Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเล่ม หนังสือคอมประยุกต์64

รวมเล่ม หนังสือคอมประยุกต์64

Published by comatts63, 2022-04-04 07:52:50

Description: รวมเล่ม หนังสือคอมประยุกต์64

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี น คอมพิวเตอร์ประยุกต์ น.ท.หญิง จารุวรรณ ปูคะภาค หน.ผวสม.กกศ.รร.จอ.ยศ.ทอ. ร.อ.หญงิ รินดา ปอสี อจ.ผวสม.กกศ.รร.จอ. ร.ท.หาญ หงษ์เวียงจนั ทร์ อจ.ผวสม.กกศ.รร.จอ. ร.ต.สริ ภพ ตามธรรม อจ.ผวสม.กกศ.รร.จอ. พ.อ.อ.วทิ ยา อุ่นโรจน์ ครูผชู้ ่วย ผวสส.กกศ.รร.จอ.ยศ.ทอ. พ.อ.ต.กรณพ์ งษ์ สุขเกียรติส์ กลุ สมน.ผวสม.กกศ.รร.จอ.ยศ.ทอ. ฉบับปรับปรงุ ปพี .ศ. 2564

คำนำ เอกสารประกอบการเรียนเลม่ นีจ้ ัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็นการประกอบการเรียนการสอนใน รายวิชาคอมพิวเตอร์ การใช้งานการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หลักการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานด้วยอัลกอลิทึม เทคโนโลยีสารสนเทศ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ สมัยใหม่ โปรแกรมประยุกต์ด้านการจัดการกราฟิก การเขียนเว็บเพจและการตัดต่อวีดีโอ ซ่ึง มีเน้ือหาสาระที่เก่ียวข้องกับการใช้โปรแกรมต่างๆ เช่น ภาษา C, JavaScript, PHP, Html การใช้งานโปรแกรม Adobe Photoshop, Google Apps for Work และเรียนรู้พ้ืนฐาน HTML รวมท้ังการใชง้ านโปรแกรม การสรา้ งเวบ็ ไซต์ เปน็ ต้น คณะผู้จัดทาขอขอบคุณผู้ท่ีมีส่วนร่วมทุกท่าน ท่ีให้คอยให้คาปรึกษาพร้อมคาแนะนา ช่วยเหลอื และสนับสนุนในการจดั ทาเอกสารประกอบการเรยี นครง้ั นี้จนสาเรจ็ ลลุ ่วงและบรรลุ ตามวตั ถุประสงคไ์ ดด้ ว้ ยดี สุดท้ายน้ี คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ี จะมีประโยชน์ต่อผู้ท่ีต้องการศึกษาเพ่ือนาไปประกอบการเรียนการสอน และผู้สนใจที่จะ นาไปศกึ ษาในการประยกุ ต์ใชง้ านดว้ ยตนเอง ครู – อำจำรย์ รำยวชิ ำคอมพวิ เตอร์ ผวสม.กกศ.รร.จอ.ยศ.ทอ.

สารบัญ หนา้ คำนำ 2 1. การออกแบบงานกราฟกิ 2 ➢ ความหมายของการออกแบบงานกราฟิก 3 ➢ องคป์ ระกอบของการออกแบบงานกราฟกิ 5 ➢ ชนดิ ของภาพกราฟิก 6 ➢ ประเภทของงานกราฟิก 7 ➢ วงจรสี (Color Circle) 8 ➢ โหมดสสี ำหรบั งานกราฟิก 8 ➢ การกำหนดความละเอียดของภาพ (Resolution) 8 ➢ ไฟล์ภาพในงานกราฟิก 11 2. Adobe Photoshop CC 11 ➢ โปรแกรม Photoshop คืออะไร 11 ➢ ลกั ษณะเดน่ ของ Photoshop 12 ➢ เรมิ่ ตน้ การใช้งาน Photoshop CC 17 ➢ สว่ นประกอบของโปรแกรม Photoshop . 19 ➢ เคร่อื งมือกลุม่ ตา่ งๆ บนทูลพาเนล (Tool Panel) 25 ➢ การไดคัทรูปโดยใช้ Pen Tool 30 ➢ วิธกี ารพิมพ์ตัวอกั ษรแบบอิสระ 38 ➢ การตดั ภาพบางส่วน (di-cut) ดว้ ยการเลอื กใช้ channel 44 ➢ การใช้ Magic Wand 48 ➢ การใช้ Quick Selection Tool 51 ➢ การสร้างชน้ิ งานเพ่ือนำไปใชใ้ น Website 56 3. ความรพู้ นื้ ฐานการพฒั นาเวบ็ ไซต์ 56 ➢ ความร้พู น้ื ฐานการพัฒนาเว็บไซต์ 61 ➢ ขน้ั ตอนการพัฒนาเว็บไซต์ 62 ➢ โครงสรา้ งเว็บไซต์ 63 ➢ รูปแบบโครงสรา้ งเว็บไซต์ 65 ➢ การออกแบบเว็บเพจ 66 ➢ ความรเู้ บ้ืองตน้ ภาษา HTML

สารบญั (ตอ่ ) 71 4. Google Site 71 71 ➢ การสรา้ งเว็บไซตด์ ว้ ย Google Site 71 ➢ จดุ เดน่ ของ Google Site 72 ➢ ส่งิ ที่สามารถดำเนนิ การไดก้ บั Google Site 72 ➢ ขอ้ จำกดั ของ Google Site . 73 ➢ การออกแบบโครงสรา้ งเว็บไซต์ 73 ➢ การออกแบบหนา้ เวบ็ เพจ 76 ➢ ขน้ั ตอนการสร้างเวบ็ ไซต์ใหม่ ➢ ข้นั ตอนการตั้งช่ือเว็บไซต์ 76 ➢ ข้ันตอนการเพ่ิมหน้าเพจเว็บไซต์ . 77 ➢ สร้างเมนูหนา้ เพจ . 78 ➢ ข้ันตอนการสร้างเนอื้ หาในเว็บไซต์ . 80 ➢ การแทรก Code HTML . 83 ➢ การแทรกเน้อื หาอื่นๆในเว็บไซต์ ➢ ขั้นตอนการเผยแพรเว็บไซต์ 85 5. Google Forms 89 ➢ การสร้าง Google Form 89 ➢ ความหมายของ Google Form 89 ➢ สรา้ งแบบสอบถามออนไลน์จาก Google Form 90 ➢ เลือกการสร้างแบบฟอร์ม ใหก้ ับแบบสอบถาม 91 ➢ กำหนดคำถามใหผ้ ูต้ อบแบบสอบถาม 92 ➢ เลือกประเภทคำถามท่ีตอ้ งการ 93 ➢ คำถามประเภทตาราง 94 ➢ สร้างขอ้ เสนอแนะ หรือแสดงความคิดเห็น 94 ➢ วธิ นี ำ URL ไปใชส้ ร้าง QR Code 95 ➢ สร้าง QR Code แบบสอบถามทีว่ ัดผลได้ 95 ➢ สร้างแบบสอบถามด้วย QR Code Analytics 96 ➢ เพ่ิมความแตกตา่ งใสข่ ้อความบน QR Code 96

สารบัญ (ตอ่ ) 99 6. การเขียนโปรแกรมภาษาซเี บอ้ื งตน้ 99 99 ➢ ขนั้ ตอนวธิ กี ารทางคอมพิวเตอร์ (Computer algorithms) . 102 ➢ การวเิ คราะห์งาน (job analysis) . 107 ➢ ผังงาน (Flowchart Diagram) . 116 ➢ การเขยี นผังงานโปรแกรม (Program flowcharting) 124 ➢ การเขยี นโปรแกรม (Programming) ) 129 ➢ การแสดงผลขอ้ มลู (Output functions) 135 ➢ ฟังกช์ ันรับข้อมลู (Input functions) . 143 ➢ คำส่ังทดสอบเงอ่ื นไขเพ่ือการตดั สนิ ใจ (Decision statements) ➢ การควบคุมการทำงาน 151 บรรณานกุ รม

การออกแบบงานกราฟกิ ความหมายของการออกแบบงานกราฟิก องคป์ ระกอบของการออกแบบงานกราฟกิ ชนิดของภาพกราฟิก ประเภทของงานกราฟิก วงจรสี (Color Circle) โหมดสสี าหรับงานกราฟกิ การกาหนดความละเอยี ดของภาพ (Resolution) ไฟลภ์ าพในงานกราฟิก

การออกแบบงาน กราฟกิ ประวตั ิของงานกราฟิก งานกราฟิกมีประวัติความเป็นมาตามหลักฐานในอดีตเมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักการขีดเขียน ขุดจารึกเป็นร่องรอย ให้ปรากฏ เป็นหลักฐานในปัจจุบัน การออกแบบงานกราฟิกสมัยก่อน ประวัติศาสตร์จึงเป็นการเร่ิมต้นการส่ือความหมายด้วยการวาดเขียน ต่อมาประมาณ 9000 ปี ก่อน คริสตกาล ชาว Sumerien ในแคว้นเมโสโปเตเมียได้เร่ิมเขียนตัวอักษรรูปล่ิม และ ตัวอักษร Hieroglyphic ของชาวอียิปต์ งานกราฟิกเริ่มได้รับการยอมรับมากข้ึนเม่ือได้คิดค้นกระดาษและ วิธีการพิมพ์ ในปี ค.ศ.1950 การออกแบบได้ชื่อว่า Typographical Style เป็นการพัฒนาโดย นักออกแบบชาวสวิส ต้ังแต่สมัยหลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา การออกแบบงานกราฟิกได้ พัฒนาและขยายขอบเขตงานออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่จากัดอยู่แต่ ในส่ิงพิมพ์เท่านั้น โดยเข้าไปอยู่ ในกระบวนการสอ่ื สารอ่ืน ๆ เช่น ภาพยนตร์ โทรทศั น์ วีดที ัศน์ การถา่ ยภาพ การโฆษณา ฯลฯ การออกแบบกราฟิกในปัจจบุ ันเป็นยุคของอิเล็กทรอนิกส์ นวตั กรรมและเทคโนโลยี ไดน้ าเครอ่ื งมอื เครื่องใช้ วัสดุ อุปกรณ์ มาชว่ ยในการออกแบบกราฟกิ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เชน่ การใชค้ อมพวิ เตอร์ มโี ปรแกรมดา้ นการจดั พิมพต์ วั อักษรท่ีนิยมมาก คือ Microsoft Word และยังมีโปรแกรมอนื่ ๆ ทีส่ นับสนนุ งานกราฟกิ อกี มากมาย เช่น Adobe Photoshop, Illustrator, InDesign, CorelDraw, 3D studio, LightWave 3D, AutoCad ฯลฯ ความหมายของการออกแบบงานกราฟกิ กราฟิก หมายถึง ภาพลายเสน้ หรือภาพที่เกดิ จากการวัด จากการขีดเขียนท่ีแสดงด้วยตาราง หรือแผนภาพ การวาด เขียนหรือการระบายสี การสร้างงานศิลปะบนพ้ืนระนาบหรือ กระบวนการ ออกแบบต่าง ๆ ในสิ่งที่เป็นวสั ดุ 2 มิติ คือมี ความกว้างและความยาวเท่าน้ัน เช่น งานออกแบบบ้าน ของสถาปนิกในการเขียนแบบ ตัวภาพและรายละเอียดบนแปลนบ้าน เรียกว่าเป็นงานกราฟิก การเขียนภาพเหมือนจริงของจิตกร การออกแบบภาพโฆษณาของนักออกแบบ การออกแบบฉลาก หรือ ลวดลายหรือภาพประกอบหรือตัวอักษรท่ีปรากฏบนฉลากสินค้า บนตัวสินค้าหรือบนภาชนะ บรรจุภัณฑ์สนิ คา้ ฯลฯ การออกแบบ หมายถึง การวางแผนสร้างสรรค์รูปแบบโดยวางแผนจัดสัดส่วนประกอบของ การออกแบบให้สัมพันธ์ กับประโยชน์ใช้สอย วัสดุ และการผลิตของสิ่งท่ีต้องการออกแบบน้ัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบทางความงามและพิจารณาถึง ประโยชน์ใช้สอยการออกแบบท่ีดีนั้นควร จะคานึงถงึ ปัจจัยตอ่ ไปนี้ 1. รปู แบบท่ีสรา้ งสรรค์ 2. มคี วามงามที่นา่ สนใจ 3. สัมพนั ธก์ ับประโยชนใ์ ชส้ อย 2 คอมพิวเตอร์ประยกุ ต์

4. เหมาะสมกบั วสั ดุ 5. สอดคล้องกับการผลิต การออกแบบงานกราฟิก หมายถึง กระบวนการทางความคิดสร้างสรรค์ท่ีใช้ความรู้ศิลปะ ร่วมกับหลักการออกแบบ และเทคโนโลยี เพ่ือผลิตผลงาน ซึ่งงานนั้นสามารถถ่ายทอดและสื่อ ความหมายไปยังผู้รับสารไดเ้ ขา้ ใจอย่างตรงกัน องคป์ ระกอบของการออกแบบงานกราฟิก 1. เส้น (Line) คือจุดหลาย ๆ จุด ถูกนามาวางต่อเนื่องจนกลายเป็นเส้นรูปทรงต่าง ๆ ข้ึนมา รูปทรงของเส้นทจ่ี ะส่อื ออกมาถึงความรูส้ ึกท่ีแตกต่างกนั ออกไป  เสน้ แนวนอน ให้ความรูส้ ึกสงบ ราบเรยี บ  เส้นตรงแนวต้ัง ใหค้ วามรสู้ กึ ม่นั คงแข็งแรง  เสน้ ทแยง ให้ความรู้สึกไม่มนั่ คง รวดเรว็ แสดงถงึ การเคลื่อนไหว  เส้นตัดกนั ให้ความรสู้ ึกประสาน แข็งแกรง่ หนาแน่น  เส้นโค้ง ให้ความรสู้ ึกออ่ นชอ้ ย ออ่ นน้อม  เส้นประ ให้ความร้สู ึก โปรง่ ไม่สมบูรณ์ หรือในบางกรณีอาจจะใช้เป็นสัญลักษณ์ในการ แสดงถงึ สว่ นท่ี ถูกซอ่ นเอาไว้  เส้นโค้งกน้ หอย ใหค้ วามรสู้ กึ เคลอ่ื นไหวไม่มีทีส่ ิ้นสดุ  เสน้ โคง้ แบบคล่นื ใหค้ วามรูส้ ึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างนม่ิ นวล  เสน้ ซิกแซก็ ให้ความรู้สึก นา่ กลัว อันตราย 2. รูปร่าง (Shape) เกดิ จากการนาเส้นแบบต่าง ๆ มาต่อกันจนได้รูปรา่ ง 2 มิตทิ ี่มีความกว้างและ ความยาว (หรือความสูง) ในทางศิลปะจะแบ่งรูปร่างออกเป็น 2 แบบคือ รูปร่างที่คุ้นตา แบบท่ี เห็นแล้วรู้เลยว่าน่ันคือ อะไร เช่นดอกไม้ หรือคน และอีกแบบหน่ึงจะเป็นรูปร่างแบบฟรีฟอร์ม เป็นแนวท่ีใช้รูปร่างสื่อความหมายที่ จินตนาการไว้ออกมา ไม่มีรูปทรงที่แน่นอน แต่ดูแล้วเกิด จินตนาการถึงอารมณ์ทีต่ ้องการสือ่ ได้ รปู ร่างแตล่ ะชนิดมีความหมายดงั นี้ – วงกลม Circle : เป็นศนู ยก์ ลาง ปกป้อง ศนู ย์รวมความสนใจ – ส่ีเหลย่ี ม Square : วางตามแนวต้ังฉาก ให้ความรสู้ ึกสงบ มัน่ คง เป็นระเบียบ การออกแบบงานกราฟกิ 3

– สามเหลี่ยม Triangle : วางรูปร่างสามเหลี่ยมในภาพจะได้ความรู้สึกหยุดน่ิง ม่ันคง แต่ที่ส่วน ปลายมุมทั้ง 3 ด้าน ให้ความรู้สึกถึงทิศทาง ความเฉียบคมและมี แรงผลกั ดัน – หกเหล่ยี ม Hexagon : จะใหค้ วามรสู้ กึ ถงึ การเชอ่ื มโยง – รปู ร่างธรรมชาติ Organic: จะให้ความรสู้ กึ ล่ืนไหล อิสระ ไมม่ กี ฎเกณฑ์ 3. รปู ทรง (Form) คือรปู รา่ งที่มมี ิติเพิ่มขนึ้ มากลายเปน็ งาน 3 มติ คิ อื มคี วามลกึ เพม่ิ เขา้ มาด้วย 4. นา้ หนัก (Value) คือเกิดจากการเตมิ สี เงาลงไปที่ตวั รูปทรง ทาใหเ้ กดิ ความรู้สกึ มมี วล ความหนาแน่นทาให้ รู้สึกถงึ ความหนกั เบา ทบึ หรือโปร่งแสง ในการทางานกราฟิกรูปร่างจะมีผลอย่างมากต่ออารมณ์ของงาน เช่น ถ้าต้องการงานท่ี อารมณ์ผู้หญิงจัด ๆ เพียงแค่ ใส่รูปของดอกไม้ลงไปก็จะสามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน หรือ ในงานที่ต้องการให้มีมิติมากข้ึนก็อาจจะเป็นรูปทรงของ ดอกไม้ในมุมมองที่แปลกตา ก็จะสามารถ ส่อื อารมณท์ ีต่ อ้ งการออกไปไดพ้ ร้อมกับเป็นการสรา้ งความนา่ สนใจเพมิ่ ขึ้นมาอีกดว้ ย 5. พนื ผิว (Texture) คือส่วนที่ชว่ ยสอ่ื อารมณ์ของงานออกมาได้ชดั เจนมาก ขึ้น เช่น ถา้ เลอื กพมิ พง์ านลงในกระดาษ Glossy ท่เี งาและแวววาว งานน้ัน จะส่ือออกไปได้ ทันทีว่า “หรู มีระดับ” หรือ ถ้าใส่ลวดลายที่ดูคล้าย ๆ สนิม หรอื รอยเป้ือนลงไป ในงานกจ็ ะส่ือได้ทนั ทถี ึง “ความเก่า” 6. ที่ว่าง (Space) อาจจะจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของนัก ออกแบบก็ได้ ท่ีว่างไม่ได้หมายความถึงพ้ืนที่ว่างเปล่าในงานเพียง อย่าง เดียว แต่หมายถึงรวมไปถึงพ้ืนที่ท่ีไม่สาคัญหรือ Background ด้วยในการออกแบบงานกราฟิกที่ว่างจะเป็นตัวช่วยในงานดูไม่หนัก จนเกินไป และถ้าควบคุมพื้นที่ว่างนี้ให้ดี ๆ ที่ว่างก็จะเป็นตัวท่ีช่วย เสริมจดุ เด่นให้เห็นไดช้ ดั เจนมาก 4 คอมพิวเตอรป์ ระยกุ ต์

7. สี (Color) สีของงานกราฟิก ถือเป็นหัวใจหลักของการออกแบบงาน กราฟิก เพราะการเลือกใช้สี จะแสดงถึง อารมณ์ ท่ีต้องการ ได้ชัดเจน มากกว่าส่วนประกอบอื่น ๆ ท้ังหมด เช่น สีโทนร้อน สาหรับงาน ที่ต้องการความ ต่ืนเต้น ท้าทาย หรือสีโทนเย็นสาหรับงาน ตอ้ งการให้ดสู ุภาพ 8. ตัวอกั ษร (Text) คอื ส่วนท่ีส่อื ความหมายของงาน ซ่ึงในงานกราฟิกที่ดีบางงาน นักออกแบบอาจจะใช้เพียงแค่ ตัวอักษรและสีเป็นส่วนประกอบเพียงสองอย่าง เพื่อสร้างสรรค์งานท่ี สามารถสื่อความหมายออกมาไดใ้ นดีไซนท์ ่ีสวยงาม ชนิดของภาพกราฟกิ 1. ภาพกราฟิกแบบ Raster หรือแบบบิตแมป (Bitmap) ภาพลักษณะน้ีเกิดจากการรวมตัวกัน ของจุดสี ซ่ึงแต่ละจุดจะมีค่าคงท่ีตายตัวตามการสร้างภาพท่ีมีความละเอียดต่างกันไป เหมาะกับภาพ ที่ต้องการระบายสี สร้างสี ภาพ ชนิดนี้มีข้อจากัดในเรื่องของค่าสี เมื่อมีการขยายภาพจะทาให้ ความละเอียดของภาพลดลง และสิ้นเปลือง หน่วยความจา เช่นภาพท่ีมีนามสกุล .bmp, .pcx, .tiff, .jpg, .pct เป็นต้น 2. ภาพกราฟิกแบบ vector หรือ Object-Oriented Graphics ลักษณะภาพแบบน้ีค่าสีหรือ จุดสีมีการคานวณ ค่าทางคณิตศาสตร์ไม่มีค่าคงที่ โดยหามีการย่อหรือขยายรูป ก็จะทาให้ ความละเอียดของภาพไม่ลดลง นอกจากน้ีขนาดของไฟล์จะมีขนาดเล็กกว่าภาพ bitmap เช่น ภาพทม่ี ีนามสกุล .eps, .wmf, .ai, .drw เป็นต้น การออกแบบงานกราฟกิ 5

ประเภทของงานกราฟกิ การออกแบบงานกราฟิก ย่อมมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายท่ีแตกต่างกันไป ลักษณะเฉพาะ ของงานหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ของงานและวิธีการดาเนินงานต้องสอดคล้องกบั ปัจจัยทุกด้านในการสร้าง งานออกแบบจึงควรศึกษาถึงองค์ประกอบสาคัญ ๆ หลาย ๆ ด้าน แนวทางในการคิดงานกราฟิก จะแปรเปล่ยี นไปตามลักษณะของสอ่ื หรืองานแตล่ ะประเภท โดยสามารถจดั หมวดหมู่ได้ ดงั น้ี 1. งานกราฟิกบนสื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์ คือ ส่ือสาหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ หรอื องค์กร ได้แก่ แผน่ ป้ายโฆษณาหรอื โปสเตอร์ แผ่นพับ แผน่ ปลิว และบตั รเชญิ 2. งานกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์มีหน้าท่ีหลักคือเป็นตัวภาชนะ สาหรับบรรจุสินค้า มหี ลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามลกั ษณะของสนิ คา้ เชน่ หบี ห่อ กลอ่ ง ขวด ลัง กระป๋อง ฯลฯ บรรจุภัณฑ์จะมีขนาดต่าง ๆ ตามขนาดที่ บรรจุสินค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์แบ่งเป็น กลุม่ ใหญๆ่ ได้ 3 กลุ่ม คอื 2.1 บรรจุภัณฑ์สาหรับค้าปลีก มักออกแบบสวยงาม สะดวกในการใช้สอย น่าใช้ บางชนิด จะเน้นความสวยงามเป็นพเิ ศษ จะมีรายละเอยี ดของสินค้าบรรจอุ ยู่ภายใน 2.2 บรรจุภัณฑ์เพื่อการค้าส่ง เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบสาหรับบรรจุสินค้าจานวนมาก ๆ การกาหนดรายละเอียดจะแตกต่างออกไป 2.3 บรรจุภัณฑ์เพ่ือการขนส่ง จะเน้นในเร่ืองความสะดวก ความปลอดภัย และความ ประหยัดในการขนส่งการออกแบบฉลากของบรรจุภัณฑ์จะต้องอยภู่ ายใต้เงือ่ นไขและข้อกาหนด หลายอย่าง นักออกแบบมักจะต้องสร้างภาพลักษณ์ของตัวสินค้าให้เกิดความน่าเช่ือถอื สวยงาม สว่ นการออกแบบหีบห่อบรรจภุ ัณฑ์ก็มีจุดประสงค์อย่างเดียวกันกับฉลากสินค้า แต่มีจุดเด่น คือ เพ่ือความสะดวกในการขนส่ง 6 คอมพวิ เตอร์ประยุกต์

3. งานกราฟิกบนเครื่องหมายและสัญลักษณ์ คือ เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่ส่ือด้วยรูปภาพ เพ่ือต้องการส่ือ ความหมาย และสังเคราะห์ให้เป็นรูปลักษณ์ที่เป็นส่ิงแทนอันสามารถบอก ถึงความหมายได้ โดยนักออกแบบต้องออกแบบให้ ประณีต คมชัดส่ือ เพื่อส่ือความหมาย ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง วงจรสี (Color Circle) 1. สขี นั้ ท่ี 1 คอื แม่สี ไดแ้ ก่ สีแดง สเี หลือง สนี ้าเงิน 2. สขี ั้นที่ 2 คือ สีท่ีเกิดจากสีขั้นที่ 1 หรอื แม่สีผสมกันในอัตราส่วนท่ีเท่ากัน จะทาให้เกิดสใี หม่ 3 สี ได้แก่ - สีแดง ผสมกับสเี หลอื ง ไดส้ สี ้ม - สีแดง ผสมกบั สนี า้ เงิน ไดส้ ีมว่ ง - สีเหลอื ง ผสมกับสนี า้ เงิน ไดส้ ีเขียว 3. สีข้ันท่ี 3 คือ สีท่ีเกิดจากสีข้ันท่ี 1 ผสมกับสีขั้นที่ 2 ในอัตราส่วนที่ เทา่ กันจะได้สีอ่นื ๆ อีก 6 สี ได้แก่ - สีแดง ผสมกับสีสม้ ไดส้ สี ม้ แดง - สแี ดง ผสมกบั สมี ว่ ง ไดส้ มี ่วงแดง - สีเหลือง ผสมกับสีเขียว ไดส้ เี ขียวเหลอื ง - สีน้าเงิน ผสมกับสเี ขยี ว ไดส้ เี ขยี วนา้ เงิน - สีน้าเงนิ ผสมกบั สมี ่วง ไดส้ มี ว่ งน้าเงนิ - สีเหลือง ผสมกับสีสม้ ไดส้ ีสม้ เหลอื ง การออกแบบงานกราฟิก 7

โหมดสสี า้ หรบั งานกราฟิก 1. RGB คือโหมดสีสาหรับการแสดงผลบนจอภาพ เกิดจากการผสมกันของแม่สีทางแสง 3 สี ซึ่งประกอบไปด้วย สีแดง สีเขียว และสีน้าเงิน นาไปใช้ในการแสดงผลบนจอ เหมาะกับงาน บนอนิ เทอร์เนต็ เวบ็ ไซต์ งานมลั ตมิ ีเดยี สีในโหมดสีนี้จะมคี วามสด และค่าอิม่ ตวั สงู 2. CMYK คือโหมดสีสาหรับงานพิมพ์ ซ่ึงจะให้ผลลัพธ์ตรงกับธรรมชาติมากที่สุด เพราะเกิดจากการ ผสมกันของแม่สี ทางวัตถุ หรือแม่สีที่เป็นหมึกพิมพ์จริงๆ 4 สี ได้แก่ ฟ้า บานเย็น เหลือง และดา ผสมกันเปน็ ภาพ เปน็ โหมด สีทใ่ี ชส้ าหรับงานพมิ พ์ทุกชนิด 3. Grayscale โหมดสีเดียว โหมดสีนี้จะมีอยู่เพียงสีเดียว เท่านั้น คือสีดา การแสดงผลภาพจะเป็นการไล่น้าหนักสี จากดา เทา ไปจนถึงสีขาวสุด มักใช้สีในโหมดนี้กับงาน พมิ พส์ เี ดียว การกา้ หนดความละเอยี ดของภาพ (Resolution) เพื่อให้ช้ินงานได้ผลลัพธ์ออกมาดี ภาพคมชัดไม่แตกเบลอ นักออกแบบ จะต้องรู้จัก กาหนดค่าความละเอียดของภาพให้ เหมาะสมกับลักษณะงานท่ีจะนาภาพนั้นไปใช้ ดังน้ันเพ่ือ ความเหมาะสมกับการทางานแตล่ ะแบบ จึงมีการกาหนดค่าความ ละเอียดภาพทีเ่ หมาะสมดงั นี้ – ค่าความละเอียด 72 Pixel/Inch : สาหรบั การแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์ เชน่ งานออกแบบเวบ็ ไซต์ – คา่ ความละเอียด 150 Pixel/Inch : สาหรับภาพท่ีจะนาไปพมิ พผ์ ่านเครอื่ งพิมพ์ – คา่ ความละเอยี ด 300 Pixel/Inch : สาหรบั งานส่ิงพิมพ์ เช่น ปกหนังสอื โปสเตอร์ ฯลฯ ไฟลภ์ าพในงานกราฟกิ ไฟล์รูปแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานกราฟิกในรูปแบบท่ีแตกต่างกันไป ดังนั้น นักออกแบบจึงควรจะ เลือกบันทึก Save เป็นไฟล์รูปชนิดที่เหมาะกับงานท่ีจะนาไปใช้ให้มากท่ีสุด และถึงแมว้ า่ จะมไี ฟล์มากมายแต่ในปัจจบุ ันมี ไฟลท์ ใ่ี ชเ้ ป็นมาตรฐานอยู่ไม่ก่ชี นดิ ดังน้ี 1. ไฟล์ JPEG เป็นไฟล์ภาพที่นิยมใช้งานบนอินเทอร์เน็ต หรือรูปภาพดิจิตอล ข้อดีคือไฟล์ จะถูกบบี อัดจนมี ขนาดไมใ่ หญ่มากนกั เปดิ ดูไดเ้ ร็ว แตไ่ ม่คอ่ ยเหมาะกบั งานพิมพ์คุณภาพสงู 2. ไฟล์ GIF เป็นไฟลภ์ าพขนาดเลก็ รองรับสีได้ 256 สี เหมาะสาหรับทาภาพเคลื่อนไหวบน เวบ็ ไซต์ รองรบั ภาพพืน้ หลังแบบโปร่งใส (Transparent) 3. ไฟล์ TIFF เป็นไฟล์ภาพที่เก็บรายละเอียดของงานได้ครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถ บันทกึ เลเยอรเ์ ก็บไวใ้ ชต้ อ่ ได้ใชไ้ ดท้ ั้ง Windows และ Mac อีกทง้ั ยังรองรบั โหมดสี CMYK 8 คอมพวิ เตอรป์ ระยกุ ต์

4. ไฟล์ PNG เป็นไฟล์ท่ีถูกบีบอัดมีขนาดได้เล็กมากๆ และยังสามารถบันทึกให้มีพ้ืนหลัง แบบโปร่งใสได้เหมาะกับงานบนเวบ็ ไซตห์ รอื บนอนิ เทอรเ์ นต็ 5. ไฟล์ PSD เป็นไฟล์ที่สร้างจากโปรแกรม Photoshop สามารถบันทึกข้อมูลการแก้ไข ตา่ ง ๆ และแยกเลเยอร์เอาไว้สาหรบั กลับมาแกไ้ ขตกแต่งตอ่ ไปได้ 6. ไฟล์ AI เป็นไฟล์ภาพท่ีเกิดจากการวาดภาพและทางานในโปรแกรม Illustrator สามารถ สง่ ไฟลน์ ี้เข้าโรงพิมพ์ไดเ้ ลย 7. ไฟล์ PDF เป็นไฟล์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี สามารถกลับมาแก้ไขได้ เก็บรายละเอยี ดไดม้ าก ไฟลม์ ีขนาดเล็ก รองรับงานพมิ พ์เอกสารในระดบั โรงพิมพ์ 8. ไฟล์ EPS เป็นไฟล์ภาพที่ถูกแปลงออกมาจากไฟล์ท่ีทางานในโปรแกรม Illustrator มีข้อดคี ือ ไฟล์จะดงึ รูปภาพทีใ่ ช้ในการทางานมาฝังไวใ้ นไฟล์ด้วย การออกแบบงานกราฟิก 9

Adobe Photoshop CC โปรแกรม Photoshop คืออะไร ลักษณะเดน่ ของ Photoshop เรม่ิ ตน้ การใช้งาน Photoshop CC สว่ นประกอบของโปรแกรม Photoshop เครอ่ื งมือกลุ่มตา่ ง ๆ บนทูลพาเนล (Tool Panel) การไดคทั รปู โดยใช้ Pen Tool วิธีการพิมพ์ตัวอกั ษรแบบอสิ ระ การใช้ Shape Tool ใน Photoshop การตดั ภาพบางสว่ น(di-cut) ดว้ ยการเลือกใช้ channel การใช้ Magic Wand การใชง้ าน Quick Selection Tool การสรา้ งชิน้ งานเพ่ือนาไปใชใ้ น Website

การใช้งานโปรแกรม โปรแกรม Photoshop เป็นโปรแกรมสร้างและแก้ไขรูปภาพอย่างมืออาชีพโดยเฉพาะ นกั ออกแบบในทุกวงการย่อมรู้จักโปรแกรมตัวนี้ดี โปรแกรม Photoshop เปน็ โปรแกรมท่ีมีเคร่อื งมือ มากมายเพื่อสนับสนุนการสร้างงานประเภทส่ิงพิมพ์ งานวิดิทัศน์ งานนาเสนอ งานมัลติมีเดีย ตลอดจนงานออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ในชุดโปรแกรม Adobe Photoshopจะประกอบด้วย โปรแกรมสองตัวได้แก่ Photoshop และ Image Ready การท่ีจะใช้งานโปรแกรม Photoshop ต้องมีเคร่ืองที่มีความสามารถสูงพอควร มีความเร็วในการประมวลผล และมีหน่วยความจาที่เพียงพอ ไม่เช่นน้ันการสร้างงานของคุณคงไม่สนุกแน่ เพราะการทางานจะช้าและมีปัญหาตามมามากมาย ขณะนี้โปรแกรม Photoshop ได้พฒั นามาถงึ รนุ่ Adobe Photoshop CC โปรแกรม Photoshop คืออะไร โปรแกรม Photoshop เป็นโปรแกรมสาหรับสร้างภาพ และตกแต่งภาพ ซง่ึ เป็นลิขสิทธ์ิของ บริษัท Adobe ซึงบริษัท Adobe มีผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์เกี่ยวกับด้านกราฟิก มากมายเช่น Adobe illustrator สาหรับ ท า ภาพเวกเตอร์ Adobe Pemiretor สาหรับตัดต่อภาพยนตร์ ฯลฯ โปรแกรม Photoshop เป็นโปรแกรม ตกแต่งภาพทีได้รับความนิยมมาก เนืองจากเป็นโปรแกรมทีใช้ง่าย และ รองรบั Application (Plug In) เสรมิ ไดม้ ากมาย ลกั ษณะเด่นของ Photoshop 1. Photoshop ทางานเปน็ Layer ลกั ษณะการทางานของ Photoshop จะเหมือนการวางแผ่นใสซ้อนๆ กัน โดยแต่ละแผ่นจะ มีการ ทางาน ต่างกัน แต่เมือรวมกันแล้วจะเป็นแค่ภาพภาพเดียว แต่ละแผ่นใส(Layer)สามารถสลับ ไปมาได้ 2. รูปแบบคาสั่งเป็นแบบ Interface Enhancement ไอคอนและปุ่มคาสั่งต่างๆ จะ อยู่ในรูปแบบของ Toolbox , Toolbar และ Dialog Box ซ่ึงจัดไว้เป็นหมวดหมู่ โดยคลิก เพ่อื ใช้งาน และจะมีการตอบโต้ การใช้งานเป็น แบบ 3 มติ ิ คือ เม่อื คลิกปุ่มจะยุบลงไป 3. สนบั สนุนการทาการบนเว็บไซต์ เน่ืองจากไฟล์ภาพท่ีใช้บนเว็บไซต์มีหลายประเภท และโปรแกรม Photoshop สามารถสรา้ งภาพที่ใชง้ านบนเว็บไซต์ได้หลากหลาย การเตรียมเคร่อื งใหพ้ ร้อมก่อนใชง้ าน สาหรบั เครอ่ื ง PC - ระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows XP , Windows Vista , Windows - CPU เพนเทียม III ขน้ึ ไป แรม1 28 mb เปน็ อย่างน้อย - การ์ดจอทแ่ี สดงสไี ดร้ ะดับ 16 bit ขนึ้ ไป - ควรใช้ จอภาพที่แสดงผลด้วยความละเอยี ด 800*600 ขึน้ ไป - CD Rom สาหรบั อา่ นแผ่น CD การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 11

เริ่มต้นการใชง้ าน Photoshop CC 2015 1. วิธีการเข้าสู่โปรแกรม Photoshop CC 2015 ดับเบ้ิลคลิก ที่ไอคอนดังรูปเพื่อเข้าโปรแกรม Photoshop  การสร้างไฟลใ์ หม่ กระดานออกแบบท่ีเป็นที่ใช้สาหรับสร้างสรรค์ผลงานนั้น เราสามารถกาหนดขนาดและ รายละเอียด ของพื้นที่กระดานออกแบบให้ตรงต่อความต้องการ เพื่อให้เกิดความสะดวกกับ การออกแบบ ซงึ่ สามารถ กาหนดได้จากไดอะลอ็ กซ์บล็อกซ์ New ดังขัน้ ตอนตอ่ ไปน้ี 1. คลิกเลอื กเมนูคาส่ัง File เลือกคาส่งั New หรอื กดแป้นพมิ พ์ Ctrl + N จะปรากฏไดอะล็อกซ์บลอ็ กซ์ New ดังรูป ไดอะลอ็ กซ์บล็อกซ์ของคาส่งั New ซงึ่ สามารถปรับแตง่ คา่ ต่าง ๆ ในการสร้างงานใหม่ 2. เลือกวิธีการสร้างหรือกาหนดขนาดของกระดานออกแบบ (Preset) โดยปกติแล้วจะเลือก เปน็ แบบ Custom (ซึ่งเป็นแบบทส่ี ามารถกาหนดไดต้ ามความตอ้ งการของตนเอง) 3. กาหนดขนาดความกว้างและความสูงของกระดานออกแบบ โดยกาหนดออปชั่นตา่ ง ๆ ดังนี้ 3.1 Width กาหนดความกว้างของกระดานออกแบบ 3.2 Height กาหนดความสูงของกระดานออกแบบ 3.3 Resolution กาหนดความละเอียดของภาพ หากกาหนดค่ามาก จะทาให้เกิด ความละเอียดสูง แต่จะทาให้ขนาดไฟล์ใหญ่ตามไปด้วย นอกจากน้ันยังต้องกาหนดด้วยว่าจะให้ค่า พิกเซลต่อขนาดใด เชน่ 72 Pixel / Inch คอื กาหนดความละเอียด 72 พิกเซลตอ่ นว้ิ 12 คอมพิวเตอรป์ ระยกุ ต์

3.4 Color Mode กาหนดโหมดสีภาพเพื่อใช้ในการสรา้ งกระดานออกแบบ 4. เลือกลักษณะฉากหลัง (Background Contents) ของกระดานออกแบบว่าจะให้สร้างใน รปู แบบใด ไดแ้ ก่ 4.1 White กาหนดให้ฉากหลังเป็นสีขาว 4.2 Background Color กาหนดสีฉากหลังที่สร้างขึ้นมาให้เป็นสีเดียวกับสีที่กาหนดไว้ ในภายในกลอ่ งเครอื่ งมอื 4.3 Transparent กาหนดให้ฉากหลงั เป็นแบบโปรง่ ใส 5. เมอ่ื ปรับรายละเอยี ดต่าง ๆ ตามตอ้ งการแลว้ คลิกปุ่ม OK จะทาใหไ้ ดพ้ นื้ ท่ที างานใหมด่ ังรูป  การบนั ทึกไฟล์ภาพใน Photoshop CC เมื่อสร้างหรือตกแต่งภาพเสร็จแล้ว เราจะต้องบันทึกไฟล์ด้วยเพื่อเก็บการเปล่ียนแปลงท่ีทากับ ภาพ โดยเลือกบันทึกไฟล์ได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนาไปใช้งานสาหรับไฟล์ ประเภทแรกที่ควรบันทึกคือ รูปแบบ PSD ของ Photoshop เองเพ่ือเก็บเป็นตน้ ฉบับไว้สาหรับนามา แก้ไขในภายหลังจากนั้นจึงสั่งบันทึกไฟล์เปน็ ประเภทอน่ื เช่น GIF หรือ JPG เพื่อให้เหมาะสาหรับการ นาไปใชง้ านในแต่ละกรณี  บันทกึ ไฟล์ Photoshop (.PSD) การแก้ไขไฟล์ภาพโดยการสร้างกราฟิก เพิ่มการตัดต่อ หรือเปล่ียนแปลงลักษณะของไฟล์ ภาพท่ีมีผลกับโครงสรา้ งเดิมของภาพ เมอื่ เลือกคาส่ัง File > Save จะแสดงไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Save As ข้ึนมา โดยจะเลือกรูปแบบของไฟล์เปน็ Photoshop (*.PSD, *.PDD) เป็นคา่ พน้ื ฐานดังนี้ ** คุณสมบัติของไฟล์ PSD จะเก็บรายละเอียดการทางานต่าง ๆ เช่น เลเยอร์, ฟอนต์ และ เส้นพาธ ไว้ได้อย่างครบถ้วนช่วยให้การนาไฟล์ภาพกลับมาแก้ไขทาได้ง่าย ในขณะที่ไฟล์ประเภทอื่น จะเก็บข้อมูลเหลา่ นไี้ ม่ได้ หรือไดเ้ พยี งบางสว่ น การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 13

 บันทึกไฟลท์ ับของเดิม การเปิดไฟล์ภาพมาตกแต่งสี, แสงเงา หรือกาหนดค่าเอฟเฟ็กต์ให้กับภาพ แต่ไม่ได้ใช้คาส่ัง เกี่ยวกับการสร้างเลเยอร์ (เลเยอร์ คือ ชั้นที่จัดวางรูปภาพ) หรือสร้างกราฟิกอื่น ๆ เพ่ิมเติมในภาพ เม่ือเลือกคาสั่ง File > Save โปรแกรมจะให้บันทึกทับช่ือไฟล์เดิม รูปแบบเดิม (จะไม่มี ไดอะล็อกบ๊อกซ์ Save As เปิดข้ึนมา หากไม่ต้องการให้ทับไฟล์เดิม ต้องคลิกเลือกคาส่ัง File > Save As เอง)  บันทึกเปน็ ไฟล์รปู แบบอ่ืน ๆ นอกจากการบันทึกเป็นไฟล์ .psd และบนั ทึกลงในรูปแบบของไฟล์ตน้ ฉบับเดมิ แล้ว ยงั บันทึก ไฟล์ภาพเก็บไว้ในรูปแบบอ่ืน ๆ ได้ตามต้องการ โดยคลิกเลือกคาส่ัง File > Save As แล้วเลือก รปู แบบของไฟลใ์ นชอ่ ง Format ซง่ึ จะมรี ูปแบบไฟล์ใหเ้ ลอื กหลายแบบดังภาพ 14 คอมพวิ เตอร์ประยุกต์

 บนั ทกึ ไปใช้กบั เวบ็ เพจ หรืออุปกรณอ์ ืน่ รูปภาพที่นาไปใช้กบั เว็บเพจ จะต่างจากรปู ภาพที่นาไปใช้กับงานดา้ นอื่น ๆ คอื ชนดิ ของภาพ ทจ่ี ะนาไปใชบ้ นเว็บเพจนั้น ต้องเป็น GIF, JPG หรอื PNG เทา่ น้ัน และควรให้ไฟลม์ ีขนาดเล็ก ขนาด ภาพต้องพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป เม่ือผู้ชมเปิดเข้าไปในเว็บไซต์จะได้โหลดภาพได้เร็วย่ิงขึ้น โปรแกรม จึงมีคาสั่งสาหรับบันทึกรูปภาพไปใช้ในเว็บเพจโดยเฉพาะ คือ Save for Web & Devices โดย คาสั่งน้ีจะให้กาหนดค่าออปชั่นการบันทึกภาพประเภทต่าง ๆ พร้อมกับดูภาพตัวอย่าง ขนาดของ ไฟล์ และระยะเวลาในการดาวนโ์ หลดเปรยี บเทียบกนั ไดอ้ กี ดว้ ย ดังนี้ 1. เลือกคาส่งั File > Save for Web & Devices 2. กาหนดออปชั่นต่าง ๆ ในการแปลงไฟล์ แล้วดูภาพ ขนาด และเวลาในการดาวน์โหลด เปรยี บเทียบกันในไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Save for Web & Devices ดงั ภาพหนา้ 3. เลือกภาพจากกรอบตัวอย่างท่ีตอ้ งการใช้งาน 4. คลกิ ปุม่ Save เพื่อบันทกึ ภาพ 5. บนไดอะล็อกบ๊อกซ์ Save Optimized As เลือกตาแหน่งโฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บในช่อง Save in 6. กาหนดชอ่ื ไฟล์ภาพในช่อง File name 7. คลิกปุ่ม Save  การปดิ ไฟลใ์ น Photoshop เม่อื เสร็จงานท่ีทากับไฟล์ภาพทีเ่ ปดิ ขึน้ มาแลว้ กค็ วรปิดไฟล์น้นั ๆ เพอ่ื ลดการใช้หน่วยความจา ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยวธิ กี ารปิดไฟล์ในโปรแกรม Photoshop สามรถทาไดด้ งั นี้  วธิ ีท่ี 1 ปดิ ไฟลโ์ ดยใชค้ าส่ังในเมนู File ซ่ึงมอี ยู่ 3 คาสง่ั ด้วยกัน 1. File > Close ปิดไฟลภ์ าพทแี่ สดงอยูบ่ นหน้าจอ 2. File > Close All ปิดไฟล์ภาพทั้งหมดที่เปิดขึน้ มา การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 15

3. File > Close and Go to Bridge ใช้ปิดภาพท่ีกาลังใช้งานอยู่ และเปิดโปรแกรม Adobe Bridge ขึ้นมาใช้งาน  วิธีที่ 2 สามารถปิดไฟล์ภาพได้เหมือนกัน คือ ปิดท่ี แท็ปชื่อไฟล์ โดยคลิกตรงเคร่ืองหมาย กากบาท 16 คอมพิวเตอรป์ ระยกุ ต์

ในกรณีที่ได้เปิดไฟล์ข้ึนมาแล้ว มีการแก้ไข อาจวาดภาพเพ่ิมเติม ลบ ฯลฯ ในการปิดไฟล์ก็ จะปรากฏกรอบข้อความถามว่าจะบันทึกส่วนที่คุณได้แก้ไขหรือไม่ ให้คลิก Yes หากต้องการบันทึก หรอื Save และคลกิ No หากไม่ตอ้ งการบันทึกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เราไดท้ ากับไฟล์ สว่ นประกอบของโปรแกรม Photoshop เคร่อื งมือใน Photoshop CC จะแตกต่างจาก CS5และ CS6 ไปบา้ งเล็กนอ้ ย กล่าวคอื โดย พ้ืนฐานจะคงเดิม แต่จะปรับการใช้งานให้ดูง่ายข้ึน มีการเก็บรวบรวมเคร่ืองมือท่ีเก่ียวข้องเอาไว้ ที่ เดียวกัน เพ่ิมชุดเครื่องมือเข้ามาใหม่ และลดข้ันตอนการทางานให้น้อยลง ทาให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ในเวอร์ชันน้ีได้เพิ่มคาสั่ง และแถบเครื่องมือที่ใช้บ่อย ๆ วางแยกออกมาจากกลุ่มเคร่ืองมือเดิม เช่น เคร่ืองมอื ปรบั มมุ มอง เครอื่ งมอื ปรับแต่งภาพทีร่ วมอยใู่ นพาเนลเดยี วกัน เชน่ พาเนล Adjustments ส่วนการทางานหลัก ๆ ยังคงอิงการใช้งานเหมือนเวอร์ชันท่ีผ่านๆ มา ซ่ึงหน้าจอใหม่ของ Photoshop CC มีส่วนประกอบ ดังภาพ การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 17

 รายละเอยี ดสว่ นประกอบของโปรแกรม Photoshop 1. Application Bar ( แอพพลิเคช่ันบาร์ ) จะเป็นแถบเครื่องมือที่เก็บปุ่มคาส่ังที่ใช้งาน บ่อย ๆ เอาไว้ เช่น เปิดโปรแกรม Bridge หมุนพื้นท่ีทางาน ยอ่ -ขยายภาพ , จัดเรียงวินโดว์ภาพ และ จัดองคป์ ระกอบของเครอ่ื งมอื ตามพื้นที่ใชง้ าน ( Workspace) 2. Menu Bar ( เมนูบาร์ ) ประกอบด้วยกลุ่มคาสั่งต่างๆ ท่ีใช้จัดการกับไฟล์ , ทางานกับ รูปภาพ และใช้การปรับแต่งการทางานของโปรแกรม โดยแบ่งเมนูตามลักษณะงาน นอกจากน้ีบาง เมนูหลัก จะ มีเมนูย่อยซ้อนอยู่ โดยสังเกตจากเครื่องหมาย ซึ่งคุณต้องเปิดเข้าไปเพ่ือเลือกคาส่ัง ภายในอีกที 3. Workspace Menu ( เวิร์คสเปซ เมนู ) หรือ พื้นท่ีการทางาน เป็นการกาหนดรูปแบบ การแสดงเคร่ืองมือและพาเนลที่มีความเกี่ยวข้องกับงานท่ีทา การเลือก Workspace ท่ีเหมาะสมจะ ทาให้สามารถเลือกใช้เคร่ืองมือได้อย่างรวดเร็ว ใน Photoshop CC มี Workspace ให้เลือกใช้ 7 แบบ คอื  Essentials เป็น Workspace พื้นฐานที่เหมาะกบั การทางานทุกรูปแบบ เน่ืองจากมี พาเนลทคี่ รอบคลุมงานท่วั ไปให้ใชง้ าน  Design เป็น Workspace ที่เหมาะกับการออกแบบงานกราฟิก โดยมีพาเนล Swatches และ Character เพมิ่ เข้ามาเพอื่ ใช้ในการออกแบบ  Painting เป็น Workspace สาหรับการทางานด้านวาดภาพ และระบาย ซงึ่ สามารถ ใช้รว่ มกบั Tablet ได้เปน็ อย่างดี  Photography เป็น Workspace สาหรับด้านภาพถ่ายโดยเฉพาะ แต่จะเน้นด้าน โทนความสวา่ ง แสงเงา และสสี นั ของภาพเปน็ หลัก  3 D และ Motion เป็น Workspace ท่ีมีอยู่เฉพาะในเวอร์ชัน Extended ซ่ึงเน้น การทางาน 3 D และการสรา้ งภาพเคล่ือนไหว (Animation)  New in CC เป็น Workspace ที่แสดงเฉพาะเคร่ืองมือและคาส่ังใหม่ ๆ ในเวอร์ชัน CC เหมาะแก่การศึกษาฟเี จอร์ใหม่ของโปรแกรม 4. Option Bar ( ออปชันบาร์ ) เป็นส่วนที่ใช้ปรับแต่งค่าการทางานของเครื่องมือต่าง ๆ โดยรายละเอยี ดในออปชันบาร์จะเปล่ียนไปตามเคร่อื งมือท่ีเราเลือกจากทลู บ็อกซ์ในขณะนั้น เช่น เม่ือ เราเลือกเครื่องมือ Brush ( พู่กัน) บนออปชันบาร์จะปรากฏออปชันที่ใช้ในการกาหนดขนาด และ ลักษณะ หวั แปรง , โหมดในการระบายความโปร่งใสของสี และอัตราการไหลของสี เปน็ ตน้ 5. Tool Panel ( ทูลพาเนล ) หรือ กล่องเครือ่ งมือ จะประกอบไปดว้ ยเครือ่ งมอื ต่าง ๆ ท่ใี ช้ ในการวาด ตกแต่ง และแก้ไขภาพ เครื่องมือเหล่าน้ีมีจานวนมาก ดังนั้นจึงมีการรวมเครื่องมือที่ทา หน้าท่ีคล้าย ๆ กันไวใ้ นปุ่มเดียวกัน โดยจะมีลักษณะรปู สามเหลี่ยมอยู่บริเวณมุมด้านล่างดังภาพ เพ่ือ บอกใหร้ วู้ ่าในปุม่ นี้ยงั มีเครือ่ งมอื อื่นอยดู่ ้วย 6. Panel ( พาเนล ) เป็นวินโดว์ย่อยๆ ท่ีใช้เลือกรายละเอียด หรือคาส่ังควบคุมการทางาน ต่างๆ ของโปรแกรม ใน Photoshop มีพาเนลอยู่เป็นจานวนมาก เช่น พาเนล Color ใช้สาหรับเลือก สี , พาเนล Info ใชแ้ สดงคา่ สตี รงตาแหน่งท่ีชเี้ มาส์ รวมถึงขนาด/ตาแหน่งของพืน้ ท่ีท่เี ลอื กไว้ 18 คอมพวิ เตอรป์ ระยกุ ต์

 กล่องเคร่อื งมอื Tool Panel ประกอบด้วย เคร่ืองมือตา่ งๆ ทีใ่ ช้ในการวาดภาพตกแตกแตง่ ภาพ และแก้ไข ภาพ โดยบนปมุ่ หน่งึ ๆ อาจมีปมุ่ ท่ซี ่อนอยู่รวมกนั หลายเครื่องมือ สงั เกตหากป่มุ เคร่ืองมือใดมีเครื่องมือยอ่ ยซ่อนอยู่ อกี จะปรากฏเปน็ สญั ลักษณ์ ทม่ี มุ ขวาล่างของเคร่ืองมือนน้ั ดังรูป ขอ้ ควรจำ การเปดิ / ปิด Toolbox ทาได้โดยเลอื กคาสงั่ Window > Tools เครือ่ งมือกลุ่มต่างๆ บนทลู พาเนล (Tool Panel) จากกล่มุ เคร่ืองมือหลักทีแ่ สดงเมอ่ื เร่ิมแรก หากเราคลิกท่ปี ุ่มเคร่อื งมือหลัก ก็จะมีเครื่องมอื ย่อย ในแตล่ ะกลมุ่ แสดงออกมา ซ่งึ แบ่งออกเปน็ กลุ่มต่าง ๆ ดังนี้ เครื่องมือกล่มุ ต่างๆ บนทูลพาเนล (Tool Panel) เครอ่ื งมอื Move กลุ่ม Marquee กลุ่ม Lasso การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 19

เครือ่ งมือกลมุ่ ต่างๆ บนทูลพาเนล (Tool Panel) กลมุ่ Quick Select กลุม่ Slice กลุ่ม Eyedropper กลมุ่ Healing Brush กลมุ่ Brush กลุ่ม Stamp กลมุ่ History Brush กลมุ่ Eraser กลมุ่ Gradient กลุม่ Blur กลุ่ม Dodge 20 คอมพิวเตอรป์ ระยุกต์

เครอ่ื งมอื กลุม่ ต่างๆ บนทูลพาเนล (Tool Panel) กลมุ่ Pen กลมุ่ Type กลุ่ม Path Selection กลุ่ม Rectangle กลมุ่ 3D Rotate กลุ่ม 3D Camera กลุม่ Hand เครื่องมือ Zoom  รายละเอียดเคร่ืองมอื ใน Photoshop 1.เครอื่ งมอื กลุ่มเลอื กภาพ (Selection Tools) ประกอบดว้ ย Marquee เครื่องมอื ท่ีใชเ้ ลอื กขอบเขตบนภาพ หรอื การสร้าง Selection Single Row/Column สรา้ ง Selection ในแนวนอน และแนวตงั้ 1 พกิ เซล Lasso เครือ่ งมือสร้าง Selection แบบคลกิ ลากเลือกได้อย่างอสิ ระ Polygonal Lasso เคร่อื งมอื สร้าง Selection แบบเลอื กภาพที่ มีเหลี่ยมมุม การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 21

Magnetic Lasso เคร่ืองมือสร้าง Selection แบบยึด(คล้ายแม่เหล็ก)ไปตาม แนวทคี่ ลกิ เมาส์ผ่าน Quick Selection เครอื่ งมอื สรา้ ง Selectionไปตามมพน้ื นทีล่ ากเม้าสผ์ ่าน Magic Wand Lasso เครื่องมือสร้าง Selection อัตโนมัติ โดยยึดตามโทนสีท่ี คลิกและสีใกลเ้ คยี ง 2. เครอ่ื งมอื กลุ่มตกแต่งและแก้ไขภาพ (Retouching Tools) ประกอบดว้ ย Spot Healing Brush ใชค้ ลิกแกไ้ ขจดุ พรอ่ งหรือลบรว้ิ รอยทไี่ มต่ อ้ งการลบภาพ Healing Brush ใช้แกไ้ ขและตกแตง่ ภาพโดยเลือกสีหรือภาพพมาแต้มทบั Patch ใช้แก้ไขและตกแตง่ ภาพ โดยเลือกตัวอย่างมาแปะทับในบรเิ วณท่ีต้องการ Red Eye ใช้แก้ไขภาพถ่ายที่มีลักษณะตาแดง ซึ่งมักจะพบในภาพท่ีถ่ายเวลา กลางคืน Clone Stamp ใช้ก็อปภาพ โดยเลือกพื้นที่ต้นฉบับไปแสตมป์ทับจุดที่จะแก้ไข้ (การเริ่มใช้ต้องกด Alt พรอ้ มคลิกเลือกต้นฉบบั ) Pattern Stamp ใช้ระบายลวดลาย หรือแสตมป์ลวดลายท่ีเลือกลงในพื้นที่ท่ี คลิก Eraser ใช้ลบพกิ เซลสีบนภาพและแทนท่ดี ว้ ยสี Background Background Eraser ใช้ลบฉากหลังของภาพออก ด้วยการคลิกเลือกสีที่จะลบ ทาให้ได้พนื้ หลงั โปร่งใส่ Magic Eraser ใช้คลกิ ลบสีพื้นหลงั ภาพแบบรวดเรว็ จะเห็นพน้ื โปรง่ ใส Blur ใช้ระบายภาพให้เบลอในจุดที่คลิกลากเมาส์ผ่าน(ขณะใช้ต้องคลิกเมาส์ค้าง แล้วลาก) Sharpen ใช้ระบายภาพให้คมชัดในจุดที่คลิกลากเมาส์ผ่าน(ขณะใช้ต้องคลิก เมาสค์ า้ ง แลว้ ลาก) Smudge ใช้เกลี่ยสีในภาพใหก้ ลมกลนื หรอื ใช้ลบขอบภาพทีค่ ม Dodge ใช้คลกิ ลาก เพอื่ แก้ไข หรอื เพมิ่ ความสวา่ งใหภ้ าพในสว่ นท่ีต้องการ Sponge ใช้สาหรับเพ่มิ และลดอิม่ ตัวของสี 3. เครือ่ งมอื กลมุ่ วาดภาพ ระบายสี (Painting Tools) ประกอบด้วย Brush พู่ กันระบายสี หรือวาดเสน้ กราฟกิ Pencil ดินสอขดี วาดเส้น หรอื ใชร้ ะบายสี Color Replacement พูก่ นั ระบายสี แทนทีส่ เี ดิม Mixer Brush ใช้ระบ ายสีจากสีท่ี คลิกในภ าพ ห รือระบ ายผสมสีกับ สี Foreground 22 คอมพิวเตอร์ประยกุ ต์

History Brush ใช้ระบายสีย้อนจากการทางานหรือย้อนการปรับแต่งจากแสนป์ ชอ็ ต(Snap Shot) Art History Brush ระบายภาพด้วยสไตล์ เพ่อื สร้างเอฟเฟค็ ต์พิเศษให้ภาพ Gradient เคร่อื งมอื เติมสีลงในภาพ แบบไลร่ ะดับหรอื ไลโ่ ทนสี Paint Bucket ใชเ้ ติมหรอื เทสีแบบทบึ (สีเดีย่ ว)ลงในภาพหรอื ใน Selection 4. เครื่องมือกลมุ่ วาดภาพ (Drawing Tools) ประกอบด้วย Pan ใชว้ าดเส้นกราฟกิ แบบเสน้ พาธ(Path)หรือเสน้ แบบเวคเตอร์(Vector) Freeform Pen ใชว้ าดเสน้ กราฟกิ แบบเสน้ พาธ(Path)หรอื เส้นแบบอสิ ระ Add Anchor Point ใช้เพ่มิ จดุ เองเคอร์(Anchor)บนเสน้ พาธ Delete Anchor Point ใชล้ บจดุ เองเคอร(์ Anchor)บนเส้นพาธออก Convert Point ใช้ปรับรูปร่างเส้นพาธ ให้เป็นเส้นโค้งโดยการดึงแฮนเดิล (Handle) Path Selection ใช้เลอื กเส้นพาธเพื่อปรับแตง่ หรอื แกไ้ ข Direct Selection ใช้เลือกเส้นพาธเพื่อปรับแต่งหรือแก้ไขซึ่งจะปรากฎแฮนเดิล (Handle)ดว้ ย Rectangle ใช้วาดรูปทรงส่ีเหล่ียม (หากต้องการวาดส่ีเหล่ียมจัตุรัส ต้องกด Shift คา้ งดว้ ย) Ellipse ใชว้ าดรปู ทรงสเ่ี หลีย่ ม (หากต้องการวาดวงกลม ต้องกด Shift คา้ งด้วย) Polygon ใชว้ าดรูปหลายเหล่ียม Custom Shape ใชว้ าดรูปทรง จากรปู สาเร็จ 5. เครื่องมอื กลุม่ พิมพ์ขอ้ ความ (Type Tools) ประกอบดว้ ย Horizontal Type ใชส้ าหรบั พมิ พข์ อ้ ความในแนวนอน Vertical Type ใช้สาหรับพิมพ์ข้อความธรรมดาในแนวตงั้ Horizontal Type Mask ใช้สาหรบั พิมพข์ ้อความแบบ Selection (ไม่มีเส้นและ ไม่มีสี)ในแนวนอน Vertical Type Mask ใช้สาหรับพิมพ์ข้อความแบบ Selection (ไม่มีเส้นและไม่ มสี ี)ในแนวต้ัง การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 23

6. เคร่ืองมือกลุม่ การวัด (Measuring Tools) ประกอบด้วย Eyedropper ใช้สาหรับคลิกเลือกสีจากภาพ เพ่ือเป็นต้นแบบในการกาหนดสีที่ จะนาไปใชง้ าน Color Sampler ใช้สาหรับพมิ พเ์ ก็บตัวอยา่ งสี เพอ่ื นามาเปรียบเทยี บค่าสีได้ Ruler Count ใชว้ ดั ระยะหา่ งตาแหนง่ และองศาในภาพ Note ใชส้ าหรับเพ่มิ คาอธิบายใหแ้ กภ่ าพ Count ใช้นับจานวนออบเจ็คในภาพ โดยใส่เป็นตัวเลขในจดุ ทค่ี ลกิ 7. เครือ่ งมือกลุ่มการเล่ือนภาพ (Navigation Tools) ประกอบด้วย Hand ใชค้ ลิกลากเลือ่ นภาพไปยังตาแหน่งตา่ งๆในภาพ Rotate View ใช้สาหรับหมุนภาพไปรอบๆ Zoom ใชย้ อ่ หรือขยายมุมมองภาพ 8. เครื่องมอื กลุ่มเลอื กสี (Color) อยดู่ า้ นล่างของ Tool Panel ประกอบด้วย 24 คอมพวิ เตอร์ประยุกต์

 การไดคทั รปู โดยใช้ Pen Tool การไดคัดรูปโดยใช้ Pen Tool จะไดร้ ูปที่ไดคดั ออกมาสวยกวา่ วิธีอ่นื ข้นั ตอนการทา 1. เตรียมรปู ทเี่ ราต้องการจะตัดไว้ 2. เปิดโปรแกรมPhotoshop ข้ึนมาแล้วไปทเ่ี มนู File > New 3. เข้าไปต้ังค่าหน้ากระดาษ เรากาหนดให้ช่ือไฟล์ว่า admin กาหนด ความกว้าง 470px ความสงู 270 px แล้วกด OK จะได้รูปดังภาพข้างลา่ งนี้ การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 25

4. จากนั้นนารปู ทีเ่ ราเตรียมไว้ใน ขอ้ 1 ขน้ึ มาโดยไปท่ีเมนู File > Open 5. จากนั้นทาการเลือกแถบเครื่องมือ โดยไปคลิกท่ี Rectangular Marquee Tool แล้วนาไป คมุ รปู ทีจ่ ะนาไปตัด เมอ่ื คมุ เสร็จแลว้ เราก็ Copy รปู โดยการกด Ctrl+c 26 คอมพิวเตอรป์ ระยกุ ต์

6. เมือ่ copy มาแลว้ ก็เอารูปท่ีเรา copy มาวา่ ไฟล์ในไฟล์ท่ีชื่อว่า admin โดยการกด Ctrl+v 7. จากนน้ั ทาการตัดรปู อันดบั แรก โดยตอ้ งขยายรูปให้ใหญ่ขึ้น โดยกด Ctrl+แล้วไปเลือก เครื่องมอื pen tool การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 27

8. เมอ่ื เลอื กเครื่องมือ pen toolแลว้ ก็ตัดตามรอยตามที่เราตอ้ งการ 9. เมอื่ ตัดเสร็จจะไดด้ ังรูป 10. นาเมาสไ์ ปชี้ทร่ี ปู แลว้ คลิกขวาเลือกที่ Make Selection 28 คอมพิวเตอรป์ ระยุกต์

11. จะไดห้ นา้ ต่างขึ้นมา ใหป้ รับค่าตามแล้วกด OK 12. จากนั้นจะไดร้ ูปออกมาประมาณนี้ 13. ไปเลอื กแถบเมนูขา้ งบน คาว่า Select > Inverse เมอ่ื คลกิ แล้วจากน้นั ให้กด Delete จะได้ รูปออกมาดงั ข้างลา่ งนี้ การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 29

14. จะไดร้ ูปทตี่ ้องการ ดังรปู ภาพขา้ งล่างน้ี  วธิ ีการพมิ พ์ตัวอกั ษรแบบอิสระ จากการเรียนร้วู ิธีการพมิ พ์ตวั อักษรในโปรแกรม Photoshop แลว้ สามารถท่ีจะพมิ พ์ตัวอกั ษร ให้บรรทัดของตัวอักษรน้ันโค้งตามท่ีต้องการได้ โดยการใช้ Pen Tool ช่วยในการพิมพ์ตัวอักษร ดังนี้ 1. เลือก Pen Tool และปรับการใชง้ านเปน็ การสรา้ งเส้น Paths 2. ใช้ Pen Tool สร้างเสน้ Paths ลงไปในตาแหนง่ ทต่ี ้องการให้เป็นบรรทดั ของตัวอักษร 30 คอมพวิ เตอร์ประยุกต์

3. นาเคร่ืองมือสาหรบั พมิ พ์ตวั อักษรชี้ไปบริเวณเสน้ Paths และคลกิ ลงไป จากนนั้ พิมพข์ ้อความทต่ี ้องการลงไปให้เรียบรอ้ ย แลว้ ปรบั Font เลอื กสี และปรับขนาดตัวอักษรได้ ตามทตี่ ้องการ  การใช้ Shape Tool ใน Photoshop เมื่อต้องการสร้างรปู รา่ งแบบตา่ ง ๆ มกั จะใช้เคร่ืองมือกล่มุ Shape Tool การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 31

ซ่ึงเม่ือคลิกขวาท่ี Shape Tool จะมี Tool ท้ังหมด 6 ตัว ฟรีจะอธิบายทีละตัวไป ตามลาดบั 1. Rectangle Tool คือ Shape ที่เป็นแบบสี่เหลยี่ ม ไว้สร้างสีเ่ หลย่ี มได้ตามตอ้ งการ 2. Rounded Rectangle Tool ส่วนตัวนี้จะเป็นส่ีเหลี่ยมเหมือนกันแต่จะมีมุมท่ีโค้งมน โดยคา่ ความโคง้ ของมมุ สามารถปรับได้ท่ี Radius ในแถบดา้ นบน เลขย่ิงเยอะขอบย่ิงโค้ง 3. Ellipse Tool จะไว้สาหรับสร้างรูปที่เป็นวงกลม ซึ่งไม่มี Option อะไรพิเศษเหมือน Rounded Rectangle Tool 4. Polygon Tool จะเป็น Tool สาหรับสรา้ งรูป 3 เหลีย่ มขน้ึ ไป โดยตั้งค่า Sides ทดี่ า้ นบนถ้า เป็น 5 กจ็ ะมดี ้านทงั้ หมด 5 ด้าน ส่วนรูปสฟี า้ นน้ั ฟรีตงั้ Sides : 8 ก็ได้ส่ีเหลยี่ ม 8 ด้าน 5. Line Tool ก็เปน็ ตัวชว่ ยในการสรา้ งเส้นตรงโดยมี Option พิเศษคอื การปรับขนาดของ เสน้ โดยปรบั ที่แถบดา้ นบนในส่วนของ Weight ยิ่งเยอะเสน้ ยง่ิ หนาดงั รูป 32 คอมพวิ เตอร์ประยุกต์

6 .Custom Shape Tool ทาการคลกิ ที่ลูกศรข้างๆของรูปจะมี Shape ให้เลือกอยู่หลาย ตวั เลยทเี ดยี ว โดยเราจะสามารถสร้างรูปได้ตามลกั ษณะของ Shape ที่เลือกไดเ้ ลย จากนั้นผ้ใู ช้งานสมารถคลิกทลี่ ูกศรน้ตี ามรูป แล้วเลือก All จะพบกับ Shape อกี มากมายไว้ ใชป้ ระโยชน์ ดังรูป Tip: เวลาใช้ Custom Shape แล้วไม่อยากให้รูปผิดสัดส่วนกด Shift ค้างแล้วลากส่วน Shape ทั้งหลายน้ันเวลาสร้างขึ้นมาจะเป็นลักษณะเดียวกันกับ Pen Tool ให้เลือกว่าจะวาดแบบ Shape Layer , Paths และ Fill Pixels เปน็ ต้น  การใช้ Pen tool Pen Tool เป็นเคร่ืองมือท่ีใช้สาหรับวาดเส้น ตรง และเส้นโค้งแบบเที่ยงตรง หรือท่ีเรียกกันว่า พาธ (path) ซึ่งหากลากครบรอบจะมีการใส่ Fill ให้อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเพ่ิมหรือลบจุดบนเส้นโค้ง Pen Tool สามารถสร้าง Selection ที่ต้องการได้อย่างละเอียด สามารถสร้างเส้นท่ีต้องการได้ อย่างอิสระ ด้วยความท่ี Pen Tool สามารถสร้างเส้นได้อย่างอิสระจึงเป็นจุดเด่นของเครื่องมือน้ี เลือกเครือ่ งมือ Pen Tool (P) และปรับการใช้งานเป็น Paths การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 33

A : คือ การสร้างเสน้ Path ในรูปแบบการ Draft B : คือ การสร้างเส้น Path ในรปู แบบการลากเมาส์เหมือนการใช้ Brush 1. ลกั ษณะการทางานของ Pen Tool ซึง่ จากรปู จะมีการลากเสน้ เพียง 2 แบบ โดยแบบ A คือการสร้างเส้นตรงธรรมดาคล้ายกับการสร้าง Selection ด้วย Polygonal Lasso Tool แต่แบบ B นัน้ จะเป็นการสร้างเส้นโค้งซงึ่ เป็นลักษณะเด่นของ Pen Tool โดยสังเกตว่า เม่ือคลิกจุดที่ 1 แล้วคลิกจุด 2 ค้างไว้ พร้อมกับทาการลากเมาส์ไปดังรูปจะเกิดเส้นขึ้นมาอีก 2 เส้น โดยผมจะเรียกว่าแขนนะครบั ซ่งึ เสน้ ท่ีได้จากแบบ B จะเปน็ เสน้ โคง้ 2. จะใช้ Pen Tool ทา Selection รถยนต์ โดยทาการ Selection ก่อนอื่น Zoom (Z) เข้าไป เพื่อความสะดวกในการทางาน แลว้ เริ่มคลกิ ทข่ี อบของรถก่อน ดังรปู 34 คอมพิวเตอร์ประยกุ ต์

3. ทาการคลกิ สร้างเสน้ โค้งไปบนขอบรูป 4. ทาไปเรื่อยๆ แต่ถึงจุดน้ีมีปัญหา สังเกตว่าทุกครั้งที่คลิก เส้นท่ีเกิดจะเบนไปทางแขนของจุด ก่อนหน้า แต่จุดที่เกิดปัญหานี้แขนมีทิศทางไปทางด้านล่างถ้าเราคลิกไปตามขอบรถต่อเส้นก็จะเบ้ียว เพราะฉะนั้นให้เรากด Alt ค้างไว้และคลิกค้างท่ีแขน จากน้ันลากแขนให้อยู่ในทิศทางของขอบรถและ ทาการสรา้ งเสน้ ตอ่ ไปได้เลย การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 35

5. เมื่อทาการลากเส้นเสร็จแล้ว ให้ทาการคลิกขวาท่ีหน้าจอโดยยังใช้ Pen Tool อยู่ และเลือก Make Selection 6. จะพบหน้าต่างน้ี ซ่ึงค่า Feather Radius คือ ค่าสาหรับเพิ่มความฟุ้งของขอบ Selection โดยท่ีนี้จะปรับประมาณ 2 เพอ่ื ไม่ใหข้ อบน้นั ทอื่ เกินไป และไมฟ่ ้งุ เกินไป เสรจ็ แล้วกด OK Note: คา่ Feather ย่ิงมากขอบจะยิง่ ฟงุ้ (ฟุ้งในทนี คี้ ือประมาณว่าเกดิ ความเบลอของขอบ ขอบไม่เปน็ เสน้ ตดั ท่ชี ัดเจน) 36 คอมพิวเตอร์ประยกุ ต์

7. เทา่ นี้ก็เสรจ็ เรยี บร้อยสาหรบั การ Selection Note: ค่า Feather จะเห็นผลก็ต่อเมื่อทาการลากสิ่งท่ี Selection ด้วย Move Tool ไปยังท่ีอ่ืนหรือ ทาการลบฉากด้านหลังทไี่ ม่ต้องการออก 8. ถ้าต้องการลบฉากด้านหลังออกให้ทาการกด Ctrl+Shift+I หรือไปที่ Select > Inverse จะ เป็นการกลบั ส่งิ ท่ี Selection คือว่างา่ ยๆ ส่งิ ทไ่ี มไ่ ด้ทา Selection จะเกดิ Selection ข้ึน สว่ นรูปรถทท่ี า Selection ไว้จะไม่อยู่ใน Selection ดังรูป Note: สงั เกตเส้นประของ Selection จะเกดิ ขึ้นรอบรปู ภาพด้วยแสดงว่าทาการ Inverse แล้ว การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 37

9. กดปุ่ม Delete เพื่อลบฉากหลังออกและกด Ctrl+D เพื่อลบ Selection ก็จะเหลือแต่รูป รถที่ต้องการ Tip: สังเกตว่าฉากหลังจะเป็นสีขาว แต่ถ้าเกิดเราจะนาแต่รูปรถไปไว้ใน Background อื่น ก่อนท่ีจะกด Delete เพ่ือลบฉากหลัง ให้ดับเบ้ิลคลิกท่ี Layer ชื่อ Background ที่มีรูปแม่กุญแจอยู่ และกด OK แล้ว Background จะกลายเป็น Layer0 จากน้ันค่อยกด Delete ฉากจะเป็นรูปเหมือน ตารางหมากฮอส จากนน้ั สามารถนารปู รถไปวางที่อ่นื ได้  Make Selection: เปล่ยี นเสน้ path ใหก้ ลายเปน็ selection  Fill Path: เทสีลงในพ้ืนที่ของ path นั้นๆ สามารถปรับความเข้มของสีท่ีลงได้ตรง Opacity และเลือกว่าจะลงสที ต่ี ้ังไว้ใน Foreground หรือ Background  Stroke Path: ใส่เส้นขอบให้พ้ืนที่รอบ path น้ันๆ โดยให้เลือกลักษณะเส้นว่าจะใช้ เครื่องมือใด และเม่ือเลือกจะเกิดผลตามที่เคร่ืองมือนั้นต้ังค่าอยู่ เช่น ตั้งค่า Brush ไว้ขนาด 20 เวลา Stroke Path ลงด้วย Brush ลงไปเส้นก็จะใหญ่ 20 ตามที่ตัง้ ไว้  การตัดภาพบางส่วน(di-cut) ด้วยการเลือกใช้ channel การตัดภาพบางส่วน (เทคนิค di-cut) ด้วยวิธีการเลือกใช้ channel สี (ในที่นี้คือสีของแสง ประกอบไปด้วย Red, Green, Blue) 1. ไปท่ีเมนู File --> Open เพือ่ ทาการเปิดภาพท่ตี ้องการสรา้ ง selection 38 คอมพิวเตอร์ประยกุ ต์

2. เลอื กไฟล์ทตี่ ้องการจะ selection 3. คลิกchannel ลองคลิกปิดท่ีตรงตาแหน่งดวงตา ท่ีละสี Red Green Blue เลือกคลิกเปิด ดวงตาเฉพาะ layer ที่มีความแตกต่างของสีมากท่ีสุด (contrast) 1 สี สาหรับภาพตัวอย่างสีที่มีความ แตกต่างกันมาทีส่ ดุ คือ blue การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 39

4. copy Layer blue โดยคลิกท่ี Layer blue ลากมาวางทับท่ี create new channel 5. คลิกท่ี Layer blue copy ไปที่เมนู Image -- > Adjustments -- > Levels... ปรับค่าของ สีให้เห็นความแตกต่างมากข้ึน โดยเล่ือนปรับตามความเหมาะสม เพื่อทาการสร้างความแตกต่างของสี (contrast)ครบั เมอ่ื ปรบั ไดต้ ามความตอ้ งการ กด OK 40 คอมพวิ เตอรป์ ระยกุ ต์

6. คลิกสี Foreground เป็นสีขาว คลิก Brush tool กาหนดขนาด brush ข้ึนอยู่กับความ เหมาะสมในการใชง้ านครบั ระบาย brush ลงบนพื้นสีขาวบริเวณทเี่ ป็นสดี า 7. คลิกสี Foreground เป็นสีดา คลิก Brush tool กาหนดขนาด brush ข้ึนอยู่กับความ เหมาะสมในการใชง้ านครับ ระบาย brush ลงบนพ้นื สดี าลบบรเิ วณท่ีมีสที ัง้ หมด การใชโ้ ปรแกรม Adobe Photoshop CC 41

8. คลกิ load channel as selection 9. กด Ctrl+Shift+I สลับพนื้ ทใ่ี ช้งาน 42 คอมพิวเตอรป์ ระยกุ ต์

10. คลกิ ปิด layer Blue copy หลงั จากน้นั คลิกเปิด layer RGB 11. ดบั เบล้ิ คลกิ ท่ี Background เพื่อเปลีย่ นเปน็ Layer 12. หลังจากเปล่ียนเป็น Layer แล้วกด delete ครับ เพ่ือลบพื้นที่สว่ นท่ีไม่จาเป็นออก เราจะได้ แตต่ วั ดอกไมเ้ ปล่าๆ 13. เราสามารถนาตัวดอกไม้ท่ไี ด้มา ไปทาการตกแตง่ ประกอบในภาพอ่ืนๆได้ การใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CC 43

 การใช้ Magic Wand 1. เปดิ โปรแกรม Photoshop จากนั้นไปท่ี File -->Open 2. เลอื กภาพทต่ี อ้ งการเพ่ือนามาตดั พนื้ หลัง เมื่อเลอื กได้แล้ว คลกิ ทภ่ี าพ กดปุ่ม Open 3. ทาการ copy ภาพ ขน้ึ มาอีกหน่ึงเลเยอร์ ไปท่ี Layer -->Duplicate Layer 44 คอมพิวเตอร์ประยกุ ต์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook