Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้หน่วยที่ 1

ใบความรู้หน่วยที่ 1

Published by เกษมศักดิ์ เฮงเส็ง, 2017-03-22 22:16:22

Description: ใบความรู้หน่วยที่ 1

Search

Read the Text Version

1.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ (computer) เปน็ อปุ กรณ์ทางไฟฟา้ ชนดิ หน่งึ ที่สามารถจาขอ้ มูลตา่ งๆ ได้สามารถคดิ คานวณตัวเลข สามารถตอบสนองตอ่ การกระทาของผใู้ ชไ้ ด้ และมคี วามสามารถในการเชอื่ มต่อกับอปุ กรณ์ไฟฟา้ บางชนิด เพ่ือสัง่ ใหอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟ้าเหล่านนั้ ทางานตามคาสงั่ ได้ คอมพวิ เตอร์ (ตามพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตสถาน พ.ศ.2525) หมายถึงเครอื่ งเล็กทรอนกิ ส์แบบอตั โนมตั ิ ทาหนา้ ทเ่ี สมอื นสมองกล ใชส้ าหรบั แก้ปัญหาตา่ งๆ ท้ังทีง่ ่ายและซับซ้อน โดยวธิ ที างคณติ ศาสตร เคร่อื งคอมพิวเตอร์ท่ใี ช้ในปจั จุบนั ประกอบด้วยวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกสท์ เ่ี รียกวา่ ฮารด์ แวร์(hardware) มผี ลผลิตออกมาหลายรุ่นแตล่ ะรุน่ จะมคี วามสามารถต่างกัน บางรนุ่ อาจเหมาะสาหรับทางานในบ้าน บางร่นุ เหมาะสาหรับการใชง้ านทางด้านการฟิกสูง แตถ่ า้ หากมองถึงสว่ นประกอบภายนอกจะประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบหลัก 5 สว่ น คอื หนว่ ยประมวลผลกลาง(central processing unit) หรอื ซีพียู (CPU) หนว่ ยรับเขา้ (input unit) หน่วยสง่ ออก (outputunit) หนว่ ยความจาหลกั (main memory) และหน่วยความจารอง (secondary memory)หนว่ ยรับเขา้ หน่วยรบั เข้า หรืออินพุต จะมอี ปุ กรณ์อินพุตประกอบอยู่ เป็นสว่ นท่ใี ชร้ บั ข้อมลู และคาสงั่ จากภายนอกเขา้ ส่เู คร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื นาไปประมวลผล อปุ กรณ์ประเภทน้ีได้แก่ แปน้ พิมพ์(keyboard) เมาส์ (mouse) สแกนเนอร์ (scanner) ไมโครโฟน (microphone) เครอ่ื งแสกน

ลายนิ้วมือ (fingerprint) และกล้องดจิ ติ อล เปน็ ต้น อุปกรณอ์ ินพตุ น้ีจะเปลี่ยนข้อมูลทม่ี นุษย์สามารถเขา้ ไปเป็นรหัสข้อมลู ของเครื่องคอมพิวเตอรเ์ ขา้ ใจหน่วยส่งออก หนว่ ยสง่ ออก หรอื เอาต์พุต จะมีอปุ กรณ์เอาต์พุตประกอบอย่ไู ดแ้ ก่ จอภาพ (monitor) ลาโพง(speaker) และเครื่องพิมพ(์ printer) เปน็ ตน้ โดยอุปกรณเ์ อาต์พตุ น้ีจะทาหนา้ ทเ่ี ปลย่ี นหสั ผ่านข้อมลู ทคี่ อมพิวเตอร์เขา้ ใจออกมาเป็นขอ้ มูลที่มนุษย์สามารถเขา้ ใจได้หน่วยประมวลผลกลาง เมอื่ ข้อมูลเขา้ สู่ระบบแลว้ หนว่ ยประมวลผลจะทาหน้าท่ปี ระมวลผลตามคาสัง่ หรือโปรแกรมท่ีกาหนดไว้ โดยโปรแกรมและขอ้ มูลต่างๆ จะถูกเกบ็ เอาไวห้ น่วยความจา เมือ่ หน่วยประมวลผลทางานสาเรจ็ ก็จะเก็บขอ้ มูลลงหนว่ ยเก็บขอ้ มลู หรอื สง่ ผลลัพธท์ ่ไี ด้ทางเอาตพ์ ตุ ตอ่ ไป

หนว่ ยความจา หนว่ ยความจาของคอมพวิ เตอรน์ น้ั ประกอบด้วยหน่วยความจาหลกั และหนว่ ยและหน่วยความจารอง โดยหน่วยความจาทใี่ ชเ้ ก็บโปรแกรมและข้อมูลท่ีคอมพิวเตอรป์ ระมวลผลอยู่ส่วนหน่วยความจารองเปน็ อปุ กรณเฺ ก็บข้อมูล (storage media) ท่ใี ช้เกบ็ ข้อมลู หรอื คาสง่ั ตา่ งๆ ที่จะต้องใช้ในอนาคต ตวั อย่างของหนว่ ยเก็บข้อมลู ไดแ้ ก่ การด์ หน่วยความจา (memorycards) แผน่ ซดี ี หรอื ดวี ดี ี (CD,DVD) หนว่ ยควมจาแบบยเู อสบีแฟลชไดรฟ์ (USB FlashDrive) เป็นตน้1.2 ประเภทของคอมพวิ เตอร์ เครื่องคอมพวิ เตอร์นน้ั สามารถนาแนกได้หลายประเภท ขึ้นกับขนาด ประสทิ ธิภาพ และลักษณะการใช้งาน โดยทัว่ ไปแลว้ สามารถแบง่ ประเภทของเคร่ืองคอมพิวเตอรไ์ ด้ดังน้ีคอมพิวเตอรส์ ่วนบคุ คล (Personal Computer) คอมพวิ เตอร์ประเภทนเี้ ปน็ คอมพวิ เตอรท์ มี่ กี ารใช้งานกันท่วั ไป เป็นคอมพิวเตอรแ์ บบตั้งตะ๊ ที่เหมาะสาหรับใช้งานในบา้ น ในสานักงาน ราคาไม่แพง คอมพวิ เตอรป์ ระเภทน้ที ีน่ ยิ มใชก้ นั มอี ยู่สองตระกูลคือ PC-Compatible ที่มีตน้ แบบเป็นคอมพิวเตอร์ของบรษิ ทั IBM และคอมพวิ เตอร์ตระกูล Apple8vคอมพวิ เตอร์แบบ PC มีการผลติ ออกมาหลายร่นุ หลายแบบ โดยสว่ นใหญ่แล้ว

จะใช้โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ windows ส่วนคอมพิวเตอร์ Apple จะใช้โปรแกรมระบบปฏิบัตกิ ารของ Macintosh ทเี่ รยี กวา่ Mac OSคอมพิวเตอรแ์ บบโนต้ บุ๊ก โนต้ บุ๊กเปน็ คอมพวิ เตอรส์ ว่ นบุคคลขนาดเลก็ ท่ีมีน้าหนักเบาสะดวกกับการเคลอ่ื นยา้ ยไปยงั ที่ตา่ งๆ คอมพิวเตอร์แบบน้ีอาจจะเรียกไดว้ า่ เป็น mobile computer สามารถใช้พลงั งานไฟฟ้าทว่ั ไปหรือพลังงานจากแบตเตอรี่ได้ ในปัจจบุ ันคอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะมปี ระสทิ ธภิ าพสงู ไมแ่ พ้คอมพิวเตอร์แบบตงั้ โตะ๊ แต่หากเทียบกับเคร่ืองทม่ี ีประสทิ ธภิ าพเทา่ กนั แลว้ คอมพิวเตอร์แบบโนต้ บกุ๊ จะมีราคาสงู กวา่คอมพวิ เตอรม์ ือถอื (Handheld Computer) คอมพวิ เตอรม์ อื ถอื เป็นเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ขนาดเล็กที่เหมาะสาหรบั พกพาไปทต่ี า่ งๆ เน่ืองจากเครื่องมขี นาดเลก็ จงึ ไม่เหมาะสมท่ีจะออกแบบคยี ์บอร์ดไว้บนตัวเครอ่ื ง คอมพิวเตอร์ประเภทน้ีสามารถใช้งานพ้ืนฐานท่ัวไปได้รบั สง่ เมลแ์ ละใชใ้ นการสื่อสารได้ เคร่อื งคอมพวิ เตอรป์ ระเภทน้จี ะรวมถงึ คอมพิวเตอร์แบบ PDA (Personal Digital Assistant) หรอื Pocket PC ที่ใชก้ นั ท่วั ไปดว้ ยปจั จุบันคอมพวิ เตอรป์ ระเภทน้ยี ังมีกลอ้ งถา่ ยภาพตดิ มาบนตวั เคร่อื งดว้ ย และคอมพวิ เตอรเ์ หล่านี้สามารถใช้งานเป็นโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทไ่ี ด้ จึงมกั เรยี กคอมพวิ เตอร์มอื ถือวา่ สมารท์ โฟน (smartphone)เครือ่ งคอมพวิ เตอรแ์ บบเซริ ์ฟเวอร์

เครื่องคอมพิวเตอรเ์ ซิรฟ์ เวอรเ์ ป็นเคร่อื งคอมพิวเตอรท์ ีม่ ขี นาดใกลเ้ คยี งกับคอมพวิ เตอร์ทว่ั ไปแตจ่ ะมีความสามารถสูงกว่ามาก คอมพิวเตอรป์ ระเภทน้จี ะใช้เป็นเครอื่ งให้บริการPC ตา่ งๆ ท่ตี อ่อยู่ในเครือขา่ ย และยงั ใชเ้ ปน็ เครื่องให้บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ อีกด้วยขนาดและประสิทธิภาพของคอมพวิ เตอรเ์ ซริ ฟ์ เวอร์นี้มีหลายร่นุ ข้นึ กับการใชง้ านวา่ จะใหบ้ ริการกับเคร่ืองคอมพิวเตอรอ์ น่ื ๆหลายเคร่ืองหรอื ไม่คอมพวิ เตอรแ์ บบเมนเฟรม (Mainframe Computer) คอมพิวเตอร์แบบเมนเฟรมเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ทีต่ อ้ งการประมวลผลข้อมูลจานวนมากด้วยความรวดเรว็ สูง มหี น่วยความจาขนาดใหญ่ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะนิยมใชใ้ นองค์กรท่มี ีผ้ใู ช้จานวนมาก เช่น ระบบธนาคารขนาดใหญ่ ระบบธรุ กิจขนาดใหญ่ ระบบการจองตว๋ั เครอื่ งบิน เปน็ต้น ในการใชง้ านคอมพิวเตอรแ์ บบเมนเฟรมมกั จะไมใ่ ชเ้ ครอ่ื งเมนเฟรมนี้เพียงเครื่องเดียว แต่จะมีการตอ่ ทางานรว่ มกับคอมพิวเตอร์อน่ื ๆ จะใชเ้ ป็นตัวป้อนและแสดงขอ้ มลู ทั่วไปซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)

เคร่ืองคอมพวิ เตอรป์ ระเภทน้จี ัดว่าเปน็ เครื่องคอมพิวเตอรท์ ่มี ีประสทิ ธภิ าพในการทางานสูงที่สดุ สามารถทางานไดม้ ากกว่าพนั ลา้ นคาสัง่ ในหน่งึ วินาที มนี ้าหนักหลายตัน สามารถเช่อื มตอ่ กับคอมพิวเตอร์PC ทั่วไปไดจ้ านวนมาก คอมพวิ เตอรป์ ระเภทนีจ้ ะใชง้ านที่ตอ้ งการประมวลผลกบัขอ้ มูลจานวนมากดว้ ยความเร็วสงู ๆ เชน่ งานทางดา้ นการพยากรณ์อากาศ การคานวณต่างๆทมี่ ีความซับซอ้ น และงานคอมพวิ เตอร์สาหรบั การออกแบบในอุตสาหกรรมเปน็ ตน้คอมพวิ เตอร์แบบฝ่งั ตวั (Embedded Computer) คอมพวิ เตอร์ฝงั ตัวเป็นคอมพวิ เตอร์ทไ่ี ดร้ ับความนยิ มอยา่ งมากในปจั จุบนั โดยการประมวลผลทีฝ่ ังตวั อย่ใู นอปุ กรณ์ตา่ งๆ เพ่ือควบคุมการทางานของอุปกรณ์นั้นๆ ซ่งึ ถา้ หากมองภายนอกแล้วจะไม่พบว่ามเี คร่อื งคอมพวิ เตอร์เชอ่ื มต่ออยู่ รบบประเภทนีจ้ ะพบในเครือ่ งมืออิเล็กทรอนกิ ส์สมยั ใหม่เช่น ต้เู ยน็ เครื่องปรบั อากาศ โทรศัพทเ์ คลื่อนท่ี หรือในรถยนต์ที่ควบคมุ การทางาน การจุดระเบิดระบบเบรก ด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ เป็นตน้1.3คอมพวิ เตอร์ยคุ ใหม่ คอมพิวเตอร์ที่พบเหน็ ทวั่ ๆไปบนโต๊ะทางาน หรอื คอมพิวเตอร์มือถอื สามารถแยกออกเป็นรปู แบบต่างๆเดสกท์ ็อป (Desktop)

เดสกท์ ๊อปเป็นคอมพวิ เตอรท์ พ่ี บเหน็ ไดท้ วั่ กนั ไปตามบา้ นหรอื สานักงาน มกี ารแยกช้ินส่วนประกอบเปน็ ซพี ียู จอภาพ และแปน้ พิมพ์ เปน็ ตน้ ปจั จบุ ันคอมพวิ เตอร์ตั้งโตะ๊ มผี ลติ ท่เี น้นใหม้ ีความสวยงามน่าใช้มากยงิ่ ข้ึน และไดร้ บั ความนยิ มในการใชง้ านมากยงิ่ ข้ึน และได้รับความนิยมในการใช้งานมากเน่ืองจากราคาไมแ่ พงมาก เม่ือเทียบกบั คอมพิวเตอร์แบบอน่ื ๆโนต้ บกุ๊ (Notebook) คอมพวิ เตอรโ์ นต้ บกุ๊ มีคณุ สมบตั คิ ล้ายกับเครอื่ งPC ทยี่ อ่ สว่ นลงมา มีขนาดเลก็ บาง และเบา (ซึง่ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามประสทิ ธภิ าพด้วย) โน้ตบุ๊กใชส้ าหรับงานนอกสถานที่ รองรบั งานไดท้ กุรูปแบบทงั้ งานด้านกราฟิก เล่นเกม 3 มติ ิ ตัดตอ่ วิดีโอ และยังมอี ุปกรณอ์ านวยความสะดวกสาหรับการใช้งานบนั เทงิ ครบ โน้ตบุ๊กใช้พลงั งานจากแบตเตอร่ีซึง่ เทคโนโลยีปจั จบุ ันถกู พฒั นาใหม้ ีประสิทธิภาพสงู ขึ้น แตป่ ระหยัดไฟ บางรุ่นสามารถใช้งานได้นานถึง5-6 ชัว่ โมงเนต็ บุ๊ก(Netbook) เน็ตบุ๊กเปน็ โนต้ บกุ๊ ขนาดเล็กลงไปอีก เนน้ การใชง้ านผา่ นเครอื ข่ายแบบไร้สาย ใช้ในการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะงานทางด้านอนิ เทอร์เนต็ เปน็ หลกั แต่ก็สามารถทางานพนื้ ฐานได้ เช่น

พิมพเ์ อกสาร เล่นเกมสต์ วั เลก็ ๆ แตค่ วามเร็วอาจไม่มากนกั และยงั ถูกตัดทอนอุปกรณบ์ างสว่ นออกไป เพือ่ ลดขนาดและนา้ หนัก รวมไปถงึ ลดปรมิ าณการใช้พลงั งาน เช่น ไมม่ ีไดร์วดีวีดี ความจุของฮาร์ดดสิ กน์ อ้ ย แต่มรี าคาถูกกว่าโนต้ บุ๊กเท่าตัวเดสก์โนต้ (Desknote) เคร่อื งเดสก์โน้ตจะมีรปู รา่ งเหมอื นเครื่องโน้ตบกุ๊ ทุกประการแตม่ ีสว่ นทแ่ี ตกตา่ งกัน คอื เดสก์โนต้ ไมม่ แี บตเตอรรภี่ ายในตวั เคร่อื งจะใชไ้ ฟฟา้ แทน รวมถึงโครงสร้างภายในเคร่อื งเดสกโ์ นต้ เป็นชนดิ เดียวกบั เครอื่ ง PC ได้ ไมว่ า่ จะเป็นหน่วยความจา ซีพยี ู อุปกรณป์ ระกอบอื่นๆ เดสก์โนต้ จะมีราคาถูกกวา่ โนต้ บ๊กุ เนอ่ื งจากคณุ ลกั ษณะทแี่ ตกตา่ งกันแท็บเลต็ พีซี (Tablet PC) แท็บเลต็ มักเรยี กส้นั ๆว่าแท็บเล็ต เปน็ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบคุ คลที่มคี ุณสมบัตคิ ล้ายกับโนต้ บุก๊ แต่วธิ ีการใช้งานจะเป็นลกั ษณะของการขีดเขียนบนหนา้ จอโดยตรง (touch screen) และในปัจจุบนั ไดพ้ ฒั นาให้มกี ารใช้งานเหมอื นโนต้ บกุ๊ จอภาพสามารถหมุนได้ 180 องศา สามารถพบัปดิ ได้ ยกจอขึน้ ไดแ้ ละยงั ป้อนข้อมลู ไดท้ ้งั แบบแป้นพมิ พ์ รวมไปถงึ การใช้ปากกา(stylus) อีกด้วยขนาดของแทบ็ เล็ตจะเล็กกวา่ โน้ตบ๊กุ แต่จะใหญ่กว่า สมาร์ทโฟน

สมาร์ทโฟน (Smart Phone) สมาร์ทโฟนเปน็ โทรศพั ทท์ ่ีมรี ะบบปฏบิ ตั กิ ารอยู่ภายใน ทาให้สามารถทางานได้มากกว่าการโทรออกและรบั สาย เช่น กลอ้ งถา่ ยรูป การเชอ่ื มต่ออินเทอร์เน็ต ท่ีอาจติดตง้ั มาพร้อมกบัเครอ่ื งโทรศัพท์(โปรแกรมเหล่าน้จี ะถูกเรียกวา่ ”แอพ”)เชน่ ปฏิทิน เครอื่ งคิดเลข สมุดบันทึกนาฬกิ า เปน็ ต้น1.4 ขั้นตอนการทางานของคอมพวิ เตอร์ ขนั้ ตอนการทางานของคอมพวิ เตอร์นัน้ ประกอบดว้ ย 3 ข้ันตอนใหญ่ๆคอื การรบั ขอ้ มูล(inputdata)การประมวลผล (data processing) และการแสดงผลลัพธอ์ อกทางเอาต์พตุ (outputresult) การรบั ขอ้ มลู น้นั คอมพวิ เตอร์จะรับขอ้ มลู ทางพอร์ตอินพตุ ทมี่ อี ุปกรณ์อินพตุ ต่ออยู่ อย่างเชน่คยี บ์ อรด์ เมาส์ เปน็ ตน้ สว่ นการแสดงผลลัพธ์ทางจอภาพหรือเครอ่ื งพมิ พ์เปน็ หลัก สาหรับวิธกี าร

ประมวลผลนนั้ คอมพิวเตอรจ์ ะอา่ นโปรแกรมจากหนว่ ยความจาสารองขึ้นไวใ้ นหน่วยความจาหลกั(RAM) เพื่อประมวลผลต่างๆต่อไป1.5 ซพี ียู(CPU) และการประมวลผลขอ้ มลู หากกล่าวถึงหนว่ ยประมวลผลกลางของคอมพวิ เตอร์ หรอื ซีพยี ู (CPU มาจากคาว่าCentralProcessing Unit) บางคนเขา้ ใจผิดคิดว่าเป็นตัวเคร่อื งหรือเคส(case)ของคอมพวิ เตอร์ แตค่ วามจรงิ แล้ว ซพี ียู เป็นชพิ (chip)สารก่งึ ตัวนาตัวหนึ่งท่ีเป็นหวั ใจการทางานของคอมพวิ เตอร์ โดยชิพตวันี้ประกอบอยบู่ นเมนบอรด์ ที่บางครั้งเรยี กกนั ว่าsystem boardชพิ เป็นสารกง่ึ ตัวนาขนาดเลก็ ซงึ่ ภายในบรรจวุ งจรอเิ ล็กทรอนิกสต์ ่างๆไวม้ ากมาย โดยวงจรประกอบด้วยทรานซตี เตอร์เปน็ จานวนมาก จึงเรยี กชิพตา่ งๆวา่ ไอซี(IC) หมายถึงวงจรรวม(integrated circuit) ในอดตี หนว่ ยประมวลผลกลางจะมขี นาดใหญ่ แตใ่ นปัจจุบนั เม่ือนาสารก่งึ ตวันามาใชก้ ็ทาให้หน่วยประมวลผลกลางภายในไมโครโปรเซสเซอรเ์ ปน็ หนว่ ยประมวลผลกลางถกูพฒั นาให้มีขนาดเล็กลง โดยรวมวงจรตา่ งๆ ไว้ในชพิ เพยี งชพิ เดียว ชิพตัวนถี้ ูกเรยี กว่าไมโครโปรเซสเซอร์(microprocessor)ซึง่ กล่าวไดว้ ่าคอมพวิ เตอรใ์ นปัจจุบนั มีไมโครโปรเซสเซอร์เปน็ หน่วยประมวลผลกลางภายในไมโครโปรเซสเซอร์ประกอบดว้ ยสว่ นท่ีสาคญั ใหญๆ่ สามส่วนคอื

หนว่ ยควบคุม(control unit)หนว่ ยกระทาทางคณิตศาสตรแ์ ละลอจกิ (arithmetic logicunit) หรอื ท่เี รยี กส้นั ๆว่าALU และหนว่ ยเกบ็ ขอ้ มูลชั่วคราวภายในซีพยี ทู ี่มชี ่อื ว่ารจี สี เตอร์(register)หนว่ ยควบคุม (Control Unit) เปน็ ตวั ควบคมุ อุปกรณท์ ัง้ หมดภายในคอมพิวเตอร์ ควบคุมทศิ ทางการรบั สง่ ข้อมูลต่างๆให้ทางานไดถ้ ูกตอ้ ง ควบคมุ ขน้ั ตอนการทาคาสัง่ คอมพวิ เตอร์ ควบคุมการประมวลผล และการใชบ้ ัสตา่ งๆในการรับสง่ ข้อมลู หนว่ ยควบคุม (Control Unit) เป็นตัวควบคมุ อปุ กรณ์ท้งั หมดภายในคอมพิวเตอร์ ควบคุมทิศทางการรับส่งข้อมลู ตา่ งๆใหท้ างานไดถ้ กู ต้อง ควบคุมขั้นตอนการทาคาสง่ัคอมพวิ เตอร์ ควบคุมการประมวลผล และการใชบ้ สั ต่างๆในการรับส่งข้อมลูหนว่ ยประมวลผลทางคณิตศาสตร์และลอจิก(ALU) วงจรในส่วนนีจ้ ะทาหนา้ ที่ในการคานวณตา่ งๆทางคณิตศาสตรแ์ ละลอจกิ ซึ่งกลา่ วได้ว่าหากขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์มกี ารเปล่ียนแปลงจะต้องเกิดจากวงจรในส่วนนีท้ ั้งส้ิน การประมวลผลทางคณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่การบวก การลบ การคณู การหาร นอกจากนี้ยงั รวมถึงการเปรียบข้อมลู ต่างๆอีกดว้ ยไซเคิลคาสง่ั (Machine Cycle) จากท่กี ลา่ วมาไวแ้ ลว้ วา่ โปรแกรมเกิดจากการนาคาสง่ั มาต่อเรยี งกัน เมอื่ คอมพิวเตอร์ทางานหน่วยควบคุมจะอ่านคาสัง่ ต่างๆ เข้ามาประมวลผลในซีพียู โดยขนั้ ตอนการคาส่ังของซีพียูประกอบดว้ ยข้นั ตอนการทางานพนื้ ฐานส่ีขั้นตอน เรียกว่าไซเคลิ คาสั่ง ประกอบดว้ ย1.fetching 2.decoding 3.executing และ 4.storing

ข้นั ตอนท่หี น่งึ fetchingเริ่มแรกหนว่ ยควบคุมของซพี ียูจะอา่ นรหสั คาส่งั และข้อมลู ที่จะประมวลผลจากหน่วยความจา RAM มาเก็บในซีพยี ูข้นั ตอนท่ีสอง decodingเมื่อรหัสคาส่งั เข้ามาอยู่ในซีพียูแล้ว หนว่ ยควบคมุ จะถอดรหัสคาส่ังวา่ รหสั น้ตี อ้ งการใหซ้ พี ยี ูทาอะไร เพื่อใหซ้ ีพียูประมวลผลตอ่ ไปได้ขน้ั ตอนที่สาม executingเมอ่ื ถอดรหัสคาสงั่ และทราบวา่ ตอ้ งการทาอะไร ซีพยี ูก็จะทาตามคาสัง่ นน้ัข้ันตอนที่ส่ี storingหลังจากทาคาสง่ั กจ็ ะเก็บผลลัพธท์ ี่ได้ไว้ในหนว่ ยความจาหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์รีจสี เตอร์ (Register) หนว่ ยเกบ็ ขอ้ มลู ขนาดเลก็ ท่อี ยู่ภายในซพี ียู มคี วามเรว็ ในการอ่านเขียนข้อมลู สูงเรียกวา่ รจี ีสเตอร์ ภายในซพี ียูจะใชร้ จี ีสเตอร์นี้ในการเก็บขอ้ มลู และคาสัง่ ชั่วคราวเพอื่ รอการประมวลผลตอ่ ไปตัวอย่างเช่น ถ้าหากตอ้ งการใหซ้ ีพียูบวกเลข เมือ่ ซีพยี ูรับข้อมลู ตวั เลขเขา้ มา กจ็ ะนาตัวเลขน้นั เก็บในรีจสี เตอรก์ ่อน แล้วจึงส่งให้ ALU บวกเลจ และเม่อื ALU บวกเลขเสรจ็ แล้วกจ็ ะนาผลลัพธ์ที่ไดม้ าพักไวใ้ นรจี สี เตอร์กอ่ นเชน่ กัน ก่อนทีจ่ ะส่งออกไปเก็บในหน่วยความจาหลกัสญั ญาณนาฬกิ าของระบบ (System Clock) ระบบคอมพิวเตอร์จะใชค้ ริสตลั (crystal) ขนาดเล็กเป็นตวั ควบคมุ สัญญาณนาฬกิ าของระบบโดยมกี ารออกแบบไว้วา่ ข้ันตอนการทางานหนึง่ ๆ จะใชส้ ัญญาณนาฬิกาก่ลี ูก ถ้าหากสญั ญาณนาฬกิ าท่ปี อ้ นเขา้ มามีความถีส่ งู ก็จะทาให้การทางานนน้ั ๆเร็วขึ้นด้วย เนือ่ งจากคา่ ความถีส่ งู ทาให้สญั ญาณนาฬิกาหน่ึงลูกใช้เวลานอ้ ยลง ในปัจจุบนั ความถ่ีของสญั ญาณนาฬิกากส็ ามารถใชเ้ ป็นตวับอกความเรว็ การทางานของซีพยี ไู ด้ หน่วยวดั สัญญาณนาฬิกาจะใชห้ นว่ ย hertz หมายถงึ

สัญญาณนาฬกิ าหนงึ่ ลกู ต่อวินาที สาหรบั หนึ่งกิกะเฮิร์ด (GHz) หมายถึงสัญญาณนาฬิกาหน่งึพนั ลา้ นลกู ตอ่ วินาที ถา้ หากคอมพิวเตอร์ทางานท่สี ญั ญาณนาฬิกา 2.6 GHz หมายความว่าซพี ยี ูของคอมพิวเตอร์ตวั นนั้ ถกู กระตุ้นด้วยสญั ญาณนาฬิกา 2.6 พนั ล้านลกู ตอ่ วินาที ในปัจจบุ นั เทคโนโลยีการผลติ ซพี ียูไดพ้ ัฒนาไปมาก มีการพัฒนาออกมาหลายรนุ่ หลายตระกลูโดยแตล่ ะรุ่นมีความสามารถแตกต่างกนั ไป เทคโนโลยเี หลา่ นี้เกิดจากการทสี่ ามารถบรรจุทรานซีสเตอรใ์ นชพิ ซีพยี ไู ด้มากขึ้น เม่ือบรรจทุ รานซิสเตอรไ์ ด้มากขึ้นก็สามารถทาใหส้ ามารถสรา้ งวงจรท่มี คี วามซับซ้อนมากขึน้ ได้1.6 หน่วยความจาของคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยความจา (memory) เป็นอุปกรณ์ท่ีสาคัญการทางานของระบบคอมพวิ เตอร์ ทาหนา้ ท่ีมีเปน็ ตัวพักข้อมูลท่ีได้รับจากผใู้ ช้ เพ่อื สง่ ต่อไปยังหนว่ ยประมวลผลกลางอกี ทีหนงึ่ ในระบบ

คอมพวิ เตอรม์ หี น่วยความจาอยู่หลายส่วน หน่วยความจาทีม่ อี ยภู่ ายในตัวซพี ยี กู ค็ ือรีจีสเตอร์ แต่เนอื่ งจากในซพี ยี มู รี ีจีสเตอร์อยจู่ ากัดจึงจาเป็นตอ้ งต่อหน่วยความจาเพิม่ ภายนอก หากแบ่งรูปของหนว่ ยความจาของระบบคอมพวิ เตอรจ์ ะแบง่ ได้เปน็ สองประเภทใหญๆ่ คอื หนว่ ยความจาหลกั และหนว่ ยความจาสารอง โดยหนว่ ยความจาหลักเป็นหนว่ ยความจาคอมพวิ เตอร์ท่ีใช้เกบ็ ขอ้ มูลและคาส่งั ท่ตี อ้ งการประมวลผลในงานนน้ั ๆ สว่ นหน่วยความจาสารองคอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมลู และโปรแกรมท่อี าจมกี ารใช้ในอนาคต หากคอมพวิ เตอร์ต้องการทางานโปรแกรมใดๆ จะต้องนาโปรแกรมออกจากหนว่ ยความจาสารองข้นึ มาเก็บในหน่วยความจาหลกั เสมอ อยา่ เชน่ ในฮาร์ดดสิ ก์มีขอ้ มูลและโปรแกรมอยมู่ ากมาย หากคอมพวิ เตอรต์ ้องทาโปรแกรมใดก็จะตอ้ งนาโปรแกรมจากฮารด์ ดิสกข์ ึ้นมาเกบ็ ในแรม(RAM) ซึ่งเป็นหน่วยความจาหลกั นน่ั เองหนว่ ยความจาหลกั หน่วยความจาหลักเป็นหนว่ ยความจาทท่ี างานใกล้ชิดกับซีพยี โู ดยตรง ทาหนา้ ทเี่ ก็บข้อมลู และโปรแกรมทีซ่ พี ียูกาลงั ประมวลผลอย่ใู นขณะนั้น ถ้าหากต้องการให้คอมพิวเตอร์ทาโปรแกรมใดจะต้องนาโปรแกรมมาเกบ็ ไว้ในหน่วยความจาหลกั นี้ หนว่ ยความจาหลักแบ่งเปน็ 2ประเภทใหญ่ๆ คือ รอม(ROW)และแรม(RAW)  รอม (Read only Memory:ROW) เป็นหน่วยความจาทเ่ี ก็บข้อมูลแบบถาวร(เปลี่ยนแปลง ไมไ่ ด)้ ขอ้ มูลจะคงอยู่ตลอดไปแมใ้ นชว่ งท่ีปดิ เครอ่ื งไมม่ กี ระแสไฟฟา้ มาเล้ียง ในเครือ่ ง คอมพิวเตอร์จะใชน้ ว่ ยความจาน้เี ปน็ โปรแกรมทค่ี วบคมุ การทางานของเครือ่ ง ที่เรยี กว่า รอมไบออส (Basic Input/Output System: BIOS)  แรม (Random Access Memory: RAM) โดยทั่วไปหากกล่าวถงึ หน่วยความจาหลักของ คอมพิวเตอร์มักจะนกึ ถงึ หนว่ ยความจาประเภทแรมน้ี หนว่ ยความจาชนิดนี้เป็น หนว่ ยความจาท่ีทางานรว่ มกับซีพยี ู ใช้พักข้อมลู ชั่วคราว แต่ขอ้ มลู จะหายเม่ือมกี ารปดิ เครื่องหนว่ ยความจารอง หนว่ ยความจารองใชส้ าหรับเก็บคาสัง่ และข้อมลู ทีค่ อมพวิ เตอร์ยังไม่ใชใ้ นทนั ทที นั ใด แต่

ต้องการใช้ในอนาคต หนอ่ ยความจาสารองมีอยหู่ ลายชนิดขน้ึ กบั เทคโนโลยีทใ่ี ช้ในการบนั ทึกขอ้ มูลบางประเภทเกบ็ ขอ้ มูลโดยใช้เทคโนโลยีแบบแม่เหลก็ บางประเภทเก็บข้อมลู โดยใชเ้ ทคโนโลยีทางแสง ตัวอย่างของหน่วยความจารองเช่น ฮารด์ ิสก์ (harddisk) แผน่ (CD) แผน่ ดีวดี ี(DVD), หน่วยความจาแบบยเู อสบแี ฟสช เป็นตน้ หนว่ ยความจารองจะเกบ็ ขอ้ มลู ได้มาก โดยทว่ั ไปแล้วขนาดความจุของหน่วยความจารองจะมากกวา่ หน่วยความจาหลัก แผ่นดสิ ก์ซง่ึ เปน็ หนว่ ยความจาสารองประเภทหนงึ่ มคี วามจุเพียง 1.44MB แตห่ นว่ ยความจายคุ ใหม่ๆ จะเกบ็ ข้อมลู ไดม้ ากขึน้ หนว่ ยทใ่ี ช้วัดความจขุ อ้ มลู แสดงไดด้ งัตารางต่อไปนี้หน่วย จานวนไบตโ์ ดยประมาณ หาได้จากKiIobyte (kB) 1 พันไบต์ 10Megabyte (MB) 1 ล้านไบต์ 2 หรือ 1,024 20Gigabyte (GB) 1 พนั ล้านไบต์ 2 หรอื 1,048,576 30Terabyte (TB) 1 ล้านลา้ นไบต์ 2 40Petabyte (PB) 1000 ล้านล้านไบต์ 2 50Exabyte (EB) 1 ล้านล้านลา้ นไบต์ 2 60Zettabyte (ZB) 1000 ลา้ นลา้ นล้านไบต์ 2 70 2

Yottabyte (YB) 1 ลา้ นลา้ นล้านล้านไบต์ 80 21.7 อุปกรณอ์ ินพุตเอาต์พุตของคอมพิวเตอร์ หนว่ ยรบั เข้าและหน่วยส่งออก (อินพตุ เอาตพ์ ุต) เป็นชอ่ งทางหลักทคี่ อมพวิ เตอรใ์ ช้ติดตอ่ กับผู้ใช้งานโดยจะมอี ุปกรณอ์ นิ พุตเอาต์พุตประกอบอยู่ อุปกรณอ์ นิ พตุ จะเปลี่ยนปรมิ าณตา่ งๆ ทผ่ี ้ใู ช้คอมพวิ เตอร์เข้าใจไปเปน็ รหสั ที่คอมพวิ เตอรส์ ามารถเข้าใจได้ สว่ นอปุ กรณ์เอาตพ์ ตุ จะเปลย่ี นเป็นสัญญาณท่คี อมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจให้อยู่ในรปู แบบทมี่ นุษยเ์ ข้าใจได้อปุ กรณอ์ ินพตุ (Input Device) อปุ กรณอ์ นิ พตุ เปน็ อปุ กรณท์ ที่ าหนา้ ทีร่ ับขอ้ มูลและคาสั่งเขา้ ส่คู อมพวิ เตอร์ โดยจะนาลักษณะของขอ้ มลู ท่ถี กู อนิ พุตเปลีย่ นไปเปน็ สญั ญาณที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ การใชอ้ ุปกรณ์ตา่ งๆนัน้โปรแกรมทีใ่ ช้งานอยู่จะตอ้ งสนบั สนนุ กับอุปกรณ์ประเภทนั้นด้วย ตัวอย่างของอปุ กรณ์อินพตุได้แก่ คยี ์บอร์ดหรอื แป้นพิมพ์ เมาส์ ปากกาอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เครื่องสแกน เครอื่ งอา่ นบาร์โค้ดสาหรบั การใช้งานอุปกรณร์ บั ขอ้ มูลบางชนิดนนั้ จะต้องมกี ารตดิ ตัง้ โปรแกรมไดรเวอรข์ องอุปกรณ์ชนิดนัน้ ไวใ้ นเคร่อื งคอมพวิ เตอร์เพ่อื ให้เคร่ืองรจู้ ักดว้ ยคยี ์บอรด์ (Keyboard) คยี บ์ อรด์ เป็นอุปกรณ์ปอ้ นขอ้ มูลหรอื คาสั่งท่ีนยิ มใช้งานกนั มากทสี่ ดุ และเปน็ อปุ กรอ์ ินพตุ แบบดั้งเดมิ ทที่ างานรว่ มกับคอมพวิ เตอร์มานาน โดยเฉพาะการพมิ พข์ อ้ มูล สร้างเอกสารต่างๆ รวมถึง

กล่มุ คีย์พเิ ศษทีส่ ามารถทางานร่วมกับโปรแกรมได้ คยี ์บอร์ดน้ีนับวา่ เป็นอปุ กรณ์อนิ พตุ ที่คอมพวิ เตอร์จะขาดไม่ได้ คยี ์บอรด์ ของคอมพวิ เตอรโ์ ดยทั่วไปแล้วจะมีคยี ต์ ั้งแต่ 101 ถึง 105 คยี ์ ประกอบดว้ ยกล่มุ คีย์อักขระ(alphanumeric key) ซึง่ เป็นคีย์ตัวอักษรมาตรฐานทใ่ี ช้งานทว่ั ไป คยี ต์ ัวเลข (numerickey) ใช้สาหรบั ปอ้ นตัวเลขให้สะดวกขึ้น คยี ฟ์ ังก์ชนั (function key) เชน่ F1 ถงึ F12 ใชส้ าหรับงานเฉพาะอยา่ งทโี่ ปรแกรมกาหนดขนึ้ คยี เ์ คลอื่ นย้ายเคอรเ์ ซอร์ไปยงั ตาแหน่งต่างๆ บนจอภาพและคีย์พิเศษ เช่น Esc,PrintScreen เป็นต้น นอกจากนย้ี ังมีคีย์บอร์ดท่ีออกแบบมาเป็นพิเศษให้เหมาะกับการใช้งานในลักษณะต่างๆเชน่ Window key เป็นคียเ์ สรมิ เพือ่ ให้ใช้ระบบปฏิบตั ิการ Windows ได้รวดเร็วขนึ้ ซ่งึ จะมคี ียล์ ดัสาหรบั เข้าสู่การทางานฟังก์ชนั ต่างๆ ของวินโดว์ เช่นควบคมุ เมนู เขา้ สู่เมนู Start เป็นตน้นอกจากน้ียังใช้ควบคมุ อื่นๆเช่น ปรบั ความดังเสียง เปดิ เว็บ เปน็ ตน้ คียืบอรืดแบบพิเศษอกี หน่งึแบบได้แก่ คีย์บอร์ดสาหรับเลน่ เกมส์ (gaming keyboard) ซ่งึ ออกแบบมาใหเ้ ล่นเกมส์บนคอมพวิ เตอร์ไดส้ นกุ สนานมากขึน้ คยี ์บอร์ดนน้ั จะเปล่ียนขอ้ มลู ทมี่ ีการกดคยี ์เข้าไปใหเ้ ป็นรหสั ท่ีคอมพวิ เตอร์เข้าใจ การกดคียแ์ ต่ละคียข์ ้อมูลจะไมไ่ ดเ้ ขา้ สู่หนว่ ยประมวลผลโดยตรง คียืแตล่ ะคีย์จะมีรหัสประจาคยี ์เรยี กวา่ รหัสสแกน (scan code) เม่อื มกี ารกดคยี ์ วงจรควบคมุ บนคยี บ์ อร์ดจะส่งค่ารหัสสแกนของคยี ท์ ่ีกดให้ไปเกบ็ ยังหนว่ ยความจาชว่ั คราว (keyboard buffer) จากนัน้ จะมกี ารส่งสัญญาณไปบอกระบบปฏิบัติการหรือบอกซพี ยี ูวา่ มกี ารกดคยี แ์ ล้ว ก็จะขึ้น หากหนว่ ยความจาชวั่ คราวนเ้ี ตม็ จะสง่เสยี งบีป๊ ๆ ออกมา การที่ระบบใชว้ ธิ ีการตรวจสอบคา่ รหสั ทสี่ แกนนีจ้ ะทาใหร้ ะบบรบั ร้คู ยี ไ์ ด้ทุกคีย์ไมว่ า่ จุะเป็นการกดคยี เ์ ดียว ปลอ่ ยคีย์ หรือกดคยี พ์ ร้อมกนั มากวา่ หน่ึงคีย์เมาส์ (Mouse)

เม้าส์เปน็ อุปกรณ์ท่ีสามารถใชช้ ี้ตาแหน่งต่างๆบนจอภาพได้ ในสมยั กอ่ นการป้อนคาสัง่ และขอ้ มูลให้กบั คอมพวิ เตอรจ์ ะใช้เพียงคยี บ์ อรด์ เทา่ นน้ั แต่พอมีการพฒั นาเช่ือมต่อกบั ผ้ใู ชแ้ บบกราฟิกหรือ GUI และมีโปรแกรมด้านกราฟกิ เชน่ โปรแกรมวาดภาพเกดิ ขึน้ เมาสจ์ ึงเป็นสิ่งจาเป็นสาหรับคอมพวิ เตอร์นัน้ แตเ่ วลานน้ั เป็นต้นมา โดยเมาสจ์ ะเปน็ อุปกรณ์รบั ข้อมูลที่ใชช้ ต้ี าแหนง่ บนจอภาพ ใชเ้ ลือกข้อมูลบนจอภาพ เมื่อมกี ารใชง้ านเมาสจ์ ะมตี ัวช้ขี น้ึ มาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เรียกวา่ ตวั ช้เี มาส์ (mouse pointer) การใช้งานเมาส์หรือการกดปมุ่ เมาส์ทเ่ี รียกว่าการ คลกิ (click) การคลิกปุ่มดา้ นซ้ายมอื หน่ึงคร้งัจะแสดงถงึ การเลือก แต่ถ้าหากเป็นการคลิกสองครง้ั ติดๆกนั หมายถึงการสั่งใหป้ ระมวลผล ถ้ามีการกดปุ่มเมาสท์ างซ้ายค้างไวแ้ ลว้ มีการเลือ่ นเมาสเ์ รียกวา่ ลากหรือแดรกก้ิง(dragging) การทางานแบบนที้ าใหส้ ามารถเล่อื นตาแหน่งบนวัตถุของจอภาพได้ แต่ถ้าเปน็ การคลกิ ปมุ่ ทางขวามักจะเป็นการให้แสดงเมนูพเิ ศษของโปรแกรมท่กี าลังใช้งานอยู่ นอกจากนี้ยังมอี ปุ กรณ์ทใ่ี ชช้ ้ีตาแหนง่ บนจอภาพทีท่ างานคล้ายกับเมาสอ์ กี หลายชนดิ เช่นแทรกบอล (track ball) ทัชแพด (touchpad) พอ้ ยตงิ้ สติ๊ก (pointing stick)รูปภาพอุปกรณ์ทใ่ี ช้ช้ตี าแหนง่ บนจอภาพท่ที างานคลา้ ยกบั เมาส์

แทรกบอล พอยนต์ ิ้งสตกิ๊ (pointingstick) ทชั แพด (touchpad) ตัวแทรกบอลจะมีรูปร่างคล้ายเมาส์ สามารถคลกิ ได้เหมอื นเมาส์ แต่แทนทีก่ ารเลือ่ นตวั ช้ีเมาส์โดยการขยับเมาส์ กเ็ ลือ่ นโดยวธิ กี ารหมนุ ลกู กลมท่ีอยู่บนแทรกบอลแทน การใช้งานในลกั ษณะน้ีทาให้ประหยดั พ้นื ทีใ่ นการทางานเพียงมีแทรกบอลนฝา่ มือก็สามารถเลอ่ื นุตึวช้ีได้ สาหรบั ทัชแพดเป็นอุปกรณ์ทีต่ ดิ มากับโน้ตบกุ๊ ในปจั จุบนั การทางานจะคลา้ ยกบั เมาส์เชน่ กัน แตก่ ารขยับเล่ือนตาแหนง่ จะใชน้ ้วิ ลากไปบนทัชแพด และใชว้ ธิ ีการเคาะนว้ิ เบาๆแทนการคลิก โดยอุปกรณ์ประเภท

น้ีจะไวต่อความสัมผสั และความดันทก่ี ดลงบนตัวมนั ลาหรับโนต้ บุก๊ บางรนุ่ จะใชก้ ารเล่อื นตัวช้โี ดยการใช้ปมุ่ เลก็ ๆ ที่อย่รู ะหว่างคยี ์บนแปน้ พมิ พ์ที่เรียกว่า พอยน์ตงิ้ สติก๊ปากกาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นปากกาทอ่ี อกแบบมาสาหรบั เขยี นข้อมลู ลงบนเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โดยจะใช้เขยี นลงบนจอภาพพเิ ศษทุ่ีออกแบบมาพร้อมกบั ปากกาน้ี โดยคอมพวิ เตอรส์ ามารถรับร้คู วามเคล่อื นไหวและทิศทางการเขยี นได้ นอกจากน้ียงั มีอุปกร์พเิ ศษอีกประเภทหนึง่ ทีใ่ ช้ปอ้ นขอ้ มูลเขา้เคร่ือง PDA เรยี กว่า สไตลสั (stylus) ซง่ึ มลี กั ษณธคล้ายปากกา สามารถป้อนข้อมลู และเลอื กเมนูตา่ งๆได้สแกนเนอร์

เป็นอปุ กรณ์ท่รี บั ข้อมลู แบบเอกสารซ่ึงเป็นขอ้ มูลแบบข้อความและรูปภาพแล้วเปลี่ยนเป็นข้อมลู ดจิ ติ อลทค่ี อมพวิ เตอร์สามารถเข้าใจได้ การทางานของสแกนเนอรจ์ ะใช้วิธกี ารฉายแสงลงไปบนเอกสารนน้ั ตรวจจับแสงทสี่ ะท้อนกลับลงมาแล้วเปลี่ยนปริมาณแสงทส่ี ะทอ้ นกลบั มาใหเ้ ป็นขอ้ มลู ดจิ ติ อล โดยตรวจจับความเขม้ แสงน้ีเรียกว่า CCD (Charge Coupled Device) สาหรบั ในปัจจบุ ันไดม้ อี ุปกรณใ์ นลักษณะสแกนเนอรอ์ กี ประเภทหน่งึ ทพ่ี กพาได้สะดวกสามารถปรบั เปลี่ยนข้อมูลบนกระดาษเปน็ ตวั อกั ขระไดท้ ันที บางรุ่นยงั สามารถใชแ้ ปลภาษาไดอ้ ีกดว้ ยอุปกรณ์ควบคมุ เกมส์ ปัจจุบันได้มโี ปรแกรมเกดิ ขึน้ บนคอมพวิ เตอร์จานวนมาก ในการเล่นเกมสห์ ากใช้คยี ์บอรด์ เปน็อปุ กรณ์อนิ พุตท่คี วบคมุ การเล่นเกมส์อาจทาได้ไมส่ ะดวกนกั จึงมกี ารผลิตอปุ กรณค์ วบคุมเกมส์(game controller) ออกมา ทาใหส้ ามารถควบคมุ ทศิ ทางและการดาเนนิ การต่างๆ ของสิง่ ที่ปรากฏบนหนา้ จอคอมพิวเตอร์ไดโ้ ดยง่ายุปกรณืประเภทนีไ้ ดแ้ ก่ จอยสตกิ (joystick)หรอื ก้านควบคุม ซ่ึงเป็นอปุ กรณ์ที่ได้รบั ความนิยมมาก สามารถใช้ควบคมุ ทศิ ทางการเดนิ ซ้าย-ขวา

เดินหนา้ -ถอยหลัง ได้โดยการโยกกา้ นควบคมุ และยงั มีปุ่มรับคาสง่ั เพ่ิมเติมอกี ดว้ ย นอกจากนีย้ ังมีเกมเพด (gamepad) ทตี่ อบสนองการทางานไดเ้ ร็วขึ้น สาหรบั เกมส์ประเภทเต้นจะมอี ุปกร์ทชี่ ่อื ว่านแพด (dance pad) โดยผ้เู ล่นสามารถข้ึนไปเตน้ บนอุปกรณป์ ระเภทนี้ไดซ้ งึ่ จะทางานสอดคล้องกับดนตรขี องเกมส์อุปกรณร์ ับเสียง หากอนิ พุตเปน็ ขอ้ มูลหรอื คาส่งั ตา่ งๆ จะใชค้ ียบ์ อร์ดเป็นอปุ กรณอ์ นิ พตุ แตถ่ า้ หากเป็นเสียงจะตองใช้ไมโครโฟนหรอื อุปกรณพ์ ิเศษในการรบั ข้อมลู ประเภทเสยี ง โดยไมโครโฟนจะถูต่อเข้าทางการด์ เสยี งของเครอื่ งคอมพิวเตอร์ เมอ่ื มีการับนทกึ เสยี งเขา้ ไปจะได้ขอ้ มูลในรูปแบบของไฟลเ์ สียงสาหรับไฟลท์ ี่เปน็ มาตรฐานจะมีนามสกลุ เป็น .wav ในปจั จุบนั ไดม้ ีการพัฒนาโปรแกรมสาหรับรูจ้ าเสียง (voice recognition system) ข้ึนมาทาใหส้ ามารถสัง่ งานทางเสียงได้ สร้างไฟลเ์ อกสารด้วยเสียงได้ โปรแกรมที่ไดร้ ับความนิยมตวั หนง่ึ ได้แก่ Dragon Naturally Speaking ซ่ึงสามารถสรา้ งขอ้ มูลตวั อกั ษรหรอื คาสง่ั จากเสยี งท่อี ินพุตเข้าไปทางไมโครโฟนได้ ข้อมลู เสยี งนนั้ หากเป็นเสียงท่วั ๆไป ไฟล์ที่ได้จากการเจบ็ ข้อมลู เสยี งจะมีขนาดใหญ่มาก โดยจะเก็บเปน็ ไฟล์นามสกลุ .wav ซ่ึงเป็นไฟล์มาตรฐานบนระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows หากเปน็ เสยี งดนตรีมักจะใชไ้ ฟล์ในรูปแบบของมิด้ี (MIDI) ซง่ึ มาจากคาว่า Musical Instrumant Digital Interface ซึง่เป็นมาตรฐานในการเชอื่ มต่อเคร่อื งดนตรแี บบดจิ ติ อล ไฟลม์ ิด้จี ะมีขนาดเล้กเนือ่ งจากไฟลจ์ ะเก็บเฉพาะข้อมลู ทีม่ ีเฉพาะรูปแบบของเสียง ความดัง และชนิดเครอ่ื งดนตรี สว่ นเสียงจะนามาจากเครื่องดนตรนี นั้ ๆหรอื เสยี งท่กี กั เก็บอยู่บนการ์ดเสียงของเครือ่ งคอมพิวเตอร์เครอื่ งอา่ นบาร์โค้ด

เครอ่ื งอา่ นบาร์โค้ด (bar code reader) เป็นอปุ กรณท์ ฉี่ ายแสงไปบนแถมสีดา จากนนั้ตรวจจบั แสงที่สะทอ้ นกลบั มา โดยแถมสีดาและขาวมีความกว้างแตกตา่ งกนั จะแทนค่าขอ้ มลูดิจิตอลทต่ี า่ งกนั แถบสขี าวและดามีความกวา้ งมากจะแทนค่า \"1\"ถา้ มคี วามกวา้ งน้อยจะแทนคา่ \"0\" ทาให้ระบบนาข้อมูลท่ไี ด้ไปตรวจสอบกบั ฐานข้อมูลทม่ี อี ยู่ กส็ ามารถทาให้ทราบได้วา่ ข้อมลู บนบารโ์ คด้ ตดิ อยู่น้นั เปน็ ขอ้ มลู อะไร เครื่องอ่านบารโื ค้ดมอี ยู่หลายประเภท การเช่อื มตอ่ กับคอมพิวเตอร์จะเชื่อมตอ่ ผา่ นทางพอร์ต USB บางรุ่นยงั เสยี บผา่ นทางคยี ์บอรืดไดด้ ้วยกลอ้ งดิจติ อล กล้องดจิ ิตอล (digital camera) ถอื วา่ เปน็ อุปกรณ์อนิ พุตประเภทหนึ่ง เนือ่ งจากสามารถใช้บันทกึ ภาพเปน็ ข้อมลู ดิจติ อลเพ่อื ให้คอมพวิ เตอรืนาไปประมวลผลได้ การทางานของกลอ้ ง(resolution) ซงึ่ เปน็ จานวนจุดภาพ (pixel) หรือพิกเซลในแนวนอนและแนวต้ัง พิกเซลนีจ้ ะเป็นจุดเล็กๆทอี่ ยุ่บนภาพ ในการบอกความละเอยี ดของภาพจะบอกเป้นจานวนจดุ ท้ังหมด อยา่ งเช่น

กล้องดจิ ิตอลแบบ 3 ล้านพิกเซล หมายความว่าภาพถา่ ยหนึ่งภาพจะได้ขอ้ มลู มาประมาณ 3 ล้านพิกเซล หรือแบบ 16 พกิ เซล เป็นต้น การถ่ายภาพทีม่ ีพกิ เซลจานวนมากจะทาใหไ้ ดภ้ าพท่ีละเอยี ดและมีภาพขนาดใหญ่ ในการเลอื กถา่ ย ภาพควรเลอื กจานวนพกิ เซลให้เมาะสมกับงานตวั อยา่ งเชน่ ภาพแบบ 4 ล้านพิกเซล เหมาะสาหรบั อดั รปู ขนาด 4x6 นวิ้ ภาพแบบ 5 ล้านพกิ เซลเหมาะสาหรับอดั รูปขนาด 8x10 นว้ิ เปน็ ต้น ในการแสดงภาพจากกล้องดจิ ิตอลจะบอกเป็นจานวนจุดเช่น 2304 x 1728 หมายความว่ามีจุดภาพในแนวตงั้ 2,304จดุ และมีจุดภาพแนวนอน 1,728 จดุ เป็นต้น(จะพบว่าภาพนีม้ ขี นาด 4ล้านพกิ เซล เนอื่ งจากคา่ 2304 คณู กบั 1728 มคี า่ ใกล้เคยี งกับ4 ลา้ น) สาหรับคุณภาพอกี อย่างหนึง่ ของกล้องดิจติ อลกค็ อื หน่ึงจุดภาพนน้ั เพ่ิมความละเอยี ดเป็นขอ้ มูลดจิ ิตอลขนากีบ่ ตินอกจากนใี้ นปจั จบุ ันยังมีอุปกรณ์เก้บภาพประเภทกล้องดจิ ิตอลวิดโี อ (digital video) สาหรับบันทกึ ภาพเคลอื่ นไหวเกบ็ เปน็ ไฟล์คอมพวิ เตอร์ กล้องเวบ็ แคม (web cam) สาหรับบนั ทึกไฟล์วดิ โี อแลว้ ส่งผ่านทางอนิ เทอรเ์ นต็ ได้อกี ด้วย ซง่ึ สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมสาหรับประชุมทางไกลได้อุปกรณเ์ อาตพ์ ุต (output Device) หลงั จากท่คี อมพิวเตอร์ประมวลผลแล้วต้องการแสดงสารสนเทศออกมาจะตอ้ งแสดงออกทางเอาต์พุตว่งิ จะนารหัสทค่ี อมพวิ เตอรป์ ระมวลผลไดม้ าแสดงในรปุ แบบทเ่ี อาไปใชง้ านได้ เปน้รปู แบบทีม่ นุษย์เข้าใจ การแสดงผลของคอมพิวเตอรท์ าได้หลายรูปแบบ ได้แก่แสดงเป็นขอ้ ความ (text) ใหเ้ อาตพ์ ุตเปน็ ตวั อักษร ในรปู แบบของรายงาน ข่าวสารต่างๆแสดงผลเป็นภาพ (graphics) โดยใหข้ อ้ มูลเปน็ ภาพ กราฟ ผงั ต่างๆ เป็นต้นแสดงผลเปน็ เสยี ง (audio) อาจเปน็ เสยี งเพลง เสยี งประกอบเกมส์ เป็นต้นแสดงผลเป็นวิดีโอ (video) โดยแสดงเป็นไฟลว์ ดิ ีโอออกมาทางหน้าจอ

* ไมว่ ่าการแสดงผลจะออกมาในรูปแบบใดจะตอ้ งมีอุปกรณ์แสดงผล (display device) ตอ่ อยู่ทางพอร์ดเอาต์พุตของคอมพวิ เตอร์ อปุ กรเ์ อาต์พุตได้รบั ความนยิ มมากทสี่ ดุ ได้แก่ จอภาพ และเคร่ืองพมิ พ์ นอกจากน้ยี ังมเี อาต์พตุ แบบอืน่ ๆ อีก เช่น ลาโพง แฟกซ์ โมเดม็จอภาพ จอภาพเป็นอุปกรณ์เอาตพ์ ตุ ทน่ี ิยมใชก้ ันมากทส่ี ุด ผลลัพธท์ ี่ไดจ้ ากจอภาพเรยี กวา่ ซอฟตก์ อ๊ ปปี้ (soft copy) เนื่องจากเป็นการแสดงผลเพียงชัว่ คราว ไมส่ ามารถเกบ็ ไว้ใชง้ านได้ ในอดตี จอภาพจะแสดงได้เพยี งสีเดียวที่เรียกว่าจอแบบโมโนโครม (monochrome) แตจ่ อภาพในปจั จบุ นัสามารถแสดงเป็นสีได้ ซึ่งเกดิ จากการผสมสรี ะหว่างสแี ดง สเี ขยี ว และสีน้าเงนิ ภาพจอภาพ 2 ลักษณะ

ภาพของหน้าจอ CRT ภาพของหน้าจอ LED จอภาพทพ่ี บจะมอี ย่สู องประเภทใหญๆ่ คือจอ CRT (Cathode Ray Tube)ซง่ึ เป็นจอภาพแบบหนา ภาพท่ีได้เกิดจากการสรา้ งภาพของปืนอเิ ล็กตรอน อีกประเภทหน่งึ คือจอภาพแบบบาง(flatpanel display) โดยจอทน่ี ิยมใช้กันมากที่สุดคือจอ LED (Light-emittng-diod) ซง่ึ ในปัจจุบนั ยงั มีการพฒั นาให้สามารถแสดงภาพสองจอพร้อมกนั ได้อกี ด้วย ซง่ึ จะทาใหก้ ารทางานที่ซับซอ้ นทาไดส้ ะดวกขน้ึ ในการเลอื กจอภาพควรจะคานึงถงึ สง่ิ ตอ่ ไปนีค้ ือ ความละเอยี ดของภาพ (resolution) ขนาด(size) ดอตพชิ (dot pitch)ความระเอียดของภาพ หมายถึง จานวนจุดหรพื ิกเซลบนจอภาพ ถ้าหากมคี วามละเอยี ดสงู จะทาใหภ้ าพคมชดั มากขึน้ ตัวอย่างเช่นจอภาพท่ีมีความละเอียด 1600 x 1200 เปน็ จอภาพที่มีจุดภาพ

ในแนวนอน 1600 จุด มีจดุ ภาพในแนวตงั้ 1200 จุดโดยทั่วไปแลว้ จอภาพสามารถเลือกโหมดการแสดงผลทม่ี คี วามละเอยี ดค่าต่างๆ ได้ และไดม้ ีการกาหนดโหมดมาตรฐาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook