ระเบียบวาระที่ 4 4.1 แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ตามแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปีที่เจ็ด (1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2569) นาเสนอโดย นายพรชยั จุฑามาศ ตาแหน่ง รองผู้อานวยการโครงการอนรุ กั ษ์พันธกุ รรมพชื อันเน่ืองมาจากพระราชดารฯิ 4.2 แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. – พช. ตามแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปีที่เจด็ (1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2569) นาเสนอโดย ดร.ปิยรษั ฎ์ ปรญิ ญาพงษ์ เจรญิ ทรพั ย์ ตาแหน่ง เลขานุการคณะกรรมการโครงการอนุรกั ษ์ พันธกุ รรมพชื อันเนื่องมาจากพระราชดารฯิ 4.3 การทบทวนแผนปฏิบัติงานและปรบั แผนแม่บท อพ.สธ. ระยะปีที่ 5 ปีท่ีเจ็ด (1 ตุลาคม 2564 - 30 กั นยายน 2569) อพ.สธ. – พช. ประจ าปี งบประมาณ 256 6 และพิ จารณาแผนปฏิ บั ติ งาน ประจาปงี บประมาณ 2567
4.1 แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ตามแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ่ีเจด็ (1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2569) นาเสนอโดย นายพรชยั จุฑามาศ ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโครงการอนุรกั ษ์พนั ธกุ รรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดารฯิ
โครงการอนุรักษ์พันธกุ รรมพืชอันเน่อื งมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การดาเนนิ งานปงี บประมาณปี 2565 การทาแผนปฏบิ ัติการงบประมาณปี 2566 การทาแผนแมบ่ ทระยะ 5 ปีท่ีเจด็ ( ตุลาคม 2564- กนั ยายน 2569) พรชยั จฑุ ามาศ เจา้ หนา้ ท่ีงานในพระองค์ (นกั วชิ าการเกษตร)ระดับ 10 โครงการอนรุ ักษ์พันธุกรรมพชื อนั เนื่องมาจากพระราชดาํ ริฯ สาํ นักพระราชวงั พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเห็นความสําคัญของ การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชมาเป็นเวลาช้านานก่อนคําว่าความหลากหลายทางชีวภาพ (biological diversity) และการ อนุรักษ์ (conservation) จะเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ทรงเริ่มอนุรักษ์ต้นยางนาใน พ.ศ. 2503 ทรงทดลองเพาะ เมลด็ ยางทเี่ ก็บจากตน้ ยางนา ในเขตอําเภอท่ายางในกระถางบนพระตําหนักเป่ียมสุข พระราชวังไกลกังวล อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ และทรงปลูกต้นยางนาเหล่านั้นในแปลงทดลองป่าสาธิตใกล้พระตําหนักเรือนต้น สวนจิตรลดา พระราชวงั ดสุ ิต กรงุ เทพมหานคร พร้อมข้าราชบริพาร เม่ือวันท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 จํานวน 1,250 ต้น ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2504 ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้นําพรรณไม้จากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศมาปลูกในบริเวณท่ีประทับสวน จิตรลดา เพ่ือให้เป็นท่ีศึกษาพรรณไม้ของนิสิตนักศึกษาแทนท่ีจะต้องเดินทาง ไปท่ัวประเทศ ในวันพืชมงคล 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดช มหาราช บรมนาถบพิตร พร้อม ด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินทรงเปิด อาคารห้องปฏิบตั กิ ารเพาะเล้ยี งเนื้อเยือ่ พชื ทีโ่ ครงการส่วนพระองค์ฯ สวนจิตรลดา ทรงมีพระราชกระแสให้อนุรักษ์ต้น ขนุนหลังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง จึงได้ดําเนินการพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บรักษาพันธ์ุพืช เอกลกั ษณ์โดยวิธีการเพาะเลย้ี งเนือ้ เยือ่ พืช ได้แก่ ต้นขนุนและพืชเอกลักษณ์ของพระราชวังต่าง ๆ เช่น พุดสวน มณฑา ยีห่ ุบ สมอไทย ทาํ การอนรุ ักษ์ไว้ในสภาพปลอดเชอ้ื เพอื่ นาํ ไปใชป้ ระโยชน์ในอนาคต ในปี พ.ศ. 2529 ทรงพระราชทาน ให้โครงการส่วนพระองค์ฯ สวนจิตรลดา อนุรักษ์และขยายพันธ์ุหวายท่ีมีค่าทางเศรษฐกิจชนิดต่าง ๆ โดยการเพาะเล้ียง เนื้อเยื่อ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ทําการทําลองปลูกต้นหวายเหล่าน้ันในป่ายางนาใกล้พระตําหนักเรือนต้น สวนจิตรลดา และมีพระราชดําริให้ทดลองปลูกที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ศึกษาการ พัฒนาภูพานฯ จังหวัดสกลนคร และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2529 นอกจากมี พระราชดาํ รใิ หม้ ีการอนรุ ักษ์พันธุกรรมหวายแลว้ ยังได้จัดทําสวนพืชสมุนไพรข้ึนในโครงการส่วนพระองค์ฯ สวนจิตรลดา เพื่อรวบรวมพืชสมุนไพรมาปลูกเป็นแปลงสาธิต รวบรวมข้อมูลสรรพคุณ ตลอดจนการนําไปใช้ประโยชน์ ศึกษาการ ขยายพันธุ์พชื สมนุ ไพรโดยการเพาะเล้ยี งเน้ือเยื่อ และเผยแพร่ความรู้ท่ีได้สู่ประชาชน เม่ือวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมี พระราชกระแสกับพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ให้ดําเนินการผสมพันธุ์ผักสองชั้น (Double Hybridization)
ขึ้นในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดําริ และห้องปฏิบัติการเพาะเล้ียงเน้ือเย่ือพืชของโครงการส่วน พระองค์ฯ สวนจติ รลดา ดําเนนิ การผสมพันธุผ์ กั สองชนั้ พรอ้ มกนั ไปด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสืบต่องานอนุรักษ์ พันธุกรรมพืช โดยในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2535 ทรงมีรับส่ังกับนายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง และ ผู้อาํ นวยการโครงการส่วนพระองค์ฯ สวนจิตรลดา “ให้ดาเนินการอนุรักษ์พืชพรรณของประเทศ และดาเนินการเป็น ธนาคารพืชพรรณ” ทําการรักษาฐานทรัพยากรของประเทศ นําไปสู่เศรษฐกิจพอเพียง จากที่พระบาทสมเด็จพระ บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะปกครองโดย ธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ทรงใช้ทศพิศราชธรรมในการปกครองประเทศ และประโยชน์สุขแห่ง มหาชนชาวสยามนั้น ทรงมีโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดําริมากมาย มากกว่า 4,000 โครงการ และทาง อพ.สธ. เชื่อว่า บทสรุปที่พระราชทานเพ่ือพศนิกรของพระองค์ท่านอยู่ได้ พ่ึงตนเองได้ คือพระราชดําริท่ีพระราชทานปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง เป็นทางสายกลาง นําไปสู่ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน ในเงื่อนความรู้ เงื่อนไข คุณธรรม นําไปสูเ่ ศรษฐกจิ สังคม วฒั นธรรมทสี่ มดลุ พร้อมรบั กบั การเปล่ยี นแปลง เศรษฐกิจพอเพียง คือการพ่ึงตนเองได้นั้น จําเป็นต้องมีฐานทรัพยากร ทั้งกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ และ ทรัพยากรทีเป็นวัฒนธรรมภูมิปัญญา เพราะภูมิปัญญาน้ันกํากับทรัพยากรในเร่ือง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่ อาศัย ยา รกั ษาโรค คอื ปจั จัยส่ี ซ่งึ เปรียบเสมอื นฐานในการพฒั นาประเทศ ที่เราจาํ เปน็ ตอ้ งมีทรพั ยากร และทรัพยากรนั้น เราต้อง เป็นเจ้าของสทิ ธิ มใิ ช่ทรัพยากรของเราแตถ่ กู ตา่ งชาตนิ ําไปศกี ษาและนําไปจดสิทธบิ ัตร “เศรษฐกิจพอเพยี งเป็นเสมือนรากฐานของชีวติ รากฐานความมน่ั คงของแผ่นดนิ เปรียบเสมือนเสาเขม็ ทถี่ ูกตอก รองรบั บา้ นเรอื นตวั อาคารไว้นั่นเอง ส่งิ ก่อสร้างจะมนั่ คงไดก้ ็อยู่ท่ีเสาเข็ม แตค่ นสว่ นมากมองไมเ่ ห็นเสาเข็มและลืม เสาเข็มเสียด้วยซา้ ไป” พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดช มหาราช บรม นาถบพิตร ผา่ นมูลนิธินิธิชัยพฒั นา การประชุมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ระหว่างวันท่ี 12-14 ตุลาคม พ.ศ.2543 ณ ห้องประชุม สุธรรม อารีกลุ อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ และการประชุมวิชาการและนิทรรศการทรัพยากร ไทย : อนุรักษ์และพัฒนาด้วยจิตสานึกแห่งนักวิจัยไทย ระหว่างวันที่ 21-27 มิถุนายน พ.ศ.2544 ณ ศาลาพระเก้ียว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การประชุมวิชาการนิทรรศการ ทรัพยากรไทย :ธรรมชาติแห่งชีวิต ในระหว่างวันที่ 9-15 พฤษภาคม พ.ศ.2546 ณ สํานักพระราชวงั พระราช วังดุสิต และทรัพยากรไทย : สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว ระหว่างวันที่ 19- 25 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืช โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริฯ คลองไผ่ ตาํ บล คลองไผ่ อําเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ปี พ.ศ. 2550 ประชุมวิชาการนิทรรศการ ทรัพยากรไทย :
ประโยชน์แท้แก่มหาชน ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เกาะและทะเลไทย ที่บริเวณเขาหมาจอ ตําบลแสมสาร อําเภอสตั หบี จังหวดั ชลบรุ ี การจดั ประชุม วิชาการนิทรรศการปี พ.ศ.2552 ทรัพยากรไทย : ผันสู่วิถีใหม่ในฐานไทย ระหว่างวันที่ 19-25 ตุลาคม 2552 ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตําบลบางพระ อําเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในการเปิด ประชุมวิชาการนิทรรศการ ทรงเปิดศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรภาคตะวันออก ห้องปฏิบัติการ DNA- Fingerprint การเตรียมการในเรื่องผันสู่วิถีใหม่ในฐานไทย ทําให้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดําริฯ ได้วิเคราะห์ฐานไทย ฐานชุมชน ฐานของหน่วยงาน ส่วนราชการ มหาวิทยาลัย โรงเรียนท่ีร่วมสนอง พระราชดําริ นําไปสู่การเรียนรู้ทรัพยากรท้องถิ่น ได้แก่ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ และทรัพยากรทาง วัฒนธรรม ภูมิปญั ญา ซึง่ จาํ เปน็ ประสานกบั ท้องถ่นิ ชุมชน ในการดาํ เนนิ การสํารวจฐานข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น เพ่ือ จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากร ท้องถ่ิน เช่น ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรภาคตะวันออก สวนสัตว์เปิด เขาเขียว จังหวัดชลบุรี ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรตําบลที่ร่วมสนองพระราช ดําริ จากพระราชกระแสที่ พระราชทานเม่ือวันท่ี 25 มีนาคม 2548 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา “ทาอย่างไร ให้ชุมชน มาให้โรงเรียน โดยเฉพาะนักเรยี นช่วยในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และให้มีการทา DNA Fingerprint ในโรงเรียน” และทรงย้ํา เม่ือวันที่ 4 พฤษภาคม 2550 ณ อาคารชยั พัฒนา สวนจิตรลดา “ให้เร่งอนุรักษ์และหาวิธีการรักษาสิทธิ” จะเห็นได้ วา่ ทรงพระอจั ฉรยิ ะ ท่ใี ห้องคก์ ารปกครองส่วนท้องถ่ิน ชุมชน ช่วยดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สนับสนุน ให้โรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัยในท้องถ่ิน โดยให้นักเรียนนักศึกษา ช่วยในการสํารวจให้รู้ทรัพยากรที่จะต้อง อนรุ ักษ์ และมีการพฒั นาใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากรอย่างยงั่ ยืน สู่เศรษฐกิจพอเพียง ในปีพ.ศ.2554-2558 ได้ร่วมกับมูลนิธิ อนุรักษ์พันธุกรรมพืช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (มูลนิธิ อพ.สธ.) จัดทําโครงการรวมใจภักด์ิ ปลูกมเหสักข์ – สักสยามินทร์ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัว เนื่องในวโรกาสพระชนมพรรษา 84 พรรษา ขยายพันธ์ุโดยวิธีการเลีย้ งเนอื้ เย่ือ เพ่ือเป็นไม้พระราชทานไปยังตําบลต่างๆ ทั้ง 7,255 ตําบล เป้าหมาย 8,400,000 ต้น (แปดล้านสแี่ สนต้น) เปน็ ตน้ ไมแ้ ห่งการร่วมมอื ร่วมใจกันในทุกภาคส่วน เป็นการสักไว้ในแผ่นดิน เป็นสัญญลักษณ์ แสดง ความจงรักภักดี สามัคคีปรองดอง สร้างส่ิงแวดล้อมท่ีดี มีมูลค่าเพ่ิม และท่ีสําคัญ คือ เป็นเคร่ืองมือที่จะเข้าสู่ท้องถ่ิน ตําบล เพื่อตําบลจะได้เข้าร่วมสนองพระราชดําริ จัดทําฐานทรัพยากรท้องถ่ินตําบล และเชื่อมต่อกันเป็นของ อําเภอ จังหวัด และประเทศต่อไปในอนาคต การประชุมวิชาการนิทรรศการ ทรัพยากรไทย : ก้าวสู่โลกกว้างอย่างม่ันใจ จัดข้ึนที่ศูนย์ฝึกหนองระเวียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์กลางมหาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันท่ี 1 – 7 พฤศจิกายน 2554 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริฯ มีการดําเนิน กิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเน่ืองในทุกระดับเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจน มีทิศทางการดําเนินงานเพื่อสนอง พระราชดําริ ในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของประเทศให้ย่ังยืน เป็นการดําเนินการต้ังแต่ยอดเขาถึงใต้ทะเล ตั้งแต่ยอด เขาจนถึงใต้อ่างเก็บน้ํา จากยอดเขาใหญ่ถึงลุ่มนํ้าโขง ที่ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพสิ่งล้วนพัน เก่ียว เพื่อให้เกิดผลประโยชน์แท้แก่มหาชน การผันสู่วิถใี หม่ในฐานไทย ท่ีมีฐานไทย ฐานชุมชน ฐานทรัพยากรวัฒนา
ธรรม ภมู ิปญั ญา พรอ้ มที่จะก้าวสโู่ ลกกว้างอย่างมนั่ ใจ อันเปน็ ผลปรโยชน์แท้แกป่ ระเทศชาติและประชาชนให้มากที่สุด และในปี 2556 ระหวา่ งวันที่ 20 - 26 ธันวาคม มีการจัดประชุมวิชาการ นิทรรศการ ทรัพยากรไทย : นาส่ิงดีงามสู่ตา โลก ที่เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ประชุมวิชาการ นิทรรศการ ปีพ.ศ. 2558 ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน จัดท่ีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปีพ.ศ.2560 ทรัพยากรไทย :ศักยภาพมากล้นมีให้เห็น ซ่ึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับเป็นเจ้าภาพ จัดที่ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายเพื่อ ภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - สระบุรี จังหวัดสระบุรี ทรัพยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นเจ้าภาพ จัดที่ศูนย์การศึกษา.หนองระเวียง อ.เมือง นครราชสีมา วันท่ี 28 พฤศจิกายน ถงึ 5 ธันวาคม พ.ศ.2562 และการประชุมวิชาการนิทรรศการ ทรัพยากรไทย : ประโยช์แท้แก่มหาชน ใน ปี 2565 ท่มี หาวิทยาลัยวลัยลกั ษณ์ จังหวัดนครศรธี รรมราช นอกจากการประชุมทุกสองปี ยังมีการประชุมวิชาการ นิทรรศการ สวนพกษศาสตร์โรงเรียนระดับภูมิภาค ใน ระหว่างปีของการประชุมวิชาการนิทรรศการทรัพยากรไทย ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2553 ได้มีการจัดการประชุม วิชาการนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ระดับภูมิภาค ครั้งท่ี 1 ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี การประชุมวิชาการ นทิ รรศการสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ระดบั ภูมภิ าค ครงั้ ที่ 2 เดือนมถิ นุ ายน พ.ศ.2555 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัด เชียงใหม่ การประชมุ วชิ าการนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ระดบั ภมู ิภาค ครง้ั ที่ 3 ในเดือนมิถุนายน 2557 ท่ี โรงเรียนนนทบรุ ีวิทยาลยั จงั หวัดนนทบุรี การประชมุ วิชาการนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ระดับภูมิภาค ครั้ง ท่ี 4 ในเดือนกรกฎาคม 2559 กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพ จัดที่สํานักพระราชวัง พระราชวังดุสิต การประชุม วิชาการนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ระดับภูมิภาค ครั้งที่ 5 ในเดือนพฤษภาคม 2561 มหาวิทยาลัยราชภัฏ วไยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปทุมธานี เป็นเจ้าภาพ และจะจัดการประชุมวิชาการนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน ระดับภูมิภาค คร้ังท่ี 6 ในวันท่ี 30 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม 2564 ท่ีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นครศรธี รรมราช เป็นเจ้าภาพ การจัดทําแผนแม่บท โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริฯ ในระยะ 5 ปีท่ีเจ็ด (ตุลาคม 2564 – กนั ยายน 2569) ขอใหห้ น่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดาํ ริ จัดทําแผนแม่บทของหน่วยงาน สอดคล้อง กับแผนแมบ่ ทของ อพ.สธ.โดยศึกษาจากวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน และโครงการที่มีอยู่ ปรับเข้าร่วม สนองพระราชดาํ ริ โดยในส่วนของมหาวิทยาลยั ในกจิ กรรมพเิ ศษสนับสนุนการอนรุ กั ษ์ทรัพยากร (ก8) ให้มีงานสนับสนุน วิชาการในการจัดทําฐานทรัพยากรท้องถ่ินขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ที่จะเน้นในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพการ ดําเนินงานสนองพระราชดําริแล้ว อพ.สธ.ยังวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งการดําเนินงานตลอด 28 ปิ ในการหวนดูทรัพย์ส่ิง สนิ ตน ศักยภาพมากล้นมใี หเ้ หน็ ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์ และประโยชน์แท้แก่มหาชน โดยเข้าใจ เห็นความสําคัญของ พันธุกรรมพืชและทรพั ยากร ร่วมคิดร่วมปฏบิ ัติจนเกิดประโยชน์กบั มหาชนชาวไทย ให้มีระบบข้อมูลส่ือถึงกันทั่วประเทศ โดยการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาตามแนวทางการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดช มหาราช บรมนาถบพติ ร อันเป็นฐานในการ รักษา สบื สาน ต่อยอด ตามพระบรมราโชบายต่อไป
ตามท่คี ณะกรรมการขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไดม้ หี นังสือขอแจง้ ยนื ยนั การดําเนินการกิจกรรม/โครงการภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศท่มี ีความจําเป็นเร่งด่วน (Quick Win) มีการกําหนดการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพ โดยให้มีศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นตําบลให้ครอบคลุมทุกตําบลท่ัวประเทศ โดยจะเร่ิมบันทึกข้อมูล พื้นฐานของท้องถิ่นในด้านทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมภูมิปัญญาในรูปแบบ Small Data ในระดบั ทอ้ งถิ่น ท่จี ะใช้เชื่อมโยงกับการวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ข้อมูลในระดบั Big data ของประเทศต่อไป โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดําริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เปน็ โครงการทส่ี มเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงสืบทอด พระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จะรักษาฐาน ทรัพยากรกายภาพ ฐานทรัพยากรชีวภาพ และฐานทรพั ยากรวฒั นธรรมภูมิปัญญาของประเทศ เป็นต้นทุนในการพัฒนา ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง มาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2535 การดําเนินงานขับเคลื่อนให้เกิดศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรท้องถ่ินตําบลให้ครอบคลุมทุกตําบลทั่ว ประเทศ ตามแผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เร่ืองทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพ เป็น การดําเนินงานตามแนวทางการดําเนินงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น อพ.สธ. โดยได้ประสานกับที่ปรึกษา กระทรวงมหาดไทย อพ.สธ. มีความเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยควรเป็นหลักในการดําเนินงานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน เนื่องจากเป็นเรื่องของความม่ันคงในมิติของความม่ันคงทางทรัพยากรของประเทศ และสอดรับกับนโยบายมหาดไทย 4.0 แตเ่ นอื่ งจากระทรวงมหาดไทยไม่มภี ารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยตรง จึงจําเป็นต้องบูรณาการ ร่วมกันในหลายกระทรวง โดยต้องเป็นนโยบายและตัวชี้วัด กํากับการดําเนินงานสนองพระราชดําริไปยังส่วนราชการ อาทิ กระทรวงศึกษาธกิ ารมีนโยบายและตวั ชี้วัดในการดําเนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนโดยมีนักเรียนช่วยสํารวจใน ทอ้ งถิ่น มหาวิทยาลัยท้องถิ่นเป็นพี่เลี้ยง และศึกษาวิจัยต่อยอดเพ่ือการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิ่นอย่าง ยั่งยืน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมโดยสํานักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กํากับการปฏิบัติงานของสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทุกจังหวัด และจะมีสํานักงานนโยบายและ แผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมประสานงานและติดตามการดําเนินงานตามพระราชบัญญัติความหลากหลาย ทางชีวภาพ พ.ศ. .... ท่ีกําลังจะมีข้ึน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการดูแลเร่ืองเกษตร ปศุสัตว์ และประมง มี พระราชบญั ญัตคิ ุม้ ครองพนั ธ์พุ ชื พ.ศ. 2542 และกระทรวงสาธารณสุขมกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คุ้มครองภูมิปัญญาการแพย์แผนไทย พืชสมุนไพรและถิ่นอาศัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา การแพทยแ์ ผนไทย พ.ศ. 2542 เปน็ ต้น ดงั น้ันจาํ เปน็ ตอ้ งมกี ารประสานงานและหารือด้านโยบายให้ทางกระทรวงมหาดไทยดําเนินการได้ และเป็นหลัก ของประเทศ ซ่ึงมีการประชุมหารือระหว่างผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถ่ิน กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน สํานักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมการแพทย์แผน ไทยและการแพทย์ทางเลอื กในวนั ที่ 2 กรกฎาคม 2561 ในการทจ่ี ะให้ประสานงานบรรลุตามเปา้ หมาย จึงจําเปน็ ต้องเป็นนโยบายและตัวชีว้ ดั ในการขบั เคล่ือนให้จังหวัด สนับสนุน อปท. โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นพ่ีเล้ียงให้ความรู้ ซ่ึงในขณะน้ีเป็นจุดเร่ิมต้นที่ทาง อพ.สธ. จะทําความเข้าใจกับ มหาวิทยาลัยที่จะเป็นศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับเครือข่ายข้างต้นและจําเป็นต้องเป็น นโยบายและตวั ชว้ี ดั ในการปฏริ ูปประเทศ เพอ่ื ให้ตรงตามเปา้ หมายและวัตถุประสงคต์ ่อไป ตามนโยบายจากสํานักพระราชวังท่ีให้ อพ.สธ. เป็นหน่วยประสานงานกลาง และลดขนาดหน่วยงาน บุคลากร อพ.สธ. ได้ดําเนินการวางแผนการประสานงานกับมหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. จํานวน 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ.- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ประสานภาคเหนือ ศูนย์แม่ข่าย ประสานงาน อพ.สธ. มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ประสานภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ศูนย์แม่ข่าย ประสานงาน อพ.สธ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ประสานภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ศูนย์แมข่ ่ายประสานงาน อพ.สธ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสานภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และศูนย์ แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา ประสานภาคใต้ที่มีเครือข่ายมหาวิทยาลัยใน จังหวัดต่างๆ อพ.สธ. ได้จัดทาํ แผนผงั มโนทศั นก์ ระบวนการประสานงานระหว่างหนว่ ยงานรว่ มสนองพระราชดําริ ระดับ จังหวัด ราชการส่วนกลาง-ส่วนภูมิภาค มหาวิทยาลัยท้องถิ่น มหาวิทยาลัยท่ีเป็นศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. โรงเรยี น และ อปท. โดยไดข้ อพระราชทานพระราชวินจิ ฉัยและประสานกับมหาวิทยาลัย ทีพ่ ระราชทานเป็นศูนย์แม่ข่าย ประสานงานและ มหาวิทยาลัยท่ีขอพระราชทานเป็นศูนย์ประสานงาน โดยการประสานงานจะอยู่ในกรอบการสร้าง จิตสํานึก กิจกรรมท่ี 8 กิจกรรมสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร ภายใต้คณะกรรมการดําเนินงานโครงการอนุรักษ์ พันธกุ รรมพชื อันเนอื่ งมาจากพระราชดาํ ริฯ (อพ.สธ.) ของมหาวทิ ยาลยั นัน้ ๆ แผนผงั การดาเนินงานประสานงานของหน่วยงานทส่ี นองพระราชดาริ ทุกแผนผังเป้าหมายท่ีสุดคือจิตสํานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ซ่ึงเป็นผลท่ีคาดว่าจะได้รับจากการดําเนินงาน สนองพระราชดําริ คือการบรหิ ารจัดการ วชิ าการ ข้อมูล ภูมิปัญญา คุณธรรมจริยธรรม ทางด้านซ้ายมือจะเป็นเรื่องการ เข้าร่วมสนองพระราชดาํ ริ การบรกิ ารจดั การ ด้านขวาของแผนผงั จะเป็นการดาํ เนินงาน
แผนผงั การดาเนนิ งานของมหาวทิ ยาลัย ศูนยแ์ ม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ.มหาวทิ ยาลยั และแผนผังการดาเนินงาน ของมหาวทิ ยาลยั ศูนยป์ ระสานงาน อพ.สธ.มหาวทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยแม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ.จะดําเนินงานศูนย์ประสานงานอพ.สธ.ของมหาวิทยาลัยที่เป็น เครือข่าย คือเป็นงานในกิจกรรมที 8 กิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยมหาวิทยาลัยขอพระราชทาน เข้าร่วมสนองพระราชดําริและทีคณะกรรมการดําเนินงาน อพ.สธ. - มหาวิทยาลัย ที่แต่งตั้งโดยพระราชานุญาต โดยมี อธิการบดีเป็นประธาน มีคณะทํางานหรือคณะอนุกรรมการชุดต่างเพ่ือการจัดทําแผนแม่บท แผนปฏิบัติ พิจารณาจาก วิสัยทัศน์ พันธกิจของมหาวิทยาลัย ในเร่ืองการเรียน การสอน การวิจัย การบริการวิชาการ การทํานุบํารุง ศิลปวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับกิจกรรมโครงการ 3 กรอบ 8 กิจกรรม ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอัน เน่ืองมาจากพระราชดําริฯ (อพ.สธ.) ศูนย์แม่ข่ายประสานงานฯจะประสานกับมหาวิทยาลัยท่ีเป็นเครือข่ายและ ดําเนินงานตามกิจกรรมของศูนย์ประสานงานมหาวิทยาลัย ท่ีทําหน้าท่ีเป็นผู้แทนของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอัน เน่ืองมาจากพระราชดําริฯ (อพ.สธ.) ต้องทราบการดําเนินกิจกรรมอพ.สธ. 3 กรอบ 8 กิจกรรม งานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน งานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน สามารถให้ความรู้ แนวทางการดําเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ในระดับ โรงเรียน มหาวิทยาลัย การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ฐานทรัพยากรท้องถิ่น ขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ระดับ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตําบล องค์การบริหารส่วน ตําบล และการบริการวิชาการ ซึ่งจะต้องมีความพร้อมในเร่ืองเอกสาร สือต่างๆ การอบรมหลักสูตรงานสวน พฤกษศาสตร์โรงเรียน งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น เม่ือมีความพร้อมคือมีวิทยาการที่ผ่านการรับรองจาก อพ.สธ. การ
อบรมการจัดทําตัวอย่างพรรณไม้แห้ง อนุกรมวิธาน การวาดภาพทางวิทยาศาสตร์ การถ่ายภาพทางวิทยาศาสตร์ การ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การรับโจทย์วิจัยจากท้องถ่ิน เพื่อนําไปสู่การวิจัย โดยการนําเข้าสู่คณะกรรมการดําเนินงาน อพ.สธ. มหาวิทยาลยั เพอ่ื เปน็ แผนปฏิบัติ ในเรอ่ื งการเรียน การสอน การวิจัย การบริการวชิ าการ ตามแผนผงั
แผนผงั การดาเนนิ งานของจังหวัด โดยท่ีจังหวัดทุกจังหวัดได้เข้าร่วมสนองพระราชดําริ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจาก พระราชดําริฯ ( อพ.สธ.) ทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร บนสุดของแผนผังคือเร่ืองจิตสํานึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากร ด้านซายเป็นเรื่องการบริหารจัดการ ตั้งแต่วิธีการเข้าร่วมสนองพระราชดําริ การแต่งต้ังคณะกรรมการ ดาํ เนนิ งาน การประชุมคณะกรรมการดําเนินงาน อพ.สธ.ทาํ งานชุดต่าง โดยในแต่ละจงั หวัดมีคณะกรรมการดําเนินงานฯ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เป็นกรรมการและมีหัวหน้าสํานักงานจังหวัดเป็น กรรมการและเลขานุการ ท่ีจําดําเนินหารตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยพิจารณา โครงการที่สอดคล้องกับกิจกรรมของ อพ.สธ. สามารถนําเข้าราวมสนองพระราชดําริ จังหวัดจะมี การดําเนินงานตาม กรอบการสร้างจิตสํานึก กิจกรรมหลักคือกิจกรรมที่ 8 กิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร กรอบการใช้ ประโยชน์ กิจกรรมศูนยข์ ้อมลู ทรัพยากร ท่ีจังหวัดควรมีข้อมลู จริงโดยมคี ณะทาํ งาน ท่ีจะมีขีอมลู ทพั ยากรกายภาพ โดยมี ส่วนราชการภูมิภาค ที่ส่วนกลางสนองพระราชดําริ เป็นโครงข้อมูลจังหวัด ด้านทรัพยากรกายภาพ มีสํานักงาน ชลประทานจังหวัด ทรัพยากรน้ํา ทรัพยากรน้ําบาดาล พัฒนาที่ดิน ที่ดิน อุตุนิยมวิทยา ด้านทรัพยากรชีวภาพ ที่มี เกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ประมงจังหวัด ข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มีทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม จงั หวัด เปน็ หนว่ ยประสานกบั หนว่ ยงานกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม ไดแ้ ก่ ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ เขต รักษาพันธ์ุสัตว์ป่า เขตห้ามล่า ก็จะเป็นแหล่งข้อมูลด้านทรัพยากรชีวภาพ พืชสัตว์ จุลินทรีย์ เห็ด ด้านทรัพยากร วัฒนธรรมภูปัญญา ก็มีวัฒนธรรมจังหวัด ท่ีมีข้อมูลด้านภูมิปัญญา พัฒนาชุมชนมีข้อมูลภูมิปัญญาของการนําไปพัฒนา
เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซ่ึงภาพใหญ่ของจังหวัด ส่วนข้อมูลในระดับท้องถิ่น จังหวัดก็มีนโยบายสั่งการผ่านนายอําเภอ ที่ ดูแลในเรื่องท้องท่ี กํานันผู้ใหญ่บ้านร่วมมือกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดําเนินการสนองพระราชดําริในงานฐาน ทรัพยากรท้องถิ่น ซึ่งจะสอดรบั กับนโยบายและตัวชว้ี ัดของกรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ิน ท่ีให้ทุกองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น คือองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตําบล องค์การบริหารส่วนตําบล เข้าร่วม สนองพระราชดาํ ริงานฐานทรัพยากรท้องถิน่ เมอื่ ตาํ บลเขา้ ร่วมสนองพระราชดาํ ริ โรงเรยี นที่อยู่ตําบลน้ันๆ ก็ต้องเข้าร่วม สนองพระราชดําริ ในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และเป็นกําลังสําคัญในงานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ท่ีดําเนินงาน จดั ทาํ หลกั สูตรทอ้ งถ่นิ ในการสํารวจทรัพยากร ขอ้ มูลในระดบั ท้องถน่ิ ท่เี ปน็ ปจั จบุ ัน จะเข้าสู่ระบบข้อมูลของจังหวัด และ ข้อมูลประเทศ ที่มหาดไทย 4.0 จะต้องมีกระบวนการ Big Data จากข้อมูลจริงเชิงพื้นท่ี เพื่อใช้ในการวางแผนพัฒนา ในการดําเนินงานของจังหวัดจําเป็นต้องมีมหาวิทยาลัยเข้ามาเป็นฐานด้านวิชาการ การศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาต่อยอด ตอ่ ไป แผนผงั การดาเนินหนว่ ยงานสนองพระราชดาริ หน่วยงานสนองพระราชดําริในกลุ่มที 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากร ซ่งหน่วยงานก็มีการสนอง พระราชดําริดําเนินกิจกรรมของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดําริฯ ( อพ.สธ.) ในส่วนกลาง ส่วนราชการภูมิภาคก็เป็นคณะกรรมการดําเนินงานของจังหวัด เป็นแนวทางท่ีจะใช้งบประมาณของกรม เป็นงบ function มาดําเนินงานในจังหวัด ยกตัวอย่างเร่ืองน้ํา หากท้องถิ่นมีการสํารวจจัดทําฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ทราบใน
เรื่องพ้ืนท่ีเกษตร แต่น้ําไม่เพียงพอ ต้องการแก้ปัญหา ก็นําข้อมูลปรึกษากับทางชลประทานจังหวัด หรือทรัพยากรนํ้า จังหวัด เพื่อจดั ทําโครงการ สว่ นราชการภมู ิภาคก็นาํ เร่อื งเข้าคณะกรรมการดําเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอัน เน่ืองมาจากพระราชดําริฯ ( อพ.สธ.) จังหวัด ผ่านการพิจารณาแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเรื่องไปยังกรมในส่วนกลาง กรมในส่วนกลางก็รวบรวมเป็นโครงการพระราชดําริ ที่จะส่งให้อพ.สธ.ช่วยพิจารณา ยืนยันไปยังสํานักงบประมาณ จ ะ เปน็ การจดั ทํางบประมาณทมี่ ฐี านจากข้อมลู ความตอ้ งการจริง ฐานขอ้ มลู ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ เป็นการ จัดการงบประมาณของประเทศในเร่ืองการพฒั นาท้องถิ่น ทมี่ าจากฐานขอ้ มลู ทรพั ยากรทอ้ งถนิ่ แผนผังงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น แผนผังสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นภาพรวมงานการดําเนินงาน ท่ีด้านซ้ายมือเป็นการบริหารจัดการ การ สมัครเป็นสมาชิก การมีส่วนร่วม การดําเนินงานตามคูมือการดําเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน การดําเนินงานให้ เป็นมาตรฐานตามเกณฑ์ เพ่ือขอรับพระราชทานป้ายสนองพระราชดําริ และเกียรติบัตรขั้นท่ี 1 และเกียรติบัตรข้ันที่ 2 ด้านขวามือเป็นการดําเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ท่ีมี 5 องค์ประกอบ แต่ละองค์ประกอบมีลําดับการเรียนรู้ การเรียนรู้ 3 สาระ ธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพส่ิงล้วนพันเกี่ยว ประโยชน์แท้แก่มหาชน ก็มีลําดับการเรียนรู้ ที่มี รายละเอียดในคู่มอื การดาํ เนินการ วิธีการใหค้ ะแนนตนเอง
แผนผังการดาเนนิ งานฐานทรัพยากรทอ้ งถ่นิ แผนผังฐานทรัพยากรท้องถ่ิน เป็นภาพรวมงานการดําเนินงาน ท่ีด้านซ้ายมือเป็นการบริหารจัดการ การสมัคร เป็นสมาชิก การมีส่วนร่วม การดําเนินงานตามคู่มือการดําเนินฐานทรัพยากรท้องถิ่น การดําเนินงานให้เป็นมาตรฐาน ตามเกณฑ์ เพ่ือขอรับพระราชทานป้ายสนองพระราชดําริ และเกียรติบัตรขั้นที่ 1 และเกียรติบัตรขั้นท่ี 2 ด้านขวามือ เป็นการดําเนินงานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ท่ีมี 6 งาน งานปกปักทรัพยากร งานสํารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร งานปลูก รักษาทรัพยากร งานศูนย์ข้อมูลทรัพยากร งานสร้างจิตสํานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร และงานสนับสนุนการอนุรักษ์ ทรัพยากร มีลําดับการเรียนรู้ ระดับรับพระราชทานป่ายสนองพระราชดําริ การเรียนรู้ 4 ทรัพยากร เพื่อขอรับ พระราชทานเกียรติบัตรข้ันท่ี 1 และขั้นที่ 2 ท่ีมีลําดับการเรียนรู้ มีรายละเอียดในคู่มือการดําเนินการ วิธีการให้คะแนน ตนเอง
แผนผงั การดาเนนิ งาน การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย (กศน.) แผนผังการดําเนนิ งานของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย (กศน.) ท้องถ่ิน เป็นภาพรวมงาน การดําเนนิ งาน ท่ีดา้ นซา้ ยมือเป็นการบรหิ ารจดั การ การสมัครเป็นสมาชิก การมสี ว่ นร่วม การดําเนนิ งานตามคมู่ ือการ ดําเนินงานริม่ ศึกษาและใชแ้ บบบันทกึ การสาํ รวจทรัพยากร 9 ใบงาน ของการดําเนนิ งานฐานทรพั ยากรทอ้ งถนิ่ โดย กศน.อําเภอจะเปน็ โรงเรยี น กศน.ตาํ บล เป็นหอ้ งเรยี น ท่ีมีนักเรียนมาจากหม่บู ้านตา่ งๆ การจัดทาํ ทะเบยี นทรพั ยากร และมีพืชศกึ ษาในแต่ละห้องเรียน คือแต่ละตาํ บล มพี ชื ศกึ ษาหรอื พืชสําคญั ท่นี าํ มาใช้ศึกษาตามกระบวนการสวน พฤกษศาสตร์โรงเรยี น การดําเนินงานใหเ้ ป็นมาตรฐานตามเกณฑ์ เพ่ือขอรับพระราชทานปา้ ยสนองพระราชดาํ ริ และ เกยี รตบิ ัตรข้ันที่ 1 และเกยี รติบัตรขั้นท่ี 2 ทรพั ยากร เพื่อขอรบั พระราชทานเกยี รตบิ ตั รขั้นที่ 1 และข้นั ท่ี 2 ท่ีมีลาํ ดบั การเรียนรู้ มีรายละเอยี ดในคู่มือการดําเนนิ การ วิธกี ารให้คะแนนตนเอง จากแผนผงั ข้างต้น จะทาํ ให้หน่วยงานสนองพระราชดาํ รติ ่างๆ มหาวิทยาลยั จงั หวดั โรงเรียนสมาชิกสวน พฤกษศาสตร์โรงเรยี น องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ จะเห็นภาพวา่ อย่ตู รงไหน ทาํ อะไร และเชอ่ื มต่อประสานกบั ใคร จะ นําไปสคู่ วามสาํ เร็จในการสนองพระราชดําริ ในการพัฒนาบุคลากร เพ่ือไปอนรุ ักษ์พัฒนาทรัพยากรใหเ้ กิดประโยชนก์ ับ มหาชนชาวไทย มจี ติ สาํ นกึ ในการอนรุ ักษท์ รัพยากร เห็นคุณรคู้ า่ อนรุ ักษ์พัฒนา และการใช้ประโยชน์ทรพั ยากรอย่าง ย่งั ยืน จากการรักทรพั ยากร คือการรักชาติรักแผ่นดิน การรักษาฐานทรัพยากรนําไปส่เู ศรษฐกิจพอเพยี ง นําไปสคู่ วาม มั่นคง ม่งั คั่ง ย่งั ยืนของประเทศ ท่จี ะสง่ ต่อทรัพยากรให้เปน็ มรดกและลกู หลาน ใชใ้ นการพฒั นาประเทศตลอดไป
การดาเนนิ งานของมหาวิทยาลยั ตามแผนปฏิบตั ิ งบประมาณปี 2564 ดาํ เนนิ งานตามงบประมาณทไ่ี ดร้ ับ จากสํานกั งบประมาณ ในการสนองพระราชดาํ ริ การเรยี น การสอน การ วิจัย การบริการวชิ าการ หรือไดร้ ับจากแหลง่ ทนุ สนบั สนุนการวิจยั เปน้ งานทส่ี อดคลองกับ อพ.สธ. วางกรอบการดําเนินงาน ทีเ่ ขา้ ใจ เขา้ ถึง นโยบายการทาํ แผนแมบ่ ท 5 ปที ่ีเจ็ด ของ อพ.สธ. ทีม่ หาวทิ ยาลยั สนองพระราชดําริ เมอื่ เข้าใจ เข้าถงึ ก็สามารถวางกรอบแผนปฏบิ ตั ิการ ทรัพยากรไทย หวนดูทรพั ยส์ ่ิงสนิ ตน คือการสาํ รวจตนเองซึง่ ตรงกับนโยบายกระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม ทมี่ หาวทิ ยาลัยจะต้องมีข้อมูลสารสนเทศของมหาวิทยาลยั ทรัพยากรกายภาพ ไดแ้ ก่ทด่ี ิน อาคารสถานท่ี เคร่ืองมืออปุ กรณ์ตา่ งๆท่ีท่านอธิการบดตี ้องมีนโยบายเพือ่ จัดทาํ ฐานขอ้ มูลทม่ี ีอย่ใู นกองแผนงาน ที่ดนิ อาคารสถานท่ี ครภุ ัณฑ์ เครื่องมอื อปุ กรณ์ เครื่องมืออปุ กรณว์ ิทยาศาสตร์ ยานพาหนะ ซ่ึงจะต้องลงรายละเอียดไปถึงระดบั ภาควิชา ทีจ่ ะต้องมรี ายละเอียดบญั ชที รพั ย์สินต่างๆ จะเห็นวา่ ท่าน อธกิ ารบดี คณบดี หวั หนา้ ภาควิชา จนถึงอาจารยน์ กั วจิ ยั ดูแลทรพั ยส์ มบัตชิ าติมหาศาล และสามารถราบว่ามีอะไรบ้าง อยู่ทไ่ี หน จํานวนเท่าไร ในมหาวทิ ยาลยั ซง่ึ ควรเป็นเรือ่ งปกติที่ผู้บรหิ ารในแต่ละระดับต้องทราบ ความรับผดิ ชอบ นาํ ไปส่กู ร่ วางแผนพฒั นา ทรัพยากรชีวภาพ ไดแ้ ก่บคุ ลากร นักวจิ ยั ในระดับตา่ งๆ ตง้ั แต่ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผู้ชว่ ย ศาสตราจารย์ อาจารย์ นักวจิ ัย ทีต่ ้องทราบวา่ แตล่ ะท่านมีคุณวฒุ ิด้านใด จบการศึกษาในสาขาวชิ าอะไร ทํางานวจิ ยั ด้าน ใด ความเชยี่ วชาญ ความสนใจ ความถนดั ซง่ึ การจะทํางานใดก็ ตอ้ งวางคนให้ถุก เพื่องานสาํ เร็จตามเป้าหมาย วตั ถุประสงค์ ก็เป็นเรอ่ื งที่ผูบ้ ริหารแต่ละระดับก็ต้องทราบ นักศกึ ษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท ปรญิ ญาตรี ทจ่ี ะเป็น กาํ ลังช่วยในการวิจยั การบรกิ ารวิชาการ การฝึกประสบการณ์ การพฒั นาบุคลากรจองมหาวิทยาลยั ทรพั ยากรชีวภาพ พชื สตั ว์ จลุ ินทรยี ์ เห็ดฯลฯ ทม่ี อี ยู่ในมหาวิทยาลยั มสี ถานะอยา่ งไร มีการศึกษาวิจยั เก่ียวกบั ชวี ภาพนัน้ ๆ อะไรบ้าง เป็นการใหเ้ กยี รติคนรุ่นเก่า และท่จี ะในการใช้พัฒนาอะไรต่อไป ทรัพยากรวฒั นธรรมและภูมิปัญญา ได้แกว่ ถิ ึของมหาวทิ ยาลัย วฒั นธรรมองค์กร ภมู ิปญั ญาท่ีถา่ ยทอด งานวิจัย วทิ ยานพิ นธต์ า่ งๆ ท่ีตอ้ งมีการจัดระบบฐานขอ้ มลู มอี ะไอย่บู า้ ง วิเคราะห์นาํ ไปพัฒนาต่อยอด จากการทมี่ ีทรพั ยากรกายภาพ ทรพั ยากรชีวภาพ วมั นธรรมและภมู ิปัญญา วิทยานิพนธ์ งานวจิ ยั ต่างๆ ก็จะ นําไปสู่การวางแผนพฒั นา การสนองพระราชราชดาํ ริ หากเข้าใจ เข้าถึงว่าสนองพระราชดําริ อพ.สธ. นั้น สนองพระราชดาริอะไร คือ การสนองพระราชดําริในโครงการอนุรักษ์พนั ธกุ รรมพชื อนั เนื่องมาจากพระราขดาํ ริ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาน สยาม
บรมราชกุมารี ทม่ี สี มเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเป็นองค์ ประธาน ทรงสบื ทอดงานอนรุ ักษ์ทรัพยากรของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพติ ร ในการรกั ษาฐานทรัพยากรของประเทศ นําไปสู่เศรษฐกิจพอเพยี งคือการพง่ึ ตนเองได้ ท่ีนาํ ไปสู่ความมนั่ คง มัง่ คงั่ และย่งั ยืน การสนองสนองพระราชดาริอย่างไร สมเด็จพระกนฺษฐาธริ าชเจ้า ทรงมีพระราโชบายให้งาน อพ.สธ. เป็นงานปกติ หนว่ ยงานทสี่ นองพระราชดาํ ริ ทาํ อะไรอยู่ มีบทบาท หน้าที่ วิสยั ทัศน์ พนั ธกจิ ยุทธศาสตร์ สามารถนาํ งานนน้ั มาสนองพระราชดําริ สําหรับมหาวิทยาลัย การเรียน การสอน การวจิ ยั การบริการวชิ าการ เปน็ งานทส่ี นอง พระราชดําริ เมื่อเข้าใจ เขา้ ถึง ก็จะสามารถนาํ งานที่สนองพระราชดาํ รไิ ปพัฒนาเปน็ ผลประโยชน์แท้ คอื ได้ทัง้ ส่วนตัว และสว่ นรวม ดังที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศฯ ทรงมพี ระราชดาํ รัส วา่ ประโยชนแ์ ท้มีสองอย่างคือประโยชน์ สว่ นตนท่ีทุกมีสทิ ธแิ สวงหาและไดร้ ับ แตต่ ้องสุจริตเป็นธรรมกบั ประโยชนส์ ว่ นรวมเป็นประโยชนส์ ว่ นใหญ่ ท่ีทกุ คนมี สว่ นรว่ มอยู่ การทางานต้องได้ประโยชน์แทท้ ง้ั ส่วนตัวและสว่ นรวม ประโยชน์นน้ั จึงจะมนั่ คงถาวร เปน็ ผลดีแกช่ าติ บ้านเมอื งอยา่ งแท้จริง เรื่องทรพั ยากรไทยหวนดูทรพั ย์สง่ิ สินตนน้นั ได้กลา่ วมาตั้งแตก่ ่อนปี 2558 ทจ่ี ะจดั งานประชมุ วชิ าการ และเปน็ ปที ี่สมเกจ็ พระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา ต้องการให้หน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดําริ มีฐานข้อมลู จริง ไม่ใชจ่ ินตนาการ ขอ้ มลู ที่จะใช้ในการวางแผน พัฒนา พัฒนาการเรยี น การสอน การวิจัย การบรกิ ารวชิ การ การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาเพิ่มคุณวุฒอิ าจารย์ ให้ ความรปู้ ระสบการณ์นสิ ิต นักศึกษา ทจ่ี ะจบเปน็ บัณฑติ ออกไปพฒั นาสงั คม ประเทศชาติ พัฒนาบคุ ลากรของ มหาวทิ ยาลัย การสนองพระราชดาํ รนิ ัน้ ไม่ใชว่ า่ ไม่ได้อะไร แตถ่ า้ วิเคราะห์ให้ดีแล้ว การสนองพระราชดําริเป็นประโยชน์ กับตนเอง มหาวิทยาลยั สงั คม ประเทศชาติ ตามเปา้ หมาย อพ.สธ. คอื พฒั นาบุคลากร เพอื่ ไปอนุรักษ์พัฒนาทรัพยากร ให้เกิดประโยชนก์ บั มหาชนชาวไทย โดยวัตปุ ระสงค์ เขา้ ใจ เห็นความสาํ คญั ของพนั ธุกรรมพชื หรือทรัพยากร ใหร้ ่วมคิด รว่ มปฏบิ ตั ิ จนเกดิ ประโยชนก์ ับมหาชนชาวไทย และมรี ะบบข้อมลู ทส่ี ิอถึงการท่ังประเทศ ทเี่ ป็นเปา้ หมายหลักในการ ดําเนินการสนองระราชดํารใิ นระยะ 5 ปัท่ีเจด็ ตามแผนแม่บท อพ.สธ. ทรัพยากรไทย ศกั ยภาพมากล้นมีให้เห็น จากที่มปี ระสบการณท์ ี่ไปเหน็ วา่ บ๊วยเพยี งพืชเดียว สามารถ พฒั นาเปน็ ถึง 116 ผลติ ภัณฑ์ อพ.สธ.ไดท้ ําตวั อยา่ งการดาํ เนนิ งานพชื อนุรักษ์ 8 พิช ได้แก่ ทเุ รียน สกั มะเกย๋ี ง มะก๊ิง ตนี ฮุ้งดอย น้อยหน่าเครือ ชาเม่ืยง กล้วยไม้ ซงึ่ ได้ทูลเกลา้ ถวายแนวทาง ในวนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพ สมเกจ็ พระ กนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี 2 เมษายน 2558 และมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ไดข้ อพระราชทาน ตน้ ยางนาเป็นพชื อนรุ กั ษท์ ี 9 และมผี ักอีนนู เห็ด เป็นชีวภาพที่อยู่ในการวางแผนวิจยั และพัฒนา หากมหาวิทยาลยั เข้าใจ เลอื กพืชหรอื ชวี ภาพทีม่ ีความรูค้ วามเชยี่ วชาญ จากข้อมลู ทม่ี ไี มว่ า่ เรือ่ งบคุ ลากร งานวจิ ยั ทีผ่ ่าน มา มาทดลองทาํ ร่วมกนั เพื่อพัฒนาตอ่ ยอด อพ.สธ.มมี หาวิทยาลัยทีส่ นองพระราชดําริ 70 มหาวทิ ยาลยั จะได้ 70 ศกั ยภาพ ถ้าทาํ ชีวภาพละ 10 ผลติ ภณั ฑ์ จะได้ 700 ศกั ยภาพ แตะละผลิตภัณฑย์ ังตอ้ งพัฒนาต่อไป ประเทศไทยมี
7255 ตาํ บล ถา้ เพยี ง 3000 ตําบลท่มี โี จทย์ ท่ตี ้องพฒั นาชีวภาพในตําบล เรามงี านวิจยั อีกมหาศาลทีส่ ามารถนําไป พัฒนาท้องถ่ิน ชุมชน ประเทศ ทรัพยากรไทย ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์ จากการทีม่ หาวทิ ยาลัยนาํ แนวทาง อพ.สธ.ไปดําเนินการ จะเห็น ประโนชยท์ ่ีจะเกิดกบั ท้องถิน่ ชมุ ชน ครอบครัว เปน็ ศักยภาพของมหาวทิ ยาลยั ท่ีได้ดาํ เนินการตามบทบาท วิสัยทศั น์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย ทรพั ยากรไทย ประโยชน์แทแ้ กม่ หาชน จากการดาํ เนนิ งานอย่างเข้าใจ เข้าถงึ พฒั นา และจะย้อนกบั ใน การหวนดูทรพั ย์สง่ิ สนิ ตน ศักยภาพมากล้นมีให้เห็น ชาวบ้านไทยไดป้ ระโยชน์ ประโยชน์แทแ้ ก่มหาชน เมอื่ ทํางานกัน ดว้ ยความชํานาญ มีจิตสาํ นึกในการอนุรักษท์ รัพยากร การใชท้ รพั ยากรอย่างยั่งยืน กจ็ ะเกิดประโยชนก์ ับมหาชน ประเทศชาติ ในความมน่ั คง ม่ังคง่ั ย่ังยนื ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ม่นั คง คือความม่ันคงทางทรพั ยากร ต้องรูช้ นิด จํานวน ทจ่ี ะอนรุ กั ษ์อะไร และอนรุ ักษอ์ ย่างไร มั่งคั่ง จากทรพั ยากรทมี่ ีและมีภูมปิ ัญญากํากบั ในการใชป้ ระโยชน์ ทาํ มาศึกษา วิจยั พฒั นาต่อยอดเปน็ ผลติ ภัณฑ์ เพม่ิ มูลค่า เกิดรายได้ เปน็ ความมง่ั คง่ั ยั่งยนื ต้องมีจติ สํานกึ ในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากร รู้จักการใชป้ ระโยชน์ การใช้อย่างยั่งยนื ต้องรู้ชนดิ จาํ นวนถงึ จะบริหารจดั การ เป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ดว้ ยความพอประมาณ เป็นเหตผุ ล และมีภูมคิ ุม้ กนั ทีต่ ้องใช้เงือ่ นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม ทีน่ ําไปสเู่ ศรษฐกจิ สังคมส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรมท่ีสมดลุ พร้อมรับกับการเลยี่ นแปลง ทรัพยากรน้ันตอ้ ง ปลูกได้ ขยายได้ มิใช่นาํ ออกมาจากป่าอย่างเดยี ว ซงึ่ ไมม่ ีการทดแทนก็จะหมด อีกท้ังนโยบายตา่ งกต็ ้องย่งั ยนื ต่อเนื่อง จึง จะเป็นความยั่งยนื มหาวิทยาลยั ต้องมศี นู ยป์ ระสานงาน อพ.สธ.-มหาวทิ ยาลัย ซ่ึงรายละเอยี ดมีอย่ใู นหนงั สือจากยอดเขาถึงใต้ ทะเล 8 .ในเร่อื ง แผนผังการประส่านงาน ใคร ทําอะไร เช่อื มตอ่ กบั ใคร ท่เี ห็นภาพรวมการทํางานเป็นเครือขา่ ย อพ.สธ. บทบาทของศูนยป์ ระสานงาน อพ.สธ.-มหาวทิ ยาลัย เม่ือเข้าใจ เข้าถงึ กรอบแนวทางการดําเนินงาน ก็จดั ทาํ แผนปฏบิ ัตปิ ระจําปี นาํ โครงการทม่ี ีอย่ปู รบั มาเข้า กรอบ หรอื จดั ทําแผนแม่บทระยะ 5 ปที ่เี จ็ด แผนปฏบิ ตั ปิ ระจําปี ต่อไป ขอไดโ้ ปรดอา่ น วิเคราะห์ ทาความเขา้ ใจในบทความนี้
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. - มหาวิทยาลยั *ศูนยแ์ ม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. 5 มหาวิทยาลัย ศูนยแ์ มข่ ่าย ประสานงาน อพ.สธ. *ศนู ยแ์ ม่ขา่ ยประสานงาน อพ.สธ. ภาคเหนือ-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนบน-มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนล่าง-มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี รุ นารี ภาคกลาง-จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย และภาคใต้-มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. - มหาวิทยาลยั
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. - จงั หวดั
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. - สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. – ฐานทรพั ยากรทอ้ งถ่ิน
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. – กศน.
แผนภาพการดาเนินงานในการสนองพระราชดาริ อพ.สธ. - หน่วยงานสนองพระราชดาริ
4.2 แนวทางการดาเนินงานอพ.สธ. – พช.ตามแผนแม่บท อพ.สธ.ระยะ 5ปที ี่เจด็ (1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2569) นาเสนอโดย ดร.ปยิ รษั ฎ์ ปรญิ ญาพงษ์ เจรญิ ทรพั ย์ ตาแหนง่ เลขานกุ ารคณะกรรมการโครงการอนรุ กั ษ์พนั ธกุ รรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดารฯิ
1 แนวทางการดาเนินงานภายใตแ้ ผนแมบ่ ท อพ.สธ. ระยะ 5 ปีท่เี จด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – 30 กนั ยายน พ.ศ. 2569) อพ.สธ. มีเป้าหมายในการดาเนินงานเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มาอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรเพื่อให้เกิด ประโยชน์ถึงมหาชนชาวไทย โดยมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือให้เข้าใจและเห็นความสาคัญของทรัพยากรให้ร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ จนเกิดผลประโยชน์ถึงมหาชนชาวไทยและให้มีระบบข้อมูลทรัพยากรให้ส่ือถึงกันได้ท่ัวประเทศ อพ.สธ. จึงกาหนด แนวทางและแผนการดาเนินงานตามแผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปีที่เจ็ด (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – 30 กันยายน พ.ศ. 2569) ซ่ึงเป็นการดาเนินงานปีที่ 31-35 ของ อพ.สธ. โดยมีกิจกรรม 8 กิจกรรมท่ีอยู่ภายใต้ 3 กรอบการดาเนินงาน และ 3 ฐานทรพั ยากร ได้แก่ ทรพั ยากรกายภาพ ทรพั ยากรชวี ภาพ และทรพั ยากรวฒั นธรรมและภูมิปญั ญา อพ.สธ. ทาหน้าท่ีเป็นหน่วยงานประสานงาน ให้คาปรึกษา สนับสนุน และร่วมมือกับหน่วยงานร่วมสนอง พระราชดาริ จัดทาแผนปฏิบัติงานในกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แผนแม่บท ซ่ึงแต่ละแผนจะมีระยะเวลา 5 ปี ของ ปีงบประมาณ โดยที่หน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริมีคณะกรรมการดาเนินงาน อพ.สธ. ของหน่วยงานฯ มีการ ประชุมกันอย่างสม่าเสมอและแต่งตั้งคณะทางานหรือคณะอนุกรรมการในด้านต่างๆ รวมถึงมีคณะทางานหรือ คณะอนุกรรมการในการจัดทาแผนปฏิบัติงานประจาปีเฉพาะในส่วนของหน่วยงานของตนให้ชัดเจน โดยระบุ สาระสาคัญในการดาเนินงาน เช่น พนื้ ท่เี ป้าหมายในการดาเนนิ งาน วธิ กี ารและขั้นตอนการดาเนนิ งาน และการบริหาร จดั การ โดยเฉพาะเรื่องผู้รับผดิ ชอบในการปฏิบัติและงบประมาณในการดาเนินงาน โดยมี อพ.สธ. เป็นผพู้ ิจารณาจาก แผนปฏิบัติงานรายปี เพ่ือให้อยู่ในแนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. และสนับสนุนแผนปฏิบัติงานประจาปี/โครงการ ต่างๆ ภายใตแ้ ผนแมบ่ ทของ อพ.สธ. เพอื่ ของบประมาณในการดาเนินงานไปยังแหล่งทนุ ตา่ งๆ ตอ่ ไป 1. กรอบการเรียนร้ทู รพั ยากร เป็นกรอบการดาเนินงานท่ีเน้นในเร่ืองของการรักษาพ้ืนที่ป่าธรรมชาติด้ังเดิมที่อยู่ของหน่วยงานที่ร่วมสนอง พระราชดาริเป็นเจ้าของครอบครองโดยถูกกฎหมาย ตลอดจนการศึกษาเรียนรู้ในพื้นที่น้ันๆ ว่ามีทรัพยากรอะไร เพื่อ วางแผนและดาเนินการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ นอกจากน้ันให้หน่วยงานท่รี ่วมสนองพระราชดาริดูแลในพ้ืนที่ที่กาลัง จะเปล่ียนแปลงในพื้นที่ของหน่วยงานเอง และร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีหน่วยงานตั้งอยู่ในการร่วม สารวจทรพั ยากร เพ่ือเก็บรวบรวมทรพั ยากรทีล่ ่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ และทรพั ยากรทมี่ ีศักยภาพเพ่ือมาพัฒนาต่อไป และสามารถท่ีจะกาหนดให้เกิดพ้ืนที่สาหรับเป็นแหลง่ เรียนรู้และขยายพันธุ์ทรัพยากร เพ่ือการศึกษาวิจัยและนาไปใช้ ประโยชน์ เป็นการเพ่ิมทรัพยากรท่ีมอี ยู่ในสภาพธรรมชาติให้มีจานวนเพ่ิมมากขน้ึ ไม่สูญพนั ธุ์และมีวัตถุดิบเพียงพอใน การศึกษาวิจัย หรือเป็นตัวอย่างในการปลูกรักษาทรัพยากร โดยมีกิจกรรมท่ีสนับสนุนกรอบการเรียนรู้ทรัพยากรนี้ 3 กิจกรรมไดแ้ ก่ กจิ กรรมที่ 1 กจิ กรรมปกปักทรพั ยากร กิจกรรมท่ี 2 กจิ กรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากรและกจิ กรรม ที่ 3 กจิ กรรมปลูกรกั ษาทรัพยากร สามารถสรปุ งานตามกิจกรรมต่างๆ ไดด้ งั น้ี แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ่เี จ็ด (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
2 กจิ กรรมท่ี 1 กิจกรรมปกปกั ทรพั ยากร เป้าหมาย 1. เพ่ือปกปักรักษาพื้นท่ีป่าธรรมชาติของหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ (in situ) ท้ังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่มีพื้นที่ป่าดั้งเดิมอยู่ในความรับผิดชอบ โดยไม่มีนโยบายจะเปลี่ยนแปลงสภาพพ้ืนท่ี แต่จะต้องเป็นพื้นที่ นอกเหนือจากพื้นท่ีของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือจะต้องไม่เป็นพื้นท่ีที่มีปัญหากับ ราษฎรโดยเดด็ ขาด 2. เพื่อร่วมมือกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช โดยที่กรมฯ นาพื้นท่ีของกรมฯ มา สนองพระราชดาริ ตามความเหมาะสม ตัวอย่างพ้ืนที่ของหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ เช่น พ้ืนที่ป่าในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ พ้ืนท่ีป่าของสถาบันการศึกษา พื้นที่ป่าของสวนสัตว์ พื้นที่ป่าของเขื่อนต่างๆ ภายใต้การดูแลของการ ไฟฟ้าฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย พื้นที่ภายใต้การดแู ลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น พื้นท่ีป่าทชี่ าวบา้ นร่วมใจปก ปกั รักษา ป่าชุมชน เป็นต้น โดยการดาเนินงานในพ้ืนท่ีปกปักทรัพยากรน้ีอยู่ภายใต้การดาเนินงานของคณะกรรมการ ดาเนินงาน/คณะอนกุ รรมการ/คณะทางาน อพ.สธ. ของหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริน้นั ๆ โดย อพ.สธ. สามารถ เป็นผู้ประสานและสนับสนุนด้านวิชาการ/บุคลากร ประสานศูนย์แม่ข่ายประสานงาน/ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ. และ สถาบันการศกึ ษาต่างๆ ทรี่ ่วมสนองพระราชดาริ ในการสนับสนุนบุคลากร/นกั วิจยั เพ่ือปฏิบัตงิ านในพ้ืนที่ แนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมปกปกั ทรัพยากรในพน้ื ทีป่ กปักทรัพยากร 1. การทาขอบเขตพน้ื ที่ปกปักทรัพยากร และให้ระบุสถานะพื้นที่วา่ อยเู่ อกสารสทิ ธป์ิ ระเภทใด 1.1 เป็นพืน้ ท่ีมเี อกสารสทิ ธขิ์ องหนว่ ยงานฯ 1.2 เป็นพ้ืนท่ีของหน่วยงานอื่นแต่อนุญาตให้มีสิทธิ์ใช้พื้นที่น้ันได้ (ให้ระบุชื่อหน่วยงานท่ีเป็นเจ้าของและมี เอกสารอนญุ าตให้ใชพ้ ้นื ทนี่ ้นั ๆ) *พื้นที่ปกปักทรัพยากรต้องไม่เป็นพ้นื ท่ีที่มกี รณพี ิพาทกบั ราษฎร ในเรื่องของการบุกรกุ หรือแผ้วถาง 2. การสารวจ ทารหัสประจาต้นไม้ และบันทึกค่าพิกัดตาแหน่ง เพ่ือรวบรวมเป็นฐานข้อมูลในพื้นท่ีของ หน่วยงานท่รี ่วมสนองพระราชดาริ 3. การสารวจ ทารหัส และบันทึกค่าพิกัดตาแหน่งของทรัพยากรชีวภาพอ่ืนๆ นอกเหนือจากพันธุกรรมพืช เชน่ สัตว์ จุลนิ ทรีย์ 4. การสารวจ ทารหัส และบันทึกค่าพิกัดตาแหนง่ ของทรัพยากรกายภาพ เชน่ ดนิ หนิ แร่ธาตุต่างๆ คุณภาพ น้า คณุ ภาพอากาศ เปน็ ต้น 5. การสารวจเก็บข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรกายภาพและ ทรัพยากรชวี ภาพในพ้นื ที่ แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีท่ีเจด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
3 6. สนับสนุนให้มีอาสาสมัครปกปักรักษาทรัพยากรในพ้ืนที่สถานศึกษา เช่น นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ใน ระดับหมู่บ้าน ตาบล สนับสนุนให้ประชาชนท่ีอยู่รอบๆ พื้นท่ีปกปักทรัพยากร เช่น มีกิจกรรมป้องกันไฟป่า กิจกรรม รว่ มมือรว่ มใจรกั ษาทรัพยากรในพ้ืนท่ีปกปักทรัพยากร เป็นต้น 7. ดาเนินการเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ สามารถทาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือดาเนินการใดๆ ท่ีไม่ กระทบกระเทือนความเปน็ ป่าธรรมชาตดิ ้งั เดิม เคร่อื งมือในการดาเนินงานกจิ กรรมท่ี 1 กิจกรรมปกปกั ทรัพยากร 1. Template 9 ใบงานใชเ้ ปน็ เคร่อื งมือในการบนั ทึก 2. Form F2-M 3. Application งานฐานทรพั ยากร อพ.สธ. 4. Platform Land Viewer 5. Platform EO Browser 6. ภาพถา่ ยจากดาวเทียม ฯลฯ การรายงานผลงานกิจกรรมที่ 1 กจิ กรรมปกปักทรัพยากร 1. รายงานเชงิ บรรยายตามหลักวชิ าการ จานวน ชนดิ ของทรัพยากร มีรูปถ่ายประกอบอยา่ งชดั เจน 2. รายงานผลในรูปของตาราง Template 9 ใบงาน และสามารถลงผ่าน application งานฐานทรัพยากร อพ.สธ. หรอื ถา้ มีรปู แบบของตารางฐานขอ้ มูลของหนว่ ยงานเอง และสามารถเชือ่ มต่อกับฐานขอ้ มูลทรัพยากร อพ.สธ. หมายเหตุ 1. พ้นื ที่ในกิจกรรมท่ี 1 กิจกรรมปกปักทรัพยากร เป็นคนละพื้นที่กับพื้นที่ในกิจกรรมที่ 2 กิจกรรมสารวจเก็บ รวบรวมทรพั ยากรและคนละพ้นื ท่กี บั พื้นท่ใี นกิจกรรมที่ 3 กจิ กรรมปลูกรกั ษาทรัพยากร 2. ข้อมูลที่ได้จากกิจกรรมปกปักทรัพยากร สามารถนาไปจัดการและเก็บเข้าสู่งานฐานข้อมูลในกิจกรรมที่ 5 กจิ กรรมศนู ย์ข้อมลู ทรัพยากร 3. กิจกรรมปกปักทรัพยากร ใช้แนวทางการรักษาพื้นท่แี ละทรพั ยากรท่มี ีอยูภ่ ายในพน้ื ที่เปน็ เปา้ หมายหลกั ใน การดาเนนิ งานในกิจกรรม 4. พื้นที่ที่นามาสนองพระราชดาริในกิจกรรมน้ี ไม่ได้หมายความว่าเป็นการนาพื้นที่นั้นเข้ามาน้อมเกล้าฯ ถวาย เพื่อให้เป็นทรัพย์สินของ อพ.สธ. สานักพระราชวัง แต่หมายถึงเป็นพื้นที่ท่ีดาเนินการโดยหน่วยงานนั้นๆ ที่เป็น เจ้าของ แต่ใช้แนวทางการดาเนินงานในกิจกรรมปกปักทรัพยากร และในอนาคตถ้าหน่วยงานน้ันๆ มีนโยบายในการ ดาเนินการปรับปรุงหรือต้องการใช้พ้ืนที่ปกปักทรัพยากร เพื่อใช้ในกิจกรรมอ่ืนๆ ทางหน่วยงานสนองพระราชดาริฯ แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ่ีเจด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
4 นน้ั ๆ สามารถดาเนนิ การแจ้งความประสงค์มายัง อพ.สธ. เปลี่ยนกิจกรรมในการดาเนนิ งานในพ้ืนทีน่ ั้นๆ ได้ แต่ในกรณี ท่ีเป็นพื้นท่ีล่อแหลมต่อการสูญเสียทรัพยากรท่ีมีค่า อาจต้องมีประชุมและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ดาเนนิ งาน อพ.สธ. ของหนว่ ยงานทร่ี ่วมสนองพระราชดาริและประชุมร่วมกับ อพ.สธ. เพ่ือหาขอ้ สรุปในการดาเนนิ งาน เปล่ียนแปลงพื้นที่ต่อไป 5. สามารถนาทรัพยากรท่ีสารวจเก็บรวบรวมได้/ขยายพันธ์ุเพิ่มเพ่ือไปดาเนินงานในกิจกรรมท่ี 3 กิจกรรม ปลูกรักษาทรพั ยากร และนาไปส่กู ารดาเนินงานในกจิ กรรมอ่นื ๆ ต่อไป 6. สาหรับเรื่องการอบรมอาสาสมัคร/ประชาชน/นักเรียน/นักศึกษา ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน หมูบ่ า้ น ในพนื้ ท่ปี กปกั ทรพั ยากร ให้จัดงานอยู่ในกจิ กรรมที่ 8 กิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรักษท์ รพั ยากร กจิ กรรมท่ี 2 กิจกรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร เปา้ หมาย 1. เพื่อสารวจและเก็บรวบรวมทรัพยากรในพ้ืนท่ีภายใต้รัศมี 50 กิโลเมตรหรือมากกว่าของหน่วยงานที่ร่วม สนองพระราชดาริ ได้แก่ ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ในพื้นที่ที่ ทราบแน่ชัดว่ากาลังจะเปล่ียนแปลงจากสภาพเดิม เช่น จากป่ากลายเป็นสวน พ้ืนที่ตามเกาะต่างๆ ท่ีจะกลายสภาพ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่ท่ีเร่งในการสร้างถนนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้พิจารณาความพร้อมและศักยภาพของ หน่วยงานที่เป็นแกนกลางดาเนินงานในแตล่ ะพื้นที่เป็นสาคญั โดยจะตอ้ งประสานงานและขออนญุ าตการร่วมสารวจกับ เจ้าของพื้นท่ี เช่น องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานสัตว์ปา่ และ พันธุ์พชื ให้ถกู ตอ้ งตามกฎหมายอยา่ งชดั เจน 2. เพ่ือสารวจและเก็บรวบรวมทรัพยากรในพ้ืนท่ีของหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริเอง ได้แก่ ทรัพยากร กายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ และทรพั ยากรวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา อาจจะกาลังเปลยี่ นแปลงหรือไม่ก็ได้แต่เป็นคนละ พืน้ ท่กี ับพืน้ ท่ปี กปักพันธุกรรมพชื /ทรัพยากรดงั ในกิจกรรมที่ 1 อพ.สธ. ทาหน้าท่ีเป็นที่ปรึกษา ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ เช่น จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษาต่างๆ ในการร่วมสารวจในงานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน กองบัญชาการตารวจ ตระเวนชายแดน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กรมวิชาการเกษตร สถาบันการศึกษาต่างๆ ฯลฯ กาหนดพื้นท่ี เปา้ หมายในการดาเนนิ งานสารวจเกบ็ รวบรวมทรัพยากร ให้สอดคล้องกบั แนวทางการดาเนินงานตามกรอบแผนแมบ่ ท ของ อพ.สธ. และจดั ทาแผนประจาปีเฉพาะในส่วนของหน่วยของตนให้ชัดเจน พร้อมท้งั วางแผนปฏิบัติงานร่วมกนั ท้ัง ในเร่อื งวิธกี ารและข้นั ตอนการดาเนินงานและการบรหิ ารจัดการ แนวทางการดาเนินกิจกรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร 1. การสารวจเก็บรวบรวมตัวอย่าง ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิ ปัญญา ในบริเวณรัศมีอย่างน้อย 50 กิโลเมตร ของหน่วยงานน้ันๆ ท้ังพื้นท่ี แต่อาจเร่ิมต้นในพ้ืนท่ีที่จะมีการ แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที เี่ จ็ด (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
5 เปลี่ยนแปลงจากการพัฒนา หรือล่อแหลมต่อการเปล่ียนแปลงก่อน เช่น พื้นที่กาลังจะสร้างอ่างเก็บน้า สร้าง ศูนย์การค้า พ้ืนท่ีสร้างถนน การขยายทางหลวงหรือเส้นทางต่างๆ พ้ืนท่ีสร้างสายไฟฟ้าแรงสูง พื้นที่ท่ีกาลังถูกบุกรุก และในพ้ืนที่อ่ืนๆ ท่ีจะถูกพัฒนาเปล่ียนแปลงจากสภาพเดิมโดยอาจดาเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ี เป็นสมาชิกฐานทรัพยากรท้องถ่ิน สมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดาริ อพ.สธ. พ้ืนท่ีท่ีสารวจจะต้องอยู่ในเงื่อนไขท่ีเป็นของหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริเอง หรือถ้าเป็นพื้นท่ีของหน่วยงานอ่ืน เจา้ ของพน้ื ท่ีน้ันๆ ตอ้ งอนญุ าตให้เข้าสารวจได้ 2. การสารวจ ทารหัสประจาตน้ ไม้ และบันทกึ คา่ พกิ ดั ตาแหน่งเพอ่ื รวบรวมเปน็ ฐานข้อมูลในพืน้ ที่ 3. การสารวจ ทารหัสและบนั ทกึ ค่าพิกัดตาแหนง่ ของทรัพยากรชีวภาพอื่นๆ นอกเหนือจากพนั ธุกรรมพืช เชน่ สัตว์ จุลนิ ทรยี ์ 4. การสารวจ ทารหัสและบันทึกค่าพิกัดตาแหน่งของทรัพยากรกายภาพ เช่น ดิน หิน แร่ธาตุต่างๆ คุณภาพ น้า คณุ ภาพอากาศ เป็นตน้ 5. การสารวจเก็บข้อมูลภูมิปัญญาท้องถ่ิน วัฒนธรรมต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการใช้ทรัพยากรกายภาพและ ทรพั ยากรชวี ภาพในพ้ืนที่ 6. การเก็บรวบรวมทรัพยากรชวี ภาพเพ่ือเป็นตวั อย่างแห้ง และตัวอยา่ งดอง รวมถึงการเก็บตัวอยา่ งทรัพยากร กายภาพ เพ่ือเป็นตัวอยา่ งในการศกึ ษาหรอื เก็บในพิพิธภณั ฑพ์ ืช พพิ ิธภัณฑธ์ รรมชาติวทิ ยา 7. การเก็บพันธุกรรมทรัพยากร สาหรับพืชสามารถเก็บเพื่อเป็นตัวอย่างเพ่ือการศึกษาหรือมีการเก็บในรูป เมล็ดในหอ้ งเก็บรกั ษาเมลด็ พันธุ์ การเก็บต้นพืชมชี ีวิตเพ่ือไปปลูกในท่ีปลอดภัย การเก็บชิ้นส่วนพืชท่ีมีชวี ิต (เพ่ือนามา เก็บรักษาในสภาพเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือ) และสาหรับทรัพยากรอื่นๆ (สัตว์ จุลินทรีย์ เห็ด รา ฯลฯ) สามารถเก็บตัวอย่าง มาศึกษาและขยายพันธต์ุ อ่ ไปได้ ในกิจกรรมที่ 3 กิจกรรมปลูกรกั ษาทรพั ยากร เคร่อื งมอื ในการดาเนนิ งานกิจกรรมที่ 2 กิจกรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร 1. Template 9 ใบงานใช้เปน็ เครอื่ งมอื ในการบนั ทึก 2. Form F2-M 3. Application งานฐานทรัพยากร อพ.สธ. 4. Platform Land Viewer 5. Platform EO Browser 6. ภาพถ่ายจากดาวเทียม ฯลฯ แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีท่ีเจ็ด (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
6 การรายงานผลงานกจิ กรรมที่ 2 กจิ กรรมสารวจเกบ็ รวบรวมทรัพยากร 1. รายงานเชงิ บรรยายตามหลักวชิ าการ จานวน ชนดิ ของทรพั ยากร มรี ปู ถา่ ยประกอบอยา่ งชัดเจน 2. รายงานผลในรปู ของตาราง Template 9 ใบงาน และสามารถลงผ่าน application งานฐานทรัพยากร อพ.สธ. หรอื ถ้ามีรูปแบบของตารางฐานขอ้ มลู ของหน่วยงานเอง และสามารถเชื่อมต่อกับฐานทรพั ยากร อพ.สธ. หมายเหตุ 1. พ้ืนที่ในกิจกรรมท่ี 2 กิจกรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากรเป็นคนละพื้นท่ีกับพื้นที่ในกิจกรรมท่ี 1 กิจกรรมปกปักทรัพยากร และคนละพน้ื ทก่ี บั พืน้ ที่ในกจิ กรรมที่ 3 กิจกรรมปลกู รกั ษาทรัพยากร 2. ข้อมูลท่ีไดจ้ ากกิจกรรมสารวจเก็บรวบรวมทรพั ยากรนี้ สามารถนาไปจดั การและเก็บเข้าสงู่ านฐานข้อมูลใน กิจกรรมท่ี 5 กจิ กรรมศนู ย์ข้อมูลทรัพยากร 3. นาทรัพยากรที่เก็บรวบรวมได้ไปดาเนินงานในกิจกรรมที่ 3 กิจกรรมปลูกรักษาทรัพยากร และนาไปสู่การ ดาเนนิ งานในกจิ กรรมอนื่ ๆ ต่อไป กจิ กรรมที่ 3 กิจกรรมปลกู รักษาทรพั ยากร เป้าหมาย 1. เพ่ือนาทรัพยากรท่ีมีค่า ใกล้สูญพันธุ์ หรือต้องการเพ่ิมปริมาณเพื่อนามาใช้ประโยชน์ โดยการคัดเลือก ทรัพยากรพื้นท่ีในกิจกรรมท่ี 1 กิจกรรมปกปักทรัพยากรและกิจกรรมที่ 2 กิจกรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากรเป็น การดาเนินงานเป็นกิจกรรมต่อเนื่องโดยการนาพันธุกรรมทรัพยากรชีวภาพต่างๆ ไปเพาะพันธุ์ ปลูกเล้ียง และ ขยายพนั ธุเ์ พม่ิ ในพ้ืนท่ีทปี่ ลอดภัยเรียกว่าพ้ืนทป่ี ลูกรกั ษาทรัพยากรของหน่วยงานที่รว่ มสนองพระราชดาริ 2. เพื่อส่งเสริมให้เพ่ิมพื้นท่ีแหล่งรวบรวมพันธ์ุทรัพยากรตามพ้ืนที่ของหน่วยงานต่างๆ (ex situ) ทั้งในแปลง เพาะขยายพันธุ์ หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารฯ แหล่งเพาะพนั ธ์ุสตั ว์ เชน่ พน้ื ท่ีในศูนยศ์ ึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริท่ี มอี ยู่ 6 ศูนย์ท่ัวประเทศศนู ย์วิจัยและสถานีทดลองของกรมวิชาการเกษตร องคก์ ารสวนสตั ว์ฯ องค์กรปกครองท้องถิ่น สถาบันการศึกษาที่นาพ้ืนที่เข้าร่วมสนองพระราชดาริเป็นลักษณะของสวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ พ้ืนท่ีในป่า ชมุ ชนทีร่ ่วมสนองพระราชดาริและการเก็บรกั ษาในรูปเมล็ด เนื้อเยื่อ และสารพันธกุ รรม (DNA) ในหอ้ งปฏิบตั ิการฯ ใน หนว่ ยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริรวมถงึ การเกบ็ รักษาพนั ธุกรรมต่างๆ ห้องปฏิบัตกิ าร อพ.สธ. สวนจติ รลดา อพ.สธ. ทาหน้าที่เป็นทีป่ รกึ ษา ประสานงาน สนับสนุนด้านวิชาการร่วมกับหน่วยงานท่รี ว่ มสนองพระราชดาริ เช่น สถาบันการศึกษา จังหวัด กองบัญชาการตารวจตระเวนชายแดน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพอากาศ กรมวิชาการเกษตร ฯลฯ กาหนดพน้ื ทีใ่ นการดาเนินงานกาหนดพนื้ ท่ีปลูกรักษาทรพั ยากรให้สอดคล้องกับแนวทางการ ดาเนินงานตามแผนแม่บทของ อพ.สธ. และจัดทาแผนประจาปีเฉพาะในส่วนของหน่วยงานฯให้ชัดเจน พร้อมท้ัง วางแผนปฏิบตั งิ านร่วมกันใหช้ ดั เจน ทงั้ ในเร่ืองวิธีการและขั้นตอนการดาเนนิ งานและการบริหารจัดการ แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีท่ีเจด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
7 แนวทางการดาเนินกิจกรรมปลกู รักษาทรพั ยากร ทรัพยากรพันธกุ รรมพืช 1. การทาขอบเขตพื้นที่ปลกู รักษาทรัพยากร และให้ระบสุ ถานะพ้นื ท่ีว่าอยู่เอกสารสทิ ธิป์ ระเภทใด 1.1 เปน็ พ้ืนทมี่ เี อกสารสทิ ธิ์ของหนว่ ยงานฯ 1.2 เป็นพ้ืนท่ีของหน่วยงานอื่นแต่อนุญาตให้มีสิทธิ์ใช้พื้นที่น้ันได้ (ให้ระบุช่ือหน่วยงานที่เป็นเจ้าของและมี เอกสารอนุญาตให้ใชพ้ ้นื ทนี่ ัน้ ๆ) *พื้นทีป่ ลูกรกั ษาทรพั ยากรตอ้ งไมเ่ ป็นพนื้ ท่ีทีม่ กี รณพี ิพาทกับราษฎร ในเร่อื งของการบกุ รกุ หรอื แผ้วถาง 2. การปลูกรักษาต้นพันธุกรรมพืชในแปลงปลูก การปลูกรักษาต้นพืชมีชีวิตลักษณะป่าพันธุกรรมพืช มี แนวทางดาเนินงาน คือ สารวจสภาพพ้ืนที่และสร้างส่ิงอานวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน งานขยายพันธ์ุพืช งาน ปลูกพันธุกรรมพืชและบันทึกผลการเจริญเติบโต งานจัดทาแผนที่ต้นพันธุกรรมและบันทึกค่าพิกัดตาแหน่งต้น พนั ธุกรรม 3. การตรวจสอบพืชปราศจากโรคก่อนการเกบ็ รักษาพนั ธกุ รรมพชื ในรูปแบบต่างๆ 4. การเก็บรักษาท้ังในรูปของเมล็ด ในระยะส้ัน ระยะกลาง และระยะยาวในรปู ของธนาคารพันธุกรรม ศึกษา หาวธิ ีการเก็บเมล็ดพนั ธ์ุ และทดสอบการงอกของเมล็ดพนั ธุ์ 5. การเก็บรักษาโดยศึกษาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชแต่ละชนิด ศึกษาการฟอกฆ่าเชื้อ ศึกษาสูตร อาหารท่ีเหมาะสม ศึกษาการเก็บรักษาโดยการเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และใน ไนโตรเจนเหลว (cryopreservation) และการขยายพันธุโ์ ดยการเพาะเลี้ยงเน้อื เยอื่ 6. การเก็บรักษาในรูปสารพันธุกรรม (DNA) เพ่ือการนาไปใช้ประโยชน์ เช่น การวิเคราะห์ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ การปรบั ปรุงพันธ์ุพชื เป็นตน้ 7. การดาเนินงานในรูปของสวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ สวนสาธารณะต่างๆ การปลูกพืชในสถานศึกษา โดยมรี ะบบฐานข้อมลู บันทึกพิกัดตาแหน่งทีป่ ลูกพันธุกรรม ที่สามารถตดิ ตามผลการเจรญิ เตบิ โตและใช้ประโยชน์ได้ใน อนาคต 8. การดาเนินการเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ สามารถทาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือดาเนินการใดๆ ท่ีไม่ กระทบกระเทือนกับการปลูก เล้ยี ง และรักษาทรพั ยากร ทรพั ยากรพนั ธุกรรมสัตวแ์ ละทรพั ยากรพันธกุ รรมชีวภาพอืน่ ๆ ให้ดาเนนิ การให้มีสถานทเ่ี พาะเล้ยี งหรอื ห้องปฏิบัติการที่จะเก็บรักษา เพาะพนั ธ์ุ/ขยายพนั ธุต์ ามมาตรฐาน ความปลอดภัย โดยมีแนวทางการดาเนนิ งานคลา้ ยคลึงกับการดาเนินงานในทรัพยากรพันธกุ รรมพืชขา้ งตน้ แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ่ีเจ็ด (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
8 หมายเหตุ 1. พื้นที่ในกิจกรรมที่ 3 กิจกรรมปลูกรักษาทรัพยากรเป็นคนละพื้นท่ีกับกิจกรรมท่ี 1 กิจกรรมปกปัก ทรพั ยากร และคนละพน้ื ท่กี บั กจิ กรรมท่ี 2 กิจกรรมสารวจเกบ็ รวบรวมทรพั ยากร 2. ข้อมูลท่ไี ดจ้ ากกจิ กรรมปลูกรักษาทรัพยากรน้ี สามารถนาไปจดั การและเกบ็ เข้าสู่งานฐานขอ้ มูลในกจิ กรรม ท่ี 5 กิจกรรมศูนยข์ อ้ มูลทรัพยากร 3. สามารถนาทรัพยากรในกิจกรรมที่ 3 กิจกรรมปลูกรักษาทรัพยากร และนาไปสู่การดาเนินงานในกิจกรรม อ่นื ๆ ตอ่ ไป เคร่อื งมอื ในการดาเนินงานกิจกรรมท่ี 3 กจิ กรรมปลูกรกั ษาทรัพยากร 1. Template 9 ใบงานใช้เปน็ เครื่องมอื ในการบันทึก 2. Form F2-M 3. Application งานฐานทรัพยากร อพ.สธ. 4. Platform Land Viewer 5. Platform EO Browser 6. ภาพถา่ ยจากดาวเทยี ม ฯลฯ การรายงานผลงานกจิ กรรมท่ี 3 กจิ กรรมปลูกรกั ษาทรัพยากร 1. รายงานเชงิ บรรยายตามหลักวิชาการ จานวน ชนดิ ของทรัพยากร มรี ปู ถา่ ยประกอบอย่างชัดเจน 2. รายงานผลในรูปของตาราง Template 9 ใบงาน และสามารถลงผ่าน application งานฐานทรัพยากร อพ.สธ. หรอื ถา้ มรี ปู แบบของตารางฐานข้อมูลของหน่วยงานเอง และสามารถเชอ่ื มตอ่ กบั ฐานขอ้ มูลทรัพยากร อพ.สธ. 2. กรอบการใช้ประโยชนท์ รัพยากร เปน็ กรอบการดาเนนิ งานท่ีเน้นในเรื่องการอนรุ ักษ์และการใช้ประโยชนท์ รัพยากรอย่างมีเปา้ หมายและตอบ โจทย์ความตอ้ งการของท้องถ่ินอยา่ งชดั เจน มเี ปา้ หมายและแนวทางการดาเนินงานทเ่ี ป็นทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์ การวิจยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ (พ.ศ.2560-2579) ซึง่ มี 4 ยทุ ธศาสตร์ ได้แก่ 1. การวิจัยและนวตั กรรมเพอื่ ตอบโจทยก์ ารสรา้ งความมน่ั คงทางเศรษฐกิจ 2. การวิจยั และนวตั กรรมเพือ่ การพัฒนาสังคมและส่ิงแวดล้อม 3. การวจิ ยั และนวัตกรรมเพ่ือตอบโจทยก์ ารสรา้ งองคค์ วามรูพ้ น้ื ฐานของประเทศ 4. การสร้างบุคลากรพัฒนาระบบนิเวศและเครือขา่ ยการวิจยั และนวตั กรรมท่ีเขม้ แข็ง แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ี่เจ็ด (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
9 การดาเนินงานให้ยุทธศาสตร์ฯ ประสบความสาเร็จต้องใช้ทุนทางทรัพยากรของประเทศเป็นพ้ืนฐานท้ังส้ิน อพ.สธ. จึงพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศทรัพยากรให้เป็นปัจจุบัน เพ่ือนาไปใช้ประโยชน์และบรรลุจุดมุ่งหมายตาม แนวพระราชดาริ โดยมกี ิจกรรมที่ดาเนนิ งานสนับสนุนกรอบการใช้ประโยชนท์ รพั ยากรน้ี 3 กิจกรรม ได้แก่ กจิ กรรมที่ 4 กิจกรรมอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากร กิจกรรมท่ี 5 กิจกรรมศูนย์ข้อมูลทรัพยากร และกิจกรรมท่ี 6 กิจกรรม วางแผนพฒั นาทรพั ยากร สามารถสรปุ งานตามกจิ กรรมตา่ งๆ ไดด้ งั นี้ กิจกรรมท่ี 4 กจิ กรรมอนุรกั ษแ์ ละใช้ประโยชนท์ รัพยากร เปา้ หมาย 1. เพื่อศึกษาและประเมินศักยภาพพันธุกรรมพืชและทรัพยากรอื่นๆ ที่สารวจเก็บรวบรวมและปลูกรักษาไว้ จากกจิ กรรมท่ี 1-3 หรือเป็นทรพั ยากรท่ถี กู คัดเลือกมาจากหนว่ ยงานต่างๆ เช่น จากองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 2. เพ่ือการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้ังสามฐานทรัพยากร ได้แก่ ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากร ชีวภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา มีการวางแผนและดาเนินการวิจัยศักยภาพของทรัพยากรต่างๆ นาไปส่กู ารเกดิ ผลิตภัณฑ์ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์กบั ทอ้ งถ่นิ ตา่ งๆ และประเทศไทย 3. เพอื่ ศึกษาศกั ยภาพของทรัพยากรที่อาจนาไปสูก่ ารพัฒนาพันธ์พุ ชื พนั ธุ์สัตว์ สายพันธ์ุจุลนิ ทรีย์ ตามแนว พระราชดาริ และมแี นวทางนาไปสกู่ ารอนุรกั ษ์และใชป้ ระโยชนไ์ ด้อยา่ งยงั่ ยืน โดยท่ที รัพยากรไม่สูญหายไป อพ.สธ. ทาหน้าท่ีเป็นที่ปรึกษา ประสานงาน ร่วมมือ ส่งเสริมในการดาเนินงานด้านวิชาการและการวิจัย ร่วมกับหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ เช่น มหาวิทยาลัย กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมป่าไม้ ศูนย์ พันธุวศิ วกรรมและเทคโนโลยีชวี ภาพแห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กรมการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ฯลฯ โดยกาหนดพื้นที่เป้าหมายและทรัพยากรต่างๆ ในการดาเนินงานอนุรักษ์และ ใช้ประโยชน์ ให้สอดคลอ้ งกับแนวทางการดาเนินงานตามกรอบแผนแมบ่ ทของ อพ.สธ. และจดั ทาแผนประจาปีเฉพาะ ในส่วนของหน่วยของตนให้ชัดเจน พร้อมทั้งวางแผนปฏิบัติงานร่วมกันให้ชัดเจน ผ่านการประชุมคณะกรรมการ ดาเนนิ งาน อพ.สธ. ของหนว่ ยงานน้นั ๆ แนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมอนรุ กั ษแ์ ละใช้ประโยชน์ทรพั ยากร 1. การวเิ คราะห์ทางกายภาพ เช่น แร่ธาตุในดิน คุณสมบัติของน้า ฯลฯ จากแหล่งกาเนดิ พันธกุ รรมดงั้ เดมิ ของ พืชนั้นๆ 2. การศึกษาทางด้านชีววิทยา สัณฐานวิทยา สรีรวิทยา ชีวเคมี พันธุศาสตร์ ฯลฯ ของทรัพยากรชีวภาพที่ คดั เลือกมาศกึ ษา 3. การศกึ ษาดา้ นโภชนาการ องค์ประกอบของสาระสาคัญ เช่น รงควัตถุ กล่ินสาระสาคัญต่างๆ ในพนั ธุกรรม พืชและทรัพยากรชีวภาพอ่ืนๆ ที่เป็นเป้าหมาย แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ีเ่ จ็ด (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
10 4. การศึกษาการปลูก การเขตกรรมและขยายพันธ์ุพืชด้วยการขยายพันธ์ุตามปกติในพันธุกรรมพืชที่ไม่เคย ศึกษามาก่อน และการขยายพนั ธุโ์ ดยการเพาะเล้ยี งเนอ้ื เย่ือในพันธุกรรมพืชทไ่ี มเ่ คยศึกษามาก่อน รวมถึงการศึกษาการ เลี้ยงและการขยายพนั ธ์ทุ รพั ยากรชวี ภาพอื่นๆ เพอ่ื ให้ไดผ้ ลผลติ ตามทตี่ ้องการ 5. การศึกษาการจาแนกสายพันธ์โุ ดยวธิ ีทางชีวโมเลกลุ เพ่ือนาไปสกู่ ารพัฒนาพนั ธุ์พชื สตั ว์ และจลุ นิ ทรยี ์ เพอ่ื เกบ็ เปน็ ลายพิมพ์ดเี อ็นเอของทรัพยากรชนิดน้ันๆ ไว้เพ่ือนาไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไป 6. โครงการฯ จากกิจกรรมที่ 4 นาไปสู่การทางานรว่ มกบั สมาชกิ งานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน (อปท.)/ชมุ ชนท่ี อยู่ใน อปท. ทเ่ี ปน็ สมาชิกงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น/สมาชิกงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น (สถาบนั การศกึ ษา) เพื่อ นาผลงานถา่ ยทอดและเกดิ ประโยชน์กบั ท้องถ่ินอยา่ งชดั เจน การรายงานผลงานกจิ กรรมท่ี 4 กิจกรรมอนุรกั ษแ์ ละใช้ประโยชน์ทรพั ยากร 1. รายงานเชงิ บรรยายตามหลักวชิ าการ และงานวจิ ยั ตา่ งๆ 2. สามารถตีพิมพ์หรือนาเสนอผลงานได้โดยขออนุญาตมาที่ อพ.สธ. ก่อน เพื่อท่ี อพ.สธ. จะเก็บไว้เป็น ฐานข้อมูล กจิ กรรมที่ 5 กจิ กรรมศนู ยข์ ้อมลู ทรัพยากร เปา้ หมาย 1. เพ่ือให้เกิดฐานข้อมูลทรัพยากรของประเทศโดยศูนย์ข้อมูลทรัพยากร อพ.สธ. สวนจิตรลดาร่วมกับ หน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ บันทึกขอ้ มูลของการสารวจเก็บรวบรวมการศึกษาประเมินการอนุรกั ษ์ และการใช้ ประโยชน์ทรัพยากรทั้งสามฐาน ตัวอย่างเช่น ฐานข้อมูลพรรณไม้แห้งฐานขอ้ มูลงานวิจัย ฐานข้อมลู ทรพั ยากร อพ.สธ. ฐานข้อมูลสัตว์ทะเล และฐานข้อมูลจุลินทรีย์ข้อมูลต่างๆ จากการทางานในกิจกรรมต่างๆ ของ อพ.สธ. โดยทาการ บันทึกลงในระบบฐานข้อมูล เพื่อเป็นฐานข้อมูลและมีระบบท่ีเช่ือมต่อถึงกันได้ท่ัวประเทศโดยเช่ือมโยงกับฐานข้อมูล ทรัพยากรของหน่วยงานท่ีรว่ มสนองพระราชดาริ อพ.สธ. 2. เพื่อให้ฐานข้อมูลทรัพยากรน้ัน เป็นข้อมูลเพ่ือนาไปสู่การวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างย่ังยืนและอาจ นาไปสู่การพัฒนาพันธุ์พืชและทรัพยากรต่างๆ โดยที่ อพ.สธ. เป็นที่ปรึกษาแต่งตั้งคณะทางาน ประสานงาน ร่วมมือ พฒั นาการทาศูนยข์ ้อมูลฯ กาหนดรูปแบบในการทาฐานข้อมูล โดยกาหนดเป้าหมายในการดาเนินงานให้สอดคลอ้ งกับ แนวทางการดาเนินงานตามกรอบแผนแม่บทของ อพ.สธ. และจัดทาแผนประจาปีเฉพาะในส่วนของหน่วยของตนให้ ชดั เจน พร้อมทงั้ วางแผนปฏบิ ตั ิงานร่วมกันให้ชัดเจน ผา่ นการประชมุ คณะกรรมการดาเนินงาน อพ.สธ. ของหนว่ ยงาน นนั้ ๆ แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีทีเ่ จด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
11 แนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมศนู ยข์ อ้ มูลทรพั ยากร 1. อพ.สธ. จัดทาเครื่องมือเพ่ือใช้ในการรวบรวมข้อมูล และร่วมกับหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ จัดทา ฐานข้อมูลระบบดิจิตอลและพัฒนาโปรแกรมสาหรับระบบศูนย์ข้อมูลทรัพยากรต่างๆ ร่วมกัน เช่น โปรแกรมการ จัดการฐานข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น ด้านการสารวจเก็บรวบรวม การอนุรักษ์ การประเมินคุณค่าพันธุกรรมทรัพยากร และการใช้ประโยชน์ 2. นาข้อมูลท่ีได้จากการสารวจเก็บรวบรวมพันธุกรรมพืช และทรัพยากรต่างๆ เช่น ข้อมูลการปลูกรักษา ข้อมูลการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ข้อมูลวฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญา ข้อมูลพนั ธุ์ไม้จากสถาบนั การศึกษาทเี่ ป็นสมาชิก สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เข้าเก็บไว้ในศูนย์ข้อมูลทรัพยากรเพื่อการประเมินคุณค่าและนาไปสู่การวางแผนพัฒนา พนั ธุ์พชื และทรพั ยากรอื่นๆ 3. พัฒนาการบรหิ ารจัดการฐานข้อมลู ของศูนย์ขอ้ มลู ทรัพยากร อพ.สธ. ให้มีเอกภาพมีความสมบูรณ์และเป็น ปจั จุบัน ซงึ่ หนว่ ยงานต่างๆ สามารถใช้ประโยชนร์ ่วมกันได้ โดยเฉพาะฐานข้อมลู ทรพั ยากรท่ีได้จากงานฐานทรัพยากร ท้องถ่นิ ฐานข้อมูลพืชจากการสารวจเก็บรวบรวม ฐานข้อมูลพรรณไมแ้ ห้ง ฐานข้อมูลสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โดยมี อพ.สธ. เป็นศนู ย์กลางและวางแผนดาเนนิ งานพฒั นาเครือข่ายระบบข้อมลู สารสนเทศ อพ.สธ. รว่ มกับหน่วยงานท่ีร่วม สนองพระราชดาริ เพอื่ ให้สามารถเช่อื มโยงและใช้รว่ มกันได้อยา่ งกว้างขวางอาจผ่านทางเว็บไซต์ ทม่ี ีระบบป้องกนั การ เข้าถงึ ฐานข้อมลู 4. หน่วยงานร่วมสนองพระราชดาริ มีความประสงค์ที่จะดาเนินการแบ่งปันหรือเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ท่ี เก่ียวข้องในงาน อพ.สธ. จาเป็นต้องขออนุญาตผ่านทาง อพ.สธ. ก่อน เพื่อขอพระราชทานข้อมูลน้ันๆ เพ่ือท่ีสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ (การขอ พระราชทานพระราชานุญาต ให้ดาเนินการทาหนังสือแจ้งความประสงค์มายัง ผู้อานวยการ อพ.สธ. ล่วงหน้าอย่าง น้อย 1 เดอื น) การรายงานผลงานกิจกรรมท่ี 5 กิจกรรมศูนย์ข้อมูลทรัพยากร 1. รายงานในรูปแบบของตารางการเกบ็ ข้อมูลทรัพยากร 2. รายงานในรูปแบบของฐานข้อมลู ที่มอี ยู่และสามารถเช่ือมตอ่ กบั ฐานข้อมูล อพ.สธ. กจิ กรรมที่ 6 กจิ กรรมวางแผนพัฒนาทรพั ยากร เป้าหมาย 1. เพ่อื การพัฒนาและปรับปรุงพันธ์ุทรัพยากรให้ดยี ิ่งข้ึนตามความต้องการของท้องถน่ิ โดยที่ อพ.สธ. มหี นา้ ที่ ประสานกับนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิของหน่วยงานและสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น ในเร่ืองของพืช โดยวิเคราะห์จาก ฐานข้อมูลจากกิจกรรมที่ 5 มาใช้ในการพิจารณาศักยภาพของพันธ์ุพืช พันธ์ุสัตว์ พันธ์ุจุลินทรีย์ ฯลฯ และนาไปสู่การ วิเคราะหข์ ้อมูลและคดั เลือกสายต้นเพ่ือเปน็ พ่อแม่พันธุ์พืช พรอ้ มกับวางแผนพฒั นาพันธุ์ระยะยาว แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีทเี่ จด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
12 2. นาแผนพัฒนาพันธุ์ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และพระราชทานแผนพัฒนาพันธ์ุและพันธุกรรมท่ีคัดเลือก ให้ หน่วยงานท่ีมีความพร้อมนาไปปฏิบัติ พันธ์ุพืช/สัตว์/ชีวภาพอื่นๆ ท่ีอยู่ในเป้าหมาย ได้แก่ พันธุ์พืชสมุนไพร พันธ์ุพืช พ้นื เมืองตา่ งๆ ทส่ี ามารถวางแผนนาไปส่กู ารพัฒนาให้ดยี ิ่งขน้ึ เหมาะสมต่อการปลกู ในพน้ื ที่ตา่ งๆ ในประเทศไทย อพ.สธ. ทาหน้าท่ีเป็นท่ีปรึกษา ประสานงาน ร่วมมือ ในการวางแผนพัฒนา โดยกาหนดเป้าหมายในการ ดาเนินงานใหส้ อดคล้องกับแนวทางการดาเนินงานตามกรอบแผนแมบ่ ทของ อพ.สธ. และจัดทาแผนประจาปีเฉพาะใน ส่วนของหน่วยของตนให้ชัดเจน พร้อมทั้งวางแผนปฏิบัติงานร่วมกันให้ชัดเจน ผ่านการประชุมคณะกรรมการ ดาเนินงาน อพ.สธ. ของหน่วยงานนน้ั ๆ แนวทางการดาเนินกจิ กรรมวางแผนพฒั นาทรัพยากร ทรพั ยากรพนั ธกุ รรมพืช 1. จัดประชุมคณะทางานทรัพยากรต่างๆ คัดเลือกพันธุ์พืชท่ีผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาแล้วว่าควรมีการวางแผน พัฒนาพนั ธเุ์ พอื่ การใช้ประโยชนต์ ่อไปในอนาคต 2. ดาเนินการทูลเกล้าฯ ถวายแผนการพัฒนาทรัพยากรที่คัดเลือกแล้ว เพื่อให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯและพระราชทานให้กบั หน่วยงานที่ มีศกั ยภาพในการพัฒนาปรบั ปรงุ พันธุกรรมทรพั ยากรชนดิ นน้ั ๆ ใหเ้ ป็นไปตามเป้าหมาย 3. ประสานงานเพอ่ื ให้หน่วยงานทมี่ ีความพร้อม ในการพัฒนาพันธ์ุทรัพยากรต่างๆ เช่น พัฒนาพันธุกรรมพืช ดาเนินการพัฒนาพนั ธพุ์ ืชและนาออกไปสูป่ ระชาชน และอาจนาไปปลกู เพอื่ เป็นการคา้ ต่อไป 4. ดาเนินการขึ้นทะเบียนรับรองพันธุ์พืชใหม่ท่ีได้มาจากการพัฒนาพันธ์ุพืชดั้งเดิม เพื่อประโยชน์ของมหาชน ชาวไทย 5. ในกรณีที่เป็นทรพั ยากรท้องถิ่น อพ.สธ. ใหแ้ นวทางในการขน้ึ ทะเบียนทรัพยากรทอ้ งถิ่น เพ่ือเป็นการรักษา สิทธิ์ให้กับทอ้ งถิ่นและประเทศไทย ทรัพยากรพันธกุ รรมสตั ว์และทรพั ยากรพันธุกรรมอ่ืนๆ มแี นวทางการดาเนินงานคล้ายคลงึ กับการดาเนนิ งานในทรัพยากรพันธุกรรมพชื ข้างตน้ การรายงานผลงานกจิ กรรมท่ี 6 กิจกรรมวางแผนพัฒนาทรัพยากร 1. รายงานเชงิ บรรยายตามหลักวชิ าการ และงานวิจยั ตา่ งๆ 2. รายงานการข้ึนทะเบียนทรัพยากร แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ่เี จด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
13 3. กรอบการสร้างจิตสานึกในการรกั ทรัพยากร เป็นกรอบการดาเนินงานท่ีมุ่งเน้นไปท่ีเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชนท่ัวไป ได้มีความรู้ความ เข้าใจเก่ียวกับทรัพยากรที่เกี่ยวข้องสัมพันธก์ ัน นาไปสู่การสร้างจิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรของประเทศ ไม่ว่าจะ เป็นทรัพยากรกายภาพ ชีวภาพ วัฒนธรรมและภูมิปัญญา ได้ตระหนักเห็นถึงความสาคัญและประโยชน์ของการ อนุรักษ์ทรัพยากรท่ีก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมหาชนชาวไทย โดยมีกิจกรรมที่ดาเนินงานสนับสนุนในกรอบการสร้าง จิตสานึกในการรักทรัพยากรน้ี 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 7 กิจกรรมสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร และ กิจกรรมที่ 8 กจิ กรรมพิเศษสนบั สนนุ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากร สามารถสรุปงานตามกจิ กรรมต่างๆ ไดด้ ังน้ี กิจกรรมท่ี 7 กจิ กรรมสรา้ งจิตสานึกในการอนุรกั ษท์ รัพยากร เปา้ หมาย 1. เพ่ือให้เยาวชนและประชาชนชาวไทย ให้เข้าใจถึงความสาคัญและประโยชน์ของทรัพยากรท้ังสามฐาน ให้ รจู้ ักหวงแหนและร้จู ักการนาไปใช้ประโยชน์อยา่ งยั่งยืนซึ่งนาไปส่แู นวทางการจัดการการอนุรกั ษ์และใช้ทรัพยากรของ ประเทศอยา่ งยัง่ ยืนบนพน้ื ฐานของทรพั ยากรทมี่ ีอย่จู รงิ 2. เพือ่ ใหห้ นว่ ยงานท่รี ว่ มสนองพระราชดาริ วางแผนและขยายผลเพอ่ื นาแนวทางการสร้างจิตสานกึ ในการรัก ทรัพยากรของ อพ.สธ. ไปดาเนนิ งานตามยทุ ธศาสตรข์ องหน่วยงานนน้ั ๆ อพ.สธ. ทาหน้าท่ีเป็นท่ีปรึกษา ประสานงาน ร่วมมือ สนบั สนุนให้โรงเรียนและสถาบันการศกึ ษา เป็นสมาชิก สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน อพ.สธ. ประสานงานหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริให้ดาเนินการในกิจกรรมนี้ โดย กาหนดเป้าหมายในการดาเนินงานให้สอดคล้องกับแนวทางการดาเนินงานตามกรอบแผนแม่บทของ อพ.สธ. และ จัดทาแผนประจาปีเฉพาะในส่วนของหน่วยของตนให้ชัดเจน พร้อมท้ังวางแผนปฏิบัติงานร่วมกันให้ชัดเจน ผ่านการ ประชมุ คณะกรรมการดาเนินงาน อพ.สธ. ของหนว่ ยงานนัน้ ๆ แนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมสร้างจติ สานกึ ในการอนุรกั ษท์ รพั ยากร 1. งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เป็นนวัตกรรมของการเรียนการสอนเพื่อนาไปสู่การสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของประเทศไทย นาไปสู่การพัฒนาคนให้เข้มแข็งรู้เท่าทันพร้อมรับกับกระแสการ เปล่ียนแปลงของโลก (สามารถดาวน์โหลดคู่มืองานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และศึกษาจากส่ือต่างๆ ไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ อพ.สธ. (www.rspg.or.th) และสามารถส่งเจา้ หนา้ ท่ี/บุคลากรมาเข้ารบั การฝกึ อบรมการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียนได้ ตามตารางการฝกึ อบรมทป่ี ระกาศ) 1.1 อพ.สธ. กาหนดจุดมุ่งหมายในการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โดยสร้างจิตสานึกให้เยาวชน นักเรียนและนกั ศึกษาเข้าใจถึงความสาคัญและประโยชน์ของทรัพยากรให้รู้จักหวงแหนและรู้จักการนาไปใช้ประโยชน์ อย่างย่ังยืนโดยมีคู่มือการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนสถาบันการศึกษาสามารถสมัครเป็นสมาชิกงานสวน แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีที่เจ็ด (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
14 พฤกษศาสตร์โรงเรียนผ่านทางจังหวัดทุกจังหวัดในประเทศไทย สามารถดูตัวอย่างได้จากเว็บไซต์ อพ.สธ. (www.rspg.or.th) และขอคาแนะนาจาก อพ.สธ. สวนจิตรลดาและศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. และศูนย์ ประสานงาน อพ.สธ. 1.2 อพ.สธ. กาหนดแนวทางและหลักเกณฑ์การดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โดยท่ีสถานศึกษา สมัครเขา้ มาเป็นสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น และคุณครู/อาจารย์ นาพรรณไม้ทีม่ ีอยใู่ นโรงเรียนไปเปน็ ส่ือในการ เรียนการสอนในวชิ าต่างๆ ที่อยู่ในหลักสูตร และสถานศึกษา ถ้าสถานศึกษามีพ้ืนท่สี ามารถใช้พ้ืนท่ีในสถานศึกษาเป็น ท่รี วบรวมพืชพรรณไม้ท้องถิ่นและรวบรวมภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นท่ีเก็บพรรณไม้แห้ง พรรณไม้ดอง มหี ้องสมุดสาหรับ ค้นคว้าและนางานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ ใช้ปัจจัยพืชเป็นปัจจัยหลักใน การเรียนรู้ ถ้าในกรณีที่สถานศึกษาไม่มีพ้ืนท่ีในการสารวจหรือเก็บรวบรวมพรรณพืช ให้ใช้พื้นท่ีที่อยู่รอบๆ โรงเรียน และประสานกับองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินที่สถานศึกษาตั้งอยเู่ พือ่ ใช้พ้ืนท่ีนอกสถานศกึ ษา 1.3 สมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ในการสารวจจัดทาฐาน ทรัพยากรทอ้ งถ่นิ นาไปสกู่ ารจดั ทาหลักสตู รท้องถ่ิน 1.4 สมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ทบทวนและปรับปรุงการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนที่ ทาอยู่เดิมให้ครบถ้วนตามคุณสมบัติและเกณฑ์มาตรฐานที่ อพ.สธ. กาหนดและนาไปสู่การประเมินเพ่ือรับป้ายฯ พระราชทานและเกียรติบตั รฯ และดาเนนิ งานรกั ษามาตรฐานการเปน็ สมาชกิ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 1.5 การดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนของสมาชิกใหม่ ควรดาเนินงานให้เป็นไปตามคุณสมบัติและ เกณฑ์มาตรฐานที่ อพ.สธ. ทว่ี างไว้ และรบั คาแนะนาจาก อพ.สธ. สวนจติ รลดา ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. และ ศนู ยป์ ระสานงาน อพ.สธ. ในงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น 1.6 อพ.สธ. ประสานร่วมมือกับหน่วยงานหลักท่ีเก่ียวข้องดาเนินการจัดนิทรรศการแสดงผลการดาเนินงาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนตามแนวพระราชดาริฯ โดยคัดเลือกจากโรงเรียนสมาชิกในระดับจังหวัด ระดับภาค และ ระดบั ประเทศ โดยเน้นและให้ความสาคัญในเรื่องกระบวนการ และผลลพั ธ์การดาเนินงานเป็นหลักอย่างน้อยปลี ะหน่ึง ครั้ง 1.7 สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม สานักงานสภาการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา และสานักมาตรฐานการศึกษา สนับสนุนในการดาเนินงานร่วมกับ อพ.สธ. ร่วมกันพิจารณาและวางแผน เพ่ือนาแนวทางดาเนินงาน อพ.สธ. บรรจุไวใ้ นหลกั สูตรการเรียนการสอนระดบั ตา่ งๆ โดยเฉพาะในระบบโรงเรียน 2. งานพพิ ธิ ภัณฑ์ เป็นการขยายผลการดาเนินงานเพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ ไปสู่ประชาชน กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้ กวา้ งขวางยิง่ ข้ึน โดยใชก้ ารนาเสนอในรปู ของพพิ ิธภณั ฑ์ ซงึ่ เปน็ สื่อเขา้ ถึงประชาชนทว่ั ไป ตัวอยา่ งเช่น แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีทเ่ี จ็ด (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
15 2.1 งานพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตดาเนินการโดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ และ จงั หวดั ตา่ งๆ จดั ทาแปลงสาธิตการปลูกรกั ษาเพ่ืออนรุ กั ษพ์ ันธุกรรมพืช โดยมีกิจกรรมต่างๆ ทถี่ กู ต้องและครบถว้ นตาม เกณฑ์มาตรฐานท่ีกาหนดไว้ ในพ้ืนทศ่ี ูนย์ศึกษาการพฒั นาฯ และพ้ืนท่ีอ่นื ๆ ตามความเหมาะสม 2.2 งานพิพธิ ภัณฑพ์ ืชดาเนนิ การโดยหน่วยงานทรี่ ่วมสนองพระราชดาริ เช่น กรมอุทยานแห่งชาติสตั ว์ป่าและ พันธพ์ุ ืช กรมปา่ ไม้ กรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยต่างๆ หน่วยงานเหล่านม้ี ีผูเ้ ชีย่ วชาญ นักพฤกษศาสตร์ ดูแลอยู่ 2.3 งานพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เช่น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา สนองพระราชดาริโดยมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา, พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา สนองพระราชดาริโดยมหาวิทยาลัย ขอนแกน่ จังหวดั ขอนแกน่ เป็นตน้ 2.4 งานพพิ ธิ ภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เช่น พพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เขา หมาจอ ตาบลแสมสาร อาเภอสตั หีบ จังหวดั ชลบุรี สนองพระราชดาริ อพ.สธ. โดยกองทพั เรือ 2.5 งานพพิ ธิ ภัณฑ์ท้องถิ่น หอศลิ ปวฒั นธรรม ของจังหวัดและหน่วยงานทร่ี ่วมสนองพระราชดาริ 2.6 งานอาคารนทิ รรศการ/งานพพิ ิธภณั ฑ์ในศูนย์การเรียนรู้ฯของหนว่ ยงานทีร่ ว่ มสนองพระราชดาริ เช่น ศูนยก์ ารเรียนรู้ กฟผ. เขอื่ นศรนี ครินทร์ (อาคารราชานุรักษ์) สนองพระราชดาริโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศ ไทย 3. งานฝกึ อบรม อพ.สธ. ดาเนินงานอบรมเรื่องงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน, งานฝึกอบรมปฏิบัติการสารวจและจัดทาฐาน ทรัพยากรท้องถิ่น หรืองานท่ีเกี่ยวข้องกับการสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยอาจจัด ณ แหล่งฝึกอบรม ของ ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. และศนู ย์ประสานงาน อพ.สธ. ที่กระจายอย่ตู ามภูมิภาคต่างๆ (รายชอื่ ณ วนั ที่ 30 กนั ยายน พ.ศ. 2564) ศูนย์แมข่ ่ายประสานงาน อพ.สธ. 5 แห่ง 1. มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ 2. มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น 3. มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี 4. จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั 5. มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีทเี่ จด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
16 ศนู ย์ประสานงาน อพ.สธ. 21 แห่ง 1. มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ 2. มหาวิทยาลัยราชภฎั เชียงใหม่ 3. มหาวิทยาลยั แม่ฟ้าหลวง 4. มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎอตุ รดิตถ์ 5. มหาวทิ ยาลยั นเรศวร 6. มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน 7. มหาวทิ ยาลัยราชภฎั อุดรธานี 8. มหาวิทยาลยั อุบลราชธานี 9. มหาวิทยาลยั ราชภฎั อบุ ลราชธานี 10. มหาวิทยาลัยมหดิ ล 11. มหาวิทยาลัยบูรพา 12. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสวุ รรณภูมิ 13. มหาวิทยาลยั ราชภฎั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ 14. มหาวทิ ยาลัยวลยั ลักษณ์ 15. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรวี ิชยั 16. มหาวิทยาลยั ราชภฎั สุราษฎร์ธานี 17. มหาวิทยาลยั ราชภฎั สกลนคร 18. มหาวิทยาลัยพะเยา 19. มหาวทิ ยาลัยกาฬสนิ ธ์ุ 20. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์ 21. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา หมายเหตุ ถา้ หน่วยงานอ่ืนเป็นผู้ดาเนนิ งานจัดประชุม จัดฝกึ อบรม จัดค่ายต่างๆ ภายใตแ้ นวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. และสนับสนุนงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นในลักษณะเดียวกัน ให้อยู่ในกิจกรรมที่ 8 กิจกรรมพิเศษสนบั สนนุ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากร แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที เ่ี จด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
17 กจิ กรรมท่ี 8 กิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรกั ษ์ทรพั ยากร เปา้ หมาย 1. เพื่อเปิดโอกาสให้หนว่ ยงานต่างๆ ทัง้ ภาครัฐและเอกชน เข้ารว่ มสนับสนุนงานของ อพ.สธ. ในรปู แบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของทุนสนับสนุน หรือดาเนินงานท่ีเก่ียวข้องและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของ อพ.สธ. โดยอยู่ใน กรอบของแผนแม่บท อพ.สธ. 2. เพ่ือเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้สมัครเข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติใน สาขาต่างๆ ตามความถนัดและสนใจ โดยมีคณาจารย์ผเู้ ชีย่ วชาญในแต่ละสาขาให้คาแนะนา และใหแ้ นวทางการศึกษา โดยจดั ตั้งเปน็ ชมรมนักชีววิทยา อพ.สธ. 3. เพ่อื รวบรวมนักวิจัย นักวชิ าการคณาจารย์ผเู้ ช่ียวชาญจากท้งั ภาครัฐและเอกชน เปน็ อาสาสมัครและเข้ามา ทางานตามแนวทางการดาเนินงานในกิจกรรมของ อพ.สธ. ท้ังส่วนตัวและผ่านทางหน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ โดย จัดต้ังเป็นชมรมคณะปฏิบัติงานวิทยาการ อพ.สธ. ซ่ึงจะเป็นผู้นาในการถ่ายทอดความรู้และสร้างจิตสานึกในการ อนรุ ักษท์ รัพยากรของประเทศให้แกเ่ ยาวชนและประชาชนชาวไทย 4. เพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เทศบาลตาบล เทศบาลเมือง ให้ดาเนินงานฐานทรัพยากร ทอ้ งถนิ่ โดยกรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถนิ่ มีนโยบายให้ทุก อปท. เป็นสมาชกิ ฐานทรพั ยากรท้องถน่ิ อพ.สธ. ทาหน้าที่เป็นที่ปรกึ ษา ประสานงาน ร่วมมือกับหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดาริ กาหนดเป้าหมาย ในการดาเนินงานปี ให้สอดคล้องกับแนวทางการดาเนินงานตามกรอบแผนแมบ่ ทของ อพ.สธ. และจัดทาแผนประจาปี เฉพาะในสว่ นของหน่วยของตนให้ชดั เจน พรอ้ มท้งั วางแผนปฏบิ ตั ิงานร่วมกนั ใหช้ ัดเจน ผา่ นการประชุมคณะกรรมการ ดาเนนิ งาน อพ.สธ. ของหนว่ ยงานน้ันๆ แนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมพเิ ศษสนบั สนุนการอนุรักษท์ รพั ยากร 1. อพ.สธ. เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริท่ีมีความพร้อมในการดาเนินการจัดการ ประชุมวิชาการและนิทรรศการ อพ.สธ. จัดการประชุมตามที่กาหนดไว้ โดยมีการร่วมจัดแสดงนิทรรศการกับ หน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริทุกหน่วยงาน นอกจากนั้นยังมีการจัดการประชุมวิชาการและนิทรรศการสวน พฤกษศาสตร์โรงเรียน และฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ระดับภูมิภาค ร่วมกับสมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและ สมาชกิ งานฐานทรัพยากรทอ้ งถ่นิ โดยมีกาหนดการประชมุ ฯสาหรบั ในระยะ 5 ปที เ่ี จด็ ดังนี้ งานประชุมวิชาการและนทิ รรศการ อพ.สธ. พ.ศ. 2565 งานประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่น ระดับภูมิภาค คร้ังที่ 6 และงานประชุมวิชาการและนิทรรศการทรัพยากรไทย : 30 ปี อพ.สธ.-ประโยชน์แท้แก่มหาชน ณ มหาวิทยาลยั วลยั ลักษณ์ จงั หวดั นครศรีธรรมราช แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที เ่ี จด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กันยายน พ.ศ. 2569)
18 พ.ศ. 2566 งานประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ระดับภูมิภาค ครัง้ ที่ 7 ณ มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชยี งใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2567 งานประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่น ระดับภูมิภาค คร้งั ที่ 8 ณ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี จงั หวดั นครราชสมี า พ.ศ. 2568 งานประชุมวชิ าการและนทิ รรศการทรัพยากรไทย : หวนดทู รพั ย์สิง่ สนิ ตน ณ มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้ จังหวดั เชียงใหม่ พ.ศ. 2569 งานประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถ่ิน ระดับภูมิภาค ครัง้ ท่ี 9 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ จังหวดั สงขลา พ.ศ. 2570 งานประชมุ วิชาการและนิทรรศการทรพั ยากรไทย : ศกั ยภาพมากล้นมีใหเ้ ห็น ณ มหาวิทยาลัยแมฟ่ า้ หลวง จงั หวัดเชยี งราย 2. อพ.สธ. สนับสนุนให้มีการนาเสนอผลงานวิจยั ของเจ้าหน้าที่และนักวิจัย อพ.สธ. รวมถึงงานของหน่วยงาน ที่ร่วมสนองพระราชดาริ ในงานประชุมวิชาการต่างๆ ระดับประเทศ และต่างประเทศ และให้มีการขออนุญาตในการ นาเสนอผลงานทกุ ครง้ั และนางานน้นั เขา้ สฐู่ านขอ้ มูล อพ.สธ. 3. หน่วยงานภาครฐั เอกชน และผู้มีจิตศรัทธาสนบั สนุนเงินทุนให้ อพ.สธ. (โดยการทลู เกล้าฯ ถวาย โดยผ่าน ทางมลู นธิ ิ อพ.สธ. เพอ่ื ใช้ในกิจกรรม อพ.สธ.) 4. การดาเนินงานของชมรมนักชีววิทยา อพ.สธ. และชมรมคณะปฏิบัติงานวิทยาการ อพ.สธ. โดยที่ อพ.สธ. สนับสนุนให้มีผู้สมัครเป็นสมาชิกชมรมฯ ตามเงอ่ื นไขของชมรมฯ โดยทีช่ มรมทั้งสอง มีการดาเนินงานสนับสนุนงานใน กิจกรรมที่ 1-7 ตามแผนแม่บทของ อพ.สธ. เช่น เข้าไปศึกษาทางานวิจัยในพื้นท่ีปกปักทรัพยากร พื้นที่สารวจเก็บ รวบรวมทรัพยากร และรว่ มในกิจกรรมสารวจทรัพยากรตา่ งๆ ในพืน้ ทีท่ ี่ อพ.สธ. กาหนด 5. หน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริ สามารถดาเนินการฝึกอบรมในการสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์ พันธุกรรมพืชและทรัพยากรต่างๆ เพ่ือสนองพระราชดาริตามแผนแม่บท อพ.สธ. เพื่อสนับสนุนในงานกิจกรรมต่างๆ ของ อพ.สธ. ตามแนวทางการดาเนินงานตามแผนแม่บทของ อพ.สธ. โดยอาจมีการฝึกอบรมตามสถานท่ีต่างๆ ของ หน่วยงานนัน้ ๆ เอง หรือ โดยรว่ มกับวิทยากรของ อพ.สธ. หรือเป็นวิทยากรของหน่วยงานท่ีร่วมสนองพระราชดาริเอง แต่ผ่านการวางแผนและเห็นชอบจาก อพ.สธ. 6. มหาวิทยาลัยที่ร่วมสนองพระราชดาริ อพ.สธ. 5 แห่ง ได้รับพระราชทานฯ ให้ดาเนินงานเป็นศูนย์แม่ข่าย ประสานงาน อพ.สธ. และมหาวิทยาลัยท่ีร่วมสนองพระราชดาริในกลุ่มที่ 5 และ กลุ่มที่ 6 ของหน่วยงานที่ร่วมสนอง พระราชดาริ อพ.สธ. น้ัน สามารถขอเข้าเป็นศูนย์ประสานงาน อพ.สธ. โดยศูนย์ประสานงาน อพ.สธ. ดาเนินงาน ภายใต้การกากับดูแลของคณะกรรมการดาเนินงาน อพ.สธ. ของมหาวิทยาลัยฯ มีโครงสร้างองค์กรในการดาเนินงาน ของศูนย์ฯ อย่างชัดเจน (ณ วันท่ี 30 กันยายน พ.ศ. 2564 จานวน 26 แห่ง) มีผู้อานวยการศูนย์แม่ข่าย/ศูนย์ แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปีท่ีเจ็ด (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
19 ประสานงาน อพ.สธ. ท่ีดารงตาแหน่งโดยรองอธิการบดีที่ได้รับมอบหมาย ศูนย์แม่ข่าย/ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ. มี เปา้ หมายและวัตถปุ ระสงค์ดงั น้ี 6.1 เพื่อประสานงาน และขับเคล่ือนงานสนองพระราชดาริ อพ.สธ. ในมหาวิทยาลัยของศูนย์แม่ข่าย/ ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ., หน่วยงานนอกมหาวิทยาลัย เช่น จังหวัด อปท. ภาคเอกชน เป็นต้น โดยรับนโยบายตรง จาก อพ.สธ. สานกั พระราชวัง 6.2 เพ่ือเป็นหน่วยรวบรวมฐานข้อมูลทรัพยากร ได้แก่ ฐานทรัพยากรกายภาพ ฐานทรัพยากรชีวภาพ และฐานทรัพยากรวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาของประเทศไทยในพืน้ ท่ีท่ีมหาวทิ ยาลัยตั้งอยูแ่ ละดาเนนิ งานอยู่ 6.3 เพื่อดาเนินงานเป็นพ่ีเล้ียงให้กับเครือข่าย อพ.สธ. โดยมีแหล่งฝึกอบรมให้กับสมาชิกสวน พฤกษศาสตร์โรงเรียน และสมาชิกฐานทรัพยากรท้องถิ่น อพ.สธ. โดยมีการวางแผนการฝึกอบรมและการเป็นพ่ีเลี้ยง ให้กบั เครอื ขา่ ย อพ.สธ. รว่ มกบั อพ.สธ. สานกั พระราชวัง 6.4 เพื่อเป็นหน่วยงานท่ีร่วมประเมินผลงานเครือข่าย อพ.สธ. ร่วมกับ อพ.สธ. เพื่อเข้าขอรับป้าย พระราชทานฯ และระดบั เกียรตบิ ัตรฯ 6.5 เพ่ือช่วยวางแผนและปฏิบัติตามแนวทางการดาเนินงานตามแผนแม่บท อพ.สธ. และเป็นฝ่าย เลขานกุ ารใหก้ บั คณะกรรมการดาเนินงาน อพ.สธ.-หนว่ ยงาน 7. หน่วยงานท่รี ่วมสนองพระราชดาริ สามารถดาเนนิ งานและจัดการพ้ืนที่เพื่อการอนรุ ักษ์และพัฒนาเกิดเป็น ศนู ยเ์ รียนรู้ต่างๆ เป็นตวั อยา่ งเพื่อการเรียนรกู้ ารใช้ประโยชน์ทรัพยากรอยา่ งยัง่ ยืน ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งศูนย์ฯ เหล่าน้ีสามารถใช้ประโยชน์ให้เป็นแหล่งฝึกอบรมตามแนวทางการดาเนินงานของ อพ.สธ.-หน่วยงาน ตัวอย่างเช่น อพ.สธ. สนับสนุนให้หน่วยงานฯ จัดต้ัง ศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ พัฒนา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่าง ยั่งยืน สู่เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการดาเนินงานของ อพ.สธ. หน่วยงานที่ร่วม สนองพระราชดาริที่กระจายอยตู่ ามภูมภิ าคต่างๆ ไดแ้ ก่ 7.1 ศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ พัฒนา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างย่ังยืน สู่เศรษฐกิจพอเพียง อพ.สธ. ตาบลคลองไผ่ อาเภอสีควิ้ จังหวัดนครราชสมี า (มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี) 7.2 ศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ พัฒนา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน สู่เศรษฐกิจพอเพียง อพ.สธ. อาเภอวงั ม่วง จงั หวดั สระบรุ ี (สานักคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย) 7.3 ศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ พัฒนา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างย่ังยืน สู่เศรษฐกิจพอเพียง อพ.สธ. อาเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบรุ ี (หน่วยบญั ชาการทหารพฒั นา กองบญั ชาการกองทพั ไทย) 7.4 ศนู ยอ์ นรุ กั ษ์และพัฒนาทรัพยากรภาคตะวนั ตก (หนว่ ยบญั ชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพ ไทย) 7.5 ศูนย์วิจัย อนุรักษ์ พัฒนา ใช้ประโยชน์ทรัพยากรทะเล อพ.สธ. เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (มลู นธิ ฟิ ้นื ฟูทรพั ยากร ทะเลสยาม และพนื้ ท่สี นองพระราชดาริของจังหวดั ประจวบคีรีขันธ์) แนวทางการดาเนนิ งาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ่เี จด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
20 7.6 ศนู ยอ์ นรุ กั ษท์ รัพยากรภาคตะวันออก อพ.สธ.-สวนสัตวเ์ ปดิ เขาเขียว จงั หวัดชลบุรี (องคก์ ารสวนสตั ว์ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์) 8. การทาหลกั สูตรท้องถิ่นของมหาวิทยาลยั ตา่ งๆ ตามแนวทางการดาเนินงานตามแผนแมบ่ ทของ อพ.สธ. 9. การเผยแพร่โดยส่ือต่างๆ เช่น การทาหนังสือ วีดีทัศน์ เอกสารเผยแพร่ เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ ท่ีได้รับ ความเห็นชอบจาก อพ.สธ. เพื่อสนับสนุนงานกิจกรรมต่างๆ ของ อพ.สธ. สามารถใช้สัญลักษณ์ของ อพ.สธ. ได้เมื่อ ได้รับการพจิ ารณาและเห็นชอบจาก อพ.สธ. 10. การจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการตา่ งๆ ของหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดาริ ในสว่ นทเ่ี ผยแพร่ งานของ อพ.สธ. และไดร้ ับการพิจารณาและเห็นชอบจาก อพ.สธ. 11. หนว่ ยงานเอกชน หรือบุคคลท่วั ไป สมัครเปน็ อาสาสมัครในการรว่ มงานกบั อพ.สธ. 12. การดาเนินงานอ่ืนๆ นอกเหนือจากกิจกรรมท่ี 1-7 เพื่อเป็นการสนับสนุนงานตามกรอบแผนแม่บทของ อพ.สธ. 13. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สมัครเข้ามาสนองพระราชดาริในงานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน (สามารถดาวน์โหลดคู่มืองานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน และศึกษาสื่อต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ อพ.สธ. (www.rspg.or.th) สามารถส่งเจ้าหน้าท่ีมาเข้ารับการฝึกอบรมการดาเนินงานฐานทรัพยากรท้องถิ่นได้ ตามตารางการฝกึ อบรมที่ประกาศ ไว้ อปท. สามารถสนองพระราชดาริ โดยการสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกงานฐานทรัพยากรท้องถ่ินผ่านทางจังหวัด ทกุ จงั หวัดในประเทศไทย สามารถดูตัวอยา่ งไดจ้ ากเว็บไซต์ อพ.สธ. (www.rspg.or.th) และขอคาแนะนาจาก อพ.สธ. สวนจติ รลดาโดยตรง หรอื ศูนยแ์ ม่ขา่ ยประสานงาน อพ.สธ. หรือศูนยป์ ระสานงาน อพ.สธ. ท่ีมอี ย่ทู วั่ ประเทศ งานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน มีการดาเนินงานครอบคลุม 3 ฐานทรัพยากร (ทรัพยากรกายภาพ ทรัพยากร ชีวภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา) โดยที่มีคณะกรรมการดาเนินงานฐานทรัพยากรท้องถ่ิน อพ.สธ.– อปท. ทเี่ ปน็ สมาชกิ ฐานทรพั ยากรท้องถ่ิน อพ.สธ. โดยมี 3 ดา้ น ได้แก่ 1. ดา้ นบริหารและด้านจัดการ 2. ดา้ นการดาเนนิ งาน ซง่ึ แบง่ เปน็ 6 งาน ได้แก่ 1) งานปกปักทรัพยากรทอ้ งถ่ิน 2) งานสารวจเกบ็ รวบรวมทรัพยากรท้องถิน่ 3) งานปลูกรักษาทรัพยากรท้องถิน่ 4) งานอนรุ ักษแ์ ละใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิน่ 5) งานศูนย์ข้อมลู ทรัพยากรท้องถิน่ 6) งานสนบั สนนุ ในการอนรุ กั ษ์และจดั ทาฐานทรพั ยากรท้องถ่ิน แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที ี่เจด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
21 3. ดา้ นผลการดาเนนิ งาน โดยท่ีทางองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน สามารถดาเนินงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น และนาไปสู่การ ประเมนิ เพอ่ื รับการประเมินรับปา้ ยฯ พระราชทาน และเกยี รติบตั รฯ ในการดาเนินงานทรพั ยากรท้องถิน่ อพ.สธ. ประโยชน์จากการเปน็ สมาชิกงานฐานทรัพยากรท้องถน่ิ 1. สนับสนุนงานปกติท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มีหน้าที่ความรับผิดชอบท่ีต้องทราบในเร่ืองข้อมูลทาง กายภาพ ข้อมูลชีวภาพ เศรษฐกิจสงั คม ศักยภาพชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพ่ือนาภูมิปัญญานั้นไปพัฒนาต่อยอด เปน็ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ท่ที าใหเ้ ปน็ มาตรฐานสากล 2. สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ทางานใกล้ชิดกับสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ประสานกับชุมชนและ โรงเรียน เพื่อมาเป็นกาลังในการร่วมสารวจและจัดทาฐานทรัพยากรท้องถิ่นระดับตาบล/เทศบาล เกิดการสร้าง จิตสานึกในการรักท้องถิ่นให้กับนักเรียนและประชาชนในท้องถ่ินน้ันๆ เพราะสถานศึกษามีหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2551 ซึ่งบ่งชี้ว่าในสาระวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะต้องทราบในเร่ืองทรัพยากรในท้องถิ่น และการใช้ทรัพยากรในท้องถ่ิน น่ันคือจะต้องมีภูมิปัญญามากากับการใช้ประโยชน์ เช่น พืชผักพื้นเมือง พืชสมุนไพร และยังสามารถบูรณาการไปยังกลุ่มสาระสังคมและส่ิงแวดล้อม เม่ือมีการทางานร่วมกัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะไดข้ ้อมลู ทรพั ยากรทเ่ี ปน็ ปจั จบุ นั ในการวางแผนพัฒนา อบต./เทศบาล 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ได้ข้ึนทะเบียนทรัพยากรท้องถิ่นตามรูปแบบการทาทะเบียนทรัพยากรต่างๆ ของ อพ.สธ. ให้กบั ท้องถิ่นของตนเอง เพ่ือนาไปสกู่ ารยนื ยนั สทิ ธิใ์ นการเป็นเจา้ ของทรัพยากร นาไปส่กู ารเป็นหลกั ฐาน ในการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication) และการขึ้นทะเบียนอ่ืนๆ ต่อไป และเป็นการ ยืนยันสิทธ์ิความเป็นเจ้าของทรัพยากรต่างๆ เพ่ือเตรียมพร้อมสาหรับการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์จากการใช้ ทรัพยากรนั้นๆ ท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ..... และตามพิธีสารนาโงย่า (Nagoya protocol) แนวทางการดาเนินงาน อพ.สธ. ระยะ 5 ปที เ่ี จด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564-30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
110 13. แนวทางการดาเนินงานตามแผนแม่บทระยะ 5 ปี ทีเ่ จด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564 - 30 กนั ยายน พ.ศ. 2569) ของหน่วยงานท่ีรว่ มสนองพระราชดาริ อพ.สธ. 13.4 กล่มุ G4 กลมุ่ การอนุรกั ษแ์ ละใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากร มจี านวน 8 หน่วยงาน ดงั น้ ี 1. กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก 2. กรมวิทยาศาสตรบ์ ริการ 3. สานักงานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ 4. สถาบนั วิจยั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ประเทศไทย 5. องคก์ ารเภสชั กรรม 6. องคก์ ารอุตสาหกรรมป่ าไม้ 7. องคก์ ารสง่ เสริมกิจการโคนมแหง่ ประเทศไทย 8. กรมการพฒั นาชุมชน แผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปี ท่ีเจด็ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 - 30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
111 แนวทางการดาเนินงานตามแผนแม่บทระยะ 5 ปี ท่ีเจด็ (1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564 - 30 กนั ยายน พ.ศ. 2569) กล่มุ ที่ 4 กลมุ่ การอนุรกั ษแ์ ละใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากร (G4) กรอบ/ แนวทางการดาเนินงานและขอ้ พิจารณาของ อพ.สธ. หมายเหตุ กิจกรรม ตวั ช้ ีวดั เชิงปริมาณ ตวั ช้ ีวดั เชิงคณุ ภาพ กรอบการ 1. กาหนดขอบเขต 1.สามารถป้ องกนั พ้ ืนท่ีไม่ใหม้ ีการบุกรุก เครื่องมอื ในการ เรียนรู้ พ้ ืนที่สารวจใหช้ ดั เจน ทาลายทรพั ยากร ทางานของ อพ.สธ. ทรพั ยากร/ (จดั ทาขอ้ มลู เชิงพ้ ืนที่ 1. Template 9 ใบ กิจกรรมที่ 1 ในรปู แบบไฟล์ 2.มกี ารการรกั ษาพ้ ืนท่ี เชน่ มกี าร งานใชเ้ ป็ น กิจกรรมปก สาหรบั เปิ ดใน ลาดตระเวนสมา่ เสมอเพื่อป้ องกนั การบุกรุก เครื่องมือในการ ปัก โปรแกรมสารสนเทศ และอาจมีเสน้ ทางศึกษาธรรมชาติเพื่อใหค้ น บนั ทึก ทรพั ยากร ภมู ศิ าสตร์ ในทอ้ งถ่ินเขา้ มาใช้ หรือหาของป่ าใน หรือ (F1A1) (GIS)สามารถข้ นึ เสน้ ทางท่ีไดจ้ ดั สรรไวใ้ ห้ 2. Form F2-M ป้ ายพ้ ืนท่ีปกปัก 3. Application งาน ทรพั ยากร อพ.สธ. 3.จากรายงานที่ระบุสถานการณ์ ฐานทรพั ยากร สนองพระราชดาริ สภาพแวดลอ้ มของป่ าวา่ มปี ัญหาใดเกิดข้ ึน อพ.สธ. โดยหน่วยงานฯ เก่ียวขอ้ งกบั คนในทอ้ งถ่ินรอบ ๆ พ้ ืนที่ 4. Platform หรือไม่ หรือเป็ นมคี วามร่วมมือกนั อยา่ งดีใน LandViewer 2.ทารว้ั ขอบเขต การรกั ษาพ้ ืนที่กบั คนในทอ้ งถิ่นโดยไมม่ ีการ 5.Platform EO บริเวณพ้ ืนที่ฯในกรณี บุกรุกพ้ ืนท่ีฯ รว่ มรกั ษาป่ ากบั หน่วยงานฯ Browser ที่มีไฟป่ า หรือมี 6.ภาพถ่ายจาก ประวตั ิการเกิดไฟ 4. การจดั ทาแนวป้ องกนั ไฟป่ าใหต้ รงตาม ดาวเทียม ไหมใ้ นพ้ ืนท่ี ควร จุดที่เกิดเหตุไฟป่ าข้ ึนจริงในแต่ละ ฯลฯ จดั ทาแนวป้ องกนั ไฟ ปี งบประมาณ เพราะความสาเร็จในการดแู ล พ้ ืนที่ทาใหจ้ านวนเหตุการณเ์ กิดไฟป่ าลดลง 3.ใหร้ ะบุสถานะพ้ ืน ในแต่ละ การใชง้ บประมาณในแต่ละ ท่ีวา่ อยเู่ อกสารสิทธ์ิ ปี งบประมาณลดลง เป็ นตน้ ประเภทใด 3.1 เป็ นพ้ ืนที่มี 5. จานวนทรพั ยากรท่ีสารวจไดใ้ นพ้ ืนท่ีปก เอกสารสิทธ์ิของ ปักทรพั ยากรเปรียบเทียบกนั ในแต่ละปี หน่วยงานฯ ตามท่ีมีอยจู่ ริง เพื่อใชใ้ นการประเมินสภาพ 3.2 เป็ นพ้ ืนที่ของ พ้ ืนท่ีและทรพั ยากรที่เปล่ียนแปลงไปซ่ึงโดย หน่วยงานอ่ืนแต่ ตามหลกั การ ถา้ ไมเ่ กิดไฟป่ า หรือมีการบุก อนุญาตใหม้ ีสิทธ์ิใช้ รุกแผว้ ถาง ทรพั ยากรในพ้ ืนที่ปกปัก แผนแม่บท อพ.สธ. ระยะ 5 ปี ท่ีเจ็ด (1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 - 30 กนั ยายน พ.ศ. 2569)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132