Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร ม.ต้น 7

วิชาปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร ม.ต้น 7

Published by nanny256, 2023-07-04 01:38:16

Description: วิชาปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร ม.ต้น 7

Search

Read the Text Version

2

3 สือ่ ประกอบการเรยี น กศน. หลักสตู รรายวิชาเลอื ก สาระการประกอบอาชีพ วชิ าการทาปยุ๋ ชีวภาพ 3 สตู ร รหสั อช23585 หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสูงเมน่ สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั แพร่ สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก คานา หนังสือเรียน กศน. หลักสูตรรายวิชาเลือก สาระการประกอบอาชีพ การทาปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร รหัส อช23585 จัดทาข้ึน เพื่อใช้ประกอบการเรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ประกอบด้วยเนื้อหา ความรู้พ้ืนฐานการทาปุ๋ยชีวภาพ วิธีการทาปุ๋ยชีวภาพ สูตรการทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ ลาต้น และดอก เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้จาก การศึกษาเอกสาร และประสบการณ์จากการฝึกปฏิบัติตามกิจกรรมท้ายบทเรียน และนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ได้ และหากไดฝ้ กึ ปฏิบตั อิ ยา่ งต่อเน่อื งอาจนาไปใชป้ ระกอบอาชีพไดใ้ นอนาคต ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสูงเม่น ขอขอบพระคุณผู้เก่ียวข้องทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมจัดเอกสารเล่มน้ีจนกระท่ังเสร็จสมบูรณ์ได้ และหวังว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียน ของผเู้ รียนและผู้ทสี่ นใจตอ่ ไป กศน. อาเภอสงู เมน่ สิงหาคม 2564

สารบญั ข คานา หนา้ สารบญั คาแนะนาการใชห้ นังสอื เรียน ก โครงสร้างรายวชิ าการทาปุ๋ยชวี ภาพ 3 สูตร ข คาอธบิ ายรายวชิ า ค แบบทดสอบกอ่ นเรียน ง บทท่ี 1 ความรู้พน้ื ฐานการทาปุ๋ยชีวภาพ ฉ ญ เรื่องที่ 1 ความหมายและประเภทของปุ๋ยชวี ภาพ 1 เรอ่ื งท่ี 2 ประโยชนข์ องปยุ๋ ชวี ภาพ 2 เรอื่ งท่ี 3 กระบวนการหมักปุย๋ ชวี ภาพ 7 9 บทท่ี 2 วิธีการทาป๋ยุ ชีวภาพ เรื่องท่ี 1 การทาป๋ยุ ชวี ภาพจากปยุ๋ คอก 13 เรื่องท่ี ๒ การทาปุ๋ยชวี ภาพจากพชื 14 เรื่องท่ี ๓ การทาป๋ยุ ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ 18 20 บทท่ี 3 การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ เรอ่ื งท่ี 1 วัสดแุ ละขั้นตอนการทาปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารุงใบ 23 เรอ่ื งที่ 2 วธิ ีการนาปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบารุงใบไปใช้ 24 เรอื่ งที่ 3 ประโยชนข์ องการใช้ปุ๋ยชีวภาพสตู รบารงุ ใบ 26 27 บทที่ 4 การทาป๋ยุ ชีวภาพสูตรบารุงตน้ เรอื่ งท่ี 1 วัสดุและขัน้ ตอนการทาปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารุงต้น 30 เร่ืองท่ี 2 วธิ ีการนาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารุงต้นไปใช้ 31 เรื่องท่ี 3 ประโยชน์ของการใชป้ ุย๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ต้น 34 35 บทที่ 5 การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารงุ ดอก เรื่องท่ี 1 วัสดุและข้ันตอนการทาปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารงุ ดอก 38 เรอ่ื งท่ี 2 วธิ กี ารนาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงดอกนาไปใช้ 39 เรอ่ื งท่ี 3 ประโยชนข์ องการใชป้ ุย๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ดอก 41 42 แบบทดสอบ หลังเรยี น บรรณานกุ รม 44

ค คาแนะนาการใช้หนังสือเรียน หนังสอื เล่มนใ้ี ช้ประกอบการเรียน สาระการประกอบอาชีพ รายวิชาการทาปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร จัดทาข้ึน เพื่อใช้สาหรับผู้เรียนที่เป็นนักศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ผู้เรียนควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. ศึกษาโครงสร้างรายวิชาใหเ้ ขา้ ใจหัวข้อ สาระสาคัญ ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวัง และขอบขา่ ยเนอื้ หา 2. ศกึ ษารายละเอียดเนื้อหาของแตล่ ะบทอยา่ งละเอียด และทาตามกจิ กรรมท่ีกาหนดไว้ในกิจกรรมท้าย บทเรยี น เม่ือทากิจกรรมท้ายบทเสร็จแล้ว สามารถตรวจสอบกับเฉลยกิจกรรมท้ายบท หากผู้เรียนตอบคาถาม กิจกรรมทา้ ยบทไมถ่ ูกต้อง ควรกลับไปทบทวนเนือ้ หาใหมใ่ ห้เขา้ ใจ กอ่ นท่ีจะศกึ ษาเรื่องต่อไป 3. ควรทากิจกรรมท้ายบทเรียนให้ครบทุกกิจกรรม เพื่อสรุปความรู้ ความเข้าใจเน้ือหาเร่ืองท่ีเรียน อีกครั้ง 4. หนงั สือประกอบการเรยี นเลม่ นี้มี 5 บท ไดแ้ ก่ บทท่ี 1 ความรู้พน้ื ฐานการทาปุ๋ยชวี ภาพ บทท่ี 2 วธิ กี ารทาปยุ๋ ชวี ภาพ บทท่ี 3 การทาปุ๋ยชีวภาพสตู รบารงุ ใบ บทท่ี 4 การทาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ต้น บทท่ี 5 การทาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารุงดอก

ง โครงสร้างรายวิชา การทาป๋ยุ ชีวภาพ 3 สูตร รหัสวชิ า อช 23585 สาระการประกอบอาชีพ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ สาระสาคญั ปยุ๋ ชีวภาพ เป็นสิ่งทมี่ ีคุณค่ามากในทางการเกษตร แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจหรือแพร่หลายเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะสาเหตุหลายประการด้วยกัน เกษตรกรยังไม่ตระหนักถึงความสาคัญที่แท้จริงของปุ๋ยชีวภาพ ว่ามีคุณค่าเพียงใดในการช่วยปรับปรุงดินให้ดีขึ้น หรือช่วยรักษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินให้ดีอยู่เสมอ ไม่เส่ือมโทรมลงเร่ือย ๆ อย่างเช่นปัจจุบันนี้ ปุ๋ยชีวภาพท่ีได้จากหมักบ่มสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ ท่ีทาหน้าที่ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้สลายตัวและผุพังไปบางส่วน ทาให้ได้ปุ๋ยชีวภาพที่มีลักษณะสีคล้าดา มีลักษณะเป็นผง ละเอียดเหมาะ สาหรับการปรับปรุงดิน และให้ธาตุอาหารแก่พืช วัสดุอินทรีย์ท่ีใช้สาหรับ การหมัก อาจเป็นเศษพืชสด วัสดุอินทรีย์เผา รวมถึงอาจผสมซากของสัตว์ หรืออาจผสมปุ๋ยคอกก็ได้ และหากนามากองรวมกัน พร้อมรดน้าอย่างสม่าเสมอ จุลินทรีย์ก็จะทาการย่อยสลากองปุ๋ยชีวภาพจะมีความ ร้อนเกิดข้ึน เมื่อเกิดความร้อนจึงจาเป็นต้องคลุกกลับกองปุ๋ย และรดน้าให้ทั่ว ซึ่งจะทาให้จุลินทรีย์ย่อยสลาย สารอินทรีย์ได้อย่างท่ัวถึง และหากความร้อนในกองปุ๋ยหมักมีอุณหภูมิใกล้เคียงกันในทุกจุด และความร้อน มีน้อยจึงจะแสดงได้ว่า ปุ๋ยชีวภาพพร้อมใช้งานแล้วซึ่งในเน้ือหาแบบเรียนเล่มน้ีประกอบไปด้วยปุ๋ยชีวภาพ 3 สตู ร ปุ๋ยชวี ภาพ เป็นการนาเอาพืชผกั มาหมกั กับกากน้าตาล ก่อใหเ้ กดิ จลุ นิ ทรีย์ท่ีเป็นประโยชน์จานวนมาก จุลินทรีย์เหล่านี้จะทาหน้าท่ีย่อยสลายธาตุอาหารต่าง ๆ เพื่อช่วยให้พืชสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการ เจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปุ๋ยหมักชีวภาพใช้เวลาสลายสารอาหารพืชเร็วกว่า ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก เมื่อใส่ลงดินท่ีมีความช้ืนพอเหมาะ เชื้อจุลินทรีย์ท่ีได้ปุ๋ยหมักชีวภาพจะทาหน้าที่ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน ให้เป็นประโยชน์ต่อต้นไม้ และในดินควรมีอินทรียวัตถุพวกปุ๋ยหมัก ปุ๋ย คอก หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง ฟาง และมีความชื้นเพียงพอ ต้นพืชจึงจะได้ประโยชน์เต็มที่ จากการใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ แต่ถ้าใส่ครั้งละมากเกินไป อาจทาใหต้ ้นไมต้ ายได้ ส่วนจะใหป้ ริมาณครัง้ ละเท่าไร บอ่ ยครงั้ เท่าไร เพื่อใหไ้ ดป้ ระโยชนส์ ูงสุด ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวงั 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจเรอ่ื งความรู้พ้ืนฐานการทาปยุ๋ ชวี ภาพ 2.มีความรู้ ความเข้าใจวธิ กี ารทาปุ๋ยชวี ภาพ 3.มีความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะการทาปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารุงใบ 4.มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะการทาปุย๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ต้น 5.มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการทาปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ดอก

จ ขอบข่ายเนอื้ หา บทท่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานการทาปยุ๋ ชีวภาพ เรอ่ื งที่ 1 ความหมายและประเภทของปุ๋ยชวี ภาพ เรื่องท่ี 2 ประโยชนข์ องป๋ยุ ชีวภาพ เรื่องที่ 3 กระบวนการหมักปุ๋ยชีวภาพ บทท่ี 2 วิธีการทาป๋ยุ ชีวภาพ เรอ่ื งที่ 1 การทาปยุ๋ ชีวภาพจากป๋ยุ คอก เรื่องที่ ๒ การทาปุ๋ยชวี ภาพจากพชื เรอ่ื งท่ี ๓ การทาปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหารและขยะ บทที่ 3 การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ เรื่องท่ี 1 วสั ดแุ ละข้ันตอนการทาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารุงใบ เรื่องท่ี 2 วธิ กี ารนาปุย๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ใบไปใช้ เร่ืองที่ 3 ประโยชนข์ องการใชป้ ๋ยุ ชวี ภาพสตู รบารงุ ใบ บทที่ 4 การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงต้น เรื่องที่ 1 วัสดแุ ละข้นั ตอนการทาปุย๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ตน้ เรอ่ื งท่ี 2 วิธีการนาปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารุงตน้ ไปใช้ เรื่องที่ 3 ประโยชนข์ องการใช้ปุย๋ ชีวภาพสตู รบารุงต้น บทท่ี 5 การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงดอก เรื่องท่ี 1 วสั ดุและขัน้ ตอนการทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงดอก เรื่องที่ 2 วธิ ีการนาปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารุงดอกนาไปใช้ เร่ืองที่ 3 ประโยชน์ของการใช้ปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ดอก

ฉ คาอธิบายรายวิชา อช 23585 การทาปยุ๋ ชวี ภาพ 3 สูตร สาระการประกอบอาชีพ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น จานวน 3 หนว่ ยกิต (120 ชวั่ โมง) มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มาตรฐานที่ 3.2 มีความรู้ความเข้าใจทักษะในการพัฒนาอาชีพท่ีตัดสินใจเลือกบนพ้ืนฐานความรู้ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดท่ใี ช้นวัตกรรม เทคโนโลยที ี่เหมาะสม และประยกุ ตใ์ ชภ้ ูมิปัญญา มาตรฐานที่ 3.3 มีความรูค้ วามเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาแผนงานและโครงการธุรกิจ เพื่อพัฒนา อาชีพเข้าสู่ตลาดการแข่งขันตามศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของพ้ืนทต่ี ามลักษณะภมู อิ ากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศและทาเลที่ต้ังของแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของ ศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชวี ติ ของแตล่ ะพน้ื ที่ ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นแต่ละพ้ืนท่ี และแนวคิด ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื สูค่ วามเขม้ แข็ง ศึกษาและฝกึ ปฏบิ ัติเกี่ยวกับเรื่องตอ่ ไปนี้ พื้นฐานการทาปุ๋ยชีวภาพ . การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงต้น การทาปุ๋ย ชวี ภาพสูตรบารงุ ดอก พนื้ ฐานการทาปยุ๋ ชีวภาพ . 1. ความหมาย ความสาคัญของปยุ๋ ชีวภาพ 2. ประเภทของปยุ๋ ชวี ภาพ 3. วธิ ีการทาปุย๋ ชวี ภาพ 3.1 ปุ๋ยชวี ภาพจากปุ๋ยคอก 3.2 ปุย๋ ชีวภาพจากพชื 3.3 ป๋ยุ ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ 4. กระบวนการหมักของปุย๋ ชีวภาพ 5. ประโยชน์ของปุ๋ยชวี ภาพ การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ 1. วสั ดุที่ใช้ทาป๋ยุ ชวี ภาพสูตรบารุงใบ 2. ขน้ั ตอนการทาปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ใบ 3. วธิ กี ารนาไปใช้ ของป๋ยุ ชวี ภาพสูตรบารุงใบ 4. ประโยชนข์ องการใช้ ปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบารุงใบ

ช การทาปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ตน้ 1. วัสดุทใ่ี ช้ทาปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ตน้ 2. ข้ันตอนการทาปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบารงุ ต้น 3. วธิ กี ารนาไปใช้ ของปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารงุ ตน้ 4. ประโยชน์ของการใช้ ปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ตน้ การทาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารงุ ดอก 1. วสั ดุทใี่ ชท้ าปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบารงุ ดอก 2. ข้ันตอนการทาปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ดอก 3. วิธกี ารนาไปใช้ ของปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบารงุ ดอก 4. ประโยชนข์ องการใช้ ปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารุงดอก การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 1. ศึกษาเอกสาร สอื่ อนิ เตอรเ์ นต็ 2. ศึกษาจากสภาพจรงิ วิเคราะห์ อภปิ รายแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 3. ศกึ ษาดงู านจากแหล่งเรยี นรู้ในชมุ ชน 4. สาธิต ทดลองฝึกปฏบิ ตั ิ จัดทาโครงงาน/ผลงาน การวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ 2. ทดสอบ สังเกต สัมภาษณ์ 3. ประเมนิ การปฏิบตั จิ ริง ช้นิ งาน ผลงาน

ซ รายละเอียดคาอธบิ ายรายวิชา อช 23585 วชิ าการทาปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร สาระการประกอบอาชีพ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น จานวน 3 หนว่ ยกติ (120 ช่ัวโมง) มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดับ มาตรฐานที่ 3.2 มีความรู้ความเข้าใจทักษะในการพัฒนาอาชีพท่ีตัดสินใจเลือกบนพ้ืนฐานความรู้ กา ระบวนการผลิต กระบวนการตลาดทีใ่ ชน้ วัตกรรม เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม และประยกุ ต์ใช้ภูมิปญั ญา มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ความเขา้ ใจ และสามารถจดั ทาแผนงานและโครงการธุรกิจ เพื่อพัฒนา อาชีพเข้าสู่ตลาดการแข่งขันตามศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพของพ้ืนทต่ี ามลกั ษณะภูมอิ ากาศ ศกั ยภาพของภูมิประเทศและทาเลท่ีตั้งของแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของ ศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณแี ละวิถชี ีวติ ของแต่ละพืน้ ที่ ศกั ยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นท่ี และแนวคิด ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอ่ื สคู่ วามเขม้ แข็ง ท่ี หวั เร่ือง ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา จานวน 1. พ้นื ฐาน (ชั่วโมง) อธิบายความหมาย ประเภท 1. ความหมายและประเภทของปยุ๋ ชวี ภาพ การทาปุย๋ 30 ชีวภาพ ของปยุ๋ ชวี ภาพ วิธกี ารทาปุ๋ย 2. ขั้นตอนการทาปยุ๋ ชีวภาพ 30 2. การทาปุ๋ย ชวี ภาพ กระบวนการหมักของ 2.1 ปยุ๋ ชวี ภาพจากปยุ๋ คอก ชวี ภาพ สูตรบารุง ปุ๋ยชีวภาพและ บอกประโยชน์ 2.2 ปยุ๋ ชวี ภาพจากพชื ใบ ของป๋ยุ ชีวภาพได้ 2.3 ปุย๋ ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ 3. กระบวนการหมักของปุย๋ ชีวภาพ 4. ประโยชนข์ องปุ๋ยชวี ภาพ 1.อธิบายการใช้วัสดุ ขั้นตอน การทาป๋ยุ ชีวภาพสูตรบารุงใบ วิธีการนาไปใช้ ประโยชน์ ของ 1. วสั ดุท่ใี ชท้ าปุ๋ยชีวภาพสตู รบารงุ ใบ การทาปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารุงใบ 2. ขัน้ ตอนการทาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารุงใบ 2.สามารถทาปุ๋ยชีวภาพสูตร 3. วิธกี ารนาไปใช้ ของปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ บารุงใบ ได้ตามข้ันตอนท่ี 4. ประโยชนข์ องการใช้ ปุย๋ ชวี ภาพสูตรบารงุ ใบ ถกู ต้อง และนาไปใชไ้ ด้ถูกวิธี

ฌ ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ช้ีวดั เน้ือหา จานวน 3. การทาปุ๋ย (ช่ัวโมง) ชีวภาพ 1.อธิบายการใช้วัสดุ ขั้นตอน การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงต้น 30 สูตรบารุง ตน้ วิธีการนาไปใช้ ประโยชน์ ของ 1. วัสดทุ ใี่ ชท้ าปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารุงตน้ 4. การทาปุ๋ย การทาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารุงตน้ 2. ข้นั ตอนการทาป๋ยุ ชวี ภาพสูตรบารุงตน้ ชีวภาพ สูตรบารงุ 2.สามารถทาปุ๋ยชีวภาพสูตร 3. วธิ ีการนาไปใช้ ของปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ตน้ ดอก บารงุ ตน้ ไดต้ ามขน้ั ตอนที่ถูกต้อง 4. ประโยชนข์ องการใช้ ปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารงุ ต้น และนาไปใช้ได้ถูกวธิ ีถูกตอ้ ง 1.อธิบายการใช้วัสดุ ขั้นตอน การทาป๋ยุ ชีวภาพสูตรบารงุ ดอก 30 วิธีการนาไปใช้ ประโยชน์ของ 1.วัสดุที่ใชท้ าปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบารุงดอก การทาป๋ยุ ชวี ภาพสูตรบารุงดอก 2.ขนั้ ตอนการทาปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบารุงดอก 2.สามารถทาปุ๋ยชีวภาพสูตร 3.วิธีการนาไปใช้ ของปยุ๋ ชีวภาพสตู รบารงุ ดอก บารุงดอกได้ตามขั้นตอนที่ 4.ประโยชน์ของการใช้ ปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารุง ถูกต้อง และนาไปใช้ได้ถูกวิธี ดอก ถกู ต้อง

ญ แบบทดสอบกอ่ นเรียน คาชีแ้ จง ให้นกั ศกึ ษาเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดียว 1. ปุ๋ยอะไรท่ไี ด้จากการสลายตวั ของซากพืช ก. ปุย๋ คอก ข. ปุ๋ยหมัก ค. ป๋ยุ พชื สด ง. ป๋ยุ เทศบาล 2. ข้อใดไมใ่ ช่การปรับปรุงดนิ ทราย ก. ใส่ปุ๋ยคอก ข. ไถพรวนบ่อย ๆ ค. ใสป่ ุ๋ยอินทรีย์ ง. ปลูกพืชตระกลู ถั่ว 3. ธาตอุ าหารอะไรเม่ือใส่ให้แก่พชื จะทาให้พืชมใี บสีเขยี วเข็มขึ้น ก. ไฮโดรเจน ข. ฟอสฟอรสั ค. ไนโตรเจน ง. โปแตสเซียม 4. พชื ชนดิ ใดทเี่ หมาะสมในการปลกู เป็นปุ๋ยพชื สด ก. ขา้ วโพด ฝ้าย ข. โสน ปอเทือง ค. อ้อย ถั่วเหลือง ง. ข้าว มนั สาปะหลัง 5. ข้อใดไมใ่ ช่การปรับปรุงดินนา ก. ปลูกพชื หมนุ เวียนในนาหลังการเกบ็ เกีย่ ว ข. ไถกลบตอซังหลงั การเกบ็ เกี่ยวข้าวแล้ว ค. เอาตอซังหรอื ฟางข้าวออกจากทีน่ า ง. ใส่ปยุ๋ อนิ ทรีย์ลงในนาทุกฤดกู าล

ฎ 6. ธาตุอาหารในข้อใดทจ่ี าเป็นตอ่ การเจริญเติบโตของพืช ทีพ่ ชื ไดร้ ับจากนา้ และอากาศอยา่ งพอเพยี ง ก. คาร์บอน ไฮโดรเจน กามะถัน ข. คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ค. ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แคลเซีย่ ม ง. ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โปแตสเซีย่ ม 7. ธาตอุ าหารใดที่พืชได้รบั จากพชื ตระกลู ถ่ัว ก. โปแตสเซี่ยม ข. ฟอสฟอรสั ค. ไนโตรเจน ง. กามะถนั 8. วิธีแก้ไขดินเป็นกรด ควรใสส่ ารอะไรลงไปในดนิ ก. ยิปซมั่ ข. หินปูน ค. ธาตุกามะถัน ง. เกลือโซเดียม 9. ขอ้ ใดจัดว่าเปน็ เครือ่ งมอื ท่ีใช้ในการปฏบิ ัติดแู ลรกั ษาพชื ก. พลั่ว ข. เคียว ค. จอบขดุ ง. บวั รดนา้ 10. ขอ้ ใดจดั วา่ เปน็ เคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการเกบ็ เก่ยี วผลผลิตของพืช ก. บุ้งก๋ี ข. คราด ค. กรรไกร ง. ตะกรอ้ 11. ข้อใดเปน็ ลักษณะของดินช้นั บน ก. ดนิ มสี จี าง เพราะมีอินทรยี วตั ถนุ ้อย ข. ดนิ มสี ีจาง เพราะมอี นิ ทรยี ์วตั ถุมาก ค. ดินมสี ีคล้า เพราะมีอนิ ทรยี ์วัตถุอยนู่ ้อย ง. ดนิ มสี ีคลา้ เพราะมีอินทรียวัตถอุ ยมู่ าก

ฏ 12. ข้อใดตรงกับความหมายว่า \" การเกษตรกรรม \" มากที่สุด ก. การเลี้ยงไก่และการเลย้ี งสุกร ข. การเลย้ี งโคนมและการปลูกมะนาว ค. การปลูกข้าวโพดและการปลูกมะมว่ ง ง. การปลูกผักคะนา้ และการปลกู ดาวเรอื ง 13. ทาไมจึงต้องมีการบารุงรักษาเครื่องมอื ก. เพื่อใหเ้ ครือ่ งมอื สะดวกในการใช้งานในโอกาสต่อไป ข. เพ่ือใหเ้ คร่ืองมอื ไมส่ ึกหรอและสามารถเกบ็ รักษาไวไ้ ด้นาน ค. เพ่อื ใหเ้ ครื่องมืออยใู่ นสภาพดแี ละแก้ไขข้อบกพร่องในการใช้งาน ง. เพือ่ ให้เคร่อื งมืออย่ใู นสภาพดี และใช้ไดน้ านคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป 14. ข้อใดหมายถึงพืชทปี่ ลูกท่ีปลกู ในพืน้ ท่ีมากๆ มีการปฏิบัติดูแลรกั ษาอยา่ งไม่พถิ ีพถิ นั ก. ข้าวโพด ข. ถ่ัวฝักยาว ค. มะเขือเทศ ง. ผกั กาดขาวปลี 15. การกาจดั ซากพชื ซากสตั วโ์ ดยวธิ กี ารฝังทาให้เกิดผลดใี นเรอื่ งใดมากที่สดุ ก. ประหยัดเวลา ข. เพมิ่ ปยุ๋ ให้แกด่ ิน ค. ปอ้ งกนั โรคต่าง ๆ ง. ไม่มกี ล่ินเหม็นรบกวน

1 บทที่ 1 ความรพู้ นื้ ฐานการทาปุ๋ยชีวภาพ สาระสาคญั ปยุ๋ ชีวภาพ เป็นสง่ิ ท่มี คี ณุ คา่ มากในทางการเกษตร แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจหรือแพร่หลายเท่าท่ีควร อาจจะเปน็ เพราะสาเหตุหลายประการดว้ ยกนั เกษตรกรยังไม่ตระหนักถึงความสาคัญที่แท้จริงของปุ๋ยหมักว่ามี คุณค่าเพียงใดในการช่วยปรับปรุงดินให้ดีขึ้น หรือช่วยรักษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินให้ดีอยู่เสมอ ไม่เสื่อมโทรมลงเรื่อย ๆ อย่างเช่นปัจจุบันน้ี เหตุผลสาคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เกษตรกรยังขาดแหล่งข้อมูลท่ี จะให้ความรู้ความเข้าใจในการทาปุ๋ยหมักอย่างถูกวิธี เป็นเหตุให้การทาปุ๋ยชีวภาพก็ต้องใช้ในปริมาณมาก และมักไม่เห็นผลอย่างชัดเจนในระยะเวลาอันส้ัน การทาปุ๋ยชีวภาพไว้ใช้เองก็ต้องใช้แรงงานค่อนข้างมาก ตอ้ งดูแลเอาใจใส่อยเู่ สมอ การผลิตปุ๋ยชีวภาพจึงจะได้ผลอย่างเต็มท่ี การท่ีเกษตรกรจะผลิตปุ๋ยชีวภาพข้ึนมาใช้ กนั อย่างจรงิ ๆจังๆ จงึ ตอ้ งอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจในการทาปุ๋ยชีวภาพ ต้องเข้าใจในคุณประโยชน์ที่แท้จริง ของปุ๋ยชีวภาพ และจะต้องมีความมุ่งมั่น ความต้ังใจจริงท่ีจะปรับปรุงที่ดินของตนให้เป็นผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ มีประสทิ ธิภาพในการเพาะปลกู ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง 1. บอกความหมายและประเภทของป๋ยุ ชีวภาพได้ 2. บอกประโยชน์ของปยุ๋ ชวี ภาพได้ 3. อธิบายกระบวนการหมักของป๋ยุ ชีวภาพได้ ขอบขา่ ยเน้อื หา เรอ่ื งที่ 1 ความหมายและประเภทของปุ๋ยชวี ภาพ เรอื่ งที่ 2 ประโยชน์ของป๋ยุ ชีวภาพ เรื่องที่ 3 กระบวนการหมักของปยุ๋ ชวี ภาพ

2 เรือ่ งท่ี 1 ความหมายและประเภทของปุ๋ยชวี ภาพ 1. ความหมายของปุย๋ ชีวภาพ ก่อนจะกล่าวถึงปุ๋ยชีวภาพควรจะมีความเข้าใจความหมายของคาว่าปุ๋ยก่อน ความหมายของปุ๋ย ที่ส้ันที่สุดน้ันหมายถึง วัสดุที่ให้ธาตุอาหารแก่พืช ส่วนพระราชบัญญัติปุ๋ย 2518 ได้ให้คาจากัดความปุ๋ยไว้ว่า “ปุ๋ย” หมายถึง สารอินทรีย์ หรืออนินทรีย์ ทั้งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือทาข้ึนก็ตาม เพื่อใช้เป็นธาตุอาหาร แก่พืชได้ หรือทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในดิน เพ่ือบารุงพืชให้เจริญเติบโต นักวิชาการปุ๋ยโดยทั่วไป จาแนกปุ๋ยไว้ 3 ประเภท คือ ป๋ยุ เคมี ปุย๋ อินทรีย์ และป๋ยุ ชวี ภาพ ปุ๋ยชีวภาพ คือ การนาเอาจุลินทรีย์ท่ียังมีชีวิตอยู่มาเพิ่มปริมาณธาตุอาหารในดิน ซ่ึงจุลินทรีย์เหล่าน้ี มีคุณสมบัติท่ีสามารถสังเคราะห์สารที่จะใช้ประกอบธาตุให้พืชได้เอง ขณะเดียวกันก็สามารถจะเปล่ียน ธาตุอาหารพชื ที่ไมส่ ามารถสร้างประโยชน์ได้ ให้กลายเปน็ ธาตทุ ี่สามารถสรา้ งประโยชนไ์ ด้ ปยุ๋ ชีวภาพ อ้างอิง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

3 2. ประเภทของปุย๋ ชีวภาพ ปุ๋ยชวี ภาพแบง่ ตามลักษณะการให้ธาตุอาหารแกพ่ ืชได้ 2 ประเภท คือ 2.1 ปยุ๋ ชวี ภาพที่ประกอบดว้ ยจลุ นิ ทรียส์ ร้างธาตอุ าหารแก่พืช จุลินทรีย์ท่ีสามารถสร้างธาตุอาหารแก่พืชได้ ในปัจจุบันพบเพียงกลุ่มเดียว คือ กลุ่มจุลินทรีย์ ตรึงไนโตรเจน ประกอบด้วยแบคทีเรีย และแอคทีโนมัยซีท จุลินทรีย์ในกลุ่มนี้มีชุดยีนไนโตรจีเนส (Nitrogenase genses) เป็นองค์ประกอบในจีโนม มีหน้าท่ีสาคัญในการควบคุมการสร้างเอนไซม์ไนโตรจีเนส และควบคุม กลไกการตรึงไนโตรเจนให้กับจุลินทรีย์กลุ่มนี้ ให้มีขบวนการตรึงไนโตรเจนจากอากาศท่ีมีประสิทธิภาพ ปุ๋ยชีวภาพประเภทนี้สามารถแบ่งตามลักษณะความสัมพันธ์กับพืชอาศัย (พืชอาศัย คือ พืชท่ีอาศัยเกาะดูดน้า และแร่ธาตุ หรือสารอาหารที่สังเคราะห์แล้วจากพรรณไม้อ่ืน ซ่ึงอาจทาให้พืชน้ันเสียหายหรือตายได้) ได้ 2 แบบ คอื รูปท่ี 1 เศษใบไมท้ เ่ี ตรียมกองเพือ่ เข้ารอการยอ่ ยสลาย รปู ที่ 2 เศษใบไมท้ ่ียอ่ ยสลาย อ้างอิงรปู ที่ 1 https://pixabay.com/zh/photos/humus-dried-leaves-fall-leaves-dry-2782747/ อา้ งองิ รูปที่ 2 http://suttipong2553.blogspot.com/2012/03/blog-post_5961.html กลุม่ ท่ี 1 ปุย๋ ชีวภาพที่ประกอบด้วยแบคทเี รยี ตรึงไนโตรเจนท่ีอาศัยอยู่ร่วมกับพืชแบบพ่ึงพาอาศัย ซ่ึงกันและกัน (Symbiosis) ปุ๋ยชีวภาพกลุ่มน้ีมีแบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพในการตรึงไนโตรเจนสูงมาเป็น ส่วนประกอบสามารถทดแทนไนโตรเจนจากปุ๋ยเคมีให้กับพืชอาศัยได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ท้ังน้ี ข้ึนอยู่กับ ชนดิ และสายพันธขุ์ องจลุ ินทรยี ์ ชนิดของพืชอาศัย รวมท้ังระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ส่วนใหญ่มีการสร้าง โครงสร้างพิเศษอยู่กับพืชอาศัยและตรึงไนโตรเจนทางชีวภาพจากอากาศ ได้แก่ การสร้างปมของแบคทีเรีย สกุลไรโซเบียมกับพืชตระกูลถ่ัวชนิดต่าง ๆ การสร้างปมที่รากสนกับแฟรงเคีย การสร้างปมที่รากปรง

4 กับสาหร่ายสีเขียวแกมนา้ เงินสกลุ นอสทอค (Nostoc) และการอาศัยอยูใ่ นโพรงใบแหนแดงของสาหร่ายสีเขียว แกมน้าเงินสกุลอะนาบีนา (Anabeana) พืชอาศัยจะได้รับไนโตรเจนที่ตรึงได้ทางชีวภาพจากจุลินทรีย์ไปใช้ โดยตรง สร้างการเจริญเตบิ โต เพิม่ ผลผลติ และคณุ ภาพพชื ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ กลุ่มท่ี 2 ปุ๋ยชีวภาพที่ประกอบด้วยแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนที่อาศัยอยู่ร่วมกับพืชแบบอิสระ (non-symbiotic N 2-fixing bacteria) แบคทีเรียกลุ่มน้ีมีประสิทธิภาพในการตรึงไนโตรเจนต่า จึงสามารถ ทดแทนปุ๋ยไนโตรเจนให้กับพืชท่ีอาศัยอยู่เพียงระหว่าง 5-30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับสกุลของจุลินทรีย์ และชนดิ พชื ท่จี ลุ ินทรียอ์ าศัยอยู่ สามารถแบง่ ได้ 3 กลมุ่ (๑) แบคทีเรียที่อาศัยอยู่อย่างอิสระในดินและบริเวณรากพืช ได้แก่ อะโซโตแบคเตอร์ (Azotobacter) และสกลุ ไบเจอริงเคยี (Beijerinckia) (2) แบคทีเรียท่ีพบอาศัยอยู่ได้ทั้งในดิน บริเวณรากพืช และภายในรากพืชชั้นนอก ได้แก่ สกลุ อะโซสไปรลิ ลมั (Azospirillum) (3) แบคทีเรียที่พบอาศัยอยู่ภายในต้นและใบพืช เป็นแบคทีเรียบางสกุล หรือบางชนิดท่ี ค้นพบใหม่ ๆ เมื่อประมาณ 10 ปีท่ีผ่านมา ได้แก่ สกุลอะซีโตแบคเตอร์ ชนิดไดอะโซโตรฟิคัส (Acetobacter diazotrophicus) ซึ่งพบในอ้อยและกาแฟ สกลุ เฮอบาสไปรลิ ลัม (Herbaspirillum spp.) พบในข้าว อ้อยและ พืชเส้นใยบางชนิด และสกลุ อะโซอารคสั (Azoarcus spp.) ท่พี บในข้าว 2.2 ปุย๋ ชวี ภาพทปี่ ระกอบด้วยจุลินทรยี ท์ ช่ี ว่ ยใหธ้ าตุอาหารเปน็ ประโยชน์กับพืช ๑) ปุ๋ยชีวภาพแบคทีเรียส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช แบคทีเรียส่งเสริมการเจริญเติบโต ของพืช (Plant Growth Promoting Rhizocacteria or PGPR) หรือพีจีพีอาร์ เป็นปุ๋ยชีวภาพชนิดหนึ่ง ท่ีประกอบด้วยแบคทีเรียกลุ่มเดียวกันหรือต่างกลุ่มกัน เช่น ประกอบด้วยแบคทีเรียกลุ่มที่สามารถตรึง ไนโตรเจน ช่วยละลายฟอสเฟต ผลิตฮอร์โมนส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช และช่วยให้ธาตุอาหารเสริม บางชนิดที่เป็นประโยชน์ ซึ่งในแบคทีเรียบางสกุลมีความสามารถรวมกันหลายอย่าง เช่น แบคทีเรียสกุล อะโซสไปริลลัมบางสายพันธ์ุ ปุ๋ยชีวภาพชนิดน้ีช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้อย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ ป๋ยุ ชีวภาพพจี พี อี าร์ 1 สาหรบั ขา้ วโพด ขา้ วฟ่าง เป็นตน้ ๒) ปุ๋ยชีวภาพท่ีช่วยเพ่ิมความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืช ปุ๋ยชีวภาพในกลุ่มน้ีช่วยเพ่ิม ประโยชน์ธาตุอาหารพืชบางชนิดที่ละลายน้ายาก ให้เป็นประโยชน์กับพืชได้มากขึ้น โดยการเพ่ิมพื้นท่ีผิวราก สาหรับการดูดซึมให้กับพืช ด้วยการเพิ่มปริมาณบริเวณรากพืชด้วยเส้นใยของจุลินทรีย์ ช่วยให้ธาตุอาหาร

5 ท่ีเป็นประโยชน์ได้ยาก เช่น ฟอสฟอรัส และแคลเซียม มีโอกาสได้สัมผัสราก และดูดมาใช้มากข้ึน จึงช่วยเพิ่ม ความเป็นประโยชน์ให้กับพืชรวมทั้งจุลินทรีย์บางกลุ่มท่ีสามารถสร้างกรดอินทรีย์หรือเอนไซม์บางชนิด ท่ีสามารถชว่ ยละลาย หรอื ยอ่ ยฟอสเฟตใหอ้ ยใู่ นรูปที่พืชสามารถดูดไปใช้ได้ง่ายขึ้น จึงทาให้ธาตุอาหารดังกล่าว เปน็ ประโยชน์ต่อพชื เพ่มิ ขน้ึ สามารถแบ่งได้ 3 กลุม่ รูปที่ 1 การทาปุ๋ยหมกั ชีวภาพอินทรยี ์ รปู ที่ 2 การทาปยุ๋ หมักชีวภาพ อา้ งอิง https://kaset.vwander.com/fertilizer/ปยุ๋ หมักชีวภาพ.html กลุ่มที่ 1 ปุ๋ยชีวภาพท่ีประกอบด้วยจุลินทรีย์ช่วยเพ่ิมศักยภาพในการดูดซึมธาตุอาหารพืช ซึ่งเป็นเช้ือรากลุ่มไมโคไรซ่า ท่ีอาศัยอยู่กับพืชแบบพ่ึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน จะสร้างส่วนของเส้นใยพันกับ รากพชื และบางสว่ นชอนไชไปในดิน ชว่ ยดูดธาตุอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอสฟอรัส ทาให้พืชได้รับฟอสฟอรัส ที่ผ่านการดดู ของเส้นใยไมโคไรซา่ ชว่ ยให้พืชมีปริมาณฟอสฟอรัสสาหรับใช้ในการเจริญเติบโตและสร้างผลผลิต อย่างเพียงพอ นอกจากน้ีไมโคไรซ่ายังช่วยป้องกันไม่ให้ฟอสฟอรัสที่ละลายอยู่ในดินถูกตรึง โดยปฏิกิริยาทางเคมีของดิน โดยไมโคไรซ่าจะช่วยดูดซับฟอสเฟตเก็บไว้ในโครงสร้างพิเศษที่เรียกว่า อาบัสกูล และเวสวเิ คิลที่อยรู่ ะหวา่ งเซลลพ์ ืช กลุ่มที่ 2 ปุ๋ยชีวภาพที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ช่วยละลายฟอสเฟต เป็นปุ๋ยชีวภาพ ที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ช่วยละลายหินฟอสเฟต หินฟอสเฟตพบทั่วไปในประเทศไทยแต่ปริมาณฟอสเฟต ทล่ี ะลายออกมาพืชนาไปใช้ได้น้อย ปัจจบุ ันพบว่า มีจุลนิ ทรยี พ์ วกแบคทีเรยี และราหลายชนิดที่สามารถช่วยเพิ่ม ฟอสฟอรสั จากหินฟอสเฟตให้เป็นประโยชน์ได้ เป็นต้น โดยจุลินทรีย์เหล่านี้จะสร้างกรดอินทรีย์ออกมาละลาย ฟอสเฟตออกจากหิน การละลายฟอสเฟตจะมีประสิทธิภาพมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของจุลินทรีย์ และปริมาณอินทรียวัตถุท่ีต้องใช้เป็นแหล่งน้าตาลในการผลิตกรดอินทรีย์ หากคัดเลือกสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่มี ประสิทธิภาพสงู ได้ จะชว่ ยใหเ้ กษตรกรไดใ้ ชฟ้ อสฟอรัสราคาถูก จากหินฟอสเฟตทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีฟอสเฟต มากขึน้ ได้แก่ ปุย๋ ชวี ภาพจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต เปน็ ต้น

6 กล่มุ ท่ี 3 ปุย๋ ชวี ภาพที่ประกอบดว้ ยจุลนิ ทรยี ช์ ่วยเพ่ิมประโยชน์ของโพแทสเซียม โพแทสเซียม เป็นธาตุอาหารหลักธาตุหน่ึงที่สาคัญสาหรับพืช ปกติพืชจะมีโพแทสเซียมเป็นส่วนประกอบประมาณ 3-4 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องนา้ หนกั โพแทสเซียมมคี วามสาคัญในการสรา้ งโปรดตีนสังเคราะห์แป้งและน้าตาล โดยเฉพาะใน พืชหัวบางชนิด ปกติในดินพบโพแทสเซียมอยู่ในรูปของแร่ธรรมชาติ มี 3 รูป คือ 1) รูปท่ีถูกตรึงไว้โดยอนุภาค ของคอลลอยด์ 2) รูปที่แลกเปลยี่ นได้ และ 3) รูปทล่ี ะลายน้าได้

7 เรื่องท่ี 2 ประโยชนข์ องปุย๋ ชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ นับเป็นอีกหน่ึงวิวัฒนาการของแนวทางการใช้ประโยชน์จากปุ๋ย เนื่องจากปุ๋ยประเภทนี้มี ส่วนประกอบเป็นจลุ นิ ทรยี ท์ ีย่ งั มชี ีวติ อยู่ ไม่ใช่การเสริมธาตุอาหารลงในดินโดยตรง แต่อาศัยความสามารถของ จุลินทรีย์ท่ีจะช่วยสร้างธาตุอาหารให้แก่พืชในระยะยาว หรือเปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างท่ีมีอยู่แล้วให้ กลายเปน็ สิ่งทพ่ี ชื นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ นนั่ หมายความว่าจุลินทรีย์ท่ีนามาผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพจะต้องมีคุณสมบัติ พิเศษตรงตามความต้องการด้วย อย่างน้อยที่สุดคือเพิ่มสารอาหารหลัก 3 ชนิดได้ คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ปุ๋ยชีวภาพมีอีกชื่อหน่ึงว่า ปุ๋ยจุลินทรีย์ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้เพ่ิมเติมไว้ในคู่มือปุ๋ยชีวภาพ วา่ ตอ้ งเปน็ ปุ๋ยท่ีช่วยบารุงดินได้ทงั้ ทางกายภาพ ชวี ภาพ และชวี เคมดี ้วย 1.ดา้ นการเกษตร 1.ชว่ ยปรบั สภาพความเป็นกรด-ดา่ งในดินและนา้ 2.ชว่ ยปรับสภาพโครงสรา้ งของดินให้ร่วนซยุ อุ้มน้าและอากาศไดด้ ยี ง่ิ ข้นึ 3.ชว่ ยยอ่ ยสลายอินทรียวตั ถุในดนิ ให้เป็นธาตุอาหารแก่พชื พืชสามารถดูดซึมไปใชไ้ ด้โดยไมต่ ้องใช้ พลงั งานมากเหมือนการใช้ปยุ๋ วทิ ยาศาสตร์ 4.ช่วยเร่งการเจรญิ เตบิ โตของพชื ให้สมบูรณ์ แขง็ แรงตามธรรมชาติ ตา้ นทานโรคและแมลง 5.ช่วยสรา้ งฮอร์โมนพืช ทาให้ผลผลติ สูง และคณุ ภาพของผลผลติ ดขี ้ึน 6.ชว่ ยให้ผลผลติ คงทน เก็บรกั ษาไวไ้ ดน้ าน 2.ดา้ นปศุสัตว์ 1.ชว่ ยกาจัดกล่นิ เหมน็ จากฟารม์ สตั ว์ เช่น ฟารม์ ไก่ ฟาร์มสุกร ไดภ้ ายใน 24 ชั่วโมง 2.ชว่ ยกาจดั นา้ เสยี จากฟาร์มได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ 3.ช่วยปอ้ งกนั โรคอหิวาห์และโรคระบาดต่าง ๆ ในสตั ว์แทนยาปฏชิ ีวนะ และอนื่ ๆ ได้ 4.ช่วยกาจดั แมลงวัน ดว้ ยการตดั วงจรชวี ิตของหนอนแมลงวนั ไม่ใหเ้ ขา้ สู่ระยะดักแด้เกดิ เปน็ ตวั แมลงวัน 5.ช่วยเสริมสุขภาพสัตวเ์ ล้ียง ทาให้สัตวแ์ ข็งแรง มีความต้านทานโรค ให้ผลผลิตสูงและอัตราการรอดสูง

8 3.ด้านการประมง 1.ชว่ ยควบคมุ คณุ ภาพน้าในบ่อเล้ยี งสตั ว์น้าได้ 2.ช่วยแกป้ ัญหาโรคพยาธิในน้า ซงึ่ เปน็ อันตรายต่อสัตวน์ า้ 3.ชว่ ยรักษาโรคแผลตา่ ง ๆ ในปลา กบ จระเข้ ฯลฯ ได้ 4.ช่วยลดปรมิ าณขีเ้ ลนในบอ่ ช่วยใหเ้ ลนไมเ่ น่าเหม็น สามารถนาไปผสมเปน็ ปุย๋ หมัก ใช้กับพืชตา่ ง ๆ ไดด้ ี 4.ด้านสงิ่ แวดล้อม 1.ช่วยบาบดั นา้ เสยี จากการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชน และสถานประกอบการ ทวั่ ไป 2.ช่วยกาจดั กลิ่นเหมน็ จากกองขยะ การเลย้ี งสัตว์ โรงงานอตุ สาหกรรม และชมุ ชนต่าง ๆ 3.ปรับสภาพของเสีย เช่น เศษอาหารจากครัวเรือนให้เป็นประโยชน์ต่อการเ ล้ียงสัตว์และ การเพาะปลูกพืช 4.กาจัดขยะดว้ ยการยอ่ ยสลายให้มีจานวนลดน้อยลงสามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ 5.ช่วยปรบั สภาพอากาศทีเ่ สียใหส้ ดช่นื และมสี ภาพดีขึ้น

9 เรอ่ื งท่ี 3 กระบวนการหมักปุย๋ ชีวภาพ กระบวนการย่อยสลายในกองปุ๋ยชีวภาพ เกิดจากกิจกรรมของจุลินทรีย์กลุ่มท่ีใช้ออกซิเจน และกลุ่มท่ี ไม่ใช้ออกซิเจน ซ่ึงท้ังสองกลุ่มจะทาหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์ที่มีโมเลกุลใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง จนกระทั่ง การย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์ ได้สารอินทรีย์วัตถุที่เรียกว่า ปุ๋ยชีวภาพ (Compost) กระบวนการย่อยสลาย ดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุลินทรีย์หลายชนิดรวมกันและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งสามารถแบ่งได้เปน็ 3 ระยะ คอื 1.ระยะอุณหภูมิปานกลาง (Mesophilic Phase) เป็นช่วงแรกของการย่อยสลาย จานวนจุลินทรีย์ จะคอ่ ย ๆ เพิ่มจานวนข้นึ ซงึ่ ระยะนจ้ี ะมีอุณหภูมิประมาณ 20-45 °C 2.ระยะอุณหภูมิสูง (Thermophilic Phase) เป็นช่วงที่จานวนจุลินทรีย์เกือบคงที่ และเกิดการย่อย สลายท่ัวทั้งกอง โดยอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 45-60 °C หรือมากกว่า ซ่ึงอุณหภูมิที่เหมาะสมจะต้องไม่ต่ากว่า 45 °C เปน็ ช่วงท่เี กิดการยอ่ ยสลายมากทสี่ ดุ จนทาใหเ้ กิดความรอ้ นสะสมในกองปุ๋ยชวี ภาพ 3.ระยะอุณหภูมิลดลง (Maturation Phase) เป็นช่วงท่ีจุลินทรีย์บางส่วนเร่ิมตายลงปริมาณอินทรีย์ถูก ย่อยสลายจนหมด อัตราการย่อยสลายจึงลดลง ทาให้อุณหภูมิของกองปุ๋ยชีวภาพลดลงตามมา ซ่ึงเป็นระยะท่ี เสรจ็ สิน้ การยอ่ ยสลาย ปุ๋ยชีวภาพท่ีย่อยสลายเสรจ็ สมบรู ณ์ อ้างองิ https://puechkaset.com

10 กระบวนการหมักปุ๋ยเป็นกระบวนการย่อยสลายทางชีวภาพของสารอินทรีย์โดยจุลินทรีย์ หลายชนิด ภายใต้สภาวะที่มีสารอาหาร ความชื้น อุณหภูมิ และปัจจัยอ่ืนๆที่เหมาะสมต่อการ ทางานของจุลินทรีย์มาก ที่สุดจนได้ผลผลิตท่ีมีความคงตัว มีค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนต่า ไม่มีกลิ่น และสามารถนาไปใช้ ประโยชน์ทางดา้ นเกษตรกรรมได้ และต้องคานึงถึงคุณภาพให้ เหมาะแก่การนาไปใช้ด้วย วัสดุท่ีใช้ทาการหมัก ปุ๋ยส่วนใหญ่จะเป็นพวกสารอินทรีย์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และมักเป็นวัสดุที่เหลือจากเกษตรกรรม ได้แก่ เศษใบไม้ มูลสัตว์ วัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น เศษฟาง ใบ พืช วัชพืชต่างๆ หลังจากการหมักวัสดุเหล่าน้ี แลว้ ปุย๋ หมกั จะมีคุณสมบตั ใิ นการบารุงและปรับปรุง ดินตอ่ ไป กระบวนการหมักปุ๋ยสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ การหมักปุ๋ยแบบใช้ออกซิเจน และการหมักปุ๋ย แบบไม่ใชอ้ อกซิเจน ดังนี้ 1. การหมักแบบใช้อ๊อกซเิ จน เม่อื วสั ดหุ มกั เกิดการยอ่ ยสลายจนไดส้ ารอนิ ทรีย์ตง้ั ต้น ไดแ้ ก่ ไขมัน โปรตนี คาร์โบไฮเดรต เซลลูโลส ลิกนิน ฯลฯ สารเหล่าน้ีจะถูกจุลินทรีย์จาพวกที่ใช้ออกซิเจนย่อยสลายด้วยการดึงออกซิเจนมาใช้ใน กระบวนการ และสุดท้ายจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นฮิวมัส (ฮิวมัส คือ อินทรียวัตถุที่มีโครงสร้างสลับซับซ้อนโดย สลายตวั ปะปนอยู่ในดินทาให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์) น้า ก๊าซ (คาร์บอนไดออกไซด์ แอมโมเนีย ซัลเฟอร์ได ออกไซด์) และพลังงานความร้อน 2. การหมกั แบบไม่ใช้ออกซิเจน สารอินทรีย์จะถูกย่อยสลายในสภาพท่ีไม่มีออกซิเจน โดยอาศัยการทางานของจุลินทรีย์จาพวกท่ีไม่ใช้ ออกซเิ จน 2 กลุม่ คือ จลุ นิ ทรีย์สรา้ งกรด และจุลนิ ทรยี ส์ รา้ งมเี ธน ซง่ึ จะทาใหเ้ กิดผลิตภัณฑส์ ุดท้าย ได้แก่ ก๊าซ มเี ธน (CH4) กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) แอมโมเนีย (NH3) และพลังงานความรอ้ น

11 กิจกรรมทา้ ยบทที่ 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั ศึกษาตอบคาถาม และอธบิ ายใหไ้ ดใ้ จความดงั ต่อไปน้ี 1. จงบอกความหมายของปุ๋ยชวี ภาพ ………………………………………………………………………............................................................................................... ......................………………………………………………………………………………….……………………………………………..…… ….................................................................................................................. …………………………............................ ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ................................................ ….................................................................................................................. …………………………............................ 2. จงบอกประโยชนข์ องปุ๋ยชีวภาพ ………………………………………………………………………............................................................................................... ......................………………………………………………………………………………….…………………………………………..……… …..................................................................................................................…………………………............................ ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................... ....................................... …........................................................................................... .......................…………………………............................ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................. .......................... 3. จงบอกกระบวนการหมักของป๋ยุ ชีวภาพ ………………………………………………………………………............................................................................................... ......................………………………………………………………………………………….……………………………………..…………… ….................................................................................................................. …………………………............................ ….................................................................................................................. …………………………............................ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................

12 4. ยกตัวอยา่ งทรัพยากรในชุมชนของนักศึกษาที่สามารถนามาทาป๋ยุ หมักชีวภาพได้ พร้อมวาดภาพประกอบ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................... .............

13 บทที่ 2 วิธกี ารทาปุ๋ยชีวภาพ สาระสาคญั ปุ๋ยชีวภาพที่ได้จากหมักบ่มสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ที่ทาหน้าที่ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้สลายตัว และผุพังไปบางส่วน ทาให้ได้ปุ๋ยชีวภาพที่มีลักษณะสีคล้าดา มีลักษณะเป็นผง ละเอีย ดเหมาะ สาหรับ การปรับปรุงดิน และใหธ้ าตุอาหารแก่พืช วัสดุอินทรีย์ท่ีใช้สาหรับการหมัก อาจเป็นเศษพืชสด วัสดุอินทรีย์เผา รวมถึงอาจผสมซากของสัตว์ หรืออาจผสมปุ๋ยคอกก็ได้ และหากนามากองรวมกัน พร้อมรดน้าอย่างสม่าเสมอ จุลินทรีย์ก็จะทาการย่อยสลายข้ึนซึ่งสังเกตได้จากกองปุ๋ยชีวภาพจะมีความร้อนเกิดขึ้น เม่ือเกิดความร้อนจึง จาเป็นต้องคลุกกลับกองปุ๋ย และรดน้าให้ทั่ว ซ่ึงจะทาให้จุลินทรีย์ย่อยสลายสารอินทรีย์ได้อย่างท่ัวถึง และหากความร้อนในกองปุ๋ยหมักมีอุณหภูมิใกล้เคียงกันในทุกจุด และความร้อนมีน้อยจึง จะแสดงได้ว่า ปยุ๋ ชวี ภาพพร้อมใชง้ านแล้ว ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั 1.อธบิ ายการทาปยุ๋ ชีวภาพจากปยุ๋ คอกไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 2.อธบิ ายการทาป๋ยุ ชวี ภาพจากพชื ได้อยา่ งถูกต้อง 3.อธิบายการทาปยุ๋ ชีวภาพจากเศษอาหารและขยะได้อยา่ งถกู ต้อง 4.บอกประโยชน์ของปุ๋ยชวี ภาพจากปุ๋ยคอกได้ ขอบขา่ ยเน้อื หา เร่อื งท่ี 1 การทาปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอก เรอ่ื งที่ 2 การทาปยุ๋ ชีวภาพจากพชื เรอ่ื งที่ 3 การทาปยุ๋ ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ

14 เร่ืองที่ 1 การทาปุ๋ยชีวภาพจากปยุ๋ คอก ปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอกเป็นการนาปุ๋ยคอกมาหมัก ซึ่งการหมักในวันแรก ๆ ตัวปุ๋ยคอกจะร้อนมาก เน่ืองจากเกิดกระบวนการย่อยสลาย ดังน้ันก่อนนาปุ๋ยคอกไปใช้ควรผ่านหมักหรือตากให้แห้งก่อน เพื่อให้พืช สามารถนาธาตุอาหารท่ีมีอยู่ในปุ๋ยคอกไปใช้ได้ทันที หากจะทาปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอก จาเป็นต้องรู้ก่อนว่า ใช้วสั ดอุ ะไร มีข้ันตอนการทาอยา่ งไร และมีสงิ่ สาคญั อะไรบ้างทค่ี วรคานึงถึง 1. วัสดุท่ีใช้ทาปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอก 1. ปุ๋ยคอก 1 ส่วน (1 กระสอบ) 2. แกลบ 1 ส่วน (1 กระสอบ) 3. ราขา้ ว 1 สว่ น (1 กระสอบ) 4. น้า EM ขยาย 1 ลติ ร 5. กากน้าตาล 1 ลิตร 6. นา้ สะอาด 25 ลติ ร 2. ข้นั ตอนการทาปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอก 1. ตรวจสภาพความช้ืนของปยุ๋ คอกก่อน หากยังชื้นอยู่ใหน้ าปุ๋ยคอกไปตากแดด โดยเกลย่ี ใหก้ ระจาย แล้วตากแดดไว้ 1-2 แดด ถ้าป๋ยุ คอกท่ไี ดน้ น้ั แห้งดีแล้วก็ไม่จาเปน็ ตอ้ งตากแดด ปยุ๋ หมกั จากป๋ยุ คอกวัสดุและส่วนผสม อา้ งอิง : https://xn--12cmh8bbc4da0bh2bc2a3d5edobk6sg.com/?p=11359

15 2. เทส่วนผสม ไดแ้ ก่ ปยุ๋ คอก ราขา้ ว แกลบ ลงบนพืน้ แลว้ ใชจ้ อบเกล่ยี คลกุ เคลา้ ให้เขา้ กนั ขน้ั ตอนนี้ จะใช้เวลาพอสมควร อ้างองิ : https://xn--12cmh8bbc4da0bh2bc2a3d5edobk6sg.com/?p=11359 3.เติมน้า EM ขยาย และกากน้าตาล ผสมในน้าใหเ้ ข้ากนั นาไปรดท่ีกองปยุ๋ คอกทเี่ ตรียมไว้ อา้ งอิง : https://www.organicfarmthailand.com/how-to-make-fermented-manure/. 4.ใช้จอบคลกุ เคลา้ ให้เขา้ กนั ซึ่งใช้เวลาพอสมควร จากนั้นลองใชม้ ือตักส่วนผสมแลว้ บบี สว่ นผสมทเ่ี หมาะ จะนาไปหมักต้องไมแ่ ห้งหรือไมเ่ ปียกเกินไป ถ้ายังแห้งอยู่ให้เตมิ น้าแล้วใชจ้ อบเกลย่ี ไปดว้ ยเร่อื ย ๆ อ้างอิง : https://www.organicfarmthailand.com/how-to-make-fermented-manure/.

16 5.ตักส่วนผสมใส่กระสอบและเปิดปากถุงไว้เพื่อไม่ให้ความร้อนระบายออก (ในวันแรกส่วนผสมจะร้อน มาก) นาไปตงั้ ไว้ในบริเวณทอี่ ากาศถ่ายเทสะดวก 6.เม่ือผ่านไป 2 วัน ส่วนผสมเริ่มไม่มีความร้อนแล้ว สังเกตดูจะเห็นฝ้าขาว ๆ อยู่ทั่วไป ซ่ึงแสดงว่า ส่วนผสมเริ่มมีการย่อยสลาย หลังจากผ่านไป 7 วัน ให้ใช้มือตักส่วนผสมข้ึนมาขยาดูจะสังเกตเห็นว่าฝุ่นคลุ้ง ปล่อยให้ส่วนผสมหมักต่อไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนผสมท่ีหมักไว้ก็จะเป็นปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอก ทส่ี ามารถนาไปใช้ไดโ้ ดยใชเ้ วลาท้ังหมด 2 สปั ดาห์ อา้ งอิง : https://www.organicfarmthailand.com/how-to-make-fermented-manure/ 3. สง่ิ สาคญั ของการทาป๋ยุ ชีวภาพจากปยุ๋ คอก 1.หา้ มขึ้นไปเหยียบกองปยุ๋ ใหแ้ น่น หรือเอาผ้าคลุมกองปุ๋ย หรือเอาดินปกคลุมด้านบนกองปุ๋ย เพราะ จะทาให้อากาศไมส่ ามารถไหลถา่ ยเทได้ 2.ห้ามละเลยการดูแลความชืน้ เพราะถา้ กองปุ๋ยแหง้ เกินไปจะทาใหใ้ ชร้ ะยะเวลาหมักนาน 3.หา้ มเกล่ยี กองป๋ยุ เปน็ ช้นั หนาเกินไปเพราะจะทาให้จุลินทรีย์ในมลู สัตว์ไมส่ ามารถย่อยสลายได้ 4.หา้ มทากองปุย๋ ใตต้ ้นไม้ เพราะความร้อนจากกองปุ๋ยอาจทาให้ต้นไม้ตายได้ หรือรากต้นไม้ใหญ่ดูด ซบั ธาตุอาหารไปใช้ได้ 5.ห้ามระบายความรอ้ นออกจากกองปยุ๋ เพราะความร้อนสูงในกองปุ๋ยจะช่วยให้จุลินทรีย์ทางานได้ดี มากขึน้ และยงั ชว่ ยให้เกิดการไหลเวียนของอากาศผ่านกองปยุ๋ อีกดว้ ย

17 4. ประโยชนข์ องป๋ยุ ชวี ภาพจากป๋ยุ คอก ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดหน่ึงซึ่งนามาใช้ทางการเกษตรอย่างแพร่หลาย เป็นเวลานานหลายปีมาแล้ว ปุ๋ยคอกไม่เพียงแต่จะให้อินทรียวัตถุ ธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารรองท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช แต่ยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช ทาให้ดินระบายน้าและอากาศดีขึ้น ช่วยเพ่ิมความคงทนแก่เม็ดดินเป็นการลดการชะล้างพังทลายของดิน และช่วยรักษาหน้าดินไว้ นอกจากน้ี ยงั เป็นแหลง่ ธาตุอาหารของจุลนิ ทรยี ท์ เ่ี ป็นประโยชน์ในดิน ซ่ึงมีผลทาให้กิจกรรมต่าง ๆ ของจุลินทรีย์ดาเนินไป อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเพ่ิมปริมาณของจุลินทรีย์ในดินอีกด้วย ในอดีตการใช้ปุ๋ยคอกเป็นไป อย่างงา่ ย ๆ ตามธรรมชาติ โดยเกษตรกรจะเล้ียงสตั ว์ เชน่ โค กระบอื สุกร ม้า แพะ แกะ ฯลฯ กระจัดกระจาย ไปตามทอ้ งทงุ่ เมื่อสตั ว์ขบั ถ่ายมูลสัตว์ออกมาก็จะตกหลน่ บนพ้นื ดินโดยตรงเปน็ ป๋ยุ แก่พืช

18 เรอื่ งท่ี 2 การทาป๋ยุ ชวี ภาพจากพชื การทาปุ๋ยชีวภาพจากพืช เป็นการหมักปุ๋ยแบบแห้งซ่ึงใช้เวลาหมักไม่นานมาก ก่อนลงมือปฏิบัติ ตอ้ งเรยี นรู้วา่ ใช้สว่ นผสมอะไร ทาอย่างไร และจะนาไปใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร 1. วัสดุท่ีใช้ทาปุ๋ยชีวภาพจากพืช 1.เศษผลไมห้ รอื เศษผัก 2 สว่ น 2.แกลบ 2 สว่ น 3.ราขา้ ว (ละเอยี ด) 1 ส่วน 4.มูลสตั ว์ 1 ส่วน 5.น้า 10 ลิตร 6.เปลอื กไข่ กากทีเ่ หลือจากการหมกั น้าหมักชีวภาพ (ถา้ มี) 7.หัวเช้อื จุลินทรีย์ และกากน้าตาล อย่างละ 2 ช้อนโตะ๊ 2. ข้ันตอนการทาปยุ๋ ชีวภาพจากพืช 1.นาสว่ นผสมต่าง ๆ ได้แก่ มาคลกุ เคลา้ ใหเ้ ขา้ กัน 2.ผสมกากน้าตาลและหวั เชื้อจลุ นิ ทรีย์ ลงในนา้ แลว้ คนใหเ้ ขา้ กนั 3.นาน้าท่ีผสมเข้ากันดีแล้วในข้อ 2 มารดบนกองปุ๋ยให้ทั่วและคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยมีความช้ืน ประมาณ 60 เปอร์เซน็ ต์ ซง่ึ วธิ ที ดสอบง่าย ๆ คอื ถ้ากาปยุ๋ ไว้ในมือแล้ว ไม่มีน้าไหลออกมาตามง่ามน้ิว หลังจาก แบมอื ออกปุย๋ กย็ งั เปน็ ก้อนอยู่ จึงถอื วา่ ใชไ้ ด้ 4. หากมีพื้นท่ีโล่ง ให้กองส่วนผสมท้ิงไว้โดยมีความสูงประมาณ 10 เซนติเมตร หรือหากไม่มีพ้ืนท่ี ใหต้ กั ส่วนผสมใส่กระสอบ แลว้ ปลอ่ ยให้สว่ นผสมหมักนาน 15 วัน จงึ นามาใชไ้ ด้ อ้างอิง : โครงการสวนผักคนเมือง : ปลกู ผกั ปลูกเมือง ปลูกชีวติ มูลนธิ ิเกษตรกรรมยัง่ ยืน(ประเทศไทย)

19 3. ส่ิงสาคญั ของการทาปุ๋ยชีวภาพจากพืช ควรเก็บกองปุ๋ยไว้ในท่ีร่ม ไม่ตากฝนและแดด ปุ๋ยหมักที่จะนาไปใช้ควรจะถูกย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ และไม่มีความร้อนเหลืออยู่ เพราะหากปุ๋ยที่ย่อยสลายไม่สมบูรณ์ จุลินทรีย์อาจดูดอาหารในดินไปใช้ ซงึ่ เป็นการแยง่ อาหารจากพชื ไปได้ แทนทจี่ ะชว่ ยให้พืชเตบิ โตกลับทาใหพ้ ืชชะงกั การเจรญิ เติบโตได้ ๔. ประโยชนข์ องปุ๋ยชีวภาพจากพชื การนาปุ๋ยชีวภาพจากพืชไปใช้ นอกจากจะนาไปผสมดินก่อนปลูกแล้ว ควรใส่ปุ๋ยชีวภาพจากพืชควบคู่ กับนา้ หมักชีวภาพเพ่ือบารุงพืช ผกั ดว้ ยโดยโรยปุย๋ ชีวภาพจากพืชไปบริเวณหน้าดิน จากน้ันจึงรดน้าตามไปด้วย และควรทาทกุ 15 วัน ปุย๋ ชวี ภาพจากพืช ปุ๋ยชีวภาพจากพืช อา้ งอิง https://www.facebook.com/media/set/?vanity=KasetNANA&set=a.1204780856288742

20 เรอื่ งที่ 3 การทาปยุ๋ ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ การทาปยุ๋ ชีวภาพจากเศษอาหาร ควรใช้แต่เศษอาหารท่ีเป็นพืชเพราะเวลาเน่าจะมีกล่ินเหม็นไม่รุนแรง สามารถนาไปคลุกกับปุ๋ยคอกในรางทาปุ๋ยชีวภาพได้ ถ้ามีเนื้อสัตว์ปนมาด้วยจะทาให้มีกล่ินเหม็นรุนแรง การหมักปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหารและขยะเพื่อใช้ครัวเรือนท่ีมีข้อจากัดที่เศษอาหารมีปริมาณน้อย จาเป็นต้องทารางหมัก หรือหลุมหมัก แต่การหมักในถังก็มีข้อจากัด คือเต็มเร็ว ก่อนลงมือทาปุ๋ยชีวภาพ จากเศษอาหารและขยะ ควรรู้วา่ สว่ นผสมมีอะไรบ้าง ทาอย่างไร ตอ้ งคานงึ ถงึ อะไร และมปี ระโยชน์อย่างไร 1. วสั ดุท่ใี ชท้ าปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหารและขยะ 1. เศษผกั ผลไม้ 3 กิโลกรัม 2. ถงั พลาสติกพร้อมฝาปดิ ขนาดบรรจุ 10 ลติ รขนึ้ ไป 3. น้าตาลทรายแดง หรือกากนา้ ตาล 1 กิโลกรมั 4. หวั เชือ้ จลุ นิ ทรีย์ 5. นา้ สะอาด 10 ลติ ร ควรพักคลอรีนไวส้ กั 1-2 คนื 2. ขั้นตอนการทาป๋ยุ ชีวภาพจากเศษอาหารและขยะ 1. นาเศษผัก ผลไม้ ทมี่ ีในครัวเรือนทัง้ เปลือก ใบ ผล และเมล็ด ผสมกบั นา้ ตาลทรายแดงหรอื กากน้าตาล คลุกเคลา้ ใหเ้ ข้ากันหากใชก้ ากน้าตาลซ่งึ ค่อนข้างขน้ ควรกวนใหเ้ ขา้ กนั 2.บรรจุเศษผักผลไม้ใสถ่ ุงตาข่ายหรอื ถงุ ปุย๋ วางลงในถังพลาสติกแล้วปดิ ฝาให้เรยี บรอ้ ย 3.ปล่อยให้เศษผัก ผลไม้หมักนานประมาณ 10 วัน จะได้น้าจุลินทรีย์ซึมออกมา จึงเติมน้าลงไป 5 เท่าของปริมาตรน้าจุลินทรีย์ท่ีได้ กดถุงเศษผัก ผลไม้ให้จมน้า หากถุงเศษผัก ผลไม้ลอยขึ้นมาจะทาให้ การหมกั ไมส่ มบูรณ์ และเกดิ กลนิ่ เหมน็ ได้ 4.เติมขยะสดเพิ่มลงไปได้ทุกวัน น้าที่นาไปใช้ได้จะมีลักษณะเป็นสีน้าตาลเข้ม กล่ินหอมอมเปร้ียว อมหวาน ส่วนกากสามารถนาไปตากใหแ้ ห้ง แล้วใช้โรยเปน็ ปุ๋ยให้แกต่ น้ ไม้ได้ ปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหารและขยะ อ้างองิ : https://www.baanlaesuan.com/44024/garden-farm/fertilizer

21 3. คาแนะนาในการใช้ปุย๋ ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ 1.หากผสมสมุนไพร เช่น สะเดา ตะไคร้หอม ยาสูบ ดีปลี หรือพริกข้ีหนู โดยใส่ผงสมุนไพร 2-5 ช้อนโต๊ะลงไปในส่วนผสมของข้ันตอนการหมักปุ๋ยน้า หรือปุ๋ยชีวภาพ แต่แรก จะสามารถใช้เป็นสารไล่ แมลงไดด้ ้วย 2.สามารถใชป้ ยุ๋ น้าหรือปยุ๋ ชวี ภาพ เพอ่ื บาบัดน้าเสียและกาจัดคราบไขมันอุดตันในท่อได้ โดยผสมน้าใน อตั ราส่วน 1:10 (ปุย๋ นา้ ๑ สว่ นน้า ๑๐ สว่ น) เทลงไปในท่อน้าทิ้งบ่อบาบัดไขมันบ่อน้าเสีย ทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้วจึง ราดน้าตามอีกคร้งั หน่ึง 3.ไม่ควรเก็บปุ๋ยน้าไว้ในท่ีท่ีแดดส่องถึง ควรเก็บไว้ท่ีอุณหภูมิห้องประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ซึง่ จะเก็บไดน้ าน 6 เดอื น 4.ปุ๋ยน้ามีธาตุอาหารค่อนข้างน้อย แต่มีส่วนสาคัญเป็นอย่างยงิ่ ต่อการปรับปรุงโครงสร้างและคุณภาพดิน ดงั นัน้ จึงอาจใช้ร่วมกบั ปุย๋ เคมีในปรมิ าณเล็กน้อย เพือ่ เพมิ่ ประสิทธภิ าพในการบารุงต้นไม้ 4. ประโยชนข์ องปยุ๋ ชีวภาพจากเศษอาหารและขยะ 1.กากของปุ๋ยชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะสามารถนาไปใช้เหมือนกับโบกาฉิ การหมักเศษอาหารด้วย โบกาฉิทส่ี มบูรณ์ และเป็นป๋ยุ ท่ีสมบรู ณ์ทจ่ี ะนาไปใชก้ ับพืชนน้ั ตอ้ งไมม่ ีกลนิ่ เน่าเหม็น 2.การหมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ คือการหมักแบบสังเคราะห์ไม่ได้หมักแบบเน่าเป่ือย กล่ินเน่าเหม็นเป็นเร่ืองเล็ก ๆ ท่ีอีเอ็มสามารถดับกลิ่นท่ีไม่พึงประสงค์ได้ ปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าโบกาฉิ ท่ีสามารถนาไปใช้กับต้นพืชทุกชนิด ให้ผลรวดเร็วทันใน เพราะเศษอาหาร ย่อยสลายไดร้ วดเร็วกวา่ พชื สามารถดดู ซับไปใช้ประโยชนไ์ ดเ้ รว็ จึงใหผ้ ลได้รวดเรว็ ทนั ใจ 3.การทาปุ๋ยหมักเศษอาหาร สามารถผลิตได้ทุกครัวเรือน ท่ีมีวัตถุดิบป้อนไม่ขาดจึงถือว่าเป็น โรงงานผลิตปุ๋ยขนาดย่อมของตนเอง รัฐได้ประโยชน์จากทุกครอบครัวอย่างมหาศาล เม่ือทุกครอบครัว เลิกทิ้งขยะของเสียจากเศษอาหาร ถ้าองค์กรของรัฐไม่ลงมาช่วยกันรณรงค์มีการประชาสัมพันธ์ ประกวด ผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร ประกวดพืชพรรณท่ีปลูกด้วยปุ๋ยหมักจากเศษอาหารและแจกรางวัล ทาให้เกิดแรงจงู ใจ ปญั หาสงิ่ แวดล้อมต่าง ๆ ก็จะคลี่คลายไปในทางท่ดี อี ยา่ งแนน่ อน 4. ใช้ผ้าห่อกากอาหารท่ีผ่านการหมักโบกาฉิ นาไปวางไว้ท่ีปัสสาวะจะสามารถขจัดกล่ินลงได้อย่างมี ประสิทธิภาพนานกว่า 2 เดือน เป็นการบาบัดส่ิงแวดล้อมทางชีวะวิธีท่ีประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการใช้สารเคมี ดับกลิ่นมาก

22 กจิ กรรมท้ายบทที่ 2 คาชแ้ี จง ให้นักศกึ ษาตอบคาถามกิจกรรมทา้ ยบทให้ถกู ต้อง ใหน้ ักศึกษาเลือกวิธีการทาและฝึกปฏิบัติการทาปุ๋ยชีวภาพที่สนใจมา 1 วิธี พร้อมทั้งบอกขั้นตอนการทา มาพอสงั เขป ……..................................................................................................................……………………… …......................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ……..................................................................................................................……………………… …......................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ……..................................................................................................................…………………………......................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ……..................................................................................................................……………………… …......................... .......................................................................................... .................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ……..................................................................................................................……………………… ….........................

23 บทที่ 3 การทาป๋ยุ ชวี ภาพสูตรบารุงใบ สาระสาคัญ ปุ๋ยชีวภาพสตู รบารุงใบ เป็นการนาเอาพืชผักมาหมักกับกากน้าตาล ก่อให้เกิดจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ จานวนมาก จลุ นิ ทรีย์เหล่าน้ีจะทาหน้าท่ยี ่อยสลายธาตุอาหารต่างๆ เพ่ือช่วยให้พืชสามารถนาไปใช้ประโยชน์ ในการเจริญเติบโตได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง 1.อธิบายวัสดุและขน้ั ตอนการทาปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารงุ ใบได้ 2.อธิบายวิธกี ารนาปุย๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ใบไปใช้ได้ 3.บอกประโยชน์ของการใชป้ ุ๋ยชวี ภาพสูตรบารุงใบได้ 4.ทาปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบารุงใบได้อย่างถูกต้อง ขอบข่ายเนือ้ หา เรอ่ื งที่ 1 วัสดุและขั้นตอนการทาปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบารงุ ใบ เรอ่ื งท่ี 2 วธิ กี ารนาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารงุ ใบไปใช้ เรอ่ื งที่ 3 ประโยชนข์ องการใช้ปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบารุงใบ

24 เร่อื งท่ี 1 วสั ดแุ ละขน้ั ตอนการทาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ใบ ปุ๋ยชีวภาพที่ผ่านกระบวนการหมัก ช่วยปรับปรุงดิน ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินให้เป็นอาหารแก่พืช หากจะทาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารุงใบ ควรรกู้ ่อนวา่ ตอ้ งเตรียมวัสดอุ ะไรบ้าง มีขั้นตอนการทาอย่างไร และนาไปใช้ อยา่ งไร 1. วสั ดุ อุปกรณ์ทใ่ี ชท้ าปุ๋ยชีวภาพสตู รบารุงใบ 1.หนอ่ กล้วยทกุ ชนิด 3 กโิ ลกรัม 2.กากนา้ ตาล หรือนา้ อ้อย หรอื นา้ ตาลแดง 1 กโิ ลกรมั 3.น้าสะอาด 20 ลติ ร 4.เขียง (ใช้รองหั่นพืช) 1 อนั 5.มดี (ใช้หน่ั พืช) 1 เล่ม 6.ถังพลาสติกมฝี าปดิ (ขนาด 200 ลิตร) 1 ใบ 7.กะละมงั ขนาดใหญ่ (ใช้คลุกเคลา้ ส่วนผสม) 1 ใบ 2. ข้นั ตอนการทาปุย๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ใบ 1.ห่นั หนอ่ กล้วยเปน็ ทอ่ น ยาวประมาณ 1-2 นิว้ ใส่ถังพลาสติก อา้ งองิ https://th-th.facebook.com/permalink.php?story_fbid=42318859

25 2.ใสก่ ากน้าตาลลงในถงั พลาสติก หรือกะละมังแลว้ คลุกเคล้าให้ท่วั (ถ้ากากน้าตาลเหนยี วใหใ้ สน่ า้ เล็กน้อย) อ้างอิง https://th-th.facebook.com/permalink.php?story_fbid=42318859 3. นาสว่ นผสมทไี่ ดจ้ ากขอ้ ๒ ไปไว้ในท่รี ่ม เปน็ เวลานาน 2 ชั่วโมง 4. เม่ือครบ 2 ชั่วโมงแล้ว นาส่วนผสมมาใส่ถังพลาสติก แล้วปิดฝาให้สนิท นาถังหมักไปวางไว้ในท่ีร่ม หา้ มตากแดด ทงิ้ ไวป้ ระมาณ 7-15 วัน เปิดฝาถังหมักและตรวจสอบกลิ่น ถ้ามีกล่ินหอมอมเปร้ียว และมีกลิ่น แอลกอฮอล์ แสดงวา่ การหมักถูกต้อง อา้ งองิ https://th-th.facebook.com/permalink.php?story_fbid=42318859

26 เร่ืองท่ี 2 วิธีการนาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบไปใช้ 1. การนาปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบารุงใบไปใช้ 1.1 การใช้กบั พืช 1) การใช้ในนาข้าว สัดส่วนน้าหมักชีวภาพ 20 ช้อนโต๊ะต่อน้า 80 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลง แล้วไถพรวนทิง้ ไว้ 15 วนั 2) การใช้กับพืชไร่ พืชผัก หลังจากเตรียมแปลงเสร็จแล้ว ใช้ฟางคลุมและรดด้วยปุ๋ยชีวภาพจาก หนอ่ กลว้ ยในอัตราส่วน 3 ช้อนโตะ๊ ตอ่ น้า 10 ลติ ร ใชร้ ดแปลงพืชใหช้ ุ่ม ทง้ิ ไว้ 7 วนั จงึ ปลกู พชื 3) การใช้กับไม้ผล ไม้ยืนต้นท่ีปลูกแล้ว โดยราด รดด้วยปุ๋ยชีวภาพจากหน่อกล้วยในอัตราปุ๋ย ชีวภาพจากหนอ่ กล้วย 3 ช้อนโต๊ะตอ่ นา้ 20 ลติ ร เดอื นละ 2 คร้ัง 1.2 การใช้ในการเลี้ยงสัตว์ และการประมง 1) ปุ๋ยชีวภาพจากหน่อกล้วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหารท่ีสัตว์กิน โดยใช้อัตราส่วน 1 ส่วน ตอ่ นา้ 1,000 สว่ น 2) ปยุ๋ ชีวภาพจากหนอ่ กล้วยช่วยเพมิ่ ความต้านทานโรคให้แก่สัตว์ 3) ปุ๋ยชีวภาพจากหน่อกล้วยช่วยลดกลนิ่ เหม็นในคอกสัตว์ ผสมน้าในอัตรา 1: 1000 ให้สัตว์กินทุก วันจะช่วยลดกลิ่นเหมน็ ได้ 4) ปยุ๋ ชวี ภาพจากหนอ่ กลว้ ยช่วยลดปัญหาเรอ่ื งแมลงวนั และยุง 5) ป๋ยุ ชีวภาพจากหนอ่ กลว้ ย ในการเลย้ี งสัตว์น้า อตั รา1 : 1 ลติ ร ต่อนา้ ในบอ่ 1-10 ลูกบาศก์เมตร 1.3 การใช้กบั สงิ่ แวดลอ้ ม ใช้บาบัดกล่ินเหม็นและบาบัดน้าเสีย ถ้ามีกลิ่นเหม็นน้อยหรือน้าเสียน้อย อัตราการใช้ 10 ช้อนโต๊ะต่อน้า 1 ป๊ิบ (20 ลิตร) ถ้ามีกล่ินเหม็นมากหรือน้าเสียมาก อัตราการใช้ 20 ช้อนโต๊ะต่อน้า 1 ปิบ๊ (20 ลติ ร) (เกษตรอนิ ทรีย์สุรินทร์. 2545 : 11-16 ; www.kasetonline.net 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 : ออนไลน)์

27 เรื่องที่ 3 ประโยชน์ของการใช้ป๋ยุ ชีวภาพสตู รบารงุ ใบ การใชเ้ ป็นปยุ๋ โดยตรง ปุย๋ นา้ ชวี ภาพจะประกอบด้วยสารต่าง ๆ และจุลินทรีย์อยู่เป็นจานวนมาก ดังน้ัน ก่อนนาไปใช้ประโยชน์จึงต้องทาให้เจือจางมาก ๆ คือ อัตราส่วน ปุ๋ยน้าชีวภาพต่อน้าสะอาด คือ 1 : 100-500 การใช้เป็นปุ๋ยน้าจะต้องมีความระมัดระวังมาก ถ้าเข้มข้นมากไป พืชจะชะงัก การเจริญเติบโต ใบจะมีสีเหลือง ถ้าใช้ในอัตราที่พอเหมาะพืชจะแสดงสภาพเขียวสดใบเป็นมัน ต้นพืชที่ชะงัก การเจรญิ เติบโต ตาที่พักอยู่จะขยายตัวแตกตาเป็นใบภายในเวลาหน่ึงสัปดาห์ ดังนั้นจึงควรใช้ในอัตราเจือจาง มากเป็นเกณฑ์ ซึ่งสามารถใสใ่ ห้แก่ต้นพชื 3-7 วัน ต่อครงั้ และเมอื่ พชื เจรญิ งอกงามดแี ลว้ ในเวลาต่อมาจะให้ เดอื นละสองครั้ง กไ็ ด้ การใช้เป็นหัวเช้ือปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อใช้ป้องกันกาจัดแมลง โดยการผสมปุ๋ยน้าสกัดชีวภาพ ในอัตราเจือจาง ฉีดพน่ โดยเฉพาะเพลยี้ แป้ง ฉดี พ่น 3-4 ครั้ง แล้วปล่อยทงิ้ ไวอ้ กี 7 วนั พ่นอีก 2-3 ครงั้ เพลี้ยแปง้ จะตาย 1.ใช้เปน็ ธาตุอาหารและฮอร์โมนพืชโดยตรง 1.1 ให้ทางใบ ใช้ปุ๋ยน้าชีวภาพในอัตราส่วน ต่อน้าสะอาด คือ 1 : 100-500 ขึ้นอยู่กับประเภทของ พืช ฉีดพ่นให้แก่ต้นพืช 3-7 วันต่อครั้ง และเม่ือพืชเจริญงอกงามดีแล้วในเวลาต่อมาจะให้ เดือนละสองคร้ังก็ ได้ 1.2 ให้ทางดนิ ใช้ปุ๋ยน้าชีวภาพในอัตราสว่ น 1-5 ลติ รผสมนา้ 100 ลติ ร ฉีดพน่ ราดบรเิ วณโคนต้นพืช หรอื ใหไ้ ปกับระบบการใหน้ ้าพืช เปน็ การเพ่มิ จุลนิ ทรีย์ อินทรียวัตถุ และธาตอุ าหารพืชลงไปในดิน 2.ใช้ปรับปรุงบารุงดิน ในปุ๋ยน้าชีวภาพมีจุลินทรีย์ท่ีเป็นประโยชน์มีธาตุอาหาร ฮอร์โมนที่พืชต้องการ และอินทรยี วตั ถุ 3.ใ ช้ ปุ๋ ย น้ า ชี ว ภ า พ แ ท น น้ า ก ร ด ฟ อ ร์ มิ ก ห รื อ ก ร ด ก า ม ะ ถั น ใ น ก า ร ผ ลิ ต ย า ง แ ผ่ น ห รื อ เศษยาง อัตราการใช้ข้นึ อยกู่ บั เปอร์เซน็ ตข์ องเน้ือยาง (นา้ ยางสด 300 ซ.ี ซี. + นา้ สกดั ชวี ภาพ 25-30 ซ.ี ซ.ี ) 4.ใช้ป้องกันกาจัดแมลง โดยเฉพาะเพลี้ยแป้ง ฉีดพ่น 3-4 คร้ัง แล้วปล่อยทิ้งไว้อีก 7 วัน พ่นอีก 2-3 ครั้ง เพล้ียแปง้ จะตาย 5.ใช้กาจัดวัชพืช โดยใช้น้าสะอาด 20 ลิตรผสมกับปุ๋ยน้าชีวภาพ 300-500 ซี.ซี. ผสมสารกาจัดวัชพืช ล ด ล ง ค ร่ึ ง ห นึ่ ง ข อ ง ค า แ น ะ น า ท่ี ร ะ บุ ต า ม ฉ ล า ก ( เ ป็ น ก า ร ล ด ต้ น ทุ น ก า ร ผ ลิ ต ) ผ ส ม ส า ร จบั ติดใบ 6.ใชเ้ ลย้ี งสตั ว์ (เป็ด ไก่ สกุ ร กงุ้ ฯลฯ) สตั ว์จะแขง็ แรงไม่เปน็ โรค

28 7.ใชน้ ้าปุ๋ยน้าชวี ภาพ 250 ซี.ซี. ผสมน้าสะอาด 20 ลิตร ให้สัตว์กิน หรือนาไปฉีดพ่นลงในอาหารให้สัตว์ กิน 8.ใช้ผสมน้าอาบให้สัตว์เลี้ยง ใช้ปุ๋ยน้าชีวภาพ 250 ซี.ซี. ผสมน้า 10 ลิตร ช่วยลดกลิ่นสาบอัน เนอ่ื งมาจากไขมนั ใต้ขุมขน 9.ใช้บาบัดน้าเสียให้มีคุณภาพดีข้ึน เช่น สระน้า หนอง คลอง และบ่อน้า เป็นต้น โดยใช้ปุ๋ยน้า ชวี ภาพ ในอัตรา 1 : 100 1 : 250 1 : 500 10. ใช้ยอ่ ยส่ิงปฏิกลู ตา่ ง ๆ หรอื เศษวัสดตุ ่าง ๆ ในการทาป๋ยุ หมกั 11. ใชด้ ับกลนิ่ ห้องน้า ราดโถปัสสาวะขจดั คราบ ดบั กลน่ิ 12. ใชร้ าดโถสว้ มดบั กลน่ิ ทาใหส้ ว้ มไม่เตม็ เรว็ ประหยัดค่าดดู ส้วม 13. ใช้ราดอา่ งล้างหนา้ /ล้างจาน ช่วยดับกลิ่น ไล่แมลงวนั แมลงสาบ ใช้ราดท่อน้า ร่องน้าช่วยลดการอุด ตันของทอ่ ระบายน้า

29 กิจกรรมท้ายบทที่ 3 คาชแี้ จง ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามกจิ กรรมท้ายบทใหถ้ กู ต้อง ให้นักศึกษาทาตารางการปฏิบัติ หรือบอกขั้นตอนการทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงใบ พร้อมท้ังบันทึก รายละเอยี ดจากการฝึกปฏบิ ัตทิ กุ ขั้นตอน …………………………………………………………………………............................................................................................ .........................………………………………………………………………………………….……………………………………………..… ……..................................................................................................................……………………… …......................... .......................................................................................... .................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ …………………………………………………………………………............................................................................................ .........................………………………………………………………………………………….……………………………………………..… ……..................................................................................................................…………………………......................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ …………………………………………………………………………............................................................................................ .........................………………………………………………………………………………….……………………………………………..… ……..................................................................................................................……………………… …......................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. …………………………………………………………………………............................................................................................ .........................………………………………………………………………………………….……………………………………………..… ……..................................................................................................................……………………… …......................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ …………………………………………………………………………............................................................................................

30 บทที่ 4 การทาปุย๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ต้น สาระสาคัญ ปุ๋ยหมกั ชีวภาพใช้เวลาสลายสารอาหารพืชเร็วกว่า ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก เม่ือใส่ลงดินท่ีมี ความชื้นพอเหมาะ เช้ือจุลินทรีย์ที่ได้ปุ๋ยหมักชีวภาพจะทาหน้าที่ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน ให้เป็น ประโยชน์ต่อต้นไม้ จึงไม่จาเป็นต้องให้ในปริมาณมากๆ และในดินควรมีอินทรียวัตถุพวกปุ๋ยหมัก ปุ๋ย คอก หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง ฟาง และมีความชื้นเพียงพอ ต้นพืชจึงจะได้ประโยชน์เต็มท่ี จากการใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ แต่ถ้าใส่คร้ังละมาก เกินไปอาจทาใหต้ ้นไม้ตายได้ สว่ นจะใหป้ รมิ าณครง้ั ละเท่าไร บอ่ ยครั้งเท่าไร เพ่ือใหไ้ ด้ประโยชน์สูงสุด ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั 1.อธิบายวัสดแุ ละขน้ั ตอนการทาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารงุ ต้นได้ 2.อธิบายวธิ กี ารนาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารุงต้นไปใชไ้ ด้ 3.บอกประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยชวี ภาพสตู รบารงุ ตน้ ได้ 4.ทาป๋ยุ ชีวภาพสูตรบารงุ ตน้ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ขอบข่ายเน้อื หา เรอ่ื งที่ 1 วสั ดแุ ละขน้ั ตอนการทาป๋ยุ ชีวภาพสูตรบารุงตน้ เรอื่ งที่ 2 วิธกี ารนาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารงุ ต้นไปใช้ เร่ืองท่ี 3 ประโยชนข์ องการใชป้ ยุ๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ต้น

31 เร่อื งที่ 1 วสั ดแุ ละข้ันตอนการทาปุย๋ ชีวภาพสตู รบารุงตน้ ปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงต้นในท่ีนี้ ได้มาจากการเพาะเล้ียงจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต ขนาดเล็กท่ีอาศัยอยู่ตามแหล่งน้าธรรมชาติและในดิน ทาหน้าที่ย่อยสลายสารประกอบอินทรีย์ให้มีขนาดเล็ก จนกลายเป็นธาตุอาหารท่ีมีประโยชน์ รวมทั้งปรับสมดุลและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในดินให้เหมาะสมต่อ การเจรญิ เตบิ โตของพืช การทาปุ๋ยชีวภาพสูตรบารงุ ต้นสามารถทาไดไ้ ม่ยากนัก โดยมีวัสดุ ข้ันตอนการทา และ วธิ ีการนาปุ๋ยชวี ภาพสูตรบารงุ ต้นไปใช้ ดังน้ี 1. วัสดทุ ใ่ี ชท้ าป๋ยุ ชีวภาพสูตรบารุงตน้ 1. ไข่ไก่ 1 ฟอง 2. น้าปลา 4 ช้อนโต๊ะ 3. ผงชรู ส 1 ช้อนโต๊ะ 4. นา้ เปล่า 1.5 ลติ ร 5. ขวดบรรจนุ ้าขนาด 600 มลิ ลลิ ิตร 3 ขวด 6. กะปิ 1 ช้อนโตะ๊ 2. ขน้ั ตอนการทาปุ๋ยชีวภาพสตู รบารุงต้น 1. ตอกไข่ไก่ลงในภาชนะ 1 ฟอง ตีให้ไขข่ าวกบั ไขแ่ ดงเขา้ กันดี อ้างองิ http://postnoname.com/microorganism-light-success/

32 2. ใส่ผงชูรสครึ่งช้อนโต๊ะ น้าปลา 4 ช้อนโต๊ะ กะปิคร่ึงช้อนโต๊ะ (กะปิเป็นตัวช่วยเร่งให้จุลินทรีย์ สังเคราะหแ์ สงเปล่ียนเป็นสแี ดงไดง้ ่ายขึ้น) อา้ งอิง http://postnoname.com/microorganism-light-success/ 3. คนสว่ นผสมทง้ั หมดใหเ้ ข้ากนั แลว้ ตกั สว่ นผสมใสข่ วดนา้ (อัตราส่วน 3 ช้อนโต๊ะ ตอ่ น้า 1.5 ลติ ร) อา้ งอิง http://postnoname.com/microorganism-light-success/ 4. ใสน่ ้าเปลา่ ลงไปในขวดจนเตม็ และเขย่าใหเ้ ขา้ กัน แลว้ นาไปตากแดดท้ิงไวป้ ระมาณ 5-7 วัน อา้ งอิง http://postnoname.com/microorganism-light-success/

33 5. หลังจากนนั้ ส่วนผสมในขวดจะเรม่ิ เปล่ยี นไปเป็นสีแดง แสดงว่านา้ ในขวดเต็มไปด้วยหัวเชือ้ จลุ ินทรยี ์ สังเคราะหแ์ สง ซ่ึงพร้อมจะนาไปใช้งานได้ อา้ งองิ http://postnoname.com/microorganism-light-success/ สงิ่ สาคญั ในการทาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารุงต้น จากการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เพ่ือให้มีสีแดงนั้น จะขนึ้ อยกู่ ับนา้ ทีใ่ ช้เป็นส่วนผสม ถ้าใช้น้าประปา ปุ๋ยที่ได้จะมีสีเขียว สีขาว หรือสีแดงไม่เต็มที่ หากใช้น้าจาก บึง สระ โดยเฉพาะน้าจากบ่อเลี้ยงปลา จะได้ปุ๋ยที่มีสีแดงเข้มภายใน 5-7 วัน เนื่องจากแหล่งน้าจากบ่อ เลี้ยงปลามีจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงอาศัยอยู่จานวนมาก ท้ังยังได้รับอาหารจากมูลปลา และอินทรียวัตถุต่าง ๆ ในบ่อ ทาให้จลุ ินทรียส์ ังเคราะหแ์ สงแข็งแรง และเจรญิ เตบิ โตดี จงึ เปล่ียนเปน็ สีแดงได้ง่ายกวา่ นา้ จากแหลง่ อน่ื อ้างองิ http://postnoname.com/microorganism-light-success/

34 เรื่องท่ี 2 วิธกี ารนาปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารุงต้นไปใช้ 1. การใชจ้ ลุ ินทรยี ์สังเคราะห์แสงทางการเกษตร ผสมปุ๋ยชีวภาพสูตรบารุงต้น 200 ซีซี ต่อน้า 20 ลิตร ต่อพ้ืนที่ 1 ไร่หรือใช้เพียง 30 ซีซี ต่อน้า 20 ลิตร ฉีดพ่นบนใบของพืช ภายใน 5 วัน อีกทั้งยังสามารถผสมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงในการทาปุ๋ยได้ โดยผสมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ลิตร ต่อปุ๋ยหมัก 1,000 กิโลกรัม ซ่ึงจะทาให้ปุ๋ยดีข้ึน โดยเพ่ิมไนโตรเจน ไปชว่ ยยอ่ ยสลายอนิ ทรียส์ ารและละลายปุ๋ยเคมที สี่ ะสมอย่ใู นดิน ป้องกันไม่ให้ดินเป็นกรด จะเห็นความแตกต่าง ของการเจริญเติบโตของพืช อ้างอิง http://postnoname.com/microorganism-light-success/ 2. การใช้จลุ ินทรยี ์สังเคราะห์แสงกบั ปศสุ ัตว์และสตั วน์ า้ 1.อัตราการใชจ้ ุลินทรยี ์สังเคราะห์แสงกบั ปศสุ ตั ว์ 1) ใช้ทาความสะอาดคอกปศุสัตว์ อัตราส่วนจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ลิตร ต่อน้า 1,000 ลิตร และฉดี พ่นในคอกทกุ ๆ เดือน 2) ใช้ผสมน้าให้สัตว์กิน ในอัตราส่วนจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ลิตร ผสมลงในแท็งก์น้า (ขนาด 1,000 ลิตร) ให้สัตว์กินทุก 2 วัน และผสมอาหารในอัตราส่วนจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ลิตร ตอ่ อาหาร 5 กโิ ลกรมั 2.การใช้จลุ ินทรยี ส์ งั เคราะหแ์ สงกบั สตั วน์ ้า 1) อัตราส่วนจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 10 ลิตร ต่อบ่อน้าขนาด 1 ไร่ หรือใช้จุลินทรีย์ สังเคราะห์แสง 1 ลติ ร ต่อน้า 500 ลติ ร ลาดหรือฉดี พน่ หลงั การจบั สัตว์น้าและพกั บอ่ เลย้ี งสตั วน์ า้ ๒) ผสมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงลงในน้าท่ีใช้เพาะเลี้ยงอนุบาลสัตว์น้า และบ่อสัตว์น้าขนาด ใหญ่ ด้วยอัตราส่วนจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ลิตร ต่อน้า 1,000 ลิตร ติดต่อกัน 5 วัน รอบต่อไปให้ใส่ทุก 7 วันตอ่ ครงั้

35 เร่อื งที่ 3 ประโยชน์ของการใช้ปยุ๋ ชีวภาพสูตรบารงุ ตน้ 1. ประโยชนต์ ่อการเกษตร 1.ลดตน้ ทนุ การใช้ป๋ยุ เคมี หรอื ป๋ยุ หลกั รอ้ ยละ 50 ในกรณีใช้ต่อเนื่อง 2.ลดแก๊สไขเ่ น่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด)์ ในดนิ ช่วยให้รากพชื ขยายไดด้ ีและดดู ซึมปยุ๋ ไดด้ ีข้ึน 3.เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะการใช้เพ่ิมผลผลิตข้าวได้มากถึงร้อยละ 30 ต่อไร่ เพราะดินใน บริเวณรากข้าวจะเกิดแก๊สไข่เน่า ซ่ึงไปยับยั้งการดูดซึมของรากข้าว แต่จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจะไปเปลี่ยน แกส๊ ไขเ่ น่าใหอ้ ยู่ในรปู สารประกอบซลั เฟอรซ์ ึ่งไม่เปน็ พิษต่อราก ทาใหร้ ากข้าวเจริญงอกงามและสามารถดูดซึม อาหารให้ตน้ ข้าวแขง็ แรง และขจัดสารพษิ ในนาอกี ดว้ ย 4.ทาใหร้ ากของพชื แข็งแรง สามารถหาอาหารได้เก่ง และดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น เน่ืองจากจุลินทรีย์ สงั เคราะหแ์ สงมโี ปรตนี สงู และวติ ามนิ แรธ่ าตุมากมาย จงึ ชว่ ยเพ่มิ คณุ ภาพผลผลติ ไดอ้ กี ดว้ ย 5.พืชมีความแข็งแรงต้านทานโรคและแมลงต่าง ๆ ได้ดี และช่วยเพิ่มแร่ธาตุในดิน เช่น ไมคอริซ่า อาโซโตแบคเตอร์ เปน็ ต้น 2. ประโยชน์ต่อสัตวน์ า้ และปศุสตั ว์ 1.เม่ือนาจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปผสมเป็นสารอาหารเสริมในสัตว์ ช่วยให้ แข็งแรง ปลอดโรค โตเร็ว มีคุณภาพ เพ่ิมผลผลิตเพราะเซลล์ของจุลินทรีย์นี้ประกอบด้วยโปรตีนสูงถึงร้อยละ 60-65 มีกรดอะมิโน ที่จาเป็นครบถ้วนและยังมีวิตามินแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี 1 กรดโฟลิค (B9) วิตามินดี วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 วิตามินอี วิตามินบี 3 วิตามินซี วัตถุสีแดง (CAROTENOID) และให้สารโคแฟคเตอร์ เช่น ยูนิควิโนน โคเอนไซม์ (Q10) ออกซินไซโตไคนิน ซีเอติน กรดบิวทีริกและกรดอะซิติก ทาให้สัตว์ โตเร็วข้ึน มีน้าหนักเพิ่ม โดยเพมิ่ สารอาหารแร่ธาตทุ ่จี าเป็นตอ่ สัตว์ ทาให้สแี ละรสชาตขิ องเน้ือสัตว์ดีขน้ึ 2.ช่วยลดแก๊สและของเสีย หรือสิ่งปฏิกูลในเล้าสัตว์ ทาให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น โดยช่วยกาจัดของเสีย และกล่ินเหม็นจากของเสียของสัตว์ ทาให้สัตว์มีชีวิตชีวา ไม่ต้องหายใจเอาแก๊สเสียเข้าร่างกาย และช่วยทาให้ สัตว์ไมเ่ ครยี ด โดยลดจานวนแมลงที่รบกวนสัตว์ 3.ช่วยป้องกันให้สัตว์มีความทนทานต่อแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ มากขึ้น ช่วยลดแบคทีเรีย ทอ่ี วยั วะภายในของสัตว์ 4.โปรตีนในจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ช่วยเพ่ิมให้คุณภาพของเน้ือสัตว์น้าให้ดีขึ้น โดยเพิ่มสารอาหาร เข้าไปทาให้ร่างกายสัตว์น้ามีความสมดุล อีกท้ังทาให้สัตว์น้ามีสีตามธรรมชาติ และทาให้แข็งแรง ทาให้

36 มีอาหารของสัตว์น้าเพ่ิมขึ้น โดยการเพิ่มแพลงก์ตอนในน้ามากกว่าเดิม 70 เท่า และสามารถใช้เป็นอาหาร ตัวออ่ นได้ 5.เพ่ิมอัตราการรอดตายของสัตว์น้า ช่วยป้องกันโรคท่ีเกิดมาจากแบคทีเรียจาพวกบาซิลลัส (Bacillus) และไมล์ดิว(mildew) และยังช่วยย่อยขี้สัตว์น้า ดินเลนได้ดี ทาให้น้ามีความสะอาด ลดแกส๊ เสียในน้า ทาให้อตั ราการอยู่รอดของสตั ว์น้าสูงข้นึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook