เครื่องมือ และ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ MTH 1015 CLASS นางสาวนันทิชา ไผ่ล้อม นางสาวนภาพร ศรีเชื้อ รหัส4641071141117 รหัส4641071141140
ความหมายของอุปกรณ์คอมพิว เตอร์ฮาร์ดแวร คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มนุษย์ สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ทำงานได้ เร็ว สะดวก และแม่นยำ มากขึ้น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานอย่างได้มี ประสิทธิภาพต้องเรียนรู้และเข้าใจส่วนประกอบ วิธี การทำงานของคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย ซ่ึงแต่ละส่วนก็จะ มีหน้าท่ีและความสำคัญแตกต่างกันไป ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึงโครงสร้างของเคร่ื องคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถ มองเห็นและจับต้องได้เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ จอ คอมพิวเตอร์ และตัวเคร่ือง นอกจากนี้ยังประกอบด้วย อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ
หน่วยรับข้อมูล (Input unit) หน่วยรับข้อมูล(INPUT UNIT)เป็นอุปกรณ์รับเข้าทำ หน้าที่รับโปรแกรมและข้อมูลเข้าสู่เครื่อง คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รับเข้าที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ คือ แป้นพิมพ์( KEYBOARD )และเมาส์( MOUSE) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์รับเข้าอื่นๆอีก ได้แก่ สแกนเนอร์( SCANNER), วีดีโอ คาเมรา(VIDEO CAMERA),ไมโครโฟน(MICROPHONE),ทัชสกรีน(TOUCH SCREEN),แทร็คบอล (TRACKBALL), ดิจิตเซอร์ เท เบิ้ล แอนด์ ครอสแชร์(DIGITER TABLET AND CROSSHAIR) แป้นพิมพ์จะรับข้อมูลจากกดแป้น แล้วทำการเปลี่ยนเป็น รหัสสัญญาณทางไฟฟ้าเพื่อส่งเข้าไปในหน่วยประมวลผล ของเครื่องแป้นพิมพ์ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบแป้นเป็นกลุ่มคือ - แป้นอักขระ (Character Keys) - แป้นควบคุม (Control Keys) - แป้นฟังก์ชั่น (Function Keys) - แป้นตัวเลข (Numeric Keys) เมาส์ (Mouse) ผู้ใช้เพียงแต่เลื่อนเมาส์ที่จอภาพจะ ปรากฏเป็นลูกศร เรียกว่า ตัวชี้เมาส์ (Mouse Pointer) เคลื่อนที่ไปมาบนจอภาพในทิศทางเดียวกันกับที่ผู้ใช้ เมาส์เลื่อนไป เมื่อตัวชี้เมาส์เลื่อนออกไปอยู่ยังตำแหน่งที่ ต้องการ ให้ผู้ใช้กดปุ่มด้านซ้าย ที่อยู่บนตัวเมาส์ (คลิก) เพื่อเลือกรายการนั้น ๆ ขึ้นมา ตัวเลื่อนเมาส์พอยท์เตอร์แบบสัมผัส (Touching Pad) เป็นอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ กระเป๋าหิ้ว(Note book) ซึ่งใช้งานแทนเมาส์ มีลักษณะ เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ด้านล่างมีปุ่มอยู่ 2 ปุ่ม ทำ หน้าที่เหมือนกับปุ่มซ้ายและขวา ของเมาส์ สามารถ เลื่อนเมาส์พอยท์เตอร์ได้โดยการสัมผัสที่แผ่น สี่เหลี่ยม
จอยสติก (Joystick) เป็นก้านสำหรับใช้โยกขึ้นลงและซ้าย ขวา เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ หลัก การทำงานเช่นเดียวกับเมาส์แต่ต่างกันตรงมี แป้นกดเพิ่ม เติมมาจำนวนหนึ่งสำหรับสั่งงานพิเศษ นิยมใช้กับการเล่น เกมคอมพิวเตอร์ หรือควบคุมหุ่นยนต์ จอภาพระบบสัมผัส (Touch Screen) เป็นจอภาพแบบ พิเศษซึ่งผู้ใช้เพียง แตะปลายนิ่วลงบนจอภาพในตำแหน่ง ที่กำหนดไว้เพื่อเลือกการทำงานที่ต้องการ ซอฟต์แวร์ที่ ใช้จะเป็นตัวค้นหาว่าผู้ใช้เลือกทางใดและสั่งให้ทำงานตาม นั้น จอภาพ ระบบสัมผัสนี้ในปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมาก สมาร์ทโฟนหรือแท็บแล็ต ปากการแสง (Light pen) ใช้เซลล์แบบซึ่งมีความไวต่อ แสงเป็นตัวกำหนด ตำแหน่งบนจอภาพ รวมทั้งสามารถ ใช้วาดลักษณะหรือรูปแบบของข้อมูลให้ปรากฏบน จอภาพ การใช้งานทำได้โดยการแตะปากกาแสงไปบน จอภาพตามตำแหน่งที่ต้องการ นิยมใช้กับงาน คอมพิวเตอร์ช่วยการออกแบบ (CAD หรือ Computer Aided Design) เครื่องอ่านภาพ (Scanner) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้อ่านหรือ สแกนข้อมูลบน เอกสารเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้วิธี ส่องแสงไปยังวัตถุที่ต้องการสแกน แสงที่ส่องไปยัง วัตถุแล้วสะท้อนกลับมาจะถูกส่งผ่านไปที่เซลล์ไวแสง (Charge-Coupled Device หรือ CCD) ปัจจุบันสแกน เนอร์ที่นิยมมากที่สุด คือเครื่องสแกนเนอร์แบบแท่น
สไตลัส (Stylus) เป็นปากกาที่ใช้กับแท็บแล็ตและอุปกรณ์ เคลื่อนที่ต่างๆ ซึ่งใช้แรงกดในการวาดบนหน้าจอ สามารถใช้ ร่วมกับซอฟต์แวร์รู้จำลายมือ(handwriting recognition software) เพื่อแปลงจากลายมือที่วาดหรือเขียนให้อยู่ใน รูป แบบที่หน่วยระบบสามารถประมวลผลได้ เครื่องอ่านแทบสี (Bar-Core Reader) ทำหน้าที่อ่าน รหัสที่มีลักษณะเป็น แถบสีขาวสลับดำ (Bar-code) ที่ นิยมกันมากคือ UPC (Universal Product Code) เป็น รหัสที่ติดอยู่บนห่อสินค้าทั่วไป เครื่องอ่านแถบสีจะ ทำการอ่านแถบรหัสบนสินค้า แล้วแปลเป็นสัญญาณ ไฟฟ้าส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี (RFID readers) เป็นเครื่องอ่าน ความถี่คลื่นวิทยุซึ่ง จะอ่านข้อมูลจากไมโครงชิปอาร์เอฟ ไอดีที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์หรือสิ่งต่างๆ เช่น สินค้า ใบขับขี่ บัตรประชาชน เป็นต้น ในชิปอาร์เอฟไอดีจะมีการบันทึก ข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายภาพดิจิทัล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์ ที่ใช้สำหรับถ่ายภาพ แบบไม่ต้องใช้ฟิล์ม ภาพที่ได้จะ ประกอบด้วยจุดเล็กๆจำนวนมาก และสามารถนำเข้า เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สแกนเนอร์อีก เป็นอุปกรณ์ที่ เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแทนที่กล้องฟิล์มแบบเดิม เนื่องจากสามารถถ่ายดู ผลลัพธ์ได้ทันที อุปกรณ์รับข้อมูลเสียง (Voice Input DeVeces) เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลใน รูปแบบเสียง โดยจะท าการแปลงสัญญาณเสียงเป็น สัญญาณดิจิทัลแล้วจึงส่งไปยังคอมพิวเตอร
หน่วยประมวลผลกลาง(CPU : CENTRAL PROCESSING UNIT) หน่วยประมวลผลกลาง (CPU : Central Processing Unit) จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุม การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด โดยนำข้อมูลจากอุปกรณ์รับข้อมูลมาทำการ ประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งของโปรแกรม และส่งผลลัพธ์ที่ได้ออกไปที่หน่วยแสดงผลในรูป แบบที่ผู้ใช้เข้าใจ หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบขึ้นมาจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์อยู่ 2 ส่วน คือ หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic and Logical Unit : ALU) ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ โดยทำงานเกี่ยวกับการคำนวณทาง คณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร มีความสามารถอีกอย่าง หนึ่งที่เครื่อง คำนวณธรรมดาไม่มีคือความสามารถในเชิง ตรรกะศาสตร์ ส่วนควบคุม (Control Unit : CU) ทำหน้าที่ควบคุมลำดับขั้น ตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์ นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย 3 หน่วยความจำ(Memory Unit) เป็นที่เก็บโปรแกรม ข้อมูล และผลลัพธ์ ไว้ภายในคอมพิวเตอร์หน่วยนี้รวมถึงสื่อข้อมูลที่ ช่วยในการจดจำ เช่น แผ่นบันทึก เป็นต้น สำหรับหน่วยความ จำของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หน่วยความจำหลัก (Primary Memory Unit) หน่วย ความจ าหลักทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลักจะอยู่ ภายในตัวเครื่องและเป็นส่วน ที่จำเป็นต้องมีสำหรับคอมพิวเตอร์
หน่วยความจำหลัก แรม (Ram : Random Access Memory) ใช้ใน รอม (Rom : Read Only Memory) เป็นหน่วยความ ระบบคอมพิวเตอร์ ลักษระเด่นคือสามารถเขียน จำที่ได้รับการบรรจุข้อมูลไว้ภายในก่อนแล้ว โดย ข้อมูลลงไปและเรียกข้อมูลได้ แรมจะเก็บข้อมูล ทั่วไปแล้วรอมจะถูกอ่านอย่างเดียวเท่านั้น จะเก็บคำ ตราบเท่าที่มีกระแสไฟฟ้าเลี้ยงวงจรไว้ เรียกว่า สั่งที่ใช้อยู่เป็นประจำและคำสั่งเฉพาะโปรแกรมที่อยู่ โวลาไทล์ (Volatile Memory) หากไฟฟ้าเลี้ยง ในรอมนี้จะอยู่อย่างถาวรแม้จะปิดเครื่องโปรแกรม วงจรขาดหายไปข้อมูลที่เก็บไว้ก็จะสูญหายไป ก็จะไม่ถูกลบไป เรียกว่า นอน-โวลาไทล์ (Non- หรือเรียกว่าหน่วยความชั่วคราว (Read Write Volatile Memory) คือข้อมูลจะไม่หายไปเมื่อปิด Memory) สามารถแบ่งได้ 2 ชนิด เครื่อง ในหน่วยความจำหลักที่เป็นประเภทของ ROM มีอีก 3 อย่างคือ - DRAM, SRAM DRAM (Dynamic Random Access Memory) เป็นชิปของหน่วยความจำที่ - Prom (Programmable Read Only Menory) นิยมใช้หน่วยความจำหลักในเครื่องคอมพิวเตอร์ PROM เป็น ROM ชนิดที่ยังไม่มีการบันทึก ส่วนบุคคล (PC : Personal Computer) มีเวลาใน โปรแกรมใด มาจากผู้ผลิต การเข้าถึงข้อมูลค่อนข้างช้า ข้อดีของDRAM คือ มี ความจุสูงมากและราคาไม่แพงหาซื้อได้ง่าย -EPROM (Erasable Programmable Read Only Memory) EPROM มีลักษณะคล้าย ROM มาก แต่ - SRAM (Static Random Access Memory) สามารถลบข้อมูลได้หลายครั้งโดยการใช้แสง เป็นชิปที่มีเวลาในการเข้าถึงข้อมูล ที่เร็วกว่า อัลตราไวโอเลต (UV) หลังจากลบข้อมูลแล้ว DRAM มาก SRAM มัการนำไปใช้ในหน่วยความ สามารถลงโปรแกรมได้ จำแบบแคช (Cache Memory) เนื่องจากมี ความเร็วสูงกว่า DRAM มาก ซึ่งใกล้เคียงกับการ -EEPROM (Electronic Erasable ทำงานของซีพียู ทำให้ไม่มีสภาวะรอคอยเกิดขึ้น Programmable Read Only Memory) มีลักษณะ SRAMจะมีราคาค่อนข้างสูง ความจุต่อชิปก็น้อย คล้ายกับ EPROM ซึ่งสามารถเขียนและลบ เมื่อเทียบกับ DRAM โปรแกรมที่ถูกจัดเก็บ ภายในหน่วยความจำได้โดย การใช้กระแสไฟฟ้า
หน่วยความจำสำรอง หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory Unit) เป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยสื่อบันทึก ข้อมูลและอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลชนิดต่างๆ หน่วยความจำสำรองมีลักษณะ non-volatile แม้ว่าจะปิด เครื่อง (ไม่มีกระแสไฟฟ้า) ข้อมูลก็ไม่สูญหายได้แก่ ฟล็อปปี้ดิสก์ (Floppy Disk) เป็นแผ่นพลาสติกวงกลม ปัจจุบันมีขนาด 3.5 นิ้ว (วัดจากเส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลม) สามารถอ่านได้ด้วยดิสก์ไดร์ฟ มีความจุ 1.44 MB มีแถบ ป้องกันการบันทึก (Write-protection) ผู้ใช้สามารถเปิดแถบนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบันทึกข้อมูลอื่นทับไปหรือลบข้อมูลทิ้ง ปัจจุบันไม่นิยมใช้งานแล้ว ฟล็อปปี้ดิสก์กลายเป็นรูปสัญลักษณ์ (Icon) ที่ใช้สื่อถึงการบันทึกข้อมูลในโปรแกรม ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) ฮาร์ดดิสก์ทำมากจากแผ่นโลหะแข็ง ฮาร์ดดิสก์มีหลักการทำงานคล้าย กับฟล็อปปี้ดิสก์ แต่ฮาร์ดดิสก์ทำมาจากแผ่นโลหะแข็ง ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากและทำงานได้ รวดเร็ว ฮาร์ดดิสก์ส่วนใหญ่จะถูกยึดติดอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ก็มีบางรุ่นที่เป็นแบบ เคลื่อนย้ายได้ (Removable disk ) เก็บข้อมูลได้ถึงหน่วย TB ฮาร์ดดิสก์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน จะ ประกอบด้วยจานแม่เหล็กหลายๆแผ่น และสามารถบันทึกข้อมูลได้ทั้งสองหน้าของผิวจานแม่เหล็ก โดยที่ทุกแทรก (Track) และเซกเตอร์ (Sector) ที่มีตำแหน่งตรงกันของฮาร์ดดิสก์ชุดหนึ่งจะเรียก ว่า ไซลินเดอร์ (Cylinder) ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) ฮาร์ดดิสก์ทำมากจากแผ่นโลหะแข็ง ฮาร์ดดิสก์มี หลักการทำงานคล้ายกับฟล็อปปี้ดิสก์แต่ฮาร์ดดิสก์ทำมาจากแผ่นโลหะแข็ง ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากและทำงานได้รวดเร็ว ฮาร์ดดิสก์ส่วนใหญ่จะถูกยึดติดอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ก็มีบางรุ่นที่เป็นแบบเคลื่อนย้ายได้ (Removable disk เ ก็บข้อมูลได้ถึงหน่วย TB ฮาร์ดดิสก์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน จะประกอบด้วยจานแม่เหล็กหลายๆแผ่นและ สามารถบันทึกข้อมูลได้ทั้งสองหน้าของผิวจานแม่เหล็ก โดยที่ทุกแทรก (Track) และเซกเตอร์ (Sector) ที่มีตำแหน่งตรงกันของฮาร์ดดิสก์ชุดหนึ่งจะเรียกว่า ไซลินเดอร์ (Cylinder)
โซลิดสเตตไดร์ฟ (Solid State Drive หรือ SSD) เป็นชิปวงจร รวมที่ประกอบเป็นหน่วยความจำเก็บข้อมูลซึ่งถูกสร้างมาเพื่อ ทดแทนการใช้งานจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์แบบเดิม ชิปวงจร รวมนี้ส่งผลให้ความเสียหายจากแรงกระแทกของโซลิดสเตตนั้น น้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ ไม่ใช้วิธีการอ่านข้อมูลด้วยวิธีหมุนจานแม่ เหล็ก ทำให้อุปกรณ์ชนิดนี้กินไฟน้อยกว่าเดิมเวลาในการเข้าถึง ข้อมูลเร็วขึ้น ขนาดที่เล็กและเบาลงกว่าฮาร์ดดิสก์ทำให้ในถูกนำ ไปเป็นชิ้นส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา สมาร์ทโฟน แท๊บแล็ต เป็นต้น ซีดี-รอม ( CD-ROM หรือ Compact Disk Read Only Memory) แผ่นซีดีรอมจะมีลักษณะคล้ายซีดีเพลง สามารถเก็บข้อมูลได้สูง ถึง 700 เมกะไบต์ การใช้งานแผ่นซีดีรอมต้องใช้ร่วมกับซีดีรอม ไดร์ฟ (CD-ROM Drive) ซึ่งจะมีหลายชนิดขึ้นกับความเร็วในการ ทำงาน ซีดีรอมไดร์ฟรุ่นแรกสุดนั้นมีความเร็วในอ่าน ข้อมูลที่ 150 กิโลไบต์ต่อวินาที เรียกว่ามีความเร็ว 1 เท่าหรือ 1X รุ่นหลัง ๆ จะ อ้างอิง ความเร็วในการอ่านข้อมูลจากรุ่นแรก เช่น ความเร็ว 2 เท่า (2X)5 ความเร็ว 4 เท่า (4x) เป็นต้น ปัจจุบันนี้ซีดีรอมไดร์ฟที่ จะมีความเร็วตั้งแต่สิบเท่าขึ้นไป ดีวีดี (DVD หรือ Digital Versatile Disk) แผ่นดีวีดี สามารถเก็บข้อมูลได้ต่ำสุดที่ 4.7 จิกะไบต์ดีวีดีจะ สามารถมีความจุได้ตั้งแต่ 4.7 GB ถึง 17 GB และมี ความเร็วในการเข้าถึง (Accesstime) อยู่ที่ 600 กิโล ไบต์ต่อวินาทีถึง 1.3 เมกะไบต์ต่อวินาทีสามารถอ่าน แผ่นซีดีรอมแบบเก่าได้ด้วย เทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) หลักการทำงานคล้ายเทป บันทึกเสียง การอ่านข้อมูลแบบลำดับ (Sequential access)ทำให้อ่านข้อมูลได้ช้า นิยมนำเทปแม่เหล็กมาสำรอง ข้อมูลเท่านั้น ใช้กับข้อมูลที่สำคัญและไม่ถูกเรียกใช้บ่อย ๆ อ่านและลบกี่ครั้งก็ได้ ราคาต่ำ
รีมูฟเอเบิลไดร์ฟ (Removable Drive) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ สามารถพกพาไปไหนได้โดยต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Port USB ปัจจุบันความจุมี ตั้งแต่ 4, 16, 32, 64, 128, 256 กิกะไบต์ และขยายจนถึง 1 เทอราไบต์ ยังมีไดร์ฟลักษณะ เดียวกันเรียกในชื่ออื่น ๆ เช่น Pen Drive, Thump Drive, Flash Drive , Handy Drive เป็นต้น ซิบไดร์ฟ (Zip Drive) เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่หวังจะมา แทนแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ มีขนาดความจุ 100 เมกะไบต์ ซึ่ง การใช้งานซิปไดร์ฟจะต้องใช้งานกับซิปดิสก์ (Zip Disk) ความสามารถในการเก็บข้อมูลของซิปดิสก์จะเก็บข้อมูล ได้มากกว่าฟล็อปปี้ดิสก การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เป็นอุปกรณ์บันทึก ข้อมูลที่มีขนาดเล็ก พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้กับ อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กล้องดิจิทัล คอมพิวเตอร์มือถือ (Personal Data Assistant - PDA) โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
หน่วยแสดงผล หน่วยแสดงผล (Output Unit) แบ่งเป็น 2 ประเภท 1) อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลลัพธ์ชั่วคราว หมายถึงอุปกรณ์ที่ให้ผลลัพธ์แก่ผู้ใช้ในระยะเวลาหนึ่งไม่สามารถเก็บไว้ เป็นหลักฐานได้ เช่น จอภาพ เป็นต้น คอมพิวเตอร์จอภาพ (Monitor) ใช้แสดงข้อมูลหรือผลลัพธ์ให้ผู้ ใช้เห็นได้ทันที มีรูปร่างคล้ายจอภาพของโทรทัศน์ บนจอภาพประกอบ ด้วยจุดจำนวนมากมาย เรียกจุดเหล่านั้นว่า พิกเซล (Pixel) ถ้ามีพิเซล จำนวนมากก็จะทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพบนจอได้ชัดเจนมากขึ้น จอภาพที่ ใช้ในปัจจุบันแบ่งได้เป็นสองประเภท คือ - จอซีอาร์ที (Cathode Ray Tube) นิยมใช้กับเครื่องไมโคร คอมพิวเตอร์ ส่วนมากในปัจจุบัน ใช้หลักการยิงแสงผ่านหลอดภาพ คล้ายกับโทรทัศน์ - จอแอลซีดี (Liquid Crystal Display) นิยมใช้เป็นจอภาพของเครื่อง คอมพิวเตอร์แบบพกพาทำให้เป็นจอภาพที่มีความหนาไม่มาก มีน้ำหนัก เบาและกินไฟน้อยกว่าจอภาพซีอาร์ที แต่มีราคาสูงกว่า อุปกรณ์ฉายภาพ (Projector) เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ใน การเรียนการสอน หรือการประชุม เนื่องจากสามารถนำ เสนอข้อมูลให้ผู้ชมจำนวนมากเห็นพร้อมๆกัน ในปัจจุบันจะ มีอยู่หลายแบบ ทั้งที่สามารถต่อสัญญาณจาก คอมพิวเตอร์โดยตรงหรือ ใช้อุปกรณ์พิเศษในการวางลง บนเครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ (Overhead Projector) ธรรมดาเหมือนกับอุปกรณ์นั้นเป็นแผ่นใส่แผ่นหนึ่ง อุปกรณ์เสียง (Audio Output) คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆมักจะมี หน่วยแสดงเสียง ซึ่งประกอบขึ้นจากลำโพง (Speaker) และ การ์ดเสียง (Sound card) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงใน ขณะทำงาน หรือให้เครื่องคอมพิวเตอร์รายงานเป็นเสียงให้ ทราบเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ
2) อุปกรณ์ที่แสดงผลลัพธ์แบบถาวร หมายถึงอุปกรณ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่สามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานได้ต่อ ๆไปในอนาคต เช่น เครื่องพิมพ์ เป็นต้น เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ เพื่อทำหน้าที่ในการแปลงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของ เครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูป ของอักขระหรือรูปภาพที่จะไป ปรากฏอยู่บนกระดาษ นับเป็นอุปกรณ์แสดงผลที่นิยมใช้อย่างแพร่ หลายมากที่สุด เครื่องพิมพ์แบบกระทบ (Impact Printer) เครื่องพิมพ์แบบ กระทบมีหลายลักษณะ เป็นเครื่องพิมพ์ที่อาศัยการกดหัวพิมพ์ กับแถบผ้าหมึกเพื่อให้เกิดตัวอักษร ได้แก่ เครื่องพิมพ์แบบเรียง จุด (Dot Matrix Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ได้รับความ นิยม ครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink Jet Printer) เครื่องพิมพ์แบบพ่น หมึก โดยหัวพิมพ์ ซึ่งเป็นตลับหมึกของเครื่องพิมพ์จะมีรูเล็กๆ ไว้ พ่นหมึกลงบนกระดาษ ใช้หลักการพ่นหมึกลงในตำแหน่งที่ต้องการ โดยการควบคุมด้วยไฟฟ้าสถิตย์จากคอมพิวเตอร์ทำให้ไม่เกิด เสียงดังในขณะใช้งาน และยังสามารถพ่นหมึกเป็นสีต่าง ๆ เป็น เครื่องพิมพ์สีได้อีกด้วย เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) ใช้หลักการเปลี่ยนตัว อักษรและภาพ ให้เป็นสัญญาณภาพ ที่มีความละเอียดตั้งแต่ 200 จุดถึง 1,200 จุดต่อนิ้ว จากนั้นใช้แสงเลเซอร์วาดภาพ ที่จะพิมพ์ลงบนกระบอกรับภาพ การทำงานคล้าย เครื่อง ถ่าย เอกสาร พล็อตเตอร์ (Plotter) เป็นอุปกรณ์แสดงข้อมูลที่มักจะใช้กับงาน ออกแบบ (CAD) โดยจะแปลงสัญญาณข้อมูลเป็นเส้นตรงหรือเส้น โค้ง ก่อนพิมพ์ลง บนกระดาษ ทำให้แสดงผลเป็นกราฟแผนที่ แผนภาพต่างๆได้ โดยตัวพล็อตเตอร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: