แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ เวลา 34 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรื่อง การบวก การลบจานวนนบั ไมเ่ กนิ 20 เวลา 2 ชวั่ โมง เรือ่ ง การบวกของสองจานวนซ่งึ มผี ลบวกไม่เกิน 20 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.1/4 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก และประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 สาระสาคญั การบวก หมายถงึ การรวมจานวนตง้ั แต่ สองจานวนขึ้นไป และมผี ลลพั ธ์ ไม่เกิน 20 สามารถหาคาตอบ โดยใช้วิธบี วกในแนวนอนและแนวตัง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. หาจานวนท่รี วมกันแล้วไดค้ รบ 10 อยา่ งรวดเรว็ 2. หาผลบวกของจานวนท่ีมผี ลลัพธ์ไม่เกนิ 20 ท้งั แนวนอนและแนวตัง้ ได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ กี ารที่หลากหลายแก้ปัญหา 2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อยรอบคอบและมีความเช่อื ม่ันในตนเอง สาระการเรียนรู้ 1. เทคนิคการรวมสิบ 2. การบวกจานวนที่มผี ลลัพธ์ไมเ่ กิน 20 ทงั้ แนวนอนและนอนตง้ั
กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 1. ครูใหน้ กั เรยี นทบทวนความหมายของการบวกซง่ึ มผี ลบวกไม่เกิน 9 โดยเล่น “เกมรวมกนั ” โดย ครแู จกบัตรเลขฮนิ ดูอารบกิ ตง้ั แต่ 0 – 5 ใหก้ บั นกั เรยี นทุกคนและให้นักเรียนรอ้ งเพลง “รกั กันรวมกนั ” เมื่อเพลง จบใหน้ กั เรยี นรวมกันตามบตั รเลขตามจานวนท่คี รูบอกประมาณ 3 – 4 ครั้ง 2. นกั เรียนช่วยกนั หาผลบวกของสองจานวนซ่ึงมผี ลบวกเปน็ 10 โดยใช้ตัวนบั หรอื ไมแ้ ขวนเสือ้ และไม้หนบี คนละสีหรอื บัตรสสี องสีเสียบในกระเป๋าผนงั ดังรูป - ให้นกั เรยี นนับจานวนตวั นับหรือบตั รสแี ตล่ ะแถวมีกี่บัตร ( 10 ) - พวกสแี ดงมีเทา่ ไรอีกพวกสขี าวมีเท่าไรรวมกนั มที ่าไรและเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์แทนได้ อย่างไรเชน่ ( 1 + 9 = 10 ) , ( 2 +8 = 1) , (3+7 = 10 ) , ( 4+6 = 10) 3. ดาเนินกจิ กรรมเหมอื นขอ้ 2 เพอ่ื หาจานวนคอู่ ่นื ๆ ที่รวมกนั ได้ 10 และใหน้ ักเรยี นเขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณบ์ นกระดานดา ให้นกั เรยี นสงั เกตพิจารณาทุกคู่ ชัว่ โมงที่ 2 4. ให้นักเรียนนาตวั นับ 2 กอง กองที่ 1 มี 9 อนั กองที่ 2 มี 3 อัน และเขียนเป็นประโยค สญั ลักษณ์ 9 + 3 = และช่วยกนั หาคาตอบบนกระดานดา 5. ครแู นะนาวิธีการหาผลบวกโดยรวมสบิ กอ่ นโดยให้นกั เรียนหยบิ ตัวนับจากกองท่ี 3 เติมกอง 9 อีก 1ให้นักเรียนนบั ตัวนับทัง้ 2 กอง อกี ครงั้ จะได้ กองท่ี 1 มี 10 กอง กองที่ 2 มี 2 ซงึ่ เขยี นสญั ลักษณไ์ ด้ 10 + 2 = 12 6. ใหน้ กั เรยี นสังเกตคาตอบทไี่ ด้จากประโยคสัญลักษณท์ ้ังสอง คอื 9 + 3 = 12 10 + 2 = 12 นักเรยี นเปรยี บเทยี บคาตอบท่ไี ด้ เท่ากนั หรอื ไม่
7. ครูนาบตั รภาพ เชน่ รวม 9 และ 4 เช่นนกั เรียนหาผลบวกหรอื คาตอบ ครถู ามแต่ละคนหา คาตอบไดอ้ ย่างไร เพื่อทราบการหาผลบวกวิธีการตา่ งๆ นกั เรียนชว่ ยกันอภิปรายวิธีการทีห่ าผลบวกไดร้ วดเร็ว และสรปุ วธิ ที ีง่ ่ายและรวดเร็ว ถา้ นักเรยี นไมไ่ ดค้ รคู วรแนะนาวิธรี วมครบสิบก่อนดงั แผนภมู ิ “บวกให้ครบสิบกอ่ น” 8. ครนู าบัตรภาพ จานวนภาพอ่ืนๆบา้ ง เชน่ 8 + 4 , 7 + 6 ให้นกั เรยี นฝึกหาผลบวกตามท่ีครู แนะนา 9. ครูนาบัตรโจทย์สัญลกั ษณ์ทัง้ แนวนอนและแนวต้ังให้นกั เรียนฝึกการหาผลบวกโดยรวมสิบ กอ่ น 10. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบฝึกเสรมิ ทักษะ 2. ใบความรู้ การวัดผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตั้งใจในการเรียน ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ
ใบความรู้ การบวกตามแนวนอน จงหาผลบวก 9 + 2 9+2 = 10 + 1 = 11 ตอบ ๑๑ การบวกตามแนวตั้ง 10 + 2 12 ตอบ ๑๒
แบบฝกึ เสริมทักษะชดุ ที่ 1 คาสั่ง จงเตมิ คาตอบลงใน = = 1. 9 + 1 = 2. 3 + 7 = 3. 2 + 8 = 4. 5 + 5 5. 4 + 6 = 10 6. 9 + = 10 7. 6 + = 10 8. 5 + 9. 7 + = 10 10. 2 + = 10 11. 3 + = 10
แบบฝกึ เสริมทกั ษะชุดที่ 2 คาสั่งจงหาผลบวกจานวนต่อไปน้ี 1. 9 + 4 =..……………………….. 2. 9 + 7 =…………………………. 3. 6 + 9 =………………………… 4. 8 + 6 =…………………………. 5. 5 + 9 =……………………….. 6. 6 + 7 =……………………….. 7. 8 + 3 =…………………………. 8. 9 + 9 =…………………………. 9. 10 + 0 =………………………… 10. 7 + 8 =………………………..
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 กลุม่ สาระคณิตศาสตร์ เวลา 34 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่อื ง การบวก การลบจานวนนับไม่เกนิ 20 เวลา 2 ชัว่ โมง เรือ่ ง การบวกจานวนสามจานวน มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.1/4 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0 สาระสาคัญ การบวก หมายถึง การรวมจานวนต้ังแต่ สองจานวนขึ้นไป และมีผลลพั ธ์ ไมเ่ กนิ 20 สามารถหาคาตอบ โดยใช้วิธีบวกในแนวนอนและแนวตง้ั จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. หาจานวนที่รวมกนั แล้วไดค้ รบ 10 อย่างรวดเร็ว 2. หาผลบวกของจานวนท่มี ีผลลัพธ์ไมเ่ กนิ 20 ท้ังแนวนอนและแนวต้ังได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1.ใชว้ ธิ กี ารที่หลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรยี บร้อยรอบคอบและมคี วามเช่อื ม่นั ในตนเอง สาระการเรียนรู้ 1. การบวกจานวนสามจานวน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 1. ครใู หน้ กั เรยี นทบทวนความหมายของการบวกซึง่ มผี ลบวกไมเ่ กิน20โดยเล่น “เกมรวมกัน” โดย ครูแจกบตั รเลขฮินดูอารบกิ ตั้งแต่ 0 – 9ใหก้ บั นักเรียนทกุ คนและใหน้ กั เรียนรอ้ งเพลง “รักกันรวมกนั ” เมื่อเพลง จบใหน้ ักเรยี นรวมกนั ตามบตั รเลขตามจานวนทีค่ รูบอกประมาณ 3 – 4 คร้ัง 2. นักเรยี นชว่ ยกันหาผลบวกของสามจานวนซึ่งมีผลบวกไม่เกนิ 20 โดยใชต้ ัวนบั หรือไมแ้ ขวนเส้ือ และไม้หนบี คนละสหี รอื บัตรสีสามสเี สียบในกระเปา๋ ผนงั ดังรปู 3. ให้นักเรยี นนบั จานวนตวั นับหรอื บตั รสแี ต่ละแถวมีกี่บัตร พวกสีแดงมีเท่าไรอีกพวกสีดามีเทา่ ไร อกี พวกสีเขียวมีเทา่ ไรรวมกันมีท่าไรและเขียนเป็นประโยคสัญลักษณแ์ ทนได้อยา่ งไรเช่น แถวที่ 1 ( 1 + 9 +3 = 13 ) แถวที่ 2 ( 2 +8 +4 = 14) แถวท่ี 3 (3+7+5 = 15 ) แถวที่ 4 ( 4+6+6= 16) 4. ดาเนินกจิ กรรมเหมอื นข้อ 2 เพือ่ หาจานวนคอู่ น่ื ๆ ทีร่ วมกันได้ไมเ่ กนิ 20และใหน้ ักเรยี นเขยี นเป็น ประโยคสัญลกั ษณ์บนกระดานดา ให้นกั เรยี นสงั เกตพจิ ารณาทุกคู่ ชว่ั โมงที่ 2 5. ให้นักเรียนนาตัวนบั 3กอง กองท่ี 1 มี 9 อัน กองท่ี 2 มี 3 อนั กองท่ี 3 มี 6 อัน และเขียน เป็น ประโยคสญั ลักษณ์ 9 + 3 +6 = และช่วยกันหาคาตอบบนกระดานดา 6. ครแู นะนาวิธีการหาผลบวกโดยรวมสบิ กอ่ นโดยใหน้ ักเรียนหยบิ ตัวนับจากกองท่ี 2เตมิ กอง 9 อีก 1ใหน้ ักเรียนนับตัวนับท้งั 2 กอง อีกครง้ั จะได้ กองที่ 1 มี 10 กอง กองที่ 2ท่ีเหลือรวมกบั กองที่สามมี 8ซงึ่ เขียนสญั ลกั ษณไ์ ด้ 10 + 8 = 18 7. ใหน้ ักเรียนสังเกตคาตอบที่ไดจ้ ากประโยคสญั ลกั ษณ์ทง้ั สอง คอื 9 + 3 + 6 = 18 10 + 8= 18
8. นกั เรยี นเปรียบเทียบคาตอบทไ่ี ด้ เท่ากนั หรอื ไม่ 9. ครนู าบตั รภาพ เชน่ รวม7กบั 6 และ 4 นักเรียนหาผลบวกหรือคาตอบ ครถู ามแต่ละคนหา คาตอบไดอ้ ย่างไร เพื่อทราบการหาผลบวกวธิ กี ารตา่ งๆ นกั เรียนช่วยกนั อภิปรายวิธกี ารที่หาผลบวกได้รวดเรว็ และสรปุ วธิ ีท่งี า่ ยและรวดเร็ว ถา้ นักเรยี นไมไ่ ด้ครูควรแนะนาวธิ รี วมครบสบิ กอ่ นดงั แผนภูมิ “บวกให้ครบสิบกอ่ น” 10. ครนู าบตั รภาพ จานวนภาพอื่นๆบา้ ง เช่น 8 + 4 +5, 7 + 6 +3ให้นักเรยี นฝกึ หาผลบวกตามที่ครู แนะนา 11. ครูนาบัตรโจทย์สญั ลักษณ์ท้งั แนวนอนและแนวต้ังให้นักเรียนฝกึ การหาผลบวกโดยรวมสิบ ก่อน 12. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกเสริมทกั ษะ สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝึกเสริมทักษะ 2. ใบความรู้ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตั้งใจในการเรยี น ความรบั ผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทกั ษะ
แบบฝึกเสริมทักษะ คาสั่ง จงเตมิ คาตอบลงใน 1. 9 + 3 + 4 = 2. 3 + 9 + 6 = 3. 5 + 8 + 6 = 4. 5 + 5 + 7 = 5. 7 + 6 + 4 = 6. 8 + 4 + = 14 7. 6 + 5 + = 16 8. 5 + 7 + = 17 9. 7 + 6 + = 18 10. 4 + 6 + = 15 11. 3 + 8 + = 16
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เวลา 34 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรื่อง การบวก การลบจานวนนับไม่เกิน 20 เวลา 2 ชั่วโมง เรื่อง การจดั กลุ่มการบวก มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทีเ่ กดิ ข้ึนจากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ป.1/4 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 สาระสาคัญ การเปลีย่ นกลมุ่ คือการเปลีย่ นจานวนเลขท่บี วกกันใหม่โดยผลบวกจะเทา่ เดมิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) สามารถหาผลบวกโดยอาศัยสมบัติการเปล่ียนกลุ่ม ดา้ นทกั ษะกระบวนการ(P) 1. ใชว้ ธิ กี ารที่หลากหลายแกป้ ญั หา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ด้านคุณลักษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรียบร้อยรอบคอบและมีความเชอื่ ม่ันในตนเอง สาระการเรียนรู้ การเปล่ียนกลุม่ การบวก
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครูนาเหรียญบาทมากองเป็น 3 กอง คือ 5 บาท 6 บาท 4 บาท ให้นกั เรยี นสงั เกตแลว้ เขียนภาพและ ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวก เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ 5 + 6 + 4 = 2. นักเรียนนบั เหรยี ญบาททัง้ หมดมีเทา่ ไร นับและเขียนคาตอบในประโยคสญั ลกั ษณด์ ังนี้ 5 + 6 + 4 = 15 3. ครแู สดงการจดั หมู่โดยใช้วงเลบ็ โดยสังเกตการจัดหมูข่ องครู เช่น (5 + 6) + 4 = 15 5 + (6 + 4) = 15 (5 + 4) + 6 = 15 4. ครอู ธิบายใหเ้ หน็ วา่ การจดั หมู่การบวกจะจัดจานวนเลขใดคกู่ บั จานวนเลขใดก็ได้ เพราะคาตอบเทา่ เดิม 5. ครนู าประโยคสญั ลกั ษณท์ ่ีจดั หมูไ่ ว้ มาใหน้ กั เรยี นเปลย่ี นกลุ่มใหม่ให้ผลบวกเป็นสิบก่อนแล้วจงึ บวกกบั จานวนทีส่ าม ประมาณ 5 ขอ้ ดงั นี้ ตวั อย่าง ประโยคสัญลักษณ์ครูนามา นักเรยี นเปลย่ี นกล่มุ ใหม่ (5 + 7) + 3 = 15 5 + (7 + 3) = 15 (6 + 8) + 2 = 16 6 + (8 + 2) = 16 5 + 8 + 5 = 18 (5 + 5) + 8 = 18 ชว่ั โมงท่ี 2 6. นกั เรียนชว่ ยกนั สรุปเรอื่ งการเปล่ยี นกลุม่ และสรุปได้ว่า “การเปลยี่ นกลมุ่ คือ การเปลยี่ นจานวนเลขที่ นามา บวกกนั ใหม่ ผลการบวกคงเท่าเดิม” โดยทั่วไปนยิ มเปล่ียนให้ผลบวกเปน็ สิบก่อน แล้วจงึ นาไปรวมกบั จานวนที่สามเพื่อใหก้ ารบวกง่ายข้นึ 7. ครนู าโจทย์ปญั หามาให้นักเรยี นคดิ 10 ข้อเพอ่ื ทดสอบโดยการถามใหต้ อบปากเปล่าและเขยี นลงใน สมดุ 8. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ
สื่อการเรยี นและแหลง่ เรียนรู้ แบบฝึกเสริมทกั ษะ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. สังเกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ
แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ จงหาคาตอบ 1. (5 + 2) + 4 = 2. (8 + 3) + 6 = 3. 9 + (8 + 2) = 4. 7 + (8 + 3) = 5. 3 + (6 + 9) = 6. (9 + 4) + 2 = 7. 5 + (5 + 5) = 8. (4 + 6) + 9 = 9. (2 + 7) + 7 = 10. (7 + 9) + 0 =
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เวลา 34 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรือ่ ง การบวก การลบจานวนนบั ไม่เกนิ 20 เวลา 2 ชว่ั โมง เร่ืองการสลับทข่ี องการบวก 1 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.1/4 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 สาระสาคญั การบวกจานวนสองจานวนหรือกล่าวเมือ่ นามาสลับทกี่ นั ผลบวกจะมีค่าเท่ากันเรยี กว่าการสลับที่ ของการบวก จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. หาผลบวกไดถ้ ูกต้อง 2. บวกไดว้ ่าประโยคบ้างเป็นการสลับทขี่ องการบวก ดา้ นทักษะกระบวนการ(P) 1.ใช้วิธีการท่ีหลากหลายแก้ปญั หา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคุณลักษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยรอบคอบและมีความเชอื่ ม่นั ในตนเอง สาระการเรียนรู้ การสลับท่ขี องการบวก คือ การนาจานวนสองจานวนมาบวกกนั และเมอื่ สลับทตี่ ัวตงั้ และตัวบวกผลบวก ยอ่ มเท่ากนั
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ ละ 5 คน แข่งขัน “หาผลบวก” จากบตั รโจทย์สัญลักษณ์ เชน่ 9 + 5= 9+7= จานวน 10 บตั รและสรปุ คะแนนแตล่ ะกลมุ่ 2. ให้นกั เรียนนาตวั นบั ขึ้นมา 2 กองกองซา้ ยมี 8 และกองขวามี 4 เขียนเปน็ ประโยค สัญลักษณ์ 8 + 4 = หาคาตอบ ( 12 ) และต่อไปให้นักเรียนสลับกองซา้ ย 4 กองขวา 8 เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ 4 + 8 = หาคาตอบ ( 12 ) ให้นักเรยี นเปรยี บเทยี บ ประโยคสญั ลักษณ์ 8 + 4 = 12 4 + 8 = 12 8 + 4 = 4+ 8 3. นักเรียนสงั เกตคาตอบ อภิปราย และสรปุ 4. ครนู าบัตรภาพให้นักเรยี นหาผลบวก และเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 8 + 5 = 13 ครูสลบั บตั รภาพ 5 + 8 = 13 นกั เรียนอภปิ รายผลบวกสรุป 8 + 5 = 5 +8 ชั่วโมงท่ี 2 5. ครูนาบัตรประโยคสัญลกั ษณ์ 5 คตู่ ิดที่กระดาษแมเ่ หล็ก ให้นกั เรยี นหาประโยคสัญลักษณท์ ่ีเท่ากบั ประโยคสญั ลักษณ์ครตู ิดไว้ เช่น 9+6 = 8+7 = 7+5 = 9+8 = 7+6 =
6. นักเรียนชว่ ยกนั สรปุ กฎการสลับท่ีของการบวก และประโยชนข์ องการสลับทข่ี องการบวก 7. ครใู ห้นกั เรยี นทาแบบฝึกเสริมทักษะ 8. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยแบบฝึกเสริมทักษะ สอื่ การเรยี นและแหล่งเรียนรู้ 1. แบบฝึกเสริมทกั ษะ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรยี น ความรบั ผดิ ชอบในการทาแบบฝึกและแบบฝกึ หัดและ แบบทดสอบหลังเรยี น 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทักษะ
แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ คาชีแ้ จงจงเติมคาตอบลงใน 1. 3 + 8 = 8 + 3= 3 + 8=8 + 2. 4 + 6 = 6 + 4= 4 + 6=6 + 3. 7 + 6 = 7 6 + 7= 7 + = 6+ 4. 3 + 9 = +3 9 + 3= 3 + 9= 5. 10 + 0 = 0 + 10 = 6. 10 + 3 = 3 + 10 =
7. 10 + 8 = 8 + 10 = 8. 10 + 1 = 1 + 10 = 9. 10 + 6 = 6 + 10 = 10. 10 + 9 = 9 + 10 =
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ เวลา 34 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เร่อื ง การบวก การลบจานวนนบั ไม่เกนิ 20 เวลา 2 ช่ัวโมง เร่อื ง การสลบั ทีข่ องการบวก 2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตวั ชวี้ ัด ค 1.1 ป.1/4 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 สาระสาคญั การบวกจานวนสองจานวนหรือกล่าวเมือ่ นามาสลับทกี่ นั ผลบวกจะมีค่าเท่ากันเรยี กว่าการสลับที่ ของการบวก จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. หาผลบวกไดถ้ กู ตอ้ ง 2. บวกได้ว่าประโยคบา้ งเป็นการสลับท่ขี องการบวก ดา้ นทักษะกระบวนการ(P) 1.ใช้วธิ กี ารท่ีหลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยรอบคอบและมีความเชอื่ ม่นั ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ การสลับทีข่ องการบวก คือ การนาจานวนสองจานวนมาบวกกนั และเมอื่ สลับทตี่ ัวตงั้ และตัวบวกผลบวก ยอ่ มเทา่ กัน
กระบวนการจดั การเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 1 1. ทบทวนการสลับที่ของการบวกโดยให้นกั เรยี นดปู ระโยคสญั ลักษณ์ บนกระดาน 7 + 5= 5+7= 2. ใหน้ กั เรยี นหาคาตอบจากประโยคสญั ลกั ษณ์ ประโยคสัญลกั ษณ์ 7 +5 = 12 = 12 5+7 ดังนั้น 7+5 = 5+7 3. แบง่ นักเรียนออกเป็นกลุ่มให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มแสดงวธิ กี ารหาคาตอบจากประโยคสัญลกั ษณท์ ่ี กาหนดให้ ประโยคสญั ลกั ษณ์ 9+4 = 4+9 = 4. ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ ประโยคสญั ลักษณ์ 9 + 4 = 13 4 + 9 = 13 ดังนั้น 9 + 4 = 4 + 9 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปราย และสรปุ ชว่ั โมงที่ 2 5. ครูนาบัตรประโยคสญั ลักษณ์ 5 คู่ตดิ ที่กระดาษแม่เหลก็ ให้นักเรียนแตล่ ะคนหาประโยคสญั ลกั ษณ์ท่ี เทา่ กบั ประโยคสญั ลกั ษณ์ครูติดไว้ เช่น 5+6 = 6+7 7+5 = 7+8 4+6 = = =
6. นักเรียนชว่ ยกันสรุปกฎการสลับทข่ี องการบวก และประโยชนข์ องการสลบั ท่ีของการบวก 7. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 8. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น สื่อการเรียนและแหลง่ เรยี นรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรยี น การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตจากความสนใจ ตง้ั ใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทาแบบฝึกหัดและแบบทดสอบหลงั เรยี น 2. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
คาช้แี จง ใหเ้ ตมิ ตัวเลข ใน แบบฝกึ ทกั ษะ ให้ถูกตอ้ ง 1. 7 + 9 = 2. 9 + 7 = 3. 5 + 9 = 4. 9 +5 = 5. 6 + 4 = 6. 4 + 6 = 7. 6 + 9 = 8. 9 + 6 = 9. 5 + 7 = 10. 7 + 5 =
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 34 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรื่อง การบวก การลบจานวนนับไม่เกนิ 20 เวลา 2 ชวั่ โมง เร่อื ง โจทย์ปัญหาการบวกทีม่ ีผลบวกไมเ่ กิน 20(1) มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กดิ ขึน้ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.1/4 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการลบของจานวนนับไม่เกนิ 100 และ 0 ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ป.1/5 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบของจานวนนับไม่ เกิน 100 และ 0 สาระสาคญั การบวกทตี่ ัวบวกเป็นเลขหลกั เดยี ว ผลบวกไมเ่ กิน 20 อาจใชว้ ธิ เี ดียวกบั การบวกที่ผลบวกทไี่ มเ่ กิน 9 และทาให้ได้ทง้ั แนวตงั้ และแนวนอน จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. เมอ่ื กาหนดประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกสองจานวนทมี่ ผี ลบวกไม่เกนิ 20 ให้ 2. สามารถเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ 3. สามารถหาคาตอบ พร้อมท้ังตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบท่ีได้และแสดงวิธที าได้ 4.สามารถหาผลบวกตามแนวนอนได้ 5.สามารถหาผลบวกตามแนวตง้ั ได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1.ใช้วธิ กี ารที่หลากหลายแก้ปญั หา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อยรอบคอบและมีความเชือ่ ม่นั ในตนเอง
สาระการเรียนรู้ 1. การเขยี นประโยคสญั ลักษณ์การบวกทมี่ ีผลบวกไม่เกิน 20 2. การหาผลบวกตามแนวตงั้ การบวกทม่ี ผี ลบวกไม่เกนิ 20 3. การหาผลบวกตามแนวนอนการบวกท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 20 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูตดิ แถบโจทยป์ ญั หาการบวกทม่ี ีผลบวกไมเ่ กนิ 20 บนกระดาน แล้วให้นักเรยี นชว่ ยกันวิเคราะห์ โจทย์และหาคาตอบ เช่น แสงมีปลาทอง 12 ตัว ปลาทองออกลูกอีก 7 ตวั รวมมีปลาทองทัง้ หมดกีต่ ัว จากนนั้ ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ - โจทย์ถามอะไร ( แสงมปี ลาทองท้ังหมดกี่ตัว ) - เดมิ แสงมปี ลาทองกต่ี วั ( 12 ตวั ) - ปลาทองออกลกู อีกกีต่ ัว ( 7 ตวั ) - เมอ่ื ปลาทองออกลกู มาอกี จะมีปลาทองมากขน้ึ หรือนอ้ ยลง ( มากขึ้น ) - จะหาได้อย่างไรวา่ แสงมีปลาทองทัง้ หมดกตี่ วั (นับจานวนปลาทองรวมกนั ) - ปลาทอง 12 ตัว รวมกบั ปลาทอง 7 ตวั รวมเป็นปลาทองกต่ี ัว ( 19 ตวั ) - เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์การบวกไดอ้ ยา่ งไร ( 12 + 7 = ) - ดงั นัน้ มปี ลาทองทั้งหมดก่ตี ัว ( 19 ตวั ) 3. ครูจดั กิจกรรมทานองเดียวกับกจิ กรรมขอ้ 1 โดยใหน้ ักเรยี นฝกึ วิเคราะห์โจทยอ์ กี 2-3 ขอ้ นาตัวนบั 1 - 20 มานบั พร้อมกนั พรอ้ มแสดงตวั นบั 4. ครูให้นักเรียนดูแผนภูมิประโยคสัญลักษณ์บนกระดาน (หรือกระเป๋าผนัง หรือกระดานแม่เหล็ก ตามจัดหาได้) ให้นักเรียนหาคาตอบโดยตอบปากเปล่า หรือเขียน
ชัว่ โมงที่ 2 5. ครถู ือหลอดกาแฟมอื ซา้ ย 8 อัน มือขวา 5 อนั แล้วนามารวมกัน ให้นกั เรยี นเขียนภาพและประโยค สัญลกั ษณล์ งในกระดาษท่ีแจกให้ ตัวอย่าง เช่น / / / / / / / / รวมกบั / / / / / เท่ากับ / / / / / / / / / / / / / 8+5 = 13 6. เขียนตวั อย่างการแสดงวิธกี ารบวกประกอบคาอธบิ าย ดงั นี้ 8 + 5 = 13 อธบิ ายว่า 8 + 5 = 8 + (2 + 3) ดังนน้ั 8 + (2 + 3) = (8 + 2) + 3 = 13 7. ครูอธบิ ายสรปุ เรอ่ื งการบวกผลบวกไมเ่ กนิ 20 ว่า “การบวกผลบวกไม่เกนิ 20 อาจใชว้ ิธเี ดยี วกับการ บวกผลบวกไม่เกิน 9 ได”้ 8. ให้นักเรียนทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ ส่ือการเรยี นและแหล่งเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. แบบฝึกเสริมทักษะ 3. ใบความรู้ การวดั ผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตง้ั ใจในการเรยี น ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสริมทักษะ และแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ 3. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ใบความรู้ เรอ่ื ง การบวกทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กนิ 20 การบวกจานวนที่ผลลพั ธ์ไม่เกนิ 20 เปน็ การรวมจานวนเขา้ ดว้ ยกันจะได้จานวนใหมท่ ่มี ี ผลบวกไมเ่ กิน 20
แบบฝกึ เสริมทักษะ เติมตัวเลขลงใน ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. มีสับปะรดผล เกบ็ มาอกี ผล รวมเปน็ ผล 2. มีเตา่ ตัว คลานมาอีก ตวั รวมเปน็ ตวั 3. มีลกู ไก่อยู่ ตัว ฟกั ออกจากไขอ่ ีก ตวั รวมเป็น ตวั
แบบทดสอบกอ่ นเรียน คาชแ้ี จงให้เขยี นเครอื่ งหมาย > < ทบั ตัวอกั ษรหน้าคาตอบที่ถกู ตอ้ ง 1. 9 + 6 = ก. 13 ข. 14 ค. 15 2. 10 + 8 = ข. 18 ค. 19 ก. 17 3. 17 – 5 = ข. 12 ค. 13 ก. 11 4. 19 – 7 = ข. 12 ค. 13 ก. 11 5. (5 + 4) + 6 = ค. 16 ก. 14 ข. 15 6. นักเรียนชาย 8 คน กบั นกั เรียนหญงิ 11 คน รวมเป็นนักเรียนกค่ี น ก. 17 ข. 18 ค. 19 7. ฉนั มลี ูกโป่ง 7 ลูก น้องมลี กู โป่ง 8 ลูก รวมฉันและนอ้ งมลี ูกโป่งกลี่ ูก ก. 14 ลกู ข. 15 ลกู ค. 16 ลูก
8. มีไข่เปด็ 13 ฟอง กบั ไข่ไก่ 16 ฟอง มไี ข่ไก่มากกวา่ ไข่เป็ดกี่ฟอง ก. 3 ฟอง ข. 15 ฟอง ค. 29 ฟอง 9. มีเงิน 16 บาท ซอื้ ขนมไป 12 บาท เหลอื เงนิ ก่ีบาท เขยี นเปน็ ประโยค สญั ลักษณไ์ ด้อย่างไร ก. 16 + 12 = ข. 16 - 12 = ค. 16 - 4 = 10. 15 + 3 = 18 สัมพันธก์ บั ขอ้ ใด ก. 18 - 15 = 3 ข. 15 + 3 = 18 ค. 15 - 3 = 12
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 ชั้น กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 34 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง การบวก การลบจานวนนบั ไมเ่ กนิ 20 เวลา 2 เรอ่ื ง โจทยป์ ัญหาการบวกสามจานวนท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 20 (2) ชัว่ โมง มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.1/4 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0 ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.1/5 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบของจานวนนบั ไม่ เกิน 100 และ 0 สาระสาคัญ การบวกจานวนสามจานวนทม่ี ผี ลบวกไมเ่ กนิ 20 น้นั ต้องหาผลบวกของสองจานวน หรือจานวนที่อยใู่ น วงเล็บกอ่ น แลว้ จึงนาผลทไี่ ดไ้ ปบวกกับจานวนท่เี หลือ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) สามารถหาผลบวกของสามจานวนที่มีผลบวกไมเ่ กิน 20 ได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ิธีการท่หี ลากหลายแก้ปญั หา 2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ยรอบคอบและมีความเช่ือมน่ั ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ การบวกสามจานวนที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 20
กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 1. นกั เรียนวิเคราะห์โจทย์และหาคาตอบโจทย์ปัญหาการบวกที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 20 ไดแ้ ลว้ ครแู ละ นกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย 2. ครแู นะการวเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาต้องรู้ว่าโจทย์กาหนดอะไรให้ และโจทยถ์ ามอะไร จากนัน้ หา วิธคี ิดเพื่อหาคาตอบ แลว้ เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณแ์ ละแสดงวิธที า 3. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายถงึ ความรู้เร่ือง โจทยป์ ญั หาการบวกทีม่ ี ผลบวกไม่เกนิ 20 โดยครูให้นกั เรียนแต่งโจทยป์ ญั หาการบวกทม่ี ีผลบวกไมเ่ กิน 20 อย่างงา่ ยๆ เชน่ - มีสมุด 12 เลม่ ซ้อื เพมิ่ อกี 3 เลม่ รวมมสี มุดกีเ่ ล่ม - มเี สอ้ื แขนส้นั 15 ตัว มเี สอื้ กลา้ มมากกวา่ เสอื้ แขนสนั้ 4 ตัว มีเส้ือกล้ามก่ีตัว 4. นักเรยี นเอาภาพมาเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกให้แตกต่างกนั แตล่ ะคนอาจไดด้ งั น้ี (3 + 7) + 5 = 15 (5 + 3) + 7 = 15 (5 + 7) + 3 = 15 (7 + 3) + 5 = 15 (7 + 5) + 3 = 15 สังเกตวา่ จดั หมูแ่ บบใดง่าย 5. ครูนาแผนภมู ปิ ระโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกสามจานวน ใหน้ ักเรยี น 10 คนออกมาแสดงการจัด หมู่การบวกบนกระดานแล้วทุกคนเขยี นลงสมุด ชว่ั โมงท่ี 2 6. ครนู าแผนภมู ิประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกสามจานวน ประมาณ 10 ขอ้ ให้นักเรียนแสดงการ จดั หมกู่ ารบวกและหาผลบวกเขยี นลงสมุด 7. ครรู ่วมกนั อภปิ รายสมุดวา่ “การบวกจานวนสามจานวน จะบวกจานวนคแู่ รกก่อนแลว้ บวกจานวน ทเ่ี หลือ หรือจะบวกคู่หลังก่อนแลว้ บวกจานวนท่เี หลอื กไ็ ด้ ผลบวกยอ่ มเทา่ กนั เสมอ” 8. ครูนาแผนภูมิมโี จทยป์ ญั หาการบวกสามจานวนมาให้นักเรยี นหาคาตอบปากเปลา่ และแสดงวิธีทา 9. ครูให้นักเรยี นทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะ สอื่ การเรียนและแหล่งเรยี นรู้ แบบฝึกเสริมทกั ษะ การวัดวดั ผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตจากความสนใจ ตง้ั ใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทักษะ
1. (2 + 8) + 5 แบบฝกึ เสริมทกั ษะ (8 + 5) + 2 = 15 (5 + 8) + 2 = 15 2. (3 + 6) + 4 = 15 (2 + 5) + 8 = 15 (6 + 3) + 4 = 13 (4 + 6) + 3 = 15 3. (7 + 9) + 2 = 15 (6 + 4) + 3 = 15 (2 + 9) + 7 = 15 (7 + 2) + 9 = 15 4. (1 + 9) + 0 = (2 + 7) + 9 = (1 + 0) + 9 = 15 (0 + 9) + 1 = 15 5. (3 + 5) + 4 = (0 + 1) + 9 = (3 + 4) + 5 = 15 (4 + 5) + 3 = 15 = 15 (5 + 4) + 3 = 15
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ เวลา 34 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรือ่ ง การบวก การลบจานวนนบั ไมเ่ กิน 20 เวลา 2 ชว่ั โมง เรอ่ื ง การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 20 (1) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่ เกิดข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ป.1/4หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง การลบของจานวนนบั ไม่เกนิ 100และ0 ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.1/ 5 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของจานวนนบั ไม่ เกนิ 100และ0 สาระสาคัญ การสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกท่มี ีผลบวกไม่เกิน 20 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) สามารถการสร้างโจทย์ปญั หาการบวกทมี่ ีผลบวกไม่เกนิ 20 ได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วธิ ีการทหี่ ลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยรอบคอบและมีความเชอื่ มน่ั ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ การสร้างโจทย์ปญั หาการบวกทมี่ ีผลบวกไมเ่ กนิ 20
กระบวนการจดั การเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 1. ทบทวนวธิ กี ารหาคาตอบโจทย์ปญั หาการบวกท่มี ีผลบวกไมเ่ กิน 20 โดยครกู าหนดโจทย์ปญั หาการ บวก ดงั นี้ - แมใ่ หเ้ งิน 8 บาท พอ่ ให้เพิม่ อกี 4 บาท เพอ่ื นใชห้ นี้ 5 บาท ฉันมีเงนิ ทั้งหมดเทา่ ใด 2. นักเรียนวเิ คราะห์โจทย์และหาคาตอบโจทย์ปัญหาการบวกท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 20 ได้แลว้ ครแู ละ นักเรยี นร่วมกนั อภิปราย 3. ครแู นะการวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาต้องร้วู ่าโจทย์กาหนดอะไรให้ และโจทยถ์ ามอะไร จากนน้ั หา วิธีคดิ เพ่ือหาคาตอบ แล้วเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์และแสดงวิธีทา 4. ใหน้ กั เรียนดภู าพทกี่ าหนดให้ 5. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สร้างโจทย์ปญั หาจากภาพ 6. เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์จากโจทย์ปัญหาท่สี ร้างขน้ึ 7. หาคาตอบจากประโยคสญั ลักษณ์
ช่วั โมงที่ 2 8. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ คละความสามารถ วิเคราะหแ์ ผนภาพท่ีครนู ามาใหน้ ักเรียนดู 9. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วิเคราะห์สร้างโจทย์ปญั หาตามขนั้ ตอน ดังน้ี ขั้นที่ 1 ศกึ ษาภาพทกี่ าหนดให้ ขนั้ ท่ี 2 วเิ คราะหภ์ าพ ขั้นท่ี 3 สรา้ งโจทยป์ ัญหา ขนั้ ที่ 4 เขยี นประโยคสัญลักษณ์จากโจทย์ปญั หาที่สร้างข้นึ ขน้ั ที่ 5 หาคาตอบจากประโยคสญั ลักษณ์ 10. ใหแ้ ต่ละกล่มุ เตรยี มความพรอ้ มในการนาเสนอ สือ่ การเรยี นและแหล่งเรยี นรู้ 1. แผนภาพ การวดั วัดผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตัง้ ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทากจิ กรรม 2. ตรวจคาตอบ
แบบฝกึ ทกั ษะ คาช้ีแจง ให้นกั เรียนสร้างโจทยป์ ัญหาจากภาพ โจทยป์ ัญหา .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... วธิ ีหาคาตอบ .......................................................................................................................... ..........................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง การบวก การลบจานวนนบั ไม่เกนิ 20 เวลา 34 ชัว่ โมง เรือ่ ง การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ 20 (2) เวลา 2 ชัว่ โมง มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.1/4 หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวก และประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100 และ 0 ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.1/5 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบของจานวนนับไม่ เกิน 100 และ 0 สาระสาคัญ การสร้างโจทย์ปัญหาการบวกท่มี ีผลบวกไม่เกิน 20 จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) สามารถการสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกทมี่ ีผลบวกไม่เกิน 20 ได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ กี ารท่หี ลากหลายแก้ปัญหา 2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ด้านคุณลกั ษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยรอบคอบและมคี วามเชอ่ื มั่นในตนเอง สาระการเรียนรู้ การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 20
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 1. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มเตรยี มความพร้อมในการนาเสนอ 2. ให้ตวั แทนนักเรียนจับสลากนาเสนอ 3. แต่ละกล่มุ นาเสนอวิธีการสร้างโจทย์ปัญหาโดยนาเสนอเป็นขั้นตอน ดงั น้ี ข้นั ที่ 1 ศกึ ษาภาพท่ีกาหนดให้ ขน้ั ท่ี 2 วิเคราะหภ์ าพ ขัน้ ท่ี 3 สร้างโจทย์ปญั หา ขั้นที่ 4 เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์จากโจทย์ปัญหาที่สร้างข้นึ ข้ันท่ี 5 หาคาตอบจากประโยคสัญลักษณ์ 4. ครเู ชิญชวนใหน้ ักเรียนปรบมือใหก้ บั เพื่อนนกั เรียนทอี่ อกมานาเสนอ ครใู หร้ ายละเอียดเพม่ิ เติมถึง เทคนคิ วิธีการสร้างโจทย์ปัญหา ชว่ั โมงที่ 2 1. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์แผนภาพท่คี รูนามาใหน้ ักเรยี นดู
2. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนวิเคราะหส์ รา้ งโจทย์ปญั หาตามข้นั ตอน ดังน้ี กรณที ่ีนักเรียนไมส่ นใจภาพที่ครู กาหนดให้นักเรยี นสามารถสร้างโจทย์ปญั หาจากภาพอนื่ ทีน่ กั เรียนสนใจกไ็ ด้ ขั้นตอน ดงั น้ี ขั้นท่ี 1 ศึกษาภาพท่ีกาหนดให้ ขน้ั ที่ 2 วิเคราะห์ภาพ ขั้นท่ี 3 สรา้ งโจทย์ปญั หา ขัน้ ท่ี 4 เขยี นประโยคสญั ลักษณ์จากโจทย์ปัญหาที่สร้างขน้ึ ข้นั ที่ 5 หาคาตอบจากประโยคสญั ลักษณ์ 3. ใหแ้ ต่ละคนสง่ ครใู นช่วั โมงถัดไป 4. นักเรียนทาแบบฝึกทกั ษะ และแบบทดสอบหลงั เรยี น สื่อการเรยี นและแหลง่ เรียนรู้ 1. แผนภาพ 2. แบบฝึกทักษะ การวดั วดั ผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตง้ั ใจในการเรยี น ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
แบบฝกึ ทกั ษะ คาชแี้ จง 1.จงสร้างโจทย์ปญั หาจากภาพและหาคาตอบตามขัน้ ตอนทกี่ าหนดให้ ขนั้ ท่ี 1 ศึกษาภาพท่กี าหนดให้ ข้ันที่ 2 วเิ คราะห์ภาพ ขั้นที่ 3 สรา้ งโจทยป์ ัญหา ขน้ั ที่ 4 เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์จากโจทย์ปญั หาทีส่ ร้างขน้ึ ขน้ั ที่ 5 หาคาตอบจากประโยคสัญลกั ษณ์ 2. ให้นกั เรยี นหาภาพทต่ี นเองสนใจแล้วสร้างโจทย์ปญั หาจากภาพและหาคาตอบ ตามขัน้ ตอนท่ีกาหนดให้
แบบทดสอบหลังเรยี น คาชแี้ จงใหเ้ ขยี นเคร่อื งหมาย >< ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ถี ูกตอ้ ง 1. 9 + 6 = ก. 13 ข. 14 ค. 15 2. 10 + 8 = ข. 18 ค. 19 ก. 17 3. 17 – 5 = ข. 12 ค. 13 ก. 11 4. 19 – 7 = ข. 12 ค. 13 ก. 11 5. (5 + 4) + 6 = ค. 16 ก. 14 ข. 15 6. นกั เรียนชาย 8 คน กบั นกั เรยี นหญิง 11 คน รวมเปน็ นักเรยี นก่คี น ก. 17 ข. 18 ค. 19
7. ฉันมลี กู โป่ง 7 ลูก น้องมลี กู โป่ง 8 ลูก รวมฉนั และน้องมีลูกโป่งก่ีลูก ก. 14 ลกู ข. 15 ลกู ค. 16 ลูก 8. มไี ขเ่ ป็ด 13 ฟอง กบั ไข่ไก่ 16 ฟอง มไี ข่ไกม่ ากกวา่ ไขเ่ ปด็ ก่ีฟอง ก. 3 ฟอง ข. 15 ฟอง ค. 29 ฟอง 9. มีเงนิ 16 บาท ซอื้ ขนมไป 12 บาท เหลอื เงินก่ีบาท เขยี นเปน็ ประโยค สัญลกั ษณไ์ ด้อยา่ งไร ก. 16 + 12 = ข. 16 - 12 = ค. 16 - 4 = 10. 15 + 3 = 18 สัมพันธ์กับข้อใด ก. 18 - 15 = 3 ข. 15 + 3 = 18 ค. 15 - 3 = 12
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 34 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 เรอ่ื ง การบวก การลบจานวนจานวนนับไมเ่ กิน 20 เวลา 2 ช่ัวโมง เรือ่ ง การลบท่ีมตี ัวต้ังไม่เกิน 20 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ ตัวช้ีวัด ค 1 .1 ป.1/4 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการลบของจานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 สาระสาคัญ การลบ หมายถงึ การเอาออกหรือการเปรยี บเทียบเพือ่ หาจานวนเลขท่เี หลอื หรือผลตา่ งเหมอื นการลบตวั ตง้ั ไม่เกิน 9 จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. เมือ่ กาหนดประโยคสญั ลกั ษณ์การลบสองจานวนทีม่ ตี วั ตง้ั ไมเ่ กิน 20 ให้ 2. แปลความหมายของการลบจากรูปภาพและโจทย์ปญั หาใหเ้ ป็นประโยคสญั ลักษณ์ได้ 3. สามารถหาคาตอบ พรอ้ มท้งั ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบทีไ่ ด้และแสดงวธิ ที าได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ิธีการทห่ี ลากหลายแก้ปญั หา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ด้านคุณลักษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย รอบคอบ และมีความเชื่อมนั่ ในตนเอง สาระการเรียนรู้ 1. การเขียนประโยคสญั ลักษณ์การลบที่มีตวั ตง้ั ไมเ่ กิน 20 2. การหาผลต่างตามแนวตง้ั ทีม่ ีตัวตั้งไม่เกนิ 20 3. การหาผลตา่ งตามแนวนอนทม่ี ีตัวต้งั ไม่เกิน 20
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูเขยี นโจทยก์ ารลบทม่ี ีตัวตัง้ เป็น 10 บนกระดาน พร้อมแสดงบตั รภาพให้นกั เรียนดู เชน่ 10 – 2 = จากนัน้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันหาคาตอบ โดยอาจจะนับจากจานวนภาพก็ได้ จากนนั้ ครเู ขยี น ประโยคสัญลกั ษณ์ 10 – 2 = 8 เพื่อสรปุ คาตอบใหน้ ักเรียนดู และใหน้ กั เรยี นพูดตามครูวา่ “สิบลบดว้ ยสอง เท่ากับแปด” 2. ครจู ัดกิจกรรมทานองเดยี วกับขอ้ 1 เพือ่ ให้นักเรยี นหาผลลบของ 10 กบั จานวนอืน่ ๆ จากนน้ั ครูนาผลท่ไี ด้มาเขยี นบนกระดานอีกครงั้ ท้งั นเ้ี พือ่ ใหน้ กั เรยี นสงั เกตโจทยแ์ ละผลลบในแต่ละขอ้ ว่าจานวน สองจานวนใดบา้ งที่บวกกันแลว้ ได้ 10 ดงั นี้ 10 – 1 = 9 10 – 6 = 4 10 – 2 = 8 10 – 7 = 3 10 – 3 = 7 10 – 8 = 2 10 – 4 = 6 10 – 9 = 1 10 – 5 = 5 10 – 10 = 0 3. ครนู าดอกกหุ ลาบ 13 ดอก วางบนโตะ๊ ให้นกั เรยี นคนหนง่ึ มาหยิบออกไป 8 ดอก แล้วให้นักเรยี น คนนัน้ นับดอกกุหลาบท่ีเหลือ แลว้ บอกให้เพอื่ นฟัง 4. ครูนาแผนภมู โิ จทย์ปญั หามาให้นักเรียนแปลเป็นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบและหาคาตอบ ประมาณ 10 ข้อโดยตอบปากเปลา่ และเขยี นลงในสมุด ชัว่ โมงที่ 2 5. ครูอภิปรายสรุปเรอ่ื งการลบทม่ี ีตัวตัง้ ไมเ่ กิน 20 ว่า “การลบหมายถงึ การเอาออกหรอื เปรียบเทียบหา จานวนทีเ่ หลอื หรอื ผลตา่ งเหมือนการลบทมี่ ตี วั ตั้งไมเ่ กนิ 9” 6. ครใู ห้นักเรยี นทากิจกรรมพัฒนาการคิดจากแบบฝึกเสริมทกั ษะ เพ่อื ฝึกทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
7. ครใู หน้ กั เรยี นฝกึ หาคาตอบการลบจานวนที่มตี ัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใชภ้ าพ 8. ครูให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ เสริมทักษะ สอ่ื การเรียนและแหล่งเรียนรู้ 1. แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ 2. ใบความรู้ การวัดผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตัง้ ใจในการเรยี น ความรบั ผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝกึ เสริมทักษะ
ใบความรู้ เร่ือง การลบที่มีตัวตง้ั ไม่เกนิ 20 การลบท่ีมีตัวตั้งไม่เกิน 20 ให้ลบเลขหลักหน่วยกอ่ น ถา้ เลขหลักหนว่ ยของตัว ลบนอ้ ยกวา่ เลขหลักหน่วยของตัวตั้งให้ลบกันได้เลย แต่ถา้ เลขหลักหน่วยของตัว ลบมากกวา่ เลขหลักหน่วยของตัวต้งั ให้กระจายเลขหลักสิบมาไวห้ ลักหน่วย เพ่อื ให้ ลบกันได้ การกระจายเลขทาให้ เลขหลักสบิ ลดลง 1 สิบ และเลขหลักหนว่ ย เพ่ิมข้นึ อีก 10 แล้วจึงลบเลขเฉพาะหลักหนว่ ย
แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ เตมิ ตัวเลขลงใน ให้ถกู ต้อง 1. มเี งินอยู่ บาท จ่ายไป บาท เหลอื อยู่ บาท 2. ตวั ถูกจับไป ตวั เหลอื อยู่ ตัว มปี ลาอยู่ 3. มีมงั คดุ อยู่ ผล เนา่ เสีย ผล เหลอื อยู่ ผล
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ เวลา 34 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การบวก การลบจานวนจานวนนับไมเ่ กนิ 20 เวลา 2 ชั่วโมง เรอ่ื ง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งการบวกกับการลบ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขนึ้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวช้วี ัด ค 1 .1 ป.1/4 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก และประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการลบของจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 สาระสาคัญ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างการบวกกบั การลบ คอื ผลบวกจะเปน็ ตัวตง้ั ของการลบ และผลลบจะเปน็ ตัวตั้งหรือ ตวั บวกของการบวก (การลบเป็นวิธสี ลับกนั ของการบวก) จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. สามารถนาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการบวกการลบมาหาตวั เลขท่ีหายไปได้ 2. สามารถนาความสัมพันธ์ระหว่างการบวกกบั การลบมาตรวจคาตอบการบวกและการลบได้ 3. สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหาการลบดว้ ยการบวกได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วิธกี ารทห่ี ลากหลายแกป้ ญั หา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ด้านคุณลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย รอบคอบ และมคี วามเชือ่ ม่ันในตนเอง สาระการเรียนรู้ ความสมั พันธร์ ะหว่างการบวกและการลบของจานวนทไ่ี ม่เกิน 20
กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครใู หน้ กั เรียนลองหาคาตอบโจทย์ทลี ะชุด โดยในแตล่ ะชดุ จะมโี จทย์ 3 ข้อ ซงึ่ เปน็ ตวั เลข เดยี วกัน เชน่ 13 18 – 18 – 17 19 – 19 – 2. ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตความสัมพันธข์ องประโยคการบวกและประโยคการลบท้ังสามประโยค ซึ่งจะเหน็ ว่าในสามประโยคนัน้ จะมจี านวนท่ีเกีย่ วข้องกัน 3 จานวน เช่น 13 + 5 = 18 18 – 13 = 5 18 – 5 = 13 ครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตวา่ - 13 + 5 = 18 - ถา้ นา 18 ซึง่ เป็นผลลัพธ์มาลบดว้ ย 13 จะได้ 5 - ถ้านา 18 ซงึ่ เป็นผลลัพธม์ าลบด้วย 5 จะได้ 13 3. ครจู ดั กจิ กรรมทานองน้อี ีก 2-3 ตัวอยา่ ง 4. ครใู ห้นักเรียนศึกษาเรือ่ ง ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ เพิม่ เตมิ หาความสัมพนั ธก์ าร บวกและการลบเลขหลกั เดยี ว แล้วเขียนประโยคสัญลกั ษณ์แสดง 3 + 2 = ชว่ั โมงท่ี 2 5. ครูเขียนประโยคสัญลักษณก์ ารลบ ใหน้ ักเรยี นแสดงวธิ ีทา และใช้วธิ กี ารบวกตรวจคาตอบบน กระดานดังกิจกรรมขอ้ 4 ในขอ้ ต่อไปน้ี 17 - 8 = - 5 = 20 - 12 = 6. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ ความสมั พันธก์ ารบวกกับการลบ สามารถสรุปไดว้ า่ “ความสมั พันธก์ ารบวกและการลบ คอื ผลบวกจะเป็นตัวตงั้ ของการลบ และผลลบจะเป็นตัวตั้งหรือตัวบวกของการ บวก” (การลบเป็นวิธีกลบั กนั ของการบวก) 7. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะ ส่ือการเรียนและแหล่งเรียนรู้ แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. สังเกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ และแบบฝกึ หัด 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทกั ษะ
Search