Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Pusaralok

Pusaralok

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-03-08 07:35:43

Description: Pusaralok

Search

Read the Text Version

วศนิ อินทสระ 401 พระบรมศาสดาของเราทั้งหลาย และพระมหาสาวกม ี พระสารีบุตร เป็นต้น ก็เป็นเช่นน้ำทะเล ท่านเป็นผู้บริสุทธ์ิแล้ว ฝึกตนได้แล้ว อาศัยความกรุณาฝึกผู้อื่นด้วย เหมือนน้ำสะอาด ช่วยชำระลา้ งสงิ่ โสโครกทง้ั หลายใหห้ มดมลทินฉะนั้น บุคคลผู้หมกมุ่นอยู่ในโลก จมอยู่ในโลกยากท่ีจะทำประโยชน์ แก่โลกได้ เพราะพวกเขามีความเห็นแก่ตัวอย่างเหนียวแน่น เพ่ง มองแต่ประโยชน์และความสุขของตัวเอง เรียกว่า ‘เห็นแต่ตัว’ ไม่เห็นผู้อ่ืน หรือเห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ผู้อื่น อะไรท่ีเป็นประโยชน์ แก่ตัว แม้รู้ว่าชั่วก็ยังพอใจทำ ส่วนที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นน้ัน แม้ รู้ว่าดีก็ไม่อยากทำ คนท่ีหมกมุ่นอยู่กับโลก จึงไม่ค่อยรู้จักความ เสียสละที่แท้จริง รู้จักแต่ความเสียสละแบบเก่ียวเหย่ือตกปลา จึง ไม่ค่อยได้ความสุขใจในการทำความดีหรือในการเสียสละน้ัน บางคน เป็นเพราะไม่ได้ศึกษาเรียนรู้ในเร่ืองความดี บางคนเป็นเพราะม ี อาสวะหนาแน่นเกินไป ทั้งน้ีเพราะมิได้สดับธรรมของพระอริยะ ใจ จึงมืดมนไรป้ ัญญาจกั ษุ ภราดา! จะมีภารกิจใดเลา่ ประเสรฐิ กว่าการสอนธรรม เพราะ การสอนธรรมเป็นการให้ปัญญาจักษุแก่มนุษย์ ผู้ได้ปัญญาช่ือว่าได้ ทุกอย่างท้ังมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ อันเป็น เครือ่ งระงับดบั ทกุ ขท์ ้ังปวง เป็นการปลดเปล้อื งภาระอันหนักที่ตดิ ตาม มนุษยม์ าตลอดสงั สารวฏั อันยาวนาน แต่ผู้สอนธรรมนั้น ต้องไม่เพียงแต่สอนจากริมฝีปาก ต้องให้ ธรรมนั้นออกจากใจของตน ให้บานออกมาจากข้างใน - ออกมาจาก ความรูส้ กึ อนั แทจ้ ริงของตน

402 ไปเถดิ ภราดา ! ไปตกี ลองธรรม (ธรรมเภรี) ใหผ้ ู้มีโสตได้ยนิ ไปส่องประทีปธรรมในท่ีมืด คือโลกอันมืดอยู่ด้วยโมหะนี้ เพื่อผู้มี ปัญญาจักษุจักได้มองเห็นความจริง ภราดา ! ท่านเป็นผู้ถอนตนข้ึน จากโลกแล้ว คือมีใจไม่พัวพันด้วยโลก จึงเป็นผู้สมควรบำเพ็ญ ประโยชน์แก่โลก เพราะผู้จะสามารถบำเพ็ญประโยชน์แก่โลกได้ แท้จรงิ กค็ อื ผู้สละโลกนั่นเอง หาใช่ผจู้ มอยู่ในโลกไม”่ ภิกษุปูนมัชฌิมวัยชื่นชมต่อภาษิตของภิกษุชรา ลุกขึ้นอภิวาท ด้วยความเคารพ ขณะที่นั่งกระโหย่งประนมมืออยู่นั่นเอง กล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ ! ภาษิตของท่านน่าช่ืนชม ภาษิตของท่าน แจ่มแจ้งย่ิงนัก ข้าพเจ้าขอจำภาษิตของท่านไว้เป็นแนวทางดำเนิน ชวี ิต ทั้งเพ่อื ตนและเพื่อผอู้ ่นื ตลอดไป” ทินกรลับขอบฟ้าไปแล้ว เสมือนม่านดำธรรมชาติถูกดึงลง ยังความมืดให้แผ่ปกคลุมอยู่ท่ัวไป แต่ดวงใจของภิกษุทั้งสองคง สวา่ งสดใสดว้ ยแสงสว่าง คือปัญญา อนั ไม่มีแสงสว่างอ่นื ย่งิ กว่า.



404 ประวัติโดยสงั เขปของ วศนิ อินทสระ ชาตภิ ูม ิ เกิดท่ีหมู่บ้านท่าศาลา อำเภอรัตตภูมิ  จังหวัดสงขลา  เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน  พ.ศ.๒๔๗๗  เม่ือจำความได้  พ่อแม่ย้ายไปอยู่ท่ีหมู่บ้าน ตากแดด  ตำบลปากรอ  อำเภอเมือง  จังหวดั สงขลา การบรรพชาอปุ สมบท บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ  ๑๔  ปี  ท่ีวัดบุปผาราม  เขต ธนบุรี กรุงเทพฯ เม่ือ พ.ศ.๒๔๙๐ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เม่ือ พ.ศ.๒๔๙๗ และได้ลาสิกขา(สึก)เม่ือวันที่  ๒๔  มกราคม พ.ศ.๒๕๐๗ การศึกษา - มธั ยม  ๘  (สมัครสอบ) - นักธรรมเอก - เปรียญธรรม  ๗  ประโยค  (ป.ธ.  ๗) - ศาสนศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย - ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต  สาขาปรัชญา  จากมหาวิทยาลัยบานารัส   ประเทศอนิ เดีย  - ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  สาขาพุทธศาสตร์ จาก มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั

วศนิ อนิ ทสระ 405 หนา้ ที่การงาน สอนวชิ าศลี ธรรม - ท่โี รงเรยี นราชิน ี - ที่โรงเรียนพาณชิ ยการสีลม (ดำรงตำแหนง่ อาจารยผ์ ปู้ กครอง) - ที่โรงเรียนเตรียมทหาร  และดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกสารบัญ มยี ศเปน็ รอ้ ยโท สอนวิชาพทุ ธปรัชญาเถรวาท - มหายาน  ที่มหาวิทยาลยั รามคำแหง ประมาณ ๑๒ ป ี ต้งั แต่ พ.ศ.๒๕๒๑  ถงึ   พ.ศ.๒๕๓๓ สอนวิชาพุทธศาสนาในประเทศไทย  และวิชาจริยศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ประมาณ ๑๐ ปี  ตั้งแต่  พ.ศ.๒๕๓๓ ถึง พ.ศ.๒๕๔๓ สอนเกี่ยวกับศาสนาและปรัชญา  ท่ีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราช- วทิ ยาลยั   ต้งแต ่ พ.ศ.๒๕๐๖  ถึง  พ.ศ.๒๕๕๒  (เปน็ ระยะเวลา ๔๖ ปี เต็ม) สอนพิเศษวันอาทิตย์เก่ียวกับความรู้ทางพระพุทธศาสนาแก่ ประชาชนท่ัวไป  ท่ีมหาวิทยาลัยมหามกุฏฯ (วัดบวรนิเวศวิหาร) ต้ังแต่ พ.ศ.๒๕๒๕  ถึง  พ.ศ.๒๕๕๓  (เปน็ ระยะเวลา  ๒๘  ปีเต็ม) บรรยายพเิ ศษ  ณ  สถานท่ีต่างๆ  ตามทไ่ี ด้รับเชญิ บรรยายธรรมออกอากาศทางสถานีวิทยุ  (โดยเป็นรายการสดบ้าง ใช้เทปบันทึกเสียงบ้าง)  ตั้งแต่  พ.ศ.๒๕๓๙  ถึง  พ.ศ.๒๕๕๐  (เป็น ระยะเวลา  ๑๑  ปีเต็ม)

406 การประพนั ธ ์ เขียนหนังสือประเภทต่างๆ  เช่น  นวนิยายอิงหลักธรรม อธิบาย หลักธรรม  ฯลฯ  ตั้งแต่  พ.ศ.๒๕๐๖  มาจนถึงปัจจุบันมีผลงาน ประมาณ ๒๐๐  กว่าช่ือเร่ือง  บางชื่อเรื่องก็มีหลายเล่ม เช่น ทางแห่ง ความด ี เปน็ ต้น  ผลงานหนังสือท่ีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย  คือ “พระ อานนท์  พุทธอนุชา”  หนังสือเล่มนี้ได้รับการสดุดีไว้ในสารานุกรม วรรณกรรมโลกในศตวรรษท่ี  ๒๐  (Encyclopedia  of World Literature  in  the  20  th  Century)  งานนิตยสาร เป็นบรรณาธิการนิตยสาร  “ธรรมจักษุ”  ของมูลนิธิมหามกุฏ- ราชวิทยาลยั   ต้งั แตป่  ี พ.ศ.๒๕๒๙  ถึง  พ.ศ.๒๕๓๙ เป็นบรรณาธิการนิตยสาร  “ศุภมิตร”  ของมูลนิธิส่งเสริมกิจการ ศาสนาและมนุษยธรรม  (กศม.)  ของวัดมกุฏกษัตริยาราม ต้ังแต่ ปี พ.ศ.๒๕๓๔  ถงึ   พ.ศ.๒๕๕๑ 

วศนิ อินทสระ 407 รางวัลทีไ่ ดร้ ับ ปี  พ.ศ.๒๕๑๗  ได้รับโล่รางวัลชมเชย  ประเภทสารคดีจากคณะ กรรมการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ  จากหนังสือเร่ือง “จริยาบถ” และในปี พ.ศ.๒๕๑๘ จากหนังสอื เรื่อง “จรยิ ศาสตร์” ปี  พ.ศ.๒๕๒๕  ได้รับรางวัลพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรใน ฐานะ “ผ้บู ำเพญ็ คณุ ประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา  ประเภทวรรณกรรม” เนอ่ื งในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร ์ ๒๐๐  ปี ปี  พ.ศ.๒๕๓๓  ได้รับเกียรติคุณบัตร  รางวัลชมเชย  ประเภท สร้างสรรค์ด้านศาสนา จากกระทรวงศึกษาธิการ จากบทความเร่ือง “หลักกรรมกับการพงึ่ ตนเอง”  ๒๒  เมษายน  พ.ศ.๒๕๕๒ ได้รบั โล่พุทธคุณปู การ ระดับกาญจน- เกียรติคุณ  พร้อมเกียรติบัตร  ในฐานะ  “ผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์แก่ พระพุทธศาสนา” จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวง วัฒนธรรม ๒๙  กรกฎาคม  พ.ศ.๒๕๕๓  ได้รับรางวัล  “ปูชนียบุคคลด้าน ภาษาไทย”  เนอื่ งในวันภาษาไทยแห่งชาติ  ประจำป ี พ.ศ.๒๕๕๓ จาก สำนกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาติ กระทรวงวฒั นธรรม.

สัพพทานงั ธมั มทานงั ชินาติ การใหธ้ รรมะเปน็ ทาน ย่อมชนะการใหท้ ้งั ปวง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook