๑๐๐ พุทธปรชั ญาแกปญ หาเศรษฐกิจ เพราะการพนนั มนั มแี ตช ว ยกนั ยอ ยยบั ชว ยกนั พากนั ยอ ยยบั เพราะ การพนนั กม็ คี นหนง่ึ เลน การพนนั ทรพั ยส นิ สมบตั ขิ ายหมด ของลกู ของเมยี ขายหมด ไรน าขายหมด วนั หนง่ึ ลกู ชายเขาอยากจะสอนพอ กจ็ ูงควายเขา ไห เอาไหไปต้งั ไหเหลา เนย่ี แลวจูงควายเขาไป พอ ก็ ดูอยู ไอน ม่ี ันบา จงู ควายเขาไห ควายตั้งเบอ เร่มิ ไหนดิ เดยี ว จะ จงู ควายเขา ไปไดอ ยา งไร แกกบ็ อกวา พอ ครบั นานมี่ นั ใหญโ ต แปลง มนั ใหญโ ต พอ ยงั เอาไปเขารูโปได ทำไมไหปากกวา งกวารู โปอีกทำไมควายมนั จะเขาไมได นน่ั พอถึงไดความรสู กึ วา ทลี่ กู พูดนั่นถูกตอ ง นาสวนอะไรมนั ใหญกวาควายต้ัง เยอะ มนั ยงั เขาไปในรโู ปได รูนิดเดยี ว แพการพนันนะ เลนโป และวนั นกี้ ม็ าจบกนั ทป่ี ญ หาเรอื่ งเศรษฐกจิ ปญ หาเศรษฐกจิ ทเี่ กยี่ วกบั ความยากจน กค็ นบางพวกอาจจะยากจนเพราะเกยี จครา น น่ีเราก็ตอ งเพิ่มเติมใหเขามคี วามเพียร ทำใหเ ขาเหน็ โทษของความ เกยี จครา น และกใ็ หเ หน็ คณุ ของความเพยี รใหเ ขาขยนั ขน้ึ ใหเ หน็ วา ความเกยี จครานเปนโจรปลน เวลาทสี่ ำคัญท่ีสุด ในชวี ิตมนษุ ย เรา ก็คอ ยทำคอยไป อันนก้ี ไ็ ดพ ูดมาแลวเมือ่ วานนนี้ ะครบั ทีน้คี นบาง พวกก็อาจจะยากจนเพราะวาเลน การพนนั อันน้บี างทีมันก็เปน สห สมั พนั ธก นั เพราะวา ขเ้ี กยี จ อยากจะหาเงนิ โดยวธิ ไี มต อ งเหนอื่ ยมาก
๑๐๑อาจารยว ศิน อินทสระ คอื เลน การพนนั แตก ไ็ มแ นเ หมอื นกนั บางคนกเ็ ลน การพนนั เหนอี่ ย เหมือนกัน เพราะวา หามรงุ หามค่ำ ทนี ้คี นท่ีจะเลกิ การพนันนีม่ นั ก็ ตองเหน็ โทษของการพนนั คนเราไมวาจะเลิกอะไร ถา จะเลิกสง่ิ นนั้ มันกต็ อ งพจิ ารณาบอ ยๆ ใหเ หน็ โทษของสิ่งนัน้ โทษของการพนนั กม็ หี ลายอยาง เชนวา ตอ งเสยี ทรัพย ตอ งกอเวร ท่พี ระพทุ ธเจา ทานทรงแสดงเอาไววาผูชนะกอเวร ผูที่แพก็เสียทรัพย เสียดาย ทรพั ยท เี่ สยี ไป ทว่ี า ผชู นะยอ มกอ เวรหรอื ประสบเวรนกี่ เ็ พราะวา ดว ย เหตุผลสองประการ ประการทหี่ นงึ่ ก็คอื ผูแ พไ มยอมเลิก เขาอยาก จะเอาชนะ กช็ วนเลน เร่อื ยๆ ไป บางทจี ะเลกิ แลว ชนะแลวจะเลิก แตผูแพไ มย อมใหเลกิ ถา ย่ิงมีพรรคพวกมากก็ขเู ขาดวย ตะคอกเขา ดว ยวา ตองเลนตอ ไป ถาย่งิ ในบอนการพนนั น่กี ็นกั เลงเยอะ ยงิ่ ถา พวกนนั้ มนั เปนคนหัวไม มันกข็ เู อา มนั กแ็ ยง เอาทรัพยท ่ีชนะไปได ซะเลย อันนีเ้ รยี กวากอเวร เพราะวา ผแู พเ สียดายทรพั ยท ีเ่ สยี ไป แลวกป็ ระการท่สี ามกเ็ ส่ือมทรพั ยทนั ตาเห็น อยางทีพ่ ดู แลวเมอ่ื คนื นว้ี า มีเรอื กสวนไรนา มที องหยอง มที รัพยส นิ เงนิ ทอง อะไร ของตัวของลูกของเมียเอาไปเลนหมด ผีการพนันนี่มันแรง แรงมาก กม็ คี นวายวอดมากบั การพนนั เยอะแลว ในทสี่ ดุ ไมต อ งพนนั อ่นื หรอก พนนั บอล พนันฟุตบอล ก็มเี ด็กเกือบแยมาแลว เด็กใน มหาวทิ ยาลัยสองสามคนกเ็ กอื บจะถกู พวกนักเลงยิงเสยี แลว เพราะ
๑๐๒ พุทธปรชั ญาแกปญ หาเศรษฐกิจ เหตทุ ่ีไปแพบ อล ทำนองนกี้ ็มี มันเสื่อมทรพั ยท นั ตาเหน็ ตอ งไปใช เขาต้ังสองแสนสามแสน ไปแพการพนนั บอล พรรณนาไปกไ็ มรูจัก จบสนิ้ นะครบั มันเยอะเหลือเกนิ เรอื่ งโทษของการพนนั และก็ขอ ตอมาก็ไมม ใี ครเชอื่ ถอื ถอ ยคำ มนั จะบดิ พลิ้วอยู เร่อื ย มักจะบดิ พล้วิ อยเู รอ่ื ย ไมม ีใครเช่อื ถือถอยคำ กเ็ ปน ท่ดี ูหม่นิ ของคนท้งั หลาย ถา เลนการพนนั จนตดิ การพนันละก็ ถูกดูหมน่ิ แนนอน ไมมีใครยกยองหรอก ทีน้ีก็ขอสุดทายทานวา ไมม ใี ครประสงคจ ะแตง งานดว ย ถา เลย่ี งไดเ ขาเปน เลย่ี ง นอกจากวาจะชอบกันท้ังสองคนก็จูงมือกันไปสูหายนะ อันน้ีก็เคยเห็นมาเหมือนกัน ที่วาทำทาจะต้ังตัวไดแลว แตทีน้ีไปติดการพนัน พอใจในการพนัน ไมมีใครหามใคร เพราะวา ชอบดว ยกนั ทั้งสองคน ในทสี่ ุดก็ลม ต้งั ตัวไมตดิ ฉะนัน้ เม่อื หมน่ั พิจารณาถึงโทษของการพนนั ก็เลกิ เสยี ถา เราจนเพราะ การพนัน เราเลิกการพนนั เสยี ก็ตง้ั หนาทำมาหากนิ โดยสจุ ริต ได เทา ไรก็เทา นัน้ มันไมมรี รู ั่ว มนั ไดมามันกเ็ ปน อนั ไดม า อยางวัด บางวดั นมี่ งี านวดั กใ็ หเ ขาตงั้ บอ นการพนนั ในวดั เพอ่ื จะไดเ งนิ จากการ พนัน บางทกี ็มดี นตรใี หญๆ โตๆ ราคาแพงๆ ไอเงินท่ชี าวบานเอา มาบรจิ าคทำบญุ กต็ อ งเอาไปใหม หรสพเสยี มากมายเกนิ ครงึ่ ของราย
๑๐๓อาจารยว ศนิ อินทสระ ได มนั คุมกันทีไ่ หน ไมคุม แลว ก็มันเสียบรรยากาศดว ย สมมตวิ า ถา ไดม าสกั สห่ี มนื่ มมี หรสพมากมายและกม็ กี ารพนนั ดว ย เรากต็ อ ง ไปเสียใหส ิง่ เหลาน้ี วดั ก็ตอ งไปเสียใหสิ่งเหลา นี้ แลวก็ครกึ โครมไป หมดนะงานวัด กับการท่ีไมตองมีสิ่ง เหลา น้กี ม็ กี นั อยางเงยี บๆ สงบๆ เปน งานบญุ เปน งานสงบ ได เงินมาสกั หมนื่ หากย็ ังดี เพราะ วาเปน เงนิ ท่บี ริสทุ ธผ์ิ ดุ ผอ ง ได เทานนั้ กเ็ ทา นัน้ ดกี วา ตั้งเยอะ บางคนกบ็ อกวา มนั เปน ทางท่จี ะจงู คนมาเขาวดั แลว ถามวาจูงเขา มาทำอะไร จงู คนเขา วัดจูงเขา มาทำอะไร ถาเขา มาเลนการพนนั เขามาดูมหรสพทอ่ี ึกทกึ ครกึ โครม ทำใหเ สยี บรรยากาศของวดั หมดเลย อยางน้ไี มต อ งมกี ็ได ทำนองนน้ี ะครบั นเ่ี รอื่ งการพนัน เพราะวาสิง่ ทคี่ นติดมนั ตองมเี สนห มันตอ งมเี สนหของมัน เลย ทำใหค นตดิ เหมอื นเหลา บหุ ร่ี บางคนก็ติดมนั ถามันไมมเี สนห ไมมีรสท่ีเปนเสนหข องมนั คนกไ็ มต ิด แตวาไอร สท่ีเปน เสนห ของ มันนั่นแหละคอื ตัวราย ตวั ทีจ่ ะทำรายคน
๑๐๔ พุทธปรัชญาแกปญ หาเศรษฐกจิ คนบางพวกยากจนเพราะกนิ เหลา ทางเดียวทีจ่ ะทำได กค็ ือเลกิ กินเหลา พูดงายแตว า ทำยาก แตวา ที่จริงก็ทำไมย าก ถา ใจแขง็ สกั หนอ ยก็ทำไมย าก พจิ ารณาโทษของมันบอยๆ ท่ีมองเห็น ชัดเจนกค็ อื วาเสยี ทรัพย เสยี ทรัพยโ ดยไมจำเปนตองเสีย บางคน น่ีซอ้ื เหลา กนิ ไดทกุ วัน ราคาแพงๆ ดวย ไมร ขู วดละเทา ไรเดีย๋ วนี้ แตวา ทราบวาราคาแพง มนั กข็ ึน้ ราคากันไปเรื่อย เวลาลกู ไปขอ สตางคซ ื้อขนมไมมีให เวลาลกู ไปขอสตางคซ อ้ื เสอ้ื ผา ไปใช ในโรงเรียน ซ้อื เครือ่ งเขียน ขอสตางคไปซ้อื เครอ่ื งเขยี น ไมมี ตวาดล่ัน ใหไปขอแม แตวาซ้อื เหลา กินไดท กุ วนั ไมเสียดาย ยง่ิ เมาก็ยิง่ ซอื้ ยิง่ ไมเสียดาย เสยี ทรพั ยโ ดย ไมจำเปน นอกจากเสียทรัพยโดยไมจำเปนแลวมันกอการทะเลาะ วิวาท มเี ยอะไป เราก็เห็นๆ กันอยู วา คนเมาแลวมันก็ทะเลาะ ววิ าทกนั งา ย ถาไมเ มากย็ ังพออดใจไดไมท ะเลาะ พอเมาเขาละก็ อหงั การมันเกิดมากขนึ้ อหังการ ไอต วั ทิฏฐิมานะ ตัวอัสมิมานะ ตัว เรา เราตองเปนที่หนงึ่ เราตองใหญโ ต ตรงนี้ใครใหญโ ตไมไ ด เรา ตองใหญโต มันเมาเขาแลว กย็ ง่ิ ใหญโต กต็ า งคนตางเมา ตางคน ตางกใ็ หญโต มนั กต็ ีกัน อยางงานวดั ก็มี งานวัด งานตา งจงั หวดั เชน วาทางภาคใตงานชักพระ ออกพรรษาน้ลี ะครับ ชักพระบกบา ง
๑๐๕อาจารยว ศิน อนิ ทสระ
๑๐๖ พทุ ธปรชั ญาแกป ญหาเศรษฐกิจ ชกั พระนำ้ บา ง คนตกี ันทกุ ครัง้ ตีกันตกน้ำทุกครง้ั งานชกั พระ ก็คอื วาเหมือนกับทก่ี รุงเทพฯ เขาทำเทโวโรหนะ ออกพรรษาเราทำบุญ เทโวโรหนะ ตกั บาตรเทโวพระพทุ ธเจา ใครตอใครก็ลงมาจากชน้ั ดาวดงึ ส ทำเปนอยางนน้ั ประเพณี แลวก็เมา พวกนกั เลงประจำ หมบู านกเ็ มา พวกหนุม ๆ มันกเ็ มา คนแกบางทมี นั กเ็ มา เมาแลว ก็ตีกัน ตกนำ้ ตกี นั ในเรือพระน่ันแหละ และตกน้ำปอมแปมๆ ตี กนั คนละทีสองที ฉะน้ัน ก็เคยอาฆาตกันเม่อื ไร เคยพยาบาท กนั ไวเ มอ่ื ไรกม็ าตีกนั วนั นน้ั แตตองเมาเสียกอ น ถาไม เมามนั กต็ ีไมคลอง มนั กต็ ีไมล ง อยางนท้ี ะเลาะววิ าท กอการทะเลาะวิวาท ในกรงุ เทพฯน่กี ็เยอะ เหน็ ๆ กนั อยู มันกอการทะเลาะวิวาท เกดิ โรคสารพดั โรค กินไปๆ มีโรคตับบาง โรคกระเพาะบา ง โรคลำไสบา ง โรคอะไรนะ ไอโรคตดิ สุรามอื สน่ั ไมไดกินมือสั่น ทำอะไรไมได และก็ตายไป กับโรค บางทีกต็ ายไปกับโรค กย็ ังไมเลิก ก็มีคนที่หวงั ดไี ปเตือน ไปบอกวากนิ มากเดี๋ยวตาย ก็บอกเขาอยากตายอยแู ลว วา เขาไป อยางน้ัน จรงิ ๆ กค็ อื อยากกนิ เหลา นน่ั แหละ ไมใชว า อยากตาย อะไรหรอก แตว า มันอดไมได เกิดโรคตบั แข็งไปเยอะแลว แตว า คนทเี่ ปนโรคตับแข็ง ไมจำเปนวาจะตอ งกินสรุ าทกุ คนนะครับ เกิด จากโรคอื่นก็ได
๑๐๗อาจารยวศนิ อินทสระ แลว ก็ถกู ติเตยี น ถกู ติเตยี นก็เพราะวา ไปประพฤติส่งิ ท่ีนา ติเตียน เชนวาไมรูจ กั อาย อันนี้ก็เปนอกี ขอ หน่ึงของโทษของสรุ า คือไมร ูจักอาย เคยละอายในสิง่ น้ีก็ไมละอาย คือทำได สิ่งทเ่ี คย ละอายทำไมไ ด พอเมาเขา ก็ทำไดไ มร จู กั อาย นอนกลางถนนก็ได บางคนก็บอกนอนกับหมากส็ นุก นอนกับหมาหมาก็ไปเลียปากขา ง ถนน และก็ถกู ติเตียน ทีส่ ำคัญประการหนงึ่ ก็คอื ทอนกำลังสติปญญา บางคน กบ็ อกวา ตองกนิ เหลาถึงจะทำงานได ไมกินทำไมไ ด ไมก ินเหลา ไมม สี ติปญ ญา ตอ งกินเหลา อันนี้ไมจรงิ หรอกครบั มนั คอยทอน สตปิ ญ ญาลงเรอื่ ย เหมอื นมา ทา นลองนกึ ดูวา มา ท่มี นั ลา แลว มัน วงิ่ ไปเพราะถกู แส ว่งิ ไปเพราะเอาแสหวดมนั มนั ก็กระโดดกระโจน ไปพกั หน่ึงเพราะมันเจบ็ มันโดนแส สักประเดยี๋ วมนั กอ็ อนเปลย้ี ลง อีก ออ นเปลย้ี ลงอีกกห็ วดมนั ลงไปอกี มนั กว็ ง่ิ ไปอกี ไดอ กี หนอย ในท่สี ุดมนั ก็ตอ งลมลงตาย ขาดใจตาย ฉะน้นั คนท่คี ิดวาดมื่ เหลา แลวทำใหส ติปญ ญาพลุงโพลง อยา งนกั เขียนบางคนนีไ่ มก ินเหลา เขียนไมได เพราะฉะน้นั ตองอาศยั เหลา เขยี นไปเรือ่ ย ก็ไมเทา ไรก็ ตาย ไมเทาไรเขียนไมได เพราะวาสติปญ ญามนั จะหมดอยแู ลว มนั จะมอดอยูแลว ก็ใชเ หลา กระตุน ไป มันไมไ ดเ กดิ เองโดยธรรมชาติ ไมเ หมอื นคนท่เี ขาไมด มื่ แลว ก็ทำงานไปโดยธรรมชาตบิ รสิ ุทธ์ิ ตัว
๑๐๘ พทุ ธปรชั ญาแกปญหาเศรษฐกิจ หนงั สอื ทุกตวั ออกมาดวยปญ ญาบรสิ ุทธิ์ ไมม อี ะไรมากระตนุ เลย ไมมีบหุ ร่ี ไมม สี รุ า ไมม ียาชนดิ ใดชนิดหนึง่ มากระตนุ เลย แตเ ปน สติปญ ญาบรสิ ทุ ธแิ์ ทๆ มนั ก็ออกมาบรสิ ุทธิ์ ออกมาดี เพราะฉะนั้นก็ผูที่คิดวา จะด่ืมสุราเพ่ือทำงานอยางน้ี อยา ไปคิดอยางน้ัน อยาไปหวังพึ่งสุราเพ่ือการทำงาน ใหทำงานดวย เรี่ยวแรงที่บริสุทธ์ิ ดวยสติปญญาท่ีบริสุทธิ์ แลวก็ที่สำคัญก็คือวา เศรษฐกจิ ตอนนเ้ี รากำลงั พดู ถงึ เรอื่ งเศรษฐกจิ อยู มนั กเ็ สยี ทรัพยไ ปโดยใชเ หตุ และกก็ อ การทะเลาะววิ าทกัน ถาถงึ กับตีรันฟนแทงแลวมันก็ย่ิงเสียทรัพยมากข้ึน และเกิด โรคมันก็ตองเสียทรัพยอีก ทอนสติกำลังปญญา ทอน กำลังสติปญ ญา มันตอ งเสยี ทรัพยอ กี กเ็ ปนเร่ืองท่จี ะตอ ง เสยี ทรพั ยท ง้ั นน้ั อนั นลี้ ะครบั ถา เผอื่ คนทจ่ี นเพราะกนิ เหลา เพราะ สุรากต็ องพยายามงดใหได เวน ใหได มนั ไมไ ดกินมาแตเกิด มาหดั เอาภายหลงั มาทำเอาภายหลัง คราวนคี้ นบางพวกกย็ ากจนเพราะไมม งี านทำ ไมม งี านทำ ตกงาน ทำอยา งไรดี กต็ อ งหางานทำ พยายามหางานทำใหไ ด อนั นก้ี ม็ นั มเี หตปุ จ จยั หรอื มอี งคป ระกอบมากสำหรบั คนทยี่ ากจนเพราะ ไมม ีงานทำ อนั น้ีตองชวยกนั หลายๆ ฝา ยทั้งตนเอง แลวก็ญาตพิ ่ี
๑๐๙อาจารยวศิน อินทสระ นอ ง และก็ผปู กครองบา นเมอื ง ผนู ำสังคม ตองชว ยกันหลายฝา ย วา เราทำอยา งไร ทำอยา งไรถงึ จะใหค นมงี านทำ มงี านทำใหเ ขาพอ เลย้ี งตัวได ใหเขาพอเปนอยไู ดโดยไมเ ดือดรอ น แตวา ถึงอยา งไรก็ พยายามใหเขาเวนอบายมุขเสยี กอ น บางคนแมจ ะไมมงี านทำ แต วาถา ไมไปฝกใฝอบายมุข ไปอาศยั คนอื่นอยชู ว่ั คราว ไปอาศัยผูอ น่ื เล้ยี งชพี ชัว่ คราวแตก็ทำงานใหเ ขา ใหคุมกนั กับทอ่ี าศยั เขาเปนการ ช่ัวคราว ถาเปนคนดี เปนคนดีจริง เปนคนขยันจริง เปนคนมี คณุ ธรรมจริง เปน คนมีคณุ สมบตั ิ นาชว ยเหลอื นาเอ็นดู นา รัก ไมเปน ไรหรอกครับ ตกไมนานละ ตกไมนาน ไมเ ทาไรกไ็ ด ไม เทาไรกจ็ ะได อันนีผ้ มก็ไมม ีอำนาจทจี่ ะชว ยใครทต่ี กงานใหท ำงาน ได แตวาคิดวาสังคมก็ควรจะดูแลหรือชวยเหลือกัน วาเราควรจะ ทำอยา งไรใหเขาพออยูได พูดถึงเรื่องความยากจน คนบางพวกก็จนเพราะการ พนนั บางพวกยากจนเพราะกนิ เหลา และบางพวกยากจนเพราะ ไมมีงานทำ นี่ก็ผมไดพูดรายละเอียดไปพอสมควรแลวนะครับ คงจะตองเปนความรับผิดชอบของสังคมสวนรวมท้ังหมด ก็จะไป โทษรัฐบาลอยางเดียวก็คงไมได หรือไปโยนใหเปนความผิดของ ประชาชนทง้ั หมดกไ็ มไ ดเชนเดยี วกัน ก็จะวาครงึ่ ตอครึ่งหรือหา สบิ หาสบิ กไ็ ด เรามีวธิ อี ยางไรใหค นมีงานทำ มวี ธิ อี ยา งไรทีจ่ ะใหค นมี งานทำ กช็ ว ยกันคิด กค็ ิดกันอยูละครบั แตยงั ไมส ำเรจ็
๑๑๐ พทุ ธปรัชญาแกปญ หาเศรษฐกจิ การเอาของไปแจก แจกเทาไร กเ็ หมอื นหายไปในบอ ลกึ แจกเทาไรก็ทำใหคนรูสึกวาบางทีคนคอยจะรับของแจกก็ไมอยาก จะทำอะไรกม็ ี สภุ าษิตที่พูดกันอยเู สมอ ผมก็พดู บอ ยเหมอื นกนั ท่ี วา สอนใหเขาหาปลากินเองดีกวาเอาปลาไปแจก ถาเราเอาปลา ไปแจกก็แจกกันอยูเ รอ่ื ยไป ผลก็คือคนนนั้ ก็จะหาปลากินเองไมได ไมไดสกั ที เพราะฉะนั้นทำอยา งไรเราจึงจะสอนใหเ ขาหาปลากนิ เองได เม่อื เขาหาปลากินเองไดแลวเราก็ไมต อ งหว งเขา ไม ตอ งเหนื่อยกับการหาของไปแจก แตวาในขณะที่หาปลา กนิ เองไมไ ดกต็ อ งไปแจกบาง อนั นี้กไ็ มวา อะไรนะครบั อยางหนาหนาวทางภาคอีสานภาคเหนือก็หนาวมาก คนกย็ ากจน บางสวนกย็ ากจน ไมร ูจ ะแกปญ หาอยา งไร ก็เอาไปแจกไวก อนเปน การประทังชีวิตกนั ไป ขณะเดยี วกัน กต็ องสอนใหคนพึ่งตนเองใหไ ด ใหไ ดอ ยา งไร เขาจะพ่ึงตนเอง ไดโดยวธิ ใี ด ก็ตอ งทำ โดยวธิ ีน้นั สภุ าษิตฝรงั่ กม็ ี พระเจาจะชว ยคน ท่ีชว ยตวั เอง
๑๑๑อาจารยว ศิน อนิ ทสระ
๑๑๒ พุทธปรชั ญาแกปญหาเศรษฐกิจ การสอนคนของพระพุทธเจาของเราก็เพ่ือใหคนชวย เหลอื ตนเอง การชว ยเหลอื ผอู น่ื ไมใ ชต ง้ั จดุ มงุ หมายเอาไวว า ชว ย เหลอื กนั ไปตลอดชวี ติ แตเ ราชว ยเหลอื เพอื่ ใหเ ขาชว ยเหลอื ตวั เอง ไดใ นโอกาสตอ ไป เพราะวา ถา รวู า เราแบกใครแลว เราตอ งแบกไป ตลอดชวี ติ กไ็ มไ หวเหมอื นกนั เราแบกเขาเพอ่ื วา ไปชว งหนงึ่ เขาจะ ไดเ ดินเองหรือชวยตัวเองได เหมอื นกับวา เด็กทีจ่ ะขามแมน ำ้ แต วาตัวแกเตย้ี เกนิ ไปเล็กเกนิ ขามแมน้ำไมได เรากอ็ ุมไป แลวก็ เม่ือถึงฝงโนนแลวก็ใหเดินไปเอง ทางนี้เราคนชวยก็ตอง มีกำลังใจในการท่ีจะชวย แตวาเด็กคนไหนเรารูวาจะ ตองอุมไปตลอดชีวิต เราก็เสียกำลังใจเหมือนกัน คือ แกไมโต ไมรจู ักโต เราเลีย้ งเดก็ เลย้ี งคนเรากห็ วงั วา เขา จะโต จะโตเปน ผใู หญ ก็เลย้ี งตวั เองได ประชาชนพลเมือง กบั รฐั บาลกท็ ำนองเดยี วกนั ดๆู ไปแลว ดเู หมอื นวา ประชาชนจะชว ย รฐั บาลมากกวา ดว ยซำ้ ไป ผมพดู ดว ยความมนั่ ใจนะครบั วา เศรษฐกจิ ไทยจะแกไขไดถาเราเอาหลักพุทธธรรมไปใช ถาชาวพุทธเราเอา หลกั พทุ ธศาสนาไปใชก นั จรงิ ๆ กจ็ ะประสบความสำเรจ็ ในการจะแก ปญ หาทางเศรษฐกจิ เปน อนั มาก และกม็ ตี วั อยา งบคุ คลทสี่ ามารถแก ปญหาทางเศรษฐกจิ สว นตัวไดส ำเรจ็ ดว ยการเอาหลกั พุทธศาสนา ไปใชเปนสวนตัว ทีน้ีเมื่อสวนตัวแกได สังคมก็เปนการรวมของ คนแตละคน
๑๑๓อาจารยวศนิ อินทสระ ถาคนแตละคนแกป ญ หาเศรษฐกิจของตัวได สงั คมก็ ไมมีปญ หาเศรษฐกิจ ผมพดู อยูเสมอดวยความมนั่ ใจวา ถาเรา ปฏิบตั ิตามหลกั พทุ ธธรรมแลว ไมม ปี ญหาเศรษฐกจิ ใหแ ก มนั ไม ไดแ กเ พราะมนั ไมมีปญ หาเศรษฐกจิ ใหแ ก เหมอื นกับวา เราไมมีการ แกเ พราะมนั ไมม กี ารผกู เม่อื ไมมกี ารผกู กไ็ มมีการแก ก็ไมต อ งเปน ภาระเพราะไมไ ดแ บกภาระเอาไว เม่ือไมหิว้ ก็ไมตองวาง ทำนอง นัน้ ละครบั ไมม ปี ญหาเศรษฐกิจใหแ ก ทนี ก้ี ม็ คี นอาจจะหมน่ั ไสข นึ้ มาแลว กถ็ ามขน้ึ มาวา เราเปน พทุ ธกนั ทงั้ นัน้ ทำไมมปี ญ หาเศรษฐกจิ กนั มากมาย กต็ อบไดว า เราเปน พทุ ธกจ็ รงิ แตเ รากไ็ มไ ดเ อาหลกั ธรรมของพทุ ธมาใชใ นชวี ิต ประจำวนั เราเอาแตพ ธิ รี ตี อง เราเอาแตพ ิธีกรรม ไมไดเ อาหลกั ของพระพทุ ธเจามาใชในชวี ติ ประจำวัน มันกม็ ีปญ หา เขาจดช่ือยา ใหใสเศษกระดาษ ช่ือยาใหก ินยา ไปซื้อยานี้ๆ มากิน และถาเรา หลงเขา ใจผิดเราก็เอาเศษกระดาษนั้นไปตมกนิ แลว มันจะหายโรค ไดอ ยา งไร มนั ไมไ ดต วั ยา มนั ไดแ ตช อ่ื ยา ดแู ลว กน็ า ขำ นา ขำจรงิ ๆ วา เราไมไ ดต วั ยา ไดแ ตช อ่ื ยาไปตม กนิ ทนี ก้ี น็ กั ศกึ ษาถามวา เราตอ ง ชว ยตวั เองกอ นใชไ หมแลว จงึ ชว ยสว นรวม อนั นก้ี ต็ อบวา ถา แตล ะคน สามารถมีชีวิตอยูผาสุกได แตละครอบครัวเปนครอบครัวท่ีผาสุก ไดไ มมปี ญ หาเศรษฐกจิ สงั คมก็ไมมปี ญ หา สังคมเปน การรวมของ หนวยยอ ย คอื คนแตละคน ทนี ี้ถาคนหลายๆ คนขน้ึ ไปไมสามารถ เอาตวั รอดได สงั คมกไ็ มร อด ไปไมร อด กม็ ปี ญ หา ปญ หาเศรษฐกจิ
๑๑๔ พุทธปรัชญาแกปญหาเศรษฐกจิ มนั เนอ่ื งมาจากจติ ใจ มนั เกย่ี วกบั จติ ใจ บางทมี นั กม็ ปี ญ หาทางจติ ใจ กอ น แลวมันกม็ ปี ญ หาทางเศรษฐกิจตามมา คนท่ีมีประสบการณ เกย่ี วกบั เรอ่ื งนเ้ี ขาจะยนื ยนั ไดว า พอปญ หาทางจติ ใจหมดไป ปญ หา ทางเศรษฐกจิ ก็หมดไปดวย สำหรบั บางคนท่ียืนยนั ได ทนี ี้ก็เทา ทผ่ี มมองเหน็ จากรอบๆ ตัว สวนมากผมกจ็ ะมอง จากรอบๆ ตวั ไปกอ น ครอบครัวทีเ่ อาตวั ไมร อด เชน วา ครอบครวั ที่เอาตัวไมรอด สาเหตุประการหน่ึงคือไมไดปฏิบัติตามหลัก พทุ ธปรัชญาทวี่ าดวยเศรษฐกจิ ทีนที้ า นตอ งทราบนะครับ วา ครอบครวั น้นั คอื คนทกุ คนไมใชคนเดียว ถาคนเดียว ปฏิบัติอยูคนเดียวนอกนั้นเขาไมปฏิบัติ มันก็ไปไมรอด อีก ตองเดินไปพรอมๆกันทุกคน สาเหตปุ ระการหน่งึ คอื ไมไดปฏิบัติตามหลักพุทธปรัชญาที่วาดวยเศรษฐกิจวาทาน สอนอยางไร ใหใชท รพั ยอ ยางไร ใหทำตวั อยา งไร ทานสอนทุก อยางละครบั วธิ ีใชท รพั ย วธิ ีหาทรัพย วิธใี ชจา ยทรพั ย ทำอยาง ไรๆ ทานกส็ อนเอาไวห มด ถา ทำไดต ามนัน้ ก็เรยี บรอย อันนี้เรา ตอ งพยายามศึกษาและกน็ ำมาปฏิบัติจริงในชวี ิตจรงิ ไมใ ชเ พยี งแต รูเฉยๆ นำมาปฏิบัติในชวี ิตประจำวันจนเห็นผลดวยตนเอง เหน็ ผล ในปจจบุ นั เปน self evidence มตี นเปนพยาน เอาตัวเปนพยาน ได วาไดปฏบิ ัติ ไดเ หน็ ผลมาแลว และกส็ ามารถจะยนื ยนั ดว ยตวั เองไดดวยความมั่นใจ
๑๑๕อาจารยว ศิน อนิ ทสระ ทีน้ีนักศกึ ษากค็ ยุ ตอไปถึงเร่ืองอ่ืน ถามวาพทุ ธปรัชญา ท่ีวา ดว ยการเดนิ สายกลางเปน อยางไร คำตอบกค็ อื วาไมตงึ เกิน และก็ไมห ยอ นเกิน ไมวาจะทำอะไร ทานสอนใหเ ราทำแตพ อดี ความพอดดี ีเสมอ ขอใหเราทอ งคาถานีเ้ อาไว คาถาทศี่ กั ด์สิ ิทธิ์ ความพอดดี เี สมอ ไมตึงไปและกไ็ มหยอนเกนิ ไป ทา นลองคิดไปทุก เร่อื งนะครับ คดิ ไปทุกเร่ือง เราจะเหน็ วา ความพอดีดีเสมอ กนิ ขา ว อมิ่ แตพ อดี อะไรมนั พอดีๆ แลวมันก็ดี แลว กด็ ี เสือ้ ผาอาภรณ กเ็ หมอื นกนั ไมหลวมไมค บั มนั พอดี ถาจะพดู อกี ทีก็วาคุณธรรม ทง้ั หมดก็เปน ทางสายกลางท้งั หมด ทางสายกลางไมไดหมายเพียงมรรคมีองคแปดเทาน้ัน แตหมายรวมถึงคุณธรรมท้ังหมด ขอยกตัวอยางเชนวาความ ฟุมเฟอย อันเปนสวนสุดขางหน่ึง ความเหนียวแนนเบียดกรอ ตระหน่ีเกินไป นี่เปนสวนสุดขางหนึ่ง ทีน้ีทามกลางความเหนียว แนนกับความฟมุ เฟอ ย ก็คือความมธั ยัสถ มัธยสั ถ แปลวา ต้งั อยู ทา มกลาง ทา มกลางความฟมุ เฟอ ยและกเ็ หนยี วแนน และกป็ ระหยดั ประหยดั นั่นคือ ใชของใหคมุ ราคา ไมใ ชครึง่ ทิ้งคร่ึง แตว าใชจน หมดคณุ ภาพท่ีจะใช มันใชตอ ไปอกี ไมได เรียกวา ใชอยา งประหยดั กนิ อยา งประหยดั ใชอยางประหยดั อยอู ยา งประหยดั และความ มัธยัสถแ ละประหยัด เปนทางสายกลาง เรยี กวา เขากลางระหวาง ความตระหนแ่ี ละความฟมุ เฟอ ย ความตระหนไ่ี มเ ปน คณุ ธรรม ความ ฟมุ เฟอ ยกไ็ มเ ปน คณุ ธรรม ความมธั ยสั ถค วามประหยดั เปน คณุ ธรรม
๑๑๖ พทุ ธปรัชญาแกปญหาเศรษฐกิจ น่ีก็เปนทางสายกลาง ความขเ้ี กยี จไมเ ปนคณุ ธรรม ความขยันเกิน ไป ขยันเกนิ ไปจนบา บ่นิ และกลา จนบาบ่ิน ขยนั เกินไป และก็ไม เทา ไรกต็ าย ไมไ ดก นิ ไมไ ดน อนไมไ ดพ กั ผอ น ขยนั จนไมเ ปน อนั หลบั อนั นอน ไมเ ปน อนั ไดพ กั ผอ นหยอ นใจหรอื อะไร อนั นนั้ กเ็ กนิ ไป นก่ี ็ เปน สว นสดุ อกี ขา งหนง่ึ ทางสายกลางระหวา งอนั นกี้ ค็ อื ความเพยี ร แตพอดี ความเพียรก็ตองการความพอดี ปญญาก็ตองพอดี คน บางคนกม็ ีปญญาเยอะแยะ คดิ มาก มีปญ ญามากแลวกไ็ มม ีศรัทธา ไมเชอ่ื อะไรเสียเลย นีก่ ็เปน ความงมงายชนิดหนง่ึ บางคนก็ เช่อื หมดทกุ อยาง ใครบอกอะไร ใครเลา อะไร ใครนัน่ อะไร ก็เช่ือหมดทุกอยาง ก็เปนความงมงายชนิดหนึ่ง คุณธรรมก็จะเขา กลางระหวา งนี้ คอื วา เชอ่ื ส่งิ ทีค่ วรเชอ่ื ไมเชื่อสิ่งทีไ่ มค วรเชอ่ื อนั น้ีเปนคณุ ธรรม อันน้ีคือธรรมท่ี ดี กลัวเกินไปกไ็ มดี กลา เกินไปกไ็ มดี ขี้ขลาดเกนิ ไปกไ็ มเ ปน คณุ ธรรม ความกลา หาญเกนิ ไปจนกลายเปน ความบา บนิ่ กไ็ มด ี เขา กลางระหวา งความข้ีขลาดกับความกลาจนบาบิ่น นั่นเปน คุณธรรม น่คี ือทางสายกลาง ฉะน้นั ทางสายกลางน่ี เอาไปใชก ับทุกส่งิ ทกุ อยา งไดเกอื บ ทั้งหมด ทนี ี้ก็นกั ศกึ ษาก็ขอแนะนำวา ใชปรชั ญาในการดำเนนิ ชวี ติ อยา งไร ใหนำปรชั ญาไปใชใ นการดำเนนิ ชีวิตอยา งไร กต็ อบ วาใหใชปญญาในการเดินทางสายกลาง หรอื ใชปรชั ญาในการเดิน
๑๑๗อาจารยว ศิน อนิ ทสระ ทางสายกลาง ใหพวกเราดำเนนิ ชีวิตโดยทางสายกลาง คอยเชค็ ตัวเองอยูเสมอ วาตงึ เกินไปหรือเปลา หยอ นเกนิ ไปหรอื เปลา แต วา เราตองศกึ ษาธรรมดวย เปน หมวดๆ เปน ขอ ๆ ใหจ ำหลกั ธรรม ไวใ หได มันเปน หลัก เชนวา ธรรมมอี ปุ การะมากมีอะไรบา ง เชน วา สติสมั ปชญั ญะ ธรรมทีท่ ำใหงามสองอยางมีอะไรบา ง ขันติ ความอดทน โสรัจจะ ความสงบเสง่ยี ม ความสุภาพเรยี บรอ ย อยางน้เี ราเรียกวา จำหวั ขอ ธรรมได แลว กน็ ำมาเช็คดูวาเรามี หรือไม มงคล ๓๘ น่นั เปน การไตบันไดของการปฏิบตั ิธรรม ก็ พยายามสำรวจดูวา เรามเี ทาไร ขาดไปเทาไร เวนการคบคนพาล คบคนดี บูชาคนทค่ี วรบูชา เรอ่ื ยไปนะครับ วาเรามีเทา ไร แลวก็ กรณีมีความทุกขข้นึ มา มีความเดอื ดรอนข้นึ มา เราก็เช็คไดเ ลยวา เราผิดธรรมอะไร ความทกุ ขอันนีม้ ันเกดิ ไดอยางไร เราผดิ ขอไหน ดูสิ มนั ตองมี มนั ตองมนี ะ เหมอื นกับวารา งกายของเรานี้ ปกติ มนั ตองไมเ จ็บ ถาเผื่อวา รางกายปกตมิ ันตองไมเจ็บตรงนั้นตรงน้ี ถาเผ่อื วาเจ็บขึ้นมาตรงไหน แสดงวา รา งกายผิดปกติ ตอ งเช็คดูวา มนั มอี ะไร เส้ยี นตำหรอื เปลา แคะออกเสยี ไดไ หม เปนอะไรมัน ตอ งมอี ะไร ถาเผอื่ รางกายเราเกิดเจบ็ ปวดมนั ตอ งมอี ะไร ถา เผื่อ วาใจเราทกุ ขมันแสดงวา ใจตองมอี ะไรอักเสบหรือมีอะไรบางอยาง ที่ทำใหใ จเปนทุกข เราตอ งเชค็ ได เราตอ งเขยี่ มันออกไป อนั น้กี ็
๑๑๘ พทุ ธปรชั ญาแกป ญ หาเศรษฐกจิ เปนวิธปี ฏิบตั ใิ นการนำปรชั ญา นำพทุ ธปรชั ญามาใชใ นชวี ติ ประจำ วนั อันน้ไี มใชป ญหาทางเศรษฐกิจ แตเ ปนปญหาท่วี าเราจะนำมา ใชก ับชวี ติ ประจำวนั ไดอยางไร หลักธรรมหรือพุทธปรัชญาที่จะเปนประโยชนไดมากก็ คอื หลกั ทเ่ี ราสามารถจะนำมาใชก บั ชวี ติ ประจำวนั ได ไมใ ชเ รยี น รแู ลวก็แขวนอยูบนฟากฟา ปาหิมพานตห รืออะไร เราตอ งเอามา ใชในชีวิตประจำวนั ได ก็ตองเปน ธรรมะทต่ี ดิ ดิน ทานผูฟงท่ีเคารพครับ เร่ืองพุทธปรัชญาจะนำ ไปใชก บั เศรษฐกจิ อยา งไร จากคำถาม จากคำสมั ภาษณ และคำตอบของนกั ศึกษามหาวิทยาลยั หอการคาไทย ท่ี ตึกคณะมนุษยศาสตรมหาวิทยาลัยรามคำแหงหลายป มาแลว ก็จบลงเพียงเทาน้ีนะครับ และเวลาก็จบลงพอดี ขอความสุขสวัสดี พึงมีแกทานผูอุปถัมภรายการและทานผูฟงโดย ทวั่ กนั สวสั ดีครับ
มีนอยคนนักทีจ่ ะมบี ุญบารมีมาแตอ ดีต ทำใหสนใจในธรรม ด่มื ด่ำในธรรม คนควาหาความรูอยา งเพลิดเพลนิ ไมรูจ กั อม่ิ ไมรจู กั พอในการแสวงหาความรูท างธรรม ต้งั ตนอยูใ นธรรมสม่ำเสมอ นา เล่อื มใส จติ ใจหนักแนนม่นั คง ไมถ กู กระแสโลกพัดไป เมอื่ บวชอยู ก็เปน พระทีด่ ี เปนกำลงั สำคัญ ของคณะสงฆ พระศาสนา และบานเมือง เมื่อสึกไป กเ็ ปน ฆราวาสที่ดี เปนกำลงั สำคญั ของบานเมอื ง เปนกำลงั ของศาสนาดว ย คนอยา งน้มี จี ำนวนนอย อาจารยว ศิน อินทสระ
ชมรมกัลยาณธรรม www.kanlayanatam.com หนังสือดีอนั ดับท่ี : ๑๙๔ อาจารยวศนิ อนิ ทสระ พิมพคร้ังที่ ๑ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๖ จำนวนพิมพ ๔,๔๐๐ เลม จดั พิมพโ ดย ชมรมกัลยาณธรรม ๑๐๐ ถ.ประโคนชัย ต.ปากน้ำ อ.เมือง ภาพปก จ.สมุทรปราการ ๑๐๒๗๐ รูปเลม โทรศพั ท ๐๒ ๗๐๒ ๗๓๕๓ และ ๐๒ ๗๐๒ ๙๖๒๔ พสิ จู นอ กั ษร ศักดส์ิ ทิ ธิ์ ภัทรประกฤต (ตา ร) พมิ พท ี่ ปา แชม ลงุ ชม อ. จันทรา ทองเคยี น และคณะ สำนกั พมิ พก อนเมฆ โทรศพั ท ๐๘๙ ๗๘๕ ๓๖๕๐ สัพพทานัง ธัมมทานงั ชนิ าติ การใหธ รรมะเปนทาน ยอมชนะการใหท ้งั ปวง
การไมร บู างน่เี ปน เสนห ทำใหสงิ่ ท่เี รารมู คี วามนาเชื่อถือมากขึ้น ไมใชว า จะรไู ปหมดทกุ สิ่งทกุ อยาง มพี ระพุทธเจาเทานนั้ ทร่ี ูเรือ่ งพระพุทธศาสนาทกุ อยา ง คนอนื่ นอกนน้ั ก็รบู างไมรูบ า ง อาจารยวศิน อนิ ทสระ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123