การใช้ประโยชน์ ใชท้ ำ� ความสะอาดรา่ งกายหรอื ใบหนา้ ต้นทนุ การผลิตและผลตอบแทน - ท่ีมา : ศนู ย์ปราชญ์เกษตร (สวนอุษา) จงั หวดั ชัยภูมิ 24
3.4 น้ำ� ยาปรบั ผ้านุ่ม สว่ นผสม 1 กิโลกรมั 1. หวั เชื้อน�ำ้ ยาปรับผา้ นมุ่ 1 ขดี 2. กวั กมั 1 ซอง 3. สีผสมอาหาร 50 ซ.ี ซี. 4. นำ้� หอม 16 กิโลกรมั 5. น�ำ้ สะอาด วธิ ีการทำ� 1. ละลายกวั กมั กบั นำ้� สะอาด จำ� นวน 5 กโิ ลกรมั โดยคอ่ ยๆ เทกวั กมั ลงในนำ�้ พรอ้ มกบั กวนใหเ้ ขา้ กนั 2. ต้มน้�ำสะอาด จ�ำนวน 15 กิโลกรัม ให้รอ้ น ประมาณ 60 –70 องศา พร้อมกบั เทสผี สมอาหาร ลงไป 3. เทหัวเช้ือน้�ำยาปรับผ้านุ่มลงในถังแล้วค่อยๆเติมน�้ำร้อนท่ีผสมสีแล้วลงไป พร้อมกับ กวนให้เข้ากัน 4. ค่อยๆเตมิ นำ้� ท่ลี ะลายกวั กัมลงไปพรอ้ มกบั กวนให้เขา้ กัน 5. ปล่อยทงิ้ ไว้ให้เยน็ เตมิ น�้ำหอมกวนให้เข้ากนั แล้วบรรจุใส่ภาชนะไว้ ท่ีมา : ศูนย์เครือขา่ ยปราชญช์ าวบ้านเศรษฐกิจพอเพยี งชุมชน จังหวัดนครนายก 25
3.5 การทำ� นำ้� ยาอเนกประสงค์ บทน�ำ น�้ำยาเอนกประสงค์เป็นน้�ำยาท่ีใช้เอ็นไซม์กับน�้ำหมักผลไม้รสเปร้ียวและ วัสดุทางธรรมชาติ จึงมี ประโยชน์ใชใ้ นการซักลา้ งและท�ำความสะอาดได้หลายอยา่ ง อาทเิ ช่น ใช้ล้างจาน ซกั ผา้ ลา้ งหอ้ งน้�ำ ล้างรถ ผสมเป็นจับใบในการพ่นฮอร์โมนหรือยาแก้ต้นพืชฯลฯ เป็นต้นทุนจะต่�ำมากสามารถลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย ในครวั เรอื นและยังเป็นการรกั ษาสงิ่ แวดล้อมอีกดว้ ย ประโยชน์ ใช้ล้างจาน ใช้ซักผ้า ใช้ชะล้างอื่น ๆ ราคาถูกกว่า ประหยัดเงินมากกว่าและท�ำได้เอง ในครัวเรือน น�้ำท้ิงจากการใช้งานเป็นมลพิษต่อส่ิงแวดล้อมน้อยกว่า (เพราะไม่มีส่วนผสมของโซดาไฟ สสี ังเคราะห์) วัสดุอปุ กรณ์ ส่วนผสม กรัม อปุ กรณ์ 1. N 70 (หวั แชมพ ู 1,000 กรมั 1. ถงั พลาสตกิ ขนาด 5 ลิตร 1 ถัง 2. F 24 1,000 กรมั 2. ถังพลาสติกขนาด 12 ลติ ร 1 ถัง 3. เกลือสะอาด 1,000 กรัม 3. ถังพลาสตกิ ขนาด 20 ลิตร 1 ถงั 4. ผงฟอง 200 กรมั 4. ไมพ้ ายขนาดใหญ่ 5. กรดมะนาว 200 ซี.ซี 6. หวั นำ�้ หอม 20 ลิตร 7. น�ำ้ สะอาด 12 ขั้นตอนการเตรยี ม 1. น�ำถงั ขนาด 5 ลิตร ใส่น้ำ� สะอาด 3 ลิตร ใส่เกลอื กวนจนเกลอื ละลาย 2. น�ำถังขนาด 12 ลติ ร ใส่น้�ำสะอาด 9 ลติ ร ใส่กรดมะนาว และผงฟอง กวนจนละลาย ขน้ั ตอนการทำ� 1. น�ำถังขนาด 20 ลิตร ใส่ N70 กวนไปในทิศทางเดียวกัน จนหัวแชมพูแตกตัวเป็นสีขาวขุ่น (ใชเ้ วลาประมาณ 5 นาท)ี 2. ใส่น้�ำเกลือที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 ในขั้นเตรียม จ�ำนวนคร่ึงหนึ่ง (1.5 ลิตร) ลงในถัง กวนต่อไป อีกประมาณ 5 นาที 3. ใสน่ ้�ำที่ผสมผงฟองและกรดมะนาว ตามข้อ 2 ในขน้ั เตรยี ม เทลงในถงั ชา้ ๆ จนหมด กวนต่อไป 5 นาที 26
4. ใส่ F 24 ใสล่ งในถงั กวนตอ่ ไปอกี 5 นาที จะได้น�้ำยาที่ขาวขุ่น 5. ใสน่ ำ�้ เกลอื ทเี่ หลอื ลงไปจนหมดกวนตอ่ ไป 5 นาที ใสส่ ผี สมอาหาร ใสห่ วั นำ้� หอมกลนิ่ สม้ (หรอื กลน่ิ ท่ชี อบ) กวนต่อไปอีก 5 นาที จนสลี ะลายจนหมดจะได้น�้ำยาจะมีความหนดื และขน้ 6. วางพกั ไว้ 1 คนื เพอื่ ใหฟ้ องยบุ ตวั แล้วนำ� ไปบรรจขุ วด 7. น�ำ้ ยาท่ีสำ� เรจ็ บรรจุขวด ขอ้ ควรระวัง เก็บใหห้ า่ งจากมอื เดก็ การใชป้ ระโยชน์ 1. ทำ� ความสะอาดพืน้ บา้ น ปนู ไมท้ กุ ชนดิ 2. ท�ำความสะอาดพนื้ ครัวในบ้านบริเวณบา้ น 3. ใชซ้ ักผา้ 4. ใชล้ ้างรถ หรอื ลา้ งห้องนำ้� ฯลฯ ตน้ ทนุ การผลิตและผลตอบแทน เอน็ 70 1 กโิ ลกรมั ละ 80 บาท เกลอื 20 บาท ตน้ ทนุ 100 บาท สามารถผลติ นำ้� ยาอเนกประสงคไ์ ด ้ 20 กิโลกรัม อยู่ในราคา กโิ ลกรมั ละ 5 บาท ครอบครวั เล็กสามารถใชไ้ ดถ้ งึ 3-5 เดือน ท่ีมา : ศนู ยฝ์ ึกอบรมสร้างชวี ติ ใหมต่ ามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง จังหวัดอุตรดติ ถ์ 27
4. ป๋ยุ อนิ ทรียแ์ ละสารชวี ภาพ 4.1 การกลนั่ สมุนไพรไล่แมลง วสั ดุอปุ กรณ์ 1. หมอตม้ ขนาด 200 ลติ รกระทะขนาดพอดกี บั ปากหมอ้ กระบอกไมไ้ ผ่ ฝา้ ยใสใ่ นกระบอกไมไ้ ผเ่ พอื่ ใหน้ ำ�้ สมนุ ไพรไหล เตาดนิ หรอื ใชเ้ ตาสามขากไ็ ดแ้ ลว้ แตค่ วามเหมาะสม มลู ววั มลู ควาย ดนิ เหนยี ว แกลบดบิ สมนุ ไพรท่จี ะน�ำมากล่นั ประกอบด้วยดงั น้ี 2. สะเดาแห้งหรือสด 5 กิโลกรมั 3. ข่าแก่ 5 กโิ ลกรัม 4. ตระไคร้หอม 5 กิโลกรัม 5. โลต่ ้ิน (หางไหล) 1 กิโลกรัม 6. นำ้� 50 กโิ ลกรัม วธิ ที �ำ - น�ำสมุนไพรมาสับเป็นชิ้นเลก็ ๆ ขนาด 5-10 เซนติเมตร นำ� สมนุ ไพรทง้ั 4 อยา่ งลงในหมอ้ ตม้ เติมน้�ำ 50 ลิตรติดต้ังกระบอกไม้ไผ่ให้อยู่ใต้ก้นกระทะ น�ำกระทะมาปิดปากหม้อต้มน�ำดินเหนียว มูล วัวหรือมูลควาย แกลบดิบ มาผสมเข้ากันแล้วเติมน้�ำให้ดินเป็นโคลนตม น�ำดินท่ีผสมเสร็จมาปิดบริเวณ ปากหม้อให้สนิทเติมน้�ำบนกระทะ ¾ ของกระทะ ก่อไฟเร่ิมกระบวนการกล่ันตรวจเช็คน�้ำบนกระทะ ให้มีอุณหภูมิไม่เกิน 50 องศา ถ้าร้อนเกินน้�ำสมุนไพรท่ีกล่ันจะไม่ไหลน�้ำกล่ันเม่ือน�้ำกล่ันสมุนไพร ไหลให้รีบนำ� ขวดมารอนำ�้ ท่ีปลายกระบอกไมไ้ ผ่ วธิ ีใช้ - นำ� น้�ำกลัน่ สมนุ ไพรทไ่ี ด ้ 2 ช้อนโต๊ะตอ่ นำ้� 5 ลติ รไปฉีดพ่นไลแ่ มลง ทกุ ๆ 7 วนั ท่มี า : ศูนยเ์ รยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพยี งชุมชนต�ำบลหนองไฮ จังหวดั อ�ำนาจเจรญิ 4.2 สมุนไพรยาแรง ก�ำจัดแมลงชนิดดูดซมึ บทนำ� การใช้สมุนไพรก�ำจัดแมลง เป็นอีกวิธีหนึ่งท่ีมีประสิทธิภาพในการป้องกันและก�ำจัดแมลงศัตรูพืช ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค โดยไม่ท�ำลายส่ิงแวดล้อม ข้อดีของการใช้สมุนไพรก�ำจัดแมลง คอื มีราคาถูกหาได้ง่าย สามารถลดตน้ ทุนในการผลติ พืชได้เปน็ อย่างดี 28
วัสดุอปุ กรณ์ สว่ นผสม 1. นำ้� กะทิสด 1 ลิตร 2. น้ำ� สะอาด 1 ลติ ร 3. ใบสาบเสอื 2 ขีด 4. ใบสะเดาแก่ 2 ขดี 5. ฝักคูณ 1 ฝกั 6. ยาฉนุ 1 ขดี 7. พริกข้ีหนแู หง้ 1 ขดี (หรือพรกิ แกงเผด็ 4 ขดี ) อปุ กรณ์ 1. มีด,เขียง 2. กะละมงั 3. หม้อ,เตา,ช้อนกวน 4. ผ้าขาวบาง 5. ขวดบรรจุ ข้นั ตอน/วิธที ำ� หั่นหรือสับใบสะเดาและใบสาบเสือให้เป็นช้ินเล็กๆ ต�ำหรือบดพริกข้ีหนูให้ละเอียด ทุบฝักคุณให้ แตกเป็นช้ินเล็กๆ เมื่อเตรียมส่วนผสมท้ังหมดครบแล้ว ให้น�ำหม้อตั้งไฟ ใส่กะทิสดลงไป 1 ลิตร เคี่ยวจน กะทิแตกมันแล้วจึงใส่ใบสาบเสือ ใบสะเดาแก่ ฝักคูณ ยาฉุน พริกขี้หนูหรือพริกแกงเผ็ด แล้วเติมน้�ำ ลงไปอีก 1 ลิตร ต้มจนเดือด ประมาณ 15 นาที ยกลงจากเตาท้งิ ไวใ้ หเ้ ยน็ แล้วกรองดว้ ยผา้ ขาวบาง คน้ั เอา แตน่ �้ำกรอกใส่ขวด จะได้น�ำ้ ยาประมาณ 1 ลติ ร จึงน�ำไปใช้ได้ * ถ้าไม่พอใช้ สามารถเพ่ิมอัตราส่วนในการท�ำได้สมุนไพรที่ขับไล่แมลงได้ และสามารถ ปรบั ใช้สมุนไพรไดต้ ามสรรพคุณของสมุนไพรแตล่ ะชนดิ หรือใช้ สมุนไพรท่ีออกฤทธิ์ทดแทนกันได ้ เชน่ 1. หนอนตายยาก – มีฤทธ์ใิ นการ ฆา่ หนอนหลายชนดิ ฆ่าไสเ้ ดอื นฝอย 2. เมลด็ สะเดา - มสี ารอะซาดนี แรก๊ ตนิ มฤี ทธท์ิ ำ� ใหแ้ มลง ดว้ งหมดั ผกั เบอื่ อาหาร ผเี สอื้ ฆา่ เพลยี้ ไร 3. ตะไคร้หอม – มกี ลน่ิ ในการขบั ไลแ่ มลงทกุ ชนิด 4. ใบยาสูบ - มีสารที่กำ� จัดพวกทาก หรือ เพล้ยี บางชนดิ หนอนชอนใบ 5. ขมนิ้ ชัน – มฤี ทธใิ์ นการก�ำจัดเชือ้ รา 6. ไพล (ปเู ลย) - มฤี ทธิ์ในการทำ� ลายแบคทเี รยี ไวรสั บางชนดิ 7. ขา่ แก่ - มีสารออกฤทธใิ์ น ด้วง เชือ้ รา เพลี้ยจั๊กจ่ัน บางชนดิ 29
8. ใบและดอกดาวเรอื ง - แมลงหว่ขี าว ไสเ้ ดอื นฝอย ดว้ งปกี แขง็ เพลีย้ กระโดด 9. บอระเพ็ด – ท�ำลายเพล้ียกระโดดสนี ้�ำตาล หนอนกอข้าว 10. ฟา้ ทะลายโจร - มีรสขมกำ� จัด เชื้อแบคทเี รยี ไวรัส 11. สาบเสือ – เพลยี้ จกั จน่ั เพลยี้ หอย เพลย้ี อ่อน หนอนใยผกั 12. สาระแหน่ – มีน�ำ้ มนั ในใบขับไลแ่ มลง 13. กระเพราดำ� - ก�ำจดั เชือ้ ราบางชนิด 14. หางไหล (โล่ติ๊น) - มีสารโรตโิ นน ท�ำใหแ้ มลงหายใจล�ำบาก 15. ผกากรอง – มีสารแลนดาดนี มผี ลตอ่ ระบบประสาทของแมลง 16. วา่ นน�ำ้ – ปอ้ งกันและกำ� จัดแมลงผีเสือ้ ในข้าว 17. ดีปลี - กำ� จดั แมลงศัตรูขา้ ว เพล้ยี บางชนดิ 18. มะเขอื เทศ – ใชใ้ บกำ� จัดดว้ งหมัดผัก ดว้ งหนอ่ ไม้ฝรั่ง ไรแดง หนอนใยผัก 19. ใบนอ้ ยหน่า - กำ� จัดเพล้ียอ่อน หนอนใยผกั ข้อควรระวัง ขณะท�ำควรปดิ จมกู และสวมถุงมอื เพราะส่วนผสมมพี รกิ อาจทำ� ใหส้ ำ� ลกั และรอ้ นมือได้ การใช้ประโยชน์ ใช้ป้องกันก�ำจัด เพล้ีย หนอนและแมลงอัตราการใช้ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 20 ซีซี ต่อน�้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่นช่วงเย็น และควรฉีดพ่นสลับกับสมุนไพรสูตรอื่นๆเพื่อป้องกันการด้ือยาของหนอนและแมลง สามารถใช้รว่ มกับ เช้อื ราบวิ เวอรเ์ รยี และเช่ือราเมธาไรเซยี มได้ ตน้ ทุนการผลิตและผลตอบแทน ถ้ามีวัตถุดิบเองก็ไม่ต้องซื้อ แต่ถ้าไม่มี ลงทุนประมาณ 150 บาท จะช่วยลดต้นทุนในการ ซ้ือสารเคมีได้มาก ผลตอบแทนในการจ�ำหน่ายพืชผักปลอดสารพิษ สามารถจ�ำหน่ายได้ราคาสูงกว่า การใช้สารเคมี ใบสาบเสือ ใบสะเดาแก ่ พรกิ ขี้หนแู หง้ ป่น กะทิสด 30
ฝักคนู ยาฉนุ ท่ีมา : ศูนย์เรียนรูเ้ ศรษฐกิจพอเพยี งไรน่ าสวนผสมบา้ นวงั ไผส่ ูง จงั หวดั สุโขทัย 4.3 สตู รสมุนไพรก�ำจัดหนอนและเพลีย้ ออ่ น บทน�ำ สตู รกำ� จดั แมลงจากสมนุ ไพรธรรมชาตทิ ม่ี ฤี ทธใิ์ นการยบั ยง้ั และขดั ขวางการ ดดู กนิ ทำ� ลายของหนอน และเพลี้ยอ่อนไม่มสี ่วนผสมของสารเคมี ปลอดภยั ตอ่ ผูใ้ ชแ้ ละผ้บู ริโภค วัสดอุ ปุ กรณ์ เถาหรือต้นหางไหลชนดิ ยางสีแดง น�ำ้ เปล่า เหลา้ ขาว 1-2 ขวด หวั นำ้� สม้ สายชู 150 ซีซี ขั้นตอน/วิธีทำ� นำ� เถาหรอื ตน้ หางไหลมาสบั เปน็ ทอ่ นหรอื ชน้ิ เลก็ ๆ ใสถ่ งั ไฟเบอรข์ นาด 200 ลติ ร ใสน่ ำ้� เปลา่ จนเตม็ เตมิ เหลา้ 1-2 ขวด หวั นำ�้ สม้ สายชู 150 ซซี ี คนใหเ้ ขา้ กนั ใชฝ้ าปดิ ใหม้ ดิ ชดิ เพอ่ื ปอ้ งกนั นำ�้ ฝน ทงิ้ ไว้ 7 – 10 วนั จะไดเ้ ชอื้ สกดั หางไหล 31
ขอ้ ควรระวัง การใช้น�้ำสกัดสมุนไพรควรเร่ิมใช้ในอัตราส่วนที่ต�่ำ ๆ ก่อน เช่น 5 ช้อนแกง ต่อน้�ำ 10 ลิตร แล้วจึงเพิ่มอัตราส่วนข้ึนทีละน้อย เพราะพืชผักบางชนิดอาจจะชะงักการเจริญเติบโต หรือท�ำให้ยอด หรอื ใบไหมไ้ ด้ การใช้ประโยชน์ ใช้ป้องกนั และก�ำจัดหนอนและเพลี้ยตา่ งๆ ตน้ ทุนการผลิตและผลตอบแทน สูตรสมุนไพรก�ำจดั หมดั หนอนและเพลี้ยต่างๆ ราคาจำ� หนา่ ย 1 ลิตร 50 บาท ท่มี า : แปลงเกษตรทฤษฎีใหมส่ วนครูประทมุ จงั หวัดเชียงใหม่ 4.4 การทำ� หัวเชอ้ื จลุ นิ ทรยี จ์ ากดินปา่ บทนำ� ตามทก่ี องนโยบายเทคโนโลยเี พอ่ื การเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน ได้ด�ำเนนิ โครงการพฒั นาการ เกษตรตามแนวทฤษฎใี หม่ โดยยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตง้ั แตป่ ี พ.ศ.2550 จนถงึ ปจั จบุ นั มกี ารฝกึ อบรม ถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน โดยมีวัตถุประสงค์ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การปรบั เปลยี่ นแนวคดิ และวถิ กี ารดำ� เนนิ ชวี ติ การประกอบอาชพี ทางการเกษตรและใหเ้ กษตรกร สามารถพ่งึ พาตนเองได้อยา่ งเหมาะสมตามภูมินเิ วศ และภมู สิ ังคมตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สำ� นกั งานเกษตรและสหกรณจ์ งั หวดั สพุ รรณบรุ ี ไดร้ วบรวมองคค์ วามรแู้ ละภมู ปิ ญั ญาดา้ นการเกษตร ของศูนย์เครอื ข่ายปราชญ์ชาวบา้ น มูลนิธิข้าวขวัญ ซึ่งประกอบด้วย ช่อื องค์ความรู้ บทน�ำ วัสดอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ ข้นั ตอน/วธิ ีทำ� ข้อควรระวงั การใชป้ ระโยชน์ ต้นทนุ การผลติ และผลตอบแทน รูปภาพประกอบ วสั ดุอปุ กรณ์ 1. ดนิ ป่า หรือเศษซากไมผ้ ใุ นน้ำ� หรือบนบก 2 กิโลกรัม 2. ร�ำละเอียด 2 กิโลกรมั 3. ใบไผพ่ อประมาณ 4. กากนำ้� ตาล ผสมน้�ำอัตราส่วน 1 ตอ่ 20 32
ขน้ั ตอน/วิธที ำ� เกบ็ ดนิ ปา่ มา 2 กโิ ลกรมั หรอื เศษซากขอนไมผ้ ุ ใสถ่ งุ ดำ� ไมใ่ หถ้ กู แดด ถา้ มคี วามชน้ื กใ็ หช้ นื้ เหมอื นเดมิ ถ้าเก็บแห้งก็ให้แห้งเหมือนเดิม เม่ือต้องการขยายเชื้อให้น�ำไปคลุกกับร�ำละเอียดและใบไผ่ จากนั้นน�ำ กากน้�ำตาล (โมลาส) มาผสมกบั นำ้� รดให้ท่วั ทดสอบกำ� ดตู ้องมนี ้�ำเลด็ ออกมาเลก็ น้อย หากแบมอื กไ็ ม่แตก ออกจากกนั คลุมไว้ด้วยกระสอบหรอื ผา้ พลาสติก ผา่ นไป 2-3 วันจะมีราขาวแผ่คลุมกองปุ๋ย ปลอ่ ยให้แห้ง และยุบตัวไป การน�ำไปขยาย น�ำถังมาใส่กากน�ำตาล (โมลาส) ท่ีผสมน�้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 20 จากนั้น น�ำเชื้อดินดีท่ีผ่านการหมักแล้วมาหุ้มด้วยผ้าตาข่ายให้มีลักษณะเป็นก้อนแล้วจุ่มลงในถังท่ีผสมกากน้�ำตาล ผา่ นไป 1-2 วนั จะเกดิ เป็นฝา้ ขาวขน้ึ ไม่เกิน 10 วนั น�้ำตาลจะเปล่ยี นเปน็ แอลกอฮอล์ แล้วจะเปลีย่ นเป็น น�ำ้ สม้ ทีม่ คี วามเปร้ียว เมอื่ เปร้ยี วกส็ ามารถน�ำไปใชไ้ ด ้ ข้อควรระวัง เก็บหัวเชือ้ จุลินทรยี ์ไว้ในที่รม่ หัวเชอ้ื จลุ ินทรีย์ไม่สามารถทนตอ่ ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเช้อื และสารเคมี จึงห้ามผสมสารเหล่านี้ เก็บในภาชนะท่ีปิดสนิท ไม่ใหอ้ ากาศเข้า หลีกเลีย่ งการเก็บหรอื วางทิ้งไวบ้ ริเวณแดดสอ่ งถงึ หรือใกลก้ บั แหลง่ ความรอ้ นต่างๆ มอี ายสุ ามารถเกบ็ ไว้ไดน้ าน 8-12 เดอื น ภายใต้อุณหภมู ิปกติ และอย่ใู นที่ร่ม หากมกี ารแบง่ ใช้ ต้องปิดฝาภาชนะบรรจุให้สนิททุกครัง้ หากพบน้�ำหัวเชื้อจุลินทรีย์มีสีด�ำและส่งกลิ่นเหม็นเน่า แสดงว่าเช้ือจุลินทรีย์ได้ตายหมดแล้ว ไม่สามารถนำ� ไปใช้ได้ หากเกิดแผ่นสีขาวๆ ซึ่งเกิดจากเช้ือรา แนะน�ำให้ตักคราบด้านบนออก เติมกากน�้ำตาลเพิ่ม และหมกั ตอ่ การใช้ประโยชน์ 1. ใช้ในแปลงนาเพื่อการหมักฟางพื้นท่ี 1 ไร่ จะใช้ปริมาณ 5 แกลอน ไม่เกินสองสัปดาห์ฟาง กจ็ ะเปื่อย ใช้ในการปรบั สภาพดินเพ่อื เพิม่ จลุ นิ ทรีย์ในดนิ และใช้ในการบ�ำบดั น้�ำเสีย 2. ใช้รดโคนต้นไม้ และแปลงผัก ซ่ึงจะช่วยย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในดิน ท�ำให้ปลดปล่อยแร่ธาตุ ออกมาใหแ้ ก่พชื ไดเ้ ร็วขึน้ 3. ใชใ้ นด้านการปศุสัตว์ ใช้ท�ำความสะอาดล�ำตวั สตั ว์ ใช้ลดกลิ่นบรเิ วณคอกหรือลานเล้ยี งสัตว์ ใช้หมักอาหารหยาบ เช่น ฟางข้าวหรือหญ้า เพ่อื นำ� ไปเลี้ยงโค กระบอื ใช้ผสมในอาหารสตั วข์ องโค กระบือ เพือ่ เรง่ การย่อยในกระเพาะอาหาร 4. ชว่ ยบำ� บดั น้ำ� เสยี และก�ำจัดกล่ินน�ำ้ เสยี 33
5. ช่วยแปรสภาพขยะใหเ้ ป็นปุย๋ ด้วยการเทราดบนกองขยะหรือใช้หมักขยะใหเ้ ปน็ ปุ๋ย 6. ชว่ ยปอ้ งกนั การเตบิ โตของเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ท์ ก่ี อ่ โรคในดนิ บนแปลงเกษตร ดว้ ยการฉดี พน่ กอ่ นการ ไถพรวนดนิ 7. ช่วยปอ้ งกันแมลง และพาหะน�ำโรค ท้ังในแปลงเกษตร และในฟารม์ ปศุสัตว์ ตน้ ทนุ การผลิตและผลตอบแทน รายการ จ�ำนวน ราคา - ดินปา่ 2 กิโลกรมั - รายละเอียด 2 กโิ ลกรมั 1 ลติ ร 20 บาท กากน�้ำตาล(โมลาส) 1 ต่อ 20 - ใบไผ่ พอประมาณ รวม 20 หมายเหตุ วสั ดทุ ี่ใชอ้ าจหาได้ภายในท้องถนิ่ โดยไม่ตอ้ งมีการลงทนุ 4.5 จุลินทรยี ช์ ีวภาพ สูตรดนิ ระเบดิ ทมี่ า: มลู นธิ ิข้าวขวญั จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี กโิ ลกรมั ส่วนประกอบ กโิ ลกรัม 1) ดนิ ท่อี ุดมสมบูรณ์ในทอ้ งถน่ิ 1 กิโลกรมั 2) ร�ำละเอยี ด 1 แกว้ 3) น�ำ้ ตาลทรายแดง 1 ผืน 4) น้ำ� 1-2 5) ผา้ ฝา้ ย 1 34
วธิ ที ำ� 1. นำ� ดนิ ทอี่ ดุ มสมบรู ณใ์ นทอ้ งถน่ิ มาคลกุ เคลา้ กบั รำ� ละเอยี ดและนำ้� ตาลทรายแดงจำ� นวน 2 ชอ้ นโตะ๊ แล้วเตมิ น�้ำประมาณ 1-2 แก้ว ขึ้นอยู่กบั ฤดูกาล ใหไ้ ดค้ วามชนื้ พอหมาดๆ แล้วใช้ผา้ ฝา้ ยหอ่ ไว้ 2. ใชเ้ วลาในการเพาะเลย้ี ง 2-3 คนื จะเปน็ กอ้ นแข็ง เพราะเชอ้ื ราสีขาวเดนิ เต็มก้อน 3. ผสมน้�ำ 20 กิโลกรัม น�ำจุลินทรีย์ท่ีเพาะเล้ียงครบ 2-3 คืนไปเล้ียงในน้�ำท่ีผสมน�้ำไว้แล้ว เลี้ยงต่อไป 2-3 คนื สามารถนำ� ไปใชไ้ ดเ้ ลย วธิ ีใช้ : อัตราส่วนในการใช้ 1) ต้นกลา้ อ่อน น้ำ� ดนิ ระเบิด 1 สว่ นต่อน้ำ� 1 ,000 ส่วน 2) ผักผลไม้ น ำ�้ ดนิ ระเบิด 1 สว่ นต่อน�้ำ 500 สว่ น 3) นาขา้ ว น้ำ� ดินระเบดิ 1 สว่ นตอ่ นำ้� 800 ส่วน ทีม่ า : ศนู ยเ์ ครือข่ายกสกิ รรมไรส้ ารพษิ แห่งประเทศไทย (สวน“สา่ งฝัน”) จังหวัดอำ� นาจเจรญิ 4.6 การท�ำก้อนบ�ำบดั น�้ำเสยี (ดังโหงะ) บทน�ำ EM Ball (ดงั โหงะ) คือ EM แบบแหง้ มาปนั้ ก้อนเพ่ือสะดวกในการใช้บำ� บดั น�้ำเสยี ในสถานทีต่ า่ ง ๆ โดยนำ� อนิ ทรยี ว์ ตั ถทุ ย่ี อ่ ยสลายงา่ ย และเปน็ อาหารของจลุ นิ ทรยี ์ โดยผา่ นกระบวนการหมกั ดว้ ยเทคโนโลยี EM วสั ดแุ ละอุปกรณ์ - จุลินทรยี ์ 1 ลิตร - กากนำ้� ตาล 1 ลติ ร - น้�ำซาวขา้ ว 2 ลิตร - น�ำ้ หมักผัก ปลา ผลไม้ รกหมู เศษอาหาร รวมกนั 3 ลติ ร - แมกนเี ซียมหรือโดโรไมท์ภูไมท ์ 10 กโิ ลกรัม - รำ� 20 กโิ ลกรมั ขนั้ ตอน/วธิ ีทำ� - น�ำส่วนผสมต่างๆที่เป็นน�้ำมารวมกันให้ได้น�้ำประมาณ 7 ลิตรแล้วน�ำมาผสมกับน้�ำสะอาด 2 ลติ ร รำ� 20 กิโลกรัม แมกนเี ซียม 10 กโิ ลกรมั - ผสมกับส่วนแรกให้เข้ากันจนเหนียวพอที่จะปั้นเป็นก้อนได้ ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาด เส้นผ่าศนู ย์กลางประมาณ 5 เซนติเมตรหรือทำ� เปน็ กอ้ นส่เี หลยี มแบบอฐิ มอญหรอื อฐิ แดงกไ็ ด้ 35
ขอ้ ควรระวงั - ถา้ ใชบ้ ำ� บัดน�ำ้ ในการเลีย้ งสตั ว์น�้ำ บ่อกุง้ บ่อปลา บ่อกบ ควรมสี ว่ นผสมของมลู สตั ว์ - ใช้บ�ำบดั นำ�้ จากโรงงาน มสี ารเคมีเจือปน ให้เพ่ิม EM 5 หรอื Super EM5 - ใช้บำ� บัดน้�ำจากสถานประกอบการ ร้านอาหาร ตลาดสด มีคราบไขมันกเ็ พม่ิ น�้ำหมกั สัปปะรด - ถ้าจะให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น ให้ผสม EM ขยาย หรือ EM หมักน�้ำซาวข้าว 1: 200- 500 ลติ ร ฉีด พ่น ราด รด หรอื สาดลงบรเิ วณผวิ นำ้� ดว้ ย การใช้ประโยชน์ - ช่วยเร่งการย่อยสลายตะกอน ก�ำจัดกล่ินเน่าเหม็น ลดค่า BOD ปรับค่า pH ในน�้ำในสมดุล น�้ำจะสะอาดไดน้ าน - ช่วยย่อยสลายสง่ิ ปฏิกูล ของเสยี ก้นบ่อ ขจัดคราบไขมันและก�ำจดั กลนิ่ - ช่วยย่อยสลายโคลนตะกอน ลดแอมโมเนียในบอ่ สรา้ งไรแดง และแพลงก์ตอนพืช เปน็ อาหาร ของปลาและสตั ว์นำ้� อืน่ ๆ ต้นทุนการผลติ และผลตอบแทน - แมกนเี ซียมหรือโดโรไมท์ภไู มท์ ราคา กิโลกรัมละ 4 บาท - กากนำ้� ตาล ราคาลติ รละ 30 บาท - ร�ำ ราคา กิโลกรัมละ 12.50 บาท ทม่ี า : ศูนยเ์ รียนรชู้ มุ ชนปลักไม้ลาย จงั หวัดนครปฐม 4.7 การขยายเชื้อราไตรโคเดอมารจ์ าก พด.3 บทน�ำ สารเร่ง พด.3เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติเป็นปฏิปักษ์ต่อเชื้อสาเหตุโรคพืชในดิน โดยมี ความสามารถปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ การเจรญิ ของเชอ้ื โรคพชื ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ อาการรากพชื หรอื โคนเนา่ และจลุ นิ ทรยี ์ ดังกล่าวยังช่วยแปรสภาพแร่ธาตุในดินบางชนิดให้เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น เชื้อไตรโคเดอร์มา (Trich- oderma sp.) และบาซิลลัส (Bacillus sp.) ซ่ึงได้จากการเล้ียงเชื้อจุลินทรียท่ีเจริญบริเวณรากหญ้าแฝก กอไผ่และจอมปลวก 36
วัสดุและอุปกรณ ์ - พด.3 1 ซอง - ปยุ๋ หมกั 50 กโิ ลกรมั - ร�ำละเอยี ด 10 กิโลกรัม - แมกนเี ซียม/โดโรไมท์ 5 กิโลกรมั - น�ำ้ ข้ันตอน/วิธที �ำ - น�ำป๋ยุ หมัก, ร�ำละเอยี ด, แมกนเี ซยี ม/โดโรไมท์ ผสมคลุกเคล้าให้เขา้ กัน - นำ� พด. ผสมกบั น้�ำทง้ิ ไว้ 15 นาที แล้วจึงน�ำมาผสมกับสว่ นผสมทั้งหมดใหพ้ อเปยี กหมาด ๆ - กองไวป้ ิดให้มดิ ชุดหรอื บรรจุใสก่ ระสอบปยุ๋ ปิดปากถุงไว้ เก็บไว้ 7 วัน นำ� มาใชไ้ ด้ ข้อควรระวัง - ต้องปรับปรุงบ�ำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด ไถกลบตอซังและหรือ ใส่ปุ๋ยเคมี ในพ้ืนทีเ่ พาะปลกู ร่วมดว้ ย - อย่าให้นำ�้ ทว่ มขงั ในพนื้ ทเ่ี พาะปลูก(เพราะเป็นเช้ือจลุ นิ ทรีย์ท่ีไม่ชอบน�้ำขังหรือแฉะ) - หากยงั ไมใ่ ชท้ นั ที ควรผง่ึ ใหแ้ หง้ แลว้ เกบ็ ใสก่ ระสอบไวใ้ นทร่ี ม่ (หากชนื้ เชอื้ ราอาจเจรญิ หรอื เสน้ ใย แกเ่ รว็ เกินไป) การใชป้ ระโยชน ์ 1. เช้ือราไตรโครเดอรม์ ่าใน พด.3 จะท�ำลายเชือ้ ราโรคพืชในดิน โดยการใช้เส้นใยรัดพันรอบเส้นใย ของเชื้อราโรคพืช หรือแทงเข้าสู่เส้นใยของเชื้อราโรคพืชนั้นเหี่ยวสลายไป จึงท�ำหน้าท่ีป้องกันและควบคุม การเจรญิ ของเชอ้ื ราสาเหตุโรคพืชเศรษฐกิจหลายชนิด ไดแ้ ก่ - โรครากและโคนเนา่ ของไม้ผลและไม้ยืนต้น เช่น ทเุ รยี น ส้ม และยางพารา เป็นต้น - โรคเน่าคอดิน,ล�ำตน้ เนา่ ของพชื ไร่ เชน่ อ้อย มนั ส�ำปะหลงั สับปะรด ข้าวโพด พชื เส้นใยและ พชื ตระกูลถั่ว - โรคเน่าและเหี่ยวของพืชผักและไม้ดอกไม้ประดับ เช่น พริก มะเขือเทศ แตง กะหล่�ำปลี เบญจมาศ และมะลิ 2. ชว่ ยแปรสภาพแรธ่ าตใุ นดินใหอ้ ย่ใู นรปู ท่เี ป็นประโยชนต์ ่อพืช 3. เจริญได้ดีในดินท่ีมีอินทรียวัตถุสูง ชอบสภาพดินท่ีชื้นแต่ไม่แฉะ, มีความเป็นกรดเป็นด่าง อย่รู ะหว่าง 5.5 – 6.5 37
ตน้ ทุนการผลติ และผลตอบแทน - แมกนเี ซยี มหรอื โดโรไมทภ์ ไู มท์ ราคา กโิ ลกรัมละ 4 บาท - รำ� ราคา กก.ละ 12.50 บาท 4.8 การทำ� จุลินทรีย์สูตรขยาย ที่มา : ศนู ย์เรียนรชู้ มุ ชนปลักไม้ลาย จงั หวัดนครปฐม วัสดุ/อุปกรณ์ 1 หวั เช้ือจุลนิ ทรีย์ 1 ช้อนโต๊ะ 2. นำ�้ เปลา่ 20 ลติ ร 3. น�ำ้ ตาลทรายแดง 1 กิโลกรมั 4. ถังพลาสตกิ 1 ใบ ขั้นตอน/วิธที ำ� 1. น�ำหัวเชื้อจุลินทรีย์ จ�ำนวน 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำเปล่า จ�ำนวน 20 ลิตร และน้�ำตาลทรายแดง จ�ำนวน 1 กโิ ลกรัม ใสล่ งไปในพลาสตกิ ทีเ่ ตรยี มไว้ คนใหเ้ ข้ากันและครอบด้วยฝาปดิ ***ไม่แนะนำ� ให้ปดิ ฝาแน่น เพราะจะทำ� ให้เกดิ แกส๊ และระเบดิ ได้ 2. นำ� ถังพลาสติกทีบ่ รรจุน้ำ� จลุ นิ ทรยี ์เกบ็ ไวใ้ นทรี่ ม่ ไมใ่ หถ้ ูกแสงแดด เปน็ เวลา 14 วัน นำ� ไปใช้ได้ การใช้ประโยชนข์ องจลุ นิ ทรยี พ์ น้ื ที่ 1. ใช้ล้างพื้น ล้างคอกเล้ียงสัตว์ ช่วยก�ำจัดสิ่งปฏิกูลท่ีท�ำให้พื้นส่งกล่ินเหม็น ช่วยดับกลิ่นเหม็น ของคอกสัตว/์ โรงเรือนเล้ยี งสัตว์ 2. ใชป้ อ้ งกนั น้�ำเสยี และกล่ินเหม็นจากมูลสัตว์ 3. ใช้เรง่ การย่อยสลายของกองปุย๋ หมกั และปยุ๋ ชีวภาพ 4. ช่วยปรบั ความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของดิน 5. ช่วยใหด้ ินโปรง่ ร่วนซยุ มีความช่มุ ชน้ื อากาศถา่ ยเทในดินได้สะดวก 6. ชว่ ยแกไ้ ขปญั หาหอ้ งนำ้� เตม็ หอ้ งนำ�้ อดื เนอื่ งจากสงิ่ ปฏกิ ลู ไมย่ อ่ ยสลาย ของเหลวระบายไมอ่ อก 7. ชว่ ยย่อยสลาย, กำ� จดั กากไขมนั อาหารทอี่ ุดตันในทอ่ น�้ำ ท่มี า : ศูนย์เรียนร้กู ารเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง จงั หวดั เชียงราย 38
4.9 จุลินทรีย์หน่อกล้วย บทนำ� จุลินทรีย์หน่อกล้วย เป็นจุลินทรีย์ท่ีมีประโยชน์ส�ำหรับคนที่จะหันมาท�ำเกษตรแบบอินทรีย์ เป็นอย่างมาก สังเกตุว่าต้นกล้วยปลูกที่ไหน ดินบริเวณกอกล้วยน้ันจะมีความอุดมสมบูรณ์ ความร่วนซุย อมุ้ นำ�้ ของดนิ บรเิ วณดงั กลา่ ว เกดิ จากกจิ กรรมของจลุ นิ ทรยี ด์ นิ รอบๆ รากกลว้ ยนน่ั เอง นอกจากนนั้ หนอ่ กลว้ ย มีน�้ำยางฝาดหรือสารแทนนินจ�ำนวนมาก เม่ือหมักแล้วน�้ำท่ีหมักได้ยังสามารถน�ำมาใช้ในการควบคุมโรค พชื บางอยา่ งได้ ทง้ั ยงั สามารถน�ำไปใชป้ รับปรงุ สภาพน้ำ� ท่เี น่าเสยี ให้ฟน้ื สภาพกลับดีขึ้นไดอ้ ีกดว้ ย วัสดุอปุ กรณ์ 1. หน่อกลว้ ยออ่ น (แตกหกู วาง) จ�ำนวน 3 กโิ ลกรัม 2. ลูกตาลสุก 1 ลูก (ถา้ ไมม่ ลี กู ตาลสกุ ใช้ยาคูลย์ 2 ขวด) 3. กากน้ำ� ตาล 1 กโิ ลกรัม 4. น้ำ� สะอาด 10 ลติ ร 5. พด.2 จ�ำนวน 1 ห่อ วิธที �ำ น�ำหน่อกล้วยออ่ น มาสับพอละเอียด คลกุ เคล้ากบั กากน�ำ้ ตาล / น�ำ พด.2 เทละลายกับน�ำ้ 10 ลิตร น�ำหน่อกล้วยท่เี คลา้ กบั กากน�ำ้ ตาลเทใส่ลงไป น�ำลกู ตาลสกุ หรอื ยาคลู ย์เทใส่ลงไปหมกั ทง้ิ ไว้ 10 แต่ไมเ่ กิน 15 วนั สามารถนำ� มาใชไ้ ด้ทนั ที แต่ตอ้ งหม่นั ทกุ วันเพ่อื จุลลนิ ทรียส์ ามารถขยายตัวได้เรว็ ข้นึ ข้อควรระวัง 1. หากน�ำจุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรหัวเชื้อไปใช้กับพืชปลูก ควรละลายให้เจือจางก่อนน�ำไปใช้ ทุกครั้งในอัตราจุลินทรีย์หน่อกล้วย จ�ำนวน 1 ลิตร ต่อน้�ำ 500 ลิตรหรือ 50 ซีซี ต่อน�้ำ 20 ลิตร (ใช้อัตราน้ีในพ้ืนท่ีมีพืชปลูก) หากพื้นที่น้ันไม่มีพืชปลูกให้ใช้ในอัตราจุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรหัวเชื้อ หรอื สตู รขยาย จ�ำนวน 1 ลติ ร ตอ่ นำ้� 20 ลติ ร 2. ในระหว่างกระบวนการหมัก ไม่ควรปิดฝาถังหมักสนิทแน่นเกินไป ควรเปิดไว้แบบพอให้มี อากาศผ่านเข้าออกได้เพื่อป้องกันการระเบิดและภาชนะท่ีน�ำมาหมักไม่ควรเป็นภาชนะที่แตกได้ เช่น โอ่งดิน เพราะจะท�ำให้ระเบิดได้ง่ายเนื่องจากในขวนการหมักจลุ นิ ทรีย์หน่อกล้วยน้ันเกดิ ก๊าซมาก จะทำ� ให้ เกดิ การระเบดิ ไดง้ ่าย วธิ กี ารใช้ และอตั ราการใช้ น�ำน้�ำเขา้ นา หลงั จากนั้น ฉีดพน่ น�้ำหมกั จลุ ินทรยี ห์ น่อกลว้ ย ในอตั รา 5 ลิตร ต่อ 1 ไร่ ฉดี พ่น ในเวลาเย็น หลงั จากนั้นตีดินตามปกตใิ นระหว่างเวลา 7-10 วัน พยายามอยา่ ให้น้ำ� ขาด หลังจาก 10 วนั สามารถทำ� นาไดต้ ามปกติ 39
ประโยชน ์ ช่วยเร่งการยอ่ ยสลายฟางขา้ วภายใน 7 – 10 วนั ตน้ ทนุ การผลติ และผลตอบแทน การใชจ้ ลุ นิ ทรียห์ นอ่ กลว้ ย ทดแทนการใช้สารเคมใี นไร่นา 4.10 น�ำ้ ส้มควันไม้ ทมี่ า : ศนู ยเ์ กษตรทฤษฎใี หม่ จังหวัดสงิ ห์บุรี บทน�ำ ควันที่เกิดจากการเผาถ่านในช่วงที่ไม้ก�ำลังเปลี่ยนเป็นถ่าน เม่ือท�ำให้เย็นลงจนควบแน่นแล้ว กลั่นตัวเป็นหยดน้�ำ ซึ่งจะเก็บในช่วงท่ีอุณหภูมิในเตาอยู่ระหว่าง 300-400 องศา และอุณหภูมิที่ ปากปล่องควันอยู่ระหว่าง 80-90 องศา ของเหลวที่ได้น้ีเรียกว่าน้�ำส้มควันไม้ มีกล่ินไหม้ส่วนประกอบ เป็นกรดอะซติ ิคมีความเปน็ กรดตำ�่ มีสนี ำ�้ ตาลแกมแดง วิธกี ารดักเก็บนำ�้ สม้ ควันไม้ จะปล่อยให้ควันวิ่งผ่านท่อไม้ไผ่ยาว 4-6 เมตร เม่ือได้น�้ำส้มควันไม้แล้วท้ิงไว้ในภาชนะพลาสติก เปน็ ระยะเวลา 3 เดือน ในทท่ี ี่ไมถ่ กู แสงแดด ไมส่ นั่ สะเทือน เพอื่ ให้สารที่เปน็ นำ�้ มันทาร์ (TAR) ตกตะกอน เสยี ก่อน (ควรใส่ถ่านป่น 5 % ของนำ้� หมกั น้ำ� ส้มควนั ไม้จะท�ำให้การตกตะกอนดีขึน้ การใชป้ ระโยชน์จากนำ�้ สม้ ควันไม้ในด้านอตุ สาหกรรม - ใช้ผลิตสารระงับกล่ินตัว โดยเฉพาะในญี่ปุ่นมีการน�ำน้�ำส้มควันไม้มาผลิตสารระงับกล่ินตัว มากกว่า 1 ลา้ นลติ ร - ใชผ้ ลิตสารปรบั ผิวนมุ่ ทั้งใช้โดยตรงทางผวิ หนงั หรอื ผสมอาบน�้ำ - ใช้ในอตุ สาหกรรมอาหารรมควัน - ใช้ในอุตสาหกรรมย้อมผา้ - ใช้ผลิตสารป้องกนั เนอ้ื ไมจ้ ากเช้ือราและแมลง - ใช้ผลิตยารักษาโรคผิวหนัง ยาฆ่าเช้ือไทฟอยด์ อาหารเสริมเพิ่มภูมิต้านทาน อาหารเสริม การทำ� งานของตับ - ใชผ้ ลติ สารช่วยยอ่ ย (RreBiotic) 40
การใชป้ ระโยชน์จากน้ำ� ส้มควันไม้ในครวั เรอื น - ความเขม้ ขน้ 100% ใชร้ กั ษาแผลสด แผลถกู นำ�้ รอ้ นและไฟลวก รกั ษานำ�้ กนั เทา้ เชอ้ื ราทผี่ วิ หนงั รักษาโรคเรอื้ นของสัตว์ - ผสมน�้ำ 20 เทา่ (1 ลิตรต่อนำ�้ 20 ลติ ร) ราดหรือพน่ กำ� จดั มดปลวก ทาหน้ายางพาราเพ่อื กำ� จัด เชอ้ื รา ผิวหนังรักษาโรคเรือ้ นของสัตว์ - ผสมนำ�้ 50 เท่า (400 ซซี ตี ่อน�ำ้ 20 ลติ ร) ราดหรือพ่นก�ำจัดเชอื้ รา และไส้เดือนฝอยในดนิ กอ่ น ปลูกพชื 15 วัน - ผสมน�ำ้ 100 เทา่ (200 ซีซตี ่อนำ้� 20 ลิตร) ราดหรอื พน่ กองขยะ พืน้ คอกสตั วเ์ พอ่ื ก�ำจดั กลน่ิ และปอ้ งกันไม่ให้แมลงวางไข่ - ผสมนำ้� 200 เทา่ (100 ซซี ตี อ่ น�้ำ 20 ลติ ร) พ่นใบไม้เพือ่ ป้องกันแมลง เชือ้ รา และราดโคนตน้ ไม้ เพื่อเรง่ รากหากใชอ้ ตั ราเขม้ ขน้ กวา่ น้ี อาจท�ำใหใ้ บไหมไ้ ด้ - ผสมน�้ำ 500 เทา่ (40 ซซี ตี ่อน�ำ้ 20 ลิตร) แทนสารจับใบจะลดการใชส้ ารเคมไี ด้ 50% ห้ามใช้ กับสารเคมีท่ีฤทธ์ิเปน็ ด่าง การใช้ประโยชนจ์ ากน�้ำสม้ ควนั ไม้ในการเกษตร - ผสมน้ำ� สม้ ควนั ไม้กบั น้�ำใหเ้ จอื จาง 1 ตอ่ 500-1,000 เทา่ รดไมผ้ ลจะชว่ ยเพม่ิ ความหวาน - ช่วยยอ่ ยสลายปุ๋ยคอก ลดกลน่ิ - ถ่านท่ีแช่ไว้ในน�้ำส้มควันไม้จะเป็นตัวปรับปรุงดินอย่างดี โดยการเพ่ิมจ�ำนวนแบคทีเรียในดิน ท่ีมีคุณเป็นประโยชน์ต่อพืช เน่ืองจากถ่ายมีรูพรุนจ�ำนวนมากและมีแร่ธาตุสารอาหารอยู่ด้วยท�ำให้เหมาะ สมทจี่ ะเปน็ ท่ีอยอู่ าศัยของจลุ ินทรีย์ในดนิ ท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตน้ พืช - การใชน้ ำ้� สม้ ควนั ไมก้ บั ตน้ พชื ควรใชเ้ วลาตอนเยน็ จะเกดิ ประโยชนต์ อ่ พชื มากกวา่ ในตอนกลางวนั การใช้ประโยชน์จากนำ้� สม้ ควันไม้ในด้านปศุสตั ว์ - ใชล้ ดกลิน่ และแมลงในฟาร์มปศุสัตว์ โดยการใชค้ ร้ังแรกควรผสมน�้ำ 100 เทา่ หลงั จากน้นั เพิม่ เป็นผสมน้ำ� 200 เท่า จะกำ� จดั กลน่ิ และลดจ�ำนวนแมลงไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ - ใช้ผสมอาหารสัตว์ เพ่ือช่วยการย่อยอาหารและป้องกันโรคท้องเสีย แต่การให้โดยตรงโดย การผสมน�้ำสัตว์จะรังเกียจกลิ่นควันไฟควรน�ำไปผสมกับผงถ่านเสียก่อน โดยน�ำน�้ำส้มควันไม้ 2 ลิตร ผสมกับผงถ่าน 8 กิโลกรัม แล้วน�ำผงถ่านท่ีชุ่มด้วยน�้ำส้มควันไม้นี้ไปผสมกับอาหารสัตว์ 990 กิโลกรัม ก็จะได้อาหารสัตว์ 1 ตนั พอดี ถ่านผสมอาหารสตั ว์จะมีคุณประโยชนด์ งั นี้ 1. ช่วยท�ำให้การยอ่ ยและการใชป้ ระโยชน์จากอาหารดีข้ึน ท�ำใหส้ ตั ว์โตเร็วกวา่ ปกตโิ ดยใชอ้ าหาร เทา่ เดมิ หรือใช้อาหารน้อยลง 5% ในเวลาเท่าเดมิ 41
2. ชว่ ยยับยงั้ การเกิดแกส๊ และดดู ซึมโลหะหนกั ในกระเพาะอาหาร ท�ำใหส้ ัตวม์ คี ณุ ภาพดี 3. ช่วยป้องกนั และรักษาอาการทอ้ งเสีย 4. ช่วยปรบั ปรุงคณุ ภาพและลดปรมิ าณน้ำ� ในเน้อื สตั ว ์ ทำ� ให้คณุ ภาพของเนือ้ สตั ว์ดขี ึ้น ทั้งรสชาติ สี และกลนิ่ 5. ช่วยปรับปรุงคุณภาพของไข่ ทำ� ให้ไข่แดงใหญ่และเหนียวขึ้น ทัง้ ยงั เพ่มิ ปริมาณวิตามิน และลด คอเลสเตอรอล 6. ชว่ ยเพ่ิมปริมาณนม 7. ชว่ ยยับยง้ั การเกดิ แกส๊ แอมโมเนยี และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ท�ำใหล้ ดกลนิ่ ของมลู สัตว์ ซ่งึ ช่วย ให้สัตวไ์ ม่เครียด ทั้งยังเพ่มิ คุณภาพของปยุ๋ คอกทไ่ี ดจ้ ากมลู สัตว์ให้ดขี นึ้ ด้วย 8. ชว่ ยยบั ยั้งการฟกั ไขข่ องแมลงในมลู สตั ว์ ท�ำใหล้ ดปรมิ าณของแมลงในบริเวณฟาร์มโดยเฉพาะ แมลงวนั อตั ราการใช้ ใช้ผสมกบั อาหารสัตว์ตามประเภทของสตั ว ์ ดังน้ี - เปด็ และไก่เน้ือ อายเุ ริม่ เล้ยี ง - ขาย 0.7% - 0.8% - เป็ดและไกไ่ ข่ อายไุ ม่เกนิ 100 วนั 0.4% อายุ 100-150 วนั 0.6% อายุเกิน 150 วัน 0.8% - หมู อายุเริ่มเล้ียง-ขาย 0.5% - 0.8% - ววั เน้อื และวัวนม อายเุ ริ่มเล้ยี ง – ขาย 10% - 18% ประโยชน์และวิธีใชน้ ้ำ� ส้มควันไม้ในพืชชนิดต่าง ๆ - มะเขือเทศปอ้ งกันเชอ้ื รา ใชผ้ สมนำ้� 1 ตอ่ 200 เทา่ ฉดี พน่ อาทิตยล์ ะคร้ัง - แตงกวา ป้องกนั เช้อื รา ใชผ้ สมน้�ำ 1 ตอ่ 200 เท่า ผสมกระเทียมฉดี พน่ ใบ - หอมหัวใหญ่/กระเทียม ก�ำจัดศัตรูพืชช่วงเป็นต้นอ่อน ใช้ผสมน้�ำ 1 ต่อ 800 – 1,000 เท่า รดผัก 2-3 เดือนต่อครง้ั - ผักกะหล�่ำปลี/ผักกาดขาว ก�ำจัดศัตรูพืชช่วงเป็นต้นอ่อน ใช้ผสมน�้ำ 1 ต่อ1,000-2,000 เท่า รดผกั ทุก 7 วนั - พรกิ แกป้ ญั หาดอกรว่ ง ทำ� ใหเ้ มด็ พรกิ โตและเพม่ิ จำ� นวนเมด็ มากขนึ้ ใชผ้ สมนำ้� 1 ตอ่ 200 – 300 เทา่ รดท่ใี บและผสมน้�ำ 1 ต่อ 200 เทา่ รดโคนตน้ อยา่ งน้อยเดอื นละครัง้ - ขา้ ว เมือ่ ออกดอกช่วยใหต้ ดิ รวง ใช้ผสมน้�ำ 1 ตอ่ 200-300 เทา่ รด 2-3 ครัง้ ต่อเดือน - ข้าวโพด ก�ำจัดศัตรูพืชระยะเป็นต้นออ่ น ผสมน�้ำ 1 ตอ่ 500 เทา่ รด 2-3 ครง้ั ตอ่ เดอื น ที่มา : ศนู ยเ์ รยี นรเู้ ครอื ข่ายกสกิ รรมธรรมชาติ ฟ้าห่วน - ฅนลือ จงั หวัดอำ� นาจเจรญิ 42
4.11 น้ำ� หมกั ขยะหอม ส่วนประกอบ 1) น�ำ้ ตาลทรายแดง,นำ�้ ออ้ ย หรือกากนำ�้ ตาล 1 กิโลกรัม 2) เศษอาหาร 3 กิโลกรมั (ยกเว้นถงุ พลาสติก, แก้ว, เหลก็ , อะลมู ิเนียม) 3) น้ำ� 10 ลติ ร วิธที �ำ : น�ำข้อ 1 และข้อ 3 คนเข้าด้วยกัน แล้วใส่ข้อ 2 ลงไป ปล่อยท้ิงไว้ 2 ช่ัวโมงขึ้นไป แล้วปดิ ฝา หมกั ไว้ 7-15 วนั กใ็ ช้ได้ (ถ้าหมกั 3 เดือนข้นึ ไปจะมีประสทิ ธภิ าพสงู ) วิธใี ช้ : ใช้รดหรอื พน้ บำ� รงุ พืชผักผลไม้ทกุ 3-7 วนั ตอ่ คร้งั ใชน้ ำ้� หมกั ต่อน้�ำเปลา่ อัตราสว่ น 1 ตอ่ 500 ส่วน (น�ำ้ หมัก 3 ช้อนโต๊ะ นำ้� เปล่า 20 ลติ ร) ทีม่ า : ศูนย์เครอื ข่ายกสกิ รรมไรส้ ารพิษแหง่ ประเทศไทย (สวน“สา่ งฝนั ”) จงั หวัดอ�ำนาจเจรญิ 4.12 การทำ� นำ�้ หมกั จากผลไม้รสหวาน บทน�ำ การท�ำน้�ำหมักช่วยให้ชุมชนปรับเปล่ียนแนวทางการท�ำเกษตรจากการใช้สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช เป็นมาปลูกพืชผักปลอดภัยจากสารพิษ โดยประยุกต์ใช้วัตถุดิบเหลือใช้ในท้องถ่ินมาท�ำน้�ำหมัก และน�ำไป เพม่ิ ผลผลติ ทางการเกษตร วัสดอุ ุปกรณ์ 1. ผลไม้ท่ีสกุ งอม หรอื แกจ่ ดั 3 กิโลกรมั 2. น้ำ� ตาล 1 กิโลกรมั 3. กระดาษขาวบาง 1 แผ่น ภาชนะท่จี ะใช้ในการหมัก จะตอ้ งเปน็ ภาชนะท่ที บึ แสง และมีฝาปิดทมี่ ิดชดิ (ใชถ้ ังพลาสตกิ จะดี) ขั้นตอน/วธิ ที ำ� 1. ห่ันผลไมใ้ ห้เปน็ ชน้ิ ประมาณ 3 เซนตเิ มตร 2. ใชน้ ำ้� ตาลคลกุ เคลา้ กบั ผลไมใ้ หท้ วั่ แลว้ นำ� ไปเทลงใสภ่ าชนะทต่ี รยี มไวใ้ ชก้ ระดาษขาวบางปดิ ปากถงั ใชย้ างรัดไว้ ประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นจงึ นำ� ฝามาปดิ ใหม้ ดิ ชดิ หมักไวป้ ระมาณ 7-15 วนั จงึ น�ำมาใช้ได้ ขอ้ ควรระวงั - การใชป้ ระโยชน์ - อัตราสว่ น นำ้� หมกั 1 ลิตร นำ�้ ตาล 1 กิโลกรัม ใชก้ บั นำ้� ผสม 1,000 ลิตร หรอื ใช้ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อน�้ำ 20 ลติ ร ใช้ฉดี พ่นตามใบ และลำ� ต้นของพืช - ใชน้ ำ� ไปรดหรือพ่นบำ� รงุ พืชหรือผลไมจ้ ะช่วยให้พืชและผลไม้งามและแตกยอดเรว็ ข้นึ 43
ต้นทนุ การผลติ และผลตอบแทน ผลไม้รสหวานในทอ้ งถน่ิ ที่มา : ชุมชนบญุ นิยมศรโี คตรบูรณอ์ โศก จงั หวัดนครพนม 4.13 การท�ำน้�ำหมักจากพืชสเี ขียว บทน�ำ การท�ำน้�ำหมักจากพืชสีเขียวช่วยให้ชุมชนปรับเปลี่ยนแนวทางการท�ำเกษตรจากการใช้ สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช เป็นมาปลูกพืชผักปลอดภัยจากสารพิษ โดยประยุกต์ใช้วัตถุดิบเหลือใช้ในท้องถิ่น มาท�ำน�้ำหมัก และน�ำไปเพ่ิมผลผลิตทางการเกษตรช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต และเป็นการ ทำ� การเกษตรท่เี ปน็ มิตรตอ่ สิ่งแวดล้อม วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. ยอดพืชผักสีเขยี ว 3 กโิ ลกรมั 2. น้ำ� ตาล 3 กโิ ลกรัม 3. เกลอื 1 ขดี (ถ้าใชเ้ กลือทะเลยงิ่ ดี) 4. ภาชนะทีม่ ีฝาปิด 1 ใบ (ถังพลาสติกทบึ แสง) ขัน้ ตอน/วธิ ีทำ� หั่นพืชผักสีเขียวเป็นช้ินยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ใช้น้�ำตาลและเกลือมาคลุกเคล้ากับ พืชผักท่ีห่ันแล้วให้ท่ัวกันดีแล้ว เทลงใส่ถังที่เตรียมไว้ใช้กระดาษขาวบางปิดปากถังหมักไว้ 3 วัน แล้วจึง ใช้ฝาถงั ปิดให้มิดชิด หมักเอาไวป้ ระมาณ 7-15 วัน แลว้ จึงน�ำมาใชไ้ ด้ ขอ้ ควรระวงั - การใชป้ ระโยชน์ - อตั ราสว่ นน้ำ� หมัก 1 ลิตร นำ้� ตาล 1 กโิ ลกรัม ใช้กับน้ำ� ผสม 1,000 ลติ ร หรอื ใช้ 3 ชอ้ นโต๊ะ ตอ่ น�ำ้ 20 ลิตร ใช้ฉีดพ่นตามใบและลำ� ต้น - ใชบ้ ำ� รงุ พชื ผกั ทว่ั ไปหรอื ผลไม้ โดยการรดหรอื ฉดี พน่ เพอ่ื ชว่ ยใหพ้ ชื และผลไมเ้ จรญิ เตบิ โตเรว็ ขนึ้ 44
ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทน วตั ถดุ บิ หาได้จากชมุ ชน 4.14 น�้ำหมัก สูตรนำ้� ซาวข้าว ท่ีมา : ชมุ ชนบญุ นิยมศรีโคตรบูรณ์อโศก จังหวัดนครพนม ส่วนประกอบ 1) นำ�้ ตาลทรายแดง, นำ้� ออ้ ย หรอื กากน�ำ้ ตาล 1 กิโลกรมั 2) น�้ำซาวขา้ ว (น้ำ� แชข่ ้าวเหนยี ว) 24 ลิตร วธิ ที �ำ : เอาขอ้ 1 และขอ้ 2 รวมกัน หมกั ไว้ 7 วัน ข้นึ ไป ใช้ได้ วิธใี ช้ : ใช้บ�ำรุงพชื ทั่วไป โดยรดหรอื พ่นทกุ 3-7 วันตอ่ ครัง้ ใช้นำ้� หมกั ต่อนำ้� เปลา่ อัตราสว่ น 1 ส่วนตอ่ 500 ส่วน (น�้ำหมัก 3 ช้อนโต๊ะ น�้ำเปล่า 20 ลติ ร ) ทมี่ า : ศูนยเ์ ครือข่ายกสิกรรมไรส้ ารพษิ แห่งประเทศไทย (สวน“สา่ งฝนั ”) จังหวัดอ�ำนาจเจริญ 4.15 การท�ำนำ้� หมักฮอร์โมนจากหวั ปลี บทน�ำ เร่ิมจากการท�ำการเกษตรอยู่แล้ว ปลูกทุกอย่างท่ีกิน ก็ได้คิดค้นหาวิธีว่าท�ำอย่างไรให้ปลอดภัย แก่ผู้ที่กินเข้าไป ก็ได้คิดสูตรนี้ขึ้นมาเพราะวัตถุดิบก็มีอยู่มากมาย เป็นการลดต้นทุนและลดรายจ่ายให้แก่ ครัวเรอื วสั ดุอปุ กรณ์ 1. หัวปลี 5 กิโลกรัม 2. น�ำ้ มะพร้าว 10 กโิ ลกรัม 3. น�ำ้ ตาลทรายแดง 2 กโิ ลกรัม 4. พ.ด. 3 1 ซอง 5. พ.ด.12 1 ซอง ขั้นตอน/วิธีทำ� 1. น�ำหัวปลีมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใสก่ ะละมัง 2. นำ� น�้ำมะพรา้ วใส่ถังทเี่ ตรียมไว้ น�ำหวั ปลีทีห่ ่ันไปแชใ่ นน้�ำมะพรา้ ว 3. น�ำน้�ำตาลทรายแดง และ พ.ด.3 ,พ.ด.12 ใส่ลงในถังน้�ำมะพร้าว คนใหเ้ ข้ากันและหมักไว้ 4. ตอ้ งคนนำ�้ หมักทุก 7 วนั จนครบ 30 วนั ถึงจะใช้ได้ 45
ข้อควรระวัง เก็บไวใ้ นท่รี ่ม การใช้ประโยชน์ น�ำน�้ำฮอร์โมน 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้�ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ บ�ำรุงต้นและ เปิดตาดอก ท�ำใหด้ อกติดดี พืชที่กินใบใชด้ มี าก ต้นทนุ การผลติ และผลตอบแทน ซื้อน้�ำตาลทรายแดง 2 กโิ ลกรมั ใชเ้ งิน 70 บาท และใชว้ ตั ถุดบิ ทมี่ ีอยู่ในพืน้ ที่ ในการทำ� 1 ถงั ท่มี า : ศนู ย์เรียนร้เู ศรษฐกิจพอเพยี งชุมชนต้นแบบบา้ นพะงุน้ จังหวดั ชุมพร 4.16 การทำ� ปยุ๋ กอ้ น (ดนิ ระเบิด) บทน�ำ ปยุ๋ มคี วามสำ� คัญตอ่ การปรบั ปรุงดนิ และใหแ้ รธ่ าตอุ าหารแก่พชื เพราะประกอบด้วยอินทรยี วตั ถุ และแรธ่ าตตุ า่ งๆ ทจ่ี ะทำ� ใหด้ นิ มสี ภาพดขี นึ้ พรอ้ มชว่ ยใหพ้ ชื เจรญิ เตบิ โตไดอ้ ยา่ งเหมาะสมการทำ� ปยุ๋ กอ้ นนน้ั เปน็ การลดต้นทนุ การผลิต และยงั สามารถบ�ำบดั ได้เสียได้อกี ดว้ ย วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. ดนิ ดี คอื ดนิ ทอ่ี ยไู่ ดร้ ม่ ไมห้ รอื ในปา่ เมอ่ื ขดุ ขนึ้ มาจะมเี ชอ้ื ราสขี าวตดิ อยดู่ ว้ ย และมสี ดี ำ� โดยหาได้ ในป่ามีดนิ ทบั ถมกนั มานาน จ�ำนวน 1 กิโลกรัม 2. ร�ำอ่อน จำ� นวน 1 กโิ ลกรมั 3. น้ำ� ตาลทรายแดง จ�ำนวน 2 ช้อนโตะ๊ 4. น�้ำเปลา่ ประมาณทเ่ี หมาะสม ขน้ั ตอน/วธิ ีทำ� 1. นำ� ดินท่ขี ุดมาบดให้ละเอยี ด แลว้ นำ� มาผสมคลกุ เคล้าใหเ้ ขา้ กันกับสว่ นผสมท้งั หมด แล้วคอ่ ยๆ ราดน�ำ้ ลงไปจนสามารถปั้นก้อนดินเปน็ กอ้ นขนาดเท่ากำ� มือได้ 2. จากน้นั นำ� กระดาษมาห่อก้อนดินทป่ี ้นั แล้ว เกบ็ ไวใ้ นท่รี ม่ ประมาณ 7-15 วัน จะเกิดเช้อื ราสขี าว ทว่ั ท้งั ก้อน น�ำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ แตก่ ่อนใช้ต้องขยายหวั เชอ้ื กอ่ น ขอ้ ควรระวัง ไม่ควรใชเ้ กิดอตั ราในแปลงผักจนเกินไปอาจทำ� ใหผ้ ักตายได้ การใช้ประโยชน์ 1. เป็นหัวเชือ้ ใช้ยอ่ ยสลายซากอินทรยี วัตถุต่างๆไดด้ แี ละบ�ำบัดน้�ำเสีย ดบั กล่ิน 2. เหมาะส�ำหรับใชใ้ นแปลงนาขา้ ว เพ่ือช่วยเร่งการย่อยสลายอนิ ทรียวัตถุ วัชพืช และตอซังโดยใช้ นำ�้ หมกั เขม้ ข้น 5 ลติ ร/ไร่ ราดใหท้ ่วั ตอซังในแปลงนาก่อนไถกลบ 3. ใช้สำ� หรับการทำ� ปยุ๋ หมักอนิ ทรยี ช์ วี ภาพอดั เม็ด 4. สำ� หรับพชื ผกั สวนครวั / ไมย้ ืนตน้ ใหใ้ ชท้ คี่ วามเจือจาง นำ้� หมกั ดนิ ระเบิด 1 ลติ ร ต่อ นำ้� 100 – 500 ลิตร ขนึ้ อย่กู ับขนาดของต้นไมแ้ ละพชื ฯลฯ 46
ตน้ ทนุ การผลิตและผลตอบแทน ใชร้ ำ� ละเอยี ดแค่ 1 กโิ ลกรมั ราคา 30 บาท สามารถผลติ ปุ๋ยได้ 90-110 กอ้ นอยทู่ ข่ี นาดการป้ัน โดยสามารถใชก้ ับนาข้าว 15 ก้อนต่อ 1 ไร่ ท่ีมา : ศูนยฝ์ กึ อบรมสร้างชีวิตใหม่ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง จงั หวดั อุตรดติ ถ์ 4.17 ป๋ยุ หมกั ชวี ภาพ จาก พด.1 บทน�ำ ปุ๋ยคอก เป็นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดหน่ึง เกิดจากการน�ำซากหรือเศษเหลือจากพืชมาหมักรวมกันและ ผ่านกระบวน การย่อยสลายโดยกจิ กรรมจุลนิ ทรยี ์จนเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เป็นวัสดุทม่ี ีลกั ษณะออ่ นน่มุ เปื่อยย่ยุ ไมแ่ ขง็ กระดา้ ง และมสี ีน้ำ� ตาลปนด�ำ สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้ จากการเกษตร และอุตสาหกรรมแปรรูป ผลผลิตทางการเกษตรเพ่ือผลิตปุ๋ยหมักในเวลารวดเร็วและมี คณุ ภาพสงู ขน้ึ ประกอบดว้ ยเชอื้ รา และแอคตโิ นมยั ซสี ทย่ี อ่ ยสารประกอบเซลลโู ลส และแบคทเี รยี ทยี่ อ่ ยไขมนั วสั ดแุ ละอปุ กรณ ์ - สารเร่ง พด.1 1 ซอง/น�ำ้ 1 ลิตร - ปยุ๋ คอก 400 กโิ ลกรัม - เศษวสั ดทุ ่ีย่อยสลายได้ 600 กโิ ลกรมั - น้�ำ - วสั ดุคลุมกองปุ๋ย ขัน้ ตอน/วธิ ที �ำ - น�ำวัสดุมากองเป็นชั้น ๆ แต่ละช้ันสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกโรยให้ทั่วอยู่ด้านบน ในแต่ละช้นั รดน้ำ� จนเปยี กและเหยยี บให้แน่น ราดด้วยพด.1 ท่ลี ะลายนำ้� ใส่ภาชนะไว้ อยา่ งน้อย 15 นาที หรอื ราดดว้ ยหวั เช้อื จุลินทรีย์ - ในชนั้ ตอ่ ๆ ไป กท็ �ำเหมอื นกนั ข้อควรระวงั - ควรทจ่ี ะแบ่งวัสดุเปน็ สว่ น ๆ ใหเ้ ท่ากันในแตล่ ะชน้ั - ควรท่ีจะตอ้ งกลับกองปุ๋ยทกุ ๆ 7-10 วัน หลงั จากกลบั กองปุ๋ยเสร็จแลว้ ควรปดิ กองปยุ๋ ดว้ ยวสั ดุ คลมุ ทกุ ครั้ง 47
การใชป้ ระโยชน์ - หลงั จากกลับกองปุย๋ ได้ 4-5 ครัง้ หรอื ไดป้ ระมาณ 45 วนั แล้ว ใหส้ งั เกตดูวา่ กองปยุ๋ ยังรอ้ นอยู่ หรือเปลา่ ถ้าขา้ งในกองปุ๋ยเยน็ ตัวแล้วก็นำ� ไปใช้ได้ - ในการปรบั ปรงุ ดินรองพื้นกอ่ นปลกู ใชอ้ ตั รา 1 ตนั /ไร่ - ไมผ้ ลอายุ 1 ปี ใสร่ อบทรงพมุ่ อตั รา 1 กิโลกรมั /ต้น และปีต่อไปใส่เพิ่มปีละ 1 กิโลกรัม - ขา้ ว : ใช้ 2 ตนั ตอ่ ไร่ หวา่ นให้ทว่ั พนื้ ทแ่ี ล้วไถกลบก่อนปลูกพืช - พชื ไร่ : ใช้ 2 ตนั ต่อไร่ โรยเปน็ แถวตามแนวปลกู พชื แลว้ คลกุ เคล้ากบั ดิน - พืชผกั : ใช้ 4 ตนั ต่อไร่ หวา่ นทว่ั แปลงปลูกไถกลบขณะเตรียมดิน - ไมผ้ ล ไมย้ นื ตน้ : เตรยี มหลมุ ปลกู : ใช้ 20 กโิ ลกรมั ตอ่ หลมุ คลกุ เคลา้ ปยุ๋ หมกั กบั ดนิ ใสร่ องกน้ หลมุ - ต้นพืชท่ีเจริญแล้ว : ใช้ 20-50 กิโลกรัมต่อต้น ข้ึนกับอายุของพืช โดยขุดร่องตามแนวทรง พุ่มใส่ปุ๋ยหมักในร่องและกลบด้วยดิน หรือหว่านให้ทั่วภายใต้ทรงพุ่มไม้ตัดดอก ใส่ปุ๋ยหมัก 2 ตันต่อไร่ ไม้ดอกยืนต้นใช้ 5-10 กโิ ลกรัมต่อหลมุ - ใส่ปุ๋ยหมักช่วงเตรียมดิน และไถกลบขณะที่ดินมีความชื้นเพียงพอ จะท�ำให้ธาตุอาหารเป็น ประโยชนต์ ่อพชื สูงสดุ ตน้ ทนุ การผลิตและผลตอบแทน ใช้วัสดแุ ละอุปกรณ์ภายในครวั เรือน ทมี่ า : ศนู ยเ์ รียนรชู้ ุมชนปลกั ไม้ลาย จงั หวัดนครปฐม 48
4.18 การท�ำปยุ๋ หมักเรง่ ด่วน 7 วัน (โบกาฉิ) บทน�ำ โบกาฉิ หมายถึง การท�ำปุ๋ยหมักโดยเอาวัสดุที่หาได้จากธรรมชาติหมักด้วยการใช้จุลินทรีย์ อีเอ็ม การหมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพเป็นปุ๋ยหมักกองเล็กใช้เวลาหมักไม่เกิน 7 วัน จะได้ปุ๋ยหมัก ท่ีมีคุณภาพสูงเพราะคุณลักษณะของจุลินทรีย์จะเป็นตัวบ่งช้ีถึงคุณสมบัติของปุ๋ยหมักในอดีตเราคุ้นเคย การท�ำปุ๋ยหมักกองโต ใช้เวลาหมักหลายเดือนคุณสมบัติของอินทรีย์วัตถุท่ีเหลือ เป็นเพียงกากอินทรีย์ วัตถุที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมักกองโตจะมีประสิทธิภาพด้อย เพราะคุณสมบัติของจุลินทรีย์ท่ีมีประสิทธิภาพ และสามารถท�ำได้ 2 อยา่ ง เช่น โบกาฉฟิ างและโบกาฉิมลู สตั วใ์ นทน่ี จ้ี ะกล่าวถงึ เฉพาะโบกาฉิมลู สตั วเ์ ท่านัน้ วัสดอุ ปุ กรณ ์ 1. หวั เชื้อจลุ นิ ทรยี ์ 1 ลิตร 2. แกลบดบิ หรอื เศษใบไม้ 25 กิโลกรัม 3. มูลสตั ว์ 25 กิโลกรมั 4. ร�ำละเอียด 10 กิโลกรมั 5. น้�ำ ขั้นตอน/วธิ ีท�ำ - ผสมแกลบ มลู สตั ว์ ร�ำละเอียด แมกนีเซยี มใหเ้ ข้ากัน - ผสมน้ำ� กบั หัวเช้อื จลุ นิ ทรีย์ ลาดพรมคลุกเคล้าพอหมาด ๆ - กองไวป้ ดิ ให้มิดหรือใสก่ ระสอบปิดปากไว้ 7 วันนำ� ไปใช้ ขอ้ ควรระวัง เกบ็ รกั ษาเม่อื โบกาฉิแห้งสนิท ไม่ควรเก็บรักษาในท่ชี นื้ ทีโ่ ดนฝนและโดนแดด โบกาฉิสามารถเกบ็ รักษาไดน้ านประมาณ 1 ปี ถา้ ไม่โดนความชืน้ การใช้ประโยชน์ โบกาฉทิ ีห่ มกั ดว้ ยจุลนิ ทรยี ท์ ี่มีประสทิ ธิภาพจะมีกล่ินหอมเหมือนเช้ือเหด็ จะมีราเส้นใยสขี าวขดั ใย อย่หู นาแนน่ พลงั ประสิทธิภาพของอเี อม็ ไม่ทำ� ใหเ้ ช้ือโรคแสดงผลออกมาได้ - รองพื้นแปลงปลูก โดยการผสมกับหญ้า ฟาง ซากอินทรีย์วัตถุหรือมูลสัตว์ทุกชนิด ฯลฯ ใชโ้ บกาฉิโรยทับในปรมิ าณ 1-2 ก�ำมือ/1 ตารางเมตร รดดว้ ยน้�ำทข่ี ยายอีเอม็ (อเี อ็ม/กากนำ้� ตาล/น�้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1/1/1,000) ใช้จอบสับให้ส่วนผสมเข้ากันกับดิน ทิ้งให้อีเอ็มขยายปรับความสมดุลของดิน 7 วัน จึงน�ำพืชมาปลกู 49
- โรยโบกาฉทิ ่แี ปลงปลกู พชื ผกั ในปรมิ าณ 1-2 กำ� มอื /ตารางเมตร หรือโรยรอบทรงพุ่มของตน้ พชื ทป่ี ลูก คลมุ ทับเศษฟางแหง้ หญ้าแหง้ เพอื่ เป็นการขยายเชื้อของอเี อม็ - การปลูกพืชที่เก็บผลในระยะสั้นประมาณ 60 วัน ไม่ควรใช้โบกาฉิฟาง ควรใช้โบกาฉิมูลสัตว์ หรอื ปยุ๋ หมกั จะไดผ้ ลรวดเรว็ ทนั ความตอ้ งการมากกวา่ การใชโ้ บกาฉแิ ตล่ ะครงั้ ควรใชท้ ลี ะนอ้ ย และใชบ้ อ่ ยๆ พชื งามทนั ใจตามความตอ้ งการ การใช้โบกาฉิกบั การปลกู ไมผ้ ล - รองก้นหลุมไม้ยืนต้น ขุดหลุมลึกประมาณ 60*60*60 ใช้เศษฟาง หญ้าแห้ง กิ่งไม้ มูลสัตว์ ซากวตั ถอุ นิ ทรยี อ์ น่ื ฯลฯ รองกน้ หลมุ โรยโกบาฉิ 1-2 กำ� มอื ผสมกบั ดนิ เปน็ ชนั้ ชน้ั ละประมาณ 10-15 เซน็ ตเิ มตร รดดว้ ยนำ�้ ทขี่ ยายอเี อม็ (อเี อ็ม/กากนำ�้ ตาล/น�้ำสะอาด ในอตั ราสว่ น 1/1/1,000) ใช้จอบสบั ใหส้ ่วนผสมให้ เขา้ กับดนิ กลางหลุมใชโ้ บกาฉิผสมกับหญา้ กองดนิ ตน้ ทนุ การผลติ และผลตอบแทน - ร�ำละเอยี ด กโิ ลกรัมละ 12 บาท - หัวเชอื้ จุลินทรีย์ 1 ลิตร 219 บาท - แกลบดบิ กระสอบละ 30 กิโลกรมั ราคา 60 บาท ทม่ี า : ศนู ยเ์ รยี นรู้ชุมชนปลักไมล้ าย จงั หวดั นครปฐม 50
4.19 ปุ๋ยหมกั จานดว่ น บทน�ำ ตน้ ไมท้ ุกชนิดตอ้ งการอาหารเพ่ือการเจรญิ เติบโต พดู ง่ายๆ เราตอ้ งใส่ปยุ๋ ไร่ นา สวนของเรา พชื ผล จงึ จะงามดี เดยี๋ วนป้ี ุ๋ยทซ่ี ื้อตามทอ้ งตลาดแพงเหลือเกนิ น่ี เรามาทำ� ปุ๋ยหมักใชเ้ องดกี วา่ วธิ ที ำ� (ส่วนผสม) 1. ซากพืช ได้แก่ ใบไม้ ผกั ตบชวา หญ้าแหง้ ล�ำต้นถ่วั ลำ� ตน้ ขา้ วโพด ใบ และต้นมนั สำ� ปะหลงั กระดกู ปน่ ตามทม่ี ี สับเป็นทอ่ นๆ สัน้ ๆ ใหเ้ ปอ่ื ยเรว็ 2. ก. ปุย๋ คอก คอื มลู สตั ว์ ขว้ี วั ข้คี วาย ขี้เปด็ ขีไ้ ก่ ขีค้ ้างคาว อะไรก็ได้ ข. ปสั สาวะคน หรอื สตั ว์ ค. กากเมลด็ นนุ่ กากถ่ัว ซากตน้ ถัว่ ชนิดตา่ งๆ (พืชตระกลู ถัว่ ) 3. ดนิ ร่วนพอสมควร ถา้ เป็นหนา้ ดนิ ย่ิงดี การกองป๋ยุ 1. กองในหลุม ต้องขุดหลมุ ขนาดกว้างราว 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 1 เมตร ระวังดนิ พงั ทลายลง ในหลุม ถ้ามกี ารระบายน�ำ้ ไดย้ ่งิ ดี 2. กองในคอก ปรับดินบรเิ วณที่จะกองปุ๋ยหมักให้แน่นใช้ไม้ไผห่ รือไม้อน่ื ท่หี าได้ กั้นเปน็ คอกกว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร สงู 1 เมตร แบง่ คอกเปน็ 2 ส่วน ครง่ึ หนงึ่ ไว้ใสป่ ยุ๋ หมกั ครงึ่ หนง่ึ ไว้กลบั กองปยุ๋ ท�ำหลงั คา ใบจากหรือใบมะพร้าวคลมุ หลงั คา ถา้ เปน็ ถุงพลาสตกิ คลมุ กันฝนชะปยุ๋ ก็ดี 3. เอาซากพืชที่เตรียมไว้ กองเกล่ียในคอก (หรือในหลุม) ให้เป็นช้ัน เหยียบตามขอบให้แน่น ขนาดคนเหยียบแลว้ ไมย่ ุบอกี ช้ันหนง่ึ ๆ สูงราว 1 คบี ครึง่ (30 เซนติเมตร) ราดน้�ำให้ช่มุ แล้วเอาปุย๋ คอกโรย ทับใหท้ ว่ั กันสงู 2 องคลุ ี (5 เซนตเิ มตร) ถา้ มปี ยุ๋ เคมี (สตู ร 16-20-0 หรือ 14-14-14 แอมโมเนียมซลั เฟต หรอื ยูเรยี ) กโ็ รยบางๆ ใหท้ ่วั แลว้ ทบั ด้วยดนิ ละเอยี ด หนาประมาณ 1 องคุลี สลบั ด้วยซากพืช แลว้ รดนำ้� ท�ำเป็นชนั้ ๆ อย่างน้ีจนปุ๋ยเตม็ คอก (น�ำ้ ทรี่ ดจะผสมด้วยปัสสาวะดว้ ยก็ได้) ข้อควรระวัง 1. อยา่ ใหม้ นี ำ้� ขงั การรดน�้ำมากเกินไปจะท�ำใหร้ ะบายอากาศไมด่ ี 2. ปุ๋ยกองใหญ่เกินไปจะเกิดความร้อนสูงปุ๋ยจะเสีย ถ้าในกองปุ๋ยมีความร้อนสูงเกินไปให้เติมน้�ำ ลงไปบ้าง 3. ป๋ยุ กองเลก็ ไปจะสลายตัวชา้ 4. อย่าใชป้ ๋ยุ เคมพี รอ้ มกับใส่ปนู ขาวจะทำ� ให้ธาตไุ นโตรเจนสลายตวั การกลบั ปุ๋ย กลบั ปุ๋ยทกุ 30 วัน ควรกลบั กองป๋ยุ โดยเอาชน้ั บนสุดของกองนำ� ไปเกล่ยี ในอกี ส่วนของคอกเป็นชน้ั ล่างสุด แล้วเอาชนั้ สองเกล่ียทับแลว้ รดน้ำ� ควรกลบั ปุ๋ย (ทกุ 30 วัน) จนกวา่ ซากพืชจะเปื่อยผหุ มดทั้งกอง ในเวลา 3-4 เดอื น เมอื่ ป๋ยุ ใช้ได้สงั เกตจากความร้อนในกองจะใกลเ้ คยี งกับความร้อนของอากาศ ปยุ๋ หมกั จะ เป็นสนี �ำ้ ตาลแก่ เอาตะแกรงรอ่ นป๋ยุ หมกั เกบ็ ไว้ 51
การใช้ประโยชน์ ประหยัดการใชป้ ุ๋ยเคมีได้ครึง่ หนงึ่ ท�ำใหด้ ินรว่ น อดุ มสมบูรณ์ เพม่ิ ธาตไุ นโตรเจน ไมเ่ ปน็ อันตราย หมายเหตุ ถ้าทเี่ ปน็ ดินทรายใชอ้ ฐิ กรใุ นหลมุ จะทำ� ใหไ้ ดผ้ ลดีข้นึ ท่ีมา : ศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญช์ าวบ้านเศรษฐกจิ พอเพียงชมุ ชน จังหวัดนครนายก 4.20 การท�ำปยุ๋ อนิ ทรยี ช์ ีวภาพอัดเมด็ บทนำ� การใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ เพอื่ การเกษตรโดยการใชส้ ารเคมี สง่ ผลตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม อีกทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้ผลิตและผู้บริโภค ดังนั้น การท่ีมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการท�ำการเกษตร จากพึ่งพิงสารเคมีมาเป็นผลิตพืชผักปลอดภัยไร้สารเคมี และใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบ ในการผลิตปุ๋ยหมัก ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรเพ่ิมข้ึน ลดต้นทุนการผลิตสามารถพึ่งตนเองได้ และทำ� การเกษตรทปี่ ลอดภยั ต่อผู้บรโิ ภคเป็นมิตรต่อสงิ่ แวดล้อม อปุ กรณ์ 1. เครื่องสบั บด 2. เครอ่ื งผสม 3.เครอื่ งปั้นดนิ วัสดุท�ำป๋ยุ หมัก 1. อินทรียวตั ถุ 85 เปอรเ์ ซน็ ต์ 2. แกลบดำ� 1 เปอร์เซน็ ต์ 3. แกลบเผา 1 เปอร์เซ็นต์ 4. รำ� ละเอียด 1 เปอร์เซ็นต์ 5. น้ำ� หมักชีวภาพ 1 เปอรเ์ ซน็ ต์ 6. กากนำ้� ตาล 1 เปอร์เซ็นต์ 7. เพอร์ไลต ์ 10 เปอรเ์ ซ็นต์ 52
ขนั้ ตอน/วธิ ที ำ� 1. น�ำแกลบด�ำ แกลบเผา อนิ ทรียวัตถุ และร�ำละเอียดผสม คลกุ เคล้าใหเ้ ขา้ กัน 2. ใช้กากนำ�้ ตาลผสมกบั น้ำ� โรยทกี่ องปุ๋ยหมัก 3. ใชน้ ำ้� หมกั ชีวภาพฉีดพ่นบนกองปุ๋ยใหท้ ่วั กอง 4. น�ำปุ๋ยหมกั ท่ไี ด้มาบดให้ละเอยี ดผสมกบั เพอรไ์ ลต์ เทใส่เคร่อื งอดั เมด็ 5. ใชน้ ้�ำหมักชวี ภาพผสมน้ำ� ฉดี พน่ ขณะเคร่อื งทำ� งาน 6. ระหว่างป้นั ดินสาดแกลบดำ� และรำ� ละเอียดเพอ่ื ให้ปยุ๋ กอ่ ตัวเป็นเม็ดมากขึ้น 7. นำ� ไปตากในทีร่ ม่ จนแห้งดแี ล้ว จงึ บรรจุกระสอบเกบ็ ไว้หรือน�ำไปใช้ไดเ้ ลย ขอ้ ควรระวงั ควรน�ำป๋ยุ ออกมาตากแดดใหแ้ ห้ง ก่อนเก็บใส่กระสอบ การใช้ประโยชน์ 1. ชว่ ยปรบั ปรุงโครงสร้างของดนิ ใหด้ ีขึ้น เช่น ทำ� ใหด้ ินรว่ นซยุ รากแผ่ขยายออกไปหาอาหารได้ สะดวก อุ้มน�้ำได้ดี 2. ชว่ ยปรบั สมดุลทางเคมี คา่ ความเปน็ กรด – เปน็ ด่างของดนิ ให้ดีข้นึ ท�ำใหพ้ ชื ดดู ใชธ้ าตุอาหาร พชื /ป๋ยุ เคมีไดด้ ีขนึ้ 3. เมื่อใหร้ ว่ มกบั ปยุ๋ เคมี จะสง่ เสริมให้พชื ใช้ปุย๋ เคมีมปี ระสิทธิภาพมากข้นึ (ช่วยให้ประหยดั คา่ ปยุ๋ เคมี) ตน้ ทุนการผลติ และผลตอบแทน 1. คา่ อินทรียวัตถ ุ 2,300 บาท 2. คา่ แกลบ 50 บาท 3. คา่ แกลบเผา 100 บาท 4. ค่ารำ� ละเอยี ด 200 บาท 5. คา่ เพอร์ไลต ์ 300 บาท 6. กากน้ำ� ตาล 150 บาท รวมคา่ ใชจ้ ่าย บาท 3,100 53
ผลตอบแทน จ�ำหน่ายปุ๋ยอินทรียช์ วี ภาพอดั เมด็ ไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง ราคากระสอบละ 450 บาท ทม่ี า : ศูนย์เศรษฐกจิ พอเพยี งเลย้ี งตนเองบา้ นวงั ขาม จังหวดั เพชรบรู ณ์ 4.21 การท�ำปุ๋ยน้�ำชวี ภาพสูตรส�ำหรับพืชผักสวนครัว ส่วนผสมและวสั ดุอปุ กรณ์ 1. ผกั บุ้ง 20 กโิ ลกรัม 2. หวั ไชเท้า 5 กโิ ลกรมั 3. ฟกั ทอง 5 กโิ ลกรัม 4. มะม่วงสุกหรือกล้วยสุก 10 กโิ ลกรัม 5. น�้ำ 50 ลติ ร 6. กากน�ำ้ ตาล 15 กิโลกรัม 7. สารเร่งการยอ่ ยสลาย (พด.2) 1 ซอง 8. ถังหรอื ภาชนะส�ำหรับบรรจุทีม่ ฝี าปิดและไม้พายส�ำหรับกวน 54
ข้ันตอนวิธกี ารทำ� 1. น�ำผกั และผลไม้หัน่ เปน็ ชิ้นเล็กๆ พอประมาณ 2. นำ� สารเรง่ การย่อยสลาย (พด.2) ละลายในน�้ำ 5 ลิตร 3. น�ำผักและผลไม้ท่ีหน่ั แล้วใส่ลงในถังทีเ่ ตรียมไว้ 4. เทน�้ำและกากน้�ำตาลลงไปคนให้เข้ากนั 5 นาที 5. นำ� สารเร่งการย่อยสลาย (พด.2) ท่ีละลายในน้�ำแล้วเทผสมลงไปคนให้เข้ากนั 5 นาที 6. ปดิ ฝาถงั หมกั ไว้ประมาณ 7-15 วัน (ให้อากาศระบายได)้ ควรคนวันละ 1 ครั้ง 7. จะได้ของเหลวสีนำ้� ตาล คือ น�้ำสกดั ชวี ภาพ น�ำมากรองแล้วกรอกใส่ขวดปิดฝาให้สนิทควรเกบ็ ไว้ในที่รม่ 8. กากท่เี หลือสามารถนำ� ไปทำ� เปน็ ป๋ยุ ใส่บรเิ วณทรงพุ่มของตน้ ไมไ้ ด้ วิธกี ารใช้ ผสมน�ำ้ ในอัตราส่วน 1 : 200-500 ฉดี พ่นหรอื ราดโคน 7-10 วันต่อครั้ง ประโยชน์ เรง่ การเจริญเติบโตของใบและล�ำต้น ท่มี า : ศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญช์ าวบ้านเศรษฐกิจพอเพยี งชุมชน จังหวดั นครนายก 55
4.22 ป๋ยุ นำ�้ บำ� รุงผลเร่งหวาน บทนำ� ปุ๋ยน้�ำบ�ำรุงผลเร่งหวาน ปุ๋ยที่มีสรรพคุณท�ำให้ผักผลไม้มีรสชาติหวาน ซ่ึงมีขั้นตอนกรรมวิธีการ หมกั แบบธรรมชาตหิ ากตอ้ งการเรง่ การออกดอกตดิ ผลหรอื เรง่ การเจรญิ เตบิ โตของผลใหห้ มกั โดยใชผ้ ลไมส้ กุ แตห่ ากตอ้ งการเรง่ การเจริญเติบโตให้ใชผ้ ักดิบ เชน่ ผกั บ้งุ หน่อกล้วย หน่อไม้ ยอดผักชนิดตา่ งๆ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. ผลไม้สกุ เชน่ มะละกอ กล้วย ลกู ยอ มะมว่ ง 2. ร�ำขา้ ว 1 ถว้ ยตวง 3. น�ำ้ ตาลทราย ½ - 1 กโิ ลกรมั 4. ยาคลู ย์ 1 ขวด 5. แปง้ ลูกหมาก 1 ลูก 6. น�ำ้ 5 ลิตร ขน้ั ตอน/วธิ ีทำ� นำ� ผลไมม้ าป่นั ละเอียดรวมกนั บดแป้งลูกหมากใหล้ ะเอยี ดจากนน้ั เอาน�้ำตาลทราย รำ� ขา้ ว ยาคลู ย์ เทลงในถงั หมกั กวนใหเ้ ขา้ กนั ดหี มกั ในร่ม 7-15 วัน ใช้ไดเ้ ลย ข้อควรระวงั ถ้าใช้ในปริมาณท่ีเยอะจนเกินไป จะท�ำให้พืชผลมีรูปร่างผิดแปลกไปจากเดิม ควรใช้ในปริมาณท่ี นอ้ ย ใช้ 5 ซีซี ตอ่ น้ำ� 1 ลติ ร การใชป้ ระโยชน์ ท�ำให้ผลผลิตมคี ณุ ภาพดี ต้นทนุ การผลติ และผลตอบแทน สูตรปุย๋ น�้ำบ�ำรงุ ผลเรง่ หวานราคาจำ� หนา่ ย 1 ลติ ร 50 บาท ที่มา : แปลงเกษตรทฤษฎใี หมส่ วนครปู ระทมุ จังหวดั เชียงใหม่ 56
4.23 ฮอร์โมนไข่ บทน�ำ เนื่องจากต�ำบลเทพราชมีการเลี้ยงไก่ไข่เยอะและมีไข่แตกจ�ำนวนมาก ในไข่มีแร่ธาตุมากจึงน�ำไข่ ทแ่ี ตกมาทำ� ฮอร์โมนไข่ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. ไข่ 5 กิโลกรัม 2. นำ้� 10 ลิตร 3. กากน�้ำตาล 5 ลิตร 4. ยาคลู ย์ 1 ขวด 5. เชื้อแป้งขา้ วหมาก 1 กอ้ น ข้นั ตอน/วธิ ีท�ำ น�ำไข่ที่แตกท้ังเปลือกน�ำมาตีรวมกับน�้ำ, กากน้�ำตาล, ยาคูลย์ และเชื้อแป้งข้าวหมาก เสร็จแล้ว นำ� ไปหมกั 20 วัน จะได้เปน็ ฮอรโ์ มนไข่ ขอ้ ควรระวงั - การใช้ประโยชน์ 1. น�ำฮอรโ์ มนไข่ 2 ชอ้ นโต๊ะ ผสมกบั นำ�้ 1 ปบ๊ี ฉีดพชื ท�ำใหพ้ ืชเจรญิ เติบโตดี 2. สามารถน�ำฮอร์โมนไข่มาท�ำเป็นปุ๋ยเม็ดฮอร์โมนไข่ได้โดยการน�ำปุ๋ยหมักตากแห้งหรือดินแห้ง หรอื เปลอื กมันแห้งนำ� มาคลกุ กับฮอรโ์ มนไขน่ ำ� ไปตากแห้งแล้วนำ� มาคลุกใหม่ ท�ำเช่นน้ี 3 รอบ จะไดป้ ุย๋ เมด็ ฮอรโ์ มนไข่ ในไปใช้หว่านในนาขา้ วท�ำให้ข้าวเจรญิ เตบิ โตไดด้ ี ต้นทนุ การผลติ และผลตอบแทน - ทม่ี า : ศนู ยป์ ราชญเ์ กษตรเศรษฐกิจพอเพียงเทพราช จงั หวดั ฉะเชิงเทรา 57
4.24 ฮอร์โมนหมกั ปลาหรือผักและผลไม้ วัสดุและอุปกรณ์ 1. จุลินทรีย์ และพด.2 2 ลติ ร/1 ซอง 2. กากนำ�้ ตาล 2 ลิตร 3. ปลาทีใ่ ช้หมกั 20 กิโลกรัม 4. น้�ำสะอาด 20 ลิตร 5. กระชาย 1 กำ� มือ 6. มะกรดู 20 ลูก ผา่ 8 ช้นิ 7. เกลอื 3 กำ� มือ 8. รำ� 3 กำ� มอื ขัน้ ตอน/วิธีท�ำ - น�ำกากน้ำ� ตาลผสมกบั น�้ำและใสจ่ ลุ ินทรียล์ งไป จากนัน้ ใสส่ ่วนผสมทั้งหมดรวมกนั - ใส่ถงั หมกั ทิง้ ไว้ 30 วนั กน็ �ำไปใชไ้ ด้ (ตอ้ งหมนั่ คนทกุ ๆ วนั ) การใช้ประโยชน์ - ใช้บำ� รุงพชื ผักกินใบ ไมผ้ ล เป็นปยุ๋ และฮอรโ์ มน ใช้ไดก้ บั นาข้าวและพชื ผักทกุ ชนิด - 20 ซซี ี ต่อ น้�ำ 20 ลติ ร หรือ 200 ซซี ี ต่อ น�้ำ 200 ลิตร พ่นให้ทัว่ ตน้ พชื ทุก ๆ 10-15 วัน ต้นทนุ การผลิตและผลตอบแทน - กากน้ำ� ตาล ลิตรละ 30 บาท ท่ีมา : ศนู ยเ์ รียนรูช้ ุมชนปลกั ไมล้ าย จงั หวดั นครปฐม 58
4.25 ฮอร์โมนหมกั เศษอาหาร วสั ดุและอปุ กรณ ์ - จลุ ินทรีย์ 2 ลติ รและพด.2 1 ซอง - กากนำ�้ ตาล 2 ลติ ร - เศษอาหาร 20 กิโลกรมั - นำ�้ สะอาด 20 ลติ ร - กระชาย 1 กำ� มือ - มะกรูด 30 ลกู (1 ลูกผา่ 8 ชิ้น) - เกลอื 3 กำ� มือ - รำ� 3 ก�ำมอื ข้นั ตอน/วธิ ที �ำ - นำ� กากน�ำ้ ตาลผสมกับน�ำ้ และใสจ่ ุลินทรียล์ งไป จากน้ันใส่สว่ นผสมท้งั หมดรวมกนั - เตมิ เศษอาหารทุกวนั และคนทกุ วัน หมกั ไว้ 30 วันกใ็ ชไ้ ด้ การใช้ประโยชน์ - ใช้เปน็ ปุ๋ยและฮอร์โมนบำ� รุงพืช - ใชบ้ ำ� รงุ นำ�้ เสยี ดับกล่นิ ย่อยสลายอนิ ทรียวตั ถุ (สว้ ม, หอ้ งนำ้� ) - เทลงในบ่อสว้ ม 1 ลิตร ต่อ 1 ชั้นลองส้วม หรือตอ่ ขนาด 1 ลกู บาศก์เมตร - บ่อน้ำ� เสีย 1 ลติ ร ตอ่ ขนาดบอ่ 10 ลูกบาศก์เมตร ต้นทนุ การผลิตและผลตอบแทน - กากน�้ำตาล ลติ รละ 30 บาท - วสั ดทุ มี่ อี ยใู่ นครวั เรอื น ท่มี า : ศนู ย์เรยี นร้ชู มุ ชนปลกั ไมล้ าย จังหวดั นครปฐม 59
4.26 ฮอร์โมนน�ำ้ พอ่ บทนำ� ปุ๋ยมีความส�ำคัญส�ำหรับพืช มีปุ๋ยหลายชนิดและปุ๋ยน�้ำหมักก็เป็นอีกชนิดหนึ่งที่สามารถน�ำวัสดุ ทหี่ าได้ในท้องถนิ่ มาใชป้ ระโยชน์ไดค้ มุ คา่ และใชไ้ ด้จริง วัสดอุ ุปกรณ์ ท�ำจากผลไม้อย่างน้อย 3 ชนดิ 1. ฟักทอง 1 กิโลกรัม 2. มะละกอสุก 1 กิโลกรัม 3. กล้วยนำ�้ วา้ 1 กโิ ลกรัม 4. กากน้�ำตาล 1 กิโลกรัม 5. น้ำ� 10 ลิตร ข้ันตอน/วธิ ที �ำ หมักได ้ 2 แบบ 1. หั่นผลไมเ้ ปน็ ชนิ้ ๆ คลกุ กากนำ้� ตาล หมกั ไวใ้ นภาชนะพลาสติกสีทบึ ปดิ ฝาเก็บในทรี่ ่ม 15 วนั (สังเกตไดว้ ่าจะมรี าสขี าวเกิดขนึ้ ) ให้ใสน่ ้�ำเตมิ ลงไปหมักอีกใหค้ รบ 3 เดอื น (ย่งิ นานย่งิ ด)ี 2. หนั่ ผลไม้เปน็ ช้ินๆ คลุกกากนำ�้ ตาล พรอ้ มน�ำ้ 10 ลิตร หมกั ไว้ในภาชนะพลาสตกิ สที ึบ ปดิ ฝา เกบ็ ในทร่ี ม่ หมกั ไวอ้ ยา่ งนอ้ ย 3 เดอื น (ยิ่งนานยิ่งด)ี ข้อควรระวัง ควรใชใ้ นอตั ราท่ีก�ำหนดไว้ เพราะมผี ลท�ำใหต้ น้ ไมต้ ายได้ การใช้ประโยชน์ ใช้กับผกั กินดอก - กนิ ผลและไมผ้ ลต่างๆ ใชฉ้ ดี พ่นทางใบในระยะออกดอกและติดโดยผสมน้�ำสกดั 15 – 20 CC. (2 ชอ้ นโต๊ะ) ต่อน้ำ� 20 ลิตรสลับกบั การปล่อยไปกบั น�ำ้ ระบบสปรงิ เกอร์ทกุ ๆ 15 – 20 วัน หรือรดดว้ ยบวั รดน�้ำโดยใชน้ ำ�้ สกัด 30 – 50 C.C. ( 3 – 5 ช้อนโตะ๊ ) ตอ่ น�้ำ 20 ลติ รทุกๆ 7 วัน ท่ีมา : ศนู ย์ฝึกอบรมการผลิตขา้ วอนิ ทรยี แ์ บบครบวงจร (ขา้ วหอมมะลวิ ังดนิ ) จงั หวดั อตุ รดิตถ์ 60
4.27 ฮอร์โมนนำ้� แม่ บทน�ำ ปยุ๋ มคี วามสำ� คญั สำ� หรบั พชื มปี ยุ๋ หลายชนดิ และปยุ๋ นำ�้ หมกั กเ็ ปน็ อกี ชนดิ หนง่ึ ทส่ี ามารถนำ� วสั ดทุ หี่ าได้ ในท้องถนิ่ มาใช้ประโยชนไ์ ดค้ มุ คา่ และใชไ้ ดจ้ ริง วสั ดอุ ปุ กรณ์ ทำ� จากพชื สีเขยี วอยา่ งนอ้ ย 3 ชนิด 1. ตระกูลผกั 1 กิโลกรัม 2. ตระกลู หญ้า 1 กโิ ลกรัม 3. ตระกูลถัว่ 1 กโิ ลกรมั 4. กากน�้ำตาล 1 กโิ ลกรมั 5. น้ำ� 10 ลติ ร ขั้นตอน/วธิ ีทำ� หมักได้ 2 แบบ 1. ห่ันพืชสีเขียวเป็นช้ินๆ คลุกกากน�้ำตาล หมักไว้ในภาชนะพลาสติกสีทึบ ปิดฝาเก็บในที่ร่ม 15 วัน (สังเกตไดว้ ่าจะมีราสขี าวเกิดข้ึน) ใหใ้ สน่ ้�ำเตมิ ลงไปหมักอีกใหค้ รบ 3 เดอื น (ยงิ่ นานย่ิงด)ี 2. หั่นพืชสเี ขียวเป็นชิน้ ๆ คลุกกากนำ้� ตาลพร้อมน้ำ� 10 ลิตร หมักไว้ในภาชนะพลาสติกสีทึบ ปิดฝาเก็บในท่รี ม่ หมักไว้อยา่ งนอ้ ย 3 เดอื น (ย่ิงนานย่ิงดี) ข้อควรระวงั ควรใช้ในอตั ราทีก่ �ำหนดไว้ เพราะมผี ลท�ำให้ต้นไม้ตายได้ การใช้ประโยชน์ 1. ใชห้ มกั ฟางในนาขา้ วผสมนำ�้ สกดั 5 ลติ รตอ่ นำ�้ 200 ลติ ร/ไรโ่ ดยฉดี พน่ ฟางขา้ วในนาแลว้ ไถกลบ 2. ใช้ฉดี พ่นขา้ วทมี่ อี ายุ 15 วนั ขน้ึ ไปใหผ้ สมน�้ำสกัด 30 – 50 C.C. (ประมาณ 3 - 5 ช้อนโตะ๊ )/ น�้ำ 20 ลติ รฉดี พ่นทกุ ๆ 7 - 10 วัน 3. ใชฉ้ ีดพ่นพชื ผกั ใหผ้ สมน้ำ� สกัด 15 – 20 C.C. (ประมาณ 2 ชอ้ นโตะ๊ ) ตอ่ น้�ำ 20 ลติ รฉดี พ่นทาง ใบหรอื ปล่อยไปผสมกับนำ้� ระบบสปรงิ เกอรท์ กุ 15 – 20 วนั หรอื ผสมน�้ำสกดั 30 – 50 C.C. (ประมาณ 3 – 5 ชอ้ นโต๊ะ) ตอ่ น้�ำ 20 ลิตรรดด้วยบัวรดน�ำ้ ทุกๆ 15 - 20 วัน ทม่ี า : ศูนย์ฝกึ อบรมการผลติ ข้าวอนิ ทรีย์แบบครบวงจร (ข้าวหอมมะลิวงั ดิน) จังหวดั อุตรดติ ถ์ 61
5. การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร 5.1 กล้วยฉาบสามรส วสั ดุอุปกรณ์ 1. กลว้ ยดิบ 1 เครอื 2. เกลอื 1 กำ� มอื 3. พริกไทยเม็ด 1 เม็ด 4. น�้ำตาล 3 ขีด 5. หอมแดงห่ันเป็นฝอย 3 ขดี ขั้นตอน/วธิ ที ำ� 1. นำ� กล้วยดบิ มากรดี แชน่ ำ�้ เกลือ 2. ปอกกลว้ ยผง่ึ ลมไว้ 3. นำ� กล้วยมาตัดให้เปน็ แผ่นบางๆ ใส่ถงุ พลาสติกปิดปากถุงใหเ้ ป็นโพงหมักทิ้งไว้ 1 คนื 4. ต้งั กระทะแลว้ ใสน่ ำ้� 1 ลิตร พอเดอื ดแลว้ เติมน�้ำตาล เกลือ และพรกิ ไทย เค่ียวให้เหนียวแลว้ ยกออกปล่อยท้ิงไว้ใหเ้ ย็น 5. น�ำกลว้ ยมาทอดพอเหลืองแลว้ ใส่หอมแดงพอหอม แลว้ ตักออกคลุกกบั น้�ำหวานที่เตรยี มไว้ 6. ตักออกแล้วทอดอีกใหก้ รอบ เสร็จแลว้ ตกั ออกไว้ให้เย็น ข้อควรระวัง ไมม่ ี การใช้ ให้รับประทาน ต้นทนุ การผลิตและผลตอบแทน - ทีม่ า : ศนู ยป์ ราชญเ์ กษตร (สวนอษุ า) จังหวัดชัยภมู ิ 62
5.2 กล้วยม้วน ส่วนประกอบ 1. กลว้ ยนำ้� ว้าดิบ 10 หวี 2. น�้ำตาลทราย 5 กโิ ลกรัม 3. เกลือ 2 ชอ้ นโต๊ะ 4. เนย 2 ช้อนโตะ๊ 5. น้�ำมนั สำ� หรับทอด 6. น�้ำเปล่า วิธีการทำ� 1. ปอกเปลอื กกล้วยดิบแล้วนำ� ไปล้างน้ำ� ใหส้ ะอาดจากน้นั น�ำกล้วยน้ำ� วา้ ไปไสบางๆ ตามความยาว ของกล้วย แล้วจึงม้วนใหเ้ ปน็ วงกลม 2. นำ� กลว้ ยน้�ำว้าทม่ี ้วนแลว้ ลงไปทอดในน�้ำมันท่รี อ้ นจดั จนกล้วยสุกเหลือง 3. ตม้ นำ้� ตาลทราย เกลือและเนยรวมกนั ใหเ้ ป็น เช่ือมใส 4. นำ� กล้วยท่ีทอดเสรจ็ สะเด็ดนำ้� มันแล้วลงไปคลุกในนำ�้ เชือ่ มให้ทั่ว แล้วนำ� ไปทอดอกี ครง้ั ที่มา : ศนู ย์เครือขา่ ยปราชญช์ าวบ้านเศรษฐกิจพอเพยี งชุมชน จังหวดั นครนายก 5.3 การทำ� น�ำ้ ข้าวกล้องงอกผสมธัญพืช บทนำ� นำ้� ขา้ วกลอ้ งงอกผสมธญั พชื เปน็ การเพมิ่ มลู คา่ ของขา้ วอกี ทางหนงึ่ และเพม่ิ ทางเลอื กใหก้ บั ผบู้ รโิ ภค ท่ีจะไดร้ ับประทานสิง่ ทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย วัสดอุ ุปกรณ์ 1. ขา้ วกลอ้ งขาวหอมมะล ิ 105 หรือปทมุ ธานี 1 70 กรัม หรือ 1 ถ้วย 2. ข้าวกล้องข้าวเหนยี วด�ำ (ข้าวก�่ำ) 30 ก รมั หรือ 1/2 ถ้วย 3. ถวั่ เหลอื งแช่ค้างคืน 20 กรัม หรอื 1/3 ถว้ ย 4. งาค่ัว 20 ก รัม หรือ 1/2 ถว้ ย 5. น้ำ� สะอาด 1,400 มิลลลิ ติ ร 63
ข้นั ตอน / วิธที ำ� 1. นำ� ขา้ วกลอ้ งขาวหอมมะลิ 105 หรือปทุมธานี 1 มาเพาะให้งอกเป็นตุม่ เลก็ ๆ โดยน�ำขา้ วกล้อง มาล้างน้�ำท�ำความสะอาด แล้วแช่น�้ำนาน 4 ชั่วโมง จากน้ันท�ำการล้างข้าว ทิ้งให้สะเด็ดน้�ำ ใส่ภาชนะ ปดิ ทิ้งไวน้ าน 6 ชัว่ โมง เมอ่ื ครบเวลา ล้างขา้ วอกี ครง้ั ท้งิ ให้สะเดด็ น้�ำใส่ในภาชนะปิด ทิง้ ไว้นาน 14 ชวั่ โมง เม่อื ครบเวลาจะได้เมลด็ ขา้ วกล้องงอกสด 2. น�ำข้าวกล้องขา้ วเหนียวด�ำ (ข้าวก�ำ่ ) มาเพาะให้งอกเป็นตมุ่ เล็ก ๆ โดยทำ� เช่นเดยี วกับข้าวกลอ้ ง ขาวหอมมะลิ 105 ตามวิธีในข้อที่ 1 3. ถัว่ เหลอื งน�ำมาลา้ ง ทำ� ความสะอาด แลว้ แชน่ ำ�้ ค้างคืน 4. งาขาว น�ำมาคว่ั จนมกี ลิ่นหอม 5. นำ� ส่วนผสมท้ังหมด ไปต้มในเคร่อื งทำ� น�้ำนมถั่วเหลืองแบบอตั โนมตั นิ านประมาณ 20 นาที 6. น�ำมากรอง 2 คร้งั ได้น้�ำข้าวกล้องงอก 7. นำ� มาปรงุ รสดว้ ยนำ�้ ตาล 10 – 15 กรัม ตอ่ น�ำ้ ข้าวกล้องงอก 200 มิลลลิ ิตร 8. ท�ำการต้มฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสนาน 20 นาที แล้วท�ำการกรองก่อนบรรจุ ใสข่ วดพลาสตกิ ทีผ่ ่านการฆา่ เชอื้ มาแล้ว ไดผ้ ลติ ภัณฑ์เคร่อื งด่มื น�้ำขา้ วกล้องงอกผสมธัญพชื การใช้ประโยชน์ ด่มื เป็นอาหารเสรมิ เพราะน้ำ� ขา้ วกล้องผสมธญั พืชมีสารกาบ้าช่วยบ�ำรุงสมอง มีโปรตนี จากธญั พชื และมีวติ ามินท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ ร่างกายดตี อ่ สขุ ภาพสามารถดื่มไดท้ กุ เพศทุกวยั ต้นทุนการผลติ และผลตอบแทน 1. ข้าวกลอ้ งขาวหอมมะล ิ 105 หรอื ปทมุ ธานี 170 กรมั เป็นเงิน 20 บาท 2. ข้าวกลอ้ งข้าวเหนยี วดำ� (ขา้ วก่ำ� ) 30 กรัม เปน็ เงนิ 10 บาท 3. ถั่วเหลอื งแช่คา้ งคืน 20 กรัม เปน็ เงิน 5 บาท 4. งาคว่ั 20 กรัม เปน็ เงิน 5 บาท 5. น�้ำตาลทราย 100 กรัม เป็นเงิน 3 บาท รวมต้นทนุ 43 บาท ได้นำ�้ ขา้ วกลอ้ งธญั พืชจ�ำนวน 20 ถว้ ย ทีม่ า : ศูนย์ฝึกอบรมการผลติ ข้าวอินทรยี แ์ บบครบวงจร (ข้าวหอมมะลิวังดนิ ) จังหวัดอุตรดิตถ์ 64
5.4 น�ำ้ เหมี้ยง บทน�ำ น�้ำเหม้ียงเป็นอาหารท่ีขึ้นช่ือของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปรุงด้วยสมุนไพรพ้ืนบ้านซึ่งดีต่อสุขภาพ รับประทานแล้วช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและล�ำไส้ แก้หวัดแก้ร้อนในเป็นต�ำหรับอาหารในขันโตก เล้ียงแขกบ้านแขกเมืองและในงานบุญต่างๆ เหมี้ยงหรือชา เป็นพืชที่ขึ้นเขตภูเขาทางภาคเหนือของ ประเทศไทยสว่ นทนี่ ำ� มาทำ� นำ�้ เหมยี้ งคอื นำ้� ทไี่ ดจ้ ากการนำ� ใบเหมยี้ ง (ใบชา) สดทเ่ี กบ็ จากตน้ มาทำ� ความสะอาด น�ำไปนึ่งในไหท่ีท�ำเฉพาะน่ึงเหม้ียงเท่านั้นจะได้น้�ำเหมี้ยงท่ีมีสีน�้ำตาลน�ำไปเค้ียวให้มีกล่ินของน้�ำเหมี้ยง มีรสฝาดปนมัน เก็บไว้ท�ำอาหารแกงน�้ำเหมี้ยง หัวน�้ำเหม้ียงมีอายุในการเก็บรักษาโดยใส่ตู้เย็นหัวน�้ำ หรือกระบอกไมไ้ ผม่ ีอายุ 3 ปี ในการเก็บโดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น วสั ดุอปุ กรณ์ 1. พริกแหง้ 1 ขดี 2. ขงิ 2 ขดี 3. หอมแดง 1⁄2 กโิ ลกรัม 4. กระเทียม 1⁄2 กโิ ลกรัม 5. หวั น�้ำเหม้ียง 2 ช้อนโตะ๊ 6. ขา้ วควั่ 1 ถ้วย 7. หมูสับ/ไก่สับ 1⁄2 กิโลกรัม (สำ� หรบั ผ้ทู ที่ านมงั สวริ ัติใหใ้ ชโ้ ปรตีนเกษตร ถ่ัวเหลืองหรือถั่วเขยี วแทนเนื้อสัตว์) 8. นำ้� มนั พชื 1 ขวด 9. กะท ิ 1 ถ้วยตวง 10. ผักชตี น้ หอม (ตามสมควร) 11. แคบหมู (ส�ำหรับทา่ นที่ทานมงั สวริ ตั สิ ามารถใชแ้ คบหมแู บบมังสวริ ัติ) 12. น้�ำสะอาด 13. กะปิ 1 ขีด 14. เกลอื ป่น 1 ช้อนโต๊ะ ข้ันตอน/วธิ ที ำ� ตำ� พรกิ แหง้ ใสก่ ระเทยี ม ใสห่ อมแดง ใสเ่ กลอื พอละเอยี ดใสก่ ะปใิ สข่ งิ (ตำ� ใสน่ ำ้� พรกิ 1 ขดี ไวส้ ำ� หรบั ทอด 1 ขีด) ตำ� ให้ละเอียดให้เข้ากัน จากนน้ั น�ำกระทะตัง้ ไฟใส่น้ำ� มันทอดหอมแดงซอยละเอียด พอเหลือง ตกั พักไว้ น�ำขงิ ทซี่ อยเป็นฝอยละเอียดลงไปทอดให้เหลอื งกรอบ ใชน้ ำ�้ มนั ทเี่ หลือผัดน�ำ้ พรกิ พอน�ำ้ พรกิ หอม ใสห่ มสู บั /ไกส่ บั /โปรตนี เกษตร (สำ� หรบั ผทู้ านมงั สวริ ตั )ิ ลงไป(อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ) เตมิ นำ้� ลงไปในหมอ้ ประมาณ 1 1⁄2 ลิตรพอหม้อเดือดใส่ข้าวค่ัว แล้วเติมกะทิลงไปคนพอให้ข้าวคั่วสุก ถ้าน�้ำแห้งให้เติมน้�ำให้ขลุกขลิก *เตมิ น�ำ้ เหมย้ี ง ลงไป 2 ชอ้ นโตะ๊ พอสกุ แลว้ ยกลง เจียวกระเทียม 1 ขดี ใส่น้ำ� มนั 3 – 4 ทัพพี แล้วเจยี ว ให้เหลืองจากนนั้ นำ�้ แกงในหมอ้ ไปผดั ในน้�ำมัน (ทเี่ จียวกระเทียม) โดยใช้ไฟปานกลาง พอสกุ ให้ยกลง ขอ้ ควรระวัง ส�ำหรับคนทีไ่ ม่คนุ้ เคยหรอื ไมเ่ คยรับประทาน อาจจะมอี าการแพ้กลิน่ ของน�ำ้ เมยี่ ง 65
การใชป้ ระโยชน ์ สมนุ ไพรพนื้ บา้ นมสี รรพคณุ ชว่ ยขบั ลมในกระเพาะอาหารและลำ� ไส้ บรรเทาอาการหวดั แกร้ อ้ นใน และยังเปน็ อาหารตอนรับแขกบา้ นแขกเมอื งในงานบุญหรอื ในงานโอกาสพเิ ศษต่าง ๆ ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทน เหมย้ี งมีราคาจำ� หนา่ ยกิโลกรัมละ 300 – 350 บาท ที่มา : ศนู ย์เรยี นรู้สานสัมพนั ธเ์ พ่อื การพฒั นาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จังหวดั เชียงใหม่ 66
6. พลังงานทดแทน 6.1 การเผาถ่านด้วยถงั น�้ำมัน 200 ลิตร และการเก็บน้�ำส้มควนั ไม้ บทน�ำ ตามท่กี องนโยบายเทคโนโลยเี พื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยง่ั ยนื ไดด้ �ำเนนิ โครงการพฒั นาการ เกษตรตามแนวทฤษฎใี หม่ โดยยดึ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2550 จนถงึ ปจั จบุ นั มกี ารฝกึ อบรม ถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน โดยมีวัตถุประสงค์ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การปรบั เปลยี่ นแนวคดิ และวถิ กี ารดำ� เนนิ ชวี ติ การประกอบอาชพี ทางการเกษตรและใหเ้ กษตรกร สามารถพึง่ พาตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามภูมินเิ วศ และภูมิสังคมตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ส�ำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รวบรวมองค์ความรู้และภูมิปัญญา ดา้ นการเกษตร ของศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญช์ าวบา้ น ศนู ยก์ ารเรยี นรกู้ สกิ รรมธรรมชาตสิ ระยายโสมสพุ รรณบรุ ี ซึ่งประกอบด้วย ชื่อองค์ความรู้ บทน�ำ วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ ข้ันตอน/วิธีท�ำ ข้อควรระวัง การใช้ประโยชน์ ตน้ ทนุ การผลิตและผลตอบแทน รปู ภาพประกอบ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. ตัวเตา (ถังน�ำ้ มันขนาด 200 ลติ ร) 2. ผนังด้านขา้ งเตา 1.2 X 0.5 เมตร โดยใชแ้ ผน่ กระเบื้องหรอื แผน่ สงั กะสี จำ� นวน 2 แผ่น 3. ผนังดา้ นหน้า และดา้ นหลังเตา ขนาด 1 x 0.5 เมตร โดยใช้วสั ดใุ นการท�ำใช้เหมอื นข้อสอง 4. เสาค�ำ้ ยนั ผนังเตา เส้นผ่านศูนยก์ ลาง 3 น้ิว ยาว 1.2 เมตร จำ� นวน 8 ต้น 5. ดินทราย ขนาด 1 คิว 6. ปลอ่ งควันขนาด เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 4 นวิ้ ยาว 1 ถึง 2 เมตร ปล่องควันควรทำ� มาจากทอ่ ใยหนิ 7. อิฐบล็อก ขนาด 40 เซนตเิ มตร x 19 เซนตเิ มตร x 7 เซนตเิ มตร จ�ำนวนประมาณ 5 กอ้ น 8. ท่อสำ� หรบั เก็บนำ้� ส้มควันไม้ เสน้ ผา่ นศูนย์กลาง 4 น้วิ ยาว 5 เมตร (ท่อควรท�ำมาจากไมไ้ ผ่) จ�ำนวน 1 ทอ่ 9. ขอ้ งอสวมปล่องควัน 67
ขั้นตอน/วิธที ำ� 1. ถังน้�ำมัน 200 ลิตร ตัดปากถังให้ขอบถังอยู่ห่างจากฝาถัง 3 นิ้ว และตัดขอบ 3 น้ิวเป็นเส้น ตรงตั้งฉากกบั ฝาถังเพ่ือเอาคอ้ นตใี ห้ขอบถังหบุ เขา้ สวมถงั ได้ 2. ตดั ฝาถงั กวา้ ง 26 เซนตเิ มตร สงู 40 เซนตเิ มตร ตามรปู เพอ่ื เปน็ ประตพู าความรอ้ นเขา้ ไปในถงั 3. เจาะดา้ นลา่ งของถงั เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 4 นวิ้ ใหช้ ดิ ขอบถงั เพอื่ ระบายนำ�้ และเปน็ ชอ่ ง ระบายควนั 4. ใชข้ ้องอขนาด 4 น้วิ 1 อัน เชอ่ื มด้วยดนิ เหนียวตรงชอ่ งระบายควนั 5. เจาะรทู ข่ี อ้ งอตรงส่วนที่ต่�ำท่ีสดุ เพือ่ ใช้ระบายน�้ำทเ่ี กิดจากฟนื ในเตา 6. ต่อท่อระบายควนั จากทอ่ งอใหส้ ูงเหนอื เตาประมาณ 1 เมตร 7. เตรียมไม้ไผ่เจาะทะลุปลอ่ งยาว 4-6 เมตร โดยเหลือปล้องสุดท้ายไวก้ กั ควันถ่าน 8. บากไมไ้ ผเ่ ปน็ ช่องให้ควนั ถ่านเข้า และเจาะช่องดกั นำ้� โดยใช้ช้อนกนิ ข้าวดกั ไว้ 9. เมื่อเตาติดไฟแล้วจะมีน�้ำส้มควันไม้ไหลออกมาท่ีหางช้อนน�ำกระป๋องพลาสติกมารองรับ น�้ำส้มควนั ไม้ 10. ใชห้ ินหรือดนิ วางหนุนปากถงั ใหเ้ งยข้นึ 6 เซนตเิ มตร เพอื่ ใชร้ ะบายน�ำ้ ออก 11. ใชไ้ ม้ฟนื ทอ่ นส้ันๆ วางรองเปน็ หมอน สำ� หรับวางฟืนในถัง 12. เรียงฟืนขนาด 2-3 นิ้ว ยาวประมาณ 60 เซนติเมตร ให้ท่อนเล็กอยู่ล่าง ท่อนที่ใหญ่กว่า อยดู่ า้ นบน สว่ นชอ่ งวา่ งหนา้ เตาทเี่ หลอื ใหเ้ รยี งฟนื เปน็ แนวตงั้ ความยาวตามความสงู ของถงั นำ�้ มนั เพอื่ ปอ้ งกนั ไมห้ น้าเตาเปน็ ข้ีเถ้า 12. ตอ่ ทอ่ ระบายควันตามรูป และใช้ดนิ เหนียวยาให้มดิ ชดิ 13. น�ำอิฐบล็อกเรียงปากเตา ต้ังข้ึนสูงหน้าปากเตาข้างละก้อนและวางเทินด้านบนหน่ึงก้อน วางขวางปากเตาคร่ึงหนึ่งและเจาะเป็นรูอากาศเข้า กว้าง 3 น้ิว เพ่ือให้อากาศเข้า จากน้ันขนทรายหรือ ดนิ ถมถัง 200 ลติ รใหม้ ดิ ชิด 14. ใหจ้ ดุ ฟนื ปากเตาประมาณ 10% ของฟนื ภายในเตาโดยเรง่ ไฟใหเ้ ตม็ ที่ เมอื่ ไฟตดิ ไมฟ้ นื ในเตาแลว้ หยุดใสฟ่ ืนในเตาและนำ� อฐิ บล็อกปิดให้มดิ ชดิ เหลอื แต่ชอ่ งอากาศเท่าน้นั 15. ประมาณช่วั โมงที่ 3 ของการจดุ เตา เรมิ่ เกบ็ นำ�้ สม้ ควันไม้หลงั เกิดควันบ้า (ควนั สีขาวปนน้ำ� ตาล) 16. ประมาณชวั่ โมงท่ี 9 เรมิ่ หยดุ การเกบ็ นำ�้ สม้ ควนั ไมห้ รอื สงั เกตควนั สขี าวปนเทาออกนำ้� เงนิ อณุ หภมู ิ ปากปลอ่ งประมาณ 150 องศา อณุ หภมู ภิ ายในเตาประมาณ 400 องศา ใหเ้ อาไมไ้ ผเ่ กบ็ ควนั ออกทนั ที 17. เมือ่ ควันใสเร่มิ ใสก่ ระเบ้ืองวางปากปลอ่ งควันเพือ่ ทดสอบความช้นื ภายในถัง วางท้งิ ไวป้ ระมาณ 1 นาที แล้วน�ำมือมาสัมผัส ถ้าเปียกก็ยังคงไม่ปิดหน้าเตา ถ้าแห้งก็ท�ำการปิดหน้าเตา โดยใช้ดินเหนียว ห้ามอากาศเข้า ท้ิงไว้ 30 นาที เอาผ้าข้ีร้ิวห่อดินเป็นลูกปะคบจุ่มน้�ำให้เปียก น�ำไปอุดปากปล่องควัน ไมใ่ ห้อากาศเข้าไปภายในเตาได้ รอจนเตาเย็นจงึ เปดิ เอาถา่ นออกได้ ขอ้ ควรระวงั ควันที่เกิดจากการเผาถ่านในช่วงท่ีไม้ก�ำลังเปล่ียนเป็นถ่าน เมื่อท�ำให้เย็นลงจะควบแน่น แลว้ กลั่นตัวเป็นหยดน้ำ� ในช่วงท่อี ณุ หภมู เิ ตาอยู่ระหว่าง 300 – 400 องศา และอุณหภูมิปากปล่องควันอยู่ ระหวา่ ง 80-150 องศา ของเหลวทไี่ ดเ้ รียกว่า น�ำ้ สม้ ควันไม้ มีสีนำ�้ ตาลแกมแดง มีกลิน่ ไหม้ สว่ นประกอบ เป็นกรดอะซิติค และมีความเป็นกรดต่�ำ การเก็บน้�ำส้มควันไม้ โดยปล่อยให้ควันวิ่งผ่านท่อไม้ไผ่ยาว 4-6 เมตร เม่อื ไดน้ ้ำ� สม้ ควันไมแ้ ลว้ ทง้ิ ไวใ้ นภาชนะพลาสตกิ ปดิ ฝาระยะเวลา 3 เดอื น ในสถานท่ที ่ีไมม่ ีแดดสอ่ ง 68
และไมส่ ่ันสะเทือน เพอื่ ใหส้ ารที่เปน็ น้�ำมันทาร์ (TAR) ตกตะกอน (ควรใส่ถา่ นป่นทล่ี ้างสะอาดและตากให้ แห้งประมาณร้อยละ 5 ของน�้ำหนักน้�ำส้มควันไม้ จะช่วยท�ำให้ตกตะกอนดีขึ้น ) ห้ามเปิดฝาทิ้งไว้เพราะ จะท�ำให้ระเหยออกหมด (น�้ำส้มควันไม้ท่ีได้หากน�ำไปใช้ต้องผสมให้ได้อัตราส่วน หากใช้มากเกินไปอาจจะ เปน็ โทษตอ่ พชื ได้) การใช้ประโยชน์ 1. ปอ้ งกันแมลง และเปน็ สารที่ออกฤทธิต์ ่อตา้ นแมลง 2. ความเข้มขน้ 100% ใชร้ กั ษาแผลสด แผลถกู นำ้� รอ้ นลวก รักษานำ้� กัดเทา้ เชอ้ื ราท่ผี วิ หนัง และ รกั ษาโรคเรือ้ นของสตั ว์ 3. ผสมนำ�้ อตั ราส่วน 1 : 20 ราดหรือพ่นกำ� จัดปลวก ทาหนา้ ยางพาราเพ่ือก�ำจดั เชื้อรา 4. ผสมนำ้� อตั ราสว่ น 400 ซซี ี ตอ่ น�้ำ 20 ลิตร ราดหรือพน่ เพอ่ื ก�ำจัดเช้ือรา และไสเ้ ดอื นฝอยในดนิ ก่อนปลกู พืช 5. ผสมน้ำ� อัตราสว่ น 200 ซีซี ตอ่ น�ำ้ 20 ลติ ร ราดหรอื พ่นกองขยะ พน้ื คอกสัตว์ เพื่อก�ำจดั กล่นิ และปอ้ งกันแมลงวนั มาวางไข่ 6. ผสมน้�ำ อัตราสว่ น 100 ซซี ี ตอ่ น้ำ� 20 ลิตร พ่นใบไม้เพอ่ื ป้องกันแมลงและเชื้อรา และราดโคน ตน้ ไมเ้ พอ่ื เรง่ ราก (หากใช้อัตราท่เี ข็มข้นกว่าน้ี จะทำ� ให้ใบไหมไ้ ด้) 7. ชว่ ยยอ่ ยสลายปุ๋ยคอก 8. การใช้น�้ำส้มควันไม้กับต้นพืชควรใช้เวลาตอนเย็นจะเกิดประโยชน์ต่อพืชมากกว่าในตอน กลางวัน ต้นทนุ การผลิตและผลตอบแทน อปุ กรณ์ จำ� นวน ราคา ถังนำ�้ มนั 200 ลติ ร 1 ใบx250บาท 250 สงั กะส ี 4 แผน่ x100บาท 400 เสาค้�ำยันเส้นผ่านศูนยก์ ลาง 3 น้วิ 8 ต้นx120บาท 960 ดนิ ทราย 1 ควิ x370บาท 370 ทอ่ ใยหนิ เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 4 น้วิ 1 ทอ่ x40บาท 40 ข้องอทอ่ ใยหิน 4 นิ้ว 1 อนั x30บาท 30 อฐิ บล็อก 5 ก้อนx10บาท 50 2,100 รวม 69
1. ถ่านประมาณร้อยละ 20-22 โดยน้�ำหนักไม้ที่ไม่แห้งสนิท หรือใส่ไม้ในเตา รวมฟืนในเตา 100 กิโลกรัม จะได้ถา่ น ประมาณ 20-22 กโิ ลกรมั 2. ขเ้ี ถา้ ประมาณรอ้ ยละ 0.12 โดยนำ้� หนักไม้ 3. น�้ำส้มควันไม้ ประมาณรอ้ ยละ 5-8 โดยน�้ำหนกั ไม้ ทมี่ า: ศนู ย์การเรียนรกู้ สิกรรมธรรมชาติสระยายโสม จงั หวดั สุพรรณบุรี 70
6.2 เตาแก๊สชีวมวลพลังงานแกลบ บทนำ� ก๊าซ LPG เป็นก๊าซท่ีมีการใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในชุมชนเมือง เนื่องจาก เป็นก๊าซ ที่มีการเผาไหม้ที่สะอาด ไม่มีควัน เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม แต่ก็มีราคาที่สูงและต้องน�ำเข้าเชื้อเพลิงน้ี เข้ามา อีกท้ังก๊าซ LPG ยังได้รับความนิยมในการน�ำก๊าซไปเติมลมในรถยนต์ด้วย ดังน้ันเตาชีวมวลแกลบ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งท่ีเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ด้านพลังงาน เน่ืองจากมีราคาที่ต่�ำและ หาไดใ้ นชุมชน เมือ่ เทียบกับกา๊ ซ LPG ในปจั จบุ ัน วัสดุอุปกรณ์ 1. ถังเตาชนั้ นอก - วัสดุ ถังบรรจุหัวน้�ำหอมท่ีใช้แล้ว หรือถังส�ำเร็จรูปอ่ืน ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นหรือประกอบข้ึนมา จากแผ่นเหล็ก เชือ่ มหูหวิ้ ดว้ ยเหลก็ เส้น - เจาะชอ่ ง อากาศสำ� หรับใสพัดลมเขา้ ดา้ นล่างเตา แล้วเชอ่ื มประกอบด้วยเหล็ก หมายเหต ุ ขนาดถงั หรือสดั ส่วนอ่นื ๆ สามารถปรับได้ตาม ความเหมาะสมหรือสามารถผลิตจาก เหลก็ แผ่น 2. ถงั เตาชั้นใน - วัสดุ เหล็กแผน่ หนา เจาะรูด้านล่าง และฐานด้านลา่ ง (ช่องอากาศหมนุ วน) เวน้ ช่องว่างสำ� หรบั ใหอ้ ากาศเข้าไปในหอ้ งไหม้ทางดา้ นล่าง 3. ถังห้องเผาไหม้วสั ดุ - เหล็กแผน่ หนา - ตะแกรง 4. ฝาเปดิ เตาพรอ้ มเสา้ วางภาชนะวัสดุ - เหล็กแผน่ หนา - เส้าวางภาชนะ เหล็กเสน้ แบนหนา ดดั ใหโ้ ค้งพอประมาณ 5. พดั ลมหอยโข่ง 6. Adaptor 71
ข้ันตอน/วธิ ีการทำ� ข้ันตอนการประกอบตวั เตา 1. น�ำถังเตาชัน้ ในสวมลงในถงั เตาชัน้ นอก 2. บรรจุฉนวนป้องกันความร้อนสูง เสียในช่องว่าง ระหว่างถังเตาชั้นนอกและช้ันใน จากน้ันน�ำ มาบรรจุลงในช่องว่างระหว่างถังเตาช้ันนอกและถัง เตาชั้น ในอัดให้แน่น เหลือขอบ ด้านบนไว้ประมาณ 3 เซ็นตเิ มตร สำ� หรบั ฉาบปนู ซเี มนตป์ ิดทับ 3. ฉาบปนู ซเี มนต์ปิดทบั ด้านบน ฉนวนกัน ความร้อน - เพ่ือป้องกันการหลุดร่อนเพ่มิ ความคงทน แขง็ แรง สวยงาม วธิ ใี ชง้ าน 1. นำ� เชอื้ เพลงิ (แกลบ ,ขเ้ี ลอื่ ย ,ซงั ขา้ วโพด) บรรจลุ ง ในหอ้ งเผาไหมจ้ นเตม็ จากนน้ั ใชม้ อื กดลงใหแ้ นน่ 2. นำ� ถังห้องเผาไหม้วางลงในเตา แลว้ ฉีกกระดาษ เป็นช้ินเล็ก ๆ 3. นำ� พัดลมเตมิ อากาศแบบหอยโข่ง ใสใ่ นช่องเตมิ อากาศด้านลา่ งเตา จากนนั้ น�ำสายไฟ Adaptor เสียบกับปลั๊กไฟฟ้าภายในบ้าน ปรับปุ่มแรงดันท่ี Adaptor ส�ำหรับในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้า หรือไม่ต้องการใช้ ไฟฟ้า สามารถต่อวงจรพัดลมเข้ากับแบตเตอรี่ โดยขั้วบวกของพัดลมต่อวงจรเข้ากับข้ัวบวกของแบตเตอร่ี และขั้วลบต่อเขา้ กบั ขัว้ ลบ 4. จุดไฟบนเศษกระดาษในถังเผาไหม้ สังเกตดูว่าไฟลุกไหม้ติดกับเช้ือเพลิงแกลบบริเวณส่วนบน จนหมดแลว้ ใหน้ ำ� ฝาปดิ เตามาวางปดิ เตา เปลวไฟกจ็ ะพงุ่ ขนึ้ สดู่ า้ นบนตามรชู อ่ งไฟ หากเหน็ วา่ เปลวไฟพงุ่ ขนึ้ สงู เกินไป หรอื หากต้องการปรับความแรงของพดั ลมก็สามารถปรบั ไดท้ ่ี Adaptor ซึง่ มีใหเ้ ลือกหลายระดับ 5. นำ� ภาชนะหุงต้มวางบนฝาปิดเตาซ่ึงมีเส้ารองรับ เพอ่ื ประกอบอาหารต่อไป 6. การปดิ เตา สามารถปดิ ไดโ้ ดยการปิดสวทิ ตท์ ่ี Adaptor แลว้ ถอดปลั๊กไฟ พดั ลมก็จะหยุดหมนุ ไฟก็จะดับ หรือหาฝามาปิดเตาด้านบน แต่ความร้อนยังระอุอยู่ภายในห้องเผาไหม้ เมื่อต้องการใช้งาน ตอ่ เน่อื งอกี ก็เปิดพัดลมใหมใ่ นห้องเผาไหม้กจ็ ะสร้างแกส๊ ขน้ึ มาอกี ทแี ละจดุ ตดิ ไฟไดเ้ หมอื นเดมิ ข้อควรระวัง การต่อวงจรไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ ระวังอย่าให้สายไฟสัมผัสกัน เพราะจะท�ำให้เกิดการลัดวงจร จะทำ� ใหพ้ ัดลมช�ำรุดเสยี หายได้ 72
การดแู ลรกั ษาเตา 1. ไมค่ วรน�ำเตาไปวางตากแดด ตากฝน เพราะจะท�ำใหเ้ กิดสนิมได้ง่ายและ จะชำ� รุดเรว็ 2. เมอ่ื ใชง้ านเสรจ็ ควรนำ� ขเ้ี ถา้ แกลบ ออกจากหอ้ งเผาไหม้ เพอื่ ปอ้ งกนั การกดั กรอ่ นของสนมิ เหลก็ 3. หม่นั ทาน้ำ� มนั หรอื สีปอ้ งกนั สนิม เพ่ือยืดอายุการใชง้ านและชะลอการเกดิ สนมิ การใช้ประโยชน์ ใชใ้ นการประกอบอาหารแทนท่ีกา๊ ช LPG ได้ ต้นทุนการผลิตและค่าตอบแทน ต้นทุนในการผลติ 1,800 บาท คา่ ตอบแทน ระบบเดียว 3,500 บาท แบบ 2 ระบบ ระบบไฟฟา้ และแบตเตอร่ี 4,200 บาท ท่มี า : ศนู ย์การเรยี นร้บู า้ นแสงเทียน จงั หวัดน่าน 73
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124