ภาษาอังกฤษ ประถม

44 2. ครใู ชบัตรคําแลวใหผเู รยี นดูภาพสญั ลกั ษณแ ลวอานตามครู

45 กิจกรรมที่ 3 สญั ลกั ษณท พี่ บบรเิ วณโรงเรยี น 1. ใหผเู รยี นจับคูความหมายกบั สัยลักษณใหถ ูกตอ งแลว อา นใหเพอ่ื น ๆ ฟง (4 คะแนน ) Toilet School Zone Please keep off the grass Trash/ Dustbin

46 2. ครูใหผูเรียนดูภาพแลว อา นตามครู ความหมาย กจิ กรรมที่ 4 สัญลกั ษณตามรา นอาหาร 1. ใหผูเรยี นดูภาพแลว อานตามครู สัญลักษณ หา มนาํ สัตวเลย้ี งเขา Pets are not allowed หามสบุ บหุ รี่ No smoking รานอาหาร Restaurant จองแลว Reserved

47 2. ใหผเู รยี นแปลความหมายสญั ลกั ษณต ามรา นอาหารทีก่ าํ หนด สญั ลกั ษณ ความหมาย หามนาํ สตั วเ ลย้ี งเขา Pets are not allowed หา มสุบบหุ ร่ี No smoking รา นอาหาร Restaurant จองแลว Reserved

3. ใหผูเ รยี นอา นใหเพือ่ น ๆ ฟง 48 สญั ลักษณ ความหมาย หามนาํ สัตวเลย้ี งเขา Pets are not allowed หา มสุบบหุ รี่ No smoking รานอาหาร Restaurant จองแลว Reserved

49 บทท่ี 8 การขอรอ ง การออกคาํ สง่ั และการขอโทษ เร่ืองที่ 1 การพูดขอรองและการตอบรบั การพูดขอรองและการตอบรับเปนวฒั นธรรมทางภาษาอยา งหนึ่งของเจา ของภาษาซึ่งมี หลายสาํ นวน การพูดขอรอ ง มักใชคาํ วา “please” ประกอบในการพดู เชน ตัวอยา งประโยค ความหมาย A : Please close the door. กรณุ าปดประตูดว ยคะ B : All right. ไดครบั หรืออาจพูดอยา งสุภาพวา สง ปากกาใหผมหนอ ยครบั A : Could you send me a pen? ดวยความยนิ ดคี ะ B : With pleasure. เรอ่ื งท่ี 2 การออกคําส่ังและการตอบรบั ประโยคคําส่ังมกั ขึ้นตนดว ยคาํ กรยิ า และใชค าํ วา “please” มาประกอบ เพื่อความสุภาพ หรอื อาจใชเคร่อื งหมาย ! ทายขอ ความ เชน ตวั อยางประโยค ความหมาย A : Look! ดูนะ หรอื กรณุ าเขา มาเลยคะ A : Come in, please. ไดครับ B : Yes. กรุณาเงยี บหนอยครับ หรอื ไดคะ A : Please be quiet. B : O.K.

50 เร่อื งท่ี 3 การขอโทษและการตอบรบั การใชป ระโยคขอโทษและตอบรบั เปน มารยาทที่ผพู ูดควรคาํ นงึ ถึง เชน ตัวอยางประโยค ความหมาย A : I’m sorry. I’m late. ขอโทษคะ ท่มี าสาย B : Don’t worry. ไมต องกังวลครบั ตัวอยา งสาํ นวนการพูดขอรอ ง ความหมาย Please open the window. กรณุ าเปด หนา ตา งใหดว ยคะ Please wash these dishes. กรุณาลางจานเหลาน้ดี วยคะ Quiet please. ไดโปรดเงียบดวยคะ Speak louder, please. กรณุ าพูดเสยี งดังอีกสกั หนอ ยคะ Can you help me, please ? Will you help me , please ? กรุณาชว ยดิฉันหนอ ยไดไหมคะ Could you help me, please ? Would you help me, please ? ความหมาย มานี่ ตัวอยางสํานวนการพดู ออกคาํ สั่ง กรุณาตามฉันมา Come here. หยดุ Please follow me. กรุณาปดไฟ Stop. น่งั ลง Turn off the light, please. กรุณาเปดโทรทศั น Sit down. ยนื ขน้ึ Please turn on the television. เขาแถว Stand up. ไมต อ งรบี /อยา รีบ Stand in a line. Don’t rush.

51 Listen. ฟงนะ Look. ดูนะ Be quiet. เงียบ ๆ Be careful. ระมดั ระวังดว ย Don’t forget your homework. อยาลมื การบา นของเธอนะ ตวั อยางสํานวนการพูดขอโทษ ความหมาย Sorry. ขอโทษ I'm sorry. I do apologize. ฉนั ขอโทษ Please forgive me. กรุณายกโทษใหฉัน ตวั อยา งสํานวนการพดู ตอบรบั Alight /All right. ความหมาย No problem. ไดคะ /ครับ Yes, sure. ไมมปี ญ หาคะ /ครับ O.K. ไดแ นนอนคะ /ครับ Yes, certainly. ตกลงคะ/ครบั ไดคะ/ครบั With pleasure. ไดแ นนอนคะ /ครับ You’re welcome. ดว ยความยนิ ดีคะ/ครับ Don’t worry. ไมต อ งกังวลครบั

52 กจิ กรรมทา ยบทที่ 8 หลังจากผูเรียนไดเรียนรูเกี่ยวกับการขอรอง การออกคําสั่งและการขอโทษแลว ครูผสู อนดาํ เนินการประเมินและตรวจใหค ะแนนเพอื่ เกบ็ คะแนนระหวางภาคเรียนเปนสดั สว น 3 คะแนน โดยมกี จิ กรรมจาํ นวนท้ังส้ิน 3 กจิ กรรม ดงั น้ี กจิ กรรมที่ 1 การพดู ขอรองและการตอบรับ 1. ครูอานใหผูเรยี นฟง แลวใหผเู รียนอานตามพรอ มกัน Susan:Please open the window. Tom: O.K. Suda: Quiet please. Dan: Yes, sure. Ken: Speak louder, please. Peter: Yes, certainly. Tom: Could you please send me a book? Dan: With pleasure. Peter: Can you help me, please. Robert: Alright.

53 2. ใหผเู รยี นจับคูเ พือ่ ฝก พูดประโยคดังกลา วขา งตน ในขอ 1 3. ใหผเู รยี นแปลประโยคตอ ไปนี้เปนภาษาอังกฤษ (1 คะแนน) 1. กรณุ าเปดหนา ตางใหดว ยคะ _____________________________________________________________ 2. โปรดเงยี บดวยคะ _____________________________________________________________ 3. กรุณาชว ยฉันหนอ ยไดไหมคะ _____________________________________________________________ 4. ดวยความยินดี _____________________________________________________________ 5. ไดแนนอนครับ _____________________________________________________________ กิจกรรมที่ 2 การออกคําส่ังและการตอบรบั (1 คะแนน) ครูใหผูเรียนแปลเปนภาษาองั กฤษ และฝก พูดประโยคคาํ สง่ั นั้น ๆ ปดประตูดวย _______________________________ ดูสิ _______________________________ เงยี บดว ย _______________________________ ตามฉันมา _______________________________ เปด ไฟดว ย _______________________________

54 กจิ กรรมที่ 3 การฝกขอโทษและการตอบรบั 1. ใหผ เู รียนเลอื กคําตอ ไปน้เี ติมลงในชอ งวา งใหถกู ตอง (1 คะแนน) Sorry Don’t worry I’m sorry Please forgive me That’s all right It’s O.K. 1. ________________________. I’m late. (ขอโทษคะ ทม่ี าสาย) 2. ________________________. I don’t know the answer. (ขอโทษคะ ฉนั ไมท ราบคาํ ตอบคะ) 3. ________________________. That’s all right.

55 บทที่ 9 ประโยคความเดียว Simple Sentence เรอ่ื งที่ 1 การสรา งประโยคความเดียวโดยใช Present Simple Tense ประโยคความเดยี วเปนประโยคท่ีมใี จความเดียว มปี ระธานเดยี ว และกรยิ าเดยี ว เมือ่ ใช Present Tense กรยิ าตองเปนชองท่ี 1 เสมอ แตเมือ่ เปนประโยคคาํ ถามหรอื ประโยคปฏิเสธ จะใช do หรอื does มาชว ย โดยมโี ครงสรางและหลักการใช ดังน้ี โครงสรางประโยคบอกเลา ประธาน + กรยิ าชองท่ี 1 + สวนขยาย (ถา มี) ถา ประธานเปน เอกพจน กรยิ าจะเตมิ s, es เชน She goes to school by bus everyday. เธอไปโรงเรียนโดยรถประจําทางทุกวัน ประธานเปนพหูพจน กรยิ าไมต อ งเติม s, es เชน We always walk to school. พวกเราเนไปโรงเรียนอยูเสมอ โครงสรางประโยคปฏิเสธ ประธาน + is/ am/are/+not+สว นขยาย (ถา ม)ี ประธาน + do , does + not + สวนขยาย (ถา ม)ี เตมิ not หลงั กรยิ าชวย (Verb to be หรือ Verb to do) They do not play football. หรอื เขยี นรูปยอ ไดวา They don’t play football. พวกเขาไมเ ลน ฟุตบอล He does not like snake. หรือเขียนรปู ยอไดวา We don’t eat durian. พวกเราไมกินทุเรียน I am not a doctor. หรอื เขยี นรปู ยอ ไดว า I’m not a doctor. ฉนั ไมใชห มอ

56 โครงสรางประโยคคาํ ถาม - Do / Does + ประธาน + กริยาชอ งท่ี 1 + สวนขยาย (ถา มี) - คาํ แสดงคําถาม (What, Wher, When, Why, How, Who, Whose, Which) + do/does + ประธาน + กริยาชอ งที่ 1 + สว นขยาย (ถา มี) Do you see my book? คณุ เหน็ หนังสือของฉันไหม Is it the red pen? มันเปนปากกาแดงใชไหม What is your name? คณุ ชอื่ อะไร หรอื ช่ือของคุณคืออะไร Why do you come late? ทาํ ไมคุณมาชา /ทาํ ไมคณุ มาสาย หลกั การใช Present Tense 1. ใชกับเหตุการณท เ่ี กิดเปนประจําสมาํ่ เสมอ หรอื เปน กิจวตั ร เชน I get up at 6 o’ clock everyday. ฉนั ตื่นนอนเวลา 6 โมงเชา ทกุ วัน 2. ใชกบั เหตกุ ารณท ีเ่ ปน จริงขณะที่พดู เชน The weather is very cool. อากาศเย็นมาก 3. ใชกับเหตกุ ารณท ่เี ปนจรงิ ตลอดกาล หรือเปนกฎทางธรรมชาติ เชน The sun rises in the East. ดวงอาทติ ยข้ึนทางทิศตะวันออก 4. ใชกับตารางเวลาหรือแผนการท่วี างไว เชน My class finishes at 4.00 p.m. ชนั้ เรียนของฉันเลิกเวลา 4 โมงเย็น 5. ใชก ับการออกคําสง่ั เชน Turn on the light. ปดสวติ ชไฟดว ย 6. ใชกบั ความรูส ึก เชน I like funny movie. ฉันชอบภาพยนตรประเภทสนกุ สนาน

57 เรอื่ งที่ 2 การสรา งประโยคความเดียวโดยใช Present Continuous Tense Present Continuous Tense จะใชกบั การกระทาํ หรอื เหตุการณทีก่ ําลังดาํ เนินอยู ในขณะทีพ่ ูด อาจมคี ําบอกเวลาอยางชัดเจน (Adverb of Time) เชน now , at present หรือใช กับเหตุการณท ่ีผพู ูดมัน่ ใจวา จะเกดิ ข้นึ ในอนาคตอยา งแนน อน หรือเหตุการณท ีก่ าํ ลังจะเกดิ ขน้ึ ใน อนาคตอันใกล โดยมีรปู แบบโครงสรา งประโยค ดงั นี้ โครงสรางประโยคบอกเลา ประธาน + กริยาชว ย + กริยาแท + ing +สวนขยาย (ถา มี) My mother is cooking in the kitchen now. ขณะนีแ้ มข องฉันกําลังปรุงอาหารอยใู นครวั Today is Wednesday. วันนี้เปนวันพุธ He’s going to see the doctor at the moment. ขณะนี้เขากําลงั ไปพบหมอ You’re cooking breakfast. คณุ กําลังปรงุ อาหารเชา They’re going to Phuket tonight. พวกเขากาํ ลังจะไปภเู ก็ตคนื น้ี I’m watching T.V. now. ตอนนี้ฉนั กําลงั ดโู ทรทัศนอ ยู ขอสังเกต ใช is ถา ประธานเปน เอกพจน มรี ปู ยอ ’s เชน He’s ใช are ถาประธานเปนพหูพจน มรี ปู ยอ ’re เชน You are รปู ยอคือ You’re They are รูปยอคือ They’re I am รูปยอ คอื I’m โครงสรางประโยคปฏเิ สธ ประธาน + is / am / are + not + Ving She isn’t reading novel. เธอไมอ านหนังสือนวนยิ าย They aren’t playing football now. ตอนน้ีพวกเขาไมไดกาํ ลังเลนฟุตบอล

58 It is not sleeping in the basket. มนั ไมไดก ําลงั นอนหลบั ในตะกรา ขอ สงั เกต เติม not หลัง V. to be เชน - is not หรอื รปู ยอ isn’t - are not หรือรูปยอ aren’t โครงสรางประโยคคําถาม Is / Am / Are + Subject + V ing? Is the dog sleeping under the tree? สุนัขกําหลงั นอนหลับใตต นไมใ ชไ หม Yes, it is. หรอื No, it is not. หรือ No, it isn’t. ใชแลว หรอื ไมใชหรอก Are they running in the room? พวกเขากาํ ลังวง่ิ ในหอ งใชไ หม Yes, they are. หรอื No, they are not. หรอื ใชแลว หรอื ไมใชห รอก No, they aren’t. ขอสังเกต ขน้ึ ตน ประโยคดวยกรยิ าชว ย Verb to be และ มี “?” ทายประโยค ใช Yes ตอบรบั เมื่อเปนจรงิ หรอื กําลงั กระทาํ ใช No ตอบเม่ือตอบปฏเิ สธ โครงสรา งประโยคคาํ ถามที่ใชค าํ แสดงคําถาม Who / What / Where / When / Why / How + is / am / are + V + ing Who is cleaning in the room? ใครกําลังทาํ ความสะอาดหอ ง What are they doing? พวกเขากาํ ลังทําอะไร Where are you talking about? คณุ กาํ ลงั พูดถงึ เรอ่ื งเก่ียวกบั อะไร ขอ สังเกต ใช is, am, are ตามหลงั คําแสดงคําถาม

59 เรื่องที่ 3 การสรา งประโยคความเดียวโดยใช Future Simple Tense ประโยค Future Simple Tense ใชก บั เหตกุ ารณทจ่ี ะเกิดข้ึนในอนาคต มกี ริยาชวย will / shall หรือคําบอกเวลาในอนาคตกาํ กบั โดยมีลกั ษณะโครงสรา งประโยค ดงั นี้ โครงสรา งประโยคบอกเลา ประธาน + will / shall + กริยาชองที่ 1 Subject + will / shall + V1 I will read a new book tomorrow. ฉนั จะอานหนงั สือเลม ใหมพ รุง น้ี She will buy a new dress next week. เธอจะซอ้ื เส้อื ชุดใหมสปั ดาหห นา ขอสงั เกต โครงสรา งของ Future Simple Tense จะใช will หรือ shall วางหลงั ประธานหรอื หนา คํากรยิ าแท โดย will ใชก ับประธานท่ัวไป และ shall ใชก ับประธาน I, We เมือ่ เปน การเสนอแนะ หรอื ใหคาํ แนะนําและมกั ใชก ับประโยคคําถาม โครงสรา งประโยคปฏิเสธ ประธาน + will / shall + not + กรยิ าชองท่ี 1 Subject + will / shall + not + V1 He won’t drink coffee this morning. เขาจะไมดม่ื กาแฟในตอนเชา They will not play ping-pong tomorrow พรงุ นพ้ี วกเขาจะไมเลน ปง ปองกนั ขอ สงั เกต การปฏิเสธใหเ ตมิ not หลัง will / shall และใชร ูปยอ ดงั นี้ -- - will not won’t - shall not shan’t โครงสรา งประโยคคาํ ถาม Will / Shall + ประธาน + กริยาชองท่ี 1 Will / Shall + Subject + V1

60 Will you go with me tomorrow? คุณจะไปกับฉันพรงุ นี้ใชไ หม Shall we swim in the sea this evening? เยน็ นีพ้ วกเราจะเลน นํา้ ทะเลกันใชไ หม ขอสงั เกต นํากริยาชว ย Will / Shall ข้ึนตนประโยค ตามดว ยประธานและกรยิ าชอ งท่ี 1 และปด ทา ยประโยคดวยเครอ่ื งหมาย “?” โครงสรางประโยคคาํ ถามทข่ี น้ึ ตน ดว ยคําแสดงคําถาม Wh-Question What / Where / When / Why / Who / How + will /shall + ประธาน + กริยาชองท่ี 1 When will he go to the bank? เขาจะไปธนาคารเมอ่ื ไร Where will they learn English next week? สปั ดาหหนา พวกเขาจะเรียนภาษาองั กฤษทไ่ี หน ขอสงั เกต - นาํ will/shall วางไวหลงั แสดงคําถามตามดว ยประธานและกรยิ าชอ งที่ 1 และมี เครอ่ื งหมาย “?” ปด ทา ยประโยค - การใช Future Simple Tense บางครั้งอาจใช “to be going to” แทน will/shall เม่ือเปน เหตุการณท ี่คาดวา จะเกิดขึ้นอยา งแนนอนในเวลาทร่ี วดเร็ว เชน The ice is going to melt in a minute. นาํ้ แขง็ กาํ ลังจะละลายในไมชา

61 กจิ กรรมทา ยบทที่ 9 หลังจากผูเรียนไดเรียนรูเก่ียวกับการสรางประโยคความเดียวโดยใช Present Simple Tense ครูผูสอนดําเนินการประเมินและตรวจใหคะแนนเพ่ือเก็บคะแนนระหวางภาคเรียน เปน สัดสว น 3 คะแนนโดยมีกจิ กรรมจาํ นวนท้ังสน้ิ 3 กจิ กรรม ดังนี้ กจิ กรรมที่ 1 การสรา งประโยคความเดยี วโดยใช Present Simple Tense 1. ใหผูเ รียนเขียนคํากิริยาในวงเล็บใหถ ูกตอ ง แลว ใหผเู รียนอา นประโยคดังกลา ว 1. She_______ (go) to school everyday. 2. We always _______ (walk) to market. 3. The sun _______ (rise) in the east. 4. The sun _______ (set) in the west. 5. They _______ (play) football. 2. ใหผเู รียนเขียนคาํ ในวงเล็บใหถูกตอ ง แลวอานขอความเหลานัน้ ตามครูพรอ ม ๆ กนั หลังจากนน้ั ครูใหผเู รยี นอา นทีละคน Tom (get) ______up at six o’clock. He (dress) _______ and (go) _______ to school at seven o’clock and (leave) _______ at school at three o’clock. Today Tom (is) _______ very happy because he (meet) his friends. He (have) _______dinner at home with his parents.

62 3. ครูใหผ เู รียนเลนเกมสบ ิงโก โดยใหผ ูเรียนดูภาพขา งลางแลวใหผเู รียนเขียน ประโยคปฏเิ สธใหถ กู ตองลงในกระดาษแลว ชขู น้ึ เม่อื เขยี นเสร็จแลว Teacher: You_______sleep in the class. Policeman: You_______ park your car here. Dentist: You_______brush your teeth everyday.

63 4.ครใู หผเู รยี นเติมคาํ กรยิ าลงในประโยคคําถาม แลวใหผเู รียนอา นประโยคนั้น ๆ 1. _________ you see my book? 2. _________ he go to school today? 3. What______ you name? 4. _________ the weather cool today? กจิ กรรมท่ี 2 การสรางประโยคความเดียวโดยใช Present Continuous Tense 1.ครใู หผ เู รียนเขยี นประโยคความเดียวโดยใช Present Continuous Tense ตอไปนี้ใหถกู ตองแลว อานตามครู (1 คะแนน) 1. My sister is_________(cook) in the kitchen now. 2. I am _________ (watch) T.V. now. 3. She is _________(read) the newspaper now. 4. They are _________(play) football now. 5. He is _________ (swim) in a swimming pool now. (1 คะแนน) 2. ครูใหผ ูเรยี นเขยี นประโยคปฏเิ สธใหถูกตอ ง แลว ใหอ า นตามครูพรอ มกัน 1. We are ________ _________ (do) our homework. 2. He is ________ _________ (prepare) in the kitchen. 3. My father is ________ _________ (sing) right now. 4. She is ________ _________ (sleep) now.

64 3. ครูใหผ เู รยี นแตง ประโยคคาํ ถามโดยใช is/ am/ are แลวใหผเู รยี นอา นพรอ มครู (1 คะแนน) 1. ________ the dog sleeping under the tree? 2. ________ they running in the room? 3. Where ________ they? 4. What ________ you talking about? 5. Who ________ cleaning in the room? กจิ กรรมท่ี 3 การสรา งประโยคความเดียวโดยใช Future Simple Tense โครงสรางประโยคบอกเลาและ ประโยคคาํ ถาม 1. ครใู หผูเ รียนฟงครอู า นประโยคตอ ไปน้ีแลว ใหอ า นตามครูพรอ ม ๆ กัน หลงั จาก นน้ั ครูใหผ ูเรียนอา นทลี ะคน แลว ใหฝ กเขียนประโยคดังกลาว 1. I will write the letter tomorrow. 2. Next month I will go to school. 3. My father will build a new house next year. 4. Will he go to see his brother soon? 5. Will you go to market tomorrow? 6. Shall we swim tomorrow? 7. When will you go to the bank? 8. Where will we learn English next week?

65 บทที่ 10 ประโยคคาํ ถาม ประโยคคําตอบ คาํ สรรพนาม คําบพุ บท และคําคณุ ศัพท เร่ืองท่ี 1 คําสรรพนาม (Pronoun) Pronouns คือ คําทใี่ ชแ ทนคํานาม เพือ่ หลกี เล่ยี งการกลาวซํา้ ในภาษาไทย เรียกวา คาํ สรรพนาม คําสรรพนามท่ีสมั พนั ธกนั อยูในรปู ของประธาน กรรม Possessive Form Reflexive Pronoun ดงั นี้ รูปประธาน รูปกรรม Possessive Form Reflexive Pronoun Adjective Pronoun I me my mine myself we us our ours ourselves you you your yours yourself he him his his himself she her her hers herself it it its Its itself they them their theirs themselves ตวั อยา งประโยคที่ใช Pronoun 1. My sister and my brother like to play tennis. พส่ี าวและพชี่ ายของฉันชอบเลนเทนนิส 2. They play tennis whenever they can. “They” ในประโยคท่ี 2 เปนสรรพนามใชแทน “My sister and my brother” ใน ประโยคที่ 1 3. I see a yellow book on the shelf. ฉนั เห็นหนังสือเลมสีเหลอื งบนชั้น 4. It’s mine. มนั เปนของฉนั

66 ในประโยคที่ 4 ใช mine. แทน “I” และใช “It” ในประโยคท่ี 2 ใชแ ทน “ a yellow book” เรอ่ื งท่ี 2 คาํ บพุ บท (Preposition) Preposition หมายถงึ คาํ บุพบท ทาํ หนา ทีเ่ หมือนคํานามในประโยคเพ่ือขยายความให ชดั เจนยงิ่ ข้นึ แบง เปน 3 ประเภท ไดแ ก 1. คําบุพบทบอกเวลา เชน in ใชก ับ ฤดู เดอื น ป เชน The weather is hot in April. อากาศรอนในเดือนเมษายน on ใชก บั วัน และ วันสาํ คญั เชน We go to the temple on Sunday. พวกเราไปวัดในวันอาทติ ย at ใชกบั เวลา เชน We go to work at 7.00 a.m. พวกเราไปทํางานเวลาเจ็ดโมงเชา 2. คาํ บุพบทบอกสถานที่ เชน in ใน อยูใน เชน My mother lives in Bangkok. แมของฉนั อาศยั อยูในกรงุ เทพ The bird is in the cage. นกอยใู นกรง on บน อยบู น เชน The book is on the table. หนงั สืออยบู นโตะ The picture is on the wall. รูปภาพแขวนอยูบนผนัง at ท่ี อยูท ี่ เชน There are many animals at the zoo. มสี ตั วห ลายชนิดอยูท่สี วนสัตว I work at that office. ฉันทาํ งานที่ที่ทาํ งาน 3. คาํ บุพบทอ่นื ๆ under ลา ง ขางลาง ใต ขางใต เชน A boy plays under the tree. เด็กผูชายคนหนงึ่ เลนอยใู ตต นไม with ดว ย กับ เชน

67 My sister cut banana with a knife. พ่ีสาวของฉนั หั่นกลวยดว ยมีด I live with my parent. ฉนั อาศยั อยกู ับพอ-แม ของฉัน by โดย เชน Dang go to Chiang Mai by plane. แดงไปเชียงใหมโ ดยทางเครอื่ งบิน เร่ืองท่ี 3 คาํ คณุ ศพั ท (Adjective) Adjective หรอื คาํ คณุ ศพั ทใ ชข ยายคาํ นามเพอ่ื บอกลกั ษณะตา งๆ ของคน สัตว ส่งิ ของ หรอื สถานที่ โดยวางไวหลงั Verb to be หรือวางไวหนา คาํ นามท่ีตอ งการขยาย เชน This pen is blue. blue และ red เปน คํา adjective ขยาย I love red roses. pen และ rose คําคณุ ศพั ทท ่ีใชบรรยายลกั ษณะบุคคล เชน General appearance fair, dark, pretty, good – looking, handsome, plain, ugly Height tall, medium, short Hair style short, long, straight, wavy, curly, medium - length Eyes blue, dark, brown, hazel Clothes short, shirt, jeans, jacket, skirt, trousers, hat, tie Patterns. / Shades plain, spotted, striped, checked, flowery patterned Body slim, fat stocky, average Skin black, white, brown

68 เร่ืองที่ 4 ประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบ ประโยคคําถามที่จะกลา วถึงในที่นีม้ ี 2 แบบ ไดแก ประโยคคาํ ถามท่ีตอ งการคาํ ตอบวา ใชหรือไมใช เรยี กวา Yes-No Question คําถามลกั ษณะนี้ขนึ้ ตนดวยกรยิ าชวย เชน Q : Is this a red pen? นี่เปนปากกาแดงใชไหม Ans. : Yes, it is. ใชแ ลว หรอื No, it is not. หรือ No, it isn’t. ไม มนั ไมใชป ากกาแดง หรือ ประโยคคาํ ถามที่ขึน้ ตนดว ยคําแสดงคาํ ถาม ทเ่ี รยี กวา Wh- questions ไดแก 1. Who (ใคร) คําตอบของ “ Who” คอื บุคคลท่ีเปนประธานของประโยค เชน Q : Who is your mother? แมของคุณคอื ใคร Ans. : Ampa is my mother. อมั พาคือแมของฉนั 2. Whom (ใคร) คําตอบของ Whom คอื บุคคลท่เี ปน กรรมของประโยค เชน Q : Whom did your dog bite? ใครถกู สนุ ขั ของคณุ กัด Ans. : My dog bit Dang. สุนัขของฉันกดั แดง 3. Whose (ของใคร) คาํ ตอบของ Whose คอื บคุ คลทีเ่ ปน เจา ของ เชน Q : Whose mobile is this ? หรอื Whose is this mobile? โทรศพั ทเ คลือ่ นท่ีเคร่ืองนเ้ี ปนของใคร Ans. : This mobile is Took ’s. โทรศพั ทเ คล่อื นท่ีเครอื่ งนเี้ ปนของตกุ 4. What (อะไร) คาํ ตอบของ What คอื สง่ิ ของ เวลา และความคดิ หรืออน่ื ๆ คาํ ตอบของ what เปนไดท ัง้ คาํ นาม คาํ สรรพนาม คําคุณศพั ท หรอื วลี หรอื เหตุการณ เชน Q : What is your name? คุณชือ่ อะไร Ans. : My name is Ziva. ฉนั ชื่อซิลวา Q : What time is it? เวลาอะไร Ans. : It’s five o’clock. มนั เปน เวลา 5 โมง Q : What is going on? หรือ What’s happened? หรอื What’s up ? (เกิดอะไรขึน้ ) ซงึ่ เปน การถามถึงเหตุการณ Ans. : My dog was absent from my house. สนุ ขั ของฉนั หายไปจากบาน 5. Which (ส่ิงไหน อันไหน) เปนคําถามทใ่ี ชกับสัตว สง่ิ ของ ตอ งการคาํ ตอบท่ี เจาะจงหรือมีสิง่ ใหเลอื กอยา งใดอยางหนึ่ง เชน

69 Q : Which dress do you like best? The white or the black. คุณชอบเสอื้ ชุดใดมากท่สี ดุ สขี าวหรอื สดี ํา Ans. : The black one. ชดุ สีดํา 6. Why (ทาํ ไม) เปนการถามหาเหตผุ ล มกั ตอบดวย คาํ วา because เชน Q : Why do you come late? ทําไมคุณมาชา Ans. : Because I get up late. เพราะวา ฉนั ตนื่ สาย 7. Where (ท่ไี หน) ถามเกีย่ วกับสถานท่ี Q : Where does she live? เธออาศัยอยทู ไ่ี หน Ans. : She lives in Phuket. เธออาศัยอยใู นภูเก็ต 8. When (เมอ่ื ไร) ถามถงึ เวลา ซง่ึ ตอ งการคําตอบเปน วัน-เวลา เชน Q : When will you go to bed? คุณเขานอนเวลาใด Ans. : I’ll go to bed at 9.00 p.m. ฉันจะเขา นอนเวลาสามทมุ 9. How (อยางไร วธิ ีใด เทาใด) ตอ งการคาํ ตอบท่ีเปนวิธีการ อาการ หรือจาํ นวน เชน Q : How are you? คุณสบายดไี หม Ans. : I’m fine. ฉันสบายดี Q : How tall are you? คุณสูงเทา ใด Ans. : I’m 150 centimeters tall. ฉันสูง 150 เซนตเิ มตร Q : How old are you? คณุ อายุเทาไร Ans. : I’m fifty years old. ฉนั อายุ 50 ป Q : How much money do you have? คณุ มีเงินเทา ใด Ans. : I’ve one-hundred baht. ฉันมเี งิน 100 บาท Q : How do you go to work? คุณไปทํางานอยางไร Ans. : I go to work by bus. ฉันไปทาํ งานโดยรถประจาํ ทาง

70 กจิ กรรมทายบทท่ี 10 หลังจากผเู รยี นไดเรยี นรเู กี่ยวกับการใชคําสรรพนาม ครูผูสอนดําเนินการประเมินและ ตรวจใหคะแนนเพื่อเก็บคะแนนระหวางภาคเรียนเปนสัดสวน 8 คะแนนโดยมีกิจกรรมจํานวนทั้งส้ิน 4 กิจกรรม ดงั นี้ กิจกรรมท่ี 1 คาํ สรรพนาม 1. ครใู หผ เู รียนฝกกิจกรรมการเรยี นรูเ ร่ืองคาํ สรรพนาม ดังน้ี 1.1 ใหผ เู รยี นเขียนคาํ สรรพนามลงในชองวางตามตารางทีก่ ําหนดตอไปน้ี (3 คะแนน) รปู ประธาน รูปกรรม Passive Form Reflexive Adjective Pronoun Pronoun I We You He She It They

71 1.2 ใหผูเรยี นฟง ครอู านแลว ใหผ เู รยี นอานตามครูพรอมกัน หลังจากนน้ั ให ผูเรยี นอานทลี ะคน กิจกรรมที่ 2 คาํ บพุ บท 1. ครใู หผ เู รยี นเตมิ คําบุพบทลงในชองวางดังน้ี (2.5 คะแนน) 1.1 The weather is hot ____ April. 1.2 We go to the temple ____ Sunday. 1.3 He goes to work ____ 7.00 a.m. 1.4 The book is ____ the table. 1.5 My sister cut banana ____ knife. 2. ครใู หผ เู รียนอานประโยคดงั กลา วตามครู แลวใหผ ูเรยี นอานทีละคน กิจกรรมท่ี 3 คาํ คณุ ศพั ท ครูใหผูเรียนฟงครู แลว ใหอ า นพรอม ๆ กัน หลงั จากนัน้ ใหผ ูเรียนเขยี นประโยคที่ ดงั กลาว 1. This pen is blue. 2. I like red roses. 3. He is tall. 4. Her hair is long. 5. Our skin is white.

72 กจิ กรรมท่ี 4 ประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบ 1. ครใู หผ เู รยี นเขียนประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบ หลงั จากน้นั ใหผ เู รยี นจับคู แลว อานประโยคสนทนานั้น ๆ (2.5 คะแนน) A: Is this a red pen? B: No, it is ____(1)____. Q: ____(2)___is your mother? Ans: Ampa is ___(3)___ mother. Q: ___(4)___ time is it? Ans: It’s five o’clock. Q: ____(5)___ do you come late? Ans: Because I get up late.

73 บทที่ 11 ภาษาองั กฤษสําหรบั อาชพี แมบาน อาชีพแมบา น (maid) เปน อาชีพหน่ึง ซึ่งจะใกลช ิดกับแขกทเ่ี ขาพักทัง้ ในโรงแรม (hotel) เกสตเฮา ส (guesthouse) หรือ อพารตเมนต (apartment) การทกั ทายกับแขกที่เขา พกั การตอบ ขอ คําถามความตองการเกยี่ วกับอุปกรณ ทพี่ กั ดว ยความเตม็ ใจ จรงิ ใจ แจมใส อยางมไี มตรจี ิต ยอ ม ทาํ ใหเกิดความประทับใจกับแขกที่เขา พัก ดงั ตัวอยา งตอไปนี้ เร่อื งท่ี 1. การทกั ทายและสอบถามขอมูล Maid : Good morning. My name is Teera. May I help you? สวัสดคี ะ ฉนั ชอื่ ธีระ มอี ะไรทจี่ ะชว ยไดคะ Guest : Good morning. Is there drinking water in the room? สวสั ดคี ะ มนี าํ้ ดมื่ ใหใ นหองพักไหม Maid : Yes, there is two bottles free of charge. มีคะ มีนาํ้ ดมื่ ฟรี 2 ขวด Guest : Thank you, bye. Maid : You’re welcome. See you. หรอื Have a nice stay, see you. การใชค ําทกั ทาย ใชแตกตา งกนั ในแตล ะชวงเวลา เชน Good morning ใชใ นชว งเชา Good afternoon ใชช ว งกลางวนั หลงั เที่ยงไปแลว Good evening ใชใ นชวงเย็นหรือคํา่

74 สาํ นวนที่แมบานอาจจะถกู ถาม เชน Guest : Do you have a laundry service? คุณมีบริการซกั รีดไหม Maid : Yes, we have. It’s 30 baht p piece. มีคะ ช้ินละ 30 บาท Guest : May I move from the ninth floor to the lower one. ฉันอยากจะยา ยลงมาช้นั ลางไดไ หม Maid : Yes, you can move to the third floor. ไดค ะ คณุ ยายลงไปชน้ั 3 ได แมบานจาํ เปน ตอ งเรยี นรู-พดู ศัพทเ กยี่ วกบั จาํ นวนนับและลําดับที่ เพ่ือการใหบ ริการทด่ี ีได เชน first = ลําดับท่ี 1 second = ลําดบั ที่ 2 third = ลําดบั ท่ี 3 หรอื lower = ต่ํากวา แต “one” ในทีน่ ้ีใชแ ทน “floor”แตคําวา lower one หมายถึง ชั้นลา ง เรื่องท่ี 2. คาํ ศพั ทเ กีย่ วกบั อาชพี แมบ าน room with a shower หอ งที่มฝี ก บวั อาบนํา้ baggage /suitcase กระเปาเดินทาง room with a bath กระเปา สะพายหลัง เป air-conditioning room หองทม่ี อี า งอาบน้ํา back-pack รองเรียน หรอื air-con room เรอ่ื งรอ งเรียน หรือ room with air-con complain บตั รประจาํ ตวั fan กลองถายรูป window หองปรับอากาศ complaint โทรศัพทม ือถอื door ตนู ริ ภยั single room I.D. card ปลุกตอนเชา double room น้ําเย็น single bed พดั ลม camera นาํ้ อดั ลม หนา ตา ง mobile phone ประตู safety box หอ งเด่ยี ว morning call หอ งคู iced water เตยี งเดยี่ ว soft drink

75 double bed เตียงคู can กระปอ ง television /TV โทรทัศน soda water นํ้าโซดา refrigerator /fridge ตเู ยน็ plate /dish จาน telephone โทรศพั ท fork and spoon สอ มและชอน drinking water นํา้ ดืม่ glass แกว hot water นํา้ รอ น sink อางลางหนา water thermos กระติกนาํ้ lamp โคมไฟ bottle ขวด bed lamp โคมไฟหัวเตยี ง ice นํ้าแข็ง bed เตยี ง

76 pillow หมอน sauna เซานา อบไอนํา้ blanket ผาหม tour agent บรษิ ทั ทวั ร wardrobe ตูเสอื้ ผา tour guide ไกดน ําเท่ียว lobby ล็อบบ้ี หอ งโถงบริเวณ karaoke คาราโอเกะ แขกนงั่ พกั fill out กรอกรายละเอยี ด restaurant หองอาหาร car rental agency บรษิ ทั เชา รถ serve บรกิ าร drop ฝากไว ทง้ิ ไว parking lot ลานจอดรถ beauty salon รานทําผม massage นวด traditional massage นวดแผนโบราณ key กุญแจ key card บัตร มรี หัสเปดหองพกั towel ผา ขนหนู ผา เช็ดตัว shower cap หมวกอาบนํา้ coat hanger ไมแ ขวนเส้อื soap สบู shampoo แชมพู manager ผจู ดั การ cashier พนกั งานเกบ็ เงิน operator พนักงานรบั โทรศพั ท maid แมบาน driver คนขบั รถ fitness room หองออกกาํ ลังกาย swimming pool สระวา ยน้าํ

77 คําศพั ทอ น่ื ทเ่ี กี่ยวของ garden view วิวสวน check out ออกจากที่พัก park view จา ยเงนิ river view ววิ สวนสาธารณะ pay แขก lake view จอง mountain view ววิ แมน า้ํ guest การจอง sea view บตั รเครดติ service charge วิวทะเลสาบ reserve หนงั สอื เดินทาง room rate เงนิ สด information ววิ ภูเขา reservation ธนบตั ร travel information อัตราแลกเปล่ยี น book ววิ ทะเล credit card ใบแจงราคา ใบเสรจ็ free of charge คา บรกิ าร passport คา ซักรีด coffee คา บริการอาหารที่ tea ราคาหอ งพัก cash หองพัก hot water เงนิ ทอน เมื่อเปน bed and breakfast ขอ มูล banknote คาํ กริยา แปลวา room service เปล่ยี น ขอมูลการทองเทีย่ ว exchange ธนาคาร open 24 hours ทที่ ําการไปรษณีย internet service จอง แตถา เปนคํานาม bill สนามบนิ breakfast สถานีขนสง lunch หมายถงึ หนังสอื receipt สถานีรถไฟ ฟรี ไมคิดเงิน laundry bill กาแฟ room service bill ชา นา้ํ รอ น change ที่พักซึง่ บรกิ ารอาหารเชา บรกิ ารอาหารและ เครอ่ื งดืม่ ในหองพกั bank เปด 24 ชั่วโมง post office บรกิ ารอนิ เตอรเนต็ airport อาหารเชา bus station อาหารกลางวัน train station

78 dinner อาหารเย็น police station สถานตี าํ รวจ check in เขา พกั convenience store รา นสะดวกซื้อ bookstore รา นหนังสือ market ตลาด stationery รานเครอื่ งเขียน fruit market ตลาดผลไม foreign exchange ที่แลกเงิน hospital โรงพยาบาล flight เทย่ี วบิน drugstore รานขายยา travel agency บรษิ ัททอ งเทย่ี ว travel magazine หนงั สอื ทองเทยี่ ว luggage สมั ภาระ เรื่องท่ี 3.การขอรอ งและการขอโทษ การพดู คุยขอรอ ง การขอโทษ หรือการพูดเตือนอยางสภุ าพ เพ่ือความปลอดภัยในการเขา พัก ซ่ึงมีสํานวนทผ่ี ปู ระกอบอาชพี แมบ านควรเรยี นรู เชน Don’t forget to lock your room. อยา ลมื ลอคหองดวยนะ Please lock your room when you go out. กรุณาล็อคหองเมื่อคณุ ออกไปขางนอก Please drop your key at the counter. กรณุ าฝากกญุ แจท่ีเคานเ ตอร เร่อื งที่ 4. สาํ นวนทคี่ วรรู สาํ นวนที่แมบา นสามารถนําไปใชใหติดปาก เชน Hello. สวสั ดคี ะ Thank you. ขอบคุณคะ Sorry. ขอโทษคะ Can I help you? ดิฉันชว ยคุณมัย๊ คะ Let me help you. ใหด ฉิ ันชว ยคุณนะคะ Please. กรณุ า ไดโปรด Excuse me, please. ขอโทษนะคะ

79 I’m Sorry. เสยี ใจคะ /ขอโทษคะ Oh! Sorry, Sir. อุย ขอโทษคะ Pleasure. ดว ยความยนิ ดี You’re welcome ดวยความยนิ ดี Thank you for visiting ขอบคุณสําหรับการมาเยีย่ มคะ Never mind. Not at all ไมเปนไร. Doesn’t matter Pardon? ไมทราบวาอะไรนะคะ/ครับ

80 กิจกรรมทา ยบทที่ 11 ผเู รียนไดเรยี นรูเก่ียวกบั การแนะนําตนเองและผูอืน่ แลว ครผู สู อนดาํ เนนิ การประเมินผูเรียน และตรวจใหคะแนนเพอ่ื เก็บคะแนนระหวางภาคเรยี นเปน สัดสว น 8 คะแนน โดยมีกิจกรรมจํานวน ท้งั สน้ิ 4 กิจกรรม ดังนี้ กจิ กรรมที่ 1 การทกั ทายและสอบถามขอ มลู 1. ครอู านบทสนทนาตอ ไปน้ีแลวใหผ เู รยี นอานตาม Tom: Good morning. My name is Tom. May I help you? Susan:Good morning. Is there drinking water in this room? Tom: Yes, there is two bottles. It is free of change. Susan:Thank you, bye. Tom: You’re welcome. Bye. 2. ใหผเู รียนจับคสู นทนาประโยคดังกลาว 3. ครอู า นประโยคตอไปนี้ใหผเู รียนฟงแลวใหผ เู รียนอา นตามพรอ ม ๆ กัน Guest: Do you have a laundry service? Maid: Yes, we have. It is 30 baht per piece. 4. ครใู หผเู รียนฝกสนทนาประโยคดงั กลาวเปนคู ๆ กิจกรรมท่ี 2 คาํ ศัพทเกย่ี วกับอาชีพแมบ าน ครูใหผ เู รยี นเขียนคาํ แปลเปนภาษาองั กฤษ หลงั จาก นนั้ ใหผ เู รียนอานพรอม ๆ กนั (4 คะแนน) หอ งปรับอากาศ ______________________________ พดั ลม _____________________________ หอ งเดี่ยว _____________________________ หองคู _____________________________ ตูนริ ภัย ______________________________ ปลุกตอนเชา _____________________________ กระเปา เดนิ ทาง ______________________________ เตยี งเด่ยี ว ______________________________ เตยี งคู ______________________________

81 นา้ํ รอน ______________________________ โคมไฟหัวเตียง ______________________________ เตียง ______________________________ หมอน ______________________________ พนกั งานเก็บเงิน ______________________________ สระวายน้าํ ______________________________ พนกั งานรบั โทรศพั ท __________________________ กจิ กรรมที่ 3 การขอรอ งและการขอโทษ ครใู หผเู รยี นฟงครอู า นแลว อา นตามครู แลว เขียนประโยคท่อี าน 1. Please lock your room when you go out. 2. Please drop your key at the counter. กจิ กรรมที่ 4 สํานวนทค่ี วรรู ใหผ เู รียนแปลสํานวนจากภาษาไทยเปน ภาษาอังกฤษ (4 คะแนน) 1. ดิฉันชวยคณุ ไดไหมคะ _____________________________________________________________ 2. ขอโทษนะคะ _____________________________________________________________ 3. ดวยความยินดี _____________________________________________________________ 4. ขอบคุณทีม่ าเยย่ี ม _____________________________________________________________

82 เฉลยกิจกรรมทา ยบท บทท่ี 1 กิจกรรมท่ี 1 การทักทายชวงเวลาตาง ๆ (1 คะแนน) 1) Good morning สวัสดตี อนเชา 2) Good afternoon สวัสดีตอนบาย 3) Good evening สวสั ดตี อนคํ่า กิจกรรมที่ 2 การทกั ทายบคุ คล 3. การทกั ทายบคุ คลเม่ือพบกันครง้ั แรก (1 คะแนน) Bob: Good morning, Jack. Jack: Good(1m) orning, Bob. Bob: How do you do? Jack: How d( o) you do? 4. การทักทายบุคคลทร่ี จู กั กันมากอน (1 คะแนน) Jane: Good afternoon, Susan. H(1o)w do you do? Susan:Fine(,)thanks. And you? () Jane: I’m fine. Thank you. เกณฑก ารใหค ะแนน - ตอบคาํ ถามและการออกเสยี งทักทายไดถ กู ตอ งทุกจุด รวมได 1 คะแนน - ตอบคาํ ถามไดใจความแตออกเสียงไดช ัดเจนบางจดุ ได 0.5 คะแนน - ไมสามารถตอบคาํ ถามไดและออกเสียงไมไ ดใ นแตละขอ ได 0 คะแนน

83 เฉลยกจิ กรรมทายบทที่ 2 กิจกรรมท่ี 1 การแนะนําตนเองกับผูอื่น (3 คะแนน) 1. ครใู หผูเ รียนทบทวนการแนะนาํ ตนเองกบั ผอู ื่น โดยใหผูเ รยี นฝกอา น ดงั น้ี Liza: Hello, I am Liza. Alice: Hello, I am Alice. Liza: Nice to meet you. Alice: Nice to meet you, too. 2. ครูใหผ เู รยี นฝก เขยี นโดยเติมคําลงในชอ งวา ง ดงั นี้ (1 คะแนน) 1) Liza: Hello, I am Liza. 2) Alice: Hello, I am Alice. 3) Liza: Nice to meet you. 4) Alice: Nice to meet you, too. กจิ กรรมท่ี 2 การแนะนําผูอ ืน่ ใหรจู กั กัน (2 คะแนน) 1. ครใู หผ เู รียนฝกอาน ดังนี้ Peter: Hi Jack. 1) Jack: Hi Peter. Peter: Jack, this is Bob. 2) Jack: How do you do? I’m pleased to meet you. 3) Bob: How do you do? I’m pleased to meet you, too.

84 เกณฑการใหค ะแนน กจิ กรรมท่ี 1 - ตอบคาํ ถามไดถ ูกตอ งทั้ง 4 สว น ได 1 คะแนน - ตอบคําถามไดถูกตอ งบางสว น ได 0.5 คะแนน กิจกรรมท่ี 2 - ตอบคําถามไดถ กู ตอ งทั้ง 3 สว น ได 2 คะแนน - ตอบคาํ ถามไดถูกตองท้ัง 2 สว น ได 1 คะแนน - ตอบคาํ ถามไดถูกตองทั้ง 1 สว น ได 0.5 คะแนน - ตอบคาํ ถามไมไดเลย ได 0 คะแนน เฉลยกจิ กรรมทายบทที่ 3 กิจกรรมที่ 1 การกลา วลาหลงั พูดคุยกัน Suda: Goodbye. () () Tom: Goodbye. See you later. กิจกรรมท่ี 2 การกลาวลากอ นเดนิ ทาง 2. ครผู ูส อนใหผ ูเรียนเตมิ คําลงในชองวา งเกยี่ วกับการกลา วลากอ นการเดนิ ทางให สมบรู ณ 3) Suda: Have a nice trip. 4) Tom: Thank you. Bye. 5) Suda: Bye.

85 3. ครใู หผเู รียนจับคูฝก สนทนา 6) Sue: Have a nice trip. 7) Jack: Thank you. Bye. 8) Sue: Bye. กิจกรรมที่ 3 การกลา วลาทางโทรศพั ท 4. ครูใหผเู รยี นฝก เขียนโดยการเติมคาํ หรอื ขอความลงในชองวาง ดงั นี้ Tom: Tha( n) k you for your information. Jane: You(’re) welcom(e.)Goodbye. Tom: G(oo) dbye. กิจกรรมท่ี 4 การกลาวลาหลงั งานเลย้ี งเลิก 2. ใหผ ูเ รียนเตมิ คําหรือขอความลงในชอ งวาง 13)Sue: Thanks you very much for a lovely party. 14)Tom: You’re welcome. กจิ กรรมท่ี 5 การกลาวลากอ นเขา นอน 1. ใหผ เู รียนฝก เขยี นโดยเติมคําลงในชอ งวา ง 15)Lucky: Have a good dream. Good night. 16)Bill: Thank you, good night. เกณฑก ารใหคะแนน - ตอบคําถามและการออกเสียงทกั ทายไดถูกตอ งในแตล ะขอ ไดข อละ 0.5 คะแนน - ไมสามารถตอบคําถามไดแ ละออกเสยี งไมไ ด ไดข อละ 0 คะแนน

86 เฉลยกจิ กรรมทายบทที่ 4 กจิ กรรมท่ี 1 การเขียนพยัญชนะ (2 คะแนน) 2. ครใู หผเู รียนฝก เขียนพยญั ชนะตัวพิมพใ หญและตัวพิมพเ ลก็ พรอ มคําอาน ใหถกู ตอ ง Aa Bb Cc Dd Ee Ff Gg Hh Ii Jj Kk Ll Mm Nn Oo Pp Qq Rr Ss Tt Uu Vv Ww Xx Yy Zz กิจกรรมที่ 2 การออกเสยี งสระแทแ ละสระประสม 3. ครูใหผ ูเรยี นเตมิ สระ แลว อานและแปล (1 คะแนน) สระ เตมิ สระ อานวา แปลวา a day เดย วนั name เนม ชือ่ ไลค ชอบ e like เมค ทาํ ชนิ คาง make ชิพ เรือ ชอฟ ราน i chin โพส สง ship ชทั ปด o shop post u shut

87 เกณฑการใหค ะแนน กิจกรรมท่ี 1 - เขยี นพยญั ชนะตวั พิมพใหญ และตวั พิมพเลก็ ไดถ ูกตองทกุ ตัวอกั ษร ได 2 คะแนน - เขียนพยัญชนะตัวพิมพใหญ และตัวพิมพเล็กไดถูกบางตัวอักษร แตเกิน ครงึ่ ของ จํานวนตวั อกั ษรทั้งหมด ได 1 คะแนน กิจกรรมที่ 2 - เตมิ สระและอานพรอมท้ังแปลไดถ ูกตอ งท้ังหมด ได 1 คะแนน - เติมสระและอา นพรอ มทง้ั แปลไดถกู ตอ ง 1-3 ได 0.5 คะแนน เฉลยกจิ กรรมทายบทที่ 5 4. ครูใหผ เู รยี นจบั คูเลข 1- 10 6 one 9 two 4 three 5 four 2 five 10 six 1 seven 3 eight 7 nine 8 ten

88 5. ครใู หผูเ รยี นเขียนตวั เลขเปน ภาษาอังกฤษและอานออกเสยี งกับเพื่อน ๆ ตัวเลข ภาอังกฤษ 11 eleven 12 twelve 13 thirteen 14 fourteen 15 fifteen 16 sixteen 17 seventeen 18 eighteen 19 nineteen 20 twenty

89 กิจกรรมท่ี 2 2. ครใู หผ เู รียนเขียนคําแปล ลําดับเลขตอ ไปนีใ้ หตรงกบั ภาษาองั กฤษ คาํ แปล eleventh ลําดับที่ 11 twelfth ลําดับท่ี 12 thirteenth ลําดับที่ 13 nineteenth ลําดับที่ 19 twentieth ลาํ ดบั ท่ี 20 twenty-first ลาํ ดับที่ 21 twenty-second ลําดับที่ 22 twenty-third ลาํ ดับที่ 23 twenty-second ลําดบั ท่ี 24 thirtieth ลาํ ดบั ท่ี 30 thirty- first ลําดบั ที่ 31 กิจกรรมท่ี 3 การเขียนประโยคทม่ี จี าํ นวนนบั และลาํ ดับท่ี (3 คะแนน) 1. ครใู หผูเรยี นเขียนคาํ แปลเปน ภาษาองั กฤษ ดงั นี้ 1.1 He has one daughter and two sons. (1 คะแนน) 1.2 It is his first car. (1 คะแนน) 1.3 Jenny is the second daughter of family. (1 คะแนน)

90 เกณฑก ารใหค ะแนน - เขียนประโยคไดถ กู ตองทัง้ 3 ประโยค ได 3 คะแนน - เขยี นประโยคไดถูกตอ งทัง้ 2 ประโยค ได 2 คะแนน - เขียนประโยคไดถ กู ตองทง้ั 1 ประโยค ได 1 คะแนน - เขียนคําศัพทผ ดิ ในแตล ะประโยค หกั 0.5 คะแนน เฉลยกิจกรรมทา ยบทท่ี 6 กิจกรรมที่ 1 ลกั ษณะและวธิ ีการใชคาํ นาม 1. ครใู หผูเรยี นเติมคําลงในชองวา งใหถ ูกตอง คาํ นามนบั ได คาํ นามนบั ไมไ ด lion water chain pepper book sugar house beer bird butter 3. ครใู หผเู รยี นแตง ประโยคตอ ไปนี้เปนภาษาองั กฤษ 3.1 I buy two books for my sister. 3.2 He is drinking a glass of water.

91 กจิ กรรมท่ี 2 คําศัพทเกยี่ วกบั เครือญาติ 1. ครูใหผ ูเรยี นแปลคําศพั ทเก่ยี วกบั เครือญาติเปนภาษาองั กฤษ หลงั จากน้นั ให ผูเ รยี นอา นออกเสยี งทีละคน พอ father แม mother พชี่ าย- นองชาย brother พสี่ าว- นอ งสาว sister ลงุ - อา uncle ปา- นา aunty ยา - ยาย grand- mother ป-ู ตา grand-father ลกู ชาย son ลกู สาว daughter 2. ครูใหผ ูเ รยี นแตงประโยคโดยใชคาํ ศัพทเ กี่ยวกับเครือญาติ 2.1 My brother has two daughters. 2.2 My aunty goes to the temple. 2.3 His uncle goes to the market. 2.4 My mother is teacher. 2.5 My father is policeman.

92 กจิ กรรมที่ 3 คาํ ศัพทเกีย่ วกับ วัน เดอื น ป 2. ครใู หผ ูเรียนแปลความหมายของคาํ ศัพทที่เก่ียวกับวันทัง้ 7 วัน Sunday = วนั อาทิตย Monday = วันจันทร Tuesday = วนั องั คาร Wednesday = วันพธุ Thursday = วนั พฤหสั บดี Friday = วันศกุ ร Saturday = วนั เสาร 3. ครูใหผ ูเรียนแปลคําศพั ทเกีย่ วกับเดอื นใหถ ูกตองแลว ใหผ ูเรียนอา นคาํ ศพั ทน้นั ๆ มกราคม = January กุมภาพนั ธ = February มีนาคม = March เมษายน = April พฤษภาคม = May มิถนุ ายน = June กรกฎาคม = July สิงหาคม = August กนั ยายน = September ตุลาคม = October พฤศจิกายน = November ธนั วาคม = December

93 กิจกรรมท่ี 4 คําศพั ทเ กีย่ วกับสี 1. ครใู หผ เู รียนแปลคาํ ศัพทเกย่ี วกบั สีตาง ๆ แลวใหผ เู รียนอานคําศัพทเ กย่ี วกบั สีตาง ๆ สขี าว = white สีดาํ = black สแี ดง = red สเี หลอื ง = yellow สเี ขยี ว = green สมี ว ง = purple สฟี า = light blue สนี ํ้าเงิน = blue 2. ใหผูเรยี นแตงประโยคดงั ตอไปน้ี 1. My car is blue. 2. The man with black hair is Jane’s father. 3. Her house is blue. 4. Her bag is black. 5. This house is white. 3. เตมิ คําในประโยคใหถ กู ตอ ง โดยใชคาํ ศพั ทที่กําหนดให ดังน้ี 1. red 2. white 3. pink 4. blue 5. black