่างเว้นที่น่ังสำ�หรับสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจงั หวัดแพรส่ งั กัดพรรคประชาธิปัตย์ นานถงึ 38 ปี ขณะทีพ่ รรค ชาติไทย 2 คน ท่ีได้รบั การเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร คอื นายดสุ ิต รังคสริ ิ อนั ดบั ที่ 1 และนายเมธา เอ้ืออภญิ ญกุล อันดบั ที่ 2 ดา้ น นายณรงค์ วงศว์ รรณ เปน็ ผแู้ พก้ ารเลอื กตงั้ และตอ่ มา นายณรงค์ ได้ประกาศวางมือทางการเมืองเปล่ียนไปใช้ชีวิตประกอบธุรกิจส่งออก 78

ขอ้ มลู การเมอื งถ่นิ และนักการเมอื งถ่นิ จงั หวัดแพร่ พืชผลการเกษตรที่จังหวัดเชียงราย สมยั ทสี่ อง การเลอื กตงั้ ทวั่ ไปครง้ั ท่ี 19 เมอ่ื วนั ท่ี 17 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2539 การเลือกต้ังคร้ังน้ี เกิดพรรคการเมืองใหม่ชื่อ พรรคความ หวังใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายความสำ�เร็จอยู่ที่การก้าวเป็นนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ชวลติ ยงใจยุทธ ผลการเลือกต้งั ในระดบั ประเทศสามารถ ชนะพรรคประชาธปิ ตั ย์ท่นี ำ�โดย นายชวน หลกี ภัย หวั หน้าพรรค ผล การเลือกตั้งโดยรวมพรรคความหวังใหม่ ได้ ส.ส. 125 คน พรรค ประชาธปิ ตั ย์ ได้ ส.ส. 123 คน ท�ำ ให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยทุ ธ สามารถ จดั ตงั้ รฐั บาลขน้ึ ด�ำ รงต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี ตอ่ มา เกดิ วกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ อย่างรุนแรงในประเทศ “วิกฤติต้มยำ�กุ้ง” ภายหลังการประกาศลอย ค่าเงินบาท เม่ือปลายปี พ.ศ.2540 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธตัดสินใจ ลาออกจากตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี และมีการจับกลุ่มการเมืองใหม่ ของ 2 ข้วั การเมอื ง คอื กลุ่มพรรคร่วมรฐั บาลเดมิ นำ�โดย พรรคความ หวังใหม่ และพรรคชาตพิ ฒั นา กบั กลุ่มพรรคฝา่ ยคา้ นที่นำ�โดย พรรค ประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคกิจสังคม จนเกิดเหตุการณ์ ส�ำ คญั เรียกวา่ กรณี “กลมุ่ งูเห่า” ผลท�ำ ให้พรรคประชาธิปตั ย์สามารถ จัดต้งั รฐั บาล นายชวน หลกี ภัย ข้ึนด�ำ รงต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี โดย แมเ่ ลยี้ งตกิ๊ เปน็ ผมู้ บี ทบาทส�ำ คญั มมุ หนงึ่ ในการประสานกลมุ่ ส.ส.พรรค ชาตไิ ทยเพื่อการชักชวนเข้าร่วมจัดตัง้ รัฐบาลผสม การเลือกตง้ั ในครงั้ นี้ นางศิรวิ รรณ ปราศจากศัตรู แสดงความ โดดเดน่ ทางการเมอื งของจงั หวดั แพร่ สามารถชนะการเลอื กตง้ั คะแนน เสยี งมาเปน็ อนั ดบั ที่ 1 ขณะที่ พรรคชาตไิ ทย นายแพทยท์ ศพร เสรรี กั ษ์ และนายวรวจั น์ เออื้ อภญิ ญกลุ อนั ดบั 2 และ 3 ตามลำ�ดับ สมยั ที่สาม การเลือกต้ังทั่วไปคร้ังที่ 20 เมอ่ื วนั ท่ี 6 มกราคม 79

นกั การเมอื งถิ่นจังหวดั แพร่ พ.ศ.2544 การเลือกตั้งทั่วไปคร้ังแรก หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2540 นางศริ ิวรรณ ปราศจากศัตรู ได้ รบั การเลอื กตง้ั คะแนนมาเปน็ อนั ดบั ท่ี 2 รองจาก นายแพทยท์ ศพร เสรี รกั ษ์ บุตรเขยของนายเมธา เออ้ื อภิญญกลุ ด้วยคะแนนเสยี งอันดับที่ 1 ขณะท่ี นายวรวัจน์ เอ้อื อภญิ ญกุล นอ้ งชายของภรรยา (นางปานหทัย เสรรี ักษ)์ คะแนนเสยี งเป็นอันดับท่ี 3 ในสังกัดใหม่ พรรคไทยรักไทย จากนน้ั ส�ำ หรบั การเลอื กตง้ั สมยั ทส่ี ่ี ในการเลอื กตง้ั ทว่ั ไปครง้ั ท่ี 21 เมอ่ื วนั ท่ี 6 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2548 นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู ตอ้ งแพ้ การเลอื กตง้ั ใหก้ บั นายอนวุ ธั วงศว์ รรณ บตุ รชายของนายณรงค์ วงศว์ รรณ ท่ีตามมาทวงตำ�แหน่งคืนแทนบิดาในสังกัดพรรคไทยรักรักไทย ด้วย กระแสทักษิณฟรีเวอร์สามารถกำ�ชัยชนะการเลือกตั้งแบบยกทีม ซ่ึง การเลือกต้ังในคร้ังนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ไทยรักไทยพยายามเจรจาเสนอเงื่อนไขขอให้นางศิริวรรณ ย้ายมาลง สมคั รรบั เลอื กตง้ั ในนามพรรคไทยรกั ไทย แตด่ ว้ ยอดุ มการณค์ วามยดึ มน่ั ผูกพัน และความนับถือศรัทธาในตัวของนายชวน หลีกภัย ประธาน ทปี่ รึกษาพรรค และอดีตหวั หนา้ พรรคประชาธิปตั ย์ ท�ำ ให้นางศริ ิวรรณ ประกาศจุดยืนแน่วแน่ในการอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ต่อไป และใน การเลอื กตง้ั คร้ังลา่ สดุ (วันท่ี 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2550) ไดร้ ับมอบหมาย จากพรรคให้ดูแลการเลือกตัง้ ของพรรคประชาธิปัตย์ โซน 1 ภาคเหนอื ตอนบน 11 จังหวดั รว่ มกับ นายเทดิ พงษ์ ไชยนนั ท์ และนายชัยวฒุ ิ บรรณวฒั น์ กระทง่ั เมอ่ื วนั ท่ี 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 พรรคประชาธปิ ตั ย์ จดั การประชมุ ใหญว่ สิ ามญั ประจ�ำ ปี เพอื่ เลอื กตงั้ คณะกรรมการบรหิ าร พรรคชุดใหม่ตามข้อบังคับพรรค นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ได้รับ ต�ำ แหน่งรองเลขาธกิ ารพรรคประชาธปิ ัตย์ ซึง่ เป็นความภาคภมู ใิ จของ 80

ขอ้ มลู การเมอื งถน่ิ และนักการเมอื งถ่ินจงั หวดั แพร่ เธอในความไวว้ างใจจากผใู้ หญแ่ ละสมาชกิ พรรคประชาธปิ ตั ย์ ถงึ แมว้ า่ เธอจะไม่สามารถชนะการเลอื กตัง้ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการ เลอื กตั้งครงั้ หลงั สุดก็ตาม เครอื ขา่ ยและความสมั พันธ์ แม่เล้ียงติ๊ก นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นักการเมืองสตรีผู้ มีบทบาทสำ�คัญในจังหวัดแพร่สายเลือด “ตระกูลศุภศิริ” บุตรสาว พ่อเล้ียงศานิตย์ ศุภศิริ แม่เลี้ยงต๊ิกสมรสกับ พล.ต.ท.ไถง ปราศจาก ศัตรู (ยศในปัจจุบัน ปี พ.ศ.2552) ก่อนตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม่เลี้ยงต๊ิกเป็นผู้ท่ีมีบทบาทสำ�คัญในฐานะ หวั คะแนน ฐานเสยี งทางการเมืองให้กบั นายณรงค์ วงศว์ รรณ กระทง่ั การตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยแรกใน สงั กดั พรรคประชาธปิ ตั ย์ โดยการสนบั สนนุ ของบดิ า นายศานติ ย์ ศภุ ศริ ิ ทม่ี คี วามสนิทสนม และนบั ถอื คุ้นเคยกับ นายชวน หลีกภัย ประธานท่ี ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์) ซึ่งนางศิริวรรณ พยายามหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลผู้วิจัย เกย่ี วกับเหตุผลการตดั สินใจแยกทมี จากนายณรงค์ วงศ์วรรณ ซง่ึ ยังคง มคี วามนบั ถอื ในฐานะผใู้ หญ่ ทตี่ อ้ งกลบั กลายมาเปน็ คแู่ ขง่ ทางการเมอื ง คนส�ำ คญั ของนายณรงค์ วงศว์ รรณ ทมี ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ในสงั กดั พรรค ชาตไิ ทย และคนตระกูลวงศว์ รรณ ขณะท่ี ในอดตี สมยั นายณรงค์ วงศว์ รรณ ด�ำ รงต�ำ แหนง่ รฐั มนตรี ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2526 – พ.ศ. 2529 ตามล�ำ ดบั แม่ เลย้ี งตกิ๊ เปน็ ผทู้ ม่ี โี อกาสชว่ ยเหลอื งาน และตดิ ตามนายณรงค์ วงศว์ รรณ 81

นักการเมอื งถ่ินจงั หวดั แพร่ ซงึ่ ท้ัง นายณรงค์ และนางศิรวิ รรณ ไดใ้ ชก้ ลไกระบบราชการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ มาบูรณาการงานเพ่ือช่วยเหลือเกษตรกรจังหวัด แพร่ อยา่ งน่ายกย่อง จาก ครอบครัวที่เติบโตมากับตระกูลนักการเมืองพ่ีชาย และ เครือญาติสายสกุลศุภศิริหลายคนอยู่ในแวดวงการเมืองระดับท้องถิ่น ท้ังองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำ บลหลายแหง่ ของจงั หวดั แพร่ กลา่ ว ได้ว่า นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เป็นนักการเมืองสตรีที่มีบทบาท สำ�คัญทั้งในระดับท้องถิ่น มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองในระดับต่าง ๆ ของจังหวัดแพร่ และมีความผูกพันช่วยเหลือเก้ือกูลเป็นทีมเดียวกัน กับตระกูลพนมขวัญ ปัจจุบันในรุ่นลูกเช่นเดียวกัน อาทิ นายโชคชัย พนมขวัญ (บุตรชายอาจารย์รัตน์ พนมขวัญ อดีตสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจงั หวดั แพร่ ปี พ.ศ.2519) จากบทบาทหวั คะแนนหรอื ผสู้ นบั สนนุ ทางการเมอื งมาสกู่ ารเปน็ นกั การเมอื งถนิ่ ระดบั ประเทศในฐานะผสู้ มคั ร รบั เลอื กต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจงั หวดั แพร่ นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู กบั พรรคประชาธปิ ตั ย์ ในการเลอื ก ตั้งทัว่ ไป ครั้งที่ 18 เม่อื วนั ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2538 สมัยแรกของการ ลงสมัครรับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยการสนับสนุน ของบิดา ครอบครัว และผู้ใหญ่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยความ เป็นผู้หญิงแกร่งท่ีไม่เคยเกรงกลัวใคร กล้าคิด กล้าพูด กล้าตัดสินใจ เด็ดเดียว และโดดเด่น โดยเฉพาะการปฏิเสธ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยชักชวนให้ย้ายพรรคมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ซึ่งเธอปฏิเสธ และประกาศจุดยืนร่วมต่อสู้ทางการเมืองอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดไป จึงทำ�ให้ได้รับการสนับสนุนจากนายชวน หลีกภัย และ 82

ข้อมูลการเมืองถ่ิน และนกั การเมืองถิน่ จังหวัดแพร่ ผู้ใหญ่ภายในพรรค กระทงั่ ไดร้ ับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรค และ คณะกรรมการบริหารพรรค สามารถก้าวสู่ตำ�แหน่งสำ�คัญในพรรค ประชาธิปัตย์ เส้นทางสายการเมืองของเธอยังยาวไกล อาจเบนเข็ม ไปสู่การลงสมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วนตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และ/หรือกับ การไดร้ บั โอกาสในการด�ำ รงต�ำ แหนง่ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงหรอื รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงหนง่ึ กระทรวงใด หากพรรคประชาธปิ ตั ยย์ งั คง ได้จดั ตัง้ รฐั บาล ในอนาคต กลยุทธ์การหาเสียง นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ให้สมั ภาษณผ์ ู้วจิ ยั วา่ การทำ�งาน การเมอื งของเธอ ไมม่ กี ารใช้วธิ ีการซอ้ื สทิ ธิขายเสียงโดยเดด็ ขาด ตาม คำ�สอนของ นายชวน หลกี ภัย วา่ “เป็นนักการเมือง คอื การเสยี สละ ประโยชน์สว่ นตน เพื่อประเทศชาติ และประชาชน หากจะสรา้ งความ ร่ํารวย ตอ้ งไปท�ำ ธุรกิจค้าขาย” กลยุทธก์ ารหาเสียง ดังนี้ 1.การลงพน้ื ที่ ภารกิจสำ�คญั ของนางศิรวิ รรณ ปราศจากศตั รู ในวนั เวลาปกติ คือ การปฏิบัติหน้าท่ีในฐานะเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข (ปี พ.ศ.2552 นายวิทยา แก้วภราดรัย รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข) และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หากว่าง เวน้ จากงานปกตทิ างการเมอื งสง่ิ ส�ำ คญั ทปี่ ฏเิ สธไมไ่ ด้ คอื การกลบั แพร่ ในทกุ วนั หยดุ โดยเฉพาะวนั เสาร์ วนั อาทติ ย์ ซงึ่ ทกุ ครง้ั ทเี่ ธอกลบั จงั หวดั แพร่ เธอจะมคี วิ งานตลอดทง้ั วนั ถงึ คา่ํ มนี ดั หมายชาวบา้ น ผนู้ �ำ ชาวบา้ น ผนู้ �ำ ชมุ ชน และ/หรอื ไปรว่ มกจิ กรรมงานตา่ ง ๆ ซง่ึ อาจเป็นกจิ กรรมที่ 83

นกั การเมอื งถิ่นจงั หวดั แพร่ สว่ นราชการ หรอื หนว่ ยงานตา่ ง ๆ จัดขนึ้ และ/หรืออาจเปน็ กิจกรรม ทที่ ีมงานในพื้นทขี่ องผสู้ นบั สนนุ ทางการเมอื งจดั ข้นึ เชน่ การมอบทุน การศึกษา การไปเปน็ ประธานเปดิ งาน งานบญุ ประเพณเี ทศกาล (ซง่ึ การนัดหมายสัมภาษณ์ดำ�เนินการท้ังทางโทรศัพท์บ้าง นัดสัมภาษณ์ ที่สนามบินบ้าง และในบางครั้งผ่านสัมภาษณ์สอบถามข้อมูลจาก ผู้ใกลช้ ิดของนางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู คอื นายประสงค)์ 2. การปราศรยั ประกาศนโยบายของพรรค นางศริ วิ รรณ ปราศจากศตั รู กลา่ ววา่ การรณรงคห์ าเสยี งเธอตอ้ ง ใชก้ ารลงพื้นทีอ่ ยา่ งต่อเนอื่ งสม่ําเสมอ ไม่ทอดทิ้งประชาชนเพราะชาว แพรย่ งั มคี วามเชอ่ื มั่นในตวั บุคคล ไม่ใชเ่ พียงพรรคการเมอื งอย่างเดียว จึงต้องเน้น “การปราศรัยประกาศนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์” ท่ี เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่อยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอดกว่า 60 ปี ต่อสู้บนความถูกต้องของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขมาตลอด พรรคมีจุดยืนท่ีแน่นอน ไม่เคยมีความเสีย หาย ไม่โฆษณาชวนเช่ือ ไม่มีนโยบายขายฝัน มีแต่ความจริง โดยใช้ ทั้งวิธีปราศรัยเวทีใหญ่ท่ีมีผู้ใหญ่ เช่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายก รัฐมนตรี ประธานท่ีปรึกษาพรรคและกรรมการบริหารพรรคมาช่วย ปราศรัยหาเสียง และการปราศรัยเวทีย่อยบริเวณสถานท่ีราชการ วัด โรงเรียน และตลาด เป็นต้น 3. พนั ธมิตรทางการเมอื ง นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู มีกลยุทธ์ท่ีสำ�คัญในการหาเสียง อกี ด้านหนง่ึ คือ พันธมิตรทางการเมอื ง นอกจาก คนตระกลู พนมขวญั และกลุ่มพวกพ้องน้องพ่ีเพ่ือนฝูงในระบบเครือญาติ ระบบเครือข่าย พันธมิตรทางการเมืองท่ีเชื่อมโยงไปในระดับท้องท่ี และระดับท้องถ่ิน 84

ข้อมลู การเมอื งถิ่น และนักการเมืองถิ่นจังหวัดแพร่ ทุกระดับ ถือเป็นกุญแจสำ�คัญสู่ชัยชนะในกลยุทธ์การหาเสียงเลือกต้ัง เช่น ในอดีตพันธมิตรทางการเมืองที่มีความสำ�คัญ คือ นายแพทย์ ชาญชัย ศิลปอวยชัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (ปัจจุบันได้เสียชีวิตเม่ือปี พ.ศ. 2549 จาการถูกลอบยิงขณะว่ิง ออกก�ำ ลังกาย) กลยุทธ์พันธมิตรและแนวร่วมทางการเมืองของนางศิริวรรณ ได้ขยายวงกว้างออกไปอย่างไม่มีขีดจำ�กัด ท้ังในวงสังคมทั่วไป กลุ่ม พอ่ คา้ นักธรุ กจิ องค์กรสาธารณะกศุ ล สถาบนั การศึกษา และวงการ กีฬา กระท่ัง กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนระดับมัธยม และเพ่ือสมัยเรียน มหาวทิ ยาลัย กต็ าม เธอใหส้ มั ภาษณ์ว่า “เราไมม่ ีเงินเพียงพอ ที่จะไป ซื้อสิทธิขายเสียง” จึงต้องอาศัยการสนับสนุนช่วยเหลือจากพันธมิตร กลมุ่ ตา่ ง ๆ ทง้ั ในและนอกจงั หวดั แพร่ และเครอื ขา่ ยทางการเมอื ง รวม ถึง การสนบั สนนุ ของนกั การเมอื งท้องถิ่นระดับตา่ ง ๆ นายวรวจั น์ เออื้ อภญิ ญกุล นายวรวัจน์ เอ้ืออภิญญกุล เกิดเม่ือวันท่ี 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 สำ�เร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหา บณั ฑติ สถาบนั บัณฑติ พัฒนบรหิ ารศาสตร์ (นิด้า) เป็นบุตรชายของนายเมธา เอื้ออภิญญกุล และนางธีรวัลย์ เออื้ อภิญญกลุ มีพีน่ ้อง 3 คน คือ (1) นายเมธี เออื้ อภญิ ญกลุ (พ่ชี าย) กรรมการและเจ้าหนา้ ทีบ่ รหิ าร บรษิ ัทบ้านปู จำ�กัด (มหาชน) (2) พ่สี าว นางปานหทยั เสรรี กั ษ์ ส.ส.แพร่ ทปี่ รกึ ษาบรษิ ทั บา้ นปู จ�ำ กดั (มหาชน) และ กรรมการบริษัท สารินทร็อทเทอร์ตี้ จำ�กัด ซึ่งเป็นภรรยาของ 85