89 1. วางบลอ็ กสัญญลักษณข์ องสุขภณั ฑ์ และท่ีจอดรถตามตาแหน่งของสุขภัณฑ์ หรอื ท่จี อดรถนั้นๆ ในแบบใหค้ รบ โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1.1 CPBChamberM = จานวนโถปสั สาวะชาย 1.2 CPBWCM = จานวนโถอจุ าระชาย 1.3 CPBSinkM = จานวนอ่างล้างมือชาย 1.4 CPBWCW = จานวนโถอุจจาระหญิง 1.5 CPBSinkW = จานวนอา่ งลา้ งมือหญงิ สำนกั หอสมุดกลาง1.6 CPBParking = จานวนท่ีจอดรถ 2. คลิกท่ีปุ่ม “คานวณ” ของแต่ละรายการ เพ่ือให้โปรแกรมนับจานวนและ รายงานผลการนบั จานวนบลอ็ กท้งั หมดในอาคารชน้ั ทีต่ รวจแบบ 3.2 การวัดระยะห่างระหวา่ งอาคารในท่ดี นิ เจ้าของเดยี วกัน ภาพที่ 81 แสดงคลิกเลือกตรวจวัดระยะหา่ งระหว่างอาคารในท่ีดนิ เจ้าของเดยี วกัน การวัดระยะห่างระหว่างอาคารมีข้ันตอนเหมือนกับการวัดความกว้างถนน สาธารณะ โดยคลกิ ท่ชี ่อง “มอี าคารเจ้าของเดียวกันในท่ีดนิ ” และคลิกท่ีปุ่ม “วัดระยะห่างถึงอาคาร นั้น” โปรแกรมจะให้กาหนดจุดริมขอบของอาคารที่ต้องการวัดระยะความกว้าง โดยจะแสดง คาแนะนาในชอ่ ง Command 3.3 เม่ือดาเนินการตามขั้นตอนในข้างต้นครบถ้วนแล้ว ให้ทาการบันทึกการวัด ทง้ั หมด โดยคลกิ ปุ่ม “บนั ทึกคา่ ของชนั้ ” แล้วจงึ ดาเนินการวดั ระยะและนบั จานวนนับท้ังหมดใหม่ใน ชนั้ ต่อๆ ไปจนครบทกุ ๆ ชัน้ แลว้ จงึ ดาเนนิ การให้โปรแกรมตรวจแบบ โดยหากต้องการตรวจทงั้ อาคาร ให้คลกิ ช่องตรวจท้งั หมด แต่หากต้องการตรวจเฉพาะชนั้ นนั้ ๆ ให้คลกิ เอาเครื่องหมายถูกออก แล้วจึง คลิกคาสั่ง “ตรวจ”
90 ภาพท่ี 82 แสดงปมุ่ บนั ทกึ ค่าและป่มุ ตรวจ ผลการตรวจ สำนกั หอสมุดกลางโปรแกรมจะรายงานเฉพาะในหัวข้อที่ผิดกฎหมาย โดยจะแสดงระยะหรือ จานวนทขี่ าดในตอนทา้ ยของหัวขอ้ น้นั ๆ 1 2 ภาพที่ 83 แสดงผลรายงานการตรวจ 1. ผลตรวจระยะร่นอาคาร สว่ นแสดงผลการตรวจขอ้ กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั ระยะร่นในดา้ น และชัน้ ตา่ งๆ ของอาคาร โดยรายงานเรยี งลาดบั ตามดา้ นอาคารทตี่ รวจ 2. ผลตรวจจานวนนบั และพืน้ ที่ ส่วนแสดงผลการตรวจข้อกฎหมายที่เก่ียวกับจานวนนับต่างๆ และขนาด พน้ื ท่ีเปดิ โลง่ พื้นท่ีว่างตาม FAR และ OSR ของอาคาร โดยรายงานเรยี งลาดบั ตามด้านอาคารท่ีตรวจ
บทที่ 5 สรุปผลการศึกษาและขอ้ เสนอแนะ 1. สรุปผลการวจิ ัย ผลจากการศึกษาถึงการตรวจแบบขออนุญาตก่อสร้างอาคารในท่ีดินของสานักงาน สำนกั หอสมุดกลางทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะการตรวจแบบทางสถาปัตยกรรม ตามเทศบัญญัติ กรุงเทพมหานคร และกฎหมายควบคุมอาคาร ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้ได้ทาการศึกษาจากผู้ตรวจแบบ ทาใหท้ ราบถึงความตอ้ งการตรวจวดั ขอ้ มลู เบื้องตน้ ของแบบ เช่น ระยะห่างระหว่างแนวเขตท่ีดินกับ แนวอาคาร, ขนาดพืน้ ทใี่ ช้สอยภายในอาคาร เปน็ ตน้ เพื่อนาข้อมูลทีไ่ ด้นั้น ไปตรวจสอบตามกฎหมาย ควบคุมอาคารท่เี ก่ยี วข้อง ในส่วนของการแสดงผลการตรวจแบบนั้น ข้อมูลท่ีผู้ตรวจแบบมีความต้องการทราบ มากท่ีสุดคือ ต้องการทราบว่าอาคารนี้มีการออกแบบไม่ถูกต้องตามเทศบัญญัติ หรือข้อกฎหมาย ควบคุมอาคารหรอื ไม่ และไมถ่ กู ต้องในหมวดหมู่อะไรบ้าง อีกท้ังสามารถบอกได้ว่าถ้าแบบที่ถูกต้อง จะต้องแกไ้ ขตรงส่วนไหน และแกไ้ ขอย่างไร จากผลการวจิ ยั นี้ โปรแกรมตรวจแบบขออนญุ าตกอ่ สร้างอาคารทไี่ ด้พัฒนาข้ึน จะเป็น ต้นแบบในการพฒั นากระบวนการตรวจแบบ ทาให้การตรวจแบบมีประสิทธภิ าพมากขึ้น และมีความ รวดเร็วในการตรวจแบบเพิม่ ข้นึ อกี ท้งั ยงั ชว่ ยในการลดปริมาณแบบพิมพเ์ ขียวท่ีตรวจไม่ผา่ นใหล้ ดลง 2. อุปสรรคและข้อจากัดในการวิจยั 2.1 ความซบั ซอ้ นของขอ้ กฎหมาย โดยเฉพาะการนาค่าทวี่ ัดได้ในแบบมาใช้ในเงอื่ นไขท่ี แตกต่างกัน ทั้งทเี่ ป็นหวั ขอ้ เดยี วกนั เช่น การระยะร่นอาคารจากถนนสาธารณะ เมื่อถนนกว้างน้อย กว่า 10 เมตร ให้อาคารมีระยะร่นนับจากกึ่งกลางถนนถึงขอบอาคาร แต่เม่ือถนนน้ันมีความกว้าง ตงั้ แต่ 10 เมตรขึ้นไป กลับให้อาคารมีระยะร่นนบั จากขอบถนน จากอุปสรรคดังกล่าว ทาให้โปรแกรมมีโครงสร้างในส่วนของการตรวจแบบท่ี ซบั ซ้อน และเกิดขอ้ จากดั ในการวดั 2.2 ผเู้ ขยี นแบบไม่ได้ใช้มาตรฐานการเขียนแบบ (Master Format) ทาให้ไม่สามารถ อ้างอิงรูปแบบของ Drawing ในแบบน้นั ๆ ได้ เช่น มาตรฐานการต้ัง Layer เป็นต้น ทาให้ระบบต้อง 91
92 ทาการวัดด้วยการสร้าง Polyline หรือ Create Block ขึ้นใหม่ เพื่อให้โปรแกรมสามารถทางานได้ อยา่ งเตม็ ประสทิ ธิภาพ 3. ขอ้ เสนอแนะ 3.1 เพม่ิ หัวขอ้ กฎหมายท่ตี รวจให้ครอบคลุมมากยิ่งขึน้ 3.2 สามารถเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของ FAR & OSR จากเว็บไซด์ของกรมผังเมืองได้ เพื่อความสะดวกในการใชง้ าน สำนกั หอสมุดกลาง3.2 พฒั นา User Interface ให้เรียบงา่ ย และกระชับเหมาะสมกับการตรวจแบบมาก ย่งิ ขน้ึ อาจใช้สัญลักษณ์ (Icon) มาประกอบหรือทดแทนปุ่มคาส่ัง เช่น ปุ่มคาส่ังการนับจานวนจอด รถยนต์ เปลี่ยนเปน็ รูปสัญลกั ษณแ์ ทนเป็นตน้ ภาพท่ี 84 ตวั อย่างสญั ลกั ษณท์ จ่ี อดรถ
รายการอ้างอิง กฎหมายควบคมุ อาคาร กระทรวงมหาดไทย.กฎกระทรวงฉบับท่ี 63 ปี พ.ศ. 2551 ออกตามความใน พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522. เข้าถึงเม่ือ 10 ธันวาคม 2557, เข้าถึงได้จาก http://download.asa.or.th/03media/04law/cba/ mr/mr51-63.pdf กรุงเทพมหานคร.ขอ้ บัญญัตกิ รงุ เทพมหานคร ปี 2549. เขา้ ถึงเมอื่ 21 ธนั วาคม 2557. เข้าถึงได้จาก http://www.apsthailand.com/ สำนกั หอสมุดกลางบัญชา ปะสีละเตสัง. (2552). พัฒนาแอปพลิเคช่ันด้วย Visual C# 2008. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ด ยูเคชั่น. Augie. (2011) .NET Framework คืออะไร มีท่ีมาและความสาคัญอย่างไร. เข้าถึงเม่ือ 5 กรกฎาคม 2556. เข้าถึงได้จาก http://notebookspec.com/net-framework-คือ อะไร-มีท่มี าและความสาคญั อย่างไร/88056/ วิกิพเี ดยี . (2556) ภาษาซีชาร์ป. เข้าถงึ เมือ่ 22 มิถนุ ายน 2556. เขา้ ถงึ ได้จากhttp://th.wikipedia. org/wiki/ภาษาซชี ารป์ วิกิพีเดีย. (2556) เอเอสพีดอตเน็ต. เข้าถึงเมื่อ 25 มิถุนายน 2556. เข้าถึงได้จากhttp://th. wikipedia.org/wiki/เอเอสพีดอตเนต็ Netregis. (2556). ความรู้เกี่ยวกับ ASP.NET Web2.0 และ Web Service. เข้าถึงเม่ือ 25 มิถนุ ายน 2556. เขา้ ถึงไดจ้ าก http://netregis.com/asp.php Nanosoft. NaNoSoft.Product Comparison, เข้าถึงเมื่อ 20 พฤษภาคม 2557 เข้าถึงได้จาก http://nanocad.com/page/Comparison 93
สำนกั หอสมุดกลาง ภาคผนวก
95 สำนกั หอสมุดกลาง ภาคผนวก ก กฎหมายทใี่ ชต้ รวจแบบทางสถาปตั ยกรรม
96 กฎหมายทีใ่ ชต้ รวจแบบทางสถาปัตยกรรม กฏกระทรวง ฉบบั ท่ี 55 (พ.ศ.2543) ออกตามความในพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 ----------------------- สำนกั หอสมุดกลางอาศัยอานาจตามความในมาตรา 5 (3) และมาตรา 8 (1) (7) และ (8) แห่ง พระราชบญั ญัติควบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 อันเป็นพระราชบัญญัติทม่ี ีบทบญั ญัตบิ างประการเกี่ยวกับ การจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 48 มาตรา 49 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้โดยอาศัย อานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยคาแนะนาของ คณะกรรมการควบคมุ อาคารออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้ “อาคารอยู่อาศัย” หมายความว่า อาคารซ่ึงโดยปกติบุคคลใช้อยู่อาศัยได้ท้ังกลางวัน และกลางคนื ไม่ว่าจะเป็นการอยอู่ าศยั อย่างถาวร หรือช่วั คราว “หอ้ งแถว” หมายความว่า อาคารทกี่ ่อสร้างต่อเนื่องกันเป็นแถวยาวตั้งแต่สองคูหาขึ้น ไปมีผนงั แบ่งอาคารเปน็ คหู าและประกอบด้วยวัสดุไม่ทนไฟเปน็ สว่ นใหญ่ “ตึกแถว” หมายความว่า อาคารที่ก่อสร้างต่อเนือ่ งกนั เปน็ แถวยาวตัง้ แต่สองคูหาขึ้นไป มีผนงั แบ่งอาคารเป็นคหู าและประกอบด้วยวัสดทุ นไฟเปน็ ส่วนใหญ่ “บ้านแถว” หมายความว่า ห้องแถวหรือตึกแถวทใ่ี ช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีท่ีว่างด้านหน้า และด้านหลังระหว่างร้ัวหรือแนวเขตที่ดนิ กับตวั อาคารแตล่ ะคูหา และมีความสูงไมเ่ กนิ สามชน้ั “บ้านแฝด” หมายความวา่ อาคารทใ่ี ชเ้ ป็นท่ีอยอู่ าศยั ก่อสร้างติดต่อกันสองบ้าน มีผนัง แบง่ อาคารเปน็ บา้ น มีที่วา่ งระหวา่ งร้วั หรือแนวเขตที่ดินกบั ตวั อาคารดา้ นหน้า ดา้ นหลงั และด้านข้าง ของแต่ละบา้ น และมีทางเขา้ ออกของแตล่ ะบ้านแยกจากกนั เปน็ สัดสว่ น “อาคารพาณิชย์” หมายความว่า อาคารที่ใช้เพ่ือประโยชน์ในการพาณิชยกรรม หรือ บริการธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เคร่ืองจักรท่ีมีกาลังการผลิตเทียบได้ไม่เกิน 5 แรงม้าและให้ หมายความรวมถึงอาคารอืน่ ใดท่ีกอ่ สรา้ งห่างจากถนนหรือทางสาธารณะไม่เกิน 20 เมตร ซึ่งอาจใช้ เปน็ อาคารเพื่อประโยชน์ในการพาณชิ ยกรรมได้ “อาคารสาธารณะ” หมายความว่า อาคารที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการชุมนุมคนได้ โดยทัว่ ไป เพื่อกิจการทางราชการ การเมอื ง การศึกษา การศาสนา การสังคม การนันทนาการ หรือ
97 การพาณิชยกรรม เชน่ โรงมหรสพ หอประชมุ โรงแรม โรงพยาบาล สถานศึกษา หอสมุด สนามกีฬา กลางแจง้ สถานกฬี าในร่ม ตลาด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานบริการ ท่าอากาศยาน อุโมงค์ สะพาน อาคารจอดรถ สถานีรถ ท่าจอดเรือ โปะ๊ จอดเรอื สุสาน ฌาปนสถาน ศาสนสถาน เป็นต้น “อาคารพเิ ศษ” หมายความว่า อาคารท่ีตอ้ งการมาตรฐานความม่ันคงแขง็ แรงและความ ปลอดภัยเป็นพเิ ศษ เชน่ อาคารดังตอ่ ไปนี้ (ก) โรงมหรสพ อัฒจันทร์ หอประชุม หอสมุด หอศิลป์ พิพิธภัณฑสถาน หรือศาสน สถาน สำนกั หอสมุดกลาง(ข) อู่เรอื คานเรอื หรอื ทา่ จอดเรือ สา หรับเรือขนาดใหญ่เกนิ 100 ตันกรอส (ค) อาคารหรอื ส่งิ ท่ีสรา้ งขึน้ สูงเกนิ 15 เมตร หรอื สะพานหรืออาคารหรือโครงหลังคา ชว่ งหนงึ่ เกนิ 10 เมตร หรอื มลี ักษณะโครงสรา้ งทีอ่ าจก่อให้เกดิ ภยันตรายตอ่ สาธารณชนได้ (ง) อาคารที่เก็บวัสดุไวไฟ วัสดุระเบิด หรือวัสดุกระจายแพร่พิษ หรือรังสี ตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยการนน้ั “อาคารอย่อู าศัยรวม” หมายความว่า อาคารหรอื ส่วนใดสว่ นหนึ่งของอาคารท่ีใช้เป็นที่ อยอู่ าศยั สาหรบั หลายครอบครัว โดยแบง่ ออกเปน็ หน่วยแยกจากกนั สาหรับแต่ละครอบครวั “อาคารขนาดใหญ่” หมายความว่า อาคารท่ีมีพื้นท่ีรวมกันทุกช้ันหรือชั้นหนึ่งช้ันใดใน หลังเดียวกันเกิน 2,000 ตารางเมตร หรืออาคารที่มีความสูงต้ังแต่ 15.00 เมตรข้ึนไป และมีพื้นท่ี รวมกันทกุ ชั้นหรือชั้นหนง่ึ ช้ันใดในหลงั เดยี วกันเกนิ 1,000 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร การวัดความสูงของอาคารใหว้ ัดจากระดับพ้ืนดินที่ก่อสร้างถึงพื้นดาดฟ้า สา หรับอาคารทรงจ่ัวหรือ ปน้ั หยาให้วัดจากระดบั พื้นดินทีก่ ่อสร้างถึงยอดผนังของชนั้ สูงสุด “สานกั งาน” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารท่ีใช้เป็นสานักงาน หรือทที่ าการ “คลงั สินคา้ ” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นท่ีสาหรับ เกบ็ สินคา้ หรอื สิ่งของเพ่อื ประโยชนท์ างการค้าหรอื อุตสาหกรรม “โรงงาน” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคารท่ีใช้เป็นโรงงานตาม กฎหมายว่าดว้ ยโรงงาน “โรงมหรสพ” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคารท่ีใช้เป็นสถานท่ี สาหรบั ฉายภาพยนตร์ แสดงละคร แสดงดนตรี หรือแสดงมหรสพอน่ื ใด และมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เปดิ ให้ สาธารณชนเข้าชมการแสดงน้ัน โดยจะมีค่าตอบแทนหรือไม่กต็ าม “โรงแรม” หมายความวา่ อาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นโรงแรมตาม กฎหมายวา่ ด้วยโรงแรม
98 “ภัตตาคาร” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นที่ขาย อาหารหรือเครอ่ื งด่มื โดยมพี ืน้ ทส่ี าหรบั ต้งั โต๊ะอาหารไวบ้ รกิ ารภายในอาคารหรอื ภายนอกอาคาร “วสั ดถุ าวร” หมายความวา่ วสั ดุซ่งึ ตามปกตไิ ม่แปลงสภาพไดง้ ่ายโดยนา้ ไฟ หรอื ดินฟ้า อากาศ “วสั ดทุ นไฟ” หมายความวา่ วัสดกุ ่อสรา้ งที่ไม่เป็นเชอื้ เพลงิ “พ้ืน” หมายความวา่ พืน้ ท่ขี องอาคารท่ีบุคคลเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ภายในขอบเขต ของคานหรือตง ท่ีรับพ้ืน หรือภายในพื้นน้ัน หรือภายในขอบเขตของผนังอาคารรวมทั้งเฉลียงหรือ สำนกั หอสมุดกลางระเบียงด้วย “ฝา” หมายความว่า สว่ นกอ่ สร้างในด้านตง้ั ซ่ึงกนั้ แบ่งพ้นื ภายในอาคารใหเ้ ปน็ หอ้ ง ๆ “ผนัง” หมายความว่า ส่วนก่อสร้างในด้านต้ังซึ่งก้ันด้านนอกหรือระหว่างหน่วยของ อาคารให้เป็นหลังหรือเปน็ หนว่ ยแยกจากกัน “ผนงั กันไฟ” หมายความวา่ ผนงั ทึบท่ีก่อดว้ ยอฐิ ธรรมดาหนาไมน่ อ้ ยกวา่ 18 เซนติเมตร และไมม่ ีชอ่ งท่ใี ห้ไฟหรอื ควันผา่ นได้ หรือจะเป็นผนังทึบท่ีทาด้วยวัสดุทนไฟอย่างอื่นที่มีคุณสมบัติใน การป้องกันไฟไดด้ ีไมน่ อ้ ยกวา่ ผนังที่กอ่ ด้วยอฐิ ธรรมดา หนา 18 เซนติเมตร ถา้ เปน็ ผนงั คอนกรีตเสริม เหล็กต้องหนาไม่น้อยกวา่ 12 เซนติเมตร “อฐิ ธรรมดา” หมายความว่า ดนิ ท่ที าขึ้นเป็นแท่งและได้เผาใหส้ กุ “หลังคา” หมายความว่า ส่ิงปกคลุมส่วนบนของอาคารสาหรับป้องกันแดดและฝน รวมทัง้ โครงสร้างหรอื ส่งิ ใด ซึ่งประกอบข้ึนเพ่ือยดึ เหนย่ี วสิ่งปกคลุมน้ใี ห้มน่ั คง แขง็ แรง “ดาดฟ้า” หมายความว่า พื้นส่วนบนสุดของอาคารท่ีไม่มีหลังคาปกคลุม และบุคคล สามารถขึ้นไปใช้สอยได้ “ช่วงบนั ได” หมายความวา่ ระยะตงั้ บันได ซ่งึ มขี ้นั ต่อเน่ืองกันโดยตลอด “ลูกตั้ง” หมายความวา่ ระยะตัง้ ของขัน้ บนั ได “ลกู นอน” หมายความว่า ระยะราบของขน้ั บันได “ความกว้างสุทธิ” หมายความว่า ความกว้างท่ีวัดจากจุดหน่ึงไปยังอีกจุดหนึ่งโดย ปราศจากสิง่ ใด ๆ กดี ขวาง “ที่ว่าง” หมายความว่า พ้ืนที่อันปราศจากหลังคาหรือส่ิงก่อสร้างปกคลุม ซ่ึงพ้ืนที่ ดังกลา่ วอาจจะจดั ให้เป็นบอ่ น้า สระว่ายนา้ บ่อพักน้าเสีย ท่ีพักมูลฝอย ที่พักรวมมูลฝอย หรือท่ีจอด รถ ท่ีอยภู่ ายนอกอาคารก็ได้ และให้หมายความรวมถึงพน้ื ท่ขี องส่งิ ก่อสรา้ ง หรอื อาคารทีส่ ูงจากระดับ พนื้ ดินไมเ่ กนิ 1.20 เมตร และไมม่ ีหลังคาหรือสิง่ กอ่ สร้างปกคลุมเหนือระดบั นนั้ “ถนนสาธารณะ” หมายความวา่ ถนนทีเ่ ปดิ หรอื ยนิ ยอมใหป้ ระชาชนเข้าไปหรือใช้เป็น ทางสัญจรได้ทงั้ นี้ ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บคา่ ตอบแทนหรือไม่
99 หมวด 1 ลักษณะของอาคาร ข้อ 2 ห้องแถวหรือตึกแถวแต่ละคูหา ต้องมีความกว้างโดยวัดระยะตั้งฉากจากแนว ศูนยก์ ลางของเสาดา้ นหน่ึงไปยังแนวศูนย์กลางของเสาอกี ด้านหน่งึ ไม่นอ้ ยกวา่ 4 เมตร มีความลึกของ อาคารโดยวัดระยะตั้งฉากกับแนวผนังด้านหน้าชั้นล่างไม่น้อยกว่า 4 เมตร และไม่เกิน 24 เมตร มี พน้ื ที่ชัน้ ล่างแตล่ ะคูหาไมน่ อ้ ยกว่า 30 ตารางเมตร และต้องมีประตูให้คนเข้าออกได้ทั้งด้านหน้าและ ดา้ นหลัง สำนกั หอสมุดกลางในกรณที ่ีความลึกของอาคารเกนิ 16 เมตร ตอ้ งจดั ให้มีท่วี ่างอนั ปราศจากส่ิงปกคลุมขึ้น บริเวณหนง่ึ ที่ระยะระหวา่ ง 12 เมตรถึง 16 เมตร โดยให้มีเนอื้ ทไ่ี ม่น้อยกว่า 10 ใน 100 ของพื้นที่ชั้น ลา่ งของอาคารนัน้ ห้องแถวหรือตึกแถวที่สร้างอยู่ริมถนนสาธารณะต้องให้ระดับพ้ืนชั้นล่างของห้องแถว หรอื ตึกแถวมคี วามสูง 10 เซนตเิ มตรจากระดับทางเท้าหนา้ อาคาร หรือมีความสูง 25 เซนติเมตรจาก ระดบั ก่ึงกลางถนนสาธารณะหนา้ อาคาร แล้วแต่กรณี ข้อ 3 บา้ นแถวแต่ละคหู าต้องมีความกว้างโดยวัดระยะตั้งฉากจากแนวศนู ย์กลางของเสา ด้านหนึ่งไปยังแนวศูนย์กลางของเสาอีกด้านหน่ึงไม่น้อยกว่า 4 เมตร มีความลึกของอาคารโดยวัด ระยะต้ังฉากกบั แนวผนงั ด้านหนา้ ชัน้ ล่างไมน่ อ้ ยกว่า 4 เมตร และไมเ่ กิน 24 เมตร และมีพื้นท่ีชั้นล่าง แต่ละคูหาไมน่ อ้ ยกวา่ 24 ตารางเมตร ในกรณที ่ีความลกึ ของอาคารเกนิ 16 เมตร ต้องจดั ใหม้ ที ีว่ ่างอนั ปราศจากส่งิ ปกคลุมข้ึน บริเวณหนึง่ ที่ระยะระหว่าง 12 เมตรถึง 16 เมตร โดยให้มีเนื้อทไี่ ม่น้อยกว่า 20 ใน 100 ของพื้นท่ีชั้น ลา่ งของอาคารนน้ั ขอ้ 4 ห้องแถว ตกึ แถว หรือบ้านแถวจะสร้างต่อเนื่องกันได้ไม่เกินสิบคูหา และมีความ ยาวของอาคารแถวหน่ึง ๆ รวมกันไม่เกิน 40 เมตร โดยวัดระหว่างจุดศูนย์กลางของเสาแรกถึงจุด ศูนย์กลางของเสาสุดทา้ ย ไมว่ า่ จะเปน็ เจา้ ของเดยี วกนั และใช้โครงสรา้ งเดียวกนั หรือแยกกนั ก็ตาม ข้อ 5 ร้ัวหรือกาแพงกั้นเขตที่อยู่มุมถนนสาธารณะท่ีมีความกว้างต้ังแต่ 3 เมตรข้ึนไป และมีมุมหักนอ้ ยกว่า 135 องศา ต้องปาดมมุ รั้วหรอื กาแพงกน้ั เขตนน้ั โดยให้ส่วนที่ปาดมุมมีระยะไม่ นอ้ ยกวา่ 4 เมตรและทามมุ กับแนวถนนสาธารณะเปน็ มุมเทา่ ๆ กัน ข้อ 6 สะพานส่วนบุคคลสาหรับรถยนต์ ต้องมีทางเดินรถกว้างไม่น้อยกว่า 3.50 เมตร และมสี ว่ นลาดชนั ไม่เกิน 10 ใน 100 สะพานที่ใช้เป็นทางสาธารณะสาหรบั รถยนต์ ต้องมที างเดนิ รถกวา้ งไม่นอ้ ยกวา่ 6 เมตร มีสว่ นลาดชันไม่เกิน 8 ใน 100 มีทางเท้าสองข้างกวา้ งขา้ งละไมน่ ้อยกวา่ 1.50 เมตร เว้นแต่สะพานที่
100 สร้างสาหรับรถยนต์โดยเฉพาะจะไม่มีทางเท้าก็ได้ และมีราวสะพานที่มั่นคงแข็งแรงยาวตลอดตัว สะพานสองขา้ งด้วย ข้อ 7 ปา้ ยหรอื ส่งิ ท่สี ร้างข้ึนสาหรับติดหรอื ต้งั ป้ายท่อี าคารต้องไม่บังช่องระบายอากาศ หนา้ ต่าง ประตู หรือทางหนไี ฟ ข้อ 8 ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสาหรับติดหรือตั้งป้ายบนหลังคาหรือดาดฟ้าของอาคาร ตอ้ งไมล่ ้าออกนอกแนวผนังรอบนอกของอาคาร และส่วนบนสดุ ของป้ายหรือส่ิงท่ีสร้างขึ้นสาหรับติด หรอื ต้งั ป้ายตอ้ งสงู ไมเ่ กิน 6 เมตร จากส่วนสูงสดุ ของหลงั คาหรอื ดาดฟา้ ของอาคารทต่ี ดิ ตั้งปา้ ยนั้น สำนกั หอสมุดกลางข้อ 9 ป้ายที่ย่ืนจากผนังอาคารให้ย่ืนได้ไม่เกินแนวกันสาด และให้สูงได้ไม่เกิน 60 เซนตเิ มตรหรือมพี ื้นทปี่ ้ายไมเ่ กิน 2 ตารางเมตร ข้อ 10 ป้ายทตี่ ดิ ตัง้ เหนอื กนั สาดและไม่ไดย้ น่ื จากผนังอาคาร ให้ติดต้ังได้โดยมีความสูง ของป้ายไมเ่ กนิ 60 เซนตเิ มตร วดั จากขอบบนของปลายกันสาดน้ัน หรือมีพื้นท่ีป้ายไม่เกิน 2 ตาราง เมตร ข้อ 11 ปา้ ยที่ติดต้งั ใตก้ ันสาดให้ตดิ ตัง้ แนบผนงั อาคาร และต้องสูงจากพื้นทางเท้านั้นไม่ นอ้ ยกว่า 2.50 เมตร ข้อ 12 ปา้ ยโฆษณาสาหรบั โรงมหรสพใหต้ ิดตั้งขนานกับผนังอาคารโรงมหรสพ แตจ่ ะยืน่ ห่างจากผนงั ได้ไมเ่ กนิ 50 เซนติเมตร หรือหากติดตั้งปา้ ยบนกนั สาดจะตอ้ งไมย่ ื่นลา้ แนวปลายกันสาด น้นั และความสูงของปา้ ยทงั้ สองกรณตี อ้ งไมเ่ กินความสงู ของอาคาร ข้อ 13 ปา้ ยท่ีติดต้ังอยบู่ นพืน้ ดนิ โดยตรง ต้องมีความสงู ไม่เกินระยะที่วัดจากจุดที่ติดตั้ง ปา้ ยไปจนถงึ กึ่งกลางถนนสาธารณะทอ่ี ย่ใู กลป้ า้ ยนัน้ ทส่ี ดุ และมคี วามยาวของปา้ ยไมเ่ กิน 32 เมตร หมวด 2 ส่วนต่าง ๆ ของอาคาร ส่วนที่ 1 วสั ดุของอาคาร ขอ้ 14 สิ่งทสี่ รา้ งขึน้ สาหรับตดิ หรอื ตัง้ ปา้ ยทีต่ ิดตงั้ บนพน้ื ดนิ โดยตรงให้ทาดว้ ยวสั ดทุ นไฟ ทงั้ หมด ข้อ 15 เสา คาน พ้ืน บันได และผนังของอาคารท่ีสูงต้ังแต่สามชั้นข้ึนไป โรงมหรสพ หอประชุม โรงงาน โรงแรม โรงพยาบาล หอสมุด ห้างสรรพสินค้า อาคารขนาดใหญ่ สถานบริการ ตามกฎหมายว่าดว้ ยสถานบริการ ทา่ อากาศยาน หรืออุโมงค์ ต้องทา ด้วยวัสดุถาวรที่เป็นวัสดุทนไฟ ด้วย
101 ขอ้ 16 ผนังของตกึ แถวหรือบา้ นแถว ตอ้ งทาด้วยวัสดุถาวรที่เป็นวัสดุทนไฟด้วย แต่ถ้า กอ่ ด้วยอิฐธรรมดาหรือคอนกรตี ไมเ่ สรมิ เหล็ก ผนังน้ีต้องหนาไม่นอ้ ยกว่า 8 เซนตเิ มตร ข้อ 17 ห้องแถว ตึกแถว หรือบ้านแถวท่ีสร้างติดต่อกัน ให้มีผนังกันไฟทุกระยะไม่เกิน ห้าคูหา ผนังกนั ไฟตอ้ งสร้างต่อเน่ืองจากพื้นดินจนถงึ ระดับดาดฟา้ ท่สี ร้างด้วยวัสดุถาวรที่เป็นวัสดุทน ไฟ กรณีทีเ่ ป็นหลงั คาสรา้ งด้วยวสั ดไุ ม่ทนไฟใหม้ ผี นังกันไฟสงู เหนอื หลังคาไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร ตามความลาดของหลังคา ข้อ 18 ครวั ในอาคารตอ้ งมีพนื้ และผนงั ทีท่ าดว้ ยวสั ดุถาวรที่เป็นวัสดุทนไฟ ส่วนฝาและ สำนกั หอสมุดกลางเพดานนัน้ หากไม่ได้ทา ดว้ ยวสั ดถุ าวรท่เี ป็นวสั ดุทนไฟ กใ็ หบ้ ุด้วยวัสดทุ นไฟ ส่วนที่ 2 พน้ื ที่ภายในอาคาร ข้อ 19 อาคารอยอู่ าศัยรวมตอ้ งมีพ้ืนท่ีภายในแต่ละหน่วยท่ีใช้เพื่อการอยู่อาศัยไม่น้อย กว่า 20 ตารางเมตร ข้อ 20 ห้องนอนในอาคารให้มีความกว้างด้านแคบที่สุดไม่น้อยกว่า 2.50 เมตรและมี พ้ืนทไี่ ม่นอ้ ยกว่า 8 ตารางเมตร ข้อ 21 ช่องทางเดนิ ในอาคาร ตอ้ งมีความกว้างไมน่ ้อยกว่าตามท่กี าหนดไวด้ ังต่อไปน้ี ประเภทอาคาร ความกวา้ ง 1. อาคารอยอู่ าศัย 2. อาคารอยอู่ าศัยรวม หอพักตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหอพัก สานักงาน อาคารสาธารณะ อาคารพาณิชย์ โรงงาน อาคารพเิ ศษ 1.00 เมตร 1.50 เมตร ข้อ 22 หอ้ งหรือส่วนของอาคารท่ีใชใ้ นการทากิจกรรมต่าง ๆ ตอ้ งมรี ะยะด่ิงไม่น้อยกว่า ตามที่กาหนดไว้ดงั ตอ่ ไปน้ี ประเภทการใชอ้ าคาร ระยะด่งิ 1. ห้องทีใ่ ช้เปน็ ทพี่ ักอาศยั บ้านแถว ห้องพกั โรงแรม หอ้ งเรียนนักอนบุ าล ครัวสาหรับ อาคารอยอู่ าศัย หอ้ งพักคนไข้พเิ ศษ ชอ่ งทางเดนิ ในอาคาร 2. ห้องท่ีใช้เปน็ สานักงาน หอ้ งเรียน หอ้ งอาคาร หอ้ งโถงภตั ตาคาร โรงงาน 3. ห้องขายสินค้า ห้องประชุม ห้องคนไข้รวม คลังสินค้า โรงครัว ตลาด และอ่ืนๆ ท่ี คลา้ ยกนั
102 4. หอ้ งแถว ตึกแถว 4.1. ชั้นล่าง 4.2. ตัง้ แตช่ ้ันสองขึน้ ไป 5. ระเบียง 2.60 เมตร 3.00 เมตร 3.50 เมตร สำนกั หอสมุดกลาง3.50 เมตร 3.00 เมตร 2.20 เมตร ระยะด่ิงตามวรรคหน่ึงให้วัดจากพ้ืนถึงพ้ืน ในกรณีของชั้นใต้หลังคา ให้วัดจากพื้นถึง ยอดฝาหรือยอดผนังอาคาร และในกรณขี องห้องหรือสว่ นของอาคารท่อี ยภู่ ายในโครงสรา้ งของหลงั คา ให้วดั จากพ้ืนถงึ ยอดฝาหรือยอดผนงั ของห้องหรือส่วนของอาคารดังกลา่ วทไ่ี มใ่ ชโ่ ครงสร้างของหลังคา ห้องในอาคารซ่ึงมรี ะยะดง่ิ ระหวา่ งพ้ืนถงึ พ้ืนอกี ชน้ั หน่ึงตง้ั แต่ 5 เมตรขึ้นไป จะทาพ้นื ชั้น ลอยในหอ้ งนนั้ ก็ได้ โดยพนื้ ชั้นลอยดงั กล่าวนัน้ ต้องมีเน้ือที่ไม่เกินร้อยละส่ีสิบของเน้ือที่ห้อง ระยะด่ิง ระหวา่ งพ้ืนช้ันลอยถึงพืน้ อกี ช้นั หนงึ่ ตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 2.40 เมตร และระยะดงิ่ ระหวา่ งพ้ืนหอ้ งถึงพื้นชน้ั ลอยต้องไมน่ อ้ ยกวา่ 2.40 เมตร ดว้ ย ห้องนา้ หอ้ งส้วม ตอ้ งมรี ะยะดง่ิ ระหวา่ งพ้นื ถงึ เพดานไมน่ ้อยกวา่ 2 เมตร ส่วนท่ี 3 บันไดของอาคาร ขอ้ 23 บันไดของอาคารอยู่อาศัยถ้ามีต้องมีอย่างน้อยหนึ่งบันไดท่ีมีความกว้างสุทธิไม่ นอ้ ยกว่า 80 เซนตเิ มตร ชว่ งหนึ่งสงู ไม่เกนิ 3 เมตร ลกู ตั้งสูงไมเ่ กิน 20 เซนตเิ มตร ลูกนอนเม่ือหกั ส่วน ทขี่ ้ันบนั ไดเหลอ่ื มกันออกแล้วเหลอื ความกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนติเมตร และต้องมีพื้นหน้าบันไดมี ความกว้างและยาวไม่นอ้ ยกว่าความกวา้ งของบันได บนั ไดท่ีสูงเกนิ 3 เมตร ต้องมีชานพักบันไดทุกช่วง 3 เมตร หรือน้อยกว่าน้ัน และชาน พักบนั ไดต้องมีความกว้างและยาวไมน่ อ้ ยกวา่ ความกวา้ งของบันได ระยะดิง่ จากข้ันบันไดหรือชานพัก บนั ไดถงึ สว่ นตา่ สดุ ของอาคารที่อยเู่ หนอื ข้ึนไปต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.90 เมตร ข้อ 24 บันไดของอาคารอยู่อาศัยรวม หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก สานักงาน อาคารสาธารณะ อาคารพาณิชย์ โรงงาน และอาคารพิเศษ สาหรบั ท่ใี ชก้ บั ช้ันทมี่ ีพ้ืนทอ่ี าคารชนั้ เหนือ ข้ึนไป รวมกนั ไมเ่ กิน 300 ตารางเมตร ต้องมีความกวา้ งสทุ ธิไม่นอ้ ยกวา่ 1.20 เมตร แต่สา หรับบันได
103 ของอาคารดังกล่าวท่ีใชก้ บั ช้นั ทีม่ ีพน้ื ท่อี าคารชนั้ เหนือขน้ึ ไปรวมกันเกนิ 300 ตารางเมตร ต้องมีความ กว้างสทุ ธิไมน่ อ้ ยกว่า 1.50 เมตร ถ้าความกวา้ งสทุ ธขิ องบันไดน้อยกว่า 1.50 เมตร ต้องมีบันไดอย่าง นอ้ ยสองบนั ไดและแต่ละบันไดตอ้ งมคี วามกว้างสทุ ธิไมน่ อ้ ยกวา่ 1.20 เมตร บันไดของอาคารท่ีใช้เป็นท่ีชุมนุมของคนจานวนมาก เช่น บันไดห้องประชุมหรือห้อง บรรยายที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 500 ตารางเมตรขึ้นไป หรือบันไดห้องรับประทานอาหารหรือสถาน บริการที่มพี ้นื ท่ีรวมกนั ตงั้ แต่ 1,000 ตารางเมตรข้นึ ไป หรือบนั ไดของแตล่ ะช้นั ของอาคารนั้นที่มีพ้ืนที่ รวมกันตง้ั แต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องมีความกวา้ งไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร อย่างน้อยสองบันได สำนกั หอสมุดกลางถา้ มบี นั ไดเดียวต้องมคี วามกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร บันไดทีส่ งู เกนิ 4 เมตร ต้องมีชานพกั บนั ไดทกุ ช่วง 4 เมตร หรือน้อยกว่าน้ัน และระยะ ด่ิงจากขั้นบันไดหรือชานพักบันไดถึงส่วนต่าสุดของอาคารท่ีอยู่เหนือขึ้นไปต้องสูงไม่น้อยกว่า 2.10 เมตร ชานพกั บันไดและพ้ืนหน้าบันไดต้องมีความกว้างและความยาวไม่น้อยกว่าความกว้าง สทุ ธขิ องบันได เว้นแต่บันไดที่มีความกวา้ งสุทธเิ กิน 2 เมตร ชานพกั บันไดและพน้ื หน้าบนั ไดจะมคี วาม ยาวไม่เกนิ 2 เมตรกไ็ ด้ บันไดตามวรรคหนงึ่ และวรรคสองตอ้ งมีลกู ตั้งสงู ไม่เกิน 18 เซนติเมตร ลูกนอนเมื่อหัก ส่วนท่ขี ั้นบันไดเหลือ่ มกนั ออกแลว้ เหลือความกว้างไม่นอ้ ยกวา่ 25 เซนตเิ มตร และตอ้ งมีราวบันไดกัน ตก บันไดที่มีความกว้างสุทธิเกิน 6 เมตร และช่วงบันไดสูงเกิน 1 เมตร ต้องมีราวบันไดทั้งสองข้าง บรเิ วณจมูกบันไดตอ้ งมวี ัสดุกันลื่น ข้อ 25 บันไดตามข้อ 24 จะต้องมีระยะห่างไม่เกิน 40 เมตร จากจุดท่ีไกลสุดบนพ้ืน ช้ันนั้น ข้อ 26 บนั ไดตามข้อ 23 และขอ้ 24 ท่ีเป็นแนวโค้งเกิน 90 องศา จะไม่มีชานพักบันได กไ็ ดแ้ ตต่ อ้ งมคี วามกวา้ งเฉล่ยี ของลกู นอนไม่นอ้ ยกว่า 22 เซนติเมตร สาหรับบันไดตามข้อ 23 และไม่ น้อยกวา่ 25 เซนตเิ มตร สา หรบั บนั ไดตามขอ้ 24 ส่วนที่ 4 บันไดหนไี ฟ ข้อ 27 อาคารท่สี งู ตั้งแต่สีช่ ัน้ ขึ้นไปและสงู ไมเ่ กิน 23 เมตร หรอื อาคารท่ีสูงสามชั้นและ มีดาดฟ้าเหนือช้ันทีส่ ามทม่ี ีพื้นท่เี กนิ 16 ตารางเมตร นอกจากมบี นั ไดของอาคารตามปกติแล้ว ต้องมี บันไดหนไี ฟท่ีทาด้วยวัสดทุ นไฟอยา่ งนอ้ ยหน่งึ แหง่ และต้องมที างเดินไปยังบันไดหนีไฟน้ันได้โดยไม่มี สง่ิ กีดขวาง
104 ข้อ 28 บนั ไดหนีไฟตอ้ งมคี วามลาดชนั นอ้ ยกวา่ 60 องศา เว้นแต่ตึกแถวและบ้านแถวที่ สงู ไม่เกินส่ชี ้นั ใหม้ บี นั ไดหนไี ฟท่ีมีความลาดชนั เกิน 60 องศาได้ และต้องมชี านพักบันไดทกุ ช้นั ข้อ 29 บนั ไดหนีไฟภายนอกอาคารต้องมีความกวา้ งสทุ ธิไมน่ ้อยกว่า 60 เซนติเมตรและ ต้องมผี นังส่วนที่บนั ไดหนีไฟพาดผ่านเปน็ ผนังทบึ ก่อสรา้ งด้วยวัสดถุ าวรท่ีเปน็ วัสดุทนไฟ บันไดหนีไฟตามวรรคหนึ่ง ถ้าทอดไม่ถึงพื้นชั้นล่างของอาคารต้องมีบันไดโลหะท่ี สามารถเลอ่ื นหรือยืดหรือหยอ่ นลงมาจนถึงพื้นชน้ั ลา่ งได้ ข้อ 30 บันไดหนไี ฟภายในอาคารตอ้ งมีความกวา้ งสุทธิไมน่ อ้ ยกวา่ 80 เซนตเิ มตร มีผนัง สำนกั หอสมุดกลางทบึ ก่อสร้างด้วยวสั ดุถาวรที่เป็นวัสดุทนไฟกั้นโดยรอบ เว้นแต่ส่วนท่ีเป็นช่องระบายอากาศและช่อง ประตหู นไี ฟ และต้องมีอากาศถ่ายเทจากภายนอกอาคารได้โดยแต่ละชั้นต้องมีช่องระบายอากาศที่ เปดิ สู่ภายนอกอาคารไดม้ ีพืน้ ทรี่ วมกนั ไมน่ อ้ ยกว่า 1.4 ตารางเมตร กับต้องมีแสงสว่างให้เพียงพอทั้ง กลางวนั และกลางคนื ขอ้ 31 ประตูหนีไฟต้องทาดว้ ยวัสดทุ นไฟ มีความกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร สูงไม่น้อยกวา่ 1.90 เมตร และตอ้ งทาเปน็ บานเปดิ ชนิดผลกั ออกสูภ่ ายนอกเทา่ น้ัน กบั ตอ้ งติดอุปกรณ์ ชนิดท่ีบังคับให้บานประตูปิดได้เอง และต้องสามารถเปิดออกได้โดยสะดวกตลอดเวลา ประตูหรือ ทางออกสูบ่ ันไดหนไี ฟต้องไมธ่ รณีหรอื ขอบกน้ั ขอ้ 32 พ้ืนหนา้ บันไดหนไี ฟตอ้ งกว้างไม่น้อยกว่าความกว้างของบันไดและอีกด้านหน่ึง กว้างไมน่ ้อยกว่า 1.50 เมตร หมวด 3 ที่ว่างภายนอกอาคาร ข้อ 33 อาคารแต่ละหลงั หรือหน่วยต้องมที ว่ี ่างตามที่กาหนดดงั ตอ่ ไปนี้ (1) อาคารอยูอ่ าศยั และอาคารอยอู่ าศัยรวม ต้องมีท่ีว่างไม่น้อยกว่า 30 ใน 100 ส่วน ของพนื้ ทีช่ ั้นใดช้นั หนงึ่ ทมี่ ากท่ีสุดของอาคาร (2) หอ้ งแถว ตึกแถว อาคารพาณชิ ย์ โรงงาน อาคารสาธารณะ และอาคารอื่นซ่ึงไม่ได้ ใช้เป็นท่ีอยู่อาศัย ต้องมีที่ว่างไม่น้อยกว่า 10 ใน 100 ส่วน ของพื้นที่ช้ันใดชั้นหนึ่งที่มากที่สุดของ อาคาร แตถ่ ้าอาคารดังกลา่ วใช้เปน็ ทอี่ ยู่อาศัยด้วยตอ้ งมที ่วี า่ งตาม (1) ข้อ 34 ห้องแถวหรือตึกแถวซึ่งด้านหน้าไม่ติดริมถนนสาธารณะ ต้องมีท่ีว่างด้านหน้า อาคารกวา้ งไม่นอ้ ยกวา่ 6 เมตร โดยไม่ใหม้ สี ว่ นใดของอาคารยน่ื ล้าเข้าไปในพน้ื ทด่ี งั กลา่ ว ห้องแถวหรือตกึ แถว ต้องมที ีว่ ่างดา้ นหลังอาคารกวา้ งไมน่ ้อยกว่า 3 เมตร เพื่อใช้ติดต่อ ถงึ กนั โดยไม่ใหม้ ีสว่ นใดของอาคารย่ืนลา้ เขา้ ไปในพน้ื ท่ีดังกลา่ ว เว้นแต่การสร้างบันไดหนีไฟภายนอก อาคารทย่ี ืน่ ล้าไมเ่ กิน 1.40 เมตร
105 ระหวา่ งแถวด้านข้างของหอ้ งแถวหรือตึกแถวทส่ี รา้ งถึงสบิ คูหา หรือมีความยาวรวมกัน ถึง 40 เมตร ต้องมีที่ว่างระหว่างแถวด้านข้างของห้องแถวหรือตึกแถวน้ันกว้างไม่น้อยกว่า 4 เมตร เปน็ ช่วงตลอดความลกึ ของหอ้ งแถวหรือตกึ แถวเพอื่ เชอื่ มกบั ที่วา่ งหลงั อาคาร ห้องแถวหรือตึกแถวท่ีสร้างติดต่อกันไม่ถึงสิบคูหา หรือมี ความยาวรวมกันไม่ถึง 40 เมตรแตม่ ที ่วี า่ งระหวา่ งแถวด้านขา้ งของห้องแถวหรือตกึ แถวนัน้ กว้างน้อยกว่า 4 เมตร ไมใ่ หถ้ อื ว่าเป็น ที่วา่ งระหว่างแถวดา้ นข้างของหอ้ งแถวหรอื ตกึ แถว แต่ให้ถือว่าห้องแถวหรือตึกแถวนั้นสร้างต่อเน่ือง เปน็ แถวเดียวกัน สำนกั หอสมุดกลางที่ว่างตามวรรคหน่ึง วรรคสอง และวรรคสาม จะก่อสร้างอาคาร ร้ัว กา แพง หรือ สงิ่ ก่อสรา้ งอ่ืนใด หรือจดั ใหเ้ ปน็ บ่อนา้ สระว่ายน้า ทีพ่ ักมูลฝอย หรือทพี่ กั รวมมูลฝอยไม่ได้ หอ้ งแถวหรอื ตกึ แถวทีม่ ีดา้ นขา้ งใกลเ้ ขตท่ีดนิ ของผอู้ น่ื ต้องมีท่ีว่างระหว่างด้านข้างของ ห้องแถวหรอื ตกึ แถวกบั เขตทีด่ นิ ของผู้อ่ืนน้ันกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร เว้นแต่ห้องแถวหรือตึกแถวที่ ก่อสร้างข้ึนทดแทนอาคารเดิมโดยมีพื้นที่ไม่มากกว่าพ้ืนที่ของอาคารเดิมและมีความสูงไม่เกิน 15 เมตร ข้อ 35 ห้องแถวหรือตึกแถวท่ีมีท่ีว่างหลังอาคารตามข้อ 34 วรรคสองและได้ร่นแนว อาคารตามขอ้ 41 แลว้ ไม่ต้องมที ว่ี า่ งตามข้อ 33 (1) และ (2) อีก ข้อ 36 บ้านแถวต้องมีที่ว่างด้านหน้าระหว่างรั้วหรือแนวเขตที่ดินกับแนวผนังอาคาร กว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร และต้องมีท่ีว่างด้านหลังอาคารระหว่างร้ัวหรือแนวเขตท่ีดินกับแนวผนัง อาคารกวา้ งไมน่ ้อยกว่า 2 เมตร ระหว่างแถวด้านขา้ งของบา้ นแถวท่สี รา้ งถึงสบิ คหู า หรอื มีความยาวรวมกนั ถงึ 40 เมตร ตอ้ งมีท่ีวา่ งระหวา่ งแถวดา้ นข้างของบา้ นแถวนน้ั กว้างไม่นอ้ ยกวา่ 4 เมตร เป็นชอ่ งตลอดความลึกของ บา้ นแถว บ้านแถวที่สร้างติดต่อกันไม่ถึงสิบคูหา หรือมีความยาวรวมกันไม่ถึง 40 เมตร แต่มีที่ ระหว่างแถวดา้ นขา้ งของบ้านแถวนน้ั กวา้ งน้อยกวา่ 4 เมตร ไมใ่ ห้ถอื วา่ เปน็ ทวี่ ่างระหว่างแถวด้านข้าง ของบา้ นแถว แต่ให้ถอื ว่าบ้านแถวน้นั สร้างตอ่ เนื่องเป็นแถวเดียวกนั ขอ้ 37 บา้ นแฝดตอ้ งมีท่ีว่างด้านหนา้ และด้านหลังระหว่างรั้วหรือแนวเขตท่ีดินกับแนว ผนงั อาคารกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตรและ 2 เมตรตามลาดับ และมีท่ีว่างด้านข้างกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร ข้อ 38 คลังสินค้าที่มีพ้ืนท่ีของอาคารทุกชั้นรวมกันต้ังแต่ 100 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 500 ตารางเมตร ตอ้ งมที ี่ว่างหา่ งแนวเขตทีด่ ินทใี่ ชก้ ่อสรา้ งอาคารนั้นไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เมตร สองด้านสว่ น ด้านอื่นตอ้ งมีทีว่ า่ งหา่ งแนวเขตท่ีดิน ไมน่ อ้ ยกว่า 3 เมตร
106 คลังสินคา้ ทม่ี ีพ้นื ทข่ี องอาคารทกุ ช้ันรวมกันเกิน 500 ตารางเมตร ต้องมีท่ีว่างห่างแนว เขตทด่ี ินที่ใช้ก่อสร้างอาคารน้ันไม่น้อยกว่า 10 เมตร สองด้าน ส่วนด้านอื่นต้องมีที่ว่างห่างจากแนว เขตท่ดี นิ ไม่น้อยกว่า 5 เมตร ข้อ 39 โรงงานทมี่ พี ืน้ ทท่ี ีใ่ ช้ประกอบกจิ การของอาคารทุกชั้นรวมกันต้ังแต่ 200 ตาราง เมตร แต่ไมเ่ กนิ 500 ตารางเมตร ต้องมีที่ว่างห่างแนวเขตท่ีดินที่ใช้ก่อสร้างอาคารนั้นไม่น้อยกว่า 3 เมตร จานวนสองด้านโดยผนังอาคารทั้งสองด้านน้ีให้ทา เป็นผนังทึบด้วยอิฐหรือคอนกรีต ยกเว้น ประตูหนีไฟ สว่ นด้านทเี่ หลือใหม้ ที ่วี ่างไม่นอ้ ยกวา่ 6 เมตร สำนกั หอสมุดกลางโรงงานท่มี ีพ้ืนทที่ ี่ใช้ประกอบกจิ การของอาคารทุกช้ันรวมกนั ต้ังแต่ 500 ตารางเมตร แต่ ไมเ่ กนิ 1,000 ตารางเมตร ตอ้ งมีที่วา่ งห่างแนวเขตทด่ี นิ ท่ีใช้ก่อสรา้ งอาคารนัน้ ไม่น้อยกว่า 6 เมตรทุก ดา้ น โรงงานท่ีมีพ้ืนที่ที่ใช้ประกอบกิจการของอาคารทุกช้ันรวมกันเกิน 1,000 ตารางเมตร ตอ้ งมที วี่ ่างหา่ งแนวเขตท่ีดนิ ทีใ่ ช้กอ่ สรา้ งอาคารน้นั ไม่น้อยกวา่ 10 เมตรทุกดา้ น หมวด 4 แนวอาคารและระยะต่าง ๆ ของอาคาร ข้อ 40 การก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารหรือส่วนของอาคารจะต้องไม่ล้าเข้าไปในท่ี สาธารณะเวน้ แตจ่ ะได้รบั อนญุ าตจากเจ้าพนกั งานซ่งึ มอี า นาจหน้าทีด่ ูแลรักษาทีส่ าธารณะน้ัน ขอ้ 41 อาคารท่ีกอ่ สรา้ งหรอื ดดั แปลงใกลถ้ นนสาธารณะท่มี คี วามกวา้ งน้อยกวา่ 6 เมตร ใหร้ น่ แนวอาคารหา่ งจากกง่ึ กลางถนนสาธารณะอยา่ งน้อย 3 เมตร อาคารที่สูงเกินสองช้ันหรือเกิน 8 เมตร ห้องแถว ตึกแถว บ้านแถว อาคารพาณิชย์ โรงงาน อาคารสาธารณะ ป้ายหรอื ส่งิ ท่สี ร้างข้นึ สา หรบั ตดิ หรอื ตัง้ ป้ายหรือคลงั สินค้า ที่ก่อสร้างหรือ ดัดแปลงใกลถ้ นนสาธารณะ (1) ถ้าถนนสาธารณะนั้นมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจาก ก่งึ กลางถนนสาธารณะอยา่ งน้อย 6 เมตร (2) ถา้ ถนนสาธารณะน้ันมีความกว้างต้ังแต่ 10 เมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 เมตร ให้ร่น แนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะอยา่ งนอ้ ย 1 ใน 10 ของความกวา้ งของถนนสาธารณะ (3) ถา้ ถนนสาธารณะน้ันมคี วามกวา้ งเกิน 20 เมตรขนึ้ ไป ให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขต ถนนสาธารณะอย่างน้อย 2 เมตร ขอ้ 42 อาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงใกล้แหล่งน้าสาธารณะ เช่น แม่น้า คู คลอง ลา ราง หรือลากระโดง ถ้าแหล่งน้าสาธารณะนั้นมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ต้องร่นแนวอาคารให้ หา่ งจากเขตแหลง่ นา้ สาธารณะนน้ั ไม่น้อยกว่า 3 เมตร แตถ่ ้าแหล่งน้าสาธารณะน้ันมีความกว้างต้ังแต่ 10 เมตรข้ึนไป ต้องร่นแนวอาคารให้ห่างจากเขตแหล่งนา้ สาธารณะนั้นไมน่ อ้ ยกว่า 6 เมตร
107 สาหรับอาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงใกล้แหล่งน้าสาธารณะขนาดใหญ่ เช่น บึง ทะเลสาบ หรือทะเล ต้องร่นแนวอาคารให้ห่างจากเขตแหลง่ นา้ สาธารณะนน้ั ไม่นอ้ ยกว่า 12 เมตร ท้ังน้ี เวน้ แต่ สะพาน เข่อื น รวั้ ท่อระบายน้า ท่าเรอื ปา้ ย อเู่ รอื คานเรือ หรือที่ว่างท่ีใช้ เป็นทีจ่ อดรถไม่ตอ้ งร่นแนวอาคาร ขอ้ 43 ใหอ้ าคารทสี่ ร้างตามข้อ 41 และขอ้ 42 ต้องมสี ่วนตา่ สุดของกนั สาดหรอื สว่ นย่ืน สถาปัตยกรรมสงู จากระดับทางเทา้ ไม่น้อยกว่า 3.25 เมตร ทงั้ น้ี ไมน่ บั ส่วนตบแตง่ ทยี่ ื่นจากผนงั ไม่เกิน 50 เซนตเิ มตร และตอ้ งมีทอ่ รบั นา้ จากกนั สาดหรอื หลังคาต่อแนบหรือฝังในผนังหรอื เสาอาคารลงสทู่ อ่ สำนกั หอสมุดกลางสาธารณะหรอื บ่อพัก ข้อ 44 ความสงู ของอาคารไม่ว่าจากจุดหนึ่งจุดใด ต้องไม่เกินสองเท่าของระยะราบวัด จากจดุ น้ันไปต้งั ฉากกับแนวเขตด้านตรงขา้ มของถนนสาธารณะที่อยูใ่ กลอ้ าคารน้ันทสี่ ุด ความสงู ของอาคารใหว้ ัดแนวดิง่ จากระดบั ถนนหรอื ระดบั พน้ื ดนิ ท่กี อ่ สร้างข้ึนไปถึงส่วน ของอาคารท่สี งู ท่สี ดุ สา หรับอาคารทรงจว่ั หรือป้นั หยาใหว้ ดั ถึงยอดผนงั ของชนั้ สงู สุด ข้อ 45 อาคารหลังเดียวกันซึ่งมีถนนสาธารณะสองสายขนาดไม่เท่ากันขนาบอยู่ เม่ือ ระยะระหว่างถนนสาธารณะสองสายนั้นไม่เกิน 60 เมตร และส่วนกว้างของอาคารตามแนวถนน สาธารณะที่กว้างกวา่ ไมเ่ กนิ 60 เมตร ความสงู ของอาคาร ณ จดุ ใดตอ้ งไม่เกินสองเทา่ ของระยะราบที่ ใกล้ทสี่ ุดจากจุดนน้ั ไปตงั้ ฉากกับแนวเขตถนนสาธารณะด้านตรงข้ามของสายท่กี วา้ งกวา่ ขอ้ 46 อาคารหลังเดียวกันซึ่งอยู่ที่มุมถนนสาธารณะสองสายขนาดไม่เท่ากันความสูง ของอาคาร ณ จุดใดต้องไม่เกนิ สองเท่าของระยะราบที่ใกล้ท่ีสดุ จากจดุ นน้ั ไปตั้งฉากกับแนวเขตถนน สาธารณะดา้ นตรงข้ามของสายท่ีกว้างกว่า และความยาวของอาคารตามแนวถนนสาธารณะท่ีแคบ กว่าตอ้ งไมเ่ กิน 60 เมตร สาหรบั อาคารซ่ึงเป็นห้องแถวหรอื ตกึ แถว ความยาวของอาคารตามแนวถนนสาธารณะ ทแ่ี คบกว่าต้องไม่เกิน 15 เมตร ข้อ 47 รว้ั หรือกา แพงทีส่ ร้างขึ้นตดิ ตอ่ หรอื ห่างจากถนนสาธารณะนอ้ ยกวา่ ความสงู ของ ร้วั ใหก้ ่อสรา้ งไดส้ ูงไมเ่ กนิ 3 เมตร เหนือระดับทางเท้าหรอื ถนนสาธารณะ ขอ้ 48 การกอ่ สร้างอาคารในท่ีดินเจา้ ของเดยี วกนั ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ผนังของอาคารด้านท่ีมหี น้าต่าง ประตู ช่องระบายอากาศหรอื ช่องแสง หรือระเบียง ของอาคารตอ้ งมรี ะยะหา่ งจากผนังของอาคารอนื่ ด้านท่ีมหี น้าตา่ ง ประตู ช่องระบายอากาศหรือช่อง แสงหรอื ระเบียงของอาคาร ดังต่อไปน้ี (ก) อาคารที่มคี วามสงู ไมเ่ กิน 9 เมตร ผนังหรือระเบียงของอาคารต้องอยู่ห่างจาก ผนงั หรือระเบยี งของอาคารอนื่ ทม่ี คี วามสงู ไมเ่ กิน 9 เมตร ไมน่ อ้ ยกวา่ 4 เมตร
108 (ข) อาคารท่มี คี วามสงู ไมเ่ กิน 9 เมตร ผนังหรือระเบียงของอาคารต้องอยู่ห่างจาก ผนงั หรือระเบยี งของอาคารอ่ืนทีม่ ีความสูงเกนิ 9 เมตร แตไ่ ม่ถึง 23 เมตร ไม่นอ้ ยกว่า 4 เมตร (ค) อาคารทีม่ ีความสูงเกิน 9 เมตร แตไ่ มถ่ งึ 23 เมตร ผนังหรือระเบียงของอาคาร ต้องอยู่ห่างจากผนังหรอื ระเบียงของอาคารอ่ืนที่มคี วามสงู เกิน 9 เมตร แตไ่ ม่ถึง 23 เมตร ไม่น้อยกว่า 6 เมตร (2) ผนังของอาคารด้านที่เป็นผนังทึบต้องมีระยะห่างจากผนังของอาคารอ่ืนด้านท่ีมี หนา้ ตา่ ง ประตู ชอ่ งระบายอากาศหรอื ช่องแสง หรือระเบยี งของอาคาร ดงั ต่อไปน้ี สำนกั หอสมุดกลาง(ก) อาคารท่ีมีความสูงไม่เกิน 15 เมตร ผนังของอาคารต้องอยู่ห่างจากผนังหรือ ระเบียงของอาคารอืน่ ท่ีมคี วามสงู ไม่เกิน 9 เมตร ไมน่ อ้ ยกว่า 2 เมตร (ข) อาคารท่ีมีความสูงไม่เกิน 15 เมตร ผนังของอาคารต้องอยู่ห่างจากผนังหรือ ระเบียงของอาคารอ่นื ท่มี ีความสงู เกนิ 9 เมตร แต่ไม่ถงึ 23 เมตร ไม่น้อยกวา่ 3 เมตร (ค) อาคารทม่ี คี วามสงู เกนิ 15 เมตร แตไ่ ม่ถงึ 23 เมตร ผนังของอาคารต้องอยู่ห่าง จากผนงั หรอื ระเบยี งของอาคารอน่ื ท่มี คี วามสูงไม่เกิน 9 เมตร ไมน่ ้อยกวา่ 2.50 เมตร (ง) อาคารที่มีความสงู เกนิ 15 เมตร แตไ่ ม่ถงึ 23 เมตร ผนังของอาคารต้องอยู่ห่าง จากผนงั หรือระเบียงของอาคารอ่ืนทม่ี คี วามสงู เกิน 9 เมตร แตไ่ ม่ถงึ 23 เมตร ไม่นอ้ ยกวา่ 3.50 เมตร (3) ผนังของอาคารทมี่ ีความสงู เกนิ 15 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ด้านที่เป็นผนังทึบต้อง อย่หู ่างจากผนงั ของอาคารอืน่ ท่มี ีความสูงเกิน 15เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ด้านท่ีเป็นผนังทึบไม่น้อย กว่า 1 เมตร สาหรับอาคารทม่ี ลี ักษณะตาม (2) และ (3) ผนงั ของดาดฟ้าของอาคารด้านท่ีอยู่ใกล้กับ อาคารอื่นให้ทาการกอ่ สรา้ งเปน็ ผนังทบึ สูงจากพื้นดาดฟ้าไมน่ อ้ ยกวา่ 1.80 เมตร (“ข้อ 48” แกไ้ ขโดยกฎกระทรวงฉบบั ท่ี 61 (พ.ศ. 2550)ฯ) ขอ้ 49 การก่อสรา้ งอาคารในบริเวณดา้ นขา้ งของห้องแถวหรอื ตกึ แถว (1) ถ้าหอ้ งแถวหรอื ตกึ แถวนน้ั มีจานวนรวมกันไดต้ ้ังแต่สิบคูหา หรือมีความยาวรวมกัน ไดต้ ง้ั แต่ 40 เมตรขน้ึ ไป และอาคารท่ีจะสร้างขึ้นเป็นห้องแถวหรือตึกแถว ห้องแถวหรือตึกแถวท่ีจะ สร้างขึน้ ตอ้ งหา่ งจากผนังด้านข้างของหอ้ งแถวหรือตึกแถวเดิมไม่น้อยกว่า 4 เมตร แต่ถ้าเป็นอาคาร อน่ื ตอ้ งห่างจากผนังดา้ นขา้ งของหอ้ งแถวหรอื ตกึ แถวเดิมไมน่ ้อยกวา่ 2 เมตร (2) ถ้าห้องแถวหรือตึกแถวนั้นมีจานวนไม่ถึงสิบคูหาและมีความยาวรวมกันไม่ถึง 40 เมตร อาคารทส่ี ร้างข้ึนจะต้องห่างจากผนังด้านข้างของห้องแถวหรือตึกแถวนั้นไม่น้อยกว่า 2 เมตร เวน้ แตก่ ารสร้างห้องแถวหรือตึกแถวต่อจากห้องแถวหรือตกึ แถวเดิมตามขอ้ 4
109 ข้อ 50 ผนงั ของอาคารทม่ี หี น้าต่าง ประตู ชอ่ งระบายอากาศหรือช่องแสงหรือระเบียง ของอาคารต้องมรี ะยะห่างจากแนวเขตทดี่ ิน ดังนี้ (1) อาคารทีม่ ีความสงู ไมเ่ กนิ 9 เมตร ผนังหรอื ระเบยี งตอ้ งอย่หู า่ งเขตท่ดี ินไมน่ อ้ ยกว่า 2 เมตร (2) อาคารทม่ี ีความสงู เกิน 9 เมตร แตไ่ ม่ถงึ 23 เมตร ผนังหรือระเบียงต้องอยู่ห่างเขต ท่ีดินไมน่ อ้ ยกวา่ 3 เมตร ผนังของอาคารทอ่ี ยู่ห่างเขตท่ีดินน้อยกวา่ ตามที่กา หนดไว้ใน (1) หรือ (2) ต้องอยู่ห่าง สำนกั หอสมุดกลางจากเขตที่ดนิ ไมน่ ้อยกวา่ 50 เซนตเิ มตร เว้นแต่จะกอ่ สรา้ งชดิ เขตท่ีดนิ และอาคารดังกล่าวจะก่อสร้าง ได้สงู ไมเ่ กนิ 15 เมตร ผนงั ของอาคารท่ีอยู่ชิดเขตท่ีดินหรือห่างจากเขตท่ีดินน้อยกว่าที่ระบุไว้ใน (1) หรอื (2) ตอ้ งกอ่ สรา้ งเปน็ ผนงั ทบึ และดาดฟ้าของอาคารดา้ นนนั้ ใหท้ า ผนังทึบสูงจากดาดฟ้าไม่น้อย กว่า 1.80 เมตร ในกรณีก่อสร้างชิดเขตที่ดินต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของที่ดิน ข้างเคียงดา้ นนน้ั ดว้ ย ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 28 กรกฎาคม 2543 พนิ จิ จารสุ มบตั ิ (นายพินจิ จารุสมบัติ) รัฐมนตรีชว่ ยวา่ การฯ ปฎิบัตริ าชการแทน รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
110 ข้อบญั ญัตกิ รงุ เทพมหานคร เร่อื ง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 สำนกั หอสมุดกลางโดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยการควบคุม อาคาร อาศยั อานาจตามความในมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 อันเปน็ พระราชบัญญัติ ทีม่ ีบทบญั ญตั ิ บางประการเกย่ี วกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับ มาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 48 มาตรา 49 และมาตรา 50 ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ิใหก้ ระทาไดโ้ ดยอาศัยอานาจตามบทบัญญตั แิ ห่งกฎหมาย และมาตรา 97 แหง่ พระราชบญั ญัติ ระเบยี บบรหิ ารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 กรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของสภา กรุงเทพมหานคร จึงตราขอ้ บัญญตั ขิ ึ้นไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เร่ือง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544” ข้อ 2 ข้อบญั ญัตนิ ีใ้ หใ้ ช้บงั คบั ตัง้ แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิก (1) ขอ้ บัญญตั กิ รุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการก่อสรา้ งอาคาร พ.ศ. 2522 (2) ข้อบัญญตั ิกรุงเทพมหานคร เรอ่ื ง อาคารจอดรถยนต์ พ.ศ. 2521 บรรดาเทศบัญญตั ิ ข้อบัญญัติ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศหรือคาสั่งอ่ืนใดในส่วนที่ได้ บญั ญตั ไิ ว้แล้วในขอ้ บัญญัติน้ี หรือซง่ึ ขัดแยง้ กบั ขอ้ บญั ญัติน้ใี หใ้ ชข้ ้อบญั ญัตนิ แี้ ทน ข้อ 4 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรักษาการตามข้อบัญญัตินี้ และมีอานาจออก ขอ้ บงั คบั ระเบียบ ประกาศหรือคาสัง่ เพือ่ ปฏบิ ตั ิการให้เป็นไปตามขอ้ บัญญัตนิ ี้ หมวด 1 วิเคราะห์ศัพท์ ข้อ 5 ในข้อบัญญตั นิ ี้ (1) “กรวด” หมายความวา่ กอ้ นหินท่ีเกิดตามธรรมชาตขิ นาดโตเกิน 3 มลิ ลิเมตร
111 (2) “กอ่ สร้าง” หมายความวา่ สร้างอาคารข้นึ ใหมท่ ง้ั หมด ไมว่ า่ จะเปน็ การสร้างขน้ึ แทน ของเดมิ หรอื ไม่ (3) “การระบายน้าทิง้ ” หมายความว่า การปล่อยนา้ ท้ิงลงสู่หรือไหลไปส่แู หลง่ รองรบั นา้ ท้งิ หรือแหลง่ ระบายนา้ (4) “เขตทาง” หมายความว่า ความกว้างรวมของทางระหว่างแนวที่ดินท้ังสองด้าน ซึ่ง รวมความกวา้ งของผวิ จราจร ทางเทา้ ท่วี ่างสาหรบั ปลกู ต้นไม้ คูนา้ และอน่ื ๆ เข้าด้วย (5) “คลังสินค้า” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นท่ี สำนกั หอสมุดกลางสาหรับเก็บสนิ ค้าหรือส่ิงของ เพ่ือประโยชน์ทางการค้าหรืออุตสาหกรรม หรือเพ่ือประโยชน์ในการ ประกอบกจิ การเก็บขนถ่ายสินคา้ ท้งั น้ไี มร่ วมถึงอาคารเก็บของ (6) “ความกว้างของบนั ได” หมายความวา่ ระยะทวี่ ัดตามความยาวของลกู นอนบนั ได (7) “ความสูงของอาคาร” หมายความว่า ส่วนสูงของอาคารวัดตามแนวด่ิงจากระดับ ถนนขน้ึ ไปถงึ สว่ นของอาคารทีส่ งู ท่ีสดุ (8) “คอนกรีต” หมายความว่า วสั ดุทปี่ ระกอบข้ึนด้วยส่วนผสมของปนู ซเี มนต์ มวลผสม ละเอยี ด เชน่ ทราย เป็นต้น มวลผสมหยาบ เชน่ หิน หรือกรวด เป็นต้น และน้า ท้ังน้ีให้หมายความ รวมถงึ คอนกรีตกาลงั ปกติ คอนกรีตกาลงั สงู และคอนกรีตกาลงั สูงพเิ ศษ (9) “คอนกรตี เสรมิ เหล็ก” หมายความวา่ คอนกรีตทีม่ ีเหลก็ เสรมิ ฝงั ภายในให้ทาหน้าที่ รบั แรงได้มากขนึ้ (10)“คอนกรีตอัดแรง” หมายความวา่ คอนกรตี ที่มเี หล็กเสรมิ อัดแรงฝังภายในที่ทาให้ เกดิ หน่วยแรงทมี่ ปี รมิ าณพอจะลบลา้ งหน่วยแรงอันเกดิ จากน้าหนกั บรรทกุ (11) “โครงสร้างหลัก” หมายความวา่ สว่ นประกอบของอาคารที่เป็นเสา คาน ตง พ้ืน หรอื โครงเหลก็ ทมี่ ชี ่วงพาดต้งั แต่ 15 เมตรขน้ึ ไป ซง่ึ โดยสภาพถอื ไดว้ า่ มีความสาคัญต่อความมนั่ คงของ อาคารนัน้ (12) “จดุ สดุ เชงิ ลาด” หมายความว่า จุดเริ่มต้นหรือจุดสุดท้ายท่ีมีความเอียงลาดน้อย กวา่ 2 ใน 100 (13) “ชว่ งบันได” หมายความวา่ ระยะต้งั บนั ไดซึ่งมขี น้ั ต่อเนอ่ื งกนั โดยตลอด (14) “ชนั้ ใตด้ ิน” หมายความว่า พ้ืนของอาคารชั้นที่อยู่ต่ากว่าระดับดินมากกว่า 1.20 เมตร (15) “เชิงลาดสะพาน” หมายความว่า สะพานหรือทางสาธารณะเปล่ียนระดับหรือ ทางเดนิ รถเฉพาะท่ีเชอื่ มกบั สะพานหรอื ทางเปลี่ยนระดบั ที่มสี ่วนลาดชันตอนหน่ึงตอนใดตั้งแต่ 2 ใน 100 ขน้ึ ไป (16) “ซอ่ มแซม” หมายความว่า ซอ่ มหรือเปล่ียนสว่ นตา่ งๆ ของอาคารใหค้ งสภาพเดิม
112 (17) “ฐานราก” หมายความวา่ สว่ นของอาคารที่ใช้ถ่ายนา้ หนกั อาคารลงสดู่ นิ (18) “ดดั แปลง” หมายความว่า เปล่ียนแปลงต่อเติม เพ่ิม ลด หรือขยาย ซ่ึงลักษณะ ขอบเขต แบบรูปทรง สดั ส่วน น้าหนัก เนอื้ ทีข่ องโครงสรา้ งของอาคารหรือส่วนต่างๆ ของอาคาร ซึ่ง ไดก้ อ่ สรา้ งไว้แลว้ ให้ผดิ ไปจากเดิม และมิใช่การซอ่ มแซมหรอื การดัดแปลงท่ีกาหนดในกฎกระทรวง (19) “ดาดฟ้า” หมายความว่า พื้นที่ส่วนบนสุดของอาคารที่ไม่มีหลังคาปกคลุม และ บุคคลขน้ึ ไปใชส้ อย (20) “ดิน” หมายความว่า วัสดุธรรมชาติท่ีประกอบเป็นเปลือกโลก เช่น หิน กรวด สำนกั หอสมุดกลางทราย ดินเหนียว เป็นตน้ (21) “ตลาด” หมายความวา่ อาคารหรอื สว่ นหน่งึ ส่วนใดของอาคารท่ีใช้เป็นตลาดตาม กฎหมายว่าดว้ ยการสาธารณสขุ (22) “ตึกแถว” หมายความว่า อาคารที่ก่อสรา้ งติดต่อกันเปน็ แถวตัง้ แต่สองคหู าขึ้นไปมี ผนังรว่ มแบง่ อาคารเป็นคหู า และประกอบดว้ ยวัสดทุ นไฟเปน็ ส่วนใหญ่ (23) “ถนนสาธารณะ” หมายความว่า ทางสาธารณะทย่ี วดยานผ่านได้ (24) “ทราย” หมายความวา่ ก้อนหินเม็ดเลก็ ละเอียดท่มี ีขนาดโตไม่เกิน 3 มิลลิเมตร (25) “ทาง” หมายความว่า ทางตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกไม่ว่าในระดับ พ้ืนดิน ใตด้ ิน หรือเหนือพ้ืนดนิ แต่ไมร่ วมถึงทางรถไฟ (26) “ทางเข้าออกของรถ” หมายความว่า ทางที่ใช้สาหรับเข้าออกหรือออกหรือเข้า จากท่จี อดรถถึงปากทางเขา้ ออกของรถ หรือปากทางออกของรถหรอื ปากทางเข้าของรถ (27) “ทางน้าสาธารณะ” หมายความว่า ทางนา้ ท่ีประชาชนมีสิทธิใช้เป็นทางคมนาคม ได้ (28) “ทางร่วมทางแยก” หมายความว่า บริเวณท่ีทางท่ีอยู่ในระดับเดียวกันหรือต่าง ระดบั กันตัง้ แต่สองสายที่มีเขตทางกว้างต้ังแต่ 6 เมตรข้นึ ไป และยาวต่อเนอ่ื งไมน่ ้อยกว่า 200 เมตรมา บรรจบหรอื ตดั กนั ทบ่ี ริเวณระดบั เดยี วกัน (29) “ทางระบายน้าสาธารณะ” หมายความว่า ช่องนา้ ไหลตามทางสาธารณะและถนน สาธารณะ ซง่ึ กาหนดไวใ้ หร้ ะบายออกจากอาคารได้ (30) “ทางสว่ นบคุ คล” หมายความว่า ที่ดินของเอกชนซ่ึงประชาชนใช้เป็นทางคมนาคม ได้ และมลี กั ษณะอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ หรือหลายอย่าง ดังตอ่ ไปนี้ (1) เป็นทางคมนาคมท่มี คี วามยาวไม่เกนิ 500 เมตร (2) เป็นทางคมนาคมท่เี จ้าของกรรมสิทธ์ิหวงหา้ มกรรมสิทธ์ิไว้ไม่ว่าจะโดยการปิด ป้ายประกาศ หรอื การเรยี กหรือรบั คา่ ตอบแทนสาหรบั การใช้เปน็ ทางคมนาคม หรอื การทาสัญญากับ ผใู้ ช้ แตไ่ ม่รวมถึงการทาสญั ญายินยอมใหก้ รงุ เทพมหานครเขา้ ปรับปรุงใช้สอย
113 (31) “ทางสาธารณะ” หมายความวา่ ทีด่ ินที่ประชาชนมีสิทธิใช้เป็นทางคมนาคมได้ ที่ ไม่ใชท่ างสว่ นบคุ คล (32) “ทีก่ ลบั รถ” หมายความว่า พ้นื ที่หรือส่งิ ท่ีสร้างขึ้นเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ทีก่ ลบั รถเพ่ือสะดวก ในการจอดหรอื เข้าออกของรถ (33) “ที่จอดรถ” หมายความว่า พื้นท่ีหรือสิ่งที่สร้างข้ึนมาเพ่ือใช้เป็นท่ีจอดรถสาหรับ อาคารบางชนดิ หรอื บางประเภท ทั้งน้ใี หห้ มายความรวมถึงพนื้ ท่หี รือสงิ่ ท่ีสรา้ งขึ้นเพ่อื ใชเ้ ป็นที่จอดรถ เพื่อให้เช่าจอดหรอื เกบ็ ฝากรถ สำนกั หอสมุดกลาง(34) “ท่ีพกั มูลฝอย” หมายความวา่ อปุ กรณห์ รือสถานทท่ี ใี่ ชส้ าหรับเก็บกักมูลฝอยเพื่อ รอการยา้ ยไปที่พกั รวมมูลฝอย (35) “ที่พกั รวมมูลฝอย” หมายความว่า อุปกรณ์หรือสถานที่ที่ใช้สาหรบั เกบ็ กักมลู ฝอย เพือ่ รอการขนยา้ ยไปกาจัด (36) “ทว่ี ่าง” หมายความว่า พ้ืนที่อันปราศจากหลังคาหรือสงิ่ กอ่ สร้างปกคลุม ซ่ึงพ้ืนท่ี ดังกล่าวอาจจะจัดให้เป็นบ่อน้า สระว่ายน้า บ่อพักน้าเสีย ที่พักรวมมูลฝอยหรือที่จอดรถ ท่ีอยู่ ภายนอกอาคารก็ได้ และให้ความหมายรวมถึงพน้ื ที่ของสิ่งกอ่ สร้างหรอื อาคารท่ีสูงจากระดับพน้ื ดินไม่ เกิน 1.20 เมตร และไมม่ หี ลังคาหรือส่ิงกอ่ สรา้ งปกคลมุ เหนือระดับน้ัน (37) “ท่สี าธารณะ” หมายความวา่ ทซี่ ึง่ เปิดหรอื ยนิ ยอมให้ประชาชนเข้าไปหรือใช้เป็น ทางสัญจรได้ ท้งั นีไ้ ม่ว่าจะมีการเรยี กเกบ็ ค่าตอบแทนหรอื ไม่ (38) “แทน่ กลบั รถ” หมายความวา่ อุปกรณ์หรอื เคร่ืองจกั รกลทีใ่ ช้สาหรบั ติดต้ังภายใน อาคารหรือภายนอกอาคารเพ่อื ชว่ ยในการหมนุ หรอื กลบั รถ (39) “นายช่าง” หมายความว่า ข้าราชการกรุงเทพมหานครที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพ- มหานครแตง่ ตัง้ ให้เป็นนายชา่ ง (40) “นายตรวจ” หมายความว่า ข้าราชการกรุงเทพมหานครท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพ- มหานครแต่งตัง้ ให้เป็นนายตรวจ (41) “น้าท้งิ ” หมายความวา่ นา้ จากอาคารทผ่ี ่านระบบบาบัดน้าเสียแล้วจนมีคุณภาพ ตามเกณฑม์ าตรฐานทีก่ าหนด หรือมีคณุ ภาพท่เี หมาะสมจะระบายลงแหลง่ รองรบั น้าทิง้ ได้ (42) “น้าเสีย” หมายความว่า ของเหลวที่ผ่านการใช้แล้วทุกชนิดทั้งที่มีกากหรือไม่มี กาก (43) “นา้ หนกั บรรทุกคงท่ี” หมายความว่า น้าหนักของส่วนต่างๆ ของอาคาร ท้ังน้ีให้ รวมถงึ นา้ หนกั ของวตั ถตุ ่างๆ ท่ีมิใชโ่ ครงสร้างของอาคารแต่ก่อสร้างหรือติดต้ังอยู่บนส่วนต่างๆ ของ อาคารตลอดไป (44) “แนวถนน” หมายความว่า เขตถนนและทางเดินที่กาหนดไวใ้ หเ้ ปน็ ทางสาธารณะ
114 (45) “บ่อดกั ไขมนั ” หมายความว่า สว่ นท่ีเปิดได้ของทางระบายน้าที่กาหนดไว้เพ่ือดัก ไขมัน (46) “บ้านแถว” หมายความว่า ห้องแถวหรือตึกแถวที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งมีท่ีว่าง ด้านหน้าและด้านหลังระหว่างรัว้ หรอื แนวเขตทีด่ ินกบั ตวั อาคารแตล่ ะคูหา (47) “บ้านแฝด” หมายความวา่ อาคารที่ใชเ้ ป็นท่ีอยูอ่ าศัยก่อสร้างติดต่อกันสองบา้ น มี ผนังร่วมแบ่งอาคารเป็นบ้าน มีที่ว่างระหว่างรั้วหรือแนวเขตท่ีดินกับอาคารด้านหน้าด้านหลัง และ ด้านขา้ งของแต่ละบา้ น และมที างเขา้ ออกของแต่ละบา้ นแยกจากกนั เปน็ สัดสว่ น สำนกั หอสมุดกลาง(48) “แบบแปลน” หมายความว่า แบบเพอื่ ประโยชน์ในการกอ่ สร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคล่อื นยา้ ยใชห้ รอื เปลย่ี นการใช้อาคารโดยมีรูปแสดงรายละเอียดส่วนสาคัญขนาดเครื่องหมายวัสดุ และการใช้สอยต่างๆ ของอาคารอยา่ งชดั เจนพอท่จี ะใช้ในการดาเนินการได้ (49) “ปั้นจ่ัน” หมายความว่า เคร่ืองยกท่ีประกอบด้วยส่วนต่างๆ เช่น เสา และรอก เปน็ ต้น ไมว่ ่าจะมคี านยื่นหรอื ไม่มี สาหรับยกของหนัก (50) “ปากทางเข้าออกของรถ” หมายความว่า ส่วนของทางสาหรับรถเข้าออกท่ีเช่ือม กบั เขตทางสาธารณะ (51) “ปากทางออกของรถ” หมายความว่า ส่วนของทางสาหรับรถออกที่เช่ือมกับเขต ทางสาธารณะ (52) “ปากทางเข้าของรถ” หมายความวา่ สว่ นของทางสาหรบั รถเขา้ ทีเ่ ชื่อมกบั เขตทาง สาธารณะ (53) “แปลน” หมายความวา่ แบบแสดงลักษณะสว่ นราบของอาคาร (54) “ผนัง” หมายความว่า ส่วนก่อสร้างในด้านตั้งซ่ึงก้ันด้านนอกหรือระหว่างหน่วย ของอาคารใหเ้ ป็นหลงั หรอื หน่วยแยกจากกนั (55) “ผนังกันไฟ” หมายความว่า ผนังทึบที่ทาด้วยวัสดุทนไฟที่มีคุณสมบัติในการ ปอ้ งกนั ไฟได้ดไี มน่ ้อยกว่าผนังทก่ี ่อด้วยอิฐธรรมดา ฉาบปนู 2 ดา้ น หนาไม่นอ้ ยกว่า 18 เซนติเมตร ถ้า เปน็ ผนังคอนกรีตเสริมเหลก็ ตอ้ งหนาไมน่ อ้ ยกว่า 12 เซนตเิ มตร และไมม่ ชี ่องที่ใหไ้ ฟหรือควนั ผา่ นได้ (56) “ผคู้ วบคุมงาน” หมายความว่า ผซู้ งึ่ รบั ผดิ ชอบในการอานวยการหรือควบคุมดูแล การก่อสรา้ ง ดัดแปลง รื้อถอน หรอื เคลอ่ื นยา้ ยอาคาร (57) “ผู้ดาเนินการ” หมายความว่า เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารซึ่งกระทาการ ก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคล่ือนย้ายอาคารด้วยตนเอง และหมายความรวมถึงผู้ซ่ึงตกลงรับ กระทาการดังกล่าวไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่กต็ าม และผู้รบั จ้างชว่ ง (58) “ผู้ออกแบบ” หมายความว่า ผ้รู ับผิดชอบในการคานวณ เขียนแบบ และกาหนด รายการ เพ่อื ใช้ในการก่อสรา้ ง ดัดแปลง รือ้ ถอน หรือเคลือ่ นยา้ ยอาคาร
115 (59) “แผนผงั บรเิ วณ” หมายความวา่ แผนท่แี สดงลักษณะท่ีต้ัง และขอบเขตที่ดินและ อาคารที่ก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคล่ือนย้าย ใช้หรือเปลี่ยนการใช้ รวมทั้งแสดงลักษณะและ ขอบเขตของท่ีสาธารณะและอาคารในบริเวณที่ดนิ ท่ตี ดิ ตอ่ โดยสงั เขปดว้ ย (60) “ฝา” หมายความวา่ ส่วนก่อสร้างในด้านตั้งซึ่งกั้นแบ่งพื้นที่ภายในอาคารให้เป็น ห้องๆ (61) “พื้น” หมายความว่า พ้ืนของอาคารท่ีบุคคลเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ภายใน ขอบเขตของคานหรือตงที่รับพน้ื หรือภายในพ้นื น้ัน หรอื ภายในขอบเขตของผนังอาคารรวมท้ังเฉลียง สำนกั หอสมุดกลางหรือระเบียงด้วย (62) “พืน้ ทอ่ี าคาร” หมายความว่า พ้ืนที่ของพื้นของอาคารทุกช้ันที่บุคคลเข้าอยู่หรือ เข้าใช้สอยไดภ้ ายในขอบเขตด้านนอกของคาน หรือภายในพ้ืนนั้น หรือภายในขอบเขตด้านนอกของ ผนังของอาคาร และหมายความรวมถงึ เฉลยี งหรอื ระเบยี งดว้ ย (63) “ภัตตาคาร” หมายความวา่ อาคารหรอื ส่วนหน่งึ สว่ นใดของอาคารท่ีใช้เป็นท่ีขาย อาหารหรือเครื่องด่มื โดยมีพ้ืนทไ่ี ว้บริการภายในหรือภายนอกอาคาร (64) “มาตรา” หมายความว่า มาตราตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และพระราชบญั ญัตแิ กไ้ ขเพม่ิ เติม (65) “มูลฝอย” หมายความวา่ มลู ฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (66) “ระบบท่อยืน” หมายความว่า ทอ่ ส่งนา้ และอุปกรณท์ ีใ่ ชส้ าหรบั การดบั เพลงิ (67) “ระบบบาบัดน้าเสีย” หมายความว่า กระบวนการทาหรือปรับปรุงน้าเสียให้มี คณุ ภาพเป็นน้าท้ิงรวมทงั้ การทาให้นา้ ทง้ิ พ้นไปจากอาคาร (68) “ระบบประปา” หมายความวา่ ระบบการจา่ ยน้าเพ่ือใชแ้ ละดื่ม (69) “รายการคานวณ” หมายความวา่ รายการแสดงวิธีการคานวณกาลังของวัสดุการ รบั นา้ หนัก และกาลังต้านทานของสว่ นตา่ งๆ ของอาคาร (70) “รายการคานวณประกอบ” หมายความว่า รายการแสดงวิธีการคานวณทางด้าน วศิ วกรรมทุกสาขา (71) “รายการประกอบแบบแปลน” หมายความว่า ข้อความช้แี จงรายละเอียดเก่ียวกับ คุณภาพ และ ชนิดของวสั ดุตลอดจนวิธกี ารปฏบิ ตั ิ หรือวิธีการสาหรับการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคล่อื นยา้ ย ใช้หรือ เปลยี่ นการใช้อาคาร เพื่อให้เป็นไปตามแบบแปลน (72) “รื้อถอน” หมายความว่า รื้อส่วนอันเป็นโครงสร้างของอาคารออกไป เช่น เสา คาน ตง หรอื ส่วนอน่ื ของโครงสรา้ งตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง (73) “รปู ด้าน” หมายความว่า แบบแสดงลักษณะสว่ นตัง้ ภายนอกของอาคาร (74) “รูปตดั ” หมายความว่า แบบแสดงลกั ษณะส่วนต้ังภายในของอาคาร
116 (75) “แรงกระแทก” หมายความว่า แรงกระทาอนั เนื่องมาจากวตั ถเุ คลอื่ นมากระทบ (76) “แรงลม” หมายความว่า แรงลมทีก่ ระทาตอ่ โครงสร้าง (77) “โรงงาน” หมายความวา่ อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคารท่ีใช้เป็นโรงงาน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงาน (78) “โรงมหรสพ” หมายความว่า อาคารหรอื สว่ นใดของอาคารทใ่ี ชเ้ ป็นสถานทส่ี าหรับ ฉายภาพยนตร์ แสดงละคร แสดงดนตรี หรือการแสดงรื่นเริงอ่ืนใด และมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดให้ สาธารณชนเขา้ ชมการแสดงนั้นเป็นปกติธุระโดยจะมีค่าตอบแทนหรือไมก่ ต็ าม สำนกั หอสมุดกลาง(79) “โรงแรม” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นโรงแรม ตามกฎหมายว่าดว้ ยโรงแรม (80) “ลฟิ ต”์ หมายความว่า อุปกรณ์หรือเครื่องจักรกลท่ีใช้สาหรับบรรทุกบุคคลหรือ ส่ิงของข้ึนลงระหว่างช้ันตา่ งๆ ของอาคาร (81) “ลิฟต์ดับเพลิง” หมายความว่า ลิฟต์ท่ีพนักงานดับเพลิงสามารถควบคุมการใช้ ขณะเกดิ เพลิงไหม้ (82) “ลฟิ ต์ยกรถ” หมายความว่า ลิฟต์ที่ใช้สาหรับยกรถเพื่อเคล่ือนย้ายไปสู่ชั้นต่างๆ ของอาคาร (83) “ลูกต้ัง” หมายความวา่ ระยะตง้ั ของขัน้ บันไดแตล่ ะข้นั (84) “ลูกนอน” หมายความว่า ระยะราบของขน้ั บันไดแตล่ ะขัน้ (85) “วัสดุถาวร” หมายความวา่ วสั ดซุ ง่ึ ตามปกตไิ ม่แปลงสภาพได้งา่ ย โดยนา้ ไฟ หรือ ดินฟา้ อากาศ (86) “วัสดทุ นไฟ” หมายความวา่ วัสดกุ อ่ สรา้ งที่ไม่เปน็ เชื้อเพลงิ (87) “สถานบริการ” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของอาคาร ที่ใช้เป็น สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบรกิ าร (88) “สถาบันท่ีเชอื่ ถือได”้ หมายความว่า สว่ นราชการ หรือนติ บิ คุ คล ที่มีวัตถุประสงค์ ในการให้คาปรกึ ษาแนะนาดา้ นวิศวกรรม ซึง่ มวี ศิ วกรประเภทวุฒิวิศวกรตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ วิศวกรรมเป็นผ้ใู หค้ าปรึกษาแนะนาและลงลายมือช่ือรบั รองผลการตรวจสอบงานวศิ วกรรมควบคุม (89) “ส่วนต่างๆ ของอาคาร” หมายความว่า ส่วนของอาคารท่ีจะต้องแสดงรายการ คานวณการรบั นา้ หนักและกาลังต้านทาน เช่น แผน่ พืน้ คาน เสา และรากฐาน เปน็ ตน้ (90) “ส่วนลาด” หมายความว่า ส่วนระยะต้ังเทียบกับส่วนระยะยาวของฐานตาม แนวราบ (91) “สานกั งาน” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็นที่ทา การ
117 (92) “เสาเข็ม” หมายความวา่ เสาที่ตอกลงดนิ หรือหลอ่ อยใู่ นดินเพ่ือรับนา้ หนกั บรรทุก ของอาคาร ทั้งน้ีให้หมายความรวมถึงกาแพงคอนกรีตซ่ึงมีรูปร่างต่างๆ ที่หล่ออยู่ในดินเพื่อใช้รับ น้าหนกั บรรทกุ ของอาคารดว้ ย (93) “หนว่ ยแรง” หมายความว่า แรงหารดว้ ยพ้นื ท่ีหน้าตัดทีร่ ับแรงน้นั (94) “หลังคา” หมายความว่า สง่ิ ปกคลุมส่วนบนของอาคารสาหรบั ป้องกนั แดดและฝน และใหห้ มายรวมถึงโครงสรา้ งหรอื สิง่ ใดซ่ึงประกอบข้ึน เพอื่ ยึดเหน่ยี วสิ่งปกคลุมนี้ให้มัน่ คงแขง็ แรง (95) “ห้องแถว” หมายความว่า อาคารที่ก่อสรา้ งตอ่ เน่ืองกันเปน็ แถวตั้งแต่สองคูหาข้ึน สำนกั หอสมุดกลางไป มผี นังรว่ มแบ่งอาคารเปน็ คูหา และประกอบดว้ ยวัสดไุ ม่ทนไฟเป็นสว่ นใหญ่ (96) “ห้องโถง” หมายความว่า อาคารหรือส่วนของอาคารซ่ึงจัดพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน โดยเฉพาะท่สี ามารถใช้เป็นที่ประชมุ ชมุ นมุ จัดงานหรอื แสดงกิจกรรมตา่ งๆ ได้ ทัง้ น้ีไม่รวมพ้นื ที่ท่เี ป็น ทางเดินรว่ มในอาคาร เช่น โถงหนา้ ลิฟต์ โถงพักคอยบรเิ วณหนา้ โต๊ะลงทะเบียน โถงรบั แขก เป็นต้น (97) “เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ” หมายความว่า เหล็กที่ผลิตออกมามีหน้าตัดเป็น รูปลักษณะต่างๆ ใชใ้ นงานโครงสรา้ ง (98) “เหลก็ เสริม” หมายความว่า เหลก็ ที่ใชฝ้ งั ในเนอ้ื คอนกรีตเพอื่ เสรมิ กาลงั ขน้ึ (99) “แหล่งรองรับน้าทงิ้ ” หมายความว่า ท่อระบายน้าสาธารณะ คู คลอง แมน่ า้ ทะเล และแหล่งน้าสาธารณะ (100) “อาคารเกบ็ ของ” หมายความว่า อาคารหรือสว่ นหน่ึงสว่ นใดของอาคารท่ีใช้เป็น ที่สาหรับเก็บสินค้าหรือสิ่งของ เพ่ือประโยชน์ของเจ้าของอาคารซ่ึงมีปริมาตรที่ใช้เก็บของไม่เกิน 2,000 ลกู บาศก์เมตร ท้งั นก้ี ารวัดความสูงเพ่ือคานวณปริมาตรให้วัดจากพ้นื ช้ันนนั้ ถึงยอดผนงั สงู สดุ (101) “อาคารขนาดใหญ่” หมายความว่า อาคารท่ีก่อสร้างข้ึนเพ่ือใช้พ้ืนที่อาคารหรือ ส่วนใดของอาคารเป็นที่อยู่อาศัยหรือประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภท โดยมีพ้ืนท่ี อาคารรวมกันทุกชนั้ ในหลงั เดยี วกันเกนิ 2,000 ตารางเมตร หรืออาคารท่มี ีความสงู ต้ังแต่ 15 เมตรขนึ้ ไปและมีพนื้ ทีอ่ าคารรวมกันทกุ ชนั้ ในหลงั เดยี วกนั เกนิ 1,000 ตารางเมตร การวัดความสูงของอาคาร ให้วัดจากระดบั พ้นื ดนิ ท่ีกอ่ สร้างถึงพนื้ ดาดฟา้ สาหรบั อาคารทรงจ่วั หรอื ป้ันหยาให้วัดจากระดับพน้ื ดนิ ทกี่ อ่ สรา้ งถงึ ยอดผนังของช้นั สงู สดุ (102) “อาคารขนาดใหญพ่ ิเศษ” หมายความว่า อาคารที่ก่อสร้างข้ึนเพื่อใช้พื้นท่ีอาคาร หรอื สว่ นใดของอาคารเป็นทอ่ี ยอู่ าศยั หรือประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภทโดยมพี นื้ ที่ อาคารรวมกนั ทกุ ชัน้ ในหลงั เดียวกันต้งั แต่ 10,000 ตารางเมตรขึน้ ไป (103) “อาคารจอดรถ” หมายความว่า อาคารหรือส่วนของอาคารที่ใช้สาหรับจอดรถ ต้ังแต่ 10 คนั ข้ึนไป หรอื มพี ้ืนท่จี อดรถ ทางวง่ิ และทกี่ ลับรถในอาคาร ตัง้ แต่ 300 ตารางเมตรขนึ้ ไป
118 (104) “อาคารจอดรถซ่ึงติดต้ังระบบเคลื่อนย้ายรถด้วยเครื่องจักรกล” หมายความว่า สง่ิ กอ่ สรา้ งหรอื โครงหรอื เคร่อื งจกั รกลที่สรา้ งข้นึ หรือติดต้ังข้ึนเพือ่ ใช้เป็นที่จอดรถหรือเก็บรถโดยใช้ ระบบเคร่อื งกลในการนารถไปจอดหรอื เก็บ ทั้งน้ีใหร้ วมถงึ แท่นหรือพ้ืนหรือโครงสร้างที่ทาขึ้นเพื่อใช้ เปน็ ทจี่ อดรถคันเดยี วหรือหลายคัน และไม่ว่าแท่นหรอื พ้นื หรือโครงสร้างดังกล่าวจะติดตงั้ อยู่กบั ทหี่ รอื สามารถเคล่ือนย้ายไปอย่ใู นตาแหนง่ ตา่ งๆ ไดห้ รอื ไมก่ ต็ าม และให้รวมถึงแท่นกลับรถด้วย โดยจะติด ตัง้ อยู่ภายในอาคารจอดรถ หรือต่อเชือ่ มกบั อาคารจอดรถ หรือตัง้ เป็นอสิ ระอยูน่ อกอาคารกไ็ ด้ (105) “อาคารชุด” หมายความว่า อาคารชุดตามกฎหมายว่าดว้ ยอาคารชดุ สำนกั หอสมุดกลาง(106) “อาคารพาณิชย์” หมายความว่า อาคารท่ีใช้เพ่ือประโยชน์ในการพาณิชยกรรม หรือบริการธรุ กิจหรอื อุตสาหกรรม ทใ่ี ช้เครอ่ื งจักรทมี่ กี าลงั การผลิตเทียบไมเ่ กิน 5 แรงม้า (107) “อาคารพิเศษ” หมายความว่า อาคารท่ีต้องการมาตรฐานความม่ันคงแข็งแรง และความปลอดภยั เปน็ พเิ ศษ เชน่ อาคารดังตอ่ ไปนี้ ก. โรงมหรสพ อัฒจนั ทร์ หอประชมุ หอสมุด หอศิลป์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หรอื ศาสนสถาน ข. อู่เรือ คานเรือ หรือทา่ จอดเรือ สาหรบั เรอื ขนาดใหญ่เกิน 100 ตนั กรอส ค. อาคารหรือสิ่งท่ีสร้างข้ึนสูงเกิน 15 เมตร หรือสะพานหรืออาคารหรือโครง หลงั คาช่วงหนงึ่ เกิน 10 เมตร หรอื มลี กั ษณะโครงสร้างทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กิดภยนั ตรายต่อสาธารณชนได้ ง. อาคารที่เก็บวัสดุไวไฟ วัสดุระเบิด หรือวัสดุกระจายพิษ หรือรังสีตาม กฎหมายวา่ ด้วยการนัน้ ( 108) “อาคารสรรพสินค้า” หมายความว่า อาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่มี พ้นื ท่สี าหรับแสดงหรอื ขายสินค้าต่างๆ และมีพ้ืนที่ต้ังแต่ 300 ตารางเมตรข้ึนไป โดยมีการแบ่งส่วน ของอาคารตามประเภทของสินค้าหรือตามเจ้าของพื้นท่ี ไม่ว่าการแบ่งส่วนน้ันจะทาในลักษณะของ การกั้นเปน็ ห้องหรือไม่ก็ตาม โดยใหห้ มายความรวมถึงอาคารแสดงสินคา้ ด้วย (109) “อาคารสาธารณะ” หมายความว่า อาคารท่ีใช้เพ่ือประโยชน์ในการชุมนุมได้ โดยทวั่ ไปเพ่ือกจิ กรรมทางราชการ การเมือง การศกึ ษา การสังคม การศาสนา การนันทนาการ หรือ การพาณชิ ยกรรม เชน่ โรงมหรสพ หอประชุม โรงแรม โรงพยาบาล สถานศกึ ษา หอสมุด สนามกีฬา กลางแจง้ สถานกฬี าในร่ม ตลาด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานบริการ ท่าอากาศยาน อุโมงค์ สะพาน อาคารจอดรถ สถานีรถ ทา่ จอดเรอื โปะ๊ จอดเรือ สสุ าน ฌาปนสถาน ศาสนสถาน เป็นตน้ (110) “อาคารสงู ” หมายความว่า อาคารท่ีบคุ คลอาจเข้าอยหู่ รือเขา้ ใช้สอยได้ที่มีความ สูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป การวัดความสูงของอาคารให้วัดจากระดับพ้ืนดินท่ีก่อสร้างถึงพื้นดาดฟ้า สาหรบั อาคารทรงจั่วหรอื ปั้นหยา ให้วดั จากระดบั พ้นื ดินทก่ี ่อสรา้ งถึงยอดผนงั ของชั้นสงู สุด
119 (111) “อาคารแสดงสนิ คา้ ” หมายความว่า อาคารหรือสว่ นหนึ่งสว่ นใดของอาคารที่จัด แสดงหรอื ขาย หรือส่งเสรมิ การขายสนิ ค้า และให้หมายรวมถึงอาคารที่สร้างชั่วคราวเพ่ือจัดกิจกรรม ดังกล่าวด้วย (112) “อาคารอยู่อาศัย” หมายความว่า อาคารซ่ึงโดยปกติบุคคลใช้อยู่อาศัยได้ทั้ง กลางวันและกลางคนื ไม่วา่ จะเปน็ การอย่อู าศัยอย่างถาวรหรือชัว่ คราว (113) “อาคารอยู่อาศัยรวม” หมายความว่า อาคารหรอื ส่วนใดสว่ นหนง่ึ ของอาคารที่ใช้ เป็นทอี่ ยู่อาศยั สาหรบั หลายครอบครัว โดยแบ่งออกเป็นหน่วยแยกจากกันสาหรับแต่ละครอบครัวมี สำนกั หอสมุดกลางห้องน้า ห้องส้วม ทางเดิน ทางเข้าออก และทางขึ้นลงหรือลิฟต์แยกจากกันหรือร่วมกัน ท้ังนี้ให้ หมายความรวมถงึ หอพักด้วย (114) “อิฐธรรมดา” หมายความว่า ดินท่ีทาขึน้ เปน็ แทง่ ทึบและไดเ้ ผาให้สกุ หมวด 2 หลกั เกณฑ์ วธิ ีการและเง่อื นไขเกี่ยวกบั การอนุญาต การดาเนินการแจง้ การออกใบรับรองและใบแทน ข้อ 6 ผู้ใดจะกอ่ สร้าง ดัดแปลง รือ้ ถอน เคลอ่ื นย้ายอาคาร ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร ดดั แปลงหรอื ใชท้ ่จี อดรถ ท่กี ลับรถ และทางเขา้ ออกของรถเพ่อื การอน่ื ๆ ขอตอ่ อายุใบอนุญาต ขอรับ ใบแทนใบอนุญาต ขอรับใบแทนใบรับรอง หรือการโอนใบอนญุ าต ใหย้ น่ื คาขอหรอื โดยการแจ้งต่อผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร ตามความในหมวดนี้ ผู้ยื่นคาขอหรือผู้แจง้ ตอ้ งเปน็ เจ้าของอาคารหรือเป็นตัวแทนซึ่งได้รับมอบอานาจ โดย ชอบด้วยกฎหมายจากเจ้าของอาคาร ข้อ 7 เจา้ ของอาคารผใู้ ดประสงคจ์ ะขอรับใบอนญุ าต (1) ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือร้ือถอน ให้ยื่นคาขออนุญาตตามแบบท่ีกาหนดใน กฎกระทรวง พร้อมดว้ ยเอกสารตามท่รี ะบไุ วใ้ นแบบดงั กลา่ ว (2) เคลื่อนย้ายอาคาร ให้ย่ืนคาขออนญุ าตตามแบบท่กี าหนดในกฎกระทรวง พร้อมดว้ ย เอกสารตามทร่ี ะบุในแบบดังกล่าว ผขู้ อรับใบอนุญาตต้องแนบเอกสารเก่ียวกับแผนผังบรเิ วณ แบบแปลน รายการประกอบ แบบแปลน ตามทร่ี ะบุไว้ในแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง จานวน 5 ชดุ พรอ้ มกับคาขอ สาหรับการขอ อนญุ าตกอ่ สร้าง ดัดแปลง หรอื เคลือ่ นย้ายอาคารที่เป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ตามกฎหมายว่า ดว้ ยการควบคุมอาคาร ผวู้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานครจะประกาศกาหนดให้ผ้ขู อรบั ใบอนุญาตต้องแนบ เอกสารดงั กลา่ วมากกวา่ 5 ชุดก็ได้แต่ไม่เกิน 7 ชุด
120 การขออนญุ าตกอ่ สรา้ ง ดัดแปลง หรอื เคล่ือนย้าย อาคารสาธารณะ อาคารพิเศษ หรือ อาคารท่ีก่อสร้างด้วยวัตถุถาวรและวัตถุทนไฟเป็นส่วนใหญ่ ต้องแนบรายการคานวณและรายการ คานวณประกอบ จานวน 1 ชดุ พร้อมกบั คาขอตาม (1) หรือ (2) ดว้ ย ข้อ 8 เจ้าของอาคารผ้ใู ดประสงคจ์ ะกอ่ สรา้ ง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคล่ือนย้ายอาคาร โดยไมย่ ่ืนคาขอรับใบอนญุ าต ให้ดาเนนิ การแจ้งต่อผู้วา่ ราชการกรงุ เทพมหานคร ดงั ต่อไปน้ี (1) แจง้ ให้ผวู้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานครทราบ ตามแบบทีผ่ ู้วา่ ราชการกรุงเทพมหานคร กาหนด พรอ้ มท้ังแจ้งขอ้ มูลและยื่นเอกสารดังต่อไปนี้ดว้ ย สำนกั หอสมุดกลางก. ชือ่ ของผู้รบั ผิดชอบงานออกแบบอาคาร ซึ่งจะต้องเปน็ ผไู้ ดร้ ับใบอนญุ าตให้เป็นผู้ ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมประเภทวุฒิสถาปนิก ตามกฎ หมายว่าด้วยวิชาชีพ สถาปัตยกรรม ข. ช่ือของผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคานวณอาคาร ซ่ึงจะต้องเป็นผู้ได้รับ ใบอนญุ าตให้เป็นผปู้ ระกอบวชิ าชพี วิศวกรรมควบคมุ ประเภทวฒุ ิวิศวกร ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ วิศวกรรม ค. ชื่อของผู้ควบคุมงาน ซ่ึงจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ สถาปตั ยกรรมควบคุมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวชิ าชพี สถาปัตยกรรม และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ ประกอบวิชาชพี วิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวชิ าชพี วศิ วกรรม ง. สาเนาใบอนญุ าตของบุคคลตาม ก. ข. และ ค. จ. หนังสือรับรองของบุคคลตาม ก. ข. และ ค. ว่าตนเป็นผู้ออกแบบอาคารเป็น ผู้ออกแบบและคานวณอาคาร หรือจะเป็นผู้ควบคุมงาน แล้วแต่กรณี ตามแบบที่ผู้ว่าราชการ กรงุ เทพมหานคร กาหนด พรอ้ มทง้ั รับรองว่าการก่อสรา้ ง ดัดแปลง รอื้ ถอน หรือเคลอื่ นย้ายอาคารนนั้ ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎกระทรวง และข้อบัญญัติ กรุงเทพมหานครทีอ่ อกตามความในกฎหมายว่าดว้ ยการควบคุมอาคาร ฉ. แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน รายการคานวณและ รายการคานวณประกอบ ของอาคารที่จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคล่ือนย้าย ซ่ึงมีคารับรอง ของบคุ คล ตาม ก. และ ข. วา่ ตนเป็นผู้ออกแบบอาคารและเป็นผู้ออกแบบและคานวณอาคาร นัน้ ช. วนั เริม่ ต้นและวันสนิ้ สดุ การดาเนินการดังกลา่ ว (2) ถา้ ผแู้ จ้งได้ดาเนินการตามท่ีระบุไว้ใน (1) ครบถ้วน พร้อมชาระค่าธรรมเนียมการ ตรวจแบบแปลนก่อสรา้ ง หรือดัดแปลงอาคารแล้ว ใหผ้ วู้ ่าราชการกรุงเทพมหานครออกใบรับแจ้งตาม
121 แบบทผี่ วู้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานครกาหนด เพ่ือเปน็ หลักฐานการแจง้ ให้แก่ผ้นู ้นั ภายในวนั ท่ีได้รับแจ้ง และให้ผู้แจ้งเริ่มต้นดาเนินการก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามท่ีได้แจ้งไว้ได้ ตั้งแต่วันที่ได้รับใบแจ้ง ขอ้ 9 การขอทาการเจาะกดหรือตอกเสาเขม็ เพ่อื ทาการทดสอบ ท่ีจะใช้ในการก่อสร้าง อาคาร ใหด้ าเนนิ การได้เม่ือไดแ้ จ้งใหผ้ ู้วา่ ราชการกรุงเทพมหานครทราบ โดยมเี อกสารประกอบ ดังนี้ (1) ผงั บริเวณแสดงสถานที่ทีจ่ ะทดสอบเสาเข็ม จานวน 2 ชุด (2) ผังแสดงตาแหนง่ ทจี่ ะทดสอบเสาเข็ม จานวน 2 ชุด สำนกั หอสมุดกลาง(3) หนงั สอื รับรองของวศิ วกรผูค้ วบคมุ งานการทดสอบ ขอ้ 10 แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน รายการคานวณและ รายการคานวณประกอบต้องเป็นภาษาไทย ยกเว้นเฉพาะตัวเลขและสัญลักษณ์ ต้องเป็นส่ิงพิมพ์ สาเนาภาพถา่ ยหรือเขียนดว้ ยหมึก หรอื วิธกี ารอน่ื ใดตามประกาศกรุงเทพมหานครและต้องเป็นไปตาม หลักเกณฑ์และเงือ่ นไขดังต่อไปน้ี (1) มาตราส่วน ขนาด ระยะ นา้ หนัก และหน่วยคานวณตา่ งๆ ใหใ้ ชม้ าตราเมตรกิ (2) แผนผังบริเวณให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ต่อ 500 แสดงลักษณะท่ีตั้งและ ขอบเขตของที่ดิน และอาคารที่ขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคล่ือนย้าย เปลี่ยนการใช้ ดัดแปลงหรือใชท้ จ่ี อดรถ ทกี่ ลบั รถ และทางเข้าออกของรถเพ่ือการอื่น และพน้ื ทหี่ รอื ส่งิ ทส่ี รา้ งข้ึนเพอื่ ใช้เป็นทีจ่ อดรถ ท่ีกลับรถ และทางเข้าออกของรถแทนของเดมิ พรอ้ มรายละเอยี ดดังนี้ ก. แสดงขอบนอกของอาคารทมี่ ีอยแู่ ลว้ (ถ้ามี) ข. ระยะหา่ งของขอบนอกของอาคารท่ีขออนญุ าตถึงขอบเขตของทด่ี ินทุกด้าน ค. ระยะหา่ งระหวา่ งอาคารต่างๆ ทม่ี ีอย่แู ละอาคารท่ขี ออนุญาตในขอบเขตของท่ดี ิน ง. ลกั ษณะและขอบเขตของที่สาธารณะและอาคารในบรเิ วณทีด่ นิ ทตี่ ดิ ตอ่ โดยสังเขป พร้อมด้วยเคร่อื งหมายทิศ จ. ในกรณีท่ีไม่มีทางน้าสาธารณะสาหรับการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง หรือ เคลื่อนย้ายอาคาร ให้แสดงทางระบายน้าออกจากอาคารไปสู่ทางระบายน้าสาธารณะ หรือวิธีการ ระบายนา้ ด้วยวิธอี น่ื พรอ้ มทง้ั แสดงเครอื่ งหมายชท้ี ิศทางนา้ ไหลและส่วนลาด ฉ. แสดงระดบั ของพื้นชั้นล่างของอาคาร และความสัมพันธ์กับระดับทางหรือถนน สาธารณะท่ีใกลท้ ีส่ ุดและระดบั พ้ืนดนิ ช. แผนผงั บริเวณสาหรับการเคลอื่ นย้ายอาคาร ใหแ้ สดงแผนผังบรเิ วณของอาคารท่ี มีอยู่เดมิ และใหแ้ สดงแผนผังบรเิ วณท่จี ะทาการเคล่อื นยา้ ยอาคารไปอยใู่ นทีใ่ หม่ใหช้ ดั เจน
122 แผนผังบริเวณอาคารตามมาตรา 4 เว้นแต่ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สานกั งานและสง่ิ ทีส่ ร้างข้นึ อยา่ งอืน่ ซงึ่ บคุ คลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ ให้แสดงรายละเอียดตาม ก. ข. ค. ง. จ. ฉ. หรือ ช. เทา่ ท่ีจะต้องมีตามลักษณะของอาคารนั้นๆ (3) แบบแปลน ให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ต่อ 100 โดยต้องแสดงรูปต่างๆ คือ แปลนพื้นช้ันต่างๆ รูปด้าน (ไม่น้อยกว่าสองด้าน) รูปตัดทางขวาง รูปตัดทางยาว ผังคานรับพื้นชั้น ต่างๆ และผงั ฐานรากของอาคารที่ขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคลื่อนย้าย เปลี่ยนการใช้ หรอื ดัดแปลง หรือใช้ทจี่ อดรถ ท่ีกลับรถ และทางเข้าออกของรถเพื่อการอื่นพร้อมด้วยรายละเอียด สำนกั หอสมุดกลางดังน้ี ก. แบบแปลนต้องมรี ูปรายละเอยี ดสว่ นสาคัญ ขนาด เคร่ืองหมาย วัสดุ และการใช้ สอยต่างๆ ของอาคารอยา่ งชดั เจนเพยี งพอที่จะพจิ ารณาตามกฎกระทรวง ข้อบัญญัติกรงุ เทพมหานคร หรอื ประกาศของรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ซ่ึงออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการควบคุม อาคาร ข. แบบแปลนสาหรับการก่อสรา้ งอาคาร ให้แสดงสว่ นตา่ งๆ ของอาคารทจ่ี ะกอ่ สรา้ ง ใหช้ ัดเจน ค. แบบแปลนสาหรับการดัดแปลงอาคาร ให้แสดงส่วนท่ีมีอยู่เดิมและส่วนท่ี ดัดแปลงใหช้ ดั เจน ง. แบบแปลนสาหรับการร้ือถอนอาคาร ให้แสดงข้ันตอน วิธีการ ตลอดจนความ ปลอดภัยในการร้อื ถอนอาคาร จ. แบบแปลนสาหรับการเคลื่อนย้ายอาคาร ให้แสดงข้ันตอน วิธีการ ความม่ันคง แขง็ แรง ตลอดจนความปลอดภยั ในการเคล่อื นยา้ ยอาคาร สาหรับอาคารที่มีรูปตัดทางขวาง หรือรูป ตดั ทางยาวของอาคารมีความกว้าง ความยาว หรือความสงู เกนิ 70 เมตร แบบแปลนจะใช้มาตราส่วน เล็กกว่า 1 ต่อ 100 กไ็ ด้ แต่ตอ้ งไม่เล็กกว่า 1 ตอ่ 250 ฉ. แบบแปลนสาหรบั การเปลีย่ นการใช้อาคาร ใหแ้ สดงสว่ นที่ใช้อยเู่ ดมิ และสว่ นท่ีจะ เปล่ียนการใช้ใหมใ่ หช้ ัดเจน ช. แบบแปลนสาหรับการดดั แปลงหรอื ใช้ที่จอดรถ ท่ีกลับรถ และทางเข้าออกของ รถเพือ่ การอืน่ ให้แสดงส่วนท่มี ีอยู่เดมิ และส่วนท่จี ะทาการก่อสร้างใหมแ่ ทนของเดิมใหช้ ัดเจน สาหรับ การก่อสร้างส่ิงท่ีสร้างขึ้นเป็นอาคารเพื่อใช้เป็นที่จอดรถ ท่ีกลับรถ และทางเข้าออกของรถแทน ของเดิม ตอ้ งแสดงสว่ นต่างๆ ของอาคารท่จี ะกอ่ สร้างให้ชดั เจน แบบแปลนสาหรับอาคารตามมาตรา 4 เว้นแต่ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สานักงานและสิ่งท่ีสรา้ งข้ึนอยา่ งอื่นซ่ึงบคุ คลอาจเข้าอยู่หรอื เขา้ ใช้สอยได้ ให้แสดงรายละเอียดตาม ก. ข. ค. ง. จ. ฉ. และ ช. เท่าที่จะต้องมีตามลกั ษณะของอาคารน้ันๆ
123 (4) รายการประกอบแบบแปลน ให้แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพและชนิดของ วัสดุ ตลอดจนวธิ ปี ฏบิ ตั ิหรือวิธกี ารสาหรับการก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคลื่อนย้าย เปล่ียนการใช้ อาคาร หรอื ดดั แปลงหรือใชท้ จ่ี อดรถ ท่กี ลบั รถ และทางเขา้ ออกของรถเพ่ือการอ่นื (5) รายการคานวณ ให้แสดงวิธีการตามหลักวิศวกรรมศาสตร์ โดยคานวณกาลังของ วสั ดุการรบั น้าหนักและกาลังต้านทานของส่วนตา่ งๆ ของอาคาร (6) รายการคานวณประกอบ ใหแ้ สดงวธิ กี ารตามหลกั วิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ โดย คานวณเกี่ยวกับอุปกรณแ์ ละระบบนัน้ ๆ ของอาคาร สำนกั หอสมุดกลางข้อ 11 ผู้รับผิดชอบงานออกแบบหรือผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคานวณต้องลง ลายมือช่ือพร้อมกบั เขียนชอื่ ด้วยตัวบรรจงในแผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน รายการคานวณและรายการคานวณประกอบทุกแผ่น และให้ระบสุ านักงานหรอื ที่อยู่ พร้อมกบั คณุ วุฒิ ของผู้รบั ผิดชอบดงั กล่าวไวใ้ นแผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน รายการคานวณ และรายการคานวณประกอบแตล่ ะชุดด้วย หรือ อาจจะใชส้ ิง่ พิมพ์ สาเนาภาพถ่ายที่ผู้รับผิดชอบงาน ออกแบบ หรอื ผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคานวณท่ีมีลายมือชื่อพร้อมกับเขียนชื่อด้วยตัวบรรจง และระบุรายละเอยี ดดังกลา่ วแทนก็ได้ ในกรณที ผี่ ู้รับผิดชอบงานออกแบบ หรือผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคานวณ เป็นผู้ ได้รบั ใบอนญุ าตใหเ้ ป็นผ้ปู ระกอบวิชาชพี สถาปัตยกรรมควบคมุ หรือวศิ วกรรมควบคมุ ตามกฎหมายว่า ด้วยวชิ าชีพสถาปัตยกรรมหรอื กฎหมายวา่ ดว้ ยวชิ าชพี วศิ วกรรม ให้ระบเุ ลขทะเบียนใบอนญุ าตไวด้ ว้ ย ข้อ 12 เมื่อผ้วู า่ ราชการกรุงเทพมหานครได้รับคาขอตามขอ้ 7 ใหต้ รวจพิจารณาแผนผัง บริเวณแบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน รายการคานวณและรายการคานวณประกอบ (ถ้ามี) เม่ือปรากฏว่าถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎกระทรวง และ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ซึ่งออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารแล้ว ให้ผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานครออกใบอนุญาตตามแบบทก่ี าหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่มีการขออนุญาตเคลื่อนย้ายอาคารไปยังท้องที่ซ่ึงอยู่ในเขตอานาจของเจ้า พนักงานท้องถ่ินอื่นเมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ตรวจพิจารณาตามวรรคหนึ่งและเห็นว่า ถูกต้อง ให้ออกใบอนุญาตตามแบบท่ีกาหนดในกฎกระทรวงและส่งใบอนุญาตและสาเนาคู่ฉบับ เอกสารท่ีไดผ้ ่านการตรวจพิจารณาและประทับตราไว้เป็นจานวน 4 ชุด พร้อมด้วยรายการคานวณ และรายการคานวณประกอบ 1 ชดุ (ถา้ มี) ไปยงั เจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่นแหง่ ทอ้ งท่ที ่ีจะเคล่อื นยา้ ยอาคาร ไปตงั้ ใหม่ กรณีท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้รับเอกสารการอนุญาตเคลื่ อนย้ายอาคารและ สาเนา คฉู่ บบั
124 เอกสารที่เก่ียวข้องจากเจ้าพนักงานท้องถ่ิน ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตรวจ พจิ ารณาตามวรรคหน่ึง เมื่อเห็นว่าถูกต้องแล้ว ใหอ้ อกใบอนญุ าตตามแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง ข้อ 13 เมือ่ ผไู้ ดร้ บั ใบอนญุ าตให้กอ่ สรา้ ง ดดั แปลง หรอื เคล่ือนย้ายอาคาร ท่ีเป็นอาคาร ประเภทควบคุมการใช้ ตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคมุ อาคาร หรอื ผแู้ จ้งตามขอ้ 8 ไดท้ าการก่อสร้าง ดดั แปลง หรอื เคล่อื นย้ายอาคารดังกล่าวเสร็จแล้ว ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารย่ืนหนังสือขอ ใบรับรองถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามแบบท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกาหนด พร้อม เอกสารตามท่ีระบุไวใ้ นแบบดงั กล่าว สำนกั หอสมุดกลางเม่ือผู้วา่ ราชการกรงุ เทพมหานครไดร้ ับหนังสอื ตามวรรคหนึง่ และตรวจสอบแลว้ เห็นว่า การก่อสร้าง ดดั แปลง หรือเคล่ือนย้ายอาคารน้ัน ถูกต้องตามท่ีได้รับอนุญาตหรือท่ีได้แจ้งไว้ ให้ผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานครออกใบรับรองตามแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง ข้อ 14 ในกรณที ่เี จา้ ของหรือผูค้ รอบครองอาคาร ซ่ึงไม่เป็นอาคารประเภทควบคุมการ ใช้ ประสงค์จะใช้อาคารดังกล่าวเพ่ือกิจการประเภทควบคุมการใช้ หรือเจ้าของหรือผู้ครอบครอง อาคาร ซึ่งเปน็ อาคารประเภทควบคุมการใช้ ประสงค์จะเปล่ียนการใช้อาคารเป็นอาคารสาหรับอีก กิจการหน่ึง ให้เจา้ ของอาคารยน่ื คาขออนญุ าตเปลี่ยนการใชอ้ าคารตามแบบทีก่ าหนดในกฎกระทรวง ต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรอ้ มดว้ ยเอกสารตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าวหรือแจ้งเป็นหนังสือ ให้ผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครทราบ ตามมาตรา 39 ทวิ ตามแบบท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กาหนด พร้อมด้วยเอกสารตามท่รี ะบุไว้ในแบบดังกล่าว เม่ือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้รับคาขอหนังสือแจ้งตามความในวรรคหนึ่งและ ตรวจสอบแลว้ เหน็ ว่าถกู ตอ้ ง ใหอ้ อกใบอนญุ าตตามแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง หรือจะออกใบรับ แจ้งตามแบบท่ผี วู้ ่าราชการกรุงเทพมหานครกาหนด แลว้ แตก่ รณี ข้อ 15 การขอใบรับรองเพื่อใช้อาคารประเภทควบคุมการใช้เป็นส่วนๆ ให้ปฏิบัติ ดังตอ่ ไปน้ี เจ้าของอาคารที่ประสงค์จะขอใชอ้ าคารเป็นส่วน ก่อนอาคารน้ันจะเสร็จสมบูรณ์ จะต้อง แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยเสนอแผนการใช้อาคารเป็นส่วนๆ แนบมาพร้อมกับคาขออนุญาตหรือหนังสือแจ้งตามแบบท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกาหนด โดย จะต้องแสดงรายละเอยี ดส่วนท่ีขอใชต้ ามแผนท่ีเสนอให้ปรากฏชัดเจนในแบบแปลนและรายการประกอบ แบบแปลนท่ีย่ืนขออนุญาตซ่ึงถือเป็นรายละเอียดท่ีต้องแสดงเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายละเอียดที่ จาเป็นตอ้ งแสดงตามวตั ถปุ ระสงคท์ ่ยี นื่ ขอตามแบบท่กี าหนดในกฎกระทรวงหรือตามแบบที่ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครกาหนดแล้วแตก่ รณี โดยอาคารแตล่ ะส่วนทขี่ อใช้จะต้องมีความสมบูรณถ์ กู ต้องในตวั เอง เกี่ยวกบั ระบบตา่ งๆ ที่จะต้องจดั ให้มีตามกฎหมาย เชน่ ระบบปอ้ งกันอคั คีภัย ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบระบายนา้ ระบบกาจัดขยะมลู ฝอยและสิง่ ปฏิกูล ระบบสาธารณูปโภค ระบบบาบดั น้าเสีย ท่ีจอดรถ
125 ทก่ี ลบั รถและทางเข้าออกของรถ เป็นต้น นอกจากน้ันจะต้องแสดงมาตรการเพ่ือความปลอดภัยต่อผู้ใช้ อาคารในแตล่ ะส่วนทีข่ อเปิดใช้ดว้ ย เม่อื ผวู้ ่าราชการกรงุ เทพมหานครเหน็ ว่าถกู ต้องจะออกใบอนุญาตให้ กระทาการได้ตามขอตามแบบท่กี าหนดในกฎกระทรวง หรอื ตามที่ได้แจง้ ไว้ตามมาตรา 39 ทวิ ตามแบบ ทผี่ ูว้ ่าราชการกรงุ เทพมหานครกาหนด อาคารที่ได้รับอนุญาตหรือแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ ไปก่อนแล้ว หากเจ้าของอาคารมี ความประสงคจ์ ะใชอ้ าคารเปน็ ส่วนๆ ให้ยน่ื คาขออนญุ าตตามวรรคสอง เมอ่ื ทาการกอ่ สร้างอาคารเสร็จในแต่ละส่วน ให้ผู้ได้รับอนุญาตหรือผู้แจ้งย่ืนคาขอรับ สำนกั หอสมุดกลางใบรับรองตอ่ ผูว้ ่าราชการกรงุ เทพมหานคร ตามแบบที่ผูว้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานครกาหนด เมื่อผู้วา่ ราชการกรุงเทพมหานครตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องจะออกใบรับรองอาคาร ในส่วนนนั้ ตามแบบทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ข้อ 16 ในกรณที ่เี จา้ ของหรอื ผู้ครอบครองอาคารที่ต้องมีพ้ืนที่หรือส่ิงที่สร้างขึ้นเพ่ือใช้ เปน็ ท่จี อดรถ ทีก่ ลบั รถ และทางเข้าออกของรถตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ประสงค์จะ ดดั แปลงหรอื ใชท้ ีจ่ อดรถ ทก่ี ลบั รถ และทางเข้าออกของรถนั้นเพือ่ การอนื่ และก่อสร้างพ้ืนที่หรือสิ่งที่ สร้างข้นึ เพ่อื ใชเ้ ปน็ ที่จอดรถ ท่กี ลับรถ และทางเขา้ ออกของรถแทนของเดิมตามกฎหมายว่าด้วยการ ควบคมุ อาคาร ให้เจา้ ของหรอื ผูค้ รอบครองย่นื คาขออนญุ าตตามแบบทีก่ าหนดในกฎกระทรวง ตอ่ ผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเอกสารตามทร่ี ะบไุ วใ้ นแบบดังกลา่ ว ให้นาความในข้อ 7 วรรคสองและวรรคสาม มาใชบ้ ังคบั กับการอนุญาตตามวรรคหนงึ่ ใน ส่วนท่ีเก่ยี วกับเอกสารท่ีต้องแนบพร้อมคาขอเกี่ยวกับแผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบ แบบแปลน รายการคานวณหรอื รายการคานวณประกอบ โดยอนโุ ลม เมื่อผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครได้รับคาขอตามวรรคหนึ่งแล้วใหด้ าเนนิ การตามขอ้ 12 วรรคหน่งึ และเมือ่ เหน็ ว่าถกู ตอ้ ง ให้ผูว้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานครออกใบอนุญาตตามแบบทก่ี าหนดใน กฎกระทรวง ขอ้ 17 ให้กาหนดระยะเวลาอายุใบอนุญาตก่อสรา้ ง ดัดแปลงอาคาร หรือใบรบั แจง้ ตาม มาตรา 39 ทวิ ตามขนาดของพนื้ ทอ่ี าคารส่วนท่ีจะทาการกอ่ สรา้ งหรอื ดัดแปลง ดังนี้ (1) อาคารที่มพี ้ืนทีร่ วมกันน้อยกวา่ 10,000 ตารางเมตร กาหนดอายุใบอนุญาต ไม่เกิน 1 ปี (2) อาคารท่มี ีพืน้ ทร่ี วมกนั ต้ังแต่ 10,000 ตารางเมตรข้ึนไป แต่ไม่เกิน 50,000 ตาราง เมตรกาหนดอายใุ บอนุญาตไม่เกิน 2 ปี (3) อาคารที่มพี ืน้ ที่รวมกันมากกว่า 50,000 ตารางเมตร กาหนดอายุใบอนุญาต ไม่เกิน 3 ปี ในกรณกี ่อสรา้ ง ดัดแปลงอาคารไม่เสร็จตามกาหนด อนุญาตให้ต่ออายุได้ตามหลักเกณฑ์ในข้อ 18
126 ขอ้ 18 ผูใ้ ดประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตหรอื ใบรับแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ ให้ยื่นคา ขอต่ออายุตามแบบทกี่ าหนดในกฎกระทรวง กอ่ นใบอนญุ าตหรือใบรบั แจ้งสน้ิ อายุ โดยหลักเกณฑแ์ ละ เงื่อนไขในการต่ออายุให้เป็นไปตามท่ีกรุงเทพมหานครกาหนด ขอ้ 19 ในกรณที ีใ่ บอนญุ าตหรือใบรับรองสูญหาย ถูกทาลายหรือชารุดในสาระสาคัญให้ ผู้ได้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองย่ืนคาขอรับใบแทนใบอนุญาต หรือใบแทนใบรับรองตามแบบที่ กาหนดในกฎกระทรวง ต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเอกสารตามที่ระบุไว้ในแบบ ดงั กลา่ ว ภายใน 15 วัน นับแต่วนั ทีไ่ ด้ทราบถึงการสญู หาย ถูกทาลายหรือชารดุ สำนกั หอสมุดกลางเมอ่ื ผ้วู า่ ราชการกรุงเทพมหานครได้รับคาขอตามวรรคหนึ่ง ให้พิจารณาคาขอดังกล่าว หากเห็นว่าถกู ต้องให้ผู้วา่ ราชการกรุงเทพมหานครออกใบแทนใบอนญุ าต หรอื ใบแทนใบรับรองให้แก่ ผยู้ ื่นคาขอ ใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองแล้วแต่กรณี ให้ประทับตราสีแดงคาว่า “ใบแทน” กากับไว้ดว้ ย และใหม้ ี วัน เดือน ปี ที่ออกใบแทน พร้อมท้งั ลงลายมอื ช่ือผ้วู า่ ราชการกรงุ เทพมหานคร กรณีใบรับแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ ใหด้ าเนนิ การตามหลกั เกณฑ์ขา้ งต้น ข้อ 20 ผู้ได้รับใบอนุญาตท่ีประสงค์จะโอนใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคล่ือนยา้ ย หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร หรือใบรับแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ ให้แก่บุคคลอ่ืน ให้ยื่นคาขอ อนุญาตตามแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง พร้อมด้วยเอกสาร ต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ใบอนุญาตหรือใบรับแจ้ง ที่ยังมิได้ทาการก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคล่ือนย้าย หรือเปลย่ี นการใชอ้ าคาร ให้แนบหลักฐานตามท่รี ะบไุ ว้ในแบบทีก่ าหนดในกฎกระทรวงเทา่ น้นั (2) ใบอนญุ าตหรือใบรบั แจ้ง ท่อี ยรู่ ะหวา่ งดาเนนิ การ ผขู้ ออนุญาตจะต้องแนบหลักฐาน ตามทกี่ าหนดในแบบทก่ี าหนดในกฎกระทรวง และหลกั ฐานการโอนทรัพย์สินในส่วนท่ีได้ดาเนินการ ไปแล้วตามกฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ งและในกรณีท่ีอาคารที่อยู่ระหว่างดาเนินการมีส่วนผิดไปจากแผนผัง บริเวณ แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต หรือใบรับแจ้ง ตลอดจนวิธีการ หรือเงื่อนไขที่ผวู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครกาหนดไวใ้ นใบอนุญาตหรือใบรับแจ้ง ผู้รับโอนจะต้องทา หนังสือรับรองว่าตกลงยินยอมรับผิดชอบในการแก้ไขอาคารในส่วนท่ีดาเนินการผิด ให้เป็นไปตาม แบบและเงอื่ นไขในใบอนญุ าตหรอื ใบรับแจง้ ตอ่ ไป เม่ือผู้ว่าราชการกรงุ เทพมหานครพิจารณาแล้วเห็นว่าถูกต้อง ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพ- มหานครออกหนังสือแจ้งการอนุญาตให้โอนใบอนุญาตหรือใบรับแจ้ง ให้แก่ผู้ขอโอน โดยให้ ประทบั ตราสีแดงคาวา่ “โอนแลว้ ” พร้อมระบุช่อื ผรู้ บั โอน และวัน เดอื น ปี ทอ่ี นญุ าตใหโ้ อนกากับไว้ ขอ้ 21 ให้ใชแ้ บบคาขออนุญาต ใบอนุญาตหรือใบแทนตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงที่ ออกตามความในกฎหมายวา่ ด้วยการควบคมุ อาคาร
127 สาหรับหนังสือแจ้งและแบบใบรับแจ้งให้ใช้ตามแบบท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กาหนด หมวด 3 ลกั ษณะต่างๆ ของอาคาร ข้อ 22 อาคารทม่ี ไิ ด้กอ่ สรา้ งด้วยวัสดถุ าวรหรอื วัสดุทนไฟเปน็ ส่วนใหญ่ ครัวตอ้ งอย่นู อก อาคารเปน็ สว่ นสดั ตา่ งหาก ถา้ จะรวมครวั ไวใ้ นอาคารด้วยก็ได้ แตต่ อ้ งมพี ้นื และผนงั ทีท่ าดว้ ยวสั ดุถาวร ทเ่ี ป็นวัสดุทนไฟ ส่วนฝา และเพดานน้ัน หากไมไ่ ด้ทาด้วยวัสดถุ าวรที่เป็นวสั ดทุ นไฟ ก็ให้บดุ ้วยวัสดุทน ไฟ สำนกั หอสมุดกลางข้อ 23 อาคารทม่ี ิไดก้ อ่ สรา้ งด้วยวัสดถุ าวรหรือวัสดุทนไฟเปน็ ส่วนใหญ่ ให้กอ่ สร้างได้ไม่ เกิน 2 ชน้ั ข้อ 24 โครงสร้างหลัก บันได และผนังของอาคารที่สูงต้ังแต่ 3 ชั้นข้ึนไป โรงมหรสพ หอประชมุ โรงงาน โรงแรม โรงพยาบาล หอสมดุ หา้ งสรรพสินคา้ ตลาด อาคารขนาดใหญ่ สถาน บรกิ ารตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ท่าอากาศยาน หรืออุโมงค์ ต้องทาด้วยวัสดุถาวรที่เป็นวัสดุ ทนไฟ ขอ้ 25 เตาไฟสาหรับการพาณิชย์หรือการอตุ สาหกรรม ตอ้ งมผี นงั เตาทาดว้ ยวสั ดทุ นไฟ และต้องตงั้ อยู่ในอาคารท่ีมีพืน้ ผนงั โครงหลังคา วัสดุมุงหลงั คา เพดานและสว่ นประกอบเพดาน (ถ้า มี) เป็นวัสดุทนไฟ ควันไฟที่เกิดข้ึนต้องมีการกาจัดฝุ่นละออง กล่ินหรือก๊าซพิษ ก่อนระบายออกสู่ บรรยากาศ ข้อ 26 บา้ นแฝดตอ้ งมีบันได ผนังและโครงสรา้ งหลกั ประกอบด้วยวัสดุถาวรหรือ วัสดุ ทนไฟเปน็ สว่ นใหญ่ ข้อ 27 หอพักอยู่อาศัยให้มีขนาดห้องพักกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร และมีพื้นที่ไม่น้อย กวา่ 12 ตารางเมตร บันได ผนังและโครงสร้างหลักประกอบด้วยวัสดุถาวรหรือวัสดุทนไฟเป็นส่วน ใหญ่ ข้อ 28 หอ้ งแถว ตกึ แถว หรือบ้านแถวที่สร้างติดต่อกัน ให้มีผนังกันไฟทุกระยะไม่เกิน หา้ คหู า ผนังกันไฟต้องสร้างต่อเนือ่ งจากระดบั พื้นชัน้ ตา่ สุดจนถึงระดับพ้ืนดาดฟ้า กรณีที่เป็นหลังคา ให้มผี นังกนั ไฟสงู เหนอื หลงั คาไม่น้อยกวา่ 30 เซนติเมตรตามความลาดของหลังคา ข้อ 29 วัสดุมุงหลงั คาให้ทาด้วยวัสดทุ นไฟ เว้นแตอ่ าคารซึง่ ตง้ั อยู่หา่ งอาคารอื่นหรอื ทาง สาธารณะเกนิ 20 เมตร จะใช้วสั ดไุ มท่ นไฟกไ็ ด้ ข้อ 30 หอ้ งลิฟตแ์ ละพืน้ ทว่ี ่างหน้าลิฟต์ ต้องกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร และต้องทา ด้วยวัสดทุ นไฟ
128 ขอ้ 31 บา้ นแถวตอ้ งมรี ัว้ ดา้ นหนา้ ด้านหลังและเส้นแบง่ ระหวา่ งบา้ นแถวแตล่ ะหน่วย ขอ้ 32 อาคารทอี่ ยใู่ นบังคับของกฎหมายวา่ ดว้ ยสง่ิ อานวยความสะดวกสาหรับคนพิการ จะต้องจัดส่ิงอานวยความสะดวกสาหรบั คนพกิ ารในเรอ่ื งทางเข้าส่อู าคาร ทางลาด ประตู บันได ลิฟต์ ห้องน้า – ห้องส้วมและสถานทจี่ อดรถ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการนน้ั ขอ้ 33 สะพานสาหรับรถยนต์ ต้องมีทางวิ่งกว้างไม่น้อยกว่า 3.50 เมตร และทางเท้า สองข้างกว้างขา้ งละไมน่ อ้ ยกว่า 0.50 เมตร โดยมีส่วนลาดชันไม่เกิน 10 ใน 100 และมีราวสะพานท่ี มน่ั คงแข็งแรงยาวตลอดตวั สะพานสองข้างด้วย สำนกั หอสมุดกลางข้อ 34 ป้ายหรือสิ่งที่สร้างข้ึนสาหรับติดหรือตั้งป้ายที่อาคารให้ถือเป็นส่วนหน่ึงของ อาคารและตอ้ งไมบ่ งั ช่องระบายอากาศ หน้าตา่ ง ประตู หรือทางหนไี ฟ ข้อ 35 ป้ายที่ติดผนังอาคารที่อยู่ริมทางสาธารณะ ให้ย่ืนได้โดยต้องไม่ล้าที่สาธารณะ ส่วนต่าสุดของปา้ ยตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 3.25 เมตร จากระดับทางเทา้ และสงู ไมเ่ กนิ ความสงู ของอาคาร ขอ้ 36 ป้ายท่ตี ดิ ตั้งอยบู่ นพืน้ ดินโดยตรง ต้องมคี วามสูงไมเ่ กินระยะที่วัดจากจุดที่ติดตั้ง ป้ายไปจนถึงก่ึงกลางถนนสาธารณะ และสูงไมเ่ กนิ 30 เมตร มคี วามยาวไม่เกนิ 32 เมตร และตอ้ งห่าง จากทีด่ ินต่างเจา้ ของไมน่ อ้ ยกว่า 4 เมตร ขอ้ 37 สง่ิ ท่สี รา้ งข้นึ สาหรบั ติดหรือตัง้ ปา้ ยให้ทาด้วยวัสดทุ นไฟทัง้ หมด หมวด 4 บันไดและบนั ไดหนไี ฟ ขอ้ 38 บนั ไดของอาคารอยู่อาศัยถ้ามีต้องมีอย่างน้อยหนึ่งบันไดท่ีมีความกว้างไม่น้อย กว่า 90เซนตเิ มตร ชว่ งหนึ่งสูงไม่เกิน 3 เมตร ลูกต้ังสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตร ลูกนอนเมื่อหักส่วนท่ี ข้ันบันไดเหลื่อมกันออกแล้วเหลือความกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนติเมตร และต้องมีพ้ืนหน้าบันไดมี ความกวา้ งและยาวไมน่ อ้ ยกว่าความกวา้ งของบนั ได บันไดท่สี งู เกนิ 3 เมตร ต้องมีชานพักบันไดทุกช่วง 3 เมตร หรือน้อยกว่านั้น และชาน พักบนั ไดตอ้ งมคี วามกว้างและยาวไม่นอ้ ยกว่าความกวา้ งของบนั ได ระยะด่งิ จากขั้นบันไดหรือชานพัก บันไดถงึ สว่ นต่าสุดของอาคารที่อย่เู หนือขนึ้ ไปต้องสงู ไมน่ อ้ ยกว่า 1.90 เมตร ข้อ 39 โรงมหรสพ หอประชมุ โรงงาน โรงแรม โรงพยาบาล หอสมุด ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานบรกิ ารตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ท่าอากาศยาน สถานีขนส่งมวลชน ที่ก่อสร้าง หรอื ดัดแปลงเกิน 1 ชั้น นอกจากมีบันไดตามปกติแล้วต้องมีทางหนีไฟโดยเฉพาะอย่างน้อยอีกหน่ึง ทาง และต้องมีทางเดนิ ไปยังทางหนีไฟนั้นไดโ้ ดยไมม่ สี ิ่งกีดขวาง อาคารสาธารณะที่มชี ั้นใตด้ นิ ตัง้ แต่ 1 ชั้นข้ึนไป นอกจากมบี ันไดตามปกติแล้ว จะต้องมี ทางหนไี ฟโดยเฉพาะอยา่ งนอ้ ยอกี หน่งึ ทางดว้ ย
129 ข้อ 40 อาคารที่มชี น้ั ใต้ดนิ ตั้งแต่ 2 ชน้ั ขนึ้ ไป นอกจากจะมีบันไดตามปกติแล้วจะต้องมี ทางหนไี ฟโดยเฉพาะอยา่ งนอ้ ยอีกหนงึ่ ทางดว้ ย ข้อ 41 บันไดหนีไฟต้องทาด้วยวัสดุทนไฟและถาวร มีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนตเิ มตร และไมเ่ กิน 150 เซนติเมตร ลกู ตง้ั สงู ไม่เกนิ 20 เซนติเมตร และลูกนอนกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนตเิ มตร ชานพักกวา้ งไมน่ อ้ ยกวา่ ความกวา้ งของบันได มีราวบันไดสูง 90 เซนติเมตร ห้ามสร้าง บนั ไดหนไี ฟเปน็ แบบบันไดเวยี น พนื้ หนา้ บนั ไดหนีไฟต้องกว้างไม่นอ้ ยกวา่ ความกว้างของบันได และอีกด้านหนึ่งกว้างไม่ สำนกั หอสมุดกลางนอ้ ยกว่า 1.50 เมตร กรณใี ชท้ างลาดหนไี ฟแทนบันไดหนไี ฟ ความลาดชนั ของทางหนีไฟดังกล่าวต้องมีความ ลาดชันไม่เกินกวา่ ร้อยละ 12 ข้อ 42 บันไดหนีไฟภายในอาคารที่ไม่ใช่อาคารสูง ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร มผี นงั ทบึ กอ่ สรา้ งด้วยวสั ดทุ นไฟและถาวรกน้ั โดยรอบ เวน้ แตส่ ่วนทเี่ ป็นช่องระบายอากาศ และชอ่ งประตหู นีไฟ และแตล่ ะชน้ั ตอ้ งมชี อ่ งระบายอากาศทีเ่ ปดิ ส่ภู ายนอกอาคารไดม้ พี ืน้ ที่รวมกันไม่ น้อยกว่า 1.40 ตารางเมตร โดยต้องมแี สงสว่างให้เพียงพอทงั้ กลางวนั และกลางคนื บันไดหนีไฟภายในอาคารตามวรรคหน่ึง ท่ีเปน็ อาคารขนาดใหญพ่ เิ ศษ ท่ไี ม่สามารถเปิด ชอ่ งระบายอากาศได้ตามวรรคหน่ึง ตอ้ งมีระบบอัดลมภายในช่องบันไดหนีไฟท่ีมีความดันลมขณะใช้ งานไม่น้อยกวา่ 38.6 ปาสกาลมาตร ทที่ างานได้โดยอัตโนมัติเม่ือเกิดเพลิงไหม้ และบันไดหนีไฟท่ีลง หรอื ขนึ้ สพู่ ืน้ ของอาคารนั้นตอ้ งอย่ใู นตาแหนง่ ท่สี ามารถออกสู่ภายนอกไดโ้ ดยสะดวก ข้อ 43 ตึกแถวหรือบ้านแถวท่ีมีจานวนชั้นไม่เกิน 4 ช้ัน หรือสูงไม่เกิน 15 เมตรจาก ระดบั ถนนบนั ไดหนไี ฟจะอยู่ในแนวด่งิ ก็ได้แต่ต้องมีชานพักบันไดทุกช้ัน โดยมีความกว้างไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร ระยะห่างของข้ันบันไดแต่ละข้ันไม่มากกว่า 40 เซนติเมตร และติดต้ังในส่วนท่ีว่าง ทางเดนิ ด้านหลังอาคารได้ บนั ไดข้ันสดุ ท้ายอยสู่ งู จากระดบั พนื้ ดินได้ไม่เกนิ 3.50 เมตร ข้อ 44 ตาแหน่งที่ต้ังบันไดหนีไฟ ยกเว้นอาคารตามข้อ 43 ต้องมีระยะห่างระหว่าง ประตหู ้องสดุ ทา้ ยด้านทางเดนิ ท่ีเปน็ ทางตนั ไมเ่ กนิ 10 เมตร ระยะหา่ งระหว่างบนั ไดหนีไฟตามทางเดนิ ตอ้ งไม่เกนิ 60 เมตร ตอ้ งมีบนั ไดหนไี ฟจากช้นั สูงสุดหรือดาดฟา้ สพู่ ืน้ ดินถา้ เป็นบนั ไดหนไี ฟภายในอาคารและ ถงึ พืน้ ชั้นสองถา้ เปน็ บนั ไดหนีไฟภายนอกอาคาร ข้อ 45 ประตูของบันไดหนีไฟต้องทาด้วยวัสดุทนไฟมีความกว้างไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร สูงไม่น้อยกว่า 1.90 เมตร สามารถทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ช่ัวโมง และต้องเป็นบานเปิด ชนดิ ผลักเขา้ สูบ่ ันไดเทา่ นนั้ ชน้ั ดาดฟ้า ชั้นล่างและชั้นท่ีออกเพ่ือหนีไฟสู่ภายนอกอาคารให้เปิดออก
130 จากห้องบันไดหนีไฟพร้อมติดต้ังอุปกรณ์ชนิดท่ีบังคับให้บานประตูปิดได้เอง ประตูหรือทางออกสู่ บนั ไดหนีไฟต้องไมม่ ขี น้ั หรือธรณีประตูหรอื ขอบกัน้ ข้อ 46 ต้องมีป้ายเรืองแสงหรือเครื่องหมายไฟแสงสว่างด้วยไฟสารองฉุกเฉินบอก ทางออกสูบ่ ันไดหนไี ฟ ตดิ ต้งั เป็นระยะตามทางเดินบริเวณหน้าทางออกสู่บันไดหนีไฟ และทางออก จากบนั ไดหนีไฟสู่ภายนอกอาคารหรอื ช้ันท่ีมที างหนไี ฟได้ปลอดภัยต่อเนือ่ ง โดยป้ายดงั กล่าวต้องแสดง ข้อความทางหนไี ฟเปน็ อกั ษรมีขนาดสงู ไม่น้อยกว่า 15 เซนตเิ มตร หรอื เครื่องหมายท่ีมีแสงสว่างและ แสดงว่าเป็นทางหนไี ฟใหช้ ดั เจน สำนกั หอสมุดกลางหมวด 5 แนวอาคารและระยะตา่ งๆ ข้อ 47 บา้ นแถวทไ่ี มอ่ ยู่รมิ ทางสาธารณะต้องมีถนนดา้ นหน้าใช้ร่วมกันกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร ขอ้ 48 บ้านแถวทม่ี ีด้านข้างใกลเ้ ขตทีด่ ินของผอู้ ื่น ตอ้ งมที ว่ี า่ งระหว่างด้านข้างของบ้าน แถวกับเขตที่ดนิ ของผู้อ่ืนนั้นกวา้ งไม่นอ้ ยกว่า 2 เมตร เว้นแตบ่ ้านแถวท่กี อ่ สร้างขน้ึ ทดแทนอาคารเดิม โดยมพี นื้ ที่ไมม่ ากกว่าพ้นื ทข่ี องอาคารเดิมและมคี วามสงู ไม่เกนิ 12 เมตร ข้อ 49 ความสงู ของอาคารไม่ว่าจากจุดหนึ่งจุดใด ต้องไม่เกิน 2 เท่าของระยะราบ วัด จากจุดนัน้ ไปตง้ั ฉากกบั แนวถนนด้านตรงขา้ มของถนนสาธารณะทอ่ี ยใู่ กลอ้ าคารนั้นท่สี ดุ กรณีอาคารต้ังอยู่ริมหรือห่างไม่เกิน 100 เมตร จากถนนสาธารณะท่ีกว้างไม่น้อยกว่า 80 เมตร และมีทางเข้าออกจากอาคารสู่ทางสาธารณะนั้นกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ให้คิดความสูง ของอาคารจากความกวา้ งของถนนสาธารณะทกี่ วา้ งท่สี ดุ เป็นเกณฑ์ ข้อ 50 อาคารที่กอ่ สร้างหรอื ดัดแปลงใกล้ถนนสาธารณะที่มีความกว้างนอ้ ยกวา่ 6 เมตร ให้ร่นแนวอาคารหา่ งจากก่ึงกลางถนนสาธารณะอยา่ งนอ้ ย 3 เมตร มใิ ห้มีส่วนของอาคารล้าเข้ามาใน แนวร่นดังกลา่ ว ยกเวน้ รวั้ หรอื กาแพงก้ันแนวเขตทสี่ ูงไมเ่ กนิ 2 เมตร อาคารท่ีสูงเกิน 2 ช้ันหรือเกิน 8 เมตร อาคารขนาดใหญ่ ห้องแถว ตึกแถว อาคาร พาณิชย์ โรงงานอาคารสาธารณะ คลังสินค้า ป้ายหรือสิ่งท่ีสร้างขึ้นสาหรับติดหรือต้ังป้าย ยกเว้น อาคารอยู่อาศัยสงู ไม่เกิน 3 ชน้ั หรือไม่เกิน 10 เมตร และพ้ืนท่ีไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ที่ก่อสร้าง หรือดดั แปลงใกลถ้ นนสาธารณะ ตอ้ งมีระยะรน่ ดังตอ่ ไปน้ี (1) ถ้าถนนสาธารณะน้ันมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจาก ก่งึ กลางถนนสาธารณะอยา่ งนอ้ ย 6 เมตร (2) ถา้ ถนนสาธารณะนัน้ มคี วามกวา้ งต้ังแต่ 10 เมตรข้ึนไป แต่ไม่เกิน 20 เมตร ให้ร่น แนวอาคารหา่ งจากเขตถนนสาธารณะอย่างนอ้ ย 1 ใน 10 ของความกวา้ งของถนนสาธารณะ
131 (3) ถ้าถนนสาธารณะนัน้ มคี วามกว้างเกนิ 20 เมตรข้ึนไป ให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขต ถนนสาธารณะอย่างนอ้ ย 2 เมตร ข้อ 51 ทีด่ นิ ที่อยมู่ ุมถนนสาธารณะทก่ี วา้ งตั้งแต่ 3 เมตรขึน้ ไปแต่ไม่เกิน 8 เมตร และมี มุมหกั นอ้ ยกว่า 135 องศา ร้วั หรือกาแพงกน้ั เขตต้องปาดมุมมรี ะยะไมน่ อ้ ยกวา่ 4 เมตร และทามมุ กับ แนวถนนสาธารณะเปน็ มมุ เทา่ ๆ กนั หา้ มมิให้รวั้ กาแพง หรือสว่ นของอาคารย่ืนล้าเข้ามาในทดี่ ินส่วนท่ีปาดมุม ขอ้ 52 อาคารแตล่ ะหลังหรอื หนว่ ยตอ้ งมที วี่ ่างตามทีก่ าหนด ดังต่อไปนี้ สำนกั หอสมุดกลาง(1) อาคารอยู่อาศัย ต้องมีทวี่ ่างไมน่ ้อยกวา่ 30 ใน 100 สว่ นของพ้ืนทีท่ ่ดี ิน (2) หอ้ งแถว ตึกแถว อาคารพาณชิ ย์ โรงงาน อาคารสาธารณะและอาคารอื่นซึ่งไม่ได้ใช้ เป็นท่ีอยู่อาศัยต้องมีที่ว่างไม่น้อยกว่า 10 ใน 100 ส่วนของพ้ืนที่ที่ดิน แต่ถ้าอาคารนั้นใช้เป็นที่อยู่ อาศัยด้วยต้องมีทว่ี ่างตาม (1) (3) ห้องแถวหรือตึกแถว สูงไม่เกิน 3 ช้ันและไม่อยู่ริมทางสาธารณะ ต้องมีที่ว่าง ดา้ นหน้าอาคารกว้างไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เมตร ถา้ สูงเกนิ 3 ชัน้ ตอ้ งมีท่วี ่างกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ทว่ี า่ งนีอ้ าจใชร้ ่วมกบั ทีว่ ่างของห้องแถวหรอื ตกึ แถวอ่ืนได้ (4) ห้องแถวหรือตึกแถว ต้องมีที่ว่างด้านหลังอาคารกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร เพื่อใช้ ตดิ ตอ่ ถงึ กันโดยไมใ่ ห้มสี ่วนใดของอาคารยนื่ ลา้ เข้าไปในพื้นท่ีดังกล่าว ในกรณีที่อาคารหันหลังเข้าหา กัน จะตอ้ งมีที่วา่ งด้านหลงั อาคารกว้างไมน่ ้อยกว่า 6 เมตร (5) หอ้ งแถวหรอื ตกึ แถวท่ีมดี า้ นขา้ งใกล้เขตท่ีดินของผู้อื่น ต้องมีท่ีว่างระหว่างด้านข้าง ของห้องแถวหรือตึกแถวกบั เขตทด่ี นิ ของผู้อื่น กว้างไม่น้อยกวา่ 2 เมตร เวน้ แต่ห้องแถวหรือตึกแถวท่ี ก่อสร้างขึ้นทดแทนอาคารเดิม โดยมีพื้นท่ีไม่มากกว่าพ้ืนที่ของอาคารเดิมและมีความสูงไม่เกิน 15 เมตร (6) อาคารพาณชิ ย์ โรงงานอตุ สาหกรรม คลังสินค้า อาคารสาธารณะ อาคารสูงเกิน 2 ช้ันหรือสูงเกิน 8 เมตรยกเว้นอาคารอยู่อาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น ที่ไม่อยู่ริมทางสาธารณะ ให้มีที่ว่าง ด้านหน้ากว้างไมน่ ้อยกวา่ 6 เมตร อาคารตามวรรคหนง่ึ ถา้ สูงเกิน 3 ช้นั ใหม้ ีทวี่ า่ งกวา้ งไมน่ อ้ ยกว่า 12 เมตร ทวี่ า่ งตามวรรคหนงึ่ และวรรคสอง ต้องมีพื้นท่ีต่อเน่ืองกันยาวไม่น้อยกว่า 1 ใน 6 ของ ความยาวเส้นรอบรูปภายนอกอาคารโดยอาจรวมท่วี า่ งดา้ นขา้ งทตี่ ่อเชอื่ มกับทว่ี า่ งด้านหนา้ อาคารดว้ ย ก็ได้ และที่วา่ งนต้ี ้องต่อเชอ่ื มกบั ถนนภายในกวา้ งไม่น้อยกว่า 6 เมตรออกสู่ทางสาธารณะได้ ถ้าหาก เป็นถนนลอดใต้อาคาร ความสงู สทุ ธิของชอ่ งลอดต้องไมน่ ้อยกว่า 5 เมตร ที่ว่างนีอ้ าจใช้รว่ มกบั ทว่ี ่างของอาคารอ่ืนได้
132 (7) อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารสาธารณะ จะต้องมีท่ีว่างโดย ปราศจากสิ่งปกคลุมเป็นทางเดินหลังอาคารได้ถึงกัน กว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร โดยให้แสดงเขต ดังกลา่ วใหป้ รากฏด้วย ที่วา่ งตามวรรคหนึง่ จะกอ่ สรา้ งอาคาร ร้ัว กาแพง หรือสิ่งก่อสร้างอ่ืนใดหรือ จดั ใหเ้ ปน็ บอ่ นา้ สระว่ายน้า ที่พกั มลู ฝอยหรอื ท่ีพกั รวมมลู ฝอยหรือสงิ่ ของอื่นใดที่จะขัดขวางทางเดิน ร่วมไม่ได้ ข้อ 53 อาคารอยู่ริมทางสาธารณะที่ไม่ต้องมีที่ว่างตามข้อ 52 (3) และ 52 (6) ต้องมี ลกั ษณะ ดงั น้ี สำนกั หอสมุดกลางแนวอาคารดา้ นทีป่ ระชดิ ติดรมิ ทางสาธารณะ ต้องมีความยาวมากกว่า 1 ใน 8 ส่วนของ ความยาวเส้นรอบรปู ภายนอกของอาคาร ทงั้ นี้ แนวอาคารดา้ นท่ีประชิดตดิ ทางสาธารณะต้องห่างทาง สาธารณะไม่เกนิ 20 เมตร กรณี ห้องแถว ตกึ แถว ด้านหน้าอาคารทุกคูหาต้องประชิดติดริมทางสาธารณะ และมี แนวอาคารห่างจากทางสาธารณะไม่เกนิ 20 เมตร ขอ้ 54 อาคารด้านชดิ ท่ีดนิ เอกชน ช่องเปิด ประตู หน้าต่าง ช่องระบายอากาศ หรือริม ระเบียงสาหรับชั้น 2 ลงมาหรือสงู ไมเ่ กิน 9 เมตร ต้องอยหู่ า่ งเขตทด่ี ินไมน่ อ้ ยกวา่ 2 เมตร และสาหรับ ชัน้ 3 ขึน้ ไปหรือสงู เกนิ 9 เมตร ต้องห่างไมน่ ้อยกวา่ 3 เมตร ข้อ 55 อาคารท่ีมีความสูงไม่เกิน 15 เมตร ต้องมีที่ว่างโดยรอบอาคารไม่น้อยกว่า 1 เมตร ยกเวน้ บา้ นพกั อาศัยทมี่ ีพ้ืนที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตร อาคารท่ีมีความสูงเกิน 15 เมตร ต้องมี ท่ีวา่ งโดยรอบอาคารไมน่ อ้ ยกวา่ 2 เมตร ท่วี า่ งตามวรรคหนึ่งและวรรคสองจะใช้ร่วมกบั ทวี่ ่างของอาคารอกี หลังหนง่ึ ไม่ได้ เว้นแต่ ใช้ร่วมกบั ทวี่ ่างของอาคารสงู หรอื อาคารขนาดใหญพ่ ิเศษ ข้อ 56 บ้านพักอาศัยท่ีมีพ้ืนท่ีไม่เกิน 300 ตารางเมตร ให้ผนังด้านท่ีไม่มีช่องเปิด สามารถสร้างห่างเขตท่ีดินได้น้อยกว่า 1 เมตร ถ้าห่างเขตที่ดินน้อยกว่า 50 เซนติเมตร ต้องได้รับ ความยนิ ยอมเป็นหนังสือจากเจา้ ของท่ีดินดา้ นน้นั ด้วย ขอ้ 57 ระหวา่ งแถวดา้ นขา้ งของหอ้ งแถวหรอื ตกึ แถวทส่ี รา้ งถงึ สิบคูหา หรือมีความยาว รวมกันถงึ 40 เมตร โดยวัดระหว่างจุดศูนย์กลางของเสาแรกถึงจุดศูนย์กลางของเสาสุดท้าย ต้องมี ที่วา่ งระหวา่ งแถวดา้ นข้างของ ห้องแถวหรือตกึ แถวนัน้ กวา้ งไม่นอ้ ยกว่า 4 เมตร เป็นช่องตลอดความ ลกึ ของห้องแถวหรอื ตกึ แถวเพื่อเช่ือมกับท่ี วา่ งหลังอาคาร ห้องแถวหรือตึกแถวท่ีสร้างติดต่อกันไม่ถึงสิบคูหา หรือมีความยาวรวมกันไม่ถึง 40 เมตรโดยวัด ระหวา่ งจดุ ศูนย์กลางของเสาแรกถึงจดุ ศูนยก์ ลางของเสาสุดท้าย แต่มีท่ีว่างระหว่างแถว ด้านข้างของห้องแถวหรือ ตึกแถวนัน้ กว้างนอ้ ยกวา่ 4 เมตร ไมใ่ ห้ถือว่าเปน็ ท่ีวา่ งระหว่างแถวด้านข้าง ของห้องแถวหรือตกึ แถว แต่ให้ถือ เสมอื นวา่ ห้องแถวหรอื ตึกแถวนั้นสร้างตอ่ เน่อื งเป็นแถวเดยี วกนั
133 ท่ีวา่ งตามวรรคหนง่ึ และวรรคสอง จะก่อสร้างอาคาร รั้ว กาแพง หรือส่ิงก่อสร้างอ่ืนใด หรือจัดให้เป็นบ่อน้า สระว่ายน้า ท่ีพักมูลฝอยหรือที่พักรวมมูลฝอยหรือสิ่งของอื่นใดที่จะขัดขวาง ทางเดนิ รว่ มไม่ได้ ข้อ 58 คลังสินค้าหรืออาคารเก็บสินค้าที่มีพ้ืนท่ีของอาคารทุกชั้นรวมกันตั้งแต่ 100 ตารางเมตรแต่ไม่เกนิ 500 ตารางเมตร ต้องมที ่ีวา่ งหา่ งเขตท่ีดินท่ใี ช้ก่อสร้างอาคารนั้น ไม่น้อยกว่า 6 เมตร อยา่ งน้อย2 ด้าน และยาวรวมกันไมน่ ้อยกวา่ ครง่ึ หน่ึงของเสน้ รอบรูปอาคาร ส่วนด้านอ่ืนต้องมี ที่วา่ งห่างแนวเขตท่ีดินไมน่ ้อยกวา่ 3 เมตร ถา้ ทว่ี ่างห่างเขตทีด่ ินที่ใช้ก่อสร้างอาคารน้อยกว่า 5 เมตร สำนกั หอสมุดกลางต้องสรา้ งผนงั อาคารเป็นผนังกันไฟ คลงั สนิ คา้ หรอื อาคารเก็บสนิ ค้าท่ีมพี ้นื ทข่ี องอาคารทกุ ชั้นรวมกันเกิน 500 ตารางเมตร ตอ้ งมีทวี่ า่ งหา่ งแนวเขตท่ดี นิ ทใี่ ช้ก่อสร้างอาคารนัน้ ไม่น้อยกว่า 10 เมตร อย่างน้อย 2 ด้าน และยาว รวมกันไม่น้อยกว่าครึ่งหน่ึงของเส้นรอบรูปอาคาร ส่วนด้านอื่นต้องมีท่ีว่างห่างจากแนวเขตท่ีดินไม่ น้อยกวา่ 5 เมตร ข้อ 59 โรงงานท่ีมีพื้นท่ีทใ่ี ชป้ ระกอบกิจการของอาคารทกุ ช้นั รวมกันต้ังแต่ 100 ตาราง เมตรแต่ไม่เกิน 500 ตารางเมตร ต้องมีท่ีว่างห่างแนวเขตท่ีดินท่ีใช้ก่อสร้างอาคารน้ัน ไม่น้อยกว่า 3 เมตร จานวน 2 ดา้ น โดยผนงั อาคารทัง้ สองด้านน้ใี ห้ทาเปน็ ผนงั ทบึ ดว้ ยอิฐหรือคอนกรตี ยกเว้นประตู ทนไฟขนาดไม่เกิน 1.00 X 2.00 เมตร ทุกระยะไม่น้อยกว่า 40 เมตร ส่วนด้านท่ีเหลือให้มีที่ว่างไม่ นอ้ ยกวา่ 6 เมตร โรงงานทม่ี พี ้นื ท่ีท่ใี ช้ประกอบกจิ การของอาคารทกุ ช้ันรวมกนั ต้ังแต่ 500 ตารางเมตร แต่ ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ตอ้ งมที ่วี า่ งหา่ งแนวเขตทดี่ ินทใี่ ช้ก่อสรา้ งอาคารนัน้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เมตรทุก ด้าน โรงงานทม่ี ีพื้นที่ที่ใช้ประกอบกิจการของอาคารทุกช้ันรวมกันเกิน 1,000 ตารางเมตร ตอ้ งมีทว่ี ่างห่างจากแนวเขตท่ดี ินทีใ่ ช้ก่อสรา้ งอาคารน้ันไมน่ อ้ ยกว่า 10 เมตรทกุ ด้าน หมวด 6 แบบและจานวนของหอ้ งน้าและห้องส้วม ขอ้ 60 อาคารซ่ึงบุคคลอาจเข้าอยู่ หรือเข้าใช้สอยได้แต่ละหลังต้องมีห้องอาบน้าและ ห้องสว้ มไมน่ ้อยกว่าทก่ี าหนดไวใ้ นตาราง ดงั ต่อไปน้ี หอ้ งสว้ มและห้องอาบนา้ จะรวมเป็นหอ้ งเดยี วกันก็ได้ จานวนห้องส้วมและห้องอาบน้า ตามที่กาหนดไว้ในตารางข้างต้นเป็นอัตราต่าสุดที่ต้องจัดให้มีถึงแม้อาคารน้ันจะมีพื้นท่ีอาคารหรือ จานวนคนนอ้ ยกวา่ ทก่ี าหนดไว้ก็ตาม
134 สำนกั หอสมุดกลาง
135 สำนกั หอสมุดกลาง
136 สำนกั หอสมุดกลาง
137 สำนกั หอสมุดกลาง
138 สำนกั หอสมุดกลาง ถา้ อาคารมีพืน้ ทีห่ รอื จานวนมากกว่าท่ีกาหนดไว้ จะต้องจัดใหม้ ีจานวนหอ้ งสว้ มและหอ้ ง อาบน้าเพม่ิ ขึ้นตามอัตราทก่ี าหนด และจานวนทมี่ ากเกนิ นนั้ ถา้ ตา่ กวา่ ก่ึงหน่ึงตามอัตราท่ีกาหนดไว้ให้ ปดั ท้ิง ตง้ั แตก่ ง่ึ หนึ่งข้ึนไปใหค้ ิดเต็ม ชนิดหรอื ประเภทของอาคารทม่ี ไิ ด้กาหนดไว้ในตารางนี้ ใหพ้ จิ ารณาเทียบเคียงลักษณะ การใช้สอยของอาคารนั้น โดยถืออัตราจานวนห้องส้วม ห้องอาบน้าและอ่างล้างมือในตารางข้างต้น เป็นหลัก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162