เช่น หลักธรรมเป็นหลักของพุทธศาสนา การท�ำอะไร ตอ้ งไมข่ ดั กบั หลกั ธรรม ถา้ ขดั กบั หลกั ธรรมกต็ อ้ งถอื วา่ ไมป่ ฏบิ ตั ิ ธรรมนอ้ ยคลอ้ ยตามธรรมใหญ ่ เช่น พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั วา่ ฤกษด์ ี ยามด ี ขณะด ี อยทู่ ส่ี จุ รติ กาย วาจา ใจ เราบอกจะยา้ ยทที่ �ำงาน ดฤู กษเ์ สยี หนอ่ ย เรยี กวา่ ขัดกับหลักกรรม หรือว่าทำ� ดีตอนเช้า เช้านั้นก็เป็นฤกษ์ดี ทำ� ดี ตอนบ่าย บ่ายนั้นก็เป็นฤกษ์ดี น่ีหลักของพระพุทธเจ้า ถ้าเรา ไม่ถืออันน้ี ไปดูฤกษ์ดูยามในการท�ำอะไร ก็ไม่ถูก หรือถ้าไป บนบานศาลกล่าว ก็ถือว่าขัดกบั หลกั ใหญแ่ ลว้ 100 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
อสาตํ สาตรเู ปน ปยิ รูเปน อปปฺ ยิ ํ ทกุ ขฺ ํ สขุ สสฺ รเู ปน ปมตตฺ มติวตฺตต.ิ สิ่งทีไ่ มน่ า่ ยินดยี อ่ มครอบง�ำคนประมาท ดว้ ยรปู ลักษณ์ว่าเป็นสิง่ ทน่ี า่ ยนิ ดี ส่งิ ท่ีไม่นา่ รกั ย่อมครอบงำ� คนประมาท ดว้ ยรปู ลกั ษณว์ า่ เปน็ ส่ิงท่นี ่ารกั ทุกข์ยอ่ มครอบง�ำคนประมาท ด้วยรปู ลกั ษณว์ า่ เป็นสุข (ขุ.ชา. ๒๗/๑๐๐ อสาตรูปชาดก)
๑๒ อัปปคัพโภ เปน็ ผูไ้ ม่คะนองกาย วาจา มีจิตสงบ เม่ือจิตสงบ กายวาจาก็พลอยสงบไปด้วยตามธรรมชาติ จิตเป็นส่ิงท่ีสงบยากกว่ากาย วาจา เราจึงสอนเรื่องศีลก่อน ให ้ กายวาจาสงบ เอาจากขา้ งนอกมากอ่ น แลว้ กไ็ ปสอนเรอ่ื งสมาธิ ใหจ้ ิตสงบ ในทางปฏิบัติ ถ้าเผื่อยังไม่สามารถทำ� ให้จิตสงบได้ ก็ให้ ส�ำรวมกาย วาจาไว้ก่อน เหมือนจะขุดต้นไม้ ถ้าเห็นว่าต้นไม ้ มนั ใหญน่ กั รากมนั ลกึ นกั กต็ ดั กา้ นรานกงิ่ ไวก้ อ่ น แลว้ คอ่ ยตดั ล�ำต้นทหี ลัง กจ็ ะง่ายขึน้
ผมนึกถึงชาดกหน่ึง ที่พระโพธิสัตว์ไถนาแล้วไปเจอแท่ง ทองใหญ่มาก จะแบกก็ไม่ไหว หรือแบกมาก็กลัวคนเห็น ท่าน ฉลาด คอ่ ยๆ เลอื่ ยเอามาทลี ะเลก็ นอ้ ย เอาไปขายบา้ ง เอาไปทำ� ธรุ ะบา้ ง แลว้ แตจ่ ะทำ� กอ็ ยู่สบายไปทั้งชาติ อะไรที่มันใหญ่โตเกินไปเหลือก�ำลัง ก็ค่อยๆ ตัดทอนไป ทลี ะเลก็ ทีละน้อย พระพุทธเจ้าท่านปรารภพระท่ีท่านบ่นว่า สิกขาบทนี่มัน เยอะเหลือเกิน รักษาไม่ไหว ไหวกายไหววาจาอะไรไม่ได้ เป็น อาบตั ไิ ปหมด พระพทุ ธเจา้ ทา่ นวา่ ถา้ อยา่ งนน้ั ไมต่ อ้ งรกั ษามาก รักษาจิตอย่างเดียวได้ไหม ท่านตอบว่าได้ แล้วก็รักษาจิตอย่าง เดียว แล้วท่านก็ได้ส�ำเร็จ พอส�ำเร็จแล้ว ท่านก็คิดว่าอาจารย ์ เราตอนที่แนะน�ำทีแรกมัวแต่แนะน�ำเร่ืองวินัย สิกขาบทน้ัน สกิ ขาบทน ี้ ทำ� อะไรไมไ่ ดไ้ ปหมดเลย แตพ่ อพระพทุ ธเจา้ แนะน�ำ บอกรกั ษาจติ อย่างเดียว รสู้ กึ มนั เบาสบายดี 104 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า เรื่องท�ำนองน้ีมันเคยมีมาแล้ว ก็เล่าเรื่องบัณฑิตไปเจอทองนี่แหละครับ ถ้าฉลาดก็ค่อยๆ แบ่ง เอาไป กไ็ ปได้ การคะนองกาย คอื อาการทก่ี ายหลกุ หลกิ ลกุ ลน ไมอ่ ยใู่ น สภาพทเี่ รยี บรอ้ ย อนั นกี้ เ็ ปน็ บททดสอบ คนทเ่ี ขม้ แขง็ กายเขาจะ มน่ั คง จะนง่ั จะเดนิ รสู้ กึ ทา่ ทางมน่ั คง แตถ่ า้ คนทจี่ ติ ใจไมม่ น่ั คง การน่งั การเดินจะหลกุ หลกิ นักปราชญท์ ่านใหส้ งั เกตดู บางทีพระคุณเจ้าท่านเรียนหนังสือ นั่งไขว่ห้างกระดิกขา ไปดว้ ย พอกลบั กนั หมดแลว้ ผมกข็ อนมิ นตใ์ หอ้ ยกู่ อ่ น เรยี นถาม ทา่ นวา่ ขาทา่ นเปน็ อะไร ทา่ นบอกวา่ ปกต ิ ผมกว็ า่ ผมเหน็ กระดกิ อยู่เร่อื ย ตั้งแตว่ ันนั้นมากเ็ รียบรอ้ ย ท่านศาสตราจารย์ร้อยต�ำรวจโทแสง มนวิทูร ท่านก�ำลัง สอนอยู่ เห็นองค์ไหนกระดิกขาน่ี ท่านเดินมาดุเลย ท่านจะลุก จากเก้าอ้ีเลย จะหลับจะอะไรท่านไม่ถือ แต่น่ังกระดิกขานี่ถือ มาก ท่านบอกว่าที่ท่านเตือนพระหนุ่มเณรน้อยน่ี ก็เหมือนกับ อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 105
พระพุทธรูป มีฝุ่น ก็เอามาเช็ดมาถู มาขัดเพ่ือเอาไว้กราบไหว ้ แลว้ ทา่ นเปน็ อาจารยค์ นเดยี วทเี่ วลาเขา้ สอน จะกราบพระพทุ ธรปู ในส่วนของฆราวาสก็แล้วแต่บุคคล อาจจะได้เหมือนกัน ถา้ ได้โอกาสเหมาะตามสมควร การคะนองวาจา พูดออกไปโดยไม่ระมัดระวัง ไปบาดใจ คนอน่ื ใหโ้ ทษแกต่ วั เอง ทส่ี ำ� คญั กค็ อื ไมม่ เี รอ่ื งจะพดู กพ็ ดู หรอื หมดเรอ่ื งจะพดู แลว้ กไ็ มห่ ยดุ พดู ตรงกนั ขา้ มกบั คนทส่ี ำ� รวม ซงึ่ จะมลี ักษณะอกี แบบหนง่ึ ถ้าในระดับสูงข้ึนไป การไม่คะนองกายก็หมายถึงการไม ่ ทำ� ทจุ รติ ทางกาย การไมค่ ะนองวาจากห็ มายถงึ การไมท่ ำ� ทจุ รติ ทางวาจา ทำ� ใหเ้ ปน็ คนทม่ี กี ายวาจาเรยี บรอ้ ย นา่ เคารพนา่ นบั ถอื น่ารกั น่าคบหาสมาคม การพูดหยอกเย้า ก็ต้องดูบุคคล ดูกาลเทศะหลายอย่าง ถา้ เจอพระเจอผหู้ ญงิ แลว้ บอกวา่ “โยมหนา้ ใสเชยี ววนั น”ี้ อยา่ งน ้ี 106 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
คะนองวาจามากเกินไปทเี ดยี ว ไมเ่ หมาะ คำ� วา่ อปปฺ คพภฺ เปน็ ศพั ทเ์ ฉพาะ แปลวา่ ไมค่ ะนองกายวาจา ค�ำนี้เราจะไปแยกแปลไม่ได้ อปฺป แปลว่าน้อย คพฺภ แปลว่า ครรภ ์ ถา้ ผสมกนั จะมคี วามหมายอกี อยา่ งหนง่ึ เหมอื นกบั ค�ำวา่ season ค�ำว่า sea แปลว่าทะเล คำ� ว่า son แปลว่าลูก แต่รวม เปน็ season แล้ว แปลว่าฤดกู าล ไม่ไดแ้ ปลว่าลูกทะเล อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 107
๑๓ กเุ ลสุอนนคุ ิทโธ ไม่ตดิ พันในตระกูลท้ังหลาย คุณสมบัติข้อนี้ ถ้าเป็นพระสงฆ์ก็เห็นได้ง่าย เพราะท่าน สอนไม่ให้คลุกคลีกับตระกูล ไม่ให้ติดพันตระกูล ให้ชักกาย ชกั ใจออกหา่ ง มองเหน็ ตระกลู เปน็ อนั ตรายเหมอื นมองเหน็ ภเู ขา ท่ีโตรกชัน เหมือนบ่อน�้ำที่ปากเป็นหล่มเลน ไม่กล้าเข้าไปใกล ้ กลัวจะตกลง ประพฤติตนเหมือนดวงจันทร์ให้แสงสว่างแก่โลก แตไ่ ม่ลงมาคลกุ คลีกบั โลก จนั ทปู มา ปฏิปทา
พระมหากสั สปไดร้ บั ยกยอ่ งมากในเรอ่ื งน ้ี และมพี ระตสิ สะ เถระผู้หนึ่งท่ีเข้าไปคลุกคลีกับนายช่างแก้วเป็นประจำ� และถูก หาว่าไปขโมยแก้วมณีเขาในเรื่องนกกระเรียน จากวันน้ันมา ทา่ นบาดเจบ็ แลว้ ทา่ นกอ็ ธษิ ฐานใจวา่ ไมย่ อมเขา้ สรู่ ม่ ชายคาของ บา้ นใด ถา้ ยงั มปี ลแี ขง้ อย ู่ กจ็ ะเทยี่ วบณิ ฑบาตไปตามประตบู า้ น คือจะไม่เข้าบ้านใคร เพราะว่าประสบภัยพิบัติจากการเข้าสนิท สนมในตระกลู ถ้าเป็นคฤหัสถ์ ถ้าจะท�ำตัวให้สอดคล้องกับข้อน้ี คือว่า ไม่คลุกคลีกับเพื่อนบ้านมากเกินไป แม้ในหมู่ญาติก็ไม่คลุกคล ี มากเกนิ ไป เพราะเปน็ เหตใุ หท้ ะเลาะวิวาทกัน บาดหมางกนั ได ้ ง่าย มสี ภุ าษิตท่ีวา่ “มิตรภาพยอ่ มจืดจางเพราะหา่ งเหินกันเกิน ไป หรือเพราะคลกุ คลีกนั เกินไป” ๑. อจั จาภกิ ขณสังคคั คา คลุกคลกี ันมากเกนิ ไป ๒. อสโมสรเณน จ ห่างเหนิ กันมากเกนิ ไป คอื ไม่สโมสร กันเลย 110 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
๓. อกาเล ยาจนาย จ ขอในกาลท่ีไมค่ วรขอ เอเตน มิตฺตา ภิชฺชนฺติ มิตรท้ังหลายย่อมจะจืดจางไป เพราะเหตุน้ี สามข้อนี้เป็นเหตุในการรักษามิตรภาพ คือวางจังหวะให้ พอดีๆ อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 111
๑๔ อนปู วาโท ไมก่ ลา่ วร้าย น จ ขทุ ทฺ ํ สมาจเร กญิ จฺ ิ เยน วญิ ญ ู ปเร อปุ วเทยยฺ ํ แปล วา่ ตเิ ตยี นผอู้ นื่ อยา่ งไร กไ็ มค่ วรท�ำอยา่ งนน้ั วญิ ญชู นตเิ ตยี นชน ทง้ั หลายอน่ื ไดด้ ว้ ยการกระท�ำอยา่ งใด กไ็ มถ่ งึ กระท�ำกรรมหรอื การกระท�ำอยา่ งนั้น ผมกเ็ ลยขอรวบเปน็ ว่า ไมท่ ำ� อยา่ งทตี่ �ำหนิ ผู้อ่ืน และขอรวบเป็นศัพท์ว่า อนูปวาโท ไม่กล่าวร้าย คือแต่ง ศัพท์ข้ึนใหม่ จากการรวบบาลยี าวๆ
โดยท่ัวไปเป็นนิสัยท่ีไม่ดีอย่างหนึ่งของคนบางคน หรือ โดยมากกไ็ ด ้ อาจจะตำ� หนผิ อู้ นื่ ในแบบทว่ี า่ “โทษคนอน่ื มองเหน็ เป็นภูเขา โทษของเรามองไม่เห็นเท่าเส้นขน” ตามอุทานธรรม ของทา่ นศาสนโสภน (แจม่ จตตฺ สลโฺ ล) ถา้ ตำ� หนผิ อู้ นื่ ในสงิ่ ทตี่ วั เรา หรอื ตนเองไมไ่ ดท้ ำ� กไ็ มเ่ ปน็ ไร ไมส่ กู้ ระไรนกั ถา้ ทำ� อยา่ งทตี่ ำ� หนผิ อู้ นื่ ไว ้ กจ็ ะนา่ ขายหนา้ เพราะ เขาจะชีห้ น้าเอาได้ ว่าแต่เขาอเิ หนาเป็นเอง ตัวอย่างที่เห็นชัด อย่างคอร์รัปชั่นในวงราชการก็จะม ี วงการทั่วๆ ไปก็จะมี หรือผู้ใหญ่ในวงการราชการพูดถึงการ ปราบคอร์รัปช่ัน สั่งปราบคอร์รัปช่ัน ถ้าหากว่าผู้ใหญ่เองไม่ คดโกงก็ดีแล้ว ก็คงจะเป็นไปได้เรียบร้อยสะดวกดี ถ้าหากผู้สั่ง เป็นผูท้ ุจริตเสียเอง กไ็ ม่รู้จะไปปราบได้อย่างไร หรือเจ้าอาวาสท่ีเป็นปาราชิก ก็จะเลี้ยงลูกวัดท่ีเป็น ปาราชิกเอาไว้เพ่ือเป็นพวกพ้องของตัว ก็เป็นเรื่องธรรมดาของ คนหาพวก 114 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
ตัวอย่างก็คือพระอุปนนท์ เทศนาให้คนท้ังหลายภิกษ ุ ทั้งหลายสันโดษ แต่ท่านไปที่วัดไหน เวลาเข้าพรรษา ท่านก ็ อยากได้ของออกพรรษา ท่านก็ไปวางรองเท้าไว้บ้าง วางร่มไว ้ บา้ ง เพอื่ ทา่ นจะมสี ว่ นดว้ ย พอออกพรรษาแลว้ ทา่ นกเ็ ดนิ เกบ็ ไป ทลี ะวดั นกี่ เ็ หน็ ชดั กลา่ วยกยอ่ งความมกั นอ้ ยสนั โดษ แตต่ วั เอง กลบั ไปทำ� ตรงกันข้าม แต่บางเรื่องก็มีข้อยกเว้น เช่นพระแก่ ท่านหวังดีแก่ลูก ศษิ ย ์ ตนื่ มาต ี ๔ กเ็ ทย่ี วเดนิ ปลกุ ใหพ้ ระหนมุ่ เณรนอ้ ยขน้ึ มาทอ่ ง หนงั สอื เสรจ็ แลว้ ทา่ นกไ็ ปนอนตอ่ เพราะทา่ นแกแ่ ลว้ อยา่ งนก้ี ็ ยกเว้นใหด้ ว้ ยสขุ ภาพของท่าน ไม่ควรตำ� หนทิ า่ น ในพุทธพจน์มีว่า อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโรสิยา อฺตตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ ตนที่ฝึกดีแล้ว ย่อมได้ที่พ่ึงที่ได้โดยยาก ต้องฝึกตนก่อนแล้วฝึกผู้อื่นภายหลัง กไ็ ม่เศร้าหมอง อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 115
อีกบทหนึ่งว่า อตฺตทตฺถํ ปรตฺเถน พหุนาปิ นหาปเย ไม ่ ควรพร่าประโยชน์ตนเพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก รู้ประโยชน ์ ของตนแล้ว พึงทำ� ประโยชน์ของตนให้บริบูรณ์ พึงขวนขวายใน ประโยชนข์ องตน แตอ่ นั นไ้ี มไ่ ดส้ อนใหเ้ หน็ แกต่ วั เพยี งแตว่ า่ ทำ� ตวั ใหด้ ี แลว้ ก็ช่วยผู้อื่นให้ดีด้วย คือไปพร้อมๆ กัน แต่ถ้าเผ่ือฝึกตนได้แล้ว ก็จะดีย่ิงข้ึน เก่ียวกับเร่ืองวาจา ที่ว่าไม่ควรทำ� อย่างท่ีต�ำหนิผู้อ่ืน หรือ ไมค่ วรกลา่ วรา้ ยผอู้ นื่ โดยไมม่ ขี อ้ เทจ็ จรงิ มพี ทุ ธภาษติ ในสงั ยตุ ต- นิกาย พรหมสังยุต อยู่ตอนหน่ึง ซ่ึงผมเห็นว่าจะเป็นประโยชน ์ กับผู้สนใจอยมู่ าก พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า คนท่ีเกิดมาทุกคน มีขวานติด ปากมาดว้ ย สำ� หรบั ใหค้ นพาล ผทู้ ช่ี อบพดู รา้ ย พดู ชวั่ ๆ ไวเ้ ชอื ด เฉือนตนเอง ผู้ใดสรรเสริญคนท่ีควรติเตียน หรือติเตียนคนที่ ควรสรรเสริญ ผู้น้ันเรียกว่าเกล่ียโทษลงด้วยปาก เขาก็จะไม่ได ้ 116 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
รับความสุขเพราะโทษนนั้ การเสียทรัพย์เพราะแพ้การพนัน สิ้นเน้ือสิ้นตัวก็ยัง โทษน้อยกว่า การท�ำใจให้ประทุษร้ายในพระสุคต การท�ำใจให ้ ประทุษร้ายในพระสุคตคือพระพุทธเจ้านี้มีโทษมากกว่า มีโทษ ติดตามไปหลายชาติ น่ากลัว บุคคล ๔ จำ� พวก ๑. ยกยอ่ งคนทค่ี วรยกย่อง ต�ำหนคิ นที่ควรต�ำหนิ ๒. ไมย่ กย่องคนท่ีควรยกย่อง ไม่ตำ� หนคิ นทค่ี วรตำ� หนิ ๓. สรรเสริญคนที่ควรสรรเสริญ แต่ไม่ติเตียนคนท่ีควร ตเิ ตยี น ๔. ติเตียนคนท่ีควรติเตียน แต่ไม่สรรเสริญคนท่ีควร สรรเสรญิ พระพุทธเจ้าคุยกับ โปตลิย ปริพาชก ปริพาชกก็ตอบว่า คนทเ่ี ฉยๆ แหละด ี คอื ไมต่ เิ ตยี นใคร ไมส่ รรเสรญิ ใคร เขาชอบใจ คนพวกนี้ เพราะวา่ ต้ังอย่ใู นอุเบกขา อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 117
พระพุทธเจ้าท่านไม่เห็นด้วย ท่านบอกว่าเรานิยมคนที่ต ิ คนทคี่ วรต ิ สรรเสรญิ คนทค่ี วรสรรเสรญิ ตามความเปน็ จรงิ ตาม กาลอนั ควร เพราะว่าตัง้ อยู่ใน กาลญั ญตุ า ในสงั คมเรา บางทกี พ็ ลาด คนไปใหค้ า่ กบั คนทเ่ี ฉยๆ ไมว่ า่ ใคร ว่าทา่ นดีเหลอื เกินไม่ว่าใครเลย ท�ำผิดทำ� ถกู ก็ไมว่ า่ ใครเลย อนั นม้ี นั เปน็ concept ทผ่ี ดิ เอาหลกั พระพทุ ธเจา้ มาเทยี บ กต็ อ้ ง ต�ำหนิคนที่ควรต�ำหนิ ยกยอ่ งคนที่ควรยกย่อง พระพุทธเจ้าท่านไม่เฉย ใครควรต�ำหนิท่านก็ต�ำหนิ ใคร ควรยกย่องท่านก็ยกย่อง ถ้าเป็นคนมีสาระเอาจริงเอาจังทนต่อ ค�ำสอนเขาก็จะอยไู่ ด ้ คือพระพุทธเจ้าทา่ นทรงตอ้ งการแก่น มีอีกพุทธพจน์ท่ีว่า ยถาวาที ตถาการี ท�ำอย่างท่ีพูด พูด อยา่ งทีท่ �ำ อนั นีก้ ็ดคี รับ ทา่ นมหาตมะ คานธ ี มคี นไปถามทา่ นวา่ ทา่ นอยใู่ นปจั ฉมิ วยั ทา่ นมคี ำ� พดู อะไรสกั หนอ่ ยหนงึ่ ไหม จะฝากเอาไวส้ ำ� หรบั ให ้ 118 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
คนรุ่นหลังถือเอาเป็นแบบอย่างปฏิบัติตาม ท่านบอกว่า “ชีวิต ของขา้ พเจา้ ทง้ั หมดนน่ั แหละคอื ค�ำพดู ของขา้ พเจา้ ” หมายความ วา่ ถา้ อยากรวู้ า่ ขา้ พเจา้ จะพดู อะไร กด็ ชู วี ติ ของขา้ พเจา้ กแ็ ลว้ กนั แปลวา่ ทำ� ให้ด ู เปน็ อยใู่ ห้เห็น แทนคำ� พดู ของทา่ น ในสงั คมเรา บางคนสอนเกง่ ไดร้ บั ยกยอ่ งวา่ มวี าทศลิ ปแ์ ต ่ ตวั เองทำ� ตรงขา้ มกบั ทสี่ อน ถา้ จะตดั สนิ กค็ อื วา่ กด็ ที สี่ อนได ้ แต ่ ก็แยท่ ่ีทำ� ไม่ได ้ แตก่ ็ไมท่ �ำใหเ้ กดิ ความประทับใจตอ่ ผ้ทู ถี่ กู สอน อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 119
๑๕ เมตตวา มเี มตตา ลองอา่ นจากพระไตรปฎิ กกไ็ ดน้ ะครบั คอ่ นขา้ งยาว เดย๋ี ว ค่อยพูดกนั ไปทลี ะตอนกไ็ ด้ “พึงแผ่เมตตาจิตไปในหมู่สัตว์ว่า ขอสัตว์ท้ังปวงจงเป็น ผู้มีสุข มีความเกษม มีตนถึงความสุขเถิด สัตว์มีชีวิตทั้งหลาย เหลา่ ใดเหลา่ หนงึ่ มอี ย ู่ ยงั เปน็ ผสู้ ะดงุ้ ยงั มตี ณั หาอย ู่ หรอื เปน็ ผ ู้ มนั่ คง ไมม่ ตี ัณหา” คือแผ่เมตตาไปให้หมดเลย ท้ังสัตว์ท่ีทั้งยาวหรือส้ันหรือ ใหญ ่ หรอื เลก็ ผอม อว้ น ทไ่ี ดเ้ หน็ หรอื ไมไ่ ดเ้ หน็ อยไู่ กลหรอื อย ู่ ใกล ้ ทเี่ กดิ แลว้ หรอื แสวงหาทเี่ กดิ อย ู่ ภตู าวา สมั ภเวสวี า ขอให้ สตั วท์ ั้งหลายมคี วามสขุ
ภูตา นีใ่ นความหมายหนึง่ หมายถงึ พระอรหันต์ สมั ภเวส ี หมายถงึ ทง้ั หมดยกเวน้ พระอรหนั ต ์ ตง้ั แตพ่ ระ อนาคามลี งมา ยังเป็นสัมภเวส ี คอื ยังมีภพอยู่ สัตว์อ่ืนไม่พึงข่มเหงสัตว์อ่ืน ไม่พึงดูหมิ่นอะไรๆ เขาในท ่ี ใดๆ เลย ไม่พึงปรารถนาทุกข์แก่กันและกัน เพราะความกริ้ว โกรธ และเพราะความคมุ แคน้ มารดาถนอมบตุ รคนเดยี วผเู้ กดิ ในตนด้วยชีวิตฉันใด พึงเจริญเมตตาในใจไม่มีประมาณไปใน สัตวท์ ั้งปวงฉนั น้ัน พงึ เจรญิ เมตตามใี นใจไมม่ ปี ระมาณ มานสมภฺ าวเย อปร-ิ มาณ ํ พงึ เจรญิ เมตตามใี นใจไมม่ ปี ระมาณในโลกทงั้ ปวง ทงั้ เบอื้ งบน เบื้องล่างเบ้ืองขวาง เป็นธรรมอันไม่คับแค้น ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู ผู้เจริญเมตตาน้ัน ยืนอยู่ก็ดี เดินอยู่ก็ดี นั่งก็ดี นอนก็ดี เป็นผู ้ ปราศจากความงว่ งคอื ยงั ไมง่ ว่ งนอนเพยี งใด กพ็ งึ ตงั้ สตไิ วเ้ พยี งนน้ั 122 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
ปราชญ์ท้ังหลายเรียกการอยู่นี้ว่า พรหมวิหาร ในพระ ศาสนานผี้ มู้ เี มตตาไมเ่ ขา้ ถงึ ทฏิ ฐ ิ คอื สกั กายทฏิ ฐ ิ เปน็ ผมู้ ศี ลี ถงึ พร้อมด้วยทัสนะ หรือสัมมาทิฏฐิ ในโสดาปัตติมรรค นำ� ความ หมกมุ่นในกามท้ังหลายออกไปได้ ก็ย่อมไม่เข้าถึงการนอนใน ครรภอ์ กี โดยแท้ นีค่ อื ข้อความทงั้ หมดเกีย่ วกบั เมตตา การแผ่เมตตา เราแผ่ให้ตัวเองก่อน อหัง สุขิโต โหมิ ขอ ขา้ พเจา้ จงมคี วามสขุ เถดิ เราแผใ่ หต้ วั เองกอ่ น เพอื่ เปน็ พยานวา่ เรารักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด คนอื่นสัตว์อื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ ฉนั นัน้ ดงั นนั้ การแผเ่ มตตากเ็ รม่ิ ทต่ี วั เองกอ่ น แลว้ กข็ ยายวงกวา้ ง ออกไป ล�ำดับต่อไปก็เป็นผู้มีอุปการคุณ แล้วก็ไปถึงคนที่เฉยๆ คนที่พอใจ คนทเ่ี ป็นศตั รู อ. ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ 123
ไมใ่ ชแ่ ผใ่ หศ้ ตั รกู อ่ น เพราะมนั ไปยาก ตอ้ งจติ ใจออ่ นโยน นุ่มนวลมากแล้ว ถึงกระน้ันก็ยังไม่ค่อยจะไป ท่านจึงแนะนำ� ว่า ถ้าเผ่ือให้แผ่ให้ศัตรูแล้ว เมตตามันไม่ไป ก็ต้องคิดอย่างนี้ๆๆ ม ี ๔-๕ วิธี กรณุ านกี่ แ็ ปลก อาจจะเปน็ ทฤษฎหี รอื อะไรกแ็ ลว้ แต ่ ทา่ น ให้แผ่ไปให้คนท่ีล�ำบากยากเข็ญก่อน ถ้าไม่มีคนที่ล�ำบากยาก เข็ญก็แผ่ไปให้คนช่ัว ท่านบอกว่าคนช่ัวนี่หาความสุขได้ยาก ฉะนน้ั แผก่ รณุ าไปใหค้ นชวั่ น ห ิ ต ํ สลุ ภ ํ โหต ิ สขุ ํ ทกุ กฺ ฎการนิ า คนที่ท�ำชั่วหาความสุขได้ยาก แม้มีอาการเสมือนหนึ่งว่าจะมี ความสุข แตท่ แ่ี ทเ้ ขาไมม่ คี วามสุข คนทม่ี คี วามสขุ แลว้ ถา้ เผอ่ื เมอ่ื ไหรเ่ ขาลำ� บากเรากแ็ ผก่ รณุ า ใหไ้ ป เพราะกรณุ ามนั เปน็ การนำ� ทกุ ขอ์ อก เมตตาเปน็ การนำ� สขุ เข้าไปให้ ที่เรียกวา่ บำ� บดั ทุกข์บำ� รงุ สขุ น่ันเอง ผมกข็ อจบทางสสู่ นั ตบท ทางแหง่ ความสงบสนั ตลิ งเพยี ง เท่าน้ีนะครบั สวัสดี 124 ผคุ ณู้ มสุ่ งม บสั ตั นิ ข อตงบ ท
รายนามผรู้ ่วมศรทั ธาพมิ พห์ นังสอื คณุ สมบัติของผมู้ ุง่ สนั ตบท ล�ำดบั ชื่อ-สกุล จำ� นวนเงนิ ล�ำดบั ช่อื -สกุล จำ� นวนเงิน ๑ ร้านพระไตรปฎิ ก ๓๕,๑๐๐ ๑๙ คณุ นวรัตน์ จลุ สังข์ ๒ คุณชื่นจติ ต์ กอ้ งสกลุ ๒๓,๐๐๐ ๒๐ คณุ บศุ รา อง่ั สกลุ ๓,๓๐๐ ๓ คุณจุฑามาศ ๒๑ คณุ อโยธยั งดงาม และครอบครัว ๓,๐๒๐ ๒๐,๐๐๐ ๒๒ คณุ ศรินทร์ธา วงศส์ ุภลักษณ์ ๓,๐๐๐ บ. เบรฟ เอ็นจิเนยี ริ่ง จ�ำกดั ๑๐,๐๐๐ ๒๓ คณุ กัลยา เมฆรงุ่ เรืองกุล ๓,๐๐๐ ๔ คณุ รงุ่ ระวี วทิ ูรปกรณ์ ๑๐,๐๐๐ ๒๔ คณุ เสริมศกั ด ์ิ เสมประยรู ๓,๐๐๐ ๕ คุณศิริพร ปญั ญเ์ อกวงศ์ ๗,๐๐๐ ๒๕ คณุ ปทั มาภรณ์ อังสกุลวงศ์ ๒,๙๔๕ ๖ คุณอุรษิ า บุณยรักษ์ ๖,๐๐๐ ๒๖ คณุ พิมพา สกุลล้ิมเจรญิ ๒,๘๒๐ ๗ คุณกลั ยา นะตะชสู งค์ ๕,๑๐๐ ๒๗ คุณคกึ ฤทธิ์ อารปี กรณ์ ๒,๕๐๐ ๘ คุณอาภัสรา ภกั ดีพฒั นสันติ ๕,๐๐๐ ๒๘ คุณพรี กิจ ศรีสอาด ๒,๒๘๐ ๙ คุณอารีย ์ บญุ วรานันท์ ๕,๐๐๐ ๒๙ คณุ สมชาย ฉตั รวเิ ชยี รชยั ๒,๐๐๐ ๑๐ คณุ เกษกาญจน ์ ชณุ หวริ ิยะกลุ ๕,๐๐๐ ๓๐ คุณบุญทอง ๒,๐๐๐ ๑๑ คุณธรี ชยั พงษม์ นั่ จติ ๔,๓๓๐ ๓๑ คณุ วลัยทิพย์ ปิตจิ อมวงศ์ ๒,๐๐๐ ๑๒ คณุ พร้อมพล สดุ เอีย่ ม ๔,๐๕๐ ๓๒ คณุ ชนดิ าภา อิษวาส ๒,๐๐๐ ๑๓ คณุ จุฑามาศ ๔,๐๐๐ ๓๓ คุณตรตู า ทรรพวสุ ๒,๐๐๐ ๑๔ คุณปานจติ ต ์ วงศอ์ ่อนดี ๔,๐๐๐ ๓๔ คุณประทานพร มิ่งมาศ ๒,๐๐๐ ๑๕ คุณมาณพ แก้วมณี ๔,๐๐๐ ๓๕ คณุ สารวรรณ บญุ ศรี ๒,๐๐๐ ๑๖ คุณปฏิญญา ศรีบุญเรอื ง ๔,๐๐๐ ๓๖ คณุ วรี วรรณ วฒั นโสภณวงศ์ ๑,๖๔๐ ๑๗ คณุ สิรพิ ร ชยั สวัสด์ิ ๓,๕๐๐ ๓๗ พระกฤษกร วรชนิ วงศ์ ๑,๖๐๐ ๑๘ คุณศรินทร์รา วงศศ์ ภุ ลักษณ์ ๑,๖๐๐
ล�ำดบั ชือ่ -สกุล จ�ำนวนเงนิ ลำ� ดบั ชือ่ -สกุล จำ� นวนเงนิ ๓๘ คณุ นีระนชุ ชัยชนะสมบตั ิ ๑,๕๖๕ ๕๙ คุณอดุ มพร สายเพ็ชร ๓๙ คุณกนกพร ๑,๕๐๐ ๑,๐๐๐ ๔๐ คณุ พชั รี คงปลอด ๑,๒๐๐ และครอบครวั ๙๗๐ ๔๑ คณุ สุดศรี เวชโช ๑,๒๐๐ ๖๐ คุณเกษิตา ปชาคณุ นนท์ ๙๕๐ ๔๒ คณุ นงนุช กติ ิกลุ วรากร ๑,๐๘๐ ๖๑ มลู นธิ ิพระพุทธสนั ตธิ รรม ๔๓ รหสั สมาชิก ๔๘๐๐๔๐๙ ๖๒ คณุ ธรรม-คุณจนิ ดารัตน์ ๘๒๐ ๑,๐๐๐ ๘๐๐ และ ๔๘๐๒๖๖๘ ๑,๐๐๐ ดรุณรกั ถาวร ๘๐๐ ๔๔ พ.ต.อ. บุญเสรมิ -คณุ ยุพดี ศรชี มภู ๑,๐๐๐ ๖๓ คณุ สวา หมอรัตน์ ๘๐๐ ๔๕ พระชยั พร จนฺทวโํ ส ๑,๐๐๐ ๖๔ คณุ เปรมชนะ สิทธิเกธร ๗๖๖ ๔๖ คณุ เรนุชา นวกิจภาญกลุ ๑,๐๐๐ ๖๕ คณุ นภดล เล็กรุ่งเรืองกิจ ๗๐๐ ๔๗ คุณพรรณี แสงสรุ ียพ์ รชัย ๑,๐๐๐ ๖๖ คณุ มาโนช อยู่บรรยงค์ ๖๘๐ ๔๘ คณุ วัชรี ศริ นิ รกุล ๑,๐๐๐ ๖๗ คุณศุภธรี ัช ใจนนดี ๖๐๐ ๔๙ คณุ เสน่ห์ ชอบสะอาด ๖๘ คุณรัชดา ผดุงเวช ๕๗๐ ๕๐ คุณถาวร-คณุ นฤมล-ด.ญ. วรมน- ๑,๐๐๐ ๖๙ คณุ ชวิสุดา ไกรรวี ๖๖๐ ๑,๐๐๐ ๗๐ คุณประยทุ ธ ชัยจิรพันธ์ ๕๗๐ ด.ช. วรกมล ตันแสนทอง ๑,๐๐๐ ๗๑ คุณกุลชล ี เทศทิม ๕๕๐ ๕๑ คณุ แฉลม้ ใจเสอื ๑,๐๐๐ ๗๒ คุณประยทุ ธ ชัยจิรพันธ์ ๕๐๐ ๕๒ คณุ โชติมา ๑,๐๐๐ ๗๓ คณุ วไิ ลลักษณ์ วงศ์วเิ ศษ ๕๐๐ ๕๓ คณุ ทศั พร โรจนอิศรานนท์ ๑,๐๐๐ ๗๔ นพ. วิวัฒน์ นมิ มานรัชต์ ๕๐๐ ๕๔ คุณมณีนุช ทรงแสงธรรม ๑,๐๐๐ ๗๕ คณุ สมจติ ต์ ทรงฤกษ์ ๕๐๐ ๕๕ คุณสมเกียรติ เมฆบรบิ รู ณ์ ๑,๐๐๐ ๗๖ คุณนฤมล ตันแสนทอง ๕๐๐ ๕๖ คณุ อุดมพร หลอ่ กิตยิ ะกลุ ๑,๐๐๐ ๗๗ คุณฟองสมุทร วิชามลู ๕๐๐ ๕๗ คณุ วภิ า จรรยาภรณ์พงษ์ ๗๘ คณุ ววิ ัฒน์ ธรรมาสรุ พนั ธ์ ๕๘ คณุ วชิ ัย โพธิน์ ทไี ท ๗๙ คณุ บรรหาร เปลง่ ศรี
ลำ� ดบั ช่ือ-สกลุ จ�ำนวนเงิน ลำ� ดับ ช่อื -สกุล จ�ำนวนเงิน ๘๐ คณุ บรรหาร เปล่งศรี ๘๑ คุณบรรหาร เปลง่ ศรี ๕๐๐ ๑๐๓ คณุ กัญจนณ์ ฏั ฐ์ เทอญชชู ยั ๓๕๐ ๘๒ คุณนพพร ฉัตรไชยสิทธิกลุ ๕๐๐ ๘๓ คณุ ไกรฤกษ ์ เขือ่ นแกว้ ๕๐๐ ๑๐๔ คณุ ละเมยี ด รตั นอไุ ร และครอบครวั ๓๔๐ ๘๔ คุณสพุ ตั รา กติ ตเิ จริญเกียรติ ๕๐๐ ๘๕ คณุ ญาณภคั อาวรณ์ ๕๐๐ ๑๐๕ คณุ กนกนันท์ ชวนสนทิ ๓๔๐ ๘๖ คณุ สาธิต นนทณ์ ัฐชญา ๕๐๐ ๘๗ คณุ เพลนิ พศิ นวาระสุจิตร ๕๐๐ ๑๐๖ คุณศุภรดา ๓๒๐ ๘๘ คุณธนดิ า บลุ สุข ๕๐๐ ๘๙ คุณสพุ ัตรา วศิ รตุ พงษ์ ๕๐๐ ๑๐๗ หจก. อูเ่ งิน ๓๒๐ ๙๐ คณุ พรรณี เขิดร�ำไพ ๕๐๐ ๙๑ คณุ ฐาปนยี ์ จา่ งตระกูล ๕๐๐ ๑๐๘ คณุ วิจิตรา สารนิ ทร์ ๓๑๐ ๙๒ คุณกญั พมิ ล เลิศจริ ะประเสิรฐ ๕๐๐ ๙๓ คณุ จรยิ า เหลอื งรงั สรรค์ ๕๐๐ ๑๐๙ คณุ เพ็ญประภา นนทลี ๓๐๐ ๙๔ คณุ สาวติ รี ชาตอิ ุทศิ ๕๐๐ ๙๕ คุณปารชิ าต โมกขมรรคกลุ ๕๐๐ ๑๑๐ คุณสุขทวี กฤศศรสี พุ รรณ ๓๐๐ ๙๖ คุณยุวดี องึ้ ศรวี งษ์ ๕๐๐ ๙๗ คณุ ปญั จรส ภทั รบรรเจิด ๕๐๐ ๑๑๑ คณุ นงนภสั จึงธนภรณ์ ๓๐๐ ๙๘ คณุ เทพวิรุณ ๔๗๐ ๙๙ คุณสวรรณี สระตันดี ๔๕๐ ๑๑๒ คณุ นนทกร สกั กะพลางกรู ๓๐๐ ๑๐๐ คณุ สริ ยา หาสีสขุ ๔๓๐ ๑๐๑ คุณขวัญชยั โชตพิ ุทธิกุล ๔๑๐ ๑๑๓ คุณวาสิน ี สกั กะพลางกูร ๓๐๐ ๑๐๒ คุณสวุ ิชา พูลเกษ ๔๐๐ ๓๗๐ ๑๑๔ ด.ญ. ปวณี ์กร สกั กะพลางกูร ๓๐๐ ๑๑๕ คุณอกุ ฤษฎ์-คณุ เขษมศักดิ์ ๓๐๐ อายตวงศ์ ๑๑๖ คณุ ภิญญส์ ินี พานทองรัชต์ ๓๐๐ ๑๑๗ คุณปกั เท้ง แซเ่ อ็ง ๓๐๐ ๑๑๘ คุณณสั นันทน ์ ล้มิ พิพฒั น์ชยั ๓๐๐ ๑๑๙ คณุ กิตตพิ งส ์ ชมภพู งษ์เกษม ๓๐๐ ๑๒๐ คุณไพศาล ล้มิ มีถาวรภริ ัตน์ ๓๐๐ ๑๒๑ คณุ เปล่งศรี ๓๐๐ ๑๒๒ คณุ วนิดา ทิพย์โอสถ ๓๐๐ ๑๒๓ คณุ ชญาดา เนยี มเปีย ๓๐๐ ๑๒๔ คณุ วไิ ลวรรณ สาครวิมล ๓๐๐
ล�ำดบั ช่ือ-สกุล จำ� นวนเงิน ล�ำดับ ชอ่ื -สกุล จำ� นวนเงิน ๑๒๕ คุณสริ ิการย์-คณุ ณฐั พิมล- ๑๔๕ คณุ มานะ นาวิน ๒๐๐ ๓๐๐ ๑๔๖ คุณวริษฐพร กลึงวจิ ิตร ๒๐๐ คุณพสิษฐ ์ โรจน์รัตนศริ ิ ๑๔๗ คุณเพลินพรรณ ตาลสอน ๒๐๐ ๑๒๖ คณุ สุดาพรรณ พิไลพุฒิเมธ ๓๐๐ ๑๔๘ คณุ รงุ่ นภา เดชไพบลู ยย์ ศ ๒๐๐ ๑๔๙ คณุ อนนั ต ์ เจยี รวงศ์ ๒๐๐ และครอบครวั ๓๐๐ ๑๕๐ คุณแสงจนั ทร ์ สว่ นบญุ ๒๐๐ ๑๒๗ คุณประวทิ ย์-คณุ นาตยา ๓๐๐ ๑๕๑ คณุ อมราวรรณ นลิ กำ� แหง ๒๐๐ ๒๕๐ ๑๕๒ คุณธญั ธร ง้าววิฑรู ย์วงศ์ ๒๐๐ นวาระสจุ ิตร ๒๕๐ ๑๕๓ คณุ แกว้ ตา เป่ยี มศกั ดิ์ศริ ิกลุ ๒๐๐ ๑๒๘ คณุ สุนนั ทา พรรณเชษฐ์ ๒๔๐ ๑๕๔ คุณรตั นา งามพงศ์พรรณ ๒๐๐ ๑๒๙ คุณศภุ เสริม กิจขจรไพบลู ย์ ๒๔๐ ๑๕๕ คุณนชั ชา-คณุ คณากร- ๑๓๐ คณุ เอกชยั ดรี ่งุ โรจน์ ๒๓๐ ๒๐๐ ๑๓๑ คุณหทัยรัตน์ เตชะอากรณ์กุล ๒๒๐ คณุ ธนกร ดิษยาตตยิ ๒๐๐ ๑๓๒ คุณอมรรัตน์ โคตรลาดร�ำ ๒๑๐ ๑๕๖ คณุ ศิวาภรณ ์ สกุลเท่ียงตรง ๒๐๐ ๑๓๓ คุณสานนท ์ ชยั เจริญ ๒๑๐ ๑๕๗ คณุ สายรุ้ง พนิ ติ กาญจนพนั ธ์ุ ๒๐๐ ๑๓๔ คณุ ชยั ศักดิ ์ ปอแกว้ ๒๐๐ ๑๕๘ คุณธนา ศรนี เิ วศน์ ๑๙๐ ๑๓๕ คณุ ประยุทธ ชยั จิรพันธุ์ ๒๐๐ ๑๕๙ คณุ สนุ ีย์ เอกภาพสกลุ วงศ์ ๑๘๐ ๑๓๖ คณุ สิรมิ าต หาญภวู่ านนท์ ๒๐๐ ๑๖๐ คณุ ผ่องจติ ต ์ มานิตบาล ๑๘๐ ๑๓๗ คุณชัชชฎา อมิ่ ใจ ๒๐๐ ๑๖๑ คุณรชั ตินนท์ เรอื งวานิชนนั ท์ ๑๖๐ ๑๓๘ คณุ ธนพล หาญณรงค์ ๒๐๐ ๑๖๒ คณุ โอภาส เฮงภเู่ จริญ ๑๖๐ ๑๓๙ คณุ ชลติ า พาพันธุ์ ๑๖๓ คุณเวโรจน ์ อตุ ยะราช ๑๖๐ ๑๔๐ คุณหรรษา จรัสรัตตกิ าล ๒๐๐ ๑๖๔ คุณเกวลี ตนั ตกิ รพรรณ ๑๖๐ ๑๔๑ คุณจักรพงษ ์ มานิตยกลุ ๒๐๐ ๑๖๕ คุณประเสริฐ วะโนปะ ๑๕๐ ๑๔๒ คณุ ศรวี รรณ สขุ แสนไกรศร ๒๐๐ ๑๖๖ คณุ สุพัตรา กล่ินระคนธ์ และครอบครัว ๑๔๓ คณุ พินทิพย ์ ประมลู วงศ์ ๑๔๔ คณุ สุดปรชี า-ด.ญ. ชนิ พร ผ่องใส
ล�ำดับ ชื่อ-สกุล จำ� นวนเงนิ ลำ� ดบั ชือ่ -สกุล จำ� นวนเงนิ ๑๖๗ คุณวริ ะไชย ศรีสมยั ๑๕๐ ๑๘๙ คณุ ชัยภัทร วรงค์พรกุล ๑๐๐ ๑๖๘ คุณสุภทั รา ฐิติอมรพนั ธุ์ ๑๕๐ ๑๙๐ คณุ แมเ่ สยี ม แซ่เตียว ๑๐๐ ๑๖๙ คุณธญั ญา สิรเิ มธาชัย ๑๕๐ ๑๙๑ คณุ ฤทธิรงค์ สาลท่ี อง ๑๐๐ ๑๗๐ ศรัทธากลั ยาณธรรม ๑๙๒ คณุ เศรษฐวิทย ์ นนั ทวติ วทิ ยากลุ ๑๐๐ ๑๔๗ ๑๙๓ คณุ อารยี ์ หนองเทา ๑๐๐ จาก อ. แมส่ ะเรียง ๑๔๐ ๑๙๔ คุณอ�ำนาจ-คณุ ราตรี ปลอดโปรง่ ๑๐๐ ๑๗๑ คณุ วริพร หนงใจ ๑๓๐ ๑๙๕ คณุ พชรมน แสงเดอื น ๑๐๐ ๑๗๒ คณุ สุวิทย์ แซ่จวิ ๑๓๐ ๑๙๖ คณุ รม่ เยน็ สุขแดง ๑๐๐ ๑๗๓ ผู้ไมป่ ระสงคอ์ อกนาม ๑๓๐ ๑๙๗ คุณนงนชุ กติ กิ ลุ วรากร ๑๐๐ ๑๗๔ คุณเพลนิ พรรณ คงสกุล ๑๒๐ ๑๙๘ คุณมรกต จงไพศาล ๑๐๐ ๑๗๕ คณุ รัตน์รุ่ง สขุ เสมอ ๑๒๐ ๑๙๙ คณุ ค�ำนงึ บำ� รงุ เขต ๑๐๐ ๑๗๖ คุณรัตนาวิไล ฐิติอมรพันธ์ ๑๑๐ ๒๐๐ คณุ โอภาส เฮงภู่เจริญ ๑๐๐ ๑๗๗ คณุ พาณิภัค ข�ำสุวรรณ์ ๑๑๐ ๒๐๑ คณุ สิทธชิ ัย ปัญควิ จณาณ ๑๐๐ ๑๗๘ คณุ นิพนธ์ เรอื นสภุ า ๑๐๐ ๒๐๒ คุณแม่สมพร ซามี ๑๐๐ ๑๗๙ คุณพงิ พันธุ์ พลรวโี รจน์ ๑๐๐ ๒๐๓ คุณสนนั่ ปล่งั ประยูร ๑๐๐ ๑๘๐ คุณฉตั รชัย เกริกเบญจธรรม ๑๐๐ ๒๐๔ คณุ ธีระ-คณุ ฐาปนี ผดงุ วฒั นโรจน์ ๑๘๑ คณุ ไชยพงษ์ เปีย่ มพงษ์สานต์ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๘๒ คุณพยอม มณพี ฤกษ์ ๑๐๐ และครอบครัว ๑๐๐ ๑๘๓ ด.ช. อภิวชิ ญ ์ กุลชฤทธิ์ ๑๐๐ ๒๐๕ คุณสุปกานต ์ วมิ ตุ ตานนท์ ๑๐๐ ๑๘๔ พจ่ี ๋ิว รพ. สมทุ รปราการ ๑๐๐ ๒๐๖ ครอบครัวคุณวัลย์ลดา พินิจพจิ ยา ๑๐๐ ๑๘๕ พ.ต.อ. บุญเสรมิ -คณุ ยุพดี ศรีชมภู ๑๐๐ ๒๐๗ คณุ พูลลาภ ประจญั บาน ๑๐๐ ๑๘๖ คุณบ�ำเพ็ญ-คณุ สุวารี ไชยเพชร ๑๐๐ ๒๐๘ คุณแมอ่ นุ สี แซ่ฮ้มิ ๑๐๐ ๑๘๗ คณุ นิรมล จิตตเิ รืองเกยี รติ ๑๐๐ ๒๐๙ คณุ สอาด พนารังสรรค์ ๑๐๐ ๑๘๘ คุณนภัทร เนียมทบั ทิม ๒๑๐ คุณอมรรัตน์ พนารังสรรค์
ล�ำดับ ชอื่ -สกลุ จ�ำนวนเงิน ล�ำดับ ชือ่ -สกุล จ�ำนวนเงิน ๒๑๑ คุณเกศรนิ พนารงั สรรค์ ๑๐๐ ๒๑๒ คุณสรายทุ ธ พนารังสรรค ์ ๒๓๔ คณุ อัญชลี นวาระสุจิตร ๕๐ ๑๐๐ และครอบครวั ๑๐๐ ๒๓๕ คณุ เถลงิ กจิ เธยี รวัฒนาธาดา ๔๐ ๒๑๓ คณุ ซุ่ยไล้ แซล่ ิม้ ๑๐๐ ๒๑๔ คณุ รักชนก นุสราสภุ านนั ท์ ๑๐๐ ๒๓๖ คุณสวุ พิชญ์ นนั ทศริ ริ ตั น์ ๔๐ ๒๑๕ คุณจติ รา วสิ ทุ ธิ์พิศาล ๑๐๐ ๒๑๖ คณุ ปญั ญา ตวิ งศา ๙๐ ๒๓๗ คุณชานยี า ธรรมสงั วาลย์ ๔๐ ๒๑๗ ด.ช. สหี ราช โพธแ์ิ กว้ สุกใส ๙๐ ๒๑๘ คุณสคราญ ชมพฒั น์ ๘๐ ๒๓๘ คุณเยาวนาฏ ยศยงเลิศ ๔๐ ๒๑๙ คุณอทุ ศิ สงิ ห์บุรี ๗๐ ๒๒๐ คุณมลทิพย ์ สุขวาด ๗๐ ๒๓๙ คณุ เสรี วิริยพิสุทธิ์ ๓๐ ๒๒๑ คุณสคราญ ชมพัฒน์ ๗๐ ๒๒๒ คณุ นาว ี ไวยสุนีย์ ๗๐ ๒๔๐ คุณสปันนา วรงค์พรกลุ ๒๐ ๒๒๓ คณุ ชชั ชัย ตตยิ ะพงศพ์ ันธุ์ ๖๐ ๒๒๔ คณุ กนกพร อินทรย์ อด ๖๐ ๒๔๑ คณุ ธชั ชัย ตติยะพงษ์พันธ์ ๒๐ ๒๒๕ คุณส�ำราญ นามสวา่ ง ๖๐ ๒๒๖ คณุ สมจติ ร ตอเสนา ๕๐ ๒๔๒ คุณภสั สร สวสั ดิ์ ๒๐ ๒๒๗ คณุ ภัทรภรณ์ สภุ าพญาติ ๕๐ ๒๒๘ คุณบปุ ผา บญุ สม ๕๐ ๒๔๓ คณุ เพิม่ พงศ์-ด.ช. เอกสหัส ๒๐ ๒๒๙ คุณวรี ยทุ ธ สติ ๕๐ ธนพพิ ฒั นส์ ัจจา ๒๓๐ คณุ ภทั รภรณ์ สภุ าพญาติ ๕๐ ๒๓๑ คณุ เชาวณีย์ แพร่ภทั ร ๕๐ รวมศรัทธาทัง้ สิ้น ๒๗๓,๙๔๓ บาท ๒๓๒ คุณเลอพงศ์ นวาระสจุ ติ ร ๕๐ ๒๓๓ คุณทองใบ เกษศรี ชมรมกลั ยาณธรรมขอกราบอนโุ มทนา ในกศุ ลจิตของทกุ ทา่ นมา ณ ที่นี้ ขอให้ทกุ ทา่ นเจริญในธรรม ยิง่ ๆ ขึน้ ไปเทอญ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132