90 แบบประเมินผลการทำงานกลุ่ม กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 หน่วยการเรียนรเู้ รอื่ ง การปลูกผกั ปลอดสารพิษ แผนที่ 2 ความสำคัญ ประโยชน์ และลกั ษณะของ ผกั ปลอดสารพิษ หลกั การประเมนิ การประเมนิ ครั้งน้ีจะทำการประเมนิ เปน็ กลุ่มโดยครผู ู้สอนจะเป็นผู้ประเมินตาม เกณฑ์การประเมนิ กลุ่มที่ ……….ชื่อกลมุ่ ........................................... ชื่อสมาชิก 1……………………………………….2……………………………………………… 3. …………………………………….. 4. …………………………………………… วันท.ี่ ................เดือน.......................พ.ศ. ....................... ความร่วม ืมอในการ ทำงาน การปฏิ ับ ิตตามแผน ่ีทวางไ ้ว ทำงานจนสำเร็จ ทันเวลา/นอกเวลา การล้างเ ็กบ เคร่ือง ืมอและ สถาน ่ีท ีมความขยันอดทน รวม ชื่อ สมาชิก 210210210210210 ลงช่อื ......................................ผปู้ ระเมิน ( ……………………………………….) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ไดค้ ะแนน 2 คะแนน หมายถงึ ดี (8-10 คะแนน) ไดค้ ะแนน 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ (5-7 คะแนน) ไดค้ ะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ (0-4 คะแนน)
91 รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนผลงาน รายการสงั เกต 2 เกณฑก์ ารให้คะแนน 0 พฤตกิ รรม รว่ มมอื ในการทำงานตาม 1 นำเสนอผลงานด้วยวธิ ีการที่ หนา้ ท่ใี นกลุ่มด้วยความ ไมน่ า่ สนใจไม่กระชบั ไม่ 1. ความรว่ มมือในการ เต็มใจร่วมมือในการ รว่ มมอื ในการทำงานถา้ ครู ชดั เจนไมเ่ ป็นไปตามลำดบั ทำงาน ทำงานตามหนา้ ท่ีอย่างไม่ หรือเพอ่ื นบงั คบั กระชับ ขน้ั ตอน ไม่มีความคดิ เตม็ ใจ ชดั เจนเปน็ ไปตามลำดบั สร้างสรรคแ์ ละใชภ้ าษาไม่ 2. การปฏิบัติงานตาม ขัน้ ตอนแต่ไม่มี ถกู ตอ้ งตามอักขรวิธี แผนงานทีว่ างไว้ รว่ มมือในการวางแผนและ ความคดิ สร้างสรรคแ์ ละใช้ ปฏิบตั กิ จิ กรรมด้วยความ ภาษาไมถ่ ูกต้องตาม ร่วมมือในการวางแผนและ 3. คณุ ภาพของงานที่ เต็มใจ อกั ขรวิธี ปฏิบัติกจิ กรรมด้วยความไม่ สำเร็จ ผลงานมีความถูกตอ้ ง ร่วมมือในการวางแผนและ เตม็ ใจ สมบูรณ์และมีความคดิ ปฏิบัติกิจกรรมบางครั้ง ผลงานไมม่ ีความถกู ตอ้ ง 4. ความสะอาดและ สร้างสรรค์ทำงานเสรจ็ สมบรู ณแ์ ละไมม่ ีความคิด ความเป็นระเบียบ ตามเวลาท่กี ำหนด ผลงาน ผลงานมีความถกู ต้องแตไ่ ม่ สรา้ งสรรค์ มีคุณภาพ สมบูรณ์และมคี วามคดิ 5. การนำเสนอผลงาน การเกบ็ เครื่องใช้และ สร้างสรรคบ์ างส่วน ทำงานสกปรก ไมม่ รี ะเบียบ นำเสนอผลงานดว้ ย สถานทผ่ี ลงานมีคณุ ภาพ ไม่มคี ณุ ภาพ วธิ กี ารทีน่ า่ สนใจ สะอาด และเปน็ ระเบยี บ ผลงานสะอาด มีคุณภาพ นำเสนอผลงานดว้ ยวิธีการ แต่ขาดระเบียบ นำเสนอผลงานด้วยวิธกี ารที่ ที่นา่ สนใจกระชับ ชดั เจน ไม่น่าสนใจไม่กระชบั ไม่ เป็นไปตามลำดับขั้นตอน นำเสนอผลงานดว้ ยวธิ ีการ ชดั เจนไมเ่ ป็นไปตามลำดบั มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ และ ทน่ี ่าสนใจกระชับ ชัดเจน ขั้นตอน ไมม่ คี วามคดิ ใชภ้ าษาถกู ต้องตาม เป็นไปตามลำดับขั้นตอน สร้างสรรค์และใชภ้ าษาไม่ อกั ขรวิธี แตไ่ มม่ คี วามคิดสร้างสรรค์ ถูกต้องตามอักขรวิธี และใชภ้ าษาไม่ถกู ต้องตาม อกั ขรวธิ ี
92 แบบประเมินผลการทำงานกลมุ่ กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 หน่วยการเรียนรเู้ รื่อง การปลูกผกั ปลอดสารพิษ แผนท่ี 2 ความสำคัญ ประโยชน์ และลกั ษณะของ ผักปลอดสารพษิ หลักการประเมิน การประเมนิ ครง้ั นจี้ ะทำการประเมินเปน็ กลุ่มโดยครผู ู้สอนจะเป็นผู้ประเมินตาม เกณฑ์การประเมิน กลมุ่ ที่ ……….ชอ่ื กลมุ่ ........................................... ชื่อสมาชกิ 1……………………………………….2……………………………………………… 3. …………………………………….. 4. …………………………………………… วันท.ี่ ................เดือน.......................พ.ศ. ....................... ีมความรับผิดชอบ ความละเ ีอยด รอบคอบรู้จัก ัสงเกต ความขยัน ่ัมนเ ีพยร ความอดทน รักษาความสะอาด และ ิ่สงแวด ้ลอม รวม ชื่อ สมาชกิ 210210210210210 ลงช่อื ......................................ผูป้ ระเมนิ ( ……………………………………….) เกณฑ์การให้คะแนน ไดค้ ะแนน 2 คะแนน หมายถงึ ดี (8-10 คะแนน) ไดค้ ะแนน 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ (5-7 คะแนน) ได้คะแนน 0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง (0-4 คะแนน)
93 รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน รายการสงั เกต เกณฑ์การให้คะแนน 1 พฤติกรรม 2 0 ร่วมมือในการทำงานอยา่ ง ร่วมมอื ในการทำงานบางคร้ัง 1. ควา มร ับผิดชอบ ดว้ ยความเต็มใจจนสำเรจ็ ไมเ่ ตม็ ใจ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดว้ ยความ ปฏิบัติกจิ กรรมดว้ ยความไม่ ทำงาน ละเอยี ดรอบคอบขาด รอบคอบขาดการสงั เกต รายละเอยี ดบางสว่ น รายละเอยี ด 2. ความละเอยี ด รจู้ ักสงั เกตปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ทำงานจนสำเร็จด้วยความ ทำงานไมส่ ำเรจ็ ขาดความ รอบคอบ ด้วยความละเอยี ด พยายาม พยายาม ทำงานสำเรจ็ บางส่วนแม้ ทำงานไม่สำเรจ็ แม้งานจะยาก รอบคอบ สงั เกต งานจะยากหรืองา่ ยกบ็ น่ หรอื ง่ายก็บน่ และตำหนิ และตำหนิ รายละเอยี ดครบถ้วน ปฏิบตั ิงานด้วยความ ปฏบิ ตั งิ านไม่มีความคิด ความคดิ สร้างสรรคใ์ ช้ สรา้ งสรรคแ์ ละใช้ทรัพยากร 3. ความ ทำงานอยา่ งตั้งใจจนสำเรจ็ ทรัพยากรอยา่ งประค้มุ ค่า อย่างไมค่ มุ้ ค่า และไมม่ ีการอนรุ กั ษ์ ขยันหมัน่ เพยี ร ด้วยความพยายาม ส่ิงแวดลอ้ มทำงานเมอ่ื ครู สง่ั 4. ความอดทน ทำงานจนสำเร็จแม้งานจะ ยากหรอื ง่ายไมเ่ คยบ่น 5. รักษาความสะอาด ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความ และสงิ่ แวดลอ้ ม สะอาด ประหยดั มี ความคิดสร้างสรรค์และใช้ ทรพั ยากรอย่างคุ้มคา่ และ มกี ารอนรุ ักษส์ งิ่ แวดล้อม
94 ภาคผนวก ข แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน
95 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ เรอ่ื ง การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ คำช้แี จง แบบทดสอบชดุ นีเ้ ป็นแบบทดสอบชนดิ เลอื กตอบ 4 ตวั เลอื ก จำนวน 30 ข้อ จงเลอื กคำตอบที่ถกู ที่สดุ จาก ก ข ค และ ง เพยี งข้อเดยี ว 1. ขอ้ ใดเป็นประโยชน์ของผกั ก. ใชเ้ ป็นอาหาร ข. ใช้รักษาโรค ค. ใช้ในการจดั สวน ง. ถูกทุกข้อ 2. การปลกู ผกั สวนครัวมคี วามสำคัญในขอ้ ใดมากทสี่ ุด ก. การประหยดั ข. การใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ ค. การนำไปเปน็ อาหาร ง. การนำไปถนอมอาหาร 3. ถ้านกั เรยี นจะปลูกผักต้องทำกิจกรรมใดกอ่ น ก. การศึกษาความรู้เรอ่ื งการปลูกผกั ข. การคดั เลือกเมล็ดพนั ธ์ุ ค. การเตรียมแปลง ง. การเตรียมอปุ กรณ์ 4. ประโยชนส์ ูงสุดของการคดั เลอื กเมลด็ พันธ์ุผกั คอื ข้อใด ก. ไดพ้ ชื ทีใ่ หผ้ ลผลิตสูง ข. ไดพ้ ชื ทที่ นทานตอ่ โรค ค. ได้พืชที่แมลงรบกวนนอ้ ย ง. ได้พืชท่เี จรญิ เติบโตเรว็ 5. ขอ้ ใดเป็นผักสวนครวั ทุกชนดิ ก. ผักกาดขาว เหด็ หอม ข. คะนา้ มะเขือเทศ ค. บวั บวบ ง. มะเขือ แตงโม 6. ผักสวนครวั ขอ้ ใดเปน็ พืชสมนุ ไพร ก. กาดเขยี วปลี ผกั กาดหอม ข. คะนา้ มะเขือเทศ ค. แมงลัก โหระพา ง. มะเขอื แตงกวา 7. ขอ้ ใดเปน็ ผกั สวนครัวชนิดกนิ ดอกทกุ ขอ้ ก. ผกั กาดขาว เขียวปลี ข. คะน้า มะเขือเทศ ค. กวางตุง้ กะหลำ่ ดอก ง. ฟักทอง บวบ 8. ผักปลอดสารพษิ ลดอันตรายจากโรคชนดิ ใดมากทีส่ ดุ ก. โรคมะเรง็ ข. โรคกระเพาะ ค. โรคผวิ หนัง ง. โรคตาอักเสบ 9. ขอ้ ใดเป็นลักษณะของผกั ปลอดสารพิษ ก. เพาะปลกู ในพื้นดินทปี่ ราศจากสารเคมี ข. ปลูกโดยจะใช้วิธธี รรมชาติ ค. มสี ารพษิ ตกค้างปนอยู่บา้ ง แตไ่ มเ่ กินค่าMRL ง. ถูกทกุ ขอ้ 10. การปลกู ผักปลอดสารพษิ ลดคา่ ใชจ้ ่ายในเร่อื งใดมากทสี่ ุด ก. คา่ ปุ๋ย ข. ค่ายาฆา่ แมลง ค. ค่ายากำจดั วชั พชื ง. คา่ แรงงาน
96 11. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะพเิ ศษของการปลกู ผักปลอดสารพิษ ก. ไม่ใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ข. ไม่ใช้ยาฆา่ แมลง ค. ไม่ใช้ยากำจดั วัชพชื ง. ถกู ทุกขอ้ 12. ข้อใดเปน็ ประโยชน์ของผกั ปลอดสารพษิ ก.ไมก่ อ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ร่างกาย ข. ไม่เป็นอันตรายตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม ค. จำหน่ายไดร้ าคาสงู กว่าผักทวั่ ไป ง. ถกู ทุกขอ้ 13. ข้อใดเปน็ การเตรียมดินปลูกทีถ่ กู ตอ้ ง ก. ขุดดินตาก 1 วนั ข. ขุดดนิ ตาก 3 วนั ค. ขดุ ดนิ ตาก 5 วนั ง. ขุดดนิ ตาก 7 วัน 14. ขอ้ ใดเปน็ ขนั้ ตอนในการเตรียมดินปลูกผักสวนครัว ก. ขุดดินตาก ย่อยดนิ ข. ขดุ ดินตาก ย่อยดิน ทำแปลง ผสมป๋ยุ ค. ขุดดินตาก ทำแปลง ผสมปยุ๋ ง. ขดุ ดินตาก ทำแปลง ย่อยดนิ 15. ผกั สว่ นมากนิยมปลูกด้วยอะไร ก. ลำต้น ข. เมล็ด ค. ยอด ง. หัว 16. ขั้นตอนแรกของการปลูกผักปลอดสารพษิ คอื ข้อใด ก. คดั เลือกเมล็ดพันธุ์ ข. เตรยี มดนิ ค. เตรยี มอุปกรณ์ ง. เตรยี มปุ๋ย 17. ขอ้ ใดเป็นการเพาะเมล็ดที่เหมาะสม ก. เพาะผกั ชีในถงุ ข. เพาะกวางตุ้งในกระบะ ค. เพาะมะเขอื เทศในหลมุ ง. เพาะผักกาดขาวปลใี นแปลง 18. การนำตน้ กลา้ ไปปลูกตน้ กล้าควรมีอายุประมาณกี่วัน ก. 15 - 20 วนั ข. 20 - 25 วัน ค. 25 - 30 วนั ง. 30 - 40 วนั 19. ข้อเปน็ การรกั ษาแปลงเพาะพนั ธ์ุผกั ก. คลุมแปลงดว้ ยพลาสตกิ ข. คลมุ แปลงด้วยสังกะสี ค. คลุมแปลงดว้ ยฟาง ง. คลมุ แปลงด้วยไม้กระดาน 20. องค์ประกอบที่ทำให้ผักสวนครวั เจรญิ เตบิ โตไดด้ ีคอื ขอ้ ใด ก. ปยุ๋ นำ้ ดิน อากาศ ข. ปยุ๋ นำ้ แสงแดด ค. น้ำ ดิน แสงแดด ง. ดนิ นำ้ ปยุ๋ 21. ก่อนใสป่ ยุ๋ ทุกครัง้ ควรทำอย่างไร ก. รดนำ้ ข. พรวนดนิ ค. ทำรม่ บงั แดด ง. ย้ายตน้ พืช 22. ข้อใดเปน็ ปยุ๋ จุลนิ ทรีย์ ก. ปุ๋ยหมกั ข. ปยุ๋ พชื สด ค. ปุ๋ยชวี ภาพ ง. ถกู ทุกขอ้
97 23. การเกบ็ ผักควรเก็บในเวลาใดดที ่สี ุด ก. เช้า ข. เทยี่ ง ค. เย็น ง. เชา้ – เย็น 24. เม่ือเก็บผกั แลว้ ควรทำอยา่ งไรผกั จึงจะไมเ่ หี่ยว ก. ล้างให้สะอาด และใสถ่ งุ เกบ็ ไว้ในตู้เย็น ข. ลา้ งใหส้ ะอาด และใสถ่ งุ พลาสติก ค. ล้างให้สะอาด และหอ่ ด้วยใบตอง ง. ลา้ งให้สะอาด และแช่ในนำ้ 25. วธิ ที ำสารกำจดั แมลงจากเมลด็ สะเดาทำตามข้อใด ก. ใชเ้ มลด็ แชน่ ้ำ ข. ใชเ้ มล็ดเผาไฟ ค. ใช้เมลด็ บดผสมนำ้ ง. ใชเ้ มล็ดหวา่ นในแปลงผกั 26. ผกั คะนา้ มีอายุการเก็บเกี่ยวใกลเ้ คยี งกับผกั ชนดิ ใด ก. ผักกาดดอก ข. แครอท ค. กะหลำ่ ปลี ง. ผกั บ้งุ 27. พืชชนดิ ใดควรปลกู สลับกบั ผักเพอ่ื ไล่แมลงและเพิ่มรายได้ ก. ผกั กาดขาว – กะหลำ่ ปลี ข. แครอท - ทานตะวัน ค. ผักชี – สะระแหน่ ง. คะน้า - ดาวเรอื ง 28. พชื ชนดิ ใดมีคณุ สมบัตไิ ล่แมลงแต่อาจเปน็ อันตรายต่อคนและสตั ว์ ก. นอ้ ยหนา่ ข. ชะอม ค. รากมะยม ง. ใบยาสบู 29. การปลกู พชื ไล่แมลงมีผลดใี นด้านใดมากทส่ี ุด ข. ด้านมลู คา่ เพิม่ ง. ด้านการรักษาสมดุล ก. ดา้ นสง่ิ แวดล้อม ค. ด้านการอนุรักษ์ ข. แช่นำ้ ปูนใส 30. การนำผักไปบริโภคในขอ้ ใดปลอดภยั ท่สี ดุ ง. แชน่ ้ำด่างทบั ทมิ ก. ลอกหรือปอกเปลือก ค. ลา้ งด้วยน้ำไหลจากก๊อก
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น 98 กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เรอื่ ง การปลูกผกั ปลอดสารพิษ 1. ก 11. ง 21. ข 2. ข 12. ง 22. ง 3. ก 13. ง 23. ก 4. ก 14. ข 24. ก 5. ข 15. ข 25. ค 6. ค 16. ข 26. ก 7. ค 17. ง 27. ง 8. ก 18. ค 28. ง 9. ค 19. ค 29. ก 10. ง 20. ข 30. ก
99 ภาคผนวก ค แบบประเมินแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรูแบบโครงงาน สำหรับผู้เช่ยี วชาญ และแบบวดั ความพงึ พอใจ
100 แบบประเมินผลแผนการจดั กิจกรรมการเรียนร้แู บบโครงงาน สำหรบั ผูเ้ ชย่ี วชาญ วิชางานเกษตร เรอ่ื ง การปลูกผกั ปลอดสารพิษตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 คำชี้แจง โปรดกาเครอื่ งหมาย ลงในชอ่ งวา่ งทต่ี รงกบั ความคิดเห็นของท่าน ซ่ึงมี 5 ระดับ คือ ความเหมาะสมมากทส่ี ุด ระดับความคิดเห็น 5 ความเหมาะสมมาก ระดบั ความคิดเห็น 4 ความเหมาะสมปานกลาง ระดับความคดิ เห็น 3 ความเหมาะสมนอ้ ย ระดบั ความคิดเห็น 2 ความเหมาะสมนอ้ ยที่สดุ ระดบั ความคดิ เห็น 1 รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5432 1 1. สาระสำคัญ 1.1 สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ในหลักสตู ร 1.2 มปี ระโยชนต์ ่อชวี ิตประจำวัน 1.3 เหมาะสมกบั วยั ของนกั เรยี น 1.4 มคี วามชดั เจน เข้าใจงา่ ย 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 สอดคลอ้ งกบั เนอื้ หา 2.2 ภาษาทใี่ ช้มคี วามหมายชัดเจนเข้าใจง่าย 2.3 ระบุพฤตกิ รรมที่ตอ้ งการวัดไว้ อยา่ งชดั เจน 3. เน้ือหา 3.1 มีความชดั เจน เขา้ ใจงา่ ย และนา่ สนใจ 3.2 สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.3 เหมาะสมกบั ระดับชนั้ ของนกั เรยี น 3.4 กำหนดเนอ้ื หาเหมาะสมกบั คาบเวลาเรียน 4. ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 4.1 เรา้ ความสนใจของผู้เรยี น 4.2 สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หา 4.3 สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ 4.4 เหมาะสมกบั เวลาทีส่ อน 4.5 ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในกิจกรรม
101 รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5432 1 5. ส่ือการเรียนการสอน 5.1 สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 5.2 สอดคล้องกบั เนอ้ื หา 5.3 เรา้ ความสนใจของผู้เรียน 5.4 ผเู้ รียนมีสว่ นรว่ มในการใช้ 5.5 ชว่ ยประหยัดเวลาในการสอน 6. การวัดผลประเมินผล 6.1 สอดคลอ้ งกบั เนอื้ หา 6.2 สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6.3 ส่งเสรมิ การวดั พทุ ธพิ ิสยั จิตพิสัย และทกั ษะพิสัย 6.4 การวดั ทร่ี ะบไุ วส้ ามารถประเมนิ ได้ 6.5 ใช้เครอื่ งมอื วดั ผลไดเ้ หมาะสม ลงชอ่ื ...............................................ผู้เชี่ยวชาญ (....................................................) ตำแหน่ง................................................
102 แบบวัดความพึงพอใจท่ีผ้เู รียนมีตอ่ แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน วิชางานเกษตร เร่ือง การปลูกผกั สวนปลอดสารพิษตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 คำช้ีแจง แบบสอบถามฉบบั น้สี ร้างขึ้นเพ่อื สอบถามความคิดเห็นของนกั เรียนตอ่ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้แบบ โครงงาน โดยนักเรียนอา่ นข้อความแต่ละข้อให้เขา้ ใจแล้วกาเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องทางขวา มือ ทตี่ รงกับระดบั ความคดิ เหน็ ของนักเรยี น ซง่ึ มี 5 ระดบั ดงั น้ี มคี วามพงึ พอใจมากท่สี ุด ให้ 5 คะแนน มคี วามพงึ พอใจมาก ให้ 4 คะแนน มคี วามพึงพอใจปานกลาง ให้ 3 คะแนน มีความพึงพอใจนอ้ ย ให้ 2 คะแนน มีความพงึ พอใจนอ้ ยท่สี ดุ ให้ 1 คะแนน รายการประเมิน ระดบั ความเหมาะสม 5432 1 ดา้ นเน้ือหา 1. ข้าพเจ้าไดเ้ ลือกโครงงานตามความสมคั รใจ 2. ข้าพเจา้ ไดศ้ กึ ษาค้นควา้ ในเรอื่ งท่ีเรียนตามทต่ี ้องการ 3. เนือ้ หาทเ่ี รียนไมย่ ากจนเกินไป 4. เรือ่ งที่เรียนเป็นเรือ่ งทเี่ ก่ียวขอ้ งกับชวี ิต ประจำวัน 5. ความรทู้ ่ีฉันไดร้ ับสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 6. ขา้ พเจา้ มีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมกลุ่มทุก ๆ ครัง้ ในการ เรยี น 7. ขา้ พเจา้ มคี วามสุขในการทำหน้าที่เปน็ ผนู้ ำและผตู้ ามได้ 8. ข้าพเจ้าชอบกิจกรรมการระดมความคิด 9. ขา้ พเจา้ ชอบกิจกรรมแสวงหาความรู้ 10. ขา้ พเจา้ ชอบบนั ทึกและรวบรวมขอ้ มูล 11. ขา้ พเจ้าชอบกิจกรรมสนาม 12. ข้าพเจ้ามีโอกาสในการนำเสนองาน 13. ขา้ พเจา้ ชอบทำงานรว่ มกบั คนมากๆ 14. ข้าพเจ้าร่วมกจิ กรรมกลุ่มตลอดเวลา 15. ข้าพเจ้าทำงานนดี้ ้วยความต้ังใจ ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล 16. ขา้ พเจ้ามโี อกาสรับทราบคะแนนผลงานของตนเอง 17. ขา้ พเจา้ ต้องการปฏบิ ัติงานทุกครั้งเมือ่ เรยี นงานเกษตร
รายการประเมนิ 103 18. เมอ่ื ทดสอบข้าพเจ้าพอใจในคะแนนของตนเองทกุ คร้ัง ระดับความเหมาะสม 19. ครูมีวธิ ีการวัดและประเมนิ ผลทท่ี า้ ทายและสนุกสนาน 5432 1 20. เมื่อทำงานสำเร็จข้าพเจ้าได้รบั คำชมเชยจากครเู สมอ ดา้ นผลงาน 21. ขา้ พเจ้าทำงานทกุ ช้นิ ด้วยความตง้ั ใจ 22. ขา้ พเจา้ พอใจในการพัฒนาชนิ้ งาน 23. ขา้ พเจา้ พอใจในผลงานกลมุ่ 24. ขา้ พเจ้าพอใจในการสร้างงานอย่างอิสระ 25. ข้าพเจา้ ภูมิใจในผลงานทเ่ี กิดจากความสามัคคี
104 ภาคผนวก ง ผลการวเิ คราะหห์ าคุณภาพของเครือ่ งมอื
105 ตาราง 7 ผลการประเมนิ แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบโครงงานสำหรับผ้เู ชีย่ วชาญ รายการประเมิน ผู้เชีย่ วชาญ คะแนน ระดบั ความ คนที่ เฉลี่ย เหมาะสม 1. สาระสำคัญ 1.1 สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรูใ้ นหลักสตู ร 123 1.2 มปี ระโยชน์ตอ่ ชีวติ ประจำวนั 1.3 เหมาะสมกับวยั ของนักเรยี น 5 5 5 5.00 มากที่สดุ 1.4 มคี วามชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย 5 5 4 4.67 มากที่สดุ 5 4 5 4.67 มากที่สดุ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 5 5 4 4.67 มากที่สดุ 2.1 สอดคล้องกับเนอ้ื หา 2.2 ภาษาท่ีใช้มีความหมายชดั เจนเข้าใจงา่ ย 5 5 5 5.00 มากที่สดุ 2.3 ระบุพฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการวดั ไว้ อยา่ งชัดเจน 5 5 5 5.00 มากท่ีสุด 3. เน้ือหา 5 5 4 4.67 มากทส่ี ุด 3.1 มคี วามชดั เจน เขา้ ใจง่าย และนา่ สนใจ 3.2 สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 5 4 5 4.67 มากทีส่ ุด 3.3 เหมาะสมกบั ระดับช้นั ของนักเรียน 3.4 กำหนดเนอื้ หาเหมาะสมกับคาบเวลาเรยี น 5 5 5 5.00 มากทส่ี ุด 5 5 5 5.00 มากทส่ี ุด 4. ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน 4.1 เร้าความสนใจของผเู้ รียน 5 5 5 5.00 มากทส่ี ุด 4.2 สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หา 4.3 สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 5 5 5 5.00 มากทส่ี ุด 4.4 เหมาะสมกบั เวลาทส่ี อน 5 5 5 5.00 มากทส่ี ุด 4.5 ผเู้ รียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรม 5 4 4 4.33 5 4 4 4.33 มาก 5. สอ่ื การเรยี นการสอน 5 4 5 4.67 มาก 5.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มากทส่ี ุด 5.2 สอดคลอ้ งกบั เนอื้ หา 5.3 เร้าความสนใจของผู้เรยี น 5 4 4 4.33 มาก 5.4 ผเู้ รียนมสี ่วนร่วมในการใช้ 4 5 4 4.33 มาก 5.5 ช่วยประหยัดเวลาในการสอน 4 5 5 4.67 มากที่สดุ 4 4 4 4.00 มาก 4 4 4 4.00 มาก
106 รายการประเมนิ ผเู้ ชยี่ วชาญ คะแนน ระดับความ คนท่ี เฉลี่ย เหมาะสม 6. การวดั ผลประเมินผล 6.1 สอดคล้องกบั เนอ้ื หา 123 6.2 สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6.3 สง่ เสริมการวัดพทุ ธิพสิ ยั จติ พิสัย และทักษะพสิ ยั 4 5 4 4.33 มาก 6.4 การวัดทีร่ ะบไุ ว้สามารถประเมนิ ได้ 4 4 5 4.33 มาก 6.5 ใช้เคร่อื งมอื วดั ผลได้เหมาะสม 4 5 5 4.67 มากทสี่ ุด รวม 4 4 5 4.33 มาก 4 5 5 4.67 มากท่ีสุด มากทส่ี ดุ 4.63
ตาราง 8 ผลการประเมินความสอดคล้องระหวา่ งจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมกบั ขอ้ สอบ 107 ข้อสอบที่ คะแนนความคิดเหน็ ของผู้เชยี วชาญ รวม เฉล่ยี สรปุ ผล คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 ใช้ได้ 1 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 3 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 4 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 5 +1 +1 0 2 0.66 ใช้ได้ ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ใช้ได้ 9 +1 +1 0 2 0.66 ใช้ได้ ใช้ได้ 10 +1 +1 0 2 0.66 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 11 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 12 +1 0 +1 2 0.66 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 13 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 14 +1 +1 0 2 0.66 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 15 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 16 +1 +1 0 2 0.66 17 +1 +1 +1 3 1.00 18 +1 +1 +1 3 1.00 19 +1 +1 0 2 0.66 20 +1 +1 +1 3 1.00 21 +1 +1 +1 3 1.00 22 +1 +1 0 2 0.66 23 +1 +1 +1 3 1.00 24 +1 +1 +1 3 1.00 25 +1 +1 +1 3 1.00 26 +1 +1 +1 3 1.00 27 +1 +1 +1 3 1.00 28 +1 +1 +1 3 1.00 29 +1 +1 +1 3 1.00 30 +1 +1 +1 3 1.00
108 ตาราง 9 ผลการวิเคราะห์คา่ อำนาจจำแนกแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ค่าอำนาจจำแนก (B) ข้อท่ี คา่ อำนาจจำแนก (B) ขอ้ ท่ี 0.60 0.56 1 0.23 16 0.42 2 0.21 17 0.57 3 0.32 18 4 0.33 19 0.46 0.47 5 0.53 20 0.58 6 0.80 21 0.61 7 0.69 22 0.43 8 0.46 23 0.50 9 0.34 24 0.33 10 0.62 25 0.42 11 0.50 26 0.45 12 0.61 27 0.57 13 0.65 28 14 0.89 29 0.32 15 0.86 30 ค่าความเชื่อม่นั ทัง้ ฉบับเท่ากับ 0.92
109 ตาราง 10 ผลการวิเคราะห์ค่าอำนาจจำแนกรายขอ้ ที่เข้าเกณฑแ์ ละค่าความเชอ่ื มัน่ ของแบบสอบถาม ความพงึ พอใจ จำนวนข้อ คา่ อำนาจจำแนกรายขอ้ 1 0.52 2 0.63 3 0.82 4 0.64 5 0.62 6 0.45 7 0.54 8 0.78 9 0.54 10 0.46 11 0.82 12 0.45 13 0.52 14 0.35 15 0.79 16 0.65 17 0.48 18 0.55 19 0.35 20 0.64 21 0.50 22 0.61 23 0.38 24 0.40 25 0.39 ค่าความเช่ือมั่น () = 0.87
110 ภาคผนวก จ ตัวอยา่ งโครงงานนักเรยี น
111 รายงานโครงงาน เรือ่ ง การศึกษาการปลูกผักกาดดอกปลอดสารพษิ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง คณะผูจ้ ัดทำ 1. เด็กชายณรงค์ชัย เศรษฐภักดี 2. เด็กชายศรัญยู ยอดภักดี 3. เดก็ หญงิ พิมพช์ นก โนวังหาร 4. เดก็ หญิงวลิ าสินี แซ่ผา่ น 5. เด็กหญงิ ธมลวรรณ ดาพันธ์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1/4 ครูที่ปรกึ ษา นายพิรยิ พงษ์ ลอยเลศิ โครงงานน้ีเปน็ ส่วนหนึง่ ของรายวิชา เศรษฐกจิ พอเพียง1 รหสั วชิ า ง22104 ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 56 จังหวัดนา่ น สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
112 หวั ขอ้ โครงงาน เรอื่ ง การปลูกผักกาดดอกปลอดสารพิษตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง คณะผ้จู ัดทำ 1. เด็กชายณรงคช์ ัย เศรษฐภักดี ครูท่ีปรกึ ษา 2. เดก็ ชายศรัญยู ยอดภกั ดี ปีการศกึ ษา 3. เด็กหญงิ พิมพ์ชนก โนวังหาร 4. เดก็ หญงิ วิลาสนิ ี แซผ่ า่ น 5. เดก็ หญิงธมลวรรณ ดาพนั ธ์ นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1/4 นายพริ ยิ พงษ์ ลอยเลศิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 จังหวัดนา่ น สำนกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ 2564 บทคดั ย่อ ผักเป็นพชื ที่มีประโยชน์ตอ่ ชีวิตประจำวนั ของมนุษย์เป็นอยา่ งมากมีความสัมพันธ์ในดา้ นการ บริโภค และในดา้ นเศรษฐกิจการปลูกผกั สวนครวั เป็นวธิ ีหนึ่งในการท่จี ะชว่ ยเศรษฐกิจและส่งเสริมให้ผคู้ นหันมาบริโภค มากขึน้ โดยทัว่ ไปแลว้ ประเทศไทยนิยมปลูกผกั สวนครวั เป็นอยา่ งมาก แต่ปัจจุบนั มีอยบู่ ้างแต่ไมม่ ากนักเพราะ ไม่มีพืชทใี่ นการปลกู และไมม่ ีเวลา ผกั กาดดอกกเ็ ป็นผักทีน่ ยิ มปลกู กนั จะใช้ส่วนก้านลำต้นและใบ ในการนำมา ประกอบอาหาร ในการปลูกผักในปัจจบุ นั นไี้ ม่คอ่ ยปลอดภัยเพราะผู้คนหนั มาใช้ปยุ๋ เคมแี ละยาฆา่ แมลง เพื่อเร่ง ผลผลิตและให้ไดผ้ กั ทีส่ วยงามโดยไมน่ กึ ถึงอนั ตรายท่ตี ามมา ผกั กาดดอกเปน็ พชื ท่ปี ลูกง่ายและนิยมรับประทานกนั อย่างแพร่หลายซง่ึ วธิ กี ารปลูกกไ็ ม่ยากนักโดยมี การเตรียมดินและเพราะเมล็ดพนั ธุ์ให้โตพอประมาณดูแลโดยการใส่ป๋ยุ รดน้ำเม่ือผักโตพอที่จะเคลื่อนย้ายได้ แล้วกแ็ ยกออกมาปลูกเป็นตน้ เพื่อท่จี ะให้ผกั ได้เจริญเติบโตเตม็ ที่ จากน้นั กด็ แู ลโดยการรดน้ำพรวนดิน ผักท่ี เจริญเตบิ โตเต็มที่แล้วนอกจากนำมารับประทานแล้วยังสามารถนำไปจำหนา่ ยเปน็ การสร้างรายไ ดค้ วบคู่กัน ไป ด้วย
113 บทที่ 1 บทนำ ทีม่ าและความสำคัญ โดยทว่ั ไปแล้วประเทศไทยนยิ มปลูกผักสวนครัวเปน็ อย่างมาก แตป่ จั จุบันมีการใชส้ ารเคมีเปน็ จำนวน มาก ผู้บรโิ ภคจึงไดร้ ับอันตรายจากการบริโภคอยบู่ ้างไมม่ ากก็น้อย จงึ จำเปน็ อย่างมากในการหลกี เล่ยี งอันตราย โดยการปลูกผกั ปลอดสารพิษไวบ้ ริโภคในครวั เรือนหรืออาจนำไปจำหน่ายกจ็ ะได้ราคาดีเป็นท่ีต้องกา รของ ตลาด ผักกาดดอกก็เปน็ ผักทีน่ ิยมปลูก จะใชส้ ว่ นกา้ น ลำตน้ และใบ ในการนำมาประกอบอาหา รแต่ใน ปจั จบุ ันผกั กาดดอกเป็นพชื ที่ต้องการของตลาดจึงมีการเร่งผลผลิตและใหไ้ ดผ้ ักที่สวยงามเพื่อให้ทันต่อความ ตอ้ งการของตลาดโดยไมค่ ำนงึ ถงึ ผบู้ รโิ ภคและสภาพดิน ในการศึกษาครั้งนดี้ ินท่ีจะใช้เปน็ ดนิ ปลกู ผักกาดดอกเปน็ ดิน เหนยี วซ่งึ จะใช้ป๋ยุ คอกปุย๋ จลุ นิ ทรีย์ และ สารกำจัดแมลงโดยใชพ้ ชื ไลแ่ มลง(ตน้ ดาวเรอื ง) และสารสะเดาในการกำจัดศัตรพู ืช วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ใหท้ ราบการใช้ปยุ๋ ในการปลกู ผักปลอดสารพษิ 2. เพ่อื ทดลองการปลูกผกั กาดดอกโดยใช้ปยุ๋ คอก ปุย๋ จุลินทรยี ์และพืชไลแ่ มลง (ตน้ ดาวเรือง) และสาร สะเดาในการกำจดั ศตั รูพืชในการผลติ ผกั 3. เพื่อให้ผคู้ นหันมาปลูกผกั ปลอดสารพษิ โดยใช้ปุ๋ยและสารกำจดั ศัตรพู ืชจากธรรมชาติมากข้ึน 4. เพือ่ นำผักทป่ี ลอดภัยมาบริโภคและจำหนา่ ย 5. เพื่อสร้างรายได้ ตวั แปร - ตวั แปรตน้ ป๋ยุ จุลินทรยี ์ ปยุ๋ คอก พืชไล่แมลง (ตน้ ดาวเรือง) และสารสะเดา - ตัวแปรตาม การเจริญเตบิ โตของผกั กาดดอก - ตัวแปรควบคุม ปรมิ าณการใช้ปุ๋ยและสารสะเดา ขอบเขตในการศกึ ษา - ศกึ ษาจากหนงั สอื คมู่ อื การปลูกผกั สวนครวั และผักปลอดสารพิษ สมมตุ ฐิ าน การปลูกผักกาดดอกโดยใช้ปยุ๋ จุลินทรีย์ และปุย๋ คอกโดยใชพ้ ชื ไลแ่ มลง(ตน้ ดาวเรอื ง) และสารสะเดาใน สภาพดินเดยี วกันทำให้ผกั กาดดอกเจริญเตบิ โตและมีศัตรูพืชรบกวนนอ้ ย
114 บทที่ 2 เอกสารงานวจิ ยั ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 1. ความร้เู กีย่ วกับการปลูกผักสวนครัว 2. ความรู้เกย่ี วกับการปลกู ผกั ปลอดสารพษิ 3. การพฒั นากจิ กรรมการเรียนแบบโครงงาน ความรเู้ กย่ี วกบั การปลูกผักสวนครวั การปลูกพชื ผกั สวนครัว มีความสำคัญเปน็ อันดับแรกของชีวิตประจำวนั เพราะใช้เป็นอาหารใน ครัวเรอื นได้ดี ถ้าปลูกมากมีเหลือก็จำหน่ายได้ และสามารถยึดเป็นอาชพี ได้ ขอใหม้ คี วามยดึ มน่ั ในธรรมชาติ มี ความขยัน และอดทน การปลูกพืชผกั สวนครวั มหี ลักปฏบิ ัติ 5 ประการการเลือกเมล็ดพนั ธุ์ เมลด็ พนั ธุม์ คี วามจำ เปน็ ในการเร่ิมต้นในการเพาะปลูก จึงควรศกึ ษาเลือกเมล็ดพันธทุ์ ี่ดี แข็งแรง ไมเ่ ป็นโรคง่าย คัดสรรแล้วเก็บ รกั ษาไว้อยา่ งดกี ่อนปลกู การเตรียมดินคุณภาพของดินจะเป็นตัวกำหนดการเจรญิ เตบิ โตของพชื การใหอ้ าหาร แกด่ ินดว้ ยปยุ๋ ชวี ภาพจะทำใหด้ นิ มีชวี ิตและชว่ ยย่อยอนิ ทรียว์ ัตถใุ นดิน ใหด้ ินอดุ มพรอ้ มแก่การเพาะปลูกแปลง ใหม่ (ดนิ ไมส่ มบรู ณ์) พชื ผกั สวนครัวท่ีนยิ มปลกู ในประเทศไทย มีอยหู่ ลายนิด แต่ละชนิดนำมาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ กัน อาจจะแบง่ ประเภทของพืชผกั สวนครวั เปน็ 4 ประเภท คอื (กรมวชิ าการ. 2562 : 9-10) 1. ประเภทกนิ ใบและดอก เช่น กระเพา ผักชี คะน้า กะหลำ่ ปลี กะหล่ำดอก เปน็ ต้น 2. ประเภทกินฝักและผล เชน่ พริก มะเขอื มะเขือเทศ ถั่วฝกั ยาว ขา้ วโพด เปน็ ต้น 3. ประเภทกนิ ยอดหรอื ลำต้น เชน่ หอม กระเทียม ขา่ ตะไคร้ ผกั บงุ้ ตำลึง เป็นตน้ 4. ประเภทกินรากหรือหัว เช่น ขงิ มนั เทศ เผือก มัน เปน็ ตน้ 1. วิธกี ารปลกู พืชผักสวนครัว 1.1 การเตรียมแปลงปลกู 1.2 การเลือกเมลด็ พนั ธุ์ 1.3 ทดสอบการงอกของเมลด็ 1.4 การปลกู ผกั 1.5 การสงวนความชุ่มช้ืนในดนิ 2. การบำรงุ รักษา 2.1 การรดนำ้ พรวนดิน 2.2 การใส่ปุ๋ย 2.3 การกำจัดวัชพชื 2.4 การปอ้ งกันและกำจัดแมลง 3. การเก็บเกีย่ วและการเกบ็ รักษาผลผลิต การดูแลรักษา ผักกาดดอกเกือบทุกชนิดเพาะกลา้ ก่อนปลกู จะดี เพราะจะทำใหร้ ่นระยะเวลาในการปลกู สามารถ ปลกู ได้หลายรนุ่ และดูแลรกั ษาง่ายยกเว้นพืชผกั ที่ยา้ ยกลา้ ไม่ได้ เช่น แครอทหัวผกั กาด การปลกู ด้วยกล้า ทำ ให้ประหยดั เมล็ดพนั ธ์ุได้ดว้ ย ดกี วา่ ปลกู ด้วยเมล็ดแล้วต้องถอนท้งิ เมอ่ื ผกั แน่นเกนิ ไป ปกตจิ ะใส่ปุ๋ยแห้งคร้ัง
115 เดียว แต่ถ้าผกั มอี ายยุ าวเกนิ 50 วัน ให้สังเกตว่าผกั ไม่สวยไม่สมบรู ณ์ก็ใส่ป๋ยุ แห้งไดร้ ะหวา่ งแถว ไม่ให้ถูกต้น พชื ผกั การเตรียมแปลงดี ผกั จะเจริญเตบิ โตเสมอกันทงั้ แปลง ผักต้นใดมีโรคให้งดนำ้ และรดด้วย EM สด ขยายผสมน้ำ 50 เทา่ ทง้ิ ไว้ 24 ช่ัวโมง จงึ ให้นาํ้ ต่อผกั มีหวั ใหข้ ุดแปลงลึก ๆ แหวะทอ้ งหมูบ่อย ๆ และใส่ปุ๋ย แหง้ ผสมให้ดี การรดนำ้ ควรใชบ้ ัวรดนำ้ รูเล็กๆ ใหเ้ ป็นฝอยไดม้ ากเท่าไรย่งิ ดี ไม่ควรรดน้ำด้วยสายยางที่น้ำพุ่ง แรง ๆจะทำใหผ้ ักนอนราบ โดยเฉพาะผกั กาดขาวจะห่อใบยาวขึ้นหากถูกน้ำซัดแรง ๆ ทุกวันพ่นด้วยสารไล่ ศัตรูพืช หรอื สารป้องกันเช้อื รา ทุก ๆ 3 วัน การผลติ พืชผักปลอดภยั จากสารพษิ เปน็ ทางเลอื กท่ีสามารถเลอื กเป็นกจิ กรรมหลังการเก็บเก่ยี ว ให้มี รายได้เพมิ่ ข้นึ ซ่งึ พชื ผักเปน็ พชื อาหารทีค่ นไทยนิยมรับประทานกนั มาก เพราะมคี ณุ คา่ อาหารวิตามินและแร่ ธาตุท่ีเป็นประโยชนต์ ่อรา่ งกาย นอกจากน้ีประชาชนทวั่ ทกุ ภาค นยิ มบรโิ ภคผกั สด ๆ กับอาหารพื้นเมือง เช่น ลาบ แกงอ่อม เป็นต้น ปัจจุบนั มีการผลติ ผักปลอดภัยจากสารพิษยังไมเ่ พยี งพอ ไมต่ ่อเน่ือง ไม่หลากหลายท้ังนี้ ผผู้ ลิตขาดความรู้ ความเขา้ ใจทกั ษะในการใช้เทคโนโลยี และภูมิปญั ญาตามสภาพแวดล้อมในฤดูกาลแตกต่า ง กัน ดังน้ันเพ่อื ให้บงั เกดิ ผลดีตอ่ เกษตรกรผู้ผลติ จนถึงผบู้ รโิ ภค และสงิ่ แวดล้อมในชมุ ชน จึงมขี ั้นตอนการจดั การ กระบวนการผลติ ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ อยู่ 9 ขัน้ ตอน คือ 1. การเตรยี มดินก่อนเพาะกล้า/หยอด/ปลกู เร่ิมกิจกรรมนี้ เกษตรกรตอ้ งตรวจสอบกอ่ นว่า \"ดินมี ความเปน็ กรดเป็นดา่ ง จำนวนเท่าไหร่\" ต่อจากนั้นจัดหาวัสดกุ ารเกษตร ใส่ปรับปรงุ บำรุงดินให้อุดมสมบรู ณ์ เหมาะสมการเพาะกล้า หรอื หยอดเมล็ด หรือยา้ ยกลา้ ปลกู วสั ดกุ ารเกษตรทใ่ี ช้ มีดงั น้ี 1.1. ปยุ๋ อนิ ทรีย์ ไดแ้ ก่ ปยุ๋ หมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพชื สด อตั รา 1-3 ตน้ ต่อไร่ 1.2. ปนู ขาวหรือสารโดโลไมท์ อัตรา 200 กโิ ลกรัมต่อไร่ 1.3. เชือ้ ราไตรโครเดอรม์ ่า ที่ผสมกับ :รำอ่อน;ปุย๋ อินทรยี ์ชวี ภาพในสัดส่วน 1;5;40 ใช้ อตั รา 160 กโิ ลกรมั ต่อไร่ ซึง่ ควรใส่ปุย๋ อินทรยี ค์ ลกุ เคล้าก่อน ต่อมาเป็นปนู ขาวหรอื สารโดโลไมทใ์ ชน้ ้ำรดทันที สว่ น การใชเ้ ช้ือราไตรโครเดอร์มา เหมาะกับพชื ผักท่เี ป็นโรครากและโคนเน่า โรคเนา่ คอดนิ ระยะกล้าไดพ้ ชื ผกั ตระกูลกะหลำ่ ตระกูลพริก-มะเขอื เป็นตน้ 2. การเตรียมเมลด็ พันธุ์ก่อนเพาะกล้า/หยอด ขน้ั ตอนต่อมาเกษตรกรนำเมล็ดพันธท์ุ จี่ ะเพาะกล้าหรอื หยอดเมลด็ หอ่ ดว้ ยผ้าขาวบาง แช่นำ้ อ่นุ ท่อี ณุ หภมู ิ 50 - 55 องศาเซลเซียส นาน 15 – 30 นาที หลังจากนัน้ ให้นำเมล็ดที่แช่ผ่งึ ไวท้ ่รี ่มจนสะเด็ดนำ้ นำไปหว่านเพาะกล้าหรอื หยอดแปลงท่เี ตรียมไว้สำหรับการปฏิบัติตาม ขั้นตอนนเี้ พอื่ ควบคมุ เชือ้ ราทตี่ ดิ มากับเมลด็ พันธุ์ นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เมล็ดพนั ธ์ุงอกสม่ำเสมอ 3. การเพาะกล้า/การหยอด/การปลกู การเจริญเติบโตในพชื ผกั มรี ะยะการพัฒนาจากระยะหน่ึงไปอีกระยะหน่งึ มคี วามแตกต่างกนั ต้ังแต่การ เพาะกลา้ จนถึงการเกบ็ ผลผลติ สามารถจำแนกการขยายพนั ธ์ไุ ด้ 4 ประเภท 3.1. ประเภทเพาะเมลด็ แล้วจงึ ยา้ ยปลกู เช่น มะเขอื เทศ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอกคะน้าฮอ่ งกง มะเขือม่วง ผกั กาดเขียวปลี บลอ็ กคอรี่ 3.2. ประเภทหว่านเมล็ดแล้วลงแปลงไดเ้ ลย เชน่ ผักชี ผกั สลัด ผักคนึ่ ฉา่ ย ผกั บุง้ 3.3. ประเภทหยอดเปน็ หลุม เช่น มะระ ถั่วลนั เตา บวบเหลี่ยม ถว่ั ฝักยาว 3.4. ประเภทใชส้ ่วนหัว/ต้น/ราก/ลกู ปลกู เชน่ ลกู มะเขอื เครือ (ไชโยเต้) หอมแบ่งกระเทียม ตะไคร้ ขา่ ขงิ ชะอม 4. การให้น้ำ คุณภาพของพืชผกั ประเดน็ หนงึ่ ทส่ี ำคญั คือ การให้น้ำ ใหน้ ้ำมากเกินกแ็ ฉะ ใหน้ อ้ ยเกิน กแ็ หง้ ทำใหพ้ ชื ผักชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตไมม่ คี ุณภาพ ถ้าเตรียมดนิ ไม่ดี การให้นำ้ จะทำให้ผิวหน้าดิน แข็งขณะให้นำ้ น้ำจะไหลลงขอบข้างแปลง เนอื้ ดนิ อุ้มน้ำไม่ดี การระบายน้ำและอากาศไมด่ ีก็อาจทำ ให้พืชผัก
116 การเจริญเตบิ โตชะงกั แต่อยา่ งไรก็ตามเกษตรกรต้องมน่ั พรวนดินและเพ่ิมปุ๋ยอนิ ทรยี ห์ ลงั จากพรวนดิน เก็บ วัชพชื เสร็จ จะช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพขนึ้ ซ่ึงส่วนใหญ่เกษตรกรมกี ารให้นำ้ หลายแบบคือ 4.1. ปลอ่ ยนำ้ เขา้ ร่องแปลง วธิ ีการน้เี ปน็ การใหน้ ้ำในการปลกู กระเทียม หอมแบ่งเป็นต้น 4.2. เดินหาบบวั รด การให้นำ้ แบบนีเ้ กษตรกรค่อนข้างจะแขง็ แรง เป็นการออกกำลังไปด้วย จงึ มพี ลานามยั สมบูรณ์ เปน็ การให้น้ำแก่พืชผักทีเ่ หมาะสม 4.3. ใช้สายยางฉีด การให้น้ำแบบนี้ ผิวหน้าจะแข็งแรงต้องมั่นพรวนดิน จะทำให้พชื ผกั เจรญิ เตบิ โตดีแตจ่ ะไม่สะดวกในการนำสายยางเข้าในแปลง บางคร้งั ทำให้ต้นพืชผกั ล้ม 4.4. ให้แบบหวั สปรงิ เกอร์ การใชว้ ิธกี ารนคี้ ่อนข้างจะมปี ญั หาเรื่องวชั พืช ซงึ่ วชั พืชจะเจริญ หรอื งอกแข่งกับพืชผักที่ปลกู ในแปลง เกษตรกรต้องขยันถอนวชั พืช หรอื กำจัด 5. การใหป้ ยุ๋ พืชผักมีความตอ้ งการป๋ยุ เพื่อส่งเสริมให้ส่วนตา่ ง ๆ ของพืชผักพฒั นาให้มีคุณภาพตาม ตลาดต้องการ ปุ๋ยทพ่ี ชื ผกั ได้รบั มาจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญถ่ งึ จะดตี ่อการผลิตผักให้ยั่งยืนเพรา ะปุ๋ยท่ีผลิต ตามธรรมชาตจิ ะช่วยยืดอายุของการใช้ เพราะสภาพดนิ จะไม่คอ่ ยเปน็ กรดการให้ปุ๋ย จำนวน 2 คร้ัง คือ 5.1. การใสป่ ุ๋ยรองพนื้ ขณะมีการเตรยี มดินเพาะกล้า/หยอด/ยา้ ยปลูก การใส่ปุ๋ยรองพ้ืน เพื่อให้ดนิ อดุ มสมบรู ณ์ ส่วนใหญใ่ ช้ปุย๋ อินทรียช์ วี ภาพ หรอื ป๋ยุ หมักจากพชื ทำให้ดินมกี ารเกาะยึดกันหลวม ๆ ส่งผลใหม้ ีการระบายนำ้ ดี การระบายอากาศระหว่างเม็ดดินหรือเน้อื ดินดีส่งเสริมการเกดิ เชื้อจุลนิ ทรีย์ในดิน ที่มี ประโยชนเ์ พิม่ ข้ึน ลดการเกิดโรคจากเชื้อราในดนิ 5.2. การใสปยุ๋ บำรงุ การใส่เพอ่ื ใหพ้ ืชผกั มีการเจรญิ เติบโตทางใบ/ลำต้น/ดอกเตม็ ที่มีคุณภาพ ซ่งึ ปยุ๋ บำรงุ เป็นการเพิม่ ธาตอุ าหารเสรมิ /รอง ให้กับใบพชื ผัก โดยเกษตรกรสามารถเตรียมจากการหมักพืชหรือ หอยเชอรี่หมกั ท้ิงไว้ จากน้ันสกดั เปน็ ปุ๋ยน้ำชวี ภาพ ใชอ้ ตั ราสว่ นท่เี หมาะสมฉดี พน่ พชื ผกั ช่วยลดตน้ ทนุ การผลิต ได้ 6. การจดั การศตั รูพืชผักแบผสมผสาน กจิ กรรมน้เี มื่อพืชผักมีการเจรญิ เติบโต จะมีศัตรูพืช ศัตรู ธรรมชาตเิ ขา้ มาอาศยั ปรมิ าณมากน้อยขึ้นอยูก่ บั สภาพแวดล้อม ดงั นั้นเกษตรกรตอ้ งเลือกวิธีการจัดการศัตรู พืชผกั แบบผสมผสาน ซง่ึ มลี ำดบั ข้ันตอนปฏิบตั ดิ งั นี้ 6.1. เกษตรกรเข้าแปลงติดตามสถานการณ์และบันทึกขอ้ มูลสิ่ง ตอ่ ไปน้ี จำนวน 2 ครั้ง/ สปั ดาห์อยา่ งสม่ำเสมอ ตัง้ แตก่ ลา้ จนเกบ็ ผลผลติ คอื 6.1.1. การเจรญิ เตบิ โตพชื ผัก 6.1.2. ศตั รพู ืชผัก/ศัตรูธรรมชาติ 6.1.3. สภาพแวดลอ้ ม 6.2. วเิ คราะห์ข้อมลู และกำหนดทางเลอื กการจัดการศตั รูพชื ผัก/การจดั การศตั รธู รรมชาติ/ การจัดการสภาพแวดลอ้ ม/การจดั การพชื ผกั ตามวิธกี ารดังนี้ 6.2.1. วธิ เี ขตกรรม คอื การดัดแปลงสภาพแวดลอ้ ม ให้เกดิ ความไมเ่ หมาะสม ต่อ การดำรงชีวติ และขยายพันธุ์ของศัตรูพชื ผัก ได้แกก่ ารจัดการนำ้ การตดั วัชพืช การพรวนดิน การเก็บ เผา ทำลายการยกแปลงใหส้ งู (ฤดฝู น) การทำร่องระบายนำ้ การปรบั ปรุงดิน 6.2.2. วธิ กี ล คอื การลดปริมาณศัตรพู ืชผัก โดยการดกั ล่อ การกรดี ขวางการทำลาย ได้แก่ การใช้ซาแรนดำคลุมแปลง (ฤดรู อ้ น) การใชพ้ ลาสติกคลมุ แปลง การใช้กบั ดกั เหลอื งทากาวเหนยี ว 6.2.3. วิธีกายภาพ คอื การลดปรมิ าณศัตรูพชื ผกั โดยใช้ปัจจยั ทางด้าน กายภา พ ไดแ้ ก่การใช้แสงไฟ การใชค้ วามร้อนจากพลังงานแสง
117 6.2.4. วิธีชวี ภาพ คือ การใช้ประโยชนจ์ ากศัตรูธรรมชาติซึ่งประกอบด้วยตัวห้ำ ตัว เบียน และเช้ือโรคปฏปิ ักษเ์ พื่อควบคุมศตั รูพชื ผักให้อยู่ระดับต่ำ ไดแ้ ก่ มวนพิฆาต มวนเพชฌฆาต แมงมุม แตน เบยี นอะพานทีเลส เชื้อแบคทีเรยี บที ี เชอื้ ไวรสั เอน็ พีวี ไสเ้ ดือนฝอย สะไตรเนอร์นีมา่ 6.2.5. วิธใี ช้สารสกดั ธรรมชาติจากพืชสมุนไพร คือ การลดปริมาณของศัตรูพืชผัก โดยใช้สารเคมสี กัดได้ธรรมชาตจิ ากพชื สมนุ ไพร ซงึ่ มีคุณสมบตั ิ เป็นสารไล่ สารยบั ยงั้ การกินอาหารและเป็น สารฆา่ ไดแ้ ก่ สะเดา (สะเรยี ม) สาบเสอื ยาสบู ตะไคร้หอม ว่านน้ำ 6.2.6. วธิ ีใช้สารเคมี คอื การใชส้ ารเคมีทส่ี งั เคราะห์เพ่อื ควบคุมศตั รพู ืชผักสำหรับ วิธกี ารนต้ี อ้ งเลือกเปน็ วิธีการสุดท้ายและใช้ควบคุมศตั รูพืชอยา่ งถูกวธิ ีและปฏิบตั ิตามฉลากขา้ งภา ชน ะอ ย่า ง เคร่งครดั 7. การขึ้นรหัสทะเบยี นผู้ผลิต/การตรวจวเิ คราะหห์ าสารเคมีตกค้าง/การรับรองคุณภาพผลผลติ หลังจากมกี ารจัดการศัตรูพืชผัก อยา่ งตอ่ เนือ่ งและอายุพชื ผักก็ใกล้เก็บเก่ียวสู่ตลาดจำหนา่ ย เกษตรกรต้อง สร้างความมน่ั ใจใหก้ ับผู้บริโภค คือ 7.1 การขึ้นทะเบียนผู้ผลิต หมายถึง เลขรหัสประจำตัวเกษตรผู้ผลิตติดต่อขอขึ้นได้ท่ี ศูนยบ์ ริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลพื้นทีผ่ ลติ ผักปลอดภยั จากสารพษิ 7.2 การตรวจวิเคราะห์การสารเคมีตกค้าง หมายถึง คณะทำงานส่งเสริมการผลิตพชื ปลอดภยั จากสารพิษ และคณะกรรมการฝ่ายตรวจรบั รองคุณภาพผลผลิต ดำเนินการตรวจหากลุ่มสาร เคมี ออร์กาโนฟอสเฟส และคารบ์ อเมต จากชุดตรวจจีที และส่มุ ตรวจจากแหลง่ การผลิต หรือจากตลาดจำหน่าย ผักปลอดภัยจากสารพิษ 7.3 การรับรองคุณภาพผลผลติ หมายถงึ คณะทำงานส่งเสริมการผลิตพืชผักปลอดภัยจาก สารพิษและคณะกรรมการฝา่ ยตรวจรบั รองคุณภาพผลผลิต รับรองและควบคุมสญั ลักษณ์ผลผลิตปลอดภัย จังหวัดเชยี งราย ท่กี ำกับอยูภ่ าชนะคู่กับผลผลิตผกั ปลอดภยั จากสารพิษและเลขรหสั ทะเบยี นเกษตรกรผู้ผลติ 8. การเก็บ-การคดั เลือกมาตรฐาน/การบรรจุ-การขนส่งผลผลติ เมอื่ ผา่ นขน้ั ตอนการตรวจสมุ่ วเิ คราะห์ มาแลว้ ผลผลิตยงั อยู่ในแปลง คาดว่าอีก 7 วนั จะเก็บเกย่ี ว ขัน้ น้ีเกษตรกรตอ้ งเขา้ ใจว่าการจัดการหลังการเก็บ เก่ยี ว จะตอ้ งทำอยา่ งไร ผลผลิตเก็บมาแลว้ มผี ลกระทบน้อยท่ีสุดตอ้ งคำนึงถงึ 8.1 การเก็บ-การคดั เลือกมาตรฐานผลผลิต หมายถึง เกษตรกรคัดเลือกเกบ็ ผลผลิตตาม รปู ทรง ขนาด นำ้ หนัก สี หรอื อื่นๆ ตามข้อตกลงกบั ตลาดรับซ้อื 8.2 การบรรจุ-การขนสง่ ผลผลิต หมายถงึ การจดั ทำวัสดุภาชนะมีเลขรหัสทะเบยี นผูผ้ ลติ กำกับผลผลิตผกั ปลอดภัยจากสารพษิ ขนสง่ ไปตลาดจำหนา่ ยให้ผูบ้ รโิ ภคมั่นใจ 9. การตลาด เป็นการจัดการรวบรวมและนำผลผลติ ผกั ปลอดภัยจากสารพษิ ไปสตู่ ลาด ประกอบดว้ ย ผ้บู รโิ ภคช้ันตา่ งๆ คอื 9.1 ตลาดเครือข่ายในท้องถ่ิน หมายถึง ผูบ้ ริโภคและสถานท่กี ารผลิตอยใู่ นท้องถิ่นเดียวกัน 9.2 ตลาดเครอื ข่ายต่างท้องถิ่น หมายถงึ สถานทก่ี ารผลติ ไม่อยูใ่ นพน้ื ที่ของผบู้ รโิ ภค (ขณิ รตั น์ คิว้ สวุ รรณวงศ์ . 2562: http://www.chiangrai.doae.go.th/chiangrai17.html )
118 การพัฒนากจิ กรรมการเรียนแบบโครงงาน ความหมายของโครงงาน โครงงาน คือ งานวจิ ัยเลก็ ๆ สำหรับนักเรียน เปน็ การแก้ปญั หา หรอื ข้อสงสัยหาคำตอบโดย ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรท์ ีใ่ ชใ้ นการเขยี นโครงงาน มดี ังนี้ 1. เมอื่ นกั เรียนเกิดปัญหา 2. นักเรยี นกต็ อบปัญหาชั่วคราว ( ตงั้ สมมติฐาน) 3. นกั เรยี นจะต้องออกแบบทดลอง เพอื่ พสิ ูจนป์ ญั หาวา่ จริงหรอื ไม่ 4. นักเรียนทำการทดลอง หรอื ศกึ ษาค้นคว้า เพ่ือสรุปผล 5. นำผลทไี่ ดไ้ ปใช้ประโยชน์ ประโยชน์ของการทำโครงงาน 1. เปน็ การฝึกฝนใหค้ ้นควา้ หาความร้ดู ว้ ยตนเองในเร่อื งทต่ี นสนใจได้อยา่ งลกึ ซ้ึง 2. ทำให้ไดแ้ สดงความสามารถพเิ ศษของตนเอง 3. เปน็ การใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ อุดมศักดิ์ ธนกิจรงุ่ เรือง (2562 : 17) จัดประเภทโครงงานลักษณะของกจิ กรรมเปน็ 4 ประเภท คอื 1. ประเภทสำรวจรวบรวมข้อมูล 2. ประเภทการทดลอง 3. ประเภทการพฒั นาหรือประดิษฐ์ 4. ประเภททฤษฎี หลกั การหรอื แนวคิด วิมลศรี สุวรรณรัตน์ และมาฆะ ทิพย์คีรี (2562 : 7-11) ได้แบ่งโครงงานออกเป็น 4 ประเภท เช่นเดียวกนั คือ 1. ประเภทสำรวจ โครงงานประเภทนี้ ไมก่ ำหนดตวั แปร การเก็บรวบรวมข้อมลู อาจเปน็ การสำร วจใน ภาคสนาม หรอื ในธรรมชาติ หรือนำมาศกึ ษาในหอ้ งปฏิบตั กิ าร นอกจากนั้นการสำรวจรวบรวมขอ้ มูลอาจบ่งช้ี ทม่ี าของปญั หา เพ่อื นำไปศึกษาหรือทดลอง 2. ประเภททดลอง โครงงานทีม่ ลี กั ษณะการออกแบบทดลอง เพื่อศึกษาผลของตัวแปรต้นเพ่ือควบคุม ตัวแปรอ่นื ๆ โครงงานประเภทนี้นักเรียนจะเร่ิมตั้งแต่กำหนดคำถามที่ตอ้ งการคำตอบต้ังสมมติฐา นกำหนด แหลง่ ขอ้ มลู ทจ่ี ะศึกษา ปฏิบัติการข้อมลู เพื่อตอบคำถามรวบรวมข้อมูลนำมาสรุปเปน็ องค์ความรู้ข้ัน ตอนท่ี ปฏิบัติเป็นกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์อยา่ งสมบรู ณ์ การทำโครงงานประเภทการทดลองควรดำเนินการตา ม ข้นั ตอน ต่อไปนี้ 2.1 กำหนดปัญหา 2.2 ตง้ั จุดประสงค์ 2.3 ตั้งสมมตฐิ าน 2.4 ออกแบบการทดลอง 2.5 ดำเนินการทดลอง 2.6 รวบรวมข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการทดลอง 2.7 วเิ คราะห์ข้อมูลหรอื แปรผล 2.8 สรปุ ผลการทดลอง
119 3. ประเภทพฒั นาหรือประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้ เป็นการประดิษฐ์สง่ิ ใดสิ่งหนึ่ง เครื่องมือ เครอ่ื งใช้ หรอื อุปกรณ์ เพ่ือใชส้ อยต่าง ๆ สง่ิ ประดษิ ฐ์นอี้ าจคิดขึ้นมาใหม่ หรือปรบั ปรงุ จากของเดิม มกี ารกำหนดตัวแปรท่ีจ ะศึกษา และทดสอบประสิทธิภาพของชิน้ งานด้วย 4. ประเภททฤษฎีหลักการ หรอื แนวคิด โครงงานประเภทนี้ เป็นการใชจ้ ติ นาการของตนเองมาอธิบายหลักการ หรอื แนวคิด ใหม่ ๆ ซึง่ อธิบายในรปู ของสูตร ผทู้ ำโครงงานจะตอ้ งมคี วามรู้ในเร่ืองน้ัน ๆ เปน็ อย่างดี สว่ นประกอบของโครงงาน สำนกั งานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาติ (2560 ข : 44) ไดเ้ สนอแนวทางการทำโคร งงาน ไวว้ ่า นกั เรยี นทจี่ ะทำโครงงานวิทยาศาสตร์ จะต้องเขยี นเค้าโครงเสนอครทู ปี่ รกึ ษา ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1. ชอ่ื โครงงาน 2. ชอ่ื ผ้ทู ำโครงงาน 3. ชื่อท่ปี รกึ ษา 4. ที่มา และความสำคญั ของโครงงาน 5. วัตถปุ ระสงคข์ องการศึกษาค้นควา้ 6. สมมตฐิ าน (กรณีโครงงานทดลอง) 7. วธิ ดี ำเนนิ งาน (วธิ ีการ เคร่อื งมอื ระยะเวลา) 8. ประโยชน์ หรอื ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ 9. เอกสารอ้างองิ
120 บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ การ อุปกรณ์และวัสดทุ ีใ่ ชใ้ นการศึกษา 1. เมล็ดพันธผุ์ ักกาดดอก 2. ป๋ยุ คอก ปุ๋ยจลุ นิ ทรีย์ 3. พชื ไล่แมลง (ดาวเรอื ง) สารสะเดา 4. จอบ เสียม คาด บัวรดนำ้ ฟางแห้ง วิธีการศกึ ษา 1. เตรียมแปลงดิน 2. เพราะต้นกล้า 3. ใชป้ ยุ๋ คอก ปยุ๋ จลุ นิ ทรีย์ 4. พชื ไลแ่ มลง (ดาวเรือง) สารสะเดา 5. ดูแลรดนำ้ แลว้ สงั เกตการเจรญิ เตบิ โตของผกั
121 บทที่ 4 ผลการศึกษาและอภปิ ราย การอภปิ รายผล การปลูกผกั กาดดอกโดยใชป้ ุ๋ยจุลินทรีย์และปุ๋ยคอกและพืชไลแ่ มลง(ดาวเรือง) สารสะเดา มผี ลการทดลองสรุปดงั น้ี จากการศกึ ษาวิธกี ารปลูกผกั กาดดอก โดยการใช้ปุ๋ยจุลนิ ทรยี ์ ปุ๋ยคอก และพืชไลแ่ มลง (ดาวเรือง) สารสะเดา เปน็ วิธที ่ีประหยดั และปลอดภยั ต่อผ้บู รโิ ภค สรปุ ผลการปลกู ผกั ปุ๋ยจุลินทรยี ป์ ยุ๋ คอกขี้ พชื ไลแ่ มลง(ดาวเรือง) หมายเหตุ หมู สารสะเดา ลำดับที่ ชอื่ ผัก ดี ดมี าก ดี ดีมาก 1 ผกั กาด กวางตุ้งดอก √ √
122 บทท่ี 5 สรปุ ผลการศึกษา การปลกู ผักกาดดอกโดยใช้ปุย๋ จุลินทรีย์ ป๋ยุ คอก และพืชไล่แมลง(ดาวเรือง) สารสะเดา มกี ารทดลองดงั นี้ 1. ผกั ที่ปลกู โดยใสป่ ุ๋ยจุลนิ ทรีย์ ปุย๋ คอก และพชื ไล่แมลง (ดาวเรอื ง) สารสะเดามผี ลการเจริญเติบโต ไดด้ ี 2. ผกั ทป่ี ลูกโดยใส่ปุ๋ยจุลินทรยี ์ ป๋ยุ คอก และพืชไล่แมลง (ดาวเรือง) สารสะเดามีผลการเจริญเตบิ โตได้ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน 1. รู้จกั การใช้ปยุ๋ ลินทรีย์ ปยุ๋ คอก และพืชไลแ่ มลง (ดาวเรอื ง) สารสะเดา ในการปลกู ผกั ปลอดสารพิษ และการนำตัวอยา่ งไปใช้ 2. ใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ 3. ผกั ทไี่ ดจ้ ากการปลกู สามารถนำไปบรโิ ภคไดอ้ ย่างปลอดภยั 4. สร้างรายได้ ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรศกึ ษาวธิ ีการใช้ปยุ๋ และพืชไลแ่ มลง (ดาวเรอื ง) สารสะเดา ในการทดลองปลูกผกั ปลอดสารพษิ 2. ควรศึกษาวธิ ีการใชป้ ุ๋ยและพชื ไล่แมลง สารกำจัดศัตรพู ชื ชนิดใหมๆ่ นำมาทำการทดลอง 3. ควรเผยแพรก่ ารปลูกผักสวนครวั ปลอดสารพิษให้นำไปปลกู ไวใ้ นครัวเรอื นเพ่อื บริโภค
123 เอกสารอ้างอิง ขณิ รัตน์ ค้วิ สุวรรณวงศ์ . 2562: http://www.chiangrai.doae.go.th/chiangrai17.html ชอ่ ขวญั วงศ์สุวรรณ. คมู่ ือการปลูกผักสวนครวั โครงเกษตรเพอ่ื ชุมชน. กรุงเทพฯ : พมิ พค์ ร้ังที่ 4 สำนกั พมิ พ์ เกษตรสาส์น, 2562 วิไลวรรณ พรรณนาภพและคณะ. หนังสือเรยี นสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3. สำนักพมิ พ์แมค็ , 2562. ศึกษาธิการ, กระทรวง. แนวการสอนกลุม่ การงานและพื้นฐานอาชพี . กรุงเทพมหานคร : องค์การรบั ส่งสนิ คา้ และวัสดุภณั ฑ์, 2562. สุนทร เรอื งเกษม. คมู่ ือการปลกู ผัก. กรงุ เทพมหานคร : 2562
124 ภาคผนวก
125 ภาพประกอบท่ี 1 การตรียมดิน ภาพประกอบที่ 2 การเพาะเมล็ด
126 ภาพประกอบท่ี 3 การปลูกผกั กาดดอก ภาพประกอบท่ี 4 การปลกู ผกั กาดดอก
127 ภาพประกอบที่ 5 การเก็บเกีย่ วผกั กาดดอก ภาพประกอบท่ี 6 การจดั นิทรรศการโครงงาน
128 ประวัตยิ ่อของผู้วจิ ัย
129 ประวัตยิ อ่ ของผู้วิจยั ชอื่ นายพริ ิยพงษ์ ลอยเลศิ วนั เกดิ วันท่ี 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 สถานที่เกิด อำเภอนครไทย จงั หวดั พษิ ณุโลก สถานท่อี ยูป่ ัจจบุ ัน บา้ นเลขท่ี 140 หมู่ 14 ตำบลเนินเพิม่ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก 65120 ตำแหนง่ หน้าท่ีการงาน ครู สถานทท่ี ำงานปจั จบุ นั โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 56 จังหวดั น่าน อำเภอเวยี งสา จังหวดั น่าน สงั กัดสำนกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ ประวตั ิการศึกษา พ.ศ. 2544 มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นราษฎรอ์ ุทศิ พทิ ยา อำเภอนครไทย จงั หวดั พิษณโุ ลก พ.ศ. 2547 มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพษิ ณโุ ลก พ.ศ. 2551 ปรญิ ญาวิทยาศาสตรบัณฑติ (วท.บ.) สาขาวิชา พชื ศาสตร์ วชิ าเอก พืชผกั มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จงั หวัดเชยี งใหม่ พ.ศ. 2558 ปรญิ ญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ (ศษ.ม.) สาขาวชิ า การบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั พิษณุโลก จังหวดั พษิ ณุโลก พ.ศ. 2559 ประกาศนยี บัตรบณั ฑติ วชิ าชีพครู มหาวทิ ยลยั ราชภัฏลำปาง จงั หวดั ลำปาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140