แผนผังการจดั สง่ รายงานการประเมินผลการควบคุมภายในของ สพท.และสถานศึกษา แบบใหม่ สตง. รมว.ศธ. สตง สพฐ. สพพส พบ.สพ สำเนา ปอ.1 ฐ. ให้ สพฐ. ทราบ สพท. - ส่งเฉพาะแบบ ปอ.1 ทุกเขต - สว่ นแบบ ปอ.2 สำเนา ปอ.1 แบบ ปอ.3 และ แบบ ให้ สพท. ทราบ ปส. เก็บไว้ทห่ี นว่ ยงาน สตง./สตง.ภมู ิภาค สถานศกึ ษา - ส่งเฉพาะแบบ ปอ.1 ทุกแห่ง - สว่ น แบบ ปอ.2 และ แบบ ปอ.3 เก็บไวท้ ี่ หน่วยงาน หมายเหตุ 1. ให้ สพท. และสถานศึกษา ถือเสมอื นเป็นหน่วยรับตรวจ 2. แบบรายงานที่ สพท. และสถานศึกษา จะต้องส่ง สตง./สตง. ภมู ิภาค คือ แบบ ปอ.1 ส่วนแบบ ปอ.2 และแบบ ปอ.3 เกบ็ ไว้ทห่ี นว่ ยงาน 3. การจัดสง่ รายงาน (เฉพาะ ปอ.1) มีแนวทาง ดงั น้ี 3.1 สถานศึกษาจดั ส่งรายงานให้ สตง./สตง. ภมู ภิ าค แลว้ สำเนาให้ สพท. ทราบ 3.2 สพท. จดั สง่ รายงานให้ สตง./สตง. ภูมภิ าค แล้วสำเนาให้ สพฐ. ทราบ 4. สพท. ไมต่ อ้ งประมวลรายงานของสถานศึกษา 5. กำหนดใหท้ กุ หนว่ ยงานจัดส่งรายงานภายในวันที่ 30 ธันวาคม ของทุกปี
แบบ ปอ.1 หนังสือรบั รองการประเมินผลการควบคุมภายใน เรียน (คณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน/ผ้กู ำกบั ดูแล/คณะกรรมการตรวจสอบหรอื คณะกรรมการ ตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ) .................(ชอ่ื หนว่ ยรบั ตรวจ).......................................ได้ประเมนิ ผลการควบคมุ ภายในสำหรับปี สิน้ สดุ วนั ที่...........เดอื น ..........................พ.ศ................ดว้ ยวิธกี ารท.่ี .......(ช่อื หนว่ ยรบั ตรวจ)........กำหนด โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือสร้างความม่นั ใจอย่างสมเหตสุ มผล วา่ การดำเนินงานจะบรรลุวัตถุประสงค์ของ การควบคุมภายในดา้ นประสิทธิภาพของการดำเนินงาน และการใช้ทรัพยากร ซึ่งรวมถึงการดูแลรักษาทรัพยส์ ิน การปอ้ งกนั หรอื ลดความผิดพลาด ความเสยี หาย การร่วั ไหล การส้นิ เปลือง หรอื การทจุ ริต ด้านความเชื่อถือ ไดข้ องรายงานทางการเงนิ และการดำเนินงานและด้านการปฏบิ ัติตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คับ มติ คณะรัฐมนตรี และนโยบาย ซ่ึงรวมถงึ ระเบียบปฏบิ ตั ิของฝา่ ยบรหิ าร จากผลการประเมนิ ดงั กล่าว เห็นวา่ การควบคุมภายในของ.........(ชือ่ หน่วยรบั ตรวจ)......................สำหรับปี ส้ินสุดวันท่ี.........เดือน....................พ.ศ.................เป็นไปตามระบบการควบคมุ ภายในกำหนดไว้ มีความเพยี งพอและบรรลุวัตถุประสงค์ของการควบคุมภายในตามท่ีกลา่ วในวรรคแรก ลายมือชือ่ ................................................... (ชื่อหัวหนา้ หน่วยรับตรวจ) ตำแหนง่ .................................................... วันท่.ี .........เดอื น...................พ.ศ..............
กรณีมีจดุ อ่อนของการควบคุมภายใน สามารถปรับแบบข้างต้น โดยอธิบายเพิ่มเติมในวรรคสาม ดงั นี้ จากผลการประเมินดงั กล่าวเหน็ วา่ การควบคุมภายในของ (ชอ่ื หน่วยรับตรวจ) สำหรบั ปสี น้ิ สดุ วนั ท่.ี ............เดอื น..................พ.ศ................เปน็ ไปตามระบบการควบคุมภายในท่กี ำหนดไว้ มีความเพยี งพอและบรรลวุ ัตถุประสงค์ของการควบคุมภายในตามท่กี ลา่ วในวรรคแรก อนึ่ง การควบคุมภายในยังคงมีจดุ อ่อนทมี่ ีนัยสำคญั ดังนี้ 1. .................................................................................................................................................... ........................................................................................................................... ............................................ ...................................................................................................................... ................................................. 2. ..................................................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................. ..................... ....................................................................................................................................................................... คำอธบิ ายรายงานแบบ ปอ.1 1. ช่อื รายงาน หนงั สอื รับรองการประเมินผลการควบคุมภายใน 2. ผรู้ ับรายงาน ไดแ้ ก่ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้กำกบั ดูแลหนว่ ยรบั ตรวจ และคณะกรรมการตรวจสอบ หรอื คณะกรรมการตรวจสอบและประเมนิ ผลภาคราชการ (ถ้ามี) 3. วรรคแรก - ระบุช่ือหน่วยรับตรวจและงวดเวลาของการประเมินระบบการควบคมุ ภายใน - ระบขุ อบเขตของการประเมินการควบคุมภายใน ตามทหี่ น่วยรับตรวจกำหนด 4. วรรคสอง - สรปุ ผลการประเมินระบบการควบคุมภายใน ว่าเปน็ ไปตามที่หนว่ ยรบั ตรวจกำหนด มคี วามเพียงพอ บรรลุวตั ถุประสงค์ของการควบคุมภายในหรือไม่ 5. ผรู้ ายงาน ได้แก่ หวั หน้าหนว่ ยรับตรวจ พรอ้ มท้งั ระบุตำแหนง่ และวันทีร่ ายงาน
แบบ ปอ.2 ชอ่ื หน่วยรบั ตรวจ รายงานผลการประเมินองค์ประกอบของการควบคุมภายใน ณ วันท.่ี .........เดือน.....................พ.ศ.................. องคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน ผลการประเมนิ / ข้อสรปุ (1) (2) 1. สภาพแวดล้อมการควบคุม 1.1..................................................................... 1.2..................................................................... 2. การประเมินความเสย่ี ง 2.1..................................................................... 2.2..................................................................... 3. กิจกรรมการควบคมุ 3.1.................................................................... 3.2.................................................................... 4. สารสนเทศและการส่ือสาร 4.1................................................................... 4.2................................................................... 5. การตดิ ตามประเมนิ ผล 5.1.................................................................. 5.2.................................................................. ผลการประเมินโดยรวม ....................................................................................................................................................................... ช่ือผรู้ ายงาน.................................................... (ชื่อหัวหน้าหน่วยรับตรวจ) ตำแหนง่ ........................................................ วนั ท่ี..........เดือน........................พ.ศ..............
คำอธบิ ายรายงาน แบบ ปอ.2 1. ชือ่ หนว่ ยรบั ตรวจ 2. ช่อื รายงาน รายงานผลการประเมินองคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน 3. งวดรายงาน - ระบวุ ันสดุ ท้ายของรอบระยะเวลาในการประเมินองค์ประกอบของการควบคุมภายใน 4. คอลัมภ์ (1) องค์ประกอบของการควบคุมภายใน - ระบขุ อ้ มลู สรปุ การควบคุมภายในของแต่ละองค์ประกอบ 5. คอลัมภ์ (2) ผลการประเมิน/ขอ้ สรุป - ระบุผลการประเมิน/ข้อสรปุ ของแตล่ ะองคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน พร้อมจุดอ่อน หรอื ความเสี่ยงทย่ี ังมีอยู่ 6. สรุปผลการประเมินโดยรวมขององคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน 7. ช่ือผูร้ ายงาน ไดแ้ ก่ หัวหน้าหน่วยรับตรวจ ผู้บริหารสงู สดุ หรอื ผูร้ ับผิดชอบในการปฏิบตั ริ าชการหรอื การบริหารของหน่วยรบั ตรวจ พร้อมระบุตำแหน่ง และวันท่ีรายงาน
แบบ ปอ.3 ชอื่ หน่วยรบั ตรวจ รายงานแผนการปรับปรงุ การควบคุมภายใน ณ วนั ท.่ี .........เดือน....................พ.ศ............ กระบวนการปฏบิ ตั ิงาน/ ความเสีย่ ง งวด/เวลา การปรบั ปรงุ กำหนดเสรจ็ / หมายเหตุ โครงการ/กจิ กรรม/ ทม่ี ีอยู่ ทพ่ี บจดุ ออ่ น การควบคมุ ผรู้ ับผดิ ชอบ ด้านของงานทีป่ ระเมิน และวตั ถุประสงค์ (2) (3) (4) (5) (6) ของการควบคุม (1) ชื่อผรู้ ายงาน................................................. (ชื่อหวั หน้าหน่วยรบั ตรวจ) ตำแหนง่ .................................................... วนั ท.่ี ..........เดือน........................พ.ศ......... คำอธิบายรายงาน แบบ ปอ.3 1. ชอ่ื หน่วยรบั ตรวจ 2. ชื่อรายงาน รายงานแผนการปรบั ปรุงการควบคุมภายใน 3. งวดรายงาน - ระบุวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาของแผนการปรับปรุงการควบคุมภายใน 4. คอลมั น์ (1) กระบวนการปฏิบตั งิ าน/โครงการ.....................และวัตถุประสงคข์ องการควบคมุ - ระบุวตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรมหรอื ดา้ นของงานท่ีกำลังประเมนิ ถ้าเปน็ กระบวนการ ปฏิบตั ิงานหรือ โครงการ ให้ระบุข้ันตอนหลักท่ีสำคัญของกระบวนการปฏบิ ัตงิ านหรอื โครงการน้ัน รวมท้ังวัตถปุ ระสงค์ของแตล่ ะ ขนั้ ตอนหลกั ทั้งน้ี หน่งึ กจิ กรรม/ด้านของงาน ข้ันตอนการปฏิบตั ิงานอาจมีไดห้ ลายวัตถุประสงค์ 5. คอลมั น์ (2) ความเสย่ี งท่ยี ังมอี ยู่
- ระบุความเสย่ี งที่ยงั มีอยู่ โดยสรุปมาจาก แบบ ปย.2 คอลมั น์ (4) 6. คอลัมน์ (3) งวด/เวลาที่พบจดุ อ่อน - ระบุงวด/เวลาที่พบหรือทราบความเสี่ยงท่ียังมีอยู่ ตามที่ระบุในคอลมั น์ (2) 7. คอลมั น์ (4) การปรบั ปรุงการควบคมุ - ระบกุ ารปรับปรุงการควบคุม เพื่อปอ้ งกันหรือลดความเสี่ยงที่ยงั มีอยู่ โดยสรปุ ผลมาจากแบบ ปย.2 คอลัมน์ (5) 8. คอลมั น์ (5) กำหนดเสรจ็ /ผรู้ บั ผดิ ชอบ - ระบผุ ู้รบั ผดิ ชอบในการแกไ้ ขปรบั ปรงุ และวันที่ดำเนินการปรับปรุงแล้วเสรจ็ 9. คอลัมน์ (6) หมายเหตุ - ระบขุ อ้ มลู อน่ื ท่ีต้องการแจง้ ใหท้ ราบ เช่น วธิ ีดำเนนิ การ และเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวข้อง 10. ชือ่ ผรู้ ายงาน ได้แก่ หวั หนา้ หนว่ ยรับตรวจ ผู้บรหิ ารสูงสุด หรอื ผู้รับผดิ ชอบในการปฏิบัติราชการหรอื ฝา่ ยบริหารของหนว่ ยรับตรวจ พร้อมระบตุ ำแหน่งและวนั ท่ีรายงาน แบบ ปย.1
ชื่อส่วนงานย่อย รายงานผลการประเมินองค์ประกอบของการควบคุมภายใน ณ วนั ท.่ี ..........เดือน..........................พ.ศ............... องคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน ผลการประเมิน / ข้อสรุป (1) (2) 1. สภาพแวดลอ้ มการควบคุม 1.1......................................................................... 1.2......................................................................... 2. การประเมนิ ความเส่ียง 2.1......................................................................... 2.2......................................................................... 3. กิจกรรมการควบคมุ 3.1........................................................................ 3.2........................................................................ 4. สารสนเทศและการสื่อสาร 4.1....................................................................... 4.2....................................................................... 5. การติดตามประเมินผล 5.1...................................................................... 5.2...................................................................... ผลการประเมนิ โดยรวม ....................................................................................................................................................................... ชอื่ ผรู้ ายงาน....................................................... (ชื่อหวั หน้าสว่ นงานย่อย) ตำแหนง่ ............................................................. วันที่............เดือน..............................พ.ศ............
คำอธบิ ายรายงาน แบบ ปย.1 1. ช่อื สว่ นงานย่อย 2. ชื่อรายงาน รายงานผลการประเมินองค์ประกอบของการควบคุมภายใน 3. งวดรายงาน - ระบวุ ันสุดท้ายของรอบระยะเวลาในการประเมนิ องคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน 4. คอลมั น์ (1) องค์ประกอบของการควบคุมภายใน - ระบขุ ้อมลู สรุปการควบคุมภายในของแต่ละองค์ประกอบ 5. คอลมั น์ (2) ผลการประเมิน/ข้อสรุป - ระบุผลการประเมนิ /ข้อสรุปของแต่ละองค์ประกอบของการควบคุมภายใน พร้อมจุดออ่ น หรือความเส่ียงทีย่ ังมีอยู่ 6. สรุปผลการประเมนิ โดยรวมขององค์ประกอบของการควบคมุ ภายใน 7. ช่อื ผ้รู ายงาน ได้แก่ หวั หน้าส่วนงานย่อย พร้อมระบุตำแหนง่ และวันท่รี ายงาน
แบบ ปย. 2 ชือ่ ส่วนงานย่อย.................................................... รายงานการประเมินผลและการปรบั ปรงุ การควบคุมภายใน สำหรบั ปสี ิ้นสุดวนั ที่.............เดอื น.............................พ.ศ................ กระบวนการ การควบคมุ การประเมินผล ความเสย่ี ง การปรับปรงุ กำหนดเสรจ็ / หมายเหตุ ปฏบิ ัตงิ าน/ ทมี่ ีอยู่ การควบคุม ทย่ี งั มอี ยู่ การควบคุม ผรู้ ับผดิ ชอบ โครงการ/กิจกรรม/ ด้านของงาน (2) (3) (4) (5) (6) (7) ทป่ี ระเมนิ และวตั ถุประสงค์ของ การควบคุม (1) ชอื่ ผู้รายงาน.................................................... (ชื่อหวั หน้าส่วนงานยอ่ ย) ตำแหนง่ ......................................................... วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ........... คำอธิบายรายงาน แบบ ปย.2 1. ช่ือส่วนงานยอ่ ย 2. ช่อื รายงาน รายงานการประเมินผลและการปรับปรุงการควบคุมภายใน 3. งวดรายงาน - ระบสุ ำหรับงวดปีส้นิ สุดวนั ท่ี 30 เดือนกันยายน พ.ศ. 25..... (กรณีรายงานตามปงี บประมาณ) หรือ วันท่ี 31 เดือนธันวาคม พ.ศ. 25..... (กรณีรายงานตามปปี ฏทิ ิน) 4. คอลมั น์ (1) กระบวนการปฏบิ ัตงิ าน/โครงการ....................และวัตถุประสงค์ของการควบคุม - ระบวุ ัตถุประสงค์ของกิจกรรมหรือดา้ นของงานท่ีกำลังประเมิน ถ้าเปน็ กระบวนการ
ปฏิบตั ิงานหรอื โครงการ ใหร้ ะบขุ น้ั ตอนท่สี ำคัญของกระบวนการปฏบิ ตั ิงานหรอื โครงการนนั้ รวมทง้ั วัตถุประสงค์ ของแตล่ ะขน้ั ตอน ท้ังนี้ หนึ่งกิจกรรม/ด้านของงาน/ข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ าน อาจมีได้หลายวัตถปุ ระสงค์ 5. คอลมั น์ (2) การควบคุมท่ีมอี ยู่ - สรุปขน้ั ตอน/วิธีปฏบิ ตั ิงาน/นโยบาย/กฎหมายทีใ่ ช้ปฏบิ ตั อิ ยู่สำหรบั กิจกรรมตา่ งๆ 6. คอลมั น์ (3) การประเมินผลการควบคุม - ประเมนิ ว่าการควบคุมทีม่ อี ย่ตู ามคอลัมน์ (2) เพียงพอและมปี ระสิทธิผลหรือไม่ โดยตอบ คำถามต่อไปน้ี การกำหนด/สงั่ อยา่ งเปน็ ทางการ ใหป้ ฏบิ ตั ิตามการควบคุมหรอื ไม่ มีการปฏิบตั ิจรงิ ตามการควบคุมหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ิจริง การควบคมุ ช่วยใหง้ านสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดหรอื ไม่ ประโยชนท์ ี่ได้รับ คุม้ ค่ากับต้นทนุ ของการควบคุมหรือไม่ 7. คอลัมน์ (4) ความเสยี่ งท่ยี ังมอี ยู่ - ระบคุ วามเสยี่ งท่ียังมอี ยูท่ ี่มีผลกระทบต่อความสำเร็จตามวตั ถุประสงคข์ องการควบคมุ ด้านใดหนง่ึ หรอื หลายด้าน คือ ดา้ นการดำเนนิ (Operation) = O ดา้ นความถกู ต้องเช่ือถอื ได้ของรายงานทางการเงนิ (Financial Reporting) = F ดา้ นการปฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ (Compliance) = C 8. คอลัมน์ (5) การปรบั ปรุงการควบคุม - เสนอแนะการปรับปรุงควบคุม เพื่อป้องกนั หรือลดความเสยี่ งตามคอลมั น์ (4) 9. คอลัมน์ (6) กำหนดเสร็จ/ผูร้ บั ผดิ ชอบ - ระบผุ ้รู ับผดิ ชอบในการแกไ้ ขปรับปรุง และวนั ที่ดำเนินการปรับปรุงแลว้ เสร็จ 10. คอลัมน์ (7) หมายเหตุ - ระบขุ ้อมลู อน่ื ท่ีตอ้ งการแจ้งใหท้ ราบ เชน่ วธิ ีดำเนินการและเอกสารหลกั ฐานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 11. ชื่อผู้รายงาน ตำแหนง่ และวนั ที่ - ระบชุ ่ือหัวหน้าส่วนงานยอ่ ย ซง่ึ รับผิดชอบในการจัดทำ พร้อมทั้งตำแหนง่ และลงวนั ท่ี เดอื น ปี พ.ศ. ทจ่ี ัดทำเสร็จสน้ิ
แบบ ปส. รายงานผลการสอบทานการประเมินผลการควบคุมภายในของผู้ตรวจสอบภายใน (กรณไี ม่มขี ้อตรวจพบหรือข้อสังเกต) เรยี น (หัวหน้าหน่วยรบั ตรวจ / ผูบ้ รหิ ารสงู สุดของหน่วยรบั ตรวจ) ขา้ พเจ้าไดส้ อบทานการประเมินผลการควบคมุ ภายในของ..............(ชือ่ หน่วยรบั ตรวจ)............. สำหรับปีสน้ิ สดุ วันที.่ ...........เดอื น............................พ.ศ..............การสอบทานได้ปฏิบัติอย่างสมเหตสุ มผล และ ระมดั ระวงั อยา่ งรอบคอบ ผลการสอบทานพบว่า การประเมนิ ผลการควบคมุ ภายในเป็นไปตามวธิ กี าร ทก่ี ำหนด ระบบการควบคุมภายในมคี วามเพยี งพอ และสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการควบคมุ ภายใน ชื่อผ้รู ายงาน.............................................................. (ชือ่ หวั หน้าหน่วยงานตรวจสอบภายใน) ตำแหน่ง.................................................................... วันที่...............เดือน........................พ.ศ....................
กรณีที่ผู้ตรวจสอบภายในสอบทานการประเมินผลการควบคุมภายในแล้วมีขอ้ ตรวจพบหรือ ข้อสงั เกตที่มีนัยสำคัญ ใหร้ ายงานข้อตรวจพบหรอื ข้อสังเกตท่ีมีนัยสำคญั ตอ่ ท้ายผลการสอบทาน ดังนี้ ข้าพเจ้าไดส้ อบทานการประเมนิ ผลการควบคุมภายในของ......................(ช่ือหนว่ ยรับตรวจ).......... สำหรบั ปสี ้ินสุดวันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ............การสอบทานได้ปฏบิ ตั ิอย่างสมเหตุสมผล และ ระมัดระวังอยา่ งรอบคอบ ผลการสอบทานพบว่า การประเมินผลการควบคุมภายในเป็นไปตามวธิ กี าร ที่กำหนด ระบบการควบคมุ ภายในมีความเพียงพอ และสามารถบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ของการควบคุมภายใน อย่างไร ก็ตามมีข้อสงั เกตที่มนี ัยสำคัญ ดงั น้ี ......................................................................................... ................................................. ............................. .......................................................................................... ................................................ ............................. ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... คำอธบิ ายรายงาน แบบ ปส. 1. ชอื่ รายงาน รายงานผลการสอบทานการประเมินผลการควบคุมภายในของผูต้ รวจสอบภายใน 2. ผรู้ บั รายงาน ไดแ้ ก่ หัวหน้าหนว่ ยรับตรวจ ผู้บรหิ ารสูงสดุ หรือผรู้ ับผิดชอบในการปฏิบตั ิ ราชการหรือการบรหิ ารของหน่วยรับตรวจ 3. วรรครายงาน - ระบงุ วดเวลาของการประเมนิ ผลการควบคมุ ภายใน - ระบขุ อบเขตของการสอบทานการประเมนิ ผลการควบคมุ ภายใน วา่ ไดป้ ฏบิ ตั ิอย่างสมเหตสุ มผล และระมดั ระวังอย่างรอบคอบ - สรุปผลการสอบทาน 4. ชอ่ื ผูร้ ายงาน ได้แก่ หวั หน้าหน่วยงานตรวจสอบภายใน หรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมายจากหัวหนา้ ส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยรับตรวจ หรือผู้บรหิ ารสูงสดุ ของหน่วยรบั ตรวจ ใหท้ ำหนา้ ที่ตรวจสอบภายใน หมายเหตุ ดรู ายละเอยี ดได้ทางเว็บไซด์ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน www.oag.go.th
สารสนเทศดา้ นการจัดระบบการควบคุมภายในหน่วยงาน โรงเรียน...................................... ปีการศึกษา........................ ที่ รายการ ผลการปฏบิ ตั ิ 1 แบบ ปอ.1 หนงั สอื รบั รองการประเมินผลการควบคุมภายใน ผลประเมนิ การควบคุมภายใน ของโรงเรียน 2 แบบ ปอ.2 รายงานผลการประเมนิ องค์ประกอบของการควบคุม O เปน็ ไปตามกำหนด ภายใน ณ วันท.่ี ........เดอื น......................................พ.ศ. ........... O มีจุดออ่ นดงั นี้ 5 องค์ประกอบ คือ สภาพแวดล้อมการควบคุมการประเมิน/ ..................................................... การประเมนิ ความเสี่ยง/กจิ กรรมการควบคุม/สารสนเทศและ ..................................................... สือ่ สาร/การติดตามประเมนิ ผล ผลการประเมนิ โดยรวม............... ..................................................... 3 แบบ ปอ.3 รายงานแผนการปรับปรุงการควบคุมภายใน ..................................................... สำหรับปสี นิ้ สดุ ณ วันที.่ ....... เดอื น.....................พ.ศ. ......... ..................................................... ..................................................... 4 แบบ ปย.1 รายงานผลการประเมิน องค์ประกอบการควบคมุ ผลการประเมินโดยรวม............... ภายใน ณ วนั ท.่ี ....... เดือน.....................พ.ศ. ......... ..................................................... ..................................................... 5 แบบ ปย.1 รายงานผลการประเมนิ และปรบั ปรุงการควบคุม ผลการประเมิน............................ ภายใน ณ วนั ท.ี่ ....... เดือน.....................พ.ศ. ......... ..................................................... ..................................................... 6 แบบ ปส. รายงานผลการสอบทานการประเมนิ ผลและควบคมุ ผลการปรบั ปรุง........................... ภายในของผู้ตรวจสอบภายใน (กรณีไมม่ ีขอ้ ตรวจพบหรือ ..................................................... ข้อสังเกต) ..................................................... ผลการสอบทาน มีขอ้ สังเกต ..................................................... .....................................................
4. การรบั สง่ งานในหนา้ ที่ราชการ กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คับ ประกาศ คำสั่ง ทีเ่ ก่ยี วข้อง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรบั ส่งงานในหนา้ ท่ีราชการ พ.ศ. 2524 ผ้ซู ึ่งพน้ จากตำแหน่งสง่ มอบงานในหน้าทใ่ี นตำแหนง่ ตามกำหนดและตามเอกสาร ดังนี้ 1) เอกสารการสง่ มอบงานให้ทำเป็นหนังสือมีข้อความระบุวา่ ไดร้ ับส่งกันระหว่างผู้ใดกับผใู้ ด ในตำแหน่งใด วัน เวลาใด โดยมีพยานรับรองอย่างนอ้ ยสองคน 2) เอกสารการรับส่งงานในหน้าทีใ่ หท้ ำข้ึนเป็นสามฉบับ โดยใหผ้ ู้สง่ และผู้รบั ยดึ ถือไวฝ้ ่ายละ ฉบับส่วนอกี ฉบับหนึ่งให้เกบ็ รักษาไวเ้ ปน็ หลักฐานของทางราชการ ข้อ 31(8) สำหรบั ข้าราชการซ่ึงปฏิบตั ิงานในหนว่ ยงาน ใหส้ ่งงานในหนา้ ทแ่ี ละงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย ซ่ึงยงั ดำเนินการไมแ่ ลว้ เสร็จในขณะที่พ้นจากตำแหน่งแกห่ ัวหน้าหน่วยงาน การส่งงานตามข้อน้ีใหท้ ำเปน็ หนังสอื และใหเ้ สนอผา่ นผู้บังคับบญั ชาตามลำดับขั้นดว้ ย ขอ้ 32 นอกจากจะไดก้ ำหนดไว้เปน็ อยา่ งอน่ื การส่งมอบงานตามระเบียบนี้ ให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของ ผสู้ ่งและผรู้ บั ว่าจะทำหลกั ฐานการสง่ มอบไวเ้ พียงใด แต่สำหรบั งานทีส่ ำคัญดำเนินการไม่แลว้ เสร็จ ต้องทำหลกั ฐาน การสง่ มอบไว้เปน็ หนงั สือ พร้อมท้งั มอบเรื่องราวและเอกสารทเ่ี กย่ี วข้องแกผ่ ูร้ ับตำแหนง่ ด้วย ขนั้ ตอนการดำเนนิ งานรับสง่ ในหน้าทร่ี าชการ 1) ผูส้ ง่ มอบงานดำเนินการสำรวจเรอื่ งและเอกสารท่จี ะต้องส่งมอบ 2) ผสู้ ง่ มอบงานจัดพิมพ์เอกสารการส่งมอบงาน จำนวน 3 ชดุ และใหพ้ ยานลงนามรับรอง อยา่ งน้อย 2 คน 3) นำเสนอการส่งมอบงานในหน้าทรี่ าชการใหผ้ ู้บงั คบั บญั ชารับทราบ 4) ผสู้ ง่ มอบงานเก็บหลักฐานการสง่ มอบงาน 1 ชุด ผรู้ บั มอบงาน 1 ชุด และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ของทางราชการ 1 ชุด
แบบรายงานรบั สง่ มอบงานในหนา้ ท่ีราชการ ตำแหน่ง ……………………………………………………………………………….. ผู้สง่ มอบงาน ……………………………………………………………………………….. ผู้รับมอบงาน ………………………………………………………………………………. ไดส้ ง่ มอบหมายงานในหน้าท่ี ตั้งแต่วันที่ ..................................................... เวลา ……………..น. เป็นต้นไป จนเสรจ็ เรียบรอ้ ย ตามรายการต่อไปนี้ 1. ………………………………………………….. 2. ………………………………………………….. 3. ………………………………………………….. 4. ………………………………………………….. ผสู้ ่งมอบงาน () ผู้รบั มอบงาน () พยาน () พยาน ()
4.1 การเงนิ ก. เงินทเ่ี บกิ ตามงบประมาณรายจา่ ยไม่หมด แผนกการเงนิ เงินเดอื น รายการ เงินอื่น ๆ รวม ค่าใชส้ อย 1. 2. 3. รวม ข. เงินผลประโยชน์แผน่ ดินท่ยี งั ไมไ่ ด้สง่ คลัง รายการ จำนวน หมายเหตุ บาท สต. 1. 2. 3. รวม ค. เงนิ เบด็ เตลด็ และเงนิ ฝาก รายการ ตวั เงินท่ีมีอยู่ รายการใบสำคัญ หมายเหตุ ในวนั รับส่งงาน ทีย่ ังไมไ่ ด้ลงบัญชีจา่ ย ใบยมื หรือใบกู้ 1. เงินโครงการอาหารกลางวัน ฉบบั คดิ เป็นเงิน ฉบับ คดิ เปน็ เงิน 2. 3.
4.2 พัสดุ รายการ รหัส จำนวน หมายเหตุ ที่ 4.3 อาคารสถานที่ 1) …………………………………………. 2) …………………………………………. 3) …………………………………………. 4) ………………………………………….
4.4 รายนามขา้ ราชการ ตำแหนง่ เงินเดือน หมายเหตุ ท่ี ช่อื - ชื่อสกุล ผู้ส่งมอบงาน 4.5 หนังสอื ราชการทด่ี ำเนินการค้าง ) 1) เรอ่ื งปกติ จำนวน..........เรอื่ ง คอื ผู้รับมอบงาน 1.1) ………………………………………. 1.2) ………………………………………. ) 1.3) ………………………………………. พยาน 2) เรอื่ งด่วน จำนวน..........เร่อื ง คือ 2.1) ………………………………………. ) 2.2) ………………………………………. พยาน 2.3) ………………………………………. 4.6 รายงานท่ีกำลังดำเนินการคา้ งอยู่ 1) เรอื่ งปกติ จำนวน..........เร่อื ง คือ 1.1) ………………………………………. 1.2) ………………………………………. 1.3) ………………………………………. 2) เรอื่ งดว่ น จำนวน..........เรื่อง คอื 2.1) ………………………………………. 2.2) ………………………………………. 2.3) ………………………………………. ลงชื่อ ( ลงชอื่ ( ลงชอื่ ( ลงช่ือ
สารสนเทศการรับ สง่ มอบงานในหนา้ ทร่ี าชการ ตำแหน่ง ……………………………………………………………………………….. ผสู้ ่งมอบงาน ……………………………………………………………………………….. ผู้รบั มอบงาน ………………………………………………………………………………. ไดส้ ง่ มอบหมายงานในหนา้ ท่ี ตั้งแต่วันท่ี ..................................................... เวลา ……………..น. เป็นตน้ ไปจนเสรจ็ เรยี บรอ้ ย ตามรายการต่อไปน้ี 1. ………………………………………………….. 2. ………………………………………………….. 3. ………………………………………………….. 4. ………………………………………………….. ผสู้ ง่ มอบงาน () ผู้รับมอบงาน () พยาน () พยาน () ป.ี ...................................... มีการรบั – สง่ มอบงานในหน้าที.่ .......... ครง้ั 1. ระหว่าง...............................................กบั ............................................. เม่ือ............................... 2. ระหวา่ ง...............................................กบั ............................................. เมอื่ ............................... 3. ระหวา่ ง...............................................กับ............................................. เมอื่ ............................... 4. ระหวา่ ง...............................................กับ............................................. เมอ่ื ............................... 5. ระหวา่ ง...............................................กบั ............................................. เม่ือ...............................
งานอาคารสถานท่ีของสถานศึกษา กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคบั ประกาศ คำส่งั ท่ีเก่ียวข้อง ระเบยี บ กระทรวงศกึ ษาธิการ วา่ ดว้ ยการใช้อาคารสถานท่ีของสถานศกึ ษา พ.ศ. 2539 ขอ้ 4 ผู้ใดประสงค์จะขอใชอ้ าคารสถานท่ีของสถานศึกษา ใหย้ ่นื คำขอต่อหัวหน้าสถานศึกษานั้น ตามแบบ ท่ีกำหนด ข้อ 5 การขอใช้อาคารสถานที่ อนญุ าตให้ใช้เปน็ การช่ัวคราวเทา่ นน้ั และต้องอยู่ในเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 5.1 ไมใ่ ช้อาคารสถานทกี่ ระทำในสิ่งผดิ กฎหมาย 5.2 ไม่ใช้อาคารสถานทีใ่ นการแสดงที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศลี ธรรมอนั ดีต่อ ประชาชน 5.3 ไมใ่ ช้อาคารสถานทเี่ พื่อจัดงานร่ืนเริงในรูปแบบตา่ งๆ ท่ีจะกอ่ ให้เกิดเสยี งดังจนเป็นเหตุ เดอื ดร้อนรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง 5.4 ไมใ่ ช้อาคารสถานท่ีจัดกิจกรรมบางประเภท เชน่ ดสิ โกเธค หรอื กจิ กรรมอื่นๆ ในทำนอง เดยี วกนั ในอาคารสถานท่ขี องสถานศกึ ษา 5.5 ไมใ่ ชอ้ าคารสถานทเี่ พ่ือการอย่างอ่ืนนอกเหนือไปจากทรี่ ะบุไว้ในคำขออาคารสถานที่ 5.6 โดยทสี่ ถานศึกษาเป็นสถานทร่ี าชการ บุคคลอ่ืนจะเข้ามาตอ้ งปฏิบัตติ นให้ชอบด้วย วฒั นธรรมและศีลธรรมอนั ดี ตลอดทั้งต้องเช่ือฟงั หัวหน้าสถานศึกษา หรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเปน็ ผูร้ ับผิดชอบ รกั ษาสถานทนี่ ้ัน 5.7 การใชอ้ าคารสถานทเ่ี พ่ือหาเสยี งเลือกต้งั หรือดำเนินกจิ กรรมทางการเมือง จะตอ้ ง ไม่กระทบต่อการเรยี นการสอนของสถานศึกษานัน้ ๆ ต้องให้ความเปน็ ธรรมและเสมอภาคกบั ทุก พรรคการเมือง ข้อ 6 ให้หวั หนา้ สถานศึกษาเปน็ ผู้พจิ ารณาอนุญาตการขอใช้อาคารสถานที่ คร้ังละไม่เกินเจด็ วัน หากเกิน กำหนดต้องเสนอต่อผมู้ ีอำนาจ เพื่อพิจารณาอนญุ าต การอนุญาตให้ใช้อาคารสถานทตี่ ามขอ้ 5.7 จะอนุญาตเปน็ ระยะเวลาเท่าใด ให้อยใู่ นดุลยพินิจ ของหัวหน้าสถานศึกษานน้ั ขอ้ 7 การอนญุ าตใหใ้ ช้อาคารสถานทห่ี ากเกินอำนาจของหัวหน้าสถานศึกษา ให้ผ้มู อี ำนาจดังตอ่ ไปนเ้ี ปน็ ผพู้ ิจารณาอนุญาต 7.1 สถานศึกษาสงั กัดสว่ นกลาง ใหเ้ ป็นอำนาจของอธิบดกี รมเจ้าสังกัดหรือหัวหน้า ส่วนราชการที่เรยี กชือ่ อย่างอ่ืนทม่ี ีฐานะเป็นกรม 7.2 สถานศกึ ษาสังกัดสว่ นกลาง ตงั้ อยูใ่ นสว่ นภมู ภิ าค และอยู่ในความควบคุมดูแล ของผวู้ ่าราชการจงั หวัด ให้เป็นอำนาจผวู้ า่ ราชการจังหวัด 7.3 สถานศกึ ษาสังกัดสำนกั งานคณะกรรมการการประถมศกึ ษาแห่งชาติ ให้เป็นอำนาจ
ของผู้อำนวยการการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร หรือผู้อำนวยการการประถมศกึ ษาจงั หวัดแล้วแตก่ รณี ผูม้ อี ำนาจอนญุ าตให้ใช้อาคารสถานที่ อาจมอบหมายผู้ทีเ่ ห็นสมควรอนญุ าตแทนก็ได้ ข้อ 8 เมื่อปรากฏโดยชัดแจง้ ว่าการใชอ้ าคารสถานทีเ่ ป็นการผิดเงื่อนไขอย่างใดอยา่ งหน่ึงตามทร่ี ะบุไวใ้ น ข้อ 5 ให้หวั หนา้ สถานศึกษาหรือผู้มอี ำนาจอนญุ าตสั่งระงบั การใช้นน้ั ได้ ข้อ 9 ในระหว่างการใช้อาคารสถานที่ หากเกิดความชำรดุ เสยี หายแก่ทรพั ย์สินท่ีใชน้ น้ั ผูข้ อใช้อาคาร สถานที่ตอ้ งรับผดิ ชอบต่อความชำรดุ เสยี หาย และจัดการซ่อมแซมให้อย่ใู นสภาพเดิม ขอ้ 10 การขอใชอ้ าคารสถานท่ีนนั้ ผู้ขอใชต้ ้องชำระคา่ บำรงุ ดังต่อไปน้ี คือ 10.1 คา่ นำ้ คา่ ไฟ ตามความสน้ิ เปลือง 10.2 คา่ บำรงุ อาคารสถานท่แี ละอปุ กรณ์ 10.3 คา่ ตอบแทนคนงานภารโรง หวั หน้าสถานศึกษาเป็นผูก้ ำหนดคา่ บำรุง และอาจพจิ ารณายกเว้นค่าบำรุงได้ และสง่ เงนิ ค่าบำรงุ เขา้ เป็นเงินบำรงุ การศึกษาของสถานศึกษา
แบบคำขอใช้อาคารสถานที่ เขยี นที่............................................... วนั ท่ี ............................................................................ เรียน ............................................................. ขา้ พเจา้ (นาย/นาง/นางสาว) ..........................................................นามสกุล.................................... อายุ..................ปี อยู่บ้านเลขท่.ี ................หมู่ท่.ี ............ตำบล/แขวง............................................................. อำเภอ........................................จังหวดั ................................... มีความประสงค์ขอใชอ้ าคารสถานทีข่ อง .............................................................................. ดงั ต่อไปน้ี 1. ข้าพเจ้าขอใช้อาคารสถานที่เพ่ือ.................................................................................................. มีกำหนดเวลา..............วนั ตงั้ แต่วนั ที.่ ............เดอื น...............................พ.ศ.................... ถงึ วันที่...............เดือน ................................พ.ศ...................... มีบคุ คลท่ีจะมารว่ มใช้อาคารสถานท่ีประมาณ..................คน 2. ยินดีชำระเงินค่าบำรุงตามที่สถานศึกษากำหนด คือ 2.1 ค่านำ้ ค่าไฟ ตามความสน้ิ เปลอื ง 2.2 ค่าตอบแทนคนงานภารโรง .........................บาท 2.3 ค่าบำรุงอาคารสถานที่ตลอดถึงการใชท้ รัพย์สนิ และอุปกรณจ์ ำนวน.......................บาท 2.4 ค่าบำรุงอน่ื ๆ (ถ้ามี) 3. หากการใชอ้ าคารสถานท่ีตลอดจนทรพั ยส์ นิ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เสยี หาย ขา้ พเจ้ายินดีชดใช้ใหแ้ ละ จัดการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม 4. ขา้ พเจ้ารับทราบหลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขการใช้อาคารสถานที่แลว้ และจะปฏิบตั ิให้ถกู ต้องตามระเบียบ ของทางราชการ หากมกี ารฝ่าฝนื หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการผดิ ระเบียบยนิ ดีให้บอกเลิกการใชอ้ าคารสถานท่ี ดงั กล่าวได้ ลงชื่อ..........................................................ผู้ยน่ื คำขอ ความเหน็ หัวหนา้ สถานศึกษาหรอื ผู้มอี ำนาจอนุญาต .......................................................................................................................................... ............................. ลงชอ่ื ............................................................... (................................................................)
สารสนเทศงานอาคารสถานที่ โรงเรียน...............................................ปกี ารศกึ ษา................... ท่ี รายการ คร้ัง หมายเหตุ 1 การขอใชอ้ าคารเอกประสงค์ เพอ่ื ........................................ 2 การขอใชส้ นามกีฬา O ฟุตบอล O วอลเลย่ บ์ อล O เปตอง O บาสเกตบอล O ตะกรอ้ O อื่นๆ.................................. 3 การขอใชห้ ้องประชมุ เพื่อ.................................................... 4 การขอใช้หอ้ งสมุด เพอ่ื .......................................................... 5 การขอใชห้ อ้ งปฏบิ ัติการทางภาษา เพื่อ................................... ขอใช้อ่ืนๆ 5.1 .......................................................................................... 5.2 .......................................................................................... 5.3 .......................................................................................... 5.4 .......................................................................................... การใหบ้ รกิ ารแกช่ ุมชน สูงสุดไดแ้ ก่ รายการ............................................................ ครั้ง/ปี รองลงมาไดแ้ ก่ รายการ............................................................ คร้ัง/ปี ต่ำสุดได้แก่ รายการ............................................................ ครง้ั /ปี การอยเู่ วรรกั ษาการณส์ ถานที่ราชการ ระเบยี บทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 1. ระเบยี บสำนกั นายกรฐั มนตรี วา่ ดว้ ยการรกั ษาความปลอดภัยแหง่ ชาติ พ.ศ.2552 ตัวอยา่ งเอกสารทเี่ กี่ยวข้อง
ที่ ศธ 04099.085/134 โรงเรยี นบ้านสมศรี หมูท่ ่ี 16 ตำบลโคกก่อ อำเภอเมอื ง จังหวัดมหาสารคาม 44000 31 สงิ หาคม 2553 เรอ่ื ง สง่ คำสัง่ แต่งตงั้ ครูเวรรักษาความปลอดภยั สถานทรี่ าชการ ประจำเดอื น กนั ยายน 2552 เรียน ผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาการประถมศกึ ษาพจิ ติ ร เขต 1 ส่ิงทส่ี ่งมาดว้ ย คำสง่ั แตง่ ตง้ั ครเู วรรกั ษาความปลอดภัยของสถานท่ีราชการ จำนวน 1 ชุด ดว้ ยโรงเรยี นวดั วงั มะเด่ือ ได้แต่งตั้งครเู วรรกั ษาความปลอดภัยสถานท่รี าชการประจำเดือน กันยายน 2553 เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ จงึ สง่ คำส่ังแตง่ ตั้งมาพร้อมหนังสือน้ี จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนบั ถือ ( นายสรวิทย์ โรจนะ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านสมศรี งานบริหารทัว่ ไป โทรศพั ท์ 0815341165
คำสง่ั โรงเรยี นบา้ นสมศรี ท่ี 49 / 2565 เรอื่ ง แตง่ ตง้ั ครูเวรรกั ษาความปลอดภัยสถานทรี่ าชการ ประจำเดือน กันยายน 2565 ………………………………………………………….…………… ตามมติคณะรัฐมนตรไี ด้มมี ตเิ มอื่ วนั ท่ี 5 มิถุนายน 2552 ให้กระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการตา่ งๆ จดั เวรยาม รกั ษาสถานทีร่ าชการให้เปน็ ไปด้วยความเรียบร้อย ดังนนั้ เพอื่ ใหก้ ารอยู่เวรยามรักษาสถานท่ีราชการโรงเรียนบา้ นสมศรี เปน็ ไป ด้วยความเรียบร้อยและให้เป็นไปตาม ระเบียบสำนกั นายกรัฐมนตรวี ่าด้วยการรักษาความปลอดภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2552 เกยี่ วกับ การรกั ษาความปลอดภัยสถานท่ีราชการของผอู้ ยู่เวร จึงสมควรที่จะต้องระมดั ระวงั การอยู่เวรรกั ษาสถานท่รี าชการโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกนั การกอ่ วินาศกรรม และเตรียมพร้อมในการรักษาสถานการณอ์ ่นื ๆ จงึ ใหบ้ ุคคลทมี่ ีชื่อต่อไปนอี้ ยเู่ วรและตรวจเวร ประจำเดอื น กันยายน 2565 ดังน้ี วนั ที่ ชอ่ื – สกลุ ผ้อู ยเู่ วร อาคาร ชอ่ื - สกุล ผู้ตรวจ หมายเหตุ ที่อยเู่ วร ทร่ี บั ผดิ ชอบ เวร เวรกลางวัน วนั ทำการ (จนั ทร์ - ศุกร)์ 1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19, นางจิตติมา โตนาราง อาคาร 1 อาคาร 1 21, 23, 25, 27 และ 29 นายกาสิทธิ์ สิงหด์ ี 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20, นางนิลาวรรณ พุกนุช 22, 24, 26, 28 และ 30 เวรกลางวนั วนั หยุดเสาร์ - อาทิตย์ 4, 11, 18 และ 25 นางจิตติมา โตนาราง อาคาร 1 นายกาสิทธิ์ สิงหด์ ี อาคาร 1 5, 12, 19 และ 26 นางนิลาวรรณ พุกนชุ 1-30 กนั ยายน 2565 เวรกลางคืน อาคาร 1 นายกาสิทธิ์ สงิ ห์ดี นายสมชาติ วิรญั จันทร์ ให้เวรยามรักษาความปลอดภัย ผตู้ รวจเวร มีหนา้ ทรี่ บั ผิดชอบและปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยการ รกั ษาความปลอดภัยแหง่ ชาติ พ.ศ. 2552 ว่าดว้ ย การรกั ษาความปลอดภัยเก่ยี วกับสถานท่รี าชการ เกยี่ วกบั การรกั ษาความ ปลอดภัย ผ้ตู รวจเวรยามและยามรักษาการณ์ปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. ดูแลสถานทีร่ าชการและทรพั ยส์ ินให้อยูใ่ นความเรยี บรอ้ ย 2. จัดทำบญั ชผี ้อู ยู่เวรยาม บันทกึ เหตกุ ารณ์ท่เี กดิ ข้นึ แกท่ รัพย์สินและสถานทีร่ าชการ รวมท้ังเหตุอืน่ ๆ อันควร เวรใน วนั หยุดราชการหรอื เวรกลางคืนให้บันทึกการรับโทรศัพท์ โทรเลข จดหมาย และหนงั สือราชการ ทีม่ มี าถึงหนว่ ยงานดว้ ย
3. ก่อนสง่ เวรยาม ใหผ้ มู้ หี นา้ ที่เวรยามตอ่ ไปสอบถามเหตุการณท์ ี่ผา่ นมา และตรวจสอบสภาพความเสยี หายทเ่ี กดิ แก่ ทรัพย์สินและสถานทรี่ าชการก่อนรบั เวรด้วย หากมคี วามชำรุดเสยี หาย หรือมีเหตุอ่ืนๆ อันควรให้บนั ทกึ ไวเ้ ปน็ หลักฐานดว้ ย 4. ในขณะอยูเ่ วรยามหากมเี หตกุ ารณผ์ ดิ ปกตหิ รอื มเี รือ่ งด่วนพเิ ศษ อาจทำใหท้ รัพย์สนิ หรอื สถานทร่ี าชการไดร้ ับความ เสียหาย ให้รายงานทางโทรศัพท์แจง้ เจา้ หน้าท่ตี ำรวจท้องท่ี เพ่ือทำการระงับเหตทุ นั ทีดว้ ย 5. ผู้ทไี่ ด้รับแต่งตงั้ เป็นผตู้ รวจเวรยามรกั ษาความปลอดภัย หากมีกรณเี กดิ ความเสียหายแกท่ รพั ยส์ นิ หรอื สถานท่รี าชการ ดว้ ยเหตุทเ่ี วรยามรกั ษาความปลอดภยั และผตู้ รวจเวรยามไม่มาปฏิบตั หิ นา้ ท่ี ให้ผู้ตรวจเวรรว่ มรบั ผดิ ชอบด้วย 6. ปฏิบัติหนา้ ทอ่ี น่ื ๆ ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย และประสานกบั เจา้ หน้าท่ี หรือเวรยามที่เกีย่ วขอ้ งที่จะมาปฏิบตั หิ น้าที่ รว่ มกัน 7. ให้อยูเ่ วรยามรกั ษาความปลอดภัยสถานท่ีราชการทไี่ ดร้ บั มอบหมายและรับผิดชอบโดยเคร่งครัด กลา่ วคอื เวรชายตง้ั แต่เวลา 18.00 – 07.00 น. ของวันร่งุ ขึ้น เวรสตรี (วนั หยดุ ราชการ) ตั้งแตเ่ วลา 07.00 – 18.00 น. หากตรวจพบวา่ ใคร ละทง้ิ หนา้ ทเ่ี วรยามจะพิจารณาโทษตามสมควรแก่กรณี 8. ผู้อย่เู วรยามต้องเตรียมทะเบียนทอี่ ย่แู ละหมายเลขโทรศัพทข์ องข้าราชการในโรงเรียนวัดวังมะเดื่อไว้ หากมเี หตุการณ์ ไมป่ กตเิ กิดข้นึ จะไดต้ ดิ ตอ่ ได้ และการมอบเวรจะต้องบนั ทึกในสมดุ เวรวา่ มอบใหใ้ คร และใหผ้ ้รู บั มอบเวรเซน็ รับทราบด้วยทุกครงั้ กรณที ่ไี มส่ ามารถอยเู่ วรได้ใหบ้ ันทึกเสนอขออนุญาตกอ่ นเปล่ยี นเวรตอ่ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษากอ่ น 9. ให้ผู้อยู่เวรกลางวนั และกลางคนื ดแู ลความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น โดยเฉพาะกน้ บหุ ร่ี เมอื่ พบเห็นใหเ้ กบ็ ท้ิงทนั ที 10. เม่ือผมู้ าตรวจเวรมาตรวจแลว้ ไม่พบผู้อยเู่ วร ใหต้ ามเพ่อื ให้มาปฏิบตั ิหนา้ ทเ่ี วร หากไมพ่ บให้ผูต้ รวจเวรบันทกึ ไวด้ ว้ ย และให้ผลู้ ะทิง้ หน้าทเี่ วรบนั ทกึ ชี้แจงผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั วังมะเดอ่ื ส่ัง ณ วันที่ 31 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2565 ( นายสรวทิ ย์ โรจนะ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นสมศรี
ตัวอยา่ งแบบบนั ทึกการอย่เู วรรักษาการณ์ สถานทรี่ าชการ โรงเรียน......................................................... อำเภอ................................. สพป. มหาสารคาม เขต 1 วัน เดอื น ปี บนั ทึกเหตกุ ารณป์ ระจำวนั ผูอ้ ยเู่ วร ผู้ตรวจเวร หมายเหตุ ......./......../........ เวลา.........น. .................. เวลา............. น. วันน้ี ขา้ พเจา้ .................................. ผสู้ ง่ เวร ถงึ เวลา......... น. และ.................................................... เวลา.........น. ไดม้ าอยเู่ วรรกั ษาสถานทรี่ าชการ .................. ......./......../........ เพอ่ื ดแู ลความปลอดภัย/ทรัพย์สิน เวลา.........น. ผู้รบั เวร เวลา............. น. ของทางราชการ ปรากฏวา่ ถึงเวลา......... น. เหตกุ ารณป์ กติ เวลา.........น. เวลา.........น. เหตกุ ารณ์ไมป่ กต.ิ ........................ ......./......../........ .................. เวลา............. น. ..................................................... ผสู้ ่งเวร ถงึ เวลา......... น. วนั นี้ ข้าพเจ้า.................................. .................. ......./......../........ และ.................................................... ผรู้ บั เวร เวลา............. น. ได้มาอยเู่ วรรกั ษาสถานท่ีราชการ ถงึ เวลา......... น. เพ่อื ดแู ลความปลอดภัย/ทรพั ยส์ ิน เวลา.........น. ของทางราชการ ปรากฏวา่ เหตุการณ์ปกติ .................. เหตุการณ์ไม่ปกต.ิ ........................ ผู้ส่งเวร ..................................................... .................. ผรู้ ับเวร วนั นี้ ขา้ พเจ้า.................................. และ.................................................... เวลา.........น. ไดม้ าอยเู่ วรรักษาสถานทรี่ าชการ เพอื่ ดแู ลความปลอดภยั /ทรัพยส์ นิ .................. ของทางราชการ ปรากฏว่า ผสู้ ง่ เวร เหตุการณ์ปกติ เหตุการณ์ไมป่ กต.ิ ........................ .................. ผู้รับเวร ..................................................... เวลา.........น. วนั นี้ ขา้ พเจา้ .................................. และ.................................................... ได้มาอยเู่ วรรกั ษาสถานที่ราชการ เพือ่ ดูแลความปลอดภัย/ทรพั ยส์ นิ ของทางราชการ ปรากฏว่า เหตกุ ารณป์ กติ เหตุการณ์ไม่ปกต.ิ ........................
งานเลขานกุ ารคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คับ ประกาศ คำสั่ง ทเี่ ก่ียวข้อง กฎกระทรวง กำหนดจำนวนกรรมการ คณุ สมบตั ิ หลักเกณฑ์ วธิ กี ารสรรหา การเลือกประธาน กรรมการและกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหนง่ ของคณะกรรมการสถานศึกษา ข้ันพน้ื ฐาน พ.ศ. 2546 ขอ้ 2 ในสถานศกึ ษาขนาดเล็ก ให้มคี ณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน จำนวนเก้าคน และสถานศึกษาขนาดใหญ่ ใหม้ คี ณะกรรมการสถานศึกษาจำนวนสิบหา้ คน ประกอบดว้ ย 1. ประธานกรรมการ 2. กรรมการทีเ่ ป็นผู้แทนผปู้ กครอง จำนวนหนึง่ คน 3. กรรมการทีเ่ ป็นผู้แทนครู จำนวนหนึ่งคน 4. กรรมการทเ่ี ป็นผู้แทนองค์กรชมุ ชน จำนวนหนึง่ คน 5. กรรมการท่ีเปน็ ผู้แทนองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ จำนวนหนง่ึ คน 6. กรรมการที่เปน็ ผู้แทนศิษย์เกา่ จำนวนหนึง่ คน 7. กรรมการทเี่ ปน็ ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ หรอื ผู้แทนองค์กรศาสนาในพนื้ ที่ จำนวนหนึ่งรูป หรอื หน่งึ คน สำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก และจำนวนสองรูปหรือสองคน สำหรบั สถานศึกษาขนาดใหญ่ 8. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒจิ ำนวนหนง่ึ คน สำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก และจำนวนหกคน สำหรับสถานศึกษาขนาดใหญ่ 9. ผ้อู ำนวยการ เปน็ กรรมการและเลขานุการ ข้อ 4 คณุ สมบตั เิ ฉพาะ (กฎกระทรวงข้อ 4) 1) กรรมการท่ีเป็นผู้แทนผ้ปู กครอง 1.1) เป็นผู้ปกครองตามทะเบยี นนกั เรยี นที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษานั้น 1.2) ไม่เป็นครู เจ้าหน้าท่ี หรือลูกจ้างของสถานศึกษา หรือที่ปรึกษา หรือผู้เชยี่ วชาญ ซง่ึ มีสญั ญาจ้างกบั สถานศึกษาน้ัน 2) กรรมการท่เี ป็นผู้แทนครู ตอ้ งเป็นครูซ่ึงทำหน้าท่ีหลักด้านการเรียนการสอนและการส่งเสรมิ การเรียนรูข้ องผูเ้ รียน ด้วยวิธตี ่างๆ ในสถานศึกษาน้ัน 3) กรรมการที่เปน็ ผู้แทนองคก์ รชุมชน 3.1) เป็นสมาชิกขององค์กรของชุมชน หรือองค์กรท่ีเรียกชอื่ อย่างอ่ืน ที่มสี มาชกิ รวมตัวกันไมน่ ้อย กว่า 15 คน เพ่ือดำเนินกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนต์ ่อสงั คมและชมุ ชนโดยส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลาไมน่ ้อย กว่า 1 ปี มผี ลงานที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือสำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษารบั รอง และมีทต่ี ง้ั แน่นอนอยใู่ นท้องท่ี ตำบลหรือแขวงทีเ่ ป็นภูมิลำเนาของนักเรยี นในสถานศกึ ษาหรอื ท้องท่ีตำบลหรือแขวงทสี่ ถานศึกษาตัง้ อยู่
3.2) ไม่เป็นครู เจ้าหน้าท่ี หรือลูกจ้างของสถานศึกษา หรือที่ปรึกษา หรือผู้เชยี่ วชาญซึ่งมี สญั ญาจา้ งกบั สถานศึกษาน้นั 4) กรรมการทีเ่ ปน็ ผ้แู ทนศิษยเ์ กา่ 4.1) เป็นผู้ท่ีเคยศึกษาหรือสำเรจ็ การศึกษาจากสถานศึกษานน้ั 4.2) ไมเ่ ป็นครู เจา้ หนา้ ท่ี หรอื ลูกจา้ งของสถานศึกษา ทป่ี รกึ ษาหรือผู้เช่ยี วชาญซึ่งมี สญั ญาจ้างกบั สถานศกึ ษานั้น 5) กรรมการท่เี ป็นผูแ้ ทนพระภิกษุสงฆห์ รือผแู้ ทนองค์กรศาสนาอ่ืน ที่ทางราชการรับรอง ในพนื้ ท่ี ได้แก่ พระภิกษสุ งฆ์ หรือผู้นบั ถือศาสนาท่ีทางราชการรับรอง (ศาสนาที่ทางราชการรบั รอง ได้แก่ พุทธ ครสิ ต์ อิสลาม พราหมณ์ - ฮินดู และซกิ ข์) 6) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6.1) ไม่เป็นครู เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างของสถานศึกษา หรือที่ปรึกษาหรือผู้เชีย่ วชาญ ซึง่ มีสัญญาจ้างกับสถานศึกษานนั้ 6.2) ไมเ่ ป็นกรรมการสถานศึกษาในเขตพน้ื ที่การศึกษา เกินกวา่ 3 แหง่ ในเวลาเดียวกัน 7) กรรมการทเี่ ปน็ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ประธานสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นเสนอช่อื ผแู้ ทนองคก์ รท่ีผา่ นการพจิ ารณา ของสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ องคก์ รละ 1 คน (ต้องเป็นองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ท่ไี ด้รับ การจัดตัง้ ตามกฎหมาย ไดแ้ ก่ องค์การบริหารสว่ นจงั หวัด เทศบาล องคก์ ารบริหารส่วนตำบล กรงุ เทพ มหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอืน่ ที่ไดร้ บั การจดั ต้ังตามกฎหมาย ซง่ึ สถานศึกษาต้งั อยู่ ข้อ 5 ให้ผู้อำนวยการดำเนนิ การสรรหาและเลอื กประธานกรรมการและกรรมการตามหลกั เกณฑ์ ขอ้ 7 ประธานกรรมการและกรรมการมีวาระการดำรงตำแหนง่ คราวละส่ีปี และอาจได้รับ การแตง่ ตง้ั ใหม่อกี กไ็ ด้ แตจ่ ะดำรงตำแหนง่ เกินสองวาระติดต่อกนั ไม่ได้ การดำเนนิ การประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) สถานศกึ ษาจดั ให้มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน อย่างน้อยภาคเรียนละ 2 ครงั้ 2) เร่อื งทต่ี ้องนำเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน เช่น แผนพฒั นาของสถานศึกษา แผนปฏิบตั ิ การประจำปี การจดั ทำสาระหลักสูตร การรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 3) รายงานผลการประชุมต่อผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา ภายใน 15 วนั นบั แต่วนั ท่มี ีการ ประชุม
สารสนเทศงานเลขานุการคณะกรรมสถานศึกษาขัน้ พื้นฐาน โรงเรยี น........................................................ป.ี ............................. ที่ รายการ คร้ัง หมายเหตุ 1 การประชุมคณะกรรมฯ 2 ขอ้ เสนอแนะท่ไี ดร้ ับจากคณะกรรมการฯในการพัฒนา การศึกษาของสถานศกึ ษา ได้แก่ 2.1 .......................................................................................... 2.2 .......................................................................................... 2.3 .......................................................................................... 2.4 .......................................................................................... 2.5 .......................................................................................... 3 มติคณะกรรมการฯพจิ ารณาอนมุ ตั ิ แผนงาน โครงการ O แผนงาน โครงการ O ใหค้ วามเหน็ การยา้ ยคร/ู ผู้บริหาร O การระดมทรัพยากรเพื่อการศกึ ษา O อืน่ ๆ ระบ.ุ ...................................................................
การพัฒนาระบบและเครือขา่ ยขอ้ มูลสารสนเทศ กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกาศ คำส่ังท่เี ก่ียวข้อง 1) พ.ร.บ. ข้อมูลขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ.2540 2) ระเบียบสำนกั นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรกั ษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 3) ระเบยี บสำนักนายกรฐั มนตรี ว่าดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ.2546 และท่ีแก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2548 4) ระเบยี บสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าดว้ ยการรกั ษาความปลอดภยั แห่งชาติ พ.ศ. 2517 5) ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการวา่ ด้วยการประชาสัมพนั ธ์และการให้ข่าวราชการ พ.ศ.2548 ข้ันตอนการดำเนนิ งาน 1) สำรวจระบบและจดั ทำทะเบียนการเชอ่ื มโยงขอ้ มูลสารสนเทศกับหนว่ ยงานหรือองค์กรทเ่ี กี่ยวข้อง และเป็นประโยชนต์ ่อภารกิจการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 2) ออกแบบและจัดทำระบบฐานขอ้ มูลของสถานศกึ ษา เช่น ฐานข้อมูลนักเรียน ขอ้ มูลบุคลากร ข้อมลู สื่อ การเรียนการสอน ข้อมลู ครุภณั ฑ์ อาคารสถานท่ี ข้อมูลชุมชน ฯลฯ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการภายในสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับระบบฐานข้อมูลของสำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา และสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ัน พ้ืนฐาน 3) พัฒนาบุคลากรผู้รบั ผดิ ชอบระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ ใหม้ ีความรู้ ความสามารถ และทักษะใน การปฏิบัติภารกิจ และสง่ เสริมสนับสนุนให้บคุ ลากรในสถานศึกษาใช้ระบบข้อมลู สารสนเทศ 4) จดั ระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ เชื่อมโยงกับสถานศึกษาอ่นื สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน 5) นำเสนอและเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ เพอื่ การบริหารบรกิ ารและการประชาสัมพนั ธ์ 6) ทำการประเมนิ และประสานงานระบบเครือขา่ ยข้อมลู สารสนเทศ และปรับปรงุ พฒั นาเปน็ ระยะๆ
สารสนเทศการพฒั นาระบบและเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ ที่ รายการ รปู แบบ รปู แบบ หมายเหตุ เอกสาร Digital 1 สารสนเทศงานวิชาการ รหสั V V 001 = ………………………………………………….. V 002 = ………………………………………………….. V 003 = ………………………………………………….. V 004 = ………………………………………………….. 2 สารสนเทศงานบริหารบุคคล รหสั P P 001 = ………………………………………………….. P 002 = ………………………………………………….. P 003 = ………………………………………………….. P 004 = ………………………………………………….. 3 สารสนเทศงานบริหารงบประมาณ รหัส B B 001 = ………………………………………………….. B 002 = ………………………………………………….. B 003 = ………………………………………………….. B 004 = ………………………………………………….. 4 สารสนเทศงานบรหิ ารทว่ั ไป รหสั G G 001 = ………………………………………………….. G 002 = ………………………………………………….. G 003 = ………………………………………………….. G 004 = …………………………………………………..
การประสานงานและพฒั นาเครือขา่ ยการศกึ ษา กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคับ ประกาศ คำสั่งที่เก่ียวข้อง 1) พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2545 2) พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1) กำหนดรปู แบบเครือขา่ ยและวตั ถุประสงค์ในการประสาน ให้สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั ภารกจิ งานจัด การศกึ ษา 2) จดั ทำแผนประสานงานและพัฒนาเครอื ข่าย 3) ประสานงานกับหนว่ ยงานและสถาบนั ท่ีเกยี่ วข้อง เพื่อจัดทำข้อตกลงและการพฒั นาเครือขา่ ยรว่ มกัน 4) กำหนดบคุ ลากรผูร้ ับผดิ ชอบการประสานงานตามภารกิจอย่างชัดเจน และเหมาะสม 5) ประสานงานกบั เครือข่ายการศกึ ษา เพ่ือแสวงหาความรว่ มมือความช่วยเหลือ สง่ เสริมสนบั สนนุ การ บรหิ ารและจดั การศึกษาของสถานศึกษา 6) เผยแพร่ข้อมลู เครือข่ายการศกึ ษาให้บุคลากรในสถานศึกษาและผู้เกยี่ วข้องทราบ 7) กำหนดแผนโครงการหรือกจิ กรรม เพอ่ื แลกเปล่ยี นเรียนรู้ระหว่างเครอื ขา่ ยการศกึ ษาทเ่ี กี่ยวข้องกับ สถานศึกษา 8) ใหค้ วามรว่ มมือและสนับสนุนทางวชิ าการแก่เครือข่ายการศึกษาของสถานศึกษา และสำนกั งานเขต พนื้ ทกี่ ารศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง
สารสนเทศงานการประสานและพัฒนาเครอื ข่ายการศึกษา โรงเรียน..........................................................ป.ี .............................. ท่ี รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 1 รปู แบบเครือข่ายภายในโรงเรียน - แผนภมู ิโครงสร้างบรหิ าร - ชมุ นุม/ชมรม/สายช้ัน 2 รูปแบบเครือข่ายภายนอก - โรงเรียนในกลมุ่ /อำเภอ/ในเขต สพท./ต่างเขต สพท. - หนว่ ยงานอ่ืน.............................. 3 กจิ กรรมทปี่ ฏบิ ัติ - แผนงานการประสานการพัฒนาเครอื ข่าย - มีผรู้ บั ผิดชอบชัดเจน - การเผยแพรข่ ้อมูลให้กับบุคลากรผู้เกี่ยวข้องทราบ - การแลกเปล่ยี นเรียนรรู้ ะหว่างเครือข่าย - การให้ความร่วมมือ สนับสนนุ ทางวชิ าการและอน่ื ๆ แก่ครือข่าย - การใหค้ วามรว่ มมือ ระดมทรัพยากรเพ่ือการศึกษา มกี ารดำเนนิ กจิ กรรมของเครือข่ายภายใน ............. คร้งั /ปี ภายนอก.............. คร้ัง/ปี มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนร้รู ะหว่างเครือข่าย ............. ครั้ง/ปี ภายนอก.............. คร้งั /ปี มีการใหค้ วามรว่ มมือ สนับสนนุ ทางวิชาการและอืน่ ๆ............. คร้งั /ปี ภายนอก.............. ครง้ั /ปี มกี ารให้ความร่วมมือ ระดมทรพั ยากรเพื่อการศึกษา ............. ครัง้ /ปี ภายนอก.............. ครัง้ /ปี
สารสนเทศการวางแผนบริหารการศกึ ษา โรงเรยี น..................................... ปกี ารศึกษา............................ ที่ รายการ มี ไม่มี หมายเหตุ 1 มาตรฐานสถานศึกษา กำหนดตวั ช้วี ดั และเป้าหมายความสำเร็จ 2 การวัดผลประเมินผลการปฏิบตั งิ าน ระดบั ดีมาก ม.ท่.ี ....... ม.ท.่ี ....... ระดับดี ม.ท่.ี ....... ระดบั พอใช้ ม.ท่.ี ....... ระดบั ปรบั ปรุง 3 การวเิ คราะห์ผลสำเรจ็ พบว่าจดุ แขง็ ของโรงเรียนปฏิบัติได้ การวเิ คราะห์ผลสำเร็จ พบว่าจดุ ควรพฒั นาของโรงเรียน 4 การรายงานผลการประเมินตนเอง SAR 5 แผนกลยทุ ธ์ โครงการ กิจกรรม มีเปา้ หมายในการยกระดับการพัฒนาคณุ ภาพ ในปี……………………. ดา้ นผู้เรียน ม.1 = ,ม.2 = ,ม.3 = ,ม.4 = ,ม.5 = ,ม.6 = ,ม.7 = ,ม.8 = ดา้ นครู ม.9 = ,ม.10 = ด้านผบู้ ริหาร ม.11 = ,ม.12 = ,ม.13 = ,ม.14 = ,ม.15 = ,ม.16 = ด้านชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ ม.17 = ,ม.18 = มีจุดเดน่ เปน็ แบบอย่างได้ ด้านผู้เรียน, ดา้ นครู, ดา้ นผูบ้ ริหาร, ดา้ นชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ ได้แก่ ด้านผู้เรยี น 1. ………………… 2. …………………….. 3. ……………………… ด้านครู 1. ………………… 2. …………………….. 3. ……………………… ดา้ นผ้บู รหิ าร 1. ………………… 2. …………………….. 3. ……………………… ดา้ นชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ 1. ………………… 2. …………………….. 3. ………………………
การวางแผนการบริหารการศึกษา กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคบั ประกาศ คำสง่ั ท่ีเกยี่ วข้อง 1) พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี ก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 2) พระราชบัญญัติระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 3) พระราชบญั ญัติระเบยี บข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 4) ระเบยี บกระทรวงศึกษาธกิ าร วา่ ด้วยการบริหารจดั การและขอบเขตการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ของสถานศึกษาขน้ั พื้นฐานท่ีเป็นนิตบิ ุคคล ในสำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา พ.ศ. 2546 5) กฎกระทรวง กำหนดหลกั เกณฑ์การแบ่งสว่ นราชการภายในสถานศกึ ษาที่จัดการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน หรอื สว่ นราชการท่ีเรยี กชอื่ อยา่ งอน่ื พ.ศ. 2547 ขนั้ ตอนการดำเนินงาน 1) กำหนดมาตรฐานการปฏิบัตงิ านตามโครงสร้างและตัวชี้วัดตามความสำเร็จ 2) วดั และประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน บรรลุตัวช้ีวัดระดบั ดมี าก ดี พอใช้ หรือ ปรับปรุง 3) วเิ คราะหจ์ ดุ แข็ง จดุ อ่อน โอกาส และอุปสรรค รายมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน เพื่อหาเหตปุ ัจจยั และ กำหนดแนวทางการผดุงรกั ษา การพฒั นา และการปรับปรงุ ตามกรณี จัดทำเปน็ ข้อเสนอการจัดทำแผนพัฒนา การศึกษาของสถานศกึ ษา และแผนปฏิบัตกิ ารประจำปงี บประมาณ 4) ปรับโครงสรา้ งการปฏิบตั ิงานตามข้อมลู การวเิ คราะห์ ใหร้ องรับภารกิจทีจ่ ำเป็นและนโยบายสำคญั 5) กำหนดประเดน็ ตัวชี้วดั เกณฑ์ความสำเรจ็ การกำกับติดตามให้สอดคลอ้ งกับแผนปฏิบัตกิ ารประจำปี งบประมาณ และประเดน็ การประเมนิ ผล ตามแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาประจำปี 6) กลมุ่ งานและฝา่ ยประเมินผลการปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยตนเอง และคณะบรหิ าร สถานศกึ ษานำผลประเมินพิจารณา รบั ฟังคำช้แี จง เพ่ือประเมินภาพความสำเร็จระดบั สถานศึกษา รายมาตรฐาน การปฏบิ ตั งิ าน 7) จัดทำรายงานและรายงานสาธารณชน เสนอคณะกรรมการสถานศึกษาและคณะกรรมการ เขตพื้นทีก่ ารศึกษา เพื่อใชเ้ ป็นการกำหนดนโยบายของสถานศึกษา และพัฒนาระบบโครงสร้างการปฏิบตั ิงานต่อไป
งานวจิ ยั เพือ่ พฒั นานโยบายและแผน กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำส่งั ท่เี ก่ยี วข้อง 1) พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทีแ่ ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ขั้นตอนการดำเนนิ งาน 1. ตรวจสอบ วเิ คราะห์ ผลการดำเนนิ งานตามเป้าหมายผลผลิต ตัวชวี้ ัดความสำเร็จรายกลยทุ ธ์ และมาตรฐานการศึกษาขัน้ พื้นฐานท่ยี ังไม่บรรลผุ ลสำเรจ็ 2. ตั้งประเดน็ หรือสมมุตฐิ าน เพือ่ เปน็ แนวทางในการหาคำตอบ โดยศึกษาองคป์ ระกอบ ตวั แปรของ ปจั จยั ภายนอก (ชมุ ชน ท้องถิ่น) และองคป์ ระกอบภายในสถานศกึ ษา 3. ศึกษาสภาพปจั จบุ นั ปญั หาตามกรณี และดำเนินการวิจัยเชิงพัฒนา 4. นำผลการวจิ ยั มาปรับใช้ในการจดั ทำแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา การจัดระบบการบรหิ ารและพฒั นาองคก์ ร กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกาศ คำส่ัง ทีเ่ ก่ยี วข้อง 1) พระราชบัญญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2546 2) พระราชบัญญตั ิระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 3) พระราชกฤษฎีกาวา่ ดว้ ยหลักเกณฑแ์ ละวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองทด่ี ี พ.ศ. 2546 4) ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ว่าดว้ ยการบรหิ ารจดั การและขอบเขตการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ของสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐานทีเ่ ปน็ นติ ิบุคคล ในสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา พ.ศ. 2546 5) กฎกระทรวง กำหนดหลกั เกณฑ์การแบ่งสว่ นราชการภายในสถานศึกษาที่จัดการศึกษา ข้ันพื้นฐานหรอื ส่วนราชการท่ีเรยี กช่อื อยา่ งอืน่ พ.ศ. 2547 6) คู่มือหรอื แนวทางการจัดการความรู้ สำหรับสำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาและสถานศึกษา ข้ันตอนการดำเนินงาน 11.1 การจดั ระบบการบริหาร 1) ศึกษาสภาพปัจจบุ ัน ปญั หา ตามภารกิจทีเ่ ป็นพันธกิจ ทั้ง 4 ดา้ น ของสถานศึกษา 2) วางแผนออกแบบจดั ระบบการบรหิ ารงานบคุ คล โครงสร้างการแบ่งส่วนงานและมาตรฐานสาย งานของสถานศึกษา 3) ประกาศ ประชาสัมพันธ์การแบ่งส่วนงานให้หน่วยงานทเี่ กีย่ วข้อง ตลอดจนสาธารณชนทราบ 4) ดำเนนิ การบรหิ ารจดั การใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานสายงาน 5) ศกึ ษาและพัฒนาให้สอดคลอ้ งกบั นโยบายและสภาพการณ์ที่เปลยี่ นแปลงไป 11.2 การพฒั นาองค์กร 1) จดั ทำข้อมูลสารสนเทศสมรรถนะครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษารายบุคคล
2) พัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใชข้ ้อมูลสารสนเทศรายบุคคล ใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานสายงาน 3) จัดส่งิ อำนวยความสะดวก ให้เหมาะสมกบั มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน 4) จดั บรรยากาศและวฒั นธรรมการทำงานของสถานศกึ ษา ใหเ้ ปน็ องค์กรแห่งการเรียนรู้ 5) จดั สวัสดกิ าร เพ่ือเปน็ แรงจงู ใจใหก้ ารปฏิบตั งิ านบรรลตุ ามมาตรฐานสายงาน ของสถานศกึ ษา สารสนเทศการจัดระบบการบริหารและการพัฒนาองคก์ ร ท่ี รายการ มี ไมม่ ี 1 จัดระบบการบริหาร - ออกแบบโครงแผนภมู ิการแบง่ งานและมาตรฐานสายงานของสถานศกึ ษา - การศกึ ษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา ตามภารกิจ 4 งาน - ประชาสมั พันธ์ ประกาศ ผู้เกย่ี วขอ้ ง สาธารณชน ทราบ 2 การพัฒนาองคก์ ร - การจดั ทำข้อมูลสารสนเทศและสมรรถนะครูและบุคลากร - พฒั นาครู ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานสายงาน - จดั สง่ิ อำนวยความสะดวกในการทำงาน ใหเ้ หมาะสมกับมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน - จดั บรรยากาศ วัฒนธรรมการทำงาน ของโรงเรียน ให้เป็นองค์กรแห่งการเรยี นรู้ - จดั สวสั ดกิ าร แรงจงู ใจใหบ้ รรลุตามมาตรฐาน 1 แผนกลยุทธ์ แผนปฏบิ ัติงาน โครงการ ประจำปี กลยุทธ์.......................... ได้แก่ - ....................................................................................................................................................... - ....................................................................................................................................................... มีโครงการ กจิ กรรม สอดคล้องนโยบาย มาตรฐาน เป้าหมาย จำนวน...........โครงการ...........กิจกรรม มีการประชาสมั พนั ธ์ ประกาศ ใหผ้ ู้เก่ียวขอ้ ง สาธารณชน ทราบ จำนวน...........ครงั้ 2 วเิ คราะห์ ID Plan ของครู พบวา่ สมรรถนะใดที่ครตู ้องการพัฒนา 3 สงู สดุ .................................................................................................................................................... 4 รองลงมา.............................................................................................................................................. ต่ำสุด.................................................................................................................................................... ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของครใู นการบริการอำนวยความสะดวกในการทำงาน.................% บรรยากาศ วัฒนธรรมการทำงาน ใหเ้ ป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ระดับ..................... 5 การจัดสวัสดกิ าร แรงจูงใจ ใหแ้ กค่ รู ไดร้ บั ความพึงพอใจ ร้อยละ.....................% 6
สารสนเทศการพฒั นามาตรฐานการปฏิบัตงิ าน โรงเรียน........................................ ป.ี ........................ ท่ี รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 1 กำหนดมาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี การวดั ผล การปฏิบัตงิ านโดยการมีสว่ นรว่ ม 2 สร้างความเข้าใจในการประเมิน 3 สรา้ งเครอ่ื งมอื ในการประเมิน 4 ประเมินการปฏบิ ตั งิ าน นำผลมาใช้พัฒนางาน 5 บนั ทึกความดี การพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงาน กฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ คำสง่ั ทีเ่ ก่ียวข้อง 1) พระราชบญั ญตั ิระเบยี บข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 2) พระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 3) มาตรฐานการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน ขนั้ ตอนการดำเนินงาน 1) ศึกษาระเบยี บ กฎหมาย และมาตรฐานการปฏิบตั ิงาน ท่เี ก่ียวข้อง 2) กำหนดมาตรฐานและตัวบ่งชี้หรอื ดชั นชี วี้ ดั ผลการปฏบิ ตั งิ านของงาน ตามโครงสรา้ ง และรายบุคคล โดยการมสี ่วนรว่ มของบุคคลากรทกุ ฝา่ ย 3) สรา้ งความเข้าใจการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน โดยใหเ้ ป็นขอ้ ตกลงรว่ มกันของบุคลากรทกุ คน 4) สรา้ งเครอื่ งมือในการประเมนิ มาตรฐาน ควบคุม กำกับตดิ ตาม การปฏิบัติงาน 5) ประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานตามเคร่อื งมือของสถานศึกษาท่ีจัดทำขึ้น 6) นำผลการประเมนิ มาใช้ในการปรบั ปรุงพัฒนามาตรฐานและระบบการประเมินผล การปฏิบัติงานให้มปี ระสทิ ธิภาพมากขึน้
งานเทคโนโลยีเพอื่ การศกึ ษา กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสง่ั ทเ่ี กีย่ วข้อง 1) พระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทีแ่ กไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 2) หลกั เกณฑ์แนวปฏิบตั เิ ก่ยี วกับการพฒั นาด้านเทคโนโลยีการศกึ ษา ขั้นตอนการดำเนินงาน 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นด้านเทคโนโลยที เี่ กยี่ วข้องกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา 2) วางแผนดำเนินการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษามาใช้ในการบรหิ ารและพัฒนาการศึกษา ของสถานศกึ ษา 3) ระดมการจดั หาเทคโนโลยเี พ่อื การศึกษาในงานด้านต่างๆ ของสถานศึกษา 4) พฒั นาบุคลากรให้มีความร้คู วามสามารถในการใช้ บำรุงรักษา และส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้บคุ ลากรนำเทคโนโลยมี าใชใ้ นการบรหิ าร และพฒั นาการศึกษา 5) สง่ เสรมิ ให้มีการศึกษาวจิ ยั และพัฒนาการผลิตส่อื นวตั กรรม และเทคโนโลยี เพ่ือการศกึ ษา รวมทั้ง เผยแพร่แลกเปล่ียนเรียนร้รู ะหว่างสถานศึกษา 6) ตดิ ตาม ประเมนิ ผล การใชเ้ ทคโนโลยีการศกึ ษา เพ่ือความคมุ้ ค่าและเหมาะสมกบั กระบวนการ พฒั นาการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา สารสนเทศเทคโนโลยีเพื่อการศกึ ษา 1. สำรวจ ศกึ ษา สภาพความตอ้ งการดา้ น IT ปจั จุบันต้องการ ไดแ้ ก่ ....................................................... 2. การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้บริหารจดั การ ไดแ้ ก่ ....................................................... 3. การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการจดั การเรยี นการสอน ไดแ้ ก่ ................................. 4. จำนวนอปุ กรณ์เทคโนโลยี - Hard ware จำนวน .................. ใชก้ ารได้............. ชำรดุ ................. - Soft ware จำนวน .................. ใชก้ ารได.้ ............ ชำรดุ ................. 5. บคุ ลากรมีความรสู้ ามารถ - ใชค้ อมพิวเตอร์........................ คน .....................% - ซอ่ มบำรงุ รักษา........................ คน .....................% 6. การประเมินการใช้ IT ของโรงเรยี น O คุ้มคา่ O ไมค่ ุ้มค่า • ควรพัฒนา.............. •
ตัวอย่างแบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานครู มาตรฐานการปฏิบตั ิงานครู ตามแนวหลกั สูตรใหม่ มาตรฐาน ภาระงาน ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ ผลผลิต/ตวั ช้ีวัด การพัฒนา 1. การเตรยี ม การจัด 1. สำรวจความต้องการชมุ ชนในการจดั การเรยี น 1. แบบสรุปการสำรวจ การเรยี น การสอน การสอน การสอน 2. เอกสาร/ภาพถ่าย การ 2. วิเคราะหห์ ลกั สตู ร วิเคราะห์ 3. จัดทำหลกั สตู ร/สาระการเรยี นร้รู ายป/ี หลกั สตู ร รายภาค/จดั ทำหน่วยการเรยี นรู้ 3. การจัดหน่วยการเรยี นรู้ 4. จัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ 5. กำหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล 4. แผนการจัดการเรียนรู้ 6. มบี ูรณาการภายในกลุ่มสาระฯ 5. เกณฑก์ ารประเมิน และขา้ มกลมุ่ สาระ 6. แผนการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ 2. การวเิ คราะห์ 1. รวบรวมข้อมูลพนื้ ฐานเกี่ยวกบั ผู้เรยี น 1. ขอ้ มูลพ้นื ฐานเกี่ยวกับผเู้ รยี น ผเู้ รียน เปน็ รายบุคคลอยา่ งเปน็ ระบบ เปน็ รายบุคคล 3. การจัด การเรียน 2. วเิ คราะหแ์ ละจดั กลุ่มตามความแตกตา่ ง 2. แผนการจดั การเรียนการสอน การสอน ทเี่ น้นผู้เรียน ระหวา่ งบคุ คล สำหรบั ผู้เรยี นกล่มุ ต่างฯ เป็นสำคัญ 3. นำผลการวเิ คราะหไ์ ปใช้ในการกำหนดกิจกรรม 3. รายงานผลการจัดกจิ กรรม พัฒนาการเรยี นการสอน 1. การวเิ คราะหค์ ำอธิบายรายวชิ า 1. เอกสารหลักฐานการวเิ คราะห์ 2. จดั ทำแผนการเรยี นรู้ โดยใชก้ จิ กรรมการสอน คำอธิบายรายวิชา ทห่ี ลากหลาย 2. แผนผังความคดิ ในการจดั 3. กจิ กรรมการสอนมคี วามเหมาะสมและ กิจกรรม สอดคล้องกบั ความสามารถของผเู้ รยี น 3. แผนการสอนที่เน้นผ้เู รียน 4. กิจกรรมกลมุ่ เน้นกระบวนการคิด ลงมอื ปฏบิ ตั ิ เปน็ สำคญั (คดิ เป็น ทำเป็น) 4. โครงงานนักเรียน 5. ใหน้ กั เรยี นเรยี นรสู้ ู่โครงงาน 6. กจิ กรรมท่เี นน้ ใหผ้ ้เู รยี นสร้างองค์ความรู้ ดว้ ยตนเอง (ศกึ ษา ค้นควา้ เพื่อหาคำตอบ ดว้ ยตนเอง) 7. กิจกรรมสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานครู ตามแนวหลกั สตู รใหม่ มาตรฐาน ภาระงาน ขั้นตอนการปฏิบตั ิ ผลผลิต/ตัวช้ีวดั 4. สือ่ การเรยี น การพัฒนา 1. ใชอ้ ุปกรณ์ ส่ือ แหล่งเรียนรู้ ทหี่ ลากหลาย 1. แผนผงั ความคดิ เกยี่ วกบั การใช้ ตนเอง การสอน สอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นการสอน ส่อื ฯ/แหล่งเรยี นรู้ 5. การวัด และ ประเมินผล 2. ใช้สอ่ื ภมู ปิ ญั ญาและสอื่ นวตั กรรม เทคโนโลยี 2. ทะเบียนสือ่ และอุปกรณ์ ตามสภาพจริง ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3. บนั ทึกการใช้สือ่ /แหล่งเรียนรู้ 1. ศึกษา อบรม แสวงหา 3. นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มในการผลติ หรอื จัดทำสื่อ 4. รายงานและสรปุ การทดลอง ความรู้ การสอน ใช้สอื่ /แหล่งเรียนรู้ เพื่อพฒั นา ตนเอง 4. จัดหาหรือผลิตสอื่ /อปุ กรณ์ 5. ระบบการจดั เก็บส่ือ 5. ทดลองการใช้สอ่ื ฯ เพอ่ื หาคณุ ภาพของสือ่ ฯ 6. นำส่อื ฯ ไปใช้ 7. รายงานการใช้สอื่ ฯ 8. จดั ระบบการใช้สื่อฯ 1. ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มในการกำหนดเกณฑก์ ารวัด 1. แบบสำรวจความตอ้ งการ และประเมนิ ผล และกำหนดเกณฑ์การประเมนิ 2. จัดทำเกณฑป์ ระเมิน(Rubric)ไวช้ ัดเจน 2. เกณฑ์การประเมินทีค่ รบ ทุกขนั้ ตอน/ทุกหน่วยการเรยี น ทง้ั K, P และ A 3. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบ 3. แบบประเมนิ ของผเู้ ก่ียวข้อง ทง้ั ด้านความรู้ (K) ทกั ษะกระบวนการ (P) ครู ผ้ปู กครอง นักเรียน และเจตคติ (A) เพ่อื นนกั เรียน 4. ครู นกั เรียน ผ้ปู กครอง หรือผทู้ เ่ี กย่ี วข้อง มีสว่ นร่วมในการวัดและประเมนิ ผล 1. เข้ารับการฝึกอบรม ศึกษา หาความรู้เพ่ือพฒั นา 1. เกยี รตบิ ตั ร หรอื หลักฐาน การสอนอยา่ งสมำ่ เสมอ การอบรม หรอื การศกึ ษา 2. นำความร้ทู ีไ่ ดม้ าใชพ้ ัฒนาการเรียนการสอน หาความรู้ 3. เผยแพรค่ วามรู้หรือผลงานให้ผอู้ ืน่ 2. เอกสารเผยแพร่ และพฒั นางานอยา่ งตอ่ เน่ือง ประชาสัมพนั ธ์ 4. ประเมินผลการจดั การเรียนการสอนของตนเอง 3. แบบสรุปการประเมินตนเอง 5. นำผลการประเมินไปพฒั นาการเรียนการสอน 4. รายงานผลการวจิ ยั ของตนเองตอ่ ไป 6. จัดทำวิจัยในชนั้ เรยี น
มาตรฐานการปฏิบตั งิ านครู ตามแนวหลักสตู รใหม่ มาตรฐาน ภาระงาน ขัน้ ตอนการปฏบิ ัติ ผลผลิต/ตวั ช้ีวดั 2. ปฏบิ ตั ิตน 1. เข้าสอนตรงเวลาและออกตรงเวลา 1. แบบบันทึกการเขา้ สอน เปน็ แบบอย่าง ทดี่ ี 2. อุทิศเวลาการสอนเพิ่มเติม 2. แบบบนั ทกึ การสอนซอ่ มเสรมิ 3. ดแู ลเอาใจใสผ่ ู้เรยี นอย่างสมำ่ เสมอและท่ัวถงึ 3. แบบสำรวจความคดิ เห็น ของผเู้ รียน
แบบประเมินผลการดำเนินงาน ตามมาตรฐานครู ชอ่ื .....................................................กล่มุ สาระการเรยี นร้.ู ................................................ รายการประเมิน การปฏบิ ตั ิ ระดับความพอใจ มี ไมม่ ี 4 3 2 1 ด้านการเตรยี มการสอน 1. ศกึ ษาหลกั สตู รและคู่เมอื ครจู นเขา้ ใจ ก่อนลงมอื เตรียมการสอน 2. คน้ ควา้ และทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่จะสอนจากคูม่ ือ หนังสอื หลายๆ เล่ม 3. ศกึ ษา หาความรู้ เพมิ่ เติมในวิชาอื่นนอกเหนือจากวิชาท่ีสอน 4. อา่ นวารสารทางการศึกษา เชน่ วารสารวิชาการ วารสารครศุ าสตรป์ รทิ ัศน์ ฯลฯ เปน็ ประจำ 5. ศกึ ษาค้นคว้าเพือ่ หาเทคนิคใหมๆ่ มาใช้ในการพฒั นาการเรยี นการสอน 6. มีการศกึ ษานโยบาย การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน 7. วเิ คราะหค์ ำอธิบายรายวิชา กอ่ นจดั ทำแผนการเรียนรู้ 8. วิเคราะหผ์ ู้เรียนกอ่ นจัดทำแผนการเรียนรู้ 9. จัดทำแผนการจัดการเรยี นครบทุกหน่วย 10. กำหนดเกณฑก์ ารประเมินครอบคลมุ ทัง้ 3 ดา้ น (K/ P /A) 11. เตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์ ส่อื การสอน กจิ กรรมตามแผน กอ่ นเข้าสอน 12. จดั ทำแผนการเรียนรู้ครบทกุ วิชา 13. มีการบรู ณาการหลกั สูตรภายในกลมุ่ สาระฯ 14. มีการบูรณาการหลกั สตู รข้ามกลุม่ สาระฯ ด้านการสอน 15. ใช้วิธกี ารนำเขา้ สู่บทเรยี นที่น่าสนใจ 16. ใช้กิจกรรมที่หลากหลายทีช่ ว่ ยให้ผเู้ รียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ 17. นักเรยี นมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นการสอน 18. จดั กจิ กรรมทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั (กจิ กรรมกล่มุ ) 19. จดั กจิ กรรมทเ่ี นน้ กระบวนการคิด (คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์) 20. กระตุ้นให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ อยา่ งเสรี 21. ให้กำลงั ใจเมื่อนักเรียนปฏบิ ตั ิหรือตอบคำถามถกู ตอ้ ง 22. มอบหมายงานใหผ้ ูเ้ รียนเหมาะสมกบั ศักยภาพ 23. จัดกิจกรรมทีส่ ง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นคน้ คว้าเพอื่ หาคำตอบดว้ ยตวั เอง 24. จดั กิจกรรมการสอนแบบโครงงาน 25. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม ทกุ แผนการจดั การเรียนรู้ 26. ใช้เวลาสอนอยา่ งเต็มเวลา 27. มีบันทกึ ผลการสอนทกุ คร้ัง
รายการประเมนิ การปฏิบตั ิ ระดับความพอใจ มี ไมม่ ี 4 3 2 1 ด้านส่อื แหล่งเรียนรูแ้ ละอปุ กรณก์ ารสอน 28. ใชส้ อ่ื นวัตกรรม เทคโนโลยี ในการเรยี นการสอน 29. ใช้สื่อแหลง่ เรียนรู้ที่หลากหลาย (บคุ คล สถานที่ วัตถุ เอกสาร) 30. ใช้ส่อื และอปุ กรณ์ท่ีหลากหลาย 31. ผลิตส่ือและทดลองการใช้ 32. บนั ทกึ ผลการใชส้ ่อื และรายงานผลการใช้ 33. จัดทำทะเบยี นสื่อ แหล่งเรียนรู้ และสื่ออปุ กรณ์ 34. จัดเก็บสือ่ อยา่ งเป็นระบบ ดา้ นการวดั และประเมินผล 35. ผเู้ รียนมีสว่ นรว่ มในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั ผลประเมนิ ผล 36. จัดทำเกณฑก์ ารประเมินไว้ชัดเจนทกุ ข้ันตอน / ทุกหนว่ ยการเรยี นรู้ 37. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลาย และครบท้ัง 3 ด้าน (K, P, A) 38. ครู ผู้เรียน ผ้ปู กครอง หรือผูท้ ีม่ สี ่วนเกย่ี วขอ้ ง มสี ว่ นรว่ มในการวดั และประเมินผล ดา้ นการพัฒนาตนเอง 39. เขา้ รับการฝกึ อบรม ศกึ ษาหาความรู้ เพื่อพฒั นาการสอนสม่ำเสมอ 40. นำความรทู้ ี่ไดม้ าพฒั นาการเรยี นการสอน 41. เผยแพรค่ วามร้หู รือผลงานให้กบั ผู้อนื่ และพฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่อง 42. ประเมนิ ผลการจดั การเรียนการสอนของตนเอง 43. นำผลการประเมินไปพัฒนาการเรียนการสอนของตนเอง 44. จัดทำวจิ ยั ในชั้นเรยี น 45. เขา้ สอนตรงเวลา และออกตรงเวลา 46. อทุ ศิ เวลาการสอนเพิม่ เตมิ 47. เอาใจใสด่ ูแลผเู้ รยี นอย่างสม่ำเสมอและท่วั ถึง รวมความถ่ี รอ้ ยละ จุดเด่น : .................................................................................................................................................................................................................. จุดดอ้ ย : .................................................................................................................................................................................................................. แนวทางการแก้ปญั หา : ..................................................................................................................................................................................................................
การส่งเสริมงานกิจการนกั เรยี น กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บังคับ ประกาศ คำสงั่ ทเี่ กย่ี วข้อง 1) พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี กไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 2) ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าดว้ ยการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาสงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2532 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1) สร้างความเขา้ ใจใหเ้ ห็นความสำคญั ของการดำเนนิ งานกิจการนกั เรียน 1.1) งานสง่ เสริมสุขภาพอนามัย (โครงการอาหารกลางวนั /โครงการอาหารเสริม (นม)) 1.2) งานแนะแนว 1.3) งานกีฬาและนันทนาการ 1.4) งานลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผบู้ ำเพญ็ ประโยชน์ และนกั ศึกษาวชิ าทหาร 1.5) งานประชาธิปไตยในโรงเรยี น 2) กำหนดแนวทางส่งเสริมการดำเนินงานกจิ กรรมนักเรียน 3) ดำเนนิ การจดั กิจกรรมนักเรยี น 4) ประสาน ตดิ ตาม และประเมนิ ผล 5) ปรบั ปรงุ รายงานผ
สารสนเทศด้านการสง่ เสริมกจิ กรรมนักเรยี น โรงเรยี น.............................................ปี............................. ท่ี รายการ มี ไมม่ ี 1 เขา้ ใจเหน็ ความสำคญั ของการดำเนนิ งานกิจการนกั เรยี น ด้าน - การสง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามยั - งานแนะแนว - งานกฬี าและนันทนาการ - งานลูกเสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ผู้บำเพญ็ ประโยชน์ นักศกึ ษาวชิ าทหาร - งานประชาธปิ ไตยในโรงเรียน - งานชมุ นมุ 2 มแี นวทางการสง่ เสริมการดำเนินงาน 3 มีการดำเนินการกจิ กรรมดังกลา่ ว 4 มีการประสาน ติดตาม ประเมนิ ผล 5 มีการปรบั ปรงุ รายงานผล 1. รูปแบบการจดั โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน O นร. นำมาจากบ้าน รร. ทำสมทบ O รร. จัดดำเนนิ การให้ นร. ไมต่ ้องนำมา 2. น้ำหนกั นกั เรยี นต่ำกวา่ เกณฑม์ าตรฐาน.............คน รอ้ ยละ ........................ 3. สว่ นสูงนกั เรียนตำ่ กว่าเกณฑ์มาตรฐาน.............คน ร้อยละ ........................ 4. นักเรียนไดร้ บั บรกิ ารแนะแนวจากครูแนะแนวหรือครปู ระจำชัน้ ................ครั้ง/เดือน 5. นกั เรยี นไดเ้ ขา้ รว่ มกฬี าและนนั ทนาการ .................ครั้ง/เดือน 6. นกั เรียนไดเ้ ลน่ กฬี า – กรฑี า อยา่ งน้อย 1 อยา่ ง คิดเปน็ ฟตุ บอล .............% วอลเลย่ ์ .............% ตะกร้อ .............% เปตอง .............% อ่นื ๆ .............% 7. นักเรยี นไดเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี 8. นกั เรียนมีคารวะธรรม ...........คน................% สามคั คีธรรม...........คน................% ปัญญาธรรม..........คน.............% 9. สรปุ รายงานผลการนำไปใช้ปรบั ปรุงพฒั นาระดบั คุณภาพ เพิม่ ..........% ลดลง..........% คงท.ี่ ...........%
การประชาสัมพนั ธ์ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ คำสัง่ ทเี่ กีย่ วข้อง 1) พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 2) พระราชบัญญัตขิ ้อมูลขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 3) ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ว่าด้วยการประชาสัมพันธแ์ ละการใหข้ ่าวราชการ พ.ศ. 2548 4) ระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2542 ขน้ั ตอนการดำเนินงาน 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการเผยแพร่ข้อมลู ข่าวสาร และความต้องการรบั ขอ้ มลู ข่าวสาร ของชุมชน 2) วางแผนการประชาสัมพนั ธ์งานการศึกษาของสถานศกึ ษา โดยการประสานงานกบั ทุกฝา่ ย 3) จดั ให้มีเครือขา่ ยการประสานงาน การประชาสมั พนั ธ์ 4) พัฒนาบุคลากรท่รี ับผิดชอบงานประชาสมั พนั ธ์ 5) ดำเนินการประชาสมั พนั ธ์ 6) สรา้ งกจิ กรรมประชาสมั พันธห์ ลายรปู แบบ โดยยึดหลักการมีส่วนรว่ ม 7) ตดิ ตาม ประเมนิ ผล
สารสนเทศด้านการประชาสมั พันธ์ โรงเรยี น......................................... ปีการศึกษา ....................................... รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ - จัดวางแผนประชาสัมพนั ธ์ - ตง้ั เครือขา่ ยการประสานงานการประชาสมั พนั ธ์ - ประชาสมั พนั ธห์ ลากหลายรูปแบบ - ประเมินผล รายงานผล - มีแผนงานโครงการด้านการประชาสัมพันธ.์ ....................................โครงการ - จำนวนเครือข่าย……………………………….เครือขา่ ย - จำนวนคร้ังทป่ี ระชาสมั พนั ธ.์ ..............................ครัง้ .........................เรอื่ ง - รปู แบบวธิ ีการประชาสัมพันธ์ 1. ................................................................................................................................................ 2. ................................................................................................................................................ 3. ................................................................................................................................................ 4. ................................................................................................................................................ - ผลการปฏิบตั ิ ประเมินอย่ใู นระดับ............................................... การสง่ เสรมิ สนับสนุนและประสานการจัดการศึกษาของบุคคล ชุมชน องคก์ รหน่วยงาน และสถาบันสังคมอ่ืนท่ีจัดการศึกษา กฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คับ ประกาศ คำสงั่ ที่เก่ียวข้อง 1) พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี ก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 2) หลกั สูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2551 3) กฎกระทรวง วา่ ดว้ ยสทิ ธใิ นการจดั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานในครอบครัว พ.ศ. 2547 ข้ันตอนการดำเนนิ งาน 1) ประสาน ประชาสัมพนั ธ์ สรา้ งความเขา้ ใจ ในสิทธิและหน้าท่ี ในการจดั การศึกษาของบคุ คล ครอบครัว ชมุ ชน สถาบนั ทางศาสนา และสถานประกอบการ ฯลฯ 2) ประสานใหค้ วามร่วมมอื กับสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ในการส่งเสริมและพัฒนาความสามารถใน การจดั การศกึ ษาของบคุ คล ครอบครวั ชมุ ชน สถาบันทางศาสนา และสถานประกอบการ เปน็ ต้น 3) สนบั สนุนใหบ้ ิดามารดาหรือผ้ปู กครองมีความรู้ ความสามารถ ในการอบรมเลย้ี งดู และให้การศกึ ษาแก่บุตรหรือบุคคลซึ่งอยูใ่ นการปกครองดูแล
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106