Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Chapter-1-5-Ver-4

Chapter-1-5-Ver-4

Published by san, 2022-01-20 05:07:11

Description: Chapter-1-5-Ver-4

Search

Read the Text Version

51 Yang, Z.Y. (200). University Faculty’s Perception of Library Laison Program: A Case Study [Electronic version]. The Journal of Academic Librarianship, 26(2), 124 – 128. 2) บทควำมวำรสำรเผยแพร่บนอินเทอร์เนต็ เท่ำนัน้ ไมม่ ีฉบับทีเ่ ป็นสง่ิ พิมพ์ ชอื่ ผแู้ ต่ง. (ปพี มิ พ)์ . ชอ่ื เรื่อง. ช่อื วำรสำร, ปที ่ี(ฉบบั ท)ี่ , เลขหน้าถ้ามี. ค้นเมือ่ วนั เดือนปีท่ีค้น, จาก URL เสถยี ร จิรรงั สิมันต.์ (2549). ควำมรเู้ กยี่ วกับองค์กรเครือข่ำย. คน้ เมื่อ 25 กันยายน 2553, จาก http://www.nesac.go.th/document Beker, R.K.(1996). Faculty Attitudes Towards Student Library Use in a Large Urban Community College. Retrieved September 10,2011, From http://www.proguest.umi.com/pqweb 3) บทควำมหนงั สือพิมพ์อนิ เทอรเ์ นต็ ช่ือผ้แู ตง่ . (ปีพมิ พ์, วัน เดือน). ช่อื เรอื่ ง. ช่อื หนงั สอื พิมพ,์ ค้นเมอื่ วนั เดือนปีทีค่ น้ , จาก URL เพญ็ พิชญา แซ่เตียว. (2545, 24 กรกฎาคม). มนี ้าใช้ในสวนทั้งปดี ว้ ยวธิ ีระบบฉดี ฝอย. ไทยรัฐ. คน้ เมื่อ 25 กรกฎาคม 2545, จาก http://www.avantgothai.com /mazingo/news/thairath/agricult/agrlohtml Swartzentraber, D. (2002, September 04). The Internet in Asia. Bangkok Post. Retrieved September 8, 2002, from http://www.bangkokpost.net/politics/ 4) ข้อมลู จำก Web site ของหน่วยงำนต่ำงๆ ชือ่ ผ้แู ต่งหรือช่ือหนว่ ยงาน. (ปพี มิ พ์). ชื่อเรือ่ ง. คน้ เมื่อ วนั เดอื นปีท่ีคน้ , จาก URL กระทรวงอุตสาหกรรม. (2547). ยทุ ธศำสตร์กำรพัฒนำศกั ยภำพกำรแข่งขันของกลุ่ม อุตสำหกรรมหลกั . คน้ เมื่อ 4 กันยายน 2547, จาก http://www.industry.go.th/min/policy/

52 ศูนยฝ์ ึกอบรม มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. (2531). แนวคิดเก่ยี วกับกำรประเมินผล กำรฝกึ อบรม. คน้ เมื่อ 13 สิงหาคม 2554, จาก http://www.tu.ac.th/org/ofrector/person/train/handbook/assess.html George Mason University. (2009). Liason Librarians. Retrieved March 3, 2011, from http://library.gmu.edu/research/liais.html 2.2.11 กำรอ้ำงอิงขอ้ มลู จำกกำรสัมภำษณ์ ช่อื ผถู้ กู สมั ภาษณ์. (วนั เดอื น ปีทส่ี ัมภาษณ)์ . สัมภำษณ.์ ตาแหน่ง. หนว่ ยงานทีส่ งั กัดหรือที่อย่.ู อุมาวรรณ วาทกิจ. (27 มกราคม 2557). สัมภำษณ.์ คณบดีคณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื . 2.2.12 กำรอำ้ งอิงเอกสำรซ้อนเอกสำร การอ้างอิงเอกสารซอ้ นเอกสาร ให้เขยี นรายการอ้างอิงตามวิธีการอ้างอิงเอกสารแตล่ ะประเภท โดยอาจ เรมิ่ จาก รายการเอกสารดั้งเดิม ตามดว้ ยคาว่า อ้างถึงใน (cited in) แล้วตามดว้ ยเอกสารทนี่ าข้อมลู ไปอา้ ง หรอื เริ่มจาก รายการเอกสารทนี่ าข้อมูลไปอ้าง ตามดว้ ยคาวา่ อ้างจาก (cited from) แล้วตามด้วยเอกสารดัง้ เดิม ดงั ตวั อยา่ ง 1) เริม่ จำกรำยกำรเอกสำรด้ังเดิม ไพฑูรย์ สินลารตั น์. (2557). ปรัชญำกำรศึกษำเบื้องตน้ . กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. อา้ งถึงใน แสงจันทร์ กะลาม. (2563). กำรพัฒนำหลกั สูตรรำยวชิ ำปฏิบัตกิ ำร จัดกำรเรียนรู้ในสถำนศกึ ษำ เพื่อส่งเสริมควำมสำมำรถของครูมืออำชีพ นักศกึ ษำคร.ู วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาปรชั ญาดษุ ฎีบัณฑติ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . 2) เรม่ิ จำกรำยกำรเอกสำรท่ีนำข้อมูลไปอำ้ ง แสงจนั ทร์ กะลาม. (2563). กำรพฒั นำหลกั สูตรรำยวชิ ำปฏบิ ัตกิ ำรจดั กำรเรยี นรู้ใน สถำนศกึ ษำ เพอื่ สง่ เสริมควำมสำมำรถของครูมืออำชพี สำหรบั นกั ศกึ ษำครู. วิทยานิพนธ์ปรญิ ญาปรัชญาดุษฎบี ณั ฑิต มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. อา้ งจาก ไพฑูรย์ สนิ ลารัตน.์ (2557). ปรัชญำกำรศึกษำเบอื้ งตน้ . กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั .

53 2.3 กำรจดั เรียงและกำรพมิ พ์รำยกำรอำ้ งองิ ทำ้ ยเล่ม 2.3.1 รายการเอกสารทกุ ชิน้ ที่ถกู อ้างไวใ้ นส่วนเนอ้ื เร่อื ง ใหน้ ามารวบรวมไว้ในสว่ นทา้ ยเล่ม ภายใต้หัวข้อว่า บรรณำนกุ รม หรอื Bibliography หรอื เอกสำรอำ้ งอิง หรือ References 2.3.2 การจัดเรยี งรายการเอกสาร 1) เรียงตามลาดบั อกั ษรช่ือผ้แู ตง่ โดยใชห้ ลกั การเรยี งตามแบบพจนานุกรม ในกรณที ่ีมที งั้ เอกสารภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ให้เรียงรายการเอกสาร ภาษาไทยไวก้ ่อนจนหมด แล้วจงึ เรยี ง รายการเอกสารภาษาองั กฤษ 2) กรณชี ่ือผู้แต่งซ้ากัน หรือ ผแู้ ต่งคนเดียวกนั ให้จดั เรียงรายการเอกสาร ตามลาดบั ปพี ิมพ์ หากปพี ิมพ์ซา้ กนั ให้ระบุตวั อักษร ก ข ค... หรือ a b c… ลงตอ่ ท้ายจากปพี ิมพ์ดว้ ย และจัดเรยี ง รายการตามลาดบั อักษรชอื่ เร่ือง หากผ้แู ต่งคนเดิมมีท้ังรายการเอกสารที่แตง่ คนเดยี ว และแต่งร่วมกบั บุคคลอ่นื สาหรบั การพมิ พ์ให้พมิ พช์ อื่ เต็มเฉพาะรายการแรก รายการต่อไปให้ใช้ เครอื่ งหมายขดี เสน้ ใต้ (Underline) พมิ พต์ ิดตอ่ กนั 6 – 8 ครัง้ และจบด้วย เครือ่ งหมาย . หรอื , แล้วแตก่ รณี ดังตวั อยา่ งรายการเอกสารขา้ งลา่ งนี้ ตวั อยำ่ งกำรจดั เรยี งและกำรพมิ พ์รำยกำรบรรณำนุกรมหรอื เอกสำรอ้ำงองิ ชตุ ิมา สัจจานนั ท์. (2546). บทบำทใหม่ของนกั สำรสนเทศ. นนทบรุ ี: สาขาวชิ า ศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช. _____________& สุวคนธ์ ศิริวงศว์ รรตั น.์ (2533). เอกสำรกำรสอน ชดุ วิชำกำรพัฒนำทรัพยำกรสำรสนเทศหน่วยท่ี 9 – 15 “ควำมรว่ มมือในกำรจดั หำทรัพยำกรสำรสนเทศ”. นนทบุรี: มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช. บุญชม ศรีสะอาด. (2539ก). กำรวจิ ยั เบอ้ื งต้น. กรุงเทพฯ: สวุ ีริยาสาสน์ . _____________. (2539ข). วธิ ีกำรสถติ ิสำหรับกำรวจิ ัย. กรงุ เทพฯ: สุรวี ยิ าสาส์น. Marek, E.A. (1986a). They misunderstand, but they 1 pass. The Science Teacher, 53(10 December), 32 – 35. ______________.(1986b). Understanding and misunderstandings of biology concepts. The American Biology Teacher, 48(1 January), 37 – 40.

54 3) กรณผี ู้แต่งคนเดียว แต่เขียนหนงั สือหลายเลม่ ใหจ้ ัดเรยี งลาดบั ของหนังสอื ตามปพี ิมพ์จากเก่ามาปีพมิ พใ์ หม่ 4) หลักการพิมพ์ทีค่ วรทราบ 4.1 ใหพ้ ิมพเ์ คร่ืองหมายใดๆ ต่อท้ายข้อความโดยไมต่ ้องเว้นวรรคแตห่ ลงั เคร่ืองหมายมหพั ภาค ( . ) ใหเ้ วน้ 2 (เคาะ spacebar 2 คร้ัง) หลัง เครอ่ื งหมายจลุ ภาค ( , ) โคลอน ( : ) เซมโิ คลอน ( ; ) ใหเ้ ว้น 1 (เคาะ spacebar 1 คร้ัง) ตวั อย่ำงกำรพมิ พ์ งามพิศ สตั ย์สงวน. (2537). กำรวจิ ยั ทำงมำนษุ ยวทิ ยำ. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . ทองทิพภา วิรยิ ะพันธ.ุ์ (2551). กำรบริหำรทมี งำนและ กำรแกป้ ัญหำ. พิมพ์ครั้งท่ี 2. กรงุ เทพฯ: บริษัทสหธรรมิก. Wulfekoetter, G. (1961). Acquisition Work: Processes Involed in Building Library collections. Seatlle: University of Washington Press. 4.2 หากพิมพ์ข้อความไมพ่ อใน 1 บรรทดั เม่อื ข้นึ บรรทัดใหม่ให้ย่อหน้า ลา้ เขา้ ไป (indent) ประมาณ 4 – 8 ตัวอกั ษร (เคาะ spacebar 4 – 8 คร้งั ) ตวั อย่ำงกำรพิมพ์ สุมน อยู่สนิ . (2545). ประมวลสำระชดุ วชิ ำกำรจัดกำร ขั้นสงู สำหรบั สถำบันบรกิ ำรสำรสนเทศ หนว่ ยท่ี 8 “กำรสอื่ สำรและกำรประชำสมั พนั ธ์ สถำบนั บรกิ ำรสำรสนเทศ”. นนทบรุ ี: มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช. 4.3 ควรคานึงถงึ ความถูกต้องทางภาษาและหลักการพิมพ์ มากกวา่ ความสวยงาม ไม่จาเปน็ ตอ้ งจัดขอบขวาให้ตรงกันเพ่ือความสวยงาม โดยยอมตดั คาหรือพิมพ์แบบผิดๆ

55 บรรณำนุกรม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.(2558). เกณฑ์มาตรฐานหลกั สูตรระดับบัณฑติ ศกึ ษา. คน้ เม่ือ 22 ธันวาคม 2564. จาก http://www.mua.go.th/users/bhes/front_home/criterion58/criterion%20_m58.PDF สานกั งานการวจิ ัยแห่งชาติ (2541). จรรยำบรรณนักวิจยั (Researcher Ethics and Practices). คน้ เมื่อ 12 ธนั วาคม 2564 จาก https://dric.nrct.go.th/Policy/8 American Psychological Association. (2020). Publication Manual of the American Psychological Association, Seventh Edition, Retrieved December 12,2021, From https://apastyle.apa.org/products/publication-manual-7th-edition

56

57 ภำคผนวก ก จรรยำบรรณนกั วิจัย

58 จรรยำบรรณนักวจิ ยั คณะกรรมการบริหารสภาวิจยั แหง่ ชาติ ในการประชมุ เมือ่ วนั ท่ี 8 เมษายน 2541 ไดก้ าหนดจรรยาบรรณ นักวิจัยข้ึน เพื่อใช้เป็นแนวหลักเกณฑ์ควรประพฤติ ของนักวิจัยทั่วไป ไม่ว่าสาขาวิชาการใดๆ โดยให้มีลักษณะ เปน็ ขอ้ พึงสงั วรณ์คุณธรรม และจรยิ ธรรม ในการทางานวจิ ัยของนกั วจิ ยั ไทย ดงั นี้ \"นักวิจัย\" หมายถึง ผู้ท่ีดาเนินการค้นคว้าหาความรู้อย่างเป็นระบบ เพ่ือตอบประเด็นที่สงสัย โดย มีระเบียบวิธี อันเป็นท่ียอมรับ ในแต่ละศาสตร์ท่ีเก่ียวข้อง ระเบียบวิธีดังกล่าวจึงครอบคลุมท้ังแนวความคิด มโน ทัศน์ และวิธีการท่ีใช้ ในการรวบรวม และวเิ คราะห์ข้อมลู \"จรรยาบรรณ\" หมายถึง หลักความประพฤติอันเหมาะสม แสดงถึงคุณธรรม และจริยธรรม ใน การประกอบอาชีพ ที่กลุ่มบุคคลแต่ละสาขาอาชีพ ประมวลขึ้นไว้เป็นหลัก เพ่ือให้สมาชิกในสาขาวิชาชีพนั้นๆ ยึดถอื ปฏิบตั ิ เพอื่ รกั ษาชื่อเสยี ง และส่งเสรมิ เกยี รติคุณ ของสาขาวชิ าชีพของตน จรรยาบรรณในการวิจัย จัดเป็นองค์ประกอบที่สาคัญ ของระเบียบวิธีวิจัย เนื่องด้วยในกระบวนการ ค้นคว้าวิจัย นักวิจัยจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับส่ิงที่ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นส่ิงมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต การวิจัยจึง อาจส่งผลกระทบ ในทางลบต่อส่ิงที่ศึกษาได้ หากผู้วิจัยขาดความรอบคอบระมัดระวัง การวิจัยเป็นกิจกรรม ที่มีความสาคัญอย่างย่ิง ต่อการวางแผนและกาหนดนโยบาย ในการพัฒนาประเทศทุกด้าน โดยเฉพาะ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของคนในประเทศ ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ ข้ึนอยู่กับความรู้ความสามารถของนักวิจัย ในเรื่องที่จะศึกษา และขึ้นอยู่กับคุณธรรม จริยธรรม ของนักวิจัย ในการทางานวิจัยด้วย ผลงานวิจัย ทีด่ ้อยคุณภาพ ดว้ ยสาเหตุใดกต็ าม หากเผยแพรอ่ อกไป อาจเปน็ ผลเสีย ตอ่ วงวชิ าการและประเทศชาตไิ ด้ ดว้ ยเหตุนี้ สภาวิจัยแหง่ ชาติจงึ กาหนด \"จรรยาบรรณนักวิจยั \" ไว้เป็นแนวทางสาหรับนักวิจยั ยดึ ถือปฏิบัติ เพือ่ ให้การดาเนนิ งานวิจยั ตัง้ อยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม และหลกั วิชาการทเี่ หมาะสม ตลอดจนประกันมาตรฐาน ของการศกึ ษาคน้ ควา้ ให้เป็นไปอยา่ งสมศักด์ศิ รี และเกียรติภูมิของนักวิจัยไว้ 9 ประการ ดงั นี้ 1. นกั วจิ ยั ตอ้ งซื่อสตั ย์ และมีคณุ ธรรม ในทำงวชิ ำกำร และกำรจดั กำร นักวิจัยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่นาผลงานของผู้อื่น มาเป็นของตน ไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น ต้องให้เกียรติ และอ้างถึงบุคคล หรือแหล่งท่ีมาของข้อมูล ที่นามาใช้ในงานวิจัย ต้องซื่อตรง ต่อการแสวงหาทุน วจิ ยั และมีความเปน็ ธรรม เกี่ยวกบั ผลประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากการวิจยั 2. นักวจิ ยั ต้องตระหนักถงึ พันธกรณใี นกำรทำงำนวิจยั ตำมข้อตกลงที่ทำไว้ กบั หน่วยงำน ท่สี นบั สนุนกำรวิจัย และต่อหน่วยงำนทีต่ นสังกดั นักวิจัยต้องปฏิบัติตามพันธกรณี และข้อตกลงการวิจัย ที่ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่าย ยอมรับร่วมกัน อุทิศเวลา ทางานวจิ ัย ให้ได้ผลดีท่สี ดุ และเปน็ ไปตามกาหนดเวลา มีความรับผิดชอบ ไมล่ ะท้งิ งานระหว่างดาเนินการ

59 3. นกั วจิ ยั ต้องมีพน้ื ฐำนควำมรูใ้ นสำขำวิชำกำรที่ทำวิจัย นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ ในสาขาวิชาการท่ีทาวิจัย อย่างเพียงพอ และมีความชานาญ หรือมี ประสบการณ์ เก่ียวเนื่องกับเรื่องท่ีทาวิจัย เพื่อนาไปสู่งานวิจัยที่มีคุณภาพ และเพ่ือป้องกันปัญหาการวิเคราะห์ การตคี วาม หรือการสรปุ ทผี่ ิดพลาด อันอาจก่อให้เกดิ ความเสียหายต่องานวจิ ยั 4. นกั วิจัยตอ้ งมีควำมรับผิดชอบต่อสิ่งทศ่ี ึกษำวจิ ัย ไม่วำ่ จะเปน็ สิง่ ท่มี ชี วี ติ หรือไมม่ ีชวี ติ นักวจิ ัยตอ้ งดาเนินการด้วยความรอบคอบ ระมดั ระวงั และเทีย่ งตรงในการทาวจิ ยั ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั คน สัตว์ พืช ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม มีจิตสานึก และมีปณิธานที่จะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากร และสิง่ แวดล้อม 5. นกั วิจัยตอ้ งเคำรพศกั ดิ์ศรี และสิทธขิ องมนุษยท์ ีใ่ ช้เป็นตวั อยำ่ งในกำรวจิ ัย นักวิจัยต้องไม่คานึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาการ จนละเลยและขาดความเคารพในศักดิ์ศรีของเพ่ือน มนุษย์ ต้องถือเป็นภาระหน้าท่ีที่จะอธิบายจุดมุ่งหมายของการวิจัยแก่บุคคลที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยไม่หลอกลวง หรือบีบบงั คบั และไม่ละเมดิ สิทธสิ ่วนบคุ คล 6. นักวิจยั ตอ้ งมอี สิ ระทำงควำมคิด โดยปรำศจำกอคตใิ นทกุ ข้ันตอนของกำรทำวจิ ยั นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด ต้องตระหนักว่า อคติส่วนตน หรือความลาเอียงทางวิชาการ อาจส่งผล ให้มีการบดิ เบือนขอ้ มลู และขอ้ คน้ พบทางวชิ าการ อันเป็นเหตใุ หเ้ กิดผลเสยี หายตอ่ งานวิจัย 7. นกั วิจยั พงึ นำผลงำนวิจัยไปใชป้ ระโยชน์ในทำงทช่ี อบ นักวิจัยพึงเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อประโยชน์ทางวิชาการและสังคม ไม่ขยายผลข้อค้นพบจนเกิน ความเป็นจริง และไม่ใชผ้ ลงานวจิ ยั ไปในทางมิชอบ 8. นักวิจัยพงึ เคำรพควำมคิดเห็นทำงวชิ ำกำรของผ้อู น่ื นักวิจัยพึงมีใจกว้าง พร้อมท่ีจะเปิดเผยข้อมูล และขั้นตอนการวิจัย ยอมรับฟังความคิดเห็น และเหตุผล ทางวิชาการของผอู้ ่ืน และพร้อมทจ่ี ะปรบั ปรงุ แก้ไขงานวจิ ยั ของตนให้ถกู ต้อง 9. นักวจิ ยั พงึ มีควำมรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมทุกระดับ นักวิจัยพึงมีจิตสานึกท่ีจะอุทิศกาลังสติปัญญาในการทาวิจัย เพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการ เพื่อ ความเจริญและประโยชนส์ ุขของสงั คมและมวลมนษุ ยชาติ

60

61 ภำคผนวก ข ตวั อยำ่ งกำรพมิ พส์ ว่ นตำ่ งๆ และกำรจัดวำงเนอ้ื หำ

62 - ตัวอย่ำงปกเคำ้ โครงกำรคน้ คว้ำอิสระ - เค้ำโครงกำรคน้ ควำ้ อิสระ ผูว้ จิ ยั สขุ สันต์ วงค์ชมพู ที่ปรกึ ษำกำรค้นควำ้ อสิ ระ ปรญิ ญำ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต รศ.ดร.สาเรจ็ ยรุ ชัย สำขำวิชำ การบรหิ ารการศึกษา ปกี ำรศกึ ษำ 2560 ชื่อเรอ่ื ง กำรบริหำรสถำนศกึ ษำตำมหลักธรรมำภบิ ำล สังกัดอำชีวศึกษำจงั หวัดขอนแก่น

63 - ตัวอย่ำงปกเค้ำโครงงำนนิพนธ์ - เค้ำโครงงำนดุษฎีนิพนธ์ ผ้วู จิ ยั สายณั ห์ ผาน้อย ท่ปี รกึ ษำดุษฎีนพิ นธ์ ปรญิ ญำ ปรัชญาดุษฎบี ณั ฑิต ดร.พา อกั ษรเสือ สำขำวชิ ำ การบรหิ ารการศกึ ษา ปกี ำรศึกษำ 2558 ชอื่ เรื่อง กลยทุ ธ์กำรบริหำรจดั กำรยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี นของนกั เรียนในสถำนศึกษำ สงั กัดสำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศกึ ษำขอแก่น เขต 1

64 -ตัวอยำ่ งหนงั สอื เก็บรวบรวมขอ้ มลู -

65 - ตัวอย่ำงปกนอกงำนนิพนธ์ - ยทุ ธศำสตรก์ ำรบรหิ ำรที่มีประสิทธผิ ลของโรงเรยี นประจำตำบล สังกัดสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำขอนแก่น เขต 1 เวหำ เลพล ดษุ ฎีนิพนธ์นเี้ ป็นสว่ นหนึง่ ของกำรศกึ ษำตำมหลักสูตรปรัชญำดุษฎบี ัณฑติ สำขำวิชำกำรบริหำรกำรศกึ ษำ มหำวทิ ยำลัยภำคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2560 ลขิ สิทธิเ์ ป็นของมหำวิทยำลัยภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ

66 - ตัวอยำ่ งปกในงำนนิพนธ์ (ภำษำไทย) - ยทุ ธศำสตร์กำรบรหิ ำรท่ีมีประสิทธิผลของโรงเรยี นประจำตำบล สงั กดั สำนกั งำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำขอนแกน่ เขต 1 เวหำ เลพล ดษุ ฎีนิพนธน์ ้ีเป็นสว่ นหนึ่งของกำรศกึ ษำตำมหลักสตู รปรัชญำดุษฎบี ัณฑติ สำขำวิชำกำรบริหำรกำรศึกษำ มหำวทิ ยำลยั ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2560 ลขิ สิทธ์ิเป็นของมหำวิทยำลัยภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ

67 - ตวั อยำ่ งปกในงำนนิพนธ์ (ภำษำองั กฤษ) – THE EFECTIVE STRATEGIC MANAGEMENT OF OUTSTANDING DISTRICT SCHOOLS, UNDER THE OFFICE OF KHON KAEN PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 1 WEHA LEPON A Dissertation Submitted in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree of Doctor of Philosophy Major Educational Administration, Northeastern University Year 2016 Copyright of Northeastern University

68 - ตัวอยำ่ งหนำ้ อนมุ ัตงิ ำนนิพนธ์ – ชอ่ื เร่อื ง การดาเนนิ การประกนั คุณภาพภายในของโรงเรยี นเอกชน ระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ในสังกดั สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต 1 ผ้วู ิจยั นางสาวสรุ ลี ักษณ์ รักษาแคน อำจำรย์ที่ปรกึ ษำ ดร.สุบนั มขุ ธระโกษา คณะกรรมการสอบ ได้พจิ ารณาการคน้ คว้าอสิ ระฉบบั นีแ้ ล้ว เห็นสมควรรบั ให้เป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาตามหลกั สูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัย ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คณะกรรมกำรสอบ ประธานกรรมการ …………………………………. (ดร.สมั ฤทธ์ิ กางเพง็ ) ……………………….………. ผู้ทรงคุณวมุ ิภายนอก (ดร.ธีระวัฒน์ เย่ยี มแสง) ………………………………... อาจารยท์ ป่ี รึกษา (ดร.สบุ ัน มขุ ธระโกษา) คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ อนุมัตใิ หก้ ารคน้ คว้าอิสระฉบบั นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการศกึ ษาตามหลักสตู รศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา ……………………. (ดร.สุบนั มุขธระโกษา) คณบดคี ณะศึกษาศาสตร์ วันท่ี 2 พฤศจิกายน 2559

69 -ตัวอย่ำงบทคัดย่อภำษำไทย 1 – ชอ่ื เร่ือง การศึกษาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นและเจตคติตอ่ การเรียนวรรณคดไี ทยของนักเรียน ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ท่ไี ด้รับการจัดการเรยี นรูเ้ ชงิ รุกรว่ มกับการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD ชือ่ ผู้วจิ ยั ลลลิ ทพิ ย์ วรรณพงษ์ กรรมกำรทป่ี รึกษำ ดร.แสงสรุ ยี ์ ดวงคานอ้ ย ชอื่ ปรญิ ญำ ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต สำขำวชิ ำ หลักสตู รและการสอน มหำวิทยำลัย มหาวิทยาลยั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปกี ำรศกึ ษำ 2562 บทคัดยอ่ การวิจัยคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทย ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ีได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD โดยให้นักเรียนมี คะแนนผ่านเกณฑ์ต้ังแต่ร้อยละ 70 ข้ึนไป และมีจานวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ตั้งแต่ร้อยละ 70 ข้ึนไปจาก จานวนนักเรียนท้ังหมด และ 2) ศึกษาเจตคติของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่ีมีต่อการเรียนวรรณคดีไทยท่ี ได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนพระธาตุหนองสามหมืน่ สงั กดั สานกั งานเขต พน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 30 กาลังศึกษาอยู่ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 จานวน 30 คน ซึ่ง ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวจิ ยั มี 2 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการ จัดการเรียนรู้ จานวน 9 แผน 2) เคร่ืองมือ ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน เปน็ แบบปรนัยชนดิ เลือกตอบ 4 ตวั เลือก และแบบวัดเจตคติของนกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ตอ่ การเรยี นวรรณคดีไทย จานวน 30 ข้อ โดยใช้สถิตพิ ้นื ฐานเปน็ คา่ เฉลี่ย คา่ ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน และค่ารอ้ ยละ ผลการวจิ ยั พบว่า 1. นกั เรียนมีคะแนนผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนเฉลีย่ ของนักเรียนท้ังหมดเทา่ กับ 22.23 คะแนน คดิ เป็น ร้อยละ 74.11 และมีจานวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จานวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 83.33 จากจานวน นักเรยี นท้งั หมด ซง่ึ เปน็ ไปตามเกณฑ์ที่กาหนด 2. เจตคติของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ที่มีต่อการเรียนวรรณคดีไทยหลังจากที่ได้รับการจัดการ เรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD ใน 5 ด้าน ค่าเฉลี่ย x̅ = 3.71, S.D.= 0.07 อยู่ในระดับ เห็นด้วย ด้านทีม่ ีคะแนนเฉล่ยี มากทสี่ ดุ 3 ลาดับแรก คอื ดา้ นความนิยมชมชอบต่อการ เรียนวรรณคดีไทย อยูใ่ น ระดับเห็นด้วย (x̅= 3.94 , S.D.= 0.19) รองลงมา คือ ด้านความสนใจต่อการ เรยี นวรรณคดีไทย อยใู่ นระดบั เห็น ด้วย (x̅= 3.86, S.D.= 0.26) และด้านความคิดเห็นท่ัวไปต่อ วรรณคดีไทย อยู่ในระดับเห็นด้วย (x̅= 3.72 , S.D.= 0.13) คา่ สาคญั : การจัดการเรียนรู้เชงิ รกุ , การเรียนแบบร่วมมือเทคนคิ STAD

70 -ตัวอย่ำงบทคดั ยอ่ ภำษำองั กฤษ 1- Title The Study of Learning Achievement and Attitude towards Learning Thai Literature of Grade 10 Students Receiving Active Learning Management together with Cooperative Learning Technique STAD AUTHOR Lalinthip Wannapong ADVISOR Dr.sangsuree Duangkamnoi DEGREE Curriculum and Instruction MAJOR Curriculum and Instruction UNIVERSITY Northeastern university ACADEMIC YEAR 2019 Abstract The objectives of this research were 1) to study the achievement of Thai literature of grade 10 students receiving active learning together with STAD technique by allowing students to pass scores from the hundreds of criteria 70 percent and above and the number of students passing the criteria was 70 percent or more from the total number of students. and 2) to study the attitudes of grade 10 students at toward learning Thai literature that has been active learning in conjunction with STAD technique. The target group was grade 10 students of Phrathat Nong Sam Muen School under the Office of Secondary Educational Service Area 30. There were 30 students in the second semester, academic year 2019 which were selected by Purposive Sampling. There are 2 types of research tools, consisting of 1) The tools used in the experiment are 9 learning management plans. 2) The tools used for data collection were the achievement test, 4 multiple choice tests and the attitude test of the secondary school students. Year 4 for learning Thai literature, consisting of 30 items, using basic statistics as the mean, standard deviation and percentage. The results of the research are as follows: 1. The students made a mean learning achievement score of 22.23 or 74.11% of the full marks and the number of students who pass the criteria of 70% of the total of 25 students, representing 83.33 % of the group, passed the criterion which is in line with the prescribed criterion. 2. The attitude of grade 10 students towards learning Thai literature after receiving active learning together with Cooperative learning, STAD technique in 5 areas, average point, mean (x̅ = 3.71, S.D.= 0.07) is at the level of agreeing, the aspect with the highest average

71 score is the favor of studying Thai literature at the agreeing level (x̅= 3.94, S.D.= 0.19), followed by the interest. In the study of Thai literature at the agreeing level (x̅= 3.86, S.D.= 0.26) and general opinion on Thai literature was at the agree level (x̅ =3.72, S.D.= 0.13) Keywords: Active Learning Management, Cooperative Learning, STAD Technique

72 -ตัวอยำ่ งกิตตกิ รรมประกำศ- กติ ติกรรมประกำศ การวิจัยเร่ือง “ยุทธศาสตร์การบริหารสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานระดับการศึกษา ขั้นพ้ืนฐานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีก็เพราะได้รับความกรุณาและความช่วยเหลือเปน็ อย่างดีย่ิงจาก อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ คือ ดร.ถวิล ลดาวัลย์ รศ.ดร.สาเร็จ ยุรชัย ท่ีได้ให้คาแนะนา รวมทั้งข้อเสนอแนะอื่นๆ จนกระท่ังงานวิจัยคร้ังน้ีสาเร็จไปได้ด้วยดี ผู้วิจัยขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมาในท่ีน้ี ดว้ ย ขอขอบคุณอธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ที่ให้การ สนับสนนุ ในการศกึ ษาวิจยั ขอขอบคุณคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เป็นกาลังสาคัญในการเก็บ รวบรวมข้อมูล ให้การสนบั สนนุ เปน็ อยา่ งดี โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งได้เสียสละแรงกาย แรงใจ และเวลาไปกบั ผวู้ จิ ยั คุณประโยชน์ใดๆ อันเกิดจากรายงานฉบับน้ี ผู้วิจัยขอมอบแด่ บิดา มารดา อาจารย์ บุคลากรทางการ ศกึ ษา และนกั ศึกษาทกุ คน สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่ไม่ได้กล่าวนาม อาทิ เช่น ประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา บริหารการศึกษา เพ่ือนร่วมสาขาวิชา ท่ีมีส่วนช่วยเหลือจนทาให้รายงานวิจัยฉบับนี้สาเร็จได้ ขอระลึกถึงและ ขอขอบคุณเป็นอย่างย่ิงไวใ้ นโอกาสน้ดี ว้ ย อภชิ ำต นำเลำห์

73 -ตวั อย่ำงสำรบญั - สำรบญั หน้ำ บทท่ี 1 1 บทนำ 1 ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญของปญั หำ 7 คาถามการวิจยั 7 วัตถุประสงค์ของการวิจยั 7 ขอบเขตการวิจัย 9 ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั 9 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 13 2 วรรณกรรมท่เี กย่ี วข้อง 13 แนวคิดเกีย่ วกบั ยุทธศาสตร์ 34 แนวคดิ เกย่ี วกับการบริหารสถานศกึ ษา 53 แนวคิดการบรหิ ารทีมีประสิทธผิ ล 59 แนวคิดความสาเรจ็ ในการบริหารสถานศึกษาข้นั พื้นฐาน 65 แนวคดิ เกี่ยวกบั โรงเรียนดปี ระจาตาบล 96 วธิ วี จิ ยั เชงิ ผสมผสานทางการศึกษา 101 บรบิ ทการบรหิ ารจัดการศึกษาระบบทวภิ าคีของวิทยาลยั เทคนคิ หนองบวั ลาภู 111 งานวจิ ยั ท่ีเก่ียวข้อง 117 กรอบแนวคิดของการวจิ ยั 118 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำรวจิ ัย 119 ข้ันตอนท่ี 1 ศึกษาหลักการแนวคิด ทฤษฎงี านวิจัยที่เกี่ยวข้อง 126 ข้ันตอนท่ี 2 การวจิ ัยภาคสนามเพื่อศึกษาข้อมลู เชิงประจักษ์ 132 ข้ันตอนที่ 3 การพัฒนายุทธศาสตร์การบรหิ ารระบบทวิภาคี

บทท่ี 74 4 ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล หน้ำ ขน้ั ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูลท่ีเก่ียวกับ สภาพปัญหา และแนวทางการแก้ไข ปญั หาการบริหารระบบทวิภาคีของวทิ ยาลัยเทคนิคหนองบวั ลาภู 140 ขั้นตอนท่ี 2 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลทเ่ี ก่ียวกบั การจัดทารา่ งยุทธศาสตรก์ ารบรหิ าร ระบบทวภิ าคขี องวิทยาลยั เทคนคิ หนองบัวลาภู 142 ขั้นตอนที่ 3 ผลการการพัฒนายุทธศาสตร์การบริหารระบบทวภิ าคขี อง วิทยาลยั เทคนิคหนองบวั ลาภู 161 ขั้นตอนที่ 4 การสรุปผลและสะท้อนผลการดาเนินงาน 181 5 สรปุ ผล อภปิ รำยผลและขอ้ เสนอแนะ 198 วตั ถุประสงค์ของการวิจัย สรปุ ผลการวจิ ยั 216 อภิปรายผลการวิจัย 216 ข้อเสนอแนะ 219 220 บรรณำนุกรม 225 ภำคผนวก 227 ภาคผนวก ก แบบสอบถามเพ่ือการวิจยั ภาคผนวก ข ผลการวเิ คราะห์แบบสอบถามรายข้อ 235 ภาคผนวก ค แบบสอบถามความพึงพอใจเพื่อการวิจัย 236 ภาคผนวก ฆ หนงั สือเชญิ เป็นผู้เช่ียวชาญตรวจสอบเคร่อื งมือ 247 ภาคผนวก ง หนงั สือขออนุญาตเก็บข้อมูลในการวิจยั 257 ภาคผนวก จ หนงั สือเรียนเชญิ ร่วมเป็นผู้ทรงคุณวฒุ สิ นทนากลุ่ม 268 ภาคผนวก ฉ หนงั สอื ขอความอนเุ คราะหใ์ ช้สถานท่จี ัดประชุมการสนทนากล่มุ 274 ภาคผนวก ช การประชุมสนทนากลมุ่ 278 ภาคผนวก ซ ภาพสนทนากลุ่มผทู้ รงคณุ วฒุ ิ 290 ภาคผนวก ฌ ประวัติผู้วจิ ยั 293 304 310

75 สำรบัญตำรำง ตำรำง หน้ำ ท่ี 1 แนวทางการจัดการเรียนการสอนระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้นั สงู (ปวช) ระบบทวภิ าคี 104 2 แนวทางการจดั การเรยี นการสอนระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชนั้ สงู (ปวส.) ระบบทวิภาคี 104 3 จานวนนกั เรยี นนักศึกษาระบบทวิภาคีวิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลาภู 106 4 จานวนสถานประกอบการที่จัดการศึกษาระบบทวภิ าคีกบั วทิ ยาลัยเทคนคิ หนองบัวลาภู 107 5 จานวนครฝู ึกในสถานประกอบการทีท่ าหน้าท่ีควบคุมการฝึกประสบการณ์วิชาชพี 107 6 จานวนประชากร กลุ่มตัวอยา่ ง จาแนกตามสถานศึกษาและสถานประกอบการ 120 7 คา่ ความเท่ียงตรงของแบบสอบถามการวจิ ัยจาแนกตามสภาพปัญหา 123 8 จานวนแบบสอบถามท่ีแจกไดร้ ับคนื จาแนกตามบุคลากรของสถานศึกษาและ บุคลากรของสถานประกอบการ 124 9 การวิเคราะห์องค์ประกอบการบรหิ ารจัดการอาชวี ศึกษาระบบทวภิ าคี 128 10 จานวนผทู้ รงคุณวฒุ ิ จานวน 11 คน 133 11 จานวนแบบสอบถามความพึงพอใจที่แจกไดร้ บั คืนมา จาแนกตามกลมุ่ เป้าหมาย 136 12 ข้ันตอนการวจิ ยั และสะท้อนผลลพั ธห์ รือนวัตกรรม 137 13 จานวนและรอ้ ยละของกลุม่ ตัวอยา่ ง จาแนกตามเพศ 142 14 จานวนกลมุ่ ตัวอยา่ ง จานวนตามประสบการณ์การทางาน/ระยะเวลาท่ีศึกษา 143 15 จานวนและร้อยละของกลมุ่ ตัวอยา่ ง จาแนกตามระดบั การศึกษา 143 16 จานวนกลุ่มเปา้ หมาย จาแนกตามตาแหนง่ หนา้ ท่ี 144 17 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดบั ปญั หาการดาเนินงานการบริหาร ระบบทวิภาคีของวิทยาลัยเทคนคิ หนองบวั ลาภู ด้านการวางแผนงาน 144 18 ค่าเฉล่ยี ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัญหาการดาเนินงานการบรหิ าร ระบบทวภิ าคขี องวิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลาภู ด้านการดาเนนิ งาน 147 19 คา่ เฉลีย่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปญั หาการดาเนนิ งานการบรหิ าร ระบบทวภิ าคีของวิทยาลัยเทคนคิ หนองบัวลาภู ด้านการวัดผลประเมินผล 150 20 ค่าเฉลย่ี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับปัญหาการดาเนนิ งานการบริหาร ระบบทวภิ าคขี องวิทยาลัยเทคนคิ หนองบัวลาภู ดา้ นการติดตามผล 152

สำรบัญภำพ 76 ภำพที่ หน้ำ 1 กระบวนการบริหารยุทธศาสตร์ 16 2 กระบวนการจัดการเชิงกลยทุ ธ์ตามแนวคิดของ เซอรโ์ ต และปีเตอร์ 42 3 ข้ันตอนการจดั การเชงิ กลยทุ ธ์ 43 4 กระบวนการจัดการเชงิ กลยุทธ์ 44 5 กระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ 45 6 เมทรกิ ซ์ TOWS สาหรบั การกาหนดกลยุทธ์ 47 7 วสิ ัยทศั น์ 48 8 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างกลยทุ ธ์และองค์กรทหี่ ลากหลาย SBU 49 9 การนาแผนไปปฏบิ ตั ิ 50 10 ความสัมพันธ์ระหวา่ งกลยทุ ธ์และการติดตามและการควบคมุ 51 11 แผนภมู ิวงจรเดมมง่ิ 58 12 แผนภูมแิ สดงแบบแผนวจิ ัยเชงิ ผสมผสานแบบสามเส้า 97 13 แบบแผนการวจิ ยั เชงิ ผสมผสานแบบรองรับภายใน 98 14 แบบแผนการวจิ ัยเชิงผสมผสานแบบเชงิ อธบิ าย 99 15 แบบแผนการวิจัยเชิงผสมผสานแบบเชงิ สารวจบกุ เบกิ 100 16 กรอบแนวความคิดการวจิ ยั (Conceptual Framework) 117 17 การพัฒนายุทธศาสตร์การบริหารระบบทวิภาคขี องวิทยาลัยเทคนิคหนองบวั ลาภู 118

77 -ตวั อย่ำงกำรพิมพต์ ำรำง บทที่ 4 - ตารางที่ 4.1 ข้อมลู ทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม (n = 279) ขอ้ มูลท่ัวไป จำนวน ร้อยละ ตาแหนง่ 35 12.50 ผู้บริหารสถานศึกษา 244 87.50 ครผู ู้สอน 279 100.00 รวม 67 24.00 ขนาดสถานศึกษา 96 34.40 ขนาดเลก็ 116 41.60 ขนาดกลาง 279 100.00 ขนาดใหญ่ รวม จากตารางที่ 4.1 พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามเปน็ ผู้บริหารสถานศึกษา จานวน 35 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 12.50 ครผู ู้สอน จานวน 244 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 87.50 บุคลากรอยู่ในสถานศกึ ษาขนาดเลก็ จานวน 67 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 24.00 สถานศึกษาขนาดกลาง จานวน 96 คน คิดเปน็ ร้อยละ 34.40 และสถานศึกษาขนาดใหญ่ จานวน 116 คน คิดเป็นร้อยละ 41.60

78 -ตวั อย่ำงกำรพิมพ์ตำรำง บทที่ 4 – ตารางที่ 4.2 ระดับบุพปัจจัยความสาเร็จในการฝึกอบรมแบบ Social Constructivism ของผู้เข้ารับการ ฝึกอบรม (n = 384) Test Value = 4 (80%) รายการ X S.D. t- Sig. แปล value ความหมาย ก. การเรียนรู้รว่ มกนั 1. การอบรมช่วยใหม้ กี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรูร้ ่วมกัน 4.09 0.69 2.65* .008 ระดับสูง ระหว่างผู้เขา้ รบั การอบรม 2. การอบรม ชว่ ยทาให้มีการวเิ คราะห์และแกป้ ัญหา 4.07 0.70 1.81 .070 ระดับสูง รว่ มกันอย่างเปน็ รูปธรรม 3. การอบรมชว่ ยให้มกี ารทางานเปน็ ทีมอยา่ งมี 4.06 0.75 1.51 .133 ระดับสูง ประสิทธภิ าพ ข. การปฏิสัมพันธก์ ับสังคม 4. การอบรมชว่ ยให้มีน้าใจตอ่ กันระหวา่ งผ้เู ข้ารับ 4.05 0.72 1.34 .181 ระดบั สูง การอบรม 5. การอบรมช่วยใหม้ ีความรบั ผิดชอบต่องานท่ี 4.05 0.72 1.50 .135 ระดบั สูง ไดร้ ับมอบหมาย 6. การอบรมชว่ ยให้มกี ารสร้างเครอื ข่ายระหวา่ ง 4.07 0.75 1.84 .067 ระดับสูง กลุ่มบคุ คลในหน่วยงาน รวม 4.07 0.57 2.23* .026 ระดบั สูง * p < .05 จากตารางที่ 4.2 พบว่า การทดสอบความมีนัยสาคัญความสาเร็จในการฝึกอบรมแบบ Social Constructivism ระหว่างคา่ เฉลี่ยเลขคณติ ทเี่ ปน็ ค่าจากการสังเกต (Observed Value) ที่ไดจ้ ากการวจิ ัยกับเกณฑ์ ท่ีต้ังไว้คือร้อยละ 80 (4 ใน 5 Rating Scales) พบว่า ในภาพรวมของระดับบุพปัจจัยความสาเร็จในการฝึกอบรม แบบ Social Constructivism ได้แก่ การเรียนรู้ร่วมกัน และการปฏิสัมพันธ์กับสังคมของผู้เข้ารับการฝึกอบรม อยู่ในระดับสูง อย่างมีนัยสาคัญที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมุติฐานของการวิจัยท่ีตั้งไว้ และเม่ือพิจารณาในแต่ละ รายข้อในแต่ละด้านของบุพปัจจัยพบว่า ทุกบุพปัจจัย อยู่ในระดับสูงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เป็นไป ตามสมมตุ ฐิ านของการวจิ ัยท่ตี ้ังไว้ เช่นเดียวกัน

79 -ตัวอย่ำงกำรพิมพ์ตำรำง บทท่ี 4 - ตารางท่ี 4.3 คา่ เฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของภาวะผนู้ าทางวิชาการของผูบ้ ริหารสถานศึกษา ในสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน สังกดั สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาขอนแก่น เขต 1 ในภาพรวมและรายด้าน (n =290) ภาวะผูน้ าทางวชิ าการของผ้บู ริหารสถานศึกษา ระดับพฤตกิ รรม 1 ด้านวสิ ยั ทัศนใ์ นการจัดการศึกษาให้ทันกบั การเปลี่ยนแปลง X S.D. แปลผล ลาดบั ท่ี 3.88 0.57 มาก 2 2 ด้านภาวะผนู้ าในการริเริ่มการใชน้ วัตกรรมเพ่ือการเรยี นการสอน 3.87 0.56 มาก 3 3 ด้านการสง่ เสริมการนาเทคโนโลยีสารสนเทศการส่อื การมาใช้ใน 3.82 0.53 มาก 5 การปฏิรปู การเรยี นรู้ 4 ดา้ นศกั ยภาพพึ่งตนเองในการพัฒนางานวชิ าการ 3.83 0.54 มาก 4 5 ด้านการแสวงหาความร้ใู หม่ๆ มาปรบั ใชต้ ลอดเวลา 3.90 0.56 มาก 1 ภาพรวม 3.86 0.49 มาก จากตารางท่ี 4.3 พบวา่ ภาวะผนู้ าทางวิชาการของผ้บู ริหารสถานศึกษามกี ารปฏิบตั ใิ นภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก ( X =3.86, S.D.=0.19) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การปฏิบัติอยู่ในระดับมากทั้งหมด โดย ด้านท่ีมีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ด้านการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ มาปรับใช้ตลอดเวลา ( X =3.90, S.D.=0.56) รองลงมาคอื ดา้ นวสิ ัยทศั นใ์ นการจัดการศกึ ษาให้ทนั กบั การเปลี่ยนแปลง ( X =3.88 ,S.D.= 0.57) ด้านภาวะผู้นา ในการริเร่มิ การใช้นวัตกรรมเพื่อการเรยี นการสอน ( X =3.87, S.D.=0.56) ดา้ นศักยภาพพง่ึ ตนเองในการพัฒนา งานวิชาการ ( X =3.83, S.D.=0.54) ตามลาดับ ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านการส่งเสริมการนา เทคโนโลยสี ารสนเทศการสื่อการมาใช้ในการปฏิรปู การเรียนรู้ ( X =3.82 ,S.D.=0.53)

80 -ตัวอย่ำงกำรพิมพต์ ำรำง ในกรณีท่ีตำรำงยงั ไมส่ ้ินสุดในหนึง่ หนำ้ กระดำษ- ตารางท่ี 4.3 (ต่อ) ภาวะผนู้ าทางวิชาการของผบู้ ริหารสถานศึกษา ระดับพฤตกิ รรม 1 ด้านวิสยั ทัศนใ์ นการจดั การศึกษาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง X S.D. แปลผล ลาดับที่ 3.88 0.57 มาก 2 2 ด้านภาวะผู้นาในการรเิ รม่ิ การใชน้ วัตกรรมเพือ่ การเรียนการสอน 3.87 0.56 มาก 3 3 ด้านการส่งเสรมิ การนาเทคโนโลยีสารสนเทศการส่ือการมาใช้ใน 3.82 0.53 มาก 5 การปฏิรูปการเรียนรู้ 4 ด้านศกั ยภาพพงึ่ ตนเองในการพฒั นางานวชิ าการ 3.83 0.54 มาก 4 5 ด้านการแสวงหาความร้ใู หม่ๆ มาปรบั ใช้ตลอดเวลา 3.90 0.56 มาก 1 ภาพรวม 3.86 0.49 มาก จากตารางที่ 4.3 พบว่า ภาวะผ้นู าทางวิชาการของผ้บู ริหารสถานศกึ ษามีการปฏิบัตใิ นภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก ( X =3.86, S.D.=0.49) เมอื่ พจิ ารณาเปน็ รายดา้ น พบว่าการปฏบิ ตั ิอยู่ในระดบั มากทง้ั หมด โดยดา้ น ท่ีมีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ด้านการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ มาปรับใช้ตลอดเวลา( X =3.90 ,S.D.=0.56) ร อ ง ล ง ม า คื อ ด้ า น วิ สั ย ทั ศ น์ ใ น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ใ ห้ ทั น กั บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ( X =3.88 ,S.D.=0.57) ด้านภาวะผู้นาในการริเริ่มการใช้นวัตกรรมเพ่ือการเรียนการสอน ( X =3.87,S.D.= 0.56) ด้านศักยภาพพึ่งตนเองในการพัฒนางานวิชาการ ( X =3.83 ,S.D.=0.54) ตามลาดับ ส่วนด้านที่มี ค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุดคือ ด้านการส่งเสริมการนาเทคโนโลยีสารสนเทศการส่ือการมาใช้ในการปฏิรูปการเรียนรู้ ( X =3.82,S.D.=0.53)

81 -ตัวอย่ำงกำรพิมพ์ตำรำง กำรทดสอบควำมแตกตำ่ งรำยคู่- ผู้วจิ ัยจึงทาการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคโู่ ดยวิธี Scheffe ดงั นี้ ตารางท่ี 4.4 การทดสอบความแตกต่างเปน็ รายคู่ของการดาเนนิ งานระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียนในสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน สงั กดั สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 25 จาแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยภาพรวม ขนาดสถานศึกษา x ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก 3.99 3.90 4.02 3.05 ขนาดกลาง 4.02 - 0.03 0.94** - 0.97** ขนาดใหญ่ 3.05 - - - - ** มีนยั สาคัญทางสถติ ิทรี่ ะดับ .01 จากตารางท่ี 4.4 พบว่า การทดสอบคว ามแตกต่างรายคู่ของการดาเนินงานระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 จาแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยภาพรวมระหว่างบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษา ขนาดเล็กกับ บุคลากรท่ีปฏิบัติงานอยู่ในสถานศึกษาขนาดใหญ่และบุคลากรท่ีปฏิบัติงานอยู่ในสถานศึกษาขนาดกลางกับ บุคลากรท่ีปฏิบัติงานอยู่ในสถานศึกษาขนาดใหญ่มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สว่ นบุคลากรท่ปี ฏบิ ตั ิงานอยใู่ นสถานศึกษาขนาดเล็กกบั บุคลากรท่ีปฏบิ ัติงานอยูใ่ นสถานศึกษาขนาดกลางมีความ คิดเห็นไม่แตกต่างกัน

82 -ตัวอย่ำงกำรพิมพป์ ระวัตผิ ู้วิจัย- ประวตั ิผู้วจิ ยั ชือ่ สกลุ นางสมจิตร กมลผดุ วนั เกดิ วันที่ 4 มิถุนายน 2499 สถำนท่ีเกิด 4 หมู่ 2 บ้านคอนสาร ตาบลคอนสาร อาเภอคอนสาร จงั หวดั ชัยภมู ิ 36240 ท่อี ยู่ปัจจุบนั 173/ 27 หมู่ 4 ถนนประชาสโมสร (17) ตาบลในเมอื ง อาเภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ 40000 โทรศัพท์บา้ น 0-4333-6352 มอื ถือ 08 – 1975-2959 ตำแหน่ง ครู สถำนทีท่ ำงำน โรงเรยี นบ้านหนองหลบุ ตาบลแดงใหญ่ อาเภอเมือง จงั หวัดขอนแกน่ 40000 สังกดั สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาขอนแก่น เขต 1 โทรศพั ท์ 0-4337-0146 ประวตั ิกำรศกึ ษำ พ.ศ. 2512 ประถมศึกษาปที ี่ 7 โรงเรยี นบา้ นคอนสาร ตาบลคอนสาร อาเภอคอนสาร จงั หวัดชัยภูมิ 36240 พ.ศ. 2515 มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนชมุ แพวทิ ยา ตาบลชมุ แพ อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแกน่ 40000 พ.ศ. 2533 ปริญญาครศุ าสตรบณั ฑติ (ค.บ.) วชิ าเอกอตุ สาหกรรมศลิ ป์ วิทยาลัยครเู ลย จังหวัดเลย พ.ศ. 2551 ปรญิ ญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต (ศษ.ม.) วิชาเอกการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ อาเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

83 - ตวั อยำ่ งกำรจัดหน้ำกระดำษ ขอบกระดำษ และกำรใสเ่ ลขหนำ้ - 3.5 Cm. 2 Cm. 1.5 Cm.เลขหน้า ้ดานสันห ันงสือ 3.5 Cm. 2.5 Cm. - ก2ำ.5รจCmดั .ตำแหนง่ ข้อควำมในหนำ้ กระดำษ -

84 หัวข้อใหญ่ 1.5 Cm ย่อหน้า.................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................. 1. หวั ข้อยอ่ ยระดบั ที่ 1 0.5 Cm 1.1 หัวขอ้ ยอ่ ยระดบั ท่ี 2 0.5 Cm 1.1.1 หวั ขอ้ ย่อยระดับท่ี 3 1.1.2 หวั ขอ้ ย่อยระดับท่ี 3 2. หวั ขอ้ ยอ่ ยระดับที่ 1 2.1 หัวขอ้ ยอ่ ยระดับท่ี 2 2.1.1 หวั ข้อยอ่ ยระดบั ท่ี 3 2.2.2 หัวข้อยอ่ ยระดับที่ 3 หัวข้อใหญ่ ย่อหนา้ .................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................. 1. หัวขอ้ ยอ่ ยระดับที่ 1 1.1 หัวข้อยอ่ ยระดบั ที่ 2 1.1.1 หัวขอ้ ย่อยระดบั ท่ี 3 1.1.2 หัวข้อย่อยระดบั ที่ 3 2. หวั ข้อย่อยระดบั ที่ 1 2.1 หวั ขอ้ ย่อยระดบั ที่ 2 2.1.1 หวั ขอ้ ยอ่ ยระดบั ที่ 3 2.2.2 หัวข้อย่อยระดบั ที่ 3

85 - ตัวอย่ำงกำรพิมพช์ ่ือบทและหวั ข้อบท - 3.5 Cm. บทที่ 1 บทนำ เว้น 1 บรรทดั ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของกำรศึกษำ เว้น 1 บรรทัด ในระบอบประชาธปิ ไตยของประเทศไทย ไดแ้ บ่งลักษณะการบริหารราชการออกเปน็ 3 ส่วน คือ 1) การบริหารราชการสว่ นกลาง เปน็ การบริหารแบบรวมอานาจไว้ส่วนกลาง (กระทรวง ทบวง กรม) อานาจดงั กลา่ วไดแ้ ก่ การวนิ ิจฉยั ส่งั การและการบังคับบญั ชาซ่ึงผลในการส่งั การจะมีอานาจ 1. กาหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มีความเป็นอิสระในการกาหนดนโยบาย การปกครอง การบริหารงานบุคคล การเงินการคลังและใหม้ ีอานาจหนา้ ท่ีของตนเองโดยเฉพาะ 2. กาหนดอานาจหนา้ ที่ระหว่างรฐั กับองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นและระหว่างองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิ่นด้วยกนั เองตามกฎหมายบัญญัติ ทงั้ นโ้ี ดยคานึงถึงการกระจายอานาจให้แก่ท้องถน่ิ 1 บรรทัด วัตถปุ ระสงค์ของกำรศกึ ษำ เวน้ 1 บรรทัด 1. เพอ่ื ศึกษา ปัญหาการบริหารการเงนิ การคลังของเทศบาลตาบลหนองหนิ อาเภอหนองกงุ ศรี จงั หวัดกาฬสินธ์ุ 2. เพ่อื หาแนวทางแก้ไขปัญหาบริหารการเงินการคลงั ของเทศบาลตาบลหนองหิน อาเภอหนอง กุงศรี จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ เวน้ 1 บรรทดั ขอบเขตของกำรศกึ ษำ เวน้ 1 บรรทัด 1. ขอบเขตประชากรกลุ่มตัวอยา่ ง ได้แก่ ผบู้ รหิ าร พนักงานเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานจา้ ง และผู้นาชมุ ชน รวมท้ังสนิ้ 70 คน 2. ขอบเขตเน้ือหา ศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรในเร่ืองปัญหาการบรหิ ารการเงินการคลัง ตามกระบวนการบริหาร ใน 4 ด้าน คือ ดา้ นการวางแผน ด้านการงบประมาณ ด้านการบริหารจดั การ

86 -ตัวอยำ่ งกำรพิมพบ์ รรณำนกุ รม- บรรณำนกุ รม ภำษำไทย ก่ิงก้อย น้อยสะปุ๋ง. (2551). ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อผู้ประกอบกำรสำหรับกำรจัดกำรฝึกอบรมให้กับ ลูกจ้ำงในจังหวัดลำพูน. การค้นคว้าแบบอิสระสาขาวิชาเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. ทพิ วรรณ หล่อสวุ รรณรัตน์. (2548). ควำมหมำยของข้อมูล สำรสนเทศ และควำมรใู้ นองค์กำรแห่ง ควำมรู้: จำกแนวคดิ สู่กำรปฏบิ ตั ิ. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 2, กรงุ เทพมหานคร: แซทโ์ ฟร์ พรน้ิ ตงิ้ . นันทนา รางชางกรู . (2531). \"หลักกำรและแนวทำงกำรประเมินผลกำรฝกึ อบรมหลักสตู รนกั บริหำร ระดบั ตำ่ งๆ ของกระทรวงสำธำรณสุข ปี 2531,\" นนทบรุ ี: กองฝกึ อบรม กระทรวงสาธารณสุข. บุญดี บุญญากิจ นงลักษณ์ ประสพสุข โชคชัย ดิสพงศ์ พร ชนกนาถ และ ปรียวรรณ กรรณล้วน. (2547). กำรจดั กำรควำมรู้...จำกทฤษฎีสู่ภำคปฎิบัติ, กรงุ เทพมหานคร: สถาบันเพิ่มผลผลิต แห่งชาติ. พงษ์ศิลป์ สูงแข็ง. (2551). กำรจัดกำรควำมรู้ในหน่วยธุรกิจลูกค้ำผู้ประกอบกำรจังหวัดร้อยเอ็ด, มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. ไพศาล ไกรสิทธิ์. (2542). กำรพฒั นำตน. ราชบรุ :ี สถาบันราชภฏั หมบู่ ้านจอมบึง. ยุวดี เสรีพิทยารัตน์. (2549). รูปแบบกำรฝึกอบรมในงำน/กำรเรียนรู้เป็นทีม. ดุษฎีนิพนธ์ สาขาวชิ าพัฒนศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. ศิริรัตน์ นีสันเทียะ. (2552). บทบำทของเครือข่ำยทำงสังคมไทยในกำรแบ่งปันควำมรู้ของ ผูบ้ รหิ ำรในอตุ สำหกรรมกำรผลิต จังหวดั นครรำชสมี ำ. วิทยานพิ นธ์การจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการจดั การ สานักวชิ าเทคโนโลยสี ังคม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี. ศูนยฝ์ กึ อบรม มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ (2531). “แนวคิดเก่ียวกับกำรประเมินผลกำรฝึกอบรม.” กำรประเมนิ ผลกำรฝึกอบรม. ค้นเม่ือ 13 สิงหาคม 2554. จาก http://www.tu.ac.th/org/ofrector/person/train/handbook/ assess.html. สดใส คัมภิรา. (2544). องค์ประกอบในกำรจัดกำรฝึกอบรมท่ีมีควำมสัมพันธ์กับกำรพัฒนำฝีมือ แ ร ง ง ำ น ผู้ เ ข้ ำ รั บ ก ำ ร ฝึ ก เ ต รี ย ม เ ข้ ำ ท ำ ง ำ น ใ น ส ถ ำ บั น พั ฒ น ำ ฝี มื อ แ ร ง ง ำ น ภ ำ ค ตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน สานักงาน ก.พ. (2533). “กระบวนกำรฝึกอบรม” เอกสำร ประกอบกำรฝึกอบรม หลักสูตรควำมรู้พื้นฐำนด้ำนกำรฝึกอบรม. กรุงเทพมหานคร: สถาบันพัฒนาขา้ ราชการพลเรอื น.

87 สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สานักนายกรัฐมนตรี. (2539). แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ีสิบ พ.ศ. 2550–2554, กรุงเทพมหานคร: วี.เจ. พริ้นต้ิง. สุทธนู ศรไี สย์. (2551). สถิตปิ ระยกุ ตส์ ำหรบั งำนวจิ ัยทำงสังคมศำสตร์. กรงุ เทพมหานคร: จิราภา การพิมพ์. ภำษำองั กฤษ Argote L., and Ingram, P. (2000). Knowledge transfer: A basis for competitive advantage in firms. (Organizational Behavior & Human Decision Processes). London: Kogan Page. Armstrong, M. (1999). A Handbook of Human Resource Management Practice. 7th edn. London: Kogan Page. Artino, A.R., Jr. (2008). “Cognitive load theory and the role of learner experience: An abbreviated review for educational practitioners.” AACE Journal, 16 (4): 425-439. Barnett, K. (2010). “Measuring Success and ROI in Corporate Training.” Journal of Asynchro-nous Learning Networks, 14: Issue 2. Baskerville, R., and Dulipovici, A. (2006). The theoretical foundations of knowledge manage-ment. Retrieved on 21 November 2011. Available in http://www.palgrave-journals.com/kmrp/journal/v4/n2/full/ 8500090a. html.

88

89 ภำคผนวก ค แบบฟอร์มตำ่ งๆ ในกำรดำเนินงำนนิพนธ์

90 ศษ.01 คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวิทยำลยั ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ เสนอขอสอบ  ประมวลควำมรู้  วดั คุณสมบัติ วนั ที่………..เดอื น………………….……พ.ศ…………. ขา้ พเจ้า (นาย /นาง /นางสาว)…………………………………….…..……..…………รหัสประจาตัว………………..........……. เปน็ นกั ศึกษาระดับ  ปริญญาโท  ปริญญาเอก หลกั สตู ร.............................................................................................สาขาวชิ า…………........…………..…..… ได้เข้าศึกษาตงั้ แตภ่ าคการศึกษาท.่ี .......……ปีการศกึ ษา.....…........……….…......รวมเปน็ เวลา.......…………....ภาคการศึกษา ขา้ พเจ้า มคี วามประสงค์ขอ 1. สอบประมวลความรู้ นกั ศกึ ษำระดบั ปริญญำโท (เฉพาะแผน ข) ซ่ึงขา้ พเจ้า ได้ลงทะเบียนรายวิชาต่างๆ ครบถ้วนตามหลักสตู รแลว้ จานวน…....…...รายวชิ า ……....… ….หนว่ ยกติ คงเหลือรายวชิ าเรยี นทีย่ งั ไมป่ ระเมินผล จานวน.....………….....หน่วยกิต และมคี ะแนนเฉลย่ี สะสมไมต่ ่ากวา่ 3.00 คือ...….…..…....… 2. สอบวดั คณุ สมบตั ิ นกั ศกึ ษำปริญญำเอก ซ่ึงข้าพเจา้ ไดล้ งทะเบยี นรายวิชาตา่ งๆ ครบถ้วนตามหลักสตู รแลว้ จานวน….....รายวิชา ……….…….หนว่ ยกติ คงเหลือรายวชิ าเรียนทยี่ งั ไมป่ ระเมินผล จานวน.....………….....หนว่ ยกิต และมคี ะแนนเฉลยี่ สะสมไม่ตา่ กวา่ 3.00 คือ...….……..…....… 3. การขอสอบ  ประมวลความรู้  วดั คุณสมบัติ ครั้งน้ี เป็นการสอบครั้งท่ี……...….......……… จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนมุ ตั ิ หากมปี ัญหาสามารถตดิ ต่อข้าพเจ้าไดท้ ่ี หมายเลข โทรศพั ท์………………. ลงชื่อ..................................................นกั ศกึ ษา (................................................) 1.ควำมเห็นอำจำรย์ประจำหลกั สตู ร 2. หลกั สูตรตรวจสอบ เหน็ ควรใหส้ อบ  นกั ศึกษาดังกล่าวมีคณุ สมบัติ ถกู ตอ้ งตามประกาศฉบบั น้ี ป.โท  ประมวลความรู้  ขอ้ เขยี น  ปากเปลา่  มสี ถานภาพเป็นนกั ศกึ ษา ป.เอก  วดั คุณสมบตั ิ  ขอ้ เขยี น  ปากเปลา่ ลงชือ่ ………………….……………..……………… ลงชอ่ื ……………………………………………….…… (…………………………………….……………….) (…………………………………………………………….) อาจารย์ที่ปรึกษา / ผไู้ ด้รบั มอบหมาย อาจารย์ประจา / ผ้ไู ด้รับมอบหมาย วนั ที่……………/…………………/.…………………. วันท่ี……………/…..……………/…...………… 3 .ฝ่ำยกำรเงนิ 4. ควำมเห็นคณะกรรมกำรบริหำรหลักสตู ร  ไดร้ บั ค่าธรรมเนยี มการสอบประมวลความรแู้ ลว้  อนุมตั ิใหส้ อบได้ จานวน……………………บาท  ไม่อนมุ ตั ิ เนอื่ งจาก……………………………  ได้รบั คา่ ธรรมเนียมการสอบวดั คณุ สมบตั แิ ล้ว ……………………………………………………………… จานวน......….............……บาท ลงชอื่ …………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… (…………………………………………………………….) (…………………………………………….……….) ผูร้ บั เงิน ประธานหลกั สตู ร / ผไู้ ดร้ บั มอบหมาย วนั ท่ี………………/…………….…/………………. วันที่…….………/………..……….…/.………………. *สง่ เอกสารท่ีหลักสตู รฯ

91 ศษ.02 คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวิทยำลยั ภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ ขอสอบหัวข้องำนนพิ นธ์ [ ] ดษุ ฎีนพิ นธ์ [ ] วิทยานิพนธ์ [ ] การคน้ คว้าอิสระ ขา้ พเจา้ นาย/นาง/นาสาว ............................................................รหัสนักศกึ ษา............................................ ระดบั [ ] ปรญิ ญาเอก [ ] ปริญญาโท [ ] อน่ื ๆ...................................................................... หลกั สตู ร.................................................................สาขาวชิ า................................................ .......................... สถานท่ีที่สามารถตดิ ต่อได้.........................................หมายเลขโทรศัพท์......................................... E-mail............................................................................................................................. ................. มคี วามประสงค์จะเสนอหัวขอ้ งานนิพนธ์ โดยได้ [ ] ลงทะเบียนเรยี นและสอบผ่านรายวิชาครบทุกรายวชิ าของหลกั สูตร [ ] ผา่ นเงื่อนไขภาษาต่างประเทศ [ ] ผ่านการสอบวดั คุณสมบัติ เมอื่ วันที่.......เดอื น..................พ.ศ........และเสนอหวั ข้องานนิพนธ์ 1. ชอ่ื เรอ่ื ง (ภาษาไทย)........................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. (ภาษาองั กฤษ)................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. 2. เหตผุ ลเชิงวิชาการท่ีสนใจศกึ ษาเรื่องน้ี .......................................................................................................................................................... ................ ................................................................................................................... ....................................................... 3. วัตถปุ ระสงค์การวจิ ัย 3.1 ............................................................................................................................. .................................. 3.2…….............................................................................................................................. ............................ 3.3.......................................................................................... .......................................................................

92 4. .แนวคดิ ทางทฤษฎที ี่จะใช้ในการวิจัย ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. 5. วธิ ดี าเนินการวิจยั ...................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. ...................................................................................................................................................................... .... ลงช่อื ..........................................นักศึกษา (....................................................) ................/........................./.................... ตรวจสอบยอดค้างชาระ ภาคเรยี นท.่ี ............จานวน............................. ภาคเรยี นท.่ี ............จานวน............................. ภาคเรยี นท.่ี ............จานวน............................. ภาคเรยี นท.่ี ............จานวน............................. รวมทงั้ หมด......................................... ชาระค่าสอบหวั ขอ้ ................................. บาท ลงชอ่ื ................................................. ฝ่ ายการเงิน........./............/............ เสนอผา่ นความเห็นชอบโดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ในการประชมุ ครั้งที่....../............... เม่ือวนั ท.่ี ...............เดอื น........................................พ.ศ............................... ความเหน็ ของประธานหลกั สตู ร ..................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. .................................................................................... ลงนาม...................................................... (..............................................................) ประธานหลกั สตู ร วนั ท่ี............../................../.................

93 ศษ.03 คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวิทยำลยั ภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ ขออนุมัตแิ ตง่ ตั้งอำจำรย์ท่ปี รกึ ษำงำนนพิ นธ์ [ ] ดุษฎีนิพนธ์ [ ] วิทยานิพนธ์ [ ] การค้นคว้าอสิ ระ ข้าพเจ้า นาย/นาง/นาสาว ..............................................................รหสั นักศึกษา............................. ระดับ [ ] ปริญญาเอก [ ] ปรญิ ญาโท [ ] อน่ื ๆ ...................................................................................... หลกั สตู ร ....................................................................สาขาวิชา................................................. .................. สถานที่ที่สามารถติดต่อได.้ .................................หมายเลขโทรศพั ท์............................. E-mail............................................................................................................................. . มคี วามประสงค์จะเสนอแตง่ ตัง้ อาจารยท์ ป่ี รึกษางานนิพนธ์ ซงึ่ ไดร้ บั การอนมุ ัติ หวั ข้องานนิพนธ์ เรอ่ื ง .................................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. นบั ตัง้ แต่วันที่ ...............เดอื น......................................พ.ศ.......................โดยรายละเอียดดงั ต่อไปนี้ 1. อำจำรย์ที่ปรึกษำหลักงำนนพิ นธ์ ชือ่ -สกุล...................................................................................................................................... ตาแหนง่ ทางวชิ าการ.................................................................................................................. - ภาระงานในการเป็นทป่ี รึกษาปัจจุบัน ทปี่ รึกษางานนิพนธ์ จานวน..........คน ทปี่ รึกษาการ ค้นควา้ อิสระ จานวน............คน รวมทงั้ หมด ......................คน - สาขาทีช่ านาญการ................................................................................................................. 2. อำจำรย์ทป่ี รกึ ษำร่วมงำนนิพนธ์ ชอื่ -สกลุ ...................................................................................................................................... ตาแหนง่ ทางวชิ าการ.................................................................................................................. - ภาระงานในการเป็นทปี่ รกึ ษาปจั จบุ ัน ท่ปี รกึ ษางานนพิ นธ์ จานวน..........คน ทป่ี รึกษาการ คน้ คว้าอสิ ระ จานวน............คน รวมทัง้ หมด ......................คน - สาขาทช่ี านาญการ.................................................................................................................

94 3. อำจำรย์ท่ีปรึกษำร่วมงำนนพิ นธ์ ชื่อ-สกุล...................................................................................................................................... ตาแหนง่ ทางวชิ าการ.................................................................................................................. - ภาระงานในการเปน็ ทปี่ รกึ ษาปัจจบุ นั ทีป่ รกึ ษางานนิพนธ์ จานวน..........คน ท่ีปรึกษาการ ค้นควา้ อสิ ระ จานวน............คน รวมทั้งหมด ......................คน - สาขาทชี่ านาญการ................................................................................................................. ลงชอ่ื ..................................................นกั ศกึ ษา (..........................................................) ................../....................../................... ควำมเหน็ ของประธำนหลกั สตู ร ควำมเหน็ ของคณบดี .................................................................................... ...................................................................................... .................................................................................... . ...................................................................................... ลงช่อื .................................................................. . (..........................................................) ลงชอ่ื ................................................................. ........................./.........................../...................... (..........................................................) ......................./........................../.....................

95 ศษ. 04 คณะศึกษำศำสตร์ มหำวิทยำลยั ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ เสนอสอบโครงรำ่ งงำนนพิ นธ์ ( 3 บท) [ ] ปรญิ ญาเอก หลักสตู ร..........................................................สาขาวชิ า…………………………... [ ] ดษุ ฎนี ิพนธ์ [ ] ปริญญาโท หลักสตู ร..........................................................สาขาวชิ า…………………………... [ ] แผน ก (2) วทิ ยานพิ นธ์ 1. ชอื่ สกลุ (พระ/ นาย/ นาง/ นางสาว)..................……….....................……..….…….…..รหัส……………………………………........… 2. ชอื่ เรอื่ ง……………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………..…. ………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………..…… 3. สง่ รปู เลม่ พร้อมสอบงานนิพนธ์ ใหก้ ับคณะกรรมการสอบงานนพิ นธ์เทา่ กบั จานวนคณะกรรมการสอบ กอ่ นวนั สอบ 7 วัน (ลงชือ่ )………………………………………..………นกั ศกึ ษา วนั ที่……….เดือน……………………………พ.ศ………. หมายเลขโทรศพั ท.์ ………………………………………..……… 4. ความคิดเห็นของอาจารย์ปรกึ ษางานนพิ นธ์ ………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………... ตรวจสอบยอดคำ้ งชำระ (ลงนาม) ….….….….….….….….….….….…...………..อาจารย์ทปี่ รกึ ษา (….….….….….….….….….….….….….….….) ภาคเรยี นหทล่ี..ัก...........จานวน............................. ภาคเรยี นท.่ี ............จานวน............................. (ลงนาม) ….….….….….….….….….….….….….….ที่ปรึกษาร่วม (ถ้าม)ี ภาคเรยี นท.ี่ ............จานวน............................. (….….….….….….….….….….….….….….….) ภาคเรยี นท่.ี ............จานวน............................. รวมท้ังหมด......................................... ลงชอ่ื ................................................. ความคดิ เห็น............................................................................ ฝำ่ ยกำรเงนิ ........./............/............ .............................................................................................. (ลงนาม) ………………………………………………………ประธานหลักสูตร (….….….….….….….….….….….….….….….)

96 ศษ. 05 คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวิทยำลยั ภำคตะวันออกเฉียงเหนอื แบบคำรอ้ งขอแต่งต้งั ผเู้ ชย่ี วชำญ และออกหนงั สือเชญิ ผทู้ รงคณุ วุฒิ เพื่อ 1. [ ] ตรวจสอบเครอ่ื งมอื 2. [ ] สนทนำกลมุ่ (Focus Group Discussion) 3. [ ] ยนื ยนั องค์ประกอบ 4. [ ] อนื่ ๆ ---------------------------------------- วนั ท่ี……เดือน….......……………..พ.ศ...................……… ดว้ ย (นาย นาง นางสาว)………………………………...........................………….……….รหสั ……………...…................……. กาลังศึกษาในระดบั [ ] ปรญิ ญาโท [ ] ปรญิ ญาเอก หลักสตู ร...………………..........…………...…...……………… สาขาวชิ า………..............................…………………………………………….…………….....……........………......……………. กาลงั จัดทางานนิพนธ์ เร่ือง……...........……………………………….…………….....……........……………………………………….…………….....……........………………… …………………….…………….....……........……………………………………….…………….....……........……………………………………….………… ….....……........……………………………………….…………….....……........……………………………………….…………….....……........…………… *ระบุ กรณจี ดั สนทนากลุ่มใน วนั ที่…....เดือน........…......…………พ.ศ.…...…..…เวลา.............................. สถานที.่ ............................................................................................................................................................ ซึง่ อยรู่ ะหว่างการจัดทางานวจิ ยั และมีความประสงค์จะขอแต่งตั้งบุคคลต่อไปนเ้ี ปน็ ผ้เู ชย่ี วชาญ/ผทู้ รงคุณวฒุ ิ ดังน้ี 1. ชื่อ – สกลุ ……………………………………………………สงั กดั ……………...……………… 2. ช่อื – สกุล……………………………………………………สงั กดั ………….………………….. 3. ชอ่ื – สกุล……………………………………………………สงั กดั ……………………………… 4. ชื่อ – สกุล……………………………………………………สงั กดั ………….………………….. 5. ชื่อ – สกลุ ……………………………………………………สงั กดั ……………………………… จึงเรียนมาเพือ่ โปรดพิจารณา (ลงชอ่ื )……………...………………… นกั ศึกษา (……………….......………………) หมายเลขโทรศัพท์............................................................ ความเหน็ อาจารยท์ ป่ี รึกษา……………........................................................................…………………………………………………. (ลงนาม) ………………………………..…………………… ทปี่ รึกษา (…...………………..……………………….………) ความเหน็ ของประธานหลักสตู ร……………........................................................................…………………………………………………. (ลงนาม) …………………………………..……………… ประธานหลักสตู ร (…...………………..………………………….……) *สง่ เอกสารทเ่ี ลขาหลกั สตู รฯ

97 ศษ.06 คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวิทยำลัยภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ แบบขออนมุ ัติสอบงำนนพิ นธ์ (5 บท) 1. ขำ้ พเจำ้ (นาย, นาง, นางสาว)……………………………………………….…………….. รหัสประจาตวั …………………………………...……. นกั ศึกษาระดับ [ ] ปริญญาโท หลกั สูตรศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต [ ] แผน ก (2 ) [ ] แผน ข การค้นคว้าอิสระ [ ] ปรญิ ญาเอก หลักสูตรปรัชญาดษุ ฏบี ณั ฑติ สาขาวิชา………………………….…………………. คณะศึกษาศาสตร์ ท่ีอย่/ู สถำนท่ที ำงำนปัจจบุ นั (ทสี่ ำมำรถตดิ ต่อไดส้ ะดวก) เลขที่……………………ตาบล………………..……...................................... อาเภอ………………………..………................จงั หวัด……….…………...….…………รหัสไปรษณีย์……………..…................................ โทรศพั ท์…………..………………... โทรสาร ……..……..……….. E-mail ……………………..………………….………….……….…….. ผ่าน การสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination) เมือ่ วันท.ี่ ............เดือน.................................พ.ศ......................... ผา่ น กาหนดภาษาองั กฤษตามเกณฑท์ ่ีกาหนด จาก.........................................คะแนน..............เมอ่ื วนั ท่.ี .......................... ผา่ น ลงทะเบยี นงานนพิ นธ.์ ................หน่วยกิต / รายวิชา.....................หนว่ ยกิต ตามที่หลกั สูตรกาหนด ผา่ น การอนมุ ัตหิ ัวข้องานนิพนธ์ เม่อื วันท่ี..............เดอื น.............................................พ.ศ.............................................. ผ่าน การแตง่ ตั้งอาจารยท์ ี่ปรกึ ษางานนิพนธ์ เมื่อวันท่.ี .............เดอื น................................พ.ศ......................................... ประกาศการอนมุ ัตหิ วั ขอ้ งานนพิ นธ์ สาเนา จานวน 1 ฉบับ งานนพิ นธฉ์ บบั ขอสอบ จานวน 1 เล่ม ซดี ขี อ้ มูลงานนิพนธ์ จานวน 1 แผน่ บนั ทกึ ด้วยโปรแกรม Microsoft Word เพอ่ื ตรวจสอบและปอ้ งกันการคัดลอกผลงาน ของผู้อน่ื พรอ้ มแนบรายงานผลการตรวจสอบจากโปรแกรมสาเร็จรปู จานวน 1 ฉบับ มีควำมประสงคข์ อสอบงำนนพิ นธ์ เรอื่ ง (ภาษาไทย)……………………………..............................…………………………………………………………………………………………. ………………….………………….….................................……………………………………………………………….……..……………… (ภาษาองั กฤษ)……………..............................….…………………………………….………..………………..………………………………….. ……………………….…….................................…………….………………………………………………………………….……..…………… ในวันที่………………..เดือน.……………………………………พ.ศ..……………........... เวลำ………………….………………….…………………………..น. สถำนทสี่ อบ ณ …………………………………………………………………………………………………………………… ขำ้ พเจ้ำไดแ้ นบเอกสำรมำประกอบกำรพจิ ำรณำดงั นี้ 1. แบบคาร้องขอสอบงานนพิ นธ์ (ศษ.07 ผ่าน ผู้เกย่ี วขอ้ งเรียบรอ้ ยแลว้ ) 2. แบบรายงานแสดงผลการเรยี น จานวน 1 ฉบบั *หมำยเหตุ เมือ่ นกั ศกึ ษาไดร้ บั การอนมุ ตั ิให้สอบ 5 บท ใหน้ กั ศึกษานาสง่ งานนพิ นธ์ จานวน เทา่ คณะกรรมการสอบ ซึ่งหลักสตู รจะต้องประกาศแจ้งรายชอ่ื นกั ศกึ ษาท่มี สี ิทธ์สิ อบ ให้นักศกึ ษาทราบก่อนสอบ อยา่ งนอ้ ย 1 สปั ดาห์ ลงชื่อ…………………………………..…………นักศึกษา (………………………………....……………………) หมายเลขโทรศพั ท์....................................................... วนั ท่ี…………………………………………….…………

98 2. ควำมเห็นของทปี่ รึกษำงำนนิพนธ์ (โดยระบชุ อ่ื - สกลุ และลงนามทกุ ท่าน) [ ] เหน็ ชอบใหเ้ ขา้ รบั การสอบงานนพิ นธ์ [ ] ไมเ่ ห็นชอบ เพราะ………………………………………..….....................………….. (ลงช่อื )….............................................................. (.............…….…………………………………………..) ทีป่ รกึ ษางานนพิ นธ์ .........../....................../................ 3. ควำมเห็นของประธำนหลักสตู ร [ ] เหน็ ชอบใหส้ อบงานนพิ นธ์ได้ และขอเสนอกรรมการสอบดงั น้ี 3.1 กรรมการสอบ อาจารยป์ ระจา (อาจารยภ์ ายในมหาวทิ ยาลยั ) 1) ชือ่ -สกลุ ...............................................………………....……ตาแหน่งทางวิชาการ………………............….......…...….…….………………….. คณุ วฒุ สิ งู สดุ ...................................................................สาขาวิชา................................................................................................. คณะตน้ สังกัด………….……… ...……………..........……….…..โทรศัพท์………………..…………....…………................…….…….…….….….…… 2) ชื่อ-สกุล...............................................………………....……ตาแหนง่ ทางวชิ าการ………………............….......…...….…….………………….. คณุ วุฒสิ งู สดุ ...................................................................สาขาวชิ า................................................................................................. คณะต้นสังกดั ………….……… ...……………..........……….…..โทรศพั ท์………………..…………....…………................…….…….…….….….…… 3.2 กรรมการสอบ ผูท้ รงคุณวฒุ ิจากภายนอกมหาวทิ ยาลยั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 1) ช่ือ-สกุล...............................…......................………………..……ตาแหนง่ ทางวชิ าการ…………………..…...….…….………………….. คณุ วุฒิสงู สุด................................................................................สาขาวชิ า.............................................................................. ท่ีอยู่ / สถานที่ทางานปจั จุบนั ......………………………………….…………..…..…………….……………..……… โทรศพั ท์……...………..…….………….โทรสาร…………..…………….… E-mail……………………………………………… 2) ชื่อ-สกลุ .............................…......................………………..……ตาแหนง่ ทางวชิ าการ…………………..…...….…….………………….. คุณวุฒิสงู สุด.................................................................................สาขาวชิ า.............................................................................. ทอ่ี ยู่ / สถานท่ีทางานปัจจบุ นั ......……………………………………….…………..…..…………….……………..……… โทรศพั ท์……...…………….โทรสาร…………..…………….… E-mail………………………………………….……………………………… ลงชอ่ื …..........................……......… ..…………………. (…...............………………………………….) ประธานหลกั สูตร ………/…….……/….…… เจำ้ หนำ้ ทปี่ ระจำคณะศกึ ษำศำสตร์ ตรวจสอบเพ่ือเสนอต่อคณบดี ผา่ น การสอบวดั คณุ สมบัติ (Qualifying Examination) ผา่ น กาหนดภาษาอังกฤษตามเกณฑท์ ่กี าหนด ผา่ น ลงทะเบียนงานนิพนธ์ / รายวชิ าครบหนว่ ยกิตตามทีห่ ลกั สตู รกาหนด ผา่ น การอนมุ ัตหิ ัวขอ้ งานนิพนธ์ ผ่าน การแต่งตั้งอาจารยท์ ป่ี รึกษางานนิพนธ์ คณะกรรมการสอบงานนิพนธ์มคี ณุ สมบตั ิเป็นไปตามเกณฑ์ ข้อมลู การตรวจสอบคา่ เทอม และคา่ สอบ ชาระครบแลว้ ยงั ค้างชาระ เห็นควรอนุมตั ิ เห็นควรไม่อนมุ ตั ิ ลงชื่อ…………..................………………………. (…............................…………………………….) เจา้ หนา้ ทปี่ ระจาคณะศกึ ษาศาสตร์ วนั ที่………../…………/…….………

99 5. คำสงั่ คณบดีคณะศึกษำศำสตร์ อนุมัตใิ หแ้ ตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบงานนพิ นธ์ ดงั นี้ 1) ……………………………………………………………………………….……………….... ประธาน (ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก) 2) …………………………………………………………………………….………………….... ผทู้ รงคณุ วฒุ ภิ ายนอก 3) ……………………………………………………………………….……………………….... อาจารย์ท่ปี รึกษาหลักงานนพิ นธ์ 4) ……………………………………………………………………….……………………….... อาจารยท์ ่ปี รกึ ษารว่ มงานนิพนธ์ 5) ……………………………………………………………………….……………………….... อาจารยป์ ระจาหลกั สูตร 6) ……………………………………………………………………….……………………….... อาจารย์ประจาหลกั สูตร ไมอ่ นุมตั ิ เนือ่ งจาก...............................................................................………………………………………………………….……………………. ลงชื่อ………………………..………………………. (…………………….…………………………….) คณบดี/ผ้ไู ดร้ บั มอบหมาย วนั ท่ี……………/…………………../…..…………

100 ศษ. 07 คณะศึกษำศำสตร์ มหำวิทยำลยั ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ขอส่งงำนนิพนธ์ เพอ่ื ตรวจเน้ือหำ และรปู แบบ ---------------------------------------------------------------  ปริญญาเอก หลักสตู ร...............................................................สาขาวิชา…………………………...  ดษุ ฎีนิพนธ์  ปรญิ ญาโท หลักสูตร.................................................................สาขาวิชา...........................................  แผน ก (2) วทิ ยานพิ นธ์  แผน ข การคน้ ควา้ อิสระ 1. ชอื่ -สกุล (นาย/นาง/นางสาว)....................................................................................รหสั ............................ 2. ชือ่ เรอ่ื ง...................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ทงั้ นี้ ได้แนบสง่ งานนพิ นธ์ต้นฉบบั มาด้วยแล้ว จานวน 1 ฉบับ เพ่อื ตรวจเน้อื หาและรูปแบบ ลงชือ่ ..........................................................นักศึกษา วันท.ี่ .......เดือน........................พ.ศ........... หมายเลขโทรศพั ท์....................................................... 3. อาจารยท์ ่ีปรึกษาได้รับเอกสารงานนิพนธ์เพื่อดาเนินการตรวจสอบความถูกตอ้ งของเน้ือหาและรูปแบบ เม่อื วันท่.ี ..........เดือน...................พ.ศ.................. และไดด้ าเนนิ การตรวจแล้วผลปรากฏว่า ( ) มีการแกไ้ ข แก้ไขครงั้ ที่ 1 วนั ท.ี่ ................................ลงชื่อ............................. แก้ไขครง้ั ที่ 2 วันท่.ี ................................ลงชอ่ื ............................. แกไ้ ขครงั้ ที่ 3 วนั ท่ี.................................ลงชื่อ............................ ( ) ผา่ นการตรวจแลว้ ไดต้ รวจสอบความถูกต้องของเนอ้ื หา และรปู แบบการทางานนพิ นธ์ เรียบรอ้ ยแล้ว จงึ เหน็ สมควรอนุญาตให้จดั ทาเล่มงานนพิ นธ์ฉบับสมบรู ณไ์ ด้ ลงชอ่ื ...........................................อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา วนั ท.ี่ .......เดอื น.........................พ.ศ............... 4. ความเหน็ ของประธานหลกั สตู ร................................................................................................................ ลงชอื่ ..........................................ประธานหลกั สตู รฯ (...........................................) 5. ความเห็นของคณบดี.................................................................................................................................. ลงช่อื ..........................................คณบดี/ผไู้ ดร้ บั มอบหมาย (...........................................) *ส่งเอกสารพร้อม เลม่ งานนิพนธ์ 1 ฉบบั เพอ่ื ตรวจรปู แบบและความถกู ต้อง ทีห่ ลกั สูตรฯ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook