ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ วิทยาการคานวณ ม.2 บทท่ี 6 การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งมีความรบั ผดิ ชอบ คลกิ เพ่ือเข้าส่บู ทเรยี น โรงเรยี นทงุ่ สงั พทิ ยาคม จังหวดั นครศรธี รรมราช วา่ ที่ ร.ต.หญงิ ชยานันท์ แทน่ แสง ตาแหน่งครู วทิ ยฐานะ ครู คศ.1
กรุ ณากรอกชือ่ เขา้ สูร่ ะบบ
ยนิ ดีตอ้ นรบั 1 เข้าส่บู ทเรยี น!
เมนหู ลกั แนวทางปฏบิ ตั เิ มอื่ พบ เนื้อหาทไ่ี ม่เหมาะสม คาช้ีแจง แบบทดสอบ ผลกระทบการเผยแพร่ ข้อมลู ทไี่ มเ่ หมาะสม ผู้จัดทา แนวทางการพิจารณาเน้ื อหา กอ่ นการเผยแพรข่ ้อมลู การสรา้ งและแสดงสิทธ์ิ ความเป็นเจ้าของผลงาน มารยาทในการตดิ ตอ่ ส่ือสาร
คาช้แี จง 1. ให้นักเรยี นศึ กษาบทเรยี น 2. ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นทัง้ หมด 10 ข้อ 10 คะแนน
1 แนวทางปฏบิ ตั เิ ม่ือพบ เนื้อหาท่ไี มเ่ หมาะสม
2 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นั กเรียนสามารถเลือกแนวทางปฏิบัติเม่ือพบ เน้ื อหาทไ่ี ม่เหมาะสม 2. นั กเรยี นสามารถใชไ้ อทไี ดอ้ ยา่ งมคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. นั กเรียนสามารถสร้างและแสดงสิ ทธ์ิความเป็น เจ้าของผลงาน 4. นั กเรียนสามารถติดต่อสื่ อสารผ่านเครือข่ายสั งคม อยา่ งปลอดภยั
3 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น นั กเรียนควรปรับปรุง โ ป ร แ ก ร ม ป้ อ ง กั น ไ ว รั ส อ ย่ า ง ส ม า่ เ ส ม อ ถู ก ต้ อ ง หรอื ไม่ ?
4 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น ก า ร ตั้ ง ร หั ส ผ่ า น ค ว ร ประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวเลขและ สัญลักษณ์พิเศษ ถูกต้องหรอื ไม่ ?
5 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น นั กเรียนชาเลือง อ่ า น ข้ อ ค ว า ม จ า ก อี เ ม ล ใ น จ อ ภ า พ ข อ ง เ พื่ อ น ถูกตอ้ งหรอื ไม่ ?
6 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น นั กเรียนใช้โทรศั พท์คุยกับ เ พื่ อ น ข ณ ะ ขี่ จั ก ร ย า น ห รื อ เ ดิ น ไ ป โรงเรยี น ถูกต้องหรอื ไม่ ?
7 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ น า รู ป ภ า พ ท่ี มี ก า ร ก า ห น ด สั ญลักษณ์ มาใส่ ไว้ใน ร า ย ง า น ไ ด้ แ ต่ ต้ อ ง อ้ า ง อิ ง แหลง่ ท่ีมา ถูกต้องหรอื ไม่ ?
8 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น เทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอที เช่ือมโยงทุกส่ิ ง รอบตัวให้สามารถติดต่อสื่ อสารระหว่างกันได้ ทาให้ผู้ใช้งาน สามารถดาเนิ นชีวิตประจาวันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แต่หาก ใ ช้ ง า น ไ ม่ ร ะ มั ด ร ะ วั ง ห รื อ ข า ด ค ว า ม รู ้ อ า จ เ กิ ด ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ผู้ใชง้ านได้ ดังนั้ นจึงจาเป็นต้องเรียนรู้ วิธีการใช้ให้เกิด ประโยชน์ มีมารยาทในการใช้งาน มีความรับผิดชอบ ถูกต้อง ตามกฎหมาย ไม่สรา้ งความเสียหายให้แก่ตนเองและผู้อื่น
9 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น อัตราการเพ่ิมของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ ตทั่วโลก สงู ข้ึนอย่างต่อเนื่ อง และช่วงอายุของผู้ใช้งานกว้างมาก ข้ึ นตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงวัย อินเทอร์เน็ ตช่วยให้ สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการ การติดต่อส่ื อสารทาได้ สะดวก แตใ่ นขณะเดียวกนั อินเทอร์เน็ ตกไ็ ด้สรา้ งปัญหา หลายประการให้ กับผู้ใช้งาน เช่น ปั ญหาทางด้าน สขุ ภาพ เวลา และ ความเป็นส่วนตวั
10 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น รวมถึงยังสรา้ งปัญหาท่นี ั บว่าเป็นภยั สังคมอีกจานวน ไม่น้ อย เช่น ปัญหาการล่อลวง ปัญหาการคุกคามทางเพศ ปัญหาการส่ งข้อความหรือรู ปภาพท่ีผิดต่อหลักจริยธรรม ศี ลธรรม และกฎหมาย ปัญหาการพนั น ปัญหาการวิจารณ์ และ ละเมิดลิขสิทธ์ขิ องผ้อู ่ืน ปัญหาการขโมยข้อมูลสาคัญทั้ง ของส่ วนบุคคลหรือองค์กร ดังนั้ นการใช้งานไอทีจึงต้อง ตระหนั กถึงผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ข้ึนกบั ตนเองและผอู้ น่ื
11 ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น การป้องกันปัญหาจากการใช้งานอินเทอร์เน็ ต นั้ นสามารถทาได้โดย ศึ กษาหาความรู้เพ่ือให้ใช้งานได้ อย่างถูกต้อง ปฏิบัติตามข้อตกลงการใช้งาน เลือก สน ทน าบนอิ นเ ทอ ร์เ น็ ต เฉ พา ะใ นกลุ่ม ท่ีป ลอ ดภัย หลีกเลีย่ งการนั ดพบกบั บคุ คลทรี่ ูจ้ กั ผา่ นอินเทอรเ์ น็ ต
12 ทบทวนความรูก้ อ่ นเรยี น ใ น ส่ ว น ข อ ง ผู้ ใ ห้ บ ริ ก า ร ค ว ร มี มาตรการเพื่อช่วยป้องกันปัญหาทอี่ าจเกดิ ข้ึน เช่น ให้มีการลงทะเบียนสมาชิกก่อนการใช้ งาน มีระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนรูปแบบ การสนทนาทไ่ี มเ่ หมาะสมอยา่ งสมา่เสมอ
13 แนวทางปฏบิ ตั ิเมอ่ื พบเน้ือหาท่ไี มเ่ หมาะสม การใช้งานอินเทอร์เน็ ตนั กเรียนจะพบข้อมูลที่ ห ล า ก ห ล า ย ทั้ ง ข้ อ มู ล ท่ี ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ข้ อ มู ล ท่ี มี ก า ร บิดเบือนหรือสร้างข้ึน เพ่ือให้เกิดความเสี ยหายต่อผู้อ่ืน หรือส่ วนรวม และหากนั กเรียนพบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม เหล่านั้น นั กเรยี นควรปฏบิ ตั ิดงั นี้
14 แนวทางปฏบิ ตั ิเม่อื พบเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสม 1 . ป ฏิ เ ส ธ ก า ร รั บ ข้ อ มู ล สามารถทาได้โดยไม่เปิดดู ไม่บันทึก เก็บไว้ และไม่กดไลค์ (Like) เพราะ การกระทาเหล่าน้ี เป็ นแนวทางที่ ป้องกนั ไมใ่ ห้ข้อมูลดงั กล่าว เผยแพร่ ไปส่ผู อู้ ่นื
14 แนวทางปฏบิ ตั เิ ม่ือพบเน้ือหาทีไ่ มเ่ หมาะสม 2. ไม่ส่ งต่อ ไม่แชร์ ไม่เผยแพร่ เพราะนอกจากจะทาให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน กับข้อมูลท่ีไม่เป็นความจริงแล้ว ในบาง ก ร ณี อ า จ เ ข้ า ข่ า ย ผิ ด ก ฎ ห ม า ย ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ว่ า ด้ ว ย ก า ร ก ร ะ ท า ความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ ซ่ึงมีโทษ ทงั้ จาและปรบั
15 แนวทางปฏบิ ตั เิ มอื่ พบเนื้อหาทีไ่ มเ่ หมาะสม 3. แจ้งครูหรือผู้ปกครอง หากนั กเรียน ประสบปัญหาท่ีไม่สามารถจัดการหรือแก้ไขได้ เอง ให้แจ้งครู หรือผู้ปกครองเพื่อดาเนิ นการ แก้ไขหรือติดต่อประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อ ป้องกนั ไม่ให้เกดิ ปัญหาซา้เดมิ ไมส่ ้ินสดุ
16 แนวทางปฏบิ ตั เิ ม่ือพบเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสม 4. แจ้งผู้เก่ียวข้องที่ดูแลเว็บไซต์นั้ น กรณี ท่ีใช้งานข้อมูลจากผู้ให้บริการระบบราย ใ ห ญ่ เ ช่ น Facebook ,YouTubeซ่ึ ง เ ว็ บ ไ ซ ต์ เหล่าน้ี เปิดโอกาสให้ ผู้ใช้ สามารถรายงาน ปัญหาเก่ียวกับเน้ื อหาท่ีไม่เหมาะสมได้ เช่น เน้ื อหาท่ีมีการ คุกคามทางเพศ เน้ื อหาเก่ียวกับ ความรุ นแรง ส่ งเสริมการก่อการร้าย การ ละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ
17 แนวทางปฏบิ ตั เิ มื่อพบเน้ือหาที่ไม่เหมาะสม 5. แจ้งเจ้าหน้ าท่ีรัฐหรือตารวจ หากผู้ดูแลระบบไม่จัดการกับปั ญหาท่ี เกิดข้ึน ให้ประสานงานกับหน่ วยงานรัฐ ท่ีมีหน้ าท่ีรับผิดชอบโดยตรง เช่น แจ้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสั งคม ท่ีเว็บไซต์ http://www.mdes.go.th เพ่ือ ดาเนิ นการตามกฎหมาย
1 ผลกระทบการเผยแพร่ ข้อมลู ท่ไี มเ่ หมาะสม
2 ผลกระทบการเผยแพรข่ ้อมูลทไ่ี มเ่ หมาะสม การไม่คานึ งถึงความถูกต้องของข้อมูลก่อน การเผยแพรห่ รอื ส่งต่อ อาจจะส่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อื่น การกระทาท่ีไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนถึง ความเหมาะสม อาจส่ งผลโดยตรงต่อจิตใจ การ เรียนรู้ การเข้าสั งคม ซ่ึงจะส่ งผลต่อเด็กและวัยรุ่นท่ี ยงั รูเ้ ทา่ ไม่ถึงการณ์ และไม่มีทกั ษะชีวิตทดี่ พี อ
3 ผลกระทบการเผยแพรข่ ้อมูลทีไ่ ม่เหมาะสม ผลกระทบตอ่ ผู้เผยแพร่ จิตใจ ผลกระทบท่ผี ู้อ่นื ไดร้ บั จากการ เผยแพรข่ ้อมูลท่ไี มเ่ หมาะสม รู้ สึ ก ผิ ด กั บ ก า ร กระทา ของตนเอง ห รือรู้สึ ก เ สี ย ใ จ ท า ใ ห้ เ กิ ด เสี ยใจ เม่ือผู้อื่นมีพฤติกรรม ความรู้สึ กอับอาย ไม่ปลอดภัย เ ลี ย น แ บ บ ก า ร ก ร ะ ท า ท่ี ไ ม่ กลัว รู้สึ กไม่ม่ันคง มีบาดแผล เหมาะสมของตนเองโดยไม่ได้ ทางจิตใจ ได้รับความเกลียด ไตรต่ รองให้ถ่ีถ้วน ชงั สูญเสียการยอมรบั จากผอู้ ่นื
4 ผลกระทบการเผยแพรข่ ้อมูลที่ไมเ่ หมาะสม ผลกระทบต่อผู้เผยแพร่ สั งคม ผลกระทบท่ผี ู้อน่ื ได้รบั จากการ เผยแพรข่ ้อมูลท่ไี ม่เหมาะสม ถู ก สั ง ค ม ล ง โ ท ษ ได้รับการประณามหรือเกลียด ได้รับผลกระทบด้าน ชังจากสั งคม ก า ร ใ ช้ ชี วิ ต ป ร ะ จ า วั น ค ร อ บ ค รั ว เ ดื อ ด ร้ อ น ถู ก ประณามจากสั งคม
5 ผลกระทบการเผยแพรข่ ้อมูลทไี่ มเ่ หมาะสม ผลกระทบตอ่ ผู้เผยแพร่ กฎหมาย ผลกระทบท่ีผอู้ น่ื ไดร้ บั จากการ เผยแพรข่ ้อมูลท่ไี มเ่ หมาะสม ไ ด้ รั บ ก า ร ป ระ ณ า ม การงาน หรือเกลียดชังจากสั งคม ได้รับ และธุรกจิ อ า จ ถู ก ใ ห้ อ อ ก จ า ก โทษ เนื่ องจากข้อมูลเหล่าน้ั น ง า น เ พ ร า ะ บ ริ ษั ท เ กิ ด ค ว า ม อาจผิดระเบียบ กฎเกณฑ์ หรือ เข้าใจผิดจากข้อมูลท่ีได้รับ เสี ย กฎหมาย ทาให้เสี ยเวลา และ ผลประโยชน์ ทางธุรกิจ เช่น ผู้ เ สี ย ค่ า ใ ช้ จ่ า ย จ า ก ก า ร แ ส ว ง ห า ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ ห รื อ ดาเนิ นคดีตามกฎหมาย คู่แข่งทางธุรกิจ อาจสร้างข่าว ลวง โฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้าง ความเสียหายให้กบั ธุรกิจคู่แข่ง
1 แนวทางการพิจารณาเนื้ อหา ก่อนการเผยแพรข่ ้อมูล
2 แนวทางการพิจารณาเนื้อหา กอ่ นการเผยแพรข่ ้อมูล ก่อนที่นั กเรียนจะเผยแพร่ข้ อมูลใดลงใน อินเทอรเ์ น็ ต ควรพิจารณาถึงจรยิ ธรรมที่เก่ยี วข้องกับ ข้อมูลและการติดต่อสื่ อสาร ซ่ึงประกอบด้วย ความ เป็นส่ วนตัว (privacy) ความถูกต้อง (accuracy) ทรัพยส์ ิน (property) และ การเข้าถึง (access) หรือ เรียกย่อว่า “พาพา (PAPA)” แนวทางการพิจารณา เนื้ อหากอ่ นการเผยแพรข่ ้อมลู
3 แนวทางการพิจารณาเนื้อหา กอ่ นการเผยแพรข่ ้อมูล ความเป็นส่ วนตัว ต้องเข้าใจ เ ก่ี ย ว กั บ ข้ อ มู ล ว่ า ข้ อ มู ล น้ั น เก่ียวกับใครหรือองค์ กรใด ส าม ารถเ ปิ ด เ ผ ยต่ อ ผู้ อ่ื น ไ ด้ หรือไม่ ภายใต้เงื่อนไขใดและ มาตรการป้องกันอยา่ งไร
4 แนวทางการพิจารณาเน้ือหา กอ่ นการเผยแพรข่ ้อมูล ความถูกต้อง ข้อมูลท่ีใช้หรือ นาเสนอต้องมีความถูกต้อง มี ค ว า ม น่ า เ ช่ื อ ถื อ แ ล ะ ต้ อ ง รับผิดชอบต่อความผิดพลาด ของข้ อมูล ดังนั้ นต้องมีการ ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม ถู ก ต้ อ ง ข อ ง ข้ อมูลก่อนท่ีจะนาไปใช้หรือ เผยแพร่
5 แนวทางการพิจารณาเน้ือหา กอ่ นการเผยแพรข่ ้อมูล ท รั พ ย์ สิ น ห รื อ ค ว า ม เ ป็ น เ จ้ า ข อ ง ต้ อ ง รู้ ว่ า ใ ค ร เ ป็ น เจ้าของข้ อมูล มีความสาคัญ หรือมูลค่ ามากน้ อยเพี ยงใด เ พื่ อ ใ ห้ ก า ร จั ด ก า ร มี ค ว า ม เหมาะสม รวมทั้งการเคารพ สิ ทธ์ิ ของผู้อ่ืนเพื่อให้ ปัญหา การละเมดิ ลิขสิทธ์ลิ ดน้อยลง
6 แนวทางการพิจารณาเน้ือหา กอ่ นการเผยแพรข่ ้อมูล การเข้ าถึง เป็ นการกาหนด หรือระบุให้บุคคลหรือองค์กร ใดมีสิ ทธ์ิหรือสิ ทธิพิ เศษใน ก า ร เ ข้ า ถึ ง ห รื อ ไ ด้ รั บ สิ ท ธ์ิ ภ า ย ใ ต้ เ งื่ อ น ไ ข ใ ด แ ล ะ มี มาตรการป้องกันอยา่ งไร
1 การสรา้ งและแสดงสิทธ์ิ ความเป็นเจา้ ของผลงาน
2 การสรา้ งและแสดงสิทธ์ิ ความเป็นเจา้ ของผลงาน ข้อมูลและสารสนเทศในรู ปแบบเอกสาร รูปภาพ หรือวีดิทัศน์ นั บว่าเป็นทรัพย์สิ นประเภท หน่ึ งทเี่ จา้ ของสามารถแสดงสิทธ์คิ วามเป็นเจ้าของ ได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบท่ีเห็นชัดเจนหรือซ่อนไว้ เช่น การใส่ ชื่อ การระบุสั ญลักษณ์ การใส่ ลายนา้ นอกจากน้ี ยังสามารถระบุเง่ือนไขการอนุญาตให้ ผอู้ ื่นนาไปใช้งานได้
3 ตัวอยา่ งการระบเุ งอื่ นไข การใชง้ านข้อมูล • สามารถนาข้อมูลไปใชเ้ พ่ือการศึกษาได้ • หากบันทึกภาพไปใช้ จะต้องทาการบันทึก ให้เห็นส่ วนท่ีแสดงถึงโลโก้ของเจ้าของ ผลงาน • น า ภ า พ ไ ป ใ ช้ ใ น ส่ื อ ส่ิ ง พิ ม พ์ ไ ด้ แ ต่ ต้ อ ง สาเนาไม่เกิน 5,000 ฉบับ ตัวอย่างการระบุ เงอื่ นไขการใชง้ านข้อมลู
4 เงอื่ นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทฟี คอมมอนส์ อา้ งองิ แหลง่ ทมี่ า (BY) หมายถึง การนาไปใช้จะตอ้ งอา้ งองิ กลบั มาถึงผเู้ ขียน
5 เงอื่ นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทีฟคอมมอนส์ ให้อนญุ าตตอ่ ไปแบบเดยี วกนั (SA) คือยนิ ยอมให้มกี ารดดั แปลงงานไดโ้ ดย ตอ้ งมอบความยนิ ยอมต่อไปดว้ ย
6 เงอื่ นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทีฟคอมมอนส์ ห้ามนาไปใชเ้ พื่อการค้า (NC)
7 เงอ่ื นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทฟี คอมมอนส์ ห้ามดดั แปลง (ND) คือต้องใช้งานต้นฉบบั เทา่ นั้น โดยไม่มกี ารดดั แปลงใด ๆ ทงั้ ส้ิน
8 เงอื่ นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทฟี คอมมอนส์ อา้ งอิงแหล่งทมี่ า (CC-BY)
9 เงอ่ื นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทีฟคอมมอนส์ อา้ งอิงแหลง่ ทมี่ า ให้อนญุ าตตอ่ ไปแบบเดยี วกนั (CC-BY-SA)
10 เงอ่ื นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทฟี คอมมอนส์ อา้ งอิงแหล่งทมี่ า ห้ามดดั แปลง (CC-BY-ND)
11 เงอื่ นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทีฟคอมมอนส์ อา้ งองิ แหลง่ ทมี่ า ห้ามนาไปใชเ้ พ่ือการค้า (CC-BY-NC)
12 เงอ่ื นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทีฟคอมมอนส์ อ้างอิงแหล่งทม่ี า ห้ามนาไปใชเ้ พื่อการค้า และให้อนญุ าตตอ่ ไปแบบเดยี วกนั (CC-BY-NC-SA)
13 เงอ่ื นไขในการให้อนญุ าต ของครเี อทฟี คอมมอนส์ อา้ งอิงแหลง่ ทม่ี า ห้ามนาไปใช้เพ่ือการค้า และห้ามดดั แปลง (CC-BY-NC-ND)
1 มารยาทในการ ตดิ ตอ่ ส่ือสาร
2 มารยาทในการติดตอ่ สื่อสาร ก า ร ติ ด ต่ อ ส่ื อ ส า ร ผ่ า น บ ริ ก า ร บ น อิน เทอร์เ น็ ต มีค วา ม หล ากห ลา ยแ ละ มี ผู้ใ ช้ง า น จานวนมาก มีทัง้ แบบผู้ใช้สื่ อสารส่ วนตัว ส่ื อสารใน กลุ่ม หรือส่ื อสารสาธารณะ จึงควรมีมารยาทและ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม มีการจากัดกลุ่ม สนทนา ให้อยใู่ นกลุ่มสมาชิกที่เกยี่ วข้องและใช้ในช่วงเวลาที่ เหมาะสม
3 มารยาทในการใชอ้ เี มล • ใช้ภาษาสุภาพ ชัดเจน ตรงประเด็น เหมาะสมกับ กาลเทศะหรอื ผู้ท่จี ะสื่อสารด้วย • ใช้อกั ษรตัวหนาเฉพาะข้อความท่ีต้องการเน้นเทา่ นั้น • ระบุหัวเร่ือง ช่ือผู้ท่ีจะสื่ อสารด้วย และระบุตัวตนของผู้ ส่ งอีเมลให้ชัดเจน (เหมือนกับการเขียนจดหมายด้วย กระดาษ) • ระบุชื่อหรือตาแหน่ งของผู้ท่ีจะสื่ อสารให้ถูกต้องและ เหมาะสม
Search