Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PiksuArPard

PiksuArPard

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-03-15 07:33:02

Description: PiksuArPard

Search

Read the Text Version

พระไพศาล วสิ าโล ภกิกษารุอดาูพแลาธ ระยะท้าย ทำ� ไม และ อยา่ งไร

ภกกิ ษารอุ ดาูพแลาธ ระยะทา้ ย ท�ำไม และ อยา่ งไร พระไพศาล วสิ าโล

ภกิกษารุอดาูพแลาธ Pdf file Book ระยะทา้ ย ทำ� ไม และ อยา่ งไร พระไพศาล  วิสาโล www.visalo.org Facebook : พระไพศาล  วิสาโล Facebook : Phra Paisal Visalo Facebook : วดั ป่าสุคะโต ธรรมชาติที่พกั ใจ ชหนมงั รสอืมดกีลำ�ลั ดยบั าทณ ี่ ๔ธ๐ร๖รม พิมพ์ครง้ั ที ่ ๑ : พฤษภาคม ๒๕๖๓  จำ� นวนพมิ พ ์ ๓,๐๐๐ เลม่ จัดพิมพโ์ ดย  ชมรมกัลยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชัย ต�ำบลปากนำ้�   อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สมุทรปราการ ๑๐๒๗๐  โทรศพั ท ์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ ถอดเทป จติ อาสากลั ยาณธรรม เตรยี มงาน ธร ออกแบบปก/รปู เล่ม คนขา้ งหลัง พิสูจนอ์ กั ษร ทมี งานกัลยาณธรรม  พมิ พ์ท ่ี บริษัทขุมทองอตุ สาหกรรมและการพิมพ ์ จ�ำกดั  โทร. ๐-๒๘๘๕-๗๘๗๑-๓ สัพพทานงั  ธมั มทานงั  ชนิ าต ิ การใหธ้ รรมะเปน็ ทาน ยอ่ มชนะการให้ท้ังปวง www.kanlayanatam.com kanlayanatam kLiannela oyfafnicaitaal m: 2

3 คํ า ป ร า ร ภ ปัจจุบันมีผู้คนจ�ำนวนไม่น้อยตายด้วยความทุกข์ทรมาน ความทุกข์ทรมานดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความเจ็บป่วยเท่าน้ัน แต่ยังเกิดจากกระบวนการต่างๆ  ในโรงพยาบาล  ซ่ึงมุ่งย้ือชีวิต หรือยืดเวลาตายให้ช้าออกไป  นอกจากความทุกข์ทางกายแล้ว ผู้ป่วยยังมีความทุกข์ใจอย่างมาก  เนื่องจากอยู่ในห้องไอซียู ซง่ึ ไมเ่ ออ้ื ใหล้ กู หลานญาตมิ ติ รมาดแู ลหรอื ใหก้ ำ� ลงั ใจอยา่ งใกลช้ ดิ ได ้ รวมทงั้ ไมอ่ าจสอ่ื สารบอกกลา่ วความในใจไดเ้ พราะถกู เจาะคอ เป็นตน้ ด้วยเหตุนี้ในระยะหลังจึงมีผู้คนให้ความสนใจมากข้ึน กับการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย  ที่ไม่ได้เป็นไปเพ่ือการยื้อชีวิต  แต่ มงุ่ บรรเทาความทกุ ขท์ รมานทงั้ กายและใจ ชว่ ยใหส้ ขุ สบายและมี คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ที สี่ ดุ เท่าทจ่ี ะเปน็ ไปได ้ การดแู ลชนดิ นซี้ ง่ึ เรยี กว่า การดูแลแบบประคับประคอง  (palliative  care)  ก�ำลังแพร่ หลายมากข้นึ  และผ้คู นสามารถเขา้ ถึงได้สะดวกขนึ้ เรื่อยๆ อย่างไรก็ตามความสนใจดังกล่าวยังจ�ำกัดอยู่ในแวดวง ของฆราวาส  แต่ในหมู่พระภิกษุสงฆ์  ความสนใจในเรื่องน้ียัง มนี อ้ ย อกี ทง้ั สถานทที่ จี่ ะใหบ้ รกิ ารดงั กลา่ วแกพ่ ระภกิ ษกุ ย็ งั มอี ยู่ พระไพศาล วสิ าโล

4 น้อยมาก  ในขณะท่ีวัดส่วนใหญ่ไม่พร้อมที่จะดูแลภิกษุที่อาพาธ หนัก  ผลก็คือมีพระจ�ำนวนไม่น้อยที่เมื่ออาพาธระยะท้าย  ต้อง ไปลงเอยท่ีโรงพยาบาล  และมรณภาพด้วยความทุกข์ทรมาน ด้วยกระบวนการยอ้ื ชีวติ ดังกล่าว สถานที่ดูแลภิกษุอาพาธระยะท้ายเพื่อช่วยให้ท่านจากไป อย่างสงบจึงเป็นส่ิงที่ควรมีอย่างยิ่งในเมืองไทย  นิมิตดีก็คือ มีพระภิกษุหลายท่านก�ำลังริเริ่มท�ำโครงการดังกล่าวข้ึนมา ดังเมื่อปีท่ีแล้ว ได้มีการจัดประชุมเพ่ือขับเคลื่อนแนวคิดนี้  ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต  เม่ือวันที่  ๔  กุมภาพันธ์  ๒๕๖๒  โดยมี พระภิกษุจากหลายวัดมาร่วมประชุม  หลังจากน้ันโครงการ “สนั ตภิ าวนั ” กไ็ ดเ้ กดิ ขน้ึ  (ปจั จบุ นั สถานบรกิ ารตง้ั อยทู่  ่ี อ.สอยดาว จ.จันทบุร)ี หนังสือเล่มนี้มีที่มาจากการบรรยายของข้าพเจ้าในการ สัมมนาดังกล่าว  ในการพิมพ์ครั้งน้ี  ได้ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะ กบั การตพี มิ พ ์ ขออนโุ มทนาชมรมกลั ยาณธรรมทเี่ หน็ คณุ คา่ ของ โครงการดงั กลา่ ว หวงั วา่ หนงั สอื เลม่ นจ้ี ะมสี ว่ นชว่ ยใหพ้ ทุ ธบรษิ ทั ตระหนักถึงความส�ำคัญของการดูแลภิกษุอาพาธระยะท้ายตาม แนวทางของพุทธศาสนา  ซึ่งมองความตายว่าเป็นเรื่องธรรมดา ท่พี ึงเตม็ ใจยอมรบั  มใิ ช่ดน้ิ รนผลกั ไสจนลมหายใจสุดทา้ ย ๑  พฤษภาคม  ๒๕๖๓ การดูแลภิกษุอาพาธระยะท้าย ท�ำไมและอยา่ งไร

5 ค ํ า นํ า ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม ทกุ ขอรยิ สจั  เปน็ สง่ิ ตอ้ งกำ� หนดร ู้ ปรากฏการณต์ า่ งๆ ตาม ธรรมชาติ ล้วนเป็นสัจจธรรมท่ีเราต้องเรียนรู้ท่ีจะกา้ วข้ามจิตใจ ตน  ให้พ้นไปจากทุกข์ได้ด้วยการประจักษ์ความจริงและยอมรับ ทุกสภาวะได้ด้วยจิตเมตตาและไม่ยึดติด  ธรรมะ  คือยาดับทุกข์ ขนานส�ำคัญ  ท่ีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานไว้ เปน็ มรดกของชาวโลกและมวลสรรพสตั ว ์ ไดพ้ ง่ึ พาอาศยั  ดบั รอ้ น ผ่อนคลายทุกข์  ส�ำหรับมนุษย์เช่นเราผู้มีบุญได้เกิดในพระพุทธ ศาสนา  ในปฏิรูปเทส  ที่มีพระพุทธศาสนาเป็นกระแสชีวิตจาก ปางบรรพ์มาจวบจนปัจจุบัน  นับเป็นชีวิตประเสริฐแห่งบุญกุศล ทเ่ี ราทุกคนควรท�ำชาตนิ ้ใี หถ้ ึงท่สี ดุ แห่งทุกขไ์ ปตามลำ� ดบั ท่านพระอาจารย์ไพศาล  วิสาโล  เป็นหนึ่งในครูอาจารย์ท่ี เปน็ กลั ยาณมติ รผปู้ ระเสรฐิ  ขา้ พเจา้ เปน็ ศษิ ยผ์ หู้ นงึ่ ทไ่ี ดร้ บั เมตตา จากท่านตลอดมา สำ� นกึ ในพระคุณ ไว้เหนอื เศยี รเกล้า คอยหา โอกาสที่จะได้ตอบแทนและสนองงานของท่านตามเหตุปัจจัยที่ ท�ำได้  และได้ซาบซ้ึงในปฏิปทาอันมั่นคงและเป็นแบบอย่างแห่ง พระไพศาล วสิ าโล

6 พทุ ธบตุ ร ทที่ า่ นไดต้ รากตรำ� บำ� เพญ็ สมณกจิ นอ้ ยใหญ ่ หลากหลาย ความรบั ผดิ ชอบและใสใ่ จ เพอื่ สง่ ทอดพระธรรมใหเ้ ปน็ แสงสวา่ ง แกส่ งั คม รวมถงึ ธรรมชาตติ า่ งๆ อยา่ งไมเ่ หน็ แกค่ วามเหนอื่ ยยาก เหล่าน้ีเป็นภาพแบบอย่างแห่งความดี  ความเสียสละ  ที่ช่วย หล่อเลย้ี งความดีในใจของข้าพเจา้ ให้เติบโตงอกงามตลอดมา งานเรอ่ื ง “การดแู ลผปู้ ว่ ยตามวถิ พี ทุ ธ” และ “การเผชญิ ความตายอย่างสงบ” เปน็ งานสำ� คญั สว่ นหนง่ึ ทที่ ่านพระอาจารย์ ไดบ้ กุ เบกิ และดำ� เนนิ การมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จนสามารถปลกุ สงั คม ให้ต่ืนตัวและตระหนักถึงความส�ำคัญของการดูแลจิตใจให้ พร้อมรับความพลัดพราก  เคียงข้างกับการดูแลกายตามวิถีทาง การแพทย ์ แตถ่ ึงแม้วา่  ในฝ่ายของฆราวาส จะมีการต่ืนตัวและ รวมกลุ่มกันในการจัดระบบพัฒนาการเยียวยาจิตใจในวาระท้าย ของชวี ติ กนั อยา่ งหลากหลาย ดไู ดจ้ ากงาน “อบรมเผชญิ ความตาย อย่างสงบ” ของทา่ นพระอาจารย์ที่ทา่ นจัดมาต่อเน่ืองนั้น ได้รับ การตอบรับดีมาก  แต่ในส่วนภาคสงฆ์  ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับ การใสใ่ จเรื่องน้ีเท่าทค่ี วร ข้าพเจ้ามีโอกาสฟังธรรมของท่านพระอาจารย์ในเร่ืองน้ี เกิดความประทับใจและทั้งสลดใจ  ในสภาพความเป็นจริงต่างๆ จึงได้กราบขออนุญาตจัดท�ำเป็นหนังสือ  ซึ่งท่านพระอาจารย์ มีเมตตา ไดต้ รวจทาน และปรับปรงุ ต้นฉบบั ให้ด้วย เมือ่ สง่ งาน ใหท้ มี งานจติ อาสาของชมรม ทกุ ทา่ นกล็ ว้ นประทบั ใจและสนบั สนนุ การดูแลภกิ ษอุ าพาธระยะท้าย ท�ำไมและอยา่ งไร

7 การจัดท�ำหนังสือเล่มนี้อย่างเต็มอกเต็มใจทุกคน  ขอขอบคุณ นอ้ งๆ ทกุ คน ไว ้ ณ ทนี่  ้ี ทง้ั นอ้ งธร นอ้ งออ้ ม และคนข้างหลงั ทีไ่ มเ่ ปิดเผยอีกหลายคน ข้าพเจ้าไม่เคยลืมความเมตตาของท่านพระอาจารย์ ยงั ไมล่ มื ภาพการพากนั วงิ่ ตามทา่ นเดนิ ลดั ปา่ ภหู ลง ไปนง่ั ฟงั ธรรม ใต้แสงเทียนก่อนสิ้นสนธยา  แล้วนอนชมดาว  เจริญมรณสติ ที่บรรยากาศ  unseen  ธรรมชาติพานอราม่า  ท่ีผาศรีวิไล  ภาพ ดาวจระเขพ้ าดขอบฟา้  แสงอรณุ เรอ่ื เรอื ง พรอ้ มการไดฟ้ งั ธรรม ก่อนอรุณข้ึนท่ีตาดรินทอง  หลายคร้ัง  รวมไปถึงการภาวนา แบบไรส้ ญั ญาณคลน่ื จากโลกภายนอก ทศี่ าลานอ้ ยๆ และเตน็ ท์ กลางป่า  ท่ีอื้ออึงด้วยเสียงของธรรมชาติในยามราตรีที่เปล่ียว เดียวดาย  ณ  กุฏิ  ๑๑  ท่ีมากกว่าน้ัน  คือความเมตตาท่ียิ่งใหญ่ ทท่ี า่ นมตี อ่ สงั คม สรรพชวี ติ  ไมเ่ วน้ แมแ้ ตธ่ รรมชาต ิ ปา่ เขา แมน่ ำ�้ เป็นต้น  ดังน้ัน  การจัดพิมพ์หนังสือของท่านพระอาจารย์แต่ละ คร้ัง  ย่อมเป็นความสุข  และมีความหมายแห่งการแทนพระคุณ ทีไ่ ม่มวี ันหมดไดโ้ ดยแทจ้ ริง ในมงคลวาระแห่งวันส�ำคัญของโลก  “วันวิสาขบูชา”  วัน ส�ำคัญของชาวพุทธ  วันแห่งการประสูติ  ตรัสรู้  และปรินิพพาน ของพระบรมศาสดาพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้  ผู้เป็นดวงตาของโลก ทั้งหลาย  มหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสูงสุด  ท่ีจะมาถึง อกี ครง้ั ในวนั พรงุ่ น ้ี นอกจากนนั้  วนั ท ่ี ๑๐ พฤษภาคม เปน็ วาระ พระไพศาล วิสาโล

8 มงคลครบรอบวันคล้ายวันเกิด  ปีที่  ๖๓  ของท่านพระอาจารย ์ อกี ดว้ ย ขา้ พเจา้  ในนามชมรมกลั ยาณธรรม จงึ รสู้ กึ ปตี  ิ ปลม้ื ใจ  มากท่ีได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มน้ี  ถวายเป็นพุทธบูชา  และถวาย  อาจริยบูชาแดพ่ ระปยิ าจารย ์ ครผู ปู้ ระเสรฐิ ของขา้ พเจา้  ในนาม  ของคณะศิษย์  ขอน้อมส่งทอดธรรมอันประเสริฐที่ท่านได้มอบ  ให้ทุกคนตลอดมานั้น  เพื่อเป็นแสงสว่างแก่สังคมต่อไป  และ  เพื่อเป็นโอกาสดีท่ีจะจุดประกายพลังแห่งการต่ืนตัวในองค์กร  ต่างๆ  ในการดูแลพระสงฆ์อาพาธให้มีคุณภาพขึ้น  โดยเฉพาะ  ในมติ ขิ องจติ ใจ ทท่ี า่ นพระอาจารยม์ งุ่ หมายใหพ้ ระไดเ้ ปน็ แบบอยา่ ง  แก่ฆราวาสญาตโิ ยม ทั้งในยามอย่แู ละในยามมรณภาพ ชมรมกัลยาณธรรมหวังว่า  ท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์  จากหนงั สอื น ี้ และนำ� ไปปรบั ใชก้ บั ตนและคนทท่ี า่ นรกั  รวมไปถงึ   การดแู ลพระสงฆ ์ ครบู าอาจารย ์ ใหเ้ หมาะสม สปั ปายะ ดว้ ยเมตตา  และถูกต้องตามพระธรรมวินัย ขอกราบอนโุ มทนาทุกท่าน น้อมบูชาพระรตั นตรัยและครูบาอาจารยดว้ ยเศยี รเกลา้ ทพญ.อจั ฉรา กลิ่นสุวรรณ์ ประธานชมรมกัลยาณธรรม  ๕  พฤษภาคม  ๒๕๖๓ การดแู ลภิกษุอาพาธระยะทา้ ย ท�ำไมและอย่างไร

ส า  ร บ ั ญ ๑๓ อยดู่ ี ตายดี ๑๗ การยอื้ ๒๑ การดูแลแบบประคับประคอง ๒๕ พนิ ัยกรรมชีวิต ๒๙ ตายดี ๓๓ เลอื กตายท่บี า้ น ๔๑ พระสงฆร์ ะยะทา้ ย ๔๕ ถาม - ตอบ

พระเรา ควรเป็นแบบอย่างให้แกญ่ าตโิ ยม ทงั้ ในยามอยแู่ ละยามตาย  เม่อื อยู่กอ็ ย่อู ยา่ งสงบเยน็  โปรง่ เบา  เม่อื จะตาย ก็ไม่หนคี วามตาย พร้อมเผชญิ ความตาย  เพราะเรารวู้ ่า การตายอย่างสงบมันเปน็ ไปได้  ไมจ่ ำ� เป็นต้องมเี ครือ่ งเคราหรือเทคโนโลยเี ต็มตวั   น่ีคือการแสดงธรรมส�ำคญั ท่พี ระเราควรท�ำ ทง้ั ในยามอย ู่ และในยามตาย





13 อยูด่ ี ตายดี ทกุ วนั นผี้ คู้ นสว่ นใหญน่ กึ ถงึ แตก่ ารมชี วี ติ ทด่ี  ี เชน่  มคี วาม ส�ำเร็จในหน้าทก่ี ารงาน มเี งินมที อง ชีวติ ที่ผาสกุ  ปลอดพน้ จาก ความทกุ ข ์ พดู งา่ ยๆ คอื ผคู้ นสว่ นใหญ ่ ใหค้ วามสำ� คญั กบั การอยดู่ ี แตน่ อ้ ยคนจะนกึ ถงึ เรอื่ ง “การตายด”ี  คนอยดู่  ี ไมใ่ ชว่ า่ จะตายดี เสมอไป  โดยเฉพาะถ้าการอยู่ดีตามความเข้าใจของคนท่ัวๆ  ไป คอื การมอี ายุยนื  มสี ุขภาพดี มีความสำ� เร็จในชีวิต มันไมไ่ ดเ้ ป็น หลักประกันว่าจะตายดีเสมอไป  เดี๋ยวนี้หลายคนที่อยู่ดีมีสุข แต่เม่ือถงึ เวลาตายกลับตายไมด่ ี ก็มมี ากขน้ึ เร่อื ยๆ พระไพศาล วิสาโล

14 ค�ำว่า  “ตายดี”  หมายถึง  ตายอย่างสงบ  ไม่ทุรนทุราย ไมก่ ระสบั กระส่าย สำ� หรบั ชาวพทุ ธ ตายดยี งั หมายถงึ  ตายแลว้ ไปสู่สุคติ  แม้บอกได้ยากว่าใครตายแล้วไปสุคติภพ  แต่ท่ีเรา สามารถจะบอกได้คือ  ตอนก่อนตาย  โดยเฉพาะในวาระสุดท้าย เขาตายสงบไหม  เขาตายแบบทุรนทุรายหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าแม้เราจะมีชีวิตที่พร่ังพร้อมด้วยวัตถุ  มีความ สะดวกสบายนานัปการย่ิงกว่าคนสมัยก่อน  แต่ผู้คนจ�ำนวนมาก กลบั ตายไมค่ อ่ ยด ี ตายดว้ ยความทกุ ขท์ รมาน ตายอยา่ งกระสบั - กระส่าย  ท�ำให้ตอนนี้มีคนสนใจเร่ืองการตายดีมากข้ึน  เพราะ เขาเคยเห็นพ่อ  แม่  ญาติผู้ใหญ่  ญาติมิตรของเขา  ตายอย่าง ทกุ ข์ทรมาน โดยเฉพาะในโรงพยาบาล  ผมเร่ิมอบรม  “เผชิญความตายอย่างสงบ”*  มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๗  ทีแรกก็คิดว่าท�ำเรื่อยๆ  ท�ำเล่นๆ  ปรากฏว่า  ผ่านมา ๑๕ ปีแล้ว ยังหยุดไม่ได้ ปีหนึ่งอบรมสิบกวา่ ครั้ง บรรยายอีก นับไม่ถ้วน  เพราะมีคนสนใจมาก  เขาเห็นว่า  การตายดีต้อง อาศยั การเตรยี มตวั และเตรยี มใจ นอกจากการมปี จั จยั เออ้ื อำ� นวย ให้จิตใจระลึกถึงส่ิงที่เป็นกุศลในวาระสุดท้ายแล้ว  ยังต้องมีการ * พระอาจารย์บรรยายให้พระสงฆ์ฟังในงานสัมมนาท่ีวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ดังที่ ท่านกลา่ วไว้ในค�ำปรารภ การดูแลภิกษุอาพาธระยะทา้ ย ทำ� ไมและอยา่ งไร

15 เตรียมการตั้งแต่เน่ินๆ เรียกวา่  “เตรียมตัว เตรียมใจ” ทั้งการ ดำ� เนนิ ชวี ติ  ใหอ้ ยใู่ นทำ� นองคลองธรรม การละเวน้ ความชวั่  และ ทสี่ ำ� คญั มาก คอื การฝกึ จติ ฝกึ ใจใหร้ จู้ กั ปลอ่ ยวาง รเู้ ทา่ ทนั อารมณ์ ทมี่ าคกุ คามรบกวนจติ ใจ ท้งั ในยามอยู่และในยามตาย คนเราจะตายดีได้  นอกจากการเตรียมใจให้เป็นกุศลแล้ว การสร้างส่ิงแวดล้อม  เช่น  สถานที่ก็เป็นสิ่งส�ำคัญ  รวมท้ัง วธิ กี ารดแู ลหรอื วธิ กี ารทกี่ ระทำ� กบั ผปู้ ว่ ย เพราะในยามทเ่ี จบ็ ปว่ ย โดยเฉพาะในระยะท้าย  เราไม่ได้สูญเสียพลัดพรากจากสิ่งต่างๆ ทร่ี กั ทพ่ี อใจเทา่ นน้ั  แตเ่ รายงั ตอ้ งเผชญิ กบั สงิ่ ทเี่ ราไมร่ กั  ไมพ่ อใจ ดว้ ย เชน่  ความเจบ็ ปวด ไมใ่ ชแ่ คค่ วามเจบ็ ปวดจากตวั โรค เชน่ มะเรง็  เบาหวาน แตย่ งั รวมถงึ ความเจบ็ ปวดทเี่ กดิ จากดแู ลรกั ษา ผู้ป่วยด้วย  โดยเฉพาะถ้าเป็นการยื้อชีวิต  เด๋ียวนี้เมื่อมีใคร ใกล้ตาย  เราจะทุ่มเททรัพยากรและเทคโนโลยีต่างๆ  เพื่อ ย้ือให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวข้ึน  บางคร้ังก็มีประโยชน์  แต่หลาย กรณกี ลบั กลายเปน็ โทษ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยในระยะท้าย พระไพศาล วสิ าโล



17 การยอื้ ผปู้ ว่ ยระยะทา้ ย คอื ผปู้ ว่ ยทเี่ ปน็ โรครกั ษาไดย้ าก บางชนดิ รักษาไม่ได้เลย  เช่น  มะเร็งบางชนิด  พาร์กินสัน  โรคพุ่มพวง ในระยะทา้ ย เบาหวาน ไตวาย ซาร์ส ไข้หวัดนก เป็นต้น เมื่อ อยู่ในระยะท้ายของโรคเหล่านี้  ผู้ป่วยจะไม่ตอบสนองต่อการ รักษา  เยียวยาได้ยาก  ให้อะไรไปก็ไม่ช่วยให้เขามีอาการดีขึ้น ในโรงพยาบาลหลายแหง่  วธิ กี ารทมี่ กั ทำ� กบั ผปู้ ว่ ยระยะทา้ ย คอื “การยื้อ” จะเรยี กว่าการรักษาก็คงไมถ่ ูก เพราะท�ำใหเ้ กิดความ เจ็บปวดมากกว่าเดิม  ความเจ็บปวดเพราะโรคก็หนักอยู่แล้ว ยังถูกซ�้ำเติมด้วยวิธีการรักษาอีก  ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่  เพราะ มันท�ำให้คนจ�ำนวนมากในโรงพยาบาล  โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ตายดว้ ยความทกุ ข์ทรมานมากขนึ้ พระไพศาล วสิ าโล

18 ในอเมริกา  ต้ังแต่ปี  ๒๕๔๑ - ๒๕๕๓  พบว่ามีคนตายด้วย ความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน  ตายด้วยความสับสนและซึมเศร้า ในสัดส่วนที่มากข้ึน  น่าคิดว่าในเม่ือเขามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มที รพั ยากรมากมาย แตท่ ำ� ไมคนอเมรกิ นั กลบั ตายดว้ ยความทกุ ข์ ทรมานมากกว่าสมัยก่อน  เหตุผลหน่ึงก็คือ  เด๋ียวนี้คนไปตาย ท่ีโรงพยาบาลมากข้ึน  จาก  ๒  ใน  ๓  ก็มีแนวโน้มขยายเป็น ๓  ใน  ๔  ค�ำถามก็คือ  โรงพยาบาลมีเทคโนโลยีช่วยบรรเทา ความเจ็บปวดมากมาย  แต่ท�ำไมเมื่อไปอยู่โรงพยาบาลแล้ว กลับตายด้วยความทุกข์ทรมาน  ค�ำตอบก็คือ  โรงพยาบาลไม่ได้ มีแต่เทคโนโลยีบรรเทาปวด  แต่ยังมีเทคโนโลยีที่สร้างความ เจ็บปวดด้วยเหมือนกัน  เทคโนโลยีอย่างหลังนี้แหละ  ที่น�ำมาใช้ อยา่ งเตม็ ทกี่ บั ผปู้ ว่ ยระยะท้าย ไมใ่ ชแ่ คเ่ จาะคอ ใสท่ อ่  ปม๊ั หวั ใจ ใช้ยากระตุ้นความดัน  หรือกระบวนการอ่ืนๆ  ที่ท�ำให้หัวใจ ทำ� งานตอ่ ไปได ้ หายใจไดย้ นื ยาวขนึ้  แตย่ งั รวมไปถงึ วธิ กี ารตา่ งๆ ทเี่ ชอ่ื วา่  จะชว่ ยเยยี วยารกั ษาผปู้ ว่ ยระยะทา้ ยได ้ เชน่  การผา่ ตดั การฉายแสง การฉีดคโี ม ในอเมริกาพบว่า  ผู้ป่วยท่ีเป็นมะเร็งระยะท้าย  ประมาณ ๑  ใน  ๘  ได้รับเคมีบ�ำบัดในสองอาทิตย์สุดท้าย  ท้ังๆ  ที่ไม่มี ประโยชน์แต่อย่างใด  คนอายุ  ๖๕  ปีขึ้นไป  ที่เป็นมะเร็งระยะ ท้าย  ปรากฏว่า  ๑  ใน  ๓  ถูกผ่าตัดใหญ่ในปีสุดท้าย  ๑  ใน  ๕ การดแู ลภกิ ษอุ าพาธระยะท้าย ท�ำไมและอยา่ งไร

19 ถูกผ่าตัดใหญ่เดือนสุดท้าย  และร้อยละ  ๘  ถูกผ่าตัดใหญ่ใน อาทิตย์สุดท้าย  แปลว่าผ่าเสร็จไม่ถึงอาทิตย์ก็ตาย  ค�ำถามก็คือ แล้วผ่าท�ำไม  ค�ำตอบก็คือ  เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้รอด  หรือมี ชีวิตยืนยาวขึ้น  แต่นอกจากชีวิตไม่ได้ยืนยาวข้ึนแล้ว  ยังเจ็บปวด เพ่ิมขน้ึ ดว้ ย เด๋ียวนี้คนเมืองตายด้วยความทุกข์ทรมานมากขึ้น  ไม่ใช่ แค่ทุกข์กาย  แต่ทุกข์ใจด้วย  เช่น  ว้าเหว่  โดดเดี่ยว  สับสน เพราะต้องอยู่ในห้องไอซียู  ห่างไกลญาติมิตร  ไม่เหมือนกับ คนชนบท  เวลาเขาป่วยหนัก  อยู่ในระยะท้าย  ส่วนใหญ่จะขอ กลับไปตายท่ีบ้าน  อย่างชาวบ้านคนหน่ึงใกล้วัดผม  แกเป็น มะเร็งตับระยะท้าย  ถูกพาตัวไปโรงพยาบาล  ต้องใส่ท่ออะไร มากมาย  ทรมานมาก  แกร�่ำร้องขอกลับบ้าน  หมอบอกว่า  ถ้า กลับต้องถอดท่อ  ถอดก็ตายนะ  แต่แกยืนกรานจะกลับบ้าน ท่าเดียว  จนหมอต้องยอม  ปรากฏว่ากลับไปแล้วอยู่ได้อีก สองเดือน  ไม่ทรมานเท่าไร  และไม่ใช่อยู่แบบไม่มีการรักษา ทางโรงพยาบาลต�ำบลส่งเจ้าหน้าที่มาติดตั้งเครื่องฉีดมอร์ฟีน หรือ  Syringe  Driver  และให้ภรรยาผู้ป่วยดูแลให้มอร์ฟีน ตามเวลา  ผู้ป่วยได้อยู่ท่ามกลางครอบครัว  ลูกหลาน  มีพระ มาเยี่ยม  สบายกว่าท่ีโรงพยาบาลมาก  เวลาตายก็ไม่ทรมาน เท่าไร  เห็นชัดว่าคุณภาพชีวิตแตกต่างกันมาก  ระหว่างอยู่ โรงพยาบาลกับอยทู่ ี่บ้าน พระไพศาล วสิ าโล



