sheet ป1- 2563 online

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน วชิ า ดนตรี ศ. 11101 ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวยี ร์ ชื่อ ……….…..…………………นามสกุล …………………..……..……………….. ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 / ….... เลขที่ …..... ใช้สำหรบั ประกอบการเรยี นการสอนวิชาดนตรีของโรงเรียนเซนต์ฟรงั ซสี เซเวียรเ์ ท่านั้น ห้ามจำหน่าย

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ เพลงชาติ เป็นเพลงท่ใี ช้ร้องเพ่ือระลึกถงึ ความเป็นชาติไทยและใช้สาหรับเชิญธงข้นึ หรือลง จากยอดเสา เน้อื หาของเพลงแสดงถงึ ความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตริย์ และทา ให้เกดิ ความรัก ความสามัคคี และความผูกพันของคนในชาติ เพลงชาติ เน้ อื รอ้ ง พ.อ. หลวงสารานุประพันธ์ ทานอง พระเจนดุริยางค์ ประเทศไทยรวมเลือดเน้ือชาติเช้ือไทย เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดารงคงไว้ได้ท้งั มวล ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี ไทยน้ีรักสงบ แต่ถงึ รบไม่ขลาด ภาระงาน เอกราชจะไม่ให้ใครข่มข่ี ธงชาติไทย มี ....... แถบ แต่มีสี ....... สี สละเลือดทุกหยาดเป็ นชาติพลี ธงชาตไิ ทยมี ส.ี ........... ส.ี ........... สี ................... เถลิงประเทศชาตไิ ทยทวี มีชัย ชโย ให้นักเรียนระบายสธี งชาติไทยให้ถูกต้องและสวยงาม ดนตรีนา่ รู้ เม่อื ได้ยินเพลงชาตแิ ละเพลงสรรเสริญพระบารมี ทกุ คนจะต้องยืนตรง กจิ กรรมที่ 1 ให้นักเรียนฝึกอ่าน และฝึกร้องเพลงชาตไิ ทย และคัดเพลงชาติไทยตัวบรรจงเตม็ บรรทดั 1 2 3 4 5 6 7 8



โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชื่อ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ มาตรฐานและตวั ช้ ีวดั ศ 2.1 ป.1/1 ร้วู ่าส่งิ ต่างๆ สามารถก่อกาเนดิ เสยี งท่แี ตกต่างกนั ศ 2.1 ป.1/2 บอกลกั ษณะของเสยี งดงั -เบา และความช้า-เรว็ ของจงั หวะ กาเนดิ เกดิ เป็ นเสยี ง ความหมายของเสยี ง เสียง เกดิ จากการส่นั สะเทอื นหรือการส่นั ไหวของส่งิ ต่างๆ แล้วล่องลอยตาม อากาศมาเข้าหูของเรา จึงทาให้เราได้ยนิ เสยี ง ซ่งึ เสยี งท่เี กดิ ข้ึนน้นั มมี ากมายหลายลักษณะ ทีม่ าของเสยี ง เสยี งต่างๆ ท่เี ราได้ยนิ กนั อยู่ทุกวัน สามารถจาแนกท่มี าของเสยี งได้ 2 แหล่งใหญ่ ๆ คือ 1. เสียงที่เกดิ จากธรรมชาติ เช่น เสยี งลมพัดต้นไม้ เสยี งสตั ว์ร้อง เสยี งฟ้ าผ่า เสยี งนา้ ไหล เสยี งต้นไผ่ เสยี ดสกี นั เสยี งนา้ ตก เป็นต้น 2. เสยี งทีไ่ ม่ไดเ้ กิดจากธรรมชาติ หรือเสยี งทีม่ นุษยส์ รา้ งข้ ึน เช่น เสยี งรถยนต์ เสยี งรถไฟ เสยี งนาฬิกา เดิน เสยี งเคร่ืองบิน เสยี งเรือยนต์ เสยี งเคร่ืองดนตรีต่าง ๆ เป็นต้น เสยี งท่เี ราได้ยนิ น้นั อาจเป็นเสยี งท่ไี พเราะน่าฟัง หรือเสยี งท่ดี งั น่ากลัว เราอาจชอบหรือไม่ชอบฟัง แต่หากเรายังคงได้ยนิ เสยี งต่าง ๆ เหล่าน้อี ยู่ กแ็ สดงว่าเสยี งยงั คงอยู่รอบ ๆ ตวั เรา ภาระงาน ให้นกั เรียนเลียนเสยี งตามภาพต่อไปน้ี ดนตรีน่ารู้ นักเรียนร้ไู หมว่า เสยี งท่เี ราได้ยนิ รอบ ๆ ตวั น้นั สามารถให้ความร้สู กึ และอารมณท์ ่ตี ่างกนั

ลักษณะของเสยี งต่างๆท่เี ราได้ยินน้ัน ล้วนเป็นเสยี งท่เี กดิ ข้ึนในชีวิตประจาวันท้งั ส้นิ ซ่งึ เราสามารถ เลียนเสยี งต่างๆท่เี กดิ ข้นึ ท่เี กดิ จากธรรมชาติ และเสยี งท่มี นุษย์สร้างข้นึ ได้ นอกจากน้เี รายงั นามาดัดแปลง และแต่งเป็นเพลงท่ไี พเราะช่วยให้เกดิ ความสนุกสนานได้ เช่น เพลงลูกเป็ ดอาบน้า เน้อื ร้อง – ทานอง สกุ รี ไกรเลิศ กา้ บ กา้ บ กา้ บ เป็ดอาบนา้ ในคลอง ตากจ็ ้องแลมอง เพราะในคลองมหี อย ปลา ปู กา้ บ กา้ บ กา้ บ เป็ดอาบนา้ ในคู ตากจ็ ้องแลดู เพราะในคูมีหอย ปู ปลา นอกจากน้ี การฟังเพลงและการร้องเพลงท่เี ลียนเสยี งต่างๆน้นั ยังช่วยฝึกให้เราเป็นคนช่างสงั เกต และช่างจดจาได้อกี ด้วย คุณสมบตั ิของเสียง ทุกๆวนั เราได้ยินเสยี งต่างๆมากมาย และเสยี งท่เี ราได้ยนิ น้นั จะมลี ักษณะท่แี ตกต่างกนั ดงั น้ี 1. เสียงดงั เช่น เสยี งตะโกน เสยี งเคร่ืองยนต์ เสยี งเบา เช่น เสยี งกระซบิ เสยี งลมพัด 2. เสยี งส้นั เช่น เสยี งเคาะประตู เสยี งหยดนา้ จากกอ๊ ก เสียงยาว เช่น เสยี งตีระฆงั เสยี งนาฬิกาปลุก 3. เสยี งสูง เช่น เสยี งกร๊ีด เสยี งเป่ านกหวีด เสยี งตา่ เช่น เสยี งเดาะลูกบอล เสยี งตกี ลอง นอกจากน้ี เสยี งท่เี ราได้ยนิ น้นั ทาให้เราสามารถรับรู้เก่ยี วกบั ส่งิ ท่อี ยู่รอบๆตัวเราได้ เช่น เสยี ง รถพยาบาล ทาให้เรารับร้วู ่ามผี ู้ป่ วยหรือผ้บู าดเจบ็ แล้วรถพยาบาลกก็ าลังไปรับและรีบนาตัวไปส่งท่ี โรงพยาบาล เสยี งรถดบั เพลงิ ทาให้เรารับรู้ว่าเกดิ เหตุการณไ์ ฟไหม้ ให้รีบไปหลบในท่ๆี ปลอดภัย ลกั ษณะของเสยี งต่างๆ ท่เี ราได้ยนิ จะทำใหเ้ กดิ ความรู้สกึ ท่แี ตกตา่ งกนั ออกไป เช่นเสียงน้ำตกทำให้เรารสู้ กึ สดชื่น แต่เสยี งฟ้าร้องฟา้ ผา่ หรือเสยี งสุนัขเหา่ อาจ ทำใหเ้ รารู้สึกกลัวหรือตกใจ เสยี งบางประเภททม่ี เี สยี งดงั มากๆ อาจทำใหเ้ ปน็ อันตรายต่อหูของเราได้ เช่นเสยี งเครื่องยนต์ เสียงเคร่อื งจกั ร เสียงเพลงทเ่ี ราฟังจากการใช้หฟู งั แลว้ เปดิ ดังมากๆ เหลา่ นีอ้ าจทำใหเ้ กิดอาการหูหนวกและปวดหไู ด้

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชื่อ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ ช้ ินงาน ใบกจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองแหล่งกาเนิดเสยี ง คาช้ ีแจง ตอนที่ 1 เขยี นเคร่ืองหมาย ล้อมรอบตวั อกั ษรหน้าคาตอบท่ถี ูกต้อง 1. อวยั วะใดใชฟ้ ังเสยี งต่างๆ ก ตา ข หู ค ปาก 2. เสียงใดเป็ นเสียงที่เกิดจากธรรมชาติ ก เสยี งฟ้ าร้อง ข เสยี งนกหวดี ค เสยี งโทรศพั ท์ 3. เสียงใดไม่ไดเ้ กิดจากธรรมชาติ ก เสยี งนา้ ไหล ข เสยี งลมพัด ค เสยี งดนตรี 4. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก เสยี งร้องเพลงเป็นเสยี งท่เี กดิ จากธรรมชาติ ข เสยี งฟ้ าผ่าเป็นเสยี งท่เี กดิ จากธรรมชาติ ค เสยี งพดู เป็นเสยี งท่มี นุษย์สร้างข้ึน 5. ปัง ปัง เสียงน้ เี กิดจากสงิ่ ใด ก ยิงปื น ข กระจกแตก ค ของตกลงพ้ืน 6. มอ มอ เป็ นเสยี งของสตั วใ์ นขอ้ ใด กข ค ค ฟ้ าผ่า 7. ธรรมชาติในขอ้ ใดไม่ทาใหเ้ กิดเสียง ค ฉ่า ฉ่า ค เสยี งฟ้ าผ่า ก ฟ้ าแลบ ข ฟ้ าร้อง ค 8. เสยี งน้าตก มเี สียงอย่างไร ก ซ่า ซ่า ข ซู่ ซู่ 9. เสยี งในขอ้ ใดดงั มากทีส่ ดุ ก เสยี งนา้ ตก ข เสยี งลมพัด 10. สตั วใ์ นขอ้ ใด มเี สียงรอ้ งต่างจากพวก กข

11. ถา้ เราหูหนวก จะเป็ นอย่างไร ก มองไม่เหน็ ข กนิ อาหารไม่ได้ ค ไม่ได้ยินเสยี ง ค เสยี งใหญ่ 12. นกหวีดมีลกั ษณะเสียงใด ค เสยี งปิ ดประตู ค เสยี งร้องเพลง ก เสยี งต่า ข เสยี งสงู ค เสยี งบินของแมลง ค การคลาน 13. เสยี งใดเป็ นเสียงส้นั ทีส่ ุด ก เสยี งไก่ขนั ข เสยี งฟ้ าร้อง 14. เสียงใดเป็ นเสยี งดงั ทีส่ ดุ ก เสยี งปื น ข เสยี งตบมอื 15. เสยี งใดเป็ นเสยี งเบาที่สดุ ก เสยี งช้างร้อง ข เสยี งเคร่ืองดนตรี 16. ขอ้ ใดมจี งั หวะในการเคลอื่ นไหวปานกลาง ก การว่งิ ข การเดิน 17. ภาพใดเคลอื่ นทีช่ า้ ทีส่ ดุ กข ค 18. ภาพใดเคลอื่ นทีเ่ ร็วทีส่ ดุ กขค 19. จากภาพมีความสมั พนั ธก์ บั ขอ้ ใดมากที่สดุ ก ตูม เกดิ จากธรรมชาติ เสยี งเบา เสยี งส้นั สดช่ืน ข ป๋ ุง เกดิ จากธรรมชาติ เสยี งดงั เสยี งส้นั ตกใจ ค ตูม มนุษย์สร้างข้นึ เสยี งดงั เสยี งยาว ตกใจ 20. จากภาพมคี วามสมั พนั ธก์ บั ขอ้ ใดมากทีส่ ดุ ก แปร๋น แปร๋น เกดิ จากธรรมชาติ เคล่ือนท่ชี ้า เสยี งดัง เสยี งยาว ตกใจ ข เอง๋ เอง๋ เกดิ จากธรรมชาติ เคล่ือนท่เี รว็ เสยี งดงั เสยี งส้นั ตกใจ ค แปร๋น แปร๋น มนุษยส์ ร้างข้ึน เคล่ือนท่เี รว็ เสยี งเบา เสยี งส้นั ตกใจ

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชื่อ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ ช้ ินงาน ใบกจิ กรรมท่ี 2 เร่ืองแหล่งกาเนดิ เสยี ง คาช้ ีแจง ตอนที่ 1 สงั เกตภาพแล้วให้ระบายสลี งในช่อง ดังน้ี เสยี งท่เี กดิ ข้นึ จากธรรมชาติ ให้ระบาย สีเขียว เสยี งท่มี นุษย์สร้างข้ึน ให้ระบาย สีแดง

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ ช้ ินงาน ใบกจิ กรรมท่ี 3 เร่ืองแหล่งกาเนิดเสยี ง คาช้ ีแจง ตอนที่ 3 สงั เกตภาพแล้วจับคู่เสยี งกบั ภาพให้ถูกต้อง อูด๊ ๆ มอ ๆ โฮ่งๆ เจ๊ ียกๆ เอก้ อ้ ี เอก้ เอก้ แปรน๋ ๆ ตูม ฉิ่ง ฉบั บร๋ืนๆ กร๊ิง ๆ

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ ช้ ินงาน ใบกจิ กรรมท่ี 4 เร่ืองแหล่งกาเนดิ เสยี ง คาช้ ีแจง ตอนที่ 1 เขยี นเคร่ืองหมาย ล้อมรอบตัวอกั ษรหน้าคาตอบท่ถี ูกต้อง 1. เสยี งใดเป็ นเสียงทีเ่ กิดจากธรรมชาติ ก เสยี งลมพัด ข เสยี งนกหวดี ค เสยี งเทนา้ ใส่ถงั 2. เสยี งใดไม่ใชเ่ สียงที่เกดิ จากธรรมชาติ ก เสยี งฟ้ าผ่า ข เสยี งนา้ ไหล ค เสยี งนาฬกิ าปลุก 3. มา้ รอ้ ง ตรงกบั ลกั ษณะของเสยี งใด ก เสยี งสงู ข เสยี งต่า ค เสยี งทุ้ม 4. กบรอ้ ง ตรงกบั ลกั ษณะของเสยี งใด ก เสยี งสงู ข เสยี งต่า ค เสยี งยาว 5. ขอ้ ใดมีลกั ษณะของเสยี งที่ดงั ทีส่ ดุ ก เสยี งปื น ข เสยี งนกหวีด ค เสยี งพลดุ อกไม้ไฟ 6. ขอ้ ใดมลี กั ษณะของเสียงที่ยาวที่สดุ ก เสยี งไก่ขัน ข เสยี งเคาะประตู ค เสยี งสนุ ัขกาลังเห่า 7. เด็กทารกคลาน ตรงกบั จังหวะใดมากที่สุด ก จังหวะช้า ข จังหวะเรว็ ค จงั หวะปานกลาง 8. การแข่งรถยนตใ์ นสนามแข่ง ตรงกบั จงั หวะใดมากทีส่ ดุ ก จังหวะช้า ข จังหวะเรว็ ค จังหวะปานกลาง 9. ขอ้ ใดต่อไปน้ ตี รงกบั จงั หวะปานกลางมากที่สุด ก ว่งิ ออกกาลังกาย ข แข่งรถในสนามแข่ง ค เดนิ เล่นในสวนสาธารณะ 10. สงิ่ ทีเ่ ป็ นตวั กาหนดความชา้ –เร็วของเพลงคือขอ้ ใด ก จงั หวะ ข ทานอง ค สสี นั ของเสยี ง 11. ขอ้ ใดทีส่ ามารถทาใหเ้ กดิ เป็ นจังหวะได้ ก เคาะโตะ๊ ข ดีดน้วิ มอื ค ถกู ทุกข้อ 12. การเปล่งเสยี งตามเน้ ือรอ้ งโดยยดึ ทานองและจงั หวะเป็ นหลกั เรียกว่าอะไร ก การร้องเพลง ข การพากย์การแสดง ค การอ่านบทกลอนประกอบจังหวะ

13. เพลงที่มรี ะดบั เสียงเบาควรจะเคลอื่ นไหวร่างกายอย่างไรใหเ้ กิดความสมั พนั ธก์ นั ที่สดุ ก กระโดดโลดเต้น ข ดีดน้วิ มอื ตามจังหวะ ค ตบมอื แรง ๆ ตามจังหวะ 14. เพลงที่มจี งั หวะเร็วควรจะเคลอื่ นไหวร่างกายอย่างไรใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธก์ นั ที่สดุ ก กระโดดโลดเต้น ข ร่ายราท่วงทา่ ไปตามจนิ ตนาการ ค ดีดน้วิ มือตามจังหวะตกของเพลง 15. เพลงที่ใชร้ อ้ งปลอบใหเ้ ด็กนอนหลบั คือเพลงประเภทใด ก เพลงปลุกใจ ข เพลงกล่อมเดก็ ค เพลงประกอบการละเล่น 16. ขอ้ ใดไม่ใชเ่ พลงประกอบการละเล่น ก เพลงโพงพาง ข เพลงนกเขาขัน ค เพลงรีรีข้าวสาร 17. เพลงชาติถือเป็ นเพลงประเภทใด ก เพลงสาคญั ข เพลงกล่อมเดก็ ค เพลงประกอบการละเล่น 18. ขอ้ ใดไม่ใชเ่ พลงพ้ นื บา้ นภาคเหนือ ก เพลงซอ ข เพลงจอ๊ ย ค เพลงโคราช 19. เครือ่ งดนตรีทีใ่ ชบ้ รรเลงประกอบในเพลงพ้ ืนบา้ นส่วนใหญ่เป็ นเครื่องดนตรีประเภทใด ก เคร่ืองกากบั จงั หวะ ข เคร่ืองดาเนนิ ทานอง ค เคร่ืองบรรเลงสอดประสาน 20. เพลงพ้ นื บา้ นมีลกั ษณะตรงกบั ขอ้ ใด ก ใช้สาเนียงการร้องเป็นภาษาถ่นิ ข ใช้เคร่ืองดนตรีท่ปี ระดิษฐ์ข้นึ เอง ค ถกู ทกุ ข้อ คาช้ ีแจง ตอนที่ 2 ให้นักเรียนระบายสใี ห้สวยงาม และตอบคาถามให้ถกู ต้อง ภาพที่เห็นคือ ................................. มแี หล่งกาเนดิ เสียงมาจาก ................................................

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ……………………………………………นามสกลุ …………………………..……………….………………..ช้นั ป.1/….… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ มาตรฐานและตวั ช้ ีวดั ศ 2.1 ป.1/5 บอกความเก่ยี วข้องของเพลงท่ใี ช้ในชีวิตประจาวนั กาเนดิ ดนตรี ความเป็ นมาและวิวฒั นาการทางดนตรี ดนตรี เกดิ จากธรรมชาติท่มี นุษย์ดัดแปลงปรงุ แต่งให้มีความไพเราะ ใส่ความรู้สกึ นึกคดิ และอารมณ์ ต่างๆ แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงให้ผู้อ่นื รับรู้และร้สู กึ ถงึ ความต้องการส่อื อารมณน์ ้นั ๆ การใชป้ ระโยชนข์ องดนตรี ซ่งึ ประกอบด้วยการร้อง การรา การบรรเลงและการละเล่นต่างๆประกอบ การบรรเลงดนตรี เพ่ือจุดประสงค์ท่สี าคัญดังน้ี 1. เพ่ือเป็นเคร่ืองสกั การบูชาเทพเจ้าและส่งิ ศักด์สิ ทิ ธ์ิ หรือให้เกยี รติอย่างสงู 2. เพ่ือแสดงความเป็นมติ ร หรือแสดงความยินดี 3. เพ่ือแสดงความบนั เทงิ และการผ่อนคลายความเคร่งเครียดทาง อารมณแ์ ละเพ่ือการพักผ่อน 4. เพ่ือแสดงอานุภาพหรือแสดงความก้าวหน้าในกจิ ประจาชาตหิ รือหมู่เหล่าทางวัฒนธรรม ประเภทของดนตรี ดนตรีเป็นส่งิ ท่ที าให้จติ ใจเบกิ บาน ร่าเริงแจ่มใส ดนตรีไม่มีการแบ่งชนช้ันวรรณะ จึงถอื ได้ว่า ดนตรีคือภาษาสากลของมนุษยชาติ ดนตรีแบ่งออกเป็น 2 ชนดิ ได้แก่ ดนตรีสากล ดนตรีไทย 3 1. ดนตรีสากล เร่ิมแรกจะใช้ร้องในโบสถต์ ่อมาใช้ร้อง ในงานต่างๆ มที ้งั ร้องเด่ยี ว และการประสานเสยี ง บทเพลงจะ ง่าย สนุกสนาน สามารถทาท่าทางประกอบเพลงได้ แต่การขบั ร้องจะไม่มีการเอ้อื นเสยี ง 2. ดนตรีไทย มลี ักษณะทานองท่นี ุ่มนวล อ่อนหวานส่วนใหญ่ ในบทเพลงจะมีทานองมากกว่าเน้อื ร้อง และมกี ารเอ้อื นเสยี งเพ่ือให้ เกดิ ความไพเราะมากย่ิงข้ึน นอกจากน้ีจะใช้ฉ่ิงตกี ากบั จงั หวะ วง ดนตรีไทยมีหลายชนดิ เช่น วงป่ี พาทย์ วงเคร่ืองสาย และวงมโหรี

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ………………………..……..………………นามสกุล……………..…………….………………….………………..ช้นั ป.1/…....… เลขที่ ……..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ คาช้ีแจง ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรียนบอกชือ่ เครื่องดนตรีตามรูปภาพที่กาหนดให้ ทรัมเปต จะเข้ ไวโอลิน ซออู้ ฉาบ ระนาดทุ้ม เปี ยโน แซกโซโฟน แทมบูริน ทรอมโบน กลองชุด แคน ตะโพน กตี าร์ กรับ ฉ่ิง ซอด้วง ระนาดเอก ไทแองเก้ลิ เบลไลล่า ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนนาหมายเลขเครือ่ งดนตรีจากตอนที่ 1 มาแยกชนดิ ของเครื่องดนตรีใหถ้ ูกตอ้ ง

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ……………………………………………นามสกลุ ………………………..………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่……... ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ ประเภทของเครื่องดนตรี เครื่องดนตรี แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ เคร่ืองดีด เคร่ืองสี เคร่ืองตี เคร่ืองเป่ า ซ่งึ เราสามารถแบ่งประเภทของเคร่ืองดนตรีได้ โดย สงั เกตจากลักษณะของการกระทาให้เกดิ เสยี งของเคร่ืองดนตรีน้นั ๆ ลักษณะของการทาให้เกดิ เสยี งของเคร่ืองดนตรี สามารถแบ่งเคร่ืองดนตรีออกเป็นประเภทได้ ดงั น้ี 1.เครื่องดนตรีประเภทเครื่องดดี เช่นกตี าร์ ฮาร์ป กระจบั ป่ี ซึง พิณ จะเข้ เป็นต้น เสยี งของเคร่ืองดนตรีเหล่าน้ีเกดิ จากการส่นั ไหวของสายท่ขี ึงให้ตึงด้วยลวด เอน็ สตั ว์ หรือเส้นไหมและทาให้เกดิ เสยี งได้ด้วยการดีดด้วยน้วิ มือหรือไม้ดีด 2. เครือ่ งดนตรีประเภทเครือ่ งสี เช่นซออู้ ซอด้วง ซอสามสาย สะล้อ ไวโอลิน วโิ อลา เชลโล่ ดับเบิลเบส เป็นต้น เสยี งของเคร่ืองดนตรีเหล่าน้ีเกดิ จากการเสยี ดสกี นั ของวตั ถุท่ขี ึง ให้ตงึ ซ่ึงทาด้วยลวด เอน็ หรือเส้นไหม และทาให้เกดิ เสยี งได้โดยการสดี ้วยคนั ชักหรือ คนั สซี ่งึ ขึงตึงด้วยหางม้า 3. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี เช่นฉ่ิง ฉาบ กรับ โหม่ง ระนาด กลอง ขิม และเคร่ืองทาจงั หวะต่างๆ เป็นต้น เสยี งของเคร่ืองดนตรีเหล่าน้เี กดิ จากการส่นั ไหว ของไม้ โลหะ หนังสตั ว์ท่ขี ึงตงึ หรือวสั ดุอ่นื ๆ ทาให้เกดิ เสยี งได้โดยการตีด้วยไม้ หรือใช้มอื ตี 4. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่ า เช่น ขลุ่ย ป่ี แคน แตร แซกโซโฟน คาริเนต ฟลทุ เป็นต้น เสยี งของเคร่ืองดนตรีเหล่าน้เี กดิ จากการส่นั ไหวของวัตถุซ่งึ ทาด้วยช้ินไม้ ต้นอ้อ ไม้ไผ่ หรือแผ่นโลหะบางๆ เรียกว่า “ล้ิน” และทาให้เกดิ เสยี งได้โดยการเป่ าลมเข้าไปในลาตวั ของ เคร่ืองดนตรีโดยให้ผ่านล้ินของเคร่ืองดนตรี

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ……………………….………………………นามสกลุ ……………………………………………….………………..ช้นั ป.1/……..… เลขที่ ……..... ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ คาช้ ีแจง นกั เรียนทราบหรือไม่ว่าวิธีใชห้ รือวิธีการเกดิ เสียงของเครือ่ งดนตรีเหล่าน้ ีทาไดอ้ ย่างไร ดดี สี ตี เป่ า

ชิ้นงาน เรือ่ งเครื่องดนตรี 1.ให้นกั เรียนสำรวจวา่ ทบี่ า้ นของนกั เรยี นมีเครอื่ งดนตรีหรือไม่ ถ้ามี มีเคร่อื งดนตรีอะไรบา้ ง ตอบ 2.ใหน้ กั เรยี นหาภาพเครอ่ื งดนตรีหรือวาดภาพพร้อมท้งั ระบายสี เครื่องดนตรที ี่ชอบ แลว้ ตอบคำถามให้ถกู ตอ้ ง

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชื่อ ……………..……………………………นามสกลุ ………………………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่ ….…... ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ วิธีเกบ็ รกั ษาเครือ่ งดนตรี ภาระงาน ตอบคาถามจากภาพ เคร่ืองดนตรีท่เี หน็ มชี ่ือว่า................. ทาให้เกดิ เสยี งได้โดยการ................. จดั อยู่ในประเภทเคร่ือง................... การเล่นดนตรี นักเรียนควรร้จู กั วิธกี ารใช้เคร่ืองดนตรีประเภท ต่างๆให้เป็นอย่างดี ท้งั น้เี พ่ือให้เกดิ ความไพเราะและช่วยให้เคร่ือง ดนตรีทนทาน ไม่ชารดุ เสยี หายไปอย่างรวดเรว็ โดยพ้ืนฐานแล้ว ต้องร้วู ่าเคร่ืองดนตรีช้นิ น้นั ๆสามารถทาให้เกดิ เสยี งได้ในลักษณะ ใดแล้วเรากค็ วรเล่นให้ถูกวธิ ี วิธีการเก็บรกั ษาเครือ่ งดนตรี นกั เรียนควรปฏบิ ัติ ดังน้ี 1. เล่นเคร่ืองดนตรีให้ถูกวธิ ี 2. วางเคร่ืองดนตรีค่อยๆ ไม่ควรโยนเล่นกนั 3. เม่อื เล่นเสรจ็ แล้ว ควรเกบ็ เคร่ืองดนตรีเข้าท่ใี ห้เรียบร้อย การเกบ็ รักษาเคร่ืองดนตรี สามารถช่วยให้อายุการใช้งานของเคร่ืองดนตรีนานข้ึน นักเรียนบางคนเม่อื เล่นเคร่ืองดนตรีเสรจ็ มกั จะไม่เกบ็ รักษา บางคนมกั โยนหรือ วางแรงๆทาให้เคร่ืองดนตรีชารุดหรือเสยี หายได้

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชื่อ ……………..……………………………นามสกลุ ………………………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่ ….…... ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ คาช้ ีแจง ตอนที่ 1 ให้นกั เรียนทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อความท่เี หน็ ว่า ควรทา และ ทาเคร่ืองหมาย หน้าข้อความท่เี หน็ ว่า ไม่ควรทา ……….. 1 . เอเป่ าขลุ่ยเสรจ็ แล้วนาไปวางไว้บนโตะ๊ กนิ ข้าว ……….. 2 . สมศรีตีขิมเสรจ็ กเ็ กบ็ ขิมใส่กระเป๋ าเข้าท่ี ……….. 3 . แดงวางฉ่ิงไว้ท่ขี ้ันบนั ได ……….. 4 . อ้วนเป่ าป่ี เสรจ็ แล้วเชด็ จนสะอาด แล้วเกบ็ ใส่ซองเข้าต้เู รียบร้อย ……….. 5 . ปาล์มโยนกรับไว้ในต้เู กบ็ ของ ……….. 6 . นุตเิ กบ็ ไม้ตีระนาดไว้บนหลังตู้เยน็ ……….. 7 . สารินเม่ือซ้อมระนาดเสรจ็ จะเชด็ และใช้ถุงผ้าแห้งคลุมเกบ็ เข้าท่ี ……….. 8 . บีวางเคร่ืองดนตรีอย่างระมัดระวงั ……….. 9 . มานะนาขลุ่ยไปเล่นฟันดาบกบั เพ่ือน ……….. 10 . สมทรงวางซอไว้กลางบ้าน ตอนที่ 2 ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย ในช่อง ท่เี หน็ ว่าปฏบิ ตั ิได้ ถูกต้อง และ ทาเคร่ืองหมาย ในช่อง ท่เี หน็ ว่าปฏบิ ตั ิได้ ไม่ถูกต้อง 1. 2. 3. 4. 5. 6.

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ………………………..…………………นามสกุล…………..……………………………….………………..ช้นั ป.1/…..… เลขที่…..…. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ กจิ กรรมดนตรี 1.การรอ้ งเพลง หมายถงึ การเปล่งเสยี งตามเน้อื ร้อง โดยยดึ ทานอง และจงั หวะเป็นสาคัญ เสยี งร้องอาจเป็นเสยี งท่เี ปล่งออกมาโดยไม่มเี น้อื ร้องหรือมีเน้ือร้องกไ็ ด้ ซ่งึ ผู้ร้องต้องใส่ อารมณ์และความร้สู กึ ลงไปในบทเพลง 2.การเล่นเครื่องดนตรี หมายถงึ การแสดงความสามารถในการใช้ เคร่ืองดนตรีทาให้เกดิ เสยี งต่างๆ ตามบทเพลงหรือตามจินตนาการ การเล่นเคร่ืองดนตรี ยังทาให้เกดิ การเรียนร้แู ละพัฒนาแนวคิดทางดนตรีโดยใช้ทกั ษะการเล่นเป็นส่อื 3. การเคาะหรือตบมือตามจงั หวะ คือ การเคาะจงั หวะด้วยอปุ กรณอ์ ย่างใดอย่างหน่งึ หรือการตบมือ ของตนเองตามจังหวะของบทเพลงท่เี ราฟัง การเข้าใจเร่ืองจังหวะและสามารถเคาะจงั หวะได้ จะเป็นพ้ืนฐาน สาคัญในการร้องเพลงหรือเล่นดนตรีต่อไป เราจงึ ต้องฝึกหัดเคาะหรือตบมือตามจังหวะของเพลงต่างๆ ให้ ถกู ต้องและคล่องแคล่วจะช่วยให้เรามีความแม่นยาในเร่ืองจงั หวะเป็นอย่างดี บทเพลงต่างๆท่เี ราได้ยนิ สามารถแบ่งประเภทของ บทเพลงตามลักษณะจงั หวะของดนตรีได้ 3 ประเภทได้แก่ 1) บทเพลงประเภทท่มี ีจงั หวะช้า 2) บทเพลงประเภทท่มี ีจังหวะปานกลาง 3) บทเพลงประเภทท่มี ีจังหวะเรว็ 4. การเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเพลง เป็นการเคล่ือนไหวร่างกายท่สี ร้างความสนุกสนาน และ ยังเป็นการออกกาลังกาย ทาให้ร่างกายแขง็ แรงได้อกี ด้วย 1) การเคลอื่ นไหวร่างกายตามระดบั เสียงของเพลง เป็นการเคล่ือนไหวร่างกาย ตามความดงั –เบาของบทเพลง เช่น เพลงท่มี เี สยี งดัง ให้ตบมอื แรงๆ หรือเพลงท่มี ีเสยี งเบา ให้ตบมอื เบาๆ หรือดีดน้วิ มอื เป็นต้น นอกจากน้ีเรายังสามารถคดิ ท่าทางการเคล่ือนไหวตาม ระดบั เสยี งของบทเพลงตามจินตนาการได้ 2) การเคลอื่ นไหวร่างกายตามจงั หวะเป็นการเคล่ือนไหวร่างกายตามความช้า–เรว็ ของจงั หวะเพลงเช่น เพลงท่มี ีจังหวะเรว็ ให้ตบมือเรว็ ๆ ส่วนเพลงท่มี ีจงั หวะช้าให้ตบมอื ช้าๆ ตามจงั หวะของบทเพลง เป็นต้น นอกจากน้ีเรายงั สามารถคดิ ทา่ ทางการเคล่ือนไหวตาม จังหวะของบทเพลงตามจนิ ตนาการได้อกี มากมาย

โรงเรียนเซนตฟ์ รงั ซีสเซเวียร์ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ดนตรี ศ 11101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 1 ชือ่ ……………………………………………นามสกลุ …………………………………………….………………..ช้นั ป.1/…… เลขที่……. ❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖❖ มาตรฐานและตวั ช้ ีวดั ศ 2.1 ป.1/3 ทอ่ งบทกลอน หรือ ร้องเพลงง่ายๆ ศ 2.1 ป.1/4 มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมดนตรีอย่างสนุกสนาน เพลงเต่า งูและกา เน้อื ร้อง-ทานอง ว่าท่ี ร.ต.อวบ เหมะรัชต์ - - - ด - ร - ม - - - ด - ร - ม - - - ด - ร - ม - ซ – ฟ-- ม - ร ---ท -ด-ร ---ท -ด-ร ---ท -ด-ร -ฟ-ม -ร-ด ก่อนแต่คร้งั เก่าพอดู เต่ากบั งูหากินในนา ผกั ปูปลาหากินพออยู่ เต่าโตไว ใหญ่ในนา ขาดเมตตารกุ รานน่าดู โกรธน่าดูถงึ สูก้ นั ใหญ่ ฝ่ ายเจ้างู อยู่ในนา เหยยี บอะไรเอะ๊ ลองมองดู เก่งอย่างไรไหนลองมาสู้ หากมใี คร ใหญ่กว่างู โปรดอภยั ฉนั ไม่ทนั ดู เต่าหดไปซุกในกระดองอยู่ อยู่มาวนั เต่าเดินไป โฉบลงมาใช้วาจาดู เต่ามคี รูหัวยืดหดได้ ฝ่ ายเจ้างู โกรธเป็ นไฟ โปรดช่วยพาฉันไปพบครู โฉบคอชูงับงูจนตาย... เต่าตกใจ กล่าวโดยไว ฝ่ ายเจ้างู ฉกทนั ใด กล่าวฝ่ ายกา เจา้ ปัญญา เต่าหมดภยั ใหญ่กว่างู ฝ่ ายเจ้างู บอกกบั กา ฝ่ ายเจ้ากา ชอบกนิ งู ชาวนาถอื ว่าเป็น กระดูกสนั หลัง ของชาติ ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ รวม ประเมนิ ตนเอง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เพ่ือนประเมนิ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ......... ครปู ระเมนิ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

ทำความเข้าใจโนต้ ขมิ เสียงของขิมจะเรียงลำดบั จากเสียงตำ่ ขนึ้ ไปหาเสยี งสูงในแนวตงั้ ตำแหนง่ ของตัวโนต้ แบง่ ออกเปน็ 3 แถว และตำแหน่งตัวโนต้ ในแต่ละแถวท่ใี ช้ในการบรรเลง จะมีตัวโน้ต 7 ตัว คอื โด เร มี ฟา ซอล ลา ที และใช้ตัวอกั ษรย่อเหมือนกัน คือ ด ร ม ฟ ซ ล ท เป็นสญั ลกั ษณแ์ ทน เสียงของดนตรี การฝกึ ปฏบิ ัตเิ คร่ืองดนตรี เพลงเต่า งู และกา แบบฝึกปฏิบตั ิท่ี 1 ตมี ือขวาอยา่ งเดยี ว เปน็ การฝกึ ตีสายขิมโดยไล่เสียงเปน็ ทำนองเพลงจนคล่อง ควรตีให้แมน่ ยำตามตำแหนง่ โน้ต และขณะทต่ี ีให้ยกปลายไมข้ ิมขน้ึ ทกุ ครงั้ เปน็ การฝึกหัดทกั ษะพน้ื ฐานของ การใชม้ ือและโสตประสาท เพอื่ ควบคมุ เครื่องดนตรีให้ไดเ้ สียง แบบฝึกปฏิบัติท่ี 2 ตีมือซ้ายอย่างเดียว เป็นการฝึกตสี ายขิมโดยไลเ่ สียงเปน็ ทำนองเพลงจนคล่อง ควรตีให้แม่นยำตามตำแหนง่ โนต้ และขณะทีต่ ใี หย้ กปลายไมข้ มิ ขน้ึ ทกุ ครงั้ เป็นการฝกึ หัดทกั ษะพ้ืนฐานของ การใชม้ ือและโสตประสาท เพอื่ ควบคุมเครอ่ื งดนตรีให้ได้เสียง แบบฝกึ ปฏิบัตทิ ี่ 3 ตมี ือสองมอื สลับกัน เป็นการตสี ลับมอื ซ้ายและมอื ขวา ตัวโนต้ ละ 1 ครั้ง ตาม ทำนองเพลง การตีขิมทม่ี ลี กั ษณะตีตดิ ตอ่ กันไปเรอื่ ยๆทุกจงั หวะของทำนองเพลง เป็นพนื้ ฐานทใี่ ชใ้ นการ บรรเลงอยทู่ ่ัวไป และมักจะปรากฏอยใู่ นเพลงแทบทกุ เพลง แบบฝึกปฏิบตั ิที่ 4 การตีรัว เป็นการฝกึ ตีโน้ตทีม่ ีเสยี งยาว คือตโี ดยใชม้ อื ซา้ ย – ขวา สลบั กันถๆ่ี จนคลา้ ยจะพรอ้ มกนั ท่ีตวั โนต้ น้ันๆ แบบฝกึ หดั ทา้ ยเพลง ให้นักเรยี นเติมตัวโน้ตตามตำแหนง่ ท่ีนกั เรยี นรู้จกั ให้ถกู ต้อง ตามทำนองเพลงเตา่ งู และกา แถวซา้ ย แถวกลาง แถวขวา เอกสารใช้สาหรับประกอบการเรียนการสอนวชิ าดนตรี ของโรงเรียนเซนต์ฟรังซสี เซเวยี ร์เท่าน้ัน