คาอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ า สุขศึกษาและพลศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลา 80 ชั่วโมง/ปี รหสั วิชา พ 16101 ศึกษาอธบิ ายความสาคญั และวธิ ีดแู ลรกั ษาระบบอวยั วะสบื พันธ์ระบบไหลเวยี นโลหิตและ ระบบหายใจความสาคัญของการสร้างและรักษาสมั พันธภาพกับผอู้ นื่ วิเคราะห์พฤตกิ รรมเสย่ี งที่อาจนาไปสู่การ มเี พศสัมพันธแ์ ละการตง้ั ครรภก์ อ่ นวยั อันควรการตดิ เชอื้ เอดสท์ กั ษะการเคลอื่ นไหวรว่ มกบั ผอู้ ื่นในลักษณะแบบ ผลดั และผสมผสานท้ังแบบอยกู่ บั ทเ่ี คล่อื นทแ่ี ละใช้อปุ กรณ์ประกอบและการเคล่ือนไหวประกอบเพลงจาแนก หลกั การเคลอ่ื นไหวในเรอื่ งการรับแรงการใช้แรงความสมดุลและทกั ษะกลไกในการเล่นเกม กีฬาและนาผลมา ปรับปรุงเพ่มิ พนู วธิ ีปฏิบัติอธิบายประประโยชน์และหลกั การออกกาลังกายเล่นเกมที่ใชท้ กั ษะการวางแผนเลน่ กีฬาประเภทบุคคลประเภททมี และปฏิบตั ติ ามกฎกตกิ าในการเลน่ กีฬาไทยและกีฬาสากล ตามชนดิ กีฬาและ กจิ กรรมนันทนาการทีเ่ ลน่ แสดงพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไขปญั หาสง่ิ แวดล้อมที่มผี ลตอ่ สุขภาพวเิ คราะห์ ผลกระทบทเ่ี กิดจากการระบาดของโรคและเสนอแนวทางการปอ้ งกันโรคติดตอ่ สาคญั ที่พบในประเทศไทยแสดง พฤตกิ รรมทบ่ี ่งบอกถึงความรับผดิ ชอบต่อสขุ ภาพของส่วนรวมสร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายเพ่อื สุขภาพอย่างตอ่ เนื่องผลกระทบจากความรนุ แรงของภยั ธรรมชาติทมี่ ผี ลต่อร่างกายจิตใจและสงั คมระบุวธิ ี ปฏิบตั ิตนเพือ่ ความปลอดภัยจากธรรมชาติสาเหตขุ องการติดสารเสพตดิ และชักชวนให้ผอู้ ่ืนหลีกเล่ียงจากสาร เสพตดิ เหน็ คณุ ค่าของตนเองครอบครวั เพศศึกษามที ักษะในการดาเนนิ ชีวติ รกั การออกกาลังกายการเลน่ เกม การเลน่ กฬี าปฏิบตั ิเป็นประจาอยา่ งสม่าเสมอมวี นิ ยั เคารพสิทธิกฎกติกามีนา้ ใจเป็นนักกฬี ามจี ติ วิญญาณในการ แข่งขันและชื่นชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี าเห็นคณุ คา่ ในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและการดารงสุขภาพอยา่ ง ยงั่ ยนื ตวั ช้ีวัด พ 1.1 ป.6/1 , ป.6/2 พ 2.1 ป.6/1 , ป.6/2 พ 3.1 ป.6/1 , ป.6/2, ป.6/3 ,ป.6/4 , ป.6/5 พ 3.2 ป.6/1 , ป.6/2, ป.6/3 ,ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6 พ 4.1 ป.6/1 , ป.6/2, ป.6/3 ,ป.6/4 พ 5.1ป.6/1 , ป.6/2, ป.6/3 รวมตัวชวี้ ดั 22 ตัวชี้วดั
การจดั หนว่ ยการเรียนรู้ ช้นั ประถมศกึ ษาศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ เรื่อง จานวน ท่ี ชั่วโมง 1 เรยี นรตู้ ัวเรา 2 ชีวติ และครอบครัว 10 10 จานวนช่ัวโมงทงั้ หมด 20
โครงสรา้ งสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษาท่ี ............... หน่วยท่ี ช่อื /แผนที่ จานวน วนั ท่สี อน ชั้น (คาบ) ป.6 1 เรยี นร้ตู ัวเรา ( 11 ) ป.6/1 แผนการเรยี นร้ทู ี่ 1 ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั ระบบตา่ งๆของ 1 ป.6/2 รา่ งกาย 1 ป.6/1 1 ป.6/2 แผนการเรียนรทู้ ่ี 2 หน้าที่และโครงสร้างการทางานของ 1 ป.6/1 ระบบสบื พนั ธุเ์ พศชาย 1 ป.6/2 1 ป.6/1 แผนการเรยี นรู้ที่ 3 หนา้ ทแี่ ละโครงสร้างการทางานของ 1 ป.6/2 ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิง 1 ป.6/1 1 ป.6/2 แผนการเรยี นรทู้ ี่ 4 ระบบสบื พนั ธ์ุ: ขน้ั ตอนของการเกิด ป.6/1 ปฏิสนธิ ป.6/2 ป.6/1 แผนการเรียนรู้ที่ 5 ระบบสืบพันธ์ุ: การดูแลรกั ษาระบบ ป.6/2 สืบพนั ธ์ุ ป.6/1 ป.6/2 แผนการเรียนร้ทู ่ี 6 หน้าที่และโครงสร้างของระบบไหลเวียน ป.6/1 โลหติ ป.6/2 ป.6/1 แผนการเรียนรู้ท่ี 7 ระบบไหลเวียนโลหติ : การไหลเวยี นของ ป.6/2 เลอื ด ป.6/1 ป.6/2 แผนการเรยี นรู้ท่ี8 ระบบไหลเวียนโลหิต : การดูแลรักษา ระบบไหลเวยี นโลหิต ป.6 แผนการเรยี นรู้ท่ี 9 ระบบหายใจ: หนา้ ที่ของระบบหายใจ ป.6/1 ป.6/2 แผนการเรยี นรู้ท่ี 10 ระบบหายใจ: โครงสรา้ งของระบบ 1 ป.6/1 หายใจ 1 ป.6/2 แผนการเรยี นรู้ท่ี11 ระบบหายใจ : การดแู ลรกั ษาระบบ หายใจ (9 ) ชั้น 1 2 ชวี ิตและครอบครวั 1 ป.6/1 ป.6/2 แผนการเรียนรทู้ ี่ 12 ความหมายและความสาคญั ของ สัมพนั ธภาพ แผนการเรียนรทู้ ่ี 13 แนวทางการสรา้ งเสรมิ สมั พนั ธภาพ หนว่ ยท่ี ชื่อ/แผนท่ี จานวน วนั ท่สี อน (คาบ) แผนการเรียนรู้ท่ี 14 ปัจจยั ทชี่ ่วยใหก้ ารทางานกลมุ่ ประสบ 1 ความสาเร็จ
แผนการเรยี นรทู้ ี่ 15 ปญั หาจากพฤตกิ รรมเส่ยี งทางเพศ 1 ป.6/1 1 ป.6/2 แผนการเรียนรทู้ ี่ 16 ปญั หาจากพฤตกิ รรมเสี่ยงทางเพศ 1 1 ป.6/1 แผนการเรยี นรู้ท่ี 17 การปอ้ งกันพฤตกิ รรมเส่ยี งตอ่ การมี 1 ป.6/2 เพศสมั พนั ธ์ 1 แผนการเรียนรทู้ ่ี 18 การตงั้ ครรภใ์ นวัยเรยี น ป.6/1 ป.6/2 แผนการเรยี นรู้ท่ี 19 พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ป.6/1 แผนการเรียนร้ทู ี่ 20 สาเหตุ อาการ และการรักษาโรคเอดส์ ป.6/2 ในปจั จบุ ัน ป.6/1 ป.6/2 ป.6/1 ป.6/2
แบบบนั ทึกหน่วยการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาชน้ั ปที ี่ 6 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรียนรตู้ ัวเรา เวลา 10 ชวั่ โมง เรอ่ื ง ระบบต่างๆของรา่ งกาย เวลา 10 ช่วั โมง ผู้สอน ............................................. โรงเรียนบา้ นพณิ โท ........................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ตวั ชว้ี ดั ชั้นปี 1. อธบิ ายความสาคัญของระบบสืบพันธร์ุ ะบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจท่มี ผี ลตอ่ สุขภาพการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวธิ กี ารดูแลรกั ษาระบบสบื พันธ์รุ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ (พ 1.1 ป. 6/2) สาระสาคญั รา่ งกายของคนเราประกอบดว้ ยอวัยวะหลายๆอวยั วะที่ทางานร่วมกันเปน็ ระบบ โดยแบ่ง ระบบออกเป็นหลายระบบดว้ ยกนั อยา่ งไรกต็ ามการท่ีคนเราจะมสี ขุ ภาพที่ดแี ละดารงชวี ติ อยู่ดว้ ยความเป็นปกติ ระบบในรา่ งกายจะต้องทาหนา้ ที่ประสานกนั ดว้ ยดีถา้ ระบบใดทางานผิดปกตไิ ปย่อมทาให้ระบบอนื่ มคี วามผิด ปกติเกิดข้ึนด้วยการเรยี นรแู้ ละทาความเขา้ ใจถึงความสาคัญตลอดจน วิธกี ารดแู ลรักษาระบบในร่างกายอยา่ ง ถกู ตอ้ งเหมาะสมจงึ มีความสาคัญท่จี ะชว่ ยให้ระบบต่างๆทางานให้เป็นปกติ การสืบพันธ์ุของมนษุ ยเ์ พือ่ ดารงไวซ้ ึ่งเผา่ พนั ธุ์ตามธรรมชาตจิ าเปน็ ตอ้ งอาศัยท้ังเพศชายและ เพศหญงิ ซงึ่ จะเกดิ ขึน้ ได้เมื่ออวัยวะสืบพนั ธขุ์ องทั้งเพศชายและเพศหญงิ เจรญิ เตบิ โตเตม็ ท่ี การสบื พนั ธข์ุ องมนุษย์เพือ่ ดารงไวซ้ ึ่งเผ่าพันธุต์ ามธรรมชาตจิ าเป็นต้องอาศยั ทัง้ เพศชายและ เพศหญิงซงึ่ ในเพศหญิงจะเกดิ ขึน้ เม่อื อวยั วะสืบพนั ธ์เุ จรญิ เติบโตเตม็ ที่หรือเม่ืออยู่ในช่วงวัยท่ีมปี ระจาเดอื น การปฏสิ นธิจะเกดิ ข้นึ ได้กต็ อ่ เม่อื ผชู้ ายและผู้หญงิ มคี วามพรอ้ มด้านวฒุ ิภาวะเม่อื มเี พศสัมพันธ์ุ กนั อสจุ ิของผชู้ ายจะแหวกว่ายผา่ นชอ่ งคลอดของผหู้ ญงิ เข้าสู่โพรงมดลกู ไปยงั ทอ่ รังไขเ่ พือ่ ผสมกับไข่ที่สุกแล้ว ของผู้หญงิ โดยปกติอสุจิทีแ่ ข็งแรงที่สดุ เพยี งตัวเดยี วจะผสมกับไขใ่ บหนง่ึ จากน้นั ไขท่ ่ีได้รับการผสมแล้วจะเดนิ ทางเขา้ สโู่ พรงมดลูกไปฝังตวั ในโพรงมดลกู และเจริญเติบโตเปน็ เดก็ ทารกที่อยใู่ นครรภ์มารดา โดยใชเ้ วลา ประมาณ 9 เดอื นจึงจะคลอดออกมาทางชอ่ งคลอดของผูห้ ญงิ อวยั วะเพศเปน็ สว่ นประกอบของรา่ งกายบง่ บอกถงึ ลกั ษณะของความเป็นเพศชายหรอื เพศ หญิง โดยเราจะต้องใหก้ ารดแู ลรกั ษาความสะอาดให้ถกู ตอ้ งเหมาะสมเพอ่ื นามาซง่ึ ความมีสุขภาพท่ีดีและ ปอ้ งกนั ความผดิ ปกติทีอ่ าจเกดิ ขนึ้ ซึ่งจะสง่ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ รา่ งกายของคนเราต้องการเลือดไปเล้ยี งสว่ นต่างๆของร่างกายเนือ่ งจากเลอื ดจะนาแกส๊ ออกซิเจน และสารอาหารไปยงั อวยั วะต่างๆระบบไหลเวียนโลหติ จงึ มีความสาคัญต่อมนษุ ย์ ร่างกายของคนเราต้องการเลอื ดไปเลย้ี งส่วนต่างๆของรา่ งกายเน่ืองจากเลือดจะนาแกส๊ ออกซเิ จนและสารอาหารไปยังอวยั วะตา่ งๆระบบไหลเวยี นโลหติ จงึ มีความสาคญั ดงั น้นั เราควรดูแลระบบ ไหลเวียนโลหิตใหท้ างานเปน็ ปกติ ระบบหายใจมคี วามสาคัญตอ่ การมชี ีวิตของคนเราเพราะคนเราอาจมชี วี ติ อยไู่ ดเ้ ปน็ สัปดาห์ ถา้ ขาดอาหารและมชี ีวติ อยู่ได้เปน็ วนั ถา้ ขาดน้าแต่ไมส่ ามารถมชี วี ติ อยูไ่ ด้ถา้ ขาดอากาศหายใจเพยี งไมก่ นี่ าที โครงสร้างของระบบหายใจท่สี าคัญไดแ้ กจ่ มกู คอหอยกลอ่ งเสียงหลอดลมและปอดโดยอวัยวะ แต่ละสว่ นมหี น้าทีส่ าคัญแตกต่างกันหากคนเราขาดอาหารอาจมชี วี ติ อยู่ได้เปน็ สัปดาห์และมชี ีวติ อยู่ได้เปน็ วัน
หากขาดน้าแต่ไม่สามารถมชี วี ติ อยูไ่ ดถ้ ้าขาดอากาศหายใจเพยี งไม่ก่นี าทแี ละในขณะทหี่ ายใจจะเปน็ การนาแกส๊ ออกซิเจนเขา้ ไปเผาผลาญอาหารท่ีรับประทานเพ่อื ทาให้ไดม้ าซงึ่ พลังงานในการดารงชวี ิตนอกจากน้นั การ หายใจยงั นาแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดซ์ ่ึงเป็นของเสียออกจากรา่ งกายทางลมหายใจอีกดว้ ยดังนัน้ การดแู ลรกั ษา อวัยวะของระบบหายใจจงึ มคี วามสาคญั เปน็ อย่างมากตอ่ ชีวิตของเรา สาระการเรยี นรู้ • ระบบต่างๆของร่างกาย – ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ยี วกบั ระบบต่างๆของร่างกาย – ระบบสืบพันธ์ุ: หนา้ ทแ่ี ละโครงสรา้ งการทางานของระบบสืบพนั ธ์เุ พศชาย – ระบบสืบพันธ์ุ: หนา้ ทแ่ี ละโครงสร้างการทางานของระบบสืบพนั ธเุ์ พศหญงิ – ระบบสบื พนั ธ์ุ : ขนั้ ตอนของการเกดิ ปฏิสนธิ – ระบบสบื พันธุ์ : การดแู ลรักษาระบบสืบพนั ธุ์ – ระบบไหลเวียนโลหติ : หนา้ ทแ่ี ละโครงสรา้ งของระบบไหลเวยี นโลหิต – ระบบไหลเวยี นโลหติ : การไหลเวยี นของเลือด – ระบบไหลเวยี นโลหิต : การดูแลรกั ษาระบบไหลเวียนโลหิต – ระบบหายใจ: หน้าท่ขี องระบบหายใจ – ระบบหายใจ: โครงสรา้ งของระบบหายใจ – ระบบหายใจ : การดูแลรักษาระบบหายใจ ทักษะกระบวนการคดิ 1. กระบวนการกลุ่ม 2. ทักษะการจัดการ 3. การนาเสนอผลงาน 4. กระบวนการทางาน สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบความรกู้ ่อนและหลังการเรยี นหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรยี นรตู้ วั เรา 2. ภาพแสดงตวั อยา่ งระบบต่างๆในรา่ งกาย 3. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 6 บริษัทสานักพิมพ์วัฒนาพานชิ จากดั 4. สือ่ การเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบ ป. 6 บรษิ ทั สานักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จากดั 5. แบบฝกึ ทักษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 6 บริษทั สานักพมิ พ์วัฒนาพานชิ จากดั คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. มีความขยนั และซื่อสตั ย์ 3. มีความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย 4. มีจติ สาธารณ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ภาระงาน/ชนิ้ งาน 1. การทาแบบทดสอบ 2. บนั ทกึ ความรู้
3. บันทกึ ผลการสารวจ 4. การนาเสนอผลงาน การวดั และการประเมินผล • ดา้ นความรู้ (K) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • ทดสอบความรพู้ น้ื ฐานใน • แบบทดสอบความรูก้ ่อนและหลงั เรยี น – หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1เรียนร้ตู วั หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรา • ซักถามความรู้เกย่ี วกับระบบ • แบบประเมินผลการนาเสนอขอ้ มูล / • ผ่านเกณฑ์เฉล่ีย 2 ขน้ึ ไป ตา่ งๆของรา่ งกาย การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนทคี่ วามคิด* • ด้านคณุ ธรรมจรยิ ธรรมคา่ นยิ มและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธกี ารวัดและประเมินผล เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • รปู แบบประเมินคณุ ธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขึ้นไป แสดงออกของนักเรยี น คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์* • ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี ารวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลีย่ 2 ข้ึนไป แสดงออกของนกั เรียน กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 1 1. ครูใหค้ วามร้เู กีย่ วกับความหมายและความสาคัญของระบบในรา่ งกายของคนเรา 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามในประเดน็ ทสี่ งสัยเพ่ิมเติม กิจกรรมท่ี 2 1. นักเรยี นแสดงความคิดเห็นรว่ มกนั เกีย่ วกับหนา้ ทีแ่ ละโครงสร้างการทางานของระบบ สืบพันธุเ์ พศชายในประเด็นตา่ งๆโดยครใู ห้ความรูท้ ่ถี ูกต้องเพมิ่ เตมิ 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนสอบถามในประเดน็ ทสี่ งสัยเพิ่มเตมิ กิจกรรมท่ี 3 1. ครใู หค้ วามรู้เรือ่ งความสาคญั หน้าทแี่ ละโครงสรา้ งการทางานของระบบสบื พันธเุ์ พศหญงิ โดยใชภ้ าพประกอบและให้นักเรยี นสรปุ ความรู้ทีไ่ ดร้ ับโดยสังเขปลงในสมดุ บนั ทึก 2. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นสอบถามในประเดน็ ทีส่ นใจเพม่ิ เติม กจิ กรรมที่ 4 1. ครูให้ความรใู้ นเรื่องการปฏิสนธิโดยใช้ภาพแสดงลักษณะข้นั ตอนของการเกดิ ปฏิสนธิ ประกอบหรือเปดิ ส่ือวีดีทัศน์เร่ืองการปฏิสนธิ ใหน้ ักเรียนดู 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นสอบถามในประเด็นที่นักเรียนไม่เขา้ ใจหรือสงสยั เพม่ิ เติม กิจกรรมท่ี 5 • ครูให้ความรู้เรือ่ งการดูแลรกั ษาความสะอาดอวยั วะเพศและใหน้ ักเรียนสอบถามในประเดน็ ทีส่ นใจและสงสยั
กจิ กรรมที่ 6 1. นักเรียนร่วมกันดูภาพทแี่ สดงถงึ หน้าท่แี ละโครงสร้างของระบบไหลเวียนโลหติ ท่คี รูเตรียม มา 2. ครคู ดั เลอื กนักเรยี นอาสาสมัคร 2–3 คนออกมาอธิบายโครงสร้างของระบบไหลเวยี น โลหิตตามความเขา้ ใจเพอ่ื ให้ทราบความรูพ้ ื้นฐาน 3. ครูให้ความรู้เร่อื งหน้าทแ่ี ละโครงสร้างของระบบไหลเวียนโลหติ เพม่ิ เตมิ กิจกรรมที่ 7 1. ครูอธิบายและให้นักเรยี นดภู าพรา่ งกายท่ีแสดงถงึ ทิศทางการไหลเวยี นของเลอื ดใน ร่างกาย 2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั ทศิ ทางการไหลเวยี นของเลอื ดใน ร่างกาย กจิ กรรมท่ี 8 1. ครอู ธิบายความรเู้ ก่ยี วกบั การดแู ลรักษาระบบไหลเวยี นโลหิตใหน้ กั เรียนทราบ 2. นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 5–6 คนครแู จกบตั รคาคาถามใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ตอบดงั ตัวอย่างต่อไปนี้ – นกั เรียนคิดวา่ การออกกาลงั กายเป็นวิธกี ารดูแลรักษาระบบไหลเวียนโลหิตหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (เป็นเพราะการออกกาลงั กายอย่างสม่าเสมอจะสง่ ผลใหห้ ัวใจและการไหลเวียนของเลอื ดเปน็ ปกต)ิ – นกั เรียนคดิ วา่ การพกั ผอ่ นอย่างเพียงพอและดม่ื น้ามากๆเป็นวธิ ีการดแู ลรักษาระบบ ไหลเวียนโลหติ หรอื ไม่เพราะเหตใุ ด (เปน็ เพราะการพักผ่อนอย่างเพยี งพอ จะทาให้ระบบไหลเวียนโลหติ ทางานเปน็ ปกติ) กิจกรรมท่ี 9 1. ครใู ห้ความรเู้ ร่ืองหน้าทีข่ องระบบหายใจดงั รายละเอยี ดในหนังสือเรียนฯ /หรือในส่อื การ เรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบป. 6 2. นักเรยี นร่วมกันตอบคาถามตามประเดน็ ตอ่ ไปนี้ ตวั อย่างคาถามเช่น - เราหายใจเข้าเพ่อื นาแก๊สชนิดใดเข้าสรู่ า่ งกายและเพ่อื อะไร (แก๊สออกซิเจนเพือ่ ใช้ใน ขบวนการเผาผลาญสารอาหารให้เกิดพลังงานทีร่ า่ งกายต้องการ) – เราหายใจออกเพือ่ นาแก๊สชนิดใดออกจากร่างกาย (แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์) กจิ กรรมท่ี 10 1. ครใู หค้ วามรเู้ ร่อื งโครงสรา้ งของระบบหายใจโดยใช้ภาพประกอบ 2. นักเรียนรว่ มกันสร้างแผนที่ความคิดเกี่ยวกับโครงสร้างและส่วนประกอบของระบบหายใจ สง่ ตวั แทนออกมาเขยี นแผนทค่ี วามคดิ ที่เพ่อื นบอกลงบนกระดานดา เขยี นแผนทีค่ วามคดิ ท่เี พอื่ นบอกลงบน กระดาน กิจกรรมที่ 11 1. ครนู าภาพแสดงวธิ ีการปฏบิ ัตทิ ่ีถูกต้องในการดูแลรกั ษาระบบหายใจใหน้ ักเรียนดรู ว่ มกนั 2. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ด้รบั โดยเขียนสรุปในรูปแบบของแผนทคี่ วามคิดเกี่ยวกบั วิธกี ารดูแลรักษาระบบหายใจ 3. นักเรยี นอาสาสมัครออกมานาเสนอแผนทีค่ วามคดิ เกีย่ วกบั วิธกี ารดูแลรักษาระบบหายใจ ที่ร่วมกันสรุปหนา้ ช้ันเรียน
แบบบันทกึ หนว่ ยการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาชั้นปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ชีวิตและครอบครวั เวลา 10 ชัว่ โมง เร่ือง การสรา้ งสมั พนั ธภาพกับผอู้ นื่ เวลา 10 ชั่วโมง ผู้สอน ............................................. โรงเรียนบา้ นพณิ โท ......................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเหน็ คุณค่าตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมที ักษะในการดาเนินชีวติ ตวั ชี้วดั ชน้ั ปี • อธิบายความสาคัญของการสรา้ งและรกั ษาสมั พนั ธภาพกับผอู้ น่ื (พ 2.1 ป. 6/1) • วเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมเสย่ี งทีอ่ าจนาไปส่กู ารมีเพศสมั พนั ธ์การตดิ เชื้อเอดส์และการตัง้ ครรภ์ กอ่ นวัยอนั ควร (พ 2.1 ป. 6/2) สาระสาคัญ สัมพันธภาพหมายถึงการสร้างความผกู พนั ด้วยการกระทาและการสือ่ สารระหวา่ งบุคคล รว่ มกันเพอื่ ให้เกดิ ความเข้าใจอันดีต่อกนั กับเพอื่ นเราทกุ คนต้องมีเพอ่ื นเช่นเพ่ือนบ้านเพอ่ื นทโ่ี รงเรยี นการสรา้ ง สมั พันธภาพท่เี หมาะสมกับเพอื่ นจึงเป็นส่งิ สาคัญเพราะเพอ่ื นจะเข้ามามสี ่วนร่วมในการทากิจกรรมตา่ งๆรว่ มกบั เรา ความรแู้ ละความเขา้ ใจในเรื่องแนวทางการสร้างเสริมสมั พนั ธภาพและความสามารถในการนา แนวทางดังกล่าวมาปฏบิ ตั อิ ย่างถูกต้องเหมาะสมจะช่วยใหน้ กั เรียนดารงชวี ิตในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข การทางานจะประสบความสาเร็จไดเ้ ราต้องอาศัยปจั จยั หลายๆดา้ นประกอบด้วยการร้จู ัก วางแผนมคี วามรบั ผดิ ชอบยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ่นื มคี วามสามคั คีและการเปน็ ผู้นาผตู้ ามทด่ี ี วัยรุ่นเปน็ วยั ท่ีมกี ารเปลย่ี นแปลงเกิดข้ึนหลายอย่างทางด้านร่างกายจติ ใจอารมณแ์ ละสงั คม โดยเฉพาะในวยั เรียนนี้ทเี่ ร่มิ ท่จี ะสนใจเพศตรงขา้ มหากขาดความรูค้ วามเขา้ ใจในการปฏบิ ัติตนได้อย่างถูกตอ้ ง แล้วย่อมจะส่งผลใหเ้ กิดปัญหาท่สี บื เนอื่ งจากพฤตกิ รรมเรื่องทางเพศได้ วัยรุน่ เป็นวัยทเ่ี ร่มิ ให้ความสนใจเพศตรงข้ามมีการพบปะพดู คยุ ระหวา่ งเพศบางครัง้ อาจ นาไปสู่พฤติกรรมเส่ียงท่ีนาไปสูก่ ารมเี พศสัมพันธท์ ีไ่ มค่ าดคดิ ซึ่งอาจก่อใหเ้ กิดปัญหาเรื่องการต้งั ครรภ์ในวยั เรียน และอาจนาไปสูก่ ารตดิ เช้อื เอดส์ได้หากวยั รนุ่ มีพฤตกิ รรมท่ีไม่เหมาะสม สาระการเรยี นรู้ • การสรา้ งสัมพันธภาพกับผูอ้ ่ืน - ความหมายและความสาคญั ของการสรา้ งสัมพันธภาพ - แนวทางการสรา้ งสมั พันธภาพ - ปจั จัยท่ชี ่วยใหก้ ารทางานกลุ่มประสบความสาเร็จ - การเปลี่ยนแปลงด้านตา่ งๆของวยั ร่นุ - พฤติกรรมเสีย่ งทน่ี าไปสู่การมีเพศสมั พันธ์ ทักษะกระบวนการคดิ 1. กระบวนการกล่มุ 2. ทักษะการจดั การ 3. การนาเสนอผลงาน 4. กระบวนการทางาน
สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียนหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ชวี ติ และครอบครวั 2. ภาพแสดงเปรยี บเทียบเหตกุ ารณ์แสดงลกั ษณะนสิ ยั ของเดก็ สองคน 3. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษาป .6 บริษทั สานักพิมพว์ ฒั นาพานิช จากัด 4. สื่อการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบป.6 บริษัทสานกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จากดั 5. แบบฝกึ ทักษะ รายวชิ าพน้ื ฐานสขุ ศึกษาและพลศึกษาป.6 บรษิ ัทสานกั พิมพว์ ัฒนา พานชิ จากดั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. มีความขยนั และซอื่ สตั ย์ 3. มีความรับผิดชอบในหน้าทีท่ ่ไี ด้รับมอบหมาย 4. มีจติ สาธารณ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ภาระงาน/ชิน้ งาน 1. การทาแบบทดสอบ 2. บนั ทึกความรู้ 3. บนั ทกึ ผลการสารวจ 4. การนาเสนอผลงาน การวัดและการประเมนิ ผล • ด้านความรู้ (K) วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • ทดสอบความรู้พน้ื ฐานใน • แบบทดสอบความร้กู ่อนและหลังเรยี น – หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2ชวี ิตและ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ครอบครวั • ซักถามความรใู้ นเรื่อง • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมูล / • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขน้ึ ไป ความหมายและความสาคญั การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนที่ความคิด* เกีย่ วกบั การสร้างสมั พนั ธภาพ • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ • รปู แบบของกิจกรรมตามทรี่ ะบใุ น • ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเกมเขาวงกต หนังสอื เรยี นฯ /หรอื สอื่ การเรียนรู้สขุ ช่วยเราลดความหา่ งเหนิ ศึกษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบป. 6 • ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธกี ารวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • รปู แบบประเมนิ คุณธรรมจริยธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขนึ้ ไป แสดงออกของนักเรยี น คา่ นิยมและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์*
• ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี 2 ขึน้ ไป แสดงออกของนกั เรียน กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 • นกั เรียนแบ่งเปน็ 2 กลุ่มแตล่ ะกล่มุ ร่วมศกึ ษาเรือ่ งความหมายและความสาคญั ของ สัมพันธภาพในหนังสอื เรยี นฯ/หรือในส่อื การเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบ ป .6 โดยใชเ้ วลาตามท่ี ครูกาหนด กิจกรรมที่ 2 • นกั เรียนแสดงบทบาทสมมตุ ิรว่ มกนั โดยกาหนดท่าทางการแสดงดังนี้ – การนนิ ทาเพ่อื น – ให้เพื่อนลอกการบา้ น – การพูดจาไพเราะกบั เพอ่ื น และนักเรียนร่วมกันแสดงเหตผุ ลประกอบคาตอบจาก คาถามในประเด็นท่ีว่า “บทบาทสมมตุ ิในหวั ข้อของนักเรยี นเปน็ วิธกี ารสร้างสมั พนั ธภาพที่ดีหรอื ไม่” กิจกรรมที่ 3 • ครูให้ความรเู้ ร่อื งปัจจัยท่ชี ่วยการทางานกลมุ่ ประสบความสาเร็จให้นักเรียนฟงั ดงั รายละเอยี ดในหนงั สอื เรียนฯ/หรือในสอื่ การเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบป.6 กจิ กรรมท่ี 4 • ครใู ห้ความรเู้ รือ่ งความหมายพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและปัญหาของวัยรุ่นท่สี บื เนอื่ งมาจาก การมีพฤตกิ รรมเสีย่ งทางเพศโดยใช้ภาพและข่าวแสดงถึงเหตุการณท์ ่ีเกยี่ วกบั ปัญหาพฤตกิ รรมเสย่ี งทางเพศของ วัยรุ่นทเี่ กดิ ข้นึ ประกอบ กิจกรรมที่ 5 1. ครใู หค้ วามรู้เรอื่ งความหมายและพฤติกรรมเสย่ี งท่ีนาไปสกู่ ารมีเพศสัมพันธ์โดยเปิดวีดี ทัศนห์ รอื ใชภ้ าพประกอบการอธิบาย 2. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่มกล่มุ ละ 4–5 คนปฏิบัติกิจกรรมการกจิ กรรมพิจารณาซิภาพ ไหน ทใี่ ครๆ ไมค่ วรปฏิบตั ิ ดงั รายละเอยี ดในหนงั สอื เรยี นฯหรอื ในสื่อการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์ แบบป.6 แลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ นาผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมออกมานาเสนอหน้าช้นั เรียน
แบบบันทกึ หน่วยการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาชั้นปที ่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ชวี ติ และครอบครวั เวลา 10 ช่ัวโมง เรือ่ ง พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ เวลา 6 ชัว่ โมง ผู้สอน ............................................. โรงเรยี นบา้ นพิณโท .......................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเหน็ คุณคา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที กั ษะในการดาเนินชวี ิต ตัวชีว้ ดั ชนั้ ปี • วิเคราะห์พฤตกิ รรมเส่ียงที่อาจนาไปสูก่ ารมีเพศสมั พันธก์ ารติดเชอ้ื เอดส์และการต้งั ครรภ์ กอ่ นวยั อนั ควร (พ 2.1 ป. 6/2) สาระสาคญั ปญั หาทางเพศของวยั รุ่นในปัจจบุ นั เกิดจากการขาดความรคู้ วามเข้าใจในเรื่องเพศอยา่ ง ถกู ตอ้ งประกอบกับมสี ง่ิ เร้าจากสือ่ ลามกอนาจารตา่ งๆจึงกอ่ ให้เกิดปญั หาทางเพศเชน่ การมเี พศสมั พันธ์ในวยั เรียนทาใหเ้ สียการเรียนเสยี อนาคตตดิ โรคทางเพศสัมพนั ธ์ดังนน้ั การเรยี นรู้วิธีปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภัยจาก ปญั หาทางเพศจึงมีความสาคญั โดยเฉพาะปญั หาการมีเพศสมั พันธ์ในวยั เรียนซ่งึ เปน็ เรื่องใกล้ตวั และอาจเกดิ ข้นึ กับตัวเราได้ถา้ ขาดความระมัดระวัง การต้ังครรภ์ในวยั เรียนเปน็ สิ่งทีไ่ มพ่ งึ ประสงคซ์ ่งึ เปน็ ผลทีเ่ กิดมาจากพฤตกิ รรมเส่ยี งทางเพศที่ นาไปสู่การมเี พศสัมพันธท์ ี่ไมค่ าดคิด โรคเอดสเ์ ปน็ โรคตดิ ต่อทย่ี ังไม่มวี ิธรี ักษาให้หายขาดไดส้ าเหตุเกิดจากเชอื้ ไวรัสเอชไอวีทีต่ ิดต่อ จากทางเลือดโดยการใช้เข็มหรือหลอดฉดี ยาร่วมกันการรับเลือดหรอื อวยั วะของผูท้ ี่มเี ชอ้ื เอดสท์ างเพศสมั พนั ธ์ และติดต่อจากแม่ไปส่ลู ูกในครรภ์ โรคเอดส์เป็นโรคตดิ ตอ่ ที่ยังไมม่ วี ิธรี ักษาใหห้ ายขาดได้การหลกี เล่ยี งพฤติกรรมเสย่ี งท่ี ก่อใหเ้ กดิ การมเี พศสมั พันธห์ รอื พฤตกิ รรมเส่ียงตา่ งๆจงึ เปน็ วิธกี ารป้องกนั การติดโรคเอดส์ ผูป้ ว่ ยเอดสห์ รอื ติดเช้อื เอดส์ควรได้รับอาหารทม่ี ีคณุ คา่ และประโยชนอ์ ยา่ งครบถ้วนโดยเฉพาะ สารอาหารทส่ี าคญั สาหรบั ผู้ตดิ เชื้อเอดสค์ อื อาหารท่มี ีสารอาหารวติ ามินบี 1 วติ ามินบี 6 และวติ ามนิ บี 12 สาระการเรียนรู้ • พฤตกิ รรมเส่ียงทางเพศ – การป้องกนั พฤติกรรมเสีย่ งตอ่ การมีเพศสัมพันธ์ – การตง้ั ครรภ์ในวัยเรียน – การติดเชื้อโรคเอดส์ – สาเหตุ อาการ และการรักษาโรคเอดส์ – การปอ้ งกนั โรคเอดส์ – สารอาหารสาคญั สาหรับผู้ตดิ เชือ้ เอดส์ ทักษะกระบวนการคดิ 1. กระบวนการกลมุ่ 2. ทกั ษะการจัดการ 3. การนาเสนอผลงาน 4. กระบวนการทางาน
สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. บทกลอนเกย่ี วกับการวางตัวของเด็กวยั รุ่น หรอื การวางตัวของหญิงไทย 2. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษาป .6 บรษิ ทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 3. ส่อื การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์แบบป.6 บรษิ ทั สานักพิมพ์วฒั นาพานิชจากดั 4. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษาป.6 บริษทั สานักพิมพ์วัฒนาพานิชจากดั คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. มีความขยนั และซื่อสตั ย์ 3. มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ที ี่ได้รับมอบหมาย 4. มีจิตสาธารณ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ภาระงาน/ช้นิ งาน 1. การทาแบบทดสอบ 2. บนั ทึกความรู้ 3. บนั ทกึ ผลการสารวจ 4. การนาเสนอผลงาน การวัดและการประเมนิ ผล • ด้านความรู้ (K) วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซักถามความรู้ความเข้าใจ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล / • ผ่านเกณฑ์เฉล่ีย 2 ขึ้นไป เกี่ยวกับการปอ้ งกนั ปัญหาทาง การอภิปราย/การสร้างแผนที่ความคดิ * เพศในวัยเรียน • ตรวจสอบความถูกต้องในการ • รปู แบบของกิจกรรมตามท่รี ะบุใน • ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ปฏิบัตกิ จิ กรรมมาแสดงบทบาท หนังสือเรยี นฯ /หรอื ส่อื การเรยี นรู้สขุ สมมุติเพ่อื การหยุดย้ังพฤติกรรม ศกึ ษาและพลศึกษาสมบรู ณ์แบบป. 6 เสย่ี ง • ดา้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมค่านิยมและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤติกรรมการ • รูปแบบประเมินคณุ ธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลีย่ 2 ขึ้นไป แสดงออกของนักเรียน ค่านิยมและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์* • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ กี ารวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี 2 ข้ึนไป แสดงออกของนกั เรยี น
กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 1. ครูใหค้ วามรเู้ รือ่ งการป้องกนั พฤติกรรมเสย่ี งตอ่ การมเี พศสมั พันธด์ งั รายละเอียดในหนงั สือ เรยี นฯ/หรือส่ือการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์แบบป. 6 2. นกั เรยี นชว่ ยกันสรุปวิธีการปอ้ งกนั พฤติกรรมเสี่ยงตอ่ การมเี พศสมั พันธใ์ นรปู แบบการ เขียนแผนที่ความคดิ โดยใหน้ ักเรยี นอาสาสมัครออกมาเขียนแผนทีค่ วามคิดดงั กล่าวลงบนบนกระดาน 3. ครใู ห้นกั เรยี นสอบถามในประเดน็ ทส่ี งสัยและแสดงความคิดเหน็ เพิม่ เตมิ ในแนวทางปฏบิ ัติ แต่ละอย่าง กิจกรรมท่ี 2 1. ครใู หค้ วามร้เู รื่องการต้งั ครรภใ์ นวยั เรยี นผลกระทบด้านต่างๆที่เกยี่ วกบั การตัง้ ครรภใ์ นวยั เรยี น 2. นกั เรียนรว่ มกันปฏิบัตกิ ิจกรรมเพศสมั พันธ์ทผ่ี ดิ ชว่ ยระดมความคิดแกไ้ ขดงั รายละเอยี ด ในหนังสือเรยี นฯ/หรอื ในสื่อการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาสมบรู ณ์แบบป .6 โดยสง่ ตวั แทนออกมารายงาน ผลหน้าชน้ั เรยี น 3. ครูใหข้ ้อเสนอแนะและความร้ทู ถ่ี กู ต้องเพม่ิ เติม กิจกรรมท่ี 3 1. ครใู หค้ วามรเู้ รื่องการติดเชอื้ เอดส์โดยใหน้ กั เรยี นดูภาพประกอบหรือดูวีดีทศั นเ์ ก่ยี วกบั พฤติกรรมเส่ยี งของการตดิ เชอื้ เอดส์ 2. นักเรียนร่วมกันพดู คยุ เพอ่ื สรุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการดภู าพและวีดีทศั น์ กจิ กรรมที่ 4 • ครูใหค้ วามรู้เรอ่ื งสาเหตอุ าการและการรักษาโรคเอดสแ์ ละแจกเอกสารแผน่ พบั หรอื เอกสาร ประกอบการสอนชุดโรคเอดส์ (ครูอาจจัดทาขึ้นเองหรือติดตอ่ ขอรับเอกสารจากหนว่ ยงานราชการทีเ่ ก่ียวขอ้ ง ) ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ศกึ ษาและแสดงความคิดเห็นร่วมกัน กจิ กรรมที่ 5 1. ส่มุ นกั เรยี นประมาณ 2–3 คนออกมานาเสนอเร่ืองการปอ้ งกนั โรคเอดส์ตามความคิดของ นักเรยี น 2. ครใู ห้ความรู้เรอ่ื ง การป้องกนั โรคเอดส์ดงั รายละเอยี ดในหนังสอื เรยี นฯหรอื ในส่ือการ เรียนร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบรู ณแ์ บบป. 6 กจิ กรรมที่ 6 • ครใู ห้ความรเู้ รอ่ื งสารอาหารทีส่ าคญั สาหรบั ผูต้ ดิ เชอ้ื เอดสด์ ังรายละเอยี ดในหนงั สือ เรยี นฯ / หรือในส่ือการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบป.6 และใหน้ ักเรยี นสอบถามประเดน็ ทส่ี งสัยเพมิ่ เติม
แผนการจดั การเรียนรู้ท1ี่ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี1เรียนรตู้ วั เรา เวลาเรยี น 11 ชั่วโมง แผนการเรยี นร้ทู ี่ 1ความรู้เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกับระบบตา่ งๆของรา่ งกาย เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ชน้ั ป. 6/1สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ............. เวลา...................... ภาคเรยี นท่ี 1/ .......... ชัน้ ป.6/2สอนวันท่ี........เดือน..................พ.ศ............. เวลา..................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรียนบ้านพณิ โท ........................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 1. สาระสาคญั รา่ งกายของคนเราประกอบด้วยอวัยวะหลายๆอวัยวะท่ีทางานรว่ มกนั เปน็ ระบบโดยแบ่ง ระบบออกเป็นหลายระบบด้วยกนั อยา่ งไรก็ตามการทคี่ นเราจะมสี ุขภาพที่ดีและดารงชีวติ อย่ดู ้วยความเป็นปกติ ระบบในรา่ งกายจะตอ้ งทาหนา้ ทีป่ ระสานกันดว้ ยดถี ้าระบบใดทางานผดิ ปกตไิ ปยอ่ มทาใหร้ ะบบอน่ื มีความผิด ปกติเกดิ ข้นึ ด้วยการเรียนรู้และทาความเข้าใจถึงความสาคญั ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาระบบในร่างกายอยา่ ง ถูกตอ้ งเหมาะสมจงึ มีความสาคัญท่จี ะชว่ ยให้ระบบต่างๆทางานใหเ้ ป็นปกติ 2. ตวั ช้ีวัดชั้นปี 1. อธิบายความสาคญั ของระบบสืบพันธรุ์ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจท่มี ผี ลต่อ สขุ ภาพการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวธิ กี ารดูแลรกั ษาระบบสบื พันธ์ุระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความสาคัญของระบบต่างๆของร่างกายอย่างถกู ต้องได้ (K) 2.ตระหนักถึงความสาคัญของระบบตา่ งๆของรา่ งกาย (A) 3.ยกตวั อย่างระบบและอวัยวะท่ีสาคญั ของระบบร่างกายอยา่ งถูกต้องได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ทดสอบความรพู้ ้นื ฐานใน • แบบทดสอบความรกู้ ่อนและหลังเรียน – หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1เรยี นรู้ตวั หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรา • ซกั ถามความรเู้ กยี่ วกับระบบ • แบบประเมินผลการนาเสนอขอ้ มูล / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลยี่ 2 ขนึ้ ไป ต่างๆของรา่ งกาย การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนทีค่ วามคดิ * •ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมคา่ นยิ มและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครื่องมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการ • รูปแบบประเมินคุณธรรมจรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉล่ีย 2 ขน้ึ ไป แสดงออกของนกั เรยี น ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์*
•ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ผ่านเกณฑ์เฉลย่ี 2 ขน้ึ ไป • สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ* แสดงออกของนกั เรียน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ 5. สาระการเรยี นรู้ • ระบบต่างๆของร่างกาย – ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกบั ระบบต่างๆของร่างกาย 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย พดู คุยแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับความเข้าใจเบอ้ื งต้นในระบบตา่ งๆของ รา่ งกาย 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นเตรยี มกอ่ นนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูและนักเรยี นรว่ มทาความรจู้ กั และสรา้ งความคุน้ เคยระหว่างกนั 2. ครแู นะนาเกยี่ วกับระเบียบและมารยาทในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรียนรูร้ ่วมกับผอู้ น่ื ให้ นกั เรยี นทราบ 3. นกั เรียนทาแบบทดสอบความร้กู ่อนการเรียนหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรียนรูต้ วั เราเพื่อเปน็ การประเมนิ พื้นฐานความรู้ ข้ันที่1 ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น • ครูและนักเรยี นรว่ มกันพูดคยุ ในเร่ืองความเข้าใจเบือ้ งต้นเกีย่ วกบั ระบบต่างๆของร่างกาย โดยให้นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถามในประเด็นตา่ งๆเชน่ – ร่างกายของคนเรามอี วัยวะสาคญั ใดบ้างทน่ี กั เรียนรู้จกั (ตอบโดยอิสระ) – อวยั วะและระบบของร่างกายมคี วามสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร (อวยั วะเป็นส่วนประกอบที่ กอ่ ให้เกิดเป็นระบบ) (ครอู าจใชค้ าถามอืน่ ๆทเี่ หมาะสมกบั สภาพในการจดั การเรียนการสอนได้) ขั้นท่ี2กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้ความรูเ้ กี่ยวกบั ความหมายและความสาคัญของระบบในร่างกายของคนเรา 2. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามในประเด็นทส่ี งสยั เพมิ่ เติม ขั้นที่3 ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์ • นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 5–6 คนแต่ละกลมุ่ ระดมความคดิ เห็นรว่ มกันเพ่ือระบุชอ่ื ระบบ และอวยั วะท่ีอยู่ในระบบนนั้ ๆตามท่ีทราบโดยใช้เวลาทค่ี รกู าหนด ขั้นท่ี4 การนาไปใช้ •แตล่ ะกลุม่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลจากการระดมความคดิ เห็นหนา้ ชั้นเรยี น
ขัน้ ที่5 สรุปความรู้ • ครูและนักเรียนสรุปความรูเ้ กี่ยวกับความหมายและความสาคัญของระบบตา่ งๆในร่างกาย ร่วมกันแล้วใหน้ ักเรียนบันทึกความร้โู ดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทกึ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบความรกู้ ่อนและหลงั การเรยี นหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรยี นร้ตู ัวเรา 2.ภาพแสดงตวั อย่างระบบตา่ งๆในร่างกาย 3. หนังสอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐานสขุ ศึกษาและพลศึกษาป .6บริษทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานิช จากดั 4. ส่ือการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบรู ณ์แบบป.6 บรษิ ทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จากัด 5. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวิชาพนื้ ฐานสุขศึกษาและพลศึกษาป .6 บรษิ ทั สานักพิมพ์วัฒนาพานิช จากัด
แผนการจดั การเรียนร้ทู 2ี่ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี1เรยี นรตู้ วั เรา เวลาเรียน 11 ช่ัวโมง แผนการเรียนรทู้ ี่2หนา้ ที่และโครงสร้างการทางานของระบบสบื พันธเุ์ พศชาย เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวันท่ี........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ชัน้ ป.6/2 สอนวันท่ี........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ผ้สู อน ............................................. โรงเรยี นบา้ นพณิ โท ........................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ 1. สาระสาคญั การสบื พนั ธุ์ของมนุษยเ์ พ่ือดารงไวซ้ ึ่งเผ่าพันธุ์ตามธรรมชาตจิ าเปน็ ตอ้ งอาศยั ท้ังเพศชาย และเพศหญิงซ่งึ จะเกิดขน้ึ ไดเ้ ม่ืออวัยวะสบื พนั ธ์ขุ องทั้งเพศชายและเพศหญิงเจริญเติบโตเตม็ ท่ี 2. ตวั ชีว้ ัดชน้ั ปี 1. อธิบายความสาคัญของระบบสืบพันธุร์ ะบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจท่ีมีผลต่อ สขุ ภาพการเจริญเติบโตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวิธีการดูแลรักษาระบบสบื พนั ธ์ุระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจใหท้ างาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.อธบิ ายหน้าทีแ่ ละโครงสรา้ งการทางานของระบบสบื พนั ธุ์เพศชายได้ (K) 2. ตระหนักถงึ ความสาคญั ของระบบสืบพนั ธ์ุเพศชายทมี่ ีผลต่อสุขภาพการเจรญิ เตบิ โตและ พัฒนาการ (A) 3. ระบุหน้าที่และโครงสรา้ งการทางานของระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชายอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วธิ ีการวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • ซกั ถามเกยี่ วกบั หน้าท่แี ละ • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมูล / • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ีย 2 ข้ึนไป โครงสร้างการทางานของระบบ การอภิปราย/การสรา้ งแผนทีค่ วามคดิ * สืบพันธ์เุ พศชาย • ตรวจสอบความถูกต้องของ • รูปแบบของกจิ กรรมตามทรี่ ะบุใน • ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมระบบ หนังสือเรียนฯ /หรอื ส่ือการเรยี นรูส้ ขุ สบื พันธุ์ ไหนฉนั ไหนเธอ ศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบป. 6 • ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมคา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • รปู แบบประเมนิ คณุ ธรรมจริยธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลยี่ 2 ข้นึ ไป แสดงออกของนักเรียน ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์* • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • แบบประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑเ์ ฉลี่ย 2 ขึ้นไป • สังเกตพฤติกรรมการ แสดงออกของนกั เรียน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มคี วามรับผดิ ชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย – ระบบสบื พนั ธ์ุ: หนา้ ทแี่ ละโครงสรา้ งการทางานของระบบสืบพันธ์เุ พศชาย 6.แนวทางบรู ณาการ คณิตศาสตร์ นบั จานวนสมาชกิ ในหอ้ งแบง่ แยกตามเพศบวก –ลบจานวน สมาชิก ภาษาไทย พูดคุยในเรอ่ื งท่ีเก่ียวขอ้ งกบั หนา้ ทีแ่ ละการทางานของระบบ สบื พนั ธ์ุเพศชาย วทิ ยาศาสตร์ สารวจและเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ศึกษาสบื คน้ และบนั ทกึ ขอ้ มลู เก่ียวกบั การทางานของระบบสืบพันธุ์เพศชาย ศลิ ปะ วาดภาพระบายสภี าพโครงสร้างของระบบสืบพนั ธเุ์ พศชาย 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นที่1 ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันพูดคุยเกี่ยวกับระบบสืบพนั ธ์แุ ละความแตกตา่ งของเพศระหวา่ งเพศ หญิงและเพศชาย 2. นกั เรยี นอาสาสมัครประมาณ 2–3 คนออกมานาเสนอความรูเ้ กี่ยวกบั ระบบสืบพนั ธ์ุตามที่ ได้รับมอบหมายในคาบเรยี นทผี่ า่ นมาให้เพ่อื นๆฟงั หนา้ ช้ันเรียน 3. ครใู หค้ วามรู้เกี่ยวกับระบบสืบพันธุโ์ ดยให้ดูภาพโครงสร้างของอวัยวะสบื พนั ธุ์เพศชาย ตลอดจนหนา้ ที่และความสาคัญอวัยวะส่วนต่างๆได้แกล่ งึ คห์ รือองคชาตลูกอณั ฑะและตอ่ มลูกหมากโดย นกั เรยี นตอบคาถามในประเด็นต่างๆตัวอยา่ งเช่น –จากภาพตาแหน่งท่คี รูช้อี วัยวะส่วนน้เี รยี กวา่ อะไรและมที าหน้าที่อย่างไร (ข้นึ อยู่กบั ตาแหนง่ ที่ชี้) – อวยั วะสว่ นใดทาหน้าท่ใี นการสร้างตวั อสจุ ิและถา้ อวัยวะส่วนนนั้ เสียหายไปจะสง่ ผลอยา่ งไร บ้าง(ครูชีภ้ าพลูกอัณฑะของเพศชายไมส่ ามารถมลี ูกไดห้ รือเปน็ หมนั ) (ครอู าจใช้คาถามอนื่ ๆทเี่ หมาะสมกับสภาพในการจัดการเรยี นการสอนได้ ขน้ั ที่2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ ร่วมกันเกีย่ วกบั หนา้ ทแ่ี ละโครงสรา้ งการทางานของระบบ สืบพนั ธเุ์ พศชายในประเด็นตา่ งๆโดยครูใหค้ วามรทู้ ่ีถูกต้องเพิม่ เตมิ 2. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามในประเดน็ ท่สี งสยั เพมิ่ เตมิ ขน้ั ท่ี3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
1. นักเรียนแบ่งออกเปน็ 3 กล่มุ แต่ละกล่มุ วาดภาพอวยั วะในระบบสบื พันธุเ์ พศชายท่กี ลุ่ม ตนเองได้รับจากการจบั ฉลากพรอ้ มกบั เขยี นระบหุ น้าท่ีของอวยั วะนั้นๆไว้ใตภ้ าพ 2. สุ่มตวั แทนของแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานภาพอวยั วะทว่ี าดพร้อมท้ังบรรยายหนา้ ที่ ของอวัยวะที่วาดประกอบใหเ้ พื่อนๆฟังหนา้ ชนั้ เรียนโดยครูใหค้ วามรเู้ พิม่ เตมิ ขนั้ ท่ี4 การนาไปใช้ • นกั เรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมระบบสบื พันธุ์ ไหนฉันไหนเธอ ดังรายละเอยี ดในหนงั สือเรยี นหรือใน สอื่ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบป. 6 นอกเวลาเรยี น แลว้ นามาเสนอในคาบเรยี นตอ่ ไป ขั้นท่ี5 สรุปความรู้ • ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปความรทู้ ไี่ ดแ้ ลว้ ใหน้ กั เรยี นบันทกึ ความรู้โดยสงั เขปลงในสมดุ บันทกึ สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. แผน่ ภาพแสดงอวัยวะและโครงสรา้ งของระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชาย 2. หนังสอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐานสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป. 6 บรษิ ัทสานกั พมิ พว์ ัฒนาพานิช จากดั 3.ส่ือการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบ ป.6 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานชิ จากัด
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี1 เรยี นร้ตู วั เรา เวลาเรียน 11 ช่วั โมง แผนการเรียนร้ทู ี่ 3 หนา้ ทแี่ ละโครงสร้างการทางานของระบบสบื พันธเุ์ พศหญิง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ชั้น ป. 6/1 สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ชนั้ ป.6/2 สอนวันที่........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรยี นบ้านพณิ โท .......................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์ 1. สาระสาคญั การสืบพนั ธข์ุ องมนษุ ยเ์ พอ่ื ดารงไวซ้ ึง่ เผา่ พันธ์ตุ ามธรรมชาติจาเป็นตอ้ งอาศัยทั้งเพศชายและ เพศหญิงซงึ่ ในเพศหญิงจะเกดิ ข้นึ เมือ่ อวัยวะสืบพันธ์เุ จริญเตบิ โตเต็มท่ีหรือเมอ่ื อย่ใู นชว่ งวยั ท่ีมปี ระจาเดอื น 2. ตัวชีว้ ัดชัน้ ปี 1. อธบิ ายความสาคัญของระบบสืบพนั ธรุ์ ะบบไหลเวยี นโลหิตและระบบหายใจท่มี ผี ลต่อ สขุ ภาพการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธิบายวิธีการดแู ลรักษาระบบสืบพันธร์ุ ะบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ (พ 1.1 ป. 6/2) 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหน้าทแ่ี ละโครงสร้างการทางานของระบบสบื พนั ธ์เุ พศหญงิ อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสาคัญของระบบสบื พันธุ์เพศหญงิ ทม่ี ผี ลต่อสุขภาพการเจรญิ เติบโต และพฒั นาการ (A) 3. ระบหุ น้าที่และโครงสรา้ งการทางานของระบบสืบพันธ์เุ พศหญงิ อย่างถกู ตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ •ดา้ นความรู้ (K) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ซักถามเกยี่ วกบั หนา้ ทแ่ี ละ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอขอ้ มูล / • ผ่านเกณฑ์เฉลีย่ 2 ขนึ้ ไป โครงสรา้ งการทางานของระบบ การอภิปราย/การสร้างแผนทค่ี วามคดิ * สบื พนั ธุ์เพศหญิง •ดา้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมค่านยิ มและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • รปู แบบประเมินคณุ ธรรมจรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลย่ี 2 ขนึ้ ไป แสดงออกของนักเรยี น ค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์* • ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการ • แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ยี 2 ขึ้นไป แสดงออกของนักเรียน สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มคี วามรบั ผิดชอบ 5. สาระการเรยี นรู้ • ระบบต่างๆของรา่ งกาย – ระบบสืบพันธ์ุ: หนา้ ทแี่ ละโครงสรา้ งการทางานของระบบสบื พันธเุ์ พศหญิง 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย พูดคยุ แสดงความคิดเห็นสรปุ และวิเคราะห์เกย่ี วกับระบบ สบื พนั ธเ์ุ พศหญงิ วิทยาศาสตร์ ศกึ ษาสบื ค้นข้อมลู เก่ยี วกับการทางานของระบบสืบพันธุ์เพศ หญิง ภาษาตา่ งประเทศ ฟัง อ่าน และเขยี นคาศัพทภ์ าษาอังกฤษท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ระบบ สบื พนั ธ์เุ พศหญงิ 7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี1 ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. นักเรยี นอาสาสมัคร 2 –3 คน ผลดั เปล่ยี นกันออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ระบบ สบื พันธุ์ ไหนฉนั ไหนเธอ ตามท่ีไดร้ บั มอบหมายในคาบเรยี นทผ่ี ่านมาใหเ้ พอื่ นฟังหนา้ ชน้ั เรียน 2. นักเรยี นอาสาสมคั ร 4 คนออกมาจับฉลากหวั ขอ้ ตา่ งๆดงั นี้ – รงั ไข่ – มดลกู – ท่อรงั ไข่ – ชอ่ งคลอด 3. ครนู าสอื่ ประกอบการเรยี นรู้มาแจกใหน้ ักเรียนแตก่ ลุ่มอา่ นสรุปและออกมารายงาน หน้าชั้นเรยี นเก่ียวกับหนา้ ท่ขี องอวยั วะสืบพันธเุ์ พศหญิงตามหวั ข้อท่ไี ดร้ บั 4. ครูนาส่อื ประกอบการเรียนร้มู าทบทวนถงึ หน้าทีแ่ ละความสาคญั ของอวยั วะสืบพันธุ์ เพศหญิง ขั้นที่2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้ความรู้เร่ืองความสาคญั หน้าทแ่ี ละโครงสร้างการทางานของระบบสบื พันธุเ์ พศหญิง โดยใช้ภาพประกอบและให้นกั เรยี นสรุปความรู้ทไี่ ดร้ บั โดยสังเขปลงในสมุดบนั ทกึ 2. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเด็นทส่ี นใจเพม่ิ เติม ข้นั ที่ 3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ • นกั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น 4 กลมุ่ แตล่ ะกล่มุ ผลัดเปลี่ยนกันออกมารายงานความรใู้ น หัวขอ้ ที่ตนเองคน้ คว้าในเร่อื งระบบสืบพันธเ์ุ พศหญงิ ขน้ั ที่4 การนาไปใช้ • นกั เรียนนาความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาในหอ้ งเรยี นไปรว่ มถ่ายทอดให้ผปู้ กครองทีบ่ า้ นฟงั และใหผ้ ู้ปกครองตอบรบั ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นกลับมาทคี่ รู ข้ันที่5 สรุปความรู้ • ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ด้รับจากการศกึ ษาและการปฏิบตั กิ จิ กรรมแลว้ ให้ นกั เรียนบันทกึ ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบันทกึ สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. ภาพแสดงโครงสร้างของอวยั วะระบบสบื พันธุเ์ พศหญงิ
2. หนังสอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 6 บรษิ ทั สานักพมิ พว์ ัฒนาพานิช จากดั 3. สอื่ การเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์แบบ ป. 6 บริษทั สานักพิมพ์วัฒนาพานิช จากัด 4. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพนื้ ฐานสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป. 6 บริษทั สานกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จากัด
แผนการจัดการเรยี นร้ทู 4ี่ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี1 เรียนร้ตู วั เรา เวลาเรยี น 11 ช่ัวโมง แผนการเรยี นรูท้ ี่ 4ระบบสืบพนั ธ์ุ: ข้นั ตอนของการเกดิ ปฏสิ นธิ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ชั้น ป. 6/1 สอนวนั ที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ชั้น ป.6/2 สอนวนั ที่........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรียนท่ี 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรยี นบ้านพณิ โท ............................................................................................................................................................................ มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ 1. สาระสาคัญ การปฏิสนธจิ ะเกิดขึ้นไดก้ ต็ ่อเมอื่ ผชู้ ายและผู้หญงิ มีความพร้อมด้านวุฒิภาวะเม่ือมเี พศสัมพันธ์ุ กนั อสจุ ิของผู้ชายจะแหวกวา่ ยผา่ นชอ่ งคลอดของผูห้ ญงิ เขา้ สโู่ พรงมดลูกไปยงั ทอ่ รังไขเ่ พอ่ื ผสมกบั ไข่ทสี่ ุกแล้ว ของผู้หญงิ โดยปกติอสจุ ทิ ่ีแข็งแรงทส่ี ดุ เพียงตวั เดยี วจะผสมกบั ไขใ่ บหน่งึ จากนัน้ ไขท่ ่ไี ดร้ ับการผสมแล้วจะเดิน ทางเขา้ สูโ่ พรงมดลูกไปฝังตวั ในโพรงมดลูกและเจรญิ เตบิ โตเป็นเด็กทารกทอ่ี ยใู่ นครรภม์ ารดาโดยใชเ้ วลา ประมาณ 9 เดอื นจึงจะคลอดออกมาทางชอ่ งคลอดของผหู้ ญิง 2.ตวั ชีว้ ัดช้นั ปี 1.อธิบายความสาคญั ของระบบสืบพันธุร์ ะบบไหลเวยี นโลหิตและระบบหายใจทมี่ ีผลต่อ สขุ ภาพการเจริญเติบโตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธิบายวธิ ีการดแู ลรักษาระบบสบื พันธ์ุระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจใหท้ างาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายข้นั ตอนของการเกดิ ปฏิสนธอิ ย่างถกู ตอ้ งได้ (K) 2.ตระหนักถงึ ความสาคญั ของการปฏิสนธิ (A) 3. สามารถสื่อสารเพ่ืออธบิ ายข้ันตอนของการเกดิ ปฏิสนธใิ ห้ผอู้ ่นื เขา้ ใจอยา่ งถกู ตอ้ งได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วิธกี ารวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามเกีย่ วกับขนั้ ตอนของ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล / • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี 2 ข้นึ ไป การเกดิ ปฏสิ นธิ การอภิปราย/การสร้างแผนท่ีความคดิ * •ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมคา่ นิยมและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • รูปแบบประเมินคุณธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉลีย่ 2 ขนึ้ ไป แสดงออกของนกั เรยี น คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์* • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วิธกี ารวดั และประเมินผล เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ย 2 ข้ึนไป แสดงออกของนักเรยี น สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • ระบบตา่ งๆของร่างกาย – ระบบสืบพันธ์ุ : ขัน้ ตอนของการเกดิ ปฏสิ นธิ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย พดู คยุ เกี่ยวกบั การเกิดปฏิสนธิ วิทยาศาสตร์ สารวจและเกบ็ รวบรวมข้อมูลศกึ ษาสบื คน้ เรือ่ งการปฏิสนธิ ศิลปะ เขียนแผนภมู ิวาดรูปโครงสรา้ งสมาชิกในครอบครวั ของตนเอง 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ที่1 ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันพดู คยุ เพื่อทบทวนความรู้และความเขา้ ใจเกย่ี วกับการศกึ ษา ในคาบเรยี นทผี่ ่านมา 2. นักเรียนระดมสมองร่วมกันเพือ่ แสดงความคดิ ในประเดน็ ท่วี ่า “ทารกเกดิ มาได้อย่างไร ” โดยใชเ้ วลาตามท่คี รกู าหนด ขั้นท่ี2กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู หค้ วามรใู้ นเร่ืองการปฏิสนธโิ ดยใชภ้ าพแสดงลกั ษณะขน้ั ตอนของการเกดิ ปฏิสนธิ ประกอบหรอื เปดิ ส่อื วดี ีทศั น์เรื่องการปฏิสนธิใหน้ ักเรยี นดู 2. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามในประเดน็ ทนี่ กั เรียนไมเ่ ขา้ ใจหรอื สงสัยเพมิ่ เตมิ ขั้นที่3 ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการ³ • นักเรียนท้งั ช้นั รว่ มผลดั เปลย่ี นกันตงั้ คาถามและตอบคาถามเกย่ี วกับการเกิดปฏสิ นธิ ข้ันที่4 การนาไปใช้ • นักเรยี นวาดรปู แสดงขัน้ ตอนของการเกดิ ปฏสิ นธิเพ่อื สรุปความรทู้ ีไ่ ด้รบั จากการดวู ีดีทศั น์ใน เร่อื งดังกลา่ ว ข้ันท่ี 5 สรุปความรู้ • ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้ที่ไดร้ บั จากการศกึ ษาและการปฏิบัติกิจกรรมแล้วให้ นกั เรยี นบันทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมดุ บนั ทกึ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แผน่ ภาพวีดีทัศน์ประกอบการสอนเรือ่ งข้นั ตอนของเกิดปฏิสนธิ 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 6 บรษิ ัทสานกั พิมพว์ ฒั นาพานชิ จากดั 3. ส่ือการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบ ป. 6 บรษิ ัทสานกั พิมพ์วฒั นาพานิช จากัด 4. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐานสุขศึกษาและพลศึกษา ป. 6 บรษิ ทั สานักพมิ พ์วฒั นาพานิช จากัด
แผนการจดั การเรยี นรู้ท5ี่ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี1เรยี นรตู้ ัวเรา เวลาเรียน 11 ช่ัวโมง แผนการเรียนร้ทู ่ี 5ระบบสบื พนั ธ์ุ: การดูแลรักษาระบบสบื พันธ์ุ เวลาเรียน 1 ช่วั โมง ช้ัน ป. 6/1 สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ช้ัน ป.6/2 สอนวนั ที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรียนบา้ นพณิ โท .................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 1. สาระสาคัญ อวยั วะเพศเปน็ ส่วนประกอบของรา่ งกายบ่งบอกถึงลกั ษณะของความเป็นเพศชายหรือเพศ หญงิ โดยเราจะต้องให้การดแู ลรกั ษาความสะอาดใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมเพอ่ื นามาซึง่ ความมีสุขภาพท่ีดแี ละป้องกนั ความผิดปกตทิ อี่ าจเกดิ ขน้ึ ซึ่งจะสง่ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ 2. ตัวชว้ี ัดชนั้ ปี 1. อธิบายความสาคญั ของระบบสืบพนั ธุ์ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจที่มผี ลตอ่ สุขภาพการเจริญเติบโตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวิธีการดแู ลรกั ษาระบบสืบพันธุ์ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายวธิ กี ารดูแลรกั ษาความสะอาดร่างกายและอวยั วะเพศอย่างถูกตอ้ งได้ (K) 2. ตระหนกั ถึงความสาคญั ของการดแู ลรกั ษาความสะอาดร่างกายและอวยั วะเพศ (A) 3. แสดงทักษะในการดูแลรกั ษาความสะอาดร่างกายและอวัยวะเพศอย่างถกู ตอ้ งได้ (P) 4.การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ •ดา้ นความรู้ (K) วธิ กี ารวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • ซักถามเกี่ยวกบั แนวทางใน • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมูล / • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่ 2 ขึ้นไป การปฏิบัตแิ ละความสาคัญของ การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนท่ีความคดิ * การดูแลรักษาความสะอาด อวัยวะเพศ • ตรวจสอบความถูกต้องของ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล / • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ีย 2 ข้ึนไป การปฏิบตั กิ จิ กรรมนาความรูท้ ี่ การอภิปราย/การสรา้ งแผนทค่ี วามคิด* มี มาเขยี นวิธีดแู ลรักษาระบบ สบื พนั ธ์ุ •ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • สังเกตพฤติกรรมการ • รปู แบบประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ยี 2 ขึ้นไป แสดงออกของนักเรยี น คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์*
• ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมินผล เคร่ืองมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ีย 2 ขน้ึ ไป • สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ* แสดงออกของนักเรยี น สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มคี วามรับผิดชอบ 5. สาระการเรยี นรู้ •ระบบตา่ งๆของร่างกาย – ระบบสบื พันธ์ุ : การดแู ลรักษาระบบสบื พันธ์ุ 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาต่างประเทศ ฟังและอา่ นคาศัพทเ์ กีย่ วกบั คาบอกเพศคาสรรพนามทร่ี ะบเุ พศ คณติ ศาสตร์ นบั จานวนสมาชกิ ในกลุม่ ของตัวเองโดยแบ่งเพศชาย /หญิง ภาษาไทย พูดคยุ แสดงความคิดเห็นหรอื เขยี นเรยี งความเรอื่ งแนวทาง ในการรักษาความสะอาดรา่ งกาย วิทยาศาสตร์ สารวจและเก็บรวบรวมขอ้ มลู ศึกษาสบื ค้นและบันทึกข้อมลู เกี่ยวกับเรอื่ งลกั ษณะความแตกตา่ งระหวา่ งเพศชายกบั เพศหญงิ ศิลปะ วาดภาพแสดงวิธกี ารทาความสะอาดรา่ งกาย 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั ท1่ี ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครนู านักเรียนพดู คุยเพือ่ ทบทวนความรู้และความเข้าใจเกย่ี วกบั การศกึ ษาในคาบเรยี นที่ ผา่ นมา 2. นักเรียนอาสาสมคั รประมาณ 3–4 คนผลัดเปล่ยี นกนั ออกมาเล่าประสบการณ์ในการทา ความสะอาดรา่ งกายเพอ่ื ให้ทราบถึงแนวทางการปฏิบตั เิ บ้อื งตน้ ของนกั เรยี น ขั้นท2่ี กิจกรรมการเรียนรู้ • ครูให้ความรเู้ รอ่ื งการดูแลรักษาความสะอาดอวัยวะเพศและให้นักเรยี นสอบถามในประเดน็ ที่สนใจและสงสัย ขั้นท3ี่ ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมนาความร้ทู ่ีมี มาเขียนวธิ ดี ูแลรักษาระบบสืบพนั ธ์ุ ดังรายละเอียด ในหนังสอื เรยี น/หรอื ในสอ่ื การเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษาสมบรู ณแ์ บบป. 6 2. นักเรียนผลดั เปลย่ี นกันออกมานาเสนอรายงานผลการเขยี นบนั ทึกการดูแลระบบสืบพันธ์ุ โดยครูคอยใหค้ าแนะนา ขน้ั ที่4 การนาไปใช้
• มอบหมายใหน้ ักเรียนกลบั ไปปรับเปล่ียนพฤติกรรมการปฏิบตั ิตนเกีย่ วกบั การดแู ลรักษา ระบบสบื พันธข์ุ องตนเองโดยผู้ปกครองคอยให้คาแนะนา ขนั้ ท่ี5 สรปุ ความรู้ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เร่ืองการดแู ลรกั ษาระบบสืบพันธ์ุ 2. นักเรียนผลัดเปลย่ี นกนั อ่านบนั ทกึ วิธีการดแู ลระบบสบื พันธ์ใุ ห้เพอ่ื นๆฟงั 3. นักเรียนบันทกึ ความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมุดบันทกึ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ภาพแสดงวิธีการปฏบิ ัตติ นท่ีเหมาะสมในการดแู ลรกั ษาความสะอาดร่างกาย 2. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพื้นฐานสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 6 บรษิ ทั สานกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จากัด 3.สื่อการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบ ป.6 บรษิ ทั สานักพิมพ์วฒั นาพานิช จากดั 4.แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพื้นฐานสุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 6 บริษัทสานกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จากัด
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี1เรยี นร้ตู ัวเรา เวลาเรยี น 11 ชั่วโมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 6หน้าที่และโครงสรา้ งของระบบไหลเวยี นโลหิต เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวนั ที่........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ช้ัน ป.6/2 สอนวนั ท่ี........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรยี นบ้านพิณโท ............................................................................................................................................................................. มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 1. สาระสาคัญ รา่ งกายของคนเราตอ้ งการเลือดไปเลีย้ งส่วนต่างๆของรา่ งกายเน่อื งจากเลือดจะนาแก๊ส ออกซิเจนและสารอาหารไปยังอวัยวะต่างๆระบบไหลเวียนโลหติ จึงมคี วามสาคญั ตอ่ มนษุ ย์ 2. ตวั ช้วี ดั ช้ันปี 1. อธบิ ายความสาคัญของระบบสบื พนั ธร์ุ ะบบไหลเวยี นโลหิตและระบบหายใจที่มีผลตอ่ สขุ ภาพการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวธิ ีการดูแลรักษาระบบสบื พนั ธรุ์ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ (พ 1.1 ป. 6/2) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหน้าทีแ่ ละโครงสรา้ งของระบบไหลเวยี นโลหิตอย่างถกู ต้องได้ (K) 2. สนใจเขา้ ร่วมปฏิบัตกิ จิ กรรมการเรยี นรู้เก่ยี วกบั หนา้ ท่แี ละโครงสรา้ งของระบบไหลเวยี น โลหติ อยา่ งถูกตอ้ งได้ (A) 3. แสดงทกั ษะในการดแู ลอวยั วะภายในระบบไหลเวยี นโลหติ อยา่ งถูกตอ้ งได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • ซักถามเกี่ยวกับหนา้ ท่แี ละ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอขอ้ มูล / • ผ่านเกณฑ์เฉลีย่ 2 ข้นึ ไป โครงสรา้ งของระบบไหลเวียน การอภิปราย/การสรา้ งแผนทค่ี วามคดิ * โลหิต •ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • รูปแบบประเมนิ คุณธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ย 2 ขน้ึ ไป แสดงออกของนกั เรียน คา่ นยิ มและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์* •ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครื่องมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมินทักษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ีย 2 ขึ้นไป แสดงออกของนกั เรียน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มคี วามรบั ผิดชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • ระบบต่างๆของรา่ งกาย – ระบบไหลเวียนโลหติ : หน้าทแ่ี ละโครงสร้างของระบบไหลเวียนโลหติ 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย พูดคุยแสดงความคดิ เห็นหรือสรปุ และวิเคราะห์ เรอ่ื งหนา้ ทีแ่ ละโครงสร้างของระบบไหลเวยี นโลหิต วทิ ยาศาสตร์ สารวจและเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลศึกษาสืบค้นและบันทกึ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั เรอ่ื งหน้าทแ่ี ละโครงสรา้ งของระบบไหลเวียนโลหิต 7.กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นท่ี1 ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสนทนาเพ่อื ทบทวนความรแู้ ละความเข้าใจเก่ียวกบั การศึกษาใน คาบเรียนทผ่ี ่านมา 2. นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคาถามในประเด็นท่ีว่า “อวัยวะใดทส่ี าคญั ที่สุดในรา่ งกายของเราและ เปน็ อวัยวะที่เราไมส่ ามารถหยดุ การทางานของอวัยวะดงั กลา่ วได้” (หัวใจ) ขน้ั ท่ี2กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนร่วมกันดูภาพทแ่ี สดงถงึ หนา้ ทีแ่ ละโครงสร้างของระบบไหลเวยี นโลหติ ท่คี รเู ตรยี ม มา 2. ครูคดั เลือกนักเรยี นอาสาสมัคร 2–3 คนออกมาอธิบายโครงสรา้ งของระบบไหลเวียนโลหติ ตามความเข้าใจเพอ่ื ใหท้ ราบความรพู้ ้นื ฐาน 3. ครใู ห้ความรู้เรอ่ื งหน้าทแ่ี ละโครงสร้างของระบบไหลเวียนโลหติ เพม่ิ เติม ขั้นท่ี3 ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นักเรียนแบง่ กล่มุ กลุม่ ละ 4 –5 คนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนจับฉลากเลอื กหวั ขอ้ เกย่ี วกบั โครงสรา้ งของระบบไหลเวยี นโลหติ ที่สาคัญไดแ้ ก่ – หวั ใจ – เสน้ เลือด – เลือด โดยแตล่ ะกลมุ่ ระดมความคดิ เหน็ แล้วสัง่ ตวั แทนออกมาอธิบายความสาคัญของโครงสรา้ งแต่ ละหวั ข้อหนา้ ช้ันเรียน ข้นั ท่ี 4 การนาไปใช้ • มอบหมายใหน้ ักเรียนไปศึกษาเก่ียวกบั การไหลเวียนของเลอื ดมาล่วงหน้าโดยขอคาแนะนา จากผูป้ กครองแล้วนาเสนอในคาบเรยี นตอ่ ไป ขน้ั ที่5 สรปุ ความรู้ • ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ี่ไดร้ ับจากการศกึ ษาและการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมแลว้ ให้ นกั เรียนบันทึกความรู้โดยสังเขปลงในสมุดบนั ทึก สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพแสดงหน้าทแ่ี ละโครงสรา้ งของระบบไหลเวียนโลหิต 2. หนงั สือเรยี น รายวิชาพื้นฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 6 บริษัทสานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากัด 3.ส่อื การเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบรู ณแ์ บบ ป.6 บรษิ ทั สานกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จากดั
4.แบบฝกึ ทักษะ รายวชิ าพืน้ ฐานสุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 6 บริษทั สานักพิมพ์วฒั นาพานชิ จากัด
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่1เรียนร้ตู วั เรา เวลาเรยี น 11 ชั่วโมง แผนการเรียนรทู้ ี่ 7ระบบไหลเวยี นโลหติ : การไหลเวียนของเลอื ด เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวันท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ชน้ั ป.6/2 สอนวนั ที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ผสู้ อน ............................................. โรงเรยี นบา้ นพณิ โท .......................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ 1. สาระสาคัญ ร่างกายของคนเราต้องการเลอื ดไปเลี้ยงส่วนตา่ งๆของรา่ งกายเนอื่ งจากเลือดจะนาแก๊ส ออกซิเจนและสารอาหารไปยงั อวยั วะต่างๆระบบไหลเวียนโลหติ จึงมีความสาคญั ต่อมนุษย์ 2. ตัวชี้วดั ชัน้ ปี 1. อธิบายความสาคญั ของระบบสบื พนั ธร์ุ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจทีม่ ีผลต่อ สขุ ภาพการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวิธีการดูแลรกั ษาระบบสบื พนั ธ์รุ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจใหท้ างาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.อธิบายทศิ ทางการไหลเวยี นของเลือดในรา่ งกายอย่างถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนกั ถึงความสาคัญของการดูแลอวยั วะของระบบไหลเวียนโลหิต (A) 3.แสดงทักษะในการส่ือสารเพอื่ อธิบายทศิ ทางการไหลเวียนของเลือดอยา่ งถกู ต้องได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรู้ ( K ) วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล ซกั ถามความรเู้ กย่ี วกบั ทศิ ทาง • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ย 2 ข้ึนไป การไหลเวียนของเลือด การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนที่ความคิด* • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ • รปู แบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน • ร้อยละ 80 ข้ึนไป ปฏิบัตกิ ิจกรรมชว่ ยกนั ระบายสี หนงั สอื เรียนฯ /หรอื สื่อการเรยี นรูส้ ุข หวั ใจ ระบุทศิ ทางการไหลเวียน ศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบป. 6 ของเลอื ด • ด้านคณุ ธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) วธิ กี ารวัดและประเมินผล เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • รูปแบบประเมินคุณธรรมจรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉล่ยี 2 ข้นึ ไป แสดงออกของนกั เรยี น ค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์* •ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วิธกี ารวดั และประเมินผล เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • ผ่านเกณฑเ์ ฉลีย่ 2 ขนึ้ ไป • สงั เกตพฤติกรรมการ • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* แสดงออกของนกั เรียน
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามรับผิดชอบ 5. สาระการเรยี นรู้ • ระบบต่างๆของร่างกาย – ระบบไหลเวยี นโลหิต : การไหลเวียนของเลอื ด 6. แนวทางบูรณาการ คณติ ศาสตร์ นบั จานวนอตั ราการเตน้ ของหัวใจในเวลา 1 นาที ภาษาไทย พูดคยุ แสดงความคิดเหน็ เร่ืองทศิ ทางการไหลเวียนของเลอื ด วิทยาศาสตร์ สารวจและเกบ็ รวบรวมข้อมูลศกึ ษาสืบคน้ และบนั ทกึ ขอ้ มูล เก่ยี วกบั ทิศทางการไหลเวียนของเลือด ศิลปะ วาดภาพระบายสีหรอื จัดทาสมุดภาพท่แี สดงถึงทิศทาง การไหลเวียนของเลอื ด 7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ข้ันท่ี1 ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.ครูและนักเรยี นสนทนาร่วมกนั เพ่อื ทบทวนความรู้และความเข้าใจเกีย่ วกับการศกึ ษาในคาบ เรยี นท่ผี า่ นมา 2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4–5 คนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั เลน่ เกมโดยแขง่ ขนั เขยี นช่ืออวยั วะ ต่างๆในร่างกายให้ได้มากทส่ี ดุ ภายในเวลา 5 นาทีกล่มุ ใดเขยี นได้ถกู ต้องและไดจ้ านวนมากท่ีสดุ เป็นฝ่ายชนะ ขั้นที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูอธบิ ายและใหน้ ักเรยี นดูภาพร่างกายท่แี สดงถึงทศิ ทางการไหลเวียนของเลอื ดในรา่ งกาย 2.ครูและนักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับทิศทางการไหลเวียนของเลอื ดในรา่ งกาย ข้นั ท่ี 3ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นกั เรียนร่วมกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมชว่ ยกันระบายสีหัวใจ ระบทุ ิศทางการไหลเวยี นของเลอื ดโดย ใชเ้ วลาตามท่คี รกู าหนดดงั รายละเอยี ดในหนังสือเรียนหรือในสอ่ื การเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์ แบบป. 6 ขน้ั ท่ี 4 การนาไปใช้ • มอบหมายให้นักเรียนแบ่งกลุ่มโดยแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันสังเกตอัตราการเตน้ ของหัวใจกอ่ น หรือหลงั การออกกาลังกายพร้อมทัง้ นับจานวนอตั ราการเต้นของหัวใจและอธบิ ายลักษณะการเตน้ ของหัวใจ นอกเวลาเรียนโดยขอคาแนะนาจากครูผูส้ อนหรอื ผูป้ กครอง ข้นั ที่5 สรปุ ความรู้ • ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ่ีไดร้ บั จากการศกึ ษาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรมและให้ นักเรียนบันทกึ ความรูโ้ ดยสังเขปลงในสมดุ บันทกึ สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพแสดงทศิ ทางการไหลเวยี นของโลหติ
2. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐานสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 6 บรษิ ัทสานกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จากดั 3.สอ่ื การเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบ ป.6 บริษทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานิช จากัด 4.แบบฝกึ ทักษะ รายวิชาพ้ืนฐานสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 6 บรษิ ัทสานักพิมพ์วฒั นาพานชิ จากดั
แผนการจดั การเรียนรทู้ 8่ี กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี1เรียนรตู้ ัวเรา เวลาเรียน 11 ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ท่ี 8ระบบไหลเวียนโลหิต : การดแู ลรกั ษาระบบไหลเวยี นโลหิต เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ชัน้ ป. 6/1 สอนวนั ที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ชน้ั ป.6/2 สอนวันที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรยี นบา้ นพณิ โท ............................................................................................................................................................................. มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ 1. สาระสาคญั ร่างกายของคนเราต้องการเลือดไปเลีย้ งสว่ นตา่ งๆของรา่ งกายเนอ่ื งจากเลอื ดจะนาแกส๊ ออกซเิ จนและสารอาหารไปยงั อวยั วะตา่ งๆระบบไหลเวียนโลหิตจงึ มีความสาคัญดงั นั้นเราควรดแู ลระบบ ไหลเวียนโลหติ ใหท้ างานเปน็ ปกติ 2. ตัวชว้ี ดั ช้ันปี 1. อธิบายความสาคัญของระบบสบื พันธร์ุ ะบบไหลเวียนโลหติ และระบบหายใจท่มี ีผลต่อ สขุ ภาพการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธิบายวธิ กี ารดแู ลรักษาระบบสบื พันธ์รุ ะบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจใหท้ างาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1 . อธิบายวธิ กี ารดแู ลรักษาระบบไหลเวียนโลหิตอยา่ งถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการดูแลรกั ษาอวยั วะของระบบไหลเวียนโลหิต (A) 3. แสดงทกั ษะในการดแู ลอวยั วะของระบบไหลเวยี นโลหติ อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (P) 4.การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมินผล เครื่องมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • ซักถามความรเู้ ก่ยี วกับการ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล / • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ยี 2 ขึน้ ไป ดูแลรักษาระบบไหลเวียนโลหติ การอภิปราย/การสรา้ งแผนทคี่ วามคดิ * • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการ • รปู แบบของกจิ กรรมตามที่ระบใุ น • รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมมาเตมิ ขอ้ ความ หนงั สอื เรียนฯ /หรือส่ือการเรยี นรสู้ ุข ตามทค่ี ิด ระบบไหลเวียนโลหิต ศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์แบบป. 6 นนั้ เป็นเชน่ ไร •ด้านคุณธรรมจริยธรรมคา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • รูปแบบประเมินคณุ ธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑเ์ ฉล่ีย 2 ขึ้นไป แสดงออกของนกั เรียน ค่านยิ มและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์* • ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์เฉล่ีย 2 ขนึ้ ไป แสดงออกของนักเรียน
สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามรบั ผิดชอบ 5. สาระการเรยี นรู้ • ระบบตา่ งๆของรา่ งกาย – ระบบไหลเวียนโลหติ : การดแู ลรักษาระบบไหลเวียนโลหิต 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย พูดคยุ แสดงรกั ษาความคดิ เห็นหรืออ่านขอ้ ปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั วิธีดแู ลรักษา ระบบไหลเวยี นโลหติ 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี1 ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ครูและนกั เรียนสนทนารว่ มกันเพื่อทบทวนความรแู้ ละความเข้าใจเกยี่ วกบั การศึกษา ในคาบเรยี นท่ีผ่านมา 2. ครนู ารปู ภาพทแี่ สดงถงึ วิธีการปฏิบตั ิเพื่อดูแลรกั ษาระบบไหลเวยี นโลหติ ทีถ่ กู ตอ้ งและไม่ ถูกต้องมานกั เรยี นดูมาใหน้ กั เรยี นดูเพ่ือเปรยี บเทยี บถงึ การปฏิบตั ดิ ังกลา่ ว ข้นั ที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครอู ธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การดแู ลรกั ษาระบบไหลเวียนโลหติ ให้นกั เรยี นทราบ 2. นักเรยี นแบง่ กลุม่ กล่มุ ละ 5–6 คนครูแจกบัตรคาคาถามใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ ตอบดงั ตัวอยา่ งต่อไปนี้ – นักเรยี นคดิ ว่าการออกกาลังกายเปน็ วิธกี ารดแู ลรกั ษาระบบไหลเวียนโลหิตหรอื ไม่เพราะ เหตุใด (เปน็ เพราะการออกกาลังกายอยา่ งสม่าเสมอจะสง่ ผลใหห้ วั ใจและการไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ) – นกั เรียนคดิ ว่าการพกั ผอ่ นอย่างเพียงพอและดม่ื นา้ มากๆเปน็ วธิ กี ารดแู ลรกั ษาระบบ ไหลเวยี นโลหติ หรอื ไม่เพราะเหตุใด (เป็นเพราะการพักผอ่ นอยา่ งเพียงพอจะทาใหร้ ะบบไหลเวยี นโลหิตทางาน เป็นปกต)ิ (ครอู าจใชค้ าถามอืน่ ๆท่เี หมาะสมกับสภาพในการจดั การเรียนการสอนได้) ข้ันท่ี3 ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นกั เรยี นรว่ มกนั ปฏิบัติกจิ กรรมมาเตมิ ขอ้ ความตามทค่ี ิดระบบไหลเวียนโลหติ นั้นเป็นเชน่ ไร โดยใชเ้ วลาตามทค่ี รกู าหนดดงั รายละเอยี ดในหนงั สือเรียนฯ /หรอื ในส่ือการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบป. 6 ขั้นท่ี4 การนาไปใช้ • นกั เรียนนาความร้เู รอ่ื ง การดูแลรักษาระบบไหลเวยี นโลหิต ไปปฏิบัติใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ขนั้ ที่5 สรุปความรู้ • ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ี่ไดร้ บั จากการศกึ ษาและการปฏิบตั ิกจิ กรรมและให้ นักเรียนบนั ทึกความรูโ้ ดยสังเขปลงในสุดบนั ทกึ สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. แผ่นภาพแสดงวิธีการดูแลรักษาระบบไหลเวียนโลหติ ทีถ่ กู ตอ้ งและไม่ถูกต้อง
2. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐานสขุ ศึกษาและพลศกึ ษาป .6 บรษิ ัทสานักพมิ พว์ ัฒนาพานชิ จากดั 3. สื่อการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบูรณ์แบบป.6 บริษัทสานกั พมิ พ์วฒั นาพานิชจากัด 4. แบบฝกึ ทักษะ รายวิชาพื้นฐานสขุ ศึกษาและพลศกึ ษาป .6 บรษิ ัทสานกั พมิ พ์วัฒนาพานิช จากดั
แผนการจดั การเรยี นรูท้ 9ี่ กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี1 เรยี นร้ตู ัวเรา เวลาเรียน 11 ชัว่ โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 9 ระบบหายใจ: หนา้ ท่ขี องระบบหายใจ เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวนั ที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ชนั้ ป.6/2 สอนวันท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ผูส้ อน ............................................. โรงเรียนบ้านพณิ โท ........................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ 1. สาระสาคญั ระบบหายใจมีความสาคญั ตอ่ การมชี ีวิตของคนเราเพราะคนเราอาจมีชวี ิตอย่ไู ด้เป็นสปั ดาห์ถ้า ขาดอาหารและมชี วี ติ อย่ไู ดเ้ ป็นวนั ถา้ ขาดนา้ แต่ไมส่ ามารถมชี ีวิตอยไู่ ดถ้ า้ ขาดอากาศหายใจเพยี งไมก่ ี่นาที 2. ตัวชว้ี ดั ชั้นปี 1. อธบิ ายความสาคัญของระบบสืบพันธ์รุ ะบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจท่มี ีผลต่อ สขุ ภาพการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธิบายวธิ กี ารดูแลรกั ษาระบบสืบพนั ธ์รุ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ (พ 1.1 ป. 6/2) 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายหน้าทีข่ องระบบหายใจอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของระบบหายใจ (A) 3. แสดงทกั ษะในการดแู ลรักษาระบบหายใจอยา่ งถูกต้องได้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เกีย่ วกับหน้าท่ี • แบบประเมินผลการนาเสนอข้อมลู / • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ยี 2 ขึ้นไป ของระบบหายใจ การอภปิ ราย/การสร้างแผนที่ความคิด* • ด้านคณุ ธรรมจริยธรรมคา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤติกรรมการ • รปู แบบประเมนิ คุณธรรมจรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขึ้นไป แสดงออกของนกั เรยี น คา่ นิยมและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์* • ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล • สังเกตพฤติกรรมการ • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์เฉลยี่ 2 ข้ึนไป แสดงออกของนกั เรียน สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามรบั ผิดชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • ระบบต่างๆของรา่ งกาย – ระบบหายใจ: หน้าท่ีของระบบหายใจ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย พูดคยุ แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั หน้าท่ีของระบบหายใจ 7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครแู ละนกั เรยี นสนทนาร่วมกันเพอื่ ทบทวนความร้แู ละความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การศกึ ษาใน คาบเรยี นท่ผี า่ นมา 2. ครใู หน้ กั เรยี นทดลองกลั้นลมหายใจแลว้ ใหบ้ อกความรู้สกึ ทเี่ กิดข้นึ เพ่ือให้นักเรียนเกดิ ความ ตระหนักถึงความสาคญั ของระบบหายใจ ขน้ั ท่ี2 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู หค้ วามรู้เร่อื งหนา้ ทีข่ องระบบหายใจดงั รายละเอยี ดในหนังสอื เรยี นฯ /หรอื ในส่ือการ เรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบป. 6 2. นกั เรยี นร่วมกันตอบคาถามตามประเดน็ ต่อไปนตี้ วั อยา่ งคาถามเช่น –เราหายใจเขา้ เพ่ือนาแกส๊ ชนิดใดเข้าส่รู า่ งกายและเพื่ออะไร (แกส๊ ออกซเิ จนเพ่อื ใช้ใน ขบวนการเผาผลาญสารอาหารให้เกิดพลงั งานทีร่ า่ งกายตอ้ งการ) – เราหายใจออกเพือ่ นาแกส๊ ชนิดใดออกจากร่างกาย(แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์) (ครอู าจใช้คาถามอ่ืนๆที่เหมาะสมกับสภาพในการจัดการเรียนการสอนได้) ข้นั ท่ี3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ 1. นกั เรยี นแบง่ ออกเป็น 2 กลุม่ แตล่ ะกลุม่ ผลดั เปล่ยี นกันอภิปรายและแสดงความคดิ เห็นใน หัวขอ้ เรือ่ งมลพิษทางอากาศเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบหายใจอย่างไร 2. ครูใหค้ วามร้เู พ่มิ เตมิ และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามในประเดน็ ทส่ี งสัยโดยใชเ้ วลาตามที่ ครูกาหนด ข้ันที่ 4 การนาไปใช้ • นักเรยี นนาความรู้เรือ่ งหนา้ ทีข่ องระบบหายใจไปปฏบิ ตั ิใช้ในชีวติ ประจาวัน ขั้นท่ี5 สรปุ ความรู้ • ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้ทีไ่ ดร้ ับจากการศกึ ษาและปฏบิ ตั กิ ิจกรรมแลว้ ใหน้ กั เรยี น บนั ทึกความรูโ้ ดยสังเขปลงในสมุดบันทกึ จากัด สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ พานิชจากัด 1. แผ่นภาพแสดงเรือ่ งหนา้ ท่ีและโครงสรา้ งของระบบหายใจ 2. หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐานสุขศกึ ษาและพลศึกษาป . 6 บรษิ ทั สานักพมิ พว์ ัฒนาพานิช 3. สอื่ การเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบป. 6 บริษัทสานักพิมพ์วัฒนาพานิชจากัด 4. แบบฝึกทกั ษะ อ รายวชิ าพื้นฐานสขุ ศึกษาและพลศกึ ษาป . 6 บริษัทสานกั พมิ พว์ ัฒนา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู 1ี่ 0 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่1เรียนร้ตู ัวเรา เวลาเรียน 11 ชว่ั โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 10ระบบหายใจ: โครงสรา้ งของระบบหายใจ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ชน้ั ป.6/2 สอนวันที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรยี นบ้านพิณโท .......................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 1. สาระสาคัญ โครงสร้างของระบบหายใจทสี่ าคญั ไดแ้ ก่จมูกคอหอยกลอ่ งเสียงหลอดลมและปอดโดยอวัยวะ แตล่ ะส่วนมหี น้าท่ีสาคญั แตกตา่ งกนั 2. ตวั ชีว้ ัดช้นั ปี 1. อธิบายความสาคญั ของระบบสืบพันธุร์ ะบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจที่มผี ลตอ่ สุขภาพการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธิบายวิธีการดูแลรักษาระบบสืบพนั ธ์รุ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายโครงสร้างของระบบหายใจอยา่ งถูกต้องได้ (K) 2. ตระหนักถึงความสาคัญของหนา้ ที่โครงสรา้ งระบบหายใจ (A) 3. แสดงทกั ษะในการสือ่ สารเพ่ืออธิบายเกี่ยวกบั หน้าท่ีและคามสาคญั ของอวยั วะในระบบ หายใจแกผ่ อู้ ่นื อย่างถกู ต้องได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรเู้ ก่ยี วกบั • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอข้อมูล / • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขน้ึ ไป โครงสรา้ งของระบบหายใจ การอภปิ ราย/การสร้างแผนทค่ี วามคดิ * • ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการ • รูปแบบของกจิ กรรมตามท่ีระบใุ น • ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป ปฏิบตั กิ จิ กรรมนาความร้รู ะบบ หนังสอื เรียนหรอื สอื่ การเรยี นรู้สุขศึกษา หายใจ มาช่วยไขปัญหา และพลศึกษาสมบรู ณ์แบบป. 6 • ดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล • สงั เกตพฤติกรรมการ • รูปแบบประเมนิ คุณธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ยี 2 ขึน้ ไป แสดงออกของนักเรียน ค่านยิ มและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์* • ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑเ์ ฉลี่ย 2 ขน้ึ ไป แสดงออกของนกั เรยี น
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามรับผิดชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • ระบบตา่ งๆของร่างกาย – ระบบหายใจ: โครงสร้างของระบบหายใจ 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย พดู คุยแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั โครงสร้างของระบบหายใจ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่1 ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูและนกั เรียนสนทนารว่ มกันเพ่ือทบทวนความร้แู ละความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การศึกษาใน คาบเรียนทผ่ี า่ นมา 2.ครูให้นักเรยี นรว่ มกนั ดูภาพท่ีแสดงโครงสร้างของระบบหายใจและอวยั วะของระบบหายใจ ที่เตรยี มมาโดยใหน้ ักเรยี นร่วมกนั ตอบคาถามตามภาพอวยั วะทค่ี รูชีต้ วั อย่างเช่น – นกั เรียนรู้จักอวัยวะน้หี รือไม่และอวยั วะนีท้ หี่ น้าท่ใี ดบา้ ง (ขึ้นอยกู่ บั ภาพที่ครูแสดงหรอื ชี้) ข้นั ท่ี2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้ความรู้เรอ่ื งโครงสร้างของระบบหายใจโดยใชภ้ าพประกอบ 2. นกั เรียนร่วมกนั สรา้ งแผนที่ความคดิ เก่ียวกบั โครงสรา้ งและส่วนประกอบของระบบหายใจ สง่ ตัวแทนออกมาเขียนแผนทค่ี วามคิดทเ่ี พอ่ื นบอกลงบนกระดานดาเขียนแผนท่ีความคิดทีเ่ พอื่ นบอกลงบน กระดาน ขน้ั ที่ 3 ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นกั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 5 คนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมนาความรู้ระบบหายใจ มาช่วยไขปญั หาดังรายละเอยี ดในหนังสอื เรยี นฯ/หรือในสือ่ การเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบป . 6 โดยใชเ้ วลาตามทคี่ รกู าหนด ขั้นที่4 การนาไปใช้ เพม่ิ เติม • นกั เรยี นนาความร้เู รอื่ งโครงสรา้ งของระบบหายใจไปเล่าให้ผูป้ กครองฟงั และขอคาแนะนา ข้นั ที่5 สรปุ ความรู้ • ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปความร้ทู ่ีได้รับจากการศกึ ษาและปฏิบัตกิ ิจกรรมและให้นักเรยี น บันทกึ ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทกึ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แผ่นภาพแสดงเรอื่ งหนา้ ท่แี ละโครงสร้างของระบบหายใจ 2. หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐานสุขศกึ ษาและพลศึกษาป . 6 บริษทั สานักพิมพว์ ัฒนาพานิช จากัด 3. สื่อการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบป. 6 บรษิ ทั สานกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ จากัด 4. แบบฝึกทักษะ รายวชิ าพื้นฐานสุขศกึ ษาและพลศกึ ษาป. 6 บริษทั สานักพมิ พ์
แผนการจดั การเรียนรู้ท1ี่ 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี1เรยี นรตู้ วั เรา เวลาเรยี น 11 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 11ระบบหายใจ : การดแู ลรกั ษาระบบหายใจ เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ช้ัน ป. 6/1 สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรยี นที่ 1/.......... ชัน้ ป.6/2 สอนวนั ท่ี........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรยี นท่ี 1/.......... ผสู้ อน ............................................. โรงเรยี นบ้านพณิ โท ........................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์ 1. สาระสาคญั หากคนเราขาดอาหารอาจมชี วี ิตอยไู่ ดเ้ ปน็ สปั ดาหแ์ ละมชี ีวิตอยู่ได้เปน็ วนั หากขาดน้าแต่ไม่ สามารถมีชีวติ อยไู่ ด้ถ้าขาดอากาศหายใจเพยี งไม่กน่ี าทแี ละในขณะทีห่ ายใจจะเป็นการนาแก๊สออกซิเจนเข้าไป เผาผลาญอาหารท่ีรบั ประทานเพ่อื ทาให้ได้มาซงึ่ พลังงานในการดารงชีวติ นอกจากนนั้ การหายใจยังนาแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ซง่ึ เปน็ ของเสยี ออกจากรา่ งกายทางลมหายใจอีกดว้ ยดงั น้ันการดูแลรกั ษาอวัยวะของระบบ หายใจจึงมีความสาคญั เป็นอยา่ งมากตอ่ ชีวิตของเรา 2. ตวั ชว้ี ัดช้ันปี 1. อธบิ ายความสาคญั ของระบบสืบพันธุ์ระบบไหลเวยี นโลหิตและระบบหายใจท่มี ผี ลต่อ สขุ ภาพการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการ (พ 1.1 ป. 6/1) 2. อธบิ ายวธิ กี ารดแู ลรกั ษาระบบสืบพนั ธุร์ ะบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจให้ทางาน ตามปกติ(พ 1.1 ป. 6/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธกี ารปฏบิ ัติเกย่ี วกับการดแู ลรักษาระบบหายใจอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K) 2. ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการดูแลรักษาอวยั วะของระบบหายใจ (A) 3. แสดงทักษะในการปฏิบตั ติ นเพ่อื ดแู ลรักษาระบบหายใจอยา่ งถูกต้องได้ (P) 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมินผล เครือ่ งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล • ซักถามความร้เู ก่ียวกับการ • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอขอ้ มลู / • ผ่านเกณฑเ์ ฉลี่ย 2 ขึน้ ไป ดูแลรกั ษาระบบหายใจ การอภิปราย/การสรา้ งแผนท่ีความคดิ * • ตรวจสอบความถูกตอ้ งในการ • รูปแบบของกจิ กรรมตามท่รี ะบุใน • รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ปฏิบัติกิจกรรมวิธกี ารดูแล หนงั สือเรียนฯ /หรือส่ือการเรียนรู้สขุ ระบบหายใจ ขอ้ ใดถกู ขอ้ ใดผดิ ศึกษาและพลศึกษาสมบูรณแ์ บบป. 6 • ด้านความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ • รปู แบบของกิจกรรมตามที่ระบุใน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมโครงงาน หนงั สือเรยี นฯ /หรือสอ่ื การเรียนรู้สุข การศึกษาค้นคว้าเรือ่ ง ศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบรู ณแ์ บบป. 6 พฤตกิ รรมของบุคคลท่ีส่งผลต่อ ระบบไหลเวยี นโลหิต
• การทดสอบความรูห้ ลังการ • แบบทดสอบความรูป้ ระจาหนว่ ยการ • ร้อยละ 80 ขึ้นไป เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรียนรทู้ ี่ 1 • ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมค่านยิ มและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วิธีการวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • รูปแบบประเมินคณุ ธรรมจริยธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ย 2 ข้นึ ไป แสดงออกของนกั เรยี น คา่ นยิ มและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์* • ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* • ผา่ นเกณฑเ์ ฉลี่ย 2 ข้นึ ไป แสดงออกของนักเรียน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคดิ 2.ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มีความรบั ผิดชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • ระบบตา่ งๆของร่างกาย – ระบบหายใจ : การดูแลรักษาระบบหายใจ 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย พดู คยุ แสดงความคิดเหน็ หรืออา่ นและจดจาเก่ยี วกบั การดูแลรักษา ระบบหายใจ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่1 ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครแู ละนักเรียนสนทนาร่วมกนั เพอ่ื ทบทวนความรู้และความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การศึกษาใน คาบเรยี นท่ีผ่านมา 2. นักเรียนอาสาสมัครประมาณ 3–4 คนออกมานาเสนอเกยี่ วกบั โครงสร้างสาคญั ของอวยั วะ ในระบบหายใจท่ีไดร้ ับมอบหมายในคาบเรียนทผี่ า่ นมาหน้าชนั้ เรยี นโดยครูใหค้ วามรู้เพิ่มเติม ขั้นที่2 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครนู าภาพแสดงวิธกี ารปฏิบตั ิทีถ่ กู ต้องในการดแู ลรกั ษาระบบหายใจใหน้ ักเรยี นดูร่วมกัน 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรทู้ ่ีไดร้ บั โดยเขียนสรุปในรูปแบบของแผนท่คี วามคิดเกี่ยวกับ วธิ กี ารดแู ลรกั ษาระบบหายใจ 3. นักเรยี นอาสาสมัครออกมานาเสนอแผนทค่ี วามคดิ เก่ียวกับวธิ ีการดูแลรักษาระบบหายใจที่ ร่วมกนั สรุปหนา้ ชน้ั เรยี น ข้ันที่3 ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ • นักเรียนแบง่ กลุ่มกลมุ่ ละ 4–5 คนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมวิธกี ารดูแลระบบหายใจ ขอ้ ใดถกู ขอ้ ใดผิดโดยใช้เวลาตามทค่ี รกู าหนดดงั รายละเอียดในหนังสือเรยี นฯ/หรอื ในสอ่ื การเรียนรู้สขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษาสมบูรณ์แบบป. 6
ขน้ั ท่ี4 การนาไปใช้ • นกั เรยี นนาความรูเ้ ร่อื งการดูแลระบบหายใจทไี่ ดร้ บั จากการศึกษาและการปฏิบตั ิกจิ กรรมไป รว่ มพดู คยุ กบั ผู้ปกครองโดยใหผ้ ปู้ กครองตอบรับผลการปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรียนกลบั มาทีค่ รู ขั้นท่ี 5 สรุปความรู้ 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ทไ่ี ดร้ บั จากการศกึ ษาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรมและให้ นกั เรยี นบันทกึ ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบันทกึ 2. นักเรียนร่วมกนั ทาแบบทดสอบความร้ปู ระจาหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรียนรตู้ ัวเรา สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบความรูป้ ระจาหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรยี นรตู้ วั เรา 2. แผน่ ภาพแสดงวธิ ีการปฏิบตั ทิ ่ถี ูกตอ้ งในการดแู ลรกั ษาระบบหายใจ 3. หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐานสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาป . 6 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 4. สื่อการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษาสมบูรณ์แบบป. 6 บริษทั สานักพิมพ์วัฒนาพานิชจากัด 5. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวิชาพื้นฐานสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาป . 6 บริษทั สานกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จากัด
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 12 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ชีวติ และครอบครวั เวลาเรยี น 9 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรทู้ ่ี 12 ความหมายและความสาคัญของสัมพนั ธภาพ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ช้ัน ป.6/2 สอนวันที่........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ผู้สอน ............................................. โรงเรียนบา้ นพิณโท ........................................................................................................................................................................... มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเหน็ คณุ ค่าตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมีทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ิต 1. สาระสาคัญ สัมพนั ธภาพหมายถงึ การสรา้ งความผูกพันดว้ ยการกระทาและการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล ร่วมกนั เพื่อใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจอนั ดตี ่อกันกบั เพ่อื นเราทุกคนตอ้ งมเี พ่ือนเชน่ เพ่ือนบ้านเพื่อนทีโ่ รงเรียนการสร้าง สัมพนั ธภาพท่ีเหมาะสมกบั เพอ่ื นจึงเป็นสิ่งสาคัญเพราะเพอื่ นจะเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการทากิจกรรมตา่ งๆร่วมกบั เรา 2. ตวั ชวี้ ดั ชน้ั ปี • อธบิ ายความสาคญั ของการสรา้ งและรักษาสัมพันธภาพกบั ผอู้ ืน่ (พ 2.1 ป. 6/1) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของสมั พนั ธภาพอยา่ งถูกต้องได้ (K) 2. รว่ มศึกษาและปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นรเู้ กี่ยวกับความหมายและความสาคญั ของ สมั พันธภาพดว้ ยความสนใจและมีระเบียบวนิ ยั (A) 3. สามารถส่ือสารเพือ่ อธิบายความหมายและความสาคัญของสมั พันธภาพให้ผอู้ ืน่ เขา้ ใจ อย่างถกู ต้องได้ (P) 4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ (K) วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ทดสอบความรูพ้ นื้ ฐานใน • แบบทดสอบความรู้กอ่ นและหลงั เรยี น – หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2ชวี ิตและ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ครอบครัว • ซกั ถามความรู้ในเรอื่ ง • แบบประเมนิ ผลการนาเสนอขอ้ มูล / • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี 2 ขน้ึ ไป ความหมายและความสาคัญ การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนท่คี วามคิด* เก่ียวกบั การสรา้ งสัมพนั ธภาพ • ตรวจสอบความถกู ต้องในการ • รปู แบบของกจิ กรรมตามท่ีระบุใน • รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเกมเขาวงกต หนงั สอื เรียนฯ /หรอื สอื่ การเรยี นร้สู ุข ช่วยเราลดความห่างเหิน ศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบูรณแ์ บบป . 6 • ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมคา่ นิยมและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) วิธีการวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • รูปแบบประเมนิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉล่ีย 2 ขนึ้ ไป แสดงออกของนกั เรียน ค่านิยมและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์*
• ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล • ผา่ นเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขน้ึ ไป • สงั เกตพฤติกรรมการ • แบบประเมินทกั ษะ/กระบวนการ* แสดงออกของนักเรียน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ 5. สาระการเรยี นรู้ • การสรา้ งสมั พันธภาพกับผู้อืน่ – ความหมายและความสาคัญของการสรา้ งสมั พนั ธภาพ 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย พดู แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับความหมายและความสาคัญ ของสัมพนั ธภาพ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นเตรยี มกอ่ นนาเข้าสู่บทเรยี น • ครนู าแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ชวี ติ และครอบครวั แจกให้นักเรยี นโดย อธิบายจุดมุ่งหมายใหน้ กั เรียนทราบถึงวัตถุประสงคข์ องการทดสอบความรู้ ขัน้ ท่ี1 ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น • นักเรยี นรว่ มกันดภู าพแสดงลกั ษณะนิสยั ของเด็กสองคนท่แี ตกตา่ งกัน ภาพท่ี 1 แสดงเปน็ ภาพเดก็ ทกี่ าลัง ช่วยเพอื่ นที่หกลม้ ภาพที่ 2 แสดง ภาพเด็กที่กาลงั รงั แกเพ่อื น ทค่ี รูเตรียมมาโดยนกั เรยี น ร่วมกนั บรรยายภาพทเ่ี หน็ ในประเดน็ ทีว่ ่า “ภาพเด็กทั้ง 2 ทแ่ี สดงทง้ั สองภาพมคี วามแตกตา่ งกันอย่างไร ” เพอ่ื ชี้ใหเ้ ห็นถงึ ความสาคัญของการสรา้ งสัมพันธภาพทีค่ วรมตี อ่ เพื่อน ขน้ั ที่2 กิจกรรมการเรยี นรู้ • นกั เรียนแบง่ เป็น 2 กล่มุ แตล่ ะกลุม่ รว่ มศึกษาเร่อื งความหมายและความสาคญั ของ สมั พันธภาพ ในหนงั สือเรยี นฯ /หรือในสือ่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาสมบรู ณแ์ บบป . 6 โดยใช้เวลา ตามทคี่ รกู าหนด ขั้นท3่ี ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์ 1. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนออกมาสรุปความรแู้ ละเนอื้ หาท่เี กยี่ วกบั ความหมายและ ความสาคัญของสมั พนั ธภาพใหเ้ พื่อนๆฟงั 2. ครูให้ความรใู้ นเรือ่ งความหมายและความสาคัญของสัมพนั ธภาพเพิ่มเตมิ ข้นั ที่4 การนาไปใช้ • นกั เรยี นร่วมกันปฏบิ ัติกจิ กรรมเกมเขาวงกต ชว่ ยเราลดความห่างเหินดังรายละเอยี ดใน หนงั สอื เรยี นฯ/หรอื ในสือ่ การเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษาสมบรู ณ์แบบ ป. 6 ขน้ั ท่ี5 สรุปความรู้ • ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคัญเร่ืองความหมายและความสาคัญของสมั พนั ธภาพ แลว้ ใหน้ กั เรยี นบนั ทึกความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมดุ บนั ทึก
สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ชีวติ และครอบครัว 2. ภาพแสดงเปรียบเทยี บเหตกุ ารณ์แสดงลกั ษณะนิสยั ของเด็กสองคน 3. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐานสุขศกึ ษาและพลศกึ ษาป . 6 บริษัทสานกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ จากดั 4. สอื่ การเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษาสมบรู ณแ์ บบป . 6 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานชิ จากัด 5. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพืน้ ฐานสขุ ศกึ ษาและพลศึกษาป . 6 บริษทั สานักพมิ พว์ ฒั นา พานิชจากัด
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 13 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชีวิตและครอบครวั เวลาเรียน 9 ชั่วโมง แผนการเรยี นรูท้ ่ี 13 แนวทางการสรา้ งเสริมสัมพันธภาพ เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง ชน้ั ป. 6/1 สอนวนั ที่........เดอื น..................พ.ศ. ............ เวลา...................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ชน้ั ป.6/2 สอนวนั ท่ี........เดือน..................พ.ศ. ............ เวลา..................... ภาคเรียนที่ 1/.......... ผ้สู อน ............................................. โรงเรียนบา้ นพณิ โท ........................................................................................................................................................................ มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คุณคา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที ักษะในการดาเนนิ ชีวติ 1. สาระสาคญั ความรูแ้ ละความเขา้ ใจในเรอื่ งแนวทางการสร้างเสริมสมั พันธภาพและความสามารถในการนา แนวทางดงั กล่าวมาปฏิบตั อิ ย่างถกู ต้องเหมาะสมจะช่วยใหน้ ักเรยี นดารงชวี ติ ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข 2. ตัวช้ีวดั ชั้นปี • ความสาคัญของการสรา้ งและรกั ษาสัมพันธภาพกบั ผู้อืน่ (พ 2.1 ป. 6/1) 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายแนวทางในการสรา้ งสมั พันธภาพกับเพอื่ นอย่างถูกตอ้ งได้ (K) 2. ร่วมศกึ ษาและปฏิบัติกิจกรรมการเรยี นรู้เกย่ี วกบั แนวทางการสรา้ งเสริมสัมพนั ธภาพ กับเพ่ือนด้วยความสนใจและมรี ะเบียบวนิ ยั (A) 3. แสดงทักษะในการเลอื กแนวทางการสร้างสัมพันธภาพกับเพือ่ นอยา่ งถูกต้องได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ดา้ นความรู้ (K) วิธีการวดั และประเมินผล เครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล • ซกั ถามความรู้เรื่องแนว • แบบประเมินผลการนาเสนอขอ้ มลู / • ผา่ นเกณฑ์เฉลีย่ 2 ขึ้นไป ทางการสรา้ งเสรมิ สัมพันธภาพ การอภปิ ราย/การสรา้ งแผนทค่ี วามคดิ * กับเพื่อน • ตรวจสอบความถูกตอ้ งในการ • รปู แบบของกจิ กรรมตามท่รี ะบุใน • ร้อยละ 80 ข้ึนไป ปฏิบตั ิกิจกรรมรว่ มกันอา่ น หนังสือเรียนฯ /หรอื สือ่ การเรยี นรสู้ ุข กรณศี ึกษา แล้วช่วยกันคน้ หา ศึกษาและพลศึกษาสมบูรณ์แบบป. 6 คาตอบ • ด้านคณุ ธรรมจรยิ ธรรมค่านยิ มและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) วธิ ีการวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • รปู แบบประเมนิ คุณธรรมจริยธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉล่ีย 2 ขึ้นไป แสดงออกของนกั เรยี น ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์* • ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) วิธีการวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล • สังเกตพฤตกิ รรมการ • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ย 2 ขึน้ ไป แสดงออกของนักเรียน
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ 5. สาระการเรียนรู้ • การสร้างสมั พันธภาพกับผู้อน่ื – แนวทางการสรา้ งสัมพนั ธภาพ 6. แนวทางบรู ณาการ ภาษาตา่ งประเทศ ฟังอา่ นและเขียนคาศัพทภ์ าษาอังกฤษทเ่ี กีย่ วกับสัมพนั ธภาพ คณิตศาสตร์ ระบจุ านวนสมาชกิ เพอื่ นสนทิ ของตนเอง ภาษาไทย พูดแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ความหมายและลักษณะของ เพือ่ นที่ดกี ับเพ่อื นทีไ่ ม่ดแี ละวิธีการสรา้ งมิตร ศิลปะ วาดภาพระบายสีเพอ่ื นสนทิ ของตนเอง 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นท่ี1 ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน • ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกบั ความหมายและความสาคญั ของสมั พนั ธภาพเพื่อ ทบทวนความรู้จากการศกึ ษาในคาบเรียนที่ผา่ นมา ขัน้ ที่2 กิจกรรมการเรยี นรู้ • นักเรยี นแสดงบทบาทสมมตุ ิร่วมกันโดยกาหนดท่าทางการแสดงดังนี้ – การนนิ ทาเพื่อน – ใหเ้ พ่ือนลอกการบา้ น – การพดู จาไพเราะกบั เพ่อื นและนกั เรยี นร่วมกันแสดงเหตุผลประกอบคาตอบจากคาถาม ในประเด็นทว่ี ่า “บทบาทสมมุติในหวั ขอ้ ของนกั เรียนเปน็ วธิ กี ารสรา้ งสัมพันธภาพทีด่ หี รอื ไม่” ขน้ั ท่ี 3 ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ 1. นักเรยี นร่วมกันศึกษาในเรือ่ งแนวทางการสร้างเสรมิ สัมพนั ธภาพดงั รายละเอียดในหนังสอื เรยี นฯ/หรอื ในสื่อการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษาสมบูรณ์แบบป. 6 ร่วมกนั โดยใช้เวลาตามท่ีครกู าหนด 2. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมานาเสนอสรุปความรทู้ ี่ได้รับจากการอ่านให้เพอื่ นฟงั หน้าชั้น เรียน ข้ันท่ี 4 การนาไปใช้ • นกั เรยี นควรนาความรเู้ รอื่ งแนวทางการสร้างเสริมสมั พันธภาพไปปฏบิ ตั ใิ นชีวติ ประจาวัน ข้ันที่5 สรุปความรู้ • ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปความร้จู ากการศกึ ษาและการปฏบิ ัติกจิ กรรมแลว้ ใหน้ กั เรยี น บนั ทกึ ความรู้โดยสงั เขปลงในสมุดบนั ทึก สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. บตั รข้อความกาหนดทา่ ทางการแสดงบทบาทสมมตุ ิ
Search