บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารงุ ) ท…ี่ …………………วนั ท่ี ………… เดอื น …………………….. พ.ศ.2564 เรื่อง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ เรียน ผู้อานวยการโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวัสด์ริ าษฎร์บารุง) ด้วยขา้ พเจ้า นางสาวหทยั รตั น์ ราชเสนา ตาแหนง่ ครู โรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎร์บารุง) ได้รบั มอบหมายให้ปฏบิ ัติหน้าท่กี ารสอน รายวชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ12101 กล่มุ สาระการ เรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 บดั น้ี ขา้ พเจา้ ไดจ้ ัดเตรียมการสอน และจดั ทาแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ แบบ Active learning ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดาเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีจัดเตรียมไว้ ซึ่งแ น บเ อกส า ร ห น่วย กา ร เรีย น ท่ี 1 ชื่อ หน่ว ย Back to school เ วลา เรีย น 8 ชั่ว โม ง มาพรอ้ มกบั เอกสารนี้ จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ ลงชอื่ ( นางสาวหทัยรตั น์ ราชเสนา ) ตาแหนง่ ครู ลงช่ือ (นางสาวอรวรรณ พดุ มอญ) หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ความเห็นผอู้ านวยการโรงเรยี น อนญุ าต ไม่อนญุ าต เพราะ ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ( นางอจั ฉรา รักษาชนม์ ) ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) ............./................../.............
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง Back to school ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหสั อ12101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ครูผสู้ อน นางสาวหทยั รตั น์ ราชเสนา โรงเรียนวัดพืชนิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎรบ์ ารุง) สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 สานักานคณะกรรมการการศึกษาขน้ึ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน รหัสวชิ า อ12101 วชิ า ภาษาองั กฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 160 ชัว่ โมง ศกึ ษาประโยคคาสัง่ คาขอร้อง ตัวอกั ษร เสียงตัวอกั ษรและสระ การสะกดคา ประโยค หลักการ อา่ นออกเสียง คา กลุ่มคา ประโยคเด่ียว และความหมายเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น ส่ิงแวดล้อม ใกล้ตวั อาหาร เคร่ืองด่มื นันทนาการ ประโยคสนทนา หรือนิทานภาพประกอบ ประโยคคาถาม คาตอบ บทสนทนาทใี่ ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความท่ีใช้แนะนาตนเอง คาส่ัง คาขอร้องท่ใี ช้ในหอ้ งเรียน คาศัพทส์ านวนประโยคที่ใชบ้ อกความต้องการ คาศัพท์ สานวน ประโยค ที่ใช้ ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับตนเอง บุคคลใกลต้ ัว เรอ่ื งใกล้ตวั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา คาศัพท์เก่ียวกับ เทศกาลสาคัญของเจ้าของภาษา กิจ กรรมทางภาษาและวัฒน ธรรม ตัวอักษร เสียงตัวอักษรของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย คาศัพทท์ เ่ี กยี่ วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื การใช้ภาษาในการฟัง พูด ในสถานการณง์ ่ายๆ ที่เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น ใช้ภาษาตา่ งประเทศ เพือ่ รวบรวมคาศัพท์ท่ีเก่ียวข้องใกล้ตัวจาก สือ่ ต่างๆ โดยใชก้ ระบวนการฟัง พดู อา่ น สะกดคา เลือกตอบคาถาม สนทนา พูดโต้ตอบ สั่ง ขอร้อง บอก ทาท่าทาง รว่ มกจิ กรรม รวบรวม คาศัพท์ และปฏิบตั ติ าม เหน็ คณุ ค่าของการเรียนภาษาองั กฤษ เขา้ ใจภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และสามารถ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ รหสั ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 ต 1.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 ต 1.3 ป.2/1 ต 2.1 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 ต 2.2 ป.2/1 ต 3.1 ป.2/1 ต 4.1 ป.2/1 ต 4.2 ป.2/1 รวมทั้งหมด 16 ตัวชี้วดั
ตารางวิเคราะห์หลกั สูตร/ออก รหสั อ12101 วชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน ช ครูผู้สอน นางสาวหทยั
กแบบหน่วยการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ยรัตน์ ราชเสนา
รหัสวิชา อ12101 โครงสรา้ งรายวิชา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 160 ช่วั โมง / ปี รายวชิ าภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน 2 จานวน 4 หน่วยกติ จานวน น้าหนกั หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ รหัสตัวชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 8 10 1 Back to school ต 1.1 ป.2/๒, 70 ป.2/๓, ป.2/4 30 ต 1.2 ป.2/4 ต 1.3 ป.2/1 ต 2.1 ป.2/1, ป.2/3 ต 2.2 ป.2/1 ต 4.1 ป.2/1 ต 4.2 ป.2/1 คะแนนระหว่างภาค สอบปลายภาค
โครงการสอนปกี ารศกึ ษา 2564 รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหสั อ12101 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลาเรยี น 4 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ครผู สู้ อน นางสาวหทยั รัตน์ ราชเสนา สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรยี นร/ู้ เร่ือง มฐ/ตวั ชวี้ ดั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 มาตรฐาน ต 1.1 ตัวชี้วดั 1 What’s this? ป.2/2 ,ป.2/3 ,ป.2/4 2 What do you see in this picture? I like A B C มาตรฐาน ต 1.2 ตวั ช้ีวัด ป.2/4 3 This is my school bag. 1-3 4 A และ An มาตรฐาน ต 1.3 ตัวชี้วดั ป.2/1 5 What have you got? 6 Music chairs มาตรฐาน ต 2.1 ตัวชี้วดั ป.2/1 , 7 Draw the pictures ป.2/3 8 Pair work มาตรฐาน ต 2.2 ตวั ชว้ี ัด ป.2/1 9 Ten Little Indians 10 Singular/ plural มาตรฐาน ต 1.2 ตวั ช้วี ัด ป.2/4 11 My number 12 English Pre-Test สอบเก็บคะแนน 5 คะแนน มาตรฐาน ต 1.3 ตวั ช้ีวัด ป.2/1 มาตรฐาน ต 2.1 ตัวช้วี ดั ป.2/1 , ป.2/3 มาตรฐาน ต 2.2 ตวั ชว้ี ัด ป.2/1 มาตรฐาน ต 4.1 ตวั ชว้ี ัด ป.2/1 มาตรฐาน ต 4.2 ตวั ชี้วดั ป.2/1 เทคนคิ /กระบวนการ/ วิธีการสอน Communication to Language
การวัดและประเมินผล วิธกี ารเก็บคะแนน คะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = 70 : 30 โดยแบง่ ดงั นี้ เรอ่ื งท่เี ก็บคะแนน ครัง้ ท่ี คะแนน ประเภทเคร่อื งมือ 1.คะแนนเก็บก่อนกลางปี 1.1 สอบเกบ็ คะแนน Back to school 1 5 สอบปฏบิ ตั ิ 1.2 สอบเก็บคะแนน At home 2 5 สอบปฏบิ ัติ 1.3 นาเสนอผลงาน All about me 3 5 สอบปฏบิ ัติ 1.4 สอบเก็บคะแนน On the farm 4 5 สอบปฏิบตั ิ 1.5 สอบเก็บคะแนน Nice weather 5 5 สอบปฏบิ ัติ 1.6 สอบเกบ็ คะแนน Play days 6 5 สอบปฏบิ ตั ิ 1.7 สอบเกบ็ คะแนน Festival and important day 7 5 สอบปฏิบตั ิ 2. สอบกลางปี 15 แบบทดสอบ 3.คะแนนหลงั กลางปี 3.1 สอบเกบ็ คะแนน My family 1 5 สอบปฏบิ ตั ิ 3.2 สอบเกบ็ คะแนน My classroom 2 5 สอบปฏบิ ัติ 3.3 สอบเก็บคะแนน Numbers 3 5 สอบปฏบิ ัติ 3.4 สอบเก็บคะแนน My favorite color 4 5 สอบปฏิบัติ 3.5 สอบเกบ็ คะแนน My pet 5 5 สอบปฏบิ ตั ิ 3.6 สอบเก็บคะแนน Fruit 6 5 สอบปฏิบตั ิ 3.7 สอบเก็บคะแนน Food and drink 7 5 สอบปฏิบตั ิ 4. สอบปลายปี 15 แบบทดสอบ รวม 100 สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ - หนงั สือเรียนภาษาองั กฤษ และแบบฝึกหดั Smile - VDO, Power point - Flash Cards แบบเรยี น หนังสอื เรียนภาษาอังกฤษ และแบบฝึกหัด Smile ป. 4
แผนผังมโนทศั น์เป้าหมายการเรยี นรู้/ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. คา กล่มุ คา และความหมายเกีย่ วกับ 1. ทกั ษะการฟัง (Listening skill) - มีวนิ ัย อุปกรณ์การเรียนต่างๆ 2. ทกั ษะการพดู (Speaking skill) - ใฝ่เรียนรู้ 2. ประโยคคาถาม และคาตอบ 3. ทกั ษะการอา่ น (Reading skill) 3. จานวนนับ 11-20 4. ทักษะการเขียน (Writing skill) 4. คาและประโยคทใ่ี ชใ้ นการพูดและเขียน เพือ่ ถามและให้ข้อมูลบอกจานวนสง่ิ ของ ต่างๆ 5. คานามเอกพจน์ และพหพู จน์ เปา้ หมายการเรยี น เร่ือง Back to school หลกั ฐานการเรียนรู้ ใบงานที่ 1.1 เรื่อง In my classroom ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง In my classroom ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง My classroom ใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง My classroom ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง Singular Noun/Plural Noun ใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง Singular Noun/Plural Noun ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง There is / There are ใบงานท่ี 4.2 เรื่อง There is / There are
แผนผังมโนทศั น์ขั้นตอนการทากจิ กรรมประกอบการจัดการเรียนรู้ดว้ ย การสอนแบบ Active learning ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ัด และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ทากจิ กรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรู้ Active learning ขั้นท่ี 1 ขน้ั นา (warm up) ขั้นที่ 2 ข นั้ นำเสนอ (Presentation) ขนั้ ที่ 3 ขนั้ ฝึก (Practice) (explanation) ข้ันที่ 4 ข้นั นาไปใช้ (Production) ขน้ั ท่ี 5 ขน้ั สรุป (Wrap up) ทอสอบหลงั เรยี น (ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60)
ผงั มโนทศั น์ หน่วยการเ แผนท่ี 1 In my classroom หนว่ ยการ จานวน 2 ชวั่ โมง Back to แผนที่ 3 Singular Noun/Plural Noun จานวน จานวน 2 ชัว่ โมง สาระการเรียนรู้ ................................. ภาษาไทย การเรียนรแู้ บบ 1. หลักการสะกดคาศพั ท์ 2. การเขียนความหมายของคาศพั ท์ • คาศัพท์เก่ียวก
เรยี นรทู้ ี่ ๑ Back to school รเรียนรทู้ ี่ ๑ แผนที่ 2 My classroom o school จานวน 2 ชว่ั โมง น 8 ชว่ั โมง สาระการเรยี นรู้ บบูรณาการ แผนที่ 4 There is / There are คณิตศาสตร์ จานวน 2 ช่ัวโมง กับวิชา การเรยี นรู้ ................................. .ศลิ ปะ : ทศั นศิลป์ • วาดภาพและระบายสีสิ่งตา่ งๆในหอ้ งเรยี น
แผนบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี 1. เลือกสือ่ ทเี่ หมาะสมกบั เปูาหมาย 1. ออกแบบการเรียนรู้ส่งเสริมกระบวนการคดิ 1.การศกึ ษาลักษณะของผู้เรียนกอ่ น จะช่วยให้ เนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ และ 2. ใชเ้ ทคนิคการจัดการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย ครเู ตรยี มสื่อ/อุปกรณไ์ ด้เหมาะสมกบั นักเรียน ความสนใจของนักเรยี น 2.เตรียมสือ่ /อปุ กรณส์ ารอง 2. ครเู ตรียมสื่อใหเ้ พยี งพอกับจานวน 3.ลดภาระการอธิบายของครู นักเรียน เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. ครูมคี วามรู้เกยี่ วกบั มาตรฐาน ตวั ชี้วดั เทคนคิ การสอน 1. มีความขยัน เสยี สละ และมุง่ มั่นในการจดั หาสื่อมาพฒั นา จิตวิทยาการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล หลักปรชั ญาของ นกั เรียนให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ เศรษฐกจิ พอเพียง ภาษาองั กฤษท่เี กีย่ วขอ้ งกบั คาศัพท์ และประโยค 2. มคี วามอดทนเพ่อื พฒั นานักเรยี นโดยใชเ้ ทคนคิ การสอนท่ี สนทนาถามตอบ หลากหลาย 3. มีความรักเมตตา มคี วามรับผดิ ชอบ มคี วามยตุ ิธรรม ต่อศษิ ย์ นักเรยี น ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภูมิค้มุ กันในตัวที่ดี 1. ผเู้ รียนใชเ้ วลาปฏบิ ัติกจิ กรรมได้เหมาะสม 1. ฝกึ กระบวนการทางานเป็นกล่มุ 1. วางแผนการศึกษาใบงาน/ใบกิจกรรม ตามลาดับขัน้ ตอน 2. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมได้ครบถว้ น ตามขนั้ ตอนและ 2. รู้จักการวางแผน การทางานอยา่ งเปน็ 2. ผเู้ รยี นแบ่งหน้าทกี่ ารทางานภายในกลมุ่ สาเรจ็ ตามเปูาหมาย ระบบให้งานประสบความสาเร็จ ไดเ้ หมาะสมกับความสามารถของแต่ละคน 3. แกป้ ัญหาในการทางานใหส้ าเร็จตาม 3. ปรบั ตวั ในการทางานกับเพื่อนพร้อมรับ 3. ผเู้ รยี นบอกเหตผุ ล เปาู หมาย การเปล่ยี นแปลงในสงั คม ในการเลือกซ้อื อุปกรณ์การเรยี น 4. ปลกู ฝังคุณลักษณะประหยัดและออม พอประมาณกบั รายได้ เง่อื นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม 1. นกั เรียนมคี วามรู้ เร่อื ง การวางแผนการทางาน วธิ กี ารทางาน 1. มคี วามรับผดิ ชอบ และปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงของกลุ่ม ร่วมกับผู้อ่นื คาศัพท์และบทสนทนาเกีย่ วกบั อุปกรณ์การเรียน การใช้ 2. มีสติ มีสมาธิชว่ ยเหลอื กันในการทางานรว่ มกนั และเลือกซือ้ อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งค้มุ ค่าและประหยดั การดาเนนิ 3. นักเรียนมสี มาธิ มมี ารยาทในการฟัง มีความรบั ผิดชอบ มนี ้าใจ ชวี ิตอย่างอยู่ดีมีสขุ ซื่อสตั ยแ์ ละมีความพอเพียง ส่งผลตอ่ การพัฒนา 4 มติ ใิ ห้ย่งั ยนื ยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภวิ ฒั น์ วตั ถุ สงั คม สิง่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มีความรคู้ วามเข้าใจเรื่องอุปกรณ์การเรียน รูจ้ ักบทบาทหนา้ ทีข่ อง มแี นวทาง ในการ มวี ฒั นธรรมด้านการ และการใชส้ อย ตนในการเป็นส่วน เลือกซ้ือและเลอื กใช้ บริโภค หนง่ึ ของสงั คมและ สินค้า แสดงแนวทางการ ช่วยเหลือสงั คม ทกั ษะ (P) มีทักษะใน เขยี น ใชท้ ักษะการคดิ ปฏบิ ัตติ ามบทบาท มที ักษะในการเลอื ก ช่วยเหลือผู้อื่นดว้ ย วิเคราะหอ์ ยา่ งมีเหตผุ ล หน้าที่ของตนเอง ซ้อื และเลอื กใช้ ความเตม็ ใจ อปุ กรณ์การเรยี นไม่ ฟมุ เฟอื ยใช้ชีวิตอย่าง อย่ดู ีมีสขุ ค่านยิ ม (A) ใช้สินคา้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์และคุ้มคา่ นาความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการ เลือกใช้ของดีถูกและ วฒั นธรรมใชอ้ ปุ กรณ์ เศรษฐกิจพอเพียงกับ ประหยัด ใช้อย่าง การเรียนอยา่ งรู้คณุ คา่ การบริ คุ้มคา่ และและเกดิ ประโยชน์ โภคเผยแพรใ่ ห้เพอ่ื น สูงสดุ สังคม และมีความสขุ ในการถ่ายทอดความรู้
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง Back to school กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ รายวิชาภาษาองั กฤษ รหสั อ 12101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 8 ชัว่ โมง ครูผ้สู อน นางสาวหทยั รตั น์ ราชเสนา โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารุง) 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตัวชว้ี ัด 2. ระบุตวั อักษรและเสียง อ่านออกเสยี งคา สะกดคา และอา่ นประโยคงา่ ยๆ ถูกตอ้ ง ตามหลักการอ่าน 3. เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคที่ฟงั 4. ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านงา่ ยๆ ทีม่ ภี าพประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ ความคดิ เห็นอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วดั 4. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เก่ียวกบั ตนเองตามแบบทฟี่ ัง มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดย การพูดและการเขยี น ตวั ชี้วดั 1. พดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรือ่ งใกล้ตวั สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชีว้ ดั 1. พดู และทาทา่ ประกอบ ตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 3. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกับวัย มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษากับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม ตัวชว้ี ัด 1. ระบตุ วั อักษรและเสียงตวั อักษรของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ ับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ตัวชีว้ ดั 1. ฟงั /พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรียน มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครือ่ งมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ บั สังคมโลก ตัวชี้วัด 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศเพอ่ื รวบรวมคาศัพท์ทเี่ กีย่ วข้องใกลต้ ัว
2.สาระสาคัญ เรียนรูค้ าศพั ท์เกี่ยวกบั อปุ กรณก์ ารเรียนต่างๆ และจานวนนบั 11-20 รวมถงึ โครงสรา้ งประโยคคาถาม What have you got in your school bag? และคาตอบ I’ve got ………… และคาถาม-คาตอบทีถ่ ามถึงจานวนของ สง่ิ ของ คอื How many …..(plural nouns)…. are there? There is/are ……(number)…… noun. ซงึ่ เปน็ การ เรียนรูภ้ าษาอังกฤษเพ่อื นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน และสามารถประยุกต์ใช้กบั วิชาอน่ื ๆ เช่น วิชาคณติ ศาสตร์ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - คา กลมุ่ คา และความหมายเกีย่ วกับอปุ กรณก์ ารเรียนตา่ งๆ - ประโยคคาถาม และคาตอบ เช่น A: What have you got in your school bag? B: I’ve got _____. - จานวนนบั 11-20 - คาและประโยคท่ใี ชใ้ นการพดู และเขยี นเพื่อถามและใหข้ ้อมลู บอกจานวนส่ิงของต่างๆ เช่น A: How many …..(plural noun)….. are there? B: There is/are …..(number)….. noun. - คานามเอกพจน์ และพหูพจน์ - กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้องเพลง - คาศัพทท์ ี่เกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืนๆ เชน่ วิชาคณิตศาสตร์ - การใชภ้ าษาในการฟงั /พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียน - การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ทีเ่ กยี่ วข้องใกล้ตัวจากสื่อตา่ งๆ 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน - 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวนิ ัย - ใฝเุ รียนรู้ 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน - การพูดถาม-ตอบช่อื อุปกรณก์ ารเรียนตา่ งๆ - การพูดถาม-ตอบจานวนของสงิ่ ของ - การทาหนุ่ กระบอกตดิ หวั ดินสอ - การวาดภาพตามคาสั่ง - การรวบรวมคาศัพทใ์ น Your word book
7. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน ใบงานท่ี 1-6 (ประเมินตามสภาพจรงิ ) - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เรียนรู้ - ประเมินการทาแบบฝึกหดั - สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทา กจิ กรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรยี น - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 - ประเมินการพูดถาม-ตอบชื่ออปุ กรณ์การ ผ่านเกณฑ์ เรียนต่างๆ - ประเมินการพดู ถาม-ตอบจานวนของ สิ่งของ - ประเมนิ การทาหุ่นกระบอกตดิ หวั ดินสอ - ประเมนิ การวาดภาพตามคาส่งั - ประเมนิ การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 In my classroom กิจกรรมท่ี 2 My classroom กจิ กรรมท่ี 3 Singular Noun / Plural Noun กจิ กรรมที่ 4 There is / There are 9. ส่อื / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน Smile ป. 2 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บัตรคา บตั รตัวเลข แถบประโยค 5. อุปกรณใ์ นการประดิษฐ์หนุ่ กระบอกติดหวั ดินสอ 6. ส่งิ ของและอปุ กรณ์การเรยี นตา่ งๆ 7. เกมต่างๆ
ขอ้ สอบก่อนเรยี น (Pre test) English Pre-Test 1 Look at the pictures and complete the words. 1. p n l 1. 3. 2. h i r 5. 2. 4. 3. b o 4. d k 5. e English Pre-Test 2 Match the questions with correct answers. 1. How are you? a. Betty. 2. What’s your name? b. plus 3. What’s this? c. minus 4. What have you got? d. I’m fine. 5. There is …… on the desk. e. Twelve. 6. How many crayons are there? f. It’s a pen. 7. Two ……. two is four. g. I’ve got a pencil and a book. 8. Ten …….. five is five. h. a ruler
ขอ้ สอบหลังเรยี น (Post test) English Post-Test Choose the correct answer. 1. I write with a …………………… a. book b. chair c. pencil 2. We are ……………………. a. teacher b. students c. pens 3. They cut paper with ………………… a. scissors b. rulers c. tables 4. A: What have you got in your school bag? c. Tables. B: ……………………………….. . a. A pen and a pencil. b. Chairs. 5. We write on our ………………. a. rulers b. erasers c. notebooks 6. A: How many students are there? B: ……………………………….. . a. A book. b. Twenty. c. It’s a box. 7. Ten + six = ……………….. c. fourteen a. six b. sixteen 8. Nineteen – eleven = ……………….. c. eight a. five b. seven 9. Nineteen – eight = ………………… c. 13 a. 11 b. 12 10. Twelve + eight = ………………… c. 20 a. 18 b. 19
บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ สรุปผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1.นกั เรียนจานวน..................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. 2. แนวทางแกไ้ ขนักเรียนที่ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ผลการจัดการเรียนการสอน/ปัญหา/ อปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ข แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง......................................................... ……………………………………………………………… …………… ………… …………… ………… ………… …………… ………… ………… . ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .............................................. .... แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ....................................................................................................................... ........................................................ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เร่ือง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ลงช่อื .................................................. (นางสาวหทัยรัตน์ ราชเสนา)
ความคิดเหน็ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้/ู ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................... ................................ ลงชื่อ…………………………………………………… (นางสาวอรวรรณ พดุ มอญ) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างปประเทศ ...................../......................./......................... ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. .................................................................... ................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................................................................................. ................................................................ .... ลงชื่อ…………………………………………………… (นางอจั ฉรา รกั ษาชนม์) โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎร์บารงุ ) ...................../......................./.........................
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เวลา 2 ช่ัวโมง เรอ่ื ง In my classroom ครผู ูส้ อน นางสาวหทยั รตั น์ ราชเสนา โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) ๑. สาระสาคัญ การเรยี นรคู้ าศัพท์ทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับอปุ กรณ์การเรยี นตา่ งๆ โครงสร้างประโยคคาถามและคาตอบ What have you got in your school bag? I’ve got …..(noun)….. การใช้ article a/an และการรอ้ งเพลงภาษาองั กฤษซง่ึ เปน็ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม ทาให้ผ้เู รียนสามารถพูด/เขียนเพื่อถาม-ตอบและให้ข้อมูลเกีย่ วกับอปุ กรณ์ การเรียนต่างๆ ของตนเอง ซง่ึ เปน็ การเรยี นรู้ภาษาองั กฤษเพอ่ื นาไปใช้สือ่ สารในชวี ติ ประจาวนั และสามารถ นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับรายวชิ าอนื่ ๆ 2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟงั และอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ตวั ชี้วัด 2. ระบุตัวอักษรและเสียง อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกต้อง ตามหลกั การอ่าน มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งต่างๆ โดย การพดู และการเขยี น ตัวชวี้ ดั 1. พูดให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ชี้วัด 1. พดู และทาท่าประกอบ ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทีเ่ หมาะกับวยั 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั อุปกรณ์การเรยี นตา่ งๆ ได้ - พดู /เขยี นถาม-ตอบเกี่ยวกบั ช่ือเรยี กของอุปกรณก์ ารเรยี นตา่ งๆ ได้ - ใช้ article a/an ไดถ้ ูกตอ้ ง - เลน่ เกมและรอ้ งเพลงภาษาองั กฤษตามที่กาหนดได้ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - คา กลุ่มคา และความหมายเกย่ี วกับอปุ กรณ์การเรียนตา่ งๆ
- คาศัพท์ และบทสนทนาทใ่ี ชข้ อและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั อุปกรณก์ ารเรียน A: What have you got in your school bag? B: I’ve got _____. - คาศพั ท์ และประโยคท่ใี ชใ้ นการพดู เพือ่ ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับอปุ กรณ์การเรยี น - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลง การเลน่ เกม - การใช้ภาษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรยี น 4.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ - 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวินัย - ใฝเุ รยี นรู้ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 กจิ กรรมนาสู่การเรยี น 1. ครูทกั ทายนักเรยี นในห้องเรียน และนกั เรียนทักทายครูโดยพรอ้ มเพรยี งกัน 2. ครทู บทวนตัวอกั ษร A-Z โดยใหน้ ักเรียนทั้งช้นั พูดหรอื รอ้ งเพลง ABC 3. ครเู ดินไปทโ่ี ต๊ะเรียนแถวหน้า แล้วชดู ินสอของนกั เรยี นคนหนึ่ง แล้วถามทั้งชน้ั Teacher: What’s this? Students: It’s a pencil. Teacher: And what’s this? (ชูไมบ้ รรทัด) Students: It’s a ruler. Teacher: Very good. 4. ครูบอกนกั เรยี นวา่ ในชัว่ โมงตอ่ ไปน้ี นกั เรยี นจะได้เรียนรคู้ าศพั ทเ์ กย่ี วกับอปุ กรณ์การเรยี นตา่ งๆ และสงิ่ ของในหอ้ งเรยี น รวมทั้งได้ฝึกสนทนาเพ่ือถาม-ตอบเก่ยี วกบั สิ่งเหล่าน้ี 5. ครทู ดสอบความรู้เดิมของนกั เรียนเกยี่ วกับอุปกรณก์ ารเรยี น ดว้ ยแบบทดสอบ English Pre-Test จากนน้ั เฉลยคาตอบ และเกบ็ รวบรวมแบบทดสอบ เพื่อบันทึกคะแนนของนักเรียนแตล่ ะคน กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. นกั เรียนดูรูปภาพ. แลว้ ตอบครูวา่ เหน็ อะไรบา้ ง ในภาพ Teacher: What do you see in this picture? Students: A teacher, scissors, a school bag, three students……… Teacher: Well done! So, there are scissors, crayons, a school bag, an eraser, a cupboard, a teacher and three students. 2. ครูสอนคาศัพท์เกย่ี วกับอุปกรณก์ ารเรยี นตา่ งๆ ครูเตรียมบตั รภาพตู้ และสิง่ ของจริงในช้นั เรียน
ได้แก่ ยางลบ กลอ่ งดนิ สอ สีเทยี น กรรไกร กระเป๋านกั เรยี น และเตรยี มบตั รคาตอ่ ไปนี้ eraser cupboard pencil case crayon scissors school bag ครชู สู ่ิงของทีละส่ิง และตดิ บตั รคาบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นออกเสียงและสะกดคาตามครู ครทู ดสอบการจาคาศพั ท์ของนักเรียน โดยการส่มุ เรยี กนกั เรยี น 6 คน ใหอ้ อกมาหน้าชั้นเรียน แล้วยื่นอปุ กรณ์การเรียนตา่ งๆ ทีค่ รูเตรียมมาให้นักเรียนคนละ 1 ชิ้น นักเรยี นแตล่ ะคนตอ้ งนา อปุ กรณ์การเรียนทตี่ นเองได้รับวางไวบ้ นขอบกระดานให้ตรงกับบัตรคาขา้ งบน 3. นักเรียนดูรปู ภาพ โดยครถู ามนักเรยี นวา่ มีใครอยู่ในภาพบา้ ง Teacher: Who are in the picture? (ช้ีทีภ่ าพ ด.ช. และ ด.ญ.) Students: Jenny and Tommy. Teacher: What are they doing? Students: They are talking. Teacher: Excellent! ครทู บทวนคาศัพท์ดว้ ยการให้นกั เรยี นท้งั ชัน้ บอกชอื่ อปุ กรณ์การเรียนท่ีเหน็ ทงั้ 6 ชิ้น โดยครูชที้ ลี ะอย่าง นกั เรียนพดู โดยพร้อมเพรยี งกนั กิจกรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรยี นสารวจดอู ุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ภายในห้องรยี น นอกเหนอื จากท่ไี ดเ้ รยี นรมู้ า ถ้านกั เรียนคนใดไมท่ ราบคาศพั ท์ ก็สามารถบอกครูเป็นภาษาไทยได้ เพราะครูต้องการรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน จากน้นั ครูจึงเขียนคาศัพทเ์ กยี่ วกบั อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในหอ้ งเรยี นลงบนกระดาน clock paper computer notebook brush locker chalk calendar glue globe map poster wastepaper bin book shelf photograph etc. นักเรยี นอา่ นออกเสียงคาศพั ท์เหลา่ นี้ตามครู จากน้ันจงึ ช่วยกันอธบิ ายความหมาย ถา้ อธบิ ายไม่ได้ ครจู ึงจะบอกความหมาย สุดทา้ ยนักเรียนคดั ลอกคาศพั ทเ์ หล่าน้ีลงในสมุดของตนเองใหถ้ ูกตอ้ ง ช่ัวโมงท่ี 2 กจิ กรรมนาสูก่ ารเรียน 1. ครทู กั ทายนกั เรยี นในห้องเรยี น และนกั เรียนทักทายครูโดยพร้อมเพรยี งกัน 2. ครทู บทวนตวั อกั ษร A-Z โดยให้นกั เรียนทงั้ ชั้นพูดหรอื รอ้ งเพลง ABC 3. ครูเดนิ ไปท่ีโตะ๊ เรยี นแถวหน้า แล้วชดู นิ สอของนกั เรยี นคนหนง่ึ แล้วถามทั้งชัน้ Teacher: What’s this? Students: It’s a pencil. Teacher: And what’s this? (ชไู ม้บรรทดั ) Students: It’s a ruler. Teacher: Very good.
กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครบู อกนกั เรียนว่า การท่ีเราจะบอกผอู้ ่ืนวา่ เรามีสิง่ ใด เราสามารถใช้รปู แบบดงั นี้ ครเู ขียนบนกระดาน I’ve got + (noun) . นักเรียนแตล่ ะคนมองสงิ่ ของของตนเองบนโต๊ะ เพอื่ เตรยี มพดู คนละ 1 ประโยค ครเู ดนิ ไปรอบๆ หอ้ ง เมอื่ สุ่ม ไปทีน่ ักเรยี นคนใด นักเรยี นคนนัน้ ตอ้ งพูดอยา่ งรวดเร็ว เช่น Dome: I’ve got a school bag. Joy: I’ve got a ruler. Ploy: I’ve got a book. Kratae:I’ve got an eraser. (ครสู ุ่มประมาณ 10 คน) 2. ครทู บทวนการใช้ article a/an โดยแสดงบตั รภาพหรือบัตรคาให้นกั เรียนดู พร้อมกบั ใหน้ ักเรยี น ออกเสียงคาศพั ท์พรอ้ มกัน ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ เกี่ยวกับการใช้ a และ an นาหนา้ คานามนับไดเ้ อกพจน์ (1 สงิ่ ) เมื่อกลา่ วถงึ คานาม โดยทว่ั ไปไม่เฉพาะเจาะจง - a + คานาม 1 สิ่ง ทขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียงพยญั ชนะ เชน่ a book a box a teacher - an + คานาม 1 สิ่ง ท่ขี ึ้นต้นด้วยเสยี งสระ (a, e, i, o และ u) เช่น an eraser an apple an elephant กจิ กรรมรวบยอด 1. นกั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ แล้ววาดภาพตามคาศพั ท์ทก่ี าหนดให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแล้วครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 5 คน ออกมาวาดภาพเพื่อเฉลยคาตอบหน้าชัน้ เรียน 1. a school bag 2. a pencil case 3. a pair of scissors 4. a crayon 5. a cupboard ครใู ห้นกั เรยี นทีน่ าช้นิ งานมาสง่ ทโ่ี ตะ๊ อ่านคาศพั ทท์ ง้ั 5 คา ทลี ะคน แลว้ จดบันทกึ ครูคัดเลือกผลงานทเ่ี ดน่ ของนกั เรยี น 5 ช้นิ มาแสดงหน้าชนั้ เรียน ผลงานที่เดน่ จะพิจารณาจาก 1) ภาพชัดเจน ส่ือถงึ คาศพั ทไ์ ด้ถกู ต้อง 2) ลายเส้นประณีต บรรจง 3) ระบายสีไดส้ วยงาม 4) มคี วามคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 5) นกั เรยี นทางานเสรจ็ ทนั เวลา 2. นกั เรยี นดภู าพอุปกรณก์ ารเรยี นตา่ งๆ ท่ีอยบู่ นโต๊ะโดยให้นกั เรยี นใชด้ ินสอลากเสน้ ตามรอยเส้นประตามตัวอักษร ของคาศัพทแ์ ต่ละชนดิ ใหถ้ กู ตอ้ งตามลาดบั ก่อน-หลัง จากนัน้ ให้ช่วยกนั บอกคาแปลของคาศพั ทแ์ ต่ละคาทีอ่ ่าน
8. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารผา่ น วธิ กี าร แบบทดสอบก่อนเรียน ผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 60 แบบสังเกตการพดู ถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดขี ึ้นไป ประเมินการทาแบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดขี ้ึนไป แบบประเมินการเขยี น ประเมินการพูดถาม-ตอบชือ่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินในระดับดีข้นึ ไป อปุ กรณก์ ารเรยี นตา่ งๆ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ในระดับดีข้นึ ไป ประเมนิ ความสามารถในการ เขยี นตวั อกั ษรเพอ่ื ประกอบเปน็ แบบประเมินการเขียน ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 60 ข้ึน คาศพั ทอ์ ุปกรณก์ ารเรียน ไป ใบกจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในระดบั ดีขน้ึ ไป ประเมนิ การรอ้ งเพลง และการ แสดงออกด้วยท่าทางประกอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ เพลง ทางานรายบคุ คล ประเมนิ ความสามารถในการ เขยี นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษใน รปู คา และประโยคต่างๆ ตรวจใบกิจกรรม ประเมนิ การวาดภาพตามคาสง่ั 9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น Smile ป. 2 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 5. อปุ กรณก์ ารเรียนต่างๆ
ใบความรู้ เร่อื ง Things in classroom
ใบความรู้ เร่อื ง Things in classroom
โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารุง) ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง In my classroom วิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน ชื่อ.......................................................นามสกลุ ...............................................ห้อง ป.2 เลขที่.....…...… วนั ท.ี่ ..........................เดอื น......................................... พ.ศ. ................... เขียนคาศัพทใ์ ห้ถกู ต้อง ตวั บรรจง โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารงุ ) วิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน ใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง In my classroom
ช่ือ.......................................................นามสกลุ ........................................... ....หอ้ ง ป.2 เลขท่.ี ....…...… วนั ท่ี...........................เดอื น......................................... พ.ศ. ................... เขยี นคาศัพท์ใหถ้ กู ตอ้ ง ตวั บรรจง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เวลา 2 ชว่ั โมง เรือ่ ง My classroom ครผู ู้สอน นางสาวหทยั รตั น์ ราชเสนา โรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) ๑. สาระสาคัญ การเรียนรคู้ าศพั ทท์ ีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั อปุ กรณก์ ารเรียนตา่ งๆ โครงสรา้ งประโยคคาถามและคาตอบ การใช้ article a/an ทาให้ผู้เรียนสามารถพดู /เขียน เพ่ือถามและตอบ เพ่ือให้ขอ้ มูลของอปุ กรณ์การเรยี นตา่ งๆ ของตน เป็นการสรา้ ง ประสบการณท์ างเน้ือหาชว่ ยใหเ้ กิดทกั ษะในการใชช้ ีวิต ๒. ตวั ชวี้ ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ฟังแลว้ ออกเสียง และบอกความหมายของคาศัพท์ อปุ กรณ์การเรียนตา่ งๆ ถูกต้อง (P) - อ่านและเขยี นคาศัพท์ เกย่ี วกบั อุปกรณ์การเรยี นต่างๆได้ถูกตอ้ ง (K) - สนทนาประโยคเก่ียวกับอุปกรณก์ ารเรยี นต่างๆได้ถูกต้อง (A) ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ภาพและความหมายของกลมุ่ คา ประโยคเก่ียวกับอุปกรณก์ ารเรียน - คาศัพท์ School bag Pencil sharpener, Eraser, Ruler, Pencil, Notebook, Pencil case - ประโยคคาถาม What have you got? - ประโยคคาตอบ I have got a pencil case and a book. 3.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน - ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 ซอ่ื สตั ย์สุจรติ มีความประพฤตติ รงทั้งต่อหน้าที่ ตรงตอ่ เวลา ไม่คดั ลอกงานของผ้อู ่นื มาเป็นของตน รับรูห้ นา้ ทข่ี อง ตนเองและปฏิบตั ิอย่างเตม็ ท่ี ถกู ต้อง 5.2 อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ใช้วสั ดุอปุ กรณ์ในการเรยี นอย่างประหยดั และคุ้มคา่ ใชข้ องดรี าคาถูก ร้จู กั เลือกบริโภคสนิ คา้ ท่ีไม่ ฟุมเฟอื ย
๖. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงท่ี 1 ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น (Warm up) 1. ครแู ละนักเรียน รว่ มกันสนทนาเกี่ยวอปุ กรณ์การเรยี นทีน่ ักเรยี นใช้อยทู่ ุกวันว่ามอี ะไรบ้าง โดยครใู ช้ คาถามนาดงั นี้ 1) นกั เรยี นมีอุปกรณ์การเรยี นอะไรบา้ ง 2) อุปกรณแ์ ต่ละอยา่ งใช้งานอย่างไร 3) นักเรยี นทราบหรอื ไม่ว่าอปุ กรณก์ ารเรยี นของนักเรียนในภาษาองั กฤษมชี ื่อเรยี กว่าอย่างไร ขน้ั สอน (Presentation) 1. ครูชอู ุปกรณก์ ารเรยี น แล้วยกตัวอย่างการถามและตอบคาถาม T : What it is? (นี่คืออะไร) ครูชูยางลบ S : ยางลบ T : Good. In English, it is an eraser. Repeat after me twice, please. “Eraser” (ภาษาองั กฤษ คอื Eraser ใหน้ กั เรยี นอา่ นตามครู 2 เทย่ี ว) ครชู บู ัตรคาประกอบดว้ ย S: Eraser, Eraser T: E-R-A-S-E-R : Eraser S: E-R-A-S-E-R : Eraser 2. ครนู าบัตรคาศพั ทท์ อี่ า่ นแล้วไปตดิ ทกี่ ระดานพรอ้ มกับบัตรภาพ ครูมีความพอประมาณในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรใู้ หเ้ หมาะสมกบั ความสนใจและวยั ของนักเรยี น พร้อมท้ัง ยกตัวอย่างคาศพั ทอ์ น่ื ด้วย ครูใช้ประโยคคาถาม What have you got? ข้ันฝึก (Practice) 1. ครนู าบัตรคาทีต่ ดิ ใต้บตั รภาพออก แล้วนกั เรยี นอาสาสมัครช้ภี าพใน บตั รภาพบนกระดานใหเ้ พ่อื นในชนั้ เรียนชว่ ยกันออกเสยี งและสะกดคาศัพทพ์ ร้อมกนั ทั้งชัน้ ครชู มเชย ชว่ ยเหลือ และแกไ้ ข เมอ่ื นักเรยี นออกเสยี งผิด หรือสะกดผิด 2. นักเรียนแต่ละคนรบั ใบงานที่ 1 Vocabulary about My classroom เพือ่ ทากจิ กรรมเขียนคาศพั ท์ เกยี่ วกับอุปกรณก์ ารเรียน แลว้ นักเรียนจบั คู่เปรยี บเทียบคาตอบกัน ถ้าคาตอบไมต่ รงกนั นักเรียนแสดงความคิดเหน็ หลงั จากนั้นนักเรยี นและครรู ว่ มกันเฉลยคาตอบพรอ้ มกันทั้งชน้ั เพื่อฝึกคุณธรรมความรบั ผดิ ชอบและเกิดมิตทิ างสังคมใน การทางานรว่ มกนั และยอมรับเหตุผลซง่ึ กนั และกัน และเกดิ ความรใู้ นการเขยี นคาศัพท์ ชว่ั โมงท่ี 2 1. ครูจัดกิจกรรมให้นกั เรยี นไดท้ บทวนคาศัพท์อุปกรณก์ ารเรียนท่ีเรียนไปแล้วในช่ัวโมงทีผ่ ่านมา โดย แบ่งนกั เรยี นเป็น 2 กลุม่ ครชู ูบตั รภาพและถามนกั เรยี นวา่ what is it ?.ใหแ้ ตล่ ะทมี ส่งตวั แทนออกมาครง้ั ละ 1 คนและ ตอบคาถามของครูหนา้ ชน้ั เรยี น ทีมใดตอบคาถามได้ถกู ต้องก่อนได้ 1 คะแนน เมอื่ เสร็จกจิ กรรมทมี ที่ได้คะแนนมากท่ีสุด เปน็ ฝุายชนะ 2. ครูให้นกั เรียนจบั คู่และฝึกสนทนาถามตอบประโยค What have you got? และยกตัวอย่างประโยคคาตอบ I have got an eraser and a crayon.โดยครคู อยสังเกตและใหค้ าแนะนา ชว่ ยเหลือ และชมเชย 3. นักเรยี นรับใบงานใบท่ี 2 What have you got in your school bag? โดย
ทากิจกรรมเขยี นคาศัพทเ์ กี่ยวกับอุปกรณก์ ารเรยี นทีเ่ รยี นมาแล้ว วาดภาพอุปกรณก์ ารเรียน และระบายสตี าม ความจริงหรือตามความชอบ เพื่อสง่ ครภู ายในชวั่ โมงเรยี น นักเรยี นได้ฝึกคุณธรรม ความรบั ผิดชอบ และเปน็ ภมู คิ ุ้มกันให้ นกั เรียนคือใหน้ ักเรยี นมคี วามรทู้ ่ีจะสามารถนาความรเู้ กีย่ วกับคาศพั ท์ไปใชใ้ นการเรยี นบทต่อไป ข้ันนาไปใช้ (Production) 1. สมุ่ นักเรียน 3–5 คู่ ยนื ขึ้นสนทนาให้เพ่ือนๆ ในช้นั เรียนฟงั โดยกาหนดเวลา คลู่ ะ 2 นาที ดงั ตวั อยา่ ง ประโยค เช่น S1: What have you got ? S2: I have got an eraser and a Notebook? S1: What have you got in your school bag? S2: I have a pencil cases a crayons a book a pen and an eraser. ขน้ั สรุป (Wrap up) 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรทู้ ไี่ ด้รบั คาศพั ท์ ประโยคถามตอบเกี่ยวกบั อุปกรณ์การเรียนลักษณะการใช้ งานให้เกดิ ประโยชน์คมุ้ คา่ และประหยัด หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในชีวิตประจาวัน (นักเรยี นฝึกการคดิ วเิ คราะห์ มีความรู้ รอบร้ใู นหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มีเหตผุ ล ในการตอบคาถาม มภี มู ิคมุ้ กัน ระมัดระวัง ในการเลอื กใช้ สนิ ค้า มคี วามพอประมาณ ในการบริโภคสนิ ค้า) ๗. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ - ประเมนิ ใบงานที่ 2.1 Vocabulary - แบบประเมินใบงานเร่อื งVocabulary รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ about My classroom about My classroom - ประเมินใบงานท่ี 2.2 What have you got - แบบประเมินใบงานเรอื่ ง What have you in your school bag? got in your school bag? การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งาน - ใบงานท่ี 1, 2 ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 4 321 1. บอกความหมายของ บอก บอก บอก บอก คาศพั ท์เกย่ี วกับอุปกรณ์ ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ การเรียน คาศพั ท์ถกู ตอ้ ง คาศัพทถ์ ูกต้อง คาศพั ทถ์ ูกตอ้ ง คาศัพทถ์ กู ตอ้ ง ได้ถกู ต้องชัดเจน 100% ร้อยละ 75 รอ้ ยละ 50 รอ้ ยละ 25 เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 4 หมายถงึ ดี คะแนน 3 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 2 คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรุง
เกณฑ์การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ราย 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1 การประเมนิ 2 1. มีความประพฤติตรงทง้ั ความประพฤติตรงทัง้ ความประพฤติตรงทั้งตอ่ ซอ่ื สตั ย์สุจริต ตอ่ หน้าท่ี ตรงต่อเวลา ไม่ ต่อหนา้ ที่ ไมต่ รงตอ่ เวลา ไม่ หน้าที่ ไมต่ รงตอ่ เวลา คัดลอกงาน คัดลอกงานของผู้อ่ืนมาเปน็ ของ คดั ลอกงานของผู้อ่นื มาเป็นของ ของผู้อืน่ มาเปน็ ของตน รบั รหู้ นา้ ท่ี ตน รบั รหู้ น้าทข่ี องตนเองและ ตน รับร้หู นา้ ท่ีของตนเองและ ของตนเองและปฏิบัตอิ ย่างเตม็ ท่ี ปฏิบตั ิอยา่ งเต็มที่ ถูกตอ้ ง ปฏิบัติอยา่ งเต็มท่ี ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง 2. ใช้วัสดอุ ุปกรณใ์ นการ ใช้วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการ ใชว้ ัสดอุ ปุ กรณใ์ นการเรียน อยู่อยา่ ง เรียนอย่างประหยัดและคุม้ ค่าใช้ เรยี นอยา่ งประหยัดและคุ้มค่าใช้ ไม่ค่อยรจู้ กั ประหยดั และไม่ค่อย พอเพียง ของดรี าคาถกู ของดีราคาค่อนขา้ งแพง คุม้ คา่ ใชข้ องดีราคาคอ่ นข้างแพง รู้จักเลือกบรโิ ภคสนิ ค้า ทีไ่ ม่ฟุมเฟอื ย เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ คะแนน ระดับคณุ ภาพ 8-9 ดมี าก 5-7 ดี 3-4 พอใช้ ต่ากว่า 3 ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน ระดับคณุ ภาพดขี ้นึ ไป ๘. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1. อุปกรณเ์ ครอื่ งเขียน (ของจรงิ ) 2. บัตรคาศพั ท์ 3. บัตรภาพ 4. ใบกจิ กรรมที่1 Vocabulary about My classroom. ใบกจิ กรรมที่2 What have you got in your school bag? 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. My classroom ห้องเรียนของเรา
1. ผู้สอนใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดการเรียนรู้ หลกั พอเพยี ง พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิคมุ้ กันในตวั ทดี่ ี ประเดน็ กาหนดเวลาได้เหมาะสม กบั -เพื่อให้จดั กจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้ -มกี ารจัดสรรเวลาเพ่ิม เวลา เนอ้ื หา และกจิ กรรมการเรยี นรู้ ครบถ้วนตามท่กี าหนด สาหรับนกั เรียนท่ีไม่ -ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมอยา่ งมี สามารถปฏบิ ัตกิ จิ กรรม เนอื้ หา กาหนดเน้อื หาไดส้ อดคล้องกบั ประสิทธิภาพ ได้ตามขนั้ ตอน มาตรฐาน ตวั ชว้ี ดั และเหมาะสม กบั เวลา วัย ความสามารถของ -เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้เรียนรู้ ตรงตาม -ลาดับเน้ือหาจากง่าย นักเรียน และบริบทของทอ้ งถ่นิ มาตรฐานและตวั ช้วี ดั และครบถว้ นตาม ไปหายาก เพือ่ ให้ กระบวนการ ผเู้ รียนเขา้ ใจงา่ ย อยาก -เพอ่ื ให้นักเรียนเหน็ คณุ ค่าของการใช้ เรยี นรู้ ภาษาอังกฤษ -เตรียมเน้ือหาในการ เรียนร้ใู ห้ครอบคลุม ตามมาตรฐานและ ตัวช้วี ดั วธิ ี ออกแบบกิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้เห เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนมคี ุณภาพตามมาตรฐาน -แจ้งจุดประสงค์และ การจดั กิจกรรม มะสมสาหรับการนาพาผูเ้ รยี น และตวั ชี้วดั กจิ กรรมให้นักเรียน ไปสเู่ ปาู หมาย และเหมาะสมกบั ทราบกอ่ นการเรียนรู้ สภาพผูเ้ รียน -เตรียมตดั ทอน กิจกรรมในกรณที ใี่ ช้ เวลานานเกินไปและ นักเรยี นเบื่อหน่าย
1. ผสู้ อนใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจัดการเรียนร(ู้ ตอ่ ) หลกั พอเพียง พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ุม้ กนั ในตัวที่ ดี ประเดน็ -เลอื กส่ือที่เหมาะสมกับ -เพอ่ื กระตุ้นความสนใจของ สื่อ/อุปกรณ์ เปาู หมาย เนอ้ื หา กิจกรรมการ -การศกึ ษา เรยี นรู้ และความสนใจของ ลักษณะของ นกั เรยี น นกั เรยี น - ผูเ้ รียนก่อน จะ -ครูเตรยี มส่อื ให้เพยี งพอกับจานวน ชว่ ยใหค้ รเู ตรียม นักเรยี น เสริมสร้างใหน้ กั เรียนเข้าใจในบทเรียนได้ ส่ือ/อปุ กรณไ์ ด้ เหมาะสมกบั งา่ ยขน้ึ นกั เรียน -เตรียมสอ่ื / การประเมนิ ผล -ออกแบบการวดั และประเมินผลได้ -เพื่อประเมินผเู้ รยี นให้สอดคล้องกับ อปุ กรณ์สารอง -ลดภาระการ เหมาะสมกับ จุดประสงค์ อธบิ ายของครู -ศึกษาและสร้าง ตวั ชวี้ ดั กิจกรรม และผเู้ รยี น เครื่องมือวดั ผลให้ ตรงตามตัวชวี้ ัด และผา่ นการ ตรวจสอบ คณุ ภาพ -ชีแ้ จงวธิ ีการใช้ เครอ่ื งมือให้ ชดั เจน ความรทู้ คี่ รู ครมู คี วามรเู้ กีย่ วกบั มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัด เทคนคิ การสอน จติ วทิ ยาการเรยี นรู้ การวดั และ จาเป็นต้องมี ประเมินผล หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภาษาอังกฤษทีเ่ กี่ยวข้องกบั คาศพั ท์ และประโยคสนทนา ถามตอบ คุณธรรม ของครู มีความรักเมตตาศิษย์ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มคี วามยตุ ิธรรม มคี วามอดทน 2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรยี นสอดคล้องกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 2.1 ผเู้ รยี นได้เรยี นร้หู ลักคิดและฝึกปฏิบัติตามหลกั 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ดงั นี้ พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุ้มกนั ในตัวท่ดี ี -ผ้เู รียนใช้เวลาปฏิบัตกิ ิจกรรมได้ เหมาะสมตามลาดับข้ันตอน -ปฏิบัตกิ ิจกรรมได้ครบถ้วน -รูจ้ กั การวางแผน การทางาน ตามข้ันตอนและสาเรจ็ ตาม อยา่ งเปน็ ระบบใหง้ านประสบ เปาู หมาย ความสาเร็จ
หลกั -ผ้เู รยี นแบ่งหนา้ ทก่ี ารทางานภายใน -แก้ปญั หาในการทางานให้ -ปรบั ตวั ในการทางานกับเพอื่ น พอเพยี ง กล่มุ ได้เหมาะสมกบั ความสามารถของ สาเรจ็ ตามเปูาหมาย พรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลงใน ความรู้ คุณธรรม แต่ละคน สงั คม -ผเู้ รยี นบอกเหตุผล -ปลกู ฝังคุณลักษณะประหยดั ในการเลือกซื้ออุปกรณก์ ารเรยี น และออม พอประมาณกบั รายได้ นักเรยี นมคี วามรู้ เรื่อง การวางแผนการทางาน วธิ ีการทางานร่วมกบั ผอู้ ่นื คาศพั ทแ์ ละบทสนทนาเกยี่ วกบั อปุ กรณ์การเรียน การใชแ้ ละเลือกซือ้ อุปกรณ์การเรยี นอย่างค้มุ ค่าและประหยดั การดาเนนิ ชีวติ อย่างอยดู่ ีมี สุข นกั เรียนมสี มาธิ มีมารยาทในการฟงั มีความรบั ผดิ ชอบ มีน้าใจ ซื่อสตั ยแ์ ละมคี วามพอเพยี ง 2.2 ผเู้ รยี นได้เรยี นรกู้ ารใช้ชีวติ ท่ีสมดุลและพรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลง 4 มิติ ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังน้ี ดา้ น สมดุลและพรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลงในด้านตา่ งๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม วัฒนธรรม ใบกจิ กรรม รจู้ กั บทบาทหนา้ ทีข่ อง มีแนวทาง ในการเลอื ก มีวัฒนธรรมดา้ นการ ความรู้ Vocabulary about My ตนในการเป็นส่วนหน่งึ ซือ้ และเลือกใช้สนิ คา้ บรโิ ภค classroomและ What ของสงั คมและแสดง have you got in your แนวทางการช่วยเหลือ school bag? สงั คม ทกั ษะ -มีทักษะใน เขียน ใช้ทกั ษะ ปฏบิ ตั ติ ามบทบาท มีทกั ษะในการเลือกซ้อื ชว่ ยเหลอื ผ้อู น่ื ด้วย การคิดวิเคราะหอ์ ยา่ งมี หน้าทข่ี องตนเอง และเลือกใช้อุปกรณก์ าร ความเต็มใจ เหตุผล เรียนไม่ฟุมเฟือยใชช้ ีวติ อย่างอยู่ดมี สี ุข ค่านยิ ม ใชส้ นิ คา้ ทเ่ี ป็นประโยชนแ์ ละ นาความรทู้ ี่ไดจ้ ากการ เลอื กใชข้ องดถี ูกและ วฒั นธรรมใช้อุปกรณ์ คุ้มค่า เศรษฐกิจพอเพียงกับ ประหยดั ใชอ้ ยา่ งคุม้ คา่ การเรียนอยา่ งรู้ การบริ คุณค่าและและเกดิ โภคเผยแพร่ให้เพื่อน ประโยชนส์ งู สดุ สังคม และมีความสขุ ใน การถา่ ยทอดความรู้
ใบงานที่ 1 เรื่อง Vocabulary about My classroom. Look and write Pencil sharpener, Eraser, Ruler, Pencil, Notebook, Pencil case Name: ____________________ Class: ______ No.: _____ 1. = ________________________________ 2. =_______________________________ 3. =________________________________ 4. =________________________________ 5. =_______________________________ 6. =_______________________________
ใบกจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง What have you got in your school bag? Drawing and coloring objects in your school bag and a vocabulary. Name: ____________________ Class: ______ No.: _____
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เวลา 2 ช่วั โมง เร่อื ง Singular Noun/Plural Noun ครูผสู้ อน นางสาวหทยั รตั น์ ราชเสนา โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) ๑. สาระสาคัญ การเรียนรู้จานวนตัวเลข 11-20 บทสนทนาเพ่ือถาม-ตอบจานวนสิง่ ของตา่ งๆ เช่น How many .….(plural noun)….. are there? There are …..(number)….. + noun. คานามเอกพจนแ์ ละพหูพจน์ การใช้ There is ….. และ There are ….. การรอ้ งเพลงซงึ่ เปน็ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เหล่าน้ีเปน็ การเรียนรภู้ าษาองั กฤษ เพือ่ นาไปใชส้ อื่ สารในชวี ติ ประจาวัน และสามารถประยกุ ตใ์ ชก้ บั รายวชิ าอ่ืนๆ ๒. ตวั ชว้ี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อา่ นออกเสยี ง สะกดคา และเขียนตวั อกั ษรของจานวนนบั 11-20 ได้ - ฟัง พดู และระบจุ านวนสง่ิ ของต่างๆ ได้ - พดู /เขียน ถาม-ตอบถึงจานวนของสิง่ ตา่ งๆ ได้ - ระบคุ านามเอกพจนแ์ ละพหพู จน์ สามารถเปล่ยี นคานามเอกพจนใ์ หเ้ ปน็ พหพู จน์ - ใช้ There is และ There are ประกอบประโยคได้ - เล่นเกมและรอ้ งเพลงภาษาอังกฤษตามทก่ี าหนดได้ ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - คา และประโยคท่ีใช้ในการพดู เพอ่ื ให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั จานวนนบั 11-20 - คานามเอกพจน์ และพหูพจน์ - คาศัพท์ และบทสนทนาทใี่ ชข้ อและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับจานวนส่งิ ของ เช่น A: How many …..(plural noun)….. are there? B: There are ….. (numbers)….. + noun. - คาศัพท์ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ่ืนๆ เช่น วชิ าคณิตศาสตร์ - กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลง การเล่นเกม - การใช้ภาษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ า่ ยๆ ทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรยี น 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ -
๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝเุ รียนรู้ ๖. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 กิจกรรมนาสกู่ ารเรียน 1. ครแู ละนักเรยี นทกั ทายกนั ในชั้นเรยี น ครยู า้ ใหน้ ักเรยี นทอ่ งคาศพั ท์ใหมๆ่ และทบทวนสิง่ ท่ไี ดเ้ รียนในชั่วโมงที่ 1-2 เพราะการท่ีนักเรียนจะเก่งวชิ าภาษาองั กฤษได้นน้ั ต้องอาศัยเวลาในการสะสมความรู้ ครูขอให้นักเรยี นมวี นิ ยั และใฝุ เรียนรูว้ ิชาภาษาอังกฤษตลอดเวลา 2. ครูทบทวนคาศัพท์หมวดอปุ กรณก์ ารเรยี นของบทเรยี นท่ีผ่านมาโดยการแสดงส่งิ ของตา่ งๆ แลว้ ให้นักเรยี นระบุ ชอ่ื ให้ถูกตอ้ ง 3. ครูทดสอบความรู้เดิม และความสามารถในการเขยี นตวั อักษรภาษาอังกฤษทัง้ ตวั พมิ พ์เล็กและตวั พมิ พใ์ หญ่ โดยครแู จกกระดาษ (Recycled) ให้นกั เรียนเขยี นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษทงั้ 2 รูปแบบ หา้ มนักเรยี นคัดลอกจากเพ่อื น หรือมองแผ่นโปสเตอรต์ วั อกั ษรท้ายห้องเรยี น ครูรวบรวมแบบทดสอบ A-Z เพ่ือนาไปตรวจนอกเวลาเรียน และเพ่อื จดบนั ทกึ พฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักเรยี นแต่ละคน กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้ 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของตัวเลข 1-10 ด้วยบตั รตัวเลขและบตั รคา โดยใหน้ กั เรียนพูดระบจุ านวนให้ตรงกับ ตัวเลข ครูทดสอบนักเรยี นโดยการติดบัตรตัวเลข และบัตรคารวมท้งั ส้นิ 20 ชิน้ อยา่ งกระจัดกระจายบนกระดาน แล้ว สุม่ เรียกนกั เรียน 10 คน ใหอ้ อกมาจับคบู่ ตั รตัวเลขและบัตรคาให้ถูกตอ้ ง แลว้ อ่านออกเสียงตวั เลข 1-10 ท่ตี นเอง จับได้ 2. นกั เรียนดจู านวนตวั เลข 11-20 ครเู ปดิ CD/track 9 ใหน้ ักเรยี นฟงั 2-3 ครั้ง นักเรยี นชี้ตวั เลขตามทไี่ ด้ ยินจาก CD แล้วออกเสยี งตามสาเนยี งของเจา้ ของภาษาใหถ้ ูกต้อง จากน้นั ครูเดินสงั เกต และกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นออกเสียง ตาม โดยเนน้ เสียงหนัก-เบาในพยางค์ตามเสยี งทไี่ ดย้ ินจาก CD (สาหรบั ครู พยางคท์ ีข่ ีดเสน้ ใต้ คือ stress ของคา) eleven twelve thirteen fourteen fifteen nineteen twenty sixteen seventeen eighteen นกั เรียนทกุ คนอา่ นออกเสียงตัวเลขโดยพรอ้ มเพรยี งกัน และสะกดตวั อักษร เชน่ Students: e - l - e - v - e - n eleven สบิ เอด็ t - w - e - l - v - e twelve สบิ สอง 3. นกั เรียนสารวจรปู ภาพและกลุม่ คาตา่ งๆ ครถู ามนักเรียนวา่ เห็นอะไรในภาพ
Teacher: What do you see in this picture? Students: Pens, pencils, erasers, books, rulers, cupboards, scissors, chairs and school bags. Teacher: Excellent! How many are there? กิจกรรมรวบยอด 1. ครใู ห้นกั เรยี นสมมตุ ติ นเองวา่ กาลงั เรียนอยใู่ นโรงเรียนนานาชาติ หรืออยู่ในโรงเรยี นท่ีประเทศองั กฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย หรอื นิวซแี ลนด์ เพราะวนั นคี้ รจู ะสอนนกั เรียนบวกและลบเลข 2 หลัก เปน็ ภาษาอังกฤษ จากน้นั ครูเขียนบนกระดาน ให้นกั เรียนคัดลอกลงในสมุดของตนเอง แล้วตัง้ ใจฟงั ครอู ธิบาย บวก (+) ภาษาองั กฤษเรยี กว่า plus ลบ (-) ภาษาอังกฤษเรยี กว่า minus เช่น 2 + 2 = 4 Two plus two is four. 6 + 4 = 10 Six plus four is ten. นกั เรียนทาแบบฝึกหัด 10 ข้อ โดยคดั ลอกโจทยบ์ นกระดานลงในสมดุ ของตนเอง แล้วบวกหรอื ลบเลขให้ ถูกตอ้ ง จากนน้ั จงึ เขียนเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ นักเรยี นสามารถปรึกษากับเพ่ือนๆ ได้ Drill Find the correct number. เชน่ 16 + 3 = 19 Sixteen plus three is nineteen. 1. 2 + 3 = …………………………………. 2. 5 + 6 = …………………………………. 3. 7 + 8 = …………………………………. 4. 8 + 5 = …………………………………. 5. 10 + 2 = …………………………………. 6. 12 + 7 = …………………………………. 7. 16 + 4 = …………………………………. 8. 18 - 9 = …………………………………. 9. 20 - 5 = …………………………………. 10. 19 - 6 = …………………………………. เมอ่ื ถงึ เวลาท่กี าหนด ครูส่มุ เรยี กนักเรียนแถวหนา้ แถวกลาง และแถวหลัง อย่างละ 3 คน ให้ออกมาเขียน โจทยเ์ ลข คาตอบ และตัวอกั ษรภาษาอังกฤษบนกระดาน คนละ 1 ข้อ ครเู ฉลยและอธิบายขอ้ ท่ีนกั เรยี นทาผดิ นกั เรยี นทุก คนตรวจคาตอบของตนเอง และให้คะแนนตนเอง ผ้ใู ดถูกมากกวา่ 8 ขอ้ ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารเข้าใจ 2. นกั เรียนนบั จานวนอปุ กรณก์ ารเรยี นต่างๆ ซงึ่ มีอปุ กรณก์ ารเรยี นท้ังหมด 5 ชนิด ให้นกั เรียนนับรวม 5 ขอ้ ครทู บทวนคาศัพทโ์ ดยใหน้ กั เรียนอ่านคาศัพท์ทีละข้อตามครู และช้ีตามคาศพั ท์แต่ละตัว แลว้ ช่วยกันบอกความหมาย
Teacher: Crayons, cupboards, school bags, pairs of scissors, pencil cases. Students: อา่ นตามครู ช่ัวโมงท่ี 2 กจิ กรรมนาสูก่ ารเรียน 1. นักเรยี นเปิดหนงั สือเรยี น หน้า 8 เพอื่ ดูรปู ภาพอย่างครา่ วๆ ครกู าหนดใหน้ ักเรียนดรู ูปภาพ 1 นาที แลว้ ปดิ หนังสอื เรียน จากนน้ั ถามนักเรียนว่าเหน็ อะไรบ้าง Teacher: What do you see on page 8? Students: Numbers, chairs, pens, books, scissors … (ช่วยกันตอบ) Teacher: Well done! ครบู อกนกั เรียนวา่ ใน Lesson 2 น้ี นกั เรียนจะไดเ้ รยี นรู้เกีย่ วกับจานวนตวั เลข 11-20 การถามและตอบเพื่อ ทราบจานวนตัวเลข และคานามเอกพจน์/พหูพจน์ กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ 1. ครอู ธิบายนกั เรียนว่า การทเี่ ราจะระบุจานวนของส่งิ ของต่างๆ ที่มากกว่า 1 เราใชโ้ ครงสรา้ ง ดังน้ี ครูเขยี น บนกระดาน number + plural noun *คานามพหูพจนค์ อื (จานวนตวั เลขท่มี ากกว่าหนง่ึ + *คานามพหูพจน)์ นามทม่ี มี ากกวา่ 1 ขน้ึ ไป เชน่ fourteen boys sixteen cups eleven crayons นักเรยี นช่วยกนั คดิ หากลมุ่ คาตา่ งๆ ทร่ี ะบุจานวนตามโครงสร้างขา้ งต้น คนละ 5 กลมุ่ คา โดยสังเกตจากสิง่ รอบๆ ตัว ภายในหอ้ งเรยี น แลว้ เขยี นลงในสมดุ ของตนเอง ครสู ุม่ เรยี กนกั เรียน 2-3 คน ให้ยืนขน้ึ อา่ นดังๆ เช่น Joy: ten books, nine girls, eleven pens, thirteen students, eight rulers 2. ครูอธบิ ายคานามเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) ดงั นี้ 1) คานามเอกพจน์ (Singular) แสดงวา่ มีคน สตั ว์ ส่ิงของ อยเู่ พียงสงิ่ เดยี วหรืออันเดยี ว ปกตินาม Singular จะใช้ a หรอื an นาหน้าคานาม เชน่ a teacher an orange a book an egg 2) คานามพหพู จน์ (Plural) แสดงวา่ มคี น สัตว์ สง่ิ ของ มากกว่าหน่ึง ตามปกตินามพหพู จน์ ใช้ รปู เดยี วกับนามเอกพจน์ แต่จะเติม s ทา้ ยคา ไมม่ ี a/an นาหน้า แตอ่ าจนาหน้าดว้ ย แสดงจานวน เช่น a student two students an egg ten eggs an eraser fourteen erasers etc.
3. นักเรยี นฝกึ ฟังและพูดบทสนทนา โดยดปู ระโยคคาพดู ของ Tommy และ Sam ครถู ามนกั เรียนเพ่อื เกร่นิ นาก่อน Teacher: How many people are there in this picture? Students: Two. Teacher: Who are they? Students: Tommy and Sam. Teacher: Well done! นักเรยี นช่วยกนั บอกความหมายของบทสนทนาขา้ งต้น จากนน้ั ครูอธิบายโครงสร้างของประโยคคาถาม และ คาตอบของบทสนทนา ดังนี้ การทีเ่ ราจะถามผอู้ ่นื วา่ ส่งิ ของต่างๆ มีจานวนเทา่ ใด และพูดตอบ เราใชโ้ ครงสรา้ งประโยค ดังน้ี ครเู ขยี นรูปแบบ ถาม How many + (plural noun) + are there? ประโยคบน ตอบ There are + (number + plural noun). กระดาน ถ้ามีของเพยี ง 1 สิง่ จะตอบว่า There is + (singular noun). เช่น A: How many books are there? B: There are sixteen books. นกั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นเพือ่ ฝกึ พูดบทสนทนา โดยใชร้ ูปแบบประโยคคาถามและคาตอบตามทคี่ รอู ธบิ ายไว้แล้ว ขา้ งต้น สว่ นขอ้ มลู ของคานามทใี่ ชถ้ าม ให้นักเรยี นดูจากสงิ่ ต่างๆ รอบตัว และสิง่ ของภายในหอ้ ง เมือ่ ไดเ้ วลาอนั สมควร ครู สมุ่ เรยี กนักเรียน 4-5 คู่ ออกมาพูดบทสนทนาทีละคู่ เชน่ Pancake: How many fans are there? Pinky: There is one fan. (ชไี้ ปทพี่ ดั ลมบนเพดานหอ้ ง) กิจกรรมรวบยอด 1. นกั เรียนเลน่ เกม Matching เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการสนทนาถาม-ตอบเกย่ี วกบั ตวั เลข 1-20 โดยครูเตรยี มอปุ กรณ์ การเล่น ได้แก่ ธงเขยี ว และธงแดง วธิ ีการเล่น มีดังน้ี 1) นักเรียนทกุ คนยืนข้ึนเพ่ือเตรยี มความพรอ้ ม สายตาทกุ คูจ่ ้องไปทค่ี รู 2) เมือ่ ครยู กธงเขยี ว นกั เรียนทกุ คนว่ิงไปจับคู่กบั นักเรยี นคนใดก็ได้ทีน่ ่ังอยู่หา่ งออกไปอย่างน้อย 5 แถว 3) เมอื่ ทุกคนไดค้ ขู่ องตนเองแล้ว ใหเ้ ร่ิมต้นสนทนา โดยทุกคู่ต้องผลัดกนั ถามและตอบ ดว้ ยข้อมลู ใน แบบฝกึ หดั หนา้ 11 ขอ้ 10 ที่ได้ทามาข้างต้น ครูเขียนรูปแบบการสนทนาบนกระดาน ดังน้ี A: How many (plural noun) are there? B: There are (number + plural noun). จากนั้น A และ B จงึ สลับบทบาทกัน ขณะน้ี ด.ญ. อั้ม จับค่กู ับ ด.ช. ต้า และใชข้ ้อมูลตวั เลขในแบบฝกึ หัด Aum: How many books are there?
Ta: There are sixteen books. And how many erasers are there? Aum: There are eighteen erasers. Goodbye. 4) เมื่อครยู กธงเขยี ว ใหน้ ักเรียนทกุ คนว่งิ ไปจับคู่กบั เพื่อนใหม่ แล้วเร่ิมตน้ สนทนาถามและตอบสลบั กัน ๗. การวัดและประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนการเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ - ประเมนิ การทาแบบฝกึ หดั - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากจิ กรรม 7.3 การประเมนิ หลังการเรยี น - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.4 การประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การพูดบทสนทนาเพอื่ ถาม-ตอบจานวนสิ่งของต่างๆ - ประเมนิ การระบุตวั เลข 11-20 รวมท้ังการอ่านและเขยี นตัวเลขเหลา่ นี้ - ประเมนิ การประดิษฐ์หนุ่ กระบอกตดิ หัวดนิ สอ - ประเมนิ การร้องเพลง และการแสดงออกดว้ ยท่าทางประกอบเพลง - ประเมนิ การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book ๘. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน Smile ป. 2 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บัตรภาพ บตั รคา บตั รตวั เลข 5. อปุ กรณ์การเรยี นตา่ งๆ ในห้องเรียน 6. อุปกรณ์ในการประดษิ ฐ์หุน่ กระบอกติดหวั ดนิ สอ 7. เกม My number
โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวัสดิร์ าษฎร์บารงุ ) ใบงานท่ี 1 เร่อื ง Singular Noun/Plural Noun (ช่วั โมงท่1ี ) วิชาภาษาอังกฤษ ช่อื .......................................................นามสกลุ ...............................................หอ้ ง ป.2 เลขท่.ี ....…...… วนั ที.่ ..........................เดือน......................................... พ.ศ. ...................
โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง Singular Noun/Plural Noun (ชัว่ โมงท่2ี ) วิชาภาษาองั กฤษ ช่อื .......................................................นามสกุล ...............................................ห้อง ป.2 เลขท.ี่ ....…...… วนั ท่.ี ..........................เดือน......................................... พ.ศ. ................... A or An
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วชิ าภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เวลา 2 ชั่วโมง เรอื่ ง There is / There are ครูผสู้ อน นางสาวหทัยรตั น์ ราชเสนา โรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) ๑. สาระสาคัญ การเรียนรู้จานวนตวั เลข 11-20 บทสนทนาเพอ่ื ถาม-ตอบจานวนส่งิ ของต่างๆ เช่น How many .….(plural noun)….. are there? There are …..(number)….. + noun. คานามเอกพจนแ์ ละพหูพจน์ การใช้ There is ….. และ There are ….. การรอ้ งเพลงซง่ึ เป็นกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เหลา่ น้เี ปน็ การเรียนร้ภู าษาอังกฤษ เพือ่ นาไปใช้ส่อื สารในชีวติ ประจาวัน และสามารถประยุกตใ์ ชก้ บั รายวชิ าอื่นๆ ๒. ตัวชว้ี ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อา่ นออกเสยี ง สะกดคา และเขยี นตวั อักษรของจานวนนบั 11-20 ได้ - ฟงั พูด และระบจุ านวนสงิ่ ของต่างๆ ได้ - พดู /เขยี น ถาม-ตอบถงึ จานวนของสิ่งต่างๆ ได้ - ระบุคานามเอกพจน์และพหูพจน์ สามารถเปลี่ยนคานามเอกพจนใ์ ห้เปน็ พหูพจน์ - ใช้ There is และ There are ประกอบประโยคได้ - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามที่กาหนดได้ ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คา และประโยคทใ่ี ช้ในการพดู เพอื่ ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั จานวนนับ 11-20 - คานามเอกพจน์ และพหูพจน์ - คาศัพท์ และบทสนทนาทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับจานวนส่งิ ของ เชน่ A: How many …..(plural noun)….. are there? B: There are ….. (numbers)….. + noun. - คาศัพท์ท่เี ก่ียวข้องกบั กล่มุ สาระการเรียนร้อู นื่ ๆ เช่น วชิ าคณิตศาสตร์ - กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การรอ้ งเพลง การเลน่ เกม - การใช้ภาษาในการฟงั /พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่เี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น 3.2 สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น - ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดอย่างสร้างสรรค์
๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - มีวนิ ัย - ใฝุเรยี นรู้ ๖. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 กจิ กรรมนาส่กู ารเรียน 1. ครแู ละนักเรยี นทักทายกันในชั้น ให้นักเรยี นทบทวนตัวอกั ษรภาษาองั กฤษ โดยทอ่ ง A-Z พรอ้ มกัน 2. นักเรียนรอ้ งเพลง “Ten Little Indians” และเพลง “How many ……. are there?” เพ่ือทบทวน ตวั เลขท่ีไดเ้ รียนมาในบทกอ่ น 3. นกั เรียนทดสอบความรกู้ ่อนเรยี นดว้ ยแบบทดสอบ English Pre-Test 2 เพื่อประเมนิ ความสามารถ ทางภาษาองั กฤษทีไ่ ด้เรียนมา โดยลากเส้นคาถามไปยังคาตอบทถ่ี กู ต้อง ครเู ฉลยคาตอบบนกระดาน นักเรียน แลกแบบทดสอบกบั เพอ่ื นเพอ่ื ตรวจ ผ้ใู ดได้คะแนนมากกวา่ 7 คะแนน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ หัวหนา้ ห้องรวบรวม แบบทดสอบใหค้ รู เพอ่ื ทาการจดบันทกึ คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นทากจิ กรรม โดยใหโ้ ยงเส้นจับคูภ่ าพกบั คาศพั ท์ตวั เลขท่ีมคี วามหมายตรงกนั 2. นกั เรียนทุกคนนาอปุ กรณก์ ารเรยี นทกุ ชิ้นทอ่ี ยใู่ นกระเป๋านักเรียน และใต้โต๊ะเรียนมาวางบนโต๊ะของตนเอง (ครู บอกใหน้ ักเรยี นเขยี นชือ่ เจ้าของบนอุปกรณ์การเรียนน้ันๆ เพ่อื กนั การสับสน หรือสญู หาย) แลว้ หันไปสนทนากบั เพ่ือนขา้ งเคยี งท่อี ย่ซู ้ายมือ ตามโครงสรา้ งประโยค ดงั น้ี (นกั เรียน) A: How many + (plural noun) are there? (เพื่อนทางด้านซา้ ย) B: There are + number + noun. (ดูอปุ กรณบ์ นโตะ๊ ของตนเอง) is (เพอ่ื นทางด้านขวา) C: How many (plural) noun are there? (นกั เรียน)A: There are + number + noun(s). (ตอบตามจานวนสง่ิ ขอisงจริงบนโต๊ะ) จากน้ันนกั เรียนทกุ คนมีอสิ ระในการเดินไปมาในหอ้ งเรยี น เพ่ือฝกึ สนทนาถาม-ตอบถึงจานวนสิ่งของต่างๆ ที่ ตนเองและเพือ่ นคนอ่นื ครอบครอง
Search