0 รายงานการเสริมสร้างความซอื่ ตรง ในสถานศกึ ษาจังหวัดพะเยา : กรณีศกึ ษา โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม และโรงเรียน เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระศรีนครินทร์ พะเยา โดย สานักวจิ ยั และพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า มกราคม 2560
1 คานา รายงานฉบับนี้ จัดทาขึน้ เพ่ือนาเสนอกรณีศึกษาการขับเคล่ือนความซ่ือตรงในสถานศึกษา ท่ีสานกั วิจยั และพฒั นา สถาบนั พระปกเกลา้ ไดเ้ ขา้ ไปดาเนินการ 2 แห่ง ไดแ้ ก่ โรงเรียนพะเยาพิทยาคม และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา จงั หวดั พะเยา การขบั เคล่ือนเนน้ การปรับ พืน้ ฐานความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความซ่ือตรง การออกแบบกิจกรรมเพ่ือเสริมสรา้ งความซ่ือตรงท่ีมาจากการ มีส่วนร่วมของนักเรียน การดาเนินกิจกรรมตามแผน รวมไปถึงการประเมินผลและถอดบทเรียนจาก กิจกรรมเพ่ือใหก้ ารเสริมสรา้ งความซ่ือตรงในสถานศึกษาเกิดขึน้ ไดอ้ ย่างต่อเน่ือง และเกิดการปรบั ปรุง เพ่ือใหเ้ กิดประสทิ ธิผลท่ีดีย่งิ ขนึ้ อนั นาไปสกู่ ารพฒั นาเป็นวฒั นธรรมรากฐานประชาธิปไตยท่ีพงึ ปรารถนา สถาบนั พระปกเกลา้ ขอขอบพระคณุ ผทู้ ่ีเล็งเห็นความสาคญั และสนบั สนุนใหเ้ กิดการขบั เคล่ือน กิจกรรมในครงั้ นีเ้ ป็นอยา่ งย่ิง อนั จะเป็นพืน้ ฐานของการพฒั นาวฒั นธรรมท่ีส่งเสรมิ ความเป็นประชาธิปไตย ในประเทศไทยตอ่ ไป
สารบญั 2 1. บทนา หน้า 2. แนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การดาเนนิ กิจกรรม 3. วธิ ีการดาเนินกิจกรรม 3 4. ผลการดาเนนิ กิจกรรม 4 5. การนาเสนอผลงานและถอดบทเรยี น 10 6. ผลการประเมินตนเองของนกั เรียนก่อนและหลงั ดาเนินกิจกรรม 12 7. สรุปและขอ้ เสนอแนะ 31 8. เอกสารอา้ งองิ 34 ภาคผนวก 44 46 48
3 1. บทนา หากกล่าวถึงปัญหาสาคญั อยา่ งหน่งึ ในประเทศไทย อาจกล่าวไดว้ า่ ปัญหาการทจุ ริตเป็นปัญหา หน่ึงท่ีหย่งั รากลึกในสงั คมไทย สาเหตุหน่ึงเป็นเพราะเรายังขาดวฒั นธรรมของความซ่ือตรงในทกุ ระดบั ตงั้ แตร่ ะดบั บคุ คลท่ียงั ขาดความรูค้ วามเขา้ ใจและการปฏิบตั ใิ หเ้ กิดความซ่ือตรง สว่ นสถาบนั ท่ีเคยเป็นหลกั ในสงั คมอย่างครอบครวั สถาบนั ทางศาสนา หรือสถาบนั การศกึ ษาก็ไมส่ ามารถปลกู ฝังและกลอ่ มเกลาให้ คนในสงั คมมีวฒั นธรรมท่ีซ่ือตรง ขณะเดียวกันกลไกท่ีเก่ียวขอ้ งอย่างระบบพฒั นาแบบอย่างดา้ นความ ซ่ือตรง การพฒั นาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การบงั คบั ใชร้ ะเบียบและกฎหมาย หรือส่ือมวลชน ตา่ ง ไม่ไดถ้ ูกผลกั ดนั ใหห้ นนุ เสริมพฤติกรรมท่ีมีความซ่ือตรง ทาใหเ้ กิดเป็นปัญหาท่ีกระทบไปถึงภาพรวมของ การพฒั นาประเทศ ขณะท่ีในสถานการณค์ วามซ่ือตรงของสงั คมไทยนนั้ กลบั พบ “ความบกพรอ่ ง” ของสงั คมไทยท่ี สวนทางกบั ความซ่ือตรงดงั กล่าวเป็นอยา่ งมาก ซ่งึ พบไดต้ งั้ แตใ่ นเชงิ โครงสรา้ งหรือเชิงสถาบนั อย่างสถาบนั ครอบครวั ท่ีขาดแบบอย่างและการกลอ่ มเกลาท่ีดี สถาบนั การศึกษามีการปลกู ฝังท่ีไม่เหมาะสม ขาดการ พฒั นาความรูค้ คู่ ณุ ธรรม และขาดแบบอย่างท่ีดี ส่วนสถาบนั ศาสนาก็ขาดการเช่ือมโยงเขา้ กบั ครอบครวั และการศกึ ษาทาใหข้ าดหลกั ปฏิบตั ิท่ีเก่ียวกบั ความซ่ือตรงในชีวิตประจาวนั ภาคธุรกิจนนั้ ก็ไมไ่ ดม้ ีบทบาท ในการเสริมสรา้ งความซ่ือตรงเทา่ ท่ีควร ขณะท่ีส่ือมวลชนก็ไม่นาเสนอยกยอ่ งคนดีมากนกั และไมม่ ีบทบาท ในการใหข้ อ้ มลู ดา้ นความซ่ือตรง หากเปรียบประเทศเป็นหนงั สือเล่มหน่งึ ภาพลกั ษณข์ องประเทศจึงเปรียบเสมือนปกหนงั สือท่ีจะ พบเหน็ ไดเ้ ป็นอนั ดบั แรก ฉะนนั้ การจะทาใหห้ นงั สือเลม่ ท่ีช่ือวา่ “ประเทศไทย” มีความนา่ สนใจและดงึ ดดู ใจ ใหเ้ ปิดเขา้ มาศกึ ษาและรว่ มลงทนุ จงึ ตอ้ งเรง่ ปรบั ปรุงแกไ้ ขภาพลกั ษณใ์ นเร่ืองการคอรร์ ปั ชนั เน่ืองจากผล การวดั ดชั นีภาพลกั ษณค์ อรร์ ปั ชนั (Corruption Perceptions Index: CPI) ในปี พ.ศ.2557 ซ่ึงจดั อนั ดับ โดยองคก์ รความโปรง่ ใสสากล (Transparency International: TI) ประเทศไทยไดค้ ะแนน 38 คะแนน และ จัดอยู่ในอนั ดบั ท่ี 85 จากทงั้ หมด 175 ประเทศท่วั โลก และนบั เป็นอันดบั ท่ี 3 จาก 9 ประเทศ ในกลุ่ม อาเซียน และขอ้ มลู ผลการจดั อนั ดบั ลา่ สดุ ในปี พ.ศ.2558 ปรากฏวา่ ประเทศไทยได้ 38 คะแนนเทา่ เดิม และยงั คงครองอนั ดบั ท่ี 3 ในกลมุ่ อาเซียน แตเ่ ล่ือนอนั ดบั ขนึ้ มาอยทู่ ่ี 76 จากทงั้ หมด 168 ประเทศ นอกจากนี้ ผลการสารวจความคิดเห็นของประชาชนซ่ึงจัดทาโดยสถาบนั พระปกเกลา้ ร่วมกับ สานกั งานสถิติแหง่ ชาติ ซ่งึ สอบถามความคิดเห็นเก่ียวกบั การคอรร์ ปั ชนั และการรบั สินบนในการปกครอง ระดบั ประเทศและการปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน พบว่า ในปี พ.ศ.2557 ประชาชนเห็นว่ามีการคอรร์ ปั ชันใน ระดบั ประเทศรอ้ ยละ 34.5 และรอ้ ยละ 20.2 ในการปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ซ่งึ มีคา่ สงู ขนึ้ กวา่ ผลการสารวจใน ปี พ.ศ.2556 ทงั้ สองระดบั
4 ความซ่ือตรง (Integrity) เป็นความดีท่ีถึงพรอ้ มและมีลกั ษณะสง่ เสรมิ ตอ่ คา่ นิยมประชาธิปไตย การ จะเสริมสรา้ งสงั คมไทยโดยรวมใหเ้ กิดความซ่ือตรงไดน้ นั้ ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมือจากทกุ ภาคสว่ น แนวทาง เสริมสรา้ งความซ่ือตรงท่ีเหมาะสมจะตอ้ งมีการบูรณาการระบบโครงสรา้ งทั้งหมดให้ไปในทิศทางท่ี เสริมสรา้ งความซ่ือตรงซ่งึ ตอ้ งใชก้ ระบวนการกลอ่ มเกลาทางสงั คมอย่างตอ่ เน่ือง สถานศกึ ษาเป็นสถาบนั หน่งึ ท่ีมีบทบาทตอ่ การเสริมสรา้ งความซ่ือตรงใหเ้ กิดขนึ้ ในสงั คม เพราะเป็นสถานท่ีบม่ เพาะทงั้ องคค์ วามรู้ และแนวปฏิบตั ใิ หเ้ กิดขนึ้ กบั เยาวชนท่ีจะเตบิ โตตอ่ ไปเป็นอนาคตของประเทศ ดงั นนั้ การกาหนดใหก้ ารตอ่ ตา้ นคอรปั ชนั เป็นวาระแห่งชาติ ท่ีมีการรณรงค์รว่ มกันทงั้ ภาครฐั และ เอกชนจึงเป็นก้าวสาคัญในการสรา้ งภาพลกั ษณ์ใหม่ให้แก่ประเทศไทย ทางสถาบนั พระปกเกลา้ และ เครือข่ายจึงเป็นอีกภาคส่วนหน่ึงท่ีร่วมทากิจกรรมดงั กล่าว ดว้ ยการเสริมสรา้ งความซ่ือตรงใหเ้ กิดขึน้ ใน ชมุ ชน โดยมงุ่ เนน้ ท่ีสถาบนั การศกึ ษาซ่งึ เป็นชมุ ชนเล็กๆ ท่ีจะก่อรา่ งสรา้ งนิสยั ใหก้ บั เยาวชนของชาตไิ ดร้ ิเร่มิ เรียนรูจ้ ากตนเอง แลว้ จึงขยายผลสคู่ รอบครวั และชมุ ชนท่ีตนอยอู่ าศยั ตอ่ ไป การเสริมสรา้ งความซ่ือตรงใน โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม และโรงเรยี นเฉลิมพระเกียรติพระศรีนครินทร์ พะเยา จงั หวดั พะเยาถือเป็นการนา รอ่ งในกลมุ่ เปา้ หมายท่ีมีบทบาทหลกั ตอ่ กระบวนการกลอ่ มเกลาทางสงั คมเป็นอยา่ งย่งิ 1.1 วัตถปุ ระสงค์ 1.1.1 เพ่ือใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มโครงการรูจ้ กั และเขา้ ใจคาวา่ ความซ่ือตรง 1.1.2 เพ่ือใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มโครงการทราบถงึ ผลกระทบท่ีเกิดจากความไมซ่ ่ือตรง 1.1.3 เพ่ือใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมโครงการไดร้ ่วมแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับแนวทางการสรา้ งความ ซ่ือตรงในโรงเรยี น 1.1.4 เพ่ือใหเ้ กิดกิจกรรมเสรมิ สรา้ งชมุ ชนแหง่ ความซ่ือตรงในโรงเรยี น 1.1.5 เพ่ือเสนอแนวทางเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรงในสถานศกึ ษา 2. แนวคิดทเี่ กีย่ วข้องกับการดาเนินกิจกรรม 2.1 ความซ่อื ตรงในฐานะเป็ นรากฐานวัฒนธรรมทส่ี ่งเสริมตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตย ความซ่ือตรงมีความหมายแสดงใหเ้ ห็นถึงความประพฤติในทางท่ีดีงามตามทานองคลองธรรม ไม่เอนเอียง ทงั้ ตอ่ ตนเอง หนา้ ท่ีการงาน และสงั คมโดยรวม สถาบนั พระปกเกลา้ ไดพ้ ฒั นาหนงั สือเผยแพร่ “มารูจ้ กั คาว่าความซ่ือตรงกันเถอะ” (2554) ท่ีมีตวั ชีว้ ดั ท่ีบ่งบอกคณุ ลักษณะดา้ นความซ่ือตรง จานวน
5 20 ขอ้ 1 โดยอาจแบง่ ลกั ษณะความซ่ือตรงเป็น 5 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) ความซ่ือตรงตอ่ ความดี คือ ยึดม่นั ใน ความดีและยดึ ความถกู ตอ้ ง 2) ความซ่ือตรงตอ่ เวลา คือ ทาไดต้ ามเวลาท่ีกาหนด ไม่เบียดเบียนเวลาผอู้ ่ืน 3) ความซ่ือตรงต่อตนเอง คือ รูผ้ ิดชอบช่วั ดี ซ่ือสัตยต์ ่อตนเอง 4) ความซ่ือตรงต่อบุคคลอ่ืน สงั คม และ ประเทศชาติ คือ จริงใจ ไมห่ ลอกลวง 5) ความซ่ือตรงตอ่ หนา้ ท่ีการงานท่ีรบั ผดิ ชอบ คือ การรบั ผิดชอบงาน ในหนา้ ท่ีอยา่ งเตม็ ความสามารถ หลกั ราชการซ่งึ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลท่ี 6) พระราชทานไว้ 10 ประการ ถือไดว้ ่าแสดงใหเ้ ห็นคณุ ลกั ษณะของบุคคลท่ีมีความซ่ือตรงไดอ้ ย่างชดั เจน2 เช่นกนั (กรมการคา้ ภายใน, 2550) ไดแ้ ก่ ความสามารถ ความเพียร ความมีไหวพริบ ความรูเ้ ท่าถึงการณ์ ความซ่ือตรงต่อหนา้ ท่ี ความซ่ือตรงตอ่ คนท่วั ไป ความรูจ้ กั นิสยั คน ความรูจ้ กั ผอ่ นผนั ความมีหลกั มีฐาน และความจงรกั ภกั ดี หากจะกลา่ วความหมายของความซ่ือตรงโดยละเอียดในเชิงลึก จะสามารถอธิบายไดม้ ากเพราะ ขอบเขตของคาวา่ ซ่ือตรงนนั้ กินความหมายไม่เพียงแตค่ วามประพฤตติ อ่ ตวั เอง แตย่ งั ตอ้ งทาใหถ้ งึ พรอ้ มไป ยงั หนา้ ท่ีการงาน และตอ้ งคอยดแู ลเพ่ือใหผ้ อู้ ่ืนมีความซ่ือตรงอีกดว้ ย ดงั ความหมายสรุปของคาวา่ ซ่ือตรงท่ี สถาบนั พระปกเกลา้ (2555, หนา้ 19) สรุปไวว้ ่าหมายถึง ความถกู ตอ้ ง ความมีศีลธรรม คณุ ธรรมความดี การกระทาท่ีสจุ รติ ตรงไปตรงมา การประพฤตติ นอยา่ งสม่าเสมอทงั้ ตอ่ หนา้ และลบั หลงั จรงิ ใจไมห่ ลอกลวง ยึดม่นั ส่ิงท่ีถูกตอ้ ง ยตุ ิธรรม และปฏิบตั ิตามธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงาม จากความหมายดงั กล่าวทาให้ วิเคราะหไ์ ดว้ ่า หากสงั คมใดท่ีคนยึดม่นั ในความซ่ือตรงนนั้ จะสง่ เสรมิ ตอ่ การพฒั นาประชาธิปไตย เพราะ ระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองท่ีคนในสงั คมตอ้ งเคารพซ่ึงกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน นาไปสู่ ความเสมอภาคและเทา่ เทียมในท่ีสดุ ความซ่ือตรงก็เช่นกนั เป็นวฒั นธรรมท่ีดีท่ีทาใหค้ นในสงั คมประพฤติ ตนในทานองคลองธรรม เม่ือคนปฏิบตั ติ นในทางท่ีถกู ท่ีควรแลว้ ก็ย่อมไมก่ ระทาการใดท่ีส่งผลเสียต่อผูอ้ ่ืน และสว่ นรวม 1 ตวั ชีว้ ดั ดงั กล่าว เป็นผลผลิตหน่งึ จากรายงานวจิ ยั “การศกึ ษาเพ่ือเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรงในสงั คมไทย: ปัญหา ตวั ชีว้ ดั และแนวทางการพัฒนา” ท่ีสถาบนั พระปกเกล้าไดร้ ับทุนสนบั สนุนจากศูนย์คุณธรรม กรมการเงินกลาโหมไดน้ าตวั ชีว้ ัดนีไ้ ปให้ ขา้ ราชการประเมินตนเองจนไดผ้ ลทาใหข้ า้ ราชการมีการปรบั พฤตกิ รรมตนเอง โดยมีผบู้ งั คบั บญั ชาเป็นผรู้ ว่ มตดิ ตาม ใหค้ าแนะนา และใหค้ วามสาคญั ไปถึงครอบครวั จึงทาใหพ้ ฤติกรรมดา้ นความซ่ือตรงเกิดขึน้ ไดจ้ ริง ศึกษาเพ่ิมเติมไดจ้ ากส่ือวีดิทัศน์ รายการ ดอกไม้บาน ส่ือสารความดี ตอน องคก์ รซ่ือตรง : กรมการเงินกลาโหม http://dl.moralcenter.or.th/handle/6626449900/321 (ศนู ยค์ ณุ ธรรม, 2558) 2 กรมการคา้ ภายในไดร้ วบรวม หลกั ราชการ ซ่งึ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงพระราชนิพนธแ์ ละพิมพ์ พระราชทานแจกขา้ ราชการในการพระราชพิธีตรุษสงกรานต์ พระพุทธศกั ราช 2457 จัดทาเป็นหนงั สือมอบใหห้ น่วยงานต่างๆ ในสงั กดั กรมการคา้ ภายใน เพ่ือเผยแพรใ่ หเ้ จา้ หนา้ ท่ไี ดท้ ราบและเป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ริ าชการตอ่ ไป
6 2.2 การเสรมิ สร้างความซ่ือตรงในสถานศกึ ษา การเสริมสรา้ งความซ่ือตรงในสถานศึกษา ส่วนใหญ่เป็นการเสริมสรา้ งคณุ ธรรมท่ีหล่อหลอม ความซ่ือตรงใหก้ ับเยาวชน ดงั ท่ีกระทรวงศึกษาธิการ (2542, น.19-21) ไดร้ วบรวมรูปแบบการพัฒนา ศกั ยภาพของเด็กไทยในดา้ นคณุ ธรรม โดยมีกระบวนการเรียนการสอน ไดแ้ ก่ การใชก้ ระบวนการกลุ่ม สมั พนั ธท์ ่ีชว่ ยใหเ้ นือ้ หาดา้ นคณุ ธรรมมีความนา่ สนใจ การใชบ้ ทบาทสมมตใิ หเ้ ยาวชนไดม้ ีโอกาสแสดงออก ผา่ นบทบาทหนา้ ท่ีตามเหตกุ ารณ์ การรบั ใชส้ งั คมเพ่ือใหเ้ ยาวชนนาความรูท้ ่ีไดจ้ ากหอ้ งเรียนไปประยกุ ตใ์ ช้ กบั กิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ เช่นเดียวกนั กบั คณะผวู้ ิจยั สถาบนั อนาคตศกึ ษาเพ่ือการพฒั นา หรือ IFD (2549) ไดศ้ กึ ษาวิจยั เร่ือง รูปแบบการสอนท่ีมีประสิทธิภาพในการพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคณุ ธรรมจริยธรรม และเสนอการพฒั นา รูปแบบการสอนคณุ ธรรมจริยธรรมในสถานศกึ ษาท่ีจะตอ้ งมีการกาหนดเปา้ หมายใหก้ ารสอนดา้ นคณุ ธรรม สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของสังคมและเท่าทันต่อกระแสการเปล่ียนแปลงของโลก โดยสถานศึกษา จะตอ้ ง 1) มีการวเิ คราะหส์ ภาวะแวดลอ้ มของสงั คมไทยท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหาคณุ ธรรมจรยิ ธรรม เพ่ือนามา เป็นสว่ นหน่งึ ในการจดั การสอนใหส้ อดคลอ้ งตามความตอ้ งการของสงั คม 2) ยดึ เปา้ หมายเป็นสาคญั แตม่ ี ความยืดหย่นุ ในวิธีการ ดาเนินการสอนและการบริหารจดั การท่ีเก่ียวขอ้ ง 3) การพฒั นาระบบสนบั สนุน ขอ้ มูลและองคค์ วามรู้ เพ่ือเป็นขอ้ มูลพืน้ ฐานประกอบการสอนคุณธรรมจริยธรรม 4) การพฒั นาความ ร่วมมือกับภาคีอ่ืน ๆ เพ่ือเขา้ มาจดั การสอนหรือกิจกรรมดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมของสถานศึกษา 5) การ พฒั นาครูและผบู้ ริหารสถานศึกษา เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และทศั นคติท่ีเอือ้ ต่อการจัดการ สอนคุณธรรมจริยธรรมท่ีมีประสิทธิภาพ 6) การกาหนดยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาคุณธรรมจริยธรรมของ ผเู้ รียนใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการชมุ ชน สงั คมไทย และสภาพแวดลอ้ มท่ีเปล่ียนแปลงไป เห็นไดว้ ่า การศกึ ษาและขอ้ เสนอแนะจากหลายภาคส่วนเป็นไปในทิศทางท่ีจะตอ้ งมีการบรู ณา การความหลากหลายทงั้ วิธีการและภาคส่วนท่ีเก่ียวขอ้ ง เพ่ือใหก้ ารเสริมสรา้ งความซ่ือตรงในสถานศึกษา เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคลอ้ งกับขอ้ เสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (2558) ท่ีว่าครู ผบู้ ริหารของ สถานศกึ ษาจะตอ้ งมีบทบาทสาคญั ในการถ่ายทอด ตอ้ งมีการสรา้ งการมีส่วนรว่ มระหว่างสถานศกึ ษากับ ครอบครวั และชมุ ชนเพ่ือสรา้ งสภาพแวดลอ้ มท่ีเอือ้ ตอ่ การเรียนรู้ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรม ควรใชส้ ่ือมวลชน เพ่ือกระตนุ้ และปลุกพลงั จิตสานึกใหเ้ ด็กมีจิตสานึกท่ีดี กลไกลท่ีสาคญั อีกอย่างหน่ึง คือ เครือข่ายทาง สังคมท่ีจะช่วยสรา้ งพืน้ ท่ีให้กับเด็กและเยาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมท่ีช่วยเสริมสรา้ งต่อ คณุ ธรรม
7 2.3 ตวั อยา่ งกจิ กรรมการเสริมสร้างความซื่อตรง จากการสารวจกิจกรรมเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรงซง่ึ เป็นแนวปฏิบตั ิท่ีดีทงั้ ในและตา่ งประเทศ พบว่า กิจกรรมหลายอยา่ งคอ่ นขา้ งมีความคลา้ ยคลงึ กนั โดยอาจแบง่ กลมุ่ ไดเ้ ป็น กิจกรรมดา้ นขอ้ มลู ขา่ วสาร ดา้ น กฎระเบยี บขอ้ บงั คบั และดา้ นการสง่ เสรมิ การมีสว่ นรว่ มและปลกู จติ สานกึ 1) กิจกรรมดา้ นขอ้ มูลข่าวสาร ยกตวั อย่าง ในประเทศอินเดียมีการแต่งตงั้ อาสาสมัครและ ฝึกอบรมเพ่ือใหค้ นในชนบทไดต้ ระหนกั ถึงสิทธิในการรบั รูข้ อ้ มลู ข่าวสารและการใชส้ ิทธิในขอ้ มลู ขา่ วสาร (Right To Information) ผา่ นการใชโ้ ปสเตอร์ แผน่ พบั เก่ียวกบั สิทธิในขา่ วสารและการตรวจสอบทางสงั คม โดยมีการเผยแพรเ่ ป็นภาษาทอ้ งถ่ิน มีการจดั ตงั้ ศนู ยข์ อ้ มูลข่าวสารทอ้ งถ่ิน เรียกว่า RTI Clinic (Right To Information Clinic) จดั ใหม้ ีการศกึ ษาดา้ นการบริการสาธารณะและจดั ใหม้ ีอุปกรณก์ ารส่ือสารเก่ียวกับ ธรรมาภิบาลและการกระจายอานาจผ่านชนั้ เรียนและส่ือต่าง ๆ (Singh, 2009 – 2010, p.5) หรือตวั อย่าง เมืองยอกยากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซียท่ีปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนโดยใช้ E-Government หรือ ระบบการปกครองแบบออนไลน์ (E-Government) ซ่ึงเป็นการสรา้ งช่องทางส่ือสาร ระหว่างภาครฐั กบั ประชาชน และภาครฐั กบั ภาคธุรกิจ และระหวา่ งหนว่ ยงานของรฐั ดว้ ยกนั เอง เพ่ือความ สะดวก โปรง่ ใส และประหยดั ชว่ ยลดการลอ้ บบแี้ ละการใหส้ ินบนได้ 2) กิจกรรมดา้ นกฎระเบียบข้อบงั คับ ยกตวั อย่าง ในประเทศอฟั กานิสถาน (Afghanistan) มีหน่วยงานเฝ้าระวังด้านความซ่ือตรงช่ือว่า Integrity Watch Afghanistan (IWA) ท่ีเปิดให้ประชาชน อาสาเขา้ มาทางานดา้ นความซ่ือตรง (Integrity Action, 2014, p.6) ในประเทศปาเลสไตน์ (Palestine) เด็กนักเรียน 1,200 คน ไดด้ าเนินการตรวจสอบทางสังคมในปี 2556 โดยการสนับสนุนของโรงเรียน ศนู ยส์ รา้ งสรรคค์ รู (Teacher Creativity Centre: TCC) และหน่วยงาน Integrity Action นกั เรียนเหลา่ นีไ้ ด้ มีการวิเคราะหน์ โยบายและการปฏิบตั ิงาน สมั ภาษณช์ มุ ชนเพ่ือติดตามการใชเ้ งินกองทนุ จนนกั เรียนได้ ตรวจสอบพบการทจุ ริตและร่วมกบั เจา้ หนา้ ท่ีทอ้ งถ่ินและบริษัทเอกชนผูร้ บั จา้ งเพ่ือจัดการปัญหา ทาให้ ประชาชนไดม้ ีถนนท่ีดีกว่าเดิม (Integrity Action, 2014, p.15) และในประเทศอินเดียอีกเช่นกนั มีการใช้ กฎพลเมือง (Citizen’s Charter) การตรวจสอบทางสังคม (Social Audit) การปฏิรูปกระบวนการจดั ทา กฎหมาย (Transparency International India, 2008; Singh, 2009 – 2010; ถวลิ วดี บรุ ีกลุ , 2552, น.94 - 101) 3) กิจกรรมดา้ นการสง่ เสริมการมีส่วนรว่ มของประชาชน ในประเทศคีรก์ ีซสถาน (Kyrgyzstan) ไดม้ ีการฝึกอบรมใหก้ ับผทู้ ่ีจะมาเป็นผตู้ ิดตามการดาเนินโครงการของรฐั ภายหลงั การแกไ้ ขปัญหานีก้ ็ทาให้ ประชาชนเขา้ ถึงบรกิ าร ขอ้ มลู ขา่ วสารไดง้ ่ายขนึ้ และอตั ราการจา่ ยสินบนเพ่ือใหไ้ ดร้ บั สิทธิประโยชนล์ ดลง ในประเทศติมอรเ์ ลสเต้ (Timor Leste) ไดม้ ีการแตง่ ตงั้ คณะกรรมการติดตามตรวจสอบโครงสรา้ งพืน้ ฐาน เขต (District Infrastructure Monitoring Committee) โดยคณะกรรมการประกอบดว้ ยเจา้ หนา้ ท่ีหนว่ ยงาน
8 ท้องถ่ิน และสมาชิกชุมชนคนอ่ืนๆ องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกระบ่ี ประเทศไทย มีโครงการก่อสรา้ ง โครงสรา้ งพืน้ ฐานอย่างมีส่วนร่วม โดย องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัดกระบ่ีประสบปัญหาการดาเนินการ ก่อสรา้ งโครงสรา้ งพืน้ ฐานท่ีอาจสง่ ผลกระทบตอ่ วิถีชีวิตประชาชน จึงไดด้ าเนินโครงการนีเ้ พ่ือใหป้ ระชาชน ไดร้ บั รูข้ ่าวสาร ตรวจสอบ และกากับดแู ลงานก่อสรา้ งโครงสรา้ งพืน้ ฐานของทอ้ งถ่ิน (Integrity Action, 2014, p.5; p.8; วิทยาลยั พฒั นาการปกครองทอ้ งถ่ิน สถาบนั พระปกเกลา้ , 2553) ในประเทศอินเดียอีก เชน่ กนั มีกิจกรรมดา้ นการส่งเสรมิ การมีสว่ นรว่ ม เชน่ การออกคา่ ยหมบู่ า้ นเพ่ือสรา้ งความตระหนกั และส่ง มอบบรกิ ารสปู่ ระชาชน การกระตนุ้ ใหป้ ระชาชนไดม้ ีสว่ นรว่ มในสภาหม่บู า้ นเพ่ือการทาแผนปฏิบตั กิ ารของ หมบู่ า้ น (Transparency International India, 2008; Singh, 2009 – 2010) การเสริมสรา้ งความซ่ือตรงใน เชิงสรา้ งการมีส่วนร่วมยงั พบในประเทศอินโดนีเซีย พบว่า ในส่วนขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ไดม้ ี โครงการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในประเทศอินโดนีเซีย โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นตัวแทนใน คณะกรรมการความโปรง่ ใสดา้ นขอ้ มลู และการมีสว่ นรว่ ม และเขา้ มาเป็นสมาชิกผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ทอ้ งถ่ิน การจัดตั้งคณะกรรมการความโปร่งใสด้านข้อมูลข่าวสารและการมีส่วนร่วม เรียกว่า CIPT (The Commission on Information Transparency and Participation) โดยสมาชกิ มาจากสภาตาบล 4) กิจกรรมดา้ นการปลกู จิตสานกึ และปลกู ฝังคา่ นิยมความซ่ือตรง กิจกรรมดา้ นปลกู จติ สานกึ และคา่ นิยมความซ่ือตรงท่ีพบส่วนใหญ่เป็นการอบรมเก่ียวกับคุณธรรม และการจดั กิจกรรมทางศาสนา ยกตัวอย่างในประเทศเยอรมนี มีการอบรมให้กับหน่วยงานท่ีมีการจัดซือ้ จัดจ้างและหมุนเวียนงาน เจา้ หนา้ ท่ีในแตล่ ะสว่ นงานเพ่ือลดการติดตอ่ กบั เจา้ ของธุรกิจนานเกินไปจนอาจก่อใหเ้ กิดการทจุ รติ ได้ และ ยงั อบรมคณุ ธรรมแก่นกั ศกึ ษาสาขาวิชาบริหารธุรกิจ เพราะนกั ศกึ ษาเหลา่ นีเ้ ม่ือจบการศกึ ษาไปส่วนใหญ่มี แนวโนม้ ท่ีจะประกอบธุรกิจ ในประเทศอินเดีย ศาสนาและสถาบนั ครอบครวั มีบทบาทสงู ต่อการปลูกฝัง คณุ ธรรมใหก้ บั คนในสงั คมอินเดียไมน่ อ้ ย เชน่ การแบง่ หนา้ ท่ีและรูจ้ กั หนา้ ท่ี การรูจ้ กั แยกแยะความดีความ ช่วั (ธนพล จาดใจดี, 2548) ในประเทศศรีลงั กา ซ่งึ คนสว่ นใหญ่นบั ถือศาสนาพทุ ธ ไดม้ ีการอบรมส่งั สอน ตงั้ แต่ในครอบครวั มีโรงเรียนพระพุทธศาสนาวนั อาทิตย์ เนน้ ในเร่ืองความอ่อนนอ้ ม กตญั ญู การไม่ลัก ขโมย ความรบั ผิดชอบ และชีวิตท่ีพอเพียง (ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์, 2548 อา้ งใน สถาบนั พระปกเกลา้ , 2555, น.46-47) 2.4 กรอบแนวคดิ เพอื่ การเสริมสร้างความซ่ือตรงของกรณีศกึ ษา การเสริมสรา้ งความซ่ือตรงท่ีเกิดผลสาเร็จไดน้ นั้ จาเป็นตอ้ งผ่านกระบวนการและกิจกรรมท่ีเป็น ระบบโดยมีการวัดผลท่ีชัดเจนดว้ ย ในบทความชิน้ นีน้ าเสนอกรอบแนวคิดเพ่ือศึกษาและวิเคราะหใ์ น รูปแบบของกระบวนการในการเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรงออกเป็น 5 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ 1) การเตรียมความพรอ้ ม เป็นการปรกึ ษาหารือระหวา่ งผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียภายนอกกบั ผมู้ ีบทบาทนาของพืน้ ท่ีกรณีศกึ ษา ใหเ้ กิดการ แลกเปล่ียนข้อมูลเก่ียวกับพืน้ ฐานของกลุ่มเป้าหมายและพืน้ ท่ีกรณีศึกษา กระบวนการ และวางแผน
9 เก่ียวกบั ระยะเวลาหรือการบริหารจดั การอ่ืน ๆ 2) การจดั กระบวนการเพ่ือจดั ทาแผนแบบมีส่วนร่วม เป็น การวางพืน้ ฐานความเขา้ ใจเก่ียวกับความซ่ือตรงและจัดกระบวนการระดมความคิดเห็น วางแผนการ ดาเนินกิจกรรมเสริมสร้างความซ่ือตรงของพืน้ ท่ีกรณีศึกษาโดยการมีส่วนร่วมของคนในพืน้ ท่ีนั้น ๆ 3) การดาเนนิ กิจกรรมตามแผน เป็นการดาเนินกิจกรรมความซ่ือตรงโดยผเู้ ขา้ รว่ มจากขนั้ ตอนท่ี 2 ตามแผน ท่ีไดว้ างไว้ 4) การตดิ ตามระหวา่ งกระบวนการดาเนินกิจกรรม เป็นการทบทวนระหว่างกิจกรรมเพ่ือกากับ ใหก้ ารทากิจกรรมนนั้ เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ ระยะเวลา และบรรลตุ วั ชีว้ ดั โดยอาจเป็นการทบทวนระหว่าง ผดู้ าเนนิ กิจกรรมดว้ ยกนั เอง หรือผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียภายนอกเขา้ มาชว่ ยทบทบวนและใหค้ าแนะนา และ 5) การถอดบทเรียนและเรียนรู้จากการดาเนินกิจกรรม เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างผู้ท่ีเก่ียวข้องกับ กระบวนการทั้งหมด เพ่ือสรุปและถอดบทเรียนหลังเสร็จสิน้ การดาเนินกิจกรรม ในประเด็นการบรรลุ เป้าหมาย ตัวชีว้ ัด ผลสาเร็จ หากบรรลุหรือไม่แล้วจะมีหนทางปรับปรุงหรือพัฒนาต่อไปอย่างไร กระบวนการดงั กลา่ วสรุปไดด้ งั ภาพตอ่ ไปนี้ 4.การติดตาม 5.การถอดบทเรยี น ระหว่างกระบวนการ และเรยี นรูจ้ ากการ ดาเนินกจิ กรรม ดาเนินกจิ กรรม 3.การดาเนิน การเสรมิ สร้างความซ่ือตรง 1.การ กิจกรรม (Integrity Building) ประชุมและ เตรียมความ ตามแผน พรอ้ ม 2.การจัดกระบวนการเพือ่ จัดทาแผนแบบมีสว่ นร่วม ภาพท่ี 1 กรอบแนวคดิ การเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรง ท่ีมา : ดดั แปลงจาก Integrity Action, 2014, p.3
10 3. วธิ ีการดาเนินกจิ กรรม 3.1 กระบวนการดาเนินกิจกรรม จากแนวคิดท่ีกล่าวมาก่อนหนา้ นี้ สถาบนั พระปกเกลา้ ไดม้ ีการปรึกษาหารือกับพืน้ ท่ีเป้า หมายถึงแนวทางดาเนินกิจกรรม ทาใหใ้ นการดาเนินโครงการเสริมสรา้ งเครือข่ายความซ่ือตรงนนั้ ทาง สถาบนั มีกระบวนการดาเนินโครงการทงั้ สิน้ 6 ขนั้ ตอนสาหรบั โครงการซ่งึ ดาเนินการท่ีจงั หวดั พะเยา โดย สามารถอธิบายไดด้ ว้ ยแผนภาพตอ่ ไปนี้ สรุปผลการทากิจกรรม ผลติ ผลงานวิชาการ นาผลงานวชิ าการ และถอดบทเรียน วจิ ยั และการสารวจ มาใชป้ ระกอบการ 6 1 ทากิจกรรม 2 การทากิจกรรม ใหท้ นุ สนบั สนนุ ระดมความคดิ เหน็ และ ตดิ ตามกิจกรรม การทากิจกรรม จดั ทาแผนปฏิบตั กิ าร และใหค้ าปรกึ ษา ตามแผนปฏบิ ตั ิการ แบบมีสว่ นรว่ ม 5 4 3 ภาพท่ี 2 กระบวนการดาเนนิ การเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรง ขั้นตอนท่หี นึ่ง การผลิตผลงานวิชาการ งานวิจยั และการสารวจความคดิ เห็นตามหลกั สถิติ เพ่ือเป็นการรวบรวมขอ้ มลู และสรา้ งองคค์ วามรู้ ซ่งึ สามารถนาไปใชใ้ นการบรรยายและอา้ งอิงได้ ขั้นตอนทสี่ อง การนาผลงานวิชาการ งานวิจยั ตลอดจนขอ้ มลู ทางสถิติตา่ งๆ ท่ีไดร้ บั มาใช้ ประกอบในการทากิจกรรมร่วมกับเครือข่าย เร่ิมต้นจากการให้ข้อมูลเก่ียวกับความซ่ือตรงแก่ กลมุ่ เปา้ หมายเพ่ือสรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจถงึ ความหมาย ความสาคญั ตลอดจนผลเสียท่ีเกิดขนึ้ กบั ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาตหิ ากคนไทยขาด “ความซ่ือตรง” ทงั้ นีม้ ีการนาส่ือตา่ งๆ เขา้ มาใชใ้ นการนาเสนอดว้ ย เพ่ือสรา้ งความนา่ สนใจและจงู ใจใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายไดค้ ิดตาม เช่น ขอ้ มลู สถิตติ า่ งๆ ภาพข่าว ส่ือหนงั สือ
11 การต์ นู เร่ือง มารูจ้ กั กบั คาว่า “ความซ่ือตรง” กนั เถอะ ส่ือ PowerPoint ส่ือภาพยนตรส์ นั้ ท่ีไดร้ บั รางวลั จาก ป.ป.ช. เป็นตน้ ขั้นตอนท่สี าม การระดมความคดิ เห็นและจดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารแบบมีสว่ นรว่ มในหวั ขอ้ เร่ือง “โรงเรยี นแหง่ ความซ่ือตรง” ทางสถาบนั ฯ เร่มิ ตน้ กิจกรรมดว้ ยการละลายพฤตกิ รรมของกลมุ่ เปา้ หมายจาก 2 โรงเรียน จากนนั้ จึงระดมความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองความซ่ือตรงเพ่ือนาขอ้ มูลท่ีไดม้ าใชใ้ นการจัดทา แผนปฏิบตั ิการแบบมีส่วนร่วม โดยทงั้ สองโรงเรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็นโรงเรียนละ 4 กล่มุ จดั ทาแผนใน รายละเอียด และนาเสนอแผนของกลมุ่ ตน ข้ันตอนท่ีสี่ การใหท้ นุ สนบั สนุนการทากิจกรรมตามแผนปฏิบตั ิการท่ีผแู้ ทนนักเรียนแต่ละ กลุ่มไดพ้ ัฒนาขึน้ โดยมีผูท้ รงคุณวุฒิจากเครือข่ายพลเมืองร่วมปฏิรูปประเทศเป็นผูใ้ หท้ ุนสนับสนุนทั้ง 8 กลมุ่ เม่ือกลบั ไปยงั สถานศกึ ษาก่อนเรม่ิ ลงมือทากิจกรรม สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ พรอ้ มดว้ ยอาจารยท์ ่ีปรกึ ษา สามารถจดั ประชมุ ทบทวนแผนปฏิบตั กิ ารอีกครงั้ เพ่ือใหร้ ดั กมุ และตอบโจทยม์ ากท่ีสดุ ข้ันตอนท่ีห้า การทากิจกรรม ผแู้ ทนนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ลงมือทากิจกรรมตามท่ีวางแผนไว้ ทงั้ นีส้ ถาบนั ฯ อาจเขา้ รว่ มสงั เกตการณก์ ารทากิจกรรม รวมถึงลงพืน้ ท่ีตดิ ตามกิจกรรมและใหค้ าปรึกษา ดว้ ย ขั้นตอนทหี่ ก การสรุปผลการทากิจกรรมและถอดบทเรียน หลงั ดาเนนิ กิจกรรมเสรจ็ เรียบรอ้ ย ตามแผน ผแู้ ทนนกั เรียนสรุปผลการทากิจกรรม จดั ทาเป็นรายงานผลการดาเนินกิจกรรมและรายงานการ ใชเ้ งินสง่ ใหส้ ถาบนั ฯ จากนนั้ จงึ จดั เวทีนาเสนอผลงาน ซ่งึ จะมีการพจิ ารณาใหค้ ะแนนตามเกณฑท์ ่ีกาหนด ไว้ มีการมอบรางวัล พรอ้ มประกาศนียบตั รเขา้ ร่วมโครงการ และถอดบทเรียนท่ีไดร้ บั จากการดาเนิน โครงการ ทงั้ นีเ้ พ่ือนาไปใชพ้ ฒั นารูปแบบโครงการในครงั้ ตอ่ ไป 3.2 ระยะเวลาโครงการและแผนการดาเนินงาน การดาเนินโครงการใชร้ ะยะเวลาประมาณ 8 เดือน (กมุ ภาพนั ธ์ – กนั ยายน 2559) ดงั ตาราง ตอ่ ไปนี้
12 ตารางท่ี 1 แผนการดาเนนิ กิจกรรมเสรมิ สรา้ งความซ่ือตรงในสถานศกึ ษาจงั หวดั พะเยา กิจกรรม ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1) การประสานงานและเตรยี มงาน 2) จดั ประชมุ เชิงปฏิบตั กิ ารแบบมีสว่ นรว่ ม 3) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทากิจกรรม 4) ทารายงานสรุปผลการทากิจกรรมและสง่ ให้ สถาบนั ฯ 5) กรรมการพิจารณารายงานสรุปผลการทากิจกรรม 6) นาเสนอผลงานและมอบรางวลั 7) สรุปผลโครงการ 3.3 กลุ่มเป้าหมายทเี่ ข้าร่วมโครงการ กลมุ่ เปา้ หมายของโครงการนี้ คือ ผแู้ ทนนกั เรียนจากโรงเรียนระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 2 แห่งประกอบดว้ ย โรงเรียนพะเยาพิทยาคม และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา แหง่ ละ 50 คน โดยคละชนั้ ปี พรอ้ มทงั้ เชญิ ชวนคณุ ครูท่ีปรกึ ษาประจากลมุ่ จานวนกลมุ่ ละ 1 ทา่ น เขา้ รว่ ม สงั เกตการณก์ ารประชุมเชิงปฏิบตั ิการแบบมีส่วนร่วมดว้ ย เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจกระบวนการและท่ีมาของแต่ละ โครงการยอ่ ยไดอ้ ยา่ งชดั เจน 4. ผลการดาเนินกจิ กรรม สถานศกึ ษาท่ีเป็นกรณีตวั อย่างของการศกึ ษาครงั้ นี้ ไดแ้ ก่ โรงเรียนพะเยาพิทยาคม และโรงเรียน เฉลิมพระเกียรติพระศรีนครินทร์ พะเยา จงั หวดั พะเยา เน่ืองจากสถานศกึ ษาทงั้ 2 แห่งมีความสนใจและ พรอ้ มท่ีจะรว่ มกิจกรรม มีเครือขา่ ยท่ีเขม้ แข็งท่ีจะรว่ มขบั เคล่ือนกระบวนการและกิจกรรมไปไดจ้ นเสร็จสิน้ กระบวนการ รายละเอียดของผลการศกึ ษามีดงั ตอ่ ไปนี้ 4.1 การเตรยี มความพร้อมโดยทาความรู้จักพนื้ ทก่ี รณีศกึ ษา 4.1.1 โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคมตงั้ ขนึ้ เม่ือปี พ.ศ. 2479 โดยอาศยั เรยี นรวมกบั โรงเรียนเทศบาล 1 (พะเยาประชานุกุล) จน พ.ศ.2482 กระทรวงศึกษาธิการไดจ้ ดั สรรงบประมาณ 5,000.00 บาท (หา้ พนั บาทถว้ น) เพ่ือสรา้ งอาคารเรียนท่ีตาบลประตชู ยั ซ่ึงเป็นท่ีตงั้ ปัจจุบนั ถนนประตชู ยั อาเภอเมือง จงั หวดั พะเยา ได้เปิดดาเนินการสอนเม่ือวันท่ี 19 มีนาคม พ.ศ.2482 และในช่วงระหว่างดาเนินการไดม้ ี
13 งบประมาณกระทรวง ฯ การบรจิ าคเงินจากประชาชน ผปู้ กครอง เพ่ือสรา้ งอาคาร โรงอาหาร หอ้ งสมดุ ฯลฯ และในปี พ.ศ. 2548 โรงเรียนไดร้ บั คดั เลือกใหร้ บั รางวลั พระราชทาน ปัจจุบนั ผูอ้ านวยการสถานศึกษา โรงเรียนพะเยาพิทยาคม คือ นายประสงค์ พรหมสิทธิ์ โรงเรียนพะเยาพิทยาคม นอกจากมีพนั ธกิจในการส่งเสริมและสนับสนนุ การเรียนรูท้ ่ีมี คณุ ภาพแก่นกั เรียนแลว้ ก็ยงั มีพนั ธกิจในการส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เช่น การมอบรางวลั แก่นกั เรียนท่ีไดร้ บั รางวลั ความประพฤติดี เน่ืองในเทศกาลวนั วิสาขบูชา เป็นตน้ 4.1.2 โรงเรยี นเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระศรีนครินทร์ พะเยา โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา จดั ตงั้ ขึน้ ตามประกาศจดั ตงั้ เม่ือ วนั ท่ี 24 ธันวาคม พ.ศ.2539 เพ่ือเป็นการเทิดพระเกียรติและนอ้ มราลึกถึงพระกรุณาธิคณุ ของสมเด็จพระ ศรีนครินทราบรมราชชนนีท่ีมีต่อการจดั การศึกษาของชาติ โดยโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรี นครนิ ทรพ์ ะเยา เป็นหน่งึ ในโรงเรียนเฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระศรีนครนิ ทรจ์ านวน 12 โรง ท่วั ภูมิภาคของ ประเทศไทย โดยเร่มิ ลงมือก่อสรา้ งโรงเรียน ตงั้ แต่วนั ท่ี 9 กนั ยายน 2540 บนท่ีดนิ สาธารณะประโยชนพ์ ืน้ ท่ี ตาบลหว้ ยแกว้ อาเภอภูกามยาว จงั หวดั พะเยา จานวน 120 ไร่ ไดเ้ ปิดรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ตงั้ แต่ปีการศึกษา พ.ศ.2541 เป็นตน้ มา โดยรบั เด็กจากเขตพืน้ ท่ีใน 8 จังหวัดเขา้ ศึกษาเป็นนกั เรียนใน ระบบประจา โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ ไดร้ บั รางวัลในนามของโรงเรียนหลายรางวลั เช่น โรงเรียน รางวลั พระราชทาน ในปี พ.ศ.2549 ไดร้ บั คดั เลือกเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล ปี พ.ศ.2553 รางวลั โรงเรียน ประชาธิปไตยตวั อยา่ ง พ.ศ.2555 เป็นตน้ และยงั มีนกั เรียนท่ีไดร้ บั รางวลั ในหลายสาขา เชน่ นกั เรียนรางวลั พระราชทาน ปี พ.ศ.2543 รางวลั เหรียญทองอนั ดบั 1 โครงงานวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ.2554 เป็นตน้ สาหรบั เป้าหมายของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ เช่นเดียวกับโรงเรียนพะเยาพิทยาคม คือ นอกจากม่งุ หมายให้ ผเู้ รียนมีความเป็นเลิศทางดา้ นวิชาการแลว้ ยงั เนน้ ใหผ้ เู้ รียนมีคณุ ธรรมและจริยธรรมอีกดว้ ย เห็นไดจ้ าก การได้รับรางวัลโรงเรียนดีเด่น ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม ประจาปี การศึกษา 2555 ของ กระทรวงศกึ ษาธิการ 4.2 การจัดทาแผนเชงิ ปฏิบัตกิ าร การจดั ทาโครงการเสริมสรา้ งโรงเรียนแห่งความซ่ือตรงจังหวัดพะเยาในส่วนนี้ ไดป้ ฏิบัติตาม ขนั้ ตอนท่ี 2-4 ของกระบวนการดาเนินโครงการ คือ การใหค้ วามรู้ การระดมความคดิ เห็น การจดั ทาแผน ปฏิบตั ิการเร่ืองโรงเรียนแห่งความซ่ือตรง และการใหท้ นุ สนบั สนุนการทากิจกรรม โดยกิจกรรมทงั้ ส่ีไดจ้ ดั ขนึ้ ในวนั ท่ี 28 พฤษภาคม 2559 ก่อนการเร่มิ ตน้ กิจกรรม นกั เรยี นทงั้ สองโรงเรียนไดจ้ ดั ทาแบบประเมินเพ่ือ วัดระดับความคิดเห็นและพฤติกรรมท่ีเก่ียวข้องกับความซ่ือตรง ก่อนการดาเนินกิจกรรม ซ่ึงจะเป็น
14 ประโยชนต์ ่อการเปรียบเทียบระดบั ความคิดเห็นและพฤติกรรมภายหลังการดาเนินกิจกรรมเสร็จสิน้ ทงั้ หมดแลว้ 4.2.1 การบรรยายแนวคิดพนื้ ฐานเก่ียวกับความซือ่ ตรง ทางสถาบนั ฯ เร่มิ ตน้ ดว้ ยการทากิจกรรมละลายพฤติกรรม เน่ืองจากผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมใน ครงั้ นีเ้ ป็นนักเรียนท่ีมาจากโรงเรียนระดบั มัธยมศึกษาตอนปลายสองแห่ง ซ่ึงไม่คนุ้ เคยกัน การละลาย พฤตกิ รรมจะชว่ ยใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มเกิดความสนกุ สนานและมีสว่ นรว่ มมากขนึ้ จากนั้นจึงนาเข้าสู่กิจกรรม การใหค้ วามรูเ้ ก่ียวกับความหมายของความ ซ่ือตรง แนวคิด หลักการเร่ืองความซ่ือตรง รวมถึงปัญหาความไม่ซ่ือตรงท่ีพบในประเทศ ไทย ซ่ึงข้อมูลทั้งหมดไดม้ าจากผลงานวิจัย เร่ือง “การศกึ ษาเพ่ือเสริมสรา้ งความซ่ือตรงใน สงั คมไทย” ศึกษาโดยสานกั วิจยั และพฒั นา สถาบันพระปกเกล้า นอกจากนีย้ ังมีวิดีโอ ค ลิ ป ใ ห้ช ม เ พ่ื อ ใ ห้เ ข้า ใ จ เ ร่ื อ ง ค ว า ม ซ่ื อ ต ร ง ชดั เจนย่งิ ขนึ้ สาหรบั สาระสาคญั ของเนือ้ หาบรรยาย โดยนกั วชิ าการจากสถาบนั พระปกเกลา้ เรม่ิ ตน้ ด้วยความหมายของความซ่ือตรงท่ีตรงกับ ภาษาองั กฤษวา่ Integrity มีรากศพั ทจ์ ากภาษา ลาตนิ ท่ีแปลไดค้ วามว่าความครบถว้ นสมบูรณ์ ความเป็นจานวนเต็ม หากขยายความใหเ้ ขา้ ใจ มากขึน้ ความซ่ือตรงก็หมายถึงการประพฤติ ตรง ไม่เอนเอียง ไม่มีเล่หเ์ หล่ียม ความซ่ือสตั ย์ สจุ รติ การประพฤตติ นสม่าเสมอทงั้ ตอ่ หนา้ และ ลบั หลงั การยดึ ม่นั ส่ิงท่ีชอบธรรม
15 หลายประเทศมีการปลกู ฝังคา่ นิยมความซ่ือตรง เชน่ ประเทศองั กฤษท่ีใหค้ วามสาคญั กบั เดก็ ดีมากกว่าเด็กเก่ง ทาใหม้ ีการปลกู ฝังคา่ นิยมสาคญั 7 ประการ ไดแ้ ก่ การพดู ความจรงิ ความซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ความสานกึ ในหนา้ ท่ี ความอดกลนั้ ความเป็นธรรม การเอาใจเขามาใสใ่ จเรา และเมตตาธรรม ส่วน ในประเทศอเมริกาก็มีการปลูกฝังความซ่ือตรงตงั้ แตบ่ นโต๊ะอาหารไปจนถึงระดบั การประกอบอาชีพ ดว้ ย คตทิ ่ีสาคญั คือ “เราจะไมโ่ กหก ไมโ่ กง ไมข่ โมย และจะไมย่ อมใหใ้ ครทาเชน่ นนั้ ” เหน็ ไดว้ า่ มีความชดั เจน สนั้ งา่ ย และนาไปสกู่ ารปฏิบตั เิ ป็นวฒั นธรรมของชาตไิ ดไ้ มย่ าก ความซ่ือตรงในประเทศไทยนนั้ ถือเป็นคณุ ธรรมหลกั อยา่ งหน่งึ ของชาติ ไดแ้ ก่ ธรรมของ ผปู้ กครองคือทศพิธราชธรรม และยงั บรรจุในหลกั ราชการท่ีเป็นหลกั ปฏิบตั ิของขา้ ราชการไทย ตามหลกั ทศพิธราชธรรมมีธรรมท่ีผปู้ กครองตอ้ งดารงไวค้ ือ อาชวะ ท่ีหมายความไดถ้ ึงความซ่ือตรง ไมค่ ิดทรยศตอ่ มิตรสหาย หนา้ ท่ีการงาน และประชาชน และยงั มีธรรมในขอ้ อวิโรธนะ คือความไม่แคลว้ คลาดจากธรรม เป็นความไมผ่ ดิ คือรูว้ า่ อะไรผดิ ก็ไมท่ า ไมท่ าผดิ ทงั้ ท่ีรูว้ า่ ผิด ส่วนหลกั ราชการนนั้ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงนิพนธห์ ลกั ราชการ 10 ประการใหแ้ กข่ า้ ราชการไทยเม่ือวนั ท่ี 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2457 โดยมีสว่ นท่ีกลา่ วถึงความซ่ือตรง 2 ประการ คือ ความซ่ือตรงต่อหนา้ ท่ี ตงั้ ใจทางานตามกาลงั โดยซ่ือสตั ยแ์ ละเตม็ ศกั ยภาพ และยงั มีหลกั ความซ่ือตรงต่อ บุคคลท่วั ไป คือรกั ษาตนใหเ้ ป็นคนท่ีเช่ือถือได้ รกั ษาวาจาสัตย์ ดงั นนั้ ความซ่ือตรงถือเป็นคณุ ค่าและ พฤตกิ รรมท่ีควรปลกู ฝังในสงั คมไทย คนท่ีซ่ือตรงจะเป็นคนท่ีมีความรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี มีความ มงุ่ ม่นั ขยนั อดทน ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ และยดึ ความถกู ตอ้ ง ประพฤตติ นตามครรลองท่ีดที งั้ ตอ่ หนา้ และลบั หลงั 4.2.2 การระดมความคิดเหน็ ภายหลังจากท่ีนักเรียนไดฟ้ ังการบรรยาย ไดม้ ีการจัดกระบวนการใหน้ กั เรียนไดแ้ สดง ความคิดเห็นนกั เรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นก่อนไปส่ขู นั้ ตอนพฒั นาเป็นแผนเชิงปฏิบตั ิการเพ่ือเสริมสรา้ ง ความซ่ือตรง กระบวนการระดมความคดิ เหน็ เป็นการใชบ้ ตั รคาแสดงความคดิ เห็น ทางสถาบนั ฯ เร่มิ ตน้ การระดมความคิดเห็นดว้ ยคาถามหลกั 3 คาถาม คือ 1) เม่ือพดู ถึง “ความซ่ือตรง” นึกถึงอะไร? 2) นอ้ งๆ เคยทาอะไรท่ีเรียกไดว้ ่า “ไม่ซ่ือตรง” บา้ ง? 3) สภาพปัจจบุ นั ของ โรงเรียนเป็นอยา่ งไร มีจดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยอยา่ งไร 4) เราจะทาอยา่ งไรใหเ้ กิดความซ่ือตรงขนึ้ ในโรงเรียน? และ 5) เม่ือทาแลว้ สมาชิกทกุ คนในโรงเรียนจะไดอ้ ะไร? และสมาชิกทกุ คนในโรงเรียนจะพดู ถึงเราวา่ อยา่ งไร? นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็นไดค้ นละ 1 บตั รคา 1 ความคดิ
16 1) เม่ือพดู ถงึ “ความซ่ือตรง” นกึ ถึงอะไร? ตอ่ ขอ้ คาถามท่ีว่า เม่ือพดู ถึงความซ่ือตรงนึกถึงอะไร นกั เรียนจากทงั้ สองโรงเรียน ตอบไวใ้ กลเ้ คียงกนั คือ ไมค่ ดโกง ตรงไปตรงมาและตรงตอ่ เวลา มีวินยั และรกั ษากฎ ไมโ่ กหก มีความ ซ่ือสตั ย์ นอกจากนีย้ งั นึกถึงเร่ืองความรบั ผิดชอบ พดู แลว้ ทาหรือรกั ษาคาพดู ไมน่ ินทากนั มีความจรงิ ใจ มีคณุ ธรรม เป็นตน้ ภาพท่ี 3 ผลการระดมความคดิ เห็น “เม่ือพดู ถงึ ความซ่ือตรงนกึ ถงึ อะไร” ตารางท่ี 2 ความคิดเหน็ ของนกั เรียนโรงเรยี นพะเยาพิทยาคมและโรงเรียนเฉลิมพระ เกียรตพิ ระศรีนครนิ ทร์ พะเยา ในประเดน็ “เม่ือพดู ถงึ ความซ่ือตรงเรานกึ ถึงส่งิ ใด” ความคดิ เหน็ จานวนนักเรยี น ที่แสดงความคิดเหน็ (คน) ตรงเวลา - ตรงตอ่ เวลา 7 รบั ผดิ ชอบ 1 - รบั ผดิ ชอบ 1 - ยืมของแลว้ คืน มกี ารพดู ทด่ี ี 8 - ไมโ่ กหก 2 - ไมน่ ินทากนั ซอ่ื สตั ย์ 11 - มีความซ่อื สตั ย์
17 ความคดิ เหน็ จานวนนักเรยี น ที่แสดงความคดิ เหน็ (คน) รกั ษากติกา - ไมโ่ ดดเรยี น 1 - เช่ือฟังพอ่ แม่ 1 ไมค่ ดโกง 13 - ไมค่ ดโกง 1 ตรงไปตรงมา 1 - เป็นคนตรง 1 - ไมเ่ สแสรง้ 1 - จรงิ ใจ 3 - มคี วามรกั 1 - มีการกระทาตรงไปตรงมา - มคี วามสจุ รติ 1 1 มคี ณุ ธรรม 1 - รกั ษาคาพดู 1 - นา่ เชื่อถือ - มคี วามคดิ 1 - มคี ณุ ธรรม 1 อื่นๆ 1 - เทา่ เทยี ม 1 - ยอมรบั สง่ิ ทเี่ กิด 1 - มคี วามอดทน 1 - ไมต่ ิดสนิ บน 1 - มีความสามคั คี 2 - มีความเคารพ 1 - มวี นิ ยั - มจี ิตสานกึ ที่ดี - มคี วามจรงิ ใจตอ่ กนั จากการระดมความคิดเห็นในคาถามว่านกั เรียนคิดถึงอะไรเม่ือกล่าวถึงคาว่าซ่ือตรง ประเดน็ คาถามตอ่ ไป คือ “เคยทาส่ิงใดท่ีไมซ่ ่ือตรงบา้ ง ” นกั เรียนแสดงความคิดเห็นไดค้ นละ 2 บตั รคา 2 ความคิด ตอบว่าความไม่ซ่ือตรงท่ีทามากท่ีสดุ คือการลอกการบา้ นและขอ้ สอบ รวม 56 ความคิดบตั รคา ตามมาดว้ ยการโกหก และหนีเรยี น จานวน 34 และ 18 บตั รคา ตามลาดบั
18 2) เคยทาอะไรท่ีเรียกไดว้ า่ “ไมซ่ ่ือตรง” บา้ ง? เม่ือใหน้ ักเรียนทุกคนมองพฤติกรรมของตนเองในอดีตว่าเคยทาอะไรท่ีเรียกไดว้ ่า ไม่ซ่ือตรง พบว่า นกั เรียนส่วนใหญ่เคยลอกการบา้ น โกงขอ้ สอบ โกหก พูดปด โดดเรียน หนีเท่ียว นอกจากนีย้ งั มีพฤติกรรมอ่ืนๆ ท่ีอยใู่ นข่ายไม่ซ่ือตรง เชน่ การนินทา ไม่ตรงตอ่ เวลา การขโมย และการ แกลง้ เพ่ือน เป็นตน้ ภาพท่ี 3 คาถาม “เคยทาอะไรท่ีเรียกไดว้ า่ ไมซ่ ่ือตรงบา้ ง” ตาราง 4 สรุปกลมุ่ ความคิดเหน็ ของนกั เรียนวา่ เคยทาส่งิ ใดท่ีไมซ่ ่ือตรงบา้ ง ความเหน็ จานวนนักเรียนทแี่ สดงความคดิ เห็น (คน) ลอกการบา้ นและขอ้ สอบ 56 โกหก 34 นนิ ทา 6 ไมต่ รงเวลา 6 คดโกง 6 หนเี รยี น 18 เขา้ หอ้ งเรยี นสาย 4 อนื่ ๆ 10
19 เม่ือนกั เรยี นไดเ้ หน็ บตั รคาในภาพรวมแลว้ ว่าประเดน็ ความซ่ือตรงในโรงเรียนท่ีตนเคย ทานนั้ มีอะไรบา้ ง ก็ทาใหพ้ อทราบไดว้ า่ พฤตกิ รรมท่ีไม่ซ่ือตรงนนั้ มีอะไรบา้ งเชน่ กนั จึงนาไปส่คู าถามตอ่ ไป “เราจะทาอย่างไรบา้ งให้เกิดความซ่ือตรงในโรงเรียน” นักเรียนแสดงความคิดเห็นคนละ 1 บตั รคา 1 ความคดิ ตอบวา่ ทาไดด้ ดยการรูห้ นา้ ท่ีจานวน 25 บตั รคา ตามมาดว้ ยการปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรม และสรา้ ง จติ สานกึ จานวน 16 และ 15 บตั รคาตามลาดบั 3) สภาพปัจจบุ นั ของโรงเรยี นเป็นอยา่ งไร มีจดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยอยา่ งไร โรงเรียนเฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทรพ์ ะเยา มีจดุ เดน่ เร่อื ง การเป็นโรงเรียน ประจาท่ีมีระเบียบวินัยเคร่งครัด เป็นโรงเรียนพระราชทาน มีชุดราชพิธี มีพิธีเกียรติยศ เป็ นแชมป์ โครงการ TO BE NUMBER ONE รุน่ ท่ี 6 ระดบั ประเทศ อีกทงั้ ยงั ไดร้ บั การสอนใหเ้ คารพผอู้ าวุโส เคารพ รุน่ พ่ี และรกั กนั เหมือนพ่ีนอ้ ง ส่วนจดุ ดอ้ ยของโรงเรียน คือ จดั ตารางการเรียนแนน่ เรียนหนกั กิจกรรม และการบา้ นเยอะ ทาใหไ้ ม่มีเวลาวา่ ง และเนน้ เร่ืองระเบียบวินยั สงู นอกจากนีร้ ะบบการส่ือสาร รวมถึง ระบบไฟฟา้ และประปายงั ไมด่ ี ทาใหข้ าดจากโลกภายนอก โรงเรียนพะเยาพิทยาคม มีจดุ เดน่ เร่ืองมีความเป็นระเบียบ มีความสามคั คี กีฬา มี ผนู้ าท่ีดี วิชาการ ตรงตอ่ เวลา ไม่คดโกง ส่วนท่ีเป็นจดุ ดอ้ ย คือ โรงอาหารอึดอดั คบั แคบ ขาดระเบียบวินยั หอ้ งนา้ ไม่สะอาด นกั เรียนไมก่ ลา้ แสดงออก โต๊ะเรียนไม่เพียงพอ จานวนนกั เรียนแออดั จานวนการใชข้ วด นา้ มากไป ภาพท่ี 5 จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยโรงเรยี นเฉลิมพระเกียรติ
20 ภาพท่ี 6 จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ยโรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม โรงเรยี นเฉลมิ พะเยาพทิ ยาคม บตั รคาจานวนท่ีมากท่ีสุดในประเดน็ ขอ้ ดี คือ มีความ เป็นระเบยี บ (10 บตั รคา) และขอ้ จากดั คอื โรงอาหารอดึ อดั คบั แคบ (7 บตั รคา) ตารางท่ี 4 สรุปจดุ เดน่ -จดุ ดอ้ ย ของสภาพปัจจบุ นั ของโรงเรียน พะเยาพิทยาคม จุดเดน่ จานวนนักเรยี น จุดดอ้ ย จานวนนักเรยี นทแี่ สดง ทแี่ สดงความคิดเหน็ (คน) ความคดิ เหน็ (คน) มคี วามเป็นระเบยี บ มคี วามสามคั คี 10 โรงอาหารอดึ อดั คบั แคบ 7 กีฬา 6 มีผนู้ าท่ีดี 4 ขาดระเบยี บวินยั วิชาการ 3 ตรงตอ่ เวลา 4 หอ้ งนา้ ไมส่ ะอาด ไมค่ ดโกง 2 3 นกั เรยี นไมก่ ลา้ แสดงออก 2 2 2 โต๊ะเรยี นไมเ่ พยี งพอ 2 2 จานวนนกั เรยี นแออดั 1 จานวนการใชข้ วดนา้ มากไป สว่ นโรงเรียนเฉลมิ พระเกียรตพิ ระศรีนครินทร์ พะเยา บตั รคาจานวนท่ีมากท่ีสดุ ในประเดน็ ขอ้ ดี คือ มีความเป็นระเบยี บ (27 บตั รคา) และขอ้ จากดั คือ เวลาวา่ งมีนอ้ ย (19 บตั รคา)
21 ตารางท่ี 5 สรุปจดุ เดน่ -จดุ ดอ้ ย ของสภาพปัจจบุ นั ของโรงเรยี น เฉลิมพระเกียรติ จุดเดน่ จานวนนักเรียนที่ จุดดอ้ ย จานวนนักเรียนทแ่ี สดง แสดงความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ (คน) มคี วามเป็นระเบียบ เวลาวา่ งมีนอ้ ย มคี วามสามคั คี เคารพรุน่ พ่ี (คน) คาบเรยี นเยอะเกินไป 19 ภมู ิในความเป็นโรงเรยี น ถกู ตดั ขาดจากโลกภายนอก 7 พระราชทาน 27 4 ไดร้ างวลั สง่ เสรมิ สขุ ภาพ ยอดเพชร 8 6 ไดแ้ ชมป์ โครงการ To be number one 7 2 2 3 นา้ ไมไ่ หล ไฟดบั 1 3 นา้ เสยี ระเบยี บวินยั มากเกินไป ระเบียบวินยั รุน่ พี่หยอ่ นยาน 4) เราจะทาอยา่ งไรบา้ งใหเ้ กิดความซ่ือตรงในโรงเรียน นักเรียนไดร้ ่วมใหค้ วามคิดเห็นท่ีหลากหลาย เก่ียวกับแนวทางท่ีจะช่วยทาให้เกิด ความซ่ือตรงในโรงเรยี น ซง่ึ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 5 แนวทาง ไดแ้ ก่ รูห้ นา้ ท่ี ซ่ือสตั ย์ สรา้ งจิตใตส้ านึก ปรบั เปล่ียน พฤตกิ รรม และเป็นแบบอยา่ งท่ีดี ภาพท่ี 7 คาถาม “เราจะทาอยา่ งไรบา้ งใหเ้ กิดความซ่ือตรง”
22 ตารางท่ี 6 สรุปความคดิ เห็น เราจะทาอยา่ งไรบา้ งใหเ้ กิดความซ่ือตรงในโรงเรยี น ความเห็น จานวนนักเรยี น ทีแ่ สดงความคิดเหน็ (คน) รูห้ นา้ ท่ี ซ่ือสตั ย์ 25 สรา้ งจิตใตส้ านกึ 6 ปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม 15 เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี 16 9 5) เม่ือทาแลว้ สมาชิกทกุ คนในโรงเรยี นจะไดอ้ ะไร? และสมาชกิ ทกุ คนในโรงเรียนจะพดู ถึง เราวา่ อยา่ งไร? หลังจากนั้น วิทยากรไดพ้ าใหน้ ักเรียนคิดต่อไปว่าหากนักเรียนไดท้ าให้เกิดความ ซ่ือตรงในโรงเรียนแลว้ จะเกิดผลดีอย่างไรบา้ ง เรียกวา่ เป็น “หัวใจแห่งชัยชนะ” โดยใชค้ าถามว่า เม่ือทา แลว้ สมาชกิ ทกุ คนจะไดอ้ ะไร และเม่ือทาแลว้ สมาชิกทกุ คนจะพดู ถงึ เราวา่ อะไร โดยขนั้ ตอนนีไ้ ดแ้ ยกบตั รคา เป็นรายโรงเรียน สาหรบั คาถามว่าเม่ือทาแลว้ สมาชิกทุกคนจะไดอ้ ะไร บตั รคาจานวนท่ีมากท่ีสุดของ โรงเรียนพะเยาพิทยาคม คือ มีความสามัคคี (5 บตั รคา) ส่วนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติพระศรีนครินทร์ พะเยา คือความมีระเบียบวินยั (18 บตั รคา) ส่วนคาถามว่าสมาชิกทกุ คนจะพูดถึงเราว่าอย่างไร บตั รคา จานวนท่ีมากท่ีสุดของโรงเรียนพะเยาพิทยาคมและโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติพระศรีนครินทร์ พะเยา เป็น เร่ืองเดยี วกนั และจานวนเทา่ กนั คอื เป็นตวั อยา่ งท่ีดี (13 บตั รคา) ภาพท่ี 8 หวั ใจแหง่ ชยั ชนะโรงเรยี นเฉลมิ พระเกียรตฯิ
23 ภาพท่ี 9 หวั ใจแหง่ ชยั ชนะโรงเรียนพะเยาพิทยาคม ตารางท่ี 7 สรุปกลมุ่ ความคดิ เหน็ ของนกั เรียนในประเดน็ หวั ใจแหง่ ชยั ชนะ กลุ่มความคิดเหน็ ความคดิ เหน็ จานวนนักศกึ ษา ทแ่ี สดงความคิดเหน็ (คน) กลุ่มที่ 1 เมือ่ ทาแลว้ สมาชิกทกุ คนจะไดอ้ ะไร โรงเรยี นพะเยา - มวี ินยั ในตวั เอง 2 พทิ ยาคม - มีความสามคั คี 5 (41 ความคิดเหน็ ) - ลอกการบา้ นนอ้ ยลง 1 - นร.มปี ระสทิ ธิภาพมากขนึ้ 1 - มีความสขุ 1 - ใหโ้ รงเรยี นพฒั นาไมค่ ดโกง 4 - สมาชิกทกุ คนมจี ิตสานกึ ทด่ี ี 1 - ศรทั ธาในกฎระเบียบโรงเรยี น 1 - สงั คมสงบสขุ 1 - ไมเ่ หน็ แก่ตวั 1 - มีความซอื่ สตั ยม์ าก 3 สมาชิกทกุ คนจะพดู ถงึ เราวา่ อะไร 13 - เป็นตวั อยา่ งที่ดี 2 - เป็นคนมคี วามซือ่ สตั ย์
24 กลุ่มความคดิ เหน็ ความคดิ เห็น จานวนนักศึกษา ทีแ่ สดงความคดิ เหน็ (คน) กลุ่มที่ 2 - เป็นฮีโร่ โรงเรียนเฉลิม - เป็นคนมรี ะเบยี บวินยั 1 พระเกียรติสมเด็จ - เป็นคนดี 1 พระศรีนครนิ ทร์ เม่ือทาแลว้ สมาชิกทกุ คนจะไดอ้ ะไร 3 พะเยา - มคี วามสามคั คี (46ความคิดเหน็ ) - มีความเป็นระเบยี บวนิ ยั 8 - มคี วามสขุ 18 - ทาใหส้ มาชิกไมเ่ หน็ แกต่ วั 3 - รูจ้ กั หนา้ ที่ 1 สมาชิกทกุ คนจะพดู ถงึ เราวา่ อะไร 2 - เป็นแบบอยา่ งทดี่ ี - เป็นคนซอ่ื ตรง 13 - เป็นคนมรี ะเบยี บวินยั ทดี่ ี 1 - เป็นผนู้ าท่ีดี 3 - เป็นคนดี 6 3 คาถามตอ่ ไป เป็นการพาใหน้ กั เรียนเห็นภาพรวมทงั้ สงั คมโดยถามนกั เรียนว่า สงั คม จะช่ืนชมเราว่าอย่างไร พบว่า นักเรียนคิดว่าสงั คมจะช่ืนชมนักเรียนว่าเป็นแบบอย่างท่ีดีเป็นลาดบั แรก ดงั รายละเอียดตอ่ ไปนี้ ตารางท่ี 8 ความคิดเหน็ ของนกั เรยี นตอ่ ส่งิ ท่ีสงั คมจะช่ืนชม 5 อนั ดบั แรก ความคดิ เหน็ จานวนนักเรยี นทีแ่ สดงความคิดเหน็ (คน) 1. เป็นแบบอยา่ งท่ดี ี 26 6 2. เป็นผนู้ าท่ดี ี 3. เป็นคนดี 6 4. เป็นคนมรี ะเบยี บวินยั 4 5. เป็นคนซอื้ สตั ย์ 3 ก่อนท่ีจะไปสกู่ ารจดั ทาแผนเชิงปฏิบตั กิ าร เป็นขนั้ ตอนท่ีเรียกวา่ “สญั ญาใจ” เพ่ือให้ นกั เรียนแสดงความมงุ่ ม่นั ท่ีจะปรบั ปรุงตวั แยกเป็นรายโรงเรยี นเชน่ กนั
25 ตารางท่ี 9 สรุปความคดิ เหน็ ในการปรบั ปรุงตวั กิจกรรม “สญั ญาใจ” ความเหน็ จานวนนักเรียนทแี่ สดง ความเห็น จานวนนักเรยี นท่ี ความคิดเหน็ (คน) แสดงความคดิ เห็น (คน) โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม โรงเรียนเฉลิมพระเกยี รติพระศรนี ครนิ ทร์ พะเยา พฒั นาสงั คมและโรงเรยี น 8 พฒั นาสงั คมและโรงเรยี น 15 มคี วามเป็นระเบยี บ 4 ตงั้ ใจเรยี น 12 ซ่ือตรง 4 รกั ษาความเป็นระเบียบ 7 ตงั้ ใจเรยี น 3 ซอ่ื ตรง 1 ไมด่ ่มื เหลา้ สบู บหุ รี่ 2 4.2.3 พฒั นาแผนเชิงปฏิบัตกิ ารเสริมสร้างความซื่อตรงในโรงเรียน จากกิจกรรมการระบปุ ัญหาความซ่ือตรงในสถานศึกษา ไดม้ ีการแบง่ กล่มุ นกั ศึกษาตาม ความสนใจของแตล่ ะคนเพ่ือรว่ มกนั กาหนดแผนปฏิบตั กิ ารดา้ นความซ่ือตรงในสถานศกึ ษา ผลจากการจดั กิจกรรมการกาหนดแผนและปฏิทินกิจกรรม จานวนโรงเรียนละ 4 โครงการ และใหท้ ุนสนบั สนนุ การทา กิจกรรมละ 1,000 บาท สามารถสรุปไดด้ งั ตารางตอ่ ไปนี้
ตารางท่ี 10 แผนเชิงปฏิบตั ิการ โครงการ วัตถุประสงค์ กิจกรรม มิ.ย.59 วิธดี าเนินการ ใหม้ นั เหมาะสม 1.ปฏบิ ตั ิถกู ระเบยี บ - สรา้ ง 2.ใหภ้ าพลกั ษณข์ อง 1.สรา้ งเครอื ขา่ ยแบบอย่างท่ดี ี เครอื ข่าย โรงเรยี นดกี ว่าเดมิ 2.สรา้ งความน่าเช่อื ถอื นกั เรยี น 3.บนั ทกึ สถิติ - ทาบนั ทกึ 4.มอบเกยี รติบตั รประจาหอ้ ง สถิติ สรา้ งจิตสานกึ 1.เพ่อื ใหน้ กั เรยี นแต่งกาย 1.ทาวดิ โี อแนะนาการแตง่ กาย เขา้ ประสาน ในการแตง่ กาย ถกู ระเบยี บ ท่ถี กู ตอ้ งลงโซเชียล กบั คณะครู 2.มคี วามซอ่ื สตั ยใ์ นการ 2.นามาเปิดในคาบจรยิ ะ -สารวจ แถวมนั เป๊ ะอะ แต่งกาย 3.ใหห้ วั หนา้ หอ้ งตรวจระเบียบ นกั เรยี นผดิ ก่อนเขา้ เรยี น ระเบยี บ 1.เพ่อื ใหน้ ร.มรี ะเบยี บวินยั 1.วางแผนการจดั การเขา้ แถว วางแผนและ ในการเขา้ แถว ในแตล่ ะระดบั ชน้ั ประชาสมั พ 2.ยน่ ระยะเวลาในการเขา้ 2.กาหนดเวลาในการเขา้ แถว นธ์ โครงการ แถวใหเ้ รว็ ขนึ้ ในระยะเวลา 10นาที ประกวดจดั 3.เกบ็ สถิตผิ มู้ าเรยี นสาย 3.บนั ทกึ สถติ ิเวลาในการเขา้ แถว 4.สง่ เสรมิ ภาพลกั ษณโ์ รง แถว เรยี บใหด้ ขี นึ้
26 ร “ซ่ือตรง” โรงเรยี น พะเยาพิทยาคม ระยะเวลา ส.ค.59 ตวั ชวี้ ดั วิธีเกบ็ แหลง่ ผู้รับผดิ ชอบ ก.ค.58 ข้อมูล งบประมาณ/ กล่มุ ตวั ชวี้ ัด -บนั ทกึ สถติ ิ สรุปการ จานวน บนั ทกึ สถิติ แหลง่ ทนุ เหมาะสม และมอบ จดั ทา นกั เรยี นผิด รวมโดย 1000 บาท เกียรติบตั รผู้ โครงการ ระเบยี บลดลง บนั ทกึ ภาพน่งิ ส.ร.ภ. มวี นิ ยั ดี รวบรวม และ วดิ โี อ 1000 บาท Next Gen ขอ้ มลู ลง นกั เรยี นแตง่ กายถกู เกบ็ สถิติ รูปเลม่ ระเบยี บมาก นกั เรยี นท่ถี กู ขนึ้ ระเบยี บจาก น -ตรวจสอบ การส่มุ ตรวจ -สรุป -ปรบั ปรุง ะ จดบนั ทกึ สรุปผล สถติ ิ 1.นร.ชน้ั ม.ตน้ เกบ็ สถติ กิ าร 1000 บาท กลมุ่ พั การเขา้ แถว จา้ มะจะ๊ จิงจา ร ของนกั เยน และทาการ เขา้ แถวตรง เขา้ แถวเป็น มะจ๊ะจงิ จา ประกาศ เวลาเป็น รายวนั มะจะ๊ จิงจา ระดบั ชน้ั รางวลั ผชู้ นะ ระเบยี บ 80% มธั ยมตน้ ในแตล่ ะหอ้ ง 2.นกั เรยี นรู้ หนา้ ท่ใี นการ เขา้ แถว ตนเองและมี ระเบยี บมาก ขนึ้
โครงการ วัตถุประสงค์ กิจกรรม มิ.ย.59 วิธดี าเนินการ ปรบั เปล่ยี น 1.สง่ เสรมิ ใหเ้ หน็ 1.ประชมุ พฤติกรรมใน ความสาคญั ในการทา 1.ประชมุ และวางแผน และวางแผน การลอกขอ้ สอบ ขอ้ สอบดว้ ยตนเอง 2.ตดิ ต่อขอ้ มลู ประสานงาน 2.ตดิ ต่อ 2.ส่งเสรมิ พฤติกรรมในการ จากหอ้ งวชิ าการ ในเรอ่ื งของ ขอ้ มลู ชว่ ยเหลือกนั แทนการลอก สถิตขิ องนกั เรยี นท่มี พี ฤตกิ รรม ประสานงาน ขอ้ สอบ ลอกขอ้ สอบ จากหอ้ ง 3.สงั เกตและสารวจพฤติกรรม วชิ าการ ใน 4.วเิ คราะหข์ อ้ มลู เรอ่ื งของ 5.ดาเนินการแกป้ ัญหา สถิติของ นกั เรยี นท่มี ี พฤตกิ รรม ลอกขอ้ สอบ 3.สงั เกต และสารวจ พฤติกรรม วิเคราะห์ ขอ้ มลู
27 ระยะเวลา ตัวชีว้ ัด วิธีเกบ็ แหลง่ ผ้รู ับผดิ ชอบ ข้อมูล งบประมาณ/ ก.ค.58 ส.ค.59 1.สามารถทา ตัวชีว้ ัด ส.ร.ภ. ขอ้ สอบได้ เก็บสถติ ิ แหลง่ ทนุ พาเพลิน -สงั เกตและ -ดาเนินการ ดว้ ยตนเอง 1000 บาท น สารวจ แกป้ ัญหา 2.ทาใหม้ ี พฤติกรรม ความรูค้ าม พฤติกรรม- เขา้ ใจใน นร.ผลู้ อก เนอื้ หาท่เี รยี น น วเิ คราะห์ มากขนึ้ และมี ขอ้ สอบ ขอ้ มลู .- การเตรยี ม สอบมากขนึ้ ดาเนนิ การ แกป้ ัญหา บ
ตารางท่ี 11 แผนเชิงปฏิบตั กิ า โครงการ วตั ถุประสงค์ วิธดี าเนินการ ม.ิ ย.59 รบั ประทาน 1.เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมีระเบยี บ 1.ประชมุ และวางแผน 1.ประชมุ และ อาหารดมี วี ินยั วินยั ในการรบั ประทาน 2.เขา้ ไปสงั เกตพฤตกิ รรม วางแผน อาหาร 3.เขา้ ไปดแู ลแนะนา 2.เขา้ ไป 2.เสรมิ สรา้ งบคุ ลกิ ลกั ษณะ 4.สงั เกตพฤตกิ รรมท่ี สงั เกต ในขณะรบั ประทานอาหาร เปล่ยี นไป พฤตกิ รรม 3.เพ่อื ใหร้ กั เรยี นมีความ 5.ทาแบบสารวจความพงึ 3.เขา้ ไปดแู ล รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที พอใจของคณะครู แนะนา 6.สรุปและรวบรวมขอ้ มลู 7.นาเสนอผลงาน ค่ายปลกู ฝัง 1.เพ่อื สรา้ งจิตสานกึ ท่ดี ใี ห้ 1.ประชมุ วางแผน จติ สานกึ ตาม นกั เรยี นมีความซอ่ื ตรง 2.เตรยี มการจดั ค่าย หลกั ปศพพ. 2.ใหน้ ร.มีความซอ่ื ตรงบน 3.ลงมอื จดั ค่าย ดว้ ยหวั ใจ ฐานของความพอเพียง -ประชาสมั พนั ธแ์ ละจดั พอเพยี ง กจิ กรรมค่าย 4.ทาแบบประเมินความ พงึ พอใจ 5.สรุปการดาเนนิ งาน 6.จดั ทารายงาน นาเสนอ
28 าร “ซ่ือตรง” โรงเรยี น เฉลมิ พระเกียรติ ระยะเวลา ส.ค.59 ตัวชวี้ ัด วิธีเกบ็ แหลง่ ขอ้ มลู งบประมาณ/ ผู้รับผดิ ชอบ ก.ค.59 6.สรุปและ 1.ดจู ากความ ตัวชีว้ ดั รวบรวมขอ้ มลู พงึ พอใจของ ทา แหลง่ ทนุ 4.สงั เกต 7.นาเสนอ คณุ ครู แบบสอบถา ก150.0ป0ระบเมาทินแ พะยนู เกยตนื้ พฤติกรรมท่ี ผลงาน 2.ดพู ฤตกิ รรม เปล่ยี นไป ของนกั เรยี นท่ี มความพงึ 1000 บาท แสงจนั ทร์ 5.ทาแบบ เปล่ยี นแปลง พอใจของครู สารวจความ ไปจากเดิม เวรประจาวนั พงึ พอใจ 3.ความเป็น ระเบยี บของ นกั เรยี นขณะ รบั ประทาน อาหาร
โครงการ วตั ถุประสงค์ วิธดี าเนินการ ม.ิ ย.59 เสรมิ สรา้ ง 1.เพ่อื เสรมิ สรา้ งทกั ษะผนู้ า 1.ประชมุ และวางแผน 1.ประชมุ และ ระเบยี บวนิ ยั ใน 2.เพ่อื เสรมิ สรา้ งระเบยี บ 2.อธิบายขนั้ ตอนกบั วางแผน การรบั ประทาน วนิ ยั ในการรบั ประทาน นร.ชน้ั ม.ตน้ 2.อธิบาย อาหาร อาหาร 3.เร่มิ ดาเนนิ งาน ขน้ั ตอนกบั 4.สงั เกตและบนั ทกึ ผล นร.ชนั้ ม.ตน้ 5.ประเมนิ และสรุป 6.ปรบั ปรุงขอ้ ผิดพลาด
29 ระยะเวลา ส.ค.59 ตวั ชวี้ ัด วธิ เี กบ็ แหลง่ ผรู้ ับผดิ ชอบ ขอ้ มูล งบประมาณ/ Hajima ก.ค.59 5.ประเมนิ 1.มคี วาม ตวั ชีว้ ดั 3.เร่มิ และสรุป ซอ่ื ตรงตอ่ ทาแบบ แหลง่ ทุน ดาเนนิ งาน 6.ปรบั ปรุง เพ่อื นๆ และ สอบถาม 1000 บาท 4.สงั เกตและ ขอ้ ผิดพลาด พ่ๆี ประเมิน บนั ทกึ ผล 2.มีระเบยี บ ความพงึ วนิ ยั พอใจจากครู 3.มีทกั ษะเป็น ประจาเวร ผทู้ ่ดี ี 4.ตรงตอ่ เวลา 5.มีมารยาท ในการ รบั ประทาน อาหาร
โครงการ วตั ถุประสงค์ วิธีดาเนินการ มิ.ย.59 ปรบั เปล่ยี น 1. เพอ่ื สรา้ งความ 1.วางแผน 1.วางแผน พฤติกรรม รบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง 2.ปรกึ ษาคณะครู 2.ปรกึ ษา (การตรงตอ่ 2. ฝึกความมีระเบยี บวินยั 3.ประชมุ และแบง่ หนา้ ท่ี คณะครู เวลา) ในการกิจวตั รประจาวนั 4.อธิบายและชแี้ จงให้ 3.ประชมุ และ นกั เรยี นทราบ แบง่ หนา้ ท่ี 5.ทดลองใชก้ จิ กรรม 4.อธิบายและ 6.สงั เกตพฤติกรรมและ ชแี้ จงให้ บนั ทกึ ผล นกั เรยี นทราบ 7.ปรบั ปรุงกจิ กรรมให้ 5.ทดลองใช้ เหมาะสม กจิ กรรม 8.เร่มิ กจิ กรรมจรงิ 6.สงั เกต 9.สรุปกจิ กรรม พฤติกรรมและ บนั ทกึ ผล
30 ระยะเวลา ตวั ชวี้ ดั วิธีเกบ็ แหลง่ ผูร้ ับผดิ ชอบ ข้อมูล งบประมาณ/ The Olivia ก.ค.59 ส.ค.59 จานวน ตัวชวี้ ดั นกั เรยี นท่ี ทาแบบ แหลง่ ทนุ 7.ปรบั ปรุง 9.สรุป ถกู ลงโทษ 1000 บาท กิจกรรมให้ กจิ กรรม นอ้ ยลง สอบถามครู เหมาะสม 8.เร่มิ กิจกรรม จรงิ
31 ภาพท่ี 10 การใหท้ นุ สนบั สนนุ การทากิจกรรม 5. การนาเสนอผลงาน และถอดบทเรยี น 5.1 การนาเสนอผลงาน ผู้แทนนักเรียนจากโรงเรียนพะเยาพิทยาคมและโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรี นครินทร์ พะเยา แบ่งกลุ่มการทางานออกเป็นโรงเรียนละ 4 กลุ่ม และในช่วงเช้ามีการจับฉลากเพ่ือ จดั ลาดบั การนาเสนอผลงาน โดยทงั้ 8 กลมุ่ มีเวลาสาหรบั การนาเสนอผลงานกล่มุ ละ 10 นาที มีลาดบั ดงั นี้ ตาราง 12 ลาดบั การนาเสนอผลงานของนกั เรยี น ที่ ช่ือโรงเรียน ชอื่ กลุ่ม ชอื่ โครงการ/กจิ กรรมทท่ี า 1. เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จ- HAJIMA โครงการตรวจหอ้ งดีศรนี ครนิ ทร์ พระศรนี ครนิ ทร์ พะเยา ส.ร.ถ.พาเพลนิ THE OLIVIA โครงการปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมในการคดั ลอกงาน 2. พะเยาพิทยาคม โครงการการสรา้ งระเบยี บวนิ ยั ในการทากิจกรรม หนา้ เสาธง 3. เฉลมิ พระเกียรติสมเด็จ- พระศรนี ครนิ ทร์ พะเยา 4. เฉลมิ พระเกียรติสมเด็จ- แสงจนั ทร์ โครงการศรนี ครนิ ทรย์ นู ิฟอรม์ พระศรนี ครนิ ทร์ พะเยา 5. พะเยาพิทยาคม เหมาะสม โครงการใหม้ นั เหมาะสม 6. เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จ- พะยนู เกยตนื้ โครงการรบั ประทานอาหารดี มีวนิ ยั พระศรนี ครนิ ทร์ พะเยา 7. พะเยาพทิ ยาคม ส.ร.ถ. Next Gen โครงการคเู่ ดยี วก็เฟี้ยวได้ รูห้ นา้ ท่ี โครงการแถวมนั เป๊ ะอะ่ 8. พะเยาพทิ ยาคม
32 5.2 การถอดบทเรียน ในการประเมินผลการดาเนินกิจกรรมโรงเรียนแห่งความซ่ือตรง คณะทางานใช้วิธีถอด บทเรียนผ่านคาถามหลกั 5 ขอ้ คือ 1) ท่านไดเ้ รียนรูอ้ ะไรบา้ งจากการเขา้ ร่วมโครงการ 2) ท่านรูส้ ึก อย่างไรเม่ือดาเนินโครงการนี้ 3) ท่านคิดว่ามีอะไรท่ีตอ้ งปรบั ปรุงใหด้ ีขึน้ 4) ท่านคิดว่าจะทาอย่างไรให้ คนมีความซ่ือตรง และ 5) ท่านคิดวา่ มีอะไรท่ีนาไปใชไ้ ดบ้ า้ ง โดยเขียนความเห็นลงในบตั รความคิดขอ้ ละ สี ซ่งึ มีรายละเอียดความคดิ เห็นดงั ตอ่ ไปนี้ เม่ือถามถงึ สิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้จากการเข้าร่วมโครงการ ผแู้ ทนนกั เรยี นจากทงั้ สองโรงเรียนท่ีเขา้ ร่วมโครงการใหค้ วามเห็นว่า ในทางตรงไดเ้ รียนรูเ้ ร่ืองความซ่ือตรง ความหมายของคาว่าซ่ือตรง ได้ ตระหนกั ถึงความสาคญั ประโยชน์ และไดแ้ นวปฏิบตั ิท่ีสอดคลอ้ งกบั คาวา่ ซ่ือตรง ในทางออ้ มไดเ้ รียนรูถ้ ึง การสรา้ งจิตสานึกเร่ืองความซ่ือสตั ย์ ตรงตอ่ เวลา การทางานและแกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ ไดเ้ รียนรูถ้ ึง การทางานเป็นกลมุ่ ซ่งึ ตอ้ งมีความรบั ผิดชอบ รูจ้ กั หนา้ ท่ีของตน ใหค้ วามรว่ มมือ และมีความสามคั คีกนั ใน การทางาน นอกจากนีน้ กั เรียนบางส่วนยงั ไดเ้ ห็นมมุ ใหมข่ องตนเองผ่านขอ้ ความท่ีว่า ตนเองไดค้ วามคิด ใหมๆ่ ไดข้ า้ มขีดจากดั ของตน ไดค้ วามกลา้ และบา้ บ่นิ จากการตอ้ งไปลงพืน้ ท่ีและการนาเสนอ รวมถึงมี การเปล่ียนเจตคติดว้ ย (ท่าทีหรือความรูส้ ึกของบุคคลต่อส่ิงใดส่ิงหน่ึง แปลความหมายตามเวปไซต์ http://dictionary.sanook.com/search/dict-th-th-royal-institute/) เม่ือถามถึงความรู้สึกที่ได้ทาโครงการโรงเรียนแห่งความซ่ือตรง ผูแ้ ทนนักเรียนให้ ความเห็นไวใ้ นสองระดบั คือ การมองในระดบั บคุ คล และการมองในระดบั สงั คมภาพรวม สาหรบั การ มองในระดบั บุคคลเฉพาะความรูส้ ึกของตนเองนนั้ นกั เรียนส่วนใหญ่รูส้ ึกดีท่ีไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการ บางส่วน รูส้ ึกเหน่ือย แตก่ ็สนกุ ไดค้ วามรู้ คมุ้ คา่ รูส้ ึกว่าตนเองมีวินยั มีความรบั ผิดชอบมากขนึ้ มีความภาคภูมิใจ ในตนเองและผลงานท่ีทา รู้สึกถึงความ สามัคคีและชอบการทางานเป็ นกลุ่ม นอกจากนีย้ งั รูส้ ึกมีแรงผลักดนั ท่ีจะทางาน ใหส้ าเร็จ ในขณะท่ีมีนักเรียนส่วนหน่ึงท่ี มองไกลออกไป รู้สึกถึงความเป็ นผู้นาท่ี นอกจากประพฤติตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดีแลว้ ยงั สามารถทาใหร้ ุน่ นอ้ งมีความซ่ือตรงดว้ ย รวมถึงตระหนักว่าหากขาดความซ่ือตรง แลว้ ประเทศไทยก็จะไมเ่ จรญิ กา้ วหนา้
33 ภาพท่ี 11 และ 12 กิจกรรมการถอดบทเรียนหลงั จากการดาเนินกิจกรรมเสรจ็ สิน้ เม่ือถามถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น ผูแ้ ทนนกั เรียนใหค้ วามเห็นไว้ 3 แนวทาง ดงั นีค้ ือ แนวทางแรกไม่มีอะไรตอ้ งปรบั ปรุงอีกเน่ืองจากไดท้ าอยา่ งดีท่ีสดุ แลว้ แนวทางท่ีสองซ่งึ ม่งุ ม่นั จะทาลดลง คือ ลดความเกียจครา้ นลง และแนวทางสดุ ทา้ ยท่ีมงุ่ ม่นั จะทาเพ่ิมขนึ้ หรือทาใหด้ ีขนึ้ ก็คอื การตีความคาว่า “ความซ่ือตรง” ให้ชัดเจนย่ิงขึน้ ก่อนลงมือดาเนินกิจกรรมและจัดการความคิดเห็นท่ีแตกต่างให้ลงตัว นอกจากนีย้ ังมีความเห็นว่าตอ้ งปรบั ปรุงความคิด ทศั นคติ และพฤติกรรมของตนเอง ตอ้ งเพ่ิมความ รบั ผิดชอบ เพ่ิมความกระตือรือรน้ ความขยนั ม่งุ ม่นั ทางานใหส้ าเร็จ ในการทางานเป็นกล่มุ ตอ้ งเพ่ิม ความสามคั คี ความรว่ มมือ ชว่ ยกนั ทางาน เพ่มิ ระบบและระเบยี บในการทางาน รูจ้ กั การบรหิ ารเวลาและ จดั สรรหนา้ ท่ีใหก้ ับสมาชิกในกล่มุ และในการนาเสนอผลงานตอ้ งปรบั ปรุงเร่ืองการเตรียมความพรอ้ ม ตลอดจนความกลา้ ในการแสดงออกดว้ ย เม่ือถามถึงวิธีทีจ่ ะทาให้คนมีความซ่ือตรง ผแู้ ทนนกั เรียนไดใ้ หค้ วามเห็นว่า ตอ้ งเร่มิ จาก ตนเองทาตนเป็นแบบอย่างท่ีดีใหแ้ กผ่ อู้ ่ืน อีกทงั้ ยงั ไดเ้ สนอวิธีหรือมาตรการในการสรา้ งความซ่ือตรงใหแ้ ก่ ผอู้ ่ืน ดว้ ยการใหผ้ อู้ าวโุ สกระทาตนเป็นแบบอย่างท่ีดีในสงั คม เสนอใหส้ รา้ งกฎ ระเบียบ กตกิ าเพ่ือเป็น กรอบใหแ้ ก่สงั คม เสนอใหม้ ีการใหค้ วามรู้ และสรา้ งความตระหนกั ถึงความสาคญั ของ “ความซ่ือตรง” นอกจากนีย้ งั ตอ้ งเสรมิ สรา้ งความคดิ เร่ืองซ่ือตรงดว้ ย โดยใชว้ ธิ ีปรบั ปลกุ กระตนุ้ ทศั นคตสิ าหรบั กลมุ่ คนท่ี มีความซ่ือตรงเป็นพืน้ ฐานอย่แู ลว้ ส่วนคนท่ีไม่มีพืน้ ฐานดา้ นความซ่ือตรงก็ใชว้ ิธีปลูกฝังและสรา้ งความ ซ่ือตรงทงั้ ในระดบั จติ สานกึ และระดบั จติ ใตส้ านึก
34 และสดุ ทา้ ยเม่ือถามวา่ จะนาอะไรไปใช้ได้บ้าง ผแู้ ทนนกั เรียนมีความเห็นวา่ จะนาทกุ อยา่ ง ท่ีไดเ้ รียนรูจ้ ากโครงการไปใช้ ไมว่ า่ จะเป็นความซ่ือตรง แนวคดิ และประสบการณท์ ่ีไดร้ บั ความมีระเบียบ วินยั ความตรงตอ่ เวลา ความสามคั คี ความรบั ผิดชอบ ความกลา้ แสดงออก การทางานอย่างเป็นระบบ และ จะนาความรูท้ ่ีไดร้ บั ไปเผยแพร่ต่อดว้ ย นอกจากนีย้ ังมีผแู้ ทนนกั เรียนบางคนท่ีจะนาเงินสนบั สนนุ โครงการสว่ นท่ีเหลืออยไู่ ปใช้ 6. ผลการประเมนิ ตนเองของนักเรียนก่อนและหลังดาเนินกจิ กรรม ก่อนเร่ิมดาเนินกิจกรรม ทีมงานไดจ้ ดั ทาแบบประเมินก่อนดาเนินกิจกรรมเพ่ือใหก้ ล่มุ เป้าหมาย ทาการประเมินความรูแ้ ละความเขา้ ใจตลอดจนพฤติกรรมท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ความซ่ือตรง นกั เรียนผตู้ อบแบบ ประเมินจากโรงเรียนพะเยาพิทยาคมประมาณ 23-30 คน ส่วนโรงเรียน เฉลิมพระเกียรตฯิ จานวน 48-53 คน ตาราง 13 สรุปจานวนนกั เรียนผตู้ อบแบบสอบถาม โรงเรยี น จานวนผู้ตอบ (คน) ก่อนดาเนินกจิ กรรม หลังดาเนินกิจกรรม พะเยาพทิ ยาคม เฉลมิ พระเกียรตฯิ 30 23 48 53 6.1 ผลประเมนิ ตนเองความคิดเหน็ เกยี่ วกับความซอ่ื ตรงก่อนและหลังดาเนินกิจกรรม ความคิดเห็นเก่ียวกับความซ่ือตรง แบ่งไดเ้ ป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือประเด็นความคิดเห็นท่ี สอดคลอ้ งกับความซ่ือตรง กับความคิดเห็นท่ีขัดแยง้ กับความซ่ือตรง โดยแบง่ ผลการวดั ไดเ้ ป็น 3 ระดบั ไดแ้ ก่ มีความคิดเห็นสอดคลอ้ งในระดบั นอ้ ย (ค่าเฉล่ีย 1.00-1.99) สอดคลอ้ งปานกลาง (คา่ เฉล่ีย 2.00- 2.99) และสอดคลอ้ งในระดบั มาก (คา่ เฉล่ีย 3.00-4.00) โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม โรงเรียนพะเยาพิทยาคม ในภาพรวมความคิดเห็นท่ีสอดคลอ้ งกบั ความซ่ือตรงก่อนการ ทากิจกรรมอย่ทู ่ีระดบั มาก (คา่ เฉล่ีย 3.19) หลงั ทากิจกรรมอย่ทู ่ีระดบั มากเช่นกันโดยมีคา่ เฉล่ียเพ่ิมขึน้ (คา่ เฉล่ีย 3.33) โดยความคดิ เห็นท่ีไดค้ า่ เฉล่ียสงู สดุ และต่าสดุ ทงั้ กอ่ นและหลงั ทากิจกรรมเป็นความคดิ เห็น เดียวกัน ความคิดเห็นท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ นักเรียนเห็นความความซ่ือตรงเป็นเร่ืองสาคญั ในทุกสงั คม (ก่อนดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ีย 3.57 และภายหลังดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ียเพ่ิมขึ้นท่ี 3.77 ) สว่ นความคดิ เหน็ ท่ีมีคา่ เฉล่ียต่าสดุ นนั้ อยใู่ นระดบั ปานกลาง คือ การฝึกตนใหเ้ กิดความซ่ือตรงเป็นเร่ืองยาก แตต่ อ้ งอดทนทา (ก่อนดาเนนิ กิจรรมมีคา่ เฉล่ีย 2.48และภายหลงั ดาเนนิ กิจกรรมมีคา่ เฉล่ียเพ่ิมขนึ้ ท่ี 2.74)
35 สาหรบั ความคดิ เห็นท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรง ก่อนและหลงั การทากิจกรรม นกั เรียนตา่ งมี ความคิดเห็นท่ีขดั แยง้ กับความซ่ือตรงอยู่ท่ีระดบั นอ้ ย โดยหลงั ทากิจกรรมมีระดบั คะแนนความคิดเห็นท่ี ขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงลดลง (ก่อนดาเนินกิจกรรมมีคา่ เฉล่ีย 1.93 และหลงั ทากิจกรรมคา่ เฉล่ีย 1.85) โดย ความคิดเห็นท่ีไดค้ ่าเฉล่ียสูงสดุ และต่าสุด ทงั้ ก่อนและหลังทากิจกรรมเป็นความคิดเห็นเดียวกัน ความ คดิ เห็นท่ีมีคา่ เฉล่ียสงู สดุ นกั เรียนเห็นดว้ ยในระดบั ปานกลาง คือ การตกั เตือนผทู้ ่ีมีความประพฤตไิ มซ่ ่ือตรง อาจนาความเดือดรอ้ นมาสู่ตนได้ (ก่อนดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ีย 2.72 และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมมี คา่ เฉล่ียเพ่ิมขนึ้ ท่ี 2.91) ส่วนความคิดเห็นท่ีมีคา่ เฉล่ียต่าสุดนนั้ นกั เรียนมีความคิดเห็นสอดคลอ้ งในระดบั นอ้ ย คือ การทจุ ริต/คอรปั ช่นั เป็นส่ิงจาเป็นท่ีทาใหเ้ กิดการพฒั นา (ก่อนดาเนินกิจรรมมีคา่ เฉล่ีย 1.37 และ ภายหลังดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ียลดลงท่ี 1.35) นอกจากนี้ หลงั ดาเนินกิจกรรมมีอีก 2 ความคิดเห็นท่ี ระดบั คา่ เฉล่ียอยทู่ ่ี 1.35 เชน่ กนั ไดแ้ ก่ การลอกขอ้ สอบถือเป็นเร่ืองปกตทิ ่ีทาได้ และแมผ้ ใู้ หญ่จะทาเร่ืองไม่ ดีบา้ งก็ไมเ่ ป็นไร รายละเอียด ดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ตาราง 14 สรุปผลความคิดเห็นดา้ นความซ่ือตรงของนกั เรียนโรงเรยี นพะเยาพิทยาคม เปรยี บเทียบก่อนและหลงั ดาเนินกิจกรรม ประเด็น Mean โรงเรยี นพะเยาพิทยาคม 3.19 กอ่ น หลงั ความคดิ เห็นทีส่ อดคล้อง 3.57 N Std. Deviation Mean N Std. Deviation กบั ความซ่อื ตรง 3.23 30 0.48 3.33 23 0.47 ความซอ่ื ตรงเป็นเรอื่ งสาคญั 3.43 ในทกุ สงั คม 2.48 30 0.82 3.77 22 0.53 การขาดความซือ่ ตรงทาให้ 3.17 สงั คมขาดความเจรญิ กา้ วหนา้ 30 0.90 3.61 23 0.50 ดว้ ย เมื่อทารายงานไมเ่ สรจ็ 30 0.57 3.09 23 0.90 ควรสารภาพกบั ครู 29 1.02 2.74 23 1.14 แมจ้ ะตอ้ งถกู ตาหนิ/ทาโทษ 30 0.83 3.43 23 0.73 การฝึกตนใหเ้ กดิ ความซอื่ ตรง เป็นเรอื่ งยาก แตต่ อ้ งอดทนทา การทาผดิ ระเบียบของโรงเรยี น ถือเป็นเรอ่ื งทไี่ มค่ วรทา
36 ประเดน็ โรงเรยี นพะเยาพิทยาคม กอ่ น หลงั Mean N Std. Deviation Mean N Std. Deviation 1.93 ความคดิ เห็นท่ีขดั แยง้ กับ 30 0.52 1.85 23 0.29 ความซ่ือตรง นกั การเมืองจะโกงบา้ ง 1.83 30 0.83 1.65 23 0.71 แตง่ านสาเรจ็ เป็นเรอื่ งที่ สามารถกระทาได้ การลอกการบา้ นเพ่ือนเป็นเรอื่ ง จาเป็น หากถงึ กาหนดสง่ 2.57 30 0.77 2.43 23 0.66 การบา้ นแลว้ ยงั ทาไมเ่ สรจ็ การลอกขอ้ สอบ ถือเป็นเรอื่ ง 1.60 30 0.86 1.35 23 0.49 ปกติท่ที าได้ เม่ือพบเห็นการกระทาที่ 2.07 30 0.79 1.96 23 0.64 ไมซ่ ื่อตรงของผอู้ ืน่ ควรวางเฉย เพราะไมใ่ ช่เรอื่ งของตน การตกั เตอื นผทู้ ี่มคี วาม 2.72 29 0.88 2.91 23 0.79 ประพฤติไมซ่ ่ือตรง อาจนา ความเดือดรอ้ นมาสตู่ นได้ ถา้ เราอยใู่ นสงั คมทม่ี แี ตค่ น 1.90 30 0.85 1.78 23 1.04 ไมซ่ อื่ ตรง เราก็ควรปฏิบตั ิตาม ดว้ ยเช่นกนั การทจุ รติ /คอรปั ช่นั เป็น 1.37 30 0.81 1.35 23 0.65 สงิ่ จาเป็นทีท่ าใหเ้ กดิ การพฒั นา 30 0.68 1.35 23 0.57 แมผ้ ใู้ หญ่จะทาเรอ่ื งไมด่ ีบา้ ง 1.40 ก็ไมเ่ ป็นไร
37 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรตฯิ โรงเรยี นเฉลมิ พระเกียรตฯิ ในภาพรวมความคิดเห็นท่ีสอดคลอ้ งกบั ความซ่ือตรงก่อนการทา กิจกรรมอย่ทู ่ีระดบั มาก (คา่ เฉล่ีย 3.51) หลงั ทากิจกรรมอย่ทู ่ีระดบั มากเชน่ กนั โดยมีคา่ เฉล่ียลดลง (คา่ เฉล่ีย 3.44) โดยความคิดเห็นท่ีไดค้ ่าเฉล่ียสงู สดุ และต่าสดุ ทงั้ ก่อนและหลงั ทากิจกรรมเป็นความคิดเห็นเดียวกัน ความคิดเห็นท่ีมีค่าเฉล่ียสงู สุดอย่ใู นระดบั มากเป็นความคิดเห็นเดียวกันกับโรงเรียนพะเยาพิทยาคม คือ นักเรียนเห็นความความซ่ือตรงเป็นเร่ืองสาคัญในทุกสังคม (ก่อนดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ีย 3.92 และ ภายหลงั ดาเนินกิจกรรมมีคา่ เฉล่ียเพ่ิมขึน้ ท่ี 3.83) ส่วนความคิดเห็นสอดคลอ้ งกับความซ่ือตรงท่ีมีคา่ เฉล่ีย ต่าสดุ นนั้ ยงั อย่ใู นระดบั มาก มี 2 ความคิดเห็นท่ีระดบั คะแนนเท่ากนั (คา่ เฉล่ีย 3.19) คือ การฝึกตนใหเ้ กิด ความซ่ือตรงเป็นเร่อื งยากแตต่ อ้ งอดทนทา และการทาผิดระเบียบของโรงเรยี นถือเป็นเร่อื งท่ีไมค่ วรทา สาหรบั ความคิดเห็นท่ีขดั แยง้ กับความซ่ือตรง ก่อนและหลงั การทากิจกรรม นกั เรียนต่างมี ความคิดเห็นท่ีขัดแยง้ กับความซ่ือตรงอยู่ท่ีระดับน้อย โดยหลังทากิจกรรมมีระดับคะแนนความคิดเห็น ท่ีขดั แยง้ กับความซ่ือตรงลดลง (ก่อนดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ีย 1.93 และหลังทากิจกรรมค่าเฉล่ีย 1.86) โดยความคิดเห็นท่ีไดค้ ่าเฉล่ียสูงสดุ และต่าสดุ ทงั้ ก่อนและหลงั ทากิจกรรมเป็นความคิดเห็นเดียวกนั ความ คิดเห็นท่ีมีคา่ เฉล่ียสูงสดุ นกั เรียนเห็นดว้ ยในระดบั ปานกลาง คือ การตกั เตือนผทู้ ่ีมีความประพฤติไม่ซ่ือตรง อาจนาความเดือดรอ้ นมาสตู่ นได้ (กอ่ นดาเนินกิจกรรมมีคา่ เฉล่ีย 2.58 และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมมีคา่ เฉล่ีย ลดลงท่ี 2.44) ส่วนความคิดเห็นท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุดนัน้ นักเรียนมีความคิดเห็นสอดคลอ้ งในระดับน้อย คือ การลอกขอ้ สอบ ถือเป็นเร่ืองปกติท่ีทาได้ (ก่อนดาเนินกิจรรมมีค่าเฉล่ีย 1.46 และภายหลงั ดาเนินกิจกรรม มีคา่ เฉล่ียลดลงท่ี 1.42) รายละเอียด ดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ตาราง 15 สรุปผลความคิดเหน็ ดา้ นความซ่ือตรงของนกั เรยี นโรงเรียนเฉลมิ พระเกียรตฯิ เปรียบเทียบก่อนและหลงั ดาเนนิ กิจกรรม ประเดน็ Mean โรงเรียนเฉลิมพระเกยี รติ 3.51 กอ่ น หลัง ความคดิ เหน็ ท่ีสอดคลอ้ ง 3.92 กับความซอ่ื ตรง 3.81 N Std. Deviation Mean N Std. Deviation ความซื่อตรงเป็นเรอ่ื งสาคญั 48 0.38 3.44 52 0.40 ในทกุ สงั คม การขาดความซ่อื ตรงทาใหส้ งั คมขาด 48 0.34 3.83 52 0.38 ความเจรญิ กา้ วหนา้ ดว้ ย 48 0.39 3.56 52 0.69
38 ประเดน็ Mean โรงเรียนเฉลมิ พระเกียรติ 3.43 ก่อน หลงั เม่ือทารายงานไมเ่ สรจ็ ควรสารภาพกบั ครู แมจ้ ะตอ้ ง 3.19 N Std. Deviation Mean N Std. Deviation ถกู ตาหนิ/ทาโทษ 3.19 การฝึกตนใหเ้ กิดความซอื่ ตรง 1.93 48 0.74 3.42 52 0.66 เป็นเรอ่ื งยาก แตต่ อ้ งอดทนทา การทาผิดระเบยี บของโรงเรยี น 48 0.84 3.17 52 0.78 ถือเป็นเรอ่ื งทีไ่ มค่ วรทา 48 0.81 3.23 52 0.92 ความคดิ เหน็ ทข่ี ดั แยง้ 48 0.31 1.86 52 0.48 กับความซือ่ ตรง 48 0.79 1.73 52 0.79 นกั การเมอื งจะโกงบา้ ง แตง่ าน 2.04 สาเรจ็ เป็นเรอื่ งท่ีสามารถกระทาได้ การลอกการบา้ นเพือ่ น เป็นเรอื่ ง 2.50 48 0.61 2.40 52 0.74 จาเป็น หากถงึ กาหนดสง่ การบา้ น 1.46 48 0.68 1.42 52 1.42 แลว้ ยงั ทาไมเ่ สรจ็ 1.77 48 0.69 1.87 52 0.65 2.58 การลอกขอ้ สอบ 1.75 48 0.67 2.44 52 0.91 ถือเป็นเรอื่ งปกตทิ ี่ทาได้ 48 0.93 1.69 52 0.91 48 0.76 1.62 52 0.88 เมือ่ พบเห็นการกระทาท่ีไมซ่ ่อื ตรง 48 0.68 1.69 52 0.83 ของผอู้ ่นื ควรวางเฉย เพราะไมใ่ ช่ เรอ่ื งของตน การตกั เตอื นผทู้ ีม่ คี วามประพฤติ ไมซ่ ื่อตรง อาจนาความเดอื ดรอ้ น มาสตู่ นได้ ถา้ เราอยใู่ นสงั คมที่มแี ตค่ นไมซ่ อื่ ตรง เราก็ควรปฏบิ ตั ิตามดว้ ยเช่นกนั การทจุ รติ /คอรปั ช่นั เป็น 1.58 สง่ิ จาเป็นทที่ าใหเ้ กิดการพฒั นา แมผ้ ใู้ หญ่จะทาเรอ่ื งไมด่ บี า้ ง 1.79 ก็ไมเ่ ป็นไร
39 6.2 ผลประเมินพฤติกรรมตนเองที่เกี่ยวข้องกับความซื่อตรงก่อนและหลังดาเนิน กจิ กรรม ผลประเมินพฤติกรรมเก่ียวกับความซ่ือตรง แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ กล่มุ พฤติกรรมท่ี สอดคลอ้ งกับความซ่ือตรง กบั กลมุ่ พฤติกรรมท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรง โดยแบง่ ผลการวดั ไดเ้ ป็น 5 ระดบั ไดแ้ ก่ มีแนวโนม้ มีพฤติกรรมสอดคลอ้ งในระดบั นอ้ ยท่ีสดุ (คา่ เฉล่ีย 1.00-2.79) สอดคลอ้ งนอ้ ย (คา่ เฉล่ีย 2.80-4.60) สอดคลอ้ งปานกลาง (คา่ เฉล่ีย 4.61-6.40) สอดคลอ้ งในระดบั มาก (คา่ เฉล่ีย 6.41-8.20) และ สอดคลอ้ งมากท่ีสดุ (คา่ เฉล่ีย 8.21-10.00) โรงเรยี นพะเยาพิทยาคม โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม ในภาพรวมนกั เรียนประเมินพฤติกรรมตนเองว่ามีพฤติกรรมใดท่ี ใกลเ้ คียงกับตนเองมากท่ีสดุ นกั เรียนประเมินตนเองอย่ใู นกล่มุ พฤติกรรมท่ีสอดคลอ้ งกบั ความซ่ือตรงทงั้ ก่อนและหลงั การทากิจกรรมอยู่ท่ีระดบั ปานกลาง (ค่าเฉล่ียก่อนดาเนินกิจกรรม 5.76 และหลังดาเนิน กิจกรรมมีคา่ เฉล่ียลดลงเล็กนอ้ ยท่ีระดบั 5.35) โดยความคดิ เห็นท่ีไดค้ า่ เฉล่ียสงู สดุ และต่าสดุ ทงั้ ก่อนและ หลงั ทากิจกรรมเป็นพฤตกิ รรมเดียวกนั พฤตกิ รรมท่ีมีคา่ เฉล่ียสงู สดุ อยใู่ นระดบั มาก คอื ตรงไปตรงมา (กอ่ น ดาเนินกิจกรรมมีค่าเฉล่ีย 7.67 และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมมีคา่ เฉล่ียลดลงท่ี 7.50) ส่วนพฤติกรรมท่ีมี ค่าเฉล่ียต่าสุดนนั้ อย่ใู นระดบั นอ้ ย คือ ไม่ยอมใหเ้ พ่ือนลอกการบา้ น (ก่อนดาเนินกิจรรมมีค่าเฉล่ีย 3.60 และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมมีคา่ เฉล่ียลดลงท่ี 2.95) สาหรับพฤติกรรมท่ีขัดแย้งกับความซ่ือตรง ในภาพรวมนักเรียนประเมินตนเองว่ามี พฤตกิ รรมท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงในระดบั นอ้ ยท่ีสดุ ทงั้ กอ่ นและหลงั การทากิจกรรม (กอ่ นดาเนนิ กิจกรรม มีคา่ เฉล่ีย 2.19 และหลงั ทากิจกรรมคา่ เฉล่ีย 2.50) โดยพฤตกิ รรมท่ีไดค้ า่ เฉล่ียสงู สดุ และต่าสดุ ทงั้ กอ่ นและ หลงั ทากิจกรรมเป็นพฤติกรรมเดียวกัน พฤติกรรมท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงและมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ลอก การบา้ นหรือรายงานของเพ่ือน โดยก่อนดาเนินกิจกรรมถือว่านักเรียนประเมินให้อยู่ในระดบั นอ้ ย (มี ค่าเฉล่ีย 4.53) แต่ภายหลงั ดาเนินกิจกรรมพฤติกรรมท่ีไม่สอดคลอ้ งกับความซ่ือตรงในขอ้ นีก้ ลบั เพ่ิมขึน้ มากจนอย่ใู นระดบั ปานกลาง (มีค่าเฉล่ียเพ่ิมขึน้ ท่ี 6.14) ส่วนพฤติกรรมไม่ซ่ือตรงท่ีมีคา่ เฉล่ียต่าสุดก่อน ดาเนินกิจกรรมอย่ใู นระดบั นอ้ ยท่ีสุด คือ บิดเบือน/นาขอ้ มลู ผอู้ ่ืนมาเปล่ียนช่ือเป็นของตน (คา่ เฉล่ีย 1.23) และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมพฤติกรรมท่ีไม่สอดคลอ้ งกับความซ่ือตรงท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ลกั เล็กขโมย นอ้ ย เชน่ เงินหรอื ส่ิงของ (คา่ เฉล่ีย 1.52) รายละเอียด ดงั ตารางตอ่ ไปนี้
40 ตาราง 16 สรุปผลการประเมินพฤตกิ รรมตนเองดา้ นความซ่ือตรง ของนกั เรยี นโรงเรยี นพะเยาพิทยาคม เปรยี บเทียบก่อนและหลงั ดาเนินกิจกรรม ประเด็น Mean โรงเรียนพะเยาพิทยาคม 5.76 ก่อน หลัง พฤติกรรมท่สี อดคลอ้ ง 7.23 N Std. Deviation Mean N Std. Deviation กับความซอ่ื ตรง 30 1.26 5.35 22 1.52 30 2.30 7.09 22 1.77 มีความซอ่ื สตั ย์ 30 1.99 7.50 22 1.76 30 2.33 6.86 22 2.18 ตรงไปตรงมา 7.67 30 2.12 5.57 21 2.22 28 2.42 4.86 22 1.72 ยดึ ม่นั ในสง่ิ ถกู ตอ้ ง/ชอบธรรม 6.73 30 2.80 4.32 22 2.48 30 2.68 2.95 22 2.36 เป็นอาสาสมคั ร ชว่ ยเหลอื 6.37 30 3.14 4.86 22 3.34 งานสว่ นรวม 30 2.49 4.23 22 2.65 ยดึ ถือศลี 5 ในการดารงชีวติ 5.32 30 0.64 2.50 22 1.35 คอยหา้ มปรามเพื่อน 4.50 ทค่ี ิดจะทจุ รติ การสอบ 30 1.83 6.14 22 2.05 30 1.57 3.18 22 1.76 ไมย่ อมใหเ้ พือ่ นลอกการบา้ น 3.60 ไมย่ อมรบั การทจุ รติ 5.67 ทกุ ประเภท 4.67 2.19 กลา้ แจง้ เบาะแสเมอื่ พบเห็น เหตกุ ารณก์ ารทจุ รติ เช่น แจง้ ครูเมื่อพบวา่ เพ่อื นทจุ รติ การสอบ พฤติกรรมทข่ี ัดแยง้ กบั ความซอ่ื ตรง ลอกการบา้ นหรอื รายงาน 4.53 ของเพอ่ื น แอบด/ู ลอกขอ้ สอบเพอ่ื น 2.93 แอบนาเนอื้ หาเขา้ หอ้ งสอบ 1.73 30 1.23 2.50 22 1.79
41 ประเดน็ โรงเรียนพะเยาพทิ ยาคม กอ่ น หลงั ตดิ สนิ บน Mean N Std. Deviation Mean N Std. Deviation ทจุ รติ /ฉอ้ โกง (เงิน,สงิ่ ของ, ยมื ของแลว้ ไมค่ นื ) 1.33 30 0.88 1.55 22 1.76 ลกั เลก็ ขโมยนอ้ ย (เงิน,สงิ่ ของ) 1.27 30 0.52 1.55 22 1.73 อยากไดข้ องของผอู้ ่นื 1.50 30 1.69 1.52 21 1.83 กีดกนั /แบง่ พรรคแบง่ พวก 1.77 30 1.47 1.91 22 1.92 บดิ เบือน/นาขอ้ มลู ผอู้ น่ื 2.20 30 1.44 1.82 22 1.81 มาเปลย่ี นชื่อเป็นของตน 1.23 30 0.50 1.67 21 1.77 พดู ปด/โกหก 2.73 30 1.25 3.41 22 2.01 2.87 30 1.97 2.18 22 1.99 หาเรอ่ื งทะเลาะกบั ผอู้ ื่น โรงเรยี นเฉลมิ พระเกียรตฯิ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรตฯิ ในภาพรวมนกั เรียนประเมินพฤตกิ รรมตนเองวา่ มีพฤตกิ รรมใด ท่ีใกลเ้ คียงกบั ตนเองมากท่ีสดุ นกั เรียนประเมินตนเองอย่ใู นกล่มุ พฤตกิ รรมท่ีสอดคลอ้ งกบั ความซ่ือตรงทงั้ ก่อนและหลงั การทากิจกรรมอยู่ท่ีระดบั ปานกลาง (ค่าเฉล่ียก่อนดาเนินกิจกรรม 5.76 และหลังดาเนิน กิจกรรมมีคา่ เฉล่ียเพ่ิมขึน้ เล็กนอ้ ยท่ีระดบั 5.83) โดยพฤติกรรมท่ีไดค้ า่ เฉล่ียสูงสุดก่อนทากิจกรรมอยู่ใน ระดบั มาก คอื มีความซ่ือสตั ย์ (คา่ เฉล่ีย 7.29) และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมพฤตกิ รรมท่ีมีคา่ เฉล่ียสงู สดุ และ อยู่ในระดบั มาก คือ ตรงไปตรงมา (ค่าเฉล่ีย 7.38) ส่วนพฤติกรรมท่ีสอดคลอ้ งกับความซ่ือตรงและมี คา่ เฉล่ียต่าสดุ ก่อนดาเนินกิจกรรมนนั้ อยใู่ นระดบั นอ้ ย คือ กลา้ แจง้ เบาะแสเม่ือพบเห็นเหตกุ ารณก์ ารทจุ ริต เช่น แจง้ ครูเม่ือพบว่าเพ่ือนทุจริตการสอบ ไม่ยอมใหเ้ พ่ือนลอกการบา้ น (ค่าเฉล่ีย 4.44) ส่วนหลังทา กิจกรรม พฤติกรรมท่ีสอดคลอ้ งกับความซ่ือตรงแต่มีค่าเฉล่ียต่าสุดอยู่ในระดบั นอ้ ย คือ คอยหา้ มปราม เพ่ือนท่ีคดิ จะทจุ รติ การสอบ (คา่ เฉล่ีย 3.74) สาหรับพฤติกรรมท่ีขัดแย้งกับความซ่ือตรง ในภาพรวมนักเรียนประเมินตนเองว่ามี พฤตกิ รรมท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงในระดบั นอ้ ยท่ีสดุ ทงั้ กอ่ นและหลงั การทากิจกรรม (กอ่ นดาเนินกิจกรรม
42 มีคา่ เฉล่ีย 2.08 และหลงั ทากิจกรรมคา่ เฉล่ีย 2.44) โดยพฤตกิ รรมขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงท่ีไดค้ า่ เฉล่ียสงู สุด ก่อนทากิจกรรมอยใู่ นระดบั ปานกลาง คอื ลอกการบา้ นหรือรายงานของเพ่ือนลอกการบา้ นหรือรายงานของ เพ่ือน (คา่ เฉล่ีย 4.90) สว่ นภายหลงั ดาเนนิ กิจกรรมพฤติกรรมท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงท่ีมีคา่ เฉล่ียสงู สุดอยู่ ในระดบั ปานกลาง คือ หาเร่ืองทะเลาะกบั ผอู้ ่ืน (คา่ เฉล่ีย 5.52) สว่ นพฤตกิ รรมขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงท่ีมี คา่ เฉล่ียต่าสุดก่อนดาเนินกิจกรรมอย่ใู นระดบั นอ้ ยท่ีสดุ คือ บิดเบือน/นาขอ้ มลู ผอู้ ่ืนมาเปล่ียนช่ือเป็นของ ตน (คา่ เฉล่ีย 1.10) และภายหลงั ดาเนินกิจกรรมพฤติกรรมท่ีขดั แยง้ กบั ความซ่ือตรงท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสดุ คือ ทจุ รติ /ฉอ้ โกง เชน่ เงิน ส่ิงของยืมของแลว้ ไมค่ นื (คา่ เฉล่ีย 1.27) รายละเอียด ดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ตาราง 17 สรุปผลการประเมนิ พฤตกิ รรมตนเองดา้ นความซ่ือตรง ของนกั เรียนโรงเรียนเฉลมิ พระเกียรตฯิ เปรยี บเทียบกอ่ นและหลงั ดาเนินกิจกรรม ประเดน็ โรงเรียนเฉลิมพระเกยี รตฯิ กอ่ น หลงั พฤติกรรมทส่ี อดคล้อง Mean N Std. Deviation Mean N Std. Deviation กบั ความซอ่ื ตรง 5.76 48 1.34 5.83 50 1.39 มคี วามซ่อื สตั ย์ 7.29 48 1.87 7.02 50 1.61 ตรงไปตรงมา 6.73 48 2.02 7.38 50 2.30 ยดึ ม่นั ในสง่ิ ถกู ตอ้ ง/ชอบธรรม 6.69 48 2.16 7.16 50 2.05 เป็นอาสาสมคั ร ชว่ ยเหลอื 6.81 48 2.27 5.70 50 2.15 งานสว่ นรวม ยดึ ถือศลี 5 ในการดารงชีวติ 5.38 48 2.21 4.84 50 2.05 คอยหา้ มปรามเพ่อื น 5.54 48 2.02 3.74 50 2.22 ทคี่ ดิ จะทจุ รติ การสอบ ไมย่ อมใหเ้ พอื่ นลอกการบา้ น 3.56 48 2.12 5.34 50 2.98 ไมย่ อมรบั การทจุ รติ 5.44 48 2.81 4.48 50 2.67 ทกุ ประเภท 4.44 48 2.34 6.84 49 2.44 กลา้ แจง้ เบาะแสเมื่อพบเห็น เหตกุ ารณก์ ารทจุ รติ เชน่ แจง้ ครูเม่อื พบวา่ เพอื่ นทจุ รติ การสอบ
43 ประเดน็ โรงเรียนเฉลิมพระเกยี รตฯิ กอ่ น หลัง พฤติกรรมทขี่ ัดแยง้ Mean N Std. Deviation Mean N Std. Deviation กบั ความซือ่ ตรง 2.08 48 0.62 2.44 50 0.73 ลอกการบา้ นหรอื รายงาน ของเพื่อน 4.90 48 1.56 3.68 50 2.05 แอบด/ู ลอกขอ้ สอบเพือ่ น 2.92 48 1.52 2.18 49 1.69 แอบนาเนอื้ หาเขา้ หอ้ งสอบ 2.23 48 1.53 1.57 49 1.41 ตดิ สนิ บน 1.29 48 0.68 1.71 49 1.42 1.52 48 ทจุ รติ /ฉอ้ โกง (เงิน,สงิ่ ของ, 1.42 48 1.11 1.27 49 0.70 ยมื ของแลว้ ไมค่ ืน) 1.16 1.59 49 1.30 ลกั เลก็ ขโมยนอ้ ย (เงิน,สง่ิ ของ) อยากไดข้ องของผอู้ น่ื 1.50 48 0.94 1.94 50 1.26 กีดกนั /แบง่ พรรคแบง่ พวก 1.56 48 0.84 1.38 50 1.32 1.10 48 บิดเบือน/นาขอ้ มลู ผอู้ ื่น 2.67 48 0.30 3.78 50 1.70 มาเปลย่ี นช่ือเป็นของตน 1.60 2.12 50 1.80 พดู ปด/โกหก หาเรอื่ งทะเลาะกบั ผอู้ ่ืน 1.74 47 1.43 5.52 50 1.71
Search