Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือชีวิตกับสิ่งแวดล้อม

หนังสือชีวิตกับสิ่งแวดล้อม

Published by phattadon, 2019-09-07 22:54:34

Description: หนังสือชีวิตกับสิ่งแวดล้อม

Search

Read the Text Version

278 ของโครงการจะช่วยลดค่าใชจ้ ่ายในการแก้ไขปัญหาท่ีอาจเกิดข้ึนภายหลังดาเนินโครงการไปแล้ว และ เป็นวสิ ยั ทัศนข์ องนกั บริหารโครงการในยคุ โลกาภวิ ัฒนท์ ีม่ ุ่งเน้นการป้องกนั มากกวา่ การแก้ไข ตามประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ได้กาหนดประเภทและขนาด ของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อมไว้ท้ังส้ิน 35 ประเภทโครงการหรือกิจการ (ข้อมูล ณ 20 มิถุนายน 2555) จากสานักวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (สวผ.) สานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (สผ.) (สานัก วิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อม, 2556) ตัวอย่างประเภทโครงการหรือกิจการ เช่น การทาเหมืองแร่ นิคมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมผลิตปูนซิเมนต์ ผลิตเย่ือกระดาษ อุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยเคมี ผลิตน้าตาล สุรา โรงไฟฟ้าพลังความร้อน ทางหลวงหรือถนน ระบบขนส่ง มวลชนท่ีใช้ราง ท่าเทียบเรือ การถมท่ีดินในทะเล ระบบขนส่งทางอากาศ โรงพยาบาล โรงแรม การ ชลประทาน ประตูระบายน้าในแม่น้าสายหลัก เป็นต้น ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่าน้ีต้องเสนอเพ่ือ พิจารณาอนุมัติการทาโครงการต่อสานักวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อม (สวผ.) สานักงานนโยบาย และแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม (สผ.) กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม 7.5.1 ระบบการวเิ คราะหผ์ ลกระทบส่งิ แวดล้อม ประเทศไทยใช้ระบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 4 หมวด เรียกว่า “Four - tier System” ประกอบด้วย 1) ทรัพยากรส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ ได้แก่ ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะ ธรณีวิทยา ปฐพีวิทยา อุทกวิทยา น้าผิวดิน น้าใต้ดิน ภูมิอากาศ คุณภาพสิ่งแวดล้อมทางด้านอากาศ เสียง นา้ ดิน 2) ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ ได้แก่ นิเวศวิทยาบนบก ป่าไม้ สัตว์ป่า นเิ วศวทิ ยาทางนา้ สัตวน์ ้า พืชนา้ 3) คณุ ค่าการใชป้ ระโยชนข์ องมนุษย์ ได้แก่ การใช้ประโยชน์ท่ีดิน ชุมชนและ การตง้ั ถนิ่ ฐาน สาธารณูปโภคและสาธารณูปการ การคมนาคม 4) คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต ได้แก่ เศรษฐกิจและสังคม การสาธารณสุข ประวัตศิ าสตร์ โบราณคดี และสุนทรียภาพ 7.5.2 ประโยชน์ของการวเิ คราะห์ผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มในโครงการพัฒนาต่างๆ 1) สามารถใช้ในการวางแผนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ และจะช่วยในการมองปัญหาต่างๆ ได้กว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิมที่ มองเพยี งผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ เป็นประเด็นหลัก อันก่อใหเ้ กิดความเสอ่ื มโทรมของทรพั ยากร ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มตามมา

279 2) เป็นเครอื่ งมอื ในการช่วยพิจารณาผลกระทบต่อคุณภาพสงิ่ แวดล้อมและความ รุนแรงจากการพัฒนาโครงการ เพ่ือให้เจ้าของโครงการสามารถหามาตรการในการป้องกัน และแก้ไข ผลกระทบที่อาจเกิดขน้ึ น้ันอยา่ งเหมาะสมก่อนดาเนินการ 3) สามารถแน่ใจว่าได้คาดการณ์ประเด็นปัญหาสาคัญ อันเกิดข้ึนอย่างถูกต้อง ตามหลักวชิ าการโดยเลือกมาตรการท่เี ป็นไปได้ในทางปฏบิ ัตแิ ละคา่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ย 4) ช่วยเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจในการลงทุนหรือพัฒนาโครงการ การ เตรียมแผนงาน แผนการเงินในการจัดการส่ิงแวดล้อม และสามารถใช้ผลการศึกษาเป็นข้อมูลท่ีจะให้ ความกระจา่ งต่อสาธารณชนและหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้องเพอ่ื ปอ้ งกนั ความขดั แย้งของการใชท้ รพั ยากร 5) มีแนวทางในการกาหนดแผนการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่างๆ ท้ังที่ เกิดขึน้ ภายหลงั จากการดาเนนิ โครงการได้ 6) เป็นหลกั ประกนั ในการใชท้ รพั ยากรทีย่ าวนาน 7.6 กฎหมายสิ่งแวดลอ้ ม (Environmental law) กฎหมายสิ่งแวดล้อม หมายถึง กฎหมายประเภทหนึ่ง ท่ีตราขึ้นเพ่ือการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เนื้อหาครอบคลุมการป้องกัน และเยียวยาความเสื่อมโทรมแห่งสุขภาพท้ังของ มนุษย์และอมนุษย์ และมักคาบเกี่ยวกับกฎหมายจารีตประเพณี สนธิสัญญา ข้อตกลง พันธกรณี กฎระเบียบ และนโยบายหลากชนิด กฎหมายสิ่งแวดล้อมเป็นเคร่ืองมือท่ีสาคัญประการหน่ึง ท่ีจะมีผลทาให้การจัดการหรือ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมประสบผลสาเร็จ ท้ังนี้เพราะต้องอาศัยกฎหมายเพ่ือ การกาหนดนโยบายการจัดการให้การดาเนินงานเป็นไปตามหลักความสมดุลของธรรมชาติ มีความ สอดคล้องกับการกาหนดอานาจหน้าท่ี วิธีการประสานงานขององค์กรต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง และในขณะ เดียวกัน ก็เป็นเคร่ืองมือในการควบคุมการดาเนินงานให้เป็นไปตามระเบียบ และข้อกาหนดอย่าง ชดั เจนด้วย เมื่อกล่าวถึง “ กฎหมายส่ิงแวดล้อม ” จะหมายความรวมถึง กฎหมายส่ิงแวดล้อม ภายในประเทศและกฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ กฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ มักจะอยู่ในรูปของอนุสัญญา (Conventions) พิธีสาร (Protocols) และแนวปฏิบัติที่มีลักษณะเป็น Soft law เช่น แถลงการณ์ร่วม (Declarations) และบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ก็ใช้มาตรการ ทางด้านสิ่งแวดล้อม ในการคว่าบาตรสินค้าชนิดท่ีได้มาโดยการทาลายส่ิงแวดล้อม และหากประเทศ ใดมีการทาลายสง่ิ แวดล้อมอย่างรุนแรงก็จะถูกคว่าบาตรทางการค้าท้ังหมด ส่วนกฎหมายสิ่งแวดล้อม ภายใน ประเทศน้ัน หมายถึงกฎหมายภายในของรัฐต่างๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ท่ีจะพิทักษ์รักษา ส่ิงแวดล้อม ควบคุมป้องกันมลพิษ ส่งเสริมให้สิ่งแวดล้อมมีผลทาให้มีสุขภาพอนามัยท่ีดี ซึ่งกฎหมาย

280 ภายในดังกล่าว อาจอยู่ในรูปของกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายปกครองหรือกฎหมาย มหาชน (ภทั รศกั ด์ิ วรรณแสง, 2556) 7.6.1 ความเปน็ มาของกฎหมายสง่ิ แวดล้อมในประเทศไทย ก่อนปี พ.ศ. 2518 ประเทศไทยมิได้มีกฎหมายท่ีเกี่ยวกับการจัดการปัญหา สิง่ แวดล้อม ในภาพรวมโดยตรง แต่กม็ กี ฎหมายหลายฉบบั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การจัดการปัญหาส่ิงแวดล้อม โดยกฎหมายเหล่าน้ันแต่ละฉบับมีบทบัญญัติท่ีเก่ียวกับสิ่งแวดล้อมในบางเร่ือง ซ่ึงเกี่ยวข้องกับ กิจกรรมหลักของหน่วยงานที่ใช้บังคับกฎหมายน้ัน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับโรงงาน กฎหมายเก่ียวกับ การสาธารณสุข กฎหมายเก่ียวกับการเดินเรือและการรักษาแม่น้าลาคลอง กฎหมายเกี่ยวกับการ ประมง ประมวลกฎหมายแพ่งพาณชิ ย์ว่าดว้ ยละเมิดและทรพั ย์ ประเทศไทยไดม้ ีการตรากฎหมายเก่ียวกับสง่ิ แวดลอ้ มโดยตรงเปน็ คร้ังแรก เมื่อมี การตรา “พระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพและส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2518” ซ่ึง ต้ังคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติและสานักงานคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติขึ้นมา เพื่อให้ ทาหนา้ ที่รับผดิ ชอบเรอ่ื งส่งิ แวดล้อมในภาพรวมท้ังหมด ขณะเดยี วกันกฎหมายและหนว่ ยงานอ่ืนๆ ที่มี หนา้ ที่เกยี่ วข้องกบั การสง่ เสรมิ และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในแต่ละเร่ืองอยู่เดิมนั้นก็ยังคงทาหน้าที่ ต่อไป คณะกรรมการสง่ิ แวดล้อมแห่งชาติ และสานกั งานคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ ทาหน้าท่ี ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมิได้มีอานาจเพียงพอท่ีจะดาเนินการส่งเสริมและ รักษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ต่อมาไดม้ กี ารยกเลิก พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพและส่ิงแวดล้อม แห่งชาติ พ.ศ. 2518 และมีการตรา “พระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพและสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ พ.ศ.2535” ซ่ึงได้มีการปรับปรุงอานาจหน้าท่ีของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ เหมาะสมยิ่งข้ึน พร้อมทั้งยกเลิกสานักงานคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ โดยให้ก่อต้ังหน่วยงาน ใหม่ 3 หน่วยงาน เพื่อทาหน้าท่ีสนับสนุนคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติคือ สานักงานนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม (อานาจ วงศ์บัณฑิต ,2545 : 45) 7.6.2 กฎหมายสิง่ แวดลอ้ มท่สี าคญั ในปัจจบุ ัน กฎหมายสง่ิ แวดล้อมทสี่ าคัญในปัจจุบันมรี ายละเอยี ดดังน้ี 1) กฎหมายส่ิงแวดล้อมท่ีเป็นความผิดทางอาญา หรือที่เรียกว่า “Environmental Crime” แยกฐานความผิดได้ 3 ประการ ได้แก่ ความผิดเน่ืองจากการก่อให้เกิด มลพิษ ความผิดฐานละเว้นไม่ปฏิบัติตามมาตรการเก่ียวกับส่ิงแวดล้อม และความผิดฐานกระทาผิด เง่ือนไขที่เจ้าพนักงานอนุญาตหรือคาเตือนที่เจ้าพนักงานแจ้งให้ทราบ การกระทาท่ีจะเป็นความผิด อาญาตามกฎหมายอาญาสง่ิ แวดล้อมนี้ เป็นความผดิ ท่ไี ม่ต้องการเจตนาเปน็ องคป์ ระกอบความผดิ

281 2) กฎหมายส่ิงแวดล้อมท่ีเป็นความรับผิดทางแพ่ง กฎหมายท่ีกล่าวถึง ความรับผิดทางแพ่งที่เกี่ยวกับส่ิงแวดล้อมน้ัน ได้แก่ ความรับผิดทางแพ่งตามพระราชบัญญัติซ่ึงเป็น กฎหมายเฉพาะ บทบัญญัติท่ีสาคัญ ได้แก่ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม แห่งชาติ พ.ศ.2535 บัญญัติไว้ในมาตรา 96 และมาตรา 97 ซึ่งให้ผู้ที่เป็นต้นเหตุแห่งความเสียหาย ที่ เกิดขึน้ แกส่ ิ่งแวดล้อมและหรือทรัพยากรธรรมชาติ เป็นผู้จ่ายค่าเสียหายท้ังหมด ทั้งนี้เป็นไปตามหลัก “ผกู้ ่อมลพิษเปน็ ผ้จู ่าย” (The Polluter Pays Principle) โดยผู้ก่อให้เกิดมลพิษจะต้องรับผิดชอบ ในค่าใช้จ่ายที่เก่ียวข้องกับการบริหารจัดการระบบการกาจัดมลพิษ เช่น ค่าบาบัดน้าเสีย ค่าเก็บขยะ นอกจากนี้จะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหาย ท่ีเป็นผลมาจากมลพิษท่ีตนเองก่อให้เกิดด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายในการทาความสะอาด และกาจัดน้ามันที่รั่วไหลจากโรงงานของตน (ภัทรศักดิ์ วรรณแสง, 2556) ปัจจุบันประเทศไทยมีการตราพระราชบัญญัติขึ้นใหม่เพ่ือใช้เป็นกฎหมาย ที่ จะเอื้ออานวยต่อการควบคุมและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพย่ิงข้ึน คือ พระราชบัญญัติ ส่งเสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ซึ่งพระราชบัญญัติฯ ฉบับน้ี ได้มีผลทาให้ เกิดมาตรการการดาเนินงานต่างๆ อาทิเช่น การปรับองค์กรให้มีเอกภาพท้ังในการกาหนดนโยบาย และแผนการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม การควบคุมมลพิษ การกระจายอานาจการบริหาร และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมออกสู่จังหวัดและท้องถิ่น การกาหนดมาตรฐานคุณภาพส่ิงแวดล้อม และมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิด การพิจารณาและติดตามตรวจสอบผลกระทบ สิ่งแวดล้อมทั้งก่อนและหลังโครงการพัฒนา การกาหนดสิทธิและหน้าท่ีตามกฎหมายของประชาชน และเอกชนท่ีจะมีส่วนร่วมในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การนา มาตรการด้านการเงินการคลังมาใช้เป็นมาตรการ เสริมเพ่ือให้เป็นแรงจูงใจ และมาตรการบังคับให้ ส่วนราชการท้องถ่ิน องค์กรเอกชน และภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม ภายใต้หลักการ \"ผู้ก่อให้เกิดมลพิษ ต้องมีหน้าท่ีเสียค่าใช้จ่าย\" การกาหนดหรือจาแนกพื้นที่ในการ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเร่งด่วน เพ่ือการคุ้มครองอนุรักษ์และควบคุมทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม รวมท้ังมีการกาหนดความรับผิดชอบทางแพ่ง การต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือสินไหม ทดแทนกรณีทาให้เกดิ การแพร่กระจายมลพิษและการเพิ่มบทลงโทษ ในการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทีก่ าหนดขนึ้ ด้วยท้งั ในรปู ของการปรบั และการระวางโทษจาคุก เป็นตน้ นอกจากนี้แล้วยังมีกฎหมายฉบับอ่ืนๆ ซึ่งมีบทบัญญัติบางมาตรา ที่มีส่วน เกี่ยวข้องกับการจัดการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมอีกหลายฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติ โรงงาน 2535 พระราชบัญญัติสาธารณสุข 2535 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย 2535 พระราช บัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เป็นต้น รวมทั้งยังมี

282 ประกาศกระทรวง กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับที่เก่ียวข้องกับสิ่งแวดล้อม โดยอาศัยความตาม มาตราในพระราชบญั ญตั ิต่างๆ ขา้ งตน้ อีกด้วย (จักรพนั ธ์ จนั ทร์เที่ยง, 2556) 7.7 องค์กรทางด้านสิ่งแวดลอ้ มในประเทศไทย องค์กรหรือหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยมีท้ังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนดงั รายละเอยี ด ดังนี้ 7.7.1 องค์กรภาครฐั บาล (Governmental organization) มีหลายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับ กระทรวง ทบวง กรม โดยมี กระทรวงหลักท่ีมีหน้าท่ีในด้านส่ิงแวดล้อมโดยตรงคือ “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (Ministry of Natural Resources and Environment)” ถือเป็นหน่วยงาน ราชการไทยประเภทกระทรวง มีอานาจหน้าท่ีเกี่ยวกับการสงวน อนุรักษ์ และฟ้ืนฟู ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และ ดูแลหน่วยงานราชการอื่น ตามที่มี กฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าท่ีของกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม หรือส่วนราชการท่ีสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ ม ซง่ึ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม จัดตั้งข้ึนเม่ือวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 (พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545, 2555) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ หน่วยงานระดับกรม รัฐวสิ าหกิจ และยังมอี งคก์ ารมหาชนอีกด้วย 1) หน่วยงานระดับกรมทางด้านส่ิงแวดล้อม ได้แก่ สานักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม สานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กรม ป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้า กรมทรัพยากรน้า บาดาล 2) รัฐวิสาหกจิ ไดแ้ ก่ องคก์ ารจดั การน้าเสีย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ องค์การ สวนสตั ว์ องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร์ 3) องค์การมหาชน มีหลายองค์การ ได้แก่ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือน กระจก (องคก์ ารมหาชน) และสานกั งานพฒั นาเศรษฐกจิ จากรากฐานชีวภาพ (องค์กรมหาชน) 7.7.2 องคก์ รภาคเอกชน (Non-Governmental Organisation : NGOs) องค์กรเอกชนหรือท่ีเรียกว่า \"NGOs\" คือรูปแบบหน่ึงของการรวมกลุ่มของ ประชาชน เป็นองค์กรที่มิได้ก่อตั้งขึ้นมาเพ่ือทาหน้าท่ีเป็นองค์กรหรือกลไกการดาเนินงานของรัฐ แต่

283 ดาเนินกิจกรรมต่างๆ ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นเร่ืองเก่ียวกับความเป็นอยู่ของประชาชนและการพัฒนาสังคม การรวมตวั กนั เช่นนเี้ ป็นสทิ ธเิ สรีภาพตามรฐั ธรรมนูญของประชาชนท่จี ะกระทาได้ อง ค์กร เ อกช น ด้ า น ส่ิ ง แ ว ด ล้ อมได้ เ ร่ิ ม เ ข้า มา มีบ ทบ า ท มา กขึ้น ใน กา ร อนุ รั ก ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมตามกระแสของความเปลี่ยนแปลง ซึ่งถูกผลักดันและพัฒนา รูปแบบให้มีการเคลื่อน ไหวในสังคมตลอดมา องค์กรเอกชนเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทางาน เพื่อพฒั นาสังคมและสิ่งแวดลอ้ ม มที งั้ องค์กรอสิ ระต่างๆ ท่เี ป็นนติ บิ คุ คลตามกฎหมายและยังไม่ได้เป็น นิติบุคคล รวมทั้งองค์กรเอกชนต่างประเทศ มีรูปแบบการดาเนินกิจกรรมท่ีแตกต่างกันแล้วแต่ ลกั ษณะการรวมกลุม่ ขององค์กรน้นั ๆ เช่น มลู นธิ ิ สมาคม สถาบนั องค์กร ชมรม เปน็ ตน้ ตัวอย่างองค์กรเอกชนด้านส่ิงแวดล้อม ได้แก่ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มูลนิธิ คุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ มูลนิธิป้องกันควันพิษและ พทิ กั ษส์ ่ิงแวดล้อม มูลนิธโิ ลกสีเขียว มูลนธิ สิ บื นาคะเสถยี ร มูลนิธิเพื่อนช้าง สมาคมต่างๆ เช่น สมาคม ที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อมไทย สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย สมาคมอนุรักษ์นกและ ธรรมชาติแห่งประเทศไทย สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (กรมส่งเสริม คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม, 2556) 7.8 องค์การสิ่งแวดล้อมโลก 7.8.1 โครงการส่ิงแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme หรือ UNEP) มีสานักงานใหญ่อยู่ท่ีกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ก่อตั้งเม่ือปี ค.ศ. 1972 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสารวจและประเมินแนวโน้มท่ีมีผลกระทบต่อสภาพ แวดล้อมในระดับชาติ ระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนเสริมสร้างการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาดผ่านสถาบัน และองคก์ รตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมเพ่ือการพัฒนา ที่ยั่งยืน โดยการส่งเสริมความร่วมมือในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเพ่ือนาไปสู่ความมี สขุ ภาพชวี ติ ท่ดี ี ดว้ ยการไม่ผลักภาระด้านส่ิงแวดล้อมให้อนุชนรุ่นหลังต้องเผชิญเคราะห์กรรมที่เราก่อ เอาไว้ ด้วยความรู้เทา่ ไมถ่ งึ การณ์ หรือต้งั ใจทาลายสภาพแวดล้อมให้เส่ือมโทรมลงไปตามกาลเวลา 7.8.2 องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ กองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wide Fund for Nature : WWF) เป็นองค์การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมระหว่างประเทศ โดยยับยั้งการทาลาย สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติและใช้พลังงานทดแทน ปัจจุบันเน้นการ ทางานในดา้ นป่าไม้ ระบบนเิ วศวิทยาของพ้ืนน้า มหาสมุทรรวมท้ังชายฝ่ังทะเล สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ การ บาบดั สารพษิ ท่ีเกดิ จากสารเคมี องค์กรแห่งนี้เป็นองค์กรอนุรักษ์อิสระใหญ่ท่ีสุดในโลก ท่ีมีผู้สนับสนุน มากกว่า 5 ล้านรายจากท่ัวโลก ดาเนินงานในกว่า 100 ประเทศ และให้การสนับสนุนใน 1,300 โครงการ องคก์ ารกองทนุ สตั ว์ปา่ โลกสากลมีสถานะเป็นมูลนิธิ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลก่อต้ัง

284 เม่ือ 11 กันยายน พ.ศ. 2504 ทเี่ มอื งมอร์เกส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในไทยมีสานักงานต้ังอยู่ที่ซอย พหลโยธิน 5 มีสานักงานสาขา เพ่ือดาเนินการและกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม เชิงปลุก จิตสานึก และใหค้ วามรู้อยหู่ ลายแห่ง 7.8.3 กรีนพีซ (Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGOs) นานาชาติ ที่ ดาเนินกิจกรรมด้านส่ิงแวดล้อมและสันติภาพ ก่อตั้งในประเทศแคนาดาเม่ือ พ.ศ. 2514 ปัจจุบัน กรีนพีซมีสานักงานประจาประเทศและภูมิภาคอยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลก โดยทุกสานักงานจะทางาน ร่วมกับ กรีนพซี สากล (Greenpeace International) ท่ีกรงุ อัมสเตอรด์ มั ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อที่ ใช้ดาเนินการในประเทศไทยคือ “มูลนิธิเพ่ือสันติภาพเขียว” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรีนพีซเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสานักงานอยู่ 3 ประเทศคือ ประเทศไทยซึ่งเป็นสานักงานใหญ่ ประเทศ ฟิลิปปินส์ และประเทศอินโดนีเซีย ประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยท่ีกรีนพีซเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้กาลังดาเนินการรณรงค์ ได้แก่ การรณรงค์ต่อต้านการใช้ถ่านหิน และให้หันมาใช้ พลงั งานสะอาดเพอ่ื ป้องกนั การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศในระดับอันตราย การรณรงค์ต่อต้านการ ใช้พลังงานนิวเคลียร์เพ่ือโลกที่ปลอดภัยสาหรับทุกชีวิตและมีสันติภาพ การรณรงค์ต่อต้านส่ิงมีชีวิต ดัดแปลงพนั ธกุ รรม การสนบั สนุนเกษตรกรรมอินทรยี ์ การสนับสนุนการผลิตท่ีสะอาดและปฏิเสธขยะ อิเล็กทรอนิกส์ หน่วยศึกษาและเฝ้าระวังมลพิษทางน้า การสนับสนุนและร่วมกิจกรรมวันปลอดรถ เปน็ ตน้ 7.9 สง่ิ แวดลอ้ มศกึ ษา (Environmental education) การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มที่เกิดขึ้นนั้น ปัจจุบัน สามารถกระทาได้หลายวิธีท้ังการใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม การออกกฎหมายควบคุม และอีกหลายๆ วิธี แต่วธิ กี ารหนงึ่ ซ่ึงถอื วา่ ช่วยใหก้ ารดาเนินงานแก้ไขและป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมบรรลุเป้าหมายได้ อย่างมีประสิทธิภาพและให้ผลในระยะยาวก็คือ การสร้างจิตสานึกให้เกิดข้ึนในตัวของประชาชนทุก คน โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องโดยตรงกับการใช้ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม วิธีการท่ีจะสร้าง จิตสานึกให้เกิดขึ้นได้วิธีหนึ่งก็คือ การให้การศึกษาซึ่งการให้การศึกษาทางด้านส่ิงแวดล้อมย่อมมี วธิ กี ารทหี่ ลากหลายแตกต่างกันไป สิ่งแวดล้อมศึกษา คือกระบวนการทางการศึกษาที่เน้นพัฒนาคนให้เห็นคุณค่าของ ทรพั ยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ตลอดจนให้เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับส่ิงแวดล้อม อันเป็นพื้นฐานที่นาไปสู่การพัฒนาเจตคติ ความตระหนักและทักษะในการตัดสินใ จเกี่ยวกับ ส่ิงแวดล้อมและเกิดการสร้างจริยธรรมสิ่งแวดล้อมท่ีดี เพ่ือเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและรักษา คุณภาพสงิ่ แวดล้อม (อดศิ ักดิ์ สงิ ห์สโี ว, 2554 : 41)

285 เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของส่ิงแวดล้อมศึกษา คือการพัฒนามนุษย์ให้เกิดการลงมือ กระทาเพื่อส่ิงแวดล้อมท่ีดีขึ้น ท้ังโดยการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาท่ีมีอยู่เดิม และการป้องกันปัญหา ใหม่ท่ีอาจจะเกิดข้ึนในอนาคต โดยการลงมือกระทาน้ันจะต้องเป็นการกระทาที่เกิดข้ึนจากการ ตัดสินใจของผู้กระทาเอง ไม่ใช่การบังคับให้ทาหรือต้องจาใจทา ซ่ึงกระบวนการในการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมของมนุษย์น้นั เป็นเรอื่ งทย่ี ากและตอ้ งใช้ระยะเวลา หลายคร้ังท่ีการจัดส่ิงแวดล้อมศึกษาไม่ประสบความสาเร็จ เนื่องจากการลงมือกระทาที่ เกิดขึ้นน้ันเป็นเพียง “กิจกรรม” ไม่ใช่ “พฤติกรรม” ซ่ึงขั้นตอนหรือกระบวนการในการปรับเปล่ียน พฤติกรรมของมนุษย์ให้ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมน้ัน ผู้ดาเนินการควรเน้นให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ทั้ง 5 ขอ้ ของส่งิ แวดล้อมศกึ ษา คือ ความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก เจตคติ ทักษะ และการมีส่วนรว่ ม 7.9.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องสง่ิ แวดลอ้ มศกึ ษา กระบวนการในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ให้ใส่ใจต่อส่ิงแวดล้อมนั้น ผู้ดาเนนิ การควรเน้นให้ครอบคลมุ วตั ถปุ ระสงคท์ ั้ง 5 ขอ้ ของสงิ่ แวดลอ้ มศึกษา คือ ความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนกั เจตคติ ทักษะ และการมีสว่ นรว่ ม ดงั รายละเอียดดังน้ี 1) ความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับพื้นฐานการทางานของธรรมชาติ รวมทั้งระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับส่ิงแวดล้อม สาเหตุของปัญหาส่ิงแวดล้อม ผลกระทบท่ีเกิดจากการ กระทาของมนุษย์ รวมท้ังแนวทางในการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา 2) ความตระหนัก ถึงปัญหาและผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความรู้สึกรักหวง แหน มีจิตสานึกและเห็นถึงคุณค่าความสาคัญของทรัพยากรธรรมชา ติและสิ่งแวดล้อม 3) เจตคติ และ“ค่านิยม” ท่ีดีต่อสิ่งแวดล้อม ความตั้งใจจริงและมุ่งมั่นท่ีจะปกป้อง รักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมให้คงสภาพที่ดี แก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมท่ีเป็นอยู่และป้องกันปัญหาใหม่ที่ อาจเกิดขึ้นในอนาคต 4) ทกั ษะ ที่ควรใหม้ ีการพัฒนา ไดแ้ ก่ ทักษะการสังเกต การชีบ้ ่งปัญหา การเก็บข้อมูล การตรวจสอบ การวางแผน การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา รวมถงึ ทักษะในการตัดสินใจซ่ึงเป็นทักษะ ที่สาคัญอยา่ งยงิ่ สาหรับสถานการณป์ ญั หาความขัดแยง้ ดา้ นสิ่งแวดล้อมของสงั คมไทยในปัจจบุ ัน 5) การมีส่วนร่วม ท้ังในระดับบุคคลและในระดับสังคมท่ีใหญ่ขึ้น จะช่วยให้มนุษย์มี ประสบการณ์ในการนาความรู้และทักษะท่ีได้รับมาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และ สามารถทางานร่วมกับผอู้ น่ื ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7.9.2 กลุม่ เป้าหมายในการได้รับส่ิงแวดลอ้ มศึกษา หลักการของส่ิงแวดล้อมศึกษาพบว่า เป้าหมายที่แท้จริงของส่ิงแวดล้อมศึกษาคือ การ พัฒนาคุณภาพของประชากรโลก โดยใช้กระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษาซ่ึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ ตลอดชีวิตท่ีเริ่มตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนต่อเน่ืองไปทุกระดับทั้งในและนอกระบบโรงเรียน ดังน้ัน

286 ส่ิงแวดล้อมศกึ ษาทด่ี ี จงึ ไม่ควรจากดั กลุม่ เป้าหมายอยเู่ ฉพาะกล่มุ นกั เรียนในระบบโรงเรียนเท่าน้ัน แต่ ควรจะจดั ให้กบั ประชาชนทุกคน ทกุ เพศ ทกุ วยั ทุกสาขาอาชพี ตามความเหมาะสม จากงานวิจัยของ Jean Piaget นักจิตวิทยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ พบว่าการเรียนรู้ของ คนจะพัฒนาไปตามลาดับขั้น โดยจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ พื้นฐาน ทางเศรษฐกิจ จรยิ ธรรม และความรเู้ ดมิ ซง่ึ Jean Piaget ได้จัดกลมุ่ ของพฒั นาการการเรยี นรไู้ ว้ดังน้ี 1) อายตุ ้งั แต่ 18 เดอื นถึง 7-8 ปี (เด็กเล็ก) สามารถใช้ภาษาในการสื่อสาร ใช้วิธีการลองผิดลองถูก สามารถวาดภาพที่พวก เขาได้เคยสัมผัสมาก่อน รวมท้ังสามารถใช้ส่ิงของเพื่อแทนของอีกสิ่งหนึ่ง เช่น ใช้กิ่งไม้แทนสัตว์แต่ยัง ไมส่ ามารถพฒั นากระบวนการคดิ โดยใช้เหตผุ ลและคิดอยา่ งมหี ลกั เกณฑไ์ ด้ ส่ิงที่ผู้จัดส่ิงแวดล้อมศึกษาควรคานึงถึงคือ ยังไม่ควรใช้กิจกรรมท่ีซับซ้อนเกินไป แต่ควรเน้นกิจกรรมท่ีใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้ส่ิงแวดล้อม ประสบการณ์นอกห้องเรียน และท่ี สาคัญจะต้องเร่ิมใหเ้ ด็กรูถ้ ึงพฤติกรรมท่เี หมาะสมต่อสิง่ แวดลอ้ ม 2) อายุตัง้ แต่ 7-8 ปี ถงึ 11-12 ปี (เริม่ ใช้เหตุผล) เด็กจะเร่ิมรู้จักใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาง่าย ๆ สามารถจัดกลุ่มและแยกประเภท ของตา่ งๆ เขา้ ใจกฎระเบยี บและคาสงั่ แตย่ งั มกั ใช้ข้อเทจ็ จรงิ เปน็ ตวั ตดั สนิ ปญั หา สิ่งท่ีผู้จัดส่ิงแวดล้อมศึกษาควรคานึงถึงคือ เด็กพร้อมท่ีจะรับรู้ข้อมูลเก่ียวกับ สิ่งแวดล้อมมากขึ้น สามารถแยกประเภท เปรียบเทียบ รวบรวม และอธิบายถึงส่ิงท่ีพวกเขาได้ไป สงั เกตมา กิจกรรมทใ่ี ชค้ วรเน้นดา้ นความรู้และเจตคติ โดยเปิดโอกาสให้เด็กรับรู้ถึงปัญหาส่ิงแวดล้อม ท่เี ปน็ อยู่ สามารถใช้กิจกรรมเพื่อพัฒนาทกั ษะการการคิดท่สี ูงขึ้นกว่าเดิมได้ เช่น การสารวจหาเหตุผล การชี้ตัวผู้กระทาผิด รวมทั้งสามารถใช้กิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้เด็กได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถานการณส์ งิ่ แวดลอ้ มและผลกระทบที่ตามมาจากปัญหาส่ิงแวดล้อม 3) อายุตั้งแต่ 11-12 ปี ถึง 14-15 ปี (ใชค้ วามคิดในแง่นามธรรม) เดก็ จะเรมิ่ คิดในแง่นามธรรม สามารถต้ังสมมติฐานและใช้เหตุผลในการสรุป เริ่ม มีกระบวนการคิดแบบผู้ใหญ่ ดังนั้นหากเขาได้รับการสอนหรือการชักจูงที่ดีก็จะสามารถวิเคราะห์ เหตุการณแ์ ละความน่าจะเป็น ความสัมพนั ธ์ การใชเ้ หตผุ ล และทกั ษะการคิดอ่ืนๆ ทสี่ ูงขน้ึ ได้ สิ่งท่ีผู้จัดสิ่งแวดล้อมศึกษาควรคานึงถึงคือ เด็กสามารถเลือกพิจารณาทางเลือก อื่นๆ ได้ สามารถคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ซับซ้อนข้ึน สามารถจินตนาการถึงสิ่งที่น่าจะเป็นได้มากกว่า สภาพการณท์ เ่ี ปน็ อยู่ในปัจจบุ ัน อย่างไรกต็ ามยังควรต้องช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และ คิดเชิงสร้างสรรค์ ควรทาความเข้าใจถึงบทบาทของพวกเขาที่มีผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมทั้งทางบวก และทางลบ เดก็ ในชว่ งอายนุ ย้ี ังชอบตัดสินเองว่าอะไรถูกหรอื ผดิ ดงั นั้นการแสดงละคร การใช้บทบาท

287 สมมติ การจาลองสถานการณ์ การออกแบบสอบถาม การเขียนเชิงสร้างสรรค์ การอภิปราย และ กิจกรรมอ่ืนๆ จะช่วยพฒั นาการเรียนรูข้ องเด็กได้เป็นอย่างดี 4) อายุต้งั แต่ 14-15 ปขี ้ึนไป (การคดิ ในระดับสงู ) เด็กสามารถออกแบบการทดลอง เขียนสมมติฐานท่ีมีตัวแปรหลายตัว และทา กิจกรรมทีต่ ้องใชค้ วามคดิ ทซี่ บั ซ้อนขึ้นได้ ส่ิงที่ผู้จัดส่ิงแวดล้อมศึกษาควรคานึงถึงคือ ยังควรทากิจกรรมท่ีต้องใช้ทักษะการ คดิ วิเคราะหแ์ ละเชงิ สร้างสรรค์ต่อไป ซ่งึ รวมถงึ การแกป้ ญั หา การวิเคราะห์ การเขียนจูงใจ และทักษะ ในระดับสูงอื่นๆ เด็กควรจะได้รับรู้ถึงบทบาทของตนในฐานะประชากรท่ีต้องมีความรับผิดชอบ และ เริ่มสร้างจริยธรรมของตนเองและควรสนับสนุน ให้เด็กได้มีส่วนร่วมและสนับสนุนการประชุมต่างๆ การทาวจิ ัย การเขยี นรายงาน และการวิเคราะหส์ ่อื ต่างๆ 7.9.3 กระบวนการสง่ิ แวดล้อมศกึ ษา การนาเนอ้ื หาสาระเกย่ี วกับส่งิ แวดลอ้ มไปถ่ายทอดให้กบั ผู้คนจะต้องมีวิธีการหรือ ระเบียบปฏิบัติที่เหมาะสมจึงจะทาให้การถ่ายทอดความรู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเป็นไปตาม วัตถุประสงคท์ ่ีตอ้ งการ และระเบียบวิธที ่ีจะนามาใช้น้ีก็ล้วนมีอยู่แล้วในศาสตร์ทางการศึกษาขึ้นอยู่กับ ว่าจะเลือกสรรส่วนใดของศาสตร์ทางการศึกษามาร่วมใช้เท่านั้น เช่น หลักสูตรส่ิงแวดล้อมจะมี ลักษณะเป็นสหวิทยาการ การพัฒนาความคิดท่ีเป็นระบบ คือ มองทุกสิ่งทุกอย่างแบบองค์รวม และ การเรียนรู้ตอ้ งให้ผเู้ รยี นเป็นผู้กระทาหรือผู้เรียนเปน็ ศูนยก์ ลาง ลักษณะกระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษาคือ ส่ิงแวดล้อมศึกษาเป็นการเรียนรู้ ตลอดชวี ติ ต้องสง่ เสรมิ ใหผ้ ้เู รียนคน้ หาข้อมลู ด้วยตนเองไม่ควรเน้นการจาและการท่องจา ส่ิงแวดล้อม ศึกษาเป็นการศึกษาในธรรมชาติ อีกทั้งสิ่งแวดล้อมศึกษาต้องมีเน้ือหาแบบสหวิยาการ สิ่งแวดล้อม ศึกษาตอ้ งให้ผู้เรียนเปน็ ผูส้ รา้ งองค์ความรู้ทักษะและค่านิยมจากประสบการณ์ตรง และต้องเรียนเรื่อง ท่ีเกี่ยวกับชีวิตประจาวัน เป็นการเรียนแบบแก้ปัญหา เป็นการเรียนแบบวิพากย์ ส่ิงแวดล้อมศึกษา ต้องเป็นการเรียนเพ่ือสร้างปัญญา ซึ่งประกอบด้วยศีล สมาธิ ปัญญา และยังเป็นกระบวนการเรียน เพอื่ ดับทุกข์ (อรยิ สจั 4 ทกุ ข์ สมุหทัย นโิ รธ มรรค) โดยสิง่ แวดล้อมศึกษาน้ันเป็นการศึกษาสาหรับทุก คน เป็นการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพ่ือสันติ เพ่ือความเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และเป็น การศึกษาเพอ่ื พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม (วินยั วีระวัฒนานนท์และ อดิศกั ดิ์ สิงหส์ ีโว . 2551 : 50)

288 8. บทสรปุ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัย หลักการความรูค้ วามเขา้ ใจในระดบั สูง และระเอยี ดรอบคอบ ตอ้ งอาศยั ความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้ง หน่วยงานภาครฐั รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กลุ่มคนทุกหมู่เหล่า ในบทน้ีเราจึงจาเป็นต้องเรียนรู้เพ่ือให้ เกิดความรู้และความเข้าใจพ้ืนฐานของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง เพื่อท่ีจะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้เบ้ืองต้นเพื่อจะนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันในการช่วยเป็นส่วน หนง่ึ ในการจัดการและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ เพราะการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมิได้ เป็นหน้าท่ีของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกๆ คนท่ีต้องช่วยกัน เพ่ือท่ี เราจะได้มี ทรัพยากรธรรมชาตไิ ว้ใช้ไดต้ ราบนานเท่านาน และอยู่ในส่ิงแวดล้อมทด่ี ตี ลอดไป

289 คาถามท้ายบท 1. การจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมหมายถึงอะไร 2. สาเหตทุ ตี่ ้องมีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมคืออะไร 3. จงสรุปแนวความคดิ และกลยทุ ธใ์ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 4. การอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มโดยทางตรงมีอะไรบา้ ง จงยกตัวอยา่ งประกอบ 5. จงยกตวั อย่างการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทางอ้อมมา 5 ขอ้ 6. นักศึกษามีพฤติกรรมใดบ้างในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมโดยทางตรงและ ทางออ้ มตอบมาอย่างนอ้ ย 5 ข้อ 7. การพฒั นาอยา่ งย่งั ยนื คืออะไร และต้องพัฒนาดา้ นใดบา้ งควบคูก่ นั ไป 8. เศรษฐกจิ พอเพียงเกย่ี วข้องในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมเพื่อการใช้ประโยชน์ อย่างย่ังยืนอย่างไร 9. กฎหมายสงิ่ แวดลอ้ มจะมสี ่วนชว่ ยในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมเพื่อการใช้ ประโยชน์อยา่ งยั่งยืนอยา่ งไร 10. เกษตรทฤษฎใี หม่คืออะไร 11. มาตรฐานการจัดการสิ่งแวดลอ้ ม ISO14000 คืออะไร 12. ประโยชนข์ องระบบการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มตามมาตรฐาน ISO 14000 ต่อสิง่ แวดล้อมมอี ะไรบ้าง 13. ฉลากสงิ่ แวดลอ้ มของไทยประเภทที่ 1 หมายถึงอะไร จงยกตวั อยา่ งฉลากสง่ิ แวดล้อมประเภทน้ี 14. ประเทศไทยใชร้ ะบบการวิเคราะหผ์ ลกระทบสิ่งแวดลอ้ มกหี่ มวด ประกอบด้วยอะไรบา้ ง 15. จงยกตัวอย่างองค์กรทางด้านส่ิงแวดล้อมภาครัฐบาลและเอกชนมาอย่างละ 5 องค์กร หรือ หนว่ ยงาน 16. สิ่งแวดล้อมศึกษามีส่วนช่วยในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเพื่อการใช้ ประโยชน์อย่างยั่งยนื อย่างไร 17. จงออกแบบแผนผัง (Mind map) เรื่องแนวทางท่ีเก่ียวข้องในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มเพือ่ การใช้ประโยชนอ์ ยา่ งย่ังยืน และอธบิ ายมาพอสังเขป 18. จงยกตัวอย่างแนวทางที่เก่ียวข้องในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเพื่อการใช้ ประโยชน์อยา่ งยง่ั ยืน 19. จงเสนอแนะแนวทางหรือวิธีการทีเ่ กีย่ วขอ้ งในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเพ่ือ การใชป้ ระโยชน์อยา่ งยง่ั ยืนทนี่ กั ศึกษาจะนาไปปฏบิ ตั ิได้ในชวี ิตประจาวัน

290 เอกสารอ้างอิง กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม. (2556). องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม. [Online]. Available : http://www.deqp.go.th/index.php?option=com_content&view= section&id=15 [วันที่คน้ ข้อมลู 15 มีนาคม 2556]. กาญจนา ไฝเพ็ชร. (2555). สินค้าฉลากเขียว. [Online]. Available : http://www.reo3.go.th/ newversion/images/stories/article56/56_3004.pdf [วันที่ค้นข้อมูล 15 ธันวาคม 2555]. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใน สารานุกรมไทยสาหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 19. (2555). [Online]. Available : http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book. php?book=19&chap=1&page=t19-1-infodetail02.html [วันที่ค้นข้อมูล 15 มีนาคม 2555]. การผลิตท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : การผลิตสีเขียว ใน Environment. (2555). [Online]. Available : http: //www.environnet.in.th/?p=3497 [วันที่ค้นข้อมูล 15 มีนาคม 2555]. เกษม จนั ทรแ์ ก้ว. (2547). วทิ ยาศาสตรส์ ง่ิ แวดล้อม. กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. จกั รพนั ธ์ จนั ทร์เที่ยง. (2556). กฎหมายส่ิงแวดล้อมกบั ภาวะโลกร้อน. [Online]. Available : http://www.learners.in.th/blogs/posts/ 257768 [วนั ที่ค้นข้อมูล 15 มนี าคม 2556]. พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545. (2555). ราชกิจจานุเบกษา. [Online]. Available : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00102282.PDF [วันท่ีค้น ข้อมลู 15 ธนั วาคม 2555]. ภัทรศักด์ิ วรรณแสง. (2556). กฎหมายสิ่งแวดล้อม. [Online]. Available : http://www.dlo.co. th/node/252 [วนั ทค่ี ้นขอ้ มูล 15 มีนาคม 2556]. มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอตุ รดดิ ต์. (2554). การพฒั นาท่ียง่ั ยืนและจริยธรรมส่งิ แวดลอ้ ม. [Online]. Available : http://human.uru.ac.th/Major_online/ManWeb/Text/Envi-6.pdf [วันทค่ี น้ ขอ้ มลู 15 กันยายน 2554]. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2555). ทฤษกีใหม่ : แนวทางการจัดการที่ดินและน้าเพื่อการใช้ ประโยชน์อย่างยั่งยืน. [Online]. Available : https://web.ku.ac.th/king72/2542- 09/res05_02.html [วนั ท่ีคน้ ข้อมูล 15 มีนาคม 2555].

291 รุ้งเพชร แข็งแรง. (2555). การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบย่ังยืน. [Online]. Available : http : //science.psru.ac.th/teaching/data/envi/ GEES142_5.pdf [วันท่ี ค้นขอ้ มลู 15 มีนาคม 2555]. วนิ ัย วีระวฒั นานนท์และ อดิศกั ดิ์ สงิ หส์ ีโว. (2551). การพัฒนาโรงเรียนสิง่ แวดลอ้ มศกึ ษาต้นแบบ. รายงานการวจิ ัย คณะส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. ศศินา ภารา. (2550). ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม. กรุงเทพฯ : เอก็ ซเปอร์เนท็ . สานักงานเลขานุการโครงการฉลากเขียว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย. (2556). ฉลากเขียว. [Online]. Available : http://www.tei.or.th/greenlabel/th_index.html [วันที่ค้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. สานักวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อม. (2556). การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม. [Online]. Available : http://www.onep.go.th/ eia/images/3law/35type.PDF [วันที่ค้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน). (2556). คาร์บอนฟุตพร้ินท์. [Online]. Available : http://thaicarbonlabel.tgo.or.th/carbon footprint/index.php?page=3 [วันท่ีคน้ ข้อมูล 15 มนี าคม 2556]. ___________. (2556). ฉลากลดคาร์บอน. [Online]. Available : http://www.tei.or.th/ carbonreductionlabel/ about.html [วันทคี่ น้ ขอ้ มลู 15 มนี าคม 2556]. อดิศักด์ิ สิงห์สีโว. (2554). พ้ืนฐานสิง่ แวดลอ้ มศกึ ษา. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. อานาจ วงศ์บณั ฑิต. (2545). กฎหมายสง่ิ แวดล้อม. กรุงเทพฯ : วญิ ญูชน. อุรศา ศรีบุญลือ. (พ.ย.-ธ.ค. 2544). ฉลากส่ิงแวดล้อมทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมสาหรับผู้บริโภค. โปรดกั ทิวิต้ี เวิลด์ (Productivity World), 6(35), 59-63.

313 ภาคผนวก

314

315 ใบงานสารวจสงิ่ แวดล้อมภายในมหาวิทยาลยั สงิ่ แวดล้อมทเ่ี กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมท่มี นุษยส์ ร้างขน้ึ มีชวี ิต ไม่มีชีวิต รูปธรรม นามธรรม (ชีวภาพ) (กายภาพ) ตารางบนั ทึกสะสมความดีทางดา้ นส่งิ แวดล้อม ลาดับ วัน/เดอื น/ปี เวลา กิจกรรม/พฤติกรรม ที่

316 ใบงานเร่ืองความสัมพันธ์ระหวา่ งมนุษยก์ ับสง่ิ แวดลอ้ ม 1. ให้นักศึกษาอ่านข้อมูลข้างล่างตามหัวข้อท่ีกาหนดให้ แล้วกรอกข้อมูลท่ีได้จาการวิเคราะห์ลงใน ชอ่ งว่าง เรอ่ื ง บ้านสวนคุณยาย บ้านสวนของคุณยายมีสภาพแวดล้อมท่ีดี บรรยากาศร่มรื่น มีสระนาขนาดใหญ่อยู่กลางสวน ในสระนามีดอกบัว มีปลา และสัตว์นาอน่ื ๆ มีเรือ 2 ลาไว้สาหรับพายเล่นและเก็บดอกบัวมาบูชาพระ ลมพัดเยน็ สบาย หอมกรนุ่ ไปด้วยดอกไมน้ านาชนดิ ไม้ยืนตน้ ไม้ผล และบนต้นไม้แทบทุกต้นมีนกและ สัตว์ต่างๆ บ้างก็ส่งเสียงร้องจิ๊บ จ๊ิบ น่าฟังยิ่งนัก แมลงบางชนิดที่น้อง (ช่ือเล่น)............................ไม่ เคยอา่ นพบในหอ้ งสมุดกไ็ ด้รู้จกั ท่ีสวนของคุณยาย น้อง...................ยังเอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายรูปบ้าน สวนคุณยายเก็บไว้ดูอกี ด้วย นอ้ ง........................เหน็ คณุ ยายเดนิ ไปหยิบไม้ไผ่ที่ใชส้ วยมะม่วงซงึ่ วางพิง ตน้ ของมัน พลางพดู ว่าความเป็นอยูข่ องยายขนึ กบั ทุกอย่างทีอ่ ย่ใู นสวนน่ีแหละ่ สงิ่ แวดล้อมในบา้ นสวนของคณุ ยาย สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ สิง่ แวดล้อมท่มี นษุ ย์สรา้ งขนึ้ ชวี ภาพ (มีชีวิต)

317 2. จากข้อมูลบ้านสวนคุณยายในข้อท่ี 1 อยากทราบว่าคุณยาย (มนุษย์) ได้สร้างสรรค์ส่ิงท่ีดีให้กับ สิ่งแวดล้อมในสวนอยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 3. ปจั จัยสาคญั ทีม่ นษุ ย์เลือกตงั ถ่นิ ฐานและเลือกทอี่ ยู่อาศัยคืออะไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 4. การประกอบอาชพี ในชมุ ชนมคี วามสัมพันธก์ ับทรัพยากรธรรมชาตอิ ย่างไร ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 5. สิง่ แวดล้อมมีผลตอ่ การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณอี ย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................................................................ ........ .......................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................

318 6. จงบอกวิธกี ารปฏิบตั ติ นเพื่อรักษาสิง่ แวดล้อมนามธรรม (ทางสังคม) ....................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................................. .............. .................................................................................................................... ............................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 7. ให้นักศึกษาวิเคราะห์และยกตัวอย่างอิทธิพลของส่ิงแวดล้อมที่มีต่อส่ิงมีชีวิตและมนุษย์ในท้องถิ่น หรอื จังหวัดของนกั ศึกษา พรอ้ มอธบิ าย 1) ตวั อยา่ ง หนองประจักษ์ มอี ทิ ธิพลคือ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 2)...................................................................................มีอิทธิพลคอื ...................................................... ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... 3) ...................................................................................มอี ิทธพิ ลคือ.................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 4) ...................................................................................มอี ิทธิพลคือ.................................................... ............................................................................................................ .................................................... ............................................................................................................................. ................................... 8. ใหน้ กั ศึกษาวิเคราะหแ์ ละยกตวั อยา่ งอิทธิพลของมนษุ ย์ท่ีมตี ่อสง่ิ แวดล้อมในท้องถน่ิ หรือจงั หวัดของ นักศกึ ษา มา 3 ขอ้ พร้อมอธบิ าย 1) ............................................................................................................................. .............................. ......................................................................................................................................... ....................... ........................................................................................................... .....................................................

319 2) ............................................................................................................................. .............................. ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 3) ............................................................................................................................. .............................. ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 9. ในสภาพแวดลอ้ มที่มอี ากาศแห้งแลง้ ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล จนประสบปญั หาภยั แล้ง มนุษยท์ ี่ อยใู่ นบรเิ วณนันจะมีการปรบั ตวั ในเร่ืองใดบา้ ง จงอธบิ าย (ตามแนวคิดและพืนฐานความร้ขู องตนเอง มา 2 ข้อ) 1) ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................... ...................... 2) ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................

320 กิจกรรมระบบนเิ วศ คาช้ีแจง แบ่งกลมุ่ นักศึกษาให้ไปศึกษาระบบนเิ วศภายในมหาวทิ ยาลยั โดยให้แตล่ ะกลุ่มกาหนดจดุ ที่ ศกึ ษาเอง เชน่ ระบบนเิ วศสนามหญ้า ระบบนิเวศสระนา เปน็ ต้น แลว้ ศึกษาในประเด็นต่อไปนี  ลักษณะท่ัวไปของระบบนิเวศทีไ่ ปศึกษา พรอ้ มถา่ ยรูปประกอบ  องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศทศ่ี กึ ษา  ปัจจัยต่างๆ ความสัมพนั ธข์ องส่ิงต่างๆ ในระบบนิเวศท่ศี ึกษา  เขยี นหว่ งโซ่อาหารและวาดภาพสายใยอาหารในระบบนเิ วศท่ีศึกษา  สรปุ ขอ้ คดิ เหน็ ข้อเสนอแนะจากการศึกษาระบบนิเวศในครงั นี แล้วนามาอภิปรายในชนั เรยี นแลกเปลยี่ นความรกู้ ัน ระบบนเิ วศทีศ่ กึ ษา.................................................................................. รายชื่อสมาชิกกลุ่ม 1.............................................................................................................................. ................................ 2. .............................................................................................................................. ............................. 3. ........................................................................................................................................................... 4. .............................................................................................................................. ............................. 5. ...................................................................................................................................................... ..... 6. ...........................................................................................................................................................

321 1. ลักษณะทั่วไปของระบบนเิ วศท่ีศึกษา ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. องค์ประกอบของระบบนิเวศที่ศกึ ษา 2.1 องค์ประกอบที่มีชีวติ ประกอบด้วย 1) ผผู้ ลติ ได้แก.่ ............................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2) ผ้บู รโิ ภค ประกอบด้วย  สัตวก์ นิ พชื ได้แก่ .......................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................  สตั วก์ นิ สัตว์ ได้แก่ ........................................................................................ ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................  สตั วก์ ินทั้งพืชท้ังสัตว์ ได้แก่ .......................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................

322  สตั วท์ ก่ี ินซากพืชและซากสัตว์ ได้แก่ ............................................................. ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3) ผ้ยู อ่ ยสลาย ไดแ้ ก่ ...................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2.2 องค์ประกอบทีไ่ มม่ ีชีวิต ไดแ้ ก่ ................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. ปัจจัยทางกายภาพในระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศที่ศึกษา (ภาวะความสัมพนั ธ์ตา่ งๆ) ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................

323 4. วาดภาพสายในอาหารของระบบนิเวศท่ศี กึ ษา 5. เขยี นห่วงโซ่อาหาร 1. 2. 3. 4. 5. 6.

324 5. สรุป ข้อคดิ เห็น ข้อเสนอแนะจากการศึกษาระบบนเิ วศในคร้งั น้ี ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................

325 ใบงานการชมวีดีทศั น์ เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ 1. เหตผุ ลที่ตอ้ งเรียนร้เู รอื่ งความหลากหลายทางชีวภาพคอื ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. ประเทศไทยจัดอยู่ในเขต...........................................................................เป็นแหล่งรวมส่ิงมีชีวิต มากกว่ารอ้ ยละ..................................................บนพืนโลก 3. ความหลากหลายทางชวี ภาพคือ ........................................................................................................................ ........................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ สงิ่ มชี ีวติ ทมี่ ีมากทีส่ ุดคือ.........................................................มีจานวน................................................... 4. ระดับความหลากหลายทางชวี ภาพแบง่ ออกเปน็ ......................ระดบั ได้แก่ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 5. ยกตวั อยา่ งความหลากหลายทางพันธุกรรม ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 6. ความหลากหลากหลายทาง…………………………………..แบ่งแยกส่ิงมีชีวิตออกเป็นประเภทต่างๆ ประเทศไทยมพี ืชประมาณ...................................................ชนิดคิดเป็นร้อยละ......................... ของ พันธุ์พืชท่ัวโลก, มีสัตว์มีกระดูกสันหลัง..................................ชนิดคิดเป็นร้อยละ.....................ของ สัตว์มีกระดูกสันหลังทั่วโลก, สัตว์เลียงลูกด้วยนม..................................ชนิด, สัตว์เลือยคลาน ..................................ชนิด, สัตว์ครง่ึ บกครึง่ นา..................................ชนิด

326 7. จงยกตวั อยา่ งสิ่งมชี วี ติ ที่อยู่ในระบบนิเวศท่ีมคี วามหลากหลาย ............................................................................................................................. ................................... ..................................................................................................................................................... ........... ....................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ................................... 8. มนุษย์ไดร้ บั ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพเร่ืองใดบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 9. ทกุ วันนีทว่ั โลกและประเทศไทยใหค้ วามสาคัญกบั ความหลากหลายทางชีวภาพมากขึนโดยเฉพาะ เรือ่ ง ......................................................1 ใน 4 ของยาแผนปจั จุบนั พัฒนามาจาก ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... การวจิ ัยทางการแพทยม์ งุ่ ไปท่ี................................................................................................................. 10. ความหลากหลายทางชีวภาพมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไรต่อเกษตรกร ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 11. ในการลดความเส่ียงต่อโรคและแมลงเกษตรกรใชว้ ิธี ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 12. สถานการณ์ความหลากหลายทางชีวภาพของไทยเปน็ อย่างไร ........................................................................................................ ........................................................ ............................................................................................................................. ................................... 13. ความหลากหลายทางชีวภาพในดนิ ของไทยเป็นอย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ...................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................... 14. แนวทางในการอนุรักษค์ วามหลากหลายทางชีวภาพคอื ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................

327 ใบงานการชมวีดที ัศนเ์ ร่ืองทรพั ยากรธรรมชาติ ทรัพยากรป่าไม้ 1. ปา่ ในประเทศไทยเป็นที่รวมของปา่ ก่ปี ระเภท ได้แก่อะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. ปา่ ไมผ่ ลัดใบเป็นอยา่ งไร มีป่าอะไรบ้าง ............................................................................................................................................................... . ............................................................................................................................. ................................... 3. ป่าผลัดใบเป็นอย่างไร มปี ่าอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 4. ปา่ เบญจพรรณประกอบด้วยพนั ธุ์ไมเ้ ดน่ ก่ชี นิด ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง .............................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. ................................... 5. พนื ท่ปี า่ ไมป้ ี 2538 เหลืออยูก่ ่เี ปอรเ์ ซน็ ต์ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 6. จงบอกสาเหตุท่ปี ่าไม้ถกู ทาลาย ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 7. จงบอกประโยชน์ของปา่ ไม้ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 8. จงบอกวธิ กี ารอนุรักษ์ป่าไม้ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................

328 ทรพั ยากรสัตว์ป่า 1. บอกสาเหตทุ ่ีทาให้สัตวป์ า่ สญู พนั ธุ์ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 2. การนยิ มรับประทานอาหารแปลกส่งผลอยา่ งไรตอ่ จานวนสตั ว์ปา่ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 3. คนลา่ สัตวป์ า่ เพือ่ นามาทาอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 4. สตั วป์ ่าสงวนเป็นสตั วป์ า่ ทเ่ี สย่ี งที่จะสญู พันธุไ์ ปมีกีช่ นิด มีอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ..................................................................................................................................................... ........... ....................................................................................................................... ......................................... 5. คากลา่ วนถี ูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด จงอธิบาย “สมันเป็นสัตว์ท่ีสูญพันธ์ุไปแล้ว เป็นสัตว์ท่ีถือว่า มีเขาสวยงามท่สี ดุ พบเฉพาะในเพศเมยี พบไดท้ ่ีประเทศไทย พมา่ เขมร เท่านนั ” ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 6. จงบอกลกั ษณะของกูปรีและสถานท่ีพบ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 7. กฎหมายภายในประเทศที่คมุ้ ครองสตั วป์ ่าคือกฎหมายใด ......................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................. ................................... 8. ยกตัวอยา่ งสตั ว์ปา่ ชนิดเลก็ ๆทเี่ ส่ยี งตอ่ การสญู พันธุ์ ในประเทศไทย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................

329 ทรพั ยากรนา้ 1. คนเรามีนาในปริมาณเท่าใดในร่างกายเม่ือเทียบกับนาหนักตัว และบริโภคนาอย่างน้อยในปริมาณ เทา่ ใดตอ่ วัน ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. จงบอกประโยชนข์ องนา ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................... ................................. 3. แหล่งกาเนิดแม่นาลาธารมาจากท่ีใด ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 4. แม่นาท่ีถือว่าเป็นสายเลือดสาคัญของคนไทยคือแม่นาใด และเกิดจากการรวมตัวของแม่นาสาย ใดบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ......................................................................................... ....................................................................... 5. สถานการณ์เกี่ยวกับทรัพยากรนาของประเทศไทยเปน็ อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 6. การทรดุ ตัวลงของพืนดนิ ในเขตกรงุ เทพ และปรมิ ณฑลมีสาเหตุมาจากอะไร .......................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ..................................................................................................................................................... ........... 7. จงบอกวิธีการในการจดั การทรัพยากรนาเพื่อใหม้ นี าไวใ้ ชอ้ ย่างเพยี งพอและย่ังยนื ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ...................................

330 ทรพั ยากรดนิ 1. ดินเกดิ ขึนได้อยา่ งไร ............................................................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. จงบอกประโยชนข์ องดิน ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 3. กิจกรรมใดบ้างท่ีก่อให้เกิดปญั หากับดิน ...................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ........................................ ............................................................................................................................. ................................... 4. ปญั หาความเสื่อมโทรมของดนิ ทดี่ รู นุ แรงทีส่ ดุ คอื อะไร มีสาเหตุมาจากอะไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 5. ผลกระทบจากปัญหาดนิ ต่อมนุษย์มอี ะไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 6. จงบอกวธิ ีการอนรุ ักษด์ ิน ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ทรัพยากรแรธ่ าตุ 1. จงบอกประโยชนข์ องแร่ธาตทุ ี่เรานามาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ............................................................................................................................. ................................... ..................................................................................................................................................... ........... ....................................................................................................................... .........................................

331 2. จงเรียงลาดับแรธ่ าตทุ ขี่ ุดพบในเมอื งไทยตามลาดับความสาคัญ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................... ...................................................................... 3. แรท่ ีถ่ ูกนามาทาอัญมณี มีอะไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 4. แรท่ ่ีนามาทาพลังงานมีอะไรบ้าง ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 5. การทาเหมือง มกี ีป่ ระเภทอะไรบ้าง ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 6. วัสดุที่ถูกนากลับมาใช้ใหม่ (จากวีดที ศั น์) มีอะไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................. ................... ............................................................................................................... ................................................. 8. แร่ธาตทุ ี่ก่อใหเ้ กิดปญั หาต่อสง่ิ แวดลอ้ มและสุขภาพมีอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 9. เกลอื สนิ เธาว์ผลิตมาจากอะไรตังแตอ่ ดีตถึงปัจจบุ ัน และก่อให้เกิดปญั หาอะไรตามมา ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................ .................................................................... 10. แหล่งผลิตหินที่มีความเก่ียวข้องกับการก่อสร้างแหล่งใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทยอยู่ท่ีจังหวัดใด และก่อปัญหาอะไรตอ่ ผู้คนที่อยู่อาศยั บรเิ วณแถบนัน ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 11. หากใช้ทรพั ยากรแร่อย่างไมม่ ีประสิทธภิ าพจะสง่ ผลอย่างไร ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................. ..................

332 ใบงานสารวจปัญหามลพิษสิ่งแวดลอ้ มภายในมหาวิทยาลัย คาช้ีแจง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5 – 6 คน แล้วสารวจปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย ตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ ให้ถา่ ยภาพประกอบการศกึ ษา ทาเปน็ รายงานและนาเสนอหน้าชันเรยี น หวั ข้อมลพษิ สิ่งแวดล้อม 1. มลพิษทางขยะมลู ฝอย 2. มลพษิ ทางนา 3. มลพิษทางอาหาร 4. มลพษิ อน่ื ๆ หวั ข้อในรายงาน 1. ปัญหาและสถานการณ์ 2. สาเหตกุ ารเกดิ มลพษิ 3. ผลกระทบการเกิดมลพิษ 4. เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขปัญหามลพษิ หมายเหตุ - ให้ถา่ ยภาพประกอบการศึกษาประกอบการทารายงานดว้ ย - รายงานไมต่ ่ากว่า 30 หนา้ กระดาษ A4 - การนาเสนอให้แต่ละกลุม่ ใชเ้ วลาไมเ่ กิน 15 นาที และตอบข้อซกั ถามประมาณ 10 นาที

333 ใบงานการชมวีดที ศั น์ เร่ืองการสะสมสารมลพษิ สิง่ แวดล้อม 1. มลพษิ ทางนามสี าเหตุ/แหลง่ กาเนิดเกิดขนึ จาก ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. สถานการณ์มลพิษทางนามี..........................เรอ่ื งหลักได้แก่ ................................................................................................................................ ................................ .................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... 3. พนื ท่ที เ่ี กิดมลพิษทางนาที่นา่ เปน็ ห่วงคอื .................................................................................. .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................. ................... 4. มลพษิ ทางอากาศพนื ท่ีทนี่ ่าเป็นหว่ งคือ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................. .............................. 5. สถานการณ์มลพิษทางขยะมลู ฝอยเป็นอย่างไร ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ......................................................................................... ....................................................................... 6. ของเสยี อันตรายเกดิ ขนึ ประมาณ...................ตัน/ปี มาจากภาคอุตสาหกรรมคิดเป็น..................% ท่เี หลือมาจาก......................................................................................................................................... 7. กรมควบคุมมลพษิ ไดต้ รวจสอบคุณภาพนาปี 2544 พบว่าแหล่งนาในภาค..............................เป็น บรเิ วณที่เสื่อมโทรมมากท่สี ดุ โดยเฉพาะแมน่ า........................................................................................

334 8. การสะสมสารมลพิษในนาสามารถแพรก่ ระจายและสะสมในส่งิ แวดล้อมได้อย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 9. มลพษิ จากภาคเกษตรแพร่กระจายในส่ิงแวดล้อมไดอ้ ย่างไร ......................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 10. โรงงานอุตสาหกรรมก่อใหเ้ กิดมลพิษตอ่ สิ่งแวดลอ้ มได้อยา่ งไร (กรณนี าพอง) ........................................................................................................................................ ........................ .......................................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 11. การทาเหมอื งแร่แล้วมีการปล่อยนาเสียลงห้วยคลติ ี ส่งผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................................................... ..................... ............................................................................................................. ................................................... 12. การระเบดิ ของสารเคมีอันตรายส่งผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ มและมนษุ ย์อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................

335 ใบงานวิเคราะหข์ ่าวปญั หาส่งิ แวดล้อม คาสั่ง ให้นักศึกษาศึกษาปัญหาสิ่งแวดล้อมจากข่าว โดยให้ค้นหาข่าวเรื่องปัญหาส่ิงแวดล้อมท่ี นักศึกษาสนใจจากหนังสือพิมพ์สื่ออีเล็กทรอนิกส์คนละ 1 ข่าว วิเคราะห์ตามหัวข้อที่กาหนดให้ แล้ว นาเสนอหนา้ ชนั เรยี น หัวข้อข่าวเรื่อง.......................................................................................................................... ............. ท่มี า...............................................................................วันท่ี.................................................................. ปญั หาและสาเหตุ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ผลกระทบ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. แนวทางป้องกันและแกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................... ............................ ...................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................... แสดงความคิดเห็น ................................................................................................................................................. ............... ................................................................................................................... ............................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................

293 บรรณานกุ รม กรมควบคุมมลพิษ. (2555). ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มจากขยะมูลฝอย. [Online]. Available : http:// www.pcd.go.th/info_serv/waste_rubbish.htm [วันทีค่ ้นขอ้ มลู 15 ธนั วาคม 2555]. ___________. (2551). ค่มู ือแนวทางการลด คัดแยก และใชป้ ระโยชน์ขยะมลู ฝอย. กรงุ เทพฯ : บริษัท รุ่งศลิ ป์การพมิ พ์ (1977) จากัด. ___________. (2547). คมู่ ือแนวทางและข้อกาหนดเบื้องต้นการลดและการใชป้ ระโยชน์ขยะ. [Online]. Available : http://www.pcd.go.th/info_serv/waste_hzmanage.html [วันทคี่ ้นข้อมลู 15 ธันวาคม 2555]. กรมป่าไม้. (2555). ประเภทของป่าไม้. [Online]. Available : http://www.forest.go.th/ index.php?option=com_content&id=311 [วนั ที่ค้นขอ้ มูล 15 เมษายน 2555]. กรมโรงงานอุตสาหกรรม. (2555). อนสุ ัญญาเวียนนา. [Online]. Available : http://php.diw. go.th/treaties/wp-content/uploads/2013/10/Vienna-Convention.pdf [วันท่ีค้น ขอ้ มูล 15 ธันวาคม 2555]. กรมสง่ เสริมคุณภาพสง่ิ แวดล้อม. (2556). องค์กรเอกชนด้านสงิ่ แวดลอ้ ม. [Online]. Available : http://www.deqp.go.th/index.php?option=com_content&view= section&id=15 [วันทีค่ ้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. ___________. (2555). การอนุรกั ษ์ดิน. [Online]. Available : http://www.deqp.go.th/ index.php?option=com_content&view [วนั ที่คน้ ข้อมูล 15 พฤษภาคม 2555]. กรมอุตนุ ยิ มวทิ ยา. (2555). การเกดิ เอลนโิ ญ. [Online]. Available : http://www.tmd.go.th/ info/info.php?FileID=17 [วันทคี่ ้นขอ้ มูล 15 ธันวาคม 2555]. กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2556). ฝนกรด. [Online]. Available : http://ajutarut. files.wordpress.com/2013/07/ir16.pdf [วันทคี่ น้ ข้อมูล 15 ธนั วาคม 2556]. กาญจนา ไฝเพ็ชร. (2555). สินคา้ ฉลากเขียว. [Online]. Available : http://www.reo3.go.th/ newversion/images/stories/article56/56_3004.pdf [วันทคี่ ้นขอ้ มลู 15 ธันวาคม 2555]. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใน สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชนฯ เลม่ ท่ี 19. (2555). [Online]. Available : http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book. php?book=19&chap=1&page=t19-1-infodetail02.html [วันที่คน้ ข้อมลู 15 มนี าคม 2555].

294 บรรณานุกรม (ตอ่ ) การผลติ ที่เปน็ มิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม : การผลิตสีเขียว ใน Environment. (2555). [Online]. Available : http: //www.environnet.in.th/?p=3497 [วันทคี่ น้ ขอ้ มลู 15 มนี าคม 2555]. กิตติภมู ิ มีประดิษฐ์. (2553). มนุษย์กับส่ิงแวดลอ้ ม. พิมพ์ครงั้ ท่ี 13 กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม. เกษม จนั ทร์แก้ว. (2555). มลพษิ ทางทศั นยี ภาพ. [Online]. Available : https://web.ku.ac.th/ schoolnet/snet6/envi3/view/viewn.htm [วนั ที่ค้นข้อมลู 15 ธนั วาคม 2555]. ___________. (2547). วทิ ยาศาสตร์สง่ิ แวดล้อม. กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พ์มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ___________. (2544). วิทยาศาสตร์สง่ิ แวดลอ้ ม. พิมพ์คร้ังท่ี 5. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ขนิษฐา เกดิ เปา้ . (2554). ยูโทรฟเิ คชนั . [Online]. Available : http://reo06.mnre.go.th/ home/images/upload/file/report/Eutrophication1.pdf [วันทค่ี ้นข้อมูล 15 ธนั วาคม 2554]. คณะกรรมการวชิ าส่ิงแวดล้อม เทคโนโลยแี ละชีวติ . (2551). สิง่ แวดล้อม เทคโนโลยี และชวี ิต. พมิ พ์ ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : สานักพิมพม์ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. จักรพนั ธ์ จันทร์เทยี่ ง. (2556). กฎหมายสิง่ แวดล้อมกบั ภาวะโลกรอ้ น. [Online]. Available : http://www.learners.in.th/blogs/posts/ 257768 [วันท่คี ้นข้อมูล 15 มนี าคม 2556]. จนั ทวัน เบ็ญจวรรณ์. (2556). มนุษยก์ ับส่งิ แวดล้อม. [Online]. Available : http://human.tru. ac.th/elearning/Human%20Being/human-detail1_5.html [วันทค่ี น้ ข้อมูล 20 ธนั วาคม 2556]. ชัชพล ทรงสนุ ทรวงศ์. (2546). มนษุ ยก์ ับสิ่งแวดล้อม. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย. ชัยศรี ธาราสวสั ดพิ์ พิ ัฒน์. (2548). ชีวิตกับสิ่งแวดลอ้ มและเทคโนโลยี. กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พ์แมค็ . ดนยั บวรเกยี รตกิ ลุ . (2556). มลพิษทางสังคม. [Online]. Available : http://www.ph.buu. ac.th/Pages/F4.aspx [วันท่คี ้นข้อมลู 15 มนี าคม 2556].

295 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) ธวัชชัย เพง็ พินจิ . (2548). สังคมบกพรอ่ งทางจติ วิญญาณ. [Online]. Available : http:// dusithost.dusit.ac.th/~nongkhai/nongkhai/2548/082.pdf [วันท่คี ้นขอ้ มูล 15 มีนาคม 2556]. นงนุช สคุ รพี . (2554). วิวัฒนาการของมนุษย์. [Online]. Available : https://sites.google. com/site/wiwathnakarmnusy/2-wiwathnakar-khxng-mnusy/2-2-homo-erectus [วันทคี่ ้นข้อมลู 16 ตุลาคม 2554]. นิรมล สธุ รรมกิจ. (2556). ปญั หาทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทย. เอกสารประกอบคาบรรยาย วชิ าเศรษฐศาสตร์ส่งิ แวดล้อม(ศ.375). คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. บริษทั เวบ็ ไซด์วิชาการ.คอม. (2554). กาลาปากอสบ่อเกดิ แหง่ ทฤษฎีววิ ัฒนาการและการคัดเลอื ก ตามธรรมชาติ. [Online]. Available : http://www.vcharkarn.com/varticle/39371 [วนั ที่ค้นข้อมลู 16 ตุลาคม 2554]. ประชา อินทร์แกว้ . (2542). ชวี ติ กบั ส่ิงแวดล้อม. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั เธริ ด์ เวฟ เอด็ ดเู คช่ัน. ปิยะดา วชิระวงศกร. (2555). ปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม. [Online]. Available : http://science.psru. ac.th/teaching/data/envi/GEES142_4.pdf [วนั ท่คี น้ ข้อมูล 15 พฤษภาคม 2555]. แผนกภมู ิอากาศ กองข่าวอากาศ. (2555). ปรากฏการณเ์ อลนีโญและลานีญา. [Online]. Available : http://www.rtafweather.com/ wx_education/Phenomenon% 20EI%20Nino% 20and%20La%20Nina.pdf [วันทค่ี น้ ข้อมูล 15 ธนั วาคม 2555]. พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน. (2554). วิวฒั นาการ. [Online]. Available : http://www.il. mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less1_2.html [วนั ท่ีคน้ ข้อมูล 16 ตุลาคม 2554]. พนติ ภู่จนิ ดา. (2555). การพฒั นาส่งิ แวดล้อมเพ่ือคณุ ภาพชวี ติ . [Online]. Available : https: // www.facebook.com/permalink.php?id=181023015331027&story_fbid=224419 824324679 [วันทีค่ น้ ข้อมูล 2 กุมภาพันธ์ 2555]. พระราชบัญญตั ิปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545. (2555). ราชกิจจานุเบกษา. [Online]. Available : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00102282.PDF [วันทค่ี ้น ข้อมลู 15 ธันวาคม 2555]. พวงผกา แกว้ กลม. (2553). ประเมนิ คณุ สมบตั ิดินและการจดั การในนาขา้ วภายหลังการเกิด ปรากฏการณอ์ ทุ กภยั . เพชรบูรณ์: มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์.

296 บรรณานุกรม (ต่อ) พัทยา แก้วสาร. (2555). ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งมนุษย์กบั ส่ิงแวดลอ้ ม. มหาสารคาม : โรงพิมพ์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม. พิทักษส์ ิน สิวรุจน์. (2555). ปลูกและปลุกจริยธรรมเพอ่ื การอนรุ ักษส์ ิง่ แวดลอ้ ม. [Online]. Available : http://www.stou.ac.th/study/sumrit/7-55(500)/page2-7-55(500).html [วันทคี่ น้ ข้อมูล 15 มกราคม 2555]. ภัทรศกั ดิ์ วรรณแสง. (2556). กฎหมายส่งิ แวดลอ้ ม. [Online]. Available : http://www.dlo.co. th/node/252 [วนั ท่คี ้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. ภิตินันต์ อรทยั . (2555). มลพิษทางสายตา. [Online]. Available : http://wqm.pcd.go.th/ water/images/industry/journal/2557/visual5.pdf [วันท่คี ้นข้อมูล 15 ธนั วาคม 2555]. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2555). ทฤษกีใหม่ : แนวทางการจดั การทดี่ ินและนา้ เพ่อื การใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งยั่งยืน. [Online]. Available : https://web.ku.ac.th/king72/2542- 09/res05_02.html [วันทค่ี ้นข้อมลู 15 มีนาคม 2555]. มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี. (2555). ปรากฏการณเ์ อลนโี ญ. [Online]. Available : http://www.cssckmutt.in.th/cssc/cssc_classroom/Solarenergy/ Assignment/ SolEn54/SolEn54_Doc/8_Elnino&Lanina.pdf [วันทคี่ น้ ข้อมลู 15 ธันวาคม 2555]. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน. (2555). พน้ื ฐานทางส่งิ แวดล้อมและการจัดการทรพั ยากร. [Online]. Available : http://www.rmuti.ac.th/user/thanyaphak/Web%20EMR/ Web%20IS%20Environment%20gr.1/contect/1-2-7.html [วันที่ค้นขอ้ มลู 2 ธันวาคม 2555]. ___________. (2555). มลพิษทางอาหาร. [Online]. Available : http://www.rmuti.ac.th/ user/thanyaphak/Web%20EMR/Web%20IS%20Environmen%20gr.4/Mola5.html [วนั ทคี่ ้นข้อมลู 15 ธนั วาคม 2555]. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี. (2556). มลพษิ ทางอากาศ. [Online]. Available : http://www. sut.ac.th/im/data/LecAP5.pdf [วันท่คี น้ ขอ้ มลู 5 มกราคม 2556]. มหาวิทยาลยั ราชภัฏอุดรธานี. (2555). เชื้อชาติ. [Online]. Available : http://www.udru.ac.th/ website/attachments/elearning/02/09.pdf [วันทค่ี ้นขอ้ มลู 2 กุมภาพนั ธ์ 2555].

297 บรรณานุกรม (ต่อ) มหาวิทยาลัยราชภฏั อุตรดิตถ์. (2555). วถิ ีการดารงชวี ิตของมนุษย์. [Online]. Available : http://human.uru.ac.th/Major_online/ManWeb/Text/Envi-1.pdf [วันที่ค้นข้อมูล 2 ธนั วาคม 2555]. ___________. (2554). การพัฒนาทยี่ ั่งยืนและจรยิ ธรรมส่ิงแวดล้อม. [Online]. Available : http://human.uru.ac.th/Major_online/ManWeb/Text/Envi-6.pdf [วันทคี่ น้ ข้อมูล 15 กนั ยายน 2554]. มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. (2556). ปรากฏการณก์ ารเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศ. [Online]. Available : http://e-book.ram.edu/e-book/g/GE410/chapter12.pdf [วนั ที่คน้ ขอ้ มลู 15 มีนาคม 2556]. มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. (2555). ขยะมูลฝอย. [Online]. Available : http://www. management. su.ac.th/form/projectEduDev/page3.pdf [วนั ทค่ี น้ ข้อมลู 15 ธันวาคม 2555]. ราตรี ภารา. (2540). ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม. พมิ พ์ครัง้ ที่ 2. กรุงเทพฯ : อักษรา พพิ ัฒน์. รงุ้ เพชร แข็งแรง. (2555). การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมแบบยั่งยนื . [Online]. Available : http : //science.psru.ac.th/teaching/data/envi/ GEES142_5.pdf [วันท่ี ค้นข้อมูล 15 มนี าคม 2555]. ลนิ น์ เชอรี. (2555). การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ. กรงุ เทพฯ : นานมบี ุค๊ พบั ลเิ คชัน่ ส์. วนั ชยั ดีเอกนามกลู , (2545). ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย. กรงุ เทพฯ : สถาบัน บณั ฑิตวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย. วนั ชัย วงษา, (2555). ดินเคม็ และการปรับปรุงแกไ้ ข. [Online]. Available : http://bophloi. kanchanaburi.doae.go.th/content/new%2057/005.pdf [วนั ทีค่ ้นข้อมลู 15 ธนั วาคม 2555]. วนั โอโซนสากล ใน เปิดประตูสโู่ ลกวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2556). [Online]. Available : http://www.vcharkarn.com/varticle/38186 [วนั ที่ค้นข้อมลู 15 มนี าคม 2556]. วินัย วีระวัฒนานนทแ์ ละ อดิศักด์ิ สงิ ห์สีโว. (2551). การพัฒนาโรงเรยี นสง่ิ แวดล้อมศึกษาต้นแบบ. รายงานการวจิ ัย คณะสง่ิ แวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วิวฒั นาการมนุษย์ ในงานชีวะ. (2555). [Online]. Available : http://members.tripod.com/ kk_engine/ [วนั ที่คน้ ข้อมลู 2 กมุ ภาพันธ์ 2555].

298 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) ศศินา ภารา. (2550). ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม. กรุงเทพฯ : เอก็ ซเปอร์เนท็ . สง่า ต้ังชวาล. (2555). ทรัพยากรธรรมชาตทิ ่ที ดแทนได้. [Online]. Available : http://www. environnet.in.th/evdb/info/forest/index.html [วนั ท่ีคน้ ข้อมูล 15 พฤษภาคม 2555]. สถาบนั นวตั กรรมและพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. (2554). 150 ปี ชารล์ ส ดาร์วิน วิวัฒนาการของสัตว์และพชื . [Online]. Available : http://www.il.mahidol. ac.th/e-media/150charles-darwin/Less3_2_6.html [วนั ท่ีค้นข้อมูล 16 ตุลาคม 2554]. สถาบนั สงิ่ แวดล้อมไทย. (2556). อนุสัญญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศ. [Online]. Available : http:// www.tei.or.th/meap/MEA_UNFCCC.html [วนั ทค่ี ้นข้อมลู 15 มีนาคม 2556]. สัตวป์ า่ คุม้ ครอง ในโลกสีเขยี ว. (2555). [Online]. Available : http://www.verdantplanet. org/protect/protectedanimal.php [วันที่คน้ ข้อมลู 15 พฤษภาคม 2555]. สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา. (2546). สารปนเป้ือนในอาหาร. [Online]. Available : http://www.fda.moph.go.th/www_fda/newweb/fda_search.php [วนั ทคี่ ้นขอ้ มูล 15 ธันวาคม 2555]. สานกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม. (2556). อนุสัญญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ. [Online]. Available : http://www.onep.go.th/ library/index.php?option=com_content&view= article&id=65:2012-04-11-06- 53-59&catid=26:2012-04-02-06-57-22&Itemid=34 [วนั ทีค่ ้นข้อมลู 15 มีนาคม 2556]. ___________. (2555). พิธีสารเกียวโต [Online]. Available : http://www.onep.go.th/ library/index.php?option=com_content& view=article&id=80:-kyoto-protocal- &catid=26:2012-04-02-06-57-22&Itemid=34 [วนั ท่ีคน้ ข้อมูล 15 ธนั วาคม 2555]. ___________. (2555). อนสุ ญั ญาวา่ ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ. [Online]. Available : http://chm-thai.onep.go.th/chm/ convention_1.html [วนั ท่คี น้ ขอ้ มลู 15 มนี าคม 2555]. สานักงานเลขานุการโครงการฉลากเขียว สถาบันส่ิงแวดล้อมไทย. (2556). ฉลากเขียว. [Online]. Available : http://www.tei.or.th/greenlabel/th_index.html [วันท่คี ้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556].

299 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) สานักงานสิ่งแวดลอ้ มภาคที่ 13. (2555). มลพิษทางเสียง. [Online]. Available : http://reo13. go.th /DataService/sara/noise_pullution.pdf [วนั ที่ค้นข้อมูล 15 ธันวาคม 2555]. สานกั วิเคราะหผ์ ลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม. (2556). การวเิ คราะหผ์ ลกระทบส่ิงแวดล้อม. [Online]. Available : http://www.onep.go.th/ eia/images/3law/35type.PDF [วันทค่ี น้ ข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. สิรพิ ร แก่นสียา. (2549). ปัญหามลพิษดนิ . [Online]. Available : http://www.eric.chula.ac. th/ eric/envinfo/ep/sp2.html [วนั ทคี่ ้นข้อมลู 15 ธันวาคม 2555]. สุชาดา สาเนยี ล้า. (2555). มลพษิ ทางอากาศ. [Online]. Available : http://suchada. wikispaces.com/ [วันที่คน้ ข้อมูล 15 ธันวาคม 2555]. สเุ ทพ สวุ ีรางกรู . (2551). ปญั หาสังคม. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร.์ องค์การบรหิ ารจัดการกา๊ ซเรือนกระจก (องค์การมหาชน). (2556). คาร์บอนฟุตพริ้นท์. [Online]. Available : http://thaicarbonlabel.tgo.or.th/carbon footprint/index.php?page=3 [วนั ทค่ี ้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. ___________. (2556). ฉลากลดคารบ์ อน. [Online]. Available : http://www.tei.or.th/ carbonreductionlabel/ about.html [วนั ท่คี ้นข้อมูล 15 มีนาคม 2556]. อดิศักดิ์ สงิ ห์สโี ว. (2554). พน้ื ฐานสง่ิ แวดล้อมศกึ ษา. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. อรรถพล นาขวา. (2555). ระบบธรรมชาติของส่งิ แวดลอ้ ม : ระบบนิเวศและความหลากหลายทาง ชวี ภาพ. [Online]. Available : http://science.psru.ac.th/teaching/data/envi/ GEES142_2.pdf [วนั ทค่ี น้ ข้อมลู 15 มีนาคม 2555]. อลั กอร์. (2553). โลกรอ้ นฉบบั คนรุ่นใหม่. พิมพ์ครั้งท่ี 7. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์มติชน. อาณตั ิ ต๊ะปินตา. (2553). ความรเู้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั การจัดการขยะมูลฝอย. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์ แห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . อานาจ วงศบ์ ัณฑิต. (2545). กฎหมายส่ิงแวดล้อม. กรุงเทพฯ : วิญญชู น. อุรศา ศรบี ญุ ลือ. (พ.ย.-ธ.ค. 2544). ฉลากสง่ิ แวดลอ้ มทางเลือกเพอ่ื สง่ิ แวดล้อมสาหรบั ผู้บรโิ ภค. โปรดกั ทวิ ติ ้ี เวิลด์ (Productivity World), 6(35), 59-63.

300 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) Environmental Dicision Making, Science and Tecnology. (2556). Sulfur Cycle. [Online]. Available : http://telstar.ote.cmu.edu/environ/m3/s4/cycle Sulfur. shtml [วนั ทค่ี น้ ข้อมลู 15 มกราคม 2556]. Sciencedaily. (2554). Evolution. [Online]. Available : http://www.sciencedaily.com/ releases /2007/10/071025143311.htm [วันท่คี น้ ข้อมูล 16 ตลุ าคม 2554].

301 อ้างอิงตาราง บทที่ 6 มลพิษสิ่งแวดล้อม ตารางที่ 6.1 : สกุ าญจน์ รัตนเลิศนุสรณ์, 2546 : 30 ตารางที่ 6.2 : กองทุนสง่ิ แวดล้อมวฒั นธรรม มูลนธิ ิส่ิงแวดลอ้ มไทย, http://www.tei.or.th/ cef/nonoise/nonoise_1.html, 2547. ตารางท่ี 6.3 : กรมควบคุมมลพิษ, http://www.pcd.go.th/info_serv/waste_rubbish.htm, 2555.

302

303 อ้างองิ รูปภาพ บทท่ี 1 ความร้เู บอ้ื งตน้ เกี่ยวกับสง่ิ แวดลอ้ ม ภาพที่ 1.5 : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8% B2%E0%B8%87#mediaviewer/File:Olifant_2.JPG, 2556. ภาพที่ 1.6 : http://ปลา-ทอง.blogspot.com /2012/09/blog-post_26.html, 2556. บทท่ี 2 ววิ ัฒนาการของสิ่งมีชวี ติ และมนุษย์ ภาพที่ 2.1 : http://www.sopon.ac.th/sopon/lms/earth_science/chapter4_1.html, 2555. ภาพท่ี 2.2 : http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/bio2/chapter6/image/image 001.jpg, 2555. ภาพท่ี 2.3 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less3_1_1.html, 2555. ภาพท่ี 2.4 : http://www.biografiasyvidas.com/biografia/w/weismann.htm, 2555. ภาพท่ี 2.5 : http://ernestgonzalez.wordpress.com/, 2555. ภาพท่ี 2.6 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less3_2_2.html, 2555. ภาพที่ 2.7 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less3_2_2.html, 2555. ภาพท่ี 2.8 : http://biohong6.exteen.com/ 20090806/charles-darwin, 2555. ภาพท่ี 2.9 : สมี า ชยั สวสั ด์ิ และคณะ, 2548 อ้างใน http://www.sasipin.com/unit2_2.htm, 2555. ภาพที่ 2.10 : http://www.dek-d.com/board/view/2686737/, 2555 ภาพที่ 2.11 : ดดั แปลงจาก http://pets.thaipetonline.com/breeding-pets.html, 2555. ภาพที่ 2.12 : https://sites.google.com/site/wiwathnakarmnusy/2-wiwathnakar-khxng- mnusy, 2555. ภาพท่ี 2.13 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_3.html, 2555. ภาพที่ 2.14 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_3.html, 2555.

304 อ้างองิ รปู ภาพ (ตอ่ ) ภาพที่ 2.15 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_3.html, 2555. ภาพที่ 2.16 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_4.html, 2555. ภาพที่ 2.17 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_4.html, 2555. ภาพที่ 2.18 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_5.html, 2555 ภาพท่ี 2.19 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_5.html, 2555. ภาพที่ 2.20 : http://en.wikipedia.org/wiki/Human_evolution, 2554. และ http://alnapawan.blogspot.com/2012/12/blog-post_22.html, 2555. ภาพที่ 2.21 : http://carnivoraforum.com/topic/9331158/1/, 2555. ภาพที่ 2.22 : http://marianaideiasforadacaixa.files.wordpress.com/2010/10/ homosapienssapiens.jpg, 2555. ภาพที่ 2.23 : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less8_6.html, 2555. ภาพที่ 2.24 : http://marianaplorenzo.com/2010/10/09/como-aconteceu-a-evolucao- humana/, 2555. ภาพท่ี 2.25 : http://board.postjung.com/525917.html, 2555. ภาพท่ี 2.26 : http://www.jw.org/th/, 2555. ภาพที่ 2.27 : http://203.114.120.251/phayalae7/elearning/work/w46.htm, 2555. ภาพที่ 2.28 : http://fanmanutd.com/forum/thread-6191-1-1.html, 2555. ภาพท่ี 2.29 : http://play. kapook.com/photo/ showfull-65715-5, 2555. ภาพท่ี 2.30 : http://bastilia.ru/alaska/photo/eskimo/, 2555.

305 อา้ งองิ รปู ภาพ (ต่อ) บทท่ี 3 ความสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ภาพท่ี 3.1 : ภาพ ก : http://www.banthai.webiz.co.th/, 2555. ภาพ ข : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=grizzlybear&month= 12-2013& date=24&group=110&gblog=43, 2555. ภาพท่ี 3.2 : http://pracob.blogspot.com/2011/09/eskimo-proverbs.html, 2555. ภาพท่ี 3.3 : ภาพ ก : http://women.kapook.com/view39870.html, 2555. ภาพ ข : http://beautyonline24hour.weloveshopping.com/store/ webboard/view/, 2555. ภาพท่ี 3.4 : http://pantip.com/topic/30717156 และ http://www.oknation.net/blog/ print.php?id=480229, 2555. ภาพที่ 3.5 : ภาพ ก : http://www.enn.co.th/1408, 2555. ภาพ ข : http://www.ec-mall.com/gallery/night/other-night/17096.html, 2555. ภาพ ค : http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000 117391, 2555. ภาพที่ 3.6 : http://www.รับเหมาก่อสร้างกรุงเทพ.com/, 2555. ภาพที่ 3.7 : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1374482167 และ http://listverse.com/2013/01/27/10-ways-recycling-hurts-the- environment/, 2555. ภาพที่ 3.8 : http://www.rdpb.go.th/RDPB/front/king/king_7.aspx และ http://www.mfu. ac.th/other/dormitory_network/prjun.html, 2555. ภาพที่ 3.9 : http://nokkrajab.blogspot.com/2009/08/blog-post_17.html, 2555. ภาพที่ 3.10 : http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=69409 และ http://plantedcactus.blogspot.com/2013/06/blog-post.html, 2555. ภาพที่ 3.11 : ภาพ ก : http://writer.dek.com/JiPpieZz/story/viewlongc.php?id =687461& chapter=157, 2555. ภาพ ข : http://203.146.129.175/web/?q=taxonomy/term/78&page=28, 2555.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook