87 The Midas touch สานวน The Midas touch แปลว่า หยิบจับอะไรกเ็ ป็นเงินเป็นทอง ไม่ว่าจะทาอะไรก็สาเร็จไป หมดทกุ อย่าง ตวั อยา่ งประโยคภาษาอังกฤษ That teacher has the Midas touch. She turns any student into one of the best. (ครูคนนน้ั เป็นคนมีความสามารถมากๆ เค้าเปล่ยี นนกั เรยี นของเค้าให้กลายเป็นนักเรียนดีเด่นได)้ Ms. Pimpryprai has the Midas touch: everything she does turns to gold. (คณุ พริมพร่พี รายหยบิ จับอะไรกเ็ ป็นเงนิ เปน็ ทองไปหมด) Let she choose lottery tickets for you. She has the Midas touch. (ให้เขาเลือกลอ็ ตเตอรีใ่ หเ้ ธอสิ เขามมี อื นาโชคนะจับอะไรก็เปน็ เงินเป็นทองไปหมด) ตามตานานของกรีก ไมดาสเป็นกษัตริย์ที่ร่ารวยมากๆ เค้ามีเงินทองมากมาย แต่ความอยากได้ อยากมีของเค้านั้นไม่มีท่ีส้ินสุด จนในวันนึงเค้าได้พรให้ขออะไรก็ได้ 1 อย่าง ไมดาสจึงขอไปว่า \"ขอให้ข้า หยิบจับอะไรก็เป็นทอง\" และแล้วคาขอของเค้าก็เป็นจริง เมื่อเค้าเดินไปท่ัวพระราชวัง และลองเอามือ แตะโตะ๊ เก้าอ้ี ทกุ อยา่ งลว้ นกลายเป็นทองไปหมด photo credit: steemit.com แต่พอนานๆ เข้า ไมดาสก็เร่ิมรู้ตัวว่า การที่แตะอะไรเป็นทองก็เริ่มสร้างความลาบากให้กับเค้า พอเค้าเร่ิมหวิ เค้าหยิบน้าหรืออาหารกินก็ไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นทองไปหมด แม้แต่ตอนที่พวกคนรับ ใช้หยิบอาหารป้อน เม่ืออาหารแตะริมฝีปากเค้าก็กลายเป็นทองไปซะหมด จนกระทั่งเค้าอยากไปกอดลูก สาวของเค้า และเมื่อพอได้สัมผัสกอดลูกสาว นางกลับกลายเป็นทองไปด้วย ทาให้เค้ารู้สึกเศร้ามากๆ ไม่ อยากจะมีสัมผัสทองคาอีกแล้ว จนสุดท้ายแล้วเค้าก็ได้ขอทวยเทพให้ลบล้างคาสาปนี้ที ในท่ีสุดเค้าก็ สามารถกลับมาใช้ชวี ติ ปกติได้
88 Under the aegis of สานวน Under the aegis of sb/sth หมายถึง อยู่ภายใต้การคุ้มครอง หรือการอุปถัมภ์ของ บคุ คล หรอื องค์กรใดองค์หน่งึ ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ The project was set up under the aegis of the university. (โครงการได้จดั ต้งั ขึ้นโดยการช่วยเหลอื ของมหาวทิ ยาลัย) The refugee camp operates under the aegis of the UN. (ค่ายผลู้ ภี้ ยั ดาเนนิ การภายใตก้ ารอุปถมั ปข์ ององค์กรสหประชาชาตยิ เู อ็น) They are thought to be under the aegis of the American military. (พวกเขาคิดทีจ่ ะอยู้ภายใตก้ ารคุ้มครองของกองทพั ทหารอเมริกัน) https://images.app.goo.gl/EdHt9KNJnfawNcVE8 ตามตานานกรีก คาว่า Aegis เป็นช่ือโล่ประจาองค์เทพบดีซูส บางครั้งอาจหมายถึงเกราะ หน้าอก ซึ่งเป็นท่ีน่าเกรงขามมาก เพราะมีศีรษะของนางเมดูซ่า* ประดับอยู่ บางครั้ง เทพบดีซูส ก็ให้เทพีอธีนา หรือ เทพอพอลโลขอยืมไปใช้ เทพีและเทพท้ังสอง องค์มักจะมอบให้วีรบุรุษที่ อยู่ในความอุปถัมภ์นาเอาโล่ หรือเกราะน้ีไปใช้ ดังเช่น เพอร์ซูส เมื่อเดินทางไปปราบเมดูซา ใน อ ดี ตเม่ื อ เห ล่ าอั ศ วิน ผู้ ก ล้ าอ อ ก ศึ ก ก็จ ะสว ม ใส่ เส้ือ เก ร าะเพื่ อ ป้ อ งกั น อั น ต รายจ ากค ม อ าวุ ธขอ ง ศั ตรู เช่นเดียวกัน ฉะน้ันจึงเป็นที่มาของสานวน under the aegis of sb/sth ในความหมายว่า ได้รับ การคมุ้ ครอง
89 Apple of Discord สานวน Apple of Discord หมายถึง สาเหตุใหเ้ กดิ การแตกแยก หรอื การทะเลาะววิ าท ตวั อยา่ งประโยคภาษาองั กฤษ I sense an apple of discord between you two? (ฉันรูส้ กึ ถงึ ความขัดแยง้ ระหวา่ งเธอสองคนนะ) The leather coat in the sale was a real apple of discord. Several women were fighting over it. (เสื้อคลมุ หนงั ตวั นัน้ เปน็ ต้นเหตขุ องการทะเลาะ เม่อื ผู้หญงิ หลายคนตา่ งแย่งชิงกัน) This problem seems to be an apple of discord between the Afghanistan and the USA. (ปัญหานี้ดูเหมอื นจะเป็นปัญหาทาใหแ้ ตกแยกระหว่างอัฟกานิสถานและประเทศอเมรกิ า) https://images.app.goo.gl/5bGcTqcJRpyBRJyB9 ตามตานานกรกี คาวา่ Apple of Discord มที ม่ี าจากแอปเปลิ ทองคาที่มขี ้อความจารกึ ว่า “For the Fairest” (สาหรบั ผทู้ ่ีงามทสี่ ดุ ) ท่ีเทวีอรี สี (Eris) เทวีแหง่ ความแตกร้าว โยนเขา้ ไปกลาง งานฉลองพธิ สี มรสระหว่างเพเลียส (Peleus) กบั เทวเี ธทิส (Thetis - บดิ ามารดาของ Achilles) เนอื่ งจากโกรธทม่ี ิไดร้ ับเชญิ เหมือนกับทวยเทพและเทวีท้ังหลาย แอปเปลิ ผลนี้ทาให้เกดิ ความแตกรา้ ว ใน กลุ่มเทวใี นงานจริงๆ เพราะต่างกแ็ ย่งชิงกันเปน็ เจ้าของเพอ่ื จะได้เป็นผ้ทู ี่งามทสี่ ุด ในท่สี ดุ เหลอื เทวี เพียงสามองค์ คือ เทวีเฮรา่ ชายาของเทพบดซี ูส เทวอี โฟรไดเท และเทวอี ธนี า ธิดาของเทพบดีซูส ดงั น้นั เทพบดซี สู ไม่อาจตัดสินช้ีขาดได้ เทพบดีซสู จึงให้เทพเฮอร์เมส นาเทวีทงั้ สามลงมายังยอดเขาไอดา บนโลกมนุษย์ และใหป้ ารสี ซง่ึ ขณะนนั้ ยงั เปน็ คนเลย้ี งแกะ ทาการตดั สนิ แทน เทวีทั้งสามต่างเสนอรางวลั ให้ปารีสทีแ่ ตกต่างกนั เทวีเฮรา่ เสนอจะใหอ้ านาจความเป็นใหญ่ เทวอี โฟรไดเทเสนอจะให้ได้สมรสกับ หญงิ ทสี่ วยท่ีสดุ สว่ นเทวอี ธีนาเสนอความรุ่งเรือง และความสามารถในการศกึ ปารสี ยังอยู่ในวัยหนมุ่ จงึ ตดั สินมอบแอปเปลิ ให้แกเ่ ทวอี โฟรไดเท อยา่ งไรกต็ ามนางเฮเลน หญิงท่ีถอื กนั ว่าสวยที่สดุ ในขณะนัน้ ได้สมรสเปน็ ชายาของเมเนลอส เจา้ เมืองสปาร์ตาไปแล้ว การท่ีเจ้าชายปารสี ไปลักพาตวั นางเฮเลนไป กรงุ ทรอยจึงเป็นชนวนของ สงครามระหว่างพวกกรีกกับชาวทรอย เนื่องจากบิดาของนางเฮเลน ไดข้ อ คามน่ั สญั ญาจาก บรรดาเจา้ ชายและเจ้าเมอื งกรีกทีม่ าตดิ พนั นางเฮเลนวา่ หากเกดิ ปญั หาความยุ่งยาก
90 ใดๆ กับนางเฮเลนแล้ว ทกุ คนจะตอ้ งมาให้ความชว่ ยเหลอื เม่อื เกดิ เร่ืองร้ายกบั นางเฮเลน ในครง้ั นี้ เจา้ ชายและเจ้าเมอื งกรกี ทงั้ หลายจงึ จัดส่งกองทพั มาช่วย และกลายเป็นสงครามกรงุ ทรอยทก่ี ิน เวลา ยาวนานถงึ สบิ ปี ดังปรากฏรายละเอยี ดในมหากาพย์ทย่ี ง่ิ ใหญข่ องโฮเมอร์ (Homer) เร่อื ง The liad ฉะนนั้ สานวน apple of discord จึงนามาใช้ในความหมายว่า เปน็ ต้นเหตุของความ แตกแยก การ ทะเลาะววิ าทนั่นเอง Penelope's Web สานวน Penelope's Web หมายถึง ภาระงานทยี่ ดื เยอ้ื และไมม่ ีทที า่ ว่าจะสาเร็จได้ ตัวอยา่ งประโยคภาษาอังกฤษ My work is something like the Penelope's web, never done, but ever in hand. Mr Jones made a long speech at the meeting. Everyone else thought it a Penelope's web. His wish to finish his master's degree this year seems to be Penelope's web since his proposal was rejected. (ความหวังท่ีจะสาเร็จการศึกษาในปีน้ีของเขาดูจะไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะหัวข้อวิทยานิพน์ของเขาถูก ปฏเิ สธ) https://images.app.goo.gl/Y4tjsrXKQv5gUUYP9 จากตานานกรีก เป็นเร่ืองราวเกี่ยวกับโอดิสซูส วีรบุรุษคนสาคัญของกรีกในสงครามกรุงทรอย โอดิสซูสต้องจากเมืองอิธากะของตนไปเป็นเวลา 20 ปี ในช่วงเวลาน้ันนางเพเนลอเพ ภรรยาต้องอยู่ ดูแลบ้านเมืองตามลาพังคนเดียวในสภาพคล้ายเป็นหม้าย จึงมีบรรดาชายหนุ่มท่ีมีฐานะต่างๆ กัน มา พยายามบีบบังคับให้อภิเษกด้วย นางเพเนลอเพเป็นภรรยาท่ีมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อสามีมาก จึง
91 หาทางประวิงเวลาไว้ โดยกล่าวว่าจะตัดสินใจเลือกคู่ เมื่อทอผ้าชิ้นนี้สาเร็จนางเพเนลอเพกาลังทอผ้าท่ี ใชแ้ ขวนผนงั อยู่ นางจึงใช้วิธีทอผ้าในเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนกแ็ อบเลาะท้ิง ฉะนั้นผ้าผนื คงไม่ มีวนั ทอได้สาเร็จ ในภายหลังเมอ่ื มีผู้จบั กลอุบายนไี้ ด้ ก็เปน็ เวลาท่โี อดิสซูสเดินทางกลับมาพอดี Greek gift สานาน Greek gift หมายถึง ของขวญั ทีน่ าอันตรายมาสู่ผ้รู บั ตวั อย่างประโยคภาษาอังกฤษ His voluntary offer to help may be a Greek gift. (การเสนอช่วยเหลอื ของเขาอานาอัตรายมาส่)ู The loan of his cottage turned out to be a Greek gift. The roof fell in and injured us. (การใหย้ มื กระทอ่ มกลายเปน็ เรือ่ งอนั ตรายเมื่อหลังคาพงั ลงมาทาใหพ้ วกเราบาดเจบ็ ) https://images.app.goo.gl/AJ77P4FvcSuRLkC46 ตามตานานกรีก ที่ปรากฏอยู่ในเร่ืองราวมหากาพย์เร่ือง The liad ของโฮเมอร์ ฝ่ายกรีกยก กองทัพเรือไปกรุงทรอย เพื่อทาสงครามแย่งชิงนางเฮเลน ท่ีถูกเจ้าชายปารีสลักพาตัวไป กลับคืนให้ เมเนลอส เจ้าเมืองสปาร์ตา สามีที่ได้ทาการสมรสอย่างถูกต้อง สงครามครั้งน้ีกินเวลายาวนานถึงสิบปี ก็ ยงั ไม่อาจรผู้ ลแพ้ชนะกนั ได้อย่างเด็ดขาด ฝ่ายกรกี จึงออกอุบายสร้างมา้ ไม้ขนาดใหญข่ ้ึนมาบนหาดทราย ริมทะเล ทาทีว่าเป็นเคร่ืองบวงสรวงสังเวยใหแ้ ก่เทพเจา้ แล้วกถ็ อนกองเรอื กลบั ไปหมดฝ่ายกรุงทรอยดี ใจคดิ วา่ ทหารกรีกยกทพั กลับไปหมดแลว้ จึงเปดิ ประตูเมือง แล้วชว่ ยกันชักลากมา้ ไม้นเี้ ข้าไปในเมอื ง ใน คืนน้ันก็จัดพิธีฉลองอย่างใหญ่โต ทั้งทหารและชาวเมืองต่างพากันเล้ียงฉลองด่ืมกินกันอย่างสนุกสนาน เมอื่ ชาวเมืองพากนั หลับนอนอย่างเมามาย ทหารกรีกท่ีแอบอยใู่ นท้องม้าไม้จงึ ลอบออกมาจากทซ่ี ่อน ไป เปิดประตเู มืองให้พวกทหารกรีกท่ีหลบอยู่ด้านนอกเขา้ มาในเมอื ง หลังจากนน้ั ก็พากันฆา่ ฟันแม่ทพั นายก องของฝ่ายทรอย รวมท้ังชาวเมือง และสามารถยึดกรุงทรอยได้ในทส่ี ุด สาหรับม้าไม้น้มี ีคาศัพท์เรียกว่า
92 Trojan horse สว่ นสานวน Greek gift หมายถงึ มา้ ไม้ทีฝ่ า่ ยกรีกสร้างทิง้ ไวบ้ นชายหาด และม้าไม้น้เี ป็น ท่ีหลบซ่อนของ ทหารกรีกจานวนหนึ่ง เม่ือชาวทรอยชักลากม้าไม้เข้ามาในเมือง ก็เท่ากับนาพาทหาร กรีกที่เป็นขา้ ศึกเข้ามาในเมืองดว้ ย ซึ่งหมายถึงการนาอันตรายเขา้ มาในเมอื ง และทาใหต้ อ้ งเป็นฝา่ ยพา่ ย แพ้ในที่สดุ Trojan hours สานวน Trojan horse (n.) หมายถงึ บคุ คลหรอื สิ่งของทีน่ าไปใช้อยา่ งลบั ๆ เพอ่ื ทาลาย องค์กรของศตั รู คู่แข่ง หรอื ฝ่ายตรงข้าม ตัวอยา่ งประโยคภาษาอังกฤษ She was regarded as a Trojan horse since she resigned and went to work with that company. (เธอถูกมองวา่ เปน็ สายลับ เมอ่ื เธอลาออก แลว้ ไปทางานกบั บรษิ ัทนั้น) I wonder whether he is a Trojan Horse. (ฉนั กาลงั สงสัยว่าเขาเป็นสายลับของศตรรู ึเปล่า) Another kind of virus is called Trojan horse. (ไวรสั อักประเภทหนง่ึ เรียกวา่ โทรจัน่ ฮอส์ส) https://images.app.goo.gl/HVLYSoRKVxJrhQj4A ตามตานานของกรีก คาศัพท์น้ีมที ่ีมาจากคาว่า “เมืองทรอย” (Troy) จาเร่ิมจากการที่เจ้าชาย ปารีสแห่งทรอยได้รับรางวัลจากเทวีอโฟรไดท์ ให้แต่งงานกับสตรีท่ีสวยที่สุดในโลก และนางเฮเลนที่ เป็นสตรีท่ีสวยที่สุดขณะน้ัน ได้อภิเษกกับกษัตริย์เมเนลอส (Menelaus) ของกรีกแล้วเมื่อเจ้าชายปารีส ลักพาตัวนางไป ฝ่ายกรกี จงึ กรธี าทัพมาทาสงครามที่กรงุ ทรอย การสงครามดาเนินไปเปน็ เวลายาวนาน ถึง 10 ปี โดยทั้งสองฝ่ายต่างผลัดแพ้ผลัดกันชนะ ในที่สุดโอดิสซิอุส ฝ่ายเสนาธิการของกรีกได้ออก
93 อุบาย ให้ฝ่ายกรีกสร้างมา้ ไม้ขนาดใหญ่ขนึ้ บนชายหาด แล้วถอนทัพเรือออกไปจนหมด ทางกรุงทรอย สาคัญผิด คิดว่าทหารกรีกคงถอนทัพกลับไปแล้ว จึงเปิดประตูเมืองออกมาลากม้าไม้เข้าไปในเมือง คืน นั้นก็มีการเฉลิมฉลองเป็นงานใหญ่ ทั้งกินทั้งด่ืม จนเมามายหมดสติไปตามๆ กัน อันท่ีจริงทหารกรีก แอบซ่อนอยใู่ นม้าไม้ ครัน้ ชาวทรอยหมดสติหลบั ใหล ทหารกรกี จงึ ออกมาจากม้าไม้ ไปเปิดประตูเมืองให้ พวกของตนเข้ามาฆ่าฟันทหารและชาวกรุงทรอย ดว้ ยกลอบุ ายนกี้ รุงทรอยจงึ พา่ ยแพใ้ นสงครามคร้งั นี้ Rise from the ashes สานวน Rise from the ashes มีความหมายว่า เจริญเติบโตข้ึนมาได้อีก หลังจากประสบ ความหายนะ หรือภัยพิบัติ การพลกิ ฟ้ืนคนื ชีวิตข้ึนมาอีกครั้ง หรือความสามารถฟ้ืนตัวขึ้นมาเจริญเติบโต ได้อีก หลังจากผ่านสถานการณ์ที่เลวร้าย คล้ายๆกับสานวน ฟ้าหลังฝน หรือ กลับมารุ่งเรืออีกคร้ัง ใน สานวนไทยเรา ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ The firm had to close last year, but a new one has risen from the ashes. (บรษิ ัทน้ีตอ้ งปิดกิจการไปเม่ือปที แี่ ลว้ แตบ่ ริษทั ทีต่ ั้งข้นึ มาใหมเ่ จรญิ รงุ่ เรอื งด)ี Can a new party rise from the ashes of the old one? ตามตานานกรีก ได้กล่าวถึงนกฟีนิกซ์ (the phoenix) ที่เป็นนกในเทวตานาน เม่ือนก ชนิดน้ีมีอายุมากข้ึนถึงวัยชรา ก็จะบินเข้ากองไฟและถูกเผาจนมอดไหม้ จากเถ้าถ่านน้ันก็จะมี ชีวิตใหม่ บั ง เกิ ด ข้ึ น ม า ก ล า ย เป็ น น ก ตั ว ใ ห ม่ ที่ จ ะ เจ ริ ญ เติ บ โ ต ต า ม วั ฏ จั ก ร ข อ ง ชี วิ ต ฉ ะ น้ั น สานวน “to rise from the ashes” จึงส่ือถึงความสามารถในการพลิกฟ้ืนคืนชีวิตขึ้นมาอีกคร้ัง หรือความสามารถฟน้ื ตวั ข้นึ มาเจริญเติบโตไดอ้ ีก หลงั จากผา่ นสถานการณ์ท่ีเลวรา้ ย Cut the Gordian knot สานวน Cut the Gordian knot มีความหมายว่า สามารถแก้ปัญหา หรือยุติข้อยุ่งยากแบบ เด็ดขาดและทนั ที หรือดว้ ยวธิ ีการรนุ แรง ตัวอยา่ งประโยคภาษาอังกฤษ Let's cut the Gordian knot in doing with such a complicated matter. (เรามายุติปัญหาจากสง่ิ ทย่ี ่งุ เหยิงเหล่าน้ีกนั เถอ้ ะ) He decided to cut the Gordian knot by leaving her alone in the apartment. (เขาก็ตกลงใจตัดปัญหาโดยการทิง้ ให้เธออย่คู นเดียวในอพาทเมน้ ท์ )
94 https://images.app.goo.gl/3MuZ26NYHV9Jbmwx8 ตามตานานกรีก กอร์เดียส (Gordius หรือ Gordias) ซ่งึ เดิมเปน็ ชาวนาทีย่ ากจน ขณะนัน้ แคว้น ฟีเจีย (Phrygia) ว่างกษัตริย์ และมีคาพยากรณ์จากวิหารว่า กษัตริย์องค์ต่อไปจะขับเกวียนเข้ามาใน เมือง จังหวะน้ันบังเอิญให้กอร์เดียส ขับเกวียนผ่านมาพอดีชาวเมืองจึงพร้อมกันยกกอร์เดียสให้เป็น กษัตริย์ กอรเ์ ดยี สจึงใชเ้ ชอื กผูกปมเง่อื นอย่างแน่นหนาล่ามเกวียนของตนไวใ้ นวิหาร เพ่ืออทุ ิศถวายแด่ เทพที่พยากรณ์ว่าตนจะได้เป็นกษัตริย์หลังจากนั้นก็มีคาพยากรณ์อีกว่าผู้ใดสามารถแก้เง่ือนน้ีได้จะได้ เป็นใหญ่ในเอเชีย มีผู้คนมากมายมาพยายามแก้เงื่อนน้ี แต่ไม่สาเร็จ เม่ือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ (Alexander, the Great) ยกทัพมาถึงเมืองน้ี และทราบคาพยากรณ์ จึงใช้ดาบฟันเงื่อนน้ีจนขาด ตอ่ มาพระองค์ก็สามารถครอบครองดินแดนสว่ นใหญ่ในเอเชียไมเนอร์ได้สาเร็จตามคาพยากรณ์น้ี ศัพท์ คาว่า Gordian knot หมายถึง ปมเงือ่ นท่กี ษัตริย์กอร์เดียสผูกไว้ ผู้ทสี่ ามารถแก้เงื่อนนี้ได้ คือ พระเจ้าอ เล็กซานเดอร์ พระองค์มิได้พยายามแก้เง่ือน แต่ใช้วิธี cut the Gordian Knot แทน ซึ่งเป็นการใช้ ดาบฟันแบบฉบั พลนั ทนั ที สานวนนีจ้ งึ นามาใช้ในความหมายว่า เปน็ การแกป้ ัญหาอย่าง เด็ดขาดทนั ที Fiddle while Rome burns สานวน Fiddle while Rome burns หมายความวา่ นั่งนิ่งเฉย ไม่สนใจหาทางแกป้ ัญหา ขณะที่ สถานการณ์ตกอยู่ในภาวะคับขัน หรือกาลังตกอยู่ในอันตราย ในสานวนภาษาไทยก็คือ ทาเป็นทองไม่รู้ ร้อน นัง่ เอง ตัวอย่างประโยคภาษาองั กฤษ By doing nothing about the rate of increasing of number of Covid-19 pandemic, the government is being accused of fiddling while Rome burns. (เนอื่ งจากรฐั บาลไม่ทาอะไรเรื่องจานวนตัวเลขท่ีเพม่ิ ขึ้นของการระบาดโควิด19 จึงถกู กล่าวหานั่ง ทาทองไม่รรู้ อ้ น)
95 https://images.app.goo.gl/nDqWYXYqPwYSaZyu7 สานวนน้ีอ้างถึงเหตุการณ์ ในประวัติศาสตร์ สมัยจักรพรรด์ิเนโร (ค.ศ. 5468) พระองค์ ข้ึนครองราชย์ขณะยังทรงพระเยาว์มาก จึงต้องมีผู้ว่าราชการแทน เม่ือทรงโตขึ้นมาจึงอย ากได้ อานาจมากขึ้น ทรงหาทางกาจัดผู้ที่ขวางทางของพระองค์ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พระมารดา ทาให้ เป็นท่ีเกลียดชังของผู้คนส่วนใหญ่ ในภายหลังเม่ือกรุงโรมถูกไฟไหม้คร้ังใหญ่ พระองค์ก็มิได้ สนใจดูแลประชาชนท่ีได้รับความเดือดร้อน กล่าวกันว่าในขณ ะไฟไหม้ พระองค์ทรงเล่นพิ ณ อย่างเพลิดเพ ลิน จนมีผู้สงสัยว่าพระองค์อยู่เบื้องห ลังเหตุการณ์ ไฟไหม้ ฉะนั้นเพ่ือเบี่ยงเบน ความสนใจ พระองค์จึงหันไปหาแพะรับบาป โดยกล่าวหาชาวคริสต์ และทาการลงโทษอย่างรุนแรง สรปุ จากรายละเอียดต่างๆในบท น้ี ท าให้ได้ท ราบความหมาย แ ละตานานท่ี เก่ียวข้องกับ คาศัพท์และสานวนท่ีมีแหล่งท่ีมาจากเทวตานานกรีกและโรมัน เป็นเรื่องราวท่ีบอกเล่ากันมา ถึงแม้ว่า บางแหล่งข้อมูลอาจจะมีข้อมูลไม่ตรงกันบ้าง เรื่องตานานที่ได้เล่ามาน้ี อาจช่วยให้นักศึกษาจดจาศัพท์ และสานวนได้ดีข้ึนด้วย ความรู้เหล่านี้น่าจะช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ี เร่อื งราวต่างๆ ยังจะทาให้ได้รับความเพลิดเพลินควบคู่ไปด้วย ถือว่าเป็นการศึกษาท่ีทาให้ได้ทั้งความรู้ และความบนั เทงิ ไปพรอ้ มๆ กัน
96 คาถามทา้ ยบทเรยี น บทท่ี 4 Directions: Please choose your best answer. (10 Points) 1. “I looked in the Atlas to learn more about the European countries.” What is the meaning of the underline word in the sentence? A. The books containing maps B. The brother of the god Zeus. C. The Road map telling you direction. D.A titan condemned to hold up the heaven eternity. 2. Who is the twin son of Mars who always go along with their father to the war and is the god of fear? A. Amazon B. Deimos C. Eros D. Phobos 3. What does “sophophobia” mean? A. The fear of learning B. The fear of a small space C. The fear of heights D. The fear of ghost 4. Among the nine muses was a muse who represented love poetry, as well as marriage feasts. Who is she? A. Calliope B. Clio C. Erato D. Thalia 5. Ms. Pimpryprai has __________________as everything she does turns to gold. But I feel sad for her because she doesn’t have time to rest. A. Achilles’s heel B. the Midas Touches C. an Apple of Discord D. Penelope’s Web
97 6. What Mythical ‘Typhon’ is? A. God B. An innocent citizen of Ancient Greece C. God and Monster D. Sea Monster 7. The loan of his cottage turned out to be ___________________. The roof fell in and injured us. A. Cut the Gordian knot B. Raise from the ashes C. Under the aegis of someone D. Greek’s Gift. 8. The leather coat in the sale was a real _________________. Several women were fighting over it. A. Greek’s gift B. Trojan Hoarse C. Apple of Discord D. The Gordian knots 9. My work is something like ________________, never done, but ever in hand. A. Greek’s Gift B. Penelope’s Web C. Achilles’s heel The Midas Touch 10. Which expression have a similar meaning of Thai’s expression “ ฟา้ หลังฝน” ? A. Cut the Gordian knot B. Raise from the ashes C. Under the aegis of someone D. Fiddle while Rome burns
98 Lesson Plan Unit 5 Plant from Mythology Content 1. Plants from mythology Objectives At the end of this unit, student will be able to 1. understand and know the story background about plants in mythology 2. understand the role and its importance of plants in mythology 3. analyst and summarize keys points of each learning topic in English Instructional Procedures and Activities 1. Study the material and follow the course instruction. 2. Listening the lecture 3. Discussion 4. End of unit exercise Instructional Materials 1. Class material 2. Power Point Presentation 3. Worksheet Assessment and Evaluation 1. Class participation 2. Quizzes 3. Mid-term and final examination
99 บทท่ี 5 พชื ในเทวตานาน เร่ืองราวท่ีเกี่ยวข้องกบั เทวตานานต่างๆ ไมว่ า่ จะเปน็ เทวตานานทางฝั่งยุโรป ตะวันตกและตาวัน ออก ของแต่ละชนชาตินั้น พบว่ามีความความคิดเชื่อหรือความเชื่ออย่างหนึ่งท่ีคล้ายคลึงกัน ก็คือการ เคารพบูชาต้นไม้ มีการกล่าวถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น ในเทวตานานยุโรปเหนือ มีเรื่องของต้น พฤกษาจักรวาล (Yggdrasil) ท่ีแผ่รากและก่ิงก้านสาขาไปครอบคลุมอาณาจักรทั้งหมด คริสตศาสนา กล่าวถึงต้นไม้แห่งความรู้ (Tree of Knowledge of Good and Evil) และในตอนวิวรณ์ ก็กล่าวถึง ต้นไม้แห่งชีวิต (Tree of Life) ที่มีคุณสมบัติในการเยียวยา ในเทวตานานกรีก กล่าวถึง ต้นโอ๊ค เป็น ต้นไม้ประจาองค์เทพเจ้าซูส วิหารประจาองค์ก็ตั้งอยู่ในป่าต้นโอ๊ค ส่วนเทพอพอลโลมี ต้นลอเรลเป็น ตน้ ไม้ประจาองค์ ใบลอเรลก็นามาใช้ ในการใหค้ าทานาย สาหรับในบทเรียนน้ี จะได้กลา่ วถงึ ตน้ ไม้ พืช และสัตว์ ท่ีมกี ารกลา่ วถึงในเทวตานานของทงั้ กรีกและโรมนั ตานานเกย่ี วกบั ดอกไม้ ดอกอะดอนสิ หรอื อะเนโมเน่ อเน โม นี (Anemone) ในตานานกรีก ต้ นอเนโม นี เป็ น สัญ ลักษ ณ์ ของความเศร้าโศก และความตาย ตานานเกี่ยวกับดอกอะดอนิส หรือ อะเนโมเน่ มีอยู่ว่า คร้ังหน่ึงเทพีอะโฟรไดท์ หลงรัก ทารกน้อยอะดอนิสทันทีทไ่ี ด้พบสบตา และตัดสนิ ใจอย่างแน่วแน่ว่ายังไงเด็กคนนี้ก็ต้องเป็นของพระนาง คนเดียวเท่านั้น แต่จะให้เทพีแห่งความงามพาเด็กทารกไปไหนมาไหนดว้ ย กเ็ กรงว่าความนิยมจะตกเอา จงึ จัดการนาไปฝากให้เทพีเพอร์เซโฟเนช่วยเล้ียงดูแทน เม่ือเพอร์เซโฟเนน้ันหลงรกั อะดอนิสอีกคน และ ไม่ยอมคืนให้เทพีอะโฟรไดท์ กลายเป็นการถกเกียงกัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร เดือดร้อนเทพซุ สตอ้ งมาไกล่เกล่ียให้ โดยผลการตัดสิน คือชว่ งฤดใู บไมร้ ่วงและฤดหู นาว อะดอนิสจะใช้เวลากับราชินีแห่ง ยมโลก และชว่ งฤดูใบไมผ้ ลิกบั ฤดูร้อนกบั เทพีแห่งความรกั ดเู ป็นการตดั สินที่เทย่ี งธรรมทีส่ ุดแลว้ เวลาผา่ นไป หนุ่มน้อยอะดอนสิ น้ันชอบออกล่าสัตวม์ าก เทพีอะโฟรไดท์เหน็ ชอบอะไรกต็ ามใจไป เสียหมด นางมักจะขีร่ าชรถท่ลี ากด้วยหงส์ บนิ ตามไปดกู ารลา่ สัตว์ของเด็กหนมุ่ แทบทุกคร้งั โชคร้ายมีครั้ง หนึ่งทน่ี างไม่ได้ไปด้วย อะดอนสิ กาลังไลล่ ่าหมูป่าคลั่งตวั หน่งึ และพลาดพลั้งโดนเขย้ี วหมูป่าแทงจนเลือด
100 อาบ เทพีฮะโฟรไดท์ผู้กาลังขับราชรถอยู่เหนือพื้นโลกได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของอะดอนิส จึง รีบเหาะลงมาหาอย่างรวดเร็วเเต่ก็ยังช้าเกินไป เลือดสีเข้มไหลอาบไปทั่วหิมะ เด็กหนุ่มไม่รู้สึกถึงจุมพิต รวมทั้งคาราพันจากเทพีแห่งความงามอีกแล้ว เขาขาดใจตายในอ้อมอกของเทพีอะโฟรไดท์ เลือดของ เขาทหี่ ยดลงบนหมิ ะจึงกลายเป็นดอกไม้สแี ดงผลิบานในชอ่ื “อะดอนิส” หรอื “อะเนโมเน” อยตู่ รงน้ัน บาง ตานานกล่าวว่า เทวีอโฟรไดท์เทได้นาน้าทิพย์มาประพรมลงบนโลหิตของอโดนิส และมีดอกไม้ชนิดใหม่ ผุดข้ึนจากโลหิตนั้นมีสีแดงดังโลหิต แต่ความท่ีกลีบดอกละเอียดอ่อนบอบบางมาก จึงได้ชื่นชมใน ช่วงเวลาอันส้ัน เนื่องจากเม่ือถูกลมกระโชก กลีบจะค่อยๆ ร่วงหล่นลงดินในเวลาไม่นานนัก บางคร้ังจึง เรียกวา่ ดอกไม้ลม (Wind Flower) สว่ นในคริสตศาสนา อเนโมนเี ป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปว่ ย และ หมายถึง “การตรึงกางเขน” ห รื อ ใ ช้ กั บ แ ม่ พ ร ะที่ มี ค ว า ม เศ ร้ า โศ ก ต่ อ พ ร ะม ห า ท ร ม า น สี แ ด ง ข อ ง ด อ ก ไ ม้ ห ม า ย ถึ ง พระโลหิตของพระคริสต์ มีเร่ืองเล่าว่า ตอนพลบค่าในวันท่ีถูกตรึงกางเขน มีดอกอเนโมนีผุดข้ึน ในยุคแรกๆ ใบรูปสามแฉกของอเนโมนีใช้เป็นสญั ลักษณ์ของพระตรีเอกภาพอกี ดว้ ย ดอกไฮยาซินท์ ไฮยาซินท์ (Hyacinth) บางคร้ังใชเ้ ป็นสญั ลักษณ์แหง่ ความฉลาด ความสขุ ุม ความสงบสขุ ทาง ใจ และความมุง่ ม่นั จะไปส่สู วรรค์ของคริสตศาสนิกชน ซง่ึ ความหมายนอี้ าจมีที่มาจากตานานกรกี https://sites.google.com/site/akangkanapornkrobram/tanan-hae-ngd-xk-hi- ya-sinth ทก่ี ล่าวถึงไฮยาซินทัส (Hyacinthus) หน่มุ รูปงาม ผเู้ ป็นทร่ี ักใครข่ องเทพเจา้ อพอลโล แต่ด้วย เกิดอุบัติเหตุถูกเทพอพอลโลสังหารโดยมิได้ตั้งใจ ขณะที่ทั้งสองกาลังเล่นขว้างจักรกัน บังเอิญให้ลมพัด พาจักรเบยี่ งไปนอกทิศ ไปถกู หน้าผากไฮยาซนิ ธเ์ ป็นแผลฉกรรจ์ จนเสยี ชวี ิต บางตานานกล่าวว่า เทพเซ เฟอรัส เจา้ แห่งลมตะวันตก ชอบพอเด็กหนุ่มคนน้ีเช่นกัน เมื่อเหน็ ทงั้ สองเล่นขว้างจกั ร จึงเกดิ ความรษิ ยา บันดาลให้ลมพัดจักรไปถูกศีรษะของไฮยาซินธ์จนต้องเสียชีวิต หลังจากน้ัน เทพอพอลโลจึงบันดาลให้ โลหิตของมานพน้อยผู้นี้กลายเป็นต้นไม้มีดอกสีม่วงได้ช่ือตามเจ้าของโลหิต บางตานานว่าคือดอก ผักตบชวา บางตานานยังกล่าวอีกว่า เทพอพอลโลใช้เล็บกรีดท่ีกลีบดอกไม้เป็นภาษากรีกว่า Al Al แปลวา่ “ความเศรา้ โศก”(woe)
101 แต่มีอีกตานานของกรีกกล่าวว่า เมื่อแอแจกซ์ (ขุนพลกรีกคนหนึ่งที่ร่วมไปทาสงครามทรอย มี รูปร่างสูงใหญ่ สง่างาม เป็นรองก็แต่อคิลิสเท่าน้ัน แอแจกซ์เป็นผู้ถนัดในการสู้รบ แต่ไม่ชานาญด้าน วาทศิลป์) เสยี หน้าที่มไิ ดร้ ับเครื่องเกราะของอคลิ ิส ทั้งๆ ที่เป็นนักรบท่มี ากความสามารถ และเปน็ ผู้แบก ศพอคลิ ิสออกจากสนามรบ เม่ือมีการพิจารณาว่าผู้ใดควรได้เกราะของอคิลิสไปครองในฐานะขนุ ศึกที่กล้า หาญทส่ี ุดของกรกี ปรากฏว่าโอดสิ ซสู เป็นผูไ้ ดร้ บั ไป ในตานานกล่าวว่าเป็นเพราะเทวีอธีนาเข้าช่วยเหลือ แอแจกซ์จึงคิดมากจนเสียจริต ใช้ดาบฆ่า ฟนั ฝงู แพพแกะล้มตายมากมาย เมื่อได้สติเห็นความเสยี หายที่เกิดขึน้ จงึ เกิดความละอายใจ จนไม่อาจอยสู่ ู้ หน้าผู้คนได้ และทาอัตวินิบาตกรรม ณ จุดท่ีโลหิตของแอแจกซ์ตกต้องพื้นดิน เกิดเป็นต้นดอกไม้ชนิด ใหม่ มีชอื่ ภาษากรีกของแอแจกซ์ คือ Ai ปรากฏอยบู่ นกลบี ดอก คาๆ น้มี ีความหมายว่า “ความเศร้าโศก อาดูร” ตานานดอกไม้ Amaryllis ดอกว่านส่ีทศิ หรือ แอมมารลิ ลสี มีชอ่ื แตเ่ ดิมวา่ Hippeastrum นักวิชาการเรยี กวา่ Hippe ตาม ตานานเล่าว่าแอมมารลิ ลีสนั้นเป็นชือ่ ของนิมฟ์ขี้อายตนหนึง่ ท่ีตกหลุมรักชายนามว่า Alteo (อัลเทโอ)ผู้มี ความแข็งแกร่งด่ังเฮอร์คิวลีสและมีความงดงามด่ังเทพอพอลโล่ แต่อัลเทโอนั้นรักดอกไม้ย่ิงกว่าสาวใด ทาให้ความรักของแอมมาริลลีสนั้นถูกมองข้ามไป อัลเทโอเคยพูดเอาไว้ว่าหญิงท่ีจะชนะใจเขาได้น้ันคง เป็นหญิงท่ีนาดอกไม้ที่ไม่มีอยู่บนโลกนี้มาให้เขาได้ แอมมาริลลีสจึงได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจาก วิหารของเทพอพอลโล่และนางก็ได้เลือกทาตามคาแนะนาที่ได้รับมาโดยแอมมาริลลีสจะต้องไปท่ีหน้า ประตูบา้ นของอัลเทโอถงึ 30 คนื และเอาธนูสีทองปักเข้าท่หี ัวใจตนเอง เลือดทหี่ ยดออกมาจากหัวใจของ แอมมารลิ ลสิ ได้กลายเป็นดอกไม้สีแดงสดใส ตานานน่าเศร้าของนิมฟ์สาวที่ทาร้ายตัวเองเพ่ือมอบความรักให้กับชายหนุ่มนั้นจบลง อย่างไรไม่มีใครทราบบ้างก็ว่าแอมมารลิ ลิสได้กลายร่างเป็นดอกไม้นั้นและได้อยู่ร่วมกับอัลเทโอไปตลอด กาลบ้างกว็ า่ เธอตายจากไป ทงิ้ เอาไว้เพียงดอกไมส้ เี ลอื ดก่อนท่อี ลั เทโอจะไดบ้ อกรกั เธอ
102 ดอกนารซ์ ีซสั photo credit: aquileana.wordpress.com โรคหลงตัวเอง หรือท่ีเรารู้จักกันในช่ือ 'Narcissism' หรือ 'Narcisisitic' นั้นมีที่มาจาก 'นาร์ซิสซัส' ชายหนุ่มรูปงามท่ีหลงรูปโฉมของตัวเอง นาร์ซิสซัส Narcissus เป็นช่ือทางพฤกษศาสตร์ Daffodil เป็นช่ือที่เรียกท่ัวไป ตานานของนาร์ซิสซัสมีหลากหลายแหลง่ ท่ีมา และหลากหลายเร่ืองราว อาทิ นาร์ซิสซัส (Narcissus) ในตานานกรีก กล่าวถึงหนุ่มรูปงาม ช่ือนาร์ซิสซั ส ผู้มีแต่ความ หยิ่งยโส ไม่เคยรักใคร ในจานวนหญิงสาวที่มาติดใจนาร์ซิสซัสผู้หนึ่ง คือ นางอัปสรเอ็คโค (Echo) นางเอ็คโคถูกเทวีเฮร่าสาบมิให้สามารถเปล่งวาจาได้ด้วยตนเอง ได้แต่ย้าคาท้ายของผู้อื่นเท่าน้ัน เนื่องจากเดิมนางเป็นคนช่างพูดและพูดไม่หยุด เม่ือนางผิดหวังจากนาร์ซิสซัสจึงตรอมใจ ซูบซีดลงจน เสียชีวิตในที่สุด ต่อมามีผู้ที่ผิดหวังคนหนึ่งสวดอ้อนวอนขอให้นาร์ซิสซัสถู กลงโทษให้มีความรักท่ี ไม่สมปรารถนา เพื่อทดแทนให้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นบ้าง เทวีเนเมสิส หรือเทวีแห่งการแก้แค้น องค์หน่ึง จึงอานวยให้เป็นเช่นนั้น โดยให้นาร์ซิสซัสแวะดื่มน้าในลาธารแห่งหน่ึง เม่ือก้มลงมองในน้า จึงเห็นเงาของตนเอง และเกิดหลงรักเงาของตนเองในน้า เม่ือเอ้ือมมือจะไปสัมผัส น้าก็กระเพื่อมจน รปู เงาหายไป จึงไดแ้ ตน่ อนมองดู ไม่ไดก้ ินไมไ่ ดห้ ลบั นอน จนเสียชีวติ ไปในที่สดุ เชน่ เดียวกบั นางอัปสรเอ็ค โค บริเวณท่ีนาร์ซสิ ซัสเสียชีวิต ได้มีดอกไม้ท่ีชื่อว่านาร์ซิสซัสข้ึนอยู่ ดอกนารซ์ ิสซัสจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของความเหน็ แกต่ วั ความรักตัวเอง ความเยน็ ชา และความไมแ่ ยแส บางตานานกลาววา่ นารซ์ ิสซัสเป็นชายหนุม่ ท่ีหยิ่งทะนง ยโสมาก เพราะคดิ ว่าตัวเองหล่อ หน้าตา ดี ไมม่ ีใครทีเ่ หมาะทีจ่ ะไดร้ ับความรกั จากเคา้ จนวนั นึงเทพเนเมซิสเหน็ ดังนนั้ จงึ ล่อลวงนารซ์ ิสซัสไปท่บี ่อ นา้ เค้าเห็นภาพสะท้อนตัวเองในบ่อก็เลยเกดิ ความลุ่มหลงในเงาสะทอ้ นของตวั เอง แต่เมื่อเค้าเอามอื เอ้อื ม ลงไปในน้า เงานนั้ กลับหายไป เลยเกิดความเศร้า นารซ์ ิสซัสไมย่ อมกินไม่ยอมนอนเพื่อที่จะน่ังเฝ้ามองเงา สะท้อนของตัวเองในน้าด้วยความรัก จนสุดท้ายเค้าก็ตรอมใจตายข้างบ่อน้านั้น และร่างของเค้าค่อยๆ สลายและกลายเปน็ 'ดอกนาร์ซสิ ซัส' ขนึ้ มาแทนนัน่ เอง
103 อีกตานาน เล่าวา่ ในท่ีสดุ นาร์ซซิ สั ก็ประจักษ์ใจว่าเป็นรูปเงาสะทอ้ นของตนที่เขาหลงใหลและไม่ มีทางจะสมหวัง นาร์ซิซัสตัดสินใจใช้มีดล่าสัตว์แทงตัวเข้าหัวใจ เลือดแดงไหลหล่ังลงพื้นเกิดเป็นดอก daffodil ดอกทานตะวนั Photo Credit: http://jjkamonchat.blogspot.com/p/blog-page_19.html ตานานกล่าวไว้ว่า เทพแห่งดวงอาทิตย์หรืออพอลโล เป็นเทพหนุ่มรูปงามท่ีมีภรรยามากมาย หลายคน หนึ่งในนั้นคือ ไคลธ่ี พรายน้าสาวแสนสวย ทั้งคู่พบและครองรักกันอย่างแสนสุข จนอพอลโล เกิดไปพบ ลูคอทโธเอ ธิดาสาวแสนสวยของกษัตริย์ออคามัสในโลกมนุษย์ แม้พ่อของเธอจะขัดขวางทาง รกั ด้วยการจับขังอยู่แต่ในห้อง ห้ามพบผู้ใด เพราะกลวั ลูกสาวชา้ ใจจากความเจ้าชู้ของอพอลโล แต่เทพ แห่งดวงอาทิตย์ก็ใช้เล่ห์เหล่ียมแปลงกายเป็นแม่ของเธอ และวางแผนเข้าไปในห้องหญิงสาวได้สาเร็จ เม่ืออพอลโลตกหลุมรักครั้งใหม่ พรายน้าไคลธี่ก็กลายเป็นรักเก่าท่ีถูกลืม ไคลธ่ีจึงรดุ ไปพบกบั กษัตริย์ออ คามัสแล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง หวงั ให้พระองค์จัดการแยกลูกสาวของตนออกจากอพอลโลให้ไกล หากเรื่องราวก็โหดร้ายกว่าน้ัน เพราะออคามัสทรงพิโรธจัดและสั่งให้ฝังลูกสาวของตนเองท้ังเป็นทันที เรื่องท้ังหมดเกิดข้นึ อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่อพอลโลจะไหวตัวทัน เม่ือเขากลับมาหาหญิงผู้เป็นท่ีรัก สิ่งท่ี พบจึงมเี พียงหลมุ ศพของเธอเท่านนั้ อพอลโลไมย่ อมให้ความตายพรากคนรกั ของเขาไปได้ เขาจึงเปลีย่ น หญิงสาวให้กลายเป็นต้นกายาน เพ่ือให้ควันจากไม้ลอยขึ้นไปหาเขาบนฟากฟ้าทุกครั้งท่ีมีคนจุดไม้หอม บูชาเหล่าทวยเทพ ฝ่ายไคลธ่ีซึ่งหวังจะได้ความรักคืนมาเม่ือคู่แข่งหายไป กลับได้พบแต่ความเกลียดชัง จากหัวใจแห่งอพอลโลมาแทนท่ี นางโศกเศร้าและเฝ้าเพียรพยายามอ้อนวอนต่อเทพแห่งดวงอาทิตย์
104 ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อเขาทาหน้าที่ให้แสงสว่างแก่มวลมนุษย์ต้ังแต่เช้ายันค่า หากอพอลโลก็ไม่เคย ชายตาหนั กลับมามองเธออีกเลย ไคลธนี่ ่ังมองอพอลโลอยู่ถงึ 9 วันโดยไม่ขยบั เขยื้อนเคล่ือนไหวดว้ ยความ ทุกข์ระทม และทนอยู่กับความทรมานจากการถูกหมางเมิน หากความเป็นอมตะก็ทาให้เธอละท้ิงชีวิตไป ไมไ่ ด้ เหล่าบรรดาทวยเทพทั้งหลายจึงเห็นใจ พากันเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นดอกไม้หยดั ยนื สูงสง่า มีใบสี เขียว และมกี ลีบดอกสีเหลืองสดใสคล้ายสีผมของเธอ แต่ด้วยความรกั ที่ตราตรึงฝังใจ แม้เปลี่ยนร่างเป็น ดอกไม้ เธอก็ยงั คงหันหนา้ เขา้ หาดวงตะวันอย่างไม่ยอมละสายตา – – และน่นั คือท่ีมาของดอก ‘ทานตะวนั ’ ดอกไมอ้ ันมน่ั คงในรกั มากกว่าชวี ิตตน อกี ตานานนงึ เลา่ ว่า นางไคลธีหลงรกั สุริยเทพอพอลโลถ่ ึงข้ันยอมศิโรราบทุกอย่าง จงรักภักดแี ต่ เขาผู้เดียว กระนั้นก็ช่างโชคร้ายท่ีความรักครั้งน้ีเป็นรักข้างเดียว เทพอพอลโล่ไม่ได้สนใจไคลธีเลย ตรง ข้ามเขากลับสนใจน้องสาวของนางไคลธีคือ ลูโคเทีย มากกว่า ทาให้เกิดรักสามเศร้า ถึงข้ันยอมลงทุน ปลอมเปน็ มารดาของนางเข้าไปรว่ มหลบั นอนในห้องทีเดียว ด้วยความเจ็บใจจากเหตุการณ์น้ันนางจึงรีบ วิ่งไปฟ้องบิดาคือ กษัตริย์ออร์คาร์มัส ทันที เรื่องงามหน้าบัดสีเช่นน้ีปล่อยไว้ในราชสานักไม่ได้ นางลู โคเทียจึงถูกจับฝังทั้งเป็นตามคาส่ังของผู้เป็นบิดา ส่วนเฮลิออสเมื่อไร้นางลูโคเทียก็มิได้เปล่ียนใจมามอง นางไคลธี แต่กลับเกลียดนางมากในขนาดที่หน้าก็ยังไม่มอง ฝ่ายนางไคลธีก็เสียใจคร่าครวญถึงเทพอ พอลโล่ท่ีรกั ตากแดดตากลม ไปอีก 9 วัน 9 คืน บนก้อนหิน โดยปราศจากน้าและอาหาร ท้ายท่ีสุดนางก็ ตรอมใจตายอยู่ตรงนนั้ กลายเป็นดอกทานตะวันทซี่ ่ือสัตยม์ นั่ คงในความรัก เพราะ เมื่อพระอาทติ ย์ข้ึนฉัน ใด ดอกทานตะวนั สเี หลอื งสดสวยจะหันหน้าเขา้ หาพระอาทติ ยฉ์ นั น้ันเสมอ พโี อน่ี / โบตน๋ั ช่ือของดอกพีโอน่ี มาจากเทพชื่อพีออน เป็นเทพเจ้าฝึกหัดเกี่ยวกับการรักษา เขาเป็นลูกศิษย์ ของเลโต เเต่บางตานานก็ว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของเทพเจ้าอัสเคิลพิอุส เทพพีออนเป็นเทพที่มีสติปัญญา เฉลียวฉลาด เขาเป็นผู้รู้จักต้นกาเนิดของเวทมนตร์บนภูเขาโอลิมปัสซึ่งสามารถช่วยลดความเจ็บปวดของ มารดาท่ีคลอดบุตรได้ด้วย ทว่าพอเรื่องของเทพพีออน รู้ไปถึงหูอัสเคิลพิอุส ก็เกิดความไม่พอใจเน่ือง ด้วยตนเองเป็นเทพเก่ียวกบั การแพทยอ์ ยู่กอ่ นแล้ว ดังนั้นการท่ีเทพพีออนทาแบบนี้ มันขา้ มหน้าข้ามตา
105 อัสเคิลพิอสุ จึงขู่จะฆา่ เทพพอี อนทันที เลโตซ่งึ ตอนน้ันได้เป็นเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม คิดวา่ ไม่ควรมีผู้ บริสุทธ์ต้องได้รับผลจากส่ิงท่ีตนไม่ได้ก่อ จึงไปถามเทพซุสว่ามีวิธีใดจะช่วยเทพพีออนจากความโกรธ ของอัสเคิลพิอุสได้บ้าง ซึ่งเทพซุสผู้ทรงปัญญาได้แก้ปัญหาโดยการเปลยี่ นเทพพีออนเป็นดอกไมห้ นา้ ตา นา่ รักตามชอ่ื ของเขาน่ันเอง เฮลลบิ อร์ สาหรับดอกเฮลลิบอร์เป็นดอกไม้ที่มีตานานแปลกไปจากดอกไม้ชนิดอื่นๆ กล่าวกันว่าต้นเฮลลิ บอร์เป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางการแพทย์ท่ีหลากหลาย คร้ังหน่ึงมันเคยถูกใช้รักษาอาการบ้าคล่ังของ ธิดาแห่งกษัตริย์อาร์กอสอีกด้วย โดยอาการบ้าคลั่งดังกล่าวเกิดจากคาสาปของเทพไดโอนีซุสผู้เป็นเทพ เจา้ ไวน์จอมขี้เมา มาทาใหผ้ ูห้ ญิงในเมืองอารก์ อสต่างเปลอื ยกาย ร้องไห้ กรีดรอ้ งโวยวาย สตแิ ตกและว่ิง พล่านไปทั่วถนน โชคดีที่มีนักสีไวโอลินผู้สามารถคุยกับเหล่าสรรพสัตว์ชื่อ เมลัมปุส จากไพลอส ปรากฏ ตัวขึ้นพร้อมกับต้นเฮลลิบอร์ มาช่วยรักษาอาการป่วยเสียสติของผู้หญิงเหล่านี้ให้หายเป็นปลิดท้ิง ทุก อย่างจงึ ได้จบลงอย่างงดงาม
106 Anemone & Myrrh https://images.app.goo.gl/thZZuHjPeWfJjDHV8 อนีโมนสี แี ดง กาเนิดข้นึ จากโศกนาฏกรรมของเทพแห่งความงามนามวา่ อโดนิส ผู้กาเนิดข้ึนมา จากไม้หอม (Myrrh) โดยไมห้ อมน้นั แท้จรงิ แล้วเคยเป็นเจา้ หญิงนามว่า Myrrha (เมอร่า) ผเู้ ป็นธดิ า ของ Cinyras กษตั รยิ ์แห่งไซปรสั เจ้าหญงิ เมอร่าถกู สาปโดยเทพอี โฟรไดร์ทให้มคี วามใครต่ ่อบิดาตนเอง ทาใหเ้ จ้าหญิงเมอร่าร่วมรกั กบั บิดาของตนเองตลอดทัง้ 9 คืนในความมดื จนกระทั่งวันสุดท้ายทีก่ ษตั รยิ ์ Cinyras รตู้ วั เขาอับอายยง่ิ นักจึงได้ควา้ ดาบขึ้นมาปลดิ ชีพบุตรสาวของตนเองเม่อื เจ้าหญิงเมอร่าตายไป เทพฟี ลอร่าเปล่ียนรา่ งให้เมอร่ากลายเป็นไมห้ อมนามว่า Myrrh (เมอรร์) ในร่างตน้ ไม้ Myrrh ทย่ี งั มชี ีวติ ก็ได้คลอดบุตรชายผมู้ ีใบหน้างดงามนามวา่ อโดนสิ เทพีอโฟร ไดรย์ กอโดนิสใหเ้ พอร์เซโฟนีเลีย้ งเพราะอยา่ งไรเสียนางเมอรา่ กเ็ คยตายไปแล้วเทพเี พอรเ์ ซโฟนีฟูมฟกั อ โดนสิ อย่างดจี นกระทง่ั เขาเติบใหญ่กลายเป็นเทพที่มีความงามท่ีสดุ ในหมู่เทพด้วยกนั พออโดนสิ โต อโฟรไดรท์ กเ็ กิดสนใจอโดนสิ อยากได้มาเป็นคู่ครอง แตเ่ พอรเ์ ซโฟนไี ม่ให้ไปทเี่ พอรเ์ ซโฟนีหวงแหนอโด นสิ เพราะรู้ว่าอโฟรไดร์ทมสี วามี (ที่หัวร้อน) อยแู่ ล้ว รอ้ นใจถงึ เทพซสุ ทต่ี อ้ งออกมาห้ามศกึ ไมใ่ หเ้ ทพี แตกหกั กนั เองซสุ อนญุ าติใหอ้ โดนิสอยูก่ บั เพอรเ์ ซโฟนสี ามปอี ย่กู บั อโฟรไดร์ทสามปสี ว่ นทเ่ี หลือจะเลอื กอยู่ กับใครก็แล้วแตใ่ จอโดนิสฝ่ายอโดนิสเลอื กใช้เวลาสว่ นท่เี หลอื อยู่กบั เทพีอโฟรไดรท์ การตายของอโดนสิ เกดิ จากหมปู า่ ยักษท์ ่ีเทพแอรสี ส่งมาฆ่าอโดนสิ ในวันที่อโดนสิ ออกไปล่าสตั ว์ เพราะจบั ไดว้ า่ ชายาของตนเองอโฟรไดรท์ หลงใหลในตัวอโดนิสจนเกินไป อโดนิสถกู หมปู ่าทาร้ายสาหสั และเสยี ชวี ิตในออ้ มกอดของอโฟรไดร์ท เทพีอโฟรไดรท์ เสยี ใจมาก หยาดนา้ ตาของอโฟรไดร์ทลว่ งหล่น ผสมกบั เลอื ดของอโดนสิ กาเนดิ ข้ึนมาเป็นดอก Anemone สแี ดงหลังจากนั้นเทพอี โฟรไดรท์ ก็ประกาศให้ มีเทศกาลอโดเนยี เพอื่ ลาลึกถงึ การจากไปของอโดนิสซงึ่ เทศกาลอโดเนียนี้จะถกู จดั ขน้ึ ทกุ ๆปใี นช่วง Midsummer
107 ตน้ ไม้ พชื https://images.app.goo.gl/qJ956Gj9h7Hs9QBz8 แอปเปิล (Apple) ในคริสตศาสนา กลา่ วถงึ ต้นไม้แห่งความรอบรู้ (Tree of Knowledge of Good and Evil) ซึ่งเช่ือกันว่า คือ ต้นแอปเปิลท่ีพระผู้เป็นเจ้าห้ามไม่ให้อดัมกับอีฟกิน (ปฐมกาล 3: 3) นอกจากนี้แอปเปิลยังอาจใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระคริสต์ผู้ทรงเป็นอดัมคนใหม่ ท่ีจะแบกรับบาปแทน มนษุ ยชาติ ดังนน้ั แอปเปลิ ในมือของอดัมจงึ หมายถึงบาป แตเ่ มอ่ื อย่ใู นพระหัตถ์ของพระคริสตจ์ ะหมายถึง การไถ่บาป ในตานานกรีก มเี รอ่ื งของ แอตทาแลนตา (Atalanta) พรานสาวที่มฝี มี อื ฉมัง และตั้งใจใช้ ชวี ิตเปน็ โสดจนตลอดชวี ติ แต่บดิ าอยากใหแ้ ต่งงาน นางขดั ไม่ได้จึงออกอุบาย คอื บดิ าของนางไม่ เรียกรอ้ งสินสอดของหมน้ั แตอ่ ยา่ งใด มขี ้อแมเ้ พยี งประการเดียว คอื ชายหนุม่ ทุกคนตอ้ งวงิ่ แขง่ กับนาง หากชายใดสามารถเอาชนะได้ กจ็ ะไดน้ างเปน็ รางวัล ถ้าแพก้ ็จะถกู ตัดศรี ษะเสียบประจาน ไมเ่ คยมผี ใู้ ด เอาชนะนางได้เลย จนในที่สุดเมลานอิ นั (Melanion) บางตานานกลา่ วว่า เป็นชายหน่มุ ทชี่ ่ือ ฮิปโปมเี นส (Hipponenes) เมอ่ื จะมาเข้าแขง่ ขันไดส้ วดอ้อนวอนขอความชว่ ยเหลือจากเทวอี โฟรไดเท ซึ่งเทวไี ม่ พอใจคนทีไ่ มย่ นิ ดสี ละโสด จงึ ให้ความชว่ ยเหลือ โดยมอบแอปเปิลทองคาให้สามผล เมื่อทาการแขง่ ขนั ขณะท่แี อตทาแลนตาวงิ่ แซงหนา้ เมลานิอนั กโ็ ยนแอปเปลิ ทองลูกแรกไปขา้ งหน้า แอตทาแลนตา เสยี เวลากม้ เกบ็ ดว้ ยความอยากรู้อยากเห็น พอแอตทาแลนตาจะว่งิ แซงหน้าไดค้ รัง้ ที่สองเมลานอิ ันก็ใช้ อุบายเดิมทาให้แอตทาแลนตาต้องเสยี เวลาก้มเกบ็ แอปเปิลอกี ครั้งเมื่อใกล้เสน้ ชยั เมลานิอนั จึงขวา้ ง แอปเปลิ ลูกสุดท้ายเฉออกไปไกล ทาให้แอตทาแลนตาต้องใชเ้ วลานานในการคน้ หา จึงทาให้เมลานิ อันได้ชัยชนะในทีส่ ดุ และได้แตง่ งานกบั แอตทาแลนตา
108 ส่วนอีกเรอื่ งเกีย่ วกับภารกจิ ประการหน่งึ ของวรี บุรุษเฮราคลิส คือการไปเอาแอปเปลิ ทองคาของ เหล่าอัปสรเอสเพริดิส ในการน้ีเฮราคลิสได้รับการช่วยเหลือจากไททันแอตลาส ซ่ึงต้องโทษให้แบก ท้องฟา้ ไว้บนบ่า (ดรู ายละเอยี ดจากบทที่ 2) อีกเรื่องเกี่ยวกับเทวีเอริส (Eris) เทพีแห่งการทะเลาะวิวาท องค์เทวีมิได้รับเชิญไปในงาน ฉลองพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเพเลิสกับเทวีเธทิส เทวีจึงเข้าไปปรากฏตัว และกล้ิงแอปเปิล ทองคา (Apple of Discord) ทีม่ ีขอ้ ความสลักไว้ว่า “แด่ผู้ที่งามเลิศ” (To the Fairest) เข้าไปในงาน จึงทาให้เกิดความโกลาหล เพราะสตรีทุกคนในงานต่างอยากครอบครองแอปเปิลทองคาน้ีท้ังส้ิน แต่ในท่ีสุดก็เหลือผู้เข้าชิงกันเพียงสามคน คือ เทวีธเฮร่า เทวีอธีนา และเทวีอโฟรไดเท ผลของ เหตกุ ารณ์คร้ังน้ีเป็นสาเหตขุ องสงครามกรุงทรอย แอช (Ash) ในตานานยุโรปเหนือ เทพโอดินกับน้องๆ สร้างมนุษย์ผู้ชายจากต้นแอชให้ ชอ่ื ว่า “แอช” นอกจากนี้ ยังกลา่ วกนั ว่า ตน้ พฤกษาแห่งจักรวาลของชาวเหนือ (Yggdrasil) คือ ต้นแอช น่ันเอง นอกจากน้ันต้นแอช ยังมีคุณสมบัติพิเศษตามความเชื่อของชาวบ้าน คือ ป้องกันงูได้ เพราะกลัว ต้นแอช รวมทัง้ แม่มดก็ยงั กลวั ตน้ แอชดว้ ย เอลเดอร์ (Elder) เป็นต้นไม้ที่มีกิ่งก้านหงิกงอน่ากลียด และยังมีกล่ินเหม็นอีกด้วย ในพระ คัมภีร์กล่าวว่า พระคริสต์ถูกตรึงไม้กางเขนท่ีทามาจากก่ิงต้นเอลเดอร์ ส่วนจูดาห์สานุศิษย์ท่ีเป็นผู้ทรยศ ทาให้พระคริสตถ์ ูกจบั ก็แขวนคอตายทตี่ ้นเอลเดอรเ์ ช่นกัน ในปจั จุบันมกั พบตน้ เอลเดอร์ปลูกไว้ในสสุ าน ทีฝ่ งั ศพ https://images.app.goo.gl/pdzdVaM4Trc921Y67
109 เอล์ม (Elm) ในคริสตศาสนา สื่อถึงศักด์ิศรีแห่งชีวิต เนื่องจากต้นเอล์มมีลักษณะเกาะกัน เป็นพุ่ม กิ่งก้านแผ่ออกไปทุกทิศทาง จงึ ใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังท่ีเกิดจากความศรัทธาในพระคัมภีร์ ในตานานยโุ รปเหนือ เทพโอดนิ และน้องๆ สรา้ งมนุษย์ผู้หญงิ จากต้นเอลม์ ใหช้ อื่ วา่ “เอล์มบา” https://images.app.goo.gl/YBpRFf74EtrkV8xt8 มะเดื่อ (Fig) บางครั้งศิลปินให้เป็นต้นไม้แห่งความรอบรู้ในสวนสวรรค์อีเดน แทนต้น แอปเปิล นอกจากนี้เม่ืออดัมกับอีฟได้รับประทานผลไม้ต้องห้ามแล้ว และได้สานึกว่าตนเองเปลือยเปล่า จงึ เยบ็ ใบมะเด่อื เปน็ เคร่อื งปกปิดร่างกาย ตน้ มะเดอื่ จงึ กลายเป็นสญั ลกั ษณ์ของตัณหาราคะ นอกจากน้ยี งั มีอีกตานานหนึง่ กลา่ วว่า ในสมยั กษัตริยเ์ ฮรอดแห่งอาณาจักรโรมัน ไดม้ ีคาสั่ง ให้สงั หารเด็กทารกเพศชายเชอื้ สายยิวทง้ั หมดที่มอี ายุต่ากวา่ สองปี โจเซฟจึงไดพ้ าพระแม่มารีและจซี สั หลบหนอี อกจากเมืองเบธเลเฮม ลีภ้ ยั ไปยังอยี ิปต์ ในช่วงหน่ึงได้หลบเขา้ ไปซอ่ นตวั ในโพรงต้นมะเด่ือ https://images.app.goo.gl/cAt2ubkP1pCN5nny7 ในตานานโรมันเกย่ี วกบั การสรา้ งกรุงโรม รีอาห์ ซิลเวยี (Rhea Silvia) นักบวชหญิงประจา วิหารของเทวีเวสตา้ ท่ีตอ้ งถอื เพศพรหมจรรย์ ไปมีความสมั พนั ธ์กับเทพมารส์ จนให้กาเนดิ ฝาแฝดเรมุส กับโรมวิ ลสั ซึ่งถือเปน็ เร่ืองผิดขนบธรรมเนียมอย่างรา้ ยแรง จึงต้องเอาทารกท้ังสองไปทง้ิ ท่ีแม่น้าไท เบอร์ ทารกทัง้ สองลอยมาเกยทร่ี ากตน้ มะเดือ่ ศกั ด์สิ ทิ ธใิ กล้วหิ ารโบราณและได้แม่หมาปา่ มาให้นม ต่อมาจึงถูกคนเลี้ยงแกะนาไปเลี้ยงดจู นเตบิ ใหญ่ และไดส้ รา้ งกรุงโรม
110 ฮอลลกี บั ไอวี (Holly and Ivy) จัดเปน็ ประเภทไมเ้ ลือ้ ย สาหรับฮอลลมี ีผลสแี ดง เปน็ ลกู เล็กๆ ในขณะท่ีไอวีเป็นเถาไมม้ ีใบสีเขยี ว ไมท้ งั้ สองชนิดนีเ้ ปน็ ทีน่ ิยมใช้เป็นเครอ่ื งประดบั ในเทศกาล ครสิ ตม์ าส สเี ขียวกบั สแี ดงจึงกลายเป็น สัญลกั ษณ์ของวนั ครสิ ต์มาสดว้ ย https://images.app.goo.gl/SAwAzbLYzgL6GKBk8 ในตานานกรีก เร่ืองกาเนิดของเทพไดโอไนซูส กล่าวกันว่านางสิมิลีซ่ึงกาลังต้ังครรภ์เทพไดโอ ไนซูส บุตรของเทพบดีอยู่ ถูกชักจูงให้อยากเห็นเทพบดีในรูปทรงเต็มยศ จึงได้ขอประทานสัญญาจาก เทพบดีว่าจะให้ทุกอย่างที่นางขอ เทพบดีก็ให้คาสาบานโดยอ้างแม่น้าสติกซ์เป็นพยาน เมื่อนางขอเห็น องค์เทพบดีในรูปทรงเต็มยศ เทพบดีจึงมิอาจขดั ข้ึน ท้ังท่ีทราบว่าหากปรากฏตนในรูปองค์จริงให้เห็น นางสิมิลีไม่อาจทนทานต่อรัศมีและความรอ้ นอันแรงกล้าได้และต้องเสียชีวิตในที่สุด สว่ นทารกในครรภ์ รอดชวี ิตมาได้ เพราะเกิดส่งิ มหัศจรรย์ข้ึน ด้วยมีเถาไอวผี ดุ ข้นึ เป็นจานวนมาก พันรอบเสาในพระราชวงั ไว้ หนาทึบ เปน็ เสมอื นฉากสเี ขยี วกนั ความร้อนและรศั มจี ากองคเ์ ทพบดมี ิใหม้ าถงึ ทารกในครรภ์ หลงั จากน้ัน เทพบดฉี วยทารกจากครรภ์มาเย็บตดิ กบั ตน้ ขาของพระองค์ พอถงึ กาหนดคลอดก็ผา่ ตะเข็บให้ทารกไดล้ ืม ตาดโู ลก ด้วยเหตนุ ้ี เทพไดโอไนซูสจึงไดช้ ื่อวา่ ผเู้ กิดสองครงั้ สว่ นเถาไอวีและเถาองุน่ ถือเป็นไม้ประจาองค์ เทพไดโอไนซูส ถือเป็นเทพแห่งเหล้าองุ่น พืชพันธัญญาหารและความอุดมสมบูรณ์ของกรีกโดยท่ัวไป บ า ง ค ร้ั ง เรี ย ก ว่ า เม รั ย เท พ ใ น ต า น า น โ ร มั น มี ช่ื อ ว่ า “ เท พ แ บ ค คั ส ” ใ น ภ า ย ห ลั ง มกี ารนาเถาองุ่นมาใชท้ ามงกฎุ แหง่ ชยั ชนะใหน้ กั กีฬา หรือกวี ลอเรล (Laurel) เป็นสัญลกั ษณ์แหง่ ชัยชนะ ความเป็นอมตะ และพรหมจรรย์ ในสมยั โบราณ ผชู้ นะในการแข่งขนั จะได้รับการสวมมงกฎุ ประดิษฐจ์ ากลอเรล ดว้ ยเหตทุ ใ่ี บลอเรลมคี วามเขียวขจี ตลอดเวลา จงึ ทาใหก้ ลายเป็นสญั ลักษณ์แหง่ ความเปน็ อมตะดว้ ย ในตานานโรมัน ลอเรลเป็นตน้ ไมข้ อง นักบวชสตรี (Vestal Virgin) ในวหิ ารเทวีเวสตา ผ้ปู ฏญิ าณวา่ จะรกั ษาเพศพรหมจรรย์
111 https://images.app.goo.gl/ogCxPCdzxykmDU4Q8 / https://images.app.goo.gl/x9rXUtxWyhrdQDqC6 ส่วนในตานานกรีก สืบเนื่องมาจากเทพอิรอส (Eros) โกรธเคืองที่เทพอพอลโล (Apollow) เสยี ดสีว่า การใช้ธนเู ป็นเร่อื งของเทพวยั เยาว์ เช่น อิรอส เทพจึงใช้ศรปลายเป็นทองยงิ ใสเ่ ทพอพอลโล เป็นผลให้เทพอพอลโลหลงรักนางดัฟเน (Daphne) อย่างมาก แต่ดัฟเนมิได้สนใจด้วยเทพอิรอสใช้ ศรปลายเป็นตะกั่วยิงเข้าใส่นาง ทาให้นางไม่ใยดีแก่ชายใด และยังปฏิญาณว่าจะรักษาความเป็น พรหมจารีตลอดไป เทพอพอลโลพยายามทาใหน้ างเปลี่ยนใจ แต่กไ็ มส่ าเร็จ จงึ ติดตามนางไปทุกหนทุก แห่ง เมื่อนางดัฟเนเห็นว่า คงไม่มีทางหนีจากเทพได้เป็นแน่ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากบิดา คือ เทพ ประจาแม่น้าเพเนอัส (Peneus) ซ่ึงบันดาลให้แผ่นดินแยกออก และนางดัฟเนก็หายลงไปในช่องนั้น กลายเป็นต้นลอเรลผุดข้ึนมาแทน เทพอพอลโลมีความเศร้าโศกมาก จึงได้หักกิ่งลอเรลมาประดับไว้ที่ เศียร นับแตน่ ั้นมาตนั ลอเรลจงึ กลายเป็นต้นไมศ้ ักด์ิสิทธป์ิ ระจาองค์ และนยิ มนาใบมาทาเปน็ มาลยั ประดับ ศีรษะแทนมงกุฎ เป็นรางวัลสาหรับผูช้ นะเลิศในการแขง่ ขนั ทุกประเภท โอก๊ (Oak) เป็นตน้ ไมศ้ กั ดิ์สิทธ์ิที่นกั บวช (Druid) ในลัทธิโบราณของชาวเคลท์ (Celt) ชาว พื้นเมืองที่อาศยั อยบู่ นเกาะองั กฤษ กอ่ นพวกแองโกล-แซกซนั (Anglo-Saxon) จะเข้ามายึดครอง เคารพ บูชา ตัง้ แต่ยคุ กอ่ นครสิ ตศาสนา สาหรบั ในคริสตศาสนา ต้นโอ๊กเป็นตน้ ไม้ประเภทหน่งึ ท่ีถูกเสาะหามาเพื่อ ทาเป็นไม้กางเขนที่จะใช้ตรึงพระคริสต์ แต่ตัวมันเองไม่ยินดีและแยกเป็นเสี่ยงๆ เม่ือถูกขวานตัด เนื่องจากเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทานเป็นเยี่ยม จึงถูกนาใช้เป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งศรัทธาและ คณุ ธรรม รวมท้งั ความอดทนตอ่ วิบากกรรมของพระคริสต์ ในตานานกรีก วหิ ารของเทพซสู ท่ีโดโดนา ก็ ต้ังอยู่ในปาตน้ โอ๊ค มะกอกเทศ (Olive) ถือเป็นต้นไม้ที่ให้ประโยชน์แก่มวลมนุษย์มาก ในตานานกรีก กล่าวถึง การแข่งขันเพอ่ื จะไดเ้ ปน็ ผู้ครอบครองอัตติกาและเทรเซน ระหว่างเทวีอธนี า กับเทพไพไซดอน ซ่งึ เทวอี ธี นาเป็นฝ่ายมีชัย เพราะมอบต้นมะกอกเทศให้เป็นของขวัญแก่ชาวเมือง ต่อมาเมืองน้ันจึงได้รับการขนาน นามว่า “เอเธนส”์ ต่อมามีการนาก่ิงมะกอกเทศมาใช้ทามงกฎุ แหง่ ชยั ชนะด้วย
112 https://images.app.goo.gl/JXY8xX43ouTGacLv6 สว่ นในคริสตศาสนา ถือเปน็ สัญลักษณ์ของพระกรณุ าแห่งพระผู้เป็นเจา้ ต่อมวลมนุษย์เนอื่ งจากมี ผลท่ีอุดมด้วยน้ามัน ส่วนก่ิงมะกอกเทศถือเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ซ่ึงมีท่ีมาจากพระคัมภีร์ตอนน้า ท่วมโลก (ปฐมกาล: 8-11) โนอาห์ส่งนกพิราบออกจากเรือไปสารวจดูว่าระดับน้าลดแล้วหรือยัง เมื่อ นกพิราบบินกลับมา ปากคาบใบมะกอกสีเขียวมาด้วย โนอาห์จึงรู้ว่าน้าแห้งแล้ว โนอาห์จึงลงจากเรือ พร้อมปล่อยสัตว์นานาชนิดให้เป็นอิสระ แล้วทาพิธีบวงสรวงแด่พระผู้เป็นเจ้า กิ่งและใบมะกอกเทศใน เหตกุ ารณต์ อนน้เี ป็นสัญลกั ษณ์ว่า พระผ้เู ปน็ เจ้าทรงสรา้ งสันตภิ าพกับมวลมนุษย์แลว้ โดยบันดาลให้เกิด รุ้งกินน้าท่ีเป็นสัญลักษณ์แห่งการอภัยโทษ และการท่ีพระผู้เป็นเจ้าทรงคืนดีกับมนุษย์ นับเป็นการให้ คาม่นั สญั ญาของพระองค์ ทบั ทิม (Pomegranate) ในตานานกรีก ทับทมิ เกี่ยวข้องกับเทพีเพอร์เซโฟเน ซ่ึงหวนคืนจาก ยมโลกกลบั สู่โลกมนษุ ย์ เป็นสัญลกั ษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ และการพลิกฟ้นื คืนชพี ของพื้นพภิ พในฤดูกาล https://images.app.goo.gl/mCjJTCTeQpkyA5Ar5 ในคริสตศาสนา ทับทมิ เป็นสญั ลกั ษณ์ของความหวังที่จะไดม้ ีชีวติ นริ นั ดร์ และการฟื้นคนื ชีพ นอกจากน้ี ทับทิมยังเป็นสัญลกั ษณ์ของความอุดมสมบรู ณ์ เพราะอดุ มด้วยเมล็ดมากมายนบั ไมถ่ ้วน เรยี ง รายอย่างเป็นระเบยี บในผลเดยี วกัน
113 ตน้ สาระแหน่ ในบรรดาสามมหาเทพท่ยี ่งิ ใหญ่ คือซสู โพไซดอนและเฮดีส ผเู้ ปน็ พีใ่ หญ่ดจู ะเจ้าชู้ และมเี มยี นอ้ ยกวา่ พี่น้องมากนกั ในขณะที่ซูสมภี รรยาเยอ้ ะมาก โพไซดอนก็มีภรรยาเยอ้ เชน่ เดยี วกัน แต่เฮ ดีสกลับมีภาพลักษณ์ท่ีรักเดียวใจเดียว แต่ไม่เห็น ไม่ใช่ว่าไม่มี เพราะเขาเคยไปหลงรักนางไม้นางหนึ่ง นามว่ามินธี นางไม้แน่งน้อยนี้ชะตาอาภัพเพราะมีชายมาหลงรักก็เป็นผู้มีประวัติการลักพาลูกสาวของซู สและดมี ีเทอรม์ าเป็นภรรยาหมาด ๆ ไปแบบลกั พาลูกเขามายงั ไม่ดูแลให้ดกี ลับมามีเล็กมีน้อย ถึงแม้ว่าจะ เฝ้าระวังอย่างดี กระนั้น กม็ วิ ายที่ดีมเี ทอร์รว่ งรู้ว่าลกู เขยแอบมีบ้านเล็ก จงึ โกรธและเนรมิตรกายใหญเ่ ท่า ฟ้าแล้วกระทึบมินธีจนชะตาขาด เฮดีสเวทนาชะตาอาภัพของชู้รักของตนเอง จึงเปล่ียนนางให้เป้นต้น มินท์ หรอื หอมดว่ น หรือ สาระแหน่ท่มี ีกลิ่นหอม และเป็นหน่ึงในต้นไม้ประจาตวั เทพแหง่ ความตาย บาง ตานานบอกว่าเป็นเพอร์เซโฟนี ที่ลงมือสาปนางเป็นสาระแหน่ เพราะแม้จะไม่รักสามีอย่างเทพเฮดีส แต่ นางมศี ักดศ์ิ รที หี่ ยามไมไ่ ด้
114 คาถามทา้ ยบเรียน บทท่ี 5 Directions: Please choose your best answer. (10 Points) 1. Which gods ‘the Oak’ represent? A. Zeus B. Hades C. Poseidon D. Apollo 2. The olive tree is associated with which Greek city? A. Athens B. Crete C. Troy D. Trace 3. Which God have a love relationship with Hyacinthus? a. Apollo and Artemis b. Apollo and the God of the Southern Wind c. Aphrodite and Persephone d. Persephone and Zeus 4. What is a symbolic of Narcissus flower? a. Selfish b. Hopeful love c. Immortality d. Intelligence 5. What is the symbol of Laurel Tree? A. Victory B. Immortality C. Virginity D. All corrected
115 6. Among one of Heracles’s tasks, what he had to get? a. Apple of Discord b. Apple of Atalanta c. Apple of Hesperides d. Apple of Youth 7. What is the reason why ivy and grapes are important to the god Dionysus? a. It related to the vinery. b. It’s used for sacrificed ceremony. c. He was the one who taught and methods of making wine. d. It saved his life from Zeus aurora. 8. Which flower that Ancient Greek used it for craziness treatment? a. Peoni b. Anoneme c. Halliber d. Amaryllis 9. In Greek Mythology, what is the name of the water nymph who was turned into a sunflower by Apollo? a. Clytie b. Leucothoe c. Helios d. Anthos 10. Who was transformed into a laurel tree in Greek mythology? a. Ersa b. Aetna c. Daphne d. Adrasteia
116 Lesson Plan Unit 6 Animal from Mythology Content Animal from mythology Objectives At the end of this unit, student will be able to 1. understand and know the story background about animals in mythology 2. understand the role and its importance of animals in mythology 3. analyst and summarize keys points of each learning topic in English Instructional Procedures and Activities 1 Study the material and follow the course instruction. 2 Listening the lecture 3 Discussion 4 End of unit exercise Instructional Materials 1. Class material 2. Power Point Presentation 3. Worksheet Assessment and Evaluation 1. Class participation 2. Quizzes 3. Mid-term and final examination
117 บทที่ 6 สัตว์ในเทวตานาน สตั วก์ ม็ บี ทบาทสาคัญในเทวตานานเช่นกัน มที ง้ั เป็นสตั ว์ทม่ี ีตัวตนจรงิ และสัตวท์ ีเ่ กดิ จาก จินตนากร ซ่งึ มีกลากหลายในเทวตานาน และเกิดเร่ืองรายมากมายเปน็ เรือ่ งเล่าต่อมาดังน้ี หมี (Bear) เปน็ สตั วป์ า่ ท่ดี ุร้าย จงึ ใชเ้ ป็นสญั ลักษณ์แหง่ ความเหี้ยมโหด และอทิ ธพิ ลอัน ชวั่ ร้าย https://images.app.goo.gl/6RtXSFtNe75cnrnPA ในตานานกรีก มเี รือ่ งราวของนางคะลสิ โท (Callisto) หลายตานานด้วยกัน ตานานหนึง่ กลา่ วว่า นางเปน็ สหายในการล่าสัตว์กับเทวีอารท์ มิ ิส เมอื่ เทพบดีเหน็ นางเข้าก็เกดิ พึงพอใจ และมีความสัมพนั ธ์กับ นาง จากน้ันได้แปลงรา่ งนางให้เป็นหมีเมื่อเทวีเฮร่าผ่านมา เพื่อมิให้เกิดความสงสัย บางตานานกล่าวว่า เทวีเฮร่าสาบนางให้เป็นหมี แล้วหลอกให้เทวีอาร์ทิมิสสังหารด้วยธนูแต่ก่อนจะเสียชีวิต เทพบดีใช้ให้ เทพเฮอร์เมสไปคว้าบุตรชายออกมาจากครรภ์ของนาง แล้วนาไปฝากเทวีไททันเนสไมเออะ (Maia) มารดาของเทพเฮอร์เมสเลี้ยงดู อีกตานานกล่าวว่า นางถูกสาบเป็นหมีใช้ชีวิตในป่าใหญ่ เม่ืออาร์คัส บตุ รชายเตบิ ใหญ่ เข้ามาลา่ สัตว์ในป่า นางจาได้จงึ จะเข้ามากอด และเกอื บถกู อารค์ ัสสงั หาร เพราะไม่รู้จัก แม้จะมีตานานต่างๆ กัน แต่ในท่ีสุดเรื่องจบลงตรงกัน เม่ือเทพบดีเข้ามาช่วยให้นางกลายเป็นอมตะ โดย ส่งให้นางขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าเป็น “กลุ่มดาวหมใี หญ่” (Arctos - the Great Bear) หรือ “กลุ่มดาวคัน ไถ” (the Plough) ส่วนอาร์คัสถูกส่งไปเป็น “กลุ่มดาวหมนี ้อย” (Arclophylax - the Lesser Bear) ท่ี อยู่ใกล้ๆ เพ่ือคอยคุ้มครองมารดาของตน อย่างไรก็ตาม เทวีเฮร่ายังมีใจอาฆาตแค้น จึงคาดคั้นให้เทวี แห่งท้องทะเลเทธิส (Tethis) และสวามี คือ เทพโอเซียนัส (Oceanus) ให้รั้งกลุ่มดาวทั้งสองมิให้
118 ลงไปพักผ่อนยังห้วงสมุทรได้เหมือนดาวดวงอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ดาวทั้งสองกลุ่มจึงไม่เคยตกลับขอบฟ้าเลย แตต่ ้องโคจรอย่รู อบๆ ดาวเหนือตลอดไป หมปู า่ (Boar) ในตานานกรกี เกย่ี วกบั ภารกิจสบิ สองประการของเฮราคลสิ ภารกิจประการหนงึ่ คอื การปราบหมปู า่ แห่งเทอื กเขาเอริแมนธสั (the Boar of Erymanthus) ซึ่งคอยรังควานผคู้ นใน ละแวกน้ันเปน็ ประจา เฮราคลสิ ใชอ้ บุ ายล่อหมปู ่าใหไ้ ปติดปลกั หิมะ และจับตัวเปน็ ๆ ไปใหก้ ษัตริย์ยูรสิ ธัส ดู https://images.app.goo.gl/UEbUJEoBdArGLdzE9 นอกจากนห้ี มปู า่ ยังเปน็ บริวารท่ีใกล้ชดิ ของเทวอี ารท์ ิมิส ซึ่งเปน็ เทวแี ห่งการลา่ สัตว์และแฝดผู้ พ่ีของเทพอพอลโล โคตวั ผู้ (Bull) ในตานานกรีก กล่าวถึงกษตั รยิ แ์ หง่ ครีต (King Minos of Crete) บุตรของ เทพบดที เี่ กิดแตน่ างยูโรปา มนี ้องอกี สองคน ตอ่ มาได้เปน็ บตุ รบญุ ธรรมของกษัตริย์แอสทิรอิ ัสแห่งครีต เมอ่ื ส้นิ พระชนมล์ ง ไมนอสได้ขนึ้ เปน็ กษตั ริย์แหง่ ครีต แต่มีหลายคนมาอ้างว่ามีสทิ ธิ ไมนอสจึงอา้ งเทพโพ ไซดอนเป็นพยาน โดยให้ส่งโคตัวผู้มาใหต้ น เพือ่ ทาการเซน่ สงั เวยแด่องคเ์ ทพ ปรากฏมโี คตัวผ้รู ปู รา่ ง งดงามโผล่มาจากห้วงสมทุ ร ผอู้ า้ งสิทธิท้งั หลายจงึ ยอมจานน แตไ่ มนอสเสียดายโคทม่ี ลี กั ษณะงดงาม เชน่ น้นั จงึ ไม่รกั ษาสัจจะวาจา นาวัวตวั อ่ืนมาเซ่นสังเวยแทน เทพโพไซดอนพโิ รธจึงบนั ดาลให้ชายาของ กษตั รยิ ์ไมนอสหลงรกั โคตัวนัน้ และให้กาเนดิ สัตว์ประหลาดกายเปน็ คนแตม่ หี ัวเป็นววั ชื่อวา่ “มิโนทอร”์ แปลวา่ “โคผูข้ องไมนอส”(Minotaur–Bull of Minos)กษัตรยิ ์ไมนอสจึงตอ้ งวา่ จ้างเดดะลสั (Daedalus) สถาปนิกและช่างฝีมือคนเก่ง ใหส้ รา้ งเลไบรนิ ธ์ขึ้นเพื่อใชเ้ ป็นที่คมุ ขงั มโิ นทอร์
119 https://images.app.goo.gl/qq6n19VBJcDQApbf9 โคตัวเมีย (Cow) ในตานานกรีก กล่าวถึงนางไอโอ (Io) ท่ีเป็นนักบวชหญิงประจาวิหารของ เทวีธีรา ผู้อุปถัมภ์แคว้นอาร์กอส เทพบดีมาพบเข้าเกิดติดใจและลงมาพบนาง แต่นางวิ่งหนีไป เทพบดี คาดว่าเทวีเฮร่าคงจะสงสัยจึงบันดาลให้นางกลายเป็นโคเผือก เทวีเฮร่าจึงขอโคเผือกจากเทพบดีเป็น ของขวัญ แล้วให้อสูรอารก์ ัส ท่ีมรี ้อยตาเฝ้าไว้ เทพบดีให้เทพเฮอร์เมสมาช่วยลักตัวนางไป เทพเฮอร์เม สจึงปลอมตัวเป็นคนเล้ียงแพะมาตีสนิท พร้อมกับเล่าเร่ืองราวตา่ งๆ ให้ฟัง รวมท้ังเป่าขลุ่ยกล่อม จนใน ที่สุดตาท้ังร้อยก็ปิดสนิท เทพเฮอร์เมสจึงสังหารอสูรอาร์กัสแล้วพาโคเผือกหนีไปได้ แต่เทวีเฮร่าก็ยัง ตามรบกวนนางโคเผอื กให้ต้องรอ่ นเรพ่ เนจรไปเรือ่ ยๆ จนผา่ นช่องแคบเมโอทสิ (Maeotis) ซ่งึ ตอ่ มาได้ เปลี่ยนชื่อเป็น “ช่องแคบบอสพอรัส\" แปลว่า “ที่ๆ นางโคลุยข้าม” (Bosporus - Cow's Ford or Ford of the Cow) เทพบดีได้มาพบนางที่ริมฝั่งแมน่ ้าไนล์ ใกล้เมอื งเมมฟิสในอียิปต์ และเสกให้นางกลับเป็น หญิงสาวตามเดิม และอยู่กับนางจนมีบุตรหน่ึงคน ชื่อเอพาฟัส (Epaphus) ต่อมานางต้องพเนจรตามหา บุตรชายที่ถูกลักพาไปอีกครั้ง เม่ือได้พบกันแล้ว จึงพากันเดินทางกลับมายังอียิปต์ และได้อภิเษกกับ กษัตริย์เทเลโกนัส (Telegonus) พรอ้ มทง้ั สถาปนาพธิ บี วงสรวงบชู าเทวดี มี เิ ตอร์ ณ ที่น้ัน https://images.app.goo.gl/tvVubZxz9cSBKYHu8
120 เซนทอร์ (Centaur) เป็นสัตว์ในเทวตานานกรีก ส่วนหัวและลาตัวท่อนบนเป็นคน ลาตัว ทอ่ นล่างเป็นม้า ในตานานกรีก กลา่ วถงึ เซนทอร์ทีช่ ื่อว่า ไครอน (Chiron) ทเ่ี ชือ่ กันวา่ เป็นบุตรของเทพ ไททันโครนอส มีชีวิตอมตะ ลักษณะนิสัยใจคอต่างจากเซนทอร์อื่นๆ ที่ดุร้ายปาเถื่อน และเอะอะโวยวาย ส่วนไครอนสุภาพ เงียบขรึม ฉลาดหลักแหลม มีสติปัญญาความรู้ ทวยเทพเอื้อเอ็นดูสั่งสอนวิทยาการ ตา่ งๆ ให้ อาทิ เทพอพอลโลและเทวอี าร์ทมิ สิ https://images.app.goo.gl/qCh8NojFPjxQZHzJ7 ไครอนจึงมคี วามสามารถในดา้ นการลา่ สัตว์ การใช้อาวธุ การรักษาคนปว่ ย การดนตรี การ พยากรณ์ และประตมิ ากรรม จนทาให้กุลบุตรกรีกสมยั นน้ั ถกู ส่งตัวมารับการศึกษาอบรมกับไครอนเป็น จานวนมาก รวมทงั้ วรี บรุ ษุ กรกี หลายคน อาทิ เจสนั แคสเตอรก์ บั โพลิตเสิส เอเนยี ส เฮราคลิส และอคลิ สิ ในภายหลัง ไครอนบังเอญิ ถกู ลกู ศรอาบยาพิษของเฮราคลิส ไดร้ ับความเจ็บปวดทรมานแสนสาหสั แต่ไม่ อาจตายไดเ้ พราะมีชีวติ เปน็ อมตะ ไครอนจงึ ขอคืนชีวิตอมตะแก่เทพบดี โดยให้เห็นแกค่ ณุ งามความดที ่ี เคยกระทามา พร้อมกบั ให้ปลอ่ ยเทพไททันโพรเมธิอสุ (บางตานานกลา่ วว่า ไครอนไดแ้ ลกชวี ิตอมตะกบั โพรเมธอิ ุส ซึง่ ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะโพรมีธีอุสมีชวี ิตเป็นอมตะอยูแ่ ล้ว) ทไ่ี ด้รบั ความทกุ ขท์ รมานพอๆ กันเป็นอสิ ระดว้ ย เทพบดสี งสาร จึงโอนอ่อนใหต้ ามความประสงค์ พรอ้ มทั้งสง่ ไครอนขน้ึ ไปประดบั ไว้บน ท้องฟา้ เปน็ กลมุ่ ดาวเซนทอรสั หรือกลุ่มดาวคนถอื ธนู (Sagittarius) สว่ นโพรเมธิลุสข้นึ อยู่บนฟากฟา้ เปน็ กลมุ่ ดาวรูปคนคุกเขา่ (the Kneeler) ไคเมรา (Chimaera) เปน็ นางอสรู ทมี่ ีหัวเป็นสงิ โต ลาตวั เปน็ แพะ หางเป็นงู และมลี ม หายใจเป็นไฟ เม่อื เตบิ โตข้ึนมาไดท้ าอันตรายแกแ่ ผน่ ดนิ ลเิ ชีย โดยสังหารฝงู สัตว์และทาให้แผน่ ดินลกุ เป็นไฟ ในทีส่ ุดถูกวรี บรุ ุษเบลเลโรโฟนสงั หาร ในตานานกลา่ วว่า นางอสูรไคเมราเปน็ พน่ี อ้ งกับอสูร ตา่ งๆ เช่น ไฮดรา เซอรเ์ บอรัส และเปน็ มารดาของสฟงิ ซ์ และสิงโตแหง่ เนเมีย
121 https://images.app.goo.gl/ApLtEuoVNqEEhQgEA ไก่ตวั ผู้ (Cock) เป็นสัตว์ท่ขี ันต้งั แตร่ ุ่ง ในตานานกรีก กลา่ วถึงอเลคทริออน (Alectryon) ชาย หน่มุ ที่เทพแอเรสให้เฝ้าประตเู ม่ือเทพเขา้ หาเทวีอโฟรไดเท แต่บังเอิญอเลคทริออนเผลอหลบั ไป ทาให้ เทพอพอลโลสามารถผ่านเข้าไปได้ ความสัมพันธ์อันเร้นลับของเทพและเทวีจึงถูกเปิดเผย เทพแอเรส โกรธท่ีอเลคทริออนบกพร่องในหน้าที่ จึงสาบให้ชายหนุ่มกลายเป็นไก่โต้ง คอยส่งเสียงขันบอกเวลายาม อรุณรงุ่ มาเยอื น นกพริ าบหรอื นกเขา (Dove) เปน็ สญั ลักษณ์แห่งความบริสทุ ธแ์ ละสันติภาพ ในตานานกรีก กล่าวถึงการแสวงหาขนแกะทองคาของวีรบุรุษเจสัน (Jason and the Quest of the Golden Fleece) ในชว่ งหนึง่ ของการเดินทาง เ จสันใชน้ กเขาบินล่วงหน้าไปก่อน เม่ือเผชิญกับหนิ ปะทะ เพ่ือเป็น การเสย่ี งทาย หากนกเขาสามารถบินผา่ นกอ้ นหนิ ไปได้อย่างปลอดภยั เรอื อารโ์ กก็จะผ่านไปได้เชน่ กัน ผล ปรากฏวา่ นกเขาบนิ ผ่านไปได้ มีเพียงขนหางทถี่ ูกหนิ กระแทกหลดุ นอกจากน้ี นกเขายังเปน็ สัตวเ์ ลย้ี งของ เทวอี โฟรไดเทดว้ ย ในตานานของโรมนั นกเขาของเทวเี ปน็ ผู้นาทางเอเนยี สวีรบุรษุ จากทรอย ให้ไปพบ กง่ิ ไมท้ องคากอ่ นท่ีจะเดนิ ทางลงไปยงั ยมโลก มงั กรหรอื งู (Dragon or Serpent) ในคริสตศาสนามักใช้เปน็ สญั ลกั ษณข์ องพญามาร หรือซาตาน ใน “วิวรณ์” 12: 7-9 กล่าวถงึ ไมเคิลกบั เหล่าเทพบนสวรรคท์ าการต่อสู้กับพญามังกร ผลสุดทา้ ยพญามงั กรกบั บรวิ ารพ่ายแพ้จึงถกู ขบั ออกจากสวรรค์ และลงมาอยูบ่ นพื้นโลก ศลิ ปนิ จึงมกั วาด ภาพมงั กรเป็นอสูรรา้ ยกระหายเลอื ดกาลังทาลายเหย่อื อยา่ งโกรธแคน้ นอกจากน้ียงั ถกู ใชเ้ ปน็ เครือ่ งหมายแห่งชัยชนะของนกั บญุ หลายทา่ นเหนืออานาจแหง่ ความชวั่ ร้าย ดังเชน่ ภาพนกั บุญซิลเวส เตอรแ์ ละอัครเทวทตู ไมเคลิ เหยียบมงั กรไว้ใต้เทา้ ส่วนงูท่ีเป็นสญั ลักษณ์ของซาตาน คือผทู้ หี่ ลอกล่อ ให้อดัมกับอฟี กินผลไม้ตอ้ งหา้ มในสวนสวรรคอ์ เี ดน็ ม้า (Horse) ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธ์ิประจาเทพโพไซดอน กล่าวกันว่าม้าตัวแรกในโลกเกิดจาก การท่ีเทพโพไซดอนกระแทกตรีศูลอาวุธประจาองค์ลงกับพ้ืนดิน องค์เทพจึงถือว่าเป็นเทพแห่งฝูงม้า และเปน็ ผู้สอนมวลมนุษย์ให้รจู้ ักวิธีฝกึ สอนม้า เพอ่ื เอามาใชป้ ระโยชน์ เทพโพไซดอนมีช่ือเสียงเร่อื งความ เจ้าชู้ไม่ต่างอะไรกับเทพบดีซูส จึงมีบุตรธิดามากมาย ตานานเรื่องหนึ่งกล่าวถงึ การท่ีเทพแปลงองค์เป็น
122 ม้าไปสมสู่กับนางเมดูซาในวิหารของเทวีอธีนา เร่ืองนี้ทาให้องค์เทวีพิโรธจึงสาปให้นางกลายเป็นอสูร กอร์กอน หน้าตาอัปลักษณ์ มีผมบนศีรษะเป็นงู ต่อมาเม่ือวีรบุรุษเพอร์ซูสตัดศีรษะของนางเมดูซา บุตร ของนางจึงโผล่ออกมาจากลาคอ คือคริเซออร์กบั ม้ามีปกี เพกาซัส ม้าเพกาซสั น้ไี ด้เปน็ พาหนะของวีรบุรุษ เพอรซ์ ูสท่ใี ชเ้ ดินทางกลบั บา้ น หลงั จากได้ศีรษะของนางเมดูซาแลว้ และไปช่วยเหลอื นางอนั โดรเมดาจาก อสูรร้าย นอกจากน้ียังมีอีกตานานหน่ึงกล่าวว่า วีรบุรุษเบลเลโรโฟน ซ่ึงเป็นบุตรของเทพโพไซดอน เช่นเดียวกัน สามารถปราบพยศของเพกาซัสได้ และใช้เป็นพาหนะไปปราบนางอสูรไคเมรา สิงโต (Lion) ในตานานกรีก กล่าวถึงสิงโตแห่งเนเมีย (Nemean lion) ที่คอยทาการรังควาน ชาวเมืองในแถบน้ัน วีรบุรุษเฮราคลิสซ่ึงจะต้องประกอบภารกิจสาคัญสิบสองประการ เพ่ือไถ่บาปท่ี สังหารภรรยาและบุตรของตนในช่วงที่เสียจริต ภารกิจประการแรกของเฮราคลิส คือการสังหารสิงโต แห่งเนเมีย หลังจากสังหารสงิ โตได้แล้ว เฮราคลิสได้ถลกหนังสิงโตมาใชเ้ ป็นเสื้อคลุม สว่ นกระโหลกนามา ทาเป็นหมวกครอบศีรษะ ในภายหลังเทพีเฮร่าบันดาลให้สิงโตขน้ึ ไปเป็นกลมุ่ ดาวบนท้องฟา้ ไนติงเกล (Nightingale) ในตานานกรีก กล่าวถึง นางฟิโลเมลา (Philomela) ธิดาแห่ง กษัตริย์แพนไดออน (Pandion) แห่งเอเธนส์ เป็นพี่น้องกับนางพรอคเน (Procne) ซ่ึงได้อภิเษกกับ กษัตริย์เทรัส (Tereus) แห่งเธรส ในภายหลังคิดถึงน้องสาว จึงให้เทรัสไปรับตัวมาให้ ระหว่างทาง เทรัสได้ใช้กาลังข่มขืนฟิโลเมลา และตัดล้ินนางเสีย เพ่ือมิให้เล่าเรื่องให้ใครฟังได้ แล้วไปโกหกกับชายา ว่าน้องสาวเสียชีวิตไปแล้ว ฟิโลเมลาถูกกักขังอยู่ในป่า แต่นางสามารถทอพรมแขวนผนังผืนใหญ่ท่ีมี ลวดลายสวยงาม ซ่ึงบอกเล่าเร่ืองราวของนางไว้ เมื่อทอเสร็จแล้ว จึงให้หญิงชราท่ีดูแลนางนาไปถวาย พระราชินที ่ีเป็นพ่ีสาว พรอคเนได้ทราบความจรงิ จึงแอบมาหาน้องสาวและวางแผนแก้แคน้ สวามี ด้วย การฆ่าบุตรชายนามาปรุงอาหารให้สวามี เมื่อเทรัสทราบเรื่องจึงจับดาบไล่ตามฆ่าสองพ่ีน้อง ทวยเทพ จึงบันดาลให้เทรัสกลายเป็นนกเหย่ียว ส่วนพรอคเนเป็นนกนางแอ่น ฟิโลเมลาเป็นนกไนติงเกล บาง ตานานกล่าวว่าพรอคเนเป็นนกไนติงเกลท่ีมีเสียงไพเราะ และส่งเสียงร้องเพลงคร่าครวญถึงบุตรชาย ส่วนฟิโลเมลาเปน็ นางแอ่นท่ปี ราศจากล้ิน จึงไดแ้ ตส่ ่งเสยี งแหบหา้ ว พยายามเล่าเร่ืองราวของตน https://images.app.goo.gl/ng5syVmAtwvN7rHS8
123 นกยูง (Peacock) ในตานานกรีก เทวีเฮร่ามอบหมายให้เป็นผู้ดูนางโคเผือก ซ่ึงเทวีสงสัยว่า น่าจะมีความสัมพันธ์กับเทพบดี แต่ถูกเทพเฮอร์เมสใช้อุบายล่อหลอกจนถูกสังหารเสียชีวิต เทวีเฮร่าจึง นาเอาดวงตาร้อยดวงของอสูรไปประดับที่แพนหางนกยูง ท่ีเป็นสัตว์เล้ียงของเทวี ต่อมาช่ืออาร์กัสได้ นามาใชเ้ ป็นชือ่ ของนกยูงพันธหุ์ นึง่ ที่มสี ีสันสดใส เรยี กวา่ Argus pheasant https://images.app.goo.gl/1AwXqqJbWnXUB9WZ9 ฟีนิกซ์ (Phoenix) เป็นนกในเทวตานานของอียิปต์หรืออาหรับ เป็นนกที่มีลักษณะงดงาม มสี ขี นสดสวยเป็นสที องแดงหรือสีแดงเลือดนก และมีชีวิตอยู่ไดค้ รัง้ ละหนึ่งตัว โดยอาศยั อยู่ในทะเลทราย บางตานานว่าอยู่ในป่าเขา นกชนิดนี้มีวงจรชีวิตยาวนานประมาณ 500 – 600 ปี เมื่อถึงอายุครบ กาหนดเวลา จะทารังขนาดใหญ่บนยอดไม้ เก็บเคร่ืองเทศของหอมนานาชนิดมารวมกันเป็นกองใหญ่ แล้วหมอบลงบนกองไม้หอมนั้น พลางขยับปีกกระพือจนเป็นไฟลุกไหม้เผาตนเองจนเป็นเถ้าถ่าน ทา่ มกลางกลิ่นหอมของไม้หอมและเคร่อื งเทศนานาพันธุ์ แล้วเกิดใหมจ่ ากเถ้าถา่ นของตนเอง ฟ้ืนคืนชีพสู่ ความสดใสแห่งวยั ดรุณ และเร่ิมต้นวงจรชีวิตใหม่อีกคร้ัง นกฟีนิกซ์จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการฟื้นคืนชีพ และชัยชนะของชีวิตที่เป็นนริ ันดร์ สาหรับในคริสตศาสนา นกฟีนกิ ซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งการฟ้ืนคนื ชีพของ พระคริสต์ แมงมุม (Spider) ในตานานกรีก กล่าวถึงนางอแรกเน (Arachne) ธิดาของอิดมอน (Idmon) แห่งโคโลฟอน (Colophon) แคว้นลิเดีย (Lydia) ซึง่ เป็นช่างย้อมผ้าที่มีชือ่ เสียง นางมีฝมี ือในการทอผ้า ไดง้ ดงามมาก จนถึงกับโอ้อวดว่าสามารถแข่งขนั กับเทวอี ธีนา ซึ่งเป็นเทวีแห่งหตั ถกรรม เทวีจึงปลอมตัว เป็นหญิงชรามาตักเตือนให้นางให้ละความโอหัง และให้ความเคารพองค์เทวี แต่นางไม่ยอมฟัง เทวีจึง ปรากฏองค์และรับคาท้า การประลองฝีมือการทอผา้ จึงเรม่ิ ต้น เทวีอธีนาถักทอเป็นลวดลายเหล่ามนุษย์ ท่ีถูกเทพลงโทษจากความโอหังอวดดี ส่วนนางอแรกเนถักทอเป็นเร่ืองฉาวโฉ่ของเทพโอลิมเปียน เม่ือ เสร็จแล้วองค์เทวีจึงได้เห็นว่าฝีมือนางเทียบได้กับองค์เทวีจริงๆ เทวีเกิดความพิโรธ คว้างานฝีมือของ
124 นางมาฉกี ทิง้ และใช้หูกทอผา้ ทาร้ายนาง นางอแรกเนเกิดความละอายใจที่ถูกลงโทษ จงึ แขวนคอตาย ในภายหลังเมื่อเทวีคลายความโกรธ จึงบันดาลให้นางอแรกเนกลายเป็นแมงมุม จะได้ถักทอสายใยของ ตนอยา่ งสวยงามได้ตลอดชวี ิต ยูนิคอร์น (Unicorn) เป็นสัตว์ในเทวตานาน มีสีขาว รูปร่างหน้าตาคล้ายม้า แต่มีนอตรงกลาง หน้าผาก มีขนาดเล็กประมาณลูกแกะ กล่าวกันว่าเป็นสัตว์ท่ีว่องไวและดุร้าย จึงไม่มีนักล่าสัตว์ผู้ใด สามารถจับได้ ยกเว้นจะให้สาวพรหมจารไี ปอยู่ตรงท่ียูนิคอร์นมักปรากฏตัว เม่อื ยูนิคอร์นรู้วา่ เป็นสาวบริ สทุ ธ์ ก็จะวิ่งมาซบกับตัก แล้วนอนหลับไป นักล่าสัตว์จึงสามารถมาจับตัวได้ ดังนั้นจึงเป็นท่ียอมรับว่ายูนิ คอร์นเป็นสญั ลกั ษณข์ องความบริสทุ ธ์ https://images.app.goo.gl/KqrQ8xHjrhGLcZRd8 วาฬ (Whale) ในตานานโบราณ ชาวเรอื มกั เข้าใจผดิ วา่ วาฬซงึ่ มรี ปู รา่ งใหญโ่ ตวา่ เป็นเกาะ จงึ ไปทอดสมอเ รืออยูใ่ กล้ๆ เมอ่ื วาฬดาน้าลงไป เรือกพ็ ลอยจมลงไปดว้ ย วาฬจงึ กลายเปน็ สญั ลกั ษณ์ของพญา มารและเลห่ ์เพทุบาย ส่วนปากที่อา้ กว้าง เป็นสัญลกั ษณ์ของประตูนรกทกี่ าลงั เปิดกวา้ ง สรปุ ตานานเก่ยี วกับพืชและสัตวข์ องกรแี ละโรมนั แสดงใหเ้ หน็ ความคดิ ความเชือ่ ด้ังเดมิ ประการหน่งึ ก็คือ เร่อื งของการเปลย่ี นร่าง (transformation) ซงึ่ อาจจะเปน็ จากการพยายามหนีให้พ้นจากอนั ตราย หรอื ภยั พบิ ัติ เช่น กรณีของนางดฟั เนที่กลายรา่ งเปน็ ต้นลอเรล นางพรอคเนกบั นางฟิลาเมลทก่ี ลายร่าง เป็นนกไนติงเกลกบั นกนางแอน่ ในบางครงั้ อาจเป็นฟื้นคืนชีพอกี คร้ังในรปู ลกั ษณ์ใหม่ เชน่ กรณีของอ โดนสิ กลายเป็นต้นอโนมเิ น ไฮยาซนิ ธสั เปน็ ตน้ ไฮยาซินธ์ นารซ์ สิ ซสั กลายเปน็ ดอกไม้ในช่ือเดยี วกัน อีกทง้ั พืชและสัตวบ์ างชนดิ จะถูกนามาใช้ในเชิงสญั ลกั ษณ์ตา่ งๆ เชน่ นกฟนิ ิกซ์เป็นสญั ลกั ษณ์ของชีวิตอมตะ ยูนิ คอร์นสื่อถึงความบรสิ ทุ ธ์ิ ดอกนารซ์ สิ ซสั สื่อถงึ ความหลงใหลในตนเอง ผลทบั ทิมเป็นสญั ลกั ษณ์ของความ อดุ มสมบูรณ์ เปน็ ต้น
125 คาถามทา้ ยบทเรยี น บทท่ี 6 Directions: Please choose your best answer. (10 Points) 1. Who is the parent of Pegasus? A. Poseidon and Medusa B. Poseidon and Daphne C. Hades and Persephone D. Ares and Aphrodite 2. Who was sent to keep the eyes on Io who was transformed into a cow? A. Minotaur B. Cyclops C. Hundred-head dragon D. Argus giant 3. What causes Alectryon to become a rooster who have to make noise every early morning? A. because he brought news of Ares and Aphrodite's relationship to the gods. B. because he spent time chatting with Apollo C. because he fell asleep while on duty D. because he fell in love with Apollo 4. What is the name of this monster? a. Sphinx b. Chimaera c. Argus d. Gorgon
126 5. Who is the most respected Centaur? A. Charon B. Chiron C. Daedalus D. Deucalion 6. Why The Phoenix is considered as the immortality? a. It can live for eternity. b. It has a magic potion that will not let itself die. c. It is blessed by God for long life. d. At the end of its lifespan, it will jump into the fire and be reborn. 7. Where did Heracles' cloak come from? a. Erymanthus Boar b. Nemean Lion c. Hydra d. Sphinx 8. What’s Callisto (one of Arthemis’s Nymph and Zeus’s lover) transform to? a. Boar b. Bear c. Cow d. Dove 9. What are centaurs? a. Flying creature with the faces of woman b. Half-goat half-man creatures c. Half-house half-man creatures d. One-eyed hundred-heads giants
127 10. What monster had nine snake heads that would grow back if they were cut off? a. Medusa b. Hydra c. Pegasus d. Typhon
128 กจิ กรรมฝกึ ปฏบิ ตั ทิ า้ ยบทเรยี น กจิ กรรมทื่ 1 History of Mythology https://youtu.be/_3BVW_qTs0A Direction: Watch the video clip and listen attentionally. Please fill in the mission word into the blank. phenomena hypotheses enlightenment cremated debunked sacrifice advancement endures mythology creation Throughout time people across the world told each other tales of how they came to be of heroes and monsters romance and tragedy death and rebirth. Mythology helped shape the ancient world explaining the unexplainable. In modern times, scientific take 1_______________ have been able to answer questions that for centuries seemed unanswerable from subjects such as biology and meteorology to psychology and sociology. It seems that with each passing year there is more uncovered and made available to the world. In the ancient times, such science was non-existent yet the yearning for knowledge and 2________________ was as powerful as it is today. Mankind offered its own solutions for these relatively primitive answers sprang forth stories passed down from generation to generation. These stories collectively are referred to as 3______________. Every culture from around the world from the Greeks and romans, to native Americans, to Australian aborigines, to the cultures of the near and far east had its very own collection of myths. Many of these myths focus on similar themes and subject matters. Many attempting to explain unexplained 4_____________. How the world was created of the supernatural forces that control the world of, the powers of love and war and greed and courage terrible monsters and the heroes that battle them, tales of innocence and corruption and of what happens after death. To peoples of the ancient world such stories would be seen as truths. These stories helped to shape the very lives of these cultures creating belief systems that rooted themselves into every aspect of everyday life from the hunter-gatherer tribes of the Polynesian islands to the upper and lower kingdoms of Egypt. Traditions and customs were followed to the letter out of fear of angering gods and spirits. In Mesopotamia, Hammurabi's code of law emphasized the eye for an eye principle as he believed the gods of Shamash Anu and Bell governed the world as such. In ancient Greece stories of Kharan, the greedy fairy men of the river Styx led to the tradition of the dead being 5____________ buried with coins without such the deceased souls would never be allowed to enter the gates of Hades. Various native American tribes would create a spirit to aid them in their hunts or their harvests. The book of Exodus in the bible tells of Moses relaying the ten commandments on the slopes of mount Sinai. Thus, becoming a cornerstone of Abrahamic faiths. The Mayan Aztec and Incan cultures practiced human 6____________ as stories circulated other gods demanding human flesh and blood to
129 survive. The examples are nigh endless and these are but a few. As time would go on and humanity would learn new truths about the world and about themselves. These early stories were regarded simply as myths, old stories nothing more. But with enlightenment also comes new questions new 7_____________ to attempt to answer them. Perhaps not on the scale of how the world came to be or how the weather changes but stories closer to home would evolve. In the 1800s, a scientific and industrial renaissance took place with steam gas and even electricity beginning to power the world and people began to wonder if there was anything humanity could not do, fly through the air, walk on water, perhaps even bring people back from the dead. In 1819, Mary Shelley wrote Frankenstein, a story about an ambitious yet morally ambiguous scientist who animated a being composed of pieces of dead bodies. His 8_____________ turns out to be hideous and he abandons the creature leaving it alone to be subjected to the world's cruelty and transforming it into a being of wrath. Mary Shelley's story of Frankenstein and his monster asks the question of whether it is not it is possible or even right to bring a person back to life after death. It then proceeds to answer said question in the form of a narrative. This makes it not too different from the myths and legends of the ancient world which likewise address a question in the form of a story. And so, as humanity 9_____________ so too to the power of myths while stories of the past can be 10 ____________ as mere fantasy, thanks to scientific achievements and social breakthrough new questions in response to enlightenment will emerge those questions. If they cannot yet be answered scientifically accurately can and will be answered in the form of fictional narratives and should these narratives have an impact on human society whether great or minor, they too become modern myths. กจิ กรรมที่ 2 :ใหน้ ักศกึ ษาฟังแลว้ ออกแบบโปสเตอร์ Family Tree (5 คะแนน) Direction: Listen to audio attentionally and create the God and Goddess Family Tree Audio Transcripts 2 : Greek Myth Family Three Sources : https://youtu.be/O7F16sC860s Today I'm going to show you the family tree of Greek and Roman gods. I'll be using my Greek mythology family tree chart which by the way is available as a poster from my website usefulcharts.com. In most cases each Greek god had a Roman equivalent, for example the Greek god Zeus was called Jupiter by the Romans. In this video I'll be using the Greek names throughout but please note that the Roman names are in fact listed on the chart as well. So, I'll be looking at three generations of gods the primordial gods of the Titans and the Olympians. And one other thing I should mention before we begin there are several different ancient sources that talk about these gods and sometimes, they differ when it comes to who was the parent or child of who. So in some cases, I had to make a choice and therefore you might disagree with that choice but just remember we're talking about mythology here and therefore there's really no such thing as a correct version of events [Music] We're going to start up here with the first generation of God's the primordial gods who according to some sources are said to have been born out of chaos these include Eros
130 elder not to be confused with the younger Eros whom the Romans called Cupid. Then we have Tartarus the original god of the underworld, Gaia mother earth the most important of the primordial gods, Erebus god of darkness and Nyx god of night. Now there are two gods here at the top that don't really fit anywhere on the tree being that they exist beyond space and time. There's Cronus old father time and Anan K the goddess of Destiny. Don't confuse this Cronus spelt with a CH with the Titan named Cronus spelled with a k or C whom we'll meet later. So, the tree really starts from Gaia, from Gaia came three gods the mountains the sky and the sea named Oriya, Uranus, and Pontus. Take note of the colors because I use them throughout the chart, green represents earth gods, light blue represents sky gods, and dark blue represents Sea gods. Now Gaia and Uranus actually became a couple and from them came the cyclops monsters with one big eye, the Hecka tongue curries monsters with fifty heads and one hundred arms, and most importantly the Twelve Titans. But before we look at the Titans let's look at the rest of the primordial gods from Tartarus the god of the underworld comes several monsters shown in brown such as Cerberus the three-headed dog that guards the gates of hell, the dragon from which Jason and the Argonauts stole the Golden Fleece, and the Sphinx who had the face of a human the body of a lion and the wings of a bird. Some of the other Fame monsters from Greek mythology came from Pontus the original god of the sea these include the Harpies, the Sirens, and the Gorgons the most famous Gorgon was of course Medusa who had snakes for her hair one look at her face would turn anyone to stone. The descendants of Pontus also included the Gray. They are three grey witches who share an eye and a tooth and can see the future. Finally, from Pontus comes Nereus another important sea god sometimes known as the old man of the sea. He's the father of the Narrates a large group of female sea Nymphs. The last group of beings that fall under the primordial category are those that came from Erebus and Nix. These include Charon, the ferryman to the underworld as well as several figures that are personifications of various concepts such as death or sleep. Note that on this chart, whenever you see a black square that means a god or creature that lived in the underworld. Whenever you see a red square that means a God that is a personification of a particular concept and who doesn't really fit into a category such as earth sky sea or underworld. Ok so now it's time to look at these second generation of gods, the Titans as I mentioned earlier the Titans are the children of Gaia and Uranus and there are 12 of them. Let's start over here on the left. First, we have Oceanus and Tethers god of the ocean and goddess of the rivers. They take the place of Pontus in this second generation of gods and are the parents of the ocean. It's the Oceaneds were a large group of sea goddesses many of whom were the mothers of other important gods which we'll get to later. Next, we have Hyperion, god of light and Thea goddess of the ether. From them, we get Helios the original god of the Sun and Selene the original goddess of the moon. The Roman names for these gods are the basis for our terms solar and lunar. At this point, I should note that some of the twelve Titans are grouped together as couples but some are not. One that is not is Crius, he married a daughter of Pontus and from them came Pallas the original God of War. Pallas married Styx and together they were the parents of Kratos. In recent, years Kratos has become well-known because he shows up in the God of War video game series. He had a sister named Nike who the famous shoe company is named after. We then get Cronus god of the harvest and Rhea goddess of fertility. We'll come back to them in a second, but for now note that in this generation we get a couple for the sea, a couple for the sky, and a couple for the earth. The rest of the Titans include famous goddess of law and order yep Adesh god of mortal life, Mnemosyne goddess of memory, Koya s-- the Celestial axis and Phoebe a minor moon goddess, out of these five Yepez is perhaps the most important because he was the father of Atlas the god who is often shown with a globe on his back as well as Prometheus and Epimetheus gods of foresight and hindsight. Prometheus is the God who created mankind and Epimetheus is the God who married
131 the first woman Pandora. Whenever you see a purple box on this chart that indicates that that person is either a mortal human or a demigod. Demigod meaning that that person had one parent who was a god and one parent who was a human. Let's go back to Cronus and Rhea they are shown here in the middle because they are the king and queen of the gods. In this second generation originally, Uranus and Gaia were the main gods but according to one Greek myth they were replaced by Cronus and Rhea because of the following sequence of events for some reason. Uranus didn't like the hagit inquiries and decided to banish them deep within the earth which both hurt and angered Gaia. Gaia therefore made a Giant sickle and the Titans to castrate Uranus. Cronus who was actually the youngest of the Titans was the only one brave enough to do so. He was successful and from the blood of Uranus came the Furies goddesses of vengeance as well as several giants, the ash tree nymphs and according to some sources Aphrodite. Because of this act, Cronus and his partner Rhea became the new king and queen of the gods. But foolishly, Cronus decided to banish the Hecate on careese just like his father had done and therefore it was prophesied that one of Cronus's sons would eventually defeat him just like he had defeated his father. Because of this, Cronus was scared of his children and decided to eat each of them as soon as they were born. Cronus and Rhea had six children. These children would eventually become the third and final generation of gods known as the Olympians. The first five were all eaten by Cronus but when the sixth child named Zeus was born Rhea decided to play a trick on Cronus, she wrapped up a rock and gave it to Cronus instead of the baby. Cronus ate the rock thinking it was Zeus and therefore Rhea was able to hide Zeus in a safe place until which time he was old enough to launch a war against his father. That war was known as the Battle of the Titans and as prophesied Zeus was able to defeat Cronus thus becoming the third and final king of the gods. He also managed to cut open Cronus's stomach and release his brothers and sisters. He freed the hagit encrease and instead imprisoned the Titans making the hackaton carries their guards. So, let's take a closer look at these six children of Cronus and Rhea first there was Poseidon. Poseidon married one of the near eats and became the new god of the sea. Demeter took over Cronus's role and became the goddess of the harvest. Zeus, of course, became king of the gods but was also the new god of the sky and in particular the god of thunder. He married his sister Hera who became queen of the gods and was the goddess of women. There was also Hades who became the new god of the underworld and Hestia who became the goddess of the hearth or home just like there are 12 main Titans. There are also 12 main Olympians but because there are only six original siblings some of Zeus's children are also included in order to come up with the number 12. In fact Hades is not included in the 12 so there are actually seven of Zeus's children who are considered to be main Olympians so that we get that perfect number 12. So first, there's Athena goddess of wisdom from which the city of Athens takes its name. She was the daughter of Zeus with his first wife Metis one of the Oceanids, then with his wife Hera. Zeus had Hephaestus god of fire and Ares God of War. Fourth, we get Aphrodite the goddess of love and beauty according to some sources she's the daughter of Zeus but according to others she was born out of the sea when Uranus was castrated. Fifth, there is Hermes son of Zeus and Maia who was a daughter of Atlas. Hermes is the messenger of the gods and is the one with the wings on his helmet. He also serves many other roles though and because of this he's considered both an earth God and a sky God. Finally, we have Apollo and Artemis the new god of the sun and goddess of the moon. Their mother was lead o daughter of coast and Phoebe. Apollo was also the god of medicine and the arts and Artemis was also the goddess of hunting. So those seven together with the five up here comprised the twelve main Olympian gods. Now as you've probably noticed there are a lot of gods on this chart and I've been skipping over some of the minor ones but let me take the time to point out a few more before we go. Most of these are considered to be the various children of Zeus, by lots of different females both goddesses and mortal women. So, there's Persephone daughter of Zeus and
132 Demeter. She was kidnapped by Hades and made the queen of the underworld. Then, there's Daiki the goddess of justice. She has a blindfold across her eyes and you can often see statues of her standing in front of courthouses. There's also the Muses, daughters of Zeus and Mnemosyne. They were goddesses who inspired musicians and artists. Then by mortal women, we have Perseus after whom Percy Jackson from the Rick Riordan books is named and of course Heracles perhaps the greatest of all the Greek heroes. Finally, when it comes to the children of Zeus we cannot forget Dionysus god of wine and as such one of the more popular gods in the Greek pantheon sometimes. He's considered one of the 12 main Olympians in place of Hestia. There are a few more gods. I'd like to point out the first is Eros known to the Romans as Cupid. He was the son of Ares and Aphrodite and is usually portrayed as a baby holding a bow and arrow it is said that whoever he hits with his arrow will fall in love with the next person they see. Aphrodite also had a child with Hermes aptly named hermaphrodite Eze who was neither male or female and finally Hermes had a son named Pan who looks like a faun and is the god of shepherding. Although in other sources he existed long before Zeus himself so like I said there are a lot of other characters on this chart that I did not have time to mention but hopefully this video has given you a general overview of the Greek mythology family tree and how the main Greek and Roman gods are related. Once again if you'd like to buy the poster version of the chart you can head over to my website useful charts calm if you find history genealogy and monarchies interesting be sure to subscribe to the channel. lf you check the playlists, you'll find that I have videos covering the family trees of famous dynasties from all over the world and to see what else I'm up to follow me on Twitter or Instagram thanks for watching. กจิ กรรมท่ี 3 ฝกึ ฟงั และเตมิ คาศพั ทท์ ่ีหายไป (5 คะแนน) Direction: Watch and listen to video from the beginning to Labor 6 (at min25.15). You will have to listen to the script attentionally and fill in the missing word or phrase in item no.1-25. 1. Zeus swore an oath to give ______________ to the next descendant of Perseus thinking it would be his son _____________. 2. When Heracles was about to be born, she used her magic to __________the birth while also speeding up the birth of another descendant of ____________a child called the Eurystheus as Eurydius had been born just mere seconds before Heracles. 3. After Heracles was born Zeus brought him up to Hera’s bed chamber on Olympus as she was sleeping Zeus placed the infant on Hera’s breast where Heracles was able to feed on the goddess's milk stealing some of her ____________ for himself startled. Hera woke up and threw the baby off her chest with milk spraying across the heaven this milk would settle out in space becoming known as __________________. 4. Hera dispelled her magic lifting her illusion from Heracles eyes. The hero watched in horror as the monsters transformed back into their original form _____________ now lay dead before him, he frantically shook their bodies trying to wake them up tears flooding from his eyes but it was too late Hera's
133 magic had done its job and he would now forever live with ____________ of having murdered his own wife and children. 5. Just as Heracles was about to begin the journey, the Oracle stopped him and saying that if he completed his service then his father Zeus would make him______________. 6. The king instructed him to carry out _____ labors over a period of ______ years. These labors however would have to be without any ___________assistance or payment. Labor 1 7. King Eurystheus told him of a ferocious lion that has been terrorizing a village in ______________of his kingdom named _____________. 8. He pulled out one of its razor-sharp craws using it to skin the animal. He then threw the pelt around his shoulders like a __________and used the lion’s head as a ________________. Labor 2 9. He traveled to lake Lerner near the city of ___________where the fearsome water serpent had made its home as the __________, this beast had ______heads. One of which was _________with its blood the most poisonous. 10. However, Hera want to make the challenge more difficult hiding a ______________ deep within the lake. 11. Heracles cut off the immortal head and with it still hissing buried it under _______________near the lake, he then knelt aside _______________ dipping the tip of his arrows and its________________. Labor 3 12. His third labor Heracles was ordered to catch ______________in hind and bring it back________. 13. Eurystheus had chosen the hind because not only was it extremely fast being nearly impossible to catch but it was also sacred to ________________ who used the animals to pull her chariot. Labor 4 14. For his fourth labor Eurystheus sent Heracles to mount Amaranthus to capture alive ____________that had been ravaging the area. 15. Heracles set off with ____________even deciding to visit his friend Centaur fullest along the way. Centaurs were ____________________creatures renowned acting more like beasts than human. 16. He decided to crack open and take a large helping of little did he know that the wine was communal property of all the centaurs some think the god _____________had gifted them four generations earlier 17. Heracles had ______________shot his teacher Chiron who fell down screaming in agony as he was immortal _____________did not kill him but with the hydra's poison causing through his veins.
134 18. Upon seeing ________________Eurystheus was petrified quickly jumping into __________________ refusing to come out until Heracles removed the boar from the room. Labor 5 19. Foe his fifth labor Heracles was tasked to __________________in a single day using only his hands and without any assistance. 20. The stable belongs to ____________from the neighboring kingdom of Ellis. They housed immortal ___________and had not been cleaned for _______ years. 21. Eurystheus would _______ to count this labor as one of the ten as he claimed the task had been accomplished for payment in the form of a portion of the immortal herd. Labor 6 22. His sixth labor Heracles was tasked with driving away _______________ birds from lakes Timfarlas. These birds were sacred to Ares and sported iron beaks capable of tearing through __________________. 23. Luckily for Heracles his father Zeus had been _______________ him from the heavens while Zeus didn't interfere directly for fear of upsetting Hera further, he did ask that other gods assist Heracles when they could. In this instance ____________was keeping watch on Heracles and saw an opportunity to help her half-brother. 24. As Heracles was surveying the area, he suddenly heard the clanging of metal behind him when he turned around, he saw ___________ disappear into the dense wood when he approached, he found ____________________ resting on the fallen trunk of an old willow tree the quality of which could only have been made on Olympus 25. He began to shake them the noise they produced caused the birds enormous pain with hundreds of them rising from the lake crying out with _________________ as the birds sawed up into the sky, they formed a great flock to which Heracles took his aim he drew back his bow using _____________ dipped in the ____________ to kill the birds instantly those that survived fled the lake กจิ กรรม ที่ 4 (10 คะแนน) คลปิ วดี โี อเลา่ เรอ่ื งราวเทวตานานวรี บรุ ษุ ทช่ี น่ื ชอบ งานชิน้ นีม้ วี ัตถุประสงค์เพือ่ ใหน้ ักศึกษาฝกึ ถา่ ยทอดการเลา่ เรือ่ งราวเกยี่ วกบั เทวตานานท่ีช่ืน ชอบ เพือ่ สร้างฐานความรู้ ความเขา้ ใจ ส่งเสรมิ ใหน้ ักศกึ ษาพัฒนาทักษะการเล่าเรื่องและบรรยายเปน็ ภาษาอังกฤษ รวมฝกึ ทกั ษะการประสานงาน การทางานเปน็ ทีม และทกั ษะการแก้ปญั หา 1. งานกลุ่ม 3-5 คน โดยตอ้ งมกี ารแบ่งหน้าที่ในการทางานชัดเจน 2. ให้นกั ศึกษาอัดวดี โี อคลิปเลา่ เรื่องเทวตานานที่ชนื่ ชอบ 1 เรือ่ ง (อนุญาตใหเ้ ล่าเปน็ ภาษาไทย) จากเร่อื งดงั ตอ่ ไปน้ี
135 a. Hercules b. Perseus c. Oedipus d. Jason and the Argonaut e. Trojan war 3. วดี ีโอมคี วามยาว 5-7 นาที 4. สามารถด้านเทคนิคการตดั ต่อได้ 5. การอดั วีดโี อ ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งนดั รวมตัวกัน (ตามมาตรการโควดิ ) โดยนักศึกษาสามารถปรกึ ษากัน หาวิธีการอดั วีดีโอผ่านชอ่ งทางออนไลน์ได้ 6. ใส่คาบรรยายภาษาองั กฤษให้ตรงกับเรอื่ งราวทีเ่ ลา่ 7. ให้นาเสนองานไฟลว์ ดี โี อในคาบเรยี น ในสัปดาหส์ ุดท้าย พร้อมเขยี นสรปุ และนาเสนอปัญหาที่ พบในการทางานรวมถงึ วธิ กี ารแก้ไขปัญหา เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน เนอ้ื หา 5 คะแนน ความถูกต้องของเนอื้ หาของเรอื่ งราวทน่ี ามาเลา่ 5 คะแนน การเรยี บเรียง ลาดบั และการส่ือสาร 5 คะแนน ความน่าสนใจในภาษาหรอื บทในการเลา่ เร่อื ง 5 คะแนน บทบรรยายภาษาองั กฤษในวีดโี อ 5 คะแนน เทคนคิ การถา่ ยทาและนาเสนอ 5 คะแนน ความสมบูรณข์ องภาพและเสียง 5 คะแนน รปู ภาพ/วิดีโอมีความสวยงาม น่าดึงดูด 5 คะแนน ความคดิ สรา้ งสรรค์ 5 คะแนน First impression สร้างความน่าสนใจเมื่อเปิดดคู ร้งั แรก 5 คะแนน Attention สรา้ งความนา่ สนใจให้สามารถดจู นจบ Creativity ความคดิ สร้างสรรคใ์ นการนาเสนอโดยรวม เทคนิคพิเศษตา่ งๆในการตดั 5 คะแนน ตอ่ Special effects ความแปลกใหมใ่ นการนาเสนอ เทคนคิ พเิ ศษ การใช้เสียงดนตรี 50 effect เทคนิคการตัดตอ่ 50 คะแนน / 5 = 10 คะแนน หมายเหตุ คลปวดี ีโอท่ีนักศกึ ษาส่งชิน้ งาน ถือเป็นลิขสิทธ์ของรายวิชา ENP2402 เทพนิยายท่เี ปน็ พน้ื ฐาน ของวรรณคดี โปรแกรมวิชาภาษาตะวนั ตก คณะมนุษยศาสตร์ ผูส้ อนสามารถนาภาพผลงานนกั ศกึ ษาไป แสดงและเผยแพร่ จดั แสดงผลงานของนักศึกษา โดยมวี ตั ถุประสงค์เพอ่ื สนับสนนุ สง่ เสริมดา้ นการศกึ ษา และพัฒนาทกั ษะภาษาอังกฤษได้
136 กจิ กรรมท่ี 5 (10 คะแนน) บนั ทกึ ภาพถา่ ย งานช้ินนมี้ ีวตั ถุประสงค์เพื่อให้นกั ศึกษาถา่ ยทอดเรื่องราวเกย่ี วกบั เทวตานานผ่านมุมมองของ ตนเองผา่ นภาพถา่ ย เพอื่ สร้างฐานความรู้ ความเข้าใจ จากสิ่งรอบตวั ส่งเสริมใหน้ กั ศึกษามีจินตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์และพฒั นาทักษะการเขียนคาบรรยายภาพภาษาอังกฤษ 1. กาหนดใหน้ ักศึกษาถา่ ยภาพถา่ ยทอดมมุ มอง ในหัวขอ้ เรอ่ื งราวทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับเรอ่ื งราวตานาน เทพปกรณมั กรีกโรมนั ท่มี เี นอื้ หาจากรายวชิ า ENP2402 เทพนยิ ายทเ่ี ป็นพน้ื ฐานของวรรณคดี 2. เป็นการถ่ายภาพตน้ ฉบับดว้ ยฝีมอื ตนเอง ไมไ่ ดผ้ ่านกระบวนการตดั ตอ่ หรอื เอาใช้ภาพที่ ถา่ ยโดยบคุ คลอื่น หรือภาพจากInternet 3. เป็นภาพถา่ ยท่ถี า่ ยด้วยกลอ้ งดจิ ิทัลหรอื สมาร์ทโฟนของนกั ศึกษาเอง สามารถปรับสีตกแตง่ แกไ้ ขในด้านเทคนคิ ตกแต่งภาพได้ 4. สามารถถา่ ยภาพวิว ภาพปรากฏการณธ์ รรมชาติ ท้องฟ้า กอ้ นเมฆ พระอาทิตย์ พระจันทร์ ภเู ขา ตน้ น้า ทอ้ งทุ่ง ต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ และอน่ื ๆ ที่มเี ร่อื งราวเกี่ยวขอ้ งกับเน้ือหาเชื่อมโยง กับเรื่องราวเทวตานาน โดยไมป่ ระกอบไปดว้ ยเนือ้ หาลามกอนาจาร การนาเสนอความ รุนแรง หรือการจงู ใจหรือโฆษณาเชงิ พาณิชย์ 5. ส่งงานรปู แบบของไฟลใ์ นแบบมาตรฐาน .JPEG เทา่ นนั้ มีขนาด 2 เมกะไบต์ (MB) หรือ นอ้ ยกว่า แต่ขนาดของภาพต้องไมเ่ ล็กวา่ 1024×768 พกิ เซล 6. ภาพถา่ ยท่ีส่งมาให้ใสข่ อ้ มลู ระบชุ อ่ื ผู้ถ่ายและรหสั นกั ศึกษาไวม้ ุมขวาลา่ งของภาพถา่ ย เชน่ Photo by Ms. Preeyapha Wangmanee S.D. 40631240 7. ให้เขียนคาบรรยายภาษาองั กฤษที่อธบิ ายถงึ ความเช่อื มโยงภาพถ่ายกับเรอื่ งราวเทวตานา นกรีกและโรมัน ไม่เกนิ 50 คา 8. หากพบว่ามกี ารละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิหรอื แอบอา้ ง จะถกู พิจารณาใหค้ ะแนนเป็น 0 คะแนน ทันที 9. ให้สง่ งาน ภายในบเรยี นสุดทา้ ย เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน 1. ภาพเขา้ กับหัวข้อและเน้ือหาทเ่ี รียนในรายวิชา ENP2402 เทพนิยายทเ่ี ปน็ พน้ื ฐานของวรรณคดี 5 คะแนน 2. แนวคิดและความหมายของภาพ 5 คะแนน 3. เทคนิคในการถ่าย ความสวยงามและการจดั องคป์ ระกอบของภาพ 5 คะแนน 4. ชื่อผลงานภาพถา่ ยภาษาองั กฤษ 5 คะแนน 5. ความถูกตอ้ งของคาบรรยายภาพภาษาอังกฤษ 5 คะแนน 6. ความคดิ สร้างสรรคใ์ นการถ่าย 30คะแนน 25 คะแนน หาร 3 = 10 คะแนน หมายเหตุ ภาพทน่ี กั ศกึ ษาสง่ ชิ้นงาน ถอื เปน็ ลิขสิทธิ์ของรายวชิ า ENP2402 เทพนยิ ายทีเ่ ป็นพื้นฐานของ วรรณคดี โปรแกรมวิชาภาษาตะวนั ตก คณะมนุษยศาสตร์ ผ้สู อนสามารถนาภาพผลงานนกั ศกึ ษาไป แสดงและเผยแพร่ จดั นทิ รรศการภาพถ่ายผลงานของนกั ศกึ ษา โดยมวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื สนับสนุนส่งเสริม ด้านการศกึ ษาและพฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153