Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สวนพฤกษศาสตร์

สวนพฤกษศาสตร์

Published by KaKa Chuthaphat, 2020-11-06 02:41:24

Description: นาย จุฑาภัทร ตรีพุฒิคุปต์ ชั้นม.5/2 เลขที่6
นางสาว จริยา วงค์กิติ ชั้นม.5/2 เลขที่31

Search

Read the Text Version

คานา หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพ่ือใชป้ ระกอบ การเรียนวิชา ว32101 เทคโนโลยี 2 ซ่ึงเน้ือหาประกอบดว้ ย ความรูเ้ ก่ยี วกบั ตน้ ไม้ และดอกไมใ้ นโรงเรียน ผูจ้ ดั ทาหวงั วา่ เน้ือหาในหนังสือเลม่ น้ี จะเป็นประโยชนใ์ หก้ บั ผูศ้ ึกษาไดเ้ ป็นอยา่ งดี นาย จุฑาภทั ร ตรีพุฒิคปุ ต์ นางสาว จริยา วงคก์ ิติ ผจู้ ดั ทา ครู รชั ชนก วงสเ์ ขียว



ขอ้ มลู พฤกษศาสตร์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta erecta L. ชื่อวงศ์ : VERBENACEAE ชื่อสามญั : Golden Dewdrop ,Japan Camillia ,Pigeon berry ,Sky flower ชื่อพ้ืนเมือง : เทยี นทอง ,พวงมว่ ง ,เทยี นพญา อนิ ทร์ ถ่ินกาเนิด : อเมริกา เขตรอ้ น การกระจายพนั ธุ์ : - ในประเทศไทย พบ ในทว่ั พ้ืนท่เี ขตรอ้ น -ในประเทศอ่ืน ๆ ประเทศในเขตรอ้ น นิเวศวิทยา : เตบิ โตไดด้ ใี นเขตรอ้ นช้ืน

ลนั่ ทม หรือ ลีลาวดี เป็นไมด้ อกยืนตน้ ในวงศต์ นี เป็ด หรือ วงศไ์ ม้ ลน่ั ทม (Apocynaceae) มหี ลายชนิดดว้ ยกนั บางคนมคี วามเช่ือวา่ ไม่ ควรปลูกตน้ ลน่ั ทมในบา้ นเพราะมคี วามเช่ือวา่ เป็นอปั มงคล คือไปพอ้ งกบั คาวา่ 'ระทม' ซ่ึงแปลวา่ เศรา้ โศก ทุกขใ์ จ นิยมปลูกกนั แพร่หลายอยา่ งมาก ช่ือพ้ืนเมือง อ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ จาปา, จาปาลาว และจาปาขอม เป็นตน้

ลกั ษณะทว่ั ไปสเี ขยี วเม่ือแกฝ่ กั จะมสี แี ดงถึงดา ตน้ เป็นไมย้ ืนตน้ มขี นาดตงั้ แตพ่ ุม่ เต้ยี แคระสูงประมาณ 0.9-1.2 เมตร จนถึงตน้ ท่สี ูงมาก อาจสูงถึง 12 เมตร ใบ เป็นใบเด่ยี ว มกี ารเรียงตวั แบบสลบั และหนาแน่นใกล้ ปลายก่งิ มี ช่อดอก ดอกจะผลอิ อกมาจากปลายยอดเหนือใบ เหน็ เป็น ชอ่ ดอกใหญส่ วยงาม ดอก โดยทว่ั ไปจะมขี นาดใหญถ่ ึงกลาง ยกเวน้ บางพนั ธุท์ ่มี ี ขนาดเลก็

ช่ือพนั ธไ์ ม้ สกั เป็นไมต้ น้ ขนาดใหญผ่ ลดั ใบในฤดูรอ้ น ลาตน้ เปลาตรง เปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเลก็ ๆ สเี ทา โคนเป็น พูพอนต่า ๆ เรือนยอดเป็นพุม่ ทรงกลมคอ่ นขา้ งทึบ เปลือกสเี ทา เรียบ หรือแตกเป็นร่องต้ืนตามความยาวลา ตน้ ข้ึนเป็นหมูใ่ นป่ าเบญจพรรณทางภาคเหนือ บางสว่ น ในภาคกลางและภาคตะวนั ตก มอี ยูบ่ า้ งทางภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ สกั มกั จะไดร้ บั ความเขา้ ใจผดิ เสมอ วา่ เป็นไมเ้ น้ือแขง็ เน่ืองจากวา่ มนั มลี กั ษณะพเิ ศษท่เี ป็นไม้ เน้ือออ่ นท่มี คี วามทนทานกวา่ ไมเ้ น้ือแขง็ หลาย ๆ ชนิด ช่ือสามญั อ่ืนอ่ืน: เซบา่ ย้,ี ปีฮือ, ปาย้,ี เป้ อยี สขี าย ขนมเสน้

ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้น : เป็นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตก เป็นร่องเลก็ ๆ สีเทา โคนเป็นพพู อนต่า ๆ ใบ : เป็นใบเดี่ยวใหญ่มาก ออกตรงขา้ มกนั เป็นคู่ ปลายใบแหลมโคนมน ยาว 25 - 30 เซนติเมตร กวา้ งเกือบเท่ายาว ใบของตน้ อ่อน จะใหญ่กวา่ น้ีมาก ผวิ ใบขนสากคายสีเขียว เขม้ ขย้ใี บสดจะมีสีแดงเหมือนเลือด มีการ สลดั ใบทิ้งเมื่อถึงฤดูหนาว ดอก : มีขนาดเลก็ สีขาวนวลออกเป็นช่อตาม ปลายก่ิง ออกดอกและเป็นผลเดือน มิถุนายน - ตุลาคม ผล : เป็นผลแหง้ ค่อนขา้ งกลม เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 2 เซนติเมตร เปลือกแขง็ ภายในมี 1 - 3 เมลด็

ช่ือพนั ธุไ์ ม้ ตน้ พุด เป็นพรรณไมย้ ืนตน้ ขนาดเลก็ ลกั ษณะเป็นพุม่ เต้ยี ลาตน้ สูง1- 3 เมตร ผวิ ลาตน้ มสี ขี าวเทา แตกก่งิ กา้ นออกใบรอบตน้ ใบเป็นใบ เด่ยี ว แตกออกเป็นคูต่ รงกนั ขา้ ม ตามขอ้ ของก่งิ ลกั ษณะของใบเป็น รูปมนรี ปลายใบแหลม ผวิ ใบเรียบสเี ขยี วยาว 8-12 ซม. ดอกเป็น ดอกเด่ยี ว ออกตามปลายยอดหรือปลายก่งิ ชอ่ หน่ึงมี 5-6 ดอก แลว้ แตช่ นิดพนั ธุ์ ดอกมกี ล่นิ หอมสขี าวหรือเรียงเป็นชนั้ เดยี วแลว้ แต่ ชนิดพนั ธุ์ ดอกบานมคี วามโต 2-5 ซม. ออกผลเป็นฝกั รูปกระบอก แหลมโคง้ ภายในมเี มลด็ 3-5 เมลด็

ประโยชน์ สาหรบั ดอกพุดนั้นนิยมนาไปรอ้ ย พวงมาลยั เพ่ือบูชาพระ มกี ารนาเมลด็ เมลด็ ไปใช้ แตง่ สอี าหารและทาสยี อ้ ม เน่ืองจากมเี มลด็ สี เหลืองทอง สาหรับดอกพุดซอ้ นนั้นนาไปใชส้ กดั ทาเป็นน้ามนั หอมระเหย ใชท้ าน้าหอมและแตง่ กล่นิ เคร่ืองสาอาง และมกี ารนาเอาไปทา สมุนไพร “สรรพคุณทางยา” - ใบ ดอกพุดซอ้ น นามาตาพอกแกป้ วดศรี ษะ

ช่ือพนั ธ์ุไม้ วำสนำ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Dracaena Fragrans Massangeana วงศ์ AGAVACEAE ช่ือสามญั Dracaenas ช่ืออ่ืนๆ สายสะพายจอมพล ถ่นิ กาเนิด เอธิโอเปีย ไนจเี รีย กนิ ี ลกั ษณะทว่ั ไป เป็นไมย้ ืนตน้ ขนาดกลาง ลาตน้ สูงประมาณ 4-10 เมตร ลา ตน้ กลมตรง ไมม่ กี ่งิ กา้ น มขี อ้ ถ่ี ผวิ เปลือกลาตน้ สนี ้าตาล ใบเป็นใบเด่ยี วแตก ออกจากลาตน้ ตรงสว่ นยอดเรียงซอ้ นกนั เวยี นรอบลาตน้ เป็นรูปวงกลม ลกั ษณะใบเรียวยาว โคง้ งอ ปลายใบแหลม ขอบใบ

ช่ือพนั ธุไ์ ม้ โพ เป็นตน้ ไมส้ ปีชสี ห์ น่ึงของไทรหรือมะเด่ือ เป็นพืชพ้ืนเมืองของ อนิ เดยี , เนปาล, ศรีลงั กา, ตะวนั ตกเฉียงใตข้ องจนี และอนิ โด จนี เป็นตน้ ไมข้ นาดใหญผ่ ลดั ใบในฤดูรอ้ น สูงไดถ้ ึง 30 เมตร ลา ตน้ มเี สน้ ผา่ นศูนยก์ ลางไดถ้ ึง 3 เมตร

โพเป็นตน้ ไมท้ ่ไี ดร้ ับการสกั การะ ในศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ศาสนาเชน และ พระพุทธศาสนา พระโคตมพุทธ เจา้ กไ็ ดต้ รัสรูเ้ ม่ือน่ังอยูใ่ ตต้ น้ โพ เชน่ กนั โดยตน้ โพท่พี ระโคตม พุทธเจา้ ตรสั รูน้ ั้นช่ือ \"ตน้ พระศรี มหาโพธ์ิ\" เช่ือกนั วา่ โพเป็น สญั ลกั ษณแ์ หง่ ความสุข ความสาเร็จ อายุยืน และเป็น พนั ธุไ์ มม้ งคลพระราชทานประจา จงั หวดั ปราจนี บุรี

ผูจ้ ดั ทา นาย จุฑาภทั ร ตรีพุฒคิ ุปต์ Email : Juthaphat062 นางสาว จริยา วงศก์ ติ ิ mintwongkiti @gmail.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook