49 จ) การนาองค์กร , การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ , การให้ความสาคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสีย , การวดั วิเคราะห์และการจัดการความรู้ , การมุ่งเน้นทรพั ยากรบคุ คล ,ผลลัพธ์การดาเนินการ การมุ่งเน้น ระบบปฏิบตั ิการ 259. Core Competencies หมายถงึ ข้อใด ก) สมรรถนะหลักของบคุ คล ข) สมรรถนะหลักขององค์การ ค) ระบบการกากบั ดูแลองค์การ ง) การเปรียบเทียบเชงิ แข่งขัน จ) การแขง่ ขันเพือ่ ความเป็นเลิศโดยการจัดเทียบเคียง 260. การบรหิ ารความเสีย่ ง (Risk Management) หมายถงึ ข้อใด ก) การบริหารจัดการที่มีการติดต่อสื่อสรกับทุกฝ่ายทั้งภายในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงาน เพื่อ องค์กรสามารถบรรลวุ ัตถุประสงค์ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ข) วิธีการบริหารจัดการที่เป็นไปเพื่อการคาดการณ์และการลดผลเสียความไม่แน่นอน ที่จะเกิด ขึ้นกับ องค์กรท้ังน้ี เพือ่ ให้องคก์ รสามารถบรรลวุ ัตถุประสงค์ได้มปี ระสิทธิภาพมากขึ้น ค) วิธีการบริหารจัดการที่เป็นไปเพื่อการวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับองค์กร ทั้งนี้เพื่อองค์กระจาย ความเสีย่ งในการดาเนินงานอย่างมปี ระสิทธิภาพ ง) ข้อ ก. และข้อ ข. จ) ถกู ทกุ ข้อ 261. วัตถปุ ระสงค์ของการบรหิ ารความเสี่ยง (Risk Management) คอื อะไร ก) การเยียวยาความสญู เสีย หลังจากเกิดความสูญเสีย ข) การวางแผนเพื่อความอยู่รอดขององค์เมอ่ื เกิดความสญู เสียเกิดข้ึน ค) การเตรียมขององค์กรเพื่อการวางแผนป้องกันความสญู เสีย ง) ข้อ ก. และข. จ) ถกู ทกุ ข้อ 262. ในการดาเนินการตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง ข้ันตอนแรกควรดาเนินการอย่างไร ก) จาแนกกลุ่มความเสี่ยง ข) จัดลาดบั ความสาคัญของความเสี่ยง ค) วเิ คราะห์ ประเมิน โอกาสทีเ่ กิดขึน้ ของเสี่ยง และความรุนแรงของผลกระทบ ง) ระบุความเสีย่ ง ปัจจัยความเสีย่ ง รวมทั้งผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ ท้ังทางตรงและทางออ้ ม จ) ถกู ทกุ ข้อ 263. โมเดลประเทศไทย 4.0 เกี่ยวข้องกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงขอ้ ใดมากที่สุด ก) พัฒนาเกษตรกรรม ข) ขยัน ประหยัด ซือ่ สัตย์ สามัคคี ค) พึง่ พาตนเอง พึ่งพากนั รวมกลุ่มอย่างมพี ลัง ง) เข้าใจเข้าถึงพฒั นา รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
50 จ) การไม่พึง่ พาบุคคลอื่น 264. การก้าวสูป่ ระเทศไทย 4.0 ทม่ี ีความมัน่ คง ม่ังค่ัง ย่ังยืน ต้องมีการพฒั นาท่สี มดลุ กี่มิติ ก) 3 มิติ ข) 4 มิติ ค) 5 มิติ ง) 6 มิติ จ) 7 มิติ 265. การผนกึ กาลังทุกภาคส่วนภายใต้แนวคดิ “พลงั ประชารฐั ” เกี่ยวขอ้ งกับขอ้ ใดมากท่สี ุด ก) ขยนั ประหยัด ซื่อสัตย์ สามัคคี ข) รู้จักเติม รู้จกั พอ รู้จกั ปัน ค) พัฒนาเกษตรกรรม ง) เข้าใจเข้าใจถึงพฒั นา จ) การอดทนต่ออุปสรรค 266. “Value – Based Economy” เกีย่ วขอ้ งกบั โมเดลใดมากที่สดุ ก) ประเทศไทย 1.0 ข) ประเทศไทย 2.0 ค) ประเทศไทย 3.0 ง) ประเทศไทย 4.0 จ) ประเทศไทย 5.0 267. ทนุ ตามขอ้ ใดท่เี ปน็ หัวใจในการขับเคลื่อน ประเทศไทย 4.0 ก) ทนุ มนุษย์ ข) ทุนเศรษฐกิจ ค) ทุนสังคม ง) ทนุ สิง่ แวดล้อม จ) ทนุ ทรพั ย์ 268 “เศรษฐกิจที่ขบั เคลื่อนดว้ ยนวตั กรรม” เกี่ยวกับโมเดลมากทีส่ ุด ก) ประเทศไทย 1.0 ข) ประเทศไทย 2.0 ค) ประเทศไทย 3.0 ง) ประเทศไทย 4.0 จ) ประเทศไทย 5.0 269 หากหน่วยงานของรัฐต้องการงานจ้างออกแบบซึ่งเคยทราบหรือเคยเห็นความสามารถแล้ว จะต้องใชว้ ิธีการจา้ งแบบใด ก) วิธีประกวดแบบ ข) วิธีประกาศเชิญชวนทัว่ ไป ค) วิธีคดั เลือกเฉพาะเจาะจง ง) วิธีเฉพาะเจาะจง จ) วิธี 270 ข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถ่ินและลูกจ้างขององค์กรปกครองท้องถ่ิน จะต้องยึดม่ันในค่านิยม หลกั ของมาตรฐานจริยธรรมกี่ข้อ ก) 6 ข้อ ข) 7 ข้อ ค) 8 ขอ้ ง) 9 ข้อ จ) 10 ข้อ รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
51 271. สารสนเทศคอื อะไร ก) ขอ้ มูลที่ยงั ไม่ผ่านการประมวลผล ข) ข้อมลู ทีย่ ังไม่ผ่านการประมวลผล แตน่ าไปใช้ในการตดั สินใจ ค) ขอ้ มลู ที่ผา่ นการประมวลผลแลว้ แตย่ ังไม่นามาใช้ในการตดั สินใจ ง) ข้อมูลทีผ่ ่านการประมวลผลแลว้ และนามาใช้ในการตดั สินใจ จ) ข้อมูลทีย่ ังไม่ผ่านการประมวลผล แตน่ ามาใช้ในการตัดสินใจ 272. การวัดขนาดข้อมูล 8 Bit มีคา่ เท่ากบั ก) 1 Byte ข) 10 Byte ค) 100 Byte ง) 1024 Byte จ) 1024 GB 273. อปุ กรณท์ ่ที าหน้าทก่ี ระจายสญั ญาณของเครือข่ายไรส้ ายเรยี กว่าอะไร ก) WiMax ข) Personal Digital ค) Backbone ง) Access Point จ) Baseband 274. เว็บไซตใ์ ดทเ่ี ขา้ ตรวจ มาตรการพฒั นาคุณภาพชีวติ ผ้มู ีบัตรสวสั ดิการแห่งรฐั ก) http://www.rd.go.th ข) https://www.sso.go.th/wpr ค) http://www.laas.go.th ง) http://welfare2560.epayment.go.th จ) http://www.mof.go.th 275. เวบ็ ไซต์กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิน่ คอื ข้อใด ก) https://www.dopa.go.th ข) www.cdd.go.th ค) www.disaster.go.th ง) www.dla.go.th จ) http://www.moi.go.th 276. เว็บไซต์ใดคอื ระบบบันทกึ บญั ชีขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ก) www.gprocurement.go.th ข) http://e-plan.dla.go.th ค) www.cgd.go.th ง) http://www.laas.go.th จ) http://www.mof.go.th 277. เว็บไซต์ใดคอื ระบบสารสนเทศเพื่อการวางแผนและประเมินผลขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ก) www.gprocurement.go.th ข) http://e-plan.dla.go.th ค) www.cgd.go.th ง) http://www.laas.go.th จ) http://www.mof.go.th รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
52 278. เว็บไซต์ใดคือระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาท้องถ่ิน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ก) www.gprocurement.go.th ข) http://e-plan.dla.go.th ค) www.cgd.go.th ง) http://www.laas.go.th จ http://ccis.dla.go.th 279. ใครเป็นผู้แต่งต้ังประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติ ราชการทางปกครองพระราชบญั ญัติวธิ ีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ก) นายกรัฐมนตรี ข) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ค) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ิธรรม ง) เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา จ) คณะรฐั มนตรี 280. โทษทางวนิ ัย มีกีส่ ถาน ก) 2 สถาน ข) 3 สถาน ค) 4 สถาน ง) 5 สถาน จ) 6 สถาน 281. ขอ้ ใดไมใ่ ชโ่ ทษทางวนิ ัยของพนกั งานสว่ นทอ้ งถน่ิ ก) ให้ออก ข) ไล่ออก ค) ลดขั้นเงนิ เดือน ง) ภาคทณั ฑ์ จ) ตดั เงินเดอื น 282. ขอ้ ใดกล่าวถึงโทษทางวินัยจากหนกั ไปหาเบาไดถ้ กู ตอ้ ง ก) ให้ออก-ไล่ออก-ลดข้ันเงนิ เดือน-ตัดเงินเดือน-ภาคทัณฑ์ ข) ให้ออก-ไล่ออก-ภาคทัณฑ์-ตดั เงินเดือน- ลดข้ันเงินเดือน ค) ให้ออก-ไล่ออก-ลดข้ันเงนิ เดือน-ภาคทัณฑ์-ตดั เงินเดือน ง) ไล่ออก- ให้ออก-ลดขั้นเงนิ เดือน-ตัดเงินเดือน-ภาคทณั ฑ์ จ)ไล่ออก-ปลดออก-ลดข้ันเงินเดือน-ตดั เงนิ เดือน- ภาคทัณฑ์ 283. การเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถ่ิน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มีจานวน เท่าใด ของจานวนผู้มีสิทธิเลือกตงั้ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอเพื่อใหม้ ีการ ออกขอ้ บญั ญัติทอ้ งถิ่นได้ ก) กึง่ หน่งึ ข) ไม่น้อยกว่ากึง่ หน่ึง ค) ไม่น้อยกว่าหนึง่ ในสาม ง) ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
53 จ) ไม่น้อยกว่าหนึ่งในหา้ 284. คาร้องขอให้พิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถ่ิน ต้องมีรายละเอียดประกอบดังนี้ ข้อใดกล่าวไม่ ถูกตอ้ ง ก) ร่างขอ้ บญั ญตั ิท้องถิน่ ซึง่ ตอ้ งแสดงได้ว่ามีความประสงค์จะตราข้อบญั ญตั ิท้องถิ่นในเรื่องใด ข) รายชอ่ื ผแู้ ทนของผู้เข้าชื่อที่จะมีอานาจดาเนินกิจการทีเ่ กี่ยวข้องกบั การเสนอและการพิจารณา ข้อบญั ญตั ิท้องถิน่ ค) บตั รหรือหลักฐานอ่นื ใดของทางราชการหรอื รปู ถ่ายสามารถแสดงตนได้ ง) สาเนาทะเบียนบ้าน จ) ชื่อ ที่อยู่ และลายมือชื่อของผเู้ ข้าชื่อทกุ คน 285.นายโชคอานวย กระทาการขัดขวางมิให้นายคมขาซึ่งเป็นเป็นผู้มีสิทธิเลือกต้ังในองค์การบริหาร ส่วนตาบลแบ่งปันไปใช้สิทธิเข้าชือ่ เสนอข้อบญั ญัติองค์การบริหารสว่ นตาบลแบง่ ปัน นายโชคอานวยมี ความผิดและอาจไดร้ ับโทษใด ก) ท้ังจาท้ังปรบั ข) ต้องระวางโทษจาคกุ ต้ังแตห่ กเดือนถึงหา้ ปี ค) ปรบั ต้ังแต่หนึ่งหม่นื บาทถึงหนง่ึ แสนบาท ง) ข้อ ข. และ ข้อ ค. จ) ถูกทุกข้อ 286. การยื่นคาร้องคัดค้านเพื่อให้ขีดฆ่าชื่อตนเองออกจากบัญชีรายชื่อผู้เข้าชื่อร้องขอให้พิจารณา ออกข้อบญั ญตั ิท้องถิ่น ต้องกระทาภายในระยะเวลาใด ก) ภายในเจด็ วันนบั แตว่ ันปิดประกาศรายชื่อ ข) ภายในสิบวันนบั แตว่ นั ปิดประกาศรายชือ่ ค) ภายในสิบห้าวันนบั แต่วันปิดประกาศรายช่ือ ง) ภายในยีส่ ิบวนั นับแตว่ นั ปิดประกาศรายชอ่ื จ) ภายในสามสิบวันนับแตว่ ันปิดประกาศรายชอ่ื 287.การเขา้ ชือ่ เสนอข้อบัญญัติท้องถิน่ เพื่อใหม้ ีการออกขอ้ บัญญัติท้องถิ่นจะตอ้ งยืน่ ต่อผู้ใด ก) ปลัดองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ข) ผบู้ ริหารท้องถิ่น ค) ประธานสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ง) นายอาเภอ จ) ผวู้ ่าราชการจังหวัด 288. ผ้ทู ่มี ีอานาจในการพิจารณาออกขอ้ บญั ญัติท้องถิน่ ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
54 ก) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ข) นายอาเภอ ค) ประธานสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ง) สภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ จ) ผวู้ ่าราชการจังหวัด 289. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ ง ตามพระราชบัญญตั ิว่าดว้ ยการเขา้ ชื่อเสนอข้อบญั ญัติทอ้ งถิน่ พ.ศ. 2542 ก) ผมู้ ีสทิ ธิเลือกต้ังในองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ผใู้ ดร่วมลงชือ่ ในการเข้าชือ่ ดังกล่าวโดยถูกต้องตาม พระราชบญั ญัติน้ีแล้ว จะถอนการเข้าช่อื ในภายหลังอกี มิได้ ข) ผมู้ ีสทิ ธิเลือกต้ังในองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ผใู้ ดร่วมลงชื่อในการเข้าชือ่ ดังกล่าวโดยถูกต้องตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีแล้ว ให้ถือว่าการเข้าชือ่ นั้นมีผลสมบูรณ์ ค) ผเู้ ข้าชื่อร้องขอให้พิจารณาออกข้อบญั ญตั ิท้องถิน่ ต้องเป็นผู้มสี ิทธิเลือกตั้งหรอื ใครกไ็ ด้ ที่มอี ายุ 18 ปี ง) ให้รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญตั ิน้ี จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 290. ใครเป็นผู้ตรวจสอบความครบถว้ น ของเอกสารประกอบคาร้องขอออกขอ้ บญั ญตั ิท้องถิน่ ก) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ค) ประธานสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ง) สภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ) นายอาเภอ 291. ถ้าเห็นว่าเอกสารคาร้องข้อบัญญัติท้องถ่ินครบถ้วนแล้ว ให้ใครจัดให้มีการปิดประกาศรายชื่อผู้ เข้าชื่อดังกล่าวไว้ ณ ท่ีทาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนั้น และเขตชุมชนหนาแน่นในเขต องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ นน้ั ก) ประธานสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ค) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ง) เลขานกุ ารสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น จ) นายอาเภอ 292. ในกรณีท่ีผู้ท่ีมีเป็นผู้มีชื่อในคาร้องข้อบัญญัติท้องถ่ินตามประกาศ โดยมิได้ร่วมเข้าชื่อด้วย ให้ผู้ น้ันมีสิทธิยืน่ คาคัดคา้ นต่อผู้ใด ก) นายอาเภอ ข) ผวู้ ่าราชการจังหวัด รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
55 ค) ประธานสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ง) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น 293. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกต้อง เกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการชือ่ ข้อบัญญตั ิท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ก) การพิจารณาออกข้อบัญญตั ิที่มกี ารเช่อื เสนอ ให้เป็นไปตามข้อบงั คบั การประชุมของสภาท้องถิน่ นั้น ข) ถ้ามีจานวนผู้เข้าชื่อไม่ครบตามที่ระเบียบกาหนด ให้ผู้ตรวจสอบยกเลิกจัดให้มีการพิจารณาออก ข้อบญั ญัติท้องถิ่นต่อไป ค) ถ้ามีจานวนผู้เข้าชื่อครบตามที่ระเบียบกาหนด ให้ผู้ตรวจสอบจัดให้มีการพิจารณาออกข้อบัญญัติ ท้องถิ่นต่อไป ง) เม่ือพ้นกาหนดระยะเวลาคัดค้านแล้ว ให้ถือว่ารายชื่อของผู้เข้าชื่อที่ไม่มีการคัดค้านเป็นรายชื่อ ที่ ถกู ต้อง จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวไม่ถกู ต้อง 294. ในกรณีท่ีผู้ท่ีมีเป็นผู้มีชื่อในคาร้องข้อบัญญัติท้องถ่ินตามประกาศ โดยมิได้ร่วมเข้าชื่อด้วย ให้ผู้ นน้ั มีสิทธิยื่นคาคัดค้าน เพือ่ ใหข้ ดี ฆ่าชือ่ ตนเองออกจากบัญชีรายชื่อผู้เขา้ ชือ่ ดังกล่าวไดภ้ ายในกี่วัน นับ แต่วันปดิ ประกาศ ก) 7 วนั ข) 15 วนั ค) 20 วนั ง) 30 วนั จ) 45 วนั 295.ถ้ามีชื่อในคาร้องข้อบัญญัติท้องถ่ินจานวนไม่ครบ ให้ผู้มีอานาจแจ้งให้ผู้แทนของผู้เข้าชื่อทราบ เพื่อดาเนนิ การจดั ใหม้ ีการเขา้ ชื่อเพิม่ เติมใหค้ รบภายในกี่วนั ก) 7 วัน ข) 15 วนั ค) 20 วนั ง) 30 วนั จ) 45 วนั 296.ถ้ามีชื่อในคาร้องข้อบัญญัติท้องถ่ินจานวนไม่ครบ ให้ผู้มีอานาจแจ้งให้ผู้แทนของผู้เข้าชื่อทราบ เพือ่ ดาเนินการจัดให้มีการเข้าชื่อเพิ่มเติมให้ครบ ถ้าพน้ กาหนดระยะเวลาดังกลา่ วมิไดเ้ สนอการเข้าชื่อ จนครบจานวนให้ใคร จาหน่ายเร่ืองการพิจารณาออกข้อบัญญัติท้องถ่ินท่ีมีการเข้าชื่อเสนอ ให้เป็นไป ตามข้อบงั คบั การประชมุ ของสภาทอ้ งถิ่นน้นั รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
56 ก) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ค) ประธานสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ง) นายอาเภอ จ) ผวู้ ่าราชการจังหวัด 297. จุดประสงค์หลักของพระราชบญั ญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. 2539 ข้อใดกลา่ ว ถูกตอ้ ง ก) ต้องการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รฐั ที่ปฏิบตั ิหนา้ ที่อย่างสจุ ริต รอบคอบ ข) ต้องการคุ้มครองหนว่ ยงานเอกชน ค) ต้องการคุ้มครองหนว่ ยงานของรัฐทีร่ ับผลกระทบจากการฟ้องร้องของเอกชน ง) ต้องการคุ้มครองหนว่ ยงานรัฐ จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวถกู ต้อง 298. ถ้าศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะเหตุท่ีหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าท่ีมิใช่ผู้รับผิดให้ขยายอายุ ความฟอ้ งร้องไปนานเท่าใด ก) 3 เดือน นับตั้งแตว่ ันทีค่ าพิพากษาน้ันถึงทีส่ ดุ ข) 6 เดือน นบั ต้ังแตว่ ันทีค่ าพิพากษานั้นถึงทีส่ ดุ ค) 1 ปี นับต้ังแตว่ ันที่คาพิพากษานั้นถึงทีส่ ุด ง) 2 นับต้ังแต่วันทีค่ าพิพากษาน้ันถึงทีส่ ดุ จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวถูกต้อง 299. การกระทาละเมิดของเจา้ หนา้ ท่ี ซึ่งมิใช่การกระทาในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ผู้เสียหายจะต้องฟอ้ งใคร ก) นายกรฐั มนตรี ข) เจ้าหน้าที่ ค) รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงการคลัง ง) กระทรวงการคลัง จ) หนว่ ยงานของรัฐทีเ่ จ้าหน้าทีส่ ังกัดอยู่ 300. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ ง ก) การเลือกต้ังสมาชิกสภาเมืองพทั ยา แบ่งเขตเลือกตั้งเปน็ สีเ่ ขตเลือกต้ัง ข) การเลือกต้ังสมาชิกสภาเทศบาลนคร แบ่งเขตเลือกตั้งเปน็ สีเ่ ขตเลือกต้ัง ค) การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้ถือเขตอาเภอเปน็ เขตเลือกตั้ง ง) การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบล ให้ถือเขตตาบลเป็นเขตเลือกต้ัง จ) การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตาบล ให้แบ่งเขตเทศบาลเปน็ สองเขตเลือกตั้ง รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
57 301. กรณีการกระทาละเมิดจากเจ้าหน้าท่ีซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐ ถือเป็นหน่วยงานใด เป็น หน่วยงานของรฐั ที่ตอ้ งรบั ผิดถกู ฟ้องร้องดังกลา่ ว ก) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิน่ ข) กรมการปกครอง ค) กระทรวงการคลัง ง) กระทรวงมหาดไทย จ) สานกั นายกรัฐมนตรี 302. ถ้าการละเมิดจากความผิดหรอื ความบกพร่องของหนว่ ยงานรฐั ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง ก) ให้หกั ค่าสินไหมทดแทนออกด้วย ข) ไม่ต้องหักส่วนแหง่ ความรบั ผดิ ดงั กล่าวออก ค) ให้หักส่วนแห่งความรบั ผิดดังกล่าวออกด้วย ง) ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ขอ้ ค. จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวถกู ต้อง 303. พนักงานส่วนท้องถ่ิน ประสงค์จะลาออกจากราชการ ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อใคร โดยยื่น ล่วงหน้ากอ่ นวนั ลาออกไม่น้อยกว่ากีว่ นั ก) ผวู้ ่าราชการจังหวัด / 30 วนั ข) ท้องถิน่ อาเภอ / 15 วนั ค) คณะกรรมการพนกั งานส่วนท้องถิน่ / 30 วนั ง) ปลดั องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / 30 วัน จ) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ / 30 วนั 304. การเข้าชื่อร้องขอต่อใคร เพื่อดาเนินการให้มีการลงคะแนนเสียงถอดถอนสมาชิกสภาท้องถ่ิน หรอื ผ้บู ริหารทอ้ งถิ่น ก) นายอาเภอ ข) ผวู้ ่าราชการจังหวดั ค) อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิน่ ง) ปลดั กระทรวงมหาดไทย จ) คณะกรรมการการเลือกต้ัง 305. ตาแหน่งใดเป็นผู้รักษาการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 แก้ไข เพิม่ เติมถงึ ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2558 ก) ผวู้ ่าราชการจังหวัด รวบรวมโดยประพันธ์ เวารมั ย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
58 ข) อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิน่ ค) ปลดั กระทรวงมหาดไทย ง) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย จ) นายกรัฐมนตรี 306. ผรู้ ักษาการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยการรับเงนิ การเบิกจา่ ยเงนิ การฝากเงิน การ เก็บรักษาเงนิ และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558 อาจมอบอานาจใหบ้ ุคคลใดไดอ้ ีก ก) ผวู้ ่าราชการจังหวดั ข) อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ค) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ง) ข้อ ก. และข้อ ข. จ) ข้อ ข. และข้อ ค. 307. การตรวจฎีกา มีสาระสาคัญหลายประการ ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ต้อง ก) มีเงินงบประมาณเพียงพอ และเอกสารถูกต้อง ข) ลายมอื ชื่อผู้บริหารลงนามอนุมัติ ค) ลายมอื ชื่อของผู้เบิกเงินถกู ต้อง ง) มีหนีผ้ กู พัน หรอื มีความจาเปน็ ต้องจา่ ย จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 308. การจา่ ยเงนิ ท่ใี ห้ผจู้ า่ ยเงนิ ทาใบรับรองการจ่ายเงนิ โดยไมต่ อ้ งทาบันทึกชี้แจงเหตุผล กรณใี ดบา้ ง ก) การจา่ ยเงนิ เปน็ ค่าโดยสารรถยนต์ รถยนต์ประจาทาง ข) การจา่ ยเงนิ ค่ารถ หรอื เรือนัง่ รถรบั จา้ ง ค) การจา่ ยรายหน่งึ ๆ ไม่ถึงสิบบาท ง) ข้อ ก. และข้อ ค. จ) ถูกทกุ ข้อ 309. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการกันเงิน และขยายเวลาการเบิกจ่ายเงินแล้วหากไม่ได้ดาเนินการ หรือมี เงนิ เหลือจา่ ยเงนิ ดงั กลา่ วเปน็ ไปข้อใด ก) ต้องส่งคลงั ข) เป็นเงินรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ค) ส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ง) ส่งคืนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ) ตกเป็นเงินสะสม รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
59 310. ให้ผู้บริหารทอ้ งถิ่น แต่งตง้ั คณะกรรมการเก็บรักษาเงนิ ณ สานกั งาน ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก) อย่างนอ้ ย 3 คน ในจานวนนีใ้ ห้ปลดั องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกรรมการโดยตาแหนง่ หนึง่ คน ข) อย่างนอ้ ย 3 คน ในจานวนนีใ้ ห้หัวหน้าหนว่ ยงานคลังเปน็ กรรมการโดยตาแหน่งหน่งึ คน ค) 2 คน ง) 3 คน จ) 5 คน 311. เงนิ ท่ยี ืมไป ใหผ้ ูย้ ืมส่งใบสาคญั และเงนิ ทเ่ี หลือจา่ ย (ถ้ามี) ภายในกาหนดระยะเวลากีว่ นั นบั จาก วนั กลับมาถึง กรณเี ดินทางไปราชการอื่นให้ส่งต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ้ใู หย้ ืม ก) 7 วัน ข) ภายใน 15 วัน ค) ไม่เกิน 15 วนั ง) ภายใน 30 วัน จ) ไม่เกิน 30 วนั 312. การเบิกเงนิ เดือน ค่าจา้ ง บาเหน็จบานาญ เงินประจาตาแหนง่ เงินเพิ่มเงินประโยชนต์ อบแทนอื่น เงนิ ชว่ ยเหลือและเงนิ อื่นในลกั ษณะเดียวกัน ใหเ้ ป็นตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คับ คาสงั่ หรอื หนังสือ สั่งการของหนว่ ยงานใด ก) สานักนายกรัฐมนตรี ข) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ค) กระทรวงมหาดไทย ง) กระทรวงการคลัง จ) จงั หวัด 313. ฎีกาเบิกเงนิ จะต้องพิมพใ์ ห้ชดั เจน หา้ มขูด ลบ หากผิดพลาดให้แกไ้ ขโดยวิธีตามขอ้ ใด ก) จดั ทารายงานสรุปข้อผดิ พลาด และบนั ทึกเสนอ ข) แก้ไขโดยวิธีขดี ฆ่า แล้วลงลงลายมือชือ่ รับรอง ค) แก้โดยวิธีใช้นา้ ยาลบคาผดิ แล้วเซน็ ชื่อกากับ ง) พิมพ์ใหมท่ ั้งฉบับ จ) ถูกทกุ ข้อ 314. การเบิกเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้หน่วยงานผู้เบิกกับหน่วยงานคลังนัน้ ใครเปน็ ผู้ลง ลายมือเบิกเงนิ ก) ผบู้ ริหารท้องถิ่น ข) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
60 ค) เจ้าหน้าทีก่ ารเงิน ง) หวั หนา้ หนว่ ยงานคลัง จ) หวั หนา้ หนว่ ยงานผู้เบิก 315. ก่อนการเบิกจ่ายเงินตามงบประมาณรายจ่ายประจาปีหรืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ให้ หน่วยงานผ้เู บิกยืน่ แผนการใช้จา่ ยเงนิ ตอ่ หน่วยงานคลังตามขอ้ ใด ก) ทกุ เดือน ข) ทกุ สองเดือน ค) ทกุ สามเดือน ง) ทกุ หกเดือน จ) ทกุ ต้นปีงบประมาณ 316.การขอเบิกเงินจากหน่วยงานคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตามงบประมาณประจาปี งบประมาณ ใหเ้ บิกได้แต่เฉพาะในปีงบประมาณนัน้ เวน้ แตต่ ามข้อใด ก) กรณีเงินอดุ หนุนทีร่ ฐั บาลให้โดยระบวุ ตั ถุประสงค์ ข) เปน็ เงินงบประมาณรายจ่ายทีไ่ ด้ก่อหน้ผี กู พันไว้ก่อนสนิ้ ปีงบประมาณ ค) เป็นเงินงบประมาณรายจ่ายที่มไิ ด้ก่อนหนีผ้ กู พนั ง) ข้อ ก. และข้อ ข. จ) ถกู ทกุ ข้อ 317. ทุกสิ้นปีงบประมาณ เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินได้ปิดบัญชีรายรับ รายจ่ายแล้ว ให้กัน ยอดเงนิ สะสมประจาปีไวต้ ามข้อใดของทกุ ปี ก) ร้อยละสีส่ ิบ ข) ร้อยละยี่สิบห้า ค) ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละยี่สิบห้า ง) ร้อยละสามสิบห้า จ) ไม่น้อยรอ้ ยละสามสิบ 318. กรณมี ีเงินสดเกบ็ รักษา ใหก้ รรมการเก็บเงนิ รว่ มกนั ตรวจสอบตัวเงนิ พรอ้ มลงลายมือชือ่ และเป็น หน้าทข่ี องผใู้ ด ท่ตี ้องเสนอผา่ นปลัดองคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถิ่น เพื่อเสนอให้ผู้บริหารท้องถิน่ ทราบ ก) เจ้าหน้าทีก่ ารเงิน ข) หวั หนา้ หนว่ ยงานคลัง ค) คณะกรรมการเกบ็ รักษาเงิน ง) เจ้าหน้าทีจ่ ดั เก็บรายได้ จ) ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
61 319. ให้ผู้ใด จัดทารายงานสถานะการเงินประจาวันตามแบบท่ีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน กาหนดเปน็ ประจาทกุ วนั ทีม่ ีการรบั จ่ายเงิน ก) เจ้าหน้าที่การเงิน ข) หวั หนา้ หนว่ ยงานคลงั ค) ปลัดองค์การบริหารส่วนท้องถิน่ ง) หวั หนา้ หนว่ ยงานผู้เบิก จ) เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 320. กรรมการเก็บรักษาเงนิ ต้องแต่งตง้ั พนักงานส่วนท้องถิ่นตั้งแตร่ ะดบั ใดข้ึนไป ก) ระดบั 1 (ปฏิบัติงาน) ข) ระดบั 2 (ปฏิบัติงาน) ค) ระดับ 3 (ปฏิบตั ิการ) ง) ระดบั 5 (ปฏิบัติการ) จ) ระดบั 6 (ชานาญการ) 321. ใครเปน็ กรรมการเก็บรกั ษาเงนิ โดยตาแหน่ง ก) นายเบ่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบล ข) นางสาวจันดารา เจ้าพนักงานการเงนิ และบัญชี ค) นายโปรโมต ผอู้ านวยการกองคลงั ง) นางสาวฉิมพลี เจ้าหนา้ ที่จัดเก็บรายได้ จ) นางโฉมตรู หัวหนา้ สานักปลัด 322. ผใู้ ด เปน็ ผูถ้ ือกญุ แจตูน้ ิรภยั ก) ปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ข) หวั หนา้ หนว่ ยงานคลัง ค) ผบู้ ริหารท้องถิ่น ง) เจ้าพนกั งานการเงนิ และบญั ชี จ) กรรมการเก็บรักษาเงิน 323. กุญแจต้นู ริ ภัย อยา่ งน้อยมีกี่ดอก ก) 1 ดอก ข) 2 ดอก ค) 3 ดอก ง) 4 ดอก จ) ตามความเหมาะสม รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
62 324. กรณีเทศบาลหรอื องค์การบริหารสว่ นตาบลท่อี ย่พู ื้นทห่ี า่ งไกลการคมนาคมไม่สะดวก ไม่สามารถ นาฝากธนาคารไดเ้ ป็นประจาทุกวนั ใหด้ าเนินการอย่างไร ก) ให้เกบ็ ไว้เอง หรอื ผมู้ ีอานาจสูงสดุ ของหน่วยงาน ข) ให้นาฝากธนาคารในวนั ทาการสุดท้ายของสัปดาห์ ค) ให้เกบ็ รกั ษาเงินสดไว้ทีต่ นู้ ิรภยั ง) ข้อ ข. และ ข้อ ค. จ) ถกู ทุกข้อ 325. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ งเกีย่ วกับใบเสร็จรบั เงนิ ก) ประทบั ตราเลิกใช้ ข) ใบเสรจ็ ที่ยังไม่ได้ใช้ ให้ติดไว้กับเล่มแตใ่ ห้ปรุเจาะรู ค) ขึน้ ปีใหมใ่ ห้ใบเสรจ็ เล่มใหม่ ง) ใบเสร็จเล่มใดใช้สาหรับเงินของปีใดอาจใช้ปีถดั ไปได้ จ) ใบเสร็จรับเงนิ ทกุ ฉบบั ให้มสี าเนาเยบ็ ติดไว้กบั เล่มอย่างน้อยหนง่ึ ฉบบั 326. ใบเสร็จรบั เงินภาษีบารงุ ท้องที่ ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง ก) ภ.บ.ท. 8 ข) ภ.บ.ท. 9 ค) ภ.บ.ท. 10 ง) ภ.บ.ท. 11 จ) ภ.บ.ท. 17 327. รายได้ที่องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลจดั เก็บเอง ได้แก่ ก) ภาษบารงุ ท้องที่ ภาษีโรงเรือนและทีด่ นิ ภาษีสุราและภาษีสรรพสามิต ข) ภาษีป้าย อากรการฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมประกอบกิจการทีเ่ ป็นอันตรายต่อสุขภาพ ค) ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธรุ กิจเฉพาะ ภาษีโรงเรือนและที่ดนิ อากรการฆ่าสัตว์ ง) ภาษีโรงเรอื นและที่ดนิ อากรประทานบตั ร ภาษีบารุงท้องที่ จ) ข้อ ก. และข้อ ข. 328. แผนงานหรอื งานสาหรับประมาณการดา้ นรายรบั และรายจา่ ยแสดงในรปู ตวั เลขจานวนเงิน หมายถึงขอ้ ใด ก) งบประมาณประจาปี ข) การตง้ั งบประมาณ ค) รายรับ – รายจ่าย ง) แผนงาน รวบรวมโดยประพันธ์ เวารมั ย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
63 จ) งบประมาณ 329. การตง้ั งบประมาณ ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง ก) แผนงานต่างๆ ของงบประมาณ ข) การวางแผน ใชจ้ ่ายงบประมาณ ค) การตงั้ วงเงนิ ในการจัดทางบประมาณ ง) แผนงานหรอื งานสาหรับประมาณการด้านรายรับและรายจ่าย จ) การแสดงแผนดาเนนิ งานออกเปน็ ตัวเลขจานวนเงิน 330.คณะกรรมการตรวจการจ้าง ปกติต้องตรวจผลงานท่ผี ูร้ บั จ้างสง่ มอบภายในกี่วนั ก) 3 วัน ข) 3 วนั ทาการ ค) 5 วนั ง) 5 วนั ทาการ จ) 7 วันทาการ 331. การจัดทางบประมาณรายจ่าย การบริหารราชการแผ่นดิน ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกต้อง ก) งบประมาณแบบขาดดลุ ข) งบประมาณแบบถ่วงดุล ค) งบประมาณแบบสมดุล ง) งบประมาณแบบเกินดุล จ) ข้อ ก. และข้อ ง. 332. ใครเปน็ ผู้มีสิทธิถือบตั รกาหนดสิทธิการใช้ (GFMIS Smart Card) หรอื password ก) กระทรวงการคลงั ข) กรมบัญชกี ลาง ค) เจ้าหนา้ ที่การเงินและบัญชี ง) หัวหนา้ หนว่ ยงานผู้เบิก จ) ผบู้ งั คบั บัญชา 333. คาวา่ “Government Fiscal Management In Formation System : GFMIS” หมายถึงขอ้ ใด ก) ระบบบริหารงานคลังภาครัฐ ข) ระบบบริหารงบประมาณของภาครฐั ค) ระบบบริหารเงินภาครฐั ง) ระบบบริหารการเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จ) การบริหารการเงิน การคลังภาครัฐ ดว้ ยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เวบ็ ไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
64 334.ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงิน และการทาเงิน ส่งคนื คลัง พ.ศ. 2551 สาหรับการเงนิ ไว้เบิกเหลื่อมปีวงเงนิ ต้งั แต่กี่บาทขึน้ ไป ก) 10,000 บาท ข) 50,000 บาท ค) 100,000 บาท ง) 500,000 บาท จ) 1,000,000 บาท 335.เมื่อคณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วให้สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สานัก เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและ หนว่ ยงานใด ร่วมกันจัดทาแผนการบรหิ ารราชการแผ่นดิน เสนอคณะรฐั มนตรี ก) กรมบัญชกี ลาง ข) กระทรวงมหาดไทย ค) กระทรวงการคลัง ง) สานกั งบประมาณ จ) สานกั นายกรฐั มนตรี 336. นโยบายไทยนิยม และกลไกประชารฐั น้นั สอดคล้องกบั เร่ืองใด? ก) ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ข) พอมี พอกิน พอใช้ ค) ระเบิดจากข้างใน ง) มนั่ คง มั่งค่ัง ย่ังยืน จ) แนะนาชี้แจงจากภาครฐั 337. ขอ้ ใดถือเปน็ สิทธิและเสรีภาพตามรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ก) การประกอบอาชีพ ข) ชีวติ และร่างกาย ค) การแสดงความคิดเหน็ ทางวิชาการ ง) การนับถือศาสนา จ) ไม่มขี ้อใดถูก 338.องค์การบริหารส่วนตาบลแห่งหนึ่ง ได้ดาเนินการเปลี่ยนยางรถยนต์ของรถบรรทุกน้า เอนกประสงค์ ทง้ั ชุด โดยการซือ้ วสั ดพุ ร้อมคิดค่าแรงในการเปลี่ยน เนื่องจากของเดิมเสื่อมสภาพ และ หมดอายุการใช้งาน การดาเนินการดังกล่าวจดั ไดว้ ่าเป็นการจดั ซ้อื จัดจา้ งพสั ดใุ นรปู แบบใด ก) ซอื้ สินค้า รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
65 ข) งานบริการ ค) งานจา้ งออกแบบ หรอื ควบคุมงาน ง) ทั้งข้อ ก. และ ข. 339. การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายหรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคาเปลี่ยนแปลงคาชี้แจงประมาณ การรายรบั และงบประมาณรายจ่ายเมื่อไดร้ ับอนุมัติจากผูม้ ีอานาจและใหป้ ระกาศโดยเปิดเผย เพื่อให้ ประชาชนทราบแล้ว แจ้งการประกาศให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อทราบภายในกี่วัน สาหรับองค์การ บริหารส่วนตาบลให้แจง้ แก่นายอาเภอหรอื ปลดั อาเภอผูเ้ ป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอ ก) 7 วนั ข) 15 วนั ค) 30 วัน ง) 45 วนั จ) 60 วนั 340. เจ้าหน้าท่ีงบประมาณ ความหมายว่า ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่า ด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2541 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2543 ก) ปลดั องค์การบริหารส่วนตาบล ข) ปลัดเทศบาล ค) ปลัดเมืองพทั ยา ง) ปลดั องค์การบริหารส่วนจงั หวัด จ) ไม่มขี ้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 341. การโอนเงนิ งบประมาณรายจ่ายต่างๆ ให้เปน็ อานาจอนมุ ตั ิของใคร ก) ปลัดองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ข) นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ค) หัวหนา้ ส่วนการคลงั หรอื ผอู้ านวยการกองคลัง ง) นายอาเภอ จ) ผวู้ ่าราชการจงั หวัด 342.การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายในหมวดค่าครุภัณฑ์ ท่ีดิน และสิ่งก่อสร้าง ท่ีทาให้ลักษณะ ปริมาณ คณุ ภาพเปลีย่ น หรอื โอนไปต้ังจา่ ยเปน็ รายการใหม่ ให้เปน็ อานาจอนุมตั ิของใคร ก) นายกองค์การบริหารส่วนตาบล ข) สภาองค์การบริหารส่วนตาบล ค) นายอาเภอ รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารมั ย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
66 ง) ผวู้ ่าราชการจงั หวัด จ) ปลดั องค์การบริหารส่วนตาบล 343. การวิเคราะห์ศักยภาพเพื่อประเมินสถานภาพการพัฒนาของท้องถ่ินในปัจจุบัน โดยใช้เทคนิค SWOT Analysis ขอ้ ใดคือปจั จัยภายนอก ก) อปุ สรรค (Threat - T) ข) โอกาส (Opportunity - O) ค) จุดแข็ง (Strength - S) ง) จดุ อ่อน (Weakness - W) จ) ข้อ ก. และข้อ ข. 344. แผนพฒั นาประเทศของประเทศไทย แบง่ ออกเป็นกีร่ ะดับ อะไรบ้าง ก) 3 ระดบั คือ แผนระดบั ชาติ แผนระดับเมือง แผนระดับหมบู่ ้าน ข) 3 ระดับ คือ แผนระดบั ประเทศ แผนระดบั ส่วนภมู ิภาค แผนระดบั ท้องถิน่ ค) 3 ระดับ คือ แผนระดับส่วนกลาง แผนระดบั ส่วนภูมิภาค แผนระดับท้องถิ่น ง) 3 ระดับ คือ แผนระดับชาติ แผนระดบั จงั หวัด แผนระดบั ท้องถิ่น จ) 3 ระดับ คือ แผนระดับชาติ แผนระดบั ตาบล แผนระดบั ชมุ ชน 345. ขอ้ ใด เป็นคาถามเชิงยทุ ธศาสตร์ในการวางแผนพฒั นาท้องถิ่น ก) เราและเพือ่ นเราอยากเป็นอย่างไร ข) เราและเพื่อนเราอยู่ตรงไหน ค) เราและเพือ่ นเราเคยเปน็ อย่างไร ง) ข้อ ข. และ ข้อ ค. จ) ถูกทกุ ข้อ 346. สมาชิกวุฒิสภามีวาระดารงตาแหนง่ คราวละกีป่ ี ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด ก) 4 ปี ข) 5 ปีนบั แต่วนั ประกาศผลการเลือกตั้ง ค) 5 ปีนับแต่วันประกาศผลการเลือก ง) 5 ปีนับแตว่ นั เลือกตั้ง จ) 9 ปี 347. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 หมวดท่ีเกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถ่ิน อยู่ใน หมวดใด ก) หมวด 10 ข) หมวด 11 รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารมั ย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
67 ค) หมวด 12 ง) หมวด 14 จ) หมวด 16 348. สมาชิกวุฒิสภา มีทม่ี าอยา่ งไร ก) มาจากเลือกต้ังโดยตรงจากประชาชน ข) เลือกตั้งและสรรหา ค) เลือกกนั เอง ง) คณะกรรมการสรรหา 349. ใครตอ่ ไปน้ี ไมเ่ ปน็ ผู้มีคุณสมบตั ิมีสิทธิเลือกตั้ง ก) นายไก่มีสญั ชาติไทย ข) นายวฒุ ิมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกต้ัง 90 วนั ในวันเลือกตั้ง ค) นายโชคมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกต้ัง ง) นายดาดีมสี ัญชาติไทย โดยการแปลงสัญชาติมาแล้ว 3 ปี จ) นายประหยดั มีอายุ 20 ปี แต่พกิ ารเดินไม่ได้ 350. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ ง ก) สภาผแู้ ทนราษฎรมสี มาชิกจานวน 500 คน วุฒิสภามีสมาชิกจานวน 200 คน ข) ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรเปน็ ประธานรัฐสภา ประธานวฒุ ิสภาเป็นรองประธานรฐั สภา ค) บุคคลจะเปน็ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรและสมาชิกวฒุ ิสภาในขณะเดียวกนั ได้ ง) รฐั สภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวฒุ สิ ภา จ) ผสู้ มคั รรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกต้ัง ตอ้ งเปน็ ผู้ซึ่งพรรคการเมืองทีต่ นเป็น สมาชิกส่งสมคั รรับเลือกตั้ง และจะสมัครรบั เลือกต้ังเกินหนึ่งเขตมไิ ด้ ******************เฉลยอยู่ดา้ นล่างน่ะครบั *********** บทสวดมนตม์ ีชยั เหนือการสอบ สอบผา่ นฉลุย สอบติดดั่งใจ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน คาถาสอบติด สอบผ่าน จดใส่กระดาษแล้วพกติดตัวเอาไว้ ใครที่ กาลังอยู่ในวัยเรียนหรือผู้ที่ต้องการสอบแข่งขันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอบข้าราชการ หรือการสอบเพื่อเข้า ทางาน วันนี้ Horoworld.com มีบทสวดมนต์ที่ช่วยเสริมพลังให้คุณมีชัยชนะเหนือการสอบ ช่วยให้มีสมาธิ มีความจาดี มีสตปิ ัญญาเฉียบแหลม สอบผา่ นฉลยุ สอบติดด่งั ใจมาฝากครับ คาถาพระอินทร์ 'สหสั สเนตโต เทวนิ โต ทพิ พจักขุง วิโสทายิ อิกะวิติ พทุ ธะสงั มิ โลกะวิทู' ท่องก่อนอ่านหนังสือสอบ เพื่อให้มีความจาดี จดจาในสิ่งที่อ่านได้ ให้นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ และนึกถึงพระอินทร์เจ้าของคาถา หากเป็นช่วงเริ่มต้นให้ท่อง 1 จบ รวบรวมโดยประพันธ์ เวารมั ย์ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
68 ก่อนอ่านและต้ังใจอ่านหนังสือ เมื่ออ่านจบแล้วให้ท่องอีก 1 รอบ เม่อื เริ่มจาบทสวดได้แล้วค่อยเพิ่มเป็นท่อง 5 จบ ก่อนและหลังอ่านหนังสือ ทาเป็นประจาเชื่อว่าจะมีผลในด้านความจาหรือช่วยให้การทาข้อสอบมีความ ถูกต้องแมน่ ยา ท่องขณะสอบ ช่วยใหท้ าข้อสอบได้ถกู ต้องเหมอื นมตี าทิพย์ เม่ือได้รับกระดาษคาถามมาให้คว่าลงก่อน แล้วท่องนะโม 3 จบ ต้ังจิตระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูอาจารย์และสาคญั ที่สุดคือ พระอนิ ทร์ จากนั้นให้ท่องคาถาพระอินทร์แบบส้ัน 3 จบ 'สหัสสเนตโต เทวนิ โต ทพิ พจกั ขุง วิโสทายิ' หากเปิดกระดาษข้อสอบขึน้ มาอ่านแล้วยังรู้สึกว่าทาไม่ได้ให้คว่ากระดาษลงแล้วท่องอีก 7 จบ จากนั้น ให้เริ่มทาข้อสอบตามความรู้ที่ได้ร่าเรียนมาและตอบความความรู้สึก อยากตอบอย่างไรก็ต้องเลย เชื่อใน สญั ชาตญาณแรก มีหลายเสียงที่ยืนยันว่าเคยใช้วิธีการสวดมนต์แล้วทาให้สอบติด สอบผา่ นตามที่ใจหวัง ตัวผเู้ ขียนเองก็ เชน่ กนั การสวดมนต์ ท่องคาถาอาจจะเปน็ เพียงเคร่อื งยึดเหนี่ยวจิตใจหรือกศุ โลบายที่ทาใหม้ ีสมาธิในการอ่าน หนงั สือ แต่นนั่ ก็เป็นผลดีต่อเราเหนือสิ่งอื่นใดคือ อิทธิปาฏิหาริย์ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากความเพียรและ ความทุ่มเทในการศึกษาเล่าเรียน อ้างองิ จาก danpranipparn, pantown เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com http://waoram.igetweb.com หากผิดพลาดประการใด แจ้งมาไดท้ ี่ เฟซบ๊กุ ประพันธ์ เวารัมย์ https://www.facebook.com/prapun2523 เฟซบ๊กุ แนวข้อสอบเตรยี มสอบผบู้ ริหาร อานวยการ หวั หน้าฝ่ายของอปท. https://www.facebook.com/groups/1956634087992762 เฟซบกุ๊ แนวข้อสอบทอ้ งถิ่นและอืน่ ๆ https://www.facebook.com/groups/1539791162903094 รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารมั ย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
69 เฉลย 350 350 แนวข้อสอบทอ้ งถิ่น (สายบริหาร) รนุ่ โค้งเสน้ ชัย (ชุดสู้อยากมีความหวัง) 1 ค 26 ข 51 ง 76 จ 101 ค 126 จ 151 ข 176 ค 2 ข 27 ง 52 ข 77 จ 102 จ 127 จ 152 ข 177 ข 3 ค 28 ง 53 ค 78 ค 103 ค 128 จ 153 จ 178 ข 4 ข 29 ง 54 ง 79 ข 104 ง 129 ค 154 ค 179 ค 5 ข 30 จ 55 ค 80 ง 105 ง 130 ค 155 ข 180 ค 6 ง 31 ง 56 ค 81 จ 106 ค 131 ข 156 ง 181 ข 7 ก 32 ง 57 ค 82 ข 107 ง 132 ง 157 ง 182 ข 8 ค 33 ง 58 จ 83 ง 108 ค 133 ข 158 จ 183 ค 9 จ 34 ค 59 จ 84 ง 109 ค 134 จ 159 ค 184 ข 10 ง 35 ค 60 ค 85 ง 110 จ 135 ก 160 ค 185 ข 11 จ 36 ง 61 ก 86 จ 111 ง 136 ง 161 ก 186 ค 12 ข 37 ข 62 ก 87 ค 112 ก 137 ค 162 ง 187 ค 13 ค 38 ค 63 ข 88 ก 113 จ 138 ง 163 ค 188 ค 14 ง 39 ง 64 ข 89 ค 114 จ 139 ง 164 ก 189 ค 15 ค 40 ข 65 ค 90 ง 115 ข 140 ง 165 ค 190 ข 16 ค 41 ง 66 ก 91 จ 116 ค 141 ง 166 ข 191 ข 17 ค 42 ข 67 ก 92 ค 117 ง 142 ง 167 ค 192 ก 18 ค 43 ข 68 ข 93 ง 118 ง 143 ง 168 ข 193 ค 19 ค 44 ข 69 ง 94 ข 119 ง 144 ค 169 ข 194 ค 20 ง 45 ค 70 ค 95 ง 120 ง 145 ข 170 ง 195 ง 21 ข 46 ง 71 ค 96 ค 121 ง 146 ก 171 ง 196 จ 22 ง 47 ง 72 ข 97 ก 122 ข 147 ค 172 จ 197 จ 23 ง 48 ง 73 ข 98 ข 123 จ 148 ข 173 จ 198 ก 24 ก 49 จ 74 ข 99 ค 124 จ 149 ข 174 จ 199 ข 25 จ 50 ค 75 จ 100 จ 125 ข 150 ก 175 ค 200 ง รวบรวมโดยประพันธ์ เวารมั ย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
70 201 ข 226 จ เฉลย แนวขอ้ สอบทอ้ งถิ่น (สายบรหิ าร) 202 ค 227 ง รุน่ โค้งเสน้ ชยั (ชุดสู้อยากมีความหวัง) 203 จ 228 ง 251 ค 276 ง 101 301 ค 326 ง 204 จ 229 ข 252 ก 277 ข 102 302 ค 327 ข 205 ค 230 ข 253 ง 278 จ 103 303 จ 328 จ 206 จ 231 ค 254 ง 279 จ 104 304 ข 329 จ 207 ง 232 ง 255 ง 280 ง 105 305 ค 330 ข 208 ข 233 จ 256 ง 281 ก 106 306 ง 331 ข 209 ค 234 ก 257 ข 282 จ 107 307 ข 332 ง 210 จ 235 จ 258 ข 283 ข 108 308 จ 333 จ 211 ค 236 ค 259 ข 284 ง 109 309 จ 334 ข 212 ข 237 ข 260 ค 285 จ 110 310 ข 335 ง 213 ง 238 ข 261 จ 286 ง 111 311 ข 336 ค 214 ข 239 ข 262 ง 287 ค 112 312 ค 337 ข 215 จ 240 จ 263 ค 288 ง 113 313 ข 338 ก 216 ค 241 ก 264 ข 289 ค 114 314 จ 339 ข 217 จ 242 ก 265 ข 290 ค 115 315 ค 340 ค 218 ง 243 จ 266 ง 291 ก 116 316 จ 341 ข 219 ก 244 ข 267 ก 292 ค 117 317 ข 342 ข 220 ก 245 ง 268 ง 293 ข 118 318 ข 343 จ 221 จ 246 ข 269 ง 294 ค 118 319 ข 344 ง 222 จ 247 ข 270 ง 295 ง 119 320 ค 345 จ 223 จ 248 ข 271 ง 296 ค 120 321 ค 346 ค 224 ง 249 ก 272 ก 297 ก 121 322 จ 347 ง 225 ก 250 ข 273 ง 298 ข 122 323 ข 348 ค 274 ง 299 ข 123 324 ง 349 ง 275 ง 300 ง 124 325 ง 350 ค รวบรวมโดยประพันธ์ เวารัมย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com // http://waoram.igetweb.com
Test ชุดท่ี . ช่ือ – สกลุ ……………………………………..……………………………. เลขบัตรประจำตัวประชำชน ………………………………………….. ทดสอบระหวำ่ งวันท่ี . เลือกเวลำสอบ : ภาคเช้า เวลา 09.00 – 11.30 น. ภาคบา่ ย เวลา 14.00 – 16.30 น. ตอนที่ 1 ควำมรคู้ วำมสำมำรถจำนวน 10 หัวขอ้ ให้ผเู้ ขา้ สอบฝนเครื่องหมายวงกลม ลงบนกระดาษคาตอบของแตล่ ะข้อ รวมคะแนน (…………………….. คะแนน) ข้อ ก ข ค ง จ ข้อ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข คงจ A B C D E A B C D E A B CDE 1 21 41 2 22 42 3 23 43 4 24 44 5 25 45 6 26 46 7 27 47 8 28 48 9 29 49 10 30 50 11 31 51 12 32 52 13 33 53 14 34 54 15 35 55 16 36 56 17 37 57 18 38 58 19 39 59 20 40 60
Test ชุดท่ี . ชอื่ – สกลุ ……………………………………..……………………………. เลขบตั รประจำตวั ประชำชน ………………………………………….. ทดสอบระหวำ่ งวันที่ . เลอื กเวลำสอบ : ภาคเช้า เวลา 09.00 – 11.30 น. ภาคบา่ ย เวลา 14.00 – 16.30 น. ตอนท่ี 1 ควำมรคู้ วำมสำมำรถจำนวน 10 หัวขอ้ ให้ผู้เขา้ สอบฝนเคร่ืองหมายวงกลม ลงบนกระดาษคาตอบของแต่ละข้อ รวมคะแนน (…………………….. คะแนน) ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข คงจ A B C D E A B C D E A B CDE 61 81 101 62 82 102 63 83 103 64 84 104 65 85 105 66 86 106 67 87 107 68 88 108 69 89 109 70 90 110 71 91 111 72 92 112 73 93 113 74 94 114 75 95 115 76 96 116 77 97 117 78 98 118 79 99 119 80 100 120
Test ชุดท่ี . ช่ือ – สกลุ ……………………………………..……………………………. เลขบตั รประจำตัวประชำชน ………………………………………….. ทดสอบระหวำ่ งวนั ท่ี . เลือกเวลำสอบ : ภาคเชา้ เวลา 09.00 – 11.30 น. ภาคบ่าย เวลา 14.00 – 16.30 น. ตอนท่ี 1 ควำมรู้ควำมสำมำรถจำนวน 10 หวั ขอ้ ให้ผ้เู ขา้ สอบฝนเคร่ืองหมายวงกลม ลงบนกระดาษคาตอบของแตล่ ะข้อ รวมคะแนน (…………………….. คะแนน) ข้อ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ A B C D E A B C D E A B C D E 121 141 161 122 142 162 123 143 163 124 144 164 125 145 165 126 146 166 127 147 167 128 148 168 129 149 169 130 150 170 131 151 171 132 152 172 133 153 173 134 154 174 135 155 175 136 156 176 137 157 177 138 158 178 139 159 179 140 160 180
Test ชุดท่ี . ช่ือ – สกลุ ……………………………………..……………………………. เลขบตั รประจำตวั ประชำชน ………………………………………….. ทดสอบระหว่ำงวนั ที่ . เลือกเวลำสอบ : ภาคเช้า เวลา 09.00 – 11.30 น. ภาคบ่าย เวลา 14.00 – 16.30 น. ตอนท่ี 1 ควำมรู้ควำมสำมำรถจำนวน 10 หวั ข้อ ให้ผ้เู ขา้ สอบฝนเคร่ืองหมายวงกลม ลงบนกระดาษคาตอบของแต่ละข้อ รวมคะแนน (…………………….. คะแนน) ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ A B C D E A B C D E A B C D E 181 201 221 182 202 222 183 203 223 184 204 224 185 205 225 186 206 226 187 207 227 188 208 228 189 209 229 190 210 230 191 211 231 192 212 232 193 213 233 194 214 234 195 215 235 196 216 236 197 217 237 198 218 238 199 219 239 200 220 240
Test ชุดท่ี . ชือ่ – สกลุ ……………………………………..……………………………. เลขบตั รประจำตวั ประชำชน ………………………………………….. ทดสอบระหว่ำงวนั ท่ี . เลอื กเวลำสอบ : ภาคเชา้ เวลา 09.00 – 11.30 น. ภาคบา่ ย เวลา 14.00 – 16.30 น. ตอนท่ี 1 ควำมรู้ควำมสำมำรถจำนวน 10 หวั ข้อ ใหผ้ เู้ ขา้ สอบฝนเคร่ืองหมายวงกลม ลงบนกระดาษคาตอบของแต่ละข้อ รวมคะแนน (…………………….. คะแนน) ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ A B C D E A B C D E A B C D E 241 261 281 242 262 282 243 263 283 244 264 284 245 265 285 246 266 286 247 267 287 248 268 288 249 269 289 250 270 290 251 271 291 252 272 292 253 273 293 254 274 294 255 275 295 256 276 296 257 277 297 258 278 298 259 279 299 260 280 300
Test ชุดท่ี . ชือ่ – สกลุ ……………………………………..……………………………. เลขบัตรประจำตวั ประชำชน ………………………………………….. ทดสอบระหวำ่ งวันที่ . เลอื กเวลำสอบ : ภาคเช้า เวลา 09.00 – 11.30 น. ภาคบา่ ย เวลา 14.00 – 16.30 น. ตอนท่ี 1 ควำมรูค้ วำมสำมำรถจำนวน 10 หวั ข้อ ให้ผ้เู ขา้ สอบฝนเครื่องหมายวงกลม ลงบนกระดาษคาตอบของแต่ละข้อ รวมคะแนน (…………………….. คะแนน) ข้อ ก ข ค ง จ ข้อ ก ข ค ง จ ข้อ ก ข ค ง จ A B C D E A B C D E A B C D E 301 321 341 302 322 342 303 323 343 304 324 344 305 325 345 306 326 346 307 327 347 308 328 348 309 329 349 310 330 350 311 331 351 312 332 352 313 333 353 314 334 354 315 335 355 316 336 356 377 337 357 318 338 358 319 339 359 320 340 360
เกง็ แนวขอ้ สอบโคง้ เสน้ ชัย สอบสายงานบริหารทอ้ งถน่ิ สอบวนั อาทิตยท์ ี่ 25 มีนาคม 2561 (ปรนยั 350 ขอ้ ) (ส่วนข้อสอบวันจรงิ ปรนัย 60 ข้อ อตั นยั 1 ขอ้ ) *หมายเหตุ ส่วนหนงั สือเล่มอนื่ ๆทีแ่ จก อนาคตขอ้ สอบบางขอ้ อาจเปลีย่ นแปลงไปตามยคุ สมัย โดยเฉพาะชือ่ บคุ คล หรืออาจมีการเปลย่ี นแปลงเพม่ิ เติมกฎหมาย บางข้ออาจเปล่ยี นแปลงตามเหตุการณแ์ ละยุคสมยั (อยา่ ลืมไปตรวจทาน อีกคร้งั น่ะครบั ) รวบรวมโดยประพนั ธ์ เวารัมย์ นกั วเิ คราะห์นโยบายและแผนชานาญการ เว็บไซต์ http://valrom.igetweb.com http://waoram.igetweb.com
1 แนวขอ้ สอบอัตนยั 10 ตวั อยำ่ ง สอบสำยบริหำรท้องถิน่ รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
2 ***แนวขอ้ สอบอัตนัยสำยบรหิ ำรท้องถิน่ *** (ตัวอยำ่ งคำถำมข้อที่ 1) จงอธิบำยกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำประเทศตำมโครงกำรไทยนยิ ม ยงั่ ยืน ให้ทรำบพอสงั เขป แนวคำตอบ 1. ควำมเป็นมำ ด้วยรัฐบาลมีงานนโยบายสาคัญ (Agenda) หลายประการลงไปในพื้นที่และต้องการใหม้ ีการสร้างการ รบั รู้แก่ประชาชนในด้านต่างๆ โดยให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการงานสาคัญร่วมกับหนว่ ยงำนท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อกำรสร้ำงกำรรับรู้ให้ประชำชน ท้ังงานด้านสังคม เศรษฐกิจ และความม่ันคง โดยใช้ทีมขับเคลื่อนการ พัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตาบล เป็นแกนหลักไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนและ ทางานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนและลดความซ้าซ้อนในการปฏิบัติงาน ของข้าราชการ และในครำวประชุมคณะรฐั มนตรี เมื่อวนั ท่ี 16 มกรำคม 2561 นายกรฐั มนตรีจงึ ได้เสนอให้ มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เพื่อ เสริมสร้างความม่ันคงของชาติไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่าง เปน็ รปู ธรรม โดยมีกรอบหลักการในการดาเนินการเพือ่ การมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน โครงกำรไทยนิยม ย่ังยืน ก็เพื่อพัฒนำใน 2 ดำ้ นหลักไปพร้อม ๆ กัน คอื ด้ำนเศรษฐกิจ ในกำร ดูแลปัญหำปำกท้อง ควำมเป็นอยู่ของประชำชนให้ดีขึ้น และด้ำนควำมมั่นคงของประเทศ ซึ่งสิ่งท่ี ประชำชนจะได้รบั ประโยชน์ จะอยใู่ นแผนกำรดำเนินงำน 10 เรอ่ื ง ดงั นี้ 1. สัญญำประชำคมผูกใจไทยเป็นหนึ่ง : ด้วยการสร้างความสามัคคีปรองดอง จัดให้มีการทา สัญญาประชาคมหรอื เรียกอย่างอ่นื ให้เปน็ ที่ยอมรบั ของทุกฝา่ ยเพื่อรบั รู้และปฏิบัติตามรว่ มกนั 2. คนไทยไม่ท้ิงกัน : ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียนโครงการ ลงทะเบียนเพือ่ สวสั ดิการแห่งรฐั 3. ชุมชนอยูด่ ีมีสขุ : ด้วยการพฒั นาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน 4. วิถีไทยวิถีพอเพียง : ด้วยการส่งเสริมให้นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดาเนินชีวิต รวมท้ังเสริมสร้างวินยั การออมในทกุ ช่วงอายุ 5. รู้สิทธิ รู้หน้ำท่ี รู้กฎหมำย : ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนในเร่ืองสิทธิ หน้าที่ การเคารพ กฎหมาย และการเป็นพลเมืองทีด่ ี 6. รู้กลไกกำรบริหำรรำชกำร : ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ท้ังเร่ืองกลไกการบริหารราชการ แผ่นดนิ แตล่ ะระดับ และการบริหารงบประมาณทีม่ งุ่ ประโยชน์แก่ประชาชน 7. รรู้ กั ประชำธิปไตยไทยนยิ ม : ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับหลกั ธรรมาภบิ าล รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
3 8. รู้เท่ำทันเทคโนโลยี : ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสาคัญต่อการ เข้าถึงขอ้ มลู ที่ถกู ต้องผ่านโครงการสาคญั เชน่ อินเทอร์เนต็ หมู่บ้าน 9. ร่วมแกไ้ ขปัญหำยำเสพติด : บูรณาการดาเนินงานของทกุ ภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดอย่างครบวงจร โดยเปิดพืน้ ที่สร้างสรรค์ 8,781 แหง่ ทวั่ ประเทศ เพื่อลดปัญหายาเสพติด 10. งำนตำมภำรกิจของหนว่ ยงำน (Function) 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 บูรณการขับเคลื่อนงาน / โครงการของหน่วยงานต่างๆ ที่มีเป้าหมายลงพื้นที่ในระดับหมู่บ้าน ร่วมกนั ตามแนวทางประชารฐั 2.2 พฒั นา/ แก้ไขปัญหาในมติ ิดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และความมน่ั คง 2.3 สร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย 3.กลไกกำรขบั เคลื่อน สานักนายกรัฐมนตรีมีคาส่งั ที่ 21 /2561 ลงวันที่ 23 มกราคม 2561 เร่อื งแต่งคณะกรรมการขับเคลือ่ น การพฒั นาประเทศตามโครงการไทยนิยม ย่งั ยืน โดยมีคณะกรรมการฯ 4 ระดบั ดงั น้ี 3.1 คณะกรรมกำรอำนวยกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำประเทศตำมโครงกำรไทยนิยม ยั่งยืน โดย นำยกรัฐมนตรี เป็นประธำนกรรมกำร และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการและ เลขานุการ มีอำนำจหน้ำท่ี ในการกาหนดนโยบายและแนวทางในการบูรณาการขับเคลื่อนงาน/โครงการของ ส่วนราชการหน่วยงานต่างๆ ที่มีเป้าหมายดาเนินการในพื้นที่ในระดับหมู่บ้าน/ ชุมชนร่วมกันตามแนวทาง ประชารฐั ทั้งในมิตดิ ้านเศรษฐกิจ สังคมและความม่นั คง 3.2 คณะกรรมกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำประเทศตำมโครงกำรไทยนิยม ยั่งยืน ระดับจังหวัด โดย ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด เป็นประธำนกรรมกำร มีปลัดจังหวัด และพัฒนำกำรจังหวัด เป็นกรรมกำร และเลขำนุกำรร่วม มีอำนำจหนำ้ ท่ีในการถ่ายทอดนโยบายกรอบแนวทางการปฏิบัติงาน แก่คณะกรรมการ ฯ ระดับจังหวดั ระดบั อาเภอ และทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตาบล ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคมและความม่นั คงใน พืน้ ที่จังหวัด 3.3 คณะกรรมกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำประเทศตำมโครงกำรไทยนิยม ย่ังยืน ระดับอำเภอ โดย นำยอำเภอ เป็นประธำนกรรมกำร มีหัวหน้ำกลุ่มงำนบริหำรงำนปกครองทท่ี ำกำรปกครองอำเภอ และพัฒนำกำรอำเภอ เป็น กรรมกำรและเลขำนุกำรร่วม มีอานาจหน้าที่ในการบูรณาการ และจัดทา แผนการลงพื้นทีข่ องทีมขับเคลื่อนฯ ระดบั ตาบล เพือ่ ขบั เคลื่อนและแก้ไขปญั หาในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคมและ ความมนั่ คงในพื้นที่อาเภอ 3.4 ทีมขับเคลื่อนกำรพัฒนำประเทศตำมโครงกำรไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล ประกอบด้วย ข้าราชการ หรือเจา้ หน้าที่ของรัฐในพืน้ ที่ หน่วยงานความม่นั คงในพื้นที่ ปราชญ์ชาวบ้าน และจติ อาสา “เรำทำ รวบรวมและนำมำเผยแพรโ่ ดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
4 ควำมดี ด้วยหวั ใจ” ในพืน้ ที่ จำนวน 7-12 คน มีอานาจหน้าที่เปน็ ชดุ ปฏิบตั ิงานในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาใน มิติดา้ นเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในพื้นทีห่ มู่บ้าน สำหรับในพื้นท่ีกรุงเทพมหำนคร ให้มีคณะกรรมการฯ ระดับกรุงเทพมหานคร / เขต / ชุมชน ตาม แนวทางของคณะกรรมการฯระดับจังหวดั ระดบั อาเภอ และทีมขบั เคลือ่ นฯ ระดับตาบล โดยอนโุ ลม 4.เปำ้ หมำยและพน้ื ที่กำรดำเนินงำน เปำ้ หมำย : การมสี ่วนรว่ มเพื่อพฒั นาประเทศไทยสู่ความยง่ั ยืน พื้นท่ีดำเนินกำร : ดาเนินการครอบคลมุ ทกุ พื้นที่ท่วั ประเทศท่ังในพืน้ ที่ 76 จงั หวัด 878 อำเภอ และ พื้นที่กรุงเทพมหำนคร 50 เขต รวมทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ย่ังยืน จำนวน 7,663 ทีม ดาเนินการในพื้นที่หมู่บ้าน / ชุมชน และชุมชนในกรุงเทพมหานคร รวม 81,151 แห่งแยก เป็น (1) ขับเคลือ่ นฯ ในพืน้ ทีต่ าบล รวม 7,255 ตาบล 75,032 หมบู่ ้าน (2) ขบั เคลือ่ นฯ ในพืน้ ทีช่ มุ ชนเมือง รวม 208 ชมุ ชน 6,052 ชมุ ชน (3) ขับเคลือ่ นฯ ในพืน้ ทีช่ มุ ชนกรุงเทพมหานคร รวม 200 ทีมชมุ ชน 2,067 ชุมชน **************************************** (ตวั อยำ่ งคำถำมข้อที่ 2) จงอธิบำยหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงใหท้ รำบพอสังเขป แนวคำตอบ หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.9) ทรงมีพระราชดารัส ชแี้ นะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทาง เศรษฐกิจ และเม่ือภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างม่ันคง และยง่ั ยืนภายใต้กระแสโลกาภวิ ฒั น์และความเปลีย่ นแปลงต่างๆ ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียง หมายถึง ความ พอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี อาศัยความรอบรู้ ความ รอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุก ข้ันตอนและขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐนักทฤษฎี และนกั ธุรกิจในทุกระดบั ใหม้ ีสานึกในคุณธรรมความซือ่ สัตย์สุจรติ และใหม้ ีความรอบรู้ทีเ่ หมาะสม ดาเนินชีวิต ด้วยความอดทน ความเพียร มีมติ ปัญญา และความรอบคอบเพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการ รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพนั ธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
5 เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้ เป็นอย่างดี หลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสายกลางและความไม่ประมาท โดยคานึงถึง ควำมพอประมำณ ควำมมีเหตุผล กำรสร้ำงภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความ รอบคอบ และคณุ ธรรม ประกอบการวางแผนการตดั สินใจและการกระทา ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลกั พิจารณาอยู่ 5 ส่วนดังนี้ 1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยพื้นฐานมาจาก วิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อความม่ันคงและความย่ังยืนของการ พัฒนา 2. คณุ ลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยกุ ต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติ บนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นข้ันตอน รวบรวมและนำมำเผยแพรโ่ ดยประพันธ์ เวำรัมย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
6 3. คำนิยำม ควำมพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลกั ษณะ พร้อมๆ กันดงั นี้ 3.1 ควำมพอประมำณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผอู้ ืน่ เชน่ การผลิตและการบริโภคทีอ่ ยู่ในระดับพอประมาณ 3.2 ควำมมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมี เหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากกระทานั้นๆ อย่าง รอบคอบ 3.3 กำรมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง ด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตท้ังใกล้ และไกล 4. เง่ือนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้และ คณุ ธรรมเปน็ พืน้ ฐาน กลางคอื 4.1 เง่ือนไขควำมรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความ รอบคอบทีจ่ ะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมดั ระวังใน ขั้นปฏิบัติ 4.2 เง่อื นไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วยมีความตระหนกั ในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ และมีความอดทน มีความเพียรใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนินชีวติ 5. แนวทางปฏิบัติ/ ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การ พัฒนาทีส่ มดุลและย่ังยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ท้ังดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม ส่ิงแวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหมต่ ำมแนวพระรำชดำริ เศรษฐกิจพอเพียงและแนวปฏิบัติของทฤษฎีใหม่ เปน็ แนวทางการพัฒนาที่นาไปสู่ความสามารถในการ พึ่งตนเองในระดับต่างๆ อย่างเป็นขั้นตอน ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันแปรของธรรมชาติ อาศัยความ พอประมาณและความมีเหตุผล สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู้ ความเพียร และความอดทน สติและปัญญา การ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความสามคั คี เศรษฐกิจพอเพียงมีความหมายกว้างกว่าทฤษฎีใหม่ โดยที่เศรษฐกิจพอเพียงเปน็ กรอบแนวคิดที่ชีบ้ อก หลักการ และแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่ ในขณะที่แนวพระราชดาริเกี่ยวกับทฤษฎีใหม่หรือเกษตรใหม่ เป็น แนวทางการพัฒนาภาคเกษตรอย่างเป็นขั้นตอน เป็นอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการปฏิบัติที่เป็น รปู ธรรมเฉพาะในพืน้ ทีท่ ีเ่ หมาะสม เศรษฐกิจพอเพียง มี 2 รูปแบบ คอื เศรษฐกิจพอเพียงแบบพื้นฐาน คือ ความพอมี พอกิน สามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่โลภมากและไม่ เบียดเบียนคนอื่น และเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า คือ การแลกเปลี่ยนร่วมมือช่วยเหลือกัน เพื่อให้ส่วน ร่วมได้รบั ประโยชน์ และนาไปสู่การพัฒนาชมุ ชนและสังคมให้เจริญอย่างย่ังยืน รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพนั ธ์ เวำรัมย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
7 เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นตัวอย่างที่เป็นรูปแบบของการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจด้านการเกษตร แบ่ง ออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ ทฤษฎีใหม่ขั้นท่ี 1 เป็นการทาการเกษตรทีม่ ีระบบการผลิตที่สามารถเลี้ยงตนเองในระดับที่ประหยัด และสามารถช่วยเหลือตนเองได้โดยเริ่มจากการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่สระน้าเพื่อกัก เก็บนาฝนไว้ใช้ในไร่นาเพื่อปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อใช้สาหรับการบริโภคใน ครัวเรือนให้เพียงพอตลอดปี ส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชไร่ และอื่นๆ เพื่อเป็นอาหารและยา สาหรับบริโภคในครวั เรือน เหลือจึงจาหน่ายเป็นรายได้ สว่ นที่ 4 เป็นพืน้ ทีอ่ ยู่อาศยั เลยี้ งสัตว์ ถนนหนทาง และ โรงเรียน ทฤษฎีใหม่ข้ันท่ี 2 เป็นการรวมพลังของเกษตรกรในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ร่วมกันดาเนินการในการ ผลิต การตลาด การเป็นอยู่ สวัสดิการ การศึกษา สังคม และศาสนา โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและ เอกชน ทฤษฎีใหม่ข้ันท่ี 3 เป็นการประสานเพื่อจัดหาทุน และแหล่งเงินมาช่วยในการลงทุนและพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยได้รับประโยชน์ร่วมกนั กำรประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกิจพอเพียงของเจำ้ หนำ้ ทข่ี องรัฐ การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (Application of sufficiency Economy for Government Officers) เจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องเริ่มตันสร้างความพอเพียงให้เกิดขึ้น ในการดาเนินชีวิตของแต่ บุคคลก่อน โดยตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนในการเป็นผู้บริการแก่สังคม และร่วมเสริมสร้างสภาวะ แวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม และอยู่ร่วมกับระบบนิเวศวิทยา ได้อย่างสมดุล มีสานึกใน คณุ ธรรม ความซื่อสตั ย์สจุ ริต มสี ติย้ังคิด ใช้ปญั หาพิจารณาอย่างรอบคอบ ในการดาเนินชีวติ และปฏิบตั ิหน้าที่ บนพื้นฐานของความมีเหตุผล พอประมาณกับศักยภาพและสถานภาพ ของแต่ละบุคคล ในแต่ละสถานการณ์ และหมัน่ เสรมิ สร้างความรู้ใหเ้ ท่าทันการเปลีย่ นแปลงต่างๆ เพื่อจะได้มภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ทีด่ ี การเตรียมนโยบาย แผนงาน หรอื โครงการต่างๆ ตอ้ งสอดคล้องกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้น การพัฒนาที่สร้างความสมดุลในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ให้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการ รู้เท่าทันการเปลีย่ นแปลงต่างๆ โดยมุ่งให้ประชาชน/ชุมชน สามารถพึ่งตนเอง และสามารถเปน็ ที่พึ่งของสงั คม/ ประเทศชาติได้ในทีส่ ุด แนวทำงกำรประยกุ ต์ใช้ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ในหน่วยงำนหรอื องค์กรของรัฐ 1) กำรบริหำรจดั กำรในภำพรวม ผบู้ ริหารใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกาหนดเปน็ วิสัยทศั น์ในการพัฒนาองค์กรหรอื หน่วยงาน ของตนเอง โดยสื่อสารให้คนในองค์กรมีความเข้าใจและพฒั นาร่วมกัน เน้นในคนในองค์กรหรือหน่วยงานนาหลักปรัชญามาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตและการทางาน ใน การดาเนินงานและการประเมินผลการดาเนินงานตามหลักปรัชญา ให้มีการแต่งต้ังคณะกรรมการขึ้นมาทา หนา้ ทีใ่ นการกากับ การดาเนินงาน และการประเมนิ ผล รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรัมย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
8 การบริหารจัดทรัพยากรบุคคลโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การจัดสรรกาลังคนให้ เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพ การสร้างบรรทัดฐานและค่านิยมให้สอดคล้องกับหลักปรัชญา การวาง แผนพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีขีดความสามารถตามเป้าประสงค์ขององค์กร การปลูกฝังอยู่อย่างมี ประสิทธิภาพ เป็นต้น 2) กำรประยกุ ต์ใชใ้ นแต่ละหลัก ดังนี้ มีควำมพอประมำณ อำทิ การตั้งเป้าหมายในการบริหารงานต่างๆ ให้มีความเหมาะสม ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป ไม่สุดโต่ง / การ ใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรหรือหน่วยงานต้องเป็นไปในแนวทางที่เกิดประโยชน์สูงสุดแลคุ้มค่า โดยใช้หลัก ความพอประมาณในการลงทุนภาครัฐ / การใชท้ รัพยากรทุกภาคส่วนที่มอี ยู่อย่างมปี ระสิทธิภาพ เป็นต้น ควำมมีเหตผุ ล อำทิ การจัดทาแผนงานและโครงการที่มีความเปน็ ไปได้ ตามงบประมาณทีม่ ีอยู่หรือคาดว่าจะได้รับ /ใช้งบประมาณ ตามแผนโดยประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย และมีความคุ้มค่า / มีการศึกษาและวางแผนอย่างรอบคอบและมีความ ยัง่ ยืน โดยอาศยั หลกั วิชาการตา่ งๆ เป็นต้น กำรมีภมู ิคุ้มกันในตัวทด่ี ี อำทิ มีระบบติดตามและประเมินผลการดาเนินงานตามแผนงานและโครงการที่ดาเนินการ / มีแผนบริหารหรือลด ความเสี่ยงในการดาเนินงาน / มีการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ ทั้งระยะส้ัน ระยะปานกลาง และระยะยาว ที่มี ประสิทธิภาพ โดยมีเป้าประสงค์เกิดความม่นั คง สมดลุ และยั่งยืน เป็นต้น กำรมีควำมรู้ อำทิ เข้ารับการฝึกอบรมและสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ ภายในองค์กร/ หนว่ ยงาน / มีการบรู ณาการภารกิจ หรอื แผนงาน/ โครงการ ท้ังภายในและภายนอกหน่วยงาน / องค์กร / การ มีวจิ ยั และพัฒนาองค์กรตามความจาเปน็ เป็นต้น กำรมีคณุ ธรรม อำทิ การบริหารงานและการจัดการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีความซื่อสัตย์สุจริต การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชน การมีและการใช้กฎระเบียบที่มีความเป็นธรรม ฯลฯ /การ บริหารงานและปฏิบัติงานที่มปี ระสิทธิภาพและประสิทธิผล /การเปน็ หน่วยงานภาครัฐทีย่ ึดผลสมั ฤทธิเ์ ป็นหลัก เป็นต้น ****************************************** รวบรวมและนำมำเผยแพรโ่ ดยประพนั ธ์ เวำรมั ย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
9 (ตวั อยำ่ งคำถำมขอ้ ที่ 3) 1. ให้อธิบำยและนิยำมคำตอ่ ไปน้ี ให้เขำ้ ใจพอสงั เขป 1. การพัฒนาที่ย่งั ยืน 2. ศาสตร์ของพระราชา 3. วิสัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ แผนการดาเนินงานขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น เค้ำโครงกำรตอบ 1. บทคานา (ส้ัน แตไ่ ด้ความหมาย) 2. ความหมายของการพัฒนาที่ยง่ั ยืน 3. หลักการและการปฏิบตั ิของการพฒั นาที่ยง่ั ยืน 4. การพฒั นาที่ย่ังยืนเกี่ยวข้องกบั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ อย่างไร 5. บทสรุป แนวกำรตอบ 1. บทคำนำ ประเทศไทยได้ร่วมลงนามรับรองแผนปฏิบัติการ 21 (Agendd 21) ซึ่งถือว่าเป็นแผนแม่บทของโลกที่ ประเทศสมาชิกต้องตระหนักถึง การพัฒนาที่ยั่งยืนมาร่วมดาเนินการในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550 – 2554) ซึ่งนอกจากจะมุ่งเน้น “คน” เป็นศูนย์กลางพัฒนา แล้วยังเน้นด้าน การพัฒนาที่ยงั่ ยืนด้วย 2. ควำมหมำยของกำรพฒั นำ กำรพัฒนำท่ีย่ังยืน (Sustainable Development) หมายถึง “การตอบสนองความต้องการของคนรุ่น ปัจจุบัน โดยไม่มีผลกระทบในทางลบต่อความต้องการของคนรุ่นต่อไปในอนาคต” ดังนั้น การพัฒนาที่ย่ังยืน รวมความถึง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับโครงการต่างๆต้อง คานงึ ถึงองค์ประกอบทั้ง 3 ด้านนี้ 3. หลกั กำรและกำรปฏิบตั ิของกำรพัฒนำทย่ี ่ังยืน กำรพัฒนำทย่ี ง่ั ยืน จะออกเป็นเป็น 2 ปจั จยั ได้แก่ 1. เป็นการพัฒนาคนเป็นแกนกลางของการพัฒนา ที่ย่ังยืน โดยมุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจนการพัฒนาต้อง สามารถตอบสนองในปัจจุบันขึ้นพื้นฐานได้อย่างพอเพียงทั้งด้าน การศึกษา สุขภาพอนามัยที่อยู่อาศัยและ ฐานะความเป็นที่อยู่ที่ดีรวมทั้งธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม ด้วยการพิทักษ์รักษาบารุง ช่วยสภาพธรรมชาติและ ใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั แลมีประสทิ ธิภาพ 2. หลักการพฒั นาแบบย่งั ยืน เป็นการพฒั นาทีม่ งุ่ เน้นการสรา้ งสมดลุ ในสามมิติที่มคี วามสัมพนั ธ์และเกี่ยวเนอ่ื ง กนั ดังนี้ รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพนั ธ์ เวำรมั ย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
10 1) มิติการพัฒนาด้านสังคม หมายถึง การพัฒนาคนลังคมให้เชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลโดยพัฒนาคนไทยให้มีผลิตภาพสูงขึ้นปรับตัวรู้เท่านั้น การ เปลีย่ นแปลงมีสานึกและวิถีทีเ่ กื้อกูลต่อธรรมชาติ 2) มิติการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ หมายถึง ระบบเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพอย่างต่อเน่ืองในระยะเวลา และเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ การพัฒนาทางเศรษฐกิจจะต้องเป็นไปอย่างสมดุลและเอื้อต่อ ประโยชน์ต่อคนสว่ นใหญ่ 3) มิติการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในขอบเขตที่ คงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและสามารถพลิกฟื้นให้กลับสู่สภาพใกล้เคียงกับสภาพเดิมให้มากที่สุด เพื่อให้คนรนุ่ หลงั ได้มโี อกาสและมีปจั จยั ในการารงชีพต่อไป ดงั นนั้ การพัฒนาอย่างยงั่ ยืน จงึ มลี ักษณะที่สาคัญได้แก่ 1. คานึงถึงขีดจากดั ของทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสนองความต้องการในปัจจุบันโดยไม่ ไม่ส่งผลตอ่ ความตอ้ งการในอนาคต 2.คานงึ ถึงความเปน็ องค์รวม คือ มองวา่ จะกระทาสิง่ ใดต้องคานงึ ถึงผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งอื่นๆ 3. คานึงถึงเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ควรไปในทางสร้างสรรค์และเอื้อประโยชน์อย่างสอดคล้องและ เหมาะสมต่อสภาพท้องถิน่ โดยกำรพฒั นำอยำ่ งยืนมีกำรกำหนดเป้ำประสงค์ของกำรพัฒนำ 4 ประกำรด้วยกนั ไดแ้ ก่ 1) คุณภาพ : สังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นสังคมฐานความรู้ มีการพัฒนาศักยภาพและการศึกษา ด้วยตนเอง มีการผลิตสนิ ค้าและบริการทีม่ ีคณุ ภาพการผลติ ในประเทศ 2) เสถียรและภาพการปรับตัว : เศรษฐกิจเกิดการขยายตัวอบย่างมีเสถียรภาพท้ังระดับภายในและ ภายนอกประเทศมีการสร้างภูมิคมุ้ กนั ทางเศรษฐกิจและสงั คมสนับสนุนภายใน 3) การกระจายการพัฒนาอย่างเป็นธรรม : ประชากรมีสร้างความเท่าเทียบทั้งด้านเพศอาชีพรายได้ การศึกษา ความต้องการพื้นฐานในการดาชีพ และบริการพื้นฐานทางสังคมมีโอกาสเข้าถึงตลาดและการ จัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมโดย 4) การมีระบบบริหารจัดการ : ประชากรทุกภาคส่วนของสังคมมีโอกาสและสิทธิในการรับรู้ข้อมูล ข่าวสารกระบวนการตัดสินใจและนโยบายสาธารณะแก่ประชาชน โดยผ่านบริหารจัดการและกระจาย อานาจสู่ท้องถิ่นและการสร้างความรู้แบบบูรณาการของสถาบันการเมือง สังคม เศรษฐกิจและ สิง่ แวดล้อมอย่างจริงจงั 4. กำรพฒั นำทย่ี ังยืนเกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องอย่ำงไร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถประยุกต์ใช้แนวคิดการพฒั นาที่ย่ังยืน โดยนารูปแบบเศรษฐกิจที่ สมดุลพอประมาณ อย่างเหตุผล สร้างภูมิคุ้มกัน ก้าวทันโลก มาปรับใช้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมี ยทุ ธศาสตร์ ทีส่ าคญั 2 ประการได้แก่ 1) การพึ่งตนเอง เป็นการพึ่งตนเองของชุมชนแสดงออกได้หลายรูปแบบ เช่นการใช้วัตถุดิบเพื่อการผลิต หาได้ในท้องถิน่ การใชผ้ เู้ ชย่ี วชาญในท้องถิ่น การใชภ้ มู ปิ ญั ญาท้องถิ่น เป็นต้น รวบรวมและนำมำเผยแพรโ่ ดยประพนั ธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
11 2) ความพอเพียง เป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยเลือกกินค้าเกษตรที่มีอยู่แล้วเน้นการลดค่าใช้จ่าย แทนการมงุ่ รายได้ การผลิตให้เพียงพอต่อการบริโภคในครวั เรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ต้องกาหนดให้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการพัฒนาท้องถิ่นตาม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 โดยมียุทธศาสตร์และภารกิจวัตถุประสงค์เพื่อนาไปสู่ การพัฒนาทีย่ ั่งยืนมีทั้งหมด 10 อย่างได้แก่ 1) การเสริมสรา้ งและพัฒนาศักยภาพทุนมนษุ ย์ 2) การสรา้ งความเป็นธรรมลดการเหลื่อมล้าในสังคม 3) การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแขง่ ขันได้อย่างยงั่ ยืน 4) การเติบโตที่เปน็ มติ รกับสิง่ แวดล้อมเพื่อการพฒั นาอย่างยง่ั ยืน 5) การเสริมสรา้ งความม่ันคงแหง่ ชาติเพอ่ื การพฒั นาประเทศสู่ความม่ังค่ังและย่ังยืน 6) การบริหารจัดการในภาครฐั การป้องกนั การทุจริตประพฤติมิชอบ และธรรมาภิบาลในสังคมไทย 7) การพัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐานและระบบโลจติ ิกส์ 8) การพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนยี วจิ ยั และนวตั กรรม 9) การพัฒนาภาคเมืองและพ้ืนที่เศรษฐกิจ 10) ความรว่ มระหว่างประเทศเพือ่ การพฒั นา 5. บทสรุป พัฒนำอยำ่ งยงั่ ยืน เปน็ การพัฒนาเป้าหมายอยู่ที่ “คน” ที่เป็นการพฒั นาที่ทนุ มนุษย์ของการพัฒนา ************************************************************* คำถำมที่ 2 ศำสตร์ของพระรำชำ เค้ำโครงกำรตอบ 1. บทคานา (สั้น แตไ่ ด้ความหมาย) 2. ความหมายของศาสตร์ของพระราชา 3. หลกั การและการปฏิบตั ิของศาสตร์ของพระราชา 4. ศาสตร์ของพระราชาเกีย่ วข้องกับองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ อย่างไร 5. บทสรปุ แนวทำงกำรตอบ 1. บทคำนำ สถาบันพระมหากษัตริย์ควรคู่อยู่กับการพัฒนาชาติไทยมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เป็นผู้นาในการสร้าง ความมน่ั คงทางการเมอื งการปกครอง รวมท้ังการสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและพัฒนาบ้านเมืองให้เจรญิ รุ่งเรือง 2. ควำมหมำยของศำสตร์ของพระรำชำ รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
12 ศำสตร์พระรำชำ…ศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ยัง่ ยืน คือ องค์ความรู้ของพระราชา (พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช) ที่ทรงช่วยเหลือ ปวงชนชาวไทย เป็นการวางแนวทางแนวคิด ทฤษฏี หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 3. หลกั กำรและกำรปฏิบตั ิของศำสตรข์ องพระรำชำ ศำสตร์พระรำชำ ....ศำสตร์เพื่อกำรพัฒนำท่ีย่ังยืน เป็นองค์ความรู้ของพระราชาที่ทรงช่วยเหลือ ปวงชนชาวไทย เป็นการวางแนวทางแนวคิด ทฤษฎีหลักปรัชญาเศรษฐกิจ โดยมีหลักการข้ันตอนการทรงงาน และโครงการอันเน่ืองจากพระราชดาริ ซึ่งมีมากกว่า 4,000 กว่าโครงการ เพื่อแก้ไขของประชาชน ของ พระองค์ท่าน เชน่ ศาสตร์ในการทาฝนเทียมหรอื ฝนหลวง แก้ฝนแลง้ /ไฟป่า - ศาสตร์ที่ชือ่ โครงการแก้มลิง แก้นา้ ท่วม การแก้ไขปญั หาน้าเสีย - ใช้ผักตกชวาที่เรียก “ใช้อธรรมปราบอธรรม” กงั หนั ชัยพฒั นา – เติมออ็ กซิเจน - หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง แก้วิกฤติตม้ ยากุ้ง หรอื ฟองสบู่แตกจวบจนถึงทุกวนั นี้ สมเด็จพระเทพพระรัตนสุดำฯ มีพระรำชดำรัสเมื่อปี 2554 ว่า เป้ำหมำยของกำรพัฒนำของ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว คือ “กำรพัฒนำท่ียั่งยืน” เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของคน โดยไม่ ทาลายสิ่งแวดล้อมให้คนมีความสุข โดยต้องคานึงเรืองสภาพภูมิศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา เชื้อชาติ และ ภูมิหลังทางเศรษฐกิจ สังคม แม้วิธีการพัฒนามีหลากหลาย แต่ที่สาคัญคือ นักพัฒนาจะต้องความรัก ความ ห่วงใย ความรับผิดชอบ และการเคารพในเพื่อนมนุษย์ จะเห็นได้ว่าการพัฒนาเกี่ยวข้องมนุษยชาติ เป็นเร่ือง จติ ใจ รัฐบำลฯ ฯพณฯพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชำ นายกรัฐมนตรี ได้นาศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ อย่างย่ังยืน ในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 รวมทั้งการพัฒนาประเทศ เพื่อการก้าวสู่สังคมโลก ท้ัง ในระดับภูมิภาค และในระดับโลก โดยนาน้อมนาพระราชดารัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช ที่ให้ “ประชำชนเป็นศูนย์กลำง” มีส่วนร่วมและได้ประโยชน์จากการพัฒนาอย่างแท้จริง ให้มี ความอยู่ดี กินดี และได้เชื่อมโยง “ศาสตร์พระราชา” ในเร่ืองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับเป้ำหมำยท่ี พัฒนำท่ียั่งยืน (SDGs-Sustainable Development Goals) จนประสบความสาเร็จในการสร้างความ ตระหนัก และการยอมในเวทีระหว่างประเทศในระดับหน่งึ ยกตัวอย่าง 1) ศนู ย์สาธิตสหกรณ์โครงการหบุ กะพง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดน้ากิน และน้าใช้ การขาดทีด่ นิ ทากิน ซึ่ง มีการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างงา่ ย 2) ธนาคารอาหารเป็นกิจกรรม จากกองทุนอาหารกลางวันแบบยั่งยืน ให้เด็กนักเรียนทุกคนนาไปลงทุน เพื่อประกอบอาชีพทาการเกษตร และปศุสัตว์ขนาดเลก็ 3) โรงเรียนพระดาบส จัดให้มีการสอนวิชาชีพ หลักสูตร 1 ปี มุ่งให้สามารถนาไปประกอบอาชีพได้จริง เสริมด้วยทกั ษะชีวติ ให้สามารถดารงตนได้อย่างเหมาะสม 4) กงั หันชัยพัฒนา เป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจน ในน้าลดกลิน่ น้าไม่เน่าเสีย เป็นทีอ่ ยู่อาศัยของสัตว์น้า ได้ รวบรวมและนำมำเผยแพรโ่ ดยประพนั ธ์ เวำรัมย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
13 5) บริษทั ประชารัฐ รักสามัคคีจากัด ดาเนินการตามรูปแบบ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” บนกลไก “ประชารัฐ” ที่ไม่มุ่งเน้นกาไร จากการประกอบการ ฯลฯ นอกจำกนั้น ศาสตร์พระราชา จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยังไปสู่การพัฒนาที่ย่ังยืนได้หลากหลาย ประการดังน้ี (1) จำกปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงในฐำนะหลักกำรนำทำง ประกอบด้วย 3 ห่วง 2 ฐาน คือความ พอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมภี มู คิ ุ้มกนั ในตน โดยมีฐานความรู้ และฐานคณุ ธรรม (2) วิธีกำรของศำสตร์พระรำชำ คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยต้องเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา คน วัตถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม และวฒั นธรรม เขำ้ ใจ หมายถึง การใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้ว การใช้และแสวงหาข้อมูลเชิงประจักษ์ การวิเคราะห์ และการวิจัย การทดลองใชจ้ นได้ผลจรงิ ก่อน เขำ้ ถงึ หมายถึง การระเบิดจากข้างใน เข้าใจกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนา และสร้างปญั ญาสังคม พัฒนำ หมายถึง การพัฒนาที่ประชาชน เริ่มต้นด้วยตนเอง พึ่งพาตนเองได้ และมีต้นแบบในการเผยแผ่ ความรู้ ให้ประชาชนได้เรียนรู้ และนาไปประยุกต์ใช้ (3) กำรประยุกต์แห่งศำสตร์พระรำชำ ต้องทาด้วยความรัก ความปรารถนาและด้วยใจ ต้องประยุกต์ใช้ อย่างย่ังยืน ไม่ยึดติดตารา ปรบั ตามบุคคล สภาพพื้นที่และสถานการณ์ ตัวอย่างของการประยุกต์แห่งศาสตร์ พระราชา ได้แก่ โครงการพระราชดาริกว่า 4,000 กว่าโครงการ เกษตรทฤษฎีใหม่ แกล้งดิน แก้มลิง ฝนหลวง กงั หันน้าชัยพฒั นา หญ้าแฝก เข่ือนป่าสักชลสิทธิ์ สถานีวิทยุ อส. ถนนวงแหวน ถนนรชั ดาภิเษก ทางด่วนลอย ฟ้า ถนนบรมราชชนนี สะพานพระราม 8 ฟอนท์ไทยจิตรลดา เปน็ ต้น (4) ผลลัพธ์ของพระรำชำ คือแผ่นดินโดยธรรมและประโยชน์สุขแหง่ มหาชนชาวสยาม ตามพระปฐมบรมราช โองการ พออยู่พอกิน และรู้รักสามัคคี อันเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน 4. ศำสตรข์ องพระรำชำเกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่ำงไร “ศำสตร์พระรำชำสู่กำรปฏิบัติอย่ำงย่ังยืน” ได้ถูกบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ดังน้ันองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น จึงต้องนาไปบริหารจัดการให้สอดคล้องกับ “ศำสตร์พระรำชำสู่กำรปฏิบัติอย่ำง ยั่งยืน” คอื 4.1) ในการจัดทาและมาจัดทาแผนปฏิบัติการราชกการและแผนปฏิบัติราชการประจาปีมาเป็น เป้าหมายการพฒั นาที่ยง่ั ยืน 4.2) ในการจัดทาและมาจัดทาบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือจัดทาเป็นข้อบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิม่ เติม 4.3) เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการส่งเสริมและ เสริมสร้างให้บุคลากรตั้งแต่ผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง ตลอดจนพนักงานได้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นทุน มนุษย์ของการพัฒนาทีย่ ั่งยืนขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
14 4.4) เป็นเป้าหมายในการจัดระบบบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง ได้ ท้ังหมด 17 ด้าน ดงั น้ี 1. ความยากจน ยตุ ิความยากจนทกุ รูปแบบ 2. ความหวิ โหย ยตุ ิภาวะขาดแคลนอาหาร มุ่งสร้างความมั่นคงทางดา้ นอาหาร (Food security) พฒั นา คุณภาพสารอาหารและ ส่งเสริมการทาการเกษตรทีย่ ่งั ยืน 3. สขุ ภาวะ สร้างสุขภาวะที่ดี และส่งเสริมความเป็นอยู่ทีด่ ีในทุกช่วงอายุ 4. การศึกษา ส่งเสริมคุณภาพการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึง โอกาสทางการศึกษาตลอดชวี ิตแก่ทกุ คน 5. ความเท่าเทียมทางเพศ สร้างความเท่าเทียมทางเพส และให้โอกาสที่เท่าเทียมกบั ผหู้ ญิง 6. น้าและการสุขาภิบาล พัฒนาคุณภาพน้าและโอกาสในการใช้น้าสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค สาหรบั ทกุ คน 7. พลังงาน เพิ่มโอกาสในการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ทนั สมัย น่าไว้วางใจ ย่ังยืนและเพียงพอต่อการใช้งาน ของทกุ คน 8. เศรษฐกิจการจ้างงาน ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุมสร้างอาชีพที่ ครอบคลมุ มีประสิทธิภาพและเหมาะสมแก่ทุกคน 9. โครงสร้างพื้นฐานและการปรับให้เป็นอุตสาหกรรม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยึดหยุ่น ส่งเสริมการพัฒนาอตุ สาหกรรมที่ครอบคลมุ และยงั่ ยืน และกระตนุ้ การสรา้ งนวัตกรรม 10. ความเหลือ่ มล้า ลดความเหลอ่ื มล้าท้ังภายในและภายนอกประเทศ 11. เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ สร้างเมืองที่ผู้คนสามารถตั้งถิ่นฐานได้อย่างครอบคลุม ปลอดภยั ยึดหยุ่น และยง่ั ยืน 12. แบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยงั่ ยืน ส่งเสริมแบบแผนการผลิตและการบริโภคทีย่ ัง่ ยืน 13. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ เตรียมพร้อมในการต้ังรับความเปลี่ยนแปลงทาง สภาพอากาศและผลกระทบที่จะตามมาอย่างเร่งดว่ น 14. ทรัพยากรทางทะเล อนรุ กั ษ์และใชท้ รัพยากรทางทะเลเพื่อการพฒั นาทีย่ ่ังยืน 15. ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ปกป้อง ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ระบบนิเวศ ภาคพื้นดินอย่างยงั่ ยืน มกี ารบริหารจัดการป่าไม้ ยับย้ังกระบวนการตดั ไม้ทาลายป่า ยบั ย้ังและฟื้นฟู การเสือ่ ม โทรมของทรัพยากรดิน และการสญู เสียความหลากหลายทางชีวภาพ 16. สังคมและความยุติธรรม สร้างสังคมสงบสุขอย่างท่ัวถึงเพื่อการพัฒนาอย่างย่ังยืนในทุกชนช้ัน พลเมืองทุกคนสามารถได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม และสร้างสถาบนั ที่ดาเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปรง่ ใส และครอบคุลมทุกระดบั ช้ัน 17. ความร่วมมือการปฏิบัติให้เกิดผล สร้างความเข้มแข็งให้วิธีการดาเนินงานร่วมกัน และพัฒนา ความสัมพันธ์อันดีในกลุ่มพนั ธมิตรทัว่ โลกเพื่อการพฒั นาอย่างยง่ั ยืน 5. บทสรุป รวบรวมและนำมำเผยแพรโ่ ดยประพันธ์ เวำรัมย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
15 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมั่นคงและย่ังยืนได้ ต้องน้อมนำ “ศำสตร์พระรำชำสู่กำรปฏิบัติ อย่ำงจริงจังและย่ังยืน” หากได้มี 4 ปัจจัยการบริหาร (คน งาน เงิน และกฎหมาย) ที่ได้รับการ พัฒนำ รักษำไว้ ใชป้ ระโยชน์อย่ำงถูกวิธี ****************************************** คำถำมที่ 3 วิสัยทศั น์ พันธกิจ เปำ้ ประสงค์ แผนกำรดำเนินงำนขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น เค้ำโครงกำรตอบ 1. บทคานา 2. ความหมายของวิสัยทศั น์ พันธกิจ เป้าประสงค์ แผนการดาเนินงาน 3. วสิ ัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ แผนการดาเนนิ งานเกี่ยวข้องกบั องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ อย่างไร 4. วิสัยทัศน์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ แผนการดาเนินงานเป็นประโยชน์ตอ่ ประชาชนอย่างไร 5. บทสรุป แนวกำรตอบ 1. บทคำนำ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ แผนการดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ เป็นองค์ประกอบ หลักในการบริหารจัดทาแผนยุทธศาตร์ เพื่อให้การดาเนินงานบรรลุและประสบความสาเร็จได้ โดยองค์กร ปกครองสว่ นท้องถิน่ จะต้องตอบคาถามทางยุทธศาตร์ 4 คาถาม คือ 1. ในอนาคต เรา (องค์กร) ต้องการไปจุดไหน (Where do we want to be) 2. ปจั จบุ ันเราอยู่ ณ จดุ ไหน (Where are we now / What is the environment) 3. เราจะไปสู่จุดนน้ั ได้อย่างไร (How de we get there) 4. เราจะต้องทาหรือปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เพื่อไปถึงจุดน้ัน (What do we have to do or change in order in order to get there) 2. ควำมหมำยของวสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ เปำ้ หมำย แผนกำรดำเนินงำน ดังน้ัน ความหมายของแต่ละคา จึงถือเป็นส่วนประกอบให้บุคลากรทุกคนได้เข้าใจและเป็นแนวทาง ปฏิบัติหน้าทีใ่ ห้บรรลุเป้าหมายได้ คือ วิสยั ทศั น์ (Vision) คือ สิ่งทีอ่ ยากจะให้หน่วยงานเปน็ ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า พนั ธกิจ (Mission) คอื กรอบ ขอบเขต การดาเนินงานของหน่วยงาน (อานาจ + หนา้ ที่) เปำ้ หมำย (Goals) คือ สิ่งทีห่ น่วยงานอยากใหบ้ รรลุในการดาเนินงาน แผนกำรดำเนินงำน (Operation Plan) คือเป็นแผนที่จัดทากันในระดับหน่วยปฏิบัตินั้น หมายถึง แผนที่หน่วยงานปฏิบัติจะต้องจัดทาขึ้นเพื่อใหก้ ากับการดาเนินงานของหน่วยซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่อยุ่ล่างสุดของ การปฏิบตั ิงานที่มีพ้ืนที่ดแู ลรับผดิ ชอบ มีภารกิจเฉพาะในพืน้ ที่น้ัน รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรัมย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
16 3. วิสัยทัศน์ พันธกิจส เป้ำประสงค์ แผนกำรดำเนินงำนเกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นอยำ่ งไร วิสัยทัศน์ (Vision) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะอธิบายถึงทิศทางที่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นหรอื ส่วนราชการนั้น ต้องมุ่งไปสิ่งทีส่ ่วนราชการตอ้ งการ จะเปน็ หรอื ภาพลกั ษณ์ทีส่ ว่ นราชการต้องการ ในอนาคต โดยวิสัยทัศน์จะต้องเชื่อมโยงเป้าหมาย พันธกิจ ค่านิยม และความเชื่อมั่นเข้าด้วยกัน ซึ่งการ กาหนดวิสยั ทัศน์นนั้ ส่วนใหญ่แลว้ มกั เป็นหนา้ ทีข่ องผบู้ ริหารองคร์ ปกครองส่วนท้องถิ่น การกาหนดวิสัยทศั น์ควรจะเป็น 15 ปี และทอนลงมาที่ละ 5 ปี เพื่อจัดทาแผนพัฒนาหรอื แผนกลยุทธ์ ในแต่ละช่วง ที่มคี วามเปน็ รูปธรรมในช่วง 5 ปีแรก และมีความชัดเจนในช่วง 5 ปีต่อมา และในช่วง 5 ปีสุดท้าย จะเปน็ จุดมงุ่ ม่นั เปน็ หลกั เปน็ ต้น พันธกิจ (Mision) คือ กรอบ ขอบเขต การดาเนินงานของหน่วยงาน ซึ่งกาหนดพันธกิจ มีส่วน เกีย่ วข้องกบั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ มีลกั ษณะ ดังน้ี 1. บงบอกว่าหนว่ ยงานจะทาอะไร ซึ่งประกอบด้วย 2 สว่ น คือ (1) พันธกิจตามกฎหมาย และ (2) พนั ธกิจตามวิสยั ทศั น์ 2. สง่ิ ที่จะทามีอะไรต้องแสดงให้ชัดเจน ไม่ต้องระบวุ ตั ถปุ ระสงค์ 3. ต้องเปน็ กรอบในการกาหนดพนั ธกิจของหน่วยงานย่อย เป้ำหมำย (Goals) คือ อะไรคือสิ่งที่หน่วยงานอยากให้บรรลุ และกาหนดเป้าประสงค์ (Corporate Goal) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องมีองค์ประกอบ คือ 1) จะต้องมีความเช่อื มโยงกับวิสยั ทศั ฯและประเด็นยทุ ธศาสตรท์ ีก่ าหนดไว้ 2) ในการทีจ่ ะไปให้ถึงประเด็นยุทธศาสตรท์ ีต่ อ้ งการ สามารถทีจ่ ะแตกประเดน็ ยุทธศาสตรอ์ อกเปน็ เป้าประสงค์ที่จะบรรลุ ได้อย่างไรบ้าง 3) เป้าประสงค์ ขอให้เขียนในลกั ษณะสิง่ ที่ตอ้ งการทีจ่ ะบรรลุ 4) ในการกาหนดเป้าประสงค์นน้ั ขอใหพ้ ยายามกาหนดเป้าประสงค์ โดยการมองกรอบการ ประเมินผลทั้ง 4 มิติ คือ (1) มติ ิดา้ นประสิทธิผลตามพันธกิจ (Run the Business) (2) มติ ิดา้ นคุณภาพการให้บริการ (Serve the Customer) (3) มติ ิดา้ นประสิทธิภาพการจัดการ (Manage Resources) (4) มิติดา้ นพัฒนาองค์กร (Capacity Building) แผนดำเนินงำน (Orperation Plan) คือ เป็นแผนที่จัดทากันในระดับหน่วยปฏิบัตินั้น ซึ่งแผนการ ดาเนินงาน เป็นแผนการดาเนินงานขององค์กรครองส่วนท้องถิ่นที่แสดงถึงรายละเอียดแผนงานโครงการ พฒั นาและกิจกรรมที่ดาเนินการจริงท้ังหมดในพืน้ ที่ขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่นประจาปีงบประมาณ ซึ่งเป็น รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
17 หน้าที่ขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทาขึ้น โดยใช้เป็นเคร่ืองมือของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน การบริหารองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ให้บรรลเุ ป้าหมาย “แผนการดาเนินงาน” หมายความว่า แผนการดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่แสดงถึง รายละเอียดแผนงาน โครงการพัฒนาและกิจกรรมที่ดาเนินการจริงทั้งหมดในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นประจาปีงบประมาณน้ัน 4. วิสยั ทศั น์ พันธกิจ เปำ้ ประสงค์ แผนกำรดำเนินงำนเปน็ ประโยชนต์ ่อประชำชนอย่ำงไร วิสยั ทศั น์ จะเป็นประโยชนต์ อ่ ประชำชน ต่อกำรบรหิ ำรองค์กร เมื่อ 1. เปน็ การกาหนดอนาคต (Future oriented) ทีท่ ุกคนศรัทธา 2. เปน็ การฟนั ฝา่ ความท้าทายใหม่ (New challenge) ไม่หลงความสาเร็จในอดีต 3. ก่อใหเ้ กิดการทางานเปน็ ทีม (Team work) มุ่งมนั่ ไปสู่จดุ หมายเดียวกนั 4. ช่วยใหก้ ารกาหนดเป้าหมายในระดบั รองลงมามีความชดั มากขึ้น 5. องค์กรที่มีวสิ ยั ทศั นช์ ัดจะมีเป้าหมายระยะต่างๆ ในอนาคตชดั เจนด้วย พนั ธกิจ จะเป็นประโยชน์ต่อประชำชน ต่อกำรบริหำรองค์กร เมื่อกิจการต้องอยู่ในอานาจหน้าที่ หรือ กรอบภารกิจของหน่วยงานทั้งสิ้น โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การกาหนดพันธกิจให้ชัดเจน ต้องมีจดุ ประสงค์ คือ 1) เพือ่ เปน็ หลกั สาคัญในการกาหนดเป้าประสงค์และทิศทางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ 2) เพื่อกาหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานในการจดั สรรทรพั ยากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3) เพื่อสะดวกในการแปลความหมายของเป้าประสงค์ในโครงสร้างการทางาน การออกแบบงานและ ความรบั ผดิ ชอบภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ โดยคานงึ ถึงตน้ ทุน เวลา และตัวช้ีวัดทีส่ ามารถประเมินผล และควบคุมผลงานได้ เป้ำประสงค์ จะเป็นประโยชน์ต่อประชำชน ต่อกำรบริหำรองค์กร เม่ือองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นมีคณุ ลักษณะของเป้าประสงค์ระยะยาวทีด่ ี คือ (1) กำรต้องกำรวัดได้หรือตรวจนับได้ ความหมาย เป้าประสงค์จะต้องเป็นที่สิ่งที่เม่ือมีการปฏิบัติ หรอื ทาไปแล้ว องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น หรอื ผมู้ ีสว่ นเกี่ยวข้องท้ังหมายสามารถวัดหรอื ตรวจสอบได้ (2) กำรพิจำรณำถึงควำมเป็นไปได้ หรือโอกำสท่ีจะทำให้สำเร็จผลได้ ท้ังนี้ก็คือ ความสามารถ ของทรัพยากรบุคคลที่อยู่ความพร้อมของทรัพยากรทางการเงินอยู่ ปัจจัยอื่นๆ ที่มีความสาคัญ ตลอดจน สภาพผลกระทบจากการแขง่ ขัน รวมทั้งอทิ ธิพลของปัจจัยภายนอกที่มอี ยู่ (3) กำรต้องมีควำมคล่องตัวหรือปรับตัวได้ เพราะในการกาหนดเป้าหมายประสงค์นั้น มีปัจจัย หลายประการที่มีความไม่แน่นอน โดยอาจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา (4) กำรต้องใหค้ วำมสอดคล้องเข้ำกนั ได้กับแผนงำนอื่นๆ คือ เป้าประสงค์ที่กาหนดไว้น้ันจะมีส่วน ช่วยนาใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบรรลุถึงจุดมงุ่ หมาย และกลยทุ ธ์ทีจ่ ัดทาไว้แล้วหรอื เปล่า รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพนั ธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
18 แผนกำรดำเนินงำน จะเป็นประโยชน์ต่อประชำชน ต่อกำรบริหำรองค์กร เมื่อองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินนำแผนกำรดำเนินงำนไปปฏิบัติคือ ( ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทา แผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 พ.ศ. 2559 (ข้อ 24 – ข้อ 27) ข้อ 26 การจัดทาแผนการดาเนินงานให้ดาเนินการตามระเบียบนี้ โดยมีข้ันตอนดาเนินการ ดงั น้ี (1) คณะกรรมการสนับสนุนการจัดทาแผนพัฒนาท้องถิ่นรวบรวมแผนงาน โครงการพัฒนา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นๆ ที่ ดาเนนิ การในพื้นที่ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น แล้วจัดทารา่ งแผนการดาเนนิ งาน แล้วเสนอคณะกรรมการ พัฒนาท้องถิน่ (2) คณะกรรมการพัฒนาท้องถิ่นพิจารณาร่างแผนการดาเนินงาน แล้วเสนอผู้บริหารท้องถิ่น ประกาศเป็นแผนการดาเนินงาน ท้ังนี้ให้ปิดประกาศแผนงานดาเนินงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ประกาศ เพื่อให้ประชาชนท้องถิ่นทราบโดยทว่ั กนั และต้องปิดประกาศไว้อย่างน้อยสามสิบวนั ข้อ 27 แผนการดาเนินงานให้จัดทาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศใช้งบประมาณ รายจ่ายประจาปี งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม งบประมาณจากเงินสะสม หรือได้รับแจ้งแผนและโครงการจา หน่วยงานราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องดาเนินการในพื้นที่องค์กร ปกครองสว่ นท้องถิ่นในปีงบประมาณน้ัน การขยายเวลาการจดั ทาและการแก้ไขแผนการดาเนินงานเป็นอานาจของผู้บริหารท้องถิน่ “แผนกำรดำเนินงำน” หมายความว่า แผนการดาเนินงานขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ทีแ่ สดงถึง รายละเอียดแผนงาน โครงการพัฒนาและกิจกรรมที่ดาเนินการจริงทั้งหมดในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นประจาปีงบประมาณนั้น 5. บทสรปุ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ แผนการดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลายเป็น สิ่งจาเป็นและขาดไม่ได้ เสมือนเข็มทิศนาทางคู่กับกัปตันเคร่ืองบิน ที่บินพร้อมที่ลงจะลงจอดปลายทางได้ ปลอดภยั ************************************* รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
19 (ตัวอย่ำงคำถำมขอ้ ที่ 4) คำถำม “จำกควำมสำคัญของกระจำยอำนำจทำงกำรบริหำรกำรปกครองท่ีรัฐบำลได้ ดำเนินกำรเปน็ ผลทำให้ภำรกิจกำรบริหำรรำชกำรแผ่นและบริกำรสำธำรณะตกมำอยู่กับบทบำทของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและนับวันก็ยิ่งจะได้รับกำรถ่ำยโอนเพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง ดังนั้นผู้บริหำร องค์กรปกครองส่วนถ่ินจึงต้องอำสำเข้ำมำเป็นแก่นนำในกำรจัดสรรทรัพยำกรในท้องถ่ินให้เกิด ประโยชน์สูงสุดกับพลเมืองในพื้นท่ีนั้นๆ” จำกคำกล่ำวนี่ หำกท่ำนเป็นผู้บริหำรท้องถ่ินในฐำนะท่ีเป็น ข้ำรำชกำรประจำ ท่ำนจะมีอำนำจหน้ำท่ี และบทบำทของผู้บริหำรท้องถ่ิน และมีแนวทำงปฏิบัติใน กำรจัดกำรให้บริกำรสำธำรณะได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและมีประสิทธิผลอย่ำงไรมีควำมน่ำเชื่อถือสม กบั เป็นนักบรหิ ำรทอ้ งถิน่ มืออำชีพ ประเดน็ คำถำม หากท่านเป็นนักบริหารท้องถิ่นในฐานะที่เป็นข้าราชการประจา ท่านจะมีอานาจ หน้าที่และ บทบาทของผู้บริหารท้องถิ่น และมีแนวทางปฏิบัติในการจัดให้บริการสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลอย่างไรให้มีความนา่ เช่อื ถือสมกับเป็นนกั บริหารท้องถิน่ มอื อาชีพ แยกประเดน็ คำถำม 1. ขอทราบอานาจ หน้าทีข่ องผู้บริหารท้องถิ่นในฐานะที่เป็นข้าราชการประจา 2. ขอทราบบทบาทของผู้บริหารท้องถิ่นในฐานะทีเ่ ปน็ ข้าราชการประจา 3. มีแนวทางปฏิบัติในการจัดการให้บริการสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างไร 4. แนวทางปฏิบตั ิให้มคี วามน่าเช่อื ถือสมกับเป็นนักบริหารท้องถิน่ มอื อาชีพอย่างไร 5. แนวทางการเป็นนักบริหารมอื อาชีพทีน่ ่าเช่อื ถือ ประเด็นคำตอบ (เค้ำโครงกำรตอบ) 1) คานา 2) อานาจ หน้าที่ ของผู้บริหารท้องถิ่น(ปลดั รองปลัด ผอ.กอง หรือ หน.ฝา่ ย) ในฐานะที่เป็นข้าราชการ ประจา 3) บทบาทของผู้บริหารท้องถิ่น(ปลัด รองปลดั ผอ.กอง หรอื หน.ฝา่ ย) ในฐานะที่เป็นข้าราชการประจา 4) แนวทางปฏิบัติในการจัดให้บริการสาธารณะให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล 5) แนวทางการปฏิบัติของนักบริหารท้องถิ่นมอื อาชีพที่น่าเชอ่ื ถือ 6) บทบาทของนักบริหารท้องถิน่ มอื อาชีพทีน่ ่าเชื่อถือ 7) สรปุ แนวคำตอบ 1.คานา (เกรินคานา อ้างหลักใหญ่/เป้าหมายที่ถาม) “คานา” กก.ตรวจจะทราบเอง) รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพันธ์ เวำรัมย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
20 ตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ.2560 มำตรำ 250 บัญญัติไว้ว่า องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นมีหน้าที่และอานาจ ดูแลและจัดทาบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ ของ ประชาชนในท้องถิ่นตามหลักการพัฒนาอย่างย่ังยืน และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอานาจหน้าที่ในการ จัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประของประชาชนในท้องถิ่นตนเอง ตามมาตรา 16 และมาตรา 17 แห่ง พระราชบัญญัติกาหนดแผนและข้ันตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549 2. อำนำจหน้ำท่ี ของผู้บริหำรท้องถิ่น(ปลัด รองปลดั ผอ.กอง หรอื หน.ฝ่ำย) ในฐำนะทีเ่ ป็นข้ำรำชกำร ประจำ ปลัดองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น (รองปลัด ผอ.กอง หน.ฝ่าย มีหน้าทีช่ ่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย ตามแนวน)ี้ เปน็ ข้าราชการประจาซึ่งเป็นผบู้ งั คับบัญชาข้าราชการและลกู จ้างรองจาก นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรับผิดชอบควบคุมดแู ลราชการประจาขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ให้เป็นไปตามนโยบายและมีอานาจหน้าทีอ่ ่นื ตามทีก่ ฎหมายกาหนดหรอื ตามที่นายกองค์กรปกครองสว่ น ท้องถิ่นมอบหมาย ดังน้ันปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีอานาจ หน้าที่ ตามที่กฎหมายจัดตั้งท้ัง 4 ฉบับ ที่ เหมอื นกนั นี้ (1) ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิบัติหน้ำท่ีของนำยกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเท่าที่จา เป็นได้เป็นการชั่วคราว จนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในกรณีในระหว่าง ทีไ่ มมนี ายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (2) ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้รักษำรำชกำรแทนนำยกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมี อานาจหน้าที่ในการส่ังหรือการปฏิบัติราชการของนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในกรณีที่นายกองค์กร ปกครองสว่ นท้องถิ่นไม่อาจปฏิบัติหนา้ ทีไ่ ด้ (3) ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ปฏิบัติรำชกำรแทนนำยกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมี อานาจหน้าที่ในส่ัง การอนุญาต การอนุมัติ หรือการปฏิบัติราชการที่นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะพึง ปฏิบตั ิหรอื ดาเนนิ การตามกฎหมายในเรือ่ งนั้น โดยใหท้ าเปน็ คาส่งั และประกาศให้ประชาชนทราบ 3. บทบำทของผู้บรหิ ำรท้องถิน่ ( ปลัด รองปลดั ผอ.กอง หรือ หน.ฝำ่ ย) ในฐำนะที่เป็นข้ำรำชกำร ประจำ ปลัดองค์กรปกส่วนท้องถิ่น (รองปลัด ผอ.กอง หรือ หน.ฝ่ายมีหน้าที่ช่วยปลัดองค์กรปกครองส่วน ท้องถิน่ ตามที่รบั มอบหมาย ตอบแนวนี้) เป็นข้าราชการประจาซึง่ เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างรอง จากนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งตามกฎหมายกาหนดให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอานาจ หนา้ ที่ ดังน้ี รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพนั ธ์ เวำรัมย์ เวบ็ ไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
21 1) กาหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อกฎหมายและรับผิดชอบในการบริหารราชการองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้อบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ 2) สงั่ อนญุ าต และอนุมตั เิ กีย่ วกับราชการขององค์การบริหารส่วนตาบล 3) วางระเบียบเพือ่ ให้งานขององค์การบริหารส่วนตาบลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 4) ปฏิบัติหน้าที่อน่ื ตามทีบ่ ัญญัติไว้ในพระราชบญั ญัติน้แี ละกฎหมายอืน่ จากกฎหมายบัญญัติไว้ ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จงึ มีบทบาทช่วยเหลอื นายกองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ปฏิบัติหน้าที่ราชการและรับผิดชอบในการบริหารราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามกฎหมาย 5) บทบาทในฐานะ เป็นปฏิบัติหน้าที่ของนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเท่าทีจ่ าเปน็ ได้เป็นการชว่ั คราว จนถึงวนั ประกาศผลการเลือกต้ังนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6) บทบาทในฐานะ เป็นผู้รักษาราชการแทนในตาแหน่งนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่ได้รับ มอบหมายน้ัน 7) บทบาทในฐานะ เป็นผู้รกั ษาราชการแทนนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ตามที่ได้รับมอบอานาจนนั้ 4. แนวทำงปฏิบัติในกำรจัดใหบ้ รกิ ำรสำธำรณะใหเ้ กิดประสิทธิภำพและประสิทธิผล กำรจดั บรกิ ำรสำธำรณะ หมายถึง การบริการหรอื กิจกรรมที่รฐั จัดทาขึ้นเพื่อประสาธารณะหรอื เพื่อ ตอบสนองความต้องการของส่วนรวม โดยเป็นกิจการที่อยู่ในความอานวยการหรอื อยู่ในความควบคมุ ของฝา่ ย ปกครองสว่ นท้องถิ่นทีจ่ ดั ทาขึน้ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อสนองความตอ้ งการส่วนรวมของประชาชน การจัดการสาธารณะดังกล่าวมา ในฐานะผู้บริหารท้องถิ่น มีแนวทางปฏิบัติที่จะต้องนากิจกรรมหรือ การบริการสาธารณะไปปฏิบตั ิให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังน้ี 1) นากิจกรรมบริการสาธารณะให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของประชาชน รวมทั้งให้ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น 2) การบริการสาธารณะให้ลักษณะที่เหมาะสมและให้บริการสาธารณะทีค่ รบถ้วนทกุ ด้านทั่วถึงประชาชน ทุกกลุ่ม 3) มีการพิจารณาถึงความจาเปน็ เร่งด่วนในปญั หานั้น 4) การเปิดโอกาสใหป้ ระชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีสว่ นรว่ มท้ังในการเสนอนโยบาย การมีสว่ นร่วมในการ ดาเนนิ งาน และการตรวจสอบการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกส่วนท้องถิน่ 5) มีการปรับแนวทางการบริการสาธารณะในรูปแบบใหม่ๆ และเพิ่มขีดความสามรถในการแก้ปัญหา เชน่ แนวทางการทางานในลักษณะเครือข่าย (network) ที่เป็นการทางานร่วมมอื การระหว่างหนว่ ยงาน ต่างๆ ของรัฐองคก์ รเอกชนองคก์ รภาคประขาขน สถาบนั วิชาชีพ หรอื องค์กรทีไ่ ม่แสวงหาผลกาไร 6) มีการกาหนดเป้าหมาย แผนการทางานระยะเวลาแล้วเสร็จของงานหรือโครงการ และงบประมาณที่ จะต้องใช้ในแตล่ ่ะงานหรอื โครงการ และต้องเผยแพร่ใหข้ ้าราชการและประชาชนท่ัวกนั ด้วย รวบรวมและนำมำเผยแพร่โดยประพนั ธ์ เวำรมั ย์ เว็บไซตh์ ttp://valrom.igetweb.com
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141