หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

เฉลยแบบฝกึ เสริมทักษะ ใหถ้ ูกตอ้ ง คาช้แี จง จงเติมตัวเลขใหเ้ รียงตามลาดับ ลงใน 0 1 234 5 0 1 23 45 0 4 23 40 0 1 2 3 45 0 4 23 1 5 จงเรียงลาดับจากจานวนจากนอ้ ยไปหามาก 1. 4 5 1 3 0 2 = 0 1 2 3 4 5 2. 5 1 3 4 = 1 3 45 3. 3 0 2 5 = 0235 จงเรียงลาดับจากจานวนจากมากไปหานอ้ ย 1. 2 4 0 5 = 02 45 2. 1 5 2 3 = 12 35 3. 3 5 2 4 = 23 4 5

แบบทดสอบหลังเรียน คาชี้แจงให้เขยี นเครอื่ งหมาย X ทับตวั อักษรหน้าคาตอบท่ีถูกต้อง 1. ขอ้ ใดแสดงจานวนหา้ ก. ข. ค. 2. เขียนแทนด้วยเลขใด ก. 2 ข. 3 ค. 4 3. ตวั เลขทอี่ ย่รู ะหวา่ ง 3 กบั 5 ค. 4 ก. 2 ข. 3 4. ๓ อ่านว่าอย่างไร ข. สาม ค. ส่ี ก. สอง 5. ข้อใดถกู ตอ้ ง ข.4 = ๔ ค. ๔ = ๕ ก. 2 = 3 6. ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ ง ข. 3 = ค. 5 = ๕ ก. 0 = ๑

7. ๓ ตรงกบั ขอ้ ใด ข. ค . ก. ข. 0 = ๐ ค. 8. ศนู ย์ ตรงข้อใด ก. 9. มคี ่าเทา่ ไร ก. 5 = ๕ ข. 4 = ๔ ค. 3 = ๓ 10. 1 , 5, 0 ข้อใดถกู ตอ้ งทีส่ ดุ ก. ๑ , ห้า, 0 ข. หนง่ึ , 0, ๔ ค. ๑, สอง, 5

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เวลา 24 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ืองจานวนนับ 1-10 และ 0 เวลา 2 ช่ัวโมง เรื่อง จานวนนับ 6 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนิน การของจานวน ผลท่ีเกดิ ขน้ึ จากการดาเนิน การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด ค 1 .1 ป.1/1 บอกจานวน ของสง่ิ ตา่ ง ๆ แสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามจานวน ทีก่ าหนด อ่านและเขียน ตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทยแสดงจานวน นบั ไมเ่ กนิ 100 และ 0 สาระสาคัญ ตัวเลข 6 เป็นสญั ลกั ษณ์ใช้แทนจานวนส่ิงของท่ีมีจานวนส่ิงของท่มี จี านวนเทา่ กับหก ซง่ึ สง่ิ ของนนั้ จะเปน็ ชนิดเดยี วกนั หรือต่างชนิดกันกไ็ ด้ จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. นกั เรยี นบอกจานวนได้ถูกต้อง 2. ระบุภาพกบั จานวนได้ถูกตอ้ ง ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ิธกี ารท่หี ลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาใสถานการณ์ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลักษณะ (A) (A) ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย รอบคอบ และมคี วามเชอื่ มั่นในตนเอง สาระการเรียนรู้ 1. จานวนหก และตวั เลข 6 2. การบอกจานวน การอ่านและการเขยี นตวั หนงั สอื ตัวเลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยแทจานวน

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 1. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ใหน้ ักเรียนออกมายืนหนา้ ช้นั เรียน จานวน 5 คน นกั เรยี นคนอืน่ ๆ ชว่ ยกันบอก จานวนนับ ใหอ้ อกไปหนา้ ช้นั อีก 1 คน ที่เหลือชว่ ยกนั นบั และบอกจานวน จนได้คาตอบ “6” จากนั้น จึงเปลี่ยนเปน็ ใช้อปุ กรณอ์ ย่างอนื่ เชน่ สมดุ หนังสือ 3. ครยู กหนงั สือ 5 เลม่ ใหน้ ักเรยี นบอกว่ามีจานวนเท่าไร แล้วหยิบหนงั สือมารวมอกี 1 เล่ม ถามนักเรียนวา่ มีหนังสอื มากกว่าจานวนเดิมกีเ่ ลม่ ใหช้ ่วยกันตอบ แล้วนับจานวนหนังสือที่ครูถือไว้ ทั้งหมด โดยนบั ทีละจานวน และใหน้ ักเรยี นกลมุ่ ออ่ นนบั ซา้ อีกครงั้ 4. ครูนาภาพสง่ิ ของหลายสิง่ ทีม่ ีจานวนเทา่ กบั หกมาใหน้ กั เรยี นบอกจานวนสง่ิ ของเหล่านนั้ 5. ให้นกั เรียนบอกชื่อสงิ่ ของต่าง ๆ ในห้องเรยี น 6 อยา่ ง จากนนั้ ใหบ้ อกชอื่ สิ่งของอย่าง อน่ื เช่น ชื่อสัตว์ 6 ชนดิ ผลไม้ 6 อยา่ ง สี 6 สี เป็นตน้ ช่ัวโมงท่ี 2 6. ครูนาบัตรภาพแสดงจานวนหก ใหน้ ักเรยี นสังเกตและนับจานวน แลว้ เขยี นตัวเลข ฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและตวั หนังสือแสดงจานวนภาพในบัตร 7. ครูนาบัตรตัวเลข “6” “๖” “หก” ตดิ บนกระดานดา แนะนาใหน้ กั เรียนรูว้ ่า “6” “๖” “หก” เป็นสญั ลักษณ์ที่ใช้แสดงจานวน 6 โดยที่ “6” เป็นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ “๖” เปน็ ตวั เลข ไทย และ หก เปน็ ตัวหนงั สอื 8. ครูสาธิตการเขยี นตัวเลข “6” บนกระดานดาใหน้ ักเรยี นสงั เกตและฝึกเขียน แล้สังเกต คาอา่ น “หก” ใหน้ ักเรียนสะกดคา “หก” 9. ใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ ส่อื การเรยี นและแหล่งเรยี นรู้ 1. บัตรภาพ 2. แบบฝกึ เสริมทักษะ 3. แบบทดสอบกอ่ นเรียน การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. สงั เกตจากความสนใจ ตงั้ ใจในการเรียน ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสริมทักษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทกั ษะ

ใบความรู้ จานวนหก รปู ท่ีกาหนดใหม้ ีอยู่ หก จานวน เขยี นแทนด้วยตวั เลข อารบิก และตัวเลขไทยไดด้ งั นี้ ตัวเลขอารบกิ 6 ตวั เลขไทย ๖ ตวั หนงั สือ หก ปลา หก ตวั นกแพนกวนิ 6 ตวั ลกุ เปด็ ๖ ตวั

แบบฝกึ เสริมทกั ษะท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นเลอื กรูปท่แี สดงจานวน หก โดยเขียน  ทบั ก ข หรอื ค ตัวอย่าง 1. กขค 2. ก ขค 3. ก ขค

4. ก ข ค 5. ค ค ก ข 6. กข

แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะที่ 2 กิจกรรมท่ี 1 ให้สงั เกตการเขียนตวั เลขแทนจานวน “หก” ตวั เลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย กิจกรรมที่ 2 ใหน้ ักเรียนฝึกเขียนตวั เลข 6, ๖ และตวั หนังสือ “หก” ตามรอยประ {{{{{ เฉลยอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน 

แบบทดสอบก่อนเรยี น คาชีแ้ จง ใหเ้ ขียนเครอื่ งหมาย  ทบั ตัวอกั ษรหน้าคาตอบที่ถูกต้อง 1. ขอ้ ใดบอกถงึ สิ่งที่มีจานวน 6 ก. ส้ม หก ผล ข. ดอกไม้ เจ็ด ดอก ค. แก้ว สบิ ใบ 2. จากรูป มีปลาก่ตี ัว ก. 6 ตัว ข. 8 ตวั ค. 7 ตัว 3. แปด เขียนเปน็ ตวั เลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทยได้ดงั ขอ้ ต่อไปน้ี ก. 8 ๘ ข. 7 ๗ ค. 6 ๖ 4. เกา้ เขียนเป็นตัวเลขไทยได้ ดังขอ้ ใด ก. 9 ข. 6 ค. ๙ 5. เจ็ด ตรงกับข้อใด ก. ข. ค.

6. มดี อกไม้ 10 ดอก ตรงกบั ขอ้ ใด ก. ข. ค. 7. ข้อใดไม่ถูกตอ้ ง ก. 9 = ๙ ข. 7 = 8 ค. 10 = ๑๐ 8. ขอ้ ใดไมต่ รงกบั เลข 6 7 ก. ข. ค. 9. 8 เขยี นไดอ้ ย่างไรบา้ ง ก. แปด 8 ๘ ข. เจ็ด 8 ๖ ค. สิบ 9 ๒ 10. จากรูป ตรงขอ้ ใด ก. ข. ค.

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เวลา 24 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ งจานวนนบั 1- 10 และ 0 เวลา 1 ชว่ั โมง เร่อื ง จานวนนบั 7 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนิน การของจานวน ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนิน การ และนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด ค 1 .1 ป.1/1 บอกจานวน ของสิ่งตา่ ง ๆ แสดงส่ิงตา่ ง ๆ ตามจานวน ทก่ี าหนด อ่านและเขยี น ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทยแสดงจานวน นบั ไม่เกนิ 100 และ 0 สาระสาคัญ ตัวเลข 7 เป็นสญั ลกั ษณ์ใช้แทนจานวนสงิ่ ของทมี่ ีจานวนเท่ากับเจ็ด ซง่ึ ส่ิงของนั้นจะเป็นชนดิ เดียวกนั หรือต่างชนิดกันก็ได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนบอกจานวนไดถ้ กู ตอ้ ง 2. ระบุภาพกบั จานวนไดถ้ กู ตอ้ ง ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ ีการทีห่ ลากหลายแกป้ ัญหา 2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาใสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมคี วามเชื่อมน่ั ในตนเอง สาระการเรียนรู้ จานวนเจ็ด และตวั เลข 7

กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนทบทวนเร่ืองจานวน 1 ถงึ 6 และ 0 โดยให้นักเรียนบอกจานวน และเขียน ตัวเลขแทนจานวนจากของจรงิ หรอื ภาพ 2. ครูยกตวั อยา่ งส่ิงของท่มี ีจานวน 6 ให้นกั เรียนนบั จานวน นามาเพม่ิ อีก 1 แลว้ ช่วยกัน หาคาตอบว่า มจี านวนเทา่ ไร จนไดค้ าตอบ 7 จากนั้นจึงเปล่ยี นใชอ้ ปุ กรณอ์ ่นื แทน 3. ให้นกั เรียนสังเกตและบอกส่งิ ต่าง ๆ ท่อี ยู่ในหอ้ งเรียนจานวน 7 อย่าง จากนั้นใหบ้ อก ชอ่ื สัตว์ สิ่งของต่าง ๆ เช่น ชื่อต้นไม้ ผลไม้ ท่ีนักเรียนร้จู กั จานวน 7 อยา่ ง 4. ครนู าบัตรภาพท่แี สดงจานวน 7 ใหน้ ักเรยี นสังเกตและนบั จานวนภาพ นาบตั รตวั เลข “7” “๗” “เจด็ ” ติดบนกระดานดา ใหน้ ักเรียนอ่านสญั ลกั ษณ์ทง้ั สาม 5. ครสู าธติ การเขียนตวั เลข “7” “๗” และคาอ่าน “เจ็ด” บนกระดานดาใหน้ ักเรียนดทู ลี ะ ตวั แลว้ อ่านและฝกึ เขียน 6. ครนู ับเมล็ดมะขามออกเสียงนับหน่ึงถึงหกและเจ็ดครูพูดและนักเรยี นพดู ตามครู 7. ครูโชวผ์ ลไม้ เชน่ ละมุด 2 ผล เงาะ 2 ผล ส้ม 3 ผล ใหน้ กั เรยี นสังเกตและออกเสียงนับ 1 – 6 และ 7 8. ให้นกั เรียนทาแบบฝึกเสริมทักษะ ส่ือการเรยี นและแหล่งเรยี นรู้ แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. สังเกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ

ใบความรู้ จานวนเจด็ รูปที่กาหนดให้มีอยู่ เจ็ด จานวน เขียนแทนด้วยตวั เลข อารบกิ และตวั เลขไทยไดด้ งั น้ี ตวั เลขอารบิก 7 ตวั เลขไทย ๗ ตัวหนังสอื เจด็ ปลา เจด็ ตวั นกแพนกวิน 7 ตวั ลกู เปด็ ๗ ตวั

แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นเลอื กรปู ท่แี สดงจานวน เจ็ด โดยเขียน  ทบั ก ข หรือ ค 1. ก ขค 2. ก ขค 3. กข ค

4. ก ข ค 5. ค ค ก ข 6. กข

แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะท่ี 2 กิจกรรมท่ี 1 ใหส้ งั เกตการเขยี นตัวเลขแทนจานวน “เจ็ด” ตวั เลขฮนิ ดูอารบิกตัวเลขไทย กจิ กรรมที่ 2 ใหน้ ักเรียนฝึกเขียนตัวเลข 7, ๗ และตัวหนังสอื “เจด็ ” ตามรอยประ {{{{{ เฉลยอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน 

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เวลา 24 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื งจานวนนบั 1- 10 และ 0 เวลา 1 ชว่ั โมง เรอ่ื ง จานวนนบั 8 มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนิน การของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 1 .1 ป.1/1 บอกจานวน ของส่ิงต่าง ๆ แสดงส่งิ ต่าง ๆ ตามจานวน ทก่ี าหนด อา่ นและเขียน ตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทยแสดงจานวน นบั ไม่เกนิ 100 และ 0 สาระสาคัญ ตัวเลข 8 เปน็ สัญลกั ษณใ์ ช้แทนจานวนสิง่ ของท่ีมจี านวนเทา่ กับแปด ซึ่งสิ่งของนั้นจะเหมอื นกนั หรือต่างกันกไ็ ด้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนบอกจานวนไดถ้ กู ต้อง 2. ระบภุ าพกบั จานวนไดถ้ ูกต้อง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วธิ กี ารทห่ี ลากหลายแก้ปัญหา 2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาใสถานการณ์ ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบยี บเรยี บร้อย รอบคอบ และมีความเชือ่ มั่นในตนเอง สาระการเรยี นรู้ 1. จานวนแปด และตวั เลข 8 2. การอา่ นและการเขยี นตัวหนังสือ ตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยแทนจานวน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1. ทบทวนเก่ยี วกับจานวน 1-7 และ 0 โดยใหน้ กั เรยี นบอกจานวนและเขยี นตวั เลขแทน จานวนภาพ 2. ครูยกตวั อย่างสิง่ ของทม่ี ีจานวน 7 ใหน้ ักเรยี นบอกและนับจานวน แล้วนาสงิ่ ของ อย่างเดียวกนั มาเพิ่มอีก 1 ชว่ ยกนั หาคาตอบว่ามีจานวนเทา่ ไร (8) จากนน้ั จึงเปลี่ยนใชอ้ ุปกรณอ์ น่ื แทน 3. ครนู าบตั รภาพที่แสดงจานวน 8 ติดบนกระดานดาใหน้ ักเรียนนับจานวน แลว้ บอกช่อื สิ่งตา่ ง ๆ จานวน 8 อยา่ ง เช่น สิ่งท่ีอยใู่ นห้องเรยี น สตั ว์ ผลไม้ 4. ครูนาบตั รตัวเลข “8” “๘” “แปด” ติดบนกระดานดา ให้นกั เรียนอ่านสัญลักษณ์ทง้ั สาม 5. ครสู าธติ การเขียนตวั เลข “8” ”๘” แปด บนกระดานดาใหน้ กั เรยี นสงั เกต แลว้ อา่ น และฝึกเขยี น 6. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ ส่ือการเรียนและแหลง่ เรียนรู้ 1. บัตรภาพ 2. แบบฝกึ เสริมทกั ษะ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. สังเกตจากความสนใจ ตัง้ ใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ

ใบความรู้ จานวนแปด รปู ทก่ี าหนดใหม้ อี ยู่ แปด จานวน เขยี นแทนด้วยตวั เลข อารบกิ และตวั เลขไทยไดด้ ังนี้ ตัวเลขอารบกิ 8 ตัวเลขไทย ๘ ตัวหนงั สอื แปด ปลา แปด ตวั นกแพนกวนิ 8 ตวั ลูกเป็ด ๘ ตัว

แบบฝกึ เสริมทกั ษะที่ 1 ใหน้ กั เรยี นเลอื กรปู ท่แี สดงจานวน แปด โดยเขยี น  ทบั ก ข หรอื ค 1. ก ขค 2. ก ขค 3. ขค ก

4. ขค ขค ก ขค 5. ก 6. ก

แบบฝกึ เสริมทกั ษะที่ 2 กจิ กรรมท่ี 1ใหส้ งั เกตการเขียนตวั เลขแทนจานวน “แปด” ตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย กจิ กรรมที่ 2 ให้นกั เรียนฝึกเขียนตวั เลข 8, ๘ และตวั หนังสือ “แปด” ตามรอยประ เเฉฉลลยยอตยาู่ใมนดดลุ ุลยยพพินนิ ิจิจขขอองงคครรูผูผู้สู้สออนน 

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 13 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 24 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื งจานวนนบั 1- 10 และ 0 เวลา 2 ช่ัวโมง เรอื่ ง จานวนนับ 9 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนิน การของจานวน ผลที่เกิดข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนิน การ และนาไปใช้ ตวั ชวี้ ัด ค 1 .1 ป.1/1 บอกจานวน ของส่ิงต่าง ๆ แสดงสิ่งตา่ ง ๆ ตามจานวน ท่ีกาหนด อา่ นและเขียน ตวั เลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทยแสดงจานวน นบั ไมเ่ กิน 100 และ 0 สาระสาคญั ตวั เลข 9 เป็นสญั ลกั ษณ์ใชแ้ ทนจานวนส่งิ ของทมี่ จี านวนส่งิ ของทม่ี ีจานวนเท่ากับเก้า ซึ่งสงิ่ ของ น้นั จะเหมือนกันหรือต่างกนั กไ็ ด้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1. เมื่อกาหนดส่ิงของหรือภาพท่ีมีจานวนเกา้ ให้สามารถบอกจานวนไดถ้ กู ตอ้ ง 2. เม่ือกาหนดสิ่งของหรือภาพที่มจี านวนเกา้ ให้สามารถเขียนตวั เลข 9 แทนจานวนเก้าได้ 3. สามารถอธิบายความหมายของตวั เลข 9 (เก้า) ได้ 4. เมื่อกาหนดตัวเลข 9 ให้สามารถเขยี นภาพแทนจานวนเกา้ ได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วธิ ีการทหี่ ลากหลายแกป้ ญั หา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาใสถานการณ์ ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม ด้านคุณลักษณะ (A) ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชือ่ ม่นั ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ 1. จานวนเก้า และตัวเลข 9 2. การบอกจานวน การอ่านและการเขียนตัวหนังสอื ตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทยแทนจานวน

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 1. ครูทบทวนจานวน 1 ถึง 8 โดยให้นักเรยี นบอกจานวนและเขยี นตวั เลขแทนจานวน จากอปุ กรณ์ทเี่ ป็นของจริงหรอื บัตรภาพ 2. ให้นักเรียนออกมาหน้าชน้ั เรียนจานวน 8 คน ใหน้ ักเรียนนับจานวนพรอ้ มกัน จากนน้ั ใหน้ กั เรียนออกมาเพิม่ อีก 1 คน ช่วยกนั บอกจานวนนับ ให้นับ 1-9 จากน้นั จึงเปลี่ยนเปน็ ใชอ้ ุปกรณ์ อย่างอนื่ แทน 3. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุม่ ชว่ ยกันบอกสิ่งของท่ีอยู่ในหอ้ งเรยี นจานวน 9 อย่าง จากนัน้ ให้ บอกช่ือสัตว์หรอื สิ่งของ เชน่ ผลไม้ ตน้ ไม้ ช่ืออาหาร ขนม มาอย่างละ 9 ชนิด 4. ให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ ช่ัวโมงท่ี 2 5. ครนู าบัตรตัวเลข “9” “๙” และ “เก้า” ตดิ บนกระดานดา บอกนักเรยี นว่าเปน็ สญั ลกั ษณ์ ท่ใี ช้แทนจานวน 9 จากนน้ั ใหน้ กั เรียนอ่านสัญลกั ษณท์ ง้ั สาม ครสู าธิตการเขยี นตัวเลข “9” “๙” และ “เก้า” บนกระดานดาให้นกั เรยี นดทู ีละตวั แล้วอา่ นและฝึกเขยี น 6. ครนู าบัตรภาพจานวน 0 - 9 ใหน้ ักเรยี น 4 กลมุ่ แยกตัวเลข 9 ออกเปน็ หลายๆ จานวน เชน่ 9 = 8 กับ 1 9 = 7 กับ 2 9 = 6 กบั 3 9 = 5 กับ 4 7. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรปุ ว่า “ตัวเลข” ใชแ้ ทนจานวนสง่ิ ของตา่ งๆ และตัวเลข 9 ใช้ แทนสง่ิ ของเก้าส่ิง ใหน้ กั เรยี นอ่านแล้วจดลงในสมุดวา่ “ตวั เลข 9 คอื สัญลกั ษณแ์ ทนสิ่งของท่ีมจี านวน เท่ากับเกา้ ” 8. ครูอธบิ ายประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการเรยี นเรอื่ งจานวนเก้าในการเรียนและการนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวัน เชน่ การนบั การเขียน การบอกจานวนกับผู้อื่น 9. ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ สือ่ การเรียนและแหล่งเรยี นรู้ 1. บัตรตัวเลข 2. แบบฝกึ เสริมทักษะ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. สังเกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทักษะ

ใบความรู้ จานวนเก้า รูปท่ีกาหนดให้มอี ยู่ เกา้ จานวน เขียนแทนดว้ ยตวั เลข อารบิก และตัวเลขไทยได้ดังนี้ ตัวเลขอารบกิ 9 ตัวเลขไทย ๙ ตวั หนงั สือ เก้า นก เก้า ตวั หมู 9 ตวั กบ ๙ ตวั

แบบฝึกเสริมทักษะท่ี 1 ใหน้ ักเรยี นเลอื กรูปทแี่ สดงจานวน เกา้ โดยเขยี น ทบั ก ข หรือ ค 1. ก  ข     2. คค ก   ข   ค 3. ค ก   ข     คค

4. ก   ข    5. คค ก   ข   6.  คค ก   ข   ค ค

แบบฝกึ เสริมทักษะที่ 2 กจิ กรรมที่ 1 ให้สงั เกตการเขียนตวั เลขแทนจานวน “เกา้ ” ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย กิจกรรมที่ 2 ให้นกั เรียนฝึกเขียนตัวเลข 9, ๙ และตัวหนงั สอื “เกา้ ” ตามรอยประ เฉเฉลลยยตอายมู่ใดนุลดยุลพยนิพจิ นิ ขิจอขงอคงรคผู รู้สูผอู้สนอน 

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 14 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ เวลา 24 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื งจานวนนบั 1- 10 และ 0 เวลา 2 ช่ัวโมง เรอ่ื ง จานวนนบั สบิ และตวั เลข 10 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนิน การของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนิน การ และนาไปใช้ ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจานวน ของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งตา่ ง ๆ ตามจานวน ที่กาหนด อา่ นและเขยี น ตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจานวน นับ ไม่เกิน 100 และ 0 สาระสาคญั ตวั เลข 10 (จานวนนับ) คอื สัญลกั ษณแ์ ทนจานวนสงิ่ ของทมี่ ีจานวนเท่ากับ 10 ซง่ึ ส่ิงของนน้ั จะ เหมือนกนั หรือต่างชนิดกนั กไ็ ด้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) 1. เม่อื กาหนดสงิ่ ของหรอื ภาพทม่ี ีจานวนสบิ ให้ สามารถบอกจานวนไดถ้ กู ต้อง 2. เมือ่ กาหนดสง่ิ ของหรอื ภาพท่ีมีจานวนสบิ ให้ สามารถเขยี นตัวเลข 10 แทนจานวนสบิ ได้ 3. สามารถอธิบายความหมายของตวั เลข 10 (สิบ) ได้ 4. เม่อื กาหนดตัวเลข 10 ให้สามารถเขียนภาพแทนจานวนสบิ ได้ 5. สามารถเขยี นตวั เลข 10 ได้อยา่ งรวดเรว็ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ ีการที่หลากหลายแก้ปญั หา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาให้สถานการณ์ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) (A) ทางานเป็นระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมคี วามเช่ือมนั่ ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ จานวนสบิ และตัวเลข 10

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูใหน้ ักเรยี นบอกชอื่ สงิ่ ของทอ่ี ยู่ในห้องเรียน จานวน 10 อย่าง และนับจานวน 2. ครนู าบตั รตัวเลข “10” “๑๐” และบัตรคา “สบิ ” ตดิ บนกระดานดา ให้นกั เรียนอ่าน สญั ลักษณ์ท้ังสาม 3. ครสู าธติ การเขยี นตวั เลข “10” “๑๐” และ “สบิ ” บนกระดานดาใหน้ กั เรียนสังเกต อ่าน และฝกึ เขยี น 4. ครูโชว์บตั รตัวเลข 10 ใหน้ กั เรยี นทกุ คนแข่งขันกนั แยกจานวนสิบเขยี นลงในสมดุ ใครได้ มากและถกู ตอ้ งเปน็ ฝ่ายชนะ เขยี นแยกจานวนตัวเลข 0 - 10 ลงในสมดุ ดังน้ไี ดด้ ังนี้ 10 = 8 กับ 2 10 = 7 กบั 3 ฯลฯ ชว่ั โมงที่ 2 5. ครแู จกบัตรเลขทมี่ ีตวั เลข 1, 2, 3 ... 10 ให้นกั เรียน 10 คนละใบ แลว้ มาเรยี งหนา้ ช้นั เรยี น จากนอ้ ยไปหามาก แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ เรอ่ื งจานวนสบิ และตัวเลข 10 ว่าคืออะไร อาจสรปุ ว่า “ตัวเลข 10 คอื สญั ลกั ษณ์แทนจานวนสิง่ ของในหมู่ท่มี ีจานวนเท่ากบั สบิ ” ซ่งึ ส่งิ ของนน้ั จะเหมือนกนั หรอื ตา่ งชนิดกันกไ็ ด้ 6. ครสู าธติ การเขียนตวั เลข “10” “๑๐” และ “สบิ ” บนกระดานดาให้นักเรียนสงั เกต อ่าน และฝึกเขยี น 7. ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ ทกั ษะ สื่อการเรยี นและแหลง่ เรยี นรู้ แบบฝกึ เสริมทกั ษะ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. สงั เกตจากความสนใจ ตงั้ ใจในการเรียน ความรบั ผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสรมิ 2. ตรวจแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ

ใบความรู้ จานวนสิบ รปู ทีก่ าหนดใหม้ อี ยู่ สิบ จานวน เขยี นแทนดว้ ยตวั เลข อารบกิ และตัวเลขไทยไดด้ ังนี้ ตวั เลขอารบิก 10 ตวั เลขไทย ๑๐ ตวั หนงั สอื สิบ มา้ ลาย สบิ ตวั สิงโต 10 ตวั แมว ๑๐ ตวั

แบบฝึกเสริมทักษะ ใหน้ กั เรียนเลอื กรูปที่แสดงจานวน สิบ โดยเขียน  ทบั ก ข หรือ ค 1. ก   ข    2. คค ก   ข    3. คค ก   ข    คค

4. 5. กคกคคคขข ก   ข    6. คค ก   ข    คค

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 15 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ เวลา 24 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื งจานวนนับ 1- 10 และ 0 เวลา 2 ชวั่ โมง เร่ือง การเรยี งลาดบั 6-10 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกิดข้นึ จากการดาเนิน การ สมบตั ิของการดาเนิน การ และนาไปใช้ ตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจานวน ของสงิ่ ต่าง ๆ แสดงส่ิงต่าง ๆ ตามจานวน ที่กาหนด อา่ นและเขียน ตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทยแสดงจานวน นับ ไม่เกนิ 100 และ 0 ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.1/3 เรยี งลาดบั จานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จานวน สาระสาคัญ เมอื่ จานวนนับ 6 ถงึ 10 มาเรียงลาดับจากจานวนทน่ี อ้ ยไปหามาก จะเพิ่มข้นึ ทีล่ ะหนึง่ หรอื เรียงลาดบั จากจานวนทม่ี ากไปหาน้อย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) เม่ือกาหนด จานวนนับไม่เกิน 10 ใหส้ ามถงึ หา้ จานวนสามารถเรียงลาดบั จานวนจานวนได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วิธกี ารที่หลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาใสถานการณ์ ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย รอบคอบ และมีความเช่อื มัน่ ในตนเอง สาระการเรียนรู้ การเรยี งลาดับ 6-10

กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครใู หน้ กั เรยี นนบั จานวนตั้งแต่ 1 และแนะนาว่าจานวนทอี่ ยู่ถัดไปเกิดจากการนา จานวนมา เพมิ่ อกี ทีละ หน่ึง เรอื่ ยไปจนถงึ 10 2. ครูนาบตั รภาพต้งั แต่ทม่ี รี ปู ภาพจานวนตัง้ แต่ 1-10 ใหน้ ักเรยี นบอกจานวนโดยไม่เรียงลาดบั และนาไปแจกนักเรียนเป็นรายบุคคลและให้นกั เรยี นที่ได้รบั บัตรรปู ภาพทมี่ ากท่ีสุด และจากมากท่ีสุดไป นอ้ ยทีส่ ุด 3. ครูนาปญั หาหรือสถานการณ์ท่เี ก่ยี วกับการเรยี งลาดับจานวนมาอภิปรายรว่ มกัน เช่น ครกู าหนดสถานการณ์ ดังนี้ ครสู ารวจจานวนนักเรยี นวา่ ชอบอ่านนิทานเรื่องใดมากทส่ี ุด มีจานวนดังน้ี - ชอบอ่านเรือ่ ง กระต่ายกบั เตา่ 5 คน - ชอบอ่านเรื่อง ลากบั จ้ิงหรีด 7 คน - ชอบอา่ นเร่อื ง ราชสีห์กับหนู 6 คน 4. ครูอธบิ ายต่อวา่ จากสถานการณท์ ่กี าหนดหากเราตอ้ งการเรยี งลาดับนิทานทม่ี จี านวนนกั เรียน ชอบอา่ นจากมากไปน้อย เราจะต้องนาความรเู้ รอ่ื งการเปรียบเทียบและการเรยี งลาดับจานวนมาชว่ ย โดย พิจารณาจากจานวนนักเรียน คือ 5 6 7 แลว้ นามาเรยี งลาดับจากมากไปน้อย เป็นจะได้7 6 5 ซึ่งจะไดว้ ่า นิทานทนี่ กั เรยี นชอบอ่านเรยี งลาดับจากมากไปนอ้ ย ได้เป็น ลากบั จ้ิงหรดี ราชสีหก์ บั หนู กระต่ายกบั เต่า ชั่วโมงท่ี 2 5. ครูแบง่ กลุ่มนักเรียนกล่มุ ละ 5 คนครูแลกบัตรเลขฮินดอู ารบกิ 6-10 ทุกกลุ่มกลุ่มละ 1 ชุดและ แข่งขนั กันเรยี งบัตรเลขจากนอ้ ยไปหามากตามลาดบั กลุม่ ใดเรียงไดก้ ่อน กล่มุ นั้นให้น่งั ลงและผู้ชนะพรอ้ ม กับสลับเรียงจากมากไปหาน้อย 6. ครูนาปญั หาหรอื สถานการณ์ทีเ่ ก่ยี วกบั การเรียงลาดบั จานวนมาอภปิ รายรว่ มกนั เช่นครู กาหนดสถานการณ์ใหน้ กั เรียน 7. นกั เรยี นและครูชว่ ยกันสรุปการเรียงลาดบั โดยครูตง้ั คาถามใหน้ ักเรียนตอบปัญหาวา่ ใน ชีวิตประจาวนั หรอื ประสบการณม์ ีอะไรบ้างตอ้ งเรยี งลาดับจากมากไปนอ้ ยหรอื น้อยไปมาก 8. ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะ

สอ่ื และเหล่งการเรยี นรู้ 1. บตั รภาพ 2. แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. สังเกตจากความสนใจ ตั้งใจในการเรยี น ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝกึ เสริม 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทกั ษะ

แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะท่ี 1 คาชแี้ จง จงวงกลมล้อมรอบตวั เลขท่ซี ่อนอยูห่ ลัง 1. 6 7 8 9 78 2. 1  3 4 5 9 10 3.  7 8 9 10 12 4. 5 6 89 34 45 67   67 89 5. 1 2 3 5 3 4 5 6

เฉลยแบบฝึกเสริมทักษะ 1. 6 7 8 9 78 2. 1  3 4 5 9 10 3.  7 8 9 10 12 4. 5 6 89 34 45 67   67 89 5. 1 2 3 5 3 4 5 6

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ เวลา 24 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ืองจานวนนบั 1- 10 และ 0 เวลา 2 ชัว่ โมง เรื่อง การเปรยี บเทียบจานวน 6 -10 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผล ทเ่ี กดิ ข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนิน การ และนาไปใช้ ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.1/1 บอกจานวน ของส่งิ ตา่ ง ๆ แสดงส่งิ ต่าง ๆ ตามจานวน ที่กาหนด อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทยแสดงจานวน นบั ไม่เกิน 100 และ 0 ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.1/2 เปรียบเทยี บจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100 และ 0 โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < สาระสาคญั เมอื่ นาจานวน 2 จานวนมาเปรยี บเทยี บกันอาจจะมคี ่าเท่ากันหรอื ไม่เท่ากันโดยอาจมคี า่ มากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ โดยมวี ธิ ีการเปรยี บเทียบจานวน 2 จานวนมี วิธี คือวิธีจบั คแู่ บบหน่งึ ตอ่ หนึง่ จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) เมอื่ กาหนดจานวนนบั ไม่เกิน 10 ให้สองจานวน สามารถเปรียบเทียบจานวนได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ ีการที่หลากหลายแกป้ ญั หา 2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชือ่ มนั่ ในตนเอง สาระการเรียนรู้ การเปรียบเทียบจานวน 6 -10

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 1. ครูทบทวนเร่ืองการเปรียบเทียบจานวน โดยติดบัตรภาพ 2 ใบ บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรยี น เปรยี บเทียบวา่ มีจานวนสงิ่ ใด เทา่ กัน ไม่เท่ากนั มากกวา่ กนั หรอื นอ้ ยกวา่ กัน จากนนั้ ครูถามนกั เรยี นวา่ คา ว่า เท่ากับ ไมเ่ ทา่ กับ มากกวา่ และ น้อยกวา่ ทางคณิตศาสตร์ สามารถเขยี นเคร่อื งหมายแทนได้ มีใครรูบ้ า้ ง วา่ มีลกั ษณะอยา่ งไร 2. ครใู หน้ กั เรยี นนาตวั นับ เช่น หลอดนม ฝาเครื่องดืม่ ก้อนหนิ เมด็ มะขาม ขนึ้ มา 2 กอง เช่น กอง หนึง่ มีจานวน 6 อกี จานวน 8 ให้นกั เรยี นเปรียบเทียบ 2 จานวนจากสิง่ ของ 2 กลุ่ม มคี า่ เทา่ กันหรอื ไมเ่ ทา่ กนั ถ้าเท่ากันใช้สญั ลกั ษณ์ = ถ้าไม่เทา่ กัน ≠ โดยครทู บทวน วิธีการเปรยี บเทียบจบั คู่หน่ึงต่อหน่งึ 3. ครูใหน้ กั เรยี นดบู ัตรรปู ภาพแบบจานวนหรือเปรยี บเทยี บบัตรรูปภาพทม่ี ีจานวน 6 และ 8 และ ให้นักเรียนเปรียบเทียบ 2 จานวน มคี า่ มากกว่าและน้อยกวา่ ซงึ่ สามารถใช้สัญลกั ษณ์ > แทนมากกวา่ และ นอ้ ยกว่าใชส้ ญั ลักษณ์< ครูทบทวนการเขียนสญั ลกั ษณ์ <,> ดว้ ยน้วิ มือในอากาศหรอื บนโต๊ะ อีกครง้ั 4. ครูแนะนักเรียนวา่ ถา้ จับคู่ได้พอดี แสดงว่าจานวน 2 จานวนน้ันเท่ากัน ใช้เครื่องหมาย = 5. ถ้าจบั คไู่ มพ่ อดี แสดงว่าจานวน 2 จานวนไมเ่ ทา่ กนั นัน่ คอื อาจ มากกวา่ ใช้เครือ่ งหมาย > หรอื น้อยกวา่ ใชเ้ ครือ่ งหมาย < ช่วั โมงท่ี 2 6. ให้นักเรียนอาสา 2 คน หาบตั รเลขฮนิ ดูอารบิกแทนจานวนบัตรรปู ภาพ คือบัตรเลขฮนิ ดอู ารบกิ 6 และ 8 บตั รตามลาดบั และให้นกั เรียนเปรียบเทียบ 2 จานวนใชบ้ ตั รสญั ลักษณ์ < หรือ > 7. ให้นักเรยี นช่วยกนั สรปุ เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณ์ คือ 6 < 8 8. ใหน้ ักเรียนฝึกกิจกรรมเปรยี บเทียบเหมือนกับกจิ กรรมขอ้ ที่ 5หลายๆจานวนจบจนคล่อง 9. นักเรยี นทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ 10. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น สือ่ การเรยี นและแหล่งเรียนรู้ แบบฝึกเสริมทักษะ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. สงั เกตจากความสนใจ ตั้งใจในการเรียน ความรบั ผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสริม และ แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ 3. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น

แบบฝกึ เสริมทกั ษะ คาช้แี จง จงเขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์ 1. 4 น้อยกวา่ 6 =…………………………………… 2. 7 มากกว่า 5 =…………………………………… 3. 6 มากกว่า 4 =…………………………………… 4. 5 น้อยกว่า 8 =…………………………………… 5. 9 มากกว่า 7 =…………………………………… 6. 8 น้อยกวา่ 10 = …………………………………… 7. 6 เท่ากบั 6 =…………………………………… 8. 10 มากกวา่ 7 =…………………………………… 9. 5 น้อยกว่า 8 =……………………………………. 10. 9 เท่ากับ 9 =……………………………………. คาชี้แจง เติมเคร่ืองหมาย >, <, = ลงใน ใหถ้ กู ตอ้ ง 1. 7 9 2. 6 4 3. 8 8 4. 9 6 5. 7 9

เฉลยแบบฝึกเสริมทกั ษะ กจิ กรรมที่ 1 1. 4 น้อยกวา่ 6 = 4 <6 >5 2. 7 มากกวา่ 5 = 7 >4 <8 3. 6 มากกว่า 4 = 6 >7 < 10 4. 5 นอ้ ยกวา่ 8 = 5 6=6 10 > 7 5. 9 มากกวา่ 7 = 9 5<8 9=9 6. 8 น้อยกวา่ 10 = 8 7. 6 เท่ากบั 6 = 8. 10 มากกวา่ 7 = 9. 5 นอ้ ยกว่า 8 = 10. 9 เทา่ กับ 9 = กิจกรรมที่ 2 9 1. 7 < 4 2. 6 > 8 3. 8 = 6 4. 9 > 9 5. 7 <

แบบทดสอบหลงั เรยี น คาชี้แจง ใหเ้ ขียนเคร่ืองหมาย ทบั ตวั อกั ษรหนา้ คาตอบท่ถี กู ต้อง 1. ขอ้ ใดบอกถงึ สิ่งท่มี จี านวน 6 ก. ส้ม หก ผล ข. ดอกไม้ เจด็ ดอก ค. แก้ว สบิ ใบ 2. จากรปู มปี ลาก่ตี วั ก. 6 ตวั ข. 8 ตวั ค. 7 ตัว 3. แปด เขียนเปน็ ตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ และตวั เลขไทยไดด้ งั ขอ้ ต่อไปน้ี ก. 8 ๘ ข. 7 ๗ ค. 6 ๖ 4. เก้า เขียนเป็นตวั เลขไทยได้ ดงั ขอ้ ใด ก. 9 ข. 6 ค. ๙ 5. เจ็ด ตรงกับข้อใด ก. ข. ค.

6. มีดอกไม้ 10 ดอก ตรงกับขอ้ ใด ก. ข. ค. 7. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง ก. 9 = ๙ ข. 7 = 8 ค. 10 = ๑๐ 8. ขอ้ ใดไมต่ รงกบั เลข 6 7 ก. ข. ค. 9. 8 เขยี นไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ก. แปด 8 ๘ ข. เจ็ด 8 ๖ ค. สิบ 9 ๒ 10. จากรูป ตรงข้อใด ก. ข. ค.