มาตรฐานการดูแลนักเรียนประจำสำหรับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๖ จังหวัดน่าน

คำนำ มาตรฐานการดูแลนกั เรียนประจำสำหรับโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 56 จังหวัดน่าน เป็น มาตรฐานท่ีได้จัดทำข้ึนภายใต้กระบวนการมสี ่วนร่วมของโรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 56 จังหวัดน่าน สงั กดั สำนักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ ได้รวมพลงั กันระดมความคิดและร่วมจัดทำรายละเอียดของแนว ปฏบิ ัตแิ ละมาตรฐานการดูแลนกั เรียนประจำในโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 56 จงั หวัดนา่ น ให้มคี วามเข็ม แขง็ ในทกุ ดา้ น เพือ่ ให้โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 56 จงั หวดั น่าน ยดึ ถอื และปฏบิ ัติให้บังเกิดประสทิ ธิภาพ และมีผลสำเรจ็ ตามมาอยา่ งเป็นรปู ธรรม ซง่ึ การดำเนินการตามมาตรฐานฯ จะบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมได้ นั้น ผบู้ รหิ าร ครู และบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกตอ้ ง ประสานเช่อื มโยงไปสู่ความ ร่วมมือกับบุคลากรทุกฝ่ายในโรงเรียน เพื่อให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงไปสู่การปฏบิ ัตอิ ย่างจริงจังและตอ่ เน่ือง เปา้ หมายคือพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาท่ีมีคุณคา่ และสามารถนำมาบูรณาการในกระบวนบรหิ ารจัดการ การ เรียนรู้ การฝึกทกั ษะ การดแู ลช่วยเหลอื เพ่ือให้เดก็ ดอ้ ยโอกาสมคี ุณภาพชีวติ ท่ดี ี สมบรู ณ์ทั้งรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ัญญา ความรู้และคุณธรรม พร้อมท่จี ะศกึ ษาเล่าเรียนจนจบหลกั สูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานและสามารถ กา้ วออกสู่สงั คมได้อย่างมีความสุข โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 56 จังหวัดนา่ น สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน หวงั เป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นเสมือนเครือ่ งมือในการการ กำหนดทิศทางและบ่งช้คี ุณภาพของการดำเนินงานท่ีแสดงให้รู้ว่าโรงเรียนดำเนินมาถูกทางแล้วหรือไม่ ผลผลติ ท่ีได้อยู่ในระดับท่ีน่าพึงพอใจมากน้อยเพียงใด เพื่อร่วมกันปรับปรุงและพัฒนางาน/โครงการให้ บรรลผุ ลสำเรจ็ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปในอนาคต ขอขอบคุณคณะทำงาน ครู-อาจารย์ และผู้เก่ยี วขอ้ งทกุ ฝ่ายท่มี ีส่วน ชว่ ยทำใหเ้ อกสารฉบบั นีส้ ำเร็จลลุ ว่ งดว้ ยดีตามท่ีกำหนดไวท้ ุกประการ รวบรวมโดย นายพริ ยิ พงษ์ ลอยเลิศ ตำแหนง่ ครู โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 56 จังหวัดน่าน สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

สารบัญ หน้า บทท่ี ๑ บรบิ ทงานดแู ลนักเรยี นประจำ ๑ ๑. วตั ถุประสงค์ ๑ ๒. ขอบขา่ ยงานดูแลนกั เรยี นประจำในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ๒ ๒.๑ งานกิจการนกั เรยี น ๒ ๒.๒ งานหอพกั ๔ ๒.๓ งานอนามยั ๕ ๒.๔ งานโภชนาการ ๖ ๒.๕ งานบริการ ๗ ๒.๖ งานอาคารสถานที่ ๘ ๒.๗ งานรกั ษาความปลอดภัย ๘ ๒.๘ กิจวัตรประจำวันของนักเรยี นประจำในโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ ๙ ๒.๙ ระเบียบวา่ ดว้ ยการอยูป่ ระจำของนักเรยี น ๑๑ ๓. การบริหารโรงเรยี นโดยองิ มาตรฐาน ๑๒ ๓.๑ ประโยชน์ของการบรหิ ารโรงเรยี นโดยอิงมาตรฐานสำหรับ ๑๓ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ๓.๒ ประโยชน์ของการบรหิ ารโรงเรียนโดยอิงมาตรฐานสำหรบั ครูและ บคุ ลากรของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ๓.๓ ประโยชน์ของการบริหารโรงเรียนโดยอิงมาตรฐานสำหรบั นักเรียนและผู้ปกครอง บทท่ี ๒ มาตรฐานการดูแลนักเรียนประจำสำหรับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ด้านท่ี ๑ ด้านการบริหารจดั การ ดา้ นท่ี ๒ ดา้ นคุณภาพนักเรียนประจำ ดา้ นท่ี ๓ ด้านการส่งเสริมทักษะการดำรงชวี ิตของนักเรียนประจำ ด้านท่ี ๔ ด้านอาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ มและสิ่งอำนวยความสะดวก ในการดำรงชีวติ ของนักเรียนประจำ ด้านที่ ๕ ดา้ นการรกั ษาความปลอดภยั และปอ้ งกันอบุ ัติภยั ในโรงเรยี น

บทที่ ๓ คำอธิบายและระดับคณุ ภาพมาตรฐานการดูแลนกั เรียนประจำ หนา้ สำหรบั โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ๑๖ มาตรฐานที่ ๑ ประสทิ ธภิ าพดา้ นการบรหิ ารจดั การและการบริหาร จัดการดูแลนักเรยี นประจำ ๕๔ ๕๔ มาตรฐานท่ี ๒ นักเรยี นประจำมสี ุขภาวะ สุขภาพกาย สุขภาพจิตท่ีดี ๕๔ มาตรฐานท่ี ๓ นักเรยี นประจำมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยม ๕๕ ๕๖ ที่พงึ ประสงค์ ๕๖ มาตรฐานท่ี ๔ นักเรยี นประจำมีทักษะในการดำรงชวี ติ และมสี ุนทรียภาพ ๕๗ มาตรฐานท่ี ๕ มกี ารจดั สถานท่ี สภาพแวดล้อม และสง่ิ อำนวย ๕๗ ๖๐ ความสะดวกใหเ้ หมาะสมกบั นกั เรยี นประจำ มาตรฐานที่ ๖ การจัดระบบรกั ษาความปลอดภยั บทที่ ๔ การให้คะแนนตัวบง่ ชแี้ ละสรุปผลรายมาตรฐาน ๑. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๒. การหาค่าผลการประเมินตัวบง่ ชี้ (บ) ๓. การหาค่า คะแนนประเมินตัวบ่งชี้ (ช) คะแนนประเมนิ มาตรฐาน (ซ) และผลการประเมินมาตรฐาน (ม) ๔. การสรุปผลการประเมนิ คณุ ภาพโดยภาพรวมของสถานศึกษา ๕. การรับรองมาตรฐานคุณภาพการดแู ลนกั เรียนประจำสำหรับโรงเรียน ศกึ ษาสงเคราะห์ ๖. ตารางการให้คะแนนของคณะกรรมการประเมินมาตรฐานการดแู ล นกั เรียนประจำสำหรับโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ๗. ตารางผลการประเมินระดบั คณุ ภาพในภาพรวมของสถานศึกษา ตามมาตรฐาน ๘. สรุปการรบั รองคณุ ภาพ

เอกสารอา้ งองิ หนา้ - แนวปฏบิ ตั กิ ารดแู ลนกั เรียนประจำโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ๖๑ กองการศึกษาสงเคราะห์ กรมสามญั ศึกษา (พ.ศ. ๒๕๔๓) ๖๔ - ค่มู ือการประเมนิ ภายนอกรอบ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๘) ๗๑ ๘๔ ภาคผนวก ๘๕ ๘๖ - ตวั อย่างระเบยี บโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ว่าด้วยการอยปู่ ระจำของนกั เรียน ๘๘ พ.ศ. .… ๙๒ - เกณฑม์ าตรฐานการเจริญเติบโตและพัฒนาการ - เกณฑป์ ระเมินผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย - พระบรมราโชบายของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ที่พระราชทานใหก้ ับ นักเรียนโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ - แบบประเมนิ เกณฑม์ าตรฐานสว้ มสาธารณะระดับประเทศ - เกณฑ์มาตรฐานสว้ มสาธารณะระดับประเทศ (HAS) - เกณฑส์ ำหรบั การพจิ ารณา “การประกวดสดุ ยอดสว้ มแห่งปี” กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ

บทที่ ๑ บรบิ ทงานดูแลนกั เรยี นประจำ การดูแลนกั เรียนประจำในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เปน็ ภาระงานหนึ่งทมี่ คี วามสำคญั พอๆ กับ การบรหิ ารงานวิชาการว่าด้วยการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลกั สตู รการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ทั้งน้ี เน่อื งจาก นักเรยี นท่เี ขา้ มาเรยี นในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สว่ นมากจะพกั นอนท่โี รงเรียน(แบบประจำกินนอน) ดังน้ัน ภาระงานทีจ่ ะต้องดูแลชีวิตนักเรียนตลอดระยะเวลาทีพ่ ักอย่ใู นโรงเรยี นจงึ เป็นองค์ประกอบหน่งึ ท่ีจะส่งผล ต่อพัฒน าการในทุกๆ ด้าน ของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองการพัฒนาทักษะทางวิชาการ ทักษะชีวิต และทกั ษะทางอาชีพ อย่างไร ก็ตาม กา รพัฒน าร ะบบดูแลนักเรีย น ประจำ ของโรงเรียน ศึกษาสงเคราะห์ มีกระบวนการพัฒนารูปแบบมาตลอดระยะเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นกระบวน การพัฒนาที่ถ่ายทอดจาก ผู้ทรงคุณวุฒิทีป่ ระสบผลสำเรจ็ ดา้ นการบรหิ ารจดั การโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ หรือมีการปรบั ปรงุ รูปแบบ การดูแลนักเรยี นของหน่วยงานต่างๆ ท่ีเก่ยี วข้องมาบูรณาการเป็นระบบดูแลนักเรียนประจำของแต่ละแห่ง ดงั นั้น แนวทางในการพัฒนาระบบดแู ลนักเรียนประจำของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จึงขาดทศิ ทางท่ีเป็น เอกภาพ เป็นปัญหาสำหรับบุคลากรทเ่ี ขา้ มารบั หน้าท่ีในการดแู ลนักเรียนประจำใหม่ๆ และขาดเครื่องมอื ใน การประเมนิ มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านด้านการดแู ลนักเรียนประจำในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เพ่ือให้เป็น ที่ยอมรับกันโดยท่ัวไป ดังน้ัน การพัฒนามาตรฐานการดูแลนักเรียนประจำ จึงมีความจำเป็นสำหรับ การบริหารงานในโรงเรยี นศึกษาสงเคราะหใ์ นยคุ ปจั จบุ ันเปน็ อยา่ งยิ่ง ๑. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อเป็น คู่มือประกอบการนิเทศการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางกา รศึกษา ของโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์ใหส้ ามารถปฏิบัติงานได้ตรงตามเปา้ ประสงค์ของการจัดการศึกษาสงเคราะห์ ดา้ นการดูแลนกั เรียนประจำ ๒. เพื่อให้โร งเรียน ศึกษาสงเครา ะห์ได้ ใช้เป็น คู่มือประเมินมาตรฐา นการปฏิบัติงา น ของโรงเรียนและเป็นข้อมูลในการปรับปรงุ ด้านการดูแลนักเรยี นประจำในโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ให้มี คณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ๓. เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานและหน่วยงานท่ี เกี่ยวข้องใช้เป็น เครื่องมือในการบริหารจดั การและสนับสนุนให้โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหพ์ ัฒนาเข้าสูม่ าตรฐานการปฏบิ ัติงาน ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพตรงตามสภาพการบริหารท่ีแทจ้ รงิ ของโรงเรียน

๒ ๒. ขอบขา่ ยงานดแู ลนกั เรยี นประจำในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ การดำเนินงานของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ นอกเหนื อจากการจัดการเรียนการสอน ทางด้านวิชาการตามหลกั สตู รของหน่วยงานตน้ สงั กดั แลว้ ภารกิจทเี่ ป็นหน้าที่สำคญั อีกอยา่ ง ทโี่ รงเรยี นตอ้ ง รับผิดชอบไปพร้อมกันของแตล่ ะวัน คือ งานดูแลนักเรียนประจำ และเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า หากกระบวนการดูแลนกั เรยี นประจำล้มเหลว ก็จะส่งผลกระทบให้งานในส่วนอืน่ ๆ ล้มเหลวไปดว้ ย ดังนั้น โรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์จะต้องวางแผนกำหนดขอบเขตและสดั ส่วนในการทำงานด้านการดแู ลนักเรียน ประจำให้ชัดเจน เพ่ือให้ภาระงานมีความครอบคลุมงานต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง ได้แก่ งานกิจการนักเรียน งานหอพัก งานอนามัย งานโภชนาการ งานบริการ งานอาคารสถานที่ งานรักษาความปลอดภัย กิจวัตรประจำวันของนักเรียนประจำในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์และระเบียบว่าด้วยการอยปู่ ระจำของ นักเรียน เป็นตน้ ๒.๑ งานกิจการนกั เรียน การดแู ลนักเรยี นประจำในโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ทเ่ี หมาะสม ควรเป็นระบบการดูแล แบบครอบครวั โดยทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนเสมอื นกิจกรรมต่างๆ ในบา้ น บทบาทของครเู สมอื นพ่อแม่ และบทบาทของนักเรียนตอ่ นกั เรียนก็เสมือนพ่ีน้องกัน สมาชิกในครอบครัวมหี นา้ ที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ภารกิจของครอบครวั ร่วมกนั การมีนักเรียนอยู่รวมกนั เป็นจำนวนมาก จำเป็นที่จะตอ้ งมีการกำหนดแนว ปฎิบัติในการดแู ลนักเรียนประจำในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ให้ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบกติกาของสังคม เดียวกัน ทั้งน้ี เพ่ือให้นักเรียนทุกคนได้รับการพัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและทักษะด้านต่างๆ อยา่ งเต็มตามศักยภาพของแต่ละคน ซึง่ จุดมุง่ หมายของการดแู ลนักเรยี นประจำในโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์ ท่ีสำคญั คอื ๒.๑.๑ เพ่ือหลอ่ หลอมพฤติกรรมของนักเรียน ท่ีมาจากครอบครัวซ่ึงมีความแตกตา่ งกัน ทั้งทางด้านภาษา สังคม เศรษฐกิจ ศาสนาและวัฒนธรรม ให้มีความกลมกลืนกันให้มากท่ีสุด ซึ่งจะ พฤติกรรมท่ีสงั คมต้องการ ๒.๑.๒ เพ่อื ให้เกิดการยอมรับในกตกิ าของสังคม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน อันจะเป็นพนื้ ฐานในการเปน็ พลเมืองดี มีความเคารพในกฎหมายบ้านเมอื งและการปกครองในวิถีระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์เป็นประมุข ๒.๑.๓ เพ่ือเสริมสร้างวินัยในตนเองให้เกิดขึ้นกบั นักเรียน เกิดการใฝ่รู้ใฝ่เรียน ซึ่งจะ นำไปสกู่ ารปฏบิ ัตแิ ละเกิดเป็นลักษณะนสิ ยั ทีด่ ี ตลอดจนมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ งานในหนา้ ท่ีให้สงู ข้นึ ๒.๑.๔ เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น โดยการเสริมสร้างสติปัญญา สุขภาพกาย สขุ ภาพจิต บุคลกิ ภาพ มสี ุขนสิ ัยท่ีดีและปฏิบัติจนเปน็ นิสยั ๒.๑.๕ เพ่ือเสริมสร้างให้นักเรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ให้ นักเรยี นได้ปฏบิ ัตอิ ยู่เสมอ ๒.๑.๖ เพ่อื ให้นกั เรียนมีทักษะการดำรงชีวิต รู้จักตนเอง พ่ึงตนเอง มีความเช่ือมั่นใน ตนเอง และสามารถชว่ ยเหลอื สงั คมได้ ๒.๑.๗ เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถอยู่รว่ มกบั ผู้อ่นื ในสงั คมได้อยา่ งมีความสุข ๒.๑.๘ เพื่อส่งเสริมให้ นักเรียน มีภาวะผู้น ำ มีจิตสา ธาร ณะและมีคุณลักษณ ะ อนั พงึ ประสงค์

๓ งานสนับสนนุ กจิ การนักเรยี น โดยปกติโร งเรียน ศึกษาสงเครา ะห์ซึ่งเป็น โร งเรียน ปร ะจ ำ นักเรียน อยู่ใน หอพั ก ของโรงเรียนไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง ดังน้ัน ในช่วงเช้าและเย็นจะมีเวลาว่างสำหรับให้นักเรียน ทำกจิ กรรมตา่ งๆ ได้ โรงเรียนจำเป็นจะตอ้ งดแู ลนักเรียนโดยใช้กจิ กรรมต่างๆ ผ้บู รหิ ารต้องเลือกกจิ กรรมที่ เป็นประโยชน์ต่อนักเรยี นหรือเปน็ กิจกรรมที่สง่ เสริมสนับสนุนกิจการนักเรยี น ทั้งน้ี ทกุ กิจกรรมควรให้ นักเรียนมสี ่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแกไ้ ขเพื่อการพัฒนา ร่วมติดตามการดำเนินงาน และตอ้ งจัดให้มตี ัวแทน ครูประจำหอพัก ตวั แทนนักเรียนรว่ มเป็นคณะกรรมการประเมนิ ด้วย โดยกจิ กรรมสนับสนนุ กิจการนักเรยี น ท่โี รงเรียนควรจดั เชน่ ๑. กิจกรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์ เชน่ การปฐมนิเทศนกั เรยี นใหม่และนักเรยี นเก่า การเขา้ ค่ายพุทธบตุ ร และการจัดกจิ กรรมพีด่ แู ลนอ้ ง เป็นตน้ ๒. กิจกรรมส่งเสริมการจัดประกวดหอพัก เช่น ความสะอาดสิ่งแวดล้อม ความสมบูรณ์ ของแหล่งเรียนรู้ ความสะอาดของห้องสุขา ความเป็น ระเบียบของท่ีน อน หรือความเป็นระเบียบ ของโรงตากเสื้อผา้ เป็นต้น โดยจดั ใหม้ คี ณะกรรมการ ตัวแทนครูประจำหอพัก ตวั แทนนักเรียน ร่วมประเมิน หอพกั อย่างน้อยเดอื นละ ๑ คร้ัง ๓. กิจกรรมเสริมสร้างวินัยในการอยูร่ ่วมกนั โดยนำหลักการและวธิ ีการ ของลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด หรอื กิจกรรมนักศกึ ษาวชิ าทหาร มาปรับใช้ในการดูแลนักเรียน เชน่ ระบบหมู่ การทำงานเปน็ ทีม หรือการตรงตอ่ เวลา เป็นต้น ๔. กิจกรรมประกวดระเบียบแถว เป็นกิจกรรมให้นักเรียนแต่ละหอพักได้ฝึกระเบียบแถว เชน่ การเดนิ การหยดุ การหนั ซ้าย-ขวา หรอื การวิง่ อย่างเปน็ ระบบ เป็นตน้ ๕. กจิ กรรมฝึกกายบริหารในภาคเชา้ ต้งั แต่เวลา ๐๕.๐๐ - ๐๖.๐๐ น. ๖. กิจกรรมเสริมสร้างสุนทรียภาพ เช่น ศลิ ปะ ดนตรี กฬี า นาฏศิลป์และนนั ทนาการ ๗. กิจกรรมเสริมสรา้ งคณุ ธรรม จริยธรรม อาจจะจัดในโรงเรยี น หรือนำนักเรียนออกไปรว่ ม กจิ กรรมท่ีศาสนสถานใกลโ้ รงเรียน ใหน้ ักเรียนไดฟ้ ังเทศน์ ฟังธรรม นมิ นต์พระสงฆ์ ผนู้ ำศาสนาหรือครฝู า่ ย กจิ การนักเรยี นมาอบรม รวมท้งั จดั ให้มีการสวดมนต์หรือ ศาสนปฏิบัตติ ามหลักศรัทธาของแตล่ ะศาสนากอ่ น เขา้ นอนทุกคืน ๘. กจิ กรรมส่งเสริมการประกอบอาชพี อิสระเพือ่ การมรี ายไดร้ ะหว่างเรยี นของนักเรยี น (สอร.) ๙. กิจกรรมเสริมสร้างภาวะผู้นำ ได้แก่ การเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียน หัวหน้า ชนั้ เรยี น หรอื หัวหนา้ หอพกั เป็นตน้ ๑๐. กจิ กรรมจิตอาสา เชน่ พฒั นาโรงเรยี น พัฒนาศาสนสถาน พัฒนาชมุ ชน เปน็ ต้น ๑๑. กจิ กรรมอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม

๔ ๒.๒ งานหอพกั งานหอพักเป็น งาน ท่ีสำคัญสำหรับครูผู้ทำหน้าท่ีดูแลประจำ หอพักนับเป็น บุคลากร ที่มีควา มสำ คัญย่ิง เน่ืองจ ากนักเรียน แต่ละคน มีพ้ื น ฐา น ควา มเป็น มาของชีวิตท่ีไม่เหมือน กัน โดยถูกหล่อหลอมให้เกิดพฤติกรรมหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมด้านบวกหรือ ด้าน ลบ ดังนั้น ครปู ระจำหอพักต้องมีจิตวิญญาณของความเปน็ ครู รู้บทบาทหน้าที่และรักษาระเบียบวนิ ัยของ ข้าราชการครู อีกทั้งเป็นแบบอย่างในการดำรงตนให้เป็นผู้ทีม่ ีความพอเพยี ง การดูแลเอาใจใส่ใหค้ วามรัก ความอบอุ่นแก่นักเรยี นอย่างท่ัวถึงมคี วามสำคัญต่อการพฒั นาคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคนใหเ้ ติบโต อย่างมีคณุ ภาพ สามารถดำรงชวี ิตอยา่ งเป็นสุขในสังคม ดงั นัน้ การจัดระบบหอพักจึงควรมแี นวทางท่ีเป็น ทศิ ทางเดียวกัน ได้แก่ ๒.๒.๑ การจัดครูเข้าประจำหอพัก จะต้องคำนงึ ถงึ ประสทิ ธิภาพของครูผ้ทู ำหน้าท่ีดูแล นักเรียนประจำหอพกั โรงเรียนจะต้องพิจารณาคุณลักษณะของครูในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ ๑) เป็นครูท่ีมเี พศเดียวกับเด็กนกั เรียนในหอพัก กรณีครูเพศชายมีไม่เพียงพอ อาจให้ครูเพศหญิงดูแลนักเรียนหอพักชายได้ ท้ังนี้ ให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของผ้บู ริหารโรงเรียน ยกเว้นครูผู้ชาย ไม่สามารถจัดให้เป็นครหู อพักของนักเรียนหญิงโดยเด็ดข าด การจัดอัตราส่วนในการดูแลระหว่างครู ต่อนกั เรียนนนั้ ควรเปน็ อตั ราส่วน ๑ : ๔๐ คน ๒) เป็นผ้มู วี ุฒิภาวะทางอารมณท์ ี่เหมาะสมกับการเปน็ ครูประจำหอพัก ๓) เปน็ ผู้ท่ีมีคณุ ธรรม จริยธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดแี กน่ ักเรียน ๔) เปน็ ผูท้ ม่ี สี ุขภาพกายที่สมบูรณแ์ ขง็ แรงและมีสุขภาพจิตท่ีดี ๕) เปน็ ผู้ที่ดำรงชวี ิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๒.๒.๒ การจัดนักเรียนเข้าหอพักจะต้องแยกตามเพศและวัยที่เหมาะสม เช่น ระดับ ประถมศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรอื ตามความจำเป็นของทรัพยากร ในการดูแลนกั เรยี นประจำของแตล่ ะโรงเรยี น ๒.๒.๓ จดั ใหน้ กั เรยี นรุ่นพ่ีมสี ว่ นรว่ มในการดูแลรุ่นน้อง โดยอาจจะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม หรือหมู่ หมลู่ ะ ๘-๑๐ คน และมนี ักเรยี นรนุ่ พ่ชี ่วยดแู ลนกั เรยี นรุ่นน้องอย่างใกลช้ ิดตามวิถปี ระชาธปิ ไตย ๒.๒.๔ สร้างกฎหรือระเบยี บของหอพักโดยความเห็นชอบจากโรงเรยี นและจะต้องเป็น กฎหรือระเบียบท่ีนักเรยี นแต่ละวัยสามารถปฏิบตั ไิ ด้ มีความยดื หยุ่นได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ และวัฒนธรรมของแตล่ ะท้องถิ่น ๒.๒.๕ จดั ให้ครูทุกคนมีส่วนร่วมในการอบรมนักเรียนในหอพักเพอื่ ส่งเสริมคณุ ธรรมและ จริยธรรมนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากน้ียังเปน็ การสร้างความใกล้ชดิ และอบอุ่นระหวา่ งครูกับนักเรียน ได้เป็นอยา่ งดี ๒.๒.๖ จัดให้มีเวรช่วยพัฒนาสภาพแวดล้อมของหอพักนักเรียนให้ถูกสุขลักษณะ อนั ได้แก่ ความสะอาดของห้องส้วม โรงอาบน้ำ เคร่ืองนอน พนื้ ที่บริเวณรอบๆ หอพัก รวมท้ังความเป็น ระเบยี บเรยี บร้อยของหอพกั ให้มีความรม่ รืน่ และสวยงามตลอดเวลา ๒.๒.๗ จัดระบบการซัก-รีด การทำความสะอาดเครอื่ งใชส้ ่วนตัว ครูประจำหอพกั จะต้อง กวดขันดูแลอย่างใกล้ชดิ จัดให้มีเครื่องซักผ้าไว้บรกิ ารให้นักเรียนชั้นเล็กๆ เช่น ประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ โดยมีนักเรียนรนุ่ พ่ีเปน็ ผู้ควบคุมดูแล แตเ่ มื่อนกั เรยี นโตขึ้นต้งั แตช่ ้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เป็นต้นไป ควรจะได้

๕ ฝกึ ซกั ผ้าเองโดยมนี กั เรยี นรุน่ พ่ีเป็นผูด้ แู ล รวมทง้ั ผ้าปูทน่ี อน ปลอกหมอน ผา้ ห่ม ผา้ เชด็ ตวั นกั เรียนตอ้ งดแู ล ให้สะอาด นอกจากนี้การจัดตเู้ สือ้ ผ้าจะตอ้ งเปน็ ระเบียบและมีการตรวจตราอยู่เสมอ ๒.๒.๘ การสร้างความสุขและความอบอ่นุ ให้แก่นกั เรยี น โดยครปู ระจำหอพกั ต้องสืบค้น ประวัติของนักเรียนทุกคนรวมทั้งคอยสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในหอพักหรือบ้านพักเป็นประจำ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาสุขภาพกา ย สุขภาพจิต และทักษะทางสังคมที่ต้องเรียนรู้อยู่รว่ มกัน โดยครูควรทจ่ี ะหาโอกาสได้แสดงออกกบั นักเรยี นในความดแู ลของตนเองอย่างต่อเนื่อง ดงั นี้ ๑) ใหค้ วามใกลช้ ดิ เพอื่ ดูแลทกุ ข์สุขของนักเรยี นรวมทง้ั แสดงความเหน็ อกเห็นใจ เมอื่ นักเรยี นขอคำปรึกษาทกุ คร้ัง ๒) มสี ่วนร่วมกับนักเรยี นในการจัดบรรยากาศหอพักให้เสมือนบ้าน มีสภาพท่ี เหมาะสมและเอ้ือต่อการทำกิจวัตรประจำวันของนักเรียน เช่น มมุ ทำการบ้าน มุมอ่านหนงั สือ มุมพักผ่อน และปา้ ยนเิ ทศทจ่ี ำเป็นตามเหตุการณส์ ำคญั หรอื องค์ความรทู้ ่ีจำเปน็ ของนักเรียนแต่ละวยั ๓) จัดให้นกั เรียนมโี อกาสไปทศั นศึกษาแหล่งเรยี นรู้ตามเวลาโอกาสต่างๆ ๔) จัดกิจกรรมนนั ทนาการตามเวลาและโอกาสอันควร ๕) หาโอกาสยกย่อง ชมเชยและสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเรียนของหอพัก หรอื บา้ นพกั ทกี่ ระทำความดใี นทกุ โอกาส ๖) ครูตอ้ งแสดงออกซง่ึ การให้ความรัก ความเมตตาและให้เกียรติกับนกั เรียน ทกุ คนเสมือนลกู ท่แี ทจ้ ริง ๗) ครูควรให้ความสำคัญกับกิจกรรมการนำนักเรียนส่งกลับบ้าน หรือการ ประสานงานผู้ปกครองของนกั เรียนกรณฉี กุ เฉนิ ๒.๒.๙ การปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักช่วยเหลือตนเองและผู้อ่ืน การใชช้ ีวิตโดยยึดหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นเคร่ืองมือในการสร้างความรับผดิ ชอบและการมวี นิ ัยในตนเอง ๒.๒.๑๐ การดแู ลเอาใจใส่ กวดขันและติดตามการเรียนของนักเรียนในหอพัก ท้ังเป็นท่ี ปรึกษาการทำการบา้ นหรอื การสอนเสริมสำหรับนกั เรยี นทมี่ ีความสนใจและมีปัญหาด้านการเรยี นรู้ ๒.๒.๑๑ จัดให้มีระบบควบคมุ ดแู ลรกั ษาความปลอดภัยในหอพกั ๒.๓ งานอนามยั งานอนามัย เปน็ งานหน่งึ ท่ีโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ต้องใหค้ วามสำคัญไม่น้อยไปกว่างานอ่นื ๆ เน่ืองจากเป็นงานที่จะต้องดแู ล สร้างเสริมและบำบัดรักษาสุขภาพของนักเรียนท้ังในเวลาปกติและในเวลา ท่ีนักเรยี นประสบปัญหาสุขภาพ นักเรียนคนใดท่ีมีความเป็นอยูแ่ ละอนามัยสว่ นตัวต่ำกว่ามาตรฐานก่อน ทเ่ี ข้ามาเรยี นในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนตอ้ งเอาใจใสด่ ้านสุขภาพอนามยั ของนักเรียนเป็นพิเศษ นอกจากน้ีงานอนามัยจะต้องมีการจัดกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างสุขนิสัยทด่ี ีงามให้แก่นักเรียนเพ่อื ให้นักเรยี น ได้ฝกึ ตนเองจนเป็นนิสยั และสามารถนำไปเผยแพร่แกบ่ ุคคลในครอบครัวของตนและผู้อนื่ กิจกรรมของงาน อนามยั โรงเรียนท่ีควรจัดให้แกน่ กั เรียนของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ มีดงั นี้

๖ ๒.๓.๑ การตรวจสุขภาพนักเรียน กจิ กรรมดังกลา่ วควรดำเนินการดังต่อไปน้ี ๑) ให้มกี ารตรวจสขุ ภาพเบื้องตน้ ในวันเปิดภาคเรยี น ๒) ให้มกี ารตรวจสขุ ภาพประจำปีอยา่ งนอ้ ยปีละ ๑ คร้ัง ๓) ใหบ้ รกิ ารเสรมิ สรา้ งภูมิคุม้ กนั โรค ๔) ใหม้ กี ารจดั ทำฐานขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพนักเรียน ๕) ให้มีการดแู ลรกั ษาสขุ ภาพนกั เรยี นบางคนเปน็ กรณีพเิ ศษ สำหรับผู้ที่มปี ญั หาดา้ น สุขภาพเฉพาะโรค เชน่ โรคหวั ใจ โรคหอบหืด เป็นตน้ ๖) ให้มีการประสานงานหน่วยงานที่เก่ยี วข้องใหม้ าชว่ ยเหลือดูแลดา้ นสขุ ภาพ ๒.๓.๒ การรักษาพยาบาลเบอ้ื งตน้ โรงเรียนมคี รพู ยาบาลและมเี รอื นพยาบาลพรอ้ มเวชภณั ฑ์ ยาท่ีจำเป็นพน้ื ฐาน เพื่อคอยใหบ้ ริการนักเรียนทเ่ี จบ็ ป่วยในเบื้องตน้ และหากมีความจำเปน็ ตอ้ งรบั การรกั ษา ขั้นสูง โรงเรียนตอ้ งจดั ยานพาหนะบรกิ ารส่งตอ่ โรงพยาบาลตลอดเวลา ๒.๓.๓ การจัดระบบสุขาภบิ าลในโรงเรียน ซงึ่ โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์แต่ละแห่งในประเทศ ไทย จะมปี ระชากรท้งั นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่นอ้ ยกวา่ ๖๐๐ คน และแต่ละโรงเรยี นจะมี พน้ื ที่ไมต่ ำ่ กว่า ๑๐๐ ไร่ ดงั นัน้ ปญั หาการจัดระบบสขุ าภิบาลในโรงเรียนจึงตอ้ งมรี ะบบดูแลท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ ดว้ ยเชน่ กัน อนั ได้แก่ ๑) กำจดั ขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธี โดยใชก้ ระบวนการแยกขยะ หากเปน็ ขยะท่ีสามารถ นำกลบั มาใชใ้ หม่ได้ ให้นำกลับมาใช้ใหม่ เช่น การนำเศษอาหารไปเลีย้ งสตั ว์ ไปทำปุ๋ยหรือนำไปทำแก๊ส ชีวภาพ หากเป็นขยะที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหมไ่ ด้ ให้ใช้การฝงั กลบหรือการประสานงานสำนักงาน เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นดำเนินการนำขยะไปกำจัดให้ถูกวิธตี ่อไป เพื่อป้องกันเช้ือโรค ท่แี พรร่ ะบาดมากับพาหะนำโรคอนั ได้แก่แมลงวนั หนหู รอื สุนขั เป็นต้น ๒) ควรจัดระบบบำบัดนำ้ เสยี ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสขุ ๓) จัดใหม้ ีบริการกำจัดยุงในวันปกติที่นักเรียนออกจากหอพักไปเรียนหนังสือ หรือ เชญิ หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งมาพ่นหมอกควันกำจดั ยุงอยา่ งน้อยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง ๔) จัดบริการหอ้ งน้ำห้องส้วมท่ีถกู สุขลกั ษณะอนามัยท้ังบริเวณหอพักหรือบ้านพกั และ บรเิ วณอาคารเรียนใหเ้ พียงพอต่อจำนวนนักเรยี น (ตามมาตรฐานสว้ ม HAS ของกระทรวงสาธารณสขุ ) ๕) จดั กิจกรรมเสริมสร้างสุขอนามัย โดยใชว้ ิธีการที่หลากหลายในการให้ความรู้ แก่นกั เรียนทุกเดือนเพื่อเป็นการสร้างองคค์ วามรู้ในการป้องกันตนเองให้พ้นจากโรคภยั ไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคหวัด ตาแดง ท้องรว่ ง อหิวาตกโรค กาฬโรค โรคเอดส์ รวมถงึ การตอ่ ต้านยาเสพตดิ ชนดิ ตา่ งๆ 2.3.4 จดั กิจกรรมในการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การแขง่ ขันกีฬา ทง้ั ภายในและ ภายนอกอยา่ งเปน็ ระบบ

๗ ๒.๔ งานโภชนาการ งานโภชนาการ จัดไดว้ ่าเป็นงานท่ีเป็นหวั ใจสำคัญของการดูแลนักเรียนประจำในโรงเรียน ศกึ ษาสงเคราะห์ โดยโรงเรียนต้องจัดบริการท้ังอาหาร นำ้ ด่ืม น้ำใช้ ดังนั้นแนวทางการปฏิบัติงานของ โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ควรดำเนินการดังตอ่ ไปนี้ ๒.๔.๑ จัดให้มีครโู ภชนาการจัดทำรายการอาหารท่ีมีคุณค่าทางโภชนาการ โดยให้ คณะกรรมการประกอบด้วยผแู้ ทนครแู ละผ้แู ทนนักเรยี นมีส่วนร่วมในการเสนอรายการอาหารด้วยทกุ ครงั้ ๒.๔.๒ วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารต้องมีคณุ ภาพ มีปรมิ าณเพียงพอ และมีระบบ การจดั เก็บท่ีถูกสขุ ลกั ษณะ ๒.๔.๓ บุคลากรที่มีหน้าท่ีในการประกอบอาหารจะต้องรักษาความสะอาดร่างกาย เช่น สวมเสื้อผ้าท่สี ะอาด มที ี่คลุมผม ผ้ากันเป้ือน ซง่ึ บคุ ลากรเหล่านจ้ี ะต้องได้รับการอบรมเพ่ือให้มีความรู้การ ประกอบอาหารและไดร้ บั การตรวจสขุ ภาพอยเู่ สมอ ๒.๔.๔ ภาชน ะ และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบอาหาร ต้องดูแลบำรุงรักษาให้สะอา ด ถกู สขุ อนามยั และจดั เกบ็ ให้เป็นสดั สว่ น ๒.๔.๕ สถานท่ี ต้องดูแลบำรุงรักษาให้สะอาด ถูกสุขอนามัย มีสภาพดี มีแสงสว่าง เพยี งพอ มีระบบระบายอากาศ มปี ระตมู ุ้งลวดป้องกนั แมลงวนั และสัตว์ตา่ งๆ เข้ามาบริเวณประกอบอาหาร 2.4.6 ให้มรี ะบบปอ้ งกันภยั จากเครือ่ งใช้ไฟฟา้ และแกส๊ หุงต้ม ๒.๔.7 อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วเพื่อรอการให้บรกิ ารจะตอ้ งมีฝาปิดให้มิดชิดหรือใชผ้ ้าขาว บางปิดเพ่ือป้องกันฝุน่ แมลง และจัดวางไวบ้ นโตะ๊ ทส่ี ะอาด ๒.๔.8 ครูเวรประจำวนั ต้องดูแลการตักอาหารของนักเรียนให้เปน็ ระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งอบรมวธิ ีการรับประทานอาหารและมารยาทในการรบั ประทานอาหารให้กับนกั เรยี นเป็นประจำ ๒.๔.9 สถานทรี่ ับประทานอาหาร จะต้องได้รับการดแู ลในเร่ืองการรกั ษาความสะอาด และจดั ความเป็นระเบียบของโตะ๊ และเกา้ อ้ี ๒.๔.10 ให้มที ี่ล้างภาชนะใส่อาหารของนกั เรียน มที ี่รองรับกักเกบ็ เศษอาหาร มีวัสดุงาน บา้ นเพ่อื ทำความสะอาดทรี่ ับประทานอาหาร มอี า่ งลา้ งมือและท่ีจดั เกบ็ ภาชนะทเี่ หมาะสม ๒.๔.๑1 จัดให้มที ่ีดกั ไขมนั บริเวณทางระบายน้ำและมรี ะบบบำบดั น้ำเสียที่ถูกสุขลักษณะ ๒.๔.๑2 จัดให้มนี ำ้ ด่ืมที่สะอาดโดยผ่านการรับรองจากสาธารณสุข นำ้ ทบ่ี ริโภคจะต้องมี การผสมสารไอโอดนี ควรจดั ให้มีการตรวจคุณภาพน้ำดมื่ อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๑ ครั้ง ๒.๔.๑3 นำ้ ท่ีใช้ในการอุปโภคต้องเป็นน้ำทีส่ ะอาดและโรงเรยี นจะต้องมีมาตรการให้ นกั เรยี นใชน้ ำ้ อย่างประหยัด

๘ ๒.๕ งานบรกิ าร โรงเรียนควรจัดสวัสดิการเพ่ือบรกิ ารเสริมให้กับนักเรียนที่มีความจำเปน็ เร่งด่วนกับการใช้ ชวี ิตประจำวนั และเปน็ บรกิ ารขั้นพนื้ ฐานสำหรับนักเรียนทกุ คนท่สี มควรได้รบั การดูแล ดงั น้ี ๒.๕.๑ ธนาคารโรงเรยี น ซงึ่ เป็นการบรกิ ารเพอ่ื ใหน้ กั เรียนร้จู ักประหยัดและเกบ็ ออม ๒.๕.๒ บรกิ ารด้านสื่อสารคมนาคม เช่น จดหมาย พัสดุ ธนาณัติ โทรศัพทส์ าธารณะ อินเตอรเ์ น็ตและเสยี งตามสาย ๒.๕.๓ จัดระบบเครอื ขา่ ยในการตดิ ต่อสื่อสารกับผูป้ กครองทสี่ ามารถปฏิบัติได้อยา่ งรวดเร็ว ๒.๕.๔ จดั ระบบบรกิ ารนำ้ ด่มื ทีส่ ะอาดและเพยี งพอกบั นกั เรียนในหอพัก ๒.๕.๕ จัดแหล่งเรยี นรู้ด้วยตนเองใหส้ อดคล้องกับความต้องการและความจำเป็นของ นักเรียนประจำ เชน่ หอ้ งสมุดเคลอ่ื นท่ี จดั แหลง่ เรยี นรทู้ ่ีหลากหลาย ๒.๖ งานอาคารสถานที่ เป็นงานเก่ียวกับการก่อสร้าง ดูแล บำรุง รักษา ตรวจสอบ และปรับปรุงซ่อมแซมส่ิงก่อสร้าง วสั ดุครภุ ัณฑ์และอุปกรณ์ในหอพกั รวมถึงการพัฒนาบรเิ วณโดยรอบหอพักให้พร้อมที่จะใช้งานได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพและปลอดภัย โรงเรียนอาจแบ่งพื้นท่ีความรบั ผิดชอบให้กับครู และนกั เรียนทุกคนได้มีสว่ นร่วม ในการดูแล ซึ่งอาจมีการพฒั นาพนื้ ท่ีโดยการทำสวนหย่อม ปลูกไมด้ อก ไมป้ ระดับ ตามความเหมาะสมและมี มาตรการบำรุงรักษาตน้ ไม้ที่ปลูกให้สวยงามเป็นระเบียบและสะอาดอยเู่ สมอ ภารกจิ ท่ีสำคญั ของงานอาคาร สถานที่ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การดแู ลนกั เรยี นประจำในโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ ได้แก่ ๒.๖.๑ จัดโครงสร้างพื้น ฐานได้แก่ระบบน้ำ ไฟฟ้า ห้องน้ำ ห้องส้วม ยาน พาหน ะ สิ่งแวดล้อมด้านกายภาพตามระบบสขุ าภิบาลและระบบสาธารณูปโภค ๒.๖.๒ จัดทำสวนหย่อมบริเวณ หอพักหรือบ้านพักให้เกิดความสวยงาม และร่มร่ืนแก่ ผอู้ าศัยและผู้พบเหน็ ๒.๖.๓ ปลูกพืชผักสวนครวั และพืชประเภทร้ัวกินได้ โดยทำเปน็ แนวร้ัว และสามารถนำ ผลผลิตจากพืชดงั กล่าวมาทำอาหารได้ ๒.๖.๔ จัดให้มีถังขยะในจุดต่างๆ ที่เพียงพอและเหมาะสม เขียนป้ายแยกชนิดของขยะที่ ยอ่ ยสลายได้และย่อยสลายไม่ได้ เพื่อให้นักเรียนไดร้ ู้จกั การแยกขยะสำหรับนำไปใช้ประโยชนท์ ำปุ๋ยหมัก หรือคดั แยกไปจำหนา่ ยตอ่ ไป ๒.๖.๕ ตรวจสอบสภาพหอพักให้อยู่ในสภาพการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมั่น คง แข็งแรงและปลอดภยั ต่อการอยู่พักอาศัยอยา่ งสมำ่ เสมอ ๒.๖.๖ ตรวจสอบอุปกรณ์ประจำหอพักนักเรยี น ที่เก่ียวข้องกับการดำเนิน ชี วิตของ นกั เรยี นทุกชนดิ ให้ปลอดภัยและให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน ๒.๖.๗ ดูแลการทำความสะอาดบริเวณโรงอาบน้ำ ห้องส้วมและบริเวณโดยรอบ อยา่ งสมำ่ เสมอ

๙ ๒.๗ งานรกั ษาความปลอดภัย งานรักษาความปลอดภัยเป็นกิจกรรมเกี่ยวกบั การปกป้อง คุ้มครอง พิทักษ์และรักษาไม่ให้ นกั เรียนท่เี รียนอยู่ในในโรงเรียนได้มีโอกาสประสบกับอนั ตรายในรูปแบบต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นอันตรายต่อ ร่างกาย จติ ใจ สติปัญญา รวมทั้งเจตคติที่ไมพ่ งึ ประสงค์ ดังนั้น โรงเรียนต้องมีมาตรการในการรักษาความ ปลอดภยั ในสิง่ ทม่ี กั จะเกดิ ขึน้ ในโรงเรียนประจำ ดังตอ่ ไปนี้ ๒.๗.๑ การป้องกันไม่ให้นักเรียนได้สัมผัสกับสิ่งเสพติดในรูปแบบต่างๆ เช่น บุหรี่ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮ อล์หรือ ยาเสพติดชนิดต่างๆ โดยครูและผู้ปกครองต้องร่วมมือกัน ตรวจตร า อย่างใกล้ชดิ ตั้งแต่กระบวนการนำนักเรียนมาส่งที่โรงเรียนในวันแรก การตรวจตูเ้ สื้อผ้านักเรยี นอยา่ งนอ้ ย สัปดาห์ละ ๑ ครัง้ รวมท้งั ให้มีการสุ่มตรวจปสั สาวะอยา่ งนอ้ ยเดือน ละ ๑ ครง้ั ๒.๗.๒ การจัดร ะบบการจราจ รในโรงเรียนให้เหมาะสม โดยจัดให้มีเครื่องหมา ย การจราจรในเส้นทางทเ่ี สี่ยงต่อการเกิดอบุ ัตเิ หตุ โรงเรยี นจะต้องให้การอบรมนักเรียนเรอ่ื งการเดินรมิ ถนน การขา้ มถนน ต้องมีการกำชบั รถทุกคนั ที่เขา้ มาในบรเิ วณโรงเรียนจะต้องปฏบิ ัตติ ามเครอื่ งหมายจราจรอยา่ ง เครง่ ครัด มกี ารกำหนดความเรว็ ของยานพาหนะในบริเวณโรงเรยี นจดั ให้มีทจี่ อดรถในบรเิ วณโรงเรยี นสำหรับ บุคลากรของโรงเรียนและสำหรบั ผทู้ ม่ี าเยีย่ มโรงเรียนใหเ้ หมาะสมและเพยี งพอ ๒.๗.๓ โรงเรียนทอ่ี ยู่ใกล้หรอื มแี หล่งน้ำ ต้องมมี าตรการในการป้องกัน เช่น มีป้ายหา้ ม นักเรียนลงเลน่ น้ำ ควรมรี ั้วก้นั ตลอดจนมคี รเู วรคอยสอดสอ่ งดแู ลวา่ กล่าวตกั เตือน ควรจัดครูรับผดิ ชอบฝึก ให้นกั เรยี นวา่ ยนำ้ เป็นและจัดให้มอี ุปกรณ์ในการช่วยเหลอื ผ้ทู ปี่ ระสบอุบัติเหตทุ างนำ้ ใหเ้ หมาะสมเพ่อื จะได้ ช่วยตนเองและผู้อื่นเมอ่ื มอี บุ ตั ิเหตุ ๒.๗.๔ ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์จะต้องได้รับการตรวจสอบอยูเ่ สมอ หากชำรุดหรือ หมดอายุการใชง้ านจะต้องดำเนนิ การเปล่ียนใหม่ นอกจากนี้โรงเรยี นตอ้ งติดต้ังระบบปอ้ งกนั ไฟฟ้าลัดวงจร เพือ่ ป้องกนั อุบัติเหตุทีอ่ าจเกิดขึน้ ๒.๗.๕ ครูไม่ควรใหน้ กั เรียนไปปฏิบัตงิ านบริเวณทีเ่ สี่ยงต่อการเกิดอบุ ตั ิเหตุ เชน่ กันสาด หลงั คา ข้นึ ต้นไมห้ รือลงสระน้ำ เปน็ ต้น ๒.๗.๖ โรงเรยี นตอ้ งมมี าตรการและอุปกรณใ์ นการปอ้ งกนั อัคคภี ัย ดังนี้ ๑) จดั ให้มถี งั ดับเพลงิ ทุกหอพกั และตรวจสอบใหพ้ รอ้ มใช้งานเปน็ ระยะ ๒) ให้ความรู้และฝึกปฏิบัติวิธีป้องกันอัคคีภัย และซักซ้อมวิธีการหนีไฟจาก อาคารต่างๆ ของโรงเรียนอย่างน้อยปลี ะ ๑ ครง้ั ๒.๗.๗ โรงเรียนควรจัดให้มมี าตรการปอ้ งกันอันตรายจากสัตว์มีพิษ เชน่ งูพษิ สุนขั บ้า หรือสตั วอ์ ืน่ ท่อี าจก่อให้เกิดอนั ตราย ๒..๗.๘ โรงเรียนควรมีมาตรการในการป้องกันอันตรายจากบุคคล เช่น การทำร้าย รา่ งกาย การล่อลวง การลกั พาตวั การลว่ งละเมิดทางเพศหรือบุคคลที่ก่อความไมส่ งบเพือ่ สรา้ งความวุ่นวาย ให้กบั สังคม เปน็ ต้น ๒.๗.๙ ให้โรงเรยี นดำเนินการป้องกันอุบตั ิภัยอน่ื ๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละโรงเรียน เชน่ พายุ น้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินไหว หรือสึนามิ เป็นตน้

๑๐ ๒.๘ กจิ วัตรประจำวันของนักเรียนประจำในโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ นักเรียนประจำในโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์ มีกิจวตั รประจำเพือ่ ฝกึ ใหน้ กั เรียนทั้งหมดไดป้ ฏบิ ตั ิ อยใู่ นกรอบของระเบยี บปฏบิ ัติเดียวกัน โดยทัว่ ไปแลว้ โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ในลักษณะประจำจะมีกิจวตั ร ประจำวัน ดงั นี้ เวลา ๐๕.๐๐ น. - ต่ืนนอน จัดเก็บเครื่องนอน ทำธรุ ะส่วนตวั และปฏบิ ัติกิจทางศาสนา เวลา ๐๕.๓๐ น. - ออกกำลงั กาย พัฒนารา่ งกายและจติ ใจ เวลา ๐๖.๐๐ น. - กจิ กรรมพฒั นาหอพักและกจิ กรรมอื่นท่ีไดร้ บั มอบหมาย เวลา ๐๖.๓๐ น. - อาบน้ำ แตง่ กาย เตรยี มเข้าแถวรับประทานอาหารเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น. - รับประทานอาหารเชา้ เวลา ๐๘.๐๐ น. - เข้าแถวเคารพธงชาติเพือ่ ฝึกทักษะชวี ติ ด้านกิจกรรมหลักไตรรงค์ เวลา ๐๘.๓๐ น. - เข้าเรียนภาคเชา้ เวลา ๑๒.๐๐ น. - รบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา ๑๓.๐๐ น. - เข้าเรียนภาคบ่าย เวลา ๑๖.๒๐ น. - เลกิ เรียน ปฏบิ ตั ิภารกจิ ส่วนตัว กจิ กรรมสร้างเสรมิ ประสบการณ์ และกจิ กรรม อ่นื ท่ีได้รบั มอบหมาย เวลา ๑๖.๕๐ น. - อาบน้ำ แต่งกาย เตรยี มเขา้ แถวรับประทานอาหารเยน็ เวลา ๑๗.๐๐ น. - รบั ประทานอาหารเย็น เวลา ๑๘.๐๐ น. - เชญิ ธงลง กิจกรรมหลกั ไตรรงค์ เวลา ๑๘.๓๐ น. - เข้าหอพักและบ้านพกั ปฏิบัติภารกจิ ส่วนตวั เชน่ ทำการบา้ น อา่ นหนงั สือฯ เวลา ๑๙.๕๐ น. - อบรม ไหวพ้ ระ สวดมนต์ ปฏิบตั กิ ิจทางศาสนา การรอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมี เวลา ๒๐.๐๐ น. - เข้านอน สำหรบั ในวันเสาร์จะมกี ิจกรรมพัฒนาโรงเรยี น วันอาทิตย์พฒั นาหอพกั กจิ กรรมพเิ ศษ และ กิจกรรมอสิ ระอืน่ ๆ หมายเหตุ สำรวจนักเรยี นทุกกิจกรรม ๒.๙ ระเบยี บว่าดว้ ยการอยปู่ ระจำของนกั เรียน ประเทศชาติมกี ฎหมายใชใ้ นการปกครองใหพ้ ลเมืองปฏบิ ัติในส่ิงท่ีถูกต้อง ไมล่ ่วงละเมดิ ในสทิ ธิ ของผอู้ ื่น โรงเรยี นก็ยอ่ มจะต้องมีกฎระเบยี บเพอื่ ใหเ้ ปน็ แนวทางในการปกครองนกั เรยี นให้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในขอบเขต เพ่ือความสงบสุขโดยสว่ นรวม ดังนั้นโรงเรยี นจะตอ้ งวางกฎระเบียบจากความเห็นชอบของ สว่ นรวม ลกั ษณะของกฎหรือระเบียบทด่ี ี มีลกั ษณะพื้นฐาน ดังน้ี ๒.๙.๑ เกิดจากความคดิ และข้อตกลงของสังคม

๑๑ ๒.๙.๒ จัดให้มีความชัดเจนสามารถปฏิบัติได้ และบังเกิดผลดตี ่อส่วนรวมมีผลบังคับใช้ สำหรับทุกคน ไมม่ ีการยกเวน้ กลุม่ คนหรอื บุคคล ครู บุคลากร และนกั เรยี นรับรู้ รับทราบและถือปฏิบตั โิ ดย ทว่ั กนั ในการจัดทำระเบียบของโรงเรยี นนั้น ผู้บรหิ ารโรงเรยี นต้องเป็นผู้แต่งต้ังคณะกรรมการ จากบุคคลหลายฝ่าย เช่น รองผู้อำนวยการท่ีรับผิดชอบงานกิจการนักเรียน ครูหัวหน้างานดูแลนักเรียน ประจำ ครูประจำหอพักหรือบ้านพัก ครแู นะแนว นักจติ วทิ ยาและนักสังคมสงเคราะห์ ครูผู้สอน ครูฝ่าย กจิ กรรมนักเรียน และตัวแทนนักเรยี น เพ่ือรว่ มกันพิจารณาข้อดีข้อจำกัดของระเบียบในแต่ละขอ้ เจตนา สำคัญของระเบยี บต้องคำนึงถึงเป้าหมายการส่งเสรมิ ให้นักเรยี นไดร้ บั การพัฒนาทักษะและความสามารถ อย่างเต็มตามศักยภาพของแต่ละคนมากกว่าท่จี ะมีเจตนาจำกัดสิทธิข้ันพื้นฐานของนักเรยี น นอกจากนี้ ยงั จะตอ้ งคำนงึ ถึงความสอดคลอ้ งกบั วัฒนธรรม ประเพณีทางสงั คมของผู้เรียนทีเ่ ข้ามาเรยี นในโรงเรียนศึกษา สงเคราะห์แตล่ ะแหง่ ดว้ ย ดังตัวอยา่ งระเบียบโรงเรียนว่าดว้ ยการอย่ปู ระจำของนักเรยี นในภาคผนวก ๓. การบริหารโรงเรยี นโดยอิงมาตรฐาน องค์การทุกแห่งจะต้องมีกระบวนการพัฒนาคณุ ภาพงานท่ีแตกตา่ งกัน ท้ังน้เี นือ่ งจากแต่ละ องค์การมวี ตั ถปุ ระสงค์ในการดำเนินกจิ กรรมที่แตกต่างกนั รวมทั้งหน่วยงานทางดา้ นการศึกษา โดยเฉพาะ โรงเรียนแต่ละแห่งทก่ี ระจายอยู่ท่วั ประเทศไทยก็จะมีเป้าประสงค์ของการพัฒนาทีแ่ ตกต่างกนั ด้วยเช่นกัน แตเ่ ปา้ หมายปลายทางคือแตล่ ะแห่งตอ้ งมแี นวทางในการพัฒนางานเพือ่ ให้สู่มาตรฐาน โรงเรียนศึกษาสงเคราะหเ์ ป็นโรงเรยี นประเภทประจำ ส่วนใหญเ่ กือบทุกแห่ง มีเป้าหมายใน การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น การกำหนดเป้าหมายของการพัฒนาจึงมีความสำคัญ เหมือนกบั องคก์ ารอ่ืนเชน่ กนั เป้าหมายของการพฒั นาทีไ่ ด้รบั การยอมรบั มากทส่ี ุดคือคำว่า “มาตรฐาน” โดยให้ความสำคญั ตั้งแต่มาตรฐานงาน มาตรฐานตำแหน่ง มาตรฐานของผลงาน รวมถึงมาตรฐานของ องคก์ ารหรือมาตรฐานของโรงเรียนแต่ละประเภท ดังนนั้ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จึงจำเป็นอย่างย่งิ ท่ี จะต้องกำหนดเป้าหมายของการพัฒนา ภาระงานในทุกๆ ด้านใหไ้ ด้มาตรฐานตามเกณฑ์ของหน่วยงานท่ี เกย่ี วขอ้ งกำหนด จงึ จะเป็นการพัฒนาท่ียอมรบั ว่าเป็นภาระงานที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับกนั โดยท่วั ไป หากโรงเรยี นใดสามารถดำเนินการจนกระทั่งผ่านการรับรองคุณภาพจากหนว่ ยงานท่ีเขา้ มาประเมนิ ผลการ ดำเนินงานแลว้ พรอ้ มท้งั สามารถรกั ษาคณุ ภาพตามมาตรฐานท่กี ำหนดได้จะเกดิ ผลดีตอ่ หลายฝา่ ยคอื ๓.๑ ประโยชน์ของการบริหารโรงเรียนโดยองิ มาตรฐานสำหรับโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์ ๑) เกิดการยอมรบั ในคณุ ภาพตามมาตรฐานทก่ี ำหนด ที่แสดงใหเ้ ห็นวา่ กระบวนการ ดำเนนิ การทกุ ขนั้ ตอนมีการดำเนนิ การอย่างถูกตอ้ ง มีระบบ และในท่ีสดุ จะแสดงว่าผลการดำเนินงานหรือผล การจัดบริการในข้ันสุดท้ายมีคณุ ภาพด้วย ๒) เกดิ ภาพลักษณ์ท่ีดี องค์กรได้รับการรับรองคณุ ภาพตามมาตรฐานที่กำหนดจะได้รับ การยอมรับว่ามีมาตรฐานสูง จงึ จะเกิดการยอมรบั ในผลการดำเนนิ งานหรอื ผลการจัดบริการได้ง่าย ๓) ต้นทุน การดำเนิน การที่ ต่ำลงเพราะองค์กรมีประสิทธิภาพมากข้ึน หากมีกา ร ดำเนิน การตามมาตรฐานแล้วจ ะเห็น ได้ว่าจะลดการสูญเสีย ความผิดพลาด ผิดข้ันตอน และทำให้

๑๒ การตัดสินใจมรี ะบบมีเอกสารควบคมุ ทำใหต้ ้นทุนการดำเนินการต่ำลงถึงแม้จะมีคา่ ใช้จา่ ยใน การปรับปรุง การดำเนนิ การท่ีมาก แตเ่ ปน็ การลงทนุ ระยะยาวเพ่ือใหเ้ กิดความประหยัดในระยะยาว ๔) กระบวนการบริหารงานมีระบบ จากเดิมที่อาจจะมีวิธีการทำงานแต่ไมส่ ามาร ถ ตรวจสอบได้ จงึ ทำใหก้ ารบรหิ ารโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มีประสิทธิภาพและสามารถตรวจสอบได้ ๓.๒ ประโยชน์ของการบริหารโรงเรียนโดยองิ มาตรฐานสำหรบั ครูและบุคลากรของโรงเรยี น ศกึ ษาสงเคราะห์ ๑) ครแู ละบุคลากรของโรงเรียนศึกษาสงเคราะหจ์ ะเกิดความพงึ พอใจในการปฏิบัติงาน มากขน้ึ เพราะการทำงานมีระบบท่ีชดั เจน มีคู่มือที่สามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ หรอื ตรวจสอบการทำงาน ได้ทกุ ข้ันตอน ๒) ครูและบุคลากรของโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์มสี ่วนร่วมในการทำงานด้านคุณภาพ มากขนึ้ เพราะจะตอ้ งดำเนนิ การตามระบบและขัน้ ตอนท่กี ำหนดไว้ ๓) ครูและบุคลากรของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มกี ารทำงานท่ีเป็นระบบมากข้ึน และ สามารถพัฒนางานท่ีตนเองรับผดิ ชอบได้ตลอดเวลา ๔) ครูและบุคลากรของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มจี ิตสำนึกดา้ นคุณภาพที่เป็นผลจาก การดำเนินการท่ีเป็นระบบอยา่ งต่อเนือ่ งยาวนาน จะทำให้เกดิ การพฤตกิ รรมอันนำไปสกู่ ารสร้างจติ สำนึก ดา้ นคณุ ภาพในการทำงานทุกข้นั ตอน ๕) ครูและบุคลากรของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จะร่วมกันทำงานเป็นทีมมากขึ้น การทำงานโดยปกติมักจะมีการดำเนินการไปตามลกั ษณะเฉพาะหนา้ ที่ แต่เมอ่ื ผ่านการรับรองคุณภาพแล้ว จะต้องดำเนนิ การไปตามกระบวนการท่กี ำหนด ตอ้ งมีความสัมพนั ธ์กับบุคคลที่เก่ียวขอ้ งกบั กระบวนการของ ตนเอง ดงั นน้ั การพฒั นาการทำงานเปน็ ทมี จงึ เกิดข้นึ ๓.๓ ประโยชน์ของการบริหารโรงเรียนโดยอิงมาตรฐานสำหรบั นกั เรียนและผู้ปกครอง ๑) นกั เรียนและผู้ปกครองมีความมัน่ ใจในระบบดูแลนกั เรียนประจำในโรงเรียนศกึ ษา สงเคราะห์และกระบวนการใหบ้ รกิ ารของโรงเรียนศึกษาสงเคราะหม์ ากข้ึน เพราะเมือ่ โรงเรียนมกี ารพัฒนา จนได้มาตรฐานแลว้ ผลการดำเนนิ งานดา้ นต่างๆ ท่เี กิดขน้ึ ยอ่ มมนั่ ใจในคณุ ภาพได้ ๒) นักเรียนและผ้ปู กครองสามารถอา้ งอิงจากหนว่ ยงานต้นสังกัดท่รี บั ประกันคุณภาพได้ ทำใหเ้ กิดการยอมรับในผลการดำเนินงานและผลการจัดบรกิ ารมากขึน้ ๓) นักเรียนและผู้ปกครองมีความภาคภูมใิ จต่อโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มากขึ้น และ เชื่อมั่นวา่ โรงเรียนสามารถพัฒนานักเรยี นทุกคนให้มีคุณภาพทัง้ ดา้ นร่างกาย จิตใจ สติปญั ญาและทกั ษะ การดำรงชีวิต ดงั น้ัน ความจำเป็นท่ีโรงเรยี นศึกษาสงเคราะหต์ ้องกำหนดเป้าหมายการพัฒนางานภาระ งานด้านตา่ งๆ ให้เป็นมาตรฐานไวจ้ ะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาองค์การในระยะยาว และโดยเฉพาะการ กำหนด “มาตรฐานการดูแลนักเรียนประจำสำหรับโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์” จะเป็นเคร่ืองมือในการ บริหารงานของผู้บริหาร ครูและบุคลากรท่ปี ฏิบัติหน้าที่ดูแลนักเรียนประจำ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ ตอ้ งการรปู แบบการพัฒนาระบบดูแลนักเรยี นประจำทง้ั ในปจั จบุ นั และในอนาคตไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

๑๓ บทท่ี ๒ มาตรฐานการดูแลนักเรยี นประจำสำหรับ โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ เพ่ือให้การนำมาตรฐานสกู่ ารปฏิบัตไิ ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธผิ ลในการพัฒนา คุณภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ สำนักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ จึงไดจ้ ัดทำ คำอธิบายและเกณฑก์ ารให้คะแนน พร้อมทง้ั เกณฑ์การผา่ นมาตรฐานสำนกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษข้ึน เพื่อให้โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และสำนักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ ใช้เป็นเคร่ืองมือในการควบคุม ตรวจสอบ และประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรยี นตอ่ ไป มาตรฐานการดูแลนักเรยี นประจำสำหรบั โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ประกอบดว้ ย ๕ ดา้ น จำแนกเป็น ๖ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ๒๕ ตวั บง่ ชี้ ดงั นี้ ด้านท่ี ๑ ด้านการบรหิ ารจัดการ (นำ้ หนัก ๑๕ คะแนน) มี ๑ มาตรฐาน ๔ ตวั บ่งช้ี ประกอบด้วย มาตรฐานที่ ๑ ประสิทธิภาพด้านการบริหารจดั การและการบริหารจดั การดแู ลนกั เรียน ประจำ (๑๕ คะแนน) ตัวบ่งช้ีที่ ๑.๑ มีการกำหนดวิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าประสงค์ ในการดแู ลนักเรียน ประจำ (๕ คะแนน) ตวั บง่ ชที้ ่ี ๑.๒ มโี ครงสร้างการบริหารงานดา้ นการดูแลนกั เรยี นประจำ (๕ คะแนน) ตัวบ่งชีท้ ี่ ๑.๓ มีโครงการ กจิ กรรม แผนการดำเนนิ งานท่สี ง่ เสริม นักเรียนประจำ ให้บรรลุวิสัยทัศน์พนั ธกิจ เป้าประสงค์ (๒ คะแนน) ตวั บ่งช้ีท่ี ๑.๔ มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม รายงานของผู้รับผิดชอบ มกี ารวเิ คราะหแ์ ละ นำผลไปใช้พัฒนา (๓ คะแนน) ด้านที่ ๒ ด้านคณุ ภาพนักเรียนประจำ (นำ้ หนัก ๓๐ คะแนน) มี ๒ มาตรฐาน ๗ ตัวบง่ ชี้ ประกอบด้วย มาตรฐานที่ ๒ นกั เรียนประจำมีสุขภาวะ สขุ ภาพกาย สุขภาพจิตท่ีดี (๑๕ คะแนน) ตัวบ่งชที้ ่ี ๒.๑ นักเรยี นมสี ุขนสิ ัยในการดแู ลสุขภาพ รกั ษาความสะอาด และรักการ ออกกำลังกาย (๓ คะแนน) ตวั บง่ ช้ที ่ี ๒.๒ นกั เรียนมีความรู้ มีทกั ษะ สามารถป้องกนั ตวั เองให้พ้นจากส่งิ เสพติดให้ โทษ หลีกเล่ยี งจากสภาวะทีเ่ สี่ยงต่อความรนุ แรง โรคภยั อุบตั เิ หตุ และ ปัญหาพฤตกิ รรมทางเพศ (๕ คะแนน) ตัวบง่ ชที้ ่ี ๒.๓ นกั เรยี นมีน้ำหนกั สว่ นสูง ดัชนีมวลกาย และสมรรถภาพทางกาย ตามเกณฑ์ (๓ คะแนน)

๑๔ ตวั บง่ ชที้ ่ี ๒.๔ นกั เรียนมีความภาคภูมใิ จและเหน็ คณุ ค่าในตนเอง มีความมั่นใจ กลา้ แสดงออก มคี วามรับผิดชอบ รู้จักบทบาทและหน้าทีข่ องตนเอง (๔ คะแนน) มาตรฐานที่ ๓ นักเรียนประจำมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ มท่พี ึงประสงค์ (๑๕ คะแนน) ตัวบง่ ชี้ที่ ๓.๑ นักเรยี นประจำสามารถนอ้ มนำพระบรมราโชบายของ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ท่ีพระราชทานใหก้ บั นักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑๒ ข้อใช้ในการดำรงชวี ิต (๖ คะแนน) ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๓.๒ นกั เรียนประจำมจี ิตสาธารณะ อนุรักษพ์ ลังงานและ สิง่ แวดลอ้ ม บำเพญ็ ประโยชนต์ ่อส่วนรวมและสังคม (๕ คะแนน) ตวั บง่ ชที้ ี่ ๓.๓ นักเรยี นประจำยอมรบั ความคดิ วฒั นธรรมทีแ่ ตกต่าง และอยรู่ ว่ มกนั อย่างมคี วามสุข (๔ คะแนน) ด้านที่ ๓ ดา้ นการส่งเสริมทักษะการดำรงชีวติ ของนกั เรยี นประจำ (นำ้ หนกั ๒๐ คะแนน) มี ๑ มาตรฐาน ๕ ตวั บง่ ช้ี ประกอบดว้ ย มาตรฐานท่ี ๔ นักเรยี นประจำมที กั ษะในการดำรงชวี ติ และมีสนุ ทรยี ภาพ (๒๐ คะแนน) ตัวบ่งชี้ท่ี ๔.๑ นักเรียนประจำมคี วามจงรักภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั รยิ ์ (๕ คะแนน) ตวั บ่งชท้ี ี่ ๔.๒ นกั เรียนประจำสามารถน้อมนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกตใ์ ชใ้ นการดำรงชวี ิตไดอ้ ย่างเหมาะสม (๕ คะแนน) ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๔.๓ นกั เรยี นประจำเปน็ ผู้นำและผู้ตามทีด่ ีตามวิถีระบอบประชาธิปไตย (๒ คะแนน) ตัวบง่ ชี้ท่ี ๔.๔ นกั เรยี นประจำสามารถปฏิบตั กิ จิ กรรมการประกอบอาชีพอิสระเพื่อการ มีรายไดร้ ะหว่างเรียนของผเู้ รียน (สอร.) (๕ คะแนน) ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๕ นักเรียนประจำมีสุนทรยี ภาพและลักษณะนสิ ัยด้านศิลปะ ดนตรี กฬี า และนันทนาการ (๓ คะแนน) ด้านท่ี ๔ ดา้ นอาคารสถานท่ี สภาพแวดล้อมและสง่ิ อำนวยความสะดวกในการดำรงชวี ติ ของนกั เรยี น ประจำ (นำ้ หนกั ๑๕ คะแนน) มี ๑ มาตรฐาน ๓ ตัวบ่งชี้ ประกอบด้วย มาตรฐานที่ ๕ โรงเรียนมกี ารจัดอาคาร สถานท่ี สภาพแวดล้อม และส่ิงอำนวยความสะดวกให้ เหมาะสมกบั นักเรียนประจำ (๑๕ คะแนน) ตวั บ่งชท้ี ี่ ๕.๑ มีการดำเนนิ งานจัดหา ซ่อมแซม และบำรงุ รักษา อาคารสถานท่ี สภาพแวดลอ้ ม ระบบสาธารณปู โภค และวัสดคุ รุภณั ฑ์ให้พรอ้ มใช้งาน (๖ คะแนน)

๑๕ ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๕.๒ นักเรียนครูและบุคลากรมีสว่ นร่วมในการจดั บรรยากาศ ภูมิทศั นใ์ หร้ ม่ ร่ืน สวยงาม เอือ้ ตอ่ การอยู่อาศัย และซ่อมแซม บำรุงรักษาสง่ิ อำนวยความ สะดวกสำหรบั การดำรงชีวิตของนักเรียนประจำในหอพักหรือบ้านพัก อย่างตอ่ เน่อื ง (๔ คะแนน) ตัวบ่งช้ีท่ี ๕.๓ โรงเรียนประจำมีส่ิงอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์สำหรับการ ดำรงชีวิตของนักเรียน ประจ ำในหอพักหรือบ้าน พักที่เพียงพอแ ละ เหมาะสมตามความจำเป็น (๕ คะแนน) ดา้ นที่ ๕ ด้านการรกั ษาความปลอดภัย และปอ้ งกันอบุ ัตภิ ัยในโรงเรียน (น้ำหนัก ๒๐ คะแนน) มี ๑ มาตรฐาน ๖ ตวั บ่งชี้ ประกอบดว้ ย มาตรฐานที่ ๖ การจดั ระบบรักษาความปลอดภยั (๒๐ คะแนน) ตวั บ่งช้ีท่ี ๖.๑ โรงเรยี นประจำมีมาตรการในการป้องกันอบุ ัติเหตุ อุบตั ิภัย (๕ คะแนน) ตัวบ่งชท้ี ี่ ๖.๒ โรงเรยี นประจำมีมาตรการในการป้องกนั สง่ิ เสพติดและปัญหาพฤตกิ รรม ทางเพศ (๕ คะแนน) ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๖.๓ โรงเรียนประจำมมี าตรการในการคุ้มครองสทิ ธแิ ละสวสั ดภิ าพของ นักเรียนประจำ (๔ คะแนน) ตัวบ่งชท้ี ี่ ๖.๔ โรงเรียนประจำมีมาตรการในการควบคมุ สตั ว์เล้ยี ง กำจัดสัตว์มพี ษิ และ สัตวท์ ่เี ปน็ พาหะนำโรค (๒ คะแนน) ตัวบง่ ช้ีท่ี ๖.๕ โรงเรียนประจำมมี าตรการการจดั เกบ็ สารเคมี สารพิษอ่นื ๆ และอุปกรณ์ การทำความสะอาดที่ถกู ต้อง และปลอดภัย (๒ คะแนน) ตวั บง่ ชที้ ี่ ๖.๖ โรงเรยี นประจำ มมี าตรการการจัดระบบเตอื นภัย และจดั ใหม้ คี ณะบคุ คล ทีร่ บั ผิดชอบดา้ นความปลอดภัยในโรงเรยี นประจำ (๒ คะแนน)

๑๖ บทท่ี ๓ คำอธิบายและระดับคณุ ภาพมาตรฐานการดแู ลนักเรียน ประจำสำหรบั โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์ มาตรฐานการดแู ลนกั เรียนประจำสำหรบั โรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ แบง่ ออกเป็น ๕ ด้าน ได้แก่ ๑) มาตรฐานด้านการบริหารจัดการ มี ๑ มาตรฐาน ๔ ตัวบ่งชี้ ๒) มาตรฐานด้านคุณภาพนกั เรียนประจำ มี ๒ มาตรฐาน ๗ ตัวบง่ ชี้ ๓) มาตรฐานด้านการส่งเสรมิ ทักษะชวี ติ ของนักเรียนประจำ มี ๑ มาตรฐาน ๕ ตวั บ่งชี้ ๔) มาตรฐานด้านอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อม และส่งิ อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวติ ของ นักเรยี นประจำ มี ๑ มาตรฐาน ๓ ตวั บ่งช้ี ๕) มาตรฐานดา้ นการรักษาความปลอดภัย และปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ัยใน โรงเรยี น มี ๑ มาตรฐาน ๖ ตวั บ่งช้ี ในแตล่ ะมาตรฐานและตัวบง่ ชีไ้ ดก้ ำหนดคำอธบิ าย ประเดน็ การพิจารณา ระดับคุณภาพ วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลหรือแหลง่ ข้อมูล และเกณฑ์การสรุประดับคุณภาพ การกำหนด ระดับคุณภาพของแตล่ ะตวั บง่ ช้ีน้นั ไดแ้ บ่งเป็น ๕ ระดับ โดยกำหนดใหค้ ุณภาพระดบั ๓ เป็นค่ากลางท่ี นักเรยี นหรอื ครู หรอื ผูบ้ รหิ ารโรงเรยี นควรบรรลุตามเกณฑ์ คุณภาพระดบั ๔ เปน็ คุณภาพท่เี กดิ ขึน้ ท่ีขยายผล ในวงกว้างออกไปในหม่เู พ่ือน คุณภาพระดับ ๕ จะเน้นถึงความโดดเด่นของเรอื่ งนั้น ๆ ท่ีสามารถเป็น แบบอยา่ งได้ สำหรบั คุณภาพระดับ ๒ หมายถึง ผลทเี่ กดิ ขึน้ ไม่สามารถบรรลถุ ึงคา่ กลาง ส่วนคุณภาพระดับ ๑ หมายถงึ มกี ารดำเนนิ การ ไมไ่ ด้ทำ หรอื ทำไมไ่ ด้ ควรตอ้ งแก้ไขโดยด่วน มรี ายละเอียดดังน้ี มาตรฐานท่ี ๑ ประสทิ ธภิ าพด้านการบรหิ ารจดั การและการบรหิ ารจัดการดูแล นักเรียนประจำ (๑๕ คะแนน) คำอธิบาย โรงเรยี นมวี ิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงคท์ ชี่ ัดเจน มีโครงสร้างการบริหารจดั การดแู ลนักเรยี น ประจำ มีโครงการ กิจกรรมและแผนการดำเนนิ งานท่ีส่งเสริมนักเรยี นประจำให้บรรลุวิสยั ทศั น์พันธกิจและ เปา้ ประสงค์ มกี ารนเิ ทศ กำกับ ติดตามและรายงานของผรู้ บั ผิดชอบ มกี ารวเิ คราะห์และนำผลไปใช้พัฒนาใน การบริหารจัดการดูแลนักเรียนประจำ และพัฒนา นกั เรียนโดยใช้กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วม ครอบคลมุ ภารกจิ การบรหิ ารงาน ประกอบดว้ ย งานกจิ การนักเรียน งานหอพัก งานอนามยั งานโภชนาการ งานบรกิ าร งานอาคารสถานที่ และงานรักษาความปลอดภัย ให้บรรลุ เป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในแผน สง่ เสรมิ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมในการปฏบิ ตั ิงาน เพอ่ื จะไดใ้ ห้คำปรกึ ษา คำแนะนำแกน่ กั เรยี น และผู้มสี ว่ นเก่ียวข้อง มีความพึงพอใจตอ่ ผลการบรหิ ารจดั การดูแลนกั เรียนประจำ

๑๗ ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๑.๑ มกี ารกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ ในการดูแลนักเรียนประจำ (นำ้ หนัก ๕ คะแนน) ๑. คำอธิบาย โรงเรียนมีวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ ท่ีชัดเจนในการบริหารจัดการ ในการดูแล นกั เรียนประจำ และพัฒนานักเรียนโดยใช้กระบวนการบริหารแบบมีสว่ นร่วม มคี วามสามารถในการ วิเคราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มูลสารสนเทศในปัจจบุ ันสู่กรอบการพัฒนานักเรียนในอนาคตให้มคี วามสามารถใน การเป็นผู้นำ มกี ารริเร่ิมวิธีการใหม่ๆ นำมาปรบั ปรงุ และเผยแพร่ แนะนำ ให้ครู บคุ ลากรใน โรงเรียนนำไป ปรับใชเ้ พ่ือพัฒนานักเรยี น ๒. ประเด็นการพิจารณา ๒.1 โรงเรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพ่ือนำมาใช้ในการวาง แผนการพฒั นาคุณภาพนกั เรยี นโดยการมสี ว่ นร่วมของบคุ ลากรภายในโรงเรียน ๒.๒ โรงเรยี นแสดงทศิ ทางการพัฒนาคุณภาพนักเรียนของโรงเรียนในอนาคตทสี่ อดคลอ้ ง กับบริบทของโรงเรียนและชุมชน ๒.๓ โรงเรียนกำหนดวสิ ัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ที่ สอดคล้องกับความต้องการ บรบิ ทของโรงเรยี น ชุมชนและตอบสนองนโยบายของตน้ สังกัด ๒.๔ โรงเรียนนำวิสยั ทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพการดูแล นกั เรยี นประจำ ๒.๕ โรงเรียนได้รบั การยอมรับจากหน่วยงานที่เก่ียวข้องเกี่ยวกับงานการดูแลนักเรียน ประจำหรือเป็นผลงานการปฏิบัติทีเ่ ปน็ เลศิ และมกี ารเผยแพรผ่ ลการดำเนินงานในปีการศกึ ษาทผ่ี ่านมา ๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ัติตามเกณฑพ์ จิ ารณาครบท้ัง ๕ ข้อ ๔ โรงเรียนมีการปฏิบตั ิตามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๔ ข้อ ๓ โรงเรยี นมีการปฏบิ ตั ติ ามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๓ ข้อ ๒ โรงเรียนมกี ารปฏิบัติตามเกณฑ์พิจารณาได้ ๒ ขอ้ ๑ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ัติตามเกณฑ์พิจารณาได้ ๑ ขอ้ หรอื ไมม่ เี อกสารหลักฐานท่ีชดั เจน

๑๘ ๔. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหลง่ ข้อมูล แหล่งข้อมูล วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล ผบู้ รหิ าร ครู นักเรียน และผู้ที่เก่ียวข้อง ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ พฤตกิ รรมของผู้บริหารและครู ๒. การสังเกต • แผนปฏบิ ัติการประจำปี ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน ร่องรอย • คำส่ังการปฏบิ ัตงิ านของโรงเรียน การปฏิบัติงาน หรือขอ้ มลู เชิงประจกั ษ์ • บนั ทกึ การประชุม • สมดุ นิเทศ สมดุ เย่ยี มของโรงเรยี น • รายงานการประเมินภายใน/ภายนอก • แผนปฏบิ ัตริ าชการ • รายงานประจำปีของโรงเรยี น • แฟ้มประกาศนียบัตร / รางวัลต่างๆ • ฯลฯ ตวั บ่งชท้ี ่ี ๑.๒ มีโครงสร้างการบริหารงานการดูแลนกั เรยี นประจำ (นำ้ หนกั 5 คะแนน) ๑. คำอธบิ าย โรงเรยี นมโี ครงสร้างการบรหิ ารงานการดูแลนักเรียนประจำท่ีชัดเจน มกี ารแตง่ ตง้ั คณะทำงาน และ กำหนดบทบาทหน้าท่ผี ู้รับผดิ ชอบเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร และมีการเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ใหก้ ับผู้ปฏบิ ตั ิ ๒. ประเดน็ การพจิ ารณา ๒.๑ โรงเรยี นมโี ครงสรา้ งการบรหิ ารงานการดแู ลนักเรยี นประจำ ๒.๒ โรงเรยี นมีคำสั่งแตง่ ตงั้ คณะกรรมการดำเนินงาน ๒.๓ โรงเรียนมีค่มู อื แนวปฏิบัติตามโครงสร้างการบริหารการดูแลนักเรียนประจำ ๒.๔ โรงเรยี นมกี ารชแ้ี จงและประชาสมั พันธใ์ หก้ ับผู้ปฏบิ ตั ิ ๒.๕ โรงเรยี นนำคมู่ อื ไปใช้ในการดูแลนักเรียนประจำ ๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรยี นมีการปฏิบัติตามเกณฑพ์ จิ ารณาครบท้งั ๕ ข้อ ๔ โรงเรียนมกี ารปฏิบัตติ ามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๔ ขอ้ ๓ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ิตามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๓ ข้อ ๒ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พิจารณาได้ ๒ ขอ้ ๑ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๑ ขอ้ หรอื ไม่มเี อกสารหลักฐานท่ชี ัดเจน

๑๙ ๔. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู /แหลง่ ข้อมูล วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมลู แหล่งข้อมลู ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผู้บริหาร ครู นกั เรยี น และผ้ทู ่เี ก่ยี วขอ้ ง ๒. การสังเกต • พฤติกรรมของผบู้ รหิ าร ครแู ละนกั เรียน • สภาพแวดลอ้ มของโรงเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • โครงสรา้ งการบรหิ ารงาน รอ่ งรอยการปฏิบัติงาน หรือ ขอ้ มูล • คำสงั่ มอบหมายงานการดแู ลนักเรยี นประจำ เชงิ ประจักษ์ • บันทกึ การประชุม • คมู่ อื การปฏบิ ตั ิงานโรงเรียน • แผนปฏิบัติการประจำปี • แผนปฏิบตั ิราชการ • ฯลฯ ตวั บ่งช้ีท่ี ๑.๓ มีโครงการ กจิ กรรม แผนการดำเนินงานที่ส่งเสริมนักเรียนประจำให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ พนั ธกจิ เป้าประสงค์ (นำ้ หนกั 2 คะแนน) ๑. คำอธิบาย โรงเรียนมี โครงการ กจิ กรรม และแผนการดำเนินงานอยา่ งเป็นระบบทส่ี ่งเสริมนกั เรียนประจำให้ บรรลวุ ิสัยทศั น์ พันธกจิ เป้าประสงค์ โดยบุคลากรมสี ว่ นรว่ มกำหนดเป้าหมายทชี่ ัดเจน ๒. ประเด็นการพจิ ารณา ๒.๑ โรงเรยี นมีแผนงาน โครงการ กิจกรรม ส่งเสริมและพัฒนาครแู ละบุคลากร ๒.๒ โรงเรยี นมีแผนงาน โครงการ กจิ กรรม ส่งเสริมและพฒั นานักเรียนประจำ ๒.๓ โรงเรียนมกี ารดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ กจิ กรรม ส่งเสรมิ และพัฒนาศักยภาพครแู ละ บคุ ลากร ๒.๔ โรงเรียนมกี ารดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ กิจกรรม สง่ เสริมและพฒั นาศกั ยภาพนกั เรยี น ประจำ ๒.๕ โรงเรยี นมีการดำเนนิ งานตามแผนงาน โครงการ กิจกรรมท่สี ง่ เสริมพัฒนาครู บคุ ลากร และ นกั เรียนประจำโดยคำนงึ ถึงการมสี ่วนร่วมเป็นสำคัญ

๓. เกณฑ์การให้คะแนน ๒๐ คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรยี นมกี ารปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พิจารณาครบทงั้ ๕ ข้อ ๔ โรงเรยี นมีการปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๔ ขอ้ ๓ โรงเรียนมีการปฏบิ ตั ติ ามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๓ ข้อ ๒ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ัติตามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๒ ข้อ ๑ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ิตามเกณฑ์พิจารณาได้ ๑ ขอ้ หรอื ไมม่ ีเอกสารหลักฐานท่ีชดั เจน ๔. วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู /แหล่งขอ้ มูล แหล่งข้อมลู วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผบู้ รหิ าร ครู นักเรียน และผทู้ เี่ กี่ยวข้อง ๒. การสังเกต • พฤตกิ รรมของผบู้ ริหาร ครูและนักเรียน • สภาพแวดล้อม ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • แผนปฏิบตั ิการประจำปี รอ่ งรอยการปฏิบัติงาน หรอื ข้อมูล • คำสง่ั การปฏิบตั ิงานของโรงเรียน เชงิ ประจักษ์ • บันทกึ การประชมุ • สมดุ นเิ ทศ • รายงานการประเมินตนเอง (SAR) • แฟ้มสะสมงานของครู / ผูบ้ ริหารโรงเรยี น • รายงานโครงการ • รูปภาพ ปา้ ยนเิ ทศ เว็บไซต์ จดหมายขา่ ว • ฯลฯ ตัวบ่งช้ที ี่ ๑.๔ มกี ารนิเทศ กำกบั ติดตาม รายงานของผู้รบั ผิดชอบ มีการวิเคราะหแ์ ละนำผลไปใช้ พฒั นา (น้ำหนัก ๓ คะแนน) ๑. คำอธิบาย โรงเรียนมีการนิเทศ กำกับ ตดิ ตาม รายงานของผู้รับผิดชอบ มีการวิเคราะห์และนำผลไปใช้ พัฒนาการบริหารจดั การการดูแลนักเรียนประจำเพ่ือให้นักเรียนได้รบั การพัฒนาอย่างมีคุณภาพและ ประสิทธิภาพ และสร้างเครือขา่ ยการมีส่วนร่วมในการดแู ลนักเรยี นระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองอยา่ ง ต่อเนื่องและรอบดา้ น

๒๑ ๒. ประเดน็ การพิจารณา ๒.๑ โรงเรยี นมกี ารแตง่ ตัง้ ผรู้ ับผดิ ชอบในการนเิ ทศ กำกบั ตดิ ตามเปน็ ลายลักษณ์อักษร ๒.๒ โรงเรียนมแี ผนหรือปฏทิ ินการนเิ ทศ กำกบั ตดิ ตาม ๒.๓ ผู้รับผิดชอบงานดูแลนักเรียนประจำหรือคณะนิเทศดำเนินการ การนิเทศ กำกับ ติดตาม และ รายงานผลอย่างตอ่ เนือ่ ง ๒.๔ โรงเรียนมกี ารนำผลการประเมนิ เพอ่ื การพฒั นาหรือปรับปรงุ การบรหิ ารงานการดูแลนกั เรยี น ประจำ ๒.๕ โรงเรียนมีเครอื ขา่ ยในการดำเนินงานการดูแลนกั เรยี นประจำ ๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ติ ามเกณฑพ์ จิ ารณาครบทั้ง ๕ ข้อ ๔ โรงเรยี นมกี ารปฏิบตั ิตามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๔ ข้อ ๓ โรงเรียนมีการปฏิบตั ิตามเกณฑ์พิจารณาได้ ๓ ข้อ ๒ โรงเรยี นมกี ารปฏิบตั ิตามเกณฑพ์ จิ ารณาได้ ๒ ข้อ ๑ โรงเรียนมีการปฏิบัตติ ามเกณฑพ์ จิ ารณาไดไ้ มเ่ กิน ๑ ขอ้ หรือไมม่ ีเอกสารหลกั ฐาน ที่ชัดเจน ๔. วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมลู /แหล่งข้อมลู วิธกี ารเก็บรวบรวมขอ้ มูล แหล่งขอ้ มลู ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผบู้ ริหาร ครู นกั เรียน และผทู้ เ่ี กี่ยวข้อง ๒. การสังเกต พฤติกรรมของผู้บรหิ ารและครู ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • แผนปฏิบตั กิ ารประจำปี รอ่ งรอยการปฏบิ ัตงิ าน หรอื ขอ้ มูล • คำสัง่ การปฏบิ ตั ิงานของโรงเรียน เชิงประจักษ์ • บนั ทึกการประชมุ • สมุดนิเทศ • รายงานโครงการ/กิจกรรมที่นำไปพัฒนางาน • รายงานประจำปีของโรงเรียน • ฯลฯ

๒๒ มาตรฐานที่ ๒ นกั เรยี นประจำมีสุขภาวะ สุขภาพกาย สขุ ภาพจิตท่ดี ี ( ๑๕ คะแนน) คำอธบิ าย นกั เรยี นประจำมีสขุ ภาวะ สขุ ภาพกาย สขุ ภาพจิตทดี่ ี หมายถึง นกั เรียนมีสุขนสิ ยั ในการดแู ลสขุ ภาพ รักษาความสะอาด และรกั การออกกำลงั กาย มีควา มรู้ทักษะสามารถปอ้ งกันตวั เองให้พ้นจากสิ่งเสพติดให้ โทษ หลีกเลยี่ งจากสภาวะที่เสยี่ งต่อความรุนแรง โรคภยั อุบตั ิเหตุ และปัญหาพฤติกรรมทางเพศ มีน้ำหนัก ส่วนสงู ดัชนีมวลกายตามเกณฑ์ของกรมอนามยั และมีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ของกรมพลศึกษา หรือ สำนักงานกองทุนสนับสนนุ สร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.) เห็นคุณคา่ ในตนเอง มีความม่ันใจ กลา้ แสดงออก มคี วามรบั ผิดชอบ รูจ้ กั บทบาทของตนเอง ตัวบง่ ชี้ท่ี 2.1 นกั เรียนมีสขุ นสิ ัยในการดแู ลสขุ ภาพ รักษาความสะอาด และรักการออกกำลงั กาย (นำ้ หนัก ๓ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นกั เรยี นรู้จกั เลือกรบั ประทานอาหารท่มี คี ุณค่า ออกกำลงั กายสม่ำเสมอ มีสขุ นสิ ยั ทดี่ ีในการ ปฏิบตั ิกจิ วัตรประจำวัน มรี ่างกายทสี่ มบรู ณ์ แขง็ แรง มจี ติ ใจร่าเรงิ แจ่มใส รูจ้ กั รักษาความสะอาดร่างกาย เครอื่ งใช้ส่วนตวั และสว่ นรวม เลือกสวมใสเ่ ส้ือผ้าทสี่ ะอาดและเรยี บร้อย ๒. ประเด็นการพิจารณา ๒.๑ นกั เรียนเลอื กรับประทานอาหารท่มี ีคุณค่าตามหลกั โภชนาการ ๒.๒ นกั เรียนรักษาความสะอาดเครอ่ื งใช้ส่วนตัวและส่วนรวม ๒.๓ นักเรยี นดแู ลสขุ ภาพกาย สุขภาพจติ และออกกำลังกายอยา่ งสม่ำเสมอ ๒.๔ นักเรยี นมสี ขุ นิสัยทดี่ ใี นการปฏิบัติกิจวตั รประจำวนั อยา่ งสมำ่ เสมอ ๒.๕ นักเรยี นมสี ว่ นร่วม เผยแพร่ หรอื รณรงค์เก่ียวกับสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต ๓. เกณฑ์การให้คะแนน :คดิ จากค่าเฉลยี่ ของนกั เรยี นท้งั หมด คา่ คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ นกั เรยี นมีคุณลักษณะตามประเด็นพจิ ารณาตั้งแตร่ อ้ ยละ ๙๕ ขนึ้ ไป ๔ นักเรยี นมีคุณลักษณะตามประเด็นพิจารณา ร้อยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นักเรียนมคี ณุ ลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นกั เรียนมีคณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นกั เรยี นมีคณุ ลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ ๕๐

๒๓ ๔. วธิ กี ารเก็บรวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูล วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผู้บรหิ าร ครู นักเรยี น และผู้ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ๒. การสังเกต พฤตกิ รรมของนักเรียน, การแตง่ กายของนกั เรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน • ปพ. ๕ รอ่ งรอยการปฏบิ ัตงิ าน หรอื ขอ้ มูล • ขอ้ มูลด้านสขุ ภาพ เชิงประจักษ์ • การรว่ มกิจกรรมออกกำลังกาย • สถิติการเจบ็ ป่วยของงานอนามยั โรงเรียน • รายการอาหาร การจัดเลย้ี งอาหารนกั เรยี น • เตยี งนอน เครื่องนอน • ต้เู สือ้ ผ้านักเรยี น • หอ้ งน้ำหอ้ งส้วม โรงอาบน้ำ • สมดุ บนั ทกึ เวรประจำวนั • สมุดบนั ทึกสขุ ภาพ • ฯลฯ ตวั บง่ ช้ีท่ี ๒.๒ นกั เรียนมคี วามรู้ มีทกั ษะ สามารถป้องกนั ตัวเองใหพ้ ้นจากส่ิงเสพตดิ ให้โทษ หลีกเลย่ี ง จากสภาวะท่เี สี่ยงต่อความรนุ แรง โรคภยั อุบัตเิ หตุ และปัญหาพฤตกิ รรมทางเพศ (น้ำหนัก ๕ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นกั เรียนสามารถปอ้ งกันตัวเองให้พ้นจากส่ิงเสพตดิ ให้โทษ มที ักษะการปฏิเสธ หลกี เล่ียงจาก สภาวะที่เสีย่ งตอ่ ความรุนแรง โรคภัย อุบตั ิเหตุและปญั หาพฤติกรรมทางเพศ ใชเ้ วลาว่างทำกิจกรรมท่ีเป็น ประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม ให้ความร่วมมือกับโรงเรยี นโดยการช่วยครู เฝา้ ระวัง สอดส่องดูแลผู้มี พฤตกิ รรมเก่ียวข้องกบั สิ่งเสพติด พฤตกิ รรมชู้สาว ร่วมรณรงค์หรอื ใหค้ วามรู้แก่บคุ คลอ่ืนเพอื่ ให้ตระหนักถึง ส่งิ เสพติดให้โทษ เปน็ ผู้ทป่ี ลอดจากโรคภัย อุบัติเหตุ และปญั หาพฤตกิ รรมทางเพศ ๒. ประเด็นพิจารณา ๒.๑ นักเรยี นมคี วามรู้ มีทักษะในการปฏิเสธเพือ่ หลกี เล่ยี งสิ่งเสพติดให้โทษ ๒.๒ นักเรียนมีความรู้ มีทักษะในการหลีกเลี่ยงความรุนแรง โรคภัย อุบัติเหตุและปัญหา พฤตกิ รรมทางเพศ ๒.๓ นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการเฝ้าระวงั สอดส่องดแู ลผู้ที่มพี ฤตกิ รรมเสยี่ งด้านสิ่งเสพติด พฤติกรรมชสู้ าว หรอื การทะเลาะววิ าทของนักเรียนในโรงเรียน

๒๔ ๒.๔ นักเรยี นมสี ่วนร่วมรณรงค์ตอ่ ตา้ นสิง่ เสพติดและอบายมุข การใชค้ วามรุนแรง การป้องกัน โรคภัย อุบตั เิ หตแุ ละปญั หาพฤติกรรมทางเพศ ๒.๕ นักเรยี นใช้เวลาว่างทำกิจกรรมท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม ๓. เกณฑ์การให้คะแนน :คิดจากคา่ เฉลี่ยของนกั เรียนท้ังหมด คา่ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณาต้ังแตร่ ้อยละ ๙๕ ขน้ึ ไป ๔ นักเรยี นมีคุณลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นักเรยี นมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นักเรยี นมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นักเรียนมีคุณลักษณะตามประเด็นพิจารณา ตำ่ กวา่ ร้อยละ ๕๐ ๔. วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมลู /แหล่งขอ้ มูล แหลง่ ขอ้ มูล วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมลู ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผบู้ ริหาร ครู นกั เรียน และผูท้ ีเ่ ก่ียวขอ้ ง ๒. การสงั เกต พฤติกรรมของนกั เรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • ปพ.๕ ร่องรอยการปฏิบตั งิ าน หรือขอ้ มูล • รายงานโครงการ/กิจกรรม/ชมุ นุม เชิงประจักษ์ • ขอ้ มูลสถติ ิของโรงเรียน ได้แก่ การใชห้ อ้ งพยาบาล การเจ็บปว่ ย สมดุ ประจำตัวนกั เรียน • ภาพถ่ายกิจกรรมรณรงคต์ อ่ ตา้ นสิง่ เสพติด • ปา้ ยนิเทศ • โล่ห์ เกียรตบิ ตั ร ภาพถา่ ย • รายงานผลการคัดกรองนักเรียน • ฯลฯ ตัวบ่งชี้ท่ี ๒ .๓ นักเรียนมีน้ำหนักส่วนสูง ดัช นีม วลกาย และสมรรถภาพทาง กาย ตามเกณฑ์ (นำ้ หนกั ๔ คะแนน) ๑. คำอธิบาย นกั เรียนมีน้ำหนกั ส่วนสูง ดชั นีมวลกายตามเกณฑ์ของกรมอนามยั และมสี มรรถภาพทางกาย ตามเกณฑ์ของกรมพลศึกษา หรอื สำนกั งานกองทุนสนับสนุนสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

๒๕ ๒. ประเด็นพิจารณา ๒.๑ นกั เรียนมนี ำ้ หนัก สว่ นสูง และพัฒนาการทางร่างกายเจรญิ เตบิ โตตามเกณฑม์ าตรฐาน ของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข ๒.๒ มีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศึกษาหรือสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ๓. เกณฑ์การให้คะแนน คา่ คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - นักเรยี นมนี ้ำหนกั ส่วนสงู และพฒั นาการทางร่างกายเจรญิ เติบโตตามเกณฑม์ าตรฐาน ของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข - มีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐานของกรมพลศกึ ษาหรอื สำนักงานกองทุน สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ทกุ ขอ้ (5 ข้อ สำหรบั เด็กอายตุ ำ่ กว่า 9 ขวบ และ 8 ข้อ สำหรับเดก็ อายุ 10 ขวบข้ึนไป) ๔ - นักเรียน มนี ้ำหนกั ส่วนสงู และพฒั นาการทางรา่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข - มสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศกึ ษาหรอื สำนกั งานกองทุน สนับสนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.) (3- 4 ขอ้ สำหรับเด็กอายุต่ำกวา่ 9 ขวบ และ 6-7 ข้อ สำหรับเดก็ อายุ 10 ขวบขึ้นไป) ๓ - นกั เรียน มีน้ำหนัก สว่ นสูง และพฒั นาการทางรา่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ - มสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศกึ ษาหรือสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ (สสส.) (2 ข้อ สำหรับเดก็ อายุตำ่ กว่า 9 ขวบ และ 4-5 ข้อ สำหรับเด็กอายุ 10 ขวบขน้ึ ไป) ๒ - นักเรียนมนี ้ำหนกั ส่วนสูง และพฒั นาการทางร่างกายเจรญิ เตบิ โตไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข - มสี มรรถภาพทางกายเป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานของกรมพลศึกษาหรือสำนกั งาน กองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสริมสุขภาพ (สสส.) (1 ข้อ สำหรบั เดก็ อายุต่ำกว่า 9 ขวบ และ 1 – 3 ขอ้ สำหรบั เดก็ อายุ 10 ขวบขน้ึ ไป) ๑ - นกั เรยี นมีนำ้ หนัก สว่ นสูง และพฒั นาการทางร่างกายเจรญิ เติบโตไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข หรอื - มีสมรรถภาพทางกายไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศึกษาหรอื สำนกั งาน กองทุนสนับสนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ทุกข้อ

๒๖ ๔. วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งขอ้ มลู แหล่งข้อมูล วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผู้บริหาร ครู นกั เรยี น และผทู้ เ่ี ก่ยี วขอ้ ง ๒. การสังเกต พฤตกิ รรมของนักเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • สรุปผลการบันทึกนำ้ หนกั ส่วนสูง ดชั นีมวลกายตามเกณฑ์ ร่องรอยการปฏิบัติงาน หรอื ข้อมูล มาตรฐานของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ และบันทึก เชิงประจักษ์ สมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศึกษาหรือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ (สสส) • ข้อมูลพัฒนาการดา้ นนำ้ หนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย สมรรถภาพทางกายตามเกณฑข์ องนักเรียนรายบคุ คล • ขอ้ มลู สถิติของโรงเรียน ไดแ้ ก่ การใชห้ ้องพยาบาล การ เจบ็ ปว่ ย สมดุ ประจำตวั นักเรยี น • สมดุ เยยี่ มเจ้าหนา้ ทีส่ าธารณสุข เจา้ หนา้ ท่โี รงพยาบาล สมดุ ตรวจราชการ สมดุ นเิ ทศ • ปพ.๕ • รายงานโครงการหรือกิจกรรมนักเรยี น • ภาพถา่ ยกจิ กรรม • เกียรติบตั รหรอื โล่รางวัล • ผลการตรวจสุขภาพประจำปี • ฯลฯ ตัวบ่งชที้ ่ี ๒.๔ นักเรยี นมคี วามภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตนเอง มีความม่ันใจ กลา้ แสดงออก มีความ รบั ผิดชอบ ร้จู กั บทบาทและหนา้ ทข่ี องตนเอง (น้ำหนัก ๔ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นักเรียนประจำมีควา มภา คภูมิใจและเห็น คุณค่าใน ตนเอง มีความมั่น คงทา งอารมณ์ มีความม่ันใจและกล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสม รจู้ ักใหเ้ กียรติผอู้ ื่น สามารถปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและสังคมได้เหมาะสมตามวัย ๒. ประเดน็ พจิ ารณา ๒.๑ นักเรียนมีความภาคภมู ิใจและเหน็ คณุ ค่าในตนเอง ๒.๒ นักเรียนมีความมั่นคงทางอารมณ์ สามารถปรับตัวใหอ้ ยู่ร่วมกับบุคคลอ่ืนได้อย่างมี ความสขุ ๒.๓ นักเรียนมคี วามมนั่ ใจ กล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสมและให้เกียรติผู้อ่ืน ๒.๔ นักเรยี นปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีและมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมได้เหมาะสม กบั วยั ๒.๕ นกั เรยี นปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอย่างทีด่ แี ละสามารถใหค้ ำปรึกษาแกผ่ ้อู ่ืนไดเ้ หมาะสมกับวัย

๒๗ ๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : คดิ จากค่าเฉลย่ี ของนกั เรยี นท้งั หมด ค่าคะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ นกั เรียนมีคณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณาต้ังแตร่ ้อยละ ๙๕ ข้ึนไป ๔ นักเรียนมีคณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นักเรียนมีคุณลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา ร้อยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นกั เรียนมคี ณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นักเรียนมคี ุณลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา ตำ่ กวา่ ร้อยละ ๕๐ ๔. วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมูล/แหลง่ ข้อมลู วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล แหล่งขอ้ มลู ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผบู้ รหิ าร ครู นักเรยี น และผู้ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ๒. การสงั เกต พฤตกิ รรมของนักเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน • ปพ.๕ รอ่ งรอยการปฏิบตั งิ าน หรือขอ้ มลู • รายงานโครงการหรือกจิ กรรมนกั เรียน เชงิ ประจกั ษ์ • ภาพถ่ายกจิ กรรม • สมุดนเิ ทศ • เกียรตบิ ตั รหรือโล่รางวัล • สมุดบนั ทึกความดี • บนั ทึกการปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ • ฯลฯ มาตรฐานท่ี ๓ นักเรยี นประจำมีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่พี ึงประสงค์ ( ๑๕ คะแนน) คำอธิบาย นักเรียนประจำมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ ึงประสงค์ หมายถึง นักเรยี น มีความรู้ เข้าใจ และน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ีพระราชทานใหก้ ับนักเรียน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์มาใชใ้ นการดำรงชวี ิต รแู้ ละเข้าใจถงึ วฒั นธรรมที่แตกต่างกัน สร้างสัมพนั ธภาพ ท่ดี ีกับผู้อ่ืน รู้จักหน้าท่ี มีความรับผิดชอบ ช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน มีน้ำใจ และมจี ิตสาธารณะ อนรุ ักษ์ พลงั งานและสง่ิ แวดล้อม

๒๘ ตวั บ่งชี้ท่ี ๓.๑ นักเรยี นประจำสามารถน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ีพระราชทานให้กับนกั เรยี นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑๒ ขอ้ (น้ำหนัก ๖ คะแนน) ๑. คำอธิบาย นกั เรียนประจำต้องรู้จกั รกั ษาความสะอาดทั้งกายและใจ รจู้ ักช่วยตนเอง เป็นเด็กดมี ีความ เมตตา กรุณา มีความซ่ือสัตย์สุจรติ ตรงต่อเวลา มคี วามกตัญญูกตเวที มีความขยันหมั่นเพียร มีความ ประพฤตเิ รยี บร้อย มคี วามโอบอ้อมอารี รรู้ กั สามคั คี อยรู่ ่วมกันดว้ ยสันติสุข รจู้ ักการทำสวนครวั เลยี้ งสตั ว์ แลว้ นำไปจำหน่าย รจู้ กั มธั ยัสถ์ ฝากเงินไวใ้ นบัญชธี นาคาร เพ่ืออนาคตของตนเอง มาประพฤติปฏบิ ัติให้เป็น กิจนสิ ัยในการดำรงชีวติ อย่เู สมอและมสี ำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ๒. ประเดน็ พิจารณา ๒.๑ นักเรียนรู้และเข้าใจพระบรมราโชบายของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ทพี่ ระราชทาน ใหก้ บั นกั เรียนโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๑๒ ข้อ ๒.๒ นกั เรียนนอ้ มนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวท่ีพระราชทานใหก้ ับ นกั เรยี นโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๑๒ ขอ้ มาประยุกต์ใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั และปฏิบัติตนจน เปน็ กจิ นิสัย ๒.๓ นักเรียนสามารถแน ะน ำชักชวน ให้ผู้อื่นได้ปฏิบัติตามพระบรมราโชบายของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวที่พระราชทานใหก้ บั นักเรยี นโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๑๒ ขอ้ ๒.๔ นักเรียนแสดงออกถึงการสำนกึ ในพระมหากรุณาธิคณุ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว และสามารถเผยแพร่เล่าเรอื่ งพระราชกรณียกจิ ได้อยา่ งน้อย ๑ เรือ่ ง ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน :คดิ จากค่าเฉลยี่ ของนกั เรียนทง้ั หมด ค่าคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๕ นกั เรยี นมคี ุณลกั ษณะตามประเดน็ พจิ ารณาต้ังแต่รอ้ ยละ ๙๕ ข้ึนไป ๔ นักเรยี นมีคณุ ลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา ร้อยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นกั เรียนมคี ุณลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นักเรยี นมคี ุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นักเรยี นมคี ุณลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณา ตำ่ กวา่ ร้อยละ ๕๐ ๔. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล/แหล่งขอ้ มูล แหลง่ ขอ้ มลู วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผู้บริหาร ครู นกั เรยี น และผทู้ ่เี ก่ียวขอ้ ง ๒. การสงั เกต • พฤตกิ รรมของนักเรยี น • สภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน

๒๙ วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล แหลง่ ขอ้ มูล ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน • สมุดธนาคารความดี รอ่ งรอยการปฏบิ ตั งิ าน หรอื ข้อมูล • สมดุ เงินฝากธนาคาร/บญั ชีเงินฝากธนาคารโรงเรยี น เชงิ ประจักษ์ • พืน้ ทีท่ ำการปลกู พืช เลย้ี งสตั ว์ • รายงานโครงการตา่ งๆ ของโรงเรียน • เกียรติบัตรหรือโล่รางวัลท้ังของนกั เรียนและโรงเรียน • สมดุ นเิ ทศ • ภาพถา่ ยกิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม • โครงการพ่ดี ูแลนอ้ ง/โครงการเพ่ือนเตือนเพ่ือน/โครงการร่วมด้วย ช่วยกนั /โครงการเทิดพระเกียรติ/โครงการอน่ื ๆ • บันทึกความดี • เรยี งความ รอ้ ยกรองร้อยแก้ว ผลงานนักเรียน • ฯลฯ ตัวบง่ ชี้ที่ ๓.๒ นกั เรียนประจำมจี ิตสาธารณะ อนรุ ักษ์พลังงานและสง่ิ แวดล้อม บำเพ็ญประโยชน์ตอ่ สว่ นรวมและสังคม (นำ้ หนกั ๕ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นกั เรียนประจำรู้และเข้าใจถงึ ความสำคญั ของพลงั งานและส่ิงแวดล้อม มจี ติ สำนึกและ ตระหนักในการใช้พลงั งานและทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างจำกดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รูจ้ ักรกั ษาสาธารณสมบัติ และส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรียน ชมุ ชน และสังคม มีจติ สาธารณะ เข้ารว่ มกิจกรรมบำเพญ็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ๒. ประเดน็ พจิ ารณา ๒.๑ นกั เรยี นรู้และเข้าใจถึงความสำคญั ของพลังงานและสิง่ แวดล้อม ๒.๒ นกั เรียนเลอื กใชพ้ ลงั งาน ส่งิ แวดลอ้ มและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสทิ ธิภาพ ๒.๓ นักเรียนมสี ว่ นรว่ มในการรกั ษาสาธารณสมบตั แิ ละสง่ิ แวดล้อมในโรงเรยี น ชุมชน และสังคม ๒.๔ นกั เรียนรว่ มกจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๒.๕ นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างทด่ี ีและสามารถเผยแพร่การอนรุ ักษ์พลังงานและ ส่งิ แวดลอ้ มไดเ้ หมาะสมกับวัย

๓๐ ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน :คดิ จากคา่ เฉลี่ยของนกั เรียนท้งั หมด คา่ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๕ นกั เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณาต้ังแต่รอ้ ยละ ๙๕ ขึน้ ไป ๔ นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา รอ้ ยละ ๙๐-๙๔ ๓ นกั เรยี นมคี ณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นกั เรียนมีคุณลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณา ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา ต่ำกว่ารอ้ ยละ ๕๐ ๔. วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมลู /แหลง่ ข้อมูล แหล่งขอ้ มูล วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผบู้ รหิ าร ครู นกั เรียน และผทู้ ่ีเก่ียวข้อง ๒. การสงั เกต • พฤตกิ รรมของนักเรยี น • สภาพแวดล้อมของโรงเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน • รายงานโครงการอาสาพัฒนาของโรงเรยี น ร่องรอยการปฏบิ ัตงิ านหรือ ขอ้ มูล • เกียรติบัตรหรอื โล่รางวัลทงั้ ของนักเรยี นและโรงเรียน เชิงประจักษ์ • สมดุ นิเทศ • ภาพถา่ ยกิจกรรมการอนุรกั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม • ผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นานักเรยี นดา้ นจติ อาสาเพือ่ พฒั นา สังคมและสาธารณะประโยชน์ • การรายงานโครงการ/กจิ กรรม/ชมรม • ผลงานของนกั เรียน • ฯลฯ ตัวบ่งช้ีท่ี ๓.๓ นักเรียนประจำยอมรับความคิด วัฒนธรรมท่ีแตกต่าง อยู่ร่วมกั นอย่างมีความสุข (นำ้ หนกั ๔ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นักเรียนประจำมีความรู้ ความเข้าใจ เห็นความงามและยอมรับในความแตกต่างของ วฒั นธรรม ภาษา ศาสนา พิธีกรรม ความคิด และร่วมกิจกรรมในการอนุรักษ์ ส่งเสริม ตามบรบิ ททาง วัฒนธรรมและสงั คม สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่ างสุภาพและสร้างสรรค์ ยอมรับฟังความ คิดเหน็ สามารถปรบั ตัว และเคารพสทิ ธิผูอ้ ืน่ เพ่ือการอย่รู ่วมกันอย่างมีความสขุ

๓๑ ๒. ประเด็นพิจารณา ๒.๑ นักเรยี นรู้ เข้าใจและยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อ่นื ๒.๒ นักเรยี นสามารถแสดงความคิดเหน็ อยา่ งสภุ าพ เหมาะสมและสร้างสรรค์ ๒.๓ นกั เรยี นเหน็ ความงามและยอมรับในความแตกตา่ งของ พิธกี รรม ภาษา ศาสนา และ วฒั นธรรม ๒.๔ นกั เรียนเขา้ ร่วมกจิ กรรมในการอนรุ กั ษ์ สง่ เสริม ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรม และสังคม ๒.๕ นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตติ นอยรู่ ว่ มกับผูอ้ ืน่ ไดอ้ ย่างมีความสุข ๓. เกณฑ์การให้คะแนน :คิดจากค่าเฉลย่ี ของนกั เรียนทงั้ หมด คา่ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ นกั เรียนมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณาต้ังแตร่ ้อยละ ๙๕ ขึ้นไป ๔ นกั เรียนมคี ณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๙๐-๙๔ ๓ นกั เรียนมีคณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นักเรียนมีคณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณา ตำ่ กว่าร้อยละ ๕๐ ๔. วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหลง่ ขอ้ มูล แหลง่ ขอ้ มลู วิธกี ารเก็บรวบรวมขอ้ มูล ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผบู้ รหิ าร ครู นักเรยี น และผ้ทู ี่เก่ยี วขอ้ ง ๒. การสงั เกต • พฤตกิ รรมของนกั เรียน • สภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • รายงานโครงการกิจกรรมวันสำคัญทางชาติ ศาสนา และ รอ่ งรอยการปฏิบัติงาน หรือข้อมูล เชิงประจักษ์ พระมหากษัตริย์ • เกยี รติบัตรหรือโลร่ างวัลทัง้ ของนักเรยี นและโรงเรียน • สมดุ นิเทศ • ภาพถ่ายกิจกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางวัฒนธรรมท้องถนิ่ ศาสนพธิ ี หรือประเพณีตา่ งๆ • ป้ายนิเทศ • ผลงานของนกั เรยี น • รายงานผลการประเมนิ ภายใน/ภายนอก • ฯลฯ

๓๒ มาตรฐานที่ ๔ นักเรียนประจำมีทกั ษะในการดำรงชวี ิต และมีสนุ ทรียภาพ ( ๒๐ คะแนน) คำอธบิ าย นักเรียนประจำมีทักษะในการดำรงชวี ิตตามกรอบการเรียนรู้ และมสี ุนทรียภาพ หมายถึง นักเรยี นประจำมีความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ สามารถน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม เป็น ผู้นำและผู้ตามท่ีดีตามวิถี ประชาธิปไตย ปฏิบตั ิกิจกรรมการประกอบอาชีพอิสระเพ่ือการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรยี น (สอร.) มสี นุ ทรยี ภาพด้านศิลปะ ดนตรี กีฬาและนันทนาการ ตวั บ่งชที้ ี่ ๔.๑ นกั เรียนประจำมคี วามจงรักภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ (น้ำหนกั ๕ คะแนน) ๑. คำอธิบาย นักเรยี นประจำตระหนัก สำนกึ หวงแหน แสดงออกถึงความรกั และเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปฏบิ ัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี ยึดม่ันในการทำความดี และทดแทนคุณ แผ่นดนิ ๒. ประเดน็ พิจารณา ๒.๑ นกั เรียนมคี วามตระหนกั สำนึก หวงแหนและสามารถอธิบายความสำคัญของสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ ๒.๒ นกั เรยี นแสดงออกถงึ ความรกั และเทิดทูนสถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ ๒.๓ นกั เรยี นปฏบิ ัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และยึดมน่ั ในการทำความดี ๒.๔ นักเรยี นปฏิบตั ิตนทดแทนคณุ แผน่ ดนิ ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน :คดิ จากคา่ เฉลยี่ ของนกั เรยี นทงั้ หมด คา่ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๕ นกั เรียนมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณาตั้งแต่รอ้ ยละ ๙๕ ขึน้ ไป ๔ นกั เรยี นมีคุณลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา รอ้ ยละ ๙๐-๙๔ ๓ นกั เรยี นมคี ณุ ลักษณะตามประเด็นพิจารณา รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นักเรียนมคี ุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา ตำ่ กว่ารอ้ ยละ ๕๐

๓๓ ๔. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล/แหล่งขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผบู้ รหิ าร ครู นกั เรยี น และผูท้ ีเ่ กย่ี วขอ้ ง ๒. การสังเกต • พฤติกรรมของนักเรียน • สภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • ผลงานนกั เรียน รอ่ งรอยการปฏิบตั งิ าน หรือข้อมูล • เกยี รตบิ ตั รหรือโลร่ างวัลทั้งของนักเรยี นและโรงเรยี น เชงิ ประจักษ์ • รายงานผลการดำเนนิ งานตามโครงการส่งเสรมิ ความจงรกั ภกั ดี ตอ่ สถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ • ภาพถ่ายกิจกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงการสง่ เสริมความ จงรักภักดีต่อสถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ • ปา้ ยนิเทศ • ฯลฯ ตัวบง่ ช้ีท่ี ๔.๒ นักเรยี นประจำสามารถน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวติ ได้อยา่ งเหมาะสม (นำ้ หนัก ๕ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นักเรียนประจำมคี วามรู้ ความเข้าใจ สามารถน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาพัฒนาตนเองและประยุกต์ใชใ้ นวถิ ีการดำรงชีวิตนักเรยี นประจำ ๒. ประเดน็ พจิ ารณา ๒.๑ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒.๒ นักเรียนสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดำรงชวี ิต ๒.๓ นักเรียนสามารถอธิบายหรอื เล่าเรอื่ งการประยุกตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำรงชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างนอ้ ย ๑ เรอ่ื ง ๒.๔ นกั เรียนมีการออมทรพั ยใ์ นรูปแบบต่างๆ เช่น ธนาคารโรงเรียน สหกรณ์โรงเรียน เปน็ ต้น

๓๔ ๓. เกณฑ์การใหค้ ะแนน :คิดจากคา่ เฉลีย่ ของนกั เรยี นทั้งหมด ค่าคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๕ นกั เรียนมคี ุณลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณาต้ังแตร่ อ้ ยละ ๙๕ ขนึ้ ไป ๔ นักเรียนมคี ณุ ลักษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๙๐-๙๔ ๓ นักเรยี นมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นักเรียนมคี ณุ ลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา รอ้ ยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นักเรียนมีคณุ ลักษณะตามประเด็นพิจารณา ต่ำกว่ารอ้ ยละ ๕๐ ๔. วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งข้อมลู แหล่งขอ้ มลู วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผบู้ ริหาร ครู นกั เรยี น และผ้ทู ่ีเกีย่ วข้อง ๒. การสงั เกต • พฤติกรรมของนักเรียน • สภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน ๓. การตรวจสอบเอกสาร • ผลงานนกั เรียน หลักฐาน รอ่ งรอยการปฏบิ ตั ิงาน • เกียรติบัตรหรอื โล่รางวัลท้งั ของนกั เรยี นและโรงเรยี น หรอื ขอ้ มูลเชงิ ประจกั ษ์ • รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาโรงเรียนตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง • รายงานผลการดำเนินงานโครงการ สอร. /โครงการ/กจิ กรรมอื่น ท่ีเกย่ี วขอ้ ง • ภาพถ่ายกิจกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมโครงการ สอร./โครงการ/ กจิ กรรมอ่ืนทเี่ ก่ยี วขอ้ ง • ข้อมูลธนาคาร • ป้ายนิเทศ • สมุดบันทึกความดี • กิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรม • สมุดบัญชีออมทรพั ย์ของนกั เรียน และอืน่ ๆ • ฯลฯ

๓๕ ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๓ นักเรียนประจำเปน็ ผู้นำและผ้ตู ามท่ดี ีตามวถิ ีระบอบประชาธิปไตย (น้ำหนกั ๒ คะแนน) ๑. คำอธิบาย นักเรียนประจำมีความรู้ ความเข้าใจใน การปกครองตามวิถีระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุขและสามารถปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้นู ำและผู้ตามทดี่ ี ๒. ประเดน็ พิจารณา ๒.๑ นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการปกครองตามวิถรี ะบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ๒.๒ นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตติ นเป็นผู้นำและผตู้ ามท่ีดี ๒.๓ นกั เรียนเขา้ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย ๒.๔ นักเรียนสามารถปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี เี ก่ียวกบั การปกครองตามวถิ ีระบอบ ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน :คดิ จากคา่ เฉลย่ี ของนกั เรยี นท้ังหมด คา่ คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ นกั เรียนมีคณุ ลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณาตั้งแต่รอ้ ยละ ๙๕ ข้ึนไป ๔ นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา รอ้ ยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา ร้อยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นกั เรียนมคี ุณลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นักเรียนมีคุณลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณา ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ ๕๐ ๔. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล/แหลง่ ข้อมลู แหลง่ ขอ้ มลู วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผู้บรหิ าร ครู นักเรยี น และผทู้ ่เี ก่ียวข้อง ๒. การสังเกต • พฤติกรรมของนกั เรียน • สภาพแวดลอ้ มโรงเรยี น

๓๖ วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมลู แหลง่ ข้อมูล ๓. การตรวจสอบเอกสาร • ผลงานของสภานักเรยี น/คณะกรรมการนกั เรยี น • เกยี รติบัตรหรอื โล่รางวัลท้งั ของนกั เรยี นและโรงเรยี น หลักฐาน ร่องรอยการ • รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการพฒั นาระบอบประชาธิปไตย ปฏบิ ตั ิงาน หรอื ข้อมลู เชงิ ประจักษ์ ของนกั เรียน/กิจกรรมชมุ นมุ /กิจกรรมพัฒนานักเรียน • ภาพถ่ายกิจกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมส่งเสริมประชาธปิ ไตย / กจิ กรรมชุมนุม/กจิ กรรมพัฒนานักเรยี น • สมดุ นิเทศ • ปา้ ยนเิ ทศ • กจิ กรรมบำเพ็ญประโยชน์ • กจิ กรรมกีฬา นันทนาการ • ตารางกิจวตั รประจำวัน • บนั ทึกการประชุมของนักเรยี น • บันทึกการปฏบิ ัติกจิ กรรมหน้าเสาธง • ฯลฯ ตวั บง่ ช้ที ี่ ๔.๔ นักเรียนประจำสามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการประกอบอาชีพอิสระเพื่อการมีรายไดร้ ะหว่าง เรยี นของนกั เรยี น (สอร.) (นำ้ หนัก ๕ คะแนน) ๑. คำอธิบาย นกั เรยี นประจำมีความรู้ ความเข้าใจ เจตคตทิ ่ีดี มที ักษะในการประกอบอาชีพตามความ สนใจหรือความถนัดของตนเอง สามารถประกอบอาชีพและมรี ายไดร้ ะหว่างเรยี น ๒. ประเด็นการพจิ ารณา ๒.๑ นกั เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติทีด่ ี ในการประกอบอาชพี อิสระเพอื่ การมรี ายได้ ระหวา่ งเรียนของนักเรยี น (สอร.) ท่ีตนเองถนดั และสนใจ ๒.๒ นักเรยี นประกอบอาชีพอสิ ระเพ่อื การมรี ายได้ระหวา่ งเรียนของนักเรยี น (สอร.) ตามท่ี ตนเองถนดั และสนใจ อยา่ งน้อย ๑ อาชพี ๒.๓ นกั เรียนอธิบายหรือนำเสนอขั้นตอนการประกอบอาชีพอิสระเพื่อการมีรายได้ระหวา่ ง เรยี นของนกั เรยี น (สอร.) ตามทีต่ นเองถนดั และสนใจ ๒.๔ นักเรียนสามารถคำนวณตน้ ทุนผลผลิต และจัดทำบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย การประกอบ อาชีพอิสระเพอ่ื การมีรายได้ระหว่างเรยี นของนกั เรียน (สอร.)

๓๗ ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน :คดิ จากค่าเฉลย่ี ของนกั เรยี นท้ังหมด ค่าคะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ นกั เรียนมคี ณุ ลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณาตั้งแตร่ ้อยละ ๙๕ ขึน้ ไป ๔ นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะตามประเด็นพจิ ารณา ร้อยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นักเรียนมคี ณุ ลกั ษณะตามประเดน็ พิจารณา ร้อยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นกั เรียนมีคุณลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณา รอ้ ยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นกั เรียนมีคุณลักษณะตามประเด็นพิจารณา ตำ่ กวา่ ร้อยละ ๕๐ ๔. วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมูล/แหลง่ ข้อมูล วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู แหล่งข้อมูล ๑. การสอบถาม การ ผ้บู รหิ าร ครู นกั เรียน และผู้ทเี่ กีย่ วข้อง สัมภาษณ์ ๒. การสงั เกต  พฤติกรรมของนักเรยี น  สภาพแวดลอ้ มของโรงเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอยการ  ผลผลติ ของนกั เรียน ปฏิบตั ิงานหรือข้อมูล  เกียรตบิ ตั รหรอื โลร่ างวัลท้ังของนักเรียนและโรงเรียน เชิงประจักษ์  รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการอาชีพ/กิจกรรมชุมนุม/โครงงาน  สมดุ บญั ชี รายรับรายจ่ายของนกั เรียน  รายงานผลการดำเนินงานโครงการ สอร.  ภาพถ่ายกจิ กรรมโครงการ สอร.  ปา้ ยนิเทศ ฯลฯ ตัวบง่ ช้ีที่ ๔.๕ นกั เรียนประจำมสี นุ ทรียภาพด้านศิลปะ ดนตรี กฬี าและนันทนาการ (นำ้ หนกั ๓ คะแนน) ๑. คำอธิบาย นกั เรยี นประจำมคี วามสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ กฬี า และนนั ทนาการ ๒. ประเดน็ พิจารณา ๒.๑ นกั เรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ และเห็นคุณค่าของศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ กีฬาและ นันทนาการ ๒.๒ นักเรยี นเข้าร่วมกิจกรรมดา้ นศิลปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ กฬี าและนันทนาการ อย่างน้อย ๑ กจิ กรรม ๒.๓ นกั เรยี นมีทักษะด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ กีฬาและนนั ทนาการ

๓๘ ๒.๔ นักเรยี นสามารถถ่ายทอดความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ด้านศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์ กีฬาและนันทนาการ ๒.๕ นักเรียนมผี ลงานด้านศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์ กีฬาและนันทนาการ ๓. เกณฑ์การใหค้ ะแนน :คดิ จากค่าเฉลย่ี ของนักเรียนท้ังหมด คา่ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ นักเรียนมีคณุ ลักษณะตามประเดน็ พจิ ารณาต้ังแตร่ อ้ ยละ ๙๕ ขึ้นไป ๔ นกั เรียนมีคุณลักษณะตามประเดน็ พิจารณา รอ้ ยละ ๙๐ - ๙๔ ๓ นักเรยี นมีคุณลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา ร้อยละ ๗๕ - ๘๙ ๒ นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา รอ้ ยละ ๕๐ - ๗๔ ๑ นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะตามประเด็นพิจารณา ต่ำกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ ๔. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมลู /แหลง่ ข้อมลู แหล่งข้อมลู วิธีการเก็บรวบรวมข้อมลู ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผู้บรหิ าร ครู นกั เรียน และผทู้ เ่ี ก่ียวขอ้ ง ๒. การสังเกต • พฤติกรรมของนกั เรียน • สภาพแวดลอ้ มของโรงเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร • ผลงานนกั เรียน หลักฐาน รอ่ งรอยการ • เกยี รตบิ ัตรหรือโลร่ างวลั ทง้ั ของนกั เรยี นและโรงเรียน ปฏบิ ตั ิงานหรือ • รายงานผลการดำเนนิ งานตามโครงการส่งเสริมงานด้านศิลปะ ข้อมูลเชิงประจักษ์ ดนตรี นาฏศลิ ป์ กฬี าและนันทนาการ • ผลการเรียนรายวิชาด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ กีฬาและ นนั ทนาการ • ภาพถา่ ยกจิ กรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมด้านศิลปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ กฬี าและนันทนาการ • ป้ายนิเทศ • ฯลฯ

๓๙ มาตรฐานท่ี ๕ โรงเรียนมกี ารจดั อาคาร สถานท่ี สภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกใหเ้ หมาะสม กับนกั เรยี นประจำ (๑๕ คะแนน) คำอธิบาย โรงเรยี นจัดอาคาร สถานท่ี สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมกับจำนวน นกั เรียนประจำ หมายถึง โรงเรยี นมกี ระบวนการจัดหา สำรวจ ซ่อมแซม บำรงุ รกั ษา วัสดุ อุปกรณ์ ครภุ ณั ฑ์ อาคารสถานท่ี สภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ การมีส่วนร่วมของผทู้ ่ีมีสว่ นเก่ยี วข้องในการดูแล นักเรียนประจำ ตัวบง่ ชที้ ่ี ๕.๑ มกี ารดำเนนิ งานจดั หา ซอ่ มแซม และบำรงุ รกั ษา อาคารสถานท่ี สภาพแวดล้อม ระบบสาธารณูปโภค และวัสดคุ รุภณั ฑใ์ ห้พร้อมใชง้ าน (นำ้ หนกั ๖ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย โรงเรยี นมกี ารกำหนดภาระงานและมอบหมายบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ในการสำรวจ ซ่อมแซม บำรุงรักษา พัฒนาอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อม ให้มีสภาพดีและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย จัดระบบ สาธารณูปโภค วัสดุครุภณั ฑใ์ ห้เพยี งพอเหมาะสมและต่อเน่ือง ๒. ประเด็นพจิ ารณา ๒.๑ โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารงานด้านอาคารสถาน ที่ สภาพแวดล้อม ระบบ สาธารณูปโภคและวัสดคุ รุภัณฑ์ ๒.๒ โรงเรียนมีแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมด้านการปรบั ปรุง บำรงุ รักษาและพัฒนา งานด้านอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อม ระบบสาธารณูปโภคและวัสดุครุภัณฑ์ ๒.๓ โรงเรยี นมีการแต่งต้ังบุคลากรรบั ผิดชอบงานดา้ นอาคารสถานท่ี สภาพแวดล้อม ระบบ สาธารณูปโภคและวัสดุครภุ ณั ฑ์ ๒.๔ โรงเรียนมกี ารสำรวจความตอ้ งการ วสั ดุครุภัณฑ์ใหเ้ หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความ จำเปน็ พืน้ ฐานของนักเรยี นประจำ ๒.๕ โรงเรยี นจัดหาวัสดุครุภัณฑไ์ ด้เหมาะสมกบั ความจำเปน็ พืน้ ฐานของนกั เรยี นประจำ ๒.๖ โรงเรียนมีการดูแล บำรุงรักษาและพัฒนาอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อม ระบบ สาธารณปู โภคและวัสดคุ รุภณั ฑไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสมและตอ่ เนือ่ ง ๒.๗ โรงเรียนมีการประเมินความพงึ พอใจของผู้รับบริการเกีย่ วกับการดูแล บำรงุ รกั ษา และพฒั นาอาคารสถานท่ี สภาพแวดลอ้ ม ระบบสาธารณูปโภคและวสั ดคุ รภุ ณั ฑ์อยา่ งต่อเนอื่ ง

๓. เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๔๐ คา่ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรียนมกี ารปฏิบัตติ ามเกณฑพ์ ิจารณาครบทั้ง ๗ ขอ้ ๔ โรงเรยี นมกี ารปฏิบัติตามเกณฑ์พิจารณาได้ ๕ – ๖ ข้อ ๓ โรงเรยี นมีการปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๓ – ๔ ขอ้ ๒ โรงเรียนมีการปฏบิ ตั ิตามเกณฑพ์ จิ ารณาได้ ๒ ข้อ ๑ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ิตามเกณฑพ์ ิจารณาได้ไม่เกิน ๑ ข้อ หรอื ไม่มี เอกสารหลักฐานทช่ี ัดเจน ๔. วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมูล/แหล่งข้อมลู วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู แหลง่ ขอ้ มลู ๑. การสอบถาม การสมั ภาษณ์ ผ้บู รหิ าร ครู นกั เรยี น และผู้ที่เกี่ยวข้อง ๒. การสงั เกต สภาพอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อมของโรงเรียน ๓. การตรวจสอบเอกสาร • แผนภมู โิ ครงสร้างการบรหิ ารงาน หลกั ฐาน ร่องรอยการปฏบิ ัตงิ าน • แผนงาน /โครงการ / กิจกรรมการพัฒนา ปรบั ปรงุ และดูแล หรอื ข้อมลู เชิงประจักษ์ รักษาอาคารสถานที่ สภาพแวดล้อม ระบบสาธารณปู โภคและ วสั ดคุ รุภัณฑ์ • คำสงั่ / หนงั สอื มอบหมายหน้าที่ /คณะทำงาน • รายงานการใช้ประโยชนจ์ ากอาคารสถานที่ • รายงานผลการการดำเนินงานดา้ นอาคารสถานท่ี สภาพแวดลอ้ ม ระบบสาธารณปู โภคและวสั ดุครภุ ัณฑ์ • รายงานสำรวจความพึงพอใจของผู้มีสว่ นเก่ียวขอ้ งกับการพัฒนา ปรับปรุงและดูแลรกั ษาอาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ ม ระบบ สาธารณปู โภคและวัสดคุ รุภณั ฑ์ • รางวลั เกียรตบิ ตั ร • ภาพถา่ ยกิจกรรมดา้ นอาคารสถานที่ • ทะเบียนวสั ดแุ ละครภุ ัณฑ์ของโรงเรยี น • ฯลฯ

๔๑ ตัวบง่ ช้ีท่ี ๕.๒ นักเรียน ครูและบคุ ลากรมีสว่ นร่วมในการจัดบรรยากาศ ภูมิทศั น์ให้ร่มร่ืนสวยงาม เอือ้ ต่อ การอย่อู าศยั และซ่อมแซม บำรุงรักษาสงิ่ อำนวยความสะดวกสำหรบั การดำรงชีวิตของนักเรียนประจำ ในหอพักหรอื บ้านพักอย่างต่อเนอ่ื ง (นำ้ หนัก ๔ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย นักเรียน ครูและบุคลากรมีส่วนร่วมในการวางแผน และปฏิบัติกิจกรรมเก่ียวกับการจัด บรรยากาศ ภมู ิทศั น์ในบริเวณหอพักหรือบ้านพักนักเรียน และพ้ืนทที่ ี่ได้รับมอบหมายให้สะอาด รม่ รื่น สวยงาม ถูกสุขลักษณะ เอ้ือตอ่ การอยอู่ าศยั มีการซ่อมแซม และบำรุงรกั ษาสิง่ อำนวยความสะดวกสำหรับ การดำรงชวี ิตของนกั เรยี นประจำในหอพกั หรอื บา้ นพกั อยา่ งต่อเนอ่ื ง ตลอดจนรว่ มชื่นชมความสำเรจ็ ๒. ประเด็นพจิ ารณา ๒.๑ นักเรียน ครู และบุคลากรมสี ่วนร่วมวางแผนในการพฒั นา ปรับปรุง ดูแลรกั ษา ภมู ิทศั น์ บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมของหอพกั หรอื บา้ นพักนกั เรยี นและพน้ื ท่ีที่ได้รบั มอบหมาย ๒.๒ นักเรียน ครู และบุคลากรมีส่วนร่วมในการพัฒนา ปรบั ปรุง ดูแลรกั ษาภูมิทัศน์ บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมของหอพกั หรือบ้านพักนักเรียน และพ้ืนทท่ี ี่ได้รับมอบหมายให้สะอาด ร่มรื่น สวยงาม ถกู สขุ ลักษณะเอ้อื ตอ่ การอยอู่ าศัยอยา่ งต่อเนื่อง ๒.๓ นักเรยี น ครู และบคุ ลากรมีความภาคภมู ใิ จและช่ืนชมความสำเร็จในการจัด ภูมทิ ัศน์ บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมในบริเวณหอพักหรือบ้านพักนักเรยี น และพ้นื ทีท่ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ๒.๔ นักเรียน ครู และบุคลากรสามารถเผยแพร่การดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ เกี่ยวกับการจัดภูมิทัศน์ บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมในบริเวณหอพักหรือบ้านพักนักเรียน และพื้นทท่ี ่ีไดร้ ับ มอบหมายตอ่ สาธารณชน ๒.๕ การจัดภูมิทัศน์ บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมในบรเิ วณหอพักหรือบ้านพักนกั เรียน และพน้ื ท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมายเป็นที่ยอมรับของผปู้ กครอง ชุมชน บคุ คลอนื่ หนว่ ยงานภายนอก ๒.๖ นักเรียน ครู และบุคลากรมีส่วนร่วมในการซ่อมแซม และบำรงุ รกั ษาสิ่งอำนวยความ สะดวกสำหรับการดำรงชีวิตของนักเรียนประจำในหอพกั หรอื บา้ นพักอย่างตอ่ เนอ่ื ง ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน ค่าคะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ตั ิตามเกณฑพ์ จิ ารณาครบท้งั ๖ ข้อ ๔ ๓ โรงเรยี นมีการปฏิบัตติ ามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๕ ขอ้ ๒ ๑ โรงเรียนมีการปฏบิ ัติตามเกณฑพ์ ิจารณาได้ ๔ ข้อ โรงเรียนมกี ารปฏบิ ัตติ ามเกณฑ์พิจารณาได้ ๒ - ๓ ขอ้ โรงเรียนมีการปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๑ ขอ้ หรอื ไม่มีเอกสาร หลกั ฐานที่ชดั เจน

๔๒ ๔. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหลง่ ข้อมูล แหลง่ ข้อมลู วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผู้บรหิ าร ครู นักเรียน และผู้ที่เกยี่ วขอ้ ง ๒. การสงั เกต • สภาพแวดล้อมของหอพักหรอื บา้ นพกั นักเรียนและพนื้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอยการปฏบิ ตั ิงานหรอื • พฤติกรรมของครูและนักเรยี น ข้อมูลเชงิ ประจักษ์ • คำสั่ง / หนงั สือมอบหมายหนา้ ที่ /คณะทำงาน • รางวลั เกยี รตบิ ัตร • ภาพถา่ ยกจิ กรรม • สมดุ นิเทศ สมุดเยี่ยม • บนั ทกึ การประชมุ • รายงานผลความพงึ พอใจเก่ียวกับการดแู ลหอพกั หรือบา้ นพัก นักเรยี นและพืน้ ท่ที ่ไี ดร้ ับมอบหมาย • ผลงานนกั เรียน • แผน่ พับ วารสาร ส่ือส่ิงพมิ พ์ หรือเว็ปไซดข์ องโรงเรียน • ฯลฯ ตวั บง่ ชที่ ี่ ๕.๓ โรงเรยี นประจำมสี ิ่งอำนวยความสะดวก และอปุ กรณ์สำหรบั การดำรงชีวติ ของนักเรียน ประจำในหอพักหรือบ้านพกั นักเรียนท่ีเพียงพอและเหมาะสมตามความจำเปน็ (นำ้ หนัก ๕ คะแนน) ๑. คำอธบิ าย โรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกท่ีเพียงพอและเหมาะสมกับจำนวนนักเรียนประจำ ตามเกณฑ์ ไดแ้ ก่ หอพักหรือบ้านพักนักเรียน เครื่องนอน ตูเ้ สื้อผา้ และอุปกรณส์ ำหรับการดำรงชวี ิตของ นักเรยี นประจำที่เพียงพอและเหมาะสมตามความจำเปน็ ๒. ประเดน็ พิจารณา โรงเรียนมีสงิ่ อำนวยความสะดวกที่มีคณุ ภาพ และเพยี งพอ กับจำนวนนักเรียน ตามเกณฑ์ มาตรฐานอาคารเรียน อาคารประกอบ ส่ิงก่อสร้าง และครุภัณฑ์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ สพฐ. โดยสำนักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ ดังนี้ ๒.๑ หอพกั หรือบ้านพัก (ตามเกณฑ์) ๒.๒ ห้องสว้ ม (ตามเกณฑ์) ๒.๓ หอ้ งอาบน้ำ โรงอาบน้ำ (ตามเกณฑ์) ๒.๔ เตยี งนอน (ตามเกณฑ)์

๔๓ ๒.๕ ตเู้ สอ้ื ผา้ (ตามเกณฑ)์ ๒.๖ เคร่ืองดบั เพลิงสภาพพรอ้ มใช้งาน (ตามเกณฑ)์ ๒.๗ เครื่องนอน (หมอน ท่ีนอน ผา้ ปูทน่ี อน ปลอกหมอน ผา้ ห่ม) (ตามเกณฑ์) ๒.๘ ทบี่ รกิ ารน้ำด่มื /ภาชนะสำหรบั ดืม่ น้ำ (ตามเกณฑ)์ ๒.๙ พัดลม ๒.๑๐ ระบบแสงสวา่ ง ๒.๑๑ โทรทศั น์ ๒.๑๒ มหี อ้ งหรือมุมหนงั สอื โต๊ะ เก้าอส้ี ำหรับทำกิจกรรมทางการเรยี น/การพักผ่อน ๒.๑๓ เครื่องซกั ผ้า เครื่องอบผา้ สำหรบั นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ – ๓ ๒.๑๔ อปุ กรณท์ ำความสะอาด เช่น ไมก้ วาด ไมถ้ พู น้ื ทต่ี กั ผง ฯลฯ ๒.๑๕ ทตี่ ากผา้ ๒.๑๖ ทซ่ี ักเส้ือผ้านกั เรียน ๒.๑๗ อปุ กรณพ์ ฒั นาหอพกั หรอื บ้านพัก เช่น จอบ เสยี ม มีด ฯลฯ ๒.๑๘ ถังขยะหรือภาชนะรองรับขยะ ๒.๑๙ ปา้ ยนเิ ทศหอพัก ๒.๒๐ ปา้ ยกจิ วตั รประจำวนั /ขอ้ ตกลงรว่ มกนั /ข้อปฏบิ ตั ิ ๒.๒๑ ต้แู ละยาสามัญประจำบ้าน ๒.๒๒ กระจกเงา ๒.๒๓ ปรมิ าณเคร่ืองใช้ส่วนตวั เชน่ ผงซกั ฟอก ยาสฟี นั สบู่ ฯลฯ ๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน ค่าคะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายเหตุ ๕ โรงเรยี นมีสิ่งอำนวยความสะดวกทเ่ี พยี งพอและเหมาะสมหรอื ตาม ๔ เโกรณงเรฑยี ์สน่วมนีสริ่งาอชำกนาวรยกคำวหานมดสะ๒ด๐วกขทอ้ เี่ พข้นึียงไปพอและเหมาะสมหรือตาม ๓ โเกรณงเรฑีย์สน่วมนีสร่ิงาอชำกนาวรยกคำวหานมดสะด๑ว๗กท- ี่เ๑พ๙ยี งขพอ้ อและเหมาะสมหรือตาม ๒ เโกรณงเรฑีย์สนว่ มนีสรง่ิาอชำกนาวรยกคำวหานมดสะ๑ด๔วก-ท๑ี่เพ๖ยี งขพ้ออและเหมาะสมหรือตาม ๑ เโกรณงเรฑีย์สนว่ มนีสรงิ่าอชำกนาวรยกคำวหานมดสะ๑ด๑ว-กไ๑ม๓เ่ กินขอ้ ๑๐ ข้อ

๔๔ ๔. วิธกี ารเก็บรวบรวมข้อมลู /แหล่งขอ้ มลู แหล่งข้อมูล วิธกี ารเก็บรวบรวมขอ้ มูล ๑. การสอบถาม การสัมภาษณ์ ผ้บู รหิ าร ครู นักเรยี น และผู้ที่เกย่ี วข้อง ๒. การสังเกต • สภาพแวดลอ้ มของ หอพกั หรอื บ้านพกั • พฤติกรรมของครูและนักเรยี น ๓. การตรวจสอบเอกสาร หลกั ฐาน • แผนงานของโรงเรยี น รอ่ งรอยการปฏิบตั งิ าน หรือ • คำสงั่ / หนงั สือมอบหมายหนา้ ท่ี /คณะทำงาน ขอ้ มูลเชิงประจักษ์ • ภาพถ่ายกจิ กรรมการดแู ลนักเรียนประจำ • สมุดนิเทศ สมดุ เย่ียม • รายงานผลการปฏิบตั งิ านหอพกั หรือบา้ นพกั ของนกั เรยี น • ทะเบียนครุภัณฑ์หอพกั หรอื บา้ นพัก • รายงานการประชมุ หอพักหรอื บา้ นพกั • บันทกึ การเบิกจา่ ยเคร่อื งใช้ส่วนตัว • ฯลฯ มาตรฐานที่ ๖ การจัดระบบรกั ษาความปลอดภยั (๒๐ คะแนน) คำอธบิ าย การจัดระบบรกั ษาความปลอดภัย หมายถึง โรงเรียนประจำมีมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุ อุบตั ิภัย สิ่งเสพติด และปัญหาพฤติกรรมทางเพศ มีการคมุ้ ครองสิทธิและสวัสดิภาพ มกี ารควบคมุ สตั ว์เลีย้ ง กำจัดสัตว์ทีม่ ีพิษและสัตว์ท่ีเป็นพาหะนำโรค มีการจดั เก็บสารเคมี สารพิษอื่นๆ และอุปกรณ์การทำความ สะอาดที่ถกู สุขลักษณะ มกี ารใช้ทีถ่ ูกต้องและปลอดภัย มีการจัดระบบ มาตรการเตอื นภัย โดยจัดให้มีคณะ บคุ คลทีร่ ับผดิ ชอบดา้ นความปลอดภยั ในโรงเรียนประจำ ตวั บ่งช้ีที่ ๖.๑ โรงเรยี นประจำมีมาตรการในการป้องกันอบุ ตั เิ หตุ อบุ ตั ภิ ยั (น้ำหนัก ๕ คะแนน) ๑. คำอธิบาย โรงเรยี นประจำมีนโยบาย มาตรการ แผนงาน โครงการ กิจกรรม ในการป้องกนั อุบัติเหตุ อบุ ัติภัย

๔๕ ๒. ประเดน็ การพิจารณา ๒.๑ โรงเรียนมนี โยบาย มาตรการ การป้องกัน แก้ไขปญั หา ภยั จากธรรมชาติ เช่น วาตภัย อุทกภยั อคั คภี ัย สนึ ามิ แผ่นดนิ ไหว แผน่ ดนิ ถลม่ ฯลฯ ๒.๒ โรงเรียนมีนโยบาย มาตรการ การปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หาภยั จากอบุ ัตภิ ัย เช่น จมน้ำ ไฟฟ้า ลดั วงจร ตกตน้ ไม้ ยานพาหนะ ส่ิงก่อสร้าง ฯลฯ ๒.๓ โรงเรยี นมีนโยบาย มาตรการ การป้องกัน แก้ไขปญั หาภัยจากบุคคล เช่น การถกู ลอ่ ลวง การถูกทำร้าย การถกู ลว่ งละเมดิ สทิ ธิ การกอ่ การรา้ ยและการสรู้ บสงคราม ฯลฯ ๒.๔ โรงเรยี นมีนโยบาย มาตรการ การป้องกนั แก้ไขปัญหาภัยจากสอื่ สิ่งพิมพแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๕ โรงเรียนมีนโยบาย มาตรการ การปอ้ งกัน แกไ้ ขปญั หาภัยจากมลพษิ จากสงิ่ แวดลอ้ ม เช่น มลพิษทางเสียง มลพษิ ทางแสง มลพษิ ทางอากาศ มลพิษทางน้ำ ฯลฯ ๒.๖ โรงเรียนมีนโยบาย มาตรการ การปอ้ งกนั แก้ไขปัญหาภยั จากโรคระบาด เช่น ไข้หวัดนก ไขห้ วดั ๒๐๐๙ ไข้เลือดออก ฯลฯ ๒.๗ โรงเรียน ให้ความรู้และจัดกิจกรรมการป้องกัน แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุและอุบัติภัย อยา่ งต่อเนอ่ื ง ๒.๘ โรงเรยี นมีคณะทำงานดา้ นการป้องกนั แกไ้ ขปญั หา อบุ ัตเิ หตุและอุบตั ภิ ยั ๒.๙ โรงเรียนมีการให้ความรู้และฝึกทักษะการป้องกัน การแก้ไขอุบัติเหตุและอุบัติภัย อย่างนอ้ ยปลี ะ ๑ ครัง้ ๒.๑๐ โรงเรียนมีวัสดุ อุปกรณ์ ในการป้องกัน แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุและอุบัติภัยเพียงพอ เหมา ะสมและพร้อมใช้งา น เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง (ตามเกณฑ์) เคร่ืองตัดกร ะแสไฟฟ้า อัตโนมัติ กลอ้ งวงจรปิด ระบบปอ้ งกันฟา้ ผ่า โทรศพั ท์ภายในหรือวทิ ยุสื่อสาร ฯลฯ ๒.๑๑ โรงเรียนมีเครือขา่ ยดำเนินการป้องกนั แก้ไขปัญหาอบุ ัตเิ หตแุ ละอุบัติภยั เช่น สถานี ตำรวจ สาธารณสุข โรงพยาบาล อาสาสมคั รหนว่ ยกู้ภยั องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ฯลฯ ๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน หมายเหตุ คะแนน ๕ โรงเรยี นมกี ารปฏิบตั ติ ามเกณฑ์พิจารณาครบทง้ั ๑๑ ขอ้ ๔ โรงเรียนมีการปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์พิจารณาได้ ๘ - ๑๐ ขอ้ ๓ โรงเรยี นมีการปฏบิ ัตติ ามเกณฑ์พิจารณาได้ ๕ - ๗ ขอ้ ๒ โรงเรียนมีการปฏิบัติตามเกณฑ์พิจารณาได้ ๒ - ๔ ขอ้ ๑ โรงเรยี นมกี ารปฏิบัติตามเกณฑ์พจิ ารณาได้ ๑ ข้อ หรือไม่มเี อกสารหลกั ฐานที่ชดั เจน ๔. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งข้อมูล