21 การดูแล แบบประคับประคอง คนจำ� นวนมากวางแผนทจ่ี ะใชช้ วี ติ ระยะท้ายทบ่ี า้ น วธิ กี าร ที่ได้รับความนิยมมากข้ึนเรื่อยๆ  เรียกว่า  การดูแลแบบประคับ  ประคอง (Palliative care) การดแู ลแบบนแ้ี ตกตา่ งจากการดแู ล ในโรงพยาบาลท่ีเรียกว่า  การดูแลเพ่ือรักษาให้หาย  (Curative care) ซึ่งมักจะใช้วิธีย้ือเม่ือผู้ป่วยอยู่ในระยะทา้ ย เช่น เจาะคอ ใส่ท่อ  ปั๊มหัวใจ  ใช้ยากระตุ้นความดัน  มีโอกาสติดเช้ือ  พอ ติดเชื้อก็เป็นเรื่องใหญ่  บางรายตอนอยู่บ้านไม่มีปัญหาติดเชื้อ พอไปโรงพยาบาลกลบั ตดิ เชอ้ื  ถกู เจาะคอ และถกู มดั มอื  เจอมา หลายรายแลว้ พระไพศาล วสิ าโล

22 บางรายอายุร้อยกว่าปี  อยู่บ้านไม่ค่อยกินอะไรแล้ว  เป็น ธรรมดาท่ีผู้ป่วยระยะท้ายจะไม่กิน  ร่างกายไม่ต้องการอาหาร ระบบย่อยไม่ท�ำงาน  ชาวบ้านเรียกว่าธาตุไฟอ่อน  พอกินอะไร ไม่ได้  ลูกหลานก็เป็นห่วงว่าแม่ไม่กินอะไรเลย  ไปปรึกษาหมอ หมอบอกว่าต้องไปโรงพยาบาลให้น้�ำเกลือ  ไม่นานก็ติดเช้ือ เพราะโรงพยาบาลมีเชื้อโรคเยอะ  ในท่ีสุดก็ต้องเจาะคอ  พอ เจาะคอก็ต้องมัดมือ  ทรมานมาก  สองสามอาทิตย์ก็ตายอย่าง ทรมานที่โรงพยาบาล  แทนที่จะค่อยๆ  แห้งตายอยู่ท่ีบ้านอย่าง ไมท่ กุ ข์ทรมาน การดแู ลภกิ ษอุ าพาธระยะท้าย ทำ� ไมและอยา่ งไร

เห็นไดช้ ดั ว่า แมเ้ ราจะมีชวี ิตที่พร่ังพรอ้ มดว้ ยวัตถุ มีความสะดวกสบายนานปั การยิ่งกว่าคนสมยั กอ่ น แต่ผู้คนจำ� นวนมาก กลบั ตายไม่คอ่ ยดี  ตายดว้ ยความทกุ ขท์ รมาน  ตายอย่างกระสบั กระสา่ ย  ท�ำให้ตอนน้ี มคี นสนใจเร่อื งการตายดีมากขน้ึ



25 พินัยกรรมชีวิต การเตรยี มตวั เตรยี มใจกอ่ นตายจงึ เปน็ เรอ่ื งสำ� คญั  การรจู้ กั น้อมใจให้นึกถึงพระอยู่เสมอ  นึกถึงบุญกุศลหรือความดีที่ได้ท�ำ นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ  พร้อมที่จะปล่อยวางไปทีละอย่างๆ ขณะเดียวกัน  ก็ต้องคิดล่วงหน้าว่า  หากป่วยจนถึงระยะท้าย ฉันจะเลือกการดูแลแบบไหน  ตอนนี้มีฆราวาสหลายคนท�ำ พินัยกรรมชีวิต (Living Will) โดยแสดงเจตจ�ำนงล่วงหนา้ ว่า ๑. เมอ่ื ปว่ ยในระยะทา้ ย ๒. ไมส่ ามารถสอื่ สารพดู คยุ หรอื ตดั สนิ ใจ อะไรได้  ฉันขอไม่รับการรักษาดังต่อไปน้ี  เช่น  การเจาะคอ ใส่ท่อ  ถ้าหัวใจหยุดเต้นไม่ต้องปั๊ม  ถ้าหัวใจแผ่วไม่ต้องฉีดยา กระตนุ้ ความดนั  ถ้าไตวายไม่ตอ้ งล้าง เปน็ ตน้ พระไพศาล วสิ าโล

26 ตอนที่หลวงพ่อของผม  หลวงพ่อค�ำเขียน  สุวณฺโณ  เป็น มะเรง็ ครง้ั ทสี่ อง รกั ษาไดย้ ากแลว้  ทา่ นระบไุ วใ้ นพนิ ยั กรรมชวี ติ ว่า  ๑.  ถ้าท่านมีปัญหาเร่ืองการหายใจ  ไม่ต้องเจาะคอ  ท่าน ปฏเิ สธเครอ่ื งชว่ ยหายใจ ๒. ถา้ หวั ใจหยดุ เตน้ ไมต่ อ้ งปม๊ั  ๓. ถา้ รา่ ยกายทรดุ หนกั  ไมต่ อ้ งผา่ ตดั ใหญ ่ การระบเุ ชน่ นเี้ ปน็ ประโยชน์ กบั ลกู ศษิ ยม์ าก เพราะถา้ หลวงพอ่ อยใู่ นระยะทา้ ยและไมส่ ามารถ ส่ือสารอะไรได้  ลูกศิษย์ก็รู้ว่าควรจะท�ำอย่างไรกับร่างของท่าน ไมต่ ้องทะเลาะกนั ว่าจะยือ้ หรอื ไมย่ อ้ื พระหลายรูปที่อยู่ในระยะท้ายและอยู่ในภาวะท่ีไม่รู้ตัว กลับต้องเข้าสู่กระบวนการมาตรฐานของโรงพยาบาลคือ  “ย้ือ” อยา่ งกรณหี ลวงพอ่ คณู  ทา่ นทำ� พนิ ยั กรรมไวห้ ลายอยา่ ง ประเสรฐิ มาก  เช่น  อุทิศร่างให้กับคณะแพทย์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น พิธีศพให้จัดที่โรงพยาบาล  แค่สวดอภิธรรม  ไม่ต้องมีพิธีกรรม อะไรที่วัด ลดปัญหาที่ลูกศิษย์จะต้องมาถกเถียงกัน  ว่าจะจัด งานศพแบบไหนให้สมเกียรตขิ องทา่ น แต่ผมคดิ ว่าท่านพลาดท่ไี มไ่ ดร้ ะบุว่า หากท่านอยู่ในระยะ ท้ายแล้วมีอาการเช่นหัวใจหยุดเต้น อะไรบา้ งท่ีท่านไม่อนุญาต ให้ท�ำ  พวกเราทราบใช่ไหมว่าท่านมรณภาพเพราะอะไร  ตอนที่ ทา่ นอยโู่ รงพยาบาลบา้ นไร ่ พอหวั ใจท่านหยดุ เตน้  หมอกท็ ำ� การ การดแู ลภิกษอุ าพาธระยะทา้ ย ทำ� ไมและอย่างไร

27 ปั๊มหัวใจนาน  ๑  ชั่วโมง  แล้วไปปั๊มต่อที่โรงพยาบาลมหาราช อายทุ า่ น ๙๐ กวา่ แลว้  พอโดนปม๊ั มากๆ ซโี่ ครงกห็ กั ไปทมิ่ ปอด หายใจไม่ได้  ท่านมรณภาพเพราะหายใจไม่ได้  ผมว่าจะดีกว่า ถ้าไม่ปั๊มหัวใจท่าน  แต่เนื่องจากท่านไม่ได้เขียนเอาไว้  จึงเป็น หนา้ ทขี่ องหมอทจ่ี ะตอ้ งปม๊ั  หรอื กรณ ี ปเู่ ยน็  เมอื งเพชรบรุ  ี ทา่ น อาย ุ ๑๐๐ กวา่ ป ี เปน็ คนดงั รายการ “คนคน้ ฅน” พอหวั ใจหยดุ เตน้  ก็ถูกปมั๊ หัวใจหลายคร้งั เช่นกนั  แต่กช็ ่วยอะไรท่านไม่ได้ มีสถิติระบุว่า  การปั๊มหัวใจส�ำหรับผู้ป่วยมะเร็ง  มีโอกาส สำ� เรจ็ แค ่ ๑ ใน ๑๐ ยง่ิ ถ้าเปน็ ผปู้ ว่ ยระยะท้ายดว้ ยแลว้  โอกาส ท่ีจะปั๊มส�ำเร็จเกือบเป็นศูนย์  ที่ปั๊มส�ำเร็จส่วนใหญ่เป็นกรณี อุบัติเหตุ  หัวใจหยุดเต้นฉับพลัน  อย่างน้ีปั๊มได้และควรปั๊ม  แต่ หลายคนเป็นผู้ป่วยเร้ือรังหรืออยู่ในระยะท้าย  พอหัวใจหยุดเต้น ญาติก็ขอให้หมอปั๊ม  ทั้งท่ีความส�ำเร็จมีน้อยมาก  อย่างกรณี หลวงพอ่ คณู  ทา่ นทรมานมาก กระดกู ซโ่ี ครงทมิ่ ปอด ทำ� ไมไมใ่ ห้ ทา่ นตายสงบ กค็ งตอบวา่ ทำ� ไมไ่ ด ้ เพราะวา่ ผปู้ ว่ ยไมไ่ ดส้ ง่ั หา้ มไว้ จึงเป็นหน้าที่หรือจรรยาแพทย์ท่ีต้องปั๊ม  คนท่ีเห็นปัญหาน้ี เขาจะท�ำพินัยกรรมชีวิต  หรือมี  “สมุดเบาใจ”  ซ่ึงเครือข่าย พุทธิกาได้จัดท�ำ  โดยมีข้อความตอนหน่ึงระบุว่า...เมื่อป่วยระยะ ท้ายฉันไม่ต้องการให้ท�ำอะไรบ้าง  การระบุเช่นน้ีเป็นการช่วย ตวั เองและชว่ ยลูกหลานดว้ ย พระไพศาล วิสาโล



29 ตายดี ตอนนี้มีคนสนใจเร่ืองการตายดีมากข้ึน  แต่ส่วนใหญ่เป็น ฆราวาส มกี ารผลกั ดนั ใหม้ กี ารรกั ษาแบบประคบั ประคองมากขนึ้ ในโรงพยาบาล แตโ่ รงพยาบาลจำ� นวนมาก ยงั ไมเ่ หน็ ความสำ� คญั ยงั ไมม่ กี ารสอนเรอ่ื งการดแู ลแบบประคบั ประคองในมหาวทิ ยาลยั แพทย์ นักศกึ ษาแพทย์ รวมทั้งแพทย์จำ� นวนมากทำ� ไม่เปน็  เชน่ เวลาคนไขอ้ ยรู่ ะยะทา้ ย หายใจเหนอื่ ยหอบ ทำ� อยา่ งไรถงึ จะชว่ ย ให้เขาลดความทุกข์ทรมาน  โดยที่ไม่ไปเพ่ิมความทุกข์ทรมาน ใหเ้ ขา มกี รณยี ายคนหนง่ึ  อาย ุ ๘๗ ป ี แกเขยี นบอกลกู หลานไว้ ว่า  ถ้าป่วยระยะท้าย  อาการทรุดหนัก  ขอไม่ไปโรงพยาบาล ไมเ่ จาะคอ ไมใ่ สท่ อ่  ไมป่ ม๊ั หวั ใจ ไมใ่ ชย้ ากระตนุ้ ความดนั  อยมู่ า พระไพศาล วิสาโล

30 วันหน่ึง  คุณยายหายใจเหน่ือยหอบทรมาน  หลานท�ำอะไรไม่ถูก จึงพายายไปโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน  พอหมอมา  หลานบอก วา่ ยายไมต่ อ้ งการใหเ้ จาะคอ ใสท่ อ่  ปม๊ั หวั ใจ หรอื กระตนุ้ ความดนั หมอก็ไม่พอใจ  ถามว่าถ้าไม่ให้หมอท�ำอะไร  แล้วพาคนไข้มา โรงพยาบาลท�ำไม  ท่ีจริงหลานไม่ได้บอกหมอว่าไม่ให้ท�ำอะไร เลย  แค่ขอให้ไม่ท�ำส่ีอย่างคือ  เจาะคอ  ใส่ท่อ  ปั๊มหัวใจ  ใช้ยา กระตุ้นความดนั แตห่ มอสว่ นใหญ ่ พอเจอแบบนกี้ ไ็ ปไมเ่ ปน็  โดยเฉพาะหมอ ในหอ้ งฉกุ เฉนิ  จงึ เถยี งกบั หลานผปู้ ว่ ย จนกระทง่ั หมอใหญม่ าเหน็ ถามว่าเกิดอะไรข้ึน  พอรู้ว่าหลานต้องการให้หมอช่วยลดอาการ หายใจเหน่ือยหอบของยาย  แต่ไม่เอาเจาะคอ  ใส่ท่อ  หมอบอก ว่าไม่ยาก  แล้วให้มอร์ฟีนแก่ผู้ป่วย  สักพักผู้ป่วยก็หายใจดีข้ึน มอรฟ์ นี มปี ระโยชน ์ ๒ อยา่ ง โดยเฉพาะกบั ผปู้ ว่ ยระยะทา้ ย คอื ๑.  ลดความปวด  ๒.  ลดการหายใจเหนื่อยหอบ  ท�ำให้สามารถ ใช้ชีวิตปกติ  พูดคุยกับใครก็ได้  ไม่ทรมาน  พอหมอให้มอร์ฟีน ผู้ป่วยก็ดีข้ึน  กลับบ้านได้  ในท่ีสุดก็ตายท่ีบ้านอย่างไม่ทรมาน แตถ่ า้ หลานไมย่ นื ยนั กบั หมอ เราคงนกึ ภาพออกเลย ผปู้ ว่ ยคงจะ ต้องอยู่ท่ีโรงพยาบาลยาว  ถูกเจาะคอ  ใส่ท่อ  ถูกมัดมือมัดแขน แลว้ สดุ ทา้ ยกต็ ายทโ่ี รงพยาบาล อนั นคี้ อื ฉากทเ่ี ราเหน็ เปน็ ประจำ� การดูแลภิกษุอาพาธระยะท้าย ทำ� ไมและอย่างไร

ตอนนลี้ ูกหลานจำ� นวนมาก ไม่เขา้ ใจ ไม่มีความรวู้ ่า ถา้ คุณไมย่ ือ้  คุณยังมีทางเลอื กอน่ื ท่จี ะทำ� ได้ ท่ีไม่ใชเ่ ปน็ การนงิ่ เฉย นั่นคอื  การดแู ลแบบประคบั ประคอง นอกจากใชเ้ งนิ นอ้ ยแล้ว ยงั ทำ� ใหค้ นไขส้ ขุ สบาย มนั ไม่ยากอะไรเลย



33 เลือกตายทบี่ ้าน หมอจำ� นวนมากดแู ลแบบประคบั ประคองไมเ่ ปน็  จนกระทง่ั คุณหมอศรีเวียง  ไพโรจน์กุล  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ท่ีตอนน้ี เรียกได้วา่ เป็นผู้เช่ียวชาญท่ีสุดคนหนึ่งเรื่องการดูแลแบบประคับ ประคอง  ได้ริเร่ิมอบรมหมอและพยาบาล  โดยเฉพาะพยาบาล ในภาคอีสาน  ทุกจังหวัด  ทุกอ�ำเภอ  ให้รู้วิธีน้ี  เดี๋ยวนี้คนอีสาน ถา้ ปว่ ยระยะทา้ ยแลว้ ไมต่ อ้ งการไปตายทโ่ี รงพยาบาล หากตอ้ งการ ตายทบ่ี า้ น มโี อกาสตายสมปรารถนา เพราะโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำ� บล (รพ.สต.) หรอื โรงพยาบาลอำ� เภอ จะมาชว่ ยดแู ล มาใหย้ าทีบ่ ้าน พระไพศาล วสิ าโล

34 เดี๋ยวนี้  รพ.สต.  ในภาคอีสานแทบทุกต�ำบลท�ำเป็นแล้ว อย่างชาวบ้านที่ผมเล่า  แกขอตายที่บ้าน  รพ.สต.  ก็มาให้ยา เมอื่ ยาหมด ภรรยากไ็ ปเอายาท ่ี รพ.สต. หรอื โรงพยาบาลอำ� เภอ สบายกวา่ เยอะเลย คนอสี านทกุ ตำ� บล ทกุ อำ� เภอ มสี ทิ ธเ์ิ ลอื กตาย ทบี่ า้ นได ้ เพราะมหี มอมาชว่ ย แตค่ นภาคอนื่  โดยเฉพาะกรงุ เทพฯ หมดสทิ ธ ิ์ ถา้ จะตายทบ่ี า้ นกต็ อ้ งรวย แตถ่ า้ เปน็ คนรวย ลกู หลาน ก็ไม่ยอมให้ตายที่บ้าน  ต้องไปตายโรงพยาบาลเพราะว่ามัน สมฐานะ ถา้ ปลอ่ ยใหต้ ายทบี่ า้ น กจ็ ะถกู คนตำ� หนติ อ่ ว่า วา่ ทำ� ไม ลูกไม่กตัญญู  ปล่อยให้พ่อแม่ตายท่ีบ้านได้ไง  น่ีคือเร่ืองที่พระ ควรจะสนใจ วา่ เราจะชว่ ยใหฆ้ ราวาสตายดไี ดอ้ ย่างไร เราใหค้ �ำแนะนำ� ตามหลกั ท่พี ระพทุ ธเจ้าสอน คอื ๑. น้อมใจให้เขามีศรัทธาในพระรัตนตรัย  หรือน้อมใจให้ เขาระลึกถึงศรทั ธาทเี่ ขามตี อ่ พระรตั นตรยั ๒. ชวนใหเ้ ขาระลกึ ถงึ ความดที เ่ี ขาไดท้ ำ� ทเ่ี รยี กวา่  “อรยิ - กันตศีล”  คือศีลที่ท�ำด้วยจิตบริสุทธิ์  เป็นศีลท่ีพระ อรยิ เจา้ สรรเสรญิ  ไมไ่ ดเ้ ปน็ สลี พั พตปรามาส คอื ไมไ่ ด้ ท�ำด้วยอ�ำนาจของตัณหา กิเลส อุปาทาน หรือมานะ เช่นท�ำบุญ ไม่ใชเ่ พราะอยากรวย อยากให้คนชม แต่ ทำ� บญุ เพราะเหน็ วา่ เปน็ สงิ่ ด ี ชว่ ยลดกเิ ลส และเพราะ ต้องการชว่ ยเหลือผอู้ ่ืน การดูแลภิกษอุ าพาธระยะท้าย ทำ� ไมและอยา่ งไร

35 ๓. ชวนให้เขาปล่อยวางทุกส่ิง  ต้ังแต่ทรัพย์สมบัติ  ลูก เมยี  ผวั  แมจ้ ะไปสวรรคช์ นั้ ไหนกว็ าง สรุปง่ายๆ  มีสองข้อคือ  ๑.  นึกถึงพระ  ๒.  ละทุกส่ิง  พระในทีน่ ี้ รวมถงึ ความดดี ว้ ย นี่คือส่ิงท่ีเราสามารถช่วยญาติโยมได้เม่ือป่วยหนักอยู่ใน ระยะท้าย  ใกล้ตาย  ไม่ใช่ว่าเปิดแต่เทปธรรมะ  พระสวดมนต์ บางคนเขาไม่รู้สึกสนิทใจกับบทสวดมนต์  เขาอาจจะผวาด้วยซ้�ำ พอได้ยินพระสวดมนต์  เขาจะนึกถึงงานศพ  เพราะหลายคน ได้ยนิ เสยี งพระสวดมนต์กเ็ ฉพาะตอนไปงานศพเท่าน้นั เราอาจจะแนะน�ำเขาว่า  นอกจากการดูแลกายแล้ว  ควร ดแู ลใจดว้ ย อนั นค้ี อื สงิ่ ทพี่ ระชว่ ยได ้ เรอื่ งการดแู ลกาย อยา่ ไปใช้ วธิ กี ารทที่ ำ� ใหต้ ายอยา่ งทรมาน หรอื เพมิ่ ความเจบ็ ปวดใหม้ ากขนึ้ เพียงเพราะต้องการยื้อชีวิตให้ยืนยาวขึ้นอีกหน่อย  หลายคน พอถูกยื้อแล้วก็ต้องอยู่ในห้องไอซียู  ลูกหลานเข้าไปเย่ียมได้ ล�ำบาก ไมส่ ามารถบอกความในใจ หรอื ให้กำ� ลงั ใจผ้ปู ่วยได้ พระเองก็ต้องเตรียมตัวด้วยเช่นกัน  เพราะพระก็ต้องตาย ใช่ไหม แล้วเราเลือกตายที่ไหน  พระจ�ำนวนมากไม่เคยคิดว่า เม่ือถึงวันที่เราจะตาย  เราอยากจะตายท่ีไหน  บางคนนึกถึงโรง พยาบาลสงฆ์  เดี๋ยวนี้เราพบว่าพระจ�ำนวนมากไปมรณภาพกัน พระไพศาล วิสาโล

36 ที่โรงพยาบาลมากข้ึน  จนกลายเป็นสูตรส�ำเร็จไปแล้ว  คือถ้า ปว่ ยหนกั  กต็ อ้ งไปโรงพยาบาล แตเ่ ราไมไ่ ดค้ ดิ วา่ ไปโรงพยาบาล แลว้ จะชว่ ยใหต้ ายดีได้หรอื เปลา่ พระเกจอิ าจารยห์ ลายทา่ น พอปว่ ยหนกั ๆ กถ็ กู พาเขา้ โรง พยาบาล ไปยอ้ื กนั ทโ่ี รงพยาบาล แลว้ กม็ รณภาพทนี่ น่ั  หมดเงนิ กันไปหลายสบิ ล้าน โดยเฉพาะโรงพยาบาลศิริราช ไดช้ ่อื ว่าเปน็ “สสุ านพระอรยิ ะ” พระอรยิ เจา้ ไปมรณภาพทโี่ รงพยาบาลศริ ริ าช เยอะมาก โรงพยาบาลจฬุ าฯ พระเกจอิ าจารยก์ ไ็ ปมรณภาพทนี่ น่ั ไมน่ อ้ ย ขนาดทา่ นอาจารยพ์ ทุ ธทาส ซงึ่ บอกชดั เจนวา่ ขอตายทว่ี ดั ถ้าอาการหนัก  ก็ไม่ต้องพาท่านไปโรงพยาบาล  ท่านไม่ต้องการ หอบสงั ขารหนคี วามตาย แตส่ ดุ ทา้ ยทา่ นถกู พาไปอยทู่ โ่ี รงพยาบาล ศริ ิราช นาน ๔๐ วัน โดยไม่ได้เป็นประโยชน์กบั ท่านเลย กลับ สร้างทุกขเวทนาให้แก่ท่าน  ในที่สุดก็ต้องพาท่านขึ้นเครื่องบิน กลบั ไปสวนโมกข์ แล้วก็มรณภาพที่นน่ั ทา่ นอาจารยพ์ ทุ ธทาสพยายามยำ้� เสมอวา่  คนเราถา้ จะตาย ตอ้ งยอมรบั ความตาย ควรมองว่าเมอื่ ใกลต้ ายนนั่ คอื  “นาทที อง  ของชีวิต”  แต่สุดท้าย  กระแสสังคมก็กดดัน  ให้ต้องพาท่านไป โรงพยาบาล  มันเป็นค่านิยม  เป็นสูตรส�ำเร็จไปแล้วว่า  ถ้า ปว่ ยหนกั ตอ้ งไปโรงพยาบาล ยงิ่ เปน็ พระทมี่ คี นเคารพนบั ถอื มาก การไปโรงพยาบาลจงึ จะสมแก่ฐานะ การดแู ลภกิ ษอุ าพาธระยะทา้ ย ท�ำไมและอยา่ งไร

37 ปัญหาอีกข้อหน่ึงที่ท�ำให้พระจ�ำนวนมากไปมรณภาพที่ โรงพยาบาล  ก็คือ  วัดเองก็ไม่มีก�ำลังท่ีจะดูแลพระท่ีป่วยระยะ ท้าย  นี้เป็นปัญหาเดียวกับที่เกิดกับครอบครัวจ�ำนวนมากใน เมืองไทย  โดยเฉพาะในเมือง  เวลาคนในบ้านป่วยหนัก  ญาติก็ ตอ้ งพาไปทโ่ี รงพยาบาล แมผ้ ปู้ ว่ ยขอตายทบี่ า้ น แตส่ ดุ ทา้ ยกต็ อ้ ง ไปตายโรงพยาบาล เพราะอะไร เพราะคนในบา้ นไมม่ กี ำ� ลงั ดแู ล เนอ่ื งจากเปน็ ครอบครวั เล็ก อยกู่ ันไม่กค่ี น อย่าว่าแต่คนป่วยเลย  แม้กระทั่งเวลามีเด็กอ่อนในบ้าน หลายบา้ นกม็ ปี ญั หา ไมม่ ปี ญั ญาเลยี้ ง ตอ้ งสง่ เดก็ ไปเขา้ เนอสเซอร่ี แต่ก่อนมีแค่เนอสเซอร่ีกับโรงเรียนอนุบาล  ตอนหลังมีก่อน เนอสเซอร่ีอกี  เรยี กวา่  พรเี นอสเซอร ี่ เพราะพอ่ แมไ่ มม่ เี วลาดแู ล ลกู  เนอ่ื งจากครอบครวั เลก็  มกี นั แคส่ ามคน ไมม่ ปี ยู่ า่  ไมม่ ตี ายาย ไม่มีพ่ี  ป้า  น้า  อา  สมัยก่อนมีพ่ี  ป้า  น้า  อา  ปู่  ย่า  ตา  ยาย พอเด็กคลอดมาก็ช่วยกันเลี้ยง  แต่เดี๋ยวน้ีไม่มีคนช่วยดูแลแล้ว พ่อแม่ก็ต้องไปท�ำงาน  คนงานหรือพี่เลี้ยงก็ไม่มีหรือหายาก ขนาดเด็กอ่อน  ยังมีปัญหาอย่างนี้  ไม่ต้องพูดถึงคนป่วย  ซ่ึง ต้องการการดูแลยิ่งกว่าเด็กทารก  ครอบครัวส่วนใหญ่จึงไม่มี ปัญญาดูแล  พ่อแม่ที่ป่วย  ท้ังๆ  ที่พ่อแม่บอก  “ขอตายท่ีบ้าน” ลกู กส็ ่งไปโรงพยาบาล จนไปตายท่โี รงพยาบาล ซงึ่ ทรมานมาก พระไพศาล วิสาโล

38 วัดก็มีปัญหาเหมือนกัน  วัดควรจะเป็นสถานท่ีรองรับดูแล พระป่วย  ช่วยกันดูแลจนสิ้นลม  แต่เดี๋ยวน้ีพอพระป่วยหนักๆ ก็ต้องพาไปโรงพยาบาล  ส่วนหน่ึงเป็นเพราะมีความเชื่อว่าไป โรงพยาบาลแล้วอาจมีโอกาสรอด  เป็นความหวัง  แต่อีกเหตุผล หน่ึงก็คือ  วัดหลายวัดไม่มีปัญญาดูแลพระป่วย  พระชรา โดยเฉพาะถ้าป่วยแบบอัมพฤกษ์  อัมพาต  หรือติดเตียง  แม้เป็น เจา้ อาวาส พระลกู วัดกด็ แู ลไมไ่ หว หรอื ไม่สนใจดแู ลดว้ ยซ้ำ� ผมเคยไปโรงพยาบาลแถวเพชรบุรี  ไปเจอผู้ป่วยซ่ึงเป็น เจ้าอาวาส  เป็นเจ้าคุณชั้นราช  ท่านเป็นอัมพฤกษ์  เส้นเลือด ในสมองแตก  พูดไม่ค่อยได้  ผู้ดูแลแทนท่ีจะเป็นพระ  กลับเป็น ฆราวาสท่ีเป็นหลาน  ท�ำไมไม่มีพระลูกวัดมาดูแลเลย  ก็เพราะ พระไม่สนใจ  พอเจ้าอาวาสหมดอ�ำนาจในการให้คุณให้โทษ ก็ไม่มีใครสนใจแล้ว แสดงให้เห็นวา่ ความสัมพันธ์ในวัดไม่ค่อยดี เท่าไร  หลายวัดมีการแย่งชิงอ�ำนาจ  มีการแบ่งเป็นก๊กเป็นฝ่าย พอเจ้าอาวาสหมดสภาพ  ก็ต้องส่งโรงพยาบาลสถานเดียว  อยู่ เปน็ ปๆี  พระลกู วดั กไ็ มม่ าเยย่ี มหรอื มาดแู ล นบั วนั จะมกี รณแี บบน้ี เกิดขึ้นเรื่อยๆ  ถามว่านอกจากไปมรณภาพที่โรงพยาบาล พระเราสามารถมรณภาพทวี่ ดั ไดไ้ หม เราควรจะมที างเลอื กแบบนี้ ใหก้ บั พระไหม การดแู ลภิกษอุ าพาธระยะท้าย ทำ� ไมและอย่างไร

บรรยากาศของโรงพยาบาล ไม่คอ่ ยเออื้ สำ� หรบั พระเท่าใด  เพราะเขาปฏบิ ตั กิ บั พระ เหมือนกบั ผู้ปว่ ยทวั่ ไป ไมส่ ามารถดแู ลพระ ให้ถูกต้องตามพระวนิ ัย



41 พระสงฆ์ระยะทา้ ย ท�ำอย่างไรสงฆ์ในวัดจึงจะกลับมาใส่ใจพระที่อาพาธ ดแู ลทา่ นตงั้ แตป่ ว่ ยจนระยะทา้ ย จนกระทงั่ มรณภาพ ถา้ ทา่ นอยาก ตายทวี่ ดั  ทา่ นกไ็ ดต้ ายทว่ี ดั สมใจ เพราะมเี พอ่ื นพระชว่ ยกนั ดแู ล จนส้ินลม  แต่วัดที่จะท�ำได้แบบน้ีมีน้อยลงไปเรื่อยๆ  ถ้าท่าน ไม่สามารถตายที่วัดท่านได้  เพราะวัดไม่มีก�ำลังดูแล  ขณะ เดียวกัน  ท่านก็ไม่ปรารถนาจะไปตายท่ีโรงพยาบาล  ก็ควรมี สถานท่ีรองรับให้ท่านได้อยู่จนถึงวาระสุดท้าย  อย่าไปหวังโรง พยาบาลสงฆ์  เพราะโรงพยาบาลสงฆ์ก็ไม่ใช่ทางเลือกท่ีดี ในเวลานี้ พระไพศาล วิสาโล

42 พระเราควรช่วยกันท�ำให้มีสถานที่ดูแลพระอาพาธ โดยเฉพาะในระยะทา้ ย และชว่ ยใหท้ า่ นจากไปอยา่ งสงบ ผมคดิ ว่านี้เป็นเรื่องที่พระเราควรถือเป็นหน้าท่ี  เป็นภารกิจอย่างหนึ่ง ของเรา  ถ้าเราสามารถท�ำให้วัดของเราเป็นท่ีที่พระทุกรูป สามารถฝากชีวิตได้  จนกระทั่งวาระท้าย ย่ิงดีใหญ่เลย ขณะ เดียวกันก็ต้องพยายามสนับสนุนให้มีสถานท่ีที่จะดูแลพระ ท่ีอาพาธระยะท้าย  เพ่ือให้ท่านจากไปอย่างสงบได้  ผมเช่ือว่า ญาติโยมจะอุปถัมภ์  สนับสนุนเยอะ  ถ้าจะขาด  ก็คงขาดคน ซ่ึงถา้ มีการอบรม มีการกระตนุ้  น่าจะมคี นมาช่วยกนั ดแู ล ทางฝ่ายฆราวาสเขาไปไกลแล้ว  เรื่องการดูแลผู้ป่วย ระยะท้าย  มีเครือข่ายจัดหาอุปกรณ์เพื่อช่วยผู้ป่วยระยะท้าย ที่ประสงค์จะตายท่ีบ้าน  ไม่ว่าเตียง  ยา  มีเครือข่ายจิตอาสา มีหมอ  มีพยาบาล  ที่ตื่นตัวเรื่องน้ี  แต่ทางฝ่ายพระ  ยังไม่ค่อย มีการคิดเร่ืองนี้จริงจัง  ผมว่าตอนนี้ควรจะคิดกันได้แล้ว  ช่วยกัน สรา้ งสถานท่ีรองรบั พระสงฆท์ ีอ่ าพาธระยะท้าย ใหท้ า่ นสามารถ ตายสงบได้  มีบรรยากาศท่ีช่วยให้ท่านได้น้อมระลึกนึกถึง พระรัตนตรัย  และสามารถบ�ำเพ็ญภาวนาในขณะท่ีเจ็บป่วย ประเดน็ นเ้ี ราต้องยอมรับว่า บรรยากาศของโรงพยาบาลไม่ค่อย เอ้ือส�ำหรับพระเท่าใด  เพราะเขาปฏิบัติกับพระเหมือนกับ ผปู้ ่วยทั่วไป ไม่สามารถดแู ลพระให้ถกู ต้องตามพระวินัย การดแู ลภกิ ษุอาพาธระยะท้าย ท�ำไมและอย่างไร

43 การมีสถานท่ีให้พระสงฆ์ระยะทา้ ยได้มีโอกาสระลึกนึกถึง พระรตั นตรยั  นอ้ มจติ บำ� เพญ็ ภาวนา เปน็ สง่ิ ทคี่ วรมนี านแลว้  แต่ น่าเสียดาย  ท่ีมหาเถรสมาคมไม่กระตือรือร้นเร่ืองน้ี  อาจจะคิด วา่ มีโรงพยาบาลอยูแ่ ล้ว แตไ่ มไ่ ด้คดิ วา่  โรงพยาบาลไม่ค่อยเออื้ ให้พระได้ด�ำรงวิถีสมณะจนถึงวาระสุดท้ายอย่างสอดคล้องกับ คำ� สอนของพระพทุ ธองค ์ นน่ั คอื พรอ้ มเผชญิ ความตายดว้ ยใจสงบ ไม่ประสงค์จะย้ือชีวิต  หรือหนีความตาย  สถานที่นั้นควรจะมี สิ่งแวดล้อมท่ีช่วยน้อมใจให้สงบ  พร้อมปล่อยวางทุกส่ิง  พร้อม เอาความตายเป็นครู  ถือว่าความตายเป็นนาทีทองที่จะช่วยให้ จิตยกระดับสู่ภูมิธรรมขั้นสูง  อันนี้คือความตายท่ีถูกต้องตาม หลักพระพทุ ธศาสนา แต่ตอนนี้ยังไม่มีสถานท่ีที่ท�ำให้การตายแบบนี้เกิดข้ึนได้ จริง  หรือเป็นไปได้ส�ำหรับทุกคน  ฉะน้ันการจัดสถานท่ีให้ผู้ป่วย ไมว่ า่ พระหรอื ฆราวาส สามารถเผชญิ กบั ความตายดว้ ยใจสงบเปน็ เร่ืองส�ำคัญมาก  ผมขอฝากประเด็นเอาไว้ตรงนี้  เพื่อท่ีจะได้ พูดคุยกันในรายละเอียดตอ่ ไป พระไพศาล วสิ าโล



45 ถาม - ตอบ   ปญั หาทพี่ ระอาจารยพ์ ดู เมอื่ สกั คร ู่ เรอ่ื งการชว่ ย ทั้งผ่าตัดหรือการปั๊มหัวใจแล้วไม่คุ้มเท่าที่ควร  โดยเฉพาะผู้ที่ ป่วยหนักๆ  ปัญหาท่ีลูกหลานหรือผู้ดูแลมักจะรู้สึกอึดอัดใจก็คือ เราไม่รู้ว่าท่านจะอยู่ได้นานอีกเท่าไร  และมักจะมีค�ำโน้มน้าวมา จากฝั่งของการแพทย์  ท�ำให้ลูกหลานล�ำบากใจท่ีจะปฏิเสธ พระอาจารยม์ คี ำ� แนะนำ� ไหมครบั  วา่ เราควรจะแนะนำ� ใหล้ กู หลาน เขามองอย่างไร  คิดอย่างไร  ให้เขารู้สึกสบายใจว่า  อย่างไร ผู้ป่วยหนักก็ต้องตาย  และก็ไม่ได้ตายเพราะว่าเขาไม่อนุญาตให้ ผ่าตัด เราจะคยุ กบั เขาแง่ไหนครบั พระไพศาล วิสาโล

46   อย่างท่ีผมบอกไปแล้วว่าการปฏิเสธการรักษา ควรท�ำกับผู้ป่วยท่ีอยู่ในระยะท้าย  เพราะว่าผู้ป่วยระยะท้าย ความหมายกค็ อื  ตายแน ่ และการยอ้ื ชวี ติ มแี ตท่ ำ� ใหเ้ กดิ ความทกุ ข์ ทรมานมากข้ึน วิธีการที่ใช้  ควรเป็นไปเพื่อบรรเทาความเจ็บ ความปวด  ช่วยให้เขาอยู่สุขสบาย  ส่วนค�ำถามว่า  ผู้ป่วยอยู่ใน ระยะทา้ ยหรอื ยงั  หมอจะเปน็ คนใหค้ ำ� ตอบไดด้ ที ส่ี ดุ  ถ้าเราทราบ ว่าผู้ป่วยอยู่ในระยะท้าย  เราก็อาจจะบอกหมอว่าไม่ต้องยื้อ ชว่ ยทำ� ใหเ้ ขาสขุ สบายมากทสี่ ดุ  ลดความทกุ ขท์ รมาน มคี ณุ ภาพ ชีวติ ทดี่ ีเท่าที่จะเป็นไปไดก้ อ่ นสน้ิ ลม ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน  ผู้ป่วยระยะท้ายมักจะโดนยื้อ เพราะเป็นช่องทางท�ำรายได้ที่ส�ำคัญของโรงพยาบาลเอกชน แตถ่ า้ เปน็ โรงพยาบาลรฐั  ถา้ ไมใ่ ชก่ รณซี บั ซอ้ น ไมใ่ ชก่ รณแี ปลกๆ ทม่ี คี ณุ คา่ ทางการวจิ ยั  หรอื ทางการสอนในโรงเรยี นแพทย ์ เขาก็ จะไม่ยื้อ  เพราะว่าเตียงตอนนี้มีน้อยมาก  แต่คนที่อยากให้ย้ือ คือลูกหลาน  เพราะลูกหลานคิดว่า  น่ีคือวิธีเดียว  ท่ีจะแสดง ความกตัญญูต่อพ่อแม่  เป็นความไม่รู้ของลูกหลานที่คิดว่า เมอื่ พอ่ แมอ่ ยใู่ นระยะทา้ ย สงิ่ เดยี วทท่ี ำ� ไดแ้ ละควรทำ� กค็ อื การยอื้ ถ้าคุณไมย่ ื้อ แสดงวา่ คณุ ไมก่ ตัญญู อันน้เี ปน็ ความเขา้ ใจที่ผิด มที างเลอื กทสี่ าม นอกจากยอื้ กบั หยดุ  หรอื ไมท่ ำ� อะไรเลย อันนี้เป็นทางสุดโต่งสองทาง  ย้ือก็สุดโต่ง  ไม่ท�ำอะไรเลยก็ การดแู ลภิกษอุ าพาธระยะท้าย ท�ำไมและอยา่ งไร

47 สุดโต่ง  ทางเลือกที่สาม  ซึ่งเป็นทางสายกลาง  คือการดูแลแบบ  ประคับประคอง  ซ่ึงเน้นการลดความทุกข์ทรมาน  และช่วยให้ สุขสบายมากที่สุด  เช่น  ถ้าเขาหายใจเหน่ือยหอบก็ช่วยให้เขา กลับมาหายใจดีข้ึน  ถ้าเขาไม่กินอาหารก็ไม่ยัดเยียด  เขาอยาก ทำ� อะไรในขณะทย่ี งั มเี วลาเหลอื อย ู่ กช็ ว่ ยใหเ้ ขาไดท้ ำ� สมปรารถนา จะไดไ้ มม่ ีหว่ ง ตอนนลี้ กู หลานจำ� นวนมากไมเ่ ขา้ ใจ ไมม่ คี วามรวู้ า่  ถา้ คณุ ไม่ยื้อ คุณยังมีทางเลือกอ่ืนที่จะท�ำได้  ท่ีไม่ใช่เป็นการนิ่งเฉย นน่ั คอื การดแู ลแบบประคบั ประคอง นอกจากใชเ้ งนิ นอ้ ยแลว้  ยงั ท�ำให้คนไข้สุขสบาย  มันไม่ยากอะไรเลย  เพียงแต่เราไม่รู้  เรา คิดว่าต้องท�ำทุกอย่างให้กับผู้ป่วย  ส่วนหน่ึง  เกิดจากความไม่รู้ ส่วนหน่ึง  เกิดจากการยอมรับความตายของผู้ป่วยไม่ได้  เช่น พ่อแม่ไม่กินอาหารแล้ว  ก็ทนไม่ได้  อันที่จริง  การไม่กินอาหาร มันเป็นอาการธรรมดาของผู้ป่วยระยะท้าย  แต่ลูกก็ไปยัดเยียด ใหเ้ ขากนิ  พอเขาไมก่ นิ อาหาร กใ็ หน้ ำ้� เกลอื  พอใหน้ ำ�้ เกลอื เปน็ ไง ตัวบวม  ตัวบวมเพราะไตวาย  ไม่สามารถขจัดน�้ำออกไปจาก ร่างกายได้  พอตัวบวมก็ต้องเอาเข็มแทงเพื่อระบายน�้ำออก ผปู้ ว่ ยกเ็ จบ็ อย่างกรณีคุณยายอายุ  ๑๐๔  ปี  พอไม่กินอาหาร  หลาน ก็พาไปโรงพยาบาล  ให้น้�ำเกลือ  พอให้น�้ำเกลือก็ติดเชื้อ  พอ พระไพศาล วสิ าโล

48 ติดเช้ือก็เป็นเร่ืองใหญ่  บางรายไม่กินอาหาร  หมอก็ให้อาหาร ทางสายยาง  อาหารพออยู่ในท้องก็อืดเพราะไม่ย่อย  ก็ต้องดูด ออก  ดูดเสร็จก็ใส่อาหารเข้าไปใหม่  ผู้ป่วยเจ็บตัว  ทรมานมาก น่ีคือวิธีการที่ผิด  แต่ลูกหลานก็ยอมให้ท�ำแบบน้ี  เพราะคิดว่า น่ีคือการแสดงความกตัญญู  แต่ถ้าคุณรู้ว่าคนไข้ระยะท้าย รา่ งกายเขาไมร่ บั อาหารแลว้  มนั เปน็ ธรรมดาของรา่ งกาย เพราะ ร่างกายของเขาก�ำลังปิดสวิตช์ทีละอย่าง  ทีละระบบ  เน่ืองจาก พลังงานเหลือน้อยแล้ว  จึงต้องการเก็บพลังงานให้กับสมอง อยา่ งเดยี ว เพราะสมองคมุ อวยั วะทจี่ ำ� เปน็ ตอ่ การอยรู่ อด รา่ งกาย พยายามอยรู่ อดใหน้ านทสี่ ดุ  เมอื่ รา่ งกายมพี ลงั งานเหลอื นอ้ ยแลว้ มนั กจ็ ะปดิ สวติ ชท์ ลี ะระบบ เพอ่ื ใหส้ มองอยไู่ ดน้ านทส่ี ดุ  เปน็ เหตุ ใหไ้ ม่อยากกินอาหาร แตเ่ มอ่ื ญาตไิ มร่ วู้ า่ ธรรมชาตขิ องผปู้ ว่ ยระยะทา้ ยเปน็ อยา่ งไร จึงฝืนธรรมชาติน้ัน  คนป่วยก็เลยทรมาน  และญาติก็ไม่รู้ว่ามี วิธีการอ่ืนที่ดีกว่าการย้ือ  อย่าว่าแต่ญาติเลย  บางทีหมอก็ไม่รู้ อย่างที่ผมยกตัวอย่าง  ถ้าญาติรู้  เขาจะไม่ยื้อ  เขาจะพยายาม หาว่า  มีวิธีการดูแลแบบใด  ท่ีจะช่วยพ่อแม่ตายสงบ  ไม่ใช่ ดูแลกาย แต่ดแู ลใจด้วย คุณหมอสุมาลี  นิมมานนิตย์  เป็นผู้เช่ียวชาญโรคไตท่ี โรงพยาบาลศิริราช  ท่านเสียชีวิตไปแล้วหลายปี  ท่านเคยเล่าว่า การดูแลภิกษุอาพาธระยะทา้ ย ท�ำไมและอย่างไร

49 วันหน่ึงมีคนไข้ใหม่อายุ  ๗๐  กว่า  ไตวายเฉียบพลัน  อวัยวะ อยา่ งอนื่ กแ็ ยด่ ว้ ย ไมร่ สู้ กึ ตวั แลว้  พยาบาลมาบอกกบั คณุ หมอวา่ ลูกสาวเขาบอกว่าให้ท�ำเต็มท่ี  ท�ำทุกอย่าง  ถ้าไตวายให้ล้าง ถ้าหัวใจหยุดเต้นให้ปั๊ม  พยาบาลรู้สึกว่ากรณีนี้ไม่สู้ดี  จึงมาเล่า ให้คุณหมอฟัง  คุณหมอจึงขอคุยกับลูก  แล้วก็อธิบายว่า  กรณี ของแม่  การล้างไตไม่มีประโยชน์  แถมจะเป็นอันตรายกับคนไข้ เพราะว่าอวัยวะอ่ืนแย่หมดแล้ว  ถ้าล้างไตคนไข้จะทุกข์ทรมาน มากขึ้น และตายเรว็ ขน้ึ พออธิบายเร่ืองการแพทย์เสร็จ  ท่านก็อธิบายเพิ่มเติมว่า คุณจะเช่ือเรื่อง  “จิตสุดท้าย”  หรือไม่ก็ตาม  แต่ตอนน้ีสิ่งที่แม่ ต้องการ  ก็คือความสงบใจ  ลูกควรพยายามคุยเร่ืองท่ีท�ำให้แม่ มีความสุข  มีความสงบ  พูดถึงสิ่งดีๆ  ที่แม่เคยท�ำ  บุญกุศลท่ีแม่ เคยบ�ำเพ็ญ  แล้วถ้าแม่ใจสงบจนถึงจิตสุดท้าย  แม่จะไปดี พอคุณหมอพูดจบ  ลูกตาเป็นประกายเลย  เพราะไม่เคยได้ยิน เร่ืองราวมาก่อน  จากน้ันขอตัวไปหาแม่  แล้วก็คงท�ำตามท่ี คณุ หมอแนะนำ�  และคงเหน็ แมม่ อี าการตอบสนองทดี่ ขี นึ้  เพราะ พอออกมาจากหอ้ ง ลกู กบ็ อกพยาบาลวา่  เขา้ ใจแลว้ ทค่ี ณุ หมอพดู ถา้ แม่เปน็ อะไร ไมต่ ้องป๊มั แลว้ ญาติไม่เคยรู้ว่า  มันมีวิธีการช่วยเหลือแบบนี้  เขาคิดแต่ เพยี งวา่ ถา้ ปว่ ยกร็ กั ษา ทำ� เตม็ ท ี่ ถา้ หวั ใจหยดุ เตน้ กป็ ม๊ั  ถ้าไตวาย พระไพศาล วสิ าโล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook