Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคโนโลยี ม.4 หน่วยที่ 1-5

เทคโนโลยี ม.4 หน่วยที่ 1-5

Description: เทคโนโลยี ม.4 หน่วยที่ 1-5

Search

Read the Text Version

กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ข้นั ระบุปัญหา ข้ันรวบรวมข้อมูล ข้ันออกแบบวธิ ีการ และแนวคิดทเ่ี กย่ี วข้อง แก้ปัญหา กบั ปัญหา ข้ันวางแผนและ ข้ันทดสอบ ประเมินผล ข้ันนาเสนอวธิ ีการ ดาเนินการแก้ปัญหา และปรับปรุงแก้ไขวธิ ี แก้ปัญหา ผลการ การแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน แก้ปัญหาหรือชิ้นงาน

ข้นั ระบุปัญหา (problem identification) เป็นข้นั ตอนท่ีตระหนกั ถึงสิ่งท่ีเป็นปัญหาในชีวติ ประจาวนั และมีความ ตอ้ งการที่จะหาวธิ ีการหรือสร้างเทคโนโลยเี พอื่ แกป้ ัญหา โดยจะตอ้ งพจิ ารณา ปัญหาแลว้ ต้งั คาถามดว้ ยเทคนิค 5W1H Who-ใคร What-ทาอะไร Where-ท่ีไหน เป็นการวเิ คราะห์วา่ ใครเป็น เป็นการวเิ คราะห์วา่ เราจะ เป็นการวเิ คราะห์วา่ สถาน- ผเู้ ก่ียวขอ้ ง และมีผลกระทบ ทาอะไร อะไรคือปัญหา การณ์หรือเหตุการณ์น้นั ต่อปัญหาที่กาลงั ศึกษา จากสถานการณ์น้นั จะเกิดข้ึนท่ีไหน When-เมื่อใด Why-ทาไม How-อย่างไร เป็นการวเิ คราะห์วา่ สถาน- เป็นการวเิ คราะห์วา่ ทาไม เป็นการวเิ คราะห์วา่ ปัญหาน้นั การณ์หรือเหตุการณ์น้นั จึงเกิดปัญหาน้นั สามารถแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งไร และใชว้ ธิ ีการใดแกป้ ัญหา จะเกิดข้ึนเม่ือใด

ข้นั รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ทเ่ี กยี่ วข้องกบั ปัญหา (related information search) รวบรวมขอ้ มูลความรู้จากแหล่งขอ้ มูล เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา คน้ ควา้ จากเอกสาร การสัมภาษณ์ การสารวจ การสงั เกต วเิ คราะห์และ สรุปเป็ นสารสนเทศ

ข้นั ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา (solution design) นาข้อมูลสารสนเทศ ที่ได้มาวเิ คราะห์ ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาหลาย ๆ วธิ ี ถ่ายทอดแนวคิดเพ่อื ส่ือสารให้ บุคคลอื่นเขา้ ใจความหมาย วิธีที่ 1 วธิ ีที่ 2 วิธีท่ี 3 วิธีที่ 4 พิจารณาขอ้ ดี-ขอ้ เสียของแต่ละวธิ ี ตดั สินใจเลือกวิธีท่ีเหมาะสม และดีท่ีสุด

ประเภทของการออกแบบ การออกแบบ 2 มติ ิ การออกแบบ 3 มิติ (graphic design) (model design) เช่น การออกแบบภาพน่ิง โปสเตอร์ โลโก เช่น การออกแบบอาคาร การออกแบบ หน่วยงาน เวบ็ เพจ สื่อโฆษณา สื่อส่ิงพิมพ์ ชิ้นส่วนรถยนต์ 3 มิติ ในจอภาพที่สามารถ ปรับมุมมองในเคร่ืองมือหรืออปุ กรณ์ได้

ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ออกแบบ 2 มติ ิ โปรแกรม โปรแกรม Adobe Photoshop Gimp โปรแกรม โปรแกรม Adobe Illustrator Inkscape โปรแกรม โปรแกรม Adobe InDesign PhotoScape โปรแกรม โปรแกรม Picasa SketchBook

ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ออกแบบ 3 มิติ โปรแกรม โปรแกรม SketchUp Make 123D Design โปรแกรม โปรแกรม Blender FreeCAD โปรแกรม โปรแกรม Onshape TinkerCAD ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ออกแบบผงั งานและแผนผงั โปรแกรม โปรแกรม FreeMind Draw.io

ข้นั วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา (planning and development) ข้นั วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา กาหนดข้ันตอนและเวลาท่ีใช้ ลงมือแก้ปัญหา Gantt chart 1. ลงมือตามข้นั ตอนที่กาหนดไว้ 1. กาหนดงานและกิจกรรม 2. พจิ ารณาวา่ งานใดควรทาก่อนหรือหลงั 2. คานึงถึงความถูกตอ้ ง ปลอดภยั และเหมาะสม 3. กาหนดระยะเวลาการทางานใหแ้ ลว้ เสร็จ

ข้นั ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ ีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (testing evaluation and design improvement) ข้ันทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ ีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน ตรวจสอบผลการแกป้ ัญหา เป็นไปตามวตั ถุประสงค์ เป็ น ไม่เป็ น ตรวจสอบประสิทธิภาพ แกไ้ ขปรับปรุง ยอมรับได้ ตอ้ งปรับปรุง

ข้นั นาเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (presentation) เผยแพร่เพื่อใหผ้ อู้ ่ืนทราบถึงผลงานและวธิ ีการแกป้ ัญหา รูปแบบการนาเสนอ นาเสนอเป็ นภาพนิ่ง นาเสนอเป็ นภาพเคล่ือนไหว (graphic) (animation)

โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม Google Slides Google Charts Canva โปรแกรม นาเสนอ โปรแกรม Piktochart เป็ นภาพน่ิง Venngage

นาเสนอเป็ นภาพเคล่ือนไหว ภาพเคล่ือนไหวแบบ ภาพเคลื่อนไหวแบบ linear none-linear โปรแกรม โปรแกรม Prezi โปรแกรม Stop Motion Studio โปรแกรม Adobe Animate Adobe Premiere โปรแกรม โปรแกรม Construct Adobe Captivate โปรแกรม Powtoon

แบบพฒั นาทักษะในการทาข้อสอบปรนยั เพ่ือประเมนิ ตวั ชี้วดั หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม

1. ข้อใดคือส่ิงทไ่ี ม่ต้องนาเสนอในข้นั ตอนการนาเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา และผลการแก้ปัญหา 1. จุดบกพร่อง 2. ขอ้ เสนอแนะ 3. วธิ ีการแกป้ ัญหา 4. ผลการดาเนินงาน 5. จุดประสงคข์ องการพฒั นา

2. ข้อใดเป็ นซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ในการสร้างภาพวาด ทส่ี ามารถขยายขนาดได้โดยภาพไม่แตก 1. โปรแกรม Gimp 2. โปรแกรม Inkscape 3. โปรแกรม PhotoScape 4. โปรแกรม Adobe Illustrator 5. โปรแกรม Adobe Photoshop

3. ข้อใดไม่ใช่สิ่งทพ่ี จิ ารณาในการระบุปัญหา โดยใช้หลกั 5W1H 1. เกิดข้ึนท่ีไหน 2. เกิดข้ึนเม่ือใด 3. ใครเป็นผเู้ ก่ียวขอ้ ง 4. ทาไมจึงเกิดปัญหาน้นั 5. จะสืบคน้ ขอ้ มูลจากท่ีใด

4. ข้อใดเป็ นซอฟต์แวร์ทีใ่ ช้ในการนาเสนอแบบภาพเคล่ือนไหว 1. โปรแกรม Canva 2. โปรแกรม Venngage 3. โปรแกรม Google Slides 4. โปรแกรม Google Charts 5. โปรแกรม Adobe Premiere

5. ข้อใดเรียงลาดบั การสร้างหนังส้ันได้ถูกต้อง A. ศึกษาเครื่องมือ 1. D A B E C F B. เขียน Story Board 2. D B A C F E C. ดาเนินการถ่ายทาและตดั ต่อ 3. D E A F C B D. วิเคราะห์จุดประสงคข์ องการทางาน 4. D B C E F A E. วางแผนและแบ่งหนา้ ที่การทางาน 5. D F A E B C F. ตรวจสอบความเรียบร้อยของหนงั ส้นั

6. ข้อใดไม่เป็ นการทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข วธิ ีการแก้ปัญหา 1. ส่งมอบงานใหก้ บั กลุ่มเป้าหมายใหไ้ ดใ้ ชง้ านจริง 2. ใหผ้ อู้ ่ืนทดลองใชแ้ ลว้ ทาแบบสอบถามความพงึ พอใจ 3. ผพู้ ฒั นาทดลองใชต้ ามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ 4. หาประสิทธิภาพการใชง้ านกบั กลุ่มทดลองที่มีลกั ษณะ เหมือนกบั กลุ่มเป้าหมาย 5. ใหผ้ ทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งทดลองใชง้ านแลว้ สงั เกตพฤติกรรมการใช้ หากพบขอ้ บกพร่องใหแ้ จง้ กบั ผพู้ ฒั นา

7. ข้อใดเรียงลาดับข้ันตอนกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมได้ถูกต้อง 1. ระบุปัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ข การออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา นาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา 2. ระบุปัญหา รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา การออกแบบวธิ ีการ แกป้ ัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ข นาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา 3. ระบุปัญหา การออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ข นาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา 4. ระบุปัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดที่เกี่ยวขอ้ ง กบั ปัญหา การออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ข นาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา 5. ระบุปัญหา ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ข รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดที่ เก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา การออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา นาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา

8. ผู้ใดปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนการออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาอย่างไม่เหมาะสม 1. อรุณาคิดหาวธิ ีการแกป้ ัญหามา 5 วธิ ี 2. ธาดาถ่ายทอดแนวคิดเป็นภาพร่างและผงั งาน 3. วศินเปรียบเทียบหาวธิ ีการแกป้ ัญหาท่ีเหมาะสมท่ีสุด 4. กนั ยานาแนวทางการแกป้ ัญหาอ่ืนมาใชใ้ นการแกป้ ัญหาของตนเอง 5. ณุดานาขอ้ มูลที่รวบรวมไดน้ ามาปรับปรุง เพ่ือใชใ้ นการ แกป้ ัญหาของตน

9. ข้อใดเป็ นประโยชน์ของการวางแผนการดาเนินงาน 1. การดาเนินการเป็นไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ไม่ล่าชา้ 2. เกิดความไม่สามคั คีเม่ือดาเนินการไม่เป็นไปตามแผน 3. ทาใหก้ ารดาเนินงานติดขดั เพราะอาจไม่เป็นไปตามแผน 4. ทาใหม้ องไม่เห็นภาพรวมกิจกรรมท่ีตอ้ งทาในอนาคต 5. ไม่สามารถปรับเปล่ียนแผนการดาเนินการได้ ทาใหง้ านเสร็จเร็วข้ึน

10. ข้อใดเป็ นผลกระทบของการไม่ระบุปัญหาอย่างชัดเจน 1. พฒั นาชิ้นงานล่าชา้ 2. เกิดขอ้ บกพร่องขณะใชง้ าน 3. ชิ้นงานที่พฒั นามาซ้ากบั ผอู้ ื่น 4. สมาชิกไม่ร่วมมือร่วมใจในการทางาน 5. สร้างชิ้นงานมาไม่ตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ไมโครคอนโทรลเลอร์และ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) Kru Chayanun

ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) คือ อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ ท่ีมีหลกั การทางานเหมือนคอมพิวเตอร์ แต่มีขนาดเลก็ ใชส้ าหรับเป็นอุปกรณ์ ในการควบคุมการทางานกบั อุปกรณ์ท่ีเช่ือมต่อเพ่ือควบคุม ไมโครคอนโทรลเลอร์อื่นๆ ไมโครคอนโทรลเลอร์ Raspberry Pi มีระบบปฏิบตั ิการ ใชใ้ นการควบคุมไมโครคอนโทรลเลอร์ชนิดอ่ืน ๆ อุปกรณ์ท่ีใชแ้ สดงผล อุปกรณ์ที่ใชค้ วบคุมขอ้ มูลเขา้ จอภาพ เมาส์ คียบ์ อร์ด

ส่วนประกอบของไมโครคอนโทรลเลอร์ Raspberry Pi เป็ นไมโครคอนโทรลเลอร์ทม่ี ีระบบปฏิบัติการโดยใช้ระบบปฏบิ ัตกิ าร Linux มีหน่วยประมวลผลกลาง แรม และหน่วยประมวลผลกราฟิ กทเ่ี รียกว่า GPU ส่วนประกอบของไมโครคอนโทรลเลอร์ Raspberry Pi  1. Power port  ด้านหน้า 2. HDMI output port   3. The Ethernet and   USB port 4. The Audio and RCA ด้านหลงั Video Jacks 5. The GPIO pins 6. The System on a Chip

ระบบปฏิบัตกิ ารของไมโครคอนโทรลเลอร์ Raspberry Pi ไมโครคอนโทรลเลอร์ Raspberry Pi ใช้ระบบ ปฏิบตั กิ าร Linux ควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ทเี่ ช่ือมต่อกนั อย่าง เป็ นระบบ คยี ์บอร์ด เมาส์ จอภาพ ลาโพง

การทางานร่วมกนั ของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สายสญั ญาณ USB เมาส์ คียบ์ อร์ด สายสญั ญาณ UTP ส่ วนนาเข้ า ส่ วนเกบ็ Raspberry Pi ข้อมูล Micro SD card ส่ วนนาออก สายสัญญาณ HDMI connector ท้งั สองดา้ น จอภาพ

รูปแบบการสื่อสารของอุปกรณ์ พอร์ตอเนกประสงค์ GPIO (General Purpose Input/Output) การส่ือสาร ของอุปกรณ์ ภาษา Python กบั การควบคุม เซนเซอร์วดั แสง การสื่อสาร

1. รูปแบบการส่ือสารของอุปกรณ์ รูปแบบการส่ือสารแบบอนุกรม รูปแบบการสื่อสารแบบขนาน (serial transmission) I2C (parallel transmission) ใชส้ ายสญั ญาณ 2 เส้น คือ ส่งขอ้ มูลแบบบิต (0 และ 1)โดย SCL (สัญญาณนาฬิกา) และ มีสญั ญาณนาฬิกาคอยควบคุม SDA (สญั ญาณขอ้ มูล) ขอ้ มูลจะส่งออกไปพร้อมกนั เท่ากบั จานวนสายท่ีมี ทาใหส้ ่ง ง่ายต่อการเช่ือมต่อ ขอ้ มูลไดร้ วดเร็ว ผดิ พลาดนอ้ ย

2. พอร์ตอเนกประสงค์ GPIO 3. ภาษา Python กบั การควบคุม (General Purpose Input/Output) การส่ือสาร พอร์ตอเนกประสงค์ GPIO เป็นภาษาท่ีใชเ้ ขียนโปรแกรมสง่ั งาน มี 40 pins Raspberry Pi ใชเ้ ช่ือมต่อกบั อุปกรณ์ภายนอก มีโครงสร้าง 2 ส่วน 1. ประกาศ : คาสง่ั เพื่อเรียกใช้ library หรือนาเขา้ ไฟล์ 2. คาสง่ั ทางาน : เป็นคาสง่ั ท่ีใชส้ งั่ ทางาน ตวั อยา่ งพอร์ตอเนกประสงค์ GPIO

4. เซนเซอร์วดั แสง TSL2561 เป็นอุปกรณ์ภายนอก ท่ีนามาเช่ือมต่อเพอื่ วดั แสง ไดร้ ับแสงแลว้ เปลี่ยนเป็นขอ้ มูล แบบดิจิทลั ส่งขอ้ มูลในรูป I2C

Raspberry Pi กบั การสื่อสารด้วยบริการ อนิ เทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) IoT : Internet of Things ตวั อย่าง เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ท่ีหลากหลาย  ควบคุมเครื่องใชไ้ ฟฟ้าผา่ น แอปพลิเคชนั เช่น เปิ ด-ปิ ดไฟ หรือ ใชส้ ื่อสารแลกเปล่ียนขอ้ มูลกนั ในระยะไกล เครื่องใชไ้ ฟฟ้าตา่ ง ๆ และส่งแจง้ เตือน การทางานในสมาร์ตโฟน อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยง หรือส่งขอ้ มูลถึงกนั ไดด้ ว้ ยอินเทอร์เน็ต  กลอ้ งวงจรปิ ดคอยสอดส่องดูแลความ โดยไม่ตอ้ งป้อนขอ้ มูล เคล่ือนไหวภายในบา้ น ไดต้ ลอด 24 ชวั่ โมง และส่งแจง้ เตือนการ สามารถสั่งการควบคุมการใชง้ านอุปกรณ์ ทางานในสมาร์ตโฟน อิเลก็ ทรอนิกส์ตา่ ง ๆ ผา่ นทางเครือข่าย  เปิ ด-ปิ ด ประตูร้ัวบา้ น เม่ือตอ้ งการ อินเทอร์เน็ตได้ เขา้ บา้ นหรือออกจากบา้ น

บริการ IFTTT Webhooks (IF This Then That) เป็นการเช่ือมต่อแบบ real time เชื่อมโยง เป็ นการส่ือสารของอุปกรณ์ไปยงั ขอ้ มูลท่ีแตกต่างกนั ใหส้ ื่อสารกนั ได้ อุปกรณ์ ผา่ นระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อแจง้ เตือนความเคล่ือนไหวท้งั หมด หลกั การทางานคือ เม่ือเกิดเหตุการณ์ ที่เกิดข้ึน หน่ึงแลว้ ตอ้ งการใหบ้ ริการน้ีทางาน เช่น ลูกคา้ ทาการ check in ทางเฟซบุ๊ก อะไรแบบอตั โนมตั ิ เม่ือมีการ check in Webhooks จะส่งขอ้ ความ ขอบคุณลูกคา้ พร้อมมอบคูปองเครื่องด่ืม เช่น ถา้ เส้นทางขา้ งหนา้ 10 กิโลเมตร ผา่ นทางสมาร์ตโฟนของลูกคา้ และส่ง sms มีการจราจรหนาแน่น ใหแ้ จง้ เตือนผา่ น ไปยงั ผปู้ ระกอบการเพื่อเตรียมเครื่องด่ืม สาหรับลูกคา้ ตามชื่อที่ Webhooks รายงาน sms มาท่ีสมาร์ตโฟนของผใู้ ชง้ าน

แบบพฒั นาทักษะในการทาข้อสอบปรนยั เพ่ือประเมินตัวชี้วดั หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ไมโครคอนโทรลเลอร์และ อนิ เทอร์เน็ตของสรรพส่ิง (IoT)

1. ตัวอย่างการดาเนินการในข้อใดไม่สามารถใช้บริการจาก webhooks ได้ 1. การนาเสนอโพรโมชนั ผา่ นแอปพลิเคชนั ไลน์ 2. ส่งขอ้ ความยนิ ดีตอ้ นรับผทู้ ่ีเขา้ มาร่วมกิจกรรม 3. รับขอ้ มูลจากเซนเซอร์ แลว้ แจง้ เตือนผา่ นแอปพลิเคชนั 4. รวบรวมขอ้ มูลการติดตามดูหนา้ เวบ็ ไซต์ เพื่อนาไปวิเคราะห์ 5. การนาเสนอโพรโมชนั ผา่ น SMS ใหก้ บั ผทู้ ่ีเช็กอิน facebook

2. ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัตกิ ารทพี่ ฒั นามาจาก Linux 1. Raspbian 2. Red Hat 3. Android 4. Fedora 5. Dabian

3. ไมโครคอนโทรลเลอร์ Raspberry Pi เปรียบได้กบั อุปกรณ์ใด 1. CPU 2. RAM 3. เมาส์ 4. หนา้ จอ 5. คอมพวิ เตอร์

4. หน่วยความจาของไมโครคอนโทรลเลอร์ประกอบด้วยข้อใด 1. LDR 2. LED 3. Motor 4. Buzzer 5. SD card

5. ข้อใดเป็ นเซนเซอร์ที่เป็ นหน่วยนาเข้า (input) 1. LDR 2. LED 3. Motor 4. Buzzer 5. SD card

6. อุปกรณ์ใดใช้ในการส่งข้อมูลเพื่อแสดงผลออกทางหน้าจอท้งั ภาพ และเสียง 1. HDMI cable 2. UTP cable 3. VGA cable 4. USB cable 5. IDE cable

7. อุปกรณ์ใดใช้ในการส่งข้อมูลจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ไปยงั Raspberry Pi 1. HDMI cable 2. UTP cable 3. VGA cable 4. USB cable 5. IDE cable

8. ข้อใดไม่เป็ นการประยุกต์ใช้อนิ เทอร์เน็ตของสรรพส่ิง IoT 1. เซนเซอร์บนั ไดเลื่อน 2. ควบคุมการเปิ ด-ปิ ดของไฟบา้ น 3. การดูกลอ้ งวงจรปิ ดผา่ นสมาร์ตโฟน 4. สงั่ การการรดน้าตน้ ไมด้ ว้ ยสมาร์ตโฟน 5. ป้ายรถเมลอ์ จั ฉริยะ สามารถรู้ตาแหน่งของรถเมลไ์ ด้

9. ระบบปฏบิ ตั ิการของ Raspberry Pi คือระบบปฏบิ ตั กิ ารใด 1. Windows 2. Android 3. Linux 4. OSX 5. IOS

10. ไมโครคอนโทรลเลอร์คืออะไร 1. อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ใชใ้ นการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ 2. อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ขนาดเลก็ ใชใ้ นการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ 3. คอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ ใชใ้ นการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ 4. คอมพวิ เตอร์ขนาดเลก็ ใชใ้ นการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ 5. CPU ของคอมพวิ เตอร์ ใชใ้ นการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 แนวคิดเชิงคานวณ กบั การพฒั นาโครงงานในชีวติ จริง Kru Chayanun

แนวคดิ เชิงคานวณ แนวคิดเชิงคานวณ (Computational Thinking : CT) คือ กระบวนการคิด ที่เก่ียวกบั การกาหนดปัญหาแลว้ ยอ่ ยปัญหาเพื่อลดความซบั ซอ้ น หาความสัมพนั ธ์ ของแต่ละปัญหา วเิ คราะห์ปัญหา ตดั ส่ิงที่ไม่จาเป็นออก และแสดงแนวทางการ แกป้ ัญหาไปทีละลาดบั ข้นั ตอนในลกั ษณะที่มนุษย์ คอมพวิ เตอร์ หรือเคร่ืองจกั ร สามารถนาไปดาเนินการต่อไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ข้นั ตอนของแนวคดิ เชิงคานวณ การแจกแจง การคดิ หารูปแบบ การคดิ การออกแบบ (decomposition) (pattern recognition) เชิงนามธรรม ข้ันตอนวธิ ี (abstraction) (algorithm design)

การแจกแจง (decomposition) การแจกแจง แบ่งปัญหาหรืองาน ตัวอย่าง ท่ีซบั ซอ้ นออกเป็นส่วนยอ่ ย ๆ ปกคอเส้ือ จะทาใหม้ องปัญหา กระดุม โลโก ไดช้ ดั เจนข้ึน แขนเส้ือ แขนเส้ือ ง่ายต่อการวิเคราะห์ ขา้ งขวา ขา้ งซา้ ย ชายเส้ือ ง่ายต่อการจดั การ และแกป้ ัญหา

การคดิ หารูปแบบ (pattern recognition) กำรคน้ หำรูปแบบของปญั หำ รูปแบบท่ี เกดิ ข้ึนซ้ำกนั คลำ้ ยคลงึ กนั ใกลเ้ คยี งกนั สมั พนั ธก์ นั 258 11.3.. 3 3 ใบพดั ลมหมนุ วนซ้ำๆ หำ่ งกนั ทลี ะ 3 2 = 0.285714285714... คนมี 1 ศีรษะ ไก่ นก 7 2 ตำ 2 หู เป็ ด หำ่ น 1 จมูก 1 ปำก ทศนิยมจะมเี ลขซ้ำ 2 แขน 2 ขำ ทกุ ๆ 6 ตำแหน่ง ถา้ เป็นปัญหาที่เหมือนกนั วธิ ีการแกป้ ัญหาจะคลา้ ย ๆ กนั

การคดิ เชิงนามธรรม (abstraction) ตัวอย่าง : ห่วงโซ่อาหาร เป็นกระบวนการคิดแกป้ ัญหา ตดั สิ่งท่ีไม่จาเป็นหรือไม่ส่งผลกระทบต่อ การแกป้ ัญหาออกไป คงไวเ้ พียงส่วนที่สาคญั และจาเป็น จะทาใหก้ รอบของปัญหาน้นั แคบลง ผู้ผลติ เพ่อื มุ่งเป้าไปสู่ปัญหา ผบู้ ริโภค ผบู้ ริโภค ผบู้ ริโภค และเขา้ ใจปัญหาน้นั ไดง้ ่ายที่สุด ผผู้ ลิต ลาดบั ที่ 1 ลาดบั ที่ 2 ลาดบั ที่ 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook