Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ebook-39

ebook-39

Published by ju_sureerut, 2020-06-11 02:37:46

Description: ebook-39

Search

Read the Text Version

ท ฉบบั ท ตุลาคม-ธันวาคม 2562 ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์ 39

ท ฉบับท ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ฉบับอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 26 สารบัญ บทความ 2 โรคใบร่วงชนดิ ใหมข่ องยางพารา 17 ใสป่ ุ๋ยยางอย่างไรจึงจะมปี ระสิทธภิ าพ 27 การตัดแต่งกง่ิ เพือ่ เพ่ิมพื้นที่ใบ และการเจริญเติบโต ของต้นยาง 36 แนมโน้มความต้องการ และการเปลย่ี นแปลง ของตลาดผลติ ภัณฑย์ างพารา Branch bark ridge } Branch collar ภาพปก: โรคชนิดใหม่ของยางพารา ทา� ใหใ้ บร่วงอย่างรนุ แรง

บทบรรณาธิการ ปีเกา่ ผา่ นไป ปใี หมเ่ พงิ่ เริม่ ต้น แตเ่ ปน็ การเริ่มตน้ ที่ ใจในการบ�ารุงรักษาสวน บางสวนถึงขั้นงดใส่ปุ๋ยให้กับ จะต้องเตรียมรับมือกับปัญหาท่ีจะเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจาก ต้นยาง โดยมีความคิดว่า เสียเงินซ้ือปุ๋ยมาใส่ในราคา ปีเก่า น่ันก็คือ โรคชนิดใหม่ของยางพารา ซ่ึงขณะน้ีหยุด แพง แตผ่ ลผลติ ทีน่ �าไปขาย กลับได้ราคาถกู ไมร่ ู้จะใสไ่ ป การระบาดช่วั คราว เน่ืองจากทางภาคใตเ้ ขา้ สูฤ่ ดแู ลง้ แต่ ท�าไม ความคิดเช่นนี้มีส่วนถูกอยู่บ้างในบางเงื่อนไขหรือ เม่ือเข้าสู่ฤดูฝน ก็ไม่อาจท�านายว่า การระบาดของโรคน้ี บางกรณี แตถ่ า้ หากเจา้ ของสวนไมห่ ม่นั ดูแล บ�ารุงรกั ษา จะแพร่ขยายเพ่ิมขึ้นอีกแค่ไหน ที่น่าเป็นห่วงเพราะ ตน้ ยางแล้ว ผลผลติ ท่ีได้คงต�่าแน่นอน บวกกับราคาที่ตา�่ ประการแรก พันธย์ุ างทุกพนั ธอ์ุ อ่ นแอต่อโรคน้ี ประการท่ี อยู่แล้ว ก็ยิ่งท�าให้เหตุการณ์เลวร้ายเข้าไปอีก ดังน้ัน สอง โรคน้ีซ่ึงเกิดจากเชื้อราที่มีพืชอาศัยเป็นจ�านวนมาก วิธกี ารท่จี ะอยรู่ อดได้ในสภาวะเช่นน้คี ือ ท�าอยา่ งไรทจี่ ะ ต่างจากโรคใบไหม้ละตินอเมริกัน มีแค่ต้นยางเท่าน้ันท่ี ท�าให้ผลผลิตยางเพิ่มขึ้นเพ่ือมาชดเชยกับราคายาง เป็นพืชอาศัย ดังน้ัน จึงน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ท�าให้เชื้อ ท่ีลดต�่าลง เช่น สมมุติราคาน้�ายางสดอยู่ท่ี 30 บาทต่อ แพร่กระจายได้รวดเร็ว และอาจจะเป็นปัญหาต่อพืช กิโลกรัม เน้ือยางแห้ง เจ้าของสวนเก็บเก่ียวผลิตไปขาย เศรษฐกิจชนิดอ่ืน ๆ ได้ ประการสุดท้าย ถึงแม้ว่าเชื้อจะ ได้ 1,000 กิโลกรัม เนื้อยางแห้ง คิดเป็นเงินเท่ากับ ระบาดมาได้ 3-4 ปีแล้ว แต่ข้อมูลในทางวิชาการทั้งใน 30,000 บาท แต่ถ้าหากเจ้าของสวนมีความมุ่งหม่ันใน ประเทศและต่างประเทศยังไม่สามารถให้ค�าตอบที่ การทจี่ ะเพ่ิมผลผลิต เช่น จาก 1,000 กโิ ลกรมั เปน็ 2,000 แน่ชัดในหลาย ๆ ประเด็น เช่น โรคนี้เกิดจากเช้ือราชนิด กิโลกรัม รายได้ก็จะเพิ่มข้ึนเป็นเท่าตัวที่ราคายาง ไหนกันแน่ และถ้าหากระบาดไปทั่วพื้นท่ีปลูกยางใน เดียวกัน การท่ีกล่าวเช่นน้ี ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ทวีปเอเชยี จะมีแนวทางแกไ้ ขอย่างไร และเกษตรกรที่ยดึ เพราะถ้าพิจารณาขนั้ ตอนตา่ ง ๆ ในการทา� สวนยางของ การท�าสวนยางเป็นอาชีพจะเป็นอย่างไร เร่ืองโรค เกษตรแลว้ กลา่ วไดว้ ่า ยังสามารถท่ีจะเพ่ิมประสิทธิภาพ ยางพาราชนิดใหม่น้ีคงประมาทไม่ได้ ตราบใดท่ีนัก ได้ในอีกหลายขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกจนกระท่ังเก็บเก่ียว วิชาการยงั ไม่รจู้ ักตัวตนท่แี ทจ้ ริงของโรคนี้ ผลผลิต ซึ่งเม่ือรวมประสิทธิภาพในขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว การเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นยางย่อมเพิ่มขึ้น พักเรื่องโรคไว้ก่อนเพราะยังเป็นเร่ืองท่ียังต้องคอย อยา่ งแนน่ อน เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่มีสิ่งหน่ึงท่ีอยากจะแสดง ความคิดเห็นในบทบรรณาธิการของวารสารฉบับนี้ว่า ดร.วทิ ยา พรหมมี ปัจจุบันราคายางไม่ค่อยจะดีนัก เกษตรกรคงขาดก�าลัง บรรณาธกิ าร เจ้าของ: สถาบนั วจิ ยั ยาง การยางแห่งประเทศไทย เขตจตุจักร กรงุ เทพมหานคร 10900 บรรณาธกิ ารบริหาร: ดร.กฤษดา สังข์สงิ ห์ บรรณาธิการ: ดร.วทิ ยา พรหมมี กองบรรณาธิการ: ดร.ฐติ าภรณ์ ภูมไิ ชย,์ ดร.พิศมยั จนั ทมุ า, นางสาวภรภัทร สุชาตกิ ูล, นางปรีดิ์เปรม ทัศนกุล, นางอารมณ์ โรจนส์ จุ ติ ร, นางสาวอธวิ ีณ์ แดงกนษิ ฐ์ ผู้จัดการสอ่ื สงิ่ พมิ พ:์ ดร.วิทยา พรหมมี ผ้จู ัดการสอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส:์ นายชยั วัฒน์ ยศพมิ สาร ผชู้ ่วยผ้จู ดั การสื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส:์ นายอาเดล มะหะหมัด พสิ ูจน์อกั ษร: นายวิชา สิงหล์ อ

2 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 โรคใบร่วงชนดิ ใหม่ของยางพารา อารมณ์ โรจนส์ ุจติ ร ศนู ยว์ ิจยั ยางสรุ าษฎร์ธานี สถาบันวิจยั ยาง การยางแห่งประเทศไทย ในอดีต ทวีปอเมริกากลางและใต้ นอกจากเป็น ประเทศผู้ผลิตยางในทวีปเอเชียในช่วงที่ผ่านมา รวมถึง แหล่งก�าเนิดของยางพาราแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตยาง ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคน้ี เช่น ลักษณะอาการของโรค ธรรมชาติที่ส�าคัญของโลกอีกด้วย แต่ในช่วงปี พ.ศ. สภาพการระบาด พืชอาศัยชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมี 2461-2485 เกิดโรคระบาดท่ีมีสาเหตุจากเช้ือรา Micro- ข้อเสนอแนะในการควบคุมเพ่ือมิให้โรคน้ีก่อให้เกิดความ cyclus ulei หรือที่เรียกว่าโรคใบไหม้ละตินอเมริกัน เสียหายในวงกวา้ ง จนยากท่ีจะแกไ้ ข (South american leaf blight) ท�าใหโ้ ครงการสรา้ งสวน ยางนับจ�านวนหลายล้านไร่ในแถบน้ีต้องล้มเลิกกิจการ สถานการณ์การระบาดของโรค ไป อยา่ งไรกต็ าม แหล่งผลติ ยางธรรมชาตทิ ีต่ ้ังอยใู่ นทวีป ในประเทศผปู้ ลกู ยาง เอเชียทางตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้มิได้รับผล กระทบจากการการระบาดของโรคดังกล่าวมาจนถึง โรคใบร่วงยางพาราชนิดใหม่ของยางพารา แสดง ปัจจุบัน เนื่องจากอยู่ห่างไกลจากแหล่งระบาดของโรค อาการเป็นจุดแผลบนใบยางแก่และท�าให้ใบยางร่วง ประกอบกับการมีมาตราการป้องกันมิให้เช้ือราที่เป็น อย่างรุนแรง พบระบาดในยางพาราคร้ังแรกในปี พ.ศ. สาเหตุของโรคลุกลามเข้ามาในพ้ืนที่ เป็นผลท�าให้พื้นที่ 2559 ท�าให้ใบยางร่วงอย่างรุนแรงในพ้ืนที่ปลูกทางตอน ทางเอเซียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นแหล่งใหญ่ เหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นโรค ของการผลิตยางธรรมชาติของโลก ถึงแม้ว่ายางพาราจะ ได้แพร่ระบาดสู่ทางตอนใต้และหมู่เกาะอ่ืน ๆ ของ มีโรคหลายชนิดเข้ามาท�าลายต้นยาง แต่ก็มิได้ท�าความ ประเทศอินโดนีเซีย รวมท้ังประเทศปลูกยางในแถบใกล้ เสียหายเป็นบริเวณกว้างและแแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เคียงอกี 4 ประเทศ ไดแ้ ก่ มาเลเซีย อินเดีย ศรีลงั กา และ แต่ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา มีโรคใบร่วงชนิดใหม่ของ ไทย ยางพาราเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการให้ผลผลิตของ ต้นยางเปน็ อย่างมาก และท่สี า� คัญคอื พนั ธุ์ยางท่ีแนะน�า อนิ โดนีเซีย ให้ปลูกในประเทศต่าง ๆ ไม่มีความต้านทานต่อโรค เร่ิมพบโรคระบาดในยางพาราในพื้นที่เกาะ ดังกล่าว จึงท�าให้โรคนี้มีความส�าคัญเป็นอย่างมากต่อ การท�าสวนยางในภูมิภาคน้ี และอาจจะส่งผลท้ังในแง่ สมุ าตราตอนเหนือในปี พ.ศ. 2559 จากนั้นแพร่ระบาดสู่ เศรฐกิจและสังคม เกาะสุมาตราทางตอนใต้ช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 ท�าให้ ยางท่ีปลูกทุกพันธุ์เป็นโรคและใบยางร่วงอย่างรุนแรง บทความนี้ เป็นรายงานเบ้ืองต้นของสถานการณ์ มากกว่า 50% และแพร่ระบาดสู่พื้นท่ีปลูกยางในเกาะ การระบาดของโรคยางพาราชนิดใหม่ที่เกิดข้ึนกับ อน่ื ๆ ไดแ้ ก่ Lampung, Java, Sulawesi และ Kalimantan (ภาพท่ี 1) จากข้อมูลการระบาดในเดือนกุมภาพันธ์

3 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 kayam (ภาพที่ 4) พันธุ์ยางท่ีเป็นโรค ได้แก่ RRII 105, PB 260, RRII 430 และ RRII 414 จากการตรวจสอบเช้อื 2561 รายงานว่า มีพื้นที่เสียหายมากกว่า 137,500 ไร่ สาเหตุรายงานว่าเกิดจากเช้ือรา Colletotrichum sp. ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ และกรกฎาคม 2562 พื้นที่ (Shaji Philip, 2019) ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 645,338 ไร่ และ 2,418,312 ไร่ ตามล�าดับ คาดว่าในปี 2562 ผลผลิตยางของประเทศ ศรีลังกา ลดลงไม่ต่�ากว่า 15% (Tri Rapani Febbiyanti, 2019) Sarojini Fernaldo (2019) รายงานพบโรคคร้ัง (ภาพท่ี 2) จากการตรวจสอบเช้ือสาเหตุรายงานว่าเกิด จากเชือ้ รา Pestalotiopsis sp. (Tri Rapani Febbiyanti แรกในเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2562 มีพื้นที่ระบาด et al., 2019) ประมาณ 6,250 ไร่ มาเลเซยี สถานการณก์ ารระบาดของโรค หลังการเกิดโรคระบาดในเกาะสุมาตราทางตอน ในประเทศไทย เหนือในปี พ.ศ. 2559 มีรายงานพบการระบาดของโรค มีรายงานการระบาดของโรคครั้งแรกในเดือน คร้ังแรกในประเทศมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายน 2560 กันยายน 2562 จนถงึ เดือนธนั วาคม 2562 ในพืน้ ท่ีปลกู ในพ้ืนท่ีทางตอนใต้เกาะมาลายู ในรัฐ Johor ท�าให้พันธุ์ ยางทงั้ หมด 9 จงั หวดั ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ตรัง พังงา ยาง RRIM 2001, RRIM 2025, RRIM 2023, PB 260 ปตั ตานี สุราษฎรธ์ านี สงขลา กระบี่ และ สตูล (ภาพท่ี 5) และ PB 350 อายุ 10-15 ปี ใบร่วงรุนแรงถึง 90% ในปี รวมพื้นท่ีท่ีได้รับความเสียจากโรค 450,933 ไร่ ผลจาก 2561 โรคได้แพร่ลุกลามสู่พ้ืนที่ปลูกอื่น ๆ ยกเว้นพื้นท่ี การแยกเช้ือสาเหตุเบื้องต้นในห้องปฏิบัติการได้เชื้อรา ปลูกรัฐ Melaka, Penang, Kedah และ Perlis ข้อมูล Colletotrichum sp. และ Pestalotiopsis sp. (Arom เดอื นกรกฎาคม 2561 มีพ้ืนทร่ี ะบาด 5,000 ไร่ และจาก and Krissada, 2019) ซ่ึงจะรายงานผลการพสิ ูจน์โรคถงึ นั้นในเดือนตุลาคม 2562 มีพ้ืนที่ระบาดเพ่ิมขึ้นเป็น เชอื้ สาเหตุทแ่ี ท้จรงิ ต่อไป 18,750 ไร่ ครอบคลุมพ้ืนท่ีปลูกท่ัวไปในเกาะมาลายู ประเทศมาเลเซีย ยกเว้นเพียง 2 รัฐทางตอนเหนือ ได้แก่ สถานการณ์การระบาดของโรคในจังหวัดต่าง ๆ Penang และ Perlis (Murnita et al., 2019) (ภาพที่ 3) จากขอ้ มลู วันท่ี 2 ธนั วาคม มดี งั นี้ และจากการตรวจสอบเช้ือราสาเหตุรายงานว่า มีสาเหตุ จากเชื้อรา Pestalotiopsis sp. (Adam Malik Ahmad นราธวิ าส Zambri et al., 2019) มีรายงานการระบาดของโรคคร้ังแรกในเดือน อนิ เดีย กันยายน 2562 ในพื้นที่ปลูกยาง 8 อ�าเภอ คือ อ.แว้ง, พบการระบาดของโรคท่ีมีลักษณะอาการและการ อ.ระแงะ, อ.รือเสาะ, อ.อ�าเภอศรีสาคร, อ.จะแนะ, อ.สุคิริน, อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโกลค หลังจากนั้น เข้าท�าลายเช่นเดียวกับการพบการระบาดในประเทศ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พบโรคระบาดใน อ.เจาะไอ อินโดนีเซียและมาเลเซียคร้ังแรกช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ร้อง, อ.เมอื งนราธิวาส, อ.ย่งี อ และ อ.บาเจาะ พันธ์ุยางที่ ปี พ.ศ. 2560 กับตน้ ยางใหญพ่ นั ธ์ุ RRII 105 ท�าใหใ้ บรว่ ง ปลูกทุกพนั ธุ์ เช่น RRIM 600, RRIT 251 และ PB 311 50% ในพ้ืนที่ Poovarani, Palai เมือง Kottayum ต่อมา เปน็ โรคใบรว่ งรนุ แรงมากถงึ 100% พน้ื ทท่ี ไี่ ดร้ บั ผลกระทบ เดือนมิถุนายน 2561 พบโรคระบาดเพิ่มขึ้นในพ้ืนท่ี รวม 422,600 ไร่ Palai, Paika และ Erattupetta พบโรคทัง้ แปลงยางใหญ่ ยางเล็ก และแปลงขยายพันธุ์ สถานการณ์การระบาด ยะลา ของโรคในปี 2562 มีการระบาดของโรครุนแรงในพื้นท่ี มรี ายงานการระบาดของโรค ในพน้ื ท่ี ต.อยั เยอร์เวง Chengalam, Trichur, Kanjirappally และ Mundak- อ.เบตง ในเดือนตุลาคม 2562 และต่อมาในพ้ืนที่

92,504 ไร่ 312 ไร่ 62,322 ไร่ 962 ไร่ 188 ไร่ 1,263 ไร่ ภาพที่ 1 พน้ื ทก่ี ารระบาดของโรคใบรว่ งชนดิ ใหมข่ องยางพาราในประเทศอนิ โดนเี ซยี (ทมี่ า: Tri Rapani Febbiyanti, 2019)

469 ไร่ )

5 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 กก./เ กตาร/์ เดือน ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. 160 2560 2561 2562 140 120 100 80 60 40 20 0 ม.ค. ภาพท่ี 2 ผลกระทบของโรคใบรว่ งชนดิ ใหมต่ อ่ ผลผลติ ยางในประเทศอนิ โดนเี ซยี (ทม่ี า: Tri Rapani Febbiyanti et al., 2019) ภาพที่ 3 พนื้ ทกี่ ารระบาดและการแพรร่ ะบาดของโรคใบรว่ งชนดิ ใหมข่ องยางพาราในประเทศมาเลเซยี โดยเรมิ่ ตน้ จากรฐั Johor (วงกลมสแี ดง) (ทม่ี า: Murnita, 2019)

6 ฉบับอเิ ล็กทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 พ้ืนทก่ี ารระบาด ภาพท่ี 4 พนื้ ทก่ี ารระบาดของโรคใบรว่ งชนดิ ใหมข่ องยางพาราในประเทศอนิ เดยี (ทมี่ า: Shaji Philip, 2019)

7 ฉบับอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 กระบ่ี มีรายงานการระบาดของโรคในพื้นที่ ต.เขาทอง อ.รามัน และ อ.บันนังสตาร์ สภาพการระบาดใบร่วง รนุ แรงมาก รวมพ้ืนท่ี 2,160 ไร่ และ ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ สภาพการระบาดใบร่วง รนุ แรงมาก ในเดอื นพฤศจิกายน 2562 รวมพ้นื ท่ี 250 ไร่ ตรงั (ขอ้ มลู เม่ือ 2 ธนั วาคม 2562 มีรายงานการระบาดของโรคในพื้นที่ ต.โพรง- สงขลา จระเข้ และ ต.หนองชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว ในเดือน มีรายงานการระบาดในพื้นท่ี ต.ปลักหนู อ.นาทวี ตุลาคม 2562 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนพบระบาดใน พื้นที่ ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว และ ต.สุโสะ ในเดอื นพฤศจิกายน สภาพการระบาดพบว่า ใบร่วงน้อย อ.ปะเหลยี น สภาพการระบาด ใบรว่ งปานกลาง-รุนแรง ยังไม่กระทบต่อผลผลิต รวมพนื้ ท่ี 200 ไร่ กับยางพันธ์ุ RRIT 251, RRIM 600 และ ไม่ทราบช่ือพนั ธุ์ รวมพ้ืนท่ี 747 ไร่ สตูล มี ร า ย ง า น ก า ร ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค ช ่ ว ง ต ้ น เ ดื อ น พังงา มรี ายงานการระบาดของโรคในพน้ื ที่ ต.ท้ายเหมือง ธันวาคมในพื้นที่ ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ สภาพการระบาดพบ ว่าใบรว่ งรุนแรงมาก พื้นท่ีระบาดโรค 250 ไร่ กับยางพันธุ์ ต.ล�าภี อ.ท้ายเหมอื ง, ต.ท่งุ คาโงก อ.เมอื งพังงา, ต.กะปง RRIT 251 และ RRIM 600 ต.ทา่ นา ต.เหมาะ ต.เหล ต.รมณีย์ อ.กะปง และ ต.ต�าตวั อ.ตะก่ัวป่า ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ซ่ึงจากการ ความสัมพันธ์ของสภาพภมู ปิ ระเทศ ประเมินการร่วงของใบยางจากใบใหม่ที่เร่ิมจะผลิใหม่ และอทิ ธิพลของลมมรสมุ แล้วและจากการสอบถามเกษตรกรคาดว่าโรคระบาดใน กบั การระบาดของโรค ช่วงเดียวกับพ้ืนที่ จ.นราธิวาส ประมาณเดือนสิงหาคม- กันยายน 2562 สภาพการระบาดใบร่วงรุนแรงมาก กับ จากสถานการณ์การระบาดของโรคท่ีรายงานข้าง ยางพันธ์ุ RRIT 251, RRIM 600 และ PB 235 รวมพนื้ ที่ ต้น เน่ืองจากโรคใบร่วงลักษณะนี้ไม่เคยมีรายงานมา 21,476 ไร่ ก่อนในประเทศไทยจึงสันนิษฐานว่าโรคแพร่ระบาดมา จากประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย ปัจจัยที่ สุราษฎรธ์ านี ส�าคัญท่ีท�าให้โรคแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว สันนิษฐานว่า มีรายงานการระบาดของโรคในพ้ืนที่ ต.คลองศก น่าจะเป็นลมมรสุม ซ่ึงในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือน ตุลาคมเป็นอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัด อ.พนม ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ซ่ึงจากการประเมิน ผ่านเกาะสุมาตราจากตะวันตกเฉียงใต้ข้ึนทิศตะวันออก การร่วงของใบยางจากใบใหม่ที่เร่ิมจะผลิใหม่แล้วและ เฉียงเหนือผ่านภาคใต้ทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นไป จากการสอบถามเกษตรกรคาดว่าโรคระบาดในช่วงเดียว ได้ท่ีจะพัดพาสปอร์ของเช้ือสาเหตุโรคใบร่วงท่ีก�าลัง กบั พ้นื ที่ จ.พงั งา ประมาณเดือนสิงหาคม-กนั ยายน 2562 ระบาดมาและปะทะกับยางพาราท่ีอยู่ในพ้ืนที่สูงบนควน สภาพการระบาดใบร่วงรุนแรงมาก กับยางพันธุ์ RRIT เขา จึงท�าให้พบโรคระบาดในบริเวณนี้ก่อน จากนั้นโรค 251 และ RRIM 600 รวมพ้นื ที่ 1,500 ไร่ ได้แพร่ลุกลามสู่พื้นท่ีใกล้เคียงในล�าดับต่อมา จะเห็นว่า พ้ืนท่ีทพ่ี บโรคในช่วงแรก ๆ เปน็ พืน้ ทบ่ี รเิ วณทสี่ งู บนภเู ขา ปัตตานี (ภาพท่ี 5) ในจังหวัดนราธิวาส พ้นื ท่ที ่ีพบโรคและรายงาน มีรายงานการระบาดของโรคในพ้ืนท่ี ต.ลุโบะยิไร การระบาดคร้ังแรกอยู่ในเขตภูเขาหรือท่ีสูงใน อ.แว้ง อ.ระแงะ อ.รอื เสาะ อ.อ�าเภอศรสี าคร อ.จะแนะ อ.สุคริ ิน อ.มายอ และ ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง ในเดือน อ.สไุ หงปาดี และ อ.สุไหงโกลค เช่นเดยี วกับพ้นื ที่ระบาด พฤศจิกายน 2562 (สังเกตพบอาการโรคประมาณเดือน กนั ยายน) รวมพ้ืนท่ี 1,500 ไร่

8 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ตารางที่ 1 สรุปพื้นทีก่ ารระบาดของโรคใบรว่ งชนดิ ใหมข่ องยางพารา ในพื้นทป่ี ลูกยางภาคใต้ของไทย1 ล�าดบั ที่ จงั หวดั อ�าเภอ พ้ืนท่ีการระบาด (ไร่) 1 นราธิวาส ครอบคลมุ ทั้งจงั หวดั (13 อา� เภอ) 422,600 2 ยะลา เบตง, บนั นงั สตาร,์ รามัน 2,160 3 ปัตตานี มายอ, ท่งุ ยางแดง 1,500 4 สงขลา นาทวี 200 5 สตลู ท่าแพ 2502 6 ตรงั ย่านตาขาว, ปะเหลียน 747 7 กระบี่ เมอื งกระบ่ี 250 8 พังงา เมืองพังงา, กะปง, ท้ายเหมือง, ตะกั่วปา่ 21,476 9 สุราษฎรธ์ านี พนม 1,500 รวม 450,683 1ขอ้ มลู รายงานวนั ท่ี 2 ธนั วาคม 2562 (แหลง่ ทม่ี า: ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารบรหิ ารจดั การโรคยางพารา สถาบนั วจิ ยั ยาง) 2รายงานการระบาดวนั ที่ 9 ธนั วาคม 2562 ใน จ.ยะลาที่พบโรคคร้ังแรกใน พ้ืนที อ.เบตง ซ่ึงเป็น กว้างและต่อเน่ืองตั้งแต่พื้นท่ี ต.ท้ายเหมือง ต.ล�าภี บริเวณท่ีสูง ซ่ึงส่วนหนึ่งอาจแพร่ระบาดมาจากประเทศ อ.ท้ายเหมือง ผ่านพื้นท่ี ต.ทุ่งคาโงก อ.เมืองพังงา พื้นที่ มาเลเซีย เน่ืองจากเป็นพื้นท่ีใกล้ชายแดนประเทศ อ.กะปง ส้ินสุดพ้ืนท่ีการระบาดใน ต.คลองศก อ.พนม มาเลเซียแนวชายแดนติดต่อกับรัฐกลันตันและรัฐเปรัค จ.สุราษฎร์ธานี ซ่ึงจะพบสวนยางเป็นโรคใบร่วงอย่าง ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีการระบาดของโรคใบร่วงชนิด รุนแรงชว่ งเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ เม่อื พิจารณาพ้นื ท่ีที่ น้ีต้งั แต่ปี พ.ศ. 2560 นอกจากน้ี ในช่วงเดอื นพฤษภาคม- พบโรคครง้ั แรกใน จ.ตรงั จะเห็นว่าเป็นพนื้ ทท่ี ี่ตั้งอยแู่ ถบ เดือนตุลาคม พื้นที่ภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ที่สูงเทือกเขานครศรีธรรมราช ใน ต.โพรงจระเข้ และ ตะวันตกเฉียงใต้ท่ีพัดผ่านเกาะสุมาตราประเทศ ต.หนองชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว เขตแดน จ.ตรัง และ อินโดนีเซียซ่ึงมีการระบาดของโรคใบร่วงยางพาราอย่าง จ.พัทลุง ส่วนพื้นท่ีพบโรคใน จ.กระบี่ ก็อยู่ในเขตท่ีสูง รุนแรง ประกอบกับพื้นที่ปลูกยางส่วนใหญ่อยู่ในสภาพ แถบภเู ขาพนมเบญจา ภูมิประเทศพื้นท่ีสูงบนแนวภูเขา จึงเป็นแนวพ้ืนที่ปะทะ ของลมท่ีพัดพาสปอร์เชื้อรามาจากเกาะสุมาตราประเทศ ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม พื้นท่ี อินโดนีเซีย ท�าให้สวนยางพาราในแถบนี้เป็นโรครุนแรง ภาคใต้ของประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวัน ย่ิงข้ึน เช่นเดียวกับการพบโรคในพื้นท่ี จ.พังงาบริเวณ ออกเฉียงเหนือซึ่งมีทิศทางลมจากตะวันออกเฉียงเหนือสู่ พ้ืนที่ปลูกยางบนท่ีสูงแนวภูเขาล�ารูเขาหลักเป็นบริเวณ ตะวันตกเฉียงใต้ (ภาพที่ 5) ดังน้ัน ในช่วงปลายปี พื้นที่ ปลูกยางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยตอนกลางและตอนบน น่าจะ

9 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 ลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเริม่ ตน้ การระบาด ภาพที่ 5 ความสมั พนั ธข์ องสภาพภมู ปิ ะเทศ และอทิ ธพิ ลของลมมรสมุ กบั การระบาดของโรคชนดิ ใหมข่ องยางพาราทางภาคใต้ ของประเทศไทย

10 ฉบบั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ราชนิดอ่ืนเจริญอยู่เป็นวง ๆ สีด�าท�าหน้าที่ผู้ย่อยสลาย (ภาพที่ 7) ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรค แต่พื้นที่ปลูกยางท่ี อยู่ในบริเวณลาดต�่าสู่ชายทะเลฝั่งอันดามันอาจจะมี ใบยางที่ร่วงแห้งอยู่บนพ้ืนสามารถแยกแยะจาก ความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเน่ืองจากทิศทาง โรคยางชนิดอื่นได้อย่างชัดเจน นั่นคือลักษณะแผลแห้ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือสู่ตะวันตกเฉียงใต้อาจพัดพา กลมสีซีดกว่าสีแผ่นใบชัดเจน หรือในกรณีที่อาการยังไม่ สปอร์ของโรคจากแถบระบาดที่สูงลงไป แต่อาจไม่ พัฒนาแต่ร่วงก่อนจะมีลักษณะเป็นกลมเป็นวงสีคล้�า รุนแรง เนื่องจากพื้นที่ในแถบน้ีเริ่มเข้าสู่ภาวะฝนแล้ง กว่าผิวใบ (ภาพที่ 8) อยา่ งไรกต็ าม พนื้ ท่ปี ลูกยางภาคใตฝ้ ่ังอ่าวไทย และภาค ตะวันออกของประเทศไทยมีความเส่ียงสูงมากต่อการ สภาพการระบาด และการแพรร่ ะบาด แพร่ระบาดของโรคในช่วงต้นฤดูฝนปีถัดไปเนื่องจาก อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดพาเอาสปอร์ สภาพการระบาดยังไม่ชัดเจน แต่ระบาดในช่วงที่ จากพ้ืนที่ระบาด ฝั่งตะวันตกของภาคใต้ข้ึนไปผ่านพื้นท่ี มีความชื้นสูงในระยะใบแก่ จากการรวบรวมข้อมูล โดย ฝั่งตะวันออกของภาคใต้สู่พ้ืนท่ีภาคตะวันออกของ Shaji Philip (2019) รายงานว่า พบโรคคร้ังแรกกับใบ ประเทศไทย (ภาพที่ 5) ยางแก่ในช่วงต้นฤดูฝน สภาพท่ีมีฝนตกสลับกับสภาพ แล้ง ท�าให้เกิดโรครุนแรงและการแพร่ระบาดของโรคเร็ว ลกั ษณะอาการของโรค ข้ึน พันธุ์ยางทุกพนั ธุ์อ่อนแอต่อโรค เกิดอาการบนใบแก่ ลักษณะจุดแผลกลมเนื้อเย่ือ โรคแพร่กระจายได้โดย ลม ฝน การเคล่ือนย้าย ตาย และใบรว่ ง วัสดุปลกู ทอ่ นพันธ์ุ หรอื พืชจากแหล่งโรคระบาด เป็นต้น อาการเร่ิมแรก ใต้ใบมีลักษณะรอยช้�าค่อนข้าง ผลกระทบของโรคใบรว่ งยางพารา กลม ผิวใบด้านบนบริเวณเดียวกันสีเหลือง(Chlorosis) ชนดิ ใหม่ตอ่ พชื ปลกู ชนิดอนื่ ต่อมาเนื้อเย่ือบริเวณน้ีขยายใหญ่ข้ึนเป็นสีคล้�าขอบแผล ด�า และเปลี่ยนเป็นเนื้อเยื่อแห้ง (Necrosis) สีน้�าตาล จากการตรวจสอบและส�ารวจโรคยางพาราใน จนถึงขาวซีด รอบแผลไม่มีวงสีเหลืองล้อมรอบ รูปร่าง พื้นท่ีระบาดช่วงเดือน กันยายน-พฤศจิกายน 2562 แผลค่อนขา้ งกลม ขนาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลางมากกว่า 0.5- สามารถพบพืชอ่ืน ๆ แสดงอาการโรคท่ีมีลักษณะ 3 เซนตเิ มตร จา� นวนจดุ แผลบนแผน่ ใบมีมากกวา่ 1 แผล คล้ายคลึงกับโรคยางชนิดใหม่ ทั้งวัชพืช พืชร่วมในสวน อาจเจริญลุกลามซ้อนกันเป็นแผลขนาดใหญ่ ระยะ ยาง พืชผักสวนครัว และพืชยืนต้นอ่ืน ๆ ในบริเวณใกล้ รุนแรงใบเหลืองและร่วงในท่ีสุด เช้ือรายังเข้าท�าลายกิ่ง เคยี งกับแปลงยางทเี่ ปน็ โรค (ภาพที่ 9 และ ตารางที่ 2) ใกล้ปลายยอด ท�าให้เกิดอาการแห้งตายจากยอดได้เช่น กนั (ภาพที่ 6) จะเห็นว่าในช่วงการระบาดของโรคนี้ท�าให้วัชพืช ในสวนยาง หรอื พืชอืน่ ๆ ในบริเวณใกลเ้ คยี งแสดงอาการ ลักษณะอาการของโรคมีจุดเด่นที่แตกต่างจาก โรคมากมายหลายชนิด ทั้งพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเลี้ยงคู่ โรคอื่น ๆ ของยางพารา คือแผลกลมค่อนข้างใหญ่ รวมถึงพืชจ�าพวกเฟิร์นบางชนิด แสดงถึงเช้ือราที่เป็น อาการบนใบที่เป็นสีเขียวจะไม่มีลักษณะวงสีเหลืองล้อม สายพันธุ์ท่ีรุนแรงสามารถแพร่ขยายพันธุ์ที่เรียกว่าสปอร์ รอบ หากมีปริมาณเช้ือราเข้าท�าลายอย่างรุนแรงอาจ ได้มากและรวดเรว็ จึงสามารถแพรก่ ระจายท�าใหเ้ กดิ โรค ท�าให้ใบยางร่วงทั้งที่อาการของโรคยังไม่พัฒนาถึงระยะ กับยางพาราและพืชอื่นอย่างรวดเร็วและรุนแรงเช่นกัน อาการเป็นเนื้อเยื่อแผลขาวซีดก็ได้ ในกรณีของพันธุ์ยาง การมีพืชอาศัยของเชื้อสาเหตุโรคหลายชนิดมีโอกาส ท่ีมีแนวโน้มทนต่อโรค หรือมีจ�านวนแผลของโรคน้อย ท�าให้เช้ือสะสมอยู่ในธรรมชาติมากย่ิงข้ึน อาจท�าให้พืช หรืออยู่ในสภาพการระบาดท่ีไม่เหมาะสม ใบยางอาจไม่ เศรษฐกิจอ่ืน ๆ แสดงอาการโรครุนแรง ท�าให้เกิดความ ร่วง อาการจุดแผลอาจขยายใหญ่ หรือมีวงแผลเจริญ เสียหายเช่นเดียวกัน นอกจากน้ี เชอ้ื ราสามารถอาศัยพัก ซ้อนจากแผลเดิม เน้ือเย่ือบริเวณแผลที่แห้งอาจพบเช้ือ ตัวกับพืชอาศัยเหล่านี้ในสภาวะที่สภาพแวดล้อมไม่

11 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 (d) ab (a) cd e ภาพที่ 6 ลกั ษณะอาการของโรค อาการเริ่มตน้ ผิวหน้าใบเปน็ สีเหลืองกลม (a) ตอ่ มาเปลี่ยนเปน็ สคี ลา�้ และเนอื้ เย่อื แห้งสนี า�้ ตาลซีดถงึ สีขาว (b) ระยะตอ่ มาแผลอาจเจรญิ ซอ้ นกนั ใบเหลอื งและรว่ ง (c) กง่ิ สว่ นใกลป้ ลายยอดเกดิ อาการแหง้ ตาย (d) ตน้ ยางจะใบรว่ งรนุ แรงทงั้ แปลง (e)

12 ฉบับอิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธนั วาคม 2562 a b ภาพที่ 7 ใบยางท่เี ป็นโรคมานานและไมร่ ่วง อาการจุดแผลจะขยายใหญ่ หรือมวี งแผลเจริญซอ้ นจากแผลเดิม (a) เนื้อเยื่อบรเิ วณแผลท่แี หง้ มักพบเช้อื ราชนดิ อน่ื เจริญอย่เู ปน็ วง ๆ สีดา� ท�าหน้าทผี่ ู้ย่อยสลาย (b)

13 ฉบบั อิเลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 ab ภาพที่ 8 ลักษณะใบยางเป็นโรคท่ีร่วงแห้งเปน็ ระยะเวลานาน จดุ แผลเป็นสีซดี ขาวกลม (a) ในกรณีท่อี าการยงั พัฒนาไม่เต็มท่ี แตใ่ บรว่ งก่อน แผลจะมี ลักษณะกลมเปน็ วงสีคล้า� กวา่ ผวิ ใบ (b) ภาพที่ 9 ใบยาง และใบพืชอ่ืน ๆ บริเวณพื้นสวนยาง และใบของต้นไม้บริเวณใกล้เคียง แสดงอาการจุดแผลอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นว่าเช้ือรา สามารถแพร่และผลิตส่วนขยายพันธุ์ (สปอร์) ไดร้ ุนแรง

ตารางท่ี 2 พชื ชนิดอื่น ๆ (Alternate host) ทีม่ อี าการโรคในพน้ื ท่ีทมี่ กี ารระบา วัชพชื /พชื สมุนไพร ไมผ้ ล/พชื เศรษฐกจิ ไมป้ า่ กา้ มกงุ้ (ก�าลังควายถึก)* มะละกอ* ทัง* บษุ บารมิ ทาง* กลว้ ยน้�าวา้ ประดู่* สาบเสือ* ทเุ รยี น* อนิ ทนลิ * ชะพลู* กระท้อน* จกิ นา หญ้ารแี พร์ มะมดุ มว่ ง* พลบั พลา หญ้าตีนตกุ๊ แก มะเด่อื * ตะเคียนทอง* น้�านมราชสหี ์ ฉิ่ง จา� ปาทอง* กระทือ เนียง ตน้ หมน่ 1 เสลดพังพอนตัวเมยี ปาล์มน้�ามัน ไผบ่ า้ น (ไผส่ สี ุก) เออื้ งหมายนาดอกแดง มันส�าปะหลัง* กลว้ ยป่า มังเคร (โคลงเคลง) ไผห่ วาน* ผกั กาดช้าง ชุมเหด็ ไทย ผกั เส้ยี นผี หญา้ ยาง หรอื ผักยาง ย่านกรุด (ท้ายเหมอื ง) ย่านหลนั (ทา้ ยเหมอื ง) ย่านอวด (ท้ายเหมือง) ย่านลิเพา * แยกเชอื้ บรสิ ทุ ธแิ์ ลว้ ไดเ้ ชอื้ ราทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กบั เชอื้ ราทแ่ี ยกไดจ้ ากโรคใบรว่ งชนดิ ใหมข่ องยางพารา ส 1ตน้ กลา้ งอกในสวนยาง พบทต่ี รงั

าดของโรคยางพาราชนิดใหม่ ในชว่ งเดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2562 พืชผกั สวนครวั ไมด้ อก/ไมป้ ระดบั ขมน้ิ ขาว ดาวเรือง ขมิ้นแกง (ขมน้ิ ชนั ) กุหลาบหนู ตระกูลข่า หมากประดบั * ตะไคร้ เฟิร์น (ไม่ทราบชนดิ ) พริกขห้ี นู เฟริ น์ ต้นปาล์ม (เฟริ น์ ใบมะขาม) ตน้ ออ้ ดบิ (ต้นคนู ) พลับพลึง* มะอกึ * มนั ปู* ทัมมงั * ผกั หวานปา่ * (ผกั ภูม)ิ สว่ นทเ่ี หอื จะดา� เนนิ การตอ่ ไป

15 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 จึงสามารถป้องกันการแพร่ระบาดโดยวิธีการกักกันได้ อย่างมีประสิทธิภาพ แต่โรคใบร่วงชนิดใหม่ท่ีก�าลัง เหมาะสม เม่ือต้นยางเข้าสู่สภาวะที่เหมาะสมกับการเข้า ระบาดอยู่ในแถบปลูกยางทวีปเอเชียขณะนี้น่าจะเป็น ทา� ลาย และหากสภาพแวดล้อมเหมาะสมกบั การเกิดโรค โรคที่น่ากลัวและรุนแรงกว่า เน่ืองจากระบาดในแหล่ง ท�าให้เกิดสภาวะการระบาดของโรครุนแรงและแพร่ ผลติ ยางท่ีส�าคญั ของโลก และจากการเก็บขอ้ มลู เบอื้ งต้น ระบาดอย่างรวดเร็วมากข้ึน และอาจท�าให้พืชปลูกอื่น ๆ จะเห็นว่ามีพืชอาศัยที่เป็นโรคจากเช้ือราน้ีเป็นจ�านวน ไดร้ ับผลกระทบท่ีรุนแรงมากข้นึ เชน่ กัน มาก ประกอบกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วโดยลม การปลูกเป็นพื้นท่ีปลูกกว้างใหญ่หนาแน่น เป็นพืชขนาด สรุปและขอ้ เสนอแนะ ใหญ่ และไมม่ พี ันธ์ุปลกู ใดทตี่ ้านทานโรค การจดั การโรค และการป้องกันการแพร่ระบาดจึงเป็นเร่ืองยาก ดังนั้น โรคใบร่วงชนิดใหม่ของยางพาราเป็นโรคที่ส่งผล เพ่ือป้องกันไม่ให้โรคลุกลามเป็นวงกว้าง รัฐบาลต้องมี กระทบต่อยางพาราในช่วงท่ีก�าลังให้ผลผลติ ใบร่วงอย่าง มาตรการการควบคุมอย่างเข้มงวดท้ังมาตรการการ รุนแรงท�าให้ผลผลิตลดลงจนถึงไม่มีผลผลิต อาจท�าให้ ป้องกันควบคุมโดยวิธีการต่าง ๆ เพ่ือจ�ากัดการระบาด ต้นยางเกิดอาการเปลือกแห้งและก่ิงแห้งได้ การแพร่ และมาตรการทางกฎหมายในการเคลื่อนย้ายวัสดุปลูก ระบาดของโรครวดเร็วมาก มีพืชอาศัยมากมายหลาย และการกระท�าต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการแพร่กระจายของ ชนิดต้ังแต่เฟิร์น หญ้า วัชพืชต่าง ๆ พืชผัก จนถึงต้นไม้ โรคอย่างเข้มงวด รวมถึงการวิจัยเพ่ือค้นหาวิธีการ ใหญ่ และพันธุ์ยางที่ปลูกทุกพันธุ์เป็นโรครุนแรงเช่น ควบคุมท่ีมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างย่ิงการค้นหา เดยี วกนั จากการระบาดของโรคชนดิ นีต้ งั้ แตป่ ี 2559 ใน พันธุ์ยางที่ต้านทานโรคอย่างเร่งด่วน รัฐบาลต้องจัด ประเทศอินโดนีเซียจนถึงปัจจุบัน ระยะเวลาเพียง 3-4 ปี ล�าดับความส�าคัญในการด�าเนินการเป็นล�าดับแรก โ ร ค น้ี ไ ด ้ แ พ ร ่ ลุ ก ล า ม สู ่ ป ร ะ เ ท ศ ใ ก ล ้ เ คี ย ง ร ว ม ทั้ ง เพราะจัดเป็นวิกฤติของชาติและของโลกท่ีมีผลกระทบ ประเทศไทยแล้วถึง 5 ประเทศ คิดเป็นพื้นท่ีประมาณ 3 ท้ังทางสังคม เศรษฐกิจอย่างมหาศาลท่ีมิอาจหลีกเลี่ยง ล้านไร่ ไดแ้ ก่ อินโดนีเซีย มาเลเซยี อนิ เดีย ศรีลังกา และ ได้ ไทย ซ่ึงเป็นแหล่งปลูกยางที่ส�าคัญของโลก หากโรคน้ี แพร่ระบาดสู่พ้ืนที่ปลูกยางในภูมิภาคนี้อาจส่งท�าให้เกิด ส�าหรับภาคเกษตรกรก็จ�าเป็นต้องตระหนักและ ผลวกิ ฤตทิ างอตุ สาหกรรมยางโลกในอนาคต จดั การโรคอยา่ งเขม้ งวดโดยวธิ ีบรู ณาการ ดังน้ี โรคใบร่วงชนิดใหม่เป็นโรคที่มีความรุนแรงและส่ง 1) การควบคุมโรคโดยใช้สารเคมี สภาพการ ผลกระทบต่อการผลิตยางพาราอย่างมหาศาล ลักษณะ ระบาดโรคท่ีรุนแรง แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในพืชท่ีปลูก การทา� ลายเช่นเดยี วกบั โรคใบไหมล้ ะตินอเมริกนั (South อย่างหนาแน่นเป็นพืน้ ทีก่ วา้ งใหญ่ จ�าเปน็ ต้องใช้สารเคมี American Leaf Blight: SALB) ซ่ึงท�าใหย้ างปลูกทกุ พนั ธุ์ และเคร่ืองมือท่ีมีประสิทธิภาพในการจัดการเป็นอันดับ ใบร่วงอย่างรุนแรงและยืนต้นตาย โรคใบไหม้ละติน แรก อเมริกันได้ระบาดท�าความเสียหายในยางพาราในแถบ ทวปี อเมรกิ ากลางและใตร้ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2461 ถงึ 2485 สารเคมีที่แนะน�าเบื้องต้นประยุกต์จากการใช้สาร ท�าให้อุตสาหกรรมการผลิตยางในแถบน้ีต้องล่มสลาย เคมีป้องกันก�าจัดโรคจากเช้ือรา Colletotrichum และ อย่างส้ินเชิง จนถึงขณะน้ีการจัดการโรคโดยใช้สารเคมี Pestalotiopsis และจากการศึกษาในโรคใบร่วงชนิดนี้ ด้วยเทคโนโลยีท่ีทันสมัยไม่สามารถจัดการกับโรคน้ีได้ ของประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย (Murnita et al., เนื่องจากปลูกพ้ืนท่ีกว้างใหญ่และต้นยางเป็นไม้สูงใหญ่ 2019 และ Tri Rapani Febbbiyanti et al., 2019) ไดแ้ ก่ ถึง 25 เมตร การคัดเลือกและใช้พันธุ์ยางท่ีต้านทานก็ ล้มเหลว เนื่องจากเช้ือราสาเหตุมีความแปรปรวนสูงมาก - เบโนมลิ อตั ราผสม 20-30 กรัม ต่อนา�้ 20 ลติ ร ปัจจุบันโรคชนิดนี้ยังจ�ากัดอยู่เฉพาะในพ้ืนท่ีปลูก แหล่ง ผสมสารจับใบ 2 ซีซี ฉดี พน่ พมุ่ ใบ อัตรา 100 ลิตร/ไร่ ก�าเนิดเดิม ประกอบกับเชื้อโรคนี้มีพืชที่เข้าท�าลายเพียง ชนิดเดยี วเทา่ นั้นคือยางพารา (Hevea species) เทา่ นน้ั - โพรปิเนป หรอื แมนโคเซป หรอื คลอโรธา-โลนิล อัตราผสม 50 กรมั ตอ่ นา้� 20 ลิตร ผสมสารจับใบ 2 ซซี ี

16 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 39 ตุลาคม-ธันวาคม 2562 Afiqah Maiden. 2019. Leaf disease caused by Pestalotiopsis sp. IRRDB meeting of the ฉดี พน่ พ่มุ ใบยางจากใตท้ รงพมุ่ อตั รา 100 ลติ ร/ไร่ experts on new leaf disease. Kuala Lumpur, - สารเคมีกลุม่ ไตรอะโซล เชน่ 11-12 April 2019. (Power point) เฮกซาโคนา-โซล (5% a.i.) อตั ราผสม 30-40 ซีซี Arom Rodesuchit and Krissada Sangsing. 2019. Pestalotiopsis fungal leaf disease ต่อน�า้ 20 ลติ ร ผสมสารจบั ใบ 2 ซซี ี ฉดี พ่นพ่มุ ใบจากข้าง of Hevea brasiliensis in Thailand. 1st ลา่ งอัตรา 100 ลิตร/ไร่ ANRPC meeting of technical committee on plant protection. Kuala Lumpur, 5 November โปรปิโคนาโซล (25% a.i.) อัตราผสม 10-15 ซซี ี 2019. (Power point) ต่อน�้า 20 ลิตร ผสมสารจบั ใบ 2 ซซี ี ฉีดพ่นพุ่มใบจากข้าง Murnita Mohmad Mahyudin, Adam Malik ล่างอตั รา 100 ลติ ร/ไร่ Zabri and Aizat Shamin Noran, 2019. Pestalotiopsis leaf disease of Hevea - ไทโอฟาเนต เมธลิ อัตราผสม 20 กรมั ต่อนา้� 20 brasiliensis. 1st ANRPC meeting of ลติ ร ผสมสารจบั ใบ 2 ซซี ี ฉดี พ่นพุม่ ใบจากขา้ งล่างอตั รา technical committee on plant protec- 100 ลิตร/ไร่ และฉีดพ่นพื้นสวนทีมีใบที่เป็นโรคร่วงเพ่ือ tion. Kuala Lumpur, 5 November 2019. กา� จัดเช้ือทั้งจากใบยางทรี่ ว่ งและวชั พชื ที่เป็นโรค Sarojini Fernaldo, T. H. P. 2019. Private com- munication. Rubber Research Institute 2) การก�าจัดวัชพืชและพืชอื่น ๆ ในสวนยางให้ of Sri Lanka. เตียนอยู่เสมอเพ่ือลดแหล่งท่ีอยู่อาศัยและการแพร่ขยาย Shaji Philip. 2019. Current status of new leaf พนั ธข์ุ องเช้อื สาเหตุโรค spot disease of rubber in India. 1st ANRPC meeting of technical committee on 3) การใส่ปุ๋ยบ�ารุงสม�่าเสมอเพื่อสร้างความ plant protection. Kuala Lumpur, 5 November สมบูรณ์ให้กับต้นยาง เมื่อเกิดการระบาดของโรคต้นยาง 2019. (Power point) สามารถสร้างใบใหม่ออกมาทดแทนใบยางท่ีร่วงได้อย่าง Tri Rapani Febbiyanti. 2019. Outbreak of รวดเร็ว และหม่ันส�ารวจตรวจสอบแปลงยางหากสังเกต Pestaloiopsis in Indonesia. IRRDB เห็นต้นยางมีทรงพุ่มไม่เขียวสด ใบออกเหลือง ให้ตรวจ meeting of the experts on new leaf สอบอาการของโรคบนใบ และใบยางทรี่ ว่ ง disease. Kuala Lumpur, 11-12 April 2019. Tri Rapani Febbiyanti, Dwei Sugipriantini and หากพบมีอาการของโรคให้รีบใช้สารเคมีฉีดพ่น Zaida Fairuza. 2019. Recent studies ทรงพุ่มให้ทั่วท้ังแปลงโดยเครื่องฉีดพ่นสารเคมีแรงดันสูง on Pestalotiopsis fungal leaf disease of ซ่ึงเครื่องมือในการฉีดพ่นมีหลายประเภทรวมท้ังเครื่อง Hevea brasiliensis. 1st ANRPC meeting แบบพ่นหมอก และการฉีดพ่นทางอากาศ เป็นต้น of technical committee on plant protetion. Kuala Lumpur, 5 November 2019. 4) การก�าจัดใบยางที่เป็นโรคเพ่ือก�าจัดและลด (Power point) การแพรข่ ยายของเชอื้ สาเหตุโรค 5) การใช้วัสดุปลูกพิจารณาหลีกเลี่ยงจากแหล่ง ระบาดของโรค และผู้ประกอบการแปลงขยายพันธุ์ควร ใช้สารเคมีก�าจัดเช้ือราฉีดพ่นก่อนการน�าออกนอกพื้นที่ ก่อนอย่างนอ้ ย 2 ครง้ั ทุก 5-7 วนั เอกสารอ้างองิ Adam Malik Ahmad Zambri, Safiar Atan, Murnita M. Mahyudin, Aizat Shamin Noran and Nor

17 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ใสป่ ยุ๋ ยางอย่างไรจงึ จะมปี ระสทิ ธิภาพ ภรภทั ร สุชาติกลู ศูนยว์ จิ ยั ยางสงขลา สถาบันวจิ ยั ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย การใส่ปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยอินทรีย์ ให้ถูกช่วงเวลาตามที่ต้นยางต้องการและมีความพร้อม เพื่อให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ ตอ่ ตน้ ยาง จ�าเป็นตอ้ งมคี วามรู้ มากที่สุด รากพืชสามารถดูดกินไปใช้ได้มากที่สุด ช่วง ความเข้าใจในหลาย ๆ เร่ือง โดยเฉพาะพื้นฐานเรื่องดิน เวลาที่เหมาะสมส�าหรับการใส่ปุ๋ยยาง คือช่วงที่ดินมี และปุ๋ย เช่น pH ของดิน ชนิดของดิน การสลายตัวของ ความช้ืนพอเหมาะ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ หรือ ปุ๋ย การเคล่ือนตัวของธาตุอาหารแต่ละชนิด ส่ิงต่าง ๆ ปุ๋ยชีวภาพก็ตาม เพ่ือปุ๋ยจะได้ละลายและแตกตัวอยู่ใน เหล่านี้เป็นปัจจัยส�าคัญที่ส่งผลต่อพืชในการน�าธาตุ รูปที่รากพืชสามารถดูดกินได้ ดินต้องไม่แห้งหรือชื้นแฉะ อาหารต่าง ๆ ไปใช้เพ่ือการเจริญเติบโต และสร้าง เกินไป และต้องไม่ใส่ปุ๋ยในช่วงท่ีมีฝนตกหนัก ในยาง ผลผลติ ดงั นน้ั บทความน้จี ึงรวบรวมปจั จัยตา่ ง ๆ ตลอด หลังเปิดกรีด ควรใส่ปุ๋ยช่วงผลิใบใหม่หลังจากใบร่วง ใน จนข้อเสนอแนะในการใส่ปุ๋ยให้กับต้นยางเพ่ือให้เกิด ขณะใบเพสลาด ประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่ากับเงินท่ีต้องเสียไปกับการใส่ ปยุ๋ ในแต่ละคร้ัง 3. ถูกอัตรา (ปริมาณเหมาะสม) คอื ปรมิ าณปุ๋ยที่ ใส่ต่อต้นต้องเพียงพอและพอดีกับความต้องการของต้น หลักการใสป่ ๋ยุ ท่ีถกู ต้อง ยาง หลังจากที่ได้สูตรของปุ๋ยที่จะใส่แล้วไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย เคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยรองก้นหลุมปลูกยาง หรือแม้แต่พวก 1. ถูกสตู ร (สูตรเหมาะสม) คอื เลือกใชส้ ตู รปยุ๋ ให้ สารปรับปรงุ ต่าง ๆ เช่น ปนู ขาว ปนู โดโลไมท์ ก็ตาม ต้อง ถูกกับพืช คือ ต้องเป็นสูตรปุ๋ยส�าหรับพืชยาง และเป็น ใส่ให้ถูกอัตราด้วย การใส่ถูกอัตราคือ ใส่ในปริมาณท่ี สูตรที่ถูกกับระยะของต้นยาง เป็นยางก่อนเปิดกรีดหรือ เหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป โดยค�านึงถึงปริมาณท่ี ยางหลังเปดิ กรดี และถูกกับชนิดของดิน ไมว่ า่ จะเปน็ ปยุ๋ ต้นยางต้องการและมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การใส่ เคมี ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ ปุ๋ยมากเกินไปไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือสารปรับปรุงดิน ดิน (ปุ๋ยส่ังตัด) ซึ่งเป็นการใส่ปุ๋ยที่ตรงกับความต้องการ อาจเกิดการเป็นพิษต่อต้นยางได้ นอกจากนี้ ยังท�าให้ ของพชื เกษตรกรสามารถศกึ ษาหาขอ้ มลู ได้จากเอกสาร ต้นทุนการผลิตสูง ส่วนการใส่ปุ๋ยน้อยเกินไปก็จะท�าให้ ค�าแนะน�าของสถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย ต้นยางได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ต้นยางไม่สมบูรณ์ หรือสอบถามขอค�าแนะน�าจากเจ้าหน้าที่ เพื่อปรับเลือก ผลผลิตต�่า ต้นยางไมแ่ ข็งแรง อ่อนแอตอ่ โรค ในยางพารา ใชป้ ๋ยุ ให้ถูกตอ้ ง สิง่ ท่ีต้องระวังคือ การเชอ่ื ค�าแนะน�า หรือ ก่อนเปิดกรีดอัตราปุ๋ยท่ีแนะน�าให้ใส่จะแตกต่างกันตาม ท�าตามค�าแนะน�าของตัวแทนร้านจ�าหน่ายปุ๋ยมาก อาจ ชนิดของเนื้อดิน และอายุของต้นยาง ท้ังนี้เกษตรกร ท�าให้ตน้ ทุนบานปลายได้ สามารถศึกษาหาข้อมูลได้จากเอกสารค�าแนะน�าของ สถาบันวิจยั ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย หรอื เกบ็ ดินไป 2. ถูกเวลา (ช่วงเวลาที่เหมาะสม) คือ การใส่ปุ๋ย

18 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ผลของการใสป่ ุ๋ยทีถ่ ูกตอ้ ง วเิ คราะห์และขอคา� แนะนา� จากนกั วิชาการ การใส่ปุ๋ยท่ีไมถ่ กู สูตร ไมถ่ กู อตั รา ไมถ่ ูกเวลา และ 4. ถกู วธิ ี (วิธีใส่เหมาะสม) คือ ใสป่ ุย๋ ให้พชื ตรงจดุ ไม่ถูกวิธี นอกจากจะท�าให้ต้นยางไม่สามารถดูดกินแร่ ธาตุท่ีเป็นสารอาหารได้เต็มท่ีตรงตามความต้องการแล้ว ที่พืชสามารถดึงดูดไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายและเร็วที่สุด ยงั ทา� ใหเ้ สยี เงนิ เสียเวลา และไมไ่ ดผ้ ลผลติ ตามต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของปุ๋ยที่ใส่ด้วย โดยท่ัวไปถ้าเป็น ในขณะท่ีการใส่ปุ๋ยยางท่ีถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกเวลา และ ปุ๋ยเคมี จะแนะน�าให้ใส่ให้พืชในบริเวณรอบทรงพุ่มห่าง ถกู วธิ ี จะท�าให้ต้นยางสมบูรณ์ จา� นวนใบหนาแนน่ ผลัด จากโคนต้นพืชประมาณ 30 – 60 เซนติเมตร ซ่ึงเป็น ใบช้า ผิวเปลอื กไมแ่ ห้งกรา้ น เปลอื กนิ่ม กรดี งา่ ย น้�ายาง บรเิ วณท่มี ีรากฝอยซ่ึงเปน็ รากหาอาหารอยู่ ดี เน้ือยางแห้ง (DRC) สูง และสามารถเพิ่มวันกรีดในปี นั้นไดอ้ กี ดว้ ย ต้นยางเล็ก แนะน�าให้ใส่ปุ๋ยในร่องเป็นวงกลม รอบ ๆ ล�าต้นตามบริเวณทรงพุ่ม แล้วเกล่ียดินกลบปุ๋ย ขอ้ แนะน�าเพิม่ เตมิ ในการใส่ปุ๋ยยาง (ภาพที่ 1A) ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ เม่ือต้นยางมีอายุ 2 ปีข้ึนไป ให้ใส่ปุ๋ยโดยโรยเป็น 1) ในดินที่มีเนื้อดินค่อนข้างหยาบ คือ ดินท่ีมี แถบ 2 ข้างแถวยางตามบรเิ วณทรงพมุ่ ของตน้ แล้วเกลย่ี ปริมาณอนุภาคทรายมากกว่าอนุภาคทรายแป้งและดิน ดินกลบใหป้ ุ๋ยอยูใ่ ต้ผวิ ดิน (ภาพที่ 2) เหนยี ว เชน่ ดนิ ร่วนปนทราย ควรใส่ปยุ๋ คร้งั ละนอ้ ย ๆ แต่ ใส่บ่อยคร้ัง เนื่องจากดินชนิดนี้จะดูดซับธาตุอาหารไว้ได้ ในพ้ืนที่ลาดชันและพื้นที่ที่มีฝนตกชุกติดต่อกัน น้อยเม่ือใส่ปุ๋ย ธาตุอาหารจึงสูญเสียได้ง่าย และควรใส่ เป็นเวลานาน แนะน�าให้ใส่โดยขุดหลุมลึกประมาณ ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมดว้ ยเพื่อช่วยปรบั ปรุงบ�ารุงดนิ และเพิม่ อนิ 5-10 เซนตเิ มตร จา� นวน 2 หลุมต่อตน้ เพ่อื ลดการชะลา้ ง ทรยี วัตถุใหแ้ ก่ดิน ปุ๋ย 2) ในดนิ ทม่ี ี pH ต่�ากวา่ 4.5 ควรปรับระดบั ความ ต้นยางหลังเปิดกรีด แนะน�าให้ใส่โดยหว่าน เป็นกรดเป็นดา่ ง (pH) ของดนิ ให้อยู่ทีป่ ระมาณ 4.5 - 5.5 ระหว่างแถวหรือโรยบริเวณกึ่งกลางแถวยาง (ภาพที่ 3) ซ่งึ เปน็ ระดบั pH ทเี่ หมาะสมส�าหรบั ยางพารา ควรเกลี่ยใบยางให้เป็นแนวก่อนใส่ปุ๋ยแล้วคราดกลบ หากโรยปุ๋ยลงระหว่างร่องแถวยาง แต่ไม่โกยใบยางออก 3) การพรวนดินกลบปุ๋ย นอกจากจะไม่ท�าให้เกิด ธาตุอาหารจะละลายลงสู่ดินได้ช้า เป็นไปได้เพียงแค่รอ ความเค็มเฉพาะจุดขึ้น ยังลดการสูญเสียปุ๋ยจากการ ฝนตกลงมาเพ่ือใหป้ ุย๋ ละลายและซึมลงส่ดู นิ และหากฝน ชะละลายโดยน้�าฝนและน�้าชลประทาน พบว่าปุ๋ย ไม่ตกปุ๋ยจะเกิดการสูญเสียไปโดยกระบวนการต่าง ๆ ไนโตรเจนการกลบเพียงประมาณ 5 เซนติเมตร ท�าใหล้ ด ทางเคมีเสียก่อนท่ีพืชจะดูดกินได้ทัน การใส่ปุ๋ยจึงควร การสูญเสียได้เกอื บท้งั หมด โกยใบยางบริเวณนั้นออกไปจนเห็นช้ันดินและโรยปุ๋ยลง ไป หลังจากน้ันให้เอาใบยางกลบ หรืออาจใส่โดยขุดดิน การใชป้ ุย๋ อินทรยี ์ในสวนยาง ฝงั กลบท่รี ะดบั ความลึก 5 - 10 เซนติเมตร ที่ถกู ตอ้ ง ในกรณที ร่ี ะหว่างแถวยางเปน็ รอ่ งระบายน�้า ให้ใส่ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้เป็นประโยชน์ต่อต้นยางอย่าง ปุย๋ หา่ งจากโคนตน้ ยางประมาณ 2-3 เมตร เต็มท่ี ควรรู้จักเลือกวิธีใช้ให้เหมาะสม เช่น ปุ๋ยหมักและ ปุ๋ยคอก ควรใช้วิธีหว่านให้ท่ัวท้ังแปลงแล้วไถพรวนให้ ถ้าพื้นที่ลาดเอียง หรือสูง ๆ ต่�า ๆ เป็นลอนลาด คลุกเคล้ากับดินให้ท่ัวก่อนปลูกยาง การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ควรขุดหลุมแล้วฝงั กลบเพือ่ ปอ้ งกนั ปยุ๋ ถูกชะล้าง รองก้นหลุมปลูกควรมีการคลุกเคล้าให้เข้ากับดินเพ่ือให้ เกดิ ความสม�่าเสมอ การคลุกเคลา้ กับดนิ เป็นการลด C/N ไม่ควรใสป่ ุย๋ บรเิ วณโคนตน้ ยาง เนอื่ งจากรากฝอย ratio เพ่ือลดการดูดดึงธาตุอาหาร และเพิ่มการใช้ บริเวณใกล้ ๆ ล�าต้นส่วนใหญ่เป็นรากแก่มีศักยภาพใน การดูดธาตุอาหารต่�ามาก

19 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธันวาคม 2562 AB ภาพที่ 1 การใสป่ ยุ๋ ตน้ ยางเลก็ รอบโคนตน้ ในรศั มที รงพมุ่ ใบ (A) และการใสป่ ยุ๋ แบบขดุ หลมุ จา� นวน 2 หลมุ /ตน้ (B) ภาพท่ี 2 การใสป่ ยุ๋ ยางกอ่ นเปดิ กรดี อายุ 2 ปขี น้ึ ไป โดยโรยเปน็ แถบ 2 ขา้ งแถวยาง บรเิ วณทรงพมุ่ ของใบยาง ภาพท่ี 3 การใสป่ ยุ๋ ใหก้ บั ตน้ ยางหลงั เปดิ กรดี โดยใสเ่ ปน็ แถบระหวา่ งแถวยาง

20 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 การใช้วสั ดปุ รบั ปรุงดนิ ในสวนยาง ท่ถี กู ต้อง ประโยชน์ธาตุอาหารด้วย ถ้าเป็นปุ๋ยพืชสด เช่น ถ่ัวพุ่ม ปอเทือง ให้ปลูกแล้วไถกลบในขณะที่พืชก�าลังออกดอก วัสดุปรับปรุงดิน คือ วัสดุที่ใส่ในดินเพื่อปรับปรุง ก่อนปลูกยางประมาณ 15 วัน ส่วนตอซังพืชและของ คุณสมบตั ิทางฟสิ ิกส์ เชน่ แกลบ ขเ้ี ลื่อย ปรบั ปรงุ สมบัติ เหลือใช้อุตสาหกรรมเกษตร ควรใช้วิธีหว่านแล้วไถกลบ ทางเคมี เชน่ ปูน ส�าหรับแก้ดินเปน็ กรด สา� หรบั สวนยาง ก่อนปลูกยางประมาณ 1 เดือน การใส่ปุ๋ยอินทรีย์หลัง โดยท่ัวไปไม่แนะน�าให้ใช้ปูนเน่ืองจากยางเป็นพืชท่ีชอบ ปลูก แนะน�าให้ใส่ก่อนใส่ปุ๋ยเคมี 1-2 สัปดาห์ และควร ดินเปน็ กรดจดั มากถึงกรดจัด (pH 4.5 – 5.5) การใส่ปูน คราดกลบป๋ยุ หลังใส่ หรืออาจใชว้ ิธโี รยเปน็ จุด ๆ ห่างจาก ไม่ว่าจะเป็นปูนชนิดใด ยกเว้นยิปซัม จะสามารถช่วย แถวยาง 2-3 เมตร หรอื ใสก่ ง่ึ กลางระหว่างแถวยาง การ ปรับระดับความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (pH) ให้เพิ่มสูง ใส่ปุ๋ยคอกโดยทิ้งไว้ใต้ต้นยางท้ังกระสอบสามารถกระท�า ข้ึน แต่ตอ้ งระวงั ไมใ่ ห้ pH สงู กวา่ 5.5 เพราะจะท�าใหต้ น้ ได้ในกรณีท่ีไม่มีแรงงาน ถือว่าเป็นการปล่อยให้หมักไว้ ยางแสดงอาการผิดปกติออกมาได้ แนะน�าให้ใส่ปูน ในกระสอบ แต่จะได้ประโยชน์น้อยกว่าการหว่านให้ทั่ว โดโลไมท์ (Dolomite) หว่านระหวา่ งแถวยาง โดยไมต่ อ้ ง และคลุกเคล้าให้เข้ากับดิน มูลสัตว์กินหญ้าจะมี คลุกเคล้ากับดิน แบ่งใส่ประมาณปีละ 100 – 200 ไนโตรเจนต�่า มูลสัตว์ปีกควรท�าการหมักก่อนใช้ และไม่ กิโลกรัม/ไร่ ติดต่อกัน อย่าใส่ปูนในปริมาณที่เท่ากับค่า ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกแบบคลุมโคน เพราะเมื่อเกิด ความต้องการปูน ซึ่งได้จากผลวิเคราะห์ดินในห้องแลป การย่อยสลายอาจมีการดูดดึงไนโตรเจนในดินแข่งขันกับ เพราะจะมีผลให้รากยางไหม้ และไม่แนะน�าให้ใส่ปูน ต้นยาง ท�าให้ต้นยางมีอาการขาดธาตุอาหารหรืออาจ ขจาะวท�าCใaห(เ้OกHิดป)2ัญเพหราาสะภเปา็นพปเกูนินทป่ีไนูม่เค(Oลvอื่ eนrทlใี่imนiดnนิg)หบวา่ริเนวไณป ตายได้ หน้าดิน ท�าให้ปุ๋ยฟอสเฟตและจุลธาตุอาหารตกตะกอน รากพชื ไมส่ ามารถดูดกนิ ได้ ขอ้ ควรค�านึงในการใชป้ ุ๋ยอินทรยี ์ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ปริมาณมากจะสามารถลดการ ปริมาณ pH ท่ีสูง หรือสภาพเกินปูน จะท�าให้พืช แสดงอาการขาดธาตุหลายธาตพุ ร้อมกันไดแ้ ก่ Fe, P, K ใช้ปุ๋ยเคมีได้ แต่ต้องค�านึงถึงผลตอบแทน และความคุ้ม และ Mg อาการที่ปรากฏ คือ ใบมสี ีเหลอื งโดยเส้นกลาง ทุน เนื่องจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์จ�านวนมาก ต้องมีค่าใช้ ใบยังเขียว ขอบใบกลายเป็นสีน้�าตาลและแห้งตาย จ่ายในการขนส่งสูง และใช้แรงงานในการใส่ปุ๋ยมากกว่า อาการเร่ิมจากปลายใบลุกลามเข้าสู่โคนใบ และต้นยาง การใส่ปุ๋ยเคมี นอกจากน้ีการใช้ในปริมาณมาก ๆ จะ ยังแสดงอาการขาด Mg ร่วมด้วย สังเกตได้จากเนื้อเย่ือ ทา� ให้ดนิ เกิดสภาพมีออกซิเจนไมเ่ พยี งพอ เมอ่ื ฝนตกมาก ระหว่างเส้นใบเปล่ียนเป็นสีเหลืองในขณะท่ีเส้นใบยังคง หรือน�้าขังจะท�าให้เกิดก๊าซมีเทนและไนตรัสออกไซด์ได้ มีสีเขียว (ภาพที่ 7) ในภาพเป็นแปลงยางท่ีใส่ปูนจาก งา่ ยในดนิ ซึง่ กา๊ ซทงั้ สองชนิดนเ้ี ม่ือระเหยสูบ่ รรยากาศจะ เปลอื กหอยเผา จนดินมี pH มากกว่า 6 ประกอบกับพน้ื ท่ี เกดิ ปรากฏการณเ์ รือนกระจก มีน้�าแช่ขัง จึงส่งผลให้ใบยางเกือบท้ังแปลงแสดงอาการ ขาดธาตุ K รุนแรงจนใบยางแหง้ ตาย ใบยางร่วงหลน่ เปน็ ข้อควรค�านึงในการใชป้ ุ๋ยมลู สตั ว์ จ�านวนมาก ไมค่ วรน�าไปใชใ้ นพืน้ ทที่ ไ่ี กลเกินไปจากแหล่งผลติ ข้อแนะน�าสา� หรับการนา� ปุ๋ยผสมเอง อย่าน�าปุ๋ยไปผึ่งแดดเพราะจะสูญเสียธาตุไนโตรเจนไป ไปใชอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยการระเหิด เก็บรักษาไว้ให้แห้งในท่ีร่ม และใช้ปุ๋ยใน สภาพท่ีแห้ง ใส่ปุ๋ยขณะท่ดี นิ ชนื้ พอเหมาะและพรวนกลบ 1. ปุ๋ยที่ผสมแล้วถ้าไม่ใช้ทันทีควรใส่ ถุงปุ๋ยที่มี ปุ๋ยทันที อย่าใส่ปุ๋ยใกล้กับพืชท่ีปลูกและใช้ในปริมาณที่ พลาสตกิ ช้นั ในกระสอบปยุ๋ และมดั ปากถงุ ใหแ้ น่น พอเหมาะ 2. ควรวางไว้บนพื้นท่ีมีไม้กระดานรองรับ ไม่ควร

21 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ภาพท่ี 4 ปยุ๋ หมกั เปน็ ปยุ๋ ทไ่ี ดจ้ ากการนา� เศษซากพชื ในไรน่ า เชน่ เปลอื กถวั่ เศษหญา้ มาหมกั ใหส้ ลายตวั ผพุ งั ตามธรรมชาติ ภาพท่ี 5 ปยุ๋ คอก เปน็ ปยุ๋ ทไ่ี ดจ้ ากมลู สตั ว์ ปสั สาวะ และวสั ดรุ องพน้ื ในคอกสตั ว์ ภาพท่ี 6 ปยุ๋ พชื สด เปน็ ปยุ๋ ทไ่ี ดจ้ ากการไถกลบพชื สดลงไปในดนิ นยิ มใชก้ บั พชื ตระกลู ถว่ั เชน่ ปอเทอื ง ถวั่ เขยี ว ถว่ั ลาย เพราะสลาย ตวั ไดเ้ รว็ และใหธ้ าตไุ นโตรเจนเพมิ่ แกด่ นิ ดว้ ย

22 ฉบับอิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 B A ภาพท่ี 7 ตน้ ยางแสดงอาการเปน็ พษิ จากปญั หาสภาพเกนิ ปนู (Over liming) โดยแสดงอาการขาดธาตหุ ลาย ๆ ธาตพุ รอ้ มกนั ไดแ้ ก่ Fe, P, K และ Mg วางบนพ้ืนซีเมนต์ และควรเก็บไว้ในบริเวณท่ีไม่มี CO(NH2)2 + 2 H2O ----> 2(NH4)2CO3 ----> 2NH4 + CO32- ความช้นื (NH4)2CO3 ---------------> NH3 + CO2 + H2O 3. ปุ๋ยผสมใช้เองควรน�าไปใส่ให้แก่ต้นยางทันที หรือไม่ควรเกบ็ ไว้นานเกนิ 2 สัปดาห์ เพราะปุย๋ ผสมจะช้นื หรือปุ๋ยพวกแอมโมเนียม ท่ีหว่านหรือโรยไว้ที่ผิว และจับตัวเป็นก้อนท�าให้ปุ๋ยเส่ือมคุณภาพ และปริมาณ ดนิ เม่ือถูกความช้นื จะละลายแพรก่ ระจายอยู่ทีผ่ ิวดิน ถา้ ธาตอุ าหารลดลง มีความเขม้ ข้นของ NH4+ สูงพอก็จะท�าปฏิกิรยิ ากับด่างท่ี NเกHิด3ขแ้ึนลจะารกะปเหฏยิกไิรปิยดาังขสอมงกCารO32- กับ H2O เกิดเป็นก๊าซ 4. การใส่ปุ๋ยท่ีดีควรใส่แล้วคราดกลบ เพื่อให้ปุ๋ย อยู่ใต้ผิวดิน จะเป็นการป้องกันการชะล้างของปุ๋ยและ 2NH4+ HCO3- -----------> NH3 + CO2 + H2O การระเหิดของปุ๋ยยเู รยี ได้ 2) การสูญเสยี ในรูปของก๊าซไนโตรเจน (N2) ในดิน ขอ้ มูลทค่ี วรทราบ และแนวทางในการ ท่ีมีปฏิกิรยิ า (pH) เป็นกรด ไนไตรท์กับสารประกอบพวก ใสป่ ุย๋ เคมีใหม้ ปี ระสิทธิภาพ เกลือแอมโมเนยี มหรอื อะมนี เช่น ยูเรีย หรอื สารประกอบ พ ว ก ค า ร ์ โ บ ไ ฮ เ ด ร ต จ ะ เ กิ ด ป ฏิ กิ ริ ย า รี ดั ก ชั น ข้ึ น ไ ด ้ ปุ๋ยไนโตรเจน (N) ดงั สมการ ปุ๋ยไนโตรเจน พืชสามารถน�าไปใช้ไดเ้ พยี ง ร้อยละ 2HNO2 + CO(NH2)2 -----------> CO2 + 3H2O + 2N2 50 - 60 เน่อื งจากปุ๋ยไนโตรเจนเกอื บทุกชนดิ มคี ุณสมบตั ิ ประจ�าตวั คอื ละลายน�้าได้ดีทีส่ ดุ และเคลื่อนตวั ในดินได้ 3) การชะล้าง ไนโตรเจนท่ีอยู่ในรูปยูเรีย เม่ือ ดี พืชจะน�าไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีหลังใส่ การสูญเสีย ละลายน�้าและยังไม่เกิดปฏิกิริยาเคมีกับน้�า ยังคงเป็น ของป๋ยุ ไนโตรเจนจึงเกิดขึน้ ไดม้ ากและรวดเรว็ ดังน้ี กโม็มเีปลรกะุลจทุล่ีไบม่มปีปุ๋ยรทะั้จงสุไฟอฟงช้านสิด่วจนึงมปีโุ๋ยอใกนารสูปสไนูญเตเสรียตโด(NยOกา3-ร) ชะล้างได้มาก เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วฝนตกทันที หรือให้น�้ามาก 1) การสูญเสีย N โดยการระเหยในรูปของก็าซ เกินไป แต่ถ้ายูเรียได้เปล่ียนเป็นแอมโมเนียมแล้วการ แปอริมมาโมณเมนาียกแ(NลHะค3)วกามารเขใ้สม่ปข้นุ๋ยสยูงูเรีจยะ[ทC�าOให(N้ดHินเ2ป)2็น]ดใ่านง (ในระยะแรก ๆ) เกิดเป็นแก๊ซแอมโมเนียระเหยไป ดังสมการ

23 ฉบบั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธนั วาคม 2562 พืชยาง) เพื่อไม่ให้ไอออนของ Al, Fe และ Mn ละลาย ออกมาอยู่ในสารละลายดินมากเกินไป จนไปท�า ชชะะลลา้้างงไ4จด)ะย้ กลาาดกรกลสวงูญ่าเเNพสOียราธ3-ะาปตุไุ๋ยนไโนตโรตเจรเนจโนดใยนกราูปรถNูกตHร4ึง+โถดูกย ปฏิกิริยากับฟอสเฟต เปล่ียนไปอยู่ในรูปท่ีพืชไม่สามารถ แร่ดนิ เหนยี ว ไนโตรเจนในรูป NH4+ บางส่วนจะถูกตรงึ ใน ดดู กนิ ได้ (ตรงึ ฟอสฟอรสั ) หลืบของแร่ดินเหนียว พวกแร่ซิลิเกตด้วยแรงดูดยึดที่สูง ท�าให้พืชนา� ไปใช้ประโยชน์ได้ยากขนึ้ 2. เพ่ิมเติมปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ในข้ันตอน ของการสลายตวั ของอนิ ทรยี วตั ถมุ สี ารประกอบชนดิ ตา่ ง ๆ ดังนัน้ การใสป่ ยุ๋ N ให้มปี ระสิทธภิ าพจึงมแี นวทาง เกิดข้ึน สารเหล่านี้บางชนิดท�าปฏิกิริยาเป็นสารประกอบ ปฏิบัติดังนี้ เชิงซ้อนกับออกไซด์ของ Fe และ Al และบางชนิดท�า ปฏิกิริยากับต�าแหน่งท่ีจะตรึงฟอสฟอรัสของแร่ดิน 1. เพื่อลดการสูญเสียโดยการระเหยเป็นก็าซ เหนียวได้ ทา� ใหล้ ดอา� นาจการตรึงลงได้ แอมโมเนยี และลดการถูกชะล้างไปทางผวิ ดนิ ควรใส่ป๋ยุ N ทุกชนดิ โดยการฝังลงในดนิ อย่างนอ้ ย 5 เซนตเิ มตร มี 3. ใส่ปุ๋ยท่ีอยู่ในลักษณะของเม็ด และใส่โดยโรย รายงานว่าการกลบเพยี งประมาณ 5 เซนติเมตร ทา� ให้ลด เป็นแถบหรือหยอดเป็นหลุม เพ่ือลดพ้ืนที่สัมผัสระหว่าง การสูญเสียได้เกอื บท้งั หมด ปยุ๋ กบั ดิน 2. การใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมและยูเรียโดยโรยเป็น 4. ถ้าใส่หินฟอสเฟตต้องใส่ในรูปผงละเอียดท่ีสุด แเพถรบาะจใะนชแ่วยถใบหป้ปุ๋ยุ๋ยมอีคยวู่ในารมูปเขN้มHข4้น+ขไอดง้นสาานรกลวะ่าลกาายรดหินว่าสนูง เพ่ือให้มีโอกาสท�าปฏิกิริยาแล้วเปล่ียนรูปมาเป็น มาก จุลินทรีย์ไม่สามารถเข้าไปท�างานได้ ท�าให้ปุ๋ยถูก ฟอสฟอรสั ท่เี ปน็ ประโยชน์ไดม้ ากและเรว็ ท่ีสุด ชะล้างนอ้ ยลง 5. ใส่ปุ๋ยตรงตา� แหน่งทีม่ ีรากพืชหนาแนน่ ลึกจาก 3. ใส่ปยุ๋ โดยวธิ เี จาะรูเล็ก ๆ ลกึ เท่ารากพืช ห่างกัน ผวิ ดนิ 2-3 นิ้ว ปุ๋ย P เปน็ ปยุ๋ ท่ีเคลอื่ นที่ไดน้ อ้ ยมาก เพยี ง 2 ฟุต ในบริเวณทรงพมุ่ แลว้ อดั ปุย๋ ลงไปในรู ไม่ก่ีเซนติเมตร ทันทีท่ีฟอสฟอรัสที่ละลายน้�าได้ละลาย ในสารละลายดินและแพร่ออกไปรอบ ๆ ต�าแหน่งท่ีมัน 4. ใส่ปยุ๋ ละลายช้า (ราคาแพง) อยู่ จะเกดิ ปฏิกิรยิ ากบั ดนิ ทนั ทีทา� ให้ตกตะกอน ปุ๋ยฟอสฟอรัส (P) 6. การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสไว้ท่ีผิวดินจะท�าให้พืชดูด โดยท่ัวไปพืชสามารถน�าไปใช้ประโยชน์ได้เพียง กินไดน้ อ้ ย เพราะมนั เคลอื่ นทลี่ งไปหารากพชื ไม่ได้ รอ้ ยละ 5 - 25 ท้ังนเ้ี น่ืองจากเกิดการตรงึ P ในดิน ดังน้ี ปุ๋ยโพแทสเซยี ม (K) 1. ในดนิ ทม่ี ี pH ตา�่ หรอื เปน็ กรดรนุ แรง จะมไี อออน ในท�านองเดียวกับ N และ P พชื สามารถนา� K ไป ของ Al, Fe และ Mn ละลายออกมาอยูใ่ นสารละลายดนิ ใช้ประโยชน์ได้เพียงร้อยละ 40 - 70 ท้ังน้ีเน่ืองจากปุ๋ย มาก โดย H2PO4- และ HPO42- จะถูกตรึงโดยไอออน โพแทสเซียมเป็นปุ๋ยท่ีละลายน้�าได้ดีมาก จึงมีโอกาสจะ เหล่าน้ีที่อยู่ในสารละลายดิน หรือท่ีถูกดูดยึดไว้กับผิว ถกู ชะลา้ งออกไปจากดินไดง้ ่าย ดงั น้ี อนภุ าคดินทา� ใหก้ ลายเป็นสารฟอสเฟตท่ีไมล่ ะลายน�า้ ดแลินะเหHน2ียP.วOทแ42รีม่ -่ดีอใินหา� นเ้กหลานจาียกยวาเปรสตน็ ารสมงึ าารPปรมถราทะกก�าทอปีส่บฏดุทิกคี่ไิรมือิยล่าแะกรลับด่ านิ ยHเนห2P�้านOียแว4ร-่ 1. มกี ารสญู เสียของ K ทใ่ี ส่ลงในดินบางสว่ น โดย ชนิด Hydroxide ของ Fe และ Al การชะล้างของน�้าผ่านหน้าตัดดิน และโดยติดไปกับ อนภุ าคดินทีถ่ ูกกษยั การ ดังนั้น การใส่ปุ๋ย P ให้มีประสิทธิภาพต้องจดั การ ใหม้ ีการตรงึ P ให้ช้าที่สดุ เพอ่ื ให้พืชได้น�า P ไปใชไ้ ด้มาก 2. ดินเนื้อหยาบท่มี ีของ Al3+ และ H+ มาก ดนิ ทีม่ ี ท่สี ดุ ดังนี้ อนิ ทรียวตั ถุและ CEC ต�่า จะทา� ให้มี K+ อยู่ในสารละลาย ดินมาก โอกาสทถ่ี ูกชะล้างจะมีมากข้นึ 1. ปรับปรุง pH ของดินไมใ่ หต้ ่�ากว่า 5.5 (สา� หรบั 3. ดินท่ีมักขาดแคลน K จึงเป็นดินที่มีแร่ไมกา น้อย ดนิ เนอ้ื หยาบ อนิ ทรียวัตถตุ �่า และเป็นกรด (pH ต่�า กวา่ 5)

24 ฉบบั อิเล็กทรอนิกส์ 39 ตุลาคม-ธนั วาคม 2562 ยางส่วนท่ีเป็นสีน�้าตาลจนถึงสีน�้าตาลปนเขียว เพ่ือ ปอ้ งกันการไหม้จากแสงแดด ดังนัน้ การใส่ป๋ยุ K ให้มีประสทิ ธภิ าพจงึ ควรปฏบิ ัติ ดังนี้ 4. ใส่ปุ๋ยบ�ารุงต้นยางด้วยปุ๋ยเคมีควบคู่กับปุ๋ย อินทรีย์ตามค�าแนะน�าเพ่ือให้ต้นยางสมบรู ณ์แขง็ แรง 1. หลีกเล่ยี งการใสโ่ พแทสเซียมครง้ั ละมาก ๆ ควร ใส่โดยการแบ่งใส่ โดยเฉพาะในฤดูฝนและในดินเน้ือ 5. สวนยางท่ีเปิดกรีดแล้ว ไม่ควรกรีดถ่ี กรีดบาด หยาบ เน้ือไม้ และกรีดต้นยางขนาดเล็ก เพราะเป็นสภาวะท่ี ขาดน�้า จนเป็นสาเหตุท�าให้ต้นยางแสดงอาการเปลือก 2. ปรบั pH ของดนิ ใหอ้ ยู่ประมาณ 5.5 แห้งและอาจตายได้ และไม่ไถพรวนดินในแปลงที่ต้น 3. ใส่เศษเหลอื ของพืชกลบั ลงในดินให้มากที่สุด ยางมีอายุ 2 ปขี ้นึ ไป 4. ใส่ปุ๋ยโดยวิธีโรยเป็นแถบหรือหยอดในหลมุ 5. การใส่ปุ๋ย K มากเกินไปอาจท�าให้พืชขาดธาตุ 6. ในกรณีของสวนยางที่ปลูกในที่ระบายน้�าเลว Mg ได้ หรืออาจเกิดน�้าท่วมขังควรขุดคูระบายน�้า เพื่อระบายน�้า ออกจากผิวดิน บริเวณรากพืชก่อนที่ต้นยางจะได้รับ ปัจจยั ทข่ี ัดขวางการเจริญเตบิ โตของราก ความเสียหาย ควรขุดคูระบายน้�า ให้ระดับน�้าใต้ดินอยู่ ลกึ กว่า 1.2 เมตร การเจริญและพัฒนาของรากเป็นการขยายพ้ืนท่ี ผิวส�าหรับการดูดธาตุอาหารและเคลื่อนที่ของเนื้อเยื่อ 7. การใหน้ า�้ ที่เหมาะสม รากไปหาปุ๋ย ดังน้ัน ปัจจัยใดท่ีขัดขวางการเจริญเติบโต ของราก ย่อมทา� ใหพ้ ชื ได้ปยุ๋ น้อยลง ปจั จัยเหล่าน้ีได้แก่ สรปุ และขอ้ เสนอแนะ 1. รากถูกตัดด้วยเคร่ืองมือ ถูกแมลงกัด ไส้เดือน การปลูกยางเพ่ือให้ประสบความส�าเร็จและลด ฝอยทา� ลาย และรากพชื เป็นโรค ต้นทุนการผลิต จ�าเป็นต้องเลือกพื้นท่ีปลูกยางท่ีเหมาะ สม เลือกใช้ยางพันธุ์ดี ให้ผลผลิตสูง และมีการจัดการ 2. ดินแน่นทึบท�าให้การระบายน�้าและถ่ายเท สวนยางทีถ่ ูกตอ้ งอยา่ งสม�่าเสมอ อากาศไมด่ ี และความช้นื ของดินทเี่ หลอื สูงเกนิ ไป ในประเด็นที่ไม่ควรปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม 3. อุณหภูมขิ องดินตา่� หรอื สงู เกนิ ไป ส�าหรับปลูกพืชนั้น ๆ เพราะเราปลูกพืชให้เหมาะสมกับ 4. ขาดแคลนธาตอุ าหารอน่ื ๆ บางธาตุ แลว้ ยังไม่ ดินได้ แต่เราไม่สามารถเปล่ียนดินให้เหมาะสมกับพืชได้ ไดแ้ ก้ไข เชน่ ไมค่ วรปลกู ยางในท่ีลุ่มต�่า มนี ้�าขัง 5. มสี ารพิษในดิน การใช้ปุ๋ยเคมียังมีความจ�าเป็นเพ่ือช่วยให้ต้นยาง แนวทางการจดั การสวนยางเพอ่ื เจริญเติบโตเร็ว ลดระยะเวลาเปิดกรีด และรักษาสมดุล ใหก้ ารใสป่ ุย๋ มีประสิทธภิ าพ ของธาตุอาหารในดินให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่าง สม่�าเสมอ แต่การใช้น้ันต้องเป็นการใช้ที่มีประสิทธิภาพ 1. ปรับปรุงบ�ารุงดินเพ่ือเพ่ิมระดับอินทรียวัตถุใน สูงสุด ทั้งการเลือกใช้สูตรปุ๋ยที่แนะน�าตามชนิดของดิน ดิน โดยการใสป่ ยุ๋ อินทรยี ์ เชน่ ปุ๋ยคอก ปุย๋ หมัก หรอื ปลูก และแหล่งปลูกยาง ใส่ปุ๋ยตามอัตรา ตามเวลาท่ีเหมาะ พืชคลมุ ดิน เพ่ือชว่ ยใหโ้ ครงสรา้ งของดนิ ดีข้ึน การระบาย สม และใส่ด้วยวิธีการท่ีถูกต้อง จึงจะให้ผลตอบแทนคุ้ม น�้าและอากาศดีขึ้น ช่วยเพิ่มความคงทนของการจับตัว ค่ากับการลงทุน ในภาวะปัจจุบันท่ีมุ่งเน้นการเกษตร เป็นเม็ดดิน และเป็นแหล่งอาหารให้แก่จุลินทรีย์ที่เป็น ยัง่ ยนื การอนรุ กั ษ์สิง่ แวดล้อม และการลดใชส้ ารเคมี สง่ ประโยชนใ์ นดิน ผลให้ป๋ยุ อนิ ทรีย์และปยุ๋ ชวี ภาพมีบทบาทมากขนึ้ กระน้ัน ก็ตามจะเลือกใช้ปุ๋ยชนิดใด อย่างไร ควรค�านึงถึงหลัก 4 2. การท�าขน้ั บนั ไดในพน้ื ท่ีลาดชัน ถกู คือ ถูกสตู ร ถกู อตั รา ถกู เวลา และถกู วธิ ี การใช้ปุ๋ยจึง 3. ดูแลรักษาสวนยางก่อนเข้าฤดูแล้งโดยการใช้ จะเกดิ ประสทิ ธภิ าพ วัสดคุ ลมุ ดินรอบตน้ ยางในชว่ ง 2 ปแี รกหลงั การปลกู จะ ช่วยให้ดินเก็บความชื้นไว้ได้ในช่วงฤดูแล้ง ไม่ควรตัด แต่งก่ิงในช่วงฤดูแล้ง และควรทาปูนขาวบริเวณโคนต้น

25 ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์ 39 ตุลาคม-ธนั วาคม 2562 มุกดา สุขสวัสดิ์. 2548. ความอุดมสมบูรณ์ของดิน. โอเดยี นสโตร:์ กรุงเทพมหานคร. บรรณานุกรม วเิ ชียร จาฏพุ จน.์ 2550. ความอุดมสมบรณู ข์ องดนิ (Soil กิตตินันท์ ธีระวรรณวิไล. 2542. ความรู้ทั่วไปเก่ียวกับ Fertility). คณะทรพั ยากร-ธรรมชาติ มหาวทิ ยาลยั - ปุ๋ยและปัจจัยที่เก่ียวข้องกับการใช้ปุ๋ย. กลุ่มงาน สงขลานครนิ ทร.์ 156 หน้า. วิจัยความอุดมสมบูรณ์ของดินและปุ๋ยพืชไร่ กอง ปฐพีวิทยา กรมวิชาการ-เกษตร. โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ากัด: กรุงเทพมหานคร.



27 ฉบับอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 การตดั แต่งก่งิ เพือ่ เพมิ่ พน้ื ที่ใบ และ การเจริญเตบิ โตของตน้ ยาง ภัทธาวธุ จวิ ตระกลู 93/75 นพิ ัทธส์ งเคราะห์ 5 ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา 90110 e-mail: [email protected] ใบเป็นอวัยวะที่มีบทบาทต่อการเจริญเติบโต ขัน้ ตอนการปฏบิ ัติ ของพืช ท่ีส�าคัญคือ ท�าหน้าท่ีสังเคราะห์แสง หรือปรุง อาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ซึ่งโดยท่ัวไปแล้ว ในพืชชนิด ตน้ ยาง 2-3 ฉตั ร เดียวกัน ต้นที่มีใบมากย่อมมีพ้ืนที่รับแสงเพื่อใช้ใน เปน็ ต้นยางอายุประมาณ 3-4 เดอื น หลงั จาก Cut ขบวนการสังเคราะห์แสงได้มากกว่าต้นท่ีมีใบน้อย ด้วย หลักการดังกล่าว ในการตัดแต่งต้นยางอ่อน การชะลอ back เป็นการตัดแต่งกิ่งตามปกติ ซึ่งการแตกก่ิงของต้น การตัดแต่งกิ่งท่ีอยู่ในระดับต�่ากว่า 2 เมตร ไว้เป็นระยะ ยางอาจมไี ด้หลายแบบ ดงั น้ี เวลาหนึ่ง แล้วจึงค่อยตัดออก สามารถเพิ่มพื้นที่ใบได้ มากกว่าการตัดแต่งกิ่งแบบท่ีปฏิบัติกันท่ัวไป (ตัดก่ิงท่ี แบบท่ี 1 ต้นยางแตกกิ่งเป็นรูปตัววี (V) ที่ระดับ ระดับ 2 เมตร หรอื มากกว่า 2 เมตร จากพืน้ ดิน) จากการ 0.5 หรอื 1.0 เมตร โดยประมาณ ให้ตดั กิง่ ใดก่งิ หนง่ึ ออก ศกึ ษาเปรยี บเทยี บระหวา่ งวธิ กี ารตดั แตง่ ทง้ั 2 แบบ พบวา่ เหลือเพียงก่ิงเดียวซึ่งอยู่ในเดียวเดียวกับส่วนของล�าต้น การตัดแต่งแบบเพิ่มพื้นที่ใบในขณะที่ต้นยางยังเล็กอยู่ ขา้ งลา่ ง (ภาพท่ี 1) สามารถท�าให้ต้นยางเจริญเติบโตได้ดีกว่าการตัดแต่ง แบบไม่เล้ียงก่ิงหรือแบบที่ปฏิบัติกันอยูท่ัวไปในปัจจุบัน แบบที่ 2 ต้นยางแตกกิ่งเป็นง่าม 3 กิ่ง ท่ีระดับ (Yoon and Leong, 1976; Leong and Yoon, 1983) ความสงู 0.5 เมตร จากพน้ื ดิน โดยสองกิง่ ท่ีแตกออกดา้ น ดังน้ัน บทความนี้จะน�าเสนอวิธีปฏิบัติการตัดแต่งแบบ ขา้ ง อาจจะมีความแข็งแรงกว่ากงิ่ ท่อี ย่ตู รงกลาง ในกรณี เล้ยี งกิ่งของ Leong and Yoon (1983) ซงึ่ ท�ากับยางพนั ธุ์ เช่นน้ี ให้ตัดก่ิงที่อยู่ด้านข้างท้ังสองก่ิงออก เหลือก่ิงตรง RRIM 600 และได้มีการพัฒนาให้สามารถปฏิบิติได้ง่าย กลางทตี่ ายอด (Terminal bud) ยังคงสมบรณู ์ไว้ก่ิงเดียว กว่าวิธีที่ได้ศึกษามาก่อน โดยจะสรุปการปฏิบัติให้เห็น (ภาพที่ 2a) เปน็ ขั้นตอนตา่ ง ๆ ตามการเจรญิ ของตน้ ยาง และจะมขี อ้ เสนอแนะเก่ียวกับการน�าเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ใน แบบที่ 3 ต้นยางแตกกงิ่ มากกว่า 3 ก่ิง ที่ระดบั ต�่า ตอนท้ายของบทความ กวา่ 1.0 เมตร จากพนื้ ดนิ ใหต้ ัดกิ่งทีย่ งั ไมแ่ ตกยอดออก ให้หมด เหลือไว้เพียงก่ิงที่สมบรูณ์เพียงกิ่งเดียว (ภาพที่ 2b) หรือตัดกิ่งที่แคระแกรนออก คงไว้เฉพาะก่ิงที่ สมบรณู ์ (ภาพท่ี 2c) *อดตี นกั วชิ าการศนู ยว์ จิ ยั การยาง และศนู ยว์ จิ ยั ยางสงขลา อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา (ระหวา่ งปี 2517-2553)

ความ ูสงต้นยาง (ม.)28 ฉบับอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 2.0 ก่ิงทีต่ ัดออก 1.5 1.0 0.5 0a b ภาพที่ 1 ตน้ ยางแตกกง่ิ เปน็ รปู ตวั วี (V) ทร่ี ะดบั ตา�่ กวา่ 1 เมตร จากพน้ื ดนิ c 2.0ความ ูสงต้นยาง (ม.) ก่ิงท่ีตัดออก b 1.5 1.0 0.5 0a ภาพที่ 2 ตน้ ยางแตกกงิ่ 3-4 กงิ่ ทร่ี ะดบั ตา่� กวา่ 1 เมตร จากพนื้ ดนิ

29 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 แตกก่ิงเพ่ือสร้างทรงพุ่ม ที่ระดับความสูงประมาณ 2.0 เมตร (ภาพท่ี 4b, 4c และ ภาพท่ี 5) ตอ้ งชกั นา� ให้ตน้ ยาง ต้นยาง 4 ฉัตร มีการแตกกง่ิ โดยวธิ ีรวบใบฉัตรบนสุด จ�านวน 4-5 ใบ ลง เป็นต้นยางที่มีอายุประมาณ 5-6 เดือน หลังจาก มาห้มุ บรเิ วณยอด แล้วใชย้ างวง 2 เส้น รดั ไวเ้ ป็นเวลา 2 สัปดาห์ (ภาพที่ 6) จะมีตาก่ิงแขนงแตกออกมาที่ระดับ Cut back เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดแต่งก่ิงแบบควบคุม ความสูงประมาณ 2 เมตร อย่างไรก็ตาม ผลส�าเร็จของ (Controlled pruning) โดยเล้ยี งกง่ิ ทอี่ ยู่ต่�ากวา่ ความสงู 1 เปอร์เซ็นต์ต้นท่ีมีการแตกกิ่งขึ้นอยู่กับอายุของใบท่ีใช้หุ้ม เมตร จากพนื้ ดนิ ให้สรา้ งใบจนได้ 3 ฉตั ร แล้วจึงตัดออก สว่ นยอดด้วย (ตารางท่ี 1) เหลือก่งิ ทอ่ี ยูเ่ หนอื ข้ึนไปท่รี ะดับประมาณ 1 เมตร จากพนื้ ดิน ซงึ่ มใี บได้ 2 ฉตั ร (ภาพท่ี 3a) ตน้ ยาง 6 ฉตั ร เป็นตน้ ยางทม่ี อี ายุประมาณ 9-10 เดือน หลังจาก ตน้ ยาง 5 ฉัตร เป็นต้นยางท่ีมีอายุประมาณ 7-8 เดือน หลังจาก Cut back การตดั แต่งกงิ่ คล้ายกบั ต้นยาง 5 ฉตั ร (ภาพท่ี 3b) ซึ่งสุดท้ายแล้ว จะได้ต้นยางท่ีมีการแตกกิ่งที่ระดับ Cut back เล้ียงก่ิงที่ความสูงประมาณ 1 เมตร จากพื้น ความสูง 2 เมตร จากพ้ืนดิน แต่ถ้าหากต้องการตัดแต่ง ดนิ ให้มใี บได้ 3 ฉัตร แล้วจงึ ตดั ออก เหลอื กงิ่ ทอี่ ย่เู หนอื ใหส้ งู กวา่ 2 เมตร กใ็ หใ้ ช้วิธีที่ท�ากบั ตน้ ยาง 5 ฉัตร โดยตัด ข้ึนไปที่ระดับ 1.5 เมตร จากพื้นดิน ซ่ึงมีใบได้ 2 ฉัตร แตง่ ก่งิ ล่างสดุ ออก (ภาพที่ 3b) แตใ่ นกรณที ี่ต้นยางแตกกิ่งน้อย ให้เลย้ี งก่งิ ที่ ระดับ 0.5 เมตร จากพืน้ ดนิ จนมใี บได้ 4 ฉัตร และกง่ิ ท่ี ผลท่ไี ด้รับ ระดบั 1.0 เมตร จากพื้นดนิ จนมใี บได้ 3 ฉัตร แลว้ จงึ ตัด ออก เหลือก่ิงที่อยู่เหนือข้ึนไปท่ีระดับความสูง 2 เมตร เมื่อเทียบกับวิธีการตัดแต่งที่ปฏิบัติกันทั่วไป คือ (ภาพท่ี 4a และ 4b) ในกรณีเดียวกัน (ต้นยางแตกก่ิง น้อย) ถา้ ลา� ตน้ ของตน้ ยางทมี่ ใี บได้ 5 ฉตั ร ใบยงั ไม่มกี าร 3.0 กิ่งทต่ี ดั ออก 2.5 ความ ูสงต้นยาง (ม.) 2.0 1.5 1.0 0.5 0a b c ภาพท่ี 3 การตดั แตง่ ตน้ ยาง 4 (a), 5 (b) และ 6 (c) ฉตั ร จนสดุ ทา้ ยจะเหลอื กงิ่ ทร่ี ะดบั 2 เมตร จากพนื้ ดนิ (c)

30 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธันวาคม 2562 ขกั น�าใหม้ ีการแตกกง่ิ 3.0 ก่งิ ท่ีตัดออก 2.5 ความ ูสงต้นยาง (ม.) 2.0 1.5 1.0 0.5 0a b c ภาพท่ี 4 การตดั แตง่ ตน้ ยาง 5 ฉตั ร ในกรณที ต่ี น้ ยางแตกกงิ่ นอ้ ย และไมแ่ ตกกง่ิ ทร่ี ะดบั ความสงู 2.0 เมตร (b และ c) ตารางท่ี 1 เปอร์เซน็ ต์ส�าเร็จในการสรา้ งทรงพุ่มโดยวธิ รี วบใบเมอ่ื ใบทีฉ่ ตั รยอดมอี ายตุ ่างกัน จา� นวนยางวง สภาพของฉตั รยอด (เสน้ ) ใบแก่ ใบเพสลาด ยอดออ่ นสน้ั กว่า 2 ซม. ไม่สร้างทรงพุ่ม 1 26 23 13 2 63 76 50 77 81 68 ทมี่ า: RRIM (1976) ตดั กิ่งทีอ่ ยู่ตา่� กว่าระดับ 2.4 เมตร ออกทั้งหมด ในทุก ๆ 2 19.2 เปอรเ์ ซ็นต์ (ภาพท่ี 7) และผลผลิตในปีกรีดท่ี 1 ก็สูง เดือน หรือเป็นการตัดแต่งแบบไม่เลี้ยงกิ่ง ปรากฏว่า วิธี กว่าถึง 40 เปอร์เซน็ ต์ (Leong and Yoon, 1983) การเลี้ยงกิ่งจนมีใบ 3 ฉัตร แล้วจึงตัดออก ร่วมกับการ ชกั น�าให้มกี ารสร้างก่งิ ในกรณีทีต่ ้นยางไมแ่ ตกก่ิงท่รี ะดบั ส�าหรับข้อกังวลว่า การตัดแต่งกิ่งท่ีเล้ียงจนมี ความสูง 2 เมตร จากพน้ื ดิน ดงั รายละเอียดท่ีได้กลา่ วมา ขนาดใหญ่จะมีปัญหาต่อโครงสร้างเปลือกและการกรีด ข้างต้น ต้นยางจะเจริญเติบโตดีกว่า กล่าวคือ มีจ�านวน หรือไม่นั้น จากการศึกษาพบว่า แผลท่ีเกิดจากการตัด ต้นยางท่ีได้ขนาดเปิดกรีดมากกว่าวิธีท่ีปฏิบัติกันทั่วไป แต่งซึ่งมีหลายขนาด แต่แผลทุกขนาดจะสมานได้สนิท ภายในปีเดียวหลังจากตัดแต่งกิ่ง (ตารางท่ี 2) และเมื่อ

31 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 39 ตุลาคม-ธันวาคม 2562 a b ภาพท่ี 5 ตน้ ยางพนั ธ์ุ RRIT 251 อายปุ ระมาณ 2½ ปี ตน้ ขวามอื ยงั ไมม่ กี าร ภาพที่ 6 การชกั นา� ใหเ้ กดิ การแตกกง่ิ ใตฉ้ ตั รใบบนสดุ ซงึ่ มคี วามสงู ประมาณ แตกกง่ิ เพอื่ สรา้ งทรงพมุ่ (วงรสี แี ดง) จงึ มพี นื้ ทใ่ี บนอ้ ย ทา� ใหก้ ารเจรญิ เตบิ โตชา้ 2.5 เมตร ปฏบิ ตั โิ ดยรวบใบของฉตั รยอดสดุ จา� นวน 4-5 ใบ (a) พบั ใบลงมาหมุ้ ตา่ งจากตน้ ซา้ ยมอื มกี ารแตกกง่ิ ลรา้ งทรงพมุ่ ทม่ี ใี บมาก ทา� ใหก้ ารเจรญิ เตบิ โตดี บรเิ วณสว่ นยอด แลว้ ใชย้ างวง จา� นวน 2 เสน้ รดั ไว้ (b) กวา่ ้ตนยาง ่ทีเปดก ีรดไ ้ด ( ) 90 80 70 60 50 40 30 20 0 4 4½ 5 ปี หลังจากเร่ิมตัดแต่งกิ่ง ภาพที่ 7 ผลของวธิ กี ารตดั แตง่ กงิ่ ตอ่ ความสามารถในการเปดิ กรดี และชว่ งระยะเวลาของตน้ ยางกอ่ นเปดิ กรดี (ทมี่ า: Leong and Yoon,1983)

32 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ตารางที่ 2 อัตราการสมานแผลทีม่ ีขนาดตา่ ง ๆ กัน ขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลาง จา� นวนแผล เฉลี่ยเปอรเ์ ซ็นต์การสมานแผล ของแผล (ซม.) 12 3 เดือน 6 เดือน 12 เดอื น 4.5 18 5.4 5 71.4 95.8 100 6.6 74.3 97.2 100 71.0 96.7 100 ทม่ี า: Leong and Yoon (1983) ถึงระยะเวลาเปิดกรีดก็ไม่มีผลต่อจ�านวนท่อน�้ายางใน สรปุ และข้อเสนอแนะ เปลอื กแตอ่ ย่างใด การตัดแต่งกิ่งต้นยางในช่วง 1 ปี หลังจากปลูก วิธีการตัดแตง่ ก่ิงและข้อควรระวงั เปน็ ข้ันตอนหน่ึงท่ีมีความส�าคญั เพราะถ้าหากตัดแต่งกิง่ ไม่ถูกต้องต้ังแต่ต้นยางยังเล็กอยู่จะได้ต้นยางท่ีมีรูปทรง เน่ืองจากก่ิงที่เล้ียงเป็นระยะเวลาหนึ่งมีขนาด หรือทรงพุ่มที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการให้ ใหญ่พอสมควร ดงั น้นั การตดั กิ่งท่เี ลย้ี งไวอ้ อกจากล�าต้น ผลผลิต เช่น ตัดแต่งก่ิงสูงเกินไป ก็จะได้พุม่ ใบเล็ก (ภาพ ต้องไม่ท�าใหเ้ นอ้ื เย่ือบรเิ วณล�าตน้ ไดร้ ับความเสียหาย ซง่ึ ที่ 11) ส่งผลใหต้ ้นยางเจรญิ เติบโตชา้ มีวิธีปฏบิ ตั แิ ละข้อควรระวงั ดงั น้ี บทความนี้ได้น�าเสนอวิธีการตัดแต่งตามวิธีการ 1. ในเบ้ืองต้น ต้องทราบต�าแหน่งของ Branch ของ Leong and Yoon (1983) โดยชะลอการตัดแต่งกิ่งท่ี collar และ Branch bark ridge เพ่ือก�าหนดจุดตัดก่ิงท่ี อยู่ในระดับล่าง ๆ เป็นระยะเวลาหน่ึง แล้วจึงตัดออก ถกู ต้อง (ภาพท่ี 8 และ ภาพท่ี 9a) จากนั้นก็เลี้ยงก่ิงที่อยู่สูงถัดขึ้นไปเป็นระยะเวลาหนึ่งอีก จนกระทั้งเหลือก่ิงท่ีอยู่ที่ระดับความสูง 2 เมตร วิธีการนี้ 2. การตัดแต่งชิดล�าต้นมากไป (Flush cut) จะ เปน็ การเพ่มิ พน้ื ที่ใบให้กบั ตน้ ยางเล็ก หรือท�าใหต้ น้ ยางมี ท�าให้เกิดบาดแผลที่ล�าต้น ก่อให้เกิดการผุของล�าต้นได้ ใบท่ีท�าหน้าท่ีสังเคราะแสงเพ่ิมขึ้น ส่งผลให้ต้นยางเจริญ (ภาพที่ 9c) เติบโตถึงระยะเวลาเปิดกรีดได้เร็วข้ึน เมื่อเทียบกับการ ปล่อยให้มีการแตกกิ่งท่ีระดับความสูง 2.4 เมตร และ 3. การตัดห่างจากล�าตน้ มากไป (Stub cut) ท�าให้ ไม่มีการเล้ยี งกิ่ง การสมานแผลบริเวณรอยตัดหายช้าและอาจเป็นจุดที่ ท�าให้เชอื้ ราเขา้ ทา� ลายได้ (ภาพที่ 9b) ส�าหรับในเร่ืองของการปฏิบัติ ถือว่ายังมีความ ซับซ้อน ต้องอาศัยความเข้าใจและความช�านาญจึงจะ 4. กรรไกรที่ใช้ตัดต้องสะอาดและคม เพราะจะ สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในประเด็นนี้ ท�าใหผ้ ิวหนา้ ก่งิ ทถี่ กู ตดั เรยี บ อาจกล่าวได้ว่า ชาวสวนยางโดยท่ัวไปคงไม่สามารถ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ดงั นั้น จึงเกิดค�าถามว่า แลว้ เทคโนโลยีนจี้ ะนา� 5. การตัดก่ิง ควรหันด้านเรียบของกรรไกรเข้าหา มาใช้พัฒนาการท�าสวนยางของประเทศได้อย่างไร ผู้ ล�าต้น เพราะจะเข้าหาจุดตัดท่ีอยู่ใกล้ล�าต้นได้มากขึ้น เขียนมีข้อเสนอแนะว่า ควรเป็นหน้าท่ีของผู้ที่ได้รับการ (ภาพที่ 10) ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หรือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ หรือ กล่าวในอีกความหมายหน่ึงก็คือ เจ้าของสวนไม่ต้อง 6. หลงั จากตดั แต่งก่งิ แล้ว ควรใช้ปนู แดง หรอื ปูน ขาว ทาปดิ บรเิ วณรอยแผล

33 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธันวาคม 2562 ตา� แหนง่ ทต่ี ดั รอยตอ่ ระหวา่ งเนอ้ื เยอ่ื ของกง่ิ และเนอ้ื เยอ่ื ของลา� ตน้ Branch bark ridge } Branch collar ภาพท่ี 8 ตา� แหนง่ ของการตดั แตง่ กง่ิ โดยมใิ หเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ลา� ตน้ (ทม่ี า: กรงุ เทพมหานคร, ม.ป.ป.) a b c ภาพท่ี 9 ผลของการตดั กงิ่ ทต่ี า� แหนง่ ตา่ ง ๆ (a) ตา� แหนง่ ทเ่ี หมาะสม โคนกงิ่ จะสมานแผลไดเ้ รว็ , (b) การตดั เหลอื โคนกง่ิ ยาว เชอื้ ราเขา้ ทา� ลายไดง้ า่ ย และ (c) การตดั ทท่ี า� ลายสว่ นคอกงิ่ เกดิ แผล เชร้ื าเขา้ ทา� ลาย (ทมี่ า: กรงุ เทพมหานคร, ม.ป.ป.)

34 ฉบบั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธันวาคม 2562 ภาพท่ี 10 การใชก้ รรไกรตดั แตง่ กง่ิ ควรหนั ดา้ นเรยี บของกรรไกรเขา้ หาลา� ตน้ ปฏิบัติเอง แต่ว่าจ้างผู้ท่ีมีความช�านาญในการตัดแต่งกิ่ง ตามวธิ ที ี่ได้กลา่ วมาข้างตน้ อาจจะในท�านอง จา้ งใหป้ ลกู ต้นยาง พรอ้ มกบั ตัดแตง่ กงิ่ ดว้ ย ซ่งึ โดยทวั่ ไป การทา� สวน ยางก็เป็นงานที่แบ่งกันท�าอยู่แล้ว เช่น การติดตา การ ผลิตยางช�าถุง การพ่นสารเคมีปราบวัชพืช และการเก็บ เก่ียวผลผลิต แนวทางที่เสนอน้ีสามารถสร้างอาชีพให้คน อีกกลุ่มหน่ึง คือ อาชีพรับจ้างตัดแต่งก่ิงต้นยางเล็ก ถ้า หากเกิดขึ้นได้จริงก็เป็นวิธีการหนึ่งท่ีช่วยยกระดับ ประสทิ ธภิ าพการทา� สวนยางของประเทศใหส้ งู ขนึ้ อกี ขน้ั หนงึ่ เอกสารอ้างองิ ภาพที่ 11 ตน้ ยางพนั ธ์ุ RRIT 251 อายปุ ระมาณ 2½ ปี ตดั แตง่ สงู เกนิ ไป (เกอื บ 10 เมตร จากพน้ื ดนิ ) จนเหลอื พมุ่ ใบนดิ เดยี ว กรุงเทพมหานคร, ม.ป.ป. คู่มือการบ�ารุงรักษาและตัด แต่งต้นไม้. แหล่งข้มูล: http://www.bangkok. go.th/chatuchak/ ค้นเม่อื 20 ธนั วาคม 2562. Leong, W. and P. K. Yoon. 1982. Effect of low and controlled pruning on growth and yield of Hevea brasiliensis. Proc. Rubb. Res. Inst. Malaysia Plrs' Conf. Kuala Lumpur 1983: 261- 285. Rubber Research Institute of Malaysia, 1976. Branch induction of young trees. Plrs, Bull. Rubb. Res. Inst. Malaysia No. 147: 149-155. Yoon, P. K., W. Leong and Mohd. Ghouse Bin Wanchik. 1976. An approach to modify branching habits- Its effects and potentials. Proc. Rubb. Res. Inst. Malaysia Plrs' Conf. Kuala Lumpur 1976: 143.

ใชก้ รดซลั ฟวิ ริกในการท�ายางกอ้ นถ้วย ✘ซัลฟวรกิ ✔ฟอรม์ ิก 1. โรงงานผู้ผลิตยางลอ้ ไม่รบั ซื้อ 1. เป็นทต่ี อ้ งการของโรงงาน 2. ไดย้ างคุณภาพตา�่ 2. ไดย้ างคณุ ภาพดี 3. ท�าให้เคร่ืองจักรเสยี หาย 3. ไม่ท�าใหเ้ คร่ืองจกั รเสียหาย 4. หน้ากรดี ยางเสยี หาย 4. ไม่กระทบต่อหนา้ กรีดยาง 5. อันตรายต่อสุขภาพ 5. ไม่กระทบต่อสขุ ภาพ 6. สรา้ งมลพิษตอ่ สิ่งแวดล้อม 6. ไม่กระทบตอ่ สิ่งแวดล้อม สอบถามข้อมลู ไดท้ ี่ สถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย โทร. 0-2579-1576 ต่อ 301, 0-2940-6653

36 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 แนมโน้มความตอ้ งการ และการเปล่ียนแปลง ของตลาดผลติ ภณั ฑ์ยางพารา อธิชา อินทอง และ วิญญู โครมกระโทก ฝา่ ยวจิ ยั และพัฒนาเศรษฐกจิ ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย ปัจจุบันประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการผลิต วิธีการศกึ ษา ผลิตภัณฑ์จากยางพาราเพ่ือการส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และมมี ูลคา่ การส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ เพ่มิ การวิเคราะห์แนมโน้มความต้องการ และการ มากข้ึนทุกปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการ เปล่ียนแปลงของตลาดผลิตภัณฑ์ยางพารา มีขั้นตอน ผลิตภัณฑ์ยางพารา แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม ประเทศไทยมอิ าจ การวิเคราะห์ (ภาพที่ 1) ดงั น้ี หลีกเล่ียงการแข่งขันกับทางการค้าระหว่างประเทศได้ เพราะเศรษฐกิจมีการเชื่อมโยงระหว่างกันสูง อีกท้ังยัง 1) เก็บรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ มูลค่าการส่งออก เช่ือมโยงการลงทุนของประเทศต่าง ๆ และการย้าย และส่วนแบ่งทางการตลาดผลิตภัณฑ์ยางพารา 8 ถ่ินฐานการผลิตทั้งแรงงานและเทคโนโลยีไปในประเทศ ผลิตภัณฑ์ ที่มีมูลค่าและส่วนแบ่งสูงท่ีสุด ณ ช่วงเวลาที่ ที่มีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยและ ต่างกัน ต้ังแต่ พ.ศ. 2557 – 2561 จาก International พัฒนาเศรษฐกิจ การยางแห่งประเทศไทย จึงมีความ Trade Centre จ�านวน 8 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยางรีเครม, สนใจศึกษาวิเคราะห์แนวโน้มการเปล่ียนแปลงของ หลอดและท่อ, ด้ายและด้ายชนิดคอร์ด, สายพาน สินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราในอนาคต รวมทั้งศักยภาพ ล�าเลียงและส่งก�าลัง, ยางนอกยานพาหนะ, ยางใน, ของ ทางการแข่งขันในตลาดของสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพารา ท่ีใช้เพื่อการอนามัยและเภสัชกรรม และ ของแต่งกาย ของไทย โดยศึกษาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกมาก และประกอบเครื่องแต่งกายรวมถึงถงุ มือ ท่สี ุด 8 ผลติ ภัณฑ์ ได้แก่ ยางรเี ครม,หลอดและทอ่ , ดา้ ย และด้ายชนิดคอร์ด, สายพานล�าเลียงและส่งก�าลัง, ยาง 2) วิเคราะห์ศักยภาพและความสามารถใน นอกยานพาหนะ, ยางใน, ของที่ใช้เพื่อการอนามัยและ การแข่งขันผลิตภัณฑ์ยางของไทยกับตลาดโลก โดย เภสัชกรรม และของแต่งกายและประกอบเครื่องแต่ง วิ เ ค ร า ะ ห ์ ดั ช นี ค ว า ม ไ ด ้ เ ป รี ย บ โ ด ย เ ป รี ย บ เ ที ย บ กายรวมถึงถุงมือ โดยวิเคราะห์ข้อมูลในประเด็น (Revealed Comparative Advantage : RCA) ศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันสินค้า ผลิตภัณฑ์ยางของไทย สถานการณ์ทางการตลาดสินค้า 3) วิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง และพยากรณ์แนวโน้มและทิศทางของ ยาง โดยเครื่องมือ Boston Consulting Group หรือ สินคา้ ผลติ ภณั ฑ์ยางพารา ปี 2562 -2564 BCG Matrix 4) พยากรณ์แนวโน้มและทิศทางของสินค้า ผลิตภัณฑ์ยางพารา ปี 2562 -2564 โดยใช้วิธีการ วิเคราะห์แนวโน้ม (Trend analysis) อาศัยวิธีการก�าลัง สองน้อยทสี่ ดุ ซ่งึ มคี วามสมั พันธเ์ ป็นเส้นตรง

37 ฉบับอิเลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 Output Input แนมโนม้ ความตอ้ งการ และ การเปลย่ี นแปลงของตลาด มลู ค่าการสง่ ออกสนิ ค้าผลติ ภัณฑ์ 1. วิเคราะห์ศักยภาพและ ยางพารา 8 ผลิตภณั ฑ์ที่มมี ูลคา่ ความสามารถในการ ผลิตภณั ฑย์ างพารา การสง่ ออกมากที่สุด ณ ช่วงเวลาที่ แข่งขันสินค้าผลิตภัณฑ์ยาง ของไทยกับตลาดโลก โดยใช้ ตา่ งกนั เคร่ืองมือ RCA ขอ้ มูลส่วนแบ่งทางการตลาดของ 2. วิเคราะห์สถานการณ์ทาง ผลิตภณั ฑ์ยาง 8 ผลิตภณั ฑ์ การตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ ทม่ี ีมลู ค่าการส่งออกมากทส่ี ุด ยาง โ ดยเครื่องมือ BCG ณ ช่วงเวลาท่ตี ่างกัน Matrix 3. พยากรณ์แนวโน้มและ ทิศทางของสินค้าผลิตภัณฑ์ ยางพารา ปี 2562 -2564 โ ด ย ใ ช้ วิ ธี ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ แนวโน้ม (trend analysis) ภาพท่ี 1 การวเิ คราะหแ์ นมโนม้ ความตอ้ งการ และการเปลยี่ นแปลงของตลาดผลติ ภณั ฑย์ างพารา ศักยภาพและความสามารถในการแข่งขนั แข่งขันของตลาดโดยเปรียบเทียบ เป็นการวิเคราะห์ใน สินคา้ ผลติ ภณั ฑย์ างของไทย ระดับสองหลัก และ ดชั นี RCA ที่ค�านวณจะระบสุ นิ ค้าท่ี มีความสามารถในการแข่งขันและมีความอ่อนไหว และ ผลิตภัณฑ์ยางที่มีมูลค่าการส่งออกและท�ารายได้ ดัชนี RCA เป็นการวิเคราะห์แบบ Static ซึ่งเป็นค่า ณ ให้กับประเทศไทย ต้งั แต่ ปี 2557 - 2561 (International ชว่ งเวลาใดเวลาหนึง่ เท่านั้น ดังนน้ั สามารถใช้การเปรียบ Trade Centre, 2562) มากท่ีสุด คือ ยางนอกยานพาหนะ เทียบระหว่างช่วงเวลาได้ (Comparative static) เม่ือได้ ยาง รองลงมา คือ ของแต่งกายและประกอบเคร่อื งแต่ง คา่ RCA > 1 แสดงวา่ ประเทศไทยมคี วามไดเ้ ปรียบโดย กายรวมถึงถุงมือ, หลอดและท่อ, ด้ายและด้ายชนิด เปรียบเทียบในการส่งออกสินค้าน้ัน ๆ ไปยังประเทศ คอร์ด, ของท่ใี ช้เพ่อื การอนามยั และเภสชั กรรม, สายพาน ตา่ ง ๆ ท่วั โลก (เมอ่ื เทยี บกบั ตลาดโลก) และเมอื่ คา่ RCA ล�าเลียงและส่งก�าลัง, ยางใน และยางรีเครม ตามล�าดับ < 1 แสดงว่าประเทศไทยมีความเสียเปรียบโดยเปรียบ (ตารางที่ 1) เทียบในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก (เมอื่ เทยี บกบั ตลาดโลก) (Balassa, 1965) ดังน้ี การวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันกับ ตลาดต่างประเทศ โดยวิเคราะห์ดัชนีความได้เปรียบโดย เปรียบเทียบ (Revealed Comparative Advantage : RCA) ซ่ึงนิยมใช้ในการวิเคราะห์ความสามารถในการ

ตารางที่ 1 มูลคา่ การส่งออกผลติ ภัณฑ์ยางของไทย ผลติ ภัณฑ์ 2557 2 ยางรีเครม 4,166 28 หลอดและท่อ 290,211 24 ดา้ ยและด้ายชนิดคอร์ด 272,521 12 สายพานลา� เลยี งและส่งก�าลัง 129,637 3,40 ยางนอกยานพาหนะ 3,505,808 ยางใน 107,386 9 ของท่ใี ช้เพื่อการอนามัยและเภสชั กรรม 148,599 15 ของแตง่ กายและประกอบเครอ่ื งแตง่ กายรวมถึงถุงมือ 1,126,361 96 ทมี่ า: International Trade Centre (2562)

ปี 2557 - 2561 (หน่วย: พนั ดอลลารส์ หรฐั ฯ) 2558 2559 2560 2561 รวม 3,241 8,190 11,201 19,428 46,226 89,959 302,645 349,479 387,220 1,619,514 42,048 232,707 293,887 285,410 1,326,573 25,023 140,704 159,362 156,324 01,750 3,557,764 4,391,321 4,901,311 711,050 94,104 19,757,954 54,593 85,726 87,549 85,985 64,843 143,142 165,763 183,440 460,750 953,625 1,057,640 1,183,538 795,537 5,286,007

39 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 สถานการณ์ทางการตลาด สนิ คา้ ผลติ ภณั ฑ์ยาง RCATJ= XTJ / XT Xwj / Xw การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดของสินค้า ผลติ ภัณฑย์ าง ท้ัง 8 ผลติ ภัณฑ์ เพื่อใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการ โดยท่ี: ตัดสินและมองเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ยางไหนท่ีสามารถท�า XTJ คือ มูลค่าการส่งออกสินค้า j ของไทยไปยัง เงินและสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้ และใช้เป็นแนวทาง ตลาดโลก ในวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยวิเคราะห์ ยังตลาXดTโลคกือ มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดของไทยไป BCG Matrix ซ่ึงย่อมาจากค�าว่า “Boston Consulting Xwj คือ มลู ค่าการส่งออกสินค้า j ทั้งหมดของโลก Group” เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างการเปรียบเทียบ Xw คอื มลู ค่าการสง่ ออกสินคา้ ทั้งหมดของโลก ระหว่างส่วนแบ่งการตลาดเปรียบเทียบ (Relative จากการวิเคราะห์ พบว่า ปี 2558 และ ปี 2560 market share) และอัตราการเจรญิ เตบิ โตของผลิตภณั ฑ์ ผลิตภัณฑ์ยางที่มีความสามารถในการแข่งขันและมี (Growth rate) (เอกชยั , 2553) ใชข้ อ้ มูลการจัดจา� หนา่ ย ความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบเมื่อเทียบกับตลาดโลก ผลิตภัณฑ์ ปี 2558 – 2560 ผลการวิเคราะห์แสดงราย มากท่ีสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ด้ายและด้ายชนิดคอร์ด, ละเอยี ดไวใ้ นตารางที่ 3 ซง่ึ อธบิ ายได้ดังนี้ ของแต่งกายและประกอบเคร่ืองแต่งกายรวมถึงถุงมือ และของท่ใี ช้เพือ่ การอนามัยและเภสชั กรรม (ตารางที่ 2) 1) ผลิตภัณฑ์ยางท่ีมีอัตราการเติบโตและมีส่วน แบง่ ของตลาดสูง เป็นธรุ กิจทโี่ ดดเด่น หรืออย่ใู นตา� แหน่ง Star ได้แก่ ด้ายและดา้ ยชนดิ คอรด์ ดังน้ัน กลยทุ ธท์ ี่ตอ้ ง นา� มาใชก้ ับธรุ กจิ ประเภทนี้ คือ การลงทุนเพ่ือรักษาความ โดดเด่นท่ีเหนือกว่าคู่แข่งต่อไปเร่ือย ๆ เพราะไม่เช่นนั้น ตารางที่ 2 ดัชนีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ (Revealed Comparative Advantage : RCA) ของผลติ ภัณฑย์ าง 8 ผลติ ภัณฑ์ ผลติ ภัณฑ์ ดชั นีความไดเ้ ปรยี บโดยเปรียบเทยี บ (RCA) 2558 2560 ดา้ ยและดา้ ยชนดิ คอร์ด ของแตง่ กายและประกอบเครือ่ งแตง่ กายรวมถงึ ถงุ มอื 32.80 36.31 ของทีใ่ ชเ้ พื่อการอนามัยและเภสชั กรรม 11.31 10.75 ยางใน 10.96 9.67 ยางนอกยานพาหนะ 5.85 5.76 หลอดและท่อ 3.64 4.30 สายพานล�าเลียงและส่งกา� ลงั 2.51 2.59 ยางรเี ครม 1.90 2.10 0.78 2.40 ทมี่ า: ฝา่ ยวจิ ยั และพฒั นาเศรษฐกจิ ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย

40 ฉบบั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธันวาคม 2562 ment เพ่ือปรับปรุงกระบวนการให้สามารถตอบสนองต่อ ความตอ้ งการลูกคา้ อาจจะถูกคแู่ ข่งรายใหม่ ๆ เข้ามาแย่งส่วนแบง่ ในตลาด 2) ผลิตภณั ฑย์ างท่มี ีอัตราการเติบโตของตลาดต�า่ 4) ผลิตภัณฑ์ยางท่ีมีอัตราการเติบโตและมีส่วน แบ่งของตลาดต่�า อนาคตธุรกิจประเภทน้ีมีความเส่ียง แต่สว่ นแบ่งของตลาดสูง ธรุ กจิ ประเภทน้ีเปน็ ธรุ กิจหลกั ท่ี หรืออยู่ในต�าแหน่ง Dog ได้แก่ หลอดและท่อ สายพาน ท�าเงินให้กับองค์กร มีความม่ันคงและด�าเนินมาถึง ล�าเลียงและส่งก�าลงั และยางใน ดงั นน้ั กลยุทธ์ทีต่ ้องน�า จดุ อิม่ ตวั หรอื อยู่ในตา� แหน่ง Cash cows ไดแ้ ก่ ของท่ใี ช้ มาใชก้ ับธุรกิจน้ี คือ กลยุทธ์ในการถอย ขายท้งิ หรือเลิก เพ่ือการอนามัยและเภสัชกรรม และ ของแต่งกายและ ท�าธุรกิจน้ี แล้วปรับกระบวนการด�าเนินธุรกิจหรือ ประกอบเคร่ืองแต่งกายรวมถึงถุงมือ ดังน้ัน กลยุทธ์ที่ ทรัพยากรท่ีมีไปพัฒนาธุรกิจอ่ืนที่มีแนวโน้มไปต่อได้ ตอ้ งนา� มาใชก้ ับธรุ กจิ นี้ คอื การน�าก�าไรท่ไี ด้จากธุรกิจไป มากกวา่ ลงทุนต่อยอดในธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีอัตราการเติบโตของ ตลาดสงู การพยาการณแ์ นวโนม้ และทศิ ทางของสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑ์ยาง ปี 2562 - 2564 3) ผลิตภัณฑย์ างที่มีอตั ราการเตบิ โตของตลาดสูง แตม่ สี ว่ นแบง่ ของตลาดตา่� ธุรกิจประเภทนี้ สว่ นใหญ่มัก การพยากรณ์แนวโน้มมูลค่าการส่งออกของ มีปัญหามาจากการด�าเนินงานภายในองค์กรเองท่ียังมี ผลิตภัณฑ์ยาง ทั้ง 8 ผลิตภัณฑ์ ตง้ั แต่ ปี 2562 - 2564 จุดอ่อนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การ ด้วยวิธีการวิเคราะห์แนวโนม้ (Trend analysis) อาศัยวิธี ผลิต และอ่ืน ๆ ท�าให้สูญเสียความสามารถในการ การก�าลังสองน้อยที่สุด ซ่ึงมีความสัมพันธ์เป็นเส้นตรง แข่งขนั หรอื อยใู่ นต�าแหนง่ Question marks ไดแ้ ก่ ยาง โดยจากการวิเคราะห์ด้วยวิธีดังกล่าว พบว่า ผลิตภัณฑ์ รเี ครม และ ยางนอกยานพาหนะ ดังนัน้ กลยทุ ธท์ ตี่ อ้ งน�า ยางท่ีมีแนวโน้มการเจริญเติบโตของมูลค่าการส่งออก มาใช้กับธุรกิจน้ี คือ การปรับกลยุทธ์การตลาดในธุรกิจ ต่าง ๆ รวมไปถึงการท�า Business process improve- ภาพที่ 2 BCG Matrix ของสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑย์ าง ปี 2558 - 2560

41 ฉบับอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 39 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2562 ตลาดในการส่งออกเพิ่มข้ึน เพื่อท�าให้สินค้าประเภทน้ี สามารถสร้างรายได้ที่ย่ังยืนและเพ่ิมมากข้ึน ดังราย ของผลิตภัณฑ์ยาง ในช่วงปี 2562 - 2564 มากที่สุด คือ ละเอียดทแี่ สดงไว้ในตารางท่ี 3 ยางรีเครม รองลงมา คือ ยางนอกยานพาหนะ, หลอด และท่อ, สายพานลา� เลียงและส่งก�าลัง, ของทใี่ ช้เพอื่ การ สรปุ และขอ้ เสนอแนะ อนามัยและเภสัชกรรม, ด้ายและด้ายชนิดคอร์ด, ของ แต่งกายและประกอบเครื่องแต่งกายรวมถึงถุงมือ ผลิตภัณฑ์ยางท่ีมีศักยภาพและมีความได้เปรียบ มอี ัตราการเจรญิ เตบิ โต เทา่ กบั 54.03, 7.93, 2.91, 6.37, ทางการแข่งขัน อีกท้ังยังมีอัตราการเติบโตและมีส่วน 9.70, 5.03, และ 1.93 ตามล�าดับ และสินค้าที่ต้องเฝ้า แบ่งของตลาดสูง เป็นธุรกิจท่ีโดดเด่นในปัจจุบัน ได้แก่ ระวัง คือ ยางใน มีอตั ราการเจริญเติบโต อยทู่ ี่ -5.04 ซงึ่ ด้ายและด้ายชนิดคอร์ด ท�าจากยางวัลคาไนซ์ เนื่องจาก ควรได้รับการสนับสนุนเช่นเดียวกัน เพื่อเปิดตลาดใหม่ ผลิตภัณฑ์ชนิดน้ีเป็นส่วนประกอบที่เกี่ยวเนื่องกับความ ในการส่งออกสินค้าใหม่เพิ่มข้ึน จนสามารถพัฒนาเป็น ตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภคโดยตรง เช่น เส้อื ผ้า รองเทา้ ผา้ พัน สินค้าดาวรุ่งต่อไป ส่วนยางนอกยานพาหนะยังคงมี แผล ด้ายเย็บแผล ฯลฯ กลยุทธ์ส�าหรับธุรกิจประเภทน้ี ความส�าคัญ ซึ่งเห็นได้จากการเพ่ิมขึ้นอย่างมากของ คือ การลงทุนเพ่ือรักษาความโดดเด่นท่ีเหนือกว่าคู่แข่ง มูลค่าการส่งออกในทุก ๆ ปี และเป็นสินค้าหลักท่ีท�าให้ ตอ่ ไปเรื่อย ๆ เพราะไม่เช่นนน้ั อาจจะถกู คู่แข่งรายใหม่ ๆ การส่งออกของไทยมีมูลค่าเพ่ิมมากขึ้น ซึ่งคาดว่ามีการ เข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาด ส่วนธุรกิจที่มีความเสี่ยง ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในระยะยาวจากจ�านวนประชากรที่เพ่ิม ไดแ้ ก่ หลอดและทอ่ สายพานล�าเลียงและสง่ ก�าลงั และ ขึ้น และความเจริญเติบโตของการคมนาคมขนส่ง ท�าให้ ยางใน กลยุทธ์ที่ต้องน�ามาใช้กับธุรกิจน้ี คือ กลยุทธ์ใน อัตราการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มากข้ึนตามไป การถอย ขายท้ิง หรอื เลิกท�าธุรกิจนี้ แลว้ ปรบั กระบวนการ ด้วยน่ันเอง ดังนั้น จึงมีการสนับสนุนในการวิจัยการเพิ่ม ด�าเนินธุรกิจหรือทรัพยากรที่มีไปพัฒนาธุรกิจอ่ืนที่มีแนว ประสิทธิภาพการผลติ การพฒั นาเทคโนโลยี และการหา ตารางท่ี 3 พยากรณแ์ นวโนม้ มูลคา่ การสง่ ออกผลติ ภณั ฑย์ างของไทย ปี 2562 - 2564 (หนว่ ย: พนั ดอลลาร์สหรฐั ฯ) ผลิตภัณฑ์ 2562 2563 2564 ยางรเี ครม 27,484 42,332 65,204 หลอดและท่อ 404,524 436,618 471,258 ด้ายและดา้ ยชนิดคอร์ด 287,924 296,291 304,902 สายพานล�าเลยี งและส่งกา� ลงั 170,327 181,168 192,700 ยางนอกยานพาหนะ 5,610,566 5,660,978 6,209,913 ยางใน 78,622 74,663 70,903 ของท่ีใช้เพ่อื การอนามยั และเภสัชกรรม 183,640 192,882 202,590 ของแตง่ กายและประกอบเครอื่ งแตง่ กายรวมถึงถุงมือ 1,115,510 1,137,005 1,158,915 ทม่ี า: ฝา่ ยวจิ ยั และพฒั นาเศรษฐกจิ ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย

42 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 39 ตุลาคม-ธนั วาคม 2562 สัดสว่ นสูงสดุ คอื ยางนอกยานพาหนะ ทม่ี แี นวโนม้ ขยาย ตัวเพิ่มข้ึนอย่างต่อเน่ือง อันมีสาเหตุมาจากจ�านวนยาน โน้มไปต่อไดม้ ากกวา่ พาหนะที่เพ่ิมข้ึน ท�าให้มีความต้องการช้ินส่วนยานยนต์ จากผลการวิเคราะห์ดังกล่าวข้างต้นเป็นเพียง เพ่ิมข้ึน ส่วนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เป็นสินค้าที่มีอายุการใช้ งานระยะสั้น มีแนวโน้มความต้องการเพ่ิมขึ้นตามการ ตัวอย่างหน่ึงท่ีช้ีให้เห็นว่าการผลิตผลิตภัณฑ์ยางซ่ึงเป็น ขยายตัวของประชากรโลก อย่างไรตาม ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมข้ันปลายน้�าของประเทศจะช่วยให้ราคา ส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางของไทย ควร ยางพาราปรับตัวเพ่ิมขึ้นได้ นอกจากน้ี สถานการณ์การ ติดตามสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อราคาและต้นทุน ส่งออกยางธรรมชาติของไทยในปัจจุบันยังคงขยายตัวได้ การผลิตยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางอย่างใกล้ชิด อย่างต่อเน่ือง เนื่องจากประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันกับ ของโลกยังมีความต้องการยางเพ่ิมขึ้น เนื่องจาก ประเทศคู่แข่งของไทยไดอ้ ย่างทันท่วงที เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังคงขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะ ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศ เอกสารอา้ งองิ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อีกทัง้ ประเทศไทยมศี กั ยภาพใน การส่งออกยางธรรมชาติสูงกว่าประเทศคู่แข่ง เน่ืองจาก เอกชัย บุญยาทิษฐาน. 2553. คู่มือวิเคราะห์ SWOT มีอัตราเงินเฟ้อท่ีต�่า อย่างไรก็ตาม ศักยภาพในการ อยา่ งมอื อาชพี .สา� นกั พมิ พป์ ญั ชน:กรงุ เทพมหานคร. แข่งขันด้านต้นทุนการผลิตยางธรรมชาติประเทศไทยสูง กว่าประเทศคู่แข่งโดยเฉพาะต้นทุนแรงงานในการผลิต International Trade Centre. 2562. มูลค่าการส่งออก ยางธรรมชาติข้ันต้นและขั้นกลาง เนื่องจากค่าแรงงาน ผลติ ภณั ฑย์ างของไทย ปี 2557–2561. แหลง่ ข้อมูล: ข้ันต่�าสูงกว่าประเทศคู่แข่งอื่น ๆ ส่วนการส่งออก www.intracen.org ค้นเมอื่ 20 มถิ นุ ายน 2562. ผลิตภัณฑ์ยางของไทยคาดว่ายังคงขยายตัวได้อย่าง แข็งแกร่ง เน่ืองจากการขยายตัวของประชากรของโลก Balassa, B. 1965. Trade liberalization and \"revealed\" ท�าให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ยางเพ่ิมขึ้น โดย comparative advantage. Manchester School ผลิตภัณฑ์ยางท่ีมีความต้องการของตลาดโลกที่มี of Economics and Social Studies 33 : 99-124.




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook