Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore contents_unit1

contents_unit1

Published by ph_teep, 2019-08-30 00:09:51

Description: contents_unit1

Search

Read the Text Version

ชุดการเรียนรู้ทางไกล คร้ังท่ี 1/18 เร่ือง พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี รหัสวชิ า 300 - สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พทุ ธศกั ราช 2557 เพ่ือการจดั ทาเน้ือหาและพฒั นาส่ือการสอนอาชีพและวชิ าชีพ สาหรับการศึกษาทางไกลหรอื เรียนฝกึ งานในสถานประกอบการ—oª¥˜œÁ°Š  ªš· ¥µ¨´¥Áš‡œ·‡¦³¥°Š­™µ´œ„µ¦°µª¸ «¹„¬µ£µ‡˜³ªœ´ °°„ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ



สารบัญ 1. รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า 1 2. ใบวเิ คราะห์หวั ขอ้ เร่ือง 4 3. แผนภมู ิปะการัง 6 4. โครงการจดั การเรียนรู้ 8 5. แผนการจดั การเรียนรู้ 12 6. เน้ือหา (ใบความรู้) 19 7. ส่ือประกอบการสอน 31 8. แบบทดสอบก่อนเรียน 53 9. แบบทดสอบหลงั เรียน 56 10. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 59 11. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 61 12. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 63 13. แบบบนั ทึกหลงั การเรียนรู้ 65



1 1.รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า

2 ชื่อวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า300– แผ่นที่ 1 สาขาวชิ า Áš‡ÃœÃ¨¥¸­µ¦­œÁš« คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) 1. รหัสและช่ือวชิ า 3000–0203. วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น 2. ระดับรายวชิ า ระดบั ช้นั ปวส. ปี ท่ี 1 3. เวลาศึกษา 72 ชว่ั โมงตลอด 18 สัปดาห์ ทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 4. จานวนหน่วยกติ 3 หน่วยกิต 5. จุดประสงค์รายวชิ า 1. เเขา้ ใจเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศรจดั การสารสนเทศ 2. สามารถสบื ค้น จัดเก็บ คน้ คนื สง่ ผ่าน จดั ดำเนนิ การข้อมูลสารสนเทศ นำเสนอและสือ่ สารข้อมูล ส 3. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี 6. มาตรฐานรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการและกระบวนการสบื ค้น จัดดำเนนิ การและสอ่ื สารขอ้ มลู ฯ 2. ใชค้ อมพวิ เตอรในการสืบค้นและสอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 3. จัดเก็บ ค้นคนื สง่ ผ่านและจดั ดำเนินการขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสื่อสารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี โดยประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู 7. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจดั เก็บ คน้ คืน ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มูล สารสนเทศ การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู ในการนำเสนอและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศ ตามลักษณะงานอาชพี

3 ชื่อวชิ า.ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ คาอธิบายรายวชิ า แผ่นท่ี 2 รหสั วชิ า3001–2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ คน้ คนื ส่งผ่านและจัดดำเนินการขอ้ มลู สารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปในการนำเสนอและสื่อสารข้อมลู สารสนเทศ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพดว้ ยคอมพวิ เตอร์ คาอธิบายรายวชิ า ( ปรับปรุง ) ศึกษาเกยี่ วกบั พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู การส่ือสารขอ้ มลู เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ ระบบปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือขา่ ย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต การสืบคน้ ขอ้ มูล ตามลักษณะงานอาชีพ ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกบั งานทดสอบโปรแกรมการจดั การฐานขอ้ มูล MS-ACCESS งานประกอบ ไมโครคอมพวิ เตอร์PC งานทดสอบโปรแกรม MS-Word งานทดสอบโปรแกรม MS-Power Point งานทดสอบโปรแกรม MS-Excel งานติดต้งั และทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Linux งานติดต้งั และ ทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Windows XP งานทดสอบระบบเครือขายวนิ โดว์ งานทดสอบสาย UTP งาน ทดสอบสอบ Switching HUB งานทดสอบระบบเครือขายอินเทอร์เน็ต งานทดสอบ IP Address งาน ทดสอบการใชง้ าน Browser งานทดสอบการใช้ e-Mail งานทดสอบการสืบคน้ มูลผา่ นเครือข่าย อินเทอร์เน็ต

4 2. ใบวิเคราะห์หวั ขอ้ เร่ือง

5 ชื่อวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี ใบวเิ คราะห์หัวข้อเรื่อง รหัสวชิ า300– สาขาวชิ า Áš‡ÃœÃ¨¥­¸ µ¦­œÁš« แผ่นท่ี 1 แหล่งข้อมูล หวั ข้อเรื่อง ( Topic ) ABCDE 1. พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 2. ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู /// / 3. การส่ือสารขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ / //// 5. เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ 6. ระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ / //// 7. ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต / //// 9. การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพดว้ ยเครือข่าย อินเตอร์เน็ต / //// / //// / //// / //// / //// หมายเหตุ A : คาอธิบายรายวชิ า B : ประสบการณ์ของผู้สอน C : ผู้เช่ียวชาญ D : ผู้ชานาญงาน E : เอกสาร / ตารา

6 3. แผนภมู ิปะการงั

9.1 การสบคนขอมลสารสนเทศบนอนเทอร์เน็ต 1.1 เทคโนโลยสารสนเทศ 2.1 ขอมลและสารสนเทศ 9.2 เทคนคการสบคนขอมล 1.2 วฒนาการเทคโนโลยสารสนเทศและการสอสาร 2.2 ฐานขอมลและการจดการฐานขอมล 9.3 เวบ็ ไซต์ทเกยวของเพอประโยชน์ในการศกษา 9. การสบคนขอมลสารสนเทศเพอพฒนา 1. พนฐานเทคโนโลย 2. ขอมลและการจดการ 3.1 รปแบบของการสอสารขอมล งานอาชพดวยเครอขายอนเตอรเ์ น็ต สารสนเทศและการสอสาร ฐานขอมล 3.2 ชนดของสญญาณ อเล็กทรอนกส์ 3.3 รหสทใชแทนขอมลในการสอสาร 8. เทคโนโลยสารสนเทศกบ วชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพีี 3. การสอสารขอมล 3.4 ระบบการสอสารอเลก็ ทรอนกส์ อนเตอร์เนต็ รหัส3001–2001สาขาวิชาเทคโนโลยสารสนเทศ 3.5 ทศทางของการสอสารขอมล 3.6 สอและอปกรณร์ บสงขอมล 8.1 เครอขายอนเตอรเ์ นต็ 7. ความรพนฐานของ 4. เทคโนโลยคอมพวเตอร์ 4.1 คอมพวเตอรแ์ ละฮารด์ แวร์ 8.2 การบรการเครอขายอนเตอร์เน็ต เทคโนโลยเครอขาย 5. เทคโนโลยซอฟต์แวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพนฐานของเครอง คอมพวเตอร์ 8.3 โพรโตคอล TCP/IP 6. ระบบปฏบตการ (Transmission Control คอมพวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพวเตอร์ Protocol/Internet Protocol) 4.4 เทคโนโลยคอมพวเตอรส์ วนบคคล 4.5 แนะนาการเลอกซออปกรณ์คอมพวเตอร์ 8.5 การเชอมตอเขากบอนเตอรเ์ นต็ 4.6 คอมพวเตอรก์ บเครอขาย 8.6 การใชงานและบรการตางๆ บนเครอขาย อนเตอรเ์ นต็ Control (MAC) Method) 7.1 เปาหมายของเครอขายคอมพวเตอร์ 5.1 ซอฟตแ์ วรค์ อมพวเตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครอขายคอมพวเตอร์ 8.7 การประยกตใ์ ชอนเตอรเ์ นต็ 5.2 ภาษาคอมพวเตอร์ 8.8 เครอขายอนทราเน็ต 7.3 ระบบเครอขายLAN (Local Area Network) 5.3 แนวทางการพฒนาซอฟตแ์ วร์ 7.4 สอทใชในการสงขอมล 6.1 ระบบปฏบตการ 6.2 ระบบปฏบตการ UNIX และ Linux 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.5 อปกรณท์ ใชในการเชอมตอบนระบบเครอขาย 6.3 ระบบปฏบตการวนโดว์ (ตอนท่ 1 การใชงานโปรแกรม MS Word) 7.6 วธควบคมการเขาใชงานสอกลาง (Media Access Control 6.4 ระบบปฏบต Windows mobile 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ (ตอนท่ 2 การใชงานโปรแกรม MS Power Point ) (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครอขายแบบ LAN ชนดตางๆ 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครอขาย (Network Protocol) (ตอนท่ 3 การใชงานโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS Excel ) 7

8 4. โครงการจดั การเรียนรู้

9 โครงการสอนทางไกล วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 3001–2001 สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พทุ ธศกั ราช 2557 สอนคร้ังที่ หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ 1 เรียนท่ี 2 1. พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 3 1 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 1.2 วฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 4 3 5 2. ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 3 2.1 ขอ้ มลู และสารสนเทศ 6 4 2.2 ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มูล 7 4 3. การสื่อสารข้อมูล 5 3.1 รูปแบบของการสื่อสารขอ้ มูล 3.2 ชนิดของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร 3.4 ระบบการส่ือสารอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.5 ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มลู 3.6 ส่ือและอุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ 4.1 คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4.4 เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4.5 แนะนาการเลือกซ้ืออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 4.6 คอมพวิ เตอร์กบั เครือขา่ ย 5. เทคโนโลยซี อฟต์แวร์ 5.1 ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์

10 สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ เรียนที่ 8 5.2 ภาษาคอมพวิ เตอร์ 9 5 5.3 แนวทางการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ 10 5 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 11 5 (ตอนที่ 1 การใชง้ านโปรแกรม MS Word) 12 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 13 (ตอนท่ี 2 การใชง้ านโปรแกรม MS Power Point ) 14 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 6 (ตอนท่ี 3 การใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS 15 7 Excel ) 6. ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 16 7 6.1 ระบบปฏิบตั ิการ 6.2 ระบบปฏิบตั ิการ UNIX และ Linux 8 6.3 ระบบปฏิบตั ิการวนิ โดว์ 6.4 ระบบปฏิบตั ิ Windows mobile 7. ความรู้พนื้ ฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 7.1 เป้ าหมายของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.3 ระบบเครือข่ายLAN (Local Area Network) 7.4 สื่อที่ใชใ้ นการส่งขอ้ มูล 7.5 อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ บนระบบเครือขา่ ย 7.6 วธิ ีควบคุมการเขา้ ใชง้ านสื่อกลาง (Media Access Control (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครือข่ายแบบ LAN ชนิดตา่ งๆ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครือข่าย (Network Protocol) 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต 8.1 เครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 8.2 การบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)

สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน 11 เรียนที่ 8.4 ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) หมายเหตุ 17 8 8.5 การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเตอร์เน็ต 8.6 การใชง้ านและบริการตา่ งๆ บนเครือข่าย อินเตอร์เน็ตControl (MAC) Method) 8.7 การประยกุ ตใ์ ชอ้ ินเตอร์เน็ต 8.8 เครือขา่ ยอินทราเน็ต 18 9 9. การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 9.1 การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 9.2 เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล 9.3 เวบ็ ไซตท์ ี่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ประโยชน์ในการศึกษา

12 5. แผนการจดั การเรียนรู้

13 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 1 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. สื่อสาร ชื่อเร่ือง พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร จานวน 2 ช่ัวโมง 1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. บอกถงึ ความสาคญั และความจาเป็นการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนไดถ้ กู ตอ้ ง 3. อธบิ ายววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. หวั ข้อสาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 3. สาระสาคญั การเรียนรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยที กุ รปู แบบทท่ี ามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประมวลผล การจดั เกบ็ การส่อื สาร การวเิ คราะห์ รายงานผล และการส่งผ่านสารสนเทศดว้ ยระบบ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยระบบทางกายภาพประกอบดว้ ยคอมพวิ เตอรอ์ ุปกรณ์ตดิ ต่อสอ่ื สาร ระบบ เครอื ขา่ ย และระบบฐานขอ้ มลู ทงั้ ในระบบนามธรรมเกย่ี วขอ้ งกบั การจดั รปู แบบของการมี สมั พนั ธ์ ดา้ นสารสนเทศทงั้ ภายใน และภายนอกระบบใหส้ ามารถดาเนินการรว่ มกนั อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ จงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (ICT) มคี วามสาคญั และความจาเป็น อยา่ งยงิ่ ต่อการส่งเสรมิ สนบั สนุนในการบรหิ ารจดั การระบบสารสนเทศภายในองคก์ ารและ ภายนอกองคก์ รเพอ่ื เกดิ ความสะดวก รวดเรว็ แม่นยาและมปี ระสทิ ธภิ าพ

14 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 1 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเเพือ่ การจดั การอาชพี หน่วยที่ 1 ช่ือหน่วย พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ส่ือสาร 4. เนือ้ หาสาระ บทท่ี 1 พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1.2 ววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร อา้ งอิงจากเอกสารประกอบการเรียนรู้ของ ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบือ้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้.อดั สาเนา. เอกสารการพมิ พว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน ข้นั เตรียม ข้นั เตรียม 1. จดั เตรียมสื่อท่ีใชป้ ระกอบการเรียนรู้ให้ 1. เตรียมตวั และเอกสาร หรือวสั ดุ เคร่ืองมือท่ี พร้อม สาหรับการเรียนการสอน ( ตามรายการ จาเป็นตอ้ งใชใ้ นการเรียนรู้ ในหวั ขอ้ ท่ี สื่อการเรียนรู้ เลือกส่ือการเรียนรู้ได้ 2. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบรายช่ือ ตามความเหมาะสม ) เขา้ เรียน 2. ตรวจสอบรายช่ือนกั เรียนที่เขา้ เรียน 3. ถา้ เรียนรู้ผา่ นระบบ e-Learning ใหเ้ ขา้ สู่ระบบ เพ่อื เตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน โดย 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ใชเ้ วลา 30 นาที และครูตรวจคาตอบหลงั จาก เสร็จสิ้นการทดสอบ เพ่ือแจง้ ผลการทดสอบให้ นกั เรียนทราบหลงั เรียนจบบทเรียน 2. ใชส้ ่ือช่วยสอน นาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยภาพ แบบจาลอง ของตวั อยา่ ง หรือสิ่งที่จะช่วยดึงดูด ความสนใจ หรือคาถาม

15 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 1 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเเพอื่ การจดั การอาชีพ หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. สื่อสาร หมายเหตุ หากเรียนรู้จากส่ือวดี ีทศั น์ ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรือผา่ นอินเทอร์เน็ต ตอ้ งทาการทดสอบก่อนเรียนใหแ้ ลว้ เสร็จก่อน การเรียนรู้ จากสื่อฯ ที่ทาการออกอากาศ ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) (60 นาท)ี ข้ันศึกษาข้อมูล (Information) 1. ใหผ้ เู้ รียนเริ่มเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึก 1. ผเู้ รียนเร่ิมเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึกปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงาน จากการฉายวดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ จากการฉายวดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ DVD หรือ สื่อวดี ี DVD หรือ ส่ือวีดีทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม ทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรืออินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ต หรือแบบออฟไลน์ หรือแบบออฟไลน์ 2. ใหผ้ เู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสยั จาก 2. ผเู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสยั จากการ การเรียนรู้เน้ือหา เรียนรู้เน้ือหา ข้นั พยายาม (Application) (30 นาท)ี ข้นั พยายาม (Application) 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้น ใหผ้ เู้ รียน 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้นผเู้ รียนทา ทาแบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ แบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ 2. หรือใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบบน 2. หรือทาแบบทดสอบบนออนไลน์ และ ออนไลน์ และสามารถตรวจคาตอบไดท้ นั ที สามารถตรวจคาตอบทนั ที ข้นั สาเร็จผล (Progress) ข้นั สาเร็จผล (Progress) 1. ประเมินผลการปฏิบตั ิงานหรือ 1. รับผลการทดสอบ แบบทดสอบของผเู้ รียนหลงั ข้นั พยายามโดย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั เทียบกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนท่ีต้งั ไว้ 3. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสยั 2. ผสู้ อนแจง้ ผลคะแนนการปฏิบตั ิงานหรือ 4. ฟังและปฏิบตั ิตามที่ครูแนะนา การทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนใหผ้ เู้ รียน 5. ผเู้ รียนท่ีมีคะแนนทดสอบหลงั การเรียนท่ีไม่ ทราบ เพอื่ เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ผา่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตามเกณฑ์ ของตน การประเมินผล และคาแนะนาของครูผสู้ อน 3. ผสู้ อนแจง้ ให้ผเู้ รียนที่มีคะแนนหลงั เรียน ท่ีไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตาม เกณฑก์ ารประเมินผล

16 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 1 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเเพือ่ การจดั การอาชพี หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ส่ือสาร 4. ผสู้ อนสรุปสาระสาคญั และตอบขอ้ สงสัย พร้อมแนะนาสิ่งที่เกี่ยวขอ้ งในการเรียนรู้คร้ังน้ี และแนะนาการเรียนรู้ในคร้ังตอ่ ไป 6. สื่อการเรียนการสอน ส่ือการเรียนรู้ ใหค้ รูผสู้ อนและผเู้ รียนเลือกใชส้ ื่อประกอบการเรียนการสอนตามสภาพความ พร้อมของของตนเอง ดงั น้ี 6.1 สื่อโสตทศั น์ 1) วดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ DVD เรื่อง พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร สาหรับ ผเู้ รียน ท่ีเรียนรู้จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) วดี ีทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล ตามตารางการออกอากาศ เร่ือง พนื้ ฐาน เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารสาหรับผเู้ รียนที่เรียนรู้ทางไกลผา่ นดาวเทียม 6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์ 1) เครื่องเล่น DVD พร้อม TV ท่ีมีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียน ท่ีเรียนรู้ จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) เครื่องรับสญั ญาณดาวเทียม ท่ีรับสัญญาณจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล พร้อม TV ที่มีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียนท่ีเรียนรู้ทางไกลผา่ น ดาวเทียม 6.3 ส่ือส่ิงพมิ พ์ 1) สาเนาสื่อโปรแกรมนาเสนอ PowerPoint เร่ือง พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ส่ือสาร 2) เอกสารประกอบการเรียนรู้ เช่น ใบความรู้ แบบทดสอบฯลฯ 6.4 ส่ือบทเรียนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 1) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท่ีสามารถเชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ตได้ และเขา้ เวบ็ ไซต์ url: http://edltv.vec.go.th 2) เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมติดต้งั ระบบ edltv เพอ่ื พฒั นาอาชีพ แบบออฟไลน์ สามารถเขา้ ใช้ งานและเรียนรู้ไดโ้ ดยตรง

17 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 1 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเเพ่อื การจัดการอาชพี หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ส่ือสาร 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 ก่อนเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบก่อนเรียนรู้ เครื่องมือวดั - แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ 7.2 ระหว่างเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล เครื่องมือวดั - แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 7.3 หลงั เรียน วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบหลงั เรียนรู้ เคร่ืองมือวดั - แบบทดสอบหลงั เรียนรู้ 8. เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.1 เกณฑ์การวดั ผลสัมฤทธ์จิ ากแบบทดสอบและใบมอบงานมเี กณฑ์ดังนี้ ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดีมาก ร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดี ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนรู้ปานกลาง ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผลการเรียนรู้ผา่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง (ควรปรับปรุงดว้ ยการศึกษาทบทวน) ผลการเรียนไม่ผา่ นเกณฑ(์ ตอ้ งปรับปรุงและ เรียนซ่อมเสริมควรทดสอบการประเมินจนกวา่ จะผ่านข้นั ตา่ ) 8.2เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล 8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง

18 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 1 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ส่ือสาร 8.3 เกณฑ์การตดั สิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิสม่าเสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิบางคร้ัง 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมป่ ฏิบตั ิ 8.4 เกณฑ์การประเมนิ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5 - 7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมท่ีตอ้ งปรับปรุง 9. แหล่งการเรียนรู้เพมิ่ เติม - ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้. อดั สาเนา. เอกสารการพิมพว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. - สืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มูลอื่นๆ ผา่ นเครือขายอินเทอร์เน็ต

19 6. เน้ือหา (ใบความรู้)

20 บทเรียนที่ 1 เรื่อง พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. บอกถงึ ความสาคญั และความจาเป็นการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนไดถ้ กู ตอ้ ง 3. อธบิ ายววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง หวั ข้อเนื้อหา 1. เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร 3. สรปุ

21 บทเรียนท่ี 1 พืน้ ฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Information Communication Technology :ICT) ถา้ กล่าวถงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology :IT ) หรอื ทเ่ี รยี กกนั อกี ประโยคหน่ึงคือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Information Communication Technology :ICT ) กค็ งจะทราบโดยทวั่ กนั ว่ามคี วามสาคญั และความจาเป็นอย่างยงิ่ ต่อการ พฒั นาทรพั ยากรในหน่วยงาน ทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชน เพ่อื ให้เกิดประสิทธิภาพต่อการ ปฏบิ ตั งิ านรวมทงั้ อานวย ความสะดวกในดา้ นต่างๆ อย่างมากมาย รวมถงึ สถานศกึ ษาทต่ี ้อง นามาใชใ้ นกระบวนการเรยี นการสอน จาเป็นตอ้ งใชส้ ่อื ทห่ี ลากหลายเพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด ต่อการเรยี นรู้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร (ICT) ก็เป็นส่วนหน่ึงท่สี ่งเสรมิ และ สนบั สนุนใหค้ รู อาจารย์ นกั เรยี นนกั ศกึ ษา ใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งเตม็ ประสทิ ธภิ าพ ในบทท่ี 1 น้ีจะกล่าวถงึ พน้ื ฐานทวั่ ไปทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการ ส่อื สาร (ICT) เพ่อื ให้เขา้ ใจความหมาย โครงสรา้ ง และองค์ประกอบของระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่อื สารใหช้ ดั เจน เพ่อื จะได้นาไปใชป้ ระโยชน์ในการวางแผนพฒั นาภายใน องคก์ ร หรอื หน่วยงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพดงั รายละเอยี ดของแต่ละหวั ขอ้ ต่อไปน้ี 1.1 เทคโนโลยีสารสนเทศ 1.1.1 ความหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศ การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ ไปใชใ้ นหน่วยงานโดยทวั่ ไปนนั้ วตั ถุประสงคส์ าคญั ประการหน่ึงคือการทาให้การบริหารจดั การเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพและมสี ารสนเทศ ประกอบการตดั สินใจในการดาเนินการหรอื การบรกิ าร ซ่ึงในปจั จุบนั ความสมั พนั ธ์ระหว่าง องคก์ รกบั ระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศเพมิ่ มากขน้ึ ทงั้ น้ีในแงผ่ ลกระทบทม่ี ตี ่อ กนั และขอบขา่ ยของผลกระทบต่อกนั ดงั นนั้ จงึ ใหค้ วามสาคญั ต่อการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศ มาสนับสนุนและส่งเสรมิ การบรหิ ารการจดั การ รวมทงั้ การเรยี นการสอนในสถานศกึ ษาอย่าง กวา้ งขวางเพมิ่ มากขน้ึ

22 ภาพท่ี 1.1 แสดงระบบการเชอ่ื มเครอื ขา่ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศจงึ มบี ทบาทและความสาคญั ต่อหน่วยงานและ องค์กรเป็น อยา่ งมาก ซง่ึ ชยั พจน์ รกั งาม (2540 , 25-42) ไดก้ ล่าวถงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศ IT คอื การนาคอมพวิ เตอร์มาใช้ประมวลผลข้อมูล และสามารถติดต่อส่ือสารกับเครอื ข่ายในการ แลกเปล่ยี นข้อมูลระหว่างกนั จงึ จาเป็นต้องอาศยั อุปกรณ์คอมพวิ เตอรท์ ่ที นั สมยั มโี ปรแกรม คาสงั่ มีฐานข้อมูลมีอุปกรณ์การส่ือสาร ผู้ใช้ท่ีรู้ระบบการทางาน และใช้งานได้อย่างเป็น กระบวนการตามขนั้ ตอน ซ่งึ มคี วามหมายให้คล้ายกบั ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีท่ีประกอบข้ึนด้วยระบบจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลระบบส่ือสาร โทรคมนาคมและอุปกรณ์สนับสนุนการปฏบิ ตั งิ านดา้ นสารสนเทศท่มี กี ารวางแผน การจดั การ และใชง้ านรว่ มกนั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ กล่าวโดยสรุป เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึง เทคโนโลยที ุกรูปแบบท่ที ามา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประมวลผล การจดั เกบ็ การส่อื สาร การวเิ คราะห์ รายงานผล และการส่งผ่าน สารสนเทศดว้ ยระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยระบบทางกายภาพประกอบดว้ ยคอมพวิ เตอรอ์ ุปกรณ์ ตดิ ต่อส่อื สาร ระบบเครอื ข่าย และระบบฐานขอ้ มูล ทงั้ ในระบบนามธรรมเก่ยี วข้องกบั การ จดั รูปแบบของการมีสัมพันธ์ ด้านสารสนเทศทัง้ ภายใน และภายนอกระบบให้สามารถ ดาเนินการรว่ มกนั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.1.2 องคป์ ระกอบเทคโนโลยสี ารสนเทศ จากความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศดงั กล่าวมาแลว้ นนั้ กล่าวไดว้ ่าเทคโนโลยี สารสนเทศตอ้ งมอี งคป์ ระกอบ สาคญั 3 ประการต่อไปน้ี

23 1. ระบบประมวลผล ซ่งึ มคี วามซบั ซ้อนในการปฏิบตั ิงานและความต้องการ สารสนเทศทห่ี ลากหลาย ทาใหก้ ารจดั การและการประมวลผลขอ้ มลู ดว้ ยดว้ ยมอื ไม่สะดวก ล่าชา้ และอาจผดิ พลาดได้ ปจั จุบนั องค์การต่าง ๆ จงึ จาต้องทาการจดั เก็บและประมวลข้อมูลด้วย ระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์สนบั สนุนในการจดั การขอ้ มลู เพ่อื ใหก้ าร ทางานถกู ตอ้ ง และรวดเรว็ ขน้ึ 2. ระบบสื่อสารโทรคมนาคม การสอ่ื สารขอ้ มลู เป็นเร่อื งสาคญั สาหรบั การจดั การ และประมวลผล ตลอดจนการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ ระบบสารสนเทศท่ีดีต้องประยุกต์ เทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนิกส์ และผใู้ ชท้ อ่ี ยหู่ า่ งกนั ใหส้ ามารถสอ่ื สารกนั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. การจดั การข้อมลู ปกตบิ ุคคลทใ่ี หค้ วามสนใจกบั เทคโนโลยี อธบิ ายความ หมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศโดยให้ความสาคญั กบั ส่วนประกอบสองประการแรก แต่ผู้ท่ี สนใจด้านการจดั การข้อมูล (Data / Information Management) จะให้ความสาคญั กับ ส่วนประกอบทส่ี าม ซ่งึ มคี วามเป็นศลิ ปะในการจดั รปู แบบและการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพดงั ในรปู ระบบประมวลผล +การจดั การขอ้ มูล = เทคโน=โลยสี ารสนเทศ + ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ภาพท่ี 1.2 แสดงรปู แบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ นอกจากน้ี ชยั พจน์ รกั งาม (2540, 42 –48) ไดอ้ ธบิ ายถงึ การแยกองคป์ ระกอบของ แต่ละสว่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศอนั ไดแ้ ก่คอมพวิ เตอร์ (Computer) คอื เครอ่ื งอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่ี สามารถรบั ขอ้ มลู (Data) และตอ้ งมคี าสงั่ (Program) เขา้ ไปประมวลผล เพ่อื ใชใ้ หไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ (Out put) ออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เอกสารจากการพมิ พ์ ตารางกราฟ ภาพน่ิง ภาพเคล่อื นไหว ตวั เลขสถติ ิ แมก้ ระทงั่ เสยี งตามทต่ี ้องการ เครอื ข่าย (Network) เป็นการนา คอมพิวเตอร์ ตงั้ แต่ 2 เคร่อื ง ข้นึ ไป มาเช่อื มต่อกนั เพ่อื ให้สามารถใช้ข้อมูล หรอื โปรแกรม รว่ มกนั ได้ซ่งึ จะใช้ระบบเครอื ข่ายทอ้ งถน่ิ (LAN) เครอื ข่ายแวน (WAN) เครอื ข่ายระบบแมน (MAN) หรอื เครอื ข่ายระบบอินทราเน็ต ( Intranet ) ข้อมูลและสารสนเทศ(Data and

24 Information) ข้อมลู เป็นข้อเทจ็ จรงิ จะอยู่ในรูปแบบท่หี ลากหลาย เช่น รูปแบบตวั หนังสอื ตวั เลข รปู ภาพ เสยี ง เมอ่ื ผ่านการวเิ คราะหก์ เ็ ป็น ขอ้ มลู สารสนเทศ (Information) ใช้ในการ ตดั สนิ ใจดาเนินการ (Decision) ไปสู่การปฏบิ ตั ิ (Action) เม่อื นาไปส่กู ารปฏบิ ตั แิ ลว้ ก็จะ กลบั มาเป็นขอ้ มลู เพอ่ื จะนาไปวเิ คราะหเ์ ป็นวงจรใหม่ สสู่ ารสนเทศตวั ใหมต่ ่อไป 1.1.3 ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถอธบิ ายความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นทม่ี ผี ลกระทบต่อการ เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมดา้ นต่าง ๆ ของผคู้ นไวห้ ลายประการดงั ต่อไปน้ี (จอหน์ ไนซบ์ ติ ต์ อา้ ง ถงึ ใน ยนื ภ่วู รวรรณ) ประการทหี่ นงึ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ทาใหส้ งั คมเปลย่ี นจากสงั คมอุตสาหกรรมมาเป็น สงั คมสารสนเทศ ประการทสี่ อง เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหร้ ะบบเศรษฐกจิ เปลย่ี นจากระบบแหง่ ชาตไิ ป เป็นเศรษฐกจิ โลก ทท่ี าใหร้ ะบบเศรษฐกจิ ของโลกผกู พนั กบั ทกุ ประเทศ ความเช่อื มโยงของ เครอื ขา่ ยสารสนเทศทาใหเ้ กดิ สงั คมโลกาภวิ ฒั น์ ประการทสี่ าม เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหอ้ งคก์ รมลี กั ษณะผกู พนั มกี ารบงั คบั บญั ชา แบบแนวราบมากขน้ึ หน่วยธุรกจิ มขี นาดเลก็ ลง และเช่อื มโยงกนั กบั หน่วยธรุ กจิ อ่นื เป็น เครอื ขา่ ย การดาเนนิ ธุรกจิ มกี ารแขง่ ขนั กนั ในดา้ นความเรว็ โดยอาศยั การใชร้ ะบบเครอื ขา่ ย คอมพวิ เตอร์ และการสอ่ื สารโทรคมนาคมเป็นตวั สนบั สนุน เพอ่ื ใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ได้ งา่ ยและรวดเรว็ ประการทสี่ ี่ เทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นเทคโนโลยแี บบสุนทรยี สมั ผสั และสามารถ ตอบสนองตามความตอ้ งการการใชเ้ ทคโนโลยใี นรปู แบบใหมท่ เ่ี ลอื กไดเ้ อง ประการทหี่ า้ เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหเ้ กดิ สภาพทางการทางานแบบทกุ สถานทแ่ี ละ ทกุ เวลา ประการทหี่ ก เทคโนโลยสี ารสนเทศก่อใหเ้ กดิ การวางแผนการดาเนินการระยะยาวขน้ึ อกี ทงั้ ยงั ทาใหว้ ถิ กี ารตดั สนิ ใจ หรอื เลอื กทางเลอื กไดล้ ะเอยี ดขน้ึ กล่าวโดยสรปุ แลว้ เทคโนโลยสี ารสนเทศมบี ทบาททส่ี าคญั ในทกุ วงการ มผี ลต่อการ เปลย่ี นแปลงโลกดา้ นความเป็นอยู่ สงั คม เศรษฐกจิ การศกึ ษา การแพทย์ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การเมอื ง ตลอดจนการวจิ ยั และการพฒั นาต่าง ๆ 1.4 ปัจจยั ท่ีทาให้เกิดความล้มเหลวในการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ จากงานวจิ ยั ของ Whittaker (1999: 23) พบว่า ปจั จยั ของความลม้ เหลวหรอื ความ ผดิ พลาดทเ่ี กดิ จากการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ าร มสี าเหตุหลกั 3 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การขาดการวางแผนทด่ี พี อ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การวางแผนจดั การความเสย่ี งไมด่ ี พอ ยง่ิ องคก์ ารมขี นาดใหญ่มากขน้ึ เท่าใด การจดั การความเสย่ี งยอ่ มจะมคี วามสาคญั มากขน้ึ เป็นเงาตามตวั ทาใหค้ า่ ใชจ้ ่ายดา้ นน้เี พม่ิ สงู ขน้ึ

25 2. การนาเทคโนโลยที ไ่ี มเ่ หมาะสมมาใชง้ าน การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ น องคก์ ารจาเป็นตอ้ งพจิ ารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของธรุ กจิ หรอื งานทอ่ี งคก์ ารดาเนินอยู่ หากเลอื กใชเ้ ทคโนโลยที ไ่ี ม่สอดรบั กบั ความตอ้ งการขององคก์ ารแลว้ จะทาใหเ้ กดิ ปญั หาต่าง ๆ ตามมา และเป็นการสน้ิ เปลอื งงบประมาณโดยใชเ่ หตุ 3. การขาดการจดั การหรอื สนบั สนุนจากผบู้ รหิ ารระดบั สูง การทจ่ี ะนาเทคโนโลยี สารสนเทศเขา้ มาใชง้ านในองคก์ ร หากขาดซง่ึ ความสนับสนุนจากผบู้ รหิ ารระดบั สงู แลว้ กถ็ อื วา่ ลม้ เหลวตงั้ แต่ยงั ไมไ่ ดเ้ รม่ิ ตน้ การไดร้ บั ความมนั่ ใจจากผบู้ รหิ ารระดบั สงู เป็นกา้ วยา่ งทส่ี าคญั และจาเป็นทจ่ี ะทาใหก้ ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ารประสบความสาเรจ็ สาหรบั สาเหตุของความลม้ เหลวอ่นื ๆ ทพ่ี บจากการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ เช่น ใชเ้ วลาในการดาเนินการมากเกนิ ไป (Schedule overruns), นาเทคโนโลยที ล่ี า้ สมยั หรอื ยงั ไม่ ผา่ นการพสิ จู น์มาใชง้ าน (New or unproven technology), ประเมนิ แผนความตอ้ งการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศไมถ่ ูกตอ้ ง, ผจู้ ดั จาหน่ายเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Vendor) ทอ่ี งคก์ ารซอ้ื มา ใชง้ านไม่มปี ระสทิ ธภิ าพและขาดความรบั ผดิ ชอบ และระยะเวลาของการพฒั นาหรอื นา เทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชจ้ นเสรจ็ สมบรู ณ์ใชเ้ วลาน้อยกว่าหน่งึ ปี นอกจากน้ี ปจั จยั อ่นื ๆ ทท่ี าใหก้ ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชไ้ มป่ ระสบความสาเรจ็ ในดา้ นผใู้ ชง้ านนัน้ อาจสรปุ ไดด้ งั น้ี คอื 1. ความกลวั การเปลย่ี นแปลง กล่าวคอื ผคู้ นกลวั ทจ่ี ะเรยี นรกู้ ารใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ รวมทงั้ กลวั วา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศจะเขา้ มาลดบทบาทและความสาคญั ในหน้าท่ี การงานทร่ี บั ผดิ ชอบของตนใหล้ ดน้อยลงจนทาใหต้ ่อตา้ นการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. การไมต่ ดิ ตามขา่ วสารความรดู้ า้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งสม่าเสมอ เน่อื งจาก เทคโนโลยสี ารสนเทศเปลย่ี นแปลงรวดเรว็ มาก หากไม่มนั่ ตดิ ตามอยา่ งสม่าเสมอแลว้ จะทาให้ กลายเป็นคนลา้ หลงั และตกขอบ จนเกดิ สภาวะชะงกั งนั ในการเรยี นรแู้ ละใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ 3. โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศของประเทศกระจายไมท่ วั่ ถงึ ทาใหข้ าด ความเสมอภาคในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ หรอื เกดิ การใชก้ ระจกุ ตวั เพยี งบางพน้ื ท่ี ทาให้ เป็นอุปสรรคในการใชง้ านดา้ นต่าง ๆ ตามมา เช่น ระบบโทรศพั ท์ อนิ เทอรเ์ น็ตความเรว็ สงู ฯลฯ 1.2 วิวฒั นาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร พฒั นาการจากยุคอนาลอกส่ยู ุคดจิ ติ อลนัน้ มคี วามเป็นมาทย่ี าวนานมาก กว่าทจ่ี ะมา เป็นเทคโนโลยที เ่ี ราท่าน ใชง้ านกนั อย่ใู นปจั จุบนั น้ี บางช่วงใชเ้ วลาในการคน้ คดิ นานเป็นพนั ปี โดยไม่มกี ารเปล่ยี นแปลง บางช่วงก็เร็วมาก ถ้าเราสงั เกตจะเห็นว่าในปจั จุบนั การค้นคดิ เทคโนโลยเี หล่าน้ีเปลย่ี นไปอย่างเรว็ มากจนผูใ้ ช้แทบจะตามไมท่ นั ซง่ึ ถ้าเราเขา้ ใจพฒั นาการ ของเรอ่ื งเหล่าน้อี ยบู่ า้ งกจ็ ะชว่ ยทาใหเ้ รามองภาพในอนาคตไดด้ ว้ ยตวั ของเราเอง

26 การพฒั นาทางดา้ นเทคโนโลยแี บ่งเป็น 2 ดา้ นท่คี วบคู่กนั มา คอื พฒั นาการทางดา้ น คอมพวิ เตอรแ์ ละ พฒั นาการทางดา้ นการส่อื สารซง่ึ กจ็ ะหมายรวมถึงลกั ษณะของขอ้ มลู หรอื สารสนเทศทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สารกนั ดว้ ย เพ่อื ใหเ้ หน็ ภาพอยา่ งชดั เจนเรามาดู ดงั ภาพ รปู ท่ี 1.3 (ก) แสดงพฒั นาการทางดา้ นเทคโนโลยี

27 รปู ท่ี 1.3 (ข) แสดงพฒั นาการทางดา้ นเทคโนโลยี รปู ท่ี 1.3 (ค) แสดงพฒั นาการทางดา้ นเทคโนโลยี

28 รปู ท่ี 1.3 (ง) แสดงพฒั นาการทางดา้ นเทคโนโลยี รปู ท่ี 1.3 (จ) แสดงพฒั นาการทางดา้ นเทคโนโลยี

29 รปู ท่ี 1.3 (ฉ) แสดงพฒั นาการทางดา้ นเทคโนโลยี 1.3 สรปุ เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ เ ป็ น เ ท ค โ น โ ล ยีทุ ก รูป แ บ บ ท่ีท า ม า ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ใ น ก า ร ประมวลผล การจดั เก็บการส่อื สาร การวเิ คราะห์ รายงานผล และการส่งผ่านสารสนเทศดว้ ย ระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยระบบทางกายภาพประกอบด้วยคอมพวิ เตอรอ์ ุปกรณ์ติดต่อส่อื สาร ระบบเครอื ขา่ ย และระบบฐานขอ้ มลู ทงั้ ในระบบนามธรรมเก่ยี วขอ้ งกบั การจดั รปู แบบของการ มสี มั พนั ธ์ ด้านสารสนเทศทงั้ ภายใน และภายนอกระบบให้สามารถดาเนินการร่วมกนั อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ จงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร (ICT) มคี วามสาคญั และความจาเป็น อย่างยง่ิ ต่อการส่งเสรมิ สนับสนุนในการบรหิ ารจดั การระบบสารสนเทศภายในองค์การแล ะ ภายนอกองคก์ รเพ่อื เกดิ ความสะดวก รวดเรว็ แมน่ ยาและมปี ระสทิ ธภิ าพ --------=====@@@@=====--------

30 แบบฝึ กหดั 1. ใหอ้ ธบิ ายความหมายของประโยคต่อไปน้ขี อ้ มลู 1.1 ระบบประมวลผล ………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… 1.2 ระบบสอ่ื สารโทรคมนาคม ………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… 1.3 เทคโนโลยสี ารสนเทศ ……………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… 2. ใหอ้ ธบิ ายววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร วา่ เป็นอย่างไร (พอสงั เขป) …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………….………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………….…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………

31 7. ส่ือประกอบการสอน

32 วิทยาลยั เทคนิคสตั หีบ 1 หน่วยที่ 1 พ้ืนฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร

33 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.อธิบายความหมายเทคโนโลยสี ารสนเทศได้อย่างถูกต้อง 2.บอกถงึ ความสําคญั และความจาํ เป็ นการใช้เทคโนโลยี สารสนได้ถูกต้อง 3. อธิบายววิ ฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ สื่อสารได้อย่างถูกต้อง หวั ขอ้ การเรียน 1. เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.วิวฒั นาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

34 สาระสําคญั ของเรียนรู้ ในบทท่ี 1 น้ีจะกล่าวถึงพ้ืนฐานทวั่ ไปเก่ียว กบั เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่ือสาร (ICT) เพื่อ ให้ เขา้ ใจความหมาย โครงสรา้ ง องคป์ ระกอบ ของขอ้ มลู สารสนเทศ ระบบสารสนเทศ และระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารใหช้ ดั เจน เพื่อจะได้ นําไปใชป้ ระโยชนใ์ นการพฒั นา องคก์ ร หรือหน่วยงาน ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 1. เทคโนโลยีสารสนเทศ

35 1.1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ ชยั พจน์ รกั งาม (2540 , 25-42) ไดก้ ล่าวถึง ความหมาย เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ประกอบข้ึนดว้ ยระบบจดั เก็บและ ประมวลผลขอ้ มลู ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและ อุปกรณส์ นบั สนุนการปฏิบตั ิงานดา้ นสารสนเทศที่ มีการวางแผน การจดั การ และใชง้ านร่วมกนั อย่างมีประสิทธิภาพ แผนแม่บท ICT ของประเทศไทย พ.ศ. 2545-2549 [2] ไดใ้ หค้ ําจํากดั ความไวว้ ่า “เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง ความรใู้ น ผลิตภณั ฑห์ รือในกระบวนการดาํ เนินการใดๆ ท่ี อาศยั เทคโนโลยีทางดา้ นคอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วร์ (software) คอมพิวเตอรฮ์ ารด์ แวร์ (hardware) การติดต่อสื่อสาร การรวบรวมและ การนําขอ้ มลู มาใชอ้ ย่างทนั การ

36 เพอื่ ก่อใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพทัง้ ทางดา้ นการ ผลติ การบริการ การบริหาร และการ ดาํ เนินงาน รวมทัง้ เพอื่ การศกึ ษาและการ เรียนรูซ้ ึ่งจะส่งผลตอ่ ความไดเ้ ปรียบทาง เศรษฐกจิ การคา้ และการพฒั นาดา้ น คุณภาพชีวติ และคุณภาพของประชาชนใน สังคม” กล่าวโดยสรุป เทคโนโลยี สารสนเทศหมายถึ ง เทคโนโลยีทุกรูปแบบที่ทํามาประยุกตใ์ ชใ้ นการประมวลผล การจดั เก็บการสื่อสาร การวิเคราะห์ รายงานผล และการ ส่งผ่านสารสนเทศดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยระบบทาง กายภาพประกอบดว้ ยคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร ระบบเครือข่าย และระบบฐานขอ้ มูล ทงั้ ในระบบนามธรรม เกี่ยวขอ้ งกบั การจดั รปู แบบของการมีสมั พนั ธ์ ดา้ นสารสนเทศ ทงั้ ภายใน และภายนอกระบบใหส้ ามารถดําเนินการร่วมกนั อย่างมีประสิทธิภาพ

37 1.2 องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. ระบบประมวลผล เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. การจดั การขอ้ มลู 3. ระบบสื่อสาร โทรคมนาคม 1.2.1 ระบบประมวลผล ปัจจุบนั ทาํ การ จดั เก็บและประมวลขอ้ มลู ดว้ ยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ โดยใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละ อุปกรณส์ นบั สนุนในการจดั การขอ้ มลู เพ่ือใหก้ ารทาํ งานถกู ตอ้ ง และรวดเร็วข้ึน

38 ระบบประมวลผล INPUT OUTPUT -DATA -INFORMATION Computer System Hardware Software Data Management 14

39 15 2.2.2 ระบบสื่อสารโทรคมนาคม การ ส่ือสารขอ้ มลู เป็ นเร่ืองสําคญั สําหรบั การ จดั การและประมวลผล ตลอดจนการใช้ ขอ้ มลู ในการตดั สินใจ ระบบสารสนเทศท่ีดี ตอ้ งประยุกตเ์ ทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และ ผูใ้ ชท้ ี่อยู่ห่างกนั ใหส้ ามารถสื่อสารกนั ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ

40 ภาพแสดง แผนผงั ระบบส่ือสารขอ้ มลู

41 ภาพแสดง ตวั อย่างระบบสื่อสารดาวเทียม 20

42 2.2.3 การจดั การขอ้ มลู การจดั การ ขอ้ มูล (Data / Information Management) เป็ นส่วนประกอบท่ีสาม ซึ่ง มีความเป็ นศิลปะในการจดั รปู แบบและการ ใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใหข้ อ้ มูล มีความถกู ตอ้ ง รวดเร็ว แม่นยํา ปลอดภยั เป็ นมาตรฐานตรงกบั ความตอ้ งการอย่างมี ประสิทธิภาพ 1.3 ความสําคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ (จอหน์ ไนซบ์ ิตต์ อา้ งถึงใน ยืน ภู่วรวรรณ) ประการทีห่ นึง่ เทคโนโลยีสารสนเทศ ทําใหส้ งั คมเปลี่ยน จากสงั คมอุตสาหกรรมมาเป็ นสงั คมสารสนเทศ ประการทีส่ อง เทคโนโลยีสารสนเทศทําใหร้ ะบบเศรษฐกิจ เปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็ นเศรษฐกิจโลก ท่ีทําใหร้ ะบบ เศรษฐกิจของโลกผูกพนั กบั ทกุ ประเทศ

43 1.3 ความสําคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ ประการที่สาม มี การบังคับบัญชาแบบ แนวราบมากข้ึน หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง และ เช่ือมโยงกนั กบั หน่วยธรุ กิจอื่นเป็ นเครือข่าย การ ดําเนินธรุ กิจมีการแข่งขนั กนั ในดา้ นความเร็ว 1.3 ความสําคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ ประการที่สี่ เทคโนโลยี สารสนเทศเป็ น เทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส และสามารถ ตอบสนองตามความตอ้ งการการในรปู แบบใหม่ ท่ีเลือกไดเ้ อง

44 1.3 ความสําคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ ประการทีห่ ก เทคโนโลยีสารสนเทศก่อใหเ้ กิดการ วางแผนการดําเนินการระยะยาวข้ึน อีกทงั้ ยงั ทาํ ใหว้ ิถี การตดั สินใจ หรือเลือกทางเลือกไดล้ ะเอียดข้ึน กล่าวโดยสรุป เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทท่ี สําคญั ในทุกวงการ มีผลต่อการเปล่ียนแปลงโลกใน ทุกดา้ น 1.4 ปัจจยั ที่ทาํ ใหเ้ กิดความลม้ เหลวในการนํา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ จากงานวิจยั ของ Whittaker (1999: 23) พบว่า ปัจจยั ของความ ลม้ เหลวมีสาเหตหุ ลกั 3 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การขาดการวางแผนที่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผน จดั การความเสี่ยงไม่ดีพอ ยิ่งองคก์ ารมีขนาดใหญ่มากข้ึนเท่าใด การ จดั การความเสี่ยงย่อมจะมีความสําคญั มากข้ึนเป็ นเงาตามตวั ทาํ ให้ ค่าใชจ้ ่ายดา้ นน้ีเพิ่มสงู ข้ึน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook