บทท่ี 8 การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัย และสถานทาการ ดารงค์ศักด์ิ สอนแจ้ง
“Everyone has the right to a standard of living adequate for the health and well being of himself and of his family, including food, clothing, housing and medical care”. Source- The universal declaration of human rights
ความเสี่ยงต่อระบบ การไดร้ ับพษิ จากยาฆ่า แมลง การรบกวนศตั รูพืช บ้านชา ุรดท ุรดโทรม การใชย้ าฆ่าแมลง ัปจจัยทาง ัสงคม เพม่ิ ความเส่ียงโรคหอบหืด
สภาพความไมป่ ลอดภยั ที่พกั อาศยั ร่ัว ความสะอาดของน้า ท่ีเกบ็ อาหาร สตั วน์ าโรค ขยะ
ปัจจยั ทีม่ ีผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ จากการขยายตวั ของเมอื ง ประกอบด้วย การเจริญเติบโตของประชากรในเขตเมอื งอย่างรวดเร็ว และมหาศาล เกดิ ขึ้นในเมืองใหญ่ ทัง้ ระดบั มหานคร และเมอื งที่มีขนาดเล็กกว่า ประชากรส่วนใหญท่ บ่ี กุ รุกทดี่ นิ สาธารณะ เพือ่ ทามาหากนิ และสร้างท่ีอยอู่ าศยั เป็น ลักษณะช่ัวคราว มักจะใช้ประโยชน์จากทด่ี นิ น้ัน โดยไมค่ านงึ ถงึ ความลาดของพน้ื ดิน ทาใหน้ ้าท่วมถงึ และได้รบั อนั ตรายที่เกดิ จากธรรมชาติ ความหนาแนน่ ของประชากร ความแออัด และการจราจรทเ่ี พิม่ ขน้ึ ตลอดจนแบบแผนการกระจายตวั ของที่ อยอู่ าศยั ทไ่ี มเ่ หมาะสม ประชากรทอี่ ยู่ในกลุม่ คนยากจนทส่ี ุด มกี ารเพ่ิมจานวนมาก หลายคนในจานวนน้ี โดยเฉพาะท่เี ปน็ ผหู้ ญงิ และเดก็ จะเป็นกลุม่ เสี่ยงทางสังคมที่สุด สภาพทางชีวภิ าพ เคมี กายภาพของมลพิษในอากาศ น้า และทด่ี นิ มกี ารเปล่ียนแปลงเพมิ่ ขน้ึ ซ่งึ เกดิ จาก อุตสาหกรรม การขนสง่ การผลิตพลังงาน และของเสียจากทอี่ ยอู่ าศยั และการคา้ ขายเน่ืองจากปัญหาการเงนิ และ การบรหิ ารจัดการ ไม่สามารถดาเนนิ การใหม้ สี าธารณปู โภคท่เี พียงพอ ปลอดภยั ถกู หลักสขุ าภิบาล และไม่ เออ้ื ให้มกี ารส่งเสรมิ การจา้ งงาน และมีท่ีอยอู่ าศยั ท่เี พียงพอ การจดั การของเสียอยา่ งเหมาะสม มคี วามมั่นคงในชีวติ และ ทรพั ย์สิน การควบคมุ สง่ิ แวดล้อม ตลอดจนการจัดบริการทางสังคม และสุขภาพทด่ี ี ที่มา : WHO, The Urban Health Crisis of Strategics for Health for All in the Face of Rapid Urbanization, Report of the Technical Discussions at the Forty-Fourth World Health Assembly, 1993
ความเป็นไปทางสงั คม กลุม่ เสย่ี งทม่ี คี วามเสยี่ งสูงในการสมั ผสั กบั อนั ตรายจากภายในบา้ นมากทส่ี ุด เนอื่ งจากเวลาทใี่ชภ้ ายในบา้ น สูงอายุ วยั รุ่น เจบ็ ป่วยเร้อื รงั ขาดแคลนทอี่ ยู่อาศยั ทเี่พยี งพอ การจดั ทพ่ี กั ทเี่หมาะต่อสุขภาพ
การสุขาภิบาลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ สถาบนั หมายถงึ อาคารสถานทท่ี ส่ี ร้างขน้ึ เพอ่ื ใชเ้ ป็นที่ ทาการ ซง่ึ กาหนดใหเ้ ป็นทชี่ ุมชนได้ทว่ั ไปเป็นอาคาร สาธารณะ เช่น โรงเรยี นหรอื สถานศกึ ษา หอประชุม โรงมหรสพ โรงพยาบาล โรงแรม และเรอื นจา เป็นต้น
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ การสุขาภบิ าลท่ ีอยู่อาศัยและสถาบนั หมายถึง การจดั การและ ควบคุมดูแลท่ ีอยู่อาศัยและ/หรือสถาบนั ให้สะอาดถูกสุขลกั ษณะ โดยจดั การให้ได้ตามความต้องการขนั้ มูลฐานทงั้ ทางร่างกาย จติ ใจ และจดั ให้ปลอดภยั จากการเกิดอุบตั ิเหตุและการเกิดโรค ระบาดในผูพ้ กั อาศยั หรือผูม้ าใช้บริการด้วย
ครัวเรือนมีความม่ันคงในท่อี ย่อู าศัยและบ้านมีสภาพคงทนถาวร ความมน่ั คงในทอี่ ยู่อาศยั หมายถงึ สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกงั วลว่าจะมี ปญั หาเรอ่ื งทพ่ี กั อาศยั เช่น การไมอ่ ยู่ในทสี่ าธารณะหรอื เขตป่าสงวน ไม่ อยู่ในเขตทป่ี ระสบภยั น้า ท่วม อย่างร้ายแรง ไม่ถูกไลท่ ่ี เป็นต้น สภาพคงทนถาวร หมายถงึ บา้ นทม่ี โีครงสร้างบา้ น มหี ลงั คามุงกระเบอ้ื ง หรอื สงั กะสี และมฝี าครบทง้ั 4 ด้าน มปี ระตูหนา้ ต่างทอี่ ยู่ในสภาพดี แขง็ แรง ไม่ชา รุด อยู่คงทน สามารถอยู่ต่อไปได้ไมน่ อ้ ยกว่า 5 ปี
การสุขาภิบาลอาคารทอี่ ยู่อาศัยและสถานทาการ ความสาคัญของที่อยอู่ าศยั และสถานทาการต่อการดารงชีวิตของ มนษุ ย์ ที่อย่อู าศัย เป็นปจั จยั สาคญั ของมนุษย์ทที่ ุกคนเกดิ มาจะต้องมี เพอื่ เป็นทพี่ กั ผอ่ นนอนหลบั หรอื อยูก่ นิ เป็นประจาของตนเองและครอบครวั ท่ีอย่อู าศยั ทด่ี แี ละถูกสุขลกั ษณะตามหลกั การสุขาภบิ าล จะ ช่วยส่งเสรมิ ให้ผูอ้ ยูอ่ าศยั มคี วามสุขสบายทง้ั กายและใจ ปลอดภยั จาก การเกดิ อุบตั เิหตุและโรคตดิ ต่อทจี่ ะเกดิ จากทอ่ี ย่อู าศัยเป็นสาเหตุได้
การสุขาภบิ าลอาคารท่ีอยู่อาศัยและสถานทาการ ความสาคัญของที่อยอู่ าศยั และสถานทาการต่อการดารงชีวิตของ มนษุ ย์ (ต่อ) นอกจากท่ีอยอู่ าศยั จะมคี วามสาคญั ต่อผูอ้ าศยั ทง้ั โดย ทางตรงและทางออ้ มแลว้ ยงั มคี วามสาคญั ต่อชุมชนโดยส่วนรวมของ ประเทศอกี ด้วย กลา่ วคอื ชุมชนประกอบด้วยครอบครวั หลาย ๆ ครอบครวั อยู่ในอาณาเขตของชุมชนเดยี วกนั แต่ละครอบครวั จะมที อ่ี ยู่ อาศยั ซงึ่ เป็นปจั จยั สาคญั ของมนุษย์ ดงั นนั้ บา้ นหรอื ที่อย่อู าศยั จงึ มบี ทบาทสาคญั และมผี ลกระทบต่อชุมชนได้
ถ้าที่อยอู่ าศยั มสี ภาพการสขุ าภิบาลส่ิงแวดล้อมไมถ่ กู สขุ ลักษณะจะทาให้สภาพการสขุ าภิบาลส่ิงแวดล้อมของชมุ ชนไม่ ถกู สขุ ลักษณะด้วย ถ้าที่อยอู่ าศยั ไมถ่ กู สขุ ลักษณะมาอยู่รวมกัน มากๆ จะกลายเป็ น “ชมุ ชนแออัด” หรือ “แหล่งเสื่อมโทรม” เรียก กันทั่วไปว่า “ สลัม(slum) ”
“ชมุ ชนแออัด” หรอื “แหล่งเส่ือมโทรม” เรียกกันท่ัวไปว่า “สลัม (slum)” ซ่ึงจะมปีั ญหาท้ังทางเศรษฐกิจ สังคม และ การเมอื งต่อรัฐซ่ึงยากต่อการปรับปรงุ แก้ไขให้เหมาะสม
ความสัมพนั ธ์ของท่อี ย่อู าศยั ต่อวถิ ีชีวติ ของมนุษย์ ชวี ติ ครอบครวั ระยะท่ี 1 ระยะสร้างครอบครวั ใหม่(Family formation) การเรมิ่ มชี วี ติ ครอบครวั การเรม่ิ มชี วี ติ ครอบครวั ครอบครวั ในวยั นส้ี ่วนใหญ่มกั จะเป็นหนุม่ สาวทเี่พง่ิ เรมิ่ ทางาน ฐานะทางเศรษฐกจิ และ ความเป็นอยู่อาจจะไมม่ นั่ คงนกั ทงั้ ยงั เป็นช่วงของการเรยี นรู้เพอื่ การปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั บทบาทหนา้ ทขี่ องตน ในระยะนอ้ี าจต้องมกี าร วางแผนระยะสนั้
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 1 ระยะสร้างครอบครัวใหม่ (Family formation) ลกั ษณะทอี่ ยู่อาศยั สาหรบั ครอบครวั ในระยะน้ี อาจจะยงั ไมม่ คี วามจาเป็นทจี่ ะต้องใช้ บา้ นทม่ี ขี นาดใหญ่มากนกั เพราะยงั มสี มาชกิ เพยี ง 2 คน คอื สามี และภรรยาเท่านน้ั ดงั นนั้ ทง้ั คู่อาจจะเช่าบา้ นขนาดเลก็ หรอื หอ้ งชุดในราคาประหยดั ทเ่ีหมาะสมกบั ฐานะทางเศรษฐกจิ และความจาเป็นในการอยูอ่ าศยั ทแี่ ท้จรงิ บางคู่อาจต้อง อาศยั อยู่กบั พอ่ แม่ของฝ่ ายใดฝ่ ายหนง่ึ ไปก่อนกไ็ด้
ชีวติ ครอบครัวระยะที่ 2 ระยะครอบครัวมีบตุ รเลก็ (Childbearing family) การเรม่ิ มลี ูก (ตงั้ แต่แรกเกดิ ถงึ 2 ขวบ) การมลี ูกเป็น การเพม่ิ สมาชกิ ในครอบครวั และสงั คมทมี่ คี วามสาคญั โดยเฉพาะ การเรมิ่ มลี ูกคนแรกจะนาพามาซง่ึ ประสบการณใ์ หม่ท่ี ท้าทายมาสู่ชวี ติ คู่ รวมทง้ั เป็นการกระชบั ความสมั พนั ธ์จากคู่ สามภี รรยามาเป็นพอ่ และแมท่ จ่ี ะต้องมคี วามรบั ผดิ ชอบและกลม เกลยี วกนั มากยง่ิ ขน้ึ การเลย้ี งดูบุตรจะทาใหค้ รอบครวั ต้องการพน้ื ทแี่ ละปจั จยั ทจ่ี าเป็นเพมิ่ ขน้ึ
ชวี ติ ครอบครัวระยะท่ี 2 ระยะครอบครัวมีบุตรเล็ก (Childbearing family) ลกั ษณะทอี่ ยู่อาศยั สาหรบั ครอบครวั ในระยะน้ี มคี วามจาเป็นทจ่ี ะต้องจดั หาปจั จยั และอุปกรณ์ ในการเลย้ี งดูบุตรในวยั ทารกเพมิ่ เตมิ ขน้ึ มา เช่น เสอ้ื ผา้ เดก็ ขวดนม เปล ฯลฯ ปรบั ปรงุ สง่ิ แวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมกบั บุตร รวมทงั้ ยงั จะต้องมกี ารกนั พน้ื ทส่ี าหรบั การเลย้ี งดูบุตรด้วย อย่างไรกต็ าม การเลย้ี งดูทารกกย็ งั ใช้ พน้ื ทไ่ีมม่ ากนกั แต่ไม่ควรให้บุตรอยู่ในพน้ื ทจี่ ากดั เกนิ ไป ทง้ั ยงั ต้องมกี ารดูแล สถานทใี่หส้ ะอาดอยู่ตลอดเวลา เกบ็ ของใชใ้ หเ้ ป็นระเบยี บ ตรวจสอบความ ปลอดภยั และของใชภ้ ายในบา้ น และสงิ่ ของทอี่ าจป็นอนั ตรายต่อเดก็ เช่น ปลก๊ั ไฟ มดี ครอบครวั ทยี่ งั อาศยั ร่วมกบั พอ่ แม่ อาจต้องช่วยเหลอื และ ป้องกนั การรบกวนกนั เช่น เสยี งเดก็ ร้องรบกวน เป็นต้น
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 3 ระยะครอบครัวกับบุตรก่อนวัย เรียน(Family with preschool children) ลูกก่อนวยั เรยี น (2-5 ขวบ) ชวี ติ ครอบครวั ช่วงนเ้ีป็น ช่วงทอี่ าจต้องมกี จิ กรรมในการอบรมบุตรทก่ี าลงั เตบิ โต พร้อม ทจ่ี ะเรยี นร้แู ละทดลองการดาเนนิ ชวี ติ เบอ้ื งต้นตามวยั ทเี่พมิ่ ขน้ึ ดงั นนั้ การเลย้ี งดูเดก็ ในวยั นจ้ี งึ เป็นไปในลกั ษณะทเี่ป็นการสอน สงิ่ ทค่ี วรทา ครอบครวั ในระยะนอ้ี าจมบี ุตรเพม่ิ ขน้ึ ซงึ่ กจ็ ะเป็น การเพม่ิ ภาระการเลย้ี งดูแก่คู่สามี ภรรยา แต่ในขณะเดยี วกนั ก็ เป็นการเพม่ิ ความคกึ คกั แก่ครอบครวั ด้วย
ชีวิตครอบครัวระยะท่ี 3 ระยะครอบครัวกบั บุตรก่อนวัย เรียน(Family with preschool children) ลกั ษณะทอี่ ยู่อาศยั สาหรบั ครอบครวั ในระยะน้ี มคี วามจาเป็นทจ่ี ะต้องจดั หาปจั จยั และอุปกรณ์ในการเสรมิ สร้างพฒั นาการแก่เดก็ ทเ่ีหมาะสม เช่น ของเล่นทเ่ีหมาะสมกบั วยั รวมทง้ั อาจต้องจดั ใหม้ พี น้ื ทสี่ าหรบั การเรยี นร้ขู องเดก็ โดยเฉพาะด้วย ดงั นนั้ ครอบครวั เดย่ี วที่ เช่าบา้ นขนาดเลก็ หรอื หอ้ งชุด รวมทง้ั ครอบครวั ทอี่ าศยั ร่วมกบั พอ่ แม่ อาจต้องเรม่ิ มองหาทอี่ ยูอ่ าศยั ทม่ี คี วามเหมาะสม ต่อครอบครวั สาหรบั การอยูอ่ าศยั ทถ่ี าวร
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 4 ระยะครอบครัวกบั บุตรวยั เรียน (Family with school-age children) ลูกเขา้ เรยี น (6-13 ขวบ) ชวี ติ ครอบครวั ในช่วงนเ้ีป็นชว่ งท่ี อยูใ่ นระหว่างการเจรญิ เตบิ โตของเดก็ ทม่ี กี ารพฒั นาตวั เองด้าน พน้ื ฐานสูงสุด ทงั้ ทางร่างกายและสตปิ ญั ญาเพอื่ การเรยี นรู้ไปสู่ วยั รุ่นและวยั หนุ่มสาว ในขณะทพี่ อ่ แมอ่ าจกาลงั เขา้ สู่วยั ผูใ้ หญ่ ตอนกลาง ( 35-45 ปี) และฐานะทางเศรษฐกจิ ของครอบครวั อาจมคี วามมน่ั คงและอยู่ตวั มากขน้ึ ด้วย ครอบครวั ในช่วงนอ้ี าจ กาลงั ขยายตวั ในด้านฐานะความเป็นอยูท่ ด่ี ขี น้ึ โดยอาจมสี ง่ิ อานวย ความสะดวกสบายหรอื ความบนั เทงิ เขา้ มาได้ในสงั คมปจั จุบนั
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 4 ระยะครอบครัวกบั บุตรวยั เรียน (Family with school-age children) ลกั ษณะทอ่ี ยู่อาศยั ทเี่หมาะสมสาหรบั ครอบครวั ในระยะน้ี จาเป็นทจี่ ะต้อง มกี ารจดั สง่ิ แวดลอ้ มและระบบระเบยี บทสี่ ามารถกระตุ้น ส่งเสรมิ การเรยี นรู้และพฒั นาการของเดก็ ทงั้ ทางร่างกายและ สตปิ ญั ญาทเี่หมาะสม เชน่ การจดั หาอุปกรณ์เครอื่ งเลน่ ที่ เหมาะสมกบั วยั และพฒั นาการ การสง่ั สอนมารยาทในการ ร่วมโต๊ะรบั ประทานอาหารกบั ผูใ้ หญ่ เป็นต้น
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 5 ระยะครอบครัวกบั บุตรวัยรุ่น (Family with teenage children) ลูกวยั รุ่นกาลงั เรยี น ( 13-21 ปี) ชวี ติ ครอบครวั ในช่วงน้ี เป็นช่วงทเี่จรญิ เตบิ โตสูงสุด เพราะเดก็ มพี ฒั นาการเขา้ ไปสู่ การศกึ ษาในระดบั มธั ยมจนถงึ มหาวทิ ยาลยั เดก็ ในช่วงนจ้ี ะมี ลกั ษณะทตี่ ้องการเป็นตวั ของตวั เอง แสวงหาสงิ่ ยดึ เหนย่ี วของ ชวี ติ ทนี่ อกเหนอื จากพอ่ แม่ เช่น เพอื่ น เป็นช่วงทพ่ี อ่ แม่อาจ ต้องเอาใจใส่และใชค้ วามละเอยี ดรอบคอบในการอบรมเลย้ี งดูเป็น อย่างยงิ่ จงึ จะช่วยใหเ้ ดก็ สามารถก้าวเขา้ สู่วยั หนุ่มสาวได้อย่าง ถูกต้อง
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 5 ระยะครอบครัวกับบุตรวัยรุ่น (Family with teenage children) ลกั ษณะของบา้ นทอ่ี ยู่อาศยั ในครอบครวั ระยะน้ี ควรมกี ารต่อเตมิ หรอื จดั หาหอ้ งส่วนตวั ทมี่ เีนอ้ื ทเี่พยี งพอต่อความต้องการ ใหแ้ ก่เดก็ เพอื่ ให้เขาได้มบี รเิวณส่วนตวั ทสี่ ามารถใช้ เพอ่ื ทากจิ กรรมบางอยา่ งทอ่ี าจต้องทาเพยี งลาพงั ได้ อยา่ งเหมาะสม รวมทงั้ จะต้องใหเ้ ดก็ เป็นผูด้ ูแล ความรบั ผดิ ชอบต่อบรเิวณดงั กลา่ วด้วยตวั เอง
withชaวี dติ uคltรcอhบiคldรrวัeรnะย) ะท่ี 6 ระยะครอบครวั กบั บุตรวยั ผูใ้ หญ่(Family ลูกเรม่ิ ผละจากครอบครวั เป็นช่วงชวี ติ ครอบครวั ทเ่ีรม่ิ มกี ารผละจากของ ลูกหลานหรอื เรมิ่ ห่างเหนิ กนั ไป เนอ่ื งจากเป็นช่วงทลี่ ูกหลานเรมิ่ เขา้ สู่ช่วงวยั หนุม่ สาวทตี่ ้องออกไปศกึ ษาในระดบั สูงทไ่ีกลบา้ น หรอื ประกอบอาชพี หา รายได้เลย้ี งดูตวั เอง และใชช้ วี ติ อยู่ตามลาพงั อย่างอสิ ระจากพอ่ แม่ อาจมี การกลบั มาอยู่อาศยั หรอื เยย่ี มเยยี นกนั บ่อย ๆ อย่างไรกต็ าม กจิ กรรมการ อยู่ร่วมกนั กจ็ ะไม่คกึ คกั เหมอื นเมอ่ื ก่อน ลกั ษณะบา้ นทอี่ ยู่อาศยั ในครอบครวั ระยะน้ี อาจต้องพยายามจดั สรรพน้ื ทใี่ช้ ประโยชน์ใหน้ อ้ ยลง เพราะสมาชกิ ไมไ่ ด้อยู่พร้อมหนา้ เหมอื นเมอื่ ก่อน เพอื่ งา่ ยต่อการจดั การดูแล
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 7 ระยะลูกแยกครอบครัว (Family dispersion) บา้ นว่างเปลา่ เป็นช่วงชวี ติ ครอบครวั ทลี่ ูกหลานในช่วงวยั หนุม่ สาวหรอื เขา้ สู่ผูใ้ หญ่วยั ต้น (อายุ 25 ปีขน้ึ ไป) เรมิ่ มี ครอบครวั เป็นของตนเองไปเกอื บหมดแลว้ ทาใหก้ ารผละจาก ครอบครวั ของลูกหลานเรมิ่ เป็นไปอยา่ งถาวร ครอบครวั จะ คงเหลอื อยู่เพยี งพอ่ แมท่ อี่ าจอยูใ่ นช่วงผูใ้ หญ่วยั ปลาย หรอื เขา้ สู่ช่วงชราภาพ (อายุ 50-60 ปี) อย่างไรกต็ าม อาจมลี ูก บางคนทย่ี งั ไมแ่ ต่งงานหรอื แต่งงานแลว้ ยงั สมคั รใจอาศยั อยู่ ด้วยเพอ่ื คอยดูแล ช่วยเหลอื จงึ อาจเกดิ ครอบครวั ในวฏั จกั ร ที่ 1 ซ้อนทบั อยูก่ ไ็ด้
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 7 ระยะลูกแยกครอบครัว (Family dispersion) ลกั ษณะบา้ นทอ่ี ยู่อาศยั ในครอบครวั ระยะน้ี อาจต้องมกี ารยา้ ยจากบา้ นทมี่ ขี นาดใหญ่ เกนิ ไปออกไปหาบา้ นทมี่ ขี นาดเหมาะสมในกรณที ค่ี งเหลอื เฉพาะพอ่ แม่ เท่านน้ั เพราะไม่มคี วามจาเป็นทจ่ี ะต้องถอื ครองบา้ นขนาดใหญ่จน เกนิ ความจาเป็นต่อการอยูอ่ าศยั เพยี งลาพงั สามี ภรรยา อกี ต่อไป แต่ในกรณที ยี่ งั มอี ยู่ กอ็ าจจะยงั อาศยั ในบา้ นเดมิ นน้ั ต่อไปอกี กไ็ด้ แต่กอ็ าจต้องมกี ารกนั พน้ื ทส่ี าหรบั ครอบครวั ใหม่ในวฏั จกั รท่ี 1 ด้วย
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 8 ระยะค่สู มรสสูงอายุ(Older couple) ปีแห่งความว่างเปล่า เป็นช่วงทพี่ อ่ แมเ่ กดิ ความเสอื่ มทาง ร่างกายอย่างเตม็ ทจี่ ากการชราภาพ ซงึ่ อาจมโีรคหรอื อาการ ผดิ ปกตปิ ระจาตวั ทต่ี ้องระมดั ระวงั และต้องคอยประคบั ประคอง เช่น หูตงึ ตามวั กระดูกผุกร่อน การประกอบกจิ กรรม พน้ื ฐาน เช่น การเดนิ กระทาได้อยา่ งยากลาบาก ช่วงนใ้ีนกรณี ทยี่ งั มลี ูกทอี่ าศยั อยู่ด้วย อาจต้องใหก้ ารดูแลเอาใจใส่เป็นพเิศษ กรณที ไ่ีมม่ อี าจต้องมเีพอื่ นบา้ น ญาตพิ น่ี อ้ งทอี่ ยู่ใกลเ้ คยี งให้ พง่ึ พาอาศยั ในกจิ กรรมอน่ื ๆ
ชีวติ ครอบครัวระยะท่ี 8 ระยะค่สู มรสสูงอายุ(Older couple) ลกั ษณะบา้ นทอี่ ยู่อาศยั ในครอบครวั ระยะน้ี ควรต้องจากดั พน้ื ทใ่ีชส้ อยให้มเีฉพาะเท่าที่ จาเป็นจรงิ ๆ เท่านน้ั เพอ่ื การใชป้ ระโยชนต์ ามสมควรของผูส้ ูงอายุ และ ไมค่ วรจดั พน้ื ทใ่ีชส้ อยทอี่ าจเป็นสาเหตุทท่ี าให้เกดิ อุบตั เิหตุได้ เช่น ธรณี ประตู ทางเขา้ หอ้ งทแี่ คบเกนิ ไป การวางอุปกรณ์ขา้ วของทมี่ รี ่องหลบื มากเกนิ ไป โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ไมค่ วรใหม้ กี ารขน้ึ บนั ไดอนั อาจเป็นสาเหตุ ของอุบตั เิหตุทร่ี ้ายแรง ดงั นนั้ หอ้ งใชส้ อยต่าง สาหรบั ผูส้ ูงอายุจงึ ควร อยู่ชนั้ ลา่ ง และจดั บา้ นใหม้ คี วามสงบเพยี งพอทจ่ี ะใหผ้ ูส้ ูงอายุภายในบา้ น ได้ใชเ้ ป็นทพี่ กั ผอ่ นในบน้ั ปลายของชวี ติ ได้อย่างมคี วามสุข
1. สภาพของทอี่ ยู่อาศยั โดยทวั่ ๆ ไปส่วนใหญไ่ ม่ถูกสุขลกั ษณะ บกพร่องทางด้านการสุขาภบิ าลขนั้ พน้ื ฐานทง้ั ในเมอื งและใน ชนบท
2. สภาพทางสงั คม สภาพทางสงั คมบางอยา่ งเป็นสาเหตุของปญั หาและ เป็นอุปสรรคในการแก้ไขปญั หา เช่น 1) ความไม่ร้ไู ม่เขา้ ใจ และขาดความสนใจเกยี่ วกบั สุขภาพของประชาชน 2) ความยากจนของประชาชน 3) การอพยพยา้ ยถนิ่
3. การจดั บรกิ ารทอ่ี ย่อู าศยั โดยรฐั และเอกชนยงั จดั ทาได้ไม่ทว่ั ถงึ 4. การจดั บรกิ ารสงิ่ อานวยความสะดวกทเ่ีป็นปจั จยั ขน้ั พน้ื ฐานในท่ี อย่อู าศยั ยงั ไมส่ ามารถทาได้อย่างทว่ั ถงึ 5. ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และความเคยชนิ บางอย่างทท่ี าใหข้ าด ความสนใจในการสุขาภบิ าลท่อี ยอู่ าศัย
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ 6. มาตรการทางกฎหมายทเ่ีกย่ี วกบั การก่อสร้างอาคารบา้ นพกั อาศยั ยงั ไม่สามารถนามาใชป้ ฏบิ ตั อิ ยา่ งจรงิ จงั และทว่ั ถงึ 7. การวางผงั เมอื งทง้ั ในเขตชุมชนเมอื งและในเขตชนบทยงั ไมม่ หี รอื ยงั จดั ทาได้ไมท่ วั่ ถงึ
ปั ญหาและอุปสรรคในการดาเนนิ งานสขุ าภิบาลสถานทาการ 1. การออกแบบและการก่อสรา้ งสถานทาการบางแห่งไมถ่ กู สขุ ลักษณะ ยากแก่การปรับปรงุ แก้ไขให้ถกู ต้องตามหลักการ สขุ าภิบาล 2. ผูบ้ รหิ ารหรือผูร้ ับผดิ ชอบสถานทาการขาดความสนใจไม่ ควบคมุ ดแู ลเร่ืองความสะอาดและความเป็ นระเบียบเรียบร้อย
ปัญหาและอปุ สรรคในการดาเนินงานสขุ าภิบาลสถานทาการ
การสุขาภบิ าลอาคารทอี่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 3. ขาดการวางผงั เมอื งทถ่ี ูกต้องหรอื ไม่มกี ารวางผงั เมอื ง ในชุมชน 4. ขนาดของสถานทาการไมเ่ หมาะสมกบั กจิ การ กลา่ วคอื เลก็ เกนิ ไปไม่เพยี งพอกบั จานวนผูม้ าใชบ้ รกิ าร
การสุขาภบิ าลอาคารท่ีอยู่อาศัยและสถานทาการ 5. มาตรการทางกฎหมายท่ีใช้ควบคุมการก่อสร้าง อาคารยังมขี ้อบกพร่อง และมกี ารปล่อยปละละเลย 6. การจัดบริการสถานทาการต่าง ๆ เช่น สถาบันการศึกษา การรกั ษาพยาบาล รฐั บาลยังทา ได้ไมท่ ั่วถึงและไมเ่ พยี งพอ
การสุขาภบิ าลอาคารท่อี ยู่อาศัยและสถานทาการ หลกั การสุขาภบิ าลพกั อาศยั แบง่ เป็น 4 ลกั ษณะใหญ่ ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. การจดั การท่ีอยอู่ าศยั ให้ได้ตามความต้องการขนั้ มูลฐานทาง สรรี วทิ ยา (Fundamental Physiological Needs) 1.1 การระบายอากาศ (Ventilation) มคี วามสาคญั และมผี ลต่อ ร่างกายของผูอ้ ยู่อาศยั เป็นอยา่ งมาก หลกั การจดั การระบาย อากาศในทอี่ ยอู่ าศยั แบง่ ไดด้ งั น้ี
การสุขาภบิ าลอาคารที่อยู่อาศัยและสถานทาการ 1) การระบายอากาศโดยวธิ ที างธรรมชาติ (Natural Ventilation) เพอ่ื ใหอ้ ากาศมรี ะดบั อุณหภูมไิม่สูงเกนิ ไปและมกี าร ถา่ ยเทอากาศในอาคารทอ่ี ยอู่ าศยั อย่างเพยี งพอ ซง่ึ จะต้องจดั ใหม้ พี น้ื ทข่ี องประตู หนา้ ต่าง ช่องระบายลมรวมกนั ไม่นอ้ ยกว่า 20 % ของพน้ื ทห่ี อ้ งและตวั อาคารจะต้องตงั้ อยู่ในทท่ี ไี่มม่ สี งิ่ กดี ขวางทางลมด้วย ทงั้ นเ้ีพอ่ื จะอาศยั กระแสลมธรรมชาตชิ ่วยให้ เกดิ การระบายและถ่ายเทอากาศใหเ้ พยี งพอ
การสุขาภบิ าลอาคารทีอ่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 2) การระบายอากาศโดยอาศยั เครอ่ื งมอื กล (Mechanical Ventilation) คอื การตดิ ตงั้ พดั ลม เครอ่ื งปรบั อากาศ หรอื เครอื่ งจกั รกลใด ๆ เพอ่ื ช่วยปรบั ระดบั ของอุณหภูมแิ ละเกดิ การถ่ายเทของ อากาศภายในหอ้ งพกั อาศยั ให้ได้ตามความเหมาะสมท่ี ต้องการ
การสุขาภบิ าลอาคารทอี่ ยู่อาศัยและสถานทาการ โดยปกตแิ ลว้ การระบายอากาศควรสามารถระบายให้เกดิ กระแสอากาศ ใหเ้ คลอ่ื นทไี่ด้ไมน่ อ้ ยกว่า 15 ลบ.ฟ./คน/นาที และถา้ มกี ระแส อากาศให้เคลอ่ื นทไี่ด้ถงึ 25 ลบ.ฟ./คน/นาที จะสามารถระบาย กลนิ่ อนั ไม่พงึ ประสงค์ได้ด้วย แต่ไมค่ วรให้กระแสอากาศเคลอื่ นทถ่ี งึ 50 ลบ.ฟ./คน/นาที เพราะจะทาให้รู้สกึ ไม่สบายอนั เนอ่ื งมาจาก กระแสลมทพี่ ดั ด้วยความเรว็ ดงั กลา่ ว สาหรบั การใช้ เครอ่ื งปรบั อากาศ ควรจดั ใหอ้ ยู่ในอุณหภูมริ ะหว่าง 75๐ - 85๐ F
การสุขาภบิ าลอาคารทีอ่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 1.2) แสงสว่างจากดวงไฟ (Artificial Lighting) ได้แก่ แสง สว่างทเ่ีกดิ ขน้ึ จากดวงไฟทม่ี นุษย์สร้างขน้ึ เช่น ตะเกยี ง หลอดไฟฟ้ า หา้ มใชแ้ สงจา้ หรอื แสงทม่ี ดื สลวั หา้ มใชแ้ สงกระพรบิ พยายามจดั ใหม้ คี วามสว่างอยา่ งสม่าเสมอทว่ั ทุกพน้ื ทโ่ีดยใหม้ เีงา เกดิ ขน้ึ นอ้ ยทส่ี ุดหรอื ไม่มเีงาเลย
การสุขาภบิ าลอาคารที่อยู่อาศัยและสถานทาการ 1.3. บรเิวณบา้ น (Surrounding space) หมายถงึ พน้ื ท่ี นอกเหนอื จากบรเิวณทกี่ ารใชป้ ลูกสร้างอาคาร ควรจดั เวน้ ไวส้ าหรบั เป็นพน้ื ทพ่ี กั ผอ่ นหรอื พน้ื ทว่ี ง่ิ เลน่ สาหรบั เดก็ ๆ ซงึ่ ตวั อาคารไมค่ วรทจ่ี ะปลูกสร้างใหเ้ กนิ 2/3 ของพน้ื ท่ี ทงั้ หมด ควรเว้นไวอ้ ยา่ งนอ้ ย 1/3 ของพน้ื ทท่ี งั้ หมด เพอื่ ใชเ้ ป็นพน้ื ทส่ี าหรบั การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ และสาหรบั การออกกาลงั กายเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ด้วย
. บริเวณบ้าน (Surrounding space)
การสุขาภบิ าลอาคารท่อี ยู่อาศัยและสถานทาการ 2.การจัดที่อยู่อาศยั ให้ได้ตามความต้องการข้ันมลู ฐาน ทางจิตวิทยา (Fundamental Psychological Needs) 2.1. ความเป็นสว่ นตวั (Privacy) ขน้ึ อยู่กบั ความต้องการ ของแต่ละตวั บุคคลทไ่ีม่เหมอื นกนั เช่น การมหี อ้ งนอนและ ทางานทเ่ีป็นอสิ ระ หอ้ งรบั แขก หอ้ งรบั ประทานอาหาร หอ้ งครวั ฯลฯ ทเี่ป็นสดั สว่ น และมพี น้ื ทใี่นการใชส้ อยอย่าง เพยี งพอสาหรบั กจิ กรรมแต่ละประเภท
การสุขาภบิ าลอาคารทอ่ี ยู่อาศัยและสถานทาการ 2.2 ความสง่างาม (Aesthetics) โดยปกตแิ ลว้ ผูอ้ ยู่ อาศยั ย่อมต้องการทอ่ี ยอู่ าศยั ทมี่ คี วามสงา่ งาม ภูมิ ฐานร และความสวยงาม ซง่ึ จะช่วยใหผ้ ูอ้ ยูอ่ าศยั เกดิ ความภาคภมู ใิจและความสุขทางใจขน้ึ ได้
การสุขาภบิ าลอาคารทอี่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 2.3. ชวี ติ ปกตขิ องครอบครวั และชุมชน (Normal Family and Community Life) ผูอ้ ยู่อาศยั ย่อมปรารถนาทจี่ ะให้ ครอบครวั ของคนมคี วามเป็นอยูอ่ ยา่ งปกตสิ ุขเช่นเดยี วกบั ครอบครวั อนื่ ๆ ในชุมชน และยงั ต้องการทจ่ี ะใหช้ ุมชนทต่ี นอยู่ อาศยั ด้วยเป็นชุมชนทมี่ คี วามสะดวกสบาย มสี งิ่ ต่าง ๆ ทไี่มด่ ้อย ไปกว่าชุมชนอน่ื ๆ อกี ด้วย
การสุขาภบิ าลอาคารทอี่ ยู่อาศัยและสถานทาการ 2.4. ความสะอาด (Cleanliness) ความสะอาดนอกจากจะช่วย ส่งเสรมิ สุขภาพทางกายแลว้ ยงั เป็นส่วนสาคญั ทช่ี ่วยส่งเสรมิ สุขภาพทางจติ แก่ผูอ้ ยู่อาศยั อกี ด้วย 2.5. ความสะดวกสบาย (Convenience) สง่ิ อานวยความ สะดวกสบาย คอื สาธารณูปโภคขน้ั พน้ื ฐานอย่างเพยี งพอ เช่น ไฟฟ้ า น้าประปา การตดิ ต่อคมนาคม การกาจดั ขยะ ฯลฯ เป็น ปจั จยั หลกั ทช่ี ่วยส่งเสรมิ ในการอยู่อาศยั
Search